94 กรณมี ผี กู้ ระทำ�การ มาตรา ๑๓๕ ใ น ก ร ณี ท่ี ป ร า ก ฏ ต่ อ ค ณ ะ ท�ำ ให้การเลอื กต้ัง กรรมการว่าผู้ใดกระทำ�การใด ๆ เพ่ือประโยชน์แก่ผู้สมัคร มไิ ดเ้ ปน็ ไป หรือพรรคการเมืองใด อันอาจทำ�ให้การเลือกตั้งมิได้เป็น โดยสุจริตหรือ ไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำ�นาจ ออกคำ�ส่ังให้ผู้น้ันระงับการกระทำ�หรือมีคำ�ส่ังให้แก้ไขการ เทีย่ งธรรม กระท�ำ ตามเงอื่ นไขและระยะเวลาท่กี ำ�หนดได้ ถา้ มีผูแ้ จง้ ต่อเจ้าพนกั งานตำ�รวจหรอื เจา้ พนักงาน ตำ�รวจพบเห็นการกระทำ�ตามวรรคหน่ึงและการกระทำ�นั้น เป็นความผิดตามพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู นี้ ให้ เจ้าพนักงานตำ�รวจจับกุมและดำ�เนินคดีโดยเร็ว และแจ้ง ตอ่ คณะกรรมการเพอ่ื ใหพ้ จิ ารณาดำ�เนินการตอ่ ไป กรณีมีผ้ใู ห้เงินหรือ มาตรา ๑๓๖ ในกรณีที่มีหลักฐานอันควรเช่ือ ทรพั ยส์ นิ เพอื่ จูงใจ ได้วา่ ผู้ใดให้ เสนอให้ สัญญาวา่ จะให้ หรือจดั เตรียมเพ่อื ให้ลงคะแนนหรือ จะใหเ้ งนิ ทรพั ย์สิน หรอื ประโยชน์อืน่ ใด ท้ังน้ี เพอื่ จูงใจให้ งดเวน้ ลงคะแนน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครผู้ใด หรือ ให้งดเว้นลงคะแนนเลือกต้ังผู้สมัครผู้ใด หรือให้ลงคะแนน ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดให้คณะกรรมการมีอำ�นาจสั่งยึดหรือ อายัดเงินหรือทรัพย์สินของผู้น้ันไว้เป็นการช่ัวคราวจนกว่า ศาลจะมีค�ำ พพิ ากษาหรือคำ�สัง่ ให้คณะกรรมการย่ืนคำ�ร้องต่อศาลจังหวัดหรือ ศาลแพ่งที่การยึดหรืออายัดอยู่ในเขตศาลภายในสามวัน นับแต่วันยดึ หรอื อายัดตามวรรคหนึง่ เม่ือศาลได้รับค�ำ ร้อง แล้ว ให้ดำ�เนินการไต่สวนฝ่ายเดียวให้แล้วเสร็จภายใน
95 ห้าวันนับแต่วันท่ีได้รับคำ�ร้อง ถ้าศาลเห็นว่าเงินหรือ ทรัพย์สินตามคำ�ร้องน่าจะได้ใช้หรือจะใช้เพ่ือการเลือกต้ัง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ศาลมีคำ�สั่งยึดหรืออายัดเงิน หรือทรัพยส์ นิ นัน้ ไวจ้ นกว่าจะมกี ารประกาศผลการเลือกต้งั ความในมาตรานี้ไม่เป็นการตัดอำ�นาจของผู้ซ่ึงมี ฐานะเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำ�รวจชั้นผู้ใหญ่ตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการ เลือกตั้ง ในอันที่จะใช้อำ�นาจยึดหรืออายัดตามประมวล กฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๓๗ กอ่ นหรอื ในวนั เลอื กตง้ั เมอ่ื คณะ กรณีพบเหน็ การ กรรมการสืบสวนหรือไต่สวนแล้วหรือพบเห็นการกระทำ� กระท�ำ อันเปน็ เหตุ ท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกต้ังมิได้เป็นไปโดยสุจริต ใหก้ ารเลอื กตัง้ มไิ ด้ หรือเที่ยงธรรมหรือกรรมการแต่ละคนซ่ึงพบเห็นการ เปน็ ไปโดยสจุ รติ กระทำ�หรือการงดเว้นการกระทำ�ใดอันอาจเป็นเหตุให้การ และเที่ยงธรรม เลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเท่ียงธรรมหรือเป็นไป โดยมิชอบดว้ ยกฎหมาย ใหม้ ีอ�ำ นาจสง่ั ระงับ ยับยั้ง แกไ้ ข เปล่ยี นแปลง หรือยกเลิกการเลือกต้งั และส่งั ให้ดำ�เนินการ เลือกต้งั ใหม่หรือนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกต้งั บางหน่วย หรือทุกหน่วยเลือกตั้งได้ สำ�หรับการดำ�เนินการของ กรรมการ ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่อื นไขที่ คณะกรรมการก�ำ หนด
96 การเพกิ ถอนสทิ ธิ มาตรา ๑๓๘ เ มื่ อ มี ก า ร ดำ � เ นิ น ก า ร ต า ม สมัครรบั เลอื กต้งั มาตรา ๑๓๒ หรือภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว หรือเพกิ ถอนสิทธิ ถ้ามีหลักฐานอันควรเช่อื ได้ว่าผ้สู มัครหรือผ้ใู ดกระทำ�การอัน เลอื กตั้ง เปน็ การทจุ รติ ในการเลือกต้ัง หรือรู้เห็นกับการกระทำ�ของ บุคคลอื่น ให้คณะกรรมการย่ืนคำ�ร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้งั หรือเพิกถอนสิทธิเลือกต้งั ของผู้นนั้ การพิจารณาของศาลฎีกาให้นำ�สำ�นวนการ สืบสวนหรือไต่สวนของคณะกรรมการเป็นหลักในการ พจิ ารณา และเพ่อื ประโยชนแ์ ห่งความยตุ ธิ รรม ให้ศาลมี อำ�นาจสั่งไตส่ วนข้อเท็จจรงิ และพยานหลักฐานเพ่ิมเติมได้ เมื่อศาลฎีกามีคำ�ส่ังรับคำ�ร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ผู้น้ัน หยุดปฏิบัติหน้าท่ีจนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้น้ันมิได้ กระทำ�ความผดิ ในกรณีท่ศี าลฎีกาพิพากษาว่าบุคคลตามวรรคหน่งึ กระทำ�ความผิดตามที่ถูกร้อง ให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกต้ังหรือเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของผู้นั้น และ ในกรณีท่ีผู้นั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้สมาชิกภาพ ของผู้น้ันส้ินสุดลงนับแต่วันท่ีหยุดปฏิบัติหน้าท่ี และให้ คณะกรรมการจัดให้มีการเลือกตง้ั แทนต�ำ แหนง่ ท่วี า่ ง
97 มาตรา ๑๓๙ ในกรณที ศ่ี าลฎกี ามคี �ำ สง่ั ใหเ้ พกิ ถอน การรบั ผดิ สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังผู้สมัคร ในคา่ ใช้จา่ ยส�ำ หรบั หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ใดและเป็นเหตุให้ต้องมี การเลือกตั้ง การเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะมีคำ�ร้องขอหรือไม่ ให้ศาลฎีกา ส่ังให้ผู้นั้นรับผิดในค่าใช้จ่ายสำ�หรับการเลือกตั้งคร้ังที่ เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำ�สั่งเช่นว่าน้ันจำ�นวนค่าใช้จ่าย ดังกล่าวให้ศาลฎีกาพิจารณาจากหลักฐานการใช้จ่าย ทค่ี ณะกรรมการเสนอตอ่ ศาล เงนิ ทไี่ ด้รับมาตามวรรคหนึ่งให้น�ำ ส่งเขา้ กองทนุ มาตรา ๑๔๐ ผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ผู้สมัคร หรือ ผู้มสี ิทธิยืน่ คัดคา้ น พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีสิทธิย่ืนคัดค้าน การเลอื กตั้ง ต่อคณะกรรมการว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งท่ีตนมีสิทธิ เลือกต้ัง หรือท่ีตนสมัครรับเลือกต้ังหรือท่ีพรรคการเมือง ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลอื กตง้ั แลว้ แต่กรณี มิได้เปน็ ไปโดย สจุ รติ หรอื เที่ยงธรรมหรอื ไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ผู้มีสิทธิย่ืนคัดค้านการเลือกต้ังตามวรรคหนึ่งอาจ ยื่นคัดค้านได้ต้ังแต่วันท่ีคณะกรรมการประกาศกำ�หนดวัน เลือกตั้งจนถึงสามสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง เวน้ แต่ (๑) การคัดค้านเพราะเหตุตามมาตรา ๖๓ หรือ มาตรา ๖๗ ให้ย่ืนได้ตั้งแต่วันเลือกตั้งจนถึงหน่ึงร้อย แปดสบิ วนั นับแต่วันประกาศผลการเลือกต้ัง
98 (๒) การคัดค้านเกี่ยวกับการนับคะแนนให้ คัดค้านในระหว่างเวลาท่ียังนับคะแนนไม่แล้วเสร็จหรือใน กรณีคัดค้านการรวมคะแนน ให้คัดค้านก่อนประกาศผล การนบั คะแนนทหี่ นว่ ยเลือกตง้ั เม่ือคณะกรรมการได้รับคำ�คัดค้านการเลือกตั้งให้ ด�ำ เนินการสบื สวนหรอื ไต่สวน เพอ่ื หาข้อเท็จจริงโดยพลนั และพิจารณาด�ำ เนินการตามหมวดนี้ แล้วแตก่ รณี ต่อไป ทั้งน้ี การย่ืนคำ�คัดค้านการเลือกต้ังและการพิจารณาให้ เปน็ ไปตามวิธกี ารทีค่ ณะกรรมการก�ำ หนด หมวด ๘ บทกำ�หนดโทษ การทุจริตในการ มาตรา ๑๔๑ ผู้ซ่ึงรับโทษตามมาตรา ๑๕๘ เลอื กตง้ั หรือมาตรา ๑๖๖ ให้ถือว่ากระทำ�การอันเป็นการทุจริตใน การเลือกตั้ง ผ้บู ังคบั บญั ชา มาตรา ๑๔๒ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างผู้ใด นายจา้ งขดั ขวาง ขดั ขวาง หรอื หนว่ งเหนย่ี ว หรอื ไมใ่ หค้ วามสะดวกพอสมควร การไปใช้สิทธิ ต่อการไปใช้สิทธิเลือกต้ังของผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้าง เลอื กต้งั แล้วแต่กรณี ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกินสองปี หรือปรับ ไมเ่ กนิ ส่ีหมื่นบาท หรอื ท้งั จำ�ท้ังปรับ
99 มาตรา ๑๔๓ ผู้ใดกระทำ�การอนั เป็นเทจ็ เพอ่ื ให้ กระท�ำ การ ผู้อ่ืนเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำ�การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ อันเป็นเท็จเพอื่ ให้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี ต้องระวาง ผู้อ่ืนเข้าใจผดิ โทษจ�ำ คุกไมเ่ กนิ สองปี หรือปรบั ไม่เกนิ สหี่ มืน่ บาท และให้ ว่าผสู้ มคั รฝ่าฝืน ศาลสัง่ เพกิ ถอนสิทธเิ ลือกตงั้ ของผูน้ น้ั มีกำ�หนดห้าปี พ.ร.ป. ถ้าการกระทำ�ตามวรรคหน่ึงเป็นการเพ่ือจะแกล้ง ให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับ เลอื กต้งั หรือเพอื่ ไมใ่ ห้มกี ารประกาศผลการเลือกตัง้ ตอ้ ง ระวางโทษจำ�คุกต้ังแต่ห้าปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งแสน บาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นนั้ มีก�ำ หนดยีส่ บิ ปี ถ้าการกระทำ�ตามวรรคหนึ่งเป็นการแจ้งหรือ ให้ถ้อยคำ�ต่อคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่ เจ็ดปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนส่ีหมื่นบาทถึง สองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของ ผ้นู ้ันมีกำ�หนดยี่สบิ ปี ถ้าการกระทำ�ตามวรรคสองหรือวรรคสามเป็น การกระทำ�หรือก่อให้ผู้อ่ืนกระทำ�สนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจ ของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการบริหาร พรรคการเมือง ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นกระทำ�การอัน เป็นการบ่อนทำ�ลายความม่ันคงของราชอาณาจักร ตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วยพรรคการเมือง
100 เจตนาทำ�ใหบ้ ตั ร มาตรา ๑๔๔ ผใู้ ดจงใจกระทำ�ด้วยประการใดๆ เลือกต้ังเสยี หาย ให้บัตรเลือกต้ังชำ�รุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำ�ด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตร ท่ีใช้ได้ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของ ผู้นัน้ มีก�ำ หนดสบิ ปี ถ้ า ผู้ ก ร ะ ทำ � ค ว า ม ผิ ด ต า ม ว ร ร ค ห นึ่ ง เ ป็ น เจ้าพนักงานผู้ดำ�เนินการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำ�คุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่สองหมื่นบาทถึง สองแสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของผู้น้ัน มีก�ำ หนดยส่ี บิ ปี การมหี รอื มาตรา ๑๔๕ ผู้ ใ ด ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น เ จ้ า พ นั ก ง า น ครอบครองบัตร ผู้ดำ�เนินการเลือกต้ังซ่ึงมีหน้าท่ีและอำ�นาจในการเก็บรักษา เลอื กตงั้ โดยไมช่ อบ บตั รเลอื กตง้ั มีหรือครอบครองไว้ซึ่งบัตรเลือกต้ังโดยไม่ชอบ ไม่ว่าบัตรเลือกตั้งนั้นจะเป็นบัตรเลือกต้ังท่ีสำ�นักงานเป็น ผู้จัดให้มีข้ึนหรือไม่ ต้องระวางโทษจำ�คุกต้ังแต่หน่ึงปีถึง หา้ ปีหรอื ปรบั ตัง้ แต่สองหมืน่ บาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือท้ัง จำ�ท้ังปรับ และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มกี �ำ หนดสิบปี ในกรณีที่ผู้กระทำ�ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็น เจ้าหน้าท่ีของรัฐ ต้องระวางโทษเพิ่มข้ึนอีกก่ึงหน่ึงและให้ ศาลสง่ั เพกิ ถอนสทิ ธสิ มคั รรับเลือกตั้งของผู้นัน้
101 มาตรา ๑๔๖ ในระหว่างเวลาเปิดการออกเสียง การเปดิ เผยวา่ ลงคะแนนจนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน ถ้า ผใู้ ดมาหรอื ยงั ไมม่ า กรรมการประจำ�หน่วยเลือกตั้งเปิดเผยให้แก่ผู้ใดทราบว่า ลงคะแนน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดมาลงคะแนนหรือยังไม่มาลงคะแนน เพ่ือเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกินหน่ึงปีหรือปรับไม่เกินสองหม่ืน บาท หรอื ท้ังจ�ำ ทั้งปรับ มาตรา ๑๔๗ ผูใ้ ดขาย จำ�หน่าย จ่ายแจก หรือ การจ�ำ หนา่ ยหรอื จัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตง้ั ในระหวา่ งเวลา ๑๘.๐๐ จดั เลี้ยงสุราก่อน นาฬิกา ของวันกอ่ นวนั เลอื กต้งั หน่งึ วัน จนถงึ เวลา ๑๘.๐๐ วนั เลือกตงั้ นาฬิกา ของวันเลือกตั้งต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกิน หกเดือน หรือปรับไม่เกนิ หนึ่งหมื่นบาท หรอื ท้งั จำ�ทง้ั ปรบั บทบัญญัติในวรรคหน่ึงให้ใช้บังคับแก่วันลง คะแนนตามมาตรา ๑๐๖ และมาตรา ๑๐๗ ดว้ ย มาตรา ๑๔๘ ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการ การพนันเกีย่ วกับ พนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลของการเลือกตั้งต้องระวาง ผลการเลอื กตัง้ โทษจำ�คุกตั้งแต่หน่ึงปีถึงห้าปี หรือปรับต้ังแต่สองหมื่น บาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับและให้ศาลสั่ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้เล่นมีกำ�หนดสิบปีและเพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกต้ังของผจู้ ดั ใหม้ ีการเล่น ถ้าการกระทำ�ตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทำ�ของ ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจำ�คุกต้ังแต่ หน่งึ ปีถึงสิบปี หรือปรับต้งั แต่สองหม่นื บาทถึงสองแสนบาท
102 หรือทั้งจำ�ท้ังปรับ และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกต้ังของผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมือง แล้วแต่ กรณี มาตรา ๑๔๙ ผู้ใดฝ่าฝนื มาตรา ๒๓ วรรคหนง่ึ หรอื มาตรา ๗๘ วรรคหนง่ึ ตอ้ งระวางโทษจ�ำ คกุ ตง้ั แตห่ นง่ึ ปี ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้น้ันมีกำ�หนด ย่สี ิบปี มาตรา ๑๕๐ ผใู้ ดฝา่ ฝืนมาตรา ๔๐ ตอ้ งระวาง โทษจำ�คุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือ ทั้งจำ�ท้ังปรบั และให้ศาลสง่ั เพิกถอนสทิ ธิเลอื กตง้ั ของผู้นน้ั มกี ำ�หนดหา้ ปี ผ้ไู มม่ สี ทิ ธิสมคั ร มาตรา ๑๕๑ ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิ รบั เลอื กตั้ง สมัครรับเลือกต้ังเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะ ฝา่ ฝนื สมคั ร ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา รบั เลอื กตั้ง ผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกต้ังหรือทำ�หนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกต้ังแบบ บัญชีรายช่ือ ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่หน่ึงปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่สองหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาล สัง่ เพิกถอนสิทธเิ ลือกต้งั ของผู้นั้นมีกำ�หนดย่ีสิบปี ในกรณีท่ีผู้กระทำ�ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็น ผู้ซ่ึงได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ ศาลมีคำ�ส่ังให้ผู้น้ันคืนเงินประจำ�ตำ�แหน่งและประโยชน์
103 ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำ�รงตำ�แหน่ง ดงั กล่าวให้แก่สำ�นกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย มาตรา ๑๕๒ ผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่ สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอน สทิ ธเิ ลอื กตงั้ ของผนู้ น้ั มีกำ�หนดยีส่ บิ ปี มาตรา ๑๕๓ ผู้สมัครผู้ใดทำ�หนังสือยืนยันการ การยืน่ เอกสาร ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา ๔๕ หรือ อันเปน็ เท็จ มาตรา ๕๗ อนั เปน็ เทจ็ ต้องระวางโทษจ�ำ คกุ ไมเ่ กินสองปี หรือปรับไมเ่ กินส่หี มืน่ บาท หรอื ทัง้ จำ�ท้ังปรับและใหศ้ าลส่งั เพกิ ถอนสิทธเิ ลอื กตั้งของผนู้ ้ันมีก�ำ หนดหา้ ปี มาตรา ๑๕๔ ผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๖๓ ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับต้ังแต่ สองหมน่ื บาทถงึ หนง่ึ แสนบาท หรอื ปรบั เปน็ จ�ำ นวนสามเทา่ ของจำ�นวนเงินที่เกินค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการกำ�หนด แล้วแตจ่ �ำ นวนใดจะมากกวา่ กนั หรอื ทัง้ จ�ำ ทั้งปรบั และให้ ศาลส่ังเพิกถอนสทิ ธิเลือกตัง้ ของผู้นน้ั มีกำ�หนดสบิ ปี ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำ�ความผิดตาม วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึง สองล้านบาท หรือปรับเป็นจำ�นวนสามเท่าของจำ�นวนเงิน ท่ีเกินค่าใช้จ่ายท่ีคณะกรรมการกำ�หนด แล้วแต่จำ�นวนใด จะมากกวา่ กัน
104 ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำ�ความผิด ตามวรรคสอง ถ้าหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการ พรรคการเมือง หรือเหรัญญิกของพรรคการเมืองรู้เห็น เป็นใจด้วยกับการกระทำ�ความผิด ต้องรับโทษและถูก เพกิ ถอนสทิ ธเิ ลอื กตง้ั ตามที่บัญญัตไิ ว้ในวรรคหน่ึง กรณีไมย่ ื่นบัญชี มาตรา ๑๕๕ ผสู้ มคั รหรอื หวั หนา้ พรรคการเมอื ง รายรับและรายจ่าย ผู้ใดไม่ย่ืนบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการภายใน ต่อคณะกรรมการ ระยะเวลาท่ีกำ�หนด หรือจงใจย่ืนเอกสารหรือหลักฐาน การเลอื กต้ัง ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา ๖๗ ต้องระวางโทษ จำ�คุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินส่ีหมื่นบาท หรือท้ัง จำ�ท้ังปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของผู้น้ันมี กำ�หนดห้าปี ถ้าบัญชีรายรับและรายจ่ายท่ียื่นตามมาตรา ๖๗ เป็นเท็จ ผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมืองต้องระวาง โทษจำ�คุกต้ังแต่หน่ึงปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหม่ืน บาทถึงหน่ึงแสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ัง ของผูน้ น้ั มกี ำ�หนดสบิ ปี ฝ่าฝืนข้อหา้ ม มาตรา ๑๕๖ ผใู้ ด ในการหาเสียง (๑) ฝา่ ฝนื มาตรา ๖๙ มาตรา ๗๐ หรอื มาตรา ๗๙ เลอื กตงั้ (๒) หาเสียงเลือกต้งั โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ หรือเงื่อนไขท่ีคณะ กรรมการกำ�หนดตามมาตรา ๗๐
105 ผู้น้ันต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนง่ึ หมื่นบาท หรือทั้งจ�ำ ทั้งปรบั มาตรา ๑๕๗ ผใู้ ดฝ่าฝนื มาตรา ๗๒ หรอื เปิดเผย ผูใ้ ดเปิดเผยหรอื หรือเผยแพร่ผลการสำ�รวจความคิดเห็นของประชาชน เผยแพร่ผลการ เก่ียวกับการออกเสียงลงคะแนนในระหว่างเวลาเจ็ดวัน สำ�รวจความ กอ่ นวนั เลือกตัง้ จนถึงเวลาปดิ การออกเสยี งลงคะแนน ตอ้ ง คดิ เหน็ เกย่ี วกับ ระวางโทษจำ�คุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหกพัน การลงคะแนน บาท หรอื ทง้ั จ�ำ ท้งั ปรับ มาตรา ๑๕๘ ผใู้ ดฝา่ ฝืนมาตรา ๗๓ (๑) หรอื (๒) มาตรา ๗๕ มาตรา ๗๖ หรือมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษ จำ�คุกตั้งแต่หน่ึงปีถึงสิบปีหรือปรับต้ังแต่สองหม่ืนบาท ถึงสองแสนบาท หรือท้ังจำ�ทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธเิ ลอื กตง้ั ของผู้น้นั มกี ำ�หนดยส่ี บิ ปี ในกรณีที่ศาลมีคำ�พิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ ผูก้ ระทำ�ความผดิ ตามมาตรา ๗๓ (๑) หรอื (๒) ใหศ้ าลสั่ง จ่ายเงินสินบนนำ�จับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำ�นวนเงินค่าปรับ แกผ่ ้แู จ้งความน�ำ จับ ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำ�ความผิดตาม มาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรคการเมอื งหรือกรรมการบริหาร พรรคการเมืองของพรรคการเมืองน้ันซ่ึงรู้เห็นเป็นใจด้วย ในการกระทำ�ความผิดต้องระวางโทษตามท่ีกำ�หนดไว้ ในวรรคหนึ่ง และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของ หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมือง
106 ของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุท่ีจะยุบ พรรคการเมืองน้ันตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๑๕๙ ผู้ใดฝา่ ฝืนมาตรา ๗๓ (๓) (๔) หรือ (๕) ต้องระวางโทษจ�ำ คกุ ต้ังแต่หน่งึ ปีถึงสบิ ปี หรอื ปรับตั้งแตส่ องหม่นื บาทถงึ สองแสนบาท หรือทั้งจำ�ทัง้ ปรับ และให้ศาลส่งั เพิกถอนสิทธิเลือกต้งั ของผ้นู ้นั มีกำ�หนดย่สี ิบปี และใหน้ ำ�ความในมาตรา ๑๕๘ วรรคสอง มาใช้บังคบั ดว้ ย มาตรา ๑๖๐ ผใู้ ดฝา่ ฝนื มาตรา ๗๔ หรอื หาเสยี ง เลือกต้ังไม่ว่าด้วยประการใดเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อหรือ เข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา ๗๔ ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ และให้ ศาลสงั่ เพิกถอนสทิ ธิเลอื กต้งั ของผนู้ ั้นมีก�ำ หนดย่ีสบิ ปี มาตรา ๑๖๑ ผู้ซ่ึงมิได้มีสัญชาติไทยผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา ๗๗ ต้องระวางโทษจ�ำ คกุ ต้งั แตห่ นึง่ ปีถึงสบิ ปี และ ปรบั ตงั้ แตส่ องหมืน่ บาทถึงสองแสนบาท กรณปี ดิ ประกาศ มาตรา ๑๖๒ ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือ หรอื ตดั แผ่นป้าย ผู้ใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเก่ียวกับการเลือกตั้ง เกย่ี วกบั การเลอื กตง้ั ไม่เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการกำ�หนดตามมาตรา ๘๓ ไม่เปน็ ไปตามที่ ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึง กกต. ก�ำ หนด หมน่ื บาท หรือทั้งจ�ำ ทั้งปรบั
107 มาตรา ๑๖๓ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๑๐๔ ตอ้ งระวางโทษจ�ำ คุกตงั้ แต่หนงึ่ ปีถงึ สิบปี และปรับตง้ั แต่สองหมื่นบาทถงึ สองแสนบาท และใหศ้ าลสง่ั เพิกถอนสทิ ธิเลอื กตง้ั ของผนู้ ้นั มกี �ำ หนดยสี่ บิ ปี มาตรา ๑๖๔ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ วรรค สอง มาตรา ๙๖ มาตรา ๙๘ มาตรา ๑๐๐ หรือมาตรา ๑๐๑ ต้องระวางโทษจำ�คุกต้ังแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่ สองหม่ืนบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ และให้ ศาลส่งั เพกิ ถอนสทิ ธเิ ลอื กต้ังของผู้นนั้ มกี ำ�หนดสิบปี ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นผู้รับหรือยอม จะรับเงนิ ทรัพย์สิน หรอื ประโยชนอ์ น่ื ใด ถ้าไดแ้ จ้งถึงการ กระทำ�ดังกล่าวต่อคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการ มอบหมายก่อนถูกจับกุม ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้อง ถกู เพิกถอนสิทธิเลือกตง้ั ให้นำ�ความในวรรคสองมาใช้บังคับแก่ผู้ฝ่าฝืน ตามวรรคหนึ่งที่คณะกรรมการเห็นสมควรกันไว้เป็นพยาน ด้วยโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๖๕ ผใู้ ดฝา่ ฝนื มาตรา ๙๗ หรอื มาตรา ๙๙ ตอ้ งระวางโทษจ�ำ คกุ ไมเ่ กนิ หนง่ึ ป ี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ สองหมน่ื บาท หรอื ทัง้ จ�ำ ทั้งปรับ มาตรา ๑๖๖ กรรมการประจำ�หน่วยเลือกต้ัง กรรมการประจำ� ผูใ้ ดฝา่ ฝืนมาตรา ๑๑๙ ตอ้ งระวางโทษจ�ำ คุกตัง้ แต่หนึ่งปถี งึ หน่วยเลอื กตั้ง สบิ ปี หรอื ปรบั ต้ังแตส่ องหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท หรือท้ัง ฝ่าฝนื พ.ร.ป.
108 จำ�ทั้งปรับ และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของผู้นั้นมี ก�ำ หนดยส่ี บิ ปี การกันบุคคล มาตรา ๑๖๗ ในการสืบสวนหรือไต่สวน หาก ไว้เป็นพยาน ปรากฏว่าการให้ถ้อยคำ� หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลของ บคุ คลซง่ึ มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งหรอื มสี ว่ นรว่ มในการกระท�ำ ความผดิ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีรายใดจะเป็น ประโยชน์ในการพิสูจน์การกระทำ�ความผิดของผู้กระทำ� ความผิดคนอ่ืนท่ีเป็นตัวการสำ�คัญ และสามารถท่ีจะใช้ เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยการกระทำ�ความผิดของ ผู้กระทำ�ความผิดน้ัน คณะกรรมการจะกันบุคคลน้นั ไว้เป็น พยานโดยไม่ด�ำ เนินคดกี ไ็ ด้ เม่ือคณะกรรมการมีมติไม่ดำ�เนินคดีกับบุคคลใด แล้วให้สิทธิในการดำ�เนินคดีอาญาเป็นอันระงับไป เว้นแต่ ปรากฏในภายหลังว่าผู้ถูกกันไว้เป็นพยานได้ให้ถ้อยคำ�อัน เปน็ เท็จ หรือไมไ่ ปเบิกความ หรอื ไปเบิกความแตไ่ ม่เป็น ไปตามท่ไี ดใ้ ห้ถ้อยคำ� หรือแจ้งเบาะแสหรอื ขอ้ มูลไว้ ใหก้ าร กันบุคคลไว้เป็นพยานนั้นสิ้นสุดลงและคณะกรรมการอาจ ดำ�เนินการตามกฎหมายกับบคุ คลนั้นตอ่ ไปได้ มาตรการในการกนั บคุ คลไวเ้ ปน็ พยานตามวรรคหนง่ึ และการเพกิ ถอนการกันไวเ้ ปน็ พยานตามวรรคสอง ให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ กำ�หนด
109 มาตรา ๑๖๘ ในกรณที พ่ี ระราชบญั ญตั ปิ ระกอบ การเพิกถอน รัฐธรรมนูญน้ีกำ�หนดให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังโดย สิทธเิ ลอื กตง้ั มีกำ�หนดระยะเวลาหรือส่ังเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ัง หรือสทิ ธสิ มคั ร ให้การเพิกถอนสิทธิดังกล่าวมีผลในทันทีและเร่ิมนับระยะ รบั เลอื กตั้ง เวลานับแต่วันท่ีศาลมีคำ�ส่ังหรือคำ�พิพากษา เว้นแต่ ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะมีคำ�ส่ังหรือคำ�พิพากษาเป็น อยา่ งอื่น มาตรา ๑๖๙ ในกรณีท่ีปรากฏว่ามีการกระทำ� ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีเกิดขึ้น ในเขตเลือกต้ังใด ให้ถือว่าผู้สมัครหรือพรรคการเมืองที่ส่ง สมาชิกของตนลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกต้ังนั้นเป็น ผ้เู สยี หายตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๗๐ ผูใ้ ดกระท�ำ ความผดิ ตามพระราช การกระท�ำ บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้นอกราชอาณาจักรจะต้อง ความผดิ ตาม รบั โทษในราชอาณาจกั ร และการกระท�ำ ของผเู้ ป็นตวั การ พ.ร.ป. นี้ ด้วยกัน ผสู้ นบั สนนุ หรือผ้ใู ชใ้ หก้ ระทำ�ความผดิ นัน้ แมจ้ ะ นอกราชอาณาจกั ร กระท�ำ นอกราชอาณาจกั ร ใหถ้ อื ว่าตวั การผ้สู นบั สนนุ หรอื ผใู้ ช้ให้กระท�ำ ความผิดนน้ั ได้กระทำ�ในราชอาณาจักร
110 บทเฉพาะกาล ระยะเวลาใน มาตรา ๑๗๑ ในวาระเริ่มแรก ให้ตราพระราช การก�ำ หนดการ กฤษฎีกากำ�หนดให้มีการเลือกต้ังทั่วไปภายในเก้าสิบวัน เลอื กตง้ั นับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้และ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภามีผลใช้บังคับ และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำ�หนดวันเลือกต้ังซึ่งต้องไม่ช้ากว่าหนึ่งร้อยห้าสิบวัน นับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีและ กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู ดงั กล่าวมผี ลใช้บงั คบั การนับเวลา มาตรา ๑๗๒ ในวาระเริม่ แรก เพอื่ ประโยชน์ใน เพื่อสมัคร การนบั เวลาเพอ่ื สมคั รรบั เลอื กตง้ั ในกรณที ผ่ี ทู้ เ่ี ขา้ ชอ่ื รว่ มกนั รบั เลือกตัง้ เพ่ือขอจดทะเบียนจัดต้ังพรรคการเมืองและได้ชำ�ระเงินทุน ประเดิมหรือค่าบำ�รุงพรรคการเมืองไว้แล้ว หากภายหลัง น า ย ท ะ เ บี ย น พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง รั บ จ ด ท ะ เ บี ย น จั ด ตั้ ง พรรคการเมืองน้ันให้ถือว่าผู้ท่ีเข้าชื่อร่วมกันน้ันเป็นสมาชิก พรรคการเมืองน้ันมาต้ังแต่วันที่ยื่นคำ�ขอจดทะเบียนจัดต้ัง พรรคการเมอื ง การคำ�นวณ มาตรา ๑๗๓ ในการเลือกตั้งท่ัวไปครั้งแรก คา่ ใชจ้ า่ ยและวธิ กี าร ภายหลังวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้ หาเสยี งเลอื กต้ัง บังคับ ระยะเวลาในการคำ�นวณค่าใช้จ่ายในการเลือกต้ัง และวิธีการหาเสียงเลือกตั้งสำ�หรับการเลือกต้ังสมาชิกสภา ผูแ้ ทนราษฎรตามมาตรา ๖๔ และมาตรา ๖๘ ให้นับแต่วนั ที่
111 พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรมผี ลใชบ้ ังคบั จนถึงวนั เลือกตั้ง มาตรา ๑๗๔ บุคคลใดถูกเพิกถอนสิทธิเลือกต้ัง การเพกิ ถอน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สทิ ธเิ ลอื กตั้ง ส ม า ชิ ก ส ภ า ผู้ แ ท น ร า ษ ฎ ร แ ล ะ ก า ร ไ ด้ ม า ซึ่ ง ส ม า ชิ ก วุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ หรือพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ถอื ว่า ผู้น้ันถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู นี้ มาตรา ๑๗๕ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังผู้ใดเสียสิทธิ การส้ินสดุ ของ เน่ืองจากไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเสยี สิทธิ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทน เนอ่ื งจากไมไ่ ด้ ราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ไปเลือกตั้ง อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้ บังคับให้การเสียสิทธิของผู้น้ันเป็นอันส้ินสุดลงนับแต่วันท่ี พระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนญู นี้ใชบ้ ังคบั มาตรา ๑๗๖ เม่ือพระราชบัญญัติประกอบ การกำ�หนดเงนิ รัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังจัด ค่าใช้จ่าย ประชุมหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองเพ่ือกำ�หนดเงิน ในการเลือกตงั้ ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและของ ของพรรคการเมอื ง ผ้สู มัคร ในการเลอื กตงั้ ท่ัวไปครัง้ แรกภายหลังวันท่พี ระราช และของผ้สู มัคร บญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู น้ีใช้บงั คบั
112 ผลการใช้บงั คบั มาตรา ๑๗๗ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ พ.ร.ป. รัฐธรรมนูญนี้ไม่มีผลกระทบต่อการดำ�เนินคดีแพ่งต่อ บุคคลใดท่ีมีความรับผิดตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ และเพ่ือ ประโยชน์แห่งการน้ี ให้ถือว่าพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวฒุ สิ ภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ยงั มีผลใช้ บงั คบั อยู่ การกระทำ�ใด ๆ อันเป็นความผิดตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรและการไดม้ าซ่งึ สมาชิกวฒุ ิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ถ้าการกระทำ�น้ันยังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี ให้พนักงานสอบสวน พนักงาน อยั การ คณะกรรมการการเลอื กตง้ั และศาล มอี �ำ นาจด�ำ เนนิ การ ต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซ่ึงสมาชิก วุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยให้ถอื วา่ พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซง่ึ สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ยงั มผี ลใช้ บงั คับอยู่
113 มาตรา ๑๗๘ บรรดาระเบียบ ข้อกำ�หนด ประกาศ คำ�ส่ัง หรือมติของคณะกรรมการการเลือกต้ังที่ ออกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซ่ึงสมาชิก วุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ ให้มีผล ใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี ทั้งน้ี จนกว่าจะมี ระเบยี บ ขอ้ ก�ำ หนด ประกาศ คำ�สงั่ หรอื มติตามพระราช บญั ญัติประกอบรัฐธรรมนญู นี้ ผรู้ บั สนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี
114 หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับน้ี คือ โดยท่ีรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้มีพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไป โดยสุจริตและเท่ียงธรรมตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย จึงจำ�เป็นต้องตราพระราชบัญญัติ ประกอบรฐั ธรรมนญู น้ี ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๖๘ ก วนั ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑
115 พระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ดว้ ยการไดม้ าซ่ึงสมาชกิ วฒุ สิ ภา พ.ศ. ๒๕๖๑
117 พระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยการไดม้ าซ่ึงสมาชกิ วฒุ ิสภา พ.ศ. ๒๕๖๑ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี ๑๒ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เปน็ ปที ่ี ๓ ในรัชกาลปจั จุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกรู มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการได้มาซ่งึ สมาชกิ วุฒิสภา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้มี ีบทบัญญัติ บางประการเกี่ยวกับการจำ�กัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำ�ได้โดย อาศยั อำ�นาจตามบทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมาย
118 เหตุผลและความจำ�เป็นในการจำ�กัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี เพื่อให้การได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยสุจริตและ เที่ยงธรรม และเป็นระเบียบเรียบร้อยอันจะเป็นประโยชน์ ตอ่ สาธารณะ ซง่ึ การตราพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู น้ี สอดคล้องกับเงื่อนไขท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยแลว้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิ ประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นไว้โดยคำ�แนะนำ�และยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติท�ำ หน้าท่ีรฐั สภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ น้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การได้มาซึง่ สมาชกิ วฒุ สิ ภา พ.ศ. ๒๕๖๑” เรม่ิ ใชบ้ ังคับ มาตรา ๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ น้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเปน็ ต้นไป ผลการบงั คบั ใช้ มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ (๑) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซ่ึง สมาชกิ วฒุ ิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ เฉพาะในส่วนทีเ่ กีย่ วกับการ ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒสิ ภา (๒) ประกาศคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕๗/๒๕๕๗ เร่อื ง ใหพ้ ระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ
119 บางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที่ ๗ มิถุนายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที่เก่ยี วกบั การไดม้ าซ่งึ สมาชิกวฒุ สิ ภา มาตรา ๔ ใ น พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ นยิ ามของค�ำ ทใ่ี ชใ้ น รฐั ธรรมนญู น้ี พ.ร.ป.น้ี “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ การเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตัง้ “กรรมการ” หมายความวา่ กรรมการการเลอื กตง้ั ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ การเลือกตั้ง และให้หมายความรวมถึงประธานกรรมการ การเลอื กต้ังดว้ ย “ส�ำ นกั งาน” หมายความวา่ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการ การเลือกต้ังตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลอื กตง้ั “เลขาธกิ าร” หมายความวา่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการ การเลือกต้ังตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตงั้ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงาน หรือลูกจ้างของสำ�นักงาน และให้หมายความรวมถึง ขา้ ราชการ พนกั งาน หรอื ลูกจา้ งของหน่วยงานของรฐั หรือ ผู้ซึ่งคณะกรรมการ กรรมการ หรือผู้อำ�นวยการการเลือก แต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนญู นห้ี รอื ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
120 “ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกเป็น สมาชกิ วุฒสิ ภา “วันเลือก” หมายความว่า วันที่คณะกรรมการ ประกาศกำ�หนดให้เป็นวันเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับ อ�ำ เภอ ระดบั จังหวัด หรือระดบั ประเทศ แลว้ แต่กรณี “ผอู้ �ำ นวยการการเลอื ก” หมายความวา่ ผอู้ �ำ นวยการ การเลือกระดับอำ�เภอ ผู้อำ�นวยการการเลือกระดับจังหวัด หรอื ผูอ้ �ำ นวยการการเลือกระดบั ประเทศ แลว้ แตก่ รณี “สถานทเ่ี ลอื ก” หมายความวา่ สถานทท่ี ผ่ี อู้ �ำ นวยการ การเลือกกำ�หนดให้เป็นสถานท่ีเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับ อำ�เภอ ระดบั จังหวดั หรือระดบั ประเทศ แลว้ แตก่ รณี “จงั หวดั ” หมายความรวมถงึ กรงุ เทพมหานครดว้ ย “อ�ำ เภอ” หมายความรวมถึงเขตดว้ ย “ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึงศาลา วา่ การกรงุ เทพมหานครด้วย “ที่ว่าการอำ�เภอ” หมายความรวมถึงสำ�นักงาน เขตด้วย “ผูส้ งู อาย”ุ หมายความว่า ผูม้ อี ายตุ ั้งแต่หกสบิ ปี ข้นึ ไป การแจ้ง ยนื่ มาตรา ๕ ในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบ ส่งหนงั สือหรอื รัฐธรรมนูญน้ีมิได้กำ�หนดไว้เป็นประการอ่ืนการใดท่ีกำ�หนด เอกสารให้บคุ คล ให้แจ้ง ย่ืน หรอื สง่ หนังสือหรือเอกสารให้บคุ คลใดเปน็ การ เฉพาะ ถ้าได้แจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้
121 บุคคลน้ัน ณ ภูมิลำ�เนาหรือท่ีอยู่ที่ปรากฏตามหลักฐาน ทางทะเบยี นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการทะเบยี นราษฎร ใหถ้ อื วา่ ได้แจ้ง ยื่น หรือส่งโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญน้ีแล้วและในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญน้ีกำ�หนดให้ประกาศหรือเผยแพร่ให้ประชาชน ทราบเป็นการท่ัวไป ให้ถือว่าการประกาศหรือเผยแพร่ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใด ที่ประชาชนท่ัวไปสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก เป็นการ ดำ � เ นิ น ก า ร โ ด ย ช อ บ ด้ ว ย พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รัฐธรรมนูญนแี้ ล้ว ในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี กำ�หนดให้คณะกรรมการมีอำ�นาจกำ�หนดหรือมีคำ�ส่ัง เรื่องใด ถ้ามิได้กำ�หนดวิธีการไว้เป็นการเฉพาะ ให้คณะ กรรมการกำ�หนดโดยทำ�เป็นระเบียบ ประกาศ หรือคำ�ส่ัง แล้วแต่กรณี และถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคำ�สั่งนั้นใช้ บังคับแกบ่ คุ คลทั่วไปให้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา และ ใหด้ �ำ เนนิ การประกาศตามวรรคหนงึ่ ดว้ ย ท้ังนี้ ถ้าระเบยี บ ประกาศ หรอื ค�ำ สง่ั ใดมกี ารก�ำ หนดขน้ั ตอนการด�ำ เนนิ งานไว้ คณะกรรมการต้องกำ�หนดระยะเวลาการดำ�เนินงานใน แตล่ ะขั้นตอนใหช้ ัดเจนดว้ ย มาตรา ๖ เพ่ือประโยชน์ในการดำ�เนินการ อ�ำ นาจของ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้คณะ คณะกรรมการ กรรมการมีอำ�นาจวางระเบียบเก่ียวกับการปฏิบัติหน้าที่ การเลือกตง้ั ของผดู้ �ำ เนนิ การเกย่ี วกบั การเลอื ก รวมทง้ั ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์
122 และวิธีการอ่ืนใดที่จำ�เป็นได้เท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งหรือที่มิได้ มีบัญญัติไว้แล้วเป็นการเฉพาะในพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี้ การประชมุ ของ มาตรา ๗ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องคณะกรรมการ คณะกรรมการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีในระหว่างเวลา การเลือกตัง้ นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ในกรณเี ร่งดว่ น ใช้บังคับจนถึงวันประกาศผลการเลือกหากมีความจำ�เป็น เร่งด่วนต้องมีการประชุมคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการ มีอ�ำ นาจประชุมผ่านสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยกรรมการแต่ละ คนอาจอยู่ ณ สถานท่ีแตกต่างกันได้ และให้เลขาธิการ ดำ�เนินการบันทึกเสียงและภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่ีคณะกรรมการก�ำ หนด การพจิ ารณาและ มาตรา ๘ การพิจารณาและมีคำ�วินิจฉัยของ มีคำ�วินจิ ฉัยของ ศาลฎีกาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้เป็น ศาลฎกี า ไปตามระเบียบของท่ีประชุมใหญ่ศาลฎีกาโดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ซ่ึงต้องกำ�หนดให้การพิจารณาเป็น ไปโดยรวดเร็วและเที่ยงธรรม ในการนี้ อาจกำ�หนดให้ ศาลช้ันต้นท่ีมีเขตอำ�นาจเป็นผู้รับคำ�ร้องแทนเพ่ือจัดส่งให้ ศาลฎีกาวนิ จิ ฉยั หรืออาจให้ศาลชนั้ ตน้ เปน็ ผไู้ ตส่ วนพยาน หลักฐานหรอื ดำ�เนินการอื่นทจ่ี �ำ เปน็ แทนศาลฎีกากไ็ ด้ การปฏิบัติหน้าท่ีของศาลฎีกาเก่ียวกับการเลือก ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี ผู้พิพากษาซ่ึง ร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษา ตลอดจน
123 บุคคลซ่ึงองค์คณะผู้พิพากษามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่มี สิทธิไดร้ บั เบี้ยประชุมหรือคา่ ตอบแทน แลว้ แต่กรณี ตาม ระเบียบท่ีคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการศาลยตุ ธิ รรมก�ำ หนด มาตรา ๙ ให้ประธานกรรมการการเลือกต้ัง ผู้รกั ษาการตาม รักษาการตามพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู นี้ พ.ร.ป.ฯ น้ี หมวด ๑ ผ้สู มคั รและการสมัครรับเลอื ก มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๕ วรรคสอง การสมัครรบั เลอื ก การแบ่งกลุ่มตามมาตรา ๑๑ เป็นไปเพ่ือให้บุคคลซ่ึงมี เป็น ส.ว. คุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๑๔ ทุกคนมีสิทธิสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิก วฒุ สิ ภาในกล่มุ ใดกลมุ่ หนงึ่ ได้ มาตรา ๑๑ วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำ�นวน องค์ประกอบของ สองร้อยคนซ่งึ มาจากการเลือกกันเองของบุคคลซ่งึ มีความรู้ วฒุ สิ ภา ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือ ประโยชน์ร่วมกัน หรือทำ�งานหรือเคยทำ�งานด้านต่าง ๆ ท่หี ลากหลายของสงั คมในแต่ละกลุ่ม ดังตอ่ ไปน้ี (๑) กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความ มนั่ คง อันได้แก่ผเู้ คยเปน็ ข้าราชการ เจ้าหนา้ ท่ีของรัฐหรือ อน่ื ๆ ในท�ำ นองเดียวกัน
124 (๒) กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก ่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ต�ำ รวจ ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ดา้ นกฎหมาย หรอื อน่ื ๆ ในท�ำ นอง เดยี วกนั (๓) กลุ่มการศึกษา อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคย เป็นครู อาจารย ์ นกั วจิ ยั ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา บคุ ลากร ทางการศึกษา หรอื อ่นื ๆ ในทำ�นองเดียวกัน (๔) กลุ่มการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เป็นหรือ เคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออ่นื ๆ ในทำ�นองเดยี วกนั (๕) กลุ่มอาชีพทำ�นา ปลูกพืชล้มลุก หรืออ่ืน ๆ ในทำ�นองเดยี วกัน (๖) กลุ่มอาชีพทำ�สวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรอื อ่นื ๆ ในทำ�นองเดียวกัน (๗) กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงานหรืออื่น ๆ ในทำ�นองเดียวกัน (๘) กลมุ่ ผปู้ ระกอบอาชพี ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ผงั เมอื ง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลงั งาน หรืออ่นื ๆ ในท�ำ นองเดยี วกนั (๙) กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและ ขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการน้ัน หรืออ่ืน ๆ ในท�ำ นองเดียวกัน
125 (๑๐) กลุ่มผู้ประกอบกิจการอ่ืนนอกจากกิจการ ตาม (๙) (๑๑) กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการ ท่องเที่ยว อันได้แก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวมัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่น ๆ ใน ทำ�นองเดียวกัน (๑๒) กลุ่มผ้ปู ระกอบอุตสาหกรรม หรืออืน่ ๆ ใน ท�ำ นองเดียวกนั (๑๓) กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การส่ือสาร การพัฒนานวัตกรรม หรืออ่ืน ๆ ในทำ�นองเดยี วกนั (๑๔) กลุม่ สตรี (๑๕) กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มอัตลักษณ์อ่ืน หรืออื่น ๆ ในทำ�นอง เดยี วกนั (๑๖) กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและ บนั เทงิ นกั กีฬา หรืออน่ื ๆ ในท�ำ นองเดียวกัน (๑๗) กลมุ่ ประชาสงั คม กลมุ่ องคก์ รสาธารณประโยชน์ หรืออน่ื ๆ ในท�ำ นองเดียวกัน (๑๘) กลมุ่ สอ่ื สารมวลชน ผสู้ รา้ งสรรคว์ รรณกรรม หรอื อื่น ๆ ในทำ�นองเดียวกนั (๑๙) กลมุ่ ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระ หรืออน่ื ๆ ในทำ�นองเดียวกนั (๒๐) กลมุ่ อน่ื ๆ
126 การมลี กั ษณะอน่ื ๆ ในท�ำ นองเดยี วกนั ตามวรรคหนง่ึ ให้เป็นไปตามทค่ี ณะกรรมการประกาศกำ�หนด ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่น ๆ ตาม (๒๐) ได้ การเลอื กสมาชกิ มาตรา ๑๒ การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตรา วฒุ สิ ภา เป็นพระราชกฤษฎีกา ภายในห้าวันนับแต่วันท่ีพระราชกฤษฎีกาให้มี การเลือกสมาชิกวุฒิสภาใช้บังคับ ให้คณะกรรมการ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเก่ียวกบั การเลือก ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) กำ�หนดวันเลือกระดับอำ�เภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ (๒) กำ�หนดวันรับสมัคร โดยเริ่มรับสมัคร ไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันท่ีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สมาชิกวุฒิสภาใช้บังคับ และต้องกำ�หนดวันรับสมัคร ไม่น้อยกวา่ หา้ วนั แต่ต้องไม่เกินเจด็ วัน วันเลือกในระดับอำ�เภอ ต้องไม่เกินยี่สิบวันนับแต่ วนั สนิ้ สุดระยะเวลารับสมัคร วนั เลือกในระดบั จงั หวัด ต้อง ไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันเลือกในระดับอำ�เภอ และวันเลือก ในระดับประเทศ ต้องไม่เกินสิบวันนับแต่วันเลือกในระดับ จังหวัด ทั้งนี้ ในการกำ�หนดวันเลือกในแต่ละระดับต้อง กำ�หนดเปน็ วันเดียวกันทัว่ ราชอาณาจกั ร
127 มาตรา ๑๓ ผู้สมัครต้องมคี ุณสมบัติ ดงั ต่อไปนี้ คุณสมบัติ (๑) มีสัญชาตไิ ทยโดยการเกิด ของผู้สมัคร ส.ว. (๒) มอี ายไุ มต่ ำ�่ กว่าส่ีสิบปีในวันสมัครรับเลอื ก (๓) มคี วามรู้ ความเชยี่ วชาญ และประสบการณ์ หรอื ท�ำ งานในดา้ นที่สมคั รไมน่ ้อยกว่าสบิ ปี (๔) ผู้สมัครต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหน่ึง ดังตอ่ ไปนด้ี ว้ ย (ก) เปน็ บคุ คลซง่ึ เกดิ ในอ�ำ เภอทส่ี มคั รรบั เลอื ก (ข) มีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านในอำ�เภอท่ี สมัครรับเลือกมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี นบั ถงึ วันสมคั รรับเลือก (ค) ทำ�งานอยู่ในอำ�เภอท่ีสมัครรับเลือกมา แล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีนับถึงวันสมัครรับ เลอื ก (ง) เคยทำ�งานหรือเคยมีช่ืออยู่ในทะเบียน บ้านอยู่ในอำ�เภอที่สมัครรับเลือก แล้วแต่กรณีเป็นเวลา ติดต่อกนั ไม่นอ้ ยกวา่ สองปี (จ) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน อำ�เภอท่ีสมัครรับเลือกเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี การศกึ ษา ความใน (๓) ไมใ่ ชบ้ งั คบั แกส่ ตร ี ผสู้ งู อาย ุ คนพกิ าร หรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น ซ่ึงสมคั รในกลมุ่ ตามมาตรา ๑๑ (๑๔) และ (๑๕)
128 ลักษณะต้องหา้ ม มาตรา ๑๔ ผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ของผสู้ มคั ร ส.ว. ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ติดยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (๒) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคล ล้มละลายทุจริต (๓) เปน็ เจา้ ของหรอื ผถู้ อื หนุ้ ในกจิ การหนงั สอื พมิ พ์ หรอื สอื่ มวลชนใด ๆ (๔) เปน็ ภิกษุ สามเณร นักพรต หรอื นักบวช (๕) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังไม่ว่า คดีนน้ั จะถงึ ทส่ี ดุ แลว้ หรอื ไม่ (๖) วิกลจริตหรือจิตฟนั่ เฟอื นไมส่ มประกอบ (๗) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับ เลือกต้ังเป็นการช่ัวคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับ เลือกต้ัง (๘) ต้องคำ�พิพากษาให้จำ�คุกและถูกคุมขังอยู่ โดยหมายของศาล (๙) เคยไดร้ บั โทษจ�ำ คกุ โดยไดพ้ น้ โทษมายงั ไมถ่ งึ สิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำ�เภอ เว้นแต่ในความผิดอัน ไดก้ ระทำ�โดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ (๑๐) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่า กระทำ�การทจุ ริตหรือประพฤตมิ ชิ อบในวงราชการ
129 (๑๑) เคยต้องคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งของศาล อันถึงท่ีสุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำ�รวย ผิดปกติ หรือเคยต้องคำ�พิพากษาอันถึงท่ีสุดให้ลงโทษ จำ�คุกเพราะกระทำ�ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจรติ (๑๒) เคยต้องคำ�พิพากษาอันถึงท่ีสุดว่ากระทำ� ความผิดต่อตำ�แหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำ�แหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม หรือกระทำ�ความผิดตามกฎหมายว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำ�โดยทุจริตตาม ประมวลกฎหมายอาญาความผิดตามกฎหมายว่าด้วย การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วย ยาเสพตดิ ในความผิดฐานเปน็ ผู้ผลิต น�ำ เข้า ส่งออก หรอื ผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือ หรือเจ้าสำ�นัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การคา้ มนษุ ย ์ หรอื กฎหมายวา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปราม การฟอกเงินในความผดิ ฐานฟอกเงนิ (๑๓) เคยต้องคำ�พิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำ� การอันเป็นการทจุ รติ ในการเลือกตงั้ (๑๔) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำ�รงตำ�แหน่ง ทางการเมอื ง (๑๕) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ
130 หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่น ของรัฐ (๑๖) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำ�รง ตำ�แหนง่ ในองคก์ รอสิ ระ (๑๗) เคยพ้นจากต�ำ แหน่งเพราะศาลรฐั ธรรมนูญ วินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำ�ด้วย ประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิก วุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือ ทางอ้อมในการใชง้ บประมาณรายจ่าย (๑๘) เคยพ้นจากตำ�แหน่งเพราะศาลฎีกาหรือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำ�รงตำ�แหน่งทางการเมือง มีคำ�พิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์รำ่�รวยผิดปกติ หรือ กระทำ�ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ี หรือจงใจปฏิบัติ หน้าที่หรือใช้อำ�นาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ทางจริยธรรมอยา่ งรา้ ยแรง (๑๙) เปน็ ข้าราชการ (๒๐) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว ไม่น้อยกว่าหา้ ปีนับถึงวันสมคั รรบั เลอื ก (๒๑) เป็นสมาชิกพรรคการเมือง (๒๒) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำ�รงตำ�แหน่งใดใน พรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำ�รงตำ�แหน่งใน
131 พรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัคร รบั เลือก (๒๓) เปน็ หรอื เคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ไดพ้ น้ จาก การเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัคร รับเลอื ก (๒๔) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ินมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึง วันสมคั รรบั เลือก (๒๕) เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำ�รง ตำ�แหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ขา้ ราชการการเมอื ง สมาชกิ สภาทอ้ งถน่ิ หรอื ผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในคราวเดียวกันหรือ ผ้ดู ำ�รงตำ�แหน่งใดในศาลรฐั ธรรมนูญหรือองคก์ รอิสระ (๒๖) เคยเปน็ สมาชิกวฒุ ิสภาตามรัฐธรรมนญู มาตรา ๑๕ ผู้ซ่ึงประสงค์จะสมัครเข้ารับเลือก การสมัครเข้ารับ เป็นสมาชิกวุฒิสภาต้องย่ืนใบสมัครด้วยตนเองพร้อมด้วย เลอื กเป็น ส.ว. เอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร และชำ�ระค่า ธรรมเนียมการสมคั รจำ�นวนสองพันห้ารอ้ ยบาท ให้ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิสมัครเพื่อเข้ารับเลือก ในกลุ่มตามมาตรา ๑๑ ได้เพียงกลุ่มเดียวและอำ�เภอเดียว และเมอื่ ได้ย่นื ใบสมคั รแลว้ จะถอนการสมคั รมไิ ด้
132 ผสู้ มคั รมสี ทิ ธสิ มคั รในกลมุ่ ตามมาตรา ๑๑ (๒๐) ได้ แม้จะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลกั ษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรอื ท�ำ งานหรือเคยทำ�งาน ด้านอื่นในกลุ่มอ่นื แบบใบสมัคร แบบหนังสือแจ้งการเสนอช่ือ วิธี การสมัคร ระยะเวลาการสมัคร สถานท่ีสมัคร การเรียง ลำ�ดับผู้สมัคร และวิธีการชำ�ระค่าธรรมเนียมการสมัคร ให้เปน็ ไปตามระเบียบทคี่ ณะกรรมการก�ำ หนด แบบใบสมัครอย่างน้อยต้องมีข้อความที่ผู้สมัคร ต้องรับรองว่าตนมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มี ลักษณะตอ้ งห้ามตามมาตรา ๑๔ การกำ�หนดสถานที่สมัครต้องกำ�หนดให้อยู่ ภายในเขตอำ�เภอทจ่ี ะมีการเลือก เอกสารและ มาตรา ๑๖ เอกสารและหลักฐานประกอบการ หลกั ฐานประกอบ สมคั ร ประกอบดว้ ย การสมคั ร (๑) เอกสารหรือหลักฐานอันแสดงว่าตนมีความรู้ ความเช่ียวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือ ประโยชนร์ ว่ มกนั หรอื ท�ำ งานหรอื เคยท�ำ งานดา้ นใดดา้ นหนง่ึ ตามมาตรา ๑๑ ท้ังน้ี ตามที่คณะกรรมการก�ำ หนด (๒) ข้อความแนะนำ�ตัวของผ้สู มัครซ่งึ มีความยาว ไมเ่ กนิ ท่คี ณะกรรมการกำ�หนด (๓) เอกสารหรือหลักฐานอ่นื ตามท่คี ณะกรรมการ ก�ำ หนด
133 ผู้สมัครต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องและ เป็นจริงของเอกสารและหลักฐานตามวรรคหน่ึงทุกฉบับ และทุกหน้า ในกรณีที่ไม่อาจลงลายมือชื่อได้ ให้รับรอง ความถูกต้องและเป็นจริงตามวิธีการที่คณะกรรมการ กำ�หนด เอกสารหรอื หลกั ฐานตาม (๑) ตอ้ งมพี ยานอยา่ งนอ้ ย หน่ึงคนลงลายมือชื่อยืนยันว่าผู้นั้นมีคุณลักษณะเช่นน้ัน จริง และต้องมีสำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชนของพยาน ซึ่งลงลายมือชอ่ื รับรองถกู ต้องแนบมาพร้อมกนั การกำ�หนดตาม (๒) ให้คำ�นึงถึงความสะดวกใน การเผยแพร่ใหผ้ ู้สมคั รรบั รู้ และการกำ�หนดตาม (๓) ต้อง ไม่สร้างภาระแกผ่ ู้สมัครเกนิ สมควร มาตรา ๑๗ ในกรณีมีเหตุจำ�เป็นเฉพาะพื้นที่ กรณเี หตจุ ำ�เป็น ทำ�ให้ไม่สามารถดำ�เนินการรับสมัครภายในระยะเวลา เฉพาะพน้ื ที่ หรือในวันที่กำ�หนดเพราะเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำ�เป็นอ่ืนใด ให้คณะกรรมการมี อำ�นาจประกาศกำ�หนดให้ดำ�เนินการรับสมัครโดยวิธีการอ่นื หรือจะก�ำ หนดวนั รับสมคั รเพม่ิ เตมิ ก็ได้ มาตรา ๑๘ หา้ มมใิ หค้ ณะกรรมการหรอื พนกั งาน ห้ามมิใหเ้ ปดิ เผย เจ้าหน้าที่เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครและจำ�นวนผู้สมัครใน รายช่อื และจำ�นวน แตล่ ะกลมุ่ จนกว่าจะพ้นระยะเวลารบั สมัคร ผูส้ มคั ร ความในวรรคหน่ึงไม่ใช้บังคับแก่กรณีที่คณะ กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีดำ�เนินการตรวจสอบ
134 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบภายใน สำ�นักงานหรือมอบหมายให้หน่วยงานอ่ืนของรัฐเป็น ผู้ตรวจสอบ แต่ไม่ว่าในกรณีใด ห้ามมิให้เปิดเผยหรือ ทำ�ด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลอื่นซ่ึงไม่มีหน้าที่ตรวจสอบ ดังกล่าวล่วงรู้รายช่ือหรือจำ�นวนผู้สมัครในแต่ละกลุ่ม จนกวา่ จะพน้ ระยะเวลารบั สมัคร การเลอื กในระดับ มาตรา ๑๙ การเลือกในระดับอำ�เภอให้กระทำ� อ�ำ เภอ ได้ แม้จะไมม่ ผี ้สู มคั รครบทกุ กลุ่มตามมาตรา ๑๑ กรณีผู้สมัคร มาตรา ๒๐ ในกรณที ค่ี วามปรากฏตอ่ ผอู้ �ำ นวยการ ขาดคุณสมบตั ิหรือ การเลือกระดับอำ�เภอ ไม่ว่าด้วยเหตุใดว่าผู้สมัครผู้ใด มีลกั ษณะต้องหา้ ม ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือสมัครมากกว่า หรือสมคั รมากกว่า หนึ่งกลุ่มหรือหนึ่งอำ�เภอ หรือแสดงข้อมูลในใบสมัคร หนง่ึ กลมุ่ หรือเอกสารหรือหลักฐานประกอบการสมัครอันเป็นเท็จ ให้ผ้อู ำ�นวยการการเลือกระดับอำ�เภอส่งั ไม่รับสมัคร ในกรณี หรือแสดงเอกสาร ทร่ี ับสมคั รไวแ้ ลว้ ให้การสมคั รของผู้น้นั เป็นโมฆะ และให้ อันเปน็ เทจ็ ผู้อำ�นวยการการเลือกซ่ึงพบเห็นดังกล่าวส่ังลบชื่อผู้น้ัน ออกจากบัญชีรายช่อื ผู้สมคั ร แลว้ รายงานใหค้ ณะกรรมการ ทราบ ผถู้ กู ลบชอ่ื ออกจากบญั ชรี ายชอ่ื ผสู้ มคั รตามวรรคหนง่ึ ไม่มีสิทธิเลือกและไม่มีสิทธิได้รับเลือกแต่ไม่มีผลกระทบ ตอ่ การรับสมัครหรือการเลือกที่ได้ด�ำ เนินการไปแลว้ ในกรณีท่คี วามตามวรรคหน่งึ ปรากฏข้นึ ในระหว่าง การดำ�เนินการเลือกไม่ว่าระดับใดก่อนประกาศผลการเลือก ให้ถือว่าผู้สมัครผู้น้ันกระทำ�การเพ่ือให้การเลือกมิได้เป็น
135 ไปโดยสจุ ริตหรอื เทย่ี งธรรม และใหค้ ณะกรรมการสั่งระงบั สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นไว้เป็นการช่ัวคราวเป็นเวลา ไม่เกินหน่ึงปีส่วนการดำ�เนินการเกี่ยวกับการเลือกให้เป็น ไปตามท่ีคณะกรรมการกำ�หนดตามที่เห็นสมควร คำ�สั่ง และการก�ำ หนดของคณะกรรมการใหเ้ ปน็ ทสี่ ุด เมื่อคณะกรรมการมีคำ�สั่งตามวรรคสาม ให้ยื่น คำ�ร้องต่อศาลฎีกาเพื่อส่ังให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ัง ของผูน้ นั้ มาตรา ๒๑ ภายในห้าวันนับแต่วันส้ินสุดระยะ การประกาศ เวลารบั สมคั ร ใหผ้ อู้ �ำ นวยการการเลอื กระดบั อ�ำ เภอประกาศ รายชื่อผู้สมคั ร บัญชีรายช่อื ผ้สู มัครซ่งึ มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม แยกเป็นรายกลุ่มทุกกลุ่มในเขตอำ�เภอโดยอย่างน้อยต้อง ระบุอาชีพและอายุของผู้สมัคร เพ่ือให้ประชาชนทราบ เปน็ การทว่ั ไป และใหป้ ระกาศไว ้ ณ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการ การเลอื กตัง้ ประจำ�จงั หวัด ศาลากลางจังหวัด และทวี่ ่าการ อ�ำ เภอดว้ ย การประกาศบญั ชีรายชื่อผู้สมคั รตามวรรคหนง่ึ ให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารทค่ี ณะกรรมการกำ�หนด มาตรา ๒๒ กรณีที่ผู้อำ�นวยการการเลือกระดับ กรณสี ัง่ ไมร่ บั อำ�เภอสั่งไม่รับสมัครผู้ใดหรือสั่งลบชื่อผู้สมัครผู้ใด ผู้นั้น สมัครหรอื ส่งั ลบ มีสิทธิย่ืนคำ�ร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาภายในสามวันนับแต่ ช่ือผ้สู มัครในระดบั วันที่ประกาศบัญชีรายช่ือผู้สมัครหรือวันท่ีผู้อำ�นวยการ อำ�เภอ การเลือกสั่งลบชอ่ื แล้วแตก่ รณี
136 ในการพิจารณาและมีคำ�วินิจฉัยของศาลฎีกาตาม วรรคหนง่ึ ใหด้ �ำ เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นวนั เลอื กไมน่ อ้ ยกวา่ หนึ่งวัน เมื่อถึงวันเลือก ถ้าศาลฎีกายังมิได้วินิจฉัยให้ ดำ�เนินการเลือกต่อไป โดยให้ถือว่ามีผู้สมัครเพียงเท่าที่ ปรากฏตามบัญชีรายชื่อผู้สมัครท่ีผู้อำ�นวยการการเลือก ระดับอ�ำ เภอประกาศ ในกรณเี ชน่ นค้ี ำ�วินจิ ฉยั ของศาลฎกี า ไมม่ ผี ลกระทบต่อการเลือกที่ดำ�เนินการไปแล้ว กรณถี กู ลบช่อื ออก มาตรา ๒๓ ในกรณีที่ผู้สมัครซ่ึงถูกลบช่ือออก จากบญั ชรี ายชือ่ ใน จากบัญชีรายชื่อผู้สมัครก่อนการดำ�เนินการเลือกในระดับ ระดบั จังหวัดหรือ จังหวัดหรือระดับประเทศ ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำ�ร้องคัดค้าน ระดบั ประเทศ ต่ อ ศ า ล ฎี ก า ภ า ย ใ น ส า ม วั น นั บ แ ต่ วั น ที่ ผู้ อำ � น ว ย ก า ร การเลือกสัง่ ลบชอื่ และใหน้ �ำ ความในมาตรา ๒๒ วรรคสอง มาใชบ้ งั คับดว้ ยโดยอนุโลม หมวด ๒ ผู้ด�ำ เนนิ การเกยี่ วกบั การเลอื ก คณะกรรมการใน มาตรา ๒๔ ในการดำ�เนินการเพื่อเลือกสมาชิก การด�ำ เนินการเพือ่ วุฒิสภา ให้มีคณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน เลือก ส.ว. แนะนำ� อำ�นวยความสะดวก และรายงานปัญหาหรือ อุปสรรคเก่ยี วกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาต่อคณะกรรมการ ดงั ต่อไปนี้
137 (๑) คณะกรรมการระดับประเทศ โดยให้คณะ กรรมการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่เี ปน็ คณะกรรมการระดบั ประเทศ (๒) คณะกรรมการระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ส�ำ หรบั จงั หวดั อน่ื และปลดั กรงุ เทพมหานคร ส�ำ หรบั กรุงเทพมหานคร เปน็ ประธาน หวั หน้าสว่ นราชการ ประจำ�จังหวัดหรือบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จำ�นวนสามคน ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตจังหวัดซึ่งมิได้เป็น เจ้าหน้าท่ีของรัฐและมิได้เป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่ของ พรรคการเมือง หรอื เปน็ ผสู้ มคั ร หรือมีบุพการี บตุ ร คสู่ มรส หรอื ญาตเิ ปน็ ผสู้ มคั รรบั เลอื กในเขตจงั หวดั นน้ั จ�ำ นวนสองคน เป็นกรรมการ และให้ผู้อำ�นวยการการเลือกต้ังประจำ� จังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ (๓) คณะกรรมการระดับอำ�เภอ ประกอบด้วย นายอำ�เภอเปน็ ประธาน หวั หน้าสว่ นราชการประจำ�อ�ำ เภอ จำ�นวนสามคน ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตอำ�เภอซ่ึงมิได้เป็น เจ้าหน้าท่ีของรัฐและมิได้เป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่ของ พรรคการเมือง หรอื เปน็ ผสู้ มัคร หรอื มบี ุพการี บตุ ร คูส่ มรส หรือญาติ เป็นผู้สมัครรับเลือกในเขตอำ�เภอน้ัน จำ�นวน สองคนเป็นกรรมการ และเจ้าหน้าท่ีของสำ�นักงานหรือ ข้าราชการประจำ�อำ�เภอซ่ึงผู้อำ�นวยการการเลือกต้ัง ประจ�ำ จังหวัดแตง่ ตั้ง เปน็ กรรมการและเลขานุการ ผู้มีอำ�นาจแต่งต้ัง การแต่งต้ัง และวิธีการได้มา ซ่ึงกรรมการตาม (๒) และ (๓) ใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์
138 ที่คณะกรรมการกำ�หนด สำ�หรับกรุงเทพมหานคร คณะ กรรมการจะกำ�หนดให้แต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานคร ตำ�แหน่งใดแทนหัวหน้าส่วนราชการประจำ�จังหวัดตาม (๒) และหัวหน้าส่วนราชการประจำ�อ�ำ เภอตาม (๓) ก็ได้ ผู้เป็นกรรมการโดยตำ�แหน่งหรือหัวหน้าส่วน ราชการหรือบคุ ลากรในสถาบนั อุดมศกึ ษาของรฐั ตาม (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี ตอ้ งไม่เปน็ ผูม้ ีบพุ การี บตุ ร ค่สู มรส หรอื ญาติ เป็นผ้สู มัครรับเลอื กในเขตจังหวัดหรืออ�ำ เภอน้ัน ในกรณีท่ีความปรากฏต่อคณะกรรมการว่า กรรมการตาม (๒) หรือ (๓) ผใู้ ดมีกรณีตามวรรคสามหรือ มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะทำ�ให้การเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริต หรือเท่ียงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำ�นาจแต่งต้ังผู้ดำ�รง ตำ�แหน่งอื่นหรือบุคคลอื่นเป็นกรรมการแทนได้ตามที่เห็น สมควร ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง และพนักงาน เจ้าหน้าท่ี เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ผทู้ ีจ่ ะเปน็ มาตรา ๒๕ ในการจัดให้มีการเลือกสมาชิก ผูอ้ �ำ นวยการ วุฒิสภา ให้เลขาธิการเป็นผู้อำ�นวยการการเลือกระดับ การเลอื กระดับ ประเทศ ให้กรรมการและเลขานุการตามมาตรา ๒๔ (๒) ประเทศ เป็นผู้อำ�นวยการการเลือกระดับจังหวัดและให้กรรมการ และเลขานุการตามมาตรา ๒๔ (๓) เป็นผ้อู �ำ นวยการการ ระดบั จงั หวดั และ เลอื กระดับอ�ำ เภอ ระดบั อ�ำ เภอ มาตรา ๒๖ เม่อื พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ ให้ผู้อำ�นวยการการเลือก
139 เป็นผู้ดำ�เนินการให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปตาม พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู นแ้ี ละตามทค่ี ณะกรรมการ กำ�หนด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ ก�ำ หนด มาตรา ๒๗ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าท่ี อำ�นาจหนา้ ที่ ของผู้อำ�นวยการการเลือกระดับจังหวัดหรือผู้อำ�นวยการ ของคณะกรรมการ การเลือกระดับอำ�เภอ ให้คณะกรรมการมีอำ�นาจแต่งต้ัง การเลือกตั้ง บุคคลซึ่งมีภูมิลำ�เนาในจังหวัดหรืออำ�เภอแล้วแต่กรณี ที่มีการเลือก ให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีเพื่อช่วยเหลือการ ปฏิบัติงานของผู้อำ�นวยการการเลือกระดับจังหวัดหรือ ผู้อำ�นวยการการเลือกระดับอำ�เภอได้ ในการนี้ คณะ กรรมการจะมอบอำ�นาจให้คณะกรรมการตามมาตรา ๒๔ (๒) และ (๓) เป็นผู้แต่งตั้งแทนคณะกรรมการก็ได้ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่คี ณะกรรมการกำ�หนด ในการเลือกทุกระดับ คณะกรรมการมีอำ�นาจ แต่งต้ังหรือมอบหมายให้ผู้อำ�นวยการทะเบียนกลาง ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรดำ�เนินการหรือ ช่วยเหลือเกี่ยวกับการด�ำ เนินการเลอื กได้ ในการเลือกระดับประเทศ ให้คณะกรรมการมี อ�ำ นาจแตง่ ตง้ั พนกั งานเจา้ หนา้ ทเ่ี พอ่ื ชว่ ยเหลอื การปฏบิ ตั งิ าน ของผอู้ ำ�นวยการการเลอื กระดบั ประเทศได้ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าท่ีตาม วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ให้เป็นไปตามที่ คณะกรรมการก�ำ หนด
140 หน้าทแี่ ละอ�ำ นาจ มาตรา ๒๘ ในการดำ�เนินการให้มีการเลือก ของผูอ้ ำ�นวยการ สมาชิกวุฒิสภาระดับอำ�เภอ ให้ผ้อู ำ�นวยการการเลือกระดับ การเลอื กระดับ อ�ำ เภอมีหน้าทแี่ ละอำ�นาจ ดงั ตอ่ ไปนี้ อ�ำ เภอ (๑) จัดให้มีสถานที่รับสมัครและสถานที่เลือก ในเขตอ�ำ เภอ (๒) จดั ใหม้ ีการรบั สมัคร (๓) ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของผสู้ มัคร (๔) จัดท�ำ บัญชรี ายช่อื ผู้สมคั รตามมาตรา ๒๑ (๕) จัดทำ�เอกสารหรือข้อมูลแนะนำ�ตัวของ ผู้สมัครทุกคนเพื่อให้ผู้สมัครตรวจสอบและใช้ประโยชน์ใน การเลอื ก (๖) ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และ การรายงานผลการนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและ เที่ยงธรรม (๗) ประกาศรายช่ือผู้ได้รับเลือกในระดับอำ�เภอ และส่งบัญชีรายช่ือของผู้ได้รับเลือกพร้อมท้ังเอกสารหรือ ขอ้ มูลตาม (๕) ไปยังผู้อำ�นวยการการเลือกระดับจังหวดั (๘) บันทึกภาพและเสียงของกระบวนการเลือก ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน (๙) ปฏิบัติหน้าท่อี ่นื อันเก่ยี วกับการเลือกสมาชิก วฒุ สิ ภาตามทค่ี ณะกรรมการก�ำ หนดหรอื มอบหมาย
141 สถานที่เลือกต้องเป็นสถานท่ีท่ีสามารถเดินทาง ไปได้โดยสะดวก พร้อมท้ังให้มีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใด เพ่อื แสดงขอบเขตบรเิ วณของสถานท่ีเลือกไว้ดว้ ย ในการดำ�เนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ ์ วิธกี าร หรือเงือ่ นไขท่ีคณะกรรมการกำ�หนด มาตรา ๒๙ ในการดำ�เนินการให้มีการเลือก หนา้ ท่แี ละอ�ำ นาจ สมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ให้ผ้อู ำ�นวยการการเลือกระดับ ของผอู้ ำ�นวยการ จงั หวดั มีหนา้ ท่ีและอำ�นาจ ดังต่อไปนี้ การเลอื กระดบั (๑) จัดใหม้ สี ถานท่เี ลือกในเขตจังหวดั จงั หวัด (๒) จัดทำ�บัญชีรายช่ือผู้ได้รับเลือกจากการเลือก ระดับอำ�เภอแยกเป็นรายกล่มุ โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพ และอายุของผู้สมัคร และประกาศให้ประชาชนทราบ เป็นการทั่วไปภายในสามวันนับแต่วันท่ีได้รับบัญชีรายช่ือ จากผอู้ ำ�นวยการการเลือกระดับอำ�เภอ (๓) จัดทำ�เอกสารหรือข้อมูลแนะนำ�ตัวของผู้ได้ รับเลือกจากการเลือกระดับอำ�เภอเพื่อให้ผู้ได้รับเลือกได้ ตรวจสอบและใชป้ ระโยชนใ์ นการเลอื ก ทัง้ น ้ี ให้ใช้เอกสาร หรอื ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั มาจากผอู้ �ำ นวยการการเลอื กระดบั อ�ำ เภอ (๔) ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการ รายงานผลการนบั คะแนนใหเ้ ปน็ ไปโดยสจุ รติ และเทย่ี งธรรม (๕) ประกาศรายช่ือผู้ได้รับเลือกในระดับจังหวัด และส่งบัญชีรายช่ือของผู้ได้รับเลือกพร้อมท้ังเอกสารหรือ ข้อมูลตาม (๓) ไปยังผู้อำ�นวยการการเลอื กระดับประเทศ
142 (๖) บันทึกภาพและเสียงของกระบวนการเลือก ไว้เปน็ หลักฐาน (๗) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนอันเก่ียวกับการเลือก สมาชิกวฒุ ิสภาตามท่คี ณะกรรมการกำ�หนดหรือมอบหมาย ให้น�ำ ความในมาตรา ๒๘ วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้ ังคบั ด้วยโดยอนุโลม หนา้ ทแ่ี ละอ�ำ นาจ มาตรา ๓๐ ในการดำ�เนินการให้มีการเลือก ของผู้อำ�นวยการ สมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ให้ผู้อำ�นวยการการเลือก การเลือก ระดบั ประเทศมีหนา้ ที่และอำ�นาจ ดงั ต่อไปน้ี ระดับประเทศ (๑) จัดให้มสี ถานท่ีเลือกในระดบั ประเทศ (๒) จัดทำ�บัญชีรายช่ือผู้ได้รับเลือกจากการ เลือกระดับจังหวัดแยกเป็นรายกลุ่ม โดยอย่างน้อยต้อง ระบุอาชีพและอายขุ องผู้สมคั ร และประกาศให้ประชาชน ทราบเป็นการท่ัวไปภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับบัญชี รายชอ่ื จากผ้อู ำ�นวยการการเลือกระดบั จังหวัด (๓) จัดทำ�เอกสารหรือข้อมูลแนะนำ�ตัวของผู้ได้ รับเลือกจากการเลือกระดับจังหวัดเพ่ือให้ผู้ได้รับเลือกได้ ตรวจสอบและใชป้ ระโยชน์ในการเลือก ทั้งนี้ ใหใ้ ช้เอกสาร หรอื ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั มาจากผอู้ �ำ นวยการการเลอื กระดบั จงั หวดั (๔) ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการ รายงานผลการนบั คะแนนใหเ้ ปน็ ไปโดยสจุ รติ และเทย่ี งธรรม (๕) เสนอรายชื่อและคะแนนของแต่ละบุคคลใน แตล่ ะกลุ่มตอ่ คณะกรรมการเพื่อประกาศผลการเลือก
143 (๖) บันทึกภาพและเสียงกระบวนการเลือกไว้ เปน็ หลกั ฐาน (๗) ปฏิบัติหน้าที่อื่นอันเก่ียวกับการเลือก สมาชกิ วฒุ สิ ภาตามทค่ี ณะกรรมการกำ�หนดหรอื มอบหมาย ใหน้ �ำ ความในมาตรา ๒๘ วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้ ังคบั ด้วยโดยอนุโลม มาตรา ๓๑ ให้ประธานและกรรมการในคณะ สิทธไิ ดร้ บั เบี้ยเลย้ี ง กรรมการระดับจังหวัดและในคณะกรรมการระดับอำ�เภอ ค่าตอบแทน ผ้อู ำ�นวยการการเลอื ก และพนักงานเจ้าหนา้ ท่ ี มีสิทธไิ ด้รบั และคา่ ใชจ้ า่ ยอื่น เบี้ยเล้ียง ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอ่ืนตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร เง่อื นไข และอตั ราทีค่ ณะกรรมการก�ำ หนด มาตรา ๓๒ ห้ามมิให้กรรมการ เลขาธิการ การหลีกเลี่ยงไม่ ผตู้ รวจการเลอื กต้ัง ประธานและกรรมการในคณะกรรมการ ปฏบิ ตั ิตามหน้าที่ ระดบั จงั หวดั หรอื ในคณะกรรมการระดบั อ�ำ เภอ ผอู้ �ำ นวยการ ทุจริตตอ่ หน้าที่ การเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติ ตามหน้าท่ี ทุจริตต่อหน้าท่ีหรือกระทำ�การอ่ืนใดอันเป็น การขดั ขวางมใิ หก้ ารเปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ประกาศ หรือคำ�สั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการระดับอำ�เภอ ผู้อำ�นวยการการเลือก หรือ คำ�ส่ังของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติ ประกอบรฐั ธรรมนญู นี้
144 กรรมการ เลขาธกิ าร ผตู้ รวจการเลือกต้ัง ประธาน และกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือใน คณะกรรมการระดับอำ�เภอ ผู้อำ�นวยการการเลือก หรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำ�สั่งของคณะกรรมการหรือปฏิบัติตามคำ�สั่งของศาล อนั เก่ยี วกับการเลอื กตั้ง หากไดก้ ระท�ำ โดยสจุ รติ ย่อมได้ รับความค้มุ ครองไมต่ อ้ งรับผิดท้ังทางแพ่ง ทางอาญา หรอื ทางปกครอง หมวด ๓ การเลอื ก วธิ ีการเลอื ก ส.ว. มาตรา ๓๓ การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ใช้วิธี ลงคะแนนลับตามวิธีการท่ีกำ�หนดในพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ กรณมี ีเหตุจำ�เป็น มาตรา ๓๔ ในกรณมี เี หตจุ �ำ เปน็ เฉพาะพน้ื ทท่ี �ำ ให้ ท�ำ ให้ไม่สามารถ ไม่สามารถดำ�เนินการเลือกได้ภายในระยะเวลาหรือในวัน ดำ�เนินการเลอื กได้ ทกี่ ำ�หนดเพราะเหตจุ ลาจล อทุ กภัย อัคคภี ัย เหตุสุดวิสัย หรอื เหตุจำ�เป็นอ่ืนใด คณะกรรมการอาจกำ�หนดวันเลือกใหม่ ของการเลือกระดับอำ�เภอ การเลอื กระดับจงั หวัด หรอื การ เลือกระดบั ประเทศตามความจำ�เปน็ ก็ได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410