Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนรวม

แผนรวม

Published by watcharaphongkiw, 2022-02-06 10:45:21

Description: แผนรวม

Search

Read the Text Version

- ถ้า E1 >> E2 แสดงใหเ้ ห็นวา่ สารประกอบไอออนกิ นน้ั ละลายน้ำไดน้ ้อยมาก จนถอื วา่ ไม่ละลาย เนอื่ งจากแรง ยดึ เหนย่ี วระหวา่ งไอออนบวกกบั ไอออนลบแข็งแรงมาก โมเลกุลของนำ้ จงึ ไมส่ ามารถดึงใหแ้ ยกออกจากกนั ได้ 4. ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูพูดถึงสมบัติของสารประกอบไอออนิก ที่สามารถนำมาใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน ได้ โดยการเปิดวีดโี อ ถา่ นไฟฉาย ให้นกั เรียนดู - แอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl) และซงิ คค์ ลอไรด์ (ZnCl2) ซึง่ เป็นสารประกอบไอออนิก ที่สามารถนำไฟฟา้ ได้จากการแตกตวั เป็นไอออนเมื่อละลายน้ำ จึงนำไปใชเ้ ปน็ สารละลายอิเลก็ โทรไลต์ในถ่าน ไฟฉา่ ยได้ 2. ครูตั้งประเด็นคำถามว่า จากความรู้ในเรื่องสารประกอบไอออนิก นักเรียนสามารถ อธบิ ายสมบตั ขิ องสารประกอบไอออนิกในเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ตอ่ ไปน้ีได้หรอื ไม่ • ความสามารถในการนำไฟฟ้า 3. นกั เรียนทำใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง สมบตั ิของสารประกอบไอออนิก 5. ข้นั ประเมิน (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอ ผลงานหนา้ ช้นั เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 3.3 เร่ือง สมบัตขิ องสารประกอบไอออนกิ 10. วัสดุ อุปกรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี นวิชา เคมี ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง พนั ธะเคมี 2) PowerPoint เร่อื ง สมบัตขิ องสารประกอบไอออนกิ 3) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=6cQjWgtUh-k เรอ่ื ง การละลายของ สารประกอบไอออนิกในนำ้ 4) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=cYNAdtzTX4Y เร่อื ง การทดลองสาร อิเลก็ โทรไลต์ 5) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง สมบัติของสารประกอบไอออนิก 6) วิธกี ารเขา้ เรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 7) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ การวดั และการประเมินผล การวัดผล วิธีการวัด เครอื่ งมือท่ใี ชว้ ัด เกณฑ์การวัดและ การประเมินผล ประเมินผลด้าน และการประเมนิ ผล และการประเมนิ ผล ไดค้ ะแนนร้อยละ 60 ขน้ึ ไป 1. ดา้ นความรู้ (K) 1. ตรวจคำถามในใบงานที่ 3.3 1. ใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง ระดับคุณภาพ 2 เร่อื ง สมบตั ขิ องสารประกอบ สมบัติของสารประกอบไอ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ไอออนิก ออนกิ ดี ขึ้นไป 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ประเมินการนำเสนอ 1. แบบประเมินการ ผลงาน นำเสนอผลงาน 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั การสังเกตพฤติกรรมการมี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ พึงประสงค์ (A) สว่ นรว่ มในการทำงานเปน็ มสี ่วนร่วมในการทำงาน กลุ่ม เป็นกลุม่ การสังเกตพฤติกรรมเปน็ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล รายบคุ คล

ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง สมบัตขิ องสารประกอบไอออนกิ ชือ่ -สกุล ..................................................................................... รหัส............................. ชั้นปี........................... คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามใหถ้ ูกตอ้ ง 1.สมบัตขิ องสารประกอบไอออนกิ มอี ะไรบ้างจงอธิบาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.จงพิจารณาแผนภาพการละลายน้ำของสารประกอบไอออนิกต่อไปน้ี 2.1 พลงั งานแลตทิซและพลังงานไฮเดรชันคือค่าใดในแผนภาพ 2.2 การละลายน้ำ ในแผนภาพใดเปน็ กระบวนการดดู พลังงานและแผนภาพใดเปน็ กระบวนการคาย พลงั งาน เพราะเหตใุ ด

เฉลยใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง สมบัตขิ องสารประกอบไอออนิก ชือ่ -สกุล ..................................................................................... รหสั ............................. ชน้ั ป.ี .......................... คำชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคำถามให้ถกู ตอ้ ง 1.สมบัติของสารประกอบไอออนกิ มีอะไรบ้างจงอธิบาย 1. สารประกอบไอออนิกมีสถานะเป็นของแข็งท่ีอุณหภูมิห้อง และมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสงู เนอ่ื งจาก พนั ธะไอออนกิ เกดิ จากแรงยดึ เหน่ียวของประจุไฟฟา้ ซ่งึ มคี วามแข็งแรงสงู จงึ ทำใหแ้ ยกออกจากกันไดย้ าก 2.สารประกอบไอออนิกประกอบด้วยไอออนบวกและไอออนลบยึดเหนี่ยวกนั อยา่ งแขง็ แรง เมื่อทุบผลึกของ สารประกอบไอออนิก ไอออนชนดิ เดียวกนั จะเลื่อนไปอยูต่ รงกัน จึงเกิดแรงผลักระหว่างไอออน จึงทำให้ผลึก เปราะและแตกไดง้ ่าย 3.สารประกอบไอออนิกเมื่อเป็นของแข็งจะไม่นำไฟฟ้า เน่ืองจากไอออนที่เป็นองค์ประกอบยึดเหนี่ยวกัน อยา่ งแข็งแรง ทำให้ไม่สามารถเคลอื่ นทไ่ี ด้ แตเ่ ม่อื ทำให้หลอมเหลวหรือละลายน้ำ ไอออนจะสามารถเคลอ่ื นที่ได้ จึง นำไฟฟา้ ได้ 4.สารประกอบไอออนิกมีสภาพการละลายน้ำได้แตกต่างกัน บางชนิดมีสภาพละลายไดด้ ี บางชนิดมีสภาพ ละลายได้ต่ำ และบางชนิดไม่ละลายในนำ้ 2.จงพิจารณาแผนภาพการละลายนา้ ของสารประกอบไอออนกิ ต่อไปน้ี 2.1 พลังงานแลตทซิ และพลงั งานไฮเดรชันคือคา่ ใดในแผนภาพ พลงั งาน E1 เปน็ พลังงานแลตทซิ และพลังงาน E2 เปน็ พลงั งานไฮเดรชนั 2.2 การละลายนำ้ ในแผนภาพใดเปน็ กระบวนการดดู พลงั งานและแผนภาพใดเปน็ กระบวนการคาย พลงั งาน เพราะเหตใุ ด แผนภาพ (ข) เป็นกระบวนการดูดพลังงาน เน่ืองจากพลังงานแลตทซิ มากกวา่ พลังงาน ไฮเดรชนั และแผนภาพ (ก) เป็นกระบวนการคายพลังงาน เนื่องจากพลงั งานแลตทซิ นอ้ ยกว่าพลงั งานไฮเดรชนั

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี........................ วนั ท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ชื่อกลมุ่ .........................................................................................................ชัน้ .................................................... รายชื่อสมากชิก 1. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. …………………………………………………………………………………………………………………………….. ท่ึ รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เหน็ 321 1 การเตรยี มความพรอ้ ม 2 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน 3 รปู แบบการนำเสนอ 4 การมสี ่วนรว่ มของสมากชกิ กลุ่ม 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผู้ฟัง รวม ลงชอ่ื ...........................................ผปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................

แบบประเมินการทำโจทยป์ ัญหา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับที่ ช่อื – สกลุ คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่อื ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../................... การใหค้ ะแนน/ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วิเคราะหโ์ จทยไ์ ด้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วเิ คราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วิเคราะห์โจทย์ เลือกใช้ ถกู ตอ้ ง วธิ ีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใช้วธิ ีการหา วธิ ีการหาคำตอบ และ และสรปุ คำตอบได้ถกู ต้อง คำตอบได้ถูกตอ้ ง คำนวณได้ถูกต้อง

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ช่ือ–สกุล ความ มี ส่วนรว่ มใน รวม ท่ี คิดเห็น ยอมรับฟงั ตามที่ นำ้ ใจ การปรบั ปรุง (15) (3) คนอนื่ ไดร้ ับ (3) ผลงานกลมุ่ (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชื่อ...........................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดบั ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซักถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรียนท่ีไดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน การเรยี น สนใจในการเรียนไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรยี นคุย ไม่สนใจในการเรียน 2. ความสนใจ หรอื เล่นกนั ในขณะ กนั เลก็ นอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเลน่ กัน และการซักถาม เรยี น เรยี น ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้งั 4. มสี ่วนรว่ มใน มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ตน มีการถามในหัวขอ้ ท่ี มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ ไมถ่ ามในหัวข้อที่ กจิ กรรม ไม่เข้าใจทกุ เรอ่ื งและ ตนไม่เขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางคร้งั และไมค่ อ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเรื่อง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทีค่ รถู ามและตอบ เรือ่ งทีค่ รูถามและ เรื่องทค่ี รูถามเปน็ คำถามถูกทกุ ขอ้ ตอบคำถามสว่ นมาก บางคร้ังและตอบ ถกู คำถามถกู เปน็ บางครง้ั ร่วมมือและชว่ ยเหลอื รว่ มมือและช่วยเหลือ ร่วมมือและชว่ ยเหลือ ไม่มคี วามร่วมมือ เพอื่ นในการทำ เพอ่ื นเป็นส่วนใหญใ่ น เพ่อื นในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กจิ กรรมเปน็ บางครง้ั

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี / ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน ค่าเฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อนื่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า 6. ม่งุ ม่ัน 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ บั 7. รกั ความเปน็ มอบหมาย ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งาน 8. มีจติ สำเร็จ สาธารณะ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามช่วยเหลือ ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ที่ 21 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง พันธะเคมี เรื่อง ปฏิกริ ิยาของสารประกอบไอออนกิ รายวิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลา 2 ชัว่ โมง ครูผู้สอน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรยี นรู้ - เขยี นสมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สุทธิของปฏกิ ริ ิยาของสารประกอบไอออนกิ 2. สาระการเรียนรู้ - ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนกิ สามารถเขียนแสดงดว้ ยสมการไอออนิกหรือสมการไอออนิกสุทธิ โดยท่ีสมการไอออนิกแสดงสารตั้งตน้ และผลิตภัณฑ์ทุกชนิดท่แี ตกตัวได้ในรูปของไอออน สว่ นสมการไอออนิก สทุ ธิแสดงเฉพาะไอออนท่ที ําปฏกิ ิรยิ ากัน และผลติ ภณั ฑท์ ่ีเกดิ ขึ้น 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายเกีย่ วกบั สมบตั ิบางประการของสารประกอบไอออนกิ ได้ ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. ทำการทดลองและอธิบายเกี่ยวกับปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก พร้อมท้ังเขียนสมการ ไอออนกิ และสมการไอออนกิ สทุ ธแิ สดงปฏกิ ิริยาที่เกดิ ขึน้ ได้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. ตั้งใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ 4. รับผิดชอบตอ่ หน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด ปฏิกริ ิยาการเกิดตะกอนของสารประกอบไอออนกิ อาจเขยี นแทนด้วย สมการไอออนิก (ionic equation) ท่ีแสดงไอออนในสารละลายครบทุกชนดิ สว่ นสมการไอออนกิ ที่มีไอออนท่ไี มท่ ำปฏิกิริยากัน และ จะปรากฏอยู่ทั้งดา้ นซ้ายและด้านขวาของสมการ ซ่ึงสามารถตดั ออกจากสมการให้เหลือเฉพาะไอออนทท่ี ำ ปฏกิ ิรยิ ากันไดเ้ ป็นผลิตภณั ฑ์ หรือแสดงเฉพาะไอออนทที่ ำปฏิกริ ิยากนั ได้เป็นผลิตภัณฑ์ เรียกวา่ สมการไอ ออนิกสุทธิ (net ionic equation) 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ความซื่อสัตย์สุจริต  มีวนิ ัย ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ  ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย 7. แนวความคิดเพื่อการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21  ทักษะดา้ นการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม  สาระวิชาหลัก (Core Subjects) ทักษะดา้ นชีวติ และอาชีพ  ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรียนรู้ พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของ ร.10  ด้านท่ี 1 มที ัศนคตทิ ่ีถกู ต้องต่อบา้ นเมือง  ด้านท่ี 2 มพี น้ื ฐานชวี ิตทีม่ ่ันคง มีคุณธรรม  ด้านท่ี 3 มงี านทำ มอี าชพี  ด้านที่ 4 เปน็ พลเมืองดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั สตู รเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ (หลกั สตู รท้องถนิ่ ) หลกั สตู รต้านทุจริตศึกษา  สะเต็มศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน โดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูกล่าวคำทักทายนักเรียน นำเข้าสู่การศึกษาเรื่องสมการไอออนิกและสมการไอออนิก สุทธิ โดยครูตั้งคำถามกับนักเรียนว่า ถ้าหากทำการผสมสารละลายของสารประกอบไอออนิก ทั้ง 2 ชนิดเข้า ดว้ ยกนั จะสามารถทำใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงได้หรอื ไม่ สงั เกตได้อยา่ งไร (แนวคำตอบ : เมื่อมีการผสมสารละลายของสารประกอบไอออนิก 2 ชนิดเข้า ด้วยกันทำใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงไดห้ รอื ไม่ เราสามารถสังเกตได้จากการเกิดตะกอนและสขี องสารละลาย โดย หากผสมสารละลาย 2 ชนิดเขา้ ดว้ ยกนั แล้วไม่มตี ะกอนเกิดขึ้น แสดงว่า ไอออนในสารละลายไม่ร่วมตัวกันหรือ อาจไมม่ ีปฏิกิรยิ าเคมีเกดิ ขนึ้ แตถ่ า้ หากผสมสารละลาย 2 ชนิดเขา้ ด้วยกันแลว้ มตี ะกอนเกิดข้ึน แสดงวา่ ไอออน

ในสารละลายรวมตัวกันเกดิ เปน็ สารใหม่ที่ไม่ละลายในน้ำหรือมีปฏิกิริยาเคมเี กดิ ขึ้น โดยสารละลายที่ผสมกนั แลว้ ทำให้เกิดเปน็ ตะกอนนั้นเอง ) 2. เมื่อนักเรียนทราบแล้วว่าวันนี้จะมาศึกษาเกีย่ วกับเรื่องอะไร ครูอธิบายเน้นยำ้ อีกครั้งหนึ่งเพอ่ื ความเข้าใจทีต่ รงกันวา่ จากท่ีครูได้ตง้ั คำถามให้นกั เรยี นตอบไปเม่ือสกั ครู่ วนั น้ีครจู ะพานกั เรียนไปดู สมการไอ ออนกิ และสมการไอออนกิ สุทธิ 2. ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. ครูทบทวนสมบัติและการละลายในน้ำของสารประกอบไอออนิกซึ่งจะมีไอออนบวกและ ไอออนลบเกิดข้ึน และถ้าหากนำสารลาย 2 ชนิดมารวมกนั จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วดูวีดีโอการทดลองใน Youtube เรื่อง การ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าของสารประกอบไอออนิก 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน มานำเสนอผลการทดลอง หลังจากนั้นให้นักเรียนทุกคน รว่ มกันอภปิ รายผลการทดลองจนมคี วามเข้าใจที่ตรงกนั 4. นักเรยี นศึกษาเรื่อง การเขียนสมการแสดงการเกิดปฏิกิรยิ าของสารประกอบไอออนกิ จาก หนงั สอื เรยี นเคมี ม.4 เล่ม 1 หนา้ 161 3. ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมเก่ียวกับปฏกิ ิริยาเคมีที่เกิดขึน้ การเขยี นสมการไอออนิก และสมการไอ ออนกิ สทุ ธิ แล้วสรุปหลกั การเขียนสมการไอออนิกสำหรับสารประกอบไอออนกิ ดงั น้ี • หาไอออนในสารละลายที่นำมาผสมกัน เพื่อใช้เป็นสูตรของสารใหม่ที่เกิดจากการ รวมตวั ระหวา่ งไอออนบวกกับไอออนลบ • ต้องทราบว่าไอออนบวกกับไอออนลบคู่ใด ได้สารประกอบที่ไม่ละลายในน้ำ ซึ่งจะ ทำให้ไอออนในนำ้ กลายเป็นไอออน หรือผลกึ ตะกอน • นำไอออนคู่ที่ทำปฏิกิริยากันได้สารไม่ละลายน้ำ มาเขียนสมการและดุลสมการให้ ถกู ต้อง 2. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเร่ือง สมการแสดงการเกิดปฏิกิริยาของ สารประกอบไอออนกิ เชน่ 1) ผสมสารละลาย AlCl3 กบั สารละลาย NaOH จะเกดิ ปฏิกิรยิ าหรือไม่ ถา้ เกิดให้เขียน สมการไอออนกิ แสดงการเกดิ ปฏกิ ริ ิยา (แนวตอบ : ขั้นที่ 1 หาไอออนบวกและไอออนลบในสารละลายทั้ง 2 ชนิด เพื่อใช้เขียนสูตร ของสารใหม่ AlCl3 (aq) Al3+ (aq) + 3Cl- (aq) NaOH (aq) Na+ (aq) + OH- (aq) สารใหมท่ ีจ่ ะเกดิ จากไอออนบวกและไอออนลบคู่ใหม่ คือ Al3++ OH- Al(OH)3 Na++ Cl- NaCl ข้นั ท่ี 2 วิเคราะห์การละลายในนำ้ ของสารใหม่ NaCl ละลายน้ำได้ ส่วน Al(OH)3 ไมล่ ะลายนำ้ ข้ันท่ี 3 เขยี นสมการไอออนิกได้ ดงั นี้ Al3+ (aq) + OH- (aq) Al(OH)3 (s)

4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง การดุลสมการไอออนกิ 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปหลกั การการเปรยี บเทียบคุณสมบตั ติ า่ ง ๆ ของโมเลกุลไอออนิก 3. ครตู ้งั ประเดน็ คำถามวา่ จากความรใู้ นเร่อื งสารประกอบไอออนกิ นักเรียนสามารถอธิบาย สมบัติของสารประกอบไอออนิกในเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนไ้ี ดห้ รือไม่ • การเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีของสารประกอบไอออนิก 5. ขัน้ ประเมนิ (Evaluation) 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำงานและการนำเสนอผลงาน หน้าช้ันเรยี น 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 3.4 เรือ่ ง การดุลสมการไอออนกิ 10. วัสดุ อุปกรณ์ ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี นวชิ า เคมี ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง พันธะเคมี 2) PowerPoint เรอื่ ง ปฏกิ ริ ิยาของสารประกอบไอออนกิ 3) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=99vBNGhfk4s เร่ือง การทดลองการ เกิดปฏิกิรยิ าของสารประกอบไอออนกิ 5) ใบงานท่ี 3.4 เรื่อง การดุลสมการไอออนกิ 6) วิธีการเขา้ เรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 7) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ การวัดและการประเมนิ ผล การวัดผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือท่ใี ชว้ ดั เกณฑก์ ารวัดและ การประเมินผล ประเมินผลด้าน และการประเมินผล และการประเมินผล ไดค้ ะแนนร้อยละ 1. ดา้ นความรู้ (K) 1. ตรวจคำถามในใบงานที่ 3.4 1. ใบงานที่ 3.4 เรอื่ ง การ 60 ขึน้ ไป เรอื่ ง การดุลสมการไอออนกิ ดุลสมการไอออนิก ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2. ด้านทกั ษะ (P) 1. ประเมนิ การนำเสนอ 1. แบบประเมนิ การ ระดับคุณภาพ ดี ข้นึ ไป ผลงาน นำเสนอผลงาน 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั การสังเกตพฤติกรรมการมี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ พงึ ประสงค์ (A) ส่วนร่วมในการทำงานเป็น มสี ว่ นร่วมในการทำงาน กลมุ่ เปน็ กลุ่ม การสงั เกตพฤติกรรมเป็น แบบสงั เกตพฤติกรรมเปน็ รายบุคคล รายบคุ คล

ใบงานท่ี 3.4 เร่ือง การดุลสมการไอออนกิ คำช้แี จง : จงเขยี นสมการโมเลกุล สมการไอออนิก และสมการไอออนิกสทุ ธจิ ากสารประกอบไอออนกิ ตอ่ ไปน้ี 1. BaCl2 + Na2CO3 สมการโมเลกุล : …………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนกิ : ………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนกิ สทุ ธิ : …………………………………………………………………………………………………………………………… 2. Zn(NO3)2 + HCl สมการโมเลกลุ : …………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนิก : ………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนกิ สุทธิ : …………………………………………………………………………………………………………………………… 3. Na2CO3 + CaCl2 สมการโมเลกลุ : …………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนกิ : ………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนิกสุทธิ : …………………………………………………………………………………………………………………………… 4. AgNO3 + Na3PO4 สมการโมเลกลุ : …………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนิก : ………………………………………………………………………………………………………………………………… สมการไอออนิกสทุ ธิ : ……………………………………………………………………………………………………………………………

เฉลยใบงานที่ 3.4 เรือ่ ง การดุลสมการไอออนิก คำชี้แจง : จงเขียนสมการโมเลกุล สมการไอออนิก และสมการไอออนกิ สทุ ธิจากสารประกอบไอออนกิ ตอ่ ไปน้ี 1. BaCl2 + Na2CO3 สมการโมเลกุล : BaCl2 (aq) + Na2CO3 (aq) BaCO3 (s) + 2NaCl (aq) สมการไอออนิก : Ba2+ (aq) + 2Cl- (aq) + 2Na+ (aq) + CO32- (aq) BaCO3 (s) + 2Na+ (aq) + 2Cl- (aq) สมการไอออนิกสุทธิ : Ba2+ (aq) + CO32- (aq) BaCO3 (s) 2. Zn(NO3)2 + HCl สมการโมเลกลุ : 2HCl (aq) + Zn(NO3)2 (aq) ZnCl2 (aq) + 2HNO3 (aq) สมการไอออนิก : 2H+ (aq) + 2Cl- (aq) + Zn2+ (aq) + 2NO-3 (aq) 2H+ (aq) + 2Cl- (aq) + Zn2+(aq) + 2NO3- (aq) สมการไอออนิกสุทธิ : - 3. Na2CO3 + CaCl2 สมการโมเลกุล : Na2CO3 (aq) + CaCl2 (aq) CaCO3 (s) + 2NaCl (aq) สมการไอออนกิ : 2Na+ (aq) + CO32- (aq) + Ca2+ (aq) + 2Cl- (aq) CaCO3 (s) + 2Na+ (aq) + 2Cl- (aq) สมการไอออนิกสุทธิ : Ca2+ (aq) + CO32- (aq) CaCO3 (s) 4. AgNO3 + Na3PO4 สมการโมเลกุล : 3AgNO3 (aq) + Na3PO4 (aq) Ag3PO4 (s) + 3NaNO3 (aq) สมการไอออนิก : 3Ag+ (aq) + 3NO3- (aq) + 3Na+ (aq) + PO43- (aq) Ag3PO4 (s) + 3Na+ (aq) + 3NO3- (aq) สมการไอออนิกสทุ ธิ : 3Ag+ (aq) + PO43- (aq) Ag3PO4 (s)

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่........................ วนั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ช่อื กลุม่ .........................................................................................................ชน้ั .................................................... รายชอื่ สมากชกิ 1. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. …………………………………………………………………………………………………………………………….. ท่ึ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น 321 1 การเตรียมความพร้อม 2 เนอื้ หาสาระครอบคลุมชัดเจน 3 รปู แบบการนำเสนอ 4 การมสี ว่ นรว่ มของสมากชิกกลมุ่ 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผฟู้ งั รวม ลงชือ่ ...........................................ผ้ปู ระเมนิ (…………………………………………………) ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................ วันท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับท่ี ช่อื – สกุล คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../................... การให้คะแนน/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วเิ คราะห์โจทย์ได้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วิเคราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วเิ คราะห์โจทย์ เลอื กใช้ ถกู ตอ้ ง วิธีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใชว้ ิธกี ารหา วิธีการหาคำตอบ และ และสรุปคำตอบไดถ้ กู ต้อง คำตอบได้ถกู ตอ้ ง คำนวณไดถ้ ูกต้อง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ชื่อ–สกุล ความ มี ส่วนรว่ มใน รวม ท่ี คดิ เหน็ ยอมรับฟัง ตามท่ี นำ้ ใจ การปรบั ปรุง (15) (3) คนอ่นื ไดร้ บั (3) ผลงานกลุม่ (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่อื ...........................................ผ้ปู ระเมนิ (…………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การให้คะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มีส่วนรว่ ม รวม ระดับ ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรียน (4) ซกั ถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรียนท่ีไดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน การเรยี น สนใจในการเรียนไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรยี นคุย ไม่สนใจในการเรียน 2. ความสนใจ หรอื เล่นกนั ในขณะ กนั เลก็ นอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเลน่ กัน และการซักถาม เรยี น เรยี น ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้งั 4. มสี ่วนรว่ มใน มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ตน มีการถามในหัวขอ้ ท่ี มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ ไมถ่ ามในหัวข้อที่ กจิ กรรม ไม่เข้าใจทกุ เรอ่ื งและ ตนไม่เขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางคร้งั และไมค่ อ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเรื่อง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทีค่ รถู ามและตอบ เรือ่ งทีค่ รูถามและ เรื่องทค่ี รูถามเปน็ คำถามถูกทกุ ขอ้ ตอบคำถามสว่ นมาก บางคร้ังและตอบ ถกู คำถามถกู เปน็ บางครง้ั ร่วมมือและชว่ ยเหลอื รว่ มมือและช่วยเหลือ ร่วมมือและชว่ ยเหลือ ไม่มคี วามร่วมมือ เพอื่ นในการทำ เพอ่ื นเป็นส่วนใหญใ่ น เพ่อื นในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กจิ กรรมเปน็ บางครง้ั

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปกี ารศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน คา่ เฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ัตติ รงตอ่ ความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อืน่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรูอ้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 6. ม่งุ ม่ัน 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับ 7. รกั ความเปน็ มอบหมาย ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพื่อให้งาน 8. มีจติ สำเร็จ สาธารณะ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักการให้เพอื่ ส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่ืน 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือสว่ นรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจัดการเรียนรูอ้ อนไลนท์ ่ี 22 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง พนั ธะเคมี เร่อื ง การเกิดพันธะโคเวเลนต์ รายวิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ชวั่ โมง ครูผู้สอน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธบิ ายการเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบพนั ธะเด่ยี ว พันธะคู่และพนั ธะสาม ดว้ ยโครงสรา้ งลิวอิส 2. สาระการเรยี นรู้ - พันธะโคเวเลนตเ์ ป็นการยึดเหนย่ี วที่เกิดข้ึนภายในโมเลกุลจากการใชเ้ วเลนซอ์ ิเล็กตรอนร่วมกันของ ธาตุซ่ึงส่วนใหญ่เป็นธาตุอโลหะ โดยทั่วไปจะเป็นไปตามกฎออกเตต สารที่ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์ เรียกวา่ สารโคเวเลนต์ พนั ธะโคเวเลนต์เกิดได้ท้ังพนั ธะเดี่ยว พนั ธะคู่และพันธะสาม ซึ่งสามารถเขียนแสดงได้ ด้วยโครงสรา้ งลิวอิส โดยแสดงอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะด้วยจดุ หรือเสน้ และแสดงอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวของแต่ ละอะตอมด้วยจดุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายการเกดิ พนั ธะโคเวเลนตแ์ ละสารโคเวเลนต์ได้ ด้านทักษะ (Process) 2. เขียนโครงสรา้ งลิวอิสของสารโคเวเลนตไ์ ด้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. ตง้ั ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ 4. สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด พนั ธะโคเวเลนตเ์ ปน็ พนั ธะเคมชี นิดหน่ึงท่เี กิดจากอะตอมของอโลหะมกี ารนำอเิ ล็กตรอนมาใช้รว่ มกัน แล้วเกิดแรงดึงดูดระหว่างอิเล็กตรอนกับโปรตอนที่อยู่ในนิวเคลียสของทั้งสองอะตอม ซึ่งสารประกอบโคเว เลนตอ์ าจเกิดจากอะตอมของอโลหะชนิดเดียวกนั หรือตา่ งชนดิ กันกไ็ ด้ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ความซอื่ สัตย์สุจริต  มวี นิ ัย ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มีจติ สาธารณะ  ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย 7. แนวความคดิ เพือ่ การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21  ทกั ษะดา้ นการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม  สาระวิชาหลกั (Core Subjects) ทกั ษะดา้ นชวี ติ และอาชพี  ทกั ษะด้านสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของ ร.10  ดา้ นท่ี 1 มที ัศนคติที่ถกู ต้องตอ่ บา้ นเมอื ง  ดา้ นที่ 2 มพี น้ื ฐานชีวิตท่ีมนั่ คง มีคุณธรรม  ดา้ นท่ี 3 มีงานทำ มอี าชพี  ด้านที่ 4 เป็นพลเมอื งดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สตู รเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ (หลักสูตรทอ้ งถน่ิ ) หลกั สูตรตา้ นทุจริตศึกษา  สะเตม็ ศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน โดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพือ่ วดั ความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นกอ่ นเข้าสูก่ ิจกรรม 2. ครถู ามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรยี นเคมี ม.4 เล่ม 1 หน้า 98 ว่า การจดั เรียง อเิ ล็กตรอน และตำแหนง่ ในตารางธาตเุ ก่ยี วขอ้ งกบั การเกดิ พนั ธะเคมอี ย่างไร (แนวตอบ : ครูยกตัวอย่างคำตอบ เช่น การจัดเรียงอิเล็กตรอนและตำแหน่งใน ตารางธาตุจะทำให้ทราบวา่ ธาตนุ ั้นมสี มบัติเป็นโลหะ อโลหะ หรอื กึง่ โลหะ ซ่ึงเมื่อธาตุแตล่ ะประเภทมารวมตัว กนั จะเกิดการยดึ เหนยี่ วกนั ดว้ ยพันธะเคมี ซึ่งก็จะแตกต่างกนั ไปตามประเภทของธาตุที่มารวมตัวกนั เปน็ ต้น)

3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน จากน้ันครูยกตัวอยา่ งสารตา่ ง ๆ ทพี่ บในชีวิตประจำวนั ใน Powerpoint เช่น น้ำปูนใส เกลือ น้ำตาลทราย ไส้ดินสอ ลูกเหม็น ด่างทับทิม เป็นต้น แล้วให้นักเรียนแต่ละ กลมุ่ จำแนกประเภทของสารตามสมบตั ิ ดงั น้ี • กลุม่ ท่ี 1 ธาตุ (เปน็ โลหะ อโลหะ หรอื กง่ึ โลหะ) • กลุ่มที่ 2 สารประกอบ (ของแขง็ ของเหลว หรอื แกส๊ ) 4. ครูต้ังคำถามใหน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปราย ดังน้ี • นกั เรียนคดิ วา่ สารทงั้ 2 กลมุ่ มีความแตกต่างกันอย่างไร • ธาตสุ ามารถรวมกนั เกดิ เป็นสารประกอบได้อยา่ งไร 2. ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. ครูเปิดวีดิโอเรื่อง พันธะโคเวเลนต์ จาก Youtube ให้นักเรียนดู พร้อมตั้งคำถามให้ นักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย ดังน้ี • ธาตุทม่ี ีความเสถียรตอ้ งมีจำนวนเวเลนซอ์ ิเล็กตรอนเทา่ ใด • สารประกอบเกิดขึน้ ไดอ้ ย่างไร • พนั ธะทเ่ี กดิ ขนึ้ มไี ด้กีป่ ระเภท 2. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 3 คน สืบคน้ ข้อมูลเกยี่ วกับการเกิดพันธะโคเวเลนต์ หรือศึกษา จากหนังสือเรยี นเคมี ม.4 เล่ม 1 หนา้ 99-100 3. สุ่มตัวแทนนักเรียนออกมาอธบิ ายเก่ียวกับการเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ของไฮโดรเจน จากน้ัน ครอู ธบิ ายเพิม่ เติมโดยใช้กราฟแสดงการเกิดพันธะโคเวเลนต์ของไฮโดรเจนกบั พลังงานศักย์สะสม จากหนังสือ เรียนเคมี ม.4-6 เล่ม 1 หนา้ 100 ประกอบการอธิบาย 4. นักเรียนทำใบงานที่ 3.5 เรื่อง การเขียนสูตรเคมีแสดงพันธะโคเวเลนต์ เพื่อให้นักเรียน ฝึกฝนทกั ษะในการเขยี นสูตรเคมีของสารที่ยึดเหน่ยี วกนั ด้วยพันธะโคเวเลนต์ 3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูยกตัวอย่างสารประกอบโคเวเลนต์มา 1 ชนิด ยกตัวอย่างเช่น BeF2 แล้วสุ่มนักเรียน ตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1) สารประกอบชนดิ นี้เปน็ สารประกอบโคเวเลนตห์ รือไม่ เพราเหตใุ ด (แนวตอบ : BeF2 เป็นสารประกอบโคเวเลนต์ เน่อื งจากเป็นสารประกอบที่ เกดิ จาก Be และ F นำอเิ ล็กตรอนมาใช้ร่วมกัน) 2) จงเขียนสตู รโครงสรา้ งของสารประกอบน้ี (แนวตอบ : ) 3) โครงสรา้ งของสารประกอบน้ีเป็นไปตามกฎออกเตตหรอื ไม่ (แนวตอบ : ไม่เป็นไปตามกฎออกเตต เพราะ Be มีเวเลนซ์อิเล็กตรอน เทา่ กับ 4 ซ่งึ ไม่ครบออกเตต) 4. ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 1. นักเรียนแบงกลุมออกเป็น 5 กลุม เขยี นแสดงการเกิดพันธะโคเวเลนต สตู รโครงสร้างแบบ จดุ และสตู รโครงสรางแบบเสนของสารประกอบโคเวเลนตที่กาํ หนดให ดงั น้ี กลมุ ท่ี 1 BeCl2 PCl5 PH3 กลมุ ท่ี 2 BeH2 AsF5 SF4 กลมุ ท่ี 3 HgCl2 CH4 NH3 กลมุ ที่ 4 BF3 CCl4 H2O กลมุ ท่ี 5 BCl3 SF6 SiH4

2. จากน้ันใหตวั แทนนกั เรยี นแตละกลุมออกมาอธบิ ายเก่ยี วกบั สารประกอบโคเวเลนตท่ีกลุ่ม ไดรับมอบหมายใหเพอื่ นกลุมอื่น ๆ ฟงหนาชั้นเรียน โดยนาํ เสนอในรูปแบบทน่ี าสนใจ 3. นกั เรียนทำสรุปความรู้เร่อื ง การเขียนสูตรของสารประกอบโคเวเลนต์ ออกมาในรูปแบบที่ เขา้ ใจไดง้ ่าย 5. ข้นั ประเมิน (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงานและการนำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง การเกดิ พันธะโคเวเลนต์ 10. วสั ดุ อุปกรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี นวิชา เคมี ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง พันธะเคมี 2) PowerPoint เรื่อง การเกดิ พันธะโคเวเลนต์ 3) ใบงานที่ 3.5 เรอ่ื ง การเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ 4) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=HuUjGTAeUFs เร่ือง การเกิดพันธะ ไอออนิก 5) วธิ ีการเข้าเรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 6) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ การวัดและการประเมินผล การวดั ผล วธิ ีการวัด เครอื่ งมือท่ใี ช้วดั เกณฑ์การวัดและ การประเมินผล ประเมนิ ผลดา้ น และการประเมินผล และการประเมนิ ผล ได้คะแนนร้อยละ 1. ด้านความรู้ (K) 1. ตรวจคำถามในใบงานท่ี 3.5 1. ใบงานท่ี 3.5 เรือ่ ง การ 60 ข้ึนไป เรื่อง การเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์ เกดิ พันธะโคเวเลนต์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ประเมนิ การนำเสนอ 1. แบบประเมนิ การ ระดบั คณุ ภาพ ผลงาน นำเสนอผลงาน ดี ข้ึนไป 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั การสังเกตพฤติกรรมการมี แบบสังเกตพฤติกรรมการ พงึ ประสงค์ (A) สว่ นรว่ มในการทำงานเปน็ มีส่วนร่วมในการทำงาน กลมุ่ เปน็ กล่มุ การสงั เกตพฤตกิ รรมเปน็ แบบสังเกตพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล รายบุคคล

ใบงานท่ี 3.5 เรอ่ื ง การเกิดพันธะโคเวเลนต์ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นคำตอบลงในช่องว่างทีก่ ำหนดให้ให้ถกู ตอ้ ง สาร โครงสร้างแบบจดุ ของลวิ อสิ โครงสร้างแบบเส้นของลวิ อิส Cl2 O2 N2 CO2 C2H2 NH3

เฉลยใบงานท่ี 3.5 เรื่อง การเกดิ พันธะโคเวเลนต์ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นคำตอบลงในชอ่ งวา่ งที่กำหนดให้ให้ถูกต้อง สาร โครงสรา้ งแบบจดุ ของลิวอิส โครงสร้างแบบเส้นของลวิ อิส Cl2 O2 N2 CO2 C2H2 NH3

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี........................ วันท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ชื่อกล่มุ .........................................................................................................ช้นั .................................................... รายชอ่ื สมากชกิ 1. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. …………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. …………………………………………………………………………………………………………………………….. ท่ึ รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เหน็ 321 1 การเตรยี มความพร้อม 2 เน้อื หาสาระครอบคลมุ ชดั เจน 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมีส่วนรว่ มของสมากชิกกลุ่ม 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผฟู้ งั รวม ลงชอื่ ...........................................ผปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการทำโจทยป์ ัญหา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับที่ ช่อื – สกลุ คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่อื ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../................... การใหค้ ะแนน/ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วิเคราะหโ์ จทยไ์ ด้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วเิ คราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วิเคราะห์โจทย์ เลือกใช้ ถกู ตอ้ ง วธิ ีการหาคำตอบ คำนวณ เลอื กใช้วธิ ีการหา วธิ ีการหาคำตอบ และ และสรปุ คำตอบได้ถกู ต้อง คำตอบได้ถูกตอ้ ง คำนวณได้ถูกต้อง

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ช่ือ–สกุล ความ มี ส่วนรว่ มใน รวม ท่ี คิดเห็น ยอมรับฟงั ตามที่ นำ้ ใจ การปรบั ปรุง (15) (3) คนอนื่ ไดร้ ับ (3) ผลงานกลมุ่ (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่ือ...........................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดบั ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซักถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั และการซกั ถาม เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้ัง 4. มสี ว่ นรว่ มใน มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ กิจกรรม ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครั้งและตอบ ถูก คำถามถกู เป็น บางครงั้ รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี / ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน ค่าเฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อนื่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า 6. ม่งุ ม่ัน 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ บั 7. รกั ความเปน็ มอบหมาย ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งาน 8. มีจติ สำเร็จ สาธารณะ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามช่วยเหลือ ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจดั การเรยี นรอู้ อนไลน์ที่ 23 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรือ่ ง พันธะเคมี เรอื่ ง ชนดิ ของพนั ธะโคเวเลนต์ รายวชิ า เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธบิ ายการเกิดพนั ธะโคเวเลนต์แบบพนั ธะเด่ียว พันธะคแู่ ละพันธะสาม ด้วยโครงสรา้ งลิวอสิ 2. สาระการเรียนรู้ - พันธะโคเวเลนต์เป็นการยึดเหน่ียวที่เกิดข้ึนภายในโมเลกุลจากการใช้เวเลนซ์อิเลก็ ตรอนร่วมกันของ ธาตุซึ่งส่วนใหญ่เปน็ ธาตุอโลหะ โดยทั่วไปจะเป็นไปตามกฎออกเตต สารที่ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์ เรยี กว่า สารโคเวเลนต์ พันธะโคเวเลนต์เกิดได้ท้ังพันธะเด่ียว พนั ธะค่แู ละพนั ธะสาม ซึ่งสามารถเขียนแสดงได้ ด้วยโครงสรา้ งลวิ อสิ โดยแสดงอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพันธะดว้ ยจดุ หรือเสน้ และแสดงอเิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ียวของแต่ ละอะตอมด้วยจดุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายเกย่ี วกบั กฎออกเตต และความหมายของอิเลก็ ตรอนค่รู ว่ มพนั ธะและอิเล็กตรอนคูโ่ ดด เด่ียวได้ 2. อธิบายการเกิดพนั ธะเดย่ี ว พนั ธะคู่ พันธะสาม และพนั ธะโคออร์ดเิ นตเวเลนตไ์ ด้ ด้านทักษะ (Process) 3. ยกตวั อย่างโมเลกลุ ของสารโคเวเลนต์ท่ีเปน็ ไปตามกฎออกเตต และทไ่ี มเ่ ป็นไปตามกฎออกเตตได้ ด้านเจตคติ (Affective) 4. ต้งั ใจเรยี นรูแ้ ละแสวงหาความรู้ 4. สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด พนั ธะโคเวเลนตเ์ ปน็ การยดึ เหน่ยี วที่เกดิ ขนึ้ ภายในโมเลกุลจากการใช้เวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนรว่ มกนั ของ ธาตุ ซึ่งส่วนใหญเ่ ป็นธาตุอโลหะ โดยทว่ั ไปจะเปน็ ไปตามกฎออกเตต สารท่ียึดเหนยี่ วกันด้วยพันธะโคเวเลนต์ เรียกวา่ สารโคเวเลนต์ พนั ธะโคเวเลนต์เกิดได้ทง้ั พันธะเด่ยี ว พนั ธะคู่ และพันธะสาม ซึง่ สามารถเขยี นแสดงได้ ดว้ ยโครงสรา้ งลวิ อิส โดยแสดงอเิ ล็กตรอนคูร่ ่วมพนั ธะดว้ ยจุดหรอื เส้น และแสดงอิเล็กตรอนคโู่ ดดเด่ียวของแต่ ละอะตอมด้วยจดุ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ความซือ่ สัตยส์ ุจรติ  มวี ินัย ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ ม่ันในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ  ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเป็นไทย 7. แนวความคิดเพอ่ื การเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21  ทักษะด้านการเรียนรู้และนวตั กรรม  สาระวชิ าหลัก (Core Subjects) ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ  ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรียนรู้ พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของ ร.10  ดา้ นท่ี 1 มีทัศนคติท่ีถูกตอ้ งตอ่ บ้านเมอื ง  ดา้ นที่ 2 มีพืน้ ฐานชวี ิตที่มน่ั คง มีคุณธรรม  ดา้ นที่ 3 มีงานทำ มอี าชีพ  ดา้ นที่ 4 เป็นพลเมืองดี หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักสูตรเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (หลกั สตู รทอ้ งถนิ่ ) หลกั สตู รต้านทุจริตศกึ ษา  สะเต็มศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีสอน โดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกมเรื่อง การเกดิ พนั ธะไอออนกิ จาก Wordwall เพ่ือกระตนุ้ นกั เรียนให้ เกิดความสนใจในการเรยี นเนือ้ หานี้ 2. เม่อื นักเรยี นทราบแล้วว่าวันน้จี ะมาศกึ ษาเก่ียวกับเรื่องอะไร ครูอธิบายเน้นย้ำอีกคร้ังหน่ึง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่าจากที่ครูได้ตัง้ คำถามให้นักเรียนตอบไปเมื่อสักครู่ วันนี้ครูจะพานักเรียนไปศึกษา ชนิดของพันธะโคเวเลนต์

2. ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูทบทวนความรู้เกยี่ วกับคา่ อิเล็กโทรเนกาตวิ ตี ี (EN) ดงั นี้ • อิเล็กโทรเนกาติวิตี คือ ค่าความสามารถในการดึงดูดอิเล็กตรอนของอะตอมที่ รวมกนั เป็นสารประกอบธาตุท่ีมีคา่ อิเลก็ โทรเนกาติวีตีสงู จะดงึ อิเล็กตรอนได้ดกี ว่าธาตุท่มี ีคา่ อิเล็กโทรเนกาติวีตี ตำ่ ไลนัส พอลิง (Linus Pauling) นกั เคมีชาวอเมรกิ ัน เปน็ คนแรกทก่ี ำหนดค่าอิเล็กโทรเนกาติวีตีของธาตุข้ึน แต่พอลิงไม่ได้คำนวณหาค่าอิเล็กโทรเนกาติวีตีของแก๊สเฉื่อยไว้ เพราะแก๊สเฉื่อยทำปฏิกิริยาเกิดเป็น สารประกอบไดย้ าก 2. ครูต้งั คำถามใหน้ กั เรียนอภิปรายว่า “เพราะเหตใุ ดแก๊สเฉือ่ ยจงึ เปน็ แก๊สท่ีเกิดปฏิกิริยาได้ ยาก” จากน้นั ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมเกี่ยวกบั กฎออกเตต ดังน้ี • กฎออกเตต คือ กฎที่อะตอมของธาตุพยายามทำให้เวเลนซ์อิเล็กตรอนของตัวมนั เองครบ 8 ซง่ึ เป็นสภาพท่ีทำใหอ้ ะตอมมคี วามเสถียรมากทีส่ ุด ยกเวน้ ธาตุไฮโดรเจนทมี่ เี วเลนซ์อิเล็กตรอนแค่ 2 • การนำเวเลนซ์อิเล็กตรอนมาใช้ร่วมกันเป็นคู่ ๆ เรียกว่า อิเล็กตรอนคู่ร่วมพันธะ (bonded pair electrons) เพื่อให้มีอิเล็กตรอนวงนอกสุดครบ 8 ส่วนอิเล็กตรอนคู่ที่ไม่ได้ใช้สร้างพันธะ เรียกวา่ อเิ ล็กตรอนคู่โดดเดียว (lone pair electrons) • การเกิดพันธะจากการใช้อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวร่วมกัน ทำให้เกิดชนิดของพันธะ โคเวเลนต์ ดังนี้ - พนั ธะเดย่ี ว (single bond) คือ พันธะท่ีเกิดจากการใช้อิเลก็ ตรอนร่วมกนั 1 คู่ - พนั ธะคู่ (double bond) คอื พันธะท่เี กิดจากการใช้อเิ ล็กตรอนรว่ มกนั 2 คู่ - พนั ธะสาม (triple bond) คอื พนั ธะท่ีเกดิ จากการใช้อเิ ล็กตรอนร่วมกัน 3 คู่ 3. ครูทบทวนความรู้เรื่อง ตารางธาตุ โดยสุ่มตัวแทนนักเรียนให้บอกสมบัติของธาตุใน ตำแหน่งตา่ ง ๆ ของตารางธาตุ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่าธาตุที่จะสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์ได้ คือ ธาตุที่มีค่า พลงั งานไอออไนเซชันสูง 4. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 3 คน แล้วศึกษาเรื่อง ชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ และการเขียน สูตรเคมีแสดงพันธะโคเวเลนต์ จากหนงั สือเรยี นเคมี ม.4 เล่ม 1 หน้า 101-104 และจาก PPT 5. ครทู บทวนจากความรู้เดิมของการเขยี นสูตรโครงสรา้ งแบบเสน้ และจุดทเ่ี ปน็ ไปตามกฎออก เตต และอธิบายเพ่มิ เติมเก่ยี วกับหลักการเขียนสูตรของสารประกอบโคเวเลนต์ โดยใชห้ นังสือเรียนเคมี ม.4-6 เล่ม 1 หน้า 104-105 ประกอบการอธิบาย 6. ครูทบทวนเรื่อง รูปแบบพันธะของธาตุที่สามารถมีได้ จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกบั การเกดิ สารประกอบโคเวเลนต์ว่า โดยส่วนใหญแ่ ล้วสารประกอบโคเวเลนตจ์ ะพยายามให้มเี วเลนซ์อิเล็กตรอน เท่ากับ 8 เพื่อความเสถียรของสารประกอบที่เกิดขึ้น ซึ่งจากกฎออกเตตทำให้สามารถทำนายสัดส่วนของ จำนวนอะตอมของธาตทุ ท่ี ำปฏกิ ริ ยิ ากันได้ เชน่ จะเหน็ ได้ว่า การเกดิ สารประกอบ HF จะเกิดพนั ธะเดย่ี วระหวา่ งอะตอมของ H กบั F ในสัดส่วน 1:1 แตส่ ารประกอบ H2O จะเกิดพนั ธะเดยี่ วระหวา่ งอะตอมของ H กับ O ในสัดส่วน H : O = 2 : 1 7. นักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3 คน แลว้ ศกึ ษาเรอื่ ง การเขียนสตู รของสารประกอบโคเวเลนต์ จากหนงั สือเรยี นเคมี ม.4 เลม่ 1 หนา้ 104-113

3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครตู ั้งคำถามให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเร่ือง ชนิดของพันธะโคเวเลนต์ และการเขียนสูตร เคมีแสดงพันธะโคเวเลนต์ เชน่ 1) สารโคเวเลนต์ต่อไปนี้ CH4 N2 O2 และ BCl3 ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรอื พนั ธะสาม (แนวตอบ : CH4 และ BCl3 ยึดเหน่ียวกนั ดว้ ยพนั ธะเดี่ยว O2 ยึดเหนย่ี วกนั ดว้ ยพนั ธะคู่ N2 ยึดเหนี่ยวกนั ดว้ ยพันธะสาม 2) จงเขียนสูตรโมเลกุล สูตรอย่างง่าย สูตรโครงสร้างแบบเส้น และสูตรโครงสร้าง แบบจุดของ C2H4 (แนวตอบ : สูตรโมเลกลุ คือ C2H4 สตู รอย่างง่าย คือ CH2 สตู รโครงสร้างแบบเส้น คอื สูตรโครงสรา้ งแบบจดุ คือ 4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกับโมเลกุลท่ีไมเ่ ป็นไปตามกฎออกเตต ดงั นี้ • สารประกอบโคเวเลนต์บางชนิดมีจำนวนเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนไม่เปน็ ไปตามกฎออก เตต โดยบางชนิดมีน้อยกว่า 8 อิเล็กตรอน แต่บางชนิดมีมากกว่า 8 อิเล็กตรอน แต่สารประกอบเหล่านั้น ก็ ยังคงมีความเสถียร จงึ จดั สารประกอบเหลา่ น้เี ปน็ ขอ้ ยกเวน้ ของกฎออกเตต ซ่ึงมี 3 ประเภท ดังนี้ 1) โมเลกุลที่ไมค่ รบออกเตต เกดิ กบั ธาตุหมู่ 2 และ 3 เช่น Be B เปน็ ต้น 2) โมเลกลุ ทเี่ กินออกเตต เกดิ กบั ธาตหุ มู่ 5 และ 6 เชน่ P S เปน็ ต้น และโลหะแทรนซิชัน

3) โมเลกุลที่มีจำนวนอิเล็กตรอนเป็นเลขค่ี มักเกิดกับ N หรือ Cl ที่สามารถมี อเิ ล็กตรอนท่ไี มไ่ ดจ้ บั คู่ได้ ซึ่งมสี มบัตวิ อ่ งไวในการทำปฏกิ ริ ิยาเคมี เชน่ ClO2 NO NO2 เปน็ ตน้ ClO2 อะตอมกลางมี 11 e- ลอ้ มรอบ NO2 อะตอมกลางมี 7 e- ลอ้ มรอบ 2. นกั เรยี นทำใบงานที่ 3.6 เรอ่ื ง การเขียนสูตรเคมแี สดงพนั ธะโคเวเลนต์ 3. นกั เรยี นทำผังมโนทัศนส์ รปุ ความร้เู รือ่ ง การเกดิ และชนดิ ของพันธะโคเวเลนต์ 5. ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 3.6 เร่อื ง การเขยี นสตู รเคมีแสดงพนั ธะโคเวเลนต์ 3. ครูวดั และประเมนิ ผลจากช้ินงานทีน่ ักเรยี นไดส้ ร้างขน้ึ จากข้นั ขยายความเขา้ ใจ 10. วสั ดุ อปุ กรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี นวชิ า เคมี ม.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง พนั ธะเคมี 2) PowerPoint เรือ่ ง การเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ 3) ใบงานที่ 3.6 เรื่อง การเขียนสตู รเคมีแสดงพนั ธะโคเวเลนต์ 4) วิธีการเข้าเรยี นออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 4) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ การวัดและการประเมนิ ผล การวัดผล วิธกี ารวัด เครื่องมือทใี่ ช้วัด เกณฑก์ ารวัดและ การประเมนิ ผล ประเมินผลดา้ น และการประเมินผล และการประเมินผล ได้คะแนนร้อยละ 60 ขนึ้ ไป 1. ด้านความรู้ (K) 1. เนอื้ หาในผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง 1. ผังมโนทศั นเ์ ร่อื ง การ ระดับคุณภาพ 2 การเกิดและชนิดของพันธะ เกิดและชนดิ ของพันธะ ผ่านเกณฑ์ โคเวเลนต์ โคเวเลนต์ ระดบั คณุ ภาพ ดี ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ตรวจคำถามในใบงานที่ 3.6 ใบงานที่ 3.6 เรอื่ ง การ เร่ือง การเขยี นสูตรเคมีแสดง เขยี นสูตรเคมีแสดงพนั ธะ พันธะโคเวเลนต์ โคเวเลนต์ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั การสงั เกตพฤติกรรมการมี แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ พึงประสงค์ (A) ส่วนร่วมในการทำงานเปน็ มีส่วนรว่ มในการทำงาน กลมุ่ เปน็ กลุม่ การสังเกตพฤตกิ รรมเปน็ แบบสงั เกตพฤติกรรมเป็น รายบุคคล รายบคุ คล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook