Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_66

tripitaka_66

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:43

Description: tripitaka_66

Search

Read the Text Version

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 345นน้ั ๆ ยอมติดอยใู นทน่ี ัน้ ๆ ถึงความฉบิ หายในทน่ี ัน้ ๆ ภกิ ษุยอ มเก่ียว-ของในบานแมอยา งน้ี ภกิ ษุยอมไมเ กี่ยวขอ งในบา นอยางไร ภิกษใุ นธรรมวินัยนี้ ยอมไมอยเู กย่ี วขอ ง ไมรว มยินดี ไมรวมเศรา โศก กบั พวกคฤหสั ถในบา น เม่ือพวกคฤหสั ถม สี ขุ กม็ ีสขุ ดว ย มที ุกขก ็ไมทุกขด ว ยเมอ่ื มธี ุรกิจท่ตี อ งทาํ เกดิ ข้ึน ก็ไมถ ึงความชว ยเหลอื ดว ยตน ภิกษุยอมไมเกย่ี วขอ งในบานแมอ ยางน้ี อกี อยา งหนึง่ เวลาเชาภกิ ษนุ งุ สบงแลว ถือบาตรและจีวรเขาไปยังบา นหรอื นิคมเพ่ือบิณฑบาต รักษากาย รกั ษาวาจารักษาจิต ต้ังสติม่ัน สํารวมอินทรยี  ยอ มไมเ กยี่ วขอ งในทนี่ ้นั ๆ ยอมไมร ับในท่ีน้ันๆ ยอ มไมต ิดอยูในที่นัน้ ๆ ไมถึงความฉบิ หายในที่น้ัน ๆภิกษุยอมไมเ กีย่ วขอ งในบานแมอ ยางนี้. คาํ วา ไมเกย่ี วของในบา น ความวา ภิกษุไมพงึ เกย่ี วขอ ง ไมร ับไมต ดิ ไมพ วั พันในบา น ไมพ ึงเปนผกู าํ หนัดยินดหี ลงใหลติดใจในบานพงึ เปน ผูห ายกําหนัด ปราศจากกําหนดั สละกําหนดั เสียแลว ฯลฯ พงึเปน ผมู ีตนดจุ พรหมอยู เพราะฉะน้ัน จงึ ชอ่ื วา ไมพึงเกี่ยวขอ งในบา น. วา ดว ยการพดู เลียบเคียง [๗๖๕] พึงทราบวนิ จิ ฉัยในคาํ วา ไมพงึ พดู เลยี บเคยี งกะชนเพราะความอยากไดล าภ ดังตอ ไปนี้ การพดู เลียบเคียงเปนไฉน การพดู หวานลอ ม การพูดเลียบเคียงการพดู เลียบเคียงดว ยดี การพดู ยกยอง การพูดยกยองดวยดี การพูดผูกพนั การพูดผกู พันดวยดี การพูดอวดอา ง การพูดอวดอา งดวยดี การพูดฝากรกั ความเปน ผพู ดู มุงใหเขารักตน ความเปนผพู ูดเหลวไหลดังวา

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานิทเทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 346แกงถัว่ ความเปน ผพู ูดประจบ ความเปน ผูพ ูดแคะได (ดจุ กินเนื้อหลงัผอู ่ืน) ความเปน ผูพดู ออนหวาน ความเปน ผูพดู ไพเราะ ความเปนผูพดูดว ยไมตรี ความเปนผูพดู ไมห ยาบคายแกช นเหลา อืน่ แหงภกิ ษผุ มู ่ันหมายลาภสกั การะและความสรรเสริญ มีความปรารถนาลามก อนั ความปรารถนาครอบงํา เปนผเู หน็ แกอามิส หนกั อยูในโลกธรรม กริ ยิ านเ้ี รยี กวาการพูดเลยี บเคยี ง. อกี อยา งหนง่ึ ภกิ ษุพดู เลียบเคียงกะชนดวยเหตุ ๒ อยาง คือตง้ั ตนต่าํยกผูอน่ื สงู พูดเลียบเคียงกะชน ๑ ยกตนสูง ตงั้ ผูอนื่ ตํ่า พูดเลยี บเคียงกะชน ๑. ภิกษุต้ังตนตํา่ ยกผอู ่ืนสงู พูดเลียบเคยี งกะชนอยางไร ภกิ ษุตั้งตนต่ํา ยกผูอ่ืนสูง พดู กะชนอยา งน้วี า ทา นท้ังหลายมีอุปการะมากแกฉนั ฉันไดจีวร บณิ ฑบาต เสนาสนะและคลิ านปจจัยเภสัชบรขิ ารเพราะอาศยั ทา นท้งั หลาย แมคนอื่น ๆ ยอ มสาํ คญั เพ่ือจะใหห รือเพื่อจะทาํแกฉนั คนเหลานน้ั อาศยั ทานท้งั หลาย เหน็ แกท า นท้งั หลาย จงึ ใหจงึ ทาํ แกฉัน แมช ่ือเกาเปน ของมารดาและบิดา ชือ่ แมน ั้นของฉนั หายลับไป ฉนั ยอมปรากฏเพราะทานท้งั หลายวา เปนกุลปุ กะของอุบาสกโนนเปน กลุ ุปกะของอบุ าสิกาโนน ภกิ ษตุ ัง้ ตนตา่ํ ยกผอู ืน่ สูง พูดเลียบเคียงกะชนอยางน้.ี ภกิ ษยุ กตนสงู ตง้ั ผอู ื่นตาํ่ พดู เลยี บเคียงกะชนอยางไร ภิกษุยกตนสงู ตั้งผอู ่นื ตํา่ พูดเลยี บเคียงกะชนแมอยา งนว้ี า ฉนั มอี ปุ การะมากแกพวกทา น พวกทา นอาศยั ฉนั จงึ ถึงพระพทุ ธเจา เปน สรณะ ถงึ พระ-ธรรมเปน สรณะ ถงึ พระสงฆเปน สรณะ เวน ขาดจากปาณาติบาต เวน

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 347ขาดจากอทินนาทาน เวนขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร เวน ขาดจากมสุ าวาทเวนขาดจากเหตทุ ่ีเปนท่ตี ้ังแหงความประมาทในเพราะด่ืมนํา้ เมา คอื สรุ าและเมรยั ฉนั ยอมบอกใหพ ระบาลี ยอมบอกใหค าํ อธบิ ายพระบาลี ยอมบอกอโุ บสถ ยอมอํานวยการกอ สรา ง แกทานทัง้ หลาย กแ็ ตเมอ่ื ทานทงั้ หลายลืมฉันเสยี แลว ยอมสักการะเคารพนับถือบูชาภกิ ษุเหลาอื่น ภิกษุยกตนสงู ตงั้ ผูอ่นื ตํา่ พูดเลียบเคยี งกะชนแมอยา งน้.ี คาํ วา ไมพ ึงพดู เลยี บเคยี งกะชนเพราะความอยากไดลาภ ความวา ภกิ ษุเมอื่ จะใหล าภสาํ เร็จ ไมพึงพดู เลียบเคยี งกะชน คือพึงละบรรเทาทาํ ใหสนิ้ ไป ใหถ งึ ความไมมี ซึ่งการพดู เลยี บเคียงกะชน เปนผงู ด เวนเวน เฉพาะ ออก สลดั ออก พนขาด ไมเ ก่ยี วขอ งการพูดเลยี บเคยี งเพราะเหตุแหงลาภ เพราะการณะแหง ลาภ เพราะความบังเกิดขน้ึ แหง ลาภ พงึเปน ผูมีจติ ปราศจากแดนกเิ ลสอยู เพราะฉะนั้น จึงชอ่ื วา ไมพึงพูดเลียบ-เคียงกะชน เพราะความอยากไดลาภ เพราะเหตนุ ั้น พระผมู พี ระภาคเจาจงึ ตรัสตอบวา ภิกษุไมพึงตง้ั อยใู นการซ้อื ขาย ไมพ งึ ทํากเิ ลสเปน เคร่อื งคอนขอดในทไี่ หนๆ ไมพ ึงเก่ยี วขอ งในบาน ไม พึงพดู เลยี บเคียงกะชนเพราะความอยากไดลาภ. [๗๖๖] ภิกษไุ มพ ึงเปนผูพูดโออ วด ไมพ งึ กลา ววาจามงุ ได ไมพ ึงศึกษาความเปน ผคู ะนอง และไมพงึ กลา วถอยคาํ แกงแยง .

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 348 วาดวยการพดู โออวด [๗๖๗] พงึ ทราบอธบิ ายในคาํ วา ภกิ ษไุ มพึงเปนผพู ูดโออ วดดงั ตอไปน้.ี ภิกษุบางรปู ในธรรมวินัยนี้ เปนผูพ ูดโออ วด อวดอาง ภกิ ษุนัน้ยอ มพูดโออ วด อวดอา งวา เราเปนผถู งึ พรอมดวยศลี บา ง ถึงพรอ มดวยวตั รบา ง ถงึ พรอ มดวยศีลและวัตรบา ง ถงึ พรอมดว ยชาตบิ า ง ถงึพรอ มดวยโคตรบา ง ถึงพรอ มดว ยความเปนบตุ รสกลุ บา ง ถึงพรอ มดวยความเปนผมู รี ปู งามบา ง ถึงพรอมดวยทรพั ยบา ง ถึงพรอมดวยความเช้อืเชญิ บา ง ถงึ พรอ มดว ยหนา ทกี่ ารงานบา ง ถึงพรอมดวยศลิ ปศาสตรบา งถงึ พรอมดว ยวทิ ยฐานะบาง ถงึ พรอมดวยการศกึ ษาบาง ถงึ พรอมดว ยปฏภิ าณบา ง ถึงพรอมดว ยวัตถอุ นื่ ๆบาง เราออกบวชจากสกุลสูงบา งออกบวชจากสกลุ มีโภคสมบตั มิ ากบาง ออกบวชจากสกุลมีโภคสมบตั ิยงิ่ใหญบาง เปนผูทรงจําพระสูตรบาง เปน ผูทรงจาํ พระวินยั บา ง เปน พระ-ธรรมกถึกบาง เปน ผูถ อื อยปู า เปน วัตรบาง ฯลฯ เปนผูไดเนวสัญญานา-สัญญายตนสมาบัติบาง ภกิ ษุไมพ ึงพดู โออ วดอยา งนี้ คือพึงละ บรรเทาทําใหส ิน้ ไป ใหถงึ ความไมมซี ่ึงความพดู โออ วด พงึ เปนผงู ด เวน เวน-เฉพาะ ออก สลดั ออก พนขาด ไมเกย่ี วของกับการพดู โออ วด พึงเปนผูมีจิตปราศจากแดนกิเลส เพราะฉะนัน้ จึงชอ่ื วา ภิกษุไมพ งึ เปนผพู ูดโออ วด. วา ดว ยการกลาววาจามงุ ได [๗๖๘] พงึ ทราบอธิบายในคาํ วา ไมพงึ กลา ววาจามงุ ได ดงัตอ ไปน้ี

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 349 วาจามุงไดเปนไฉน ภิกษุบางรปู ในธรรมวนิ ยั น้ี ยอมกลาววาจามงุ ไดจวี ร กลา ววาจามงุ ไดบิณฑบาต กลา ววาจามุงไดเ สนาสนะ กลาววาจามุงไดค ิลานปจ จัยเภสชั บริขาร วาจาน้ีเรยี กวา วาจามงุ ได. อีกอยา งหนง่ึ ภิกษุพดู จรงิ บาง พูดเทจ็ บาง พดู สอ เสียดบาง พดู ไมสอ เสยี ดบา งพดู หยาบบา ง พดู ไมห ยาบบา ง พดู เพอเจอ บาง พูดไมเ พอ เจอบา ง พดูดว ยปญ ญาบาง เพราะเหตุแหง จวี ร เพราะเหตุแหง บณิ ฑบาต เพราะเหตุแหง เสนาสนะ เพราะเหตแุ หงคลิ านปจจยั เภสชั บริขาร แมวาจานีก้ เ็ รียกวาวาจามุง ได. อกี อยางหนง่ึ ภกิ ษุมจี ติ เลอ่ื มใส แสดงธรรมแกชนทง้ั หลายอ่ืนดวยคดิ วา โอหนอ ขอชนทั้งหลายพึงฟงธรรมของเรา คร้ันฟง แลวพึงเลื่อมใสธรรม ครัน้ เลอ่ื มใสแลว พึงทําอาการของคนผูเลอ่ื มใสตอเราวาจาน้กี เ็ รียกวา วาจามงุ ได. คาํ วา ไมพึงกลาววาจามงุ ได ความวา ภิกษไุ มพ งึ กลาว ไมพึงบอก ไมพงึ พูด ไมพงึ แสดง ไมพ งึ แถลงวาจามุงได ตลอดถึงวาจาแสดงธรรมเปนทีส่ ดุ คอื พึงละ บรรเทา ทาํ ใหส ้ินไป ใหถ ึงความไมม ี ซงึ่วาจามงุ ได พึงเปน ผูง ดเวน เวนเฉพาะ ออก สลดั ออก พน ขาด ไมเก่ียวขอ งกบั วาจามงุ ได พงึ เปน ผูม ีจิตปราศจากแดนกเิ ลสอยู เพราะฉะนั้นจงึ ชือ่ วา ไมพ ึงกลาววาจามุงได. วาดว ยความคะนอง ๓ อยา ง [๗๖๙] ชื่อวา ความคะนอง ในคาํ วา ไมพ ึงศึกษาความเปน ผูคะนอง ไดแกความคะนอง ๓ อยาง คอื ความคะนองทางกาย ๑ ความคะนองทางวาจา ๑ ความคะนองทางใจ ๑

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย มหานทิ เทส เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 350 ความคะนองทางกายเปนไฉน ภกิ ษบุ างรปู ในธรรมวินยั นี้ อยใู นสงฆกด็ ี อยูในคณะกด็ ี อยใู นโรงฉันกด็ ี อยูในเรอื นไฟกด็ ี อยทู ีท่ า น้าํกด็ ี กําลังเขา ไปสูละแวกบานก็ดี เขาไปสลู ะแวกบา นแลว ก็ดี ก็แสดงความคะนองทางกาย. ภิกษอุ ยูใ นสงฆแ สดงความคะนองทางกายอยางไร ภิกษุบางรปูในธรรมวนิ ยั นี้ อยูในสงฆ ไมท ําความยําเกรง ยนื เบียดพวกภกิ ษุที่เปนเถระบาง น่ังเบียดพวกภิกษทุ ่ีเปน เถระบา ง ยืนบังหนาบาง น่งั บังหนาบา ง น่ังบนอาสนะสงู บาง นง่ั คลุมศีรษะตนบา ง (ยืนตวั แขง็ ) ยนื ไมก มพูดบา ง แกวงแขนพูดบา ง ภกิ ษอุ ยูในสงฆแ สดงความคะนองทางกายอยา งน้ี. ภิกษุอยใู นคณะแสดงความคะนองทางกายอยา งไร ภิกษุบางรูปในธรรมวนิ ยั น้ี อยใู นคณะ ไมทําความยําเกรง เม่อื พวกภกิ ษทุ เี่ ปนเถระไมสวมรองเทาเดินอยู กส็ วมรองเทาเดนิ ไป เมอ่ื พวกภิกษทุ ่ีเปนเถระเดินอยูในทจ่ี งกรมตํา่ กเ็ ดินในทีจ่ งกรมสูง เมือ่ พวกภิกษุทเ่ี ปน เถระเดนิ อยูบนแผนดนิ กเ็ ดินในทจี่ งกรม ยนื เบียดบาง นั่งเบยี ดบาง ยืนบงั หนาบา ง น่งั บังหนาบา ง นัง่ บนอาสนะสงู บาง น่งั คลุมศีรษะตนบา ง ยนื ตวัแขง็ พดู บา ง แกวง แขนพูดบาง ภกิ ษอุ ยใู นคณะแสดงความคะนองทางกายอยางน้ี. ภิกษุอยูในโรงฉันแสดงความคะนองทางกายอยา งไร ภิกษบุ างรูปในธรรมวนิ ยั น้ี อยใู นโรงฉนั ไมทาํ ความยําเกรง น่งั แทรกแซงพวกภกิ ษทุ ่เี ปนเถระบาง น่งั กีดกันอาสนะพวกภิกษุทเี่ ปน นวกะบาง ยนื เบียดบาง น่ังเบียดบาง ยืนบังหนาบา ง นั่งบงั หนา บา ง น่ังบนอาสนะสูงบา ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook