Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_30

tripitaka_30

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:36

Description: tripitaka_30

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 64 ๖. ทตุ ิยสามญั ญสูตร วา ดวยสามัญญะและสามญั ญผล [๑๐๒] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย เราจกั แสดงสามัญญะและประโยชนแหง สามญั ญะแกเธอท้ังหลาย เธอทงั้ หลายจงฟงเรื่องนั้น. [๑๐๓] ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย กส็ ามญั ญะเปน ไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ นี้แล คอื ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้งั ใจชอบ น้ีเรยี กวาสามญั ญะ. [๑๐๔] ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย กป็ ระโยชนแหง สามญั ญะเปนไฉนความส้ินราคะ ความสน้ิ โทสะ ความสิ้นโมหะ น้ีเรียกวา ประโยชนแ หงสามญั ญะ. จบทุติยสามัญญสูตรท่ี ๖ ๗. ปฐมพรหมญั ญสตู ร ความเปนพรหมและเปนพรหมญั ญผล [๑๐๕] สาวตั ถีนทิ าน. ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย เราจกั แสดงพรหมญั ญะ(ความเปนพรหม) และพรหมัญญผล (ผลแหงความเปน พรหม) แกเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟง เรอื่ งน้ัน. [๑๐๖] ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ก็พรหมัญญะเปน ไฉน อริยมรรคอนัประกอบดวยองค ๘ นแ้ี ล คอื ความเห็นชอบ ฯลฯ ความตัง้ ใจชอบ นีเ้ รยี กวา พรหมญั ญะ.

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 65 [๑๐๗] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย กพ็ รหมญั ญผลเปน ไฉน คือ โสดาปตติผล สกทาคามิผล อนาคามผิ ล อรหัตผล นี้เรียกวา พรหมญั ญผล. จบปฐมพรหมญั ญสตู รที่ ๗ ๘. ทตุ ิยพรหมญั ญสูตร ความเปน พรหมและประโยชนแหงความเปนพรหม [๑๐๘] สาวัตถีนิทาน. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เราจักแสดงพรหมัญญะและประโยชนแ หง พรหมัญญะแกเ ธอท้งั หลาย เธอทั้งหลายจงฟง เรือ่ งนน้ั . [๑๐๙] ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย กพ็ รหมญั ญะเปน ไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ น้ีแล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความตัง้ ใจชอบ น้เี รียกวา พรหมัญญะ. [๑๑๐] ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย กป็ ระโยชนแ หง พรหมัญญะเปน ไฉนความสิ้นราคะ ความสน้ิ โทสะ ความสิน้ โมหะ น้เี รยี กวา ประโยชนแ หงพรหมัญญะ. จบทุตยิ พรหมญั ญสตู รท่ี ๘

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 66 ๙. ปฐมพรหมจรยิ สูตร พรหมจรรยและผลแหง พรหมจรรย [๑๑๑] สาวัตถนี ิทาน. ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย เราจกั แสดงพรหมจรรยและผลแหง พรหมจรรย แกเ ธอทงั้ หลาย เธอทงั้ หลายจงฟงเร่ืองนัน้ . [๑๑๒] ดูกอนภิกษุท้งั หลาย ก็พรหมจรรยเปนไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ นแ้ี ล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความตั้งใจชอบ น้เี รยี กวา พรหมจรรย. [๑๑๓] ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็ผลแหงพรหมจรรยเ ปนไฉน คือโสดาปต ติผล สกทาคามิผล อนาคามผิ ล อรหตั ผล น้ีเรียกวา ผลแหงพรหมจรรย. จบปฐมพรหมจริยสตู รท่ี ๙ ๑๐. ทุตยิ พรหมจรยิ สตู ร พรหมจรรยและประโยชนแ หง พรหมจรรย [๑๑๔] สาวตั ถีนิทาน. ดกู อนภกิ ษุท้ังหลาย เราจกั แสดงพรหมจรรยและประโยชนแ หงพรหมจรรย แกเธอท้งั หลาย เธอทัง้ หลายจงฟง เรอ่ื งน้ัน. [๑๑๕] ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ก็พรหมจรรยเปนไฉน อรยิ มรรคอนัประกอบดวยองค ๘ นี้แล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้ังใจชอบ นี้เรียกวา พรหมจรรย.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 67 [๑๑๖] ดูกอนภกิ ษุท้งั หลาย ก็ประโยชนแหง พรหมจรรยเปน ไฉนความสนิ้ ราคะ ความส้ินโทสะ ความสิ้นโมหะ นเ้ี รียกวา ประโยชนแ หงพรหมจรรย. จบทตุ ยิ พรหมจริยสตู รท่ี ๑๐ จบปฏิปต ตวิ รรคที่ ๔ ปฏปิ ต ตวิ รรควรรณนาท่ี ๔ อรรถกถาปฏิปตติสตู รเปน ตน พึงทราบวินิจฉยั ในปฏิปตตสิ ูตรท่ี ๑ แหง ปฏปิ ตติวรรคที่ ๔. บทวา มจิ ฺฉาปฏิปตฺตึ คอื ซ่งึ ไมป ฏบิ ตั ิตามเปนจรงิ . บทวา มิจฺ-ฉาปฏปิ นนฺ  คอื ผไู มป ฏิบตั ิตามเปน จรงิ . สูตรหน่งึ ทา นกลาวดวยสามารถธรรม สูตรหนง่ึ ดว ยสามารถบคุ คล. บทวา อปาราปาร ไดแ ก ซง่ึ นิพพานจากวัฏฏะ ชนเหลาใด ถึงซ่ึงฝงแลวกด็ ี กาํ ลังถงึ กด็ ี จกั ถึงก็ดี ชนเหลา น้นัท้ังหมดพึงทราบวา เปน ผูถึงฝง ในบทวา ปารคามิโน ดังน้ี. บทวา ตรี เมวานธุ าวติ ความวา ยอ มวิ่งไปสวู ัฏฏะนัน่ เอง คอืยอ มเทย่ี วไปในวัฏฏะ. บทวา กณหฺ  คือ อกศุ ลธรรม. บทวา โอกา อโนกไดแ ก จากวฏั ฏะอาศยั นพิ พาน. บทวา อาคมมฺ ไดแ ก ปรารภ หมายถึงอาศัย. บทวา ปริโยทเปยฺย ไดแ ก พึงทาํ ใหบรสิ ุทธ.์ิ บทวา จิตฺตกฺเลเสหิไดแก ดว ยนิวรณอ นั ทาํ จติ ใหเศรา หมอง. บทวา สมโฺ พธิยงเฺ คสุ ไดแกในโพชฌงค ๗.

พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 68 บทวา สามฺตฺถ ไดแ ก นิพพาน. จรงิ อยู นิพพานน้นั ทานกลา ววา ประโยชนข องความเปน สมณะ เพราะควรเขา ถึงโดยความเปนสมณะ. บทวา พฺรหฺมฺ คอื ความเปน ผูประเสรฐิ สุด. บทวา พฺรหฺม-ฺตฺถ ไดแ ก พระนพิ พาน เพราะควรเขาถงึ โดยความเปน ผปู ระเสริฐสุด.เกจิอาจารยกลา ววา นิพพานอนั มาแลววา เปน ที่ส้ินไปแหงราคะในหนหลังและใน ๓ สูตรนใ้ี นท่ใี ด ๆ แมอ รหตั กค็ วรในท่ีนั้น ๆ เชนกัน. จบอรรถกถาปฏิปตตสิ ตู รเปนตน จบปฏปิ ต ติวรรควรรณนาท่ี ๔ รวมพระสตู รท่มี ีในวรรคนี้ คอื ๑. ปฏิปตตสูตร ๒. ปฏิปนนสตู ร ๓. วิรทั ธสตู ร ๔. ปารสูตร๕. ปฐมสามญั ญสตู ร ๖. ทุตยิ สามัญญสตู ร ๗. ปฐมพรหมญั ญสูตร๘. ทตุ ยิ พรหมญั ญสตู ร ๙. ปฐมพรหมจริยสตู ร ๑๐. ทุติยพรหมจริยสูตร

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 69 อญั ญติตถิยวรรคที่ ๕ ๑. วิราคสตู ร ขอปฏิบตั ิเพือ่ สาํ รอกราคะ [๑๑๗] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ถาพวกอัญญเดียรถยี -ปรพิ าชก พงึ ถามเธอทงั้ หลายอยา งน้วี า ดูกอ นผมู อี ายุทั้งหลาย ทา นท้ังหลายอยูประพฤตพิ รหมจรรยในพระสมณโคดมเพื่อประโยชนอ ะไร เธอท้งั หลายถกู ถามอยางนแ้ี ลว พึงช้แี จงแกพ วกอัญญเดยี รถยี ปริพาชกเหลา น้ันอยา งน้วี าดูกอ นผมู ีอายทุ ้ังหลาย เราท้ังหลายอยูป ระพฤตพิ รหมจรรยใ นพระผมู ีพระ-ภาคเจา เพือ่ สํารอกราคะ. [๑๑๘] ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ก็ถาพวกอญั ญเดียรถียปริพาชก พึงถามเธอทัง้ หลายอยา งนี้วา ดกู อนผมู อี ายุทง้ั หลาย กท็ างมอี ยหู รอื ขอปฏิบัติเพ่ือสาํ รอกราคะมีอยูหรอื เธอท้ังหลายถกู ถามอยา งน้แี ลว พงึ ชี้แจงแกพ วกอญั ญเดียรถียปริพาชกเหลา น้ันอยา งนี้วา ดกู อนผูมีอายุท้งั หลาย ทางมอี ยูขอ ปฏิบัติเพ่อื สํารอกราคะมีอยู. [๑๑๙] ดกู อนภิกษุทั้งหลาย กท็ างเปน ไฉน ขอปฏบิ ตั ิเพอ่ื สํารอก-ราคะเปน ไฉน อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ น้ีแล คือความเหน็ ชอบ ฯลฯความตงั้ ใจชอบ นเ้ี ปนทาง น้ีเปน ขอปฏิบัติเพ่อื สาํ รอกราคะ ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย เธอทัง้ หลายถูกถามอยางนี้แลว พงึ ชี้แจงแกพวกอัญญเดยี รถยี -ปริพาชกเหลา น้ันอยา งน้.ี จบวริ าคสตู รที่ ๑

พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 70 ๒. สงั โยชนสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเ พอ่ื ละสังโยชน [๑๒๐] สาวตั ถีนิทาน. ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ถา พวกอญั ญเดียรถยี -ปริพาชก พึงถามเธอท้ังหลายอยา งนว้ี า ดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย ทานทงั้ หลายอยูประพฤติพรหมจรรยในพระสมณโคดมเพอ่ื ประโยชนอ ะไร เธอท้ังหลายถูกถามอยา งน้ีแลว พงึ ช้แี จงแกพวกอัญญเดียรถยี ปรพิ าซกเหลา นัน้ อยา งนว้ี าดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย เราทง้ั หลายอยูประพฤตพิ รหมจรรย ในพระผมู ีพระ-ภาคเจา เพอื่ ละสงั โยชน ฯลฯ จบสังโยชนสตู รท่ี ๒ ๓. อนสุ ยสูตร ประพฤติพรหมจรรยเ พอ่ื ถอนอนสุ ัย [๑๒๑] . . .ดกู อ นผมู อี ายทุ ั้งหลาย เราทงั้ หลายอยูป ระพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพื่อถอนอนสุ ัย ฯลฯ จบอนุสยสูตรท่ี ๓

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 71 ๔. อัทธานสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเ พอ่ื กาํ หนดรูสงั สารวฏั [๑๒๒] . . . ดูกอ นผูม ีอายุทั้งหลาย เราท้ังหลายอยูประพฤติพรหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพ่ือกําหนดรูสงั สารวัฏอันยดื ยาว ฯลฯ จบอทั ธานสูตรท่ี ๓ ๕. อาสวสูตร ประพฤติพรหมจรรยเ พื่อสิ้นอาสวะ [๑๒๓] . . .ดกู อ นผมู ีอายทุ ้ังหลาย เราทงั้ หลายอยูประพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู ีพระภาคเจา เพ่อื ความสน้ิ อาสวะ ฯลฯ จบอาสวสูตรที่ ๕ ๖. วชิ ชาวิมตุ ตสิ ตู ร ประพฤติพรหมจรรยเ พ่อื ทาํ ใหแ จงซึง่ วิชชาและวมิ ตุ ติ [๑๒๔] . . . ดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย เราทง้ั หลายอยปู ระพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผูมีพระภาคเจา เพอ่ื กระทาํ ใหแจง ซึ่งผลแหงวชิ ชา และวมิ ุตติ ฯลฯ จบวิชชาวมิ ุตตสิ ตู รท่ี ๖

พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 72 ๗. ญาณทัสสนสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเพื่อญาณทสั สนะ [๑๒๕] . . .ดกู อนผูมีอายทุ ้ังหลาย เราทง้ั หลายอยูประพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพือ่ ญาณทสั สนะ ฯลฯ จบญาณทสั สนสตู รท่ี ๗ ๘. อนปุ าทาปรนิ พิ พานสูตร ขอ ปฏิบัติเพ่ืออนุปาทาปรินิพพาน [๑๒๖] ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ถา พวกอัญญเดยี รถยี ป ริพาชก พงึถามเธอทงั้ หลายอยา งน้วี า ดูกอ นผมู ีอายุทั้งหลาย ทานท้ังหลายอยูประพฤติพรหมจรรยใ นพระสมณโคดม เพือ่ ประโยชนอะไร เธอทั้งหลายถูกถามอยา งนีแ้ ลว พึงชแ้ี จงแกพวกอัญญเดยี รถียป รพิ าชกเหลา นน้ั อยา งนีว้ า ดกู อนผมู อี ายุท้ังหลาย เราทงั้ หลายอยปู ระพฤติพรหมจรรยใ นพระผูม ีพระภาคเจาเพื่ออนปุ าทาปรนิ พิ พาน. [๑๒๗] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย ก็ถาพวกอญั ญเดยี รถยี ปรพิ าชกพึงถามเธอทงั้ หลายอยา งนี้วา ดูกอนผูม ีอายุท้งั หลาย ก็ทางมอี ยูหรือ ขอ ปฏิบตั ิเพื่ออนุปาทาปรนิ ิพพานมีอยูหรือ เธอทงั้ หลายถกู ถามอยา งนี้แลว พงึ ชแ้ี จงแกพวกอัญญเดยี รถยี ป ริพาชกเหลา นน้ั อยา งนว้ี า ดูกอนผมู อี ายทุ ้งั หลายทางมีอยู ขอปฏบิ ตั ิเพือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พานมอี ยู.

พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 73 [๑๒๘] ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ก็ทางเปน ไฉน ขอ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื อนุปาทา-ปรินพิ พานเปน ไฉน อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ นีแ้ ล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้งั ใจชอบ นีเ้ ปน ขอปฏิบัตเิ พือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พานดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย เธอทัง้ หลายถูกถามอยา งนแ้ี ลว พงึ ชี้แจงแกพวกอัญญ-เดียรถียป ริพาชกเหลา นน้ั อยางนี้. จบอนุปาทาปรินพิ พานสตู รที่ ๘ จบอัญญติตถิยวรรคท่ี ๕ อรรถกถาอัญญติตถิยเปยยาล พึงทราบวนิ ิจฉัยใน อัญญติตถยิ เปยยาล. บทวา อทธฺ านปริฺตฺถ ไดแ ก กําหนดรสู ังสารวฏั อันยดื ยาวเพราะฉะนนั้ ทา นจงึ กลา ววา นิพพานเพอื่ กาํ หนดรูสังสารวัฏอันยดื ยาว.อธบิ ายวา เพ่อื ประโยชนแกพ ระนพิ พานนนั้ . บทวา อนุปาทาปรินิพฺพานตถฺ ไดแ ก ไมใ ชประโยชนท างปจจัย เพือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พาน. อนงึ่ ในเปยยาลนี้ทานกลา วถึงพระอรหัต ดวยผลคือวชิ ชาวมิ ุตติ ทานกลาวการพิจารณาดวยญาณทัสสนะวา เปน นิพพาน โดยบทท่ีเหลอื ดว ยประการฉะน.้ี จบอรรถกถาอญั ญติตถิยเปยยาล รวมพระสตู รในอัญญติตถยิ วรรค คือ ๑. วริ าคสูตร ๒. สงั โยชนสูตร ๓. อนสุ ยสตู ร ๔. อทั ธานสตู ร๕. อาสวสูตร ๖. วิชชาวิมตุ ตสิ ูตร ๓ . ญาณทสั สนสูตร ๘. อนปุ าทา-ปรนิ พิ พานสตู ร พรอมท้งั อรรถกถา.

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 74 *สรุ ิยเปยยาลท่ี ๖ ๑. ปฐมกัลยาณมติ ตสตู ร มติ รดีเปน นมิ ิตแหง อรยิ มรรค [๑๒๙] สาวตั ถีนิทาน. ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย เม่อื พระอาทิตยจะขึ้นส่งิ ทีข่ น้ึ กอน สิ่งทีเ่ ปน นิมติ มากอน คอื แสงเงินแสงทอง สง่ิ ทีเ่ ปน เบ้อื งตนเปน นิมติ มากอน เพื่อความบงั เกิดแหงอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ของภกิ ษุ คือ ความเปน ผูม มี ติ รดี ฉนั นั้นเหมือนกนั ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลายอนั ภิกษผุ มู มี ิตรดี พึงหวงั ขอ น้ไี ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ จกั ทําใหม ากซง่ึ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘. [๑๓๐] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย กภ็ ิกษุผูม มี ิตรดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซ่ึงอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘อยา งไรเลา . ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มเจริญสัมมาทิฏฐิอนั อาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจรญิสัมมาสมาธิ อนั อาศัยวเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศยั นิโรธ นอ มไปในการสละดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษมุ ีมติ รดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค๘ ยอมกระทาํ ใหมากซงึ่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางน้ีแล. จบปฐมกัลยาณมติ ตสูตรที่ ๑*อรรถกถา แกรวมไวทายวรรคนี้.

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 75 ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร สีลสัมปทา เปนนมิ ติ แหงอริยมรรค [๑๓๑] สาวัตถีนทิ าน. ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย เมอื่ พระอาทิตยจะข้นึส่งิ ท่ขี ้ึนกอ น สงิ่ ทเี่ ปน นมิ ิตมากอ น คือ แสงเงินแสงทอง สงิ่ ที่เปนเบ้อื งตนเปนนิมติ มากอ น เพ่อื ความบงั เกิดแหงอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ของภกิ ษุ คอื ความถงึ พรอ มแหง ศีล ฉันนัน้ เหมอื นกนั ดูกอนภกิ ษุท้ังหลายอนั ภกิ ษผุ ูถงึ พรอ มดวยศีล พงึ หวังขอ นไี้ ด ฯลฯ จบปฐมสีลสมั ปทาสตู รท่ี ๒ ๓. ปฐมฉนั ทสัมปทาสตู ร ฉันทสัมปทาเปนนิมติ แหง อริยมรรค [๑๓๒] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ฉนั ทะ ฯลฯ จบปฐมฉันทสมั ปทาสูตรที่ ๓

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 76 ๔. ปฐมอัตตสัมปทาสูตร อตั ตสมั ปทาเปนนมิ ติ แหงอรยิ มรรค[๑๓๓] . . . คอื ความถงึ พรอมแหง ตน [ความถงึ พรอ มแหง จติ ] ฯลฯ จบปฐมอตั ตสัมปทาสูตรที่ ๔ ๕. ปฐมทิฏฐิสมั ปทาสูตร ทิฏฐสิ ัมปทาเปน นิมติ แหง อริยมรรค[๑๓๔] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ทิฏฐิ ฯลฯ จบปฐมทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๕ ๖. ปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตร ความไมประมาทเปนนิมิตแหง อริยมรรค[๑๓๕] . . . คอื ความถงึ พรอมแหง ความไมป ระมาท ฯลฯ จบปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตรท่ี ๖

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 77 ๗. ปฐมโยนโิ สมนสิการสมั ปทาสูตร โยนโิ สมนสิการเปน นมิ ติ แหงอรยิ มรรค [๑๓๖] สาวตั ถีนทิ าน. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เมอ่ื พระอาทิตยจะขึ้นส่ิงที่ข้นึ กอ น ส่ิงทเ่ี ปนมมิ ติ มากอน คอื แสงเงินแสงทอง สิง่ ทเี่ ปน เบอ้ื งตนเปนนมิ ิตมากอ น เพอื่ ความบังเกิดแหงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ของภกิ ษุ คอื ความถึงพรอ มแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ฉนั นนั้เหมอื นกัน ดกู อนภิกษุท้ังหลาย อันภิกษผุ ถู งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย พงึ หวงั ขอ นไี้ ดว า จักเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘จกั กระทําใหม ากซ่งึ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๓๗] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย กภ็ ิกษุผถู งึ พรอมดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางไร ภกิ ษุในธรรมวินยั น้ี ยอมเจริญสมั มาทิฏฐิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศัยนโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวิราคะ อาศยั นิโรธนอ มไปในการสละ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษผุ ถู ึงพรอ มดว ยการกระทําไวในใจโดยแยบคาย ยอมเจริญอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซง่ึ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางน้แี ล. จบปฐมโยนิโสมนสกิ ารสมั ปทาสูตรท่ี ๗

พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 78 ๘. ทุติยกลั ยาณมติ ตสตู ร มติ รดีเปนนิมิตแหง อรยิ มรรค [๑๓๘] สาวัตถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เมื่อพระอาทิตยจ ะข้นึส่ิงท่ีขึน้ กอ น สงิ่ ทีเ่ ปนนมิ ิตมากอน คอื แสงเงนิ แสงทอง ส่งิ ที่เปนเบ้อื งตนเปนนิมติ มากอ น เพือ่ ความบังเกดิ แหงอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘ ของภิกษุ คอื ความเปน ผมู ีมิตรดี ฉันนน้ั เหมือนกนั ดกู อนภิกษุท้งั หลาย อันภิกษผุ ูมมี ติ รดี พงึ หวงั ขอนไ้ี ดวา จักเจริญอรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘จักกระทาํ ใหม ากซ่งึ อริยมรรคประกอบดว ยองค ๘. [๑๓๙] ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย กภ็ กิ ษผุ มู มี ติ รดี ยอมเจริญอริยมรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหมากซง่ึ อรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘อยางไรเลา ภกิ ษใุ นธรรมวินัยนี้ ยอ มเจริญสัมมาทฏิ ฐิ มีอนั กาํ จดั ราคะเปนท่ีสุด มีอนั กําจัดโทสะเปน ท่สี ดุ มีอันกําจดั โมหะเปนท่สี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิสัมมาสมาธิ มอี นั กําจัดราคะเปน ที่สดุ มีอนั กาํ จดั โทสะเปน ที่สดุ มอี นั กาํ จัดโมหะเปน ท่ีสุด ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษผุ ูม ีมติ รดี ยอมเจรญิ อริยมรรคประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึ่งอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘อยา งนี้แล. จบทุติยกลั ยาณมิตตสตู รที่ ๘

พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 79 ๙. ทตุ ยิ สีลสมั ปทาสูตร สลี สัมปทาเปน นมิ ติ แหง อริยมรรค [๑๔๐] สาวัตถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย เม่อื พระอาทติ ยจะข้ึนสง่ิ ทีข่ ้ึนกอน สิ่งท่เี ปนนิมิตมากอ น คือ แสงเงนิ แสงทอง ส่ิงทีเ่ ปนเบ้ืองตนเปนนิมติ มากอ น เพอื่ ความเกดิ แหง อริยมรรคประกอบดว ยองค ๘ ของภิกษุคือ ความถึงพรอ มดวยศีล ฉนั นัน้ เหมือนกนั ฯลฯ จบทุตยิ สีลสัมปทาสูตรที่ ๙ ๑๐. ทุตยิ ฉนั ทสัมปทาสตู ร ฉนั ทสมั ปทาเปนนิมติ แหงอริยมรรค [๑๔๑] . . . คอื ความถงึ พรอ มแหงฉนั ทะ ฯลฯ จบทุติยฉันทสมั ปทาสตู รที่ ๑๐

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 80 ๑๑. ทุตยิ อตั ตสมั ปทาสตู ร อัตตสัมปทาเปนนมิ ติ แหงอริยมรรค[๑๔๒] . . . คอื ความถงึ พรอ มแหงตน ฯลฯ จบทตุ ยิ อตั ตสัมปทาสูตรท่ี ๑๑ ๑๒. ทุติยทิฏฐิสัมปทาสูตร ทิฏฐิสมั ปทาเปนนิมติ แหงอริยมรรค[๑๔๓] . . . คือ ความถึงพรอมแหง ทิฏฐิ ฯลฯ จบทตุ ยิ ทิฏฐสิ ัมปทาสูตรท่ี ๑๒ ๑๓. ทตุ ยิ อปั ปมาทสมั ปทาสตู ร ความไมประมาทเปน นิมติ แหง อริยมรรค[๑๔๔] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ความไมประมาท ฯลฯ จบทุติยอัปปมาทสัมปทาสตู รท่ี ๑๓

พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 81 ๑๔. ทุติยโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร โยนิโสมนสกิ ารเปนนิมิตแหง อริยมรรค [๑๔๕] สาวตั ถนี ิทาน. ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย เมอื่ พระอาทิตยจ ะขึ้นส่ิงทข่ี น้ึ กอน ส่งิ ที่เปน นิมติ มากอ น คอื แสงเงินแสงทอง สิง่ ที่เปน เบ้ืองตนเปนนิมิตมากอ น เพอื่ ความเกดิ แหง อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ของภกิ ษุคือ ความถงึ พรอมแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ฉันนนั้ เหมือนกนัดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย อนั ภิกษุผูถ งึ พรอมแหง ความกระทําไวในใจโดยแยบคายพึงหวังขอ นี้ไดวา จักเจริญอริยมรรคประกอบดว ยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซึง่ อรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘. [๑๔๖] ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ก็ภิกษผุ ูถงึ พรอมดว ยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางไรเลา ภิกษใุ นธรรมวินยั น้ี ยอมเจรญิ สมั มาทิฏฐิ มีอนั กาํ จดั ราคะเปนทส่ี ดุ มีอนั กําจัดโทสะเปนท่ีสุด มอี นักาํ จดั โมหะเปนทส่ี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิ สัมมาสมาธิ มีอนั กําจัดราคะเปนทสี่ ุดมีอันกาํ จดั โทสะเปน ทส่ี ดุ มอี นั กําจัดโมหะเปน ท่สี ุด ดูกอนภกิ ษุท้งั หลายภิกษผุ ถู ึงพรอมดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึง่ อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘อยางน้ีแล. จบทุตยิ โยนโิ สมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑๔ จบสรุ ิยเปยยาลที่ ๖

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 82 อรรถกถาสุรยิ เปยยาลพึงทราบวนิ จิ ฉยั ใน สุรยิ เปยยาล.พึงทราบเนื้อความในที่ทัง้ ปวงอยา งนว้ี า ความเปน ผูมีมติ รดี ดุจการขนึ้ ไปแหงอรุณ อรยิ มรรคพรอ มกับวิปสสนาอันดํารงอยู เพราะความเปนผมู ีมิตรดแี ลวทาํ ใหเกิดขนึ้ ดุจความปรากฏแหงพระอาทิตย. บทวา สลี สมฺปทาไดแ ก จตปุ ารสิ ทุ ธศลี . บทวา ฉนฺทสมปฺ ทา ไดแ ก กตั ตกุ ามยตาฉันทะอันเปนกศุ ล. บทวา อตตฺ สมปฺ ทา คือความเปนผมู จี ิตสมบรู ณแลว . บทวาทฏิ สิ มปฺ ทา ไดแ ก ความถึงพรอมแหง ญาณ. บทวา อปฺปมาทสมฺปทาไดเเก ความถงึ พรอมแหง ความไมป ระมาทอนั เปน ตัวการ. บทวา โยนโิ ส-มนสกิ ารสมปฺ ทา ไดแ ก ความถึงพรอ มแหง การกระทาํ ไวในใจโดยอุบาย.ทานกลา วบทวา กลฺยาณมิตฺตตา เปนตน อีก เพอ่ื แสดงภาวะโดยอาการแมอนื่แหงสมั มาทิฏฐิเปนตน . พระสตู รเหลานท้ี ง้ั หมดทานกลา วดว ยสามารถแหงอธั ยาศยั ของบุคคลโดยเฉพาะ.จบอรรถกถาสรุ ยิ เปยยาลที่ ๖รวมพระสูตรท่ีมีในเปยยาลน้ี๑. ปฐมกัลยาณมิตตสูตร ๒. ปฐมสีลสมั ปทาสูตร๓. ปฐมฉันทสัมปทาสูตร ๔. ปฐมอัตตสมั ปทาสูตร๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ๖. ปฐมอัปปมาทสัมปทาสตู ร๗. ปฐมโยนโิ สมนสกิ ารสัมปทาสูตร ๘. ทตุ ิยกัลยาณมิตตสตู ร๙. ทตุ ิยสลี สมั ปทาสตู ร ๑๐. ทุติยฉนั ทสัมปทาสูตร๑๑. ทุติยอัตตสมั ปทาสูตร ๑๒. ทตุ ิยทิฏฐสิ มั ปทาสูตร๑๓. ทตุ ยิ อัปปมาทสัมปทาสูตร. ๑๔. ทตุ ิยโยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรพรอมทง้ั อรรถกถา

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 83 เอกธรรมเปยยาลท่ี ๗ ๑. ปฐมกลั ยาณมติ ตสูตร กัลยาณมติ รมอี ปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๔๗] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ธรรมอนั หนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพือ่ ความเกิดข้ึนแหง อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ธรรมอนั หนง่ึเปน ไฉน คือ ความเปนผมู ีมิตรดี ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย อนั ภกิ ษุผูมมี ิตรดีพงึ หวังขอ น้ไี ดวา จกั เจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จกั กระทําใหม ากซึ่งอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๔๘] ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย กภ็ ิกษุผมู ีมิตรดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘อยา งไรเลา ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจริญสมั มาทฏิ ฐิอันอาศัยวเิ วก อาศยั วิราคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจรญิสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วิราคะ อาศัยนิโรธ นอ มไปในการสละดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุผูมมี ติ รดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมาก ซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางนี้แล. จบปฐมกัลยาณมิตตสตู รที่ ๑

พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 84 ๒. ปฐมสีลสมั ปทาสูตร สลี สมั ปทามีอปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๔๙] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย ธรรมอนั หนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพ่ือความเกดิ ขน้ึ แหงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอันหนง่ึเปน ไฉน คือ ความถงึ พรอมแหง ศลี ฯลฯ จบปฐมสลี สมั ปทาสตู รที่ ๒ ๓. ปฐมฉันทสมั ปทาสูตร ฉันทสมั ปทามอี ปุ การะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๐] . . . คือ ความถึงพรอ มแหง ฉันทะ ฯลฯ จบปฐมฉันทสัมปทาสูตรที่ ๓ ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสูตร อัตตสัมปทามีอปุ การะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๑] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ตน ฯลฯ จบปฐมอตั ตสัมปทาสตู รท่ี ๔

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 85 ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสูตร ทฏิ ฐสิ มั ปทามีอปุ การะมากแกอ รยิ มรรค [๑๕๒] . . . คือ ความถงึ พรอมแหง ทฏิ ฐิ ฯลฯ จบปฐมทิฏฐสิ ัมปทาสูตรท่ี ๕ ๖. ปฐมอปั ปมาทสตู ร ความไมประมาทมีอุปการะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๓] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ความไมประมาท ฯลฯ จบปฐมอปั ปมาทสูตรท่ี ๖ ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสมั ปทาสตู ร โยสโิ สมนสิการมีอปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๕๔] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ธรรมอนั หนึ่งมอี ปุ การะมาก เพอ่ื ความเกดิ ข้นึ แหง อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอันหนึ่งเปน ไฉน คือ ความถึงพรอมแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย อันภกิ ษผุ ูถ งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวังขอ

พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 86นไี้ ดวา จกั เจริญอริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ -มรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๕๕] ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษุผถู งึ พรอมดว ยการกระทําไวใจในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมาก ซึ่งอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค อยา งไรเลา ดกู อนภิกษุทงั้ หลายภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิ อนั อาศยั วเิ วก อาศยั วิราคะ อาศยันโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ นอมไปในการสละ ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุผูถึงพรอ มดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค๘ ยอมกระทําใหมาก ซึง่ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยา งนแ้ี ล. จบปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู รที่ ๗ ๘. ทุตยิ กลั ยาณมิตตสตู ร กลั ยาณมติ รมอี ุปการะมากแกอริยมรรค [๑๕๖] สาวตั ถีนิทาน. ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย ธรรมอันหน่ึงมีอปุ การะมาก เพื่อความเกดิ ขึ้นแหง อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ธรรมอันหนึง่ เปนไฉน คอื ความเปน ผมู ีมิตรดี ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย อันภกิ ษุผูมมี ติ รดี พึงหวงั ขอ นี้ไดวา จกั เจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหม ากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘.

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 87 [๑๕๗] ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ภกิ ษผุ ูมีมิตรดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหม ากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘อยางไรเลา ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษใุ นธรรมวินัยน้ี ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิมอี นั กาํ จดั ราคะเปน ทีส่ ดุ มีอันกําจัดโทสะเปน ที่สดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ที่สดุฯลฯ ยอ มเจริญสมั มาสมาธิ มอี นั กําจัดราคะเปนทส่ี ุด มีอันกาํ จดั โทสะเปน ที่สดุ มอี นั กําจดั โมหะเปน ท่สี ดุ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุผูมีมิตรดี ยอมเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึ่งอริยมรรคอนัประกอบดวยองค ๘ อยา งนีแ้ ล. ๙. ทุติยสีลสัมปทาสูตร สลี สัมปทามอี ปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๕๘] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย ธรรมอนั หนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกดิ ขน้ึ แหง อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอนั หนง่ึ เปนไฉน คือ ความถงึ พรอ มแหง ศีล ฯลฯ จบทตุ ยิ สลี สัมปทาสตู รที่ ๙

พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 88 ๑๐. ทุติยฉันทสมั ปทาสตู ร ฉนั ทสมั ปทามีอปุ การะมากแกอริยมรรค[๑๕๙] . . . คอื ความถงึ พรอมแหงฉนั ทะ ฯลฯ จบทตุ ยิ ฉันทสมั ปทาสตู รท่ี ๑๐ ๑๑. ทุตยิ อัตตสมั ปทาสูตร อัตตสัมปทามอี ุปการะมากแกอ ริยมรรค[๑๖๐] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ตน ฯลฯ จบทตุ ิยอตั ตสัมปทาสตู รที่ ๑๑ ๑๒. ทุตยิ ทิฏฐสิ ัมปทาสตู ร ทฏิ ฐสิ มั ปทามอี ุปการะมากแกอริยมรรค[๑๖๑] . . . คอื ความถึงพรอมแหง ทฏิ ฐิ ฯลฯ จบทุติยทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๑๒

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 89 ๑๓. ทุตยิ อัปปมาทสัมปทาสูตร ความไมประมาทมีอปุ การะมากแกอ ริยมรรค [๑๖๒] . . . คอื ความถึงพรอ มแหงความไมป ระมาท ฯลฯ จบทตุ ยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู รที่ ๑๓ ๑๔. ทุติยโยนิโสมนสิการสมั ปทาสูตร โยนิโสมนสกิ ารมีอุปการะมากแกอรยิ มรรค [๑๖๓] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย ธรรมอันหนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพื่อความเกิดขน้ึ แหง อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอนั หนงึ่ เปนไฉน คือ ความถึงพรอ มแหง การกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ดูกอนภกิ ษทุ งั้หลาย อันภกิ ษผุ ูถ งึ พรอมดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย พงึ หวงั ขอนไ้ี ดวา จกั เจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ จักกระทาํ ใหแจง ซ่งึ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘. [๑๖๔] ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย กภ็ กิ ษผุ ถู งึ พรอ มดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยา งไรเลา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมเจริญสมั มาทิฏฐิ มอี นั กาํ จดั ราคะเปน ท่สี ดุ มีอนั กําจัดโทสะเปนท่ีสดุ มีอันกําจัดโมหะเปนท่สี ดุ ฯลฯ ยอ มเจริญสัมมาสมาธิ มีอันกาํ จัดราคะเปน ทีส่ ุด มีอันกําจดั โทสะเปนท่สี ดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ทส่ี ดุ ดูกอ น

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 90ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภิกษผุ ูถงึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยา งนแ้ี ล. จบทุตยิ โยนิโสมนสิการสูตรท่ี ๑๔ จบเอกธรรมเปยยาลที่ ๗ รวมพระสูตรทีม่ ใี นเปยยาลนี้ คอื ๑. ปฐมกัลยาณมิตตสตู ร ๒. ปฐมสลี สัมปทาสตู ร ๓. ปฐมฉนั ทสัมปทาสตู ร ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสตู ร ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ๖. ปฐมอปั ปมาทสัมปทาสูตร ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสูตร ๘. ทตุ ิยกลั ยาณมิตตสูตร ๙. ทุติยสีลสมั ปทาสูตร ๑๐. ทตุ ยิ ฉนั ทสมั ปทาสตู ร ๑๑. ทุติยอัตต-สมั ปทาสตู ร ๑๒. ทุตยิ ทฏิ ฐสิ ัมปทาสูตร ๑๓. ทุติยอัปปมาทสัมปทาสตู ร๑๔. ทตุ ิยโยนโิ สมนนกิ ารสัมปทาสูตร. อรรถกถาเอกธมั มเปยยาลท่ี ๗ และคงั คาเปยยาลท่ี ๙ เอกธมั มเปยยาลก็ดี คังคาเปยยาลกด็ ี ในพระสตู รท่ีตรัสไวอยา งน้นั ๆกลาวไวด วยอัธยาศยั ของบุคคลโดยเฉพาะ และกลาวดว ยอธั ยาศยั ของผูรทู ้งั หลาย.

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 91 *นาหันตเอกธรรมเปยยาลที่ ๘ ๑. ปฐมกัลยาณมิตตสตู ร กลั ยาณมิตรเปน เหตุใหเ กิดอริยมรรค [๑๖๕] สาวัตถนี ิทาน. ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เรายังไมเ ลง็ เหน็ ธรรมอนั อืน่ แมส ักอยางหนึง่ ซึ่งจะเปนเหตใุ หอ รยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ที่ยังไมเ กิด ยอมเกดิ ข้นึ หรือท่เี กดิ ขนึ้ แลว ยอ มถงึ ความเจรญิ บรบิ ูรณเหมือนความเปน ผมู ีมติ รดีเลย ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย อันภิกษุผมู ีมติ รดพี ึงหวงัขอน้ไี ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘. [๑๖๖] ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษผุ มู ีมติ รดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘อยา งไรเลา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจริญสัมมาทิฏฐิอนั อาศัยวเิ วก อันอาศยั วิราคะ อาศัยนโิ รธ นอมไปในการสละ ฯลฯยอ มเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะ อาศยั นิโรธ นอ มไปในการสละ ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภิกษุยอมเจริญอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ ยอมกระทําใหม ากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางนีแ้ ล. จบปฐมกลั ยาณมิตตสูตรท่ี ๑* เปยยาลท่ี ๘ ไมม อี รรถกถาแก

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 92 ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร สีลสมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๖๗] สาวัตถนี ิทาน. ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เรายงั ไมเ ลง็ เห็นธรรมอันอ่นื แมสกั อยา งหนึ่ง ซึง่ จะเปนเหตุใหอ ริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ท่ียงั ไมเ กิด ยอมเกดิ ขึน้ หรอื ทเี่ กิดข้ึนแลว ยอมถึงความเจรญิ บริบรู ณเหมือนความถึงพรอ มแหง ศีลเลย ฯลฯ จบปฐมสีลสมั ปทาสูตรท่ี ๒ ๓. ปฐมฉนั ทสมั ปทาสตู ร ฉันทสัมปทาเปน เหตุใหเ กดิ อริยมรรค [๑๖๘] . . . เหมอื นความถึงพรอมแหงฉันทะเลย ฯลฯ จบปฐมฉนั ทสัมปทาสูตรที่ ๓ ๔. ปฐมอัตตสัมปทาสูตร อัตตสมั ปทาเปน เหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๖๙] . . . เหมือนความถงึ พรอมแหง ตนเลย ฯลฯ จบปฐมอัตตสมั ปทาสตู รที่ ๔

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 93 ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ทิฏฐสิ มั ปทาเปนเหตใุ หเ กดิ อริยมรรค [๑๗๐] . . .เหมอื นความถงึ พรอ มแหง ทิฏฐิเลย ฯลฯ จบปฐมทิฏฐสิ ัมปทาสูตรที่ ๕ ๖. ปฐมอัปปมาทสมั ปทาสูตร อปั ปมาทสัมปทาเปนเหตใุ หเกิดอริยมรรค [๑๗๑] . . .เหมอื นความถึงพรอ มแหง ความไมประมาทเลย ฯลฯ จบปฐมอัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๖ ๗. ปฐมโยนโิ สมนสิการสัมปทาสูตร โยนิโสมนสิการเปนเหตใุ หเ กดิ อรยิ มรรค [๑๗๒] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย เรายังไมเล็งเหน็ ธรรมอันอื่นแมสกั อยางหนง่ึ ซึ่งเปน เหตุใหอ รยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ทยี่ ังไมเกิด ยอมเกิดข้ึน หรอื ที่เกดิ ขน้ึ แลว ยอมถึงความเจรญิ บริบูรณ เหมอื นความถึงพรอมแหง การกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย อันภิกษผุ ูถ ึง

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 94พรอมดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวงั ขอ นี้ไดวา จกั เจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๗๓] ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภิกษุผถู งึ พรอมดว ยการกระทําไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซง่ึ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ อยางไรเลา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมเจรญิ สัมมาทิฏฐิ อนั อาศยั วิเวก อาศัยวิราคะ อาศยั นโิ รธนอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจรญิ สัมมาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะอาศัยนิโรธ นอมไปในการสละ ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษผุ ูถงึ พรอมดว ยการกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ยอมกระทําใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางนแ้ี ล. จบปฐมโยนโิ สมนสกิ ารสมั ปทาสูตรที่ ๗ ๘. ทุตยิ กัลยาณมิตตสตู ร กัลยาณมติ รเปน เหตุใหเ กิดอริยมรรค [๑๗๔] สาวัตถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เรายงั ไมเล็งเห็นธรรมอันอน่ื แมสักอยางหน่ึง ซง่ึ จะเปนเหตุใหอ รยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ทยี่ ังไมเกิด ยอ มเกดิ ขน้ึ หรือทเ่ี กดิ ขึ้นแลว ยอมถงึ ความเจริญบริบูรณเหมือนความเปนผูมีมติ รดเี ลย ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย อันภิกษุผูมีมิตรดี พงึหวังขอน้ไี ดวา จักเจรญิ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 95 [๑๗๕] ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ภกิ ษผุ มู ีมิตรดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘อยา งไรเลา ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิมีอันกาํ จัดราคะเปน ท่สี ดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ท่สี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิ สมั มา-สมาธิ มอี ันกาํ จัดราคะเปน ที่สดุ มอี ันกําจดั โทสะเปนท่ีสุด มีอนั กําจดั โมหะเปนทีส่ ดุ ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย ภกิ ษุยอ มเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ ยอมกระทําใหมากซ่งึ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยา งนี้แล. จบทุติยกัลยาณมติ ตสตู รท่ี ๘ ๙. ทุตยิ สลี สมั ปทาสตู ร สลี สมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๗๖] สาวตั ถนี ิทาน. ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย เรายงั ไมเ ล็งเหน็ ธรรมอันอนื่ แมส กั อยา งหนง่ึ ซ่ึงจะเปนเหตุใหอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ทย่ี ังไมเ กิด ยอมเกิดขนึ้ หรือทเี่ กิดข้นึ แลว ยอ มถงึ ความเจรญิ บรบิ ูรณเหมอื นความถงึ พรอมแหง ศีลเลย ฯลฯ จบทตุ ยิ สัลสมั ปทาสตู รท่ี ๙

พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 96 ๑๐. ทตุ ยิ ฉันทสัมปทาสตู ร ฉันทสมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อรยิ มรรค[๑๗๗] . . . เหมือนความถึงพรอ มแหงฉนั ทะเลย ฯลฯ จบทุติยฉันทสมั ปทาสูตรท่ี ๑๐ ๑๑. ทตุ ยิ อตั ตสัมปทาสูตร อัตตสัมปทาเปน เหตใุ หเกดิ อริยมรรค[๑๗๘] . . . เหมือนความถงึ พรอมแหงตนเลย ฯลฯ จบทุติยอัตตสัมปทาสูตรที่ ๑๑ ๑๒. ทติยทฏิ ฐสิ ัมปทาสูตร ทิฏฐิสมั ปทาเปน เหตุใหเกดิ อรยิ มรรค[๑๗๙] . . . เหมือนความถงึ พรอ มแหง ทฏิ ฐเิ ลย ฯลฯ จบทตุ ิยทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๑๒ จบทุติยทิฏฐสิ มั ปทาสตู รที่ ๑๒

พระสตุ ตนั ตปฎก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 97 ๑๓. ทุตยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู ร อปั ปมาทสัมปทาเปนเหตุใหเ กดิ อรยิ มรรค [๑๘๐] . . .เหมือนความถึงพรอมแหงความไมประมาทเลย ฯลฯ จบทตุ ยิ อปั ปมาทสมั ปทาสตู รที่ ๑๓ ๑๔. ทตุ ิยโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร โยนโิ สมสกิ ารเปนเหตใุ หเกดิ อรยิ มรรค [๑๘๑] สาวัตถีนิทาน. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เรายังไมเ ล็งเหน็ ธรรมอันอื่นแมส ักอยางหนึ่ง ซง่ึ จะเปน เหตุใหอ ริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ทยี่ งั ไมเกดิ ยอ มเกิดขนึ้ หรอื ท่เี กิดข้ึนแลว ยอมถึงความเจรญิ บริบูรณเหมือนความถึงพรอ มแหง การกระทําไวใ นใจโดยแยบคายเลย ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย อันภกิ ษุผูถงึ พรอมดว ยการกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวงัขอ นไี้ ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหม ากซ่ึงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘. [๑๘๒] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย กภ็ กิ ษผุ ถู งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอมเจริญอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึง่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ อยา งไรเลา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มเจรญิ สมั มาทฏิ ฐิ มอี ันกําจัดราคะเปน ทีส่ ุด มอี นั กําจัดโทสะเปน ทส่ี ุด มีอนั กาํ จดั โมหะเปนทสี่ ุด ฯลฯ ยอ มเจรญิ สมั มาสมาธิ

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 98มอี นั กําจดั ราคะเปน ท่สี ดุ มีอันกําจดั โทสะเปนทส่ี ดุ . มีอนั กําจดั โมหะเปนทีส่ ุดดกู อ นภิกษุทงั้ หลาย ภกิ ษุผูถึงพรอ มดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางนีแ้ ล. จบทุตยิ โยนโิ สมนสกิ ารสมั ปาสูตรที่ ๑๔ จบนาหันตเอกธรรมเปยยาลที่ ๘ รวมพระสูตรทม่ี ใี นเปยยาลน้ี คอื ๑. ปฐมกลั ยาณมิตตสูตร ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร ๓. ปฐมฉนั ทสมั ปทาสูตร ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสตู ร ๕. ปฐมทิฏฐสิ มั ปทาสูตร ๖. ปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตร ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร ๘. ทตุ ิยกัลยาณมิตตสตู ร ๙. ทตุ ิยสีลสัมปทาสตู ร ๑๐. ทตุ ิยฉันทสมั ปทาสูตร ๑๑. ทุติยอตั ตสัมปทาสตู ร ๑๒. ทตุ ิยทิฏฐิสมั ปทาสตู ร ๑๓. ทุตยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู ร๑๔. ทตุ ยิ โยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสูตร

พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 99 *คงั คาเปยยาลที่ ๙ ๑. คงั คาปาจีนนินนสูตร ผเู จริญอรยิ มรรคเปน ผนู อ มไปสูนิพพาน เหมือนแมน าํ้ คงคาไหลไปสูท ศิ ปราจีน [๑๘๓] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อนภิกษทุ ัง้ หลาย แมน ํ้าคงคาไหลไปสูทศิ ปราจีน หลง่ั ไปสทู ศิ ปราจนี บา ไปสทู ิศปราจนี แมฉนั ใด ภกิ ษเุ มื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ เมื่อกระทําใหมากซึง่ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ กเ็ ปนผูนอมไปสนู พิ พาน โนมไปสนู ิพพาน โอนไปสูนิพพานฉันน้ันเหมอื นกัน. [๑๘๔] ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเมอื่ เจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ เมือ่ กระทาํ ใหม ากซึง่ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางไรเลาจงึ เปน ผูนอมไปสนู ิพพาน โนมไปสูนพิ พาน โอนไปสูนิพพาน ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจรญิ สมั มาทิฏฐิ อันอาศัยวเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจรญิ สมั มาสมาธิ อนัอาศยั วิเวก อาศยั วิราคะ อาศัยนิโรธ นอ มไปในการสละ ดกู อนภกิ ษุท้งั หลายภิกษเุ มอ่ื เจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ กระทําใหม ากซง่ึ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ อยางนีแ้ ล จึงเปน ผนู อ มไปสนู ิพพาน โนม ไปสูนพิ พานโอนไปสนู ิพพาน. จบคงั คาปาจนี นินนสตู รที่ ๑*วรรคนไ้ี มมอี รรถกถาแก

พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 100 ๒. ยมนุ าปาจีนนนิ นสตู รผเู จริญอริยมรรค ฯลฯ เหมือนแมน ํา้ ยมุนาไหลไปสูท ศิ ปราจีน [๑๘๕] สาวัตถนี ทิ าน. ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย แมน ํา้ ยมุนาไหลไปสูทศิ ปราจีน หล่งั ไปสูทิศปราจีน บาไปสูทศิ ปราจีน แมฉ นั ใด ภิกษเุ มื่อเจริญอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ . . . ฉนั นนั้ เหมือนกนั ฯลฯ จบยมนุ าปาจนี นินนสูตรท่ี ๒ ๓. อจริ วดีปาจีนนนิ นสูตรผเู จริญอรยิ มรรค ฯลฯ เหมอื นแมน าํ้ อจิรวดีไหลไปสูทิศปราจนี [๑๘๖] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย แมน าํ้ อจิรวดไี หลไปสูทศิ ปราจนี หลั่งไปสทู ิศปราจีน บา ไปสูทศิ ปราจีน แมฉันใด ภกิ ษเุ มอ่ื เจรญิอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ . . . ฉนั นัน้ เหมือนกัน ฯลฯ จบอจริ วดปี าจีนนนิ นสูตรท่ี ๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook