Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ออนไลน์ จ.นครปฐม...ม.ปลาย (ฉบับสมบูรณ์)

ออนไลน์ จ.นครปฐม...ม.ปลาย (ฉบับสมบูรณ์)

Published by titirat.1990boontip, 2021-12-02 04:05:06

Description: ออนไลน์ จ.นครปฐม...ม.ปลาย (ฉบับสมบูรณ์)

Search

Read the Text Version

548 548 วิชา ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท่ี 4 กจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื ง ประเพณดี อนตูมขอเรา ช่ือ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คําชีแ้ จง จงตอบคําถามตอไปนใี้ หถกู ตอ ง จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ประเพณีดอนตูมของเรามีความหมายวา อยา งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ประเพณดี อนตมู ของเรามีความสาํ คญั อยางไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. ใหผ เู รยี นบอกความสําคัญของประเพณดี อนตูมของเราวา มอี ะไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. ข้นั ตอนที่สําคญั พิธีงานศพของไทย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. นกั ศกึ ษาบอกถึงการแตงกายไปรว มงานศพของไทยไดท ี่ถกู ตอง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

บทเรยี นออนไลนท่ี 4 549 549 วชิ า ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย เฉลยกจิ กรรมที่ 2 เร่อื ง ประเพณดี อนตมู ขอเรา ชือ่ -นามสกุล............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คําชแี้ จง จงตอบคําถามตอ ไปน้ีใหถูกตอง จาํ นวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ประเพณีดอนตมู ของเรามีความหมายวา อยางไร ตอบ กจิ กรรมที่ประชาชนในอําเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ยึดถือและปฏิบัติสืบเนื่องตอกันมา จนเปน แบบแผนทย่ี อมรบั กนั วาเปนส่งิ ถูกตอง ดีงาม แบง ออกตามกลมุ ประชาชนทอี่ าศัยอยูในอําเภอ ดอนตมู จังหวดั นครปฐม ไดแ ก ประเพณีไทย ประเพณีลาวครง่ั และประเพณไี ทดาํ 2. ประเพณดี อนตูมของเรามคี วามสําคัญอยางไร ตอบ ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตมู ของเรา มีความสําคญั ตอวถิ ชี ีวติ ความเปน อยขู องประชาชน ชาวอําเภอดอนตูม จังหวดั นครปฐม เนือ่ งจากเปนปจจัยสําคัญท่ีจะธํารงรักษาส่ิงดีงามใหคงอยูคูกับ อําเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม และสืบสานไปสูประชาชนชาวอําเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ในอนาคตตอ ๆ ไป 3. ใหผเู รยี นบอกความสาํ คัญของประเพณดี อนตมู ของเราวา มอี ะไรบา ง ตอบ 1. ความเปนสิริมงคล ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตูมของเรา มีความเกี่ยวของกับ พระพุทธศาสนา รวมทงั้ ความเชื่อทว่ี าเม่ือทําพิธีกรรมตาง ๆ ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแลว จะเกิดเปน ความเปนสริ ิมงคลแกช วี ติ 2 ความรักความสามคั คี ความเสียสละ ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตูมของเรา เปนเคร่ือง ฝก จติ ใจใหร ูจักเปนผเู สยี สละ จะเห็นไดจากงานบุญหรืองานอวมงคลตาง ๆ มักเกิดจากการรวมมือ รวมแรง รวมใจกัน เชน ประเพณีงานศพ ประเพณีทําบุญกลางบาน ประเพณีเสนเรือน ทําใหเกิด ความรัก ความสามัคคีระหวางกลุมประชาชนชาวอําเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ท่ีรวมพิธีนั้นๆ 3 การมีสัมมาคารวะ ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตูมของเรา แสดงถึงความนอบนอม ออนโยน ความมีมารยาททีด่ งี าม เชน ประเพณีแหธ งสงกรานต ประเพณีกินดอง .4 การอยูในกรอบของพฤติกรรมท่ดี ีงาม ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตูมของเรา ชวยทําให ประชาชนชาวอําเภอดอนตมู จังหวัดนครปฐม อยใู นกรอบที่ดงี าม ถอื วาเปนเคร่ืองกําหนดพฤติกรรม ไดอ ยา งหน่งึ 5 สรางความเปนรสู กึ รักถน่ิ เกิด ขนบธรรมเนียมประเพณีดอนตูมของเรา ถึงแมวาจะมีความ แตกตา งกนั ตามกลุมประชาชน คอื คนไทย ลาวคร่งั และไทยดํา แตทุกคนก็มีความรูสึกวาทุกคนเปน ประชาชนชาวอําเภอดอนตมู จังหวัดนครปฐม มคี วามเปนอนั หน่งึ อันเดียวกนั อันจะนําไปสูความรูสึก รกั ถนิ่ เกดิ ไดใ นทีส่ ุด

550 550 วิชา ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท่ี 4 4. ข้นั ตอนทีส่ าํ คญั พธิ ีงานศพของไทย ตอบ การจัดงานศพในพ้ืนที่อําเภอดอนตูม จะจัดงานตามประเพณีนิยม และตามฐานะของ ผจู ัดงาน เพ่ือเปนการใหเกยี รติแกผตู ายและเปน การไวอ าลัยเปน คร้งั สุดทา ย มี 6 ขน้ั ตอนคือ 1) การแจง ตาย 2) การนาํ ศพไปวดั หรือกลบั บาน 3) การอาบน้ําศพ การรดนํ้าศพ 4) การจัดงานบําเพ็ญกศุ ลสวดอภิธรรม 5) การฌาปนกิจศพ 6) การเก็บอฐั ิ 5. นักศกึ ษาบอกถงึ การแตง กายไปรวมงานศพของไทยไดทถี่ กู ตอ ง ตอบ เลือกชุดสุภาพ เรียบรอย ถูกกาลเทศะ หลกี เล่ียงสที ีฉ่ ูดฉาด เพราะงานศพน้ันเปนการแสดง ความเสียใจตอผูท ่เี สียชีวิต สีฉดู ฉาดนนั้ หมายถงึ ความสดใส หากใสส ีที่สดใสมากเกินไปก็จะดูเปนการ ไมเ คารพตอ ผทู ีเ่ สยี ชวี ติ ไป มารยาทในการแตง กายสาํ หรับการไปรว มพธิ ศี พ “การแตง กาย” - เสอ้ื ผาสดี าํ และสขี าวเปนโทนหลกั ซ่ึงสีขาวและ

บทเรียนออนไลนท ่ี 4 551 551 วชิ า ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง ประเพณดี อนตมู ของเรา ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คําชแี้ จง ใหน ักศึกษาเลือกคาํ ตอบท่ีถกู ตอ งทสี่ ุดเพยี งคําตอบเดยี ว จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ความหมายของประเพณีตรงกบั ขอ ใด 4. ประเพณใี ดที่ชว ยสง เสรมิ ใหล กู หลาน ก. สงิ่ ท่ีนยิ มกระทาํ รบั มาจากตางชาติ กตญั ูตอพอ แม ข. ส่งิ ทนี่ ิยมประพฤติปฏบิ ตั สิ บื ๆกนั มา ก. ประเพณีกนิ ดอง ค. สง่ิ ที่ทกุ คนตอ งปฏบิ ัตติ ามอยา งเปน ข. ประเพณเี สนเรอื น ระบบ ค. ประเพณีบวชพระ ง. ส่งิ ประชาชนรว มตัวกันสรางขนึ้ มาเพ่อื ง. ประเพณกี ารใตนํา้ มนั เปน ทีร่ ะลกึ 5. ขอ ใดไมเ กีย่ วของกบั ประเพณแี ตง งาน 2. ประเพณีในขอใดทีเ่ ปน เอกลกั ษณของ ก. การขึน้ หอ ชาติไทย ข. การสูขวญั ก. ประเพณลี อยกระทง ค. พิธีขนั หมาก ข. ประเพณีการแตง กาย ง. พิธหี มนั้ หมาย ค. ประเพณีแหเ ทียนพรรษา ง. ประเพณีแหธงวันสงกรานต 3. ขอ ใดเก่ยี วของกับความสาํ คญั ของประเพณี ดอนตูมของเรา ก. เศรษฐกิจ การคา ข. วิถีชีวิตความเปนอยู ค. การปฏิบัติตามกฎหมาย ง. การเมือง การปกครอง

552 552 วิชา ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท ่ี 2 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง ประเพณดี อนตูมของเรา 1. ข 2. ข 3. ข 4. ค 5. ข

บทเรยี นออนไลนท่ี 5 553 553 วิชา ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย ใบงาน คําสง่ั 1. ใหผ เู รยี นทําแบบทดสอบกอนเรียนบทเรยี นออนไลนท ่ี 5 เร่ือง วธิ กี ารศึกษาแหลง เรยี นรู วัฒนธรรมและ ประเพณีดอนตมู ของเรา จํานวน 5 ขอ 2. ใหผ เู รยี นศกึ ษาใบความรบู ทเรียนออนไลนท ่ี 5 เรอื่ ง วธิ ีการศึกษาแหลง เรียนรู วฒั นธรรมและ ประเพณีดอนตมู ของเรา 3. ใหผ เู รียนทาํ กจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง วธิ กี ารศกึ ษาแหลงเรียนรู วฒั นธรรมและประเพณดี อนตมู ของเรา จาํ นวน 5 ขอ 4. ใหผ ูเ รียนทําแบบทดสอบหลงั เรียน เรือ่ ง วิธีการศกึ ษาแหลง เรยี นรู วัฒนธรรมและประเพณีดอนตูม ของเรา จํานวน 5 ขอ https://www.youtube.com/watch?v=YbcNq1CmQms สแกนควิ อารโ คด บทเรียนออนไลนท ่ี 5 เร่ือง ประเพณดี อนตูมของเ

554 554 วชิ า ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนที่ 5 แบบทดสอบกอ นเรียน เรอ่ื ง วธิ กี ารศกึ ษาแหลงเรยี นรู วฒั นธรรมและประเพณดี อนตมู ของเรา ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คําชแ้ี จง ใหนักศึกษาเลือกคําตอบทถ่ี ูกตอ งที่สดุ เพียงคาํ ตอบเดยี ว จาํ นวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ความหมายของภูมิศาสตร คอื ขอใด ก. การศึกษาเปลอื กโลก ข. การศกึ ษาส่งิ แวดลอมอยา งเจาะลกึ ค. การศึกษาเรือ่ งราวในอดตี และอนาคต ง. การศกึ ษาความสัมพันธข องธรรมชาติกบั มนษุ ยแ ละวัฒนธรรม 2. สาํ หรบั นักศึกษา ประโยชนท ไ่ี ดร บั จาก การศึกษาเรื่องการใชเคร่อื งมือทาง ภูมศิ าสตร คอื ขอ ใด ก. การรขู อมลู ใหม ๆ ข. วางแผนการเรยี น ค. ไมมีประโยชนเพราะไมไดใ ช ง. ศึกษาเรยี นรเู พือ่ นาํ ไปประยกุ ตใช 3. ขอใดคือองคป ระกอบของแผนทที่ าํ ให สะดวกตอการนํามาใช ก. ทศิ ทาง ข. สญั ลักษณ ค. ชอ่ื แผนท่ี ง. เสนโครงแผนที่

บทเรียนออนไลนที่ 5 555 4. เมือ่ นักเรียนตองการทราบสถานทท่ี อ งเที่ยว นกั เรียนตองใชเ คร่ืองมอื ชนิดใด 555 ก. แผนที่ วชิ า ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย ข. ลกู โลก ค. เขม็ ทิศ ง. แผนผัง 5. แผนที่ชนดิ ใดใหประโยชนแ กผูศกึ ษาทที่ ํา ใหร ูขอมลู เกย่ี วกบั จงั หวัด อําเภอ ตําบล ประเทศ ตา ง ๆ ท่ชี ดั เจน ก. แผนท่ภี มู ิประเทศ ข. แผนท่ีรัฐกจิ ค. แผนทภี่ มู ิภาพ ง. แผนทีก่ ายภาพ

556 556 วชิ า ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท ่ี 5 เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น เรอื่ ง วธิ กี ารศกึ ษาแหลง เรยี นรู วัฒนธรรมและประเพณดี อนตมู ของเรา 1. ง 2. ง 3. ข 4. ก 5. ข

บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 557 557 วชิ า ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย ใบความรู เรอ่ื ง การใชว ิธกี ารทางภูมศิ าสตรศ กึ ษาแหลง เรียนรู การใชว ิธีการภมู ศิ าสตรในการศึกษาแหลงเรียนรู 1. ความหมายของภมู ศิ าสตร ภูมิศาสตร คือ วิชาที่ศึกษาถึงความสัมพันธระหวางส่ิงแวดลอมทางธรรมชาติกับสังคมท่ี ปรากฏในดนิ แดนตาง ๆ ของโลก 2. ความสําคญั ทางภูมิศาสตร ภมู ิศาสตรเ ปน วิชาที่มพี ื้นฐานมาจากการสรางองคค วามรทู ตี่ อ งอาศัยความเปน เหตุเปนผล ระหวางกัน เพ่ือนําความรูดังกลาวมาใชอธิบายถึงความสัมพันธที่เกิดขึ้นระหวางธรรมชาติ มนุษย และสง่ิ ทมี่ นษุ ยสรางขึ้น เพื่อใหมีความสมบูรณยิ่งขึ้น จึงตองอาศัยการนําความรูในสาขาวิชาตาง ๆ มาประกอบเพือ่ สรางเหตุและผลในการสืบคนจนไดรับคําตอบที่สามารถพิสูจนได ดังน้ัน ธรรมชาติ และเนือ้ หาของวิชาภมู ิศาสตรถ ือไดวา เปนวิชาท่ีเกิดจาการสังเคราะหความรูท่ีมาจากความสัมพันธ ของปรากฎการณท ่ีเกย่ี วขอ งระหวา งส่ิงแวดลอมและมนุษย 3. เคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตร เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร หมายถึง เครื่องมือในการตรวจสอบและศึกษาส่ิงที่อยูบน พ้ืนผิวโลก และบรรยากาศของโลก จึงไดถูกออกแบบมาเพ่ือตรวจสอบและบันทึกขอมูลทาง ดานภูมิศาสตร ท้ังทางดานขอมูลเชิงปริมาณและขอมูลทางคุณภาพ เชน การกําหนดพิกัดบน พ้ืนผิวโลก การวัดทิศทางการเก็บขอมูลภาคสนาม ในพื้นที่ตาง ๆ หรือใชเปนเครื่องมือประกอบ การเรียนรใู นหอ งปฏบิ ัตกิ ารทเ่ี ก่ียวของกับภมู ิศาสตร เครอื่ งมอื ทางภมู ิศาสตร อาจจาํ แนกกวา งๆ ไดเ ปน 2 กลมุ คือ 1. ประเภทใหขอ มลู 1.1 แผนที่ (Map) เปนเครอื่ งมือทางภูมศิ าสตรขั้นพ้ืนฐานอยางหน่ึง โดยการยอขอมูลตาง ๆ ทปี่ รากฏบนพืน้ โลกใหมีขนาดเล็กลงตามมาตราสวน และแสดงขอมูลดังกลาวดวยสัญลักษณลงบน วสั ดุตา ง ๆ เชน กระดาษ ผา แผน พลาสติก ฯลฯ 1.2 รปู ถา ยทางอากาศ (Aerial Photography) เปนรปู ภาพแสดงภูมิประเทศท่ีปรากฏบน พื้นผวิ โลก ถายโดยใชกลอ งถา ยรปู ตดิ ไวกบั เครอื่ งบิน 1.3 ภาพจากดาวเทียม 1.3.1 ภาพจากดาวเทียม (Satellite Imagery) 1.3.2 กระบวนการรีโมทเซนซิง (Remote Sensing) 1.3.3 ภาพจากดาวเทียวใหประโยชนในการศึกษาทางภูมิศาสตร คือ นํามาใช จัดทาํ แผนท่แี สดงภมู ิ 1.4 อนิ เทอรเ น็ต 1.4.1 อนิ เทอรเ น็ต (Internet) คือ ระบบการสื่อสารดวยเครือขายคอมพิวเตอรท่ี เช่ือมโยงระหวางผูใชงานท่ัวโลกเขาดวยกัน ทําใหเกิดการแลกเปลี่ยนขอมูลขาวสาร

558 558 วชิ า ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนที่ 5 1.4.2 บริการในอินเทอรเน็ต (World Wild Web : WWW) จะใหบริการขอมูลใน รปู แบบตาง ๆ ท้ังตัวอักษร รูปภาพ เสียง หรือภาพยนตร ขอมูลเหลาน้ี เรียกวา “เว็บเพ็จ” (Web Page) มีการเชอ่ื มโยงถึงกนั ท่ัวโลกคลา ยใยแมงมมุ 1.5 ลูกโลกจําลอง เปน สิง่ ทีม่ นษุ ยส รางขึ้นเพือ่ จาํ ลองลกั ษณะของโลก แสดงท่ีต้งั อาณา เขต พรมแดนของประเทศตา ง ๆ 2. ประเภทเครือ่ งมอื และอปุ กรณ อุปกรณทางภมู ิศาสตร หมายถึง อุปกรณที่ใชวัดหรือเก็บขอมูลทางภูมิศาสตรในดาน ตา ง ๆ เชน ทศิ ระยะทาง ความสูง ตําแหนงที่ตั้ง อณุ หภูมขิ องอากาศ และปรมิ าณฝน เปน ตน สรปุ ได ดังน้ี 2.1 เข็มทิศ (Compass) เปนเคร่ืองมือบอกทิศอยางงาย ๆ โดยจะทําปฏิกิริยากับ แมเหลก็ โลกและแสดงคา ของมุมบนหนาปด 2.2 เครื่องมือวัดพื้นที่ (Planimeter) มีลักษณะคลายไมบรรทัดทําดวยโลหะยาว ประมาณ 1 ฟุต โดยเคร่ืองจะคํานวณใหทราบคาของพ้ืนท่ีและแสดงคาบนหนาปด 2.3 เทปวัดระยะทางใชสําหรับวัดระยะทางของพื้นที่ เม่ือลงไปสํารวจหรือเก็บขอมูล ภาคสนาม เทปวัดระยะทางมี 3 ชนิด ไดแก เทปทท่ี าํ ดวยผา เทปท่ีทําดว ยโลหะ และเทปทท่ี ําดว ยโซ 2.4 เครื่องยอขยายแผนที่ (Pantograph) เปนอุปกรณท ี่ใชจดั ทําแผนท่ีอยางหนึ่ง เพ่ือ ยอหรอื ขยายแผนทีใ่ หไ ดข นาดหรือมาตราสวนตามที่ตอ งการ 2.5 กลองวดั ระดบั (Telescope) เปนอปุ กรณว ดั ระดับความสูงจากพืน้ ดิน เพ่ือสํารวจ พืน้ ทส่ี รา งถนน โดยจะชวยกาํ หนดระดบั แนวถนนไดตามทตี่ องการ 2.6 กลอ งสามมติ ิ (Stereoscope) เปนอปุ กรณท ใ่ี ชด ูรูปถา ยทางอากาศ เพ่ือพิจารณา ความสูงตา่ํ ของลักษณะภมู ปิ ระเทศ ในพนื้ ทน่ี ้ัน ๆ 2.7 กลองสามมติ ิแบบพกพา 2.8 เครือ่ งมอื วดั ลกั ษณะอากาศแบบตา ง ๆ 2.8.1 เทอรโมมิเตอร (Thermometer) 2.8.2 บาโรมเิ ตอร (Barometer) 2.8.3 เครอื่ งวัดน้าํ ฝน (Rain Gauge) 2.8.4 แอโรแวน (Aerovane) 2.8.5 ไฮโกรมิเตอร (Hygrometer) 2.8.6 ไซโครมเิ ตอร (Psychrometer) 3. วธิ ีการทางภูมศิ าสตร มีกจิ กรรมการศึกษาอยา งหลากหลาย ดังน้ี 3.1 การรออกภาคสนาม คือ การสาํ รวจพน้ื ทจี่ รงิ เพอ่ื ศึกษาหรือเกบ็ ขอ มลู ตา งๆ 3.2 การสมั ภาษณ คือ การเกบ็ ขอ มลู ภาคสนามอกี วธิ ีหนึ่ง ท่ีเรียกวา “งานสนาม” ชวยให การศกึ ษาวชิ าภมู ศิ าสตรครบสมบูรณย ง่ิ ขนึ้ มหี ลักเกณฑ ดังน้ี 3.2.1 ผูสัมภาษณ ตองมีความรับผิดชอบตอหนาท่ี เชน บันทึกขอมูลตามความจริง ไม ตอเติมหรือบิดเบือน ตองใหเกียรติแกผูใหสัมภาษณ เพ่ือใหไดรับความรวมมืออยางมากที่สุด

บทเรียนออนไลนที่ 5 555959 วิชา ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย 3.2.2 ผใู หสัมภาษณ ตองเปน บุคคลในทองถิ่นที่มีความรตู ามหัวเรื่อง และใหความรวมมือ ในการสมั ภาษณอยา งแทจรงิ เพอื่ ใหไดร บั ประโยชนจ ากการสัมภาษณตามวตั ถปุ ระสงค ดังนนั้ จึงตอง กาํ หนดวัน เวลา และสถานท่ีใหเ หมาะสมดวย 3.2.2 เครือ่ งมือท่ีใชในการสัมภาษณ มี 2 ลกั ษณะ คือ (1) แบบสัมภาษณ เปน ชดุ คาํ ถามท่ผี สู ัมภาษณเตรียมจะใชถ าม โดยใชส ํานวนภาษา ท่เี ขาใจงา ยไมล วงละเมดิ สทิ ธขิ องผตู อบ และเกบ็ ขอ มลู คาํ ตอบไวเปนความลบั (2) แบบสอบถาม เปนเคร่อื งมอื ท่ีเกบ็ ขอ มูลที่ใหผูตอบแสดงความคิดเห็นโดยการ เขยี น ดงั นั้นจึงตอ งพิมพใ หชดั เจน ใชภ าษาทเี่ ขาใจงาย โดยทวั่ ไปจะตอ งเลอื กผูต อบจากบคุ คลท่ีอยูใน พน้ื ทีต่ ามเปา หมาย และมีจาํ นวนผตู อบมากพอสมควร เพือ่ ใหไ ดข อ มูลท่นี าเช่ือถือและไมคลาดเคล่ือน จากขอ เทจ็ จรงิ 3.3 การวจิ ยั คือ การศึกษาคนควาหาคําตอบจากปญหาที่เกิดข้ึนในสภาพจริง โดยผูวิจัย เปนผูกําหนดคําถาม (ปญหา) ต้ังสมมติฐาน เก็บขอมูล วิเคราะหขอมูล และสรุปผลงานวิจัย ตามลําดบั 3.4 การสัมมนา (อภิปราย) คือ การระดมความคิดหรือมันสมองจากบุคคลฝายตาง ๆ เพ่อื ใหไ ดขอมูลหรอื คําตอบตามหวั ขอที่กําหนด โดยทั่วไปจะตองมีผูเขารวมสัมมนาอยางนอย 3 คน โดยมีผคู วบคมุ ใหส มาชกิ พดู อภิปรายเสนอขอ มลู และความคิดเหน็ ภายนอกในของเขตการทาํ งานของ รโี มตเซนซงิ

560 560 วิชา ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 กิจกรรมท่ี 5 เรอื่ ง วิธกี ารศึกษาแหลง เรยี นรู วฒั นธรรมและประเพณีดอนตมู ของเรา ชอ่ื -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คําช้ีแจง จงตอบคําถามตอ ไปนใ้ี หถูกตอง จาํ นวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหนกั ศึกษาบอกวิธีการทางภมู ิศาสตรว า มกี ขี่ ้ันตอน พรอมอธิบายรายละเอยี ด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ใหน กั ศกึ ษาบอกวิธกี ารทางประวตั ิศาสตรมีกี่ข้ันตอน พรอมอธบิ ายรายละเอียด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. อปุ กรณทางภมู ศิ าสตร หมายถึงอะไร และมกี ปี่ ระเภท ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. การบรกิ ารทางอนิ เตอรเน็ตมีความสําคัญอยา งไรกับมนษุ ยใ นปจจบุ ัน. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. การวจิ ยั แตกตา งจากการสมั มนาอยางไร อธบิ าย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

บทเรียนออนไลนท ่ี 5 565161 วิชา ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย เฉลยกจิ กรรมท่ี 5 เรอ่ื ง วธิ กี ารศกึ ษาแหลงเรยี นรู วัฒนธรรมและประเพณีดอนตมู ของเรา ชือ่ -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศึกษา.................................. คําชแี้ จง จงตอบคําถามตอ ไปน้ีใหถ ูกตอง จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหน ักศึกษาบอกวธิ กี ารทางภมู ศิ าสตรว า มกี ข่ี น้ั ตอน พรอมอธบิ ายรายละเอยี ด ตอบ ข้ันตอนที่ 1 การรวบรวมและคดั เลอื กหลกั ฐาน เมอ่ื มคี วามคดิ เบื้องตนหรอื ขอสมมุตฐิ านแลว ผูศกึ ษาจะตองสบื คน หาหลักฐานทต่ี องใชและคัดเลือกอยา งระมดั ระวงั ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะหและประเมินคุณคาหลักฐาน เปนข้ันตอนท่ีผูศึกษาตองทําการ ตรวจสอบ วิเคราะหและประเมินคาหลักฐานทีไ่ ดมา มี 2 วธิ ีคือ วธิ ที ่ี 1 การวิเคราะหและประเมนิ คุณคาหลักฐานภายนอก วธิ ที ี่ 2 การวเิ คราะหแ ละประเมนิ คณุ คา หลกั ฐานภายใน ข้นั ตอนท่ี 3 การตีความหมายหลกั ฐานเมอ่ื หลกั ฐานผา นการวเิ คราะหและประเมนิ คุณคาแลว ผูศึกษาตองตีความหลักฐานอยางมีระเบียบแบบแผนพยายามคนหาความหมายและความสําคัญท่ี แทจรงิ ทป่ี รากฏในหลกั ฐานที่สัมพนั ธก บั ขอเทจ็ จรงิ ที่สามารถใชอธบิ ายพฤติกรรมในสภาพแวดลอมท่ี ตา งเวลาตางสถานท่ี และบคุ คล ขน้ั ตอนท่ี 4 การสังเคราะหขอมูล คือการนําขอมูลท่ีไดจากการตีความและขอสรุปมาเรียบ เรยี งเปน เรือ่ งราวที่ตอ เนอื่ ง กลมกลืน และมเี หตผุ ล การศกึ ษาคนควาทางดานประวัติศาสตรน้ันตอง เผชิญกับหลกั ฐานทมี่ ีความซับซอ นและขัดแยงกันอยเู สมอ ความอดทน สขุ ุม รอบคอบ มีระเบียบวินัย มสี ติปญญา มเี หตุผล ยอมรบั ในเหตุผลและความสามารถของผูอน่ื และความรวมมือจากผูเชี่ยวชาญ ดา นตาง ๆ จะทําใหประวัติศาสตร มีคุณคามากพอตอการศึกษา เพราะการศึกษาประวัติศาสตรไม ควรจาํ กัดอยเู พยี งแคส งิ่ ทผี่ ูบนั ทึกชอบท่จี ะเขียนและเขยี นเทาที่รู 2. ใหนักศึกษาบอกวิธกี ารทางประวัตศิ าสตรมกี ข่ี น้ั ตอน พรอ มอธิบายรายละเอียด ตอบ ข้นั ตอนท่ี 1 การกําหนดหัวเรื่องที่ศึกษา คือ ขั้นตอนแรกของวิธีการทางประวัติศาสตรซ่ึง เปน เรือ่ งทีน่ ักประวตั ศิ าสตรห รอื ผูส นใจทางประวัตศิ าสตรม คี วามสนใจ อยากรู สงสัย จึงต้ังประเด็น หรอื หัวขอทีต่ องการศกึ ษาข้ึนมา ตัวอยาง ประเด็นการศึกษาเกี่ยวกับภมู ภิ าคอาจเปน เรอ่ื งทอ่ี ยใู กลตัว และขยายขอบเขตการศกึ ษาออกไปเปนระดบั อาํ เภอ ระดบั จังหวัด และระดบั ภมู ภิ าค ข้ันตอนที่ 2 การรวบรวมหลักฐาน คือ ข้ันรวบรวมหลักฐานตาง ๆ ทั้งหลักฐานช้ันตนและ หลกั ฐานช้นั รอง คือ เอกสารหรือหนงั สอื เก่ียวกับเรอ่ื งทีอ่ ยากรูห รอื สนใจในการรวบรวมหลกั ฐาน ควร เริ่มดวยการศึกษาหลักฐานช้ันรองโดยตรงกอน เพื่อใหเ ขาใจและมคี วามรูเกย่ี วกับเรือ่ งท่ีตอ งการศกึ ษา และรวบรวมความคิดของผทู ่ีศึกษาเรอ่ื งดังกลา วมากอ น แลวจึงไปคนควาจากหลักฐานชั้นตน ซ่งึ จะทํา ใหไดรายละเอียดมากข้นึ และอาจมีแนวคดิ เพ่มิ เตมิ ขนึ้ จากผศู กึ ษาไวแ ตเ ดิม ขัน้ ตอนท่ี 3 การประเมนิ คณุ คาของหลักฐาน คือ การประเมินความถูกตองและความสําคัญ ของหลักฐาน เพราะหลักฐานบางอยา งอาจเปน ของปลอม หรือเลียนแบบของเกา หรอื เขยี นโดยบุคคล ท่ไี มไ ดร เู ห็นเหตกุ ารณโ ดยตรง แลว มาบันทึกไวเสมือนไดร ูเห็นเอง หรือแมจะรูเห็นเหตุการณโดยตรง

562 562 วิชา ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท่ี 5 แตอาจมคี วามลําเอียงเขา ขางฝายใดฝา ยหนึง่ ไมวางตวั เปนกลาง การวิเคราะหห ลกั ฐานแบง เปน 2 วธิ ี ดงั น้ี การประเมินภายนอกและการประเมนิ ภายใน ขน้ั ตอนท่ี 4 การวเิ คราะห สงั เคราะห และจัดหมวดหมูขอมูล คอื ข้นั ตอนตอจากท่ไี ดรวบรวม หลกั ฐาน และวเิ คราะหค วามนา เช่อื ถอื น้ันๆแลว ขอมลู คอื เร่อื งราวตา ง ๆ ทางประวตั ิศาสตรท ป่ี รากฏ ในหลักฐานทรี่ วบรวมและวิเคราะหแลวจากหลกั ฐานท่ีเช่ือถือได จากน้ันจึงนําขอมูลมาวิเคราะห คือ แยกประเภทโดยเรียงเหตุการณตามลําดับเวลากอนหลัง เพราะความสําคัญของขอมูล แลวทําการ สังเคราะห คือจัดเหตุการณเร่ืองเดียวกัน และเก่ียวของสัมพันธกันไวดวยกัน และศึกษาความ ตอ เนอ่ื ง การเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณตลอดจนปจจัยตาง ๆ ท่มี ีความสําคญั ตอ เหตุการณ ข้นั ตอนท่ี 5 การเรียบเรียงหรือการนําเสนอ คือ การเรียบเรียงขอมูลท่ีไดคนควา วิเคราะห และสังเคราะหมาแลว เพ่ือนาํ เสนอขอมูลในลักษณะที่เปน การตอบหรอื อธิบายความอยากรู ขอสงสัย ตลอดจนความรูใ หม ความคิดใหมที่ไดจากการศึกษาคนควานั้น ในรูปแบบการเขียนรายงานอยางมี เหตผุ ล 3. อปุ กรณท างภมู ิศาสตร หมายถึงอะไร และมกี ีป่ ระภท ตอบ อปุ กรณท างภูมิศาสตร หมายถงึ อปุ กรณทใ่ี ชวดั หรอื เกบ็ ขอมูลทางภูมศิ าสตรในดาน ตาง ๆ เชน ทศิ ระยะทาง ความสูง ตาํ แหนง ที่ตัง้ อุณหภูมิของอากาศ และปรมิ าณฝน ดงั น้ี 1 เข็มทิศ 2. เครอื่ งมือวดั พืน้ ที่ (Planimeter) 3. เทปวดั ระยะทางใชส ําหรบั วัดระยะทางของพื้นท่ี เมื่อลงไปสํารวจหรอื เกบ็ ขอมลู 4. เครื่องยอขยายแผนที่ (Pantograph) 5. กลองวัดระดบั (Telescope) 6. กลองสามมิติ (Stereoscope) 7. กลองสามมิตแิ บบพกพา 8. เครื่องมือวดั ลกั ษณะอากาศแบบตา ง ๆ 8.1 เทอรโมมิเตอร (Thermometer) 8.2 บาโรมเิ ตอร (Barometer) 8.3 เคร่ืองวดั น้ําฝน (Rain Gauge) 8.4 แอโรแวน (Aerovane) 8.5 ไฮโกรมิเตอร (Hygrometer) 8.6 ไซโครมเิ ตอร (Psychrometer4. 4 การบรกิ ารทางอินเตอรเ น็ตมคี วามสาํ คัญอยา งไรกับมนษุ ยใ นปจจบุ นั . ตอบ บริการในอินเทอรเน็ต (World Wild Web : WWW) จะใหบริการขอมูลในรูปแบบตาง ๆ ท้ังตัวอักษร รูปภาพ เสียง หรือภาพยนตร ขอมูลเหลาน้ี เรียกวา “เว็บเพ็จ” (Web Page) มีการ เชือ่ มโยงถึงกันทวั่ โลกคลายใยแมงมุม

บทเรียนออนไลนท ี่ 5 563 563 วิชา ดอนตูมของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย 5. การวิจยั แตกตางจากการสัมมนาอยางไร อธิบาย ตอบ การวจิ ัย คือ การศกึ ษาคน ควาหาคําตอบจากปญ หาทเ่ี กิดข้นึ ในสภาพจรงิ โดยผูว จิ ยั เปนผู กาํ หนดคําถาม (ปญ หา) ต้งั สมมติฐาน เกบ็ ขอ มลู วิเคราะหข อ มูล และสรุปผลงานวิจัย ตามลําดบั / การสัมมนา (อภิปราย) คือ การระดมความคิดหรือมันสมองจากบุคคลฝา ยตา ง ๆ เพอื่ ใหไ ด ขอ มูลหรอื คําตอบตามหวั ขอทกี่ ําหนด โดยทว่ั ไปจะตองมีผเู ขา รวมสัมมนาอยา งนอ ย 3 คน โดยมผี ู ควบคุมใหส มาชกิ พดู อภิปรายเสนอขอ มลู และความคดิ เหน็ ภายนอกในของเขตการทาํ งานของรีโมต เซนซงิ

564 564 วิชา ดอนตมู ของเรา (สค33133 ) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 แบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง วิธกี ารศกึ ษาแหลง เรยี นรู วฒั นธรรมและประเพณีดอนตมู ของเรา ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คาํ ชีแ้ จง ใหน ักศึกษาเลอื กคําตอบท่ถี ูกตองทสี่ ุดเพียงคาํ ตอบเดียว จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ความหมายของภูมิศาสตร คอื ขอ ใด 4. เม่ือนักเรยี นตองการทราบสถานทท่ี อ งเทย่ี ว ก. การศกึ ษาเปลือกโลก นกั เรียนตอ งใชเครอื่ งมือชนดิ ใด ข. การศึกษาสิ่งแวดลอมอยา งเจาะลกึ ก. แผนที่ ค. การศกึ ษาเรือ่ งราวในอดีตและอนาคต ข. ลกู โลก ง. การศึกษาความสัมพนั ธของธรรมชาตกิ บั ค. เขม็ ทิศ มนุษยและวัฒนธรรม ง. แผนผงั 2. สําหรบั นักศึกษา ประโยชนท ่ไี ดร บั จาก 5. แผนทช่ี นดิ ใดใหประโยชนแกผศู ึกษาทท่ี ํา การศึกษาเรอ่ื งการใชเ คร่ืองมอื ทาง ใหรขู อ มูลเกยี่ วกับจงั หวดั อาํ เภอ ตําบล ภมู ิศาสตร คอื ขอใด ประเทศ ตา ง ๆ ที่ชดั เจน ก. การรขู อมลู ใหม ๆ ก. แผนที่ภูมิประเทศ ข. วางแผนการเรียน ข. แผนที่รฐั กิจ ค. ไมม ปี ระโยชนเพราะไมไ ดใช ค. แผนทภี่ ูมิภาพ ง. ศกึ ษาเรียนรูเ พอื่ นําไปประยกุ ตใช ง. แผนที่กายภาพ 3. ขอ ใดคือองคป ระกอบของแผนทท่ี ําให สะดวกตอ การนาํ มาใช ก. ทศิ ทาง ข. สญั ลกั ษณ ค. ชื่อแผนที่ ง. เสน โครงแผนท่ี

บทเรบยี ทนบอเรทอียนเนรไอยีลนอนนอทอไี่ล5นนไลทนี่ 5ท ่ี 5 565 565565565 วิชา กวาชิ ราวปชิ กอาางรกกปาันอรกปงากอรันงทกกจุ นัารรกิตทา(จุรสรทคติจุ 3ร2(สิต0ค3(3ส62ค)03ม32.6ป0)ล3ม6าย).ปมล.ปายลาย เรอื่ งเรว่อื ธิเรงกี ื่อาวงริธศวกี ึกิธาษกีรศาารึกแศษหึกเลาฉษแงลเาหรยแเลียฉแหงนลบเเลรฉยบง ูยีลแเวทนรยบัฒดียรแบนสนู บวทอรธบฒั ูดบรวทรสนหฒั มดอธลแสนบรงั ลอรธเหรมบะรลยีปรแหังนมลรเลแระังยีเลปเพรนะรณียปะนเรีดพะอณเนพีดตณอูมีดนขอตอนมูงตเขรมู อาขงเอรงาเรา 45312กขข.งง.... ง 1. ง1. ง 2. ง2. ข 3. ข3. ก 4. ก4. ข 5. ข5.

566 566 ตารางวเิ คราะหเ นื้อหารายวชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดําอันล้าํ คา สค33134 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาํ นวน 3 หนว ยกิต จาํ นวน 120 ชว่ั โมง จํานวน ระดบั การเรยี นรู ท่ี หัวเร่ือง (ช่ัวโมง) งาย ปาน ยาก 1 บทที่ 1 ประวัติความเปนมาของไทดํา 3 กลาง เรอ่ื งท่ี 1 ความหมายของไทดํา 2  เรอ่ื งที่ 2 ถ่นิ ฐานเดมิ ของไทดํา  เร่ืองท่ี 3 การอพยพเขาสปู ระเทศไทยของไทดํา เรือ่ งที่ 4 ถ่นิ ทอ่ี ยูข องไทดาํ ในอาํ เภอบางเลน จงั หวัดนครปฐม 2 บทท่ี 2 ความสาํ คญั ของวัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ เรอ่ื งที่ 1 ความสําคัญของวฒั นธรรม ประเพณี เรือ่ งท่ี 2 ความสําคญั ของวฒั นธรรม ประเพณไี ทดาํ 3 บทท่ี 3 วฒั นธรรมการดําเนนิ ชีวิตของไทดํา 20  เรื่องท่ี 1 ลักษณะบา นเรอื นไทดาํ 1.1 บา นเรือนยุคดง้ั เดิม 1.2 บานเรอื นยุคก่ึงดงั้ เดมิ 1.3 บา นเรอื นยคุ กลาง 1.4 บานเรอื นยคุ ใหม เรือ่ งที่ 2 วิถีชวี ิตไทดาํ 2.1 ความสมั พนั ธในครอบครวั 2.2 การทาํ มาหากนิ 2.3 อาหาร 2.4 หัตถกรรมทใี่ ชในครวั เรือน

567 567 ตารางวเิ คราะหเ นื้อหารายวิชา วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ อันลํา้ คา สค33134 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จาํ นวน 3 หนวยกติ จํานวน 120 ชัว่ โมง จํานวน ระดับการเรียนรู ที่ หัวเรือ่ ง (ชัว่ โมง) งาย ปาน ยาก 4 บทที่ 4 วฒั นธรรมภาษาของไทดํา 15 กลาง 1. ลกั ษณะของภาษาไทดํา 20  2. ภาษาของไทดาํ 40  2.1 รูปแบบตัว อกั ษรไทดาํ  2.2 คําที่ใชสอ่ื สารในชีวิตประจาํ วนั 20 120  5 บทที่ 5 วัฒนธรรมการแตงกายของไทดาํ 1. เครื่องแตงกายชายและหญิง ตามสถานภาพและ โอกาส 2. ทรงผมชายและหญงิ ตามสถานภาพ และโอกาส 6 บทที่ 6 ประเพณขี องไทดาํ 1. ประเพณไี หวศาล 2. ประเพณีขึน้ บา นใหม 3. ประเพณีเสนเรือน 4. ประเพณกี ารแตง งาน 5. ประเพณีงานศพ 6. ประเพณีปด รังควาน 7. ประเพณีการละเลน 7 บทที่ 7 การสืบสานและอนรุ กั ษว ัฒนธรรมประเพณีของ ไทดาํ 1. การมสี ว นรว มในงานวัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ 2. การประชาสมั พันธวฒั นธรรม ประเพณไี ทดําใน รูปแบบตา ง ๆ รวม

568 568 การวัดผลประเมินผล บทเรยี น ออนไลน กิจกรรม คะแนน ที่ - 1 ใหผ เู รียนศึกษาจากบทเรยี นออนไลนท ี่ 1 เร่อื ง ประวัตคิ วามเปนมาของไทดํา, ความสาํ คัญของวฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ ,การสบื สานและอนุรักษวฒั นธรรม 10 ประเพณขี องไทดํา และสรปุ ความรทู ี่ไดลงในสมดุ บนั ทึก 2 กจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื ง วฒั นธรรมการดาํ เนินชีวิตของไทดาํ (5 คะแนน) และทํา แบบทดสอบหลังเรยี น (5 คะแนน) 3 กจิ กรรมที่ 3 เรื่อง วัฒนธรรมภาษาของไทดํา และแบบทดสอบหลงั เรยี น 10 4 กิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง วัฒนธรรมการแตง กายของไทดาํ (5 คะแนน) และทํา 10 แบบทดสอบหลังเรียน (5 คะแนน) 5 กิจกรรมท่ี 5 เรือ่ ง ประเพณีของไทดํา (5 คะแนน) และทําแบบทดสอบหลงั เรียน 10 (5 คะแนน) รวมคะแนนเกบ็ ระหวา งภาค 40 สอบระหวา งภาค 20 สอบปลายภาค 40 รวมท้ังสิน้ 100

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรูรายวชิ าออนไลน รายวชิ า วัฒนธรรม ประเพณีไทดําอันล้ําคา สค33134 จํานวน 3 หนวยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ชว่ั โมง บทเรียน หวั เรือ่ ง วตั ถปุ ระสงคเชงิ กจิ กรรมการ จํานวน สื่อการเรียนรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรูที่ ออนไลน พฤตกิ รรม เรยี นรู ชว่ั โมง ประเมนิ ผล คาดหวัง ท่ี 1 บทท่ี 1 ประวัติความ 1. ผูเรียนบอก - ผเู รียนศกึ ษา 3 ชว่ั โมง 1.บทเรียนออนไลนท ่ี 1 บทเรียน - 1.บอกความหมายของ เปน มาของไทดาํ ความหมายของ เรียนรูจากสือ่ Google site ออนไลนท่ี 1 ไทดําได 1. ความหมายของไท ไทดาํ ได แบบเรียน วิชา วฒั นธรรม ประเพณี 2. บอกถน่ิ ฐานเดิมของ ดํา 2. บอกถน่ิ ฐาน ออนไลนที่ 1 ไทดําอันลา้ํ คา ไทดาํ ได 2. ถนิ่ ฐานเดิมของไท เดมิ ของไทดําได Google site วิชา สค33134 3. บอกการอพยพเขาสู ดาํ 3. บอกการอพยพ วฒั นธรรม ประเทศไทยของไทดํา 3. การอพยพเขา สู เขา สูประเทศไทย ประเพณไี ทดําอัน ได ประเทศไทยของไท ของไทดาํ ได ลาํ้ คา สค33134 4. ระบุถิน่ ที่อยูข องไท ดาํ 4. ระบุถิน่ ที่อยู เรอื่ ง ประวตั ิความ ดาํ ในอาํ เภอบางเลน 4. ถน่ิ ทอ่ี ยขู องไทดํา ของไทดาํ ใน เปน มาของไทดาํ https://bit.ly/38wSCWh จงั หวดั นครปฐมได ในอําเภอบางเลน อาํ เภอบางเลน - ผูเรยี นทาํ จงั หวดั นครปฐม จังหวัดนครปฐมได บทเรียนออนไลน ที่ 1 569 569

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรูร ายวชิ าออนไลน 570 570 รายวชิ า วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ อนั ล้ําคา สค33134 จํานวน 3 หนว ยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ช่วั โมง บทเรียน หัวเรื่อง วตั ถุประสงคเ ชงิ กจิ กรรมการ จาํ นวน ส่อื การเรยี นรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรทู ี่ ออนไลน พฤติกรรม เรยี นรู ชวั่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวัง ที่ 1 บทที่ 2 ความสาํ คญั 1. อธบิ าย - ผเู รยี นศึกษา 2 ช่วั โมง 1.บทเรียนออนไลนท ี่ 1 บทเรียน - 1. อธิบาย ของวัฒนธรรม ความสาํ คญั ของ เรียนรจู ากสือ่ Google site ออนไลนท ี่ 1 ความสําคญั ของ ประเพณีไทดํา วฒั นธรรม แบบเรียน วชิ า วฒั นธรรม ประเพณี วฒั นธรรม ประเพณี 1. ความสาํ คญั ของ ประเพณแี ละ ออนไลนท ่ี 1 ไทดํา อันล้ําคา สค33134 และความสาํ คญั ของ วฒั นธรรมประเพณี ความสาํ คัญของ Google site วิชา วฒั นธรรม 2. ความสําคัญของ วัฒนธรรม วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ ได วัฒนธรรม ประเพณี ประเพณไี ทดาํ ได ประเพณีไทดําอนั 2. ตระหนกั ถงึ ไทดํา 2. ตระหนักถงึ ลํา้ คา สค33134 ความสาํ คญั ของ ความสาํ คัญของ เรอ่ื ง ความสําคญั https://bit.ly/38wSCWh วฒั นธรรม ประเพณี วฒั นธรรม ของวฒั นธรรม และความสําคญั ของ ประเพณีและ ประเพณไี ทดาํ วฒั นธรรม ประเพณี ความสําคญั ของ - ผูเรยี นทํา ไทดํา วัฒนธรรม บทเรยี นออนไลนท ่ี ประเพณไี ทดํา 1

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู ายวิชาออนไลน รายวิชา วัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ อันลาํ้ คา สค33134 จํานวน 3 หนว ยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จํานวน 120 ชว่ั โมง บทเรยี น หวั เร่อื ง วตั ถปุ ระสงคเ ชงิ กิจกรรมการ จาํ นวน สอ่ื การเรียนรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู ี่ ออนไลน พฤตกิ รรม เรียนรู ช่ัวโมง ประเมนิ ผล คาดหวัง ท่ี 1 บทที่ 7 การสืบสาน 1. สามารถเขา - ผเู รยี นศึกษา 20 1.บทเรียนออนไลนท่ี 1 บทเรียน - 1. สามารถเขารวม และอนรุ กั ษ รว มหรอื มสี ว น เรียนรูจ ากส่ือ ช่ัวโมง Google site ออนไลนท่ี 1 หรือมสี ว นรวมใน วฒั นธรรมประเพณี รว มในงาน แบบเรียน วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไท งานวฒั นธรรม ของไทดาํ วัฒนธรรม ออนไลนที่ 1 ดํา อนั ลา้ํ คา สค33134 ประเพณไี ทดาํ ใน 1. การมีสวนรวมใน ประเพณไี ทดําใน Google site วชิ า โอกาสตา ง ๆได งานวัฒนธรรม โอกาสตา ง ๆ ได วัฒนธรรม 2. เห็นความสําคญั ประเพณไี ทดาํ 2. เหน็ ความ ประเพณไี ทดําอัน ของการเขา รว ม 2. การประชาสัมพันธ สําคญั ของการเขา ลาํ้ คา สค33134 หรอื มีสว นรว มใน วัฒนธรรม ประเพณี รวมหรอื มสี ว น เรอื่ ง ความสาํ คญั งานวัฒนธรรม ไทดาํ ในรปู แบบตาง รว มในงาน ของวฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ ใน วฒั นธรรม ประเพณีไทดํา https://bit.ly/38wSCWh โอกาสตางๆ ประเพณไี ทดําใน - ผูเรียนทํา โอกาสตา ง ๆ บทเรียนออนไลนท ี่ 1 571 571

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรูร ายวิชาออนไลน 572 572 รายวชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดาํ อนั ล้าํ คา สค33134 จํานวน 3 หนวยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ชวั่ โมง บทเรียน หวั เร่อื ง วตั ถุประสงคเ ชงิ กิจกรรมการ จาํ นวน สือ่ การเรียนรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรูท ี่ ออนไลน พฤตกิ รรม เรยี นรู ชัว่ โมง ประเมินผล คาดหวัง ที่ 3. สามารถ 3. สามารถ ประชาสมั พนั ธ ประชาสมั พันธ วัฒนธรรม วฒั นธรรม ประเพณไี ท ประเพณีไทดาํ ดําในรปู แบบตาง ๆ ได ในรูปแบบตาง ๆ ได 4. ภาคภมู ใิ จที่ไดรว ม 4. ภาคภูมิใจท่ไี ด ประชา สัมพันธ รวมประชาสัมพันธ วฒั นธรรม ประเพณี วฒั นธรรม ไทดํา ในรูปแบบตาง ๆ ประเพณีไทดํา ใน รปู แบบตา ง ๆ

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรูรายวชิ าออนไลน รายวชิ า วัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ อันลํา้ คา สค33134 จํานวน 3 หนวยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ช่ัวโมง บทเรียน หวั เรอื่ ง วัตถปุ ระสงคเชิง กิจกรรมการเรยี นรู จาํ นวน สื่อการเรียนรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู ี่ ออนไลน พฤติกรรม ชว่ั โมง ประเมินผล คาดหวัง ที่ 2 บทท่ี 3 1. เปรียบเทียบความ - ผูเรยี นทํา 20 1.บทเรยี นออนไลนท่ี 2 บทเรียน ชอ งท่ี 1 1. วัฒนธรรมการ แตกตางของลกั ษณะ แบบทดสอบกอนเรียน ชัว่ โมง Google site ออนไลนท ี่ 2 -กจิ กรรมท่ี เปรยี บเทยี บ ดําเนนิ ชวี ิตของ บานเรอื นไทดําแตละยคุ - ผูเรียนศกึ ษาเรยี นรู วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไท ไทดํา ได จากสอื่ บทเรยี น ดาํ อนั ลา้ํ คา สค33134 2 ความแตกตา ง 1. ลักษณะ 2. ยกตวั อยางวิถีชวี ติ ไท ออนไลนท ่ี 2 Google (5 คะแนน) ของลกั ษณะ บานเรอื นไทดาํ ดาํ เก่ยี วกบั ความสมั พนั ธ site วชิ า วัฒนธรรม 1.1 บา นเรือน ในครอบครวั การทํามา ประเพณีไทดาํ อนั ลํา้ - บา นเรอื นไทดาํ ยคุ ดงั้ เดิม หากนิ อาหารและ คา สค33134 เรือ่ ง แบบทดสอบ แตละยุคได 1.2 บา นเรือน หัตถกรรมทีใ่ ชใน วัฒนธรรมการดําเนนิ หลงั เรียน 2. ยกตวั อยาง ยุคก่ึงดัง้ เดมิ ครวั เรือนได ชีวติ ของไทดํา https://bit.ly/38wSCWh (5 คะแนน) วถิ ีชีวติ ไทดํา 1.3 บา นเรือน 3. เหน็ คุณคาความสําคัญ - ผูเ รียนทาํ กจิ กรรมที่ ยคุ กลาง วัฒนธรรมการดาํ เนนิ ชวี ิต 2 เรอ่ื ง วัฒนธรรมการ เกีย่ วกบั ความสมั พนั ธใน ครอบครัว ของไทดํา ดําเนินชวี ติ ของไทดาํ - ผูเรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น 573 573

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรรู ายวิชาออนไลน 574 574 รายวชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดําอนั ลํ้าคา สค33134 จํานวน 3 หนว ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ชัว่ โมง บทเรยี น หวั เรอื่ ง วตั ถปุ ระสงคเชงิ กจิ กรรมการเรยี นรู จํานวน สื่อการเรยี นรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนรูท ี่ ออนไลน พฤตกิ รรม ชว่ั โมง ประเมินผล คาดหวัง ท่ี 2 1.4 บา นเรอื น การทาํ มาหากิน ยคุ ใหม อาหาร 2. วิถชี ีวิตไทดํา และหัตถกรรมท่ี 2.1 ความ ใชใ นครวั เรอื นได สมั พันธใน 3. เห็นคุณคา ครอบครวั ความสําคัญ 2.2 การทาํ มา วฒั นธรรมการ หากิน ดําเนินชวี ิตของ 2.3 อาหาร ไทดํา 2.4 หัตถกรรม ทใ่ี ชในครัวเรอื น

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรรู ายวิชาออนไลน รายวิชา วัฒนธรรม ประเพณไี ทดําอนั ลา้ํ คา สค33134 จํานวน 3 หนวยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาํ นวน 120 ช่วั โมง บทเรยี น หัวเรอื่ ง วัตถปุ ระสงคเ ชิง กจิ กรรมการเรยี นรู จาํ นวน สือ่ การเรยี นรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรูที่ ออนไลน พฤตกิ รรม ช่ัวโมง ประเมินผล คาดหวัง ท่ี 3 บทท่ี 4 1. บอกประวัติและ - ผูเรยี นทาํ 15 ชั่วโมง 1.บทเรยี นออนไลนท่ี 3 บทเรียน ชอ งที่ 2 1. บอกลักษณะ วัฒนธรรม วิวฒั นาการของภาษาไท แบบทดสอบกอ น Google site ออนไลนท ี่ 3 -กจิ กรรมท่ี ของภาษาไทดําได ภาษาของไทดํา ดําได เรียน วชิ า วัฒนธรรม ประเพณี 2. สามารถฟง และพูดคํา - ผูเรียนศกึ ษาเรียนรู ไทดําอันล้าํ คา 3 2. สามารถฟง ทใ่ี ชส อ่ื สารใน จากสอื่ บทเรยี น สค33134 (5 คะแนน) และพดู คําทใ่ี ช ชวี ติ ประจําวันอยา งนอย ออนไลนท ี่ 3 Google เรอื่ ง วัฒนธรรมภาษาของ 15 คําได site วชิ า วัฒนธรรม ไทดาํ - ส่ือสารในชวี ติ 3. ภาคภมู ิใจทีส่ ามารถ ประเพณไี ทดาํ อนั ลา้ํ แบบทดสอบ ประจําวันอยา ง ส่ือสารภาษาของไทดาํ ท่ีใช คา สค33134 เร่อื ง หลงั เรียน นอย 15 คํา ได ในชวี ติ ประจําวัน วฒั นธรรมภาษาของ (5 คะแนน) 3. ภาคภมู ใิ จท่ี ไทดํา - ผูเรยี นทาํ กจิ กรรมที่ สามารถสื่อสาร ภาษาของไทดาํ ท่ี ใชในชีวิตประจาํ วนั 2 วฒั นธรรมภาษา https://bit.ly/38wSCWh ของไทดํา - ผเู รยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น 575 575

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู ายวิชาออนไลน 576 576 รายวชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดาํ อนั ลา้ํ คา สค33134 จาํ นวน 3 หนวยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จํานวน 120 ชว่ั โมง บทเรยี น หวั เรือ่ ง วัตถปุ ระสงคเชงิ กจิ กรรมการเรียนรู จํานวน สื่อการเรยี นรู การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู ี่ ออนไลน พฤติกรรม ชัว่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวัง ท่ี 4 บทท่ี 5 1. บอกความ - ผูเรียนทาํ 20 ชวั่ โมง 1.บทเรียนออนไลนท ี่ 4 บทเรียน ชอง 3 1. บอกความ วฒั นธรรมการ แตกตา งของเครือ่ ง แบบทดสอบกอน Google site ออนไลนท ่ี 4 กิจกรรมท่ี 4 แตกตา งของเครื่อง แตงกายของ แตงกายชายและ เรยี น วชิ า วิชา วฒั นธรรม ( 5 แตงกายชายและ ไทดํา หญงิ ตามสถานภาพ - ผูเ รยี นศกึ ษาเรียนรู ประเพณไี ทดําอนั ลาํ้ คา คะแนน) หญิง ตามสถานภาพ และโอกาสได จากสอื่ แบบเรียน สค33134 เร่อื ง แบบทดสอบ และโอกาสได 2. เปรยี บเทยี บ ออนไลน Google วัฒนธรรมการแตงกาย หลงั เรยี น 2. เปรยี บเทยี บทรง ทรงผมของหญงิ ไท site วิชา วฒั นธรรม ของไทดํา (5 คะแนน) ผมของหญงิ ไทดาํ ใน ดาํ ในแตล ะ ประเพณีไทดําอนั ลํ้า แตละสถานภาพและ สถานภาพและ คา สค33134 เรอื่ ง โอกาสได โอกาสได วฒั นธรรมการแตง 3. เหน็ คณุ คา 3. เห็นคุณคา กายของไทดํา วัฒนธรรมการแตง วฒั นธรรมการ - ผเู รียนทํากจิ กรรมที่ กายของไทดาํ แตงกายของไทดํา 4 เร่ือง วัฒนธรรมการ https://bit.ly/3rpIp6t แตง กายของไทดาํ - ผูเรียนทํา แบบทดสอบหลังเรียน

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรรู ายวชิ าออนไลน รายวชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ อันลํ้าคา สค33134 จาํ นวน 3 หนว ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จํานวน 120 ชัว่ โมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วตั ถปุ ระสงคเ ชิง กิจกรรมการเรยี นรู จาํ นวน สือ่ การเรยี นรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู ่ี ออนไลน พฤติกรรม ชวั่ โมง ประเมินผล คาดหวัง ท่ี 5 บทท่ี 6 1. อธิบาย -ผูเรียนทาํ แบบทดสอบ 40 ชว่ั โมง 1.บทเรยี นออนไลนท่ี 5 บทเรยี น ชอ ง 4 1. อธบิ ายประเพณี ประเพณขี อง ประเพณีไหวศ าล กอ นเรยี น Google site ออนไลนท ี่ 5 กิจกรรมท่ี 5 ไหวศ าล ประเพณี ไทดาํ ประเพณขี น้ึ บา น - ผเู รยี นศึกษาเรียนรู วชิ า วฒั นธรรม (5 คะแนน) ขึน้ บา นใหม ใหม ประเพณเี สน จากสอื่ แบบเรยี น ประเพณไี ทดําอันลํ้าคา แบบทดสอบ ประเพณีเสนเรือน เรอื น ประเพณี ออนไลนท ี่ 5 Google สค33134 เรื่อง หลงั เรยี น ประเพณีการแตงงาน การแตงงาน site วิชา วฒั นธรรม ประเพณีของไทดาํ เรอ่ื ง (5 คะแนน) ประเพณงี านศพ ประเพณีงานศพ ประเพณีไทดําอันล้ําคา ประเพณขี องไทดาํ ประเพณีปดรงั ประเพณี ปดรัง สค33134 เร่อื ง ควาน และประเพณี ควานและประเพณี ประเพณขี องไทดาํ การละเลนได การละเลน ได - ผูเรยี นทํากจิ กรรมที่ 2. ภูมิใจใน 2. ภูมใิ จใน 5 เร่อื ง ประเพณขี อง ประเพณขี องไทดํา ประเพณีของไทดํา ไทดาํ - ผูเรียนทาํ https://bit.ly/34KU6L แบบทดสอบหลังเรยี น l 577 577

578 578 วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ อันล้ําคา (สค3313547) 59ม7.9ปลาย บทเรยี นออนไลนท ี่ 1 วิชาวิชวาฒั วนัฒธนรรธมรรปมรปะเรพะณเพไี ณทดีไทาํ อดันาํ อลนัา้ํ คลา้ํ ค(าสค(ส3ค3313143) 4ม).ปมล.ปายลาย บทบเรทียเนรียอนออนอไลนนไลท น่ี 2ที่ 2 ใบงาน คาํ ส่งั ใหผ ูเรียนศกึ ษาความรู ในบทเรยี นออนไลนท ี่ 1 โดใยบสงใแบากนงนานควิ อารโ คด ที่กาํ หนดใหต อ ไปน้ี 1. ใหคําผคสูเรํางั่ ียสน่งั ศกึ ษาความรจู ากใบความรู เร่ือง ประวตั คิ วามเปน มาของไทดํา,ความสําคัญของวฒั นธรรม ประเพณี ไ1ท.ดใ1หํา.ผ,ใกหูเ ราผยีรเู นสรทียืบนําสทแาบํานแบแบทลบดะทสออดนบสุรอกกับอษกนวอเรัฒนียเนรียบธนรทบรเรมทยี ปเนรรียอะนอเนอพอไณลนนไขี ลทอนี่ง2ท ไทเ่ี ร2ดื่อเาํงร่ือวงัฒวนัฒธนรรธมรรกมารกดาราํ เดนําินเนชินีวิตชีวขิตอขงไอทงดไทําดํา 2. ไใทหดผ จาํูเํารนจแยี วาํลนนะศว5กึกนาขษ5รอาสขคบื อวสาามนรแูจลาะกอคนลรุปิ ักวษดี วโี อฒั นเรธอื่ รงรมปประรวะัตเพคิ ณวาีขมอเงปไนทมดาาํ ของไทดํา,ความสําคญั ของวัฒนธรรม ประเพณี 3. ให2.ผ2ใเู หร. ยีผใหนูเรผบยี ูเันรียทศนกึ ศคษึกวาาษใบมาครใบูทวคาไ่ี ดมวลารมบูงใรทนบู เสรทียมเนรดุ ยีอบนอนั อนทอไกึลนกนไาลทรนี่เ2ทรยี่เ2รนอ่ื รเงรู อื่ วงฒั วนัฒธนรรธมรรกมารกดารําเดนําินเนชินวี ิตชวีขิตอขงไอทงดไทาํ ดาํ 3. 3ให. ผใหเู รผ ยี เู นรยีทนําทกจิํากจิรรกมรรทม่ี 2ท่ีเ2รอ่ื เงรอ่ื วงฒั วนัฒธนรรธมรรกมารกดาราํ เดนําินเนชินีวิตชีวขิตอขงไอทงดไทําดจาํ าํ นจาํวนว5นข5อขอ 4. 4ให. ผใหูเรผยี ูเนรยีทนําทแบาํ แบบทบดทสดอสบอหบลหงั เลรงั ียเนรียเนรือ่ เรงือ่ วงัฒวนฒั ธนรรธมรรกมารกดาารํ เดนาํ นิเนชินวี ติชวีขิตอขงไอทงดไทําดจาํ ํานจําวนว5นข5อขอ https://bit.ly/38wSCWh บทเรียนออนไลนที่ 1 Google site วิขา วัฒนธรรม ประเพณไี ทดําอนั ลํ้าคา htthptst:p/s/b:/i/tb.liyt/.l3y4/3Z4TZkKTPkKP สแสกแนกคนิวคอวิารอโาครดโ คบด ทบเรทยี เนรียอนออนอไลนนไลท นี่ 2ท่ีเ2รอ่ื เงรอ่ื วงัฒวนฒั ธนรรธมรรกมารกดาํารเดนาํ ินเนชินวี ติชีวขิตอขงไอทงดไทาํ ดํา

บทเรียนออนไลนท่ี 2 579 579 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอันล้ําคา (สค33134) ม.ปลาย ใบงาน คาํ สง่ั 1. ใหผเู รยี นทาํ แบบทดสอบกอนเรยี นบทเรียนออนไลนท่ี 2 เรื่อง วฒั นธรรมการดาํ เนนิ ชวี ิตของไทดาํ จาํ นวน 5 ขอ 2. ใหผเู รียนศกึ ษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนที่ 2 เร่อื ง วัฒนธรรมการดําเนนิ ชวี ติ ของไทดาํ 3. ใหผ เู รียนทาํ กจิ กรรมที่ 2 เรอื่ ง วัฒนธรรมการดาํ เนินชีวติ ของไทดํา จาํ นวน 5 ขอ 4. ใหผเู รยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง วฒั นธรรมการดาํ เนินชวี ติ ของไทดาํ จํานวน 5 ขอ https://bit.ly/34ZTkKP สแกนควิ อารโ คด บทเรยี นออนไลนที่ 2 เรอื่ ง วฒั นธรรมการดาํ เนินชีวติ ของไทดํา

580 580 วิชา วัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ อันลํ้าคา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท ี่ 2 แบบทดสอบกอนเรียน เรอ่ื ง วัฒนธรรมการดาํ เนนิ ชีวิตของไทดํา ชือ่ -นามสกลุ ..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คาํ ชี้แจง ใหน ักศึกษาเลือกคําตอบท่ีถกู ตองทส่ี ุดเพียงคําตอบเดียว จาํ นวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. บา นเปน ลักษณะทรงหลงั เตา อยตู ามความ 4. เคร่ืองมอื ชนิดใดทเ่ี จาบาวตอ งใชสะพาย เชอื่ แตม ีการปรบั เปลย่ี นตามสมัยใหมโดย บาตอนเขา พธิ แี ตง งาน มีการทํารว้ั และลาดซีเมนตใ ตถนุ บา นใหม ี ก. ซาหลอด ความแขง็ แรงและเพอื่ ใชท ํางานเปน ข. กะเหล็บ ลกั ษณะของบา นเรือนยคุ ใด ค. ขมกุ ก. บานเรอื นยุคกงึ่ ดงั้ เดมิ ง. โฮ ข. บานเรอื นยคุ ด้ังเดมิ ค. บานเรอื นยุคกลาง 5. วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ สําคญั อยางไร ง. บานเรือนยุคใหม ก. ประเพณีท่ีดงี ามของไทดํา ข. เปน สิ่งทีไ่ ทดาํ ทกุ คนยอมรบั 2. ขอใดเปน ลกั ษณะของบานเรอื นยุคด้งั เดิม ค. วิถที างในการดาํ เนินชีวิตของไทดํา ของชาวไทดาํ ง. ความเชอื่ ทสี่ ืบทอดกนั มาของไทดาํ ก. ยกพ้ืนสงู มลี ักษณะโคงเปนกระโจมมุง ดวยแฝก ข. เรอื นไทยประยกุ ตก ออฐิ และปูนแทนไม ค. ฝาเรือน พื้นเรอื นเปน ไมก ระดาน ง. ใชไ มมุงกระเบอื้ งแบบบานยโุ รป 3. อาหารชนิดใดนยิ มทาํ รับประทานในพธิ ี งานศพ ก. แจว ปลารา ข. แกงหัวตาล ค. แกงหนอสม ง. แกงหยวกกลวย

บทเรียนออนไลนที่ 2 581 581 วิชา วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ อันล้าํ คา (สค33134) ม.ปลาย เฉลยแบบทดสอบกอ นเรียน เรือ่ ง วฒั นธรรมการดําเนนิ ชวี ติ ของไทดํา 6. ก 7. ก 8. ง 9. ข 10. ค

582 582 วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ อันลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท่ี 2 ใบความรู เรอื่ ง วัฒนธรรมการดําเนินชวี ติ ของไทดาํ เร่อื งที่ 1 ลักษณะบานเรือนไทดํา กกกกกกก1. ลกั ษณะบานเรือนไทดาํ 1.1 บา นเรอื นยคุ ดัง้ เดมิ ยงั มีปรากฏใหเ ห็นที่หมูบานไผห ชู า งกอตั้งขน้ึ เม่ือประมาณ พ.ศ. 2446 ในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ชาวไทดําท่ีนี่จะสรางบานเรือนดวยไมไผทํา เปน โครงรา ง เสาทําดว ยตน ไมท ั้งตนเปน ไมเนือ้ แข็ง มงี า มรองรับคาน พน้ื บา นใชไมหรือเปนฟากสับท่ี ทาํ ดว ยไมไผท บุ ใหแบนเปนชน้ิ ๆ แผอ อกเปนแผน ติดกนั หลังคาและปกนกหัวทา ยบานลากลงมายาว เสมอกับชายคาบาน มลี กั ษณะโคง เปน กระโจม มุงดวยแฝก ยาวคลมุ ลงมาเสมอพน้ื บา นคลมุ ผนังบาน รอบทุกดานเพื่อกันลมหนาว กันแดดและฝน ที่ยอดจั่วมีไมแกะสลักเปนกิ่งคลายเขากวางไขวกัน เรยี กวา ขอกุด ซง่ึ เปนเอกลกั ษณทางสถาปตยกรรมทเี่ ดนชดั ของชาวไทดาํ บานยกพ้นื ใตถ ุนสงู สําหรับ เปนทที่ อผา ตาํ ขา ว เล้ียงหมแู ละเกบ็ เคร่อื งใชใ นการทํานา ภายในบานไมม ีการก้ันหอ งจะเปด โลง กวาง ตามขนาดของตัวบาน ใชเปนท่ีนอน ที่รับประทานอาหาร มุมหนึ่งของบานจัดเปนหองผีเรือนอยู เรียกวา กระลอหอ ง เปน ทส่ี ําหรับใชทําพิธเี ซน ผีเรือนท่ีเรียกวา พิธเี สนเรือน บางบานมีหิ้งบูชาผีมดผี มนตเ ฉพาะบานทส่ี ืบเชอ้ื สายหรือเปน ตระกลู มดมนตมากอน โดยกั้นหองดวยฝาหรือใชเสาเรือนเปน หลกั ชาวไทยโซงจะสรางครวั ไฟทร่ี ะเบยี งบา นขางใดขางหน่ึงที่ไมบังหองผีเรือนเพราะถือวาหองครัว เปน สถานที่ที่ไมส ะอาด กลาวโดยสรุป บา นเรือนยคุ ดั้งเดมิ มีลักษณะ เปนการสรา งบานเรือนดวยไมไผในการทํา โครงราง และพ้ืนบานสวนเสาบานทําดวยตนไมท้ังตนโดยใชงามไมท่ีติดมากับตนเปนที่รองรับคาน ยกพ้ืนสงู หลังคาและปกนกหวั ทายบา นลากลงมายาวเสมอกับชายคาบา น มีลักษณะโคงเปนกระโจม มุงดว ยแฝก ยาวคลุมลงมาเสมอพนื้ บา นคลุมผนังบา น ลกั ษณะแบบบานคลา ยหลังเตา

บทเรยี นออนไลนที่ 2 558833 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ อันลํา้ คา (สค33134) ม.ปลาย บานเรอื นยคุ ดง้ั เดมิ 1.2 บานเรอื นยคุ ก่งึ ดง้ั เดมิ มีลกั ษณะคอื ยงั คงมลี กั ษณะบานแบบ“ทรงหลงั เตา ”อยู เน่อื งจากลกั ษณะบา นทรงหลงั เตาน้มี สี าเหตจุ ากความเช่อื ของชาวไทดาํ วาเตา มีบุญคุณตอ มนุษยโ ดย ชว ยสอนบทสวดถวายแตแถน ทาํ ใหมนุษยไ มตองคาํ สาปจากแถน อกี ความเชอื่ หนง่ึ เลาวา วันหนึ่งเตา เดนิ ทางไปตามความประสงคแ หง ตน แตไ ปเจอขอนไมขวางทางเอาไว ทําใหเตา เขา ไปไมไ ด พอดี มนษุ ยมาเหน็ จึงชวยยกเตาไปวางไวอ กี ดา นหน่งึ ของขอนไมน ัน้ เตา ซาบซงึ้ ในนํา้ ใจนกั เมอ่ื เตา ไดข ้นึ ไป เฝาแถน แลวบอกแดแ ถนวามนุษยเปน ผมู ีน้าํ ใจงดงาม แถนจงึ บันดาลสงิ่ ตา งๆใหม นุษยไ ดใ ชสอยและ ดาํ รงชวี ิตอยอู ยา งมคี วามสขุ เพ่ือเปนการระลกึ ถึงความดขี องเตา เวลาชาวไทดําสรา งบานจึงไดสราง บานเปนทรงหลังเตา บางบานท่ปี ลายเสาเอกไดเ อารปู แกะสลกั เตา ไปแขวนหรือเกาะตดิ เอาไว เพอื่ แสดงการระลึกถึงความดขี องเตา และเพ่ือความเปน สริ มิ งคล บรเิ วณรอบบา นนยิ มทาํ รว้ั แบบสมยั ใหม บางบานไมนยิ มทาํ ร้วั แตจ ะลาดซเี มนตใตถ ุนบา นเพอ่ื ใชท ํางาน กลา วโดยสรุป บา นเรอื นยุคกงึ่ ด้ังเดมิ มลี ักษณะ แบบบานยังคงเปน ลกั ษณะทรงหลังเตา อยตู ามความเช่อื แตม กี ารปรบั เปล่ียนตามสมัยใหมโดยมกี ารทาํ รัว้ และลาดซเี มนตใตถ นุ บา นใหม ีความ แขง็ แรงและเพ่อื ใชท าํ งาน บานเรอื นยุคกึง่ ดงั้ เดิม

584 584 วชิ า วัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ อันลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท่ี 2 1.3 บานเรือนยุคกลางมีลักษณะคือบานท่ียกพ้ืนเปนบานที่พัฒนาใหเปนบานไทย ทั่วๆไป มากขน้ึ แตย ังคงรักษาเอกลกั ษณข องชาวไทยโซง หลงั คามุงดว ยกระเบอื้ งซง่ึ หาซื้อไดท ั่วไปตาม ทองตลาด ฝาเรอื นเปน ไมก ระดาน เปนบานยคุ กลาง และมกี ารตกแตงอยา งสวยงามตามสมัยนิยมการ เปล่ียนรูปแบบบานของชาวไทยโซง อาจมีสาเหตุมาจาก ปจจัยทางดานเทคโนโลยี ปจจัยทาง เศรษฐกิจ ปจ จัยทางดานการศึกษา ซึ่งการเปลย่ี นแปลงน้เี กดิ ขึ้นอยางคอ ยเปน คอ ยไป รูปแบบบา นจะ เปล่ยี นตามความตอ งการ ความเหมาะสม และความสะดวกสบายของชาวไทยโซง กลา วโดยสรปุ บา นเรือนยุคกลางมลี กั ษณะ มีการพัฒนาใหเปนบานไทยทั่วๆไปมากขึ้น แตยงั คงรกั ษาเอกลักษณข องชาวไทยโซง โดยใชว ตั ถุดิบทมี่ อี ยใู นปจ จบุ นั เชน กระเบ้ืองมุงหลังคา ฝา เรือน พนื้ เรือน เปนไมกระดาน ยกพืน้ สงู กวา เดิมเพอื่ ประโยชนใชสอย บา นเรอื นยุคกลาง 1.4 บา นเรอื นยคุ ใหมล กั ษณะคอื ปจ จบุ ันบานเรอื นสว นมากจะเปน แบบสมัยใหม บาน แบบโซง แทบจะไมม ีใหเ ห็น มีเพียงบา นทรงไทยระยะท่ี 2 อายุประมาณ 70 - 80 ป เปน เรือนไทย ประยุกต กอ อิฐและปูนแทนไม หรอื ใชไ มมงุ กระเบอื้ งแบบบา นยุโรปตามยคุ ตามสมยั เหมอื นคนไทย ท่ัวไป แตสิง่ หนง่ึ ที่ยงั คงรักษาไวคอื กะลอ หอง หอ งผีมมุ หนงึ่ ของบานเพอ่ื เซน ผเี รือนตามประเพณี กลา วโดยสรปุ บา นเรอื นยุคใหม มลี กั ษณะดงั นี้ ปรบั เปลยี่ นเปน แบบสมยั ใหม บานแบบ โซง แทบจะไมมใี หเ หน็ สว นใหญเปนเรอื นไทยประยกุ ต กอ อฐิ และปูนแทนไม หรอื ใชไ มมงุ กระเบื้อง แบบบานยโุ รปตามยคุ ตามสมัย แตยงั คงรกั ษาไวคือ กะลอ หอง หอ งผีมมุ หนง่ึ ของบานเพื่อเซนผีเรือน ตามประเพณี บานเรอื นยุคใหม

บทเรยี นออนไลนท่ี 2 558855 วิชา วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ อันลํ้าคา (สค33134) ม.ปลาย เร่ืองท่ี 2 วิถีชีวิตไทดาํ 2.1 ความสมั พนั ธใ นครอบครวั มลี กั ษณะคือครอบครัวของไทดํา เดิมเปน แบบครอบครัว ขยาย มีปยู า ตายาย พอ แมลูก พี่ ปา นา อา อยบู า นเดียวกนั อํานาจครอบครวั จะอยทู ีผ่ ูชายเปน ผนู าํ ไทดาํ ใหผ ชู ายสบื สกุล ผหู ญงิ เมอื่ แตงงานไปอยูก บั ครอบครวั และสบื สายสกลุ ทางสามี ครอบครวั ของไทดํามีการแบงกลมุ ตระกลู เปนสงิ ตางๆ คนสง่ิ เดยี วกันถอื เปน ญาตพิ ีน่ อ ง สนิท หรือเรยี กวานองปหากเปน ไทดาํ เดยี วกันก็นบั ญาติ เรยี กวาปน อ ง ในปจจบุ นั ครอบครัวไทดําเปนแบบครอบครวั เดยี่ วมากขึ้น มี พอ แม ลกู มีการใช นามสกลุ แบบไทย การนับเครือญาติ นับเครือญาติทัง้ ฝายพอ และแมทง้ั สองฝา ยเชน เดยี วกบั อดีต ความสัมพนั ธใ นครอบครวั จะรักญาตพิ ่นี อง เออื้ เฝอ โอบออมอารีใหแ กก นั มคี วามกตญั แู ละออนนอ ม ตอ ผูมีพระคณุ และผสู ูงอายุ ใหอ ภัยซง่ึ กันอยเู สมอ อยูกันเปน หมคู ณะ กลา วโดยสรปุ ความสมั พนั ธใ นครอบครัวมลี ักษณะดังน้ีความสมั พนั ธใ นครอบครัวจะรกั ญาตพิ ่นี อ ง เออ้ื เฝอ โอบออ มอารีใหแ กกัน มีความกตญั แู ละออนนอ มตอ ผมู ีพระคุณและผสู ูงอายุ ให อภัยซึ่งกันอยเู สมอ อยูกันเปนหมูคณะ ครอบครวั ไทดาํ 2.2 การทาํ มาหากนิ ของไทดาํ มลี กั ษณะชาวไทดาํ มีอาชีพหลัก คือการทํานา มีการถือ ครองท่ีดินเปนของตนเองและตกทอดเปนมรดกสืบตอกันมา มีการเล้ียงสัตว เชน หมู ไก เพื่อใช บรโิ ภคและใชในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความเช่ือเรื่องผี เม่ือวางจากการทํานาก็ปลูกพืชสวน ครัว ทอผาและหัตถกรรมในครวั เรอื น กลาวโดยสรุป ความสัมพันธใ นครอบครัว มลี ักษณะดงั นม้ี ีอาชีพหลัก คือการทํานา มีการถือครองทดี่ ินเปน ของตนเองและตกทอดเปนมรดกสบื ตอ กันมา

586 586 วชิ า วัฒนธรรม ประเพณีไทดําอันลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรยี นออนไลนท่ี 2 อาชีพทาํ นา 2.3 อาหารของไทดํา ไดแก 2.3.1 อาหารคาว ชาวไทดําปรงุ ข้นึ รับประทานโดยการใสป ลารา เปนสว นประกอบ แทนนํา้ ปลาและผงชรู สเพราะเนอื้ ปลาทาํ ใหไ ดร สหวานและรสเคม็ รสเปร้ยี วใชม ะนาวและสมมะชาม เปยก เคร่ืองแกงใชพ ริก หวั หอม กระเทยี ม นาํ มายางหรอื คว่ั ใหสุกแลวนาํ มาโขลกรวมกัน พืชผกั ทเ่ี ปน สมนุ ไพรในการประกอบอาหาร เชน ตะไคร ผิวมะกรดู กะเพรา โหระพา หวั หอม กระเทยี ม ขงิ ขา และใชเครือ่ งเทศ เชน มะแขน หรอื พรกิ พาน ตัวอยางอาหารคาว เชน แกงโฮเฮ แกงหนอเปรอะ แกง หนอสม แกงบอนหรอื แกงนางแหวน แกลงหยวกกลว ย แกงปา แกงหัวตาล แกงไกง าย แกงผาํ และ แกงคว๊ั ะ เปน ตน อาหารคาวเหลา น้ีถอื เปนอาหารหลกั ทีช่ าวไทดํานยิ มทํารบั ประทานประจาํ วันและใน งานพธิ ี เพอื่ เปน การรกั ษาวัฒนธรรมในการทําอาหารทเ่ี ปนเอกลักษณเฉพาะกลุม นอกจากน้ันก็มี อาหารทรี่ บั ประทานกนั โดยทั่วไป อาหารสําหรบั เลี้ยงแขกรวมพธิ เี สนเรือน

บทเรยี นออนไลนท ี่ 2 558877 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดําอันลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย 2.3.3 อาหารหวานและขนมชาวไทดาํ นยิ มทาํ อาหารหวานและขนมรบั ประทาน ประจําวนั และในการประกอบพิธีกรรม โดยทําจากขา วเหนยี วและขาวเจา ทเ่ี ปนอาหารหลกั เนอ่ื งจาก อาชพี ทาํ นาปลกู ขาว จงึ เอาขาวมาดดั แปลงทําเปน อาหารหวานและขนม ปรงุ ดวยนํ้าตาลปบ นาํ้ ตาล ทราย และมะพราว ไดแ ก ขนมบัวลอย ขาวเมา คลกุ ขนมคาดกระทะ ขนมนมสาว (ขนมเทยี น) ขนม เปยก (แปง ขาวเจาเปยก) ขนมกอ น (ขนมตม แดง ขนมตม ขาว) กระยาสารท ขนมหนงั ควาย (คลาย ขนมบา บิน่ ) ขนมควายขลุย (ขาวเหนียวเปยก) เปนตน อาหารหวานและขนมเหลา นีท้ ํารบั ประทาน และในพิธีกรรมประเพณีตา งๆแสดงใหเ หน็ สภาพความเปน อยทู ่ีเรยี บงา ย รจู กั คณุ คา อาหาร รูจ กั ประหยดั โดยนําของท่มี ที ง้ั ของเหลือกินมาทําอาหารหวานและขนมใหบ ตุ รหลานและทกุ คนในบา น ไดร บั ประทานกัน กลา วโดยสรุป อาหารของไทดํา แบงเปนอาหารคาว อาหารคาวสวนใหญจะใสปลารา เปนสวนประกอบถือเปน อาหารหลกั ทีช่ าวไทดาํ นยิ มทํารบั ประทานประจาํ วนั และในงานพิธี เพ่ือเปน การรกั ษาวฒั นธรรมในการทาํ อาหารทเ่ี ปน เอกลกั ษณเ ฉพาะกลุม นอกจากนน้ั กม็ อี าหารทีร่ ับประทาน กนั โดยท่วั ไป อาหารหวานและขนม อาหารหวานและขนมชาวไทดํานิยมทําอาหารหวานและขนม รับประทานประจาํ วนั และในการประกอบพิธีกรรม โดยทําจากขาวเหนียวและขาวเจาที่เปนอาหาร หลกั 2.4 หัตถกรรมที่ใชในครัวเรือน เปน เคร่ืองใชท ีใ่ ชในชีวติ ประจาํ วนั ซงึ่ เกี่ยวของกับการ ประกอบอาหาร การตอนรบั แขกและเครื่องใชใ นพธิ ีกรรม ซงึ่ ลวนแลว แตผลิตข้นึ เองท้ังสิน้ ไดแ ก 2.4 2.4.1 ปานหรือพานเปน ภาชนะทใี่ ชใ สเครื่องเซนไหวผ ีเรือนและเทวดาถา ใชเ ซนผี เรือนเรียกวา ปานเผอื นถาใชเ ซน ไหวในพธิ เี รียกขวญั และพธิ แี ตง งาน เรยี กวา ปานขวญั พานมลี ักษณะ เปน ถาดกลมมขี าเปนขอบทึบสงู มขี อบทงั้ ดา นบนและดานลา งของพาน

588 588 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอันลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท ี่ 2 ปานหรอื พาน 2.4 2.4.2 โฮ เปนภาชนะสานดวยไมไผ มีลักษณะเปนทรงกระบอก มีขอบท้ังตอนบน และตอนลางที่ขอบดานบนสานเปนถาดหรือกระจาดปดพื้นที่หนาตัดทรงกระบอก โฮมีประโยชน สาํ หรบั ใสเศษผา ดาย และเครื่องเยบ็ ปก ถกั รอ ยของผหู ญงิ เพ่ือทาํ การฝม ือประเภททท่ี าํ จากผา โฮ 2.4 2.4 2.4.3. ขมกุ เปน ภาชนะสานดว ยไมไ ผทรงสีเ่ หล่ียม มฝี าบิด มปี ระโยชนสาํ หรบั ใส ผาท่ีทอเสรจ็ แลว เปนผนื หรอื ใสเ สื้อผา สวนตวั ขมุกจะเกบ็ ไวบนเพดานบานโดยใชไ มไ ผพ าดกบั ขอ่ื บา น ขมกุ

บทเรียนออนไลนที่ 2 558899 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอนั ลํา้ คา (สค33134) ม.ปลาย 2.4 2.4.4. ซาหลอด เปนตะกรา หลอด หมายถงึ ตะกรา สาํ หรับใสหลอดดา ยเพ่ือเตรียม ไวสําหรบั ทอผา เปนของใชผ ูหญงิ สานดว ยตอกไมไผเ สน ละเอียดมาก มลี ักษณะรูปไขปากฝายกนสอด มีหูสาํ หรับถือ 2.4 ซาหลอด 2.4.5 กะเหล็บ เปน ภาชนะทีส่ านดวยไมไผเ สน ขนาดเลก็ ฝมือประณีต เปนของผูชาย จะโชวฝ มอื การจกั สานอกี ชน้ิ หนงึ่ ทส่ี าํ คัญ เพราะตามประเพณีชายหนุมกอนที่จะแตงงานจะตองสาน กะเหล็บใหไดเสียกอนจึงจะมีครอบครัวได เพราะกะเหล็บเปนเคร่ืองมือช้ินหนึ่งที่เจาบาวตองใช สะพายบาตอนเขาพิธีแตงงานดวย เปนการอวดหญิงใหเห็นวาตนเองนั้นมีความสามารถท่ีจะสราง สิ่งของเครอื่ งใชตาง ๆ ได เหมาะทจ่ี ะเปนผนู ําครอบครัว กะเหลบ็ มลี กั ษณะคลา ยตมุ นา้ํ ดนิ เผาแตมกี น สอบเปน รูปสีเ่ หลีย่ มผืนผา ปากกลม ประโยชนสําหรับใสสง่ิ ของเคร่ืองใชประจําตัวเวลาเดินทาง เชน เส้ือผา อาหาร กะเหล็บ

590 590 วิชา วฒั นธรรม ประเพณไี ทดําอนั ลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท ่ี 2 2.4.6 งอบหรือหมวั ะ เปนหมวกที่ชาวไทดาํ ใชก นั แดดกันฝน สานดว ยตอกไมไ ผท งั้ ลกู ยาดว ยชัน เพอ่ื ปอ งกันมิใหน้ําฝนซมึ เขาภายใน งอบน้เี ปนเครื่องใชของเจา บา วในพิธีแตง งานช้ินหนงึ่ ดว ยเชนเดียวกบั กะเหลบ็ 2.4 งอบ หรอื หมัวะ 2.4.7 กระจาดหาบ เปน กระจาด 2 ใบ หรอื คูหนึ่งมสี าแหรกสาํ หรับใหไมคานหาบ หามได มีลักษณะปากกลมกนสอบเปนรูปแปดเหล่ียมหรือหกเหล่ียมถักดวยหวายอยางสวยงาม ประโยชนส ําหรบั ใสข องไปทาํ บญุ ทวี่ ัด กระจาดหาบ 2.4

บทเรยี นออนไลนท ่ี 2 591 591 วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไทดาํ อนั ลาํ้ คา (สค33134) ม.ปลาย 2.4.8 แอบขาว เปน ภาชนะท่สี านดว ยไมไ ผรูปทรงคลายตุมตอสูง มีฝาครอบมีบานส่ีเหลี่ยม มสี ายสะพาย สานแบบลายสองดีหลม ใชสําหรับใสข า วเหนียวท่นี ่ึงแลวไวสาํ หรับเปนที่เก็บอาหารหิ้ว ไปรบั ประทานเวลาออกไปทาํ นาในตอนเชา หรือเดนิ ทางไปนอกบานไกล ๆ แอบขา ว 2.4 2.4.9 ไหนึง่ เปนภาชนะสําหรับน่ึงขาวเหนียว ทําดวยไมตนนุนหรือตนทองหลาง ขดุ ใหกลวง ปากกลม ทรองกระบอก ตรงกลางปอง กนไหน่ึงกรุดวยไมไผสานเปนตาตาราง มีฝาปด ดา นบนของไหนึง่ ไหน่งึ

592 592 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณไี ทดําอนั ลํ้าคา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท่ี 2 2.4 2.4.10 เซ่ียนหมาก หรอื ขนั หมาก เปน ภาชนะสาํ หรับใสหมากพลู บุหรี่ เปนเคร่ือง ตอ นรับแขกประจําบาน ทําดว ยไมกระดานตอเปน รปู กระบะสเี่ หลยี่ มจตั รุ สั ดา นบนเปน ชองๆสีเ่ หล่ยี ม มกี ารแกะสลกั ลวดลายตกแตง สวยงามดว ย เชย่ี นหมาก 2.4.11 มุง ทําดวยผาทอดวยมือยอมสีดําและตัดเย็บดวยมือท้ังหลัง มีรูปราง ลักษณะเชนเดยี วกับมงุ ในปจจุบัน ขอบดานบนทั้งสี่ดานจะตกแตงดวยผาสีแดง เหลือง สม พับเปน ดอกดวยมุมผา ซอ นๆกนั หทู ้งั ส่ีเปน เชือกดายดบิ ผกู เปน หว งๆ มุง

บทเรียนออนไลนที่ 2 593 593 วิชา วัฒนธรรม ประเพณีไทดําอนั ลํา้ คา (สค33134) ม.ปลาย กกกกกก กลาวโดยสรุป หตั ถกรรมท่ีใชใ นครัวเรอื น มลี ักษณะดงั น้เี ปน เคร่ืองใชที่ใชในชีวิตประจําวัน ซง่ึ เกย่ี วของกับการประกอบอาหาร การตอนรบั แขกและเครอ่ื งใชใ นพิธีกรรมงานหัตกรรมของชาวไทดํา สว นใหญจะเปน งานจักสาน งานผา และงานไม งานหัตถกรรมทุกชิ้นทุกแบบถูกสรางข้ึน ดวยความ ตองการท่จี ะสนองประโยชนในการใชสอย ชาวไทดําเปนกลุมชนที่มีความสามารถในการทําส่ิงของ เคร่ืองใชเองเปนสว นใหญไมตอ งพ่ึงสนิ คาในทองตลาด

594 559934 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอนั ลํา้ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท่ี 2 กจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง วฒั นธรรมการดําเนินชวี ิตของไทดาํ ชอ่ื -นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คาํ ช้แี จง จงตอบคําถามตอ ไปนใ้ี หถกู ตอง จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) กกก1. ลักษณะบานเรอื นไทดํามลี กั ษณะแบบไหนบาง กกก…..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… กกก2. บา นเรือนยุคด้งั เดมิ มลี ักษณะเปนการสรางบานเรือนดว ยวสั ดอุ ะไร …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… 3. บา นเรอื นยคุ กึง่ ดง้ั เดมิ มลี กั ษณะแบบบานยังคงเปนลกั ษณะทรงอะไร …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… 4. การทํามาหากนิ ของชาวไทดาํ มีอาชพี หลกั คือ อาชีพอะไรบา ง …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… 5. สว นประกอบทีถ่ อื เปนอาหารหลักทีช่ าวไทดาํ นิยมทํารบั ประทานประจาํ วนั และในงานพิธคี อื อะไร …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….…………………………………… …..…………………………………………………………………………………………….……………………………………

บทเรยี นออนไลนที่ 2 595 595 วชิ า วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอนั ลํ้าคา (สค33134) ม.ปลาย เฉลยกิจกรรมที่ 2 เร่ือง วัฒนธรรมการดําเนินชวี ิตของไทดํา ชอื่ -นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คําช้ีแจง จงตอบคําถามตอ ไปนใ้ี หถ กู ตอง จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ลักษณะบา นเรอื นไทดาํ มลี ักษณะแบบไหนบาง ตอบ - บา นเรอื นยุคด้งั เดมิ - บานเรอื นยุคกึ่งดั้งเดิม - บานเรือนยคุ กลาง - บานเรือนยุคใหม 2. บา นเรือนยคุ ด้ังเดมิ มลี กั ษณะเปน การสรา งบา นเรอื นดว ยวัสดอุ ะไร ตอบ มีการใชว ัสดจุ ากไมไ ผเ ปน หลกั 3. บานเรอื นยุคกง่ึ ด้งั เดมิ มลี กั ษณะแบบบา นยงั คงเปนลกั ษณะทรงอะไร ตอบ ทรงหลงั เตา 4. การทํามาหากินของชาวไทดํา มอี าชพี หลกั คือ อาชพี อะไรบาง ตอบ เกษตรกรรม 5. สวนประกอบทถ่ี ือเปนอาหารหลกั ทชี่ าวไทดาํ นิยมทาํ รบั ประทานประจําวนั และในงานพิธคี อื อะไร ตอบ ปลารา

596 596 วิชา วฒั นธรรม ประเพณีไทดําอันล้าํ คา (สค33134) ม.ปลาย บทเรียนออนไลนท ่ี 2 แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง วฒั นธรรมการดาํ เนนิ ชวี ิตของไทดํา ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คําชแี้ จง ใหนักศกึ ษาเลอื กคําตอบท่ีถูกตองทส่ี ุดเพียงคําตอบเดยี ว จํานวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. บา นเปนลักษณะทรงหลงั เตาอยตู ามความ 4. เครอื่ งมอื ชนิดใดทเี่ จา บา วตองใชส ะพายบา เชอ่ื แตมกี ารปรบั เปล่ียนตามสมยั ใหมโดย ตอนเขา พธิ ีแตงงาน มกี ารทาํ รั้วและลาดซีเมนตใตถ นุ บา นใหมี ก. ซา หลอด ความแขง็ แรงและเพอ่ื ใชท าํ งานเปน ข. กะเหลบ็ ลักษณะของบา นเรือนยคุ ใด ค. ขมุก ก. บา นเรือนยคุ กง่ึ ด้ังเดมิ ง. โฮ ข. บานเรอื นยคุ ดั้งเดมิ ค. บานเรอื นยุคกลาง 5. วัฒนธรรม ประเพณไี ทดาํ สาํ คัญอยา งไร ง. บานเรือนยคุ ใหม ก. ประเพณที ีด่ ีงามของไทดํา ข. เปน สงิ่ ทีไ่ ทดาํ ทุกคนยอมรบั 2. ขอ ใดเปนลกั ษณะของบานเรอื นยุคดง้ั เดิม ค. วิถีทางในการดําเนินชวี ิตของไทดาํ ของชาวไทดํา ง. ความเชอ่ื ท่ีสบื ทอดกนั มาของไทดํา ก. ยกพน้ื สงู มลี ักษณะโคง เปนกระโจมมงุ ดวยแฝก ข. เรือนไทยประยกุ ตก ออฐิ และปูนแทน ไม ค. ฝาเรอื น พื้นเรือนเปน ไมก ระดาน ง. ใชไ มม ุงกระเบ้อื งแบบบา นยโุ รป 3. อาหารชนดิ ใดนิยมทํารับประทานในพธิ ี งานศพ ก. แจว ปลารา ข. แกงหวั ตาล ค. แกงหนอ สม ง. แกงหยวกกลว ย

บทเรยี นออนไลนท่ี 2 597 597 วิชา วัฒนธรรม ประเพณีไทดาํ อนั ล้ําคา (สค33134) ม.ปลาย เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง วฒั นธรรมการดาํ เนินชวี ิตของไทดํา 1. ก 2. ก 3. ง 4. ข 5. ค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook