พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 151 พ. ดูกอนมาลกุ ยบุตร เรอจะสําคัญความขอ นั้นเปน ไฉน รปู ท่ีพึงรแู จงดว ยจกั ษเุ หลาใด เธอไมเห็นแลว ทั้งไมเ คยเหน็ แลว ยอ มไมเ ห็นในบดั น้ดี วยความกําหนดวา เราเห็น มิไดมีแกเธอดว ย เธอมคี วามพอใจมีความกาํ หนดั หรือมคี วามรักในรูปเหลาน้นั หรือ. มา. ไมมีเลย พระเจาขา . พ. เสยี งท่พี งึ รูแ จงดวยหเู หลา ใด เธอไมไดฟงแลว ทงั้ ไมเคยไดฟ ง แลว ยอ มไมไ ดฟงในบัดน้ีดว ย ความกาํ หนดวา เราไดฟ ง มไิ ดมีแกเธอดวย เธอมีความพอใจ มคี วามกาํ หนดั หรอื มคี วามรักในเสียงเหลา นนั้ หรือ. มา. ไมมเี ลย พระเจา ขา. พ. กลน่ิ ทพ่ี งึ รูแจง ดวยจมกู เหลา ใด เธอไมไดด มแลว ท้ังไมเคยไดด มแลว ยอ มไมไ ดด มในบดั น้ีดวย ความกําหนดวา เราไดดม มิไดมีแกเธอดว ย เธอมคี วามพอใจ มีความกาํ หนดั หรอื มคี วามรักในกลน่ิเหลา นัน้ หรือ. มา. ไมมีเลย พระเจาขา. พ. รสทพ่ี งึ รแู จงดวยลน้ิ เหลา ใด เธอไมไ ดลิ้มแลว ทั้งไมเคยไดลม้ิ แลว ยอมไมไ ดล มิ้ ในบัดนีด้ ว ย ความกําหนดวา เราไดลิ้ม มไิ ดม แี กเธอดว ย เธอมีความพอใจ มีความกําหนดั หรอื ความรักในรสเหลานัน้ หรอื . มา. ไมม ีเลย พระเจา ขา . พ. โผฏฐัพพะทพ่ี งึ รแู จงดว ยกายเหลา ใด เธอไมไ ดถ ูกตอ งแลวทงั้ ไมไ ดเ คยถกู ตองแลว ยอ มไมไดถ ูกตอ งในบดั นด้ี วย ความกาํ หนดวาเราถกู ตอง มิไดม แี กเ ธอดว ย เธอมีความพอใจ มคี วามกาํ หนดั หรือมีความรักในโผฏฐพั พะเหลาน้นั หรอื .
พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 152 มา. ไมมีเลย พระเจา ขา . พ. ธรรมารมณท พี่ งึ รูแ จง ดว ยใจเหลาใด เธอไมไ ดรูแลว ท้งัไมไ ดเคยรูแลว ยอมไมรูในบดั นดี้ วย ความกําหนดวา เรารู มิไดมแี กเธอดวย เธอมคี วามพอใจ มีความกาํ หนัด หรือความรักในธรรมารมณเหลานั้นหรอื . มา. ไมม ีเลย พระเจา ขา . [๑๓๓] พ. ดูกอ นมาลุกยบุตร ก็ในธรรมเหลานัน้ คอื รูปท่ีไดเ ห็น เสยี งทไ่ี ดฟ ง อารมณท ไ่ี ดทราบ และธรรมท่ีจะพึงรแู จง ในรูปท่ีไดเห็นแลว เธอจกั เปนเพียงแตวา เห็น ในเสียงทไี่ ดฟ งแลว เธอจักเปนเพียงแตวาไดฟ ง ในอารมณท่ไี ดท ราบแลว เธอจกั เปน เพียงแตไดทราบในธรรมทไ่ี ดรูแจง เธอจกั เปน เพียงแตไดรแู จง ดกู อ นมาลุกยบตุ ร ในธรรมทัง้ หลาย คอื รปู ทไี่ ดเ ห็น เสียงทไ่ี ดฟ ง อารมณทีไ่ ดท ราบ และธรรมท่ีจะพึงรแู จง ในรูปท่ไี ดเห็นแลว เธอจกั เปน เพยี งแตวา เหน็ ในเสยี งที่ไดฟงแลว เธอจักเปน เพียงแตวา ไดฟ ง ในอารมณที่ไดทราบแลวเธอจกั เปนเพยี งแตไดท ราบ ในธรรมทไี่ ดร แู จง เธอจกั เปนเพยี งแตไ ดรูแจงแลว ในกาลใด ในกาลน้ัน เธอจกั เปนผูไมถ กู ราคะยอม ไมถูกโทสะประทุษราย ไมห ลงเพราะโมหะ เธอจักเปนผไู มถูกราคะยอม ไมถกู โทสะประทษุ ราย ไมหลงเพราะโมหะ ในกาลใด ในกาลน้นั เธอจกั ไมพวั พนัในรปู ทีไ่ ดเห็น ในเสยี งท่ีไดฟ ง ในอารมณท่ีไดทราบ หรอื จกั ไมพ ัวพันท่ีไดรแู จง ดกู อ นมาลุกยบตุ ร ในโลกน้กี ไ็ มม ี ในโลกอ่ืนกไ็ มม ี ในระหวา งโลกทัง้ สองกไ็ มมี นี้แลเปน ทสี่ ุดแหง ทกุ ข.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 153 มา. พระเจาขา ขา พระองคย อ มรทู ั่วถึงเนือ้ ความแหงธรรมท่พี ระผูมีพระภาคเจาตรัสแลวโดยยอนี้ไดโดยพิสดารวา [๑๓๔] ลืมสติไปแลว เพราะเหน็ รูป บุคคลเมอ่ื ใสใ จ ถงึ รูปเปน นมิ ติ ทีร่ กั กม็ จี ิตกาํ หนัด เสวยอารมณน น้ั ทงั้ มคี วามตดิ ใจในอารมณน้ันตง้ั อยู มเี วทนาอัน มรี ปู เปนแดนเกดิ เปน อเนกทวีข้นึ และมจี ติ อนั อภชิ ฌาและวหิ งิ สาเขาไปกระทบ เมื่อส่งั สมทกุ ข อยูอ ยางนี้ บัณฑิตกลาววา หางไกลนิพพาน ลมื สติไปแลว เพราะไดฟง เสียง บุคคลเมือ่ ใสใ จ ถงึ เสยี งเปน นมิ ติ ท่ีรัก ก็มีจิตกาํ หนัดเสวยอารมณ นั้น ท้ังมคี วามติดใจในอารมณน นั้ ตั้งอยู มเี วทนา อนั มเี สยี งเปน แดนเกดิ เปน อเนกทวีขน้ึ และมจี ติ อนั อภิชฌาและวิหิงสาเขาไปกระทบ เมื่อส่ังสม ทุกขอยูอยา งนี้ บณั ฑติ กลาววา หา งไกลนิพพาน ลมื สติไปแลวเพราะไดด มกลน่ิ บุคคลเม่ือใสใจ ถงึ กลน่ิ เปน นิมิตทร่ี ัก กม็ ีจติ กาํ หนดั เสวยอารมณ น้นั ทง้ั มีความตดิ ใจในอารมณน ัน้ ต้ังอยู มเี วทนา อันมกี ลน่ิ เปน แดนเกิดเปน อเนกทวขี ้นึ และมีจติ อันอภชิ ฌาและวิหิงสาเขาไปกระทบ เมอ่ื สัง่ สม ทุกขอยอู ยา งน้ี บณั ฑติ กลาววา หางไกลนิพพาน ลมื สตไิ ปแลว เพราะลิม้ รส บุคคลเมื่อใสใจถงึ รส
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 154เปนนิมิตที่รัก ก็มจี ติ กําหนดั เสวยอารมณน้ัน ท้งั มีความตดิ ใจในอารมณน้ันตัง้ อยู มีเวทนาอันมีรสเปนแดนเกิดเปน อเนกทวีขน้ึ และมีจติ อันอภิชฌาและวิหิงสาเขาไปกระทบ เม่อื สงั่ สมทุกขอ ยอู ยา งน้ีบณั ฑิตกลาววา หางไกลนิพพาน ลมื สติไปแลวเพราะถูกตองโผฏฐัพพะ บคุ คลเม่ือใสใจถงึ โผฏ-ฐพั พะเปน นิมติ ทร่ี ัก กม็ จี ติ กําหนดั เสวยอารมณนัน้ท้ังมคี วามติดใจในอารมณน ัน้ ตัง้ อยู มีเวทนาอันมีโผฏฐัพพะเปน แดนเกดิ เปนอเนกทวขี ้ึน และมีจิตอันอภิชฌาและวิหงิ สาเขา ไปกระทบ เมอ่ื สั่งสมทุกขอยอู ยางน้ี บัณฑิตกลา ววา หา งไกลนิพพานลือสติไปแลว เพราะรูธรรมารมณ บคุ คลเมอื่ใสใจถงึ ธรรมารมณเปน นมิ ิตทร่ี กั กม็ ีจิตกําหนัดเสวยอารมณนน้ั ท้ังมคี วามตดิ ใจในอารมณนนั้ตัง้ อยู มีเวทนาอนั มธี รรมารมณเ ปน แดนเกดิ เปนอเนกทวีขนึ้ และมีจติ อนั อภชิ ฌาและวิหงิ สาเขา ไปกระทบ เมอ่ื สัง่ สมทกุ ขอ ยูอยา งน้ี บณั ฑติ กลา ววาหางไกลนพิ พาน. [๑๓๕] บคุ คลน้นั เห็นรูปแลว มสี ตไิ มก ําหนัดในรูปทัง้ หลาย มจี ติ คลายกําหนดั เสวยอารมณน ัน้ ท้ังไมมคี วามตดิ ใจอารมณน ้ันต้ังอยู บุคคลน้นั เมื่อเห็น
พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 155รูปและเสวยเวทนาอยู ทุกขส้ินไปและไมสงั่ สมทกุ ข โดยประการใด บุคคลนัน้ เปนผมู สี ตเิ ทีย่ วไปโดยประการนั้น เมื่อไมส ั่งสมทุกขอ ยอู ยา งน้ี บัณ-ฑิตกลา ววา ใกลน ิพพาน. บคุ คลนัน้ ไดฟง เสยี งแลว มสี ตไิ มก าํ หนดั ในเสียงทัง้ หลาย มจี ติ คลายกาํ หนัดเสวยอารมณนนั้ ท้งั ไมมคี วามติดในอารมณน้นั ตงั้ อยู บุคคลนน้ั เม่อื ไดฟ งเสยี งและเสวยเวทนาอยู ทกุ ขสิ้นไปและไมส ั่งสมทุกข โดยประการใดบุคคลนัน้ เปน ผมู ีสตเิ ท่ียวไป โดยประการนนั้เมื่อไมส ั่งสมทกุ ขอ ยอู ยางน้ี บัณฑติ กลา ววา ใกลนพิ พาน. บุคคลนน้ั เมือ่ ดมกลน่ิ แลว มีสตไิ มกําหนดั ในกล่ินท้ังหลาย มีจติ คลายกาํ หนดั เสวยอารมณน้นั ทั้งไมมีความตดิ ใจอารมณน ้นั ต้ังอยูบุคคลนัน้ เม่ือดมกล่ินและเสวยเวทนาอยู ทกุ ขส้นิไปและไมส่งั สมทกุ ข โดยประการใด บคุ คลนั้นเปน ผูมสี ตเิ ทยี่ วไป โดยประการนั้น เมื่อไมส่งั สมทุกขอ ยอู ยางนี้ บณั ฑิตกลา ววา ใกลนพิ พานบคุ คลนนั้ ลม้ิ รสแลว มีสตไิ มกาํ หนัดในรสท้ังหลาย มีจติ คลายกําหนัดเสวยอารมณนัน้ ทัง้ไมม คี วามตดิ ใจอารมณนน้ั ตง้ั อยู บุคคลนน้ั เม่ือล้มิ รสและเสวยเวทนาอยู ทกุ ขส้ินไปและไมสั่งสม
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 156 ทุกข โดยประการใด บุคคลน้นั เปน ผมู ีสติเทย่ี วไป โดยประการน้นั เม่อื ไมส ่งั สมอยูอ ยา งน้ี บัณฑิต กลาววา ใกลนิพพาน. บคุ คลน้นั ถูกตองผัสสะ แลว มจี ิตไมก ําหนดั ในผัสสะทั้งหลาย มจี ติ คลายกําหนัดเสวยอารมณนั้น ท้ังไมม ีความตดิ ใจ อารมณน น้ั ต้ังอยู บคุ คลนน้ั เมือ่ ถกู ตอ งผสั สะและ เสวยเวทนาอยู ทกุ ขส ิน้ ไปและไมสงั่ สมทกุ ข โดย ประการใด บคุ คลนั้นเปนผูมสี ติเท่ยี วไป โดย ประการน้ัน เมอื่ ไมส ั่งสมทกุ ขอ ยูอยา งนี้ บัณฑติ กลาววา ใกลนพิ พาน. บคุ คลนน้ั รธู รรมารมณแลว มีสตไิ มก ําหนดั ในธรรมารมณท ัง้ หลาย มจี ิตคลาย กาํ หนดั เสวยอารมณนั้น ทัง้ ไมมคี วามติดใจ อารมณน ั้นตั้งอยู บุคคลนน้ั เมื่อรธู รรมารมณและ เสวยเวทนาอยู ทกุ ขส้นิ ไปและไมส่งั สมทุกข โดยประการใด บคุ คลนนั้ เปนผูมสี ตเิ ทย่ี วไป โดย ประการนั้น เมอ่ื ไมส ง่ั สมทกุ ขอยอู ยา งน้ี บัณฑิต กลาววาใกลน พิ พาน. ขา แตพระองคผเู จรญิ ขาพระองครทู ว่ั ถงึ เน้ือความแหงธรรมที่พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสโดยยอ นีไ้ ดโ ดยพสิ ดาร ดว ยประการนี.้ [๑๓๖] พ. ดูกอนมาลุกยบุตร สาธุ ๆ เธอรูท วั่ ถงึ เนอ้ื ความแหงธรรมท่ีเรากลา วโดยยอไดโ ดยพิสดารดอี ยแู ล วา
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 157 [๑๓๗] ลมื สติไปเพราะเปนรูป บุคคลเม่ือใสใ จถงึ รปู เปน นิมิตที่รัก กม็ ีจิตกําหนัดเสวยอารมณน้นั ทั้ง มคี วามตดิ ใจอารมณน้ันตัง้ อยู มีเวทนาอนั มรี ูปเปน แดนเกดิ เปน อเนกทวขี ึ้น และมีจติ อันอภิชฌาและ วหิ งิ สาเขา ไปกระทบ เม่ือบคุ คลสงั่ สมทุกขอยู อยางน้ี เรากลา ววา ไกลนิพพาน ฯลฯ [๑๓๘] บคุ คลน้ันรูธรรมารมณแลว มสี ตไิ มกาํ หนัด ในธรรมารมณ มีจิตคลายกําหนดั เสวยอารมณนั้น ทั้งไมม ีความตดิ ใจอารมณน นั้ ต้ังอยู บุคคลนน้ั เมอื่ รูธรรมารมณแ ละเสวยเวทนาอยู ทุกขส ิ้นไปและ ไมส งั่ สมทกุ ข โดยประการใด บคุ คลนน้ั เปนผูมีสติ เที่ยวไปโดยประการนน้ั เม่ือไมส ง่ั สมทกุ ขอยอู ยาง นี้ ฯลฯ เรากลา ววา ใกลน พิ พาน. ดูกอ นมาลุกยบุตร เธอพึงเหน็ เนอื้ ความแหงธรรมท่กี ลาวแลว โดยยอนีโ้ ดยพสิ ดารอยา งน้แี ล. [๑๓๙ ] ครงั้ นั้นแล ทานพระมาลกุ ยบตุ รชน่ื ชมยนิ ดีพระภาษติของพระผมู พี ระภาคเจา ลกุ จากอาสนะ ถวายอภวิ าท กระทาํ ประทักษิณแลว หลีกไป ครง้ั น้นั แล ทา นพระมาลุกยบตุ รเปนผูๆ เดยี ว หลีกออกจากหมู ไมประมาท มคี วามเพยี ร มีจิตเด็ดเดี่ยว ไมชาก็กระทาํ ใหแ จงซึ่งท สดุ แหง พรหมจรรยอนั ยอดเยีย่ มที่กลุ บตุ รท้ังหลายออกบวชเปน บรรพชิต
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ที่ 158โดยชอบตอ งการ ดวยปญญาอนั ยง่ิ เอง ในปจจบุ นั เขาถึงอยู รูช ดั วาชาตสิ ิ้นแลว พรหมจรรยอยูจบแลว กจิ ท่คี วรทําทาํ เสรจ็ แลว กจิ อนื่ เพ่ือความเปนอยา งน้มี ิไดม ี ก็แลทา นพระมาลุกยบุตร ไดเปน อรหันตองคหนงึ่ในจาํ นวนพระอรหนั ตทัง้ หลาย. จบ ทตุ ิยสังคยั หสตู รที่ ๒ อรรถกถาทุตยิ สังคยั หสตู รที่ ๒ ในทุตยิ สังคัยหสูตรที่ ๒ มวี ินจิ ฉัยดังตอ ไปนี้. บทวา มาลุกยฺ ปุตฺโต ไดแก บุตร ของนางมาลุกยพราหมณี.บทวา เอตถฺ ไดแ ก ในการขอโอวาทนั้นกอ น. ทรงตเิ ตยี นบา ง ทรงปลอบบา งซ่ึงพระเถระดวยเหตุน้.ี อยา งไร. คอื ไดย ินวา พระเถระน้นัในเวลาเปนหนมุ มัวเมาในรปู ารมณเปน ตน ภายหลงั ในเวลาแก ปรารถนาอยูป า จงึ ขอกรรมฐาน. ลาํ ดับนนั้ พระผมู ีพระภาคเจา เมอื่ ตรัสโดยพระ-ประสงคด ังนวี้ า เราจักกลาวกะภกิ ษหุ นมุ ๆ ในท่ีนี้ พวกเธอประมาทในเวลาทเ่ี ขาหนมุ ในเวลาแกพงึ เขา ปากระทําสมณธรรมเหมือน พระมาลุกยบตุ รชื่อวา ทรงตเิ ตยี นพระเถระ. กเ็ พราะเหตทุ พ่ี ระเถระ ประสงคจะเขาปา ทําสมณธรรม แมในเวลาท่ีตนแก ฉะนน้ั พระผูมพี ระภาคเจา เมือ่ ตรสั โดยพระประสงคด ังน้ีวาเราจักกลาวกะภกิ ษุหนมุ ๆ ในท่นี ีอ้ ยางไร มาลกุ ยบตุ รของเรานี้ แมในเวลาแกก็ประสงคจ ะเขาปาทําสมณธรรม จึงขอกรรมฐาน ธรรมดาวาพวกทา นแมในเวลาเปนหนุม จะไมกระทาํ ความเพียรกนั หรอื ช่อื วาทรงปลอบพระเถระ.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 159 บทวา ยตรฺ หิ นาม ไดแก โย นาม. บทวา กิ ฺจาปห ความวา พระเถระเมือ่ จะหมุน ความเปนคนแก และสรรเสรญิ พระโอวาทดวยมีประสงคว า ทรงรวู าเราเปนคนแกก จ็ รงิ ถาเราเปน คนแก ยงั จกัสามารถกระทาํ สมณธรรมได ขาแตพ ระองคผเู จริญ ขอพระผมู ีพระภาคเจาโปรดทรงแสดงธรรมแกขา พระองคเ ถิด จงึ ไดก ลาวอยา งนนั้ . บทวา อทฏิ า อทิฏปุพพฺ า ความวา ไมเ หน็ ในอัตภาพน้ีแมในอตั ภาพอันเปน อดตี ก็ไมเ คยเห็น. บทวา น จ ปสสฺ ติ ความวาแมใ นบัดนี้ ทานกไ็ มเห็น. ดวยบทวา น จ เต โหนฺติ ปสเฺ สยยฺ ความวา ทรงถามวา แมก ารรวบรวมใจอยางนไ้ี มมแี กท า นในทใี่ ด ฉนั ทะเปน ตนพึงเกิดแกทา นในที่นัน้ บา งหรอื . บทวา ทฏิ เ ทิฏ มตฺต ความวา รปู ายตนะ ที่จักขวุ ิญญาณเหน็ แลว ก็จักเปน สกั วาเห็น. จริงอยูจกั ขวุ ญิ ญาณ ยอ มเหน็ สกั วา รูปในรูเทาน้นั ยอ มไมเหน็ สภาวะวาเท่ยี งเปน ตน. อธิบายวา รปู ายตนะนี้จกั เปนสกั วา อันเราเหน็ แลว แมด ว ยวญิ ญาณท่เี หลอื เทาน้ัน. อกี นยั หนงึ่จักขุวญิ ญาณ ช่อื วา เห็นแลวในรูปที่เห็นแลว. อธิบายวา ยอมรูแจงในรูปวา เปน รูป. บทวา มตฺตา แปลวา ประมาณ. ธรรมชาติ ชื่อวาทฏิ ฐมัตตะ เพราะสักวาเห็น ไดแ กจิต อธิบายวา จิตของเรา จักเปนเพียงจกั ขวุ ิญญาณนนั่ เอง. คํานี้ ทานอธบิ ายไววา จกั ขวุ ญิ ญาณ ยอ มไมก ําหนัดไมขัดเคอื ง ไมห ลงในรูปารมณท่มี าปรากฏ โดยประการใด ชวนจิตกจ็ ักเปน เพยี งจกั ขุวิญญาณเทา นัน้ ในเพราะเวนจากราคะเปนตน โดย
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 160ประการนั้น เราจักต้ังชวนจติ โดยสกั วาจกั ขุวิญญาณเทานน้ั . อกี อยางหน่งึ รปู ท่จี ักขุวิญญาณเห็นแลว ช่อื วา เหน็ แลว (ทิฏ ). เพราะเหน็ แลวชื่อวาสกั วา เหน็ . จิต ๓ ดวง คือ สมั ปฏิจฉนะ สันตีรณะ และโวฏฐัพพนะท่เี กิดข้ึนแลว ในเพราะการเหน็ แลว นนั่ แหละ กช็ ่ือวา ทเ่ี ห็นแลว สกั แตวาเหน็ . ในขอน้ีมีอธบิ ายดงั นี้วา จกั ขวุ ญิ ญาณยอมไมกาํ หนัด ไมขัดเคอื งไมห ลง ซึง่ รปู นนั้ ฉันใด เมอ่ื รปู มาสูคลอง ( จกั ขุทวาร ) กฉ็ ันนัน้ เราจักใหช วนจติ เกิดข้ึนโดยประมาณแหง สัมปฏิจฉนจิตเปน ตนนัน้ นั่นเองปรากฏ ไมใ หก า วลว งประมาณน้ันของสมั ปฏจิ ฉนจติ เปนตนน้นั ไป. เราจกั ไมใ หชวนะเกิดขน้ึ ดว ยอํานาจความกาํ หนดั เปน ตน . แมใ นคําวา ไดย นิแลว (สุต ) ทราบแลว (มตุ ) รสู กั วา รู (วิ ฺ าเณ วิฺ าณมตฺต )กน็ ยั เดยี วกันน้.ี อารมณท่ีมโนทวาราวัชชนะรูแลว ชอ่ื วา เปนอันรูแลว(วิฺาต ) ในคาํ วา วิ ฺ าเต วิ ฺญาตมตตฺ น้ี ชื่อวา อาวัชชนะประมาณเพราะรูแลวกส็ กั วา รแู ลว ในขอน้ีมอี ธิบายดงั นว้ี า เราจักไมใ หจิตเกิดขน้ึดว ยอํานาจความกําหนดั เปนตน แลวตั้งจิตไวโ ดยประมาณแหงอาวัชชนะจิตเทานน้ั โดยประการท่ชี วนะจกั ไมกาํ หนดั ไมขัดเคือง ไมหลง. บทวา ยโต แปลวาในกาลใด. บทวา ตโต แปลวาในกาลน้นั .บทวา น เตน ความวา จักเปนผไู มกาํ หนัดดว ยราคะไมขดั เคอื งดว ยโทสะไมหลงดวยโมหะนัน้ . บทวา ตโต ตฺว มาลุกยฺ ปตุ ตฺ น ตตถฺ ความวาในกาลใด ทานจกั เปน ผไู มชอื่ วากาํ หนดั ดวยราคะ ไมข ดั เคอื งดว ยโทสะไมห ลงดวยโมหะ ในกาลนั้น ทานจักเปน ผไู มช ่ือวา พัวพัน ติดอยู ต้ังอยูในรูปารมณ ท่ีจกั ขวุ ิญญาณเห็นแลว ในสัททารมณ ทโ่ี สตวญิ ญาณ
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 196เน้อื ความใหพ ิสดาร เสดจ็ ลุกจากพทุ ธอาสนเ ขา ไปสูพระวหิ ารเสยี เมอ่ืพระองคเสด็จลกุ ไปไมน าน พวกเราจงึ ใครครวญดวู า ใครหนอจะชวยจาํ แนกเนอ้ื ความแหงอเุ ทศพระผมู พี ระภาคเจา ทรงแสดงโดยยอ ไมทรงจําแนกเนือ้ ความใหพ สิ ดารนี้ โดยพสิ ดารได พวกเราจงึ คิดไดว า ทานพระอานนทน ้ี อันพระศาสดา และเพ่อื นสพรหมจารีผเู ปนปราชญยกยอ งสรรเสรญิ ทัง้ ทา นพระอานนทน ยี้ อ มสามารถจําแนกเนื้อความแหงอเุ ทศที่พระผมู ีพระภาคเจา ทรงแสดงโดยยอ ไมท รงจาํ แนกเนื้อความใหพ สิ ดารนี้โดยพสิ ดารได ถากระไร เราพากันเขา ไปหาทานพระอานนทถงึ ทีอ่ ยู แลวไตถามเนือ้ ความขอ นน้ั กะทา น ขอทา นพระอานนทไ ดโ ปรดจาํ แนกเนือ้ความเถิด. ทานพระอานนทก ลา ววา ดกู อนอาวโุ สท้ังหลาย เปรยี บเหมือนบรุ ุษผูตอ งการแกน ไม แสวงหาแกน ไม เท่ยี วหาแกนไมอ ยู กลับลว งเลยรากลว งเลยลาํ ตนแหง ตน ไมมีแกน ตนใหญ ซง่ึ ตัง้ อยเู ฉพาะหนาไปเสีย มาสําคัญแกนไม จะพึงแสวงหาไดท ีก่ ิ่งและใบ ฉนั ใด คาํ อุปไมยนีก้ ็ฉันนนั้ คือพวกทา นลวงเลยพระผมู พี ระภาคเจาผูป ระทบั อยูเ ฉพาะหนา ในฐานะเปนศาสดาของทานทัง้ หลายไปเสยี มาสําคัญเนือ้ ความที่จะไตถามน้ี แทจรงิพระผูมีพระภาคเจานนั้ เมอื่ ทรงทราบ ยอมทราบ เมือ่ ทรงเหน็ ยอ มเหน็พระองคเ ปน ผูมีพระจกั ษุ มพี ระญาณ มีธรรม เปนผปู ระเสริฐ เปน ผกู ลาวเปน ผปู ระกาศ เปนผูทาํ เน้อื ความใหตนื้ เปนผใู หอ มตธรรม เปนเจาของแหงธรรม เปนผถู ึงธรรมที่แท เวลานี้ เปน กาลสมควรทีจ่ ะทูลถามเน้อืความขอ นั้นกะพระผูม ีพระภาคเจา พระองคทรงแกปญหาแกทานทงั้ หลายอยา งใด ทานทง้ั หลายพึงทรงจาํ ความขอ นนั้ ไวอ ยา งนัน้ เถดิ .
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาท่ี 197 ภิ. ทา นอานนท ขอ ท่ีทานวานนั้ เปนการถกู ตอ งแลว พระผมู -ีพระภาคเจา เมื่อทรงทราบ ยอ มทราบ เม่ือทรงเหน็ ยอมเห็น พระองคเปน ผูม พี ระจกั ษุ มีพระญาณ มธี รรม เปน ผปู ระเสรฐิ เปนผูกลาวเปนผูป ระกาศ เปนผทู ําเน้อื ความใหต น้ื เปนผใู หอมตธรรม เปน เจา ของแหงธรรม เปน ผูถึงธรงมทแี่ ท เวลานเ้ี ปนกาลสมควรทจี่ ะทูลถามเนือ้ ความขอน้นั กะพระผมู พี ระภาคเจา พระองคทรงแกปญ หาแกพวกเราอยา งใดพวกเราควรทรงจาํ ความขอนัน้ ไวอ ยางนัน้ ก็แตวาทา นอานนทก็เปนผทู ่ีพระศาสดา และเพือ่ นสพรหมจารผี ูเ ปนปราชญยกยองสรรเสรญิ ท้ังทานก็สามารถจะจําแนกเนอ้ื ความแหงอเุ ทศที่พระผูมพี ระภาคเจาทรงแสดงไวโดยยอ ไมท รงจาํ แนกเนื้อความใหพิสดารน้ี โดยพสิ ดารได ขอทา นอยาไดหนักใจโปรดชวยจําแนกเนอื้ ความทีเถดิ . [๑๗๑] อา. อาวโุ สทัง้ หลาย ถาอยา งนัน้ ทานทัง้ หลาย จงคอยฟง จงใสใจใหดี ขาพเจา จกั กลา ว ภกิ ษเุ หลานั้นรบั คําทานพระอานนทแลว ทานพระอานนทจงึ กลาววา อาวโุ สทงั้ หลาย ขอที่พระผูมีพระภาคเจาทรงแสดงอเุ ทศโดยยอ ไมทรงจาํ แนกเนอื้ ความใหพสิ ดาร เสดจ็ ลกุ จากพุทธอาสนเขา ไปสพู ระวหิ ารเสียนน้ั ขา พเจาทราบแลว อาวุโสทงั้ หลายขาพเจา ยอมทราบเนอ้ื ความแหลอเุ ทศท่ีพระผูมีพระภาคเจา ทรงแสดงโดยยอไมทรงจาํ แนกเนือ้ ความใหพ ิสดารน้ี โดยพิสดารได อาวุโสท้ังหลาย บคุ คลยอมมคี วามสําคัญในโลกวาโลก ถือวา โลกดวยธรรมอันใด ธรรมน้ีเรยี กวาโลกในวินยั ของพระอริยะ อาวุโสทง้ั หลาย บคุ คลยอมมีความสําคญั ในโลกวา โลก ถือวาโลก ดวยธรรมอะไรเลา อาวุโสทง้ั หลาย บุคคลยอมมีความ
พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนา ท่ี 198สําคญั ในโลกวาโลก ถอื วา โลก ดว ยจกั ษ.ุ .. ดวยหู... ดวยจมูก...ดว ยล้นิ . . . ดวยกาย. . . . ดวยใจ อาวโุ สทั้งหลาย บคุ คลยอ มมีความสาํ คัญในโลกวาโลก ถอื วาโลก ดว ยธรรมอนั ใด ธรรมนเ้ี รียกวา โลกในวินยัของพระอรยิ ะ อาวโุ สทง้ั หลาย ขอทีพ่ ระผูม ผี ูร ะภาคเจาทรงแสดงอุเทศโดยยอ ไมท รงจาํ แนกเน้ือความใหพิสดารวา เรามไิ ดก ลาววา ที่สดุ ของโลกอันบคุ คลพงึ รู พึงเห็น พึงถึงดว ยการไป และเรายังไมถ งึ ท่ีสดุ แหง โลกแลวยอ มไมก ลา วการกระทาํ ท่ีสุดทกุ ข ดงั น้แี ลว เสดจ็ ลุกจากพุทธอาสนเ ขาไปสูพระวหิ ารเสียน้นั อาวโุ สท้ังหลาย ขาพเจายอมทราบเน้ือความแหง อุเทศทีท่ รงแสดงโดยยอ ไมท รงจําแนกเนือ้ ความใหพิสดารน้ี โดยพิสดารอยา งนี้อาวุโสทง้ั หลาย ทานทัง้ หลายประสงคความแจมแจง พึงเขาไปเฝาพระผูมี-พระภาคเจา แลว ทูลถามเน้ือความขอ นน้ั เถดิ พระองคท รงพยากรณแ กพ วกทานอยา งไร กพ็ งึ ทรงจาํ ขอท่ตี รสั นัน้ อยางนนั้ เถดิ . [๑๗๒] ภกิ ษุเหลาน้ันรับคําทา นพระอานนทว า . อยางน้นั ทานผูมอี ายุ ดงั นแี้ ลวลุกจากอาสนะ เขาไปเฝา พระผูม ีพระภาคเจา ถงึ ท่ีประทบัถวายบงั คมพระผมู พี ระภาคเจา แลว นั่ง ณ ทคี่ วรสว นขา งหนง่ึ ครั้นแลวไดกราบทลู พระผูมีพระภาคเจา วา พระเจาขา พระผูมพี ระภาคเจา ทรงแสดงอุเทศโดยยอ ไมทรงจาํ แนกเน้ือความใหพ ิสดารแกพ วกขา พระองควาดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย เรามไิ ดกลาววา ทีส่ ุดของโลกอันบคุ คลพงึ รู พึงเห็นพึงถงึ ดวยการไป และเรายงั ไมถ งึ ที่สดุ แหง โลกแลว ยอ มไมก ลาวการกระทาํทสี่ ุดทุกข ดังน้ีแลว เสด็จลุกจากพทุ ธอาสนเ ขาไปสพู ระวหิ ารเสยี เมือ่พระองคเ สด็จลกุ ไปไมน าน พวกขาพระองคคดิ กนั วา พระผูมีพระภาคเจา
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 199ทรงแสดงอเุ ทศนี้แกเ ราทง้ั หลายโดยยอ ไมทรงจําแนกเนอื้ ความใหพิสดารเสดจ็ ลกุ จากพุทธอาสนเ ขา ไปสพู ระวิหารเสีย ใครหนอจะจําแนกเน้อื ความ.แหง อุเทศทที่ รงแสดงโดยยอ ไมทรงแสดงเนอื้ ความใหพ ิสดารนี้ โดยพิสดารได ลําดับนั้น พวกขาพระองคม ีความคดิ วา ทานพระอานนทน ี้เปนผทู ีพ่ ระศาสดาและเพ่ือนสพรหมจารีผูเปน ปราชญย กยองสรรเสรญิ ทั้งสามารถจะจาํ แนกเนื้อความแหงอุเทศทีพ่ ระผูมีพระภาคเจา ทรงแสดงโดยยอไมท รงจาํ แนกเนอื้ ความใหพสิ ดารนี้ โดยพสิ ดารได ถา กระไรพวกเราพึงเขาไปหาทา นพระอานนทถ งึ ทอ่ี ยูแลว พึงไตถ ามเนอื้ ความขอ นัน้ กะทา นเถดิคร้นั คดิ ดงั นนั้ แลว พวกขา พระองคก็เขา ไปหาทา นพระอานนทถ งึ ท่ีอยแู ลวไตถ ามเนื้อความขอ นนั้ กะทาน ทา นพระอานนทกจ็ าํ แนกเนื้อความแกพ วกขา พระองคด ว ยอาการเหลา น้ี ดวยบทเหลา นี้ ดว ยพยญั ชนะเหลา นี้พระเจาขา . พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั วา ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย อานนทเ ปนบัณฑิตมีปญญามาก หากทานทั้งหลายพงึ ไตถ ามเน้อื ความขอ นนั้ กะเรา แมเราก็พึงแกป ญ หานั้น เหมือนอยางท่ีอานนทก ลาวแกป ญ หานนั่ แหละ นน่ั เปนเนอื้ ความแหงอุเทศนัน้ ทานท้ังหลายพึงทรงจําเน้ือความนน้ั ไวอยางนีเ้ ถิด. จบ โลกกามคณุ สูตรที่ ๓
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย สฬายตนวรรค เลม ๔ ภาค ๑ - หนาที่ 200 อรรถกถาปฐมโลกกามคุณสูตรที่ ๓ ในปฐมโลกกามคณุ สตู รท่ี ๓ มวี นิ จิ ฉัยดังตอ ไปนี.้ บทวา โลกสฺส ไดแ ก โลกจกั รวาล. บทวา โลกสฺส อนฺตไดแ ก ทส่ี ุดแหงสังขารโลก. บทวา วิหาร ปาวสิ ิ ความวา พระผมู -ีพระภาคเจา ทรงพระดาํ ริวา เมื่อเราเขา ไปสูวหิ าร ภกิ ษุเหลา น้ี จกั ถามอุทเทสน้ี กะพระอานนท พระอานนท จักกลาวเทยี บเคยี งกับพระ-สัพพญั ญุ าณของเรา. แกภกิ ษเุ หลานน้ั แตนัน้ เราจักชมเชยเธอ ภิกษุทง้ั หลายพึงการชมเชยของเรา จักสาํ คญั พระอานนทวา ควรเขาไปหา จักสาํ คญั คาํ ของเธอวา ควรฟง ควรเชื่อถือ ขอนั้นจักมเี พ่อื ประโยชน เพอ่ืความสขุ แกภกิ ษเุ หลานั้น ตลอดกาลนาน จึงมิไดทรงจาํ แนกอรรถแหง คาํท่ตี รสั โดยยอใหพ สิ ดาร แลวหายไป ณ อาสนะท่ปี ระทับนงั่ ไปปรากฏในพระคันธกฎุ ี. ดวยเหตนุ ้นั ทานจงึ กลา ววา อุฏายาสนา วิหาร ปาวสิ ิ. บทวา สตฺถุ เจว ส วณณฺ โิ ต แปลวา อนั พระศาสดาสรรเสริญแลว . แมบทวา วิ ฺ นู น้ี เปนฉัฏฐีวภิ ตั ติ ใชใ นอรรถแหงตติยาวิภัตติความวา อันเพอ่ื นสพรหมจารผี ูเ ปน บณั ฑติ ทง้ั หลายยกยอ งแลว. บทวาปโหติ แปลวา อาจ. บทวา อตกิ กฺ มฺเมว มลู อติกฺกมมฺ ขนธฺ ความวา ชอ่ื วาแกน พงึ มที ่รี ากหรอื ลําตน ก็เลยแกนน้นั ไปเสยี . บทวา เอว สมปฺ ทมทิ ไดแก ขอ อปุ มยั เชนน้กี ฉ็ ันนน้ั . บทวา อติสติ ฺวา แปลวา กาวลว ง.บทวา ชาน ชานาติ ไดแ กยอ มรู สง่ิ ที่ควรรเู ทา น้นั . บทวา ปสสฺ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 517
Pages: