Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

Published by lavanh9979, 2021-08-24 09:10:19

Description: ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

การวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วัตถุ | 418 1.3.3 Sequence Diagram คือแผนภาพไดอะแกรมทแี่ สดงขั้นตอนการทางานในแตล่ ะ Use Case การทางานของ Sequence Diagram แสดงให้เห็นการติดต่อระหว่างวัตถุของ Use Case และ Actor ของ Use Case นั้น มีการติดต่อด้ว ยการส่ งข้ อ คว า ม ในไดอะแกรมนี้ มีสว่ นประกอบดงั ตารางท่ี 11.10 สัญลักษณ์ Sequence Diagram ตารางท่ี 11.10 สญั ลกั ษณ์ Sequence Diagram สญั ลกั ษณ์ ชอื่ รายละเอยี ด Class name ชอ่ื ของคลาส Life Line เสน้ ช่วงอายลุ ากเปน็ แนวดิ่งของ (Message) Message แตล่ ะคลาส ลกู ศรทิศทีส่ ง่ ไปพร้อมข้อความ return value Activation จุดควบคมุ การเรม่ิ ต้นการสิ้นสุดของ การรับ ส่ง ขอ้ มลู Frame การแสดงกรอบพ้ืนทกี่ ารทางาน Context แต่ละ Use Case ตัวอย่างการยืมหนังสือห้องสมุด โดยเร่ิมต้นจากนักศึกษาย่ืนบัตรสมาชิกและ หนังสือเล่มท่ีต้องการยืม เจ้าหน้าท่ีตรวจสอบรายละเอียดสมาชิก ก่อนให้บริการยืม หนังสือ เจ้าหน้าท่ีบันทึกข้อมูลการยืมและรายงานข้อมูลกาหนดการยืม คืนในระบบ และรายงานรายละเอยี ดแก่นกั ศึกษา ดังขน้ั ตอนการทางาน ดังนี้

การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชิงวตั ถุ | 419 1. นกั ศกึ ษายนื่ บตั รสมาชกิ พร้อมหนงั สือ 2. เจ้าหนา้ ทต่ี รวจสอบขอ้ มลู สมาชกิ 3. รายงานข้อมูลสมาชกิ 4. ระบบทาการบนั ทกึ ข้อมูลหนังสอื (รหสั สมาชิก รหัสหนงั สือ) 5. รายงานขอ้ มูลหนังสือ 6. รายงานข้อมูลสมาชกิ แก่นกั ศึกษา (รหสั หนังสือ วนั ทย่ี ืม วนั ท่คี นื ) ภาพท่ี 11.25 แสดงขั้นตอนการทางานของการยืมหนังสือห้องสมุด ด้วย แผนภูมไิ ดอะแกรม (Sequence Diagram) ภาพท่ี 11.25 การสร้าง Sequence Diagram ของการยืมหนงั สือหอ้ งสมุด

การวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ | 420 การเขยี นโปรแกรมภาษาเชงิ วัตถุ จากอดีตการใช้ภาษาระดับสูง เป็นภาษาท่ีพัฒนาโปรแกรมด้วยการใช้คาส่ัง การสร้างงาน รวมเป็นกลุ่มคาส่ังที่เรียกว่าฟังก์ชัน จะมีการแปลภาษาเคร่ืองด้วยการ คอมไพเลอร์หรืออินเตอร์พรีเตอร์ โปรแกรมที่ใช้ภาษาระดับสงู มีหลากหลายโปรแกรม ต่อมา ได้มีการพัฒนาภาษาระดับสูงมาก เป็นภาษาท่ีใช้เคร่ืองมือในการสร้าง การออกแบบหนา้ จอช่วยในการพัฒนาต้นแบบ สามารถมองเห็นผลลัพธท์ ่พี ฒั นาไดท้ ันที มีภาษาท่ีใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลและรายงานข้อมูล ทาให้สะดวกและ ประหยัดเวลาการพัฒนามากยง่ิ ขน้ึ วิวฒั นาการภาษาที่ใชใ้ นการพัฒนาโปรแกรม มีพฒั นาการในการเปล่ียนแปลง โครงสร้างข้อมูลอย่างต่อเน่ือง จนในยุคปัจจุบัน ได้มีใช้โปรแกรมเชิงวัตถุพัฒนา ระบบงานเป็นโปรแกรมท่ีมีโครงสร้างการทางาน ท่ีแบ่งออกแบบวัตถุหรือออบเจ็กต์ มี แนวคิดการมองปัญหาท่ีจะแก้ไขเป็นวัตถุ ดูความสัมพันธ์ท่ีเกิดขึ้นจากพฤติกรรมท่ีมี คุณสมบัติในตนเอง มารวมกันเป็นโปรแกรม มีวิธีการเข้าถึงการจดั การข้อมูลท่ีมีหน้าที่ การทางาน ดังน้ันโปรแกรมที่จะใช้ในการพัฒนาจะต้องมีลักษณะการเขียนควบคมุ วัตถุ ซึ่งปัจจุบันมีภาษาและโปรแกรมที่ใช้ในการสนับสนุนระบบงานโปรแกรมเชิงวัตถุท่นี ยิ ม ใช้ เช่น C#, Visual C++, Visual Java, Visual Basic เป็นต้น ในหัวข้อนี้ ขออธิบาย ตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษาท่ีรองรบั การทางานของระบบงานเชงิ วตั ถุ ดังนี้ 1. ภาษา Java (Java Programming Language) เป็นภาษาท่ีรองรับการทางาน โดยใช้หลักการพัฒนาด้วยแนวคิดเชิงวัตถุ พัฒนาโดยบริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ ความสามารถของภาษาจาวาสามารถทางานได้ใน ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันได้ และมี IDE, application server, library ต่าง ๆ ทีร่ องรบั การพัฒนาโดยไม่เสยี ค่าใช้จา่ ย ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Java ด้วยแนวคิดเชิงวัตถุใช้ข้อมูล นักศึกษา อาจารย์ที่มีการใช้งานระบบงานทะเบียนด้วยจากการลงทะเบียนการเรียน การสอนในมหาวิทยาลัย ดังภาพที่ 11.26 แสดงข้อมูลตัวอย่างนักศึกษา อาจารย์ท่ีมี การเรียนการสอนในมหาวทิ ยาลัย

การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชิงวตั ถุ | 421 นักศกึ ษา อาจารย์ สายสนับสนุน ลงทะเบียน รหสั นกั ศกึ ษา รหสั นกั ศกึ ษา รหัส รหสั ชือ่ ชอื่ ชอื่ ภาคเรยี น นามสกลุ นามสกลุ นามสกลุ ปี คณะ คณะ +เรยี น +เพิ่ม +สอบ +สอน +ภาระหน้าที่หลกั +ถอน +ทากิจกรรม +บรกิ ารวิชาการ +รักษาสภาพ +วจิ ัย ภาพที่ 11.26 ข้อมลู นกั ศึกษา อาจารยใ์ นระบบงานทะเบยี น 1.1 การสรา้ งคลาส การสร้างคลาสและกาหนดคุณสมบัติของคลาสแต่ละคลาส โดยมีการ สรา้ งคลาสนักศึกษา อาจารย์ การลงทะเบียน ดังภาพท่ี 11.27 แสดงการสร้างคลาสด้วย ภาษา Java public class Student { การรบั ขอ้ มลู Student public String id; +id=1 public String fristname; public String lastname; +name=\"Worawod\" } +lastname=\"thakong\" public class Teacher { การรับขอ้ มลู Teacher public String id; +id=t1 public String fristname; public String lastname; +name=\"onanong\" public String faculty; } +lastname=\"thonrlor\" +faculty=\"science\" ภาพท่ี 11.27 การสรา้ งคลาส (1)

การวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ | 422 public class Register { การรับขอ้ มลู Register public String id; +id=4004 public int term; public int year; +term=\"1\" } +year=\"2559\" Class Employee { การรบั ขอ้ มูล Employee Private int id; +id=2002 Private string firstname; +firstname=\"jadaka\" Private string lastname; Private string faculty; +lastname=\"kongla\" Private string position; +lastname=\"kongla\" } +position=”Financial” ภาพที่ 11.28 การสร้างคลาส (2) 1.2 การกาหนดพฤติกรรมของคลาส การกาหนดคุณสมบัติในการเข้าถึง ขอ้ มูล มีสองแบบหลกั คอื การอา่ น (Get) และเขียน (Set) ดังภาพที่ 11.28 public class student { private string id; private string name; public string getid() { Return this.id; } ภาพท่ี 11.29 การกาหนดการเขา้ ถงึ ขอ้ มูล

การวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ | 423 1.3 การสร้างวัตถุจากคลาส การนาคลาสที่มีไปใช้งาน จะต้องมีการสรา้ ง วัตถุก่อน จึงจะสามารถใช้คลาสได้ ดังภาพที่ 11.29 แสดงการสร้างวัตถุจากคลาส นกั ศกึ ษา student onanong = new student(); student worawat = new student(); student Vorawut = new student(); student somchai = new student(); ภาพที่ 11.30 การสรา้ งวัตถนุ กั ศึกษาใหม่ 1.4 การกาหนดพฤติกรรม (Method) ของวตั ถุ โดยในแตล่ ะวตั ถุ สามารถ มหี ลายพฤตกิ รรมได้ ดังภาพท่ี 11.30 แสดงการกาหนดพฤตกิ รรมให้กบั นักศกึ ษา student.lear(); student.exam(); student.register(); ภาพที่ 11.31 การกาหนดพฤติกรรมใหก้ บั นักศกึ ษา 2. ภาษา C# ภาษา C# คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ที่บริษัทไมโ ครซอฟต์พั ฒ นา โดยมีความสามารถในการทางานรองรับการพัฒนาโปรแกรมแนวคดิ เชงิ วัตถุ ทีไ่ ด้รบั การ พัฒนามาจาก C++ ออกแบบมาเพ่ืออานวยความสะดวกในการแลกเปล่ยี นสารสนเทศ ผา่ นเวบ็ และมีโครงสร้างพน้ื ฐานของ .NET Framework 2.1 การสรา้ งคลาส จากตัวอย่างระบบลงทะเบียน มีนักศึกษา อาจารย์ บุคลากรสาย สนับสนุนนั้น สามารถใช้ภาษา C# พัฒนาระบบแนวคิดเชิงวัตถุได้ ดังภาพที่ 11.31 แสดงตัวอย่างการสรา้ งคลาสบุคลากร โดยการสรา้ งนี้จะกาหนดคุณสมบตั ิ ช่ือ นามสกุล ท่ีสามารถเปิดเผยได้ ส่วนหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ จะถูกป้องกันเอาไว้

การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ | 424 การกาหนดค่าอายุ จะตอ้ งเปล่ียนผา่ นพฤติกรรมของวตั ถุเทา่ น้ัน เพราะถกู กาหนดคา่ ตัว แปรแบบส่วนตวั class Employee { public string FirstName; public string LastName; protected string MobileNo; protected string Address; private int age; ภาพที่ 11.32 การสร้างคลาสบุคลากรด้วยภาษา C# 2.2 การกาหนดพฤตกิ รรมของคลาส การกาหนดพฤติกรรมของคลาสบุคลากรใช้แสดงชื่อและนามสกุล และมกี ารกาหนดค่าคณุ สมบตั ิอายุให้กบั คลาส ดงั ภาพที่ 11.32 public string GetEmployeeName() { Return FirstName+” “+LastName; } การกาหนดคา่ พารามิเตอรอ์ ายุผ่าน method public void SetAge(int age) { this.age = age; ภาพท่ี 11.33 การกา} หนดคณุ สมบตั ิบุคลากรดว้ ยภาษา C# 2.3 สรา้ งวตั ถุใหมจ่ ากคลาสเดิม เมื่อมีการสร้างคลาสแล้ว นักพัฒนาสามารถสร้างวัตถุใหมจ่ ากคลาส ท่ีมกี ารสรา้ งไว้เดมิ อยแู่ ลว้ ดังภาพที่ 11.33 แสดงการสร้างวตั ถุใหม่จากคลาสบคุ ลากร Employee objEmployee=new Employee(); ภาพท่ี 11.34 การสรา้ งวตั ถุใหมจ่ ากคลาสบคุ ลากร

การวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชิงวตั ถุ | 425 3. เคร่อื งมือท่สี นับสนุนการพฒั นาเชิงวตั ถุ การพัฒนาระบบในยุคปัจจบุ ัน มีเคร่ืองมือท่ีใช้ในการสนับสนุนการพัฒนา ซอฟต์แวร์เชิงวัตถุ ท่ีเรียกว่า Integrated Development Environment: IDE หรือ โปรแกรม Editor เป็นการพัฒนาโปรแกรมเชิงวัตถุ ด้วยภาษาแบบวิชวลโปรแกรมม่ิง เปน็ ซอฟตแ์ วร์ที่สนับสนุนการทางานโดยมเี ครอื่ งชว่ ยสร้าง ทลี่ ากวางดว้ ยปุ่มปฏิบัติการ และมกี ารเช่ือมโยงกับไลบรารี ทส่ี ามารถเรียกใชค้ ลาสตา่ ง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันในแต่ละ ซอฟต์แวร์ (Application Programming Interface: API) ดังตารางท่ี 11.11 แสดงการ เปรียบเทยี บเครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการพัฒนาโปรแกรมที่มกี ารใชเ้ ครื่องมอื ในการพฒั นา ตารางที่ 11.11 เปรียบเทียบเครื่องมือสาหรับพฒั นา IDE และคลาสไลบรารี ภาษา เครอ่ื งมือส้าหรับพฒั นา (IDE) คลาสไลบรารี Visual Basic Microsoft Visual Studio .NET Framework Class Library Visual C++ Microsoft Visual Studio Microsoft Foundation Class .NET Framework Class Library Visual C# Microsoft Visual Studio .NET Framework Class Library Java Net bean, Eclipse Java Package (ทมี่ า : รัฐสิทธิ์ สขุ ะหตุ , 2551)

การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ | 426 บทสรุป การพัฒนาระบบสารสนเทศเชิงวัตถุ ผู้ออกแบบระบบจะต้องทาความเข้าใจ หลักการพัฒนาด้วยแนวคิดเชิงวัตถุ เน้ือหาบทน้ีกล่าวถึงความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับ แนวคิดเชิงวัตถุท่ีนาหลักการนั้นมาพัฒนาระบบ โดยมีข้ันตอนการออกแบบและ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้ภาษายูเอ็มแอลมาใช้ในการพัฒนาระบบ รวมถึงบทน้ี แสดงตัวอย่างการเขยี นโปรแกรมภาษาเชิงวตั ถุดว้ ยภาษา JAVA และภาษา C# ความร้เู กยี่ วกบั แนวคดิ เชงิ วตั ถุ คือ การพจิ ารณาระบบงานดว้ ยการมองทุกสิ่งให้ เป็นวัตถุ มองกิจกรรมท่เี กดิ ขน้ึ ทม่ี ีความสัมพนั ธก์ บั วัตถนุ ้นั ๆ มีรายละเอียดแนวคดิ ดงั น้ี 1. วัตถุ คือ ตัวแทนสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นทั้งแบบนามธรรมและพฤติกรรมการ ทางาน 2. คลาส คอื กลุ่มของวตั ถหุ รอื เรยี กวา่ ตน้ แบบ แม่พมิ พ์สาหรับสรา้ งวัตถุใหม่ การสรา้ งวัตถุใหม่จะมีการกาหนดคุณลักษณะคลาสกับวัตถุร่วมกัน องคป์ ระกอบของ คลาสสาหรับอธิบายคุณลักษณะโครงสร้างของวัตถุ มี 2 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) คุณสมบัติ (Attribute) แสดงคาอธิบายสถานะของวัตถุ 2) โอเปอร์เรชัน (Operation) 3) เมธอด เปน็ การแสดงพฤตกิ รรม หนา้ ท่ขี องวัตถุทีเ่ กดิ ข้ึน 3. ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุ คือ ความสัมพันธ์ที่แสดงรายละเอยี ดของวัตถุ ท่ีเกิดจากการทางานในระบบงานระหว่างวัตถุ มีความสัมพันธ์หลัก 4 ประเภท คือ ความสัมพันธ์แบบส่วนรวม ความสัมพันธ์แบบรวม ความสัมพันธ์แบบส่วนประกอบ และความสมั พันธ์แบบสบื ทอด 4. การแยกสลายและการรวมโมดูล เป็นการออกแบบการทางานท่ีมีหลกั การ แยกวัตถุหรือกิจกรรมงานเป็นโมดูล เพ่ือให้มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานข้ึน แ ล ะ มี ก า ร ร ว ม ป ร ะ ก อ บ โ ม ดู ล ท่ี มี ก า ร แ ย ก ส่ ว น ม า ร ว ม เ พ่ื อ ส ร้ า ง ร ะ บ บ ใ ห ม่ มีการแยกสลาย 3 วิธีหลัก คือ การแยกสลายจากบนลงล่าง การแยกสบายเป็นวตั ถุ และการประกอบรวม

การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ | 427 คณุ สมบตั ขิ องแนวคดิ เชิงวัตถุ หลักการวิเคราะห์และออกแบบของแนวคิดเชิงวัตถุ เป็นการวิเคราะห์เพ่ือ แก้ไขปัญหางานด้วยการมองกิจกรรม บุคคล สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ี กิจกรรมเปน็ วัตถุ โดยมีคุณสมบัติของแนวคิดเชิงวัตถุ 3 ประเด็นหลักคือ 1) การสืบทอดด้วยการนา คุณสมบัติของวัตถุที่สร้างของวัตถุแม่ นามาสร้างวัตถุลูกและสามารถคุณสมบัติ พฤติกรรมใหม่เพ่ิมเติมได้ 2) ความสามารถในการเก็บซ่อนข้อมูล ด้วยการซ่อน รายละเอียดข้อมูลเพ่ือความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลโดยตรง มีการควบคุมการ เข้าถึงทาให้ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการเรียกใช้งานและ 3) การใช้งานแบบ หลากหลายรูปแบบ ท่ีเป็นคุณสมบัติหลักของการออกแบบแนวคิดเชิงวัตถุท่ีมีการ เรยี กใช้งานท่ีแตกต่างกัน และมีการรองรบั การทางานการทางานหลากหลายรูปแบบ ดว้ ยคณุ สมบัตแิ ละพฤติกรรมของวัตถุ ขน้ั ตอนออกแบบระบบงานแนวคดิ เชงิ วตั ถุ การวิเคราะห์และออกแบบระบบด้วยแนวคิดเชิงวัตถุ มีหลักการออกแบบ ระบบงาน 5 ข้ันตอน ดังน้ี การรวบรวมและศกึ ษาความตอ้ งการ การวเิ คราะหอ์ อกแบบคลาส การจดั เก็บข้อมลู พฤติกรรมของคลาส สรา้ งความสัมพันธร์ ะหวา่ งคลาส การสรา้ งแบบจาลองของคลาส การออกแบบระบบด้วยยูเอ็มแอล ยูเอ็มแอล คือ ภาษาที่แสดงสัญลักษณ์ ท่ีอธิบายรายละเอียดในการสร้าง แบบจาลอง มาตรฐานที่ใช้กับหลักการออกแบบระบบเชิงวัตถุ มีการกาหนด คุณสมบัติ ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุที่สร้างขึ้น เพื่อใช้ในพัฒนาระบบงาน เป็น เครื่องมือท่ีใช้ในการสือ่ สารระหว่างผ้ใู ช้งานและนักพฒั นาระบบทมี่ ีการนาเสนอด้วย แผนภาพ

การวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วัตถุ | 428 การเขยี นโปรแกรมภาษาเชงิ วัตถุ วิวัฒนาการภาษาทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาโปรแกรม มีพฒั นาการในการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างข้อมูลมาอย่างต่อเน่ือง จนในยุคปัจจุบันได้มีใช้โปรแกรมเชิงวัตถุพัฒนา ระบบงาน เป็นโปรแกรมท่ีมีโครงสร้างการทางานท่ีแบ่งออกแบบวัตถุ มีแนวคิดการ มองปัญหาที่จะแกไ้ ขเป็นวัตถุ ดูความสมั พนั ธท์ ่เี กิดขึ้นจากพฤตกิ รรมทมี่ ีคุณสมบัติใน ตนเอง มารวมกันเป็นโปรแกรม มวี ธิ ีการเขา้ ถงึ การจดั การข้อมลู ท่ีมีหน้าทีก่ ารทางาน ดังน้ัน โปรแกรมท่ีจะใช้ในการพัฒนาจะต้องมีลักษณะการเขียนควบคุมตัววัตถุ ซ่ึงปัจจุบันมีภาษาและโปรแกรมที่ใช้ในการสนับสนุนระบบงานโปรแกรมเชิงวัตถุที่ นิยมใช้ เช่น C#, Visual C++, Visual Java และVisual Basic เป็นต้น เคร่อื งมือท่ีสนบั สนนุ การพฒั นาเชิงวตั ถุ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงวัตถุท่ีเรียกว่า Integrated Development Environment: IDE หรือ โปรแกรม Editor เป็นการ พฒั นาโปรแกรมเชิงวัตถดุ ้วยภาษาแบบวิชวลโปรแกรมมิ่ง เปน็ ซอฟตแ์ วร์ท่ีสนับสนุน การทางานโดยมีเคร่ืองช่วยสร้าง ท่ีลากวางด้วยปุ่มปฏิบัติการ และมีการเชอื่ มโยงกับ ไลบรารี ที่สามารถเรียกใช้คลาสต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นในแต่ละซอฟต์แวร์ ( Application Programming Interface: API) เ ช่ น Visual C++ ใ ช้ เ ครื่ อ ง มื อ Microsoft Visual Studio หรอื Java ใช้เครอ่ื งมือ Net bean, Eclipse เป็นต้น

การวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ | 429 แบบฝกึ หัดบทที่ 11 ตอนที่ 1 ตอบคา้ ถามดงั ตอ่ ไปนี้ 1. จงอธิบายความหมายของวัตถุ คลาส ในแนวคดิ เชงิ วัตถุ 2. ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุมีประเภทใดบ้าง มีลักษณะการทา งานแต่ละ ความสมั พนั ธ์อย่างไร 3. จงอธิบายคุณสมบัติของแนวคิดเชิงวัตถุ พร้อมยกตัวอย่างการทางานของ คณุ สมบตั ขิ องแนวคดิ เชิงวัตถุ 4. ข้ันตอนการออกแบบระบบงานด้วยแนวคิดเชิงวัตถุมีขั้นตอนการทางานก่ี ข้นั ตอน และแต่ละข้ันตอนมีหลักการออกแบบอยา่ งไร 5. เหตุใดจึงนาภาษายูเอ็มแอล (UML) มาใช้งานกับการออกแบบและพัฒนา ระบบงานสารสนเทศ 6. โปรแกรมภาษาเชิงวัตถุมีความหมายอย่างไร พร้อมยกตัวอย่างภาษาเชิงวัตถุที่ นิยมใช้ในปจั จุบนั ตอนท่ี 2 ใหน้ ักศกึ ษาวาดสญั ลกั ษณ์ภาษายเู อ็มแอล ทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์และ ออกแบบระบบ 1. ใหน้ กั ศกึ ษาวาดสญั ลักษณ์ Use Case Diagram ดงั น้ี ช่ือ สัญลกั ษณ์ Class User Case Relation

การวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วัตถุ | 430 2. ให้นกั ศกึ ษาวาดสัญลักษณ์ Activity Diagram ดังนี้ ชอ่ื สญั ลกั ษณ์ Action Decision Function Initial Node Final Node

การวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วตั ถุ | 431 ตอนท่ี 3 ใหน้ กั ศึกษาวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ ดว้ ยภาษายูเอม็ แอลดงั น้ี 1. แสดงผลการวิเคราะห์ด้วยการเขียน Use Case Diagram ของระบบงาน สารสนเทศ 2. แสดงผลการวิเคราะห์ด้วยการเขียน Activity Diagram ของระบบงาน สารสนเทศ ขอ้ มลู ระบบงาน ออกแบบระบบสารสนเทศเพอ่ื การบริหารจดั การงานวิจัยของฝ่ายวิจยั สานักวชิ า ศึกษาท่วั ไป มีหนา้ ทด่ี แู ลสนับสนุนให้ทุนวจิ ัย มรี ะบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการ งานวิจัย มีวัตถุประสงค์การพัฒนาในการบริหารจัดการงานวิจัย ท้ังกระบวนการ ดาเนินงาน สามารถจัดเกบ็ เอกสารรูปแบบกระดาษเป็นรูปแบบไฟล์งานทาใหก้ ารสืบค้น ข้อมูลมีความสะดวกรวดเร็ว มีผู้เกี่ยวข้องท่ีจะใช้งาน 3 กลุ่มคือ 1) อาจารย์ผู้เสนอ โครงการดาเนินงานโครงการ 2) คณะกรรมการฝ่ายวิจัย มีหน้าท่ีพิจารณาทุนวิจัย บริหารจัดการดาเนินงาน และติดตามการดาเนินโครงการ 3) บุคลากรผู้สนใจเข้ามา สบื คน้ ข้อมลู เก่ยี วกับงานวจิ ัย โดยการดาเนนิ งานมขี ั้นตอนการทางาน ดงั น้ี 1. อาจารย์ยืน่ ขอเสนอโครงการ โดยคณะกรรมการพิจารณาอนมุ ัตงิ บประมาณ 2. การเซ็นสัญญา หากข้อเสนอโครงการได้รับการอนุมัติ อาจารย์ผู้เสนอ โครงการก็ดาเนนิ การเซ็นสัญญาโครงการวิจยั 3. อาจารย์ดาเนินงานวิจัยและรายงานความกา้ วหน้าตามระยะเวลาของสญั ญา ท่กี าหนด 4. ดาเนินงานเสร็จสมบูรณ์ อาจารย์จะรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ส่ง คณะกรรมการฝา่ ยวิจยั 5. อาจารย์มีการนาเสนอผลงานทางวิชาการเรียบร้อย อาจารย์ดาเนินการ รายงานผลงานวจิ ัยทางวชิ าการต่อคณะกรรมการฝา่ ยวิจัย

การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ | 432 การทางานของระบบมีทั้งหมด 6 ข้ันตอน เร่ิมจากเข้าสู่ระบบเพ่ือบันทึกข้อมูล โครงการ รอผลพจิ ารณาโครงการ หากมีการพิจารณาอนุมัติอาจารย์ที่ได้รับการอนุมัติก็ เข้าระบบการทาสัญญาโครงการ และจะเป็นกระบวนการดาเนินงานวิจัยโดยผู้วิจัย จะต้องรายงานผลความก้าวหน้า ส่งงานวิจัยฉบับสมบูรณ์และนาเสนอผลงานทาง วชิ าการ จงึ จะครบกระบวนการดาเนินงานวจิ ยั ใน 1 เรอ่ื ง จะแสดงลาดับขน้ั ตอนดงั น้ี 1. เข้าสู่ระบบ 2. พิจารณาอนมุ ตั ิ 3. ทาสญั ญาโครงการ 4. รายงานความกา้ วหนา้ 5. ส่งวจิ ยั ฉบับสมบรู ณ์ 6. นาเสนองานวิชาการ

บทที่ 12 การทดสอบและบารุงรักษาระบบ การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยทีมพัฒนา เมื่อดาเนินการพัฒนาซอฟต์แวร์เสร็จ ตามขั้นตอนการดาเนินงานแล้ว ข้ันตอนต่อไป จะต้องทดสอบความถูกต้อง ความสมบูรณข์ องซอฟตแ์ วร์ เพอื่ ให้ได้ซอฟตแ์ วร์ทม่ี คี ณุ ภาพ ตรงตามความต้องการของ องค์กร อกี ทงั้ การใช้งานซอฟต์แวร์ เมื่อมีการให้บรกิ ารซอฟต์แวร์หรือระบบสารสนเทศ องค์กรจะต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการในการตรวจสอบการบารุงรักษาระบบให้ มีประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างต่อเน่ือง รวมถึงการตรวจสอบบารุงรักษาระบบ ต้องคานึงถึงการบริหารจัดการ ควบคุมภาวะการใช้งานพร้อมกนั ของผู้ใช้บริการระบบ ถือเป็นหัวใจสาคัญ เมื่อมีการติดต้ังระบบเพื่อใช้ในการดาเนินงานตามวัตถุประสงค์ของ องค์กรต่อไป ในบทน้ีจะกล่าวถึงแนวทาง ข้ันตอนการทดสอบและการติดตั้งซอฟต์แวร์ เพื่อใช้งาน และขั้นตอนการบารุงรักษาระบบ ให้สามารถดาเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง สมบูรณ์ด้วยการดาเนินงานติดตามรายการทางานของระบบฐานข้อมูล และจัดเก็บ ขอ้ มูลด้วยการสารองข้อมูลเพ่อื ป้องกนั การสูญหายของขอ้ มูล รไู้ ด้อยา่ งไรวา่ ซอฟตแ์ วรใ์ ช้งานได้ ข้ันตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยทีมนักพัฒนาจะยังไม่ส้ินสุดกระบวนการ ดาเนนิ งาน เพราะนักพัฒนาจะต้องนาซอฟต์แวรท์ ่พี ฒั นาครบตามเป้าหมายทีก่ าหนดมา เข้าสู่กระบวนการทดสอบ หากมีข้อบกพร่อง นักพัฒนาจะต้องแก้ไขให้ถูกต้องสมบรู ณ์ ซง่ึ ในขั้นตอนนี้ จะมนี กั ทดสอบหรือกลุ่มเปา้ หมายที่จะใช้ระบบงานจริงมาทดลองใช้งาน ระบบให้เป็นไปตามความต้องการตามขอบเขตท่ีโครงการกาหนด นักพัฒนาจะต้องนา ข้อบกพร่องมาแก้ไขให้สมบูรณ์ก่อนส่งมอบซอฟต์แวร์ ดังน้ัน จะเห็นว่าซอฟต์แวร์ท่ีใช้ งานได้ พร้อมท่ีจะส่งมอบ หมายถึง ซอฟต์แวร์ท่ีต้องผ่านการทดสอบเพ่ือให้ได้ ประสิทธภิ าพตามความตอ้ งการขององค์กร

การทดสอบและบารงุ รักษาระบบ | 434 เร่ิมต้นวางแผนการทดสอบซอฟต์แวร์ การทดสอบซอฟต์แวร์จะต้องมีการวางแผนการทดสอบ เพ่ือตรวจสอบ ซอฟต์แวร์ โดยการทดสอบจากการใช้งาน ด้วยการกาหนดวัตถุประสงค์การทดสอบให้ ครอบคลุมทุกประเด็น เพือ่ ให้ไดซ้ อฟตแ์ วรท์ ่มี ีประสทิ ธภิ าพ มีขน้ั ตอนดาเนินการดงั น้ี 1. ผู้ตรวจสอบจะต้องมีทาความเข้าใจกับข้ันตอนการทางานของซอฟต์แวร์ ทงั้ หมด โดยทมี พฒั นาจะมแี นวทางพัฒนาจากการวิเคราะห์ เช่น DFD, Flowchart, ER และการออกแบบหนา้ จอซอฟต์แวร์ เป็นต้น 2. เลือกรูปแบบการทดสอบให้เหมาะสมกับซอฟต์แวร์ 3. ทดสอบซอฟต์แวร์ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และกระบวนการทางาน เพอื่ ใหไ้ ด้ซอฟต์แวรท์ มี่ คี ณุ ภาพสูงสุด 4. นาผลการทดสอบท่ีพบข้อบกพร่องส่งนักพัฒนา เม่ือพัฒนาแก้ไข ขอ้ บกพร่องนกั ทดสอบจะตอ้ งตรวจสอบใหม่ การทดสอบซอฟตแ์ วร์ การทดสอบซอฟต์แวร์จะเป็นข้ันตอนท่ีจะทดสอบผลลัพธ์จากการพัฒนา ว่ามีประสิทธิภาพตามความต้องการ การออกแบบฐานระบบ และสุดท้ายพัฒนา ซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องสะดวกและใช้งานง่ายตามความต้องการหรือไม่ โดยข้ันตอน การทดสอบจะทางาน เม่ือมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ ด้วยการทดสอบพร้อมแก้ไข ไปพร้อมกัน ก็จะลดขั้นตอนการทางานและได้ซอฟต์แวร์ท่ีมีประสิทธิภาพ ผู้ทดสอบ จงึ ควรทดสอบการใช้งาน ดังนี้ 1. ทดสอบกระบวนการป้อนขอ้ มลู คอื สว่ นหน้าจอทีแ่ สดงจุดเริม่ ต้นของการ บันทึกข้อมูลลงฐานข้อมูล ผู้ทดสอบจะต้องทดสอบการเรียกใช้เมนูการบันทึกข้อมูล ทุกเมนูเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ และขอบเขตความต้องการของ ผู้ใช้งาน 2. ทดสอบข้ันตอนการใช้งาน การทดสอบนจ้ี ะเป็นการทดสอบโครงสร้างของ ซอฟต์แวร์ แสดงใหเ้ หน็ วิธีการทางานของแต่ละขน้ั ตอน ท่ซี อฟต์แวรท์ าการประมวลผล ถูกตอ้ งตามความต้องการหรือไม่

การทดสอบและบารุงรักษาระบบ | 435 3. ทดสอบสมรรถนะการประมวลผล ด้วยการป้อนข้อมูลในหลากหลาย เงื่อนไข เพ่ือหาจุดบกพร่องของซอฟต์แวร์ เมื่อเจอสถานการณ์ปัญหาการประมวลผล ท่ีเกิดขึน้ จากหลากหลายรปู แบบ 4. ทดสอบกระบวนการรายงานผล ผู้ใช้ระบบงานป้อนข้อมูลว่าครบถ้วน ตรงตามความตอ้ งการหรอื ไม่ การทดสอบซอฟต์แวร์ภาพรวมวา่ สามารถทางานอยา่ งไร ทดสอบการนาขอ้ มูล เข้าและผลลัพธ์จากการป้อนข้อมูลท้ังระบบซอฟต์แวร์ และการทดสอบภายในระบบ ซอฟต์แวร์แต่ละส่วนย่อยของซอฟตแ์ วร์ เพื่อทดสอบการทางานให้เป็นไปตามตรรกะท่ี ออกแบบไว้ และทดสอบความถูกตอ้ งฟังกช์ ันการทางานตรงตามกระบวนการ เพอ่ื ใหไ้ ด้ ซอฟตแ์ วร์ท่ีสมบูรณ์ ความน่าเช่ือถือ ความถูกตอ้ งและตรงตอ่ ความต้องการของผใู้ ชง้ าน การตดิ ตัง้ ซอฟต์แวร์ ก า ร ติ ดต้ั ง ซ อ ฟ ต์ แว ร์ จ ะ เกิ ดข้ึ นห ลั ง จ า ก ก า ร มี ก า ร ทดส อ บ ก า ร ใ ช้ ง า นคร บ ตรงตามความต้องการและความยอมรับของผู้ใช้งาน ซึ่งในการติดตั้ง ทีมพัฒนาได้ ออกแบบการติดต้ังและกาหนดขอบเขตองค์ประกอบของการใช้งาน ต้ังแต่ข้ันตอนการ วิเคราะห์และออกแบบซอฟต์แวร์เรียบร้อยแล้ว ในที่นี่ ผู้เขียนขอกล่าวรูปแบบในการ ติดตงั้ ซอฟต์แวร์ท่มี อี งค์ประกอบแตกตา่ งกนั ตามเงอ่ื นไขของแต่ละองคก์ ร ดงั น้ี 1. การติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ การติดตั้งระบบใหม่มาแทนท่ีระบบเดิมเพ่ือใช้งาน ในองค์กร ช่วยเพ่ิมประสทิ ธิภาพการทางาน ดังภาพท่ี 12.1 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้นาโปรแกรมงานธุรการมาใช้ โดยระบบเดิมเป็นการดาเนินงานแบบเอกสารรูปแบบ กระดาษทั้งหมด ผู้บริหารได้เล็งเห็นความสาคัญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสาหรับ องค์กรมีนโยบายให้ติดตั้งระบบงานใหม่ คือ โปรแกรมงานธุรการมาใช้งานภายใน หน่วยงานยอ่ ยท้ังหมด ทาให้การสบื ค้นข้อมูลมีความสะดวก รวดเรว็ ยิ่งขน้ึ

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 436 การทางานระบบงานธุรการเร่ิม จากหน่วยงานแต่ละหน่วยงานจะมีฝ่ายงาน ธุรการทาหน้าที่รับงานเข้าออกด้วยระบบสารบรรณ จะบันทึกและเสนอหนังสือตาม กระบวนการหลักสารบรรณ แต่เม่ือนาโปรแกรมงานธุรการมาใช้ ก็บันทึกข้อมูลและ สง่ หนงั สือบนระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทาให้หน่วยงานหรือบคุ ลากรทเ่ี กย่ี วข้องไดร้ บั หนงั สือใน รูปแบบอิเล็กนิกส์ง่ายต่อการสื่อสาร และเพ่ิมความสะดวกสบายในการดาเนินงาน มากย่งิ ขน้ึ ภาพที่ 12.1 หน้าหลกั โปรแกรมธรุ การ 2. การติดตั้งซอฟต์แวร์แบบคู่ขนาน การติดตั้งแบบน้ีองค์กรจะมอบหมายให้ บุคลากรทางานพร้อมกันสองระบบ ทั้งซอฟต์แวร์เดิมและซอฟต์แวร์ใหม่ เนื่องจาก องค์กรยังต้องใช้ขั้นตอนบางข้ันตอนกับระบบเกา่ อยู่ จึงทาให้ต้องใหง้ านคู่ขนานทางาน ไปเรอื่ ยๆ เพือ่ ไม่ให้งานหยุดชะงัก เม่ือข้ันตอนเกา่ มีความสมบูรณ์ก็ทาการเปลี่ยนระบบ ซอฟตแ์ วรใ์ หม่ ภาพที่ 12.2 แสดงให้เหน็ การทางานพรอ้ มกนั โดยบุคลากรจะตอ้ งใช้งาน ท้งั ระบบใหม่และระบบเดิม ไปจนถึงช่วงที่มคี วามพร้อมใช้งานในระบบใหม่ กย็ กเลิกการ ใชง้ านระบบเดิม

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 437 ระบบงานใหม่ ระบบงานเดมิ ภาพท่ี 12.2 การตดิ ตง้ั แบบคขู่ นาน ตัวอย่างการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบงานทะเบียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี ระบบเดิมได้ใช้ระบบการจัดการฐานข้อมูล Microsoft SQL แต่เมื่อมี การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยจึงได้มีนโยบายปรับเปล่ียนระบบการจัดการ ฐานขอ้ มลู ใหม่โดยใช้ฐานข้อมลู Oracle จากนโยบายดงั กลา่ ว ทาใหท้ ีมงานพฒั นาระบบ สารสนเทศ ได้พัฒนาวางแผนเลือกการใช้งานด้วยระบบการติดต้ังแบบคู่ขนาน โดยมี หลักการทางานจากการมอบหมายหน้าที่ ให้เจ้าหนา้ ที่ทะเบียนใชโ้ ปรแกรมทุกกจิ กรรม พร้อมกันทั้งสองระบบ และมีทีมงานพัฒนาสนับสนุนการสารองและจัดเก็บข้อมูล ในส่วนที่มีการนาออกจากฐานข้อมูลเดิม จนกระทั่งระบบใหม่มีข้อมูลที่สมบูรณ์ จึงได้ยกเลิกการใช้งานระบบเดิมและดาเนินใช้งานระบบใหม่ทั้งหมด ดังภาพท่ี 12.3 แสดงการติดตัง้ ระบบงานแบบคู่ขนาน ระบบใหม่ ระบบการจดั การฐานขอ้ มูล Oracle ระบบการจดั การฐานขอ้ มลู MS SQL ระบบเดมิ ภาพท่ี 12.3 การติดต้งั ระบบงานแบบคู่ขนาน

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 438 3. การติดต้ังซอฟต์แวร์หนว่ ยยอ่ ย องคก์ รจะเลือกปรบั เปลี่ยนในแตล่ ะส่วนย่อย โดยการเปล่ียนทีละหน่วยย่อยของซอฟต์แวร์ จนสุดท้ายครบทุกองค์ประกอบท้ังระบบ ดังภาพท่ี 12.4 แสดงระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ตาม ความต้องการผู้ใช้งานทีละระบบย่อยเนื่องจากมีหน่วยงานที่มีหลายหลากระบบงานย่อย ทาให้การพัฒนาต้องใช้เวลามาก ติดตั้งและพัฒนาด้วยการพัฒนาทีละระบบงานตาม นโยบายและกจิ กรรมในมหาวิทยาลยั ระบบหลักสตู ร ระบบงานการเงิน ระบบบุคลากร ระบบสารสนเทศของมหาวทิ ยาลยั ภาพที่ 12.4 การติดตัง้ ระบบยอ่ ย การจดั ทาค่มู ือการใชง้ าน การทาเอกสารหรือคู่มือ คือ การอธิบายการทางานของระบบ แสดงขั้นตอน การทางาน การแนะนารายละเอียดการใช้งานแต่ละข้ันตอน แสดงขน้ั ตอนวธิ กี ารใช้งาน ของเว็บแอปพลิเคชัน การทาคู่มือการใช้งาน ผู้พัฒนาจะต้องจัดทาคู่มือประกอบ การใชง้ านระบบสาหรับผู้ใช้บรกิ าร 2 กลุ่ม ดังน้ี 1. ค่มู ือสาหรบั ผใู้ ชง้ าน การทาค่มู อื สาหรับผใู้ ช้งาน แสดงขั้นตอนการใชเ้ ว็บแอปพลเิ คชนั ในเอกสาร จะเน้นการแนะนาการใช้งานแต่ละขั้นตอน มีรายละเอียดการทางานและแสดง รายละเอียดการรายงาน และมแี นวทางเทคนคิ การทางาน

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 439 2. คูม่ ือสาหรบั ผดู้ แู ลระบบ คู่มือสาหรับผู้ดูแลบริหารจัดการระบบ การแสดงรายละเอียดการบริหาร จัดการ กาหนดสทิ ธผิ์ ใู้ ช้งาน รวมเทคนิคการปรับปรุง แกไ้ ข ลบ แสดงการวิเคราะห์ และ แสดงขน้ั ตอนการติดตงั้ การใช้งาน การจัดทาเอกสารประกอบการใช้ซอฟต์แวร์หรือคู่มือ สิ่งที่ควรคานึงถึงคือ วัตถุประสงค์ผู้ใช้งานท่ีเข้ามาใช้บริการต่อระบบสารสนเทศ ให้ตรงตามความต้องการ ผู้ใช้บริการ ตลอดจนแสดงผลการทางาน ข้ันตอน กระบวนการ ทั้งหมดของระบบ สารสนเทศ ควรมีกรอบหัวข้อท่ีสามารถอธิบายให้ผู้ใช้งานเข้าใจ เช่น วัตถุประสงค์ แผนผังกระแสข้อมูล ขั้นตอนการดาเนินงาน วิธีการใช้ซอฟต์แวร์ การติดตั้ง เทคนิค แนวทางการแกไ้ ขปญั หา สรปุ ประเด็นคาถามท่ีพบบอ่ ยเมอ่ื ใชร้ ะบบเป็นต้น การบารงุ รกั ษาระบบ การบารงุ รกั ษาจะเป็นข้ันตอนการดแู ลซอฟต์แวร์หรอื ระบบ ใหส้ ามารถใช้งาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง หรือหากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ ก็ต้องมีแผนใน การจดั เก็บข้อมูลไมใ่ หเ้ กดิ ความเส่ยี ง ขอ้ มลู สญู หาย ดังน้ัน การบารงุ รักษา ดูแล ติดตาม ใหซ้ อฟตแ์ วรส์ ามารถใชง้ านไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่องจากขอ้ ผดิ พลาดของซอฟต์แวร์ 1. ประเภทการบารุงรกั ษาระบบ การใช้งานซอฟต์แวร์เม่ือมีการติดต้ังใช้งาน ส่ิงที่ต้องคานึงคือการ บารุงรักษาให้ซอฟต์แวร์หรือระบบ ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเน่ืองและมี ประสิทธิภาพ นกั วิชาการไดก้ ลา่ วถงึ ประเภทของการบารงุ รกั ษาระบบ มี 4 ประเภท คือ 1.1 การบารงุ รักษาด้วยวิธกี ารแก้ไขข้อมูลผิดพลาดให้ถกู ต้อง เมื่อมีการ ใช้งานอาจพบปัญหาท่ีเกิดจากการเขียนซอฟต์แวร์แบบกระบวนการทางานผิดพลาด Logical Error จงึ ทาให้นกั พฒั นาระบบจะตอ้ งแกไ้ ขบารุงรกั ษาให้สมบรู ณ์ถูกต้อง 1.2 การบารงุ รกั ษาเพ่อื รองรับเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั หรือมกี ารปรบั เปลี่ยน โครงสรา้ งเทคโนโลยใี หส้ ามารถใชง้ านได้ตามโครงสรา้ งปจั จบุ ัน 1.3 การบารุงรักษาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน เนื่องจาก เทคโนโลยีที่ใช้งานที่ผ่านมาไม่ทันสมัยเกิดความล่าช้าในการประมวลผล จึงจาเป็น

การทดสอบและบารงุ รักษาระบบ | 440 จะต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เพ่มิ ประสทิ ธิภาพมากข้ึน และระบบสามารถทางานได้ อย่างต่อเนอื่ ง 1.4 การบารุงรักษาที่อาจจะพบปัญหาในอนาคตท่ีไม่คาดคิดมาก่อน อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงาน หรือการเปล่ียนแปลง เทคโนโลยีทีส่ ง่ ผลต่ออปุ กรณ์และระบบเครือข่ายในปัจจบุ ัน จงึ จาเป็นตอ้ งมีการปรบั ปรุง บารุงรักษา การสารองและกคู้ นื ข้อมลู (Backup and Recovery) การสารองข้อมลู คือ คดั ลอกข้อมูลจากเคร่ืองแม่ข่ายคอมพิวเตอรไ์ ปเก็บไว้อีก เคร่ืองหน่ึง ซ่ึงปลายทางอาจจะเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สารองข้อมูล เป็นต้น การสารองข้อมูลจะเป็นการป้องกันและรักษาข้อมูลให้ปลอดภัยอีกวิธีการหน่ึง ในการ ดาเนินงานบริหารจัดการ ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดเวลา การเกิดผิดข้อพลาด เปน็ ส่งิ ท่เี กดิ ข้ึนในอนาคตซงึ่ เราไมส่ ามารถกาหนดได้ ดงั น้ัน การปอ้ งกันความเส่ยี งด้วย การรักษาข้อมูล โดยการสารองข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหายทุกรูปแบบ องค์กร ทุกองค์กรจึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องเตรียมแผนการดาเนินงานการสารองข้อมูล และสารองข้อมลู ตามตารางแผนงานขององค์กร 1. การสารองข้อมลู การสารองข้อมูลสามารถจัดทาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับการออกแบบและวาง แผนการสารองข้อมูลแตล่ ะองค์กรในทนี่ ้จี ะกลา่ วถึง 2 วธิ ี ดังนี้ 1.1 การใช้ฮารด์ แวรใ์ นการสารองข้อมูล การสารองวธิ ีนีจ้ ะใช้การลงทุนซื้อ อุปกรณ์ในการจัดเก็บขอ้ มลู เชน่ การสร้าง Mirror Disk เป็นตน้ 1.2 การสารองข้อมลู การบันทึกด้วยบุคลากร โดยบุคลากรสร้างคาสงั่ และ การสัง่ การให้คอมพวิ เตอรด์ าเนินงานตามคาสง่ั เพ่อื สารองข้อมลู

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 441 2. ประเภทของการสารองข้อมลู การสารองข้อมูลจากฐานข้อมูล สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การสารองข้อมูลแบบตรรกะ และการสารองขอ้ มลู แบบกายภาพ มรี ายละเอียดดังน้ี 2.1 สารองขอ้ มูลแบบตรรกะ (Logical backup) การสารองขอ้ มูลแบบน้ี จะนาข้อมูลออกโดยการใช้คาสั่ง export ข้อมูลในระบบฐานข้อมูล สามารถเลือกที่จะ นาข้อมูลออกพรอ้ มกาหนดรายละเอยี ดโครงสร้างได้ ในการนาข้อมลู ออกแบบสามารถกู้ ไฟล์ด้วยการนาข้อมูลเข้าด้วยคาส่ัง Import เข้ากลับไปในระบบฐานข้อมูลได้ ในการ export จะต้องมีการตรวจสอบวนั เวลา รายละเอียดการทางานในขณะที่นาข้อมลู ออก เนื่องจากการทางานของระบบมีการเปล่ียนแปลงข้อมูลตลอดเวลา และไม่เหมาะกับ ฐานข้อมูลท่ีมีขนาดใหญ่ เพราะการนาข้อมูลกลับมาฐานข้อมูล ใช้ระยะเวลาในการ ทางานนาน และส่ิงที่สาคญั อยา่ งย่ิงกอ่ นการสารองขอ้ มูลแบบน้ี ตอ้ งมกี ารหยดุ ไมใ่ ห้ผู้ใช้ อื่นๆที่ไม่ใช่ DBA เข้าใช้งานข้อมูลในระบบก่อน เพื่อไม่ให้มีการปรับปรุงข้อมูลในระบบ เป็นเหตุให้ข้อมูลท่ีสารองอาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังแสดงตัวอย่างการสร้างคาส่ังใน การสารองข้อมลู ภาพท่ี 12.5 แสดงคาสง่ั การสารองขอ้ มูลแบบตรรกะ การสารองขอ้ มลู โดยใชค้ าส่งั export ต้องมีการเปดิ ฐานข้อมลู ก่อนการสารองข้อมลู Login: oracle $ mkdir /prod/db_exp $ chmod 775 /prod/db_exp $ cd prod/db_exp $ ORACLE_SID=prod ; export ORACLE_SID $ sqlplus /nolog SQL> CONNECT / AS SYSDBA SQL> SHUTDOWN IMMEDIATE SQL> STARTUP RESTRICTED ; {ห้ามไมใ่ ห้ผใู้ ชง้ านติดต่อฐานข้อมลู ยกเวน้ DBA} $ exp userid=\\’sys/password as sysdba\\’ file=exp_prodtu.dmp full=y \\ log=exp_prodtu.log buffer=10000000 การนาขอ้ มูลกลบั มาใช้งานโดยใชค้ าสั่ง import $ imp userid=\\’sys/password as sysdba\\’ file=exp_prodtu.dmp full=y \\ log=imp_prodtu.log ignore=y fromuser=usertu touser=usertu_new ภาพที่ 12.5 การสารองข้อมลู แบบ Logical

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 442 2.2 สารองข้อมูลแบบกายภาพ (Physical Backup) เป็นวิธีการนาไฟล์ จากฐานข้อมูล คัดลอกไฟล์ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องออกจากระบบ ซึ่งในขณะสารอง ขอ้ มูล ผู้ดแู ลระบบสามารถกาหนดคณุ สมบัติประเภทของการสารองขอ้ มูลในระหว่างที่ มีการใช้งานข้อมูลตามปกติ เรียกกว่า Hot backup หรือไม่ให้ใช้งานข้อมูลท่ีเรียกว่า Cold backup (หรือทเ่ี รยี กอกี อย่างวา่ Full offline backup) ในการสารองข้อมูล Physical Backup สามารถกาหนดขั้นตอน สร้างคาสั่งที่ใช้งานในการสารองข้อมูลท่ีเลือกข้ันตอนโครงสร้างข้อมูลและการสารอง ข้อมูลเฉพาะฐานข้อมูล ในที่นี่ได้นาตัวอย่างการสารองข้อมูลท่ีใช้ระบบการจัดการ ฐานข้อมูล Oracle ในงานระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การงานบริหารงานวิจยั จะเป็น การสารองข้อมูล 2 รูปแบบ คือ 1) การแสดงการสารองข้อมูลระบบการจัดการ ฐานข้อมูล Oracle 10g บนระบบปฏิบัติการ Sun Solaris ดังภาพท่ี 12.6 คาสั่งการ สารองไฟล์ขอ้ มลู parameters ตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วข้องกับระบบจัดการฐานขอ้ มูล Oracle คาสงั่ ทีใ่ ช้ Backup Kernel parameters # mkdir /backup_system/ # cp /etc/system /backup_system/etc/system # cp /etc/hosts /backup_system/etc/hosts # cp /etc/defaultrouter /backup_system/etc/defaultrouter # cp /etc/resolv.conf /backup_system/etc/resolv.conf # cp /etc/nodename /backup_system/etc/nodename # cp /etc/defaultdomain /backup_system/etc/defaultdomain # cp /etc/inet/netmasks /backup_system/etc/inet/netmasks # cp /etc/services /backup_system/etc/services ภาพท่ี 12.6 การสารองข้อมลู บนระบบปฏบิ ตั ิการ Sun Solaris

การทดสอบและบารงุ รกั ษาระบบ | 443 2) การใช้คาส่ังในการสารองไฟล์ข้อมูลในการกาหนดค่าระบบฐานข้อมูลและ ระบบการจัดการฐานขอ้ มลู Oracle ดังภาพที่ 12.7 Backup configuration # mkdir /backup_config_db/ # cp /etc/system /backup_system/etc/system Backup Database # mkdir /backup_db/ # chmod 775 /backup_db/ # cp <database_files> </backup_db> ภาพที่ 12.7 สารองข้อมลู ระบบการจัดการฐานข้อมลู Oracle การจัดการรายการ (Transaction Management) การดาเนนิ งานของระบบสารสนเทศระหว่างผใู้ ช้และระบบฐานข้อมูล จะมีการ ใช้งานไม่ว่าจะเปน็ การจดั การ เพ่ิม ลบ แก้ไข โดยการบรหิ ารจัดการจะต้องการเขา้ ถึงใช้ งานในหลากหลายรปู แบบ และมีผู้ใช้บริการระบบสารสนเทศหลายคนพร้อมกัน ดังนั้น การใช้บริการฐานข้อมูลโดยใช้ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะมีการดูแล ควบคุม ภาวะการทางานพร้อมกันของผู้ใช้บริการเพ่ือให้ผู้บริการสามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพและตอ่ เนื่อง 1. คณุ สมบตั ขิ องการจัดการรายการ การตรวจสอบ บารุงรักษาและการกาหนดค่า Transaction เป็นการ กาหนดคุณสมบัติการใช้งานของระบบการจัดการฐานข้อมูลท่ีจะต้องการเกิดข้ึน เนือ่ งจากป้องกันระบบล้มเพราะการให้บริการระบบสารสนเทศ การจดั การมคี ณุ สมบัติ ท่ีผู้บริหารจดั การฐานข้อมูลต้องเข้าใจจากหลกั การจัดการคาว่า “ACID” ประกอบด้วย A: Atomicity, C: Consistency, I: Isolation, D: Durability มรี ายละเอียด ดังนี้

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 444 1) Atomicity คือ การทารายการให้สาเร็จทุกคาสัง่ ที่สัง่ งาน แต่ หากไม่ครบทกุ คาสัง่ ให้คืนสภาพไปจดุ เรมิ่ ต้น 2) Consistency คอื ความคงสภาพของขอ้ มูล ถงึ แม้วา่ จะดาเนิน คาสง่ั หรือไม่ ข้อมูลจะตอ้ งมคี วามคงสภาพ และขอ้ มลู ในฐานขอ้ มลู มคี วามถูกต้อง 3) Isolation คือ การแยกรายการดาเนินงาน ซึ่งจะเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกันในการดาเนินงาน โดยการกาหนดไมใ่ ห้มกี ารเปล่ียนแปลงข้อมูลในเวลา เดียวกัน ดังน้ัน หากมีการเปล่ียนแปลงรายการ จะต้องรอให้ดาเนินการเสร็จส้ินก่อน จึงจะอนญุ าตใหด้ าเนนิ งานในรายการตอ่ ไป 4) Durability คอื การจัดการบนั ทกึ ขอ้ มูลเม่ือมกี ารเปลี่ยนแปลง ขอ้ มูลลงฐานข้อมูล 2. ปัญหาจากการเข้าถึงพรอ้ มกนั การจัดการฐานข้อมูล จะต้องคานึงถึงการเข้าใช้บริการหรือการเข้าถึงระบบ พรอ้ มกัน นักวชิ าการได้กล่าวถึงการเขา้ ถงึ พร้อมกันว่าจะเกดิ ปัญหาหลักอยู่ 3 ประเด็น คอื 2.1 เกิดปัญหาจากการปรับปรุงข้อมูล หมายถึง การทางานระหว่าง การปรบั ปรงุ ขอ้ มูลในระบบการจัดการฐานข้อมูล หากมีการปรบั ปรุงขอ้ มูลเขา้ ถงึ พร้อม กันในรายการเดียวกัน จะต้องตรวจสอบการเข้าถึงพร้อมกัน และอนุมัติให้ปรับปรุง ข้อมูลสาหรับรายการที่เข้าถึงและดาเนินงานจนสิ้นสดุ โครงการก่อน ดังตัวอย่างการใช้ ระบบสารสนเทศการจัดการจัดการงานวจิ ยั มีการอนมุ ัติ 2.2 เกิดปัญหาที่ไม่ได้รับการยืนยันความสมบูรณ์ของข้อมูล การเรียกใช้ ข้อมูลหรือการเข้าถึงข้อมูลในกรณีที่มีการใช้งานโดยที่มีการเข้าถึงรายการหน่ึงแต่อีก รายการหนง่ึ มีการเรียกใชเ้ ขา้ ถงึ ทหี ลงั ดงั น้ันเพอื่ ให้เกดิ ข้อผิดพลาดในการเข้าถงึ จะต้องมี การยอมรับการดาเนนิ การให้เสร็จสมบรู ณ์กอ่ น จงึ จะให้รายการอ่ืนดาเนินการเข้าถึงตอ่ 2.3 เกิดปัญหาระหว่างข้อมูลมีความขัดแย้ง การเข้าถึงข้อมูลพร้อมกันจะ เกิดปัญหาในการจัดทารายการทีม่ กี ารเขา้ ถงึ ในเวลาใกล้เคียงกัน โดยรายการหนง่ึ ท่ีเริ่ม ก่อนกาลังจัดทารายการ แต่มีการเข้าถึงรายการเดียวกันในเวลาถัดมาทาให้มีการอ่าน ข้อมูลพรอ้ มกนั ซง่ึ จะเกิดปญั หาการบันทึกการปรับปรงุ ขอ้ มลู ผดิ พลาด

การทดสอบและบารงุ รกั ษาระบบ | 445 ปัญหาการเข้าใช้พร้อมกันจาก 3 ประเด็น ทาให้เห็นปัญหาการ ปรับปรุงข้อมูลพร้อมกัน การไม่ได้รับการยืนยันเมื่อมีการบันทึกข้อมูลสมบูรณ์ และข้อมลู มคี วามขดั แย้งกนั เมื่อมีการเข้าใชใ้ นเวลาพรอ้ มกันหรือใกล้เคียงกัน ดังภาพท่ี 12.8 แสดงการเข้ารายการพร้อมกันของในหน่ึงกิจกรรมก็จะเกิดข้อผดิ พลาดในการเขา้ ใช้จงึ จาเปน็ ต้องมีการควบคุมภาวะการเข้าใชง้ านพรอ้ มกันเพื่อแก้ไขปญั หาดงั กล่าว AB 1. อ่านข้อมูลงบประมาณโครงการ 1. อา่ นขอ้ มลู งบประมาณโครงการ จานวน จานวน 10,000 บาท 10,000 บาท 2. ตั้งเบิกตัดงบประมาณ 5,000 บาท 2. ตง้ั เบิกตดั งบประมาณ 5,000 บาท 3. งบประมาณคงเหลือ 5,000 บาท 3. งบประมาณคงเหลอื 5,000 บาท ยกเลิกการทางาน ภาพท่ี 12.8 การเข้าใชร้ ายการเกิดปญั หาจากการปรับปรุงข้อมูล 3. การควบคุมภาวะการใชง้ านพร้อมกนั เม่ือมีการใช้งานระบบฐานข้อมูลพร้อมกัน ทีมพัฒนาจะต้องวางแผน การให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่งการใช้งานพร้อมกันในเร่ืองเดียวกัน รายการ เดียวบนระบบฐานข้อมูล เป็นเรื่องที่จะต้องมีการตรวจสอบภาวะการใช้งานพร้อมกัน ควบคุมภาวะการใช้งาน เหตุท่ีเกิดจากผู้ใช้บริการดาเนินการกิจกรรมไม่เกิดปัญหา

การทดสอบและบารงุ รกั ษาระบบ | 446 การบันทึกข้อมูลไม่สมบูรณ์ ขัดแย้งกันเม่ือมีการใช้งานเข้าถึงพร้อมกัน จากปัญหา ที่เกิดขึ้นจะมีการแก้ไขด้วยการควบคุมภาวะการใช้งาน นักวิชาการได้กล่าวเทคนิคการ ควบคมุ ภาวะการใช้งานพร้อมกันมี 2 วธิ ี คือ การล็อกและไมใ่ ช้วิธกี ารลอ็ ก ดงั น้ี 3.1 การควบคุมภาวะการใช้งานพร้อมกันด้วยการล็อก คือ การกาหนดสถานะล็อกในขณะท่ีมีการบันทึกปรับปรุงข้อมูล จะปิดล็อกไม่ให้เรียกใช้ รายการน้ี จนกว่าจะมีการดาเนินงานเสร็จสน้ิ จัดเก็บข้อมูลลงฐานข้อมูลจึงจะเปิดลอ็ ก ให้รายการอ่ืนดาเนินงาน มีการล็อกอยู่ 2 ประเภท คือ การล็อกแบบแชร์ (Shared Locks) คือ การอนุญาตให้จัดทารายการในการอ่านได้ แต่ไม่อนุญาตปรับปรุงข้อมูล ผู้ใช้คนอ่ืนจึงจะอ่านข้อมูลได้อย่างเดียว หรือท่ีเรียกว่า S-lock และการล็อกแบบ เอ็กซ์คลูชีพ (Exclusive Locks) คือ การล็อกข้อมูลโดยการไม่อนุญาตให้ผู้ใช้คนอื่น ได้ใช้งานรายการนั้น จนกว่าจะสิ้นสุดการทารายการ ถึงจะปลดล็อกรายการท่ีเรียกว่า X-Lock ในการกาหนดการล็อกระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถ เลือกลักษณะการล็อกได้ 4 ระดับ คือ 1) การล็อกฐานข้อมูลจะล็อกจนกว่าจะ สิ้นสุดประมวลผลรายการ 2) การล็อกตารางเฉพาะตารางท่ีปรับปรุงรายการเท่าน้ัน 3) การล็อกเรคอรด์ จะลอ็ กเฉพาะเรคอร์ดท่ปี รับปรุงขอ้ มูลเทา่ น้นั 4) การลอ็ กเขตขอ้ มลู เป็นการล็อกเฉพาะเขตข้อมูลหรือฟิลด์ท่ีมีการเรียกใช้เข้าถึงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การล็อกข้อมูลจะพบปัญหาภาวะการติดตาย (Deadlock) ท่ีเกิดจากการเรียกใช้ พร้อมกัน แต่ไม่สามารถทางานได้ จึงรอการปลดล็อกจนทาให้เครื่องเกิดอาการหยุด การทางานจากปัญหาการติดตายได้ มีอัลกอริทึมที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการปลดล็อก ในวิธีหมุนวน โดยการตรวจสอบการประมวลผลจากการทางานก่อนและหลงั การจดั ทา รายการ 3.2 การควบคุมภาวะการใช้งานพรอ้ มกันโดยไม่ใช้วิธลี ็อกจะเป็น การบริหารจัดการฐานข้อมูล โดยการดูเวลาในการเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบลาดับ การทางาน และบันทึกข้อมูลลงฐานข้อมูลมีวิธีการควบคุม 2 วิธี คือ Optimistic Concurrency Control และวธิ ี Timestamp-based Concurrency Control

การทดสอบและบารงุ รักษาระบบ | 447 3.2.1 วิธี Optimistic concurrency control มีแนวคิดในการให้ทุก รายการสามารถเข้าถงึ ข้อมูลตามปกติ แต่หากมีการบันทึกข้อมลู จะต้องมีการตรวจสอบ ข้อมูลเพอื่ ไมใ่ หเ้ กดิ ความขัดแยง้ แตห่ ากตรวจสอบพบความขดั แยง้ ของข้อมลู จะเริ่มต้น การทางานใหม่ท้ังหมด ในการทางานแบบนี้ จะมีประสิทธิภาพกว่าการล็อก แต่หาก มีการทางานพร้อมกัน จะมีรายการทางานมากทาให้มีการทางานสูงขึ้น หากพบข้อมูล ผิดพลาดจากการขดั แย้งของขอ้ มูล วิธีนี้มขี ั้นตอนการทางาน 3 ขนั้ ตอน ดังน้ี 1) Read ขั้นตอนน้ี จะอา่ นรายการจากฐานข้อมลู ระบบจะทา การเขียนข้อมูลให้กับพื้นท่ีชั่วคราว และในการเขียนข้อมูลชั่วคราวผู้ใช้คนอื่น จะไม่สามารถเข้าถงึ ข้อมูลได้ 2) Validation เป็นข้ันตอนการตรวจสอบ ตามลาดับการ ทางานแตล่ ะรายการ โดยจะต้องมีการยืนยันความสาเร็จของงาน หากเกิดความขัดแย้ง ของข้อมูลให้ทายกเลกิ ทาใหมท่ ้ังหมด 3) Write เป็นข้ันตอนการบันทึกข้อมูลหากตรวจสอบไม่พบ ความขดั แยง้ ข้อมลู ก็จะบนั ทึกขอ้ มลู ลงฐานขอ้ มูล พื้นฐานการล็อก ประกอบด้วย Read Lock และ Write Lock ซ่ึงในการทางานของ read lock จะสามารถทาการอ่านข้อมูลได้ แต่จะไม่สามารถทา การอัปเดตข้อมูลได้ แต่ Write Lock มีการทารายการข้อมูล จะสามารถทาได้ทั้งการ อ่านและการปรบั ปรงุ ข้อมูลได้ 3.2.2 วิธี Timestamp-based Concurrency Control การทางาน แบบน้ี ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะกาหนดลาดับเวลาในการเข้าถึงข้อมูล โดยจะทา การเรยี งลาดับการเกิดของแตล่ ะรายการก่อนหลังจะตอ้ งมีการกาหนดค่า ดงั นี้ 1) ใช้เวลาการกาหนดเวลาระบบ การทางานจะนาค่าเวลา ระบบเป็นตวั แปรเก็บค่า timestamp 2) ใช้ตัวแปรนับเพิ่มทีละ 1 รายการเพ่ือนามาเป็นตัวกาหนด ลาดบั ให้แต่ละรายการ

การทดสอบและบารุงรักษาระบบ | 448 บทสรปุ จากเนอื้ หาดงั กล่าว จะกลา่ วถึงขน้ั ตอนการทดสอบซอฟต์แวร์ เมือ่ พัฒนา เสร็จตามแผนงาน ด้วยการทดสอบเพ่ือตรวจสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลว่า ได้ผลตามการออกแบบหรือไม่มีอยู่ 4 ประเด็น คือ 1) ทดสอบกระบวนการป้อน ข้อมูล 2) ทดสอบขั้นตอนการใช้งาน 3) ทดสอบสมรรถนะและการประมวลผล และ 4) ทดสอบกระบวนการรายงานผล เม่ือมีการทดสอบการทางานตามกระบวนการทดสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การติดต้ังซอฟต์แวร์เพื่อใช้งาน โดยจะต้องคานึงถึงรูปแบบการใช้งานตาม ลักษณะการทางานของแต่ละองคก์ ร มีรูปแบบการตดิ ตง้ั 3 รปู แบบ คือ 1) การตดิ ต้งั ซอฟต์แวร์ใหม่ 2) การติดตั้งซอฟต์แวร์คู่ขนาน 3) การติดตั้งซอฟต์แวร์หน่วยย่อย ซึ่งการเลือกรูปแบบการติดตั้งผู้พฒั นาและผ้บู ริหารองค์กรควรพิจารณาจากลักษณะ การใชง้ านความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นหลกั เม่อื มีการตดิ ตัง้ จะตอ้ งมีการอบรม การใชง้ านพรอ้ มจัดทาเอกสารคมู่ อื สาหรับผ้ใู ชง้ าน เพอื่ ให้ผู้ใชง้ านสามารถเรียนรแู้ ละ เห็นขน้ั ตอนกระบวนการทางานจากคู่มือ การพัฒนาระบบสารสนเทศและการนาซอฟต์แวร์มาประยุกต์ใชใ้ นองค์กร จะต้องมีการวางแผนการดูแล บารุงรักษาข้อมูล เพ่ือป้องกันข้อผิดพลาดหรือการ สูญเสียของข้อมูล มีการบารุงรกั ษา 4 ประเภทคือ 1) การบารงุ รกั ษาดว้ ยวธิ ีการแกไ้ ข ข้อมูลพลาดให้ถูกต้อง 2) การบารุงรักษาเพ่ือรองรับเทคโนโลยีท่ีทันสมัย 3) การ บารุงรักษาด้วยการเพ่ิมประสิทธิภาพการทางาน 4) การบารุงรักษาที่อาจจะพบ ปัญหาในอนาคต ซึ่งในการบารุงรักษาและป้องกันการสูญเสียของข้อมูลจะต้องมี แผนการสารองข้อมูลด้วยวิธีการสารองข้อมูลจากฐานข้อมูล 2 ประเภท คือ การสารองข้อมูลแบบตรรกะ และการสารองข้อมูลแบบกายภาพ การสารองข้อมูล เปน็ สิ่งสาคัญท่ีจะตอ้ งป้องกัน องคก์ รจะต้องกาหนดแผนการสารองข้อมลู และปฏิบัติ ตามแผนงานอยา่ งต่อเน่ือง ก า ร ด า เ นิ น ง า น ใ ห้ บ ริ ก า ร ร ะ บ บ ฐ า น ข้ อ มู ล ที่ มี ผู้ ใ ช้ บ ริ ก า ร ใ น ร ะ บ บ ฐานข้อมูลแบบศูนย์กลาง ผู้ใช้บริการจะเข้ามาใช้บริการหลายคนพร้อ มกัน จะเกิดปัญหาการเข้าใช้พร้อมกัน ดังน้ัน เพ่ือให้การบริการระบบฐานข้อมูลไม่เกิด ปัญหาดังกล่าว ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์จะต้องมีการวางแผนกาหนดวิธีการควบคุมการ

การทดสอบและบารุงรกั ษาระบบ | 449 เข้าใช้พร้อมกัน ซึ่งการกาหนดการควบคุมภาวะการใช้งานพร้อมกัน 2 วิธี คือ การล็อกและไม่ใช้วธิ ีการลอ็ ก โดยการพิจารณาจากโครงสรา้ งการออกแบบฐานขอ้ มลู และกาหนดคุณสมบัติการใช้งานของแต่ละซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้ งานขององค์กร ดังนั้น การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีความสมบูรณ์ ตรงความต้องการของ ผ้ใู ช้งาน จะตอ้ งคานึงถงึ ข้ันตอนการตรวจสอบความถกู ต้อง และการใช้งานซอฟต์แวร์ เมื่อใช้งานจะต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการ ในการตรวจสอบการบารุงรักษา ซอฟต์แวร์และระบบสารสนเทศขององค์กรท่ีมีความเกี่ยวข้อง มีการตรวจสอบ ประสิทธิภาพการทางานของซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการสารองข้อมูล อย่างชัดเจน เพ่ือป้องกันการสูญเสียข้อมูล ดังน้ัน การทดสอบและติดต้ังซอฟต์แวร์ ถือเปน็ หัวใจสาคญั ในขน้ั ตอนสดุ ทา้ ยของการพฒั นาซอฟต์แวร์

การทดสอบและบารงุ รกั ษาระบบ | 450 แบบฝกึ หดั บทท่ี 12 ตอนที่ 1 ตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้ 1. จงอธิบายขน้ั ตอนการทดสอบซอฟตแ์ วร์ 2. การตดิ ตัง้ ซอฟตแ์ วรม์ ีกป่ี ระเภท อะไรบ้าง 3. จาเป็นหรือไมก่ ับการจดั ทาค่มู ือการใชง้ าน 4. การบารุงรักษาระบบมคี วามจาเป็นอย่างไร และประเภทการบารุงรักษาระบบ มีก่ีประเภท อะไรบา้ ง 5. มีแนวทางการสารองข้อมลู ก่ีวิธีมอี ะไรบา้ ง 6. จงอธิบายความหมายของการจัดทารายการ และคุณสมบัติหลักของการจดั ทา รายการ 7. ปญั หาใดทเี่ กิดจากการใช้งานพร้อมกันบนระบบฐานข้อมูล 8. อธิบายวิธีการแกไ้ ขปญั หา การเกดิ สภาวะการเขา้ ถึงพรอ้ มกัน 9. ประเภทของการล็อกมกี ีช่ นดิ อะไรบา้ ง

453 บรรณานุกรม กิตติ ภักดีวัฒนะกุล. (2547). คัมภีร์ระบบสารสนเทศ. กรุงเทพมหานคร: เคทีพี คอมพ์ แอน คอนซลั ท์. น้าฝน อัศวเมฆนิ . (2558). หลกั การพ้ืนฐานของวิศวกรรมซอฟต์แวร์. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ซีเอ็ดยเู คชนั่ จา้ กดั (มหาชน). พรรณี สวนเพลง. (2552). เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมสาหรับการจัดการ ความรู้. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ซีเอ็ดยเู คชั่น จา้ กัด (มหาชน). ยาใจ โรจนวงศช์ ัย และคณะ. (2550). คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศสมยั ใหม่. กรุงเทพมหานคร: สา้ นักพิมพแ์ มคกรอ-ฮลิ . ราชบัณฑิตสถาน. ( 2546). คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับ ราชบณั ฑิตยสถาน (พิมพ์ครง้ั ท่ี 6). นนทบุร:ี สหมิตรพรนิ ติง. รุจิจันทร์ พิริยะสงวนพงศ์. (2549). สารสนเทศทางธุรกิจ. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซเี อ็ดยูเคชัน่ จ้ากัด (มหาชน). รุจิโรจน์ กังเจริญสัมพันธ์ และ นลินภัสร์ ปรวัฒน์ปรียกร. (2557). ระบบจัดลาดับ ความสาคญั ในการใชบ้ ริการสารสนเทศของมหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศ. 10(1), 15 - 20. ศศลกั ษณ์ ทองขาว และคณะ. (2558). คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศสมยั ใหม่. กรุงเทพมหานคร: สา้ นักพิมพแ์ มคกรอ-ฮิล. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอ้านวย. (2553). การวางแผน IS/IT เชิงกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร: บริษัทดวงกมลสมยั จา้ กัด. ศิริสุดา สภุ าวรรณ. (2555). การนามาตรฐาน ITIL มาประยกุ ตใ์ ช้ในการบรหิ ารจัดการ ระบบสารสนเทศ กรณีศึกษาบริษัท ดีคอมพ์กรุ๊ป จากัด (สารนิพนธ์ มหาบณั ฑติ ). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร, กรุงเทพมหานคร. ศรีไพร ศักด์ิรุ่งพงศากุล และ เจษฎาพร ยุทธนวิบูลย์ชัย. (2549). ระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีการจัดการความรู้ (พิมพ์ครังที่ 10). กรุงเทพมหานคร: บริษทั ซเี อด็ ยูเคชั่น จ้ากัด (มหาชน).

454 สุพรรษา ยวงทอง. (2557). ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ทั โปรวชิ ่นั จา้ กดั . สัลยุทธ์ สว่างวรรณ. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ทั เพียรส์ ัน เอด็ คูเคช่นั อินโดไชนา่ จ้ากัด. อรยา ปรีชาพานิช. (2557). คู่มือเรียน การวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analysis and Design). กรุงเทพมหานคร: บรษิ ทั ไอดซี ี พรเี มียร์ จ้ากดั . อรอนงค์ ทองหลอ่ ทะกอง. (2557). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการ งานวิจัย สานักวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. อุดรธานี: มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุดรธานี เอกสทิ ธิ์ พชั รวงศศ์ กั ดา. (2557). การวิเคราะห์ข้อมลู ดว้ ยเทคนิคดาตา้ ไมนน์ งิ เบ้ืองตน้ . กรงุ เทพมหานคร: บริษัท เอเชยี ดิจติ อลการพมิ พ์ จา้ กดั . โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. (2545). การออกแบบและจัดการฐานข้อมูล. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ัท ซีเอด็ ยเู คชัน่ จา้ กดั (มหาชน). โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. (2554). ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ (Management Information Systems: MIS. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซีเอ็ดยูเคช่ัน จ้ากดั (มหาชน). Brian, K. W., Stacey C. S. (2013). Using information technology (11th ed.). McGraw-hill Education. New York. Dennis, a., wixom, b. h., & roth, r. m. (2006). Systems Analysis Design. (3rd ed.). john Wiley & Wons, Inc.USA.: Harry J. Rosenblatt., Systems Analysis and Design (10th Edition). Shelly Cashman Series .USA. John W. Satzinger, R. B. (2004). Systems Analysis and Design in a Changing World. (3rd ed.). Boston, Massachusetts: Thomson/Course Technology. Paige Baltzan (2014). Business Driven Information Systems (4th Edition). McGraw-hill Education. USA.

455 Kendall, K. E., & Kendall, J. E. (2011). Systems analysis and design. Upper Saddle River, N.J: Pearson Prentice Hall. Ralph m. Stair, g. w. (2017). Fundamentals of Information systems. (8th Edition) United States: Cengage Learning. Richard J. Roiger Michael W. Geate. (2003). Data Mining a Tutorial Based Primer. USA.: Pearson Education. Sushmit Mitra, Tinku Acharya. (2014). Data Mining Multimedia,Soft Computing and Bioinformatics. USA: A john wiley&sons inc., publication. สืบคน้ ออนไลน์ คมพนั ธ์ เสนทอง. (2554). การนาระบบสารสนเทศสาหรับผู้บรหิ ารระดบั สงู มาใชใ้ น องคก์ าร กรณศี ึกษา Talent การไฟฟ้านครหลวง. สืบคน้ 2 กุมภาพันธ์ 2557, จาก http://digi.library.tu.ac.th/thesis/ac/0731/ approval- biography.pdf ไทยรัฐ. (2559). 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตาประจ้าปี 2016. สืบค้น 5 พฤษภาคม 2559, จาก http://www.thairath.co.th/ content/561658 ประจติ หาวัตร. (2559). Information Systems Auditing. สืบค้น 30 ธันวาคม 2559, จาก http://www.org.tu.ac.th/audit/menu/system/pdf/information_1.pdf. ปิยะพล ทวีวรรณ. (2555). ระบบผู้เชี่ยวชาญการวินิจฉัยอาการเสยี ของเคร่ืองรับโทรทัศน์ โ ด ย ใ ช้ ห ลั ก ต้ นไ ม้ ตั ด สิ นใ จ . สื บ ค้ น 2 กุ ม ภ า พั นธ์ 2557, จ าก http://archive.lib.cmu.ac.th/full/T/2555/comp30955pt_abs.pdf พรพิมล มุมานะวงศ์ และมณเฑียร รัตนศิริวงศ์วุฒิ. (2553). งานวิจัยระบบสารสนเทศ เพ่ือการสนับสนุนการตัดสินใจสาหรับผู้บริหารสถานศึกษาโดยใช้เทคนิค แบบผสมผสาน. การประชุมทางวิชาการระดับชาติ ด้านคอมพิวเตอร์และ เ ท คโ นโ ล ยี ส า ร ส นเ ท ศ ครั ง ที่ 6 พ . ศ. 2553 ( ห น้ า 213-218) . ก รุ ง เ ท พ ม ห า นคร : โ ร ม แ ร ม อี ส ติ น. สื บ ค้ น 1 มี นา คม 2558,

456 จ า ก http://202.44.34.144/nccitedoc/admin/nccit_files/NCCIT - 2011040232.pdf รั ฐ สิ ท ธิ์ สุ ข หุ ต . (2551). ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ เ ชิ ง วั ต ถุ . สื บ ค้ น 2 สิ ง ห า ค ม 2559, จาก http://myweb. cmu.ac.th/rattasit.s/CS204734/แนวคิดของการ พฒั นาซอฟตแ์ วร์เชิงวัตถุ.pdf วฤษาย์ ร่มสายหยุด.(2560). การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่สาหรับธุรกิจ. สืบค้น 1 สงิ หาคม 2560, จาก https://www.thaimooc.org วัชรา จันทาทับ. (2557). การพัฒนาและการประยุกต์ใช้คลังข้อมูลและเหมืองข้อมูล. สืบค้น 2 กุมภาพันธ์ 2557 ,จาก web.kku.ac.th/ wichuda/DataWH/ AJ_Watchara51.pdf ศูนย์วิจัยภูมิสารสารสนเทศเพื่อประเทศไทย. (2559). ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์. สื บ ค้ น 25 ธั น ว า ค ม 2559, จ า ก http://www.gisthai.org/about- gis/gis.html สารานุกรมไทยส้าหรับเยาวชน. (2559). องค์ประกอบของระบบสนสนเทศภูมิศาสตร์. สื บ ค้ น 25 ธั น ว า ค ม 2559, จ า ก http://kanchanapisek.or.th/ kp6/sub/book/book.php?book=37&chap=6&page=t37-6- infodetail03.html Ashok arora. (2006). science foundations of computer. Retrieved November 8, 2016. From https://books.google.co.th/books?id=Crcosz ZBMowC&lpg=PA36&hl=th&pg=PP5#v=onepage&q&f=false Cctv america. (2016). China’s Sunway TaihuLight named world’s fastest supercomputer Retrieved December 8, 2016. From http://www. cctv-america.com/2016/11/15/chinas-sunway-taihulight- named-worlds-fastest-supercomputer Cio.com. (2016). 10 most in-demand Internet of Things skills.Retrieved December 8, 2016, from http://www.cio.com/article/3072132/ it-skills-training/10-most-in- demand-internet-of-things-skills.html#slide1

457 Cisco. (2559). Product. สืบคน้ 30 พฤศจิกายน 2559, จาก http://www.cisco.com /c/en/us/products/index.html Cisco. (2559). Product. สืบค้น 30 พฤศจกิ ายน 2559, จาก http://www.cisco.com /c/en/us/support/switches/fasthub-100-series-hubs/tsd- products-support-eol-series-home.html Firebase. (2559). Firebase by platform Firebase. สืบค้น 30 พฤศจิกายน 2560, จาก https://firebase.google.com/docs/ Ibm. ( 2016). 3090 Processor Complex. Retrieved November 8, 2016. from https://www-03.ibm.com/ibm/history/exhibits/mainframe/ mainframe_album.html InformIT. (2016). NoSQL Databases: An Overview. Retrieved Much 8, 2016,http://www.informit.com/articles/article.aspx?p=2266741 Intel Thailand. (2559). การปฏิบัติในอากาศ. สืบค้น 6 ธันวาคม 2559, จาก http://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/technology -innovation/aerial-technology-overview.html. Nectec. (2559). NETPIE: Internet of Things. สื บ ค้ น 30 ตุ ล า คม 2559, จ า ก https://www.nectec.or.th/innovation/innovation- software/netpie.html Nectec. (2559). About NETPIE. สบื คน้ 30 ตุลาคม 2559, จาก https://netpie.io Wirecutter. (2560). The Best Windows Ultrabook. สื บค้ น 30 ตุ ลาคม 2559, http://thewirecutter.com/reviews/the-best-windows-ultrabook/ Techmoblog. (2559). netbook สืบค้น 30 พฤศจิกายน 2559, จากhttp://www. Techmoblog.com/article-tablet-vs-netbook

458 ภาคผนวก ก เฉลยแบบฝึกหดั ท้าย

ตอนที่ 2 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 1 459 1. ข 2. ข 6. ง 11. ข 3. จ 7. ก 12. จ 4. ก 8. ก 13. ข 5. จ 9. ค 14. ง 10. ข 15. ง ตอนท่ี 3 6. I 11. O 1. A 7. Q 12. B 2. E 8. H 13. J 3. C 9. I 14. L 4. G 10. P 15. N 5. H แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 2 9. ก ตอนท่ี 2 10. ง 1. ง 5. จ 2. ง 6. ค 3. ค 7. จ 4. จ 8. ก

460 ตอนที่ 3 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทท่ี 3 9. ง 10. จ 1. F 5. ก 2. B 6. ข 3. C 7. ง 4. G 8. ง 5. E 6. A ตอนที่ 2 1. จ 2. ก 3. ง 4. ข แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 4 CREATE DROP ตอนท่ี 2 ALTER และ 1. การใช้คา้ สั่ง SQL สรา้ งตาราง ALTER และ 2. การใช้คา้ สง่ั SQL ลบตาราง 3. การใชค้ า้ ส่ัง SQL เปลี่ยนแปลงโครงสร้างตารางดว้ ยการเพ่ิม SELECT UPDATE ค้าสั่งเพ่ิม ADD INSERT 4. การใช้คา้ สั่ง SQL เปลี่ยนแปลงโครงสรา้ งตารางดว้ ยการลบ ค้าสัง่ เพิ่ม DROP 5. การใชค้ า้ สง่ั SQL ค้นหาดูข้อมูล 6. การใช้คา้ สั่ง SQL ปรบั ปรุงขอ้ มลู 7. การใชค้ ้าสง่ั SQL เพิม่ ขอ้ มลู

461 8. การใชค้ ้าสัง่ SQL ลบข้อมูล DELETE 9. การใชค้ ้าสงั่ SQL กา้ หนดสทิ ธิการเข้าถึงฐานข้อมูล GRANT 10.การใชค้ ้าสัง่ SQL ยกเลกิ สิทธิการเข้าถึงฐานข้อมลู REVOKE ตอนที่ 3 1. จงเขียนคา้ สงั่ ในการสรา้ งเขตข้อมลู ตารางประเภทสินค้า CREATE TABLE `typeproduct` (`id` int(11) NOT NULL, `typename` varchar(50) DEFAULT NULL 2. จงเขียนค้าส่งั เพิม่ ข้อมลู ตารางประเภท INSERT INTO `typeproduct` (`id`, `typename`) VALUES (100, 'ชนิ '), (200, 'กล่อง'); 3. จงเขียนคา้ สั่งปรบั ปรุงข้อมลู ตารางรายการสินค้า ก้าหนดเงื่อนไขชือ่ สนิ คา้ เปด็ นอ้ ยเปลยี่ นเป็นดอกไม้กหุ ลาบ UPDATE `product` SET `name` = 'กหุ ลาบ' WHERE `product`.`id` = 1 4. จงเขียนคา้ สงั่ ลบข้อมูลตารางรายการสนิ คา้ รหัสสินค้า 3 DELETE FROM `product` WHERE `product`.`id` = 3; 5. จงเขียนค้าสง่ั ค้นหาขอ้ มลู โดยกา้ หนดเง่ือนไขคน้ หาราคาสินคา้ มากกวา่ 65 บาท SELECT * FROM `product` WHERE price>65 6. จงเขยี นค้าสง่ั ค้นหาขอ้ มูลตารางลกู ค้า เงื่อนไขลกู ค้ารหสั ลกู ค้า1001 SELECT * FROM `customer` WHERE id=`1001` 7. จงเขียนค้าส่ังค้นหาข้อมลู ตารางลกู ค้าเงอ่ื นไขคน้ หาลูกค้าจังหวัดอดุ รธานี

462 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 5 ตอนที่ 2 1. ให้สรา้ งเครือข่ายแผนผงั งาน C 4 G A 2 F 6 D5 1 3E B 2. เส้นทางใดท่เี หมาะสมและดีท่ีสุดในการเดนิ ทาง เส้นทางที่ 2 3. แต่ละเส้นทางใชเ้ วลาดงั นี เสน้ ทางที่ 1 ใชเ้ วลา 14 วนั เสน้ ทางท่ี 2 ใช้เวลา 9 วนั เส้นทางท่ี 3 ใช้เวลา 10 วนั เสน้ ทาง งาน วัน รวม 1 A,C,G 2+6+6 14 2 A,D,F 2+4+3 9 3 B,E 3+8 11

463 4. มีค่าใชจ้ ่ายในการด้าเนนิ งานเทา่ ไร เสน้ ทาง งาน วนั รวมคา่ แรง 5,080 1 A,C,G (2x200)+(6x530)+(6x250) 3,300 2 A,D,F (2x200)+(4x500)+(3x300) 3,600 3 B,E (3x300)+(9x300) แบบฝึกหดั ท้ายบทท่ี 7 ตอนที่ 2 1. ให้สร้างแผนภาพกระแสขอ้ มลู ของร้านรองเท้าแชมป์ แฟ้มลกู ค้า แฟ้มพนักงาน แฟม้ รายการสนิ คา้ ลูกคา้ ้ขอ ูมลลูกค้า พนกั งาน รายประวัติ ้ขอมูลพ ันกงาน ข้อ ูมลสินค้า 1 ข้อมูลผใู้ ช้งาน 2 เข้าระบบ คน้ หาสินคา้ ส่งั ซือหน้าร้าน บันทกึ ใบสงั่ ซือ สง่ั ซือออนไลน์ 3 แฟ้มใบสัง่ ซอื สั่งซอื้ รายงานใบสั่งซอื ช้าระเงิน แฟม้ รายการสนิ คา้ รายงานสินค้า ้ขอมูลสินค้า ข้อมูลผู้ใช้งาน 5 จดั ส่งสินค้า 4 บันทกึ ใบเสรจ็ จัดส่งสนิ คา้ ชาระเงนิ แฟ้มใบเสร็จ บนั ทึกการส่งสนิ คา้ รายงานใบเสรจ็ รายงานการสง่ สนิ คา้ แฟ้มส่งสินคา้

464 2. ใหส้ รา้ งพจนานุกรมขอ้ มลู ของแผนภาพกระแสข้อมลู พจนานกุ รมขอ้ มูลกระแสขอ้ มูล ชือ่ สว่ นลดจากการสงั่ ซือ คาอธบิ าย เกณฑเ์ งื่อนไขในการประมวลผลการส่งั ซือ แหล่งกาเนดิ ขอ้ มูล ลูกคา้ พนักงาน แหลง่ รบั ช้อมูล ลูกคา้ พนักงาน รายการสนิ คา้ ใบส่ังซือสนิ ค้า ใบเสร็จ สง่ สนิ คา้ ชนิดกระแสขอ้ มลู ขอ้ มูลในระบบ บันทึกหนา้ จอ โครงสรา้ งขอ้ มลู ข้อมูลบุคลากร รายละเอียด 1. ลกู คา้ เข้าระบบ 2. สืบคน้ ขอ้ มลู รายการสนิ คา้ 3. ท้าการสัง่ ซอื โดยระบบจะมีเงื่อนไขในการให้ส่วนลดจากปรมิ าณการ สั่งซือ 4. ช้าระเงิน เม่อื ได้รับข้อมูลการชา้ ระเงนิ ระบบจะท้าการรายงาน รายละเอียดใบเสรจ็ 5. จัดสง่ สนิ คา้ แสดงรายละเอียดชว่ งเวลาวนั ส่งสนิ ค้า

465 3. ใหส้ รา้ งการทา้ งานตน้ ไม้ตัดสนิ ใจกระบวนการให้ส่วนลดสินคา้ ลกู ค้าขายส่ง 3 ชินขึนไป ใหส้ ่วนลด 20% 2 ไม่ได้สว่ นลด Yes Yes ลกู คา้ ที่ซอื สนิ คา้ ราคา 900 บาท ให้ส่วนลด 8% 1 3 ลกู คา้ ทีซ่ ือสินค้าราคา 2,000 ขนึ ไป ใหส้ ว่ นลด 15% บัตรคูปองเงนิ สด 150 บาท ไมม่ ีการสั่งซือ No คาอธิบายเงอื่ นไข หมายเลข 1 มีการสง่ั ซอื สินค้า หมายเลข 2 ลูกคา้ ขายส่ง 3 ชนิ ขนึ ไป (เฉพาะรายการก้าหนด) ให้สว่ นลด 20% หมายเลข 3 ลูกคา้ ทซี่ ือสินคา้ ราคา 900 บาท ใหส้ ่วนลด 8% ลูกคา้ ท่ซี อื สินคา้ ราคา 2,000 ขนึ ไป ใหส้ ว่ นลด 15% บตั รคูปองเงนิ สด 150 บาท 4. ให้สร้างแผนผงั การท้างานการจดั สง่ สนิ คา้ เร่มิ สั่งซือสนิ คา้ คา้ นวณสว่ นลด ตรวจสอบจ้านวน/ราคาสินคา้ ตามเงอ่ื นไข อตั ราส่วนลด ช้าระเงนิ จดั สง่ สนิ ค้า จบ

466 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 8 ตอนที่ 2 ใหเ้ ลือกคา้ ตอบให้ตรงกบั ความหมาย จากตัวเลือก A – K ดังตัวเลือกต่อไปนี 1. A เอนทิตแี บบปกติ 2. Bเอนทิตีแบบอ่อน 3. Cแอตทริบิวตค์ ีย์หลัก 4. Eแอตทริบิวตแ์ บบผสม 5. Fแอตทริบิวต์แบบค่าเดียว 6. Gแอตทรบิ ิวต์ที่มีหลายคา่ 7. H แอตทรบิ ิวต์ทรี่ ับคา่ จากแอตทริบิวต์อ่ืน 8. K บคุ ลากรมีสถานะการเขา้ ใชบ้ รกิ าร 9. I การเซ็นสญั ญาการรบั โครงการวิจัย 10. J บคุ ลากรประจา้ แตล่ ะประจา้ สาขาวชิ า ตอนที่ 3 ใหน้ กั ศกึ ษาเขยี นแผนภาพ E-R Diagram โดยใชข้ ้อมลู ขา้ งล่าง 1. ให้นักศึกษาเขยี นแผนภาพ E-R Diagram ความสมั พนั ธข์ องระบบงานรา้ นวุ่นรกั ใจ ลกู ค้า 1 พนกั งาน มี M M1 ใบสัง่ ซือ มี ประเภท 1 1 มี มี M M รายการสินคา้

467 2. ให้นักศึกษาเขียน E-R Diagram แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี จากตาราง ทงั หมด 5 ตาราง บา้ นเลขที่ บา้ นเลขที่ ต้าบล คา้ นา้ หนา้ ชือ่ สกุล ตา้ บล คา้ นา้ หน้า ชือ่ สกุล อา้ เภอ อา้ เภอ จังหวัด รหัส ลกู ค้า รหัส พนกั งาน จงั หวดั M 1 มี รหสั ชอ่ื 1 M ใบส่งั ซือ มี ประเภท 1 1 มี วนั ที่สั่ง มี M รหสั ใบส่งั รหัสลูกค้า รหสั สินค้า รหัส M ซ้อ พนักงาน รายการสนิ คา้ รหัส จา้ นวน ช่อื สนิ คา้ ราคา วนั ผลิต

468 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 10 ตอนท่ี 2 ให้นักศกึ ษาแปลงแผนภาพ E-R เปน็ รีเลชนั จากภาพดังน้ี 1. ใหแ้ ปลงความสัมพนั ธข์ อง E-R เปน็ รีเลชัน COLUMN_NAME DATA_TYPE DATA_DEFAULT KEY COMMENTS YES รหสั ผลงาน Id_journal VARCHAR2(7 BYTE) (NOT NULL) NO ชื่อภาษาไทย NO ชอื่ ภาษาอังกฤษ Name_thai VARCHAR2(80 BYTE) (NOT NULL) NO บทคัดยอ่ NO ชื่อไฟล์ Name_eng VARCHAR2(100 BYTE) (NOT NULL) Abstract VARCHAR2(255 BYTE) (NOT NULL) file VARCHAR2(100 BYTE) (NOT NULL) COLUMN_NAME DATA_TYPE DATA_DEFAULT KEY COMMENTS Id_ VARCHAR2(7 BYTE) (NOT NULL) YES รหัสผลงาน Budget1 VARCHAR2(80 BYTE) (NOT NULL) YES งบประมาณงวดท่ี 1 Activity VARCHAR2(100 BYTE) (NOT NULL) YES กจิ กรรม Objective VARCHAR2(255 BYTE) (NOT NULL) YES วัตถปุ ระสงค์ Budget2 VARCHAR2(100 BYTE) (NOT NULL) YES งบประมาณงวดท่ี 2 2. มรี เี ลชนั ทังหมด 10 รเี ลชัน ดังนี 1) สถานะ 2) สาขาวชิ า 3) บุคลากร 4) งบประมาณ 5) ผลพจิ ารณา 6) สญั ญา 7) ฉบับสมบรู ณ์ 8) ความกา้ วหนา้ 9) ผลงานทางวิชาการ 10) ยุทธศาสตร์

469 ตอนที่ 2 ให้นกั ศึกษาวาดสัญลักษณ์ภาษายเู อ็มแอล ท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหแ์ ละ ออกแบบระบบ 1. ให้นักศกึ ษาวาดสัญลกั ษณ์ Use Case Diagram ดงั นี ช่ือ สญั ลกั ษณ์ Class User Case Relation 2. ใหน้ ักศึกษาวาดสญั ลกั ษณ์ Activity Diagram ดงั นี ชอื่ สัญลักษณ์ Action Decision


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook