Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

Published by jarunpanakul, 2021-05-09 18:29:06

Description: แผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นป.4 นางอมลสิริ คำฟู

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรยี นรู้อิงมาตรฐานการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 โดย นางอมลสริ ิ คำฟู ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว14101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรื่อง ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ - 2. ตวั ช้ีวดั ชัน้ ปี - 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. มีความรู้ความเข้าใจแนวทางการจดั การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เจตคตติ อ่ วิชาวิทยาศาสตร์ และการวัด และประเมนิ ผลวชิ าวิทยาศาสตร์ (K) 2. ชี้แจงเจตคตทิ มี่ ีต่อวิทยาศาสตร์ได้ (A) 3. สือ่ สารและนำความรู้ความเข้าใจเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ การปฐมนิเทศเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างครูกับนักเรียน เป็นการตกลงกันในเบ้ืองตน้ กอ่ นท่ีจะเร่มิ การเรยี นการสอน ครูไดร้ ู้จกั นกั เรยี นดยี ่ิงข้ึน รับทราบความต้องการ ความรู้สกึ และเจตคติต่อวิชา ที่เรียน ในขณะเดียวกนั นักเรยี นได้ทราบความต้องการของครู แนวทางในการจดั การเรียนการสอน และการวัด และประเมินผล สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวจะนำไปสู่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูสามารถจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้นักเรียนคลายความวิตกกังวล สามารถเรียนได้อย่างมีความสุข อันจะ สง่ ผลให้นักเรยี นประสบความสำเร็จบรรลตุ ามเปา้ หมายทไี่ ด้กำหนดไว้ 5. สาระการเรียนรู้ การปฐมนเิ ทศ - แนวทางการจดั การเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ - เจตคติตอ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์ - การวัดและประเมนิ ผลวิชาวทิ ยาศาสตร์ 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการสื่อสาร 8. ชน้ิ งานหรือภาระงาน - 9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน 1) ครูแนะนำตนเองแลว้ ใหน้ ักเรียนในหอ้ งเรียนแนะนำตนเองทุกคน 2) ครูอาจให้นักเรียนแนะนำทีละกลุ่มตัวอักษร หรือตามลำดับหมายเลขประจำตัว หรือตามแถวที่น่ัง ตามความเหมาะสม ข้ันจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ครูนำผลงานทางวทิ ยาศาสตร์ที่มีอยู่ในชุมชน (ใช้ของจริงหรือรูปภาพก็ได้) แลว้ ให้นักเรียนอภิปราย ร่วมกันว่าผลงานดังกล่าวเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร 2) ให้นักเรียนยกตัวอย่างผลงานทางวิทยาศาสตร์คนละ 1 ตัวอย่าง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นว่า เกย่ี วขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตร์อย่างไร 3) ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันว่า การเรียนด้วยวิธีการ ให้นักเรียนค้นหาคาตอบด้วยตนเอง ด้วย การศึกษาคน้ คว้า ทดลอง ปฏิบตั ิจริง มปี ระโยชน์หรือไม่ อยา่ งไร 4) ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามปญั หาเพอ่ื ทาความเข้าใจรว่ มกนั 5) ครแู นะนาวิธีการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรว์ ่านักเรยี นมวี ิธีการเรยี นร้หู ลายรูปแบบ เช่น – ลงมือปฏบิ ัตกิ จิ กรรมที่บา้ นและทโ่ี รงเรยี น – สบื คน้ ขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ – อภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย – แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 6) ครูถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ว่า การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้ ประสบความสำเรจ็ ตอ้ งมีลักษณะนสิ ยั อยา่ งไร 7) ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็น (แนวคำตอบ 1. ช่างสังเกต เพราะการ สังเกตทำให้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ 2. อยากรู้อยากเห็น เพราะการเป็นคนอยากรู้ อยากเห็น ช่างคดิ ช่างสงสัย มกั คดิ ตั้งคำถามเพ่ือค้นหำคำตอบ ลกั ษณะนิสัยแบบน้ีนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ เสมอ 3. มเี หตผุ ลเพราะความรู้ทางวิทยาศาสตรต์ ้องอธิบายด้วยเหตุและผล เมอ่ื ไดค้ วามรู้ใหม่ต้องอธิบายได้ว่า ผลทไ่ี ดเ้ กดิ จากสำเหตุใด เมื่อทราบสำเหตแุ ล้วก็อธบิ ายไดว้ ่าผลเป็นอย่างไรโดยเชื่อในหลักฐานที่สนับสนุน 4. มี ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะผู้ที่มีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์เป็นผู้ที่อยากคิดอยากทำในสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซ่ึง นำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ได้ 5. มีความพยายามและอดทน เพราะผลของคำตอบไม่ใช่ได้มาโดยการค้นคว้า และทดลองเพยี งคร้ังเดียว แตต่ ้องใชค้ วามพยายามและความอดทนในการผ่านอุปสรรคต่างๆ เพ่ือให้ได้คำตอบ) 8) ครูแนะนำวธิ กี ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น ซึง่ มอี ตั ราสว่ นคะแนน ดงั น้ี (1) การวดั และประเมนิ ผลด้านความรู้ (K) 60 คะแนน สอบกลางภาค 30 คะแนน สอบปลายปี 30 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู (2) การวัดและประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 30 คะแนน - การประเมนิ การสังเกต 10 คะแนน - การประเมินการสำรวจ 10 คะแนน - การประเมินการทดลอง 100 คะแนน - การประเมนิ การสืบคน้ ข้อมูล - การประเมินโครงงานวทิ ยาศาสตร์ - การประเมินแฟ้มสะสมผลงาน - การประเมนิ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของนกั เรียน (3) การวดั และประเมนิ ผลด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและจิตวิทยาศาสตร์ (A) - การประเมนิ ด้านเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ คะแนนรวม ข้นั สรปุ 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ แนวทางการจัดการ เรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ และการวดั และประเมินผลวชิ าวิทยาศาสตร์ 2) ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาของบทเรยี นชว่ั โมงหนา้ เพอื่ จัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป โดยให้นักเรียนศึกษาคน้ คว้าลว่ งหน้าในหัวข้อการลำเลียงน้ำและอาหารของพืช โดยใชใ้ บงาน สืบค้นข้อมูลก่อน เรียน 1 ท่ีครูจัดเตรียมไว้ให้ประกอบการศกึ ษาค้นควา้ 3) ครอู ธบิ ายขัน้ ตอนการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและมอบหมายให้นักเรยี นไปปฏบิ ัติกิจกรรม ที่บ้าน พร้อมทั้งให้นักเรียนเตรียมประเด็นคำถามท่ีสงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปราย รว่ มกันในช้ันเรียนครงั้ ต่อไป 10. สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบงานสืบคน้ ข้อมูลก่อนเรียน 1 2. คมู่ อื การสอน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 3. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 4. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 5. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) - ซักถามความรเู้ รื่อง แนวทางการ จัดการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เจตคติ 1. ประเมินเจตคติทาง ต่อวชิ าวิทยาศาสตร์ และการวดั และ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล ประเมนิ ผลวิชาวิทยาศาสตร์ 2. ประเมินเจตคตติ อ่ วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. นกั เรยี นนไ่ี มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ........................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ........................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ................................. 3. นักเรยี นมีความร้เู กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟู) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2 สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การจำแนกสง่ิ มชี วี ิต (1) เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู ู้สอน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธกุ รรมทีม่ ีผลต่อสง่ิ มีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวฒั นาการ ของสง่ิ มชี วี ติ รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ช้ีวดั ช้ันปี จำแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสตั ว์ และกลมุ่ ทีไ่ ม่ใชพ่ ชื และสตั ว์ (ว 1.3 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สงั เกตลกั ษณะของสง่ิ มีชีวิตได้ (K) 2. จำแนกส่ิงมชี ีวติ เปน็ กลุ่มจากเกณฑ์ทก่ี ำหนดได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝร่ ้หู รอื อยากร้อู ยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่เี ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานรว่ มกับผู้อนื่ อย่างสร้างสรรค์ (A) 6. สอื่ สารและนำความรู้เร่ืองการจำแนกส่ิงมชี ีวติ ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ สิ่งมีชวี ติ สามารถจำแนกเปน็ กล่มุ ไดโ้ ดยการกำหนดเกณฑ์ที่แสดงลักษณะสำคัญเฉพาะท่ีเหมือนกัน 5. สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวติ 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. มีจติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชน้ิ งานหรือภาระงาน 1. สงั เกตกอ่ นเรียน 1 2. สบื คน้ ข้อมลู เกยี่ วกบั การจำแนกสิ่งมีชีวติ 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูดำเนินการทดสอบก่อนเรียนโดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความพร้อม และพ้นื ฐานของนกั เรียน ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครถู ามคำถามนกั เรยี นเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจ เช่น – สิ่งมชี ีวิตรอบตวั มอี ะไรบา้ ง (แนวคำตอบ แมว นก และตน้ ไม้) – นักเรียนเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าสิ่งมีชีวิตเพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะแมว นก และต้นไม้ ต้องการอาหาร มีการเจริญเติบโต และตอบสนองตอ่ สิง่ เรา้ ได)้ 2) นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบจากคำถามเพื่อเชื่อมโยงไปสู่การ เรยี นรเู้ รือ่ ง การจำแนกส่ิงมีชวี ิต ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น ชั้นเรยี น (flipped classroom) ซึ่งมขี นั้ ตอนดังน้ี 1) ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูให้นักเรียนนำใบงาน สังเกตก่อนเรียน 1 ที่ครูมอบหมายให้ไปเรียนรู้ล่วงหนา้ ที่บ้านมาอภิปราย รว่ มกันในหอ้ งเรียน (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก ของนักเรยี น และถามคำถามเกี่ยวกับกิจกรรม ดงั น้ี – สิ่งมีชีวิตที่สังเกตมีลักษณะใดเหมือนกันบ้าง (แนวคำตอบ พืชและสัตว์มีการหายใจ มีการ เจรญิ เติบโต และตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ เหมือนกัน) – ส่ิงมีชีวิตทีส่ งั เกตมีลกั ษณะใดแตกต่างกันบา้ ง (แนวคำตอบ พืชมใี บและไม่เคล่ือนที่ ส่วนสัตว์ไม่ มีใบและเคลื่อนท่ไี ด้เอง) (3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตั้งประเด็นคำถามที่นักเรียนสงสัยจากการทำกิจกรรมอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม ซง่ึ ครูให้นักเรียนเตรียมมาล่วงหน้า และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบและแสดงความคิดเห็น (4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรม สังเกตก่อนเรียน 1 โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เข้าใจว่า สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีลักษณะบางประการเหมือนกันและมีลักษณะบางประการแตกต่างกัน เราจึง สามารถจำแนกสง่ิ มีชีวติ เป็นกลุม่ ได้โดยการใชล้ กั ษณะทเ่ี หมือนกันเป็นเกณฑ์ 2) ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) (1) แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการจำแนกสิ่งมีชีวิตโดยดำเนินการตาม ขัน้ ตอนดงั นี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นขอ้ มูล โดยแบ่งหัวขอ้ การจำแนกส่งิ มีชีวติ เป็นหวั ข้อย่อย เชน่ เกณฑ์ที่ ใช้จำแนกสิ่งมีชีวิต ลักษณะของสิ่งมีชีวิตแต่ละกลุ่ม และชนิดของสิ่งมีชีวิตแต่ละกลุ่ม ให้สมาชิกแ ต่ละกลุ่ม ช่วยกันสืบค้นตามหัวข้อท่ีกำหนด

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อที่กลุ่มของตนเองรับผิดชอบโดยการสืบค้นจาก หนงั สอื วารสาร สารานกุ รมวทิ ยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสำหรับเยาวชน และอินเทอรเ์ น็ต – สมาชิกกลุ่มนำข้อมูลที่สืบค้นได้มารายงานให้เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปราย ซกั ถามจนคาดวา่ สมาชกิ ทกุ คนมีความรู้ความเขา้ ใจที่ตรงกนั – สมาชิกกลมุ่ ชว่ ยกนั สรุปความรทู้ ไี่ ด้ทั้งหมดเปน็ ผลงานของกลมุ่ (2) ครคู อยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียนทกุ คนซักถามเมื่อมปี ัญหา 3) ขน้ั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนกล่มุ นำเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหนา้ หอ้ งเรียน (2) นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม ตอ่ ไปนี้ – เกณฑท์ ่ใี ชใ้ นการจำแนกสงิ่ มชี วี ิตมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ การสร้างอาหารและการเคลอื่ นท่)ี – ส่ิงมชี ีวติ แบ่งไดเ้ ปน็ กกี่ ลุ่ม (แนวคำตอบ 3 กล่มุ คอื กลุ่มพชื กลมุ่ สตั ว์ และกลุ่มทีไ่ มใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การจำแนก สงิ่ มชี วี ติ ต้องกำหนดเกณฑเ์ พือ่ ใหท้ ุกคนสามารถจำแนกสิ่งมชี วี ิตโดยพิจารณาจากลกั ษณะทตี่ รงกัน 4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) ครูให้นักเรียนสำรวจบริเวณบ้านและจำแนกสิ่งมีชีวิตเป็น 3 กลุ่ม จากนั้นนำมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ เพอื่ นเพ่ือใหเ้ ข้าใจการจำแนกสงิ่ มีชวี ิตตรงกนั 5) ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ (2) นักเรยี นรว่ มกันประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่ วา่ มปี ญั หาหรืออุปสรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ทไี่ ด้รับจากการปฏบิ ัติกิจกรรมและการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – ส่ิงทใ่ี ชพ้ จิ ารณาการจำแนกส่งิ มีชีวติ เรียกวา่ อะไร – ส่งิ มีชวี ติ ทจี่ ำแนกอยใู่ นกลมุ่ เดยี วกนั ต้องมีสง่ิ ใดเหมือนกัน ขัน้ สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผัง มโนทศั น์

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ใบงานสังเกตก่อนเรยี น 1 3. หนังสอื วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรบั เยาวชน และอนิ เทอรเ์ น็ต 4. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 5. สอื่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 6. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 7. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เรื่องการจำแนก สง่ิ มีชีวติ 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ 1. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ตรวจชิ้นงานหรือภาระงานของ เปน็ รายบุคคลโดยการสังเกต การสงั เกตการทำงานกลุ่ม กิจกรรมฝึกทักษะระหวา่ งเรยี น และใชแ้ บบวดั เจตคติทาง 2. ประเมินพฤติกรรมในการ 3. ทดสอบก่อนเรยี นโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน วทิ ยาศาสตร์ ปฏิบัตกิ ิจกรรมเป็น 2. ประเมินเจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย เปน็ รายบคุ คลโดยการสังเกต การสงั เกตการทำงานกลุม่ และใชแ้ บบวัดเจตคตติ ่อ วทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรียนน่ไี ม่ผ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ...................................................................................................................... ................................ ............................................................................................................................. ......................... 4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) .................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟู) ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง การจำแนกสิ่งมีชวี ิต (2) เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธกุ รรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลต่อสิ่งมชี ีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ัฒนาการของ ส่ิงมีชีวติ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี จำแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลกั ษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่ม สตั ว์ และกลมุ่ ท่ีไม่ใชพ่ ชื และสัตว์ (ว 1.3 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตลักษณะของส่ิงมชี ีวติ ได้ (K) 2. จำแนกส่ิงมชี ีวิตเปน็ กลุ่มจากเกณฑท์ ีก่ ำหนดได้ (K) 3. มีความสนใจใฝร่ ้หู รืออยากรู้อยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนร้ทู ีเ่ ก่ยี วกบั วทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ อย่างสรา้ งสรรค์ (A) 6. สือ่ สารและนำความรู้เรอื่ งการจำแนกสงิ่ มชี ีวิตไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ ส่งิ มีชีวติ สามารถจำแนกเปน็ กลุ่มได้โดยการกำหนดเกณฑท์ ่ีแสดงลกั ษณะสำคญั เฉพาะทีเ่ หมือนกัน 5. สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของสง่ิ มีชีวติ 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน 1. สังเกตการจำแนกส่งิ มีชวี ติ 2. วาดรปู สิง่ มีชีวติ ทัง้ 3 กล่มุ 9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น 1) ครูทบทวนเรื่องการจำแนกสิ่งมีชีวิตโดยถามคำถามว่า ในการจำแนกสิ่งมีชีวิตต้องมีการกำหนด เกณฑ์เพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะการกำหนดเกณฑ์ทำให้ผู้จำแนกทุกคนพิจารณาลักษณะของสิ่งมีชีวิต เหมอื นกัน ทำใหก้ ลุ่มส่ิงมีชีวิตที่จำแนกได้เหมอื นกนั ) 2) นักเรยี นชว่ ยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั คำตอบของคำถาม เพอ่ื เชอ่ื มโยงไปสู่การ เรียนร้เู รือ่ ง การจำแนกสง่ิ มชี ีวติ ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับดา้ น ชน้ั เรียน (flipped classroom) ซึง่ มีขนั้ ตอนดงั นี้ 1) ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคำถามว่า ถ้านักเรียนต้องจำแนกสิ่งมีชีวิตเป็นกลุ่มจะใช้เกณฑ์ใด (แนวคำตอบ การสร้างอาหารเองไดแ้ ละการเคลอ่ื นทเ่ี องได้) (2) นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรียน 2) ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 1 สังเกตการจำแนกสิ่งมีชีวิต แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมตาม ข้ันตอนที่ได้วางแผนไว้ ดงั นี้ – แบ่งกล่มุ นกั เรยี น กล่มุ ละ 3 – 4 คน – สำรวจสิง่ มชี วี ติ บรเิ วณโรงเรียน – สังเกตลกั ษณะเฉพาะของสิ่งมชี ีวิตทสี่ ำรวจได้แลว้ บนั ทึกผล – จำแนกสิ่งมชี ีวิตเปน็ กลุ่มจากลกั ษณะเฉพาะของสง่ิ มีชวี ิต – อภิปรายและสรุปผลการสังเกต (2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณที่สังเกตและเปิด โอกาสใหน้ กั เรยี นทกุ คนซกั ถามเมื่อมปี ัญหา 3) ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นกั เรียนแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นกั เรยี นและครูร่วมกันอภิปรายและหาขอ้ สรุปจากการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ตอ่ ไปนี้ – สิ่งมชี ีวติ ทส่ี งั เกตมีลักษณะเฉพาะอยา่ งไร (แนวคำตอบ พชื มใี บสีเขยี ว เคลื่อนท่ีเองไมไ่ ด้ และไม่ กินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร สัตว์ไม่มีใบสีเขียว เคลื่อนที่เองได้ และกินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร และเห็ดไม่มีใบ เคลอ่ื นที่เองไม่ได้ และไม่กินส่งิ มีชีวติ อ่ืนเป็นอาหาร)

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – จากการปฏิบัติกิจกรรม นักเรียนใช้ลักษณะใดเป็นเกณฑ์ และจำแนกสิ่งมีชีวิตได้กี่กลุ่ม อะไรบ้าง (แนวคำตอบ ใช้ลักษณะการมีใบสีเขียว การเคลื่อนที่ และการกินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหารเป็นเกณฑ์ และจำแนกสงิ่ มีชีวิตได้ 3 กลุ่ม คอื กลมุ่ พืช กลมุ่ สตั ว์ และกลุ่มที่ไมใ่ ช่พชื และสตั ว)์ (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่ า เมื่อใช้ ลกั ษณะเฉพาะของส่ิงมชี ีวติ เปน็ เกณฑ์ เราสามารถจำแนกสิ่งมชี ีวิตเป็น 3 กลุ่ม คอื กลุ่มพชื กลมุ่ สัตว์ และกลุ่ม ทไี่ ม่ใช่พชื และสตั ว์ 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครใู ห้นกั เรยี นวาดรูปส่ิงมชี ีวติ ทัง้ 3 กลมุ่ คอื กลมุ่ พชื กลมุ่ สัตว์ และกล่มุ ท่ไี มใ่ ช่ทงั้ พืชและสัตว์ท่ีพบ เจอในชีวติ ประจำวัน และเขียนอธิบายว่าส่งิ มชี วี ิตที่วาดน้ันเป็นส่ิงมีชวี ิตกลุ่มใด เพราะอะไร (2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการจำแนกสิ่งมีชีวิต จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพ่ือนในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดส่ง ครู 5) ขัน้ ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรือยังมีขอ้ สงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจ (2) นักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกล่มุ ว่ามีปัญหาหรอื อปุ สรรคใดและได้แก้ไขอยา่ งไรบ้าง (3) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ประโยชน์ท่ีได้รบั จากการปฏิบัติกิจกรรมและการ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยถามคำถามนักเรียน เชน่ – การกำหนดเกณฑ์เมอื่ ตอ้ งการจำแนกส่งิ มชี ีวิตมีข้อดอี ย่างไร – ปลาและนกจดั เป็นสิ่งมชี ีวิตกลุม่ เดยี วกนั หรือไม่ เพราะอะไร ข้นั สรุป ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เก่ียวกับการจำแนกสงิ่ มชี ีวติ โดยรว่ มกันเขียนเป็นแผนท่ีความคดิ หรอื ผงั มโนทศั น์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมที่ 1 สังเกตการจำแนกส่งิ มีชีวิต 2. หนังสอื เรยี นภาษาต่างประเทศหรืออนิ เทอรเ์ นต็ 3. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 4. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 6. หนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เรื่องการจำแนก สง่ิ มชี วี ติ 1. ประเมินเจตคตทิ าง 1. ประเมนิ ทักษะ 2. ตรวจชิน้ งานหรอื ภาระงานของ วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคลโดย กระบวนการทาง กจิ กรรมฝึกทักษะระหวา่ งเรยี น การสงั เกตและใชแ้ บบวดั เจต วทิ ยาศาสตร์โดยใช้แบบวัด คตทิ างวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทาง 2. ประเมินเจตคติตอ่ วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นรายบคุ คลโดยการสังเกต 2. ประเมินทักษะการคิดโดย และใช้แบบวดั เจตคติตอ่ การสงั เกตการทำงานกล่มุ วทิ ยาศาสตร์ 3. ประเมินทักษะการ แก้ปัญหาโดยการสงั เกต การทำงานกลมุ่ 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏิบตั ิกจิ กรรมเป็น รายบคุ คลหรือรายกลุม่ โดย การสงั เกตการทำงานกลมุ่

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง ลกั ษณะของสง่ิ มีชีวติ (1) เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธุกรรม การเปลีย่ นแปลงทางพันธกุ รรมทมี่ ผี ลตอ่ สง่ิ มชี วี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ และวิวัฒนาการของ สง่ิ มชี ีวติ รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วัดชัน้ ปี จำแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลมุ่ สัตว์ และกลมุ่ ท่ไี มใ่ ช่พืชและสัตว์ (ว 1.3 ป. 4/1) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตลกั ษณะของส่ิงมีชีวติ กลุม่ พชื กลุ่มสตั ว์ และกลุ่มทไ่ี ม่ใชพ่ ืชและสตั ว์ได้ (K) 2. จำแนกส่งิ มชี ีวิตเปน็ กลุม่ พืช กล่มุ สัตว์ และกลุม่ ทีไ่ ม่ใชพ่ ืชและสัตว์ได้ (K) 3. มีความสนใจใฝ่รหู้ รอื อยากรอู้ ยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ ่ีเกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานร่วมกบั ผ้อู ่ืนอย่างสรา้ งสรรค์ (A) 6. ส่อื สารและนำความรู้เรื่องลกั ษณะของสิ่งมชี วี ิตไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคญั ส่ิงมีชีวิตจำแนกเปน็ 3 กลมุ่ ได้แก่ กลมุ่ พชื กลุม่ สัตว์ และกล่มุ ทีไ่ ม่ใช่พืชและสตั ว์ 5. สาระการเรยี นรู้ ลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวติ 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนนิ ชวี ติ

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ช้ินงานหรือภาระงาน จัดกล่มุ สิง่ มชี วี ติ 9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน 1) ครูทบทวนความร้เู ดิมของนักเรยี นโดยการถามคำถามกระตุ้น เชน่ – ถ้าต้องการแบ่งกลุ่มสิ่งมีชีวิต เราต้องกำหนดเกณฑ์ลักษณะใด (แนวคำตอบ กำหนดเกณฑ์ที่ แสดงลกั ษณะเฉพาะเหมอื นกัน) – ถ้านักเรียนแต่ละกลุ่มกำหนดเกณฑ์ต่างกัน สิ่งมีชีวิตในกลุ่มจะเหมือนกันหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ สงิ่ มีชีวติ ในกลุ่มจะแตกตา่ งกนั ข้ึนอย่กู บั เกณฑท์ ี่กำหนด เพราะส่งิ มีชวี ิตมลี ักษณะเฉพาะทแี่ ตกต่าง กัน เม่ือพจิ ารณาลักษณะเฉพาะทีแ่ ตกตา่ งกนั ตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว จงึ จำแนกสงิ่ มชี วี ิตได้แตกตา่ งกัน) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง ลักษณะของ ส่ิงมชี ีวิต ข้นั จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่ึงมขี นั้ ตอนดงั นี้ 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูนำบัตรภาพส่งิ มชี ีวิตกลุ่มพชื กลมุ่ สัตว์ และกลมุ่ ที่ไม่ใช่พืชและสัตวจ์ ำนวน 10 ใบมาให้นักเรียน ดู แล้วให้ทุกคนช่วยกันบอกว่าเป็นส่ิงมีชีวิตกลุ่มใด เพราะอะไร (โดยใชก้ ารสร้างอาหารเองได้และการเคลือ่ นท่ี เองได้เป็นเกณฑ์) (2) นักเรียนร่วมกันอภปิ รายเก่ียวกบั คำตอบจากคำถามของครูตามประสบการณ์ของนักเรียน 2) ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (1) ใหน้ ักเรียนศึกษาเร่ืองลักษณะของส่ิงมีชวี ิตจากใบความรหู้ รือในหนังสือเรยี น โดยครูช่วยอธิบายให้ นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อใช้เกณฑ์การสร้างอาหารเองได้และการเคลื่อนที่เองได้สามารถจำแนกสิ่งมีชีวิตได้เป็น กลมุ่ พืช กลมุ่ สัตว์ และกลุ่มที่ไมใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์ (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรยี นรู้ที่ 1 การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต แต่ ละกลุ่มปฏบิ ัติกิจกรรมตามข้นั ตอนท่ีไดว้ างแผนไว้ ดังนี้ – สังเกตสิ่งมชี ีวติ ในบัตรภาพท่ไี ดร้ บั และสบื คน้ ขอ้ มลู ลกั ษณะของส่ิงมีชีวติ เหล่าน้ัน – จำแนกส่ิงมชี วี ติ เป็นกลุม่ โดยใชก้ ารสร้างอาหารเองไดแ้ ละการเคล่ือนที่เองไดเ้ ปน็ เกณฑ์ – นำเสนอผลการจำแนกส่ิงมชี วี ิตหนา้ หอ้ งเรียนพรอ้ มให้เหตผุ ลของการจำแนกส่งิ มชี ีวิตเหลา่ น้นั (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียนทุกคนซกั ถามเมือ่ มปี ัญหา 3) ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนกลุม่ นำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ ห้องเรียน (2) นักเรยี นและครรู ่วมกนั อภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม ต่อไปน้ี – กลุ่มพชื มีส่งิ มชี วี ิตอะไรบา้ ง (แนวคำตอบ พรกิ ตำแยแมว ลิ้นมังกร และสะระแหน)่ – กลมุ่ สัตว์มสี ง่ิ มชี วี ิตอะไรบ้าง (แนวคำตอบ กระรอก ดอกไม้ทะเล ปู ดาวทะเล และดว้ ง)

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – กลุม่ ทไ่ี มใ่ ชพ่ ชื และสตั วม์ ีสงิ่ มชี วี ิตอะไรบา้ ง (แนวคำตอบ แบคทเี รีย รา และเห็ด) – สิง่ มชี ีวิตทง้ั หมดมกี ก่ี ลุ่ม และส่ิงมชี ีวติ กล่มุ ใดมีจำนวนมากที่สุด (แนวคำตอบ สง่ิ มีชวี ิตท้ังหมดมี 3 กลุ่ม และกลุ่มสตั วม์ ีจำนวนมากทส่ี ุด) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สิ่งมีชีวิตแต่ละ กลุม่ มลี ักษณะเฉพาะท่ีเหมือนกัน จงึ จำแนกส่ิงมีชวี ิตเป็นกลุม่ ได้ดังนี้ – กลุ่มพืชสร้างอาหารเองไดแ้ ละเคลอ่ื นท่ีดว้ ยตัวเองไม่ได้ – กลุม่ สัตว์ต้องกินส่งิ มชี วี ิตอนื่ เป็นอาหารและเคลอ่ื นท่ีไดด้ ว้ ยตวั เอง – กลุ่มทีไ่ มใ่ ช่พืชและสัตว์สร้างอาหารเองไม่ได้ แตจ่ ะยอ่ ยสลายซากพืช ซากสตั ว์เป็นอาหาร และ เคลื่อนท่ดี ว้ ยตวั เองไม่ได้ 4) ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูขยายความรู้เก่ียวกับสิ่งมีชีวิตกลุ่มทีไ่ มใ่ ช่พืชและสัตว์ โดยอธิบายว่า เห็ดไม่ใช่พืชเนือ่ งจากไม่มีใบในการสรา้ ง อาหารจึงสร้างอาหารเองไม่ได้ แต่จะย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร และไม่ใช่สัตว์เนื่องจากไม่กินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็น อาหารและเคลอื่ นที่ดว้ ยตัวเองไม่ได้ (2) ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ พืชจับแมลง โดยให้นักเรียนเข้าใจว่า สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารเองได้จะจำแนกอยู่ใน กลมุ่ พชื เสมอ แม้วา่ พืชบางชนิด เช่น กาบหอยแครงและหมอ้ ข้าวหม้อแกงลิงสามารถดักจับแมลงเพื่อย่อยเอาแร่ธาตุจากแมลง มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ แต่กย็ ังคงจำแนกอยใู่ นกลมุ่ พชื เพราะสรา้ งอาหารเองได้จากใบ 5) ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพิ่มเติมให้นกั เรียนเขา้ ใจ (2) นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรมกลมุ่ วา่ มีปัญหาหรอื อปุ สรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยถามคำถามนักเรียน เช่น – สาหรา่ ยและราจำแนกอยู่ต่างกลมุ่ กนั เพราะอะไร – กาบหอยแครงทีด่ กั จบั แมลงได้จำแนกอยู่ในกลุ่มพชื เพราะอะไร ขน้ั สรปุ ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั ลักษณะของส่งิ มีชีวิต โดยรว่ มกันเขียนเปน็ ผงั มโนทศั น์ 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รภาพส่งิ มชี ีวติ กลุม่ พชื กลุ่มสัตว์ และกลมุ่ ทไี่ มใ่ ชพ่ ชื และสตั ว์ 2. ใบกจิ กรรมเสริมการเรยี นรทู้ ่ี 1 การจดั กลุม่ สิ่งมีชีวติ 3. ค่มู อื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 4. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จิตวิทยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เรื่องลกั ษณะของ 1. ประเมินทักษะ สิ่งมีชีวติ 1. ประเมินเจตคตทิ าง กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล วิทยาศาสตรโ์ ดยใช้แบบ 2. ตรวจชนิ้ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด วัดทกั ษะกระบวนการทาง กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะระหว่างเรยี น เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ เจตคติต่อ 2. ประเมนิ ทักษะการคิดโดย วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล การสงั เกตการทำงานกลุม่ โดยการสังเกตและใชแ้ บบวัด เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ 3. ประเมนิ ทักษะการ แก้ปัญหาโดยการสงั เกต การทำงานกลุม่ 4. ประเมนิ พฤติกรรมในการ ปฏิบัตกิ จิ กรรมเป็น รายบุคคลหรือรายกลมุ่ โดยการสงั เกตการทำงาน กลุ่ม

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรยี นน่ีไมผ่ ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .................................................................................................................................. .................... 3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ....................................................................................... ............................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่ือง การจำแนกส่งิ มีชวี ิต (2) เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมทีม่ ีผลตอ่ ส่งิ มีชวี ติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และวิวฒั นาการของ สง่ิ มีชีวติ รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วดั ชน้ั ปี จำแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลมุ่ สัตว์ และกลุ่มทีไ่ ม่ใชพ่ ืชและสัตว์ (ว 1.3 ป. 4/1) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สงั เกตลักษณะของสิง่ มีชีวติ กลุม่ พืช กล่มุ สัตว์ และกลุม่ ท่ีไมใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์ได้ (K) 2. จำแนกสง่ิ มีชวี ิตเป็นกลุ่มพชื กล่มุ สตั ว์ และกลมุ่ ทไ่ี มใ่ ชพ่ ชื และสัตว์ได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝ่รูห้ รอื อยากรู้อยากเห็น (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรทู้ เ่ี กี่ยวกบั วิทยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์ (A) 6. ส่อื สารและนำความรูเ้ ร่ืองลกั ษณะของสิ่งมีชวี ิตไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคญั สิ่งมีชวี ติ จำแนกเปน็ 3 กล่มุ ไดแ้ ก่ กลุ่มพืช กล่มุ สัตว์ และกลุ่มที่ไมใ่ ช่พืชและสัตว์ 5. สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะของส่งิ มีชีวติ 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 4. มจี ิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทักษะในการดำเนนิ ชีวติ

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สงั เกตจลุ ินทรยี ผ์ า่ นกล้องจลุ ทรรศน์ 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับลักษณะของสิ่งมีชีวิต โดยการให้นักเรียนบอกลักษณะของสิ่งมีชีวิต กลุ่มพชื กลมุ่ สตั ว์ และกลุม่ ทีไ่ ม่ใช่พชื และสัตว์ (แนวคำตอบ สิ่งมชี วี ติ กลุ่มพืชสร้างอาหารเองได้แต่เคลื่อนท่ีเอง ไม่ได้ สง่ิ มีชีวติ กล่มุ สัตว์สรา้ งอาหารเองไม่ได้แตเ่ คลอื่ นทเ่ี องได้ ส่วนสงิ่ มีชวี ติ กลมุ่ ทไ่ี มใ่ ชพ่ ืชและสัตว์สร้างอาหาร เองไม่ได้และเคลอ่ื นท่เี องไม่ได้) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบของคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ การเรยี นรเู้ รื่อง ลกั ษณะของสงิ่ มีชวี ิต ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซงึ่ มขี ้ันตอนดงั น้ี 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคำถามนักเรียนว่า สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ไม่สามารถสร้าง อาหารเองได้และเคล่ือนที่เองไม่ได้เพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะไม่มีคลอโรฟลิ ล์ในการสร้างอาหารและไม่มี อวยั วะที่ใชใ้ นการเคลือ่ นที)่ (2) นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) แบง่ กลุ่มนกั เรียน กลมุ่ ละ 5 – 6 คน แตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั สังเกตจลุ นิ ทรียช์ นิดต่างๆ โดยการส่องด้วย กล้องจุลทรรศน์จากสไลด์สำเร็จรูปของจุลินทรีย์ พร้อมทั้งวาดภาพลักษณะที่สังเกตได้ (ครูเตรียมกล้อง จุลทรรศน์และปรับกำลังขยายที่เหมาะสมให้กับนักเรียน) (2) ครคู อยแนะนำช่วยเหลอื นักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดินดรู อบ ๆ หอ้ งเรียนและเปิดโอกาส ให้นกั เรยี นทุกคนซักถามเมอื่ มปี ญั หา 3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแตล่ ะกลุม่ สง่ ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน (2) นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ตอ่ ไปนี้ – นักเรียนมองเห็นจุลินทรีย์ด้วยตาเปล่าหรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ มองไม่เห็น เพราะ จลุ นิ ทรียม์ ีขนาดเล็กมาก) – กลอ้ งจุลทรรศน์ทำหนา้ ท่ีอะไร (แนวคำตอบ ขยายภาพขนาดเล็กทตี่ ามองไมเ่ หน็ ให้มีขนาดใหญ่ ข้ึนจนตาเรามองเหน็ ชัดเจน) – จุลนิ ทรียม์ ีลักษณะใด (แนวคำตอบ จุลนิ ทรียม์ รี ูปร่างไม่แน่นอน ไม่มีใบและอวัยวะท่ีใช้ในการ เคลอื่ นที่) (3) ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนเข้าใจวา่ จุลินทรีย์มีขนาด เล็กมาก และจำแนกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่พืชและสัตว์เนื่องจากสร้างอาหารเองไม่ได้และไม่มีอวัยวะในการ เคล่อื นที่

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 4) ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับลักษณะของสิ่งมีชีวิต จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดส่ง ครู 5) ขนั้ ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบา้ งที่ยังไม่ เข้าใจหรือยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ (2) นกั เรียนรว่ มกันประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมกล่มุ ว่ามีปัญหาหรอื อุปสรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการปฏิบัติกิจกรรมและการ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนกั เรียน เช่น – ยกตัวอยา่ งสง่ิ มชี วี ิตที่เป็นจุลนิ ทรีย์ – แบคทีเรียไมจ่ ดั อยใู่ นกลุ่มสัตวเ์ พราะอะไร ข้ันสรุป 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกบั ลักษณะของสิ่งมีชีวิต โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรอื ผังมโนทัศน์ 2) ครมู อบหมายให้นักเรียนไปศึกษาคน้ คว้าเนื้อหาของบทเรยี นช่วั โมงหน้า เพื่อจดั การเรยี นรู้คร้ังต่อไป โดยให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าล่วงหน้าในหวั ข้อความหลากหลายของพืช โดยใช้ใบงาน สำรวจก่อนเรียน 2 ที่ครู จดั เตรียมไว้ใหป้ ระกอบการศึกษาคน้ ควา้ 3) ครูอธิบายขั้นตอนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมและมอบหมายใหน้ ักเรยี นไปปฏิบตั ิกจิ กรรมท่บี า้ น พร้อมทั้งให้ นักเรียนเตรียมประเด็นคำถามที่สงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียนคร้ัง ต่อไป 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. กล้องจุลทรรศน์และสไลดส์ ำเรจ็ รูปของจุลนิ ทรยี ์ 2. หนงั สอื เรียนภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอรเ์ นต็ 3. ใบงานสำรวจกอ่ นเรียน 2 4. คมู่ อื การสอน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 5. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 6. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 7. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรูเ้ ร่ืองลกั ษณะของ 1. ประเมนิ ทักษะการคิดโดย สิ่งมีชวี ติ 1. ประเมินเจตคตทิ าง การสงั เกตการทำงานกลุ่ม วทิ ยาศาสตร์เป็นรายบุคคล 2. ตรวจชิ้นงานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใช้แบบวัด 2. ประเมินพฤติกรรมในการ กจิ กรรมฝกึ ทักษะระหวา่ งเรยี น เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ ปฏิบตั กิ จิ กรรมเป็น รายบคุ คลหรอื รายกล่มุ โดย 2. ประเมนิ เจตคติตอ่ การสังเกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด เจตคติตอ่ วิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. นกั เรยี นนไ่ี มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ........................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ........................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ................................. 3. นักเรยี นมีความร้เู กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟ)ู ตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การจำแนกพชื (1) เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นางอมลสิริ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธกุ รรมที่มผี ลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวัฒนาการของ สิง่ มีชวี ิต รวมท้ังนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สังเกตและสบื ค้นข้อมูลลักษณะภายนอกของพืชได้ (K) 2. จำแนกพชื เป็นกลมุ่ จากเกณฑ์ที่กำหนดได้ (K) 3. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรอื อยากร้อู ยากเหน็ (A) 4. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ทีเ่ กีย่ วกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 5. ทำงานร่วมกับผอู้ ื่นอยา่ งสร้างสรรค์ (A) 6. สื่อสารและนำความรู้เร่ืองการจำแนกพืชไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ นกั วทิ ยาศาสตร์จำแนกพืชเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ พชื ดอกและพืชไมม่ ดี อก โดยใชก้ ารมีดอกเปน็ เกณฑ์ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 4. มีจติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนนิ ชีวิต

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน สังเกตการเปรียบเทยี บต้นเฟินกบั ต้นมะลิ 9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครถู ามคำถามนกั เรยี นเพ่อื กระตุ้นความสนใจ เชน่ – บรเิ วณบ้านของนกั เรยี นปลกู พืชชนิดใดบ้าง (แนวคำตอบ มะม่วง มะกรดู และพรกิ ) – พืชในบริเวณบ้านของนักเรียนมีลักษณะภายนอกที่เหมือนหรือแตกต่างกันในลักษณะใด (แนว คำตอบ ลักษณะภายนอกที่เหมือนกัน เช่น ต้นมะกรูดและต้นมะม่วงมีใบสีเขยี วเหมือนกนั ลักษณะภายนอกท่ี แตกตา่ งกัน เช่น ลำต้นมะกรดู มหี นาม แตล่ ำตน้ มะมว่ งไมม่ หี นาม) 2) นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบจากคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การ เรียนร้เู ร่อื ง การจำแนกพชื ขัน้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลบั ดา้ น ช้ันเรียน (flipped classroom) ซึง่ มีขั้นตอนดงั นี้ 1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูให้นักเรียนนำใบงาน สำรวจก่อนเรียน 2 ที่ครูมอบหมายให้ไปเรยี นรูล้ ่วงหน้าทีบ่ ้านมาอภปิ ราย ร่วมกนั ในช้นั เรยี น (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึก ของนกั เรยี น และถามคำถามเกี่ยวกบั กิจกรรม ดงั นี้ – พืชที่สังเกตมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกัน (แนวคำตอบ พืชบางชนิดมีลักษณะเหมือนกัน และพืชบางชนดิ มีลักษณะแตกต่างกนั ) – ถ้านักเรียนต้องจำแนกพืชที่สังเกต นักเรียนจะใช้เกณฑ์อะไร และแบ่งเป็นกี่กลุ่ม (แนวคำตอบ ใชเ้ กณฑล์ กั ษณะลำตน้ โดยแบ่งเปน็ 2 กลมุ่ คือ ลำต้นตง้ั ตรงและลำตน้ เลือ้ ย) (3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตั้งประเด็นคำถามที่นักเรียนสงสัยจากการทำกิจกรรมอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม ซึง่ ครูใหน้ กั เรยี นเตรยี มมาลว่ งหน้า และให้นักเรยี นชว่ ยกันตอบและแสดงความคดิ เหน็ (4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรม สำรวจก่อนเรียน 2 โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เข้าใจว่า พืชแต่ละชนิดมีลักษณะบางประการเหมือนกันและมีลักษณะบางประการแตกต่างกัน เราจึงสามารถ จำแนกพืชเป็นกลุ่มได้โดยการใช้ลักษณะทเ่ี หมือนกนั เป็นเกณฑ์ 2) ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 2 สังเกตการเปรียบเทียบต้นเฟินกับต้นมะลิ แต่ละกลุ่มปฏิบตั ิ กจิ กรรมตามข้ันตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้ ดังนี้ – แบง่ กลุม่ นักเรยี น กล่มุ ละ 5–6 คน – แต่ละกลุ่มนำกระถางที่ปลูกต้นเฟินและต้นมะลิมาสังเกตลักษณะของราก ลำต้น ใบ และดอก บันทกึ ผล – เปรียบเทยี บลกั ษณะของต้นเฟนิ กับตน้ มะลิ หมายเหตุ อาจใชต้ ้นผกั แวน่ บวั บก หรอื ย่านลิเภา แทนต้นเฟิน

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู (2) ครคู อยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครเู ดนิ ดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส ให้นกั เรียนทกุ คนซักถามเม่ือมีปัญหา 3) ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (1) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหน้าห้องเรียน (2) นกั เรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ต่อไปน้ี – ต้นเฟินกับต้นมะลิมีลกั ษณะใดที่แตกต่างกนั (แนวคำตอบ ลกั ษณะท่ีแตกตา่ งกัน คือ การมีดอก โดยตน้ เฟินไม่มดี อก แต่ตน้ มะลิมีดอก) – ถ้าต้องการจำแนกประเภทของต้นเฟินกับต้นมะลิจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ (แนวคำตอบ ใช้การมี ดอกเปน็ เกณฑ์) (3) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม โดยครเู น้นใหน้ กั เรยี นเข้าใจวา่ พชื แต่ละชนิดมี ลักษณะภายนอกเหมือนและแตกต่างกัน เราจึงจำแนกพืชโดยใชล้ ักษณะภายนอกเป็นเกณฑ์ได้ โดยถ้าใช้การมี ดอกเปน็ เกณฑ์จะจำแนกไดเ้ ปน็ 2 กลุ่ม คอื พืชดอกและพืชไม่มดี อก 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ กับนกั เรยี นวา่ ลักษณะภายนอกท่นี ักวิทยาศาสตร์ใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการจำแนกพืชเป็น กลมุ่ ใหญ่ๆ คอื การมีดอกของพชื โดยแบง่ เป็นพชื ดอกและพืชไม่มดี อก 5) ข้นั ประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยังมขี ้อสงสัย ถ้ามี ครชู ว่ ยอธิบายเพม่ิ เตมิ ให้นกั เรียนเข้าใจ (2) นักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลุ่มวา่ มีปัญหาหรอื อปุ สรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการปฏบิ ัติกิจกรรมและการ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – เราสามารถใชล้ ักษณะภายนอกของพืชในการจำแนกพชื เป็นกลุ่มได้เพราะอะไร – เมอื่ ใชก้ ารมีดอกเป็นเกณฑ์สามารถจำแนกพชื ไดเ้ ป็นกี่กลุ่ม อะไรบา้ ง ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการจำแนกพืช โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโน ทัศน์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. ใบงานสำรวจก่อนเรียน 2 2. ใบกจิ กรรมที่ 2 สงั เกตการเปรียบเทียบต้นเฟนิ กบั ตน้ มะลิ 3. ค่มู ือการสอน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 4. สือ่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 5. แบบฝกึ ทักษะรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 6. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรูเ้ ร่ืองการจำแนก 1. ประเมินทักษะ พืช 1. ประเมินเจตคติทาง กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบคุ คล วทิ ยาศาสตรโ์ ดยใชแ้ บบ 2. ตรวจชิน้ งานหรือภาระงานของ โดยการสังเกตและใช้แบบวดั วัดทักษะกระบวนการทาง กิจกรรมฝึกทกั ษะระหว่างเรยี น เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 2. ประเมนิ เจตคตติ ่อ 2. ประเมินทักษะการคิดโดย วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบคุ คล การสงั เกตการทำงานกลมุ่ โดยการสงั เกตและใช้แบบวดั เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ 3. ประเมินทักษะการ แก้ปญั หาโดยการสงั เกต การทำงานกลมุ่ 4. ประเมินพฤติกรรมในการ ปฏบิ ัติกิจกรรมเป็น รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดยการสงั เกตการทำงาน กลมุ่

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้..................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นักเรยี นนี่ไมผ่ า่ น มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ ....................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 3. นักเรยี นมีความรเู้ กดิ ทกั ษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นักเรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟ)ู ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว14101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การจำแนกสิง่ มีชีวติ (2) เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลย่ี นแปลงทางพนั ธกุ รรมทีม่ ีผลต่อสงิ่ มีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวฒั นาการของ สง่ิ มีชวี ติ รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. จำแนกพืชเปน็ กลุม่ จากเกณฑท์ ี่กำหนดได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่เี ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกบั ผ้อู ืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนำความรู้เร่อื งการจำแนกพชื ไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ นกั วทิ ยาศาสตร์จำแนกพืชเปน็ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คอื พชื ดอกและพชื ไมม่ ดี อก โดยใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ 5. สาระการเรยี นรู้ ความหลากหลายของพชื 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน จำแนกพชื บรเิ วณโรงเรยี น 9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมเกีย่ วกับการจำแนกพืช โดยให้นักเรียนบอกเกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกพืช และ จำแนกเป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง (แนวคำตอบ เกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกพืช คือ การมีดอก จำแนกพืชเป็น 2 กลุ่ม คือ พืชดอกและพืชไม่มีดอก) 2) นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับคำตอบของคำถาม เพ่อื เชอ่ื มโยงไปสู่การ เรยี นร้เู รอ่ื ง การจำแนกพชื ข้นั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่งึ มขี ั้นตอนดังน้ี 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการถามคำถามทบทวนเกี่ยวกับกิจกรรมที่ 2 ว่า ต้นเฟินกับต้นมะลิจำแนก อยตู่ ่างกลุม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะตน้ เฟนิ ไมม่ ดี อก สว่ นต้นมะลิมดี อก) (2) นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนสำรวจบริเวณโรงเรียนแล้วบันทึกลักษณะต่าง ๆ ของพืชที่สำรวจได้ พร้อมนับ จำนวนพืชทส่ี ำรวจได้ จากนนั้ นำมาจำแนกเป็นกลมุ่ โดยใชก้ ารมีดอกเป็นเกณฑ์ และนำเสนอผลการสำรวจด้วย กราฟแท่ง (2) ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลอื นักเรยี นขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บรเิ วณทส่ี ำรวจและเปิด โอกาสให้นกั เรียนทกุ คนซกั ถามเมือ่ มปี ัญหา 3) ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (1) นักเรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตัวแทนกล่มุ นำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหน้าห้องเรียน (2) นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภปิ รายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยใช้แนวคำถาม ต่อไปนี้ – พชื ไม่มีดอกทสี่ ำรวจได้มีอะไรบา้ ง (แนวคำตอบ เฟินและมอสส)์ – พชื มดี อกทีส่ ำรวจไดม้ อี ะไรบ้าง (แนวคำตอบ บวั กหุ ลาบ และเข็ม) – พชื กล่มุ ใดมจี ำนวนมากกว่า (แนวคำตอบ พืชดอก) (3) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏบิ ัติกิจกรรม โดยครเู น้นให้นักเรียนเข้าใจว่า เม่ือใช้การมีดอก เป็นเกณฑ์สามารถจำแนกพืชได้เป็น 2 กลุ่ม คือ พืชดอกและพืชไม่มีดอก โดยบริเวณโรงเรียนพบพืชดอก มากกว่า 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ ไม้ดอกและไม้ใบ โดยให้นักเรียนเข้าใจว่า ในการจัดสวน พืชที่นำมาใช้ปลูก แบ่งเปน็ 2 กลุ่ม คือ ไม้ดอกและไมใ้ บ โดยไมด้ อก คอื พืชท่ปี ลูกไว้ดูดอก มปี ระโยชนจ์ ากลักษณะดอกทโี่ ดดเด่น เช่น กุหลาบและชบา ส่วนไม้ใบ คือ พืชที่ปลูกไว้ดูใบ มีประโยชน์จากลักษณะใบที่โดดเด่น เช่น โกสนและ

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู วาสนา โดยไม้ใบบางชนิดนั้นเป็นพืชดอก แต่ดอกมีลักษณะไม่โดดเด่นและสวยงามเหมือนไม้ดอก ดังนั้น ไม้ใบ จึงไม่ไดจ้ ำแนกอยใู่ นพืชไมม่ ีดอก เพยี งแต่ใบมคี วามโดดเด่นและสวยงามมากกว่าดอกเทา่ นั้น (2) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการจำแนกพืช จากหนังสือเรียน ภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดส่ง ครู 5) ข้ันประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยงั มขี อ้ สงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรยี นร่วมกันประเมนิ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลมุ่ ว่ามปี ัญหาหรอื อปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบา้ ง (3) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากการปฏบิ ัติกิจกรรมและการ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – เราสามารถใช้ลกั ษณะภายนอกของพชื ในการจำแนกพชื เปน็ กลุ่มได้เพราะอะไร – เมอ่ื ใชก้ ารมดี อกเป็นเกณฑ์สามารถจำแนกพชื ได้เป็นก่ีกลมุ่ อะไรบ้าง ขน้ั สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการจำแนกพืช โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโน ทศั น์ 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอร์เนต็ 2. คู่มอื การสอน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 3. แบบฝึกทักษะรายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เร่ืองการจำแนก 1. ประเมนิ ทักษะการคดิ โดย พชื 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง การสังเกตการทำงานกล่มุ วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล 2. ตรวจช้นิ งานหรือภาระงานของ โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ กิจกรรมฝกึ ทักษะระหว่างเรียน เจตคติทางวิทยาศาสตร์ ปฏบิ ัติกจิ กรรมเป็น รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย 2. ประเมินเจตคตติ อ่ การสงั เกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. นกั เรยี นนไ่ี มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ........................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ......................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ........................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ................................. 3. นักเรยี นมีความร้เู กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................... 12.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสริ ิ คำฟ)ู ตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่อื ง พืชไมม่ ดี อก เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมทมี่ ผี ลต่อสง่ิ มชี วี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวัฒนาการของ ส่ิงมชี ีวติ รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วัดช้ันปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สังเกตและอธิบายลักษณะของพืชไม่มีดอกได้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนร้ทู เ่ี ก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานร่วมกับผูอ้ นื่ อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนำความรู้เรื่องพชื ไมม่ ีดอกไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคญั พชื ไม่มดี อก คือ พชื ทไี่ ม่สามารถสรา้ งดอกได้ตลอดการดำรงชวี ิต จึงขยายพนั ธโ์ุ ดยการใชส้ ปอร์ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช – พืชไม่มีดอก 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ช้ินงานหรือภาระงาน สำรวจพชื ไมม่ ดี อก 9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรยี นโดยการถามคำถามกระต้นุ เช่น – ลกั ษณะภายนอกของพชื ใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการจำแนกพืชไดห้ รอื ไม่ (แนวคำตอบ ได้) – ถ้าใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์จะจำแนกพืชได้เป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง (แนวคำตอบ 2 กลุ่ม คือ พืช ดอกและพืชไม่มีดอก) 2) นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ เพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การเรยี นรเู้ รื่อง พืชไมม่ ดี อก ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่งึ มีขน้ั ตอนดงั น้ี 1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูเขียนคำว่า “พืชไม่มีดอก” บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันอธิบายถึงลักษณะของพืชไม่มี ดอกตามความรู้ท่ีมี (แนวคำตอบ พืชไมม่ ดี อกมใี บสีเขียวและไมม่ ีดอกตลอดการดำรงชีวิต) (2) นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเก่ียวกบั คำตอบจากคำถามของครูตามประสบการณ์ของนกั เรียน 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชไม่มีดอกจากใบความรูห้ รือในหนงั สือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เข้าใจว่า พืชไม่มีดอก คือ พืชที่ไม่สามารถสร้างดอกได้ตลอดการดำรงชีวิต เช่น เฟิน มอสส์ หวายทะนอย ตีนตุ๊กแก และหญา้ ถอดปล้อง (2) แบง่ กลมุ่ นกั เรยี น กล่มุ ละ 5 – 6 คน สำรวจพืชไม่มีดอกตามขั้นตอน ดังนี้ – แต่ละกลุ่มสบื คน้ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั ชนิดและลกั ษณะของพชื ไม่มดี อก – สำรวจบริเวณโรงเรียนว่ามีพืชไม่มีดอกชนิดใดบ้าง และใช้แว่นขยายส่องดูลักษณะต่างๆ ของ พชื ไมม่ ดี อก – บันทกึ ลักษณะของพืชไม่มีดอกทีส่ งั เกต พร้อมทัง้ วาดรูปประกอบ (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณที่สำรวจและเปิด โอกาสใหน้ กั เรียนทุกคนซกั ถามเมอ่ื มปี ัญหา 3) ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหน้าห้องเรยี น (2) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมโดยใช้แนวคำถาม เชน่ – บริเวณโรงเรียนมีพชื ไมม่ ดี อกชนดิ ใดบา้ ง (แนวคำตอบ มอสส์และเฟิน) – พชื ไม่มดี อกท่สี ำรวจพบมีลกั ษณะใด (แนวคำตอบ มใี บสีเขียว ต้นมขี นาดเลก็ และไมม่ ดี อก) – บริเวณที่พบพืชไม่มดี อกมีลักษณะใด (แนวคำตอบ บริเวณที่พบมีความชืน้ และอากาศค่อนข้าง เยน็ ) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า พืชไม่มีดอกมี ส่วนประกอบหลกั คอื ราก ลำต้น และใบ แตไ่ มม่ ีการสร้างดอกตลอดการดำรงชีวติ

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) อบั สปอร์ (1) ครูนำรูปสปอร์ของเฟินมาให้นักเรียนดู แล้วถาม นักเรียนว่า ขณะที่สำรวจพืชไม่มีดอก นักเรียนพบลักษณะที่ เหมือนในรูปตัวอยา่ งบนหลังใบเฟินหรอื ไม่ (2) ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชไม่มีดอกว่า พืชไม่มี ดอกส่วนใหญ่สืบพันธุ์และขยายพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ ซึ่งมี จำนวนมากอยู่ในอับสปอร์ เมื่ออับสปอร์แก่จะแตกออกและ ปล่อยสปอร์ที่อยู่ภายในให้ปลิวไปตามลม ถ้าปลิวไปตกใน บริเวณที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตจะสามารถเจริญเติบโต เป็นพืชตน้ ใหมไ่ ด้ อับสปอร์บนหลงั ใบเฟิน (3) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับ พืชไม่มีดอก จากหนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรือ อินเทอร์เนต็ และนำเสนอให้เพอ่ื นในหอ้ งฟงั แลว้ คัดคำศพั ท์พรอ้ มท้ังคำแปลลงสมดุ สง่ ครู 5) ขั้นประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรอื ยงั มขี อ้ สงสยั ถา้ มี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพิ่มเติมให้นักเรยี นเขา้ ใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมนิ การปฏิบตั กิ จิ กรรมกลุ่มว่ามปี ญั หาหรืออปุ สรรคใดและไดแ้ ก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและการ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยถามคำถามนักเรยี น เชน่ – พชื ไม่มีดอกมลี กั ษณะสำคัญอย่างไร – ยกตัวอยา่ งพืชไมม่ ีดอกทีน่ ักเรียนร้จู กั ข้นั สรปุ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกับพชื ไม่มีดอกโดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่คี วามคิดหรือผงั มโนทศั น์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. แว่นขยาย 2. รปู สปอรข์ องเฟนิ 3. หนงั สือเรียนภาษาต่างประเทศหรอื อินเทอร์เน็ต 4. คูม่ ือการสอน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 5. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 6. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 7. หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จติ วิทยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรเู้ ร่ืองพืชไม่มีดอก 1. ประเมนิ ทักษะการคดิ โดย 2. ตรวจชน้ิ งานหรือภาระงานของ 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง การสังเกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตรเ์ ปน็ รายบุคคล กิจกรรมฝกึ ทกั ษะระหว่างเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ ปฏบิ ัติกจิ กรรมเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ โดย 2. ประเมินเจตคตติ อ่ การสงั เกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบุคคล โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรยี นน่ีไมผ่ ่าน มีดังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ...................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ............................................................................................................................. ......................... .................................................................................................................................. .................... 3. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ (P) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 4. นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ....................................................................................... ............................................................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชือ่ .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่อื ง พืชดอก (1) เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมทมี่ ีผลต่อสงิ่ มชี ีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และววิ ฒั นาการของ ส่ิงมชี วี ติ รวมทงั้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและอธบิ ายลกั ษณะของพืชดอกได้ (K) 2. มีความสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรู้อยากเหน็ (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรู้ทเ่ี ก่ยี วกับวทิ ยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. สื่อสารและนำความรู้เร่ืองพชื ดอกไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ พืชดอกเมื่อเจริญเติบโตเตม็ ท่ีจะมีดอกสำหรบั สบื พนั ธ์ุ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช – พืชดอก 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สำรวจพืชดอก 9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครทู บทวนความรู้เดิมเก่ยี วกับพชื ไม่มีดอกโดยการถามคำถามกระตนุ้ เช่น – ลักษณะสำคญั ของพชื ไม่มีดอกคืออะไร (แนวคำตอบ ไม่มีการสร้างดอกตลอดการดำรงชีวติ ) – พชื ไมม่ ีดอกสืบพันธโ์ุ ดยใช้อะไร (แนวคำตอบ สปอร์) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเช่ือมโยงไปสกู่ ารเรียนรูเ้ รื่อง พืชดอก ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดกจิ กรรมการเรียนร้โู ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่ึงมีข้นั ตอนดงั น้ี 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครูเขียนคำว่า “พืชดอก” บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันอธิบายถึงลักษณะของพืชดอกตาม ความรู้ที่มี (แนวคำตอบ มดี อก ใบ และราก) (2) ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อพืชดอกที่นักเรียนรู้จัก และร่วมกันอภิปรายว่าพืชดอกแต่ละชนิดมี ลกั ษณะใดเหมือนหรือแตกต่างกนั บ้าง (แนวคำตอบ พืชดอกท่ีรู้จัก เชน่ ดอกกหุ ลาบและดอกชบา โดยพืชดอก แตล่ ะชนดิ มดี อกเหมือนกัน แต่มีลกั ษณะของดอกแตกตา่ งกัน) (3) นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรียน 2) ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชดอกจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เขา้ ใจว่า พชื ดอก คือ พืชท่โี ตเต็มทแี่ ลว้ จะผลติ ดอกออกมาเพ่อื ทำหนา้ ทีใ่ นการสบื พนั ธ์ุ ดอกของพชื แต่ละชนิดมี รปู รา่ ง สี และลักษณะแตกตา่ งกันไปตามชนิดของพนั ธพุ์ ืช (2) แบง่ กลุ่มนักเรยี น กลุม่ ละ 5 – 6 คน สำรวจพืชดอก ตามขัน้ ตอนดังน้ี – สำรวจบริเวณโรงเรียนว่ามีพืชดอกชนิดใดบ้าง และใช้แว่นขยายส่องดูลักษณะต่างๆ ของพืช ดอก – บนั ทึกลักษณะของพืชดอกทส่ี งั เกต พรอ้ มท้งั วาดรปู ประกอบ – บนั ทึกจำนวนชนิดของพืชดอกท่ีพบ และสรา้ งแผนภูมิแท่งเพื่อเปรียบเทียบจำนวนของพืชดอก แตล่ ะชนิด (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ บริเวณที่สำรวจและเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนทุกคนซักถามเมอื่ มปี ัญหา 3) ขน้ั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรยี น (2) ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมโดยใช้แนวคำถาม เช่น – บริเวณโรงเรยี นมีพชื ดอกชนิดใดบ้าง (แนวคำตอบ กหุ ลาบ ชบา พริก และกล้วย) – แผนภูมิแท่งที่ใช้ในการนำเสนอผลการสำรวจมีลักษณะใด (แนวคำตอบ แผนภูมิแท่งมีแกน นอนเป็นชนิดของพชื ดอกและแกนต้ังเปน็ จำนวนพืชดอก)

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู – พืชดอกที่สำรวจพบมีลักษณะใดที่แตกต่างกัน (แนวคำตอบ บางชนิดมีเส้นใบแตกต่างกัน และบางชนดิ มจี ำนวนกลีบดอกแตกตา่ งกนั ) (3) ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยครูเน้นใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า พชื ดอกเป็นพืชท่ี สร้างดอกเพอ่ื ใชใ้ นการสบื พนั ธ์ุ 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ครูให้นักเรียนนำดอกของพืชที่สำรวจมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นครูอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจว่า พืชแต่ ละชนิดมลี กั ษณะของดอกแตกต่างกนั แต่ดอกทำหน้าท่เี ดียวกัน คอื สืบพนั ธุ์ 5) ขั้นประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรอื ยงั มขี ้อสงสยั ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ (2) นกั เรียนรว่ มกันประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรมกล่มุ ว่ามปี ัญหาหรืออปุ สรรคใดและได้แกไ้ ขอยา่ งไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการปฏบิ ัติกจิ กรรมและการ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยถามคำถามนกั เรียน เชน่ – พชื ดอกที่นกั เรยี นรู้จักมอี ะไรบ้าง – พืชดอกมสี ่วนประกอบอะไรบ้าง ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั พชื ดอก โดยร่วมกันเขียนเปน็ แผนที่ความคิดหรอื ผังมโนทัศน์ 10. ส่ือการเรยี นรู้ 1. แวน่ ขยาย 2. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 3. สื่อการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. แบบฝึกทกั ษะรายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 5. หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) จติ วทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซักถามความรู้เรื่องพชื 1. ประเมนิ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์เป็น 1. ประเมินทักษะการคดิ โดยการ ดอก รายบคุ คลโดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั สังเกตการทำงานกลุ่ม 2. ตรวจชนิ้ งานหรอื ภาระ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ งานของกิจกรรมฝึกทักษะ 1. ประเมนิ เจตคตติ อ่ วิทยาศาสตร์เปน็ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเป็นรายบุคคล ระหว่างเรยี น รายบุคคลโดยการสังเกตและใช้แบบวัด หรือรายกลุม่ โดยการสังเกตการ เจตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ ทำงานกลุม่

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง พืชดอก (2) เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู ้สู อน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรมที่มผี ลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี จำแนกพชื ออกเปน็ พชื ดอกและพชื ไมม่ ีดอกโดยใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกตและอธิบายลักษณะของพชื ดอกได้ (K) 2. มีความสนใจใฝร่ ้หู รืออยากร้อู ยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรยี นรู้ที่เก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกับผู้อื่นอยา่ งสร้างสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนำความรู้เร่ืองพืชดอกไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 4. สาระสำคัญ พชื ดอกเมือ่ เจริญเตบิ โตเต็มทจี่ ะมีดอกสำหรบั สืบพันธุ์ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพชื – พชื ดอก 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

แผนการจัดการเรยี นรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ช้ินงานหรือภาระงาน สรา้ งผลงานศิลปะจากดอกของพืช 9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครูทบทวนความรู้เดิมโดยถามนักเรียนว่า พืชดอกแตกต่างจากพืชไม่มีดอกลักษณะใด (แนวคำตอบ พชื ดอกมีดอกท่ใี ชใ้ นการสบื พนั ธุ์ สว่ นพืชไม่มดี อกใช้สปอร์ในการสบื พนั ธ์ุ) 2) นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับคำตอบของคำถาม เพือ่ เช่ือมโยงไปสู่การ เรยี นรเู้ รือ่ ง พชื ดอก ขั้นจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึง่ มขี ้ันตอนดังนี้ 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (1) ครใู หน้ ักเรยี นบอกช่ือดอกของพชื ท่ีชอบพรอ้ มเหตผุ ล (แนวคำตอบ ดอกชบา เพราะมีสีสนั สวยงาม) (2) นักเรยี นร่วมกันอภิปรายเกย่ี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนสร้างผลงานศิลปะจากดอกของพืช โดยให้นักเรียนสำรวจบริเวณโรงเรียนและ รวบรวมดอกของพืชที่สำรวจได้ จากนั้นออกแบบผลงานศิลปะจากดอกของพืชที่รวบรวมได้และลงมือทำ แล้ว นำผลงานของแตล่ ะคนมาจดั แสดง (2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครูเดนิ ดูรอบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ใหน้ กั เรียนทุกคนซักถามเมือ่ มีปญั หา 3) ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมหนา้ ห้องเรียน (2) นักเรียนและครูร่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรปุ จากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ต่อไปน้ี – นักเรียนสรา้ งผลงานศลิ ปะทมี่ ชี อ่ื ว่าอะไร (แนวคำตอบ โลกใต้น้ำ) – ดอกของพืชที่ใช้มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ ดอกอัญชัน ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า และดอก ชวนชม) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ดอกของพืชแต่ ละชนิดมีรูปรา่ งและสีสันแตกตา่ งกนั 4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (1) ครูนำรูปพืชดอกชนิดต่าง ๆ มาให้นักเรียนดูและอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า ดอกของพืชบาง ชนิดพบเห็นยาก เช่น อ้อย ตะไคร้ และไผ่ ดอกของพืชบางชนิดพบได้ 1 ครั้งต่อปี เช่น ทุเรียน พลับพลึงธาร และพญาเสือโคร่ง และดอกของพชื บางชนิดพบไดต้ ลอดทง้ั ปี เชน่ เขม็ ชบา และชวนชม (2) นกั เรียนคน้ ควา้ คำศพั ท์ภาษาต่างประเทศเกย่ี วกบั พชื ดอก จากหนงั สือเรียนภาษาตา่ งประเทศหรือ อนิ เทอรเ์ น็ต และนำเสนอให้เพือ่ นในห้องฟัง แล้วคัดคำศัพทพ์ ร้อมทงั้ คำแปลลงสมดุ ส่งครู

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 5) ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่ เข้าใจหรือยังมขี ้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธิบายเพิม่ เติมให้นกั เรียนเขา้ ใจ (2) นกั เรียนร่วมกนั ประเมินการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลุม่ วา่ มปี ัญหาหรืออุปสรรคใดและได้แก้ไขอย่างไรบา้ ง (3) ครูและนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับประโยชน์ท่ีได้รบั จากการปฏิบัติกจิ กรรมและการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยถามคำถามนกั เรยี น เช่น – พชื ดอกมลี ักษณะสำคญั อะไร – ยกตวั อย่างพืชดอกทน่ี กั เรยี นพบปลี ะ 1 คร้งั ขั้นสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับพชื ดอก โดยร่วมกนั เขียนเป็นแผนท่คี วามคดิ หรือผังมโนทัศน์ 10. สื่อการเรียนรู้ 1. กาว 2. ปากกาสเี มจกิ 3. รปู พืชดอกชนดิ ตา่ ง ๆ 4. หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอร์เนต็ 5. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 8. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จิตวทิ ยาศาสตร์ (A) 1. ซกั ถามความรู้เร่ืองพชื ดอก 1. ประเมินทักษะการคดิ โดย 2. ตรวจชิน้ งานหรอื ภาระงานของ 1. ประเมนิ เจตคตทิ าง การสงั เกตการทำงานกลมุ่ วิทยาศาสตร์เปน็ รายบุคคล กิจกรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรียน โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวดั 2. ประเมนิ พฤติกรรมในการ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ ปฏิบตั กิ ิจกรรมเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ โดย 2. ประเมินเจตคติต่อ การสงั เกตการทำงานกลุ่ม วิทยาศาสตร์เป็นรายบคุ คล โดยการสังเกตและใช้แบบวดั เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 12. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 12.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ......................... ............................................................................................................................... ....................... 2. นักเรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................... 3. นักเรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................... ................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................. ..................... 12.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .................................................. (นางอมลสิริ คำฟ)ู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรูว้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง พืชใบเลย้ี งเด่ยี วและพชื ใบเลี้ยงคู่ (1) เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นางอมลสริ ิ คำฟู ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลีย่ นแปลงทางพันธุกรรมทีม่ ีผลต่อส่ิงมชี ีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และววิ ัฒนาการของ สิ่งมชี ีวติ รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตัวชี้วดั ชน้ั ปี จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ (ว 1.3 ป. 4/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. สังเกตและจำแนกพืชดอกเปน็ พืชใบเลีย้ งเด่ยี วและพืชใบเล้ยี งคไู่ ด้ (K) 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรูท้ ี่เก่ยี วกบั วิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานรว่ มกับผูอ้ น่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์ (A) 5. สอ่ื สารและนำความรูเ้ รอื่ งพชื ใบเลยี้ งเด่ียวและพชื ใบเลย้ี งคไู่ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ (P) 4. สาระสำคัญ พืชดอกมีลักษณะภายนอกบางประการที่แตกต่างกัน เมื่อใช้ลักษณะภายนอกที่สำคัญเป็นเกณฑ์ สามารถจำแนกพืชดอกเปน็ 2 กลุ่ม คอื พืชใบเลย้ี งเดยี่ วและพืชใบเลย้ี งคู่ 5. สาระการเรียนรู้ ความหลากหลายของพืช – พชื ดอก 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 4. มีจติ วทิ ยาศาสตร์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนินชีวิต

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ป.4 นางอมลสริ ิ คำฟู 8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน เปรยี บเทยี บจำนวนใบเล้ียงของพชื ใบเลย้ี งเดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ 9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถามกับนักเรียนว่า ถ้านักเรียนต้องการแบ่งกลุ่มพืช ดอก นักเรยี นสามารถใช้เกณฑ์ใดไดบ้ า้ ง (แนวคำตอบ ลกั ษณะเส้นใบ ลักษณะราก และลักษณะลำตน้ ) 2) นักเรียนช่วยกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง พืชใบเลี้ยง เดย่ี วและพชื ใบเลยี้ งคู่ ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึ่งมขี ้ันตอนดังนี้ 1) ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูนำรูปหรือต้นถั่วเขียวและต้นข้าวโพดมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะท่ี แตกตา่ งกันของพืช 2 ชนดิ น้ี (2) นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเก่ยี วกับคำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนกั เรยี น 2) ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ให้นักเรียนศึกษาเรื่องพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครู ชว่ ยอธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจว่า เม่อื ใช้ลักษณะภายนอกของพชื ดอกเปน็ เกณฑ์ สามารถแบ่งกลุม่ พืชดอกเป็นพืช ใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคูไ่ ด้ โดยลักษณะที่ใช้เป็นเกณฑ์สังเกตได้จากใบเล้ียง เส้นใบ การแตกกิ่ง และราก (2) แบ่งกลุ่มนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่ 2 เปรียบเทียบจำนวนใบเลี้ยงของพืชใบเลี้ยง เดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ แต่ละกลุม่ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามขัน้ ตอนทไ่ี ด้วางแผนไว้ ดงั นี้ – แบง่ กลมุ่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 5 – 6 คน – แต่ละกลมุ่ สงั เกตลักษณะของเมล็ดถวั่ เขยี วและเมลด็ ขา้ วโพด – นำเมล็ดถวั่ เขียวและเมล็ดขา้ วโพดแชน่ ำ้ ไว้ 1 คนื – นำเมล็ดถั่วเขยี วและเมล็ดข้าวโพดปลกู ลงในกระถางใบที่ 1 และใบที่ 2 ตามลำดับ รดน้ำทั้ง 2 กระถางทกุ วนั – สังเกตจำนวนใบเลยี้ งและรากท่งี อกจากเมล็ดของพืชทง้ั 2 ชนิด บนั ทกึ ผล (3) ครคู อยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดนิ ดรู อบๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาส ให้นักเรียนทุกคนซกั ถามเมอื่ มีปัญหา 3) ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหนา้ หอ้ งเรยี น (2) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายผลการปฏิบตั ิกิจกรรมโดยใช้แนวคำถาม เชน่ – เมล็ดถัว่ เขียวและเมล็ดข้าวโพดแตกตา่ งกนั ลักษณะใด (แนวคำตอบ เมล็ดถวั่ เขียวแบ่งได้เป็น 2 ซกี ส่วนเมล็ดขา้ วโพดเป็นเมล็ดเดีย่ ว) – ใบเล้ียงที่งอกจากเมล็ดถ่วั เขียวและเมล็ดข้าวโพดมลี กั ษณะใด (แนวคำตอบ ใบเลีย้ งของเมล็ด ถั่วเขยี วมี 2 ใบ สว่ นใบเลย้ี งของเมลด็ ข้าวโพดมี 1 ใบ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook