Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารการสอนต้นทุน ป.ตรี

เอกสารการสอนต้นทุน ป.ตรี

Published by aoiprathana, 2019-06-08 22:14:41

Description: เอกสารการสอนต้นทุน ป.ตรี

Search

Read the Text Version

บทท่ี 4 การบญั ชีเกี่ยวกบั ค่าแรงงาน 4 - 35 ขอ้ 2. บรษิ ัท อุดรอุตสาหกรรม จากดั ไดจ้ ้างพนักงานในแผนกผลิตสาหรับผลิตสินค้าชนิดหน่ึง โดยกาหนดให้พนกั งานทางานสัปดาห์ละ 40 ช่ัวโมง โดยมีวันทางานปกติ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.00 น. พกั เทยี่ ง 1 ช่ัวโมง อตั ราค่าจา้ งชวั่ โมงละ 38 บาท ถ้าพนักงานทางานเกิน 8 ชว่ั โมงในวันทางานปกติ สว่ นทเ่ี กินจะได้รบั ค่าจ้างในอัตราเท่าคร่ึงจากอัตราค่าจ้างปกติ แต่ถ้า ทางานในวนั หยุดและอยู่ในช่วงเวลาทางานปกติ พนกั งานจะไดร้ บั อัตราค่าจ้างเป็นสองเท่าของ อัตราค่าจ้างปกติ และถ้าเป็นนอกเวลาทางานปกตใิ นวนั หยุด จะได้รับอัตราค่าจ้างเป็นสามเท่า ของอัตราค่าจ้างปกติ ถ้านายสันติ เป็นพนักงานของบริษัท โดยมีช่ัวโมงการทางานในช่วง สปั ดาหท์ ผี่ า่ นมาดังนี้ วนั ทางาน ช่วงเช้า ช่วงบ่าย วันจันทร์ 8.00-12.00 13.00-17.00 วันอังคาร 8.00-12.00 13.00-18.00 วันพุธ 8.00-12.00 13.00-17.00 วันพฤหสั บดี 7.00-12.00 13.00-18.00 วนั ศกุ ร์ 8.00-12.00 13.00-17.00 วันเสาร์ 8.00-12.00 13.00-17.00 วันอาทติ ย์ 8.00-12.00 ให้ทา 1. คานวณค่าแรงงานข้นั ตน้ ของนายสันติ 2. คานวณคา่ แรงงานสทุ ธิ ทบี่ รษิ ทั จะตอ้ งจ่ายให้กับนายสันติ ในช่วงสปั ดาห์ทีผ่ ่านมา 3. บนั ทกึ การจ่ายคา่ แรงงานใหน้ ายสนั ติ โดยกาหนดให้พนักงานทกุ คนตอ้ งเสยี ภาษเี งินได้ หกั ณ ที่จ่าย 5% ของค่าแรงงานขน้ั ต้น และเงินประกันสงั คม 1.5% ของคา่ แรงงานปกติ 4. บนั ทึกการจาแนกคา่ แรงงานเข้าบัญชีงานระหวา่ งทาและคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต ถา้ กจิ การมี การวางแผนการทางานลว่ งเวลาไว้ลว่ งหน้า

4 - 36 การบัญชีตน้ ทุน 1 ข้อ 3. บริษทั สุขสันต์ จากดั จ่ายค่าแรงแกค่ นงานในโรงงานเปน็ รายสัปดาห์ ข้อมลู ต่อไปน้ี ไดม้ าจากการทางานในสปั ดาห์แรกของเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 25X1 (1 - 5 กมุ พันธ์ 25X1) ช่ือคนงาน ชวั่ โมงการทางาน อตั ราค่าแรง ทางตรง ทางอ้อม ต่อชวั่ โมง (บาท) 1. นายนภดล 35 5 14 2. นายสรพงศ์ 40 - 16 3. นายอธวิ ัฒน์ 25 11 17 4. นายภานเุ ดช 22 3 16 5. นายสมบัติ 39 1 18 6. นายธงชัย 33 2 16 7. นายอสั นี 35 5 17 คา่ แรงของคนงานทกุ คนจะตอ้ งถูกหักเป็นภาษหี ัก ณ ทจี่ า่ ยในอัตรา 10% ของ คา่ แรงขน้ั ตน้ (Gross Payroll) และกิจการจะจา่ ยคา่ แรงในวนั จันทร์ของสปั ดาหถ์ ดั ไป ให้ทา 1. คานวณค่าแรงขน้ั ต้น ภาษหี กั ณ ทีจ่ ่าย และค่าแรงสุทธิ 2. สมุดรายวันทวั่ ไป แสดงการบันทกึ คา่ แรงทัง้ หมดทเ่ี กดิ ขึน้ ในโรงงาน รวมทัง้ บันทึก การจ่ายคา่ แรงสทุ ธิใหค้ นงานด้วย ข้อ 4. บรษิ ัท ส่งเสริม จากดั ผลิตสนิ คา้ ตามคาสง่ั ของลกู ค้าตลอด 24 ชัว่ โมง โรงงานแบง่ การทางานของคนงานในโรงงานเป็น 3 ผลดั (Shift) คอื ผลดั เช้า ผลดั เย็น และผลดั ดกึ โดยให้อตั ราคา่ แรงแตกตา่ งกัน ขอ้ มลู ตอ่ ไปนไี้ ด้มาจากการทางานในสัปดาห์ที่ 2 ของเดอื น เมษายน 25X9 ช่ือคนงาน ผลดั ชวั่ โมงทางาน ทางตรง ทางอ้อม 1. นายสมชัย เช้า 40 - 2. นายสมศักดิ์ เย็น 38 2 3. นายสมพงศ์ ดึก 35 5 4. นางสมศรี เชา้ 37 - 5. นายสมมาตร เยน็ 24 10 6. นายสมยศ ดึก 30 - 7. นางสมใจ เชา้ 36 4

บทท่ี 4 การบัญชีเกี่ยวกบั ค่าแรงงาน 4 - 37 8. นายสมภพ เยน็ 35 - 9. นายสมวงศ์ ดกึ 31 9 10. นางสมทรง เชา้ 30 10 ปกตกิ จิ การจา่ ยคา่ แรงใหพ้ นักงานในวนั ศกุ รข์ องทุกสัปดาห์ โดยกาหนดอตั ราคา่ แรง ในผลดั ตา่ งๆ ดงั นี้ อตั ราค่าแรง ผลดั เช้า 10 บาทต่อชั่วโมง ผลดั เยน็ 15 บาทตอ่ ชวั่ โมง ผลดั ดึก 22 บาทต่อชัว่ โมง ปัจจุบันกิจการคานวณค่าแรงทั้งหมดเข้าตามประเภทของการทางาน กล่าวคือ ถ้า เปน็ ชั่วโมงทางานทางตรงก็จะโอนเขา้ งานตา่ งๆ แต่ถ้าเป็นช่ัวโมงทางานทางอ้อมก็จะโอนเข้า บัญชคี มุ ยอดค่าใช้จ่ายการผลติ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาในการคิด ค่าแรงทางตรงเขา้ งานต่างๆ เนอื่ งจากต้นทุนคา่ แรงบางงานจะสงู ข้ึน ถ้าเลอื กไปทาในผลัดเยน็ หรอื ผลัดดึก ทั้งที่เป็นการทางานประเภทเดียวกันกับที่ทาในผลัดเช้า ผู้จัดการโรงงานได้มา ปรกึ ษาทา่ นในฐานะนักบัญชีต้นทุนใหช้ ่วยหาทางแกไ้ ขวธิ คี ดิ ต้นทนุ ดงั กลา่ วเพ่อื ให้คิดต้นทุนให้ ลกู ค้าไดส้ มา่ เสมอ ซึง่ จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการกาหนดราคาขายด้วย ให้ทา 1. สมมติว่าอัตราภาษีหัก ณ ท่ีจ่าย เท่ากับ 10% ของค่าแรงขั้นต้น ให้คานวณ คา่ แรงขนั้ ต้นและค่าแรงสุทธิ รวมทัง้ บนั ทกึ รายการในสมุดรายวันท่ัวไปตามวิธีที่กิจการปฏิบัติ ในปจั จุบนั 2. ถา้ ทา่ นเปน็ นักบัญชีตน้ ทุนของบรษิ ทั ท่านจะแกไ้ ขวธิ คี ดิ คา่ แรงของบริษทั หรือไม่ และจะใช้วิธีใดจงึ จะเหมาะสม 3. แสดงการบันทกึ รายการเกย่ี วกับค่าแรงท้ังหมด ตามข้อเสนอแนะของท่านในสมุด รายวนั ทั่วไป 4. แสดงผลแตกต่างของการคดิ ตน้ ทุนการผลิตสาหรบั งานต่างๆ อันเนอ่ื งมาจากการ บันทึกรายการในขอ้ 1 และข้อ 3

4 - 38 การบัญชีต้นทนุ 1 ข้อ 5. นายขยัน รักงาน เป็นพนักงานฝา่ ยผลิตของโรงงานแห่งหนง่ึ ปกตชิ ่วั โมงทางานของ โรงงานแห่งนี้เทา่ กบั 40 ช่ัวโมงต่อสปั ดาห์ ในสัปดาหแ์ รกของเดอื นกนั ยายน 25X8 บัตรลง เวลาของนายขยันแสดงว่าทางานท้ังสิ้น 50 ช่ัวโมง เม่ือวิเคราะห์แล้วปรากฏว่านายขยัน ทางานล่วงเวลาในวันศุกร์ท่ี 6 กันยายน 2 ช่ัวโมง คือ ทาการซ่อมแซมเคร่ืองจักรที่เสีย และตอ่ มาได้ไปทางานในวันเสารท์ ่ี 7 กนั ยายน อีก 8 ชั่วโมง ซ่ึงเป็นการทางานผลิตปกติ เช่นเดียวกับในวันธรรมดา อัตราค่าแรงของนายขยันเท่ากับช่ัวโมงละ 10 บาท และเขาจะ ได้รับคา่ แรงในวนั จันทรข์ องสัปดาหถ์ ัดไป สาหรับอัตราหกั ภาษี ณ ทีจ่ า่ ย เท่ากับ 10% ของ ค่าแรงขั้นต้น นอกจากนี้เขาจะได้รับอนุญาตให้หยุดพักร้อน 2 สัปดาห์ และได้รับโบนัสใน อตั รา 0.5% ของกาไรสทุ ธถิ ัวเฉลย่ี ของปีทีแ่ ลว้ ถ้าในปี 25X7 กาไรสุทธิถัวเฉลี่ยของบริษัท เท่ากับ 100,000 บาท ให้ทา คานวณค่าแรงสุทธขิ องนายขยนั ในสัปดาหแ์ รกของเดอื น และบนั ทึกรายการข้างตน้ ใน สมุดรายวันทั่วไป ขอ้ 6. บริษัท สหภาพ จากัด ผลิตและจาหน่ายไม้ปิงปอง บริษัททาการผลิตสัปดาห์ละ 5 วนั รวม 40 ชั่วโมง ปัจจุบันมีพนักงานผลิตท่ีชานาญงานรวม 15 คน อัตราค่าแรงเท่ากับ 30 บาทตอ่ ชั่วโมง และอัตราภาษหี ัก ณ ทจ่ี ่ายเทา่ กับ 10% ของคา่ แรงขน้ั ตา่ กาลงั การผลติ ปกติสาหรับทีมงานผลิต 15 คน คือ ไม้ปิงปองจานวน 240 อันต่อวัน แต่ปรากฏว่าไม่ เพยี งพอกบั ปริมาณขายในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งต้องการให้โรงงานผลิตไม้ปิงปองรวม 6,000 อนั (หรอื 300 อนั ต่อวนั ) ผูจ้ ดั การโรงงานจงึ สง่ั ใหม้ กี ารทางานล่วงเวลาในวันจนั ทร์ถึงวันศุกร์ ตลอดทัง้ เดือน ทงั้ น้เี พื่อให้ทันกบั ความต้องการของแผนกขาย ต่ อ ม า ใ น วั น ศุ ก ร์ ท่ี 2 0 กุมภาพันธ์ พนักงานขายได้รับคาส่ังพิเศษจากศูนย์ฝึกกีฬาในภาคใต้ให้ผลิตไม้ปิงปองชนิด พิเศษจานวน 120 อัน ซง่ึ จะต้องส่งให้ทันในวนั พุธที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้จัดการโรงงานจึงสั่ง ให้พนกั งานผลติ มาทาการผลิตเฉพาะงานนี้ในวันเสาร์ท่ี 21 กุมภาพันธ์ ทั้งน้ีเพ่ือไม่ให้ซ้อน กับการผลิตปกติ ในช่วงบ่ายของวนั ศกุ ร์ท่ี 27 กมุ ภาพันธ์ เกิดไฟฟ้าดบั ในโรงงานเป็นเวลา 3 ช่ัวโมง ทาให้การผลิตหยุดชะงัก ผู้จัดการโรงงานจึงสั่งให้พนักงานทั้งหมดไปทาในวันเสาร์ท่ี 28 กุมภาพนั ธเ์ ป็นเวลา 3 ชวั่ โมงเช่นเดียวกนั ท้งั นีเ้ พอ่ื ใหไ้ ด้ผลผลิตปกติตามจานวนทตี่ ้องการ ให้ทา สมดุ รายวนั ท่ัวไปแสดงการบนั ทกึ รายการเกยี่ วกับค่าแรงงาน 1. การผลติ ปกติตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งน้ีให้บันทึกสรุปยอดค่าแรงรวมทุกวันศุกร์ ของเดอื น 2. การผลิตตามคาสัง่ พเิ ศษในวนั เสาร์ท่ี 21 กุมภาพันธ์

บทท่ี 4 การบัญชีเก่ียวกบั คา่ แรงงาน 4 - 39 3. การผลิตในวนั เสาร์ที่ 28 กมุ ภาพนั ธ์ เพอ่ื ชดเชยการผลิตทหี่ ยดุ ชะงักเนือ่ งจาก ไฟฟ้าดบั ข้อ 7. ช่ัวโมงทางานปกติของบรษิ ทั ชาญชัย จากัด เท่ากับ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แผนก บัญชคี ่าแรงจะคิดค่าแรงตลอดสปั ดาห์ แลว้ ไปจา่ ยคา่ แรงในวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป ปกติ กิจการจะเปดิ บญั ชคี มุ คา่ แรงเพอ่ื บนั ทึกคา่ แรงท้งั หมดทเ่ี กดิ ขนึ้ ในโรงงาน สาหรับยอดคงเหลือ ของบัญชีค่าแรงในวันท่ี 1 มิถุนายน 25X3 หลังจากปรับปรุงรายการในตอนสิ้นเดือน พฤษภาคม มจี านวนเทา่ กับ 22,300 บาท ทางด้านเครดิต ค่าแรงจานวนน้ีเป็นค่าแรงที่เกิด ขนั้ ในวนั ท่ี 30 และ 31 พฤษภาคม 25X3 ส่วนคา่ แรงขน้ั ตน้ ในเดือนมิถุนายนที่คานวณทุก วันจ่ายเงินเดือน (Pay Day) จะมีรายละเอียดดังนี้ (ให้ดูปฏิทินของเดือนมิถุนายน 25X3 ประกอบดว้ ย) เดอื นมิถนุ ายน 25X3 อาทิตย์ จนั ทร์ องั คาร พธุ พฤหสั ฯ ศกุ ร์ เสาร์ 1234 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 คา่ แรงขัน้ ตน้ 30 พ.ค. - 3 มิ.ย. (จา่ ยในวันท่ี 7 มิ.ย.) 58,900 บาท ค่าแรงขัน้ ตน้ 6 ม.ิ ย.- 10 มิ.ย.(จ่ายในวันที่ 14 ม.ิ ย.) 49,200 บาท ค่าแรงขัน้ ตน้ 13 ม.ิ ย. - 17 มิ.ย.(จ่ายในวนั ที่ 21 ม.ิ ย.) 59,000 บาท คา่ แรงขนั้ ตน้ 20 ม.ิ ย. - 24 ม.ิ ย.(จา่ ยในวันที่ 27 มิ.ย.) 48,800 บาท เม่ือวิเคราะห์ค่าแรงของโรงงานในเดือนมิถุนายน ปรากฏว่าเป็นค่าแรงทางตรง 164,000 บาท ค่าแรงทางอ้อม 56,000 บาท กิจการได้กันเงินค่าแรงไว้ในวันหยุดพักผ่อน (Vacation Pay) ในอัตรา 4% ของค่าแรงขั้นต้น กิจการถือว่าเงินกันไว้ในวันหยุดพักผ่อน เป็นคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ และค่าแรงทุกประเภทจะถูกหัดเป็นภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 10% ของคา่ แรงขัน้ ตน้ ให้ทา 1. บันทึกรายการขา้ งตน้ ในสมดุ รายวันทวั่ ไป 2. ผา่ นการบนั ทกึ รายการไปบัญชีแยกประเภททีเ่ กี่ยวขอ้ งทุกบัญชี

4 - 40 การบัญชตี น้ ทนุ 1 ขอ้ 8. บริษทั อุดรไทยสตรีล จากัด ผลิตและจาหน่ายเฟอร์นิเจอร์สาเร็จรูป บริษัทมีแผนก ผลติ 3 แผนกคือ แผนกข้นึ รปู แผนกประกอบ และแผนกตกแต่ง เพ่อื ควบคมุ ใหก้ ารทางาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ้จู ัดการโรงงานไดก้ าหนดมาตรฐานการผลติ ในแตล่ ะแผนกไว้ดังน้ี มาตรฐานการผลิต แผนกผลิต ชวั่ โมงผลิตต่อหน่วย อตั ราค่าแรงต่อชวั ่ โมง แผนกขึน้ รูป 3.0 ชัว่ โมง 18.0 บาท แผนกประกอบ 10.0 ช่วั โมง 20.0 บาท แผนกตกแตง่ 1.0 ชวั่ โมง 21.0 บาท สาหรบั ปรมิ าณการผลติ จริงในเดอื นพฤษภาคม 25X5 ปรากฏดงั น้ี แผนกผลิต ชวั่ โมงผลิตจริง หน่วยท่ีผลิตได้ ต้นทุนค่าแรง (ชวั่ โมง) (หน่วย) (บาท) แผนกขน้ึ รูป 2,200 740 38,500 แผนกประกอบ 6,500 620 123,500 แผนกตกแตง่ 1,000 800 21,000 ให้ทา รายงานการควบคมุ คา่ แรงในแผนกตา่ งๆ ประจาเดอื นพฤษภาคม โดยใช้รปู แบบ รายงานดงั น้ี มาตรฐาน จริง ต้นทนุ ผลผลิต ตน้ ทนุ ตน้ ทุน ผลผลติ ตน้ ทนุ แผนกผลิต ตอ่ ต่อ ต่อหน่วย ตอ่ ต่อ ต่อหนว่ ย ชวั่ โมง ชัว่ โมง (บาท) ชัว่ โมง ช่ัวโมง (บาท) (บาท) (หนว่ ย) (บาท) (หนว่ ย) แผนก........................ แผนก........................ แผนก.........................

บทท่ี 4 การบญั ชีเกย่ี วกบั คา่ แรงงาน 4 - 41 ข้อ 9. บรษิ ัท รกั เรียน จากัด ผลติ และจาหน่ายสินค้าชนิดหนึ่งตามคาสั่งของลูกค้า กิจการ ได้กาหนดผลผลิตต่อชั่วโมงเท่ากับ 15 หน่วย อัตราค่าแรงเท่ากับ 30 บาทต่อช่ัวโมง เนอ่ื งจากในเดือนกรกฎาคม 25X2 กจิ การต้องเพ่ิมปริมาณผลิตให้สูงขึ้น ผู้จัดการโรงงานจึง วางแผนท่ีจะให้เงินรางวัลแก่พนักงานเป็นรายช้ิน (Straight Piecework) หากพนักงานผลิต เกนิ กว่า 15 หน่วย/ช่ัวโมง กจ็ ะไดเ้ งนิ รางวัลตามจานวนหนว่ ยทผี่ ลติ เกินในอัตราหน่วยละ 2 บาท ตอ่ ไปน้เี ป็นข้อมลู ที่ไดจ้ ากแผนกผลิตในสปั ดาหแ์ รกของเดอื น กรกฎาคม 25X2 ช่ือพนักงาน ชวั่ โมงการผลิต จานวนหน่วยที่ผลิตได้ (ชวั่ โมง) (หน่วย) นายกร 40 590 นายเขม้ 42 635 นายคมน์ 38 600 นายฉลาด 40 610 นายชิต 37 560 นายเดน่ 40 595 นายโต 43 640 นายถนดั 40 600 นายธนติ 36 545 นายนพ 44 660 สาหรับการผลิตในสปั ดาห์แรกนี้ พนักงานผลิตบางคนตอ้ งทาลว่ งเวลาในวันทาการ ปกติซงึ่ กจิ การจะต้องจ่ายเงินคา่ ล่วงเวลาตามอตั ราทีก่ ฎหมายกาหนดนอกเหนอื จากการ จา่ ยเงนิ รางวลั ตามหน่วยทีผ่ ลติ ไดเ้ กินมาตรฐาน ให้ทา ตารางการคานวณการให้เงินรางวัลเป็นรายชนิ้ โดยใชแ้ บบฟอรม์ ดังนี้ คา่ แรง ต่อ ชอ่ื ช่วั โมง หน่วยที่ ผลผลิต ค่าแรง คา่ แรง เงนิ ค่าแรง หนว่ ย พนกั งาน ผลติ ผลติ ได้ ตอ่ ปกติ ลว่ งเวลา รางวลั รวม (บาท) (ชม.) (ชน้ิ ) ชัว่ โมง (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (ช้นิ )

4 - 42 การบัญชตี ้นทนุ 1 เอกสารอ้างอิง ดวงมณี โกมารทัต. (2559). การบญั ชีต้นทุน. พมิ พค์ ร้งั ที่ 15 กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . ประภากรณ์ เกียรตกิ ลุ วัฒนา. (2558). การบญั ชีต้นทนุ . พิมพค์ ร้ังท่ี 1 กรงุ เทพมหานคร : จูน พับลิชชงิ่ . สมนึก เอื้อจริ ะพงษพ์ ันธ.์ (2557). การบญั ชีต้นทุน. พิมพค์ ร้ังที่ 7 กรงุ เทพมหานคร : แมคกรอ-ฮลิ . สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า. (2559). พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ.2541. ค้นเมอ่ื 20 ธนั วาคม 2559, จาก http://www.labour.go.th/th/doc/law/labour_protection_2541_new.pdf

แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 5 การบญั ชีเก่ียวกบั ค่าใช้จ่ายการผลิต หวั ข้อเนื้อหาประจาบท 1. ความหมายและประเภทของค่าใชจ้ า่ ยการผลติ 2. การรวบรวมและบนั ทึกค่าใชจ้ า่ ยการผลิต 3. ค่าใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร 4. ประโยชน์ของการใชอ้ ัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร 5. การกาหนดอตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรร 6. การประมาณระดับการผลติ 7. ข้นั ตอนการกาหนดอัตราค่าใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร 8. การบันทกึ บญั ชีเกยี่ วกับคา่ ใช้จา่ ยการผลติ 9. บทสรปุ 10. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 11. เอกสารอา้ งอิง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. สามารถอธบิ ายความหมายและจาแนกประเภทของคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ได้ 2. สามารถบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั ค่าใชจ้ ่ายการผลติ ได้ 3. สามารถอธบิ ายค่าใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรรและคานวณหาอตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรรแตล่ ะวธิ ไี ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 4. สามารถอธบิ ายระดบั การผลติ ในแตล่ ะลกั ษณะได้ 5. สามารถวเิ คราะหแ์ ละคานวณผลตา่ งของคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จรงิ และคา่ ใชจ้ า่ ย การผลติ จดั สรรได้ 6. สามารถบนั ทกึ ผลต่างของคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรรต่าหรอื สงู กวา่ คา่ ใชจ้ า่ ยการ ผลติ จรงิ ได้

5 - 2 การบญั ชีตน้ ทุน 1 วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. การบรรยายเน้อื หา 2. ถามตอบในชนั้ เรยี น 3. ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท สื่อการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน เรอ่ื ง การบญั ชเี กีย่ วกับค่าใชจ้ ่ายการผลติ 2. PowerPoint 3. แหล่งเว็บไซด์ท่ีเก่ียวขอ้ งจากอนิ เทอร์เน็ต การวดั ผลและการประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจขณะฟงั บรรยายและการตอบคาถาม 2. สงั เกตจากการทาแบบฝึกหดั ในชนั้ เรยี น 3. สงั เกตจากพฤตกิ รรมความสนใจ และการรว่ มกจิ กรรมในชนั้ เรยี น 4. ประเมนิ ผลจากการทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท

บทที่ 5 การบัญชเี กีย่ วกับค่าใชจ้ ่ายการผลิต 5 - 3 บทท่ี 5 การบญั ชีเก่ียวกบั ค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จา่ ยการผลติ เป็นส่วนประกอบทส่ี าคญั อกี ประเดน็ หน่ึงของตน้ ทนุ ในการผลิตสินค้า ค่าใช้จ่ายการผลิต เป็นค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนในกระบวนการผลิตสินค้า ท่ีนอกเหนือจากวัตถุดิบ ทางตรง และค่าแรงงานทางตรง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายประเภท เชน่ วตั ถดุ ิบทางออ้ ม ค่าแรงงาน ทางอ้อม และต้นทุนในการผลิตอื่นๆ เช่น ค่าน้าค่าไฟโรงงาน ค่าซ่อมแซมบารุงรักษา เครือ่ งจักร ค่าเบี้ยประกนั ภยั โรงงาน คา่ เส่ือมราคาของสินทรัพย์ในโรงงาน เป็นต้น จากการท่ี ค่าใช้จ่ายการผลิตประกอบด้วยต้นทุนหลายประเภทดังที่กล่าวมาแล้ว กิจการจึงต้องมีการ วางแผนและควบคุมคา่ ใช้จ่ายการผลิตทเี่ กิดข้ึนให้มปี ระสิทธิภาพ สาหรบั กิจการขนาดเล็กซึ่งมี แผนกผลิตเพียงแผนกเดียว อาจจะบันทึกคา่ ใช้จ่ายการผลิตเพียงบญั ชเี ดียว ในลกั ษณะเดยี วกนั กบั ค่าใช้จ่ายในการขายหรือคา่ ใชจ้ ่ายในการบริหาร แต่สาหรบั กจิ การขนาดใหญ่มคี วามซับซ้อน ในการดาเนินงาน ซ่ึงมีท้ังแผนกผลิต (Production Department) และแผนกบริการ (Service Department) กิจการท่ีมีขนาดใหญ่จึงต้องรวบรวมค่าใช้จ่ายการผลิตแยกเป็นรายแผนก ท้ังนี้ เพือ่ ความสะดวกในการรวบรวมขอ้ มลู และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและควบคุมค่าใช้จ่าย การผลิตของฝา่ ยบริหารอีกดว้ ย เนื้อหาในบทน้ีจึงกล่าวถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิต โดยกล่าวถึง ความหมายและประเภทของค่าใช้จ่ายการผลิต การรวบรวมและบันทึกค่าใช้จ่ายการผลิตจริงท่ี เกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร การกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร การบันทึกบัญชี เก่ียวกับค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร และการวิเคราะห์ผลต่างของค่าใช้จ่ายการผลิต รวมไปถึง วิธกี ารบนั ทกึ บัญชที ีเ่ ก่ียวกบั ผลต่างของค่าใช้จ่ายการผลติ ซึง่ จะอธิบายแตล่ ะหวั ข้อโดยละเอียด ตามลาดับ ความหมายและประเภทของค่าใช้จ่ายการผลิต คา่ ใช้จ่ายการผลิต (Manufacturing Overhead) หมายถึง ตน้ ทุนการผลิตทางออ้ มต่างๆ ท่เี กดิ ข้นึ จากการผลิตในโรงงานและไม่สามารถคดิ เข้าเป็นตน้ ทนุ การผลิตของผลิตภัณฑ์ชนิดใด ชนิดหนึ่งได้โดยตรง (สมนึก เอ้ือจิระพงษ์พันธ์, 2557 : 200) หรือเป็นต้นทุนที่นอกเหนือจาก วัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงานทางตรงน่ันเอง ค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม คา่ น้าค่าไฟในโรงงาน คา่ เสอื่ มราคาเครื่องจักร ค่าเบี้ยประกันภัยโรงงาน เปน็ ต้น

5 - 4 การบญั ชีต้นทนุ 1 ตาราบางเล่ม “ค่าใช้จ่ายการผลิต” อาจใช้ช่ืออื่นที่แตกต่างกันไป เช่น โสหุ้ยในการ ผลติ หรอื ค่าใช้จา่ ยโรงงาน (Factory Overhead) หรือ คา่ ใชจ้ า่ ยทางอ้อมในการผลติ (Indirect Manufacturing Expenses) ซ่ึงไม่ว่าจะใช้คาใดก็มีความหมายเหมือนกัน หากลักษณะของ รายการตรงตามความหมายดังกล่าวข้างต้น รายการนั้น ก็คือ ค่าใช้จ่ายการผลิต (Factory Overhead) คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ สามารถแบง่ ประเภทของคา่ ใชจ้ ่ายได้เปน็ 2 ลกั ษณะ ดงั นี้ 1) แบ่ง ตามลักษณะของต้นทุน และ 2) แบ่งตามพฤติกรรมของต้นทุน ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละลักษณะ สามารถอธบิ ายโดยละเอียดไดด้ งั นี้ (ปรับปรุงจากดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 192) 1. การแบง่ ค่าใช้จา่ ยการผลิตตามลกั ษณะของต้นทุน ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ เม่ือมีการแบ่งประเภทไปตามลักษณะของต้นทุน เป็นการพจิ ารณา ลักษณะของต้นทนุ ทปี่ ระกอบกันเปน็ ค่าใชจ้ ่ายการผลิต ซ่ึงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ 1) วัตถุดบิ ทางอ้อม 2) คา่ แรงงานทางออ้ ม และ 3) ตน้ ทุนหรอื ค่าใช้จ่ายการผลิตทางอ้อมอื่นๆ คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตแต่ละประเภท สามารถอธบิ ายรายละเอียด ไดด้ ังนี้ 1.1 วตั ถดุ ิบทางอ้อม วัตถดุ ิบทางอ้อม (Indirect Material Costs) หมายถึง วัตถุดิบท่ีนามาใช้ในการ ผลติ สนิ คา้ แตไ่ ม่สามารถหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งจานวนวตั ถดุ ิบท่ีใช้ไปกับจานวนสินค้าที่ผลิต เสรจ็ ได้อย่างชัดเจน หรอื พบว่ามคี วามสมั พันธร์ ะหว่างปริมาณวตั ถุดบิ ท่ใี ช้ไปกับจานวนสินค้าท่ี ผลิตเสรจ็ แต่มีความยากในการระบุความสัมพันธ์โดยละเอียด (ประภาภรณ์ เกียรติกุลวัฒนา, 2558 : 103) นอกจากนีว้ ัตถดุ บิ ทางอ้อมยังเปน็ วตั ถุดบิ ท่ีไม่ถือวา่ เปน็ สว่ นประกอบหลักของการ ผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง ตัวอย่างของวัตถุดิบทางอ้อม เช่น วัสดุโรงงาน วัสดุสานักงาน ประจาโรงงาน เคร่ืองมอื ขนาดเลก็ นา้ มนั เชือ้ เพลงิ และน้ามันหล่อลื่น เป็นต้น วัตถุดิบทางอ้อม ถอื เป็นส่วนหนงึ่ ของคา่ ใช้จ่ายการผลิตตามหลกั การคานวณต้นทุนการผลิต 1.2 ค่าแรงงานทางอ้อม คา่ แรงงานทางอ้อม (Indirect Labor Costs) หมายถงึ คา่ แรงงานท่ีใช้ไปในการ ผลิตสนิ ค้าหรือช่วยสนับสนุนการผลิตสินค้าในโรงงาน โดยค่าแรงงานท่ีจ่ายนั้นอาจไม่สัมพันธ์ กับจานวนการผลิตสินค้าอย่างชัดเจน หรือค่าแรงงานน้ันมีความสัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงการ ทางานที่ใช้ไปกับจานวนสินค้าที่ผลิตเสร็จ แต่มีความยากในการระบุความสัมพันธ์ดังกล่าว (ประภาภรณ์ เกียรติกุลวัฒนา, 2558 : 103) ตัวอย่างค่าแรงงานทางอ้อม เช่น เงินเดือนผู้ ควบคุมงาน เงนิ เดือนหัวหน้าคุมโรงงาน เงนิ เดอื นเจ้าหน้าทต่ี รวจสอบคุณภาพสินค้า เงินเดือน ของพนักงานแผนกบริการ ค่าจ้างแม่บ้านประจาโรงงาน ค่าจ้างพนักงานดูแลความปลอดภัย

บทท่ี 5 การบญั ชีเกย่ี วกับค่าใช้จา่ ยการผลติ 5 - 5 เงินเดือนเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการของโรงงาน ค่าแรงงานล่วงเวลา ค่าแรงสูญเปล่า เป็นต้น ซ่ึง ค่าแรงงานทางงออ้ มถอื เปน็ ส่วนหนง่ึ ของคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ตามหลกั การคานวณตน้ ทุนการผลิต 1.3 ค่าใช้จ่ายการผลิตทางอ้อมอ่ืน ๆ ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่นๆ (Other Indirect Manufacturing Overhead) หมายถึง ค่าใช้จ่ายการผลิตอื่นๆ ท่ีนอกเหนือจากวัตถุดิบทางอ้อมและค่าแรงงาน ทางออ้ ม ทเ่ี ป็นปจั จัยการผลติ ทตี่ อ้ งใชใ้ นการผลติ ถ้าขาดค่าใชจ้ า่ ยเหลา่ น้ีแล้ว อาจทาให้กิจการ ไม่สามารถผลิตสินค้าได้สาเร็จ (ประภาภรณ์ เกียรติกุลวัฒนา, 2558 : 103) ตัวอย่างของ คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ อ่ืนๆ เชน่ ค่าซอ่ มแซมบารงุ รักษาอาคารโรงงาน คา่ ซ่อมแซมเคร่ืองจกั ร คา่ น้า ค่าไฟของโรงงาน ค่าโทรศัพท์ของโรงงาน ค่าเส่ือมราคาโรงงาน ค่าเส่ือมราคาเคร่ืองจักร ค่า ภาษีทรัพย์สิน ค่าเบ้ียประกันภัยโรงงาน ค่าเบี้ยประกันภัยเคร่ืองจักร ค่าเช่าโรงงาน ค่าเช่า เคร่ืองจักร ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ ค่าใช้จ่ายในการตรวจรับวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการ รกั ษาพยาบาลของโรงงาน ต้นทนุ ของสนิ คา้ เสยี สินคา้ มตี าหนิ และขาดทุนจากวัตถุดิบสูญหาย เป็นต้น 2. การแบง่ ค่าใช้จา่ ยการผลิตตามพฤติกรรมของต้นทนุ ค่าใช้จ่ายการผลติ เม่อื มีการแบ่งประเภทไปตามพฤติกรรมของต้นทุนเป็นการ พจิ ารณาต้นทุนที่จาแนกตามพฤตกิ รรมของต้นทนุ ซงึ่ สามารถแบง่ ประเภทค่าใชจ้ า่ ยการผลิตได้ 3 ประเภท ดังนี้ 1) ค่าใชจ้ ่ายการผลิตคงที่ 2) ค่าใชจ้ ่ายการผลิตผนั แปร และ 3) ค่าใช้จ่ายการ ผลิตผสม การแบง่ ประเภทคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตในลักษณะนี้เพือ่ ประโยชนใ์ นการวางแผน ควบคุม และตัดสินใจของฝ่ายบริหาร ค่าใช้จ่ายการผลิตเมื่อแบ่งตามพฤติกรรมต้นทุนแต่ละประเภท สามารถอธบิ ายรายละเอยี ด ได้ดังน้ี 2.1 ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ ค่าใช้จ่ายการผลิตคงท่ี (Fixed Manufacturing Overhead Cost) หมายถงึ ตน้ ทุนท่ีมพี ฤตกิ รรมคงที่ โดยทตี่ ้นทนุ รวมไมไ่ ด้เปลยี่ นแปลงไปตามระดบั ของการผลิต ในช่วงการผลิตระดบั หน่ึง แต่ตน้ ทุนคงท่ตี ่อหน่ายจะเปลีย่ นแปลงไปในทางลดลงถ้าปริมาณการ ผลิตเพิ่มมากข้ึน (สมนึก เอ้ือจิระพงษ์พันธ์, 2557 : 200) ตัวอย่างของต้นทุนคงท่ี เช่น ค่าเช่า อาคารสถานท่ี ภาษที รพั ยส์ นิ ค่าเบ้ียประกันภัย ค่าเสื่อมราคา (คิดในอัตราเส้นตรง) เงินเดือน ฝ่ายบรหิ ารโรงงาน เปน็ ตน้ 2.2 ค่าใช้จ่ายการผลิตผนั แปร ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร (Variable Manufacturing Overhead Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีจะมีต้นทุนรวมเปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนของการเปล่ียนแปลงในระดับ กิจกรรมหรือปริมาณการผลิต แต่ต้นทุนต่อหน่วยจะคงท่ีเท่ากันทุกๆ หน่วย (สมนึก เอื้อจิระ

5 - 6 การบญั ชตี ้นทุน 1 พงษ์พันธ์, 2557 : 200) ตัวอย่างของต้นทุนผันแปร เช่น ค่าน้า ค่าไฟ วัสดุโรงงาน เคร่ืองมือ ขนาดเลก็ ค่าใชจ้ า่ ยในการตรวจรบั วัตถดุ บิ สนิ คา้ เสีย เปน็ ตน้ 2.3 ค่าใช้จา่ ยการผลิตผสม ค่าใช้จ่ายการผลิตผสม (Mixed Manufacturing Overhead Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีมีลักษณะของต้นทุนคงท่ีและต้นทุนผันแปรรวมอยู่ด้วยกัน ในช่วงของการ ดาเนินกิจกรรมทีม่ คี วามหมายต่อการตัดสินใจ ซึ่งสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ ต้นทุนก่ึง ผันแปร และตน้ ทุนก่งึ คงท่ีหรอื ตน้ ทุนเชิงชนั้ (สมนกึ เอื้อจริ ะพงษพ์ นั ธ์, 2557 : 200) ดังอธิบาย ความหมายในบทที่ 1 ตัวอย่างของต้นทุนผสม เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมคนงาน เงินเดือน เจ้าหน้าทต่ี รวจสอบคุณภาพ ค่าซอ่ มแซมและบารุงรักษาเครอ่ื งจกั ร ค่าเชา่ อุปกรณ์และเคร่ืองใช้ คา่ ประกนั อุบัตเิ หตสุ าหรบั คนงาน เป็นตน้ นอกจากการแบ่งประเภทค่าใช้จ่ายการผลิตเป็น 2 ประเภทดังได้กล่าว ข้างต้น กิจการอาจจัดแบ่งในรูปลักษณะอื่นๆ ตามความต้องการของผู้บริหาร เช่น อาจจะ แบ่งเป็นต้นทุนที่ควบคุมได้ และต้นทุนท่ีควบคุมไม่ได้ เป็นต้น ประโยชน์ท่ีได้จากการแบ่ง ประเภทต้นทนุ ในลักษณะต่างๆกันจะช่วยให้ฝ่ายบริหารนาข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ อย่างเหมาะสม เช่น นาไปใช้ในการคานวณต้นทุนของผลิตภัณฑ์รวมท้ังใช้ข้อมูลทางการบัญชี เพ่อื ใชใ้ นการวางแผนควบคมุ และตัดสินใจในการดาเนนิ งานของกจิ การตอ่ ไป การรวบรวมและบนั ทึกค่าใช้จ่ายการผลิต การรวบรวมข้อมลู และบันทกึ บญั ชเี กีย่ วกบั ค่าใช้จา่ ยการผลิตว่าจะเป็นไปในลักษณะใด น้ันมกั จะขนึ้ อยู่กับขนาดของกิจการ วิธีการดาเนินงานและชนิดของสินค้าท่ีผลิต ซึ่งสามารถ อธิบายรายละเอียดไดด้ ังน้ี 1. การบนั ทึกค่าใช้จา่ ยการผลิตสาหรบั กิจการขนาดเลก็ กจิ การขนาดเลก็ ซ่ึงมีแผนกผลิตเพยี งแผนกเดียว และผลิตสินค้าไม่มากนัก กิจการ อาจเปิดบัญชีค่าใช้จ่ายการผลิตเพียงบัญชีเดียว ในลักษณะเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหาร รายการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตทุกรายการจะบันทึกในสมุด บัญชีแยกประเภทท่ัวไป โดยที่กิจการอาจทาการบันทึกค่าใช้จ่ายการผลิตตามประเภทของ ต้นทุน หรือกิจการอาจจะนาระบบบัญชีคุมยอดและบัญชีย่อยมาใช้เพื่อให้สะดวกต่อการลง บนั ทกึ บญั ชี โดยเปดิ บญั ชีคมุ ยอดคา่ ใช้จ่ายการผลิตเพียงบัญชีเดียวในสมุดบัญชีแยกประเภท ทั่วไป และเปิดบัญชีย่อยตามประเภทของค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น บัญชีวัตถุดิบทางอ้อม บัญชคี า่ แรงงานทางออ้ ม บัญชีค่าเบยี้ ประกนั ภยั โรงงาน บัญชีค่าน้าค่าไฟโรงงาน บัญชีคา่ เสอ่ื ม

บทท่ี 5 การบัญชีเก่ยี วกับค่าใชจ้ ่ายการผลติ 5 - 7 ราคาเครือ่ งจกั ร เปน็ ต้น กจิ การท่ใี ช้ระบบใบสาคัญจ่ายอาจจะเปิดช่องพิเศษโดยแยกรายการ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายออกเป็นแต่ละประเภท การบันทึกรายการค่าใช้จ่ายการผลิตแต่ละประเภท สามารถแสดงการบันทกึ บัญชี และเอกสารต่างๆ ท่ีต้องใช้ประกอบการบันทึกบัญชี ดังแสดงใน ตารางท่ี 5.1 ตารางที่ 5.1 ตารางแสดงการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตและเอกสารต่างๆ ท่ี เกีย่ วขอ้ ง (ปรับปรุงจากดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 196) รายการ เอกสาร/ การบนั ทึกในสมุดบญั ชี การบนั ทึกในบญั ชีย่อย ใบสาคญั ท่ีเกี่ยวข้อง (ถา้ มี) 1.บนั ทึกการเบกิ ใช้ ใบเบิกวัตถุดบิ วัตถุดิบทางออ้ มเพ่ือ เดบติ คุมยอดคา่ ใช้จา่ ยการผลติ เดบติ วตั ถุดิบทางอ้อม ใช้ผลิตสนิ ค้า บตั รบนั ทกึ เครดิต วตั ถดุ บิ 2.บันทกึ คา่ แรง เวลาทางาน เดบิต ค่าแรงงานทางอ้อม ทางอ้อม เดบิต คุมยอดค่าใชจ้ ่ายการผลติ เครดติ คา่ แรงงาน 3. ค่าใช้จ่ายการผลิต ใบสาคญั สั่งจ่าย เดบิต คมุ ยอดค่าใชจ้ า่ ยการผลิต เดบติ ค่านา้ คา่ ไฟโรงงาน เดบติ คา่ ซ่อมแซมเครอ่ื งจักร อน่ื ๆ หรือ ใบกากบั เครดิต ใบสาคัญสั่งจา่ ย (บันทกึ ตามลักษณะรายการ ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ท่ีเกิดข้นึ ) 3.1. เมื่อมีการจา่ ย สินคา้ ค่าใชจ้ ่ายการผลติ เดบติ ใบสาคญั ส่ังจา่ ย เครดิต เงนิ ฝากธนาคาร 3.2. ปรบั ปรงุ บญั ชี บันทกึ ชว่ ยจา เดบติ คุมยอดคา่ ใช้จา่ ยการผลิต เดบิต ค่าเสอื่ มราคาเครอ่ื งจักร ตอนสนิ้ งวด เครดิต คา่ เสื่อมราคาสะสม – เครอ่ื งจกั ร เดบติ คมุ ยอดคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต เดบติ คา่ เบี้ยประกันภยั เครดิต คา่ เบ้ยี ประกนั ภยั โรงงาน จ่ายล่วงหน้า 4.โอนค่าใช้จา่ ยการ เดบิต งานระหว่างทา ถา้ ผลติ สนิ ค้าเพยี งชนดิ เดียว ผลติ ทั้งหมดเขา้ สู่ เครดติ คุมยอดคา่ ใช้จา่ ย ไม่ตอ้ งบนั ทึกในบัญชยี ่อยของ การผลิตสนิ คา้ การผลิต งานระหว่างทา โอนเข้าคมุ ยอดงานระหว่างทา

5 - 8 การบัญชตี น้ ทนุ 1 2. การบนั ทึกค่าใช้จา่ ยการผลิตสาหรบั กิจการขนาดใหญ่ สาหรบั กจิ การขนาดใหญท่ ่มี ีแผนกตา่ งๆ หลายแผนกซ่งึ มดี าเนินงานในลักษณะท่ี แตกต่างกัน จะมีการรวบรวมและสะสมต้นทุนตามแผนกแยกต่างหากออกจากกัน ทั้งน้ีเพ่ือ ประโยชนใ์ นการคานวณต้นทนุ ผลิตภณั ฑ์ และควบคุมต้นทุนตามความรับผิดชอบของหัวหน้า แผนก แต่ถ้าหากการดาเนินงานของแผนกนั้นๆ มีการแบ่งออกเป็นส่วนย่อยได้อีก กิจการก็ อาจจะรวบรวมและสะสมตน้ ทุนของแตล่ ะส่วนงานยอ่ ย เชน่ แผนกผลติ บางแผนกทมี่ ีเคร่อื งจกั ร ประเภทต่างๆ หลายชนิด แต่ละชนิดนามาใช้งานและให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน ในกรณีนี้ อาจจะรวบรวมค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีเกิดขึ้นสาหรับเคร่ืองจักรแต่ละเครื่องก็ได้ เพ่ือให้การ คานวณตน้ ทนุ ของผลิตภัณฑ์มคี วามถูกต้องหรือใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด และทาให้การ ควบคุมค่าใชจ้ า่ ยมีความชัดเจน และรัดกมุ มากขนึ้ โดยท่วั ไปกจิ การขนาดใหญจ่ ะสามารถแบ่งแผนกไดเ้ ป็น 2 แผนกใหญๆ่ ตามหนา้ ที่ การดาเนินงานของแต่ละแผนก ได้แก่ แผนกผลิต (Production Department) และแผนก บริการ (Service Department) ซึ่งแผนกผลิต หมายถึง แผนกที่มีการแปรสภาพปัจจัยการ ผลิตเปลยี่ นมาเป็นสนิ ค้าสาเร็จรปู ซง่ึ ปจั จัยการผลติ ไดแ้ ก่ วตั ถุดบิ แรงงาน และคา่ ใช้จ่ายการ ผลิต ดังนั้น ตน้ ทนุ ของแผนกผลติ จึงเปน็ ตน้ ทนุ ท่ีเกย่ี วกบั การผลติ สนิ ค้าโดยตรง ส่วนแผนกบริการ หมายถึง แผนกที่ไม่ได้ทาการผลิตสินค้าโดยตรง แต่มีหน้าท่ี ให้บริการกับแผนกผลิตและ/หรือการให้บริการระหว่างแผนกบริการด้วยกันเอง ตัวอย่างเช่น แผนกซอ่ มแซมบารุงรักษา มีหนา้ ท่ซี อ่ มแซมเคร่ืองจักร อปุ กรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่ ในแผนกผลิตและแผนกอื่นๆ ท่ีอยู่ในโรงงาน แม้ว่าแผนกบริการจะไม่ได้ทาหน้าที่ผลิตสินค้า โดยตรง แต่กถ็ ือว่าค่าใชจ้ ่ายที่เกิดขึ้นในแผนกบริการนัน้ เป็นคา่ ใช้จ่ายท่ีเก่ียวเน่ืองกับการผลิต ทาให้การผลิตสินค้ามีประสิทธิภาพ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่อยู่ใน กระบวนการผลิตสินคา้ ดว้ ย ดงั นั้น เพ่อื วตั ถุประสงค์ในการคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ให้มีความ ถูกต้อง จงึ มีความจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งมีการปนั ส่วนตน้ ทนุ หรือคา่ ใช้จา่ ย(Cost Allocation) ทีเ่ กดิ ขึ้น ในแผนกบริการเพอ่ื เข้าสู่แผนกผลติ แล้วจึงรวบรวมต้นทุนหรือคา่ ใชจ้ า่ ยท้ังหมด (ท้ังที่เกิดขึ้น ในแผนกนั้นๆ รวมกับที่ได้รับการปันส่วนมาจากแผนกบริการ) เข้าสู่ตัวผลิตภัณฑ์ต่อไป ซึ่ง ประเด็นเร่อื งการปนั ส่วนต้นทุนจะกลา่ วถึงในบทท่ี 6 ต่อไป สาหรับการรวบรวมต้นทนุ หรือค่าใช้จ่ายทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ในแผนกต่างๆ ของกิจการท่ี มีขาดใหญ่ สามารถทาได้โดยเลอื กใช้วิธีใดวิธีหน่ึง ดงั น้ี 2.1 เปิ ดบญั ชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิตแยกตามประเภทของค่าใช้จ่ายการ ผลิต และแยกแต่ละแผนก เช่น บัญชคี ่าแรงทางอ้อมของทั้งโรงงาน จะประกอบด้วย ค่าแรง ทางอ้อมในแผนกผลิต 2 แผนก ไดแ้ ก่ แผนกประกอบและแผนกตกแตง่ และแผนกบรกิ ารอีก 2 แผนก ไดแ้ ก่ แผนกซอ่ มแซม และแผนกบริหารโรงงาน ซ่ึงแต่ละแผนกจะมีหน้าท่ีแตกต่าง

บทที่ 5 การบญั ชเี กีย่ วกบั ค่าใช้จา่ ยการผลิต 5 - 9 กัน คือ แผนกซอ่ มแซมจะมีหน้าที่ในการซ่อมแซมและบารงุ รักษาเคร่ืองจกั รของแผนกทุกแผนก ที่อยู่ในโรงงาน ส่วนแผนกบริหารโรงงาน มีหน้าท่ีให้บริการด้านการจัดซ้ือพัสดุ เก็บวัสดุ อุปกรณต์ า่ งๆ และด้านบริหารดา้ นอ่นื ๆ ดังแสดงในตารางที่ 5.2 ตารางที่ 5.2 บญั ชคี มุ ยอดค่าแรงทางออ้ มแยกตามแผนก ค่าแรงทางอ้อม วนั เดือน ปี รายการ เอกสาร รวม แผนกผลิต แผนกบริการ เลขที่ มกราคม 5 ใบวเิ คราะห์คา่ แรง 39,500 ประกอบ ตกแต่ง ซ่อมแซม บริหาร ประจาสปั ดาห์ เลขที0่ 5 10 ,, XXX โรงงาน 15 ,, XXX 21 ,, XXX 17,000 15,000 5,000 2,500 31 ,, 100,000 50,000 35,000 15,000 5,500 จากตารางท่ี 5.2 จะเหน็ ไดว้ ่า บัญชคี า่ แรงทางอ้อมของแต่ละแผนกเป็นบัญชีย่อย ส่วน เม่อื รวมทกุ แผนกเขา้ ดว้ ยกัน จะเปน็ บญั ชคี มุ ยอดค่าแรงงานทางอ้อม กรณีที่กิจการมีค่าใช้จ่าย การผลติ หลายประเภท กจิ การจะต้องเปดิ บญั ชีคุมยอดคา่ แรงงานทางออ้ มหลายบัญชีไว้ในสมดุ แยกประเภทท่วั ไป ซึ่งเกิดความยงุ่ ยากในทางปฏิบตั ิ 2.2 เปิ ดบญั ชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิตเพียงบญั ชีเดียวในสมุดแยกประเภท ทวั่ ไป โดยใชห้ ลักการบัญชี และมีบัญชคี า่ ใชจ้ า่ ยการผลิตแยกตามแผนกเป็นบัญชีย่อย โดยทา เปน็ เอกสารใบสรุปค่าใชจ้ า่ ยในการผลติ ประจาแผนกเปน็ บัญชยี อ่ ย ดังแสดงในตารางท่ี 5.3 เพ่ือ ให้ เข้า ใจ เก่ีย วกั บกา รจั ดทา รา ยละ เอี ยด ค่ าใ ช้จ่า ยก ารผลิตของ แต่ละแผน ก ท้งั หมดท่ีเกดิ ข้ึนในโรงงาน ดังแสดงตัวอย่างในตารางที่ 5.3 ซึ่งเป็นการแสดงสรุปรายละเอียด ของค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งประกอบด้วย แผนกประกอบ แผนกตกแต่ง แผนกซ่อมแซม และ แผนกบริหารโรงงาน ซึ่งในเอกสารนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิตประเภท ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในแต่ละแผนก ระหว่างเดือนมกราคม 25X1 เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรง ทางอ้อม ค่าน้าค่าไฟ ภาษีทรัพย์สิน ค่าเส่ือมราคาของเคร่ืองจักร ค่าเบ้ียประกันภัย และ คา่ ใชจ้ ่ายอ่ืนๆ ซ่ึงข้อมูลเหล่าน้ี รวบรวมมาจากเอกสารต่างๆ ที่มาจากแผนกย่อยแต่ละแผนก เช่น จากใบเบกิ วัตถุดิบ ใบวิเคราะหค์ ่าแรง ใบสาคญั จา่ ยต่างๆ ดังแสดงในภาพที่ 5.1

5 - 10 การบัญชีตน้ ทนุ 1 สาหรับการจัดทาใบสรุปค่าใช้จ่ายการผลิตของแผนกบริการ เช่น แผนกซ่อมแซม แผนกบรหิ ารโรงงาน จะมกี ารจัดทาใบสรุปคา่ ใช้จ่ายการผลติ ของแผนกเหมอื นกบั แผนกผลิต ซ่ึง แยกเป็นค่าใช้จา่ ยแต่ละประเภทที่เกดิ ขึ้นในแผนกน้นั แต่อย่างไรก็ตามการจัดกลุ่มค่าใช้จ่ายใน แตล่ ะแผนกอาจแตกตา่ งกันไปบา้ ง ทง้ั นี้เน่ืองจากลักษณะการดาเนินงานท่ีไม่เหมือนกัน เมื่อ ถึงตอนส้ินงวด พนักงานบัญชีจะรวมยอดค่าใช้จ่ายจากใบสรุปค่าใช้จ่ายการผลิตทุกแผนกเข้า ด้วยกัน ยอดรวมของใบสรุปค่าใช้จ่ายการผลิตจากทุกแผนกซ่ึงถือว่าเป็นบัญชีย่อยจะต้อง เทา่ กบั ยอดรวมของบญั ชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลติ สมมติว่าในเดือนมกราคม 25X1 พนักงานบัญชีของบริษัท อุดรพาณิชย์ จากัด ได้ รวบรวมค่าใช้จา่ ยการผลติ ทเี่ กดิ ข้ึนจรงิ ของทงั้ โรงงาน จากสมดุ รายวนั ทั่วไป ได้ดังน้ีคอื วัตถดุ ิบทางออ้ ม 63,000 บาท จากบัญชีคมุ ยอดวตั ถุดบิ จากบัญชคี ุมยอดคา่ แรง คา่ แรงทางออ้ ม 70,700 บาท ค้างชาระ ค่านา้ คา่ ไฟ 15,500 บาท รายการปรับปรงุ ประจา งจวา่ ดยเป็นเงินสด ภาษีทรัพย์สิน 5,300 บาท คา่ เส่ือมราคา-เครอื่ งจักร 7,500 บาท ค่าเบีย้ ประกนั ภยั 4,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ อน่ื ๆ 10,600 บาท รวม 176,600 บาท ในวันสนิ้ งวด พนกั งานบญั ชีจะรวมยอดจากใบสรุปค่าใช้จ่ายการผลิตจากทุกแผนกเข้า ดว้ ยกนั ดงั แสดงในตารางท่ี 5.3 ซึง่ เม่ือรวมยอดแลว้ จะตอ้ งเท่ากับ ยอดรวมของบัญชีคุมยอด ค่าใช้จ่ายการผลิตท้ังกิจการที่ได้มาจากสมุดลงรายการข้างต้นและบัญชีต่างๆท่ีเก่ียวข้อง

บทที่ 5 การบัญชเี ก่ยี วกับคา่ ใช้จา่ ย วนั เดือน ปี ใบสาคญั ยอดรวม วตั ถดุ ิบ บริษทั อุดรพาณิช 25X1 3 เลขท่ี ทางอ้อม ใบสรปุ ค่าใช้จา่ ย มกราคม ใบเบิก 10,000 วัตถุดิบ 10,000 แผนกประก 5 No.1001 10,000 ประจาเดือน มกรา ใบ 30,000 คา่ แรง ภาษี 10 วเิ คราะห์ 29,000 ทางอ้อม ทรพั ยส์ ิน ค่าแรง xxx 19 No.102 xxx 10,000 25 ใบสาคัญ 31 จา่ ย 88,700 12,000 No.501 xx xxx 25,200 8,000 รวม ภาพที่ 5.1 ตัวอยา่ งใบสรปุ คา่ ใชจ้

ยการผลิต 5 - 11 ชย์ จากดั คา่ เสือ่ ม คา่ เช่า รายการ จานวน ยการผลิต ราคา โรงงาน อื่นๆ เงิน กอบ าคม 25X1 ค่าน้า ค่าเบีย้ ค่าไฟ ประกนั ภยั 17,000 …………. xxx xxx …………. xxx - 2,500 xx 7,000 11,000 5,000 จ่ายการผลิตประจาแผนก

5 - 12 การบัญชีต้นทุน 1 ตารางที่ 5.3 สรุปรายละเอยี ดของคา่ ใช้จ่ายการผลติ บริษัท อุดรพาณชิ ย์ จากดั สรปุ รายละเอียดของค่าใช้จ่ายการผลิต ประจาเดอื นมกราคม 25X1 หนว่ ย : บาท รายการ แผนก แผนก แผนก แผนก ยอดรวม ประกอบ ตกแต่ง ซ่อมแซม บริหาร โรงงาน วัตถดุ บิ ทางอ้อม 63,000 20,000 18,000 13,000 12,000 คา่ แรงทางอ้อม 70,700 24,200 15,000 14,000 17,500 ค่านา้ คา่ ไฟ 15,500 5,000 4,500 3,500 2,500 ภาษที รัพยส์ ิน 5,300 1,000 1,800 1,200 1,300 คา่ เส่ือมราคา-เครื่องจักร 7,500 2,000 2,000 2,000 1,500 คา่ เบี้ยประกันภัย 4,000 1,000 1,000 1,000 1,000 ค่าใช้จ่ายอน่ื ๆ 10,600 2,500 2,600 2,700 2,800 รวม 176,600 55,700 44,900 37,400 38,600 จะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายการผลิตรวมท้ังส้ิน 176,600 บาท จะมาจากค่าใช้จ่ายที่เป็น ของแผนกต่างๆ นั่นคือ เป็นค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีมาจากแผนกประกอบจานวน 55,700 บาท แผนกตกแต่ง 44,900 บาท แผนกซอ่ มแซม 37,400 และแผนกบรหิ ารโรงงาน 38,600 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรร ตน้ ทนุ การผลติ ทีเ่ กิดขน้ึ ในกระบวนการผลิตของธรุ กิจผลติ สินค้า นอกเหนือจากวตั ถุดิบ ทางตรง ค่าแรงงานทางตรงแล้ว ส่วนใหญ่ต้นทุนที่เกิดขึ้นมักจะเป็นต้นทุนจริงที่เกิดขึ้น ซึ่ง สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าต้นทุนดังกล่าวมีจานวนเท่ากับเท่าใด แต่สาหรับค่าใช้จ่ายการ ผลิตซ่ึงเป็นต้นทนุ ที่ถอื วา่ เป็นต้นทนุ ท่สี าคญั ของตน้ ทนุ การผลติ อกี ส่วนหนงึ่ ดังนัน้ การคานวณ ต้นทุนผลิตภัณฑ์หรือต้นทุนการผลิตจะถูกต้อง ครบถ้วน ก็ต้องเกิดจากการเก็บรวบรวม ค่าใช้จ่ายการผลิตในรอบระยะเวลาบัญชีน้ันๆ ให้ครบถ้วนด้วยเช่นกัน แต่ในความเป็นจริง ค่าใช้จ่ายการผลิต ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายการผลิตต่างๆ อยู่หลายประเภท ค่าใช้จ่ายบาง ประเภทเกดิ ข้นึ ในวันท่ีเกิดรายการ แต่บางประเภทต้องรอให้ถึงวันส้ินเดือน หรือสิ้นงวดบัญชี จงึ จะรจู้ านวนคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ทเ่ี กดิ ข้ึน จงึ ทาให้เกิดปัญหาในการคดิ ตน้ ทุนเขา้ สู่ตวั ผลิตภัณฑ์

บทที่ 5 การบัญชีเกย่ี วกบั คา่ ใช้จ่ายการผลิต 5 - 13 ทาใหก้ จิ การไม่สามารถคดิ ต้นทุนผลติ ภัณฑไ์ ด้โดยทันที แตก่ จิ การมีความจาเป็นต้องแจ้งราคา สนิ ค้าให้กบั ลกู คา้ ทันที เมือ่ ลกู ค้ามาสอบถามราคาสินคา้ ดงั นั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกลา่ ว กิจการจึงตอ้ งมีการนาเอาคา่ ใช้จา่ ยการผลติ โดยประมาณ (Estimated Manufacturing Overhead) ซึง่ กาหนดไว้ล่วงหน้า หรือเรียกว่า ค่าใช้จ่ายการผลิต จัดสรร (Applied Manufacturing Overhead) มาใช้แทนค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีเกิดขึ้นจริง เพ่ือ นาไปเปน็ ขอ้ มูลสาหรบั การกาหนดตน้ ทุนผลติ ภัณฑ์ ประกอบการตัดสนิ ใจแก่ผูบ้ ริหารต่อไป สาเหตขุ องการกาหนดอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรรไว้ล่วงหน้า การคานวณหาต้นทุนผลิตภัณฑ์ต่อหน่วยเพ่ือนาข้อมูลไปใช้ในการวางแผน และ ควบคุมโดยผูบ้ รหิ าร หรือเพ่อื จดั ทางบการเงินในตอนสน้ิ งวดบัญชี กจิ การตอ้ งคานวณคา่ ใชจ้ ่าย การผลิตโดยเก็บรวบรวมข้อมูลจริงที่เกิดข้ึนในแต่ละงวดให้ครบถ้วน และถูกต้องเพ่ือไป คานวณหาตน้ ทุนการผลิต และถ้าหากต้องการหาต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วย กิจการต้อง เอาต้นทุนการผลิตรวมทั้งสิ้น หารด้วยจานวนสินค้าที่ผลิตได้ (ในกรณีผลิตสินค้าเพียงชนิด เดยี ว) เช่น กิจการแห่งหนง่ึ มคี ่าใช้จ่ายการผลติ จรงิ เกดิ ขึ้นตลอดทงั้ ปี มีจานวน 750,000 บาท กิจการผลิตสินค้าเพยี งชนดิ เดียวมจี านวน 25,000 หน่วย ดังน้ัน ค่าใช้จา่ ยการผลิตต่อหนว่ ยท่ี ผลติ ได้ จะเทา่ กบั 30 บาท (750,000 บาท  25,000 หนว่ ย) แต่การท่ีกิจการจะทราบต้นทุน คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตต่อหนว่ ยถวั เฉลย่ี ตลอดทงั้ ปีได้ ต้องรอข้อมูลของค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดข้ึน ตลอดทั้งปีจนครบถ้วนก่อน พร้อมกับทราบจานวนสินค้าท่ีผลิตของปีนั้นๆ ดังนั้น อัตรา ค่าใช้จ่ายการผลติ ต่อหน่วยจะทราบข้อมูลที่แท้จริงได้ต้องรอตอนส้ินงวด หรือตอนสิ้นปี แต่ใน บางกรณีผู้บริหารต้องการทราบข้อมูลต้นทุนผลิตภัณฑ์ต่อหน่วยในระหว่างปี หรือช่วงก่อนท่ี ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะเกิดข้ึน เพื่อเอาไปใช้ในการวางแผนและควบคุม นาไปกาหนดราคา ผลิตภัณฑ์ หรือทางบการเงินรายเดือน ถ้าหากกิจการไม่ทราบค่าใช้จ่ายการผลิตท้ังหมดท่ี เกิดขนึ้ จรงิ เพราะตอ้ งรอเอกสารเก่ียวกับค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดข้ึนจริงซะก่อน ทาให้ยุ่งยาก ต่อการพิจารณาว่ามีค่าใช้จ่ายการผลิตจริงจะมีจานวนเท่ากับเท่าใด เพ่ือไปคานวณหาต้นทุน ผลิตภณั ฑต์ ่อหนว่ ยของสนิ คา้ แตล่ ะชนิด นอกจากนี้ ค่าใชจ้ ่ายการผลิตบางประเภทเกิดข้ึนไม่สม่าเสมอ บางรายการเกิดข้ึนทุก เดอื น เช่น คา่ นา้ ค่าไฟ ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร เงินเดือนหัวหน้างาน เป็นต้น แต่บางรายการ เกดิ ขนึ้ บางเดือน เช่น ค่าภาษที รพั ยส์ ิน คา่ เบ้ยี ประกันภยั โรงงาน ซง่ึ จะเกดิ ข้นึ ตอนสิน้ ปี ดังนั้น ทาให้ค่าใช้จ่ายการผลิตจะมีจานวนมากในบางเดือน หรือน้อยในบางเดือน ทาให้ต้นทุน คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ต่อหน่วยไม่เทา่ กนั ในแต่ละเดือน ซ่ึงจะมีผลต่อการคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ ตอ่ หนว่ ย จะมจี านวนไม่เท่ากันในแตล่ ะเดอื น (ดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 206)

5 - 14 การบญั ชตี น้ ทุน 1 ดังน้ัน ถ้าหากกิจการต้องการทราบต้นทุนต่อหน่วยเพ่ือเป็นตัวแทนของข้อมูลต้นทุน การผลิตทั้งปีก็ต้องใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายการผลิต เพ่ือไม่ให้เดือนใดเดือนหน่ึง รับภาระต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายท่ีสูงหรือต่าจนเกินไปจากที่ควรจะเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายการผลิต โดยประมาณตลอดทงั้ ปีของบริษัทแห่งหน่ึง มีจานวน 550,000 บาท จานวนสินค้าที่คาดว่าจะ ผลติ ได้ทัง้ ปี เท่ากับ 10,000 หน่วย ต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตต่อหน่วย จะเท่ากับ 55 บาทต่อ หน่วย (550,000 บาท  10,000 หน่วย) และกิจการสามารถนาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตนี้ไป ประมาณต้นทุนค่าใชจ้ า่ ยการผลิตสาหรับงวดถัดไป เพื่อเป็นข้อมูลที่จะใช้เป็นประโยชน์ในการ วางแผนและควบคมุ หรือนาไปเปน็ ฐานในการกาหนดราคาสนิ ค้าใหแ้ กล่ ูกค้า ซ่ึงอตั ราดังกล่าวน้ี ก็คือ อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร หรือ อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน (Applied Manufacturing Overhead Rate) ซ่งึ อตั รานี้จะเปน็ ขอ้ มลู ที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่จะรอข้อมูล จรงิ ที่เกิดขึน้ ซึ่งอาจเปน็ ข้อมูลที่นาไปใช้ในการตัดสินใจไม่รวดเร็วพอ เกิดความเสียเปรียบใน เชงิ ของการแขง่ ขนั ได้ ประโยชน์ของการใช้อตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรร เม่อื กจิ การมกี ารกาหนดอัตราค่าใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรรล่วงหน้าจากค่าใช้จ่ายการผลิต โดยประมาณทั้งปี หารด้วยปรมิ าณการผลติ ท่คี าดวา่ จะผลติ ได้ หรอื อาจใช้เกณฑอ์ น่ื ๆ ที่มีความ เหมาะสมทาให้กจิ การไดร้ บั ประโยชน์จากการใชอ้ ัตราค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรร ซง่ึ สามารถสรุป ได้ดังนี้ 1. เพื่อใช้ข้อมลู อัตราคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจดั สรร ในการคานวณต้นทนุ ของงานระหวา่ งทา และตน้ ทนุ ของสินคา้ ที่ผลติ เสรจ็ ได้ทันที โดยท่ีไม่จาเป็นตอ้ งรอให้คา่ ใชจ้ ่ายเกดิ ข้นึ หรือรอจนถงึ วนั สน้ิ งวดบญั ชี 2. ต้นทนุ ทค่ี านวณได้เป็นตน้ ทนุ ถัวเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีบางเดือนสูงหรือบาง เดอื นต่า ตามทเ่ี กดิ ข้ึนในระหว่างปี โดยการนาจานวนสินค้าที่ผลิตได้ตลอดปีไปหารค่าใช้จ่าย การผลิตตลอดปี เพ่ือให้ได้อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตเพียงอัตราเดียว สาหรับใช้เป็นตัวแทนใน การคานวณหาคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตทค่ี วรจะเป็น การใช้อตั ราค่าใชจ้ ่ายการผลิตถัวเฉล่ียนี้จะมีผล ทาให้สิ นค้าแต่ละหน่ วยรับภาระใ นส่วน ของค่ าใช้จ่า ยการ ผลิต ด้วยอัตร าค่าใช้จ่ายก ารผลิ ต ภายใตก้ าลังการผลติ ปกตติ ลอดปี สาหรบั ในกรณีทกี่ ิจการผลิตสินค้า หรือ ผลิตงานตามคาส่ัง ของลูกค้าในลักษณะหรือกระบวนการผลิตแบบเดียวกัน ก็สามารถนาอัตราน้ีไปคานวณเป็น ต้นทนุ การผลติ ของสนิ คา้ หรอื ของงานใดงานหน่ึงได้ ไม่ว่าจะผลติ ในเดือนไหนของปีกต็ าม

บทท่ี 5 การบัญชเี ก่ยี วกบั ค่าใชจ้ ่ายการผลติ 5 - 15 3. กิจการสามารถจัดทางบการเงินและรายงานการเงินต่างๆ ประจาเดือน ซึ่งงบ การเงนิ และรายงานการเงินเหล่าน้ีสามารถนาไปเปรียบเทียบกันได้อย่างมีความหมายมากข้ึน เน่อื งจากมีการใช้หลกั เกณฑ์ของอัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตจดั สรรทีเ่ ปน็ เกณฑ์เดยี วกัน 4. ดา้ นการวางแผนและการควบคมุ ฝา่ ยบรหิ ารมกี ารใชอ้ ัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร เพอ่ื คานวณต้นทุนที่ควรจะเป็นในแต่ละเดือนสาหรับแผนกต่างๆ และใช้ข้อมูลอัตราค่าใช้จ่าย การผลิตจัดสรรนีเ้ ปน็ แนวทางในการเปรียบเทยี บระหวา่ งผลของการปฏิบตั ิงานจริงกบั ค่าใช้จา่ ย การผลิตจัดสรร ถ้ามีผลต่าง (Variance) เกิดขึ้น ก็จะต้องวิเคราะห์ต่อว่ามีจานวนเท่ากับ เทา่ ใด เปน็ ผลตา่ งทน่ี า่ พอใจ หรือไม่น่าพอใจ และผลต่างน้ันเกิดจากสาเหตุใด หน่วยงานใด เป็นผู้รับผิดชอบ และจะปรับปรุงแก้ไขผลต่างท่ีไม่น่าพอใจได้อย่างไร หรือถ้าเป็นผลต่างท่ีน่า พอใจ ตรวจสอบวา่ เกณฑ์ที่ใชน้ นั้ มีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งอาจจะเกิดจากการกาหนดตัวเลข ประมาณการทต่ี ่าไปกเ็ ป็นได้ 5. ดา้ นการตัดสนิ ใจในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆ บางครงั้ กจิ การต้องกาหนดราคาขายเอง เพอ่ื แจง้ ให้กบั ลกู ค้า เชน่ เมื่อมีการประมูลงานกอ่ สร้างหรอื ยนื่ ซองประกวดราคา การรูต้ ้นทุน การผลิตทั้งหมดเป็นการล่วงหน้า จะเป็นประโยชน์ต่อการกาหนดราคาขายท่ีถูกต้อง หรือ ใกลเ้ คียงกับความเปน็ จรงิ มากท่สี ดุ หรอื ใชต้ ัดสนิ ใจเพอื่ แก้ปัญหาอน่ื อนั เกี่ยวกบั การผลิต เช่น การรับคาส่งั ซอ้ื พิเศษ (Accept Special Orders) การผลิตสินค้าเอง หรือซ้ือสินค้าหรือช้ินส่วน จากบุคคลภายนอก เป็นตน้ การกาหนดอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรร การประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรล่วงหน้า เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกาหนดราคา ขายของสนิ ค้าชนดิ ใดชนิดหนงึ่ หรอื นาขอ้ มลู ไปใชใ้ นการวางแผนและควบคุม การกาหนดอตั รา ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรก่อน เพ่ือนาไปคานวณหาค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรต่อไป ซ่ึงอัตรา คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ จัดสรร สามารถคานวณ ได้ดังน้ี อตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรร = คา่ ใช้จา่ ยการผลติ ทงั้ หมด เกณฑ์ในการคานวณคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต หรอื คา่ ใช้จา่ ยการผลิตทั้งหมด อตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร = ปรมิ าณของกจิ กรรม

5 - 16 การบญั ชตี น้ ทนุ 1 จากการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรข้างต้น แสดงให้เห็นว่า กิจการจะ คานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตได้ กิจการต้องทราบจานวนค่าใช้จ่ายการผลิตทั้งหมดของท้ัง โรงงานโดยประมาณ และเกณฑ์ที่ใช้ในการคานวณค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ซ่ึงข้อมูลเหล่าน้ี อาจได้มาจากแหล่งข้อมูลแหลง่ ใดแหลง่ หนง่ึ ดงั นี้ 1. จากการจัดทางบประมาณ โดยกิจการส่วนใหญ่จะจัดทางบประมาณประจาปี ซึ่ง การผลิตจะอยู่ภายใต้กาลังการผลิตในระดับต่างๆ เช่น ระดับกาลังการผลิตปกติ (Normal Capacity) หรือระดับปริมาณการผลิตที่คาดว่าจะผลิตได้ (Expected Level of Activity) หรือ ระดับอื่นๆ ท่ีเห็นว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะน้ัน (ซึ่งระดับการผลิตในระดับต่างๆ จะ กล่าวโดยละเอยี ดในหวั ข้อถัดไป) 2. จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายการผลิตของกิจการ ถ้าหาก กิจการน้นั ไม่ไดจ้ ัดทางบประมาณ ก็อาจคานวณหาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรได้จากการ วิเคราะห์พฤตกิ รรมของตน้ ทนุ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในอดีต และทาการปรบั ปรุงขอ้ มูลต่างๆ เก่ียวกับระดับ ราคาของสินค้า กาลังการผลิตปกติ แนวโน้มการผลิต และปริมาณการขายในอนาคตให้เป็น ข้อมลู ประมาณการท่ีเหมาะสมซะก่อน แล้วนาข้อมูลเหล่านี้มาคานวณหาอัตราค่าใช้จ่ายการ ผลิตจัดสรร เพื่อใหเ้ ขา้ ใจเกีย่ วกับการคานวณอตั ราค่าใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร สามารถแสดงตวั อย่าง การคานวณ ดงั ตวั อยา่ งที่ 5.1 ตวั อย่างท่ี 5.1 บรษิ ัท กานดา จากัด มกี ารจดั ทางบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต โดยมีข้อมูลค่าใช้จ่าย การผลติ โดยประมาณต่อเดอื น ดังนี้ คา่ ใช้จ่ายการผลติ คงท่ี 500,000 บาท ค่าใช้จา่ ยการผลิตผันแปร 400,000 บาท จานวนชว่ั โมงแรงงานทางตรง 20,000 ช่วั โมง ฝ่ายบริหารตอ้ งการใหพ้ นกั งานบัญชขี องบริษัท กาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร สาหรบั งวดบญั ชีหน้า โดยมขี ้อมลู แผนการดาเนินงานธรุ กิจ เพิ่มเติมดังน้ี 1) บริษทั วางแผนทจี่ ะลดชัว่ โมงแรงงานทางตรงเหลอื เดือนละ 18,000 ช่วั โมง 2) แผนกจดั ซ้ือวัตถุดิบคาดการวา่ วัตถุดิบมแี นวโนม้ จะราคาเพิ่มสงู ขึ้น 10% 3) ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ 50% จะเพิ่มขึ้น 10% แต่อีก 50% ท่ีเหลือจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลง 4) กิจการตอ้ งการขยายโรงงาน ซ่ึงทาให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่เพิ่มข้ึนจาก เดมิ เดอื นละ 10,000 บาท

บทท่ี 5 การบญั ชีเกี่ยวกับคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต 5 - 17 วิธีการคานวณ จากขอ้ มูลขา้ งตน้ สามารถคานวณอัตราค่าใช้จา่ ยการผลติ จัดสรร ได้ดงั น้ี จานวนช่วั โมงแรงงานทางตรง เท่ากับ 18,000 ชั่วโมง สามารถคานวณค่าใช้จ่ายการ ผลติ แตล่ ะประเภท ได้ดังน้ี คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตโดยประมาณตอ่ เดอื น :- 1) ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผันแปร (เพมิ่ ขนึ้ ตามระดบั ของต้นทุนวัตถุดบิ ทเ่ี พิม่ ขนึ้ 10%) ((400,000 บาท/20,000 ชัว่ โมง x 18,000 ชัว่ โมง) x 1.1) = 396,000 บาท 2) ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ (ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่จะเพ่ิมขึ้น 10% ส่วนอีก 50% ที่ เหลือไม่มกี ารเปล่ียนแปลง และการขยายโรงงานทาให้คา่ ใช้จ่ายการผลิตคงที่เพิม่ 10,000 บาท) ((250,000 X 1.1) + 250,000 + 10,000) = 535,000 บาท รวมค่าใช้จา่ ยการผลติ โดยประมาณทงั้ หมดต่อเดอื น 931,000 บาท ดังนน้ั การคานวณอัตราคา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร จะสามารถคานวณ ได้ดงั น้ี อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร = 931,000 บาท 18,000 ชั่วโมง = 51.72 บาทตอ่ ช่วั โมง จากข้อมูลข้างต้น ถ้ากิจการใช้เกณฑ์การคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตเป็นชั่วโมง แรงงานทางตรง กิจการจะมีอตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จัดสรรเท่ากับ 51.72 บาทต่อช่ัวโมงแรงงาน ทางตรง การประมาณระดบั การผลิต การคานวณอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร สิ่งสาคัญส่ิงหน่ึงท่ีกิจการต้องคานึงถึง คือ การประมาณระดับการผลติ ทค่ี าดว่าจะผลิตได้ในงวดหนงึ่ ๆ เพราะการประมาณระดับการผลิตที่ เหมาะสมหรือใกล้เคียงกับระดับการผลิตจริง จะทาให้กิจการสามารถประมาณค่าใช้จ่ายการ ผลิตท่ีเกิดข้ึนได้อย่างถูกต้องมากที่สุด ซึ่งข้อมูลที่ได้จะสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการ วางแผนและการควบคุมไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดังน้นั กจิ การจึงต้องมีการกาหนดว่าจะเลือกระดบั การผลิต (Production Capacity หรือ Capacity Level) ระดับใด เพื่อนามาใช้คานวณหาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ทรัพยากรท่ี นามาใช้ในการผลิตไม่ว่าจะเป็นกาลังคน หรอื เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ต่างๆ จะมีขอ้ จากัดในการผลิต จานวนเท่าใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ปริมาณสินค้าที่คาดว่าจะขายได้ เป็น

5 - 18 การบัญชตี ้นทนุ 1 สว่ นสาคญั เพราะถา้ กจิ การผลิตสินคา้ จานวนมากแต่ขายไม่ออก กอ็ าจจะทาให้กิจการมสี ินคา้ คงเหลือในคลงั จานวนมาก เงินทุนไปจมในตัวสินค้าทาให้ประสบภาวะขาดทุนได้ นอกจากน้ี กาลังการผลิตของกจิ การอาจมกี ารเปลย่ี นแปลงไปตามฤดูกาล สินค้าอาจขายได้มากในช่วงใด ช่วงหนึ่งของปีแตบ่ างช่วงขายไดน้ อ้ ย จึงทาใหเ้ กดิ กาลังผลิตว่างเปล่า (Idle Capacity) น่ันคือ กจิ การไม่สามารถใชท้ รัพยากรในการผลิตให้เตม็ ที่ตามทีค่ วรจะเปน็ เช่น เคร่ืองจักรไม่มีการใช้ งาน คนงานวา่ งงาน เป็นต้น ดังนั้น การประมาณระดับการผลิตที่ถูกต้องในแต่ละช่วงของการ ผลติ จะทาใหก้ ิจการสามารถคาดคะเนหรือประมาณการคา่ ใช้จ่ายการผลิตไดใ้ กล้เคียงกับความ เป็นจริงมากที่สดุ น่ันเอง การประมาณระดับการผลิตของกิจการ สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1) กาลัง การผลิตสูงสุดหรือระดับการผลิตในอุดมคติ 2) ระดับหรือกาลังผลิตที่พอปฏิบัติได้ 3) ระดับ กาลงั ผลติ ปกติ และ 4) ระดบั กาลังการผลติ ทคี่ าดว่าจะผลิตในงวดหน้า ซ่ึงแต่ละระดับการผลิต สามารถอธิบายรายละเอียดได้ดังน้ี (ปรับปรุงจากดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 219 และสมนึก เออ้ื จิระพงษพ์ นั ธ์, 2557 : 201) 1. ระดบั กาลงั การผลิตสงู สดุ หรือระดบั การผลิตในอดุ มคติ ระดับกาลงั การผลติ สงู สุด หรอื ระดับการผลติ ในอดุ มคติ (Maximum Capacity หรือ Ideal Capacity) หรอื เปน็ ระดับการผลติ ในเชงิ ทฤษฎี (Theoretical Capacity) ระดับน้ีเปน็ ระดับ การผลติ ทีเ่ ทียบเท่า 100% ระดับการผลติ นี้กิจการจะใช้ทรัพยากรท่ีใช้ในการผลิตทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนงาน เครื่องจักร เครื่องมือเคร่ืองใช้ต่างๆ ได้ถูกใช้งานเต็มกาลังการผลิต ใน เวลาที่ตอ่ เน่ืองกันไปโดยไม่มกี ารหยดุ พัก แตใ่ นทางปฏบิ ตั ิ จะเห็นได้วา่ ไม่มีกิจการใดสามารถ ทาได้ เพราะในความเป็นจริง คนงานอาจป่วย หรือเคร่ืองจักรอาจเสีย ต้องมีการซ่อมแซม ระหว่างการทางาน ดังน้ันกาลังการผลิตระดับน้ี จึงถูกเรียกว่า ระดับกาลังการผลิตสูงสุด หรือ เปน็ ระดบั ในอดุ มคติ นัน่ เอง 2. ระดบั กาลงั การผลิตที่พอปฏิบตั ิได้ ระดับกาลังผลิตท่ีพอปฏิบัติได้ (Practical Capacity) เป็นระดับการผลิตท่ีกิจการ สามารถทาการผลติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด ซึง่ ระดับการผลติ น้ีกิจการมีการเผ่ือระยะเวลา สาหรับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดข้ึน ท่ีไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ เช่น กิจการอาจมีการรอ วตั ถุดบิ หรอื ชว่ งเวลาท่ีต้องรอเมอ่ื มีการซ่อมแซมเครื่องจกั รหรืออุปกรณต์ า่ งๆ ทีใ่ ช้ในการผลิต สนิ ค้า หรือการรองานท่สี ง่ ตอ่ จากแผนกอนื่ ๆ หรือการหยดุ ทางานของคนงานเน่ืองจากวันหยุด เป็นต้น ระดับกาลังการผลิตน้ีจึงมีระดับการผลิตท่ีต่ากว่ากาลังผลิตในระดับอุดมคติท่ีกล่าวไว้ ข้างตน้ ดังน้นั ตน้ ทนุ ตอ่ หน่วยทค่ี านวณได้ภายใต้ระดับกาลงั การผลติ ท่พี อปฏิบัติได้ น่าจะเป็น ต้นทนุ ที่ตา่ ทส่ี ดุ ทคี่ วรจะปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพทส่ี ุด

บทท่ี 5 การบญั ชีเกี่ยวกบั ค่าใช้จา่ ยการผลติ 5 - 19 3. ระดบั กาลงั การผลิตปกติ ระดับกาลังการผลิตปกติ (Normal Capacity) เปน็ ระดับกาลังการผลติ เฉลย่ี ที่กิจการ กาหนดจากความต้องการของสินคา้ ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนง่ึ ทีเ่ ปน็ ช่วงระยะเวลายาวอาจอยู่ ระหว่าง 3 - 5 ปี โดยปกตกิ ารผลติ ชว่ งเวลาสน้ั ๆ อาจจะไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาข้ึนอยู่กับ ความตอ้ งการตลาดขณะนั้น แต่ถ้าเป็นระยะยาว ประมาณการผลิตจะเป็นไปตามระดับปกติที่ ประมาณการไว้ ซง่ึ ทาให้ปริมาณการผลิตไมเ่ ปล่ียนแปลงภายในช่วงระยะเวลาตามแผน ดังน้ัน อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาน้ัน ยกเว้นว่ามี ค่าใช้จา่ ยการผลิตบางประเภทมมี ูลคา่ ทีส่ ูงขึ้น จงึ ต้องปรับปรงุ ตัวเลขใหม่ การกาหนดระดับกาลังการผลิตปกติ เป็นการกาหนดปริมาณการผลิตให้เพียง พอทจ่ี ะขายไดใ้ นระยะเวลานานพอทีจ่ ะครอบคลมุ กบั การเปลี่ยนแปลงปัจจัยต่างๆ ตามฤดูกาล หรือตามวัฎจกั รของการดาเนนิ ธรุ กจิ (Business Cycle) โดยทั่วไปกาลังการผลิตปกติมักจะอยู่ ในระดับต่ากว่ากาลงั การผลิตท่ีพอปฏิบัติได้ การคานวณหาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร จะ คานวณไดโ้ ดยนาเอาค่าใชจ้ า่ ยการผลิตโดยประมาณท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับปกติ หารด้วย ระดบั กาลงั การผลิตปกติ 4. ระดบั กาลงั การผลิตที่คาดว่าจะผลิตจริง ระดับกาลังการผลิตท่ีคาดว่าจะผลิตจริงในงวดหน้า (Expected Actual Capacity) เป็นระดบั การผลติ ท่ีกิจการคาดการว่าจะผลิตในงวดบัญชีถัดไป โดยท่ีกิจการกาหนดปริมาณ การผลิตของแต่ละปี จึงทาให้อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรมีการเปล่ียนแปลงไปในแต่ละปี วิธีน้ีเหมาะกับกิจการที่มีการเปล่ียนแปลงปริมาณการผลิตข้ึนลงมากๆ ในแต่ละปี ทาให้ไม่ สามารถใชอ้ ตั ราค่าใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรรทกี่ าหนดจากระดับการผลติ ปกติได้ การคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรเกิดจากการประมาณการค่าใช้จ่ายการ ผลิตตามระดบั การผลติ ท่ีคาดว่าจะผลติ จรงิ ในปีน้ันโดยเฉพาะ หารด้วยประมาณการตามระดับ การผลติ ทีค่ าดวา่ จะผลิตจริง ดังน้ัน อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรจึงแตกต่างกันในแต่ละงวด บญั ชี นน่ั หมายความวา่ การกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ณ ระดับการผลิตน้ีจะเป็น ประโยชนต์ อ่ การวางแผนและควบคุมคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการ ผลติ ในแต่ละปีนน่ั เอง ขนั้ ตอนการกาหนดอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรร การกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรจะมีลักษณะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภท ของธรุ กิจ หรือถงึ แม้จะอยู่ในธรุ กิจเดียวกันก็ตาม หากลักษณะการดาเนินงานของแผนกผลิต แต่ละแผนกมีความแตกต่างกัน อาจส่งผลต่อการกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรแยก

5 - 20 การบญั ชตี ้นทุน 1 ตามแต่ละแผนก แทนท่ีจะใช้อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรแบบอัตราเดียวท้ังกิจการหรือทั้ง โรงงาน ดังน้ัน อาจกล่าวได้ว่าการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรถูกกาหนดข้ึนตาม ลักษณะการดาเนินการผลิต และรูปแบบของข้อมูลที่ผู้บริหารต้องการ ดังนั้น ประเด็นหลักที่ กิจการตอ้ งพิจารณาและตดั สินใจเสียก่อนว่ากิจการต้องการอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตในลักษณะ ใด ซงึ่ ประเด็นทคี่ วรพิจารณาก่อนการคานวณอตั ราค่าใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร มีดังน้ี 1. กจิ การตอ้ งการกาหนดอตั ราคา่ ใชจ้ ่ายผลิตที่คิดตามระบบต้นทุนเตม็ หรือต้นทนุ รวม (Full Costing หรือ Absorption Costing) หรือระบบต้นทุนผันแปรหรือต้นทุนตรง (Variable Costing หรือ Direct Costing) ในแง่ของการบัญชีต้นทุนนิยมใช้หลักการคานวณต้นทุน ผลิตภณั ฑต์ ามระบบต้นทนุ เตม็ ในการจัดทางบการเงินเพื่อเสนอต่อบุคคลภายนอกมากกว่าจะ ใชร้ ะบบต้นทนุ ผนั แปร นั่นคือ การเอาค่าใช้จ่ายการผลิตคงท่ีรวมเข้าเป็นต้นทุนการผลิตสินค้า ด้วย ดังนนั้ อตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรรท่พี จิ ารณาก็คอื อัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรรตาม หลักการของระบบต้นทนุ เต็ม 2. การกาหนดเกณฑท์ ี่ใช้สาหรับคานวณคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตเขา้ สู่ตัวผลิตภัณฑ์หรืองาน ว่ากิจการจะใช้เกณฑ์อะไร ซ่ึงเกณฑ์ท่ีใช้ควรเป็นปริมาณกิจกรรมที่กิจการเห็นว่ามี ความสัมพนั ธก์ ับค่าใช้จ่ายการผลิตโดยตรง หรือมีความสัมพันธ์มากที่สุดนั่นเอง โดยเกณฑ์ที่ นยิ มใชโ้ ดยท่ัวไป เช่น ชวั่ โมงแรงงานทางตรง ชั่วโมงเคร่ืองจักร ค่าแรงทางตรง หรือจานวน หน่วยสินคา้ ท่ีผลิต เป็นตน้ 3. กรณีที่กิจการกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรจากงบประมาณในระดับการ ผลิตตา่ งๆ จะมีปญั หาว่ากจิ การควรจะเลอื กใชร้ ะดับการผลิต (Capacity) ระดับใด ซ่งึ อาจจะเป็น ระดับกาลังการผลิตปกติ ระดับกาลังผลิตที่พอปฏิบัติได้ หรือระดับกาลังการผลิตที่คาดว่าจะ ผลิตได้ ดงั ไดก้ ลา่ วไวแ้ ลว้ ข้างตน้ เพราะอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรถ้าเลอื กใช้ระดับการผลติ ท่ีต่างกัน จะทาให้ได้อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีแตกต่างกัน ซ่ึงจะส่งผลต่อการคานวณต้นทุน การผลิตรวมของสินคา้ แต่ละชนดิ มีความแตกตา่ งเช่นกนั 4. กิจการควรจะใช้วิธีการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรวิธีใด ซ่ึงอาจจะใช้ อตั ราคา่ ใช้จ่ายการผลติ เพยี งอตั ราเดียว (Plant Wide Rates) ทั้งโรงงาน หรืออัตราค่าใช้จ่าย การผลติ แยกเป็นรายแผนก (Departmental Rates) หรอื อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตแยกตามฐาน กจิ กรรม (Activity – based Costing) ซ่งึ แต่ละวิธีจะมหี ลกั การคานวณต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิต และข้นั ตอนท่ีแตกตา่ งกนั สง่ ผลต่อการคานวณตน้ ทุนสินคา้ ทม่ี คี วามแตกต่างกัน 5. การกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรของแผนกบริการ (Service Department Rates) จะแยกออกจากอัตราค่าใชจ้ ่ายการผลิตของแผนกผลิตหรือไม่ เม่ือแผนกผลิตน้ันมาใช้ บรกิ ารกับแผนกบรกิ ารนนั้ ๆ กจ็ ะคานวณอตั ราค่าใช้จา่ ยการผลติ นี้เข้ากับปริมาณการให้บริการ ที่แผนกผลิตได้ใช้ไปในระหว่างงวด แต่โดยทั่วไปกิจการมักจะปันส่วนค่าใช้จ่ายของแผนก บรกิ ารเขา้ ส่แู ผนกผลิตแลว้ จงึ คานวณหาอตั ราค่าใช้จา่ ยการผลิตรวมเขา้ สู่ตัวสนิ ค้าอีกทีหน่งึ

บทที่ 5 การบัญชีเก่ยี วกบั ค่าใช้จา่ ยการผลิต 5 - 21 จากข้อมลู ดงั กล่าวขา้ งต้น เมอ่ื กจิ การทราบความตอ้ งการแลว้ ว่าคา่ ใช้จ่ายการผลิตที่จะ นามาใช้ในการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจะใช้แบบใด ก็สามารถกาหนดอัตราค่าใช้จ่าย การผลิตจดั สรรไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ในท่นี ้ี สมมติให้กิจการเลือกวิธีการกาหนดอัตรา ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรเพียงอัตราเดียวใช้กับท้ังโรงงานเพื่อให้ง่ายต่อการคานวณ (ส่วน วิธีการกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตวิธีอื่นๆ จะกล่าวโดยละเอียดต่อไป) การกาหนดอัตรา คา่ ใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร จะมขี ้นั ตอนการคานวณ ดังนี้ ขั้นที่ 1 เลือกเกณฑ์ (Base) ท่ีใช้คานวณค่าใช้จ่ายการผลิตเข้าสู่ตัวผลิตภัณฑ์ หรือ งานต่างๆ ขั้นท่ี 2 เลอื กระดับกาลงั การผลติ (Capacity Level) ท่จี ะใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการกาหนด คา่ ใช้จา่ ยการผลิตโดยประมาณ ข้นั ท่ี 3 คานวณหาอตั ราคา่ ใช้จ่ายการผลิตจัดสรร (Applied Manufacturing Overhead Rate) เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจมากยิ่งข้ึน จะอธิบายพร้อมยกตัวอยา่ งการคานวณอตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลิต จัดสรรของแตล่ ะขั้นตอน ดังนี้ ขนั้ ที่ 1 : การเลือกเกณฑท์ ่ีใช้คานวณอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิต ก า รผลิ ตสิ น ค้ า ข อ ง กิ จ ก า ร อุ ตส า ห ก รรม แต่ละ ป ระ เ ภ ท ก ระ บ วน ก า รผลิตท่ี มี ค วา ม แตกต่างกัน บางแหง่ ผลติ สนิ ค้าหลายชนิด บางแห่งแบง่ แผนกผลิตออกตามลักษณะการทางาน ซ่งึ แตกต่างกนั ไป แต่ละแผนกมีการใช้ทรัพยากรในการผลิตแตกต่างกัน บางแผนกใช้คนผลิต สินคา้ บางแผนกใชเ้ ครือ่ งจกั รในการผลติ ดงั นั้น เมอ่ื กิจการต้องการกาหนดอตั ราค่าใช้จ่ายการ ผลิตให้ถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะการผลิตจริงๆ ก็จาเป็นต้องเลือกเกณฑ์ท่ีใช้คานวณ คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ อยา่ งเหมาะสม ซงึ่ โดยทวั่ ไปกิจการจะเลือกเกณฑ์ที่มคี วามสมั พันธ์ใกลช้ ิดกบั คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตในแผนกนั้นๆ โดยดูจากลกั ษณะของคา่ ใช้จ่ายการผลิตวา่ จะเปลีย่ นแปลงขึ้น ลงตามปรมิ าณกจิ กรรมประเภทใดมากท่สี ุด เชน่ คิดตามเกณฑ์จานวนหน่วยที่ผลิตเสร็จ เป็น ช้ิน อัน กิโลกรัม ปอนด์ เป็นต้น หรือ อาจคิดตามมูลค่าแรงงานที่ผลิตสินค้า หรือต้นทุน วัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิต เป็นต้น ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้ในการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร สามารถแบ่งได้เป็น 5 เกณฑ์ ดงั น้ี 1) จานวนหน่วยทผ่ี ลติ เสรจ็ (Unit of Production) 2) ตน้ ทุนวัตถุดบิ ทางตรง (Direct Materials Cost) 3) ตน้ ทุนคา่ แรงทางตรง (Direct Labor Cost) 4) จานวนชว่ั โมงแรงงานทางตรง (Direct Labor Hours) 5) จานวนช่ัวโมงเครื่องจกั ร (Machines Hours) เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจเกีย่ วกับการคานวณอตั ราคา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร โดยเลอื กใชเ้ กณฑ์ ต่างๆ ทั้ง 5 เกณฑ์ ดงั แสดงรายละเอียดการคานวณในตัวอยา่ งท่ี 5.2

5 - 22 การบญั ชตี น้ ทนุ 1 ตวั อย่างท่ี 5.2 บริษัทแห่งหนงึ่ ได้ประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ และข้อมูลเกยี่ วกับปริมาณการผลิต และต้นทนุ ตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง สาหรบั ปี 25X1 มดี งั นี้ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตโดยประมาณ 800,000 บาท จานวนหน่วยสนิ ค้าทีผ่ ลติ เสรจ็ 20,000 หน่วย วตั ถุดิบทางตรง 850,000 บาท คา่ แรงทางตรง 720,000 บาท จานวนชว่ั โมงแรงงานทางตรง 30,000 ชว่ั โมง จานวนชวั่ โมงเครอื่ งจักร 10,000 ชัว่ โมง ถ้ากิจการต้องการคานวณอัตราค่าใชจ้ า่ ยการผลิตจดั สรร โดยใชเ้ กณฑก์ ารคานวณแต่ ละเกณฑ์ ดงั น้ี 1) จานวนหนว่ ยสนิ คา้ ท่ีผลติ เสร็จ 2) วตั ถุดิบทางตรง 3) คา่ แรงงานทางตรง 4) ชว่ั โมงแรงงานทางตรง 5) ชวั่ โมงเครื่องจกั ร วิธีการคานวณ อตั ราคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร แต่ละเกณฑ์ สามารถคานวณ ไดด้ ังน้ี 1) อัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จดั สรรต่อหน่งึ หนว่ ยทผ่ี ลิตเสร็จ อัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จัดสรร = ค่าใช้จา่ ยการผลิตโดยประมาณ จานวนหน่วยสินค้าท่ผี ลติ เสรจ็ = 800,000 บาท 20,000 หนว่ ย = 40 บาทตอ่ หนว่ ย ดังนั้น ในกรณที ก่ี จิ การเลือกใช้เกณฑ์จานวนหน่วยสินค้าที่ผลิตเสร็จเป็นเกณฑ์ในการ คานวณอตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจดั สรร กิจการจะมคี ่าใชจ้ า่ ยการผลิตต่อหน่วย เทา่ กับ 40 บาท การเลือกเกณฑ์จานวนหน่วยสินค้าที่ผลิตเสร็จมาคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิต จะ ได้ผลดี ก็ต่อเม่ือกิจการมีการผลิตสินค้าเพียงแค่ชนิดเดียว หรือมีวิธีการผลิตท่ีไม่แตกต่างกัน มากนัก ในกรณีท่กี จิ การผลิตสนิ คา้ หลายชนดิ และลักษณะการผลติ แตกตา่ งกนั เกณฑน์ ี้อาจไม่

บทที่ 5 การบัญชเี กย่ี วกับค่าใชจ้ ่ายการผลิต 5 - 23 เหมาะสม เน่ืองจากสนิ ค้าแตล่ ะประเภทมลี กั ษณะการผลิตท่ีแตกต่างกัน ควรเลือกใช้เกณฑ์อื่น ในการคานวณอัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจะเหมาะสมกวา่ 2) อตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คดิ เป็นร้อยละของต้นทุนวตั ถุดิบทางตรง อตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จัดสรร = คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ โดยประมาณ ตน้ ทุนวตั ถดุ ิบทางตรง X 100 อัตราค่าใช้จา่ ยการผลติ จัดสรร = 800,000 บาท 850,000 บาท X 100 = 94.12 % ของต้นทนุ วตั ถดุ ิบทางตรง ดังน้ัน ในกรณีท่กี ิจการเลือกใช้เกณฑ์ตน้ ทนุ วตั ถดุ บิ ทางตรงเป็นเกณฑใ์ นการคานวณ อัตราค่าใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร กจิ การจะมคี ่าใชจ้ า่ ยการผลติ ต่อหน่วย เท่ากับ 94.12 % ของ ตน้ ทนุ วตั ถดุ บิ ทางตรง เกณฑ์นี้จะนาไปใช้ในกิจการที่มีการผลิตสินค้าประเภทต่างๆ โดยมีอัตราส่วนการใช้ วัตถุดบิ ตอ่ ชั่วโมงเทา่ กนั เชน่ กจิ การนาวตั ถุดบิ ใสใ่ นเครื่องจักรซง่ึ กาหนดใหใ้ ช้ปริมาณการใช้ วัตถุดิบจานวนเท่ากันต่อการผลิตหนึ่งชั่วโมง หรือ ต้นทุนวัตถุดิบถูกควบคุมโดยเคร่ืองจักร และเครื่องจกั รจะเดนิ เครื่องใชเ้ วลามากหรือนอ้ ยตามระยะเวลาทีผ่ ลิต ดงั นน้ั คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จึงมีความสัมพนั ธ์กับตน้ ทนุ วัตถดุ ิบ ตามระยะเวลาที่ใช้ในการผลติ นอกจากนี้ ถ้าพบว่าบัญชีย่อยของค่าใช้จ่ายการผลิตเป็นค่าใช้จ่ายที่เก่ียวกับวัตถุดิบ เปน็ หลัก เช่น คา่ ใช้จา่ ยในการตรวจรับของ ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบ ซ่ึงค่าใช้จ่าย เหลา่ นี้จะมากหรือนอ้ ยขึ้นอยูก่ บั ต้นทุนวัตถดุ บิ ทก่ี จิ การไดร้ บั มา เป็นต้น 3) อตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลิตคดิ เป็นรอ้ ยละของตน้ ทนุ คา่ แรงทางตรง อตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจดั สรร = คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตโดยประมาณ X 100 ตน้ ทุนค่าแรงงานทางตรง อัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร = 800,000 บาท 720,000 บาท X 100 = 111.11 % ของต้นทนุ คา่ แรงงานทางตรง ดงั น้ัน กรณที ่ีกจิ การเลอื กใชเ้ กณฑ์ต้นทนุ คา่ แรงงานทางตรงเป็นเกณฑ์ในการคานวณ อัตราคา่ ใช้จ่ายการผลิตจดั สรร กิจการจะมีค่าใช้จ่ายการผลิตต่อหน่วย เท่ากับ 111.11% ของ ตน้ ทุนคา่ แรงงานทางตรง

5 - 24 การบญั ชตี ้นทนุ 1 สาหรบั การใชเ้ กณฑต์ ้นทนุ คา่ แรงงานทางตรงมาเปน็ เกณฑ์ในการกาหนดอัตรา ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อพบว่าบัญชีย่อยของค่าใช้จ่ายการผลิตส่วนใหญ่ เกี่ยวกับค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้กับคนงานฝ่ายผลิต ซ่ึงรายการเหล่าน้ีจะมี ความสัมพันธ์โดยตรงกับต้นทุนค่าแรงทางตรง หรือใช้ในกรณีที่พบว่าคนงานของกิจการมี ความชานาญหรือเช่ียวชาญในการผลิตที่แตกต่างกันมาก สาหรับคนงานท่ีมีความเช่ียวชาญ มากจะมโี อกาสใชเ้ คร่ืองจักรราคาแพง หรอื อยู่ในกระบวนการผลิตสินค้าท่ีมีความสลับซับซ้อน มากกวา่ คนงานท่มี ีความเชี่ยวชาญน้อยกวา่ 4) อัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตตอ่ หนง่ึ ชั่วโมงแรงงานทางตรง อตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร = ค่าใช้จา่ ยการผลิตโดยประมาณ จานวนช่วั โมงแรงงานทางตรง อัตราค่าใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร = 800,000 บาท 30,000 ชัว่ โมง = 26.67 บาทตอ่ ชัว่ โมงแรงงานทางตรง ดังนั้น ในกรณที ี่กจิ การเลือกใชเ้ กณฑ์จานวนชั่วโมงแรงงานทางตรงเป็นเกณฑ์ ในการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร กิจการจะมีค่าใช้จ่ายการผลิตต่อหน่วย เท่ากับ 26.67 บาทตอ่ ชว่ั โมงแรงงานทางตรง การกาหนดอัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จดั สรรตามเกณฑน์ ้ี จะคานวณคา่ ใชจ้ า่ ยการ ผลติ เขา้ เป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์โดยคานึงถงึ เวลาท่ใี ช้ไปในการผลิต ดังน้ัน ถ้าคนงานทาการผลิต โดยใช้เวลาเทา่ กนั ก็ควรจะคานวณค่าใชจ้ า่ ยการผลิตต่อหน่วยเท่ากัน โดยไม่คานึงว่าคนงาน น้ัน จะได้รับอัตราค่าจ้างแรงงานที่แตกต่างกันเพียงใด เกณฑ์นี้ใช้หลักการเดียวกับเกณฑ์ จานวนหนว่ ยสนิ ค้าที่ผลิตเสรจ็ คอื เม่ือผลติ สินค้าจานวนมากข้ึนก็ต้องใช้เวลาในการผลิตมาก ขึน้ คา่ ใช้จา่ ยการผลติ กจ็ ะสงู ตามไปด้วย ดังนั้น การใช้เกณฑ์นี้จึงเป็นเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม การท่ีกจิ การจะทราบจานวนชว่ั โมงแรงงานทางตรงได้นัน้ กจิ การตอ้ งมกี ารจด บันทึก รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั เวลาที่ใช้ในการผลติ และสะสมต้นทุนท่ีเกิดข้ึนในแผนกหรืองาน ต่างๆ ซ่ึงกิจการอาจต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูงข้ึนเพื่อเก็บรวบรวมจานวนช่ัวโมงแรงงาน ทางตรง ดงั นัน้ กจิ การตอ้ งพจิ ารณาถงึ ผลประโยชนแ์ ละตน้ ทุนทเี่ กิดข้นึ วา่ คุ้มค่าหรือไม่

บทท่ี 5 การบัญชเี ก่ยี วกับคา่ ใช้จา่ ยการผลิต 5 - 25 5) อัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตต่อหนึง่ ชัว่ โมงเคร่อื งจกั ร อัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร = ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ โดยประมาณ จานวนชว่ั โมงเครอื่ งจกั ร อัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร = 800,000 บาท 10,000 ช่วั โมง = 80 บาทต่อช่วั โมงเครื่องจักร ดังน้ัน กรณีท่ีกิจการเลือกใช้เกณฑ์ชั่วโมงเครื่องจักรเป็นเกณฑ์ในการคานวณอัตรา ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร กิจการจะมีค่าใช้จ่ายการผลิตต่อหน่วย เท่ากับ 80 บาทต่อช่ัวโมง เครอ่ื งจกั ร เกณฑก์ ารคานวณอัตราคา่ ใช้จ่ายการผลิตวิธีนี้ เหมาะสมกับกิจการท่ีมีเครื่องจักรเป็น จานวนมาก ซึ่งการคานวณอัตราค่าใชจ้ า่ ยการผลิตควรคานึงถึงข้อมูลท่ีเก่ียวกับเคร่ืองจักร ซึ่ง ชั่วโมงการเดินเครือ่ งของเคร่ืองจักรเป็นเกณฑ์ท่ีมีความสัมพันธ์มากท่ีสุด เพราะค่าใช้จ่ายการ ผลิตทีเ่ กดิ ข้นึ ไดแ้ ก่ คา่ เส่อื มราคาเคร่อื งจกั ร และ คา่ ซ่อมแซมและบารุงรักษาเคร่ืองจักร เป็น ต้น เปน็ ค่าใชจ้ ่ายท่ีมีความสัมพันธ์กบั การใชเ้ ครือ่ งจักรมากกวา่ แรงงาน ยิง่ มีจานวนเครอ่ื งจักร มากการเสอ่ื มคา่ ของเครื่องจักรก็จะมาก หรือต้องมีการซ่อมแซมมากนั่นเอง แต่ในทางปฏิบัติ อาจเกิดความยุ่งยากเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อจดบันทึกและเก็บรวบรวมข้อมูล จานวนชวั่ โมงเคร่ืองจักรสาหรับการผลติ สินคา้ แต่ละชนิด หรอื งานแต่ละงาน จากขอ้ มูลข้างตน้ จะเห็นไดว้ ่าการคานวณคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรรโดยใช้เกณฑ์แต่ละ เกณฑ์ท่ีแตกต่างกัน มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น กิจการควรพิจารณาเลือกเกณฑ์ หรือวิธที ่ีจะให้ตน้ ทุนค่าใช้จา่ ยการผลติ ทม่ี ีความสัมพนั ธ์กบั เกณฑน์ ้นั ๆ มากที่สดุ โดยคานึงถึง หลักการทีก่ ล่าวมาในขา้ งต้นประกอบการตัดสินใจ ขนั้ ท่ี 2 การเลือกระดบั กาลงั การผลิต กิจการท่ีทาการผลิตสินค้าจะมีปริมาณการผลิตที่แตกต่างกันไปในแต่ละงวด ซ่ึงเป็น เพราะปัจจัยอนื่ ๆ เชน่ ความต้องการของตลาด เป็นไปตามฤดูกาล ขอ้ จากัดทางดา้ นทรพั ยากร ท่ีกิจการใช้ เช่น จานวนคนงาน กาลังการผลิตของเคร่ืองจักร นโยบายในการเก็บสินค้า คงเหลือ เป็นต้น การเลือกระดับกาลังการผลิตที่เหมาะสม จะช่วยให้คานวณอัตราค่าใช้จ่าย การผลิตจดั สรรมีความถกู ตอ้ งและใกล้เคยี งความจรงิ การคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร เกิดข้ึนจากการนาเอาค่าใช้จ่ายการผลิต โดยประมาณ หารด้วยเกณฑ์ท่ีใช้ในการคานวณ ซ่ึงค่าใช้จ่ายการผลิตโดยประมาณปัจจัยท่ีมี ความสาคัญปัจจยั หนึง่ ต่อการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ดังนั้น การคานวณหาว่า

5 - 26 การบัญชตี น้ ทุน 1 คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตโดยประมาณมจี านวนเทา่ กับเท่าใดน้ัน ขน้ึ อยกู่ บั ระดบั กาลังการผลิตท่ีกจิ การ นามาใช้ เพ่อื ประมาณการค่าใช้จ่ายการผลิต ซ่ึงระดับกาลังการผลิตได้อธิบายไว้แล้วในหัวข้อ การประมาณระดบั การผลิต ขนั้ ที่ 3 การกาหนดอตั ราค่าใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร การกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร คานวณได้จากค่าใช้จ่ายการผลิต โดยประมาณ หารดว้ ยเกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการคานวณ ซง่ึ ข้ึนอยกู่ ับว่ากจิ การจะใช้เกณฑ์ใด และระดับ กาลงั การผลิตระดบั ใด ดังได้กล่าวมาแลว้ ขา้ งต้น ทีก่ ิจการจะนามาใช้ในการคานวณ ซ่ึงสามารถ คานวณไดด้ ังน้ี อัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรร = คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ โดยประมาณ เกณฑ์ทใี่ ช้ในการคานวณ กรณีท่ีกิจการต้องการนาข้อมูลค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร หรือค่าใช้จ่ายการผลิตท่ี ประมาณการไปเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายการผลิตจริงท่ีเกิดขึ้น เพื่อทาการวิเคราะห์ผลต่าง คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ในภายหลังเพื่อนาข้อมูลท่ีได้ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและการควบคุม กจิ การควรกาหนดอัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร เปน็ 2 อตั รา โดยแบง่ ไปตามพฤติกรรมของ ค่าใชจ้ า่ ยการผลิต น่นั คือ อัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตคงท่ี และอัตราคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร การบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ค่าใช้จ่ายการผลิต เม่ือกิจการกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรได้แล้ว กิจการจะใช้อัตราน้ี คานวณหาคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจดั สรร (Applied Manufacturing Overhead) ท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น ในงวดบัญชนี ้นั โดยคานงึ ถงึ เกณฑท์ ใ่ี ช้ในผลิตท่เี กิดขึน้ จริง หรือ ปริมาณกิจกรรมที่เกิดข้ึนจริง ในแตล่ ะงวด ซงึ่ สามารถคานวณไดจ้ ากสูตรต่อไปนี้ ค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรร = ปรมิ าณกิจกรรมท่ี X อัตราคา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร เข้าเปน็ ตน้ ทนุ การผลติ เกดิ ขน้ึ จรงิ ในงวดนั้น ค่าใช้จ่ายในการผลิตจัดสรรที่คานวณได้ จะนาเข้าเป็นต้นทุนการผลิตในแต่ละงวด ดังน้ัน จะมีการเปิด “บัญชีค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร” หรือค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรคือบัญชี ค่าใช้จ่ายการผลิตโดยประมาณท่ีคิดภายใต้เกณฑ์และระดับการผลิตท่ีเหมาะสมนั่นเอง แยก ต่างหากจาก “บัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต” ซึ่งบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต คือ บัญชี ค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีเกดิ ขึ้นจริงในระหวา่ งงวด นั่นเอง เม่ือกจิ การเปิดบัญชีแยกกันจะง่ายต่อการ

บทท่ี 5 การบัญชีเก่ียวกับค่าใชจ้ า่ ยการผลิต 5 - 27 คดิ ค่าใช้จา่ ยการผลิตเข้าเป็นตน้ ทุนการผลิตได้ทนั ที โดยไมต่ ้องรอรวบรวมค่าใช้จ่ายการผลิตที่ เกดิ ขึ้นจรงิ กรณีที่กิจการคานวณค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรของท้ังโรงงานตามช่ัวโมงแรงงานหรือ ตามช่วั โมงเครื่องจกั รทไี่ ด้ใชไ้ ปในการผลติ สนิ ค้าชนดิ นนั้ ๆ หรืออาจคานวณค่าใช้จ่ายการผลิต จัดสรรแยกตามแผนก ตามช่ัวโมงแรงงานหรือช่ัวโมงเครื่องจักรท่ีเป็นของแต่ละแผนก เช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการคานวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร กิจการจะ เปิดบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต (Manufacturing Overhead Control) เพื่อเก็บรวบรวม และสะสมค่าใช้จ่ายการผลิตจริงท่ีเกิดข้ึนแยกแต่ละประเภท แล้วค่อยนาไปเปรียบเทียบกับ ค่าใช้จ่ายการผลิตที่ได้จัดสรรไว้ในต้นทุนการผลิต ดังน้ัน การบันทึกบัญชีรายการที่เก่ียวกับ ค่าใช้จา่ ยการผลิต จะบันทกึ บัญชีไดด้ งั น้ี 1. การบนั ทึกบญั ชีค่าใช้จา่ ยการผลิตจดั สรรเข้าเป็นต้นทุนการผลิต เดบิต งานระหวา่ งทา XXX เครดติ คา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร XXX 2. การบนั ทึกบญั ชีค่าใช้จา่ ยการผลิตจริงท่ีเกิดขึน้ XXX XXX เดบติ คุมยอดคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต XXX เครดิต คุมยอดค่าแรง XXX คุมยอดวตั ถุดบิ XXX คา่ เบยี้ ประกันภัยจา่ ยล่วงหน้า XXX คา่ นา้ คา่ ไฟค้างจ่าย XXX คา่ เสือ่ มราคาสะสม – เคร่อื งจกั ร เงนิ สด 3. การปิ ดบญั ชีค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรรและค่าใช้จ่ายการผลิตของโรงงานใน ตอนสิ้นงวด เพ่ือหาผลตา่ งค่าใชจ้ ่ายการผลติ จัดสรรทีส่ งู หรือต่าไป เดบติ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรร XXX ผลตา่ งคา่ ใช้จ่ายการผลิตจดั สรรสูงหรือตา่ ไป XXX เครดิต คมุ ยอดคา่ ใช้จ่ายการผลติ XXX

5 - 28 การบัญชีต้นทุน 1 เพื่อให้เขา้ ใจเกีย่ วกับการบนั ทกึ บญั ชคี ่าใช้จ่ายการผลิต สามารถอธิบายได้ดังแสดงใน ตวั อยา่ งที่ 5.3 ตวั อยา่ งท่ี 5.3 บริษทั ล้อมดาว จากดั มีข้อมูลเกี่ยวกับคา่ ใช้จา่ ยการผลิตของบริษัท สมมติว่าในเดือน มกราคม 25X1 แผนกผลิตมีจานวนชั่วโมงแรงงานทางตรง เท่ากับ 8,000 ชั่วโมง และมี ค่าใช้จ่ายการผลติ โดยประมาณ และค่าใชจ้ ่ายการผลติ จริงจากแหลง่ ต่างๆ ดังนี้ คา่ ใช้จา่ ยการผลติ โดยประมาณ ประจาปี กาลังการผลิตปกติ 100,000 ชัว่ โมงแรงงานทางตรง ค่าใชจ้ ่ายการผลิตโดยประมาณ 600,000 บาท คา่ ใช้จ่ายการผลติ จริงท่ีเกดิ ขึน้ ในเดือนมกราคม 25X1 ค่าแรงงานทางออ้ ม 8,000 บาท คา่ แรงงานแก้ไขงาน 5,000 บาท จากบญั ชคี ุมยอดค่าแรง เงนิ เดอื นหัวหนา้ ควบคมุ งาน 15,500 บาท วัตถดุ ิบทางอ้อม 7,500 บาท จากบญั ชีคุมยอดวัตถดุ บิ คา่ เบี้ยประกันภัย (จา่ ยล่วงหนา้ ) 3,500 บาท ค่าภาษที รัพยส์ นิ (คา้ งจา่ ย) 2,700 บาท จากการปรบั ปรงุ รายการ ค่าเสอ่ื มราคาเครอ่ื งจกั ร 2,000 บาท คา่ ซ่อมแซมและบารุงรกั ษา (คา้ งจ่าย) 2,300 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกับอาคารสถานท่ี 2,800 บาท คา่ นา้ – ค่าไฟ 5,000 บาท จ่ายเป็นเงินสด ค่าใชจ้ า่ ยเบ็ดเตลด็ 2,800 บาท รวม 57,100 บาท การคานวณและบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการผลิต สามารถคานวณและบันทึกได้ ดงั นี้ 1) คานวณอัตราค่าใชจ้ ่ายการผลติ จัดสรร อตั ราค่าใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร = 600,000 บาท 100,000 ช่ัวโมงแรงงานทางตรง = 6 บาทตอ่ ช่วั โมงแรงงานทางตรง

บทที่ 5 การบญั ชีเกย่ี วกบั คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต 5 - 29 2) คานวณและบนั ทึกคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรรเขา้ เปน็ ตน้ ทุนการผลติ ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร = จานวนชวั่ โมงแรงานทางตรง × อัตราใชค้ ่าจ่ายการผลติ จัดสรร ท่ีเกิดขนึ้ จรงิ = 8,000 ช่ัวโมง × 6 บาท = 48,000 บาท การบนั ทึกบญั ชีค่าใชจ้ ่ายการผลิตจดั สรรเข้าเป็นต้นทุนการผลิต เดบติ งานระหวา่ งทา 48,000 เครดิต คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรร 48,000 3) บนั ทึกคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจรงิ ทีเ่ กดิ ขึ้น 57,100 เดบติ คุมยอดค่าใช้จา่ ยการผลิต 28,500 เครดติ คมุ ยอดคา่ แรง 7,500 คมุ ยอดวัตถุดิบ 3,500 คา่ เบ้ยี ประกนั ภยั จา่ ยล่วงหนา้ 2,700 คา่ ภาษที รพั ย์สนิ คา้ งจ่าย 2,000 ค่าเส่อื มราคาสะสม – เคร่อื งจักร 2,300 คา่ ซอ่ มแซมและบารงุ รกั ษาค้างจา่ ย 10,600 เงนิ สด 4) ปิดบัญชีค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรรและคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจรงิ ในวนั สน้ิ งวด เดบิต คา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรร 48,000 ผลต่างค่าใช้จา่ ยการผลติ จัดสรรสงู หรอื ตา่ ไป 9,100 เครดติ คุมยอดคา่ ใช้จ่ายการผลิต 57,100 เมื่อบันทึกรายการต่างๆ ในสมุดรายวันทั่วไปแล้ว และผ่านรายการทุกรายการไปยัง บัญชีแยกประเภททเี่ กยี่ วขอ้ ง จะพบวา่ มผี ลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจดั สรรท่ีตา่ กวา่ คา่ ใช้จ่ายการ ผลิตจริง ซงึ่ เปน็ ผลตา่ งทีไ่ มน่ ่าพอใจจานวน 9,100 บาท เน่ืองจากท่ีกิจการจ่ายค่าใช้จ่ายการ ผลิตจริง 57,100 บาท ซึ่งสูงกว่าค่าใช้จ่ายท่ีประมาณการไว้ 48,000 บาท มีผลต่างเท่ากับ 9,100 บาท โดยปกตกิ ิจการต้องไปวิเคราะห์ต่อว่า ผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีเกิดขึ้นนั้น เป็น เพราะเหตุใด อาจเป็นเพราะจานวนวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตมากกว่าที่ประมาณการไว้ หรือ จานวนช่ัวโมงแรงงานทางตรงมากไป รวมไปถงึ ราคาของวัตถดุ บิ ท่ีใช้และอัตราคา่ แรงงานทีจ่ า่ ย

5 - 30 การบญั ชตี น้ ทนุ 1 สูงกว่าท่ีประมาณการไว้ เป็นต้น ซึ่งการวิเคราะห์ผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิต จะกล่าวถึงใน เนอื้ หาวิชา การบัญชตี น้ ทุน 2 ซึ่งจะกล่าวถงึ ต้นทุนมาตรฐานและการวิเคราะห์ผลตา่ ง การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิต เมอ่ื กจิ การเปรยี บเทยี บค่าใช้จา่ ยการผลิตจัดสรรและคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จรงิ แล้วมผี ลตา่ ง เกิดขึน้ อาจเปน็ ผลตา่ งท่นี า่ พอใจ หรือไม่น่าพอใจ เพราะในทางปฏบิ ัตเิ ปน็ ไปได้ยากทีค่ ่าใชจ้ ่าย การผลติ จัดสรรจะมจี านวนเทา่ กับบญั ชคี ุมยอดค่าใชจ้ ่ายการผลติ จรงิ ทัง้ นี้เพราะรายการท้ัง 2 รายการนี้เกิดจากท่ีมาท่ีแตกต่างกัน ดังน้ัน จึงเกิดผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตเกิดขึ้น จาก ตัวอย่างท่ี 5.3 กิจการมีผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรต่ากว่าท่ีเกิดขึ้นจริง จานวน 9,100 บาท ข้นึ หลงั จากโอนปดิ บญั ชคี า่ ใช้จ่ายการผลิตจัดสรรไปบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต ใน ตอนสิน้ งวดบญั ชี ดงั อธบิ ายไว้แลว้ ข้างต้น สาหรับวิธีการบันทึกบัญชีเก่ียวกับผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตในตอนสิ้นงวดบัญชี มี หลายวิธี ข้นึ อยู่กบั จานวนและลักษณะของผลต่างท่ีเกิดขน้ึ ซง่ึ สามารถแสดงการบันทึกบัญชีได้ ดังน้ี 1. ถ้าผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตเป็นจานวนเล็กน้อย กิจการก็จะโอนปิดบัญชีคุมยอด ค่าใช้จ่ายการผลิตไปบัญชีต้นทุนขาย เช่น ตามตัวอย่างของบริษัท ล้อมดาว จากัด จะ ลงบญั ชปี ดิ ผลต่างคา่ ใช้จ่ายการผลติ จดั สรรสงู หรือตา่ ไป ในสมดุ รายวันทัว่ ไป ดงั นี้ เดบิต ต้นทุนขาย 9,100 เครดิต ผลตา่ งคา่ ใช้จ่ายการผลิตจัดสรรสงู หรอื ตา่ ไป 9,100 ในทางตรงข้ามถ้าเป็นผลต่างท่ีน่าพอใจ หรือผลต่างท่ีค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรสูงไป (Overapplied Variance) ก็จะเดบติ ผลตา่ งคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจัดสรรสูงหรือต่าไป และเครดิต บญั ชตี ้นทนุ ขาย ด้วยจานวนผลตา่ งทีเ่ กดิ ขึน้ 2. ถ้าหากผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรมีเป็นจานวนมากและเกิดจากเหตุการณ์ ผิดปกติ เช่น กิจการต้องจา่ ยคา่ ซ่อมแซมอาคารบางส่วนสูงกว่าปกติ เนื่องจากเกิดความเสีย หารเน่ืองจากอัคคีภัย รายการนี้ควรถือเป็นขาดทุน ซึ่งกิจการต้องนาไปแสดงไว้ในงบกาไร ขาดทุน การลงรายการ กรณที ี่ต้องการแสดงเป็นขาดทุนในการดาเนินงานจะแสดงดงั น้ี เดบิต กาไรขาดทุน 9,100 เครดติ ผลต่างค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรรสงู หรือต่าไป 9,100 3. ถา้ หากผลต่างค่าใช้จา่ ยการผลติ จัดสรรมีเปน็ จานวนมาก และเกิดจากการประมาณ การคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ที่ไมถ่ กู ตอ้ งหรือคลาดเคล่ือน หรอื มีการเปลยี่ นแปลงส่วนประกอบต้นทนุ การผลิตอยา่ งมาก ซึ่งสง่ ผลอัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรรเดิมซึง่ ไดก้ าหนดไว้ล่วงหนา้ จะต้อง

บทที่ 5 การบัญชีเกี่ยวกับค่าใชจ้ ่ายการผลติ 5 - 31 โอนผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรสูงหรือต่าไปนี้ไปปรับกับบัญชีงานระหว่างทา สินค้า สาเร็จรปู และตน้ ทุนขาย ตามสดั สว่ นที่รวมอยใู่ นรายการตา่ งๆ ตามลาดับ วิธสี ุดท้ายเป็นวธิ ที ี่เหมาะสมมากท่ีสดุ เน่อื งจาก เมื่อกิจการมีการจัดสรรค่าใช้จ่ายการ ผลติ เข้างานระหวา่ งทา ตามปรมิ าณกจิ กรรมทเี่ กิดข้นึ จริงสาหรับงวดบัญชีนั้นๆ แล้ว ส่วนใดที่ ผลิตเสร็จจะโอนออกจากบญั ชีงานระหวา่ งทาไปยังบัญชีสินค้าสาเร็จรูป และส่วนใดท่ีขายได้ก็ จะโอนจากบัญชีสนิ ค้าสาเรจ็ รูปไปบญั ชตี ้นทนุ ขาย หากกิจการกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิต ต่าไปตั้งแต่แรกท่ีมีการคิดต้นทุนเข้างานระหว่างทา ก็จะทาให้รายการค่าใช้จ่ายการผลิตที่ จัดสรรไว้ในสินค้าสาเร็จรูปและต้นทุนขายมีต้นทุนท่ีต่ากว่าความเป็นจริง การปรับปรุงยอด ผลต่างค่าใชจ้ า่ ยการผลิตท่ถี กู ต้องทสี่ ดุ กค็ วรนาเอาผลตา่ งค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีจัดสรรต่าไปนั้น ไปบวกเพ่ิมเข้ากับบัญชีงานระหว่างทา สินค้าสาเร็จรูป และต้นทุนขาย ซ่ึงการปรับปรุงใน ลักษณะนี้ จะใช้ยอดคงเหลือของบัญชีต่างๆ ในตอนสิ้นงวด เป็นเกณฑ์ในการจัดสรรผลต่าง ค่าใช้จ่ายการผลิต หรือใช้ต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตที่ได้รวมไว้ในบัญชีงานระหว่างทา สินค้า สาเร็จรปู และตน้ ทนุ ขายเป็นตัวจัดสรรผลตา่ งกไ็ ด้ เพื่อให้เข้าใจในการปรับผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตเข้าบัญชีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังแสดง ตวั อย่างในตัวอย่างท่ี 5.4 ตวั อย่างที่ 5.4 บริษัท สยามอุตสาหกรรม จากดั มยี อดคงเหลือบญั ชีต่างๆ ในงบทดลองก่อนการปิด บญั ชี ดังน้ี คมุ ยอดคา่ ใช้จ่ายการผลติ 428,000 บาท ค่าใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร 400,000 บาท ต้นทนุ ขาย 600,000 บาท สนิ ค้าสาเร็จรปู 250,000 บาท งานระหว่างทา 150,000 บาท รายละเอยี ดของสว่ นประกอบตน้ ทนุ การผลิตทอ่ี ย่ใู นบัญชตี ้นทนุ ขายและของคงเหลือใน วนั สิ้นงวดมดี ังนี้ ต้นทุนรวม ตน้ ทุนขนั้ ตน้ ค่าใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร (บาท) (บาท) (บาท) 600,000 ต้นทนุ ขาย 250,000 400,000 300,000 สนิ คา้ สาเรจ็ รปู 150,000 งานระหว่างทา 1,000,000 60,000 60,000 รวม 50,000 40,000 510,000 400,000

5 - 32 การบญั ชตี ้นทุน 1 จากข้อมูลข้างต้น บริษัทมีผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรต่าไป 28 ,000 บาท (428,000 – 400,000) ดังนั้น ถ้าต้องการจัดสรรผลต่างเข้าตามบัญชีต้นทุนขาย สินค้า สาเร็จรปู และงานระหว่างทา จะใช้วธิ ีการปรับปรุงรายการวิธใี ดวธิ ีหน่งึ ดงั น้ี 1) การจดั สรรผลต่างค่าใชจ้ า่ ยการผลิตโดยใช้ยอดคงเหลือของบัญชีต่างๆ ในวนั สิ้นงวด บญั ชี ยอดคงเหลือในบญั ชี ผลต่างท่ี ยอดคงเหลือ ต้นทุนขาย บาท (%) จดั สรร ในบญั ชีท่ีปรบั ปรงุ แล้ว สนิ คา้ สาเรจ็ รูป งานระหวา่ งทา (บาท) (บาท) รวม 600,000 60 16,800 616,800 250,000 25 150,000 15 7,000 257,000 1,000,000 100 4,200 154,200 28,000 1,028,000 การบันทึกรายการเพ่ือโอนปิดบญั ชคี ่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรไปบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่าย การผลติ โดยจัดสรรผลตา่ งค่าใชจ้ า่ ยการผลิต ไปเพิ่มเขา้ บญั ชีเกีย่ วข้อง ดงั น้ี เดบติ ตน้ ทุนขาย 16,800 สินค้าสาเร็จรปู 7000 งานระหว่างทา 4200 คา่ ใช้จ่ายการผลติ จดั สรร 400,000 เครดิต คมุ ยอดคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต 428,000 2) จดั สรรผลต่างคา่ ใช้จา่ ยการผลิต โดยใช้สดั ส่วนของคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ท่ีรวมอยใู่ น บญั ชีตน้ ทุนขาย สนิ คา้ สาเร็จรูป และกาไรขาดทนุ บญั ชี ค่าใช้จ่ายการผลิต ผลต่างท่ี ยอดคงเหลือในบญั ชี ท่ีจดั สรรในบญั ชีต่างๆ จดั สรร ที่ปรบั ปรงุ แล้ว ตน้ ทนุ ขาย (บาท) (บาท) สนิ คา้ สาเรจ็ รูป บาท (%) งานระหว่างทา 21,000 321,000 รวม 300,000 75 4,200 64,200 60,000 15 2,800 42,800 40,000 10 28,000 428,000 400,000 100

บทที่ 5 การบัญชเี กีย่ วกบั คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ 5 - 33 การบันทกึ รายการปิดบัญชีค่าใช้จ่ายการผลิตต่างๆ พร้อมท้ังจัดสรรผลต่างค่าใช้จ่าย การผลติ จดั สรรต่ากวา่ ค่าใช้จา่ ยการผลิตจรงิ ที่เกิดข้นึ แสดงรายการได้ดงั นี้ เดบิต ตน้ ทนุ ขาย 21,000 สนิ คา้ สาเรจ็ รูป 4,200 งานระหว่างทา 2,800 ค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรร 400,000 เครดติ คมุ ยอดคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต 428,000 การจัดสรรผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรสูงหรือต่าไป โดยใช้สัดส่วนค่าใช้จ่ายการ ผลติ น่าจะเปน็ วิธีท่ีถูกต้องมากกวา่ การใช้สดั สว่ นของต้นทุนรวมจากบัญชตี า่ งๆ เพราะคานวณ จากคา่ ใช้จ่ายการผลติ ทจ่ี ัดสรรเข้าบัญชีต่างๆ เหลา่ น้นั การจดั สรรผลต่างค่าใช้จา่ ยการผลิตวิธี แรกจะให้ผลดีกต็ อ่ เมอื่ พบว่ากจิ การมีการผลิตสินค้าโดยใช้สัดส่วนของต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าใชจ้ า่ ยการผลิตคงทไ่ี มว่ า่ จะผลติ เม่ือใดในงานชนิ้ ใด ในกรณที ่มี ีผลตา่ งค่าใช้จ่ายการผลิต ระหวา่ งการจดั สรรท้งั 2 วิธีเพียงเล็กน้อยแล้ว ก็ควรจะใช้วิธีการจัดสรรวิธีแรก คือ ใช้ต้นทุน รวม เพราะไมต่ ้องเสยี เวลาในการบันทึกและรวบรวมค่าใช้จ่ายการผลิตที่จัดสรรเข้างานแต่ละ งานอยา่ งละเอยี ดตามวธิ หี ลงั แตถ่ ้าในกรณที ี่กจิ การพบว่าผลตา่ งคา่ ใช้จ่ายการผลิตในตอนส้ินงวดบัญชีเป็นผลต่างที่ นา่ พอใจ เพราะมีการจัดสรรคา่ ใช้จา่ ยการผลิตสงู กว่าคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ จรงิ การบันทึกบัญชีใช้ หลักการเดียวกันกับการพิจารณาผลต่างที่ไม่น่าพอใจดังได้กล่าวมาแล้ว เพียงแต่การบันทึก บัญชจี ะอยู่ดา้ นตรงกันข้าม คอื เดบิตบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต และเครดิตบัญชีต้นทุน ขาย หรือ บญั ชีกาไรขาดทุน ในทางปฏบิ ตั ิโดยทว่ั ไปกิจการนิยมปิดผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิต เข้าบัญชีตน้ ทนุ ขายมากกว่าวธิ ีอื่น เพราะเปน็ วธิ ีท่ีจัดทาได้สะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลา ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชน่ เดยี วกับวิธอี นื่ ๆ

5 - 34 การบญั ชีตน้ ทุน 1 บทสรปุ การคานวณค่าใชจ้ ่ายการผลติ ซึ่งถือเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งท่ีเป็นส่วนประกอบสาคัญของ ตน้ ทุนสินคา้ นอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงานทางตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลต้นทุนการ ผลิตให้ทันกับความต้องการของฝ่ายบริหาร เพ่ือนาไปใช้ประกอบการตัดสินใจต่างๆ เช่น นา ขอ้ มลู เปน็ ฐานในการกาหนดราคาสินคา้ ดังน้ัน การประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตไว้ล่วงหน้า ถ้า คานวณตน้ ทุนได้ถูกตอ้ งหรือใกลเ้ คยี งกบั ความเป็นจรงิ ทาใหไ้ ด้ขอ้ มูลทถ่ี กู ตอ้ ง แตก่ ารคานวณ คา่ ใช้จา่ ยการผลติ จะถูกตอ้ งไดน้ ัน้ จาเป็นตอ้ งคานึงถึงระดับกาลังผลิตท่ีนามาใช้ในการคานวณ รวมถึงเกณฑ์ท่ีใช้ว่าควรใช้เกณฑ์ใด จึงจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับค่าใช้จ่ายการผลิตมาก ที่สดุ ดงั นัน้ การทก่ี ิจการจะกาหนดอัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จดั สรร ณ ระดับกาลังผลิตใดจึง เป็นข้อมูลทก่ี จิ การควรให้ความสนใจ และเมอื่ สามารถหาอตั ราคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจัดสรรได้แล้ว กจ็ ะใช้อตั รานค้ี านวณหาตน้ ทนุ การผลติ ของสนิ คา้ แตล่ ะชนิดในแตล่ ะงวดบญั ชี โดยบันทึกไว้ใน บัญชี “คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจัดสรร” สว่ นคา่ ใช้จ่ายการผลิตที่เกิดข้ึนจริงก็ยังคงเก็บรวบรวมและ บันทกึ ไว้ในบญั ชี “คุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต ซ่ึงในทางปฏิบัติ ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรและ คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจริงจะมผี ลต่างเกดิ ข้นึ ซึง่ เปน็ ไปไดย้ ากมากที่ยอดคงเหลือ ณ ตอนส้ินงวด ของท้ังสองบัญชีจะเท่ากัน เพราะบัญชีค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรมาจากการประมาณต้นทุน ส่วนอีกบัญชีหนึ่งคือ คุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต แสดงต้นทุนท่ีเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุน้ี จึงมี ผลต่างคา่ ใช้จ่ายการผลิตจดั สรรสูงหรือตา่ ไป เกดิ ขน้ึ หลงั จากการโอนปิดบญั ชีค่าใช้จ่ายการผลติ จัดสรรไปบญั ชีคุมยอดคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต สาหรับการปิดผลต่างคา่ ใช้จ่ายการผลติ จดั สรรสูงหรือ ต่าไป อาจปรับปรุงได้หลายวิธี เช่น โอนปิดไปบัญชีต้นทุนขาย หรือบัญชีกาไรขาดทุนหรือ ปรับผลตา่ งให้กับบัญชีต่างๆ ที่เก่ียวข้อง เช่น สินค้าคงเหลือ ต้นทุนขาย และงานระหว่างทา เป็นตน้

บทท่ี 5 การบัญชเี กยี่ วกบั ค่าใช้จา่ ยการผลติ 5 - 35 แบบฝึกหดั ท้ายบท ขอ้ 1. บริษัท ขนมอรอ่ ย จากดั ประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตสาหรบั ปี 2561 ไว้ 300,000 บาท และประมาณวา่ จะผลติ สนิ ค้าได้ 50,000 หน่วย โดยมตี น้ ทุนวตั ถดุ ิบทางตรงจานวน 240,000 บาท ในการผลิตขนม บรษิ ทั มกี ารใชแ้ รงงานคน จานวน 75,000 ชัว่ โมง ตน้ ทนุ คา่ แรงงาน ทางตรง ประมาณ 850,000 บาท และเครอื่ งจกั รมีการใชง้ านจานวน 15,000 ชัว่ โมงเคร่อื งจกั ร ให้ทา 1. คานวณอัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจัดสรร ตามเกณฑ์ดงั ต่อไปนี้ 1.1. ตน้ ทนุ วัตถดุ ิบทางตรง 1.2. จานวนหน่วยทผ่ี ลิต 1.3. ช่วั โมงเครอ่ื งจกั ร 1.4. ชว่ั โมงแรงงานทางตรง 2. ให้ทาการบนั ทึกบญั ชีค่าใชจ้ ่ายการผลิตจัดสรรเข้าสู่กระบวนการผลติ ในเดอื นกรกฎาคม ถา้ หากบริษัทมจี านวนช่วั โมงแรงงานทางตรง เทา่ กับ 7,500 ช่วั โมง ข้อ 2. บรษิ ทั อาหารกระป๋อง จากัด มกี ารจัดทางบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตสาหรับปี 25X2 ไว้ 1,200,000 บาท และประมาณวา่ จะผลิตสนิ ค้าได้ 120,000 กระปอ๋ ง โดยมีต้นทนุ วตั ถุดบิ ทางตรงจานวน 550,000 บาท ในการผลิตอาหารกระปอ๋ ง บริษทั มกี ารใช้แรงงานคน จานวน 100,000 ชว่ั โมง ตน้ ทนุ คา่ แรงงานทางตรง ประมาณ 240,000 บาท และเคร่ืองจกั รมีการใช้งาน จานวน 60,000 ช่ัวโมงเครื่องจกั ร ให้ทา 1. คานวณอัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จัดสรร ตามเกณฑด์ งั ต่อไปนี้ 1.1. ตน้ ทนุ วัตถุดบิ ทางตรง 1.2. จานวนหนว่ ยทผ่ี ลติ 1.3. ช่วั โมงเคร่อื งจกั ร 1.4. ชวั่ โมงแรงงานทางตรง 2. ใหท้ าการบนั ทึกบญั ชีคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตจดั สรรเข้าสู่กระบวนการผลิตในเดือนมกราคม ปี 25X2 ถา้ หากบริษัทมีจานวนชว่ั โมงเคร่อื งจกั ร เทา่ กับ 5,000 ช่ัวโมงเครอื่ งจกั ร

5 - 36 การบญั ชีต้นทนุ 1 ขอ้ 3. บริษัท ปาฏิหาริย์ จากัด ประสบปัญหาในการคานวณต้นทุนการผลิตสินค้า ผู้สอบ บัญชีของกิจการจึงแนะนาให้ใช้อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรซึ่งคณะกรรมการบริหารของ บริษัทตกลงว่าจะกาหนดให้มีการใช้ค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ในปี 25X5 อย่างไรก็ตาม สมหุ บ์ ัญชีของบรษิ ัทกย็ ังตดั สนิ ใจไมไ่ ด้ว่าจะกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ณ ระดับ การผลิตใด จึงมาขอคาแนะนาจากท่านโดยให้ข้อมูลการผลิต ณ ระดับกาลังการผลิตต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี กาลังผลติ พอปฏบิ ตั ิได้ (Practical Capacity) 32,000 ชั่วโมงแรงงาน กาลงั ผลิตปกติ (Normal Capacity) 28,000 ชั่วโมงแรงงาน กาลังผลติ ทค่ี าดว่าจะทาในงวดหน้า 25,000 ชว่ั โมงแรงงาน (Expected Actual Capacity) อัตราค่าใช้จา่ ยการผลิตผันแปรเทา่ กบั 5 บาทตอ่ ช่วั โมงแรงงาน ค่าใช้จ่ายการผลติ คงท่ี ณ ระดบั 10,000 - 30,000 ชั่วโมงเท่ากบั 112,000 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตคงท่ี ณ ระดับ 30,001 - 60,000 ชวั่ โมงเทา่ กับ 160,000 บาท ในปี 25X5 สมหุ บ์ ัญชีได้รวบรวมค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีเกิดขึ้นจริงซ่ึงเท่ากับ 248,400 บาท ซ่ึงประกอบด้วยค่าใช้จ่ายการผลิตคงท่ี 120,400 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 128,000 บาท ชว่ั โมงแรงงานเท่ากบั 26,000 ชวั่ โมง ให้ทา 1. คานวณอตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรรตอ่ ชว่ั โมง ณ ระดับกาลงั ผลติ ท้งั 3 ระดบั 2. ท่านจะเลือกกาหนดอตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จัดสรร ณ ระดับกาลงั ผลติ ใด ให้เหตผุ ล ประกอบ 3. คานวณผลตา่ งค่าใช้จ่ายการผลติ ในปี 25X5 โดยใชอ้ ัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจดั สรร ท่ที ่านเลอื กในข้อ 2 เพยี งอัตราเดียว

บทท่ี 5 การบัญชีเกี่ยวกบั ค่าใช้จ่ายการผลิต 5 - 37 ข้อ 4. บรษิ ทั ฟ้าคราม จากดั ใช้อตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจดั สรรเขา้ เปน็ ต้นทุนการผลิตสินค้า มาต้งั แต่ 25X1 เดมิ กิจการประมาณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ณ ระดับที่คาดว่าจะผลิต ได้ในงวดหน้า (Expected Actual capacity) และคานวณจากช่ัวโมงแรงงานทางตรงเป็น เกณฑ์การกาหนดตัวเลขนี้ จดั ทาในราวเดือนพฤศจกิ ายนของแต่ละปี ตอ่ มาเมอื่ เดือนตุลาคม 25X3 บริษัทได้ว่าจ้าง น.ส.ดารุณี สมุห์บัญชีคนใหม่เข้ามา ทางาน แนะนาว่าควรจะกาหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรจากระดับกาลังผลิตปกติ (Normal Capacity) นางรจนา ผู้จัดการบริษัทไม่ทราบว่าจะเลือกระดับการผลิตใดจึงจะดีท่ีสุด จึงมาขอ คาแนะนาจากท่าน โดยให้ข้อมูลงบประมาณสาหรับปี 25X4 ดงั ตอ่ ไปนี้ ค่าใชจ้ า่ ยคงที่ 60,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยผนั แปร 90,000 บาท รวม 150,000 บาท ระดบั กาลงั ผลิตปกติ 15,000 ชว่ั โมงแรงงานทางตรง ระดับที่คาดว่าจะผลติ ในปี 25X4 20,000 ชว่ั โมงแรงงานทางตรง สมมติว่าในปี 25X4 ระดับผลติ จริงเทา่ กบั 18,000 ชวั่ โมงแรงงานทางตรง และ ค่าใชจ้ ่ายการผลติ ท่ีเกดิ ขนึ้ จรงิ ประกอบด้วย คา่ ใช้จ่ายคงที่ 65,000 บาท คา่ ใช้จา่ ยผันแปร 103,100 บาท รวม 168,100 บาท ให้ทา 1. โดยคานวณอัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรรต่อชวั่ โมง ถา้ กจิ การมกี ารคานวณจาก ระดบั การผลติ ท้ังสองระดบั (ระดบั ที่คาดวา่ จะผลติ และระดับกาลงั การผลติ ปกติ) 2. ทา่ นเห็นวา่ ควรจะเลอื กอตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลิตจัดสรรจากระดับกาลงั ผลติ ใด ให้ เหตผุ ลสนบั สนุนประกอบการตดั สินใจ

5 - 38 การบัญชีตน้ ทุน 1 ขอ้ 5.บริษัททป่ี รกึ ษาด้านการต้นทนุ ของบริษทั กรุงเทพมหาชน จากดั ไดก้ าหนดคา่ ใชจ้ า่ ย การผลิตให้แก่บรษิ ทั ดงั ต่อไปนี้ อัตราคา่ ใช้จา่ ยการผลิตผันแปรช่ัวโมงละ 10 บาท ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ตี า่ กว่า 8,000 ชัว่ โมง 100,000 บาท ค่าใช้จา่ ยการผลติ คงทต่ี ้ังแต่ 8,001 - 13,000 ชัว่ โมง 150,000 บาท ค่าใช้จ่ายการผลติ คงทีส่ ูงกวา่ 13,000 ชว่ั โมงขึน้ ไป 210,000 บาท กิจการแห่งนี้ผลิตสินค้าเพียงชนิดเดียวโดยใช้เวลา 2 ช่ัวโมงในการผลิตสินค้า 1 หนว่ ย วศิ วกรประจาโรงงานประมาณวา่ ระดบั ผลิตอุดมคตเิ ทา่ กับ 15,000 ช่ัวโมง ส่วนระดับ ผลิตสูงสุดท่ีพอปฏิบัติได้เท่ากับ 12,000 ช่ัวโมง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายขายของบริษัทได้ ประมาณว่ายอดขายและผลิตโดยถัวเฉล่ีย 5 ปี ไม่ควรเกิน 5,000 หน่วย แต่สาหรับปี 25X6 น้ี ภาวะเศรษฐกจิ ตกตา่ มาก คดิ ว่ายอดขายจะไดไ้ มเ่ กิน 3,500 หนว่ ย ปรากฏว่าในปี 25X6 ฝ่ายขายของบริษัทสามารถทายอดขายได้ถึง 5,500 หน่วย และโรงงานไดผ้ ลิตเท่ากับจานวนที่ขายพอดีโดยไม่มีของคงเหลือ ค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดข้ึน จริงประกอบด้วยค่าใช้จา่ ยการผลิตคงท่ี 148,500 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร 112,750 บาท ให้ทา 1. แสดงการคานวณอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร ณ ระดบั กาลังผลิตต่างๆ 2. ให้เลือกวา่ จะใชอ้ ตั ราคา่ ใช้จา่ ยการผลิต ณ ระดบั ใดตามท่ีคานวณไว้ในข้อ 1 เพียง อตั ราเดียว แล้วใช้อตั ราดงั กลา่ วคานวณตน้ ทุนการผลิตในปี 25X6 ขอ้ 6. ฝ่ายบริหารของบริษทั เพลนิ จากดั ขอใหส้ มหุ บ์ ญั ชคี านวณอัตราค่าใช้จา่ ยการผลิต ณ ระดับกาลงั ผลติ ตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี ก. ระดบั การผลติ ปกติ ข. ระดับท่ีคาดวา่ จะผลติ จรงิ ค. ระดบั การผลิตทพี่ อปฏิบตั ิได้ ง. ระดับการผลิตตามทฤษฎี สมหุ บ์ ญั ชีได้รวบรวมขอ้ มลู ณ ระดับกาลงั ผลิตตา่ งๆ ดงั น้ี คาดวา่ จะ ผลิตปกติ พอปฏิบตั ิได้ ทฤษฎี ผลิตได้ ระดบั กาลงั ผลติ 80% 85% 90% 100% ชว่ั โมงแรงงาน 40,000 42,500 45,000 50,000 หนว่ ยสินค้าทผ่ี ลิต 20,000 21,250 22,500 25,000

บทท่ี 5 การบัญชีเกย่ี วกบั คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต 5 - 39 อตั ราค่าใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปรเทา่ กบั 4 บาทตอ่ ชั่วโมง ส่วนค่าใชจ้ ่ายการผลิตคงท่ี ณ ระดับ 30,000 - 50,000 ชวั่ โมงเท่ากบั 170,000 บาท ให้ทา 1. คานวณอตั ราคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร ณ ระดับกาลงั ผลติ ต่างๆ 2. สมมติว่าต้นทุนขั้นต้นในการผลิตสินค้าเท่ากับ 20 บาทต่อหน่วย จงคานวณ ตน้ ทุนตอ่ หนว่ ยของสินค้า ณ ระดบั กาลงั ผลิตต่างๆ 3. ในปี 25X1 กจิ การผลติ สินคา้ ได้ 21,000 หนว่ ย จงคานวณคา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร ณ ระดบั ต่างๆ 4. ถ้าในระหว่างปี 25X1 ขายสนิ คา้ ได้ 20,000 หน่วย จงคานวณผลกระทบของการ ใช้อัตราคา่ ใช้จ่ายการผลติ จัดสรร ณ ระดบั ต่างๆ ทม่ี ตี อ่ การตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายงวด ขอ้ 7. งบประมาณคา่ ใช้จา่ ยการผลติ ของบรษิ ัท ธนสาร จากดั และรายละเอยี ดคา่ ใชจ้ า่ ย การผลิตจริง ประจาเดอื นมิถนุ ายน 25X3 ปรากฏดงั ตอ่ ไปน้ี รายการ งบประมาณ งบประมาณ ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายการผลิต การผลิตจริง ที่ระดบั 100% ที่ระดบั 75% เงนิ เดอื นผคู้ วบคุมงาน 41,500 41,500 42,500 คา่ เส่อื มราคา 37,500 37,500 37,500 ภาษีโรงงาน 30,000 30,500 28,000 ค่าเช่า 30,000 30,000 30,000 ค่าแรงซ่อมแซม 20,000 15,000 15,000 คา่ เบ้ียประกันภัย 5,000 5,000 5,000 คา่ แรงงานแม่บา้ น 10,000 7,500 8,000 วัสดุโรงงาน 12,000 9,000 9,500 คา่ แรงทางออ้ ม 40,000 30,000 35,000 ค่ากาลงั ไฟ 10,000 7,500 8,200 รวม 236,000 213,000 218,700 กาลังการผลติ ตอ่ เดอื น 1,000 ชม. 750 ชม. 800 ชม. ให้ทา จากขอ้ มูลดงั กล่าวขา้ งตน้ จงคานวณหา 1. ให้จาแนกคา่ ใช้จา่ ยการผลติ เปน็ ตน้ ทนุ คงทแี่ ละตน้ ทุนผันแปรแล้วคานวณอัตรา

5 - 40 การบัญชีต้นทุน 1 คา่ ใช้จา่ ยการผลิตจดั สรรรวม อตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงที่ และอัตราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 2. งบประมาณยืดหยนุ่ (Flexible Budget) ณ ระดบั ตา่ งๆ 3. งบประมาณยืดหย่นุ ประจาเดอื นมถิ นุ ายน 25X3 4. สมดุ รายวนั ขัน้ ตน้ ลงรายการเกีย่ วกับคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ และแสดงการปดิ ผลตา่ งไป บญั ชตี น้ ทุนขาย ข้อ 8. บริษทั พทั ยา จากดั ผลิตและขายสนิ คา้ โดยใช้ระบบต้นทุนสงั่ ทา ทั้งน้แี ผนกบญั ชไี ด้ กาหนดอตั ราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรรในอัตรา 150% ของค่าแรงงานทางตรง เนื่องจากการ ผลิตสินค้าของบริษัทเปล่ียนแปลงขึ้นลงตามฤดูกาล ฝ่ายบริหารจึงไม่ได้ปิดบัญชีผลต่าง คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ในตอนสิน้ เดือน แต่จะเปิดบญั ชคี า่ ใชจ้ ่ายการผลิตจัดสรร และบัญชีคุมยอด ค่าใช้จ่ายการผลิตแยกคนละบัญชี และเม่ือเกิดรายการทั้ง 2 ประเภทนี้ พนักงานบัญชีจะ บันทึกเข้าบญั ชีดังกลา่ วและสะสมยอดรอไว้จนถงึ สนิ้ ปี จงึ จะคานวณผลแตกตา่ ง ค่ า ใ ช้ จ่ า ย การผลิตโดยโอนเข้าบัญชตี ้นทุนขาย รวมทั้งปิดบญั ชีคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต และค่าใช้จ่ายการผลิต จัดสรรในตอนส้ินปี สาหรับรายการต่อไปนี้ได้มาจากงบทดลองของบริษัท ณ วันท่ี 1 มกราคม 25X6 บริษทั พัทยา จากดั งบทดลอง วนั ท่ี 1 มกราคม 25X6 (หนว่ ย : บาท) เงนิ สด 140,000 ลกู หนก้ี ารคา้ 56,000 วัตถดุ ิบและวัสดุสน้ิ เปลือง 30,000 งานระหวา่ งทา 20,000 สนิ ค้าสาเรจ็ รูป 10,000 คา่ เบีย้ ประกนั เครื่องจกั รจา่ ยล่วงหนา้ 12,000 เครอื่ งจกั รและอปุ กรณ์ 150,000 คา่ เสอื่ มราคาสะสม-เคร่อื งจักรและอปุ กรณ์ 50,000 เจ้าหนกี้ ารคา้ 26,200 คา่ สาธารณปู โภคคา้ งจา่ ย 1,800 ภาษีเงนิ ไดน้ ิติบคุ คลค้างจา่ ย 4,000 ทุนหนุ้ สามญั 300,000 กาไรสะสม 36,000 418,000 418,000

บทที่ 5 การบัญชเี กีย่ วกบั คา่ ใช้จา่ ยการผลิต 5 - 41 สาหรบั รายการในเดือนมกราคม 25X6 แสดงดังตอ่ ไปนี้ 1. ซ้ือวัตถุดบิ ต่างๆ 22,000 บาท และวัสดุส้ินเปลืองต่างๆ 10,000 บาท เป็นเงิน เชอ่ื และในเดือนนไ้ี ดจ้ า่ ยชาระหนคี้ ่าวตั ถุดิบและคา่ วัสดุส้ินเปลือง (รายการเจา้ หนก้ี ารคา้ ) รวม ทั้งส้นิ 30,000 บาท 2. เบกิ วัตถดุ ิบตา่ งๆ ไปใชง้ านทางตรง 34,000 บาท ใชง้ านทางออ้ ม 8,000 บาท 3. เบิกวัสดุสิ้นเปลืองไปใช้ในแผนกขาย 4,000 บาท ใชใ้ นแผนกบรหิ าร 3,000 บาท 4. เงินเดือนและค่าแรงงานรวมทั้งกิจการเท่ากับ 75,000 บาท ประกอบด้วย ค่าแรงงานทางตรง 30,000 บาท ค่าแรงทางอ้อม 15,000 บาท เงินเดือนแผนกขาย 20,000 บาท เงินเดอื นแผนกบริหาร 10,000 บาท เงินเดือนและค่าแรงทุกประเภทจะถูกหัก เปน็ ภาษีหกั ณ ทจี่ ่าย 10% ของเงนิ เดอื นและคา่ แรงงานขั้นตน้ และในเดือนน้ีกจิ การได้จ่าย เงินเดอื นและคา่ แรง (ทั้งจากยอดคา้ งจ่ายและรายการท่ีเกิดขึ้นในระหว่างเดือน) รวมเป็นเงิน 60,000 บาท 5. ค่าใช้จ่ายการผลติ ตา่ งๆ ต่อไปนี้ เป็นเงนิ สด 5.1 ค่าตรวจสอบคณุ ภาพวตั ถดุ ิบ 3,400 บาท 5.2 คา่ ซ่อมบารุงเครอ่ื งจกั ร 4,600 บาท 5.3 ค่าใช้จา่ ยเบด็ เตลด็ ในโรงงาน 2,900 บาท 6. กิจการจ่ายค่าเช่าอาคารเดือนละ 16,000 บาท เป็นเงินสด และฝ่ายบริหารได้ กาหนดให้ปันส่วนค่าเช่าอาคารตามพ้ืนท่ีเป็นตารางเมตร อาคารมีพื้นท่ีรวม 1,000 ตาราง เมตร เปน็ ของแผนกผลิต 500 ตารางเมตร แผนกขาย 300 ตารางเมตร และแผนกบริหาร 200 ตารางเมตร 7. ในเดือนนี้ได้รับใบแจ้งหนี้สาธารณูปโภครวม 8,000 บาท ซ่ึงฝ่ายบริหาร กาหนดใหป้ ันค่าสาธารณูปโภคให้แผนกต่างๆ ตามจานวนพื้นท่ี และในตอนสิ้นเดือนได้จ่าย หนี้คา่ สาธารณูปโภคคา้ งจา่ ย รวมท้ังสิ้น 7,800 บาท 8. ฝ่ายบญั ชไี ดต้ ัดจาหน่ายคา่ เบี้ยประกนั ภยั เคร่ืองจกั รเดือนละ 1,000 บาท 9. กจิ การคดิ ค่าเสอ่ื มราคาเคร่อื งจักรและอุปกรณ์ด้วยวิธีเส้นตรง โดยอายุการใช้งาน ของเครื่องจกั รและอุปกรณเ์ ทา่ กับ 5 ปี 10. ในตอนสิ้นเดือนผูจ้ ดั การแผนกผลติ ไดส้ ารวจของคงเหลอื และพบวา่ งานระหว่างทา ปลายงวดมีจานวนเท่ากับ 29,000 บาท และสนิ ค้าสาเรจ็ รูปมีจานวนเท่ากบั 25,000 บาท 11. กิจการขายสินค้าในระหว่างเดือน เป็นเงินเช่ือ 140,000 บาท และในเดือนน้ี ได้รบั ชาระหนจ้ี ากลกู หน้ีการคา้ ท้ังหมดรวม 100,000 บาท ให้ทา ใหบ้ นั ทึกรายการในสมดุ รายวันท่วั ไป และผ่านไปบัญชีแยกประเภทที่เก่ียวข้อง พร้อม จัดทางบทดลอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook