พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 409 ขาแตพ ระผูเปน พราหมณ พระองคเ ปน พระ- พทุ ธเจา พระองคเ ปนพระศาสดา ขาพระองคเ ปน ธดิ า ของพระองค เปน โอรสเกิดแตพ ระโอษฐ ทํากิจเสร็จ แลว ไมม อี าสวะพระเจา ขา .พระผูมีพระภาคเจา ตรสั วา ดกู อ นลกู สุนทรี เจา มาดีแลว มาไมเ ลวเลย ดวยวา ผฝู ก อยางน้แี ลว ปราศจากราคะ ไมหอบทุกข ไว ทาํ กจิ เสรจ็ แลว ไมม อี าสวะ ยอมมาไหวเ ทา พระศาสดาของตน. บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา เปตานิ ไดแก ตายแลว . สุชาตพราหมณเรียกพระวาสฏิ ฐเี ถรีนั้นวา ขา แตพ ระแมผ เู จริญ. คําวา ปุตฺตานิ ทา นกลาวโดยเปนลงิ ควปิ ลาส [เพราะศัพท ปุตฺต ปกตเิ ปน ปุ . แตทา นทําเปน นปุ .ดังวา นีไ้ ปเสีย จึงเปน ลิงควิปลาส] ความวา ลูกชายทีต่ ายแลว ความจรงิลูกชายของพระวาสฏิ ฐีเถรีนน้ั ตายไปแลว มคี นเดยี วเทานน้ั แตพราหมณสาํ คัญอยางนว้ี า พระวาสฏิ ฐเี ถรนี ้ี ถกู ความเศราโศกรบกวน จงึ ทอ งเทย่ี วไปเสียตั้งนาน ชรอยลูกชายนางทตี่ ายไปแลวมมี ากคน จึงกลา วคาํ เปนพหวุ จนะ[จาํ นวนมาก] และกลา วคําเปนพหวุ จนะ อยางน้ันวา สาชฺช สพฺพานิขาทติ วฺ า สตปตุ ตฺ านิ. คาํ วา ขาทมานา นี้ เปนคําดา ตามโวหารโลก.จรงิ อยู ลกู ชายทเี่ กดิ แลวเกดิ เลา ของหญิงคนตายไปเสยี คนทัง้ หลายเมื่อจะตเิ ตียนหญิงคนนั้น จึงกลา วคําวา หญิงกินลูกเปนตน . บทวา อตวี แปลวาเกนิ เปรยี บ คอื หนกั หนา. บทวา ปริตปปฺ สิ แปลวา เดือดรอ น ประกอบความวา แตก อน. กใ็ นขอนม้ี คี วามยอ ดงั น้ีวา ขา แตท า นแมเจา วาสิฏฐี แต
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ที่ 410กอน ทา นแมก็ลูกชายตาย ใจแหงผากครา่ํ ครวญเพียบแปรดว ยความเศราโศกอยา งเหลือเกนิ ตอ งทองเที่ยวไปยงั คามนิคมราชธานีทง้ั หลาย. บทวา สาชฺช ตัดบทเปน สา อชฺช ความวา เด๋ยี วนี้ ทานแมน น้ั ก็กนิ ลกู ชายหมดทงั้ รอ ยคน. อีกอยา งหนึ่ง บาลวี า สชฺช ก็ม.ี บทวาเกน วณฺเณน แปลวา เพราะเหตไุ ร. ดว ยบทวา ขาทิตานิ แมพ ระเถรีกก็ ลา วตามปริยายท่ีพราหมณกลา วแลว อีกอยา งหน่งึ พระเถรีกลา วอยางนีว้ า ขาทติ านิ กห็ มายถงึ ชาติของสัตวรา ย มเี สอื โครง เสอื เหลอื ง แมวปา เปน ตน . บทวา อตตี เสแปลวา สว นที่เปนอดีต ความวา ในภพท่ลี ว งแลว . บทวา มม ตุยฺหจฺแปลวา อันเราและทาน [กินกนั มาแลว ]. บทวา นสิ สฺ รณ ตวฺ า ความวา แทงตลอดพระนพิ พาน อนัเปนเคร่ืองแลน ออกไปแหง ชาตแิ ละมรณะดวยมรรคญาณ. บทวา น จาหปริตปฺปามิ ความวา เราไมเ ดือดรอน ไมถ ึงความคับแคน ใจแลว . บทวา อพภฺ ตู วต แปลวา นาอศั จรรยหนอ. จรงิ อยู ความอศั จรรยนน้ั เรยี กวา อัพภูตะ. บทวา เอทิส แปลวา เห็นปานนี้ คือวาจาทแี่ สดงความไมม ีความเศรา โศกเปนตน อยา งน้วี า เราไมเ ศรา โศกไมรองไห และไมเ ดือดรอน เพราะเหตทุ ่ียงั ไมไ ดธ รรมเชน นีอ้ ยางเดยี ว ฉะนน้ัดว ยบทวา กสสฺ ตฺว ธมฺมมฺาย พราหมณจ งึ ถามถงึ พระศาสดาและคําสง่ั สอนวา แมท า นรูทว่ั ถงึ ธรรมของพระศาสดา พระนามวาอะไร จงึ กลา ววาจาเชนน้.ี บทวา นริ ูปธึ ไดแก ไมมีทกุ ข. บทวา วิฺาตสทฺธมฺมาไดแ ก แทงตลอดธรรมคืออรยิ สัจ. บทวา พยฺ ปานทุ ึ ไดแก นําออกคือละ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 411 บทวา วิปปฺ มุตตฺ ไดแก หลดุ พน โดยประการทั้งปวง คอื พรากออกจากกเิ ลสทุกอยา ง และจากภพทกุ ภพ. บทวา สวฺ สฺส ไดแ ก พระ-สัมมาสมั พุทธเจาพระองคน้ัน ทรงแสดงธรรมโปรดพราหมณน้ัน. บทวา ตตถฺ ไดแ ก ในเทศนาวา ดวยสัจจะ ๔ นนั้ . บทวา รถ นยิ ฺยาทยาหมิ ความวา จงมอบรถน้ีแกพราหมณ.ีบทวา สหสฺสจฺ าป ประกอบความวา จงนาํ รถมา และทรัพยพ ันกหาปณะท่เี รานําไปดวย เพื่อใชส อยในระหวางทางไปมอบแกพราหมณ.ี บทวา อสสฺ รถ ไดแ ก รถเทยี มมา . บทวา ปณุ ณฺ ปตฺต ไดแก รางวัลทใ่ี หขา วนา ยนิ ดี. เมอื่ พราหมณีใหร างวลั ทใ่ี หข าวนายินดอี ยา งน้ี สารถไี มยอมรบั รางวัลน้ัน กลบั กลา วคาถาวา ตเุ ยหฺ ว โหตุ เปน ตน ไปบวชในสาํ นกั พระศาสดาเหมือนกัน เม่อื สารถีบวชแลว พราหมณจี ึงเรียกสนุ ทรธี ดิ าของตนมา เมื่อจะชกั จงู ประกอบไวในฆราวาสวสิ ยั จึงกลา วคาถามีวา หตฺถิ ควสสฺ เปนตนในคาถาน้ัน บทวา หตถฺ ิ ไดแก ชาง. บทวา ควสฺส ไดแ ก โคและมา.บทวา มณิกณุ ฑฺ ลฺจ ไดแ ก มณแี ละกุณฑล. บทวา ผตี จฺ มิ เคหวิคตปหาย ความวา บดิ าของลูกละสมบตั ทิ ก่ี ลาวแลว ตางโดยชางเปน ตน และท่ไี มไ ดกลาว ตา งโดยที่นา เงนิ และทองเปนตน ความมงั่ ค่งั สมบัติของเรือน เครอ่ื งอุปกรณเ รือนเปน อนั มาก และอยางอ่นื มที าสและทาสีเปนตน ทุกอยางนไี้ ปบวช. บทวา ภุชฺ โภคานิ สนุ ฺทริ ความวา ดูกอนสุนทรีลกู จงบริโภคโภคะเหลาน้.ี บทวา ตวุ ทายาทกิ า กเุ ล ความวา ดว ยลูกสมควรเปน ทายาทรบั มรดกในตระกูลนี้. สุนทรีฟงคํามารดานนั้ แลว เมอื่ จะประกาศอธั ยาศัยที่นอ มไปในเนก-ขมั มะการออกบวชของตน จึงกลา วคาถาวา ทตถฺ ิควสสฺ เปน ตน.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาท่ี 412 ลาํ ดับน้ัน มารดาเม่ือจะชกั จงู ประกอบนางไวใ นเนกขมั มะน่นั แลจงึ กลาวคาถาครึ่ง โดยนัยวา โส เต อชิ ฺฌตุ เปน ตน . บรรดาบทเหลาน้นับทวา ย ตฺว ปตเฺ ถสิ สนุ ฺทริ ความวา ดูกอ นสุนทรี บดั น้ี ลูกปรารถนาจาํ นงหวังอันใด ความดําริในการบรรพชา ความพอใจในการบรรพชานนั้จงสาํ เรจ็ คือสาํ เรจ็ โดยไมม อี นั ตรายแกล ูก. บทวา อตุ ฺติฎ ปณ ฺโฑ ไดแกกอนขา วทภ่ี กิ ษุณไี ปยืนทุก ๆ บา นไดมา. บทวา อุโฺ ฉ ไดแ ก การเทยี่ วไปตามลาํ ดบั บาน และยนื เจาะจงเพื่อกอนขา วนั้น. บทวา . เอตานิ ไดแกกจิ กรรมมกี อ นขาวท่ีไปยืนทกุ บา นไดม าเปน ตน . บทวา อภสิ มฺโภนตฺ ิความวา เปนผูไมเหนอ่ื ยหนาย อาศยั กําลังแขงสาํ เรจ็ มา คือทาํ ใหบริสุทธ์.ิ คร้ังนน้ั สุนทรีรับปากคํามารดาวา ดลี ะแมจ า ก็ออกไปยงั สาํ นักภิกษุณี บวชเปน สิกขมานา ทําใหแจงวชิ ชา ๓ ต้งั ใจวาจกั ไปเฝา พระศาสดาบอกอุปชฌายแลว ก็ไปยงั กรงุ สาวัตถี พรอ มดว ยภิกษุณที ั้งหลาย ดว ยเหตนุ ้ันทานจงึ กลา ววา สกิ ขฺ มานาย เม อยฺเย เปนตน ในคาํ นั้น. บทวา สกิ ขฺ มา-นาย เม ความวา ขาพเจา ผเู ปน สิกขมานา. พระสนุ ทรเี ถรี เรียกอุปช ฌายะของตนดว ยคําวา อยเฺ ย. บทวา ตวุ นิสฺสาย กลฺยาณิ เถรสิ งฆฺ สฺส โสภเณ ประกอบความวา ขาแตแมเ จา ชอื่ วาเปนสงั ฆเถรี เพราะเปนผแู กก วาในภกิ ษุณสี งฆและเพราะประกอบดว ยคุณท่ีมัน่ คง ชื่อวาเปน ผูงาม เปนกัลยาณี เพราะประกอบดวยคุณมีศลี เปน ตน อนั งาม ขาพเจาอาศยั แมเจา ผูเปน กลั ยาณมติ รคือแมท า น ขาพเจาจงึ บรรลวุ ิชชา ๓ ทําคําสอนของพระพทุ ธเจา เสรจ็ . บทวา อจิ ฺเฉ แปลวา ปรารถนา. บทวา สาวตถฺ ึ คนฺตเวแปลวา เพื่อไปกรุงสาวัตถี. พระสนุ ทรเี ถรีกลาววา สหี นาท นทิสฺสามิหมายถึง การพยากรณพระอรหัตเทานน้ั .
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 413 ครัง้ นน้ั พระสนุ ทรเี ถรีถึงกรุงสาวตั ถีโดยลําดับ เขาไปยังพระวิหารเห็นพระศาสดาซงึ่ ประทับนง่ั เหนอื ธรรมาสน ซาบซ้ึงปต ิและโสมนสั อนั โอฬารเม่อื จะเรียกตวั เองเทานัน้ จงึ กลา ววา ปสสฺ สนุ ฺทริ เปน ตน . บทวาเหมวณฺณ ไดแก มพี ระวรรณดง่ั ทอง. บทวา หริตฺตจ ไดแ ก มีพระ.ฉวเี ปลง ปลงั่ ดงั่ ทอง กใ็ นคาํ น้ี พระผูมีพระภาคเจา ทานเรียกวา มพี ระวรรณะด่งั ทอง เพราะพระวรรณะเหลือง. ครั้งนัน้ แล พระสนุ ทรีเถรี กลา ววา เหมวณฺณ มีพระวรรณะดัง่ทอง แลวกลา ววา หรติ ฺตจ มีพระฉวดี งั่ ทอง กเ็ พอ่ื แสดงวา พระผูมพี ระภาคเจา มีพระฉวีวรรณเปลงปล่งั ด่ังกระจกทองทเ่ี ขาขดั อยา งดีแลว บรรจงทาดวย ชาตหิ ิงคลุ กิ ะ กอ นชาติหงิ คุ แลวชกั เงา. บทวา ปสสฺ สุนฺทริมายนฺตึ ความวา ขา แตพ ระผูมพี ระภาคเจาโปรดทอดพระเนตร ดู ขาพระองคผชู ื่อวาสุนทรีนั้น ซ่ึงกําลงั เดินมา พระ-สุนทรเี ถรี ขณะพยากรณพ ระอรหัตดว ยคาํ วา วิปฺปมตุ ตฺ กก็ ลา วดว ยความซาบซานแหงปต ิ แตเพือ่ จะกลับความหวัง ความสงสัยของเหลา คนท่ีรักใครวา สนุ ทรุ มี าแตไ หน มาในที่ไหนและสุนทรีน้เี ปน เชน ไร จึงกลา วคาถาวาพาราณสโิ ต เปนตน เพือ่ จะทาํ เน้ือความทก่ี ลาวไววา สาวกิ า จ ในคาถานัน้ ใหป รากฏชดั จงึ กลา วคาถาวา ตุว พุทโฺ ธ เปนอาทิ เนอ้ื ความของคาํ น้ันมวี า พระองคเทาน้นั เปน พระสัพพญั ูพทุ ธะ เปนเอกในโลกพรอ มทั้งเทวโลกนี้ พระองคเ ปนพระศาสดาของขาพระองค เพราะทรงสั่งสอนตามสมควรดว ยประโยชนปจ จบุ นั ประโยชนภ ายหนาและประโยชนอ ยา งยิง่ ขาแตพระผมู พี ระภาคเจา ขาพระองคผ ูเ ปนพราหมณข ณี าสพ ช่ือวา โอรส เพราะเปนอภิชาตทิ ีท่ รงใหเกิดดว ยความพยายามในพระอรุ ะของพระองค ชือ่ วาเกิดจาก
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาท่ี 414พระโอษฐ เพราะเกดิ ดวยเสยี งธรรมทที่ รงใหเปนไปจากพระโอษฐ และดวยอรยิ มรรคทีเ่ ปน ประธานของคําสง่ั สอน ชอื่ วา ทํากจิ เสรจ็ แลว เพราะกรณียกิจมีสัจจะที่กาํ หนดรูเปน ตน เสร็จไปแลว ช่อื วา หาอาสวะมิได ก็เพราะอาสวะทงั้หลายสิน้ ไปโดยประการทั้งปวง. ลําดบั น้นั พระศาสดาเมือ่ ทรงชน่ื ชมการมาของพระสุนทรีเถรีน้ันจึงตรสั คาถาวา ตสฺสา เต สฺวาคต เปนตน เน้อื ความของพระคาถานน้ัมีวา ดูกอนสุนทรีผเู จรญิ ทา นผูใดบรรลธุ รรมท่เี ราตถาคตบรรลุแลว ตามเปนจริง การมาของทา นผนู ั้นในสาํ นกั เรานี้ เปน การมาทด่ี ี เพราะขอ นัน้ นั่นแล การมานั้นจงึ เปน การมาที่ไมเ ลว คอื ไมใ ชการมาท่ีเลว เพราะเหตุไรเพราะวา คนทง้ั หลายทฝ่ี ก แลว อยา งน้ี ยอ มพากนั มา ประกอบความวา ดกู อ นสนุ ทรี ดวยวา คนทั้งหลาย ชื่อวาฝกแลว เพราะฝกดวยอรยิ มรรคอนั ยอดเยย่ี ม ชอ่ื วา ปราศจากราคะในท่ีทง้ั ปวง เพราะฝก แลว นั้นนน่ั แล ชื่อวา ไมหอบทกุ ข ทํากจิ เสรจ็ ไมม อี าสวะ เพราะตัดสังโยชนไดห มดส้ิน ยอ มพากนั มาไหวเ ทา ทงั้ สองของพระศาสดา กเ็ หมอื นอยา งทที่ า นมาน่ีแหละ. จบ อรรถกถาสนุ ทรีเถรีคาถา
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ที่ 415 ๕. สุภากมั มารธดิ าเถรีคาถา[๔๗๑] พระสภุ ากัมมารธิดาเถรี ไดกลาวคาถาเหลานีว้ า เพราะเหตุท่ีแตก อน ขาพเจายังสาว นงุ หมผาอันสะอาด ไดฟ งธรรม ขา พเจานน้ั ไมป ระมาท ก็ไดตรัสรสู ัจธรรม ฉะนัน้ ขา พเจา จงึ ไมยินดีอยา งย่ิงในกามท้งั ปวง เหน็ ภัยในสกั กายะ [ปญจขันธ]กระหย่มิ เฉพาะ เนกขมั มะ [การบวช] เทา น้ัน. ขา พเจาละหมญู าติ ทาสและกรรมกร บา นและไรนา ความม่งั ค่ัง และรมณียะส่ิงท่นี ารื่นรมย ที่เขาบนั เทงิ กนั นักหนา. ขา พเจาละสมบตั ิไมใชนอ ย ออกบวชดว ยศรัทธาอยางน้ีในพระสัทธรรม ท่พี ระพทุ ธเจาทรงประกาศดแี ลว. ขอ ท่ีละทิง้ เงนิ ทองเสยี แลว กลับมายึดเงินทองนนั้ อกี ไมสมควรแกขา พเจา เพราะขาพเจาปรารถนาแตความไมกงั วลหวงใย ผใู ดละทิง้ เงนิ ทองแลวกลับมายึดเงินทองน้ันไวอกี ผูนนั้ จะโงหวั ขึ้นมาไดอ ยา งไร ในระหวา งบณั ฑติ ทง้ั หลายเงนิ และทองไมม ีเพ่ือสันตคิ วามสงบสําหรบั ผนู ัน้ เงนิ ทองนน้ั ก็ไมส ม-ควรแกสมณะ เงินทองนน้ั ก็มใิ ชอ ริยทรพั ย.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 416 อนงึ่ เงินทองน้ี ทาํ ใหเกดิ ความโลภ ความมัวเมา ความลมุ หลง ความตดิ ดังเคร่อื งผูก มีภยั มีความคับแคน มาก เงนิ ทองนั้นไมต้ังอยูยัง่ ยนื เลย. นรชนเปนอนั มาก ประมาทมใี จเศราหมองแลวเพราะเงนิ ทองเทา นี้ จงึ ตองเปนศัตรู ววิ าทบาดหมางกันและกัน. การถูกฆา การถูกจองจํา การตอ งโทษมีตดั มือเปน ตน ความเสื่อมเสยี ความเศรา โศกพไิ รรําพนัความพินาศเปนอันมาก ของนรชนท่ตี กอยใู นกามท้งั หลาย ก็มองเห็นกันอย.ู ทา นทงั้ หลายเปน ญาตกิ ็เหมอื นศัตรู เพราะเหตุไรทานท้ังหลายจงึ ชักจงู ประกอบเรานน้ั ไวใ นกามท้งั -หลาย จงรูก ันเถดิ วาเราเห็นภัยในกามทงั้ หลายจึงบวช. อาสวะทง้ั หลาย ไมใ ชหมดสิ้นไปเพราะเงนิ ทองดอกนะ กามทั้งหลายเปนอมติ ร เปนผูฆา เปนศัตรูเปน ดง่ั ลูกศรเสยี บไว. ทา นทงั้ หลายเปนญาติ กเ็ หมอื นศตั รูเพราะเหตไุ รจึงชกั จูงประกอบเราน้ันไวใ นกามทั้งหลาย จงรูเถิดวาเราบวชศีรษะโลน ครองผาสงั ฆาฏแิ ลว. กอนขาวท่ตี องไปยืนที่เรือนทกุ ๆ หลงั ไดมาการเทย่ี วขอเขา ผา บงั สุกุลจวี ร และบริขารท่อี าศยัของนกั บวชผูไมม ีเรอื น น่ีแลเปน ของเหมาะสาํ หรบัเรา.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 417 กามทงั้ หลาย ทง้ั ที่เปน ของทพิ ยแ ละมนษุ ยเหลา ทานผแู สวงคณุ อันยงิ่ ใหญตายเสยี แลว ทา นนอมไปในสถานท่อี ันเกษม บรรลสุ ุขอันไมหวนั่ ไหวแลว . ขา พเจาไมร วมดว ยกามท้งั หลาย ซึ่งชว ยอะไรไมไ ด กามทงั้ หลาย เปนอมติ ร เปนผูฆ า นําทกุ ขมา เทียบเสมอดว ยกองไฟ. สภาวะนนั่ ไมบ ริสทุ ธ์ิ มีภัย มีความคบั แคนเปน เสี้ยนหนาม และสภาวะนน้ั เปนความหมกมนุเปนความไมส มาํ่ เสมอ อยางใหญ เปนเหตลุ มุ หลงเปนอุปสรรคทีน่ าสะพรึงกลัว กามทง้ั หลายเปรียบดวยหัวงพู ิษ ที่เหลาปถุ ุชนคนท้ังบอดท้งั เขลา เพลิดเพลนิกันนกั หนา. ความจริง ชนเปน อันมากในโลก ตดิ อยใู นเครอื่ งของคอื กาม ไมรูค วามจริงกันเลย ไมร ูจักท่สี น้ิสุดแหงชาติและชรา มนษุ ยเ ปนอันมาก เดินทางท่ีไปทุคติ มกี ามเปน เหตุ นํามาแตโรคสําหรบั ตน. กามท้งั หลาย ทําใหเ กดิ อมติ รอยา งน้ีเปน เครือ่ งแผดเผา เปน เคร่อื งเศรา หมอง เปนเหยือ่ ของโลก ผูกสตั วไ ว มมี รณะเปนเครื่องพันธนาการ. กามทัง้ หลาย ทําใหค นบา ทําใหเพอ ทําใหจ ติประมาทพลงั้ เผลอ เพราะทําสัตวใ หเ ศราหมอง พึงเหน็ เหมอื นลอบทมี่ ารรบี ดักไว.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาที่ 418 กามทั้งหลาย มโี ทษไมสิ้นสุด มที ุกขมาก มีพิษมาก อรอยนอย ทําเปน สนามรบ มแี ตทํากุศลกรรมใหเหือดแหง ลง. ขา พระองคน ้ัน ละความยอยยับ ซง่ึ มกี ามเปนเหตุเชน นนั้ แลว ยินดีย่ิงนักในพระนิพพานทุกเมอื่จึงจกั ไมก ลบั มาหาความยอ ยยบั นน้ั อีก. ขาพเจา ละสนามรบของกามทั้งหลายแลว จาํ นงหวังแตความเยือกเยน็ ยินดีในธรรมอันเปนที่ส้นิสังโยชน ไมประมาทอยู. ขาพเจา เดินตามทางอริยมรรคมอี งค ๘ ซ่งึ เปนทางตรงไมเ ศรา โศก ไมมีกเิ ลสดจุ ธุลี เปน ทางเกษมซง่ึ เหลา ทา นผูแสวงคุณอนั ยิ่งใหญพากนั ขา มมาแลว. พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสวา ทา นทั้งหลาย จงดูธิดาชา งทอง ผูสวยงามซงึ่ ตงั้ อยใู นธรรมผูน เี้ ถิด นางเขา ถึงธรรมทไ่ี มห ว่ันไหว เขาฌานอยทู ี่โคนไม. วันน้เี ปนวนั ที่ ๘ นางมีศรทั ธาบวชแลว เปน ผูงามในพระสทั ธรรม อนั พระอบุ ลวรรณาชว ยแนะนาํแลว ทรงวิชชา ๓ ละมฤตยูเสียแลว . ภกิ ษุณีรปู น้ัน เปน ไทแกตวั ไมเ ปนหนี้ อบรมอนิ ทรยี แลว สลดั โยคะไดหมดแลว ทาํ กิจเสร็จแลวไมมอี าสวะ. ทาวสักกะ เจาแหงหมูสัตว พรอ มหมเู ทพเสดจ็ เขา ไปหาพระสภุ ากัมมารธดิ าเถรรี ูปน้ัน ดว ยเทวฤทธ์ิแลว ทรงนมัสการอย.ู จบ สุภากัมมารธดิ าเถรคี าถา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาที่ 419 ๕. อรรถกถาสภุ ากมั มาร๑ธีตุเถรคี าถา คาถาวา ทหราห เปน ตน เปน คาถาของ พระสุภากมั มารธีตุ-เถรี. พระเถรีแมร ปู นี้ ก็ไดบําเพ็ญบารมีมาในพระพทุ ธเจา พระองคก อ นๆสรา งสมกุศลอันเปน อุปนิสยั แหง พระนพิ พานมาในภพนนั้ ๆ อบรมกุศลมลส่ังสมสัมภารธรรมเคร่อื งปรงุ แตง วิโมกขมาโดยลาํ ดบั ทอ งเท่ยี วอยใู นปา ยสคุ ติเทา น้ัน เมือ่ ญาณแกกลา มาในพทุ ธุปบาทกาลน้ีก็บังเกดิ เปนธิดาของชางทองคนหน่ึงในกรงุ ราชคฤห เพราะความสวยงามแหง รปู สมบตั ิ จึงไดช ่อื วา สภุ า นางรูเดียงสามาโดยลาํ ดับ เกิดความเลอ่ื มใสในพระศาสดา เมอ่ื พระศาสดาเสด็จเจาไปกรงุ ราชคฤห วนั หน่ึงจึงเขา ไปเฝา ถวายบังคมแลว น่ัง ณ ท่สี มควรสว นหนง่ึพระศาสดาทรงเหน็ นางมีอินทรยี แ กกลา จึงทรงแสดงธรรมคือ อริยสัจ ๔ ทพ่ี อเหมาะแกอธั ยาศยั ทันใดนนั้ เอง นางกต็ ง้ั อยใู นโสดาปตตผิ ลประดับดว ยนัยพัน-นัย ตอ มา นางเห็นโทษในฆราวาสวสิ ัย ก็บวชในสาํ นกั พระนางปชาบดีโคตมี ตงั้ อยูในศลี ภกิ ษณุ ี ประกอบเนอื งๆ ซึ่งภาวนา เพื่อมรรคช้นั สงู ๆพวกญาติพากันเขา ไปหานางทกุ เวลา เชือ้ เชิญแสดงทรัพยจ าํ นวนมาก และกองสมบตั ปิ ระเลาประโลมดวยกามทั้งหลาย วันหนึง่ เมือ่ พวกญาตเิ ขามาหานางเมอื่ จะประกาศโทษในฆราวาสวสิ ยั และกามท้งั หลาย จึงกลาวธรรมดว ยคาถา๒๔ คาถา มวี า ทหราห เปน ตน แลว เสยี สละทาํ ใหญาติเหลา น้ันหมดหวงัเจริญวิปส สนา ประกอบอนิ ทรียทง้ั หลาย มกั เขมนภาวนายง่ิ ข้ึน ไมชานักกบ็ รรลุพระอรหัตพรอ มดว ยปฏิสมั ภทิ า ๔ ก็แลคร้ันบรรลพุ ระอรหตั แลว จงึไดก ลา วคาถาเหลาน้ีวา๑. บาลเี ปนสภุ ากัมมารธิดาเถรีคาถา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 420 เพราะเหตทุ ่แี ตก อน ขาพเจา ยงั สาว นงุ หม ผาอันสะอาด ไดฟง ธรรม ขา พเจานั้นไมประมาทก็ไดตรัสรูสัจธรรม. ฉะน้ัน ขา พเจาจึงไมยนิ ดอี ยา งยิง่ ในกามทงั้ ปวงเหน็ ภัยในสกั กายะ [ปญจขันธ] กระหยิ่มเฉพาะเนกขมั มะ [การบวช] เทานน้ั . ขาพเจา ละหมูญ าติ ทาสและกรรมกร บา นและไรนา ความมงั่ ค่งั และรมณียะสิ่งทน่ี า รื่นรมย ที่เขาบันเทิงกันนัก. ขา พเจา ละสมบตั ิมิใชนอ ย ออกบวชดวยศรัทธาอยา งนี้ ในพระสัทธรรมท่พี ระพุทธเจาประกาศดแี ลว . ขอท่ีละท้ิงเงินทองเสยี แลว กลบั มายึดเงนิ ทองนน้ัไวอ ีก ไมส มควรแกขาพเจา เพราะขาพเจาปรารถนาแตค วามไมก งั วลหว งใย ผใู ดละทิง้ เงนิ ทองแลวกลับมายดื เงนิ ทองนน้ั ไวอกี ผนู ้ันจะโงหัวขึน้ ไดอยางไร ในระหวา งบณั ฑติ ท้งั หลาย เงินและทองไมมีเพ่อื สนั ตคิ วามสงบสําหรับผูน้นั เงินทองนนั้ กไ็ มสม-ควรแกส มณเงินทองนัน้ ก็มใิ ชอ ริยทรพั ย. อนึง่ เงินทองน้ี ทาํ ใหเกดิ ความโลภ ความมัวเมาความลมุ หลง ความตดิ ดงั เคร่อื งผูก มภี ยั มีความคับแคนมาก เงนิ ทองนั้น ไมต งั้ อยยู ั่งยืนเลย.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาที่ 421 นรชนเปนอัน มาก ประมาทมใี จเศรา หมองแลวเพราะเงินทองเทา น้ี จึงตองเปน ศตั รู ตอ งววิ าทบาด-หมางกันและกนั . การถูกฆา การถกู จองจาํ การตอ งโทษมตี ดั มือเปนตน ความเส่อื มเสยี ความเศรา โศกพไิ รรําพันความพินาศเปน อันมาก ของนรชนท่ตี กอยใู นกามท้ังทลาย กม็ องเหน็ กนั อย.ู ทา นท้ังหลาย เปนญาตกิ เ็ หมือนศตั รู เพราะเหตไุ ร ทานทั้งหลายจึงชักจูงประกอบเรานน้ั ไวใ นกามท้ังหลาย จงรูกนั เถดิ วา เราเห็นภัยในกามท้งั หลายจงึบวช. อาสวะทง้ั หลายไมใชหมดสิ้นไป เพราะเงินทองดอก กามทั้งหลายเปน อมิตร ผฆู า เปนศัตรู เปนดงั ลูกศรเสียบไว. ทา นท้งั หลายเปน ญาติกเ็ หมือนศัตรู เพราะเหตุไร จงึ ชักจงู ประกอบเรานนั้ ไวใ นกามทั้งหลายจงรูเ ถิดวาเราบวชศีรษะโลน ครองผาสงั ฆาฏแิ ลว . กอนขา วที่ตอ งไปยืนที่เรอื นทุก ๆ หลัง ไดม าการเทยี่ วขอเขา ผาบงั สุกุลจวี รและบริขารทอ่ี าศัยของนักบวช อยูไมมีเรอื นนแี่ ลเปนของเหมาะสําหรับเรา. กามทัง้ หลาย ทงั้ ทีเ่ ปน ของทพิ ยแ ละของมนุษยเหลาทา นผูแสวงคุณอนั ยิงใหญค ายเสียแลว ทานนอมไปในสถานท่ีอนั เกษม บรรลุสขุ อันไมหวน่ั ไหวแลว .
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ที่ 422 ขาพเจาไมร วมดว ยกามท้งั หลาย ซง่ึ ชวยอะไรไมไ ด กามท้งั หลายเปน อมิตร ผูฆ า นําทกุ ขมา เสมอดว ยกองไฟ. สภาวะนน่ั ไมบ รสิ ุทธิ์ มีภัย มีความคบั แคนเปนเสีย้ นหนาม และสภาวะนนั่ เปนความหมกมุนเปนความไมส ม่าํ เสมอ ขนาดใหญ เปนเหตลุ ุมหลง เปนอุปสรรคทนี่ า สะพรงึ กลวั กามท้ังหลายเปรยี บดวยหัวงูพิษ ท่ีเหลา ปุถชุ นคนบอด ทง้ั เขลา เพลดิ เพลินกนันัก. ความจริง ชนเปน อันมากในโลกติดอยูในเครือ่ งของคือกาม ไมร ูค วามจริงกันเลย ไมร ูจ ักท่สี น้ิ สุดแหง ชาตแิ ละชรา มนษุ ยเ ปน อนั มาก เดนิ ทางทไี่ ปทคุ ติมกี ามเปนเหตุ นาํ มาแตโรคสาํ หรบั ตน. กามทัง้ หลาย ทําใหเกิดอมิตรอยา งนี้ เปนเครอื่ งแผดเผา เปน เครือ่ งเศรา หมอง เปน เหยือ่ ของโลก ผกูสัตวไว มมี รณะเปน เคร่ืองพนั ธนาการ. กามท้ังหลาย ทาํ ใหค นบา ทาํ ใหเพอ ทําใหจิตประมาทพล้ังเผลอ เพราะทาํ สตั วใหเศราหมอง พึงเหน็ เหมอื นลอบทม่ี ารรีบดกั ไว. กามทัง้ หลาย มีโทษไมส ้นิ สดุ มีทกุ ขมาก มีพิษมาก อรอ ยนอย ทําเปนสนานรบ มีแตท าํ กุศล-ธรรมใหเหอื ดแหงลง.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 423 ขาพเจา น้นั ละความยอ ยยับซงึ่ มกี ามเปนเหตุ เชน นนั้ แลว ยนิ ดียง่ิ นักในพระนพิ พานทกุ เม่ือ จึง จักไมก ลับมาหาความยอ ยยับน้ันอกี . ขาพเจาละสนามรบของกามทงั้ หลายแลว จํานง หวังแตความเยือกเยน็ ยินดีในธรรมอันเปนที่สน้ิ สัง- โยชนไมป รารถนาอย.ู ขาพเจา เดินตามทางอริยมรรคมีองค ๘ ซง่ึ เปน ทางตรง ไมเศรา โศก ไมมีกเิ ลสดจุ ธุลี เปน ทางเกษม ซ่งึ เหลาทานผูแสวงคณุ อนั ยิ่งใหญพากันขา มมาแลว . พระผูมีพระภาคเจาตรสั วา ทานท้งั หลาย จงดู ธดิ าชา งทองผสู วยงาม ซ่ึงต้งั อยใู นธรรมผูน้ีเถิด นาง เขาถงึ ธรรมท่ีไมห ว่นั ไหว เขาฌานอยูท โ่ี คนไม. วันน้เี ปนวนั ที่ ๘ นางมีศรัทธาบวชแลว เปน ผู งามในพระสัทธรรม อนั พระอบุ ลวรรณาชว ยแนะนํา แลว ทรงวิชชา ๓ ละมฤตยูเสยี แลว . ภิกษุณีรปู นน้ี ัน้ เปน ไทแกต วั ไมเ ปนหนี้ อบรมอนิ ทรยี แลว สลดั โยคะไดห มดแลว ทาํ กจิ เสร็จแลว ไมมีอาสวะ. ทา วสกั กะ เจา แหงหมสู ตั ว พรอ มดวยหมเู ทพ เขาไปหาพระสภุ ากัมมารธิดาเถรรี ปู น้นั ดว ยเทวฤทธิ์ แลว ทรงนมสั การอย.ู บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา ทหราย สุทฺธวสนา ย ปุเร ธมมฺ -มสสฺ ุณึ ความวา เพราะเหตุที่ แตกอน ขาพเจา เปนสาวรุน มผี าสะอาด
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 424นุงหม ผาอันหมดจด ตบแตง กายแลว ไดฟงธรรมในสํานกั พระศาสดา. บทวาตสสฺ า เม อปฺปมตตฺ าย สจจฺ าภสิ มโย อหุ ความวา และเพราะเหตุที่ขาพเจานนั้ พิจารณาทบทวนธรรมดามทขี่ า พเจา ฟงมาแลว เปนผูไมประมาทคอื มสี ตติ ้ังมน่ั แลว อธิษฐานศีล ประกอบเนอื ง ๆ ซ่งึ ภาวนา ตราบจนตรสั รูคอื แทงทะลุปรุโปรง ซ่งึ อริยสจั ท้ัง ๔ โดยนัยวา นี้ทกุ ขดงั น้เี ปน ตน. บทวา ตโตห สพพฺ ถาเมสุ ภสุ อรติมชฺฌค ความวา ฉะนัน้คอื เพราะเหตุนัน้ ขาพเจา จงึ ไมถึงความยินดี คือความกระสันอยา งย่งิ คือเหลอื เกินในกามทง้ั หลายแมทกุ อยาง คือทง้ั ของมนษุ ยท้ังของทิพย เพราะฟงธรรมมาในสาํ นกั พระศาสดาแลว และเพราะตรัสรอู รยิ สจั แลว ขาพเจาเห็นภัย คือความมีภัยจาํ เพาะหนา ในสักกายะ คอื ขนั ธปญ จกที่มีอุปาทาน ดว ยจกั ษคุ อื ญาณ จึงกระหย่ิมยม้ิ ยอ งปรารถนาแตเ นกขมั มะ คอื บรรพชา เพ่อื .พระนพิ พานอยางเดียว. บทวา ทาสกมฺมกรานิ จ แปลวา ทาสและกรรมกร คํานีท้ านกลา วเปนลงิ ควิปลาส. บทวา คามเขตตฺ านิ ไดแ ก บานและไรปลูกบพุ พัณ-ชาติและอปรัณชาติ และพน้ื ทีเ่ นอ่ื งดว ยบา น. บทวา ผตี านิ ไดแก ความมั่งคง่ั . บทวา รมณีเย ไดแก ส่งิ ท่ีนา ฟใู จ. บทวา ปโมทิเต ไดแ ก น่ีเขาบันเทงิ ใจแลว เช่ือมความวา ละกองโภคสมบตั .ิ บทวา สาปเตยฺย ไดแก ทรพั ยสวนของตนเอง คอื ของหวงแหนสําหรบั ทํามณี ทาํ ทอง ทาํ เงินเปนตน . บทวา อนปปฺ ก ไดแ ก ใหญ ประกอบความวา ละสมบตั อิ นั ใหญ.บทวา เอว สทฺธาย นกิ ฺขมมฺ ความวา ขา พเจา ละเครือญาติใหญ และกองโภคสมบตั ใิ หญ มปี ระการทกี่ ลา วไว โดยนยั วา หิตฺวานห าติคณเปน ตน เชือ่ วตั ถทุ ี่ควรเช่อื คือ กรรม ผลของกรรม และพระรตั นตรัยดวยศรทั ธา ออกจากเรือนไปบวชในพระสทั ธรรมทพ่ี ระสัมมาสมั พทุ ธเจาทรง
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาที่ 425ประกาศดแี ลว คือในอริยวนิ ยั ทีพ่ ระสัมมาสัมพทุ ธเจาทรงประกาศไวด วยดีแลว ก็แลขอท่ขี าพเจาบวชอยางน้แี ลว กลบั มาหากามทัง้ หลายทข่ี าพเจา ละท้ิงเสียแลว ไมสมควรแกขาพเจาเลย. บทวา อากิจฺ ฺ หิ ปตฺถเย ความวาเพราะวา ขา พเจา ปรารถนาแตความไมกงั วล คอื ความไมต องหวงเทา นน้ับทวา โย ชาตรปู รชต เปตฺวา ปุนราคเม ความวา บคุ คลใด ละทิง้เงินทอง หรอื ทรพั ยไร ๆ อนื่ แลว จะพึงกลับมายึดเอาทรพั ยน นั้ บคุ คลน้ันจะพึงโงศีรษะไดอยา งไรในระหวางบณั ฑติ ท้งั หลาย. เพราะวา เงินทอง ยอมไมมเี พอ่ื สันติความสงบ อธบิ ายวา ไมม ีเพื่อมรรคญาณ ไมมเี พือ่ พระนิพพาน สําหรับบคุ คลแมน้ัน. บทวา น เอตสมณสารปุ ฺป ความวา ทรพั ยสมบัตนิ ัน้ คอื ของหวงแหนมเี งินทองเปนตน หรอื การหวงแหนเงินทองเปน ตน น้ัน ไมส มควรแกสมณะ. จรงิ อยางนั้นทา นกลา วไวว า เงนิ ทองไมสมควรแกเ หลาสมณะศากยบุตรดงั นเี้ ปนตน. บทวาน เอต อริยธน ความวา ของหวงแหนตามทีก่ ลาวแลวนั้น ไมใ ชท รพั ยทแี่ มส าํ เร็จดว ยอริยธรรม เหมือนอยา งอริยทรัพย มศี รทั ธาเปน ตน เพราะไมนําความเปน พระอรยิ ะมาให ดวยเหตุนั้น พระเถรีจึงกลาววา โลภน เปนตน บรรดาบทเหลานนั้ บทวา โลภน ไดแก ที่ทําใหเกดิ ความโลภ.บทวา มทน ไดแก นาํ ความมัวเมามาให. บทวา สโมหน ไดแก ทาํใหเกดิ ความลุม หลง. บทวา รชพนธฺ น ไดแ ก เครื่องผกู ลาม มกี เิ ลสดุจละออง คือราคะเปน ตน. ทรัพยท ีช่ ื่อวา สาสงั กะ เพราะเปน ไปกบั ความนารงั เกยี จ เพราะทรัพยน้ีเขาหวงแหนนาํ มาแตค วามนา รงั เกียจ อธบิ ายวา นํามาแตความนารงั เกียจ แตทใี่ ดท่หี น่งึ แกผทู ่หี วงแหนทรัพย. บทวา พหุอายาส ไดแ ก ยุงยากมาก โดยตอ งจัดแจงตองรักษาเปนตน. บทวา นตฺถิ
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 426เจตฺถ ธุว ิติ ความวา ความยั่งยืนและความม่ันคงในทรัพยน้ัน ไมม เี ลยมีแตหวน่ั ไหว ไมมน่ั คงเทานั้น. บทวา เอตตฺ าวตา ปมตตฺ า จ สงฺกลิ ฏิ มนา นรา ความวานรชนท้ังหลาย ยินดีแลว คือเกดิ ความยนิ ดใี นทรัพยน ั้น ชอื่ วา ประมาทแลวเพราะอยูปราศจากสติในกุศลธรรม ๑๐ เปนผมู ใี จเศราหมอง คอื ช่ือวาเปนผูม ีจติ เศรา หมองดว ยสงั กเิ ลสมโี ลภะเปน ตน เพราะฉะนัน้ บทวา อฺม-ฺมฺหิ พยฺ ารุทธฺ า ปุถู กพุ พนฺ ตฺ ิ เมธค จงึ มคี วามวา สตั วเ ปนอนั มากคือมารดากบั บตุ ร ก็เปน ศตั รูกันและกัน อยางนี้คือ โดยทสี่ ดุ มารดากบั บตุ รบา ง บุตรกับมารดาบาง ยอมกระทาํ ความบาดหมางทะเลาะกนั ดวยเหตนุ ั้นพระผูมีพระภาคเจา จึงตรสั วา ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย อีกขอหนงึ่ มารดาววิ าทกบั บุตรบาง บตุ รววิ าทกับมารดาบาง มีกามเปน เหตุ มีกามเปน ตนเรอื่ งมกี ามเปนอธิกรณ ฯลฯ ดงั นี้เปน ตน บทวา วโธ ไดแ ก ทาํ ใหต าย. บทวา พนโฺ ธ ไดแก จองจาํ มีจองจําดวยโซเปน ตน . บทวา ปริเกฺลโส ไดแ ก ทาํ ใหรางกายบกพรองมีตัดมือเปน ตน . บทวา ชานิ ไดแ ก เส่ือมทรัพยแ ละเส่อื มบรวิ าร. บทวาโสกปรทิ ฺทโว ไดแ ก เศรา โศกและพิไรรําพัน. บทวา อธปิ นฺนาน ไดแกถกู ครอบงาํ . บทวา ทิสฺสเต พิยสน พหุ ไดแ ก ความยอ ยยบั ความพินาศ เปนอนั มาก คือมากอยาง ตา งโดยการฆาการจองจําเปนตน ตน ตามทกี่ ลาวมาแลว และความเสียใจความคบั แคนใจเปนตน และท่ีเปนไปในปจ จุบันและเปน ไปในภายหนา ในกามท้ังหลาย เหน็ กันไดท้ังนั้น. บทวา ต ม าตี อมติ ตฺ าว กึ โว กาเมสุ ยุ ฺชถ ความวาทา นท้งั หลาย ถงึ เปนเครือญาตกิ ัน กเ็ ปนเหมือนอมิตรท่ีไมป รารถนาดี เพราะอะไร เพราะเหตอุ ะไร จงึ ชกั จูงประกอบขาพเจา ผซู ่งึ เปนเหมอื นผคู ลายกําหนัด
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาท่ี 427ในกามทั้งหลายแลว มาไวในกามทัง้ หลาย. บทวา ชานาถ ม ปพพฺ ชติ กาเมสุ ภยทสฺสนิ ึ ความวา ทา นทั้งหลายจงตามรับรวู า ขาพเจา เปนผูเห็นภยั ในกามทั้งหลายจึงบวช. อธบิ ายวา เหตเุ พยี งเทา นี้ ทาํ ไมทา นทงั้ หลายจึงไมยอมรับร.ู บทวา น หริ ฺ สุวณเฺ ณน ปริกฺขียนฺติ อาสวา ความวาอาสวะท้ังหลาย มีกามาสวะเปน ตน ไมหมดส้ินไป ดวยเงินดว ยทอง ท่ีแทกลบั กาํ เริบ ดวยเงนิ ทองเหลาน้นั ทีเดยี ว. ดว ยเหตนุ ั้น พระเถรจี ึงกลาววา กามทง้ั หลาย เปนอมิตรผูฆา เปนศัตรู เปนดง่ั ลกู ศรเสยี บไว เนื้อความของคาํ นัน้ มีวา ความจริง กามทง้ั หลาย ชอ่ื วาเปนอมิตร เพราะไมมีไมตรีเหตุนํามาแตสงิ่ ที่ไมเปนประโยชนเกื้อกลู ชื่อวาผฆู า เพราะเปนเสมอื นเพชฌฆาตเงอ้ื ดาบ เหตุเปน ตนเหตุแหงความตาย ชอื่ วา เปนศตั รู เพราะเปนเสมอื นศัตรูผผู ูกเวร เหตตุ ดิ ตามนํามาแตความพนิ าศ ชือ่ วา เปน ดังลูกศรเสยี บไว เพราะลกู ศรทงั้ หลายมีราคะเปน ตน เสยี บตดิ ไว. บทวา มณุ ฺฑ ไดแ ก โกนผม ชื่อวา หม สงั ฆาฏเิ พราะเก็บเศษผาท้ังหลายในทน่ี น้ั ๆ มาปะติดปะตอ ทาํ จีวรหม. บทวา อตุ ฺตฏิ ปณโฺ ฑไดแก กอ นขา วที่ไปยืนใกลเ รอื นทกุ หลงั ที่เปด ประตูไวไ ดมา. บทวา อฺุโฉไดแ ก การเทยี่ วขอเขาเพื่อกอนขาวนน้ั . บทวา อนาคารูปนิสฺสโย ไดแกบรขิ ารนักบวช อนั เปน ทีอ่ าศยั เพราะผบู วชไมมเี รือน จาํ ตอ งเขาไปอาศยันักบวชทง้ั หลาย อาศัยบรขิ ารน้ันเปนอย.ู บทวา วนตฺ า ไดแก ละทิง้ แลว .บทวา มเหสหี ิ ไดแก ทา นผแู สวงคุณยง่ิ ใหญ มพี ระพทุ ธเจาเปน ตน .บทวา เขมฏ าเน ไดแ ก ในพระนิพพาน อนั เปนที่ไมมีอุปทวะจากโยคะทง้ั หลายมกี ามโยคะเปนตน . บทวา เต ไดแก ทา นผแู สวงคณุ ยิง่ ใหญ. บทวา
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ที่ 428อจล สุข ไดแก บรรลุสขุ ในพระนพิ พาน อธบิ ายวา เพราะเหตุที่ทา นผูแสวงคณุ ย่ิงใหญ มีพระพทุ ธเจา เปนตน ทรงคายกามเสยี แลว จงึ ทรงบรรลุนพิ พานสุข ฉะน้นั ผูปรารถนานิพพานสขุ นัน้ จึงควรสละกามทงั้ หลายเสีย. บทวา มาห กาเมหิ สงฺคจฉฺ ึ ความวา ขาพระองคไมพงึสมาคมกบั กามท้ังหลายไมว าในกาลไร ๆ ถา จะถามวาเพราะเหตุไร พระเถรีจงึ กลาววา เยสุ ตาณ น วิชชฺ ติ ความวา บรรดาบทเหลาน้นั บทวาเยสุ ตาณ น วิชฺชติ ความวา บรรดากามทง้ั หลายเหลาใด ท่ถี กู ตรวจสอบอยู แมใ นกามสกั อยางหนึง่ กช็ วยตอ ตานความพนิ าศไมได กามท้งั หลายชื่อวา เสมอดวยกองไฟ เพราะอรรถวา เผาใหร อ นขนานใหญ ชอ่ื วา ทุกขเพราะอรรถวา ทนไดย าก. กส็ ภาวะท่ขี ึ้นช่ือวากาม ชือ่ วาไมบ ริสุทธ์มิ ีภัย เพราะนาํ มาแตความพนิ าศอยางกวางขวางทไ่ี มรู ชือ่ วามีความคับแคน เพราะทําความคับแคนแหงจิต ช่อื วาเปน เสีย้ นหนาม เพราะแทงเอาได. บทวา เคโธ สวุ สิ โมเจโส ความวา ชือ่ วา หมกมนุ เพราะมคี วามหมกมุน เปนเหตุ สภาวะน้ีแสนจะไมสมํา่ เสมอ คอื ความกังวลอยางมาก ชอื่ วา ใหญ เพราะอรรถวา กา วลวงไดแ สนยาก ช่ือวา เปน ทางแหง ความลมุ หลง เพราะเปน เหตุถงึ ความสยบ.บทวา อปุ สคฺโค ภมี รูโป ความวา ชอ่ื วา มสี ภาวะนาสะพรึงกลวั ดุจอปุ สรรคมาแตเ ทวดา ช่ือวา ใหญ เพราะนําทุกขม คี วามพนิ าศเปนตนมาใหกามทัง้ หลายชือ่ วา เปรียบดว ยหวั งูพิษ เพราะอรรถวา เปนภัยเฉพาะหนา. บทวา กามส สคคฺ สตฺตา ไดแก ผตู ิด ผขู อ งดว ยเปอกตม กลาวคอืกาม.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เถรีคาถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 429 บทวา ทุคฺคติมน มคคฺ ไดแ ก ทางท่พี าไปอบายมนี รกเปนตน.บทวา กามเหตกุ ไดแ ก การบริโภคกามเปน เหต.ุ บทวา พหุ ไดแ กม ากอยาง โดยประเภทแหงกรรมมีปาณาติบาตเปนตน. บทวา โรคมาวห ไดแ กนํามาซง่ึ ทกุ ข ตางโดยทกุ ขใ นปจจบุ นั เปนตน ทีน่ บั วาโรค เพราะอรรถวาเสยี ดแทง. บทวา เอว ไดแก โดยประการที่กลา วมาแลววา อมติ ฺตา วธกาเปนตน. บทวา อมิตฺตชนนา ไดแก ใหเกิดความเปนอมติ ร. บทวา ตาปนาไดแ ก ใหเ ดือดรอน อธบิ ายวา เปนท่ีตง้ั แหงความเดือดรอน. บทวาสงฺกเิ ลสกิ า ไดแ ก นาํ มาซง่ึ สังกเิ ลสความเศราหมอง. บทวา โลกามิสาไดแก เปนอามิส เหยอื่ ในโลก. บทวา พนธฺ นยิ า ไดแกพ งึ ถูกผูกดวยสงั โยชนซง่ึ เปนเครอ่ื งผูก อธิบายวา อันสงั โยชนป ระกอบไว. บทวา มรณพนฺธนาไดแ ก มรณะผูกไว เพราะเหตทุ เ่ี ปน ไปและเพราะมรณะ เหตุเปน เครอ่ื งหมายแหง การบังเกิดในภพเปนตน . บทวา อุมฺมาทนา ไดแ ก กามทัง้ หลายกระทําใหเปนบาเพราะความเศราโศกโดยความพลัดพรากกนั เพราะกามมคี วามแปรปรวนเปน ธรรมดาหรอื นาํ ความมัวเมาย่ิงขน้ึ โดยเพิ่มทวี. บทวา อุลฺลปนา ไดแก การบนเพอสงู ขน้ึ ๆ วา โอ ! สขุ จรงิ โอ ! สุขจริง. บาลีวา อลุ ฺโลลนา ก็มี ความวาพรํ่าเพอราํ พันถึงสัตวท ้ังหลาย เพราะอามสิ เปนเหตุ เหมือนสุนขั กระดกิ หางเพราะกอ นขาว คือทําใหไ มร ูสึกถงึ ความเสอื่ ม. บทวา จติ ตฺ ปปฺ มาทิโนไดแก มีปกติยาํ่ ยีจิต ทั้งในปจจุบัน ทัง้ ในอนาคต โดยการกอ ความเรา รอ นเปนตน บาลีวา จติ ฺตปฺปนทฺทิโน ก็มี ความก็อยางน้นั เหมอื นกนั . สว นอาจารยพ วกใดกลาววา จิตฺตปปฺ มาทโิ น เน้อื ความของอาจารยพ วกนน้ั กว็ านาํ มาซ่งึ ความประมาทแหง จิต. บทวา สงกฺ เิ ลสาย ไดแก เพ่ือความพินาศ
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนา ท่ี 430เพื่อความเบยี ดเบยี น หรอื เพอื่ ใหเดอื ดรอน. บทวา ขปิ ปฺ มาเรน โอฑฑฺ ติ ความวา ขน้ึ ชือ่ วา กามเหลาน้ี บณั ฑิตพึงเห็นวา เหมือนลอบทีม่ ารดกั ไวเพราะนํามาแตค วามพินาศแกส ัตวทัง้ หลาย. บทวา อนนตฺ าทนี วา ไดแ ก มอี าทนี พโทษไมม ที สี่ ้นิ สดุ คอื มีโทษมาก โดยนยั ทีก่ ลา วไวใ นท่นี ้วี า โลภน มทนฺเจต เงินทองนั้นทาํ ใหเกดิความโลภ ความมวั เมา ดังนี้เปนตน และในสตู รทั้งหลายมที ุกขกั ขนั ธสตู รเปนตนวา ความหนาวเปนเบอื้ งหนา ความรอ นเปนเบอื้ งหนา ดังนี้เปนตน .บทวา พหทุ กุ ขฺ า ไดแ ก ตดิ ตามทกุ ขห ลายอยาง มที กุ ขในอบายเปน ตน.บทวา มหาวสิ า ไดแก เสมอื นมหาพิษท่ีรา ยกาจเปน ตน เพราะมีผลเผ็ดรอน.บทวา อปปฺ สฺสาทา ไดแก อรอยนอย เหมือนหยาดนา้ํ ผ้งึ ท่ีไหลตามคมมดี .บทวา รณฺการา ไดแ ก ทาํ ความกําหนัดนักเปน ตนใหเ พิ่มทวี. บทวาสุกกฺ ปกขฺ วิโสสนา ไดแ ก ทาํ ความพินาศแกสว นแหง ธรรมฝา ยไมมโี ทษใหส ัตวท งั้ หลาย. บทวา สาห ตัดบทเปน สา อห ความวา ขา พเจานนั้ ฟงธรรมในสาํ นกั พระศาสดา โดยนัยทก่ี ลา วไวแ ลว แตห นหลัง ไดศ รัทธาแลว ละสมบตั ิออกบวช. บทวา เอตาทสิ ไดแก เห็นปานนัน้ คอื มีประการดงั กลาวมาแลว . บทวา หิตวฺ า ไดแก ละสมบัตนิ ้นั อธิบายวา เพราะเหตตุ ามทก่ี ลา วมาแลว. บทวา น ต ปจจฺ าคมิสฺสามิ ความวา ขาพเจา จักไมก ลบั มาบรโิ ภคสมบตั นิ น้ั คือกามทง้ั หลายทข่ี าพเจาคายมากอนแลวอีก. บทวา นิพฺ-พานาภิรตา สทา ประกอบความวา เพราะเหตทุ ข่ี า พเจา ยนิ ดยี ิง่ แลว ในพระนิพพานมาตลอดกาล นบั ต้ังแตเ วลาทบ่ี วชแลว ฉะนั้น ขา พเจา จกั ไม
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาท่ี 431กลบั มาหาสมบัตกิ ามนน้ั อกี . บทวา รณ ตรติ ฺวา กามาน ความวา ขา มสนามรบของกามทง้ั หลาย และทาํ สนามรบน้ัน ใหเปน อนั ประหารดว ยพระ-อริยมรรค อันเปนกจิ ทข่ี า พเจา พงึ ทํา. บทวา สตี ภิ าวาภกิ งขฺ ินี ไดแ กจํานงหวงั พระอรหตั ทนี่ ับวา เปนภาวะเยือกเย็น เพราะระงับความกระวนกระวายและความเรารอนของกิเลสไดห มด. บทวา รตา ส โยชนกฺขเยไดแก ยนิ ดยี ่งิ นกั ในพระนิพพาน อนั เปนธรรมท่ีสน้ิ ไปแหงสงั โยชนท ุกอยาง. บทวา เยน ตณิ ฺณา มเหสโิ น ความวา เหลา ทานผูแสวงคุณอันยงิ่ ใหญม พี ระพทุ ธเจาเปน ตน พากันขามโอฆะใหญค ือสงั สารวฏั ดว ยอริยมรรคใด แมขา พเจา กจ็ ะเดนิ ตามมรรคท่ที า นเดนิ ไปแลว นนั้ บรรลตุ ามดวยการปฏบิ ัติศีลเปนตน. บทวา ธมฺมฏ ไดแกต ั้งอยใู นธรรมคืออรยิ ผล. บทวา อเนชไดแ ก ผลอันเลิศ ทไี่ ดช ่ือวา อเนชะ เพราะระงับความหวัน่ ไหวไดแลว . บทวาอุปสมฺปชฺช ไดแก สําเรจ็ ผลแลว คอื บรรลุดวยการบรรลุอรหัตมรรค. บทวาฌายติ ไดแก เขา ไปเพงผลฌานนัน้ นน่ั แล. บทวา อชชฺ ฏมี ปพฺพชิตา ความวา นางเปน ผบู วชแลว คอืนับต้งั แตว ันทีน่ างบวชแลว วันนีก้ น็ ับเปน วนั ที่ ๘. อธิบายวา นางบวชแลวได๘ ราตรี นบั ต้ังแตวันทล่ี ว งมาแลวน.้ี บทวา สทฺธา ไดแ กถึงพรอมดว ยศรทั ธา. บทวา สทธฺ มฺมโสภณา ไดแก งามเพราะบรรลุพระสัทธรรม. บทวา ภุชสิ ฺสา ไดแ ก ช่ือวาเปนไทแกตัว เพราะละกเิ ลสทง้ั หลายทีเ่ ปน เสมือนความเปนทาส ชอื่ วา ไมม หี นี้ เพราะปราศจากหน้ีมกี ามฉนั ทะเปน ตน.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เถรคี าถา เลม ๒ ภาค ๔ - หนาที่ 432 เลา กันวา พระเถรบี วชแลว ในวันท่ี ๘ กบ็ รรลุพระอรหตั น่งั เขา ผลสมาบตั ทิ ่ีโคนไมต นหน่ึง พระผมู พี ระภาคเจา เม่อื จะทรงแสดงแกภิกษุณที ้ังหลายแลว ทรงสรรเสริญ จงึ ตรสั พระคาถา ๓ พระคาถาเหลาน้.ี คร้ังนัน้ ทาวสกั กะจอมทวยเทพทรงเหน็ เร่ืองนั้นดวยจักษทุ ิพยแลวทรงดาํ ริวา เพราะเหตุท่ีพระเถรรี ูปนี้ พระศาสดาทรงสรรเสริญอยา งน้ี ฉะนน้ัจาํ เราและทวยเทพควรเขา ไปหา ดังน้ีแลว ทันใดน้ันเอง ก็เสดจ็ เขา ไปหาพรอมดวยทวยเทพชั้นดาวดึงส ทรงอภวิ าทแลว ประคองอญั ชลีประทับยนื อย.ูหมายเอาเรื่องนั้น ทา นพระสงั คตี กิ าจารยทั้งหลายจึงกลาววา ทาวสักกะเจา แหง หมสู ตั ว พรอมดว ย หมูเทพ เสด็จเขา ไปหาพระเถรี ธดิ าชางทองผูสวยงามรปู นัน้ ดว ยเทวฤทธ์ทิ รงนมสั การอยู ดังน.ี้ ในคาถานั้น ความวา ทา วสักกะเทวราชทรงไดพระนามวา ภูตปติเพราะวิเคราะหว า ทรงเปนเจาเปนใหญแหง เหลา สัตวท เ่ี กิดในกามภพทงั้ ๓เสด็จเขา ไปหาพระสุภากัมมารธีตุเถรรี ูปน้ัน พรอมกบั หมูเ ทพดวยฤทธ์ขิ องพระ-องค ทรงนมัสการ คือทรงไหวดว ยเบญจางคประดิษฐ. จบ อรรถกถาสภุ ากัมมารธีตเุ ถรีคาถา จบ อรรถกถาวีสตนิ ิบาต
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 539
Pages: