พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 73ชอื่ วา กิเลสกาม. แตในที่นตี้ องเขา ใจวา วตั ถกุ าม. เพราะวาวตั ถุกามเหลา นั้นชอื่ วา วจิ ิตร เพราะมีเปน อเนกประการดวยอํานาจรปู เปน ตน. ชอื่ วา อรอย เพราะมอี าการนา ปรารถนาดว ยอํานาจความยินดแี หงชาวโลก. ชื่อวา นา รื่นรมยใจ เพราะทําใจของพวกพาลปุถุชนใหย ินดี. บทวา วิรูปรูเปน ไดแก ดว ยรูปตา งๆ อธิบายวา โดยสภาวะหลายอยาง. จรงิ อยู กามท้งั หลายวจิ ติ รดวยรูปเปน ตน คอื มีรปู แปลก ๆ โดยเปนรปู สเี ขยี วเปนตน. กามทง้ั หลายแสดงความชอบใจโดยประการน้ันๆดว ยรปู แปลก ๆ นนั้ อยางนี้แลว ยอมย่าํ ยจี ิต คอื ไมใ หยินดใี นการบรรพชาเพราะเหตนุ ัน้ เราเห็นโทษในกามคณุ ทั้งหลาย โดยมีความยนิ ดีนอ ยมที ุกขมากเปน ตน เพราะฉะนัน้ คือเพราะการเหน็ โทษในกามคณุ นัน้ เราจึงบวช. ผลไมท้งั หลาย ในเวลาสุกและเวลายังไมสุก ยอมตกไปในที่ใดท่ีหนึง่ โดยความพยายามของคนอ่ืน หรอื โดยหนาท่ีของตน ฉนั ใด สตั วท้ังหลายก็ฉันนั้น จะเปนคนหนมุ และคนแก ยอมตกไปเหมอื นกนั .เพราะรางกายแตก บทวา เอตมปฺ ทิสวฺ า อธบิ ายวา เราเหน็ แมความไมเทีย่ งอยางน้ีดวยปญ ญาจักษุ ไมใ ชเ ห็นเฉพาะโทษ เพราะมคี วามยินดนี อ ยเปน ตนอยางเดียว. บทวา อปณฺณก ความวา สามัญญะ คอื ความเปนสมณะที่ไมผดินัน่ แหละประเสรฐิ คือยง่ิ กวา . บทวา สทธฺ าย ไดแ ก เชื่อกรรม ผลของกรรม ความที่
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 74พระพทุ ธเจาตรสั รดู ีแลว ความทีพ่ ระธรรมเปน ธรรมดี และความปฏิบตั ิดีของพระสงฆ. บทวา อุเปโต ชนิ สาสเน ไดแก เขา ถงึ การปฏิบตั ชิ อบในศาสนาของพระศาสดา. การบรรพชาของเราไมไรผล เพราะเราไดบรรลพุ ระอรหตั . เพราะเหตนุ ั้นแล เราจึงช่อื วา เปนผไู มม หี นี้ บรโิ ภคโภชนะ เพราะบรโิ ภคดว ยสามบี รโิ ภค บริโภคโดยความเปนเจา ของดว ยอาํ นาจความหมดกิเลส. บทวา กาเม อาทติ ฺตโต ทสิ วฺ า ความวา เห็นวตั ถุกามและกเิ ลสกามท้ังหลาย โดยภาวะที่ถกู ไฟ ๑๑ กองตดิ โชนแลว. บทวา ชาตรูปานิ สตฺถโต ไดแ ก สุวรรณพกิ ัตทกุ ชนิด อันตา งโดยทาํ เปน รปู พรรณและไมไดทําเปนรูปพรรณ โดยเปนศาสตรา เพราะเปนของนาํ ความพินาศมา. บทวา คพฺภโวกกฺ นฺตโิ ต ทุกฺข ไดแ ก ทกุ ขอนั เกิดจากความเปนไปในสงสารทั้งปวง จําเดิมแตกา วลงสูครรภ. บทวา นิรเยสุ มหพภฺ ย มีวาจาประกอบความวา และเหน็ ภัยใหญที่จะไดร ับในมหานรกท้งั ๘ ขมุ พรอ มดวยอสุ สทนรก นรกทเ่ี ปนบริวาร ในที่ทุกแหง . บทวา เอตมาทนี ว ตฺวา ไดแก รอู าทีนพโทษแหง กามท้ังหลายนี้ มีความทีไ่ ฟติดทวั่ แลว เปน ตน ในสงสาร. บทวา ส เวค อลภึ คทา ความวา ในเวลาทีไ่ ดฟง ธรรมในสาํ นักของพระศาสดานน้ั เราไดค วามสงั เวชในภพเปนตน. บทวา วทิ ฺโธ ตทา สนฺโต ความวา ในเวลาท่เี ราเปน คฤหัสถ
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 75นนั้ เราเปนผูถกู เสยี บแทงดว ยลูกศรคือราคะเปน ตน บดั นี้ ไดถึงความสิ้นอาสวะ เพราะอาศยั คาํ สอนของพระศาสดา, อีกอยา งหน่ึง เรารแู จงแลว อธบิ ายวา รูแจงเฉพาะแลวซึง่ สัจจะทัง้ ๔. คําทีเ่ หลือเขาใจไดงายทั้งน้นั เพราะไดกลาวไวใ นระหวาง ๆ เปนตน. พระเถระครั้นแสดงธรรมแกพ ระเจา โกรพยะอยางนี้แลว ไปเฝาพระศาสดาทีเดยี ว และในกาลตอมา พระศาสดาประทับน่งั ในทา มกลางอรยิ สงฆ ทรงสถาปนาพระเถระไวใ นตําแหนง ผเู ลิศกวา ภิกษทุ งั้ หลายผบู วชดว ยศรทั ธา ฉะน้ีแล. จบอรรถกถารัฐปาลเถรคาถาท่ี ๔
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 76 ๕. มาลุงกยปุตตเถรคาถา วา ดว ยผูห างไกลพระนพิ พาน[๓๘๙] เมือ่ บุคคลไดเห็นรปู แลว มวั ใสใจถงึ รปู น้ันวาเปน นิมติ ทน่ี ารัก สตกิ ็หลงลมื เมื่อเปน เชน นั้น ผูน้ันยอมมี จติ กาํ หนดั เพลดิ เพลนิ อยู ท้ังยดึ ม่ันรูปนน้ั ดว ย เวทนามใิ ชน อ ยซ่งึ มีรูปเปน แดนเกดิ ยอ มเจรญิ มากขึ้นแกผนู ้ัน อภิชฌาและวหิ ิงสา ยอ มเบียดเบยี นจติ ของผนู ้นั ใหเดือด-รอน ความทกุ ขย อ มเปนไปแกผูน้นั ผูมวั คํานงึ ถึงรปู อยู อยา งนัน้ พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสผูน้นั วา เปน ผหู างไกลพระนพิ พาน. เม่อื บุคคลไดฟง เสียงแลว มัวใสใ จถึงเสยี งนน้ั วาเปน นมิ ิตท่ีนารัก สตกิ ็หลงลืม เม่ือเปน เชน นั้น ผนู ้ันยอมมจี ติ กําหนดั เพลิดเพลินอยู ทัง้ ยึดมัน่ เสียงนัน้ ดว ย เวทนามิใชน อ ยซึ่งมเี สียงเปน แดนเกิด ยอ มเจรญิ มากข้ึนแกผูนั้น อภิชฌาและวหิ ิงสายอ มเบยี ดเบยี นจิตของผนู ั้น ใหเดอื ดรอน ความทุกขยอมเปน ไปแกผูนน้ั ผมู ัวคํานงึถึงเสยี งอยูอยางนัน้ พระผูมีพระภาคเจาตรัสผนู ้นั วา เปนผูหางไกลพระนพิ พาน. เม่อื บุคคลไดด มกลน่ิ แลว มัวใสใ จถึงกล่นิ นัน้ วา เปนนิมติ ท่ีนา รกั สตกิ ห็ ลงลมื เมอื่ เปน เชนน้ัน ผนู น้ั ยอ มมี จติ กําหนัดเพลิดเพลินอยู ทง้ั ยึดมนั่ กล่ินนนั้ ดวย เวทนา
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 77มิใชนอ ยซ่ึงมีกลนิ่ เปนแดนเกดิ ยอ มเจริญมากข้นึ แกผูน ัน้ อภชิ ฌาและวิหงิ สายอ มเบียดเบยี นจิตของผนู น้ั ใหเดอื ดรอ น ความทุกขย อ มเปน ไปแกผ นู ้ัน ผูมัวคํานึงถงึกลนิ่ อยอู ยางนั้น พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั ผนู ้นั วา เปน ผูหางไกลพระนิพพาน. เมอ่ื บคุ คลใดล้มิ รสแลว มวั ใสใจถึงรสน้นั วาเปน นิมติทน่ี ารัก สติก็หลงลมื เมือ่ เปน เชน นน้ั ผูน้ันยอมมจี ิตกําหนัดเพลิดเพลินอยู ทัง้ ยึดมน่ั รสน้นั ดวย เวทนามใิ ชนอ ยซ่งึ มีรสเปนแดนเกิด ยอ มเจริญมากข้ึนแกผ ูน้นัอภิชฌาและวิหิงสา ยอ มเบยี ดเบยี นจิตของผูน้ันใหเ ดือดรอน ความทกุ ขยอ มเปนไปแกผูนนั้ ผูม วั คํานงึ ถงึ รสอยูอยางน้นั พระผมู ีพระภาคเจาตรสั ผนู ้ันวา เปน ผหู า งไกลพระนิพพาน. เมอื่ บคุ คลถูกตอ งผสั สะแลว มวั ใสใจถงึ ผสั สะนน้ั วาเปนนมิ ติ ทน่ี า รัก เมือ่ เปนเชน น้ัน ผูนั้นยอ มมีจติ กําหนัดเพลิดเพลนิ อยู ทงั้ ยดึ มนั่ ผสั สะนั้นดวย เวทนามิใชนอ ยซง่ึ มผี สั สะเปนแดนเกิด ยอมเจรญิ มากขน้ึ แกผูนน้ัอภชิ ฌาและวหิ ิงสา ยอมเบยี ดเบียนจิตของผนู ั้นใหเดือดรอน ความทกุ ขย อ มเปนไปแกผนู ั้น ผูม วั คํานึงถงึ ผัสสะอยอู ยางน้ัน พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสผูน ้นั วา เปนผูหางไกลพระนพิ พาน.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 78 เมอื่ บคุ คลรธู รรมารมณแ ลว มัวใสใจถึงธรรมารมณ(น้ัน) วา เปนนิมิตทน่ี ารกั สตกิ ็หลงลมื เม่อื เปนเชน นัน้ผูน ้ันยอมมีจิตกาํ หนัดเพลิดเพลนิ อยู ทง้ั ยึดม่นั ธรรมารมณน้ันอยู เวทนามใิ ชนอ ยซึ่งมีธรรมารมณเ ปน แดนเกิด ยอ มเจรญิ ขึ้นมากแกผนู ั้น อภชิ ฌาและวิหิงสายอ มเบียดเบยี นจติ ของผนู ้ันใหเ ดือดรอน ความทกุ ขย อ มเปนไปแกผูน น้ัผูมวั คํานึงถงึ ธรรมารมณอ ยอู ยา งน้นั พระผูมพี ระภาคเจาตรัสผนู นั้ วา เปนผหู างไกลพระนิพพาน. สว นผูใ ดเห็นรูปแลว เปนผูมีสตเิ ฉพาะหนา ผนู ัน้ ไมกําหนดั ยนิ ดใี นรูป เปนผมู ีจิตคลายกาํ หนัดเสวยอารมณอยู ท้ังไมยดึ มน่ั รปู น้ัน กิเลสชาติมอี ภชิ ฌาเปน ตน ยอมไมเปน ไปแกพระโยคี ผูเห็นรูปโดยความเปนของไมเท่ียงเปนตน หรอื แมก เิ ลสทง้ั ปวงของพระโยคีผูเสวยเวทนาอยู ยอ มสน้ิ ไป กอ รากขนึ้ ไมไดฉ ันใด ผนู ัน้ มสี ติประพฤตอิ ยูฉนั นัน้ ทุกขยอมไมเปน ไปแกผนู ั้น ผูไมคํานึงถงึ อยางนน้ั พระผูม ีพระภาคเจาตรสั ผูนน้ั วา มใี นที่ใกลพ ระนพิ พาน. ผูใดไดฟงเสียงแลว เปนผูมสี ติเฉพาะหนา ผูนัน้ ไมกาํ หนัดยนิ ดใี นเสียง เปน ผมู ีจิตคลายกาํ หนัดเสวยอารมณ ทั้งไมย ดึ ม่นั เสียงนัน้ กเิ ลสชาติมีอภชิ ฌาเปน ตน ยอมไมเ ปน ไปแกพระโยคีผูไ ดฟ งเสยี ง โดย
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 79ความเปนของไมเท่ยี งเปน ตน กเิ ลสทัง้ ปวงของพระโยคีผูเสวยเวทนาอยู ยอ มสิ้นไป กอรากข้นึ ไมไดฉ ันใดผนู ้นั เปน ผูมสี ติประพฤติอยูก ็ฉันน้ัน ทุกขยอมไมเปนไปแกผูนน้ั ผไู มค าํ นงึ ถงึ อยา งนั้น พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสผูนั้นวา มีในทใ่ี กลพ ระนิพพาน. ผใู ดไดดมกลิน่ แลว เปน ผมู ีสติเฉพาะหนา ผูน ัน้ ไมกาํ หนัดยนิ ดีในกลน่ิ เปน ผูม ีจติ คลายกําหนดั เสวยอารมณอยู ยอ มไมเ ปนไปแกพ รโยคีผดู มกล่นิ โดยความเปนของไมเทีย่ งเปน ตน หรือแมก เิ ลสท้งั ปวงของพระโยคีผเู สวยเวทนาอยูย อมสิ้นไป กอ รากข้ึนไมไ ดฉันใด ผูน ัน้เปน ผมู ีสตปิ ระพฤติอยฉู นั นนั้ ทุกขย อมไมเปนไปแกผูน ั้น ผูไ มคาํ นงึ ถงึ อยูอยา งน้นั พระผูม ีพระภาคเจาตรัสผนู ัน้ วา มใี นท่ีใกลพ ระนพิ พาน. ผูใดไดลิม้ รสแลว เปน ผูมีสติเฉพาะหนา ผนู น้ั ไม กําหนดั ยนิ ดีในรส เปน ผูมจี ิตคลายกาํ หนดั เสวยอารมณอยู ท้ังไมย ึดมน่ั รสน้นั กเิ ลสชาตมิ ีอภชิ ฌาเปนตน ยอ ม ไมเปนไปแกพระโยคผี ูล้มิ รส ความเปน ของไมเ ทย่ี งเปนตน กิเลสทั้งปวงของพระโยคผี ูเ สวยเวทนาอยูยอ มสน้ิ ไป กอ รากข้ึนไมไ ดฉันใด ผนู ้นั เปน ผมู สี ติประพฤติอยกู ฉ็ ันนนั้ ทกุ ขย อมไมเปน ไปแกผ นู นั้ ผูไมคาํ นึงถงึอยา งนั้น พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสผูน ัน้ วา มใี นทีใ่ กลพระนพิ พาน.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 80 ผใู ดถูกตองผสั สะแลวเปนผูม ีสตเิ ฉพาะหนา ผนู ้นั ไมกําหนดั ยินดใี นผสั สะ เปนผมู ีจติ คลายกําหนดั เสวยอารมณอ ยู ทัง้ ไมย ึดม่นั ผสั สะนั้น กเิ ลสชาตมิ ีอภิชฌาเปนตน ยอมไมเ ปน ไปแกพระโยคผี ถู กู ตอ งผัสสะ โดยความเปนของไมเ ทยี่ งเปนตน กเิ ลสท้ังปวงของพระโยคีผเู สวยเวทนาอยูย อมสิน้ ไป ไมกอ รากขน้ึ ไดฉนั ใด ผนู ้ันเปน ผูมีสตปิ ระพฤตอิ ยูก็ฉนั นน้ั ทกุ ขยอ มไมเปน ไปแกผนู ั้น ผไู มค าํ นงึ ถึงอยา งนั้น พระผมู พี ระภาคเจาตรัสผนู นั้ วา มีในทีร่ ักใกลพระนพิ พาน. ผูใดรูแจง ธรรมารมณแลว เปน ผูมีสตเิ ฉพาะหนาผนู ั้นไมกําหนัดยนิ ดีในธรรมารมณ เปน ผูมีจติ คลายกาํ หนดั เสวยอารมณอ ยู ทัง้ ไมย ดึ ม่ันธรรมารมณน้ันกเิ ลสชาติมอี ภชิ ฌาเปน ตน ยอมไมเ ปน ไปแกพระโยคผี ูรูแจง ธรรมารมณ โดยความเปนของไมเ ท่ยี งเปน ตน หรือแมกิเลสทง้ั ปวงของพระโยคีผูเ สวยเวทนาอยู ยอมสิ้นไปไมกอรากข้นึ ไดฉ ันใด ผนู ัน้ เปนผูมีสตปิ ระพฤตอิ ยูก็ฉันนน้ั ทกุ ขยอ มไมเ ปนไปแกผูนั้น ผูไ มค ํานงึ ถงึ อยา งนนั้พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสผนู นั้ วา มใี นทใ่ี กลพ ระนิพพาน. จบมาลงุ กยปุตตเถรคาถา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 81 อรรถกถามาลงุ กยปุตตเถรคาถาท่ี ๕ คาถาของทา นพระมาลงุ กยปตุ ตปเถระ มคี าํ เรม่ิ ตนวา รูป ทิสฺวาสติ มุฏ า ดังน้.ี เรอื่ งของทา นผมู ีอายนุ ีไ้ ดกลาวไวแลว ในฉักกนิบาตในหนหลงั แล, กค็ าถาเหลาน้นั พระเถระผดู ํารงอยใู นพระอรหัต ไดกลาวแกพวกญาตดิ ว ยอาํ นาจเทศนา. สวนในที่นี้ ในคราวทเี่ ปนปถุ ุชน เมื่อพระศาสดาผอู นั พระเถระออ นวอนวา ขาแตพ ระองคผเู จรญิ ดังขาพระองคข อวโรกาส ขอพระผูมีพระภาคเจาโปรดทรงแสดงธรรมแกขา พระองคโ ดยยอ จึงทรงแสดงธรรมโดยยอ วา ดกู อนมาลุงกยบุตร เธอจะสาํ คญั ความขอ นั้นเปนไฉน รูปเหลา น้นั ใด ท่พี งึ รูแจง ทางจกั ษไุ มไดแลว ท้งั ไมเคยเห็นแลวเธอไมไดเห็นรปู เหลานนั้ และเราไมพึงเหน็ รูปเหลานั้นวา มอี ยู เธอจะมีความพอใจ ความใคร และความรกั ในรูปน้ันหรือ. ขอ นน้ั ไมเ ปน อยา งนนั้ พระเจาขา. เสียงเหลา น้ันใดท่จี ะพึงรูแจง ทางหู ฯ ล ฯ กลิน่ รสโผฏฐพั พะทจ่ี ะพึงรแู จงทางจมกู ทางลนิ้ และทางกาย ฯลฯ ธรรม-ทง้ั หลายนนั้ ใดท่ีจะพงึ รูแจง ทางใจ เธอยังไมรูแจงแลว ทั้งไมเคยรแู จงแลว เธอไมร ูแจง ธรรมเหลา นน้ั เรากไ็ มพ ึงรแู จงธรรมเหลา นั้น วา มีอยูเธอยอ มมีความพอใจ ความใคร หรือความรกั ในธรรมนน้ั หรือ. ขอน้นัไมเ ปน อยา งนั้น พระเจา ขา. ดูกอนมาลงุ กยบตุ ร กบ็ รรดาธรรมทั้งหลายที่เธอไดเห็น ไดฟ ง ไดทราบและไดรแู จง ในท่ีน้ี จกั เปน เพียงแตเ ห็นในรูปทไี่ ดเหน็ จกั เปน แตเ พียงไดฟงในเสียงท่ีไดฟ ง จักเปน แตเ พียงไดทราบในอารมณทไ่ี ดทราบ จักเปน แตเ พยี งไดรแู จงในธรรมที่ไดรูแจง .ดูกอนมาลุงกยบุตร เพราะเหตทุ ีใ่ นบรรดาธรรมทีเ่ ธอเห็นแลว ไดฟง แลว
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 82ไดทราบแลว และพงึ รูแจง จกั เปน แตเ พียงไดเห็นในรปู ท่ีไดเห็นแลวจกั เปนแตเพยี งไดฟ งในเสยี งท่ีไดฟ งแลว จักเปนแตเพยี งไดทราบในอารมณท ่ีไดทราบแลว จักเปน แตไดร แู จงในธรรมทไ่ี ดรแู จงแลว . ดกู อ นมาลุงกยบตุ ร เพราะเหตุนนั้ เธอก็จะไมม ีดว ยส่งิ น้นั . ดูกอนมาลงุ กยบุตรเพราะเหตทุ ่เี ธอไมม ีดว ยส่ิงน้ัน. ดกู อนมาลุงกยบุตร เพราะเหตนุ ้นั เธอก็จะไมมีในส่งิ น้นั . ดกู อนมาลงุ กยบุตร เพราะเหตุที่เธอไมมีในสิง่ นั้น.ดูกอ นมาลงุ กยบตุ ร เพราะเหตนุ ้ัน เธอก็จะไมม ีในโลกน้ี ไมม ีในโลกหนาไมมีในระหวางโลกทัง้ สอง, น่ีแหละ เปน ทีส่ ุดแหงทุกข ดงั น้ี เมื่อจะประกาศความที่ธรรมนนั้ เปนธรรมอันตนเรยี นดีแลว จึงไดกลา วคาถาเหลานัน้ วา เม่ือบคุ คลไดเหน็ รูปแลว มวั ใสใ จถึงรูปนนั้ วา เปน นิมติ ท่ีนารัก สติกห็ ลงลืม เม่อื เปน เชนนั้น ผนู ้ันยอม มีจิตกําหนดั เพลิดเพลนิ อยู ท้ังยดึ มน่ั รปู น้นั ดวย. เวทนา มิใชนอ ยซ่ึงมีรูปเปนแดนเกิด ยอ มเจริญมากขนึ้ แกผนู ้ัน อภชิ ฌาและวิหงิ สา ยอมเบียดเบยี นจติ ของผูนั้นใหเ ดือด- รอน. ความทุกขยอมเปน ไปแกผ นู ัน้ ผมู ัวคํานงึ ถงึ รูปอยู อยางน้นั พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั เรียกผูน ั้นวา เปนผู หางไกลพระนพิ พาน. เมื่อบคุ คลไดฟ ง เสยี งแลว มวั ใสร อเสยี งนั้นวาเปน นมิ ติ ทนี่ า รกั สตกิ ห็ ลงลืม เมอื่ เปนเชนนน้ั ผูน นั้ ยอมมี จติ กาํ หนดั เพลิดเพลินอยู ท้งั ยึดมัน่ เสยี งน้ันดว ย เวทนา
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 83มใิ ชนอย ซึง่ มเี สยี งเปนแดนเกดิ ยอ มเจรญิ มาขึ้นแกผูน ้ัน อภชิ ฌาและวหิ งิ สายอ มเบียดเบียนจติ ของผูนน้ั ใหเดอื ดรอ น ความทุกขยอ มเปนไปแกผูน ้ัน ผูม วั คาํ นึงถึงเสียงอยอู ยางนน้ั พระผูมีพระภาคเจา ตรัสเรยี กผูนน้ั วาเปน ผหู า งไกลพระนิพพาน. เม่ือบคุ คลไดดมกลนิ่ แลว มัวใสใจถึงกล่ินนนั้ วาเปนนมิ ติ ท่ีนารกั สติกห็ ลงลมื เมือ่ เปน เชน นัน้ ผนู ้นั ยอ มมจี ติ กาํ หนดั เพลิดเพลินอยู ทงั้ ยดึ มัน่ กลน่ิ นน้ั ดวย เวทนามใิ ชน อยซึง่ มีกล่นิ เปนแดนเกิด ยอ มเจรญิ มากขน้ึ แกผูนนั้ อภชิ ฌาและวหิ งิ สายอมเบยี ดเบยี นจติ ของผนู นั้ใหเดอื ดรอน ความทุกขยอมเปนไปแกผนู ัน้ ผูมวั คํานงึถึงกล่ินอยูอยา งนั้น พระผมู พี ระภาคเจาตรัสเรยี กผนู ้ันวาเปน ผหู า งไกลพระนิพพาน. เมื่อบุคคลใดลิม้ รสแลว มัวใสใจถึงรสนั้นวาเปนนมิ ติ ทน่ี า รัก สติก็หลงลืม เม่ือเปนเชน นัน้ ผูนนั้ ยอ มมีจติ กําหนดั เพลิดเพลินอยู ท้งั ยดึ มัน่ รสน้ันดวย เวทนามิใชน อ ยซงึ่ มีรสเปนแดนเกิด ยอ มเจรญิ มากข้นึ แกผ ูนนั้อภิชฌาและวิหิงสา ยอ มเบยี ดเบยี นจิตของผนู นั้ ใหเ ดือดรอน ความทุกขย อมเปน ไปแกผ นู ้นั ผูม ัวคาํ นึงถงึ รสอยูอยา งนั้น พระผูมีพระภาคเจา ตรสั เรียกบคุ คลน้นั วา เปนผหู า งไกลพระนิพพาน.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ที่ 84 เมื่อบคุ คลถูกตอ งผัสสะ มัวใสใ จถงึ ผสั สะนัน้ วา เปนนมิ ติ ทีน่ ารัก เมอ่ื เปนเชน นั้น ผนู ้ันยอมมีจติ กําหนัดเพลดิ เพลนิ อยทู ั้งยึดมัน่ ผัสสะนั้นดว ย เวทนานใิ ชน อ ยซงึ่ มผี ัสสะเปน แดนเกิด ยอมเจรญิ มากขึ้นแกผูน ัน้อภชิ ฌาและวิหิงสา ยอ มเบยี ดเบียนจติ ของผูน้นั ใหเดอื ดรอน ความทุกขยอมเปนไปแกผ นู นั้ ผมู วั คํานึงถึงผสั สะอยูอยางนนั้ พระผูม พี ระภาคเจา ตรสั เรียกผนู ั้นวา เปนผูหา งไกลพระนิพพาน. เม่ือบุคคลรูธ รรมารมณแลว มวั ใสใจถงึ ธรรมารมณน้นั วา เปน นมิ ิตที่นา รัก สตกิ ห็ ลงลมื เมอื่ เปนเชน นน้ั ผูน ้ันยอ มมีจติ กาํ หนัดเพลดิ เพลินอยู ท้งั ยดึ มั่นธรรมารมณน น้ัอยู เวทนามใิ ชน อ ยซึ่งมธี รรมารมณเ ปน แดนเกิด ยอมเจรญิ ขึน้ มากแกผนู ้นั อภชิ ฌาและวิหิงสายอมเบียดเบยี นจติ ของผูน้ันใหเดือดรอน ความทุกขยอ มเปน ไปแกผ ูนน้ัผมู ัวคํานงึ ถึงธรรมารมณอยูอยา งนัน้ พระผูม พี ระภาคเจาตรัสเรยี กผนู นั้ วา เปน ผูห างไกลพระนพิ พาน. สว นผูใดเห็นรูปแลวเปนผมู ีสติเฉพาะหนา ผนู ัน้ ไมกําหนดั ยนิ ดใี นรปู เปนผมู ีจติ คลายกําหนดั เสวยอารมณอยู ท้งั ไมย ดึ มน่ั รปู น้นั กิเลสชาตมิ อี ภิชฌาเปน ตน ยอ มไมเ ปน ไปแกพ ระโยคีผูเห็นรูป โดยความเปนของไมเ ท่ียงเปน ตน หรือแมก เิ ลสทั้งปวงของพระโยคีผเู สวยเวทนาอยู
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ที่ 85ยอ มสิ้นไป กอรากขึ้นไมไดฉ นั ใด ผนู นั้ มีสติประพฤติอยูก็ฉันนั้น ทุกขยอ มไมเปน ไปแกผ นู น้ั ผไู มค าํ นงึ ถงึ อยา งนน้ั พระผมู พี ระภาคเจาตรสั เรยี กผูนั้นวา มีในท่ีใกลพระนิพพาน. ผูใดไดฟ งเสยี งแลวเปน ผมู ีสตเิ ฉพาะหนา ผนู น้ั ไมกําหนดั ยินดีในเสียง เปน ผมู ีจิตคลายกําหนดั เสวยอารมณอยู ทงั้ ไมย ึดมน่ั เสียงน้ัน กเิ ลสชาตมิ อี ภิชฌาเปน ตนยอมไมเปนไปแกพ ระโยคผี ไู ดฟง เสยี ง โดยความเปนของไมเท่ยี งเปน ตน กเิ ลสท้ังปวงของพระโยคผี เู สวยเวทนาอยยู อ มส้นิ ไป กอรากข้นึ ไมไดฉันใด ผูน้นั เปน ผูมสี ติประพฤติอยูก็ฉนั นั้น ทกุ ขยอ มไมเปน ไปแกผ ูนัน้ผูไ มคาํ นงึ ถงึ อยางน้นั พระผูมีพระภาคเจา ตรัสเรียกผนู นั้วา มีในท่ีใกลพระนพิ พาน. ผูใดไดดมกลนิ่ แลว เปน ผมู สี ตเิ ฉพาะหนา ผนู น้ั ไม กําหนัดยนิ ดีในกลน่ิ เปนผูมีจิตคลายกําหนัดเสวยอารมณอยู ทงั้ ไมยดึ มนั่ กลิน่ น้นั กเิ ลสชาตมิ อี ภชิ ฌาเปนตนยอมไมเ ปนไปแกพระโยคี ผูด มกล่ินโดยความเปน ของไมเที่ยงเปนตน หรือแมกิเลสชาติทง้ั ปวงของพระโยคผี เู สวยเวทนาอยยู อ มส้นิ ไป กอ รากข้นึ ไมไ ดฉันใด ผนู นั้ เปนผูมีสติประพฤตอิ ยกู ฉ็ ันนัน้ ทกุ ขย อ มไมเ ปน ไปแกผ ูน ้นัผไู มค าํ นงึ ถงึ อยูอยางน้นั พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั เรียกผูน้นั วา มีในท่ีใกลพ ระนพิ พาน.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ท่ี 86 ผใู ดไดลม้ิ รสแลว เปน ผมู สี ตเิ ฉพาะหนา ผนู ้นัไมกาํ หนัดยินดีในรส เปนผูมีจิตคลายกําหนัดเสวยอารมณอ ยู ทง้ั ไมย ดึ มั่นรสนน้ั กเิ ลสชาตมิ ีอภชิ ฌาเปนตนยอ มไมเ ปน ไปแกพระโยคีผลู ิ้มรส โดยความเปนของไมเทยี่ งเปน ตน กิเลสทั้งปวงของพระโยคผี ูเสวยอารมณอ ยูยอ มสนิ้ ไป กอรากข้ึนไมไดฉันใด ผูน้นั เปน ผูมีสติประพฤติอยกู ็ฉนั นัน้ ทุกขย อมไมเ ปนไปแกผนู ั้น ผูไมคาํ นึงถงึ อยางนนั้ พระผมู ีพระภาคตรัสเรียกผูน้นั วามใี นท่ใี กลพระนพิ พาน. ผูใดถกู ตองผสั สะแลว เปนผูมสี ตเิ ฉพาะหนา ผนู ั้นไมกําหนัดยินดใี นผัสสะ เปน ผมู จี ติ คลายกาํ หนัดเสวยอารมณอยู ท้งั ไมยึดมั่นผสั สะนั้น กิเลสชาตมิ ีอภชิ ฌาเปน ตน ยอ มไมเปนไปแกพ ระโยคีผถู กู ตองผสั สะโดยความเปนของไมเท่ียงเปน ตน กิเลสทงั้ ปวงของพระโยคีผเู สวยเวทนาอยยู อ มส้นิ ไป ไมก อรากข้นึ ไดฉ นั ใด ผนู น้ัเปน ผูมสี ตปิ ระพฤตอิ ยกู ็ฉนั นน้ั ทกุ ขยอมไมเ ปนไปแกผนู ้นั ผูไ มคํานงึ อยางน้นั พระผูมพี ระภาคเจา ตรสัเรียกผูน้ันวา มีในที่ใกลพระนิพพาน. ผใู ดรูแจงธรรมารมณแ ลว เปน ผูมสี ติเฉพาะหนา ผนู น้ัไมก าํ หนัดยินดใี นธรรมารมณ เปนผูม จี ิตคลายกําหนดัเสวยอารมณอ ยู ทั้งไมยึดม่นั ธรรมารมณน ัน้ กเิ ลสชาติมอี ภิชฌาเปน ตน ยอ มไมเ ปนไปแกพระโยคผี ูร ูแจง
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนา ที่ 87 ธรรมารมณโ ดยความเปน ของไมเ ทย่ี งเปน ตน หรือแม กิเลสทง้ั ปวงของพระโยคผี เู สวยเวทนาอยยู อ มส้นิ ไป ไม กอรากขน้ึ ไดฉ นั ใด ผูนนั้ เปน ผูมสี ติประพฤตอิ ยูฉันน้ัน ทุกขยอมไมเ ปน ไปแตผนู ัน้ ผูไมคาํ นงึ ถึงอยางนัน้ พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั เรยี กผูน นั้ วา มใี นทใ่ี กลพ ระ- นิพพาน. บรรดาบทเหลา น้นั บทวา รูป ทิสฺวา ไดแ ก เขาไปไดเ หน็ รปูท่พี ึงรแู จงดว ยจักษุ ทางจกั ษุทวาร. บทวา สติ มุฏ า ปย นิมติ ตฺ มนสิ กโรโต ความวา เมือ่ บคุ คลไมต ง้ั อยใู นรูปนนั้ เพียงสกั วา เห็นเทา น้ัน ใสใจถงึ สภุ นมิ ติ คอื กระทาํ ไวในใจโดยไมแ ยบคาย ดว ยอาการถอื อาวางาม สตยิ อมหลงลมื . กเ็ ม่ือเปนเชน นน้ั ผนู ้ันเปน ผูมจี ติ กําหนดั เสวยอารมณอยู คือเปน ผกู าํ หนัดติดขอ งรูปารมณน ้ัน เสวยอารมณเ พลดิ เพลนิ ยินดยี ่งิ อย,ู กบ็ คุ คลผูเปนอยา งนน้ัยอมยึดม่ันรูปารมณนั้นดว ย อธิบายวา ยึดรปู ารมณน นั้ คอื ยึดม่นั วา เปนสุข ๆ กลนื เอาไวหมด แลวดาํ รงอยู. บทวา ตสสฺ วฑฺฒนตฺ ิ เวทนา อเนกา รปู สมภฺ วา ความวาเวทนามใิ ชนอยตา งโดยสขุ เวทนาเปน ตน ซ่ึงมรี ปู เปน แดนเกิด คอื มรี ปูเปน อารมณ อันมกี ารเกิดขึ้นแหง กิเลสเปนตวั เหตุ ยอ มเจรญิ ยิง่ แกบคุ คลนั้น คือผเู หน็ ปานนั้น. บทวา อภิชฌฺ า วเิ หสา จ จติ ฺตมสฺสปู หฺ ติ ความวา จติ ของบุคคลนนั้ ถกู อภิชฌาอนั เกิดในปยรูป ดวยอํานาจความกําหนดั และวิหิงสาอนั มีความเศราโศกเปน ลกั ษณะเกดิ ข้นึ เพราะปย รปู น้ันแหละ
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เถรคาถา เลม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หนาท่ี 88มกี ารเปลยี่ นแปลงไปเปนอยา งอนื่ ดว ยอาํ นาจความชงิ ชงั ในรปู อนั ไมนารกั เบยี ดเบียนอย.ู บทวา เอวมาจนิ โต ทุกฺข ความวา วฏั ทกุ ขยอมเปนไปแกผ ูมัวคํานงึ ถงึ อภสิ ังขารคอื ภพนน้ั ๆ ดวยอํานาจความยนิ ดใี นการเสวยอารมณ.ดวยเหตนุ ้นั พระผมู พี ระภาคเจา จึงตรัสวา เพราะเวทนาเปนปจจยั จึงเกดิตณั หา ฯลฯ ความเกิดขน้ึ แหง กองทกุ ขยอมมี ดังน.้ี สําหรับบุคคลผเู ปน อยางน้นั พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสวา ไกล คอื หา งไกลพระนิพพานอธิบายวา พระนพิ พานน้ัน อนั บคุ คลนน้ั ไดย าก. แมในคาถามอี าทวิ า สททฺ สตุ วฺ า กพ็ ึงทราบเนอ้ื ความโดยนยัดังกลา วแลวน่ันแหละ. บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา ฆคฺวา แปลวา สดู ดมแลว . บทวาโภตวฺ า แปลวา ล้ิมแลว . บทวา ผุสฺส แปลวา ถกู ตองแลว. บทวา ธมฺม ตวฺ า ไดแก รูแจง ธรรมารมณ. พระเถระครน้ั แสดงวฏั ฏะของคนผูก ําหนัดในอารมณทางทวารท้งั ๖อยา งน้แี ลว บดั นี้ เมื่อจะแสดงวิวฏั ฏะพระนพิ พานของคนผไู มกําหนัดในอารมณน ัน้ จงึ กลาวคาํ มอี าทิวา น โส รชชฺ ติ รูเปสุ ดังน้.ี บรรดาบทเหลา นั้น บทวา น โส รชชฺ ติ รเู ปสุ รูป ทิสฺวาปฏิสฺสโต ความวา บุคคลใดเหน็ รูปแลว ยดึ เอารปู ารมณท่ีมาอยใู นคลองดว ยการสืบตอแหง วญิ ญาณอันเปน ไปในจักษทุ วาร ยอ มกลับเปนผไู ดส ติเพราะเปนผูกระทาํ ความรูตัวดวยสัมปชญั ญะทั้ง ๔ บุคคลนน้ั ยอ มไมกําหนดั คอื ไมท าํ ความกําหนดั ใหเกดิ ในรูปารมณท ั้งหลาย คอื เปนผมู ีจติคลายกําหนดั รูแจงอยูโดยแท เม่ือรแู จงตามความเปนจริงในรปู ารมณ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 570
Pages: