Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_24

tripitaka_24

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:37

Description: tripitaka_24

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 351 อรรถกถานันทนสตู ร พึงทราบวนิ ิจฉยั ในนนั ทนสตู รท่ี ๔ ตอไป :- นันทนเทพบุตร เรยี กพระผูมีพระภาคเจาโดยพระโคตรวา โคตม.บทวา อนาวฏ ความวา เมอื่ พร ะตถาคตทรงสง พระสัพพญั คุ ญาณ ตน ไมหรือภูเขา ไมส ามารถจะขวางกั้นไดเ ลย เพราะฉะนั้น นันทนเทพบตุ รจงึกลา ววา อนาวฏ . ครัน้ ชมพระตถาคตดงั นัน้ แลว เมอ่ื จะถามปญหาซึ่งแตง ไวในเทวโลก จึงทูลถามวา กถ วิธ เปนตน . บรรดาบทเหลา นน้ั บทวาทกุ ขฺ มตจิ ฺจ อริ ิยติ แปลวา ลว งทกุ ขอยู. บทวา สีลวา ไดแ ก พระ-ขีณาสพ ผปู ระกอบดว ยศีล ทเ่ี ปน โลกิยะและโลกุตระ. ปญญา เปนตน ก็พงึ ทราบวา ระคนกันเหมือนกัน. บทวา ปชู ยนตฺ ิ ความวา บูชาดวยของหอมและดอกไมเ ปนตน. จบอรรถกถานนั ทสูตรที่ ๔

พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 352 ๕. จันทนสูตร [๒๖๐] จนั ทนเทวบุตร ยืนอยู ณ ทคี่ วรสวนขา งหนง่ึ แลว ไดท ลูพระผูมีพระภาคเจา ดว ยคาถาวา บคุ คลผไู มเกียจครานท้ังกลางคืน และกลางวนั จะขามโอฆะไดอยางไร ใครไมจมในหว งนํ้าลกึ อันไมม ีท่พี ึ่ง ไม มที ีย่ ึดเหนย่ี ว. [๒๖๑] พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั วา บุคคลผูสมบูรณด ว ยศีล ทุกเมอื่ มี ปญ ญา มีใจตัง้ มัน่ ดแี ลว ปรารภความ เพยี ร มีตนสง ไปแลว ยอ มขา มโอฆะท่ีขา ม ไดย าก เขาเวน ขาดแลว จากกามสญั ญา ลวงรูปสญั โญชนได สิ้นภพเปนทเี่ พลิด เพลินแลว ยอมไมจมในหว งนา้ํ ลกึ . อรรถกถาจันทนสตู ร พึงทราบวนิ จิ ฉยั ในจนั ทนสูตรท่ี ๕ ตอ ไป :- บทวา อปปฺ ตฏิ เ  อนาลมเพ ไดแก ไมม ีทพี่ ่ึงในเบอื้ งต่ํา ไมมีที่ยดึ ในเบอ้ื งบน. บทวา สสุ มาหิโต ไดแ ก ต้ังมั่นดว ยดี ดวยอัปปนาสมาธิบาง ดวยอปุ จารสมาธิบา ง. บทวา ปหิตตโฺ ต แปลวา มีตนสง ไปแลว

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 353บทวา นนทฺ ิภวปริกฺขีโณ แปลวา ส้ินภพเปน ทีเ่ พลิดเพลนิ แลว. อภิสังขารคอื กรรม ๓ [ปุญญาภิสังขาร อปญุ ญาภิสงั ขาร และอเนญชาภิสังขาร] ชื่อวาภพเปนทเ่ี พลิดเพลนิ . ดงั นนั้ ในพระคาถาน้ี สังโยชนเ บอื้ งตาํ่ ๕ พระผูม ีพระภาคเจา ทรงถอื เอาดว ยศัพทวา กามสญั ญา สงั โยชนเ บ้ืองบน ๕ ทรงถอื เอาดว ยศัพทวา รูปสงั โยชน อภิสังขาร คือกรรม ๓ ทรงถือเอาดว ยศพั ทวานันทิภพ. ผใู ดละสังโยชน ๑๐ และอภิสังขารคอื กรรม ๓ ไดอยางนี้ ผูน น้ัยอ มไมจมลงในโอฆะใหญทลี่ ึก. อีกนยั หนง่ึ กามภพทรงถือเอาดว ยกามสัญญารูปภพทรงถือเอาดว ยรปู สงั โยชน อรปู ภพทรงถอื เอาดวยศัพทท งั้ สองนัน้อภสิ ังขารคอื กรรม ๓ ทรงถือเอาดว ยนนั ทภิ พ. เพราะเหตุน้นั พระผูมพี ระภาคเจาจงึ ทรงแสดงแมวา ผใู ดไมมีสังขาร ๓ ในภพ ๓ อยางน้ี ผนู น้ั ยอมไมจ มลงในหว งนาํ้ ลึก ดังนี.้ จบอรรถกถาจนั ทนสตู รท่ี ๕

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 354 ๖. วาสทุ ตั ตสตู ร [๒๖๒] วาสุทตั ตเทวบุตร ยนื อยู ณ ทีค่ วรสว นขา งหน่งึ แลว ไดกลาวคาถานี้ ในสํานกั พระผูมีพระภาคเจา วา ภิกษุพึงมีสตเิ พื่อละกามราคะ งด เวน เสีย ประดุจบุคคลถกู แทงดว ยหอก ประดุจบคุ คลถูกไฟไหมศีรษะอย.ู [๒๖๓] พระผูม พี ระภาคเจาตรสั วา ภิกษุพงึ มสี ตเิ พื่อการละสกั กายทฏิ ฐิ งดเวนเสยี ประดจุ บุคคลถูกแทงดว ยหอก ประดจุ บุคคลถกู ไฟไหมศ รี ษะอยู. อรรถกถา วาสทุ ตั ตสตู รท่ี ๖ มเี นอ้ื ความกลา วมาแลว ท้งั น้นั .

พระสุตตันตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 355 ๗. อพรหมสูตร [๒๖๙] สุพรหมเทวบุตร ยืนอยู ณ ท่คี วรสวนขางหนงึ่ แลว ไดกราบทลู พระผมู พี ระภาคเจาดว ยคาถาวา จติ นส้ี ะดงุ อยเู ปน นติ ย ใจนีห้ วาด เสยี วอยูเปน นติ ย ทง้ั เมอ่ื กิจไมเ กดิ ขนึ้ ทั้ง เกดิ ขึ้นแลวกต็ าม ถาความไมสะดงุ กลวั มี อยู ขาพระองคทลู ถามแลว โปรดตรัส บอกความไมสะดงุ นั้นแกข าพระองคเถดิ . [๒๖๕] พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสวา เรายังมองไมเห็นความสวัสดีแหง สัตวท ้ังหลาย นอกจากปญ ญาและความ เพียร นอกจากความสํารวมอินทรยี  นอก จากความสละวางทกุ สิ่งทกุ อยาง. สพุ รหมเทวบตุ รไดก ลา วดังน้ีแลว ฯลฯ กอ็ นั ตรธานไปในทน่ี ้นั เอง.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 356 อรรถกถาสพุ รหมสูตร พึงทราบวินจิ ฉยั ในสพุ รหมสตู รที่ ๗ ตอ ไป :- บทวา สุพรฺ หมฺ า ความวา ไดยินวา เทพบุตรนน้ั อันเหลาเทพอปั สรหอ มลอมแลว ไปยงั สนามกฬี านนั ทนวัน น่งั ณ อาสนะทจี่ ัดไว ไดโคนตนปาริฉัตร เหลา เทพธดิ า ๕๐๐ กน็ ่งั ลอ มเทพบตุ รนน้ั . เหลา เทพธิดา๕๐๐ กป็ นข้ึนตน ไม. ถามวา ก็ตนไมแมสงู ๑๐๐ โยชน ก็นอ มลงมาถงึ มอืดว ยอํานาจจติ ของเหลาเทวดามใิ ชห รอื เหตุไร เทพธดิ าเหลา น้ัน จงึ ตองปนขึ้นเลา . ตอบวา เพราะเทพธิดาเหลา นั้นสนใจแตจ ะเลน แตครนั้ ปนขึ้นไปแลว ก็ขบั เพลงดว ยเสยี งอนั ไพเราะทําดอกไมทง้ั หลายใหหลนลง เหลา เทพธิดานอกนี้ (ทีไ่ มไ ดปนขน้ึ ) เก็บดอกไมเหลา นั้น เอามารอ ยทาํ เปน พวงมาลัยขั้วเดียวกนั เปน ตน. ครั้งนนั้ เหลา เทพธดิ า ทีป่ นข้ึนตนไม ก็ทาํ กาละ (จตุ ิ)ดวยอํานาจอุปจเฉทกกรรมประหารครัง้ เดยี วเทา นน้ั ไปบงั เกิดในอเวจีนรกเสวยทกุ ขใหญ. เมือ่ เวลาลวงไป เทพบุตรก็นกึ ราํ พงึ วา ไมไ ดย ินเสยี งเทพธดิ าเหลาน้ัน ดอกไมกไ็ มหลน เขาไปไหนกนั หนอ. ก็เห็นไปบังเกิดในนรก เกดิ รนั ทดใจ เพราะความโศกในของรกั จึงดาํ ริวา ดวยเหตุเพยี งเทานี้ เหลาเทพธดิ ากไ็ ปตามกรรม ตวั เราจะมีอายสุ งั ขารเทา ไรกันเลา เทพบุตรนั้น ดาํ ริวา ในวนั ท่ี ๗ เรากจ็ ะพงึ ทาํ กาละ พรอมกับเหลา เทพธดิ า ๕๐๐ สว นทเ่ี หลือพากันไปบังเกดิ ในนรกน้นั เหมือนกนั รนั ทดระทมเพราะความโศกที่รนุ แรง. เทพบุตรน้ัน ก็ดํารวิ า ในมนุษยโลกพรอมท้งั เทวโลก นอกจากพระตถาคตแลว กไ็ มม ีใครสามารถดับความโศกของเราน้ไี ด จงึ ไปเฝา กลา วคาถาวา นิจจฺ มุตฺรสตุ 

พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 357ดงั น้ีเปน ตน. บรรดาบทเหลา นัน้ ดวยบทวา อทิ  เทพบตุ รนัน้ แสดงจิตของตน. บทที่ ๒ เปนไวพจนข องบทตน นน่ั แหละ. กบ็ ทวา นจิ ฺจ ไมพงึ ถือเอาความวา จาํ เดิมแตก าลทบ่ี งั เกดิ ในเทวโลก. พึงทราบความนน้ั วา เปนนิตย จําเดิมแตเ วลาทสี่ ะเทือนใจ. บทวา อนุปฺปนฺเนสุ กิจเฺ จสุ ไดแกในทุกขท้งั หลายที่เกิดข้ึน โดยลวงไป ๗ วัน แตว นั น้ี. ดว ยบทวา อโถอุปฺปตฺติเตสุ จ เทพบตุ รนนั้ แสดงวา ขาแตพระผมู ีพระภาคเจา ในทกุ ขท ้งัหลายที่เกิดขนึ้ แลว และยังไมเ กดิ ขน้ึ เหลาน้ี อยา งนี้ คือ ในทุกขท ีข่ าพระองคเห็นนางอปั สร ๕๐๐ บังเกดิ ในนรก จิตของขา พระองคกห็ วาดสะดงุ เปนนติ ยขาพระองคเ ปนประหน่งึ ถกู ไฟเผาอยใู นอก. บทวา นาฺ ตรฺ โพชฺฌงฺคตปสา ความวา นอกจากการเจริญโพชฌงคแ ละ คณุ คือตปะ เรามองไมเ หน็ ความสวัสดีในทอี่ น่ื . บทวาสพพฺ นสิ สฺ คฺคา ไดแ ก พระนพิ พาน. ก็ในบทน้ี พระผมู ีพระภาคเจา ทรงถือเอาการเจริญโพชฌงคกอน ภายหลงั กท็ รงถอื เอาอนิ ทรียสังวรก็จรงิ อยู ถงึอยา งน้นั โดยใจความอินทรยี สงั วร ก็พึงทราบวา ทรงถือเอากอน ดวยวาเม่อื ภิกษถุ อื เอาอนิ ทรียสังวรแลว กเ็ ปน อนั ถือเอาจตุปาริสุทธศิ ีลดวย. ภกิ ษตุ ง้ัอยูใ นจตปุ ารสิ ุทธิศีลนัน้ เปนนสิ สยั มตุ ตกะ (พนจากการถอื นิสสัยกบั อปุ ชฌายหรืออาจารย) สมาทานตปคุณ กลาวคือธุดงคเขา ปา เจริญกมั มัฏฐาน ยอมทาํโพชฌงคใ หเ กดิ มีพรอมกับวปิ สสนา. อริยมรรคของภกิ ษนุ ั้น ทํานิพพานธรรมอนั ใดเปน อารมณแลวเกดิ ขึน้ นิพพานธรรมอันน้นั ชอื่ วา สพั พนิสสัคคะ.พระผูมีพระภาคเจา ทรงเปลี่ยนเทศนาเปนสจั จะ ๔. เมอ่ื จบเทศนา เทพบุตรก็ตงั้ อยใู นโสดาปตติผล. จบอรรถกถาสพุ รหมสูตรท่ี ๗

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 358 ๘. กกธุ สูตร [๒๖๖] ขา พเจา ไดสดับมาแลว อยา งน้ี :- สมยั หน่งึ พระผูมีพระภาคเจาประทบั อยู ณ พระอญั ชนวนั ที่พระราชทานอภยั แกเ นอื้ เมืองสาเกต คร้งั นน้ั กกธุ เทวบตุ ร เม่ือส้ินราตรีปฐมยาม มวี รรณะงามยิ่งนกั ทาํ อญั ชนวนั ใหส วางทั่วแลว เขาไปเฝา พระผมู ี-พระภาคเจา ถึงท่ปี ระทับ ครั้นแลว ก็ถวายบงั คมพระผูมีพระภาคเจา แลว ไดยนื อยู ณ ทค่ี วรสว นขางหนงึ่ . [๒๖๗] กกธุ เทวบตุ ร ทูลถามพระผูม พี ระภาคเจา วา ขา แตพ ระสมณะพระองคท รงยินดอี ยูหรอื . พระผูมีพระภาคเจา ตรสั วา ดูกอ นผมู อี ายุ เราไดอะไรจงึ จะยินด.ี กกธุ เทวบุตรกราบทลู วา ขา แตพ ระสมณะ ถาอยางนั้นพระองคทรงเศรา โศกอยหู รอื . พระผมู ีพระภาคเจาตรัสวา ดูกอนผูม อี ายุ เราเสอ่ื มอะไรจึงจะเศรา โศก. กกุธเทวบตุ รกราบทลู วา ขา แตพ ระสมณะ ถาอยางนน้ั พระองคไมทรงยนิ ดีเลย ไมท รงเศรา โศกเลยหรอื . พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั วา เปนเชน นนั้ ผูมอี ายุ. [๒๖๘] กกุธเทวบตุ ร กราบทูลวา ขาแตภิกษุ พระองคไมม ีทุกขบาง หรอื ความเพลิดเพลินไมมีบางหรอื ความ เบ่อื หนา ยไมครอบงาํ พระองคผูป ระทับนัง่ แตพ ระองคเ ดยี วบางหรอื .

พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 359[๒๖๙] พระผูมีพระภาคเจา ตรัสวา ดกู อ นทา นผอู ันคนบชู า เราไมทุกข เลย และความเพลดิ เพลินก็ไมม ี อน่ึง ความเบอ่ื หนาย ก็ไมค รอบงาํ เราผูนง่ั แต ผเู ดียว.[๒๗๐] กกธุ เทวบุตรทลู ถามวา ขาแตภกิ ษุ ทาํ ไมพระองคจ งึ ไมม ี ทกุ ข ทําไมความเพลิดเพลินจึงไมมี ทาํ ไม ความเบื่อหนาย จงึ ไมค รอบงําพระองคผู นัง่ แตผ ูเ ดียว.[๒๗๑] พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสวา ผูม ีทกุ ขน่ันแหละ จงึ มีความเพลิด- เพลิน ผมู ีความเพลิดเพลินน่ันแหละ จงึ มี ทุกข ภกิ ษยุ อ มเปน ผไู มม ีความเพลิดเพลนิ ไมมที ุกข ทา นจงรอู ยางนี้เถิด ผมู อี าย.ุ[๒๗๒] กกธุ เทวบตุ รทูลวา นานหนอ ขาพระองคเ พง่ิ พบเห็น ภิกษุ ผเู ปนพราหมณดับสนทิ แลว ไมม ี ความยนิ ดี ไมม ที ุกข ขา มพน เครื่องของ ในโลกแลว .

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 360 อรรถกถากกุธสูตร พึงทราบวนิ จิ ฉยั ในกกธุ สูตรท่ี ๘ ตอไป :- บทวา กกโุ ธ เทวปุตโฺ ต ความวา ไดยินวา เทพบุตรองคนี้เปน บตุ รอปุ ฏ ฐากของพระมหาโมคคลั ลานเถระ ในโกฬนคร เมอ่ื วัยรนุ อยใู นสาํ นักของพระเถระ ทําฌานใหเกดิ แลว ทาํ กาละ [ตาย] ไปอุบัติในพรหมโลกแมในพรหมโลกน้นั เหลา พรหมกร็ จู ักเขาวากกธุ พรหมนน่ั แล. บทวา นนทฺ สิแปลวา ยนิ ด.ี บทวา กึ ลทฺธา ความวา บคุ คลไดข องท่พี อใจไร ๆ ช่อื วาผูย ินดี เพราะฉะน้นั พระผมู พี ระภาคเจาจงึ ตรสั อยางนี.้ บทวา กึ ชิยิตฺถความวา กผ็ ูใดเสอื่ มเสยี สิ่งของมผี า เปน ตนที่พอใจไร ๆ ผูนั้นยอ มเศราโศกเพราะฉะนน้ั พระผมู ีพระภาคเจาจึงตรสั อยา งนัน้ . บทวา อรติ นาภกิ ีรติความวา ความระอายอ มไมครอบงํา. บทวา อฆชาตสสฺ ความวา ผเู กดิ ทกุ ขคอื ต้งั อยใู นวฏั ทกุ ข. บทวา นนฺทิชาตสฺส ไดแ ก ผเู กิดตณั หา. จรงิ อยูวัฏทกุ ขของบุคคลเหน็ ปานน้ันก็มา [เรยี ก] วา อฆะ. สมจริง ดังคําท่ีทา นกลา ววา ผูเ ปนทกุ ข ยอมปรารถนาสุข. ดงั น้ัน ความยนิ ดี จงึ มแี กผ ูเกดิ ทกุ ข. สวนทกุ ขก ็มาเหมอื นกัน เมอื่ สขุ แปรปรวนไป เหตุน้ัน ทุกขจ ึงมีแกผ ูเกิดความยนิ ดี. จบอรรถกถากกธุ สตู รท่ี ๘









































































พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 397กลา วแลว ก็เปน อยางนน้ั นนั่ แล. พระอานนทน้ันเปน สัพพัญู หรอื พระ-ศาสดา เม่อื ทรงกระทาํ การกลา วคณุ น้ัน ท่ีไมกาํ เริบเปน คําตรัสของพระสัพพัญูพุทธะ ก็เทากับประทับแหวนตราชนิ ลัญจกร [ตราพระชนิ เจา ] จึงตรสั วา เอวเมต ดงั น้ีเปนตน. เมอ่ื พระตถาคตและพระอานนทเถระกําลงักลา วคณุ ของพระมหาสาวกอยู เหลา ภมุ มเทวดา เทวดาผูอยูภาคพน้ื ดนิ กล็ ุกข้นึกลา วคุณดวยบท ๑๖ บทเหลา น้นั เหมือนกัน. แตน นั้ เหลาอากาสฏั ฐกเทวดาคอื เทวดาผอู ยใู นอากาศ เทวดาฝนเยน็ เทวดาฝนรอ น เทวดาชัน้ จาตมุ -มหาราชตลอดถึงอกนฏิ ฐพรหมโลก ก็ลกุ ขึ้นกลาวคุณดว ยบท ๑๖ บทเหลาน้นั เหมอื นกัน. เทวดาในหมื่นจักรวาลต้งั ตนแตจกั รวาลหน่งึ กล็ กุ ข้นึ กลาวโดยอุบายนัน้ . ครงั้ นน้ั สสุ ิมเทพบตุ ร สทั ธิวหิ ารกิ ของทานพระสารีบตุ รดําริวา เทพบุตรเหลา นี้ ละกฬิ าในงานนักษัตรของตน ๆ เสียแลว ดาํ รงอยใู นท่ีนัน้ กลา วคุณอุปชฌายของเราเทา นัน้ จาํ เราจะไปสํานักพระตถาคต กระทําการกลาวคุณนัน้ นนั่ แหละ ซึง่ เปน คาํ ของเทวดา. เทพบตุ รนน้ั ก็ไดกระทําอยา งนน้ั เพ่ือจะแสดงความขอ น้นั ทา นจงึ กลาววา อถ โข สุสิโม เทวปตุ โฺ ตดงั นเ้ี ปน ตน . ในบทวา อุจฺจาวจา ในที่อื่น ๆ ประณตี ทา นเรียกวา อจุ จะ(สูง) เลวทานเรยี กวา อวจะ (ตํา่ ) แตใ นสูตรน้ี บทวา อุจฺจาวจา ไดแ กวรรณะและรศั มขี องวรรณะ ตาง ๆ อยาง. เขาวา รัศมแี หง วรรณะของเทวบรษิ ทั นัน้ปรากฏชดั มี ๔ อยาง คอื ทเ่ี ขียวกเ็ ขียวจดั ทีเ่ หลอื งก็เหลืองจัด ทแี่ ดงก็แดงจดั ทขี่ าวกข็ าวจดั ดว ยเหตนุ ้นั นนั่ แล อปุ มา ๔ ขอจงึ มาวา เสยยฺ ถาปน ามเปนตน. ในอปุ มา ๔ ขอนน้ั บทวา สุโภ แปลวา ดี. บทวา ชาตมิ าแปลวา ถงึ พรอ มดวยชาติ. บทวา สปุ รกิ มฺมกโต ไดแ กเจียระนยั ดแี ลวดวยบริกรรมมลี างเปน ตน วางไวบ นผา กัมพลเหลอื ง. บทวา เอวเมว ความวามณที ง้ั หมดเร่มิ สอ งประกายพรอมกนั ดงั มณีที่วางบนผากัมพลแดง. บทวาเนกขฺ  ไดแกเ ครอ่ื งประดบั ท่ีทาํ ดวยทองคาํ เกินเนอ้ื หา . จริงอยู เครอ่ื งประดบั

พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 398น้นั ยอ มเหมาะแกการยํ้าและชดั . บทวา ชมฺโพนท ไดแกทองทเี่ กดิ ในแมนา้ํ ทไ่ี หลไปทางกึ่งชมพใู หญ หรอื เม่อื รสผลชมพูใหญจมดิน หนอทองคาํ ผดุ ขน้ึอธิบายวา เคร่อื งประดบั ท่ีทําดว ยทองคําน้นั . บทวา กมมฺ ารปตุ ฺต อกุ กฺ าม-ุเขสุ กสุ ล สมปฺ หฏ ไดแ ก ที่บุตรชางทองผฉู ลาด หลอมทางปากเบาสุกควา งแลว . ในคัมภรี ธาตวุ ภิ ังค ทา นถอื เอาทองชมพนู ทุ ท่ียังไมท าํ รปู พรรณ.แตใ นพระสตู รน้ี ทา นถอื เอาทองทท่ี ํารูปพรรณแลว. บทวา วทิ ฺเธ แปลวาอยไู กล. บทวา เทเว ไดแ ก อากาศ. บทวา นภ อพฺภุสสฺ กุ กฺ มาโนไดแก โลดข้นึ สูอากาศ. ดว ยบทน้ี ทานแสดงภาพดวงอาทติ ยออน ๆ. บทวาโสรโต ไดแ ก ประกอบดว ยความสงบเสง่ยี ม. บทวา ทนโฺ ต ไดแกหมดพยศ. บทวา สตฺถุวณณฺ ภโต แปลวา มีคณุ ทพ่ี ระศาสดาทรงนํามาแลว .จรงิ อยู พระศาสดาประทับนงั่ ทามกลางบรษิ ัท ๘ ทรงนาํ คณุ ของพระเถระมาโดยนยั วา ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย พวกเธอจงคบสารีบุตรและโมคคัลลานะ ดังน้ีเปนตน. พระเถระกช็ ื่อวา เปน ผมู ีคณุ ท่พี ระศาสดาทรงนาํ มาแลว . บทวากาล กงฺขติ ไดแก ปรารถนากาลเปนทีป่ รินพิ พาน. จริงอยู พระขณี าสพยอ มไมกระหยม่ิ ยนิ ดีความตาย ไมมุงหมายความเปน แตปรารถนา อธบิ ายวายนื คอยดกู าลเวลา เหมือนบรุ ษุ ยืนคอยคา จา งไปวนั หนึง่ ๆ. ดว ยเหตนุ ้ัน ทา นพระสารบี ตุ รจึงกลาววานาภนิ นฺทามิ มรณ นาภนิ นทฺ ามิ ชวี ติ กาล จ ปาฏกิ งขฺ ามิ นพิ ฺพสิ  กติโก ยถาเราไมยนิ ดคี วามตาย เราไมย นิ ดีความเปนอยู แตเรารอเวลา [ปรินิพพาน]เหมือนลกู จา ง รอคา จา งฉะนั้น.จบอรรถกถาสสุ ิมสูตรท่ี ๙

พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 399 ๑๐. นานาติตถิยสูตร [๓๑๓] ขาพเจาไดสดับมาแลว อยางน้ี :- สมยั หนง่ึ พระผูม พี ระภาคเจาประทับอยู ณ พระวิหารเวฬุวัน อนัเปน ท่ีใหเ หย่อื แกก ระแต กรงุ ราชคฤห ณ กาลครั้งหนง่ึ เมือ่ ลว งปฐมยามพวกเทพบุตรผเู ปน สาวกเดยี รถียตาง ๆ เปน อนั มาก คือ อสมเทพบุตรสหลีเทพบุตร นกิ เทพบตุ ร อาโกฏกเทพบตุ ร เวฏัมพรเี ทพบุตร มาณวคามิย-เทพบุตร มวี รรณะงามยิง่ ทําพระวิหารเวฬวุ นั ใหส วา งท่ัวแลว เขา ไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจา ถงึ ทีป่ ระทับ ครนั้ แลว จงึ อภวิ าท แลว ยนื อยู ณ ทคี่ วรสวนขา งหนึ่ง. [๓๑๔] อสมเทพบุตร ครนั้ ยืนอยู ณ สวนทค่ี วรขา งหน่ึงแลว ไดกลา วคาถานีใ้ นสาํ นกั พระผมู ีพระภาคเจา ปรารภถึงทานปรู ณะกสั สปวา ครูปรู ณะกัสสป เพียงแตม องไมเ ห็น บาปหรือบุญของตน เพราะเหตุทสัตวถูก ฟน ถกู ฆา ถูกโบย เสือ่ มเสยี ในโลกนี้ เทานนั้ ทานบอกใหว างใจเสีย ทานยอม ควรที่จะไดรบั ยกยองวาเปนศาสดา. [๓๑๕] สหลเี ทพบตุ ร ไดก ลา วคาถานี้ในสาํ นักพระผูมพี ระภาคเจาปรารภถึงทา นมักขลโิ คศาล ตอไปวา ครมู ักขลิโคศาล สํารวมตนดีแลว เพราะรังเกียจบาปดวยตบะ ละวาจาท่กี อ ใหเ กิดความทะเลาะกับคนเสยี เปน ผู

พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 400 สมํ่าเสมอ งดเวนจากสิง่ ที่มีโทษ พูดจรงิ ทานมักขลิโคศาล จัดวาเปน ผูคงท่ี ไม กระทําบาปโดยแท. [๓๑๖] นกิ เทพบุตร ไดก ลาวคาถานีใ้ นสํานักพระผูมีพระภาคเจาปรารภถงึ ทา นนคิ รนถ นาฏบตุ ร ตอไปวา ครนู คิ รนถ นาฏบุตร เปน ผูเ กลยี ด บาป มีปญ ญารกั ษาตวั เหน็ ภยั ในสงสาร เปนผรู ะมดั ระวังท้งั ๔ ยาม บอกสิ่งที่ตน เหน็ แลวและฟง แลว นาจะไมใ ชผ ูห ยาบชา โดยแท. [๓๑๗] อาโกฏกเทพบตุ ร ไดก ลาวคาถานีใ้ นสาํ นกั พระผูมพี ระภาคเจาปรารภถงึ พวกเดยี รถยี ต าง ๆ ตอ ไปอกี วา ทา นปกธุ ะกัจจายนะ ทา นนคิ รนถ นาฏบตุ ร และพวกทานมกั ขลโิ คศาล ทา นปรู ณะกสั สปเหลานี้ ลวนแตเปน ศาสดาของหมู บรรลผุ ลแหง สมณธรรม แลว ทานเหลา นน้ั คงเปนผูไมไกลไปจาก สัตบุรษุ แนน อน. [๓๑๘] เวฏมั พรีเทพบตุ ร ไดกลา วตอบอาโกฏกเทพบตุ รดว ยคาถาวา สนุ ัขจ้ิงจอกสตั วเ ลว ๆ ใครจ ะตตี น เสมอราชสีห แมจะไมใ ชสตั วขเี้ ร้ือน แต ก็มีบางคราวทท่ี าํ ตนเทียมราชสีห ครูของ หมูเปลือยกาย พูดคําเท็จ มีมรรยาทนา- รงั เกยี จ จะเทียบกับสตั บรุ ษุ ยอ มไมไ ด.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook