พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 64 ๖. ทตุ ิยสามญั ญสูตร วา ดวยสามัญญะและสามญั ญผล [๑๐๒] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย เราจกั แสดงสามัญญะและประโยชนแหง สามญั ญะแกเธอท้ังหลาย เธอทงั้ หลายจงฟงเรื่องนั้น. [๑๐๓] ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย กส็ ามญั ญะเปน ไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ นี้แล คอื ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้งั ใจชอบ น้ีเรยี กวาสามญั ญะ. [๑๐๔] ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย กป็ ระโยชนแหง สามญั ญะเปนไฉนความส้ินราคะ ความสน้ิ โทสะ ความสิ้นโมหะ น้ีเรียกวา ประโยชนแ หงสามญั ญะ. จบทุติยสามัญญสูตรท่ี ๖ ๗. ปฐมพรหมญั ญสตู ร ความเปนพรหมและเปนพรหมญั ญผล [๑๐๕] สาวตั ถีนทิ าน. ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย เราจกั แสดงพรหมญั ญะ(ความเปนพรหม) และพรหมัญญผล (ผลแหงความเปน พรหม) แกเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟง เรอื่ งน้ัน. [๑๐๖] ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ก็พรหมัญญะเปน ไฉน อริยมรรคอนัประกอบดวยองค ๘ นแ้ี ล คอื ความเห็นชอบ ฯลฯ ความตัง้ ใจชอบ นีเ้ รยี กวา พรหมญั ญะ.
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 65 [๑๐๗] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย กพ็ รหมญั ญผลเปน ไฉน คือ โสดาปตติผล สกทาคามิผล อนาคามผิ ล อรหัตผล นี้เรียกวา พรหมญั ญผล. จบปฐมพรหมญั ญสตู รที่ ๗ ๘. ทตุ ิยพรหมญั ญสูตร ความเปน พรหมและประโยชนแหงความเปนพรหม [๑๐๘] สาวัตถีนิทาน. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เราจักแสดงพรหมัญญะและประโยชนแ หง พรหมัญญะแกเ ธอท้งั หลาย เธอทั้งหลายจงฟง เรือ่ งนน้ั . [๑๐๙] ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย กพ็ รหมญั ญะเปน ไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ น้ีแล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความตัง้ ใจชอบ น้เี รียกวา พรหมัญญะ. [๑๑๐] ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย กป็ ระโยชนแ หง พรหมัญญะเปน ไฉนความสิ้นราคะ ความสน้ิ โทสะ ความสิน้ โมหะ น้เี รยี กวา ประโยชนแ หงพรหมัญญะ. จบทุตยิ พรหมญั ญสตู รท่ี ๘
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 66 ๙. ปฐมพรหมจรยิ สูตร พรหมจรรยและผลแหง พรหมจรรย [๑๑๑] สาวัตถนี ิทาน. ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย เราจกั แสดงพรหมจรรยและผลแหง พรหมจรรย แกเ ธอทงั้ หลาย เธอทงั้ หลายจงฟงเร่ืองนัน้ . [๑๑๒] ดูกอนภิกษุท้งั หลาย ก็พรหมจรรยเปนไฉน อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ นแ้ี ล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความตั้งใจชอบ น้เี รยี กวา พรหมจรรย. [๑๑๓] ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็ผลแหงพรหมจรรยเ ปนไฉน คือโสดาปต ติผล สกทาคามิผล อนาคามผิ ล อรหตั ผล น้ีเรียกวา ผลแหงพรหมจรรย. จบปฐมพรหมจริยสตู รท่ี ๙ ๑๐. ทุตยิ พรหมจรยิ สตู ร พรหมจรรยและประโยชนแ หง พรหมจรรย [๑๑๔] สาวตั ถีนิทาน. ดกู อนภกิ ษุท้ังหลาย เราจกั แสดงพรหมจรรยและประโยชนแ หงพรหมจรรย แกเธอท้งั หลาย เธอทัง้ หลายจงฟง เรอ่ื งน้ัน. [๑๑๕] ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ก็พรหมจรรยเปนไฉน อรยิ มรรคอนัประกอบดวยองค ๘ นี้แล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้ังใจชอบ นี้เรียกวา พรหมจรรย.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 67 [๑๑๖] ดูกอนภกิ ษุท้งั หลาย ก็ประโยชนแหง พรหมจรรยเปน ไฉนความสนิ้ ราคะ ความส้ินโทสะ ความสิ้นโมหะ นเ้ี รียกวา ประโยชนแ หงพรหมจรรย. จบทตุ ยิ พรหมจริยสตู รท่ี ๑๐ จบปฏิปต ตวิ รรคที่ ๔ ปฏปิ ต ตวิ รรควรรณนาท่ี ๔ อรรถกถาปฏิปตติสตู รเปน ตน พึงทราบวินิจฉยั ในปฏิปตตสิ ูตรท่ี ๑ แหง ปฏปิ ตติวรรคที่ ๔. บทวา มจิ ฺฉาปฏิปตฺตึ คอื ซ่งึ ไมป ฏบิ ตั ิตามเปนจรงิ . บทวา มิจฺ-ฉาปฏปิ นนฺ คอื ผไู มป ฏิบตั ิตามเปน จรงิ . สูตรหน่งึ ทา นกลาวดวยสามารถธรรม สูตรหนง่ึ ดว ยสามารถบคุ คล. บทวา อปาราปาร ไดแ ก ซง่ึ นิพพานจากวัฏฏะ ชนเหลาใด ถึงซ่ึงฝงแลวกด็ ี กาํ ลังถงึ กด็ ี จกั ถึงก็ดี ชนเหลา น้นัท้ังหมดพึงทราบวา เปน ผูถึงฝง ในบทวา ปารคามิโน ดังน้ี. บทวา ตรี เมวานธุ าวติ ความวา ยอ มวิ่งไปสวู ัฏฏะนัน่ เอง คอืยอ มเทย่ี วไปในวัฏฏะ. บทวา กณหฺ คือ อกศุ ลธรรม. บทวา โอกา อโนกไดแ ก จากวฏั ฏะอาศยั นพิ พาน. บทวา อาคมมฺ ไดแ ก ปรารภ หมายถึงอาศัย. บทวา ปริโยทเปยฺย ไดแ ก พึงทาํ ใหบรสิ ุทธ.์ิ บทวา จิตฺตกฺเลเสหิไดแก ดว ยนิวรณอ นั ทาํ จติ ใหเศรา หมอง. บทวา สมโฺ พธิยงเฺ คสุ ไดแกในโพชฌงค ๗.
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 68 บทวา สามฺตฺถ ไดแ ก นิพพาน. จรงิ อยู นิพพานน้นั ทานกลา ววา ประโยชนข องความเปน สมณะ เพราะควรเขา ถึงโดยความเปนสมณะ. บทวา พฺรหฺมฺ คอื ความเปน ผูประเสรฐิ สุด. บทวา พฺรหฺม-ฺตฺถ ไดแ ก พระนพิ พาน เพราะควรเขาถงึ โดยความเปน ผปู ระเสริฐสุด.เกจิอาจารยกลา ววา นิพพานอนั มาแลววา เปน ที่ส้ินไปแหงราคะในหนหลังและใน ๓ สูตรนใ้ี นท่ใี ด ๆ แมอ รหตั กค็ วรในท่ีนั้น ๆ เชนกัน. จบอรรถกถาปฏิปตตสิ ตู รเปนตน จบปฏปิ ต ติวรรควรรณนาท่ี ๔ รวมพระสตู รท่มี ีในวรรคนี้ คอื ๑. ปฏิปตตสูตร ๒. ปฏิปนนสตู ร ๓. วิรทั ธสตู ร ๔. ปารสูตร๕. ปฐมสามญั ญสตู ร ๖. ทุตยิ สามัญญสตู ร ๗. ปฐมพรหมญั ญสูตร๘. ทตุ ยิ พรหมญั ญสตู ร ๙. ปฐมพรหมจริยสตู ร ๑๐. ทุติยพรหมจริยสูตร
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 69 อญั ญติตถิยวรรคที่ ๕ ๑. วิราคสตู ร ขอปฏิบตั ิเพือ่ สาํ รอกราคะ [๑๑๗] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ถาพวกอัญญเดียรถยี -ปรพิ าชก พงึ ถามเธอทงั้ หลายอยา งน้วี า ดูกอ นผมู อี ายุทั้งหลาย ทา นท้ังหลายอยูประพฤตพิ รหมจรรยในพระสมณโคดมเพื่อประโยชนอ ะไร เธอท้งั หลายถกู ถามอยางนแ้ี ลว พึงช้แี จงแกพ วกอัญญเดยี รถยี ปริพาชกเหลา น้ันอยา งน้วี าดูกอ นผมู ีอายทุ ้ังหลาย เราท้ังหลายอยูป ระพฤตพิ รหมจรรยใ นพระผมู ีพระ-ภาคเจา เพือ่ สํารอกราคะ. [๑๑๘] ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ก็ถาพวกอญั ญเดียรถียปริพาชก พึงถามเธอทัง้ หลายอยา งนี้วา ดกู อนผมู อี ายุทง้ั หลาย กท็ างมอี ยหู รอื ขอปฏิบัติเพ่ือสาํ รอกราคะมีอยูหรอื เธอท้ังหลายถกู ถามอยา งน้แี ลว พงึ ชี้แจงแกพ วกอญั ญเดียรถียปริพาชกเหลา น้ันอยา งนี้วา ดกู อนผูมีอายุท้งั หลาย ทางมอี ยูขอ ปฏิบัติเพ่อื สํารอกราคะมีอยู. [๑๑๙] ดกู อนภิกษุทั้งหลาย กท็ างเปน ไฉน ขอปฏบิ ตั ิเพอ่ื สํารอก-ราคะเปน ไฉน อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ น้ีแล คือความเหน็ ชอบ ฯลฯความตงั้ ใจชอบ นเ้ี ปนทาง น้ีเปน ขอปฏิบัติเพ่อื สาํ รอกราคะ ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย เธอทัง้ หลายถูกถามอยางนี้แลว พงึ ชี้แจงแกพวกอัญญเดยี รถยี -ปริพาชกเหลา น้ันอยา งน้.ี จบวริ าคสตู รที่ ๑
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 70 ๒. สงั โยชนสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเ พอ่ื ละสังโยชน [๑๒๐] สาวตั ถีนิทาน. ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ถา พวกอญั ญเดียรถยี -ปริพาชก พึงถามเธอท้ังหลายอยา งนว้ี า ดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย ทานทงั้ หลายอยูประพฤติพรหมจรรยในพระสมณโคดมเพอ่ื ประโยชนอ ะไร เธอท้ังหลายถูกถามอยา งน้ีแลว พงึ ช้แี จงแกพวกอัญญเดียรถยี ปรพิ าซกเหลา นัน้ อยา งนว้ี าดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย เราทง้ั หลายอยูประพฤตพิ รหมจรรย ในพระผมู ีพระ-ภาคเจา เพอื่ ละสงั โยชน ฯลฯ จบสังโยชนสตู รท่ี ๒ ๓. อนสุ ยสูตร ประพฤติพรหมจรรยเ พอ่ื ถอนอนสุ ัย [๑๒๑] . . .ดกู อ นผมู อี ายทุ ั้งหลาย เราทงั้ หลายอยูป ระพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพื่อถอนอนสุ ัย ฯลฯ จบอนุสยสูตรท่ี ๓
พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 71 ๔. อัทธานสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเ พอ่ื กาํ หนดรูสงั สารวฏั [๑๒๒] . . . ดูกอ นผูม ีอายุทั้งหลาย เราท้ังหลายอยูประพฤติพรหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพ่ือกําหนดรูสงั สารวัฏอันยดื ยาว ฯลฯ จบอทั ธานสูตรท่ี ๓ ๕. อาสวสูตร ประพฤติพรหมจรรยเ พื่อสิ้นอาสวะ [๑๒๓] . . .ดกู อ นผมู ีอายทุ ้ังหลาย เราทงั้ หลายอยูประพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู ีพระภาคเจา เพ่อื ความสน้ิ อาสวะ ฯลฯ จบอาสวสูตรที่ ๕ ๖. วชิ ชาวิมตุ ตสิ ตู ร ประพฤติพรหมจรรยเ พ่อื ทาํ ใหแ จงซึง่ วิชชาและวมิ ตุ ติ [๑๒๔] . . . ดูกอ นผูมอี ายุทั้งหลาย เราทง้ั หลายอยปู ระพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผูมีพระภาคเจา เพอ่ื กระทาํ ใหแจง ซึ่งผลแหงวชิ ชา และวมิ ุตติ ฯลฯ จบวิชชาวมิ ุตตสิ ตู รท่ี ๖
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 72 ๗. ญาณทัสสนสตู ร ประพฤตพิ รหมจรรยเพื่อญาณทสั สนะ [๑๒๕] . . .ดกู อนผูมีอายทุ ้ังหลาย เราทง้ั หลายอยูประพฤตพิ รหม-จรรยใ นพระผมู พี ระภาคเจา เพือ่ ญาณทสั สนะ ฯลฯ จบญาณทสั สนสตู รท่ี ๗ ๘. อนปุ าทาปรนิ พิ พานสูตร ขอ ปฏิบัติเพ่ืออนุปาทาปรินิพพาน [๑๒๖] ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ถา พวกอัญญเดยี รถยี ป ริพาชก พงึถามเธอทงั้ หลายอยา งน้วี า ดูกอ นผมู ีอายุทั้งหลาย ทานท้ังหลายอยูประพฤติพรหมจรรยใ นพระสมณโคดม เพือ่ ประโยชนอะไร เธอทั้งหลายถูกถามอยา งนีแ้ ลว พึงชแ้ี จงแกพวกอัญญเดยี รถียป รพิ าชกเหลา นน้ั อยา งนีว้ า ดกู อนผมู อี ายุท้ังหลาย เราทงั้ หลายอยปู ระพฤติพรหมจรรยใ นพระผูม ีพระภาคเจาเพื่ออนปุ าทาปรนิ พิ พาน. [๑๒๗] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย ก็ถาพวกอญั ญเดยี รถยี ปรพิ าชกพึงถามเธอทงั้ หลายอยา งนี้วา ดูกอนผูม ีอายุท้งั หลาย ก็ทางมอี ยูหรือ ขอ ปฏิบตั ิเพื่ออนุปาทาปรนิ ิพพานมีอยูหรือ เธอทงั้ หลายถกู ถามอยา งนี้แลว พงึ ชแ้ี จงแกพวกอัญญเดยี รถยี ป ริพาชกเหลา นน้ั อยา งนว้ี า ดูกอนผมู อี ายทุ ้งั หลายทางมีอยู ขอปฏบิ ตั ิเพือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พานมอี ยู.
พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 73 [๑๒๘] ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ก็ทางเปน ไฉน ขอ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื อนุปาทา-ปรินพิ พานเปน ไฉน อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ นีแ้ ล คือ ความเหน็ ชอบ ฯลฯ ความต้งั ใจชอบ นีเ้ ปน ขอปฏิบัตเิ พือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พานดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย เธอทัง้ หลายถูกถามอยา งนแ้ี ลว พงึ ชี้แจงแกพวกอัญญ-เดียรถียป ริพาชกเหลา นน้ั อยางนี้. จบอนุปาทาปรินพิ พานสตู รที่ ๘ จบอัญญติตถิยวรรคท่ี ๕ อรรถกถาอัญญติตถิยเปยยาล พึงทราบวนิ ิจฉัยใน อัญญติตถยิ เปยยาล. บทวา อทธฺ านปริฺตฺถ ไดแ ก กําหนดรสู ังสารวฏั อันยดื ยาวเพราะฉะนนั้ ทา นจงึ กลา ววา นิพพานเพอื่ กาํ หนดรูสังสารวัฏอันยดื ยาว.อธบิ ายวา เพ่อื ประโยชนแกพ ระนพิ พานนนั้ . บทวา อนุปาทาปรินิพฺพานตถฺ ไดแ ก ไมใ ชประโยชนท างปจจัย เพือ่ อนปุ าทาปรนิ พิ พาน. อนงึ่ ในเปยยาลนี้ทานกลา วถึงพระอรหัต ดวยผลคือวชิ ชาวมิ ุตติ ทานกลาวการพิจารณาดวยญาณทัสสนะวา เปน นิพพาน โดยบทท่ีเหลอื ดว ยประการฉะน.้ี จบอรรถกถาอญั ญติตถิยเปยยาล รวมพระสตู รในอัญญติตถยิ วรรค คือ ๑. วริ าคสูตร ๒. สงั โยชนสูตร ๓. อนสุ ยสตู ร ๔. อทั ธานสตู ร๕. อาสวสูตร ๖. วิชชาวิมตุ ตสิ ูตร ๓ . ญาณทสั สนสูตร ๘. อนปุ าทา-ปรนิ พิ พานสตู ร พรอมท้งั อรรถกถา.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 74 *สรุ ิยเปยยาลท่ี ๖ ๑. ปฐมกัลยาณมติ ตสตู ร มติ รดีเปน นมิ ิตแหง อรยิ มรรค [๑๒๙] สาวตั ถีนิทาน. ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย เม่อื พระอาทิตยจะขึ้นส่งิ ทีข่ น้ึ กอน สิ่งทีเ่ ปน นิมติ มากอน คอื แสงเงินแสงทอง สง่ิ ทีเ่ ปน เบ้อื งตนเปน นิมติ มากอน เพื่อความบงั เกิดแหงอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ของภกิ ษุ คือ ความเปน ผูม มี ติ รดี ฉนั นั้นเหมือนกนั ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลายอนั ภิกษผุ มู มี ิตรดี พึงหวงั ขอ น้ไี ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ จกั ทําใหม ากซง่ึ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘. [๑๓๐] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย กภ็ ิกษุผูม มี ิตรดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซ่ึงอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘อยา งไรเลา . ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มเจริญสัมมาทิฏฐิอนั อาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจรญิสัมมาสมาธิ อนั อาศัยวเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศยั นิโรธ นอ มไปในการสละดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษมุ ีมติ รดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค๘ ยอมกระทาํ ใหมากซงึ่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางน้ีแล. จบปฐมกัลยาณมติ ตสูตรที่ ๑*อรรถกถา แกรวมไวทายวรรคนี้.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 75 ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร สีลสัมปทา เปนนมิ ติ แหงอริยมรรค [๑๓๑] สาวัตถีนทิ าน. ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย เมอื่ พระอาทิตยจะข้นึส่งิ ท่ขี ้ึนกอ น สงิ่ ทเี่ ปน นมิ ิตมากอ น คือ แสงเงินแสงทอง สงิ่ ที่เปนเบ้อื งตนเปนนิมติ มากอ น เพ่อื ความบงั เกิดแหงอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ของภกิ ษุ คอื ความถงึ พรอ มแหง ศีล ฉันนัน้ เหมอื นกนั ดูกอนภกิ ษุท้ังหลายอนั ภกิ ษผุ ูถงึ พรอ มดวยศีล พงึ หวังขอ นไี้ ด ฯลฯ จบปฐมสีลสมั ปทาสตู รท่ี ๒ ๓. ปฐมฉนั ทสัมปทาสตู ร ฉันทสัมปทาเปนนิมติ แหง อริยมรรค [๑๓๒] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ฉนั ทะ ฯลฯ จบปฐมฉันทสมั ปทาสูตรที่ ๓
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 76 ๔. ปฐมอัตตสัมปทาสูตร อตั ตสมั ปทาเปนนมิ ติ แหงอรยิ มรรค[๑๓๓] . . . คอื ความถงึ พรอมแหง ตน [ความถงึ พรอ มแหง จติ ] ฯลฯ จบปฐมอตั ตสัมปทาสูตรที่ ๔ ๕. ปฐมทิฏฐิสมั ปทาสูตร ทิฏฐสิ ัมปทาเปน นิมติ แหง อริยมรรค[๑๓๔] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ทิฏฐิ ฯลฯ จบปฐมทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๕ ๖. ปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตร ความไมประมาทเปนนิมิตแหง อริยมรรค[๑๓๕] . . . คอื ความถงึ พรอมแหง ความไมป ระมาท ฯลฯ จบปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตรท่ี ๖
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 77 ๗. ปฐมโยนโิ สมนสิการสมั ปทาสูตร โยนโิ สมนสิการเปน นมิ ติ แหงอรยิ มรรค [๑๓๖] สาวตั ถีนทิ าน. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เมอ่ื พระอาทิตยจะขึ้นส่ิงที่ข้นึ กอ น ส่ิงทเ่ี ปนมมิ ติ มากอน คอื แสงเงินแสงทอง สิง่ ทเี่ ปน เบอ้ื งตนเปนนมิ ิตมากอ น เพอื่ ความบังเกิดแหงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ของภกิ ษุ คอื ความถึงพรอ มแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ฉนั นนั้เหมอื นกัน ดกู อนภิกษุท้ังหลาย อันภิกษผุ ถู งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย พงึ หวงั ขอ นไี้ ดว า จักเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘จกั กระทําใหม ากซ่งึ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๓๗] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย กภ็ ิกษุผถู งึ พรอมดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางไร ภกิ ษุในธรรมวินยั น้ี ยอมเจริญสมั มาทิฏฐิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศัยนโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวิราคะ อาศยั นิโรธนอ มไปในการสละ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษผุ ถู ึงพรอ มดว ยการกระทําไวในใจโดยแยบคาย ยอมเจริญอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซง่ึ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางน้แี ล. จบปฐมโยนิโสมนสกิ ารสมั ปทาสูตรท่ี ๗
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 78 ๘. ทุติยกลั ยาณมติ ตสตู ร มติ รดีเปนนิมิตแหง อรยิ มรรค [๑๓๘] สาวัตถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เมื่อพระอาทิตยจ ะข้นึส่ิงท่ีขึน้ กอ น สงิ่ ทีเ่ ปนนมิ ิตมากอน คอื แสงเงนิ แสงทอง ส่งิ ที่เปนเบ้อื งตนเปนนิมติ มากอ น เพือ่ ความบังเกดิ แหงอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘ ของภิกษุ คอื ความเปน ผมู ีมิตรดี ฉันนน้ั เหมือนกนั ดกู อนภิกษุท้งั หลาย อันภิกษผุ ูมมี ติ รดี พงึ หวงั ขอนไ้ี ดวา จักเจริญอรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘จักกระทาํ ใหม ากซ่งึ อริยมรรคประกอบดว ยองค ๘. [๑๓๙] ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย กภ็ กิ ษผุ มู มี ติ รดี ยอมเจริญอริยมรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหมากซง่ึ อรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘อยางไรเลา ภกิ ษใุ นธรรมวินัยนี้ ยอ มเจริญสัมมาทฏิ ฐิ มีอนั กาํ จดั ราคะเปนท่ีสุด มีอนั กําจัดโทสะเปน ท่สี ดุ มีอันกําจดั โมหะเปนท่สี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิสัมมาสมาธิ มอี นั กําจัดราคะเปน ที่สดุ มีอนั กาํ จดั โทสะเปน ที่สดุ มอี นั กาํ จัดโมหะเปน ท่ีสุด ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย ภกิ ษผุ ูม ีมติ รดี ยอมเจรญิ อริยมรรคประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึ่งอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘อยา งนี้แล. จบทุติยกลั ยาณมิตตสตู รที่ ๘
พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 79 ๙. ทตุ ยิ สีลสมั ปทาสูตร สลี สัมปทาเปน นมิ ติ แหง อริยมรรค [๑๔๐] สาวัตถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย เม่อื พระอาทติ ยจะข้ึนสง่ิ ทีข่ ้ึนกอน สิ่งท่เี ปนนิมิตมากอ น คือ แสงเงนิ แสงทอง ส่ิงทีเ่ ปนเบ้ืองตนเปนนิมติ มากอ น เพอื่ ความเกดิ แหง อริยมรรคประกอบดว ยองค ๘ ของภิกษุคือ ความถึงพรอ มดวยศีล ฉนั นัน้ เหมือนกนั ฯลฯ จบทุตยิ สีลสัมปทาสูตรที่ ๙ ๑๐. ทุตยิ ฉนั ทสัมปทาสตู ร ฉนั ทสมั ปทาเปนนิมติ แหงอริยมรรค [๑๔๑] . . . คอื ความถงึ พรอ มแหงฉนั ทะ ฯลฯ จบทุติยฉันทสมั ปทาสตู รที่ ๑๐
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 80 ๑๑. ทุตยิ อตั ตสมั ปทาสตู ร อัตตสัมปทาเปนนมิ ติ แหงอริยมรรค[๑๔๒] . . . คอื ความถงึ พรอ มแหงตน ฯลฯ จบทตุ ยิ อตั ตสัมปทาสูตรท่ี ๑๑ ๑๒. ทุติยทิฏฐิสัมปทาสูตร ทิฏฐิสมั ปทาเปนนิมติ แหงอริยมรรค[๑๔๓] . . . คือ ความถึงพรอมแหง ทิฏฐิ ฯลฯ จบทตุ ยิ ทิฏฐสิ ัมปทาสูตรท่ี ๑๒ ๑๓. ทตุ ยิ อปั ปมาทสมั ปทาสตู ร ความไมประมาทเปน นิมติ แหง อริยมรรค[๑๔๔] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ความไมประมาท ฯลฯ จบทุติยอัปปมาทสัมปทาสตู รท่ี ๑๓
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 81 ๑๔. ทุติยโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร โยนิโสมนสกิ ารเปนนิมิตแหง อริยมรรค [๑๔๕] สาวตั ถนี ิทาน. ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย เมอื่ พระอาทิตยจ ะขึ้นส่ิงทข่ี น้ึ กอน ส่งิ ที่เปน นิมติ มากอ น คอื แสงเงินแสงทอง สิง่ ที่เปน เบ้ืองตนเปนนิมิตมากอ น เพอื่ ความเกดิ แหง อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ของภกิ ษุคือ ความถงึ พรอมแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ฉันนนั้ เหมือนกนัดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย อนั ภิกษุผูถ งึ พรอมแหง ความกระทําไวในใจโดยแยบคายพึงหวังขอ นี้ไดวา จักเจริญอริยมรรคประกอบดว ยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซึง่ อรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘. [๑๔๖] ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ก็ภิกษผุ ูถงึ พรอมดว ยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางไรเลา ภิกษใุ นธรรมวินยั น้ี ยอมเจรญิ สมั มาทิฏฐิ มีอนั กาํ จดั ราคะเปนทส่ี ดุ มีอนั กําจัดโทสะเปนท่ีสุด มอี นักาํ จดั โมหะเปนทส่ี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิ สัมมาสมาธิ มีอนั กําจัดราคะเปนทสี่ ุดมีอันกาํ จดั โทสะเปน ทส่ี ดุ มอี นั กําจัดโมหะเปน ท่สี ุด ดูกอนภกิ ษุท้งั หลายภิกษผุ ถู ึงพรอมดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึง่ อรยิ มรรคประกอบดวยองค ๘อยางน้ีแล. จบทุตยิ โยนโิ สมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑๔ จบสรุ ิยเปยยาลที่ ๖
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 82 อรรถกถาสุรยิ เปยยาลพึงทราบวนิ จิ ฉยั ใน สุรยิ เปยยาล.พึงทราบเนื้อความในที่ทัง้ ปวงอยา งนว้ี า ความเปน ผูมีมติ รดี ดุจการขนึ้ ไปแหงอรุณ อรยิ มรรคพรอ มกับวิปสสนาอันดํารงอยู เพราะความเปนผมู ีมิตรดแี ลวทาํ ใหเกิดขนึ้ ดุจความปรากฏแหงพระอาทิตย. บทวา สลี สมฺปทาไดแ ก จตปุ ารสิ ทุ ธศลี . บทวา ฉนฺทสมปฺ ทา ไดแ ก กตั ตกุ ามยตาฉันทะอันเปนกศุ ล. บทวา อตตฺ สมปฺ ทา คือความเปนผมู จี ิตสมบรู ณแลว . บทวาทฏิ สิ มปฺ ทา ไดแ ก ความถึงพรอมแหง ญาณ. บทวา อปฺปมาทสมฺปทาไดเเก ความถงึ พรอมแหง ความไมป ระมาทอนั เปน ตัวการ. บทวา โยนโิ ส-มนสกิ ารสมปฺ ทา ไดแ ก ความถึงพรอ มแหง การกระทาํ ไวในใจโดยอุบาย.ทานกลา วบทวา กลฺยาณมิตฺตตา เปนตน อีก เพอ่ื แสดงภาวะโดยอาการแมอนื่แหงสมั มาทิฏฐิเปนตน . พระสตู รเหลานท้ี ง้ั หมดทานกลา วดว ยสามารถแหงอธั ยาศยั ของบุคคลโดยเฉพาะ.จบอรรถกถาสรุ ยิ เปยยาลที่ ๖รวมพระสูตรท่ีมีในเปยยาลน้ี๑. ปฐมกัลยาณมิตตสูตร ๒. ปฐมสีลสมั ปทาสูตร๓. ปฐมฉันทสัมปทาสูตร ๔. ปฐมอัตตสมั ปทาสูตร๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ๖. ปฐมอัปปมาทสัมปทาสตู ร๗. ปฐมโยนโิ สมนสกิ ารสัมปทาสูตร ๘. ทตุ ิยกัลยาณมิตตสตู ร๙. ทตุ ิยสลี สมั ปทาสตู ร ๑๐. ทุติยฉนั ทสัมปทาสูตร๑๑. ทุติยอัตตสมั ปทาสูตร ๑๒. ทตุ ิยทิฏฐสิ มั ปทาสูตร๑๓. ทตุ ยิ อัปปมาทสัมปทาสูตร. ๑๔. ทตุ ิยโยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรพรอมทง้ั อรรถกถา
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 83 เอกธรรมเปยยาลท่ี ๗ ๑. ปฐมกลั ยาณมติ ตสูตร กัลยาณมติ รมอี ปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๔๗] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ธรรมอนั หนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพือ่ ความเกิดข้ึนแหง อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ธรรมอนั หนง่ึเปน ไฉน คือ ความเปนผมู ีมิตรดี ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย อนั ภกิ ษุผูมมี ิตรดีพงึ หวังขอ น้ไี ดวา จกั เจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จกั กระทําใหม ากซึ่งอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๔๘] ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย กภ็ ิกษุผมู ีมิตรดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘อยา งไรเลา ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจริญสมั มาทฏิ ฐิอันอาศัยวเิ วก อาศยั วิราคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอ มเจรญิสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วิราคะ อาศัยนิโรธ นอ มไปในการสละดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุผูมมี ติ รดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมาก ซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางนี้แล. จบปฐมกัลยาณมิตตสตู รที่ ๑
พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 84 ๒. ปฐมสีลสมั ปทาสูตร สลี สมั ปทามีอปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๔๙] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย ธรรมอนั หนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพ่ือความเกดิ ขน้ึ แหงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอันหนง่ึเปน ไฉน คือ ความถงึ พรอมแหง ศลี ฯลฯ จบปฐมสลี สมั ปทาสตู รที่ ๒ ๓. ปฐมฉันทสมั ปทาสูตร ฉันทสมั ปทามอี ปุ การะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๐] . . . คือ ความถึงพรอ มแหง ฉันทะ ฯลฯ จบปฐมฉันทสัมปทาสูตรที่ ๓ ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสูตร อัตตสัมปทามีอปุ การะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๑] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ตน ฯลฯ จบปฐมอตั ตสัมปทาสตู รท่ี ๔
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาที่ 85 ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสูตร ทฏิ ฐสิ มั ปทามีอปุ การะมากแกอ รยิ มรรค [๑๕๒] . . . คือ ความถงึ พรอมแหง ทฏิ ฐิ ฯลฯ จบปฐมทิฏฐสิ ัมปทาสูตรท่ี ๕ ๖. ปฐมอปั ปมาทสตู ร ความไมประมาทมีอุปการะมากแกอรยิ มรรค [๑๕๓] . . . คือ ความถงึ พรอ มแหง ความไมประมาท ฯลฯ จบปฐมอปั ปมาทสูตรท่ี ๖ ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสมั ปทาสตู ร โยสโิ สมนสิการมีอปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๕๔] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ธรรมอนั หนึ่งมอี ปุ การะมาก เพอ่ื ความเกดิ ข้นึ แหง อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอันหนึ่งเปน ไฉน คือ ความถึงพรอมแหงการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย อันภกิ ษผุ ูถ งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวังขอ
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 86นไี้ ดวา จกั เจริญอริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ -มรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๕๕] ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษุผถู งึ พรอมดว ยการกระทําไวใจในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมาก ซึ่งอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค อยา งไรเลา ดกู อนภิกษุทงั้ หลายภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิ อนั อาศยั วเิ วก อาศยั วิราคะ อาศยันโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ นอมไปในการสละ ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุผูถึงพรอ มดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค๘ ยอมกระทําใหมาก ซึง่ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยา งนแ้ี ล. จบปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู รที่ ๗ ๘. ทุตยิ กลั ยาณมิตตสตู ร กลั ยาณมติ รมอี ุปการะมากแกอริยมรรค [๑๕๖] สาวตั ถีนิทาน. ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย ธรรมอันหน่ึงมีอปุ การะมาก เพื่อความเกดิ ขึ้นแหง อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ ธรรมอันหนึง่ เปนไฉน คอื ความเปน ผมู ีมิตรดี ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย อันภกิ ษุผูมมี ติ รดี พึงหวงั ขอ นี้ไดวา จกั เจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหม ากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘.
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 87 [๑๕๗] ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ภกิ ษผุ ูมีมิตรดี ยอมเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหม ากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘อยางไรเลา ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษใุ นธรรมวินัยน้ี ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิมอี นั กาํ จดั ราคะเปน ทีส่ ดุ มีอันกําจัดโทสะเปน ที่สดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ที่สดุฯลฯ ยอ มเจริญสมั มาสมาธิ มอี นั กําจัดราคะเปนทส่ี ุด มีอันกาํ จดั โทสะเปน ที่สดุ มอี นั กําจดั โมหะเปน ท่สี ดุ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษุผูมีมิตรดี ยอมเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึ่งอริยมรรคอนัประกอบดวยองค ๘ อยา งนีแ้ ล. ๙. ทุติยสีลสัมปทาสูตร สลี สัมปทามอี ปุ การะมากแกอริยมรรค [๑๕๘] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย ธรรมอนั หนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกดิ ขน้ึ แหง อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอนั หนง่ึ เปนไฉน คือ ความถงึ พรอ มแหง ศีล ฯลฯ จบทตุ ยิ สลี สัมปทาสตู รที่ ๙
พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 88 ๑๐. ทุติยฉันทสมั ปทาสตู ร ฉนั ทสมั ปทามีอปุ การะมากแกอริยมรรค[๑๕๙] . . . คอื ความถงึ พรอมแหงฉนั ทะ ฯลฯ จบทตุ ยิ ฉันทสมั ปทาสตู รท่ี ๑๐ ๑๑. ทุตยิ อัตตสมั ปทาสูตร อัตตสัมปทามอี ุปการะมากแกอ ริยมรรค[๑๖๐] . . . คอื ความถึงพรอ มแหง ตน ฯลฯ จบทตุ ิยอตั ตสัมปทาสตู รที่ ๑๑ ๑๒. ทุตยิ ทิฏฐสิ ัมปทาสตู ร ทฏิ ฐสิ มั ปทามอี ุปการะมากแกอริยมรรค[๑๖๑] . . . คอื ความถึงพรอมแหง ทฏิ ฐิ ฯลฯ จบทุติยทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๑๒
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 89 ๑๓. ทุตยิ อัปปมาทสัมปทาสูตร ความไมประมาทมีอปุ การะมากแกอ ริยมรรค [๑๖๒] . . . คอื ความถึงพรอ มแหงความไมป ระมาท ฯลฯ จบทตุ ยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู รที่ ๑๓ ๑๔. ทุติยโยนิโสมนสิการสมั ปทาสูตร โยนิโสมนสกิ ารมีอุปการะมากแกอรยิ มรรค [๑๖๓] สาวตั ถนี ทิ าน. ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย ธรรมอันหนงึ่ มอี ปุ การะมาก เพื่อความเกิดขน้ึ แหง อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ธรรมอนั หนงึ่ เปนไฉน คือ ความถึงพรอ มแหง การกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ดูกอนภกิ ษทุ งั้หลาย อันภกิ ษผุ ูถ งึ พรอมดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย พงึ หวงั ขอนไ้ี ดวา จกั เจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ จักกระทาํ ใหแจง ซ่งึ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘. [๑๖๔] ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย กภ็ กิ ษผุ ถู งึ พรอ มดวยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยา งไรเลา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมเจริญสมั มาทิฏฐิ มอี นั กาํ จดั ราคะเปน ท่สี ดุ มีอนั กําจัดโทสะเปนท่ีสดุ มีอันกําจัดโมหะเปนท่สี ดุ ฯลฯ ยอ มเจริญสัมมาสมาธิ มีอันกาํ จัดราคะเปน ทีส่ ุด มีอันกําจดั โทสะเปนท่สี ดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ทส่ี ดุ ดูกอ น
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 90ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภิกษผุ ูถงึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยา งนแ้ี ล. จบทุตยิ โยนิโสมนสิการสูตรท่ี ๑๔ จบเอกธรรมเปยยาลที่ ๗ รวมพระสูตรทีม่ ใี นเปยยาลนี้ คอื ๑. ปฐมกัลยาณมิตตสตู ร ๒. ปฐมสลี สัมปทาสตู ร ๓. ปฐมฉนั ทสัมปทาสตู ร ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสตู ร ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ๖. ปฐมอปั ปมาทสัมปทาสูตร ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสูตร ๘. ทตุ ิยกลั ยาณมิตตสูตร ๙. ทุติยสีลสมั ปทาสูตร ๑๐. ทตุ ยิ ฉนั ทสมั ปทาสตู ร ๑๑. ทุติยอัตต-สมั ปทาสตู ร ๑๒. ทุตยิ ทฏิ ฐสิ ัมปทาสูตร ๑๓. ทุติยอัปปมาทสัมปทาสตู ร๑๔. ทตุ ิยโยนโิ สมนนกิ ารสัมปทาสูตร. อรรถกถาเอกธมั มเปยยาลท่ี ๗ และคงั คาเปยยาลท่ี ๙ เอกธมั มเปยยาลก็ดี คังคาเปยยาลกด็ ี ในพระสตู รท่ีตรัสไวอยา งน้นั ๆกลาวไวด วยอัธยาศยั ของบุคคลโดยเฉพาะ และกลาวดว ยอธั ยาศยั ของผูรทู ้งั หลาย.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 91 *นาหันตเอกธรรมเปยยาลที่ ๘ ๑. ปฐมกัลยาณมิตตสตู ร กลั ยาณมิตรเปน เหตุใหเ กิดอริยมรรค [๑๖๕] สาวัตถนี ิทาน. ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เรายังไมเ ลง็ เหน็ ธรรมอนั อืน่ แมส ักอยางหนึง่ ซึ่งจะเปนเหตใุ หอ รยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ที่ยังไมเ กิด ยอมเกดิ ข้นึ หรือท่เี กดิ ขนึ้ แลว ยอ มถงึ ความเจรญิ บรบิ ูรณเหมือนความเปน ผมู ีมติ รดีเลย ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย อันภิกษุผมู ีมติ รดพี ึงหวงัขอน้ไี ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหมากซ่ึงอรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘. [๑๖๖] ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษผุ มู ีมติ รดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ยอมกระทําใหมากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘อยา งไรเลา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจริญสัมมาทิฏฐิอนั อาศัยวเิ วก อันอาศยั วิราคะ อาศัยนโิ รธ นอมไปในการสละ ฯลฯยอ มเจริญสมั มาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะ อาศยั นิโรธ นอ มไปในการสละ ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภิกษุยอมเจริญอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ ยอมกระทําใหม ากซึง่ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางนีแ้ ล. จบปฐมกลั ยาณมิตตสูตรท่ี ๑* เปยยาลท่ี ๘ ไมม อี รรถกถาแก
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 92 ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร สีลสมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๖๗] สาวัตถนี ิทาน. ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เรายงั ไมเ ลง็ เห็นธรรมอันอ่นื แมสกั อยา งหนึ่ง ซึง่ จะเปนเหตุใหอ ริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ท่ียงั ไมเ กิด ยอมเกดิ ขึน้ หรอื ทเี่ กิดข้ึนแลว ยอมถึงความเจรญิ บริบรู ณเหมือนความถึงพรอ มแหง ศีลเลย ฯลฯ จบปฐมสีลสมั ปทาสูตรท่ี ๒ ๓. ปฐมฉนั ทสมั ปทาสตู ร ฉันทสัมปทาเปน เหตุใหเ กดิ อริยมรรค [๑๖๘] . . . เหมอื นความถึงพรอมแหงฉันทะเลย ฯลฯ จบปฐมฉนั ทสัมปทาสูตรที่ ๓ ๔. ปฐมอัตตสัมปทาสูตร อัตตสมั ปทาเปน เหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๖๙] . . . เหมือนความถงึ พรอมแหง ตนเลย ฯลฯ จบปฐมอัตตสมั ปทาสตู รที่ ๔
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 93 ๕. ปฐมทิฏฐิสัมปทาสตู ร ทิฏฐสิ มั ปทาเปนเหตใุ หเ กดิ อริยมรรค [๑๗๐] . . .เหมอื นความถงึ พรอ มแหง ทิฏฐิเลย ฯลฯ จบปฐมทิฏฐสิ ัมปทาสูตรที่ ๕ ๖. ปฐมอัปปมาทสมั ปทาสูตร อปั ปมาทสัมปทาเปนเหตใุ หเกิดอริยมรรค [๑๗๑] . . .เหมอื นความถึงพรอ มแหง ความไมประมาทเลย ฯลฯ จบปฐมอัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๖ ๗. ปฐมโยนโิ สมนสิการสัมปทาสูตร โยนิโสมนสิการเปนเหตใุ หเ กดิ อรยิ มรรค [๑๗๒] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย เรายังไมเล็งเหน็ ธรรมอันอื่นแมสกั อยางหนง่ึ ซึ่งเปน เหตุใหอ รยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ ทยี่ ังไมเกิด ยอมเกิดข้ึน หรอื ที่เกดิ ขน้ึ แลว ยอมถึงความเจรญิ บริบูรณ เหมอื นความถึงพรอมแหง การกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย อันภิกษผุ ูถ ึง
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนาท่ี 94พรอมดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวงั ขอ นี้ไดวา จกั เจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘. [๑๗๓] ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภิกษุผถู งึ พรอมดว ยการกระทําไวในใจโดยแยบคาย ยอ มเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทําใหม ากซง่ึ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ อยางไรเลา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมเจรญิ สัมมาทิฏฐิ อนั อาศยั วิเวก อาศัยวิราคะ อาศยั นโิ รธนอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจรญิ สัมมาสมาธิ อันอาศยั วเิ วก อาศยั วริ าคะอาศัยนิโรธ นอมไปในการสละ ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษผุ ูถงึ พรอมดว ยการกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ยอมกระทําใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ อยางนแ้ี ล. จบปฐมโยนโิ สมนสกิ ารสมั ปทาสูตรที่ ๗ ๘. ทุตยิ กัลยาณมิตตสตู ร กัลยาณมติ รเปน เหตุใหเ กิดอริยมรรค [๑๗๔] สาวัตถนี ทิ าน. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เรายงั ไมเล็งเห็นธรรมอันอน่ื แมสักอยางหน่ึง ซง่ึ จะเปนเหตุใหอ รยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ทยี่ ังไมเกิด ยอ มเกดิ ขน้ึ หรือทเ่ี กดิ ขึ้นแลว ยอมถงึ ความเจริญบริบูรณเหมือนความเปนผูมีมติ รดเี ลย ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย อันภิกษุผูมีมิตรดี พงึหวังขอน้ไี ดวา จักเจรญิ อรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘ จกั กระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 95 [๑๗๕] ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ภกิ ษผุ มู ีมิตรดี ยอ มเจริญอรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ ยอมกระทาํ ใหมากซงึ่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘อยา งไรเลา ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ ยอ มเจรญิ สัมมาทิฏฐิมีอันกาํ จัดราคะเปน ท่สี ดุ มอี ันกําจัดโมหะเปน ท่สี ดุ ฯลฯ ยอมเจรญิ สมั มา-สมาธิ มอี ันกาํ จัดราคะเปน ที่สดุ มอี ันกําจดั โทสะเปนท่ีสุด มีอนั กําจดั โมหะเปนทีส่ ดุ ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย ภกิ ษุยอ มเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค๘ ยอมกระทําใหมากซ่งึ อรยิ มรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยา งนี้แล. จบทุติยกัลยาณมติ ตสตู รท่ี ๘ ๙. ทุตยิ สลี สมั ปทาสตู ร สลี สมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อริยมรรค [๑๗๖] สาวตั ถนี ิทาน. ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย เรายงั ไมเ ล็งเหน็ ธรรมอันอนื่ แมส กั อยา งหนง่ึ ซ่ึงจะเปนเหตุใหอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ทย่ี ังไมเ กิด ยอมเกิดขนึ้ หรือทเี่ กิดข้นึ แลว ยอ มถงึ ความเจรญิ บรบิ ูรณเหมอื นความถงึ พรอมแหง ศีลเลย ฯลฯ จบทตุ ยิ สัลสมั ปทาสตู รท่ี ๙
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 96 ๑๐. ทตุ ยิ ฉันทสัมปทาสตู ร ฉันทสมั ปทาเปนเหตใุ หเกดิ อรยิ มรรค[๑๗๗] . . . เหมือนความถึงพรอ มแหงฉนั ทะเลย ฯลฯ จบทุติยฉันทสมั ปทาสูตรท่ี ๑๐ ๑๑. ทตุ ยิ อตั ตสัมปทาสูตร อัตตสัมปทาเปน เหตใุ หเกดิ อริยมรรค[๑๗๘] . . . เหมือนความถงึ พรอมแหงตนเลย ฯลฯ จบทุติยอัตตสัมปทาสูตรที่ ๑๑ ๑๒. ทติยทฏิ ฐสิ ัมปทาสูตร ทิฏฐิสมั ปทาเปน เหตุใหเกดิ อรยิ มรรค[๑๗๙] . . . เหมือนความถงึ พรอ มแหง ทฏิ ฐเิ ลย ฯลฯ จบทตุ ิยทฏิ ฐสิ ัมปทาสตู รท่ี ๑๒ จบทุติยทิฏฐสิ มั ปทาสตู รที่ ๑๒
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 97 ๑๓. ทุตยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู ร อปั ปมาทสัมปทาเปนเหตุใหเ กดิ อรยิ มรรค [๑๘๐] . . .เหมือนความถึงพรอมแหงความไมประมาทเลย ฯลฯ จบทตุ ยิ อปั ปมาทสมั ปทาสตู รที่ ๑๓ ๑๔. ทตุ ิยโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร โยนโิ สมสกิ ารเปนเหตใุ หเกดิ อรยิ มรรค [๑๘๑] สาวัตถีนิทาน. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เรายังไมเ ล็งเหน็ ธรรมอันอื่นแมส ักอยางหนึ่ง ซง่ึ จะเปน เหตุใหอ ริยมรรคอันประกอบดว ยองค ๘ทยี่ งั ไมเกดิ ยอ มเกิดขนึ้ หรอื ท่เี กิดข้ึนแลว ยอมถึงความเจรญิ บริบูรณเหมือนความถึงพรอ มแหง การกระทําไวใ นใจโดยแยบคายเลย ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย อันภกิ ษุผูถงึ พรอมดว ยการกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย พึงหวงัขอ นไี้ ดวา จักเจรญิ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ จักกระทาํ ใหม ากซ่ึงอรยิ มรรคอันประกอบดว ยองค ๘. [๑๘๒] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย กภ็ กิ ษผุ ถู งึ พรอ มดว ยการกระทาํ ไวในใจโดยแยบคาย ยอมเจริญอรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึง่ อริยมรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ อยา งไรเลา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มเจรญิ สมั มาทฏิ ฐิ มอี ันกําจัดราคะเปน ทีส่ ุด มอี นั กําจัดโทสะเปน ทส่ี ุด มีอนั กาํ จดั โมหะเปนทสี่ ุด ฯลฯ ยอ มเจรญิ สมั มาสมาธิ
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 98มอี นั กําจดั ราคะเปน ท่สี ดุ มีอันกําจดั โทสะเปนทส่ี ดุ . มีอนั กําจดั โมหะเปนทีส่ ุดดกู อ นภิกษุทงั้ หลาย ภกิ ษุผูถึงพรอ มดวยการกระทาํ ไวใ นใจโดยแยบคาย ยอมเจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ ยอ มกระทาํ ใหมากซึ่งอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางนีแ้ ล. จบทุตยิ โยนโิ สมนสกิ ารสมั ปาสูตรที่ ๑๔ จบนาหันตเอกธรรมเปยยาลที่ ๘ รวมพระสูตรทม่ี ใี นเปยยาลน้ี คอื ๑. ปฐมกลั ยาณมิตตสูตร ๒. ปฐมสีลสัมปทาสูตร ๓. ปฐมฉนั ทสมั ปทาสูตร ๔. ปฐมอตั ตสัมปทาสตู ร ๕. ปฐมทิฏฐสิ มั ปทาสูตร ๖. ปฐมอปั ปมาทสมั ปทาสูตร ๗. ปฐมโยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสตู ร ๘. ทตุ ิยกัลยาณมิตตสตู ร ๙. ทตุ ิยสีลสัมปทาสตู ร ๑๐. ทตุ ิยฉันทสมั ปทาสูตร ๑๑. ทุติยอตั ตสัมปทาสตู ร ๑๒. ทตุ ิยทิฏฐิสมั ปทาสตู ร ๑๓. ทุตยิ อปั ปมาทสัมปทาสตู ร๑๔. ทตุ ยิ โยนิโสมนสกิ ารสัมปทาสูตร
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ที่ 99 *คงั คาเปยยาลที่ ๙ ๑. คงั คาปาจีนนินนสูตร ผเู จริญอรยิ มรรคเปน ผนู อ มไปสูนิพพาน เหมือนแมน าํ้ คงคาไหลไปสูท ศิ ปราจีน [๑๘๓] สาวตั ถนี ทิ าน. ดกู อนภิกษทุ ัง้ หลาย แมน ํ้าคงคาไหลไปสูทศิ ปราจีน หลง่ั ไปสทู ศิ ปราจนี บา ไปสทู ิศปราจนี แมฉนั ใด ภกิ ษเุ มื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ เมื่อกระทําใหมากซึง่ อรยิ มรรคอนั ประกอบดวยองค ๘ กเ็ ปนผูนอมไปสนู พิ พาน โนมไปสนู ิพพาน โอนไปสูนิพพานฉันน้ันเหมอื นกัน. [๑๘๔] ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเมอื่ เจรญิ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ เมือ่ กระทาํ ใหม ากซึง่ อริยมรรคอันประกอบดวยองค ๘ อยางไรเลาจงึ เปน ผูนอมไปสนู ิพพาน โนมไปสูนพิ พาน โอนไปสูนิพพาน ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมเจรญิ สมั มาทิฏฐิ อันอาศัยวเิ วก อาศัยวริ าคะ อาศยั นโิ รธ นอ มไปในการสละ ฯลฯ ยอมเจรญิ สมั มาสมาธิ อนัอาศยั วิเวก อาศยั วิราคะ อาศัยนิโรธ นอ มไปในการสละ ดกู อนภกิ ษุท้งั หลายภิกษเุ มอ่ื เจรญิ อริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ กระทําใหม ากซง่ึ อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ อยางนีแ้ ล จึงเปน ผนู อ มไปสนู ิพพาน โนม ไปสูนพิ พานโอนไปสนู ิพพาน. จบคงั คาปาจนี นินนสตู รที่ ๑*วรรคนไ้ี มมอี รรถกถาแก
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๑ - หนา ท่ี 100 ๒. ยมนุ าปาจีนนนิ นสตู รผเู จริญอริยมรรค ฯลฯ เหมือนแมน ํา้ ยมุนาไหลไปสูท ศิ ปราจีน [๑๘๕] สาวัตถนี ทิ าน. ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย แมน ํา้ ยมุนาไหลไปสูทศิ ปราจีน หล่งั ไปสูทิศปราจีน บาไปสูทศิ ปราจีน แมฉ นั ใด ภิกษเุ มื่อเจริญอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ . . . ฉนั นนั้ เหมือนกนั ฯลฯ จบยมนุ าปาจนี นินนสูตรท่ี ๒ ๓. อจริ วดีปาจีนนนิ นสูตรผเู จริญอรยิ มรรค ฯลฯ เหมอื นแมน าํ้ อจิรวดีไหลไปสูทิศปราจนี [๑๘๖] สาวตั ถนี ิทาน. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย แมน าํ้ อจิรวดไี หลไปสูทศิ ปราจนี หลั่งไปสทู ิศปราจีน บา ไปสูทศิ ปราจีน แมฉันใด ภกิ ษเุ มอ่ื เจรญิอริยมรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ . . . ฉนั นัน้ เหมือนกัน ฯลฯ จบอจริ วดปี าจีนนนิ นสูตรท่ี ๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 498
Pages: