Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_31

tripitaka_31

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:36

Description: tripitaka_31

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 401 ๑๐. หาสปญญสูตร เจริญธรรม ๔ ประการเพ่อื มปี ญญารา เรงิ[๑๖๕๐] ... ยอ มเปนไปเพ่อื ความเปน ผูม ปี ญญารา เรงิ ... จบหาสปญญสูตรที่ ๑๐ ๑๑. ชวนปญญสูตร เจรญิ ธรรม ๔ ประการเพอื่ มปี ญญาไว[๑๖๕๑] ... ยอมเปน ไปเพื่อความมีปญ ญาไว ... จบชวนปญญสูตรท่ี ๑๑ ๑๒. ตกิ ขปญ ญสูตร เจริญธรรม ๔ ประการเพ่ือมปี ญ ญากลา[๑๖๕๒] ... ยอมเปน ไปเพ่อื ความมีปญ ญาคมกลา ... จบตกิ ขปญ ญสตู รที่ ๑๒

พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 402 ๑๓. นพิ เพธกิ ปญ ญสูตร เจรญิ ธรรม ๔ ประการเพื่อมปี ญญาชําแรกกิเลส [๑๖๕๓] ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อนั บคุ คลเจรญิแลว วาระทาํ ใหม ากแลว ยอ มเปน ไปเพือ่ ความเปน ผมู ปี ญญา เปนเคร่อื งชําแรกกเิ ลส ธรรม ๔ ประการเปน ไฉน คอื การคบสัตบุรุษ ๑. การฟง สทั -ธรรม ๑ การกระทําไวใ นใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัตธิ รรมสมควรแกธ รรม ๑ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ธรรม ๑ ประการนแ้ี ล อันบคุ คลเจรญิ แลว กระทําใหมากแลว ยอมเปน ไปเพอื่ ความเปนผูมปี ญ ญาเปนเครอื่ งชาํ แรกกิเลส. จบนิพเพธิกปญญสูตรท่ี ๑๓ จบมหาปญญวรรคที่ ๗

พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 403 มหาปญญวรรควรรณนาที่ ๗ พงึ ทราบอธบิ ายในมหาปญญวรรคท่ี ๗. พึงทราบเนื้อความในทุกบท ตามนัยที่กลาวในปฏสิ ัมภทิ าโดยนัยเปนตนวา ชอ่ื วา ผูม ปี ญ ญามาก เพราะอรรถวา กําหนดเอาในเน้อื ความมาก ในบทเปนตนวา ยอ มเปนไปเพอ่ื ความเปน ผมู ปี ญญามาก ดงั นีน้ ัน่ เทยี ว.คาํ ท่ีเหลอื ในทกุ ๆ บทต้ืนทัง้ น้ันแล. จบมหาปญ ญวรรควรรณนาที่ ๗ จบโสตาปตตสิ งั ยตุ ท่ี ๑๑ รวมพระสตู รท่มี ใี นวรรคน้ี คือ ๑. มหาปญ ญสูตร ๒. ปุถุปญ ญสตู ร ๓. วปิ ลุ ลปญญสตู ร ๔. คัมภีร-ปญญสูตร ๕. อัปปมตั ตปญญสูตร ๖. ภูริปญ ญสูตร ๗. พาหลุ ปญ ญสตู ร๘. สีฆปญญสตู ร ๙. ลหปุ ญญสตู ร ๑๐. หาสปญ ญสูตร ๑๑.ชวนปญ ญสตู ร๑๒. ติกขปญญสตู ร ๑๓. นพิ เพธกิ ปญญสูตร.

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 404 สจั จสงั ยุต สมาธิวรรคที่ ๑ ๑. สมาธสิ ตู ร ผมู ีใจต้งั มั่นยอ มรูตามความเปน จรงิ [๑๖๕๔] สาวัตถีนทิ าน ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย เธอทงั้ หลายจงเจริญสมาธิ ภกิ ษผุ มู ีใจต้ังมั่นแลว ยอ มรตู ามความเปนจรงิ ยอมรูอะไรตามความเปนจรงิ ยอมรตู ามความเปนจรงิ วา น้ที กุ ข น้ีทกุ ขสมุทยั น้ที กุ ขนิโรธน้ีทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เธอทงั้ หลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุผูมีใจต้ังมั่นแลวยอ มรตู ามความเปนจริง ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เพราะฉะนน้ั แหละ เธอท้งั หลายพึงกระทําความเพยี รเพ่อื รูตามความเปนจรงิ วา นีท้ ุกข นท้ี กุ ขสมุทยั นี้ทกุ ขนโิ รธ นที้ ุกขนโิ รธคามนิ ีปฏิปทา. จบสมาธสิ ูตรที่ ๑ สจั จสังยตุ ตาวรรณนา สมาธสิ ตู ร พงึ ทราบอธบิ ายในสมาธสิ ตู รท่ี ๑ แหง อรรถกถาสัจจสงั ยตุ . คาํ วา ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย... สมาธิ ความวา ไดยนิ วา ภกิ ษุเหลานัน้ ยอมเส่อื ม จากเอกคั คตาจิต (สมาธิ) ลําดบั นัน้ พระศาสดาทรง

พระสุตตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 405ปรารภเทศนาน้ี แกภิกษเุ หลานนั้ วา ภิกษเุ หลา นน้ั ไดค วามที่จติ มอี ารมณเลิศเปนหนึง่ อยางน้ี เจริญกรรมฐานแลว ก็จกั บรรลคุ ุณวิเศษได. พึงทราบการตัดเหตุ ดว ยอาํ นาจเหตุตามทเ่ี ปน จริง เปนตน ในบทนวี้ า ดูกอ นภิกษุท้งั หลายเพราะฉะน้นั แหละ เธอทงั้ หลาย พึงทําความเพยี รวา นี้ทกุ ข.กม็ ีคาํ อธบิ ายท่พี ระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ไวแลว นี้วา ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลายภกิ ษุมจี ติ ตงั้ มนั่ ยอมรทู วั่ สัจจะ ๔ ตามความเปน จริง เพราะเหตใุ ด เพราะเหตนุ ัน้เธอทง้ั หลายมีจติ ตัง้ มนั่ พงึ ทําความเพยี รวา น้ที กุ ข ดงั นี้ เพ่ือตอ งการรูสัจจะ ๔ ตามความเปน จรงิ . สัจจะ ๔ ยอมเปนธรรมชาตปิ รากฏแจม แจง แกพระตถาคตเจานั่นเทยี ว พระตถาคตเจา ทรงจําแนกไวด ีแลว ในสจั จะ ๔เหลาน้ัน การกลา วสรรเสรญิ ไมม ปี ระมาณ บทและพยญั ชนะไมม ปี ระมาณและวฏั ฏะยอมเจริญ เพราะสัจจะ ๔ เหลา น้นั อนั เธอทง้ั หลายมไิ ดแ ทงตลอดจาํ เดิมแตก าลแทงตลอดสจั จะ ๔ เหลา นน้ั วฏั ฏะกไ็ มเจรญิ เหตใุ ด เพราะเหตนุ ัน้ เธอท้งั หลายพงึ ทําความเพียรวา นี้ทุกข ดังน้ี ดว ยความหวงั วาวฏั ฏะจกั ไมเจรญิ อยางนี้. จบอรรถกถาสมาธิสตู รท่ี ๑

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 406 ๒. ปฏสิ ลั ลานสตู ร ผหู ลีกเรน อยูยอ มรตู ามความเปน จริง [๑๖๕๕] ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย เธอทงั้ หลายจงถึงความประกอบในการหลีกออกเรน อยู ภิกษผุ ูหลกี ออกเรนอยู ยอมรูตามความเปน จริง ยอ มรูอะไรตามความเปน จริง ยอมรตู ามความเปนจริงวา น้ที ุกข นี้ทกุ ขสมุทยันที้ กุ ขนโิ รธ น้ีทุกขนโิ รธคามนิ ีปฏิปทา เธอทง้ั หลายจงถงึ ความประกอบในการหลกี ออกเรน อยู ภิกษผุ ูหลกี ออกเรนอยู ยอมรตู ามความเปนจริง ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย เพราะฉะน้ันแหละ เธอทั้งหลายพงึ กระทําความเพียรเพ่อื รูต ามความเปนจริงวา นีท้ กุ ข ฯลฯ นท้ี ุกขนิโรธคามนิ ปี ฏปิ ทา. จบปฏสิ ลั ลานสตู รที่ ๒ อรรถกถาปฏิสลั ลานสตู ร ปฏสิ ลั ลานสตู รที่ ๒ ทานกลาวไวแลว เพอื่ ประโยชนแ กก ารไดเฉพาะความสงัดกาย แหง ภิกษุผูมคี วามไมปกติทางกายวเิ วก. จบอรรถกถาปฏิสลั ลานสูตรที่ ๒

พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 407 ๓. ปฐมกุลปุตตสตู ร ผูอ อกบวชโดยชอบเพ่ือรอู รยิ สจั ๔ [๑๖๕๖] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย กก็ ุลบตุ รเหลาใดเหลา หนึ่งในอดีตกาลออกบวชเปนบรรพชติ โดยชอบ กุลบุตรเหลานั้นทัง้ หมด ออกบวชแลวเพือ่ รูอรยิ สัจ ๔ ตามความเปนจรงิ กลุ บตุ รเหลาใดเหลาหนง่ึ ในอนาคตกาล จกัออกบวชเปน บรรพชิตโดยชอบ กลุ บตุ รเหลานน้ั ทง้ั หมด จกั ออกบวชเพื่อรูอรยิ สัจ ๔ ตามความเปน จรงิ กุลบุตรเหลาใดเหลา หน่งึ ในปจจบุ นั กาล ออกบวชเปนบรรพชิตโดยชอบกลุ บุตรเหลา นนั้ ทัง้ หมดออกบวชอยู เพือ่ รอู ริยสจั ๔ตามความเปน จริง อริยสจั ๔ เปน ไฉน คอื ทุกขอรยิ สัจ ทกุ ขสมุทยัอรยิ สัจ ทกุ ขนิโรธอรยิ สัจ ทกุ ขนโิ รธคามนิ ีปฏปิ ทาอรยิ สัจ ก็กุลบตุ รเหลาใดเหลาหนงึ่ ในอดีตกาล... ในอนาคตกาล... ในปจ จบุ ันกาล ออกบวชเปนบรรพชติ โดยชอบ กลุ บตุ รเกลา น้ันทง้ั หมดออnบวชเพ่ือรูอ รยิ สัจ ๔ น้ีแลตามความเปนจริง ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย เพราะฉะน้ันแหละ เธอทั้งหลายพงึกระทาํ ความเพยี รเพื่อรูความความเปนจรงิ วา นี้ทุกข ฯลฯ นท้ี กุ ขนิโรธคามนิ ีปฏิปทา. จบปฐมกลุ ปตุ ตสตู รท่ี ๓

พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 408 อรรถกถาปฐมกุลปตุ ตสตู ร พึงทราบอธบิ ายในกุลปตุ ตสูตรท่ี ๓. คําวา เพือ่ รูย่ิง คือ เพอ่ื ประโยชนแกก ารรูยงิ่ . กพ็ ระผมู ีพระภาคเจาทรงประสงคเ อา ผูประพฤติลงในศาสนา ในบทนี้วา สมณะหรือพราหมณ. จบอรรถกถากลุ ปุตตสตู รท่ี ๓ ๔. ทตุ ิยกลุ ปตุ ตสูตร ผอู อกบวชโดยชอบรอู ริยสจั ๔ ตามเปนจรงิ [๑๖๕๗] ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลาย ก็กลุ บตุ รเหลาใดเหลา หนง่ึ ในอดีตกาลออกบวชเปน บรรพชติ โดยชอบ รูแลวตามความเปน จรงิ กลุ บุตรเหลา นน้ัทงั้ หมดรูแลวซง่ึ อรยิ สจั ๔ ตามความเปน จรงิ กลุ บุตรเหลา ใดเหลา หน่ึงในอนาคตกาล ออกบวชเปนบรรพชิตโดยชอบ จักรตู ามความเปน จริง กลุ บตุ รเหลาน้ันท้ังหมดจักรซู ึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเปน จรงิ กุลบุตรเหลา ใดเหลา หน่งึในปจจุบนั กาล ออกบวชเปนบรรพชิตโดยชอบ ยอ มรตู ามความเปน จริงกุลบุตรเหลา นน้ั ท้งั หมดยอ มรูซ ่ึงอริยสจั ๔ ตามความเปน จรงิ อรยิ สัจ ๔เปน ไฉน คือ ทกุ ขอรยิ สัจ ฯลฯ ทุกขนโิ รธคามนิ ปี ฏิบทาอรยิ สจั ก็กุลบตุ รเหลา ใดเหลา หนงึ่ ในอดตี กาล . . . ในอนาคตกาล . . . ในปจจุบนั กาล ออกบวชเปน บรรพชิตโดยชอบ รตู ามความเปน จรงิ กลุ บุตรเหลาน้นั ทงั้ หมดรซู ่ึงอริยสจั ๔ เหลาน้ี ตามความเปน จริง ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย เพราะฉะนั้นแหละ

พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 409เธอทง้ั หลายพึงกระทาํ ความเพียรเพ่ือรตู ามความเปน จริงวา นท้ี ุกข ฯลฯ นี้ทุกขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา. จบทตุ ิยกุลปตุ ตสูตรท่ี ๔ อธบิ ายความในทตุ ิยกุลปุตตสตู รที่ ๔ กเ็ หมอื นกัน. ๕. ปฐมสมณพราหมณสตู ร สมณพราหมณร อู ริยสจั ๔ ตามเปน จริง [ ๑๖๕๘] ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย กส็ รณะหรอื พราหมณเหลาใดเหลาหน่งึ ในอดตี กาล รูแ ลวตามความเปนจรงิ สมณะหรอื พราหมณเหลาน้ันทง้ั หมด รูแลว ซง่ึ อริยสัจ ๔ ตามความเปน จริง สมณะหรือพราหมณเหลาใดเหลา หน่ึงในอนาคตกาล จักรูตามความเปน จรงิ สมณะหรือพราหมณเ หลานั้นท้ังหมด จักรูซึ่งอริยสจั ๔ ตามความเปนจรงิ สมณะหรอื พราหมณเ หลาใดเหลาหนงึ่ ในปจ จุบันกาล ยอมรูตามความเปนจริง สมณะหรือพราหมณเหลาน่นั ทัง้ หมด ยอ มรูอรยิ สัจ ๔ ตามความเปนจรงิ อริยสจั ๔ เปนไฉนคือ ทกุ ขอริยสัจ ฯลฯ ทกุ ขนโิ รธคามินปี ฏปิ ทาอรยิ สจั ก็สมณะหรอื พราหมณเหลาใดเหลา หนงึ่ ในอดตี กาล...ในอนาคตกาล ... ในปจจุบนั กาล รูตาม

พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 410ความเปน จรงิ สมณะหรอื พราหมณเ หลา นั้นทั้งหมด รูซ ่งึ อริยสจั ๔ เหลานนั้ตามความเปนจริง ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย เพราะฉะนนั้ แหละ เธอทงั้ หลายพงึกระทําความเพยี รเพ่ือรตู ามความเปนจรงิ วา นีท้ ุกข ฯลฯ นท้ี ุกขนิโรธคามนิ ีปฏิปทา. จบปฐมสมณพราหมณสูตรที่ ๕ อรรถกถาปฐมสมณพราหมณสูตร พึงทราบอธบิ ายในปฐมสมณพราหมณสตู รท่ี ๕. ก็พระผูมีพระภาคเจา ตรัสสจั จะ ๔ เหลา น้นั ตามอธัยาศัยของผจู ะตรัสรู ดวยพระสูตร ดวยการตรสั แกภ กิ ษเุ หลา น้ัน. จบอรรถกถาปฐมสมณพราหมณสตู รท่ี ๕ ๖. ทุติยสมณพราหมณสูตร สมณพราหมณประกาศอริยสจั ๔ ทตี่ นรู [๑๖๕๙] ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย กส็ มณะหรอื พราหมณเหลา ใดเหลาหน่ึงในอดีตกาล ประกาศแลว ซึ่งสิง่ ทีต่ นรแู ลว ตามความเปนจริง สมณะหรือพราหมณเหลา น้นั ทง้ั หมด ประกาศแลวซ่งึ อริยสัจ ๔ วาเปนส่ิงทต่ี นรแู ลว ตามความเปนจรงิ สมณะหรือพราหมณเหลา ใดเหลาหน่ึงในอนาคตกาล จักประกาศ

พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 411ส่ิงท่ีตนรแู ลวตามความเปนจริง สมณะหรือพราหมณเ หลา น้ันท้งั หมด จกัประกาศอรยิ สัจ ๔ วาเปนสิ่งทตี่ นรแู ลวตามความเปนจรงิ สมณะหรือพราหมณเหลาใดเหลาหน่งึ ในปจ จุบนั กาล ประกาศอยซู ึ่งสง่ิ ทีต่ นรแู ลว ตามความเปนจริง สมณะหรอื พราหมณเหลาน้ันท้งั หมด ประกาศอยูซ งึ่ อรยิ สัจ ๔ วาเปน สง่ิ ที่ตนรูแลว ตามความเปนจรงิ อริยสจั ๔ เปนไฉน คือ ทกุ ขอริยสจั ฯลฯทกุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏิปทาอรยิ สจั กส็ มณะหรือพราหมณเ หลา ใดเหลา หน่ึงในอดีตกาล... ในอนาคตกาล ... ในปจจุบนั กาล ประกาศสง่ิ ทตี่ นรูแ ลวตามความเปนจริง สมณะหรอื พราหมณเหลาน้นั ทัง้ หมด ประกาศอรยิ สัจ ๔เหลา น้ี วา เปน สิง่ ทีต่ นรูแ ลว ตามความเปน จริง ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เพราะฉะน้นั แหละ เธอท้งั หลายพึงกระทําความเพยี รเพอื่ รตู ามความเปน จรงิ วานี้ทุกข ฯลฯ น้ที ุกขนโิ รธคามนิ ีปฏปิ ทา. จบทตุ ิยสมณพราหมณสตู รที่ ๖ อรรถกถาทุตยิ สมณพราหมณสูตร พึงทราบอธิบายในทตุ ยิ สมณพราหมสูตรที่ ๖. คาํ วา ประกาศแลว ซึ่งส่ิงที่ตนรูแลว ความวา ประกาศสิ่งทตี่ นรูเฉพาะแลว อยางนว้ี า เราเปนผูรพู รอ มเฉพาะแลว . กใ็ นพระสตู รนี้ พระผูมีพระภาคเจา ทรงถือเอาพระสพั พญั พู ุทธเจาทง้ั หลาย ดวยสมณศพั ท. จบอรรถกถาทตุ ิยสมณพราหมณส ตู รท่ี ๖

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 412 ๗. วิตกั กสตู ร* วา ดว ยการตรกึ ในอริยสัจ ๔ [๑๖๖๐] ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย เธอทงั้ หลายจงอยาตรกึ ถงึ อกุศลวิตกอนั ลามก คอื กามวิตก พยาบาทวิตก วิหงิ สาวิตก ขอนั้น เพราะเหตุไรเพราะวิตกเหลาน้ี ไมป ระกอบดว ยประโยชน ไมใชพรหมจรรยเ บือ้ งตน ยอ มไมเปน ไปเพ่อื ความหนาย ความคลายกาํ หนดั ความดบั ความสงบ ความรยู งิ่ความตรัสรู นพิ พาน กเ็ มอ่ื เธอทงั้ หลายจะตรกึ พงึ ตรึกวา นี้ทกุ ข ฯลฯนีท้ กุ ขนิโรธคามนิ ปี ฏปิ ทา ขอ น้ัน เพราะเหตุไร เพราะความตรึกเหลา น้ันประกอบดว ยประโยชนเปนพรหมจรรยเบอ้ื งตน ยอ มเปนไปเพือ่ ความหนา ยความคลายกําหนดั ความดบั ความสงบ ความรยู ง่ิ ความตรัสรู นิพพานดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย เพราะน้นั แหละ เธอทงั้ หลายพึงกระทําความเพยี รเพื่อรตู ามความเปนจริงวา น้ีทุกข ฯลฯ นีท้ ุกขนิโรธคามินปี ฏิปทา. จบวติ ักกสูตรท่ี ๗* สตู รท่ี ๗-๘-๙ ไมมีอรรถกถา.

พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 413 ๘. จนิ ตสตู ร วา ดวยการคดิ ในอริยสัจ ๔ [๑๖๖๑] ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย เธอทง้ั หลายจงอยา คิดถงึ อกุศลจิตอนัสามกวา โลกเท่ียง โลกไมเท่ยี ง โลกมที สี่ ดุ โลกไมมีท่สี ดุ ชพี อันนน้ั สรรี ะก็อันน้นั ชีพอยา งหนงึ่ สรรี ะก็อยางหนึง่ สตั วเ บือ้ งหนาแตตายแลว ยอ มเปนอีกสตั วเ บอื้ งหนาแตต ายแลวยอ มไมเปน อกี สัตวเ บ้อื งหนาแตต ายแลวยอ มเปนอีกก็มี ยอ มไมเ ปน อกี ก็มี สตั วเ บอ้ื งหนา แตต ายแลว ยอ มเปน อกี ก็หามไิ ดยอมไมเปน อกี กห็ ามไิ ด ขอ น้นั เพราะเหตุไร เพราะความคิดน้ีไมป ระกอบดวยประโยชน ไมใ ชพรหมจรรยเ บ้อื งตน ยอ มไมเปนไปเพอื่ ความหนาย...นพิ พาน ก็เมอ่ื เธอทั้งหลายจะคดิ พึงคิดวา น้ที ุกข ฯลฯ นีท้ ุกข-นโิ รธคามินีปฏปิ ทา ขอนัน้ เพราะเหตุไร เพราะความคดิ นป้ี ระกอบดวยประโยชน เปน พรหมจรรยเบอ้ื งตน ยอมเปนไปเพื่อความหนา ย...นิพพาน ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลาย เพราะฉะน้ันแหละ เธอท้ังหลายพงึ กระทําความเพยี รเพ่อื รตู ามความเปนจริงวา นีท้ กุ ข ฯลฯ น้ีทุกขนโิ รธคามินปี ฏิปทา. จบจินตสูตรที่ ๘

พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 414 ๙. วิคคาหกิ กถาสูตร วา ดว ยการพูดทไี่ มเปนประโยชน [๑๖๖๒] ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เธอทั้งหลายจงอยาพูดถอยคําแกง แยงกนั วา ทานไมร ูทวั่ ถงึ ธรรมวินยั นี้ เรารูทว่ั ถึงธรรมวินยั น้ี ทานจักรทู วั่ ถึงธรรมวินัยนี้ไดอยา งไร ทานปฏบิ ัตผิ ิด เราปฏบิ ัติถกู สงิ่ ที่ควรพูดกอ น ทา นพดูเสยี ทีหลัง สง่ิ ทคี่ วรพูดทีหลัง ทานพูดเสยี กอ น เปน ประโยชนแกเ รา ไมเปน ประโยชนแ กท า น ความเปน ไปอยางอื่นท่ีคลาดเคลอ่ื น ทา นประพฤติแลวทานยกวาทะขน้ึ แลวเพ่อื เปลอ้ื งวาทะของผูอืน่ ทา นถกู ขมข่ีแลว ทานจงชาํ แรกออก ถา ทานอาจ ขอน้นั เพราะเหตไุ ร เพราะถอ ยคาํ นี้ไมป ระกอบดว ยประโยชน ไมใชพรหมจรรยเบ้อื งตน ยอมไมเ ปนไปเพอื่ ความหนาย...นิพพาน ก็เม่ือเธอทัง้ หลายจะพูด พึงพดู วา นีท้ ุกข ฯลฯ นี้ทกุ ขนิโรธคามินีปฏปิ ทา ขอนนั้ เพราะเหตไุ ร เพราะถอยคํานี้ประกอบดว ยประโยชน เปนพรหมจรรยเ บ้ืองตน ยอมเปน ไปเพือ่ ความหนา ย ... นิพพาน ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เพราะฉะน้นั แหละ เธอทง้ั หลายพึงกระทําความเพียรเพื่อรตู ามความเปนจริงวา นี้ทุกข ฯลฯ นที้ กุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา. จบวิคคหิกกถาสูตรที่ ๙

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 415 ๑๐. ติรจั ฉานกถาสตู ร วา ดว ยการพดู ตริ ัจฉานกถา [๑๖๖๓] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย เธอทงั้ หลายจงอยา พดู ติรจั ฉานกถาซ่ึงมหี ลายอยา ง คือ พูดเร่ืองพระราชา เรือ่ งโจร เร่อื งมหาอมาตย เร่ืองกองทัพ เร่ืองภัย เร่อื งรบ เรอ่ื งขา ว เรอื่ งน้าํ เรื่องผา เร่อื งทนี่ อน เรือ่ งดอกไม เรื่องของหอม เรอ่ื งญาติ เรือ่ งยาน เรอ่ื งบาน เร่ืองนคิ ม เรอื่ งนครเรอื่ งชนบท เรือ่ งสตรี เรื่องบรุ ษุ เรือ่ งคนกลาหาญ เร่ืองตรอก เรอ่ื งทา น้ําเรอ่ื งคนทล่ี วงลับไปแลว เรอ่ื งเบ็ดเตลด็ เรื่องโลก เร่อื งทะเล เรอื่ งความเจริญและความเสอื่ มดว ยประการนน้ั ๆ ขอ น้นั เพราะเหตไุ ร เพราะถอ ยคาํ ท่ไี มประกอบดว ยประโยชน ไมเปนพรหมจรรยเบ้อื งตน ยอ มไมเ ปน ไปเพอ่ื ความหนา ย... นพิ พาน ก็เม่อื เธอทั้งหลายจะพูด พึงพดู วา นีท้ ุกข ฯลฯ นท้ี กุ ข-นิโรธคามินีปฏปิ ทา ขอนั้นเพราะเหตไุ ร เพราะถอ ยคาํ นี้ประกอบดว ยประโยชนเปน พรหมจรรยเ บื้องตน ยอ มเปนไปเพอื่ ความหนา ย... นิพพาน ดกู อนภิกษุท้ังหลาย เพราะฉะนน้ั แหละ เธอทง้ั หลายพึงกระทําความเพียรเพอ่ื รูตามความเปน จริงวา น้ีทกุ ข ฯลฯ นี้ทุกขนโิ รธคามินีปฏิปทา. จบตริ ัจฉานกถาสูตรท่ี ๑๐ จบสมาธวิ รรคที่ ๑

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 416 อรรถกถาติรจั ฉานกถาสตู ร พงึ ทราบอธบิ ายในตริ จั ฉานกถาสตู รที่ ๑๐. บทวา อเนกวิหิต ไดแ ก มีหลายอยาง. คําวา ตริ ัจฉานกถาคอื ถอยคาํ ท่เี ปน เดรจั ฉาน นอกทางสวรรคแ ละนพิ พาน เพราะไมเ ปนการนาํออกจากทกุ ข. ในคําวา เร่ืองพระราชา ดังนเี้ ปน ตน ถอยคาํ ทีป่ รารภพระราชาแลว เปน ไปโดยนยั เปน ตนวา พระเจามหาสมมต พระเจา มนั ธาตา พระเจาธรรมาโศก มอี านุภาพมากอยางนี้ ช่ือวา เรื่องพระราชา. แมในเรอ่ื งโจรเปนตนก็นัยน้.ี กเ็ ร่ืองความรกั อาศยั เรือนโดยนยั เปน ตนวา บรรดาพระราชาเหลานั้น พระราชาพระองคน ้นั มีรปู งาม นาดู ช่อื วา ตริ จั ฉานกถา. กถ็ อ ยคาํ ทีเ่ ปน ไปแลวอยา งนว้ี า แมผ มู ชี ือ่ นี้ มีอานภุ าพมากอยางน้ี ไดถ ึงความสิ้นไป เสื่อมไปแลว ตัง้ อยูในความเปน กรรมฐาน แมใ นหมูโจร การกลาวคําแสดงความรกั อาศัยเรือนวา คาํ เหลาน้นั ไดมแี ลว เพราะอาศยั กรรมของพวกโจรนัน้ วา มูลเทพเปน ผมู ีอานุภาพมากอยางน้ี ช่ือวา ติรจั ฉานกถา. ในการรบ ถอ ยคําดว ยอาํ นาจความใครแ ละความยินดวี า คนโนน ถูกคนโนน แทงในการรบเปน ตนอยา งนว้ี า ถูกฆา แลว อยา งนนี้ น่ั เทียว ช่ือวา ติรจั ฉานกถา.ก็ถอ ยคาํ ท่เี ปน ไปแลวอยา งนว้ี า ขนึ้ ชือ่ วา แมพ วกนน้ั กถ็ ึงความสิ้นไปจดั เปนกรรมฐานในท่ที กุ แหงนนั่ เทียว. อกี อยางหน่งึ แมในเรอื่ งขา วเปนตน การกลา วดว ยอาํ นาจความใครและความยนิ ดวี า พวกเราจะเคย้ี ว บรโิ ภค ดื่มขาวเปน ตนท่มี ีสมี กี ลน่ิ ถึงพรอ มดว ยรสและผัสสะ ยอมไมควร. สว นการกลาว

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 417เรอ่ื งทีม่ ปี ระโยชนก อนวา พวกเราไดถวายขาว น้ําดมื่ ผา ยาน ท่ีนอนดอกไม ของหอม เคร่อื งลูบไลท ถี่ ึงพรอ มดวยสีเปนตน แกผูมีศีลทั้งหลายพวกเราไดทาํ การบชู าที่เจดยี  ดังน้ี ก็ควร. แมในพวกญาติเปน ตน การกลา วดวยอาํ นาจความยนิ ดวี า ญาตทิ ้งั หลายของพวกเรา เปนผูแกลวกลาสามารถ หรือวา พวกเราเท่ยี วดว ยยานอันงดงามอยา งนี้ในกาลกอน ดงั น้ียอมไมค วร. ก็ควรกลา วถอ ยคาํ วา ญาติทงั้ หลายของพวกเราแมเ หลา น้ัน ทําสง่ิ มีประโยชนแลว ถึงความสิน้ ไป หรือวา คร้งั กอ นพวกเราไดถ วายยานเหน็ ปานนแ้ี กพระสงฆ. แมใ นเรอื่ งบา นเปนตน การกลาวดวยอํานาจบานทีอ่ ยูแลว ดีอยูไมด แี ละหาอาหารงายยากเปน ตน หรือดวยความยนิ ดอี ยา งนี้วา ผทู ี่อยบู า นโนนแกลวกลาสามารถ ดงั น้ี ไมค วร. ก็การกลาวถึงเร่อื งบานน้ันวา คนทง้ัหลาย ทําส่งิ ใหประโยชน มศี รัทธา เลอ่ื มใสแลว หรอื วา คนเหลานน้ั ถึงความส้ินไปเสอื่ มไป ดงั นี้ ไมควร. แมในการกลาวเรื่องอําเภอ นครและชน-บท กน็ ยั น้ี แมการกลาวเรื่องผูห ญงิ อาศัยผวิ และทรวดทรงเปน ตน แลว ไมควรเพอ่ื จะกลาวดวยอาํ นาจความยนิ ดเี ปน ตน. การกลา วอยางน้ีวา คนพวกน้ีมศี รทั ธาเลอ่ื มใสแลว ถึงความส้ินไป ดงั นเ้ี ทยี ว กค็ วร. แมก ารกลาวเรอ่ื งคนกลา ไมค วรเพ่ือจะกลาว ดวยอาํ นาจความยนิ ดวี า นกั รบชอ่ื วา นันทมติเปน ผูแกลว กลา . การกลา วอยางนวี้ า ผนู ้ีเปน ผมู ศี รทั ธา เลอื่ มใสแลว ถงึ ความสน้ิ ไป ดังน้ีเทยี ว กค็ วร. ปาฐะวาสรู กถา ดงั นีบ้ า ง การกลา วถึงผกู ลาหาญแมน้ัน ยอ มไมควรดว ยอํานาจความยินดีวา ขึน้ ชอ่ื วา หญิงเห็นปานนี้ เปนผมู ีบดิ า ชอ่ื วา สรู ะ มมี ารดาชอ่ื วา ฤดี ดังน้นี ั่นเทยี ว. สว นการกลาวดว ย

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 418อํานาจโทษน่ันแหละ ยอ มควรโดยนัย เปน ตน วา ผปู ระพฤติวตั รของผเู ปนบา.แมการกลา วเรอื่ งตรอก ยอมไมควรเพื่อจะกลา ว ดวยอํานาจความยินดีวาตรอกโนน สรา งไวด ีแลว หรอื วา พวกตนที่อยูตรอกโนนแกลวกลา มีความสามารถดงั น้ี. การกลา วอยา งนว้ี า พวกเขาเปน ผมู ีศรัทธา เล่อื มใสแลวถึงความสิ้นไป ดังน้ี กค็ วร. ถอ ยคําวา ดว ยเร่ืองทตี่ ง้ั หมอ ถอ ยคําวาดว ยเรือ่ งทานาํ้ทานเรยี กวา เรอ่ื งทา น้ํา. หรอื วาดว ยเรื่องนางทาสีตกั น้าํ ดวยหมอ . การกลา วดว ยอํานาจความยนิ ดวี า แมนางเปนผนู า เลื่อมใส ฉลาดที่จะฟอ นขับ ดงั นี้ไมควร. การกลา วโดยนัยเปนตนวา มศี รัทธา เลื่อมใสแลว ดังนี้เทยี ว กค็ วร. คําวา เร่ืองคนทีล่ ว งลบั ไปแลว ไดแ ก เรือ่ งญาตทิ ่ลี ว งลับไปแลว.การวินจิ ฉัยในเรื่องญาติท่ีลวงลับไปแลวน้นั กเ็ หมือนกบั เร่อื งญาตทิ ย่ี ังมชี ีวิตอยนู ่นั แหละ. คาํ วา เร่ืองเบ็ดเตล็ด ไดแ ก เรือ่ งทหี่ าประโยชนม ิได พนจากเร่อื งเกดิ กอนและหลงั ทเ่ี หลือมสี ภาพตาง ๆ. คําวา กลา วเรอ่ื งโลก คอื การกลา วเลน ๆ วาดว ยเรอ่ื งโลกเปนตนอยา งนว้ี า โลกนใ้ี ครสรา ง คนชือ่ โนน สราง กาขาว เพราะมกี ระดูกขาว นกตะกรุมแดง เพราะมีโลหิตแดง. การกลา วเร่ืองทะเลอนั ไมมปี ระโยชนเปน ตนอยางนีว้ า เพราะเหตุไร ทะเลจึงชือ่ วา สาคร ชอื่ วา สมุทร เพราะรไู ดดวยปลายมอืวา ชื่อวา สาครท่ีเคาขดุ แลว เพราะสาครเทพขุดแลว ช่ือวา กลาวเรือ่ งทะเล.การกลา วเรื่องทีไ่ มม ีประโยชนท ั่ว ๆ ไปวา เจรญิ เสื่อม แลว กลา วเร่อื งทเ่ี ปน ไปชื่อวา กลา วเร่อื งความเจริญและความเส่ือม. กใ็ นเรอ่ื งกลาวความเจริญและความเสื่อมนี้ ความเที่ยงช่อื วา ความเจรญิ ความขาดสูญชื่อวา ความเส่ือม

พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย มหาวารวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 419ความกาวหนา ชือ่ วา ความเจริญ ความหายนะช่อื วา ความเสอื่ ม กามสุขชือ่ วา ความเจริญ การทาํ ตนใหลําบาก ชือ่ วา ความเสือ่ ม รวมกบั ความเจรญิ และความเส่อื มดว ยประการนัน้ ๆ ๖ อยา งเหลา น้ี จงึ เปน การกลา วเร่ืองเดรจั ฉาน ๓๒ ดวยประการฉะน้ี. คําทีเ่ หลอื ในบททัง้ ปวง ตน้ื ทัง้ นน้ั แล. จบอรรถกถาตริ ัจฉานกถาสตู รที่ ๑๐ จบสมาธิวรรควรรณนาท่ี ๑ รวมพระสตู รทม่ี ีในวรรคน้ี คอื ๑. สมาธสิ ูตร ๒. ปฎสิ ัลลานสตู ร ๓. ปฐมกลุ ปุตตสตู ร ๔. ทตุ ิย-กลุ ปตุ ตสตู ร ๕. ปฐมสมณพราหมณสูตร ๖. ทตุ ิยสมณพราหมณสูตร ๗.วติ กั กสตู ร ๘. จนิ ตสูตร ๙. วคิ คหกิ กถาสูตร ๑๐. ติรัจฉานกถาสูตร และอรรถกถา.






























































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook