พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 1 พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลมท่ี ๑ ภาคท่ี ๒ ตอนที่ ๓ขอนอบนอ มแดพ ระผมู พี ระภาคอรหันตสมั มาสัมพทุ ธเจา พระองคน น้ั คาถาธรรมบท ปาปวรรค๑ท่ี ๙ วาดว ยบุญและบาป [๑๙] ๑. บคุ คลพงึ รบี ขวนขวายในความดี พงึ หา มจิต เสียจากบาป เพราะวา เมอื่ บคุ คลทําความดชี า อยู ใจจะยินดใี นบาป. ๒. ถา บุรษุ พึงทําบาปไซร ไมควรทาํ บาปน้นั บอ ย ๆ ไมควรทาํ ความพอใจในบาปนน้ั เพราะวา ความสัง่ สมเปนเหตุใหเ กิดทกุ ข. ๓. ถา บรุ ษุ พึงทาํ บุญไซร พงึ ทําบุญนั้นบอย ๆ พงึ ทําความพอใจในบุญนน้ั เพราะวา ความสง่ั สมบญุ ทําใหเ กิดสขุ .๑. วรรคนี้มีอรรถกถา ๑๒ เร่ือง.
Edited by Foxit Reader Copyright(C) by Foxit Software Company,2005-2006 For Evaluation Only. พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 2 ๔. แมค นผทู ําบญุ ยอมเหน็ บาปวาดี ตลอดกาลทบ่ี าปยงั ไมเผลด็ ผล แตเมอื่ ใดบาปเผล็ดผลเมื่อน้ันเขายอมเห็นบาปวาช่วั ฝา ยคนทาํ กรรมดี ยอ มเหน็ กรรมดีวาชว่ั ตลอดกาลท่กี รรมดียังไมเ ผล็ดผลแตเ มื่อใดกรรมดเี ผลด็ ผล เม่อื น้ันเขายอ มเห็นกรรมดีวาดี. ๕. บุคคลไมควรดูหมิน่ บาปวา บาปมปี ระมาณนอยจักไมม าถึง แมห มอนํา้ ยงั เตม็ ดวยหยาดน้ําทต่ี กลง (ทีละหยาดๆ) ไดฉ ันใด ชนพาลเมื่อสั่งสมบาปแมท ีละนอย ๆ ยอมเต็มดว ยบาปไดฉ ันนั้น. ๖. บุคคลไมค วรดูหมิน่ บุญวา บญุ มปี ระมาณนอ ยจักไมม าถึง แมหมอ นาํ้ ยังเตม็ ดวยหยาดนํ้าท่ีตกลงมา (ทลี ะหยาดๆ) ไดฉ นั ใด ธรี ชน (ชนผมู ีปญญา) ส่ังสมบุญแมท ลี ะนอยๆ ยอ มเตม็ ดวยบุญไดฉนั น้ัน. ๗. บคุ คลพึงเวน กรรมชว่ั ท้งั หลายเสยี เหมือนพอคามีทรัพยม าก มพี วกนอ ย เวน ทางอนั พงึ กลวั(และ) เหมอื นผูต อ งการจะเปน อยู เวนยาพษิ เสียฉะน้ัน. ๘. ถาแผลไมพ งึ มใี นฝามือไซร บคุ คลพงึ นาํ ยาพิษไปดวยฝามือได เพราะยาพิษยอมไมซ มึ เขา ไปสู
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 3ฝา มอื ทไ่ี มมแี ผล ฉันใด บาปยอ มไมมีแกผไู มทาํ อยูฉนั นั้น. ๙. ผูใด ประทุษรายตอนรชนผไู มป ระทษุ รายผูบรสิ ุทธิ์ ไมม ีกเิ ลสดุจเนิน บาปยอมกลบั ถงึ ผนู ้นัซง่ึ เปน คนพาลนัน่ เอง เหมอื นธุลีอนั ละเอยี ดทเี่ ขาซดัทวนลมไปฉะน้นั . ๑๐. ชนท้งั หลายบางพวก ยอ มเขาถงึ ครรภ ผมู ีกรรมลามก ยอมเขาถึงนรก ผูมีกรรมเปนเหตแุ หงสุคติ ยอ มไปสวรรค ผไู มมอี าสวะยอมปรนิ ิพพาน. ๑๑. บุคคลทที่ ํากรรมช่ัวไว หนีไปแลวในอากาศก็ไมพ งึ พนจากกรรมชว่ั ได หนีไปในทามกลางมหา-สมทุ ร กไ็ มพ ึงพน จากกรรมชัว่ ได หนเี ขาไปสูซ อกภูเขา กไ็ มพ ึงพน จากกรรมชวั่ ได (เพราะ) เขาอยูแลว ในประเทศแหง แผนดินใด พงึ พนจากกรรมชว่ัได ประเทศแหง แผน ดนิ น้ัน หามอี ยูไม. ๑๒. บุคคลที่ทํากรรมชัว่ ไว หนไี ปแลว ในอากาศก็ไมพงึ พนจากกรรมชั่วได หนไี ปในทา มกลางมหา-สมุทร กไ็ มพ ึงพน จากกรรมชัว่ ได หนเี ขา ไปสซู อกภูเขา ก็ไมพงึ พน จากกรรมชว่ั ได (เพราะ) เขาอยูแลว ในประเทศแหงแผน ดนิ ใด ความตายพึงครอบงําไมได ประเทศแหง แผน ดินนั้น หามอี ยไู ม. จบปาปวรรคท่ี ๙
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 4 ๙. ปาปวรรควรรณนา ๑. เร่ืองพราหมณช อ่ื จเู ฬกสาฎก [๙๕] ขอ ความเบ้ืองตน พระศาสดา เม่อื ประทับอยใู นพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ ชอื่จูเฬกสาฎก ตรัสพระธรรมเทศนาน้ีวา \"อภติ ฺถเรถ กลยฺ าเณ \" เปน ตน . พราหมณแ ละพราหมณีผลัดกนั ไปฟง ธรรม ความพสิ ดารวา ในการแหงพระวปิ สสที ศพล ไดม พี ราหมณคนหน่ึงชือ่ มหาเอกสาฎก. แตใ นกาลนี้ พราหมณนี้ไดเ ปนพราหมณ ชื่อจูเฬกสาฎกในเมอื งสาวตั ถ.ี กผ็ า สาฎกสาํ หรับนุงของพราหมณน ัน้ มีผนื เดยี ว.แมข องนางพราหมณกี ็มีผืนเดยี ว. ทั้งสองคนมผี าหม ผนื เดียวเทา นน้ั . ในเวลาไปภายนอก พราหมณห รือพราหมณยี อ มหมผาผนื นั้น. ภายหลงั วันหนึ่ง เมื่อเขาประกาศการฟง ธรรมในวหิ าร พราหมณกลาววา \"นางเขาประกาศการฟงธรรม. เจาจกั ไปสสู ถานท่ฟี งธรรมในกลางวัน หรือกลางคนื ? เพราะเราท้ังสองไมอ าจไปพรอมกันได เพราะไมม ผี าหม\"พราหมณีตอบวา \"นาย ฉันจักไปในกลางวัน\" แลวไดห มผา สาฎกไป. พราหมณคิดบูชาธรรมดวยผา สาฎกทหี่ ม อยู พราหมณย บั ย้งั อยใู นเรือนตลอดวนั ตอ กลางคืนจงึ ไดไปนง่ั ฟงธรรมทางดา นพระพกั ตรพ ระศาสดา. ครง้ั น้ัน ปต ๑ิ ๕ อยางซาบซา น๑. ปติ ๕ คอื ขุททกาปต ิ ปตอิ ยา งนอย ๑ ขณกิ าปติ ปตชิ ว่ั ขณะ ๑ โอกกนั ติกาปต ิ ปต ิเปนพัก ๆ ๑ อุพเพงคาปต ิ ปต อิ ยางโลดโผน ๑ ผรณาปติ ปต ซิ าบซา น ๑.
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 5ไปท่วั สรีระของพราหมณน ัน้ เกดิ ข้ึนแลว . เขาเปนผใู ครจ ะบชู าพระศาสดาคดิ วา \" ถา เราจักถวายผา สาฎกนไ้ี ซร, ผาหมของนางพราหมณจี กั ไมมีของเราก็จักไมมี \" ขณะนนั้ จติ ประกอบดวยความตระหนพ่ี นั ดวงเกิดขึน้แลวแกเ ขา, จิตประกอบดว ยสทั ธาดวงหน่งึ เกิดข้นึ อกี . จิตประกอบดว ยความตระหนพี่ นั ดวงเกดิ ขึน้ ครอบงําสทั ธาจติ แมน น้ั อีก. ความตระหน่ีอนั มีกาํ ลังของเขาคอยกดี กันสทั ธาจิตไว ดจุ จบั มดั ไวอ ยูเทียว ดวยประการฉะนี.้ ชนะมัจเฉรจิตดว ยสัทธาจติ เมื่อเขากาํ ลงั คดิ วา \" จักถวาย จักไมถ วาย \" ดังนี้น่ันแหละ ปฐม-ยามลว งไปแลว . แตน้นั ครั้นถึงมชั ฌมิ ยาม เขาไมอ าจถวายในมชั ฌมิ ยามแมน ัน้ ได. เม่ือถงึ ปจ ฉิมยาม เขาคิดวา \" เมอ่ื เรารบกบั สทั ธาจติ และมัจเฉรจติ อยูน่นั แล ๒ ยามลวงไปแลว . มจั เฉรจติ น้ขี องเรามปี ระมาณเทา นี้เจริญอยู จกั ไมใ หย กศรี ษะข้นึ จากอบาย ๔, เราจักถวายผา สาฎกละ. \"เขาขมความตระหนีต่ ้ังพนั ดวงไดเ เลวทาํ สัทธาจิตใหเปนปุเรจาริก ถอื ผาสาฎกไปวางแทบบาทมูลพระศาสดา ไดเปลง เสยี งดงั ขึน้ ๓ คร้งั วา \" ขา พ-เจาชนะแลว ขา พเจาชนะแลว เปนตน .\" ทานของพราหมณใ หผลทันตาเห็น พระเจา ปเสนทิโกศล กําลงั ทรงฟง ธรรม ไดสดับเสียงนั้นแลวตรสั วา \" พวกทานจงถามพราหมณนั้นดู. ไดย ินวา เขาชนะอะไร ?.\" พราหมณน ั้นถูกพวกราชบุรษุ ถาม ไดเ เจงความน้นั . พระราชาไดสดับความน้นั แลว ทรงดําริวา \" พราหมณท ําสิ่งที่บุคคลทําไดยาก เราจักทําการสงเคราะหเขา \" จงึ รับสั่งใหพระราชทานผาสาฎก ๑ คู.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 6 เขาไดถวายผาแมน น้ั แดพระตถาคตเหมือนกัน พระราชาจงึ รบั สง่ัใหพ ระราชทานทําใหเ ปน ทวคี ณู อีก คือ ๒ คู ๔ คู ๘ คู ๑๖ ค.ู เขาไดถวายผาแมเ หลานน้ั แดพระตถาคตนนั้ เทียว. ตอ มา พระราชารับสง่ั ใหพระราชทานผา สาฎก ๓๒ คแู กเขา. พราหมณเพ่อื จะปองกนั วาทะวา \" พราหมณไ มถ อื เอาเพือ่ ตน สละผา ที่ไดแลว ๆ เสียสนิ้ \" จึงถือเอาผาสาฎก ๒ คูจากผา ๓๒ คูน้ันคือ \" เพอ่ืตน ๑ คู เพอื่ นางพราหมณี ๑ คู \" ไดถ วายผาสาฎก ๓๐ คูแ ดพ ระตถาคตทเี ดยี ว. ฝา ยพระราชา เมอ่ื พราหมณนน้ั ถวายถงึ ๗ คร้ัง ไดมีพระราชประสงคจะพระราชทานอีก. พราหมณชอ่ื มหาเอกสาฎก ในกาลกอนไดถ ือเอาผา สาฎก ๒ คูในจํานวนผา สาฎก ๖๔ คู. สวนพราหมณชื่อจูเฬก-สาฎกน้ี ไดถอื เอาผาสาฎก ๒ คู ในเวลาท่ตี นไดผาสาฎก ๓๒ ค.ู พระราชา ทรงบงั คับพวกราชบรุ ษุ วา \" พนาย พราหมณท าํ สง่ิ ทีท่ ําไดยาก. ทา นทั้งหลายพึงใหนําเอาผา กมั พล ๒ ผนื ภายในวังของเรามา.\"พวกราชบรุ ุษไดกระทําอยา งน้นั . พระราชารับส่ังใหพระราชทานผากัมพล๒ ผนื มคี า แสนหนึ่งแกเขา. พราหมณค ิดวา \" ผากมั พลเหลานี้ไมสมควรแตะตอ งทสี่ รรี ะของเรา. ผา เหลา น้ันสมควรแกพระพทุ ธศาสนาเทานั้น \"จงึ ไดขึงผากัมพลผนื หน่งึ ทาํ ใหเ ปน เพดานไวเบ้อื งบนท่บี รรทมของพระ-ศาสดาภายในพระคนั ธกฎุ ี. ขงึ ผืนหนง่ึ ทาํ ใหเ ปน เพดานในทีท่ าํ ภตั กิจของภกิ ษผุ ฉู นั เปน นติ ยในเรือนของตน. ในเวลาเย็น พระราชาเสดจ็ ไปสูสํานกั ของพระศาสดา ทรงจําผากัมพลไดแลว ทลู ถามวา \" ใครทําการบชู า พระเจาขา ? \" เมื่อพระศาสดาตรสั ตอบวา \" พราหมณช่อื เอกสาฎก \"ดงั น้ีแลว ทรงดาํ รวิ า \" พราหมณเลอื่ มใสในฐานะทเี่ ราเลื่อมใสเหมือน
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 7กนั \" รับส่งั ใหพระราชทานหมวด ๔ แหงวตั ถทุ ุกอยา ง จนถงึ รอ ยแหงวตั ถุทัง้ หมด ทําใหเปนอยา งละ ๔ แกพ ราหมณน้นั อยา งนี้ คือชา ง ๔มา ๔ กหาปณะ๑ส่พี นั สตรี ๔ ทาสี ๔ บุรุษ ๔ บานสว ย ๔ ตาํ บล. รบี ทาํ กศุ ลดกี วา ทําชา ภิกษุทงั้ หลาย สนทนากันในโรงธรรมวา \" แม ! กรรมของพราหมณช่อื จเู ฬกสาฎก นาอัศจรรย. ชวั่ ครูเดยี วเทานน้ั เขาไดหมวด ๔ แหงวตั ถุทุกอยาง. กรรมอันงามเขาทาํ ในท่ีอนั เปน เนื้อนาในบัดน้นี ่นั แล ใหผลในวันน้ีทเี ดียว. \" พระศาสดาเสดจ็ มา ตรัสถามวา \" ภิกษทุ งั้ หลาย บัดนีเ้ ธอทัง้ หลายนัง่ สนทนากนั ดวยกถาอะไรเลา ? \" เมื่อพวกภกิ ษกุ ราบทูลวา \" ดวยกถาชือ่น้ี พระเจาขา \" ตรสั วา \" ภิกษทุ ง้ั หลาย ถา เอกสาฎกนจี้ ักไดอาจเพ่ือถวายแกเราในปฐมยามไซร เขาจักไดสรรพวตั ถอุ ยา งละ ๑๖, ถา จกั ไดอ าจถวายในมัชฌมิ ยามไซร เขาจกั ไดสรรพวตั ถอุ ยา งละ ๘, แตเ พราะถวายในเวลาจวนใกลรงุ เขาจงึ ไดสรรพวตั ถอุ ยา งละ ๔, แทจรงิ กรรมงามอนั บคุ คลผเู มอ่ื กระทาํ ไมใหจ ิตที่เกดิ ขึน้ เสื่อมเสยี ควรทาํ ในทันทนี น้ั เอง,ดวยวา กศุ ลทบ่ี คุ คลทําชา เมือ่ ใหส มบัติ ยอ มใหชาเหมอื นกัน เพราะฉะน้ัน พึงทํากรรมงามในลําดับแหง จติ ตปุ บาททเี ดียว \" เมอ่ื ทรงสบื อน-ุสนธแิ สดงธรรม จึงตรสั พระคาถานี้วา ๑. อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ ปาปา จติ ตฺ นวิ ารเย ทนฺธิ หิ กรโต ปุ ฺ ปาปสฺมึ รมตี มโน ทนธฺ ิ หิ กรโต ปฺุ ปาปสมฺ ึ รมตี มโน.๑. เปนช่ือเงินตราชนิดหนงึ่ ซ่ึงในอินเดยี โบราณ มีคา เทากับ ๔ บาท.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 8 \"บคุ คลพึงรีบขวนขวายในความดี, พงึ หา มจติ เสยี จากบาป, เพราะวา เมื่อบคุ คลทําความดชี าอยู, ใจจะยินดใี นบาป.\" แกอ รรถ บรรดาบทเหลานน้ั บทวา อภิตฺเรถ ความวา พงึ ทาํ ดวนๆ คอืเร็ว ๆ. จริงอยู คฤหสั ถเ มื่อจิตเกิดขนึ้ วา \" จกั ทาํ กุศลบางอยา ง ในกุศลทานทง้ั หลายมถี วายสลากภัตเปนตน \" ควรทาํ ไว ๆทเี ดียว ดวยคิดวาเราจะทํากอ น เราจะทํากอน \" โดยประการทช่ี นเหลาอน่ื จะไมไ ดโ อกาสฉะน้นั . หรือบรรพชติ เมอื่ ทาํ วตั รทัง้ หลายมีอปุ ช ฌายวตั รเปนตน ไมใหโอกาสแกผ อู ืน่ ควรทําเร็ว ๆ ทีเดียว ดว ยคดิ วา \" เราจะทาํ กอ น เราจะทาํ กอน.\" สองบทวา ปาปา จิตฺต ความวา ก็บคุ คลพึงหา มจิตจากบาปกรรมมกี ายทุจริตเปน ตน หรอื จากอกุศลจิตตปุ บาท ในท่ีทุกสถาน. สองบทวา ทนฺธิ หิ กรโต ความวา กผ็ ูใดคิดอยูอ ยา งน้ันวา \" เราจกั ให, จกั ทาํ , ผลนี้จกั สาํ เร็จแกเราหรือไม \" ช่อื วา ทาํ บญุ ชา อยู เหมือนบุคคลเดินทางลื่น. ความชัว่ ของผูน้ันยอมไดโ อกาส เหมือนมจั เฉรจติพันดวงของพราหมณช่ือเอกสาฎกฉะนัน้ . เมื่อเชนน้นั ใจของเขายอมยนิ ดีในความช่ัว, เพราะวา ในเวลาท่ีทํากุศลกรรมเทานนั้ จิตยอ มยนิ ดใี นกศุ ลกรรม, พน จากนนั้ แลว ยอ มนอ มไปสูความช่ัวไดแ ท. ในกาลจบคาถา ชนเปนอนั มาก ไดบ รรลุอริยผลทัง้ หลาย มโี สดา-ปตตผิ ลเปน ตน ดงั นี้แล. เรื่องพราหมณชื่อจเู ฬกสาฎก จบ.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 9 ๒. เรอ่ื งพระเสยยสกตั เถระ [๙๖] ขอความเบื้องตน พระศาสดา เม่ือประทับอยูในพระเชตวนั ทรงปรารภพระเสยยส-กัตเถระ ตรสั พระธรรมเทศนานวี้ า \"ปาปฺเจ ปุรโิ ส กยิรา\" เปน ตน. พระเถระทาํ ปฐมสังฆาทเิ สส ดังไดสดบั มา พระเสยยสกัตเถระน้ัน เปนสทั ธวิ ิหาริกของพระ-โลฬทุ ายีเถระ บอกความไมย นิ ด๑ี ของตนแกพระโลฬุทายนี ัน้ ถกู ทา นชกั ชวนในการทาํ ปฐมสังฆาทเิ สส เมือ่ ความไมย ินดีเกดิ ทวขี ึ้น ไดท ํากรรมนั้นแลว. กรรมช่ัวใหทุกขในภพท้ัง พระศาสดา ไดสดับกริ ยิ าของเธอ รบั สั่งใหเรียกเธอมาแลว ตรัสถามวา \" ไดย นิ วา เธอทาํ อยา งนั้นจรงิ หรือ ? \" เมอื่ เธอทูลวา \" อยางน้ันพระเจา ขา ? \" จึงตรัสวา \" แนะโมฆบรุ ษุ เหตุไร เธอจงึ ไดท ํากรรมหนกัอันไมส มควรเลา ? \" ทรงติเตียนโดยประการตา ง ๆ ทรงบญั ญัติสกิ ขาบทแลว ตรสั วา \" กก็ รรมเห็นปานน้ี เปน กรรมยงั สัตวใ หเปน ไปเพือ่ ทุกขอยางเดยี ว ทง้ั ในภพน้ที งั้ ในภพหนา \" เมื่อจะทรงสืบอนุสนธแิ สดงธรรมจึงตรสั พระคาถานีว้ า ๒. ปาปฺเจ ปุริโส กยริ า น น กยริ า ปนุ ปฺปุน น ตมฺหิ ฉนฺท กยิราถ ทกุ โฺ ข ปาปสสฺ อจุ ฺจโย. \"ถาบรุ ษุ พงึ ทาํ บาปไซร, ไมควรทําบาปนน้ั บอย ๆ ไมควรทําความพอใจในบาปนน้ั . เพราะวา ความสงั่ สมบาปเปน เหตใุ หเ กิดทกุ ข. \"๑. อนภริ ดี บางแหง แปลวา ความกระสัน.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 10 แกอ รรถ เนอื้ ความแหง พระคาถามน้นั วา \" ถาบคุ คลพงึ ทํากรรมลามกคราวเดยี ว. ควรพิจารณาในขณะนน้ั แหละ สําเหนียกวา \" กรรมนไี้ มส มควรเปน กรรมหยาบ \" ไมควรทํากรรมน้นั บอ ย ๆ. พงึ บรรเทาเสีย ไมค วรทําแมซง่ึ ความพอใจ หรอื ความชอบใจในบาปกรรมนน้ั ซ่ึงจะพึงเกิดข้ึนเลย. ถามวา \" เพราะเหตุไร ? \" แกว า \" เพราะวา ความส่งั สม คอื ความพอกพูนบาป เปน เหตุใหเ กิดทุกข คือยอ มนําแตทกุ ขมาให ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหนา. \" ในกาลจบเทศนา ชนเปน อันมาก ไดบรรลุอริยผลท้งั หลาย มีโสดาปต ตผิ ลเปนตน ดังนแี้ ล. เร่ืองพระเสยยสกัตเถระ จบ.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 11 ๓. เรอื่ งนางลาชเทวธดิ า [๙๗] ขอความเบอื้ งตน พระศาสดา เม่อื ประทับอยใู นพระเชตวนั ทรงปรารภนางลาช-เทวธิดา ตรัสพระธรรมเทศนานี้วา \"ปุ ฺญฺเจ ปรุ ิโส กยิรา\" เปน ตน .เรอ่ื งเกดิ ข้ึนแลว ในเมอื งราชคฤห. หญิงถวายขา วตอกแกพ ระมหากัสสป ความพิสดารวา ทา นพระมหากสั สป อยูทีป่ ปผลิคูหา เขาฌาณแลว ออกในวันที่ ๗ ตรวจดูท่ีเท่ียวไปเพื่อภิกษาดวยทพิ ยจักษุ เห็นหญิงรกั ษานาขาวสาลีคนหนงึ่ เดด็ รวงขาวสาลที ําขา วตอกอยู พจิ ารณาวา\" หญิงนี้มศี รทั ธาหรอื ไมหนอ \" รวู า \" มศี รทั ธา \" ใครค รวญวา \" เธอจกั อาจ เพอ่ื ทําการสงเคราะหแ กเราหรอื ไมห นอ ? \" รูว า \" กุลธิดาเปนหญงิ แกลว กลา จักทําการสงเคราะหเรา, กแ็ ลครนั้ ทําแลว จกั ไดสมบัติเปนอันมาก \" จึงครองจวี รถอื บาตร ไดยืนอยูทใ่ี กลน าขาวสาล.ี กลุ ธิดาพอเหน็ พระเถระก็มจี ิตเลือ่ มใส มสี ระรอี นั ปต ิ ๕ อยางถกู ตองแลว กลาววานมิ นตหยุดกอ น เจา ขา \" ถอื ขาวตอกไปโดยเร็ว เกล่ียลงในบาตรของพระเถระแลว ไหวด วยเบญจางค๑ประดิษฐ ไดท าํ ความปรารถนาวา \" ทา นเจา ขา ขอดิฉันพงึ เปน ผูมสี วนแหง ธรรมทีท่ า นเหน็ แลว . \" จิตเลื่อมใสในทานไปเกิดในสวรรค พระเถระไดทาํ อนุโมทนาวา \"ความปรารถนาอยา งนนั้ จงสําเรจ็ .\"ฝายนางไหวพระเถระแลว พลางนึกถึงทานที่ตนถวายแลว กลับไป. กใ็ น๑. คําวา เบญจางคประดิษฐ แปลวา ต้ังไวเ ฉพาะซ่งึ องค ๕ หมายความวา ไหวไ ดองค ๕ คือหนาผาก ๑ ฝามือทง้ั ๒ และเขา ทงั้ ๒ จดลงทพี่ ้นื จงึ รวมเปน ๕.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 12หนทางท่นี างเดนิ ไป บนคันนา มงี พู ษิ รายนอนอยูในรูแหง หนงึ่ งไู มอาจขบกดั แขง พระเถระอนั ปกปด ดวยผา กาสายะได. นางพลางระลึกถงึทานกลบั ไปถึงทีน่ ้ัน. งเู ลือ้ ยออกจากรู กดั นางใหล มลง ณ ท่ีนั้นเองนางมจี ิตเล่ือมใส ทํากาละแลว ไปเกดิ ในวิมานทองประมาณ ๓๐ โยชนในภพดาวดงึ ส มีอัตภาพประมาณ ๓ คาวุต๑ ประดบั เคร่ืองอลังการทุกอยา ง เหมอื นหลบั แลว ตื่นข้ึน. วธิ ที ําทพิ ยสมบัตใิ หถ าวร นางนงุ ผา ทิพยป ระมาณ ๑๒ ศอกผนื หนึง่ หมผนื หนง่ึ แวดลอมดว ยนางอปั สรต้ังพนั เพอ่ื ประกาศบรุ พกรรม จงึ ยนื อยูท ี่ประตูวมิ านอันประดบั ดว ยขนั ทองคํา เต็มดวยขาวตอกทองคําหอยระยาอยู ตรวจดูสมบัตขิ องตน ใครครวญดว ยทพิ ยจักษวุ า \" เราทาํ กรรมสิง่ ไรหนอ จึงไดสมบตั นิ ้ี \" ไดรูวา \" สมบัตนิ เี้ ราไดเเลว เพราะผลแหง ขา วตอกที่เราถวายพระผูเ ปน เจามหากัสสปเถระ. \" นางคดิ วา \" เราไดส มบัตเิ หน็ ปานนี้เพราะกรรมนดิ หนอ ยอยา งน้ี บดั น้เี ราไมค วรประมาท. เราจักทาํ วัตรปฏิบัติแกพ ระผูเ ปน เจา ทาํ สมบัตินีใ้ หถาวร \" จงึ ถือไมกวาด และกระเชาสําหรับเทมูลฝอยสาํ เร็จดวยทองไปกวาดบริเวณของพระเถระ แลวต้งั นํา้ฉันน้าํ ใชไ วแตเชา ตร.ู พระเถระเห็นเชน น้ัน สาํ คัญวา \" จกั เปนวตั รที่ภกิ ษหุ นมุ หรือสามเณรบางรูปทํา. \" แมในวันที่ ๒ นางกไ็ ดทําอยางน้นั . ผา ยพระเถระกส็ ําคัญเชน น้ันเหมือนกนั . แตใ นวนั ท่ี ๓ พระเถระไดย นิ เสยี งไมกวาดของนาง๑. คาวุต ๑ ยาวเทา กบั ๑๐๐ เสน .
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 13และเห็นแสงสวางแหงสรีระฉายเขา ไปทางชองลกู ดาล จึงเปด ประตู (ออกมา) ถามวา \" ใครน่ัน กวาดอยู ? \" นาง. ทานเจา ขา ดฉิ นั เอง เปนอุปฏ ฐายกิ าของทา น ช่อื ลาช-เทวธดิ า. พระเถระ. อนั อุปฏฐายกิ าของเรา ผูมชี อื่ อยางนนั้ ดูเหมอื นไมมี. นาง. ทา นเจาขา ดฉิ ัน ผรู ักษานาขา วสาลี ถวายขาวตอกแลว มจี ติเลือ่ มใสกําลงั กลับไป ถกู งกู ัด ทํากาละแลว บงั เกดิ ในเทวโลกช้นั ดาวดงึ ส.ทา นเจา ขา ดฉิ ันคดิ วา \" สมบตั นิ ีเ้ ราไดเพราะอาศยั พระผูเปน เจา , แมในบดั น้ี เราจกั ทาํ วตั รปฏบิ ัตแิ กทา น ทําสมบตั ใิ หมัน่ คง, จงึ ไดมา. \" พระเถระ. ทง้ั วานน้ีทง้ั วานซนื นี้ เจา คนเดยี วกวาดทีน่ ี.่ เจาคนเดยี วเขา ไปต้งั นาํ้ ฉันน้ําใชไ วห รอื ? นาง. อยา งน้นั เจา ขา. พระเถระ. จงหลีกไปเสีย นางเทวธดิ า, วัตรท่ีเจา ทําแลว จงเปนอันทาํ แลว , ตงั้ แตน้ไี ป เจาอยามาท่ีนี้ (อีก). นาง. อยาใหดฉิ นั ฉิบหายเสยี เลย เจาขา , ขอพระผเู ปนเจา จงใหดิฉนั ทาํ วตั รแกพระผูเ ปนเจา ทาํ สมบัตขิ องดิฉนั ใหมน่ั คงเถดิ . พระเถระ. จงหลีกไป นางเทวธดิ า, เจาอยาทาํ ใหเ ราถกู พระ-ธรรมกถกึ ทง้ั หลาย น่ังจบั พัดอนั วิจติ ร พงึ กลา วในอนาคตวา ' ไดย นิ วานางเทวธิดาผูหนง่ึ มาทาํ วตั รปฏบิ ัติ เขา ไปตั้งน้ําฉนั นํ้าใช เพอื่ พระมหา-กัสสปเถระ,' แตนี้ไป เจาอยา มา ณ ท่นี ี้ จงกลบั ไปเสีย. นางจึงออ นวอนซา้ํ ๆ อกี วา \" ขอทานอยาใหดฉิ ันฉิบหายเลยเจาขา . \"
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 14 พระเถระคิดวา \" นางเทวธิดานี้ไมเชอื่ ฟงถอยคาํ ของเรา \" จงึ ปรบมอื ดวยกลา ววา \" เจาไมร จู กั ประมาณของเจา. \" นางไมอาจดาํ รงอยใู นทีน่ ้ันได เหาะข้นึ ในอากาศ ประคองอญั ชลีไดยืนรอ งไห (คราํ่ ครวญอยู) ในอากาศวา \" ทานเจา ขา อยาใหสมบตั ิทีด่ ิฉนั ไดเเลวฉบิ หายเสียเลย, จงใหเพอื่ ทาํ ใหม น่ั คงเถดิ . \" บญุ ใหเ กดิ สขุ ในภพทัง้ สอง พระศาสดา ประทับนง่ั ในพระคันธกุฎนี ั่นเอง ทรงสดับเสียงนางเทวธดิ านั้นรอ งไห ทรงแผพระรัศมดี จุ ประทับน่งั ตรสั อยูในที่เฉพาะหนานางเทวธิดา ตรัสวา \" เทวธดิ า การทาํ ความสงั วรน่ันเทยี ว เปนภาระ.'ของกสั สปผบู ตุ รของเรา. แตก ารกาํ หนดวา ' น้เี ปน ประโยชนของเราแลว มงุ กระทําแตบญุ ยอมเปน ภาระของผูมคี วามตองการดวยบญุ , ดว ยวาการทําบญุ เปนเหตใุ หเ กดิ สุขอยางเดยี ว ทัง้ ในภพน้ี ทัง้ ในภพหนา \" ดงั นี้เมื่อจะทรงสบื อนสุ นธแิ สดงธรรม จงึ ตรัสพระคาถานว้ี า ๓. ปุ ฺ เฺ จ ปุรโิ ส กยิรา กยิราเถน ปุนปปฺ นุ ตมหฺ ิ ฉนฺท กยิราถ สุโข ปุ ฺสฺส อจุ ฺจโย. \" ถาบรุ ุษพงึ ทาํ บุญไซร, พึงทาํ บุญนั้นบอย ๆ พงึ ทาํ ความพอใจในบญุ น้ัน, เพราะวา ความส่ังสมบุญ ทาํ ใหเกิดสขุ . \" แกอรรถ เนอื้ ความแหงพระคาถานนั้ วา \" ถาบุรุษพงึ ทาํ บุญไซร. ไมพงึงดเวน เสยี ดว ยเขาใจวา \" เราทําบุญครั้งเดียวแลว, พอละ ดวยบุญเพยี ง
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 15เทาน้ี พึงทาํ บอยๆ แมใ นขณะทําบุญนั้น พึงทําความพอใจ คือความชอบใจ ไดแ กความอตุ สาหะในบญุ น่นั แหละ. ถามวา \" เพราะเหตุไร? \" วสิ ัชนาวา เพราะวา ความส่ังสมบญุ ใหเ กิดสุข อธิบายวา เพราะวาความสง่ั สมคอื ความพอกพนู บุญ ชอื่ วา ใหเกดิ สขุ เพราะเปน เหตุนําความสุขมาใหในโลกนแ้ี ละโลกหนา. ในกาลจบเทศนา นางเทวธดิ านั้น ยืนอยูในทส่ี ดุ ทาง ๔๕ โยชนนน่ั แล ไดบรรลโุ สดาปต ติผลแลว ดงั นี้แล. เรอื่ งนางลาชเทวธิดา จบ.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 16 ๔. เรือ่ งอนาถบณิ ฑิกเศรษฐี [๙๘] ขอ ความเบือ้ งตน พระศาสดา เมือ่ ประทบั อยูในพระเชตวนั ทรงปรารภเศรษฐชี ือ่อนาถบิณฑิกะ ตรัสพระธรรมเทศนานวี้ า \" ปาโปป ปสสฺ ตี ภทฺร \"เปน ตน . ทา นเศรษฐบี าํ รงุ ภิกษสุ ามเณรเปน นติ ย ความพิสดารวา อนาถบิณฑกิ เศรษฐี จา ยทรัพยต้ัง ๕๔ โกฎิ ในพระพุทธศาสนาเฉพาะวิหารเทานัน้ . เม่ือพระศาสดาประทบั อยใู นพระ-เชตวัน ไปสูทบี่ ํารุงใหญ ๓ แหง ทกุ วัน, กเ็ มื่อจะไป คิดวา \" สามเณรก็ดี ภกิ ษหุ นุม กด็ ี พึงแลดูแมม ือของเรา ดวยการนึกวา เศรษฐีนน้ั ถืออะไรมาบาง ดังน้ี ไมเคยเปนผชู ื่อวามมี อื เปลา ไปเลย, เมอื่ ไปเวลาเชาใหคนถอื ขาวตมไป บรโิ ภคอาหารเชา แลว ใหคนถอื เภสชั ทัง้ หลาย มเี นยใสเนยขน เปน ตน ไป. ในเวลาเยน็ ใหถ อื วตั ถุตางๆ มรี ะเบียบดอกไม ของหอม เคร่อื งลูบไลแ ละผา เปนตน ไปสวู หิ าร. ถวายทาน รักษาศีล อยางนัน้ทุก ๆ วนั ตลอดกาลเปนนติ ยทเี ดียว. การหมดส้ินแหงทรพั ยของเศรษฐี ในกาลตอ มา เศรษฐี ยอ มถงึ ความสิ้นไปแหง ทรพั ย. ทั้งพวกพาณชิกก็ หู น้ีเปนทรพั ย ๑๘ โกฏจิ ากมือเศรษฐนี นั้ . เงนิ ๑๘ โกฏิแมเปน สมบัติแหงตระกูลของเศรษฐี ทฝี่ ง ตัง้ ไวใกลฝง แมนา้ํ เมอื่ ฝง พังลงเพราะน้ํา(เซาะ) กจ็ มลงยังมหาสมทุ ร. ทรพั ยข องเศรษฐนี นั้ ไดถึงความหมดสน้ิไปโดยลาํ ดบั ดว ยประการอยา งนี้.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 17 เศรษฐถี วายทานตามมีตามได เศรษฐแี มเ ปน ผอู ยา งนัน้ แลว ก็ยังถวายทานแกสงฆเ รื่อยไป. แตไมอาจถวายทาํ ใหประณตี ได. ในวนั หนง่ึ เศรษฐี เม่ือพระศาสดารบั สัง่ วา\" คฤหบดี ก็ทานในตระกลู ทานยังใหอยหู รอื ? \" กราบทลู วา \" พระเจาขาทานในตระกูล ขาพระองคยังใหอย.ู กแ็ ลทานนน้ั (ใช) ขาวปลายเกรยี นมนี ํา้ สมพะอมู เปน ที่ ๒.\" เม่อื มจี ติ ผองใสทานทีถ่ วายไมเปน ของเลว ทนี ั้น พระศาสดา ตรสั กะเศรษฐีวา \" คฤหบดี ทา นอยาคิดวา ' เราถวายทานเศรา หมอง. ' ดวยวา เมื่อจติ ประณตี แลว , ทานท่บี คุ คลถวายแดพระอรหนั ตทัง้ หลายมีพระพุทธเจา เปนตน ช่อื วา เศรา หมองยอ มไมม.ีคฤหบดี อีกประการหนึ่ง ทานไดถ วายทานแดพ ระอริยบุคคลท้งั ๘แลว ;สวนเราในกาลเปน เวลาพราหมณน ัน้ กระทาํ ชาวชมพทู ทวีปทั้งสน้ิ ใหพกัไถนา ยงั มหาทานใหเปนไปอยู ไมไ ดทกั ขไิ ณยบคุ คลไรๆ แมผ ูถงึ ซึง่ไตรสรณะ. ชือ่ วาทกั ขิไณยบคุ คลทัง้ หลาย ยากท่บี คุ คลจะไดดวยประการฉะน.ี้ เพราะเหตุนัน้ ทา นอยาคดิ เลยวา 'ทานของเราเศรา หมอง' ดงั น้ีแลว ไดตรสั เวลามสูตร๑ แกเ ศรษฐีนั้น. เทวดาเตือนเศรษฐใี หเลิกการบริจาค ครง้ั นนั้ เทวดาซง่ึ สถิตอยทู ซ่ี ุม ประตูของเศรษฐี เมือ่ พระศาสดาและสาวกท้งั หลายเขา ไปสเู รอื น. ไมอ าจจะดํารงอยไู ดเ พราะเดชแหงพระ-ศาสดาและพระสาวกเหลา น้นั คดิ วา \" พระศาสดาและพระสาวกเหลานจ้ี ะ๑. อัง. นวก. ๒๓/๔๐๖
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 18ไมเขาไปสูเรือนน้ีไดดวยประการใด. เราจะยยุ งคฤหบดีดวยประการนน้ั :แมใครจะพูดกะเศรษฐนี ้นั กไ็ มไดอ าจเพอ่ื จะกลา วอะไร ๆ ในกาลท่ีเศรษฐีเปน อิสระ \" คิดวา \" ก็บัดน้เี ศรษฐนี ้ีเปน ผยู ากจนแลว. คงจกั เช่ือฟงคาํ ของเรา \" ในเวลาราตรี เขาไปสูหอ งอนั เปน สิรขิ องเศรษฐี ไดยืนอยูในอากาศ. ขณะน้นั เศรษฐีเห็นเทวดานน้ั แลวถามวา \" น่ันใคร ? \" เทวดา. มหาเศรษฐี ขา พเจา เปน เทวดาสถติ อยทู ่ซี มุ ประตทู ่ี ๔ ของทา น มาเพ่ือตอ งการเตอื นทา น. เศรษฐ.ี เทวดา ถา เชนน้ัน เชญิ ทา นพูดเถิด. เทวดา. มหาเศรษฐี ทา นไมเหลียวแลถึงกาลภายหลงั เลย จายทรัพยเ ปน อันมากในศาสนาของพระสมณโคคม. บัดนี้ ทานแมเปน ผูยากจนแลว กย็ ังไมละการจา ยทรัพยอ กี . เมื่อทานประพฤตอิ ยางน้ี จกั ไมไดแมว ตั ถสุ กั วาอาหารและเคร่อื งนงุ หม โดย ๒-๓ วนั แนแท; ทา นจะตองการอะไรดวยพระสมณโคคม ทานจงเลิกจากการบรจิ าคเกิน (กาํ ลงั ) เสยีแลว ประกอบการงานทง้ั หลาย รวบรวมสมบตั ิไวเ ถดิ . เศรษฐี. น้ีเปนโอวาทท่ที า นใหแกข าพเจา หรือ ? เทวดา. จะ มหาเศรษฐ.ี เศรษฐี. ไปเถดิ ทาน. ขา พเจา อันบุคคลผูเ ชนทา น แมต ั้งรอ ยตัง้ พนั ต้งั แสนคน ก็ไมอาจใหหวั่นไหวได. ทา นกลาวคําไมสมควร จะตองการอะไรดวยทา นผอู ยูใ นเรอื นของขาพเจา . ทา นจงออกไปจากเรือนของขา พเจา เรว็ ๆ.
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 19 เทวดาถูกเศรษฐขี ับไลไมมที ี่อาศยั เทวดานัน้ ฟงคาํ ของเศรษฐีผูเปน โสดาบันอรยิ สาวกแลว ไมอ าจดาํ รงอยไู ด จงึ พาทารกทั้งหลายออกไป, ก็แล คร้นั ออกไปแลวไมไดทีอ่ ยูในทอี่ ื่น จึงคดิ วา \" เราจักใหท า นเศรษฐีอดโทษแลวอยใู นทเี่ ดมิ น้นัเขา ไปหาเทพบตุ รผูรักษาพระนคร แจง ความผิดท่ีตนทาํ แลว กลา ววา\" เชญิ มาเถิดทาน, ขอทานจงนําขา พเจา ไปยังสํานักของทา นเศรษฐี ใหทานเศรษฐีอดโทษแลว ใหท่ีอยู (แกข า พเจา). \" เทพบุตรหา มเทวดานั้นวา \" ทานกลาวคาํ ไมส มควร, ขาพเจาไมอาจไปยังสํานักของเศรษฐีน้นั ได. \" เทวดาน้นั จงึ ไปสสู ํานักของทาวมหาราชทั้ง ๔ กถ็ กู ทานเหลา น้นัหามไว จึงเขาไปเฝาทา วสกั กเทวราช กราบทูลเรื่องนน้ั (ใหทรงทราบ)แลว ทลู วงิ วอนอยา งนาสงสารวา \" ขาแตเทพเจา ขาพระองคไมไดท ี่อยูตองจงู พวกทารกเทีย่ วระหกระเหิน หาที่พึง่ มิได. ขอไดโ ปรดใหเ ศรษฐีใหท อ่ี ยแู กขาพระองคเถดิ .\" ทาวสกั กะทรงแนะนาํ อุบายใหเ ทวดา คราวน้นั ทา วสกั กะ ตรสั กะเทวดานั้นวา \" ถึงเราก็จกั ไมอ าจกลา วกะเศรษฐีเพราะเหตุแหงทานได (เชนเดียวกัน). แตจกั บอกอุบายใหแกทา นสกั อยา งหนงึ่ . \" เทวดา. ดีละ เทพเจา ขอพระองคทรงพระกรณุ าตรสั บอกเถิด. ทา วสกั กะ. ไปเถิดทาน. จงแปลงเพศเปน เสมียนของเศรษฐี ใหใครนําหนังสอื (สัญญากเู งิน) จากมอื เศรษฐมี าแลว (นําไป) ใหเ ขาชําระ
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 20ทรพั ย ๑๘ โกฏิ ทพ่ี วกคาขายถือเอาไป ดวยอานภุ าพของตนแลว บรรจุไวใ หเ ต็มในหองเปลา. ทรัพย ๑๘ โกฏิ ท่ีจมลงยงั มหาสมทุ รมีอยูก็ด.ีทรัพย ๘ โกฏิ สวนอ่ืน ซึง่ หาเจา ของมไิ ด มอี ยใู นทโ่ี นน ก็ดี. จงรวบรวมทรัพยท้ังหมดนน้ั บรรจไุ วใหเ ต็มในหองเปลาของเศรษฐี คร้นั ทาํกรรมช่อื นี้ใหเปนทณั ฑกรรมแลว จงึ ขอขมาโทษเศรษฐี. เศรษฐีกลบั รวยอยางเดิม เทวดานัน้ รบั วา \" ดีละ เทพเจา \" แลว ทาํ กรรมทกุ ๆ อยางตามนัยท่ีทา วสกั กะตรสั บอกแลวน่นั แล ยังหองอนั เปน สริ ิของทา นเศรษฐใี หสวา งไสว ดํารงอยูใ นอากาศ เมอ่ื ทา นเศรษฐกี ลาววา \" นัน่ ใคร \" จึงตอบวา \" ขา พเจาเปน เทวดาอนั ธพาล ซ่ึงสถิตอยทู ซ่ี ุม ประตทู ่ี ๔ ของทา น. คําใด อันขา พเจา กลา วแลวในสํานักของทา นดวยความเปนอันธ-พาล. ขอทานจงอดโทษคํานน้ั แกขา พเจา เถดิ . เพราะขาพเจา ไดท ําทณั ฑ-กรรมดว ยการรวบรวมทรัพย ๕๔ โกฏิ มาบรรจุไวเต็มหองเปลา ตามบัญชาของทา วสกั กะ. ขาพเจาเมื่อไมไดท่อี ยู ยอ มลําบาก. \" เศรษฐีอดโทษแกเ ทวดา อนาถบณิ ฑิกเศรษฐี จินตนาการวา \" เทวดาน้ี กลา ววา \"ทัณฑ-กรรม อันขาพเจากระทาํ แลว \" ดงั น.้ี และรสู ึกโทษ (ความผิด) ของตน.เราจักแสดงเทวดานัน้ แดพระสัมมาสัมพุทธเจา.\" ทานเศรษฐี นําเทวดานน้ั ไปสสู ํานกั ของพระศาสดา กราบทลู กรรมอันเทวดานน้ั ทําแลวทัง้ หมด. เทวดาหมอบลงดว ยเศียรเกลา แทบพระบาทยุคลแหงพระศาสดา
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 21กราบทูลวา ขา แตพระองคผ ูเจริญ ขาพระองคไ มท ราบพระคณุ ท้งั หลายของพระองค ไดก ลาวคําใดอนั ชวั่ ชา เพราะความเปนอนั ธพาล. ขอพระองคทรงงดโทษคาํ นั้นแกข า พระองค ใหพ ระศาสดาทรงอดโทษแลวจึงใหท า นมหาเศรษฐีอดโทษให (ในภายหลงั ). เมอ่ื กรรมใหผล คนโงจ งึ เหน็ ถูกตอง พระศาสดา เมือ่ จะทรงโอวาทเศรษฐแี ละเทวดา ดวยสามารถวบิ ากแหงกรรมดีและชวั่ นน่ั แล จึงตรสั วา \" ดูกอนคฤหบดี แมบุคคลผทู ําบาปในโลกน้ี ยอมเหน็ บาปวา ดี ตลอดกาลท่ีบาปยังไมเ ผลด็ ผล. แตเ มอื่ ใดบาปของเขาเผลด็ ผล, เมอ่ื นัน้ เขายอมเห็นบาปวาช่ัวเเท ๆ; ฝายบคุ คลผูท าํ กรรมดี ยอ มเห็นกรรมดวี าชวั่ ตลอดกาลทก่ี รรมดยี งั ไมเผลด็ ผล,แตเมอื่ ใด กรรมดขี องเขาเผล็ดผล. เม่อื นน้ั เขายอมเหน็ กรรมดีวาดีจรงิ ๆ \" ดงั นี้แลว เม่ือจะทรงสืบอนุสนธแิ สดงธรรม จงึ ไดภาษิตพระ-คาถาเหลาน้ีวา ๔. ปาโปป ปสฺสติ ภทรฺ ยาว ปาป น ปจจฺ ติ ยทา จ ปจจฺ ติ ปาป อถ (ปาโป) ปาปานิ ปสสฺ ต.ิ ภโทฺรป ปสสฺ ติ ปาป ยาว ภทฺร น ปจจฺ ติ ยทา จ ปจจฺ ติ ภทฺร อถ (ภโทรฺ ) ภทรฺ านิ ปสฺสติ. \" แมคนผทู าํ บาป ยอ มเห็นบาปวา ดี ตลอดกาล ที่บาปยังไมเ ผลด็ ผล, แตเมื่อใด บาปเผล็ดผล, เมอ่ื นน้ั เขายอมเหน็ บาปวาชว่ั , ฝายคนทาํ กรรมดี ยอ มเหน็ กรรมดวี า ชว่ั ตลอดกาลทกี่ รรมดยี ังไมเ ผลด็
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 22 ผล แตเ มอ่ื ใด กรรมดเี ผลด็ ผล เม่อื น้ัน เขายอ ม เหน็ กรรมดวี าดี.\" แกอ รรถ บคุ คลผปู ระกอบบาปกรรมมีทจุ รติ ทางกายเปนตน ชื่อวาคนผบู าปในพระคาถานน้ั . กบ็ ุคคลแมน้ัน เมื่อยงั เสวยสุขอันเกดิ ข้นึ ดว ยอานุภาพแหงสจุ รติกรรมในปางกอ นอยู ยอมเห็นแมบ าปกรรมวา ด.ี บาทพระคาถาวา ยาว ปาป น ปจจฺ ติ เปน ตน ความวา บาปกรรมของเขานน้ั ยงั ไมใ หผลในปจ จบุ ันภพหรอื สมั ปรายภพเพียงใด. (ผูทําบาป ยอมเหน็ บาปวาดี เพียงนนั้ ). แตเ มื่อใดบาปกรรมของเขานั้นใหผ ลในปจจุบันภพหรอื ในสมั ปรายภพ. เม่ือนน้ั ผูทาํ บาปนัน้ เม่อื เสวยกรรม-กรณตา ง ๆ ในปจจบุ นั ภพ และทกุ ขใ นอบายในสมั ปรายภพอยู ยอมเห็นบาปวาชัว่ ถา ยเดยี ว. ในพระคาถาท่ี ๒ (พงึ ทราบเน้อื ความดังตอไปน)้ี . บุคคลผปู ระ-กอบกรรมดมี ีทุจริตทางกายเปนตน ชื่อวา คนทาํ กรรมด.ี คนทํากรรมดีแมน้ัน เมื่อเสวยทกุ ขอนั เกิดขึ้นดว ยอานภุ าพแหง ทจุ รติ ในปางกอ น ยอ มเห็นกรรมดีวา ชั่ว. บาทพระคาถาวา ยาว ภทรฺ น ปจจฺ ติ เปน ตน ความวา กรรมดีของเขานน้ั ยงั ไมใหผ ล ในปจ จุบนั ภพหรือในสัมปรายภพเพยี งใด. (คนทาํ กรรมดี ยอ มเหน็ กรรมดวี า ชวั่ อยู เพยี งน้ัน). แตเมือ่ ใด กรรมดนี น้ัใหผ ล, เมือ่ น้ันคนทํากรรมดนี ั้น เม่อื เสวยสขุ ท่อี ิงอามสิ มีลาภและสักการะ
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 23เปนตน ในปจ จุบันภพ และสุขทอี่ ิงสมบตั ิ อันเปนทิพยใ นสัมปรายภพอยูยอ มเห็นกรรมดีวา ดีจริง ๆ ดงั น้.ี ในกาลจบเทศนา เทวดาน้นั ดาํ รงอยใู นโสดาปตตผิ ล. พระธรรม-เทศนา ไดมีประโยชนแมแกบรษิ ทั ผูมาประชมุ กัน ดงั น้เี เล. เร่อื งอนาถบิณฑิกเศรษฐี จบ.
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ที่ 24 ๕. เร่อื งภกิ ษไุ มถ นอมบรขิ าร [๙๙] ขอความเบือ้ งตน พระศาสดา เมื่อประทับอยูในพระเชตวนั ทรงปรารภภิกษรุ ูปหน่ึงผไู มถ นอมบริขาร ตรสั พระธรรมเทศนานี้วา \" มาวมฺเถ ปาปสสฺ \"เปนตน . ของสงฆใ ชเเลว ควรรบี เกบ็ ไดย ินวา ภกิ ษนุ ้นั ใชส อยบริขารอันตางดว ยเตียงและต่ังเปน ตนอยางใดอยางหนึ่ง ในภายนอกแลว ทงิ้ ไวในท่ีน้ันนั่นเอง. บรขิ ารยอ มเสียหายไป เพราะฝนบาง แดดบา ง พวกสตั วมีปลวกเปน ตนบาง. ภิกษุน้นั เมอ่ื พวกภิกษกุ ลา วเตือนวา \" ผูมอี ายุ ธรรมดาบรขิ าร ภกิ ษคุ วรเกบ็ งํามิใชหรือ ? \" กลับกลา ววา \" กรรมท่ีผมทําน่ันนิดหนอย ผมู ีอายุ,บริขารนัน่ ไมม ีจิต, ความวจิ ิตรกไ็ มมี \" ดังนแ้ี ลว (ยงั ขนื ) ทําอยูอ ยา งนนั้น่นั แลอกี . ภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทลู กิริยา (การ) ของเธอแดพ ระศาสดา. พระศาสดารับส่ังใหเ รยี กภกิ ษุนัน้ มาแลว ตรสั ถามวา \" ภกิ ษุ ขาววาเธอทาํ อยางน้ันจริงหรอื ? \" เธอแมถ กู พระศาสดาตรัสถามแลว ก็กราบ-ทูลอยา งดหู ม่ินอยา งนัน้ นั่นแหละวา \" ขาเเตพระผมู ีพระภาคเจา ขอนนั้จะเปนอะไร, ขา พระองคทํากรรมเลก็ นอย. บรขิ ารนน้ั ไมมจี ติ . ความวจิ ิตรก็ไมมี. \" อยา ดูหมน่ิ กรรมชว่ั วานิดหนอย ทนี ้นั พระศาสดาตรัสกบั เธอวา \" อนั ภกิ ษทุ งั้ หลายทาํ อยางนนั้ยอ มไมค วร, ขน้ึ ช่อื วาบาปกรรม ใคร ๆ ไมค วรดูหมิน่ วา นดิ หนอ ย;
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 25เหมอื นอยา งวา ภาชนะทเ่ี ขาเปดปากตง้ั ไวกลางแจง เม่อื ฝนตกอยู ไมเต็มไดด ว ยหยาดนํา้ หยาดเดียวโดยแท, ถึงกระนัน้ เม่อื ฝนตกอยบู อย ๆภาชนะนน้ั ยอมเตม็ ไดเ เน ๆ ฉนั ใด. บุคคลผูท าํ บาปกรรมอยู ยอ มทาํ กองบาปใหใ หญโ ตขึน้ โดยลําดับไดอ ยา งแน ๆ ฉันนั้นเหมอื นกัน \" ดงั น้ีแลว .เมื่อจะทรงสืบอนสุ นธิแสดงธรรม จึงตรสั พระคาถาน้วี า ๕. มาวมเฺ ถ ปาปสฺส น มตตฺ อาคมิสฺสติ อทุ พนิ ฺทนุ ิปาเตน อุทกมุ ฺโภป ปรู ติ อาปูรติ พาโล ปาปสสฺ โถก โถก ป อาจนิ . \" บคุ คลไมค วรดหู มิน่ บาปวา บ าปมีประมาณ นอยจักไมมาถึง ' แมหมอ นํา้ ยังเต็มดว ยหยาดนํ้าท่ี ตกลง (ทลี ะหยาดๆ) ไดฉ ันใด, ชนพาลเม่อื สัง่ สม บาปแมทลี ะนอย ๆ ยอ มเต็มดวยบาปได ฉันนัน้ . \" แกอรรถบรรดาบทเหลานัน้ บทวา มาวมฺเถ ความวา บุคคลไมค วรดหู ม่นิ .บทวา ปาปสฺส แปลวา ซึ่งบาป.บาทพระคาถาวา น มตตฺ อาคมิสสฺ ติ ความวา บคุ คลไมควรดหู มิน่บาปอยางนัน้ วา \" เราทําบาปมีประมาณนอ ย, เมอื่ ไร บาปนั่นจกั เผล็ดผล ? \"บทวา อุทกมุ ฺโภป ความวา ภาชนะดนิ ชนิดใดชนดิ หน่ึง ทเี่ ขาเปด ปากทิ้งไวในเมือ่ ฝนตกอยู ยอมเตม็ ดวยหยาดนาํ้ ที่ตกลงแมทีละหยาดๆ
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาที่ 26โดยลาํ ดับไดฉ นั ใด. บุคคลเขลา เมือ่ สง่ั สมคอื เมอ่ื พอกพูนบาปแมทลี ะนอ ย ๆ ยอ มเตม็ ดวยบาปไดฉนั นนั้ เหมือนกัน. ในกาลจบเทศนา ชนเปน อนั มากบรรลอุ ริยผลทง้ั หลาย มีโสดา-ปตติผลเปน ตน แลว. แมพ ระศาสดา กท็ รงบัญญตั ิสิกขาบทไววา \" ภกิ ษุลาดที่นอน (ของสงฆ) ไวใ นท่ีแจง แลว ไมเ ก็บไวต ามเดมิ ตอ งอาบัตชิ ่ือนี้ \"ดังนแ้ี ล. เรื่องภิกษุไมถ นอมบริขาร จบ.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 27 ๖. เรอ่ื งเศรษฐีช่ือพิฬาลปทกะ [๑๐๐] ขอ ความเบอื้ งตน พระศาสดา เมื่อประทับอยใู นพระเชตวัน ทรงปรารภเศรษฐีช่อืพฬิ าลปทกะ (เศรษฐตี นี แมว) ตรสั พระธรรมเทศนานวี้ า \" มาวมเฺ ถปฺุ สฺส เปน ตน. ใหท านองและชวนคนอ่ืน ไดส มบัติ ๒ อยาง ความพสิ ดารวา สมยั หน่งึ ชาวเมืองสาวตั ถีพากนั ถวายทานแดภกิ ษุสงฆม พี ระพทุ ธเจาเปน ประธาน โดยเนอื่ งเปน พวกเดยี วกัน. อยมู าวันหน่งึ พระศาสดา เมอ่ื จะทรงทําอนโุ มทนา ตรัสอยา งนี้วา \" อบุ าสกอุบาสกิ าทงั้ หลาย บคุ คลบางคนในโลกน้ี ใหท านดว ยตน, (แต) ไมช ัก-ชวนผอู ่ืน. เขายอมไดโ ภคสมบตั ,ิ (แต) ไมไ ดบริวารสมบตั ิ ในทีแ่ หงตนเกิดแลว ๆ; บางคนไมใ หทานดว ยตน. ชกั ชวนแตคนอ่นื . เขายอ มไดบริวารสมบัติ (แต) ไมไดโภคสมบตั ใิ นท่ีแหง ตนเกดิ แลว ๆ; บางคนไมใหทานดวยตนดว ย ไมชกั ชวนคนอ่นื ดว ย. เขายอ มไมไ ดโภคสมบตั ิไมไดบ รวิ ารสมบัติ ในทแ่ี หง ตนเกิดแลว ๆ; เปนคนเที่ยวกนิ เดน บางคน ใหทานดว ยคนดว ย ชกั ชวนคนอน่ื ดว ย,. เขายอมไดท ้งั โภคสมบตั ิและบริวารสมบตั ิ ในทแี่ หง คนเกดิ แลว ๆ.\" บัณฑิตเรี่ยไรของทําบุญ ครงั้ นนั้ บณั ฑิตบรุ ุษผหู นึง่ ฟง ธรรมเทศนาน้นั แลว คดิ วา \" โอ !เหตนุ นี้ าอัศจรรย, บัดนี้ เราจกั ทาํ กรรมทเี่ ปนไปเพอื่ สมบตั ิทง้ั สอง,\" จงึกราบทลู พระศาสดาในเวลาเสด็จลุกไปวา \"ขาแตพระองคผ ูเ จรญิ พรงุ น้ีขอพระองคจงทรงรับภกิ ษาขอพวกขาพระองค.\"
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 28 พระศาสดา. ก็ทานมีความตอ งการดว ยภิกษุสักเทาไร ? บุรษุ . ภกิ ษทุ ัง้ หมด พระเจา ขา. พระศาสดาทรงรบั แลว. แมเขาก็เขา ไปยงั บา น เทยี่ วปาวรองวา\"ขาแตแ มและพอ ท้ังหลาย ขา พเจานิมนตภ ิกษุสงฆม พี ระพุทธเจาเปนประธาน เพือ่ ฉันภตั ตาหารในวนั พรุง น้,ี ผูใ ดอาจถวายแกภ กิ ษทุ ั้งหลายมีประมาณเทาใด, ผนู นั้ จงใหวัตถุตา ง ๆ มขี าวสารเปน ตน เพอื่ ประโยชนแกอาหารมียาคูเปน ตน เพอ่ื ภกิ ษทุ ้งั หลายมปี ระมาณเทา นั้น, พวกเราจกัใหหุงตมในท่ีแหงเดยี วกันแลวถวายทาน\" เหตทุ เี่ ศรษฐชี ื่อวา พฬิ าลปทกะ ทีนัน้ เศรษฐคี นหนึ่ง เหน็ บรุ ุษนนั้ มาถึงประตรู านตลาดของตนก็โกรธวา \"เจาคนนี้ ไมน มิ นตภ กิ ษุแตพอ (กาํ ลัง) ของตน ตองมาเท่ยี วชกั ชวนชาวบานท้ังหมด (อกี ),\" จึงบอกวา \"แกจงนาํ เอาภาชนะที่แกถอื มา\" ดงั นแ้ี ลว เอาน้ิวมอื ๓ น้วิ หยิบ ไดใหข าวสารหนอ ยหน่ึง,ถว่ั เขยี ว ถ่ัวราชมาษก็เหมอื นกนั แล. ตั้งแตนั้น เศรษฐีนน้ั จึงมชี ่ือวาพิฬาลปทกเศรษฐ.ี แมเ ม่ือจะใหเ ภสชั มีเนยใสและนาํ้ ออ ยเปนตน ก็เอียงปากขวดเขาทหี่ มอ ทาํ ใหป ากขวดนั้นตดิ เปนอนั เดยี วกัน ใหเภสัชมีเนยใสและนํ้าออยเปนตน ไหลลงทลี ะหยด ๆ ไดใหหนอ ยหน่ึงเทานนั้ . อุบาสกทาํ วตั ถุทานทีค่ นอ่ืนใหโ ดยรวมกัน (แต) ไดถือเอาส่ิงของที่เศรษฐนี ี้ใหไวแผนกหนง่ึ ตา งหาก. เศรษฐีใหคนสนทิ ไปดูการทาํ ของบรุ ุษผูเรีย่ ไร เศรษฐีนนั้ เห็นกริ ยิ าของอบุ าสกนนั้ แลว คดิ วา \" ทาํ ไมหนอเจา คนนจ้ี งึ รับส่ิงของท่เี ราใหไ วแผนกหน่ึง ? \" จงึ สงจฬู ุปฏฐากคนหน่งึ
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนาท่ี 29ไปขางหลงั เขา ดว ยสงั่ วา \" เจาจงไป, จงรูกรรมท่เี จานั่นทาํ .\" อุบาสกนั้นไปแลว กลาววา \" ขอผลใหญจงมีแกเศรษฐ.ี \" ดังนแ้ี ลว ใสขาวสาร๑-๒ เมล็ด เพ่ือประโยชน แกยาคู ภตั และขนม, ใสถวั่ เขยี วถว่ั ราชมาษบาง หยาดน้ํามันและหยาดนา้ํ ออ ยเปนตนบาง ลงในภาชนะทกุ ๆ ภาชนะ.จูฬุปฏ ฐากไปบอกแกเศรษฐีแลว . เศรษฐฟี ง คาํ นัน้ แลว จงึ คิดวา \" หากเจา คนนัน้ จักกลา วโทษเราในทามกลางบรษิ ทั ไซร, พอมนั เอย ช่ือของเราข้นึ เทาน้ัน เราจักประหารมนั ใหตาย.\" ในวนั รงุ ข้ึน จงึ เหน็บกฤชไวใ นระหวางผานุงแลว ไดไปยืนอยทู ี่โรงครวั . ฉลาดพดู ทําใหผมู ุงรายกลบั ออ นนอ ม บุรุษนั้น เลี้ยงดภู กิ ษุสงฆม พี ระพทุ ธเจาเปน ประธาน แลว กราบทลู พระผมู ีพระภาคเจา วา \"ขา แตพระองคผ เู จริญ ขาพระองคชักชวนมหา-ชนถวายทานน,ี้ พวกมนุษยข า พระองคชกั ชวนแลวในท่ีนัน้ ไดใหข าวสารเปน ตนมากบา งนอ ยบา ง ตามกําลงั ของตน, ขอผลอนั ไพศาลจงมีแกมหาชนเหลา น้ันทง้ั หมด.\" เศรษฐีไดย นิ คาํ นนั้ แลว คิดวา \" เรามาดว ยต้ังใจวา ' พอมนั เอยชือ่ ของเราขึน้ วา ' เศรษฐชี ื่อโนน ถอื เอาขาวสารเปนตนดว ยหยิบมอื ให,'เราก็จักฆา บุรษุ นี้ ใหตาย, แตบุรุษนี้ ทําทานใหรวมกันทง้ั หมด แลวกลาววา ' ทานทช่ี นเหลาใดตวงดวยทะนานเปน ตน แลว ใหก ็ด,ี ทานที่ชนเหลาใดถอื เอาดว ยหยิบมือแลวใหก ็ด,ี ขอผลอนั ไพศาล จงมีแกช นเหลาน้ันท้ังหมด,' ถา เราจกั ไมใ หบรุ ษุ เห็นปานนี้อดโทษไซร, อาชญาของเทพเจา จกั ตกลงบนศรี ษะของเรา.\" เศรษฐีน้ันหมอบลงแทบเทา ของ
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หนา ท่ี 30อุบาสกน้ันแลว กลา ววา \" นาย ขอนายจงอดโทษใหผ มดวย,\" และถกูอุบาสกน้นั ถามวา \"นอ้ี ะไรกนั ? \" จงึ บอกเร่อื งนั้นท้งั หมด.พระศาสดาทรงเห็นกริ ิยานัน้ แลว ตรัสถามผขู วนขวายในทานวา\" น่ีอะไรกัน ? \" เขากราบทูลเรื่องน้นั ทัง้ หมดต้งั แตวันทีแ่ ลว ๆ มา.อยา ดหู มิ่นบุญวา นดิ หนอ ยทีนัน้ พระศาสดาตรสั ถามเศรษฐนี นั้ วา \" นัยวา เปนอยา งนนั้หรอื ? เศรษฐี.\" เมอ่ื เขากราบทูลวา \" อยา งน้ัน พระเจา ขา. \" ตรสั วา\" อุบาสก ข้นึ ชอื่ วา บญุ อนั ใคร ๆ ไมค วรดูหมิน่ วา 'นดิ หนอย.' อนับคุ คลถวายทานแกภ กิ ษุสงฆ มพี ระพทุ ธเจา เชน เราเปนประธานแลว ไมควรดหู ม่ินวา 'เปนของนดิ หนอย.' ดวยวา บุรุษผบู ัณฑิต ทาํ บญุ อยูยอมเต็มไปดว ยบุญโดยลาํ ดบั แนแ ท เปรยี บเหมอื นภาชนะท่เี ปดปาก ยอ มเตม็ ไปดว ยน้ํา ฉะน้ัน.\" ดงั นี้แลว เมื่อจะทรงสบื อนสุ นธแิ สดงธรรม จงึตรสั พระคาถาน้วี า๖. มาวมฺเถ ปุ สสฺ น มตฺต อาคมิสฺสติอุทพินทฺ นุ ปิ าเตน อทุ กุมฺโภป ปรู ติอาปรู ติ ธีโร ปุ ฺ สฺส โถก โถก ป อาจนิ .\" บุคคลไมค วรดหู มิ่นบญุ วา 'บุญมีประมาณนอยจักไมม าถงึ ' แมหมอ นํ้ายังเตม็ ดวยหยาดนาํ้ ทีต่ กลงมา(ทีละหยาดๆ)ไดฉ ันใด, ธรี ชน (ชนผมู ปี ญญา) สงั่ -สมบุญแมทีละนอ ย ๆ ยอมเต็มดว ยบญุ ไดฉันนน้ั .\" แกอ รรถเนอ้ื ความแหง พระคาถาน้นั วา \" มนษุ ยผูบณั ฑิต ทําบญุ แลว อยา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 470
Pages: