พระสุตตันตปฎ ก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 385อยูในที่แหง ละ ๕๐ องค. เทวดาเหลาใดเจรญิ สมาบตั ิต่ํากวา นั้น ฯลฯเทวดาเทาน้ัน ไดยืนอยใู นท่แี หงละ ๑๐ องค. อกี อยางหนึ่ง เทวดาเหลา ใดเจรญิ สมาบตั ิขนึ้ ตาํ่ เทวดาเหลานั้น ไดย ืนอยใู นท่แี หงละ ๑๐ องคเทวดาเหลาใดเจรญิ สมาบตั ปิ ระณตี กวา นั้น เทวดาเหลาน้นั ไดยืนอยใู นท่ีแหง ละ ๒๐ องค เทวดาเหลา ใดเจรญิ สมาบัตปิ ระณตี กวานนั้ ฯลฯ เทวดาเหลา น้นั ไดย นื อยูในท่ีแหง ละ ๖๐ องค. บทวา อารคคฺ โกฏินิตทุ นมตฺเต แปลวา ในท่ีวา งพอจดปลายเข็มลงได. บทวา น จ อฺ มฺ พยฺ าพาเธนฺติ ความวา ถงึ ยืนอยใู นท่ีแคบอยางน้ี กไ็ มเบยี ดกัน ไมส กี นั ไมก ดกนั ไมดันกันเลย มิไดม ีเหตุทีจ่ ะตองพดู วา มอื ทา นบีบเรา เทา ทา นเบยี ดเรา ทานยนื เหยยี บเราดงั นี้. บทวา ตตฺถ นนู ไดแ ก ในภพนั้นเปน แน. บทวา ตถา จิตฺตภาวติ ความวา จิตอันเทวดาเหลา นนั้ อบรมดว ยอาการน้นั . บทวา เยนตา เทวตา ความวา จติ ท่เี ทวดาอบรมดว ยอาการนน้ั จงึ เปน เหตุใหเทวดาเหลาน้ันแมม ีจาํ นวน ๑๐ ฯลฯ กย็ ืนอยไู ดแ ละไมเ บียดกนั และกัน. บทวาอิเธว โข ไดแ ก ในศาสนา หรือในมนษุ ยโลก. เปน สัตตมีวภิ ัตติ.ความวา ในศาสนานี้แหละ. ในมนุษยโลกนีแ้ หละ. จริงอยู จิตอนั เทวดาเหลานน้ั อบรมแลว ในมนษุ ยโลกน้ีแหละ และในศาสนานแ้ี หละ ซ่งึ เปนเหตทุ เี่ ทวดาเหลานน้ั บงั เกิดในรูปภพท่มี ีอยู กแ็ ลเทวดาเหลานน้ั มาจากรปู ภพนั้นแลว เนรมิตอตั ภาพละเอยี ดยนื อยูอยา งน.้ี บรรดาเทวดาเหลา น้ัน แมเ ทวดาที่ทํามรรคและผล ๓ ใหบ ังเกิดในศาสนาของพระ-กัสสปทศพลจะมอี ยูกจ็ ริง ถงึ อยา งน้นั พระผูมพี ระภาคเจาทรงทําวาพระสพั พัญูพุทธเจา ทัง้ หลาย มอี นุสนธิตามตอเนอ่ื งอยา งเดียวกัน ศาสนา
พระสุตตันตปฎก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 386คําสอนอยา งเดยี วกัน เมอื่ ทรงทาํ ศาสนาของพระพทุ ธเจาองคอ ่ืน ๆ เปนพระพุทธศาสนานแ้ี ล จงึ ตรัสวา อิเธว โข สารีปตุ ตฺ ดังน้ี พระตถาคตตรสั กําลังแหง สมาบตั ิ ดว ยพระพทุ ธดาํ รัสเพยี งเทานี้ . บัดนี้ เมอื่ จะตรัสอนสุ าสนตี ามระบบ ปรารภพระสารบี ตุ รเถระจงึ ตรัสวา ตสฺมาติห สารปี ตุ ตฺ ดงั น.ี้ บรรดาบทเหลานน้ั บทวา ตสมฺ าความวา เพราะเหตุทีเ่ ทวดาเหลา นั้นทาํ สมาบัติท่ีมอี ยใู นภพน้ีแหละใหบังเกิดแลวจึงไดบังเกิดในภพท่ีมีอย.ู บทวา สนตฺ นิ ฺทฺรยิ า แปลวามีอินทรยี ส งบ เพราะอนิ ทรียท้ัง ๕ สงบ เยน็ ประณตี . บทวาสนตฺ มานสา แปลวา มีใจสงบ เพราะใจสงบ เย็น ประณีต. บทวาสนฺต เยวุปหาร อปุ หรสิ สฺ าม ความวา พวกเราจักเสนอความนบั ถอื บชู าดวยกายและใจ ซงึ่ เปนความนบั ถอื บูชาอนั สงบ เย็น ประณตี ทเี ดียว.บทวา สพฺรหฺมจารีสุ ไดแกใ นสหธรรมิกท้ังหลายผูประพฤติธรรมช้นั สูงท่เี สมอกัน มีเปนผมู อี ุเทศอันเดียวกันเปนตน. ดว ยพระพุทธดาํ รสั น้ีวาเอวฺหิ เต สารีปตุ ตฺ สิกฺขิตพพฺ ดังนี้ พระผูมีพระภาคเจา ไดท รงทาํเทศนาใหเปน ภาษิตของพระสพั พัญพู ทุ ธะโดยฐานเพียงเทาน้.ี บทวาบทวา อนสสฺ ุ แปลวา เสีย เสียหาย. บทวา เย อิม ธมฺมปริยายนาสฺโสสุ ความวา พวกนกั บวชผูนบั ถอื ลทั ธอิ ่นื อาศยั ทฏิ ฐิของตนทีล่ ามก เปลา สาระ ไรป ระโยชน ไมไดฟงธรรมเทศนาน้ี เหน็ ปานนี้พระผมู พี ระภาคเจาทรงจบเทศนาคามอนสุ นธิ ดว ยประการฉะนี้. จบอรรถกถาสูตรท่ี ๕
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 387 สูตรท่ี ๖ วา ดวยกามราคะและทฏิ ฐริ าคะเปน เหตใุ หว ิวาทกนั [๒๘๒] ๓๖. สมยั หนึง่ ทา นพระมหากจั จานะอยทู ฝี่ ง แมน า้ํกัททมทหะ ใกลพ ระนครวรณา คร้งั น้ันแล พราหมณอารามทณั ฑะไดเขาไปหาทา นพระมหากัจานะถึงทีอ่ ยู ไดป ราศรัยกบั ทา นพระมหากัจจานะครั้นผา นการปราศรัยพอใหระลกึ ถงึ กันไปแลว จึงนงั่ ณ ท่ีควรสว นขางหนง่ึ คร้ันแลวไดถ ามวา ดูกอนทานกัจจานะ อะไรหนอเปน เหตุเปน ปจจัย เคร่อื งใหก ษัตริยกบั กษตั รยิ พราหมณกับพราหมณ คฤหบดีกบั คฤหบดี วิวาทกนั ทา นมหากจั จานะตอบวา ดกู อ นพราหมณ เพราะเหตุเวยี นเขาไปหากามราคะ ตกอยูในอํานาจกามราคะ กําหนัดยินดใี นกาม-ราคะ ถูกกามราคะกลุม รมุ และถูกกามราคะทวมทับ แมก ษัตริยกับกษตั ริยพราหมณกบั พราหมณ คฤหบดีกับคฤหบดี ก็ววิ าทกนั . อา. ดูกอนกจั จานะ กอ็ ะไรเปน เหตุ เปน ปจจยั เครือ่ งใหสมณะกบั สมณะวิวาทกนั . มหา. ดูกอนพราหมณ เพราะเหตุเขาไปหาทฏิ ฐริ าคะ ตกอยใู นอํานาจทฏิ ฐิราคะ กาํ หนดั ยินดีในทฏิ ฐริ าคะ ถูกทิฏฐิราคะกลมุ รมุ และถกู ทฏิ ฐิราคะทว มทบั แมสมณะกับสมณะกว็ ิวาทกนั . อา. ดกู อ นกจั จานะ ก็ในโลก ยังมใี ครบา งไหม ท่ีกา วลวงการเวียนเขา ไปหากามราคะ การตกอยูใ นอาํ นาจกามราคะ การกาํ หนัดยินดีในกามราคะ การถกู กามราคะกลมุ รุม และการถูกกามราคะทวมทับนี้และกา วลว งการเวียนเขา ไปหาทิฏฐริ าคะ การตกอยใู นอํานาจทิฏฐริ าคะการถูกทฏิ ฐิราคะกลมุ รมุ และการถกู ทิฏฐิราคะทวมทบั น้ีเสยี ได.
พระสุตตันตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 388 มหา. ดกู อ นพราหมณ ในโลก มที า นท่กี าวลวงการเวียนเขา ไปหากามราคะ การตกอยูในอํานาจกามราคะ การกําหนัดยินดีในกามราคะการถกู กามราคะกลุม รมุ และการถกู กามราคะทวมทบั นีเ้ สยี ได และกาวลวงความเวียนเขาไปหาทิฏฐิราคะ การตกอยใู นอาํ นาจทฏิ ฐิราคะ การกาํ หนัดยินดีในทิฏฐิราคะ การถูกทฏิ ฐริ าคะกลุมรมุ และการถกู ทิฏฐิราคะทวมทับน้ี. อา. ดกู อนกัจจานะ ใครในโลกเปน ผกู าวลวงการเวียนเขา ไปหากามราคะ. . . และการถูกทฏิ ฐริ าคะทว มทับน.ี้ มหา. ดูกอ นพราหมณ ในชนบทดานทิศบรู พา มีพระนครชอื่ วาสาวัตถี ณ พระนครสาวัตถนี นั้ ทุกวนั นี้ พระผูม ีพระภาคอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจา พระองคน ั้นกาํ ลงั ประทบั อยู ดกู อ นพราหมณ ก็พระผูม ี-พระภาคเจาพระองคน ้นั ทรงกาวลว งการเวียนเขา ไปหากามราคะ. . . .และการถูกทิฏฐริ าคะทว มทับนด้ี วย. เม่อื ทา นพระมหากจั จานะตอบอยางนี้แลว พราหมณอารามทัณฑะลุกจากท่ีนง่ั หม ผาเฉวยี งบาขา งหน่งึ แลว คุกมณฑลเขา ขวาลงบนแผนดินประนมอญั ชลีไปทางท่พี ระผมู ีพระภาคเจา ประทบั อยูแลว เปลงอุทาน ๓ คร้ังวา ขอนอบนอ มแดพ ระผมู ีพระภาคอรหนั ตสัมมาสัมพุทธเจาพระองคน้ันขอนอบนอมแดพ ระผมู ีพระภาคอรหันตสมั มาสมั พุทธเจาพระองคน ้ัน ขอนอบนอมแดพ ระผูมีพระภาคอรหันตสมั มาสมั พุทธเจาพระองคนั้น ผกู าวลวงการเวียนเขา ไปหากามราคะ การตกอยใู นอาํ นาจกามราคะ การกําหนัดยินดีในกามราคะ การถูกกามราคะกลุม รุม และการถูกกามราคะทวมทับน้แี ลว กบั ทั้งไดก าวลวงการเวียนเขา ไปหาทฏิ ฐิราคะ การตกอยใู นอํานาจ
พระสุตตันตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 389ทิฏฐิราคะ การกาํ หนดั ยินดใี นทิฏฐริ าคะ การถูกทิฏฐิราคะกลมุ รมุ และการถูกทิฏฐริ าคะทวมทบั นด้ี ว ย ขาแตท า นกัจจานะ ภาษิตของทา นแจมแจง นกั ขาแตท านกจั จานะ ภาษิตของทา นแจม แจง นัก ทา นกัจจานะประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมอื นบคุ คลหงายของที่ควาํ่ เปดของทีป่ ด บอกทางแกผ ูหลงทาง หรือสอ งประทีปในท่ีมดื ดว ยตง้ั ใจวาคนมีจกั ษจุ กั เหน็ รปู ฉะนนั้ ขาแตทานกัจจานะ ขาพเจานี้ ขอถึงพระ-โคดมผูเจริญพระองคน้นั กับทั้งพระธรรมและพระภกิ ษุสงฆว าเปน สรณะขอทา นกจั จานะจงจาํ ขาพเจา วาเปน อุบาสก ผถู ึงสรณะตลอดชวี ิต จําเดมิต้ังแตว นั นีเ้ ปน ตน ไป. จบสตู รท่ี ๖ อรรถกถาสตู รท่ี ๖ ในสตู รท่ี ๖ มวี ินจิ ฉยั ดังตอไปน้ี. บทวา ปร๑ณาย วหิ รติ ความวา เมืองมชี ่อื วาปรณา ทา นพระมหากจั ตานะเขา ไปอาศยั เมืองนน้ั อยู. บทวา กาม๒ราควินเิ วสวินพิ นธฺ -ปลิเคธปริยุฏานชฺฌฌสานเหตุ เพราะเวยี นเขาไปหากามราคะเปนเหตุ ตกอยใู นอาํ นาจกามราคะเปน เหตุ มคี วามกําหนัดยินดีในกามราคะเปน เหตุ เพราะกามราคะกลุมรุมอยเู ปนเหตุ และทว มทับอยูเพราะกามราคะเปนเหต.ุ มคี ําอธิบายดงั นี้ เพราะกามราคะทเ่ี กิดขน้ึ เพราะอาศยั กามคณุ ๕นั้น ยดึ ไวเ ปนตน เปน เหตุ เพราะถกู กามราคะพัวพนั ผูกพันไวเพราะละโมบ คือตะกรามเพราะกามราคะน้นั แหละ ซงึ่ เปนเหมอื นหลม ใหญเพราะกลมุ รมุ อยูเพราะกามราคะนั้นแหละ คอื ถูกกามราคะจับไว และเพราะ๑. บาลเี ปน วรณาย วิหรต.ิ ๒. ม. กามราคาภินิเวส.
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 390จดจอเพราะกามราคะ คือถกู กามราคะกลนื สําเร็จเสรจ็ ส้ินยึดไว. แมใ นบทวา ทฏิ ราค เปน ตน กน็ ัยนี้แหละ. แตใ นบทวา ทิฏริ าโค น้ีบัณฑติ พึงทราบวา ไดแ กราคะทเ่ี กดิ ขึ้นเพราะอาศยั ทฏิ ฐิ ๖๒. บทวา ปรุ ตฺถเิ มสุ ชนปเทสุ ความวา จากท่ีทีพ่ ระเถระอยไู ปทางทิศตะวนั ออก มสี าวัตถชี นบท. พระเถระเมือ่ นัง่ ก็นงั่ หันหนา ไปทางทิศน้นั ฉะนั้น ทานจงึ กลาวอยา งนี้. บทวา อทุ าน อุทาเนสิแปลวา เปลงอุทาน. เหมอื นอยางวา น้ํามนั ไมอ าจขังเครอื่ งตวงไดไหลลน ไป เขาเรยี กวา ลนเหลอื และนํา้ ทไ่ี มอาจขังเหมอื งนํ้าไดไ หลลนไปน้นั เขาเรยี กวา น้ําหลาก ฉันใด คาํ ท่เี กิดแตป ตกิ ็ฉนั นั้นเหมอื นกนัขงั หทัยไมได คือเกบ็ ไวข างในไมอยู กล็ น ออกขา งนอกน้นั ทา นเรียกวาิอุทาน อธบิ ายวา พราหมณอ ารามทณั ฑะ เปลงคําทเี่ กิดแตปต เิ หน็ปานนี้. จบอรรถกถาสตู รท่ี ๖ สูตรที่ ๗ วาดวยชอื่ วาเปนบัณฑิตและเปนเถระ มิใชเพราะเปนคนแก [๒๘๓] ๓๗. สมัยหนึง่ ทานพระมหากจั จานะอยูท่ปี าคนุ ทาวนัใกลเมอื งมธรุ า คร้งั น้นั แล พราหมณก ณั ฑรายนะเขา ไปหาทา นพระมหา-กจั จานะถึงทอี่ ยู ไดป ราศรยั กับทานพระมหากัจจานะ คร้ันผา นการปราศรัยพอใหระลกึ ถงึ กันไปแลว จึงนั่ง ณ ที่ควรสวนขางหนง่ึ คร้ันแลว ไดถ ามวา ดูกอนทานกจั จานะ ขา พเจา ไดฟงมาวา ทา นสมณะกจั จานะ หาอภิวาท ลกุ ขน้ึ ตอ นรับพวกพราหมณ ท่ชี ราแกเ ฒาลว งกาล
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 391ผานวยั หรือเช้ือเชญิ ดว ยอาสนะไม ดกู อ นทานกจั จานะ ขา วท่ีไดฟงมานน้ั จรงิ แท เพราะทา นกัจจานะหาอภิวาท ลกุ ขนึ้ ตอ นรับพวกพราหมณท่ชี ราแกเ ฒา ลวงกาลผานวัย หรือเชอื้ เชิญดวยอาสนะไม ดกู อ นกัจจานะการกระทาํ เชนน้ีนน้ั เปนการไมสมควรแท. ทานพระมหากจั จานะตอบวา ดูกอ นพราหมณ ภูมิคนแกแ ละภมู ิเด็ก ทพ่ี ระผูมีพระภาคอรหนั ตสมั มาสมั พุทธเจาผทู รงรูทรงเหน็ พระองคน้นั ตรัสไวม อี ยู ดูกอ นพราหมณ ถึงแมจะเปน คนแกม อี ายุ ๘๐ ป ๙๐ ปหรอื ๑๐๐ ป แตกาํ เนิดก็ดี แตเ ขายงั บริโภคกาม อยูใ นทา มกลางกามถูกความเรา รอนเพราะกามแผดเผา ถกู กามวติ กเคยี้ วกนิ อยู ยังเปนผูขวนขวายเพื่อแสวงหากาม เขาก็ยอมถึงการนบั วาเปนพาล ไมใชเถระโดยแท ดูกอ นพราหมณ ถึงแมวาจะเปนเดก็ ยงั เปน หนุม มีผมดาํ สนทิประกอบดวยความเปนหนุมอนั เจรญิ ยังตั้งอยูในปฐมวัย แตเ ขาไมบรโิ ภคกาม ไมอ ยูในทา มกลางกาม ไมถกู ความเรารอ นเพราะกามแผดเผาไมถูกกามวติ กเคี้ยวกิน ไมข วนขวายเพื่อแสวงหากาม เขาก็ยอ มถงึ การนับวาเปนบณั ฑติ เปน เถระแนแททีเดียวแล. ทราบวา เม่อื ทา นพระมหากัจจานะกลาวอยางนแ้ี ลว พราหมณกัณฑรายนะไดลกุ จากท่ีนั่งแลวหม ผาเฉวียงบาขางหน่ึง ไหวเ ทาของภกิ ษุท่หี นุมดวยเศยี รเกลา กลา ววา พระผเู ปน เจา แก ตัง้ อยแู ลวในภูมิคนแกเรายงั เด็ก ต้งั อยใู นภูมเิ ดก็ ขา แตทานกัจจานะ ภาษติ ของทานแจม แจงนัก ขาแตทานกัจจานะ ภาษิตของทา นแจม แจง นัก ทานพระกจั จานะประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรยี บเหมือนบุคคลหงายของท่คี วา่ํ เปดของท่ีปด บอกทางแกผูหลงทาง หรอื สองประทีปในที่มืดดว ยตั้งใจวา
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 392คนมจี ักษจุ กั เห็นรปู ฉะนน้ั ขาแตท านกัจจานะ ขา พเจา น้ี ขอถึงพระโคดมผูเจริญพระองคนนั้ กบั ทงั้ พระธรรมและพระภิกษุสงฆเปน สรณะ ขอทา นพระกัจจานะจงจําขา พเจา วาเปน อุบาสก ผูถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแตวันนี้เปน ตนไป. จบสตู รที่ ๗ อรรถกถาสตู รที่ ๗ ในสตู รท่ี ๗ มวี ินจิ ฉัยดงั ตอไปน้.ี บทวา คุนทฺ าวเน ไดแก ณ ปา ซง่ึ มีช่อื อยางน้ี. บทวา อปุ สงฺกมิความวา กัณฑรายนพราหมณไ ดท ราบขา วเลา กันมาวา พระมหากัจจานะ-เถระเหน็ คนคราวพอของตนก็ตาม คราวปูก ็ตาม คราวทวดกต็ าม ไมกราบไหวไมลุกตอ นรบั ไมเ ชอื้ เชญิ ใหน ่ัง ดงั นี้ คดิ วา ไมมใี ครสามารถแกเ รื่องเพียงเทาน้ใี หส ําเรจ็ ได เราจักเขาไปขม ทาน ดังนี้ รับประทานอาหารเขา แลว เขา ไปหาทานพระมหากจั จานะถึงท่ีอย.ู บทวา ชณิ ฺเณไดแ ก ผคู รา่ํ ครา เพราะชรา. บทวา วฑุ ฺเฒ ไดแก ผูเจรญิ โดยวยั .บทวา มหลฺลเก ไดแก ผูแ กโดยชาติ (เกิดมานาน). บทวา อทธฺ คเตไดแก ผูผา นเวลายาวนาน. บทวา วโยยอนปุ ปฺ ตเฺ ต ไดแก ผอู ยถู งึปจ ฉิมวยั . บทวา ตยทิ โภ กจจฺ าน ตเถว ความวา ทา นกจั จานะผูเจริญขอใดทีพ่ วกขา พเจาไดฟ ง มาอยา งชดั เจน ขอ นั้นกส็ มกบั เรอ่ื งที่ขาพเจาไดเห็นนี้ ทาํ ไมถึงเปน อยา งน้ัน ไมเ ปนอยางอ่นื คาํ วา น หิ ภวกจฺจาโน พรฺ าหฺมเณ นี้ กณั ฑรายนพราหมณกลา วหมายถึงตนเอง.
พระสตุ ตันตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 393นยั วา ขอนัน้ มอี ธบิ ายดังนี้วา ทา นกจั จานะผเู จรญิ เห็นพวกเราผเู ปนคนแกขนาดนี้ กไ็ มม แี มเพียงการกราบไหว แมเ พียงการลุกตอ นรบัแตเพยี งการเชอ้ื เชญิ ใหทน่ี งั่ . บทวา น สมปฺ นนฺ เมว แปลวา ไมเหมาะเลย คือไมสมควรทเี ดียว. พระเถระฟงคําของพราหมณแ ลว คดิ วาพราหมณน ไี้ มร จู กั คนแก ไมร จู กั เด็ก จาํ เราจักบอกคนแกแ ละเด็กแกเขาดงั นี้ เมื่อจะขยายเทศนา จงึ กลาวคําวา อตฺถิ พฺราหมฺ ณ เปน ตน . บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา ชานตา ไดแ ก ผูร นู ยั ทัง้ ปวง. บทวาปสฺสตา ไดแ ก ผูเหน็ นัยน้ันนน่ั แหละ เหมือนเห็นผลมะขามปอ มท่วี างไวในมือ. บทวา วฑุ ฺฒภูมิ ไดแ ก เหตุทที่ าํ ใหเ ปนคนแก. บทวาทหรภมู ิ ไดแ ก เหตทุ ี่ทําใหเ ปนเดก็ . บทวา อสีติโก ไดแ ก มวี ยั๘๐ ป. บทวา กาเม ปริภุชฺ ติ ความวา ยังตอ งการบริโภคกามท้ัง๒ คือ วัตถกุ าม และกิเลสกาม. บทวา กามมชฺณาวสติ ความวายังอยคู ือครองกามทง้ั ๒ อยา ง เหมือนเจา ของเรือนอยคู รองเรอื น. บทวากามปริเยสนาย อุสสฺ โุ ก ความวา ยังขวนขวายเพอื่ แสวงหากามท้ัง ๒อยา ง. บทวา โส พาโล น เถโรเตวฺ ว สงฺข คจฉฺ ติ ความวาบุคคลนั้นไมน ับวาเปนเถระ นบั วาเปน เดก็ คือคนปญ ญาออนโดยแทสมจรงิ ดงั ท่ีตรัสไวว า น เตน จ เถโร โหติ เยนสฺส ปลิต สโิ ร ปริปกฺโก วโย ตสสฺ โมฆชิณโฺ ณติ วุจฺจติ บคุ คลจะเปนเถระ เพราะเหตทุ มี่ ผี มหงอกบน ศีรษะกห็ ามไิ ด ผูน ั้นมีวัยหงอมแลว เรียกวา คนแกเปลา.
พระสุตตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 394 บทวา ทหโร แปลวา เด็กรุน. บทวา ยุวา ไดแก ประกอบดว ยความเปน หนมุ . บทวา สุสกู าฬเกโส แปลวา มผี มดาํ สนิทบทวา ภเทฺรน โยพพฺ เนน สมนนฺ าคโต ความวา บุคคลช่ือวาเปนคนหนุม เพราะประกอบดวยความเปนหนมุ ใด ทานแสดงความเปน หนมุนั้นวา ภทฺรก กําลังเจรญิ . บทวา ปฐเมน วยสา ความวา อายุ๓๓ ป ช่อื วาปฐมวยั ประกอบดวยปฐมวัยนน้ั . บทวา ปณฺฑโิ ตเถโรเตฺวว สงขฺ คจฺฉติ ความวา บุคคลนั้น คือเหน็ ปานน้ี นบั วาเปนบัณฑติ ดว ย เปน เถระดวยแล. สมจรงิ ดงั ท่ตี รัสไว ยมฺหิ สจจฺ จฺ ธมโฺ ม จ อหสึ า ส ยโม ทโม สเว วนตฺ มโล ธีโร โส เถโรติ ปวจุ ฺจติ ผูใ ดมสี ัจจะ เทีย่ งธรรม ไมเบยี ดเบียน สํารวม ฝกฝน ผนู น้ั แหละเปน ผคู ายกิเลสดจุ ธุลแี ลว เปน ปราชญ เราเรยี กวา เถระ จบอรรถกถาสูตรท่ี ๗ สูตรที่ ๘ วา ดวยเหตเุ ปนไปและไมเ ปนไปเพือ่ ประโยชนเ กือ้ กูลแกช น เปน อนั มาก [๒๘๔] ๓๘. ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย สมัยใด พวกโจรมีกําลังสมัยนนั้ พระเจาแผน ดนิ ยอมถอยกาํ ลงั ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย ในสมัยเชนน้ัน พระเจา แผน ดนิ ยอ มไมส ะดวกท่ีจะเสด็จผานไป. เสดจ็ ออกไป
พระสตุ ตันตปฎก เอกนบิ าต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 395หรือจะออกคาํ สั่งไปยังชนบทชายแดน ในสมยั เชนนั้น แมพวกพราหมณและคฤหบดีก็ไมสะดวกท่จี ะผานไป จะออกไป หรือเพอ่ื ตรวจตราการงานภายนอก ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ฉนั นนั้ เหมอื นกนั สมยั ใด พวกภิกษุเลวทรามมกี ําลัง สมยั นนั้ พวกภกิ ษุทม่ี ีศลี เปน ทีร่ กั ยอ มถอยกาํ ลงั ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ในสมยั เชน นั้น ภิกษพุ วกที่มีศลี เปนที่รกั เปน ผูน่งิ เงยี บทเี ดยี ว นง่ั ในทามกลางสงฆ หรือคบชนบทชายแดน ขอ นย้ี อ มเปนไปเพ่ือมิใชป ระโยชนของชนมาก เพื่อมใิ ชส ุขของชนมาก เพ่ือความฉิบหายเพ่ือมิใชประโยชนแ กช นเปนอันมาก เพ่ือทกุ ขแ กเ ทวดาและมนุษยท ้ังหลายดูกอนภิกษุทัง้ หลาย สมยั ใด พระเจา แผน ดนิ มกี าํ ลัง สมยั นน้ั พวกโจรยอ มถอยกําลัง ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ในสมยั เชนนัน้ พระเจา แผนดินยอมสะดวกทีจ่ ะเสด็จผานไป เสด็จออกไป หรอื ทจ่ี ะออกคําสง่ั ไปยังชนบทชายแดน ในสมัยเชน น้ัน แมพ วกพราหมณแ ละคฤหบดียอมสะดวกท่ีจะไป ออกไป หรอื ตรวจการงานภายนอก ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลายฉันน้ันเหมือนกนั สมัยใด พวกภกิ ษุที่มีศีลเปนท่รี กั . มกี าํ ลัง สมัยนั้นพวกภิกษทุ เี่ ลวทราม ยอ มถอยกําลัง ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ในสมัยเชนน้ันพวกภกิ ษุที่เลวทราม เปนผนู ่งิ เงียบทเี ดยี ว นง่ั ในทา มกลางสงฆ หรือออกไปทางใดทางหนงึ่ ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ขอ นยี้ อมเปนไปเพ่ือประโยชนข องชนมาก เพือ่ สุขของชนมาก เพอ่ื ประโยชน เพอ่ื เกอ้ื กลูแกชนเปน อนั มาก เพอื่ ความสุขแกเทวดาและมนุษยท ้งั หลาย. จบสูตรที่ ๘
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 396 อรรถกถาสูตรท่ี ๘ ในสูตรที่ ๘ มีวินิจฉัยดงั ตอ ไปนี้. บทวา โจรา พลวนโฺ ต โหนฺติ ความวา พวกโจรพรักพรอ มดว ยพรรคพวก พรักพรอ มดวยบรวิ าร พรกั พรอมดว ยสถานท่อี ยูพรักพรอมดว ยพาหนะ. บทวา ราชาโน ตสฺมึ สมเย ทพุ พฺ ลา โหนตฺ ิความวา ในสมยั นนั้ ฝายเจา ทั้งหลาย เปน ฝายออ นกาํ ลัง เพราะไมม ีสมบัตเิ หลา นน้ั . บทวา อติยาตุ ความวา เพอื่ เทีย่ วตรวจตราชนบทภายนอกแลวประสงคจะเขา พระนครในขณะทต่ี องการ. บทวา นิยยฺ าตุความวา ไมม ีความผาสกุ ทจี่ ะเสดจ็ ออกไปไมวา ในปฐมยาม มชั ฌิมยานหรือปจ ฉมิ ยาม ดว ยมพี ระดํารสั วา พวกโจรปลน ยํา่ ยชี นบทจําจกั ปองกนัพวกมนั . จาํ เดมิ แตนน้ั พวกโจรเที่ยวตีแยง ชงิ ผูคน. บทวา ปจจฺ นตฺ เิ มวา ชนปเท อนุสฺ าตุ ความวา แมจะปกครองชนบทชายแดนเพอื่ สรางบานที่อยู สรา งสะพาน ขดุ สระโบกขรณี และสรางศาลาเปนตน ก็ไมส ะดวก. บทวา พฺราหมฺ ณคหปตกิ าน ไดแก พวกพราหมณและคฤหบดที ้งั หลายท่ีอยภู ายในพระนคร. บทวา พาหิรานิ วา กมฺมนตฺ านิไดแก งานสวนงานนานอกบาน. บทวา ปาปภิกฺขู พลวนฺโต โหนฺติ ความวา พวกภิกษุช่ัวเปนฝา ยมีกาํ ลัง พรัง่ พรอมดว ยอปุ ฏฐากชายหญิงเปนอันมาก และไดพ ึง่ พงิพระราชาและราชมหาอาํ มาตย. บทวา เปสลา ภกิ ขฺ ู ตสฺมึ สมเยทพุ ฺพลา โหนฺติ ความวา ในสมัยนั้น พวกภิกษุทม่ี ีศีลเปนท่ีรกั(เรยี บรอย) เปน ทอ่ี อ นกําลัง เพราะไมมสี มบตั เิ หลานั้น. บทวาตุณฺหีภตู า ตณุ หภี ตู า สงฆฺ มชฺเฌ สงกฺ สายนตฺ ิ ความวา เปนผเู งียบ
พระสุตตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 397เสียงน่ังในทา นกลางสงฆ ไมอาจเงยหนาอา ปากกลาวอะไร ๆ แมแตค ําเดยี วนง่ั ประหน่ึงซบเซาอยู. บทวา ตยทิ ไดแก เหตนุ ่ันน้ัน. ในฝา ยขาวก็พงึ ทราบตรงกนั ขา มกับที่กลา วแลว . จบอรรถกถาสูตรท่ี ๘ สตู รท่ี ๙ วาดวยการปฏบิ ตั ผิ ิดไมยงั กุศลธรรมใหส าํ เร็จ การปฏิบัติชอบ ยังกศุ ลธรรมใหสําเรจ็ [๒๘๕] ๓๙. ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย เราไมส รรเสริญความปฏิบัติผิดของคน ๒ จําพวก คอื คฤหัสถ ๑ บรรพชิต ๑ ดูกอนภิกษทุ ้งั หลายคฤหัสถห รอื บรรพชิตปฏบิ ัตผิ ดิ แลว ยอ มไมย ังกศุ ลธรรมท่นี าํ ออกใหสาํ เร็จกไ็ ด เพราะการปฏบิ ัตผิ ิดเปนเหตุ ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย เราสรรเสริญความปฏบิ ตั ชิ อบของคน ๒ จําพวก คอื คฤหัสถ ๑ บรรพชติ ๑ ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย คฤหสั ถห รือบรรพชิตปฏบิ ัติชอบแลว ยอมยงั กุศลธรรมท่ีนําออกใหส ําเร็จได เพราะการปฏิบัตชิ อบเปน เหต.ุ จบสตู รท่ี ๙ อรรถกถาสตู รที่ ๙ ในสตู รท่ี ๙ มวี ินจิ ฉัยดงั ตอ ไปน.ี้ บทวา มิจฉฺ าปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ ความวา เพราะกระทําคือปฏบิ ัติขอปฏิบตั ิผิดเปน เหต.ุ บทวา ญาย ธมมฺ กุสล ไดแก มรรคพรอ มท้ังวิปส สนา. ดวยวาบุคคลเหน็ ปานนี้ ยอมไมอาจทํามรรคพรอมทง้ั
พระสุตตนั ตปฎก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 398วิปสสนาใหสําเรจ็ คือใหถงึ พรอ มได. ในฝายขาวก็พึงทราบตรงกันขามกับท่ีกลา วแลว . ในสตู รน้ี ตรัสมรรคพรอมวปิ สสนา จบอรรถกถาสตู รท่ี ๙ สตู รที่ ๑๐ วาดวยเหตุใหพระสทั ธรรมอันตรธานและดาํ รงอยู [๒๘๖] ๔๐. ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย ภกิ ษุพวกทหี่ ามอรรถและธรรมโดยสตู รซงึ่ ตนเรียนไวไ มดี ดวยพยัญชนะปฏิรูปนนั้ ชอื่ วา ปฏิบัตแิ ลวเพื่อมิใชป ระโยชนของชนมาก เพื่อมิใชสุขของชนมาก เพ่อื ความฉิบหายเพอื่ มใิ ชป ระโยชนแกชนเปน อันมาก เพอื่ ทุกขแ กเ ทวดาและมนุษยท้งั หลาย อนึ่ง ภกิ ษุนัน้ ยงั จะประสบบาปเปน อันมาก และท้ังชอื่ วาทาํ สทั ธรรมน้ีใหอนั ตรธานไปอีกดวย ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย ภกิ ษพุ วกที่อนโุ ลมอรรถและธรรม โดยสูตรซ่ึงตนเรยี นไวด ี ดวยพยญั ชนะปฏิรูปนั้นชอ่ื วาปฏบิ ตั แิ ลว เพอ่ื ประโยชนของชนมาก เพื่อความสขุ ของชนมาก เพ่อืประโยชน เพ่อื เกือ้ กลู แกชนเปนอันมาก เพือ่ ความสขุ แกเทวดาและมนษุ ยท งั้ หลาย ดูกอนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษพุ วกนั้นประสบบุญเปนอันมาก ท้ังชอ่ื วา ดํารงสทั ธรรมนไ้ี วอ ีกดวย. จบสตู รที่ ๑๐ อรรถกถาสูตรท่ี ๑๐ ในสูตรที่ ๑๐ มีวินจิ ฉัยดังตอ ไปน้.ี บทวา ทุคฺคหเิ ตหิ ไดแ ก ที่ถอื มาผิดระเบียบ. บทวา พยฺ ชฺ น-
พระสตุ ตันตปฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 399ปฏริ ูปเกหิ ไดแ ก ที่มพี ยญั ชนะงดงาม คอื ท่ไี ดมาดว ยมอี ักขระวจิ ิตร.บทวา อตถฺ จฺ ธมมฺ จฺ ปฏิวาหนตฺ ิ ความวา ยอ มคา นทัง้ อรรถกถาและบาลี แหงสุตตนั ตะท้งั หลายท่ถี ือมาถูก. ภกิ ษเุ หลา นน้ั แสดงท้งั อรรถท้งั บาลขี องสตุ ตันตะที่คอื มาผดิ ยง่ิ ยวดกวา. ฝา ยขาวก็พงึ ทราบตรงกันขามกบั ทก่ี ลาวแลว. ในสตู รนี้ ตรัสทงั้ ความเจรญิ และความเสือ่ มแหง พระศาสดา แล. จบอรรถกถาสูตรที่ ๑๐ จบสมจติ ตวรรคที่ ๔
พระสุตตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทุกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 400 ปรสิ วรรคท่ี ๕ สูตรท่ี ๑ วา ดว ยบริษัท ๒ จําพวก คือ ต้ืน และ ลกึ [๒๘๗] ๔๑. ดูกอ นภิกษุท้งั หลายบรษิ ัท ๒ จาํ พวกนี้ ๒ จาํ พวกเปน ไฉน คือ บริษทั ตืน้ ๑ บริษทั ลึก ๑ ดกู อนภิกษุท้ังหลาย กบ็ ริษัทตน้ื เปน ไฉน ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวนิ ยั น้ี มภี ิกษุฟุงซานเชดิ ตัว มจี ติ กวัดแกวง ปากกลา พูดจาอื้อฉาว หลงลมื สติ ไมม ีสัมปชัญญะ มีจิตไมต งั้ มน่ั คดิ จะสึก ไมสํารวมอินทรีย บริษัทเชนน้ีเรยี กวา บรษิ ทั ต้ืน ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ก็บริษทั ลกึ เปน ไฉน ดกู อนภิกษุทั้งหลาย บรษิ ัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุไมฟงุ ซาน ไมเชดิ ตัว มจี ิตไมก วดั แกวง ปากไมกลา ไมพ ูดจาอื้อฉาว ดํารงสติมน่ั มีสัมปชญั ญะมีใจตงั้ มนั่ มีจติ เปนเอกัคคตา สํารวมอนิ ทรยี บรษิ ทั เชน น้ี เรียกวาบริษทั ลกึ ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย บริษทั ๒ จําพวกน้แี ล บรรดาบริษทั ๒จาํ พวกนี้ บรษิ ัทลึกเปนเลศิ . จบสูตรที่ ๑ อรรถกถาปริสวรรคท่ี ๕ อรรถกถาสรู ที่ ๑ วรรคที่ ๕ สูตรที่ ๑ มวี ินจิ ฉัยดงั ตอ ไปนี้. บทวา อุตฺตานา ไดแก เปดเผย ไมปกปด. บทวา คมฺภีราไดแ ก เรนลับ ปกปด. บทวา อุทธฺ ตา ไดแ ก ประกอบดวยความ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 511
Pages: