พระสตุ ตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 151พระชนมอ ยู. บทวา สงฆฺ ภนิ ฺเทยฺย ไดแ ก ทาํ สงฆผมู ีสังวาสธรรมเปน เครือ่ งอยรู วมเสมอกนั ผตู ัง้ อยใู นสมี าทเ่ี สมอกัน ใหแตกกันดว ยอาการ ๕อยา ง. จรงิ อยู พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสคํานี้ ไวว า ดูกอนอบุ าลี สงฆยอมแตกกันดว ยอาการ ๕ คอื ดวยกรรม ดว ยอุเทศ ดว ยการช้ีแจงดว ยประกาศ ดวยจบั สลาก. บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา กมเฺ มนไดแก ดวยกรรมทั้ง กรรมใดกรรมหน่ึง. บทวา อุทเฺ ทเสนไดแก ดวยปาติโมกขทุ เทส ๕ อุเทศอยา งหนึ่ง. บทวา โวหารนโฺ ตไดแก ดว ยการชแี้ จง คือแสดงเภทกรวัตถเุ รื่องทําใหแตกกนั ๑๘อยาง มีแสดงวา อธรรมเปนธรรมเปน ตน ดวยอุปบัติเหตเุ กดิ เร่อื งน้นั ๆ.บทวา อนุสฺสาวเนน ไดแก ทาํ การเปลง ถอ ยคําประกาศโดยนัยเปนตนวาพวกทานทราบกนั หรอื วา เราบวชมาแตตระกลู สูง และเปนพหูสตูพวกทา นไมค วรเกิดจิตคิดวา คนเชน เราจะพงึ ถอื สัตถุศาสนคาํ สอนของพระศาสดานอกธรรม นอกวินัย อเวจสี ําหรบั เราเปนของเยน็ เหมอื นสวนอบุ ลขาบหรอื เราไมกลัวอบายหรือ. บทวา สลากคาเหน ไดแ กดว ยการประกาศอยา งนีแ้ ลว ทาํ จติ ของภกิ ษเุ หลานั้นใหม ่ันคง กระทาํ ใหเปนธรรมไมกลบั กลอกแลว ไดจับสลากดว ยกลา ววา พวกทานจงจับสลากนี้. ก็บรรดาอาการท้ัง ๕ น้นั กรรมหรอื อุเทศเทา นน้ั ควรถือเปนประมาณ. สวนการกลาว การประกาศ และการใหจ ับสลากเปน สวนเบ้ืองตน . ดวยวา แตเม่ือสงฆก ลา วดว ยอาํ นาจแสดงเรือ่ ง ๑๘ ประการประกาศชกั ชวนเพื่อใหเ กดิ ความชอบใจในเร่ืองนั้น จับสลากกนั แลว ก็
พระสตุ ตันตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 152ยังไมชอ่ื วาทาํ สงฆใหแ ตกกัน . ตอเม่ือใด ภิกษุ ๙ รูป หรือเกิน ๔ รูปจับสลากแลว กระทํากรรม (สังฆกรรม ) หรอื อุเทศแยกกันตา งหากเม่ือนนั้ จงึ ชื่อวา ทําสงฆใหแ ตกกัน . ขอ วา บุคคลผถู ึงพรอมดว ยทิฏฐิอยา งนี้ พงึ ทาํ สงฆใหแตกกันนม้ี ใิ ชฐานะ. ดว ยคาํ มปี ระมาณเทา นี้ กเ็ ปนอันทรงแสดงอนันตริยกรรม ๕ มมี าตุฆาตฆา มารดาเปนตน . ปุถชุ นทาํอนันตรยิ กรรมเหลาใดได แตอนันตรยิ กรรมเหลา นนั้ พระอรยิ สาวกไมท ํา.เพอื่ ความแจม แจง แหงอนันตรยิ กรรม ๕ นัน้ พึงทราบวนิ จิ ฉัย โดยกรรมโดยทวาร โดยการต้ังอยใู นอเวจีตลอดกปั โดยวบิ าก โดยสาธารณะเปน ตน . ในเหตเุ หลานัน้ พึงทราบวนิ ิจฉัยโดยกรรมกอน. แทจริง ผูท ่ีเปนมนุษยทา นนนั้ ปลงชวี ิตมารดาหรอื บิดาผูเ ปน มนุษย ซ่ึงยงั ไมเปล่ียนเพศจากมนุษย จงึ เปน อนนั ตรยิ กรรม. ผูทาํ อนันตริยกรรม คิดวา เราจกั หา มวิบากของกรามน้ัน ดังน้ี จึงสรางสถปู ทองคําขนาดเทา พระมหา-เจดียใหเต็มหวงจกั รวาลทงั้ สน้ิ กด็ ี ถวายมหาทานแดพ ระภกิ ษสุ งฆทนี่ ั่งเต็มสากลจักรวาลก็ดี ไมละชายผาสังฆาฏขิ องพระผูมีพระภาคพทุ ธเจา เท่ยี วไปกด็ ี เมอ่ื กายทําลายแตกตายไปกเ็ ขาถึงนรกเทา นั้น. สวนผูใ ด ตนเองเปนมนษุ ย ปลงชวี ติ มารดาหรือบิดาผเู ปนสัตวด ริ ัจฉานกด็ ี ตนเองเปนสัตวดริ จั ฉานปลงชวี ิตมารดาหรอื บดิ าผูเปน มนษุ ยก็ดี ตนเองเปน สตั วดิรัจฉานดว ยกันก็ดี กรรมของผูนั้นไมเปนอนนั ตริยกรรม แตเปน กรรมหนกั ต้งั จดอนนั ตริยกรรมทีเดยี ว. แตป ญ หาน้ี ทา นกลาวสาํ หรับผทู ีเ่ ปนมนษุ ย. ในปญ หาน้ันควรกลาวเรื่องเอฬกจตกุ กะ สังคามาจตุกกะ และโจร-จตุกกะ กบ็ คุ คลแมเขาใจวา เราจะฆาแลว ฆา มารดาหรือบิดาผเู ปน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 153มนษุ ย ซึ่งตงั้ อยใู นทีอ่ ยขู องแพะ ชื่อวาตองอนนั ตรยิ กรรม. บคุ คลผฆู าแพะดวยเขา ใจวาเปน แพะ หรอื ดวยเขาใจวา เปน มรรคหรอื บิดา ชือ่ วาไมต อ งอนนั ตริยกรรม. บุคคลผฆู ามารดาหรอื บดิ าโดยเขา ใจวาเปนมารดาหรือบดิ า ชอ่ื วาตอ งอนนั ตรยิ กรรมโดยแท. ใน ๒ จตกุ กะนอกนี้กน็ ัยนี้เหมอื นกนั . พงึ ทราบจตุกกะเหลา นีแ้ มใ นพระอรหันต กเ็ หมือนในมารดาหรอื บดิ า. บุคคลผฆู าพระอรหนั ตผ เู ปน มนุษยเทาน้นั ชื่อวา ตอ งอนนั ตริย-กรรม. ฆา พระอรหันตผ เู ปนยักษ ชอื่ วาไมต อ งอนันตรยิ กรรม. แตเ ปนกรรมหนัก เหมอื นอนันตริยกรรมทีเดยี ว. เมอ่ื บุคคลใชศ ัสตราประหารหรือวางยาพิษพระอรหันตผ เู ปน มนุษย เวลาทีท่ านยังเปนปถุ ชุ น ผิวาทา นบรรลพุ ระอรหัต มรณะลงดว ยการประหารดว ยศสั ตราหรอื ยาพิษน้นัน่นั แล ผนู น้ั ยอมชอื่ วา ฆา พระอรหนั ตโดยแท. ทานใดเขาถวายเวลาท่ีทานเปน ปถุ ชุ น ทานบรรลุพระอรหัตแลว บริโภค ทานนัน้ ก็ยังชอ่ื วาใหแกปุถชุ นอยูนน่ั เอง. บคุ คลผูฆา พระอริยบุคคลที่เหลอื (โสดาบนัสกทาคามี อนาคามี ) ไมเ ปนอนันตรยิ กรรม แตเปนกรรมหนกั เหมือนอนันตริยกรรมทเี ดียว. พงึ ทราบวนิ ิจฉยั ในอนนั ตรยิ กรรมขอ โลหติ ุปบาท ดังตอไปน้ี :- ชอ่ื วา บคุ คลผูเ ปน ชาศึกจะตัดพระจัมมะ (หนงั ) ในพระวรกายท่ยี ังๆไมแ ตกของพระตถาคตใหพ ระโลหิตไหลออกไมได. เวน แตพระโลหิตจะคง่ั คา งอยใู นทีห่ น่ึงภายในพระวรกายเทา นน้ั . สะเกด็ หินท่ีกะเทาะจากกอนหนิ ทพ่ี ระเทวทัตยกทุมไปกระทบปลายพระบาทของพระตถาคต.พระบาทเหมอื นถูกฟนดว ยขวาน ไดมโี ลหิตคั่งอยูข างในเทานั้น. กรรมของพระเทวทัตผกู ระทําอยางน้ัน ช่ือวา เปนอนันตริยกรรม. สว นหมอ
พระสุตตันตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 154ชวี กตดั พระจมั มะดวยศสั ตราตามความชอบพระทัยของพระตถาคต นาํโลหติ เสียออกจากท่ีน้ัน ไดก ระทาํ ใหท รงผาสกุ . กรรมของหมอชวี กผูกระทําอยา งน้นั เปน บญุ กรรมโดยแท. ถามวา เมือ่ พระตถาคตปรินพิ พานแลว คนเหลาใดทําลายพระเจดียตดั ตนโพธ์ิ เหยียบยา่ํ พระธาตุ กรรมอะไรจะมีแกบุคคลเหลานั้น. ตอบวา กรรมนน้ั เปนกรรมหนกั เชนเดียวกบั อนันตรยิ กรรม. แตกงิ่ โพธิท์ เี่ บียดสถปู หรือพระปฏมิ าที่มพี ระธาตุ (บรรจุ ) จะตดั เสยี กค็ วร.แมถาพวกนกจบั ทก่ี ิ่งโพธิน์ น้ั ถายอุจจาระรดพระเจดีคยี ก็ควรตดั เสยี .เพราะพระเจดยี บรรจพุ ระสรีรธาตุ สําคญั กวาบรโิ ภคเจดียที่บรรจุเคร่อื งบรโิ ภค. จะตัดรากโพธิท์ ่ีไปทาํ ลายเจดียว ัตถุออกไปเสียก็ควร. แตกิ่งโพธิ์ท่ีเบียดเรอื นโพธิ์ จะตัดกง่ิ โพธ์เิ พ่อื จะรกั ษาเรอื นโพธไิ์ มไ ด เพราะเรอื นโพธิ์มไี วเพื่อ ประโยชนแ กต น โพธิ์ (แต) ตน โพธ์ิหามไี วเพ่อื ประโยชนแกเรอื นโพธิ์ไม. แมในเรือนเก็บอาสนะ ( พระแทน) ก็นยั น้เี หมือนกนั .จะตดั กิง่ โพธเ์ิ พอ่ื รกั ษาเรอื นอาสนะ (พระแทน) ทเี่ ขาบรรจพุ ระธาตุกค็ วร. เพื่อบาํ รุงคันโพธ์ิ จะตัดก่ิงท่แี ยงโอชะ. (คืออาหาร) หรือกิ่งผุเสยี กค็ วรเหมือนกัน. แมบ ุญกม็ ีเหมอื นดงั ปรนนิบัติพระสรรี ะพระ-พทุ ธเจา ฉะน้ัน. ในสังฆเภท การทาํ ลายสงฆ พึงทราบวนิ จิ ฉัยดงั ตอไปน้ี :- เม่อื สงฆผูอยใู นสีมามไิ ดป ระชมุ กนั เม่อื ภิกษุผซู ึ่งสงฆท าํ การช้ีแจงๆการสวดประกาศและการใหจบั สลาก แลว ยังพาบรษิ ทั สว นหนง่ึ แยกไปทาํ สังฆกรรม หรอื สวดปาฏิโมกขต างหาก ชอ่ื วาสงั ฆเภทดวย เปนอนันตรยิ กรรมดวย. แตเ มอื่ ภกิ ษกุ ระทําดว ยความสําคัญวา จะสมคั รสมาน
พระสตุ ตนั ตปฎก เอกนบิ าต-ทุกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 155กัน (หรอื ) ดวยความสําคัญวา ทาํ ถูก ก็เปน เพียงการแตกกันเทา น้ันยังไมเ ปนอนนั ตริยกรรม. ทําในบริษัทท่หี ยอนกวา ๙ รูปก็เหมือนกัน(คอื เปน การแตกกันแตไมเ ปน อนันตริยกรรม). โดยกาํ หนดภิกษจุ ํานวน๙ รูป เปนอยางตํา่ สุด ในหมูภ ิกษุ ๙ รปู ภกิ ษใุ ดทําลายสงฆ อนนั -ตรยิ กรรมยอมมแี กภ ิกษุนั้น. กรรมของภิกษุพวกอธรรมวาทผี ูปฏบิ ตั ติ ามภิกษนุ ้ัน เปนกรรมมีโทษมาก . สําหรบั ภิกษผุ ูเปนธรรมวาทีไมม ีโทษ.ในการทาํ สังฆเภทสําหรบั ภิกษุ ๙ รูปนนั้ มพี ระสูตรอางอิงดังนี้วา ดกู อ นอบุ าลี ฝา ยหน่งึ มี ๔ รูป (อกี ) ฝา ยหนึง่ ก็มี ๔ รูป รูปท่ี ๙ สวดประกาศใหจับสลากโดยกลาววา น้ธี รรม นี้วนิ ัย นี้สตั ถศุ าสน พวกทานจงถือเอาสลากอันนี้ จงชอบใจสลากนแ้ี ล. ดูกอนอบุ าลี สังฆราชี(ความรา วรานแหงพระสงฆ ) ดว ยสงั ฆเภท ( ความแตกแหงสงฆ ) ดว ยยอ มมีดวยประการอยา งน้ี ก็ในกรรม ๕ อยา งนี้ สงั ฆเภทเปนวจีกรรมกรรมที่เหลอื เปนกายกรรม. ฉะน้ัน พึงทราบวินิจฉัยโดยกรรม ดวยประการดังน้.ี บทวา ทฺวารโต มีอธิบายวา ก็กรรมเหลา นท้ี ง้ั หมดนั่นแล ยอ มตั้งข้ึนทางกายทวารบา ง ทางวจที วารบาง. ในเรือ่ งทวี่ าดว ยทวารนี้กรรม ๔ ประการขางตน แมจะตงั้ ข้ึนทางวจีทวารดว ยอาณัตตกิ ประโยค(คอื ประโยคสง่ั บงั คบั ) และวิชชามยประโยค (คือประโยคที่สําเร็จดว ยวิชาเวทมนตร) ก็ทํากายทวารใหบริบูรณไ ดเ หมอื นกนั . สังฆเภท แมจะต้งั ขึ้นทางกายทวารซง่ึ ภกิ ษผุ ูผูทําการยกมือ กท็ าํ ใหวจที วารบริบูรณไดเหมอื นกัน. ในเร่อื งนี้ พึงทราบวนิ จิ ฉัยแมโดยทวาร ดว ยประการดงั น้ี .๑. ม. อทิ (สลาก ) โรเจถ.
พระสุตตันตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 156 บทวา กปปฺ ฏ ติยโต มีอธบิ ายวา ก็ในเรือ่ งน้ี สงั ฆเภทเปนบาปตัง้ อยูชว่ั กปั . ทาํ สังฆเภทใน (ตอนที)่ กปั ยงั ต้งั อยู หรอื ในตอนระหวางกลางกปั กพ็ นบาปตอเมือ่ กปั พินาศนั่นแหละ. ก็ถา วา พรงุ นี้ กัปจกั พนิ าศไซร ทําสงั ฆเภทวันน้ี พรงุ นี้กพ็ น จะไหมอยใู นนรกวนั เดียวเทา นัน้ . แตการกระทาํ อยา งน้ี ไมม ี. กรรม ๔ ประการทเี่ หลือเปนอนันตริยกรรมเทานั้น ไมเปน กรรมดงั อยตู ลอดกัป. พึงทราบวินจิ ฉยัแมโ ดยความเปน กรรมต้ังอยูตลอดกปั ในเรอ่ื งน้ี ดว ยประการดังน.้ี บทวา ปากโต มีอธบิ ายวา กบ็ ุคคลใดกระทาํ กรรมแมทง้ั ๕ประการนี้ สงั ฆเภทเทา น้นั ยอ มใหผลแกบ คุ คลนน้ั ดวยอาํ นาจปฏิสนธิกรรมทเ่ี หลือยอ มนับวาเปน กรรมที่มี (ทาํ ) แลว แตวิบากของกรรมยงั ไมมีดังน้ี เปน ตน . เมือ่ สังฆเภทไมม ี โลหิตปุ บาท (คอื การทาํ พระโลหติ ใหห อ )ยอ มใหผ ล เมอ่ื โลหิตุปบาทน้ันไมมี อรหันตฆาต (คือการฆา พระอรหนั ต)ยอ มใหผ ล เม่ืออรหันตฆาตน้นั ไมม ี ถา บดิ าเปน ผมู ศี ลี มารดาทุศีลหรอื ไมม ีศีลอยางบิดานนั้ ปต ฆุ าต (คือการฆา บิดา ) ยอ มใหผลดว ยอํานาจปฏิสนธิ. ถา มารดาเปนผูมีศีล มาตฆุ าตยอมใหผล. แมเมือ่ บิดามารดาท้งั สองทา น เปน ผูเสมอกันโดยศลี หรือโดยทศุ ีล มาตุฆาตเทา นนั้ยอ มใหผ ลดว ยอาํ นาจปฏิสนธิ เพราะมารดาเปน ผทู ําสิง่ ทท่ี ําไดยาก ทั้งเปนผมู อี ุปการะมากแกบ ุตรทงั้ หลาย. ฉะน้นั พงึ ทราบวินิจฉยั แมโ ดยวิบากคือผลในเรอื่ งนี้ ดว ยประการดังนี้ บทวา สาธารณาทหี ิ ความวา กรรม ๔ ประการเบื้องตน เปนกรรมทั่วไปแกค ฤหสั ถแ ละบรรพชิตท้ังปวง สวนสังฆเภทยอมเปน เฉพาะแกภกิ ษุผมู ปี ระการดงั ตรัสไว ยอมไมเปนแกค นอื่น โดยพระบาลวี า
พระสุตตันตปฎก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 157ดกู อ นอบุ าลี ภิกษุณที ําสายสงฆไมไดแล สกิ ขมานา สามเณร สามเณรีอบุ าสก อบุ าสิกา ก็ทําลายสงฆไ มได ดกู อนอุบาลี ภกิ ษุผเู ปน ปกตตั ตะมีธรรมเคร่อื งอยูรว มอันเสมอกัน อยใู นสมี าเสมอกนั ยอ มทาํ สังฆเภทไดเพราะฉะนนั้ สังฆเภทจึงเปน กรรมไมทว่ั ไป. ดว ยอาทศิ ัพท (คือศพั ทวาเปนตน ) ชนเหลา นั้นทงั้ หมด เปนผูสหรคตดว ยทกุ ขเวทนา และสัมปยตุ ดวยโทสะ โมหะ. พึงทราบวนิ ิจฉยั โดยเปน กรรมท่ัวไปเปนตนในเรื่องน้ี ดว ยประการฉะน้.ี บทวา อฺ สตฺถาร ความวา บุคคลคดิ วา พระศาสดาของเรานี้ ไมสามารถทาํ กิจของพระศาสดาได จงึ ถอื เจา ลัทธอิ ่ืนอยางน้วี าทา นผูน ี้ เปนศาสดาของเรา ดังนี้ ขอนี้เปน ฐานะท่ีจะมีได. บทวา เอกิสสฺ าย โลกธาตุยา คอื ในหมืน่ โลกธาตุ. กเ็ ขตมี ๓คอื ชาติเขต ๑ อาณาเขต ๑ วสิ ยั เขต ๑. ในเขตทัง้ ๓ นั้น หม่ืนโลกธาตุ ชอื่ วา ชาตเิ ขต. ดว ยวา หม่ืนโลกธาตุน้นั ไหวในเวลาท่ีพระตถาคตเสดจ็ ลงสูครรภพ ระมารดา เสด็จออก (ผนวช) ตรสั รูประกาศพระธรรมจกั ร ปลงพระชนนายุสงั ขาร และปรินพิ พาน.แสนโกฏิจักรวาล ช่ือวา อาณาเขต. เพราะวาอาณาเขตของอาฏานาฏยิ -ปรติ ร โมรปริตร ธชคั คปรติ ร และรัตนปรติ ร เปน ตน ยอมแผไ ปในแสนโกฏิจกั รวาลน้ี. สวนวิสยั เขตไมม ปี รมิ าณ ( คอื นบั ไมไ ด). ก็ธรรมดาพระพุทธเจาท้งั หลาย ช่ือวา ธรรมมิใชว สิ ัยหามีไม เพราะพระบาลวี าพระญาณ (ความรู) มปี ระมาณเพียงใด ขอที่จะพงึ รูกม็ ปี ระมาณเพียงนั้น ขอ ที่จะพึงรมู ปี ระมาณเพยี งใด พระญาณก็มีประมาณเพียงนัน้ .ขอ ทจี่ ะพึงรูม ีพระญาณเปนท่สี ดุ พระญาณกม็ ขี อทจี่ ะพึงรเู ปน ทสี่ ุด ดงั นี้ .
พระสตุ ตันตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 193 [๑๙๘] ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลาย ปฏิคาหกพึงรูจกั ประมาณในธรรมวนิ ยั ทก่ี ลา วไวดี ทายกไมจําตอ งรจู กั ประมาณ ขอนัน้ เพราะเหตุไรเพราะธรรมทา นกลาวไวด แี ลว. [๑๙๙] ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ผทู ป่ี รารภความเพียรในธรรมวินัยทก่ี ลาวไวช ่ัว ยอ มอยเู ปนทุกข ขอ นัน้ เพราะเหตุไร เพราะธรรมทานกลาวไวชว่ั . [๒๐๐] ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ผเู กียจครานในธรรมวนิ ยั ทก่ี ลาวไวด ี ยอ มอยเู ปน ทุกข ขอนน้ั เพราะเหตุไร เพราะธรรมทานกลา วไวดแี ลว . [๒๐๑] ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย ผทู เ่ี กยี จครา นในธรรมวินยั ท่ีกลา วไวช ่วั ยอมอยูเปนสุข ขอ นน้ั เพราะเหตไุ ร เพราะธรรมทานกลาวไวชวั่ . [๒๐๒] ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย ผปู รารภความเพยี รในธรรมวนิ ยัท่ีกลา วไวด ี ยอมอยูเ ปนสุข ขอนนั้ เพราะเหตไุ ร เพราะธรรมทานกลา วไวดแี ลว . [๒๐๓] ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เปรียบเหมอื นคถู แมเ พยี งเลก็ นอยกม็ กี ล่นิ เหม็น ฉนั ใด ภพแมเพยี งเล็กนอยกฉ็ ันนน้ั เหมอื นกัน เราไมสรรเสริญ โดยที่สุดแมช ว่ั กาลเพียงลัดนวิ้ มอื เดยี วเลย. [๒๐๔] ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย เปรยี บเหมอื นมตู ร... นา้ํ ลาย...หนอง... เลือดแมเ พียงเลก็ นอ ย กม็ กี ลิ่นเหมน็ แมฉนั ใด ภพแมเพยี งเล็กนอ ยก็ฉนั น้นั เหมอื นกัน เราไมสรรเสริญ โดยทสี่ ุดแมช ั่วกาลเพยี งลัดนวิ้ มอื เดยี วเลย. จบวรรคท่ี ๓
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 194 อรรถกถาวรรคที่ ๓๑ อรรถกถาสตู รท่ี ๑ ในวรรคท่ี ๓ สูตรท่ี ๑ พึงทราบวนิ ิจฉัยดังตอ ไปน.ี้ บทวา มจิ ฉฺ าทิฏ โิ ฏ ไดแก ผูไมเ ห็นตามความเปนจริง. บทวาวิปรีตทสสฺ โน ไดแก เปน ผูม ีความเห็นแปรปรวนไปตามความเห็นผดิ น้นัทีเดยี ว. บทวา สทธฺ มฺมา วฏุ าเปตฺวา ความวา ใหอ อกจากธรรมคอื กุศลกรรมบถ ๑๐. บทวา อสทฺธมฺเม ปตฏิ าเปติ ความวา ใหต้ังอยใู นอสัทธรรม กลาวคืออกศุ ลกรรมบถ ๑๐. ก็ในบทวา เอกปุคฺคโลนี้ พงึ ทราบวา ไดแ ก พระเทวทัตกับครูทง้ั ๖ และคนอ่ืน ๆ ท่ีเปนอยางน.้ี จบอรรถกถาสูตรท่ี ๑ อรรถกถาสูตรท่ี ๒ ในสตู รที่ ๒ พงึ ทราบวินจิ ฉยั ดงั ตอ ไปนี้. บทวา สมฺมาทฏิ โิ ฏ ไดแ ก ผูมคี วามเหน็ ตามความเปนจรงิ . บทวา อวิปรีตทสสฺ โน ไดแ ก ผมู คี วามเห็นอันไมแ ปรปรวนไปจากความเห็นชอบนัน้ นั่นแหละ. บทวา อสทฺธมมฺ า ความวา จากอกุศลกรรมบถ ๑๐. บทวา สทฺธมเฺ ม ความวา ในสทั ธรรม กลา วคอืกุศลกรรมบถ ๑๐. ก็ในบทวา เอกปุคฺคโล นี้ ในเมอื่ พระพทุ ธเจายังมไิ ดเสด็จอุปบัติ ยอ มไดแ กบุคคลมีอาทิอยางน้ี คอื พระเจาจกั รพรรดิ๑. บาลี ๑๙๑ - ๒๐๔.
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 195พระสัพพัญโู พธสิ ตั ว เมอ่ื พระพุทธเจาเสดจ็ อบุ ัตแิ ลว ยอมไดพ ระพทุ ธเจาและสาวกของพระพทุ ธเจา . จบอรรถกถาสตู รที่ ๒ อรรถกถาสูตรท่ี ๓ ในสตู รที่ ๓ พึงทราบวินิจฉยั ดงั ตอไปน.้ี บทวา มจิ ฺฉาทฏิ ิปรมานิ น้ี มวี ิเคราะหว า มิจฉาทฏิ ฐิเปนอยา งย่งิ ของโทษเหลา นัน้ เหตุน้ัน โทษเหลานั้น ชือ่ วา มิจฉฺ าทฏิ -ิปรมานิ โทษทั้งหลายมีมิจฉาทิฏิเปนอยา งยิง่ . อธบิ ายวา อนนั -ตรยิ กรรม ๕ ชือ่ วา กรรมมโี ทษมาก. มจิ ฉาทิฏฐเิ ทา นัน้ ช่ือวามีโทษมากกวาอนนั ตริยกรรม ๕ แมเ หลา น้ัน. ถามวา เพราะเหตุไร. ตอบวา เพราะอนันตรยิ กรรม ๕ นนั้ มีเขตกําหนด. ดวยวา ทานกลา วอนันตริยกรรม ๔ อยางวา ใหเกิดในนรก.แมส งั ฆเภทกเ็ ปน กรรมต้งั อยูในนรกช่ัวกัปเทา นั้น. อนนั ตรยิ กรรมเหลานน้ัมเี ขตกาํ หนดทส่ี ุด กย็ งั ปรากฏ ดว ยประการอยางน้ี. สวนนยิ ตมจิ ฉาทฏิ ฐิคอื ความเห็นผดิ อนั ดงิ ไมมีเขตกาํ หนด เพราะนิยตมิจฉาทฏิ ฐนิ นั้ เปนรากเหงา ของวัฏฏะ. การออกไปจากภพ ยอมไมม สี ําหรับคนผปู ระกอบดว ยนิยตมิจฉาทิฏฐินัน้ . ชนเหลาใด เช่ือฟง ถอ ยคําของตนผปู ระกอบดวยนิยตมิจฉาทฏิ ฐินน้ั แมช นเหลานนั้ กย็ อ มปฏบิ ตั ผิ ิด. อน่งึ ท้งั สวรรคท้ังมรรค ยอมไมม ีแกค นผูป ระกอบดวยนิยตมจิ ฉาทิฏฐนิ น้ั ในคราวกัปพินาศ เมือ่ มหาชนพากนั เกิดในพรหมโลก บคุ คลผูเปน นยิ ตมจิ ฉาทิฏฐิไมเ กิดในพรหมโลกนน้ั (แตก ลบั ) เกิดท่หี ลังจกั รวาล. ถามวา กห็ ลงั
พระสุตตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 196จักรวาลไฟไมไหมหรอื . ตอบวา ไหม. บางอาจารยกลาววา กเ็ มื่อหลงัจักรวาลแมถ ูกไฟไหมอยู คนผเู ปนนิยตมจิ ฉาทิฏฐินี้ กถ็ ูกไฟไหมอ ยูในโอกาสแหง หนึ่งในอากาศ. จบอรรถกถาสูตรที่ ๓ อรรถกถาสูตรที่ ๔ ในสตู รท่ี ๔ พงึ ทราบวินจิ ฉยั ดงั ตอไปน.ี้ บทวา มกฺขลิ ความวา เจาลัทธิผไู ดช ่ืออยา งน้ี เพราะยดึ คาํ วามา ขลิ อยาพลาดลมนะ. บทวา นทมี เุ ข ความวา ในท่ที ่ีแมนา้ํ ๒สายมาบรรจบกนั . คาํ นี้ เปนเพยี ง ( ยกมา ) เทศนาเทา นน้ั . น้าํ แมอยางอื่นเห็นปานนนั้ ซงึ่ มีสถานทีม่ าบรรจบกนั ของแมน้ําสายใดสายหน่งึในบรรดานํ้าแมเหลา นี้ คอื ลาํ ธาร ๒ สาย สายนํา้ ๒ สาย ทะเลสายนํา้ จดื ทะเลสายนาํ้ เค็ม และแมนาํ้ แหงสมทุ ร. บทวา ขปิ ๑ แปลวาลอบ. บทวา อุชเฺ ฌยฺย แปลวา ดัก. อธบิ ายวา พวกมนษุ ยเ อาไมออตน ออย ไมไ ผ หรอื เสนเถายานทรายมาสานใหเปน ลอบขนาดเทา หมอใบเดยี วบาง ๒ ใบบา ง ๓ ใบบา ง ผกู งาที่ปากลอบดวยหวาย นําไปดักเอาปากลอบจมไวใ นน้าํ ดอกหลกั ขนาบไวทงั้ สองขาง ผูกลอบดวยหวายไวกบั หลักน้นั . คําวา ดกั ลอบ นี้ ทา นกลาวหมายเอาการกระทาํดงั กลาวแลว น้ัน. ก็แมป ลาตัวเลก็ ๆ เขา ไปในลอบนัน้ แลว กห็ ลุดออกไปไมได. บทวา อนยาย ความวา เพอ่ื ความไมเจริญ. บทวา พฺยสนายความวา เพอื่ ความฉิบหาย. บทวา มกขฺ ลิ โมฆปรุ โิ ส ไดแก บรุ ษุ๑. ม. ขปิ ปฺ ลอบ.
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 197เปลา ช่อื มกั ขลโิ คสาล ผนู ี.้ บทวา มนสุ ฺสขิป มฺเ โลเก อุปปฺ นโฺ นความวา เกิดข้นึ แลวในโลก เปน เหมอื นลอบดกั มนุษย เพือ่ หา มมหาชนไปในทางน้นั คอื ทางไปสวรรคและพระนิพพาน. จบอรรถกถาสตู รท่ี ๔ อรรถกถาสตู รท่ี ๕ เปน ตน ในสตู รท่ี ๕ เปน ตน พึงทราบวินจิ ฉยั ดังตอไปน้.ี บทวา ทุรกฺขาเต ภกิ ขฺ เว ธมฺมวนิ เย มอี ธบิ ายวา คําสอนของเจาลัทธนิ อกพระศาสนา ชือ่ วาธรรมวินัยท่กี ลาวไวช ว่ั . เพราะวา ในคําสอนนัน้ แมผสู อนก็ไมเ ปน สัพพญั ู แมธรรมกเ็ ปนธรรมทกี่ ลา วไวช ่ัวแมห มูค ณะก็เปน ผปู ฏิบตั ิชั่ว. บทวา โย จ สมาทเปติ ไดแก บุคคลผูเ ปน อาจารยคนใดยอ มชกั ชวน. บทวา ยฺจ สมาทเปติ ความวาชักชวนอันเตวสิก (ศิษย) คนใด. บทวา โย จ สมาทปโตตถตตฺ าย ปฏปิ ชชฺ ติ ความวา อนั เตวาสิกคนใดถกู อาจารยช ักชวนแลวกระทําตามคําของอาจารยอ ยู ช่อื วาปฏิบัติเพื่อความเปน อยางนนั้ . บทวาพหุ อปุ ฺ ปสวติ อธิบายวา กบ็ คุ คลผชู ักชวน เม่ือชกั ชวนคน๑๐๐ คน ในกรรมมปี าณาติบาตเปน ตน ยอมไดอ กุศลเทา กันกบั อกุศลของคนผถู กู ชักชวนแมทงั้ หมดนนั้ เพราะเหตนุ ัน้ พระผมู พี ระภาคเจาจงึ ตรสั วา คนเหลานน้ั ทั้งหมดยอมประสบกรรมมิใชบุญเปน อนั มาก. บทวา สวฺ ากขฺ าเต ไดแ ก ในพระธรรมและพระวินัยท่ตี รัสไวดีแลว.คอื แสดงไวดีแลว เพราะในพระธรรมและพระวินยั เห็นปานน้ี พระ-ศาสดาก็ทรงเปนพระสัพพญั ู พระธรรมพระศาสดาก็ตรัสไวด แี ลว และ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 198หมูคณะก็เปน ผปู ฏบิ ตั ดิ ีแลว . บทวา สพฺเพ เต พหุ ปุ ฺ ปสวติอธิบายวา คนผชู ักชวนไดเหน็ ภิกษทุ งั้ หลายเขา ไปบณิ ฑบาต ไดชกั ชวนคนอน่ื ๆ ใหถวายขา วยาคูและภตั เปน ตน ยอมไดกุศลเทากับกศุ ลของผูถวายทานแมท้งั หมด. เพราะเหตนุ ัน้ พระองคจึงตรสั วา คนเหลานนั้ท้ังหมด ยอ มประสบบุญเปนอนั มาก. บทวา ทายเกน มตตฺ า ชานติ พพฺ า ความวา บคุ คลผใู หพ ึงรูประมาณคอื พึงใหพอประมาณ ใหจ นเตม็ ไมค วรใหจ นลน แตไ มก ลาววาไมพงึ ให ดงั น้ี กลา ววาพึงใหห นอ ยหนึง่ ๆ พอประมาณ. ถามวา เพราะเหตุไร. ตอบวา เพราะเมอ่ื เต็มแลว แมจะใหเ กินไป มนุษยสมบตั ิ ทพิ ย-สมบัติ หรอื นพิ พานสมบตั ทิ ีเ่ กินไปยอ มไมม .ี บทวา โน ปฏคิ คฺ าหเกนความวา ก็สาํ หรับปฏิคาหก ช่ือวา กจิ ในการรจู กั ประมาณแลว รบั เอายอ มไมมี. ถามวา เพราะเหตุไร. ตอบวา เพราะขนึ้ ชื่อวา ปฏิปทาในความเปน ผูมกั นอ ย ซึง่ มีมลู มาแตก ารรูประมาณ เต็มแลวรับพอประมาณยอมไมม แี กป ฏิคาหกน้นั . แตว าไดเ ทา ใด ควรรบั เอาเทานั้น. เพราะเคามูลในการรับอยา งเหลอื ลน สาํ หรับปฏิคาหกนั้น จักเปน การรับเพื่อเล้ยี งบตุ รและภรรยาไป. บทวา ปฏคิ ฺคาหเกน มตตฺ า ชานติ พพฺ า ความวา บุคคลผูเปนปฏคิ าหก พึงรูประมาณ. พงึ รอู ยา งไร. คอื เม่ือจะรบั ตองรูอํานาจของผใู ห ตอ งรูอาํ นาจ (ความมากนอย) ของไทยธรรม ตอ งรกู าํ ลังของตน. ก็ถา ไทยธรรมมมี าก ผใู หต อ งการใหนอยไซร ควรรบั เอาแตนอ ยตามอํานาจของผูให. ไทยธรรมมีนอย ผใู หตองการใหมาก ควรรบั เอาแตน อ ยตามอํานาจของไทยธรรม. แมไทยธรรมกม็ าก แมผ ูใ ห
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 199ก็ตองการจะใหม าก ปฏคิ าหกควรรูกําลังของตนแลว รบั เอาพอประมาณกเ็ มื่อรปู ระมาณอยางนแ้ี ลวรับเอา ยอมทําปฏปิ ทาคอื ความมักนอยใหเ ตม็บริบูรณ. ลาภยอมเกิดขนึ้ แกบคุ คลผูไ มเ คยมีลาภเกิดข้ึนแลว ลาภที่เกดิขึน้ แลวยอมอยมู นั่ คง. บคุ คลผทู ีย่ ังไมเลอ่ื มใสก็เลือ่ มใส บคุ คลผทู เี่ ล่อื มใสแลว กเ็ ลอ่ื มใสยงิ่ ขึ้น เปน ประหนง่ึ บคุ คลผเู ปน ทส่ี นใจของมหาชน กระทําพระศาสนาใหดาํ รงอยูต ลอดกาลนาน. ในขอ นน้ั มีเรือ่ งตอ ไปนีเ้ ปนตวัอยาง:- ไดยนิ วา ในโรหนชนบท มภี ิกษหุ นมุ รปู หนง่ึ อยูในกฬุ มุ รยิ วิหารในสมัยทภ่ี กิ ษาหายาก (ทาน) รบั ภตั ตาหารทัพพเี ดยี วเพ่ือฉนั ในเรอื นของนายลมั พกัณณ (กรรมกร) คนหนึง่ ในบา นนนั้ แลว รบั ภตั ตาหารอีกทัพพหี นึ่งเทานนั้ เพือ่ จะไป. วนั หนง่ึ ทา นไดเหน็ พระภิกษุอาคนั ตกุ ะรูปหน่งึ ในเรอื นนนั้ จึงรับเอาภตั ตาหารทัพพเี ดยี วเทานนั้ . เพราะเหตนุ ัน้ตอมาภายหลงั กุลบตุ รผูนน้ั เลื่อมใสทาน จึงบอกแกพวกมิตรอมาตยที่ประตพู ระราชวังวา พระประจําสกลุ ของเรา เปน ผชู อื่ วา มักนอยเหน็ ปานนี.้ มติ รอํามาตยแมทง้ั ปวงเหลาน้นั ก็เลื่อมใสในคณุ คอื ความมกั นอ ยของทาน ตางพากันตั้งภตั ตาหารประจํา ๖๐ ท่ี เฉพาะวนั หน่ึง ๆ. ภิกษผุ ูมกั นอ ยเปนธรรมดาอยางน้แี ล ยอมยงั ลาภทีย่ ังไมเกิดใหเ กิดขนึ้ . แมพระเจาสัทธาตสิ สมหาราช ทรงใหตสิ สอํามาตย ผูเ ปนคนอุปฏ ฐากใกลชิดไปสอบสวน ทรงใหเขาปง นกกระทาตัวหนง่ึ มาให. เม่ือติสสอํามาตยทาํ อยางนนั้ แลว คร้ันเวลาจะเสวยจงตรสั วา เราใหสวนท่ีเลศิ แลวจงึ จกั บริโภค จงึ ใหป ระทานเนื้อนกกระทาแกส ามเณรผูถ อื สงิ่ ของของพระมหาเถระใกลบริเวณกสั สัตถศาลา เมือ่ ทา นรบั เอาแตนอ ย ก็
พระสุตตันตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 200เลอ่ื มใสในคณุ คือความมกั นอยของทา น จงึ ตรัสวา ดูกอนพอ โยมเล่ือมใสขอถวายภตั ตาหารประจํา ๘ ทแี่ กท าน. สามเณรทลู วา มหาบพติ รภตั ตาหารประจาํ เหลาน้นั อาตมาถวายอปุ ช ฌาย. พระราชาตรัสวา โยมถวายอีก ๘ ท่.ี สามเณรทูลวา ภตั ตาหาร๘ ที่น้นั อาตมาขอถวายอาจารยข องอาตมา. พระราชาตรสั วา โยมถวายอกี ๘ ที.่ สามเณรทลู วา อาตมาถวายภตั ตาหาร ๘ ท่นี ้ัน แกทา นผูเ สมอดว ยอปุ ช ฌาย. พระราชาตรัสวา โยมถวายอกี ๘ ท่ี สามเณรทูลวา อาตมาถวายภตั ตาหาร ๘ ท่ีนั้น แกภ กิ ษสุ งฆ. พระราชาตรสั วา โยมถวายภัตตาหารแมอ ีก ๘ ท่.ี สามเณรนน้ัจงึ รับเอา. ลาภอันเกดิ ขึน้ แกส ามเณรนั้น ยอ มเปนลาภมั่นคงดวยประการอยางนี้. แมใ นบทวา อปปฺ สนฺนา ปสีทนฺติ น้ี กม็ ตี วั อยางดังตอไปน้ี:- ทีฆพราหมณ นิมนตพ ราหมณท ัง้ หลายมาฉัน ไดถ วายภัตตาหารทีละ ๕ ขันกไ็ มอ าจใหอ ิ่มหนาํ . อยูมาวนั หนงึ่ ไดฟงถอ ยคําวา วา กนั วาพวกพระสมณะเปนผูมกั นอ ย เพอ่ื จะทดลอง จึงใหค นถอื ภตั ตาหารไปยังวหิ ารในเวลาทพ่ี ระภกิ ษุสงฆทําภัตกิจ เหน็ ภกิ ษุประมาณ ๓๐ รปู ฉันอยูบนหอฉัน จึงถอื เอาภตั ตาหารขันหนง่ึ ไปยงั ทใ่ี กลพระสังฆเถระ. พระ-เถระไดใชนวิ้ มอื หยิบเอาหนอ ยหนงึ่ . โดยทํานองน้นี ่นั แล ภตั ตาหารขันเดยี วไดทัว่ ถึงแกภ ิกษุหมดทกุ รูป. แตน นั้ พราหมณเล่ือมใสในความมกันอ ยวา ไดย นิ วา พระสมณะเหลานม้ี คี ณุ ทกุ อยางทเี ดยี ว จงึ สละทรพั ย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 511
Pages: