Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_08

tripitaka_08

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:39

Description: tripitaka_08

Search

Read the Text Version

พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 251 [๓๗๕] ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ถาสงฆมภี ิกษผุ ูควรอพั ภานเปนท่ีพึงใหปรวิ าสพึงชักเขา หาอาบัตเิ ดมิ พงึ ใหมานัต สงฆ ๒๐ รปู ท้ังภกิ ษุผูค วรอัพภานน้นั พึงอพั ภาน การกระทาํ ดงั นนั้ ใชไมไ ด และไมค วรทํา. อพั ภานารหวตั ร จบ ปาริวาสิกขันธกะ ที่ ๒ จบ ในขนั ธกะนม้ี ี ๕ เร่อื ง หัวขอประจาํ ขนั ธกะ [๓๗๖] ๑. ภิกษทุ ้งั หลายผูอยูปรวิ าส ยนิ ดกี ารกราบไหว การลกุ รับ อัญชลีกรรม สามีจกิ รรม การนําอาสนะมาให การนาํ ที่นอนมาให การลางเทา การตง้ั ตั่งรองเทา การตั้งกระเบอื้ งเชด็ เทา การรบับาตรจีวร การถหู ลงั ใหเ มอื่ อาบนํา้ ของปกตัตตะภิกษุทั้งหลายบรรดาภกิ ษผุ ูมศี ีลเปนท่รี ัก จงึ เพง โทษ เปนทกุ กฏแกภกิ ษุผูอยปู ริวาสผูย ินดี ทรงอนุญาตแกภ ิกษผุ ูอยปู รวิ าสดวยกันตามลําดบั ผูแกพ รรษา และทรงอนุญาตกิจ ๕ อยา ง คอื อโุ บสถ ๑ ปวารณา ๑ ผาอาบน้าํ ฝน ๑การสละภตั ร ๑ การรับภัตร ๑ วธิ ปี ระพฤติชอบ คอื ภิกษุผูอ ยูป ริวาสไมไ ปขางหนา ปกตัตตะภิกษุ พอใจดวยท่ีสุดทาย ไมมีสมณะนําหนา และตามหลังเขาไปสสู กลุ ไมสมาทานอารญั ญกิ ธดุ งค ปณฑปาติกธดุ งคไมใหเขานาํ บณิ ฑบาตมาสง เปนอาคนั ตุกะไป และมีอาคันตุกะมา

พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 252ตอ งบอก พึงบอกในอุโบสถ ในปวารณา ส่ังทูตไหบ อก ไปสอู าวาสและถ่นิ มใิ ชอ าวาสท่มี ภี ิกษุ ไมพ งึ อยูใ นท่ีมงุ เดยี วกนั เมื่อปกตตั ตะภกิ ษุนง่ั ณ พ้ืนดิน ไมน ัง่ ณ อาสนะ เมอื่ ปกตตั ตะภิกษนุ งั่ อาสนะตํา่ ไมนง่ัอาสนะสูง เมอ่ื ปกตตั ตะภิกษจุ งกรมในที่ตาํ่ ไมจงกรมในทสี่ งู หรือจงกรม ณ พื้นดิน ไมจ งกรมในท่จี งกรม ไมพ ึงอยูใ นท่มี งุ เดียวกนั ....กบั ภกิ ษุผูอยูปริวาสผูแกพ รรษากวา ทาํ กรรมใชไ มได รัตตเิ ฉท ชําระปรวิ าส ภิกษุผอู ยปู ริวาส พงึ ทราบวธิ เี กบ็ วตั ร สมาทานวัตร ภกิ ษุผูค วรชักเขาหาอาบัตเิ ดิม ผูควรมานตั ผปู ระพฤติมานตั และผูควรอพั ภาน ปราชญพ ึงทราบโดยนยั ท่ีเจือกันอีก รตั ติเฉทของภิกษุผูอยปู ริวาสมี ๓ ของภกิ ษผุ ปู ระพฤติมานัตมี ๔ ไมเทากัน และประพฤติมานัตใหครบวัน กรรม ๒ อยางคลา ยกัน ๓ อยา งนอกนน้ั เหมอื นกนั แล. หัวขอ ประจาํ ขันธกะ จบ

พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 253 ปาริวาสิกักขนั ธกวรรณนา ปาริวาสกิ วัตรกถา วนิ ิจฉัยในปารวิ าสกิ กั ขันธกะ นี้ พึงทราบดงั น้ี :- บทวา ปาริวาสกิ า ไดเเก ภกิ ษผุ อู ยูปรวิ าส. ในคาํ วา ปารวิ าสิกา นัน้ ปรวิ าสมี ๔ อยา ง คอื อัป-ปฏิจฉนั นปริวาส ๑ ปฏจิ ฉนั นปรวิ าส ๑ สุทธนั ตปรวิ าส ๑ สโมธานปริวาส ๑. บรรดาปริวาส ๔ อยา งนนั้ ตติ ถิยปรวิ าส ทพ่ี ระผูมีพระภาคเจาตรสั ไวใ นมหาขนั ธกะอยางนวี้ า ภิกษทุ งั้ หลาย บคุ คลใดแมอ่ืนผูเ คยเปน อัญญเดยี รถยี  หวงั บรรพชา หวังอุปสมบท ในธรรมวนิ ยั น,้ีสงฆพ ึงใหปรวิ าส ๔ เดือนแกบคุ คลน้ัน ดงั นี้ ชื่ออปั ปฏจิ ฉนั นปรวิ าสคําใดทจี่ ะพงึ กลาวในอปั ปฏิจฉนั นปริวาสน้ัน คํานนั้ ขาพเจาไดกลาวไวด ีแลวแล. แตวา อปั ปฏจิ ฉนั นปริวาสนี้ พระผมู ีพระภาคเจาไมท รงประสงคในปารวิ าสกิ กั ขนั ธกะน.้ี ปริวาส ๓ อยางท่เี หลอื สงฆพงึ ใหแกภ กิ ษผุ ูตอ งอาบัตสิ ังฆาทิเสสแลว และปกปดไว. คาํ ใดทีจ่ ะพงึ กลา วในปริวาส ๓อยา งน้นั คาํ นั้นขา พเจา จกั พรรณนาในสมจุ จยกั ขนั ธกะ. ก็แลปรวิ าส ๓อยา งนี้ พระผูมีพระภาคเจา ทรงประสงคใ นปารวิ าสกิ กั ขันธกะน้.ี เพราะเหตุนน้ั ภิกษุผอู ยูปริวาสอยา งใดอยา งหน่งึ ใน ๓ ปริวาสน้ี พึงทราบวาปาริวาสกิ ภิกษุ.

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 254 สองบทวา ปกตตตฺ าน ภกิ ฺขูน ไดแกภิกษุปกตตั ตะท่ีเหลอืโดยทสี่ ดุ แมภิกษุผูควรแกม ูลายปฏกิ ัสสนาเปน ตน เวน ปาริวาสกิ ภิกษุผใู หมกวาเสยี . สองบทวา อภิวาทน ปจฺจปุ ฏาน มีความวา ภิกษปุ กตตั ตะเหลาน้ัน ทาํ ควานเคารพมีอภวิ าทเปน ตน อนั ใด ปารวิ าสกิ ภกิ ษุทั้ง-หลายยอ มยินดี คือ ยอมรบั ความเคารพอันนั้น. อธบิ ายวา ไมห า มเสยี . บรรดาบทเหลาน้นั บทวา สามีจิกมมฺ  น้ี เปนช่ือของอภสิ มา-จารกิ วตั ร มกี ารพัดลมใหเ ปนตน แกภ กิ ษุอน่ื ซง่ึ สมควร เวน ความเคารพมอี ภวิ าทเปน ตนเสยี . บทวา อาสนาภหิ าร ไดแก การจัดอาสนะให คือ หยบิ อาสนะไปให คอื ปลู าดใหนง่ั เอง. แมใ นการจัดทนี่ อนให กน็ ัยน้ีแล. บทวา ปาโททก นน้ั ไดแก น้าํ สําหรบั ลางเทา . บทวา ปาทป นน้ั ไดแ ก ตง่ั สําหรบั รองเทา ท่ลี างแลว . บทวา ปาทกถลกิ  นั้น ไดแก แผน กระดานสาํ หรับวางเทา .ซึง่ ยังไมไดลาง หรือแผนกระดานสาํ หรับเช็ดเทา. สองบทวา อาปตฺติ ทุกกฺ ฏสสฺ มีความวา คงเปนอาบตั ิทกุ กฏแกภ ิกษผุ ยู นิ ดี แมของสทั ธวิ ิหารกิ เปน ตน . เพราะเหตนุ น้ั ปาริ-วาสกิ ภิกษนุ น้ั พึงบอกนิสติ ท้ังหลายมีสทั ธิวหิ ารกิ เปนตน น้นั วา ขาพเจากําลังทาํ วนิ ยั กรรมอยู, พวกทา นอยาทําวัตรแกขา พเจา เลย อยาบอกลา

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 255เขาบา นกะขา พเจา เลย. ถาพวกกุลบุตรผูมีศรัทธาบวชกลาววา ขอทา นจงทําวินยั กรรมของทา นเถดิ ขอรบั ดงั น้ี แลว ยงั คงทําวัตร ทงั้ บอกลาเขาบานดวย จาํ เดิมแตเ วลาท่หี า มแลวไป ไมเ ปนอาบตั ิ . สองบทวา มถิ ุ ยถาวฑุ ฺฒ มีความวา ในปาริวาสิกภกิ ษุดว ยกัน ภิกษใุ ด ๆ เปนผูแกก วา กันและกนั . เราอนุญาตใหภิกษนุ ั้น ๆยนิ ดีอภิวาทเปนตน ของภกิ ษุผูออ นกวา ได. สองบทวา ปฺจ ยถาวุฑฺฒ มคี วามวา เราอนุญาตสวน ๕ตามลาํ ดับผูแก พรอ มดว ยภิกษุทั้งหลายแมผปู กตตั ตะ เพราะเหตุน้นั เม่อืกําลงั สวดปาติโมกข ปาริวาสกิ ภิกษุนงั่ ในหตั ถบาส ยอมควร. แตในมหาปจจรกี ลา ววา อยา นง่ั ในลาํ ดับ พงึ ละลาํ ดับเสยี แตอยานง่ั ละหัตถบาส. เมื่อทาํ ปาริสทุ ธิอโุ บสถ พึงนง่ั ในทขี่ องสงั ฆนวกะ และคงนั่งในทนี่ ้นั เอง ทําปารสิ ทุ ธิอุโบสถในลาํ ดับของตน. แตใ นมหาปจจรกี ลาววา พึงทาํ ปารสิ ทุ ธิอโุ บสถในลาํ ดบั . แมเมอ่ืทาํ ปวารณาเลา กพ็ งึ น่งั ในท่ขี องสังฆนวกะ และคงนง่ั ในทีน่ ้ันเองปวารณาในลําดับของตน. แมผาวสั สกิ สาฎกทส่ี งฆต ีระฆงั แลว แจกกนัปารวิ าสิกภกิ ษุจะรับในทซี่ ง่ึ ถงึ แกต นก็ควร. ภัตอันภกิ ษสุ ละให เรียกวา ภัตทภ่ี ิกษโุ อนให. ก็ถาอุทเทสภัตเปนตน ๒-๓ ทีถ่ ึงแกปาริวาสิกภิกษุไซร. แตเ ธอมคี วามหวงั เฉพาะปคุ -คลกิ ภตั อืน่ , อุทเทสภัตเปนตนเหลาน้ัน เธอพึงรบั ตามลาํ ดับ แลว

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 256บอกสละเสยี วา ทานจงใหผ มรับคราวหลงั เถิดขอรับ, วันน้คี วามหวงัเฉพาะภตั ของผมม,ี พรงุ นี้ผมจักรับ. ดวยการเสยี สละอยา งนี้ เธอยอมไดเ พอ่ื รับภตั เหลาน้ันในวนั รุงข้นึ . ในกรุ นุ ทีกลา ววา ในวันรงุ ขึ้น พึงใหแ กปารวิ าสกิ ภกิ ษนุ น้ักอ นภิกษทุ ้งั ปวง. แตถา เธอไมร บั ไมโ อนใหเสยี , ในวนั รุงข้ึนยอ มไมได. ภัตท่ภี กิ ษุโอนใหน้แี ล พระผมู ีพระภาคเจา ทรงอนุญาตเฉพาะปาริวาสกิ ภกิ ษุเทา นั้น. เพราะเหตไุ ร? เพราะวา ยาคู และของขบเคยี้ วเปน ตนในโรงอาหาร ยอมถงึ แกเ ธอผูน่งั ในทีส่ ังฆนวกะบา ง ไมถ ึงบา ง เพราะเหตุน้ันภัตท่ภี กิ ษุโอนใหน ้ี พระผมู ีพระภาคเจาจงึ ทรงอนุญาตเฉพาะเพอ่ื ทาํ การสงเคราะหแ กปาริวาสิกภกิ ษุนน้ั วา เธออยา ตอ งลําบากดว ยภกิ ษาจารเลย. บทวา ภตตฺ  ไดแ ก จตสุ าลภัตของสงฆในวิหารทีภ่ กิ ษผุ มู าแลว พงึ รับไปตามลาํ ดบั ผูแ ก, ปาริวาสกิ ภกิ ษยุ อมไดภ ัตนั้น ตามลาํ ดับผูแ ก. แตไ มไ ดเ พือ่ ไปหรือยืนในแถว. เพราะเหตุน้นั พงึ ถอยหา งจากแถวแลว ยนื ในหตั ถบาส เอื้อมมือรบั อยา งเหยย่ี วโผลงฉวยเอาฉะนัน้ .เธอไมไ ดเ พ่อื จะใชอ ารามิกบรุ ุษหรือสมณุทเทสใหนาํ มา. ถาเขานามาเองขอ นน้ั ควรอยู แมใ นมหาเปฬภัตของพระราชาก็นยั นี้แล. ในมหาปจจรีกลา ววา แตในจตสุ าลภัต ถา ปารวิ าสกิ ภกิ ษุ เปนผใู ครจะทําการโอนใหไซร, เมื่ออาหารอนั เขายกขน้ึ แลว เพอ่ื ตนพงึ บอกวาวนั น้ี ภตั ของเรายอ มมี, พรงุ น้ีเราจกั รบั ดังน้ี ในวนั รงุ ขึ้นยอ มไดอาหาร ๒ สวน. แมอ ทุ เทสภัตเปน ตน พึงถอยหางจากแถวกอ นจงึ รบั .

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 257และพวกทายกนิมนตใหน ัง่ ในทใ่ี ดแลว อังคาส, พงึ เปนหัวหนา ของพวกสามเณร เปนสงั ฆนวกะของพวกภิกษุ นง่ั ในที่นนั้ . บัดนี้ วนิ จิ ฉยั ความประพฤตชิ อบที่พระผูม พี ระภาคเจา ตรัสไวน้ี. บทวา น อุปสมฺปาเทตพพฺ  มคี วามวา เปน อปุ ชฌายไ มพึงใหอ ปุ สมบท แตจ ะเกบ็ วัตรแลว ใหอุปสมบท ควรอย.ู เปน อาจารยแ ลว แมกรรมวาจาก็ไมค วรสวด, เมือ่ ภกิ ษอุ นื่ ไมมีจะเก็บวัตรแลว สวด ควรอยู. บทวา น นิสสฺ โย ทาตพโฺ พ มคี วามวา ไมพงึ ใหนิสยัแกพ วกภกิ ษอุ าคันตกุ ะ. แมภ ิกษเุ หลาใดไดถอื นสิ ยั ตามปกติเทียว พงึบอกภกิ ษเุ หลา น้นั วา ขาพเจากําลงั ทาํ วินยั กรรม. พวกทานจงถอื นสิ ยัในสํานกั พระเถระช่อื โนน อยา ทําวัตรแกขา พเจา เลย อยา บอกลาเขาบา นกะขา พเจา เลย. ถาแมเ มื่อบอกอยา งน้ันแลว พวกนิสิตก็ยงั ขืนทาํแมพวกเธอยังขนื ทําอยู จาํ เดิมแตก าลทีไ่ ดหา มแลวไป ไมเ ปนอาบัติแกปาริวาสกิ ภิกษุนั้น. บทวา น สามเณโร มคี วามวา ไมพ งึ รับสามเณรอนื่ ; แมพวกสามเณรท่คี นเปนอุปชฌายรบั เอาไว ตนก็ควรบอกวา ขาพเจา กาํ ลงัทาํ วนิ ัยกรรม, พวกเธออยาทําวัตรแกขา พเจา เลย อยา บอกลาเขาบา นกะขาพเจา เลย. ถาแมเ ม่ือบอกอยา งนนั้ แลว เธอท้งั หลายยังขืนทํา; แมเ มื่อเธอทงั้ หลายขนื ทําอยู เดมิ แตก าลที่ไดหามแลวไป ไมเปนอาบัติแกปารวิ าสิกภิกษุน้นั .

พระวินัยปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 258 ขนึ้ ชอื่ วา การสมมติใหเ ปนผสู อนนางภิกษณุ ี ซง่ึ เปน ตาํ แหนงของผูเปน ใหญ ทานหา ม, เพราะฉะนนั้ ปาริวาสกิ ภกิ ษพุ ึงเรียนแกภกิ ษุสงฆว า ทานเจา ขา ขาพเจากาํ ลังทาํ วนิ ัยกรรม, ทานทัง้ หลายจงรูภิกษุผสู อนนางภกิ ษุณี หรอื พงึ มอบภาระแกภ ิกษุผูสามารถกไ็ ด และพงึ บอกนางภิกษณุ ที ้งั หลายทพ่ี ากนั มาวา ทานทั้งหลาย จงไปหาสงฆ. สงฆจกัรภู ิกษผุ ูใหโ อวาทแกท า นทัง้ หลาย หรอื พงึ บอกวา ขาพเจา กาํ ลังทําวินยักรรม ทา นท้งั หลายจงไปหาภกิ ษุผชู ื่อโนน. เธอจักใหโอวาทแกทา นทง้ั หลาย. บทวา สา อาปตตฺ ิ มีความวา ไมพ ึงถงึ การปลอยสุกกะอกีในเมอ่ื ปรวิ าสเพอื่ การปลอ ยสุกกะอันสงฆใ หแ ลว. สองบทวา อฺา วา ตาทสิ กิ า ไดแ ก ครกุ าบัตมิ กี าย-สังสัคคะเปนตน. สองบทวา ตโต วา ปาปฏ ตรา ไดแก อาบัตปิ าราชกิ ,ในอาบัติ ๗ อาบตั ิทพุ ภาสติ เปนอาบัตเิ ลวทราม อาบัติทกุ กฏ เปนอาบัตเิ ลวทรามกวา อาบัตทิ ุกกฏเปนอาบัติเลวทราม อาบตั ปิ าฏิเทสนยี ะเปน อาบตั ิเลวทรามกวา. พึงทราบนัยในอาบัตปิ าจิตตีย ถุลลัจจยั สังฆาทเิ สส และปาราชกิโดยอบุ ายอยา งนี.้ แมใ นวตั ถุทัง้ หลายแหงอาบัตเิ หลา นั้น พงึ ทราบความตางกนั โดยนยั กอ นน่นั แล วัตถุแหงทุพภาสิตเลวทราม วัตถแุ หงทกุ กฏเลวทรามกวาแตใ นสกิ ขาบทท่เี ปนปณ ณตั ติวัชชะ ท้งั วตั ถุ ท้ังอาบัติเลวทราม. สวน

พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 259สิกขาบทท่ีเปน โลกวัชชะ เลวทรามกวา ทัง้ ๒ อยาง. กรรมวาจาแหงปรวิ าสทานเรียกวา กรรม, ไมพ ึงตดิ ว ยคาํ เปนตนวา กรรมนน้ั ไมเปนอันทาํ ทาํ เสยี หรือดวยคําเปนตน วา กรรมชนิดน้เี ปน กสกิ รรม เปนโครักขกรรมดวยหรอื ? บทวา กมฺมิกา มคี วามวา กรรมอนั ภิกษุเหลา ใดทาํ แลว ภกิ ษุเหลา นั้น ทานเรียกวา กัมมกิ า. ไมพ ึงติภิกษเุ หลานั้นดว ยคําวา เปนพาล ไมฉลาด เปน ตน . ขอวา น สวจนยี  กาตพพฺ  มคี วามวา ไมพ ึงทาํ ความเปนผูม ีคาํ จาํ ตองกลาว เพื่อประโยชนแ กการประวิงหรือเพือ่ ประโยชนแกการเกาะดวย. จรงิ อยู เม่อื จะทาํ เพอื่ ประโยชนแกก ารประวงิ ยอมทาํ อยา งนี้วาขาพเจา จะทาํ ทา นใหเปน ผใู หการโนคดีน,ี้ ทา นอยา ไดยา งออกจากอาวาสน้ีแมเพียงกา วเดียว ตลอดเวลาท่ีอธิกรณย งั ระงับไมเ สร็จ ดงั น,ี้ เมื่อจะทาํ เพ่อื ประโยชนแกการเกาะตวั ยอมทาํ อยา งนวี้ า ขาพเจาจะทําทา นใหเปน ผใู หการ, ทา นจงมา ไปตอ หนา พระวนิ ยั ธร พรอ มกับขา พเจาไมพ ึงทาํ ความเปนผมู คี าํ จําตอ งกลา วทง้ั ๒ อยา งน้ัน. บทวา น อนวุ าโท มคี วามวา ไมพึงรับตาํ แหนง หวั หนา ในวหิ าร, คือ ไมพงึ เปนผูส วดปาติโมกข หรอื เชิญแสดงธรรม ไมพ ึงทาํ การเน่อื งดว ยความเปนใหญ แมดว ยอาํ นาจสมมติอยางหนง่ึ ในสมมติ๑๓.

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 260 บทวา น โอกาโส มคี วามวา ไมพงึ ทาํ โอกาสแกภ กิ ษุผูป กตัตตะอยา งนี้วา ทานจงทําโอกาสแกข า พเจา, ขา พเจาอยากจะพูดกะทาน, คือไมพงึ โจทดวยวัตถุหรอื อาบตั ,ิ ไมพ ึงใหภิกษอุ ่ืนใหก ารดว ยคําวา นเ้ี ปนโทษของทา นหรือ ? บทวา น ภกิ ขฺ ู ภิกฺขหู ิ สมปฺ โยเชตพพฺ  มคี วามวา ไมพึงชวยกันและกันใหทําความทะเลาะ. บทวา ปรู โต มีความวา เปน สงั ฆเถระไมค วรไปขางหนา คอืพงึ ละการไปใกลก นั เสยี ๑๒ ศอก ไปตามลําพัง. แมในการนง่ั ก็มีนัยเหมือนกัน . อาสนะที่จัดวาสุดทายของสงั ฆนวกะ ในโรงอาหารเปนตน ชือ่ วาอาสนะสดุ ทาย, อาสนะสุดทา ยนั้น ควรใหแ กปารวิ าสกิ ภกิ ษนุ นั้ , เธอพงึ นง่ั บนอาสนะน้นั . สดุ ทายของทน่ี อนท้งั หลาย ไดแ ก เตยี งต่ังทเี่ ลวกวาเตียงตงั่ ท้งัหมด ชอื่ วา ทน่ี อนสดุ ทาย. จริงอยู ปาริวาสิกภิกษุน้ี ไมไ ดเพ่อืถือเอาทน่ี อนในที่ซึง่ ถงึ แกต นตามลาํ ดบั พรรษา. แตท ี่นอนท่เี ลว ซ่งึสานดวยหวายและเปลือกไมเ ปนตน มขี เี้ รอื ดเกรอะกรงั ทีเ่ หลอื จากท่ีนอนซงึ่ ภิกษทุ งั้ ปวงเลือกถอื เอาแลว ควรใหแกเธอ. บทวา วหิ ารปรยิ นโฺ ต มีความวา เหมอื นอยางวา ทีน่ อนเปนฉนั ใด ที่อยกู เ็ ปน ฉนั น้ัน, อกี อยา งหนงึ่ แมอาวาสกไ็ มค วรแกเธอในทซี่ ่ึงถึงแกตนตามลาํ ดับพรรษา. แตบ รรณศาลาท่ีมีพืน้ มาดว ยธลุ ีเต็มไปดว ยมลู คางคาวและหนู ซึ่งเหลือจากทีภ่ ิกษุทัง้ ปวงเลอื กถือแลว

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 261ควรใหแ กเ ธอ. ถา ภิกษุปกตตั ตะท้ังหมด ถือรุกขมูล หรืออพั โภกาสไมเ ขาที่มุง, อาวาสทัง้ หมดจดั วา เปนอาวาสท่ภี ิกษุเหลา น้นั ละเลยเสยี แลว .บรรดาอาวาสเหลาน้นั เธอยอ มไดอ าวาสที่คนตอ งการ. อนึง่ ในวนั วสั สูปนายิกา เธอยอ มไดเพื่อยืนอยูข า งหนึง่ รบั ปจจยัตามลาํ ดบั พรรษา, แตไ มไ ดเ พอื่ ถอื เอาเสนาสนะ. ปารวิ าสิกภกิ ษผุ ใู ครจะถอื เอาเสนาสนะท่ีมีผา จาํ นาํ พรรษาเปนนิตย พึงเก็บวตั รกอนแลวจึงถือเอา. บทวา เตน จ โส สาทิตพฺโพ มคี วามวา ภกิ ษทุ ัง้ หลายใหอาสนะสุดทายเปนตนอันใดแกเ ธอ, อาสนะสุดทา ยเปนตน นั้นแล อันเธอพงึ รับ . บทวา ปเุ รสมเณน วา ปจฉฺ าสมเณน วา มีความวาเธอรับนมิ นตใ นที่แหง ญาติและคนปวารณาวา ขอทานจงพาภกิ ษุมาเทาน้ีดังนี้ แลวชกั ชวนอยา งน้วี า สกุลชือ่ โนน นิมนตภิกษทุ ้ังหลายขอรบั ,พวกทานจงมา เราท้ังหลายจงไปในสกลุ น้นั ดังนี้ ไมพ งึ ทาํ ภิกษผุ ูปกตตั ตะ ใหเปนปเุ รสมณะหรอื ปจ ฉาสมณะไป. แตว าสมควรจะกลาวโดยปริยายอยางนว้ี า ทานผูเจริญ ชนทัง้หลายในบานชือ่ โนน หวังความมาภกิ ษทุ ัง้ หลาย, ดแี ลวหนอ ถาทา นท้ังหลายพงึ ทําความสงเคราะหแ กช นเหลา นั้น . บทวา น อารฺ กิ งคฺ  มีความวา เม่ือระอาท่จี ะบอกแกภกิ ษุทงั้ หลายที่มาแลว ๆ ไมควรสมาทานอารญั ญิกธดุ งค.

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 262 อารัญญกิ ธดุ งคนนั้ แมภกิ ษใุ ดสมาทานแลวตามปกติ ภิกษุนัน้พงึ ชวนภกิ ษผุ เู ปนเพื่อนรับอรณุ ในปา, แตไ มควรไปตามลาํ พัง. อนึง่ เม่ือเบ่อื หนายการนงั่ บนอาสนะสุดทายในโรงอาหารเปนตน ไมควรสมาทานแมซ ่งึ ปณฑปาติกธดุ งค แตไ มม กี ารหามแกภ ิกษผุ ูถือบิณฑบาตตามปกต.ิ บทวา น จ ตปฺปจฺจยา มคี วามวา ไมค วรใหนําบณิ ฑบาตออกไป เพราะเหตนุ ้วี า เราเปน ผมู อี าหารอนั นา ไปแลวนง่ั ฉนั อยูใ นกฎุ ีทอ่ี ยนู ้นั แล จักนับราตรีได คอื วา รัตตเิ ฉท พึงมแี กเ ราผูไปเห็นภกิ ษุมาในบานแลวไมบ อก. บทวา มา ม ชานสึ ุ มีความวา เธอไมไดแมเ พอ่ื ใหสามเณรหุงตม ฉนั ทว่ี ดั ดว ยอธั ยาศยั น้วี า แมภ กิ ษุรูปเดยี ว จงอยารจู กัเรา, คือพงึ เขา บา นเพอ่ื บณิ ฑบาตน่งั เอง. แตป าริวาสกิ ภิกษุผูอาพาธหรือผูขวนขวายในนวกรรม และกจิ ของอาจารยอปุ ช ฌาย เปน ตนควรอยูในกฎุ ที ีอยแู ท. ถาภิกษหุ ลายรอ ยรูปเทย่ี วอยใู นบา น ไมส ามารถจะบอกได, ควรไปยงั คามกาวาสแลว อยใู นทแ่ี หง ภิกษุผูเปนสภาคกัน . แมเ ปนอาคนั ตกุ ะมายงั วดั บางตาํ บล ก็พึงบอกแกภกิ ษุทั้งหลายในวัดนนั้ . ถาเหน็ ภิกษุท้ังหมดอยูในทีเ่ ดียวกนั พึงยืนบอกในทเ่ี ดียวกันทีเดยี ว ถา ภิกษุทัง้ หลายแยก ๆ กันอยตู ามโคนไมเ ปน ตน, พึงไปบอกในท่ีนนั้ ๆ. เมอ่ื จงใจไมบอก เปน รัตติเฉทดวย เปนทกุ กฏเพราะวัตต-เภทดว ย ถา คนไมพบบางพวก เปนแตร ตั ติเฉท ไมเปน ทุกกฏเพราะวัตตเภท.

พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 263 บทวา อาคนฺตุกสฺส มคี วามวา พึงบอกแกภกิ ษุอาคนั ตกุ ะรปูเดยี ว หรอื หลายรปู แมทมี่ าสกู ฎุ ีท่ีอยูข องตน ตามนัยทีก่ ลา วแลวนน่ั แล. อน่งึ แมรัตตเิ ฉทและวตั ตเภท ในอาคันตุกาโรจนาธกิ ารนี้ ก็พงึ ทราบตามนยั ทกี่ ลา วแลวเหมอื นกนั . ถาภิกษอุ าคนั คุกะพักครเู ดยี ว หรือไมพัก ไมไ ปในทามกลางวดัอยา งนนั้ . ควรบอกแมแกภิกษอุ าคันตะกะเหลาน้ัน, ถา ภกิ ษอุ าคนั ตกุ ะไปเสยี แตเ มอื่ ปาริวาสกิ ภิกษนุ นั้ ยังไมทนั รู แตวาปารวิ าสิกภิกษนุ ี้รูในเวลาท่ไี ปเสยี แลว, พึงไปบอก. เม่ือไมอาจจะไปทนั คงเปน แตร ตั ติเฉทไมเ ปนทุกกฏเพราะวัตตเภท. ฝา ยภกิ ษอุ าคนั ตุกะเหลาใด ไมเ ขา สภู ายในวดั เขาอุปจารสมี าแลวไปเสยี , และปารวิ าสกิ ภกิ ษนุ ้ีไดย นิ เสยี งรม หรอื เสียงไอ หรอืเสยี งจาม ของภิกษอุ าคันตกุ ะเหลา น้นั รวู าเปนอาคนั ตุกะ พึงไปบอก. แมร ใู นเวลาท่ีพวกเธอไปแลว กค็ วรตามไปบอกจนได เมือ่ ไมสามารถจะไปทัน คงเปน แตร ัตตเิ ฉท ไมเปน ทุกกฏเพราะวตั ตเภท. ฝายภิกษอุ าคันตุกะใด มาในกลางคนื แลว ไปเสียในกลางคนื น่ันเอง แมภิกษุอาคันตุกะนน้ั ยอ มทาํ รตั ตเิ ฉทแกป ารวิ าสิกภิกษนุ ั้น. แตเพราะไมรู จงึ ไมม อี าบัตทิ กุ กฏเพราะวัตตเภท. ในกรุ ุนทีกลา ววา ถา ไมทันรูก ระทําอพั ภานกรรม ๆ นนั้ ไมเ ปนอนั ทาํ แท เพราะเหตุน้นั ควรนบั ราตรใี หเกินไว แลวจึงคอ ยทําอัพภานกรรม. นีเ้ ปน ขอ ปฏบิ ัติทีไ่ มผิด.

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 264 เห็นภกิ ษไุ ปเรือในแมน ้าํ เปนตนก็ดี ยนื อยูท่ีฟากโนน ก็ดี ไปในอากาศกด็ ี ตงั้ อยูในทไ่ี กลมภี เู ขาบนบกและปาเปน ตน กด็ ,ี ถา มีความกําหนดไดวา เปน ภิกษุ พงึ ไปบอกดว ยเรอื เปนตนก็ได พึงรีบตามไปบอกกไ็ ด. เมอ่ื ไมบอกเปนรัตติเฉทดว ย เปนทุกกฏเพราะวัตตเภทดว ย.ถาวา แมพ ยามอยู กไ็ มสามารถจะไปทนั หรอื ใหไดยนิ เปน เพยี งรัตติเฉท ไมเ ปน ทกุ กฏเพราะวัตตเภท. ฝา ยพระสงั ฆเสนาภยเถระ กลาวดว ยอาํ นาจแหงวิสยั และอวสิ ยั วาไดย นิ วา เมือ่ ไมบอก ในวสิ ยั (ทจ่ี ะบอกได) เปน รตั ตเิ ฉทดว ยเปนทกุ กฏเพราะวตั ตเภทดว ย, แตในอวิสัยไมม ที ัง้ ๒ อยา ง. สว นพระกรวกิ ติสสเถระกลาววา ความกําหนดวา ผนู ี้เปนสมณะน่นั แลเปนประ-มาณ. ถา แมไมใ ชว สิ ัย, ไมม ีทกุ กฏ เพราะวัตตเภทเทาน้ัน แตคงเปน รตั ติเฉทแท. บทวา อโุ ปสเถ มคี วามวา จรงิ อยู ภิกษอุ าคนั ตุกะทง้ั หลายยอ มมาดวยต้งั ใจวา เราจักทันอุโบสถ แมไ ปดว ยฤทธ์ิทราบวา เปนวันอุโบสถ ยอมลงทําอุโบสถกรรม. เพราะเหตนุ ั้น จงึ ควรบอกในวันอุโบสถ เพื่อชาํ ระอาคนั ตุกะ. แมใ นปวารณา ก็มีนัยเหมือนกัน ผอู าพาธ นั้น ไดแ ก ภกิ ษุผูไมสามารถจะไป. แมว ินจิ ฉัยในคาํ วา ทูเตน นี้ พึงทราบวา ไมควรสงอนุป-สัมบนั ไป. พึงสงภิกษใุ หไ ปบอก. บทวา อภิกขฺ โุ ก อาวาโส ไดแก วัดที่วา ง, ภกิ ษแุ มร ูปเดยี ว ไมม ีในวัดใด ไมพงึ ไปเพ่ือตอ งการอยใู นวัดน้ัน เพราะราตรี

พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 265ทอ่ี ยใู นวัดวา งเปลาน้ัน เปน ราตรีท่ไี มยอมใหน ับ. แตจะอยูกับภกิ ษปุ ก-ตตั ตะ สมควรอยู. แตเมอ่ื อนั ตราย ๑๐ อยางมอี ยู ถึงแมว า ราตรีทง้ั หลายจะไมยอมใหนับ ก็ควรไปเสยี เพอื่ พน จากอนั ตรายแท. เพราะเหตุนั้น พระผูมพี ระภาคเจาจึงตรัสวา เวน แตอ ันตราย ดังน้ี จงึ ไมควรทาํ วินัยกรรมกับภกิ ษุผเู ปน นานาสังวาส. แมเพราะไมบอกแกภกิ ษุนานาสงั วาสเหลา นน้ั รัตตเิ ฉทยอมไมมี, ทีอ่ ยนู ั้นยอ มเปน เหมอื นอาวาสไมมีภิกษนุ ง่ั เอง เพราะเหตนุ ั้น พระผูมพี ระภาคเจาจงึ ตรสั คาํ นี้วา ในอาวาสใดเลา ภิกษุทัง้ หลายเปนนานาสงั วาส? คาํ ทเี่ หลือมนี ัยดังกลา วแลวในอุโบสถักขันธกะนนั่ แล. วินิจฉยั ในบทวา เอกจฺฉนเฺ น อาวาเส เปนตน พึงทราบดงั น:ี้ - เสนาสนะทที่ ําไวเพ่ือประโยชนแ กก ารอยู ช่อื วาอาวาส. สถานมอี าทอิ ยางน้ี คือ เรือนเจดีย เรือนโพธิ รา นเก็บไมกวาด รานเก็บไม โรงน้ํา เวจกุฎี ซมุ ประตู ชือ่ อนาวาส. หมวด ๒ แหงอาวาสและอนาวาสนน้ั พระผูมพี ระภาคเจาทรงถือเอาดวยบทที่ ๓. ในมหาปจ จรี กลาววา ภิกษุผูถูกสงฆย กวตั รแลว ไมไดเพ่ือยูในโอกาสเหลานี้ โอกาสอันใดอนั หนึง่ ซง่ึ มงุ เปนอนั เดียวกนั กําหนดดวยท่ีตกแหง นํ้าจากชายคา. แตป าริวาสิกภิกษุ ไมไดเ พื่ออยภู ายในอาวาสเทานน้ั .

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 266 สว นมหาอรรถกถาแกวา การอยูนนั้ หา มดว ยชายคา โดยไมแปลกกนั . ในกรุ นุ ทแี กว า การที่ปารวิ าสกิ ภิกษุและภกิ ษุท่ีถูกสงฆย กวตั รอยูรวมกบั ภิกษุปกตตั ตะ ในท่ีมงุ ดวยเคร่ืองมุง ๕ อยา ง เหลานั้น ทานหา มดว ยชายคา. เพราะเหตนุ ัน้ ปารวิ าสิกภกิ ษุไมควรอยูในทมี่ ุงอนั เดยี วกัน แมมีอุปจารตางๆ กัน. กถ็ าวา เปนภกิ ษุผปู กตตั ตะ แมอ ปุ สมบทในวนันน้ั เขา ไปนอนกอนในโอกาสทม่ี งุ อนั เดยี วกนั นี้ ปารวิ าสกิ ภกิ ษุ แมมพี รรษา ๖๐ เขาไปทหี ลังรอู ยแู ละนอน เปนรัตตเิ ฉทดว ย เปนทกุ กฏเพราะวัตตเภทดว ย. เมอ่ื ไมรู เปน แตร ตั ติเฉท ไมเ ปน ทุกกฏเพราะวตั ตเภท. แตถาเม่อื ปารวิ าสกิ ภกิ ษุนน้ั นอนกอ น ภกิ ษุผปู กตตั ตะเขา ไปนอนทหี่ ลงั , และปาริวาสกิ ภิกษุรอู ยู, เปนรตั ตเิ ฉทดวย เปน ทุกกฏเพราะวัตตเภทดวย. ถาไมร ู, เปน เพียงรัตตเิ ฉท ไมเปน ทกุ กฏเพราะวตั ตเภท. สองบทวา วฏุ าตพพฺ  นิมนเฺ ตตพโฺ พ มีความวา ปาร-ิวาสิกภิกษุ เห็นภิกษุปกตัตตะ แมอุปสมบทในวนั นน้ั พงึ ลุกขึ้นแท,และครัน้ ลกุ ข้นึ แลว ไมพ ึงหลบหนา ไปเสีย ดวยคิดวา เรานัง่ สบายแลวภกิ ษนุ ้ที ําใหเราตอ งลุก. ภิกษปุ กตัตตะนน้ั อนั เธอพึงนมิ นต อยา งน้ีแลวา ทานอาจารย นอี่ าสนะ, นิมนตน ั่งบนอาสนะน่.ี ฝา ยนวก-ภิกษผุ ูป กตตั ตะ ไมค วรไปยังสํานักพระเถระผูอ ยูปรวิ าส ดว ยต้งั ใจวาเราจะทาํ พระมหาเถระใหเปน ผูกระอกั กระอว น.

พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 267 บทวา เอลาสเน มีความวา บนเตียงหรอื ตง่ั ซึ่งเปนทน่ี ่ังแหง ภิกษผุ มู ีพรรษาเทากนั . บทวา น ฉมาย นสิ ินฺเน มคี วามวา เปนภิกษผุ ปู กตัตตะน่ังบนแผนดนิ ฝา ยปารวิ าสกิ ภกิ ษไุ มพงึ น่งั บนอาสนะ โดยที่สุดแมเ ปนเคร่อื งลาดหญาหรอื แมเ ปน เนินทรายที่สงู กวา แตจ ะนงั่ เวนอปุ จาระไว ๑๒ศอก ควรอยู. บทวา น เอกจงกฺ เม มีความวา ไมพ งึ จงกรมในท่ีจงกรมอันเดยี วกับภิกษผุ ปู กตัตตะดงั เพ่ือนกนั . คาํ วา ฉมาย จงฺกมติ ความวา เมื่อภกิ ษผุ ปู กตตั ตะจงกรมอยบู นแผน ดนิ . อกี อยางหน่ึง นเ้ี องเปนบาลี. และพงึ ทราบเนือ้ ความในคาํ นี้ดงั ตอไปนี:้ - เมื่อภิกษผุ ปู กตตั ตะจงกรมอยู ณ พ้นื ดนิ ที่ไมไ ดป นแดน ไมพึงจง-กรม ณ ท่ีจงกรมที่ปน แดนเกลี่ยทรายประกอบราวทีเ่ หนี่ยว แมเ ปน ทีต่ า่ํและไมจาํ เปนตองกลา วอะไรในทีจ่ งกรมที่พรอ มเสรจ็ ดวยการกอ อิฐ ท้ังแวดลอมดว ยกําแพงแกว. แตถ ามีจงกรมที่ลอมดว ยกาํ แพงประกอบดวยซมุ ประตู หรอื วามีท่ีจงกรมที่กาํ บังดี ณ ระหวา งเขาระหวา งปา และระหวา งกอไม; จะจงกรมในทีจ่ งกรมเชน น้นั สมควรอยู, จะเวน อุปจาระจงกรม ณ ที่จงกรมแมไมไดกาํ บัง กค็ วร. วินิจฉัยในคําวา วุฑฒฺ ตเรน น้ี พงึ ทราบดังนี้:-

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 268 ในกรุ นุ ทีแกวา ถาเมื่อปารวิ าสิกภิกษุผูแกก วานอนกอน ฝายปาริวาสิกภกิ ษุ (ผูอ อ นกวา) รอู ยู นอนทหี ลงั เปนรตั ติเฉทดวยเปน ทุกกฏเพราะวตั ตเภทดวยแกเ ธอ แตสําหรับปาริวาสกิ ภกิ ษุผูแ กก วาเปน เพยี งรตั ตเิ ฉท ไมเ ปนทกุ กฏเพราะวตั ตเภท. ผอู อนกวาไมรูน อน,ไมเ ปน วัตตเภทดว ยกันทัง้ ๒ ฝา ย, แตเ ปน รตั ตเิ ฉท. ถา เม่อื ปารวิ าสกิภกิ ษุผูออ นนอนกอน ผูแ กกวาจึงนอน, และผอู อนร,ู ราตรีของเธอยอมขาดดวย เปน ทกุ กฏเพราะวตั ตเภทเเกเธอดวย. ฝา ยผูแ กก วา เปนเพยี งรัตติเฉท ไมเ ปนวัตตเภท. ถาผอู อ นไมร,ู ไมเปนวตั ตเภทดวยกนัทง้ั ๒ ฝา ย แตค งเปน รัตตเิ ฉท ถา ท้งั ๒ ฝายนอนไมห ลงั ไมก อ นกัน,ผแู กกวา เปน เพยี งรัตติเฉท. ฝา ยผอู อนเปนท้งั รตั ตเิ ฉท ทั้งวตั ตเภท. ปารวิ าสิกภกิ ษุ ๒ รปู มีพรรษาเทา กัน รูปหนึ่งนอนกอ นรูปหนง่ึรอู ยูเทียว นอนทหี ลัง, ราตรขี องเธอผนู อนทีหลงั ยอ มขาดและเปนทกุ กฏเพราะวตั ตเภทแกเธอดวย. สาํ หรบั ผูน อนกอ น เปน เพียงรัตตเิ ฉทไมเ ปน วัตตเภท. ถาแมผูน อนทหี ลงั ก็ไมรู ไมมวี ตั ตเภทดวยกันทงั้ ๒ฝาย, แตคงเปนรัตติเฉท. หากแมทง้ั ๒ ฝา ยนอนไมห ลงั ไมกอนกัน.เปน รัตตเิ ฉทเทานนั้ ไมเปนวัตตเภทท้งั ๒ ฝา ย. กถ็ าปารวิ าสกิ ภิกษุ ๒ รูปพึงอยดู วยกนั . เธอพงึ รอู ัชฌาจารของกันและกนั จะพึงเปน ผไู มเคารพ หรือมคี วามเดือดรอนแลวตอ งอาบตั ทิ ่ีเลวทรามกวา หรอื สึกเสีย เพราะเหตุนั้น การนอนรว มกนั ของพวกเธอ พระผูม พี ระภาคเจาจึงทรงหามโดยประการทง้ั ปวงฉะนีแ้ ล. คําทเี่ หลอื พงึ ทราบตามนัยท่กี ลาวแลวน่ันแล.
































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook