1 - 28 การบญั ชตี น้ ทนุ 1 เงินเดอื น (บาท) 25,000 ตน้ ทนุ คงท่รี วม 20,000 15,000 10,000 5,000 0 10 20 30 40 ปริมาณการผลิต (พนั หนว่ ย) ภาพท่ี 1.10 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทุนคงท่ีรวม เงินเดอื น (บาทต่อหน่วย) 5 4 3 2 1 ตน้ ทนุ คงท่ตี อ่ หน่วย 0 10 20 30 40 ปริมาณการผลติ (พันหนว่ ย) ภาพที่ 1.11 แสดงพฤตกิ รรมของตน้ ทุนคงทต่ี อ่ หน่วย
บทท่ี 1 แนวคิดและความรู้ท่วั ไปเกย่ี วกบั การบญั ชีต้นทนุ 1 - 29 5.3 ต้นทนุ กึ่งคงท่ี ต้นทุนกึ่งคงที่ (Semi - Fixed Costs) เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ท่ีจะ คงที่ ณ ช่วงของระดับกิจกรรมหนึ่งๆ หรืออยู่ในช่วงของการตัดสินใจ (Relevant Range) แต่ เมื่อมีการเปลี่ยนระดับของกิจกรรม ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายน้ันจะเปลี่ยนแปลง และจะคงที่อยู่ เชน่ เดมิ จนกระท่ังมีการเปลย่ี นระดับของกจิ กรรมเพมิ่ ขึ้นอกี ระดบั หนึง่ เชน่ เงินเดือนผู้ควบคุม งานทบี่ ริษทั จา่ ยให้กับหัวหนา้ งาน ซ่ึงหวั หน้างาน 1 คน สามารถควบคุมระดับของปริมาณการ ผลิตได้ ไม่เกิน 20,000 หน่วย จ่ายเงินเดือน 15,000 บาท ดังน้ัน ถ้าบริษัทมีการผลิตสินค้า จานวน 15,000 หนว่ ย บริษัทต้องจ่ายเงินเดือนให้กับหัวหน้างาน จานวน 15,000 บาท แต่ถ้า ระดบั ปรมิ าณการผลติ เพ่ิมขน้ึ เปน็ 40,000 หน่วย ต้องจ้างหัวหน้างาน 2 คน ทาให้บริษัทต้อง จ่ายเงินเดือนหัวหน้างาน จานวน 30,000 บาท ถ้ากิจการเพ่ิมระดับการผลิต เป็น 55,000 หนว่ ย ตอ้ งจา้ งหัวหน้างาน 3 คน เงนิ เดือนที่จ่ายใหก้ บั หัวหนา้ งาน จะเทา่ กบั 45,000 บาท ดงั นัน้ จะเหน็ ไดว้ ่า ตน้ ทนุ ก่ึงคงที่ จะมีลกั ษณะคงทใี่ นช่วงของการผลิตหน่งึ ๆ เท่าน้ัน แต่เมื่อเปล่ียนระดับกิจกรรมหรือเปลี่ยนช่วงของการผลิต ต้นทุนคงที่อาจจะ เปล่ียนแปลง แต่จะคงท่ีอยู่ ณ ระดับการผลิตน้ันในช่วงระยะเวลาหน่ึง เป็นข้ันๆ คล้ายกับ ขั้นบันได ดังน้ัน ต้นทุนกึ่งคงที่ สามารถเรียกอีกชื่อหน่ึงว่า ต้นทุนคงท่ีแบบข้ันบันได (Step - Fixed Costs) เงนิ เดอื น (บาท) ต้นทนุ กง่ึ คงท่ี 45,000 30,000 15,000 0 60,000 ปรมิ าณการผลติ (หนว่ ย) 20,000 40,000 ภาพที่ 1.12 แสดงพฤติกรรมของตน้ ทนุ กึ่งคงท่ี
1 - 30 การบญั ชีตน้ ทนุ 1 5.4. ต้นทุนผสมหรือต้นทนุ กง่ึ ผนั แปร ต้นทุนผสม หรือ ต้นทุนก่ึงผันแปร (Mixed Costs or Semi – Variable Costs) เป็นต้นทุนท่ีรวมกันระหว่างต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่เข้าด้วยกัน ดังนั้น ลักษณะ ของต้นทุนผสมจึงมีลักษณะพฤติกรรมต้นทุนท่ีเป็นของต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงท่ีรวมกัน นั่นคอื ต้นทุนสว่ นหนึง่ จะเปลีย่ นแปลงไปตามระดบั ของกิจกรรมหรอื ข้ึนอย่กู บั ตัวผลักดันต้นทุน (Cost Drivers) แต่การเปล่ียนแปลงนั้นไม่เป็นสัดส่วนเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของระดับ ของกจิ กรรมเชน่ เดยี วกบั ลกั ษณะของต้นทุนผันแปร ตัวอย่างของต้นทุนผสมหรือต้นทุนกึ่งผัน แปร เพ่ือให้เข้าใจย่ิงขึ้น จะแสดงตัวอย่างต้นทุนผสม เช่น บริษัทจ่ายค่าโทรศัพท์ รายเดอื น โดยแบ่งเปน็ ต้นทุนคงที่ คอื ค่าบริการคสู่ าย จานวน 100 บาท แต่ค่าโทรศัพท์จะมาก หรอื น้อยขึ้นอย่กู ับจานวนครง้ั ของการโทร ซ่งึ เสยี ครั้งละ 3 บาท ถ้าสมมตเิ ดือนทผ่ี ่านมา บรษิ ัท มีการโทรไปติดต่อลูกค้าจานวน 100 คร้ัง ค่าโทรศัพท์ของบริษัทจะเท่ากับ 400 บาท ซึ่ง ประกอบด้วย คา่ บริการคสู่ าย 100 บาท และคา่ โทรศพั ท์ 300 บาท (100 คร้ัง x 3 บาทต่อครั้ง) เปน็ ตน้ ตน้ ทุนรวม (บาท) 300 ตน้ ทุนผันแปร 200 100 ต้นทุนคงที่ 0 50 100 จานวนครง้ั ของการโทร (คร้งั ) ภาพที่ 1.13 แสดงพฤติกรรมของต้นทุนผสม
บทท่ี 1 แนวคดิ และความรูท้ ่ัวไปเกยี่ วกับการบญั ชีต้นทนุ 1 - 31 6. การจาแนกต้นทนุ เพอ่ื นาไปใช้ในการตดั สินใจ การดาเนินธุรกิจ ผู้บริหารมีหน้าท่ีหลักๆ ได้แก่การวางแผน การกากับ การจูงใจ การควบคุมและการตัดสินใจ ซึ่งการท่ีผู้บริหารจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องหรือไม่น้ัน ข้อมูลที่ นาเสนอแกผ่ บู้ รหิ ารต้องมีลกั ษณะทสี่ าคญั คอื ตอ้ งมคี วามเกีย่ วขอ้ งกับประเด็นปญั หาหรือเรอ่ื งท่ี ต้องการจะตัดสนิ ใจ ขอ้ มลู ต้องมคี วามถกู ต้อง น่าเช่อื ถอื ได้ข้อมูลทนั ตอ่ เวลา และมคี วามคุ้มค่า เม่ือเปรียบเทยี บระหวา่ งตน้ ทนุ หรือคา่ ใช้จา่ ยกบั ผลประโยชนท์ ไี่ ด้รบั ดังได้กล่าวไว้แล้วในบทที่ 1 ดังนัน้ ข้อมลู ที่นามาใชป้ ระกอบการตัดสินใจ จึงมีหลายลักษณะ ดังนี้ 6.1 ต้นทุนท่ีหลีกเล่ียงได้ ตน้ ทนุ ที่หลีกเลี่ยงได้ (Avoidable Cost) หมายถึง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ จะไม่เกิดขึ้น ถ้ากิจการไม่เลือกทางเลือกนั้น เช่น กิจการกาลังตัดสินใจว่าจะยกเลิกการผลิต สินค้าชนิดหน่ึง ทาให้แผนกผลิตสินค้าชนิดนั้นลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลงได้ เช่น วัตถุดิบทาง ตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้านั้น รวมไปถึงค่าแรงงานที่จ่ายให้กับพนักงานในแผนกนั้น เป็นต้น ดังนั้น โดยท่ัวไป วัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงานทางตรง ซ่ึงเป็นต้นทุนผันแปร จะถือว่าเป็น ตน้ ทุนที่หลกี เลีย่ งไดข้ องกจิ การน้นั 6.2 ต้นทนุ ท่ีหลีกเลี่ยงไมไ่ ด้ ต้นทุนที่หลีกเล่ียงไม่ได้ (Unavoidable Cost) หมายถึง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย ใดๆ ที่เกิดข้ึนไม่ว่าจะเลือกหรือไม่เลือกทางเลือกนั้นก็ตาม โดยส่วนใหญ่ต้นทุนที่หลีกเลี่ยง ไม่ได้มกั จะเปน็ ต้นทุนคงท่ี เช่น เงินเดอื นผู้บรหิ าร ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร ค่าเช่าอาคาร เป็น ต้น หรือในบางคร้ัง ต้นทุนท่ีหลกี เลีย่ งไมได้ ถกู เรยี กวา่ ต้นทนุ จม 6.3 ต้นทนุ ที่ควบคมุ ได้ ต้นทุนท่ีควบคุมได้ (Controllable Costs) หมายถึง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายท่ี ผ้จู ดั การแผนกนนั้ มีอานาจ หน้าที่ในการควบคุม สง่ั การหรอื บริหารจดั การได้ เชน่ เงินเดอื นของ พนกั งานแผนกขาย ถือเปน็ ต้นทนุ ท่ีควบคมุ ไดข้ องผู้จัดการแผนกขาย เพราะผูจ้ ดั การแผนกน้ัน มีอานาจหน้าที่ในการเพิ่มหรือลดเงินเดือนหรือจานวนพนักงานในแผนกขายได้ เพ่ือให้การ ทางานของแผนกเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ หรอื ตามแผนท่ีกาหนด 6.4 ต้นทนุ ท่ีควบคมุ ไม่ได้ ต้นทนุ ทีค่ วบคมุ ไม่ได้ (Uncontrollable Costs) หมายถงึ ต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย ใดๆที่อยู่นอกเหนืออานาจหน้าที่ หรือการควบคุม การบริหารจัดการของผู้จัดการแผนกน้ันๆ เชน่ เงนิ เดือนของพนักงานขาย ถือวา่ เป็นต้นทนุ ทผ่ี ู้จัดการแผนกบัญชีควบคุมไม่ได้ เนื่องจาก ผู้จัดการแผนกบัญชี ไม่มีอานาจหน้าที่ในการส่ังการเพิ่มหรือลดเงินเดือนหรือจานวนของ พนกั งานท่ีอยแู่ ผนกขายได้ เปน็ ตน้
1 - 32 การบัญชตี ้นทุน 1 6.5 ต้นทุนส่วนแตกต่าง ต้นทุนส่วนแตกต่าง (Differential Cost) หมายถึง ต้นทุนที่เกิดการ เปลี่ยนแปลงไปจากการตัดสินใจเลือกกระทาอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปในทางท่ี เพ่ิมขน้ึ หรือลดลง (Incremental Cost or Decremented Cost) ซึ่งต้นทนุ ประเภทน้ีจะเกิดข้ึนก็ ต่อเมอ่ื มีการเปลยี่ นแปลงจากวธิ ีการปฏบิ ตั ิแบบเดมิ มาเปน็ แบบใหม่ เช่น ซื้อเครื่องจักรใหม่มา ทาการผลิตสินค้าแทนเครื่องจักรเก่า หรือซ้ือรถบรรทุกรุ่นใหม่ มาแทนรถบรรทุกรุ่นเก่า โดยทั่วไปจะมีเงินลงทุนที่สูง แต่ในระยะยาวสามารถลดต้นทุนผันแปรต่อหน่วยลงได้ เช่น ต้นทนุ การผลิตลดลงเพราะใช้เวลาในการผลิตต่อหน่วยลดลงจากเคร่ืองจักรเครื่องเดิม ดังนั้น ผบู้ ริหารตอ้ งทาการตัดสนิ ใจวา่ ต้นทนุ ส่วนทแ่ี ตกตา่ งรวมสทุ ธิให้ผลตอบแทนทีด่ ีข้นึ หรือไม่ 6.6 ต้นทุนค่าเสียโอกาส ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) หมายถึง ผลประโยชนหรือ รายได้ที่กิจการสญู เสียไปจากการท่ีไมเ่ ลือกทางเลอื กหนง่ึ แตก่ จิ การไปเลอื กทางเลือกอ่ืนที่อาจ เหมาะสมกว่า หรือให้ผลตอบแทนสูงกว่าทางเลือกนั้น เช่น กิจการมีเครื่องจักรที่สามารถจะ นามาใชใ้ นการผลิตสนิ คา้ ได้ หรอื กิจการสามารถเลอื กท่ีจะนาเอาเคร่อื งจกั รเครอ่ื งนไ้ี ปใหเ้ ชา่ ทา ใหไ้ ดร้ บั คา่ เช่า เชน่ รายไดค้ ่าเชา่ 50,000 บาท ถา้ ผ้บู รหิ ารเลือกทีจ่ ะใช้เคร่อื งจกั รเครอื่ งนี้ไปใช้ ในการผลิตสินค้า ดงั นนั้ ทาให้กจิ การสูญเสยี โอกาสท่ีจะได้รับค่าเช่าจานวน 50,000 บาท ซึง่ ถอื วา่ รายไดท้ ่ีสูญเสยี ไปจากการตดั สินใจเชน่ น้ี เป็นตน้ ทนุ ค่าเสียโอกาสของกิจการ 6.7 ต้นทุนจม ตน้ ทนุ จม (Sunk Cost) หมายถงึ ต้นทุนหรอื คา่ ใช้จ่ายใดๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ จาก การตัดสนิ ใจในอดตี เช่น การซ้อื เครอ่ื งจักร ทาให้มีการคดิ คา่ เสอื่ มราคาของเครื่องจกั ร หรือ ค่า เชา่ สานักงานท่มี ีการทาสญั ญาระยะยาว เปน็ ตน้ คา่ ใช้จ่ายเหลา่ นเ้ี ปน็ ค่าใช้จ่ายทเ่ี กิดข้นึ แลว้ ไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงค่าใชจ้ า่ ยเหล่านี้ใหล้ ดลงได้ ถือเป็นต้นทุนจม นอกจากนี้ต้นทุนจมจะไม่มี ผลกระทบตอ่ การตดั สนิ ใจใดๆของผ้บู รหิ ารในสถานการณ์ปัจจุบัน ดังน้ัน ในการตัดสินใจเลือก ทางเลอื กทเ่ี หมาะสม ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายนี้ ไมจ่ าเป็นต้องนามาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ กไ็ ด้
บทที่ 1 แนวคดิ และความรูท้ ่ัวไปเก่ียวกบั การบัญชีต้นทนุ 1 - 33 บทสรปุ โดยทว่ั ไปหลักการบัญชี สามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ การบัญชีการเงิน การ บัญชีบริหาร และการบัญชตี ้นทนุ ท้งั สามลักษณะมคี วามเก่ียวข้องสัมพันธ์กัน แหล่งของข้อมูล ท้ังสามลักษณะจะเกย่ี วกบั รายการคา้ ทีเ่ กิดขึน้ ของธรุ กิจและมีการนาเสนอข้อมูลทางการเงินใน รูปแบบของงบการเงินท่ีเป็นรูปแบบมาตรฐาน และมีการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน แต่ใน ขณะเดียวกันการบัญชีการเงิน การบัญชีบริหารและการบัญชีต้นทุน ก็มีความแตกต่างกันใน บางประเด็น คือ ผ้ใู ช้ข้อมูล รูปแบบของการนาเสนอข้อมูล ระยะเวลาในการนาเสนอ ลักษณะ ของขอ้ มูลทน่ี าเสนอ หน่วยวัดคา่ ของขอ้ มลู เป็นต้น การบัญชกี ารเงนิ เป็นการนาเสนอให้กบั บุคคลภายนอกองค์กร ดงั นั้น ข้อมูลที่นาเสนอ จาเป็นต้องเป็นไปตามหลักการบัญชีท่ีรับรองโดยทั่วไป และเป็นไปตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงิน สว่ นการบัญชบี ริหาร เปน็ การเสนอข้อมูลที่มีความจาเป็นต่อผู้บริหารเพื่อนาไปใช้ ในการวางแผน การกากับดแู ลและการสง่ั การ การควบคุม และการตดั สนิ ใจ ดงั นั้น การนาเสนอ ข้อมูล จงึ ไมจ่ ะเป็นตอ้ งเปน็ ไปตามมาตรฐานที่กาหนด แต่ข้อมลู ทเี่ สนอต้องเป็นข้อมูลที่มีความ เก่ียวข้องกับการตัดสินใจ มีความเช่ือถือได้ ได้ข้อมูลรวดเร็วและทันต่อความต้องการของ ผูบ้ ริหาร แต่อย่างไรก็ตาม ผูบ้ ริหารกค็ วรคานงึ ถึงตน้ ทนุ ที่เสียไป เปรียบเทียบกับผลประโยชน์ หรอื ผลตอบแทนท่ีไดร้ บั เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู มาเชน่ กัน และสาหรบั การบญั ชตี น้ ทุน เป็นการบัญชีท่ี บันทกึ และจัดทารายงาน การวัดคา่ ของตน้ ทุนในการผลติ สินค้าและการใหบ้ ริการ ขอบเขตงาน ของการบญั ชตี ้นทุน จึงได้แก่ การรวบรวมขอ้ มูลต้นทนุ บันทกึ แยกประเภท แบ่งสรรหรือปัน ส่วน สะสมและจัดทารายงานเกี่ยวกับต้นทุนในลักษณะต่างๆ ตามความประสงค์ของฝ่าย จดั การ ดงั นนั้ การบญั ชตี น้ ทนุ จงึ เป็นส่วนหน่งึ ของทงั้ การบญั ชกี ารเงนิ และการบญั ชบี รหิ าร หลักการของการบัญชีต้นทุน คือ การนาข้อมูลต้นทุนมาใช้เพ่ือให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ของผู้บริหารหรือผู้ใช้ข้อมูล ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีต้นทุนอยู่หลายประเภท แต่ละ ประเภทกน็ ามาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ตัวอย่างประเภทของต้นทุน เช่น การแบ่งประเภท ต้นทุนไปตามหน้าที่ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ต้นทุนท่ีเก่ียวกับการผลิต และ ตน้ ทนุ ท่ไี ม่เก่ยี วข้องกับการผลติ หรอื แบง่ ตน้ ทนุ เพ่ือจัดทารายงานทางการเงิน หรอื แบ่งไปตาม พฤตกิ รรมต้นทนุ เพ่อื ใช้ในการวางแผนและการควบคุม รวมไปถึงการแบ่งต้นทุนเพื่อนาไปใช้ ในการตัดสินใจ เป็นต้น ดังน้ัน การจะใช้ข้อมูลต้นทุนในลักษณะใด ต้องพิจารณาดูการจัด ประเภทของข้อมลู ให้ตรงกบั วัตถุประสงค์ของผใู้ ช้ขอ้ มูล
1 - 34 การบัญชีต้นทุน 1 แบบฝึกหดั ท้ายบท ข้อ 1. จงขดี เครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งในขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ ง เกีย่ วกบั ตน้ ทนุ การผลติ แต่ละประเภท ข้อ ช่ือบญั ชี ต้นทนุ การผลิต วตั ถดุ ิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จา่ ย 1 เงินเดือนผู้จัดการโรงงาน ทางตรง ทางตรง การผลิต 2 แป้งท่ใี ช้ในการผลิตเค้ก 3 ค่าแรงท่ีจ่ายใหก้ บั พนักงานนวดแป้ง 4 คา่ นา้ ค่าไฟ ในโรงงาน 5 ผงฟทู ี่ใชผ้ สมเพอื่ ทาเค้ก 6 คา่ เบย้ี ประกนั ภยั โรงงาน 7 ค่าเสื่อมราคาเครอ่ื งอบขนม 8 สผี สมครมี เพ่ือทาเคก้ 9 คา่ ซอ่ มแซมเครือ่ งอบขนมเคก้ 10 คา่ จ้างที่จ่ายใหก้ บั พนักงานแต่งหนา้ เคก้ ข้อ 2. จงระบุว่า รายการต่อไปนี้ รายการใดเป็นต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขาย และ คา่ ใช้จ่ายในการบรหิ าร ประเภทของต้นทุน ข้อ ชื่อบญั ชี ต้นทุน ค่าใช้จา่ ย ค่าใช้จา่ ย การผลิต ในการขาย ในการ บริหาร 1 วสั ดโุ รงงาน 2 ค่าโฆษณา 3 ค่าธรรมเนยี มการสอบบญั ชี 4 คา่ เชา่ สานกั งานขายสินคา้ 5 คา่ ใช้จ่ายทางกฎหมาย 6 ตน้ ทุนของเวลาสญู เปล่า ระหวา่ งรอการ ผลิต 7 ค่ารับรองของฝ่ายขาย 8 คา่ ขนสง่ ออก
บทท่ี 1 แนวคิดและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกบั การบญั ชีต้นทนุ 1 - 35 ขอ้ ช่ือบญั ชี ประเภทของต้นทุน ต้นทนุ ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่าย 9 หนี้สญู การผลิต ในการขาย ในการ 10 คา่ ขนสง่ เขา้ 11 ค่าภาษที ี่ออกใหล้ กู จ้างภายในโรงงาน บริหาร 12 ค่าภาษที ี่ออกให้ลกู จา้ งแผนกขาย 13 เงินเดือนประธานบริษทั 14 ต้นทนุ ของสนิ คา้ ตวั อยา่ ง 15 เม็ดพลาสติกทใี่ ชท้ ากล่องใส่อาหาร 16 ตน้ ทนุ ในการซ่อมแซมเครื่องจักร ขอ้ 3. จงขดี เครอื่ งหมาย ลงในช่องว่างในขอ้ ทีถ่ กู ตอ้ ง ขอ้ ชื่อบญั ชี ต้นทุนท่ีเกี่ยวข้อง ต้นทนุ ท่ีไม่เก่ยี วข้อง กบั การผลิต กบั การผลิต 1 เงินเดือนผ้บู ริหาร 2 ค่ารับรองลกู ค้า DM DL MOH ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จา่ ย 3 เมล็ดกาแฟท่ีนามาชง ในการ ในการ ขาย บริหาร กาแฟ 4 คา่ จ้างพนกั งานหน้าร้าน 5 ค่านา้ ค่าไฟสานกั งาน 6 ค่าแรงของพนกั งานแผนก ประกอบช้ินสว่ น 7 คา่ โฆษณา 8 ค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์ สานกั งาน 9 เงนิ เดือนพนกั งานขาย
1 - 36 การบัญชตี ้นทุน 1 ข้อ ชื่อบญั ชี ต้นทุนท่ีเกยี่ วขอ้ ง ต้นทนุ ที่ไม่เก่ียวข้อง กบั การผลิต กบั การผลิต 10 ค่าจา้ งยามทเี่ ฝ้าโรงงาน MOH ค่าใช้จา่ ย ค่าใช้จ่าย 11 เงินเดือนพนกั งานบญั ชีท่ี DM DL ในการ ในการ โรงงาน ขาย บริหาร 12 เงนิ เดอื นพนกั งาน ซอ่ มแซมเครอ่ื งจกั ร 13 คา่ นายหนา้ 14 คา่ น้ามนั รถบรรทกุ ขน สินคา้ ให้ลูกคา้ 15 ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ข้อ 4. ข้อมูลตอ่ ไปนีเ้ ป็นขอ้ มลู ต้นทนุ หรอื คา่ ใชจ้ า่ ยที่เกิดขนึ้ ในบรษิ ัท อุดรการคา้ จากดั (หน่วย: บาท) วัตถดุ ิบทางตรง 250,000 วัตถุดิบทางออ้ ม 57,000 ค่าแรงงานทางตรง 300,000 คา่ แรงงานทางออ้ ม 27,000 ค่าสาธารณปู โภค-โรงงาน 89,000 ค่าสาธารณปู โภค-สานกั งาน 78,000 ค่าเบ้ยี ประกนั ภยั -โรงงาน 55,000 ค่าเบ้ยี ประกนั ภัย-สานกั งาน 36,000 คา่ เสอ่ื มราคา-โรงงาน 48,000 ค่าเสือ่ มราคา-เครอื่ งจักร 50,000 คา่ เชา่ สานกั งาน 20,000 คา่ เสื่อมราคา-อปุ กรณ์สานกั งาน 24,000 เงนิ เดือนผจู้ ดั การโรงงาน 150,000 เงนิ เดอื นพนกั งานฝา่ ยขาย 30,000 เงินเดอื นพนกั งานฝา่ ยบญั ชี 24,000 ค่าขนส่งออก 33,000
บทที่ 1 แนวคิดและความร้ทู ่วั ไปเกีย่ วกบั การบัญชีตน้ ทุน 1 - 37 คา่ โฆษณา 87,000 ค่ารบั รองลกู คา้ 30,000 ให้ทา คานวณต้นทนุ หรอื ค่าใชจ้ ่ายต่างๆ แยกตามการจาแนกประเภทของตน้ ทุน ดังน้ี 1. คา่ ใช้จ่ายการผลิต 2. ต้นทุนข้ันตน้ 3. ตน้ ทุนแปรสภาพ 4. ตน้ ทุนการผลิต 5. ต้นทุนประจางวด ขอ้ 5. จงขีดเครอื่ งหมาย ลงในช่องวา่ งในขอ้ ท่ีถูกต้อง เกี่ยวกบั ประเภทของตน้ ทนุ ที่ เก่ยี วขอ้ ง ขอ้ ชื่อบญั ชี ต้นทุน ต้นทุน ผลิตภณั ฑ์ ประจางวด 1 ค่านายหนา้ 2 ค่าออกแบบรถยนต์ 3 คา่ ขนส่งออก 4 คา่ เส่อื มราคาเครอ่ื งจักร 5 ค่าแรงงานของพนกั งานแผนกประกอบชิ้นสว่ น 6 คา่ รับรองลูกคา้ 7 เงนิ เดือนพนกั งานแผนกบัญชี 8 ค่าโฆษณา 9 คา่ สาธารณปู โภคในโรงงาน 10 เหล็กท่ีนามาใชใ้ นการผลติ รถยนต์
1 - 38 การบญั ชตี ้นทนุ 1 ขอ้ 6. จงขดี เครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งในขอ้ ท่ีถูกตอ้ ง ประเภทของต้นทนุ ข้อ ชื่อบญั ชี ต้นทนุ คงท่ี ต้นทุน ต้นทุนผสม ผนั แปร 1 เหลก็ ทใี่ ชใ้ นการผลติ รถยนต์ 2 ค่าจ้างท่ีจ่ายให้กับพนักงานพน่ สีรถยนต์ 3 คา่ เสอื่ มราคาเครอื่ งจกั ร 4 คา่ โทรศัพท์ 5 คา่ นายหนา้ 6 ค่านา้ คา่ ไฟสานกั งาน 7 คา่ เชา่ สานกั งาน 8 เงนิ เดอื นพนกั งานขาย 9 ค่าโฆษณา 10 คา่ ซ่อมแซมเคร่ืองจักร ขอ้ 7. ใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมาย หนา้ ขอ้ ทีท่ า่ นเหน็ ว่าถกู และใสเ่ คร่ืองหมาย X หน้าข้อที่ท่าน เหน็ วา่ ผดิ ................. 1. ต้นทุนที่ยังไม่ได้ตัดจาหน่าย (Unexpired Cost) จะถือว่าเป็นสินทรัพย์และ แสดงไวใ้ นงบแสดงฐานะการเงิน ................. 2. เม่ือต้นทนุ รายการใดไมก่ อ่ ใหเ้ กิดผลได้หรอื ผลประโยชน์ในอนาคตอกี ต่อไป รายการน้นั อาจถือเป็นขาดทุนและแสดงไวใ้ นงบกาไรขาดทนุ ................. 3. ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงอาจจะแยกเป็นต้นทุน 2 ประเภท คือ ต้นทุน ทางตรง และตน้ ทุนทางออ้ ม ................. 4. คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ เปน็ ผลรวมระหว่างต้นทุนข้ันต้นและค่าใช้จ่ายทางอ้อมอ่ืนๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในการผลิต ................. 5. คาว่าต้นทุนหมายถึงค่าใช้จ่ายที่กิจการจ่ายเป็นเงินสด และหวังว่าจะได้รับ รายได้กลบั คนื มาในอนาคต ................. 6. ความหมายของต้นทุนจะชัดเจนยิง่ ขึ้นเมอื่ มคี าคณุ ศัพท์มาขยายคาว่า “ตน้ ทุน” แต่ความหมายของตน้ ทุนยังคงเปน็ อย่างเดียวกันไมว่ า่ จะถูกนาไปใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง กนั อย่างไร ................. 7. เม่ือประสงค์จะวิเคราะห์ต้นทุนผสม (Mixed Cost) จาเป็นต้องแยกเป็น ต้นทนุ คงท่แี ละตน้ ทุนผนั แปร
บทที่ 1 แนวคดิ และความรูท้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั การบัญชีตน้ ทนุ 1 - 39 ................. 8. ลกั ษณะของตน้ ทุนผันแปรต่อหนว่ ยจะคงท่ี ในขณะท่ีต้นทุนคงที่ต่อหน่วยจะผัน แปร ................. 9. เงนิ เดอื นของผ้จู ัดการโรงงานและประธานบรษิ ัทเข้าลกั ษณะค่าแรงทางอ้อม จึง ถือว่าเปน็ คา่ ใช้จ่ายการผลิต ................. 10.ต้นทนุ ผสมอาจแบ่งไดเ้ ป็นต้นทนุ คงที่และต้นทุนก่งึ ผันแปร ................. 11.การจาแนกประเภทต้นทุนตามงวดบัญชี คือ การแบ่งต้นทุนเป็นต้นทุน ผลติ ภัณฑแ์ ละต้นทนุ ประจางวด ................. 12.ต้นทุนผลิตภัณฑ์ เรียกอกี ชื่อหนง่ึ วา่ เป็นต้นทุนท่ีเป็นตัวสินค้า (Inventoriable Costs) ส่วนต้นทุนประจางวดถกู เรยี กอกี ช่ือหน่งึ ว่าเปน็ รายจา่ ยลงทุน (Capital Expenditure) ................. 13.ค่าเสอ่ื มราคาของเครอ่ื งจกั รในโรงงานและอุปกรณ์สานักงานในสานักงานขาย ถอื วา่ เปน็ รายจา่ ยประจาและตอ้ งแสดงเป็นต้นทุนประจางวดเพื่อนาไปหักออกจากยอดขายใน งวดปจั จบุ นั ................. 14.ตน้ ทนุ โดยประมาณและต้นทุนมาตรฐานเป็นต้นทุนท่ีเกิดข้ึนเพื่อวัตถุประสงค์ ในการวางแผนและควบคุม ................. 15.ต้นทุนท่ีนามาใช้ในการตัดสินใจอาจจะเป็นต้นทุนท่ีกาหนดขึ้นมาใหม่ หรือ ปรับปรุงจากตน้ ทุนที่เกดิ ข้ึนในอดีตก็ได้ ข้อ 8. ต้นทุนต่อไปนี้ควรจัดเป็นต้นทุนทางตรงหรือต้นทุนทางอ้อม ในกรณีท่ีกิจการ กาหนดให้หน่วยต้นทุน คือ ผลิตภัณฑ์ 1. ค่าเสือ่ มราคา - คิดตามวิธีเสน้ ตรง 2. คา่ เส่ือมราคา - คดิ ตามชัว่ โมงทางานของเครือ่ งจักร 3. คา่ เบีย้ ประกนั ภัยโรงงาน 4. ค่าแรงหวั หนา้ แผนกผลติ 5. ค่าเช่าโรงงาน 6. ค่าซ่อมแซมเคร่ืองจกั ร 7. ค่าภาษีโรงเรอื น 8. ค่าแรงงานคนคมุ เครอื่ งจกั ร 9. ค่าขนส่งวตั ถุดิบ 10. ค่าล่วงเวลาพนกั งานผลิต 11. เหล็กทใี่ ช้ในการผลิตรถยนต์ 12. เงินเดอื นพนกั งานทาความสะอาดเครอ่ื งจกั ร
1 - 40 การบญั ชีต้นทนุ 1 เอกสารอ้างอิง ดวงมณี โกมารทัต. (2559). การบญั ชีต้นทนุ . พิมพค์ รง้ั ที่ 15 กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ศศวิ ิมล มอี าพล. (2558). การบญั ชีเพอ่ื การจดั การ. พิมพ์ครง้ั ท่ี 23 กรงุ เทพมหานคร : อินโฟไมนง่ิ . สภาวชิ าชพี การบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์. (2559). มาตรฐานการรายงานทางการเงิน. ค้นเมอ่ื 10 ธันวาคม 2559, จาก http://www.fap.or.th/ สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ ันธ.์ (2557). การบญั ชีต้นทนุ . พิมพค์ ร้ังที่ 7 กรงุ เทพมหานคร : แมคกรอ-ฮิล. Horngren, C.T., Datar, S.M., and Rajan, M.V. (2015). Cost Accounting A Managerial Emphasis. (15th ed). England : Pearson Education.
แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 2 ระบบบญั ชีต้นทุนและการจดั ทางบการเงิน หวั ข้อเนื้อหาประจาบท 1. โครงสร้างระบบบัญชตี ้นทุน 2. การจาแนกระบบบัญชีตน้ ทุน 3. การเลือกระบบบัญชตี ้นทนุ 4. วงจรการผลติ สนิ คา้ และตน้ ทุนการผลติ 5. การใช้บัญชคี ุมยอดและบญั ชีย่อย 6. ระบบการบนั ทึกบญั ชีสนิ คา้ คงเหลอื 7. การจดั ทางบการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ ผลติ สนิ คา้ 8. การจดั ทางบการเงนิ สาหรบั ธรุ กิจซอ้ื ขายสนิ คา้ 9. การจดั ทางบการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บริการ 10.บทสรปุ 11.แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 12.เอกสารอา้ งองิ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. สามารถอธบิ ายระบบบญั ชตี น้ ทนุ และระบบการสะสมตน้ ทนุ 2. สามารถอธบิ ายถงึ กระบวนการของการผลติ สนิ คา้ 3. สามารถอธบิ ายชนิดของตน้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กระบวนการผลติ ได้ 4. สามารถคานวณตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑ์ได้ 5. สามารถจดั ทางบการเงนิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กจิ การอตุ สาหกรรมได้ 6. สามารถวางระบบบญั ชตี น้ ทุนของกจิ การอตุ สาหกรรมได้ 7. สามารถกาหนดผงั บญั ชใี หก้ บั กจิ การอตุ สาหกรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
2- 2 การบัญชตี น้ ทนุ 1 วิธีการสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอนประจาบท 1. การบรรยายเน้อื หา 2. ถามตอบในชนั้ เรยี น 3. ศกึ ษาสว่ นประกอบของตน้ ทุนผลติ ภณั ฑป์ ระเภทต่างๆ 4. ศกึ ษาส่วนประกอบของงบการเงนิ ประเภทต่าง ๆ 5. ดูตวั อย่างงบการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนท่จี ดทะเบยี นกบั ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่ง ประเทศไทย 6. ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน เรอื่ ง ระบบบัญชตี น้ ทนุ และการจดั ทางบการเงนิ 2. ชดุ การสอน PowerPoint 3. แหลง่ เว็บไซดท์ ่เี กยี่ วขอ้ งจากอนิ เทอร์เนต็ 4. ตัวอย่างงบการเงินของบรษิ ทั ทจี่ ดทะเบยี นในตลาดหลักทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย การวดั ผลและการประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจขณะฟงั บรรยายและการตอบคาถาม 2. สงั เกตจากการทาแบบฝึกหดั ในชนั้ เรยี น 3. สงั เกตจากพฤตกิ รรมความสนใจ และการรว่ มกจิ กรรมในชนั้ เรยี น 4. ประเมนิ ผลจากการทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท
บทท่ี 2 ระบบบญั ชตี ้นทุนและการจดั ทางบการเงนิ 2 - 3 บทที่ 2 ระบบบญั ชีต้นทนุ และการจดั ทางบการเงิน วัตถุประสงค์ของการบัญชตี ้นทุน คอื การคานวณตน้ ทุนของสินค้าและการบริการเพ่ือ นาไปจัดทางบการเงินในรอบระยะเวลาบัญชนี ั้น อีกทง้ั ผ้บู รหิ ารสามารถนาขอ้ มลู ต้นทุนมาใชใ้ น การวางแผน ควบคมุ และนาไปสูก่ ารตดั สินใจในประเด็นปัญหาต่างๆทีเ่ กี่ยวเนอื่ งกบั การดาเนิน ธุรกิจ เพื่อให้กิจการได้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงมีความจาเป็นที่กิจการต้องมีการวาง ระบบบัญชีต้นทุนที่สามารถสนองความต้องการในทุกด้านของผู้บริหาร สอดคล้องกับ วตั ถปุ ระสงค์หลกั ของการดาเนินกิจการ ดังนั้น ผู้วางระบบบญั ชจี งึ ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจถึงลกั ษณะ ของการดาเนินงานในธุรกิจน้ัน วิธีการรวบรวมและการสะสมต้นทุน (Cost Accumulation) รวมถึงสามารถท่จี ะติดตามต้นทุนทเี่ กิดข้นึ และคิดเขา้ ไปในตัวสนิ ค้า การบริการ หรือกิจกรรมท่ี เกี่ยวขอ้ งกับการเกิดขึน้ ของต้นทนุ ซึ่งเรยี กว่า หน่วยต้นทุน (Cost Objects) ที่กาหนดไว้ ซ่ึง จะทาให้เกิดการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลข้อมูลทางการเงินดังกล่าวเป็นในรูปของรายงาน ทางการเงิน หรืออาจไม่ใช่ข้อมูลที่เก่ียวกับทางการเงินเพ่ือเสนอให้กับฝ่ายบริหารได้และนา ข้อมูลนี้ไปใช้ในการตัดสินใจต่อไป ดังน้ันเน้ือหาหลักของบทน้ีก็คือ การอธิบายรายละเอียด เกย่ี วกับโครงสรา้ งระบบบัญชีตน้ ทุน การจาแนกประเภทของระบบบัญชีต้นทุน การเลือกระบบ บัญชีต้นทุน วงจรการผลิตและต้นทุนการผลิต การใช้บัญชีคุมยอดและบัญชีย่อย ระบบการ บนั ทึกบญั ชสี ินคา้ คงเหลอื และการจัดทางบการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ ตา่ งๆ ตามลาดับ โครงสร้างระบบบญั ชีต้นทุน การบันทกึ บัญชเี ปน็ การจดบนั ทึกรายการค้าท่เี กิดขน้ึ เนือ่ งมาจากการดาเนนิ ธรุ กิจ เดิม การจดบันทึกต้นทุนดังกล่าวจะเป็นลักษณะของระบบบันทึกความทรงจา มากกว่าเป็นระบบ บัญชีดังเช่นปัจจุบัน ต่อมาได้มีผู้ประยุกต์หลักการบัญชีเข้ากับระบบบัญชีต้นทุน มีการนา ต้นทนุ ตา่ งๆ ทีเ่ กิดขึน้ มาบนั ทึกรายการลงในสมุดรายวันประเภทต่างๆ แลว้ ผ่านรายการเหล่าน้ี ไปยังบัญชีแยกประเภทที่เกี่ยวข้อง หรือบัญชีแยกประเภทต้นทุน (Cost Account) ซ่ึงแต่ละ บัญชีท่ีแยกประเภทต้นทุนจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับบัญชีแยกประเภทท่ัวไป (General Ledger Account) ในชอื่ บญั ชีต่างๆ เช่น บัญชีวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าเช่า ค่าน้าค่าไฟโรงงาน ค่าเบ้ยี ประกันภัยโรงงาน เป็นต้น กระบวนการน้ีเรียกว่า ระบบบัญชีต้นทุน (Cost Accounting System) ซ่ึงถือได้ว่าเป็นส่วนเพ่ิมเติมออกมาจากระบบบัญชีการเงิน (Financial Accounting System)
2- 4 การบัญชตี ้นทุน 1 ดังนนั้ ระบบบญั ชตี น้ ทนุ จงึ เป็นระบบการจัดเก็บขอ้ มลู และสารสนเทศต่างๆ ทเ่ี ก่ียวกับ ต้นทนุ ซง่ึ ประกอบด้วยขนั้ ตอนต่างๆ ดงั น้ี (ดวงมณี โกมารทตั , 2559 : 74) 1. การเกบ็ รวบรวมและสะสมต้นทุน รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละ หน่วยงานที่อยู่ในกิจการ ข้อมูลเหล่าน้ี จะประกอบด้วย ข้อมูลที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน ขอ้ มลู ทเี่ ป็นตวั เงนิ ซึง่ ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนและคา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ท่กี ิจการจ่ายไปสาหรบั การดาเนินธรุ กจิ ดงั ปรากฏในเอกสารสาคญั เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบสง่ ของ ใบกากับสินค้า ใบกากับภาษี เป็น ตน้ ส่วนข้อมลู ทีไ่ มเ่ ปน็ ตัวเงิน เช่น ปริมาณการผลิต ช่ัวโมงแรงงานของคนงาน ชั่วโมงการ ทางานเครือ่ งจกั ร จานวนวตั ถุดิบท่ีเบกิ ใชใ้ นกระบวนการผลิต จานวนคร้ังที่ให้บริการ เป็นต้น การเก็บข้อมลู ทัง้ สองลกั ษณะจะชว่ ยใหน้ ักบญั ชีสามารถพจิ ารณาความสมั พันธร์ ะหว่างต้นทุนท่ี เป็นตัวเงินกับหน่วยวัดทไี่ มเ่ ปน็ ตวั เงิน ไดช้ ัดเจนมากขึ้น เช่น ค่าเสื่อมราคาเคร่ืองจักร จะมาก หรือน้อยอาจข้นึ อยู่กับจานวนช่วั โมงการทางานของเครื่องจักร หรือค่าจ้างแรงงานท่ีจ่ายให้กับ พนักงานจะมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับจานวนช่ัวโมงท่ีคนงานทางานได้ ซ่ึงจะเป็นผลทาให้การ คานวณต้นทนุ เขา้ สตู่ วั สนิ ค้าหรอื การบริการได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสมมากขนึ้ 2. การบนั ทึกต้นทุน เม่ือนักบัญชีรวบรวมต้นทุนและข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องจากแหล่ง ตา่ งๆ ไดค้ รบถ้วนแลว้ กจ็ ะบันทกึ รายการเหลา่ น้ไี วใ้ นสมุดรายวันทั่วไปแล้วผ่านไปบัญชีแยก ประเภทท่ีเก่ยี วขอ้ ง สาหรับบญั ชีแยกประเภทต้นทุน ได้แก่ บัญชีวัตถุดิบ บัญชีค่าแรง บัญชี ค่าใช้จ่ายการผลิต บัญชีงานระหว่างทา และบัญชีสินค้าสาเร็จรูป การบันทึกต้นทุนจะ แตกตา่ งกันไปตามลักษณะการดาเนนิ งานของกจิ การแต่ละแหง่ จะไดก้ ลา่ วถงึ รายละเอยี ดเรื่อง น้ใี นหัวขอ้ ถดั ไป 3. การวิเคราะหต์ ้นทนุ ในกรณีทีฝ่ ่ายบริหารตอ้ งการทราบต้นทุนเพ่ือนาไปวางแผน จัดทางบประมาณ หรือใช้เพ่ือวัดผลการปฏิบัติงานของแต่ละแผนก หรือใช้ในการตัดสินใจ แก้ปัญหาของธุรกิจ จาเป็นจะต้องศึกษาและหาวิธีการวิเคราะห์ต้นทุนให้มีความถูกต้องมาก ท่สี ดุ เทา่ ทจ่ี ะทาได้ หรอื ต้นทุนที่ใชค้ วรจะเหมาะสมกบั สภาพการณ์ในขณะนนั้ ถา้ สภาพการณ์มี การเปลี่ยนแปลงกจ็ ะทาให้ต้นทนุ ที่เกีย่ วขอ้ งมกี ารเปลี่ยนแปลง 4. การจดั ทารายงานต้นทุนการผลิต ซ่ึงถือเป็นส่ิงท่ีสาคัญท่ีสุดของระบบบัญชี ต้นทนุ เพราะผูบ้ รหิ ารต้องการทราบข้อมูลตน้ ทุนการผลิตทีเ่ กิดขนึ้ จากการผลิตสนิ ค้า หรอื การ ให้บริการลูกค้า คุณค่าของระบบการบัญชีจะเกิดขึ้นเมื่อผู้บริหารได้รับรายงานที่ถูกต้อง เหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์ เมื่อเข้าใจข้อมูลที่อยู่ในรายงานแล้ว ผู้บริหารก็สามารถนา ข้อมลู จากรายงานน้ันไปใชใ้ นการวางแผนจัดการได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตัวอย่างของรายงาน
บทท่ี 2 ระบบบัญชตี น้ ทนุ และการจัดทางบการเงนิ 2 - 5 ต้นทุนการผลติ เช่น งบต้นทุนการผลติ สนิ คา้ หรือการบรกิ าร รายงานตน้ ทนุ การผลิต งบแสดง ค่าใชจ้ า่ ยดาเนินงานแยกตามแผนกโดยเปรียบเทียบกับประมาณการที่อยู่ในงบประมาณแต่ละ ประเภท ซ่ึงในบทน้ีจะเน้นไปที่การจัดทางบต้นทุนการผลิตซึ่งเป็นงบการเงินท่ีสาคัญสาหรับ ธุรกิจผลติ สนิ คา้ และเป็นงบการเงนิ ทใ่ี ช้ประกอบเพอ่ื จดั ทางบกาไรขาดทุน รายละเอยี ดจะกลา่ ว ตอ่ ไปในหวั ขอ้ ถดั ไป ระบบบัญชีต้นทุนเปรียบเหมือนฐานข้อมูล (Data Base) ท่ีมีความสาคัญสาหรับธุรกิจ แต่ละประเภท เพราะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการผลิต ธุรกิจซ้ือขายสินค้า หรือธุรกิจบริการ จะมี ตน้ ทนุ มาเกีย่ วข้องแทบท้ังนน้ั ดงั นนั้ การพัฒนาระบบบัญชีต้นทุนเพื่อให้ผู้บริหารใช้สนับสนุน การบริหารในเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) ซ่ึงระบบในลักษณะแบบนี้จะถูกเรียกว่า ระบบการบริหารต้นทุนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Cost Management System) ซึ่งเน้ือหาจะไป ปรากฏอยู่ในวิชาการบริหารต้นทุน การบัญชีบริหาร หรือการบัญชีเพื่อการจัดการ แต่สาหรับ นกั ศึกษาสาขาการบญั ชจี ะได้เรียนในวชิ าการบัญชตี น้ ทุน 2 ต่อไป การจาแนกระบบบญั ชีต้นทนุ ฝ่ายบริหารมีความต้องการจะใช้ระบบบัญชีเพ่ือนาไปคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ให้มี ความถูกต้องหรือใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด แต่นอกจากนี้ ผู้บริหารยังสามารถนา ระบบต้นทุนท่ีได้ไปใช้ประโยชน์ในด้านการวางแผน ควบคุม และตัดสินใจในประเด็นปัญหาท่ี เกี่ยวกับการดาเนินงานด้วย ซึ่งทาให้การรวบรวมข้อมูลต้นทุนมีลักษณะท่ีแตกต่างกัน เน่อื งจากวตั ถปุ ระสงค์ของการใชข้ อ้ มลู ไม่เหมอื นกันนนั่ เอง ซ่ึงการจาแนกระบบบัญชี สามารถ จาแนกได้เป็น 2 ระบบ ไดแ้ ก่ 1) ระบบบัญชเี พ่อื คานวณตน้ ทนุ ผลติ ภัณฑแ์ ละการบริการ และ 2) ระบบบัญชเี พ่อื ใช้ในการวางแผน ควบคุม และวัดผลการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน ซ่ึง แตล่ ะระบบมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ระบบบญั ชีเพ่อื คานวณต้นทุนผลิตภณั ฑ์ และการบริการ ระบบบัญชีเพ่ือคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์และการบริการ (Product or Service Costing) วัตถุประสงค์ของการคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ ก็คือ เพื่อตีราคาสินค้าคงเหลือ (Inventory Valuation) กาหนดต้นทุนการให้บริการ (Service Costing) วัดหรือประเมินผลการ ดาเนินงานของกิจการ (Income Determination) กาหนดราคาขายของผลิตภัณฑ์ (Product Pricing) และตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ท่ีเก่ียวกับผลิตภัณฑ์หรือการบริการ เมื่อพิจารณา ตามวัตถปุ ระสงคด์ งั กล่าว จะสามารถแบ่งตน้ ทุนได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ (ปรับปรุงจากดวงมณี โกมารทตั , 2559 : 76)
2- 6 การบัญชีต้นทนุ 1 1.1 แบ่งตามลกั ษณะการผลิต กระบวนการผลิตสินค้าของแต่ละธุรกิจจะมีความแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับ ชนิดของสินคา้ ลักษณะของการจา้ งงาน ขนาดคาสั่งผลิต และความยงุ่ ยากซบั ซ้อนในกรรมวธิ ี การผลิตของสินค้าแต่ละชนิด จึงเป็นผลทาให้วิธีการรวบรวมและสะสมต้นทุนที่เกิดข้ึนมี แตกตา่ งกนั ไปตามลักษณะดังกล่าวข้างต้น ซึง่ แบ่งเปน็ 3 ระบบ ได้แก่ระบบบัญชีต้นทุนงานส่ัง ทา หรือต้นทุนงาน (Job Order Costing System) และระบบบัญชีต้นทุนกระบวนการ หรือ ต้นทุนช่วง (Process Costing System) และระบบผสม (Hybrid System) ซ่ึงแต่ละวิธีจะมี รายละเอยี ด ดังนี้ 1.1.1 ระบบบญั ชตี น้ ทนุ งานสั่งทา ระบบบัญชีตน้ ทุนงานหรืองานสั่งทา (Job Order Costing System) เปน็ ระบบบญั ชีทใ่ี ช้สาหรบั กิจการท่ีผลติ สินคา้ ซ่งึ สินคา้ ท่ีผลติ จะมลี กั ษณะแตกต่างกันขึน้ อยูก่ บั คาสง่ั ผลติ หรอื กลุ่มของสนิ คา้ (Batch, Lot) อย่างเห็นได้ชัดตามความต้องการของลูกค้าแต่ละ ราย โดยปกติกิจการจะแยกงานแตล่ ะคาส่ังผลติ หรอื แต่ละกลมุ่ ออกจากกัน เพื่อให้สะดวกและ ง่ายต่อการรวบรวมต้นทุนการผลิตเข้าแต่ละงานท่ีผลิต และเมื่อทางานช้ินใดเสร็จ ก็สามารถ ทราบได้ว่าต้นทุนการผลิตของงานช้ินนั้นมีต้นทุนเท่าใด ตัวอย่างของกิจการท่ีใช้ระบบบัญชี ต้นทุนงานสั่งทา ไดแ้ ก่ ธุรกจิ รับจ้างทาของ ผลิตการด์ แตง่ งาน รบั เหมากอ่ สรา้ ง อู่ต่อเรือ ผลิต เครอื่ งบิน พิมพ์หนังสือ รับทาเฟอร์นิเจอร์ สานกั งานบญั ชแี ละกฎหมาย เป็นต้น เพ่ือให้เข้าใจ ระบบบัญชีต้นทุนงานสั่งทา จะแสดงความสัมพันธ์ของปัจจัยการผลิตต่างๆ นาเข้าสู่ กระบวนการผลิต จนกระท่ังผลิตเสรจ็ เปน็ สนิ ค้าสาเร็จรปู ดงั แสดงในภาพท่ี 2.1 ปัจจยั การผลิต งานระหว่างทา สินค้าสาเรจ็ รปู วตั ถุดิบทางตรง งานเลขที่ 101 สินค้าสาเร็จรปู - งานเลขที่ 101 ค่าแรงงานทางตรง งานเลขที่ 102 สนิ ค้าสาเรจ็ รปู - งานเลขที่ 102 ค่าใช้จา่ ยการผลติ ภาพที่ 2.1 แสดงความสมั พันธ์ของปัจจัยการผลิต งานระหว่างทา และสินค้าสาเร็จรูป ตามระบบตน้ ทุนงานส่ังทา
บทท่ี 2 ระบบบญั ชตี ้นทนุ และการจัดทางบการเงิน 2 - 7 1.1.2 วธิ กี ารบัญชตี ้นทุนกระบวนการ หรอื ตน้ ทนุ ช่วง ระบบบัญชีต้นทุนกระบวนการ หรือต้นทุนช่วง (Process Costing System) เป็นระบบบัญชีท่ีใช้ในกิจการผลิตสินค้า เพราะมีปริมาณการผลิตจานวนมาก เม่ือ เทยี บกับระบบบัญชีต้นทุนงานส่ังทา ลักษณะการผลิตในกระบวนการจะต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ จากแผนกหนงึ่ ไปอีกแผนกหน่ึง และในระหว่างการผลิตไม่สามารถแยกได้ว่าส่วนใดของงาน ผลิตเปน็ ของงานชิน้ ใด เพราะเป็นการผลติ ท่ีรวมกนั ไปจนกระทั่งเสร็จเป็นสินค้าสาเร็จรูป และ เก็บสินค้าเข้าคลงั สินคา้ เพ่ือเกบ็ ไว้ขายในภายหลัง ตัวอย่างกิจการท่ีมีลักษณะการผลิตแบบน้ี เช่น โรงงานผลิตปูนซิเมนต์ โรงกล่ันน้ามัน โรงงานผลิตน้าตาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้กับ กิจการที่ต้องผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ก่อนแล้วจึงค่อยนาช้ินส่วนมาประกอบเป็นสินค้าสาเร็จรูปใน ภายหลัง เช่น โรงงานผลติ รถยนต์ เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ประเภทต่างๆ เป็นต้น เพ่ือให้เข้าใจระบบ บัญชตี น้ ทุนกระบวนการ จะแสดงความสัมพันธ์ของปัจจัยการผลิตต่างๆ นาเข้าสู่กระบวนการ ผลิตโดยแยกไปตามแผนกผลิตสนิ คา้ แต่ละแผนก จนกระท่ังเสร็จเปน็ สินคา้ สาเร็จรูป ดังแสดงใน ภาพที่ 2.2 ปัจจยั การผลิต งานระหว่างทา สินค้าสาเรจ็ รปู วัตถดุ ิบทางตรง คา่ แรงงานทางตรง แผนกที่ 1 แผนกท่ี 2 แผนกท่ี 3 สินคา้ สาเรจ็ รูป ค่าใชจ้ า่ ยการผลิต ภาพท่ี 2.2 แสดงความสมั พันธข์ องปจั จยั การผลติ งานระหว่างทา และสนิ คา้ สาเร็จรูป ตามระบบต้นทนุ กระบวนการ
2- 8 การบญั ชีตน้ ทนุ 1 1.1.3 ระบบผสม ระบบผสม (Hybrid System) ซ่ึงเป็นระบบท่ีผสมผสานกันระหว่างระบบ บัญชตี น้ ทนุ งานสงั่ ทา และระบบบัญชีต้นทุนกระบวนการ กิจการบางแห่งที่มีลักษณะการผลิต ทั้งสองแบบผสมกัน ซ่ึงทาให้ต้องใช้ท้ังระบบบัญชีต้นทุนงานส่ังทาและต้นทุนกระบวนการ ควบคูก่ ันไป เชน่ กจิ การรบั คาสั่งผลิตจากลูกค้าแต่ละรายเป็นพิเศษ คาสั่งของงานแต่ละงาน จะแตกต่างกันไป แต่เนื่องจากต้องผลิตให้ได้มาตรฐานและผลิตเป็นจานวนมาก จึงต้องมีการ รวบรวมและสะสมต้นทุนต่อเนื่องกันจากแผนกแรกจนถึงแผนกสุดท้าย เช่น โรงงานทอผ้า โรงงานผลิตเสื้อผ้าสาเรจ็ รูป เป็นต้น 1.2 แบง่ ตามหลกั การคิดต้นทนุ ผลิตภณั ฑ์ การคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ แบ่งได้เป็น 2 วิธี ได้แก่ วิธีต้นทุนเต็มหรือต้นทุน รวม (Full Costing or Absorption Costing) และวิธีต้นทุนผันแปรหรือต้นทุนทางตรง (Direct Costing or Variable Costing) ซึ่งมีรายละเอียดการคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ ดังนี้ (ปรับปรุง จากศศิวิมล มอี าพล, 2558 : 8-2) 1.2.1 วธิ ตี ้นทนุ เต็ม การคานวณต้นทุนการผลิตวิธีต้นทุนเต็มจะรวมต้นทุนการผลิตที่เกิดขึ้น ทั้งหมด ทั้งส่วนที่เป็นต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์ ซ่ึงประกอบด้วย วตั ถุดบิ ทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิตท้ังที่เป็นต้นทุนผันแปร และต้นทุน คงท่ี ซึ่งค่าใช้จ่ายการผลิตคงท่ีจะถือเป็นส่วนหน่ึงของต้นทุนผลิตภัณฑ์ (Product Cost) ไม่ใช่ เป็นต้นทุนงวดเวลา (Period Cost) เช่นเดียวกับวิธีต้นทุนผันแปร การคานวณค่าใช้จ่ายการ ผลิตคงที่จะถูกจัดสรรเข้าเป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์จากอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร หรืออัตรา ค่าใช้จา่ ยการผลิตคดิ เข้างานลว่ งหน้า โดยใช้เกณฑ์ท่ีเหมาะสมสาหรับธุรกิจน้ันๆ เช่น จานวน ชวั่ โมงเคร่อื งจกั ร จานวนชั่วโมงแรงงานทางตรง เปน็ ต้น วิธีน้ีเหมาะที่จะนาเสนอข้อมูลให้กับบุคคลภายนอก เพราะสามารถจะนา ข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างครบถ้วน แต่หลักการน้ีอาจไม่ให้ประโยชน์ในการ ตัดสินใจปัญหาในระยะสัน้ แก่ผู้บรหิ ารไดเ้ ทา่ กับหลกั การคดิ ตน้ ทุนโดยใช้วิธีต้นทุนทางตรงหรือ ตน้ ทนุ ผันแปร 1.2.2 วิธตี ้นทนุ ผนั แปร การคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ตามวิธีต้นทุนผันแปรจะแยกต้นทุนการผลิต ส่วนทเ่ี ปน็ ผันแปรออกจากต้นทนุ การผลิตสว่ นทค่ี งท่ี การคานวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ตามแนวคิด ของวิธตี น้ ทุนผันแปร ต้นทุนการผลิตสินค้าที่เพ่ิมข้ึนหรือลดลงจะแปรไปตามปริมาณการผลิต ซ่ึงประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิตที่ผันแปรไปตาม ปริมาณการผลติ ดงั น้ัน วิธีต้นทนุ ผนั แปรจะพจิ ารณาเฉพาะต้นทนุ การผลติ ที่เปน็ ผนั แปรเท่าน้ัน เป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์ ส่วนต้นทุนคงที่จะนาไปแสดงเป็นต้นทุนประจางวด ท่ีเกิดข้ึนในแต่ละ
บทท่ี 2 ระบบบญั ชตี น้ ทุนและการจดั ทางบการเงนิ 2 - 9 รอบบัญชี เพราะวิธีนี้จะถือว่าต้นทุนคงท่ีเป็นจานวนท่ีจะต้องเกิดข้ึนอยู่แล้วไม่ว่าจะมีปริมาณ ผลิต หรือปริมาณขายจานวนเท่าใด เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบหลักของต้นทุน ผลิตภณั ฑ์แตล่ ะวิธี สามารถอธิบายได้ดงั ตารางท่ี 2.1 ตารางที่ 2.1 การจาแนกตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละต้นทนุ ประจางวดตามวิธีตน้ ทนุ รวม และ ต้นทนุ ทางตรง ประเภทของต้นทุน ส่วนประกอบของต้นทนุ ผลิตภณั ฑ์ วิธีต้นทนุ รวม วิธีต้นทุนทางตรง หรือ หรอื ต้นทนุ เตม็ ต้นทุนผนั แปร ต้นทุนผลิตภณั ฑ์ 1) วตั ถุดบิ ทางตรง 1) วตั ถุดบิ ทางตรง (Product Cost) 2) ค่าแรงงานทางตรง 2) ค่าแรงงานทางตรง 3) คา่ ใช้จา่ ยการผลติ ผันแปร 3) ค่าใชจ้ ่ายการผลิตผนั แปร 4) คา่ ใชจ้ ่ายการผลิตคงท่ี ต้นทุนประจางวด 1) คา่ ใชจ้ ่ายในการขาย 1) ค่าใชจ้ ่ายการผลิตคงท่ี (Period Cost) 2) ค่าใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารงาน 2) คา่ ใชจ้ า่ ยในการขาย 3) ค่าใช้จา่ ยในการบริหารงาน ทีม่ า : ศศิวิมล มีอาพล, 2558 : 8-4 1.3 แบง่ ตามชนิดของต้นทุน การคานวณต้นทุนกิจการสามารถแบ่งไปตามชนิดของต้นทุนเพ่ือใช้สาหรับ การ บันทึกรายการทางบัญชี และ/หรือจัดทารายงานการเงินทั้งที่เสนอให้กับบุคคลหรือหน่วยงาน ภายในและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกกิจการ ซ่ึงการแบ่งต้นทุนไปตามชนิดของต้นทุน สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ ต้นทุนจรงิ ต้นทนุ ปกติ และต้นทุนมาตรฐาน ซ่ึงแต่ละประเภทมี รายละเอยี ด ดังน้ี 1.3.1 ต้นทุนจรงิ ต้นทนุ จริง หรือเรยี กวา่ ตน้ ทนุ ทเี่ กดิ ขึ้นในอดีต (Actual Cost or Historical Cost) การคานวณต้นทุนตามหลักการน้ีเปน็ การบนั ทึกต้นทุนวตั ถุดบิ ค่าแรง และคา่ ใช้จ่ายการ ผลิตทีเ่ กดิ ขึ้นจริงในกระบวนการผลิต ต้องมีหลกั ฐานที่ชัดเจน แน่นอน มีความเช่ือถือได้ ดังนั้น การบนั ทกึ บญั ชโี ดยใชต้ น้ ทุนจรงิ จะทาใหต้ ้นทนุ ท่นี ามาคานวณตน้ ทุนสนิ คา้ มคี วามถกู ตอ้ งมาก ท่ีสุด แต่ก็มีข้อจากัดในเรื่องของการติดตามข้อมูลเพื่อนาเข้าสู่ตัวผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการจะ
2- 10 การบัญชีต้นทนุ 1 รวบรวมตน้ ทุนเหล่านี้ให้ครบถ้วนได้น้ันต้องรอให้รายการเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงจะบันทึกบัญชีได้ ซงึ่ รายการบางรายการตอ้ งใช้เวลานานถงึ จะได้ข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจ เช่น นาข้อมูลมาใช้ ในกาหนดราคาสินค้า เป็นต้น และนอกจากน้ีกิจการที่ผลิตผลิตภัณฑ์หลายชนิดมักประสบ ปญั หาในการคดิ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ซงึ่ เป็นต้นทนุ ทางออ้ มเข้ากบั ตวั ผลติ ภณั ฑ์ เพราะไม่สามารถ แยกได้ว่าต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นของผลิตภัณฑ์ชนิดใด ถ้ามีการใช้ร่วมกันหลาย ประเภท หรือหลายแผนก ทาให้ย่งุ ยากตอ่ การรวบรวมต้นทุน 1.3.2 ต้นทนุ ปกติ เนื่องจากปัญหาท่ีเกิดจากค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีต้องงรอให้รายการเกิด ก่อนจึงจะไดข้ ้อมลู บางครั้งผู้บริหารไม่สามารถนาข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที กจิ การไม่สามารถคานวณต้นทนุ ของผลติ ภัณฑไ์ ดโ้ ดยง่าย จึงมีการประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต ไวล้ ว่ งหน้า (Predetermined Factory Overhead) หรือท่ีเรยี กกันวา่ คา่ ใช้จ่ายการผลิตจัดสรร หรือค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน (Factory Overhead Applied) แล้วนาไปรวมกับต้นทุน วัตถุดิบและค่าแรงงานที่เกิดข้ึนจริง ดังนั้น ต้นทุนการผลิตท่ีประกอบด้วย ต้นทุนวัตถุดิบ ทางตรงจริง ค่าแรงงานจริง และค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร จะเรียกว่า ต้นทุนปกติ (Normal Cost) เพื่อหาต้นทนุ ของผลิตภณั ฑส์ าหรบั งวดบญั ชีนั้น ซึ่งการคานวณคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จดั สรร จะอยูภ่ ายใต้กาลังการผลติ ปกติ เมอ่ื ได้ข้อมูลต้นทุนท้ังหมดผู้บริหารก็สามารถนาข้อมูลเหล่าน้ี ไปใช้ในการตั้งราคาสินค้า และคานวณผลการดาเนินงานโดยประมารได้ ซึ่งราย ละเอียด เกย่ี วกับการคดิ ต้นทนุ วัตถุดิบ คา่ แรงงาน และค่าใช้จ่ายการผลิตจัดสรร จะอธิบายในบทที่ 3 – 5 ต่อไป 1.3.3 ตน้ ทนุ มาตรฐาน หรอื ตน้ ทนุ ท่ีถูกกาหนดไว้ล่วงหน้า ต้นทนุ มาตรฐาน (Standard Costs) หรือต้นทุนท่ีถูกกาหนดไว้ล่วงหน้า (Predetermined Costs) คือต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงานและค่าใช้จ่ายการผลิตท่ีถูกกาหนดไว้ ลว่ งหนา้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการวางแผน และควบคุมต้นทุนในการดาเนินงาน หรือเป็นต้นทุนท่ี เกดิ ขึ้นภายใตก้ ารผลิตที่มีประสิทธิภาพมากท่ีสุด ต้นทุนเหล่านี้จะมีต้นทุนมาตรฐานต่อหน่วย เท่ากับเท่าใด หลักการของต้นทุนมาตรฐานจะเป็นประโยชน์โดยการนาเอาข้อมูลต้นทุนท่ี เกิดข้นึ จริงไปเปรยี บเทียบกับต้นทนุ ท่ีกาหนดไวล้ ่วงหนา้ ถา้ มคี วามแตกต่างกัน ให้พิจารณาว่า เป็นผลตา่ งท่นี ่าพอใจ หรอื ไมน่ า่ พอใจ แล้วนาผลต่างนั้นมาวิเคราะหเ์ พ่อื หาสาเหตุวา่ เปน็ เพราะ เหตใุ ด ซง่ึ สาเหตุของผลต่างอาจจะเกิดจากการผลิตไม่เป็นไปตามแผนการผลิต แผนการขาย หรืออัตราค่าแรงสูงขึ้น ไม่มีการควบคุมกระบวนการผลิตทาให้การทางานไม่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ต้นทุนมาตรฐานน้ีอาจจัดทาในรูปของต้นทุนโดยประมาณ (Estimated Costs) ที่ได้ จากการจัดทางบประมาณประจาปี โดยทั่วไปต้นทุนมาตรฐานจะถูกกาหนดข้ึนมาอย่างมี หลักเกณฑ์และมีประสิทธิภาพมากกว่าต้นทุนโดยประมาณ จึงถูกนาไปใช้แพร่หลายมากกว่า
บทที่ 2 ระบบบญั ชตี ้นทุนและการจดั ทางบการเงนิ 2 - 11 ต้นทุนโดยประมาณ ซงึ่ จะกลา่ วถงึ รายละเอยี ดเกย่ี วกับตน้ ทนุ มาตรฐาน ในวิชาการบญั ชตี น้ ทุน 2 ซ่ึงจะเปน็ การอธบิ ายเน้อื หาเกีย่ วกบั การใช้ข้อมูลตน้ ทนุ ในเชงิ การบริหารนน่ั เอง จากการจาแนกระบบบญั ชตี น้ ทนุ ดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง การจาแนกระบบบัญชีต้นทุนผลิตภัณฑ์แต่ละลักษณะ สามารถแสดงความสัมพันธ์ของระบบ ต้นทนุ ดังแสดงในภาพที่ 2.3 การสะสมต้นทนุ การคิดต้นทนุ ผลิตภณั ฑ์ ชนิ ดของต้นทุน ระบบตน้ ทุนงานสัง่ ทา ระบบตน้ ทุนรวม ระบบตน้ ทนุ จริง ระบบผสม หรอื ต้นทนุ เต็ม ระบบต้นทนุ ปกติ ระบบตน้ ทุนกระบวนการ ระบบตน้ ทุนทางตรง หรือ ระบบตน้ ทนุ มาตรฐาน ต้นทุนผันแปร ภาพที่ 2.3 โครงสร้างการจาแนกระบบบญั ชตี น้ ทุนผลติ ภัณฑ์ ทม่ี า: (ดวงมณี โกมารทตั , 2559 : 78) 2. ระบบบญั ชีเพื่อใช้ในการวางแผน ควบคุม และวดั ผลการปฏิบตั ิ งานของ หน่วยงานต่างๆ ระบบบญั ชีเพื่อใช้ในการวางแผน ควบคุม และใชว้ ดั หรอื ประเมินผลการดาเนินงาน ของหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในองค์กรเดียวกัน หรือคนละองค์กร วัตถุประสงค์น้ีผู้บริหารต้องการ ระบบบัญชีท่ีจะรวบรวมข้อมูลต้นทุนแบ่งตามศูนย์ความรับผิดชอบ (Responsibility Center) ปกติต้นทนุ จะถูกบนั ทึกและสะสมไวใ้ นศูนยต์ น้ ทนุ (Cost Center) ซงึ่ “ศูนย์ต้นทุน” หมายถึง หนว่ ยทเี่ ลก็ ที่สุดของกจิ กรรมหรอื ของขอบเขตความรับผิดชอบท่ีถูกกาหนดไว้เพื่อสะสมต้นทุน ศูนย์ต้นทุน ได้แก่ แผนกต่างๆ ท่ีอยู่ในองค์กรเดียวกัน เช่น แผนกผลิต แผนกบัญชี แผนก บุคลากร แผนกไอที เป็นต้น แต่ในบางครั้งก็พบว่ามีศูนย์ต้นทุนอยู่หลายศูนย์ในแผนกเพียง แผนกเดียว เช่น แผนกเครื่องจักรอาจจะมีเคร่ืองจักรหลายประเภท แต่ละประเภทมี ต้นทุน แตกตา่ งกนั จึงจะถอื ว่าเคร่ืองจักรแต่ละเครือ่ งเปน็ ศนู ยต์ ้นทนุ หนึง่ ศนู ย์
2- 12 การบญั ชีตน้ ทนุ 1 ระบบบญั ชตี น้ ทนุ ทด่ี คี วรจะสนองจุดมุ่งหมายได้ท้ัง 2 ประการ คือ เพ่ือคานวณ ตน้ ทนุ ผลิตภณั ฑ์ และเพือ่ รายงานผลการปฏิบัติงานแยกตามศูนย์ความรับผิดชอบ นั่นคือ มี การติดตามข้อมูล และคิดต้นทุนเข้าตามหน่วยผลิตภัณฑ์และตามศูนย์ต้นทุน ดังน้ัน การแบ่ง ต้นทุนตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว จะมีข้ันตอนเพ่ือให้ได้ข้อมูลมาใช้ประโยชน์ จะ มีขั้นตอน ตามลาดบั ดงั นี้ ขน้ั ที่ 1 : รวบรวม บนั ทกึ และสะสมต้นทุนเขา้ ตามผลิตภณั ฑ์ แผนก หรือศูนย์ ต้นทนุ เพ่ือประโยชน์ในการควบคมุ และวัดผลในการดาเนนิ งานของแผนกหรอื ศูนย์ ขั้นที่ 2 : นาเอาต้นทุนการผลติ ของผลิตภัณฑ์ หรือต้นทุนท่ีเกิดข้ึนในแผนกหรือ ศูนย์ต้นทุนท่ีสะสมได้ไปคิดเข้ากับผลลัพธ์ (Output) ซึ่งได้แก่ สินค้าหรือการบริการท่ีผ่าน กระบวนการผลติ ของแผนกหรอื ศูนย์ต้นทนุ นนั้ ทง้ั น้เี พอ่ื คานวณตน้ ทนุ สินคา้ หรอื การบรกิ ารให้ มีความชดั เจน และถกู ต้อง การเลือกระบบบญั ชีต้นทนุ จากลักษณะของระบบบัญชีต้นทุนที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าระบบการรวบรวม ขอ้ มลู ตน้ ทุน การบันทกึ และการสะสมต้นทุนมีหลายประเภท การท่ีกิจการจะเลือกระบบบัญชี ตน้ ทุนแบบไหนเพือ่ ให้เหมาะสมกบั กจิ การใด ควรจะพจิ ารณาถึงปจั จยั 4 ประการ ดงั นี้ (ดวงมณี โกมารทตั , 2559 : 79) 1. ขนาดและลกั ษณะการผลิตของธรุ กิจ กิจการทม่ี ขี นาดและลักษณะการผลิตท่แี ตกต่างกัน ทาใหก้ ารรวบรวมและคิดต้นทุน เขา้ กับตัวผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน เช่น ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งเป็นกิจการขนาดเล็กจะใช้ระบบ บัญชตี ้นทุนงานส่งั ทา แตถ่ ้าเปน็ โรงงานผลติ เส้ือผา้ สาเร็จรูปทมี่ ขี นาดใหญ่โดยท่ัวไปจะใช้ระบบ ตน้ ทุนกระบวนการ เป็นต้น ส่วนธุรกิจประเภทให้บริการจะใช้ระบบต้นทุนงานสั่งทา เน่ืองจาก การใหบ้ ริการกบั ลูกคา้ แต่ละรายจะมคี วามแตกต่างกนั ไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ ละราย 2. ชนิดของสินค้าและการบริการท่ีเสนอต่อลูกค้า โรงงานที่ผลิตสินค้าหลายชนิด รวมทั้งมีการบริการหลังการขาย เช่น โรงงานผลิต เครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งสินค้าท่ีผลิตมีหลายชนิด ท้ังที่เป็นเคร่ืองปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม เคร่ือง โทรทัศน์ เป็นต้น จะมีระบบบัญชีต้นทุนที่มีความซับซ้อนมากกว่าโรงงานท่ีผลิตเฉพาะสินค้า เพียงชนิดเดียว ในกรณีท่ีกจิ การผลิตสินค้าเพียงชนิดเดยี วแต่ผลิตเป็นจานวนมากและต้องผ่าน
บทท่ี 2 ระบบบัญชีตน้ ทุนและการจดั ทางบการเงนิ 2 - 13 กระบวนการผลติ หลายแผนก ก็อาจใช้ระบบบญั ชีตน้ ทุนกระบวนการ ในการบันทึกต้นทุนการ ผลติ จริงก็ได้ แตถ่ ้าหากผู้บรหิ ารต้องการข้อมูลเพอื่ ใชใ้ นการวางแผนและควบคมุ ต้นทุนการผลิต กรณเี ชน่ น้ีจะตอ้ งเปลย่ี นข้อมูลท่ีบนั ทึกเป็นระบบตน้ ทุนปกติ หรอื ระบบตน้ ทนุ มาตรฐาน 3. ความต้องการขอ้ มูลของหน่วยงาน ความตอ้ งการข้อมลู ของกิจการ ไมว่ ่าจะเป็นบุคคลภายในและภายนอกกิจการ จะมี ความตอ้ งการแตกต่างกัน กจิ การทมี่ ีขนาดเลก็ อาจจะตอ้ งการขอ้ มลู ตน้ ทุนเพื่อจดั ทางบการเงิน เสนอต่อหน่วยงานภายนอกเท่าน้ัน แต่ในขณะที่กิจการขนาดใหญ่ต้องการข้อมูลต้นทุนและ รายละเอียดต้นทุนท่ีเสนอต่อหน่วยงานท้ังภายนอกและภายใน สาหรับหน่วยงานภายใน ต้องการข้อมูลเพื่อนาไปใช้ในการตัดสินใจ กิจการจึงต้องทราบความต้องการข้อมูลของผู้ใช้ ขอ้ มลู แต่ละฝ่าย เพื่อเลือกระบบบัญชีท่ีจะสนองตอ่ ความต้องการให้ถูกต้องและเหมาะสม 4. เวลาและค่าใช้จ่ายในการรวบรวมขอ้ มลู การวางระบบท่ีคอ่ นขา้ งซับซอ้ นเพ่ือสนองต่อความต้องการของผ้ใู ช้ข้อมูลแต่ละฝ่าย จะเสยี เวลาและคา่ ใช้จ่ายในการจดั ทาขอ้ มลู เปน็ จานวนมาก จึงต้องมีการเปรียบเทียบต้นทุนที่ เกิดข้ึนและผลประโยชน์ (Cost and Benefit) วา่ คุ้มกบั เวลาและคา่ ใชจ้ า่ ยทเี่ สยี ไปหรือไม่ จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น 2 ประการแรกจะเป็นประเด็นที่มีความสาคัญต่อการ เลือกระบบบัญชตี ้นทนุ มากท่ีสุด ลักษณะของการผลิตทาใหม้ ีวิธีการรวบรวมและคิดต้นทุนเข้า กับผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน ซ่ึงได้แก่ ระบบบัญชีต้นทุนงานส่ังทา หรือระบบบัญชีต้นทุน กระบวนการ หรอื ระบบผสมระหว่างระบบต้นทนุ งานและระบบต้นทนุ กระบวนการ ถ้าผู้บริหาร ต้องการนาข้อมลู ต้นทนุ ไปใชใ้ นการวางแผนและการควบคมุ กอ็ าจจดั ระบบขอ้ มูลให้มลี ักษณะท่ี สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริหาร หรือต้องการข้อมูลต้นทุนเพ่ือตัดสินใจเกี่ยวกับการ กาหนดราคาขายในระยะส้นั ระบบบัญชตี ้นทนุ ท่ีเหมาะสม ก็คอื ระบบทีส่ ามารถรวบรวมต้นทุน การผลติ ทั้งหมดโดยคดิ เขา้ สู่ตวั สินคา้ โดยใชว้ ิธีการคานวณต้นทุนสินค้าแบบต้นทุนเต็ม แต่ถ้า นาขอ้ มูลไปใชใ้ นการตดั สนิ ใจจะใช้วิธกี ารคานวณตน้ ทนุ แบบตน้ ทนุ ผนั แปร เปน็ ตน้ วงจรการผลิตสินค้า และต้นทนุ การผลิต วงจรการผลิตสินค้า (Manufacturing Cycle) ของธุรกิจอุตสาหกรรมโดยทั่วไป จะเริ่ม ตั้งแต่การจัดหาปจั จัยการผลติ ได้แก่ วตั ถุดบิ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายการผลิต เพ่ือนาปัจจัย การผลิตเหล่านี้ เข้าสู่กระบวนการผลิต ซ่ึงถูกเรียกว่า งานระหว่างทา หรือ งานระหว่างผลิต (Work In Process) จนกระทั่งผลิตเสรจ็ เป็นสนิ คา้ สาเร็จรูป (Finished Goods) และจะถูกส่งไป
2- 14 การบัญชีตน้ ทนุ 1 เกบ็ ไว้ทคี่ ลงั สินค้าก่อนทจี่ ะจาหน่ายและสง่ มอบใหก้ บั ลกู ค้าต่อไป ดังนั้น กระบวนการผลิตจึงมี ตน้ ทนุ การผลิตเกดิ ข้นึ ตั้งแต่การเร่ิมจัดหาวัตถุดิบต่างๆ แรงงานและทาการเตรียมเครื่องจักร ดังนั้น ต้นทุนที่เกิดข้ึนจะเก่ียวกับต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงานและค่าใช้จ่ายการผลิตที่ใช้ใน กระบวนการผลิตของแต่ละข้ันตอน ซึ่งได้แก่ การจัดหาปัจจัยการผลิต กระบวนการผลิต การ เก็บรักษา และการจาหนา่ ยสนิ คา้ ใหก้ ับลกู คา้ ดงั แสดงวงจรการผลิต ดังในภาพท่ี 2.4 ซึ่งในแต่ ละข้ันตอนจะเกิดต้นทุนของแต่ละขั้น ต้ังแต่การนาเข้าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายการ ผลติ ซงึ่ จะรวบรวมต้นทนุ ทัง้ หมดเพอื่ นาเข้าตน้ ทนุ งานระหว่างทา เมอ่ื ผลิตเสรจ็ แล้วจะรวบรวม ตน้ ทนุ การผลติ และคานวณเปน็ ตน้ ทุนสินค้าท่ีผลิตเสร็จ (Cost of Goods Manufactured) หรือ ต้นทุนสินคา้ สาเร็จรูป (Finished Goods) จนกระทง่ั นาสินค้าท่ีผลิตเสร็จไปขายให้กับลูกค้า จะ คิดเป็นต้นทุนสินค้าสาเร็จรูปที่ขายออกไป หรือ เรียกว่า ต้นทุนขาย (Cost of Goods Sold) ของงวดบัญชนี ั้น ดงั แสดงต้นทุนในแตล่ ะขนั้ ตอน ดังในภาพท่ี 2.5 การจดั หา การผลิต การเกบ็ รกั ษา การขาย ภาพท่ี 2.4 วงจรการผลิตสนิ ค้า จากภาพท่ี 2.4 จะเห็นไดว้ า่ ตน้ ทนุ การผลิตที่เกิดขน้ึ ในแต่ละข้ันตอนที่อยู่ในวงจรการ ผลิต จะประกอบด้วย ต้นทุนแต่ละประเภท ซึ่งการบันทึกบัญชีต้นทุนเหล่านี้ ถือว่า เป็น กระบวนการท่สี าคัญของระบบบัญชีต้นทุนทุกระบบและก่อนที่จะทาการบันทึกต้นทุนการผลิต ของกิจการ จาเป็นต้องทราบเส้นทางการผลิตสินค้าและระบบการบันทึกสินค้าคงเหลือ (วัตถดุ ิบคงเหลือ งานระหวา่ งทาคงเหลือ และสนิ คา้ สาเรจ็ รูปคงเหลอื ) ของกจิ การแห่งนั้น โดย ปกตเิ สน้ ทางการผลติ ของวงจรการผลิต ประกอบด้วย ขัน้ ตอนหลกั 4 ขน้ั ตอน ได้แก่ 1. การจดั หา การจัดหา (Procurement) ปัจจัยการผลติ หรอื ทรพั ยากรต่างๆ เพ่ือป้อนเข้าสู่การ ผลติ ทรพั ยากรเหล่านี้ ได้แก่ วัตถุดิบ วัสดุ เครื่องจักร อุปกรณ์ เคร่ืองมือ อาคารโรงงาน รวมทั้งแรงงานประเภทตา่ งๆ ในกรณีท่ีเป็นการจัดหาวัตถุดิบและวัสดุต่างๆ (Materials and Supplies) จะเริ่มตั้งแต่การสั่งซอ้ื วตั ถุดบิ ตรวจรบั ของ ทดสอบคุณภาพ แล้วยังรวมไปถึงการ เกบ็ รกั ษาวัตถดุ ิบใหอ้ ยู่ในสภาพทใ่ี ชง้ านได้ ดงั นนั้ ต้นทุนทเี่ ก่ียวกบั การจัดหาปจั จัยการผลติ จงึ ประกอบด้วย ต้นทุนของปัจจัยการผลิตประเภทต่างๆ ได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และ คา่ ใช้จา่ ยการผลิต
บทที่ 2 ระบบบัญชตี ้นทุนและการจัดทางบการเงนิ 2 - 15 2. การผลิต การผลิต (Production) เป็นกระบวนการท่ีสาคัญท่ีสุด กิจการอาจจะมีแผนกผลิต เพียงแผนกเดยี ว หรือหลายแผนก ขนึ้ อย่กู ับกรรมวิธใี นการผลิตและประเภทสนิ ค้า เมื่อเริ่มต้น การผลิตจะมีการนาเอาปัจจัยการผลิต ได้แก่ วัตถุดิบ แรงงาน เครื่องจักร และส่ิงอานวย ความสะดวกในการผลิตเข้าสู่กระบวนการผลิตในโรงงาน จนกระทั่งผลิตเสร็จและได้เป็นสินค้า สาเร็จรูป ต้นทุนท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต คือ ต้นทุนการผลิตที่อยู่ในงานระหว่างทา นั่นเอง 3. การเกบ็ รกั ษา การเก็บรักษาสินค้า (Warehousing) ที่ผลิตเสร็จจากโรงงาน จะถูกตรวจสอบ คุณภาพ และทาการตรวจนับแล้วนาส่งเข้าเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้า เพ่ือรอการขายใน ภายหลัง ดังนั้น ต้นทุนที่เก่ียวกับการเก็บรักษา คือ ต้นทุนในการเช่าคลังสินค้า ต้นทุน ตรวจสอบคุณภาพสินค้า เป็นตน้ 4. การขาย เมือ่ มีการขายสินคา้ (Selling) ให้กับลูกค้า ก็จะนาสินค้าออกจากคลังสินค้า เพ่ือส่ง มอบให้กับลูกค้า พรอ้ มทั้งบันทกึ รายการขายสนิ คา้ ดังน้ัน ตน้ ทุนท่ีเกย่ี วกับการขายสินค้า คือ ต้นทุนขาย นั่นเอง กิจการก็จะนาต้นทุนขายไปเปรียบเทียบกับการขายสินค้า เพ่ือหาผลการ ดาเนินงานของงวดบัญชีแต่ละงวด ซึง่ นาเสนอเปน็ รปู ของงบกาไรขาดทนุ เพ่ือให้เข้าใจเก่ียวกับต้นทุนท้ังหมดท่ีเกิดขึ้นในแต่ละข้ันตอนในวงจรการผลิต จะ แสดงดังภาพท่ี 2.5 ดงั นี้ วตั ถุดบิ + คา่ แรง + งานระหว่างทา สินค้าสาเร็จรปู ตน้ ทุนขาย ค่าใช้จ่ายการผลิต ภาพที่ 2.5 วงจรต้นทุนการผลติ สนิ ค้า การบันทึกต้นทุนท่ีเกิดข้ึนในวงจรการผลิต จาเป็นต้องทราบว่ากิจการบันทึกสินค้า คงเหลือโดยใช้วิธใี ด ซึง่ ประกอบดว้ ย 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ วธิ กี ารบนั ทึกบญั ชีสินค้าคงเหลอื แบบเม่อื ส้ิน งวด และวิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะได้กล่าวรายละเอียดในหัวข้อ ถัดไป
2- 16 การบัญชตี ้นทนุ 1 เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการบันทึกบัญชี ต้นทุนต่างๆ ท่ีเกิดขึ้น จะแสดงตัวอย่างการ บันทึกบัญชี ถ้าสมมติให้กิจการใช้วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง การบันทึก บญั ชี มีดังน้ี 1) การบันทึกต้นทุนการจัดหา จะเปิดบัญชีแยกตามปัจจัยการผลิต ซ่ึง ประกอบดว้ ย วัตถดุ ิบ แรงงาน และค่าใช้จ่ายการผลิต บัญชีเหล่านี้จะสะสมต้นทุนท่ีเกี่ยวข้อง ต้ังแต่การได้มาของปัจจัยการผลิต จนกระท่ังโอนออกจากบัญชีเข้าสู่กระบวนการผลิต การ บันทกึ ตน้ ทุนการจดั หา จะบันทึกตามแหล่งทีม่ าของปจั จยั การผลติ บนั ทึกบัญชีได้ดังนี้ วัตถดุ บิ : เดบิต วตั ถดุ ิบ xxx เครดติ เจ้าหน้ี หรือ เงนิ สด xxx คา่ แรงงาน : เดบิต ค่าแรงงาน xxx เครดิต ค่าแรงงานค้างจ่าย หรือ เงินสด xxx ค่าใช้จ่ายการผลิต : เน่ืองจากค่าใช้จ่ายการผลิต ประกอบด้วยรายการค่าใช้จ่ายการ ผลติ ยอ่ ยหลายรายการ เช่น วัตถุดิบทางออ้ ม ค่าแรงงานทางอ้อม คา่ นา้ ค่าไฟโรงงาน ค่าเส่อื ม ราคาเครอ่ื งจกั ร ค่าเบี้ยประกนั ภัยโรงงาน เป็นต้น ดงั นั้น การลงรายการ เหล่านจ้ี งึ เดบติ เข้าบญั ชคี ่าใช้จา่ ยการผลิตโดยตรง โดยเรียกชื่อ บญั ชีนว้ี ่า บญั ชคี มุ ยอดค่าใชจ้ ่ายการผลิต แล้วเครดติ ตามทมี่ าของรายการนั้น เช่น รายการน้ัน เกดิ จากการจ่ายเงนิ สด การคา้ งชาระ หรือการปรับปรุงรายการ แตล่ ะรายการสามารถลงบันทกึ บญั ชีได้ดงั น้ี ก) รายการจา่ ยเงินสด เช่น จา่ ยคา่ เช่าโรงงานเปน็ เงินสด เดบิต คุมยอดคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ xxx เครดติ เงินสด xxx ข) รายการค้างชาระ เชน่ ค่าน้าคา่ ไฟทกี่ จิ การยงั ไม่ได้จา่ ย เดบิต คมุ ยอดค่าใชจ้ า่ ยการผลติ xxx เครดติ ค่าน้าคา่ ไฟคา้ งจา่ ย xxx
บทที่ 2 ระบบบัญชตี น้ ทนุ และการจดั ทางบการเงนิ 2 - 17 ค) รายการปรับปรุง เช่น ปรับปรุงรายการเก่ียวกับค่าเบี้ยประกันภัยจ่าย ลว่ งหนา้ และคดิ ค่าเส่อื มราคาเคร่ืองจักรประจางวด เดบิต คมุ ยอดค่าใช้จ่ายการผลิต xxx เครดิต ค่าเบยี้ ประกนั ภัยจ่ายลว่ งหนา้ xxx เดบิต คุมยอดค่าใชจ้ ่ายการผลติ xxx เครดิต คา่ เสอ่ื มราคาสะสม – เคร่ืองจกั ร xxx ง) รายการวัตถดุ บิ ทางออ้ มและคา่ แรงงานทางอ้อมทีเ่ กดิ ขน้ึ ในการผลิต จะถือ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของค่าใช้จา่ ยการผลิต เดบติ คมุ ยอดค่าใช้จ่ายการผลติ xxx เครดิต วัตถุดิบ (วตั ถดุ บิ ทางออ้ ม) xxx ค่าแรงงาน (คา่ แรงงานทางออ้ ม) xxx ถ้ากิจการไม่ทราบแหล่งที่มาของรายการนั้นโดยแน่ชัด อาจจะลงรายการ รวมกันเปน็ ค่าใช้จ่ายเบด็ เตล็ดกไ็ ด้ โดย เดบิตบัญชคี ุมยอดคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต และเครดิตบัญชี ค่าใชจ้ ่ายเบ็ดเตล็ด (Sundries Accounts) ก็ได้ สาหรับรายละเอียดทางดา้ นเดบิต เช่น คา่ เช่า ค่านา้ ค่าไฟ ค่าเบ้ียประกันภัย คา่ เสอื่ มราคาเครื่องจักร จะแยกแสดงเป็นบัญชีย่อย ประกอบบัญชีคุมยอดค่าใช้จ่ายการผลิต ซึ่งจะกล่าวโดยละเอยี ดในบทที่ 5 เรอ่ื ง การบญั ชีค่าใชจ้ า่ ยการผลติ 2) การบนั ทกึ ต้นทนุ ปจั จัยการผลติ ท่ีเบิกเข้าสู่กระบวนการผลิต การบันทึกบัญชี กิจการจะเปิดบญั ชงี านระหวา่ งทา (Work in Process Account) งานระหว่างผลิต หรือสินค้า ระหว่างผลิต (Goods in Process Account) ตาราทางบัญชีต้นทุนบางเล่มเปิดบัญชีงาน ระหวา่ งทาเพียงบัญชีเดียว บางเล่มเปิดหลายบัญชี อาจมี 3 บัญชี คือ บัญชีงานระหว่างทา - วัตถุดิบ บัญชีงานระหว่างทา - ค่าแรง และบัญชีงานระหว่างทา - ค่าใช้จ่ายการผลิต เมื่อมี การเบิกวตั ถุดิบทางตรงเขา้ สูก่ ระบวนการผลติ และใช้แรงงานทางตรงในการผลิต ก็จะบันทึก บญั ชี ดา้ นเดบติ เข้าบัญชีงานระหว่างทา และด้านเครดิต ลดยอดบัญชีวตั ถดุ ิบ และบัญชีค่าแรง ส่วนการบันทึกค่าใช้จ่ายการผลิตเข้าสู่กระบวนการผลิตนั้น จะข้ึนอยู่กับการเลือกระบบบัญชี ต้นทุนดังได้กล่าวไว้ในตอนต้น นั่นคือ ถ้าหากกิจการใช้ระบบบัญชีต้นทุนจริงก็จะรวบรวม ค่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดข้ึนจริงให้ครบถ้วนทุกประเภทเสียก่อน แล้วจึงโอนยอดรวมของ ค่าใช้จ่ายการผลิตเข้ากระบวนการผลิต แต่ถ้าหากกิจการเลือกระบบบัญชีต้นทุนปกติ จะ สามารถคานวณค่าใช้จ่ายการผลิตเข้ากระบวนการผลิตได้ต้ังแต่ต้นของกระบวนการ โดยใช้
2- 18 การบญั ชีต้นทุน 1 อตั ราคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ทีป่ ระมาณไวล้ ว่ งหนา้ หรือเรียกวา่ อัตราคา่ ใช้จ่ายการผลิตจัดสรร เพ่ือ มาคานวณหาคา่ ใช้จา่ ยการผลติ จัดสรรแลว้ นาไปบันทึกบัญชี ซ่ึงจะกล่าวถึงในบทที่ 5 สาหรับ เนอ้ื หาในบทนี้ จะใช้วธิ กี ารบนั ทึกบญั ชเี ม่อื กจิ การใชร้ ะบบตน้ ทุนจรงิ ซง่ึ สรปุ การบันทกึ รายการ ต้นทุนปัจจัยการผลิตแตล่ ะประเภทเข้าบัญชีงานระหว่างทา โดยแบ่งเป็นกรณีย่อย ได้ 2 กรณี คือ 1) เปิดบัญชีงานระหว่างทาเพียงบัญชีเดียว และ 2) เปิดบัญชีงานระหว่างทาเป็น 3 บัญชี ไดด้ ังนี้ กรณีท่ี 1 : เปิดบญั ชงี านระหวา่ งทาบัญชีเดยี ว ก) เบกิ วัตถดุ ิบทางตรงเขา้ ในการผลิต เดบติ งานระหว่างทา xxx เครดิต วัตถดุ บิ xxx ข) คิดคา่ แรงทางตรงเข้าในการผลิต xxx xxx เดบติ งานระหว่างทา เครดิต คา่ แรงงาน ค) โอนค่าใช้จา่ ยการผลิตจรงิ เข้าในการผลติ xxx xxx เดบิต งานระหว่างทา เครดิต คมุ ยอดคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต กรณีท่ี 2 : เปดิ บญั ชีงานระหว่างทาเปน็ 3 บญั ชี จะบนั ทึกบญั ชีได้ดังน้ี เดบิต งานระหวา่ งทา – วตั ถดุ บิ xxx งานระหวา่ งทา – คา่ แรง xxx งานระหวา่ งทา – ค่าใช้จา่ ยการผลิต xxx เครดติ วัตถุดิบ คา่ แรงงาน xxx คมุ ยอดคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต xxx xxx
บทท่ี 2 ระบบบัญชตี ้นทุนและการจดั ทางบการเงนิ 2 - 19 3) การบันทกึ ต้นทนุ สนิ ค้าทผี่ ลิตเสร็จเมื่อนาเข้าเกบ็ ในคลงั สนิ ค้า ตน้ ทนุ สินคา้ ที่ ผลิตเสร็จจะโอนเขา้ บัญชีสนิ คา้ สาเร็จรูป ถา้ กจิ การมีการผลติ สินคา้ หลายประเภท บญั ชีน้จี ะเปน็ บัญชคี มุ ยอด โดยมบี ตั รสนิ คา้ เป็นบัญชยี อ่ ย การบันทกึ รายการสามารถบนั ทกึ ไดด้ ังน้ี กรณีท่ี 1 : เปิดบญั ชีงานระหวา่ งทาบญั ชีเดียว เดบิต สินคา้ สาเรจ็ รูป xxx เครดิต งานระหวา่ งทา xxx กรณีท่ี 2 : เปดิ บัญชีงานระหว่างทาเปน็ 3 บญั ชี xxx xxx เดบิต สนิ คา้ สาเรจ็ รปู xxx เครดิต งานระหว่างทา – วัตถุดิบ xxx งานระหว่างทา – คา่ แรง งานระหวา่ งทา – ค่าใช้จา่ ยการผลิต ถ้ากิจการผลิตสินค้าเพียงชนิดเดียวและสามารถทราบว่าปริมาณสินค้าที่ผลิต เสรจ็ เปน็ เท่าใดก็สามารถทจ่ี ะหาต้นทุนต่อหน่วย (Product Cost per Unit) ของสินค้าสาเร็จรูป ได้ โดยการนาเอาตน้ ทนุ สนิ คา้ สาเร็จรูป หรือตน้ ทุนสินคา้ ทีผ่ ลติ เสร็จ หารด้วยปริมาณสินค้าที่ ผลิตเสรจ็ ในงวดน้นั ๆ ซ่งึ สามารถคานวณไดด้ ังนี้ ต้นทนุ สินค้าตอ่ หน่วย = ต้นทนุ สนิ ค้าท่ผี ลติ เสร็จ (บาท) จานวนสินค้าทผ่ี ลติ เสรจ็ (หนว่ ย) 4) การบันทกึ ตน้ ทุนของสินค้าทขี่ ายได้ ต้นทุนขายของสินค้าสามารถคานวณ ได้โดยใช้ปรมิ าณสินคา้ ท่ีขายได้ คณู ดว้ ยตน้ ทุนสินคา้ ตอ่ หน่วย ซง่ึ คานวณได้จากข้ันตอนท่ีแล้ว แลว้ จึงลงบันทึกบญั ชีคู่ ประกอบการขายสินคา้ ดังน้ี ต้นทนุ ขาย (บาท) = ปริมาณการขาย x ตน้ ทุนสนิ คา้ ตอ่ หน่วย
2- 20 การบัญชีต้นทนุ 1 การบันทึกบัญชตี ้นทนุ ขาย และยอดขาย บนั ทกึ ไดด้ งั นี้ xxx xxx เดบิต ตน้ ทนุ ขาย (ปรมิ าณการขาย x ราคาทนุ ต่อหน่วย) เครดิต สนิ คา้ สาเรจ็ รปู เดบติ ลูกหน้ี xxx เครดิต ขาย (ปริมาณการขาย x ราคาขายตอ่ หน่วย) xxx เมื่อถึงตอนส้ินงวด กิจการก็จะปิดบัญชีต้นทุนขายไปบัญชีกาไรขาดทุน (Profit and Loss Account) หรือบัญชีสรปุ ผลรายได้และค่าใช้จ่าย (Income Summary Account) ตาม หลักการปิดบัญชี เพื่อวัดผลการดาเนินงานของงวดบัญชีนั้นๆ พร้อมท้ังจัดทางบต้นทุนการ ผลติ เพอื่ แสดงใหเ้ หน็ ว่าตน้ ทุนการผลิตประกอบไปดว้ ยรายการอะไรบ้าง จานวนเท่ากับเท่าใด และใช้เป็นส่วนประกอบของต้นทุนขาย ท่ีแสดงในงบกาไรขาดทุนประจางวด เพื่อหาผลกาไร หรอื ขาดทุนของกิจการ การใช้บญั ชีคมุ ยอดและบญั ชีย่อย การบันทึกบัญชีเก่ียวกับต้นทุนท่ีกล่าวมา จะพบว่าการเปิดบัญชีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะ ครอบคลมุ กบั ตน้ ทนุ ทง้ั หมดทเ่ี กิดข้นึ ในกระบวนการผลติ ของทัง้ โรงงาน เนือ่ งจากกิจการแต่ละ แห่งมโี ครงสร้างการจัดองค์กรและกรรมวิธีการผลิตท่ีไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะผลิตสินค้าชนิด เดยี วกันก็ตาม การเปิดบัญชีท่เี กีย่ วข้องจึงแตกต่างกันไปในแต่ละกิจการ ถ้ากิจการผลิตสินค้า หลายชนิด และมีแผนกผลิตหลายแผนก ก็ต้องมีบัญชีต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เก่ียวข้อง เปน็ จานวนมาก ดงั นัน้ เพ่ือให้งา่ ยต่อการควบคุม จึงต้องมีการนาระบบบัญชีคุมยอดและบัญชี ย่อย (Control and Subsidiary Accounts) มาประยุกตใ์ ช้ หลักการใช้จะมีลักษณะเดียวกัน กับบัญชีคมุ ยอดลูกหนี้ และบัญชลี กู หนย้ี ่อย และบัญชคี มุ ยอดเจ้าหนี้ และบญั ชีย่อยเจ้าหน้ี เช่น ถ้ากิจการซ้ือวัตถุดิบ A 50,000 บาท และวัตถุดิบ B 40,000 บาท เป็นเงินเช่ือ กิจการก็จะ เปิดบัญชีคุมยอดวัตถุดิบ เพื่อบันทึกยอดรวมของการซื้อวัตถุดิบ A และวัตถุดิบ B ในสมุด รายวันท่วั ไป แลว้ จึงผา่ นรายการไปยงั บัญชแี ยกประเภท ดังนี้
บทท่ี 2 ระบบบัญชตี น้ ทนุ และการจดั ทางบการเงนิ 2 - 21 สมดุ รายวนั ท่วั ไป บัญชีแยกประเภททั่วไป เดบติ คมุ ยอดวตั ถดุ ิบ 90,000 คมุ ยอดวัตถดุ ิบ เจ้าหนี้ 90,000 เครดิต เจา้ หนี้ 90,000 จะเห็นได้วา่ จากการลงบญั ชขี ้างต้น ถ้าไม่มีการอธิบายก็ไม่ทราบว่ากิจการซื้อวัตถุดิบ อะไรบา้ ง เปน็ จานวนเงินเท่าใด อกี ทัง้ การรบั และการเบิกจ่ายวัตถุดิบย่อมมีหลายครั้ง ทาให้ ยากต่อการตรวจสอบวา่ ยอดคงเหลอื ของวตั ถดุ ิบแตล่ ะชนดิ มจี านวนเท่าไร ดังน้ัน จึงต้องมีการ บันทึกบัญชีย่อยวัตถุดิบ เพ่ือเป็นรายละเอียดประกอบบัญชีคุมยอดเสมอ โดยใช้เอกสารทาง การเงนิ เช่น ใบกากับสินค้า หรือใบเสร็จรับเงินของเจ้าหนี้เป็นหลักฐานในการลงบัญชี ส่วน ของบัญชียอ่ ย อาจอยใู่ นรูปของบัญชีตวั ที หรือบตั รวัตถดุ บิ ก็ได้ (ปรับปรงุ จากดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 86) ดงั น้ี บญั ชีย่อยวตั ถดุ ิบ บญั ชรี ปู ตวั ที (T Account) บตั รวตั ถดุ ิบ วัตถุดบิ A วตั ถดุ บิ B 50,000 รับ จ่าย คงเหลือ 40,000 เมื่อผ่านรายการบัญชีคุมยอดวัตถุดิบจากสมุดรายวันท่ัวไป ไปยังบัญชีแยกประเภท พร้อมทั้งลงบัญชีย่อยโดยครบถ้วน ในบัญชีคุมยอดวัตถุดิบจะต้องมียอดคงเหลือเท่ากับยอด คงเหลือในบัญชยี ่อยวตั ถุดิบ A และวตั ถุดิบ B รวมกนั ซงึ่ เป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของการ บนั ทึกบัญชียอ่ ยน้นั ไดด้ ้วย การนาเอาระบบบัญชีคุมยอดและบัญชีย่อยมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจอุตสาหกรรม มี ประโยชนใ์ นการลงบันทกึ บัญชี เนื่องจากบัญชีคุมยอดเป็นการสรุปให้เห็นภาพรวมของต้นทุน การผลิตทุกประเภท ส่วนบัญชีย่อยจะเป็นการให้รายละเอียดแยกเป็นชนิดของวัตถุดิบ
2- 22 การบัญชีตน้ ทนุ 1 ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายการผลิต หรือบัญชีอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ท่ีอยู่ภายใต้บัญชีคุมยอดบัญชี เหล่านั้น การบนั ทึกบญั ชีสินค้าคงเหลือ การบันทึกบัญชีสาหรับกิจการที่ทาการผลิตสินค้า จะสามารถแบ่งวิธีการบันทึกบัญชี สินค้าคงเหลือได้ 2 วิธี ได้แก่ 1) วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบเมื่อสิ้นงวด (Periodic Inventory System) และ 2) วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเน่ือง (Perpetual Inventory System) (จันทนา สาขากร และศิลปะพร ศรีจั่นเพชร, 2556 : 6-10) ซ่ึงแต่ละวิธีมี หลกั การบันทกึ บัญชีแตกตา่ งกัน ดงั นี้ 1. วิธีการบนั ทึกบญั ชีสินค้าคงเหลือแบบเม่ือสิ้นงวด หลักการบันทึกบัญชีโดยใช้วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบเมื่อส้ินงวด (Periodic Inventory System) เปน็ ระบบทีบ่ ันทกึ บญั ชีสนิ คา้ คงเหลือเพียงครัง้ เดียวในตอนสิ้น งวด ภายหลงั จากการตรวจนับสินค้าคงเหลอื และคานวณหามลู ค่าสินค้าคงเหลือในตอนสิ้นงวด ทาให้บญั ชสี นิ ค้าคงเหลอื มยี อดคงเหลือไมม่ ีการเคล่อื นไหวในระหว่างงวด แต่สนิ คา้ คงเหลือจะมี การเปลี่ยนแปลงในวันสิ้นงวด รายการที่เกี่ยวกับการคานวณต้นทุนสินค้า และตีราคาสินค้า คงเหลอื จะมบี ัญชที เ่ี กีย่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ ตน้ ทนุ จากการซอ้ื สนิ ค้า ค่าขนสง่ เขา้ สง่ คืนและสว่ นลดรับ แต่เนื่องจาก กิจการที่ทาการผลิตสินค้าจะมีกระบวนการเร่ิมต้นตั้งแต่การซื้อวัตถุดิบ แล้วคนงานในแผนกผลติ ทาการแปรสภาพวัตถุดิบนั้น ให้กลายเป็นสินค้าสาเร็จรูป หรืออาจใช้ เคร่ืองจักรในการแปรสภาพ จงึ มคี า่ ใช้จ่ายอนื่ ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า ดงั นน้ั กิจการจึงมี ตน้ ทนุ ท่เี กดิ จากการซอ้ื วตั ถุดิบ คา่ แรงทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงทางอ้อม ค่าน้า ค่าไฟ ค่าเช่าโรงงาน เป็นต้น เป็นปัจจัยการผลิตหลักท่ีนาเข้าสู่ กระบวนการผลิต ดังนั้น การบันทึกบัญชีของกิจการท่ีทาการผลิตสินค้า จึงประกอบด้วยการ บันทกึ บญั ชีเกยี่ วกบั วตั ถุดิบ การบญั ชเี กี่ยวกับค่าแรงงาน และการบัญชีเก่ียวกับค่าใช้จ่ายการ ผลติ ซง่ึ จะอธบิ ายการบนั ทึกบญั ชใี นลาดับถัดไป 2. วิธีการบนั ทึกบญั ชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง ห ลั ก ก า ร บั น ทึ ก บั ญ ชี โ ด ย ใ ช้ วิ ธี ก า ร บั น ทึ ก บั ญ ชี สิ น ค้ า ค ง เ ห ลื อ แ บ บ ต่ อ เ น่ื อ ง (Perpetual Inventory System) จะมหี ลักการคือกิจการจะทาการตรวจนับสนิ คา้ คงเหลือทุกครั้ง ที่มีการเปลี่ยนแปลงเก่ียวกับสินค้าคงเหลือ หรือวัตถุดิบคงเหลือ ดังนั้น กิจการจะเปิดบัญชี สินค้าคงเหลือ ซึ่งได้แก่ วัตถุดิบ งานระหว่างทา และสินค้าสาเร็จรูป เพื่อแสดงความ เคลือ่ นไหวของสินคา้ คงเหลือทุกประเภทตลอดเวลา การบันทกึ บญั ชใี นลักษณะดงั กลา่ วจะเป็น
บทที่ 2 ระบบบญั ชตี น้ ทุนและการจดั ทางบการเงิน 2 - 23 ประโยชนต์ อ่ ฝ่ายบริหารในการควบคุมสินคา้ คงเหลอื และจดั ทางบการเงินระหว่างงวด กิจการ ไม่ตอ้ งเสยี เวลา และคา่ ใช้จ่ายในการตรวจนับสินค้าคงเหลือ เพราะกิจการสามารถเปิดดูบัญชี ตา่ งๆ ได้ตลอดเวลาทีต่ อ้ งการทราบยอดคงเหลอื แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม กิจการส่วนใหญ่ก็ยังคงจัด ให้มีการตรวจนับสินค้าคงเหลือจริงเป็นคร้ังคราว เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึก รายการสินค้าคงเหลอื ในสมดุ บญั ชี รวมทง้ั การจดั ทารายงานสนิ คา้ คงเหลอื ในตอนสนิ้ งวด นอกจากน้ี ระบบการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเน่ือง ทาให้กิจการทราบ ต้นทุนสินคา้ ท่ีผลิตเสร็จ ต้นทุนขาย และยอดคงเหลือของบัญชีประเภทต่างๆ ได้ตลอดเวลาที่ ต้องการ ซง่ึ ตรงกันขา้ มกบั การบันทกึ บัญชีสินค้าคงเหลือแบบเมอ่ื สน้ิ งวด โดยระบบการบันทกึ แบบเม่ือส้ินงวดจะเปิดบัญชีแยกประเภทต่างๆ ตามลักษณะของต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ แลว้ โอนบญั ชีทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การผลติ เขา้ บัญชตี ้นทุนการผลติ ในตอนส้ินงวด วิธีนี้ผู้บริหารจะยัง ไม่ทราบตน้ ทนุ ของสินค้าท่ีผลิตเสร็จและตน้ ทุนสนิ ค้าขายในระหวา่ งงวด ต้องรอให้มีการตรวจ นับสนิ ค้าคงเหลือในตอนส้ินงวดเสยี กอ่ น วา่ มจี านวนเทา่ ใด เม่อื ทราบมูลคา่ ของงานระหวา่ งทา คงเหลอื ปลายงวด และสินคา้ สาเรจ็ รปู คงเหลอื ปลายงวดแล้ว หลังจากนั้นก็จะโอนปิดบัญชีน้ีไป บัญชสี รุปผลกาไรขาดทุน (Income Summary Account) จงึ จะทราบต้นทุนสินค้าที่ผลิตเสร็จ และต้นทุนขายของงวดน้ัน แลว้ นาขอ้ มลู ต้นทุนต่างๆ เหล่าน้ีไปจัดทางบกาไรขาดทุน และงบ แสดงฐานะการเงิน การจดั ทางบการเงินสาหรบั ธรุ กิจประเภทต่างๆ ธุรกิจแต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผลิตสินค้า ธุรกิจซ้ือขายสินค้า และธุรกิจ ให้บริการ ต้องมีการจัดทางบการเงินเพ่ือเสนอต่อหน่วยงานท้ังภายในและภายนอกเพื่อนา ข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย แต่เนื่องจากว่าธุรกิจแต่ละประเภทมีการ ดาเนินงานท่ีแตกต่างกัน ทาให้รายการต้นทุนที่เก่ียวข้องมีความแตกต่างกัน ดังน้ัน ก่อนจะ กลา่ วถงึ การจดั ทางบการเงินของธุรกิจแต่ละประเภท ควรทาความเข้าใจเก่ียวกับลักษณะการ ดาเนนิ งาน รายการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นเสียก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายถึง รายการต่างท่อี ยู่ในงบการเงินแต่ละประเภท ซ่ึงจะแยกไปตามประเภทของธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ ผลิตสนิ ค้า ธรุ กจิ ซื้อขายสินค้า และธรุ กจิ บริการ ดงั นี้
2- 24 การบัญชตี ้นทนุ 1 1. ธรุ กิจผลิตสินค้า ธุรกจิ ผลิตสนิ ค้า หรอื ธุรกิจอตุ สาหกรรมเปน็ ธุรกิจที่ใช้แรงงาน เคร่ืองจักรอุปกรณ์ และปัจจัยการผลิตหรือทรัพยากรต่าง ๆ ไปในการแปรสภาพวัตถุดิบให้กลายเป็นสินค้า สาเรจ็ รูป เชน่ ธุรกจิ ชมุ ชนแห่งหน่ึงต้องการผลิตกระเป๋าผ้าฝ้ายย้อมคราม ซึ่งมีการใช้ผ้าฝ้าย เปน็ วตั ถดุ บิ หลกั ทีน่ ามาใชใ้ นการผลติ สินคา้ มีการจดั หาแรงงานประเภทตา่ งๆ มสี ถานท่ใี นการ ผลติ ติดตั้งเครื่องจักรและอปุ กรณ์ในการเย็บผา้ รวมถึงการจัดหาสาธารณูปโภคและปจั จัยการ ผลติ อนื่ ๆ ท่ีนามาใช้สนบั สนุนการผลิต กระบวนการผลิตจะเริ่มตงั้ แต่มีการเบิกปัจจยั การผลติ ทง้ั 3 ประเภท ไดแ้ ก่ วตั ถุดบิ ทางตรง ค่าแรงทางตรง และคา่ ใช้จา่ ยการผลิตเข้างานระหว่างทา (Work in Process) จนกระท่ังผลิตเสร็จเป็นสินค้าสาเร็จรูป (Finished Goods) และจะนา สินค้านี้ไปเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าเพ่ือรอการขายให้กับลูกค้าต่อไป ส่วนท่ีผลิตไม่เสร็จจะ ยังคงค้างอยู่ในกระบวนการผลิตในตอนส้ินงวด สาหรับสินค้าสาเร็จรูปท่ีขายได้ จะหมายถึง ตน้ ทุนของสนิ ค้าท่ีขายได้ หรือเรยี กว่า ต้นทนุ ขายในระหวา่ งงวด ส่วนท่ียังขายไม่ได้จะแสดง เปน็ สินคา้ สาเร็จรปู คงเหลอื และจะยกยอดไปขายในงวดบัญชีหน้า ดังแสดงความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบตา่ งๆ ดงั ในภาพที่ 2.6 ซง่ึ สรุปไดว้ ่าธุรกิจผลิตสินค้าจะมีสินค้าในตอนสิ้นงวดอยู่ 3 ลักษณะ ได้แก่ 1. วัตถุดบิ คงเหลือ (Materials Inventory) หมายถึง จานวนวัตถุดิบทางตรง วัตถุดิบ ทางอ้อม วัสดุโรงงานท่ีคงเหลอื อยู่ ณ วนั ส้ินงวด 2. งานระหว่างทาคงเหลือ (Work in Process Inventory) หมายถึง ต้นทุนในการ ผลติ สินคา้ ทย่ี งั ไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์และคงค้างอยู่ ณ วันส้ินงวด ดังนั้นต้นทุนงานระหว่างทา คงเหลอื จะเท่ากบั ผลรวมของวัตถุดบิ ค่าแรงและค่าใชจ้ ่ายการผลิตส่วนท่ใี ส่เข้าไปในงานตั้งแต่ เริม่ ผลิตจนถงึ วนั สน้ิ งวด งานระหว่างทาคงเหลืออยู่ปลายงวดจะยกไปผลิตต่อในงวดหน้า จึง แสดงเปน็ งานระหว่างทาคงเหลอื ในต้นงวดถดั ไป 3. สินค้าสาเร็จรูปคงเหลือ (Finished Goods Inventory) หมายถึง ต้นทุนของ สนิ คา้ ท่ีผลติ เสรจ็ แลว้ และคงเหลืออยู่ ณ วันสนิ้ งวด
บทที่ 2 ระบบบญั ชีต้นทุนและการจัดทางบการเงิน 2 - 25 ซอ้ื วัตถุดบิ งบแสดงฐานะการเงนิ งบกาไรขาดทนุ วตั ถุดิบคงเหลอื ยอดขาย ค่าแรงงาน เบิกใช้ หกั คา่ ใช้จา่ ยการผลิต งาน สินคา้ สาเร็จรูป สว่ นท่ขี ายได้ ตน้ ทุนขาย ระหว่างทา คงเหลือ (ตัดจาหนา่ ย) (ค่าใชจ้ า่ ย) สนิ ทรัพย์ ใช้ประโยชน์ เทา่ กับ ต้นทุน (ตดั จาหน่าย) กาไรข้นั ตน้ ตาม งวด หกั เวลา ค่าใชจ้ ่ายทีเ่ กดิ จาก การตดั จาหนา่ ย คา่ ใช้จ่ายทเี่ กิดขึ้น ในงวดบญั ชี เท่ากับ กาไรสุทธิ ภาพท่ี 2.6 การจาแนกตน้ ทนุ ในธรุ กจิ ผลิตสินคา้ ทมี่ า: (ดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 55)
2- 26 การบญั ชตี ้นทุน 1 2. ธรุ กิจซือ้ ขายสินค้า ธรุ กจิ ซ้อื ขายสนิ ค้า เป็นธรุ กิจทดี่ าเนินการจัดหาสินค้าจากแหล่งต่างๆ เพ่ือนาไป ขายให้กับลูกค้า โดยที่ธุรกิจไม่ได้มีการเปล่ียนแปลงสภาพสินค้าแต่ประการใด ตัวอย่างเช่น ธุรกิจคา้ ปลกี ธรุ กิจค้าสง่ และธุรกจิ ขายตรง ดังน้ัน สินค้าคงเหลือของธุรกิจซื้อขายสินค้า มี เพียง 1ประเภทเท่านั้น คือ สินค้าสาเร็จรูปคงเหลือ ดังนั้น เพ่ือให้เข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนและ คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีเกย่ี วขอ้ งในธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ จะแสดงรายการต่างๆ ดงั แสดงในภาพที่ 2.7 งบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุน ยอดขาย ซ้ือสนิ คา้ เกบ็ สนิ ค้าคงเหลอื ส่วนทข่ี ายได้ หัก (ตัดจาหนา่ ย) ต้นทุนขาย (ค่าใช้จ่าย) เทา่ กับ สนิ ทรพั ย์ ใชป้ ระโยชน์ กาไรขน้ั ตน้ ตน้ ทนุ (ตดั จาหนา่ ย) หัก ตาม งวด ค่าใช้จา่ ยท่ีเกิดจาก เวลา การตัดจาหน่าย ค่าใช้จ่ายทเ่ี กดิ ขน้ึ ในงวดบญั ชี เท่ากับ กาไรสทุ ธิ ภาพที่ 2.7 การจาแนกต้นทนุ ของธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ ค้า ทม่ี า: (ดวงมณี โกมารทตั , 2559 : 58)
บทท่ี 2 ระบบบัญชตี น้ ทุนและการจัดทางบการเงนิ 2 - 27 3. ธรุ กิจบริการ ธรุ กจิ บรกิ าร เปน็ ธรุ กจิ ที่ให้บรกิ ารแกล่ กู คา้ โดยไม่มีการส่งมอบสินค้า ตัวอย่างเช่น สานักงานบัญชี ธุรกจิ จดั อบรม สมั มนา เป็นที่ปรกึ ษาด้านธุรกิจ จดั นาเท่ียว เอเจนซี่หาสถานท่ี เรียนต่างประเทศ โรงแรม โฮสเทล ธนาคาร ร้านเสริมสวย อู่ซ่อมรถ เป็นต้น เนื่องจากการ ให้บริการไม่สามารถมองเห็นเหมือนกับตัวสินค้า เป็นส่ิงท่ีจับต้องไม่ได้ ทาให้คิดต้นทุนการ ให้บรกิ ารได้ยากกว่าการคดิ ต้นทุนของสินคา้ ทผ่ี ลติ ได้ หรือต้นทนุ สนิ ค้าทซี่ อื้ มาเพ่ือขาย จึงถือ วา่ ต้นทนุ การให้บริการทกุ ประเภทเปน็ ค่าใชจ้ ่ายทันทที ี่ให้บริการเสรจ็ สน้ิ ดงั นนั้ จะเหน็ ได้ว่า ธุรกจิ บรกิ ารจะไม่มสี ินคา้ คงเหลอื แต่อย่างไรก็ตาม ธรุ กิจเหล่านี้ กต็ ้องจัดเตรียมวัสดตุ ่างๆ รวมท้ังจดั หาสนิ ทรพั ยไ์ วใ้ หบ้ ริการแก่ลกู คา้ เช่น โฮสเทล ต้องมกี าร จดั หาเครื่องอานวยความสะดวกให้กับแขกทมี่ าพกั ส่วนรา้ นเสริมสวยต้องมีเครื่องมือเครื่องใช้ และอปุ กรณใ์ นการเสรมิ สวย เปน็ ตน้ ดังน้ันการจาแนกต้นทุนของธุรกิจบริการสามารถแสดง รายการได้ดังภาพท่ี 2.8 งบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุน รายไดจ้ ากการให้บรกิ าร หัก สินทรพั ย์ ใช้ประโยชน์ ค่าใช้จ่ายท่ีเกดิ จาก ต้นทนุ (ตัดจาหนา่ ย) การตดั จาหนา่ ย ตาม งวด ค่าใชจ้ ่ายทเี่ กดิ ข้นึ เวลา ในงวดบัญชี เท่ากับ กาไรสทุ ธิ ภาพที่ 2.8 การจาแนกต้นทุนของธรุ กิจบริการ ทม่ี า: (ดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 59)
2- 28 การบัญชตี น้ ทนุ 1 การจดั ทางบการเงินสาหรบั ธรุ กิจผลิตสินค้า เม่ือเปรียบเทียบต้นทุนของธุรกิจทั้งสามประเภท (ดังแสดงในภาพที่ 2.6 - 2.8) จะ พบว่าธุรกิจผลติ สนิ คา้ จะมตี ้นทนุ ทซ่ี บั ซอ้ นมากกวา่ ธรุ กิจซือ้ ขายสนิ ค้าและธุรกจิ บรกิ าร หากจะ แสดงรายละเอยี ดเกยี่ วกับต้นทนุ การผลิตทั้งหมดไว้ในงบกาไรขาดทุนจะทาให้งบกาไรขาดทุน ค่อนขา้ งยาว จึงแสดงต้นทุนการผลิตไว้ในงบต้นทุนการผลิต (Cost of Goods Manufactured Statement) เพ่อื แสดงเปน็ ข้อมูลประกอบเพอื่ คานวณหาต้นทนุ ขายก่อนจัดทางบกาไรขาดทุน วตั ถปุ ระสงคข์ องการทางบตน้ ทุนการผลติ ก็เพ่ือแสดงรายการเกีย่ วกบั ตน้ ทุนของปจั จัยการผลิต ต่างๆ ท่ีเบิกใช้ไปในกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในระหว่างงวด รวมท้ังแสดงงานระหว่างทา คงเหลือทัง้ ต้นงวดและปลายงวด ตลอดจนแสดงการคานวณต้นทนุ สนิ คา้ ทผี่ ลิตเสร็จในระหว่าง งวด การคานวณตน้ ทนุ การผลิตท่ีเกีย่ วข้อง สามารถอธบิ ายตน้ ทนุ แตล่ ะลักษณะ ได้ดงั น้ี ตน้ ทุนสินค้าสาเร็จรปู หรือตน้ ทุนสนิ ค้าผลิตเสรจ็ สามารถคานวณได้ดังนี้ ต้นทุนสินค้าสาเร็จรูป = ตน้ ทุนการผลติ + ตน้ ทุนงานระหว่างทา - ต้นทนุ งานระหว่างทา ในระหวา่ งงวด ต้นงวด ปลายงวด ตน้ ทุนการผลิตในระหว่างงวด สามารถคานวณไดด้ งั นี้ ตน้ ทนุ การผลิต = วัตถุดิบทางตรงเบกิ ใช้ + คา่ แรงทางตรง + ค่าใชจ้ ่ายการผลิต ในระหวา่ งงวด ในระหว่างงวด ในระหว่างงวด ในระหวา่ งงวด วัตถดุ บิ ทางตรงเบกิ ใช้ในระหว่างงวด สามารถคานวณได้ดงั น้ี วัตถดุ บิ ทางตรงเบิกใช้ = วัตถุดบิ ตน้ งวด + ซ้ือวัตถดุ บิ (สุทธ)ิ – วตั ถุดิบปลายงวด ในระหว่างงวด โดยท่ี ซอื้ วตั ถุดิบ (สทุ ธิ) ในระหวา่ งงวด สามารถคานวณไดด้ ังน้ี ซ้อื วตั ถดุ บิ (สทุ ธิ) = ตน้ ทนุ ซือ้ วัตถุดิบ+คา่ ขนสง่ เข้า+ คา่ ใชจ้ ่ายในการจดั หาวัตถุดบิ ตา่ งๆ - สง่ คืนและส่วนลดรบั
บทที่ 2 ระบบบัญชีตน้ ทนุ และการจดั ทางบการเงนิ 2 - 29 และ ตน้ ทุนขายของธรุ กจิ ผลติ สนิ คา้ ในงบกาไรขาดทุน จะคานวณไดด้ งั น้ี ต้นทุนสนิ ค้าขาย = ต้นทนุ สินค้าสาเร็จรูป + ต้นทนุ สินคา้ - ตน้ ทุนสนิ ค้า สาหรบั ธรุ กจิ ผลติ สินค้า ท่ผี ลติ เสรจ็ สาเร็จรปู สาเร็จรปู ในระหว่างงวด ตน้ งวด ปลายงวด เพ่ือให้เข้าใจในการจัดทางบการเงินของธุรกิจประเภทต่างๆ ดังแสดงตัวอย่างการ คานวณในตัวอยา่ งท่ี 2.1 ตวั อยา่ ง 2.1 ขอ้ มูลตอ่ ไปนไ้ี ด้มาจากงบทดลองกอ่ นการปรบั ปรงุ ของบริษัท ฟ้าไทย จากัด ซ่ึงเป็น บรษิ ทั ผลติ และจาหน่ายสนิ ค้าชนดิ หนงึ่ โดยบรษิ ัทมียอดคงเหลือของบัญชีต่างๆ ของปี 25X1 ดังน้ี จานวนเงิน (บาท) เงนิ สด 80,000 ลูกหนี้ 190,000 ค่าเผอ่ื หน้สี งสยั จะสูญ 5,000 วตั ถดุ ิบทางตรง 1 มกราคม 25X1 37,000 งานระหวา่ งทา 1 มกราคม 25X1 52,000 สินค้าสาเรจ็ รปู 1 มกราคม 25X1 40,000 คา่ เบยี้ ประกันภัยโรงงานจา่ ยลว่ งหน้า 18,000 โรงงาน 800,000 ค่าเสือ่ มราคาสะสม – โรงงาน 160,000 อปุ กรณ์สานกั งาน 100,000 คา่ เสือ่ มราคาสะสม – อุปกรณ์สานักงาน 40,000 เจ้าหนกี้ ารคา้ 60,000 ค่าใชจ้ ่ายคา้ งจ่าย 25,000 ทุนหนุ้ สามัญ 800,000 กาไรสะสม 1 มกราคม 25X1 37,000 ยอดขาย 1,300,000 ซื้อวัตถดุ ิบทางตรง 300,000 ค่าขนสง่ เขา้ วตั ถดุ ิบ 10,000
2- 30 การบัญชีตน้ ทนุ 1 ค่าแรงทางตรง 200,000 วัสดโุ รงงานใชไ้ ป 20,000 คา่ แรงทางออ้ ม 100,000 คา่ น้าคา่ ไฟในโรงงาน 50,000 เงนิ เดอื นพนกั งานฝา่ ยขาย 170,000 เงนิ เดอื นพนกั งานฝา่ ยบรหิ าร 150,000 ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารอื่นๆ 50,000 รับคนื สนิ คา้ และส่วนลดจา่ ย 60,000 ในวนั ท่ี 31 ธันวาคม 25X1 บริษทั ไดต้ รวจนบั และตรี าคาสินคา้ คงเหลือ ได้ดงั นี้ วัตถุดิบทางตรง 45,000 บาท งานระหว่างทา 66,000 บาท และสินคา้ สาเรจ็ รปู 5,000 บาท การปรบั ปรุงรายการต่างๆ ในวันสิน้ งวดบัญชี มดี ังนี้ 1. ตัดจาหนา่ ยคา่ เบยี้ ประกนั ภยั โรงงานจา่ ยล่วงหนา้ ปีละ 12,000 บาท 2. โรงงานมีอายใุ ช้งาน 10 ปี อุปกรณ์สานกั งานมอี ายุใช้งาน 5 ปี 3. กิจการประมาณค่าเผอื่ หนี้สงสยั จะสูญในอตั รา 1% จากยอดขายรวม จากขอ้ มูลขา้ งตน้ บริษทั สามารถจดั ทางบการเงินทีเ่ กยี่ วข้องได้ ดงั น้ี 1. งบตน้ ทนุ การผลติ 2. งบกาไรขาดทนุ 3. งบแสดงฐานะการเงิน จากขอ้ มลู ของบรษิ ัท ฟ้าไทย จากดั สามารถจดั ทางบการเงนิ ทั้ง 3 งบ ได้ดงั นี้
บทที่ 2 ระบบบัญชตี ้นทุนและการจดั ทางบการเงิน 2 - 31 บริษทั ฟา้ ไทย จากดั งบตน้ ทุนการผลิต ประจาปี ส้นิ สุดวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25X1 วัตถดุ ิบทางตรงต้นงวด 300,000 37,000 หน่วย : บาท บวก ซอ้ื วตั ถุดบิ 10,000 310,000 302,000 คา่ ขนส่งเข้าวตั ถดุ บิ 347,000 200,000 ต้นทุนวัตถุดิบทางตรงมไี ว้ผลิต 45,000 หัก วตั ถุดิบทางตรงปลายงวด 262,000 ต้นทนุ วัตถดุ บิ ทางตรงเบกิ ใชร้ ะหว่างงวด 20,000 764,000 ค่าแรงทางตรง 10,000 52,000 ค่าใชจ้ ่ายการผลิต 50,000 816,000 12,000 66,000 วัสดโุ รงงานใชไ้ ป 80,000 750,000 คา่ แรงทางอ้อม คา่ น้าค่าไฟ คา่ เบีย้ ประกันภยั โรงงาน คา่ เสือ่ มราคา-โรงงาน ต้นทนุ การผลิตในระหวา่ งงวด บวก งานระหว่างทาต้นงวด หกั งานระหวา่ งทาปลายงวด ตน้ ทนุ สินค้าทผี่ ลติ เสรจ็
2- 32 การบัญชตี ้นทุน 1 บรษิ ทั ฟา้ ไทย จากัด งบกาไรขาดทนุ ประจาปีสิน้ สดุ เพยี งวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25X1 หนว่ ย : บาท ยอดขาย 1,300,000 หกั รับคนื สนิ คา้ และสว่ นลดจา่ ย (60,000) ยอดขายสทุ ธิ 1,240,000 หกั ตน้ ทนุ ขาย : สนิ ค้าสาเรจ็ รปู ต้นงวด 40,000 บวก ต้นทุนสนิ คา้ ทผ่ี ลิตเสร็จในระหวา่ งงวด 750,000 ต้นทุนสินคา้ สาเร็จรปู มีไวข้ าย 790,000 หัก สนิ คา้ สาเรจ็ รูปปลายงวด 50,000 740,000 กาไรขนั้ ต้น 500,000 หกั คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน :- คา่ ใชจ้ ่ายในการขาย : หนีส้ งสยั จะสูญ 13,000 เงนิ เดอื นพนกั งานขาย 170,000 183,000 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : คา่ เสื่อมราคาอุปกรณ์สานักงาน 20,000 เงนิ เดือนพนกั งานบรหิ าร 150,000 ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารอ่นื ๆ 50,000 220,000 403,000 กาไรกอ่ นหกั ภาษี 97,000 หัก ภาษีเงนิ ได้ (20%) 19,400 กาไรสทุ ธิ 77,600
บทท่ี 2 ระบบบัญชีต้นทุนและการจดั ทางบการเงิน 2 - 33 บรษิ ัท ฟา้ ไทย จากดั งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25X1 สินทรพั ย์ 190,000 หนว่ ย : บาท 18,000 สินทรพั ยห์ มนุ เวียน 80,000 45,000 172,000 เงินสด 66,000 ลูกหนี้ 50,000 161,000 หกั ค่าเผอ่ื หนส้ี งสยั จะสญู 6,000 419,000 สนิ คา้ คงเหลอื 800,000 240,000 560,000 วัตถุดบิ คงเหลือ 100,000 40,000 600,000 งานระหวา่ งทาคงเหลอื 60,000 สินค้าสาเรจ็ รปู คงเหลอื 1,019,000 คา่ เบ้ยี ประกันภยั จา่ ยล่วงหน้า สินทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น โรงงาน หกั ค่าเส่ือมราคาสะสม – โรงงาน อุปกรณส์ านกั งาน หัก ค่าเสอ่ื มราคาสะสม - อุปกรณ์สานกั งาน รวมสนิ ทรัพย์ หนี้สินและส่วนของผถู้ อื ห้นุ 60,000 หนี้สินหมนุ เวียน 25,000 29,100 เจา้ หนก้ี ารคา้ คา่ ใชจ้ า่ ยคา้ งจ่าย 114,100 ภาษีเงินไดค้ า้ งจา่ ย รวมหน้สี นิ หมนุ เวยี น
2- 34 การบญั ชตี น้ ทุน 1 ส่วนของผถู้ อื ห้นุ 800,000 104,900 ทุนหุ้นสามญั กาไรสะสม (31 ธนั วาคม 25X1) 904,900 รวมส่วนของผู้ถอื หุ้น 1,019,000 รวมหน้สี นิ และสว่ นของผถู้ อื หนุ้ การจดั ทางบการเงินสาหรบั ธรุ กิจซื้อขายสินค้า ธุรกิจซื้อขายสินค้า เป็นธุรกิจที่ซื้อสินค้าสาเร็จรูปมาและสามารถขายได้ทันที งบ การเงินประจางวด ได้แก่ งบกาไรขาดทุน และงบแสดงฐานะการเงินเท่านั้น สาหรับวิธีการ จัดทางบการเงินของธุรกจิ ซ้อื ขายสนิ ค้าจะปรากฏในตาราหลักการบญั ชีข้ันต้นอยแู่ ล้ว จึงไม่ขอ กล่าวในท่ีน้ีอีก เมื่อสรุปความแตกต่างในการแสดงรายการในงบการเงินระหว่างธุรกิจผลิต สินคา้ และธรุ กิจซ้อื ขายสินคา้ จะพบว่าของคงเหลือท่ีจะนาไปแสดงไว้ในงบแสดงฐานะการเงิน ของธุรกิจซือ้ ขายสนิ ค้ามีเพียงรายการเดียว คอื สินคา้ คงเหลือ ในขณะที่ธุรกิจผลิตสินค้าจะมี ของคงเหลือ 3 รายการคือ วัตถุดิบคงเหลือ งานระหว่างทาคงเหลือ และสินค้าสาเร็จรูป คงเหลอื ขอใหส้ งั เกตศพั ท์ท่ีใชเ้ รยี กตัวสินค้า ถา้ เป็นสินคา้ ของธรุ กจิ การผลิตจะใช้คาว่าสินค้า สาเร็จรปู (Finished Goods) แต่ถ้าเป็นสนิ คา้ ของธุรกิจมาขายไป จะใชค้ าว่าสนิ ค้าหรือสินคา้ คงเหลือ (Merchandise Inventory) นอกจากน้ีธุรกิจซื้อขายสินค้าไม่ต้องทางบต้นทุนการ ผลิต จึงสามารถแสดงการคานวณต้นทุนค่าซ้ือสุทธิและต้นทุนขายไว้ในงบกาไรขาดทุนได้ โดยตรง จะขอใช้ข้อมูลจากตัวอย่างท่ีแล้ว สมมติว่า บริษัท ฟ้าไทย จากัด ได้เปล่ียน ลักษณะการดาเนินงานเป็นธุรกิจซื้อขายสินค้าโดยการดัดแปลงโรงงานเป็นอาคารสานักงาน และในปี 25X1 ได้ซื้อสินค้าจานวน 750,000 บาทมาขาย ผลจากการตรวจนับสินค้า คงเหลือในตอนต้นงวดพบว่าสินค้าคงเหลือต้นงวดมีมูลค่า 40,000 บาท และในวันที่ 31 ธันวาคม 25X1 กจิ การมีเงินสดคงเหลือ 191,000 บาท สาหรับข้อมูลอ่ืนๆ จะมีจานวนเท่า เดิมไม่เปลย่ี นแปลง ดงั น้ัน เพอื่ แสดงความแตกตา่ งของต้นทนุ ทป่ี ระกอบเป็นสินค้า ที่นาเสนอ ในงบกาไรขาดทนุ และงบแสดงฐานะการเงนิ ระหวา่ งธรุ กิจการผลิต และธุรกิจซ้ือขายสินค้าของ บริษทั ฟา้ ไทย จากดั จะปรากฏดงั ภาพที่ 2.9
บทที่ 2 ระบบบญั ชตี ้นทนุ และการจัดทางบการเงนิ 2 - 35 กิจการซ้อื ขายสินคา้ แสดงในงบ ้ตนทุนการผลิต กิจการผลติ สนิ ค้า สินค้าตน้ งวด แสดงในงบกาไร วตั ถดุ บิ ตน้ งวด บวก ซอื้ ขาดทุน บวก ซอื้ ต้นทนุ สินค้ามไี ว้ขาย ตน้ ทุนวัตถดุ ิบมไี ว้ผลติ หัก สินคา้ ปลายงวด แสดงในงบแสดงฐานะ หกั วัตถุดบิ ปลายงวด ตน้ ทุนขาย การเงิน ต้นทุนวตั ถดุ ิบใช้ไป สินทรพั ย์หมนุ เวยี น งานระหว่างทาตน้ งวด สินคา้ คงแหลอื บวก ตน้ ทุนการผลติ ในระหว่างงวด ต้นทุนวัตถุดบิ ใช้ไป คา่ แรงทางตรง ค่าใชจ้ ่ายการผลติ (แสดงรายละเอียด หรือเปน็ งบยอ่ ยประกอบ) ตน้ ทุนการผลติ ทั้งหมด หกั งานระหวา่ งทาปลายงวด ต้นทนุ สนิ ค้าสาเรจ็ รปู สินคา้ สาเรจ็ รปู ต้นงวด บวก ตน้ ทุนสนิ คา้ สาเรจ็ รูป ต้นทนุ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู มไี วข้ าย หัก สินค้าสาเร็จรปู ปลายงวด ต้นทุนขาย สินทรัพย์หมุนเวียน สนิ คา้ คงเหลอื :- วัตถดุ บิ งานระหวา่ งทา สินค้าสาเรจ็ รูป ภาพท่ี 2.9 การแสดงตน้ ทุนท่ีประกอบเปน็ ตัวสนิ คา้ ในงบการเงนิ ประเภทตา่ งๆ เปรียบเทยี บระหว่างธุรกิจซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ การผลิต ที่มา: (ดวงมณี โกมารทัต, 2559 : 66)
2- 36 การบัญชตี ้นทนุ 1 บริษัท ฟา้ ไทย จากัด งบกาไรขาดทนุ ประจาปีส้นิ สุดเพยี งวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25X1 ยอดขาย 13,000 หนว่ ย : บาท หกั รบั คืนสินคา้ และส่วนลดจ่าย 170,000 1,300,000 (160,000) ยอดขายสุทธิ 20,000 1,240,000 หัก ตน้ ทนุ ขาย :- 150,000 50,000 40,000 สินคา้ คงเหลอื ตน้ งวด 750,000 บวก ซ้อื สนิ ค้า 790,000 ต้นทุนสนิ ค้ามีไว้ขาย 50,000 740,000 หกั สนิ คา้ คงเหลอื ปลายงวด กาไรขนั้ ต้น 500,000 หกั คา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งาน ค่าใชจ้ า่ ยในการขาย 183,000 หนี้สงสยั จะสูญ 220,000 403,000 เงนิ เดือนพนกั งานขาย 97,000 คา่ ใช้จ่ายในการบริหาร 19,400 ค่าเสอ่ื มราคาอปุ กรณ์สานักงาน 77,600 เงนิ เดือนพนกั งานบรหิ าร ค่าใช้จา่ ยในการบรหิ ารอ่ืนๆ กาไรกอ่ นหกั ภาษี หัก ภาษเี งนิ ได้ (20%) กาไรสุทธิ
บทท่ี 2 ระบบบัญชตี ้นทุนและการจัดทางบการเงนิ 2 - 37 บรษิ ทั ฟา้ ไทย จากดั งบแสดงฐานะการเงิน ประจาปสี ้นิ สดุ เพยี งวันที่ 31 ธนั วาคม 25X1 สินทรพั ย์ หน่วย : บาท สินทรพั ยห์ มนุ เวียน 419,000 เงินสด 191,000 600,000 172,000 1,019,000 ลกู หน้ี 190,000 50,000 114,100 หกั ค่าเผอื่ หนีส้ งสยั จะสูญ 18,000 6,000 904,900 1,019,000 สินค้าคงเหลอื 560,000 40,000 ค่าเบยี้ ประกนั อาคารสานกั งานจ่ายล่วงหนา้ 60,000 สินทรพั ยไ์ ม่หมุนเวียน 25,000 29,100 อาคารสานกั งาน 800,000 800,000 หกั ค่าเสอ่ื มราคาสะสม – อาคารสานกั งาน 240,000 104,900 อุปกรณส์ านักงาน 100,000 หกั คา่ เสื่อมราคาสะสม-อุปกรณ์สานักงาน 60,000 รวมสนิ ทรัพย์ หนี้สินและส่วนของผถู้ ือห้นุ หนี้สินหมนุ เวยี น เจ้าหนก้ี ารคา้ ค่าใชจ้ า่ ยค้างจ่าย ภาษเี งินไดค้ ้างจา่ ย รวมหนส้ี ินหมุนเวยี น ส่วนของผถู้ ือห้นุ ทุนหุน้ สามญั กาไรสะสม 31 ธันวาคม 25X1 รวมส่วนของผูถ้ อื หนุ้ รวมหนีส้ ินและสว่ นของผู้ถือหนุ้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 474
Pages: