พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 173กเ็ ปนทางแหงญาณ. บทวา ณาณสสฺ อารมฺมณมปฺ าณปโล แมอ ารมณแหงญาณ กช็ ือ่ วาเปน ทางแหงญาณ คอื แมป จ จัยแหง ญาณ ก็ชือ่ วาเปน ทางแหงญาณ เพราะหนว งอารมณน ้นั แลวเกิดขึน้ . บทวา าณสหภูโนปธมมฺ า าณปโถ แมธรรมทง้ั หลายอนั เกิดรว มกับญาณ ก็ช่ือวา ทางแหง ญาณ คือแมธ รรมทั้งหลายทีเ่ ปน จติ เจตสกิ อันเหลือ เกิดรว มกบั ญาณกเ็ ปนทางแหง ญาณ. บดั น้ี พระพุทธสมณะเมอื่ จะทรงใหแจมแจง ดวยอปุ มา จึงตรัสวา ยถา อรยิ มคฺโค อรยิ ปโถ เปรียบเหมือนอรยิ มรรคก็ช่ือวา ทางแหงอรยิ ะ ดงั นเี้ ปน ตน. บทวา กถ กถี ปุคคฺ โล คอื บคุ คลผมู คี วามสงสัย. บทวา สกงโฺ ขคอื มคี วามเคลือบแคลง. บทวา สวิเลโข มีความลังเล คือมีความขดั แยงในจิต. บทวา สเทฺวฬฺหโก เปนสองทาง คอื กังขาอยู. บทวา สริจกิ จิ ฺโฉคือ ไมแ นใจ. บทวา าณาธิคมาย คอื เพอื่ ไดญาณ. บทวา าณทสฺส-นาย เพ่ือเหน็ ญาณ คือเพอื่ แทงตลอดญาณ. อีกอยางหน่งึ เพ่ือประสบญาณ.บทวา าณสจฉฺ ิกริ ยิ าย คือ เพ่ือทําใหแ จมแจงซง่ึ ญาณ. บทวา สนทิ านาห เราแสดงธรรมมเี หตุ คอื เรา (พระพุทธสมณะ)แสดงธรรมมเี หตุมปี จจยั . บทวา สปฺปาฏหิ ารยิ เราแสดงธรรมมปี าฏหิ ารยิ คอื นําสัตวใ หพ นทกุ ข. บทวา โน อปฺปาฏิหาริย เราไมแ สดงธรรมไมม ีปาฏหิ ารยิ คือแสดงธรรมไมทําใหส ตั วพนจากทกุ ข. บทวา สาตาสาต ในบทวา สาต อสาตจฺ กุโตนิทานา ความดใี จและความเสียใจมีอะไรเปน นทิ าน น้ที านประสงคเอาสุขเวทนาและทกุ ขเวทนานน่ั เอง. บทวา น ภวนฺติ เหเต คือ ความดใี จและเสยี ใจเหลานั้นยอ มไมม .ี บทวา วิภว ภวจฺ าป ยเมตมตถฺ เอตมเฺ ม ปพรฺ หู ิ
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 174ยโตนทิ าน ความวา อรรถนน้ั ใด คอื ความไมมีและความมแี หง ความดใี จและความเสยี ใจ ขอพระองคจ งตรสั บอกอรรถนนั้ วา มสี ่ิงใดเปนนทิ านแกขาพระองค ในบทนี้ เปลยี่ นรปู ลิงค. ควรจะเปนดงั ทท่ี านอธิบายไววา สาตาสาตาน วภิ โว ภโว จาติ โย เอส อตโฺ ถ เอตมฺมปพรฺ ูหิ. ความอยา งเดยี วกับที่กลา วแลว. ในบทวา ยโตนทิ าน นี้ พงึ ทราบโดยอรรถวา ความไมม แี ละความมี คอื ความเห็นวาไมมแี ละมีน่ันเองอันเปนวัตถุแหงความดใี จและความเสียใจ. เปน ความจริงดังน้ันในฝายแกป ญ หาน้ี แมค วามเหน็ วามี กม็ ผี สั สะเปนนิทาน แมความเห็นวาไมม ีก็มผี ัสสะเปน นิทาน เพราะเหตนุ ้นั จกั กลาวในนิเทศตอ ไป. ในนิเทศแหง คาถานไี้ มมขี อ ทีค่ วรกลาว. บทวา อโิ ตนิทาน คือ มผี สั สะเปน นทิ าน. บทวา กิสฺมึ วภิ เู ตน ผุสนตฺ ิ ผสสฺ า เมอ่ื อะไรไมมีผัสสะจึงไมถ ูกตอง คอื เมอ่ื อะไรลว งไปแลวผัสสะ ๕ มีจักษสุ มั ผสั เปน ตน จงึ ไมถูกตอง แมค าถานีก้ ็ไมม ีอะไรควรกลาว. บทวา นามจฺ รปู ฺจ ปฏิจฺจ ผัสสะเกิดข้ึนเพราะอาศยั นามและรปู คือเพราะอาศยั นามท่ปี ระกอบกนั และรปู คอื วัตถุเปนอารมณ.บทวา รเู ป วภิ เู ต น ผุสนฺติ ผสฺสา เม่ือรูปไมม ี ผสั สะจงึ ไมถ ูกตอ งคือเม่อื รปู ลว งแลว ผสั สะ ๕ จงึ ไมถกู ตอง. บทวา ติณฺณ สงฺคติ ผสฺโส ประชมุ ธรรม ๓ ประการ ผสั สะจึงเกดิ ขึน้ . คือผสั สะยอมเกดิ ขึ้นเพราะประชมุ ธรรม ๓ ประการ คอื จกั ษุรูปและวิญญาณ. บทวา จกฺขฺุจ รปู า จ รูปสมฺ ึ จักษรุ ปู ในสวนรปูคอื ประสาทจักษุ รปู ารมณ อารมณต ั้งไวใ นสว นรปู . บทวา จกขฺ ุสมฺผสฺสเปตวฺ า เวนจกั ษสุ ัมผสั คอื ปลอ ยผสั สะอันเกิดขึ้นเพราะประชมุ ธรรม
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 175๓ ประการ. บทวา สมปฺ ยุตฺตกา ธมฺมา นามสมฺ ึ สมั ปยตุ ธรรมในสว นนาม ธรรมในสว นนามเกิดพรอ มกบั ผสั สะ มเี วทนาเปน ตน ท่ีเหลอื .แมใ นบทวา โสตจฺ ปฏิจจฺ อาศยั หเู ปนตน กม็ ีนัยนเี้ หมือนกัน.บทวา จตหู ิ การเณหิ รปู วิภูต โหติ คือ รูปลว งไปดว ยเหตุ ๔ อยาง(โดยการรู โดยการพจิ ารณา โดยการละ โดยการกา วลว ง). บทวาญาตวิภเู ตน โดยการรู คือทําใหปรากฏแลว กา วลวง. บทวา ตีรณวิภเู ตนโดยการพิจารณา คอื พิจารณาโดยความเปน ของไมเที่ยงเปนตน แลวกา วลวง. บทวา ปหานวภิ เู ตน โดยการละ คือโดยการลว งไป เพราะละฉันทราคะ. บทวา สมติกฺกมวภิ เู ตน โดยการกา วลวง คือโดยการกา วลวงดวยสามารถการไดอรปู สมาบัติ ๔. บทวา กถ สเมตสฺส คือ ปฏบิ ตั ิอยา งไร. บทวา วโิ ภติ รูป รปู จงึไมมี หรอื ไมพ งึ ม.ี บทวา สุข ทุกฺข วา ความวา พระพทุ ธนมิ ิตทูลถามถึงรูปที่นาปรารถนา และไมน าปรารถนาน่นั เอง. บทวา ชาเนยยฺ าม คือ จกั ร.ู บทวา อาชาเนยยฺ าม คือ จกั รูทั่วถึง. บทวา วชิ าเนยยฺ าม คือ จกั รูแจงหลาย ๆ อยา ง. บทวา ปฏวิ ชิ า-เนยยฺ าม จกั รูแจม เเจง คอื จกั รโู ดยชอบ. บทวา ปฏิวิชเฺ ฌยยฺ าม จกัแทงตลอด คอื จกั ตรัสรดู วยจติ . บทวา น สฺ สฺ ี บุคคลไมเปนผูมสี ัญญา โดยสญั ญาปกติคือบคุ คลน้นั ไมเปนผมู ีสัญญาโดยสญั ญาปกติ เมอ่ื บคุ คลปฏบิ ัตอิ ยา งน้ี รปูจงึ ไมม ี. บทวา น วิสฺสญฺ บุคคลไมเปนผมู ีสัญญาโดยสญั ญาผิดปกติคอื ไมเปนผูม ีสญั ญาโดยสัญญาผดิ ปกติ แมไมม ีสญั ญา ไดแ กคนบาหรอื คนมจี ติ ฟงุ ซาน. บทวา โนป อสฺี ไมเ ปน ผไู มม ีสัญญา คือแมเ วน จาก
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 176สัญญาก็ไมใ ช. ไดแก ทานผเู ขานโิ รธ หรือสัตวไ มม สี ัญญา. บทวา นวิภตู สฺี ไมเ ปน ผูปราศจากสัญญา คอื ไมเ ปนผมู สี ัญญากาวลวงแลวโดยนยั มอี าทวิ า สพฺพโส รปู สฺาน แหง รูปสัญญาโดยประการท้ังปวงคือไดอ รูปฌาน. บทวา เอว สเมตสสฺ วโิ ภติ รปู เม่ือปฏบิ ตั อิ ยางน้รี ปู จงึไมม ี คือบคุ คลนัน้ เม่อื จิตตง้ั ม่นั แลว อยางนี้ ไมต้งั อยใู นความเปนผมู ีสัญญาโดยสญั ญานแี้ ลว ฯลฯ ยอ มนาํ จิตท่ที านกลาวไวแ ลว น้ันไป เพือ่ ไดอากาสานญั จายตนสมาบตั ิ เพราะเหตนุ นั้ เมื่อบคุ คลปฏิบตั อิ ยา งน้ี คอื มคี วามพรอ มในอรูปมรรค รูปจึงไมม .ี บทวา สฺ านทิ านา หิ ปปจฺ สงฺขาเพราะสวนแหง ธรรมทเ่ี นน่ิ ชามสี ัญญาเปน นิทาน ทานแสดงไววา แมเมื่อบคุ คลปฏิบตั แิ ลว อยา งน้ี ธรรมท่เี นน่ิ ชามตี ณั หาเปน ตน อันมสี ัญญานั้นเปน นทิ านเปน อนั ยังละไมไดเ ลย. บทวา อสฺฺโน วจุ จฺ นตฺ ิ นิโรธสมาปนฺนา ผูเขา นิโรธทานเรียกวาเปน ผไู มม ีสญั ญา คือผูเขา นโิ รธเพราะดบั สญั ญาและเวทนา ทา นกลา ววาเปนผไู มม สี ัญญา เพราะสญั ญาไมม ี. บทวา อสฺสตตฺ า เปนอสญั ญีสตั วคอื เกดิ ในอสญั ญภี พ เพราะไมม ีสญั ญาโดยประการทง้ั ปวง. บทวา โส ในบทนัน้ วา โส เอว สมาหเิ ต จติ เฺ ต ไดแก ภกิ ษนุ ัน้ เม่ือจิตเปนสมาธอิ ยูอยางนี้. บทวา เอว น้ี แสดงถึงการกาวไปสจู ตตุ ถฌาน. อธิบายวา ไดจตุตถฌานตามลาํ ดับน.้ี บทวา สมาหิเต คือ จติ เปนสมาธิดว ยสมาธิในจตตุ ถฌานน.้ีอนึ่ง ในบทวา ปริสุทฺเธ เปน ตน ไดแ ก จติ บรสิ ทุ ธ์ดิ ว ยความบรสิ ทุ ธิ์แหงอเุ บกขาและสต.ิ ช่อื วา จติ ผดุ ผอง เพราะเปนจติ บริสทุ ธิ์น้นั เอง.อธิบายวา ผอ งใส. ชอื่ วา จติ ไมมีกเิ ลส เพราะกเิ ลสมรี าคะเปน ตน ถูกกาํ จดั ออกไปดวยการทําลายปจ จัยมีสุขเวทนาเปนตน ช่ือวา จิตปราศจาก
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 177อปุ กิเลส เพราะไมมีกิเลสน่ันเอง. จิตเศราหมองดว ยกเิ ลส ชื่อวา จติ ออนเพราะอบรมดแี ลว . อธบิ ายวา จิตถงึ ความชาํ นาญ. เพราะจติ เปน ไปในอํานาจ จงึ เรยี กวา จติ ออน. ชอื่ วาจิตควรแกก ารงานเพราะจิตออนน่ันเองทา นอธิบายวา ควรแกการงาน เหมาะแกการงาน. เพราะวาจิตออนเปนจติ ทคี่ วรแกก ารงาน เหมอื นทองคําบรสิ ทุ ธ์.ิ แมจิตทง้ั สองอยา งนัน้กเ็ ปนจิตที่อบรมดแี ลวนั่นเอง. ดังทพี่ ระผูมีพระภาคเจาตรัสไวว า ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย เราไมเ หน็ ธรรมอนื่ แมส กั อยา งเดียว เหมือนจิตทอ่ี บรมแลวทาํ ใหมากแลวเปนจติ ออ นควรแกก ารงานนเี้ ลย. ในบรรดาจิตเหลา น้ันชือ่ วาจิตตง้ั มนั่ เพราะต้ังม่ันอยูในความบริสทุ ธ์ิเปน ตน . ช่ือวาจิตถึงความไมหว่นั ไหว เพราะเปน จิตตงั้ มน่ั นน่ั เอง. อธบิ ายวา ไมหวนั่ ไมไ หว. อีกอยางหนึ่งชื่อวา จิตตง้ั มั่น เพราะตั้งอยใู นอาํ นาจของตนโดยความเปนจติ ออ นและควรแกการงาน. ช่ือวาจิตถึงความไมห วน่ั ไหวเพราะกําหนดไวดวยศรทั ธาเปน ตน. จรงิ อยู จิตทีก่ ําหนดไวดว ยศรัทธายอมไมห วนั่ เพราะความไมเ ช่อื . จติ ที่กําหนดไวด ว ยความเพยี รยอมไมหวั่นไหว เพราะความเกยี จครา น. จิตทกี่ ําหนดไวด ว ยสตยิ อมไมหว่นั ไหวเพราะความประมาท. จติ ทก่ี ําหนดไวด วยสมาธยิ อ มไมหวัน่ ไหว เพราะความฟงุ ซา น. จติ ที่กาํ หนดไวดวยปญญายอมไมห ว่นั ไหว เพราะอวชิ ชาจติ ทีก่ ําหนดไวดวยแสงสวาง ยอมไมหวน่ั ไหว เพราะความมดื คอื กเิ ลสเปน อนั วาจิตถึงความไมหวน่ั ไหว กาํ หนดแลว ดวยธรรม ๖ ประการเหลานนั้จิตประกอบดว ยองค ๘ เปน จติ ควรแกอ ภินหิ าร (อาํ นาจบุญกศุ ล) เพราะไดอ ากาสานญั จายตนสมาบัต.ิ อีกนยั หน่ึง ชอ่ื วา จิตมีสมาธิ เพราะมสี มาธใิ นจตตุ ถฌาน. ช่อื วา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 178จติ บรสิ ุทธ์ิ เพราะไกลจากนวิ รณ. ช่อื วาจติ ผองแผว เพราะกา วลวงวติ กเปน ตน . ช่ือวาจิตไมม ีกิเลส เพราะไมมคี วามเคลอื่ นไหวไปในความปรารถนาลามกอันเปน ขาศึกแกการไดฌ าน. บทวา อิจฉฺ าวจราน มีอธิบายวา เคลือ่ นไปในความปรารถนา คอื หยงั่ ลงเปนไปดวยอาํ นาจความปรารถนาเปน ปจจยั แหงความโกรธมปี ระการตาง ๆ. อนึง่ ชอื่ วาจติ ปราศ-จากอุปกิเลส เพราะปราศจากอปุ กเิ ลสแหง จติ มอี ภชิ ฌาเปน ตน. พงึ ทราบแมทง้ั สองอยา งนัน้ โดยทํานองเดียวกันกับอนังคณสูตรและวัตถสุ ตู ร. ช่อื วาจติ ออน เพราะถึงความชํานาญ. ชื่อวาจติ ควรแกก ารงาน เพราะเขาถงึอิทธบิ าท. ชอื่ วา จติ ต้ังมน่ั ถึงความไมหว่ันไหว เพราะเขา ถึงความประณตีดวยการบาํ เพ็ญภาวนาใหบริบูรณ. อธิบายวา จติ ตง้ั มัน่ โดยอาการท่ีจติไมมีความหว่นั ไหว ไมถ งึ ความหวน่ั ไหว. จิตประกอบดวยองค ๘ อยางน้ีเปน จิตควรแกอ ภนิ ิหาร เปน บาท คอื เปนปทฏั ฐานเพ่อื ไดอากาสานญั จา-ยตนสมาบัติ. บทวา อรปู มคคฺ สมงคฺ ี เปน ผพู รอ มเพรียงดวยธรรมเปน ทางแหงอรปู สมาบัติ คอื เปนผไู มเ สื่อมจากธรรมเปนทางใหถ ึงอรปู สมาบัต.ิ บทวาปปฺจาเยว ปปฺจสงฺขา ไดแ ก ธรรมเปน เครอ่ื งเนิ่นชา มีตัณหาเปน ตนชื่อวา ธรรมเปน สวนแหง ความเนิ่นชา . บทวา เอตตฺ าวตคคฺ โน ฯลฯ วทนฺติ เอตโฺ ต กส็ มณพราหมณบางพวกอา งคนเปน บัณฑติ ในโลกนี้ ยอ มกลาวความหมดจดแหง ยักษดวยอรปู สมาบตั เิ พยี งเทาน้ี หรอื วาเปนธรรมอันเลิศ หรอื วาสมณพราหมณบางพวกกลาวความหมดจดอยา งอ่ืนกวา อรูปสมาบัตนิ ี้ คือพระพทุ ธนมิ ติทูลถามวา สมณพราหมณผ เู ปน บัณฑิตในโลกน้ี ยอ มกลา วความหมดจด
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 179ของสัตวดวยอรูปสมาบตั ิเพยี งเทา นี้ หรือวาเปนธรรมอนั เลิศ หรอื วากลา วความหมดจดแมอยางอื่นยง่ิ กวาอรูปสมาบัติน.ี้ บทวา เอตฺโต อรปู สมา-ปตฺตโิ ต คือ กวาอรูปสมาบตั ิน.้ี บทวา เอตตฺ าวตฺคฺคมฺป วทนฺติ เหเก คอื พระผมู พี ระภาคเจาตรสัตอบวา สมณพราหมณผูม ีวาทะวา เที่ยง บางพวกสาํ คญั คนวา เปน บัณฑติยอมกลา วความหมดจดแหงยักษด ว ยอรูปสมาบตั ิเพียงเทา นว้ี า เปน ธรรมอนั เลิศ. บทวา เตส ปเุ นเก สมย วทนฺติ คอื บรรดาสมณพราหมณเหลานั้น สมณพราหมณอ ีกบางพวก มีวาทะวา สูญยอมกลาวความสงบวาเปนความสูญ. บทวา อนปุ าทเิ สเส กุสลาวทานา คอื สมณพราหมณอางตนวาเปนผฉู ลาด ยอมกลา วความสงบในอนปุ าทเิ สส. บทวา ภวตชฺชติ า กลัวตอ ภพ. บทวา วิภว อภนิ นฺทนตฺ ิ ยอ มยินดีความไมม ีภพ คือยินดเี พราะอาศัยความขาดสูญ. บทวา เตสตฺตสฺส สมสมณพราหมณเ หลา นน้ั ยอ มกลา วถึงความสงบแหง สัตว คือสมณพราหมณเหลา นัน้ ผมู วี าทะวาสูญ ยอมกลาวถงึ ความสงบ คอื ความไมเกิดของบุคคล.บทวา อุปสม ความเขาไปสงบ คอื ความสงบอยางย่ิง. บทวา วปู สมความเงยี บ คือสันต.ิ บทวา นโิ รธ ความดับ คอื ความไมเ กดิ . บทวาปฏปิ สฺสทธฺ ความระงบั คอื ไมเ กดิ อกี ตอไป. บทวา เอเต จ ตวฺ า อุปนิสฺสติ า มนุ ีรูสมณพราหมณน้ันวาเปนผอู ันทฏิ ฐเิ ขา ไปอาศยั คือรวู าสมณพราหมณเ หลาน้ันเปน ผูมีทฏิ ฐิอาศยั สสั สตทิฏฐิและอุจเฉททฏิ ฐิ. บทวา ตวฺ า มุนิ นิสสฺ เย โส วมิ สีมนุ นี ้ันมปี ญญาเปน เครอ่ื งพจิ ารณา รูวาสมณพราหมณเ ปน ผูม ีทฏิ ฐิเปน ท่ีอาศยั คือมนุ ีน้นั เปนผมู ปี ญ ญาเปน เครื่องพิจารณา เปนบณั ฑิต เปน พระ-
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 180พทุ ธมนุ ี รวู าสมณพราหมณเ ปนผมู ที ฏิ ฐิเปน ท่ีอาศัย. บทวา ตฺวาวิมตุ ฺโต รแู ลว พนวิเศษแลว คือรธู รรมทงั้ หลายโดยความเปนทกุ ขและไมเ ที่ยงเปน ตน แลวพนวเิ ศษ. บทวา ภวาภวาย น สเมติ ไมถ ึงพรอมในภพนอ ยภพใหญ คอื ไมถึงพรอ มดวยการเกิดบอ ย ๆ. บทวาอปรามส ความวา ภิกษนุ น้ั มไิ ดถ อื มนั่ คือไมถ งึ ความถือมนั่ . จบอรรถกถากลหววิ าทสุตตนิทเทสที่ ๑๑
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 181 จูฬวิยูหสตุ ตนเิ ทสที่ ๑๒ [๕๒๐] (พระพุทธนิมิตตรัสถามวา ) มสี มณพราหมณบ างพวก มคี วามอยูรอบในทิฏฐิของตน ๆ ถอื ทฏิ ฐนิ ้ันแลว อา งตน เปน ผฉู ลาดพดู ตา ง ๆ วา บคุ คลใดรูอ ยางน้ี บคุ คลนน้ั ช่อื วารูธรรมแลว บุคคลใดคดั คา นธรรมนี้ บคุ คลนนั้ ชอ่ื วายัง เปน ผไู มบ รบิ ูรณห รอื . วา ดวยทิฏฐิ [๕๒๑] คาํ วา มคี วามอยรู อบในทิฏฐขิ องตน ๆ ความวา มีสมณพราหมณบ างพวกผดู ําเนนิ ไปดว ยทฏิ ฐิ สมณพราหมณบ างพวกนน้ัถือ ยึดถือ จบั ตอ ง ถือมั่น ยึดมน่ั ซง่ึ ทิฏฐิ ๖๒ อยาง อยา งใดอยางหนึ่งชอ่ื วา ยอ มอยู อยูร ว ม มาอยู อยูร อบในทฏิ ฐิของตน ๆ เปรยี บเหมอื นพวกคฤหัสถผ อู ยคู รองเรอื น ชอื่ วา ยอ มอยูใ นเรือน หรือพวกบรรพชิตผมู ีอาบัติ ช่อื วายอ มอยูในอาบตั ิ หรอื พวกมกี เิ ลส ช่อื วา ยอมอยูในกเิ ลสฉะนัน้ เพราะฉะนั้น จงึ ชอื่ วา มีความอยูร อบในทฏิ ฐิของตนๆ. [๕๒๒] คาํ วา ถือ ในคาํ วา ถือทฏิ ฐิน้ันแลว อา งตนเปนผูฉ ลาดพูดตา ง ๆ ความวา ถือ ยดึ ถอื จับตอง ถือมนั่ ยดึ ม่นั . คําวา พูดตาง ๆความวา พดู ไปตาง ๆ พูดมีอยา งตา ง ๆ พูดอยางอื่น ๆ พดู มาก ไมพ ูดไมกลา ว ไมบ อก ไมแสดง ไมแถลงอยา งเดยี ว. คาํ วา อางตนเปนผูฉลาด ความวา อางตนเปน ผฉู ลาด อา งตนเปนบณั ฑิต อางตนเปนธีรชนอางตนเปน ผูม ีญาณ อา งตนโดยเหตุ อา งตนโดยลกั ษณะ อา งตนโดย
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 182การณ อา งตนโดยฐานะ โดยลทั ธิของตน เพราะฉะนนั้ จึงช่อื วา ถอื ทิฏฐิน้นั แลว อางตนเปนผูฉ ลาดพูดตาง ๆ. [๕๒๓] คําวา บุคคลใดรูอ ยา งนี้ บุคคลนั้นชือ่ วารูธ รรมแลวความวา บคุ คลใดรูธรรม คอื ทฏิ ฐิ ปฏิปทา มรรคน้ี บุคคลนัน้ ช่อื วารู ทราบ เหน็ แทงตลอดธรรมแลว เพราะฉะน้ัน จงึ ชือ่ วา บุคคลใดรูอยา งนี้ บุคคลนั้นชื่อวา รูธรรมแลว . [๕๒๔] คาํ วา บคุ คลใดคัดคา นธรรมน้ี บคุ คลน้นั ชอ่ื วา ยังเปน ผไู มบรบิ รู ณ ความวา บคุ คลใดคัดคานธรรม คือ ทฏิ ฐิ ปฏปิ ทา มรรคน้ีบคุ คลนน้ั ชอ่ื วา ยงั เปนผูไ มบ ริบรู ณ ไมค รบถวน ไมเ ตม็ รอบ คือ ยังเปนผูเ ลวทราม ต่ําชา ลามก สกปรก ตาํ่ ตอ ย เพราะฉะนัน้ จงึ ชอื่ วา บคุ คลใดคดั คานธรรมนี้ บุคคลนน้ั ช่อื วา ยังเปน ผูไ มบ รบิ ูรณ เพราะเหตุนั้น พระ-พทุ ธนิมิตนนั้ จงึ ตรสั ถามวา สมณพราหมณบางพวก มีความอยรู อบในทิฏฐขิ อง ตน ๆ ถอื ทฏิ ฐแิ ลว อา งตนเปนผฉู ลาด พูดตา ง ๆ วา บคุ คลใดรูอ ยางน้ี บคุ คลนั้นช่อื วา รูธรรมแลว บคุ คลใด คดั คานธรรมน้ี บุคคลนน้ั ชื่อวายังเปน ผูไ มบรบิ รู ณหรอื . [๕๒๕] (พระพทุ ธนิมิตตรัสถามอีกวา ) สมณพราหมณ บางพวก ถอื ทิฏฐิแมอ ยา งนี้ ยอ มวิวาท และกลา ววา คนอืน่ โงไมฉลาด วาทะของสมณพราหมณเหลา น้ี วาทะ ไหนจะจรงิ หนอ เพราะสมณพราหมณเหลา นท้ี งั้ หมด ตา งก็อา งตนวา เปน ผูฉลาด.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 183 วาดวยวิวาทกันเพราะถือทฏิ ฐิ [๕๒๖] คาํ วา สมณพราหมณบางพวก ถือทฏิ ฐแิ มอ ยา งน้ียอมวิวาท ความวา สมณพราหมณบ างพวก ถอื ยดึ ถอื จบั ตอง ถือม่นัยึดมน่ั ทฏิ ฐิอยางน้ี ยอมววิ าท คอื ทาํ ความทะเลาะ ทําความหมายม่นัทําความแกงแยง ทําความวิวาท ทําความมุง รา ยกันวา ทา นไมรูธรรมวินยั นี้ ฯลฯ หรือจงแกไขเพ่ือปลดเปลอ้ื งวาทะ ถา ทา นสามารถ เพราะฉะน้นั จึงชอื่ วา สมณพราหมณบ างพวก ถอื ทฏิ ฐแิ มอยางนี้ยอมวิวาท. [๕๒๗] คําวา และกลาววา คนอ่นื โง ไมฉ ลาด ความวา กลา วบอก พูด แถลง อยางนี้วา คนอ่ืนโง เลว ทราม ต่ําชา ลามกสกปรก ต่ําตอ ย ไมฉ ลาด ไมมีความรู ถึงอวชิ ชา ไมมีญาณ ไมมปี ญญาแจมแจง มีปญญาทบึ เพราะฉะนน้ั จึงชอื่ วา และกลา ววา คนอืน่ โงไมฉ ลาด. [๕๒๘] คําวา วาทะของสมณพราหมณเ หลา น้ี วาหะไหนจะจริงหนอ ความวา วาทะของสมณพราหมณเหลานี้ วาทะไหนจรงิ แท แนเปน จรงิ ไมว ิปรติ เพราะฉะนน้ั จงึ ช่อื วา วาทะของสมณพราหมณเหลานั้นวาทะไหนจะจรงิ หนอ. [๕๒๙] คาํ วา เพราะสมณพราหมณเ หลา น้ีท้ังหมด ตา งกอ็ างคนวาเปน ผฉู ลาด ความวา สมณพราหมณเหลาน้ีท้งั หมด ตา งก็อา งตนวา เปน ผฉู ลาด อา งตนเปนบัณฑติ อางตนเปนธรี ชน อา งคนเปน ผูมญี าณอา งตนโดยเหตุ อา งตนโดยลกั ษณะ อางตนโดยการณ อางตนโดยฐานะโดยลัทธิของตน เพราะฉะนั้น จงึ ชอ่ื วา เพราะสมณพราหมณเหลาน้นั
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 184ท้งั หมด ตางกอ็ างตนวา เปนผูฉลาด เพราะเหตุน้นั พระพุทธนิมติ นั้นจงึ ตรสั ถามวา สมณพราหมณบ างพวก ถือทฏิ ฐแิ มอยางนย้ี อ มวิวาท และกลา ววา คนอื่นโง ไมฉลาด วาทะของสมณพราหมณ เหลา น้ี วาทะไหนจรงิ หนอ เพราะสมณพราหมณเ หลานี้ ท้ังหมดตางก็อา งคนวาเปน ผูฉลาด. [๕๓๐] (พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ตอบวา) ขา พระองคไ ม อนญุ าตธรรมของคนอ่ืน คนอ่นื เปนพาล ลามก มี ปญ ญาเลว สมณพราหมณท ัง้ หมด เปนพาล มีปญ ญา เส่ือมทราม สมณพราหมณท้ังปวงนเี้ ทียว มคี วามอยูร อบ ในทิฏฐ.ิ [๕๓๑] คําวา ไมอนญุ าตธรรมของคนอืน่ ความวา ไมอ นุญาตไมเ หน็ ตาม ไมอ นมุ ัติ ไมอนุโมทนา ซึง่ ธรรม คือทิฏฐิ ปฏิปทามรรค ของคนอ่ืน เพราะฉะน้ัน จงึ ชอื่ วา ไมอ นญุ าตธรรมของคนอ่ืน. [๕๓๒] คําวา คนอน่ื เปนพาล ลามก มีปญญาเลว ความวาคนอืน่ เปน พาล เลว ทราม ต่ําชา ลามก สกปรก ตํ่าตอ ย มปี ญ ญาเลวมปี ญญาทราม มปี ญ ญาต่ําชา มีปญญาลามก มีปญ ญาสกปรก มปี ญ ญาต่ําตอย เพราะฉะนั้น จงึ ช่อื วา คนอนื่ เปนพาล ลามก มปี ญญาเลว. [๕๓๓] สมณพราหมณท้ังหมดเปน พาล มีปญ ญาเสือ่ มทรามความวา สมณพราหมณเหลาน้ที ้งั หมดเทยี ว เปนพาล เลว ทราม ตํ่าชาลามก สกปรก ตํา่ ตอ ย มปี ญญาเลว มปี ญ ญาทราม มปี ญญาต่ําชา
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 185มปี ญญาลามก มีปญ ญาสกปรก มีปญ ญาต่าํ ตอ ย เพราะฉะน้นั จึงชอื่ วาสมณะพราหมณท้ังหมด เปน พาล มีปญญาเส่อื มทราม. [๕๓๔] คําวา สมณพราหมณทั้งปวงน้ีเทยี ว มคี วามอยรู อบในทิฏฐิ ความวา สมณพราหมณเ หลานท้ี ้งั หมด เปนผดู ําเนนิ ไปดว ยทิฏฐิ สมณพราหมณเ หลานน้ั ถือ ยึดถอื จับตอง ถอื มนั่ ยดึ มน่ัซง่ึ ทิฏฐิ ๖๒ อยาง อยางใดอยา งหนึง่ ชอ่ื วายอมอยู อยรู วม มาอยูอยรู อบในทฏิ ฐิของตน ๆ เปรียบเหมือนพวกคฤหัสถผูอยคู รองเรือน ชอื่ วายอ มอยูในเรือน พวกบรรพชติ ผูมีอาบัติ ชื่อวา ยอ มอยูในอาบตั ิ หรือพวกมกี ิเลส ชอื่ วา ยอ มอยูใ นกเิ ลสฉะนั้น เพราะฉะนัน้ จึงช่อื วา สมณ-พราหมณทั้งปวงเทยี ว มคี วามอยรู อบในทิฏฐิ เพราะเหตนุ นั้ พระ-ผมู ีพระภาคเจา จงึ ตรสั ตอบวา ขาพระองคไมอนญุ าตธรรมของคนอ่นื คนอ่นื เปน พาล ลามก มปี ญญาเลว สมณพราหมณท ัง้ หมด เปนพาล มี ปญ ญาเสื่อมทราม สมณพราหมณทั้งปวงนเี้ ทียว มคี วาม อยรู อบในทิฏฐิ. [๕๓๕] ก็ถาพวกสมณะพราหมณเปนผูผ อ งแผวเพราะทิฏฐิของ คน เปนผมู ีปญญาหมดจดดี เปน ผฉู ลาด มีความรไู ซร บรรดาสมณพราหมณพ วกนัน้ ใคร ๆ จะไมเปนผูมีปญญา เสอื่ มรอบ เพราะทฏิ ฐิเปนธรรมชาติอนั สมณพราหมณ แมเหลานน้ั ถือเอาบรบิ รู ณอ ยา งนน้ั . [๕๓๖] คําวา กถ็ า เปน ผูผ อ งแผว เพราะทิฏฐิของตน ความวาเปน ผผู อ งแผว ผอ งใส ไมเศราหมอง เพราะทิฏฐิ ความควร ความ
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 186ชอบใจ ลทั ธิของตน เพราะฉะนนั้ จงึ ชื่อวา ก็ถา เปน ผผู องแผวเพราะทฏิ ฐิของตน. [๕๓๗] คําวา เปนผมู ีปญ ญาหมดจดดี เปน ผฉู ลาด มีความรไู ซร ความวา เปน ผมู ีปญ ญาหมดจด มีปญ ญาหมดจดวิเศษ มปี ญ ญาหมดจดรอบ มีปญญาผอ งแผว มปี ญญาผองใส อีกอยางหนง่ึ เปน ผมู ีความเห็นหมดจด มีความเห็นหมดจดวิเศษ มคี วามเห็นหมดจดรอบมคี วามเหน็ ผองแผว มีความเห็นผองใส เพราะฉะนนั้ จึงชื่อวา เปนผมู ีปญ ญาหมดจดด.ี คาํ วา เปน ผูฉลาด ความวา เปนผฉู ลาด เปนบัณฑิตมปี ญญา มีความรู มญี าณ มปี ญ ญาแจม แจง มีปญ ญาทาํ ลายกเิ ลส เพราะ-ฉะนัน้ จงึ ชือ่ วา เปนผูมปี ญญาหมดจดดี เปน ผูฉลาด. คาํ วา มคี วามรูความวา เปนผูมคี วามรู เปน บณั ฑติ มีปญ ญา มีความตรัสรู มีญาณมปี ญญาแจม แจง มีปญญาทาํ ลายกเิ ลส เพราะฉะนน้ั จึงชือ่ วา เปนผมู ีปญญาหมดจดดี เปนผูฉ ลาด มีความรู. [๕๓๘] คําวา บรรดาสมณพราหมณเหลานั้น ใคร ๆ จะไซรเปน ผูมีปญญาเส่ือมรอบ ความวา บรรดาสมณพราหมณเ หลาน้นั ใคร ๆจะไมเปน ผูมปี ญญาเลว มีปญ ญาทราม มีปญ ญาตํา่ ชา มีปญ ญาลามก มีปญ ญาสกปรก มปี ญญาต่าํ ตอย สมณพราหมณท้ังหมด จะเปนผมู ปี ญญาเลิศมปี ญ ญาประเสริฐ มปี ญ ญาวิเศษ มีปญญาเปน ประธาน มปี ญญาอดุ มมีปญญาบวร เพราะฉะนน้ั จงึ ชือ่ วา บรรดาสมณพราหมณพวกน้นั ใคร ๆจะไมเ ปนผมู ปี ญญาเส่อื มรอบ. [๕๓๙] คาํ วา เพราะทิฏฐเิ ปน ธรรมชาติอนั สมณพราหมณเหลา นน้ั ถือเอาบริบูรณอ ยางนัน้ ความวา ทิฏฐิเปน ธรรมชาตอิ นั สมณ-
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 187พราหมณเหลานั้นถอื เอาบรบิ ูรณ สมาทาน ถือ ยึดม่ัน ถอื ม่นั ตดิ ใจนอมใจไปอยา งน้ัน เพราะฉะนนั้ จงึ ช่ือวา เพราะทิฏฐเิ ปน ธรรมชาติอนัสมณพราหมณเหลา น้นั ถือเอาบรบิ ูรณอ ยางน้นั เพราะเหตนุ ั้น พระผูม-ีพระภาคเจา จงึ ตรัสตอบวา ก็ถาพวกสมณพราหมณเปนผผู องแผว เพราะทฏิ ฐิของ ตน เปน ผมู ปี ญญาหมดจดดี เปน ผูฉลาด มคี วามรไู ซร บรรดาสมณพราหมณพ วกนัน้ ใคร ๆ จะไมเ ปน ผมู ีปญญา เส่ือมรอบ เพราะทิฏฐเิ ปน ธรรมชาติอนั สมณพราหมณ แมเ หลา นั้น ถอื เอาบรบิ รู ณอยางนั้น. [๕๔๐] คนคูกลาวปรารภทิฏฐใิ ดกะกนั และกนั วา เปน พาล ขาพระองคไมก ลา วทิฏฐนิ น้ั วาจรงิ พวกสมณพราหมณ ไดทําทิฏฐขิ องตน ๆ วา จรงิ เพราะเหตนุ ัน้ แหละ พวก สมณพราหมณจ งึ เห็นคนอน่ื วาเปนพาล. [๕๔๑] ศพั ทวา น ในคําวา ขา พระองคไมก ลา วทิฏฐินัน้ วาจริงเปนศพั ทปฏิเสธ. คาํ วา ทิฏฐิน้นั คือ ทิฏฐิ ๖๒ เพราะฉะนัน้ ขา พระองคจงึ ไมกลา ว บอก แสดง บญั ญตั ิ แตงตงั้ เปด เผย จําแนก ทําใหต ื้นประกาศทิฏฐิ ๖๒ นน้ั วา จริง แท เปน จริง เปน ตามจริง ไมว ปิ รติเพราะฉะนั้น จงึ ชื่อวา ขา พระองคไ มก ลาวทิฏฐนิ น้ั วา จรงิ . [๕๔๒] คําวา คนคู ในคาํ วา คนคกู ลา วปรารภทฏิ ฐิใดกะกนั -และกนั วา เปน พาล ความวา คน ๒ คน ไดแกคนสองคนผูความ
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 188ทะเลาะกนั คนสองคนผูทาํ ความหมายมนั่ กนั คนสองคนผูทําความอ้อื ฉาวกัน คนสองคนผูท ําความวิวาทกนั คนสองคนผกู อ อธิกรณกนั คนสองคนผพู ดู กัน คนสองคนผูป ราศรยั กัน คนคเู หลานัน้ กลา ว บอก พดูแสดง แถลง กะกนั และกนั อยางนี้วา ทานเปนพาล เลวทราม ต่าํ ชาลามก สกปรก ต่ําตอ ย เพราะฉะน้ัน จึงชื่อวา คนคกู ลา วปรารภทิฏฐใิ ดกะกันและกนั วา เปนพาล. [๕๔๓] คาํ วา พวกสมณพราหมณไดท ําทิฏฐิของตน ๆ วา จรงิความวา พวกสมณพราหมณไดทําทฏิ ฐขิ องตน ๆ วา จริง โดยอา งวา โลกเทีย่ ง สง่ิ น้ีแหละจริง สง่ิ อื่นเปลา โลกไมเ ทยี ง สง่ิ น้แี หละจริง สง่ิ อนื่เปลา ฯลฯ สตั วเ ม่อื ตายไปยอมเปน อีกกห็ ามไิ ด ยอ มไมเปนอีกกห็ ามไิ ดสิง่ นแ้ี หละจริง สง่ิ อืน่ เปลา เพราะฉะนน้ั จงึ ชือ่ วา พวกสมณพราหมณไดทาํ ทฏิ ฐิของตน ๆ วา จริง. [๕๘๔] คําวา เพราะเหตุน้ัน ในคําวา เพราะเหตนุ ั้นแหละ พวกสมณพราหมณจ ึงเห็นคนอืน่ วาเปน พาล ความวา เพราะเหตนุ นั้ เพราะการณน ัน้ จงึ เห็น คือ มองเหน็ แลดู เพงดู พินิจดู พจิ ารณาดูซง่ึ คนอ่ืนวา เปนพาล เลว ทราม ตํ่าชา ลามก สกปรก ตา่ํ ตอ ย เพราะเหตุน้นัพระผูมพี ระภาคเจา จงึ ตรัสตอบวา คนคูก ลา วปรารภทิฏฐใิ ดกะกันและกันวาเปน พาล ขาพระองคไมก ลา วทิฏฐนิ ้นั วา จริง พวกสมณพราหมณ ไดท ําทิฏฐิของตน ๆ วา จรงิ เพราะเหตุนัน้ แหละ พวก สมณพราหมณจงึ เห็นคนอื่นวาเปนพาล.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 189 [๕๔๕] (พระพทุ ธนมิ ติ ตรสั ถามอีกวา ) สมณพราหมณบ าง พวก กลาวธรรมใดวาจริงแท สมณพราหมณแ มพ วกอนื่ ก็กลาวธรรมนนั้ วาเปลาเทจ็ สมณพราหมณเ หลา นั้น ถอื ทิฏฐิแมอยางน้แี ลวก็ววิ าทกัน เพราะเหตไุ ร พวกสมณ- พราหมณจ งึ ไมกลาวเปนอยา งเดยี วกัน. [๕๔๖] คาํ วา สมณพราหมณ บางพวกกลาวธรรมคา จริงแทความวา สมณพราหมณเหลาหนงึ่ กลาว บอก พูด แสดง แถลงซง่ึธรรมะ คอื ทิฏฐิ ปฏิปทา มรรคใด อยา งนี้วา ธรรมน้ี จริง แทเปนจริง เปน ตามจรงิ ไมว ปิ รติ เพราะฉะนน้ั จึงชอ่ื วา สมณพราหมณบางพวกกลาวธรรมใดวาจริงแท. [๕๔๗] คาํ วา สมณพราหมณแมพ วกอ่ืนกก็ ลา วธรรมน้ันวาเปลา เท็จ ความวา สมณพราหมณอ กี พวกหนงึ่ กลาว บอก พดู แสดงแถลงซ่งึ ธรรมะ คือ ทิฏฐิ ปฏปิ ทา มรรคน้นั น่นั แหละ อยางนี้วา ธรรมนเ้ี ปลาเท็จ ไมเ ปนจรงิ เหลวไหล ไมเปนตามจริง เพราะฉะนั้น จึงช่ือวาสมณพราหมณแ มพวกอืน่ ก็กลา วธรรมนัน้ วาเปลาเท็จ. [๕๔๘] คาํ วา สมณพราหมณเ หลานั้น ถอื ทฏิ ฐแิ มอ ยางนแ้ี ลวววิ าทกนั ความวา สมณพราหมณเหลา น้ัน ถือ ยดึ ถือ จบั ตอ ง ถือมั่นยดึ มัน่ ซ่ึงทฏิ ฐอิ ยางนีแ้ ลวกว็ ิวาทกัน คือ ทาํ ความทะเลาะกนั ทาํ ความหมายม่นั กัน ทําความแกง แยง กัน ทําความมงุ รายกนั วา ทา นไมร ูธ รรม-วินัยน้ี ฯลฯ หรือจงแกไขเพ่ือปลดเปลื้องวาทะ ถา ทานสามารถ เพราะ-ฉะนนั้ จึงชอื่ วา สมณพราหมณเหลา นัน้ ถอื ทฏิ ฐิแมอยางน้แี ลว กว็ ิวาทกัน.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 685
Pages: