สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเปดิ เมือ่ วนั ท่ี ๒ พฤศจิกายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๒ ภาพพระราชทาน พิพิธภัณฑ์ท่ีมีชวี ติ รองศาสตราจารย์นริ มล ตีรณสาร สวสั ดบิ ตุ ร พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เป็นชื่อที่รู้จักกันแพร่หลายมากข้ึน สืบเนื่องจากการเป็นหัวข้อ “ปาฐกถาเกียรติยศ ศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา” ท่ีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงแสดง ทีห่ อประชุมจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย เมื่อวนั ที่ ๑๙ ตลุ าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ ในโอกาสฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์ ทา่ นผู้หญงิ พนู ทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา และสมาคมครุศาสตรส์ มั พนั ธ์ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชญิ ปาฐกถาน้นั ไปจัดพิมพ์หนังสือเพ่ือเป็นของขวัญพระราชทานแก่ศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ในโอกาสท่ี ทา่ นผู้หญงิ พูนทรพั ย์ ฯ จะมีอายุ ๑๐๑ ปี ในวันที่ ๑๒ ตลุ าคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๔ จ�ำนวน ๕,๐๐๐ เลม่ และทรงพระกรณุ า โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต เมื่อ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ หนังสือ ๕,๐๐๐ เล่มน้ีจึงแพร่หลาย ไปอยู่ในท่ตี า่ ง ๆ ให้ความรเู้ รื่องพพิ ธิ ภัณฑท์ ีม่ ชี วี ติ กวา้ งขวางขนึ้ 51 สารานุกรมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ความหมาย ค�ำว่า พพิ ิธภัณฑ์ มาจากคำ� พิพธิ แปลวา่ ตา่ ง ๆ ภัณฑ์ แปลวา่ สิ่งของ รวม พิพิธภัณฑ์ แปลว่า สง่ิ ของต่าง ๆ พพิ ิธภัณฑสถาน จึงหมายถึง สถานท่เี ก็บ วาง จัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ พิพิธภัณฑสถานในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Museum มาจากภาษากรีกว่า museion ซึ่งหมายถึง temple of the Muses คือที่อยู่ของเทพธิดาท้ัง ๙ (เป็นธิดาของ Zeus และ Mnemosyne) ซึ่งนับถือกันว่าเป็นเทพธิดาประจ�ำศิลปะ สาขาตา่ ง ๆ และวิทยาศาสตร์ พิพิธภณั ฑสถานจงึ เกีย่ วขอ้ งกับการจัดแสดงเรอ่ื งราวทั้งท่ีเป็นศลิ ปะและวิทยาศาสตร์ พพิ ธิ ภณั ฑ์ท่มี ีชีวิต ไม่ใช่พพิ ิธภณั ฑ์ธรรมดา แตเ่ ปน็ สถานทจี่ ัดแสดงเรื่องราวทงั้ ท่เี ปน็ ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ซง่ึ เนน้ เรอ่ื งการเกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ของคนหรอื ทำ� ใหผ้ ชู้ มพพิ ธิ ภณั ฑร์ สู้ กึ มชี วี ติ ชวี า หรอื รสู้ กึ เหมอื นไดเ้ ขา้ ไปอยใู่ นสภาพการณจ์ รงิ ตามจุดประสงค์ของเรอ่ื งที่จดั แสดงไว้ พิพธิ ภณั ฑ์ที่มชี วี ิต ในพระทรรศนะสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีสองประการ คอื ประการแรก ขณะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์แล้วเกิดความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ร่วมในสภาพหรือเหตุการณ์ ท่ีผ่านมาแล้ว ดังที่ทรงกล่าวถึงพิพิธภัณฑ์บ้านจิรายุ-พูนทรัพย์ว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกว่าอาจารย์จิรายุท่านยังคงอยู่ จะโผล่ออกมา เมอื่ ไรกไ็ ด้ จึงเรียกได้วา่ พพิ ิธภณั ฑท์ ี่มชี ีวิตจรงิ ๆ ” ประการที่สอง การที่พิพิธภัณฑ์จะมชี ีวติ หรอื ไม่น้ันอยทู่ ่ีผู้น�ำชมท่ีสามารถเลา่ และชี้แจง ทำ� ให้ส่ิงที่พบเหน็ นน้ั มีชวี ติ ขน้ึ มาไดจ้ ริง ๆ ทง้ั ๆ ทอ่ี ยู่นงิ่ ๆ แนวคดิ การจัดให้มีพิพิธภัณฑ์ท่ีมีชีวิตน่าจะสืบเนื่องมาจากความปรารถนาท่ีจะให้มีสถานที่เก็บ วาง จัดแสดงสิ่งท่ี สมควรเกบ็ รกั ษาไวใ้ หค้ นรนุ่ หลงั ไดส้ มั ผสั หรอื ไดอ้ ยใู่ นบรรยากาศ หรอื ไดศ้ กึ ษาสง่ิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในอดตี หรอื ไดเ้ หน็ สง่ิ อนสุ รณ์ ไดส้ ัมผสั คือ ไดเ้ หน็ ดว้ ยตา ไดย้ นิ ด้วยหู ไดล้ ูบคล�ำ สงิ่ ท่ีจดั แสดงไว้ (ถา้ อนุญาตให้จบั ต้องได)้ ได้อยู่ในบรรยากาศ เช่น ได้อยู่ในสถานที่ซ่ึงอนุรักษ์ไว้ให้เหมือนสภาพเดิมมากท่ีสุด จนท�ำให้รู้สึกเหมือน ได้อยู่ในยคุ นั้น ๆ จริง ได้ศึกษาส่ิงที่เกิดข้ึนในอดีต เช่น ได้เห็นวัตถุ สิ่งของ สถานท่ี วิธีการ และความคิดของคนในอดีต แล้วท�ำให้เกิดความเข้าใจในชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้น หรือเกิดความคิดหรือแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาความคิด วัตถุ ส่งิ ของ สถานท่ี วธิ กี าร ท่ีไดจ้ ากพิพิธภัณฑน์ ้ันใหก้ ลับมาใช้ไดใ้ นปจั จบุ นั หรือทำ� ใหด้ ยี ิ่ง ๆ ขน้ึ 52 สารานกุ รมการศึกษาร่วมสมัย เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ผู้รับเสดจ็ ฯ คือ ม.ร.ว.สขุ ุมพนั ธ์ุ บริพตั ร ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร ศาสตราจารยน์ ายแพทยภ์ ิรมย์ กมลรตั นกลุ อธิการบดจี ุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ศาสตราจารย์ ดร.ศริ ชิ ัย กาญจนวาสี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ในขณะนั้น ศาสตราจารย์ ดร.พฤทธ์ิ ศริ ิบรรณพทิ กั ษ์ คณบดคี ณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ในระยะแรกเรม่ิ โครงการพิพธิ ภณั ฑ์ ได้เห็นสิ่งอนุสรณ์เป็นท่ีระลึก ถึงบุคคล สิ่งของ หรือเหตุการณ์ในอดีต เช่น เป็นอนุสรณ์ถึงบุคคลที่สังคมยกย่อง หรอื เปน็ อนสุ รณ์ถึงศลิ ปวตั ถทุ ่มี ีคณุ คา่ หรอื เปน็ อนสุ รณถ์ ึงเหตกุ ารณส์ ญู เสียของมนษุ ย์ หรอื เหตกุ ารณ์ทค่ี วรช่นื ชมยินดี การประยุกต์ใช้ พิพิธภณั ฑท์ ม่ี ชี ีวิตในประเทศไทยมหี ลายแหง่ แต่ยกมาแสดงเป็นตัวอย่างเพยี ง ๒ แหง่ คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติท่ีมีชีวิต การพัฒนาพ้ืนท่ีพรุแบบบูรณาการ อยู่ท่ีศูนย์การศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจัดตามแนวพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศูนย์การพัฒนาท�ำหน้าท่ีเสมือนเป็น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เป็นแหล่งรวมสรุปผลของการศึกษา พัฒนา ทดลอง และสาธิตให้เห็นถึงความส�ำเร็จของ การด�ำเนินงานไปพรอ้ มกันในทุก ๆ ดา้ น ทง้ั ดา้ นการเกษตร ปศุสตั ว์ ประมง ตลอดจนการพัฒนาสงั คม เมอ่ื มผี สู้ นใจเขา้ ไป ศกึ ษาดงู านกจ็ ะมใี หด้ ไู ดท้ กุ เรอ่ื งในบรเิ วณศนู ยศ์ กึ ษาแหง่ นที้ ปี่ ระชาชนจะเขา้ ไปเรยี นและนำ� ไปปฏบิ ตั ไิ ด้ พพิ ธิ ภัณฑ์บา้ นจริ ายุ – พูนทรพั ย์ อยทู่ บ่ี า้ นและทดี่ นิ ๑ ไร่ ๒ งานเศษในซอยสขุ มุ วทิ ๑๐๑/๑ ซง่ึ ศาสตราจารยท์ า่ นผหู้ ญงิ พนู ทรพั ย์ นพวงศ์ ณ อยธุ ยา ได้น้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และมีพระราชวินิจฉัยเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม พทุ ธศักราช ๒๕๔๙ เรื่องการจัดบา้ นดงั กลา่ วใหเ้ ปน็ พิพธิ ภณั ฑ์ที่มชี วี ติ วา่ 53 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรชีวติ ในพิพิธภัณฑ์ บา้ นจริ ายุ – พนู ทรัพย์ ดว้ ยความสนพระทัย ๑. ควรเปน็ การรกั ษาบา้ นของศาสตราจารย์ ม.ล.จริ ายุ นพวงศ์ และศาสตราจารยท์ า่ นผหู้ ญงิ พนู ทรพั ย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ไว้ให้เปน็ พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งศกึ ษาชวี ิตความเป็นอยขู่ องครูบาอาจารยท์ งั้ สองทา่ นท่ีมีความเรียบงา่ ย ๒. เก็บรักษาผลงาน สมุดโน้ตท่ีเป็นลายมือของท่าน หนังสือเก่ียวกับประวัติอาจารย์ทั้งสองท่ีผู้คนได้ท�ำไว้ ประวัติการรับราชการ หรือแม้แต่บัญชีการจ่ายค่าเล่าเรียนของท่านผู้หญิงในวัยเรียนขณะอยู่ที่วังสระปทุม และควรแสดง ประวัตขิ องอาจารยท์ งั้ สองทา่ น ผลงาน เรอ่ื งที่ท่านสนใจโดยเฉพาะ เชน่ ศาสตราจารย์ ม.ล.จิรายุ นพวงศ์ สนใจภาษาบาลี สนั สกฤต ภาษาไทย ศาสตราจารยท์ า่ นผหู้ ญงิ พนู ทรพั ย์ นพวงศ์ ณ อยธุ ยา สนใจศาสตรก์ ารศกึ ษา อาจมกี ารจดั ประวตั ศิ าสตร์ การศึกษา ย้อนไปแต่ยุคสมัยของท่าน ใหเ้ ห็นว่าสมัยของอาจารยท์ งั้ สองเล่าเรียนกนั อย่างไร หอ้ งทำ� งานเหมือนทเ่ี ป็นจรงิ ในพิพิธภณั ฑ์ มมุ หน่งึ ของชวี ติ ในพพิ ิธภัณฑท์ ี่มชี วี ิตบา้ นจริ ายุ – พนู ทรัพย์ บ้านจิรายุ – พูนทรพั ย์ 54 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
พิพิธภัณฑ์บ้านจิรายุ-พูนทรัพย์ซึ่งจะทำ� หน้าที่เป็น “ครู” ท่ียังมีชีวิตอยู่ของประชาชน สำ� เร็จได้ด้วยความร่วมมือ ของศิษย์ ญาติมิตรของศาสตราจารย์ ม.ล.จิรายุ นพวงศ์ และศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา โดยไดร้ บั การสนบั สนุนจากคณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรงุ เทพมหานคร ตลาดหลักทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมพิพิธภัณฑ์ไทย นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ยังรบั เป็นผู้ดูแลพพิ ิธภัณฑ์บ้านจริ ายุ-พนู ทรัพย์ ต่อไปในฐานะเปน็ พิพธิ ภณั ฑ์ทอ้ งถ่ินกรงุ เทพมหานครด้วย บรรณานุกรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะครุศาสตร์. (๒๕๕๒). พิพิธภัณฑ์บ้านจิรายุ – พูนทรัพย์. กรุงเทพมหานคร: สถาบัน พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.). เทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ าร,ี สมเดจ็ พระ. (๒๕๕๔). ปาฐกถาเกยี รตยิ ศ พพิ ธิ ภณั ฑท์ มี่ ชี วี ติ . สมาคมครศุ าสตร์ สมั พนั ธแ์ ละศักดส์ิ ิน โรจนส์ ราญรมย.์ กรุงเทพมหานคร: สถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.). สำ� นกั วฒั นธรรม กฬี า และการทอ่ งเทยี่ ว. (๒๕๕๔). พพิ ธิ ภณั ฑท์ อ้ งถน่ิ กรงุ เทพมหานคร. พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๒. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั พรพอเพยี ง จ�ำกดั . Bozman, E.F., editor. (1958). Everyman’s Encyclopaedia Volume Nine. Fourth Edition. London: J.M.Dent and Sons Ltd. 55 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน รางวลั สมเด็จเจา้ ฟา้ มหาจักรี รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญงิ สุมณฑา พรหมบญุ รางวลั สมเดจ็ เจ้าฟา้ มหาจกั รี รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี หรือ Princess Maha Chakri Award เป็นรางวัลนานาชาติท่ีมีเกียรติสูงยิ่ง เพื่อเชิดชูเกียรติครูดีเด่นในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานของ ๑๑ ประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด�ำเนินการ โดย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับ คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงพระปรีชาและทรงมีคุณูปการอย่างยิ่ง ต่อการศึกษา ท้ังภายในประเทศและต่างประเทศ พระราชทานรางวัลคร้ังแรกเม่ือวันที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เนือ่ งในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ และโอกาสวันครูโลกประจำ� ปี พทุ ธศักราช ๒๕๕๘ 56 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ความเป็นมาของรางวลั สมเด็จเจ้าฟา้ มหาจกั รี ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๘ อนั เปน็ ปที ส่ี มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ ๕๐ พรรษา หน่วยงานและองค์กรท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษาท้ังภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศ ได้พร้อมใจกันจัดการประชุมสมัชชาการศึกษาแห่งประเทศไทย คร้ังที่ ๑ เน่ืองในโอกาสวันครูโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ด้วยความส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณท่ีพระองค์ได้ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์ต่อการศึกษา โดยไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รเิ ปน็ แนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของคนไทย รวมทง้ั ทรงพระกรณุ าพระราชทาน ความช่วยเหลือด้านการศึกษาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยพระราชด�ำริว่าการศึกษาเป็นส่ือให้เกิดสัมพันธภาพ ท่ีดีงามและย่ังยืนระหว่างชนทุกชาติทุกภาษา ก่อให้เกิดความสมานฉันท์และสันติสุข ทรงปฏิบัติพระองค์ อย่างครบถ้วนสมบรู ณท์ ัง้ ในฐานะครู ผู้บริหารการศึกษา และนกั พัฒนาการศึกษา ต่อมาในปี พุทธศักราช ๒๕๔๙ เม่ือมีการจัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการและองค์กรที่เก่ียวข้องกับการศึกษา ท้ังภาครัฐและเอกชน รวมท้ังองค์กรระหว่างประเทศ มีความเห็นร่วมกันว่า สมควรจะขอพระราชทานพระราชานุญาต จัดตั้งรางวัลระดับนานาชาติชื่อว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” หรือ “Princess Maha Chakri Award” เพ่ือ เฉลมิ พระเกยี รตแิ ละเทดิ ทนู พระปรชี าดา้ นการศกึ ษา ดว้ ยการยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตคิ รจู ากนานาชาตทิ ไ่ี ดจ้ ดั การเรยี นการสอน ใหเ้ กดิ คณุ ประโยชนต์ อ่ วงการศกึ ษาจนเปน็ แบบอยา่ ง รวมทง้ั เพอื่ ยกระดบั วชิ าชพี ครใู หเ้ ปน็ ทย่ี อมรบั ในฐานะวชิ าชพี ชนั้ สงู โดยพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล เข้ารับพระราชทานรางวัลในช่วงวันครูโลก (ซึ่งองค์กรยูเนสโกก�ำหนด ให้เป็นวันท่ี ๕ ตุลาคมของทุกปี) และเม่ือวันที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙ ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้คุรุสภา กระทรวง ศกึ ษาธิการรว่ มกับองค์กรต่าง ๆ ทางการศึกษา รวมท้ังองค์กรยูเนสโก ดูแลกองทุนรางวัลและด�ำเนินการ ได้พระราชทาน พระราชดำ� รทิ เ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ การดำ� เนนิ การ แกค่ ณะกรรมการทีค่ รุ สุ ภาแตง่ ต้งั ข้นึ เปน็ ระยะ ๆ กองทุนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี มีทุนประเดิม ๑๑ ล้านบาท ท่ีน�ำข้ึนทูลเกล้าฯ ถวาย เม่ือ วันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประกอบด้วยเงินจ�ำนวน ๑๐ ล้านบาทที่คณะกรรมการคุรุสภาอนุมัติให้เป็น ทุนประเดิม และเงินสมทบจากการที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีเป็นเจ้าภาพฝ่ายวิชาการในการจัดงานวันครูโลก คร้ังท่ี ๒ จำ� นวน ๑ ล้านบาท ตอ่ มา สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารโี ปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตัง้ มลู นิธิรางวลั สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพื่อด�ำเนินงานเกี่ยวกับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี โดยให้ส�ำนักงานของมูลนิธิตั้งอยู่ท่ีคุรุสภา และให้มูลนิธิฯ ด�ำเนินงานร่วมกับคุรุสภา และหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ รวมท้ังหน่วยงานอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้อง มลู นธิ ริ างวลั สมเดจ็ เจา้ ฟา้ มหาจกั รไี ดร้ บั การจดทะเบยี นกอ่ ตงั้ ขนึ้ อยา่ งเปน็ ทางการเมอื่ วนั ที่ ๓๑ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ มาทรงรว่ มประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารมลู นธิ ิ ฯ ครั้งแรก เมื่อวันท่ี ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ นอกจากกองทุนประเดิมแล้ว มูลนิธิฯ ยังได้รับการจัดสรร เงนิ งบประมาณแผน่ ดนิ จากรฐั บาล เพือ่ นำ� ไปด�ำเนินการให้เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ 57 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร ในระยะแรก มูลนิธิพิจารณาให้รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีแก่ครูผู้สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในทุกประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน+ติมอร์เลสเต ประเทศละ ๑ รางวัล รวม ๑๑ รางวัล โดยกระทรวงศึกษาธิการหรือองค์กรที่ดูแลครูของแต่ละประเทศเป็นผู้เสนอช่ือเข้ารับรางวัล พิธีพระราชทานรางวัลคร้ังแรก จัดข้ึนเมื่อวันท่ี ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ร่วมกับการประชุมสภาครูอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ เน่ืองในโอกาสวันครูโลก และเพ่ือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ รางวัลที่พระราชทาน คอื เงินรางวัล ๆ ละ ๑๐,๐๐๐ เหรียญดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเหรียญทอง เข็มเชดิ ชูเกยี รติ และโล่เกียรติคุณ โดยจะพระราชทานรางวัลทุก ๒ ปี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน พระราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ประจ�ำพระองค์ จัดท�ำเป็นเหรียญและเข็มเชิดชูเกียรติ ส�ำหรับพระราชทาน แกผ่ ้ไู ดผ้ า่ นการคดั เลือกใหร้ บั พระราชทานรางวลั ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลเป็นครูที่มีคุณสมบัติดีเด่นเป็นท่ีประจักษ์ เป็นผู้ทุ่มเทและอุทิศตนเพื่อศิษย์ และมีคุณสมบัติเฉพาะท่ีแสดงถึงความเป็นครูมืออาชีพ ได้แก่ การสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของศิษย์และการเป็น แบบอยา่ งทด่ี แี กเ่ พอื่ นครู รวมทงั้ มผี ลงานดเี ดน่ ทสี่ ามารถนำ� ไปเผยแพรใ่ หเ้ ปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งกวา้ งขวางทงั้ ในระดบั ประเทศ และระดับนานาชาติ ผู้ได้รับการพิจารณาให้ได้รับพระราชทานรางวัลจะเดินทางมารับพระราชทานรางวัลท่ีประเทศไทย ตามก�ำหนด ในช่วงการจดั งานวันครูโลกของไทย 58 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน รางวัลครูดีเดน่ ของประเทศไทย ประเทศไทยด�ำเนินการคัดเลือกครูด้วยวิธีการสรรหาครูดีเด่นจากทุกจังหวัด เปิดโอกาสให้เสนอชื่อครู อย่างกว้างขวาง และศิษย์เก่าก็มีสิทธิ์เสนอชื่อครูของตนเข้ารับการพิจารณา รายช่ือครูท่ีได้รับการคัดเลือกจาก คณะกรรมการของแตล่ ะจงั หวดั พรอ้ มประวตั แิ ละหลกั ฐานตา่ ง ๆ จะสง่ ไปยงั คณะกรรมการวชิ าการของมลู นธิ ิ นอกจากน้ี องค์กรระดับชาติที่ยกย่องครู ด้วยการให้รางวัลแก่ครูอย่างสม�่ำเสมอก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อครูท่ีเคยได้รับรางวัล ขององคก์ รใหค้ ณะกรรมการวชิ าการพจิ ารณาดว้ ย จากนน้ั คณะกรรมการวชิ าการจะพจิ ารณารายชอ่ื ครปู ระมาณ ๑๗๐ ชอื่ ท่ีเสนอมาจากจังหวัดและองค์กรตามกระบวนการ แล้วคัดเลือกให้เหลือ ๒๐ ชื่อ และ ๓ ชื่อ ตามล�ำดับ เพื่อเสนอคณะกรรมการมูลนิธิพจิ ารณาขั้นสุดท้าย 59 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน เพอื่ เปน็ ขวญั และกำ� ลงั ใจแกค่ รดู เี ดน่ ทผ่ี า่ นกระบวนการคดั เลอื กและกลนั่ กรองในระดบั ตา่ งๆ คณะกรรมการมลู นธิ ิ จึงเห็นสมควรให้มีรางวัลส�ำหรับครูไทย ๔ ระดับ คือ นอกจากรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ๑ รางวัล ที่รับพระราชทาน ร่วมกบั ครจู ากอกี ๑๐ ประเทศแล้ว ยังมีรางวลั ระดบั รองลงมาอีก ๓ รางวัลสำ� หรบั ครูไทย รวมเป็น ๔ ระดบั รางวลั ดงั นี้ ๑. รางวลั สมเดจ็ เจา้ ฟา้ มหาจกั รี ๑ รางวลั ในจำ� นวน ๑๑ รางวลั ของครใู นกลมุ่ ประเทศเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ครแู ตล่ ะคนจะไดร้ ับพระราชทานเงนิ รางวลั ๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรฐั เหรยี ญทอง เข็มเชดิ ชูเกียรติ และโล่เกียรตคิ ุณ ๒. รางวลั คณุ ากร จำ� นวน ๒ รางวลั จะไดร้ บั เหรยี ญเงนิ เขม็ เชดิ ชเู กยี รติ และเกยี รตบิ ตั รมอบใหค้ รผู มู้ คี ะแนน ล�ำดบั ท่ี ๒ และลำ� ดับที่ ๓ จากการตดั สนิ ของคณะกรรมการมลู นิธิ ๓. รางวัลครูย่ิงคุณ จ�ำนวน ๑๗ รางวัล จะได้รับเหรียญทองแดง เข็มเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตร มอบให้ ครูผู้มีคะแนนลำ� ดบั ท่ี ๔ ถึงลำ� ดบั ท่ี ๒๐ จากการตดั สินของคณะกรรมการมูลนิธิ ๔. รางวัลครูขวัญศิษย์ จ�ำนวนประมาณ ๑๗๐ รางวัล จะได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ และเกียรติบัตร มอบให้ ครูผู้ได้รบั การคดั เลอื กจากจังหวัดและองคก์ รระดบั ชาติ และได้รับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการวชิ าการ บรรณานุกรม ส�ำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (๒๕๕๘). เอกสารประชาสัมพันธ์และรายงานการประชุม คณะกรรมการมูลนิธิรางวัล สมเดจ็ เจ้าฟา้ มหาจกั รี และคุรุสภา. (เอกสารอดั ส�ำเนา). 60 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
โรงเรียนจติ รลดา (สายวิชาชีพ) เรงิ ชัย ทองหล่อ ดร.อรสดุ า เจรญิ รถั ความเปน็ มาและความส�ำคญั โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) เกิดจากพระราชด�ำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทท่ี รงหว่ งใยและตอ้ งการชว่ ยเหลอื เยาวชนทมี่ คี วามถนดั ดา้ นงานอาชพี ใหไ้ ดเ้ รยี นตามทต่ี นถนดั ซง่ึ เมอื่ สำ� เรจ็ แลว้ จะไดน้ ำ� ความรแู้ ละประสบการณไ์ ปประกอบสมั มาชพี ได้ ทา่ นผหู้ ญงิ องั กาบ บณุ ยษั ฐติ ิ ผจู้ ดั การและผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นจติ รลดา ได้เล่าเก่ียวกับเรื่องน้ีว่า “เร่ืองโรงเรียนจิตรลดาสายวิชาชีพนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชประสงค์จะทรงเปิดมานานแล้ว แต่ยังทรงหาพ้ืนท่ีเหมาะไม่ได้ เพราะรับสั่งว่า พื้นที่ในโรงเรียนจิตรลดา ดูจะคับแคบเพราะขยายออกไปเป็นหลายแผนก แล้ววันหน่ึงสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนจิตรลดาได้จัดงานเดินการกุศล พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ฯ ไปรว่ มดว้ ย ไดท้ อดพระเนตรเหน็ ตกึ ในสนามเสอื ปา่ ปดิ ไว้ ทรงถามวา่ ใชท้ ำ� อะไรไหม นายวชั รกติ ิ วชั โรทยั กรมวังผู้ใหญ่กราบบังคมทูลว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ถ้าจะทรงเห็นใช้สอยก็ยินดีถวาย พระองค์ท่านก็เลยโปรดเกล้าฯ ใหใ้ ชต้ ึกนเ้ี ปดิ เปน็ โรงเรียนจติ รลดา (สายวิชาชพี ) เมื่อพุทธศกั ราช ๒๕๔๗ ” 61 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน การจดั การเรยี นการสอน เมือ่ ปีการศกึ ษา ๒๕๔๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี องคบ์ ริหารของโรงเรยี นไดท้ รง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายหลักสูตรวิชาชีพเพิ่มเติมในการเรียนการสอนของโรงเรียนจิตรลดาโดยเปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ๒ ประเภทวชิ า กับ ๓ สาขางาน คอื ๑. ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานอิเลก็ ทรอนิกส์ ๒. ประเภทวิชาพณิชยกรรม สาขาธุรกิจคา้ ปลกี และสาขางานคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ ต่อมาเมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๐ ได้ขยายหลักสูตรเป็นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ๒ ประเภทวิชา ๓ สาขางาน คอื ๑. ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เปิดสอนสาขางานอเิ ลก็ ทรอนิกส์อุตสาหกรรม ๒. ประเภทวชิ าบริหารธรุ กิจ เปดิ สอนสาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ กับสาขาวิชาการตลาด เมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๔ โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ได้สนองพระราโชบายโดยเปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาไฟฟ้าก�ำลัง สาขางานเคร่ืองกลไฟฟ้า และสาขาวิชาเทคนิคการผลิต สาขางานเคร่ืองมือกล เพ่ือให้นักเรียนท่ีจบหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไดเ้ รยี นตอ่ ในสาขาดงั กล่าว ต่อมาในปีการศึกษา ๒๕๕๕ โรงเรียนได้ขยายหลักสูตร ปวช. ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานยานยนต์ ระหว่างวันที่ ๔ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ ได้เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น คือ โครงการ แลกเปลยี่ นวฒั นธรรมอาหารไทย-จีน เพอ่ื สอนการท�ำอาหารไทยใหแ้ ก่ครูจากวทิ ยาลยั เลอ่ ซาน มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐ ประชาชนจนี 62 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ความรว่ มมอื ทางวชิ าการกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ลงนามความร่วมมือ ทางวิชาการ (MOU) กับสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและสถาบัน ประกอบการของเอกชน เพ่ือเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษา ได้เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ตรงในสายวิชาชีพธุรกิจและ วชิ าช่าง ดังนี้ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ลงนามความ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรมอทู่ หารเรอื สถาบันเทคโนโลยีนานาชาตสิ ริ นิ ธร มหาวทิ ยาลัย ธรรมศาสตร์ เปน็ ตน้ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ลงนาม ทา่ นผู้หญงิ อังกาบ บุณยัษฐิติ ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ผจู้ ัดการและผู้อ�ำนวยการโรงเรียนจติ รลดา มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี บรษิ ัท เฟสโต จำ� กัด และ ยงั มหี ลกั สตู รระยะสน้ั ทไ่ี ดร้ บั ความรว่ มมอื จากวทิ ยาลยั ในวงั (หญงิ ) และวิทยาลัยอาชวี ะเสาวภา เปน็ ต้น ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ได้รับการตรวจประเมินคุณภาพภายในการอาชีวศึกษา คือ ส�ำนักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาเอกชน เมอ่ื วนั ที่ ๑๔-๑๕ และ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ ผลคอื โรงเรยี นจติ รลดา (สายวชิ าชพี ) ไดผ้ า่ นการประเมนิ ทง้ั ๗ มาตรฐาน ๓๕ ตวั บง่ ชี้ การจดั บรรยากาศสงิ่ แวดล้อมและความสะดวก ๑. ด้านจติ ภาพ โรงเรยี นจติ รลดา (สายวชิ าชพี ) ไดจ้ ดั อาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ ม หอ้ งเรยี น และแหลง่ เรยี นรทู้ สี่ ง่ เสรมิ การพัฒนาจิตใจและปัญญา เช่น ทุกเช้ามีกิจกรรมสวดมนต์ น่ังสมาธิ มีพระพุทธรูปและโต๊ะหมู่บูชา เหมาะท่ีจะน้อมน�ำ จติ ใจใหร้ ะลกึ นกึ ถงึ พระรตั นตรยั นอกจากนวี้ นั สำ� คญั ทางพทุ ธศาสนากน็ มิ นตพ์ ระธรรมถกึ ไปบรรยายธรรมะแกค่ รอู าจารย์ และนักเรียน ๒. ด้านบรรยากาศและสิ่งแวดลอ้ ม โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) มีสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนการสอน มีบรรยากาศที่ร่มรื่น ปลอดโปร่ง ไม่แออัดและแบ่งเป็นสัดส่วน ท้ังยังห่างจากสถานเริงรมย์ แหล่งอบายมุข นอกจากน้ีสถานที่อยู่ต้ังอยู่ใกล้ แหล่งเรียนรู้ท่ีส�ำคัญและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสติปัญญา จิตส�ำนึกแห่งความเป็นไทย เช่น พระบรมรูปทรงม้า 63 สารานุกรมการศึกษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
พระทน่ี ง่ั อนนั ตสมาคม พระทนี่ ง่ั วมิ านเมฆ สวนสตั วด์ สุ ติ โครงการสว่ นพระองค์ สวนจติ รลดา วดั เบญจมบพติ ร โครงการ สารานุกรมไทย ราชบณั ฑติ ยสถาน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสถานที่อ�ำนวยความสะดวกอีก เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด (มหาชน) ธนาคาร ทหารไทย จำ� กดั (มหาชน) ปม๊ั นำ�้ มัน ปตท. รา้ นโกลเด้นเพลส ร้านภัทรพัฒน์ ทั้งการคมนาคมกส็ ะดวกมรี ถประจ�ำทาง ผ่านอกี หลายสาย เนอ่ื งจากโรงเรยี นจติ รลดา (สายวชิ าชพี ) ไมม่ คี ณะกรรมการสถานศกึ ษาตามทก่ี ฎหมายกำ� หนดไว้ แตเ่ พอ่ื ให้การบริหารงานด�ำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ทางโรงเรียนจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เป็นองค์บริหารโรงเรียน โดยมคี ณะผู้บรหิ ารทำ� หนา้ ทีบ่ รหิ ารและด�ำเนินการ ตามพระราโชบาย โรงเรียนจิตรลดา (สายวชิ าชีพ) มปี รัชญา วสิ ัยทัศน์ เอกลกั ษณ์ และอตั ลกั ษณ์ ดังนี้ ปรัชญา รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ มวี นิ ยั ใฝค่ วามรู้ ค่คู ุณธรรม วสิ ยั ทศั น์ รกั ชาติ ศาสนก์ ษัตริย์ วเิ คราะห์คิด เศรษฐกจิ ทักษาชีพ ภาษาสาร คณติ วิทย์ เทคโนโลยี สรา้ งสรรค์งาน พฒั นาการ คณุ ธรรม ชว่ ยชมุ ชน เอกลกั ษณ์ เนน้ ความจงรักภักดี และเป็นโรงเรียนเดยี วในวงั อตั ลักษณ์ จงรกั ภกั ดี มวี นิ ยั มีมารยาท รกั การท�ำงาน 64 สารานุกรมการศึกษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน บทสรปุ โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) มีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์บริหาร เป็นโรงเรยี นเอกชน สงั กดั ส�ำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน มรี หัสการศกึ ษา ๑๑๑๐๑๐๐๐๔๑ เขตพืน้ ท่ี การศึกษาเขต ๒ ใช้หลักสูตรของกรมอาชีวศึกษาเป็นหลัก การเรียนการสอนมิได้มุ่งแต่วิชาชีพ ได้เสริมวิชาชีวิตด้วย จะเน้นการปลกู ฝังความภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และคณุ ธรรมนำ� ความรู้ ผ้รู บั ใบอนญุ าต ชื่อ – สกลุ นายแก้วขวญั วชั โรทัย วุฒิการศกึ ษาสงู สุด ปรญิ ญาโท สาขา Advanced Management Program ดำ� รงตำ� แหน่งนี้ตง้ั แต ่ ๑๐ ตลุ าคม ๒๕๐๑ ถึงปจั จบุ นั ผ้จู ัดการและผูอ้ ำ� นวยการ ช่ือ – สกลุ ทา่ นผหู้ ญิงองั กาบ บุณยษั ฐิติ วฒุ ิการศึกษาสูงสดุ ปรญิ ญาเอก สาขา บริหารการศึกษา ด�ำรงต�ำแหน่งน้ตี ้งั แต่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๒๖ ถงึ ปัจจบุ ัน 65 สารานุกรมการศึกษารว่ มสมยั เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
โรงเรยี นพระดาบสจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ดร.อรสดุ า เจริญรถั โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งอยู่ ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อ�ำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เกิดข้ึนจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานกิตติมศักด์ิ และสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รองประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิพระดาบส ที่ทรงมีต่อเยาวชนนอกระบบ การศกึ ษาทย่ี ากไรแ้ ละขาดแคลนในพน้ื ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ทง้ั น้ี เพอื่ พระราชทานโอกาสทางการศกึ ษาแกเ่ ยาวชนเหลา่ นี้ ใหไ้ ดม้ โี อกาสเรยี นวชิ าชพี ชา่ ง พรอ้ มทงั้ การอบรมคณุ ธรรมและศลี ธรรมใหเ้ ปน็ คนดตี ามศาสนาทต่ี นนบั ถอื ซง่ึ การจดั การศกึ ษา ได้น�ำรูปแบบโรงเรียนพระดาบสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้มาขยายผลแต่ได้ประยุกต์รูปแบบ บางประการใหเ้ หมาะสมกับสภาพสังคม ศาสนาและวฒั นธรรมของท้องถ่ิน เชน่ การปฏิบตั ิศาสนกจิ อย่างครบถว้ น การเรียนรู้ เร่ืองวัฒนธรรมและศาสนิกสัมพันธ์ โดยโรงเรียนนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้น�ำศาสนา ต่าง ๆ ท้ังนี้ เพ่ือให้เยาวชนนอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เล่าเรียนด้านอาชีพอย่างเหมาะสม มีคุณธรรม และจิตส�ำนึกที่ดีในการอยู่ร่วมกัน สามารถเป็นพลเมืองดีตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ เป็นที่พ่ึงของตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ 66 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใตเ้ ปดิ สอนรนุ่ แรก เมื่อปี พทุ ธศักราช ๒๕๕๓ ใน ๓ สาขาวชิ าชพี ชา่ ง คือ ช่างซ่อมบ�ำรุงรักษารถยนต์ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และช่างซ่อมเคร่ืองจักรกลการเกษตร โดยรับนักเรียน อายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปี ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ความรู้พื้นฐานอ่านออกเขียนได้ และมีความตั้งใจที่จะเข้าศึกษาในลักษณะ โรงเรียนประจ�ำหลกั สูตร ๑ ปี โดยไม่เสียค่าใชจ้ า่ ย ตลอดระยะเวลา ๕ ปี ทโ่ี รงเรยี นแหง่ นไี้ ดต้ งั้ ขน้ึ ไดใ้ หโ้ อกาสและสรา้ งชวี ติ ใหมท่ ส่ี ดใสแกเ่ ยาวชนในพน้ื ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ให้มีวิชาชีพ มีงานท�ำ และเป็นคนดีของประเทศชาตินับร้อยคน นอกจากนี้ยังได้ต่อยอดขยายผล การจัดฝึกอบรมด้านอาชีพแก่ผู้ปกครองนักเรียนและกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาส ภายใต้ “โครงการพัฒนา ผู้ประกอบการเพ่ือสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจชุมชนตามแนวพระราชด�ำริ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากส�ำนักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และได้พัฒนาขยายผลจนสามารถจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนช่ือว่า “กลุ่มเครือข่ายโครงการพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต”้ หรือ กลุ่มบาตู ขึ้น ซ่ึงค�ำว่า “บาตู” เป็นภาษายาวี แปลว่า “หิน” มีความหมายถึง การท�ำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งระหว่างพสกนิกรชาวไทยพุทธ คริสต์ และมุสลิม ท้ังนี้ เพ่ือสร้างพลังการเรียนรู้ในการน้อมน�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพ ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชุมชนท่ีมีคุณภาพ สวยงาม และเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาท้องถ่ิน บนพ้ืนฐานของการท�ำงาน ร่วมกนั ด้วยความสามัคคี และการแบง่ ปนั กนั สอดคลอ้ งกบั หลักการพระราชทาน “เข้าใจ เขา้ ถึง และพัฒนา” 67 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนของกลมุ่ บาตู ประกอบดว้ ย การแปรรปู ผลติ ภณั ฑท์ างการเกษตร ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ เช่น กล้วยหิน มังคุด ลองกอง ทุเรียน การเพาะเห็ด และผักชนิดต่างๆ ผ้าบาติก ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้เป็นกระบวนการเรียนรู้ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ สนิ คา้ คณุ ภาพทเ่ี ชอื่ มโยงกบั วถิ ชี วี ติ ทมี่ คี วามสขุ ของสมาชกิ ในพนื้ ทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ โดยการดำ� เนนิ งาน ของกลมุ่ บาตู มกี ารบรหิ ารจดั การอยา่ งครบวงจรทง้ั การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ การจดั หาตลาด การพฒั นาการเรยี นรขู้ องสมาชกิ เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาทฐี่ านรากของชมุ ชนอยา่ งยง่ั ยนื อนั จะนำ� ความสขุ มาสจู่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ อนั เปน็ ผลสบื เนอ่ื งมาจาก พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ตลอดจนพระบรมวงศานวุ งศ์ ทกุ พระองคท์ ที่ รงมีต่อพสกนกิ รในพ้นื ทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ตลอดมา 68 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน วทิ ยาลัยกำ� ปงเฌอเตยี ล: ของขวัญล้�ำคา่ จากพระปรชี าญาณ รองศาสตราจารย์ ดร.กรรณกิ าร์ สจั กลุ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสร้างวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล พระราชทานเป็น ของขวัญท่ีย่ังยืนแก่ประชาชนชาวกัมพูชา เพ่ือตอบแทนน�้ำใจไมตรีรวมทั้งแสดงถึงความสัมพันธ์และความเป็นมิตรท่ีดี ต่อกันของประชาชนทั้งสองประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมเป็น คณะกรรมการโครงการโรงเรียนพระราชทานฯ ในการนี้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ รบั เปน็ ประธานโครงการ ในเร่ืองของการศึกษา ทรงมพี ระราชปณิธานวา่ “ข้าพเจ้าเหน็ มาตง้ั แต่เด็กว่า การพฒั นาการศึกษา การแพร่ความรู้เป็นเรอื่ งทสี่ �ำคญั มาก ชาติจะไดก้ ้าวหนา้ และ คนทีแ่ พรค่ วามรู้กไ็ ด้บุญดว้ ย” 69 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
จากพระราชปณธิ านดงั กลา่ ว สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี จงึ ไดพ้ ระราชทานของขวญั ท่ียั่งยืน คือ แหล่งแพร่ความรู้ เพ่ือชาวกัมพูชาเอง ผู้ท่ีได้รับความรู้น้ันจะมีจ�ำนวนเพ่ิมข้ึนทบเท่าทวีคูณไปเร่ือย ๆ จนครู และนักเรยี นในโรงเรียนจ�ำนวนมากจะไดน้ ำ� ความรูไ้ ปชว่ ยกันพัฒนาราชอาณาจักรกัมพูชาใหเ้ จรญิ ก้าวหนา้ ย่งิ ขึน้ วิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล ต้ังอยู่ที่อ�ำเภอปราสาทซ็อมโบร์ จังหวัดก�ำปงธม ขนาดพื้นท่ี ๑๑๗ ไร่ วิทยาลัย กำ� ปงเฌอเตยี ล เปน็ โรงเรยี นระดบั มธั ยมศกึ ษาทเ่ี ปดิ สอนทง้ั สายสามญั และสายอาชวี ศกึ ษา การพระราชทานโรงเรยี นแหง่ นี้ เปน็ การพระราชทานโรงเรยี นทง้ั ระบบ เรม่ิ ตงั้ แตก่ ารสำ� รวจความตอ้ งการของชมุ ชน การกอ่ สรา้ งอาคารเรยี นและบา้ นพกั ครู หอพกั นกั เรยี น การพฒั นาหลกั สตู ร การเตรยี มบคุ ลากร การพฒั นาการเรยี นการสอน การพฒั นา การบรหิ าร การจดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์ การนิเทศติดตามผลการจัดการศึกษา และกิจกรรมพิเศษอ่ืน ๆ การพระราชทานทุนการศึกษาแก่ครูและนักเรียน รวมท้ัง การพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตและการพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มของโรงเรียน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ� เนินไปทรงตรวจพ้ืนท่ีก่อสร้างโรงเรียน เป็นคร้ังแรก ณ ต�ำบลซ็อมโบร์ จังหวัดก�ำปงธม เม่ือวันอาทิตย์ท่ี ๑๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๓ ทรงวางศิลาฤกษ์ เมอื่ วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๗ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ ทรงตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของโรงเรยี นเมอื่ วนั องั คารท่ี ๓๐ ตลุ าคม พุทธศกั ราช ๒๕๔๔ และวันศกุ รท์ ี่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๔๔ ตลอดจนเสด็จพระราชดำ� เนิน ทรงเปดิ วทิ ยาลยั ก�ำปงเฌอเตยี ลแห่งนี้ เมอ่ื วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ แนวพระราชดำ� รใิ นสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เมอ่ื ทรงเปน็ ประธานการประชมุ คณะกรรมการ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา คร้ังที่ ๑ เมื่อวันศุกร์ท่ี ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ กรมราชองครักษ์ สวนจิตรลดา ผู้ร่วมประชุมคร้ังประวัติศาสตร์ในวันนั้นเป็นคณะกรรมการฝ่ายไทย ๑๕ คน และ ฝา่ ยราชอาณาจกั รกมั พชู า ๑๕ คน หวั หนา้ คณะกรรมการฝา่ ยไทยไดแ้ ก่ พลเอกวาภริ มย์ มนสั รงั ษี ฝา่ ยราชอาณาจกั รกมั พชู า ได้แก่ ฯพณฯ อมึ สิทธี รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ เยาวชนและกฬี า 70 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน แนวพระราชดำ� ริในการจัดการศกึ ษาทพี่ ระราชทานในวันนน้ั มปี ระเดน็ ส�ำคัญที่ทรงเน้น ดงั นี้ ๑. การรบั นักเรยี นเขา้ เรยี นในระยะแรกไม่ควรเกิน ๑,๒๐๐ คน ๒. ทรงเน้นเรื่องสุขภาพอนามัยของนักเรียนเป็นพิเศษ ส�ำหรับนักเรียนน้ัน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนชาติใด ถ้าโภชนาการดี จะท�ำใหส้ ขุ ภาพอนามยั ดี สติปญั ญาและการเรียนของนักเรยี นจะบงั เกิดผลดีตามมาด้วย ๓. ทรงให้ความส�ำคัญของการอนุรกั ษ์โบราณสถานและสิง่ แวดล้อม ดังนี้ ๓.๑ การอนุรักษ์โบราณสถาน โรงเรียนพระราชทานแห่งนี้อยู่ใกล้กับปราสาทซ็อมโบร์ ซ่ึงเป็น สถานท่ีท่องเที่ยวแห่งหน่ึงของราชอาณาจักรกัมพูชา นักเรียนและชุมชนน่าจะได้รับการปลูกฝังให้รักและหวงแหน โบราณสถานนั้น และมคี วามรพู้ อท่ีจะเปน็ มัคคเุ ทศก์อธบิ ายให้นักท่องเทย่ี วฟงั ได้ ๓.๒ การอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม ควรจะปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นและชมุ ชนมจี ติ สำ� นกึ ในการรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ให้รู้จักรัก หวงแหนป่า ต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อันจะน�ำไปสู่การรักและหวงแหนประเทศชาติได้ ในที่สดุ ๔. การเรียนรู้เร่ืองสุขภาพอนามัยและโภชนาการ จะน�ำไปสู่ความรู้ในด้านสุขศึกษาและคหกรรมศาสตร์ โดยอาจจะน�ำความรู้ดังกล่าวไปประกอบอาหารหรือขนมส�ำหรับขายนักท่องเท่ียว รวมท้ังอาจจะพัฒนาไปถึงเร่ือง การโรงแรมและการท่องเทย่ี วได้ ๕. การเรียนภาษาต่างประเทศ ในอนาคตนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาท่องเที่ยวราชอาณาจักรกัมพูชามากข้ึน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยซ่ึงเป็นประเทศเพื่อนบ้าน และนักท่องเที่ยวที่พูดภาษาอังกฤษจากประเทศอ่ืน ๆ ดังน้ัน ภาษาไทยและภาษาอังกฤษน่าจะเปน็ ภาษาท่นี �ำมาสอนในโรงเรยี นนีไ้ ด้ 71 สารานุกรมการศึกษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
เมอ่ื วนั ที่ ๕ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดท้ รงมพี ระมหากรณุ าธคิ ณุ ใหค้ ณะกรรมการทงั้ สองฝา่ ยไดเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองพระบาทอกี ครง้ั หนง่ึ ในวาระทเ่ี สดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเปน็ ประธานการประชมุ คณะกรรมการโครงการโรงเรยี นพระราชทานฯ ตามโครงการพระราชทานความชว่ ยเหลอื แกร่ าชอาณาจกั รกมั พชู าดา้ นการศกึ ษา และการลงนามความตกลงโครงการระหว่างกรมราชองครักษ์กับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และกีฬา ว่าด้วยความร่วมมือ ในการจัดตั้งโรงเรยี นปราสาทซ็อมโบร์ (ปัจจุบันคือวทิ ยาลัยกำ� ปงเฌอเตยี ล) จงั หวดั ก�ำปงธม ราชอาณาจักรกมั พชู า ในวาระนั้น พระราชด�ำรัสส�ำคัญท่ีพระราชทานแก่คณะกรรมการโครงการโรงเรียนพระราชทานฯ น�ำไปเป็น แนวทางการปฏบิ ัตงิ านจัดการศึกษา ได้แก่ ๑. ใหย้ ดึ หลกั สูตรของราชอาณาจักรกัมพูชาเปน็ หลักและเพ่ิมเตมิ สิ่งใหม่ท่ีเปน็ ประโยชน์ ๒. ใหใ้ ชก้ ารสหกรณโ์ รงเรยี นเปน็ เครอ่ื งมอื ในการฝกึ การบรหิ ารและการจดั การ เปน็ การฝกึ การบนั ทกึ คา่ ใชจ้ า่ ย และการลงทนุ ๓. ควรปรับปรุงเร่ืองการประชาสัมพันธ์การจัดการศึกษาตามโครงการฯ เพื่อให้ชาวไทย ชาวกัมพูชา และ ชาวต่างประเทศอน่ื ๆ ร่วมมอื รว่ มใจกันบริจาคเพ่ือสรา้ งโรงเรยี นให้แล้วเสร็จ ๔. ควรอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรมของชาติกัมพูชา อาทิ ปราสาทซ็อมโบร์ ควรน�ำความรู้เหล่านี้บรรจุไว้ ในหลักสูตร นักเรียนอาจน�ำความรู้เร่ืองโบราณสถานต่าง ๆ โดยเฉพาะเร่ืองปราสาทซ็อมโบร์ ไปใช้เป็นวิชาชีพได้ เช่น เปน็ มคั คเุ ทศกน์ �ำชาวกมั พูชา ชาวไทย และชาวตา่ งประเทศ เขา้ ชมปราสาท อนั เป็นการเพิ่มพนู รายไดอ้ กี ทางหนง่ึ คณะกรรมการท้ังสองฝ่ายน้อมรับพระราชกระแสใส่เกล้าฯ ไว้เป็นแนวทางด�ำเนินการด้วยความซาบซึ้ง ใน ครู พระองคน์ ี้ การดำ� เนนิ งานทำ� ไปไดช้ า้ บา้ งเรว็ บา้ ง แตม่ งุ่ หวงั วา่ จะพยายามดำ� เนนิ การจดั การศกึ ษาตามแนวพระราชดำ� ริ ใหป้ ระสบความส�ำเรจ็ ใหจ้ งได้ เพอื่ ประโยชน์สขุ ของชาวกมั พชู าเอง การจดั การศกึ ษาในบรเิ วณวทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล จงึ มที งั้ การศกึ ษาสายสามญั สายวชิ าชพี ๔ สาขาวชิ า ไดแ้ ก่ เกษตร ปศสุ ตั ว์ ไฟฟา้ เครอื่ งยนต์ ควบคกู่ บั การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ พฒั นาสง่ิ แวดลอ้ ม ฯลฯ ฝ่ายกัมพูชาได้ด�ำเนินการเตรียมหลักสูตร คัดเลือกบุคลากรผู้มีความรู้ ความสามารถ และสมัครใจมาท�ำงานท่ีโรงเรยี น อาทิ ครผู ูส้ อนสายสามัญ ฯลฯ การเตรียมการด้านการบริหารการศึกษา การนิเทศการศึกษาและ การพัฒนาหลักสูตรวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลน้ัน คณะกรรมการฝ่ายพัฒนาคุณภาพ การศึกษาและคุณภาพชีวิตด�ำเนินการอย่างต่อเนื่องหลายรูปแบบ ในเบ้ืองต้น มีคณาจารย์จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ในสังกัด ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้รับผิดชอบ ในการบรหิ ารจัดการฝกึ อบรมอยา่ งต่อเนอื่ ง ในการจดั อบรมสมั มนาทกุ ครง้ั คณะกรรมการฝา่ ยพฒั นาการศกึ ษาและคณุ ภาพชวี ติ จะยดึ แนวพระราชปณธิ าน ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทว่ี ่า การจัดการศกึ ษา ณ ท่ีใดต้องค�ำนงึ ถงึ ขอบเขตและความเป็นไปได้ ตามสถานภาพของท่ีนั้น และการจัดการศึกษาต้องมีการพูดคุยกันอย่างละเอียด การเพ่ิมเติมเน้ือหาวิชาหรือหลักสูตรใด ควรเหมาะสมกบั พนื้ ท่ี ดงั นนั้ การดำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื ตามแนวพระราชดำ� รดิ งั กลา่ วจงึ เปน็ เรอื่ งทต่ี อ้ งคำ� นงึ ถงึ ไมว่ า่ จะเปน็ เรื่องหลกั สตู ร วิธกี ารสอน นวตั กรรมและเทคโนโลยกี ารศกึ ษาและการประเมินผล 72 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
นับต้ังแต่เปิดสอนในปี ๒๕๔๔ ถึงปัจจุบัน มีนักเรียนจบการศึกษาจากวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล ในระดับ เกรด ๙ มากกว่า ๑,๒๐๐ คน เกรด ๑๒ มากกว่า ๑,๒๐๐ คน และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพใน ๔ สาขาวิชา มากกว่า ๑,๐๐๐ คน ซึ่งจบการศึกษาสามารถออกไปประกอบวิชาชีพทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมถึงประกอบอาชีพ ส่วนตัว และศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นตั้งแต่อนุปริญญา ปรญิ ญาตรี ถงึ ปรญิ ญาโท ในปีการศึกษา ๒๕๕๘ วทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล มนี กั เรียนสายสามัญ จ�ำนวน ๘๕๘ คน นกั เรียนอาชวี ศึกษา ๕๙๗ คน มคี รทู งั้ หมด ๑๑๐ คน ในจำ� นวนนเ้ี ปน็ ครสู ายอาชวี ะ ๕๕ คน ครูสายสามัญ ๕๕ คน ความมีช่ือเสียงของวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล ท�ำให้ ผแู้ ทนจากองคก์ าร หนว่ ยงานตา่ งๆ ทงั้ ในราชอาณาจกั รกมั พชู า และในระดบั นานาชาติ อาทเิ ชน่ คณะผแู้ ทนจากองคก์ ารยเู นสโก คณะผู้แทนจากสาธารณรัฐเกาหลีเข้าเย่ียมชมวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล เพ่ือศึกษาข้อมูลในการวางแผนการพัฒนา การจดั การศกึ ษา การใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกร่ าชอาณาจกั รกมั พชู าในการพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนระบบ Dual System ท่ีมีการจัดการเรียนการสอนสายสามัญและอาชีวศึกษาในโรงเรียนมัธยมรูปแบบเดียวกับท่ีวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล ฯพณฯ สมเดจ็ อคั รมหาเสนาบดเี ดโช ฮนุ เซน นายกรฐั มนตรรี าชอาณาจกั รกมั พชู าจงึ ขอพระราชทานฯ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ต่อบนั ทึกชว่ ยจำ� โครงการพระราชทานความช่วยเหลอื แกร่ าชอาณาจักรกัมพชู า (ด้านการศึกษา) ตอ่ ไปอกี ระยะหน่ึงจนถึง วนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน พทุ ธศักราช ๒๕๕๙ เนอ่ื งจากยังต้องการพระมหากรณุ าธิคุณในการพฒั นาบคุ ลากร และระบบการบริหาร จัดการทีด่ ีในอนาคต เพอื่ ทีจ่ ะไดพ้ ฒั นาให้วทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตียล เปน็ ต้นแบบในการจัดการศกึ ษาในระบบ Dual System ของราชอาณาจักรกัมพูชา และก�ำลังเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาการศึกษา เตรียมรับการขยายตัวของอาเซียนและสังคมโลก โดยเตรียมจะยกฐานะวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อขยายโอกาสการศึกษา และการฝกึ อบรมวชิ าชพี ใหแ้ กน่ กั เรยี นและประชาชนในชมุ ชนทหี่ า่ งไกลไมส่ ามารถศกึ ษาตอ่ ในระดบั ทสี่ งู ขนึ้ ได้ ตลอดจน เพือ่ สนองตอบความต้องการของตลาดแรงงานที่ตอ้ งการแรงงานทีม่ ีทกั ษะฝีมอื โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและ กฬี า คณะผู้บรหิ าร ครแู ละบคุ ลากร ของวทิ ยาลัยก�ำปงเฌอเตียล จึงได้รว่ มกันพัฒนาหลกั สูตร ประกอบดว้ ย ๑. หลกั สตู รอนปุ รญิ ญา ๒ ปี ๖ สาขา ๒. หลกั สตู รอนปุ รญิ ญา ครทู กั ษะชีวติ ๓ กลมุ่ วชิ า ๓. หลักสตู รปริญญาตรี ๔ ปี ๖ สาขา ๔. หลักสตู รปริญญาตรคี รวู ชิ าชีพ ๑ ปี ทั้งน้ี จะได้เตรียมการวางแผนพัฒนาบุคลากรและเตรียมความพร้อมส�ำหรับผู้บริหาร ครูและบุคลากรของ วทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ลเพอื่ รองรบั การเปดิ สอนระดบั อนปุ รญิ ญาและปรญิ ญาตรี โดยมแี ผนการเปดิ สอนระดบั อนปุ รญิ ญา เร่ิมในปกี ารศึกษา ๒๕๕๙ นี้ 73 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน นกั เรยี นทนุ พระราชทาน ด้วยน�้ำพระราชหฤทัยที่ต้องพระราชประสงค์เพ่ือตอบแทนน้�ำใจไมตรี รวมทั้งแสดงถึงความสัมพันธ์และ ความเป็นมิตรที่ดีต่อกันของประชาชนทั้งสองประเทศ ดังความตอนหนึ่งที่พระราชทานไว้ให้เป็นแนวทางในการท�ำงาน ของคณะกรรมการทัง้ ฝา่ ยไทยและฝ่ายกัมพชู า เพ่ือใหบ้ รรลคุ วามสำ� เร็จใหด้ ที ี่สดุ มคี วามว่า “... ความต้องการของข้าพเจ้าคือ ต้องการมีส่วนร่วมในการให้การศึกษาเยาวชนกัมพูชา ซ่ึงเป็นเยาวชน ที่มีศักยภาพเป็นอย่างดี และถ้าได้การศึกษาเล่าเรียนและฝึกอบรมท่ีดีแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคมกัมพูชา และสงั คมโลกสืบไป ส่งิ ท่คี าดหวงั จากนกั เรยี นเหลา่ นค้ี อื ประการท่ี ๑ ต้องการเห็นนักเรียนมีความรู้ความสามารถด้านวิชาการที่จะน�ำความรู้ไปท�ำอาชีพ ปฏิบัตงิ านตา่ ง ๆ ได้ แล้วสามารถศกึ ษาตอ่ ในระดับขนั้ ทสี่ ูงข้ึนได้ ประการที่ ๒ ใหเ้ ปน็ ผู้ทีม่ คี ุณธรรม มคี วามซือ่ สัตยส์ จุ ริต พร้อมทจ่ี ะชว่ ยเหลอื เพ่อื นมนุษย์ ประการท่ี ๓ มสี ขุ ภาพร่างกายท่สี มบูรณแ์ ข็งแรง สามารถทจ่ี ะปฏิบตั ิงานตา่ ง ๆ ไดด้ ้วยดี ประการท่ี ๔ เป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการดี โดยเฉพาะอย่างย่ิงอยากจะให้มาช่วย ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนน้ีให้ต่อเน่ืองไป ไม่ให้ทอดท้ิง มิให้มีคุณภาพที่ด้อยลง หวังว่าเยาวชนเหล่านี้ จะมีความคิดที่พัฒนาให้งานของเราดีขึ้น ๆ จะได้เป็นประโยชน์ สรา้ งชวี ิต และสรา้ งชาติกัมพชู าตอ่ ไป” 74 สารานุกรมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
การท่ีครูและนักเรียนของกัมพูชาจะเจริญเติบโตจนช่วยพัฒนาประเทศกัมพูชาต่อไปในอนาคตน้ัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีสายพระเนตรท่ียาวไกลว่า นักเรียนที่จบการศึกษาเพียง มธั ยมปลายคงยงั ไมม่ คี วามรพู้ อทจี่ ะดำ� รงอยใู่ นโลกอนาคตไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ สว่ นครนู นั้ เมอ่ื เรมิ่ จดั ตง้ั วทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล ครูผู้สอนมีวฒุ ิการศกึ ษาทีต่ ่ำ� มาก ความรไู้ ม่เพียงพอทีจ่ ะสอนนักเรยี นระดับชัน้ มธั ยมปลายได้เชน่ กนั เมอื่ มพี ระมหากรณุ าธคิ ณุ พระราชทานความชว่ ยเหลอื ทางดา้ นการศกึ ษาทง้ั ระบบ การเตรยี มตวั ครแู ละบคุ ลากร ทางการศึกษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จึงพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนและครู ชาวกัมพูชาดว้ ย จดุ เรม่ิ ต้นของทนุ พระราชทาน ตามความตกลงโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษานั้นได้ระบุ การพระราชทานทนุ แกน่ ักเรยี นวทิ ยาลัยกำ� ปงเฌอเตียลเพื่อให้มาศกึ ษาตอ่ ในประเทศไทย แลว้ กลบั ไปปฏิบตั ิงานสอนและ พัฒนาการจัดการศึกษาของวทิ ยาลัยก�ำปงเฌอเตยี ล ดว้ ยพระมหากรณุ าธกิ ารทที่ รงตระหนกั ถงึ ความสำ� คญั ของการศกึ ษาอนั จะยงั ประโยชนต์ อ่ ราชอาณาจกั รกมั พชู า อยา่ งใหญห่ ลวง เมอ่ื รฐั บาลกมั พชู าขอพระราชทานทนุ ใหแ้ กน่ กั เรยี น นกั ศกึ ษา และครกู มั พชู า ทใ่ี นอนาคตจะกระจายกำ� ลงั สำ� คญั ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้านอกเหนือจากทุนพระราชทานเฉพาะนักเรียนและครูของวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล แหง่ เดยี วไปแลว้ ๔ รนุ่ ดงั นนั้ นกั เรยี นทนุ รนุ่ ท่ี ๕ ถงึ ปจั จบุ นั จงึ เปน็ ทนุ ตามความตอ้ งการของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เยาวชน และการกีฬา นอกจากเป็นทุนส�ำหรับครูและนักเรียนวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลแล้วยังเป็นทุนส�ำหรับบุคคลท่ัวไป ในราชอาณาจักรกัมพชู า ปัจจุบันมีผู้รับทุนพระราชทานฯ ราวหนึ่งพันคน มีมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา และสถานศึกษา ในสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา รว่ มถวายทนุ ฯ มากกวา่ ๓๐ แหง่ ตงั้ แตท่ นุ สำ� หรบั นกั เรยี นระดบั เกรด ๙ ศึกษาต่อระดับเกรด ๑๐-๑๒ ซึ่งหากมีผลการศึกษาที่ดี สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีด้านสาธารณสุข วทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ และสาขาอืน่ ๆ ต่อไปได้ ทุนระดับประกาศนยี บตั ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สูง ระดบั ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ในสาขาวิชาที่ส�ำคัญต่าง ๆ นักเรียนทุนท่ีจบการศึกษาจะได้น�ำความรู้สาขาต่าง ๆ ที่จ�ำเป็น ต่อการพัฒนาประเทศกัมพูชาท่ีได้เรียนรู้จากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของประเทศไทยท่ีได้ให้ความร่วมมือ อย่างดีย่งิ 75 สารานุกรมการศึกษารว่ มสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน กจิ กรรมพเิ ศษ : นาฏศิลป์-ดนตรีของวทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล ในประเทศไทย พสกนกิ รไทยรบั รวู้ า่ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงมพี ระราชสมญั ญานามวา่ เอกอัครราชูปภัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และ วิศิษฏศิลปิน ในวันที่ ๒ เมษายน ของทุกปี ซ่ึงเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ประเทศไทยจะถือว่าเป็น วันอนุรักษ์มรดกไทย หรือการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง ในส่วนพระองค์นั้น ทรงเช่ียวชาญการเล่นดนตรีไทยหลายประเภทโดยเฉพาะซอด้วงและระนาดเอก ส่วนการขับร้องน้ันทรงเป็นเลิศ เพราะ ทรงไดเ้ รยี นการขบั รอ้ งจากศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาคตี ศลิ ปห์ ลายทา่ น ไดท้ รงออกแสดงการขบั รอ้ งและดนตรไี ทยใหส้ าธารณชน ได้ชื่นชมทั้งในประเทศและนอกประเทศหลายคร้ัง ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ฟิลิปปินส์ รวมทั้งราชอาณาจักรกัมพูชาเอง เมือ่ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ทรงเปดิ สถานเอกอัครราชทตู ไทย ณ กรงุ พนมเปญ เมอื่ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดพ้ ระราชทานความชว่ ยเหลอื แกร่ าชอาณาจกั รกมั พชู า ดา้ นการศกึ ษา คณะกรรมการฝา่ ยพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาและคณุ ภาพชวี ติ ไดศ้ กึ ษาหลกั สตู รของกมั พชู าพบวา่ ในหลกั สตู ร ของกัมพูชามีวิชานาฏศิปล์และดนตรีประจ�ำชาติสัปดาห์ละ ๑ ช่ัวโมง กอปรกับได้ทราบว่ารัฐบาลกัมพูชาเองได้แสดง ความห่วงใยในศิลปวัฒนธรรมประจ�ำชาติ ต้องการท่ีจะอนุรักษ์และสืบทอดต่อไป การพระราชทานความช่วยเหลือ ทางด้านนาฏศิลป์และดนตรปี ระจำ� ชาติ จงึ ไดเ้ รม่ิ ขึ้นในปี พทุ ธศักราช ๒๕๔๗ ในปัจจุบัน นาฏศิลป์และดนตรีประจ�ำชาติได้รับการจัดการเรียนการสอนและความสนใจมาก องค์การสหประชาชาติได้เคยให้เงินสนบั สนนุ และชมุ ชนได้เขา้ มามีส่วนรว่ มอย่างดียิง่ 76 สารานกุ รมการศึกษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน โครงการพิเศษ : โครงการยวุ วิจัย ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความส�ำคัญ ในเร่ืองการอนรุ กั ษโ์ บราณสถาน ดงั กระแสพระราชดำ� รัสเม่อื วนั ศกุ ร์ที่ ๒ กุมภาพนั ธ์ พุทธศกั ราช ๒๕๔๔ เมือ่ คร้งั ทรง เป็นประธานการประชมุ คณะกรรมการโครงการทงั้ ๒ ฝา่ ย ซง่ึ มีความตอนหนง่ึ วา่ “การอนุรักษ์โบราณสถาน โรงเรียนพระราชทานแห่งนี้อยู่ใกล้กับปราสาทซ็อมโบร์ ซ่ึงเป็นสถานที่ท่องเท่ียว แห่งหน่ึงของราชอาณาจักรกัมพูชา นักเรียนและชุมชนน่าจะได้รับการปลูกฝังให้รักและหวงแหนโบราณสถานน้ันและ มคี วามรูพ้ อทจ่ี ะเป็นมคั คุเทศก์อธิบายใหน้ ักท่องเที่ยวฟังได้” ณ ที่ตั้งของวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลมีโบราณสถานส�ำคัญ คือ ปราสาทซ็อมโบร์ ซ่ึงเป็นโบราณสถานคู่บ้าน คเู่ มอื งอกี แหง่ หนงึ่ ปราสาทสมโบรไ์ พรกกุ หรอื ปราสาทซอ็ มโบรไ์ พรกกุ ห์ หมายความถงึ สถานทเ่ี คารพสกั การะในปา่ ใหญ่ ในภาษาเขมร สมโบร์ หรือ ซอ็ มโบร์ แปลว่า อุดมสมบรู ณ์ดว้ ยป่า หรอื ป่าใหญ่ สว่ นคำ� ว่า กุก หรอื กกุ ห์ ทีเ่ ขยี นตามกัน ต่อมาในปัจจบุ นั มาจากรากศพั ทค์ ำ� เดิมวา่ “กหุ ์” แปลว่า สถานทเี่ คารพสกั การะ รวมความวา่ ปราสาทซอ็ มโบรไ์ พรกกุ ห์ เป็นสถานท่ีเคารพสักการะอนั ศักด์สิ ทิ ธิใ์ นปา่ ใหญข่ องราชธานอี ิสานปรุ ะสมัยอาณาจักรเจนละ เมือ่ ปีพุทธศกั ราช ๒๕๕๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี มพี ระราชดำ� รฯิ ใหน้ �ำคณะครู และนกั เรยี นวทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล เขา้ รว่ มโครงการยวุ วจิ ยั สำ� หรบั เยาวชนไทย-กมั พชู า ซง่ึ เปน็ การดำ� เนนิ การตอ่ เนอ่ื งจาก การจดั กจิ กรรมระหวา่ งเยาวชนไทย-กมั พชู า โดยนำ� ผลของการวจิ ยั จากโครงการศกึ ษาความเชอื่ มโยงของวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ สมัยอดีตถึงปัจจุบัน มาช่วยขับเคลื่อนการด�ำเนินกิจกรรมวิจัยของเยาวชนไทย-กัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพอื่ พฒั นาความสมั พนั ธเ์ ยาวชนไทย-กมั พชู า ในเชงิ การศกึ ษาวจิ ยั รว่ มกนั และการแบง่ ปนั ความรซู้ งึ่ กนั และกนั โดยเฉพาะ การสรา้ งความเขา้ ใจทางวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ตา่ ง ๆ รจู้ กั สถานทส่ี ำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ โบราณคดใี นทอ้ งถนิ่ ซง่ึ มรี ากฐาน ร่วมกันมาแต่โบราณให้แก่เยาวชนของกัมพูชาอีกทางหน่ึง จึงได้จัดให้ครูและนักเรียนวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลที่เข้าร่วม โครงการยุววิจยั เขา้ รว่ มการประชุมวชิ าการและการน�ำเสนอผลงานยุววจิ ัยสำ� หรับเยาวชนไทย-กัมพูชา 77 สารานุกรมการศึกษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ในส่วนของนักเรียนวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลเองนั้น ในระยะเริ่มต้น โครงการนี้ด�ำเนินไปด้วยดี และเป็นที่น่ายินดี ท่ีนักเรียนและครูของวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับท่ีตั้งกรุงอิสานปุระ ซ่ึงวัตถุประสงค์หลัก ในการดำ� เนินโครงการ คือ ๑. ศึกษาคน้ ควา้ เกีย่ วกบั ทีต่ ้งั กรุงอสิ านปรุ ะ ๒. ศกึ ษาคน้ ควา้ เกี่ยวกับปราสาทโบราณ ๓. ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกบั ต้นไม้ ๔. ศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกบั ขนบธรรมเนียม ๕. ศกึ ษาคน้ คว้าเกยี่ วกับวิถกี ารดำ� เนนิ ชีวติ ของประชาชน จากการทไ่ี มเ่ คยรจู้ กั และเขา้ ใจประวตั ศิ าสตรแ์ ละวถิ ชี วี ติ ของบรรพบรุ ษุ ของตน โครงการนกี้ อ่ ใหเ้ กดิ ความซาบซงึ้ และสรา้ งความตระหนกั ถงึ ความสำ� คญั ของปราสาทซอ็ มโบรเ์ พม่ิ มากขน้ึ อนั จะนำ� ไปสจู่ ติ สำ� นกึ ทจ่ี ะอนรุ กั ษแ์ ละหวงแหน มรดกของชาติตนในท่สี ดุ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงปลูกฝังความรู้ ด้านโบราณคดี ด้วยวิธีวิจัยท่ีสนุกสนาน อันจะน�ำไปสู่ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น สถานที่ส�ำคัญ ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีในท้องถ่ิน การปลูกฝังจิตส�ำนึกในการช่วยกันอนุรักษ์โบราณสถาน นอกเหนือจากการ นำ� ความร้ปู ระสบการณไ์ ปขยายผลใหแ้ ก่ ครู นกั เรียน และชุมชนตำ� บลซอ็ มโบร์ ตอ่ ไป 78 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
การจัดการศึกษาตามแนวพระราชด�ำริฯ ดังกล่าวน้ี ประสบความส�ำเร็จเป็นรูปธรรมท่ีชัดเจน โดยมีองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ สถาบันการศึกษาและชุมชนทั้งในราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาเข้ามามีส่วนร่วม ในการด�ำเนินการ โดยมีคณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนของวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียล มีส่วนร่วมส�ำคัญในการด�ำเนินการ ท�ำใหเ้ กดิ อาชีพ และสรา้ งรายได้ใหก้ ับผู้บริหาร ครู และนกั เรยี นของวทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล ตลอดจนประชาชนในชมุ ชน อันจะน�ำไปสู่การพัฒนาทั้งคุณภาพการจัดการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพ่ือประโยชน์สุขของชาวกัมพูชา ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นมิตรท่ีดีต่อกันของประชาชนทั้งสองประเทศอย่างย่ังยืนต่อไป ดังกระแส พระราชดำ� รัสองค์หน่ึงว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในน้�ำใจไมตรีของรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา และมีใจปรารถนาที่จะท�ำสิ่งใดส่ิงหน่ึง เป็นการสนองตอบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดดีไปกว่าการส่งเสริมการศึกษา เพ่ือให้เยาวชนมีความรู้และมีอนาคต จึงได้คิดโครงการสร้างสถานศึกษาขึ้น ณ ท่ีน้ี... ข้าพเจ้าหมายใจว่าวิทยาลัยก�ำปงเฌอเตียลนี้ จะเป็นเสมือนอนุสรณ์ แห่งสายสัมพันธอ์ ันม่ันคงและยง่ั ยนื ระหวา่ งเราสองประเทศสบื ไปตราบนานเท่านาน...” (สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี, ๒๕๕๑) บรรณานุกรม คณะกรรมการโครงการ โรงเรยี นพระราชทานในราชอาณาจกั รกมั พชู า. (๒๕๔๙). สายใยไทย-กมั พชู า: วทิ ยาลยั กำ� ปงเฌอเตยี ล. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . 79 สารานกุ รมการศึกษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
วิทยาลยั ในวัง คุณเพญ็ ศรี เขียวมสี ่วน ความหมาย ความเป็นมาของวิทยาลัยในวัง นายเกรียงไกร วิศวามิตร์ ต�ำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิเคราะห์นโยบาย และแผน สำ� นกั พระราชวัง ไดเ้ ขียนเร่ือง การจัดตงั้ วทิ ยาลัยในวัง เพอ่ื พิมพใ์ นหนังสือ เร่ืองเล่าในวงั วา่ ในสมัยน้ัน สถานท่ีท่ีจะอบรมกุลธิดาและสตรียังไม่มีในประเทศไทย บรรดากุลสตรีและสตรีได้เรียนรู้ มารยาทของสตรี การครองเรือน และการช่างประดิษฐ์ต่าง ๆ ตลอดท้ังการศึกษาภาษาศาสตร์จากราชส�ำนักฝ่ายใน ในพระบรมมหาราชวังทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ บรรดาเสนาบดีและขุนนางผู้ใหญ่จึงนิยมส่งกุลธิดาของตนเข้าอบรมและเรียนรู้ มารยาทของสตรแี ละการชา่ งสตรตี า่ ง ๆ จากราชสำ� นกั เจา้ นายฝา่ ยใน พระบรมมหาราชวงั ชนั้ ในจงึ เปรยี บเสมอื นโรงเรยี นการเรอื น และโรงเรยี นการช่างสตรี (Finishing School) ของกลุ สตรใี นยุคนนั้ 80 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
เม่ือปี พุทธศักราช ๒๕๒๕ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชบัญชาให้ฟื้นฟู โรงเรยี นพระตำ� หนกั สวนกหุ ลาบ ในพระบรมมหาราชวงั เพอื่ การศกึ ษาของเยาวชนและดำ� เนนิ รอยตามพระยคุ ลบาทสมเดจ็ พระปิตามหัยกา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงสถาปนาโรงเรียนนี้เป็นคร้ังแรก ในการเฉลิมฉลอง สมโภชกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ๒๐๐ ปี เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๒๗ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลท่ี ๗ เสด็จสวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั จงึ มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ำ� นกั พระราชวงั จดั การพระบรมศพ ถวายพระเกยี รตยิ ศ ตามโบราณราชประเพณี ประดิษฐานพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีพระพธิ ีธรรมสวดพระอภิธรรมท้ังกลางวันกลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าและเพลมกี �ำหนด ๑๐๐ วัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ถวายภตั ตาหารแด่พระพธิ ธี รรมในตอนเช้าทกุ วนั ทอดพระเนตรภตั ตาหารคาวหวานทพ่ี นักงานฝา่ ยในทรงประเคนประกอบข้นึ เป็นส�ำรับนั้นไม่เคยซ้�ำกันเลย ทรงสนพระราชหฤทัยถึงกับเสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตรการประกอบอาหารท่ี “โรงวิเสท” ในพระบรมมหาราชวัง การได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตรในคร้ังน้ัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงค�ำนึงถึงงานช่างประดิษฐ์ของสตรีท่ีมีอยู่หลายแขนง ซ่ึงล้วนแต่เป็นงานท่ีต้องใช้ฝีมืออันละเอียดอ่อน แสดงออกทางศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาล และทรงปริวิตกกังวลพระราชหฤทัยเมื่อได้ทราบ ฝ่าละอองพระบาทว่า สตรีท่ีมีความรู้เช่ียวชาญทางช่างนับวันจะหมดไป ที่มีชีวิตอยู่น้ันก็มีอายุและชราภาพมาก สมควร ที่จะถา่ ยทอดความรู้ใหแ้ ก่อนชุ นรุน่ หลงั ตอ่ ไปกจ็ ะเป็นประโยชน์ไม่น้อย 81 สารานุกรมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ต่อมา ได้มีพระราชบัญชาให้ส�ำนักพระราชวัง ดำ� เนนิ การจดั ตงั้ โรงเรยี นผใู้ หญป่ ระเภทวชิ าชพี ไมเ่ กบ็ เงนิ บำ� รงุ การศกึ ษาขน้ึ ในบรเิ วณพระบรมมหาราชวงั ฝา่ ยใน ถนนมหาราช แขวงพระราชวงั เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร โดยใช้ช่ือว่า “โรงเรียนผู้ใหญ่พระต�ำหนักสวนกุหลาบ (วิทยาลัยในวัง)” (Phratamnak Suankulab Adult Education School) สงั กัด กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ืออนุรักษ์และเผยแพร่ให้ประชาชนตระหนัก ในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทย สนับสนุน ให้มีการถ่ายทอดความรู้ความสามารถและทักษะให้แก่สตรี จนสามารถน�ำไปประกอบอาชีพเพอ่ื พัฒนาคุณภาพชวี ติ นอกจากน้ี นายเกรียงไกร วิศวามิตร์ ยังได้เล่าถึง ที่มาของวิทยาลัยในวังว่า ก่อนที่จะมีการจัดตั้งโรงเรียน ส�ำนักพระราชวังได้ปรึกษาไปยังกรมการศึกษานอกโรงเรียน ซ่ึงขณะนั้นมี นายโกวิท วรพิพัฒน์ เป็นอธิบดีกรมการศึกษา นอกโรงเรียน โดยกล่าวถึงลักษณะของการเปิดสอนผู้เรียน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ดังน้ัน การตั้งช่ือสถานศึกษาก็จะต้องแสดงว่า สงู กว่าโรงเรียนทวั่ ไป ซ่งึ เป็นการใหเ้ กยี รตแิ กส่ �ำนกั พระราชวัง จงึ ให้ใชค้ ำ� ว่า วทิ ยาลัยในวัง เปน็ ชื่อของโรงเรยี นด้วย โรงเรียนผู้ใหญ่พระต�ำหนักสวนกุหลาบ (วิทยาลัยในวัง) ได้เปิดท�ำการสอนเม่ือวันท่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๒๙ รบั นกั ศกึ ษาเฉพาะสตรี สอนวิชาชีพ ๓ แผนกวิชา คือ ๑. อาหารและขนม ๒. ช่างดอกไม้สด ๓. ชา่ งปักสะดึง เป็นหลักสูตรวิชาละ ๑ ปี หรือ ๘๐๐ ช่ัวโมง แบ่งเป็นภาคเรียนที่ ๑ หลักสูตรชั้นต้น ๔๐๐ ชั่วโมง และ ภาคเรียนที่ ๒ หลักสูตรชั้นสูง ๔๐๐ ช่ัวโมง ฝึกงาน ๒๐๐ ช่ัวโมง และมีวิชาเลือกให้นักศึกษาเลือกเรียนอีก ๑ วิชา จาก ๕ วิชา ๆ ละ ๔๐ ชว่ั โมง คอื ๑. การพับผา้ เช็ดหน้าเปน็ ตัวสตั ว์ ๒. การประดษิ ฐ์ใบตอง ๓. การประดิษฐบ์ ายศรีจากใบตอง ๔. การทำ� เครอื่ งหอม ๕. การท�ำเบเกอร่ี 82 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
สถานที่ตั้งของโรงเรียนได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคาร ซ่ึงเป็นห้องเครื่องของสมเด็จ พระศรสี วรนิ ทิรา บรมราชเทวี พระพันวสั สาอัยยกิ าเจ้า ในเขตพระราชฐานช้นั ในเป็นอาคารเรยี น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ คุณเพ็ญศรี เขียวมีส่วน หัวหน้าแผนกพระราชฐานชั้นในในขณะนั้น เป็นครูใหญ่ บุคลากรครผู ู้ท�ำการสอนส่วนใหญเ่ ปน็ ขา้ ราชบริพารของฝา่ ยพระราชฐานชั้นใน ที่มีความเชยี่ วชาญในสาขางานชา่ งตา่ ง ๆ ผลดั เปล่ียนกันมาสอน ส่วนแผนกวชิ าอาหารและขนมไดเ้ ชิญอาจารยผ์ ทู้ รงคณุ วุฒิจากสถาบนั อื่น ๆ มาชว่ ยสอนอกี ดว้ ย ต่อมา เมอื่ พุทธศกั ราช ๒๕๓๒ ไดเ้ ปิดรบั นักศกึ ษาเพม่ิ ขึ้น จงึ ไดร้ ับพระราชทานพระราชานุญาต ยา้ ยอาคารเรียน มาท่ีต�ำหนักพระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา และในปีน้ี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชด�ำริ เก่ียวกับศิลปะโบราณท่ีมีอยู่ในพระบรมมหาราชวัง และท่ีพบตามสถานที่ท่ัวไปว่า มีความจ�ำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องอนุรักษ์ ให้คงอยู่ต่อไป จึงทรงเห็นสมควรจัดให้มีการเรียนรู้และฝึกอบรมงานช่างฝีมือต่าง ๆ จนสามารถน�ำมาใช้ในงานอนุรักษ์ ศิลปะโบราณวัตถุได้ ส�ำนักพระราชวังจึงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดต้ัง โรงเรียนผู้ใหญ่พระต�ำหนักสวนกุหลาบ (วิทยาลยั ในวังชาย) ข้ึนในพระบรมมหาราชวัง และเรม่ิ ท�ำการเรยี นการสอนเมือ่ พุทธศกั ราช ๒๕๓๒ วิทยาลัยในวัง จึงเป็นโรงเรียนผู้ใหญ่พระต�ำหนักสวนกุหลาบ (วิทยาลัยในวังหญิง) และโรงเรียนผู้ใหญ่ พระตำ� หนักสวนกหุ ลาบ (วิทยาลัยในวังชาย) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้หออุเทสทักษิณา เป็นอาคารเรียน ตลอดจนทรงพระเมตตาพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองคส์ นับสนนุ การด�ำเนินกิจการด้านต่าง ๆ ของท้ัง ๒ โรงเรียน อีกท้ังได้เสด็จพระราชด�ำเนินมาพระราชทานประกาศนียบัตรแก่นักศึกษาท่ีจบหลักสูตรวิชาชีพ เป็นประจ�ำทุกปี 83 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
โรงเรียนชา่ งฝมี อื ในวัง (ชาย) มีหลักสูตร ประกอบด้วยวิชาตา่ ง ๆ ดงั น้ี - วิชาเอก (เลือก ๑ สาขาวิชา วิชาละ ๘๐๐ ช่ัวโมง) ได้แก่ งานเขียน งานปั้น งานแกะสลัก งานประดับมุก งานลายรดน�ำ้ งานหัวโขน - วชิ าบังคบั ได้แก่ งานดนตรใี นพิธีหลวง (๑๐๐ ชวั่ โมง) - วิชาเลือกเสรี (เลือกเรยี น ๑ วชิ า วิชาละ ๑๐๐ ช่ัวโมง) ไดแ้ ก่ งานลงรกั ปิดทอง งานแทงหยวก งานเขยี นสนี ้�ำ งานเครอ่ื งปั้นดินเผา - วชิ าเสรมิ บงั คับเรียน ไดแ้ ก่ วชิ าประวัติศาสตรศ์ ิลปะ และวชิ าวาดเส้น คณุ สมบัตขิ องผู้สมัครเรยี น - อายุไมต่ ำ่� กวา่ ๑๕ ปี - ส�ำเรจ็ การศึกษาไม่ต่ำ� กวา่ มธั ยมศกึ ษาตอนต้นหรือเทยี บเท่า - มคี วามสนใจและถนัดงานช่าง ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนชื่อท้ัง ๒ โรงเรียน เป็น โรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) (Royal Traditional Thai Crafts School For Women) และโรงเรียนช่างฝีมอื ในวัง (ชาย) (The Royal Craftsmen School) บรรณานุกรม เกรยี งไกร วศิ วามติ ร.์ (๒๕๕๐). เรอ่ื งเลา่ ในวงั . พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๒, กนั ยายน ๒๕๕๗. กรงุ เทพมหานคร: สำ� นกั พระราชวงั . http://www.rcmsc.com/ 84 สารานุกรมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน วทิ ยาลัยราชสดุ า มหาวิทยาลัยมหิดล: ราชสดุ า จากสรอ้ ยพระนามาภไิ ธย มาเป็นมงคลนาม ของสถาบนั วชิ าการระดบั ชาติ ศาสตราจารยเ์ กียรติคณุ นายแพทย์พนู พิศ อมาตยกลุ ค�ำว่า “ราชสุดา” นี้ เป็นมหามงคลนาม มีต้นก�ำเนิดจากสร้อยพระนามาภิไธย ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทางราชการได้บันทึกพระนามลงในราชกิจจานุเบกษาในปีที่ทรงพระราชสมภพน้ัน และด้วย พระเมตตาเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๘ ทรงเห็นว่าการศึกษาของคนพิการของไทย ยังไปไกล ไม่ถึงระดับอุดมศึกษา จึงทรงมีรับส่ังให้เชิญ ศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ ภมรประวัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดลสมัยน้ัน ให้เข้าเฝ้า เพื่อทรงปรึกษาหารือถึงโอกาสที่มหาวิทยาลัยมหิดลจะสร้างวิทยาลัยส�ำหรับคนพิการขึ้นท่ีต�ำบลศาลายา และทรงรบั วา่ จะทรงเปน็ องคอ์ ปุ ถมั ภ์ เมอ่ื มหาวทิ ยาลยั มหดิ ลไดด้ ำ� เนนิ การเตรยี มงานจนเกดิ เปน็ โครงการทช่ี ดั เจนแลว้ จงึ ได้พระราชทานสร้อยพระนามน้ี ให้เป็นมงคลนามของสถาบันอุดมศึกษาส�ำหรับคนพิการ ช่ือ วิทยาลัยราชสุดา ตั้งอยู่ท่ีมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ให้วิทยาลัยน้ี เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา 85 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ด�ำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิต และการสนับสนุนศึกษา ท�ำงานวิจัยเก่ียวกับคนพิการ อีกท้ังโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นนาม ของมูลนิธิราชสุดา ด้วย เพื่อให้เป็นสถาบันท่ีจะโปรดเกล้าฯ ให้มีกองทุนเป็นก�ำลังส�ำคัญ ในการสนับสนุนการท�ำงาน ของวิทยาลัยราชสุดาต่อไป ได้ทรงพระกรุณาด�ำรงต�ำแหน่งองค์ประธานมูลนิธิราชสุดา มาตั้งแต่ก่อต้ัง ในปี ๒๕๓๒ จนถึงปัจจุบันน้ี โดยมีเงินทุนก่อต้ังขั้นต้น ด้วยเงินพระราชทานจากพระองค์ จ�ำนวน ๒๐ ล้านบาท แล้วรับเงินสมทบ จากผู้มีจิตศรัทธาถวายโดยเสด็จพระราชกุศล เงินบริจาคที่ก�ำหนดให้จัดตั้งเป็นกองทุนหลายกองทุนเพื่อสนับสนุนงาน การศกึ ษาและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ลู นธิ นิ ี้ ทำ� หนา้ ทอ่ี ปุ ถมั ภค์ ำ้� ชกู จิ การนานาของวทิ ยาลยั ราชสดุ า ด้วยเหตนุ จี้ งึ มีสถาบนั สองแห่งในนามเดียวกัน เกิดพร้อมกัน เม่ือวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๒ โดยทั้งสองสถาบัน มที ่ีตงั้ อยูท่ ต่ี ำ� บลศาลายา อำ� เภอพทุ ธมณฑล จังหวดั นครปฐม ทว่ามไิ ดอ้ ยูใ่ นอาณาเขตทด่ี ินผนื เดียวกัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีความคุ้นเคยกับคนพิการทุกประเภทมาตั้งแต่ ยงั ทรงพระเยาว์ ดว้ ยเหตทุ เ่ี มอื่ ทรงพระเยาว์ ทกุ ๆ ปใี กลว้ นั เฉลมิ พระชนมพรรษาวนั ที่ ๑๒ สงิ หาคม สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้คนพกิ ารทกุ ประเภทจ�ำนวนมาก ผลัดกันไปเข้าเฝา้ รบั พระราชทาน เลย้ี งอาหาร พระองคม์ รี บั สง่ั วา่ ทรงรจู้ กั คนพกิ ารดมี ากตงั้ แตค่ รง้ั ทท่ี รงเรยี นชนั้ อนบุ าลโรงเรยี นจติ รลดา ไมเ่ คยทรงรสู้ กึ กลวั หรือนึกรังเกียจความผิดปกติหรือความพิการเหล่านั้นเลย ต่อมาเม่ือได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ แปรพระราชฐานไปตา่ งจงั หวดั ทกุ ๆ ภาคของประเทศ จะมรี าษฎรและคนพกิ ารมาเขา้ เฝา้ รับเสด็จเสมอ เม่ือทรงพบคนพิการ พระองค์จะทรงท�ำหน้าท่ีสอบถามถึงปัญหาในการด�ำรงชีวิต ทรงถามถึงโอกาส ที่เขาจะได้เข้าโรงเรียน โอกาสที่ได้พบแพทย์เพ่ือการรักษาแก้ไขความพิการเพื่อฟื้นฟู รวมทั้งเรื่องอุปกรณ์เครื่องช่วย อ�ำนวยความสะดวกในการเดินทาง ในการด�ำรงชีวิตและช่วยการศึกษา มีหลายคนท่ีทรงรับไว้รักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วย ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยจะทรงจัดส่งเขาไปพบแพทย์ผู้เช่ียวชาญ ณ โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน พระราชทาน คา่ รักษาพยาบาล คา่ ยานพาหนะ จนกว่าการรักษาพยาบาลจะเสรจ็ สนิ้ จากน้ันยังทรงตดิ ตามพระราชทานความช่วยเหลอื ต่อไปอีกจนถงึ เร่ืองการศึกษาวชิ าชพี และการท�ำงานเลย้ี งชพี มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ณัฐ ภมรประวัติ ซ่ึงเป็นอธิการบดีระหว่างปี พุทธศักราช ๒๕๓๒-๒๕๓๔ ไดร้ บั พระราชดำ� รใิ นการจดั การศกึ ษาแกค่ นพกิ าร โดยไดใ้ ชเ้ งนิ งบประมาณของรฐั บาลเปน็ งบผกู พนั นาน กว่า ๖ ปี ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ ๑๐ ปี และด้วยเหตุที่การเรียนในระดับอุดมศึกษาน้ี คนตาบอดและคนพิการ ทางการเคลอ่ื นไหว สามารถเรยี นปนกบั นกั ศกึ ษาปกตไิ ดอ้ ยา่ งดี จงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั เฉพาะหลกั สตู รพฒั นางานอดุ มศกึ ษา คนหูหนวกขึ้นเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับครูอาจารย์ชาวต่างประเทศจากอเมริกา ออสเตรเลีย และญ่ีปุ่น มาเริ่มต้นงานการเรียนการสอนคนหูหนวก มีงานการผลิตล่ามภาษามือ รับคนพิการทางสายตาและพิการ ทางการเคลอ่ื นไหวเขา้ มาศกึ ษาเลา่ เรยี นในระดบั ปรญิ ญาโท ตง้ั แตม่ อี าคารเพยี งสองหลงั จนงานกอ่ สรา้ งเรยี บรอ้ ยกลายเปน็ กลมุ่ อาคารขนาดใหญใ่ นวทิ ยาลยั ราชสดุ ารวม ๕ อาคารขนาดใหญ่ ทง้ั หมดตง้ั อยบู่ นทดี่ นิ ฝง่ั ทศิ ใตข้ องพน้ื ทม่ี หาวทิ ยาลยั มหดิ ล ณ ศาลายา มีอาคารการเรียนการสอน ส�ำนักงาน ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการ และหอพักส�ำหรับคนพิการ ๓ หอ ตั้งอยู่ บนถนนสายพระป่ินเกลา้ -นครชยั ศรี (ตอ่ มาเปลย่ี นชือ่ เป็นถนนบรมราชชนนี) ติดกับที่ดนิ ของพทุ ธมณฑล 86 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
สังเขปเรอื่ งการเร่ิมงานหูหนวกศกึ ษา คนหหู นวกและเปน็ ใบม้ าแตก่ ำ� เนดิ นน้ั กวา่ จะเรยี น ในระดับมัธยมจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ก็ยากนักหนาแล้ว ส�ำคัญมาก คือ ปัญหาความไม่พร้อมที่จะมาเรียนต่อในระดับ มหาวทิ ยาลยั จากงานวจิ ยั พบวา่ นกั เรยี นทจ่ี บชน้ั มธั ยมศกึ ษา ปที ่ี ๖ จากโรงเรยี นโสตศกึ ษาแลว้ การสอื่ สาร การอา่ น การเขยี น กวา่ ๖๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ ยงั มปี ญั หาเรอื่ งการอา่ นหนงั สอื เปน็ อนั มาก คอื อา่ นไดไ้ มแ่ ตกฉาน อา่ นไมเ่ ขา้ ใจ ทหี่ นกั ไปกวา่ นน้ั เขยี นได้ ไมค่ ลอ่ ง อกี ทง้ั ความสามารถในการใชภ้ าษามอื สอื่ สารทางวชิ าการ ภาพพระราชทาน ยงั ร้แู ละใช้การไดจ้ ำ� กดั มาก โอกาสทจี่ ะเรียนไดจ้ ึงต้องใชล้ า่ มภาษามอื ชว่ ยตลอดเวลา และใชล้ า่ มทร่ี ภู้ าษามอื ทกุ สาขาวชิ า ทเี่ รยี น จงึ จะพอมหี วงั ทจ่ี ะเรยี นได้ ยงิ่ ไปกวา่ นนั้ เมอ่ื เขา้ มาเรยี นในมหาวทิ ยาลยั แลว้ ยงั ตอ้ งชว่ ยสอนภาษาไทย ภาษาองั กฤษ เพ่มิ เติมใหอ้ กี เป็นอนั มาก เมื่อขอพระราชทานพระฤกษ์ วันเสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงวางศิลาพระฤกษ์ ก่อตั้งอาคารอ�ำนวยการ วิทยาลัยราชสดุ านั้น ก็พระราชทานวันอังคารที่ ๖ เดือนเมษายน ๒๕๓๔ ซงึ่ ตรงกับวันข้ึน ๑๕ ค�ำ่ และตรงกับวนั ทร่ี ะลกึ มหาจกั รเี ปน็ วนั สำ� คญั ของชาติ สว่ นวนั ทพี่ ระราชทานชอ่ื “ราชสดุ า” กเ็ ปน็ วนั สำ� คญั ทางพระพทุ ธศาสนา คอื วนั วสิ าขบชู า ขนึ้ ๑๕ คำ�่ เชน่ เดยี วกนั จงึ ยดึ วนั กอ่ กำ� เนดิ ของวทิ ยาลยั แหง่ นเ้ี ปน็ วนั องั คารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔ สปี ระจำ� ของวทิ ยาลยั จึงเป็นสชี มพอู อ่ นของวันองั คาร รว่ มกับ สมี ่วงสสี ญั ลกั ษณ์ประจำ� พระองค์ของทลู กระหมอ่ ม พระราชด�ำริและการด�ำเนินการตามพระราชประสงค์น้ี เกิดข้ึนก่อนท่ีรัฐบาลของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี นายอานันท์ ปันยารชุน จะประกาศพระราชกฤษฎีกาการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ซ่ึงประกาศใช้เม่ือวันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ จงึ นับว่าพระราชดำ� รินี้ ทนั สมัยและเป็นงานทพี่ ระราชทานก�ำเนดิ ด้วยพระทัยทเ่ี ป่ียมด้วยพระเมตตาอยา่ งแทจ้ รงิ และทรงเริ่มคิดและท�ำเป็นเร่ืองเป็นราวมาก่อนรัฐบาลจะด�ำเนินการออกพระราชบัญญัติดูแลคนพิการ มิใช่งานที่เกิดข้ึน ตามหลังการออกกฎหมายเหมอื นงานอ่ืน ๆ ที่รฐั เปน็ ผู้ส่งั การใหท้ ำ� ขนึ้ ต้ังแต่ปี ๒๕๓๕ วิทยาลัยราชสุดา เริ่มด�ำเนินโครงการด้วยเงินงบประมาณมาถมที่ดินด้วยเงิน ๓ แสนบาท และได้เริ่มรับลูกจ้างเข้ามาปฏิบัติการช้ันต้น ๒ คน คือ อาจารย์พิมพา ขจรธรรม วุฒิปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาความผิดปกติของการสื่อความหมาย จากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าท�ำงานเป็นคนแรก และได้นางสาววไิ ลลักษณ์ ววิ รรณ เขา้ มารบั หนา้ ทเ่ี จ้าหนา้ ท่ีพมิ พ์ดีด เป็นคนทส่ี อง โดยทางมหาวิทยาลยั มหิดล ได้แต่งตง้ั ให้ รองศาสตราจารยน์ ายแพทยพ์ ูนพิศ อมาตยกุล รักษาราชการในตำ� แหนง่ ผู้อำ� นวยการ 87 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ มาทรงวางศลิ าพระฤกษ์ ในวนั องั คารท่ี ๖ เมษายน ๒๕๓๖ เวลา ๗.๓๐ นาฬิกา ต่อมา วิทยาลัยราชสุดาได้รับงบประมาณผกู พนั เร่อื ยมาอีก ๕ ปี ด้วยเงนิ รวมกันกว่า ๑๗๐ ลา้ นบาท สามารถสรา้ งอาคารไดค้ รบตามแผนทกี่ ำ� หนดไว้ มบี รษิ ทั สถาปนกิ ๑๑๐ โดย คณุ เยย่ี ม วงศว์ านชิ ไดเ้ ขยี นแบบ รวมทั้งก่อนด�ำเนินการได้เดินทางไปดูงานการก่อสร้างวิทยาลัยคนพิการในประเทศญ่ีปุ่น กลับมาเขียนแบบกลุ่มอาคาร ให้วิทยาลัยราชสุดา งานเขียนแบบนั้นได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งส้ิน การกอ่ สร้างเรมิ่ ในปี ๒๕๓๖ ด�ำเนินงานในช่วง ๔ ปีแรกของวทิ ยาลัยราชสุดา อาคารหลังแรกที่สร้าง เปน็ ตึกอำ� นวยการ สูงสามช้ัน ขนาดพื้นท่ีใช้สอยประมาณ ๕,๐๐๐ ตารางเมตร อาคารน้ีสร้างเสร็จพร้อมหอพักอีกสามหลังในอีกสี่ปีต่อมา และยงั ใชง้ านมาจนทุกวนั นี้ 88 สารานุกรมการศึกษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ในระหว่างที่ก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างตึกอ�ำนวยการของวิทยาลัยราชสุดา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานเงนิ สดเพม่ิ เตมิ อกี จำ� นวน ๕ ลา้ นบาท เพอื่ ซอื้ อาคารตกึ แถว สี่ชั้นห้าคูหา ริมถนนพุทธมณฑลสาย ๔ แล้วพระราชทานเงินทุนอีก ๗ ล้านบาท รวมแล้ว ๑๒ ล้านบาท เพื่อ ตบแต่งภายในได้ใช้เป็นส�ำนักงานของมูลนิธิราชสุดา เปิดการเรียนการสอนให้คนพิการช่ัวคราว เป็นเวลานานถึง ๔ ปีเศษ รอให้สถานที่จริงก่อสร้างจนแล้วเสร็จ จึงได้ย้ายมายังสถานท่ีปัจจุบัน เม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ เป็นสมัยที่ รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลอง บญุ ญานนั ท์ เป็นผู้อ�ำนวยการ คนท่ี ๒ ของวทิ ยาลัยราชสุดา วิทยาลัยราชสุดาและมูลนิธิราชสุดา ได้ร่วมมือกับคนพิการท่ัวประเทศ ท�ำกิจกรรมเพื่ออ�ำนวยความสะดวก แก่คนพิการเรื่อยมา เม่ือปี พุทธศักราช ๒๕๔๔ องค์การสหประชาชาติ ได้มอบรางวัล The 5th Franklin Delano Roosevelt International Award 2011 นับเป็นรางวัลระดับโลกอันย่ิงใหญ่ที่แสดงว่า ประเทศไทยได้ท�ำงานในการ ให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการเป็นผลดีย่ิง และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นานาประเทศทั่วโลก งานนี้องค์การอนามัยโลก ได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปในงานดังกล่าว ณ มหานครนิวยอร์ค แต่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงรับรางวัลดังกล่าว ณ ท่ีประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ค สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับส่ังว่า ที่ประเทศไทยได้รับรางวัลคราวนี้เป็นเร่ืองควรแก่การยินดี ทั้งนี้เพราะกลุ่มคนพิการในประเทศไทย มีหลายกลุ่มด้วยกัน ผลักดันงานอย่างจริงจังและตั้งใจอยู่นานหลายปี ท�ำให้เกิดพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ กลุ่มคนตาบอดนั้น เก่งมาก เพราะมีคนรู้กฎหมาย รู้ระเบียบแบบแผนการท�ำงานของสมาคมคนพิการระดับโลกอย่างดี และรู้ภาษาดีกว่า คนพิการกลุ่มอ่ืน รู้ทันงานคนพิการของต่างชาติมาก่อนท่ีเราจะออกกฎหมายฟื้นฟูเป็นของเราเอง ได้ร่วมใจกัน ท�ำงานเก่ียวกับสิทธิและหน้าที่ท�ำงานได้ผลดีจนเห็นผลแล้วเขาก็ให้รางวัลเป็นเงินสดถึง ๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ เม่ือทรงรับมาแล้ว ก็ได้พระราชทานเป็นเงินทุนก่อต้ังมูลนิธิ APCD (Asia Pacific Center for the Disabled People) เป็นองค์การระหว่างประเทศย่านเอเชียแปซิฟิก เพื่อท�ำงานกับคนพิการ มีส�ำนักงานต้ังอยู่ในเขตบ้านราชวิถี กรุงเทพมหานคร และทรงเป็นองคป์ ระธานมลู นิธินี้ มาจนถงึ ทกุ วันนี้ เม่ือวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๔ สิบปีเต็มนับแต่ทรงเริ่มพระราชด�ำริเปิดโครงการ จนอาคารทั้งหมู่ ๕ หลัง สร้างเสร็จมีนักศึกษาเข้ามาเรียนในวิทยาลัยราชสุดาเรียบร้อย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีก็ได้ เสดจ็ พระราชด�ำเนิน มาทรงเปดิ วิทยาลยั ราชสุดาอยา่ งเปน็ ทางการ ทรงแสดงความยนิ ดกี บั ครหู หู นวกทเ่ี รยี นจบปรญิ ญาตรีแล้ว ไดอ้ อกไปสอนคนหูหนวกในโรงเรียนโสตศึกษาท่ัวประเทศ ได้ผลดมี าก 89 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน ทรงสนับสนนุ การศกึ ษาคนพกิ าร และสรา้ งอปุ กรณช์ ว่ ยการศึกษา สมเด็จพระเทพรัตราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเงินทุนผ่านมูลนิธิราชสุดา และเงินทุน ใหท้ ำ� งานวจิ ยั รว่ มกบั สำ� นกั งาน NECTEC กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ตลอดจนทำ� งานรว่ มกบั องคก์ ารโทรศพั ท์ และการสอ่ื สารแหง่ ประเทศไทยเพอ่ื ทำ� งานวจิ ยั สรา้ งอปุ กรณส์ ง่ิ อำ� นวยความสะดวกและคอมพวิ เตอรโ์ ปรแกรมหลายชนดิ เช่น โปรแกรมตาทิพย์ ท่ีอ่านหนังสือไทยและอังกฤษให้คนตาบอดฟังได้จนมีคนตาบอดเรียนจบปริญญาตรี โท และเอก ไปแลว้ เปน็ จ�ำนวนมาก นอกจากนี้ ยงั ผลติ หนังสอื เสยี ง (DAISY BOOK) โดยอ่านบันทกึ เสียงลงไว้ในแผน่ ดิสก์ (Disc) ชว่ ยผู้สูงอายุ ผพู้ กิ ารทางสายตา นำ� ไปเปดิ ฟงั หรอื เรยี นทบี่ า้ นเพอ่ื ใหส้ ามารถเรยี นรวู้ ชิ าการ และเพอื่ ชว่ ยใหไ้ ดร้ บั ความบนั เทงิ จากหนงั สอื นวนยิ ายตา่ ง ๆ ทงั้ เรยี นรจู้ ากหนงั สอื ตำ� ราเรยี นตา่ ง ๆ โดยใชอ้ ปุ กรณค์ อมพวิ เตอรช์ ว่ ยการอา่ นออกเสยี งใหฟ้ งั แทนการอา่ น ด้วยสายตา มีหนังสือให้บริการจ�ำนวนมากหลายหม่ืนเล่ม ทั้งยังสามารถเรียกฟังได้ทางโทรศัพท์พร้อมกันไม่น้อยกว่า ๕๐ สาย ผ่านระบบการฟังเสียงขององค์การโทรศัพท์อีกด้วย ทุก ๆ คืน จะมีคนตาบอดจ�ำนวนมาก ต่อโทรศัพท์เข้ามา ขอฟงั เสียงจากหนังสอื ตา่ ง ๆ ทใ่ี หบ้ รกิ ารผา่ นเคร่อื งโทรศพั ท์เปน็ จ�ำนวนมาก ตั้งแต่ทรงตั้งมูลนิธิราชสุดามาเม่ือปี ๒๕๒๘ ถึงปี ๒๕๕๘ เป็นเวลา ๓๐ ปีแล้วนั้น ได้ทรงสนับสนุน โดยพระราชทานทุนการศึกษา ได้เรียนหนังสือเพ่ิมเติมทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งพระราชทานทุนไปศึกษาดูงาน ตา่ งประเทศ โดยเฉพาะครู อาจารย์ ศษิ ยเ์ ก่า และเจ้าหน้าท่ีวิทยาลยั ราชสุดา รบั พระราชทานทนุ ไปแล้วมากกว่า ๔๘ ราย ทนุ ดูงานประมาณ ๑๐ ราย ใช้เงนิ พระราชทานไปแล้วกวา่ ๗ ลา้ นบาท โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ป็นทนุ ใหเ้ ปลา่ ไมต่ ้องใชค้ นื 90 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ปี ๒๕๕๘ วิทยาลัยราชสุดาและมูลนิธิราชสุดา มีอายุครบ ๓๐ ปีแล้ว ปัจจุบันวิทยาลัยราชสุดามีคณบดี คอื รองศาสตราจารย์ ดร.ทวี เชอื้ สวุ รรณทวี มนี ักศกึ ษาท้งั ระดบั ปริญญาตรี โท และเอก เรียนอยตู่ ลอดท้งั ปี มีจำ� นวนเปน็ รอ้ ย มีอาจารย์ระดับปริญญาเอกจ�ำนวนมากและข้าราชการที่ปฏิบัติงานในคณะจบปริญญาโทจ�ำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่า ๒๐ ปี ทเ่ี รม่ิ สอนคนหหู นวกนนั้ เราพฒั นาไปไดค้ อ่ นขา้ งชา้ ปญั หาทหี่ นกั มากคอื การสอน เราตอ้ งลงทนุ ลงแรงและใชเ้ วลา ท�ำงานมาก เพราะท�ำได้ยากกว่าสอนคนปกติหลายเท่านัก ปัญหาที่แก้ไม่ตกคือเร่ืองขาดครูอาจารย์ ในปัจจุบันได้ค้นพบ วิธกี ารเรยี นการสอนคนหูหนวกใหไ้ ด้ผลดแี ล้ว ไดส้ ง่ ครหู ูหนวกของเราออกไปทำ� งานในสว่ นภูมภิ าคไม่นอ้ ย สิบปีที่ผ่านมา นักศึกษาเก่งข้ึนและท�ำงานดีข้ึนเป็นล�ำดับ รู้อ่าน เขียนและใช้ภาษามือได้คล่องมากกว่า รนุ่ แรก ๆ เพราะเหตทุ ป่ี จั จบุ นั นี้ การสอ่ื สารภาษามอื ผา่ นโทรศพั ทม์ อื ถอื ทำ� ใหเ้ กดิ ความสะดวกและรวดเรว็ แลว้ เขา้ ใจกนั เร็วมากขึ้นอย่างมาก นักศึกษาของวิทยาลัยราชสุดาได้รับการฝึกทักษะการสื่อสารจนสามารถแสดงละครได้ เต้นร�ำได้ เล่านิทานประกวดกันได้อย่างสนุกสนาน เด็กหูหนวกของเราเข้าใจค�ำสวดมนต์ เพราะทุกคราวที่สวดมนต์ก็จะมี ผแู้ ปลภาษาบาลเี หลา่ น้ันออกมาเป็นภาษามือ จนเปน็ ทรี่ ู้กันว่า พระสงฆ์ทา่ นสวดมีความหมายวา่ อะไรบ้าง มูลนิธิราชสุดาได้รับพระราชทานพระเมตตาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาโดย สม�่ำเสมอ หลงั น�ำ้ ทว่ มใหญ่ เมื่อ พทุ ธศักราช ๒๕๕๔ กพ็ ระราชทานทนุ ให้ซอ่ มอาคารสถานท่ี งานฉลองพระราชสมภพ ครบ ๖๐ พรรษา ปี ๒๕๕๘ นี้ กท็ รงมพี ระราชดำ� ริ จะพระราชทานเงนิ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๕ ลา้ นบาท ใชใ้ นการปรบั ปรงุ เพม่ิ เตมิ อาคาร สถานท่ี อาจารย์ นักศึกษา และเจ้าหน้าท่ีในวิทยาลัยราชสุดาและมูลนิธิราชสุดาทุกคนที่ท�ำงานอยู่ภายใต้พระนามาภิไธย “ราชสดุ า” นี้ รสู้ กึ อบอนุ่ ภายใตพ้ ระมหากรณุ าธคิ ณุ เปน็ ลน้ พน้ และตงั้ ใจทำ� งาน ถวายใหด้ ที สี่ ดุ และโปรง่ ใสทส่ี ดุ เพอ่ื รกั ษา พระเกียรติยศแห่งพระนามาภิไธย เราหวังว่า “ราชสุดา” จะได้ประสบความส�ำเร็จในการเป็นผู้น�ำการศึกษาคนพิการ และในงานลา่ มภาษามือ ทั้งในบา้ นเราและในกลุ่มประเทศอาเซยี น และตงั้ ใจให้ “พระนามราชสุดา” น้ี เป็นที่ร้จู กั คุน้ เคย ไปไกลแสนไกล ทง้ั ทำ� ใหช้ ่อื เสยี งของมหาวิทยาลัยมหดิ ลและของประเทศไทย เปน็ ท่ีรู้จักไปทว่ั ทัง้ ภมู ิภาคดว้ ย บรรณานุกรม มลู นธิ ริ าชสดุ า. (๒๕๔๐-๒๕๕๘). รายงานการเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เปน็ องคป์ ระธานทปี่ ระชมุ มลู นธิ ริ าชสดุ า. (เอกสารอดั สำ� เนา). วิทยาลัยราชสุดา. (๒๕๔๔). หนังสือท่ีระลึกวันเสด็จพระราชด�ำเนิน ทรงเปิดวิทยาลัยราชสุดา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๐. หน้า ๙-๑๔๓. กรงุ เทพมหานคร : ห้างโอเดยี นสโตร.์ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี. (๒๕๔๗). เกียรติคุณของประเทศไทยในการด�ำเนินงานด้านคนพิการ เล่ม ๑ ๒ และ ๓. กรุงเทพมหานคร : บริษัท อมรนิ ทรพ์ ร้ินต้งิ แอนด์พับลชิ ชงิ่ . 91 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ภาพพระราชทาน วิศิษฏศลิ ปนิ ถวลั ย์ มาศจรสั “วิศิษฏศิลปิน” เป็นพระสมัญญา ท่ีคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ขอพระราชทานพระราชานุญาต ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายแดส่ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ดว้ ยมตอิ นั เปน็ เอกฉนั ทจ์ ากการประชมุ ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี ๑/๒๕๔๖ วนั ท่ี ๒๐ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๕๔๖ วันท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๔๖ นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโล่พระสมัญญา วิศิษฏศิลปิน ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา ดังค�ำกราบบังคมทลู ความวา่ “สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเปน็ วศิ ษิ ฏศลิ ปนิ ผมู้ พี ระอจั ฉรยิ ภาพ หลายสาขา อาทิ สาขาวรรณศิลป์ สังคีตศิลป์ ทัศนศิลป์ ทรงมีผลงานดีเด่นเป็นท่ียอมรับและเป็นท่ี ประจกั ษช์ ดั ในวงการศลิ ปะ ทรงเปน็ ปราชญท์ างวชิ าการ การบรหิ ารจดั การดา้ นวฒั นธรรมทม่ี คี ณุ ปู การ ต่อปวงชนชาวไทย อีกท้ังทรงเป็นอัครอุปถัมภกงานด้านศิลปวัฒนธรรมไทยสืบเนื่องมาโดยตลอด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาท่ีสุดมิได้ท่ีพระราชทาน พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร อันงดงาม แก่ประชาชนชาวไทย สมควรไดร้ ับการเฉลิมพระเกียรติใหป้ รากฏสืบไป” 92 สารานุกรมการศึกษาร่วมสมัย เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
พระสมัญญา “วิศิษฏศิลปิน” ดังกล่าว พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๕๔ ได้ให้ความหมายค�ำว่า วิศษิ ฏ และ ศลิ ปนิ ไวด้ ังน้ี วศิ ิษฏ ว.เลิศ ยอดเยย่ี ม เดน่ ดียงิ่ ประเสริฐ ศิลปิน ศิลปี [สินละ-] ผู้มีความสามารถแสดงออกซ่ึง คุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรม ประติมากรรม เป็นต้น และ มผี ลงานเป็นทยี่ อมรบั นับถอื จากสถาบนั ทางศลิ ปะแหง่ ชาติ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ ภาพพระราชทาน สยามบรมราชกมุ าร ี “วศิ ษิ ฏศลิ ปนิ ” พระราชกรณยี กจิ ชว่ งทรงศกึ ษาในระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สนพระราชหฤทัยศึกษาเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงาน ด้านศิลปะหลากหลายสาขามาแต่ทรงพระเยาว์ อาทิ ด้านดนตรีและนาฏศิลป์ ทรงสนพระราชหฤทัยศึกษาเรียนรู้ควบคู่กับ ด้านภาษาวรรณศิลป์ และวรรณกรรม มาแต่คร้ังทรงศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ณ โรงเรียนจิตรลดา กับพระอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา อาทิ ด้านภาษา วรรณศิลป์ และวรรณกรรม โดยมี นายก�ำชัย ทองหล่อ ถวายการสอน การอ่านท�ำนองเสนาะ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน การขบั รอ้ งเพลงไทย ดา้ นดนตรีไทย ทรงศึกษากับครูนิภา (ประคอง) อภัยวงศ์ และ ครูจินดา สงิ หรตั น์ คณุ หญิงไพฑรู ย์ กิตตวิ รรณ ถวายการสอนซอดว้ ง จะเข้ และสอนการขับรอ้ ง จ�ำนวน ๓ เพลง ไดแ้ ก่ เพลงลาวด�ำเนินทราย แขกไทร ๒ ชน้ั และเดีย่ วจนี ขิมใหญ่ ส่วนเพลงอื่น ๆ ทรงฟงั จากทา่ นอนื่ ๆ และทรงฝึกซอ้ มด้วยพระองค์เอง แม้จะยังทรงพระเยาว์ แต่ทรงสนทนาเชิงวิชาการเพ่ือแลกเปล่ียนความรู้กับท่านอาจารย์ภาวาส บุนนาค รองราชเลขาธกิ าร ซง่ึ เช่ียวชาญดา้ นดนตรไี ทยอยู่เสมอ อาจารยภ์ าวาส บนุ นาค ถวายการสอนซอดว้ ง เพลงแขกมอญบางขนุ พรหม ซอสามสาย เพลงขบั ไมบ้ ณั เฑาะว์ บหุ ลนั ลอยเลื่อน สรุ ินทราหู 93 สารานุกรมการศึกษารว่ มสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ด้านนาฏศิลป์ ครูสืบพงษ์ สิริสุขะ อาจารย์สอนนาฏศิลป์โรงเรียนจิตรลดา เป็นผู้ถวายการสอนแด่สมเด็จ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ซงึ่ ทกุ ปกี จิ กรรมสำ� คญั ทเ่ี ปน็ กจิ กรรมหลกั ประจำ� ปขี องโรงเรยี นจติ รลดา ไดแ้ ก่ กิจกรรมและการแสดงของนักเรียนประจ�ำปกี ่อนจะปิดภาคเรียนท่ี ๒ กิจกรรมดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะท่ีทรงศึกษา ณ เวลานั้นได้ทรงแสดงนาฏศิลป์ ร�ำสีนวล ระบ�ำกฤดาภินิหาร ทรงแสดงโขน โดยแสดงเป็นพระราม ซ่ึงบางครง้ั ทรงแสดงรว่ มกับสมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ เข้าพิธคี รอบครู ณ วิทยาลยั นาฏศลิ ป์ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “วิศษิ ฏศิลปนิ ” พระราชกรณยี กจิ ช่วงทรงศกึ ษาในระดับอุดมศกึ ษา เมอ่ื ทรงเขา้ รบั การศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษาทค่ี ณะอกั ษรศาสตร์ ภาพพระราชทาน จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเข้าชมรมดนตรีไทยสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท�ำให้ ทรงพบและศกึ ษาแนวทางดนตรใี หม่ ๆ กบั ครดู นตรไี ทย ทม่ี ชี อ่ื เสยี ง ของไทยอีกหลายท่าน อาทิ ทรงเรียนการขับร้องเพลงไทยกับ คุณครูเจริญใจ สุนทรวาทิน บุตรีของพระยาเสนาะดุริยางค์ (แชม่ สนุ ทรวาทนิ ) ปรมาจารยด์ า้ นดนตรไี ทยคนสำ� คญั คนหนงึ่ ของไทย ที่มีทางเพลงแตกต่างจาก นายก�ำชัย ทองหล่อ และคุณหญิงไพฑูรย์ กติ ตวิ รรณ ซงึ่ เปน็ ทางเพลงแบบจางวางทว่ั พาทยโกศล สว่ นครเู จรญิ ใจ สุนทรวาทนิ เป็นทางเพลงทีข่ บั ร้องแบบพระยาเสนาะดุรยิ างค์ การท่ีทรงมีโอกาสได้ศึกษาทางดนตรีกับครูดนตรีไทยถึง ๓ ท่าน ๓ แนวทางเพลง นับเป็นประสบการณ์ คร้ังสำ� คญั ทีไ่ ด้ทรงเรียนรู้เคล็ดลบั และวธิ ีการของครเู พลงไทยโดยตรงดว้ ยพระองคเ์ อง ประสบการณส์ ำ� คญั ในชมรมดนตรไี ทยสโมสรนสิ ติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั กค็ อื ชมรมฯ ดงั กลา่ วมกี ารบรรเลง ขบั รอ้ งเผยแพรท่ างสถานโี ทรทศั น์ วทิ ยุ และในตา่ งจงั หวดั อยา่ งสมำ�่ เสมอ ทำ� ใหพ้ ระองคท์ รงพบกบั ครดู นตรที มี่ คี วามสามารถสงู ท่านอ่ืน ๆ อีกหลายท่าน อาทิ ครูเมธา อยู่เย็น ครูระนาดเอก คุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ ได้ต่อเร่ืองซอถวายเป็นการเพิ่มเติม นอกจากน้ี ในชมรมดนตรีไทยสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ยังมีครูเบ็ญจรงค์ ธนโกเศศ ครูซอท่ีมีช่ือเสียง ทไ่ี ดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตเิ ปน็ ศลิ ปนิ แหง่ ชาตสิ อนดนตรไี ทยอยทู่ ช่ี มรมดนตรไี ทยสโมสรนสิ ติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และวิทยาลัยนาฏศิลปอ์ ยูใ่ นชมรมฯ ดงั กล่าวด้วย ทำ� ให้ทรงเรียนรแู้ ละเพิ่มพูนทกั ษะดา้ นดนตรีไทยอยา่ งรอบด้าน 94 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “วิศิษฏศิลปนิ ” พระราชกรณยี กจิ ช่วงทรงศกึ ษาดนตรี ณ วังคลองเตย เจา้ นายวงั คลองเตยดงั กลา่ วน้ี ไดแ้ กห่ มอ่ มเจา้ กรณกิ า จติ รพงศ์ พระธดิ าสมเดจ็ เจา้ ฟา้ ฯ กรมพระยานรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ์ และพระนัดดา หม่อมราชวงศ์เอมจติ ร จติ รพงศ์ และหม่อมราชวงศ์จักรรถ จิตรพงศ์ อดตี ปลดั กระทรวงวฒั นธรรม ครดู นตรไี ทยคนสำ� คญั ทถ่ี า่ ยทอดความรดู้ า้ นดนตรไี ทยและการแสดงตา่ ง ๆ ของ วงั คลองเตย มหี ลายคน อาทิ ครูมนตรี ตราโมท ครนู พ (รอ้ ยเอกนพ ศรีเพชรด)ี ครสู ิรชิ ัยชาญ ฟักจ�ำรูญ ครูสิริชัยชาญ ฟักจ�ำรูญ ถวายการสอนระนาด แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นเวลาเกือบปี โดยได้ทรงระนาดออกงานคร้ังแรก ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเพลง นกขมิ้น กับครูดนตรีอาวุโส และงานของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าที่ทรงบันทึกโดยบันทึกเร่ือง ณ สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๕ เนอื่ งในวนั ปยิ มหาราช จากนน้ั ทรงตรี ะนาดเอกในงานสำ� คญั ตา่ ง ๆ อาทิ งานมหกรรมดนตรไี ทยประถมศกึ ษา งานมหกรรม ดนตรไี ทยมัธยมศึกษา งานมหกรรมดนตรีไทยอุดมศึกษา งานสงั คตี สายใจไทย ฯลฯ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี “วิศษิ ฏศลิ ปิน” การทรงระนาดในตา่ งประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากทรงดนตรีไทยเน่ืองในโอกาสส�ำคัญต่าง ๆ ในประเทศไทยแล้ว พระองค์ยังทรงดนตรีไทยในนานาอารยประเทศเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ หลายวาระหลายโอกาส อาทิ ประเทศอังกฤษ สาธารณรัฐฝร่ังเศส โดยทรงน�ำคณะดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไปแสดง เทิดพระเกยี รตเิ น่ืองในงาน ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี การแสดงในครงั้ นนั้ ทรงขบั รอ้ ง ทรงระนาดเอก ทรงซอ ทรงสะลอ้ ในหลากหลายมติ ิ ไดร้ บั การถวายพระเกยี รติ ทรงเปน็ ศิลปนิ เม่ือครั้งทรงดนตรีที่ประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี หลังจากทรงดนตรีเสร็จแล้ว คุณหญิงบาบาร่า สไตนเล่ กงสุลกิตติมศักด์ิประจ�ำมิวนิก เจ้าภาพ ทูลเกล้าฯ ถวายเช็ค ๑ แสนยูโร (ส่ีล้านบาทไทย) ได้พระราชทานพระราชด�ำรัส ดว้ ยภาษาเยอรมัน ผู้ชมปรบมือถวายพระเกียรตดิ ้วยความช่ืนชมในพระอัจฉริยภาพอยา่ งสมพระเกยี รติ เรื่องการทรงดนตรีน้ี ประเทศที่มีอาณาจักรติดกับประเทศไทย อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา พระองค์เสด็จพระราชด�ำเนินไปบ่อยครั้งโดยทรงดนตรีในประเทศดังกล่าวเพื่อสานสัมพันธไมตรี อันดตี อ่ กนั เสมอมา 95 สารานกุ รมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
พระอัจฉรยิ ภาพดา้ นการทรงดนตรดี งั กลา่ วนี้ เม่ือวันท่ี ๘ กรกฎาคม ๒๕๓๕ คร้ังทรงไดร้ ับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการชุมชน มูลนิธิรามอนแมกไซไซ ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทูลขอพระราชทานให้ทรงระนาดในงานเล้ียงฉลอง ผไู้ ด้รับรางวลั ดังกล่าว ในครง้ั น้นั ทรงเพลงรำ� วงลอยกระทง โดยผู้ตามเสด็จฯ ชาวไทยรว่ มรอ้ งเพลงลอยกระทงเปน็ ที่ประทับใจของ ผรู้ ับรางวลั และผูร้ ว่ มงาน จากนน้ั ทรงเด่ียวระนาดเพลงเชดิ นอก ผู้รว่ มงานสดับตรบั ฟังดว้ ยความสนใจมากเปน็ พิเศษ หลังทรงระนาดจบ เมื่อเสด็จฯ ลงจากเวที ผู้รับรางวัลชาวอินเดียขอพระราชทานพระหัตถ์ข้ึนไปทูนไว้ บนศีรษะของตนเองพร้อมกราบบังคมทูลว่า ตนเองเป็นนักวรรณคดี ฟังระนาดแล้วเข้าใจความหมายของบทเพลง ที่ทรงเดี่ยวระนาด รู้เร่ืองหนมุ านก�ำลังจบั นางเบญจกาย รู้เรื่องตามบทเพลงที่ทรงเด่ยี วระนาดด้วยความซาบซึง้ นอกจากทรงดนตรีเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้แพร่หลายในนานาอารยประเทศแล้ว ได้พระราชทาน เครอ่ื งดนตรที งั้ ปพ่ี าทย์ เครอื่ งสาย ซอสามสาย ครบชดุ แกส่ ถานทตู ไทยในกรงุ ลอนดอน ประเทศองั กฤษ พรอ้ มทงั้ พระราชทาน ครผู ู้สอน ทำ� ให้คนไทยในประเทศองั กฤษ และพลเมืองของประเทศองั กฤษสนใจศกึ ษา ฝึกฝนดนตรไี ทยกนั มากย่ิงขึ้น สว่ นผทู้ สี่ นใจศกึ ษาเรยี นรแู้ ละฝกึ ฝนดนตรไี ทยดงั กลา่ ว โปรดใหจ้ ดั การไหวค้ รคู รอบครู ตามแบบแผนประเพณี และวัฒนธรรมไทยโดยถกู ต้องด้วย สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี “วศิ ิษฏศิลปิน” ทรงสรา้ งสรรค์ผลงานดา้ นวรรณศิลป ์ ผา่ นพระราชนิพนธ์ประเภทตา่ ง ๆ อยา่ งหลากหลาย นอกจากพระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นดนตรไี ทยแลว้ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสร้างสรรค์ผลงานด้านวรรณศิลป์ในหลากหลายรูปแบบ พระราชนพิ นธด์ งั กลา่ วประกอบดว้ ยพระราชนพิ นธด์ า้ นวรรณกรรมทงั้ รอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง วิชาการ บทความ สารคดี พระราชนิพนธ์แปล และเร่อื งประเภทอ่นื ๆ จ�ำนวนมาก อาทิ กษัตริยานุสรณ์ แกว้ จอมแกน่ แกว้ จอมซน คำ� ฉนั ทด์ ษุ ฎสี งั เวย และกาพยข์ บั ไม้ กลอ่ มพระศรนี รารฐั ราชกริ ณิ ี ฯลฯ รายช่ือผลงานพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ภาพพระราชทาน สยามบรมราชกมุ ารี ดงั กลา่ ว ไดบ้ นั ทกึ ไวใ้ นหนงั สอื เทพรตั น ธ เกรกิ ฟา้ ทว่ั หลา้ สรรเสรญิ จดั พมิ พเ์ ผยแพรเ่ พอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เน่ืองในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๔๘ พรรษา วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๖ โดยส�ำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำ� นกั งานปลดั สำ� นกั นายกรฐั มนตรี ไดบ้ นั ทกึ รายชอื่ ผลงานพระราชนพิ นธใ์ นสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไวจ้ ำ� นวน ๑๑๓ เรอ่ื ง 96 สารานกุ รมการศึกษาร่วมสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
รตั นกวี ภาพพระราชทาน ภาพพระราชทาน สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี “วศิ ษิ ฏศิลปิน” ทรงสร้างสรรคผ์ ลงานศลิ ปะดา้ นต่าง ๆ นอกจากทรงสร้างสรรค์ผลงานด้าน นาฏศิลป์ ดนตรีไทย วรรณศิลป์ ทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรอง ด้านวิชาการต่าง ๆ ในหลากหลายมติ แิ ลว้ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ยงั ทรงสรา้ งสรรคผ์ ลงานอนั เกยี่ วเนอ่ื งกบั ศลิ ปะสาขาอนื่ ๆ อกี หลากหลาย อาทิ ดา้ นภาษาบาลี สนั สกฤต องั กฤษ ฝรง่ั เศส เยอรมนั เขมร จนี สถาปตั ยกรรม จติ รกรรม เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา ฯลฯ ด้วยพระอัจฉริยภาพอันหลากหลาย สภามหาวิทยาลัยศิลปากรประจักษ์ในพระอัจฉริยภาพดังกล่าว ได้ขอพระราชทานพระราชานญุ าตทูลเกลา้ ฯ ถวายปริญญาดษุ ฎีบณั ฑติ กิตตมิ ศักด์ิ สาขาต่าง ๆ อาทิ ปีการศึกษา ๒๕๓๑ ปรญิ ญาศิลปดุษฎบี ัณฑิตกติ ตมิ ศกั ดิ์ สาขา ศิลปะไทย ปกี ารศึกษา ๒๕๓๓ ปรญิ ญาศิลปดุษฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศักด์ิ สาขา เครือ่ งเคลอื บดินเผา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๓๘ ปรญิ ญาศิลปดุษฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ สาขา จติ รกรรม ด้วยพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะอันเด่นชัด คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โล่พระสมัญญา วศิ ิษฏศลิ ปนิ แด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เมื่อวนั ท่ี ๑๕ กนั ยายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๖ ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจติ รลดา บรรณานุกรม สำ� นกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต.ิ (๒๕๔๙). วศิ ษิ ฏศลิ ปนิ . กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั อมรนิ ทร์ พรนิ้ ตงิ้ แอนด์ พับลชิ ช่งิ จำ� กัด (มหาชน). สำ� นกั งานเสรมิ สรา้ งเอกลกั ษณข์ องชาต,ิ คณะอนกุ รรมการเฉพาะกจิ จดั ทำ� หนงั สอื เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี. (๒๕๔๗). เทพรัตน ธ เกริกฟา้ ทว่ั หลา้ สรรเสริญ. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ทั อมรนิ ทร์ พรน้ิ ต้ิงแอนดพ์ ับลิชชิ่ง จำ� กัด (มหาชน). 97 สารานุกรมการศกึ ษาร่วมสมยั เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” ดร.ทองอยู่ แก้วไทรฮะ ความเป็นมา ความหมาย และความสำ� คัญ งานสง่ เสรมิ การจดั ตงั้ และจดั บรกิ ารหอ้ งสมดุ เปน็ กจิ กรรมทสี่ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงโปรดมาต้ังแตย่ ังทรงพระเยาว์ ด่ังมีปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธเ์ ร่ือง “หอ้ งสมุดในทศั นะของข้าพเจา้ ” ตอนหนงึ่ ว่า “ ข้าพเจ้าอยากให้มีห้องสมุดที่ดี มีหนังสือครบทุกประเภทส�ำหรับประชาชน หนังสือท่ีข้าพเจ้าคิดว่า สำ� คัญที่สุดอยา่ งหนง่ึ คอื หนังสือส�ำหรับเดก็ ” (ส�ำนกั งาน กปร., ๒๕๔๘ : ๑๐๐) ” นอกจากนั้นยงั ปรากฏวา่ พระองค์ทรงจดั ตงั้ หอ้ งสมุดส่วนพระองค์ข้ึนทีอ่ าคารชยั พัฒนา ซ่งึ ปจั จบุ ันมหี นงั สอื กว่าสองแสนเล่ม เมื่อเดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๓ กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้เป็นเจ้าภาพ ในการจัดประชุมสมัชชาสากลว่าด้วยการศึกษาผู้ใหญ่ครั้งที่ ๔ ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยมีสมาชิกกว่า ๕๐๐ คน จาก ๑๐๒ ประเทศเขา้ รว่ มสมั มนาและไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุม ซ่ึงมีจุดหมายที่จะรณรงค์เพ่ือการรู้หนังสือของปวงชนให้ส�ำเร็จท่ัวโลก ภายในปี พุทธศักราช ๒๕๔๓ ในโอกาสน้ี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทาน พระปณิธานและลายพระหัตถ์เป็นข้อความที่ประทับใจของสมาชิกที่ประชุมซ่ึงเป็นผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกว่า “ร่วมกนั ท�ำใหช้ าวโลกอา่ นออกเขียนได้ Let’s join in making a literate world” ซ่ึงองคก์ ารสหประชาชาติ (UNESCO) ไดเ้ ชิญไปเปน็ แนวทางในการรณรงคเ์ พือ่ การรหู้ นงั สอื และส่งเสริมการอา่ นในประเทศตา่ ง ๆ ท่วั โลก 98 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลิมพระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
กระทรวงศึกษาธิการในฐานะท่ีรับผิดชอบการจัดต้ังและพัฒนาห้องสมุดประชาชนจังหวัดและห้องสมุดประชาชน อำ� เภอทว่ั ประเทศ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๕ และขยายงานมาตามลำ� ดบั พบวา่ แมจ้ ะมคี วามพยายามจากภาครฐั ในการวางเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้มีห้องสมุดประชาชนอ�ำเภอละ ๑ แห่งท่ัวประเทศ ก็ยังไม่ประสบความส�ำเร็จ ตามเป้าประสงค์ ปัญหาในการขยายงานห้องสมุดประชาชนอ�ำเภอ โดยเฉพาะพื้นท่ีห่างไกล เพื่อให้ประชาชนมีโอกาส ได้อ่านหนังสืออย่างทั่วถึง ก็คือข้อจำ� กัดในเรื่องการจัดหางบประมาณจากภาครัฐมาสนับสนุนอย่างเพียงพอในระยะเวลา ทส่ี มควร ดงั นนั้ ในศภุ มงคลทส่ี มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายุ ๓๖ พรรษา เมอ่ื ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๔ กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี นจงึ ไดก้ ราบทลู ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญชวนผู้มีจิตกุศลเห็น ความสำ� คญั ของการมหี อ้ งสมดุ พระราชทานสำ� หรบั ประชาชน ในพื้นท่ีห่างไกล ได้ร่วมสนองพระราชปณิธานในเร่ืองการ ส่งเสริมการอ่าน ร่วมกันจัดต้ังโครงการห้องสมุดประชาชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเป็นการสนองพระราชด�ำริเก่ียวกับ ห้องสมุดขึ้น โดยมุ่งเน้นห้องสมุดประชาชนในอ�ำเภอที่อยู่ ในพ้ืนที่ห่างไกล ซึ่งก็ได้รับพระราชานุญาตและทรงมี พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามห้องสมุดประชาชน ในโครงการนี้ว่า ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี เปา้ หมายและวตั ถุประสงค์ โครงการจดั ตง้ั หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี เริ่มก่อสร้างห้องสมุดรุ่นแรกจ�ำนวน ๓๗ แห่ง ตั้งแต่ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๔ โดยเรม่ิ ดำ� เนนิ การออกแบบประชาสมั พนั ธ์ ขอรบั สนบั สนนุ จากประชาชนและขอพระราชทานศลิ าฤกษ์ เพอื่ ดำ� เนนิ การจดั สรา้ งหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี เป็นแห่งแรกในปี พุทธศักราช ๒๕๓๔ ที่อ�ำเภอบางคนที ภาพพระราชทาน จังหวัดสมุทรสงคราม และด�ำเนินการจัดต้ังต่อไปจนครบ ๓๗ แห่ง ตามเป้าหมายในปี พุทธศักราช ๒๕๓๖ จากน้ันจึงวางแผนจัดต้ังอย่างต่อเนื่องต่อไปจนครบทุกอ�ำเภอ ด้วยความจงรักภักดีและส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่า ท่ีพร้อมใจกันน้อมเกล้าฯ ถวายเพื่อสนองพระราชปณิธานให้ทุกชุมชนมีแหล่งความรู้พร้อมพรั่งสมบูรณ์ เป็นแบบอย่าง ของการพัฒนาหอ้ งสมุดประชาชนสืบไป โดยได้กำ� หนดวัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะในการด�ำเนินการไวด้ ังต่อไปนี้ 99 สารานุกรมการศกึ ษารว่ มสมยั เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
๑. เพื่อพัฒนารูปแบบห้องสมุดประชาชนอ�ำเภอให้เป็นตัวอย่างห้องสมุดในอนาคตที่จะเป็นแหล่งความรู้ ส�ำหรับประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ และเป็นศูนย์กลางสนับสนุนการผลิตและเผยแพร่เอกสารส่ิงพิมพ์ และส่ือรูปแบบอื่น ๆ ไปสู่ท่ีอ่านหนังสือในระดับหมู่บ้านและสนับสนุนเครือข่ายการเรียนรู้สนองพระราชด�ำริ ของสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ๒. เพื่อประสานงานรวมพลังความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทุกภาคส่วน เข้ามาร่วมรับผิดชอบด�ำเนินโครงการดังกล่าว ให้ประชาชนเห็นประโยชน์และความส�ำคัญของการอ่าน การศึกษาค้นคว้า แสวงหาความรอู้ ย่างตอ่ เนอื่ งตลอดชีวติ ๓. เพ่ือพัฒนาห้องสมุดประชาชนอ�ำเภอท่ีจัดต้ังอยู่เดิมแล้วให้มีคุณภาพและมีความพร้อมที่จะให้บริการ ไดอ้ ย่างสมบรู ณแ์ บบ กวา้ งขวาง และท่ัวถงึ ตามบทบาทและภารกจิ ของหอ้ งสมุดประชาชนรปู แบบใหม่ในอนาคต ๔. เพ่ือส่งเสริมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งนักเรียนในและนอกโรงเรียนทุกพื้นท่ี ได้มีความเสมอภาค เท่าเทียมกันในการเข้าถึงการศึกษาการเรียนรู้ ให้โอกาสกับชุมชนในการใช้ทักษะจากการอ่านการเรียนรู้ เพ่ือการพัฒนาอาชีพ การท�ำมาหากิน ให้โอกาสแก่ครูในการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ เพ่ิมเติมได้ตลอดเวลา โดยการจัดตั้งและพัฒนา การจัดห้องสมุดประชาชนอ�ำเภอให้ได้ตามความพร้อมและความจ�ำเป็นเร่งด่วน โดยขอพระราชทานพระราชานุญาต ด�ำเนนิ การจัดตั้งหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” เปน็ รุ่นแรกจ�ำนวน ๓๗ อ�ำเภอ ในปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๔-๒๕๓๖ และทยอยการจดั ตง้ั ในอ�ำเภออ่นื ๆ ให้ครบทุกอ�ำเภอท่วั ประเทศ 100 สารานกุ รมการศกึ ษาร่วมสมัย เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 496
Pages: