พระสตุ ตันตปฎก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 401ฟุงเฟอ. บทวา อุนฺนฬา ไดแก ถอื ดี อธบิ ายวา มีมานะเปลา ๆ ปล้ี ๆทตี่ ้งั ขึน้ . บทวา จปลา ความวา ประกอบดวยความชกุ ซนมีตกแตงจวี รเปน ตน . บทวา มุขรา ไดแ ก ปากจัด วาจาหยาบ. บทวาวกิ ิณฺณวาจา ไดแ ก พูดไมส าํ รวม พดู คําทไี่ รป ระโยชนไ ดท้ังวัน . บทวามุฏสฺสตี ไดแก ปลอยสต.ิ บทวา อสมปฺ ชานา ไดแ ก ไรปญญา.บทวา อสมาหิตา ไดแก ไมไดแ มเพยี งความทีจ่ ติ มอี ารมณเ ดียว. บทวาปากตินทฺ ฺรยิ า ความวา ประกอบดวยอินทรยี ท ตี่ ้ังอยูต ามปกติ เปด เผยไมรกั ษา (ไมสาํ รวม ). ฝายขาว พึงทราบตรงกนั ขามกบั ที่กลาวแลว. จบอรรถกถาสตู รที่ ๑ สูตรท่ี ๒ วา ดวยบริษทั ที่แยกเปนพวก และที่สามัคคกี นั [๒๘๘] ๔๒. ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย บรษิ ัท ๒ จาํ พวกนี้ ๒ จาํ พวกเปนไฉน คอื บรษิ ทั ทแี่ ยกออกเปน พวก ๑ บรษิ ทั ทส่ี ามัคคกี ัน ๑ ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็บรษิ ัทท่ีแยกออกเปน พวกเปน ไฉน ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลายบริษัทใดในธรรมวนิ ัยนี้ มีภิกษหุ มายมน่ั ทะเลาะววิ าทกัน ตางเอาหอกคือปากทิม่ แทงกนั และกันอยู บรษิ ทั เชน นี้ เรยี กวาบรษิ ัทท่ีแยกกันเปนพวกดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย กบ็ รษิ ทั ทส่ี ามคั คกี ันเปน ไฉน ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลายบรษิ ทั ใดในธรรมวนิ ัยน้ี มภี กิ ษพุ รอมเพรยี งกัน ชนื่ ชมกนั ไมว วิ าทกนัเปนเหมือนนํา้ นมกบั นํ้า ตา งมองดูกันและกนั ดวยนัยนตาเปนทรี่ ักอยูบริษัทเชนนี้ เรียกวา บริษทั ทส่ี ามัคคกี นั ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย บริษทั ๒จําพวกน้แี ล บรรดาบริษัท ๒ จําพวกนี้ บริษทั ท่สี ามคั คีกันเปนเลศิ . จบสตู รท่ี ๒
พระสุตตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทุกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 402 อรรถกถาสตู รที่ ๒ ในสูตรท่ี ๒ มีวนิ จิ ฉัยดงั ตอ ไปน.ี้ บทวา ภณฑฺ นชาตา ความวา เบอื้ งตน ของการทะเลาะ ทา นเรียกวา แตกรา ว. การแตกรา วน้นั เกิดแลวแกภ กิ ษุเหลานัน้ ดังนน้ั จงึชือ่ วาเกดิ แตกราว อนง่ึ ไดแกก ารทะเลาะทีเ่ กดิ ขึ้น โดยกลา วคําเปน ตนวา พวกเราจักใหลงอาชญา จักใหจองจาํ พวกทาน. นัยฝา ยคฤหสั ถพงึ ทราบเทานี้กอ น สวนพวกบรรพชิตทกี่ ลา ววาจาถึงการลวงอาบตั ิ ชื่อวาเกดิ ทะเลาะกนั . บทวา วิวาทาปนฺนา ไดแก ถึงวาทะท่ขี ดั แยง กนั .บทวา มุขสตฺตหี ิ วิตทุ นฺตา ความวา วาจาเปน ทุภาษิตทา นเรยี กวาหอกคือปาก เพราะอรรถวาตัดคุณความดที ง้ั หลาย ทม่ิ คอื แทงกนั ดว ยวาจาเหลาน้ัน. บทวา สมคคฺ า ความวา ประกอบดวยความเปนผูพรอ มเพรียงกันดวยการกระทาํ สิง่ เหลาน้ี คือ งานเดียวกัน อุเทศเดียวกัน มีการศกึ ษาเสมอกนั . บทวา ปย จกฺขนู ิ ไดแก ดว ยจกั ษทุ ่ีแสดงเมตตา หวงั ดีกนั . จบอรรถกถาสูตรที่ ๒ สตู รท่ี ๓ วา ดว ยบริษัททีไ่ มม อี คั รบคุ คล และมอี คั รบคุ ล [๒๘๙] ๔๓. ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย บริษทั ๒ จําพวกนี้ ๒ จาํ พวกเปน ไฉน คือ บริษัทท่ไี มมีอัครบคุ คล ๑ บรษิ ัททม่ี ีอคั รบุคคล ๑ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย กบ็ รษิ ทั ที่ไมม อี คั รบคุ คลเปน ไฉน ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย บรษิ ัทใดในธรรมวินัยน้ี มีพวกภิกษุเถระเปน คนมักมาก เปน
พระสุตตันตปฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 403คนยอหยอ น เปน หวั หนา ในการกา วไปสูทางต่าํ ทอดท้ิงธุระในปวเิ วกไมปรารภความเพยี รเพอ่ื ถึงธรรมท่ียังไมถึงเพ่อื บรรลุธรรมทย่ี ังไมไ ดบรรลุเพือ่ ทาํ ใหเเจงซงึ่ ธรรมท่ียงั มไิ ดท าํ ใหแ จง ประชมุ ชนภายหลังตางถอื เอาภิกษุเถระเหลานน้ั เปน ตัวอยา ง ถงึ ประชุมชนน้ันกเ็ ปนผมู ักมาก ยอ หยอ นเปน หวั หนาในการกา วไปสทู างต่ํา หยุดทิง้ ธรุ ะในปวเิ วก ไมปรารภความเพียรเพ่ือถงึ ธรรมท่ยี ังไมถงึ เพ่ือบรรลธุ รรมทีย่ ังไมบ รรลุ เพ่ือทาํ ใหแจงซงึ่ ธรรมที่ยังไมไ ดท ําใหแ จง ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย บริษัทเชน น้ี เรียกวาบรษิ ัทไมม อี คั รบคุ คล ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย กบ็ รษิ ัทท่มี อี ัครบคุ คลเปน ไฉนดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย บรษิ ทั ใดในธรรมวนิ ยั นี้ มีพวกภกิ ษุเถระเปน คนไมม ักมาก ไมย อหยอ น ทอดทงิ้ ธรุ ะในการกาวไปสทู างตํา่ เปน หัวหนาในปวิเวก ปรารภความเพียรเพ่ือถึงธรรมทีย่ งั ไมถ ึง เพื่อบรรลุธรรมท่ยี ังไมไ ดบ รรลุ เพ่ือทาํ ใหแจง ซง่ึ ธรรมท่ยี งั ไมไ ดทําใหแ จง ประชุมชนภายหลงั ตางถอื เอาภกิ ษุเถระเหลานัน้ เปน ตวั อยา ง ถึงประชมุ ชนนน้ั กเ็ ปน ผูไมมกั มาก ไมยอ หยอ น ทอดทงิ้ ธุระในการกาวไปสูท างต่ํา เปนหวั หนาในปวิเวก ปรารภความเพียรเพอ่ื ถงึ ธรรมทยี่ งั ไมถึง เพือ่ บรรลุธรรมที่ยงั ไมไดบ รรลุ เพ่อื ทาํ ใหแจง ซง่ึ ธรรมท่ยี งั ไมไดทาํ ใหแจง ดกู อนภิกษทุ ้ังหลายบรษิ ทั เชนนี้ เรียกวาบรษิ ทั มอี ัครบคุ คล ดกู อนภิกษุท้ังหลาย บริษทั ๒จาํ พวกนแ้ี ล ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย บรรดาบรษิ ัท ๒ จําพวกนี้ บรษิ ทัทม่ี ีอัครบุคคลเปนเลศิ . จบสตู รท่ี ๓ อรรถกถาสตู รท่ี ๓ ในสตู รที่ ๓ มวี ินจิ ฉยั ดงั ตอไปน้ี.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 404 บทวา อคฺควตี ไดแก มบี ุคคลสูงสดุ หรอื ประกอบดว ยการปฏิบตั อิ ยางเลศิ คอื สูงสดุ . บรษิ ัทตรงขา มจากบรษิ ทั ท่มี ีตนเลศิ น้ัน. ชวี ิตทไี่ มมีคนเลศิ . บทวา พาหุลลฺ กิ า ไดแ ก ผูปฏิบัติดวยความมักมากดวยปจ จัย ๔ มจี ีวรเปนตน . บรษิ ัทชือ่ วา สาถิลกิ า เพราะอรรถวา ถือศาสนายอหยอน. นวิ รณ ๕ เรยี กวา โอกฺกมน ในคําวา โอกกฺ มเนปุพพฺ งคฺ มา นี้ ดว ยอรรถวา ดําเนินต่าํ ลง. อธิบายวา ภกิ ษุเถระเหลานั้นมงุ หนาดวยทาํ นวิ รณ ๕ ใหเ ตม็ . บทวา ปวเิ วเก นกิ ฺขิตฺตธุรา ความวาเปน ผทู อดธุระในวิเวก ๓ อยา ง. บทวา น วริ ยิ อารภนตฺ ิ ความวาไมทาํ ความเพียรท้งั ๒ อยา ง. บทวา อปปฺ ตฺตสสฺ ปตฺตยิ า ความวาเพื่อตอ งการบรรลคุ ณุ วิเศษคอื ฌานวปิ สสนามรรคและผลทีค่ นยังไมไดบรรลุมากอ น. สองบทนอกนี้ อนธคิ ตสฺส อธิคมาย อสจฉฺ ิกตสสฺสจฉฺ ิกิรยิ าย เปนไวพจนข องบท (อปฺปตฺตสสฺ ปตตฺ ยิ า) นนั้ เอง.บทวา ปจฉฺ ิมา ชนตา ไดแก ชนผเู ปนสัทธวิ ิหาริกและอนั เตวสิก.บทวา ทฏิ นุคตึ อาปชฺชติ ความวา เม่ือกระทาํ ความขอ ท่ีอปุ ช ฌายอาจารยก ระทําแลว ช่อื วา ประพฤติตามอาจาระของทา นเหลานน้ั ทีต่ นเห็นแลว . คาํ ทีเ่ หลือ พงึ ทราบโดยนยั ตรงกันขามกบั ท่กี ลา วแลว . จบอรรถกถาสตู รที่ ๓ สตู รท่ี ๔ วาดว ยบรษิ ัทท่มี ิใชอ รยิ ะ และเปนอริยะ [๒๙๐] ๔๔. ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย บริษทั ๒ จําพวกนี้ ๒ จาํ พวกเปน ไฉน คอื บริษทั ทม่ี ใิ ชอริยะ ๑ บริษัททเี่ ปนอริยะ ๑ ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย ก็บริษทั ที่มิใชอรยิ ะเปนไฉน ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย ภกิ ษุใน
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 405บรษิ ทั ใดในธรรมวนิ ยั นี้ ไมร ชู ดั ตามเปน จริงวา นี้ทกุ ข นเ้ี หตุใหเกิดทกุ ข น้ีความดับทุกข น้ขี อ ปฏบิ ตั ใิ หถึงความดบั ทุกข ดูกอ นภิกษุทั้งหลายบริษัทเชนนี้ เรียกวาบรษิ ทั ทีม่ ใิ ชอ ริยะ ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็บรษิ ัทท่ีเปนอรยิ ะเปน ไฉน ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย ภกิ ษุในบริษทั ใดในธรรมวนิ ัยนี้รชู ดั ตามเปนจรงิ วา นที้ กุ ข น้ีเหตุใหเกิดทกุ ข นค้ี วามดบั ทุกขน้ขี อปฏิบตั ใิ หถงึ ความดบั ทกุ ข ดกู อนภิกษุท้งั หลาย บริษัทเชน น้ีเรยี กวา บรษิ ทั ทเ่ี ปน อริยะ ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย บรษิ ทั ๒ จําพวกน้ีแลดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย บรรดาบรษิ ัท ๒ จําพวกนี้ บริษัทที่เปนอริยะเปนเลศิ . จบสตู รท่ี ๔ อรรถกถาสตู รที่ ๔ ในสตู รที่ ๔ มวี นิ จิ ฉัยดังตอ ไปน.้ี บทวา อริยา ไดแก อริยสาวกบรษิ ัท. บทวา อนรยิ า ไดแกปถุ ุชนบรษิ ทั . บทวา อทิ ทกุ ขฺ นตฺ ิ ยถาภตู นปปฺ ชานนตฺ ิ ความวาเวนตณั หา เบญจขนั ธท เี่ ปนไปในภมู ิ ๓ ชือ่ วาทุกข ไมร ูทุกขเพยี งเทา นตี้ ามสภาวะท่ีเปน จรงิ วา ทกุ ขนอกจากนี้ ไมม.ี ในบทท้งั ปวงกน็ ยั นี้ก็ในบทท่ีเหลือมีอธบิ ายวา ตณั หามีในกอ นซึ่งทําทกุ ขน ้นั ใหต ้งั ข้ึน ช่อื วาทุกขสมทุ ัย ความสิน้ ไปอยา งเด็ดขาด คอื ไมเกิดข้นึ อกี แหงตณั หานัน้ นั่นแลหรอื แหงสจั จะทง้ั สองนัน้ ช่ือวา ทุกขนิโรธ.อรยิ มรรคประกอบดว ยองค ๘ ดวยสัจจะ ๔ ดวยประการฉะน้.ี จบอรรถกถาสูตรที่ ๔
พระสตุ ตันตปฎ ก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 406 สตู รที่ ๕ วา ดว ยบรษิ ทั หยากเหยอื่ และบรษิ ัทใสสะอาด [๒๙๑] ๔๕. ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย บริษทั ๒ จําพวกน้ี ๒ จําพวกเปน ไฉน คือ บริษัทหยากเยอื่ ๑ บรษิ ัทใสสะอาด ๑ ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย กบ็ ริษทั หยากเย่อื เปน ไฉน ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ภิกษใุ นบริษทัใดในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมถึงฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ ดกู อนภิกษุทั้งหลาย บรษิ ัทเชน นี้ เรยี กวาบริษัทหยากเยอื่ ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลายกบ็ รษิ ัทใสสะอาดเปน ไฉน ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย ภกิ ษุในบรษิ ัทใดในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมไมถึงฉนั ทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย บรรดาบริษทั ๒ จาํ พวกนี้ บริษัทใสสะอาดเปนเลศิ . จบสูตรท่ี ๕ อรรถกถาสตู รท่ี ๕ ในสตู รท่ี ๕ มีวนิ ิจฉัยตอไปน.้ี บทวา ปริสกสโฏ ไดแ ก บรษิ ัทกาก บริษทั หยากเย่ือ อธิบายวาบริษทั ไมม ีประโยชน. บทวา ปริสมณฺโฑ ไดแ ก บรษิ ัทผองใส อธบิ ายวาบริษทั ผูม ปี ระโยชน. บทวา ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺติ ความวา ลุอคติเพราะความพอใจ อธบิ ายวา ทาํ สิ่งทไ่ี มควรทํา. แมในบทท่เี หลือก็นยั น้ีแหละ. กก็ ารลุอคติ ๔ เหลาน้ี จะมขี ึน้ ในการแบง ส่ิงของและในสถานท่ีวนิ จิ ฉยั อธิกรณ ใน ๒ อยางน้นั จะกลา วในการแบง สงิ่ ของกอน เม่อืส่งิ ของไมเ ปนทีช่ อบใจถึงแกพ วกภกิ ษทุ เ่ี ปน ภาระของตน ในฐานะท่ีตนตอ งเล้ยี งดู เปลย่ี นส่ิงของนั้น ใหสิ่งของท่ีชอบใจ ช่อื วาลุฉันทาคติ.
พระสุตตนั ตปฎ ก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 407แตเ ม่อื ส่ิงของเปน ท่ชี อบใจถึงแกพวกภิกษุทมี่ ไิ ดเ ปน ภาระของตน เปลีย่ นสิง่ ของนนั้ เสยี ใหสิง่ ของไมเปน ท่ชี อบใจไป ชอ่ื วา ลุโทสาคติ. เม่อื ไมร ูวตั ถคุ ือสง่ิ ของท่ีควรจะแบงและหลักเกณฑ ช่อื วาลุโมหาคต.ิ เปลีย่ นใหสง่ิ ของท่ชี อบใจแกค นปากจัดหรอื คนอาศยั พระราชาเปน ตน เพราะกลัววาเมื่อเราใหสงิ่ ของที่เปน ทีช่ อบใจ คนพวกนี้จะพงึ ทาํ ความพินาศให ชือ่ วาลุภยาคติ. แตผใู ดไมด าํ เนินอยา งนี้ เปนตราชขู องตนทง้ั ปวง วางตนเปน กลาง มคี วามพอดี สิ่งใดถงึ แกผูใด กใ็ หส ง่ิ น้นั แหละแกผ ูน้นั ผูน้ีช่อื วา ไมล ุอคติ ๔ อยาง. สว นในสถานวินจิ ฉยั อธิกรณ พงึ ทราบดังนี้กลา วครุกาบัติของภิกษผุ ูเปน ภาระของตน ระบุวาเปน ลหุกาบตั ิ ช่อื วาลุฉันทาคติ. กลา วลหุกาบตั ขิ องภกิ ษุพวกอืน่ ระบวุ าเปน ครุกาบัติ ชอื่ วาลโุ ทสาคติ. ไมร ูก ารออกจากอาบัตแิ ละกองอาบัติ ช่ือวาลโุ มหาคติ. กลาวอาบัติหนกั จรงิ ๆ ของภกิ ษปุ ากจัด หรอื ภกิ ษทุ พี่ ระราชาทงั้ หลายบชู าระบุวา เปนอาบัตเิ บา เพราะกลวั วา เมื่อเรากลา วอาบตั ิ ระบวุ าเปนอาบัติหนกั ภิกษนุ ี้จะพึงทําความพินาศให ช่อื วา ลภุ ยาคติ. แตผใู ดกลาวตามเปนจริงทุกอยา งของคนท้ังปวง ช่ือวาไมล อุ คตทิ ้ัง ๔ อยา งแล. จบอรรถกถาสตู รท่ี ๕ สตู รท่ี ๖ วา ดว ยบริษทั ที่ดอ้ื ดาน และไมดือ้ ดา น [๒๙๒] ๔๖. ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย บรษิ ัท ๒ จาํ พวกนี้ ๒ จําพวกเปนไฉน คอื บรษิ ทั ทดี่ ้ือดา นไดรับการสอบถามแนะนํา ๑ บริษทั ที่ไดรับการสอบถามแนะนําไมดื้อดา น ๑ ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ก็บรษิ ทั ท่ีดอ้ื ดา นไมไดร ับการสอบถามแนะนาํ เปน ไฉน ภิกษใุ นบริษทั ใดในธรรม
พระสตุ ตนั ตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 408วนิ ยั น้ี เมื่อผอู ่นื กลา วพระสูตรท่ีตถาคตภาษติ ไวซ ึง่ ลกึ ลาํ้ มอี รรถอันลึกล้าํเปนโลกุตระ ปฏิสังยุตดว ยสญั ญตธรรม ไมต ัง้ ใจฟง ใหดี ไมเง่ยี หลู งสดับ ไมเขาไปต้งั จติ ไวเ พอ่ื จะรูทั่วถึง อนง่ึ ภิกษเุ หลา นน้ั ไมเ ขาใจธรรมทีต่ นควรเลา เรยี นทอ งขึ้นใจ แตเ ม่ือผอู น่ื กลาวพระสตู รท่ีกวีไดร จนาไวเปนคํากวี มีอกั ษรวิจติ ร มพี ยญั ชนะวิจิตร มใี นภายนอก ซ่งึ สาวกไดภาษิตไว ยอมดังใจฟง เปน อยา งดี เง่ยี หูลงสดบั เขา ไปตัง้ จิตไวเพอื่ จะรูทัว่ ถึง อนงึ่ ภกิ ษเุ หลานนั้ ยอ มเขา ใจธรรมท่ีตนควรเลาเรยี น ทอ งขึน้ ใจภิกษุเหลาน้ันเรยี นธรรมน้นั แลว ไมสอบสวน ไมเ ท่ียวไดถ ามกันและกนั วาพยญั ชนะนี้อยางไร อรรถแหง ภาษติ นีเ้ ปนไฉน ภกิ ษุเหลา น้นั ไมเปด เผยอรรถท่ลี ้ีลับ ไมทาํ อรรถทล่ี ึกซงึ้ ใหตน้ื และไมบรรเทาความสงสยั ในธรรมเปน ทต่ี ั้งแหง ความสงสยั หลายอยา งเสีย ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย บริษัทน้ี เรียกวา บรษิ ัทดอื้ ดา น ไมไดร บั การสอบถามแนะนาํ . ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย กบ็ ริษทั ที่ไดร ับการสอบถามแนะนาํ ไมด อื้ ดา นเปน ไฉน ภิกษุในบรษิ ทั ใดในธรรมวินยั น้ี เมื่อผอู ่ืนกลา วพระสูตรที่กวรี จนาไวเปนคํากวีมีอกั ษรวิจติ ร มพี ยญั ชนะวจิ ิตร มีในภายนอก เปนสาวกภาษติ ไมตั้งใจฟง ดวยดี ไมเ งีย่ หลู งสดับ ไมเขา ไปต้ังจิตไวเพ่อื จะรทู ว่ั ถึง อน่ึง ภิกษุเหลานัน้ ไมเขาใจธรรมท่คี นควรเลา เรียน ทอ งข้นึ ใจ แตว า เม่อื ผูอื่นกลาวพระสตู รทต่ี ถาคตภาษิตไว ซึ่งลกึ ลํา้ มีอรรถลกึ ล้าํ เปน โลกตุ ระปฏิสงั ยตุ ดว ยสุญญตธรรม ยอ มตง้ั ใจฟง เปน อยา งดี เง่ยี หูลงสดับ เขาไปตั้งจิตเพ่ือจะรูท ่วั ถึง และภิกษุเหลา นน้ั ยอ มเขาใจธรรมท่ตี นควรเลา เรยี นทองขึน้ ใจ ภิกษุเหลานนั้ เรียนธรรมนนั้ แลว ยอมสอนสวนเที่ยวไตถามกนั วา พยญั ชนะนอ้ี ยา งไร อรรถแหง ภาษิตนีเ้ ปนไฉน ภิกษเุ หลา นั้นยอม
พระสตุ ตนั ตปฎก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 409เปดเผยอรรถทีล่ ้ลี ับ ทาํ อรรถท่ลี ึกซึ้งใหตน้ื และบรรเทาความสงสยั ในธรรมเปน ทต่ี ง้ั แหงความสงสัยหลายอยา งเสีย ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย บรษิ ัทน้ี เรียกวา บรษิ ทั ผูไดร ับการสอบถามแนะนาํ ไมดอ้ื ดาน ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย บรษิ ัท ๒ จาํ พวกเหลาน้แี ล ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย บรรดาบรษิ ทั ๒ จําพวกนี้ บริษัทที่ไดรบั การสอนถามแนะนํา ไมด้อื ดา นเปน เลศิ . จบสตู รท่ี ๖ อรรถกถาสูตรที่ ๖ ในสูตรที่ ๖ มีวินจิ ฉยั ดงั ตอไปนี้. โอกกฺ าจิตวนิ ตี า ไดแ ก ฝกสอนยาก. บทวา โน ปฏิปุจฺฉาวนิ ตี าไดแก ไมเปน ผรู ับฝก สอนโดยสอบถาม. บทวา คมภฺ ีรา ไดแก ลึกโดยบาลี เชน จลุ สเวทัลลสตู ร. บทวา คมภฺ รี ตฺถา ไดแก ลึกโดยอรรถเชน มหาเวทลั ลสูตร. บทวา โลกตุ ตฺ รา ไดแก แสดงอรรถเปนโลกตุ ระ.บทวา สฺุ ตปฏสิ ยุตตฺ า ไดแ ก ประกาศเพยี งท่ีเปนสญุ ญตธรรม ๗เทา น้ัน เชนแสังขตสงั ยุต. บทวา น อฺาจิตฺต อปุ ฏ เปนฺติ ไดแ กไมตัง้ จติ เพ่อื จะรู คือหลับเสียบาง สงใจไปทอ่ี ่ืนเสยี บา ง. บทวาอคุ คฺ เหตพฺพ ปรยิ าปุณฺตพพฺ ไดแ ก ที่จะพึงถือเอาดว ย ที่จะพงึ เลา เรยี นดว ย. บทวา กวกิ ตา ไดแก ทกี่ วีแตง . บทวา กาเวยยฺ า นอกนี้เปน ไวพจนของบทวา กวกิ ตา. น้ันเอง. บทวา จิตฺตกขฺ รา แปลวามีอกั ษรวิจติ ร. บทวา จิตตฺ พฺยฺชนา นอกน้ี เปนไวพจนของบทวาจิตตฺ กขฺ รา น้ันเหมอื นกัน. บทวา พาหิรกา ไดแก เปน สุตตันตะนอกพระศาสนา. บทวา สาวกภาสิตา ไดแ ก ทีพ่ วกสาวกของพาหริ ก-
พระสุตตันตปฎก เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 410ศาสดาเหลา น้ันกลาวไว. บทวา สุสฺสสู นตฺ ิ ความวา มีใจแชม ชืน่ ตั้งใจฟง อยางดี เพราะมอี ักษรวจิ ิตร และสมบูรณดว ยบท. บทวา น เจวอฺมฺ ปฏิปจุ ฺฉนฺติ ความวา มิไดถามเนอื้ ความ อนสุ นธิ หรือเบ้ืองตนเบื้องปลายกัน และกัน. บทวา น ปฏวิ ิจรนตฺ ิ ความวา มไิ ดเทยี่ วไปไตถาม. บทวา อิท กถ ความวา พยัญชนะนี้ พงึ เขาใจอยา งไรคอื พงึ เขา ใจวา อยา งไร. บทวา อมิ สสฺ กวฺ ตโฺ ถ ความวา ภาษิตนี้มีเน้ือความอยา งไร มีอนุสนธิอยางไร มเี บ้ืองตน และเบื้องปลายอยา งไร บทวาอวิวฏ ไดแ ก ที่ยังปกปด. บทวา น วิรรนฺติ ไดแกไ มเ ปด เผย บทวาอนุตตฺ านกี ต ไดแ กท ี่ไมป รากฏ. บทวา น อุตฺตานกี โรนฺติ ความวามิไดท ําใหปรากฏ. บทวา กงขฺ าฏานีเยสุ ไดแ ก อันเปน เหตุแหง ความสงสยั . ฝา ยขาว ก็พึงทราบตรงกันขามกบั ที่กลา วแลว . จบอรรถกถาสูตรท่ี ๖ สูตรท่ี ๗วา ดว ยบรษิ ทั ทมีห่ นักในอามิส ไมห นักในสัทธรรม และบริษัททห่ี นัก ในสทั ธรรม ไมหนักในอามสิ [๒๙๓] ๔๗. ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลายบรษิ ัท ๒ จําพวกน้ี ๒ จําพวกเปนไฉน คือบริษทั ที่หนักในอามสิ ไมห นกั ในสัทธรรม ๑ บริษทั ท่ีหนักในสทั ธรรม ไมหนกั ในอามิส ๑ ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ก็บริษทั ทีห่ นักในอามสิ ไมห นักในสทั ธรรมเปนไฉน ภกิ ษบุ ริษัทใดในธรรมวินัยน้ีตา งสรรเสรญิ คณุ ของกันและกนั ตอหนาคฤหสั ถผนู งุ หมผา ขาววา ภกิ ษุรูปโนน เปน อุภโตภาควิมตุ รูปโนนเปนปญ ญาวิมตุ รูปโนน เปนกายสักขี
พระสตุ ตนั ตปฎก เอกนิบาต-ทุกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 449 อรรถกถาสูตรท่ี ๑๐ ในสตู รที่ ๑๐ (ขอ ๓๔๑) มวี ินิจฉัยดังตอไปน.้ี บทวา ธาตุกุสลตา ไดแก รธู าตุ ๑๘ อยาง วา เปนธาตุ. บทวา มนสกิ ารกสุ ลตา ไดแก รธู าตุเหลา น้ันนนั่ แล ยกขึ้นสูลกั ษณะ ๓ มอี นิจจลกั ษณะเปน ตน . จบอรรถกถาสูตรท่ี ๑๐ อรรถกถาสตู รท่ี ๑๑ ในสูตรท่ี ๑๑ (ขอ ๓๔๒) มีวนิ จิ ฉยั ดังตอ ไปน้.ี บทวา อาปตตฺ กิ สุ ลตา ไดแก รอู าบตั ิ ๕ กอง และ ๗ กอง. บทวา อาปตตฺ ิวุฏานกสุ ลตา ไดแ ก รกู ารออกจากอาบตั ทิ ้งัหลาย ดว ยการแสดงอาบัติก็ตาม ดวยสวดกรรมวาจาก็ตาม. จบอรรถกถาสูตรที่ ๑๑ จบธรรมวรรคท่ี ๔
พระสตุ ตันตปฎ ก เอกนบิ าต-ทุกนิบาต เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 450 พาลวรรคท่ี ๕ สูตรที่ ๑ [๓๔๓] ๙๗. ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย คนพาล ๒ จาํ พวกน้ี ๒ จาํ พวกเปนไฉน คอื คนท่ีนําเอาภาระทยี่ ังมาไมถ งึ ไป ๑ คนทไี่ มน ําเอาภาระทม่ี าถงึ ไป ๑ ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย คนพาล ๒ จาํ พวกน้แี ล. จบสตู รที่ ๑ สูตรที่ ๒ [๓๔๔] ๙๘. ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย บณั ฑติ ๒ จาํ พวกน้ี ๒ จําพวกเปนไฉน คอื คนท่นี ําภาระท่มี าถึงไป ๑ คนทีไ่ มนําเอาภาระทยี่ งั ไมมาถึงไป ๑ ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย บัณฑิต ๒ จาํ พวกน้แี ล. จบสูตรท่ี ๒ สูตรท่ี ๓ [๓๔๕] ๙๙. ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย คนพาล ๒ จําพวก ๒ จาํ พวกเปน ไฉน คอื คนทเี่ ขาใจวา ควรในของทไ่ี มค วร ๑ คนท่เี ขาใจวาไมควรในของทค่ี วร ๑ ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย คนพาล ๒ จาํ พวกน้แี ล. จบสูตรท่ี ๓ สูตรท่ี ๔ [๓๔๖] ๑๐๐. ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย บัณฑติ ๒ จําพวกน้ี ๒ จาํ -พวกเปน ไฉน คือ คนทเ่ี ขา ใจวา ไมค วรในของทไ่ี มควร ๑ คนทเ่ี ขา ใจ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 511
Pages: