Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_57

tripitaka_57

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:42

Description: tripitaka_57

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 133ดว ยความอาย สตั วน น้ั ชอ่ื อะไร อวดอางตนดวยเสียงของตนไดก ลา วคาถาแรกวา :- ขาแตพอ ผูเปนใหญใ นมฤค ใครหนอมี เสียงดังล่นั ทําททั ทรบรรพตใหบ รรลอื ลน่ั ยิง่ นัก ราชสหี ท ง้ั หลายไมอ าจบรรลอื โตต อบมัน นัน่ เรยี กวา สตั วอะไรหนอ. ในบทเหลา น้นั บทวา อภินาเทติ ทททฺ ร ความวา ใครหนอทาํ ทัททรบรรพตใหมีเสยี งกึกกอ งเปน อนั เดียว. ลูกราชสีหเรยี กบดิ าวา มคิ าภิภู. ในบทวา มิคาภภิ ู น้ี มอี ธบิ ายวา ขาแตพญาราชสีหผูเ ปน จอมมฤค ขา พเจาขอถามทา น สัตวน นั้ ชือ่ อะไร. ครน้ั บดิ าฟง คาํ ของลูกราชสหี แลว จึงกลาวคาถาที่ ๒ วา :- ลูกเอย น่ันคือสุนัขจิง้ จอกเปน สัตวเลว ทรามตา่ํ ชากวา มฤคชาติท้ังหลาย มันหอนอยู ราชสีหท งั้ หลายรงั เกียจชาตขิ องมัน จงึ ไดพ า กันนิ่งเฉยเสยี . ในบทเหลา น้นั บทวา ส ในบทวา สมจฉฺ เร เปนเพียงอปุ สรรค. เอาความวา อยูเฉย. ทา นอธบิ ายไววา ราชสีหทง้ั หลายนิ่งเฉย คืออยูเ ฉย. ในคัมภรี ทง้ั หลาย เกจอิ าจารยเขียนวาสมจฉฺ เร.

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 134 พระศาสดาคร้ันตรัสวา ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย โกกาลิกะมิไดเปดเผยตนเองในบัดนี้เทานั้น แมเ มื่อกอนกไ็ ดเปดเผยแลวเหมอื นกนั แลวทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้มี า ทรงประชุมชาดก.สุนัขจิ้งจอกในครง้ั นนั้ ไดเปนพระโกกาลกิ ะในครัง้ น้ี. สวนลกูราชสหี ไดเ ปนราหลุ . พญาราชสีห คอื เราตถาคตน้ีแล. จบ อรรถกถาททั ทรชาดกท่ี ๒

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 135 ๓. มักกฏชาดก วา ดว ยพิง [๑๙๕] คุณพอ ครบั มาณพนนั่ มายนื พงิ ตน ตาลอยู อน่ึง เรือนของเรานี้ก็มอี ยู ถากระไรเราจะให เรอื นแกมานพน้ัน. [๑๙๖] ลกู เอย เจาอยา เรียกมนั มาเลย มันเขามา แลว จะพึงประทษุ รายเรือนของเรา หนา ของ พราหมณผูมีศลี บรสิ ุทธิ์ หาเปนเชน นี้ไม. จบ มกั กฏชาดกท่ี ๓ อรรถกถามักกฏชาดกที่ ๓ พระศาสดาเมือ่ ประทบั อยู ณ พระวหิ ารเชตวนั ทรงปรารภภกิ ษุหลอกลวงรูปหนงึ่ ตรสั พระธรรมเทศนานี้มีคาํ เรมิ่ ตนวาตาต มาณวโก เอโส ดังน.ี้ เร่ืองราวจกั มแี จงในอทุ ทาลกชาดกในปกิณณกนบิ าต.กค็ รง้ั นน้ั พระศาสดาตรัสวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษุน้มี ิใชหลอกลวงในบดั นเ้ี ทา นัน้ แมเ มือ่ กอนก็เกดิ เปน ลิงไดหลอกลวงเพราะเรอ่ื งไฟ แลว ตรัสนําเร่ืองอดีตมาเลา . ในอดตี กาลครัง้ พระเจาพรหมทตั เสวยราชสมบัตอิ ยูใ นกรงุ พาราณสี บงั เกดิ ในตระกูลพราหมณ หมูบานกาสี คร้นั

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 136เจริญวัยเรียนศิลปศาสตรในเมอื งตกั กสิลา ดาํ รงตนเปน ฆราวาส.ครน้ั ตอ มาพราหมณีภรรยาของพราหมณนัน้ คลอดบตุ รคนหนึ่งเมอื่ บุตรวิ่งเที่ยวไปมาได พราหมณกี ็ถึงแกกรรม. พระโพธสิ ัตวกระทําฌาปนกิจนางแลว คิดวา เราจะอยูค รองเรอื นไปทําไมจึงละพรรคพวกญาติมติ ร ซึง่ พากันร่าํ ไหพาบตุ รเขาไปยังปาหมิ พานต บวชเปนฤๅษีมีรากไมและผลไมใ นปา เปนอาหารพาํ นักอยู ณ ทนี่ น้ั . วันหนึ่งเมือ่ ฝนตกในฤดฝู น พระโพธิสัตวกอ ไฟผิงนอนอยูบนเคร่ืองลาดกระดาน. แมบ ตุ รของทานซ่งึเปน ดาบสกมุ าร กน็ ่งั นวดเทา ของบดิ า. มลี งิ ปาตัวหนงึ่ ถกู ความหนาวเบียดเบยี น เห็นไฟทบ่ี รรณศาลาของพระโพธสิ ัตว จึงคิดวา หากเราจกั เขาไปในบรรณศาลานี้ เขาจกั รองวา ลิงลงิ แลว โบยนําเราออกไป เรากจ็ ักไมไดผงิ ไฟ เอาละบัดนเ้ี รามีอุบายอยา งหน่งึ เราจะปลอมเปนดาบสทําการลวงเขาไปจงึ นงุ ผา เปลอื กไมของดาบสทีต่ ายแลวคนหน่งึ ถอื กระเชา ขอและไมเทาอาศยั ตาลตน หนงึ่ ท่ปี ระตูบรรณศาลายืนส่ันอยู.ดาบสกุมารเหน็ มันกไ็ มร ูวาเปน ลงิ จงึ บอกแกด าบสวา มดี าบสแกรปู หนึ่ง ถูกความหนาวเบยี ดเบียนคงจะมาขอผงิ ไฟ แลว คดิ วาควรจะใหเขา ไปผิงยังบรรณศาลาหลงั หน่ึง เมื่อจะพดู กะบดิ าจงึ กลา วคาถาแรกวา :- พอ จา มาณพนั้นมายนื พิงตน ตาลอยู อน่ึง เรือนของเราน้กี ็มีอยู ถา กระไรเราจะใหเ รอื น

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 137 แกม าณพน้นั . ในบทเหลา นนั้ บทวา มาณวโก เปน ชอ่ื ของสตั ว. ทา นแสดงวา พอ จา นัน่ มาณพคือสัตวช นิดหนึ่ง คือดาบสรูปหนึง่ .บทวา ตาลมลู  อปสสฺ ิโต ไดแกย นื พงิ ตน ตาลอย.ู บทวา อคาร-กจฺ ทิ  อตถฺ ิ ไดแก เรามีบา นของนกั บวชน้ี คอื หมายถึงบรรณ-ศาลา. บทวา หนฺท เปนนิบาตลงในอรรถแหงความเตือน. บทวาเทมสฺส คารก ความวา เราจะใหเรอื นดาบสนี้อยูส วนหนึ่ง. พระโพธสิ ัตวไดยินคําของบตุ รจึงลุกขึน้ ไปยนื ดูท่ปี ระตูบรรณศาลา รูว าสัตวน ้ันเปน ลงิ จึงบอกลูกวา ลูกเอย ธรรมดามนษุ ยหนา ไมเปน อยางน้ดี อก ลูกไมค วรเรยี กลิงเขามาในทน่ี ี้แลวกลา วคาถาที่ ๒ วา :- ลกู เอย เจาอยา เรียกมนั มาเลย มนั เขามา แลว จะทําลายเรอื นของเรา หนาของพราหมณ ผูมีศลี บรสิ ุทธ์ิ ไมเปนอยางนีด้ อก. ในบทเหลานน้ั บทวา ทูเสยยฺ โน อคารก ความวา เจาสัตวน ้ีแหละ เขา ไปในบรรณศาลาน้ี จะทําลายเอาไฟเผาบรรณ-ศาลาซึ่งทําไดล ําบากนเ้ี สีย หรือถา ยอุจจาระเปนตน รดไว.บทวา เนตาทสิ  ไดแ กห นา ของพราหมณผมู ีศีลบรสิ ุทธิไ์ มเปนเชน นี้. พระโพธิสตั ว ครั้นบอกวานั่นลิงดงั นี้แลว จงึ ควาคบไฟไดดนุ หนงึ่ ตวาดวา เจาจะอยทู ่ีน่ที าํ ไม แลว ขวางใหมันหนีไป.

พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 138ลงิ ก็ท้งิ ผาเปลือกไม วง่ิ ข้ึนตน ไมเขาปาไป. พระโพธิสัตวเ จรญิพรหมวิหาร ๔ ไดมพี รหมโลกเปนทีไ่ ปในเบ้ืองหนา. พระศาสดาทรงน าพระธรรมเทศนานี้มาแลว ทรงประชุมชาดก. ลิงในคร้งั นนั้ ไดเ ปน ภิกษุหลอกลวงในคร้งั นี้ ดาบสกุมารไดเ ปน ราหลุ สว นดาบส คอื เราตถาคตน้ีแล. จบ อรรถกถามกั กฏชาดกที่ ๓

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 139 ๔. ทุพภยิ มกั กฏชาดก วาดวยการคบคนชั่ว [๑๙๗] เราไดใ หนํ้าเปน อนั มากแกเ จา ผูถ กู ความ รอนแผดเผา หิวกระหายอยู บดั น้ีเจา ไดด่ืมน้ําแลว ยังหลอกลอเปลง เสยี งวากกิ อิ ยูได การคบหากบั คนช่ัวไมประเสรฐิ เลย. [๑๙๘] ทา นไดย ินหรอื ไดเหน็ มาบา งหรือวา ลิง ตวั ไหนชอ่ื วา เปนสัตวม ีศลี เราจะถายอุจจาระ รดศรี ษะทา นเด๋ยี วนี้แลวจึงจะไป นเ่ี ปนธรรมดา ของพวกเรา. จบ ทุพภิยมกั กฏชาดกท่ี ๔ อรรถกถาทพุ ภยิ มักกฏชาดกที่ ๔ พระศาสดาเม่ือประทับอยู ณ พระวหิ ารเวฬวุ ันทรงปรารภพระเทวทตั ตรสั พระธรรมเทศนานี้มคี ําเรมิ่ ตนวา อทมมฺ ิ เต วาริพหุตตฺ รปู  ดังน้ี. ความพิสดารมีอยวู า วันหนงึ่ ภิกษุท้ังหลายนงั่ สนทนากันในโรงธรรมถงึ ความอกตัญู ความประทุษรา ยมติ รของพระ-เทวทัต. พระศาสดารบั สัง่ วา เทวทตั เปนผอู กตั ญูประทษุ รา ย

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 140มิตร มใิ ชใ นบัดน้เี ทาน้ันแมเม่ือกอนก็ไดเ ปน เชนนี้ แลวทรงนําเร่อื งในอดีตมาเลา. ในอดีตกาลครัง้ พระเจาพรหมทตั เสวยราชสมบตั ิอยูใ นกรุงพาราณสี พระโพธิสัตวบงั เกิดในตระกูลพราหมณ ชาวบานกาสแี หง หนงึ่ คร้ันเจริญวยั ดาํ รงตนเปนฆราวาส. ก็สมัยนน้ัไดม ีบอ นาํ้ ลึกบอ หน่งึ อยูท ท่ี างใหญช นั ในแควนกาสี สตั วด ริ ัจฉานทัง้ หลายขา มไมไ ด. พวกมนุษยผ ูปรารถนาบญุ เดินมาทางนั้นใชก ระบอกมีสายยาวตกั น้ําใสข งั เต็มรางแหง หน่งึ ใหส ัตวดริ ัจฉานดมื่ รอบบอ นนั้ เปนปา ใหญ. ลงิ เปน อนั มากอาศัยอยูในปาน้นั . ตอ มาท่ีทางน้นั ขาดผูคนสญั จรไปมาสองสามวัน.สัตวดิรัจฉานจึงไมไ ดดืม่ นาํ้ . ลงิ ตวั หน่ึงกระหายนาํ้ เต็มท่ีเท่ยี วหานา้ํ ด่มื ในที่ใกลบ อ น้ํา. พระโพธิสัตวเดินไปถึงทางน้ันดว ยกจิ ธรุ ะอยา งหนึ่ง จงึ ตักน้าํ ในบอนั้นดืม่ ลา งมือและเทา เห็นลิงตวั นั้น ทราบวา มันกระหายนาํ้ จงึ ตกั น้ําใสร างใหมันดืม่คร้นั ใหเสรจ็ แลว คดิ จะพกั ผอ นจึงนอนลงที่โคนไมต นหนึง่ .สวนลงิ ครัน้ ดื่มน้าํ แลว น่งั อยไู มไ กล ท าหนาลอกแลก หลอกพระ-โพธิสัตว. พระโพธิสัตวเหน็ กิรยิ าของมนั จึงกลาววา อายวายรา ยลงิ อปั รยี  เมือ่ เองกระหายนํา้ เหนด็ เหน่ือยมา ขาก็ใหน ้าํ เองดม่ืบัดนี้เองทาํ หนา ลอกแลก หลอกขา ได นาอนาถใจทีข่ าชว ยเหลือสัตวชัว่ ๆ ไมม ีประโยชนเลย แลวกลาวคาถาแรกวา :-

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 141 ขา ไดใหน้าํ เปนอันมากแกเองผูถกู ความ รอนแผดเผาหวิ กระหาย บดั นเี้ จาไดด ื่มนาํ้ แลว ยงั หลอกลอ ทําเสยี งครอก ๆ อยูได การคบหา กับคนช่ัวไมประเสรฐิ เลย. ในบทเหลา น้ัน บทวา โสทานิ ปต วฺ าน กิกึ กโรสิ ความวาบัดนเี้ จาดื่มนาํ้ ท่ีขา ใหแลวยงั ทาํ หนาลอ กแลกสง เสยี งครอก ๆอยูไ ด. บทวา น สงฺคโม ปาปชเนน เสยฺโย ความวา การคบหากับคนช่วั ไมดีเลย ไมค บนัน่ แหละดีกวา . ลิงผปู ระทุษรา ยมติ ร คร้ันไดยินดงั นั้นแลว จึงกลาววาทานอยา สําคญั วา เราทาํ เพยี งเทาน้แี ลวจะเสรจ็ สิ้น บัดน้เี ราจะถายคูถรดศีรษะทา นกอนแลวจึงไป แลว กลา วคาถาที่ ๒ วา :- ทา นไดยนิ หรือไดเห็นมาบา งหรือวา ลิง ตัวไหนชื่อวา เปน สตั วมีศีล เราจะถายอุจจาระ รดศรี ษะทานเดยี๋ วนแ้ี ลวจึงจะไป นเี้ ปนธรรมดา ของพวกเรา. ความยอในคาถานั้นมีดงั นี้ ทานพราหมณ ทานไดยนิหรอื ไดเ หน็ ทไ่ี หนวา ลิงรคู ุณคน มีมารยาท มีศีล มอี ย.ู เราจะถายคูถรดศีรษะทานเดี๋ยวนี้แหละแลว จงึ จะไป. นี้เปนธรรมดานเ้ี ปน สภาพโดยกําเนิดของพวกขาพเจา ผูชื่อวาเปน ลงิ คือถายคถู รดหวั ผูมีอุปการะ.

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 142 พระโพธิสตั วค รัน้ ไดยนิ ดงั นนั้ จึงเตรยี มจะลุกไป. ขณะนน้ั เองลิงกระโดดจบั กิ่งไมท าคลายจะหอ ยโหน ถา ยคถู รดศีรษะพระโพธิสัตวแ ลวรอ งเขาปา ไป. พระโพธสิ ตั วอาบนา้ํ ชําระกายแลว จงึ กลบั ไป. พระศาสดาตรสั วา ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย เทวทตั ไมร ูจ กั คณุมใิ ชใ นบัดนีเ้ ทานั้น แมเมอ่ื กอนกไ็ มร ูจักคณุ ท่ีเราทําไวเ หมอื นกนัแลว ทรงนําพระธรรมเทศนานมี้ า ทรงประชมุ ชาดก. ลงิ ในครง้ันน้ั ไดเปนเทวทัตในครง้ั น้ี สว นพราหมณ คอื เราตถาคตนแ้ี ล. จบ อรรถกถาทุพภิยมกั กฏชาดกท่ี ๔

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 143 ๕. อาทิจจปุ ฏฐานชาดก วาดว ยลิงไหวพ ระอาทิตย [๑๙๙] ไดย นิ วา ในบรรดาสัตวทง้ั ปวง สตั วผ ู ตัง้ มน่ั อยูในศีลมอี ยู ทานจงดลู งิ ผูลามกยนื ไหว พระอาทติ ยอยเู ถิด. [๒๐๐] ทา นทัง้ หลายไมร จู ักปกติของมัน เพราะ เหตไุ มร ูจงึ ไดพากนั สรรเสริญ ลงิ ตัวนมี้ นั เผา โรงไฟเสยี และทุบตอ ยคนโทนา้ํ เสียสองใบ. จบ อาทจิ จปุ ฏฐานชาดกที่ ๕ อรรถกถาอาทจิ จปุ ฏฐานชาดกท่ี ๕ พระศาสดาเมือ่ ประทบั อยู ณ พระเชตวนั มหาวิหารทรงปรารภภกิ ษุหลอกลวงรูปหน่งึ ตรัสพระธรรมเทศนานม้ี ีคําเรมิ่ ตนวาสพฺเพสุ กริ ภเู ตสุ ดงั นี.้ เรอ่ื งราวเหมอื นกับทกี่ ลา วแลว ในหนหลงั . ในอดีตกาลคร้งั พระเจา พรหมทตั เสวยราชสมบัติอยูในกรุงพาราณ.ี พระโพธิสัตวอ ุบัติในตระกลู พราหมณ แควนกาสีครัน้ เจรญิ วยั ศึกษาศิลปะในเมอื งตักศลิ า บวชเปน ฤๅษี ยงัอภญิ ญาและสมาบัติใหเกดิ มบี รวิ ารมาก เปน ครูประจาํ คณะ

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 144อาศยั อยปู าหมิ พานต. พระโพธสิ ัตวอ ยใู นปา หิมพานตน ้นั เปนเวลานานจงึ ลงจากภูเขาเพ่ือเสพของเค็มและของเปร้ยี ว อาศัยบานหนง่ึ ในชายแดนพักอยทู ่บี รรณศาลา. ขณะนัน้ มีลงิ โลนตัวหนง่ึ เม่อื คณะฤาษีไปภิกขาจารจงึ มายังอาศรมบท ถอนหญาท่ีบรรณศาลา เทนาํ้ ในหมอนํา้ ทิ้ง ทบุ คนโทนํ้า ถา ยคถู ไวท ี่โรงไฟ. ดาบสทงั้ หลายอยูจาํ พรรษาแลว ดําริวา บดั นี้ปาหิมพานตบ ริบรู ณดวยดอกไมและผลไมน า รื่นรมย เราจะไปณ ทนี่ ั้น จงึ บอกลาชาวบานชายแดน. พวกมนษุ ยก ลาววาพระคณุ เจา วนั พรงุ น้ีพวกขาพเจาจะนําภกิ ษามายังอาศรมบทพระคณุ เจาฉนั อาหารแลวจึงคอ ยไป ในวันทสี่ องตา งก็นาํ ของเค้ียวของฉันเปนอันมากไป ณ ทนี่ น้ั อกี . ลงิ โลนเห็นดังนน้ั จงึคิดวา เราจกั ลวงใหมนุษยเ ลอ่ื มใสใหน ําของเค้ยี วของบรโิ ภคมาใหเรา. ลิงจงึ ทาํ เปนเหมือนบําเพญ็ ตบะและเหมอื นจําศีลยืนนอบนอมพระอาทิตย ในทไี่ มหา งจากดาบส. พวกมนุษยเหน็ ดังน้นั จึงพากันกลาววา ผูอยูใกลผมู ีศลี ยอมเปน ผูมีศีลแลว กลา วคาถาแรกวา :- ในบรรดาสตั วท ้งั ปวง สตั วผ ตู ้งั มั่นอยู ในศลี มีอยู ทา นจงดูลิงผลู ามก ยนื ไหวพ ระ- อาทิตยอยูเ ถดิ . ในบทเหลา นนั้ บทวา สนตฺ ิ สีลสมาหติ า ไดแ ก ผูมีจิตต้งั มน่ั คือประกอบดว ยศลี มีอยู อธบิ ายวา ผูม ีศลี และผูมจี ิต

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 145ตง้ั มน่ั มอี ารมณเ ดียวมีอยู. บทวา ชมฺม คือลามก. บทวาอาทิจฺจมปุ ติฏ ติ ความวา ลิงยนื ไหวพ ระอาทิตยอ ย.ู พระโพธิสตั วเ หน็ พวกมนุษยเหลานั้น สรรเสริญคณุ ของลงิ นนั้ จึงกลา ววา พวกทานไมรศู ลี และมารยาทของลงิ โลนตวั น้ีแลวเล่ือมใสในส่งิ ไมเ ปนเรื่องเปน ราว จงึ กลาวคาถาที่ ๒ วา :- ทา นทัง้ หลายไมรจู ักปกตขิ องมัน เพราะ ไมรูจกั พากันสรรเสรญิ ลิงตัวนีม้ นั เผาโรงไฟเสีย และทบุ ตอ ยคนโทน้าํ เสยี สองใบ. ในบทเหลา นนั้ บทวา อนฺ าย แปลวา ไมร ู. บทวา อูหนไดแกการกอเหตุทล่ี ิงชวั่ นก้ี ระทํา. บทวา กมณฑฺ ลู ไดแกคนโทนา้ํ . พระโพธิสตั วกลาวโทษลงิ อยา งนี้วา มันทบุ คนโทนา้ํเสียสองใบ. พวกมนุษยคร้ันรวู า เปน ลงิ หลอกลวงจึงควา กอนดินและไมขวางไลใหม ันหนีไป แลว ถวายภิกษาแกหมฤู ๅษี. แมฤ าษีทง้ั หลายกพ็ ากนั ไปปา หิมพานต ทาํ ฌานไมใหเส่อื ม ไดพ รหมโลกเปน ที่ไปในเบ้ืองหนา . พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้มี าแลว ทรงประชุมชาดก. ลิงในครั้งน้นั ไดเ ปน ภกิ ษลุ วงโลกน้ี หมูฤๅษีไดเปนพุทธบริษัท สว นครูประจําคณะ คือเราตถาคตนแ้ี ล. จบ อรรถกถาอาทิจจปุ ฏ ฐานชาดกที่ ๕

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 146 ๖. กฬายมฏุ ฐชิ าดก วา ดวยโลภมาก [๒๐๑] ขา แตพ ระองคผูเปนจอมแหง ชน ลงิ ผูเที่ยว หาอาหารตามกงิ่ ไมน ี้ โงเ ขลายิ่งนัก ปญญาของมนั กไ็ มมี มนั สาดถ่ัวทง้ั กาํ เสยี หมดสนิ้ แลวเที่ยว คน หาถว่ั เมล็ดเดยี วที่ตกลงยังพ้ืนดิน. [๒๐๒] ขา แตพระราชา พวกเรากด็ ี ชนเหลา อืน่ ท่โี ลภจัดก็ดี จะตอ งละทิ้งของมากเพราะของ นอ ย เปรียบเหมอื นวานรเสื่อมจากถวั่ ทง้ั หมด เพราะถั่วเมลด็ เดียว ฉะน้ัน. จบ กฬายมฏุ ฐชิ าดกที่ ๖ อรรถกถากฬายมุฏฐิชาดกท่ี ๖ พระราชาเม่ือประทับอยู ณ พระเชตวนั มหาวิหารทรงปรารภพระเจากรงุ โกศล ตรัสพระธรรมเทศนานม้ี ีคําเร่ิมตน วาทาโล วตาย ทุมสาขโคจโร ดงั นี.้ ความพสิ ดารมีอยูวา สมยั หนง่ึ ในฤดฝู นทางชายแดนของพระเจากรุงโกศลเกดิ กบฎ พวกนักรบท่อี ยู ณ ชายแดนนน้ั ไดท าํ การสรู บถงึ สองสามครง้ั กไ็ มสามารถเอาชนะขา ศกึ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 147ได จึงสง ขาวทลู ถวายพระราชาใหท รงทราบ. พระราชาเสดจ็ออกในฤดฝู นอนั ไมควรแกเวลา จงึ ทรงจัดตัง้ คายใกลพระวิหารเชตวัน ทรงดาํ รวิ า เราออกเดินทางในเวลาอันไมส มควร ซอกเขาและลําธารเปนตน เต็มไปดวยน้ํา ทางเดนิ ลําบาก เราจักเขาเฝาพระศาสดา พระองคจ กั ตรัสถามเราวา มหาบพติ รจะเสด็จไปไหน ครั้นแลวเรากจ็ ักกราบทูลเรอื่ งราวใหท รงทราบ พระ-ศาสดาจะทรงอนุเคราะหเ รา เฉพาะประโยชนใ นภายหนา เทานน้ัก็หามไิ ด แมป ระโยชนใ นปจจบุ ันก็ทรงอนุเคราะหเหมอื นกนัเพราะฉะนน้ั หากเราไปจะไมเ จรญิ พระองคกจ็ ักตรัสวา มหา-บพิตรยงั ไมถ งึ เวลาเสดจ็ หากจักมคี วามเจรญิ พระองคกจ็ ักทรงนิ่ง. พระราชาจึงเสดจ็ เขา พระวิหารเชตวนั แลว ถวายบังคมพระศาสดา ประทบั น่งั ณ สว นขางหน่งึ . พระศาสดาตรัสปฏสิ นั ถารวา เชญิ เถดิ มหาบพิตร พระองคเสด็จมาจากไหนแตย งั วนั . กราบทูลวา ขาแตพระองค หมอมฉนั จะออกไปปราบกบฎชายแดน มาท่ีนีด้ วยคิดวา จกั ถวายบงั คมพระองคแลว จะไป. พระศาสดาตรสั วา มหาบพติ ร แมแ ตกอนพระราชาทง้ั หลาย เม่ือจะยกทพั ไปครัน้ ไดฟง คําของบัณฑติ แลว ก็ไมเสด็จไปสูกองทัพในเวลาอันไมส มควร ครน้ั พระราชาทลู อาราธนาจงึ ทรงนําเรอื่ งในอดีตมาตรัสเลา ในอดตี กาลครั้งพระเจาพรหมทตั เสวยราชสมบัติอยใู นกรงุ พาราณสี พระโพธสิ ัตวเปนอํามาตยสาํ เร็จราชกจิ ท่วั ไป

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 148เปนธรรมานุสาสก (สอนธรรม) ของพระองค. ครั้งนนั้ ทางชายแดนของพระองคเ กดิ กบฎ ทหารทชี่ ายแดนสงสาสนใหทรงทราบ. พระราชาเสด็จออกในฤดฝู น ตัง้ พักคา ย ณ พระ-อุทยาน. พระโพธิสัตวไดอ ยใู กลท่ปี ระทับพระราชา. ขณะพวกทหารนําถั่วดาํ อาหารมา มาใสไวในราง. บรรดาลงิ ในพระราช-อุทยาน มลี งิ ตัวหนึง่ ลงจากตน ไม ฉวยเอาถวั่ ดําจากรางนัน้ใสป ากจนเต็มแลวยังควาติดมือไปอีก กระโดดขน้ึ ไปน่งั บนตนไมเริม่ จะกิน เมือ่ มันจะกินถวั่ ดําเม็ดหนึ่งหลุดจากมือตกลงไปบนดนิ มันจงึ ทง้ิ ถ่ัวดําทง้ั หมดทั้งทอ่ี ยใู นปาก และทมี่ อื ลงจากตนไมมองหาถั่วดํานน้ั คร้ันไมเหน็ มนั จงึ กลับขน้ึ ตน ไมใ หมน่งั เศรา โศกเสียใจ หนา ซมึ อยูบ นก่งิ ไม เหมอื นแพค ดีไปสกั พันคดี. พระราชาทอดพระเนตรเหน็ กริ ิยาของลงิ จึงตรสั เรียกพระโพธิสัตวแ ลว ตรัสถามวา ดูซิ ทานอาจารย ลิงมันทาํ อะไรนัน่ . พระโพธิสตั วก ราบทูลวา ขอเดชะขาแตมหาราช ผโู งเ ขลาไรปญ ญา ไมม องถงึ ของมาก มองแตของนอย ยอ มกระทาํ เชนนี้แหละพระพุทธเจา ขา แลวกลา วคาถาแรกกอนวา :- ขา แตพระองคผ เู ปน จอมชน ลิงผเู ท่ยี ว หาอาหารตามกิ่งไมน ้ี โงเขลายงิ่ นกั ปญ ญาของ มันก็ไมมี มนั สาดถัว่ ท้ังกาํ เสยี หมดสน้ิ แลว เทย่ี วคน หาถว่ั เมล็ดเดยี วทตี่ กลงบนพืน้ ดนิ .

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 149 ในบทเหลา น้ัน บทวา ทุมสาขโคจโร ไดแกล ิง. เพราะลิงน้ันหาอาหารบนก่งิ ไม. ก่งิ ไมเหลาน้ันเปน โคจร คอื เปนที่เทยี่ วสัญจรไปมาของมัน เพราะฉะน้นั จึงเรยี กวา สัตวผ เู ทย่ี วไปตามกิง่ ไม. เรยี กพระราชาวา ชนนิ ทฺ เพราะพระราชา ช่ือวาเปนจอมชน เพราะความเปนใหญย ง่ิ . บทวา กฬายมฏุ  ึ ไดแ กลกู เดือยกําหนึง่ . เกจิอาจารยก ลาววา กาฬราชมาสมุฏ ึ บาง(ถั่วดาํ ถั่วราชมาส) บทวา อวกิรยิ ไดแก สาดทิง้ . บทวาเกวล คือ ท้ังหมด. บทวา คเวสติ คือหาเมล็ดเดียวทต่ี กลงบนพ้นื ดิน. ครนั้ พระโพธสิ ตั วก ราบทูลอยางนแ้ี ลว จงึ เขาไปยังทีน่ ัน้กราบทลู ปราศยั กับพระราชา แลว จึงกลาวคาถาท่ี ๒ วา :- ขาแตพระราชา พวกเราก็ดี ชนเหลาอน่ื ทีโ่ ลภจัดก็ดี จะตอ งละทง้ิ ของมากเพราะของ นอย เหมอื นลิงเสอ่ื มจากถั่วทง้ั หมด เพราะถว่ั เมลด็ เดียวแท ๆ. ความยอในคาถาน้นั มดี งั นี้ พระโพธิสัตวถวายโอวาทแดพระราชาวา ขาแตม หาราช พวกเรากด็ ี ชนเหลา อนื่ ท่ีถกู ความโลภครอบงํากด็ ี ทัง้ หมดน้นั ยอมเสอื่ มจากของมากเพราะของนอย ดวยวาบัดน้ีพวกเราจะเดินทางไปในฤดฝู นอันมิใชก าลสมควร ยอมเสื่อมจากประโยชนมาก เพราะเหตุประโยชนเลก็นอ ย. บทวา กฬาเยเนว วานโร ความวา เหมือนลิงตวั นี้แสวงหา

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 150ถว่ั เมลด็ เดยี ว เสื่อมแลวจากถ่วั เปน อันมาก เพราะถ่ัวเมล็ดเดียวน้ัน ฉันใด แมพวกเราในบดั นก้ี ็ฉันนน้ั กาํ ลังจะไปในท่ีอันเตม็ไปดวยซอกเขาและลําธารเปนตน โดยมิใชก าลแสวงหาประโยชนเล็กนอ ย แตจกั เสื่อมจากพาหนะชาง พาหนะมาเปน ตนมากมายและหมนู กั รบ เพราะฉะนน้ั ไมควรไปในเวลาอันมิใชกาล. พระราชาสดบั ถอยคาํ ของพระโพธิสตั วน ั้นแลวเสด็จกลับจากทน่ี น้ั เขาสพู ระนครพาราณสีทันที. แมพ วกโจรไดขา ววา พระราชาเสด็จออกจากพระนคร โดยพระประสงคจะปราบปรามพวกโจร จงึ พากนั หนอี อกจากชายแดน. แมใ นปจ จบุ นั พวกโจรไดย นิ ขา ววา พระราชากรงุ โกศลเสด็จออก จงึ พากันหนไี ป. พระราชาสดับพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแลว เสด็จลุกจากท่ีประทบั ถวายบงั คมพระผู-มพี ระภาคเจา การทาํ ประทกั ษณิ เสด็จกลบั กรงุ สาวตั ถี. พระศาสดาทรงนําพระธรรมเทศนานีม้ าแลว ทรงประชมุชาดก. พระราชาในครัง้ นัน้ ไดเ ปน อานนทใ นคร้ังนี้ สว นอาํ มาตยบณั ฑติ คือเราตถาคตนแ้ี ล. จบ อรรถกถากฬายมฏุ ฐิชาดกท่ี ๖


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook