Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_19

tripitaka_19

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_19

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎก มชั ฌิมนิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 201ทัง้ หลาย กเ็ พราะการประชุมพรอ มแหงปจจัย ๓ ประการดังน้.ี พระองคทรงยงั เทศนาใหถงึ ท่ีสุดแลว ดวยสามารถแหงวฏั ฏะในหนหลังมใิ ชหรือ. ตอบวา ใชใหถ ึงทส่ี ดุ แลว. แตว าอนุสนธินี้เปน ของเฉพาะบุคคล. จรงิ อยู โลกสันนิวาสน้ี หลงใหลแลวในปฏสิ นธ.ิ เพราะฉะนนั้ พระผมู พี ระภาคเจา จงึ เริ่มเทศนาน้ีวา เราจกั กาํ จดั ฐานอนั เปน ทีต่ ้งั แหงความหลงใหลของโลกสนั -นิวาสน้ันทาํ ใหป รากฏ. อีกอยางหนงึ่ อวิชชามีวฏั ฏะเปน มูล ความบังเกดิ ข้ึนแหงพุทธะมวี ิวัฏฏะเปน มลู เพราะเหตนุ น้ั พระผมู ีพระภาคเจา แมท รงแสดงอวิชชาอนั มวี ฏั ฏะเปน มูล และพุทธปุ บาทอนั มีววิ ฏั ฏะเปนมูลแลว ทรงดาํ ริวา เราจกั ยังเทศนาใหถึงท่สี ดุ อกี ครัง้ เดยี ว ดว ยสามารถแหงวัฏฏะและววิ ฏั ฏะดงั น้ี จงึ เรม่ิ เทศนาน.้ีบรรดาบทเหลา นัน้ บทวา สนนฺ ิปาตาไดแ ก เพราะการประชุมคือวา เพราะประมวลมา. บทวา คพภฺ สสฺ ไดแก สตั วผ เู กดิ ข้นึ ในครรภ.บทวา อวกกฺ นตฺ ิ โหติ ไดแ ก ความเกดิ ยอ มม.ี จริงอยใู นทบ่ี างแหง ทอ งแหงมารดาทานเรยี กวา ครรภ. เหมอื นอยา งทีก่ ลา วไววา :-ยเมกรตตฺ ึ ปม คพฺเภ วสติ มาณโวอพภฺ ุฏโิ ตว สยติ ส คจฉฺ  น นวิ ตตฺ ต.ิแปลวา สัตวอ ยใู นทอ งเเม ตลอดราตรีหนง่ึ กอน เขาลกุ ข้ึนแลวกน็ อน เขาไปไมก ลับ. ในทบ่ี างแหง ทา นเรยี กสตั วผ ูเกิดในครรภวา ครรภ.เหมือนอยางทกี่ ลาวไววา ยถา โข ปนานนทฺ อิตถฺ โิ ย อฺ า นว วา ทส วามาเส คพฺภ กุจฉฺ นิ า ปริหริตฺวา วชิ ายนฺติ แปลวา กอ นอานนท หญิงอ่ืนๆยอมรกั ษาทารกผเู กดิ ในครรภด ว ยทอง เกา เดอื น หรอื วา สิบเดือนแลวจึงคลอด. ในท่นี ี้ ทา นประสงคเอาสตั ว. คําทีพ่ ระผมู พี ระภาคเจาตรัสวา

พระสุตตันตปฎก มัชฌิมนิกาย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 202คพภฺ สฺส อวกฺกนฺติ โหติ ดงั น้ี หมายถึงสัตวน ั้น.บทวา อธิ ไดแ ก ในสตั วโลกน.ี้ บทวา มาตา จ อุตุนี โหติ นี้ ตรัสหมายเอาเวลามีระด.ู ไดยินวา ทารกยอ มเกิดแกมาตุคามในโอกาสใด ในโอกาสนนั้ เมด็ โลหติ ใหญตง้ั อยแู ลวแตกไหลไป เปน วตั ถบุ รสิ ุทธ์ิ เม่ือวัตถบุ รสิ ุทธ์ิ มารดาบิดาอยูรว มกนั คร้งัเดยี วมีเขตเจ็ดวันทเี ดียว ในสมัยนน้ั ทารกยอ มเกดิ ขึ้นได แมดว ยการลบู คลาํอวัยวะ มีการจับมือ จับมวยผมเปนตน . บทวา คนฺธพโฺ พ ไดแ ก สัตวผเู ขา ถงึในทน่ี ั้น. บทวา ปจจฺ ปุ ฏ โิ ต โหติ นี้ มีอธิบายวา ช่อื วา สัตวผจู องดกู ารอยูรว มมารดาและบิดา ซึง่ ยืนอยใู นท่ใี กล ยอมไมม ี แตวา สตั วห นงึ่ ผูอ นั กรรมซัดสง ไปแลว ซึ่งจะเกดิ ขึ้นในโอกาสนนั้ มีอยู ดังน.้ี บทวา ส สเยน ความวา ดวยการสงสัยในชีวติ อยา งใหญ อยางนวี้ า เราหรอื วาบตุ รของเราจักปราศจากโรคไหมหนอดังนี้. บทวา โลหติ ฺเหต ภิกฺขเว ความวา ไดยนิ วา โลหิตของแมในครัง้นัน้ ถึงพรอ มแลว และถงึ พรอมแลวซ่งึ ฐานะนน้ั คือวา ยอ มเปน ของขาวดวยความสเิ นหาในบตุ ร เพราะฉะนัน้ พระผมู พี ระภาคเจา จงึ ตรสั อยางนั้น.บทวา วงกฺ  ไดแ ก ไถเล็กของทารกในผเู ลนอย.ู การเลนประหารไมสัน้ดว ยไมยาว ทานเรียกวา ฆฏกิ า. บทวา โมกขฺ จกิ  ไดแก การเลนหมนุ เวียน.มอี ธบิ ายวา การเลนจบั ทอ นไมในอากาศ หรอื วา เลนเอาหัวตัง้ ทีพ่ น้ื ดนิแลวพลิกไปมาขางลางขางบน. จักรหมุนไปดวยการกระทบลม ทท่ี ําดวยวัตถทุ ้งั หลายมใี บตาลเปนตน ทานเรยี กวา ปง คุลิกะ. ทะนานทําดว ยใบไม ทา นเรยี กวา ปตตาฬหกะ ไดแก การเลน ตวงวตั ถทุ ั้งหลายมที รายเปนตน ดว ยทะนานใบไมนน้ั . บทวา รถก ไดแ ก รถเลก็ . แมธ นู ก็ไดแ กธนเู ล็กนัน่ แหละ. บทวา สารชฺชติ ไดแก ยอ มยังราคะใหเกดิ ข้นึ . บทวา พยฺ าปชชฺ ติไดแก ยอ มยงั ความพยาบาทใหเ กดิ ข้นึ . บทวา อนปุ ฏ ติ กายสติ ความ

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 203วา สตใิ นกาย เรยี กวา กายสติ อธิบายวา ต้ังกายสตนิ นั้ . บทวา ปรติ ฺตเจตโสไดแ ก อกุศลจิต. บทวา ยตถฺ สฺส เต ปาปกา ความวา อกุศลธรรมอนัลามกเหลานน้ั ยอมดับไป ในผลสมาบตั ใิ ด ยอ มไมร ูยอ มไมบรรลสุ มาบตั ิน้นั . บทวา อนุโรธวโิ รธ ไดแ ก ราคะ และโทสะ. บทวา อภนิ นฺทติ ไดแ กยอ มเพลิดเพลนิ ดว ยอํานาจแหง ตณั หา เมือ่ บุคคลกลา วดว ยอํานาจแหงตัณหาวา โอ สุขหนอ เปนตน ชื่อวา ยอ มบน . บทวา อชฺโฌสาย ตฏิ  ติ ไดแ กกลืนกิน คือยังกจิ ใหสําเร็จแลว ถือเอาดว ยความตดิ ใจในตณั หา. อธิบายวา จงยินดีย่ิงซึ่งสขุ หรอื วา อทกุ ขมสุข กอ นหรอื วายอ มยนิ ดยี ง่ิ ซ่งึ ทุกขอ ยางไร. เม่ือบุคคลยดึ ถอื วา เรามีทกุ ข ทุกขเ ปนของเรา ดังน้ี ชือ่ วา ยอมยินดยี ิ่งในทุกข. บทวา อุปปฺ ชชฺ ติ นนทฺ ิ ไดแ ก ตัณหายอ มเกิดข้ึน.บทวา ตทปุ า-ทาน ความวา ตัณหานน้ั เอง ชอื่ วา อปุ าทาน เพราะอรรถวา ยดึ ถือ. กป็ จจยา-การอนั เปนวัฏฏะมสี นธสิ ามและสังเขปนนี้ ้วี า ตสสฺ อุปาทานปจฺจยา ภโวฯเปฯ สมุทโย โหติ ดงั นี้ พระผมู พี ระภาคเจาทรงตรสั อกี ครัง้ หนง่ึ . บดั นี้ พระผูม ีพระภาคเจา เพือ่ ทรงแสดงอันเปนสวนววิ ัฏฏะ จงึตรัสวา อธิ ภกิ ฺขเว ตถาคโต โลเก อปุ ปฺ ชชฺ ติ เปนตน . บรรดาบทเหลานัน้ บทวา อปุ ปฺ มาณเจตโส ความวา ช่ือวา มจี ติ หาประมาณมิได เพราะมีจิตเปนโลกุตตระอันประมาณมไิ ด อธิบายวา เปนผพู รั่งพรอ มดวยมรรคจิต. บทวา อมิ  โข เม ตมุ เฺ ห ภิกฺขเว สงขฺ ิตฺเตน ตณฺหาสงขฺ ยวมิ ตุ ฺตึ ธาเรถความวา พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสวา ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย พวกเธอจงทรงจําเทศนาตัณหาสงั ขยวิมุตติของเรา อันเราแสดงโดยยอ นี้ ตลอดกาลเปนนิตยเถิด อยา หลงลมื . จริงอยู เทศนาในทนี่ ้ี พระผูม ีพระภาคเจา ตรสั วาวมิ ุตติ เพราะเปน เหตไุ ดว ิมตุ ต.ิ บทวา มหาตณฺหาชาลตณหฺ าส ฆาฏปิ ฏ-ิ

พระสุตตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 204มกุ ฺก ความวา ตณั หา พระผูมีพระภาคเจาตรสั วา ขา ยตัณหาใหญเพราะอรรถวา รอยรดั ไว ตรัสวา สังฆาฏะ เพราะอรรถวา เสียดสี อธบิ ายวา พวกเธอจงทรงจําสาตภิ ิกษุผเู ปน บุตรนายเกวฏั ฏนี้วา เปนผูสวมอยใู นขายแหงตัณหาใหญ และในรางตัณหาน้ี พึงทรงจําภกิ ษนุ ั้นวา เปนผเู ขาไปแลวอยากอยูภายใน ดงั นี้ ดว ยประการฉะนี้. คําทเี่ หลือในทที่ ้ังปวงงายทง้ั น้ันแล. จบอรรถกถามหาตณั หาสังขยสูตรที่ ๘

พระสุตตนั ตปฎก มชั ฌมิ นิกาย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 205 ๙. มหาอสั สปรุ สตู ร [๔๕๙] ขา พเจา ไดส ดบั มาแลวอยางน้ี สมัยหนง่ึ พระผูมีพระภาคเจา ประทบั อยูท่ีอสั สปรุ นิคมของหมูเจา อังคะในองั คชนบท ครั้งนั้น พระผมู พี ระภาคเจาตรัสเรียกภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย ภกิ ษุเหลา น้นั ทลู รับพระดาํ รสั ของพระผูมพี ระภาคเจา แลว . พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รัสวา ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย ประชมุ ชนยอมรจู กั พวกเธอวา สมณะๆ ก็แหละพวกเธอ เมือ่ เขาถามวา ทา นท้ังหลายเปนอะไร กป็ ฏิญญา (รับ) วา พวกเราเปน สมณะ ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เม่อื พวกเธอนัน้ มีช่อื อยา งนม้ี ีปฏิญญาอยา งนีแ้ ลว กค็ วรศกึ ษาอยูอยางนี้วา เราทัง้หลายจักสมาทานประพฤติกรรม ทาํ ความเปน สมณะดว ย ทาํ ความเปนพราหมณด วย เมอ่ื พวกเราปฏิบัตอิ ยูอยา งน้ี ชื่อและปฏิญญาน้ขี องพวกเราก็จกั เปนความจริงแท ใชแตเทานนั้ พวกเราบริโภค จวี ร บิณฑบาตเสนาสนะ และคลิ านปจ จัยเภสัชบรขิ ารของทายกเหลาใด สกั การะทัง้ หลายนัน้ ของทายกเหลา น้ัน ก็จกั มีผลมาก มีอานสิ งสมาก ในเพราะพวกเราอกี อยา งหนึง่ เลา บรรพชานีข้ องพวกเรา กจ็ ักไมเปนหมันจกั มีผล มกี ําไร. [๔๖๐] ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย กธ็ รรมทาํ ความเปน สมณะและทําความเปน พราหมณ เปนอยา งไร พวกเธอควรศึกษาอยอู ยา งนวี้ า เราท้งัหลายจักเปน ผปู ระกอบดวยหริ แิ ละโอตตปั ปะ บางทีพวกเธอจะมคี วามดําริวา พวกเราเปนผูป ระกอบดว ยหริ ิและโอตตปั ปะแลว ดว ยกิจเพยี งเทาน้ีพอละพวกเราทาํ เสรจ็ แลว สามญั ญัตถะประโยชนของความเปน สมณะ(มรรค ผล นิพพาน) พวกเราถึงแลว โดยลาํ ดับ กจิ อะไรๆ ทคี่ วรทาํ ใหย งิ่ ข้ึน

พระสุตตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 206ไปมิไดมี พวกเธอถงึ ความยินดดี ว ยกิจเพียงเทานน้ั เราขอบอกแกเ ธอทง้ัหลาย ขอเตือนแกเ ธอทัง้ หลายเมื่อกิจท่ีควรทาํ ใหยงิ่ ขึน้ ไปยงั มอี ยู สามญัญตั ถะทพี่ วกเธอปรารถนา อยาไดเ ส่อื มไปเสยี เลย. [๔๖๑] ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย ก็กจิ ที่ควรทําใหย ง่ิ ขน้ึ ไปเปนอยางไรพวกเธอควรศึกษาอยอู ยางนวี้ า เราทงั้ หลายจักมีกายสมาจารบริสุทธ์ิปรากฏ เปด เผย ไมมชี องและคอยระวัง จกั ไมยกตน ไมข มผอู ื่น ดว ยความเปนผูม กี ายสมาจารอันบริสทุ ธน์ิ ้นั บางทีพวกเธอจะมีความดาํ ริวา พวกเราเปนผูป ระกอบดวยหิริและโอตตัปปะ มกี ายสมาจารบรสิ ทุ ธ์ิแลว ดว ยกิจเพยี งเทาน้ี พอละ พวกเราทาํ เสรจ็ เเลว สามัญญตั ถะพวกเราถึงแลว โดยลําดบั กิจอะไรๆ ทค่ี วรทําใหย งิ่ ข้นึ ไปมิไดมี พวกเธอถึงความยนิ ดีดว ยกิจเพียงเทาน้ัน เราขอบอกแกเ ธอทัง้ หลาย ขอเตอื นแกเธอทั้งหลาย เมอ่ื กิจทค่ี วรทาํใหย่งิ ข้ึนไปยังมอี ยู สามัญญัตถะที่พวกเธอปรารถนาอยาไดเสือ่ มไปเสยีเลย. [๔๖๒] ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย กก็ จิ ที่ควรทําใหยงิ่ ขน้ึ ไปเปนอยา งไรพวกเธอควรศึกษาอยอู ยา งนว้ี า เราทัง้ หลายจักมวี จีสมาจารบรสิ ุทธ์ิปรากฏ เปด เผย ไมม ชี อ งและคอยระวัง จักไมย กตน ไมข มผอู นื่ ดว ยความเปน ผมู ีวจสี มาจารบริสุทธนิ์ ัน้ บางทพี วกเธอจะมีความดาํ รวิ า พวกเราเปนผูประกอบดวยหริ แิ ละโอตตัปปะ มกี ายสมาจาร และวจสี มาจารบริสทุ ธ์ิแลว ดว ยกจิ เพียงเทา นพ้ี อละ พวกเราทาํ เสรจ็ แลว สามญั ญตั ถะพวกเราถึงแลว โดยลาํ ดับ กจิ อะไรๆ ทีค่ วรทาํ ใหย ิง่ ขึ้นไปมไิ ดมี พวกเธอถึงความยินดีดว ยกิจเพยี งเทาน้ัน เราขอบอกแกเ ธอทัง้ หลายขอเตือนแกเ ธอทง้ั หลายเม่ือกจิ ที่ควรทาํ ใหย ิ่งขน้ึ ไปยงั มอี ยู สามญั ญตั ถะที่พวกเธอปรารถนาอยา ไดเสือ่ มไปเสียเลย.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 207 [๔๖๓] ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย กก็ จิ ทีค่ วรทาํ ใหย งิ่ ขึน้ ไปเปนอยางไรพวกเธอควรศึกษาอยูอยางน้วี า เราท้งั หลายจักมมี โนสมาจารบริสทุ ธิ์ปรากฏ เปดเผย ไมมีชองและคอยระวงั จักไมยกตน ไมข มผอู ่ืน ดว ยความ เปน ผมู ีมโนสมาจารบรสิ ทุ ธนิ์ ้นั บางทพี วกเธอจะมคี วามดําริวาพวกเราเปนผปู ระกอบดว ยหิรแิ ละโอตตปั ปะ มีกายสมาจาร วจสี มาจาร และมโนสมาจารบริสทุ ธิ์แลว ดวยกิจเพียงเทานี้พอละพวกเราทําเสร็จแลว สามัญญตั ถะพวกเราถงึ แลว โดยลําดับ กิจอะไรๆ ที่ควรทาํ ใหย ง่ิ ขึน้ ไปมิไดมี พวกเธอถงึ ความยินดีดว ยกจิ เพยี งเทาน้นั เราขอบอกแกเ ธอทงั้หลาย ขอเตือนแกเ ธอทง้ั หลาย เมือ่ กจิ ทคี่ วรทําใหยิง่ ขึน้ ไปยังมอี ยู สามัญญัตถะท่พี วกเธอปรารถนาอยา ไดเ สื่อมไปเสียเลย. [๔๖๔] ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย กก็ จิ ที่ควรทาํ ใหย ่งิ ขึน้ ไปเปน อยา งไรพวกเธอควรศึกษาอยอู ยางนี้วา เราท้ังหลายจกั มอี าชีวะบริสทุ ธ์ิ ปรากฏเปด เผย ไมมีชองและคอยระวัง จกั ไมยกตน ไมขมผูอ ่ืน ดว ยความเปน ผูม ีอาชวี ะบรสิ ุทธนิ์ นั้ บางทพี วกเธอจะมีความดาํ ริวา พวกเราเปน ผูประกอบดวยหริ ิและโอตตัปปะ มีกายสมาจาร วจีสมาจาร มโนสมาจาร และอาชีวะบรสิ ทุ ธิ์แลว ดวยกจิ เพียงเทาน้ี พอละ พวกเราทําเสร็จแลว สามัญญตั ถะพวกเราถึงแลว โดยลาํ ดบั กจิ อะไรๆ ทค่ี วรทําใหย่ิงข้นึ ไปมิไดม ี พวกเธอถงึ ความยินดีดวยกิจเพยี งเทา นั้น เราขอบอกแกเธอท้งั หลาย ขอเตอื นแกเ ธอทง้ั หลายเม่ือกิจที่ควรทาํ ใหยิง่ ขึ้นไปยังมอี ยสู ามัญญัตถะที่พวกเธอปรารถนาอยา ไดเสือ่ มไปเสียเลย. [๔๖๕] ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย กก็ ิจทค่ี วรทําใหย งิ่ ขึ้นไปเปน อยางไรพวกเธอควรศึกษาอยูอยางน้วี า เราท้งั หลายจักมีทวารอนั คุมครองแลวในอนิทรยี ท ั้งหลาย เหน็ รปู ดวยจักษแุ ลว ไมถอื โดยนมิ ิต ไมถอื โดยอนุพยญั -

พระสุตตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 208ชนะ จกั ปฏบิ ัตเิ พอื่ สาํ รวมจักขนุ ทรีย ท่ีเมอื่ ไมส าํ รวมแลว จะเปนเหตใุ หอกศุ ลธรรมอนั ลามก คอื อภิชฌา และโทมนสั ครอบงําไดช่อื วา รกั ษาจกั -ขนุ ทรีย ถึงความสํารวมในจักขนุ ทรยี ไ ดยนิ เสยี งดสต...ดมกลน่ิ ดว ยฆานะ..ลิ้มรสดวยลนิ้ ...ถกู ตองโผฏฐพั พะดว ยกาย...รูแจง ธรรมารมณด ว ยใจแลว , จักไมถ ือโดยนิมิต ไมถ อื โดยอนุพยญั ชนะ จักปฏิบตั เิ พ่ือสํารวมมนนิ -ทรยี  ทเ่ี มื่อสาํ รวมแลว จะเปนเหตใุ หอกศุ ลธรรมอันลามก คอื อภชิ ฌาและโทมนสั ครอบงาํ ได ชื่อวา รกั ษามนินทรยี  ถงึ ความสาํ รวมในมนินทรยี บางทพี วกเธอจะมีความดาํ ริวา พวกเราเปน ผปู ระกอบดวยหิรแิ ละโอตตัป-ปะ มีกายสมาจาร วจีสมาจาร มโนสมาจาร อาชวี ะบริสุทธ์ิแลว และเปนผูมีทวารอันคุมครองแลว ในอนิ ทรียทั้งหลาย ดวยกจิ เพียงเทา น้พี อละ พวกเราทาํ เสรจ็ แลว สามัญญตั ถะพวกเราถึงแลวโดยลําดับ กจิ อะไรๆ ทคี่ วรทําใหย่งิ ขนึ้ ไป ไดมีพวกเธอถึงความยนิ ดีดว ยกจิ เพยี งเทานั้น เราขอบอกแกเธอท้ังหลาย ขอเตอื นแกเ ธอท้ังหลาย เมือ่ กจิ ทีค่ วรทําใหยงิ่ ขนึ้ ไปยังมีอยู สามัญญัตตถะทพี่ วกเธอปรารถนาอยาไดเ ส่ือมไปเสยี เลย. [๔๖๖] ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย กก็ จิ ท่ีควรทําใหยิ่งขน้ึ ไปเปนอยา งไรพวกเธอควรศึกษาอยอู ยา งนว้ี า เราทง้ั หลายจักรจู กั ประมาณในโภชนะจกั พิจารณาโดยแยบคายแลว กลืนอาหาร จกั ไมก ลนื เพอื่ เลน เพ่ือมวั เมาเพ่อื ตบแตง เพ่อื ประดบั จกั กลืนเพียงเพ่อื ใหก ายน้ตี ้งั อยู เปน ไป หางไกลจาความเบียดเบยี น เพ่ืออนุเคราะหแกพ รหมจรรยเทา นัน้ และจะบําบัดเวทนาเกา ไมใหเ วทนาใหมเ กิดข้นึ และจกั ใหอ ตั ภาพดาํ เนนิ ไป ไมม ีโทษอยูสบายดว ยประการฉะนี้ บางทีพวกเธอจะมีความดําเนินไป ไมม ีโทษเปน ผูประกอบดวยหิริและโอตตปั ปะ มกี ายสมาจารวจสี มาจาร มโนสมา-จาร อาชวี ะบริสทุ ธิ์ เปนผมู ที วารอนั คุมครองแลวในอินทรยี ท ้งั หลาย และรูจักประมาณในโภชนะแลว ดวยกิจเพยี งเทาน้ี พอละพวกเราทาํ เสรจ็

พระสตุ ตนั ตปฎก มชั ฌิมนิกาย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 209และ สามญั ญัตถะพวกเราถึงแลว โดยลาํ ดบั กิจอะไรๆ ทีค่ วรทําใหย ่งิ ขน้ึ ไปมิไดมี พวกเธอถงึ ความยินดดี ว ยกจิ เพียงเทา นนั้ เราขอบอกแกเธอทง้ัหลาย ขอเตอื นแกเธอทัง้ หลาย เมื่อกิจท่ีควรทาํ ใหย ่งิ ขึน้ ไปยังมอี ยู สามญัญัตถะท่พี วกเธอปรารถนาอยาไดเ ส่อื มไปเสียเลย. [๔๖๗] ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ก็กจิ ทค่ี วรทําใหย ง่ิ ขน้ึ ไปเปน อยา งไรพวกเธอควรศึกษาอยอู ยา งนีว้ า เราทัง้ หลายจักเปน ผูป ระกอบเนือง ๆ ในความเปนผตู ่นื จักชาํ ระจติ ใหบรสิ ุทธ์ิจากธรรมอันเปน เครื่องกีดกนั้ (นวิ รณ) ดว ยการจงกรม และการนงั่ ตลอดปฐมยามแหงราตรี จักสาํ เร็จการนอนดังราชสหี โดยขา งเบอ้ื งขวา ซอ นเทาเหลอ่ื มเทา มสี ติสมั ปชญั ญะ ทําไวใ นใจถงึ ความสําคัญในอนั ลุกข้ึน ตลอดมัชฌิมยามแหงราตรี กลับลกุ ขึ้นแลว จกั ชาํ ระจติ ใหบริสุทธจ์ิ ากธรรมเปนเคร่อื งกดี ก้ัน (นวิ รณ) ดวยการจงกรม และการนงั่ ตลอดปจฉมิ ยามแหง ราตรี บางทพี วกเธอจะมีความดาํ รวิ า พวกเราเปน ผปู ระกอบดว ยหิรแิ ละโอตตัปปะ มีกายสมาจาร วจีสมาจาร มโนสมาจาร อาชีวะบริสทุ ธิ์แลว เปนผมู ีทวารอันคุมครองแลวในอนิ ทรียทงั้ หลาย และรูจกั ประมาณในโภชนะ ประกอบเนอื ง ๆ ในความเปน ผูตน่ื แลว ดวยกจิ เพียงเทานี้ พอละพวกเราทําเสรจ็ แลว สามญั ญัตถะพวกเราถึงแลว โดยลําดับ กิจอะไรๆที่ควรทําใหยิ่งขนึ้ ไปมิไดมี พวกเธอถึงความยนิ ดีดว ยกิจเพยี งเทาน้นัเราขอบอกแกเ ธอท้งั หลาย ขอเตือนเธอทัง้ หลาย เม่อื กิจท่ีควรทาํ ใหย งิ่ ข้ึนไปยังมอี ยู สามัญญตั ถะท่ีพวกเธอปรารถนาอยา ไดเส่อื มไปเสยี เลย. [๔๖๘] ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย กก็ จิ ทคี่ วรทาํ ใหย ่ิงข้ึนไปอยางไรพวกเธอควรศกึ ษาอยอู ยางน้ีวา เราทั้งหลายจักประกอบดว ยสตสิ มั ปชัญ-ญะ ทําความรูสกึ ตวั ในการกา ว ในการถอย ในการแล ในการเหลยี ว ในการคเู ขา ในการเหยียดออก ในการทรงสงั ฆาฏิ บาตร และจีวร ในการ

พระสุตตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 210ฉัน การด่ืม การเค้ียว การลมิ้ ในการถายอุจจาระ ปส สาวะ ทําความรูส กึ ตัวในการเดิน การยืน การน่ัง การหลับ การตน่ื การพูด การนิ่ง บางทพี วกเธอจะมคี วามดํารวิ า พวกเราเปน ผูประกอบดวยหิริและโอตตัปปะ มกี ายสมาจาร วจสี มาจาร มโนสมาจาร อาชวี ะบริสุทธ์แิ ลว เปน ผมู ีทวารอันคมุ ครองแลว ในอินทรียทงั้ หลาย รูจักประมาณในโภชนะ ประกอบเนอื ง ๆ ในความเปนผตู ่ืน และประกอบดวยสตสิ มั ปชญั ญะแลว ดว ยกจิ เพยี งเทานี้ พอละ พวกเราทาํ เสรจ็ แลว สามญั ญตั ถะพวกเราถงึ แลว โดยลําดับ กิจอะไร ๆ ทค่ี วรทําใหยิง่ ขนึ้ ไปมไิ ดมี พวกเธอถงึ ความยินดดี ว ยกิจเพยี งเทา นั้น เราขอบอกเกเธอท้ังหลาย ขอเตอื นแกเ ธอท้งั หลาย เม่ือกิจทีค่ วรทําใหยง่ิ ขึ้นไปยังมีอยู สามัญ-ญตั ถะที่พวกเธอปรารถนาอยาไดเ ส่อื มไปเสยี เลย. [๔๖๙] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ก็กจิ ทีค่ วรทําใหย ง่ิ ข้ึนไปอยา งไรดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มเสพเสนาสนะอันสงัด คอืปา โคนไม ภูเขา ซอกเขา ถาํ้ ปาชา ปาชฏั ที่แจง ลอมฟาง เธอกลับจากบณิ ฑบาตในกาลภายหลงั ภัตแลว นง่ั ขดั สมาธติ ั้งกายตรง ดํารงสติไวเฉพาะหนา เธอละความเพงเลง็ ในโลกแลว มีใจปราศจากความเพงเลง็ อยู ยอ มชาํ ระจติ ใหบรสิ ทุ ธิ์จากความเพงเล็งได ละความประทุษรายคอื พยาบาทแลวไมคดิ พยาบาท มคี วามกรุณาหวงั ประโยชนแกส ัตวทง้ั ปวงอยู ยอ มชําระจติใหบริสทุ ธจ์ิ ากความประทษุ รายคอื พยาบาทได ละถีนมิทธะไดแ ลว เปนผูปราศจากถนี มิทธะ มคี วามสําคญั หมายอยทู ีแ่ สงสวา ง มสี ตสิ มั ปชญั ญะอยู ยอมชําระจิตใหบริสทุ ธจิ์ ากถนี มทิ ธะได ละอุทธจั จกุกกจุ จะไดแลว เปน ผูไมฟุง ซาน มจี ติ สงบ ณ ภายในอยู ยอมชาํ ระจิตใหบริสุทธิ์จากอุทธัจจกกุ กุจจะได ละวจิ กิ ิจฉาไดแลว เปนผขู า มวจิ ิกจิ ฉา ไมมีความคลางแคลงในกุศลธรรมทั้งหลายอยู ยอมชําระใหบ รสิ ุทธ์จิ ากวิจกิ จิ ฉาได.

พระสุตตนั ตปฎก มชั ฌิมนิกาย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 211 [๔๗๐] ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เปรยี บเหมือนบุรุษจะพึงกหู น้ไี ประกอบการงาน การงานเหลา น้นั ของเราจะพงึ สําเรจ็ ผล เขาจะพึงใชหน้ีทเี่ ปนตน ทุนเดมิ ใหหมดสิน้ และทรัพยทีเ่ ปน กําไรของเขาจะพึงมเี หลืออยูสําหรับเล้ียงภรรยา เขาจะพงึ มีความคดิ เห็นอยางน้วี า เม่ือกอ นเรากูหนไ้ี ปประกอบการงาน บดั น้ี การงานของเราสาํ เรจ็ ผลแลว เราไดใ ชหนีท้ เ่ี ปนตนทุนเดิมใหห มดสิน้ แลว และทรพั ยทีเ่ ปนกาํ ไรของเรายังมเี หลืออยูสําหรับเล้ยี งภรรยาดงั นี้ เขาจะพึงไดความปราโมทยถ ึงความโสมนสั มคี วามไมมหี นี้นน้ั เปนเหตุ ฉันใด. ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย เปรยี บเหมือนบรุ ษุ จะพงึ เปนผูมีอาพาธ ถึงความลาํ บาก เจ็บหนกั บริโภคอาหารไมได ละไมม กี าํ ลงั กาย สมัยตอมา เขาพงึ หายจากอาพาธนน้ั บริโภคอาหารได และมีกําลังกาย เขาจะพึงมคี วามคิดเหน็ อยา งน้วี า เมอื่ กอ น เราเปนผมู ีอาพาธ ถึงความลําบาก เจ็บหนกั บรโิ ภคอาหารไมไดแ ละไมมีกาํ ลังกาย บัดนี้ เราหายจากอาพาธน้นัแลว บริโภคอาหารไดส ละมีกาํ ลังกาย ดงั น้ี เขาจะพึงไดความปราโมทย ถึงความโสมนสั มีความไมม โี รคนั้นเปนเหตุ ฉันใด. ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย เปรยี บเหมอื นบุรษุ จะพงึ ถูกจองจาํ อยใู นเรอื นจํา สมยั ตอ มา เขาพงึ พนจากเรอื นจํานัน้ โดยสวัสดี ไมม ภี ัยและไมต องเสยีทรัพยอะไรๆ เลย เขาจะพึงมคี วามคดิ เห็นอยา งนว้ี า เม่อื กอ น เราถูกจองจําอยูในเรอื นจํา บัดน้เี ราพนจากเรือนจํานั้นโดยสวสั ดีไมม ภี ัยแลว และไมต องเสยีทรพั ยอ ะไรๆ เลย ดงั นเ้ี ขาจะพงึ ไดค วามปราโมทย ถึงความโสมนสั มีการพน จากเรือนจํานนั้ เปน เหตุ ฉันใด. ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงเปนทาส พง่ึ ตวั เองไมได ตอ งพึ่งผอู ื่น ไปไหนตามความพอใจไมได สมัยตอมา เขาพึงพน จากความ

พระสุตตันตปฎก มชั ฌิมนกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 212เปนทาสน้นั พงึ่ ตวั เองได ไมตอ งพ่งึ ผูอ ่ืน เปนไทแกตวั ไปไหนไดตามความพอใจ เขาจะพึงมีความคิดเห็นอยางน้วี า เม่ือกอ น เราเปน ทาส พง่ึ ตวั เองไมได ตองพง่ึ ผอู ่นื ไปไหนตามความพอใจไมไ ด บัดน้ี เราพน จากความเปนทาสน้ันแลว พึง่ ตัวเองได ไมต องพ่ึงผูอ่นื เปนไทแกต วั ไปไหนไดความความพอใจ ดงั นี้ เขาจะพึงไดค วามปราโมทย ถึงความโสมนสั มคี วามเปนไทแกตวั นน้ั เปน เหตุ ฉันใด. ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย เปรียบเหมือนบรุ ุษมที รพั ย มีโภคสมบัติ จะพงึเดนิ ทางไกลกนั ดาร สมยั ตอ มา เขาพงึ ขามพน ทางกันดารนัน้ ได โดยสวัสดีไมมีภยั ไมตอ งเสียทรัพยอ ะไร ๆ เลย เขาจะพงึ มคี วามคิดเห็นอยางนี้วาเมอื่ กอ นเรามที รพั ย มีโภคสมบตั ิ เดนิ ทางไกลกนั ดาร บัดนี้ เราขามพน ทางกนั ดารนนั้ แลว โดยสวสั ดี ไมม ภี ยั ไมตองเสียทรพั ยอะไร ๆ เลย ดังนี้ เขาจะพึงไดค วามปราโมทย ถึงความโสมนัส มีภมู ิสถานอันเกษมน้นั เปน เหตุฉนั ใด. ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษพุ ิจารณาเหน็ นวิ รณ ๕ ประการเหลาน้ี ที่ยังละไมไดใ นตน เหมอื นหนี้ เหมอื นโรค เหมือเรอื นจาํ เหมือนความเปนทาส เหมือนทางไกลกนั ดาร และพจิ ารณาเปนนิวรณ ๕ ประการเหลาน้ี ทลี่ ะไดแลว ในตน เหมอื นความไมม ีหน้ี เหมอื นความไมมโี รค เหมือนการพน จากเรอื นจาํ เหมือนความเปน ไทแกตน เหมอื นภูมิสถานอันเกษม ฉันน้ันแล. [๔๗๑] ภกิ ษนุ ั้นละนวิ รณ ๕ ประการน้อี นั เปนเครอ่ื งเศรา หมองแหงจิตอันเปนเครอื่ งทําปญญาใหถ อยกาํ ลงั ไดแ ลว สงัดจากกาม สงัดจากอกศุ ล-ธรรม เขา ปฐมฌาน มวี ติ ก มวี จิ าร มปี ตแิ ละสุขอนั เกิดแตว ิเวกอยู เธอทาํกายนแี้ ลใหช มุ ช่นื อิม่ เอิบ ซาบซาน ดว ยปตแิ ละสขุ อนั เกดิ แตว ิเวก ไมมีเอกเทศ

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌมิ นกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 213ไหนๆ แหง กายของเธอท่วั ทงั้ ตวั ทป่ี ตแิ ละสุขอันเกดิ แตวเิ วกจะไมถกูตอง เปรียบเหมือนพนักงานสรงสนาน หรือลกู มือของพนักงานสรงสนานผูฉลาด ใสจณุ สีตัวลงในภาชนะสํารดิ แลวพรมดว ยนํ้าหมกั ไว กอนจุณสี-ตัวนนั้ มียางซึมไปจบั ติดกันท้ังขางในขางนอก ยอมไมกระจายออก ฉะนน้ั . [๔๗๒] ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย ยงั อกี ขอ หนง่ึ ภกิ ษเุ ขา ทุติยฌาน มคี วามผอ งใสแหง จติ ในภายใน เปนธรรมเอกผุดขน้ึ เพราะวิตกและวจิ ารสงบไป ไมม ีวติ ก ไมม ีวิจาร มีปติและสุขอนั เกิดแตส มาธิอยู เธอทาํ กายนี้แลใหชมุชื่น อม่ิ เอบิ ซาบซาน ดวยปติและสุขอนั เกิดแตส มาธิ ไมมีเอกเทศไหนๆแหงกายของเธอท่ัวทัง้ ตัว ทป่ี ติและสุขอนั เกิดแตส มาธิจะไมถ กู ตอง เปรยี บเหมอื นหว งน้ําลกึ มีนาํ้ ขังอยู ไมม ีทางท่ีน้าํ จะไหลมาได ทัง้ ในดานตะวนั ออก ดานตะวันตก ดา นเหนือ ดานใต ท้งั ฝนกไ็ มต กเพ่มิ ตามฤดกู าลแตส ายนาํ้ เยน็ พุข้ึนจากหว งนํา้ นั้นแลว จะพึงทําหว งนํ้าน้ันแลใหชมุ ช่ืน เอบิอาบ ซาบซึมดว ยน้ําเย็น ไมม ีเอกเทศไหนๆ แหงหว งน้ํานั้นทั้งหมดที่นํา้ เย็นจะไมถูกตอ ง ฉะน้นั . [๔๗๓] ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ยังอีกขอ หนงึ่ ภิกษุมอี เุ บกขา มีสตสิ มั ป-ชญั ญะ เสวยสุขดวยนามกาย เพราะปติส้นิ ไป เขาตติยฌานท่พี ระอรยิ ะทงั้หลายสรรเสริญวา ผูไ ดฌานนี้ เปน ผูมีอเุ บกขา มสี ติ อยเู ปนสขุ เธอทํากายนี้แลใหชมุ ชน่ื เอบิ อาบ ซาบซา น ดว ยสขุ อันปราศจากปต จิ ะไมถกู ตอ ง เปรียบไหนๆ แหงกายของเธอท่ัวทัง้ ตวั ท่สี ุขปราศจากปตจิ ะไมถ ูกตอ ง เปรียบเหมือนในกออบุ ล กอปทมุ หรอื กอบณุ ฑรกิ แตละชนิด ในกออบุ ล กอปทมุหรอื กอบณุ ฑรกิ ดอกบวั บางชนิด เกดิ ในน้าํ เจรญิ ในน้าํ ยังไมพ น จากนํา้ จมอยูใ นนาํ้ นาํ้ เลย้ี งไวอนั น้าํ เยน็ หลอเลยี้ งเอิบอาบซึมซาบไปแตยอดและ

พระสุตตันตปฎ ก มชั ฌมิ นกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 214เหงา ไมมเี อกเทศไหนๆ แหงกออุบล กอปทุม หรอื กอบุณฑริก ท่นี ้ําเย็นจะไมถ ูกตอ ง ฉะนั้น. [๔๗๔] ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ยังอีกขอ หนึ่ง ภกิ ษเุ ขาจตตุ ถฌานไมม ีทกุ ข ไมมสี ขุ เพราะละสุขและทุกข และดับโสมนสั โทมนัสในกอนไดมคี วามบริสุทธิ์แหง สติทีอ่ ุเบกขาใหเ กิดข้นึ อยู เธอนั่งแผไ ปทว่ั กายน้แี ลดวยใจอันบริสุทธ์ิผอ งแผว ไมมีเอกเทศไหนๆ แหง กายของเธอท่วั ทั้งตวัท่ีจิตอนั บริสุทธ์ิผองแผวจะไมถูกตอ ง เปรยี บเหมือนบุรุษนั่งคลมุ ตัวตลอดศีรษะดว ยผาขาว ไมม เี อกเทศไหน ๆ แหง กายทกุ ๆ สวนของเขาทผี่ า ขาวจะไมถ ูกตอง ฉะนน้ั . [๔๗๕] ภกิ ษนุ ้นั เมอ่ื จิตเปน สมาธิ บริสุทธิ์ ผองแผว ไมมีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส ออน ควรแกก ารงาน ตง้ั มั่น ไมหว่ันไหวอยางนี้ ยอมโนม นอมจิตไปเพอ่ื ปพุ เพนิวาสานสุ ตญิ าณ เธอระลึกชาติที่เคยอยอู าศัยในกาลกอนไดเปน อันมาก คือ ระลึกไดห นึง่ ชาติบา ง สองชาตบิ า ง ฯลฯ ระลึกชาติทเ่ี คยอยูอาศัยในกาลกอ นไดเปนอนั มาก พรอมทั้งอาการ พรอมท้งั อุทเทศ ดว ยประการฉะนี้ เปรียบเหมอื นบรุ ุษออกจากบา นของตนไปสบู านอื่น ออกจากบา นแมน้ันไปสบู า นอนื่ ออกจากบา นแมน้ันแลว กลับมาสูบานของตนตามเดมิ เขาจะพึงระลึกไดว า เราออกจากบา นของตนไปสูบา นโนน ในบา นนนั้ เราไดยืนอยางนน้ั ไดน ั่งอยา งนัน้ ไดพดู อยางน้นั ไดนิ่งอยา งนัน้ ออกจากบา นแมนนั้ ไปสูบ านโนน แมในบานนั้น เรากไ็ ดยืนอยา งน้นั ไดน ่งั อยา งนั้น ไดพดู อยางนัน้ ไดน ิ่งอยา งนนั้ ออกจากบานแมน น้ั แลว กลบั มาสบู า นของตนตามเดิม ดงั น้ี ฉันใด ภิกษกุ ็ฉันนน้ั แล ยอ มระลึกชาติทเ่ี คยอยูอ าศัยในกาลกอนไดเปน อนั มาก คอื ระลึกไดหน่ึงชาตบิ า ง สองชาติบาง ฯลฯ ระลึกชาตทิ ี่เคยอยูอาศัยในกาลกอนไดเ ปน อนั มาก พรอมทัง้ อาการ พรอ มทั้งอทุ เทศ ดว ยประการฉะน้ี.





























































พระสุตตันตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 245 จฬู ยมกวรรค ๑. สาเลยยกสตู ร [๔๘๓] ขาพเจาไดฟ ง มาแลวอยางน.้ี สมัยหน่ึงพระผมู พี ระภาคเจา ทรงเที่ยวจารกิ ไปในแควนโกศลพรอ มกับหมูภิกษจุ ํานวนมาก มาประทับอยูทีห่ มบู า นพราหมณแหง แควนโกศลชอื่สาละ พวกพราหมณแ ละคฤหบดชี าวสาละไดฟ ง ขา ววา น่แี น เขาวาพระสมณโคดมผเู จรญิ โอรสเจาศากยะบวชจากตระกูลศากยะกําลังทองเที่ยวอยูในแควน โกศล ไดมาถึงหมบู านสาละพรอ มกบั หมูภกิ ษจุ าํ นวนมาก ก็แลเกียรติ-ศพั ทอันงามไดขจรขึน้ ไปยงั พระโคดมผูเจรญิ นั้นอยางนี้วา แมเ พราะเหตุน้ี พระผูมีพระภาคเจา นนั้ ทรงเปนพระอรหันตตรัสรูถกู ตอ งดวยพระองคเ อง สมบูรณด วยความรแู ละความประพฤติ เปนผูไปดีแลว รูจกั โลกเปนผูฝกคนทพ่ี อจะฝก ไดอยา งยอดเยี่ยม เปน ผูสอนพวกเทวดาและมนุษยเปนพุทธะ เปนผจู าํ แนกธรรม พระโคดมน้ันไดก ระทําใหแ จง โลกนีร้ วมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมูค นรวมทง้ั สมณะและพราหมณร วมทัง้เทวดาและมนษุ ยด วยความรูย ่ิงเองแลวช้ีแจง. ทานแสดงธรรมงามในเบ้อื งตนงามในทามกลาง งามในทส่ี ุดพรอมท้ังใจความ พรอมท้ังพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรยท บ่ี ริสทุ ธบิ์ รบิ รู ณสน้ิ เชงิ . ก็แหละการเหน็ หมูพระอรหนั ตเหน็ ปานน้ันยอ มเปน การดแี ท. ครัน้ นั้นแล พวกพราหมณและคฤหบดชี าวสาละ กพ็ ากันเขา ไปเฝา พระผูม ีพระภาคเจาถงึ ทปี่ ระทบั แลว บางพวกกถ็ วายอภิวาทพระผูม ีพระภาคเจาแลว น่งั ณ ทคี่ วรสว นขางหนง่ึ บางพวกก็บนั เทงิ กับพระผูม ีพระภาคเจา เม่ือพดู จาปราศรยั กนั พอเปนท่ีระลกึ นึกถึงกันเสรจ็ แลว กน็ ง่ั ลงในที่ควร

พระสุตตนั ตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 246สวนขางหน่ึง บางพวกกป็ ระณมอัญชลีหันไปหาพระผูมพี ระภาคเจาแลวน่ังลงในที่ควรสวนขา งหนึง่ บางพวกกบ็ อกชื่อและนามสกุลในสาํ นกั พระผูมีพระภาคเจาแลว นัง่ ลงในที่ควรสว นขา งหนงึ่ บางพวกไมพ ดู วาอะไรแลวนัง่ในที่ควรสวนขางหนึง่ เมื่อนั่งเรยี บรอยแลว พวกพราหมณและคฤหบดชี าวสาละกท็ ูลพระผมู ีพระภาคเจา อยา งนวี้ า \"ทา นโคดมผเู จริญ...ขอถามสกัหนอยเถิดวา อะไรละ เปน เหตุ? อะไรเปน ปจ จยั ซง่ึ เหลา สัตวบ างพวกในโลกน้ี หลงั จากตายเพราะกายแตกยอมเขาถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก ? พระโคดมผเู จริญ และก็อะไรเปนเหตุ อะไรเปนปจจยั ทีท่ าํ ใหเ หลาสัตวบ างพวกหลงั จากตายเพราะกายแตก ยอมเขา ถึงสุคติโลกสวรรค ? ภ. พราหมณแ ละคฤหบดที งั้ หลาย เพราะความไมป ระพฤตธิ รรมและความประพฤตไิ มส มา่ํ เสมอ เปนเหตุโดยแท เหลา สัตวบ างพวกในโลกน้ี หลังจากตายเพราะกายแตกยอ มเขา ถึงอบาย ทคุ ติ วินิบาต นรกอยา งนี้ พราหมณและคฤหบดที ้ังหลาย เพราะความประพฤติธรรมและความประพฤติเรียบรอ ยเปน เหตุโดยแททท่ี ําใหห มูส ัตวบางพวกในโลกนเ้ี ขาถงึ สคุ ติโลกสวรรค หลังจากตายเพราะกายแตกอยา งน้.ี พ. \"พวกขา พเจายงั ไมเขาใจ ใจความของคําพดู ทที่ านพระโคดมกลา วโดยยอน้ีอยา งพิสดารได และคาํ พดู ทีท่ านยงั ไมแ จกแจงก็เขาใจใจความอยา งพสิ ดารโดยทัว่ ถงึ ยงั ไมไ ด พวกขาพเจาขอโอกาสใหพระโคดมผูเจรญิ แสดงธรรมโดยประการทีพ่ วกขาพเจาจะพงึ เขาใจใจความของคาํ พดู ที่ทานพระโคดมกลา วโดยยอ น้อี ยา งพิสดารได และคําพดู ทที่ านยังไมแจกแจงก็เขา ใจใจความอยางพสิ ดารโดยทว่ั ถึงได.\" ภ. \"พราหมณและคฤหบดีทั้งหลาย ถาอยา งน้นั จงตงั้ ใจฟงใหดีฉันจะกลาว.\"

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 247 พ. \"อยางนนั้ ทาน.\" พวกพราหมณแ ละคฤหบดชี าวบานสาละ รับสนองพระดาํ รสั ของพระผมู พี ระภาคเจา. [๔๘๔] พระผูมพี ระภาคเจา จึงไดตรสั อยา งนวี้ า \"พราหมณแ ละคฤหบดที ัง้ หลาย ความประพฤติไมเปน ธรรมและความประพฤติไมสมาํ่ เสมอทางกายมี ๓ อยา ง ความประพฤติไมเ ปนธรรมและความประพฤตไิ มสมาํ่ เสมอทางวาจามี ๔ อยาง ความประพฤติไมเ ปนธรรมและความประพฤติไมสมํ่าเสมอทางใจมี ๓ อยาง.\" \"พราหมณและคฤหบดีทัง้ หลาย ความประพฤติไมเปน ธรรมและความประพฤติไมส มาํ่ เสมอทางกาย ๓ อยา ง อยางไรเลา ? คอื ๑. พราหมณแ ละคฤหบดที ง้ั หลาย คนบางคนในโลกนี้เปนผูชอบฆาสัตว เปน คนหยาบ มอื เปอนเลอื ด ตัง้ ม่ันในการเขน ฆา ไมล ะอาย ไมส งสารในหมูสตั วท ัง้ ปวง. ๒. และก็เปน ผูช อบลกั ขโมยของสิง่ ใดเปน ของคนอน่ื เปนอปุ กรณเครอ่ื งปลมื้ ใจของคนอน่ื ไมวา อยใู นบา นหรอื อยใู นปา เปนผูถอื เอาของทเ่ี ขาไมไดใ ห อนั เปนสวนแหงขโมยนน้ั . ๓. อีกทั้งชอบประพฤติผดิ ในของรกั ของใครท ั้งหลาย เปนผูละเมิดจารีตในผูหญิงท่ีไมรักษา พอรกั ษา ทง้ั แมแ ละพอรกั ษา พ่นี อ งชายรกั ษาพีน่ องหญงิ รักษา ญาติรกั ษา หญงิ มผี ัว หญงิ มอี าชญาโดยรอบ โดยที่สดุ แมแตห ญงิ ท่ีคลองพวงมาลงั ให (เส่ยี งพวงมาลัย) เหน็ ปานน.ี้ อยางน้ีแลพราหมณและคฤหบดที ั้งหลาย จัดเปน ความประพฤตทิ ่ไี มเปน ธรรมและความประพฤตทิ ี่ไมส มา่ํ เสมอทางกาย ๓ อยา ง.

พระสตุ ตนั ตปฎก มชั ฌิมนกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 248 \" พราหมณและคฤหบดที ง้ั หลาย กแ็ หละ ความประพฤติทีไ่ มเปนธรรมและความประพฤติที่ไมสมาํ่ เสมอทางวาจา ๔ อยาง เปนอยา งไร?คอื ๑. พราหมณแ ละคฤหบดที ั้งหลาย บคุ คลลางคนในโลกนี้เปนคนชอบพูดเทจ็ ไมว าอยูในทปี่ ระชุม อยูในบรษิ ัท อยกู ลางญาติ อยกู ลางพรรคพวก หรอื อยูกลางราชตระกูลกต็ าม เมอื่ ถกู นํามาซักเปน พยานวา ''มานีซ่ ินาย ขอใหค ณุ จงพดู สงิ่ ท่ีคุณร.ู \" เขาไมร ูก็พูดวา \"ผมร\"ู หรอื รูอยูก็กลับพดูวา \" ผมไมรู \" ไมเ ห็นกพ็ ดู วา \" ผมเห็น \" หรือเหน็ อยูก ็ไพลพูดไปวา \" ผมไมเห็น \" ทัง้ นเี้ พราะเหตแุ หงตน เพราะเหตแุ หง คนอน่ื หรอื เพราะเหตุแหงอามสิ ลางสง่ิ ลางอยาง จึงเปนกลาวเท็จทัง้ ๆ ท่รี ูอย.ู ๒. และกเ็ ปน คนพูดสอ เสยี ด คอื ไดฟงจากทางนี้แลว ไปบอกทางโนน เพื่อทําลายพวกเหลานี้ หรอื ไดฟ งจากทางโนน แลวก็มาบอกพวกนี้เพ่ือทาํ ลายพวกโนน ดงั นกี้ ็เปน อันวา ทําผทู พ่ี รอ มเพรยี งกันอยแู ลว ใหแ ตกกนั หรอื สง เสริมใหคนทีแ่ ตกกันอยแู ลวแตกกันยง่ิ ขึน้ พอใจผูทแี่ ตกกันเปนพรรคเปน พวก ยนิ ดีกบั ท่ีแตกกันเปนพรรคเปน พวก ชอบผูทีแ่ ตกกนั เปนพรรคเปน พวก เปนผูพดู วาจาทท่ี าํ ใหแ ตกกันเปนพรรคเปนพวก ๓. ทัง้ เปนคนพูดคําหยาบ คอื เปนผูพูดคาํ ชนดิ ท่ีคอ นขอด หยาบชาตอคนอืน่ เผด็ รอ น คนอ่นื เหนบ็ ความเจบ็ ใจ ใกลตอความโกรธ ไมเ ปนไมเ พือ่ใหจ ติ ใจตงั้ ม่ันเห็นปานน้นั . ๔. อกี ทง้ั เปน ผูช อบพดู สํารากเพอ เจอ ชอบพดู ไมถูกเวลา ชอบพูดไมจริง ( พดู ไมเ ปน ) ชอบพูดไรประโยชน ชอบพดู ไมเปน ธรรม ชอบพูดไมเปน วินัย เปนผูพูดไมม หี ลักฐาน ไมเปนเวลา ไมมีท่อี างองิ ไมม ีทส่ี น้ิ สดุไมป ระกอบดวยประโยชน.

พระสุตตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 249 อยางน้แี ล พราหมณแ ละคฤหบดีทัง้ หลาย จัดเปนความประพฤติทีไ่ มเปนธรรมและความประพฤติท่ีไมสม่าํ เสมอทางวาจา ๔ อยา ง. \" พราหมณและคฤหบดีทั้งหลาย กแ็ หละ ความประพฤติท่ไี มเ ปนธรรมและความประพฤตทิ ี่ไมส ม่าํ เสมอทางใจ ๓ อยา ง เปน อยา งไร คือ ๑. พราหมณและคฤหบดีทงั้ หลาย คนลางคนในโลกน้ี เปนผมู ากไปดวยความเพงเล็ง เปน ผูเพงเล็งทรัพยส มบตั ขิ องคนอน่ื ไฉนหนอ ขอส่ิงท่ีเปนของคนอืน่ นั้นพงึ เปนของเราเถิด. ๒. และกเ็ ปน ผมู จี ิตพยาบาท เปนผมู ีใจคิดแตจ ะประทษุ รา ยวา \" ขอใหสัตวพ วกน้ี จงถูกฆา จงถูกเขาฆา จงขาดสูญ หรอื อยา ไดมเี ลย.\" ๓. อีกทง้ั เปน ผูมคี วามเหน็ ผิด เปนผูม คี วามเหน็ คลาดเคลอื่ นวา \"ทานทใี่ หแลว ไมมีผล การบูชาไมม ีผล การเซน สรวงไมมีผล ผลคือวิบากของกรรมทท่ี ําดีและช่วั ไมม ี โลกนไ้ี มม ี โลกหนา ไมม ี มารดาไมมบี ุญคณุ บดิ าไมมีบญุ คณุ พวกสตั วท ่ีผดุ เกดิ ไมมี ในโลกไมม ีสมณพราหมณผ ปู ระพฤตดิ ีปฏบิ ตั ชิ อบชนดิ ที่ทาํ ใหแจงดว ยความรูยิง่ เองแลว ประกาศโลกน้ีและโลกหนา \" อยา งทวี่ ามานี่แหละ พราหมณและคฤหบดที งั้ หลาย จัดเปนความประพฤตทิ ่ไี มเปนธรรมและความประพฤติทไ่ี มสมํ่าเสมอทางใจ ๓อยาง. \" พราหมณแ ละคฤหบดที ั้งหลาย เพราะความประพฤตไิ มเปนธรรมและความประพฤตทิ ีไ่ มสมาํ่ เสมอ เปน เหตุอยางนแ้ี ล เหลา สตั วบางพวกในโลกนี้ เบอ้ื งหนา แตตายเพราะกายแตกจึงยอ มเขาถงึ อบาย ทคุ ติ วนิ ิบาตนรก.\"

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌิมนิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 250 [๔๘๕] \" พราหมณและคฤหบดที งั่ หลาย ความประพฤตเิ ปนธรรมและความประพฤติสมา่ํ เสมอทางกายมี ๓ อยางแล. ความประพฤติเปน ธรรมและความประพฤตสิ ม่าํ เสมอทางวาจามี ๔ อยา ง. ความประพฤตเิ ปนธรรมและความประพฤติสม่ําเสมอทางใจมี ๓ อยาง \" พราหมณแ ละคฤหบดีทัง้ หลาย กแ็ ลความประพฤติเปนธรรมและความประพฤตสิ ม่ําเสมอทางกาย ๓ อยาง เปน อยางไร คือ ๑. พราหมณแ ละคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลลางคนในโลกนี้ ละการฆาสัตว เปน ผูเวนขาดจากการฆา สัตวว างกระบองลง วางศสั ตราลง มคี วามละอายประกอบดวยความเอ็นดูเปน ผูมีความเออ้ื เฟอและความสงสารในสัตวทั้งหมดอย.ู ๒. ละการลักทรัพย เปนผเู วน ขาดจากการลกั ทรพั ย เปนผูไมถอืเอาทรพั ยสมบตั ิของคนอ่นื จะอยใู นบา นหรอื อยูในปา ซึง่ เขาไมไ ดใ หอนั เปนสวนแหงการขโมยนั้น. ๓. ละความประพฤตผิ ดิ ในกามทัง้ หลาย เปน ผูเวน ขาดจากความประพฤติผิดในกามทง้ั หลาย ไมละเมดิ จารีตในผูห ญงิ ท่แี มป กครอง พอปกครอง ท้ังพอและแมปกครอง พีน่ องชายปกครอง พีน่ อ งหญิงปกครอง หญิงมีผวั หญงิ ท่ีอยูใ นเขตหวงหามโดยที่สดุ แมแ ตหญิงที่ชายคลอ งพวงมาลยัให เหน็ ปานนน้ั . อยา งนแ้ี ล พราหมณเ ละคฤหบดีทั้งหลาย จดั เปนความประพฤตเิ ปนธรรมและความประพฤตสิ มํ่าเสมอทางกาย ๓ อยา ง. \" พราหมณและคฤหบดที ั้งหลาย ความประพฤตเิ ปนธรรมและความประพฤตสิ มํา่ เสมอทางวาจา ๔ อยาง เปน อยางไร ?


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook