แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า พอเพยี ง 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. ม่งุ ม่ัน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับ ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11
แผนการจดั การเรียนรู้ออนไลน์ที่ 13 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง อะตอมและตารางธาตุ เรือ่ ง ธาตกุ ัมมนั ตรงั สี รายวิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ชั่วโมง ครผู สู้ อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธิบายสมบตั แิ ละคำนวณครึง่ ชวี ติ ของไอโซโทปกมั มนั ตรังสี 2. สาระการเรยี นรู้ - ธาตุแต่ละชนดิ มไี อโซโทป ซง่ึ ในธรรมชาติบางธาตมุ ไี อโซโทปทแี่ ผร่ ังสีได้ เนอ่ื งจากนวิ เคลียสไม่เสถียร เรียกวา่ ไอโซโทปกัมมนั ตรงั สี สำหรบั ธาตุกมั มันตรังสีเปน็ ธาตุทีท่ กุ ไอโซโทปสามารถแผ่รังสไี ดร้ ังสที ี่เกิดขนึ้ เช่น รงั สีแอลฟา รังสีบีตา รังสีแกมมา โดยครึง่ ชวี ิตของไอโซโทปกมั มนั ตรงั สีเป็นระยะเวลาท่ีไอโซโทป กมั มันตรังสี สลายตวั จนเหลอื ครึ่งหนึง่ ของปรมิ าณเดิม ซ่งึ เป็นค่าคงที่เฉพาะของ แต่ละไอโซโทปกมั มนั ตรงั สี 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายสมบตั ิของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี รงั สีแอลฟา รังสีบตี า และรงั สแี กมมาได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. สามารถสืบค้นข้อมลู และนำเสนอตวั อยา่ งเกย่ี วกบั ธาตุกมั มนั ตรังสีได้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. ตงั้ ใจเรียนรแู้ ละแสวงหาความรู้ 4. รบั ผดิ ชอบต่องานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 4. ความคิดรวบยอด ธาตกุ ัมมันตรงั สีคือ ธาตุท่ีสามารถแผ่รงั สีออกมา แล้วกลายเปน็ อะตอมของธาตชุ นิดใหมไ่ ด้เกิดขึ้นจาก มีนวิ เคลียสทไี่ ม่เสถียร และมีพลังงานสูงมาก กัมมันตภาพรังสีเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดกับอโซโทปกัมมันตรังสี เพราะนิวเคลียสมีพลังงานสูงมาก และไมเ่ สถียร จงึ ปล่อยพลงั งานออกมาในรูปของอนุภาคหรือรงั สี จากการศกึ ษาของนักวิทยาศาตรพ์ บว่า รังสี ที่แผ่ออกมาจากไอโซโทปกัมมันตรังสีอาจเป็นรังสีแอลฟา (alpha ray) รังสีบีตา (beta ray) หรือแกมมา (gamma ray) 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ความซื่อสัตยส์ ุจรติ มีวินัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย 7. แนวความคิดเพื่อการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม สาระวิชาหลกั (Core Subjects) ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของ ร.10 ด้านที่ 1 มีทัศนคติที่ถูกตอ้ งต่อบา้ นเมือง ดา้ นท่ี 2 มพี ้นื ฐานชีวิตทีม่ น่ั คง มีคณุ ธรรม ดา้ นที่ 3 มีงานทำ มีอาชีพ ด้านท่ี 4 เปน็ พลเมืองดี หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักสตู รเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ (หลักสูตรท้องถิน่ ) หลักสตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา สะเตม็ ศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วิธสี อน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ครูเปิดวดี ีโอจาก Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=Sqc-r0R7c10 เร่อื ง ธาตุกมั มนั ตรงั สี เพอ่ื สรา้ งความสนใจให้นักเรยี นอยากเรียนเน้อื หานี้ 1. ครูทบทวนเกี่ยวกับองค์ประกอบที่สำคัญของอะตอมที่นักเรียนเคยศึกษาไปแล้ว เช่น อะตอมจะประกอบดว้ ยนิวเคลยี สทม่ี โี ปรตอนและนิวตรอนรวมตัวกันอยู่อยา่ งหนาแนน่ บริเวณตรงกลางอะตอม นวิ เคลียสมีขนาดเล็กมาก มีมวลมาก มีประจุไฟฟ้าบวก และมมี วลเกือบเทา่ กับมวลอะตอม โดยมีอิเล็กตรอนซง่ึ มีประจุไฟฟ้าลบ เคลื่อนที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส เป็นต้น จากนั้นครูกล่าวต่อว่า ในตารางธาตุยังมีธาตุอีกกลุ่ม
หนง่ึ ซ่ึงมสี มบตั ิแตกต่างไปจากธาตอุ ืน่ ๆ ทไ่ี ด้ศกึ ษาไปแลว้ โดยธาตุกลุ่มนสี้ ามารถแผร่ ังสแี ลว้ กลายเปน็ อะตอม ของธาตุใหมไ่ ด้ โดยเรียกธาตใุ นกลุม่ นวี้ า่ ธาตกุ มั มันตรงั สี ซง่ึ นักเรยี นจะไดศ้ ึกษาตอ่ ไป 2. ครูตั้งคำถามว่า นักวิทยาศาสตร์มีวิธีศึกษาหาองค์ประกอบของนิวเคลียสอย่างไร โดยให้ นกั เรียนแตล่ ะคนช่วยกันตอบคำถาม 2. ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนแบง่ กลุม่ กล่มุ ละ 4–5 คน จากนน้ั ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ คว้าเกยี่ วกบั การ ทดลองของเบ็กเคอเรล โดยใช้คำถามต่อไปนี้ 1) การทดลองของเบ็กเคอเรลมีวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งไร (แนวตอบ : เพ่อื ศึกษาวา่ สารทก่ี ำลงั เรืองแสงทกุ ชนิดมกี ารปล่อยรังสีเอกซ์ ออกมาหรือไม่ โดยทดลองกับสารเรืองแสงต่างๆ หลายชนิด โดยการใช้แสงอาทิตย์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสาร เรืองแสงขน้ึ เพ่อื ทดสอบว่ามกี ารปลอ่ ยรังสีเอกซ์ออกมาหรือไม่) 2) เบ็กเคอเรลมีเหตุผลอยา่ งไรที่สรปุ ว่า ในการทดลองกบั สารประกอบยูเรเนียมนั้น รอยดำบนฟิลม์ ไมไ่ ดเ้ กิดจากรังสเี อกซ์ (แนวตอบ : เนื่องจากรังสีเอกซ์เกิดขึ้นเองไม่ได้ จะต้องกระตุ้นด้วยด้วย อนุภาค หรือรงั สีบางชนดิ แตร่ งั สที ีท่ ำให้เกิดรอยดำบนฟลิ ์มในการทดลองกับสารประกอบยเู รเนียมน้ันเกดิ ข้ึนเอง) 2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเกย่ี วกบั การทดลองของเบก็ เคอเรล 3. ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่าการค้นพบของเบ็กเคอเรลนี้ แม้จะเป็นการค้นพบโดยบังเอิญ แต่ แสดงให้เห็นถึงความเป็นบุคคลช่างสังเกตและมีไหวพริบของเบกเคอเรล ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ นกั วทิ ยาศาสตร์ท่นี กั เรยี นควรจะถอื เป็นตัวอยา่ งดว้ ย 4. นักเรียนศึกษาความหมายของกัมมันตภาพรังสี ธาตุกัมมันตรังสี และคุณสมบัติของ กัมมันตภาพรังสี ตามรายละเอยี ดในหนังสอื เรยี นเคมี ม.4 หน้า 70-72 3. ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. ครูทบทวนความรู้ที่ได้เรียนไปในชั่วโมงที่แล้ว และชี้ให้เห็นว่ากัมมันตภาพรังสีเป็น ปรากฏการณ์ที่ธาตุกัมมันตรงั สีเกิดการแผ่รังสีออกมาตลอดเวลา ทำให้มีการจำแนกรังสีจากธาตุกัมมันตรังสี เป็น 3 ชนดิ คอื แอลฟา บีตา แกมมา โดยทราบว่า อนภุ าคแอลฟามีประจไุ ฟฟา้ เปน็ บวก อนุภาคบีตามีประจุ ไฟฟา้ เปน็ ลบ และรังสแี กมมาไม่มมี วล ไม่มีประจไุ ฟฟ้า 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออน โดย ชี้ให้เห็นว่า ความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออนจะขึ้นกับจำนวนประจุไฟฟ้าของรั งสีน้ัน ส่วนอำนาจทะลุผ่านของรังสีจะขึ้นอยู่กับมวล รังสีที่มีมวลมากย่อมมีอำนาจทะลุผ่านต่ำกว่ารังสีที่มีมวล น้อย การศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออนและอำนาจทะลุผ่าน ช่วยให้ นักวิทยาศาสตร์วัดพลังงานของรังสีชนิดต่าง ๆ ได้ 3. ครูนำนกั เรียนอภิปรายและสรุปเก่ยี วกบั กัมมันตภาพรงั สี ธาตกุ มั มนั ตรังสี และคุณสมบัติ ของกัมมนั ตภาพรงั สี โดยตงั้ คำถาม ดังน้ี 1) เราทราบได้อย่างไรวา่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา มีประจไุ ฟฟา้ บวก ประจุไฟฟา้ ลบ และไม่มีประจุไฟฟา้ ตามลำดับ (แนวตอบ : ทราบโดยใหร้ ังสผี า่ นสนามแม่เหล็ก แล้วสงั เกตทศิ การเบย่ี งเบน ของอนุภาคแอลฟาและอนุภาคบีตาเป็นทิศเดียวกับการเบี่ยงเบนไปของประจุบวกและประจุลบ ตามลำดับ สว่ นรงั สแี กมมาไมเ่ บี่ยงเบนในสนามแมเ่ หลก็ แสดงว่า ไมม่ ีประจไุ ฟฟา้ ) 2) อนุภาคหรอื รงั สใี ดมอี ำนาจทะลผุ า่ นสูงท่สี ุด (แนวตอบ : รงั สแี กมมา) 3) อนภุ าคหรือรังสีใดต้องใชว้ ัสดุทีม่ ีความหนาแนน่ มากในการกั้นรังสชี นิดนัน้ (แนวตอบ : รงั สแี กมมา)
4) อนภุ าคหรอื รงั สใี ดมีสมบตั ิเหมือนอเิ ลก็ ตรอน (แนวตอบ : อนุภาคบตี า) 5) อนุภาคหรือรังสีใดมีอำนาจทะลุทะลวงต่ำ กระดาษที่หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็สามารถกั้นรงั สนี ไ้ี ด้ (แนวตอบ : อนภุ าคแอลฟา) 4. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามเนอ้ื หา เรอื่ ง การเกิดกัมมันตภาพรงั สี ว่ามีส่วนไหนที่ยัง ไม่เขา้ ใจ และให้ความรู้เพม่ิ เติมในส่วนน้ัน 4. ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรเู้ ร่อื ง ธาตกุ มั มนั ตรงั สี จนนกั เรียนเกิดความเข้าใจท่ีตรงกัน 2. นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกันสรุปเนื้อหาเรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี ลงใน Padlet และนำเสนอ ขอ้ มลู ผ่าน Google Meet 3. นักเรยี นทำใบงานที่ 2.6 เรือ่ ง ธาตุกัมมนั ตรังสี 5. ขั้นประเมนิ (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 2. ครวู ัดและประเมนิ ผลจากใบงานท่ี 2.6 เรอ่ื ง ธาตุกมั มนั ตรังสี 3. ครวู ดั และประเมินผลจากการสรปุ เน้ือหาเรือ่ ง ธาตกุ ัมมันตรังสี และการนำเสนอผา่ น Google Meet 4. ครูสังเกตความสนใจ ความกระตอื รือร้นในการเรียนรูข้ องนักเรียน 10. วสั ดุ อุปกรณ์ สือ่ และแหลง่ เรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นวชิ า เคมี ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 อะตอมและตารางธาตุ 2) PowerPoint เรอ่ื ง ธาตุกมั มนั ตรงั สี 3) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=Sqc-r0R7c10 เรอื่ ง ธาตุกัมมันตรงั สี 4) Padlet : https://th.padlet.com/watcharaphongkiw/ryrz53r6qkbulrkp เรื่อง ธาตุ กัมมนั ตรงั สี 5) ใบงานท่ี 2.6 เรือ่ ง ธาตกุ มั มันตรงั สี 6) วธิ กี ารเข้าเรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 7) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
การวดั และการประเมินผล วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือทีใ่ ชว้ ดั เกณฑ์การวัดและ การวดั ผล การประเมนิ ผล และการประเมินผล และการประเมนิ ผล ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ ประเมินผลด้าน 60 ขึน้ ไป 1. ด้านความรู้ (K) 1. ตรวจใบงานท่ี 2.6 1. ใบงานที่ 2.6 เร่อื ง ธาตุ ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป 2. ด้านทกั ษะ (P) เรือ่ ง ธาตกุ ัมมันตรงั สี กมั มนั ตรังสี ระดบั คุณภาพ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ 1. การสบื ค้นขอ้ มูลและ 1. การสรปุ ขอ้ มูลผา่ น ดี ขนึ้ ไป ประสงค์ (A) นำเสนอข้อมูลผ่าน Padlet Padlet การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรมการ การมสี ่วนร่วมในการ มีส่วนรว่ มในการทำงาน ทำงานเปน็ กล่มุ เป็นกลุ่ม การสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤตกิ รรมเป็น เปน็ รายบุคคล รายบคุ คล
ใบงานท่ี 2.6 เร่ือง ธาตกุ มั มันตรงั สี คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. จากรปู จงระบวุ า่ A B และ C เป็นอนภุ าคหรือรงั สชี นิดใดที่แผอ่ อกจากธาตกุ ัมมันตรงั สี …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. 2. กมั มันตรงั สนี ำมาใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง จงอธิบายพอสงั เขป …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. 3. กัมมนั ตภาพรังสีมีโทษต่อร่างกายอย่างไร จงยกตัวอยา่ ง …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..
เฉลยใบงานท่ี 2.6 เรอ่ื ง ธาตุกัมมนั ตรังสี คำชแี้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จากรปู จงระบุวา่ A B และ C เปน็ อนภุ าคหรอื รงั สชี นิดใดทแี่ ผอ่ อกจากธาตกุ มั มนั ตรงั สี A คือ อนภุ าคแอลฟา (α) B คือ อนุภาคบตี า (β) C คอื รงั สแี กมมา (γ) 2. กัมมนั ตรังสีนำมาใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง จงอธบิ ายพอสงั เขป • ดา้ นการแพทย์ เช่น ใช้ Co-60 ทำลายเซลล์มะเรง็ และยับย้ังการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ใช้ I-131 ตรวจ ความผิดปกตขิ องต่อมไทรอยด์ • ดา้ นการเกษตร เชน่ ใช้ γ-ray ฆา่ เชื้อแบคทีเรียในอาหาร ฆ่าเช้ือจุลนิ ทรยี ใ์ นเมลด็ พนั ธพุ์ ชื • ด้านอุตสาหกรรม เช่น ใช้ U-235 เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ในอุตสาหกรรมผลิตเคร่อื งบนิ และยานอวกาศ ใช้ผลติ รงั สเี อกซ์ (X-ray) • ด้านธรณีวิทยา เช่น ใช้ C-14 คำนวณหาอายุของวัตถุโบราณ อายุหิน หรือซากฟอสซิลต่าง ๆ ซึ่ง คำนวณหาไดจ้ ากคร่งึ ชวี ิตของ C-14 ท่อี ยู่ในวัตถุนน้ั ๆ 3. กัมมันตภาพรงั สีมีโทษต่อร่างกายอยา่ งไร จงยกตัวอย่าง ถา้ ร่างกายไดร้ บั กมั มันตภาพรังสจี ะทำให้เซลลต์ ่าง ๆ ในรา่ งกายถูกทำลายได้ ซ่งึ เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง และความผิดปกติทางพนั ธกุ รรม
แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................ วันท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับท่ี ช่อื – สกุล คะแนน 4 3 21 1 2 ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ 3 (……………………………………………………………) 4 ...................../..................../................... 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 การให้คะแนน/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วเิ คราะห์โจทย์ได้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วิเคราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วเิ คราะห์โจทย์ เลอื กใช้ ถกู ตอ้ ง วิธีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใชว้ ิธกี ารหา วิธีการหาคำตอบ และ และสรุปคำตอบไดถ้ กู ต้อง คำตอบได้ถกู ตอ้ ง คำนวณไดถ้ ูกต้อง
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ช่ือ–สกุล ความ มี สว่ นร่วมใน รวม ท่ี คิดเห็น ยอมรับฟงั ตามท่ี นำ้ ใจ การปรับปรุง (15) (3) คนอ่ืน ไดร้ บั (3) ผลงานกลุ่ม (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชอ่ื ...........................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การให้คะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดับ ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรียน (4) ซกั ถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผู้ประเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั และการซกั ถาม เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้ัง 4. มสี ว่ นรว่ มใน มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ กิจกรรม ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครั้งและตอบ ถูก คำถามถกู เป็น บางครงั้ รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า พอเพยี ง 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. ม่งุ ม่ัน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับ ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11
แผนการจดั การเรยี นรอู้ อนไลนท์ ่ี 14 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อะตอมและตารางธาตุ เรอ่ื ง ธาตกุ ัมมนั ตรังสี รายวิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ช่วั โมง ครูผ้สู อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธบิ ายสมบตั แิ ละคำนวณครึง่ ชวี ิตของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี 2. สาระการเรยี นรู้ - ธาตุแต่ละชนิดมีไอโซโทป ซงึ่ ในธรรมชาติบางธาตมุ ีไอโซโทปที่แผ่รังสีได้ เนอ่ื งจากนวิ เคลียสไมเ่ สถียร เรยี กว่า ไอโซโทปกัมมนั ตรังสี สำหรบั ธาตุกมั มนั ตรังสีเปน็ ธาตทุ ่ีทกุ ไอโซโทปสามารถแผร่ งั สไี ด้รังสีที่เกดิ ขึน้ เช่น รังสีแอลฟา รงั สบี ตี า รงั สแี กมมา โดยคร่ึงชีวิตของไอโซโทปกมั มันตรงั สเี ปน็ ระยะเวลาที่ไอโซโทป กมั มนั ตรังสี สลายตัวจนเหลอื คร่งึ หนึง่ ของปรมิ าณเดมิ ซ่งึ เปน็ ค่าคงที่เฉพาะของ แต่ละไอโซโทปกมั มันตรงั สี 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. สามารถคำนวณโดยใชส้ ูตรหาค่าครึ่งชีวติ ของไอโซโทปกัมมันตรังสีได้ ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. สามารถเขียนแผนภาพแสดงการลดลงคร่งึ หน่งึ ของปรมิ าณเดมิ ได้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. ตงั้ ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ 4. รับผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 4. ความคิดรวบยอด ครึ่งชีวิต (half life) ของสารกัมมันตรังสี สามารถนำไปใช้หาอายุอายุสัมบูรณ์ เป็นอายุของหินหรือ ซากดึกดำบรรพ์ ที่สามารถบอกจำนวนปที ี่ค่อนข้างแนน่ อน การหาอายุสัมบูรณ์ใช้วิธคี ำนวณจากครงึ่ ชีวิต ของ ธาตกุ มั มันตรังสที ่มี อี ยูใ่ นหนิ หรือซากดึกดำบรรพท์ ตี่ อ้ งการศกึ ษา ธาตุกัมมันตรงั สที น่ี ิยมนำมาหาอายุสัมบูรณ์ ได้แก่ ธาตุคาร์บอน – 14 ธาตุโพแทศเซยี ม – 40 ธตาเรเดียม – 226 และธาตุยูเรเนยี ม – 238 เป็นต้น การหา อายุสัมบูรณม์ ักใช้กับหินที่มีอายมุ ากเป็นแสนลา้ นปี เช่น หินแกรนิตบริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต ซึ่งเคย เปน็ หินต้นกำเนดิ แร่ดีบกุ มีอายุสมั บูรณ์ประมาณ 100 ลา้ นปี สว่ นตะกอนและซากดกึ ดำบรรพท์ ่มี ีอายุน้อยกว่า 50,000 ปี มกั จะใชว้ ิธีกัมมนั ตภาพรังสีคาร์บอน – 14 เชน่ ซากหอยนางรมท่ีวัดเจดยี ์หอย อำเภอลาดหลมุ แก้ว จังหวดั ปทมุ ธานี มอี ายปุ ระมาณ 5,500 ปขี องวตั ถุโบราณ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ความซื่อสัตย์สุจรติ มวี ินยั ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ ม่นั ในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย 7. แนวความคดิ เพื่อการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ทกั ษะด้านการเรียนรู้และนวตั กรรม สาระวิชาหลกั (Core Subjects) ทักษะด้านชวี ติ และอาชีพ ทักษะดา้ นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของ ร.10 ดา้ นท่ี 1 มีทัศนคตทิ ่ีถกู ตอ้ งต่อบา้ นเมอื ง ดา้ นท่ี 2 มีพ้นื ฐานชีวิตทม่ี ัน่ คง มีคุณธรรม ดา้ นท่ี 3 มงี านทำ มอี าชีพ ดา้ นท่ี 4 เปน็ พลเมืองดี หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ (หลกั สตู รท้องถ่ิน) หลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา สะเตม็ ศึกษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธสี อน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) 1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครเู ปดิ ภาพซากดกึ ดำบรรพ์ให้นกั เรียนดู แลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ทายอายุของซากดกึ ดำบรรพ์ 2. จากนน้ั ตง้ั คำถามกับนักเรียนว่า เราจะรูไ้ ด้อยา่ งไรวา่ ซากดกึ ดำบรรพ์น้ีมีอายุเท่าไหร่ และ อธิบายเพิ่มเติมว่า จึงมีวธิ ีการเพื่อท่ีจะได้รู้ โดยการใช้คาร์บอน-14 หาค่าครึ่งชีวติ ก็จะรูว้ ่าซากดึกดำบรรพ์น้ีมี อายุเทา่ ไหร่ แตก่ ารใชค้ ารบ์ อน-14 หาคา่ ครึ่งชวี ิต สามารถใช้หาไดก้ ับส่ิงมชี วี ติ เทา่ นน้ั
2. ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูทบทวนว่าไอโซโทปกัมมันตรังสีแผ่รังสีได้เองตลอดเวลา ซึ่งระยะเวลาการแผ่รังสีของ ไอโซโทปไม่เท่ากนั โดยใชค้ ำถามกบั นกั เรียนวา่ 1) เม่อื เวลาผ่านไปปริมาณของ Na-24 กับ Mg-24 เป็นอยา่ งไร (แนวตอบ : ปริมาณ Na-24 ลดลง ปริมาณ Mg-24 เพิ่มขึ้น แต่มวลรวม ของสารเทา่ เดมิ ) 2) เมอ่ื เวลาผา่ นไปทกุ ๆ 15 ชั่วโมง ปริมาณ Na-24 เปลี่ยนแปลงอยา่ งไร (แนวตอบ : ปริมาณ Na-24 ลดลงเหลอื ครึง่ หนึง่ ของปรมิ าณเดมิ ) 2. ครอู ธบิ ายเกี่ยวกับการสลายของธาตุ โดยเนน้ ใหน้ กั เรยี นทราบว่า ธาตกุ มั มนั ตรังสสี ามารถ เกิดการสลายตัวปลดปลอ่ ยรงั สีเองได้ตลอดเวลา แต่จะชา้ หรือเรว็ แตกต่างกันไปตามธาตแุ ต่ละชนิด นักเคมีจะ บอกปริมาณการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสดี ้วยค่าครึ่งชีวิต (half-life) ซึ่งเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณ เดิม 3. ครใู ห้ความรู้เกีย่ วกับคร่งึ ชีวติ (half-life) ของไอโซโทปกัมมนั ตรงั สีบางชนดิ เช่น Ra-226 C-14 Co-60 ตามรายละเอยี ดในหนงั สอื เรียนเคมี ม.4 เล่ม 1 หนา้ 74 4. ครูให้ความรู้เพ่ิมเตมิ เกี่ยวกับคำว่า ครง่ึ ชีวิต คือ ช่วงเวลาทน่ี ิวเคลยี สของธาตุนั้นสลายตัว จนจำนวนลดลงเหลือคร่ึงหนึ่งของจำนวนเริม่ ต้น จากนั้นจึงช้ีใหน้ ักเรียนเห็นว่า การที่ธาตุแต่ละชนดิ มคี ่าครง่ึ ชีวติ แตกตา่ งกนั แสดงวา่ อตั ราการสลายของธาตุแต่ละชนิดยอ่ มแตกต่างกัน เพ่อื นำไปสกู่ ารศกึ ษาเกี่ยวกับกฎ การสลายของธาตุกัมมนั ตรังสีต่อไป 3. ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับการสลายของธาตุกัมมันตรังสี เพื่อนำไปสู่สมการ ดังนี้ ช่วงเวลา ครึง่ ชวี ติ ของธาตุกัมมันตภาพรงั สี คือ ช่วงเวลาทธ่ี าตนุ น้ั ๆ สลายตัวจนเหลอื นวิ เคลยี สเปน็ คร่งึ หนึ่งของจำนวน ทีม่ ีอยู่กอ่ นสลายตัว มสี ูตรในการคำนวณ ดังนี้ Nเหลือ = Nเร่มิ ตน้ 2n n= T t1 2 2. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมว่า เมอ่ื เวลาเพมิ่ ขึ้นปรมิ าณนิวเคลียสของธาตุกัมมนั ตรังสีจะลดลงเรื่อย ๆ แต่ปริมาณนิวเคลียสจะไม่ลดลงเป็นศูนย์ ไมว่ า่ เวลาจะผ่านไปเท่าใดก็ตาม การพูดถงึ เวลาท่ีธาตุกัมมันตรังสี สลายตัวหมดจึงไมม่ ีความหมาย ในทางทฤษฎจี งึ พูดถงึ เวลาท่ธี าตุสลายตวั เหลือเป็นครง่ึ หนึ่งของปรมิ าณเดมิ 3. ครูยกตัวอย่างที่ 2.2 จากหนังสือเรียนเคมี ม.4 เล่ม 1 หน้า 75 เพื่อเสริมความเข้าใจใน การใชส้ มการท่ีใชค้ ำนวณทเี่ รยี นมา 4. ครูตัง้ คำถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเรือ่ งครง่ึ ชีวิตของธาตุกมั มนั ตรงั สี เชน่ 1) ช่วงเวลาครึ่งชีวิต (half-life) ของธาตกุ มั มันตรงั สหี มายถงึ อะไร (แนวตอบ : ช่วงเวลาที่ธาตุนั้น ๆ สลายตัวไปจนเหลือนิวเคลียส เป็นคร่ึงหนึง่ ของจำนวนทม่ี ีอยูก่ ่อนสลายตวั ) 2) ความสัมพันธ์ระหว่างครึ่งชีวิตกับจำนวนครั้งในการสลายตัวเป็นอย่างไร (แนวตอบ : n = ������ ) ������1 2 5. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเนือ้ หาเรื่อง คร่ึงชวี ิตของธาตุกัมมนั ตภาพรังสี ว่ามีส่วน ไหนทย่ี ังไมเ่ ขา้ ใจ และใหค้ วามร้เู พ่ิมเตมิ ในส่วนน้ัน
4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การสลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรังสี การที่ธาตุ สลายตวั จนนกั เรยี นเกดิ ความเขา้ ใจทีต่ รงกนั 2. นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกันสรุปเนื้อหาเรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี ลงใน Padlet และนำเสนอ ข้อมลู ผา่ น Google Meet 3. นกั เรยี นทำใบงานที่ 2.7 เร่อื ง ค่าครงึ่ ชีวิต 5. ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 2. ครวู ัดและประเมนิ ผลจากใบงานท่ี 2.7 เรอื่ ง ค่าคร่งึ ชีวิต 3. ครูสังเกตความสนใจ ความกระตือรือร้นในการเรยี นรขู้ องนักเรยี น 10. วัสดุ อปุ กรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียนวชิ า เคมี ม.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 อะตอมและตารางธาตุ 2) PowerPoint เรือ่ ง ธาตุกัมมนั ตรังสี 3) ใบงานที่ 2.7 เรอ่ื ง ค่าคร่งึ ชวี ิต 4) วธิ กี ารเขา้ เรยี นออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 4) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ การวดั และการประเมินผล วธิ ีการวดั เครื่องมอื ท่ใี ชว้ ดั เกณฑ์การวัดและ การวัดผล และการประเมินผล และการประเมินผล การประเมินผล ประเมนิ ผลด้าน 1. ตรวจใบงานที่ 2.7 1. ใบงานที่ 2.7 เร่ือง ค่า ได้คะแนนรอ้ ยละ 1. ดา้ นความรู้ (K) เรอื่ ง ค่าครง่ึ ชีวติ คร่งึ ชวี ติ 60 ขึ้นไป 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ตรวจใบงานท่ี 2.7 1. ใบงานท่ี 2.7 เรื่อง ค่า ได้คะแนนรอ้ ยละ เรอื่ ง คา่ ครึง่ ชวี ติ ครึ่งชวี ิต 60 ข้นึ ไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง ประสงค์ (A) การสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ การมีส่วนรว่ มในการ มสี ่วนรว่ มในการทำงาน ดี ขนึ้ ไป ทำงานเป็นกลุ่ม เป็นกลุ่ม การสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรมเปน็ เป็นรายบคุ คล รายบคุ คล
ใบงานที่ 2.7 เรอ่ื ง คา่ คร่งึ ชวี ติ คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. คร่งึ ชีวิต (half life) ของสารกัมมันตรงั สคี อื อะไร และมปี ระโยชน์อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………. 2. Rn-222 จำนวน 10 ไมโครกรัม เมื่อปล่อยให้สลายตัวไป พบว่า ในเวลา 7 วัน จะเหลือเพียง 2.82 ไมโครกรมั จงคำนวณคร่งึ ชวี ติ ของ Rn-222 …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..
เฉลยใบงานที่ 2.7 เรอื่ ง คา่ ครง่ึ ชีวติ คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. ครงึ่ ชวี ติ (half life) ของสารกมั มนั ตรังสีคอื อะไร และมีประโยชนอ์ ย่างไร ครึ่งชีวิต (half life) ของสารกัมมันตรังสี หมายถึง ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังสีสลายตัวไปจนเหลือ เพยี งครึง่ หน่ึงของปรมิ าณเดิม ใชส้ ญั ลักษณ์เป็น t1/2 ครึ่งชีวิตสามารถใช้หาอายุของวัตถุโบราณที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ เรียกว่า วิธี Radiocarbon Dating ซ่ึงคำวา่ dating หมายถงึ การหาอายุ จงึ มักใชห้ าอายุของวตั ถุโบราณทีม่ ีคุณค่าทาง ประวติ ิศาสตร์ 2. Rn-222 จำนวน 10 ไมโครกรัม เมื่อปล่อยให้สลายตัวไป พบว่า ในเวลา 7 วัน จะเหลือเพียง 2.82 ไมโครกรัม จงคำนวณครง่ึ ชีวติ ของ Rn-222 ให้ครึ่งชีวติ มีคา่ เท่ากบั x n= T =7 ������1/2 x Nเหลอื = Nเริม่ ตน้ 2n 10 2.82 = 27/x 27/x = 10 2.82 x = 3.82 ดงั น้ัน คร่งึ ชีวิตของ Rn-222 เท่ากับ 3.82 วนั
แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................ วันท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับท่ี ช่อื – สกุล คะแนน 4 3 21 1 2 ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ 3 (……………………………………………………………) 4 ...................../..................../................... 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 การให้คะแนน/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วเิ คราะห์โจทย์ได้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วิเคราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วเิ คราะห์โจทย์ เลอื กใช้ ถกู ตอ้ ง วิธีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใชว้ ิธกี ารหา วิธีการหาคำตอบ และ และสรุปคำตอบไดถ้ กู ต้อง คำตอบได้ถกู ตอ้ ง คำนวณไดถ้ ูกต้อง
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ช่ือ–สกุล ความ มี สว่ นร่วมใน รวม ท่ี คิดเห็น ยอมรับฟงั ตามท่ี นำ้ ใจ การปรับปรุง (15) (3) คนอ่ืน ไดร้ บั (3) ผลงานกลุ่ม (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชอ่ื ...........................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การให้คะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดับ ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรียน (4) ซกั ถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผู้ประเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั และการซกั ถาม เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้ัง 4. มสี ว่ นรว่ มใน มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ กิจกรรม ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครั้งและตอบ ถูก คำถามถกู เป็น บางครงั้ รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า พอเพยี ง 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. ม่งุ ม่ัน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับ ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11
แผนการจัดการเรยี นรู้ออนไลนท์ ี่ 15 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง อะตอมและตารางธาตุ เรอื่ ง ธาตุและสารประกอบในสง่ิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม รายวชิ า เคมี 1 รหัส ว31223 เวลา 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นาย วชั รพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรยี นรู้ - สืบค้นข้อมลู และยกตวั อยา่ งการนำธาตมุ าใชป้ ระโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อส่งิ มีชีวติ และส่งิ แวดล้อม 2. สาระการเรยี นรู้ - สมบตั ิบางประการของธาตุแต่ละชนิด ทำให้สามารถนำธาตไุ ปใช้ประโยชนใ์ นดา้ นต่าง ๆ ได้อยา่ ง หลากหลาย ท้ังนี้การนำธาตุไปใช้ตอ้ งตระหนักถงึ ผลกระทบที่มตี ่อส่ิงมชี วี ติ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสาร กัมมนั ตรังสี ซงึ่ ตอ้ งมีการจัดการอยา่ งเหมาะสม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. ยกตวั อยา่ งการใชป้ ระโยชนข์ องธาตตุ ่าง ๆ และบอกผลกระทบตอ่ ส่ิงมีชีวิตและสิง่ แวดล้อมได้ ด้านทักษะ (Process) 2. เปรยี บเทยี บและประเมนิ ประโยชนแ์ ละผลกระทบต่อส่งิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อมของธาตุได้ ดา้ นเจตคติ (Affective) 3. ตงั้ ใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ 4. รับผิดชอบต่องานที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. ความคิดรวบยอด สมบัติบางประการของธาตุแต่ละชนิด ทำให้สามารถนำธาตุไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ หลากหลาย 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ความซื่อสัตยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงาน มจี ิตสาธารณะ ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเป็นไทย
7. แนวความคดิ เพอ่ื การเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ทกั ษะดา้ นการเรยี นรู้และนวัตกรรม สาระวชิ าหลัก (Core Subjects) ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของ ร.10 ดา้ นที่ 1 มีทัศนคติที่ถูกตอ้ งต่อบา้ นเมือง ด้านท่ี 2 มีพน้ื ฐานชวี ติ ท่มี นั่ คง มีคณุ ธรรม ด้านท่ี 3 มีงานทำ มอี าชพี ดา้ นที่ 4 เปน็ พลเมืองดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สตู รเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ (หลกั สตู รทอ้ งถน่ิ ) หลักสตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา สะเตม็ ศึกษา 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีสอน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) 1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครทู บทวนเกีย่ วกบั ธาตแุ ละสารประกอบทีน่ ักเรียนไดศ้ กึ ษาผ่านมาแลว้ ดังนี้ • ธาตุ หมายถึง สารบริสุทธิ์เนื้อเดียว มีองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว มีสมบัติ เฉพาะตวั และมจี ดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวคงตวั เช่น Fe Zn Cu He Ne Ar Au เป็นต้น • ธาตเุ ปน็ สารชนดิ เดยี วทไี่ ม่สามารถแยกหรอื สลายออกไปเปน็ สารอืน่ ได้ แบ่งออก ได้เป็น 2 กลุ่ม ตามแหล่งที่มา ได้แก่ ธาตุที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ และธาตุที่นักวิทยาศาสตร์สังเคราะห์ขึ้นใน ห้องทดลอง • ธาตใุ ดทมี่ ีสมบตั ิส่วนใหญเ่ ปน็ โลหะ จดั ใหเ้ ป็นธาตโุ ลหะ และธาตใุ ดมีสมบัติส่วน ใหญเ่ ปน็ อโลหะ จัดให้เปน็ ธาตอุ โลหะ สำหรับธาตุที่ไมส่ ามารถจดั เป็นธาตุโลหะหรือธาตอุ โลหะได้ ให้จัดธาตุน้ันไว้ เปน็ ธาตกุ ึง่ โลหะ เช่น โบรอน ซลิ ิคอน พลวง เปน็ ตน้ • ธาตสุ ามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด ได้แก่ โลหะ อโลหะ และกง่ึ โลหะ • สารประกอบเป็นสารบริสุทธิ์ที่เกิดจากธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป รวมตัวกันทาง เคมีในอัตราส่วนโดยมวลคงตัว มีจุดเดือด จุดหลอมเหลวคงตัว และมีสมบัติต่างจากธาตุองคป์ ระกอบเดิมและไม่ สามารถแยกกลับเป็นสารเดมิ ได้โดยงา่ ย เช่น CO2 H2O KMnO4 HNO3 NaCl เปน็ ต้น
2. ครูถามคำถาม Prior Knowledge ว่า ธาตุและสารประกอบในธรรมชาตสิ ามารถนำมาใช้ ประโยชน์ไดเ้ ลยหรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ : เราสามารถนำธาตุหรอื สารประกอบมาใชไ้ ด้ ขึ้นอยู่กบั การนำไปใช้ ประโยชน์ เช่น น้ำ (H2O) เป็นสารประกอบท่ีประกอบด้วยออกซิเจน 1 อะตอมและไฮโดรเจน 2 อะตอม สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้เลย แต่ถ้าต้องการความสะอาดหรือความบริสุทธิ์เพิ่มมากขึ้น จะต้องผ่าน กระบวนการกรองกอ่ นนำไปใชป้ ระโยชน์) 3. นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคำถาม แสดงความคิดเหน็ ตามความรู้และประสบการณ์ของนักเรียน โดยครูยงั ไมเ่ นน้ คำตอบท่ีถกู ต้อง 4. ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยครูสนทนากับนักเรียนและให้นักเรียนร่วมอภิปรายและซักถาม เพื่อสร้างความสนใจให้นักเรียน และปรับความรู้พื้นฐานโดยทบทวนเนื้อหาเดิมที่เรียนมาแล้ว และเตรียม เนื้อหาที่จะเรียนตอ่ ไป พร้อมทั้งชี้แจงวิธีการเรียนโดยใช้ชดุ การสอนแบบศูนย์การเรียน เพื่อให้นักเรียนเข้าใจ รายละเอยี ดย่งิ ขน้ึ 2. ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรยี นศกึ ษาหนงั สอื เรียนเคมี ม.4 หนา้ 82 – 88 2. นกั เรยี นทำใบงานที่ 2.8 เร่อื ง ธาตุและสารประกอบในส่งิ มีชวี ติ และส่งิ แวดล้อม 3. ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูถามคำถาม แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม เพื่อเป็นการอธิบายความรู้ให้กับ นักเรียน เช่น 1) ธาตุอะลูมเิ นยี มเตรยี มได้โดยวธิ ีใด (แนวตอบ : แยกดว้ ยกระแสไฟฟ้า) 2) ในส่งิ มีชีวิตสามารถพบธาตุแคลเซียมไดบ้ ริเวณใด (แนวตอบ : กระดกู และฟนั ) 3) ทองแดงมคี วามสำคัญกับรา่ งกายอยา่ งไร (แนวตอบ : ช่วยในการสงั เคราะห์ไขมนั บางชนดิ ) 4) เหล็กกลา้ เป็นสว่ นผสมระหวา่ งเหลก็ กบั ธาตุใด (แนวตอบ : ธาตคุ าร์บอน) 5) ทำไมจงึ นิยมใชโ้ ครเมยี มเคลอื บผวิ โลหะชนดิ อน่ื ๆ (แนวตอบ : ทนตอ่ การผุกรอ่ นและสารเคมี) 6) ไอโอดนี พบไดใ้ นบรเิ วณใดบา้ ง (แนวตอบ : น้ำทะเล สาหร่ายทะเลบางชนิด และพบในสินแร่ในรูป สารประกอบโซเดยี มไอโอเดต (NaIO3)) 7) บรเิ วณใดพบไนโตรเจนมากที่สุด (แนวตอบ : อากาศ) 8) ธาตุชนิดใดพบอยูใ่ นรปู ของแร่แมกนไี ทต์ (แนวตอบ : เหลก็ ) 2. ครูอธิบายสรปุ เกี่ยวกับเน้ือหา หรือเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สอบถาม ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่ เข้าใจ และใหค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนั้น 4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับประโยชน์ของธาตุและสารประกอบบางชนิดใน สง่ิ มชี ีวิตและในสิ่งแวดลอ้ มทมี่ คี วามสำคัญต่อการดำรงชวี ิต
5. ข้นั ประเมนิ (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการร่วมกนั ทำผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 2.8 เร่ือง ธาตแุ ละสารประกอบในสงิ่ มชี ีวติ และ ส่ิงแวดล้อม 10. วัสดุ อปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี นวชิ า เคมี ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อะตอมและตารางธาตุ 2) PowerPoint เรอ่ื ง ธาตแุ ละสารประกอบในสิง่ มชี วี ติ และสิ่งแวดลอ้ ม 3) ใบงานท่ี 2.8 เรอื่ ง ธาตุและสารประกอบในสง่ิ มชี ีวิตและสิ่งแวดล้อม 4) วิธกี ารเข้าเรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 5) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ การวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เคร่อื งมือทีใ่ ชว้ ดั เกณฑ์การวัดและ การวดั ผล และการประเมนิ ผล และการประเมินผล การประเมนิ ผล 1. ใบงานที่ 2.8 เรือ่ ง ธาตุ ได้คะแนนร้อยละ ประเมนิ ผลด้าน 1. ตรวจใบงานที่ 2.8 และสารประกอบใน 60 ขนึ้ ไป 1. ดา้ นความรู้ (K) เรื่อง ธาตแุ ละ สิ่งมีชวี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม สารประกอบใน ได้คะแนนร้อยละ 2. ด้านทกั ษะ (P) สงิ่ มีชวี ติ และ 1. ใบงานที่ 2.8 เรื่อง ธาตุ 60 ข้ึนไป ส่ิงแวดล้อม และสารประกอบใน 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง ส่งิ มชี วี ิตและส่งิ แวดล้อม ระดบั คุณภาพ ประสงค์ (A) 1. ตรวจใบงานท่ี 2.8 ดี ข้นึ ไป เรอื่ ง ธาตุและ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ สารประกอบใน มสี ่วนรว่ มในการทำงาน สิ่งมชี ีวิตและ เป็นกลมุ่ สิ่งแวดล้อม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเป็น รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรม การมีสว่ นร่วมในการ ทำงานเปน็ กลุ่ม การสังเกตพฤติกรรม เป็นรายบคุ คล
ใบงานท่ี 2.8 เร่ือง ธาตุและสารประกอบในส่ิงมชี วี ิตและสงิ่ แวดลอ้ ม คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งการนำธาตุแต่ละชนิดไปใชป้ ระโยชน์ ธาตุ สญั ลกั ษณ์ การนำไปใช้ประโยชน์ อะลมู เิ นยี ม ออกซเิ จน ซลิ ิคอน ทองแดง แคลเซยี ม โครเมยี ม สังกะสี ไนโตรเจน
เฉลยใบงานที่ 2.8 เรือ่ ง ธาตุและสารประกอบในส่ิงมชี วี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม คำชี้แจง : ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งการนำธาตแุ ตล่ ะชนิดไปใช้ประโยชน์ ธาตุ สัญลกั ษณ์ การนำไปใชป้ ระโยชน์ อะลูมิเนยี ม ออกซเิ จน ใชท้ ำแผน่ อะลูมิเนยี มฟอยล์ เพ่ือใชห้ อ่ อาหารเมือ่ นำไปเผา หรือให้ความ ซิลคิ อน Al รอ้ น ใชท้ ำส่วนประกอบของเครื่องบนิ และสายไฟฟ้าแรงสูง ทองแดง แคลเซียม ใชใ้ นกระบวนการหายใจของสิง่ มีชวี ติ และการสันดาปอาหารในรา่ งกาย โครเมียม O เมอื่ เราหายใจเขา้ ไปออกซิเจนจะเคล่อื นตวั ไปยังสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย สงั กะสี โดยเกาะไปกับเลอื ด ซ่งึ จะชว่ ยในการเผาผลาญอาหาร ไนโตรเจน ใช้เปน็ สารกึ่งตัวนำสำหรบั ทำวงจรไฟฟ้าขนาดเลก็ เพอ่ื ใชใ้ นอปุ กรณ์ Si ไฟฟ้า เช่น ไมโครคอมพิวเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ เซลล์สรุ ิยะ เป็นตน้ เน่ืองจากเป็นโลหะอ่อน จงึ จดั เป็นรูปรา่ งต่าง ๆ ได้งา่ ย นำไฟฟา้ ได้ดี Cu ประโยชน์ส่วนใหญจ่ ึงใชใ้ นแงข่ องงานด้านไฟฟา้ เชน่ ทำสายไฟฟา้ อปุ กรณแ์ ละเครอื่ งมอื ไฟฟ้าต่าง ๆ หมอ้ น้ำรถยนต์ เป็นตน้ Ca CaCO3 จากหินปูนใช้ทำปูนขาว ดนิ สอพอง ชอล์ก และเคร่อื งปั้นดินเผา CaSO4 จากยบิ ซัมใชใ้ นอตุ สาหกรรมแผน่ วสั ดกุ นั ความรอ้ น เชน่ ยปิ ซมั บอรด์ ใช้ในอตุ สาหกรรมแก้วและซีเมนต์ ใชเ้ ป็นส่วนประกอบของเหลก็ กลา้ สำหรับทำตู้นริ ภยั เครอื่ งยนต์กลไก Cr เกราะกันกระสนุ เคร่อื งบินไอพน่ และจรวด เนอื่ งจากความแขง็ แรง ทนทาน เหนียว ใชช้ บุ เหลก็ กล้าเพ่อื เปน็ สังกะสีมุงหลงั คา ทำถงั บรรจนุ ำ้ ซ่ึงปอ้ งกันการผุ Zn กร่อนได้ ใชใ้ นอุตสาหกรรมถ่านไฟฉาย โดยทำเป็นกลอ่ งดา้ นนอกของ ถ่านไฟฉาย ซง่ึ จะทำหน้าที่เปน็ ข้วั ลบของเซลล์ ยูเรีย นอกจากจะเป็นป๋ยุ แล้ว ยงั ใช้เปน็ แหลง่ อาหารประเภทโปรตีน N โดยการผสมกับอาหารของวัวและควาย ในทางการแพทย์ใชเ้ ตรยี มตัวยา บางชนดิ เช่น ยานอนหลบั ยาขบั ปัสสาวะ
แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................ วันท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับท่ี ช่อื – สกุล คะแนน 4 3 21 1 2 ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ 3 (……………………………………………………………) 4 ...................../..................../................... 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 การให้คะแนน/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วเิ คราะห์โจทย์ได้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วิเคราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วเิ คราะห์โจทย์ เลอื กใช้ ถกู ตอ้ ง วิธีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใชว้ ิธกี ารหา วิธีการหาคำตอบ และ และสรุปคำตอบไดถ้ กู ต้อง คำตอบได้ถกู ตอ้ ง คำนวณไดถ้ ูกต้อง
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การให้คะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดับ ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรียน (4) ซกั ถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผู้ประเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั และการซกั ถาม เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้ัง 4. มสี ว่ นรว่ มใน มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ กิจกรรม ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครั้งและตอบ ถูก คำถามถกู เป็น บางครงั้ รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า พอเพยี ง 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. ม่งุ ม่ัน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับ ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../...................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11
แผนการจัดการเรยี นรอู้ อนไลนท์ ี่ 16 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง พนั ธะเคมี เร่ือง สญั ลกั ษณแ์ บบจุดของลิวอสิ และกฎออกเตต รายวชิ า เคมี 1 รหัส ว31223 เวลา 1 ช่ัวโมง ครูผ้สู อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธิบายการเกดิ ไอออนและการเกิดพันธะไอออนกิ โดยใชแ้ ผนภาพหรอื สญั ลกั ษณ์แบบจุดของลวิ อสิ 2. สาระการเรยี นรู้ - สารเคมีเกิดจากการยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะเคมี ซึ่งเก่ียวข้องกับเวเลนซ์อิเล็กตรอนที่แสดงได้ด้วย สัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิส โดยการเกิดพันธะเคมี ส่วนใหญ่เป็นไปตามกฎออกเตต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. สามารถเขยี นสัญลกั ษณ์แบบจดุ ของลวิ อิสของธาตุและไอออน และระบไุ ดว้ ่าธาตุหรือไอออนนน้ั เป็นไปตามกฎออกเตต ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. สามารถเขยี นสญั ลักษณ์แบบจดุ ของลวิ อิสจากการทำกจิ กรรมได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และว่องไว ดา้ นเจตคติ (Affective) 3. มคี วามมงุ่ ม่ันตง้ั ใจในการเรยี นรู้ ให้ความร่วมมอื ในการทำกจิ กรรม และมีจติ สาธารณะในการ ทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4. สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด เวเลนซ์อิเล็กตรอนของธาตุอาจแสดงดว้ ยจุดสญั ลักษณท์ ี่แสดงธาตแุ ละเวเลนซ์อิเล็กตรอนของธาตุ เรียกว่า สญั ลักษณแ์ บบจุดของลวิ อสิ ซ่ึงเสนอโดย กลิ เบริ ์ต นวิ ตัน ลวิ อสิ สญั ลกั ษณแ์ บบจุดของลิวอิสใช้จุด แสดงจำนวนเวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนรอบสญั ลักษณข์ องธาตุ โดยเขยี นจดุ เดีย่ วทั้ง 4 ด้านรอบสัญลกั ษณ์ของธาตุ ก่อนแลว้ จงึ เติมจุดให้เป็นคู่ ธาตุต่างๆ ส่วนใหญ่ไมเ่ สถียรในรูปอะตอมเด่ยี ว ยกเวน้ ธาตหุ มู่ 8A หรือแกส๊ มีสกุล ซึง่ มีจำนวน เวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเทา่ กบั 8 ยกเวน้ ฮเี ลยี มท่มี ี 2 เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอน ซงึ่ เป็นการจดั อิเลก็ ตรอนทเ่ี สถียรเปน็ พเิ ศษ ดงั นั้นอะตอมตา่ ง ๆ ท่เี ข้าทำปฏิกริ ิยากันก็จะพยายามเปลีย่ นแปลงและปรับจำนวนอิเลก็ ตรอนระดบั วง นอกของตวั เองใหเ้ ป็นเหมือน ธาตุหมู่ 8A หรอื แก๊สมีสกลุ ซ่งึ มจี ำนวนอิเลก็ ตรอนเท่ากับ 8 ซึง่ เปน็ ไปตาม กฎที่เรยี กวา่ กฎออกเตต (Octet Rule) การปรบั ตัวของอะตอมเพือ่ ใหเ้ ป็นไปตามกฎออกเตตนัน้ ทำได้โดย การใหอ้ ิเลก็ ตรอนไปกับอะตอมอนื่ การรับอเิ ล็กตรอนจากอะตอมอ่นื และการใชอ้ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกันกบั อะตอม อนื่ โมเลกุลของสารประกอบทีป่ รับตัวเปน็ ไปตามกฎออกเตตน้ัน โมเลกลุ จะมีความเสถยี รมาก
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการสอื่ สาร ความสารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ความซอ่ื สัตย์สุจรติ มวี นิ ัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทำงาน มีจติ สาธารณะ ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย 7. แนวความคิดเพ่ือการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม สาระวิชาหลกั (Core Subjects) ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ ทักษะดา้ นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของ ร.10 ดา้ นที่ 1 มีทัศนคตทิ ี่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ด้านท่ี 2 มพี ้นื ฐานชีวิตทมี่ ่นั คง มีคุณธรรม ด้านที่ 3 มีงานทำ มอี าชพี ดา้ นที่ 4 เป็นพลเมอื งดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สตู รเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ (หลักสูตรท้องถนิ่ ) หลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา สะเตม็ ศึกษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 489
Pages: