Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

Published by jarunpanakul, 2021-03-12 03:59:01

Description: แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – พืชดอกที่สำรวจพบมีลักษณะใดที่แตกต่างกัน (แนวคำตอบ บางชนิดมีเส้นใบแตกต่างกัน และบางชนดิ มจี ำนวนกลีบดอกแตกตา่ งกนั ) (3) ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า พชื ดอกเป็นพืชท่ี สร้างดอกเพอ่ื ใชใ้ นการสบื พนั ธ์ุ 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ครูให้นักเรียนนำดอกของพืชที่สำรวจมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นครูอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจว่า พืชแต่ ละชนิดมลี กั ษณะของดอกแตกต่างกนั แต่ดอกทำหน้าท่เี ดียวกัน คอื สืบพนั ธุ์ 5) ขั้นประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยงั มขี ้อสงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรียนรว่ มกันประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรมกล่มุ ว่ามปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการปฏบิ ัติกจิ กรรมและการ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคำถามนกั เรียน เชน่ – พชื ดอกที่นกั เรยี นรู้จักมอี ะไรบ้าง – พืชดอกมสี ่วนประกอบอะไรบ้าง ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั พชื ดอก โดยร่วมกันเขียนเปน็ แผนที่ความคิดหรอื ผังมโนทัศน์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. แวน่ ขยาย 2. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 3. สื่อการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 5. หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เรื่องพชื 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์เป็น 1. ประเมินทักษะการคดิ โดยการ ดอก รายบคุ คลโดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั สังเกตการทำงานกลุ่ม 2. ตรวจชนิ้ งานหรอื ภาระ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ งานของกิจกรรมฝึกทักษะ 1. ประเมนิ เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์เปน็ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเป็นรายบุคคล ระหว่างเรยี น รายบุคคลโดยการสังเกตและใช้แบบวัด หรือรายกลุม่ โดยการสังเกตการ เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ ทำงานกลุม่

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรูข้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง พชื ดอก (2) เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมทมี่ ผี ลตอ่ สง่ิ มชี ีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ฒั นาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. ตัวช้ีวัดช้ันปี จำแนกพืชออกเปน็ พชื ดอกและพืชไมม่ ดี อกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใชข้ ้อมลู ท่ีรวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและอธบิ ายลักษณะของพืชดอกได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรอื อยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ ี่เกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. สอื่ สารและนำความร้เู ร่ืองพืชดอกไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคญั พชื ดอกเมอื่ เจรญิ เติบโตเตม็ ทจี่ ะมีดอกสำหรับสบื พนั ธ์ุ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช – พชื ดอก 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ช้ินงานหรือภาระงาน สรา้ งผลงานศิลปะจากดอกของพืช 9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมโดยถามนักเรียนว่า พืชดอกแตกต่างจากพืชไม่มีดอกลักษณะใด (แนวคำตอบ พชื ดอกมีดอกท่ใี ชใ้ นการสบื พนั ธุ์ สว่ นพืชไม่มดี อกใช้สปอร์ในการสบื พนั ธ์ุ) 2) นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับคำตอบของคำถาม เพือ่ เช่ือมโยงไปสู่การ เรยี นรเู้ รือ่ ง พชื ดอก ขั้นจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึง่ มขี ้ันตอนดังนี้ 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครใู หน้ ักเรยี นบอกช่ือดอกของพชื ท่ีชอบพรอ้ มเหตผุ ล (แนวคำตอบ ดอกชบา เพราะมีสีสนั สวยงาม) (2) นักเรยี นร่วมกันอภิปรายเกย่ี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากดอกของพืช โดยให้นักเรียนสำรวจบริเวณโรงเรียนและ รวบรวมดอกของพืชที่สำรวจได้ จากนั้นออกแบบผลงานศิลปะจากดอกของพืชที่รวบรวมได้และลงมือทำ แล้ว นำผลงานของแตล่ ะคนมาจดั แสดง (2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดนิ ดูรอบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ กั เรียนทุกคนซักถามเมือ่ มีปญั หา 3) ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมหนา้ ห้องเรียน (2) นักเรียนและครูร่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ต่อไปน้ี – นักเรียนสรา้ งผลงานศลิ ปะทมี่ ชี อ่ื ว่าอะไร (แนวคำตอบ โลกใต้น้ำ) – ดอกของพืชที่ใช้มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ ดอกอัญชัน ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า และดอก ชวนชม) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ดอกของพืชแต่ ละชนิดมีรูปรา่ งและสีสันแตกตา่ งกนั 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูนำรูปพืชดอกชนิดต่าง ๆ มาให้นักเรียนดูและอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า ดอกของพืชบาง ชนิดพบเห็นยาก เช่น อ้อย ตะไคร้ และไผ่ ดอกของพืชบางชนิดพบได้ 1 ครั้งต่อปี เช่น ทุเรียน พลับพลึงธาร และพญาเสือโคร่ง และดอกของพชื บางชนิดพบไดต้ ลอดทง้ั ปี เชน่ เขม็ ชบา และชวนชม (2) นกั เรียนคน้ ควา้ คำศพั ท์ภาษาต่างประเทศเกย่ี วกบั พชื ดอก จากหนงั สือเรียนภาษาตา่ งประเทศหรือ อนิ เทอรเ์ น็ต และนำเสนอให้เพือ่ นในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพทพ์ ร้อมทงั้ คำแปลลงสมดุ ส่งครู

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 5) ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรือยังมขี ้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธิบายเพิม่ เติมให้นกั เรียนเขา้ ใจ (2) นกั เรียนร่วมกนั ประเมินการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลุม่ วา่ มปี ัญหาหรืออุปสรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับประโยชน์ท่ีได้รบั จากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนกั เรยี น เช่น – พชื ดอกมลี ักษณะสำคญั อะไร – ยกตวั อย่างพืชดอกทน่ี กั เรยี นพบปลี ะ 1 คร้งั ขั้นสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับพชื ดอก โดยร่วมกนั เขียนเป็นแผนท่คี วามคดิ หรือผังมโนทัศน์ 10. สื่อการเรียนรู้ 1. กาว 2. ปากกาสเี มจกิ 3. รปู พืชดอกชนดิ ตา่ ง ๆ 4. หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอร์เนต็ 5. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 8. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เร่ืองพชื ดอก 1. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ตรวจชิน้ งานหรอื ภาระงานของ 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง การสงั เกตการทำงานกลมุ่ วิทยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล กิจกรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ ปฏิบตั กิ ิจกรรมเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย 2. ประเมินเจตคติต่อ การสงั เกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตร์เป็นรายบคุ คล โดยการสังเกตและใช้แบบวดั เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรูข้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง พชื ใบเลยี้ งเด่ียวและพืชใบเลี้ยงคู่ (1) เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู ู้สอน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธกุ รรมท่ีมผี ลตอ่ สิง่ มีชีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ัฒนาการของ สงิ่ มชี ีวติ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วดั ชั้นปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สงั เกตและจำแนกพืชดอกเป็นพืชใบเลยี้ งเดี่ยวและพืชใบเลย้ี งค่ไู ด้ (K) 2. มีความสนใจใฝ่รู้หรืออยากรอู้ ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ ี่เกี่ยวกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานร่วมกบั ผอู้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. ส่อื สารและนำความร้เู รอ่ื งพืชใบเลีย้ งเดย่ี วและพชื ใบเลีย้ งคไู่ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ พืชดอกมีลักษณะภายนอกบางประการที่แตกต่างกัน เมื่อใช้ลักษณะภายนอกที่สำคัญเป็นเกณฑ์ สามารถจำแนกพืชดอกเป็น 2 กลุ่ม คอื พชื ใบเล้ียงเดีย่ วและพชื ใบเลยี้ งคู่ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพชื – พืชดอก 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนินชวี ติ

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน เปรยี บเทยี บจำนวนใบเล้ียงของพชื ใบเลย้ี งเดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถามกับนักเรียนว่า ถ้านักเรียนต้องการแบ่งกลุ่มพืช ดอก นักเรยี นสามารถใช้เกณฑ์ใดไดบ้ า้ ง (แนวคำตอบ ลกั ษณะเส้นใบ ลักษณะราก และลักษณะลำตน้ ) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง พืชใบเลี้ยง เดย่ี วและพชื ใบเลยี้ งคู่ ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึ่งมขี ้ันตอนดังนี้ 1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูนำรูปหรือต้นถั่วเขียวและต้นข้าวโพดมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะท่ี แตกตา่ งกันของพืช 2 ชนดิ น้ี (2) นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเก่ยี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครู ชว่ ยอธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจว่า เม่อื ใช้ลักษณะภายนอกของพชื ดอกเปน็ เกณฑ์ สามารถแบ่งกลุม่ พืชดอกเป็นพืช ใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคูไ่ ด้ โดยลักษณะที่ใช้เป็นเกณฑ์สังเกตได้จากใบเล้ียง เส้นใบ การแตกกิ่ง และราก (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่ 2 เปรียบเทียบจำนวนใบเลี้ยงของพืชใบเลี้ยง เดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ แต่ละกลุม่ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามขัน้ ตอนทไ่ี ด้วางแผนไว้ ดงั นี้ – แบง่ กลมุ่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 5 – 6 คน – แต่ละกลมุ่ สงั เกตลักษณะของเมล็ดถวั่ เขยี วและเมลด็ ขา้ วโพด – นำเมล็ดถวั่ เขียวและเมล็ดขา้ วโพดแชน่ ำ้ ไว้ 1 คนื – นำเมล็ดถั่วเขยี วและเมล็ดข้าวโพดปลกู ลงในกระถางใบที่ 1 และใบที่ 2 ตามลำดับ รดน้ำทั้ง 2 กระถางทกุ วนั – สังเกตจำนวนใบเลยี้ งและรากท่งี อกจากเมล็ดของพืชทง้ั 2 ชนิด บนั ทกึ ผล (3) ครคู อยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดนิ ดรู อบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ให้นักเรียนทุกคนซกั ถามเมอื่ มีปัญหา 3) ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรยี น (2) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายผลการปฏิบตั ิกิจกรรมโดยใช้แนวคำถาม เชน่ – เมล็ดถัว่ เขียวและเมล็ดข้าวโพดแตกตา่ งกนั ลักษณะใด (แนวคำตอบ เมล็ดถวั่ เขียวแบ่งได้เป็น 2 ซกี ส่วนเมล็ดขา้ วโพดเป็นเมล็ดเดีย่ ว) – ใบเล้ียงที่งอกจากเมล็ดถ่วั เขียวและเมล็ดข้าวโพดมลี กั ษณะใด (แนวคำตอบ ใบเลีย้ งของเมล็ด ถั่วเขยี วมี 2 ใบ สว่ นใบเลย้ี งของเมลด็ ข้าวโพดมี 1 ใบ)

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – รากที่งอกจากเมล็ดถั่วเขียวและเมล็ดข้าวโพดมีลักษณะใด (แนวคำตอบ รากของเมล็ดถั่ว เขยี วมีขนาดใหญ่และมีรากขนาดเล็กแตกออกจากรากขนาดใหญ่ สว่ นรากของเมลด็ ข้าวโพดมีขนาดเล็กจำนวน มากงอกจากเมลด็ ) (3) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนเข้าใจว่า พืชใบเลี้ยงคู่มีใบ เลย้ี ง 2 ใบ และมีรากแก้วงอกจากเมลด็ ส่วนพชื ใบเล้ยี งเด่ยี วมใี บเลย้ี ง 1 ใบ และมรี ากฝอยงอกจากเมล็ด 4) ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) ครใู หน้ ักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากการพิมพ์ลายเส้นใบของพืชใบเลยี้ งเดี่ยวและพืชใบเล้ียงคู่จากนั้นนำ ผลงานมานำเสนอหน้าหอ้ งเรียน 5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบา้ งที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครชู ว่ ยอธิบายเพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรียนร่วมกันประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลมุ่ ว่ามปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและไดแ้ กไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการปฏิบตั ิกจิ กรรมและการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – พืชใบเลีย้ งเดี่ยวมลี กั ษณะสำคญั อะไร – พืชใบเลีย้ งคู่มีลกั ษณะสำคญั อะไร ขั้นสรปุ ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับพชื ใบเลี้ยงเดย่ี วและพชื ใบเล้ยี งคู่ โดยร่วมกันเขยี นเป็นแผนท่ี ความคดิ หรือผงั มโนทศั น์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. รปู หรอื ตน้ ถ่วั เขียวและต้นข้าวโพด 2. ใบกจิ กรรมเสรมิ การเรียนรู้ท่ี 2 เปรียบเทยี บจำนวนใบเล้ียงของพชื ใบเล้ยี งเดยี่ วและพืชใบเลย้ี งคู่ 3. สีนำ้ จานสี และพกู่ ัน 4. คมู่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 5. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. แบบฝึกทักษะรายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 7. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความร้เู รื่องพชื ใบเลยี้ งคู่ 1. ประเมนิ ทักษะกระบวนการ และพชื ใบเลย้ี งเด่ยี ว 1. ประเมินเจตคตทิ าง ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใช้แบบ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบคุ คล วัดทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชนิ้ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสังเกตและใชแ้ บบวัด วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรยี น เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ประเมนิ เจตคตติ ่อ การสังเกตการทำงานกลมุ่ วทิ ยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด 3. ประเมนิ ทักษะการ เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ แก้ปญั หาโดยการสังเกตการ ทำงานกลุ่ม 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏบิ ัติกจิ กรรมเป็น รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย การสังเกตการทำงานกลุ่ม

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นักเรยี นน่ไี มผ่ ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... .......................................................................................................... ............................................ 2. นกั เรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทกั ษะ (P) ................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ............................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .......................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟู) ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเห็นดงั น้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยงั ไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี  นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .................................................................................................................................................... .......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวิเศษ ฟองตา) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง พืชใบเลย้ี งเด่ยี วและพชื ใบเล้ยี งคู่ (2) เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมที่มผี ลตอ่ สิง่ มชี วี ติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และวิวัฒนาการของ สิ่งมชี ีวิต รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ช้ีวัดช้ันปี จำแนกพชื ออกเป็นพชื ดอกและพืชไม่มดี อกโดยใช้การมดี อกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สงั เกตและจำแนกพืชดอกเปน็ พชื ใบเล้ียงเดย่ี วและพืชใบเลยี้ งคไู่ ด้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรืออยากรอู้ ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ่เี ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ (A) 5. สื่อสารและนำความร้เู ร่ืองพชื ใบเลย้ี งเดย่ี วและพืชใบเล้ียงค่ไู ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ พืชดอกมีลักษณะภายนอกบางประการที่แตกต่างกัน เมื่อใช้ลักษณะภายนอกที่สำคัญเป็นเกณฑ์ สามารถจำแนกพชื ดอกเปน็ 2 กลมุ่ คือ พชื ใบเลยี้ งเด่ียวและพชื ใบเล้ียงคู่ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพชื – พืชดอก 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนินชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน สำรวจพืชใกล้ตวั 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรียน 1) ครทู บทวนความรเู้ ดิมเก่ยี วกับพืชใบเลี้ยงคแู่ ละพชื ใบเลี้ยงเดย่ี ว โดยการใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งพืชใบ เลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่ที่รู้จัก พร้อมกับให้เหตุผลประกอบว่า พืชชนิดนั้นเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือพืชใบ เลีย้ งคู่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ มะมว่ งเป็นพืชใบเล้ยี งค่เู พราะเส้นใบเป็นแบบร่างแห และพุทธรักษาเปน็ พืชใบ เลี้ยงเดยี่ วเพราะเสน้ ใบเปน็ แบบขนาน) 2) นักเรยี นช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับคำตอบของคำถาม เพือ่ เชอ่ื มโยงไปสู่การ เรยี นรู้เร่อื ง พืชใบเล้ยี งเดย่ี วและพืชใบเล้ยี งคู่ ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึ่งมขี ัน้ ตอนดงั นี้ 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคำถามว่า ถ้านักเรียนจะจำแนกพืชเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือพืชใบ เลี้ยงคู่จะสังเกตจากส่วนใด เพราะอะไร (แนวคำตอบ สังเกตจากใบ เพราะมองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อการ สงั เกต) (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกบั คำตอบจากคำถามของครูตามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) แบง่ กลุ่มนักเรียน ปฏิบตั กิ ิจกรรมท่ี 3 สำรวจพชื ใกล้ตัว แต่ละกลุ่มปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามข้ันตอนท่ีได้ วางแผนไว้ ดงั น้ี – แบง่ กลุ่มนักเรียนกล่มุ ละ 5 – 6 คน – ออกสำรวจใบของพชื บริเวณโรงเรยี น – บันทึกผลการสำรวจและวาดรูปใบของพืชที่สำรวจได้ ระบุชื่อต้นไม้ จำแนกเป็นพืชใบเลี้ยง เด่ยี วหรือพืชใบเลยี้ งคู่ (2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณที่สำรวจและเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นทุกคนซักถามเม่อื มปี ัญหา 3) ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ตอ่ ไปน้ี – นักเรียนใช้อะไรเปน็ เกณฑ์ในการจำแนกพืชเป็นพืชใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเล้ียงคู่ (แนวคำตอบ การเรยี งตวั ของเสน้ ใบ) – พชื ใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลยี้ งคู่มีลักษณะใบแตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ พชื ใบเล้ียงเด่ียว มีเสน้ ใบขนาน ส่วนพชื ใบเลีย้ งค่มู เี สน้ ใบแบบร่างแห)

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – ยกตัวอย่างพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่มาอย่างละ 3 ชนิด (แนวคำตอบ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น พุทธรักษา ไผ่ และกลว้ ย พืชใบเล้ียงคู่ เชน่ ตำลึง โพ และมะนาว) (3) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นกั เรียนเข้าใจว่า พืชใบเลีย้ งเด่ยี ว และพืชใบเลี้ยงคู่มีลักษณะการเรียงของเส้นใบแตกต่างกัน โดยพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีเส้นใบเรียงขนานกัน ส่วนพืช ใบเลีย้ งคู่มเี ส้นใบเรยี งเป็นรา่ งแห 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูเชื่อมโยงความรู้อาเซยี น โดยครูยกตัวอย่างพืชทีเ่ ป็นพืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเด่ียว และถาม นักเรยี นว่าทราบหรือไมว่ า่ พืชชนิดนี้เป็นพชื ทสี่ รา้ งรายไดใ้ ห้กับประเทศใดบา้ ง เช่น • ข้าวเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งข้าวเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา อนิ โดนเี ซีย และฟลิ ปิ ปินส์ • ยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์จากต้นยางพารา ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของ ไทย อนิ โดนีเซีย มาเลเซีย สงิ คโปร์ และเวยี ดนาม

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู • พรกิ ไทยเป็นพชื ใบเลีย้ งคู่ซึ่งเปน็ สนิ คา้ สง่ ออกที่สำคญั ของมาเลเซีย เวียดนาม และกมั พชู า (4) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่ จากหนังสือ เรยี นภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอร์เนต็ และนำเสนอใหเ้ พ่ือนฟัง คดั คำศัพทพ์ ร้อมคำแปลลงในสมุดสง่ ครู 5) ขัน้ ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยังมขี อ้ สงสัย ถา้ มี ครชู ่วยอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุ่มว่ามีปญั หาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ ก้ไขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครูและนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการปฏิบัติกิจกรรมและการ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยถามคำถามนกั เรยี น เช่น – พืชใบเล้ยี งเดย่ี วกับพชื ใบเลีย้ งคู่มีสง่ิ ใดที่แตกต่างกัน – เสน้ ใบเรยี งขนานกัน รากเปน็ ระบบรากฝอย เป็นลักษณะของพืชชนดิ ใด – แผ่นใบกว้าง เส้นใบประสานกันเป็นร่างแห ลำต้นไม่มีข้อปล้อง มีรากเป็นระบบรากแก้ว เป็น ลักษณะของพืชชนดิ ใด ขนั้ สรุป 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่ โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ี ความคดิ หรือผงั มโนทัศน์ 2) ครูมอบหมายให้นักเรยี นไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาของบทเรียนชว่ั โมงหน้าเพ่ือจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป โดยให้นกั เรียนศึกษาคน้ คว้าล่วงหน้าในหัวข้อหน้าทีข่ องส่วนต่างๆ ของพชื โดยใชใ้ บงาน สังเกตก่อนเรียน 3 ท่ี ครจู ัดเตรยี มไวใ้ ห้ประกอบการศกึ ษาคน้ คว้า 3) ครูอธบิ ายขัน้ ตอนการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและมอบหมายให้นักเรียนไปปฏิบตั ิกจิ กรรมทบ่ี า้ น พรอ้ มทง้ั ให้ นักเรียนเตรียมประเด็นคำถามที่สงสยั มาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปรายรว่ มกันในห้องเรียนคร้งั ตอ่ ไป 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมที่ 3 สำรวจพืชใกลต้ ัว 2. ใบงานสังเกตกอ่ นเรยี น 3 3. หนังสอื เรยี นภาษาต่างประเทศหรืออินเทอรเ์ น็ต

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 4. คมู่ ือการสอน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 6. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 7. หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวิทยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เร่ืองพชื ใบเลี้ยง 1. ประเมินทักษะกระบวนการ เดี่ยวและพชื ใบเลยี้ งคู่ 1. ประเมนิ เจตคติทาง ทางวิทยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ วิทยาศาสตร์เปน็ รายบคุ คล วดั ทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชน้ิ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั วิทยาศาสตร์ กิจกรรมฝึกทักษะระหว่างเรยี น เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ ทักษะการคดิ โดย 2. ประเมนิ เจตคติตอ่ การสังเกตการทำงานกล่มุ วิทยาศาสตร์เป็นรายบคุ คล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด 3. ประเมนิ ทักษะการ เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาโดยการสงั เกตการ ทำงานกล่มุ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏิบัตกิ ิจกรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลุ่มโดย การสงั เกตการทำงานกล่มุ

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรยี นนีไ่ มผ่ า่ น มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ....................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .......................................................................................................... ............................................ 3. นักเรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) .................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟู) ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 13 สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง หน้าท่ขี องสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื (1) เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวช้ีวัดชนั้ ปี บรรยายหน้าท่ีของราก ลำตน้ ใบ และดอกของพืชดอกโดยใชข้ ้อมูลท่ีรวบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหน้าที่ของส่วนตา่ ง ๆ ของพืชได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรูอ้ ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. สอื่ สารและนำความรู้เรอื่ งหนา้ ทข่ี องส่วนต่างๆ ของพชื ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคญั พชื เปน็ สง่ิ มชี ีวิตท่มี ีสว่ นประกอบภายนอก ไดแ้ ก่ ราก ลำต้น ใบ ดอก และผล 5. สาระการเรียนรู้ หนา้ ทขี่ องส่วนตา่ ง ๆ ของพชื 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 4. มีจติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน 1. สงั เกตกอ่ นเรยี น 3 2. สบื ค้นขอ้ มลู เกย่ี วกบั หนา้ ท่ขี องสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1) ครถู ามคำถามนกั เรียนเพื่อกระตุน้ ความสนใจ เช่น – นักเรียนชอบพืชหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ ชอบ เพราะใช้เป็นอาหารได้และทำให้รู้สึก สดช่นื ) – นักเรียนปลูกพืชชนิดใดไว้ที่บ้าน แต่ละชนิดมีลักษณะใด (แนวคำตอบ ชบาและเข็ม มีลักษณะ คล้ายกนั คอื มีใบสีเขียว ลำตน้ ตงั้ ตรง มดี อก และมรี ากแก้ว) 2) นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบจากคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การ เรยี นร้เู ร่ือง หน้าที่ของสว่ นตา่ งๆ ของพชื ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) มขี นั้ ตอนดงั น้ี 1) ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูให้นักเรียนนำใบงาน สังเกตก่อนเรียน 3 ที่ครูมอบหมายให้ไปเรียนรู้ลว่ งหน้าทีบ่ ้านมาอภิปราย รว่ มกันในชน้ั เรียน (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก ของนกั เรยี น และถามคำถามเกย่ี วกบั กิจกรรม ดังน้ี – นกั เรียนรู้จักพืชชนดิ ใดบ้าง (แนวคำตอบ ชบา มะลิ ตำลงึ และมะพรา้ ว) – พืชมีส่วนประกอบท่ีสำคญั อะไรบ้าง (แนวคำตอบ ราก ลำตน้ ใบ ดอก และผล) (3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตั้งประเด็นคำถามที่นักเรียนสงสัยจากการทำกิจกรรมอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม ซึ่งครใู หน้ ักเรยี นเตรยี มมาล่วงหน้า และใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบและแสดงความคดิ เหน็ (4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรม สังเกตก่อนเรียน 3 โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เขา้ ใจวา่ พืชมีสว่ นประกอบทีส่ ำคญั ไดแ้ ก่ ราก ลำตน้ ใบ ดอก และผล 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเรื่องหน้าท่ีของส่วนตา่ งๆ ของพืชจากใบความร้หู รอื ในหนังสือเรียน โดยครูช่วย อธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อนักเรียนเพาะเมล็ด รากจะเริ่มงอกมาเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงมีใบและลำต้น งอกออกมาเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ และเจริญเติบโตเปน็ พืชท่ีมขี นาดใหญข่ ึน้ จนมีดอกและผล ซึ่งแต่ละส่วนของพืช ทำหนา้ ทแี่ ตกตา่ งกนั (2) แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของพืชโดยดำเนินการ ตามข้นั ตอนดงั นี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของพืชเป็นหัวขอ้ ย่อย เช่น หนา้ ท่ีของราก ลำตน้ ใบ และดอก ให้สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันสบื ค้นตามหัวข้อท่กี ำหนด

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – สมาชิกแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั สืบคน้ ข้อมูลตามหัวข้อท่กี ลุ่มของตนเองรับผดิ ชอบโดยการสืบค้นจาก หนงั สอื วารสาร สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรบั เยาวชน และอนิ เทอร์เน็ต – สมาชกิ กลุ่มนำข้อมูลทส่ี ืบค้นได้มารายงานให้เพื่อนๆ สมาชกิ ในกลุม่ ฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปราย ซักถามจนคาดว่าสมาชกิ ทุกคนมคี วามร้คู วามเข้าใจที่ตรงกัน – สมาชกิ กล่มุ ช่วยกันสรปุ ความรู้ท่ีไดท้ ั้งหมดเป็นผลงานของกลุม่ (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลอื นักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครเู ดินดรู อบ ๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซักถามเม่อื มปี ญั หา 3) ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นักเรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ตอ่ ไปนี้ – รากของพชื ทำหน้าที่อะไร (แนวคำตอบ ดดู ซับน้ำและแร่ธาตุข้นึ ไปยงั ลำตน้ ) – ลำต้นของพืชทำหนา้ ท่ีอะไร (แนวคำตอบ ลำเลยี งนำ้ และอาหารไปยงั ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช) – ใบของพืชทำหนา้ ทอ่ี ะไร (แนวคำตอบ สร้างอาหาร) – ดอกของพืชทำหน้าทีอ่ ะไร (แนวคำตอบ สืบพนั ธุแ์ ละสรา้ งผลและเมลด็ ) – ผลของพืชทำหน้าทีอ่ ะไร (แนวคำตอบ ผลมีเมล็ดทำหน้าท่ีขยายพนั ธุ์) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชมี ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ราก ลำต้น ใบ ดอก และผล โดยแต่ละส่วนทำหน้าที่แตกต่างกันเพื่อช่วยให้พืช เจรญิ เตบิ โตและขยายพันธไ์ุ ด้ 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน สังเกตและบรรยายพืชที่ข้ึนอยู่บริเวณโรงเรียนว่ามีส่วนประกอบ อะไรบ้าง และแต่ละส่วนทำหน้าที่อะไร แล้วนำมาเล่าให้เพื่อนฟัง ซึ่งครูอธิบายเพิ่มเติม โดยครูเน้นให้นักเรียน เขา้ ใจว่า พืชแต่ละชนิดมีส่วนประกอบท่ีสำคญั คอื ราก ลำต้น ใบ ดอก และผล โดยพืชแตล่ ะชนดิ อาจมีลักษณะ ของส่วนประกอบแตกตา่ งกนั แต่สว่ นประกอบนน้ั ทำหนา้ ทีเ่ หมือนกัน 5) ข้ันประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยังมขี อ้ สงสยั ถา้ มี ครชู ่วยอธิบายเพม่ิ เติมให้นกั เรียนเข้าใจ (2) นกั เรยี นรว่ มกันประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออปุ สรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการปฏิบัติกิจกรรมและการ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนักเรยี น เช่น – พืชมีส่วนประกอบสำคัญอะไรบา้ ง – ถ้าพืชไม่มใี บจะส่งผลต่อพชื ลกั ษณะใด – ถ้าพชื ไมม่ ีรากจะสง่ ผลต่อพชื ลักษณะใด ขนั้ สรปุ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั หน้าท่ีของสว่ นต่าง ๆ ของพชื โดยร่วมกนั เขยี นเป็นแผนที่ความคิด หรอื ผงั มโนทศั น์

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบงานสังเกตก่อนเรยี น 3 2. หนงั สือ วารสาร สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรบั เยาวชน และอินเทอรเ์ นต็ 3. คมู่ อื การสอน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 4. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 5. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 6. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรเู้ ร่ืองหนา้ ท่ีของ 1. ประเมนิ ทักษะการคดิ โดย ส่วนต่าง ๆ ของพืช 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง การสงั เกตการทำงานกลมุ่ วทิ ยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล 2. ตรวจช้นิ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสังเกตและใช้แบบวัด 2. ประเมินพฤติกรรมในการ กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรียน เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ ปฏบิ ัติกิจกรรมเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลุ่มโดย 2. ประเมนิ เจตคติต่อ การสงั เกตการทำงานกล่มุ วิทยาศาสตรเ์ ปน็ รายบคุ คล โดยการสังเกตและใช้แบบวดั เจตคตติ ่อวิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรยี นน่ีไมผ่ ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .................................................................................................................................. .................... 3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ....................................................................................... ............................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรูข้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 14 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง หน้าท่ขี องสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช (2) เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผู้สอน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสิง่ มชี ีวิต หน่วยพ้นื ฐานของส่งิ มีชวี ิต การลำเลยี งสารเขา้ และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวชี้วดั ช้นั ปี บรรยายหน้าท่ีของราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายหน้าทขี่ องสว่ นต่าง ๆ ของพชื ได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรอื อยากร้อู ยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรู้ท่เี ก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานร่วมกับผ้อู ื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนำความร้เู ร่ืองหนา้ ที่ของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืชไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ พืชเป็นสงิ่ มีชีวติ ทม่ี ีส่วนประกอบภายนอก ได้แก่ ราก ลำตน้ ใบ ดอก และผล 5. สาระการเรยี นรู้ หน้าทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของพชื 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 4. มีจติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน สร้างผลงานศิลปะจากสว่ นต่าง ๆ ของพชื 9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับหน้าทีข่ องส่วนต่าง ๆ ของพืช โดยครูให้นักเรียนบอกหน้าที่ของส่วน ตา่ ง ๆ ของพชื มาคนละ 1 สว่ น (แนวคำตอบ รากทำหนา้ ทด่ี ดู ซบั นำ้ และแรธ่ าตขุ น้ึ ไปยงั ลำตน้ ) 2) นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับคำตอบของคำถาม เพื่อเชือ่ มโยงไปสู่การ เรียนรู้เร่อื ง หน้าทข่ี องสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซง่ึ มีข้นั ตอนดงั น้ี 1) ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคำถามว่า ส่วนต่าง ๆ ของพืชแต่ละชนิดเหมือนหรือแตกต่างกันใน เร่ืองใด (แนวคำตอบ เหมอื นกันในเรื่องหน้าท่ี แต่อาจมลี กั ษณะภายนอกแตกต่างกนั ) (2) นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกับคำตอบจากคำถามของครูตามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูใหน้ ักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากสว่ นต่าง ๆ ของพืช โดยใหน้ ักเรยี นสำรวจบริเวณโรงเรียนและ รวบรวมส่วนต่าง ๆ ของพืชที่สำรวจได้ จากนั้นออกแบบผลงานศิลปะจากส่วนตา่ ง ๆ ของพืชที่รวบรวมได้และ ลงมอื ทำ แลว้ ให้นำผลงานของแต่ละคนมาจดั แสดง (2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยครูเดนิ ดรู อบ ๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซักถามเมือ่ มีปญั หา 3) ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นักเรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหนา้ หอ้ งเรยี น (2) นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรุปจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ต่อไปนี้ – นกั เรยี นสรา้ งผลงานศลิ ปะทีม่ ีชือ่ วา่ อะไร (แนวคำตอบ ป่าแสนสวย) – สว่ นตา่ งๆ ของพืชทใ่ี ชม้ ีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ ใบ ก่งิ เมล็ด และดอก) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชมี ส่วนประกอบหลักเหมอื นกนั แตม่ ลี กั ษณะแตกตา่ งกนั ตามชนิดของพชื 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของพืช จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดสง่ ครู

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 5) ข้ันประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยงั มีข้อสงสัย ถ้ามี ครูชว่ ยอธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรียนร่วมกันประเมินการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมและการ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยถามคำถามนักเรยี น เช่น – พชื แตล่ ะชนดิ มลี ักษณะของใบเหมือนหรือแตกต่างกัน – พชื แต่ละชนิดมีลักษณะของดอกเหมือนกนั หรือไม่ ขนั้ สรปุ ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั หน้าท่ีของสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ีความคิด หรือผังมโนทัศน์ 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. กาว 2. สไี มห้ รือปากกาสีเมจกิ 3. หนงั สือเรยี นภาษาตา่ งประเทศหรอื อินเทอร์เนต็ 4. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 6. แบบฝกึ ทักษะรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 7. หนังสอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จิตวิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความร้เู รื่องหนา้ ท่ีของ 1. ประเมนิ ทักษะกระบวนการ ส่วนต่าง ๆ ของพืช 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง ทางวิทยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ วิทยาศาสตร์เป็นรายบคุ คล วดั ทักษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวดั วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมฝึกทกั ษะระหวา่ งเรียน เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ประเมินเจตคติตอ่ การสังเกตการทำงานกลุ่ม วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใช้แบบวัด 3. ประเมนิ พฤติกรรมในการ เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์ ปฏิบัติกิจกรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลมุ่ โดย การสงั เกตการทำงานกล่มุ

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรยี นน่ีไมผ่ ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .................................................................................................................................. .................... 3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ....................................................................................... ............................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรูข้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แลว้ มีความเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 15 สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง การลำเลียงนำ้ และแรธ่ าตุ (1) เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ขิ องส่ิงมีชีวติ หน่วยพื้นฐานของสง่ิ มีชีวิต การลำเลียงสารเขา้ และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตวั ช้ีวดั ชั้นปี บรรยายหน้าท่ีของราก ลำตน้ ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใชข้ ้อมูลทีร่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหน้าท่ีของทอ่ ลำเลียงนำ้ ได้ (K) 2. สังเกตการลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุของพืชได้ (K) 3. มีความสนใจใฝร่ ูห้ รอื อยากรู้อยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนร้ทู ี่เกย่ี วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานรว่ มกับผ้อู นื่ อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 6. ส่ือสารและนำความร้เู ร่ืองการลำเลยี งน้ำและแรธ่ าตุไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ พชื มีทอ่ ลำเลียงน้ำทำหน้าท่ลี ำเลียงน้ำและแร่ธาตุทรี่ ากดูดซับจากดินไว้แล้วลำเลียงต่อไปยังส่วนต่างๆ ของพชื 5. สาระการเรยี นรู้ หนา้ ทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของพืช – การลำเลยี งนำ้ และแรธ่ าตุ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนินชวี ิต

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ทดลองการลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุของพืช 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครทู บทวนความรขู้ องนักเรียนโดยการถามคำถามวา่ – รากของพืชทำหนา้ ท่ีอะไร (แนวคำตอบ ดูดซบั นำ้ และแรธ่ าตุขึน้ ไปยังลำต้น) – ลำต้นของพืชทำหนา้ ทอ่ี ะไร (แนวคำตอบ ลำเลยี งน้ำและแรธ่ าตุไปยงั ส่วนตา่ งๆ ของพชื ) 2) ครูถามคำถามเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า น้ำและแร่ธาตุที่รากของพืชดูดซับจากดินถูกลำเลียงไปยังลำ ต้นไดอ้ ย่างไร (แนวคำตอบ โดยทอ่ ลำเลียงน้ำภายในรากและลำตน้ ) 3) นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็น เพอื่ เชื่อมโยงไปส่กู ารเรียนรู้เรอื่ ง การลำเลียงน้ำ และแรธ่ าตุ ขั้นจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซง่ึ มขี ั้นตอนดังน้ี 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูนำแกว้ ใส่น้ำหวานสีแดงและแก้วเปล่ามาตั้งที่ความสูงคนละระดับ โดยวางแกว้ ใส่น้ำหวานสีแดง ไว้ที่ระดับต่ำกว่า แล้วถามนักเรียนว่า ถ้านักเรียนต้องการนำน้ำหวานสีแดงไปใส่แก้วเปล่าโดยห้ามยกแก้ว นักเรยี นจะทำวิธใี ด (แนวคำตอบ ใช้หลอดดูดหรือใชท้ ่ปี ัม๊ น้ำท่มี ีลักษณะเปน็ ท่อ) (2) นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเก่ยี วกับคำตอบจากคำถามของครูตามประสบการณ์ของนักเรยี น 2) ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วย อธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า น้ำและแร่ธาตุที่รากของพืชดูดซับจากดินถูกลำเลียงไปยังลำต้นได้โดยผ่านท่อ ลำเลียงนำ้ ซ่ึงมีลักษณะคลา้ ยการดูดน้ำผ่านหลอดเพอ่ื ลำเลียงนำ้ จากท่ีตำ่ ขน้ึ ส่ทู ี่สงู (2) แบ่งกลมุ่ นักเรียน กลมุ่ ละ 5 – 6 คน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่ 4 ทดลองการลำเลียงนำ้ และแร่ธาตุของพืช แต่ละกลุ่มปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขัน้ ตอนท่ีได้วางแผนไว้ ดงั นี้ ขนั้ ที่ 1 กำหนดปญั หา – พืชมีเน้ือเย่อื ท่ใี ช้ในการลำเลยี งนำ้ และแรธ่ าตุหรือไม่ ขนั้ ท่ี 2 ต้ังสมมุตฐิ าน – เมื่อแช่ตน้ เทียนในนำ้ สแี ดงน่าจะเห็นสีแดงปรากฏในตน้ เทียน ขัน้ ท่ี 3 ทดลอง – ใสน่ ำ้ สีแดง (สีผสมอาหาร) ลงในแกว้ ทีเ่ ตรียมไว้ประมาณ 3 ของแก้ว 4 – ใส่ต้นเทียนที่มีรากติดอยู่ (ซึ่งได้ล้างน้ำให้สะอาดแล้ว) ลงไปในแก้วที่มีน้ำสีแดง จากนั้นตั้งทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที – สังเกตและบันทกึ การเปล่ียนแปลงทเี่ กิดข้ึนกบั ตน้ เทยี น – ใช้มีดตัดลำต้นของต้นเทียนตามแนวขวาง (ก) หลังจากนั้นเฉือนเป็นแผ่นบางๆ วางบนกระจกสไลด์ แลว้ ใช้แว่นขยายส่องดู สังเกตลกั ษณะของลำต้นและวาดรปู

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – ใช้มีดตัดลำต้นของต้นเทียนตามแนวยาว (ข) แล้วใช้แว่นขยายส่องดู สังเกตลักษณะของลำต้นและ วาดรูป ขนั้ ที่ 4 วิเคราะหผ์ ลการทดลอง – แปลความหมายขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง – นำขอ้ มูลทไ่ี ด้มาพิจารณาเพอื่ อธบิ ายวา่ เป็นไปตามทน่ี กั เรียนตั้งสมมุติฐานไว้หรอื ไม่ ข้นั ท่ี 5 สรุปผลการทดลอง – นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการทดลองแลว้ เขยี นเปน็ รายงานสรุปผลการทดลองส่งครู (3) ครูคอยแนะนำชว่ ยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ให้นักเรยี นทุกคนซกั ถามเม่ือมีปญั หา 3) ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมหน้าหอ้ งเรยี น (2) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายผลการปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้แนวคำถาม เชน่ – ต้นเทยี นเกดิ การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะใด (แนวคำตอบ รากของต้นเทียนมีสีแดงก่อน จากน้ันลำ ต้น ก่ิง กา้ น และเสน้ ใบจงึ มีสแี ดงตามลำดบั ) – นักเรยี นสังเกตเหน็ อะไรบ้าง เมอ่ื ใชแ้ วน่ ขยายสอ่ งดูลำต้นท่ตี ัดตามแนวขวางและแนวยาว (แนว คำตอบ เมื่อใช้แว่นขยายส่องดูลำต้นที่ตดั ตามแนวขวางจะสังเกตเห็นกลุ่มสีแดงอยูร่ อบลำตน้ เมื่อใช้แว่นขยาย ส่องดลู ำต้นท่ีตดั ตามแนวยาวจะสงั เกตเห็นทอ่ ยาวสีแดงอยทู่ างด้านข้างของลำตน้ ) – นักเรียนสามารถสรุปทิศทางการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืชได้หรือไม่ และสังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ ได้ โดยการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืชมที ิศทางจากรากไปยังลำตน้ และสว่ นต่างๆ ของพืช โดย สงั เกตจากการเคลอื่ นท่ีของนำ้ สีแดงทเ่ี คล่ือนทีจ่ ากรากไปยงั ลำต้น กงิ่ กา้ น และใบ ตามลำดบั ) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชลำเลียงน้ำ และแร่ธาตุจากรากไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืชผา่ นทางทอ่ ลำเลียงนำ้ 4) ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูนำรูปภาพตัดขวางบริเวณลำต้นและรากของพืชที่จุ่มในน้ำสีแดงพร้อมกับภาพขยายท่อลำเลียง น้ำมาให้นักเรียนดู แล้วอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า ภายในลำต้นและรากมีท่อลำเลียงน้ำอยู่เป็นกลุ่ม ทำ หนา้ ท่ีลำเลยี งน้ำและแรธ่ าตุจากรากไปยังสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื โดยการจัดเรยี งตัวของท่อลำเลียงน้ำในลำต้นและ รากจะแตกตา่ งกนั ดังนี้ • ทอ่ ลำเลียงนำ้ บรเิ วณลำตน้ จะแยกเปน็ กลุ่มๆ และจดั เรยี งอย่ทู บี่ รเิ วณขอบของลำต้น

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู • ท่อลำเลยี งน้ำบริเวณรากจะรวมเปน็ กลุ่มเดยี วกนั และมลี กั ษณะเปน็ แฉกอยตู่ รงกลางของราก (2) นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความสำคัญของท่อลำเลยี งนำ้ ว่า ท่อลำเลยี งนำ้ ทำหน้าท่ีลำเลียงน้ำและ แร่ธาตเุ พ่อื ใหพ้ ชื นำไปใช้ในกจิ กรรมต่างๆ ของพชื เชน่ การสรา้ งอาหารท่ใี บหรือการสร้างเนอ้ื เยือ่ ต่างๆ 5) ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยงั มขี อ้ สงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพมิ่ เติมใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ (2) นักเรยี นรว่ มกนั ประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุ่มวา่ มีปญั หาหรอื อปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบตั ิกิจกรรมและการ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนักเรียน เช่น – พชื ลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตจุ ากดนิ ขึ้นสู่ลำตน้ ทางใด – เนือ้ เย่อื ท่ีใช้ลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุในพชื มีลักษณะอย่างไร

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ขัน้ สรปุ ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปเก่ียวกบั การลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุ โดยร่วมกนั เขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือ ผังมโนทัศน์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมที่ 4 ทดลองการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืช 2. แกว้ ใสน่ ำ้ หวานสีแดงและแก้วเปล่า 3. หลอดดูดและปั๊มน้ำขนาดเลก็ 4. รปู ภาพตดั ขวางบรเิ วณลำตน้ และรากของพชื ทจ่ี มุ่ ในนำ้ สแี ดง 5. รปู ขยายทอ่ ลำเลียงนำ้ 6. ค่มู ือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 8. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 9. หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เรื่องการลำเลยี ง 1. ประเมินทักษะกระบวนการ นำ้ และแร่ธาตุ 1. ประเมนิ เจตคติทาง ทางวิทยาศาสตรโ์ ดยใช้แบบ วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล วดั ทกั ษะกระบวนการทาง 2. ตรวจช้นิ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด วิทยาศาสตร์ กจิ กรรมฝึกทักษะระหว่างเรียน เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ประเมินเจตคติตอ่ การสงั เกตการทำงานกล่มุ วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใช้แบบวดั 3. ประเมินทักษะการ เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ แก้ปญั หาโดยการสังเกตการ ทำงานกลมุ่ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏิบตั ิกิจกรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลมุ่ โดย การสังเกตการทำงานกลุ่ม

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นกั เรยี นนีไ่ มผ่ า่ น มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .......................................................................................................... ............................................ 3. นักเรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) .................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟู) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางอมลสริ ิ คำฟู แล้วมคี วามเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 16 สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (2) เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ้สู อน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสง่ิ มีชีวิต หน่วยพ้นื ฐานของสงิ่ มีชีวติ การลำเลยี งสารเข้าและออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวช้ีวดั ช้นั ปี บรรยายหนา้ ที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหน้าทขี่ องท่อลำเลียงนำ้ ได้ (K) 2. สงั เกตการลำเลยี งนำ้ และแรธ่ าตขุ องพชื ได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรอู้ ยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ ี่เกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 6. สอ่ื สารและนำความรูเ้ รอื่ งการลำเลียงนำ้ และแรธ่ าตไุ ปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคญั พชื มที ่อลำเลียงน้ำทำหนา้ ทีล่ ำเลียงน้ำและแร่ธาตุท่รี ากดูดซับจากดินไว้แล้วลำเลียงต่อไปยังส่วนต่างๆ ของพชื 5. สาระการเรยี นรู้ หนา้ ท่ขี องส่วนตา่ ง ๆ ของพืช – การลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุ 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนินชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. ช้นิ งานหรือภาระงาน สังเกตดอกไม้เปลย่ี นสี 9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ โดยการให้นักเรียนอธิบายว่า น้ำและแร่ ธาตทุ ร่ี ากของพืชดูดซับจากดินถูกลำเลยี งไปยังลำต้นไดอ้ ยา่ งไร (แนวคำตอบ ภายในรากและลำต้นของพืชมีท่อ ลำเลียงนำ้ รากจึงดดู ซับนำ้ และแรธ่ าตจุ ากดนิ และลำเลียงไปยังลำต้นผ่านท่อลำเลียงนำ้ ได)้ 2) นกั เรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คำตอบของคำถาม เพอ่ื เช่อื มโยงไปสู่การ เรียนรูเ้ ร่ือง การลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุ ข้ันจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซง่ึ มีข้ันตอนดังนี้ 1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรยี นโดยถามคำถามว่า เราสามารถนำความรูเ้ รือ่ ง การลำเลียงน้ำและแรธ่ าตุของพชื มาใช้ประโยชนอ์ ะไรได้บา้ ง (แนวคำตอบ การรดน้ำต้นไม้ไมจ่ ำเปน็ ต้องรดท่ีใบเนื่องจากใบไม่ไดท้ ำหนา้ ท่ีดดู ซับ นำ้ ขึ้นสู่ลำต้น) (2) นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่ 3 ดอกไม้เปลี่ยนสี แต่ละ กลุม่ ปฏิบตั ิกิจกรรมตามขนั้ ตอนท่ีได้วางแผนไว้ ดังนี้ – เตมิ น้ำลงในขวด 3 ใบทเ่ี ตรยี มไว้จนเกอื บเต็ม แลว้ หยดสีผสมอาหารสีแดง สีมว่ ง และสฟี า้ ขวด ละ 1 สี ประมาณขวดละ 3 – 4 หยด – ใช้กรรไกรตดั ปลายก้านดอกไมส้ ีขาว 3 ดอก แล้วนำไปแชใ่ นขวดน้ำผสมสีขวดละ 1 ดอก – ตั้งดอกไม้ไว้ 1 คนื สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสดี อกไมแ้ ละบันทึกผล (2) ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลอื นักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดรู อบๆ ห้องเรยี นและเปิดโอกาสให้ นักเรยี นทุกคนซกั ถามเมอ่ื มปี ญั หา

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 3) ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) นกั เรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม ตอ่ ไปน้ี – ถ้าไม่มีดอกไม้สีขาว นักเรยี นจะใชด้ อกไม้สีใดแทน เพราะอะไร (แนวคำตอบ ดอกไม้ที่มีสีอ่อน เพราะจะไดเ้ หน็ การเปลีย่ นแปลงทีช่ ดั เจน) – ดอกไมข้ องนกั เรยี นมีการเปล่ียนแปลงสีหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ เปลย่ี นแปลง เพราะ ทอ่ ลำเลียงนำ้ ในกา้ นดอกลำเลยี งน้ำสีขึน้ ส่สู ว่ นของดอกที่อยูด่ ้านบน) – นกั เรียนไดป้ ระโยชน์อะไรจากการทำกิจกรรมน้ี (แนวคำตอบ นำความรู้เร่อื งการลำเลยี งนำ้ และ แรธ่ าตมุ าใช้ยอ้ มสดี อกไม้ตามท่ีตอ้ งการ) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สีจะถูกลำเลยี ง ไปตามทอ่ ลำเลียงน้ำไปยงั กลีบดอก กลีบดอกจึงถกู ยอ้ มด้วยสที ่ตี ้องการ 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูเชื่อมโยงความรู้เข้ากับหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นักเรียนสืบค้นวิธีรดน้ำต้นไม้ที่ถูกต้อง เพอื่ ใหน้ กั เรียนได้รู้จักพึ่งพาตนเองด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คอื การรูจ้ กั ใชน้ ำ้ ในการรดน้ำต้นไม้ อย่างชาญฉลาดและรอบคอบเพ่ือให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ และยั่งยืน โดยคำนงึ ถงึ หลกั การทางวทิ ยาศาสตรว์ า่ พืช ลำเลียงน้ำผา่ นทางท่อลำเลยี งน้ำ เพ่อื นำไปใชใ้ นกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ดงั น้ี – ควรรดน้ำต้นไม้จากต้นที่อยู่ไกลที่สุดก่อนเพื่อดึงสายยางให้มีความยาวพอสำหรับรดน้ำทุก บริเวณ ถ้าดึงสายยางยาวไม่พอทำให้ต้องทิ้งสายยางที่มีน้ำไหลไว้แล้วกลับไปดึงสายยางให้ยาวมากขึ้น การทำ เช่นนี้ทำให้สูญเสยี น้ำโดยเปล่าประโยชน์ – รดน้ำต้นไม้ในระยะต่ำ เพราะส่วนที่พืชใช้ในการดูดซับน้ำไปเลี้ยงลำต้น คือ ราก การรดน้ำ ตน้ ไมใ้ ห้ใบชุม่ น้ำมากเกินไปไมช่ ว่ ยใหพ้ ืชดดู ซบั นำ้ เข้าสลู่ ำต้นได้ – สังเกตดนิ บรเิ วณที่จะรดน้ำตน้ ไม้ ถา้ ดนิ ชนื้ อยู่แล้วไม่ควรรดเพิ่มอีกในปริมาณมาก เพราะถ้าพืช ที่ได้รับน้ำมากเกินไปจะทำให้รากเน่าและตาย ซึ่งนอกจากจะทำให้สูญเสียน้ำแล้ว ยังต้องสูญเสียเงินในการซอ้ื พชื ต้นใหม่อีก – ควรรดน้ำต้นไม้ในเวลาก่อน 9 โมงเช้า เนื่องจากเวลาเที่ยงและบ่ายแดดจะแรง น้ำระเหยออก จากดินเร็ว พืชดูดซับน้ำไม่ทันจึงเหี่ยวเร็ว ทำให้ต้องรดน้ำต้นไม้ซ้ำ และถ้ารดน้ำต้นไม้กลางคืนก็จะไม่มีแดดที่ พชื ใชใ้ นการสังเคราะหด์ ้วยแสง ดงั นั้น เวลากอ่ น 9 โมงเชา้ จงึ เปน็ เวลาทเี่ หมาะสมท่สี ดุ (2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุจากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดสง่ ครู 5) ขนั้ ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบา้ งที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยังมขี อ้ สงสยั ถา้ มี ครูช่วยอธิบายเพม่ิ เตมิ ใหน้ กั เรียนเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมกลมุ่ ว่ามปี ญั หาหรอื อปุ สรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบตั ิกจิ กรรมและการ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยถามคำถามนกั เรียน เช่น – ท่อลำเลียงน้ำมที ศิ ทางการลำเลยี งลักษณะใด – การจัดเรยี งตัวของท่อลำเลียงนำ้ มลี ักษณะใด – ท่อลำเลยี งนำ้ มีความสำคญั ตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื เพราะอะไร ข้นั สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ยี วกับการลำเลยี งนำ้ และแรธ่ าตุ โดยร่วมกันเขยี นเปน็ แผนทีค่ วามคิดหรือ ผังมโนทัศน์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ท่ี 3 ดอกไม้เปลย่ี นสี 2. หนังสอื เรยี นภาษาตา่ งประเทศหรืออนิ เทอรเ์ น็ต 3. คมู่ อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 4. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 6. หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เรื่องการลำเลยี ง น้ำและแร่ธาตุ 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะกระบวนการ 2. ตรวจชิ้นงานหรือภาระงานของ เป็นรายบคุ คลโดยการสังเกต ทางวิทยาศาสตร์โดยใช้แบบ กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรยี น และใชแ้ บบวัดเจตคติทาง วัดทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ เจตคตติ ่อวิทยาศาสตร์ 2. ประเมินทักษะการคดิ โดย เปน็ รายบคุ คลโดยการสังเกต การสงั เกตการทำงานกล่มุ และใช้แบบวดั เจตคติตอ่ 3. ประเมนิ ทักษะการ วทิ ยาศาสตร์ แกป้ ญั หาโดยการสังเกตการ ทำงานกล่มุ 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏิบัติกจิ กรรมเป็น รายบคุ คลหรือรายกลุม่ โดย การสังเกตการทำงานกลมุ่

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นกั เรยี นน่ไี มผ่ า่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .................................................................................................................................. .................... 3. นักเรยี นมีความรู้เกดิ ทกั ษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... .......................................................................................................... ............................................ 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ........................................................................................................................................ .............. 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่ือ.................................................. (นางอมลสิริ คำฟู) ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางอมลสริ ิ คำฟู แล้วมคี วามเห็นดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 17 สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง การคายน้ำของพชื (1) เวลา 1 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ตัวช้ีวัดชน้ั ปี บรรยายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใชข้ อ้ มูลท่รี วบรวมได้ (ว 1.2 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สังเกตและอธิบายการคายน้ำของพชื เกดิ ขึน้ ที่ใบได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรอู้ ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ี่เกีย่ วกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานร่วมกับผอู้ ื่นอย่างสรา้ งสรรค์ (A) 5. ส่อื สารและนำความรเู้ รื่องการคายนำ้ ของพืชไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ การคายน้ำของพชื เกดิ ข้ึนที่ใบมากทีส่ ดุ พชื คายนำ้ เพ่อื ลดอุณหภูมิท่ีใบพืช รวมท้งั ทำใหเ้ กิดการลำเลียง นำ้ และแร่ธาตจุ ากดินเข้าสู่ราก และจากรากไปสสู่ ว่ นตา่ ง ๆ ของพชื 5. สาระการเรยี นรู้ หนา้ ทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของพชื – การคายน้ำของพืช 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชวี ิต

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน สงั เกตการคายนำ้ ของพชื 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครถู ามคำถามเก่ยี วกับชวี ิตประจำวนั ของนกั เรยี น เช่น – นักเรียนต้องดื่มน้ำทุกวันหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ ทุกวัน เพราะร่างกายต้องการน้ำ เพ่ือใหร้ ะบบตา่ ง ๆ ของร่างกายทำงานได้เป็นปกต)ิ – ในวนั ทีน่ กั เรยี นดื่มนำ้ มากกวา่ ปกติ รา่ งกายของนักเรยี นมกี ารขับน้ำสว่ นเกินหรอื ไม่ ลักษณะใด (แนวคำตอบ มีการขบั น้ำสว่ นเกนิ ออกจากร่างกายโดยการปสั สาวะ) 2) นกั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเชอื่ มโยงไปส่กู ารเรยี นรู้เร่ือง การคายนำ้ ของพชื ขัน้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซง่ึ มขี น้ั ตอนดงั น้ี 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุน้ นกั เรียนโดยการถามคำถามต่อไปนี้ – นักเรียนรดน้ำพืชทุกวันหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ ทุกวัน เพราะพืชใช้น้ำในการสร้าง อาหารและช่วยใหพ้ ืชไมเ่ หย่ี ว) – พืชมีการกำจัดน้ำส่วนเกนิ ออกจากลำตน้ หรือไม่ และกำจดั ทางใด (แนวคำตอบ พืชมีการกำจัด น้ำส่วนเกนิ ออกจากลำตน้ โดยกำจัดทางใบ) (2) นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น 2) ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องการคายน้ำของพืชจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้ นักเรยี นเขา้ ใจว่า พชื นำน้าํ ทีล่ ำเลยี งดว้ ยท่อลำเลียงน้าํ มาใช้สำหรบั การสรา้ งอาหารและการดำรงชีวิตเพียงส่วน หนึ่ง นำ้ สว่ นเกนิ ทีพ่ ืชดดู ซับจากดนิ พืชจะกำจดั ออกทางใบและบางส่วนของก่ิง (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 5 สังเกตการคายน้ำของพืช แต่ละกลุ่ม ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้นั ตอนท่ไี ดว้ างแผนไว้ ดังนี้ – นำต้นไม้ที่ปลูกในกระถางมา 1 ตน้ แลว้ ทำการเด็ดใบออกจากกง่ิ ไม้ 1 กง่ิ – นำถุงพลาสติกใสที่แห้งครอบกิ่งไม้ที่มีใบ และอีกใบหนึ่งครอบกิ่งไม้ที่เด็ดใบออก และผูกรวบ ถงุ พลาสตกิ ใสแต่ละใบดว้ ยเชือกบรเิ วณโคนให้แน่น – รดนำ้ ต้นไม้เล็กน้อยแลว้ นำกระถางไว้กลางแดดเปน็ เวลา 30 นาที – วาดรูปทส่ี งั เกตได้เมื่อเร่ิมวางกระถางไว้กลางแดด – สังเกตการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนภายในถุงพลาสติกใสทกุ ๆ 10 นาที และวาดรปู (3) ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลือนักเรียนขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครเู ดินดรู อบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียนทุกคนซักถามเมื่อมปี ญั หา

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมหน้าหอ้ งเรยี น (2) ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมโดยใช้แนวคำถาม เช่น – การเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึ้นแสดงถึงการกำจัดน้ำของพืชได้หรือไม่ สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ ได้ โดยสงั เกตจากการเกดิ ไอน้ำบนถงุ ทคี่ ลมุ กิ่งไม้ ซงึ่ แสดงถงึ การลำเลยี งน้ำผา่ นก่งิ ไม้และถูกกำจัดออก) – จากการปฏิบัตกิ ิจกรรม สรปุ ได้ว่าพชื กำจัดน้ำทางใด สังเกตจากอะไร (แนวคำตอบ พชื กำจดั น้ำ ออกมากทางใบและบางส่วนของกิ่ง โดยสังเกตจากการเกิดไอน้ำบนถุงที่คลมุ กิ่งไม้ที่ไม่ได้เด็ดใบออกมีมากกวา่ ไอนำ้ ท่เี กิดขน้ึ บนถุงที่คลุมกิง่ ไม้ท่ีได้เด็ดใบออก) (3) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนเข้าใจวา่ พืชมกี ารกำจัดน้ำ ออกมากทางใบและบางสว่ นของกิ่ง 4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ ใบไม้เปลี่ยนสี โดยให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ ของประเทศไทยหรือต่างประเทศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส พืชบางชนิดจะมีการผลัดใบเพื่อลดการ สูญเสียน้ำ เนื่องจากในฤดูหนาวมีความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำที่พืชนำมาใช้ได้มีน้อยลงมาก พืชจึงต้องลดอัตรา การคายน้ำด้วยการผลัดใบ เช่น ใบเมเปลิ บนดอยอา่ งขางจะเร่ิมเปลยี่ นสีเม่ืออุณหภูมิของอากาศลดลงและหลุด รว่ งไปเม่ือเขา้ สฤู่ ดหู นาว 5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรือยงั มีข้อสงสยั ถา้ มี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ (2) นกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลมุ่ ว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมและการ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – พืชมกี ารคายน้ำทางใด – พืชมกี ารคายนำ้ เพราะอะไร ข้นั สรุป ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เกยี่ วกับการคายน้ำของพืช โดยรว่ มกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโน ทัศน์ 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบกจิ กรรมที่ 5 สงั เกตการคายน้ำของพืช 2. รูปใบเมเปิลบนดอยอา่ งขางเปลยี่ นสี 3. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 4. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 6. หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เร่ืองการคายน้ำ 1. ประเมินทักษะกระบวนการ ของพืช 1. ประเมินเจตคตทิ าง ทางวิทยาศาสตร์โดยใชแ้ บบ วิทยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล วดั ทักษะกระบวนการทาง 2. ตรวจชนิ้ งานหรอื ภาระงานของ โดยการสังเกตและใชแ้ บบวัด วิทยาศาสตร์ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมนิ ทักษะการคิดโดย 2. ประเมินเจตคตติ อ่ การสงั เกตการทำงานกลมุ่ วิทยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด 3. ประเมนิ ทักษะการ เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ แกป้ ญั หาโดยการสงั เกตการ ทำงานกลุ่ม 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏิบตั ิกจิ กรรมเป็น รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย การสงั เกตการทำงานกลุ่ม

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook