Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_86

tripitaka_86

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:47

Description: tripitaka_86

Search

Read the Text Version

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 309 [๑๗๑๕] ๓. สังกิลิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จยั แกส งั -กลิ ิฏฐสงั กิเลสิกธรรม และอสงั กิลิฏฐสังกิเลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของกมั มปจ จยั คอื เจตนาท่เี ปนสงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม เปนปจ จัยแกสัมปยตุ ตขนั ธและจติ ตสมุฏฐานรปู ดวยอาํ นาจของกัมมปจ จัย. [๑๗๑๖] ๔. อสงั กลิ ิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกอสงั -กิลฏิ ฐสงั กเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของกัมมปจจยั . มี ๒ อยาง คอื ที่เปน สหชาตะ และ นานาขณิกะที่เปน สหชาตะ ไดแ ก เจตนาทเี่ ปนอสงั กิลิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม เปนปจจัยแกสัมปยตุ ตขนั ธและจติ ตสมฏุ ฐานรปู ดว ยอํานาจของกัมมปจจยั . ทเี่ ปน นานาขณิกะ ไดแก เจตนาทเ่ี ปนอสงั กิลฏิ ฐสังกสิ กิ ธรรมเปนปจ จัยแกวิบากขนั ธ และกฏัตตารูป ดว ยอํานาจของกัมมปจจัย. [๑๗๑๗] ๕. อสงั กลิ ิฏฐอสงั กิเลสิกธรรม เปน ปจ จัยแกอสงั -กลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ดวยอํานาจของกัมมปจจัย มี ๒ อยาง คือ ทเี่ ปน สหชาตะ และ นานาขณิกะ ทเ่ี ปน สหชาตะ ไดแก

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 310 เจตนาที่เปนอสงั กลิ ิฏฐอสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จยั แกสมั ปยตุ ตขันธดวยอาํ นาจของกัมมปจ จัย. ทเ่ี ปน นานาขณกิ ะ ไดแก เจตนาทเ่ี ปนอสังกิลิฏฐอสงั กิเลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกขันธ ที่เปนอสังกิลฏิ ฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ซง่ึ เปนวิบาก ดว ยอาํ นาจของกมั มปจ จยั . [๑๗๑๘] ๖. อสงั กิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม เปน ปจ จัยแกอ สัง-กิลฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของกมั มปจจัย มอี ยางเดยี ว คอื ท่ีเปน สหชาตะ ไดแ ก เจตนาท่ีเปน อสงั กลิ ิฏฐอสงั กิเลสกิ ธรรม เปนปจ จัยแกจ ติ ตสมฏุ ฐานรูปดวยอาํ นาจของกัมมปจ จัย. [๑๗๑๙] ๗. อสงั กิลฏิ ฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจ จยั แกอสัง-กิลิฏฐสังกิเลสกิ ธรรม และอสงั กิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรม ดวยอํานาจของกมั มปจจยั มอี ยางเดียว คือที่เปน สหชาตะ ไดแก เจตนาที่เปนอสงั กลิ ิฏฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจยั แกส มั ปยตุ ตขันธและจติ ตสมุฏฐานรูป ดวยอาํ นาจของกมั มปจจยั . ๑๔. วิปากปจจัย [๑๗๒๐] ๑. อสงั กิลฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม เปน ปจ จัยแกอ สัง-กลิ ิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของวิปากปจจยั

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 311 คอื ขันธ ๑ ทีเ่ ปน อสงั กลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม ซงึ่ เปนวบิ าก เปนปจจยัแกขันธ๓ และจิตตสมฏุ ฐานรูป โดยวปิ ากปจ จยั ฯลฯ ขันธ ๒ เปนปจ จัยแกขันธ ๒. ในปฏสิ นธิขณะ ขนั ธ ๑ ทเี่ ปน อสังกิลิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจจยัแกข นั ธ ๓ และกฏตั ตารปู ดวยอาํ นาจของวิปากปจจัย ฯลฯ ขนั ธ ๒ เปนปจจัยแกข นั ธ ๒. ขนั ธท้ังหลายเปน ปจ จัยแกหทยวัตถุ ดวยอาํ นาจของวิปากปจจัย. [๑๗๒๐] ๒. อสังกลิ ิฏฐอสังกิเลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกอ สัง-กลิ ฏิ ฐอสังกิเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของวิปากปจ จัย คือ ขนั ธ ๑ ท่ีเปน อสังกิลฏิ ฐอสังกเิ ลสิกธรรม ซง่ึ เปนวิบาก เปน ปจจัยแกขนั ธ ๓ ดวยอํานาจของวปิ ากปจ จัย ฯลฯ ขนั ธ ๒ เปนปจจยั แกข นั ธ ๒. [๑๗๒๒] ๓. อสังกิลิฏฐอสังกิเลสกิ ธรรม เปน ปจ จยั แกอ สงั -กลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม ดว ยอาํ นาจของวิปากปจจัย คือ ขนั ธท ีเ่ ปน อสังกลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ซง่ึ เปน วิบาก เปนปจ จัยแกจิตตสมุฏฐานรปู ดว ยอาํ นาจของวิปากปจ จยั . [๑๗๒๓] ๔. อสงั กิลฏิ ฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจ จยั แกอ สงั -กิลิฏฐสังกิเลสสกิ ธรรม และอสงั กิลฏิ ฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของวปิ ากปจ จยั คอื ขนั ธ ๑ ท่ีเปน อสังกลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจ จัยแกข ันธ ๓และจิตตสมฏุ ฐานรปู ดว ยอาํ นาจของวปิ ากปจจยั ฯลฯ ขนั ธ ๒ ฯลฯ.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 312 ๑๕. อาหารปจ จัย [๑๗๒๔] ๑. สงั กิลฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จยั แกส งั กลิ ฏิ ฐ-สังกิเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของอาหารปจจยั มี ๓ วาระ. [๑๗๒๕] ๔. อสังกิลฏิ ฐสงั กเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจัยแกอ สัง-กิลฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม ดวยอํานาจของอาหารปจ จยั คือ อาหารท่เี ปน อสงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม เปนปจจยั แกส มั ปยุตต-ขนั ธและจิตตสมุฏฐานรูป ดว ยอาํ นาจของอาหารปจจัย. ในปฏสิ นธิขณะ๑ ฯลฯกวฬกี าราหาร เปน ปจ จัยแกก ายน้ี ดวยอาํ นาจของอาหารปจ จัย ฯลฯ. [๑๗๒๖] ๕. อสงั กิลฏิ ฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจ จัยแกอสงั -กลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของอาหารปจ จยั มี ๓ วาระ. ๑๖. อินทรยิ ปจจยั [๑๗๒๗] ๑. สังกิลฏิ ฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจยั แกส งั กิลฏิ ฐ-สังกเิ ลสิกธรรม ดวยอํานาจของอินทริยปจ จยั มี ๓ วาระ. ๔. อสงั กลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม เปน ปจ จยั แกอ สัง-กลิ ิฏฐสังกิเลสิกธรรม ดว ยอาํ นาจของอนิ ทริยปจจัย คอื อนิ ทรยี ทเี่ ปนอสังกลิ ิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จยั แกส ัมปยตุ ต-ขนั ธ และจติ ตสมุฏฐานรูป ดว ยอํานาจของอนิ ทริยปจจยั .๑. ฯลฯ ดูขอ ๑๖๗๑

พระอภธิ รรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 313 ในปฏสิ นธขิ ณะ ฯลฯ. จักขุนทรีย เปนปจ จยั แกจ กั ขวุ ิญญาณ ฯลฯ กายินทรีย เปนปจ จัยแกกายวญิ ญาณ ดวยอาํ นาจของอินทริยปจ จยั . รูปชวี ติ นิ ทรยี  เปนปจ จยั แกกฏตั ตารปู ดว ยอํานาจของอินทรยิ ปจจยั . ๕. อสังกิลฏิ ฐอสงั กเิ ลสกิ ธรรม มี ๓ วาระ. ๑๗. ฌานปจจัย ๑๘. มัคคปจ จัย ๑๙. สมั ปยตุ ตปจ จัย [๑๗๒๘] ๑. สงั กลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกส ังกิลิฏฐ-สังกเิ ลสิกธรรม ดว ยอํานาจของฌานปจจัย ฯลฯ เปน ปจ จัยดวยอํานาจของมัคคปจ จัย ฯลฯ เปนปจจยั ดวยอาํ นาจของสมั ปยตุ ตปจ จยั . ๒๐. วปิ ปยุตตปจ จยั [๑๗๒๙] ๑. สังกลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จยั แกอสงั -กลิ ฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของวิปปยุตตปจ จัย มี ๒ อยาง คือ ทเ่ี ปน สหชาตะ และ ปจ ฉาชาตะ ที่เปน สหชาตะ ไดแก ขนั ธท ีเ่ ปน สงั กิลฏิ ฐสังกเิ ลสกิ ธรรมทเ่ี กดิ พรอม เปน ปจจัยแกจิตต-สมฏุ ฐานรูปดวยอํานาจของวิปปยุตตปจ จยั ทเี่ ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแก๑. ๒. มี ๗ วาระ, ๓. มี ๓ วาระ

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 314 ขนั ธท เ่ี ปน สังกิลฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรมท่เี กดิ ภายหลงั เปน ปจ จัยแกกายนีท้ ่ีเกิดกอ น ดว ยอาํ นาจของวปิ ปยุตตปจจัย. [๑๗๓๐] ๒. อสังกิลฏิ ฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกอ สงั -กิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของวิปปยตุ ตปจ จยั มี ๓ อยา ง คอื ท่เี ปน สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปจ ฉาชาตะ ทีเ่ ปน สหชาตะ ไดแก ขันธท ี่เปน อสงั กิลิฏฐสังกิเลสกิ ธรรมทีเ่ กิดพรอ ม เปน ปจจยั แกจ ติ ตสมุฏฐานรูป ดวยอํานาจของวปิ ปยตุ ตปจ จยั . ในปฏิสนธิขณะ ขันธที่เปน อสงั กลิ ิฏฐสงั กิเลสิกธรรม เปน ปจ จัยแกกฏัตตารูป ดวยอํานาจของวิปปยตุ ตปจ จยั . ขนั ธทงั้ หลายเปน ปจจยั แกห ทยวัตถุ, หทยวัตถุเปนปจ จัยแกขนั ธท้งัหลาย ดว ยอาํ นาจของวปิ ปยุตตปจจยั . ท่ีเปน ปุเรชาตะ ไดแก จักขายตนะเปนปจจัยแกจ ักขุวญิ ญาณ ฯลฯ กายายตนะ เปนปจ จยั แกกายวญิ ญาณ ดวยอาํ นาจของวปิ ปยุตตปจจัย. หทยวตั ถุเปน ปจจัยแกข ันธที่เปนอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของวิปปยุตตปจ จยั . ทเ่ี ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแ ก ขันธท่เี ปนอสงั กลิ ฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรมท่เี กิดภายหลัง เปน ปจจัยแกก ายนที้ ี่เกดิ กอ น ดวยอํานาจของวปิ ปยุตตปจ จยั [๑๗๓๑] ๓. อสงั กิลฏิ ฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจยั แกส ัง-กลิ ฏิ ฐสงั กเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอาํ นาจของวิปปยตุ ตปจจยั .

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 315 มีอยา งเดียว คือ ปเุ รชาตะ ไดแ ก หทยวัตถุ เปน ปจจัยแกขนั ธท่เี ปนสังกลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม ดว ยอาํ นาจของวปิ ปยุตตปจจัย. [๑๗๓๒] ๔. อสงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม เปน ปจจัยแกอ สงั -กิลฏิ ฐอสังเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของวิปปยตุ ตปจ จยั มีอยา งเดียว คอื ปเุ รชาตะ ไดแ ก หทยวตั ถุ เปน ปจจยั แกขนั ธท่เี ปนอสังกลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ดว ยอํานาจของวิปปยตุ ตปจจัย. [๑๗๓๓] ๕. อสังกลิ ิฏฐอสงั กิเลสิกธรรม เปน ปจจัยแกอสัง-กลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของวปิ ปยตุ ตปจ จยั มี ๒ อยาง คือ ทีเ่ ปน สหชาตะ และ ปจ ฉาชาตะ ทเ่ี ปน สหชาตะ ไดแก ขันธท ่ีเปนอสงั กิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรมทเี่ กดิพรอม เปน ปจ จัยแกจติ ตสมุฏฐานรูป ดว ยอํานาจของวปิ ปยตุ ตปจ จัย. ทีเ่ ปน ปจฉาชาตะ ไดแก ขันธท ีเปนอสงั กิลิฏฐอสังกิเลสิกธรรมทีเ่ กดิ ภายหลงั เปนปจ จัยแกก ายน้ี ทเี่ กิดกอน ดว ยอํานาจของวปิ ปยตุ ตปจจยั . ๒๑. อตั ถิปจจยั [๑๗๓๔] ๑. สังกิลฏิ ิฐสงั กเิ ลสิกธรรม เปน ปจ จัยแกสงั กลิ ิฏฐ-สังกเิ ลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของอตั ถปิ จ จัย คือ ขนั ธ ๑ ท่ีเปน สงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกข ันธ ๓ดวยอํานาจของอตั ถปิ จ จัย ฯลฯ

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 316 [๑๗๓๕] ๒. สงั กิลฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรม เปน ปจ จัยแกอสังกิลิฏฐ-สังกิเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของอตั ถิปจ จยั มี ๒ อยาง คอื ที่เปน สหชาตะ และ ปจฉาชาตะ ทีเ่ ปน สหชาตะ ไดแก ขนั ธท่ีเปนสงั กิลิฏฐสงั กิเลสิกธรรมท่เี กิดพรอม เปนปจ จัยแกจติ ต-สมฏุ ฐานรปู ดว ยอํานาจของอตั ถปิ จ จัย. ทีเ่ ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแ ก ขันธทเ่ี ปน สังกิลิฏฐสังกิเลสกิ ธรรมที่เกดิ ภายหลัง เปนปจ จยั แกกายนี้ ทเี่ กดิ กอน ดว ยอาํ นาจของอัตถิปจ จยั . [๑๗๓๖] ๓. สงั กลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจจยั แกสังกิลิฏฐ-สงั กิเลสิกธรรม และอสงั กลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของอตั ถ-ิปจ จยั คือ ขนั ธ ๑ ท่ีเปนสงั กิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เปนปจ จัยแกข ันธ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป ดวยอาํ นาจของอตั ถิปจจัย ขันธ ๒ ฯลฯ [๑๗๓๗] ๔. อสงั กลิ ฏิ ฐสงั กิเลสิกธรรม เปนปจ จัยแกอ สงั -กลิ ิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม ดว ยอาํ นาจของอัตถปิ จจยั มี ๕ อยาง คือ ทเี่ ปน สหชาตะ ปเุ รชาตะ ปจ ฉาชาตะ อาหาระและ อินทรยิ ะ ที่เปน สหชาตะ ไดแก ขนั ธ ๑ ทเ่ี ปนอสังกิลิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจจัยแกขนั ธ ๓ และจติ ตสมุฏฐานรปู ดว ยอํานาจของอตั ถปิ จ จัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 317 สาํ หรบั พวกอสญั ญสตั ว มหาภูตรูป ๑ เปน ปจจัยแกมหาภตู รปู ๓ดว ยอาํ นาจของอัตถิปจจยั ฯลฯ ท่เี ปน ปุเรชาตะ ไดแ ก บคุ คลพจิ ารณาเห็นจักษุ โดยความเปน ของไมเ ทีย่ ง เปนทุกข เปนอนัตตา, พิจารณาเห็นโสตะฯลฯ กายะ รปู ฯลฯ โผฏฐพั พะ หทยวตั ถุ โดยความเปน ของไมเ ทยี่ ง เปนทุกข เปน อนัตตา. เหน็ รูปดว ยทพิ ยจักษุ ฟงเสยี งดวยทพิ โสตธาต.ุ รูปายตนะเปนปจจัยแกจกั ขุวญิ ญาณ ฯลฯ โผฏฐพั พายตนะ เปนปจ จยั แกกายวญิ ญาณ ดว ยอาํ นาจของอัตถปิ จ จัย. จักขายตนะ เปน ปจจยั แกจ ักขวุ ญิ ญาณ ฯลฯ กายายตนะเปนปจจัยแกกายวิญญาณ. หทยวตั ถุทีเ่ กิดกอ น เปน ปจ จยั แกขันธ ทเ่ี ปนอสังกลิ ฏิ ฐสงั กเิ ลสิก-ธรรม ดวยอาํ นาจของอตั ถปิ จจัย. ทีเ่ ปน ปจฉาชาตะ ไดแ ก ขันธท ัง้ หลายท่ีเปน อสังกลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรมท่เี กดิ ภายหลงั เปนปจ จัยแกก ายน้ี ท่เี กดิ กอ น ดว ยอาํ นาจของอตั ถปิ จจยั . กวฬกี าราหาร เปนปจจยั แกกายน้ี. รปู ชีวิตนิ ทรยี  เปน ปจ จัยแกก ฏัตตารูป ดวยอาํ นาจของอัตถิปจจยั . [๑๗๓๘] ๕. อสังกิลิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจจัยแกสัง-กิลิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของอัตถิปจจัย

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 318 มอี ยางเดียว คอื ปุเรชาตะ ไดแ ก บคุ คลยอ มยนิ ดี ยอ มเพลดิ เพลินย่ิงซึ่งจกั ษุ เพราะปรารภจักษุนนั้ราคะ ฯลฯ โทมนัส ยอมเกิดขน้ึ ยอมยินดี ยอ มเพลดิ เพลินยิง่ ซ่งึ หทยวัตถุฯลฯ หทยวตั ถุ เปนปจ จัยแกข ันธท ่เี ปนสงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสิกธรรม ดว ยอํานาจของอัตถิปจ จยั . [๑๗๓๙] ๖. อสงั กลิ ฏิ ฐสงั กเิ ลสิกธรรม เปน ปจจยั แกอ สงั -กลิ ฏิ ฐอสงั กเิ ลสิกธรรม ดวยอํานาจของอตั ถปิ จจยั มีอยางเดยี ว คือ ปเุ รชาตะ ไดแก หทยวัตถเุ ปนปจจยั แกข ันธท่เี ปนอสังกลิ ิฏฐอสงั กิเลสิกธรรม ดวยอํานาจของอตั ถปิ จ จยั . [๑๗๔๐] ๗. อสังกิลฏิ ฐอสังกิเลสกิ ธรรม เปนปจ จัยแกอสัง-กลิ ิฏฐอสงั กิเลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของอตั ถปิ จจัย คือ ขนั ธ ๑ ที่เปนอสงั กิลิฏฐอสังกเิ ลสิกธรรม เปน ปจจัยแกข นั ธ ๓ดว ยอํานาจของอัตถปิ จ จัย ฯลฯ. [๑๗๔๑] ๘. อสังกลิ ิฏฐอสงั กิเลสกิ ธรรม เปนปจ จัยแกอสงั -กิลิฏฐสงั กิเลสิกธรรม ดว ยอาํ นาจของอตั ถปิ จจัย มี ๒ อยา ง คือ ท่เี ปน สหชาตะ และ ปจฉาชาตะ ท่ีเปน สหชาตะ ไดแ ก ขันธท ีเ่ ปน อสังกลิ ฏิ ฐอสงั กเิ ลสกิ ธรรมท่ีเกิดพรอ มเปน ปจจยั แกจิตตสมฏุ ฐานรูป ดวยอาํ นาจของอตั ถิปจจัย

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 319 ทเ่ี ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแก ขันธท เ่ี ปนอสงั กิลิฏฐอสงั กเิ ลสิกธรรมท่ีเกิดภายหลัง เปน ปจจัยแกก ายนี้ ท่เี กิดกอ น ดว ยอาํ นาจของอตั ถิปจ จยั [๑๗๔๒] ๙. อสังกลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสิกธรรม เปนปจจยั แกอสงั -กิลฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรม และอสงั กลิ ฏฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของอัตถปิ จ จัย คือ ขนั ธ ๑ ทเี่ ปนอสงั กลิ ฏิ ฐอสงั กเิ ลสิกธรรม เปนปจจัยแก ขันธ ๓และจิตตสมฏุ ฐานรปู ดว ยอํานาจของอัตถิปจจัย ฯลฯ. [๑๗๔๓] ๑๐. อสังกิลิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม และอสังกิลฏิ ฐอสัง-กเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจัยแกอ สงั กิลิฏฐสังกเิ ลสิกธรรม ดว ยอํานาจของอตั ถปิ จ จัย มี ๓ อยางคือ ท่เี ปน สหชาตะ, ปจฉาชาตะ รวมกับ อาหาระและรวมกับ อนิ ทริยะ ที่เปน สหชาตะ ไดแก ขันธทเ่ี ปน อสงั กิลิฏฐอสงั กิเลสกิ ธรรมท่ีเกดิพรอ มและมหาภตู รูป เปน ปจจัยแกจ ติ ตสมฏุ ฐานรูปดว ยอํานาจของอัตถปิ จจยั . ท่ีเปน ปจ ฉาชาตะ รวมกบั อาหาระ ไดแ ก ขนั ธท่ีเปนอสัง-กลิ ิฏฐอสังกเิ ลสกิ ธรรมท่ีเกิดภายหลงั และกวฬีการาหาร เปนปจ จยั แกก ายนี้ ดว ยอาํ นาจของอตั ถปิ จจยั . ท่ีเปน ปจ ฉาชาตะ รวมกับ อนิ ทรยิ ะ ไดแก ขนั ธทีเ่ ปนอสังกิลิฏฐสงั กเิ ลสิกธรรมที่เกดิ ภายหลังและรปู ชีวติ ินทรยี  เปน ปจจยั แกกฏตั ตารปู ดว ยอาํ นาจของอตั ถปิ จจัย.

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 320 [๑๗๔๔] ๑๑. อสงั กลิ ฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรม และอสังกิลฏิ ฐอสัง-กเิ ลสกิ ธรรม เปนปจจยั แกอสังกิลฏิ ฐอสงั กิเลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของอัตถปิ จ จยั . มีอยา งเดยี ว คอื ท่เี ปน สหชาตะ รวมกบั ปุเรชาตะ ไดแก ขนั ธ ๑ ที่เปนอสงั กลิ ิฏฐอสังกเิ ลสกิ ธรรมทเ่ี กดิ พรอ มและหทยวตั ถุเปนปจจยั แกขันธ ๓ ดว ยอํานาจของอตั ถปิ จจยั ฯลฯ. [๑๗๔๕] ๑๒. สังกิลิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม และอสังกลิ ฏิ ฐสัง-กิเลสกิ ธรรม เปนปจ จัยแกสังกลิ ิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม ดว ยอาํ นาจของอตั ถิปจจยั มีอยางเดียว คือ ทีเ่ ปน สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ไดแก ขันธ ๑ ทีเ่ ปน สังกิลิฏฐสงั กเิ ลสิกธรรมทเ่ี กิดพรอ มและหทยวัตถุ เปนปจ จัยแกขนั ธ ๓ ดว ยอํานาจของอัตถิปจจัย, ขันธ ๒ ฯลฯ [๑๗๔๖] ๑๓. สังกิลฏิ ฐสงั กเิ ลสิกธรรม และอสังกิลฏิ ฐสงั -กเิ ลสกิ ธรรม เปนปจ จยั แกอ สังกลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของอัตถปิ จจยั มี ๓ อยาง คอื ท่ีเปน สหชาตะ, ปจ ฉาชาตะ รวมกบั อาหาระ และรวมกับ อินทริยะ ทเ่ี ปน สหชาตะ ไดแ ก ขนั ธท เ่ี ปนสังกลิ ฏิ ฐสังกิเลสิกธรรมทีเ่ กิดพรอม และมหาภตู รูป เปนปจ จัยแกจ ิตตสมฏุ ฐานรปู ดว ยอํานาจของอัตถิปจจยั .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 321 ทเ่ี ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแ ก ขันธทีเ่ ปนสงั กลิ ฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรมที่เกดิ ภายหลัง และกวฬีการาหาร เปน ปจจยั แกก ายน้ี ทีเ่ กิดกอน ดวยอํานาจของอตั ถิปจ จัย. ทีเ่ ปน ปจ ฉาชาตะ ไดแ ก ขนั ธท่เี ปนสงั กลิ ฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรมท่เี กิดภายหลงั และรูปชีวิตินทรีย เปน ปจ จยั แกก ฏตั ตารปู ดวยอาํ นาจของอตั ถปิ จจยั ๒๒. นตั ถิปจจยั [๑๗๔๗] สงั กิลฏิ ฐสงั กิเลสิกธรรม เปนปจ จัยแกส งั กลิ ิฏฐ-สังกิเลสกิ ธรรม ดว ยอํานาจของนตั ถิปจ จยั ๑ ฯลฯ เปนปจจัยดว ยอาํ นาจของวคิ ตปจ จัย๒ ฯลฯ เปน ปจจัยดวยอํานาจของอวคิ ตปจ จัย๓. สทุ ธมลู กนยั [๑๗๔๘] ในเหตุปจจัย มี ๗ วาระ ในอารัมมณปจจยั มี ๖ วาระในอธิปติปจจัย มี ๘ วาระ ในอนันตรปจจัย มี ๗ วาระ ในสมนนั ตรปจจยัมี ๗ วาระ ในสหชาตปจ จยั มี ๙ วาระ ในอญั ญมญั ญปจจัย มี ๓ วาระในนสิ สยปจจยั มี ๑๓ วาระ ในอปุ นสิ สยปจจยั มี ๘ วาระ ในปุเรชาตปจ จัยมี ๓ วาระ ในปจ ฉาชาตปจจัย มี ๓ วาระ ในอาเสวนปจ จัย มี ๓ วาระในกมั มปจจยั มี ๗ วาระ ในวิปากปจจยั มี ๔ วาระ ในอาหารปจ จยัมี ๗ วาระ ในอนิ ทรยิ ปจ จยั มี ๗ วาระ ในฌานปจจัย มี ๗ วาระ ในมคั คปจ จัย มี ๗ วาระ ในสมั ปยตุ ตปจจยั มี ๓ วาระ ในวปิ ปยุตตปจจัย มี๑. ๒. มี ๗ วาระ เหมือนอนันตรปจ จยั ๓. มี ๑๓ วาระ เหมนื อัตถปิ จจยั

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 322๕ วาระ ในอตั ถปิ จ จยั มี ๑๓ วาระ ในนัตถิปจจยั มี ๗ วาระ ในวิคตปจ จัยมี ๗ วาระ ในอวคิ ตปจจัย มี ๑๓ วาระ. เหตุสภาคะ [๑๗๔๙] เพราะเหตุปจ จยั ในอธิปติปจ จยั มี ๔ วาระ . . . ในสหชาตปจ จัย มี ๗ วาระ ในอญั ญมัญญปจจัย มี ๓ วาระ ในนิสสยปจจยัมี ๗ วาระ ในวปิ ากปจจยั มี ๔ วาระ ในอนิ ทริยปจ จัย มี ๔ วาระ ในมัคคปจจยั มี ๔ วาระ ในสัมปยตุ ตปจ จยั มี ๓ วาระ ในวปิ ปยุตตปจ จัย มี๓ วาระ ในอัตถปิ จ จยั มี ๗ วาระ ในอวคิ ตปจ จยั มี ๗ วาระ. เหตฆุ ฏนา [๑๗๕๐] ปจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อตั ถิ และอวคิ ต-ปจ จัย มี ๗ วาระ. ปจจยั ๖ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นสิ สยะ อตั ถิ และอวคิ ตปจจยั มี ๓ วาระ. ปจจัย ๗ คอื เหตุ สหชาตะ อญั ญมัญญะ นสิ สยะ สมั ปยตุ ตะอัตถิและอวิคตปจ จยั มี ๓ วาระ. ปจจัย ๖ คอื เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคต-ปจจยั มี ๓ วาระ. ปจ จัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อตั ถิ และอวคิ ต-ปจจัย มี ๔ วาระ. ปจจยั ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อญั ญมัญญะ นสิ สยะ วิปากะ อตั ถิและอวคิ ตปจจัย มี ๒ วาระ.

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 323 ปจจยั ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมญั ญะ นิสสยะ วปิ ากะ สมั ปยตุ ตะอตั ถิ และอวคิ ตปจจัย มี ๒ วาระ. ปจ จยั ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยตุ ตะ อตั ถิอวคิ ตปจ จัย มี ๒ วาระ. ปจจยั ๘ คอื เหตุ สหชาตะ อญั ญมญั ญะ นิสสยะ วิปากะวิปปยตุ ตะ อตั ถิ และอวิคตปจจยั มี ๑ วาระ. ในกุสลตกิ ะใหพ สิ ดารแลว อยางไร พงึ ใหพิสดารอยา งนั้น. อนโุ ลมนัย จบ ปจจนียนยั กรยกปจจัยในปจ จนยี ะแหงปญหาวาระ [๑๗๕๑] สงั กิลฏิ ฐสังกเิ ลสิกธรรม เปนปจจยั แกสังกิลฏิ ฐ-สังกิเลสิกธรรม ดวยอํานาจของอารมั มณปจจยั ฯลฯ เปนปจ จยั ดวยอํานาจของสหชาตปจ จยั ฯลฯ เปน ปจจยั ดวยอาํ นาจของอปุ นสิ สยปจ จยั . [๑๗๕๒] สังกลิ ิฏฐสังกิเลสิกธรรม เปนปจจัยแกอ สงั กลิ ิฏฐ-สงั กเิ ลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของอารมั มณปจจัย ฯลฯ เปน ปจจยั ดว ยอาํ นาจของสหชาตปจจยั ฯลฯ เปนปจ จัยดว ยอํานาจของอปุ นสิ สยปจจัยฯลฯ เปนปจ จยั ดวยอาํ นาจของปจ ฉาชาตปจ จยั ฯลฯ เปนปจจยั ดว ยอาํ นาจของกมั มปจจัย. [๑๗๕๓] สงั กิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม เปนปจจัยแกอ สงั กิลิฏฐ-อสงั กิเลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของอุปนิสสยปจ จยั .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 324 [๑๗๕๔] สงั กิลฏิ ฐสงั กิเลสิกธรรม เปน ปจจยั แกสังกลิ ฏิ ฐ-สงั กเิ ลสิกธรรม และอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกธรรม ดวยอาํ นาจของสหชาตปจจัย. [๑๗๕๕] อสังกลิ ิฏฐสังกิเลสกิ ธรรม เปน ปจจยั แกอสงั กิลิฏฐ-สังกเิ ลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของอารัมมณปจ จัย ฯลฯ เปนปจจยั ดวยอํานาจของสหชาตปจ จัย ฯลฯ เปน ปจ จัยดว ยอํานาจของอุปนิสสยปจจัยฯลฯ เปนปจจยั ดว ยอํานาจของปเุ รชาตปจจยั ฯลฯ เปนปจจยั ดวยอํานาจของปจ ฉาชาตปจจัย ฯลฯ เปนปจจัยดวยอํานาจของกัมมปจจัย ฯลฯ เปนปจจยั ดวยอํานาจของอาหารปจจยั ฯลฯ เปน ปจจัยดวยอาํ นาจของอนิ ทริย-ปจ จยั . [๑๗๕๖] อสังกลิ ิฏฐสงั กิเลสกิ ธรรม เปน ปจจยั แกส งั กลิ ิฏฐ-สงั กเิ ลสกิ ธรรม ดวยอาํ นาจของอารมั มณปจ จัย ฯลฯ ดว ยเปน ปจจัยอาํ นาจของอปุ นสิ สยปจ จัย ฯลฯ เปน ปจ จัยดวยอาํ นาจของปุเรชาตปจ จัย. [๑๗๕๗] อสงั กลิ ิฏฐสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจจยั แกอ สงั กลิ ิฏฐ-อสงั กิเลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของอุปนิสสยปจจัย ฯลฯ เปน ปจจยั ดว ยอาํ นาจของปุเรชาตปจ จัย. [๑๗๕๘] อสงั กิลฏิ ฐอสังกิเลสิกธรรม เปนปจจัยแกอสงั -กิลฏิ ฐอสังกิเลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของสหชาตปจจัย ฯลฯ เปน ปจจัยดว ยอาํ นาจของอุปนิสสยปจ จัย.

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 325 [๑๗๕๙] อสังกิลฏิ ฐอสงั กิเลสกิ ธรรม เปน ปจจยั แกอสงั -กลิ ิฏฐอสงั กเิ ลสกิ ธรรม ดวยอํานาจของอารัมมณปจ จยั ฯลฯ เปนปจจยัดวยอํานาจของสหชาตปจจัย ฯลฯ เปนปจ จัยดว ยอาํ นาจของอุปนสิ สยปจ จยัฯลฯ เปนปจจัยดวยอํานาจของปจ ฉาชาตปจจัย. [๑๗๖๐] อสังกิลิฏฐอสังกเิ ลสกิ ธรรม เปน ปจจัยแกอสงั -กิลฏิ ฐสงั กเิ ลสิกธรรม และอสังกลิ ฏิ ฐอสงั กิเลสิกธรรม ดว ยอาํ นาจของสหชาตปจจยั . [๑๗๖๑] อสังกลิ ฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรม และอสังกลิ ิฏฐอสงั -กเิ ลสกิ ธรรม เปนปจ จัยแกอ สังกิลฏิ ฐสงั กเิ ลสิกธรรม มี ๓ อยาง คอื ทเ่ี ปน สหชาตะ, ปจ จาชาตะ รวมกบั อาหาระและรวมกบั อนิ ทรยิ ะ [๑๗๖๒] อสงั กฏิ ฐสงั กิเลสกิ ธรรม และอสังกลิ ฏิ ฐอสงั -กิเลสกิ ธรรม เปน ปจจัยแกอ สงั กลิ ิฏฐอสงั กิเลสิกธรรม มอี ยา งเดียว คอื ทีเ่ ปน สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ [๑๗๖๓] สังกิลฏิ ฐสังกิเลสกิ ธรรม และอสังกิลฏิ ฐสงั กเิ ลสิก-ธรรม เปนปจ จยั แกส งั กิลฏิ ฐสงั กิเลสิกธรรม มีอยางเดียว คือ ท่ีเปน สหชาตะ รวมกับ ปเุ รชาตะ [๑๗๖๔] สงั กิลฏิ ฐสงั กิเลสิกธรรม และอสังกลิ ฏิ ฐสงั กเิ ลสิก-ธรรม เปนปจ จยั แกอ สงั กลิ ฏิ ฐสงั กเิ ลสิกธรรม

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 326 มี ๓ อยา ง คือ ท่เี ปน สหชาตะ, ปจ ฉาชาตะ รวมกับ อาหาระและรวมกบั อนิ ทริยะ. การนับจาํ นวนวาระในปจจนียะ สทุ ธมูลกนัย [๑๗๖๕] ในนเหตุปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนอารมั มณปจ จัย มี ๑๔ วาระในนอธิปตปิ จ จัย มี ๑๔ วาระ ในอนนั ตรปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนสมนนั ตร-ปจจัย มี ๑๔ วาระ ในนสหชาตปจ จยั มี ๑๐ วาระ ในนอัญญมัญญปจ จัยมี ๑๐ วาระ ในนนสิ สยปจ จัย มี ๑๐ วาระ ในนอปุ นสิ สยปจจยั มี ๑๓ วาระในนปเุ รชาตปจ จัย มี ๑๒ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจ จัย มี ๑๔ วาระ ในนอา-เสวนปจจยั มี ๑๔ วาระ ในนกัมมปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนวปิ ากปจจยั มี๑๔ วาระ ในนอาหารปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนอนิ ทริยปจ จัย มี ๑๔ วาระในนฌานปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนมคั คปจ จยั มี ๑๔ วาระ ในนสมั ปยุตต-ปจจยั มี ๑๐ วาระ ในนวิปปยุตตปจ จัย มี ๘ วาระ ในโนอตั ถปิ จ จยั มี๘ วาระ ในโนนัตถปิ จ จยั มี ๑๔ วาระ ในโนวิคตปจจยั มี ๑๔ วาระ ในโนอวิคตปจจัย มี ๘ วาระ. เพราะนเหตุปจ จยั ในนอารัมมณปจจยั มี ๑๔ วาระ ฯลฯ การนับปจจยนียะ ในกุสลติกะอยางไร ในสงั กลิ ฏิ ฐตกิ ะ ก็พึงนบั อยา งนั้น. ปจจนียะ จบ อนุโลมปจ จนยี ะ [๑๗๖๖] เพราะเหตปุ จจัย ในนอารมั มณปจ จัย มี ๗ วาระ. . . ในนอธิปตปิ จจัย มี ๗ วาระ ในนอนนั ตรปจจยั มี ๗ วาระ ในนสมนันตรปจจัยมี ๗ วาระ ในนอญั ญมญั ญปจจยั มี ๓ วาระ ในนอุปนสิ สยปจจยั ในนปุเร-

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 327ชาตปจจัย ฯลฯ ในนปจ ฉาชาตปจจยั ในนอาเสวนปจจยั ในนกัมมปจจัยในนวิปากปจจยั ในนอาหารปจ จัย ในนอนิ ทรยิ ปจ จัย ในนฌานปจจัย (แตละปจจัย) มี ๗ วาระ ในนมัคคปจจัย มี ๗ วาระ ในนสัมปยุตตปจจัย มี๓ วาระ ในนวิปปยุตตปจจัย มี ๓ วาระ ในโนนัตถิปจจัย มี ๗ วาระในโนวิคตปจ จัย มี ๗ วาระ. เพราะปจจยั ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ อวิคตปจจยัในนอารมั มณปจ จยั มี ๗ วาระ. การนับวาระในอนุโลมปจจนยี ะ ในกุสลติกะไดจ าํ แนกไวแ ลวอยางไรในติกะนี้ ก็พึงจาํ แนกอยา งน้ัน อนุโลมปจ จนยี ะ จบ ปจจนยี านุโลม [๑๗๖๗] เพราะนเหตุปจ จัย ในอารัมมณปจ จัย มี ๖ วาระ...ในอธิปติปจจัย มี ๘ วาระ ในอนันตรปจ จัย มี ๗ วาระ ในสมนันตรปจ จยัมี ๗ วาระ ในสหชาตปจ จัย มี ๙ วาระ ในอญั ญมัญญปจจัย มี ๓ วาระในนสิ สยปจ จยั มี ๑๓ วาระ ในอปุ นสิ สยปจ จยั มี ๘ วาระ ในปุเรชาตปจจยัมี ๓ วาระในปุจฉาชาตปจจัย มี ๓ วาระ ในอาเสวนปจจยั มี ๓ วาระ ในกมั มปจจัย มี ๗ วาระ ในวิปากปจ จยั มี ๔ วาระ ในอาหารปจ จัย อนิ ทริยปจจัย ฌานปจจยั มคั คปจจัย แตละปจจัย มี ๗ วาระ ในสมั ปยุตตปจ จยัมี ๓วาระ ในวิปปยุตตปจ จยั มี ๕ วาระ ในอตั ถิปจจัย มี ๑๓ วาระ ในนตั ถิปจจยั มี ๗ วาระ ในวคิ ตปจ จัย มี ๗ วาระ ในอวคิ ตปจ จยั มี ๑๓ วาระ.

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 328 เพราะนเหตปุ จ จัย นอารัมมณปจจยั ในอธิปตปิ จจัย มี ๗ วาระฯลฯ. การนับวาระในปจจนียานุโลม ในกสุ ลตกิ ะ ไดจําแนกไวแลว อยางไรในท่ีน้กี พ็ ึงจาํ แนกอยา งนัน้ . ปจ จนียานุโลม จบ สงั กลิ ิฏฐติกะที่ ๕ จบ อนโุ ลมติกปฏฐาน ตอนตน จบ๑ อรรถกถาสงั กิลิฏฐตกิ ะ คําทั้งหมดใน สังกลิ ิฏฐสงั กเิ ลสติกะ ผศู กึ ษาพงึ ทราบตามแนวแหง นัยท่กี ลา วแลวในกุสลตกิ ะ. อรรถกถาสงั กิลฏิ ฐติกะ จบ๑. จบบาลเี ลม ๔๐ เพยี งตกิ ะท่ี ๕

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 329 ๖. วิตักกตกิ ะ๑ ปฏิจจวาระ อนุโลมนยั ๑. เหตปุ จ จยั [๑] ๑. สวติ กั กสวจิ ารธรรม อาศยั สวติ ักกสวจิ ารธรรม เกดิข้นึ เพราะเหตปุ จจัย คือ ขันธ ๓ อาศยั ขันธ ๑ ที่เปนสวติ กั กสวิจารธรรม เกดิ ข้ึน, ขนั ธ๑ อาศัยขันธ ๓ เกดิ ขน้ึ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขึน้ . ในปฏสิ นธขิ ณะ ขันธ ๓ อาศยั ขันธ ๑ ทเี่ ปน สวติ กั กสวจิ ารธรรม เกิดขนึ้ ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขันธ ๒ เกิดขึ้น. ๒. อวิตักกวจารมัตตธรรม อาศัยสวิตกั กสวิจารธรรมเกดิ ขนึ้ เพราะเหตปุ จ จัย คือ วิตก อาศัยขนั ธท่เี ปน สวติ กั กสวจิ ารธรรม เกิดข้ึน.ในปฏิสนธิขณะ วติ ก อาศัยขนั ธท่เี ปน สวติ ักกสวจิ ารธรรม เกดิ ขนึ้ . ๓. อวิตักกอวิจารธรรม อาศยั สวติ กั กสวิจารธรรม เกดิข้นึ เพราะเหตปุ จ จัย คอื จิตตสมฏุ ฐานรูป อาศัยขันธท ี่เปนสวติ กั กสวจิ ารธรรม เกิดขน้ึ . ในปฏสิ นธขิ ณะ กฏตั ตารปู อาศยั ขนั ธท เ่ี ปน สวติ กั กสวจิ ารธรรมเกิดขึ้น.๑. บาลีเลมท่ี ๔๑

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 330 [๒] ๔. สวิตกั กสวิจารธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม อาศัยสวิตักกสวจิ ารธรรม เกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จ จัย คอื ขันธ ๓ และจติ ตสมุฏฐานรูป อาศัยขนั ธ ๑ ท่ีเปน สวติ กั กสวจิ ารธรรม เกิดขนึ้ ฯลฯ ขนั ธ ๒ และจติ ตสมุฏฐานรูป อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขึ้น. ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๓ และกฏัตตารปู อาศยั ขนั ธ ๑ ทเี่ ปน สวิตักก-สวจิ ารธรรม เกดิ ขึ้น ฯลฯ ขันธ ๒ และกฏัตตารปู อาศยั ขันธ ๒ เกิดข้ึน. ๕. อวติ กั กวจิ ารมตั ตธรรม และอวิตกั กอวจิ ารธรรมอาศัยสวติ ักกสวิจารธรรม เกดิ ข้ึน เพราะเหตุปจจยั คือ วติ ก และจิตตสมุฏฐานรูป อาศยั ขันธท ี่เปน สวิตักกสวิจารธรรมเกิดขึน้ . ในปฏสิ นธิขณะ วติ กและกฏัตตารปู อาศัยขนั ธทเี่ ปน สวติ กั กสวจิ าร-ธรรมเกิดข้ึน. ๖. สวติ ักกสวิจารธรรม และอวติ กั กวิจารมัตตธรรมอาศัยสวติ ักกสวิจารธรรม เกดิ ขึน้ เพราะเหตุปจจยั คือ ขนั ธ ๓ และวติ ก อาศยั ขนั ธ ๑ ทเี่ ปน สวิตักกสวจิ ารธรรม เกิดขน้ึ ฯลฯ ขนั ธ ๒ และวิตก อาศัยขนั ธ ๒ เกิดข้นึ . ในปฏิสนธขิ ณะ ขนั ธ ๓ และวิตก อาศยั ขันธ ๑ ท่เี ปนสวิตักก-สวิจารธรรม เกดิ ขึน้ ฯลฯ ขันธ ๒ และวติ ก อาศัยขันธ ๒ เกิดข้ึน. [๓] ๗. สวติ กั กสวิจารธรรม อวติ กั กวิจารมตั ตธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม อาศยั สวติ ักกสวิจารธรรม เกิดข้ึน เพราะเหตุปจ จัย

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 331 คอื ขันธ ๓ วิตก และจติ ตสมุฏฐานรปู อาศัยขันธ ๑ ท่ีเปนสวติ กั ก-สวจิ ารธรรม เกดิ ขึน้ ฯลฯ ขันธ ๒ วิตก และจติ ตสมุฏฐานรปู อาศัยขันธ ๒เกิดขึ้น. ในปฏิสนธขิ ณะ ขันธ ๓ วิตก และกฏตั ตารูป อาศัยขันธ ๑ ท่ีเปนสวิตักกสวิจารธรรม เกดิ ขึ้น ฯลฯ ขันธ ๒ วติ ก และกฏตั ตารปู อาศยั ขันธ๒ เกิดข้ึน. [๔] ๘. อวติ กั กวิจารมัตตธรรม อาศยั อวติ ักกวิจารมัตต-ธรรมเกดิ ข้ึน เพราะเหตปุ จจยั คือ ขนั ธ ๓ อาศยั ขนั ธ ๑ ท่ีเปนอวิตกั กวิจารมัตตธรรม เกดิ ขนึ้ ฯลฯขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ เกิดข้ึน. ในปฏสิ นธิขณะ ขันธ ๓ อาศยั ขนั ธ ๑ ทีเ่ ปนอวติ ักกวิจารมัตตธรรมเกดิ ข้นึ ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ เกิดข้นึ . ๙. สวติ กั กสวิจารธรรม อาศยั อวิตกั กวจิ ารมัตตธรรมเกดิ ข้นึ เพราะเหตปุ จจัย คอื ขันธทีเ่ ปนสวติ ักกสวจิ ารธรรม อาศัยวิตก เกดิ ขน้ึ .ในปฏิสนธขิ ณะ ขันธท เ่ี ปนสวิตักกสวิจารธรรม อาศัยวติ ก เกดิ ขึ้น. ๑๐. อวิตกั กอวจิ ารธรรม อาศัยอวติ ักกวิจารมัตตธรรมเกิดข้นึ เพราะเหตปุ จ จัย คือ วิจารและจติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศัยขันท่ีเปน อวติ กั กวจิ ารมัตต-ธรรมเกิดข้นึ , จติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศัยวิตก เกดิ ข้นึ .

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 332 ในปฏสิ นธิขณะ วจิ ารและกฏัตตารูป อาศยั ขนั ธท เ่ี ปนอวติ กั กวิจาร-มตั ตธรรม เกดิ ข้นึ . ในปฏิสนธิขณะ กฏตั ตารูป อาศยั วิตก เกดิ ข้ึน. [๕] ๑๑. สวติ กั กสวจิ ารธรรม และอวิตกั กอวจิ ารธรรม อาศัยอวติ กั กวิจารมัตตธรรม เกิดข้ึน เพราะเหตปุ จ จยั คือ ขันธทเี่ ปน สวิตกั กสวิจารธรรม และจิตตสมฏุ ฐานรปู อาศัยวติ กเกิดข้นึ . ในปฏิสนธขิ ณะ ขนั ธท่เี ปน สวิตกั กสวจิ ารธรรม และกฏัตตารปู อาศัยวติ ก เกิดขนึ้ . ๑๒. อวติ ักกวจิ ารมัตตธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรมอาศยั อวติ กั กวจิ ารมัตตธรรม เกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จ จยั คอื ขนั ธ ๓ วจิ ารและจติ ตสมุฏฐานรูป อาศยั ขนั ธ ๑ ทเ่ี ปน อวติ กั กวจิ าร-มตั ตธรรม เกิดข้ึน ฯลฯ ขนั ธ ๒ วจิ ารและจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขนั ธ ๒เกดิ ข้ึน. ในปฏสิ นธิขณะ ขนั ธ ๓ วจิ ารและกฏัตตารปู อาศัยขนั ธ ๑ ท่เี ปนอวติ กั กวิจารธรรม เกิดข้ึน ฯลฯ ขันธ ๒ วจิ าร และกฏัตตารปู อาศยั ขนั ธ ๒เกิดขน้ึ . [๖] ๑๓. อวิตักกอวจิ ารธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรมเกิดขึ้น เพราะเหตปุ จจัย

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 333 คอื ขนั ธ ๓ และจติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศยั ขันธ ๑ ทีเ่ ปน อวติ กั กอวจิ าร-ธรรมเกิดขน้ึ ฯลฯ ขันธ ๒ และจิตตสมุฏฐานรปู อาศัยขนั ธ ๒ เกิดขึ้น, จิตต-สมุฏฐานรปู อาศยั วิจาร เกดิ ข้ึน. ในปฏิสนธิขณะ ขนั ธ ๓ และกฏตั ตารูป อาศัยขันธ ๑ ท่เี ปนอวติ ักก-อวิจารธรรม เกดิ ข้ึน ฯลฯ ขนั ธ ๒ และกฏตั ตารปู อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขึ้น. ในปฏสิ นธิขณะ กฏตั ตารูป อาศยั วจิ าร เกิดข้นึ , หทยวตั ถุ อาศัยขันธท ้งั หลายเกดิ ขน้ึ ขนั ธท ง้ั หลาย อาศัยหทยวัตถุ เกิดขึน้ หทยวัตถ อาศัยวิจารเกิดขึน้ , วิจารอาศยั หทยวตั ถุ เกดิ ขน้ึ . มหาภตู รปู ๓ อาศยั มหาภูตรปู เกดิ ๑ เกิดข้ึน ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรปูและกฏัตตารูป ที่เปน อุปาทารปู อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย เกดิ ขนึ้ . ๑๔. สวิตักกสวิจารธรรม อาศัยอวติ กั กอวจิ ารธรรมเกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จ จัย คือ ในปฏสิ นธขิ ณะ ขันธที่เปน สวิตักกสวิจารธรรม อาศยั หทยวัตถุเกิดขนึ้ . ๑๕. อวติ ักกวิจารมตั ตธรรม อาศัยอวิตักกอวิจารธรรมเกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จ จยั คือ ขันธที่เปน อวติ ักกวจิ ารมัตตธรรม อาศยั วิจาร เกดิ ขึน้ . ในปฏสิ นธขิ ณะ ขันธท ่ีเปนอวิตักกวจิ ารมตั ตธรรม อาศัยวิจาร เกิดข้ึน. ในปฏิสนธิขณะ ขนั ธทีเ่ ปน วิตักกวจิ ารมัตตธรรม อาศัยหทยวัตถุเกดิ ขน้ึ .

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 334 ในปฏสิ นธขิ ณะ วติ ก อาศัยหทยวัตถุ เกิดขน้ึ . [๗] ๑๖. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตกั กอวจิ ารธรรม อาศยัอวติ กั กอวจิ ารธรรม เกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จจัย คอื ในปฏิสนธขิ ณะ ขันธที่เปนสวติ กั กสวิจารธรรม อาศัยหทยวัตถุเกดิ ขน้ึ , กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูป เกิดข้นึ . ๑๗. อวติ กั กวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรมอาศยั อวติ กั กอวจิ ารธรรม เกดิ ข้ึน เพราะเหตปุ จจัย คอื ขันธทีเ่ ปนอวติ ักกวิจารมตั ตธรรม และจติ ตสมุฏฐานรูป อาศยัวจิ ารเกิดขนึ้ . ในปฏสิ นธิขณะ ขันธท่ีเปน อวติ กั กวิจารมัตตธรรม และกฏตั ตารปูอาศยั วิจาร เกดิ ขึ้น. ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธท ีเ่ ปน อวิตกั กวิจารมัตตธรรม อาศัยหทยวตั ถุเกดิ ขน้ึ , กฏัตตารปู อาศยั มหาภตู รูป เกดิ ข้นึ . ในปฏิสนธิขณะ วิตก อาศยั หทยวัตถุ เกิดขน้ึ กฏตั ตารปู อาศัยมหาภตู รปู เกิดขึ้น. ในปฏสิ นธิขณะ ขันธท ีเ่ ปน อวติ กั กวิจารมตั ตธรรม และวิจาร อาศยัหทยวัตถุ เกดิ ข้นึ . ๑๘. สวิตกั กสวิจารธรรม และอวติ กั กวจิ ารมตั ตธรรมอาศยั อวิตักกอวจิ ารธรรม เกดิ ขน้ึ เพราะเหตุปจจัย คือ ในปฏิสนธขิ ณะ ขันธท ี่เปนสวิตกั กอวจิ ารธรรม และวิตก อาศัยหทยวัตถุ เกดิ ข้นึ .

พระอภธิ รรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 335 [๘] ๑๙. สวิตักกสวิจารธรรม อวติ ักกวิจารมัตตธรรม และอวิตกั กอวจิ ารธรรม อาศยั อวิตักกอวจิ ารธรรม เกดิ ขึ้น เพราะเหตุ-ปจจยั คอื ในปฏสิ นธิขณะ ขันธท่ีเปน สวิตกั กสวจิ ารธรรม และวิตก อาศัยหทยวัตถุ เกิดขนึ้ , กฏัตตารปู อาศยั มหาภูตรูป เกดิ ข้ึน. [๙] ๒๐. สวติ ักกสวิจารธรรม อาศยั สวิตกั กสวิจารธรรมและอวิตกั กอวิจารธรรม เกิดข้นึ เพราะเหตปุ จจัย คือ ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๓ อาศัยขันธ ๑ ทีเ่ ปน สวติ กั กสวจิ ารธรรมและหทยวตั ถุ เกดิ ขึ้น ฯสฯ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ และหทยวัตถุ เกิดขนึ้ . ๒๑. อวิตักกวิจารมตั ตธรร อาศยั สวติ ักกสวจิ ารธรรมและอวิตักกอวิจารธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตปุ จ จัย คอื ในปฏิสนธขิ ณะ วติ ก อาศัยขนั ธท ี่เปนสวิตกั กสวจิ ารธรรม และหทยวตั ถุ เกิดขึ้น. ๒๒. อวิตักกอวจิ ารธรรม อาศยั สวติ ักกสวจิ ารธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม เกิดขนึ้ เพราะเหตปุ จ จัย คือ จิตตสมุฏฐานรปู อาศยั ขันธทเี่ ปน สวติ กั กสวิจารธรรม และมหาภตู รปู เกิดขึ้น. ในปฏสิ นธิขณะ กฏตั ตารปู อาศยั ขันธท่ีเปนสวติ ักกสวิจารธรรม และมหาภตู รูป เกิดข้นึ .

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 336 [๑๐] ๒๓. สวติ ักกสวิจารธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรมอาศยั วติ ักกสวจิ ารธรรม และอวิตักกอวจิ ารธรรม เกิดขน้ึ เพราะเหตุปจจัย คือ ในปฏสิ นธิขณะ ขนั ธ ๓ อาศัยขันธ ๑ ทเี่ ปนสวิตักกสวิจารธรรมและหทยวตั ถุ เกิดขึน้ ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขันธ ๒ และหทยวตั ถุ เกิดขน้ึ .กฏตั ตารูป อาศยั ขันธท เ่ี ปน สวิตกั กสวจิ ารธรรม และมหาภตู รปู เกิดขึ้น. ๒๔. อวิตักกวิจารมตั ตธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรมอาศัยสวิตกั กสวจิ ารธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรม เกิดขนึ้ เพราะเหตุปจจัย คอื ในปฏสิ นธขิ ณะ วติ ก อาศัยขนั ธทเ่ี ปนสวิตกั กสวิจารธรรม และหทยวัตถุ เกิดข้ึน กฏตั ตารปู อาศัยขันธเ ปน สวิตักกสวิจารธรรม และมหา-ภูตรปู เกิดขึน้ . ๒๕. สวติ กั กสวจิ ารธรรม และอวิตักกวจิ ารมัตตธรรมอาศยั สวิตกั กสวจิ ารธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม เกดิ ขน้ึ เพราะเหตุปจ จัย คือ ในปฏสิ นธิขณะ ขันธ ๓ และวิตก อาศยั ขันธ ๑ ท่ีเปนสวิตกั ก-สวจิ ารธรรม และหทยวัตถุ เกดิ ขน้ึ ฯลฯ ขันธ ๒ และวติ ก อาศยั ขนั ธ ๒และหทยวตั ถุ เกิดขนึ้ . [๑๑] ๒๖. สวิตกั กวิจารธรรม อวติ กั กวจิ ารมตั ตธรรม และอวิตกั กอวจิ ารธรรม อาศยั สวิตักกสวจิ ารธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรม เกดิ ขน้ึ เพราะเหตุปจ จยั

พระอภิธรรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 337 คือ ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๓ และวิตก อาศัยขันธ ๑ ท่ีเปน สวติ ักก-สวจิ ารธรรม และหทยวัตถุ เกิดข้นึ ฯลฯ ขันธ ๒ และวิตก อาศัยขนั ธ ๒และหทยวัตถุ เกิดขึน้ กฏัตตารูป อาศัยขนั ธท ีเ่ ปน สวิตกั กสวิจารธรรม และมหาภูตรปู เกดิ ขึน้ . [๑๒] ๒๗. สวติ ักกสวิจารธรรม อาศัยอวิตักกวจิ ารมตั ตธรรมและอวติ กั กอวจิ ารธรรม เกดิ ขึ้น เพราะเหตุปจจัย คอื ในปฏิสนธิขณะ ขนั ธท ี่เปน สวติ ักกสวิจารธรรม อาศัยวติ กและหทยวตั ถุ เกดิ ขึ้น. ๒๘. อวติ ักกวจิ ารมตั ตธรรม อาศัยอวติ กั กวิจารมตั ต-ธรรม และอวติ กั กอวิจารธรรม เกิดขน้ึ เพราะเหตุปจ จยั คอื ขนั ธ ๓ อาศยั ขันธ ๑ ทเ่ี ปน อวิตักกวจิ ารมัตตธรรมและวจิ าร เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๒ และวิจาร เกิดขน้ึ . ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๓ อาศยั ขนั ธ ๑ ทเ่ี ปน อวติ กั กวจิ ารมตั ตธรรมและวจิ าร เกิดข้ึน ฯลฯ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๒ และวิจาร เกดิ ขึน้ . ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๓ อาศัยขนั ธ ๑ ทเ่ี ปน อวิตักกวิจารมตั ตธรรมและหทยวัตถุ เกดิ ขึน้ ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ และหทยวตั ถุ เกิดขน้ึ . ๒๙. อวติ กั กอวิจารธรรม อาศยั อวิตกั กวจิ ารมัตตธรรมและอวติ ักกอวจิ ารธรรม เกดิ ขนึ้ เพราะเหตุปจ จัย

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 338 คือ จติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศัยขันธทเ่ี ปน อวิตกั กวจิ ารมัตตธรรม และวิจาร เกดิ ขน้ึ , จติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศัยขนั ธที่เปนอวติ กั กวิจารมัตตธรรม และมหาภูตรูป เกิดขึ้น, จติ ตสมฏุ ฐานรูป อาศัยวติ กและมหาภูตรปู เกิดขน้ึ . ในปฏิสนธขิ ณะ กฏัตตารูป อาศยั ขันธท ่ีเปน อวติ ักกวจิ ารมตั ตธรรมและวจิ าร เกดิ ข้นึ . ในปฏสิ นธขิ ณะ กฏัตตารูป อาศยั ขันธท ีเ่ ปนอวติ ักกวิจารมตั ตธรรมและมหาภูตรปู เกดิ ข้นึ . ในปฏสิ นธิขณะ กฏัตตารูป อาศยั วติ กและมหาภตู รปู เกดิ ข้นึ . ในปฏิสนธขิ ณะ วจิ าร อาศัยขันธท เ่ี ปน อวติ ักกวจิ ารมตั ตธรรมและหทยวัตถุ เกิดข้นึ . [๑๓] ๓๐. สวิตกั กสวิจารธรรม และอวติ กั กอวิจารธรรมอาศัยอวติ ักกวิจารมัตตธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม เกิดข้ึนเพราะเหตุปจ จยั คอื ในปฏสิ นธิขณะ ขันธท ี่เปนสวิตักกสวจิ ารธรรม อาศยั วติ กและหทยวตั ถุ เกิดข้นึ , กฏัตตารูป อาศยั วติ กและมหาภตู รปู เกดิ ขึ้น. ๓๑. อวิตกั กวจิ ารมตั ตธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรมอาศัยอวติ ักกวจิ ารมตั ตธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรม เกดิ ขึ้น เพราะเหตุปจ จัย

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 339 คือ ขนั ธ ๓ และจิตตสมฏุ ฐานรปู อาศัยขนั ธ ๑ ทเ่ี ปน อวติ ักกวิจาร-มัตตธรรม และวิจาร เกิดข้นึ ฯลฯ ขนั ธ ๒ และจิตตสมฏุ ฐานรปู อาศัยขันธ๒ และวิจาร เกดิ ขนึ้ . ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๓ และกฏตั ตารปู อาศัยขันธ ๑ ทีเ่ ปน อวติ ักก-วิจารมัตตธรรม และวิจาร เกดิ ขนึ้ ฯลฯ ขนั ธ ๒ และกฏตั ตารปู อาศยั ขันธ๒ และวจิ าร เกดิ ขึ้น. ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๓ และวจิ าร อาศยั ขันธ ๑ ท่ีเปน อวิตักกวิจาร-มตั ตธรรม และหทยวตั ถุ เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ ๒ และวจิ าร อาศัยขันธ ๒และหทยวัตถุ เกดิ ขนึ้ . [๑๔] ๓๒. สวติ กั กสวิจารธรรม อาศัยสวิตกั กสวจิ ารธรรมและอวติ กั กวจิ ารมตั ตธรรม เกดิ ข้ึน เพราะเหตปุ จจยั คือ ขนั ธ ๓ อาศยั ขันธ ๑ ท่ีเปน สวติ ักกสวจิ ารธรรม และวิตก เกดิขน้ึ . ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ และวติ ก เกิดขนึ้ . ในปฏสิ นธิขณะขันธ ๓ อาศยั ขันธ ๑ ทเ่ี ปน สวติ ักกสวิจารธรรม และวิตก เกดิ ขึ้น ฯลฯ ขันธ ๒ อาศัยขันธ ๒ และวติ ก เกิดข้นึ . ๓๓. อวิตักกอวิจารธรรม อาศัยสวิตกั กสวิจารธรรมและอวติ กั กวิจารมัตตธรรม เกดิ ขึ้น เพราะเหตุปจจัย คือ จติ ตสมุฏฐานรูป อาศัยขนั ธทีเ่ ปน สวิตักกสวิจารธรรม และวิตกเกดิ ข้ึน. ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป อาศยั ขันธท ่ีเปนสวติ ักกวิจารธรรม และวติ ก เกดิ ขึ้น.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 340 [๑๕] ๓๔. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตกั กอวิจารธรรมอาศยั สวติ ักกสวจิ ารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม เกดิ ขึน้เพราะเหตุปจจยั คอื ขนั ธ ๓ และจิตตสมุฏฐานรปู อาศัยขันธ ๑ ที่เปน สวติ ักกสวิจาร-ธรรมและวติ ก เกดิ ขนึ้ ฯลฯ ขันธ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศยั ขันธ ๒ และวิตก เกดิ ขึ้น. ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๓ และกฏัตตารูป อาศัยขนั ธ ๑ ทเี่ ปน สวติ ักก-สวจิ ารธรรม และวิตก เกิดข้ึน ฯลฯ ขันธ ๒ และกฏตั ตารปู อาศยั ขันธ ๒และวิตก เกิดขน้ึ . [๑๖] ๓๕. สวิตกั กสวจิ ารธรรม อาศัย สวิตกั กสวจิ ารธรรมอวติ ักกวิจารมัตตธรรม และอวติ ักกอวจิ ารธรรม เกดิ ขนึ้ เพราะเหตุปจ จยั . คอื ในปฏิสนธิขณะ ขนั ธ ๓ อาศัยขันธ ๑ ท่ีเปนสวิตกั กสวิจารธรรมและหทยวตั ถุ เกดิ ขนึ้ ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๒ วติ กและหทยวตั ถุ เกดิ ข้นึ ๓๖. อวิตักกอวจิ ารธรรม อาศยั สวติ ักกวจิ ารธรรมอวิตักกวิจารมตั ตธรรม และอวติ ักกอวจิ ารธรรม เกดิ ข้นึ เพราะเหตปุ จจัย คือ จติ ตสมุฏฐานรูป อาศยั ขันธที่เปน สวติ ักกสวิจารธรรม วิตกและมหาภูตรปู เกดิ ข้ึน.

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 341 ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารปู อาศัยขันธท ี่เปน สวิตักกสวิจารธรรมวติ ก และมหาภูตรูป เกดิ ขึน้ . [๑๗] ๓๗. สวิตักกสวจิ ารธรรม และอวติ กั กอวิจารธรรมอาศยั สวิตกั กสวิจารธรรม อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตกั ก-อวิจารธรรม เกดิ ขน้ึ เพราะเหตุปจ จัย คอื ในปฏสิ นธิขณะ ขันธ ๓ อาศัยขันธ ๑ ทีเ่ ปน สวิตกั กสวิจารธรรมวติ กและหทยวัตถุ เกิดขึน้ ขนั ธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๓ วติ ก และหทยวัตถุ เกดิข้ึน, ขนั ธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๒ วติ ก และหทยวัตถุ เกิดขนึ้ . กฏัตตารูป อาศัยขนั ธท เี่ ปน สวติ กั กสวจิ ารธรรม วติ ก และมหาภตู รปู เกดิ ขึ้น. ๒. อารมั มณปจ จัย [๑๘] ๑. สวิตักกสวจิ ารธรรม อาศัยสวิตกั กสวิจารธรรม เกดิขนึ้ เพราะอารัมมณปจ จยั คอื ขนั ธ ๓ อาศัยขันธ ๑ ทเี่ ปนสวิตกั กสวิจารธรรม เกิดข้ึน ฯลฯขันธ ๒ อาศัยขันธ ๒ เกิดขึน้ . ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ๒. อวิตกั กวิจารมัตตธรรม อาศยั สวิตกั กสวิจารธรรมเกดิ ขึ้น เพราะอารมั มณปจจยั คือ วติ ก อาศยั ขนั ธท ีเ่ ปนสวิตักกสวิจารธรรม เกดิ ขึ้น.ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 342 [๑๙] ๓. สวติ ักกสวิจารธรรม และอวติ กั กวิจารมัตตธรรมอาศยั สวติ ักกสวจิ ารธรรม เกิดขน้ึ เพราะอารัมมณปจ จยั คอื ขันธ ๓ และวติ ก อาศยั ขนั ธ ๑ ท่ีเปน สวติ ักกสวจิ ารธรรม เกิดขึน้ ฯลฯ ขันธ ๒ และวิตก อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขึน้ . ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ [๒๐] ๔. อวิตักกวิจารมตั ตธรรม อาศัยอวิตักกวจิ ารมตั ต-ธรรม เกิดขน้ึ เพราะอารัมมณปจจยั คอื ขันธ ๓ อาศยั ขนั ธ ๑ ที่เปนอวิตกั กวิจารมัตตธรรม เกดิ ขน้ึ ฯลฯขนั ธ ๒ อาศัยขนั ธ ๒ เกิดขึน้ . ในปฏสิ นธิขณะ ฯลฯ ๕. สวิตกั กสวจิ ารธรรม อาศัย อวติ ักกวิจารมัตตธรรมเกิดขนึ้ เพราะอารมั มณปจจัย คือ ขันธท เ่ี ปนสวติ กั กสวจิ ารธรรม อาศัยวิตก เกดิ ขน้ึ . ในปฏิสนธขิ ณะ ฯลฯ ๖. อวิตักกอวจิ ารธรรม อาศัยอวติ ักกวิจารมัตตธรรมเกดิ ข้นึ เพราะอารมั มณปจจัย คอื วิจาร อาศยั ขนั ธทเี่ ปน อวิตกั กวจิ ารมตั ตธรรม เกดิ ขึน้ . ในปฏสิ นธขิ ณะ ฯลฯ [๒๑] ๗. อวิตักกวจิ ารมัตตธรรม และอวติ กั กอวจิ ารธรรมอาศยั อวิตักกวิจารมตั ตธรรม เกิดขึน้ เพราะอารมั มณปจจัย
















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook