พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อิตวิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ท่ี 466คาถาน้มี คี วามสังเขปดังนี้ ก็ผูใ ด ไดสมณะผูเปนปฏคิ าหก ผูเขา ไปหาแลวโดยท่ีตนเองก็มไี ทยธรรมอยูก ็ไมก ารทาํ แมเ พยี งการแจกแบงวตั ถุมขี าวเปนตน ผูน น้ั จกั ใหท านอยา งอืน่ ไดอยางไร ? บัณฑิตกลาวคือ เรียกขานเขาผูตระหน่เี หนียวแนน เหน็ ปานน้นั เปนบรุ ษุ อาธรรม เปนคนเลว วา เปน ผูเหมอื นกบั เมฆ ทีไ่ มใหฝนตก ดังนี.้ บทวา เอกจจฺ าน น ททาติ ความวา แมเ มอ่ื ของที่จะตอ งใหมีอยูม ากมาย ก็ไมย อมให แกค นบางจําพวก ดวยอํานาจแหง ความโกรธเคอื งในคนเหลา น้ัน หรอื ดวยอาํ นาจแหง ความโลภในไทยธรรม. บทวา เอกจฺจานปเวจฺฉติ ความวา แตใหแกบคุ คลบางจําพวกเทา นั้น. บทวา เมธาวโิ นไดแก คนท่ีมีปญ ญา คอื เปนบัณฑติ . บทวา สุภกิ ฺขวาโจ ความวา ผใู ดสั่งใหเขาใหข องนั้น ๆ แกย าจกทง้ั หลายผเู ขาไปหาแลว โดยนัยมีอาทิวา ทานท้งั หลาย จงใหขา ว ทา นท้งั หลายจงใหนํ้า ผนู ั้น ช่ือวา สภุ ิกขฺ วาโจ เพราะวเิ คราะหว า ผมู กี ารออกปากของา ยเหตุมีการขอท่หี าไดโดยงา ย. อาจารยบางพวกกลา ววา สุภกิ ขฺ วสฺสี ดงั นี้ ก็ม.ีชาวโลก มีภิกษาหาไดโ ดยงา ยฉันใด มหาเมฆทีย่ ังฝนใหต กชุก ทุกหนแหงยอ มชอื่ วา โปรยลงมา (ใหภ ิกษา) หางา ยฉนั นัน้ . แมบ ุคคลนก้ี ฉ็ ันน้ัน เปน ผูยงั ฝนใหต กลงในทีท่ กุ หนแหง ดวยมหาทาน (ชว ยให) หาภกิ ษาไดโดยงา ย.บทวา อาโมทมาโน ปกเิ รติ ความวา บุคคลผูมีมนัสอนั ยินดีและรา เริงแลวใหทานดว ยมือของตน ยอ มเปนเสมือนหวา นไทยธรรมลงในนาคอื ปฏคิ คาหกแมวาจากพ็ ร่ําพดู อยูวา ทานทั้งหลายจงใหทานเถดิ ทานท้ังหลายจงใหท านเถิด ดังน.ี้ พระผูมพี ระภาคเจา เมื่อจะทรงแสดงภาวะท่เี มฆใหฝ นตกทาํ ใหภกิ ษาหาไดงา ย จงึ ตรัสคํามอี าทิวา ยถาป เมโฆ ดังน้ี.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย อิตวิ ตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาท่ี 467 แมในพระคาถาน้ัน มคี วามสังเขปดังตอ ไปนี้ ฟา (มหาเมฆ) รอ งดว ยเสียงเบา ๆ กอ น แลว จงึ รองกึกกองไปทว่ั ทุกหว งน้าํ และลําธารอกี แลวโปรยฝนลงมา ไหลไปใหท ลี่ มุ และทดี่ อนทวั่ ทุกหนแหง เต็มเจิ่งไปดว ยอุทกวารีทําใหเปนหว งนาํ้ หว งเดียวกัน ฉนั ใด บคุ คลทใ่ี จกวา งบางคนในทนี่ ้ีคือในโลกนี้ กฉ็ ันน้นั เพราะเปน ผมู ีใจเสมอในคนทั่วไป เหมอื นมหาเมฆนั้นเพราะตองใหฝ นตกลงมา เปน ผูไ มเ กยี จคราน โดยทที่ รัพยเ ปนของไดมาดวยความหมัน่ คือเกดิ ขนึ้ ดวยความขยันหมั่นเพยี รของตน รวบรวมทรัพยน้นั ไวโดยธรรม คอื โดยชอบ ยงั วณิพกท้ังหลายผูถ งึ แลว คอื มาถึงแลว ใหอ มิ่ คือใหอมิ่ หนําสาํ ราญ โดยชอบ คือ พอเหมาะแกก าลเทศะ และเหมาะสมแกความตอ งการ โดยชอบทเี ดยี ว ดวยขา ว นํ้า และไทยธรรมอยางอน่ื ท่เี กดิจากทรพั ยท ร่ี วบรวมไวน ้นั ดงั นี.้ จบอรรถกถาอวุฏฐกิ สูตรที่ ๖ ๗. สขุ สูตร วาดวยผปู รารถนาสุข ๓ ประการพึงรักษาศลี [๒๕๔] จริงอยู พระสตู รน้พี ระผมู พี ระภาคเจา ตรัสแลว พระ-สูตรนพ้ี ระผมู พี ระภาคเจา ผูเปนพระอรหนั ตตรสั แลว เพราะเหตนุ น้ั ขา พเจาไดสดับมาแลว วา ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย บณั ฑิตปรารถนาสุข ๓ ประการนี้พงึ รักษาศีล ๓ ประการเปนไฉน ? คือ บัณฑติ ปรารถนาอยวู า ขอความสรรเสรญิ จงมาถึงแกเรา ๑ ขอโภคสมบัติจงเกิดขึ้นแกเ รา ๑ เมอื่ ตายไป เราจกั เขา ถึงสุคตโิ ลกสวรรค ๑ พงึ รักษาศลี ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย บัณฑติ ปรารถนาสุข ๓ ประการนแี้ ล พึงรกั ษาศีล.
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย อิติวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ที่ 468 พระผูมพี ระภาคเจาไดตรสั เนอื้ ความน้ีแลว ในพระสตู รนั้น พระ-ผูมพี ระภาคเจา ตรัสคาถาประพันธดังนี้วา นักปราชญป รารถนาสุข ๓ ประการ คอื ความสรรเสรญิ ๑ การไดโ ภคทรพั ย เครื่องปล้ืมใจ ๑ ความบันเทงิ ในสวรรค ในโลกหนา ๑ พงึ รักษาศีล ถา วาบุคคล แมไ มกระทําความชั่ว แตเขา ไปเสพบคุ คล ผูก ระทาํ ความชว่ั อยูไซร บุคคลนั้น เปน ผอู ัน บุคคลพงึ รังเกยี จในเพราะความชัว่ และโทษของบคุ คลผูเสพคนชั่วนี้ ยอ ม งอกงาม. บุคคลยอ มกระทําบุคคลเชนใดให เปน มติ ร และยอ มเขา ไปเสพบุคคลเชน ใด บุคคลนั้นแลเปน ผเู ชนกับดวยบุคคลนน้ั เพราะวา การอยรู วมกนั เปนเชนนน้ั คนช่วั ซอ งเสพบุคคลอนื่ ผบู รสิ ุทธิ์โดยปกตอิ ยู ยอ มทาํ บคุ คลอนื่ ผบู ริสุทธิโ์ ดยปกตทิ ี่ ซอ งเสพตน ใหติดเปอนดวยความชว่ั เหมอื นลกู ศรท่แี ชย าพษิ ถูกยาพษิ ติดเปอ น แลว ยอมทําแลง ลูกศรซงึ่ ไมต ดิ เปอนแลว ใหตดิ เปอ นดวยยาพิษ ฉะนน้ั .
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย อติ วิ ตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ที่ 469 นกั ปราชญไ มพ ึงเปน ผูม ีคนชั่วเปน เพ่ือนเลย เพราะความกลัวแตการเขา ไป ตดิ เปอน คนใดหอปลาเนาไวดว ยใบหญา คา แมห ญา คาของคนนนั้ ยอ มมีกลิ่นเหม็น ฟงุ ไป การเขาไปซองเสพคนพาล ยอม เปนเหมอื นอยางนน้ั สวนคนใดหอ กฤษณา ไวดวยใบไม แมใบไมของคนนน้ั ยอมมี กลิ่นหอมฟุงไป การเขาไปซอ งเสพ นกั ปราชญยอ มเปน เหมอื นอยางน้นั เพราะ เหตนุ นั้ บณั ฑติ รคู วามสําเร็จผลแหง ตน ดุจหอ ใบไมแ ลว ไมพ งึ เขาไปเสพอสตั - บุรษุ พึงเสพสตั บุรุษ เพราะวาอสตั บุรษุ ยอมนําไปสนู รก สตั บุรษุ ยอ มใหถงึ สุคต.ิ เนอ้ื ความแมนี้พระผูม ีพระภาคเจา ตรัสแลว เพราะเหตนุ นั้ ขา พเจาไดส ดบั มาแลว ฉะนน้ั แล. จบสุขสตู รท่ี ๗
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย อติ วิ ตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ที่ 470 อรรถกถาสุขสตู ร ในสุขสตู รท่ี ๗ พงึ ทราบวนิ จิ ฉัยดังตอไปน้ี :- บทวา สขุ านิ ไดแ ก เหตแุ หง ความสุข. บทวา ปตฺถยมาโนความวา ปรารถนาอยู คือ จํานงหมายอย.ู บทวา สีล ไดแก ทั้งศีลของคฤหสั ถ และศลี ของบรรพชติ อธบิ ายวา ถาเปน คฤหัสถ ก็ตองรักษาศลี ของคฤหัสถ ถา เปน บรรพชติ ก็ตอ งรกั ษาจาตุปารสิ ทุ ธศิ ลี . บทวา รกฺเขยฺยความวา สมาทานแลวไมล วงละเมิด รักษาไวดวยดนี น่ั เอง. บทวา ปส สา เม อาคจฺฉตุ ความวา ผูฉลาดคอื ผมู ปี ญญาปรารถนาอยวู า ขอกิตตศิ พั ทอันดงี ามของเราจงมาถงึ ดังนี้ รกั ษาศีล. อธิบายวากิตติศพั ทอนั ดีงามของคฤหสั ถผมู ศี ีล ยอ มฟงุ ขจรไปในทา มกลางบรษิ ัท โดยนยั มอี าทวิ า บตุ รของตระกูลโนน ชือ่ โนน เปนผูมศี ลี มีกัลยาณธรรม มีศรัทธา เลอื่ มใสแลว เปนผใู ห (ทาน) เปนผบู ําเพ็ญ (บญุ ) ดงั น้กี อนกติ ตศิ ัพทอันดงี ามของบรรพชิต ยอมฟุง ขจรไปในทา มกลางบรษิ ทั โดยนยั มีอาทวิ า ภกิ ษชุ ือ่ โนนเปนผมู ศี ีล สมบูรณดวยวตั ร สงบเสงยี่ ม อยูรว มดวยสบายมีความเคารพ มคี วามยาํ เกรง ดงั นี้ . สมจริงดังทต่ี รัสไวว า ดกู อ นคฤหบดีทงั้ หลาย ยังมอี ีกขอ หนึง่ กิตติศัพทอ ันดีงามของผมู ีศีล สมบรู ณดวยศลียอมฟงุ ขจรไป ดังน.ี้ อนงึ่ ดงั ทต่ี รสั ไวมอี าทิวา ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ถาหากภิกษุพงึ หวังอยูวา ขอเราพงึ เปนทรี่ ัก เปน ท่ีพอใจ เปน ท่ีเคารพ และเปนทนี่ บั ถือของเพ่อื นพรหมจารที ง้ั หลายดังน้ไี ซร เธอตองเปนผูท ําใหบริบรู ณในศลี ทง้ั หลายน่ันเอง.
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย อิตวิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาที่ 471 พึงทราบวินจิ ฉัยในบทวา โภคา เม อุปปฺ ชฺชนฺตุ น้ี ดังตอไปนี้กอ นอ่นื เมอ่ื คฤหัสถผูมศี ีล มกี ลั ยาณธรรมอยู เขาเลี้ยงชวี ติ ดว ยศิลปะและความหมั่นขยันใด ๆ เชน กสกิ รรม พาณิชยกรรม และรับราชการ เม่ือเปนเชนนั้น โภคะทั้งหลายทีย่ งั ไมเกดิ ยอมเกดิ ขน้ึ แกเขา และโภคะท่ีเกดิ ข้ึนแลวจกั ถงึ ความเจริญขึน้ เพราะความเปนผูไมประมาทในศิลปะ และความหมน่ั ขยนั นั้น ตามกาลและตามวชิ .ี สว นบรรพชติ เม่อื สมบูรณด ว ยศีลาจารวตั รมปี กติไมประมาทอยู มนุษยทง้ั หลายผเู ล่อื มใสแลว ในความถึงพรอมดว ยศีลและคณุ มคี วามมกั นอ ยเปน ตน ของบรรพชติ ผูสมบูรณดว ยศลี จะนาํ ปจ จยัมาใหอยางมโหฬาร เมอ่ื เปน เชน นั้น โภคะทยี่ งั ไมเกดิ ขึ้น ยอมเกดิ ขึ้นแกบรรพชิตน้ัน และทเ่ี กิดขึน้ แลวกจ็ ะม่ันคง สมดังที่ตรัสไววา ดูกอ นคฤหบดีท้งั หลาย อกี ประการหน่ึง ภิกษุผมู ศี ลี สมบรู ณดว ยศีล จะประสบกองแหงโภคะใหญ มีความไมประมาทเปนเหตุ ดังน้ี. อนึง่ สมดังท่ีตรัสไววา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ถาภิกษพุ งึ หวังวา เราจักเปน ผูได จวี ร บณิ ฑบาต เสนาสนะและคลิ านปจ จยั เภสัชบริขาร ดงั น้ไี ซร เธอตอ งเปน ผทู ําใหบรบิ ูรณในศลีท้งั หลาย ดังน.้ี คาํ ท่ีเหลอื มีนัยดังกลาวแลว ท้งั น้นั . พึงทราบวินิจฉยั ในคาถาทั้งหลายดงั ตอไปนี้ บทวา ปฏ ยาโน ไดแ กปฏยนฺโต แปลวา ปรารถนาอย.ู บทวา ตโย สุเข เทากับ ตณี ิ สขุ านิแปลวา ความสุข ๓ ประการ. บทวา จิตตฺ ลาภ ความวา ไดท รพั ย อธิบายวาการเกิดขึน้ แหงโภคทรัพย. ก็โดยขอท่แี ตกตางกนั บรรดาความสขุ ทั้ง ๓อยา งน้ี พงึ ทราบวา ทรงถอื เอา เจตสิกสขุ ดว ยการสรรเสริญ กายิกสขุดว ยโภคะ อปุ ปต ติสขุ ดวยศัพทนอกน้ี อน่งึ พึงทราบวา ทรงถือเอาสุขในปจจุบนั ดว ยศัพทแ รก สขุ ในสมั ปรายกิ ภพ ดว ยศพั ทท ี่ ๓ สขุ ทง้ั สองอยา ง ดว ยศัพทท่ี ๒.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย อติ วิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ท่ี 472 บัดนี้ พระผมู พี ระภาคเจา เม่ือจะทรงแสดงการเวน จากปาปมิตร และการคบหากลั ยาณมติ ร ทีเ่ ปน เหตพุ เิ ศษของการสรรเสรญิ เปนตน เหมอื นศีลทเี่ ปน เหตุ (ธรรมดา) ของการสรรเสรญิ เปน ตน พรอ มดว ยโทษและอานิสงสจึงตรสั คาํ มอี าทวิ า อกโรนฺโต ดงั นี.้ บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา สงกฺ ิโย ความวา เขาพึงถกู รงั เกียจในเพราะความชั่ววา คนน้ที ําชว่ั มาแลว หรอื จกั กระทาํ ตอไปเปน แน. อน่งึเพราะเขาไปมาหาสูอ ยกู บั คนช่ัวท้ังหลาย. บทวา อสฺส ความวา การกลาวโทษแมไ มเปนจรงิ ยอมงอกงามคือถึงความงอกงามไพบลู ย ไดแ กแ ผไ ปเบื้องบน ของบคุ คลผคู บหาคนชวั่ นี้หรือบุคคลนน้ั เพราะคบหาสมาคมกบั คนชั่วเปนปกติ. อีกอยา งหน่ึง บทวาอสสฺ เปนฉฏั ฐีวภิ ัตติ ลงในอรรถแหง สัตตมีวภิ ัตติ ไดความวา ในบุคคลนน้ั .บทวา สเว ตาทสิ โก โหติ ความวา ผใู ดคบและเขาไปคบหาปาปมิตรหรือกลั ยาณมิตร เชน ใด บุคคลนนั้ กจ็ ะเปน เชน น้นั คือมบี าปธรรม หรือมีกลั ยาณธรรม เหมือนนํ้าที่สะอาดและสกปรก ดว ยสามารถแหงพนื้ ที่. เพราะเหตุไร ? เพราะการอยูรวมกัน เปนเหตุใหเปนเชนนน้ั . อธิบายวา การอยูรว มกนั กบั คนชั่วชา ไมควรทาํ เพราะการอยรู ว มกนั คือการคลุกคลีกนั ไดแกการสนิทสนมกัน เปน เหตุใหร ับเอากิรยิ าอาการของคนทคี่ บ ทีเ่ ปน อปุ นสิ ัยของตน เหมือนแกวผลกึ และแกวมณที ่อี ยูรวมกันฉะนน้ั . บทวา เสวมาโน เสวมาน ความวา คนชัว่ เมื่อคบบุคคลอ่ืนที่บรสิ ทุ ธ์ิตามปกติ ทคี่ บตนอยตู ลอดกาลเวลา หรอื ท่ีเขาคบอยู (ยอมทาํ ใหเขาแปดเปอ น). บทวา สมผฺ ุฏโ สมผฺ สุ ความวา คนช่วั ทีบ่ ุคคลผบู รสิ ุทธิ์ตามปกตนิ ัน้ สัมผัสเขา ดวยการอยูรว มกนั คอื คบหาสมาคมกัน แมตนเองเมอื่ สมั ผสั เขาอยอู ยางน้นั . บทวา สโร ทฏุ โ กลาป วา ความวา อุปมา
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย อิตวิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ท่ี 473เสมือนหนง่ึ วา ลกู ศรอาบคอื เปอ นยาพิษ จะแปดเปอ นแลง ศร คอื ทรี่ วม(กระบอก) ลกู ศร แมท ่ียังไมแปดเปอ น ซ่ึงคนถกู ตอ งแลวฉันใด ตนเองก็ฉันน้นั ยอ มแปดเปอ นคนอื่นทบี่ รสิ ทุ ธ์ิ โดยปกติดวยความชั่ว. บทวาอปุ เลปภยา ธีโร ความวา คนช่ือวา ธีระ เพราะเปน ผสู มบรู ณด วยปญญาเคร่ืองทรงจาํ คือคนทเ่ี ปน บณั ฑิต ไมค วรมคี นชัว่ เปน สหาย. บทวา ปูติมจฉฺ กสุ คฺเคน ความวา ผูใดเอาปลายหญา คาผูกปลาท่ีเปน ปลาเนา โดยเปน ของนา เกลยี ด คอื ผกู โดยพนั ใหเ ปนหอ หญาคาเหลา น้ันของผนู ้ัน ถึงไมเนากช็ ือ่ วา เหม็น เพราะหอปลาเนา เขา ไว จะสงกล่ินเหม็นตลบไปทีเดียวฉนั ใด. บทวา เอว พาลูปเสวนา ความวา การคบหาสมาคมกบั คนพาลพงึ เห็นวา มอี ุปมาฉันนนั้ . บทวา เอว ธีรปู เสวนา ความวา การคบหาสมาคมกับบัณฑิต ของผูไมมีศีลตามปกติ ยอมเปน เหตใุ หก ลนิ่ ศลี ฟุงขจรไปดว ยสามารถแหงการสมาทานศลี เปนตน . เหมอื นใบไมถ งึ จะไมม ีกลนิ่ หอมแตก็ชื่อวามกี ล่นิ หอมฟุงขจรไป เพราะหอกฤษณาไวฉ ะน้นั . บทวา ตสฺมา ความวา เพราะเหตทุ ี่การคบมติ รท่ีไมดี มโี ทษเชนน้ีและการคบมิตรท่ีดี มีอานิสงสอยา งนี้ คือเชน นี้ ฉะน้นั บณั ฑติ รูผลของตนดวยการระคบกัน แหงวตั ถทุ ีม่ กี ล่ินเหมน็ และกล่นิ หอม และการคบหาสมาคมกบั คนดี และคนไมดี ดจุ หอ (ปลาราและกฤษณา) ดวยใบไม คือเหมือนหอปลารา และกฤษณา (ดว ยใบไม). บทวา ตฺวา สมฺปากมตฺตโน ความวาบณั ฑติ รูคอื ทราบความสําเร็จผลของตนท่ีมที กุ ขเปน กําไร และมสี ขุ เปน กําไรแลวไมค วรคบหาอสตั บุรษุ คือมติ รชัว่ ควรเสพแตสตั บรุ ุษคือบณั ฑิตผูสงบระงับแลว ผมู โี ทษอันคลายแลว หรอื ผทู ่ีนกั ปราชญสรรเสริญแลว. สมจรงิดงั ที่พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสไวว า อสัตบรุ ุษนาํ ไปสูน รก สว นสัตบรุ ษุ ใหถึงสุคติ.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย อติ ิวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาท่ี 474 ดังนั้น พระผมู ีพระภาคเจา ครน้ั ทรงแสดงเหตุแหง ความสขุ ๓ อยา งตามทก่ี ลา วมาแลว ดวยพระคาถาแรก แลวทรงแสดงเหตุเปนท่ีมาแหงความสขุความสรรเสรญิ พรอ มกับการงดเวน ธรรมท่ีเปน ปฏิปก ษ (ตอ ความสุข) ดวยพระคาถา ๕ พระคาถา ตอจากนน้ั แลวจึงทรงแสดงความสขุ สดุ ทา ย พรอ มดว ยเหตเุ ปนทีป่ ระสบความสขุ แมทัง้ ๓ อยาง ดวยพระคาถาสดุ ทา ย. จบอรรถกถาสุขสตู รท่ี ๗ ๘. ภนิ ทนสูตร วาดวยสง่ิ ทต่ี องแตกเปนธรรมดา [๒๕๕] จริงอยู พระสูตรนี้พระผูมพี ระภาคเจาตรสั แลว พระสูตรนพี้ ระผูมีพระภาคเจาผูเ ปน พระอรหนั ตตรัสแลว เพราะเหตุนั้น ขาพเจาไดสดับมาแลววา ดกู อ นภิกษุทงั้ หลาย กายนมี้ คี วามแตกเปน ทีส่ ดุ วิญญาณมีการคลายไปเปนธรรมดา ขันธบัญจกทั้งปวงไมเ ท่ียง เปน ทกุ ข มคี วามแปรปรวนไปเปน ธรรมดา. พระผูมพี ระภาคเจา ไดตรสั เนอื้ ความน้แี ลว ในพระสูตรนัน้ พระ-ผมู ีพระภาคเจา ตรสั คาถาประพันธดงั นวี้ า ภกิ ษรุ กู ายวา มีความแตกไปเปน ทีส่ ดุ และรวู ิญญาณวามีความยอ ยยับไป เห็นภัย ในขนั ธบญั จกทั้งหลายแลว ลว งชาตแิ ละ มรณะเสยี ได มตี นอนั อบรมแลว จาํ นง
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย อิติวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาที่ 475 อยูซ่งึ การเปน ทดี่ ับขนั ธ เพราะบรรลถุ ึง ความสงบอยางยิ่ง. เน้อื ความแมน้พี ระผมู พี ระภาคเจา ตรัสแลว เพราะเหตุนัน้ ขาพเจาไดส ดับมาแลว ฉะนีแ้ ล. จบภินทนสูตรท่ี ๘ อรรถกถาภินทนสตู ร ในภนิ ทนสตู รท่ี ๘ พงึ ทราบวินจิ ฉยั ดังตอ ไปน้ี :- บทวา ภทิ รุ าย ตดั บทเปน ภิทโุ ร อย . บทวา กาโย ไดแ กรูปกาย. กร็ ปู กายนน้ั ชอ่ื วา กาย เพราะอรรถวา เปน ท่ปี ระชมุ แหง อวัยวะนอ ยใหญท ั้งหลาย มีผมเปน ตนดว ย และช่อื วา กาย เพราะมวี เิ คราะหว าเปนอายะ คือ เปนแหลง เกิดแหงของนา เกลียดนาชังทัง้ หลายอยา งนีบ้ าง. ในคาํ วากาย น้ัน มอี รรถพจนด ังตอ ไปน้ี อาการชือ่ วา อาโย เพราะเปน ทมี่ า.ถามวา อะไรมา. ตอบวา สิง่ ที่นา เกลียดมีผมเปนตนมา. ดงั น้นั อาการชอ่ื วากาย เพราะเปนที่มาแหง ของนา เกลยี ดท้ังหลาย ดงั นบ้ี าง. แตโดยใจความแลวไดแ ก กองแหง ธรรมท้งั หลาย คือภตู รูป และอุปาทายรปู ทีเ่ ปนไปอยู ดวยอาํ นาจแหงสนั ตติ ๔ อยา ง. มีพทุ ธาธิบายดงั นว้ี า ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย รูปกายทสี่ าํ เร็จดว ยมหาภตู ทัง้ ๔ น้ี มีการแตกดับ มีการแตกสลายไปเปนสภาพ มีการกระจัด กระจายไปทุกขณะเปน สภาพ. ปาฐะวา ภทิ ุราย ดงั นกี้ ม็ .ีเน้อื ความก็อยา งนัน้ นน่ั แหละ. บทวา วิ ฺาณ ไดแ ก กศุ ลจติ เปน ตน ที่เปน ไปในภูมิ ๓. สวนอรรถพจนม ดี งั ตอ ไปน้ี จติ ช่อื วา วิญญาณ เพราะรูชดั
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย อติ วิ ตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ท่ี 476ซง่ึ อารมณน ้นั ๆ เพราะวาการแยกความรสู ึกออกจากความจาํ ได คือการรชู ดัอารมณ ไดแกญาณ (อุปลทั ธ)ิ ชื่อวา วิญญาณ. บทวา วริ าคธมมฺ คอืมกี ารเสอื่ มคลายเปน ธรรมดา อธบิ ายวา มีการแตกดบั ไปเปน ธรรมดา. บทวาสพเฺ พ อปุ ธีติ ความวา อปุ ธเิ หลา น้คี ือ อปุ ธิคือขนั ธ อปุ ธิคอื กเิ ลสอปุ ธคิ ืออภิสงั ขาร (กรรม) อุปธิคอื เบญจกามคุณ ทหี่ มายรกู ันวา อปุ ธิเพราะอรรถวา เปน ที่เขาไปทรงทกุ ขไ ว แมท งั้ หมดไดแ กอุปาทานขันธ กิเลสเปนอภสิ ังขารเปนเบญจกามคณุ ชอ่ื วา ไมเทีย่ ง เพราะอรรถวามีแลว กลับไมม ี.ช่ือวาเปน ทกุ ข เพราะอรรถวาเกดิ ขึน้ และเส่ือมไป และบีบคน้ั ชอื่ วามคี วามแปรปรวนไปเปน ธรรมดา เพราะอรรถวา ละปกติเหตเุ ปนสภาวะทต่ี องเปลย่ี น-แปลงไปดว ยเหตุ ๒ ประการ คือ ชรากบั มรณะ. ดวยประการดงั ท่ีพรรณนามาน้ี พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสถงึ วาระแหงการพิจารณา (สัมมสั สนญาณ) ตามอธั ยาศัย แหงบุคคลผรู อู ยา งนัน้ โดยมขุคือ อนจิ จานปุ ส สนา และทกุ ขาวิปส สนา ทรงแยกรปู ธรรมและวิญญาณออกจากกนั แลวทรงรวมธรรมอนั เปนไปในภูมิ ๓ แมท ั้งหมดเขา เปน อันเดยี วกนัโดยทรงจาํ แนกออกเปน อปุ ธอิ กี เพราะบรรดาลักษณะทั้ง ๓ นี้ อนิจจลักษณะเห็นไดงาย. ก็ในบรรดาลกั ษณะทัง้ ๓ น้ี ลกั ษณะ ๒ อยางเทา นน้ั มมี าในพระบาลี กจ็ รงิ ถึงกระนน้ั โดยพระบาลวี า สง่ิ ใดเปนทกุ ข ส่ิงน้นั เปนอนตั ตาพงึ เขา ใจวา แมอ นตั ตลักษณะ พระองคกท็ รงแสดงไวแลว เหมือนกันดวยทกุ ขลักษณะนัน่ เอง. พงึ ทราบวนิ ิจฉยั ในพระคาถาดังตอไปนี้ บทวา อุปธสี ุ ภย ทิสวฺ าความวา เห็นภยั ในอปุ ธิทั้ง ๓ ดวยสามารถแหง ภยตปู ฏฐานญาณ คือเหน็ ความทอี่ ุปธเิ หลา นัน้ เปนของนากลวั . พระผมู พี ระภาคเจาทรงแสดงวิปส สนาท่ีมี
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อิติวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ท่ี 477กําลังไว ดว ยบทวา อุปธสี ุ ภย ทิสฺวา น.ี้ เพราะพระผูม พี ระภาคเจาทรงจําแนกภยตปู ฏฐานญาณนนั่ แหละออกไปแลว ตรสั วปิ สสนาท่มี ีกําลัง เปนอาทนี วานปุ สสนา ๑ นพิ พทิ านุปส สนา ๑ โดยเปน ญาณทแี่ ปลกกนั . บทวาชาตมิ รณมจจฺ คา ความวา ภกิ ษพุ ิจารณาอยางนอ้ี ยู จะสบื ตอวิปส สนาญาณดวยมรรค แลว จะบรรลุอรหัตผล ตอจากมรรคนนั้ ไป ยอ มชอื่ วา เปนผูลวงพนชาติ และมรณะไดล ว งพน ไดอยา งไร ? บทวา สมปฺ ตวฺ า ปรม สนฺตึความวา เพราะบรรลุสันติธรรม อันยอดย่งิ คอื สูงสุด ไดแกไ มม ีธรรมอ่ืนยง่ิ กวา คอื พระนพิ พานอันเปนทีร่ ะงบั สังขารทง้ั มวล และภิกษนุ ้ันเปน อยา งนี้.บทวา กาล กงฺขติ ภาวติ ตฺโต ความวา ภิกษุช่อื วา มตี นอบรมแลวเพราะความเปน ผูมีกายอนั อบรมแลว ดว ยศลี สมาธิ และปญญา เหตทุ ีส่ ําเร็จการบรรลุภาวนา ดวยสามารถแหงอริยมรรค ๔ ไมอาลัยถึงความตาย และความเปน อยู ยอ มจาํ นงหวัง คือเล็งเห็นกาลกริ ยิ า ดวยขนั ธปรนิ พิ พานของตนถา ยเดียว. เธอไมมคี วามปรารถนาในอะไร ๆ ดงั น้ี ดว ยเหตนุ ้นั พระผมู -ีพระภาคเจาจงึ ตรัสวา เราตถาคตไมคาํ นงึ ถงึ ความตาย ไม คาํ นึงถงึ ชวี ิต มุง แตก าลกริ ิยา (ขนั ธ- ปรนิ พพาน) อยางเดยี ว เหมือนลูกจา ง มุงแตคา จา งเทา นัน้ ดงั นี้. จบอรรถกถาภินทนสตู รท่ี ๘
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย อติ วิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาท่ี 478 ๙. ธาตสุ ตู ร วา ดว ยสัตวทั้งหลายเสมอกันโดยชาติ [๒๕๖] จริงอยู พระสตู รนพ้ี ระผูม พี ระภาคเจาตรสั แลว พระสตู รน้ีพระผมู ีพระภาคเจาผเู ปน พระอรหนั ตต รัสแลว เพราะเหตนุ น้ั ขา พเจา ไดสดับมาแลว วา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย สัตวทง้ั หลายยอ มเทยี บเคยี งกัน เสมอกันกับสัตวท ้งั หลายโดยธาตแุ ล คือ สัตวผูม อี ัธยาศัยเลว ยอมเทยี บเคยี งกันเสมอกนั กับสัตวผูมีอธั ยาศยั เลว สตั วผ มู ีอธั ยาศยั ดี ยอมเทียบเคียงกันกบั สัตวผมู อี ัธยาศยั ดี ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย แมใ นอดีตกาล...แมในอนาคตกาล...แมในปจจุบนั กาล สตั วท ั้งหลายยอ มเทยี บเคียงกัน เสมอกันกับสตั วทงั้ หลายโดยธาตแุ ล คือ สตั วผมู ีอธั ยาศัยเลว ยอมเทียบเคียงกัน เสมอกันกับสตั วผ ูมอี ธั ยาศยั เลว สัตวผมู ีอธั ยาศยั ดี ยอมเทียบเคยี งกัน เสมอกันกบั สัตวผูมีอธั ยาศยั ด.ี พระผมู ีพระภาคเจา ไดต รสั เน้อื ความน้ีแลว ในพระสูตรน้นั พระ-ผมู พี ระภาคเจา ตรัสคาถาประพนั ธด งั นวี้ า กิเลสเกิดเพราะความเก่ยี วขอ ง บุคคลยอมตัดเสียไดเ พราะความไมเ กีย่ ว- ขอ ง แมบ คุ คลผูมีความเปน อยดู ี แตอ าศัย บุคคลผูเกียจครา นยอ มจมลงในสมุทร คือ สงสาร เปรียบเหมอื นบุคคลขึ้นสูแพไม นอย ๆ พึงจมลงในมหรรณพ ฉะน้ัน เพราะเหตนุ นั้ บุคคลพึงเวน บุคคลผู
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย อติ วิ ุตตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ที่ 479 เกยี จครา นมคี วามเพยี รอันเลวนั้นเสีย พึง อยรู วมกับพระอริยเจา ทง้ั หลาย ผูสงดั แลว ผมู ใี จเด็ดเดยี่ ว ผูมีปกตเิ พง ผูปรารภ ความเพยี รเปน นิตย ผเู ปน บัณฑิต. เน้ือความแมนพ้ี ระผมู ีพระภาคเจา ตรัสแลว เพราะเหตุน้ัน ขา พเจาไดส ดับมาแลว ฉะน้ีแล. จบธาตุสตู รท่ี ๙ อรรถกถาธาตสุ ตู ร ในธาตุสตู รท่ี ๙ พงึ ทราบวินิจฉยั ดงั ตอไปนี้ :- บทวา ธาตุโส ความวา โดยธาต.ุ ธาตคุ ืออธั ยาศัย คอื สภาพของอัธยาศยั ท่ีตรสั เรียกวา อธมิ ุตตบิ า ง พระองคทรงประสงคเอาวา ธาตุ (ในพระสตู รนี)้ . บทวา ส สนฺทติ ความวา เขากนั ได คือรวมกนั ได ตามธาตุคอื ตามอัธยาศยั เพราะมีธาตมุ ีสว นเสมอกันนั้น. บทวา สเนนตฺ ิ ความวาเปน ผูม ีความคดิ รว มกัน สมาคมกนั ได คอื คบหากันได ไดแ กเขาไปหากันไดเพราะความเปนผูม ีอธั ยาศยั เสมอกันน่นั เอง อกี อยางหนึ่ง ปรบั ความชอบใจ(รสนิยม) ความอดทน และความเห็นใหเ สมอกนั ในเรื่องนั้น ๆ. บทวาหีนาธิมุตตฺ กิ า ความวา ช่ือวามีอธิมตุ ติทราม เพราะมีความโนมเอยี งในธรรมทีต่ ่าํ ทราม มีกามคณุ เปน ตน คอื มีอัธยาศัยต่าํ . บทวา กลยฺ าณาธ-ิมุตตฺ ิกา ความวา ช่อื วา มีอธมิ ุตตดิ ี เพราะมคี วามโนม เอียงในธรรมอนั งามมีเนกขัมมะเปน ตน คือ มีอัธยาศยั ประณีต. อธบิ ายวา ถา อาจารยแ ละอปุ ชฌาย
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย อิติวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนา ที่ 480เปนคนไมม ศี ีล แตอ นั เตวาสิกและสทั ธิวหิ ารกิ เปน ผูม ีศีล อันเตวาสกิ และสัทธิวิหารกิ เหลา นน้ั ยอ มไมเ ขาไปหาอาจารยแ ละอปุ ช ฌาย จะเขาหาเฉพาะแกภกิ ษผุ มู ี (สมณ) สารปู เชนตน. กถ็ า อาจารยและอุปชฌายเปนผูมีศลีอนั เตวาสิกและสทั ธิวหิ ารกิ นอกนเ้ี ปน ผูไมมศี ลี แมอนั เตวาสกิ และสัทธิวหิ ารกิเหลานัน้ จะไมเขาไปหาอาจารยและอปุ ช ฌาย จะเขา ไปหาเฉพาะผูมีอธั ยาศัยตาํ่เชนเดียวกบั ตนเทา นนั้ . พระผมู พี ระภาคเจา เมือ่ จะทรงแสดงวา การเขา ไปหาอยา งน้ี จะมีเฉพาะในปจ จบุ ันอยางเดียวกห็ ามิได โดยทแ่ี ทแ ลว แมในอดตี และอนาคตก็มีดงั น้ี จงึ ตรัสวา อตตี มฺป ภิกขฺ เว ดงั นเ้ี ปนตน. โดยสงั เขปแลว ผตู ัง้ ม่นัในสังกเิ ลสธรรม ช่อื วาเปนผมู อี ัธยาศัยชัว่ ผตู ั้งมัน่ ในโวทานธรรม ชอ่ื วามีอธั ยาศยั งาม. ถามวา กก็ ารที่คนทุศีลคบคนทุศีลเทา น้นั การท่คี นมีศีลคบคนมศี ีลเทา นนั้ การทค่ี นมีปญญาทราม คบคนทมี่ ีปญ ญาทรามเทา นั้นการท่ีคนมปี ญญา คบคนท่ีมปี ญญาเทา นั้น นี้ใครกาํ หนด. ตอบวา ธาตุคอื อัธยาศยั กาํ หนด. เลากันวา ภกิ ษหุ ลายรปู เทย่ี วภกิ ษาจารในบานหมูหนึง่ . คนเหลา น้ันนําภัตรเปนอนั มากมาใสจ นเต็มบาตร กลา ววา ขอพระคุณเจา ทง้ั หลายฉนัตามสว น (ที่ตองการ) แลว สงไป. ภิกษุท้ังหลายพดู กนั วา อาวุโสทง้ั หลายคนทั้งหลายประกอบการงานที่เหมาะสมกบั ธาตุ (อธั ยาศัย) ดงั น้.ี ธาตคุ ืออัธยาศยั ยอ มกาํ หนด (งานทีท่ ํา) อยา งน้ี. บณั ฑิตพงึ แสดงความโดยธาตุ-สงั ยุต ดงั ตอ ไปน้ี กพ็ ระผูมพี ระภาคเจาบันทมบนพระแทนประชวร บนภูเขาคิชฌกูฏ ทอดพระเนตรดู พระโมคคัลลานะและพระสารบี ตุ ร ที่เฝา ถวายอารกั ขา แตล ะรปู จงกรมอยกู ับบริษทั ของตน จึงตรัสเรยี กภกิ ษุทัง้ หลายมาวาดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย พวกเธอเหน็ หรือไม พระสารบี ุตรจงกรมอยูก บั ภกิ ษ-ุ
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย อติ ิวตุ ตก เลม ๑ ภาค ๔ - หนาที่ 481ทั้งหลายจาํ นวนมาก ภิกษเุ หลา น้ันกราบทลู วา เห็นพระเจา ขา . ตรสั วา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ภิกษเุ หลาน้ที งั้ หมดแล ลว นมปี ญ ญามาก ดังน้ี ควรนําเรื่องทัง้ หมดมาแสดงโดยพสิ ดาร. พึงทราบวินจิ ฉยั ในคาถาท้งั หลายตอไปน้ี บทวา ส สคฺคา ความวาเพราะสังกเิ ลส คอื เพราะประกอบรว มกัน ดว ยสามารถแหงการอยรู วมกนัเปน ตน . อีกอยา งหนง่ึ เพราะคลุกคลกี ันในการคลกุ คลี ๕ อยาง อยางใดอยา งหน่ึงอยา งน้ี คือ ทสั สนสงั สคั คะ (คลกุ คลดี วยการเหน็ ) สวนสัง-สัคคะ (คลุกคลีดวยการฟง) สมุลลาปนสงั สัคคะ (คลกุ คลีดวยการเจรจา)สมั โภคสังสคั คะ (คลุกคลดี วยการใชรวม) กายสงั สัคคะ (คลกุ คลดี วยกาย).บทวา วนโถ ชาโต ความวา กิเลสเกิดข้ึน เพราะยังไมไ ดถ อนขึน้ ดวยมรรค.บทวา อส สคเฺ คน ฉชิ ฺชติ ความวา กิเลสขาดไปในตอนตน โดยการงดการคลกุ คลีกนั มกี ายวเิ วกเปน ตน แลวขาดไปคอื ละไดอีก ดว ยการไมเกย่ี วของโดยสว นเดียว คือดว ยสมจุ เฉทวิเวก. โดยสังเขป การเกิดขึ้นและการดบั ไปแหง อธั ยาศัยท่ีตา่ํ เปนอันพระองคท รงแสดงแลว โดยสังเขป ดว ยคาํ เพียงเทา นี้ .ก็เพราะเหตุท่ีภกิ ษุเหลา น้นั เปนผูคลุกคลีกัน และกเิ ลสเหลา นน้ั ก็เกิดขน้ึและเจรญิ ข้นึ ดว ยอาํ นาจแหงความเกยี จครา น มใิ ชด ว ยอาํ นาจแหงการปรารภความเพียร ฉะน้นั ภิกษุเวน บุคคลผมู อี ธั ยาศัยตาํ่ ผเู กยี จครานแลวคบหาผูม ีอธั ยาศยั งาม ผูป ระกอบความเพยี ร พงึ ตัดกเิ ลสอันเกดิ จากการคลุกคลกี ันไดดว ยการไมคลุกคลีกัน ดงั นี้. พระผูมพี ระภาคเจา เม่ือทรงแสดงเนื้อความ ตามทีก่ ลาวแลว โดยพิสดารจงึ ไดตรสั คาํ มอี าทิวา ปรติ ฺต ทารุ เพือ่ ประกาศโทษแหง การคบหาผเู กยี จครานกอ น.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 742
Pages: