พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 551 พทุ ธานุญาตใหระงับอธกิ รณดว ยติณวัตถารกะ พระผมู ีพระภาคเจารับสั่งกะภิกษุท้ังหลาย วาดงั น้ี :- [๖๒๖] ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย กพ็ วกภกิ ษใุ นธรรมวินัยนี้ เกิดความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงความววิ าทอยู ไดป ระพฤตลิ ะเมิดกจิ อันไมค วรแกสมณะเปนอนั มาก ท้งั ท่ีกลาวดวยวาจาและพยายามทําดวยกาย ถา พวกเธอในหมนู ั้นคดิ อยา งนว้ี า พวกเราเกดิ ความบาดหมางเกดิ ความทะเลาะ ถงึ ความววิ าทอยู ไดประพฤตลิ ะเมดิ กิจอนั ไมควรแกสมณะเปน อนั มาก ท้ังท่กี ลาวดว ยวาจาและพยายามทําดว ยกาย ถาพวกเราจักปรับกนั ดวยอาบัติเหลาน้ี บางทอี ธกิ รณน นั้ จะพงึ เปน ไปเพ่ือความรุนแรง เพอื่ ความรา ยกาจ เพื่อความแตกกันก็ได ดกู อนภิกษุทงั้ หลายเราอนญุ าตใหร ะงับอธิกรณเห็นปาน้ัน ดวยตณิ วตั ถารกะ..... วิธีระงบั [๖๒๗] ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย กแ็ ล สงฆพ งึ ระงับอยางนี้ ภกิ ษุทุก ๆ รปู พงึ ประชมุ ในท่ีแหง เดียวกนั คร้ันแลว ภิกษุผูฉ ลาดผสู ามารถ พงึ ประกาศใหส งฆทราบดว ยญัตติกรรมวาจา วาดงั น:ี้ - ญตั ตกิ รรมวาจาระงบั อธกิ รณดว ยติณวัตถารกะ ทานเจาขา ขอสงฆจงฟงขาพเจา พวกเราเกดิ ความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถงึ ความววิ าทอยู ไดประพฤติละเมดิ กิจอันไมสมควรแกส มณะเปน อนั มาก
พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 552 ทง้ั ท่กี ลาวดวยวาจาและพยายามทาํ ดว ยกาย ถา พวกเราจกั ใหป รบั กันดวยอาบัติเหลา นี้ บางทีอธกิ รณนนั้ จะพงึ เปน ไป เพ่อื ความรนุ แรง เพอื่ ความรา ยกาจ เพือ่ ความ แตกกนั ก็ได ถาความพรอ มพรงั่ ของสงฆถงึ ท่แี ลว สงฆ พึงระงับอธิกรณนด้ี ว ยตณิ วตั ถารกะ เวนอาบัตทิ ่ีมโี ทษ หนกั เวนอาบตั เิ นื่องดว ยคฤหัสถ บรรดาภิกษฝุ ายเดียวกัน ภกิ ษผุ ฉู ลาด ผูส ามารถ พงึ ประกาศใหฝ า ยของคนทราบดวยคณะญัตติกรรมวาจา วา ดังน้ี:- คณะญตั ติกรรมวาจา ขอทา นท้งั หลายจงพงึ ขาพเจา พวกเราเกิดความ บาดหมาง เกดิ ความทะเลาะ ถึงความววิ าทอยู ได ประพฤติละเมดิ กจิ อนั ไมค วรแกส มณะเปน อันมาก ท้ังท่ี กลา วดว ยวาจาและพยายามทาํ ดวยกาย ถา พวกเราจกั ปรับ กนั ดว ยอาบัตเิ หลา นี้ บางทีอธกิ รณนนั้ จะพึงเปนไปเพอ่ื ความรนุ แรง เพ่ือความรายกาจ เพือ่ ความแตกกนั ก็ได ถา ความพรอ มพรงั่ ของทา นทัง้ หลายถึงท่ีแลว ขาพเจาพงึ แสดงอาบตั ิของทา นทงั้ หลาย และอาบัตขิ องตนในทาม กลางสงฆดว ยติณวตั ถารกะ เวน อาบตั ทิ ่ีมีโทษหนัก เวน อาบัตเิ นื่องดว ยคฤหสั ถ เพอ่ื ประโยชนแกทานทั้งหลาย และเพือ่ ประโยชนแกต น.
พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 553 [๖๒๘] ลาํ ดับน้ัน บรรดาภกิ ษุฝา ยเดยี วกันอีกพวกหน่งึ ภิกษุผฉู ลาด ผูสามารถ พึงประกาศใหฝา ยของคนทราบดวยญตั ตกิ รรมวาจาวาดงั น้ี :- คณะญตั ติกรรมวาจา ขอทานท้ังหลายจงฟงขาพเจา พวกเราเกดิ ความ บาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถงึ ความวิวาทอยู ได ประพฤตลิ ะเมดิ กจิ อันไมค วรแกส มณะเปนอันมาก ทง้ั ที่ กลาวดว ยวาจาและพยายามทําดว ยกาย ถา พวกเราจกั ปรับ กันดว ยอาบัตเิ หลา นี้ บางทอี ธิกรณนน้ั จะพงึ เปนไป เพื่อ ความรนุ แรง เพ่ือความรา ยกาจ เพอ่ื ความแตกกันกไ็ ด ถาความพรอมพร่ังของทานทัง้ หลายถึงที่แลว ขา พเจา พึง แสดงอาบตั ิของทานท้ังหลาย และอาบตั ขิ องตน ใน ทามกลางสงฆด ว ยติณวตั ถารกะ เวนอาบตั ิท่ีมีโทษหนกั เวน อาบตั เิ นื่องดว ยคฤหัสถ เพื่อประโยชนแกทานทง้ั หลาย และเพ่อื ประโยชนแ กต น. [๖๒๙] บรรดาภิกษุฝายเดยี วกนั ภกิ ษผุ ูฉ ลาด ผูสามารถ พึงประกาศใหสงฆท ราบดว ยญตั ติทตุ ยิ กรรมวาจา วาดงั นี้ :- ญัตติทุติยกรรมวาจา ทานเจาขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา พวกเราเกดิ ความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถงึ ความวิวาทอยู ได
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 554ประพฤติละเมดิ กิจอนั ไมค วรแกส มณะเปน อันมาก ท้งั ท่ีกลาวดวยวาจาและพยายามทาํ ดวยกาย ถาพวกเราจักปรบักนั ดว ยอาบตั ิเหลานี้ บางทอี ธิกรณนั้นจะพงึ เปน ไป เพื่อความรนุ แรง เพื่อความรา ยกาจ เพ่ือความแตกกนั ก็ไดถา ความพรอมพรัง่ ของสงฆถ ึงท่แี ลว ขาพเจาพงึ แสดงอาบตั ิของทานเหลานี้ และอาบตั ิของตน ในทามกลางสงฆดวยติณวตั ถารกะ เวนอาบตั ิทมี่ โี ทษหนกั เวน อาบตั ิเนื่องดว ยคฤหสั ถ เพือ่ ประโยชนแ กท า นเหลานี้ และเพ่ือประโยชนแ กตน นี้เปน ญัตติ ทานเจาขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา พวกเราเกิดความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงความวิวาทอยู ไดประพฤติละเมดิ กิจอนั ไมควรแกสมณะเปน อันมาก ทง้ั ที่กลา วดวยวาจา และพยายามทําดว ยกาย ถาพวกเราจกัปรับกันดว ยอาบตั ิเหลา น้ี บางทอี ธิกรณน ั้นจะพงึ เปน ไปเพื่อความรุนแรง เพ่อื ความรา ยกาจ เพอ่ื ความแตกกนั ก็ได ขา พเจาแสดงอาบตั ิของทา นเหลานี้ และอาบตั ขิ องตน ในทา มกลางสงฆด วยติณวัตถารกะ เวนอาบัตทิ ี่มีโทษหนัก เวน อาบตั เิ น่ืองดวยคฤหัสถ เพือ่ ประโยชนแกท านเหลานี้ และเพ่อื ประโยชนแกตน การแสดงอาบัติเหลาน้ีของพวกเรา ในทา มกลางสงฆดวยตณิ วัตถารกะเวน อาบตั ทิ ี่มโี ทษหนกั เวนอาบตั ิเนือ่ งดว ยคฤหสั ถ ชอบ
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 555 แกท า นผูใด ทา นผนู ั้นพงึ เปน ผูนิง่ ไมชอบแกท า นผูใด ทานผนู ั้นพึงพดู อาบตั ิเหลา นข้ี องพวกเราเวนอาบตั ิทีม่ โี ทษหนกั เวนอาบตั ิเนอื่ งดวยคฤหัสถ ขาพเจาแสดงแลว ในทาม กลางสงฆด ว ยตณิ วัตถารกะ ชอบแกส งฆ เหตนุ น้ั จึงนิ่ง ขาพเจาทรงความนีไ้ ว อยางน.้ี [๖๓๐] ลําดับน้นั บรรดาภิกษฝุ า ยเดยี วกันอกี พวกหนง่ึ ภกิ ษุผูฉลาด ผสู ามารถ พึงประกาศใหสงฆทราบดวยญตั ตทิ ตุ ยิ กรรมวาจาวาดังน้ี. ญตั ตทิ ุตยิ กรรมวาจา ทา นเจา ขา ขอสงฆจ งฟงขา พเจา พวกเราเกิด ความบาดหมาง เกดิ ความทะเลาะ ถึงความววิ าทอยู ได ประพฤตลิ ะเมิดกิจอันไมควรแกส มณะเปนอนั มาก ทั้งท่ี กลาวดวยวาจาและพยายามทาํ ดว ยกาย ถา พวกเราจกั ปรบั กันดว ยอาบตั ิเหลา น้ี บางทีอธกิ รณน้นั จะพึงเปน ไป เพอื่ ความรนุ แรง เพอ่ื ความรา ยกาจ เพือ่ ความแตกกนั ก็ได ถา ความพรอมพรัง่ ของสงฆถ งึ ทแ่ี ลว ขา พเจา พึงแสดง อาบตั ิของทา นเหลาน้ี และอาบัติของตนในทา มกลางสงฆ ดว ยตณิ วตั ถารกะ เวนอาบตั ิที่มโี ทษหนัก เวน อาบัตเิ นอ่ื ง ดว ยคฤหัสถ เพ่อื ประโยชนแ กทา นเหลา นี้ และเพอ่ื ประโยชนแ กต น น้ีเปน ญตั ติ
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 556 ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟงขาพเจา พวกเราเกิด ความบาดหมาง เกดิ ความทะเลาะ ถงึ ความววิ าทอยู ได ประพดู ละเมิดกจิ อนั ไมค วรแกส มณะเปน อนั มาก ท้งั ที่ กลาวดว ยวาจาและพยายามทาํ ดว ยกาย ถา พวกเราจักปรับ กันดว ยอาบตั ิเหลา นี้ บางทอี ธิกรณนั้นจะพงึ เปนไป เพอื่ ความรนุ แรง เพอื่ ความรา ยกาจ เพือ่ ความแตกกนั กไ็ ด ขาพเจา แสดงอาบตั ขิ องทานเหลา นี้ และอาบัตขิ องตนใน ทามกลางสงฆด ว ยติณวตั ถารกะ เวน อาบตั ิทมี่ ีโทษหนกั เวนอาบัตเิ นือ่ งดวยคฤหัสถ เพือ่ ประโยชนแ กทานเหลา นี้ และเพอ่ื ประโยชนแกต น การแสดงอาบตั ิเหลานี้ของพวก เรา ในทา มกลางสงฆดว ยตณิ วัตถารกะ เวน อาบตั ทิ ม่ี ี โทษหนัก เวนอาบตั ิเนือ่ งดว ยคฤหสั ถ ชอบแกท า นผใู ด ทานผูน้ันพึงเปนผนู งิ่ ไมชอบแกท า นผใู ด ทา นผูนน้ั พงึ พดู อาบัติเหลาน้ีของพวกเรา เวน อาบัตทิ ีม่ ีโทษหนกั เวน อาบตั ิเนอ่ื งดวยคฤหัสถ ขาพเจา แสดงแลว ในทาม กลางสงฆด วยติณวตั ถารกะ ชอบแกส ง เหตนุ น้ั จงึ นิ่ง ขา พเจาทรงความนไี้ ว อยางนี้. [๖๓๑] ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย กแ็ ล ดว ยอาการอยางนี้ ภิกษุเหลานนั้ เปนผูออกแลว จากอาบตั เิ หลานั้น เวนอาบตั ทิ มี่ ีโทษหนัก เวนอาบตั ิเนื่องดว ยคฤหสั ถ เวน ผแู สดงความเห็นแยง เวน ผูไมไดอยใู นท่นี ้นั .
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 557 อธกิ รณ [๖๓๒] โดยสมัยนัน้ แล พวกภกิ ษุวิวาทกับพวกภิกษณุ บี า ง พวกภิกษณุ วี วิ าทกบั พวกภิกษบุ า ง ฝายพระฉนั นะเขา แทรกแซงพวกภิกษณุ ีแลวววิ าทกบั พวกภิกษุ ใหถอื ฝา ยภิกษุณี บรรดาภกิ ษุทเ่ี ปนผมู ักนอย....ตา งก็เพงโทษ ติเตยี นโพนทะนาวา ไฉนพระฉนั นะจงึ ไดเขา แทรกแซงพวกภกิ ษุณี แลววิวาทกับพวกภิกษุ ใหถอื ฝา ยภิกษุณเี ลา แลว กราบทูลเรอ่ื งน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ทรงสอบถามภกิ ษุทัง้ หลายวา ไดยนิวา ภกิ ษฉุ นั นะเขาเเทรกเเซงพวกภกิ ษณุ ี แลว วิวาทกบั พวกภกิ ษุ ใหถ อืฝายภกิ ษณุ ี จริงหรอื ภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทูลวา จริง พระพุทธเจา ขา พระผมู ีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตยี น.... ครนั้ แลวทรงทําธรรมีกถารับ ส่ังกะภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย อธกิ รณ ๔ นี้ คือววิ าทาธกิ รณ อนุวาทาธิกรณ อาปตตาธิกรณ กจิ จาธกิ รณ. อธิกรณ ๔ อยา ง ๑. วิวาทาธกิ รณ [๖๓๓] ในอธิกรณ ๔ อยา งนั้น วิวาทาธิกรณ เปนไฉน? ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย กภ็ ิกษทุ ั้งหลายในธรรมวนิ ยั น้ี ยอมววิ าทกนั วา ๑. น้เี ปน ธรรม นี้ไมเปนธรรม ๒. นเ้ี ปนวนิ ัย น้ีไมเ ปนวินยั
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 558 ๓. นี้พระตถาคตเจาตรัสภาษิตไว น้พี ระตถาคตเจา ไมไ ดตรสั ภาษติไว ๔. น้ีพระตถาคตเจา ทรงประพฤติมา นี้พระตถาคตเจา ไมไดทรงประพฤตมิ า ๕. น้พี ระตถาคตเจาทรงบัญญตั ไิ ว น้ีพระตถาคตเจาไมไ ดทรงบัญญัติไว ๖. นเ้ี ปน อาบัติ นไี้ มเ ปน อาบัติ ๗. นเี้ ปน อาบตั เิ บา นี้เปน อาบัติหนกั ๘. น้เี ปนอาบัติมสี ว นเหลือ นี้เปน อาบัติหาสวนเหลอื มไิ ด ๙. นเี้ ปน อาบัตชิ ว่ั หยาบ นีเ้ ปน อาบตั ไิ มชวั่ หยาบ. ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแกง แยง ความทุมเถยี งความกลาวตางกนั ความกลาวประการอ่นื การพูดเพอื่ ความกลดั กลมุ ใจความหมายม่นั ในเรือ่ งน้นั อนั ใด นีเ้ รยี กวา วิวาทาธกิ รณ. ๒. อนุวาทาธิกรณ [๖๓๔] ในอธกิ รณ ๔ อยางนั้น อนุวาทาธิกรณ เปน ไฉน?ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย อนงึ่ ภิกษทุ ้ังหลายในธรรมวินัยนี้ ยอมโจทภกิ ษุดว ยศีลวิบัติ อาจารวิบตั ิ ทฏิ ฐิวิบัติ หรอื อาชีววบิ ัติ การโจท การกลาวหา การฟอ งรอง การประทวง ความเปน ผคู ลอ ยตาม การทาํความอุตสาหะโจท การตามเพิม่ กาํ ลงั ให ในเร่ืองน้ันอนั ใด นเ้ี รยี กวาอนุวาทาธกิ รณ.
พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 559 ๓. อาปต ตาธิกรณ [๖๓๕] ในอธิกรณ ๔ อยางน้ัน อาปต ตาธกิ รณ เปน ไฉน?อาบัตทิ ง้ั ๕ กอง ซ่งึ อาปต ตาธกิ รณ อาบตั ิทงั้ ๗ กอง ชื่ออาปตตาธกิ รณ นี้เรยี กวา อาปตตาธิกรณ. ๔. กิจจาธกิ รณ [๖๓๖] ในอธิกรณ ๔ อยา งน้ัน กจิ จาธิกรณ เปน ไฉน? ความเปนหนาที่ ความเปน กรณียแ หง สงฆอ นั ใด คือ อปโลกนกรรม ญัตติกรรม ญตั ติทตุ ิยกรรม ญัตติจตตุ ถกรรม น้ีเรียกวา กิจจาธกิ รณ. อธิกรณ ๔ อยาง จบ มูลแหงวิวาทาธกิ รณ [๖๓๗] อะไรเปนมลู แหงววิ าทาธกิ รณ รากแหงการเถียงกนั ๖อยา ง เปน มูลแหงววิ าทาธิกรณ รากแหง อกศุ ลท้งั ๓ เปน มลู แหง วิวาทาธกิ รณ รากแหง กศุ ลท้งั ๓ เปนมลู แหง วิวาทาธกิ รณ รากแหงการเถียงกัน ๖ อยา ง เปน มลู แหงววิ าทาธิกรณ เปนไฉน? ดูกอนภกิ ษุท้งั หลาย ก็ภกิ ษุในธรรมวนิ ยั นี้ เปน ผมู กั โกรธ เปนผูถือโกรธ ภกิ ษุทม่ี ักโกรธ ถือโกรธนนั้ ยอมไมม คี วามเคารพยาํ เกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอ ยู ยอมไมท าํ ใหบรบิ ูรณแมในสิกขา ภกิ ษุที่ไมมคี วามเคารพ ยาํ เกรง ในพระศาสดา ในพระธรรมในพระสงฆ แมใ นสกิ ขาก็ไมท ําใหบริบรู ณน้นั ยอ มยังวิวาทใหเ กดิ ใน
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 560สงฆ การววิ าทยอ มเปน ไปเพ่อื ความไมเกอื้ กูลแกชนมาก เพอื่ ไมเ ปนสุขแกช นมาก เพือ่ ความพนิ าศแกชนมาก เพอื่ ความไมเ กอื้ กลู เพอื่ ทุกขแกเ ทพยดาและมนุษย ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย ถาพวกเธอเล็งเห็นรากแหงการเถยี งกันเห็นปานน้ี ทงั้ ภายในและภายนอกได พวกเธอในบรษิ ทั น้ันพงึ พยายามละรากแหง การเถยี งกันอันลามกนัน้ แหละเสยี ถา พวกเธอไมเ ล็งเห็นรากแหงการเถียงกันเหน็ ปานน้ี ท้งั ภายในและภายนอก พวกเธอในบริษทั นั้นพึงปฏิบตั ิเพือ่ ความยืดยาวไป แหงรากแหงการเถยี งกันอันลามกนัน้ แหละ ความละรากแหงการเถยี งกนั อันลามกนัน้ ยอมมีดว ยอยางน้ี ความยดื เยือ้ แหงรากแหงการเถียงกันอันลามกน้ัน ยอมมีตอไปดวยอยา งนี.้ [๖๓๘] ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย ก็ขออน่ื ยังมีอกี ภิกษุเปน ผลู บหลูตเี สมอทาน..... ภกิ ษุเปน ผมู ีปรกตอิ ิสสา ตระหนี่.... ภกิ ษเุ ปนผูอ วดดี เจามายา... ภิกษุเปน ผมู คี วามปรารถนาลามก มคี วามเห็นผดิ .... ภกิ ษุเปนผูถอื แตค วามเหน็ ของตน ถืออยางแนน แฟน ปลดไดยาก ภกิ ษุผูถอื แตค วามเห็นของตน ถอื อยา งแนน แฟน ปลดไดย ากนนั้ยอมไมม ีความเคารพยาํ เกรง ในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอยู ยอมไมทําใหบรบิ รู ณแมใ นสิกขา ภกิ ษุผูไมม ีความเคารพยาํ เกรง ในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอยู แมในสกิ ขาก็ไมทาํ ใหบ รบิ ูรณน นั้ ยอ มยงั ววิ าทใหเ กดิ ในสงฆ การวิวาทยอมเปนไปเพ่อื ความไมเก้ือกูลแกช นมาก เพื่อไมเปน สขุ แกชนมาก เพอื่ ความ
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 561พินาศแกข นมาก เพ่ือความไมเกอื้ กลู เพ่ือทุกขแ กเ ทพยดาและมนษุ ยดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย ถาพวกเธอเล็งเห็นรากแหงการเถยี งกันเห็นปานน้ีทัง้ ภายในและภายนอกได พวกเธอในบรษิ ัทน้นั พงึ พยายามมละรากแหงการเถยี งกันอันลามกน้นั แหละเสีย ถาพวกเธอไมเลง็ เหน็ รากแหง การเถยี งกันเห็นปานนี้ ทั้งภายในและภายนอก พวกเธอในบรษิ ทั นนั้ พึงปฏบิ ตั ิเพอื่ ความยืดเยือ้ แหง รากแหง การเถียงกันอนั ลามกน้นั แหละ ความละรากแหง การเถยี งกนั อันลามกนั้น ยอ มมดี วยอยางนี้ ความยดื เย้อื แหงรากแหงการเถียงกนั อนั ลามกนน้ั ยอมมีตอไปดวยอยา งนี้ รากแหงการวิวาท ๖ อยา งนี้ เปน มลู แหง วิวาทาธิกรณ. อกุศลมลู ๓ [๖๓๙] รากแหงอกศุ ล ๓ เปน มูลแหง ววิ าทาธิกรณ เปน ไฉน?ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ก็ภิกษทุ ้ังหลายในธรรมวนิ ยั นี้ มจี ิตโลภววิ าทกนัมีจติ โกรธวิวาทกัน มีจติ หลงววิ าทกันวา ๑. นี้เปนธรรม นีไ้ มเปนธรรม ๒. นเ้ี ปนวนิ ัย นี้ไมเ ปน วินัย ๓. นพ้ี ระตถาคตเจาตรสั ภาษติ ไว นพี้ ระตถาคตเจา ไมไ ดต รัสภาษิตไว ๔. น้พี ระตถาคตเจาทรงประพฤติมา น้ีพระตถาคตเจาไมไ ดทรงประพฤติมา ๕. นีพ้ ระตถาคตเจาทรงบัญญตั ไิ ว นพ้ี ระตถาคตเจา ไมไดท รงบญั ญตั ไิ ว
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 562 ๖. นีเ้ ปนอาบตั ิ นี้ไมเปน อาบตั ิ ๗. น้ีเปน อาบัติเบา นเ้ี ปนอาบัติหนกั ๘. นเี้ ปนอาบัติมสี วนเหลือ นี้เปน อาบัตหิ าสว นเหลือมไิ ด ๙. น้ีเปน อาบัติชวั่ หยาบ น้เี ปนอาบัติไมช ่วั หยาบ รากแหงอกุศล ๓ อยางน้ี เปน มลู แหงววิ าทาธิกรณ. กศุ ลมลู ๓ [๖๔๐] รากแหง กุศล ๓ เปนมูลแหงววิ าทาธิกรณ เปนไฉน ?ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย ก็ภกิ ษทุ ้ังหลายในธรรมวินยั น้ี มีจติ ไมโ ลภวิวาทกันมีจิตไมโกรธววิ าทกัน มีจติ ไมห ลงวิวาทกันวา ๑. น้ีเปน ธรรม น้ไี มเปน ธรรม...... ๙. นี้เปน อาบัติชว่ั หยาบ นเี้ ปน อาบัติไมชว่ั หยาบ. รากแหง กุศล ๓ อยางน้ี เปนมลู แหง วิวาทาธิกรณ. มลู แหงอนุวาทาธกิ รณ [๖๔๑] อะไรเปนมูลแหงอนุวาทาธิกรณ รากแหงการโจท ๖อยาง เปน มลู แหงอนวุ าทาธิกรณ รากแหง อกุศลทั้ง ๓ เปน มลู แหงอนุวาทาธิกรณ รากแหงกศุ ลทัง้ ๓ เปน มูลแหงอนุวาทาธิกรณ แมก ายกเ็ ปน มลู แหงอนุวาทาธิกรณ แมวาจากเ็ ปน มูลแหงอนุวาทาธกิ รณ. [๖๔๒] รากแหงการโจท ๖ อยา ง เปน มลู เหงอนวุ าทาธิกรณเปน ไฉน? ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย ก็ภกิ ษใุ นธรรมวินยั นี้ เปนผมู กั โกรธถือโกรธ ภิกษุท่ีมักโกรธ ถอื โกรธนนั้ ยอมไมม ีความเคารพยาํ เกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอ ยู ยอมไมท าํ ใหบรบิ รู ณแ ม
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 563ในสิกขา ภกิ ษุทไี่ มเ คารพยํากรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอยู แมใ นสิกขาก็ไมท าํ ใหบ รบิ ูรณนน้ั ยอ มยงั การโจทกันใหเกิดในสงฆ การโจทยอมเปนไปเพื่อความไมเกอื้ กูลแกชนมาก เพ่อื ไมเ ปนสขุ แกช นมาก เพ่อื ความพินาศแกชนมาก เพ่อื ความไมเ กื้อกลู เพอื่ทกุ ขแกเ ทพดาและมนษุ ย ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย ถาพวกเธอเลง็ เหน็รากแหง การโจทกันเห็นปานน้ี ท้ังภายในและภายนอกได พวกเธอในบริษทั นน้ั พึงพยายามละรากแหงการโจทกันอันลามกนั้นแหละเสีย ถาพวกเธอไมเ ล็งเห็นรากแหงการโจทกันเหน็ ปานนี้ ทงั้ ภายในและภายนอกพวกเธอในบรษิ ทั น้ันพงึ ปฏิบัติเพือ่ ความยืดเยือ้ แหงราก แหง การโจทกนัอนั ลามกนน้ั แหละ ความละรากแหง การโจทกันอนั ลามกน้ัน ยอ มมดี วยอยางน้ี การยดื เย้อื แหงรากแหง การโจทกนั อันลามกนัน้ ยอมมีตอไปดวยอยางนี้ . [๖๔๓] ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย กข็ อ อนื่ ยังมอี กี ภิกษุเปน ผูล บหลูตีเสมอทา น ภกิ ษเุ ปนผูมีปกตอิ สิ สา ตระหน่.ี ... ภิกษุเปนผอู วดดี เจา มายา..... ภิกษเุ ปน ผคู วามปรารถนาลามก มีความเหน็ ผดิ ..... ภิกษุเปนผูถือแตความเห็นของตน ถอื อยา งแนน แฟน ปลดไดยาก ภิกษุท่ีถอื แตความเหน็ ของตน ถอื อยางแนนแฟน ปลดไดย ากน้ันยอ มไมมคี วามเคารพยําเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 564อยู ยอมไมทําใหบ ริบูรณแ มในสกิ ขา ภิกษทุ ่ีไมมีความเคารพยาํ กรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆอ ยู เเมในสกิ ขา กไ็ มท ําใหบริบูรณน ้นั ยอมยังการโจทกันใหเ กิดในสงฆ การโจทกนั ยอ มเปนไปเพ่อื ความไมเ ก้อื กูลแกช นมาก เพอ่ื ไมเปนสุขแกช นมาก เพ่ือความพนิ าศแกช นมาก เพอ่ื ความไมเ กื้อกลู เพ่อื ทุกขแ กเทพดาและมนุษยดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ถา พวกเธอเลง็ เหน็ รากแหง การโจทกันเหน็ ปานน้ี ท้งัภายในและภายนอกได พวกเธอในบรษิ ัทนัน้ พงึ พยายามละรากแหงการโจทกันอนั ลามกน้นั แหละเสีย ถา พวกเธอไมเ ลง็ เห็นรากแหง การโจทกนั เหน็ ปานน้ี ท้ังภายในเเละภายนอก พวกเธอในบริษทั น้นั พงึปฏิบตั ิเพือ่ ความยดื เยื้อแหง รากแหงการโจทกันอันลามกนัน้ แหละ ความละรากแหงการโจทกนั อนั ลามกน้ัน ยอ มมดี วยอยา งนี้ ความยดื เยอื้ แหงรากแหงการโจทกนั อนั ลามกนน้ั ยอมมตี อไปดวยอยา งน้ี รากแหง การโจทกนั ๖ อยางน้ี เปน มูลแหง อนุวาทาธกิ รณ. อกุศลมลู ๓ [๖๔๔] อกศุ ลมูล ๓ อยา ง เปนมูลแหง อนุวาทาธกิ รณเ ปน ไฉน?ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย กภ็ กิ ษุท้ังหลายในธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มมีจิตโลภโจทยอมมีจิตโกรธโจท ยอ มมจี ติ หลงโจทภกิ ษุ ดวยศลี วบิ ัติ อาจารวบิ ตั ิทฏิ ฐวิ ิบัติหรืออาชวี วิบัติ อกุศลมลู ๓ อยา งนี้ เปน มลู แหงอนวุ าทาธิกรณ กุศลมูล ๓ [๖๔๕] กุศลมูล ๓ อยาง เปน มูลแหงอนวุ าทาธิกรณ เปน ไฉน?ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ก็ภิกษุท้ังหลายในธรรมวินยั น้ี ยอ มมจี ติ ไมโลภโจท
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 565ยอมมีจิตไมโ กรธโจท ยอมมจี ิตไมห ลงโจทภิกษุ ดวยศลี วบิ ตั ิ ทฏิ ฐวิ บิ ตั ิหรอื อาชวี วิบตั ิ กศุ ลมูล ๓ อยางน้ี เปน มลู แหง อนวุ าทาธกิ รณ. กาย [๖๔๖] อนึ่ง กาย เปนมูลแหง อนวุ าทาธิกรณ เปน ไฉน ?ภิกษุบางรูปในธรรมวินยั นี้ เปนผูม ีผิวพรรณนารงั เกียจ ไมน า ดู มีรปู รางเลก็ มีอาพาธมาก เปนคนบอด งอย กระจอก หรอื อมั พาตภิกษุท้ังหลายยอ มโจทภิกษนุ ั้น ดวยกายใด กายนี้ เปน มูลแหงอนุวาทาธกิ รณ. วาจา [๖๔๗] อนงึ่ วาจา เปนมลู แหง อนวุ าทาธกิ รณ เปนไฉน?ภกิ ษบุ างรูปในธรรมวินยั นี้ เปน คนพดู ไมดี พูดไมชัด พดู ระรานภิกษทุ ง้ั หลายยอมโจทภกิ ษนุ ้นั ดว ยวาจาใด วาจาน้ี เปน มูลแหง อนุวาทาธกิ รณ. มลู แหง อาปต ตาธกิ รณ [๖๔๘] อะไรเปนมลู แหงอาปตตาธิกรณ? สมฏุ ฐานแหงอาบัติ ๖ อยา ง เปน มลู แหง อาปต ตาธกิ รณ คือ:- ๑. อาบตั ิเกดิ ทางกาย ไมใชทางวาจา ไมใ ชท างจิต กม็ ี ๒. อาบัตเิ กดิ ทางวาจา ไมใชท างกาย ไมใชท างจติ ก็มี ๓. อาบตั เิ กิดทางกายกับวาจา ไมใ ชทางจติ กม็ ี ๔. อาบัตเิ กิดทางกายกับจิต ไมใ ชท างวาจา ก็มี ๕. อาบตั ิเกิดทางวาจากับจติ ไมใ ชท างกาย ก็มี
พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 566 ๖. อาบตั เิ กดิ ทางกาย วาจา และจิต กม็ ี. สมุฏฐานแหงอาบตั ิ ๖ อยา งน้ี เปน มลู แหง อาปตตาธิกรณ. มูลแหง กจิ จาธิกรณ [๖๔๙] อะไรเปน มูลแหง กิจจาธิกรณ? สงฆเ ปนมูลอนั หน่ึงแหงกจิ จาธกิ รณ อธกิ รณเปนกศุ ล อกศุ ล และอัพยากฤต [๖๕๐] วิวาทาธิกรณเ ปนกุศล อกศุ ล อพั ยากฤต ววิ าทาธิกรณเปนกุศลก็มี เปนอกุศลก็มี เปน อพั ยากฤตกม็ ี. [๖๕๑] บรรดาววิ าทาธกิ รณน้นั ววิ าทาธิกรณ เปนอกศุ ล เปนไฉน? ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กภ็ กิ ษุทง้ั หลายในธรรมวินยั นี้ มีจติ เปนอกศุ ลวิวาทกนั วา ๑. นเี้ ปนธรรม นไี้ มเปนธรรม.... ๙. นี้เปน อาบัตชิ ว่ั หยาบ น้ีเปนอาบตั ไิ มช ่วั หยาบ. ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแกง แยง ความทุมเถียงการกลาวตา งกนั การกลาวโดยประการอื่น การพูดเพ่ือความกลัดกลุมใจความหมายมั่นในเร่ืองน้นั อันใด น้เี รียกวา วิวาทาธกิ รณเปนอกศุ ล. [๖๕๒] บรรดาวิวาทาธิกรณน้นั ววิ าทาธิกรณเ ปนกศุ ล เปนไฉน ? ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ก็ภกิ ษุท้งั หลายในธรรมวนิ ัยนีม้ ีจติ เปนกศุ ลววิ าทกันวา
พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 567 ๑. นี้เปน ธรรม น้ีไมเปน ธรรม.... ๙. นี้เปนอาบัตชิ วั่ หยาบ น้ีเปน อาบตั ไิ มชวั่ หยาบ ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแกงแยง ความทมุ เถียงการกลาวตางกัน การกลา วโดยประการอ่ืน การพูดเพ่ือความกลัดกลมุ ใจความหมายมัน่ ในเรอ่ื งนั้นอันใด น้เี รยี กวา วิวาทาธิกรณเปน กุศล. [๖๕๓] บรรดาวิวาทาธกิ รณน นั้ ววิ าทาธกิ รณเ ปนอัพยากฤตเปนไฉน? ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย ก็ภิกษทุ ง้ั หลายในธรรมวินยั น้ี มีจติ เปนอพั ยากฤตววิ าทกนั วา ๑. นเ้ี ปนธรรม น้ไี มเ ปน ธรรม.... ๙. น้ีเปนอาบัติช่ัวหยาบ นเี้ ปน อาบัติไมช ว่ั หยาบ ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแกงแยง ความทุมเถียงการกลาวตางกัน การกลาวโดยประการอ่ืน การพดู เพ่อื ความกลดั กลมุ ใจความหมายม่ันในเร่อื งน้ัน อันใด น้ีเรยี กวา วิวาทาธิกรณเปนอัพยากฤต [๖๕๔ ] อนวุ าทาธิกรณ เปนกุศล อกุศล อพั ยากฤต อนุวาทาธิกรณ เปนกุศลกม็ ี อกุศลก็มี อัพยากฤตก็มี. [๖๕๕] บรรดาอนุวาทาธิกรณน ัน้ อนุวาทาธกิ รณท ีเ่ ปน อกุศลเปน ไฉน? ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย กภ็ ิกษทุ ้งั หลายในธรรมวนิ ยั นี้ เปนผมู จี ิตเปน อกุศล ยอมโจทภิกษดุ วยศลี วบิ ตั ิ อาจารวบิ ตั ิ ทฏิ ฐวิ ิบตั ิ หรืออาชวี วิบตั ิ การโจท การกลาวหา การฟองรอ ง การประทว งความ
พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 568เปนผูคลอ ยตาม การทําความอุตสาหะโจท การตามเพ่มิ กาํ ลงั ให ในเร่ืองน้ัน อนั ใด น้ีเรยี กวา อนุวาทาธกิ รณเ ปน อกุศล. [๖๕๖] บรรดาอนุวาทาธกิ รณน้ัน อนวุ าทาธกิ รณท เ่ี ปน กุศลเปน ไฉน? ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย กภ็ กิ ษุท้งั หลายในธรรมวินยั น้ี เปน ผมู จี ติเปน กศุ ล ยอ มโจทภิกษดุ วยศลี วิบตั ิ อาจารวบิ ัติ ทิฏฐิวบิ ตั ิ หรอือาชีววิบัติ การโจท การกลา วหา การฟอ งรอง การประทวง ความเปนผคู ลอยตาม การทาํ ความอุตสาหะโจท การตามเพมิ่ กาํ ลังให ในเรอ่ื งนั้น อนั ใด น้ีเรียกวา อนุวาทาธิกรณเ ปนกศุ ล [๖๕๗] บรรดาอนวุ าทาธิกรณน้นั อนวุ าทาธกิ รณท่ีเปนอัพยากฤตเปน ไฉน? ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็ภิกษทุ ัง้ หลายในธรรมวินยั นี้ เปน ผมู ีจิตเปน อพั ยากฤต ยอมโจทภิกษุดวยศีลวิบตั ิ อาจารวบิ ตั ทฏิ ฐิวิบตั ิ หรืออาชีววิบัติ การโจท การกลาวหา การฟอ งรอ ง การประทว งความเปนผูคลอยตาม การทาํ ความอตุ สาหะโจท การตามเพมิ่ กาํ ลงั ให ในเรือ่ งนนั้ อันใด น้ีเรียกวา อนุวาทาธิกรณเปนอพั ยากฤต [๖๕๘] อาปต ิตาธกิ รณเ ปน อกุศล อพั ยากฤต อาปต ตาธกิ รณเปนอกุศลก็มี อัพยากฤตก็มี อาปติตาธิกรณเปน กศุ ลไมมี [๖๕๙] บรรดาอาปต ตาธกิ รณนัน้ อาปต ติ าธิกรณที่เปน อกศุ ลเปนไฉน?
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 569 ภิกษรุ ูอ ยู เขาใจอยู จงใจ ฝาฝน ละเมิดอาบตั ใิ ด นเ้ี รยี กวาอาปต ตาธิกรณเ ปน อกศุ ล บรรดาอาปตตาธิกรณน น้ั อาปต ตาธกิ รณท ี่เปนอัพยากฤต เปนไฉน? ภิกษุไมร ู ไมเ ขาใจ ไมจงใจ ไมฝ าฝน ละเมดิ อาบัติใดนเ้ี รียกวา อาปตตาธิกรณเ ปน อพั ยากฤต. [๖๖๐] กิจจาธิกรณเ ปน กศุ ล อกุศล อพั ยากฤต กิจจาธิกรณเปนกุศลก็มี อกุศลก็มี อัพยากฤตก็มี. [๖๖๑] บรรดากิจจาธกิ รณนั้น กิจจาธิกรณท่เี ปนอกุศล เปนไฉน? สงฆม ีจติ เปน อกุศล ทํากรรมอนั ใด คือ อปุ โลกนกรรม ญตั ต-ิกรรม ญตั ตทิ ตุ ยิ กรรม ญตั ตจิ ตตุ ถกรรม น้ีเรยี กวา กจิ จาธิกรณเปน อกุศล . [๖๖๒] บรรดากจิ จาธิกรณน ั้น กจิ จาธิกรณท ี่เปน กุศล เปน ไฉน?สงฆมีจติ เปนกุศล ทํากรรมอันใด คอื อุปโลกนกรรม ญตั ตกิ รรมญตั ตทิ ตุ ยิ กรรม ญัตติจตตุ ถกรรม นเี้ รยี กวา กิจจาธกิ รณเ ปนกุศล. [๖๖๓] บรรดากิจจาธกิ รณน ้นั กจิ จาธิกรณที่เปนอพั ยากฤต เปนไฉน ? สงฆมจี ิตเปน อัพยากฤต ทํากรรมอันใด คอื อุปโลกนกรรมฌัตตกิ รรม ญตั ตทิ ตุ ิยกรรม ญตั ตจิ ตุตถกรรม นเ้ี รียกวา กิจจาธิกรณเปนอพั ยากฤต.
พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 570 ววิ าทาธิกรณ [๖๖๔] ววิ าท เปนววิ าทาธกิ รณ วิวาทไมเปน อธิกรณ อธกิ รณไมเปน ววิ าท เปน อธกิ รณด ว ยเปนววิ าทดว ย ววิ าทเปน วิวาทาธิกรณก ม็ ีววิ าทไมเปนอธกิ รณก ็มี อธิกรณไ มเ ปน วิวาทกม็ ี เปน อธิกรณดวยเปนวิวาทดวยก็ม.ี [๖๖๕] บรรดาวิวาทนั้น วิวาททเ่ี ปน วิวาทาธิกรณ เปนไฉน ? ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย ก็ภกิ ษทุ ้งั หลายในธรรมวินยั นี้ ยอ มววิ าทกันวา ๑. น้เี ปน ธรรม น้ไี มเ ปนธรรม ..... ๙. นเี้ ปน อาบตั ชิ ว่ั หยาบ นเี้ ปนอาบตั ไิ มช่ัวหยาบ ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแกงแยง ความทมุ เถยี งความกลาวตา งกนั ความกลา วโดยประการอน่ื การพดู เพอ่ื ความกลัดกลมุ ใจ ความหมายมัน่ ในเรอื่ งน้นั อนั ใด น้ชี ื่อวา วิวาทเปน วิวาทาธิกรณ บรรดาววิ าทนั้น ววิ าทไมเ ปนอธิกรณ เปนไฉน ? มารดาววิ าทกบั บุตรบาง บุตรววิ าทกบั มารดาบา ง บิดาวิวาทกบั บตุ รบา ง บตุ รวิวาทกับบิดาบา ง พ่ีชายววิ าทกับนองชายบาง พ่ีชายววิ าทกับนอ งหญิงบา งนอ งหญิงววิ าทกบั พี่ชายบา ง สหายววิ าทกบั สหายบา ง น้ชี อ่ื วา วิวาทไมเ ปน อธิกรณ บรรดาววิ าทนน้ั อธกิ รณไ มเ ปน ววิ าท เปนไฉน?
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 571 อนวุ าทาธิกรณ อาปตตาธิกรณ กิจจาธิกรณ นี้ชื่อวา อธกิ รณไมเ ปน วิวาท บรรดาววิ าทน้นั อธิกรณ เปนอธิกรณดว ย เปน วิวาทดว ย เปนไฉน? ววิ าทาธกิ รณ เปนอธิกรณดว ย เปนวิวาทดว ย. อนวุ าทาธิกรณ [๖๖๖] การโจทเปน อนุวาทาธิกรณ การโจทไมเ ปนอธิกรณอธิกรณไมเ ปน การโจท เปน อธิกรณดวยเปนการโจทดวย การโจทเปนอนุวาทาธิกรณก็มี การโจทไมเปนอธิกรณก ม็ ี อธิกรณไมเ ปน การโจทกม็ ี เปน อธกิ รณด ว ยเปน การโจทดวยกม็ ี. [๖๖๗] บรรดาการโจทน้นั การโจททีเ่ ปนอนวุ าทาธิกรณ เปนไฉน ? ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย ภกิ ษุทั้งหลายในธรรมวนิ ยั นี้ ยอมโจทภิกษุดว ยศลี วบิ ัติ อาจารวบิ ัติ ทฏิ ฐวิ ิบตั ิ หรอื อาชีววบิ ัติ การโจท การกลา วหา การฟองรอง การประทวง ความเปนผคู ลอยตาม การทาํความอุตสาหะโจท การตามเพ่ิมกําลังให ในเรื่องนั้นอนั ใด นี้ชอ่ื วาการโจทเปน อนวุ าทาธิกรณ บรรดาการโจทนั้น การโจทท่ไี มเ ปนอธิกรณ เปน ไฉน ? มารดากลา วหาบุตรบาง บตุ รกลาวหามารดาบา ง บดิ ากลา วหาบุตรบาง บตุ รกลา วหาบดิ าบาง พช่ี ายกลา วหานอ งชายบาง พชี่ าย
พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 572กลา วหานอ งหญิงบาง นองหญงิ กลา วหาพีช่ ายบาง สหายกลาวหาสหายบาง น้ชี ่อื วา การโจทไมเ ปนอธิกรณ บรรดาอธิกรณน ้ัน อธกิ รณท ี่ไมเปน การโจท เปนไฉน ? อาปต ตาธิกรณ กิขจาธกิ รณ วิวาทาธกิ รณ น้ชี ่ือวา อธกิ รณไมเ ปนการโจท บรรดาอธิกรณน ัน้ อธิกรณท เ่ี ปนอธกิ รณด ว ย เปนการโจทดวยเปนไฉน? อนวุ าทาธกิ รณ เปนอธกิ รณด วย เปน การโจทดว ย. อาปตตาธิกรณ [๖๖๘] อาบตั ิเปนอาปต ตาธกิ รณ อาบัตไิ มเปน อธิกรณ อธิกรณไมเ ปน อาบตั ิ เปน อธิกรณดว ยเปนอาบัติดวย อาบัตเิ ปนอาปตตาธกิ รณกม็ ี อาบตั ไิ มเ ปนอธกิ รณก ม็ ี อธิกรณไมเ ปน อาบัตกิ ม็ ี เปนอธิกรณด วยเปน อาบตั ิดวยก็ม.ี [๖๖๙] บรรดาอธิกรณนนั้ อาบัตเิ ปน อาปต ตาธิกรณ เปน ไฉน ? อาบตั ิ ๕ กองเปน อาปต ตาธกิ รณบา ง อาบัติ ๗ กองเปนอาปตตาธิกรณบาง นี้ชื่อวา อาบัติเปน อาปตตาธิกรณ บรรดาอธิกรณน น้ั อาบตั ทิ ไี่ มเปน อธกิ รณ เปนไฉน ? โสดาบัติ สมาบัติ นี้ชื่อวา อาบตั ิไมเ ปน อธิกรณ บรรดาอธิกรณน ้นั อธิกรณท ี่ไมเ ปน อาบัติ เปนไฉน?
พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 573 กจิ จาธิกรณ ววิ าทาธกิ รณ อนวุ าทาธกิ รณ นชี้ ือ่ วา อธกิ รณไ มเปนอาบัติ บรรดาอธิกรณน น้ั อธกิ รณที่เปน อธิกรณดว ย เปน อาบตั ดิ ว ยเปนไฉน ? อาปต ตาธกิ รณ เปน อธิกรณดวย เปนอาบตั ิดว ย. กจิ จาธิกรณ [๖๗๐] กิจเปน กิจจาธกิ รณ กิจไมเ ปน อธิกรณ อธิกรณไ มเปนกจิ เปนอธกิ รณด ว ย เปนกจิ ดวย กจิ เปนกิจจาธิกรณกม็ ี กิจไมเปนอธกิ รณก ็มี อธิกรณไมเปนกิจก็มี เปนอธิกรณดว ยเปน กจิ ดว ยก็ม.ี [๖๗๑] บรรดาอธิกรณน ัน้ กจิ เปน กิจจาธิกรณ เปนไฉน ? ความเปน หนา ท่ี ความเปนกรณแี หง สงฆอ ันใด คือ อปโลกน-กรรม ญัตตกิ รรม ญตั ตทิ ตุ ยิ กรรม ญตั ติจตตุ ถกรรม นีช้ ่อื วา กิจเปนกจิ จาธกิ รณ บรรดาอธกิ รณน้ัน กจิ ไมเ ปนอธกิ รณ เปนไฉน ? กิจทจี่ ะตองทาํ แกพ ระอาจารย กจิ ทจ่ี ะตองทาํ แกพ ระอุปช ฌายะกิจทจ่ี ะตอ งทําแกภิกษเุ สมออุปชฌายะ กิจที่จะตองทาํ แกภ ิกษผุ เู สมอพระอาจารย นี้ช่ือวา กิจไมเ ปน อธิกรณ บรรดาอธิกรณน นั้ อธิกรณไมเ ปน กิจ เปนไฉน ? ววิ าทาธิกรณ อนุวาทาธิกรณ อาปต ตาธิกรณ นี้ชอ่ื วา อธกิ รณไมเปน กจิ
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 574 บรรดาอธิกรณนั้น อธิกรณทเี่ ปน อธกิ รณด วยเปน กิจดวย เปนไฉน ? กจิ จาธกิ รณ เปนอธกิ รณด วย เปนกจิ ดวย. วิวาทาธกิ รณระงับดวยสมถะ ๒ อยา ง [๖๗๒] วิวาทาธกิ รณย อ มระงับดว ยสมถะเทา ไร ? วิวาทาธกิ รณ ยอมระงบั ดวยสมถะ ๒ คอื สัมมขุ าวินยั ๑เยภุยยสิกา ๑ บางทวี ิวาทาธิกรณไ มอาศยั สมถะอยางหนึ่ง คอื เยภุยยสิกาพงึ ระงับดวยสมถะอยางเดียว คอื สมั มขุ าวินยั บางทีพงึ ตกลงกนั ได สมจริงดังที่ตรัสไววา ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ก็ภกิ ษทุ ้งั หลายในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมววิ าทกนั วา ๑. นีเ้ ปนธรรม นีไ้ มเปน ธรรม ๒. นีเ้ ปน วินัย นี้ไมเปนวนิ ยั ๓ นี้พระตถาคตเจา ตรัสภาษิตไว น้พี ระตถาคตเจาไมไดตรสัภาษติ ไว ๔. นี้พระตถาคตเจา ทรงประพฤติมา น้ีพระตถาคตเจา ไมไ ดท รงประพฤติมา ๕. น้พี ระตถาคตเจา ทรงบัญญัตไิ ว นีพ้ ระตถาคตเจา ไมไดท รงบญั ญัตไิ ว ๖. น้เี ปนอาบัติ นไี้ มเปนอาบัติ ๗. นเี้ ปนอาบตั ิเบา นี้เปน อาบตั ิหนัก
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาท่ี 575 ๘. นเ้ี ปน อาบตั ิมสี ว นเหลือ น้ีเปนอาบตั ไิ มม ีสว นเหลือ ๙. นีเ้ ปนอาบัตชิ วั่ หยาบ นีเ้ ปน อาบัตไิ มชว่ั หยาบ. ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย หากภิกษุพวกนนั้ สามารถระงบั อธกิ รณนน้ั ไดน้ีเรยี กวา อธิกรณร ะงับแลว ระงบั ดว ยอะไร? ดว ยสมั มขุ าวินยั ในสมั มุขาวินัยน้ัน มอี ะไรบา ง ? มคี วามพรอ มหนาสงฆ ความพรอ มหนาธรรม ความพรอ มหนาวนิ ัย ความพรอมหนาบคุ คล ก็ความพรอมหนาสงฆ ในสัมมขุ าวนิ ัยน้ันอยา งไร ? คอื ภิกษผุ ูเขา กรรมมีจาํ นวนเทา ไร ? ภิกษุเหลานั้นมาประชุมกนั นําฉันทะของผูควรฉนั ทะมา ผูอยูพรอ มหนา กนั ไมคัดคาน นช้ี ือ่ วา ความพรอ มหนา สงฆในสัมมขุ าวินัยน้นั กค็ วามพรอ มหนาธรรม ความพรอมหนาวนิ ยั ในสมั มขุ าวนิ ัยน้นัอยางไร? คือ อธิกรณน ัน้ ระงับโดยธรรม โดยวินัย และโดยสตั ถุศาสนใด น้ีชื่อวาความพรอมหนาธรรม ความพรอ มหนาวนิ ยั ในสมั มุขาวินัยนน้ั กค็ วามพรอ มหนา บคุ คลในสมั มขุ าวินยั นน้ั อยางไร? คือ โจทกและจาํ เลยท้งั สอง เปน คตู อสใู นคดอี ยพู รอมหนา กัน นี้ชอื่ วา ความพรอ มหนา บคุ คลในสัมมขุ าวินยั นั้น ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณระงับอยา งน้ี ผทู าํ รื้อฟน เปนปาจิตตียท ี่รอื้ ฟน ผใู หฉ ันทะตเิ ตยี น เปน ปาจิตตียทีต่ เิ ตยี น [๖๗๓] ดกู อนภิกษุท้งั หลาย ถาภิกษเุ หลา นัน้ ไมส ามารถระงับอธกิ รณน น้ั ในอาวาสนั้นได พวกเธอพึงไปสูอาวาสท่มี ีภิกษุมากกวา หาก
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 576พวกเธอกาํ ลงั ไปสอู าวาสน้ัน สามารถระงบั อธกิ รณไ ดในระหวา งทาง นี้เรยี กวา อธกิ รณระงบั แลว ระงับดว ยอะไร ดว ยสัมมขุ าวนิ ัย ในสมั มขุ าวนิ ยั นั้น มีอะไรบาง? มีความพรอ มหนาสงฆ ความพรอ มหนาธรรม ความพรอมหนาวินยั ความพรอมหนาบุคคล ก็ความพรอมหนา สงฆ ในสัมมุขาวินยั นน้ั อยางไร ? คือ ภิกษุผเู ขากรรมมจี าํ นวนเทาไร ภิกษเุ หลา น้นั มาประชมุ กนั นาํ ฉันทะของผูควรฉันทะมา ผูอ ยพู รอมหนา กันไมคัดคาน นช้ี ือ่ วา ความพรอมหนาสงฆ ในสมั มขุ าวนิ ัยน้ัน ก็ความพรอมหนา ธรรม ความพรอ มหนาวินยั ในสมั มุขาวินยั นนั้อยา งไร ? คือ อธกิ รณนน้ั ระงับโดยธรรม โดยวนิ ยั และโดยสัตถุศาสนใด น้ีชื่อวา ความพรอ มหนา ธรรม ความพรอ มหนาวินัย ในสมั มุขาวินัยน้ัน ก็ความพรอมหนา บุคคล ในสมั มขุ าวินยั นนั้ อยางไร ? คอื โจทกและจาํ เลยทั้งสอง เปน คูตอสใู นคดอี ยพู รอมหนากัน น้ชี อื่ วา ความพรอ มหนาบคุ คล ในสัมมขุ าวินยั น้ี ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ถา อธิกรณร ะงบั อยา งนี้ ผทู าํ รอ้ื ฟน เปนปาจติ ตียท ีร่ ือ้ ฟน ผูใหฉันทะติเตียน เปนปาจิตตียท่ตี ิเตยี น. [๖๗๔] ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย ถา ภกิ ษเุ หลา นน้ั กําลงั ไปสอู าวาสนน้ัไมส ามารถระงบั อธกิ รณนัน้ ในระหวางทางได พวกเธอไปถงึ อาวาสนั้นแลว พงึ กลา วกะภิกษุเจาถนิ่ วา ทา นทงั้ หลาย อธิกรณน ้ีเกดิ แลว อยางนี้
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 577บังเกิดแลว อยา งน้ี ขอโอกาสทา นทงั้ หลายจงระงบั อธกิ รณน ี้โดยธรรมโดยวินยั และโดยสัตถุศาสน ตามวถิ ที างทอี่ ธิกรณน ีจ้ ะพงึ ระงบั ดว ยดี ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ถาพวกภกิ ษเุ จาถ่ินเปน ผแู กก วา พวกภิกษุอาคันตุกะออนกวา พวกเธอพงึ กลาวกะภิกษุอาคนั ตุกะวา ทา นท้งั หลายขอนิมนตทา นทง้ั หลายจงรวมอยู ณ ท่ีควรสว นขางหนงึ่ สกั ครหู น่ึงตลอดเวลาที่พวกขา พเจา จะปรึกษากัน แตถ าพวกภกิ ษุเจาถ่นิ เปนผอู อ นกวา พวกภกิ ษุอาคันตกุ ะแกกวา พวกเธอพึงกลาวกะภกิ ษุอาคันตุกะวาทานทงั้ หลาย ถา เชน นน้ั ขอทา นท้ังหลายจงอยู ณ ท่ีนส้ี ักครหู น่ึงจนกวาพวกขา พเจาจะปรกึ ษากนั ดกู อนภิกษุท้ังหลาย ถา พวกภิกษเุ จา ถ่นิ กาํ ลังปรึกษา คิดกันอยางนวี้ า พวกเราไมส ามารถระงับอธกิ รณน้โี ดยธรรม โดยวนิ ัย และโดยสัตถุศาสน พวกเธอไมพงึ รบั อธกิ รณน ้ันไว แตถากาํ ลังปรกึ ษา คดิ กันอยางนว้ี า พวกเรา สามารถระงับอธกิ รณน้ไี ดโ ดยธรรม โดยวินัยและโดยสตั ถศุ าสน พวกเธอพึงกลา วกะพวกภิกษอุ าคนั ตกุ ะวา ทานทัง้หลาย ถา พวกทา นจกั แจง อธกิ รณน ต้ี ามท่เี กดิ แลว ตามทีอ่ ุบตั ิแลว แกพวกเรา เหมอื นอยา งพวกเราจักระงบั อธิกรณน้โี ดยธรรม โดยวินยั และโดยสตั ถศุ าสนฉันใด อธิกรณน ้ีจกั ระงับดว ยดีฉนั นน้ั อยางน้ีพวกเราจึงจักรับอธกิ รณน ้ี หากพวกทา นจกั ไมแ จงอธิกรณน ี้ตามทเ่ี กิดแลว ตามที่อุบัตแิ ลวแกพวกเรา เหมือนอยา งพวกเราจกั ระงับอธกิ รณน ้โี ดยธรรมโดยวินัย และโดยสัตถศุ าสน ฉนั ใด อธกิ รณนจ้ี กั ไมระงบั ดว ยดี ฉนั น้ันพวกเราจักไมรับอธกิ รณน ้ี
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนาที่ 578 ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุเจา ถ่นิ พึงรอบตอบอยา งนี้ แลวรับอธกิ รณนัน้ ไว พวกภกิ ษอุ าคันตุกะน้ัน พงึ กลา วกะพวกภิกษเุ จาถิน่ วาพวกขาพเจาจักแจง อธิกรณนต้ี ามทีเ่ กดิ แลว ตามทอี่ ุบัติแลว แกท านท้งัหลาย ถาทานสามารถระงับอธิกรณน้โี ดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถศุ าสน ระหวางเวลาเทา น้ีได อธกิ รณจ ักระงับ ดว ยดีเชนวา น้นั อยางนี้ พวกขา พเจา จกั มอบอธกิ รณแกท า นทัง้ หลาย พวกทานทั้งหลายไมสามารถระงับอธิกรณน้ีโดยธรรม โดยวินยั และโดยสตั ถศุ าสน ระหวา งเวลาเทา นี้ได อธกิ รณจักไมร ะงับดว ยดีเชนวาน้นั พวกขาพเจา จักไมมอบอธกิ รณน้แี กท านท้ังหลาย พวกขาพเจานีแ้ หละจกั เปน เจาของอธิกรณน ี้ ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกภิกษุอาคันตุกะพึงรอบคอบอยา งนี้ แลวจึงมอบอธิกรณแ กพ วกภิกษเุ จาถนิ่ ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ถา ภกิ ษเุ หลานั้นสามารถระงบั อธกิ รณน นั้ ไดนเ้ี รยี กวา อธกิ รณร ะงับดแี ลว ระงับดว ยอะไร ? ดว ยสมั มขุ าวนิ ัย ในสมั มุขาวนิ ัยนน้ั มีอะไรบาง ? มคี วามพรอมหนาสงฆ ความพรอ มหนาธรรม ความพรอมหนา วนิ ยั ความพรอ มหนา บุคคล.... ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ถา อธกิ รณระงบั แลวอยา งน้ี ผูทําร้ือฟนเปน ปาจิตตยี ทร่ี ้ือฟน ผูใหฉันทะตเิ ตียน เปน ปาจติ ตยี ท ต่ี ิเตียน. อุพพาหิกวิธี [๖๗๕] ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ถาเมอ่ื ภกิ ษุเหลานนั้ วนิ จิ ฉยั อธกิ รณนัน้ อยู มเี สียงเซง็ แซเกิดขน้ึ และไมทราบความแหง ถอยคาํ ทก่ี ลาวแลวน้ัน
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ที่ 579เราอนุญาตใหร ะงับอธิกรณเ หน็ ปานนด้ี วยอุพพาหกิ วิธี ภกิ ษุผปู ระกอบดวยองคค ุณ ๑๐ ประการ สงฆพ งึ สมมตดิ ว ยอพุ พาหกิ วธิ ี องคคุณ ๑๐ ประการ ๑. เปน ผูม ศี ลี สํารวมในปาฏโิ มกขสังวร ถึงพรอมดว ยอาจาระและโคจร มปี กตเิ ห็นภัยในโทษมีประมาณเล็กนอ ย สมาทานศกึ ษาอยูในสกิ ขาบททงั้ หลาย ๒. เปน พหูสตู ร ทรงสตุ ะ ส่ังสมสุตะ ธรรมเหลา นั้นใดไพเราะในเบื้องตน ทา มกลาง และทีส่ ดุ ยอ มสรรเสริญพรหมจรรยอ ันบริสทุ ธ์ิบรบิ รู ณส ้ินเชงิ พรอ มทงั้ อรรถพรอ มทัง้ พยัญชนะ ธรรมทงั้ หลายเหน็ปานนั้น ยอ มเปนอันเธอสดับมาก ทรงไว สงั่ สมดวยวาจา เขา ไปเพงดว ยใจ แทงตลอดดีแลว ดวยทิฏฐิ ๓. จําปาตโิ มกขท ้งั สองไดดโี ดยพศิ ดาร จาํ แนกดี สวดดี วินิจฉยัถูกตอ งโดยสตู ร โดยอนุพยญั ชนะ ๔. เปนผตู ั้งมน่ั ในพระวนิ ยั ไมค ลอนแคลน ๕. เปน ผอู าจช้ีแจงใหคตู อ สูในอธิกรณย นิ ยอม เขา ใจ เพงเหน็เลอื่ มใส ๖. เปน ผฉู ลาดเพ่ือยงั อธกิ รณอนั เกดิ ขน้ึ ใหร ะงับ ๗. รูอ ธิกรณ ๘. รูเ หตเุ กิดอธิกรณ ๙. รูค วามระงบั แหงอธกิ รณ ๑๐. รูทางระงับอธกิ รณ
พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๖ ภาค ๑ - หนา ท่ี 580 ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย เราอนญุ าตใหส มมตภิ ิกษผุ ูประกอบดว ยองคคณุ ๑๐ นี้ ดว ยอุพพาหิกวิธี. [๖๗๖] ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย ก็แล สงฆพงึ สมมติอยางน้ี พึงขอรอ งภิกษุกอ น ครน้ั แลว ภกิ ษผุ ฉู ลาด ผสู ามารถ พงึ ประกาศใหสงฆทราบดวยญตั ตทิ ตุ ิยกรรมวาจา วา ดังน:้ี - กรรมวาจาสมมติ ทา นเจา ขา ขอสงฆจงฟงขา พเจา เม่อื พวกเรา วินิจฉยั อธิกรณน อี้ ยู มเี สยี งเซ็งแซเ กดิ ข้นึ และไมทราบ อรรถ แหง ถอยคาํ ทีก่ ลาวแลวนัน้ ถาความพรอ มพรัง่ ของ สงฆถ ึงทแี่ ลว สงฆพงึ สมมติภิกษมุ ชี ่ือนีด้ ว ย มีช่ือนีด้ วย เพอ่ื ระงับอธกิ รณน้ี ดว ยอพุ พาหิกวิธี น้เี ปน ญตั ติ ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟง ขา พเจา เมอื่ พวกเรา วนิ ิจฉยั อธิกรณน อี้ ยู มีเสยี งเซ็งแซเ กิดขึ้น และไมทราบ ความแหงถอ ยคําทีก่ ลาวแลว นัน้ สงฆส มมตภิ กิ ษมุ ีชือ่ น้ี ดวย มีชอ่ื นดี้ ว ย เพอื่ ระงับอธกิ รณน ้ี ดวยอุพพาหกิ วธิ ี การสมมตภิกษมุ ีชือ่ นด้ี วย มชี ่ือนีด้ ว ย เพ่ือระงบั อธิกรณ นี้ ดว ยอพุ พาหิกวิธี ชอบแกทานผใู ด ทานผนู ัน้ พงึ เปนผูนงิ่ ไมชอบแกทานผูใด ทานผูน้นั พึงพูด ภกิ ษุมชี อ่ื น้ดี ว ย มชี ่ือนี้ดว ย อนั สงฆสมมตแิ ลว เพอ่ื ระงบั อธกิ รณน ี้ ดวยอุพพาหิกวธิ ี ชอบแกสงฆ เหตุ นนั้ จงึ น่ิง ขา พเจาทรงความนไ้ี ว อยางน.ี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 622
Pages: