Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนรวม

แผนรวม

Published by watcharaphongkiw, 2022-02-06 10:45:21

Description: แผนรวม

Search

Read the Text Version

9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีสอน โดยใช้กระบวนการสืบเสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครกู ล่าวคำทักทายนักเรียน นำเข้าสู่การศึกษาเร่ืองสญั ลกั ษณ์แบบจุดของลิวอิสและกฎออกเตต โดยครจู ะขนึ้ รปู สัญลกั ษณ์แบบจุดของลวิ อิสของธาตุหมูห่ ลกั ใหน้ ักเรยี น จากน้นั ครูตงั้ คำถามกับนกั เรียนวา่ จุด ทน่ี ักเรยี นเหน็ บนสญั ลกั ษณ์ธาตนุ ้นั หมายถึงอะไร (แนวคำตอบ : จุดในสญั ลกั ษณ์แบบจุดของลิวอิส แสดงเวเลนซ์อเิ ลก็ ตรอน เช่น He มี 2 จุด แสดงวา่ มี 2 เวเลนซอ์ เิ ล็กตรอน Na มี 1 จุด แสดงวา่ มี 1 เวเลนซ์อเิ ลก็ ตรอน) 2. เม่อื ครูถามคำถามแกน่ กั เรียนเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามในในขอ้ ที่ 1 โดยถา้ มี นกั เรยี นคนใดตอบคำถามแล้วใกล้เคียงกับแนวทางการตอบคำถามทีไ่ ดต้ ั้งเกณฑ์ไวจ้ ะได้รับคะแนนสะสม 2. ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามรว่ มกันใน Padlet เพือ่ ใหค้ ะแนน 1) สารเคมที นี่ ักเรยี นร้จู กั ตัง้ แต่เรยี นวชิ าเคมี (แนวคำตอบ : สารเคมีชนิดต่าง ๆ) 2) พันธะเคมคี อื อะไร ? (แนวคำตอบ : การยึดเหนีย่ วกนั ของอะตอมหรอื ไอออนในสาร) 3) ธาตุหมู่ VlllA หรือแก๊สมีสกุล มเี วเลนซ์อิเลก็ ตรอนเปน็ เทา่ ไหร่ และบรรจุเตม็ ออร์บิทัลระดบั พลงั งานหลักหรอื ไม่ (แนวคำตอบ : ธาตหุ มู่ VIIIA มเี วเลนซอ์ ิเล็กตรอนเทา่ กับ 8 และบรรจุเต็มออร์ บทิ ลั ในระดับพลงั งานหลกั ) 2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมที่ 3.1 เรอ่ื ง สญั ลกั ษณ์แบบจดุ ของลวิ อิสและกฎออกเตต 3. ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. นักเรียนนำเสนอข้อมูลที่ไดจ้ ากการทำใบงานท่ี 3.1 โดยส่มุ นักเรยี นออกมา 2 คน ยกตวั อยา่ งสญั ลกั ษณ์ธาตมุ ากคนละ 1 คู่ ว่าสามารถเขียนสญั ลักษณ์แบบจดุ ของลวิ อิสได้เปน็ แบบไหน และ เป็นไปตามกฎออกเตตหรอื ไม่ โดยมีการให้หรือรับอิเลก็ ตรอนจากอนุภาคอืน่ อย่างไรบา้ ง 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและสรปุ ในเรื่อง สัญลักษณแ์ บบจดุ ของลิวอสิ และกฎออก เตตวา่ มีหลักการอยา่ งไร (แนวคำตอบ : สญั ลักษณ์แบบจุดของลิวอิสใช้จดุ แสดงจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนรอบสัญลกั ษณ์ ของธาตุ โดยเขยี นจุดเดย่ี วทัง้ 4 ด้านรอบสัญลักษณข์ องธาตกุ อ่ น แลว้ จงึ เตมิ จุดให้เปน็ คู่ ยกเวน้ ธาตุ He ทม่ี ี 2 เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนจะเขยี นเปน็ จุดคูอ่ ยู่ด้านเดยี วกนั ซ่ึงในธาตุต่างๆ สว่ นใหญไ่ ม่เสถียรในรูปอะตอมเดย่ี ว ยกเว้น ธาตุหมู่ 8 หรอื แก๊สมีสกุล ทพี่ บอยใู่ นรปู อะตอมเดีย่ ว ซึ่งมีเวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนเทา่ กับ 8 ยกเวน้ ธาตุ He ทม่ี ี 2 เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอน นอกจากนอี้ ะตอมของธาตอุ นื่ ๆ มีแนวโน้มทีจ่ ะรวมตวั กนั เพ่อื ทจี่ ะทำใหแ้ ต่ละอะตอมมี เวเลนซ์อเิ ล็กตรอนเทา่ กบั 8 ใหเ้ ป็นไปตามกฎออกเตตนัน้ ทำไดโ้ ดยการให้อิเล็กตรอนไปกับอะตอมอ่นื การรับ อิเล็กตรอนจากอะตอมอ่นื และการใชอ้ ิเล็กตรอนรว่ มกันกบั อะตอมอน่ื โมเลกลุ ของสารประกอบทปี่ รับตัว เป็นไปตามกฎออกเตตน้นั โมเลกุลจะมีความเสถียรมาก) 4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. เมื่อนักเรียนสามารถเขียนสัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิสได้แล้ว นักเรียนก็สามารถรู้ได้ว่า ธาตุในคู่นัน้ มีพันธะเปน็ พนั ธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสาม ซึ่งอิเล็กตรอนคูร่ ่วมพนั ธะ 1 คู่ แทนพันธะเดี่ยว (single bond) 2 คู่แทนพันธะคู่ (double bond) และ 3 คู่แทนพันธะสาม (triple bond) เช่น พันธะเดี่ยว แก๊สมเี ทน (methane, CH4) ใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า พนั ธะคู่ เอทลิ นี (ethylene) ใช้เป็นสารเรง่ การ

สุกของผลไม้ และพันธะสาม อะเซทิลีน (acetylene, C2H2) เป็นแก็สไม่มีสี เตรียมได้จากปฏิกิริยาระหว่าง แคลเซยี มคาร์ไบด์ (CaC2) และนำ้ 5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) 1. ครปู ระเมินนักเรยี นจากการทำใบงานที่ 3.1 2. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม 3. ครปู ระเมนิ ผลจากการทำกิจกรรมใน Padlet 10. วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหลง่ เรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี นวิชา เคมี ม.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง พันธะเคมี 2) Padlet : https://padlet.com/6015891026/p1o36mx3mfcweli เรือ่ ง พันธะเคมี 3) PowerPoint เรื่อง สญั ลักษณแ์ บบจดุ ของลวิ อิสและกฎออกเตต 4) ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง สัญลักษณแ์ บบจดุ ของลิวอิสและกฎออกเตต 5) วธิ กี ารเข้าเรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 6) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ การวดั และการประเมินผล การวดั ผล วิธกี ารวัด เครอ่ื งมือท่ีใชว้ ดั เกณฑ์การวัดและ และการประเมนิ ผล การประเมนิ ผล ประเมนิ ผลด้าน และการประเมนิ ผล 1. แบบประเมินรายบุคคล ได้คะแนนร้อยละ 60 ขึ้นไป 1. ด้านความรู้ (K) 1. การมสี ว่ นร่วมเม่ือครูถาม 1. ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ได้คะแนนรอ้ ยละ สัญลักษณ์แบบจุดของลิว 60 ข้นึ ไป 2. การมสี ่วนรว่ มใน Padlet อสิ และกฎออกเตต แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ 2. ด้านทกั ษะ (P) 1. การตอบคำถามในใบงานที่ มีส่วนรว่ มในการทำงาน ดี ขนึ้ ไป เปน็ กลมุ่ 3.1 เรื่อง สญั ลักษณแ์ บบจุด แบบสังเกตพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล ของลิวอิสและกฎออกเตต 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั การสงั เกตพฤตกิ รรมการมี พึงประสงค์ (A) ส่วนรว่ มในการทำงานเป็น กลุม่ การสงั เกตพฤติกรรมเป็น รายบคุ คล

ใบงาน 3.1 เร่อื ง สัญลักษณ์แบบจดุ ของลวิ อิสและกฎออกเตต คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเขยี นคำตอบลงในชอ่ งว่างที่กำหนดใหใ้ หถ้ ูกต้อง สัญลกั ษณข์ อง จำนวนเวเลนซ์ สญั ลักษณ์แบบจดุ ของลวิ อสิ เป็นตามกฎออกเตต หรอื ไม่ ธาต/ุ ไอออน อเิ ลก็ ตรอน F- Ne He Na K+ NaBr MgO LiF

เฉลยใบงาน 3.1 เรอื่ ง สัญลกั ษณ์แบบจุดของลิวอิสและกฎออกเตต คำช้แี จง : ให้นกั เรยี นเขียนคำตอบลงในช่องว่างท่กี ำหนดใหใ้ ห้ถูกตอ้ ง สัญลักษณข์ อง จำนวนเวเลนซ์ สญั ลกั ษณแ์ บบจุดของลิวอิส เป็นตามกฎออกเตต หรือไม่ ธาตุ/ไอออน อเิ ล็กตรอน เปน็ 8 F- 8 เปน็ Ne 2 เปน็ He 1 ไมเ่ ปน็ Na 8 เป็น K+ Na 1 เปน็ NaBr Br 7 Mg 2 เป็น MgO O 6 Li 1 เป็น LiF F 7

แบบประเมินการทำโจทยป์ ัญหา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับที่ ช่อื – สกลุ คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่อื ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../................... การใหค้ ะแนน/ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วิเคราะหโ์ จทยไ์ ด้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วเิ คราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วิเคราะห์โจทย์ เลือกใช้ ถกู ตอ้ ง เลอื กใช้วธิ ีการหา วธิ ีการหาคำตอบ และ วธิ ีการหาคำตอบ คำนวณ คำตอบได้ถูกตอ้ ง คำนวณได้ถูกต้อง และสรปุ คำตอบได้ถกู ต้อง

แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความตั้งใจ ความสนใจ การตอบ มีส่วนรว่ ม รวม ระดับ ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซกั ถาม (4) (4) กิจกรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชอื่ .............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั 2. ความสนใจ เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน และการซกั ถาม บางคร้ัง 3. การตอบ มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ คำถาม ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก 4. มสี ว่ นรว่ มใน กลา้ แสดงออก กิจกรรม กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ บางครั้งและตอบ คำถามถกู เป็น คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครงั้ ถูก รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปกี ารศึกษา................. ชื่อ-สกลุ นักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อันพึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรกั และภูมิใจในความเป็นชาติ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดตี อ่ สถาบนั กษตั รยิ ์ พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซอื่ สัตย์สุจริต 1.3 ปฏิบตั ติ ามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อื่น 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝห่ าความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรูอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมเี หตุผล 5. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 6. มุ่งม่ัน 6.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานท่ไี ดร้ บั ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเป็น 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู กั การให้เพ่ือสว่ นรวม และเพือ่ ผ้อู ่ืน 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ้ำใจหรือการให้ความช่วยเหลือ ผอู้ ่นื 8.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือสว่ นรวมเม่อื มี โอกาส รวมคะแนน ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจัดการเรยี นรู้ออนไลนท์ ี่ 17 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่อื ง พนั ธะเคมี เรื่อง การเกิดและโครงสร้างของสารประกอบไอออนิก รายวชิ า เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 1 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นาย วชั รพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - อธิบายการเกดิ ไอออนและการเกดิ พันธะไอออนกิ โดยใช้แผนภาพหรอื สญั ลกั ษณ์แบบจุดของลวิ อสิ 2. สาระการเรยี นรู้ - พันธะไอออนิกเกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างประจุไฟฟ้าของไอออนบวกกับไอออนลบส่วนใหญ่ ไอออนบวกเกิดจากโลหะเสียอิเล็กตรอนและไอออนลบเกิดจากอโลหะรับอิเล็กตรอนสารประกอบที่เกิดจาก พันธะไอออนิก เรียกว่า สารประกอบไอออนิก สารประกอบไอออนิก ไม่อยู่ในรูปโมเลกลุ แต่เป็นโครงผลึกท่ี ประกอบด้วยไอออนบวกและไอออนลบจดั เรียงตวั ต่อเนื่องกันไปทัง้ สามมิติ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพนั ธะไอออนกิ ได้ 2. อธิบายเกย่ี วกบั โครงสร้างของสารประกอบไอออนกิ ได้ ด้านทักษะ (Process) 3. ระบปุ ัจจัยท่ีมผี ลตอ่ โครงสร้างของสารประกอบไอออนกิ ได้ ด้านเจตคติ (Affective) 4. มคี วามมุ่งม่นั ตัง้ ใจในการเรียนรู้ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรม และมีจติ สาธารณะในการ ทำงานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อย่างสรา้ งสรรค์ 4. สาระสำคัญหรอื ความคิดรวบยอด พันธะไอออนิก เป็นพันธะเคมีชนิดหนึ่งเกิดจากที่อะตอมหรือกลุ่มของอะตอมสร้างพันธะกันโดยท่ี อะตอมหรือกลมุ่ ของอะตอมให้อเิ ลก็ ตรอนกบั อะตอมหรือกลมุ่ ของอะตอม ทำใหก้ ลายเปน็ ประจบุ วก ในขณะท่ี อะตอมหรือกลุ่มของอะตอมทไ่ี ดร้ ับอิเล็กตรอนนั้นกลายเป็นประจุลบ เนื่องจากทงั้ สองกลมุ่ มีประจุตรงกันข้าม กันจะดึงดูดกัน ทำใหเ้ กดิ พนั ธะไอออน โดยทั่วไปพันธะชนดิ น้ีมักเกดิ ข้นึ ระหว่างโลหะกับอโลหะ โดยอะตอมท่ี ใหอ้ ิเล็กตรอนมกั เป็นโลหะ ทำให้โลหะน้ันมีประจุบวก และอะตอมทีร่ บั อิเล็กตรอนมักเป็นอโลหะที่มีประจุลบ และสารทเ่ี กดิ จากพันธะไอออนกิ น้เี รียกวา่ สารประกอบไอออนกิ ซง่ึ สารประกอบไอออนกิ ที่เกิดข้ึนส่วนใหญจ่ ะ เป็นไปตามกฎออกเตต 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ความซ่อื สัตย์สุจรติ  มีวินยั ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ  ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย 7. แนวความคดิ เพอื่ การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21  ทกั ษะด้านการเรยี นรู้และนวัตกรรม  สาระวชิ าหลัก (Core Subjects) ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ  ทกั ษะด้านสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรียนรู้ พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของ ร.10  ด้านที่ 1 มที ัศนคตทิ ่ีถกู ต้องต่อบา้ นเมอื ง  ด้านที่ 2 มีพ้ืนฐานชวี ิตทมี่ ่ันคง มีคุณธรรม  ดา้ นที่ 3 มีงานทำ มอี าชีพ  ดา้ นที่ 4 เป็นพลเมอื งดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (หลักสตู รทอ้ งถ่ิน) หลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา  สะเตม็ ศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีสอน โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูกล่าวคำทักทายนักเรียน นำเข้าสู่การศึกษาเรื่อง การเกิดพันธะไอออนกิ โดยครูจะทำ การ ให้นักเรียนเล่นเกม หลังแผ่นป้าย โดยจะให้นักเรียนช่วยกันเปิดแผ่นป้าย แล้วบอกว่าสูตรเคมีที่เห็นใน แผน่ ปา้ ยใดเป็นสารประกอบไอออนกิ (แนวคำตอบ : NaCl NaBr LiF MgO KI และ KCl เป็นสารประกอบไอออนิก เนื่องจากมีการ รวมตัวกันของธาตโุ ลหะและอโลหะ ซึ่งธาตุโลหะมีพลังงานไอออไนเซชันต่ำจึงเสียอิเล็กตรอนเกิดเปน็ ไอออน บวกได้ง่าย สว่ นธาตอุ โลหะมคี ่าสัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอนสงู จึงรับอเิ ลก็ ตรอนเกดิ เปน็ ไอออนลบ )

2. เมื่อครูถามคำถามแก่นักเรียนเสร็จแล้ว ให้นักเรียนจำนวน 3-4 คน ยกมือตอบคำถาม ในแต่ละครั้งในข้อที่ 1 โดยถ้ามีนักเรียนคนใดตอบคำถามแล้วใกล้เคียงกับแนวทางการตอบคำถามที่ได้ตั้ง เกณฑไ์ ว้จะได้รบั คะแนนพิเศษ 3. เม่อื นักเรียนทราบแล้วว่าวันน้ีจะมาศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองอะไร ครูอธิบายเน้นย้ำอีกครั้ง หน่ึงเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่าจากท่ีครูได้ตั้งคำถามให้นักเรียนตอบไปเมื่อสักครู่ วันน้ีครูจะพานักเรียนไป ศึกษา การเกิดพันธะไอออนิก 2. ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง การเกิดพนั ธะไอออนกิ และโครงสรา้ งของสารประกอบไอออนกิ จาก หนงั สอื เรยี นเคมี ม.4 หน้า 145-147 หรือจาก PPT 3. ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดพันธะไออออนิก และโครงสร้างของ สารประกอบไอออนกิ เพื่อให้ได้ขอ้ สรปุ ดงั นี้ • อะตอมของธาตโุ ลหะมีขนาดใหญ่ และมคี า่ พลังงานไอออไนเซชนั ลำดบั ที่ 1 ต่ำ จึง มีแนวโน้มที่จะเสียอิเล็กตรอนได้ง่าย เกิดเป็นไอออนบวกที่มีประจุเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอนที่เสียไป ส่วน อะตอมของธาตุอโลหะมีขนาดเล็ก และมีค่าพลังงานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 สูง จึงมีแนวโน้มที่จะรับ อิเล็กตรอนได้ง่าย เกิดเป็นไอออนลบที่มีประจุเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอนที่รับมา และเมื่ออะตอมของโลหะ รวมตัวกับอะตอมของอโลหะจะมีการให้และรบั อิเล็กตรอนเพอื่ ปรับให้มีเวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนเป็นไปตามกฎออกเตต • ไอออนบวกและไอออนลบยึดเหน่ียวกันดว้ ยแรงดึงดูดระหวา่ งประจุไฟฟ้าต่างชนิด กัน เกิดเป็นพันธะ เรียกว่า พันธะไอออนิก และสารประกอบที่เกิดจากพันธะไอออนิก เรียกวา่ สารประกอบ ไอออนกิ • สารประกอบไอออนิกที่มีสถานะเป็นของแข็งจะประกอบด้วยไอออนบวกรวมอยู่ กบั ไอออนลบต่อเน่ืองสลับกนั ไปทัง้ สามมิติ และแยกเปน็ โมเลกุลเด่ยี วไมไ่ ด้ • โครงสร้างของสารประกอบไอออนิกแต่ละชนิดจะมีลักษณะแตกตา่ งกนั ข้ึนอยู่กับ สัดส่วนของจำนวนประจุ ขนาดของไอออน และโครงสรา้ งผลกึ ของสารน้ัน ๆ 4. ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูจับคู่ให้นกั เรียน แล้วให้เขียนแสดงการเกดิ สารประกอบไอออนิกทีเ่ กิดจากการรวมกัน ของธาตตุ อ่ ไปน้ี • ธาตหุ มู่ 1A กบั ธาตุหมู่ 5A • ธาตุหมู่ 1A กบั ธาตหุ มู่ 6A • ธาตหุ มู่ 2A กับธาตุหมู่ 5A • ธาตหุ มู่ 2A กบั ธาตหุ มู่ 6A • ธาตหุ มู่ 3A กับธาตุหมู่ 5A • ธาตุหมู่ 3A กับธาตุหมู่ 6A • ธาตุหมู่ 3A กบั ธาตุหมู่ 7A แลว้ บนั ทกึ ลงในสมดุ 5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) 1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการรว่ มกันทำผลงาน 2. ครวู ัดและประเมินผลจากชิน้ งานที่นักเรียนไดส้ ร้างขึน้ จากข้นั ขยายความเข้าใจ 10. วัสดุ อปุ กรณ์ สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียนวิชา เคมี ม.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง พันธะเคมี 2) PowerPoint เรอื่ ง การเกดิ และโครงสรา้ งของสารประกอบไอออนกิ 3) วธิ กี ารเข้าเรยี นออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 4) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

การวัดและการประเมนิ ผล การวดั ผล วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือทีใ่ ช้วัด เกณฑก์ ารวัดและ และการประเมินผล การประเมินผล ประเมนิ ผลดา้ น และการประเมินผล 1. แบบประเมนิ รายบุคคล ได้คะแนนร้อยละ 1. ด้านความรู้ (K) 1. การมีส่วนรว่ มเม่ือครถู าม 60 ขนึ้ ไป 1. สมุดบันทึกของนกั เรยี น ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 2. ด้านทกั ษะ (P) 1. การเขียนแสดงการเกิด สารประกอบไอออนกิ ทเ่ี กดิ 60 ขึ้นไป จากการรวมกนั ของธาตุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ 3. ด้านคุณลักษณะอนั การสงั เกตพฤติกรรมการมี มสี ว่ นรว่ มในการทำงาน ดี ขนึ้ ไป พึงประสงค์ (A) ส่วนรว่ มในการทำงานเป็น เปน็ กลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมเปน็ กลุ่ม รายบุคคล การสังเกตพฤติกรรมเป็น รายบคุ คล

แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับที่ ช่อื – สกลุ คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่ือ................................................ผู้ประเมิน (……………………………………………………………) ...................../..................../.................. การใหค้ ะแนน/ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดมี าก (4) วิเคราะหโ์ จทยไ์ ด้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วเิ คราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วิเคราะหโ์ จทย์ เลือกใช้ ถกู ตอ้ ง เลอื กใช้วธิ ีการหา วธิ ีการหาคำตอบ และ วธิ ีการหาคำตอบ คำนวณ คำตอบได้ถูกตอ้ ง คำนวณได้ถกู ตอ้ ง และสรุปคำตอบไดถ้ กู ตอ้ ง

แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มีสว่ นรว่ ม รวม ระดบั ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซักถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั 2. ความสนใจ เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน และการซกั ถาม บางคร้ัง 3. การตอบ มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ คำถาม ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก 4. มสี ว่ นรว่ มใน กลา้ แสดงออก กิจกรรม กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ บางครั้งและตอบ คำถามถกู เป็น คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครงั้ ถูก รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ภาคเรยี นท.่ี .................ปกี ารศกึ ษา................. ชื่อ-สกลุ นักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คา่ เฉลย่ี อันพึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรกั และภมู ิใจในความเปน็ ชาติ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภักดตี ่อสถาบัน กษตั รยิ ์ พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซอื่ สัตย์สุจริต 1.3 ปฏิบตั ติ ามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ติ รงต่อความเปน็ จรงิ ตอ่ ผ้อู ่ืน 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝห่ าความรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งเรยี นรตู้ ่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมีเหตุผล 5. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งม่ัน 6.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานท่ไี ดร้ บั ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเป็น 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู กั การให้เพ่อื ส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่ืน 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้ำใจหรือการให้ความช่วยเหลือ ผอู้ ่นื 8.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือสว่ นรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจดั การเรียนร้อู อนไลนท์ ่ี 18 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เร่ือง พันธะเคมี เรอื่ ง การเขยี นสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนกิ รายวิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ชวั่ โมง ครูผูส้ อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรียนรู้ - เขียนสูตร และเรียกชือ่ สารประกอบไอออนกิ 2. สาระการเรียนรู้ - สารประกอบไอออนกิ เขียนแสดงสูตรเคมโี ดยให้สญั ลกั ษณธ์ าตุที่เปน็ ไอออนบวกไว้ข้างหน้า ตามดว้ ย สัญลักษณธ์ าตุที่เปน็ ไอออนลบ โดยมีตวั เลขแสดงอตั ราส่วนอยา่ งตำ่ ของจำนวนไอออนท่ีเปน็ องค์ประกอบ - การเรียกช่ือสารประกอบไอออนกิ ทำไดโ้ ดยเรยี กชอื่ ไอออนบวกแลว้ ตามดว้ ยช่อื ไอออนลบ สำหรบั สารประกอบไอออนกิ ที่เกิดจากโลหะทมี่ เี ลขออกซิเดชันได้หลายค่า ตอ้ งระบเุ ลขออกซิเดชนั ของโลหะดว้ ย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายวิธเี ขียนสูตรและหลักการเรยี กชอื่ สารประกอบไอออนิกได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. เขยี นสูตรโมเลกุลและเรียกช่อื สารประกอบไอออนกิ ได้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. มีความมงุ่ ม่ันตง้ั ใจในการเรียนรู้ ใหค้ วามร่วมมอื ในการทำกิจกรรม และมจี ิตสาธารณะในการ ทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ 4. สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด สารประกอบไอออนกิ จะประกอบไปดว้ ยอะตอมหรอื กลมุ่ อะตอมที่มไี อออนบวกและไอออนลบที่มี ประจตุ ่าง ๆ กนั เช่น ธาตุ Na เป็นธาตุหมู่ IA เมื่อเกิดเปน็ ไอออนบวกจะมีประจุเป็น +1 และธาตุ Cl ซ่งึ เป็น ธาตุหมู่ VIIA เมอื่ เกดิ เป็นไอออนลบจะมีประจเุ ป็น -1 เปน็ ต้น โดยประจุของไอออนธาตุหม่หู ลักจะเป็นบวก ตามจำนวนอิเล็กตรอนท่ีใหห้ รอื เป็นลบตามจำนวนอเิ ลก็ ตรอนทร่ี บั เพอ่ื ทำใหม้ ีการจดั เรียงอเิ ลก็ ตรอนของ ไอออนเปน็ ไปตามกฎออกเตต ซ่ึงมผี ลตอ่ อัตราส่วนการรวมของไอออนและสูตรของสารประกอบไอออนกิ ซึง่ โครงสร้างของสารประกอบไอออนกิ ไมส่ ามารถแยกเปน็ โมเลกุลได้ เราจึงใชส้ ูตรเอมพิรคิ ัลแสดงอัตราส่วนอยา่ ง ตำ่ ของจำนวนไอออนที่เปน็ องคป์ ระกอบ ซงึ่ ทำให้ผลรวมของประจเุ ปน็ กลางหรือเท่ากับศูนย์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ความซื่อสัตยส์ ุจรติ  มีวนิ ยั ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง  มุง่ มัน่ ในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ  ใฝ่เรยี นรู้ รักความเปน็ ไทย 7. แนวความคดิ เพ่ือการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21  ทกั ษะด้านการเรยี นรู้และนวตั กรรม  สาระวชิ าหลกั (Core Subjects) ทักษะด้านชวี ติ และอาชีพ  ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของ ร.10  ด้านท่ี 1 มีทัศนคติท่ีถูกต้องตอ่ บา้ นเมอื ง  ด้านที่ 2 มพี ้ืนฐานชีวติ ทม่ี ัน่ คง มีคณุ ธรรม  ด้านท่ี 3 มีงานทำ มีอาชพี  ดา้ นท่ี 4 เป็นพลเมอื งดี หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ (หลักสูตรท้องถนิ่ ) หลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา  สะเต็มศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) 1. ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความรู้ในเรื่อง การเกิดพันธะไอออนิกและโครงสร้างไอออนิกที่เกิดจากแรง ดงึ ดูดระหว่างไอออนบวกและไอออนลบ 2. ครูถามคำถามกระตุน้ นักเรียนว่าประจุของไอออนสัมพนั ธก์ ับเลขหมู่ของธาตุในตารางธาตุ หรอื ไม่อยา่ งไร (แนวคำตอบ : ประจุของไอออนมีความสัมพันธ์กับเลขหมู่ของธาตุ โดยธาตุหมู่ IA IIA และ IIIA เมอื่ เป็นไอออนจะเปน็ ไอออนบวกท่มี ีประจุตามเลขหมู่ ส่วนธาตุหมู่ VA VIA และ VIIA เมื่อเป็นไอออน จะเปน็ ไอออนลบที่มปี ระจุ X – 8 เม่ือ X คอื เลขหมูข่ องธาตอุ โลหะ)

2. ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนศกึ ษาเรื่อง การเขยี นสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนกิ จากหนงั สอื เรยี นเคมี ม.4 เลม่ 1 หนา้ 148-151 2. ครูสรปุ หลกั การในการเขยี นสตู รของสารประกอบไอออนิก ดงั น้ี • เขยี นไอออนบวกของโลหะ หรือกลมุ่ ไอออนบวกไวข้ า้ งหนา้ ตามดว้ ยไอออนลบ ของอโลหะ หรอื กลมุ่ ไอออนลบ • ไอออนบวกและไอออนลบจะรวมกันในอัตราส่วนที่ทำให้ผลรวมของประจุเป็น ศูนย์ ดังนั้น จึงต้องหาตัวเลขมาคูณกับจำนวนประจุบนไอออนบวกและไอออนลบให้มีจำนวนเท่ากัน แล้วใส่ ตวั เลขเหลา่ น้ันไว้ท่ีมุมขวาล่างของแต่ละไอออน ซ่งึ ทำได้โดยใช้จำนวนประจุบนไอออนบวกและไอออนลบคูณ ไขว้กนั • ถา้ กลุ่มไอออนบวกหรอื ไอออนลบมีมากกว่า 1 กล่มุ ให้ใสว่ งเล็บ ( ) และใส่จำนวน กลุม่ ไวท้ ม่ี มุ ขวาลา่ ง 3. ครสู รุปหลักการในการเรียกชือ่ สารประกอบไอออนิก ซึง่ สามารถอ่านได้ 2 กรณี ดังนี้ • สารประกอบธาตุคู่ - ถา้ สารประกอบเกิดจากธาตโุ ลหะทมี่ ไี อออนได้ชนิดเดียวรวมกบั อโลหะ ให้อ่าน ชอ่ื โลหะท่เี ปน็ ไอออนบวก แลว้ ตามด้วยชื่อธาตุอโลหะท่ีเปน็ ไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางคท์ ้ายเป็น ไอด์ (- ide) เช่น โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) แคลเซยี มไอโอไดด์ (CaI2) โพแทสเซยี มโบรไมด์ (KBr) - ถา้ สารประกอบที่เกิดจากธาตุโลหะเดยี วกันทมี่ ีไอออนได้หลายชนิดรวมตัวกับ อโลหะ ให้อา่ นช่ือโลหะที่เป็นไอออนบวก แลว้ ตามด้วยคา่ ประจุของไอออนของโลหะ โดยวงเลบ็ เป็นเลขโรมัน แล้วตามด้วยอโลหะที่เป็นไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไอด์ (-ide) เช่น ไอร์ออน (II) คลอไรด์ (FeCl2) คอปเปอร์ (I) ซัลไฟด์ (CuS) ไอร์ออน (III) คลอไรด์ (FeCl3) • สารประกอบธาตสุ าม หรือมากกว่า ถ้าสารประกอบเกิดจากไอออนบวกของโลหะ หรือกลุ่มไอออนบวกรวมตัวกบั กลุม่ ไอออนลบ ให้อ่านชื่อไอออนบวกของโลหะ หรือชื่อกลุ่มไอออนบวก แล้ว ตามด้วยกลุ่มไอออนลบ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) โพแทสเซียมไนเตรต (KNO3) แบเรียมไฮดรอก ไซด์ (Ba(OH)2) 3. ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 1. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายและเขียนสูตรเอมพิริคลั ของสารประกอบไอออนิกทีเ่ กิดจากธาตุ หมู่ IA IIA และ IIIA กบั ธาตุหมู่ VA โดยให้ M แทนธาตหุ มู่ IA IIA หรือ IIIA และ X แทนธาตหุ มู่ VA ซึง่ นกั เรียน ควรเขียนได้ ดังนี้ M3X M3X2 และ MX 2) จงเรียกชื่อสารประกอบไอออนิกต่อไปนี้ Al(OH)3 CuSO4 NH4NO3 CoCl2 Na3O2 และ CaF2 (แนวตอบ : Al(OH)3 = อะลมู ิเนยี มไฮดรอกไซด์ CuSO4 = คอปเปอร์ (II) ซลั เฟต NH4NO3 = แอมโมเนยี มไนเตรต CoCl2 =โคบอลต์ (II) คลอไรด์ Na3O2 = โซเดยี มออกไซด์ CaF2 = แคลเซียมฟลูออไรด์) 4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. นักเรียนทำใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง การเขยี นสูตรและการเรยี กชอ่ื สารประกอบไอออนกิ

5. ขัน้ ประเมนิ (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการรว่ มกันทำผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง การเขียนสตู รและการเรียกช่ือสารประกอบ ไอออนิก 10. วสั ดุ อปุ กรณ์ สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนวชิ า เคมี ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง พนั ธะเคมี 2) PowerPoint เร่ือง การเขยี นสูตรและการเรียกชือ่ สารประกอบไอออนิก 3) ใบงานท่ี 3.2 เรื่อง การเขียนสตู รและการเรยี กช่อื สารประกอบไอออนกิ 4) วธิ กี ารเข้าเรยี นออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 5) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ การวัดและการประเมนิ ผล การวดั ผล วธิ ีการวัด เครอื่ งมือทีใ่ ช้วดั เกณฑ์การวัดและ การประเมินผล ประเมนิ ผลดา้ น และการประเมนิ ผล และการประเมินผล ได้คะแนนร้อยละ 60 ข้ึนไป 1. ดา้ นความรู้ (K) 1. ตรวจคำตอบในใบงานที่ 1. ใบงานที่ 3.2 เรือ่ ง การ ได้คะแนนรอ้ ยละ 3.2 เรื่อง การเขยี นสูตรและ เขียนสูตรและการเรียกชือ่ 60 ขึ้นไป การเรียกช่ือสารประกอบไอออ สารประกอบไอออนิก ระดับคณุ ภาพ ดี ขน้ึ ไป นกิ 2. ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ตรวจคำตอบในใบงานท่ี 1. ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การ 3.2 เรอ่ื ง การเขยี นสูตรและ เขียนสตู รและการเรยี กชื่อ การเรียกชอ่ื สารประกอบไอออ สารประกอบไอออนกิ นิก 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั การสังเกตพฤตกิ รรมการมี แบบสงั เกตพฤติกรรมการ พงึ ประสงค์ (A) สว่ นรว่ มในการทำงานเปน็ มสี ว่ นร่วมในการทำงาน กลุ่ม เปน็ กลุ่ม การสังเกตพฤตกิ รรมเป็น แบบสังเกตพฤตกิ รรมเป็น รายบุคคล รายบุคคล

ใบงานท่ี 3.2 เรือ่ ง การเขียนสูตรและการเรยี กช่อื สารประกอบไอออนิก ช่อื ………………………..………..………นามสกุล............................................เลขท.ี่ ..............................ชน้ั .................. คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรมท่ีได้ใหถ้ กู ตอ้ ง NaNO2 Mn2O7 แอมโมเนียมฟอสเฟต Al3+ NH4+ อะลมู ิเนยี มไฮดรอกไซด์ Ba3(PO4)2 Br- กลมุ่ อะตอมไอออนบวก HCO3- K+ TiCl4 CuS ไอออนลบ กล่มุ อะตอมไอออนลบ N3- ไอออนบวก Fe(OH)3 โซเดียมซลั เฟต แมกนีเซียมไนเทรต 1.________________________ อ่านตามช่ือธาตแุ ล้วลงท้ายดว้ ย ไอออน 2.________________________ อา่ นตามชอื่ ธาตโุ ดยเปล่ียนทา้ ยเสยี งเปน็ ไ-ด์ แล้วลงท้ายดว้ ยคำวา่ ไอออน 3.________________________ อะลมู เิ นยี มไอออน 4.________________________ โพแทสเซยี มไอออน 5. ________________________ อ่านชือ่ โดยเปลย่ี นคำลงท้ายเป็นไ-ด์ ไ-ต์ หรือเ-ต 6. ________________________ แอมโมเนียมไอออน 7. _______________________ ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน 8. _______________________ คอปเปอร์(II)ซัลไฟด์ 9. _______________________ ไอรอ์ อน(III)ไฮดรอกไซด์ 10. _______________________ Al(OH)3 11. _______________________ Na2SO4

เฉลยใบงานที่ 3.2 เรื่อง การเขียนสตู รและการเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก ชอื่ ………………………..………..………นามสกุล............................................เลขที่...............................ชนั้ .................. คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรมทไี่ ด้ให้ถูกต้อง NaNO2 Mn2O7 แอมโมเนยี มฟอสเฟต Al3+ NH4+ อะลมู ิเนียมไฮดรอกไซด์ Ba3(PO4)2 Br- กล่มุ อะตอมไอออนบวก HCO3- K+ TiCl4 CuS ไอออนลบ กลมุ่ อะตอมไอออนลบ N3- ไอออนบวก Fe(OH)3 โซเดียมซัลเฟต แมกนีเซยี มไนเทรต 1. ไอออนบวก อา่ นตามช่อื ธาตแุ ล้วลงท้ายด้วย ไอออน 2. ไอออนลบ อ่านตามช่อื ธาตโุ ดยเปลยี่ นท้ายเสียงเป็น ไ-ด์ แลว้ ลงทา้ ยดว้ ยคำวา่ ไอออน 3. Al3+ อะลูมิเนียมไอออน 4. . K+ โพแทสเซยี มไอออน 5. กลุ่มอะตอมไอออนลบ อ่านช่ือโดยเปล่ียนคำลงท้ายเปน็ ไ-ด์ ไ-ต์ หรือเ-ต 6. NH4+ แอมโมเนยี มไอออน 7. HCO3- ไฮโดรเจนคารบ์ อเนตไอออน 8. CuS คอปเปอร(์ II)ซลั ไฟด์ 9. Fe(OH)3 ไอรอ์ อน(III)ไฮดรอกไซด์ 10. อะลมู ิเนียมไฮดรอกไซด์ Al(OH)3 11. Al3+ Na2SO4

แบบประเมินการทำโจทย์ปญั หา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี........................ วันท่.ี ......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. ลำดับท่ี ช่อื – สกุล คะแนน 1 4 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../................... การให้คะแนน/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดีมาก (4) วเิ คราะห์โจทย์ได้ วเิ คราะห์โจทย์ และ วิเคราะหโ์ จทย์ เลอื กใช้ วเิ คราะห์โจทย์ เลอื กใช้ ถกู ตอ้ ง เลอื กใชว้ ิธกี ารหา วิธีการหาคำตอบ และ วิธีการหาคำตอบ คำนวณ คำตอบได้ถกู ตอ้ ง คำนวณไดถ้ ูกต้อง และสรุปคำตอบไดถ้ กู ต้อง

แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มีสว่ นรว่ ม รวม ระดบั ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซักถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรียนคุย ไมส่ นใจในการเรยี น หรือเล่นกนั ในขณะ กนั เล็กนอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเล่นกนั 2. ความสนใจ เรียน เรียน ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน และการซกั ถาม บางคร้ัง 3. การตอบ มกี ารถามในหวั ขอ้ ทตี่ น มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มีการถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ที่ คำถาม ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ ไม่เขา้ ใจทุกเร่อื งและ ตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น บางคร้งั และไม่คอ่ ย กล้าแสดงออก 4. มสี ว่ นรว่ มใน กลา้ แสดงออก กิจกรรม กล้าแสดงออก สว่ นมากและกลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเร่อื ง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม เรือ่ งท่ีครูถามเปน็ ทค่ี รถู ามและตอบ เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ บางครั้งและตอบ คำถามถกู เป็น คำถามถูกทุกขอ้ ตอบคำถามส่วนมาก บางครงั้ ถูก รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และช่วยเหลือ รว่ มมือและช่วยเหลือ ไมม่ ีความรว่ มมอื เพ่ือนในการทำ เพ่ือนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพื่อนในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางครั้ง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ภาคเรียนท่.ี .................ปีการศกึ ษา................. ชื่อ-สกลุ นักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี / ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คา่ เฉล่ีย อันพึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรกั และภมู ิใจในความเปน็ ชาติ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบัน กษตั รยิ ์ พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซอื่ สัตย์สุจริต 1.3 ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อนื่ 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของห้อง 4. ใฝห่ าความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความร้อู ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรู้คณุ ค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6. มุ่งม่ัน 6.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั ในการทำงาน มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่อื ให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเป็น 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญา ไทย ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู กั การให้เพ่ือส่วนรวม และเพอ่ื ผู้อ่ืน 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผอู้ ่นื 8.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพ่อื ส่วนรวมเมอ่ื มี โอกาส รวมคะแนน ลงช่อื ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ที่ 19 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง พนั ธะเคมี เรอ่ื ง พลังงานการเกิดพันธะไอออนกิ รายวชิ า เคมี 1 รหัส ว31223 เวลา 2 ชัว่ โมง ครูผูส้ อน นาย วชั รพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรยี นรู้ - คำนวณพลังงานท่เี กยี่ วขอ้ งกับปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวฏั จกั รบอรน์ -ฮาเบอร์ 2. สาระการเรียนรู้ - ปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากธาตุเกี่ยวข้องกับปฏกิ ิริยาเคมีหลายขั้นตอน มีทั้งที่เปน็ ปฏิกิรยิ าดูดพลงั งานและคายพลงั งาน ซง่ึ แสดงไดด้ ้วยวฏั จกั รบอร์น-ฮาเบอร์ และพลงั งานของปฏิกิรยิ าการเกิด สารประกอบไอออนกิ เปน็ ผลรวมของพลงั งานทุกขน้ั ตอน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายเก่ียวกบั การเปลี่ยนแปลงพลังงานในการเกดิ สารประกอบไอออนกิ ได้ ดา้ นทักษะ (Process) 2. เขียนแผนภาพแสดงพลงั งานที่เกดิ ขึน้ ในการเกิดสารประกอบไอออนิกได้ ด้านเจตคติ (Affective) 3. ตั้งใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ 4. สาระสำคญั หรอื ความคิดรวบยอด ปฏิกิริยาเคมีนอกจากจะเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง พลงั งานด้วย ซ่ึงพลงั งานการเกดิ (Heat of Formation) ของสารประกอบไอออนกิ จะหาได้จากการทดลองใน การทำปฏกิ ิรยิ าระหว่างธาตุ เช่น Na(s) + 1/2Cl2 (g) → NaCl(s) เป็นต้น ปฏิกิริยาเคมีจะเกี่ยวขอ้ งกับการสลายและการสร้างพนั ธะ ซึ่งการสลายพันธะจะเป็นกระบวนการดดู พลงั งาน ในขณะทก่ี ารสรา้ งพันธะจะเปน็ การคายพลงั งาน ดังนัน้ ปฏิกริ ิยาทเี่ กดิ จากการรวมกันของไอออนบวก กับไอออนลบ เกิดเป็นสารประกอบไอออนกิ เป็นปฏิกิริยาคายพลังงาน โดยพลังงานทีไ่ อออนบวกและไอออน ลบยึดติดกันเป็นโครง ผลึกนั้นเราจะเรียกว่า”พลังงานโครงผลึก”ซึ่งในทางปฏิบัติเราไม่สามารถนาไอออน บริสุทธิ์มาทำปฏิกิริยากันได้จึงต้อง เป็นค่าพลังงานที่ได้จากการคำนวณอาศัยปฏิกิริยาย่อย ๆ ตามวัฏจักร บอร์น-ฮาเบอรโ์ ดยมีสมมตฐิ านว่า พลังงานรวม ในแต่ละขั้นตอนจะเท่ากับพลังงานในการเกดิ สารประกอบไอ ออนกิ ซ่ึงข้นั ตอนของวัฏจกั รบอร์น-ฮาเบอร์แบ่งออกเปน็ 5 ขน้ั ตอน ดงั น้ี 1.พลงั งานการระเหดิ (Heat of Sublimation) 2.พลงั งานไอออไนเซชน่ั (Ionization Energy, IE) 3.พลังงานพนั ธะ (Bond Energy) 4.พลงั งานสัมพรรคภาพอิเลก็ ตรอน (Electron Affinity, EA) 5.พลงั งานโครงผลกึ หรือพลังงานแลตทิซ (Lattice Energy)

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ความซอ่ื สัตย์สุจรติ  มวี นิ ัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมนั่ ในการทำงาน มจี ติ สาธารณะ  ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย 7. แนวความคิดเพ่อื การเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21  ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม  สาระวชิ าหลกั (Core Subjects) ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ  ทกั ษะด้านสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้ พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของ ร.10  ดา้ นท่ี 1 มที ัศนคตทิ ่ีถกู ตอ้ งต่อบา้ นเมือง  ด้านท่ี 2 มีพนื้ ฐานชวี ิตที่ม่นั คง มีคณุ ธรรม  ด้านที่ 3 มีงานทำ มอี าชีพ  ด้านท่ี 4 เปน็ พลเมืองดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ (หลกั สูตรท้องถนิ่ ) หลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา  สะเต็มศกึ ษา

9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) 1. ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูเปิดวีดีโอเกี่ยวกับการเกิดสารประกอบ NaCl จาก ปฏิกิริยาระหว่างโลหะโซเดียมกับ แก๊สคลอรีน 2. ครูถามคำถามกระตุ้นนักเรียนว่า การเกิดสารประกอบโซเดียมคลอไรด์มีกระบวนการ ใดบ้างเข้ามาเกย่ี วข้อง (แนวคำตอบ : มกี ารเปลี่ยนสถานะของสาร มกี ารดดู หรือคายพลังงานจากการสร้าง หรอื สลายพนั ธะ มีการแตกตัวเป็นไอออน) 2. ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นจับคกู่ บั เพอื่ น แล้วศกึ ษาเรอื่ ง พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก จาก หนงั สอื เรียนเคมี ม.4 เล่ม 1 หน้า 151-153 2. ครูสุม่ ให้นกั เรียนทกุ คนรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั พลงั งานในการเกดิ โซเดียมคลอไรด์ โดยครู คอยช่วยเสริมความรู้ จนนักเรียนทกุ คนเกดิ ความเขา้ ใจท่ถี ูกต้องตรงกัน 3. ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 1. ครูตัง้ คำถามให้นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายเรื่องพลงั งานกบั การเกดิ สารประกอบไอออนกิ เชน่ 1) พลังงานในการเกดิ สารประกอบไอออนกิ มกี ขี่ ั้นตอน อะไรบา้ ง และแต่ละข้นั ตอน เปน็ ปฏิกริ ิยาประเภทใด (แนวตอบ : 5 ขนั้ ตอน ดังน้ี - พลังงานการระเหิด เป็นพลงั งานท่ตี ้องใชใ้ นการเปลยี่ นสถานะของสารจาก ของแขง็ ให้กลายเปน็ ไอโดยไม่ตอ้ งผ่านสภาวะของเหลว ซึ่งเป็นปฏิกริ ยิ าดูดพลงั งาน - พลังงานการสลายพันธะ เปน็ พลังงานที่ทำใหโ้ มเลกลุใหญแ่ ตกตัวเปน็ โมเลกุล เล็กลง หรอื เป็นอะตอม ซง่ึ เปน็ ปฏิกริ ิยาดดู พลงั งาน - พลงั งานไอออไนเซชัน เป็นพลงั งานทีต่ ้องใช้เพื่อดึงอเิ ล็กตรอนวงนอกสุดออก จากอะตอมในสภาวะแกส๊ กลายเปน็ ไอออนบวกในสภาวะแก๊ส ซึ่งเปน็ ปฏกิ ริ ยิ าดูดพลังงาน - พลงั งานสมั พรรคภาพอเล็กตรอน เป็นพลงั งานทีใ่ หอ้ อกมาเม่อื อะตอมของ ธาตใุ นสภาวะแก๊สรบั อเิ ลก็ ตรอน กลายเป็นไอออนลบในภาวะแก๊ส ซ่งึ เปน็ ปฏิกริ ยิ าคายพลงั งาน - พลงั งานโครงผลกึ หรือพลังงานแลตทิซ เป็นพลังงานทีใ่ หอ้ อกมาเม่ือไอออนท่ี เป็นแกส๊ รวมตวั กันกลายเปน็ ผลกึ ของแขง็ ไอออนิก ซึ่งเป็นปฏิกิรยิ าคายพลังงาน) 2) สารประกอบไอออนิกทีม่ ีจดุ หลอมเหลวสูงจะมีพลงั งานแลตทซิ เป็นอยา่ งไร (แนวตอบ : สารประกอบไอออนิกที่มีจุดหลอมเหลวสูงจะมีพลงั งานแลตทซิ สงู 2. ครูให้ความรเู้ พ่ิมเตมิ เกย่ี วกบั พลงั งานกับการเกิดสารประกอบไอออนกิ ซงึ่ เมื่อเรยี นจบ หัวข้อนีแ้ ล้วนกั เรียนควรสรปุ สาระสำคัญได้ ดังน้ี • การเกิดสารประกอบไอออนกิ มปี ฏกิ ริ ิยาเกิดข้นึ หลายข้นั ตอน ในแต่ละขนั้ ตอนจะมี การเปลยี่ นแปลงพลังงาน โดยอาจเป็นการดูดพลงั งานหรอื คายพลังงาน • ปฏกิ ิรยิ าที่มีการดูดพลงั งานมากกวา่ การคายพลังงาน จดั เปน็ ปฏิกริ ิยาแบบดูด พลงั งาน คา่ ∆H จะมีค่าเปน็ บวก • ปฏิกิรยิ าที่มีการดูดพลงั งานน้อยกวา่ การคายพลังงาน จดั เป็นปฏิกิรยิ าแบบคาย พลังงาน คา่ ∆H จะมคี ่าเปน็ ลบ

4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก จากนั้นเขียนวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์แสดงการเกิด สารประกอบไอออนิกของสารตอ่ ไปนี้ • LiF • CaS • MgCl2 • Al2O3 แลว้ บันทึกลงในสมดุ ส่งในชว่ั โมงถดั ไป 5. ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการรว่ มกันทำผลงาน 2. ครวู ดั และประเมินผลจากชน้ิ งานท่นี ักเรยี นไดส้ ร้างข้นึ จากขน้ั ขยายความเข้าใจ 10. วัสดุ อปุ กรณ์ สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี นวชิ า เคมี ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง พันธะเคมี 2) PowerPoint เรือ่ ง พลงั งานการเกิดสารประกอบไอออนิก 3) Youtube : https://www.youtube.com/watch?v=S-NXaZl4pPY เร่ือง การเกดิ โซเดยี ม คลอไรด์ NaCl 4) วธิ กี ารเขา้ เรียนออนไลน์ : http://www.ky.ac.th/datashow_65268 4) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ การวดั และการประเมนิ ผล การวัดผล วิธีการวัด เครอ่ื งมอื ท่ใี ชว้ ัด เกณฑ์การวัดและ และการประเมนิ ผล การประเมนิ ผล ประเมนิ ผลดา้ น และการประเมนิ ผล 1. แบบประเมินรายบุคคล ได้คะแนนร้อยละ 1. ด้านความรู้ (K) 1. การมีสว่ นรว่ มเมือ่ ครถู าม 60 ข้ึนไป 2. ด้านทกั ษะ (P) 1. การสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม 1. สมดุ บันทกึ ของนักเรยี น ได้คะแนนรอ้ ยละ จากแหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ 60 ขน้ึ ไป เกีย่ วกับพลงั งานกับการเกดิ สารประกอบไอออนกิ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ มสี ่วนรว่ มในการทำงาน ดี ข้นึ ไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอัน การสังเกตพฤตกิ รรมการมี เปน็ กลุ่ม พงึ ประสงค์ (A) ส่วนรว่ มในการทำงานเป็น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเป็น กลมุ่ รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรมเป็น รายบุคคล

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่........................ วนั ที.่ ......................เดือน................................................พ.ศ.................................. การ การ ความ การมี แสดง การ ทำงาน ลำดบั ช่ือ–สกุล ความ มี ส่วนรว่ มใน รวม ท่ี คิดเห็น ยอมรับฟงั ตามที่ นำ้ ใจ การปรบั ปรุง (15) (3) คนอนื่ ไดร้ ับ (3) ผลงานกลมุ่ (3) มอบหมาย (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชื่อ...........................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่........................ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูว้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลำดับ ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นรว่ ม รวม ระดบั ท่ี ในการ และการ คำถาม ใน (16) คุณภาพ เรยี น (4) ซักถาม (4) (4) กจิ กรรม (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ .............................................ผปู้ ระเมิน (………………………………………………………………) ...................../..................../...................

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรียนท่ีไดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถอื ว่า ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (Rubric) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน การเรยี น สนใจในการเรียนไม่คุย สนใจในการเรยี นคุย สนใจในการเรยี นคุย ไม่สนใจในการเรียน 2. ความสนใจ หรอื เล่นกนั ในขณะ กนั เลก็ นอ้ ยในขณะ กนั และเลน่ กัน คุยและเลน่ กัน และการซักถาม เรยี น เรยี น ในขณะเรียนเป็น ในขณะเรียน 3. การตอบ คำถาม บางคร้งั 4. มสี ่วนรว่ มใน มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ตน มีการถามในหัวขอ้ ท่ี มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ ไมถ่ ามในหัวข้อที่ กจิ กรรม ไม่เข้าใจทกุ เรอ่ื งและ ตนไม่เขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางคร้งั และไมค่ อ่ ย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก รว่ มตอบคำถามในเรื่อง ร่วมตอบคำถามใน ร่วมตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม ทีค่ รถู ามและตอบ เรือ่ งทีค่ รูถามและ เรื่องทค่ี รูถามเปน็ คำถามถูกทกุ ขอ้ ตอบคำถามสว่ นมาก บางคร้ังและตอบ ถกู คำถามถกู เปน็ บางครง้ั ร่วมมือและชว่ ยเหลอื รว่ มมือและช่วยเหลือ ร่วมมือและชว่ ยเหลือ ไม่มคี วามร่วมมือ เพอื่ นในการทำ เพอ่ื นเป็นส่วนใหญใ่ น เพ่อื นในการทำ ในขณะทำกิจกรรม กิจกรรม การทำกิจกรรม กจิ กรรมเปน็ บางครง้ั

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาคเรยี นที.่ .................ปีการศึกษา................. ชือ่ -สกุลนักเรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่....................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี / ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน ค่าเฉลย่ี อนั พึงประสงค์ 3210 1.1 มีความรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.3 ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผู้อนื่ 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า 6. ม่งุ ม่ัน 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ บั 7. รกั ความเปน็ มอบหมาย ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งาน 8. มีจติ สำเร็จ สาธารณะ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักการให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผ้อู ่นื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การใหค้ วามช่วยเหลือ ผอู้ น่ื 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมี โอกาส รวมคะแนน ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………………………………………) ...................../..................../...................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม - คะแนน 21 – 24 ระดับคุณภาพ ดี - คะแนน 20 – 22 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ - คะแนน 12 – 19 ระดับคณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ - คะแนน 0 – 11





แผนการจัดการเรยี นรอู้ อนไลน์ที่ 20 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง พันธะเคมี เรื่อง สมบตั ขิ องสารประกอบไอออนิก รายวชิ า เคมี 1 รหสั ว31223 เวลา 2 ชวั่ โมง ครูผ้สู อน นาย วัชรพงษ์ โสนทอง 1. ผลการเรยี นรู้ - อธิบายสมบัตขิ องสารประกอบไอออนิก 2. สาระการเรียนรู้ - สารประกอบไอออนิกส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นผลึกของแข็ง เปราะ มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง ละลายน้ำแล้วแตกตัวเป็นไอออน เรียกว่า สารละลายอิเล็กโทรไลต์ เมื่อเป็นของแข็งไม่นำไฟฟ้า แต่ถ้าทำให้ หลอมเหลวหรอื ละลายในน้ำจะนำไฟฟ้า - สารละลายของสารประกอบไอออนิกแสดงสมบัติความเป็นกรด–เบสต่างกัน สารละลายของ สารประกอบคลอไรด์มสี มบตั ิเปน็ กลาง และสารละลายของสารประกอบออกไซดม์ ีสมบตั เิ ปน็ เบส 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายเก่ยี วกบั สมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิกได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. ทำการทดลองและอธิบายเก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงพลงั งานของสารประกอบไอออนกิ เมื่อละลาย นำ้ ได้ ดา้ นเจตคติ (Affective) 3. ตั้งใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ 4. รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย 4. สาระสำคัญหรือความคดิ รวบยอด สารประกอบไอออนิกท่สี ่วนใหญ่เป็นผลกึ ทแี่ ขง็ เนอ่ื งจากการยึดเหนย่ี วที่แข็งแรงระหว่างไอออนบวก และไอออนลบ แตผ่ ลกึ ของสารประกอบไอออนิกมีความเปราะ แตกหกั ไดง้ ่าย ไม่นาํ ไฟฟา้ เมอื่ เป็นของแข็ง แต่ นําไฟฟ้าไดเ้ มอ่ื หลอมเหลวหรือละลายในน้ำ มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง ละลายน้ำแลว้ แตกตวั เป็นไอออน เรียกว่า สารละลายอิเล็กโทรไลต์ แต่ถ้าทำให้หลอมเหลวหรือละลายในน้ำจะนำไฟฟ้า สารละลายของ สารประกอบไอออนิกแสดงสมบัติความเปน็ กรด–เบสตา่ งกนั สารละลายของสารประกอบคลอไรด์มสี มบัติเป็น กลาง และสารละลายของสารประกอบออกไซดม์ สี มบตั เิ ป็นเบส 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์  ความซอื่ สัตยส์ ุจริต  มีวินยั ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง  มุง่ มน่ั ในการทำงาน มีจิตสาธารณะ  ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย 7. แนวความคิดเพ่ือการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21  ทกั ษะด้านการเรยี นรูแ้ ละนวตั กรรม  สาระวชิ าหลกั (Core Subjects) ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชีพ  ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรียนรู้ พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของ ร.10  ด้านที่ 1 มที ัศนคติท่ีถกู ต้องตอ่ บา้ นเมือง  ดา้ นที่ 2 มีพ้นื ฐานชวี ิตที่มน่ั คง มีคณุ ธรรม  ดา้ นท่ี 3 มงี านทำ มอี าชีพ  ด้านที่ 4 เปน็ พลเมืองดี หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั สตู รเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ (หลักสูตรท้องถน่ิ ) หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา  สะเตม็ ศกึ ษา 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน โดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) 1. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูนำรูปสารประกอบไอออนิกที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เกลือแกงหรือโซเดียมคลอ ไรด์ (NaCl) โซดาไฟหรือโซดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) อะลูมินาหรืออะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3) ดินประสิว หรือ โพแทสเซยี มไนเตรต (KNO3) มลิ คอ์ อฟแมกนเี ซยี หรือแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2) เป็นตน้ มาให้ นกั เรียนพจิ ารณา แล้วต้งั คำถามกระต้นุ ความสนใจของนักเรียน ดังน้ี 1) สารประกอบไอออนิกมสี มบัติเปน็ อย่างไร (แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนักเรียน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน โดยมีแนวตอบ คือ มีสถานะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง เปราะและแตกหักง่าย มีจุดเดือดและจุด

หลอมเหลวสูง ละลายนำ้ ได้แตกตา่ งกัน บางชนดิ ละลายไดด้ ี บางชนิดละลายไดน้ อ้ ย และบางชนิดไม่ละลายน้ำ เป็นต้น) 2. เมื่อนักเรียนทราบแล้วว่าวันนี้จะมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ครูอธิบายเน้นย้ำอีกครั้ง หน่ึงเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่าจากที่ครูได้ต้ังคำถามให้นักเรียนตอบไปเมื่อสักครู่ วันนี้ครูจะพานักเรียนไป ค้นหา สมบัติของสารประกอบไอออนิก 2. ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง สมบัติของสารประกอบไอออนิก จากหนังสือเรียนเคมี ม.4 เล่ม 1 หนา้ 154-155 2. นักเรียนร่วมกันอภปิ รายถึงสมบัติของสารประกอบไอออนิก โดยครูคอยให้คำเสนอแนะ ซ่ึงเมื่ออภิปรายจบนักเรียนควรสรุปสาระสำคญั ได้ ดังนี้ • สารประกอบไอออนิกมีสถานะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง และมีจุดเดือดและจุด หลอมเหลวสงู เน่ืองจากพนั ธะไอออนกิ เกดิ จากแรงยดึ เหนยี่ วของประจุไฟฟา้ ซึง่ มคี วามแขง็ แรงสูง จึงทำให้แยก ออกจากกนั ได้ยาก • สารประกอบไอออนิกประกอบด้วยไอออนบวกและไอออนลบยึดเหนี่ยวกันอย่าง แข็งแรง เมื่อทุบผลึกของสารประกอบไอออนิก ไอออนชนิดเดียวกันจะเลื่อนไปอยู่ตรงกัน จึงเกิดแรงผลัก ระหวา่ งไอออน จึงทำใหผ้ ลึกเปราะและแตกได้งา่ ย • สารประกอบไอออนิกเมื่อเป็นของแข็งจะไม่นำไฟฟ้า เนื่องจากไอออนที่เป็น องค์ประกอบยึดเหนีย่ วกันอย่างแข็งแรง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนทีไ่ ด้ แต่เมื่อทำให้หลอมเหลวหรือละลายนำ้ ไอออนจะสามารถเคล่ือนทีไ่ ด้ จึงนำไฟฟ้าได้ • สารประกอบไอออนิกมสี ภาพการละลายนำ้ ได้แตกต่างกนั บางชนิดมสี ภาพละลายได้ ดี บางชนิด มสี ภาพละลายได้ต่ำ และบางชนดิ ไม่ละลายในนำ้ 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แล้วให้นักเรียนดูวีดีโอจาก Youtube เรื่อง การละลาย ของสารประกอบไอออนกิ ในน้ำ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน มานำเสนอผลการทดลอง หลังจากนั้นให้นักเรียนทุกคน รว่ มกันอภปิ รายผลการทดลองจนมคี วามเขา้ ใจทต่ี รงกัน 5. นักเรียนศึกษาเรือ่ ง การละลายของสารประกอบไอออนกิ ในนำ้ จากหนังสือเรียนเคมี ม.4 เลม่ 1 หน้า 157-159 3. ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกบั การละลายของสารประกอบไอออนกิ ในนำ้ ซง่ึ เม่ือ อภิปรายจบนักเรยี นควรสรุปสาระสำคญั ไดว้ ่า • การละลายของสารประกอบไอออนกิ ในน้ำประกอบดว้ ย 2 ขัน้ ตอน ดงั น้ี ข้ันท่ี 1 ผลึกของสารประกอบไอออนิกสลายตัวออกเปน็ ไอออนบวกและไอออนลบ ในสภาวะแก๊ส ข้ันนต้ี อ้ งใช้พลงั งานเพื่อสลายผลกึ โดยพลงั งานที่ใชน้ ี้ เรยี กว่า พลังงานโครงร่างผลกึ (lattices energy; E1) ขั้นที่ 2 ไอออนบวกและไอออนลบในสภาวะแก๊สรวมตัวกับน้ำ ขั้นนี้มีการคาย พลงั งาน โดยพลงั งานทีค่ ายออกมา เรยี กว่า พลงั งานไฮเดรชัน (hydration energy; E2) • การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิก อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูด ความรอ้ น หรือคายความร้อนกไ็ ด้ ข้ึนอย่กู บั ค่าพลังงานแลตทิซและพลงั งานไฮเดรชัน ซ่ึงสามารถพิจารณาได้ ดังน้ี - ถ้า E1 > E2 จดั เป็นการเปล่ียนแปลงประเภทดูดความรอ้ น - ถา้ E1 < E2 จดั เปน็ การเปลย่ี นแปลงประเภทคายความร้อน - ถา้ E1 = E2 ไม่มีการเปลีย่ นแปลงพลังงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook