Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_19

tripitaka_19

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_19

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 428 การแบง ดว ยจติ อยางนวี้ า \"เราจะใหแ กคนโนน ไมใหแ กคนโนน \" ช่อื วา แบง แจกบุคคล. ขอ ทบ่ี คุ คลไมทาํ แมทัง้ ๒ อยางนน้ั และบรโิ ภคอาหารท่มี ไิ ดแบงไวนี้ ชอ่ื วา ผมู ีปกติบรโิ ภคอาหารทย่ี งั มิไดแบงไว. ในคําวา \"ผมู ปี กตบิ รโิ ภคท่ัวไป กบั เพอ่ื นผูป ระพฤติพรหมจรรยรว มกนั ผมู ศี ีล\" มีอธบิ ายวา \"ภกิ ษุผูม ีปกตบิ ริโภคทั่วไปมลี กั ษณะดังน้ี เธอไดส ่งิใดๆ ประณีต ก็ไมใหส่ิงนน้ั ๆ ดวยลาภ เธอจะใหล าภแกคฤหัสถท ้งั หลายก็ดวยการมุงหนา แสวงหา ทงั้ ตนก็ไมบ ริโภค เม่อื จะรับกร็ บั เอาดวยคดิวา \"จงเปนของทั่วไปแกส งฆ\" เคาะระฆังแลว แลดูดจุ ของสงฆท ีค่ วรบริโภค. ถามวา ก็ใครบําเพ็ญธรรมเปนเคร่อื งใหร ะลกึ ถึงกนั (และ) ใครไมบําเพ็ญ\" ตอบวา ผทู ศุ ีลไมบ าํ เพ็ญกอน เพราะวา ผมู ีศลี ทง้ั หลาย ยอมไมถอื เอาส่งิ ของทเ่ี ปน ของผนู นั้ . สวนวา ผูมีศลี บรสิ ุทธิ์ ไมท าํ วตั รใหข าดใหเ ต็มอยู. ในขอนนั้ มีธรรมเนยี มนี้ (เปนอทุ าหรณ) กผ็ ทู ท่ี าํ เจาะจงแลวจึงใหแ กมารดาบดิ าหรือวา อาจารยแ ละอปุ ชฌายเปน ตนน้นั ใหส ิ่งทีค่ วรให. ผูน น้ั ยอมไมมธี รรมเปน เคร่อื งใหระลึกถงึกนั . มแี ตการรักษาความกงั วล เพราะวา ผพู น จากความกงั วลเทานั้นจึงจะสมควรกบั ธรรมเปน ทีต่ ้ังแหง ความระลึกถงึ กัน. ผูนนั้ เม่อื จะใหเ จาะจงควรใหแกภ ิกษุผเู ปนไข ผูพยาบาลภิกษไุ ข ผูจรมา ผูเตรียมจะไปบางแกผบู วชใหมท ไ่ี มรูวตั รสาํ หรับรบั สงั ฆาฏิและบาตร เมือ่ จะถวายแกภิกษุเหลานัน้ ตั้งแตอ าสนะสาํ หรับพระเถระลงมาไมควรถวายใหเ หลอื นดิหนอย ถวายเทาทท่ี านถอื เอานัน้ . เมื่อไมเ หลอื ไมม ี กค็ วรเท่ียวไปบณิ ฑบาตแลวถวายของท่ปี ระณตี นัน้ ๆ ตัง้ แตอาสนะพระเถระลงมา แลวฉันของท่ีเหลอื .

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 429 เพราะกลาวอยา งนีว้ า \"ผมู ศี ลี \" ดงั นี้ ถงึ การไมใ หแ กผูไมม ีศลีก็ควร. ดวยวา ธรรมทเ่ี ปนทีต่ ง้ั แหง ความระลกึ ถงึ กนั นเี้ ปน อนั บรษิ ัททีม่ ไิ ดศกึ ษาไมบ ําเพญ็ แลว เพราะวา เมือ่ บริษัทไดศ กึ ษาแลว ผูทไ่ี ดแ ตผูอ น่ืน้นั ยอ มไมถ อื เอา แมเม่อื ไมไ ดจ ากผูอืน่ ก็ถือเอาพอประมาณเทา นนั้ ไมถอืเอาเกนิ . ก็แล ธรรมเปนทีต่ งั้ แหงความระลึกถงึ กนั น้ี ภกิ ษผุ ูเมื่อจะใหวัตถุที่ตนเที่ยวไปบณิ ฑบาตซ้ําซากไดแ ลวๆ. ประพฤตใิ หเตม็ ตง้ั ๑๒ ป ไมหยอนกวานั้น. กถ็ า วา ภิกษผุ ูบาํ เพ็ญธรรมเปน ทตี่ ้ังแหง ความระลึกถงึ กนั วางบาตรท่ีเต็มดวยบณิ ฑบาต ทโ่ี รงฉนั แลวไปอาบนา้ํ . พระสงั ฆเถระ ถามวา \"น้บี าตรใคร\" เมอ่ื เขากลา ววา \"ของภกิ ษุผูบําเพญ็ ธรรมเปนท่ีต้งั แหง ความระลกึ ถงึกัน\" จึงกลา ววา \"พวกทานจงนาํ บาตรน้ันมา\" แลว จดั แจงบิณฑบาตทุกอยา ง ฉนั แลววางบาตรเปลาไว. ภิกษนุ ้ัน เกิดความเสยี ใจวา \"ภิกษุท้งั หลายฉนั (อาหาร) ของเราแลว ใหเหลอื แตบ าตรเปลาไว.\" สาราณยิ ธรรมยอมแตก เปน อนั เธอตองบาํ เพ็ญอกี ๑๒ ป. ก็สาราณยิ ธรรมนี้ เชน กบั ตติ ถยิ ปริวาส เมอื่ ขาดคราวเดยี วก็พึงประพฤติอกี . ภิกษุใดเกดิ ความดีใจวา \"ขอทภ่ี กิ ษผุ ูประพฤติพรหม-จรรยรวมกับเราไมถามโดยเออ้ื เฟอ ถงึ อาหารท่ีอยูใ นบาตรแลวฉัน นั้นเปนลาภของเราหนอ เราไดด แี ลว หนอ.\" ภกิ ษนุ น้ั ช่ือวา มสี าราณยิ ธรรมเต็มแลว . สวนความรษิ ยา และความตระหน่ี จะไมมีแกภ ิกษุผูบ าํ เพญ็ สาราณิย-ธรรมอยางน้แี นนอน. เธอเปน ทีร่ กั ของพวกมนษุ ย ทงั้ ปจ จัยก็หาไดงายกวานัก ถงึ สง่ิ ของท่ีอยใู นบาตรท่ีเขาถวายแกเธอกไ็ มส นิ้ ไป. ยอ มไดส่งิ ของดีเลิศ ในสวนสิ่งของท่พี ึงแบง ครนั้ ถงึ ความหวาดกลัว หรอื ความหิวโหยพวกเทพยอมขวนขวาย. ในขอ นน้ั มีเร่ืองเหลา นี้ เปน อุทาหรณ. ฟง มาวา พระตสิ สะเถระผูอ ยทู ีเ่ สลาคริ ีวหิ าร อาศยั บา นมหาคริ .ีอยู เม่อื พระมหาเถระ ๕๐ รูป กาํ ลังไปเกาะนาคเพื่อไหวเจดีย เทยี่ วบณิ ฑ-

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌิมนกิ าย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 430บาตในบานคิรีไมไดอะไรออกไปแลว. เมอื่ พระเถระเขา ไปเหน็ พระมหาเถระเหลานั้น ถามวา ทา นไดอ ะไรบา งครับ. ม. คุณ พวกเราไดเ ทีย่ วไปแลว . พระเถระน้นั รูวา พระมหาเถระเหลา น้นั ไมไ ดอ ะไร จงึ กลา ววา ทา นครบั ขอทา นทั้งหลาย จงอยทู น่ี ้ีจนกวากระผมจะมา. ม. คุณ พวกเราตัง้ ๕๐ คน กย็ งั ไมไดพ อใหเปยกบาตร. ถ. ทา นครบั ธรรมดาผอู ยปู ระจาํ เปน ผสู ามารถ แมเมื่อไมได ก็ยังรสู ภาพประมาณ ภิกษาจาร พวกพระเถระมาแลว. พระเถระจงึ เขาไปหมูบาน มหาอุบาสกิ าในเรอื นท่หี า งไกลไดจัดแจงนํ้านมและขาวสวย ยืนคอยดพู ระเถระ เม่ือพระเถระถงึ ประตูเทานนั้ กไ็ ดบรรจุบาตรใหเต็มถวายแลว. พระเถระถือบาตรน้นั ไปสาํ นกั พระเถระท้ังหลาย กลาวกบั พระสงั ฆ-เถระวา ทานครับ ขอทา นจงรบั เถดิ . พระเถระมองดหู นาพระเถระท่ีเหลือพลางคดิ วา พวกเราตง้ั เทา น้ีไมไดอ ะไรเลย ภิกษนุ ถี้ ือเอามาแลวเร็วทีเดยี ว น่อี ะไรกนั หนอ. พระเถระทราบดวยอาการแลดเู ทยี ว จงึ กลาววา \"บณิ ฑบาตกระผมไดมาโดยชอบธรรม ขอพวกทานจงหมดรงั เกยี จรบั เอาเถิด\" แลวไดใหแ กพ ระเถระท้ังหมดตามตองการตง้ั แตตน ถึงตนก็ฉนั ตามตอ งการ.ลําดับน้ัน เมื่อฉันเสรจ็ พวกพระเถระจงึ ถามวา \"คณุ แทงตลอดโลกตุ ตร-ธรรมเม่อื ไร คุณ\". ถ. ทานครบั กระผมยงั ไมม ีโลกตุ ตรธรรมหรอกครับ. ม. คณุ ไดฌ านหรอื ถ. แมนั่นกไ็ มม ี ครบั \".

พระสุตตันตปฎก มัชฌมิ นิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 431 ม. คุณ ไดปาฏิหาริยมิใชหรอื . ถ. ทานครบั กระผมบาํ เพญ็ สาราณยิ ธรรม ตัง้ แตก ระผมบาํ เพ็ญสาราณยิ ธรรมมา ถงึ มีภกิ ษุตง้ั ๑,๐๐๐ รปู อาหารในบาตร กย็ ังไมห มดไป. ม. ดแี ลว ๆ ทา นสตั บรุ ุษ นสี้ มควรแกท าน. ในคาํ วา อาหารในบาตรของทา นก็ยังไมหมดไปกอน มีเร่อื งดงั ตอ ไปนี้. พระเถระองคน้อี ีกนั่นแหละ ไดไปที่ถวายทาน ในทีบ่ ชู าใหญแ หงคิรีภัณฑว ิหารท่ีเจดยี บ รรพต ถามวา \"ทานน้ีมอี ะไรเปนของอยา งดี''\"ผา ๒ ผนื ครับทา น. \"ผาทง้ั สองผืนน้ันถงึ แกเรานะ.\" อํามาตยฟ งคํานน้ั จึงกราบทูลพระราชาวา \"พระพทุ ธเจาขา ภิกษหุ นุม กลา วอยางน้ี '' ร. \"ความคิดของภิกษหุ นมุ สมควรทเี ดยี ว แตว า พระมหาเถระทงั้ หลายกเ็ หมาะแกผา เนอ้ื ดี แลว ทรงวางไดดวยทรงดาํ รวิ า \"เราจะถวายพระมหาเถระทงั้ หลาย. เม่ือพระภิกษุยนื ตามลําดบั ผา ๒ ผนื ท่ที ูนไดบนพระเศียรของพระองคผ กู ําลังถวาย ไมลงมาสพู ระหตั ถส ักผนื หนึ่ง (สว น)ผาผืนอ่ืน ๆ เทา นนั้ ทล่ี งมา แตวา เวลาถวายพระหนมุ ผาทง้ั ๒ ผนื น้ันกล็ งมาสูพระหัตถ. ทา วเธอทรงวางมอื ภกิ ษุหนมุ นั้น มองหนาอาํ มาตยท รงใหภ กิ ษุหนุมนง่ั แลว ถวายทาน ทรงละพระสงฆมาประทับใกลภิกษุหนุม ตรัสวา ทา นครบั ธรรมน้ี ทา นแทงตลอดเมอื่ ไร เม่อื ไมกลาวแบบไมออ มๆ จงึ ถวายพระพรวา \"มหาบพิตร อาตมาภาพไมม โี ลกตุ ตรธรรม\". ร. พระคณุ เจา ไดกลาวไวก อนมใิ ชห รอื ขอรับ. ถ. ถวายพระพร มหาบพิตร อาตมาภาพบาํ เพ็ญสาราณิย-ธรรม ตงั้ แตเวลาอาตมาภาพบําเพ็ญธรรมนัน้ มา กไ็ ดสง่ิ ของอยา งดีเลิศในที่ท่ีพงึ แบง .

พระสุตตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 432 ร. \"ดแี ลว ดแี ลว ทา นครบั น้ีควรแกทาน\" ทรงไหวแลว หลีกไปในคาํ วา \"ไดของดีเลศิ ในท่ีทพ่ี ึงแบง\" นี้ มเี รอ่ื งนเ้ี ปน อทุ าหรณ. กภ็ ิกษทุ ้งั หลาย มปี กติอยูในบานภาตระในจัณฑาลติสสภยะวหิ ารไมบอกพระเถรีชอ่ื วานาคาหลีกไปแลว . พระเถรกี ลา วกับพวกภิกษุณสี าวเวลาเชามดื วา \"หมบู า นสงดั เสียงเหลอื เกิน พวกทา นจงสอบสวนดูกอ นซ.ิ \"ภิกษณุ สี าวเหลาน้นั ไปรวู าภกิ ษุทงั้ หมดไปแลว จึงกลบั มาบอกพระเถรี. พระเถรนี ั้น ไดฟงแลว กลาววา \"พวกทานอยาคดิ วาภกิ ษุเหลา นน้ั ไปแลว จงทาํ ความเพียรในการเลาเรียนบาลี สอบถามและการใสใ จโดยแยบคายเถอะ\" เมอื่ ถึงเวลาเที่ยวภิกษาจงึ หม ผา ไดเปนรปู ท่ี ๑๒ ยนื ทโ่ี คนตน ไทรใกลปากดง. เทวดาผูสงิ่ อยูที่ตน ไมก็ไดถ วายบณิ ฑบาตแกภ กิ ษณุ ี ๑๒ รปูจงึ กลาววา \"พระแมเจา ขออยา ไปทอ่ี ่นื เลย มาประจาํ ทนี่ ้ีเทา นั้นเถิด\".ก็พระเถรมี ีนองชายคนเลก็ ช่อื วา นาคเถระ. พระนาคเถระน้ันคิดวา\"เราไมอ าจใหภัยอยา งใหญเ ปน ไปในทน่ี ้ี พวกเราจะไปยังฝง อ่นื \" เปนรปู ท่ี ๑๒ เทียว ออกจากทีอ่ ยขู องตน แลว มาหมบู า นภาตระดว ยคดิ วา \"เราจะเย่ยี มพระเถรีแลวก็จะไป.\" พระเถรีไดฟ งวา พวกพระเถระมา จงึ ไปสํานกั พระเถระเหลาน้ัน ถามวา \" อะไรกัน พระผูเ ปน เจา \" ทานจงึ บอกความเปนไปนั้น.พระเถรีน้นั จึงกลา ววา \"ตลอดวันหน่ึง วนั น้ีพวกทา นจกั พักในวหิ าร ตอ พรุง น้ีจึงคอ ยไป.\" พวกพระเถระมาวิหาร. รุงขนึ้ พระเถรเี ทีย่ วบณิ ฑบาตทโ่ี คนตนไมแลว เขา ไปหาพระเถระกลาววา \"ขอพระคณุ เจา ทงั้ หลายจงฉันบณิ ฑ-บาตน้เี ถิด.\" พระเถระกลา ววา \"เถรี สมควรหรอื \" จงึ ไดย ินนงิ่ เสีย. เถรี. \"พอ บิณฑบาตนชี้ อบธรรม พระคณุ เจา ทง้ั หลาย อยารังเกียจ ฉันเถดิ .\"

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌิมนิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 433 เถระ. \"เถรี สมควรหรอื \" นางจบั บาตรแลว โยนไปบนอากาศ บาตรไดลอยอยูในอากาศ พระเถระกลาววา \"อาหารของภิกษุณลี อยอยปู ระมาณเจด็ ชั่วลําตาล\" เมื่อกลา ววา \"ข้ึนชอื่ วา ภยั มใิ ชมีอยูทุกเวลา ภยั สงบ\" เมื่อจะกลา วอรยิ วงศก็จะกลา ววา \"  ทา นครับ ทา นฉนั อาหารของนางภิกษณุ ีทไี่ ดจ ากบณิ ฑบาตแลวปลอ ยเวลาใหลว งไป\" ดงั น้ี เมอ่ื จะประพฤติตามความคิดก็ไมอ าจจะสนบั สนุนได เถรี ขอพวกทา นจงไมประมาทเถิด.\" แลวเดนิ ขน้ึ หนทาง. ฝา ยรกุ ขเทวดายนื คิดอยูว า \"หากพระเถระจะบริโภคบณิ ฑบาตจากมอื พระเถรี เรากจ็ ะไมใหเ ธอกลบั \" เห็นพระเถระเดินไป จงึ ลงจากตน ไมกลาววา ''ทานเจาขา ขอจงใหบ าตร\" แลวรบั บาตรนาํ พระเถระมาโคนตนไมน่ันแหละ ปูอาสนะถวายบิณฑบาต ใหพระเถระซึง่ ฉนั แลวทําปฏญิ ญา แลว บาํ รงุ ภกิ ษณุ ี๑๒ รูป ภกิ ษุ ๑๒ รปู ตลอด ๗ ป. ในคําวา \"เทวดาขวนขวาย\" นม้ี เี รอื่ งน้ีเปนอทุ าหรณ. กใ็ นเร่อื งนี้ พระเถรีไดเ ปน ผูบ าํ เพญ็ สาราณยิ ธรรม. ในบทวา \"ไมข าด\" เปนตน มีอธบิ ายวา ภิกษใุ ด มีสิกขาบททําลายในเบอ้ื งตนและทีส่ ดุ ในกองอาบตั ิทัง้ ๗ ภิกษนุ ้ัน ชอ่ื วา มีศีลขาด ดุจผาขาดรอบๆ ริม. อน่ึง ภิกษุใดมีสกิ ขาบททาํ ลายทามกลาง ภกิ ษุนั้นช่อื วามศี ีลทะลุ ดุจผาทะลุตรงกลาง. ภิกษใุ ดทาํ ลาย ๒, ๓ สิกขาบท ตามลาํ ดับภิกษุนน้ั ชอื่ วา มศี ีลดา ง ดจุ แมโ คทีม่ ีสีดาํ หรือแดงเปน ตน อยางใดอยางหนง่ึดว ยสีทีต่ ัดกันตั้งขน้ึ บนหลังหรือทอง. ภิกษใุ ดมีสิกขาบททาํ ลายระหวา งๆภกิ ษุน้ัน ชือ่ วา ศีลพรอ ย ดจุ แมโ คทีม่ จี ุดลายไปทั้งตัว. สว นภกิ ษใุ ด มีสกิ ขาบทไมทาํ ลายหมด ภกิ ษุนัน้ ช่ือวา มีศีลเหลานนั้ไมขาด ไมทะลุ ไมด าง ไมพ รอ ย. กส็ กิ ขาบทเหลานี้น้นั ชือ่ วา เปนไท เพราะพนจากความเปนทาสแหง ตณั หาแลว ทําใหเ ปน อิสระ ช่อื วา วญิ ูชนสรร-

พระสุตตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 434เสริญ เพราะวญิ ูชนท้งั หลายมพี ระพทุ ธเจาเปนตน สรรเสรญิ แลวช่อืวา อะไรๆ ลบู คลาํ ไมได เพราะตัณหาเปน ตน ลบู คลําไมไ ด และเพราะกิเลสอะไรๆ ไมอาจเพื่อจะลูบคลําวา \"ทานเคยตองสิกขาบทชือ่ น\"ี้ ยอมเปน ไปเพอ่ื สมาธอิ ยางเฉยี ดๆ หรือสมาธอิ ยางแนบแนน ฉะนน้ั ทา นจงึ เรยี กวาเปน ไปเพือ่ ความตั้งมน่ั . บทวา \"ถึงความเปน ผูม ศี ีลเสมอกนั อยู\" ความวา ผูมีศีลเขาถงึ ความเสมอกัน กับภิกษุท้ังหลายผอู ยใู นสว นทิศเหลานน้ั ๆ อย.ู เพราะวา ศีลของพระโสดาบนั เปน ตน สม่ําเสมอกนั ดว ยศีลของพระโสดาบันเปนตนเหลาอน่ื . ท่ีอยูระหวา งทะเลบาง เทวโลกบางแนแท (แต) ไมมคี วามแตกตา งกันโดยมรรคและศีล พระผมู พี ระภาคเจา ทรงหมายเอาศลี น้นั จงึ ไดต รสั คาํ น้ี. บทวา \"ทิฏฐนิ ใ้ี ด\" ความวา สมั มาทฏิ ฐิท่ีประกอบพรอ มดวยมรรค. บทวา \"อริยะ\" ไดแ ก ไมมโี ทษ. บทวา \"นําออก\" คือ นาํ ออกไป. บทวา \"ผูทํากรรมน้ัน\" ไดแก ผใู ดเปน ผูทําอยา งน้นั . บทวา \"เพอ่ื สนิ้ ทุกข\" ไดแก เพื่อความสิ้นทกุ ขทง้ั หมด. บทวา \"ถงึ ความเสมอกนั ดวยความเหน็ \" ความวา เปนผเู ขา ถึงความเปนผมู ีความเหน็ เสมอกนั อยู. บทวา \"เลิศ\" ไดแ ก เจรญิ ทสี่ ดุ . บทวา \"รวมไมก ลอนทัง้ ปวงไว\" ไดแก ยึดไวด ี อธิบายวา \"ทาํกลอนทุกอนั ใหจ ดกนั เหตุนนั้ ชื่อวา ใหตอ ๆ กนั .\" บทวา \"ยอดนี้ใด\" ความวา ท่ตี อ เรือนยอดกับชอฟา เหตุนน้ั ชอ่ืวา ยอด. ก็ปราสาท ๕ ช้นั เปนตน ทย่ี อดน้นั ตรงึ ไวเ ทียวจึงตง้ั อยไู ด เม่อื

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 435ยอด น้นั ตกไป ปราสาททง้ั หมดต้งั ตนแตด ินเหนยี วกต็ กไป. เพราะฉะนนั้ พระผมู พี ระภาคเจา จึงตรัสอยา งน้ี. บทวา \"ฉันนนั้ นน่ั เทียวแล\" ความวา ความเห็นอยางประเสริฐและเลศิ แหง สาราณยิ ธรรมเหลา นนี้ ้นั พึงเหน็ วา เปน ตวั รวบรวม และตัวเชอ่ื มดุจยอดของเรือนยอดฉะนั้น. ในบทวา \"ภิกษุทง้ั หลาย ก็ความเหน็ นใ้ี ด อยางไร\" อธบิ ายวาภกิ ษุทงั้ หลาย ทิฏฐิในโสดาปต ตมิ รรค ทานกลา ววา ไกลจากขา ศึก คอื เปนสภาพนําออก ยอ มนาํ ออกไป เพ่ือความสิ้นทุกขโดยชอบ ของนกั ปฏิบตั ิ.\"ทฏิ ฐินน้ั นาํ ออกอยางไร นําออกเพราะเหตอุ ะไร\" บทวา \"หรือวา เปน ผูม ีจติ ถูกรมุ แลว \" ความวา ช่อื วา เปนผูม ีจิตถูกรุมแลว แมด วยเหตุเทา น.้ี \" ในบทท้ังปวงก็นยั น้.ี บทวา \"ใจของเราตงั้ มัน่ ดีแลว \" ความวา จติ เราตัง้ ไวด ีแลว. บทวา \"เพอื่ รูสัจจะทงั้ หลาย\" ไดแก เพื่อประโยชนร ูสจั จะ ๔. ในบทเปน ตน วา \"ประเสรฐิ \" มอี ธิบายวา เพราะญาณนน้ั ยอมมแี กผปู ระเสริฐ หามแี กป ุถชุ นไม ฉะน้ัน ทานจงึ เรยี กวา \"ประเสรฐิ .\" สวนวา แมโ ลกุตตรธรรมของคนพวกใดมอี ยกู เ็ ปนของคนพวกนั้นเทา นนั้ หามีแกพวกอน่ื ไม ฉะน้ัน ทา นจงึ กลา ววา ยอดเยี่ยมในโลก. มีคาํ อธิบายวา \"ชอื่ วา ไมท่วั ไปกบั ปุถุชนท้งั หลาย เพราะไมมแี กป ุถุชน. ในวาระทั้งหมดก็นัยน้.ี บทวา \"เราไดค วามสงบเฉพาะตน\" ความวา เราไดความสงบในจิตของตน. แมในความดับกน็ ยั นี.้ ในบทวา \"ดบั แมน ้ี\" ยอมไดทัง้ ความสงบ ทัง้ ความเปนผมู อี ารมณเลิศเปน หน่ึง. บทวา \"ดับ\" ไดแก เขา ไปสงบกเิ ลส.

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 436 บทวา \"ทิฏฐิเห็นปานนั้น\" ไดแ ก โสดาปต ติมรรคทิฏฐิเห็นปานนนั้ . บทวา \"โดยธรรมดา\" คือ โดยสภาพ. สภาพนี้ ช่อื วา ธรรมดาน.ี้ บทวา \"ยอมปรากฏการตั้งขึ้น\" ความวา การตัง้ ข้ึนดวยอํานาจสงั ฆ-กรรม หรือเทศนายอ มปรากฏ. จรงิ อยู อรยิ สาวก เมือ่ ตองอาบตั ิ ก็ตองอาบตั ิดว ยไมจ งใจ เหมอื นการสรางกุฏีในครุกาบัติ (และ) เหมอื นตอ งอาบัติในเพราะการนอนรวมในทมี่ ุงทบี่ งั เดยี วกนั เปน ตนในลหุกาบตั ิ แนนอน พระอริย-สาวกน้ัน ไมแกลง คอื ไมจ งใจตองอาบตั นิ ้นั ตองแลว ก็ไมป กปด เพราะเหตุนนั้ พระผมู ีพระภาคเจาจงึ ตรสั คําเปน ตนวา \"คร้งั นนั้ แล........น้ันพลนั ทเี ดยี ว.\" บทวา \"หนุม\" ไดแ ก ยังออ น. บทวา \"กุมาร\" ไดแ ก มใิ ชค นแก. บทวา \"เขลา\" คอื ชอ่ื วา เขลา เพราะตาและหูยงั ไรเดยี งสา. บทวา \"นอนหงาย\" ความวา ชือ่ วา เปนผูน อนหงาย เพราะยงั ออ นนกั ไมอาจจะนอนขา งขวาหรอื ขางซายได. บทวา \"ไดเ หยียบถาน\" ความวา เอามอื หรอื เทาทีเ่ หยยี ดไปทางน้ีบา ง ทางโนนบา ง ถกู แลว กเ็ มื่อพวกมนุษยถ ูกอยอู ยางน้ี มอื จะชักออกเร็ว ทําชา ไมไ ดแ มค รง้ั นัน้ คนทั้งหลายเอามอื ขา งหนึง่ ขางใด จับถา นเปล่ียนไปเปล่ยี นมายอ มไปไดไ กล. แตวา มือและเทาของเดก็ ออนยงั ละเอียดออน. เด็กนั้น เพยี งถูกไฟลวกเอาเทานนั้ ก็จะรอ งกร๊ดี ทงิ้ ไปโดยเรว็ฉะน้ัน พระผูม ีพระภาคเจาจึงทรงแสดงเด็กออนไวใ นทน่ี ้เี ทยี ว. คนแกเ มอ่ืถกู ไหมยอมทนได. แตว าเด็กออ นนที้ นไมไ ด. เพราะฉะนั้น จึงทรงแสดงเดก็ ออนเทยี ว.

พระสุตตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 437 บทวา \"แสดง\" ความวา เม่อื บุคคลทพ่ี อๆ กนั เปน ผูรบั อาบัติ ก็ไมร อวา กลางวนั หรือกลางคนื ไปทอ่ี ยขู องภกิ ษุท่พี อๆ กนั น้ัน แมในกลางคนืประกอบดว ยองค ๔ แสดงทีเดยี ว บทวา \"สูง ตํา่ \" ไดแ ก สูงๆ ตาํ่ ๆ. กจิ ทค่ี วรกลา วอยางนวี้ า \"เราจะทําอยา งไร แลวทาํ ชื่อวา กจิ ท่ีควรจะทาํ อยางไร \". ในกิจเหลานั้น กจิ เปนตน อยางน้ี คอื การทาํ หรอื ยอมจีวร ๑ การงานที่พระเจดยี  ๑ การงานทีค่ วรทําที่โรงอุโบสถ ๑ เรือนพระเจดีย ๑ เรอื นโพธ์ิ ๑ ช่ือวาการงานอยา งสูง. การงานเล็กนอ ยมีการลา งและทาเทา เปนตน ช่อื วา การงานอยา งต่ํา. อีกอยางหนึง่ การงานมีการฉาบทาปูนขาวเปนตน ท่เี จดยี  ช่อื วา การงานอยา งสงู . ในการงานเหลานั้น การสผุ า กาสาวะ๑ การชกั นาํ้ มา ๑ การทําเกรียง ๑ การพาดบันได ๑ ช่ือวา การงานอยางต่าํ . บทวา \"ถึงความขวนขวาย\" ความวา เปนผปู ฏิบตั ิความขวนขวายทค่ี วรทํา. บทวา \"เปน ผเู พง อยา งกลา\" ความวา เปน ผมู ีความปรารถนาอยางหนาแนน . บทวา \"และถอนหญา\" ไดแ ก เลม็ หญาเคยี้ วกินอย.ู บทวา \"ใสใ จถงึ ลกู โค\" ความวา คอยแลดลู กู โคอยดู ว ย. เหมอื นอยา งวา โคแมล กู ออ น จะไมท ิง้ ลูกโคท่ีรวมกันมาปา แลว นอนในท่หี นึ่งไปไกล แมโ คน้นั จะเท่ยี วไปในท่ีใกลๆ ลกู โคและเล็มหญา แลว ก็ชูคอข้ึนชําเลอื งดูลูกโคไปดวยทีเดียว. พระโสดาบนั ก็ฉนั นั้นเหมือนกัน ทํากิจทค่ี วรทาํ

พระสุตตนั ตปฎก มัชฌิมนกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 438ทั้งสงู ตา่ํ นอมไปในกจิ นนั้ เปน ผบู ําเพญ็ ไมยอหยอ น มีความพอใจอยา งแรงกลา เปนผูม คี วามปรารถนาอยา งหนาแนน กระทาํ . ในขอ นั้น มเี รื่องนี้เปน อทุ าหรณ. เลา กนั วา เม่อื กาํ ลงั ฉาบทาปนู ท่มี หาเจดีย พระอริยสาวกรูปหนึ่งมือขา งหนง่ึ ถอื ภาชนะใสป ูน ขางหนงึ่ ถือเกรียง คดิ วา \"ฉาบปนู แลว ขนึ้ฐานพระเจดยี \" ภิกษรุ ปู หนึง่ กายมนี าํ้ หนักมาก ไดไ ปยนื ใกลพ ระเถระพระเถระในทอ่ี น่ื เปนผูลาชาอยา งยง่ิ เพราะเหตนุ ัน้ จงึ จากทนี่ ัน้ ไปทอ่ี ่นื .ถึงภกิ ษนุ น้ั ก็ไดไปท่นี ้นั น่นั เทยี ว. พระเถระไดไ ปท่ีอื่นอีกดงั นีแ้ ล. พระเถระไดกลา วกะภิกษุผูมาในท่ี ๒-๓ แหงอยางนว้ี า ทา นสัตบรุ ษุ เนนิ พระเจดียใหญ ทา นไมไ ดโ อกาสทอี่ น่ื หรือ. พระเถระนอกนี้กไ็ มยอมหลีกไป. บทวา \"ประกอบดวยความเปน ผูมกี ําลัง\" ไดแก ประกอบดวยกาํ ลัง. บทวา \"ทําใหม\"ี ความวา ทาํ ความเปนผมู ปี ระโยชนค ือ เปนผูมีประโยชน. บทวา \"ทาํ ใหม \"ี ความวา ทาํ ไวในใจ คือรวบรวมสิง่ ทัง้ หมดมาดวยใจ ชื่อวา ไมทาํ ความฟงุ ซานแมเ พียงเล็กนอ ย รวบรวมมาดวยจติ ทัง้ ส้ิน. บทวา \"เงยี่ โสต\" ความวา มโี สตอนั ตง้ั ไวแลว . กพ็ ระอรยิ สาวกท้ังหลาย เปนผรู กั การฟงธรรม เม่อื จะไปฟงธรรม กไ็ มน่ังหลบั สนทนากับใครๆ หรอื มีจติ ฟุงซา น. โดยท่เี เทท านเปน ผูไมอ ่ิมในการฟง ธรรม เหมือนบรโิ ภคนํ้าอมฤต จนถึงอรุณขึน้ ไปในการฟงธรรม เพราะฉะน้ัน พระผมู พี ระภาคเจา จงึ ตรัสไวอยา งน.ี้ บทวา \"ธรรมดา เปนอนั ตั้งไวดีแลว \" ความวา สภาวะเปน อนั ทา นแสวงหาไวดีแลว.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 439 คําวา \"เพราะกระทาํ ใหแ จงในโสดาปต ติผล\" นเี้ ปนคํากลา วถงึเหตุ อธบิ ายวา เพราะญาณท่ีทาํ ใหแ จง แลว ดวยโสดาปต ติผล. บทวา \"มาตามพรอมแลว ดวยองค ๗ อยางนี\"้ ความวา ประกอบดว ยญาณเปนเครอื่ งพิจารณาอยางใหญเ หลาน้ี อยา งนี้. อาจารยท ัง้ หลายมีถอ ยคาํ ท่ีเสมอกนั นก้ี อน. สว นโลกตุ ตรมรรคที่ช่ือวา มีขณะจติ มาก ไมม.ี สวนอาจารยผ ูช อบกลา วเคาะเลน ยอ มกลา ววา มรรคท่ชี ื่อวา มีขณะจิตหน่ึงไมมี การเจรญิ มรรคมีไดต ลอด ๗ ป สว นกิเลสทง้ั หลาย เม่อื จะขาดสูญโดยเร็ว ก็ยอ มขาดสูญดวยญาณทง้ั ๗ เพราะคาํ วา \"พึงใหเ จรญิตลอด ๗ ป.\" อาจารยน ัน้ จะถูกเขากลา ววา จงนําพระสูตรมา. เมื่อไมเห็นสูตรอนื่ เขากจ็ ะนําพระสตู รนี้มาแสดงอยา งแนน อนวา \"ญาณท่ีเราบรรลนุ ้ีเปนที่หน่งึ แหง พระสตู รนัน้ ญาณทีเ่ ราบรรลแุ ลวนี้ เปนทส่ี องแหง พระสตู รนั้น ฯลฯ ญาณท่ีเราบรรลุแลว นีเ้ ปนทีเ่ จด็ แหงพระสตู รนนั้ .\" ลาํ ดบั นัน้อาจารยนั้นก็จะถูกกลาววา กพ็ ระสูตรนี้ มีเนอ้ื ความท่พี ึงนําไป มเี นอื้ ความที่นาํ ไปแลวหรอื . แตนัน้ ก็จะกลา ววา มเี นื้อความทน่ี ําไปแลว. พระสตู รฉันใด เน้อื ความก็ฉันนั้น. อาจารยนัน้ กจ็ ะพึงถูกกลาววา ความเปน ธรรม กจ็ ะตงั้ มั่นดว ยดี ประโยชนมปี ระมาณเทา น้ี เพื่อทําใหแ จง ซงึ่ โสดาปตติผล. อาจารยนั้นยอ มกลา ววา \"ประโยชนแหง การทาํ ใหแจงโสดาปต ติผลมแี นนอน. แตน ้นั ก็จะถกู ถามวา ผูพ รัง่ พรอมดวยมรรคยอ มทําผลใหแ จง แลว กลายเปนผพู ร่ังพรอมดวยผลหรอื . เม่ือรูก ็ตอบวา ผพู รั่งพรอ มดว ยมรรค ยอ มทําใหแจงผล กลายเปนพรง่ั พรอ มดวยผล. แตน้นั ถกู ซกั อีกวา \"เพราะทา นยังไมอ บรมมรรค\" ในพระพุทธดาํ รัสนี้วา \"ภกิ ษทุ ัง้ หลาย อริยสาวกผูประกอบดว ยองค ๗ อยา งนี้ เปนผูประกอบดว ยโสดาปต ตผิ ล\". จงึ กระโดด

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 440ไปกลาวสะเปะสะปะเหมอื นกบั วา ผมยังไมไ ดพระสูตรวา อรยิ สาวกจะยดึเอาผลใหได ธรรมดาภิกษุผูจะแกป ญหาควรอยูใ นสาํ นักอาจารย เรียนเอาพระพทุ ธพจนทราบอรรถรสแลว กลา วถอยคาํ . ญาณ ๗ เหลา นี้ จัดเปนญาณเครื่องพจิ ารณาของพระอริยสาวกทีเดียว. โลกุตตรมรรค ทีช่ ่อื วา มีขณะจติ มากยอมไมม ี พึงใหย อมรบั วา\" มขี ณะจิตเตยี วเทานน้ั \" ถา เขาจะรูกจ็ งรหู าก ไมรู ก็จงสงไปวา \"ทานจงไปเขาวหิ ารแตเ ชาตรูแ ลว ด่ืมขา วตม เสีย.\" คาํ ทีเ่ หลือในบทท้งั ปวงตน้ื นนั่ เทยี วแล. จบอรรถกถาโกสัมพกิ สูตร.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 441 ๙. พรหมนิมันตนิกสตู ร [๕๕๑ ] ขา พเจา ไดส ดับมาแลวอยา งน้ี :- สมัยหนง่ึ พระผมู ีพระภาคเจา ประทับอยู ณ พระวหิ ารเชตวันอารามของทา นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี กรงุ สาวตั ถี ณ ท่นี นั้ แล พระผูมีพระภาคเจา ตรัสเรียกภกิ ษุท้ังหลายวา ภกิ ษุท้ังหลาย. ภกิ ษเุ หลา น้ันทลู รบัพระดํารสั ของพระผูมีพระภาคเจาวา พระเจา ขา. [๕๕๒] พระผมู พี ระภาคเจาไดตรสั พระพทุ ธพจนนวี้ า ภกิ ษทุ ง้ัหลาย. สมยั หน่งึ เราอยูท ีโ่ คนตนรงั ใหญใ นสุภควัน เมืองอุกกฏั ฐาก็สมัยน้ันแล พกพรหมมที ิฏฐอิ ันลามกเหน็ ปานฉะน้ี เกดิ ข้นึ วา พรหมสถานนี้เท่ยี ง ยั่งยนื มนั่ คง แขง็ แรง มีความไมเ คลือ่ นเปนธรรมดา พรหมสถานนี้แล ไมเ กิด ไมแก ไมต าย ไมจตุ ิ ไมอบุ ัติ ก็แหละสถานที่ออกไปจากทุกขอยา งอืน่ ทด่ี ยี ่ิงกวา พรหมสถานนไ้ี มมี ดังนี้ ภิกษทุ ้งั หลาย. ครง้ั น้นั เรารคู วามปรวิ ิตกแหงใจพกพรหมดว ยใจแลว จึงหายไปท่โี คนตนรังใหญ ในสุภควันใกลเมอื งอุกกฏั ฐา ไปปรากฏในพรหมโลกนน้ั เปรยี บเหมอื นบรุ ษุ ท่มี ีกาํ ลังเหยยี ดแขนทีค่ ู หรือพึงคูแ ขนท่ีเหยยี ด ฉะน้นั ภิกษทุ ้งั หลาย พกพรหมไดเห็นเราผมู าแตไ กล แลวไดพดู กะเราวา ทา นผนู ิรทกุ ข. เชญิ มาเถดิทานมาดีแลว นานทเี ดยี วทท่ี านเพิง่ ทาํ ทางจะมาในที่นี้ ทานผูนิรทุกข.พรหมสถานนี้เท่ียง ยงั่ ยืน มน่ั คง แข็งแรง มีความไมเคล่ือนเปนธรรมดาพรหมสถานนแ้ี ลไมเกิด ไมแก ไมต าย ไมจุติ ไมอ ุบัติ ก็แหละเหตุเปนที่ออกไปจากทุกขอยา งอนื่ ที่ดียิ่งกวาพรหมสถานนไ้ี มมี ภกิ ษทุ ้งั หลาย.เม่อื พกพรหมกลาวอยางนีแ้ ลว เราไดกลา วกะพกพรหมวา ทานผูเจรญิ . พกพรหมตกอยูใ นวชิ ชาแลว หนอ พกพรหมตกอยใู นอวิชชาแลว หนอ

พระสุตตันตปฎก มชั ฌมิ นิกาย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 442เพราะวา พกพรหมกลา วสิง่ ที่ไมเ ท่ียงนน่ั แลวา เที่ยง กลา วสิ่งท่ไี มย ่งั ยนื น่ันแลวา ยงั่ ยนื กลาวสง่ิ ทไี่ มม ั่นคงน้ันแลวา มนั่ คง กลา วสิ่งท่ีไมแขง็ แรงนัน้ แลวา แข็งแรง กลา วสง่ิ ท่มี คี วามเคลอ่ื นเปน ธรรมดาน่นั แลวา มคี วามไมเ คลอ่ื นเปน ธรรมดา ก็แหละสตั วท้งั เกิด ทง้ั แก ทัง้ ตาย ท้งั จตุ ิ ทั้งอุบัติอยใู นพรหมสถานใด พกพรหมก็กลา วพรหมสถานนน้ั อยางนีว้ า พรหมสถานนี้แลไมเกิด ไมแ ก ไมตาย ไมจุติ ไมอุบตั ิ และกลา วเหตุเปน ทอ่ี อกไปจากทกุ ขอยางอื่นทีย่ ง่ิ ข้ึนไปอันมอี ยวู า เหตเุ ปน ทอี่ อกไปจากทกุ ขอ ยางอ่ืนที่ยง่ิ ขึ้นไป ไมม.ี [๕๕๓] ภกิ ษทุ ้ังหลาย ครั้งน้ัน มารผลู ามกเขา สิงรา งของพรหมปารสิ ัชะองคห นง่ึ แลว กลาวกะเราวา ภกิ ษๆุ . อยา รกุ รานพกพรหมนี้เลย อยารกุ รานพกพรหมนี้เลย ภิกษุ เพราะวา พรหมผนู เี้ ปน มหาพรหมเปนใหญ (ปกครองคณะพรหม) หาใชผ อู ่ืนปกครองไม เปนผูดูโดยแท ทาํสรรพสตั วใ หอ ยใู นอาํ นาจ เปนอิสระ เปน ผูสรา งโลก นริ มติ โลก เปนผูประเสรฐิ เปน ผแู ตง สัตว เปน ผูใชอ าํ นาจ เปน บดิ าของเหลา สัตวท ่ีเกดิ แลว และกาํ ลงัจะเกดิ ภิกษ.ุ สมณะและพราหมณพ วกกอนทา น เปนผูตดิ นิ เกลยี ดดินเปนผูตนิ ้าํ เกลียดนา้ํ เปน ผูต ิไฟ เกลยี ดไฟ เปน ผตู ลิ ม เกลยี ดลม เปนผตู ิสตั วเ กลยี ดสตั ว เปนผูตเิ ทวดา เกลยี ดเทวดา เปน ผตู ิปชาบดี เกลียดปชาบดีเปนผูตพิ รหม เกลยี ดพรหมในโลก (วา ไมเที่ยง เปนทกุ ข เปน อนัตตา)สมณะและพราหมณเหลานน้ั เม่ือกายแตกขาดลมปราณ ตอ งไปเกิดในหมูสัตวท่ีเลว (จตุราบาย) ภิกษ.ุ สวนสมณะพราหมณพ วกกอ นทา น เปนผูชมดนิ เพลินดนิ เปน ผูชมนํา้ เพลนิ นํ้า เปน ผูชมไฟ เพลนิ ไฟ เปน ผชู มลมเพลินลม เปนผชู มสตั ว เพลนิ สัตว เปน ผชู มเทวดา เพลินเทวดา เปน ผูชมปชาบดี เพลนิ ปชาบดี เปนผูชมพรหม เพลนิ พรหม สมณพราหมณเ หลานนั้ เมือ่ กายแตกขาดลมปราณ กไ็ ปเกดิ ในกายประณีต หมสู ัตวชัน้ ดี (พรหม

พระสุตตันตปฎ ก มัชฌิมนิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 443โลก) ภิกษ.ุ เพราะเหตนุ นั้ เราจงึ ขอบอกกะทานอยางนว้ี า ทานผนู ิรทกุ ขเชญิ เถดิ ทา นจงทําตามคาํ ทพ่ี รหมบอกแกทานเทาน้นั อยา งฝา ฝนคาํ ของพรหมเลย ภกิ ษ.ุ ถา ทา นจักฝาฝน คาํ ของพรหม โทษจักมีแกท าน เปรียบเหมอื นบรุ ษุ เอาทอนไมตไี ลส ิริทม่ี าหา หรือเปรยี บเหมือนบุรุษผูจะตกเหวนรก ชักมือและเทาใหหา งแผน ดินเสีย ฉะน้นั ทานผนู ริ ทุกข. เชญิเถดิ ทานจงทาํ อยา งทีพ่ รหมบอกแกท า นเทานั้น อยาฝา ฝน คําของพรหมเลยภกิ ษ.ุ ทานเหน็ พรหมบริษทั ประชุมกันแลว มิใชหรอื . ภกิ ษทุ ้งั หลาย. มารผูลามกยอ มเปรียบเทยี บเรากะพรหมบรษิ ทั ดงั นแ้ี ล ภิกษทุ ้งั หลาย. เม่ือมารกลาวอยา งน้ีแลว เราไดกลา วกะมารผูลามกนนั้ วา แนะ มาร เรายอมรูจกั ทา น ทานอยา เขา ใจวา พระสมณะไมร ูจกั เรา แนะมาร. ทานเปนมาร พรหมก็ดี พวกพรหมบริษทั ก็ดี พวกพรหมปาริสัชชะก็ดี ท้งั หมดนั่นและอยใู นมอื ของทา น ตกอยูใ นอาํ นาจของทาน และทา นมีความดําริวาแมส มณะน้ีก็ตองอยูในมือของเรา ตอ งตกอยูในอํานาจของเรา ก็แตวาเราไมไดอยใู นมือของทา น ไมไดตกอยูในอาํ นาจของทาน. [๕๕๔] ภกิ ษุทั้งหลาย เมอื่ เรากลา วอยา งน้แี ลว พกพรหมไดก ลาววา ทานผนู ิรทกุ ข. ก็เรากลา วสิง่ ที่เทย่ี งน่นั แลวา เท่ียง กลาวสงิ่ ที่มนั่ คงนัน่ แลวา มนั่ คง กลาวส่งิ ทีย่ ง่ั ยืนน่นั แลวา ยงั่ ยนื กลา วสงิ่ ท่แี ขง็ แรงนนั่ แลวา แขง็แรง กลา วสิง่ ท่ีไมม ีความเคลอ่ื นเปน ธรรมดาน่นั แลวา ไมมคี วามเคลือ่ นเปนธรรมดา ก็แหละสตั วยอมไมเ กิด ไมแ ก ไมตาย ไมจ ุติ ไมอ บุ ัติ ในพรหมสถานใด เรากลา วพรหมสถานน้นั แหละวา พรหมสถานนแ้ี ลไมเ กิด ไมแก ไมตาย ไมจ ตุ ิ ไมอ ุบตั ิ และกลา วเหตทุ ่ีออกไปจากทุกขอยา งอนื่ อนั ยิง่ ข้นึไปไมมวี า เหตุท่อี อกไปจากทุกขอ ยางอื่นยงิ่ ขึน้ ไปไมม ี ภกิ ษุ. สมณะพราหมณพวกทมี่ ีกอ นทา นไดม ีแลวในโลก อายุท้งั สน้ิ ของทา นเทาไร กรรม

พระสตุ ตนั ตปฎก มชั ฌิมนิกาย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 444ท่ที าํ ดว ยตบะของทา นเทาน้นั สมณะและพราหมณเหลานนั้ แล พึงรเู หตุเปนท่ีออกไปจากทุกขอ ยางอ่นื อนั ย่ิงข้นึ ไปมอี ยวู า เหตุทอ่ี อกไปจากทุกขอยา งย่ิงอน่ื มีอยู หรือพึงรูเ หตเุ ปน ท่ีออกไปจากทุกขอ ยางอ่นื อันยง่ิ ขน้ึ ไปไมมีอยูภกิ ษุ เพราะเหตไุ รเราจึงกลาวกะทานอยา งน้ี เพราะวาทานจักไมเ หน็ เหตุทอี่ อกไปจากทุกขอยางอนื่ อันย่ิงขน้ึ ไปเลย และทานจกั เปน ผรู ับสวนแหงความลาํ บาก แหง ความคบั แคน อยางเดียวเทานัน้ ภกิ ษุ. ถาแลทานจักกลนื กนิแผนดนิ ไดไ ซร ทา นกจ็ ักช่ือวาเปน ผนู อนใกลเรา นอนในทอี่ ยขู องเรา เราพงึทําไดตามประสงค เราพึงหามได ถา และทา นจกั กลืนกินนาํ้ ไฟ ลม เหลา สตั วเทวดา ปชาบดี พรหมไดไซร ทานกจ็ กั ช่อื วาเปน ผูนอนใกลเรา นอนในท่ีอยูของเรา เราพึงทาํ ไดตามประสงค เราพงึ หามได ดังน้ี เรากลา ววาพรหม แมเ รายอ มรูเ หตนุ ี้ ถาเราจกั กลนื กนิ แผน ดนิ ไดไ ซร เรากจ็ กั ชอื่ วา เปนผูนอนใกลท า น นอนในที่อยูของทา น ทานพึงทาํ ไดตามประสงค ทานพงึ หามได ถา และเราจกั กลืนกนิ น้ํา ไฟ ลม เหลาสัตว เทวดา ปชาบดี พรหมไดไซร เรากจ็ กั ช่ือวาเปนผนู อนใกลทา น นอนในที่อยขู องทา น ทา นพึงทําไดตามประสงค ทานพงึ หามไดพ รหม ใชแ ตเ ทานน้ั เรายอ มรูค วามสาํ เรจ็ และยอ มรอู านุภาพของทานวา พกพรหมมีฤทธม์ิ ากอยา งนี้ พกพรหมมีอานุ-ภาพมากอยา งน้ี พกพรหมมศี ักดม์ิ ากอยางนี้พกพรหมถามเราวา ทานผนู ิร-ทุกข กท็ านรคู วามสําเร็จ และรอู านภุ าพของเราวา พกพรหมมีฤทธ์มิ ากอยา งนี้ พกพรหมมอี านภุ าพมากอยา งน้ี พกพรหมมีศกั ดิ์มากอยา งนไ้ี ดอ ยา งไร เรากลาววา ดวงจันทรและดวงอาทติ ยยอมโคจรสอ งทิศใหส วา งอยูเทา ใด อาํ นาจของทา นยอ มเปน ไปในพันจักรวาลเทา นน้ั ทานยอมรูจ ัก สตั วทเี่ ลวและสตั วท่ปี ระณตี รจู กั สตั วทีม่ รี าคะและสัตวทไี่ มมี

พระสุตตนั ตปฎ ก มชั ฌมิ นกิ าย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 445 ราคะ รจู ักจกั รวาลน้ีและจักรวาลอ่นื และรจู ักความมาและ ความไปของสตั วท ง้ั หลาย ดงั น้ี พรหม เรายอ มรูค วามสาํ เร็จ และยอ มรูอานภุ าพของทา นอยา งนี้วา พกพรหมมีฤทธม์ิ ากอยางน้ี พกพรหมมอี านภุ าพมากอยางน้ี พกพรหมมีศกั ดิ์มากอยางนี้พรหม กาย หมูสัตว ๓ อยางอ่นื มีอยู ทานไมร ไู มเ หน็ ในกาย๓ อยา งน้ัน เรารูเห็นกายเหลา นนั้ พรหม กายหมูส ตั วช ่อื อาภัสสระมีอยู ทา นเคล่อื นแลว จากท่ีใด มาอุบัติแลว ในทีน่ ้ี ทานมีสติหลงลมื ไปเพราะความอยอู าศัยนานเกนิ ไป เพราะเหตุนน้ั ทานจึงไมร ไู มเ ห็นกายนน้ั เรารูเห็นกายน้นั พรหม เราเปนผูอนั ทานเทยี บเทียมไมไดดว ยความรยู ง่ิ แมอ ยา งนี้ทไี่ หนเราจะเปนผูตํ่ากวาทาน ท่ีแท เรานีแ่ หละเปนผูสูงยง่ิ กวาทา น พรหมกายช่ือสภุ กิณหะ กายชอ่ื เวหปั ผละมีอยูแล ทา นยอมไมรู ยอมไมเ หน็ กายนั้นเรารูเห็นกายน้นั พรหม เราเปน ผูอันทานเทยี บเทียมไมไดด วยความรูยิ่งแมอยางน้ี ท่ีแท เราน่ีแหละเปน ผสู งู ยิ่งกวา ทาน พรหม เรารูย่ิงดนิ แลโดยความเปนดนิ รนู พิ พานอนั สัตวถ ึงไมไ ดโดยความทด่ี นิ เปนดิน แลวไมเปน ดนิไมไ ดมคี วามยดึ ถอื แลว ในดิน ไมไ ดมีความยืดถอื แลวแตด ิน ไมไดม คี วามยดึถือแลว วา ดนิ ของเรา ไมไ ดชมดนิ พรหม เราเปน ผอู ันทานเทยี บเทียมไมไ ดดวยความรยู งิ่ แมอยา งน้ี ท่ไี หนเราจะต่าํ กวาทาน ท่ีแท เราน่แี หละเปน ผูสูงกวา ทา น พรหม เรารจู กั น้าํ ... รูจกั ไฟ...รูจ ักลม...รจู กั เหลา สตั ว...รูจ กัเทวดา...รูจกั ปชาบด.ี ..รูจักพรหม ...รูจักพวกอาภัสสรพรหม...รจู กั พวกสุภกิณหพรหม...รูจักพวกเวหัปผลพรหม...รจู กั อภิภูพรหม...พรหม เรารูจักสง่ิ ทัง้ ปวงโดยความเปน ส่งิ ทัง้ ปวง รูจักนพิ พานอันสตั วถ งึ ไมไ ดโดยความทสี่ ง่ิ ทงั้ ปวงเปนส่ิงทั้งปวง แลวไมเปน สิ่งทงั้ ปวง ไมไดมีความยดึ ถอื แลวในสง่ิทัง้ ปวง ไมไ ดม ีความยดึ ถือแลวแตส่ิงทง้ั ปวง ไมไดมคี วามยึดถอื แลว วา

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มชั ฌมิ นกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 446สง่ิ ทั้งปวงของเรา ไมไ ดชมสิ่งทัง้ ปวง พรหม เราเปน ผูอนั ทานเทียบเทียมไมไดด วยความรูย ่งิ แมอยางน้ี ทไี่ หนเราจะต่ํากวาทา น ทแ่ี ท เราน่ีแหละเปน ผูสงู กวา ทาน พกพรหมกลา วกะเราวา ทา นผนู ริ ทกุ ข ถา และเพราะทา นรูนิพพานท่ีสัตวถึงไมไ ดโดยความทส่ี ง่ิ ทัง้ ปวง เปนสิง่ ท้ังปวง ถอ ยคําของทานอยา ไดว างเสียเลย อยาไดเปลา เสียเลย นพิ พานอันผบู รรลุพงึ รแู จง ได เปนอนิทสั สนะ(เห็นไมไ ดดวยจักษวุ ิญญาณ) เปนอนนั ตะ (ไมมที สี่ ุดหรือ หายไปจากความเกดิ ข้ึนและความเสื่อม) มรี ศั มใี นท่ที งั้ ปวง อนั สตั วถึงไมไ ดโดยความทดี่ ินเปนดนิ โดยความท่นี ้าํ เปน น้าํ โดยความทไี่ ฟเปน ไฟ โดยความท่ลี มเปนลม โดยความที่เหลา สตั วเปนเหลา สัตว โดยความท่เี ทวดาเปน เทวดาโดยความทปี่ ชาบดีเปนปชาบดี โดยความทีพ่ รหมเปนพรหม โดยความที่อาภัสสรพรหมเปนอาภสั สรพรหม โดยความที่สุภกิณหพรหมเปน สภุ กิณห-พรหม โดยความทเ่ี วหปั ผลพรหมเปนเวหปั ผลพรหม โดยความทอ่ี ภภิ ูพรหมเปนอภิภูพรหม โดยความที่สงิ่ ทงั้ ปวงเปนส่ิงท้งั ปวง พกพรหมกลา วกะเราวา ทานผนู ิรทุกข ผิฉะนั้น บัดน้ี เราจะหายไปจากทาน เรากลา ววา พรหม.ผฉิ ะน้ัน บดั น้ี ถาทานอาจจะหายไปไดก็จงหายไปเถิด ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ครง้ั นัน้แล พกพรหมกลา ววา เราจักหายไปจากพระสมณโคดม เราจักหายไปจากพระสมณโคดม แตก ไ็ มอ าจหายไปจากเราไดโดยแท ภิกษทุ ้ังหลายเม่ือพกพรหมกลาวอยางนแ้ี ลว เราไดก ลาวกะพกพรหมวา พรหม ผฉิ ะ-นนั้ บัดน้ี เราจะหายไปจากทาน พกพรหมกลา ววา ทา นผูนฤทุกขผฉิ ะ-นน้ั บัดน้ี ถาทานอาจหายไปได กจ็ งหายไปเถิด ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ลาํ ดบันน้ั เราบนั ดาลอทิ ธาภิสงั ขารใหเ ปน เหมือนอยา งนัน้ ดว ยเหตเุ พียงเทาน้ีพรหมก็ดี พวกพรหมบรษิ ัทกด็ ี พวกพรหมปาริสัชชะก็ดี ยอมไดย ินเสียงเรา แตมไิ ดเหน็ ตวั เรา ดงั นี้ เราหายไปแลว ไดกลา วคาถานวี้ า- เราเห็นภยั ในภพ และเห็นภพของสตั วผ ูแสวง

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌมิ นกิ าย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 447 หาวภิ พแลว ไมช มภพ อะไรเลย ท้งั ไมย ืดมน่ั นันทิความเพลิดเพลินดว ย ดงั น้ี. [๕๕๕] ภกิ ษุทั้งหลาย คร้ังนั้น พรหมกด็ ี พวกพรหมบรษิ ัทก็ดีพวกพรหมปาริสัชชะกด็ ี ไดม ีความแปลกปลาดอศั จรรยจติ วา ทา นผูเจริญ นาอัศจรรย นาแปลกประหลาดหนอ พระสมณโคดม มฤี ทธ์ิมากมีอานุภาพมาก กอ นแตน พ้ี วกเราไมไ ดเห็นไมไดย ินสมณะหรอื พราหมณอืน่ ที่มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เหมอื นพระสมณโคดมน้ี ผูออกผนวชแตศากย-สกุล ถอนภพพรอมทงั้ รากแหงหมูสัตวผ รู นื่ รมยยนิ ดใี นภพ เพลดิ เพลนิ ในภพ. [๕๕๖] ภกิ ษุท้ังหลาย ครั้งนน้ั มารผูลามก เขา สิง พรหมปารสิ ชั ชะองคหนง่ึ แลวกลา วกะเราวา ทา นผนู ริ ทุกข ถาทานรูจักอยา งน้ี ตรสั รูอยางนี้ กอ็ ยาแนะนาํ อยาแสดงธรรม อยาทําความยนิ ดีกะพวกสาวกและพวกบรรพชิตเลย ภกิ ษุ สมณะและพราหมณพ วกกอนทา น ผปู ฏิญญาวาเปน พระอรหนั ตสมั มาสัมพทุ ธเจา ในโลก สมณะและพราหมณพวกนั้นแนะนําแสดงธรรม ทําความยนิ ดีกะพวกสาวกและพวกบรรพชิต ครนั้ กายแตกขาดลมปราณ ก็ไปเกิดในหนี กายหมูสตั วชัน้ เลว สว นสมณะและพราหมณพวกกอนทา น ผปู ฏิญญาวา เปน พระอรหันตสัมมาสัมพทุ ธเจา สมณะและพราหมณพวกน้นั ไมแนะนําไมแ สดงธรรม ไมท ําความยนิ ดกี ะพวกสาวกบรรพชติ ครัน้ กายแตกขาดลมปราณกไ็ ปเกดิ ในปณีตกายหมสู ตั วชน้ั ดภี ิกษ.ุเพราะฉะน้นั เราจงึ บอกกะทา นอยางนี้ ทา นผนู ริ ทุกข เชญิ ทานเปน ผูม ักนอ ย ตามประกอบความอยูสบายในชาตินี้ อยเู ถดิ เพราะการไมบอกเปนความดี ทานอยา สั่งสอนสตั วอื่นๆ เลย ภกิ ษุทง้ั หลาย เมือ่ มารกลาวอยา งน้ีแลว เราจงึ กลาววา มารผลู ามก เรารจู กั ทา น ทานอยา เขาใจวา พระสมณะไมรจู ักเรา ทา นเปน มาร ทานหามีความอณุเคราะหดว ยจติ เก้อื กูลไม จึงกลา วกะ

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌมิ นกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 448เราอยางนี้ ทานไมมคี วามอนเุ คราะหด วยจิตเกอื้ กูล จึงกลาวกะเราอยา งน้ี ทา นมคี วามดาํ รวิ า พระสมณโคดมจักแสดงธรรมแกช นเหลาใด ชนเหลาน้ันจักลว งวสิ ยั ของเราไป ก็พวกสมณะและพราหมณนัน้ มิไดเ ปน พระสมั มาสัมพุทธเจา ปฏญิ ญาวา เราทั้งหลายเปน พระสมั มาสัมพทุ ธเจา มารผูลามก เราเปน สมั มาสมั พุทธะ ยอ มปฏญิ ญาวา เราเปนสัมมาสัมพทุ ธะมารผูล ามก! ตถาคตแมเม่อื แสดงธรรมแกพ วกสาวก ก็เปน เชน นั้นแมเมื่อไมแ สดงธรรมแกพวกสาวก ก็เปน เชนน้นั ตถาคต แมเมอ่ื แนะนําพวกสาวก ก็เปน เชนนัน้ แมเมื่อไมแนะนาํ พวกสาวกกเ็ ปน เชน น้ัน นน่ั เปน เพราะเหตุอะไร เพราะอาสวะเหลา ใด อนั ใหเ ศรา หมอง ใหเ กิดในภพใหม มีความกระวนกระวาย มีวิบากเปนทกุ ข มชี าติ ชรา มรณะ ตอ ไป อาสวะเหลานั้น ตถาคตละเสียแลว มีรากเหงาอนั ถอนขน้ึ แลว ทําไมใหม ที ี่ตั้งดงั วา ตนตาลแลว ทําไมใ หมีตอ ไปแลว มคี วามไมเ กิดข้ึนตอ ไปเปน ธรรมดา เหมือนตน ตาลมยี อดถูกตดั เสียแลว ไมค วรงอกอีกได ฉะน้นั . ไวยากรณภาษติ น้ี พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั แลว โดยมารมไิ ดเรียกรองและโดยพรหมเชื้อเชญิ ดงั นี้ เพราะฉะน้นั ไวยากรณภาษติ น้ีจงึ มีชือ่ วา พรหมนมิ ันตนิกสูตร ฉะน้แี ล. จบ พรหมนมิ ันตนกิ สตู รที่ ๙

พระสุตตันตปฎ ก มัชฌมิ นิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 449 อรรถกถาพรหมนมิ นั ตนิกสูตร พรหมนมิ ันตนิกสตู ร ขึ้นตน วา ขาพเจา ไดฟ งมาแลว อยางนี้ :- บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา \"ทฏิ ฐอิ ันชัว่ \" ไดแ ก ความเหน็ วาเทย่ี งอนัลามก คาํ วา \"นี้เปน ของเที่ยง\" คอื พูดวา ฐานะของพรหมพรอ มกบั โอกาสอันเปนของไมเทีย่ งนวี้ า เทยี่ ง. คําวา \"แนนอน\" เปนตน กเ็ ปนคําใชแทนคําวา \"เทย่ี ง\" นัน้ นัน่ เอง. ในคําเหลานนั้ คําวา \"แนนอน\" คือมัน่ คง. คาํวา \"เทย่ี งแท\" คือมีอยทู กุ เม่อื . คําวา \"ลว น\" คอื ทง้ั หมดไมมีขาด. คาํ วา\"มคี วามไมเคลอ่ื นเปน ธรรมดา\" คอื มีสภาพไมเคล่อื นไป. ถงึ ฐานะในคาํ เปนตนวา \"นี้แล ยอมไมเกดิ \" น้ีคอื พูดหมายเอาวา ผเู กิด ผูแก ผูต าย ผูเคล่อื นผบู งั เกิดขนึ้ ยอ มไมมี. คําวา \"และกอ็ ืน่ จากน้ี\" คอื ความเห็นวาเท่ียงแทอยางแรง ยอ มเปน ของทเ่ี กดิ ข้ึนแลว แกเ ขาอยางนว้ี า ชื่อวา เหตแุ หง การออกไปอยา งอื่นท่ีนอกเหนอื จากฐานะของพรหม พรอมท้งั โอกาสนไี้ มม .ี ก็แหละ ผพู ดู เชนน้นี ั้นยอมปอ งกันทุกอยางคือ ช้นั ของฌานขา งบน ๓ มรรค๔ ผล ๔ นิพพาน ๑. คําวา \"ผไู ปในความไมร \"ู ความวา ผูไปคอื ประกอบในความไมร ู ชอื่ วา เปน ผไู มรูคือ เปน ผบู อด. คาํ วา \"ก็ชอ่ื ใน...ใด\" คอืชื่อใด. มารในบททง้ั หลายวา ภกิ ษทุ ้ังหลาย! ครัง้ น้ัน มารผูมบี าป ไดเ หน็พระผมู ีพระภาคเจาอยางไร ? เลามาวา มารนั้นนง่ั คํานึงถงึ พระศาสดาในบานตวั เองตลอดเวลาวา \"วนั นพ้ี ระโคดมผสู มณะอยทู ่ตี ําบล หรืออําเภออะไร ? และตอนท่ีกําลังคาํ นงึ อยูนี้ รูว า \"กําลังอาศัยเมืองอกุ กัฏฐะอยทู ่ีปา สุภคะ จึงสํารวจดู แลวจะไปไหนอกี หนอ? กเ็ หน็ วากาํ ลังไปพรหมโลก จึงคดิ วา พระโคดมผูส มณะกําลงัไปพรหมโลก เราจะไปทาํ ใหพอใจในธรรมเทศนาอยางผิดๆ ตลอดเวลาที่

พระสุตตันตปฎก มัชฌมิ นกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 450มารกลา วธรรมกถาในท่ีนนั้ แลว ยงั ไมทําใหค ณะพรหมกา วพน วิสยั ของเรา\"จงึ เดินสะกดรอยพระศาสดาแลวมายนื กําบงั ตัวในระหวางหมูพ รหม. แกรูวา \"พวกพรหมถูกพระศาสดารุกราน, จงึ ไดย ืนทําตวั เปนผูคา้ํ ชูพรหมเหตนุ น้ั พระผมู พี ระภาคเจาจงึ ตรัสวา \"ภกิ ษทุ ้ังหลาย ครัง้ นนั้ แล มารผมู ีบาป\" ดงั น้ี คําวา \"เขาสิงพรหมปาริสัชชะแลว \" คือ \"มารเขาสูรางของพรหมปรสิ ชั ชะองคห น่งึ กย็ งั ไมสามารถเขา สอดแทรกมหาพรหม หรือพวกพรหมปุโรหิตได. คําวา \"อยารุกรานผนู ี้\" คืออยาไดร ุกรานพกพรหมน้.ี คาํ วา\"ครอบงาํ (เปนผูยิ่งใหญ)\" คือเปนผคู รอบงาํ ตั้งอยู คอื เจริญท่สี ุด (ใหญท่ีสุด หัวหนา ). คําวา \"ไมถ กู ครอบงาํ \" คอื พวกอืน่ ครอบงําไมได. คาํ วา\"โดยแท\" เปนนิบาตลงในคําท่ีระบวุ าสวนเดยี ว ทรงแสดงวา ผูเ ห็นดว ยอาํ นาจการเห็น ยอมเห็นทุกส่ิงทุกอยา ง. คาํ วา \"ผหู มนุ อาํ นาจ\" คือ \"ยอ มยังชนท้ังหมดใหเ ปน ไปในอํานาจ. คาํ วา \"เปน อศิ วร\" คอื เปน ใหญใ นโลก. คาํวา ผูส ราง ผนู ริ มิต คอื เปน ผูส รา ง และผูน ิรมติ โลกไว ทานแสดงวาแผนดินหิมพานต เขาสเิ นรุ จักรวาล มหาสมุทร พระจันทร และพระอาทิตยมหาพรหมองคนีน้ ิรมติ ไว. คาํ วา \"ผปู ระเสรฐิ สุด ผูจ ัดแจง\" คอื มหาพรหมองคน ้ี เปน ผูประเสริฐสุด และเปน ผจู ดั แจง ทา นแสดงวา มหาพรหมองคนี้ ไดจ ดั หมสู ตั วไวอ ยางนว้ี า เธอเปนกษตั ริย เธอเปนพราหมณ เปนแพศย เปน ศทู ร เปนชาวบา น เปน นักบวช กระทัง่ เปน อฐู เปนโค ทา นกลาววา มหาพรหมองคน้ี ช่อื วาเปนผูม ีอํานาจ เพราะสะสมอาํ นาจไว มหาพรหมองคน ้ี เปนพระบิดาของพวกภตู และพวกภัพย ดว ยบทวา เปนผมู ีอํานาจ เปน พระบิดาของพวกภตู และภพั ย. ในคําวาพวกภตู และภพั ยน ้นั พวกสตั วทีเ่ กดิ ในไขและในมดลูก ช่อื วาภัพย ตอนอยูภายในกะเปาะไข และภายในลําไส (มดลูก) ตง้ั แตเวลาท่ีออกมาขางนอกแลว ชือ่ วา ภูต พวกท่ีเกิดตามเหงื่อไคล (เชนในนาํ้ คราํ เปนตน ) ในขณะจติ แรก เปน ภพั ย ตงั้ แตข ณะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook