Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_66

tripitaka_66

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:43

Description: tripitaka_66

Search

Read the Text Version

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 431อาวชั ชนะ. ความฝนน้นั ไมส ามารถฉุดร้ังปฏสิ นธิได เพราะมีกาํ ลังนอยแตกุศลอกศุ ลอื่นค้าํ จนุ ยอมใหวบิ ากไดในเพราะยงั เปนไปอยู. พึงทราบวนิ ิจฉัยในลกั ษณะแกวมณี ดงั ตอ ไปนี.้ พวกทาํ นายลักษณะ ยอ มทาํ นายลกั ษณะของแกวมณีเปนตน ดว ยสีและสณั ฐานเปนตนอยางนี้วา แกว มณอี ยางนป้ี ระเสรฐิ อยางนไ้ี มประเสริฐ ยอมเปน เหตุแหงความไมมโี รคและความเปน ใหญแกเจา ของ. ในลกั ษณะเหลา น้ันบทวา อาวธุ ลกขฺ ณ ลักษณะอาวธุ คอื อาวุธทีเ่ หลือเวน ดาบเปน ตน .แมล ักษณะหญงิ เปนตน ก็พงึ ทราบดวยอํานาจความเจรญิ และความเส่ือมของตระกูลทห่ี ญงิ และชายเปน ตนอย.ู สว นในลักษณะแพะเปน ตน ควรทราบความตา งกัน คอื เนอ้ื ของแพะเปนตนอยา งนค้ี วรกิน อยางนไ้ี มควรกนิ . ในลกั ษณะเหี้ย พึงทราบความวเิ ศษดงั น้ี บรรดาจติ รกรรมและเคร่ืองประดบั เปนตน เมอื่ เหี้ยเห็นปานน้มี อี ย.ู สิ่งนีย้ อมมี. ลกั ษณะชอ ฟา พึงทราบดว ยอํานาจแหง ชอ ฟา เครื่องประดบั บา ง ชอฟาเรอื นบา ง แมลกั ษณะเตา กเ็ ชน เดยี วกับลักษณะเหี้ยนั่นแล. ลักษณะเนื้อ ทา นกลาวสงเคราะหเน้ือทุกชนดิ ดวยอํานาจแหงลักษณะของสตั ว ๔ เทาท้ังหมด.บทวา เอว ลกขฺ ณปากา ลกขฺ ณ อาทสิ นตฺ ิ คอื ผบู อกตาํ ราทายลกั ษณะยอ มทายคือยอมบอกลักษณะอยางน้ี. บทวา น นกฺขตฺตานิ คอื ฤกษ ๒๘ อยางมีกัตติกาฤกษเ ปน ตน . บทวาอิมินา นกฺขตฺเตน ฆรปปฺ เวโส กตฺตพโฺ พ คือ งานมงคลขนึ้ บานใหมควรทําดวยฤกษนี้. บทวา มกุฏ พนธฺ ติ พฺพ คอื งานมงคลผกู เครอ่ื งประดับ. บทวา วาเรยฺย งานมงคลแตง งาน คอื พวกดฤู กษถึงการทาํอาวาหมงคลวา ทา นทง้ั หลายจงนําหญงิ จากตระกลู โนน มาใหแ กชายดว ย

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 432ฤกษโ นน และบอกการทําววิ าหมงคลวา พวกทานจงใหห ญงิ น้แี กช ายชอ่ืโนน ดวยฤกษโ นน ความเจริญจกั มีแกเ ขาทัง้ สองดวยประการฉะน้ี แลวทายวา พึงทําอาวาหมงคลและววิ าหมงคล คือการแตงงาน. บทวาพีชนีหาโร งานมงคลปลกู พชื คือการนําพชื ออกไปภายนอกเพ่ือจะหวาน.บาลวี า นิหาโร ก็ม.ี บทวา มคิ จกกฺ  เสยี งเนอ้ื และเสียงนกนี้ เปน ชอื่ รวมสตั วทกุ ชนดิทานกลา วดว ยสามารถการรเู สยี งรองของนกและสัตวสี่เทา ทุกชนิด. บทวามคิ จกกฺ ปากา ผรู เู สียงเนื้อและเสียงนก คือผูท ายเสียงของนกและสัตวส่เี ทา . บทวา มคิ จกฺก อาทสิ นตฺ ิ ยอ มทายเสียงเนอื้ และนก คอื ฟงเสียงสตั วเหลา น้ันแลวทาย. บทวา รทุ  คอื เสียง. บาลีวา รุต ก็มี. บทวาวสฺสติ  คอื คาํ พูด. บทวา คพฺภกรณยี า พวกชนปรุงยาใหตั้งครรภคือปรงุ ยาใหต ง้ั ครรภดวยการใหย าเพอ่ื มิใหแพ. จริงอยู ครรภยอมแพดว ยเหตุ ๓ ประการ คือดวยลม ๑ ดวยสัตวทัง้ หลาย ๑ ดว ยกรรม ๑.ในเหตุ ๓ ประการนั้นเมื่อแพด วยลม ก็ใหย าเยน็ เพ่ือแกล ม. เม่ือแพดวยสัตวก็ทาํ การตอตา นสตั วท้งั หลาย. แตเ มอื่ แพด ว ยกรรม แมพ ระพทุ ธเจาทั้งหลายกไ็ มส ามารถปองกนั ได เพราะฉะน้ัน ในที่น้ี จงึ ไมถงึ อาการแพดวยกรรมน้นั . บทวา สาลากยิ  คอื รักษาทางตา. บทวา สลลฺ กกฺ ติ ฺติยคอื รักษาทางผา ตัด. บทวา กายติกิจฺฉา รักษาทางกา คือประกอบยาดว ยรากไมเ ปนตนแลวรักษากาย. บทวา ภูตยิ  คือ รกั ษาทางภตู ผี.บทวา โกมารกเวชฺช รกั ษาโรคเดก็ . บทวา กุหา คอื เปนผหู ลอกลวง. บทวา ถทฺธา กระดาง คือมีรางกายกระดางเหมือนทอ นไม. บทวา ลปา พดู เหลาะแหละ คือพูดเกย่ี วกับ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 433ปจจัย. บทวา สิงฺคี คอื ชอบเครอื่ งประดบั เปน ปกต.ิ บทวา อนุ ฺนฬาคอื มมี านะยกขึ้นสงู ดงั ไมอ อ. บทวา อสมาหติ า ไมม สี มาธิ คอื เวน จากอุปจารสมาธแิ ละอปั ปนาสมาธิ. พึงทราบวินจิ ฉัยในบทวา น คณเฺ หยยฺ เปนตน ดังตอไปนี้ ไมพ ึงถอื เอาดวยการยกขนึ้ แสดง. ไมพึงยดึ ถอื ดว ยการทอ ง. ไมพ งึ ทรงไวดว ยการต้งั ไวใ นจติ . ไมพ ึงเขาไปทรงไวด วยการตัง้ ไวใกล. ไมพ งึ เขา ไปกาํ หนดดว ยการสอบสวน. ไมพ งึ ประกอบดวยการบอกแกคนเหลาอื่น. บทวา เปสเุ ณยฺย คอื การพูดสอเสยี ด. การช้แี จงทเี่ หลอื มคี วามไดกลาวไวแ ลว. บทวา กยวิกกฺ เย ในการซอื้ และการขาย คอื ไมควรตงั้ อยดู ว ยการหลอกลวงกับ ดว ยสหธรรมิกทั้ง ๕ หรอื ดวยปรารถนาความเจรญิ . บทวาอุปวาท ภิกขฺ ุ น กเรยฺย ภกิ ษุไมควรทาํ ความคอนขอด คอื ไมใหเ กดิกเิ ลสทาํ ความคอนขอด ไมพ งึ ยังความคอ นขอดดว ยสมณะและพราหมณอื่นเกิดข้นึ ในตน. บทวา คาเม จ นาภสิ ชฺเชยยฺ ไมพ งึ เกี่ยวของในบา น คือไมพึงเกีย่ วของดวยความคลุกคลกี ับคฤหัสถเ ปนตนในบาน. บทวาลาภมฺยตา ชน น ลเปยฺย คอื ไมพึงพดู เลยี บเคยี งกะชน เพราะความอยากไดลาภ. บทวา เย กยวิกฺกยา วนิ เย ปฏิกขิ ติ ฺตา การซ้ือและการขายเหลาใด อันพระผมู พี ระภาคเจาตรัสหามไวในวนิ ยั คอื การซือ้ และการขายเหลาใด อันพระผูม พี ระภาคเจา ตรัสหามไวใน กยวกิ กฺ ยสิกขาบท ดวยการใหและการรบั วาไมค วร. พระผูมพี ระภาคเจา เพอื่ ทรงแสดงการซื้อและการขายทปี่ ระสงค

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 434ในที่นี้ จึงตรัสพระดาํ รัสมีอาทวิ า ปจฺ นฺน สทธฺ ึ ปตตฺ ึ วา จวี ร วา ดงั นี.้ในบทเหลานัน้ บทวา ปจฺ นนิ  สทฺธึ คือ กบั ดว ยสหธรรมิก ๕ จําพวก.สหธรรมิก ๕ จําพวกไดแ ก ภกิ ษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร และสามเณรี. บทวา จจฺ นิย วา ความหลอกลวง คอื แสดงความหลอกลวงวา สมควร. บทวา อุทย วา ปฏยนฺโต คือ ปรารถนาความเจรญิ .บทวา ปรวิ ตฺเตติ คอื ทําการแลกเปล่ยี น. บทวา อิทธฺ มิ นโฺ ต มฤี ทธิ์ คือมีอาํ นาจใหเกดิ ความสาํ เรจ็ . บทวาทิพพฺ จกขฺ ุกา คือ มีญาณจักขุเชนกับทิพย. อกี อยา งหนึ่ง ไดญ าณจักษุดวยธรรมเปน เครื่องอยูอ าศัยพรอมดวยทิพพวิหารธรรม. บทวา ปรจติ ฺตวทิ ุโนรจู ิตผอู ่ืน คอื รูจติ ของผูอ น่ื ดว ยจิตของตน. บทวา เต ทูรโตป ปสสฺ นฺติสมณพราหมณพ วกน้นั คนเหน็ ไดแตไ กลบาง คอื เหน็ แตจกั รวาลโยชนหนึง่ บา ง ๑๐๐ โยชนบาง ๑,๐๐๐ โยชนบาง ๑๐๐,๐๐๐ โยชนบางจักรวาลหน่ึงบา ง ๒-๓-๔-๕-๑๐- ๒๐- ๔๐-๑,๐๐๐ จักรวาลบา ง ย่ิงกวาน้ันบา ง. บทวา อาสนนฺ าป น ทิสสฺ นฺติ อยูใกลไ มป รากฏบา งคือยืนอยใู กลบ า ง น่ังอยูใ กลบา ง ยอมไมปรากฏ. บทวา เจตสาป จิตตฺ ปชานนฺติ คอื รจู ติ ผอู ่ืนแมด วยจติ ของตน. บทวา เทวตาป โข สนตฺ ิอทิ ธฺ มิ นตฺ นิ ิโย พวกเทวดาผมู ฤี ทธ์ิ คอื เทวดาผมู อี าํ นาจใหความสําเรจ็ มีอยูอ ยา งนี้. บทวา ปรจิตตวิทุนิโย คือ รูจิตของผูอืน่ บทวา โอฬาริเกหิ วา กิเลเสหิ ดว ยกเิ ลสหยาบ คอื ดว ยความเดอื ดรอ นมีกายทจุ รติ เปน ตน . บทวา มชฌฺ มิ เกหิ วา กิเลสปานกลางมีกามวิตกเปนตน . บทวา สขุ มุ เกหิ วา กิเลสละเอยี ดมวี ติ กถึงญาตเิ ปน ตน.

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 435พึงทราบกายทจุ รติ เปนตน ดว ยกรรมบถ. พึงทราบกามวติ กเปน ตน ดว ยกิเลสอนั มีวฏั ฏะเปน มลู . พึงทราบวินจิ ฉัยในวิตกถงึ ญาติเปนตน ดังตอ ไปนี้ :- วิตกเกิดขน้ึเพราะปรารภญาตทิ ้ังหลายดวยความรกั อาศัยกามคุณ ๕ อยา งนว้ี า ญาติท้งั หลายของเรามคี วามเปนอยสู บายมีสมบัติดังนี้ ชอื่ วา วติ กถงึ ญาต.ิ แตวติ กเปน ไปอยา งนวี้ า ญาตทิ ัง้ หลายมศี รัทธาเลอ่ื มใสไดถึงความสน้ิ ไปเส่ือมไปเสยี แลวดังนี้ ไมช ่อื วา วติ กถึงญาติ. วิตกเกดิ ขึน้ ดว ยความรกัอาศัยเรือนของผูมใี จยินดีวา ชนบทของเรามีภิกษาหาไดงาย มีขา วกลาสมบูรณดังนี้ ช่อื วาวิตกถงึ ชนบท. วิตกเปนไปอยา งนวี้ า มนษุ ยท ง้ั หลายในชนบทของเรา ที่มีศรทั ธาเลอื่ มใสไดถ ึงความสิ้นไป ความเสอื่ มไปเสยี แลว ดงั น้ี ไมชอ่ื วา วติ กถึงชนบท. วติ กถึงความไมต าย หรือวา ความวติ กถงึ อมรเทพ ชอ่ื วาวติ กถงึ อมรเทพ. วิตกประกอบแลว ดวยการทาํทุกรกริ ิยานนั้ ของทาํ ทุกขก ริ ิยาดว ยคิดวา ตนจะมคี วามสุขไมตายในภพหนา ถงึ จะแกแลว ดว ยทกุ ขทั้งหลายมกี ารทําความเพยี รดวยการน่งั กระหยงเปน ตน ชื่อวาวิตกถงึ ความไมต าย. สวนเจา ทิฏฐิถกู เขาถามคาํ มีอาทิวาทานจงบอกถึงสสั สตทิฏฐดิ งั น้ี ยอ มถงึ ความลําบากใจวา เราไมรูวาอยา งนก้ี ็ใช เราไมรวู า อยา งนั้นกใ็ ช อยางอนื่ กใ็ ช เราก็ไมรวู า ไมมีกใ็ ช เราไมรูว า ไมมีหามไิ ดก ็ใช ดงั น้ี วติ กของเจา ทฏิ ฐินัน้ เปนวิตกประกอบดว ยทิฏฐิ. เทพช่อื อมรเพราะไมตาย โดยไมมีสณั ฐานแมใ นสว นเดียว เหมอื นปลาช่อื วา อมร ใคร ๆ ไมอาจจบในน้ําเอามาฆาได วายไปขา งโนน ชา งน้จี นจับไมไ ดฉ ะนั้น แมท ัง้ สองน้ัน ทานกลา วรวมเปน อันเดียวกนั วา อมรวิตกฺโก วติ กถงึ เทพอมร. บทวา ปรานทุ ทฺ ยตาปฏสิ  ยตุ ฺโต

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 436วิตกประกอบดวยความเปนผูเอน็ ดผู อู ื่น คอื ประกอบดว ยความรกั อาศัยเรือนเหมอื นกนั กับความเปน ผูเอน็ ดผู อู ืน่ คือเม่ืออปุ ฏฐากยนิ ดแี ละเศราโศกภิกษุยอมยินดแี ละเศราโศกสองเทา กบั ดว ยอุปฏฐากเหลา นัน้ เมื่ออุปฏ ฐากเหลา นน้ั มคี วามสุข ภกิ ษกุ ม็ คี วามสุขสองเทา เมื่ออุปฏ ฐากมีความทกุ ขภกิ ษกุ ม็ ีความทกุ ขสองเทา เมือ่ กจิ ทจี่ ะตอ งทําเกดิ ขนึ้ ภกิ ษุขวนขวายยอ มทาํ กิจนั้นใหส ําเรจ็ ยอ มลว งบญั ญัติ ยงั สลั เลขปฏบิ ัตใิ หก ําเรบิ . วิตกใดอาศัยเรือนในเพราะอยูเก่ียวของกัน หรอื ในเพราะขวนขวายชวยเหลอื กันนน้ั นชี้ ื่อวา วติ กประกอบดว ยความเปน ผเู อ็นดูผูอื่น. บทวา ลาภสก-ฺการสโิ ลกปฏิส ยตุ ฺโต วิตกประกอบดวยลาภสักการะและความสรรเสรญิคอื วิตกประกอบดว ยทาํ ความยนิ ดีกบั ดวยลาภมจี วี รเปน ตน ดวยสักการะและดว ยชือ่ เสียง. บทวา อนวฺ ตฺติปฏสิ  ยุตฺโต วิตกประกอบดว ยความไมถ กู ดหู ม่นิ คอื วติ กเกิดกับความปรารถนาความไมถ ูกดหู มน่ิ อยา งนีว้ าไฉนหนอ คนอน่ื จะไมพึงดูหมน่ิ เรา ไมพ งึ พูดทกั ทว งขมเหงเรา. วติ กเกิดข้นึ อาศัยเรือนคือกามคณุ ๕ ในเมื่อจติ เกิดข้ึนวา คนอน่ื อยา ไดดูหม่ินเราเลยดังน้ี ชอ่ื วา วติ กประกอบดวยความไมถ ูกดูหมิ่น. บทวา ตตฺถ ตตถฺ สชฺชติ คอื ภกิ ษุยอมเกยี่ วขอ งในที่นน้ั ๆ คอืติดอยูในอารมณน น้ั ๆ. บทวา ตตฺถ ตตฺถ คณฺหาติ ยอ มรับในท่ีน้ันๆคอื เขาไปสอู ารมณดังกลา วแลว. บทวา พชฌฺ ติ ผูกพนั คือยอมผกู พันยอ มเปน อันเดยี วกนั กับดวยอารมณนน้ั ๆ. บทวา อนยพฺพยสน ความฉิบหาย คือความไมเ จริญและความพนิ าศในท่ีนัน้ ๆ. บทวา อาปชชฺ ติแปลวา ยอ มถึง. บทวา อามสิ ฺสจกขฺ กุ สฺส ภิกษผุ ูเหน็ แกอามสิ คอื ผโู ลเลดวย

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 437อามิสมจี วี รเปนตน. บทวา โลกธมมฺ ครุกสฺส หนักอยใู นโลกธรรม คือละโลกุตรธรรม พูดหนกั อยแู ตโ ลกธรรมมรี ปู เปนตน เทานน้ั . บทวาอาลปนา การพูดหวา นลอม คอื เห็นมนุษยท้งั หลายมาวิหาร แลว พดูเลยี บเคียงต้งั แตตน อยางน้ีวา ผูเจริญทงั้ หลาย พวกทา นมาเพือ่ อะไรหรือจะมานิมนตภ ิกษุ หากวา เปนอยา งน้นั เชิญพวกทานไปเถิด อาตมาจะมารับภายหลงั . อีกอยางหน่งึ พูดแนะนําคนแลว พูดเลียบเคียง แนะนําตนอยา งนี้วาอาตมาชอื่ ติสสะ พระราชาทรงเล่อื มใสในอาตมา มหาอาํ มาตยข องพระ-ราชาชื่อโนน ๆ กเ็ ล่อื มใสในอาตมา ดังนี้ ช่อื วา พดู หวานลอ ม. บทวาลปนา พูดเลยี บเคียง คอื เมือ่ ถามแลวก็พดู เลยี บเคียงดังที่ไดก ลาวแลวน้นั แล. บทวา สลลฺ ปนา พดู เลยี บเคียงดวยดี. คอื หาโอกาสใหข องทีด่ ีเลศิ แกคหบดที ้ังหลายแลว พูดเลียบเคียงดว ยดี. บทวา อุลฺลปนา การพดูยกยอ ง คือพูดยกใหสูงอยา งนวี้ า เปนมหากุฎมพี เปนผูใ หทานมากเปน มหาทานบดีดงั น.้ี บทวา สมุลฺลปนา พดู ยกยอ งดวยดี คือพูดยกใหส ูงในทกุ สว นดว ยประการทง้ั ปวง. บทวา อนุ ฺนหนา การพดู ผกู พนัคอื ภิกษพุ ดู วา อุบาสกทั้งหลาย เมอื่ ในกาลเชนนีพ้ วกทา นใหทานใหมเพราะเหตไุ รเด๋ยี วนไี้ มใหเ ลา พวกอุบาสกกลา วคําเปนตนวา พระคณุ เจากระผมจกั ถวายตลอดเวลา แตพวกกระผมยงั ไมไ ดโ อกาส. ช่อื วา พดูผูกพันใหส ูงไวกอน. อีกอยา งหนึง่ ภิกษเุ ห็นเขาถือออ ย ถามวา อบุ าสกเอาออยมาจากไหน. เขาตอบวา เอามาจากไรอ อ ย ขอรับ. ถามวา ออยท่ไี รนนั้ มีรสอรอ ยดีดอกหรือ. เขาตอบวา พระคณุ เจาฉันแลวจะรูเอง. ควรพดู วา

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 438อุบาสก พวกทา นอยา ถวายออยแกภ กิ ษุเลย. การพูดผูกพนั แมข องภิกษุผไู ขความอยางน้ี กช็ อ่ื วาพดู ผกู พนั . การพูดผกู พนั บอ ย ๆ ทุกสว นโดยประการทง้ั ปวง ชื่อวาการพดู ผูกพนดวยดี. บทวา อกุ ฺกาจนา การพูดอวดอา ง คอื พดู อวดอยางนว้ี า ตระกูลน้นั รจู ักเราดี หากไทยธรรมเกดิขึ้นในทน่ี ี้ กจ็ ะใหเ ราแนนอน. อธบิ ายวา การอวดอาง. การพดู อวดบอ ย ๆ ทกุ ๆ สวนโดยประการท้งั ปวง ช่อื วาการพดู อวดอา งดวยดี. บทวา อนุปปฺ ย ภาณณิ า การพูดฝากรัก คือพูดดวยคํานารกับอย ๆ ดวยอํานาจปจ จัย. บทวา สณหฺ วาจตา การพดู ออนหวาน คือพูดออนโยน. บทวา สขลิ ราจตา พูดไพเราะ คือพดู พอดี ๆ หรอื พูดแตนอย. บทวา ลิตฺตวาจตา คือ พดู หนักแนน . บทวา อผรสุ วาจตาพดู ไมห ยาบ คอื พดู ไพเราะ. บทวา โปราณ มาตาเปตฺติก คอื ชื่อครัง้ ทเี่ กิดเปนของมารดาบดิ าต้งั ให. บทวา อาหติ  คอื ช่ือนน้ั ปกปดเปนเรือ่ งภายใน. บทวา ายามิ คอื ฉนั ยอ มปรากฏ. บทวา อสุกสฺสกุลุปโก เปนกลุ ูปกะ (ผูเ ขาสตู ระกูล) ของอุบาสกโนน คอื เปนผเู ขา ถงึตระกลู ของอํามาตยโนน. บทวา อสกุ าย คือ อุบาสิกาโนน . บทวาม อสุ สฺ ชิชิตฺวา คอื ลืมฉนั เสียแลว. บทวา ปยตุ ตฺ  คอื มุงแตจะไดดวยจวี รเปน ตน. หรือมุงประโยชนน้นั . การขยายความคาถานี้ท้งั หมดมีนัยดงั กลา วแลว ในหนหลังนน่ั แล. บทวา โมสชฺ เชน นิยฺเยถ คอื ภิกษพุ งึ เวน จากการพูดเท็จบทวา ชวี ิเตน คอื ดวยความเปน อยู. บทวา สโ เปน ผูโออวด คือไมพ ดูชอบ เพราะแสดงคณุ ทไี่ มม.ี เปน ผโู ออวดทกุ ๆ สว นโดยประการทง้ั ปวงชอ่ื วาเปน ผอู วดอา ง. บทวา ย ตตถฺ คือ ทม่ี ใี นบุคคลน้ัน. บทวา ส

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 439ความโออวด คือหลอกลวงแสดงคณุ ทไ่ี มม ี. บทวา สตา กิรยิ าที่โออวด คืออาการโออ วด. ทวา สาเยฺย คอื ความเปน ผโู ออ วด.บทวา กกฺกรตา ความเปน ผูพดู กระดาง คือความเปน ผหู ยาบคาย ไมกลา จบั ตองดุจความระคายของกา นบวั ฉะน้นั . แมบทวา กกฺกริย กเ็ ปนไวพจนของบทวา กกกฺ รตา น้นั นนั่ เอง. ทานกลา วความหลอกลวงอยางหนักแนนดจุ ฝง ไวดวยสองบทวา ปริกฺขตตฺ ตา ปริกขฺ ตฺติย ความเปนผเู หอ เหมิ กริ ยิ าทเ่ี หอเหิม. แตอ าจารยบ างพวกพรรณนาความน้วี าบทวา กกฺกรตา คอื พูดยกยอ ง. บทวา กกฺกริย กริ ยิ าที่พดู ยกยอ ง.บทวา ปรกิ ฺขตตฺ ตา คือ อาการตกแตง. บทวา ปริกขฺ ตติ ิย คอื กริ ยิ าที่ตกแตง . บทวา อิท วจุ จฺ ติ คือ นท้ี า นเรียกวาเปนผูโ ออวด มีลักษณะประกาศคุณทไี่ มมอี ยูแกต น. ตองหรอื หลังของบคุ คลผูป ระกอบดวยความโออวดน้นั ใคร ๆ กไ็ มส ามารถจะรูไ ด. เชน เดยี วกับยกั ขสกุ รกลาวไวอยางน้ีวา สุกร เปนอยูโดยเบื้องซา ย แพะและเนือ้ เปนอยู โดยเบอ้ื งขวา แกะเปนอยดู วยเสยี ง โคแกเปนอยู ดว ยเขา. บทวา อติมฺ ติ ยอ มดหู มน่ิ คอื ลว งเกนิ . บทวา กึ ปนายพหุลาชโี ว คือ ภิกษนุ ท้ี ําไมจึงมีความเปนอยูอยา งฟุมเฟอ ย. บทวา สพฺพสมภฺ กฺเขติ ยอ มฉันพืชท้งั ปวง คอื ฉันพชื ทไี่ ดแ ลว ๆ. บทวา อปฺปปุ โฺ คือ มีบุญนอ ย. บทวา อปฺเปสกฺโข มีศักด์ินอ ย คือไมม บี ริวาร. บทวาปฺ าสมปฺ นฺโน ถึงพรอมดว ยปญญา คือมีปญ ญาสมบรู ณบรบิ ูรณบทวา ปหฺ  วิสชฺเชติ คอื กลา วแกป ญ หาได.

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 440 บทวา สตุ ฺวา ทสฺ โิ ต พหุ วาจ สมณาน วา ปุถชุ นาน ภกิ ษุถูกประทุษรายไดฟ งวาจามากของพวกสมณะ หรอื ของคนผูมถี อยคํามากคอื ถูกประทุษรา ย เสยี ดสี ไดฟ งวาจาท่ีไมน า ปรารถนาแมมากของสมณะเหลา น้ัน หรือของปถุ ุชนเหลา อนื่ มกี ษัตรยิ เปนตน . บทวา น ปฏิวชชฺ คือไมพ งึ โตต อบ. เพราะอะไร. เพราะภิกษุผูส งบยอมไมทําผอู ืน่ ใหเปนศตั ร.ู บทวา กกฺขเลน คอื ดวยคาํ หยาบ. บทวา สนฺโต ผูส งบ คือดับกิเลสไดแลว. บทวา ปฏิเสนึ คือ ศตั รู. บทวา ปฏิมลฺล คอื ขาศึก.บทวา ปฏกิ ณฺฏ คือ เปนเวร. บทวา ปฏิปกฺข เปน ปฏิปก ษ คอื เปนปฏิปก ษด วยกิเลส. อธบิ ายวา ไมทําความเกยี่ วของดว ยอาํ นาจกเิ ลส. บทวา เอตฺจ ธมมฺ มฺ าย รูธรรมนัน้ แลว คอื รธู รรมตามทีก่ ลาวแลว นน้ั ทั้งหมด. บทวา วิจนิ  คือ คน ควา อย.ู บทวา สนตฺ ตึ ินพิ พฺ ุตึ ตฺวา คอื รคู วามดบั ราคะเปน ตน วา เปน ความสงบ. บทวา สมฺจ ธรรมอนั เสมอ คือกายสุจรติ เปนตน . บทวา วสิ มฺจธรรมอันไมเสมอมีกายทจุ ริตเปนตน. บทวา ปถจฺ ธรรมเปน ทาง คอืกศุ ลกรรมบถ ๑๐. บทวา วปิ ถฺจ ธรรมไมเ ปนทาง คืออกศุ ล-กรรมบถ ๑๐. บทวา สาวชฺชจฺ ธรรมมีโทษ คืออกศุ ล. บทวาอนวชชฺ จฺ ธรรมไมม ีโทษ คอื กศุ ล. แมบ ทวา หนี ปปฺ ณตี กณฺหสุกกฺ -วิฺคู รหิตปปฺ สตฺถ ธรรมเลว ธรรมประณตี ธรรมดํา ธรรมขาวธรรมท่วี ิญูชนตเิ ตยี น ธรรมท่ีวิญชู นสรรเสรญิ แมน้ี ก็เปน กุศลและอกศุ ลนน่ั เอง. ในธรรมเปนกศุ ลและอกุศลเหลา นน้ั กายสจุ รติ เปน ตนเปนธรรมอันเสมอ เพราะทําใหเสมอ. กายทุจรติ เปน ตน เปน ธรรมอันไมเสมอเพราะทาํ ใหไมเสมอ. กุศลกรรมบถเปนทาง เพราะเปน ทางไปสุคติ.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 441อกศุ ลกรรมบถไมเ ปน ทาง เพราะเปนปฏิปกษตอ การไปสคุ ติ เพราะเปนทางไปอบาย. อกุศลช่ือวา เปนธรรมมีโทษ เพราะเปน ไปกบั ดว ยโทษ.กศุ ลชือ่ วา เปน ธรรมไมม โี ทษ เพราะมโี ทษออกไปแลว . อน่งึ พงึ ทราบวาชอื่ วา เปนธรรมเลว เพราะประกอบดว ยโมหะบาง โมหะและโทสะบางโมหะและโลภะบาง. ชอ่ื วา เปนธรรมประณีต เพราะประกอบดว ยอโลภะอโทสะ และอโมหะ. ช่ือวา เปน ธรรมดํา เพราะมีวบิ ากดํา. ช่ือวาเปน ธรรมขาว เพราะมีวิบากขาว. ช่อื วา เปน ธรรมอนั วญิ ูชนตเิ ตยี นเพราะวิญูชนมีพระพุทธเจา เปนตนทรงติเตียน. ชื่อวา เปนธรรมอนัวิญูชนสรรเสริญ เพราะอันวิญูชนเหลาน้นั นัน่ แล สรรเสรญิ . หากถามวา เพราะเหตไุ ร ภิกษุไมพ ึงประมาท. พงึ ทราบคาถาวาอภภิ ู หิ โส เพราะภกิ ษนุ ้ันเปน ผูครอบงาํ ดงั นีเ้ ปนตน . ในบทเหลานนั้ บทวา อภิภู คือ เปนผคู รอบงาํ รปู เปน ตน. บทวาอนภภิ โู ต ไมถ ูกครองงํา คือไมถ ูกรูปเปน ตน เหลาน้ันครอบงํา. บทวาสกฺขิธมมฺ  อนตี หิ มทสสฺ ี ไดเหน็ แลวซง่ึ สักขิธรรมโดยไมต อ งเช่ือตอ ผูอื่นคือไดเห็นธรรมแจมแจง แลวโดยไมตอ งเชื่อตอ ผอู ื่น. บทวา สทา นมสฺส-มนุสิกเฺ ข นมสั การอยู พงึ หมนั่ ศึกษาในกาลทกุ เม่ือ คือนมสั การอยูพงึ ศึกษาสกิ ขา ๓. บทวา เกหจิ ิ กิเลเสหิ คือ ดว ยกเิ ลสอนั ทําใหเรา รอนมรี าคะเปนตนอยา งใดอยา งหนงึ่ . บทวา อธโิ ภสิ เน คอื ครอบงาํ กิเลสเหลา นน้ั ไดแลว.บทที่เหลือในทีท่ ั้งปวงชดั ดแี ลว. แตใ นทน่ี ี้พงึ ทราบการสํารวมอินทรยี  ดว ยบทมอี าทิวา ไมเปนผูโลเลดวยจักษอุ ยางเดียวเทานั้น. พงึ ทราบปจ จยปฏเิ สวนศีล (ศลี คือการ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 442เสพปจ จยั ) มีการหามการสะสมเปนหลัก ดวยบทมีอาทวิ า แหง ขาวหรือแหงน้ําทั้งหลาย. พึงทราบปาตโิ มกขสังวรศีล (ศลี คือการสาํ รวมในปาติ-โมกข) ดวยบทมีอาทวิ า เวน การพดู เทจ็ . พงึ ทราบอาชวี ปาริสทุ ธศีล(ศลี คืออาชวี ะบรสิ ุทธ์)ิ ดว ยบทมีอาทิวา ทาํ อาถรรพณ ทาํ นายฝน ทํานายลกั ษณะ พงึ ทราบสมาธิดว ยบทนวี้ า พงึ เปน ผูเ พง . พึงทราบไตรสกิ ขาโดยสงั เขปดว ยบทมอี าทิวา พึงเปนผูมสี ติศึกษาทกุ เมอื่ พระผมู ีพระ-ภาคเจาตรสั การสงเคราะหและการบรรเทา อนั เปน อุปจาระแหงศลี สมาธิปญญา ดว ยบทมอี าทิวา ภกิ ษุพึงอยูใ นท่นี ่งั ทีน่ อนอันมีเสียงนอ ย ไมพึงเห็นแกนอนมากนกั . พระผมู พี ระภาคเจาคร้ันตรัสปฏปิ ทาบรบิ ูรณแกพระ-พุทธนมิ ิตอยา งนแี้ ลว ทรงจบเทศนาดว ยธรรมเปนยอด คอื พระอรหัต. เมือ่ จบเทศนา ไดมผี บู รรลธุ รรมเชน เดยี วกนั กบั ที่กลา วไวแลวในปุราเภทสูตรนั้นแล. จบอรรถกถาตุวฏกสุตตนทิ เทสท่ี ๑๔

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 443 อตั ตทัณฑสตุ ตนิทเทสท่ี ๑๕ [๗๘๙] (พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั วา) ภยั เกิดแตอ าชญาของ ตน ทานทัง้ หลายจงดูคนท่ีทุม เถยี งกนั เราจกั แสดง ความสงั เวชตามทเี่ ราไดส งั เวชมาแลว. วา ดวยภยั ๒ เกิดจากอาชญา ๓ อยาง [๗๙๐] ช่ือวา อาชญา ในคําวา ภยั เกิดแตอาชญาของตน ไดแ กอาชญา ๓ อยา ง คือ อาชญาทางกาย ๑ อาชญาทางวาจา ๑ อาชญาทางใจ ๑กายทุจรติ ๓ ชือ่ วา อาชญาทางกาย วจีทุจรติ ๔ ช่ือวา อาชญาทางวาจามโนทจุ รติ ๓ ช่ือวา อาชญาทางใจ. ช่ือวาภยั คือ ภัย ๒ อยา ง ไดแ กภัยมีในชาติน้ี ๑ ภัยมีในชาตหิ นา ๑. ภัยมีในชาตินเี้ ปนไฉน บคุ คลบางคนในโลกนี้ ประพฤติทุจริตดว ยกาย ประพฤติทุจริตดวยวาจา ประพฤติทุจรติ ดว ยใจ ฆาสตั วบ างลกั ทรัพยบ าง ตดั ที่ตอบาง ปลนทุกหลังคาเรอื นบา ง ปลนเฉพาะเรือนหลงั เดยี วบาง ดกั แยงชิงอยทู ห่ี นทางเปลีย่ วบา ง คบชภู รรยาแหงชายอืน่ บาง พูดเทจ็ บา ง พวกราชบุรษุ จบั คนผูนน้ั ไดแลว ทูลแดพระราชาวาขอเดชะ บรุ ษุ ผนู ี้เปน โจร ประพฤตชิ ่ัว พระองคจงลงอาชญาทีท่ รงพระประสงคแ กบ รุ ษุ นเี้ ถดิ พระราชากทรงตวาดบรภิ าษคนผูนน้ั คนน้นัของเสวยทุกขโ ทมนสั แมเพราะเหตุที่ถกู บริภาษ ทกุ ขโทมนสั นั้นเปนภัยของคนน้ันเกิดแตอ ะไร ภัยน้ันเกิด เกิดพรอม บังเกดิ บังเกิดเฉพาะปรากฏแตอาชญาของตน. พระราชายังไมพอพระทัย แมด ว ยการบรภิ าษเทา นี้ ยอ มรบั สงั่ ใหจ องจาํ คนนั้นดว ยเครอ่ื งจองจําคือขอ่ื คาบา ง ดว ยเครื่อง

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 444จองจําคอื เชือกบาง ดวยเครือ่ งจองจาํ คือโซตรวนบา ง ดว ยเคร่ืองจองจาํคอื หวายบา ง ดวยเครอ่ื งจองจาํ คือเถาวลั ยบ า ง ดวยเคร่อื งจองจาํ คือการควบคมุ บา ง ดวยเครอ่ื งจองจาํ คือเครือ่ งลอ มบาง ดวยเคร่ืองจองจาํ คือบานบาง ดว ยเคร่อื งจองจําคือนครบา ง ดวยเคร่ืองจองจาํ คือแวนแควนบางดวยเคร่ืองจองจําคอื ชนบทบาง โดยท่สี ุดทรงบงั คบั วา มนั จะหนีจากถามทจี่ องจํานไ้ี ปไมได คนน้นั ตอ งเสวยทุกขโทมนัสแมเ พราะเหตกุ ารจองจาํ นนั้ ภยั ทุกขโ ทมนัสของคนนัน้ เกิดแตอ ะไร ภัยน้นั เกดิ เกิดพรอมบังเกดิ บงั เกิดเฉพาะ ปรากฏแตอ าชญาของตน. พระราชายังไมพอพระทัยแมดวยการจองจาํ น้ัน ยอ มรบั สัง่ ใหริบทรัพยของคนน้นั รอ ยหนง่ึ บาง พนั หนึง่ บาง แสนหนง่ึ บาง คนนั้นตองเสวยทกุ ขแ ละโทมนัสแมเ พราะเหตุแหงความเส่อื มทรัพย ทุกขโทมนสัน้นั เปนภยั ของคนนั้นเกิดแตอะไร ภัยนัน้ เกดิ เกดิ พรอม บงั เกดิบังเกิดเฉพาะ ปรากฏแตอาชญาของตน. พระราชายงั ไมพ อพระทยั แมดว ยการรบิ ทรพั ยเ ทา นน้ั ยอมรบั สัง่ ใหท าํ กรรมกรณตาง ๆ กะคนน้นั คอืใหเ ฆี่ยนดวยแสบ าง ใหเ ฆ่ียนดวยหวายบา ง ใหดีดว ยไมพลองบาง ใหตดั มอื บา ง ใหต ัดเทาบา ง ใหตดั ทงั้ มือท้ังเทา บา ง ใหต ดั ใบหบู าง ใหตัดจมูกบาง ใหต ดั ทัง้ ใบหทู ้ังจมูกบาง วางกอนเหลก็ แดงบนศีรษะบา งถลกหนงั ศรี ษะออกแลวขัดใหขาวเหมือนสังขบาง ใสไ ฟลุกโพลงเขา ไปในปากจนโลหติ ไหลออกเต็มปากเหมือนปากราหูบาง พนั ตวั ดวยผาชบุ น้ํามันแลว เผาทั้งเปนบา ง พนั มอื ดว ยผา ชุบนา้ํ มันแลว จุดไฟใหลุกเหมือนประทีปบา ง ถลกหนงั ต้ังแตคอลงมาถงึ ขอเทาลากใหเ ดนิ เหยยี บหนังน้ันจนลมลงบาง ถลกหน่ึงต้ังแตค อลงมาถงึ บน้ั เอวทาํ ใหเ ปนดังนุงผา

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 445คากรองบาง สวมปลอกเหล็กท่ขี อศอกและเขา ท้งั หมดแลวเสียบหลาวเหลก็๔ ทศิ ต้ังไวเผาไฟบา ง เอาเบด็ เก่ยี วหนงั เนอ้ื เอน็ ออกมาบา ง เอามดี เฉือนเนือ้ ออกเปนแวน ๆ ดงั เหรยี ญกษาปณบาง เฉือนหนังเน้ือเอ็นออกเหลอืแตกระดกู บาง แทงหลาวเหลก็ ทช่ี องหูจนทะลถุ ึงกันเสยี บตดิ ดินแลว จบัหมุนไปโดยรอบบา ง ทุบใหก ระดกู ละเอยี ดแลวถลกหนังออกเหลอื แตก องเนอ้ื ดังต่ังใบไมบ าง เอานา้ํ มันเดือดพลานรดตวั บา ง ใหส นุ ขั กัดกินทง้ั เปนจนเหลอื แตกระดูกบาง เสยี บหลาวยกข้ึนนอนหงายทงั้ เปนบาง เอาดาบตดั ศีรษะบาง คนนัน้ ตอ งเสวยทุกขโ ทมนสั แมเพราะเหตุแหง กรรมกรณภยั ทกุ ขโ ทมนัสน้นั ของคนนนั้ เกดิ แตอ ะไร ภัยนนั้ เกดิ เกดิ พรอ ม บงั เกดิบงั เกดิ เฉพาะ ปรากฏแตอาชญาของตน. พระราชาเปนใหญใ นอาชญา ๔ อยางเหลาน้ี คนนน้ั เมือ่ ตายไปแลวยอมเขา ถึงอบาย ทคุ ติ วินิบาต นรก เพราะกรรมของตน พวกนายนริ ยบาลยอมใหทํากรรมกรณอนั มีเครื่องจองจาํ ๕ กะสัตวนั้น คือ (ใหส ตั วน้นั นอนหงายแลว) เอาหลาวเหลก็ แดงตรึงไวท่ีมอื ขวา ๑ ท่มี ือซา ย ๑ที่เทา ขวา ๑ ทีเ่ ทา ซา ย ๑ ท่ที ามกลางอก ๑ สัตวน น้ั ไดเ สวยทกุ ขเวทนาแสบรอ นรายแรงในนรกนนั้ แตย งั ไมตาย ตลอดเวลาที่บาปกรรมนนั้ ยังไมส น้ิ ภยั ทกุ ขและโทมนัสน้ันของสัตวน ัน้ เกิดแตอ ะไร ภัยนน้ั เกดิ เกิดพรอม บงั เกิด เกิดเฉพาะ ปรากฏแตอ าชญาของตน. พวกนายนิรยบาลใหส ัตวน ั้นนอนลงแลว เอาผ่งึ ถาก สัตวนั้นไดเสวยทกุ ขเวทนาแสบรอ นรา ยแรงในนรกนนั้ แตยังไมตาย ตลอดเวลาท่ีบาปกรรมนั้นยงั ไมส ิน้ พวกนายนิรยบาลจบั สตั วนนั้ เอาเทา ชี้ขนึ้ ขา งบนเอาหัวหอยลงขางลางแลวเอามดี ถาก เทยี มสตั วน้นั เขาท่ีรถแลว ใหวง่ิ ไปขาง

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 446หนา บาง ใหว ิง่ กลับมาขางหลังบา ง บนแผน ดินท่ไี ฟตดิ ทัว่ มไี ฟลุกโพลง ฯลฯ พวกนายนริ ยบาลไลตอ นใหสตั วนั้นขน้ึ บนภูเขาถา นเพลิงใหญท ่ไี ฟตดิ ทั่ว มีไฟลกุ โพลงบาง ไลตอ นใหล งจากภเู ขานน้ั บา ง ฯลฯพวกนายนิรยบาลจับสัตวน ้ันเอาเทา ช้ีขน้ึ ขางบน เอาหัวหอ ยลงขา งลา งแลวเหว่ยี งลงไปในหมอเหลก็ อนั รอ น ท่ีไฟติดท่ัว มีไฟลุกโพลง สตั วน ้ันเดือดพลานอยูในหมอเหล็กเหมือนฟองนา้ํ ที่เดือด เมอื่ เดือดพลานอยใู นหมอ เหล็กเหมือนฟองนํ้าที่เดือด บางครงั้ กเ็ ดือดพลานไปขางบน บางครั้งก็เดือดพลาไปขา งลาง บางคร้ังก็เดือดพลานไปทางขวาง สตั วน ้ันไดเสวยทุกขเวทนา แสบรอนรา ยแรงอยูในหมอเหลก็ นัน้ แตย ังไมต ายตลอดเวลาทบ่ี าปกรรมน้ันยงั ไมสน้ิ ภยั ทกุ ขแ ละโทมนสั ของสตั วน้ันเกิดแตอะไร ภัยน้ันเกิด เกดิ พรอม บงั เกดิ บังเกดิ เฉพาะ ปรากฏแตอาชญาของตน. พวกนายนริ ยบาลโยนสัตวน ้นั ลงไปในมหานรก วา ดวยมหานรก ก็แหละมหานรกนนั้ มีมุมสี่เหล่ยี มจตรุ สั มปี ระตู สช่ี อ ง ซง่ึ จาํ แนกนับออกโดยสวน มีกําแพงเหล็กลอม- รอบ มีแผนเหล็กครอบไว มหานรกนัน้ มภี าคพืน้ สาํ เร็จ ดวยเหล็ก มเี ปลวไฟรุงโรจน ประกอบดวยไฟรอ น แผไ ป รอยโยชนโดยรอบต้งั อยตู ลอดกาลทัง้ ปวง มหานรกอัน เปน ที่นา สยดสยองเผาผลาญสตั วใ หมีทุกขร า ยแรง มี เปลวไฟ แสนยากที่จะเขาใกล นา ขนลุกขนพอง นา กลัว ใหเ กิดภยั ใหเ กิดทุกข กองเปลวไฟตัง้ ขน้ึ แตฝ า








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook