พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 265 ในบทเหลานัน้ บทวา คิร คือ คาํ พูด. จริงอยู คาํ พูดทานเรียกวา คิระ เหมือนดังวาจาทีเ่ ปลงออกในเวลานี.้ ลูกนกแขกเตานน้ั มไิ ดคาํ นงึ ถึงเพศ จงึ กลา วอยา งนัน้ . อธิบายความในคาถานี้ดงั นี้. ขาแตพ อ ธรรมดาบณั ฑิตจะไมก ลาวแมค ําท่ปี ระกอบดวยสจั จะคอื มสี ภาพท่เี ปน จริงและประกอบดวยประโยชน แตไมท าํใหพน ทกุ ขและความจรงิ ทีไ่ มด ี คอื ไมทําใหพ น ทกุ ข. บทวาสเยถ โปฏ ปาโทว มุมฺมเร อปุ กสู โิ ต ความวา เหมอื นนกโปฏฐปาทะ นอนไหมอยูในเถา รึง ฉะนัน้ . บาลวี า อปุ กฏุ โิ ตก็มี ความอยางเดยี วกนั . พระศาสดาทรงนําพระธรรมเทศนานม้ี าแลว ทรงประกาศสัจธรรม ประชมุ ชาดก. เมอ่ื จบสัจธรรม ภิกษุผูกระสันตัง้อยใู นโสดาปตติผล. นกแขกเตา โปฏฐปาทะในครั้งน้นั ไดเปนอานนทใ นคร้งั นี้ แตนกแขกเตา ราธะ คือเราตถาคตนีแ้ ล. จบ อรรถกถาราธชาดกที่ ๘
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 266 ๙. คหปติชาดก วาดว ยการทวงในเวลาท่ียังไมถงึ กําหนด [๒๔๗] กรรมทงั้ สองไมค วรแกเ รา เราไมช อบใจ ก็หญิงคนน้ลี งไปในฉางขาวแลว พูดวา เรายัง ใชห น้ีใหไ มไ ด [๒๔๘] ดูกอ นนายบา น เพราะเหตนุ ัน้ เราจงึ พูด กะทาน ทานมาทวงคาเนอื้ ววั แก ซูบผอม ซ่งึ เราไดทาํ สัญญาผลัดไวถ งึ สองเดือน ในคราว เมื่อชวี ติ ของเรานอยลาํ บากยากเข็ญ ในกาลยัง ไมทันถึงกําหนดสัญญา กรรมทัง้ สองนนั้ ไมถ กู ใจเราเสยี เลย. จบ คหปตชิ าดกที่ ๙ อรรถกถาคหปติชาดกที่ ๙ พระศาสดาเม่ือประทับอยู ณ พระเชตวนั มหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผูกระสันเหมือนกัน ตรสั พระธรรมเทศนาน้ี มคี าํเรม่ิ ตน วา อภุ ย เม น ขมติ ดังน้.ี พระศาสดาเมอ่ื จะรับสั่ง จึงตรสั วา ข้นึ ชือ่ วามาตคุ ามดูแลไมไ หว ทําความชั่วเขาแลว ยอมลวงสามดี ว ยอุบายอยางใด
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 267อยางหนงึ่ แลวทรงนาํ เรอื่ งอดตี มาตรัสเลา. ในอดตี กาลคร้ังพระเจา พรหมทัตเสวยราชสมบตั อิ ยใู นกรงุ พาราณสี พระโพธิสัตวอุบตั ใิ นตระกลู คหบดี แควนกาสีครัน้ เจรญิ วัยไดครองฆราวาส. ภรรยาของพระโพธสิ ัตวน ั้นเปนหญิงทศุ ีล ประพฤตอิ นาจารกับผใู หญบา น. พระโพธิสตั วทราบระแคะระคาย จงึ เทยี่ วสบื . กใ็ นครั้งนัน้ ในระหวางฤดูฝนเมื่อขาวปลกู ยงั ไมแ ก กเ็ กิดความอดหยาก. ถงึ เวลาที่ขา วกลาตั้งทอง. ชาวบานทัง้ หมดรว มใจกัน ยมื โคแกต ัวหน่ึงของผูใหญบานมาบรโิ ภคเนื้อ โดยสญั ญาวา จากนไี้ ปสองเดือนเราเกบ็ เกี่ยวแลวจกั ใหข าวเปลือก. อยูมาวนั หนง่ึ ผใู หญบานคอยโอกาส จงึ เขาไปยงั เรอื นในเวลาที่พระโพธสิ ัตวอ อกไปขางนอก. ในขณะทที่ ้งั สองคนนอนอยางเปน สุขนั่นเอง พระโพธสิ ตั วกเ็ ขา ไปทางประตูบา นหนั หนา ไปทางเรือน. หญงิ นั้นหันหนา มาทางประตูบา น เหน็พระโพธสิ ัตว คดิ วา น่นั ใครหนอ จงึ ยนื มองดูทธ่ี รณีประตู ครั้นรวู า พระโพธสิ ตั วน่นั เอง จึงบอกแกผ ใู หญบา น. ผใู หญบา นกลวัตัวสน่ั . หญงิ นนั้ จึงบอกผใู หญบา นวา อยา กลัว ฉันมอี บุ ายอยา งหนึ่ง พวกเรายืมโคของทานมาบรโิ ภคเนอื้ ทานจงทาํ เปน ทวงเรียกคาเน้อื ฉันจะข้นึ ไปยงั ฉางขาวยนื อยทู ่ีประตฉู าง แลว บอกทา นวา ขา วเปลอื กไมมี ทานยืนอยกู ลางเรอื น แลวทวงบอย ๆวา พวกเดก็ ๆ ในเรือนของเราหวิ ทา นจงใหค า เนอื้ เถิด วาแลว
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 268นางก็ขนึ้ ไปยังฉางน่ังที่ประตูฉาง. ฝายผูใ หญบ านยืนอยทู ีก่ ลางเรอื นก็รองวา จงใหคาเน้ือเรา. นางน่งั อยทู ปี่ ระตฉู าง พูดวาในฉางไมม ีขาวเปลอื ก เมื่อเกบ็ เก่ยี วแลว เราจงึ จะให ไปกอนเถิด. พระโพธสิ ัตวเ ขา ไปยงั เรือนเห็นกริ ิยาของคนทงั้ สองก็รูว า นั่นคงเปน อุบายของหญงิ ชวั่ น้ี จึงเรยี กผใู หญบ านมาพดู วาน่แี นะทานผใู หญ เมือ่ เราจะบริโภคเน้ือโคแกข องทา นก็บรโิ ภคโดยสัญญาวา จากน้ีไปสองเดือน เราจึงจักใหขาวเปลอื ก ยงั ไมลว งไปถึงก่งึ เดอื นเลยทาน เพราะเหตุไรทานจึงมาทวงในเวลาน้ีทา นมิไดม าดว ยเหตนุ ี้ นาจะมาดวยเหตุอ่ืนกระมัง เราไมช อบใจกิรยิ าของทา นเลย แมห ญิงนีก้ ็เลวทรามเหลอื หลาย รูว าในฉางไมมขี าวเปลอื ก ก็ยังขน้ึ ฉางบอกวา ขาวเปลือกไมมี แมทา นก็ทวงวา จงใหเรา เราไมช อบการกระทําของทา นทัง้ สองเลยเมอื่ จะประกาศเนอื้ ความนี้จึงไดก ลาวคาถาเหลา นี้วา :- กรรมทงั้ สองไมค วรแกเ รา เราไมชอบใจ กห็ ญงิ คนน้ี ลงไปในฉางขา วแลวพดู วา เรายงั ใชห น้ใี หไมไ ด. ดกู อนผใู หญบาน เพราะเหตนุ ี้เราจึงพูด กะทา น ทานมาทวงคาเน้อื ววั แก ซบู ผอม ซง่ึ เรา ไดผ ลดั ไวถ ึงสองเดอื น ในคราวเมื่อชวี ิตของเรา นอ ยลําบากยากเข็ญ ในกาลยังไมถึงกําหนด สญั ญา กรรมทั้งสองนั้นไมช อบใจเราเสยี เลย.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 269 ในบทเหลา นน้ั บทวา ต ต คามปติ พฺรูมิ ความวา ทานผูใหญบา น เราพูดกะทา นดว ยเหตนุ นั้ . บทวา กทเร อปฺปสมฺ ึชวี เิ ต ความวา ชอ่ื วาชีวติ ของเรายากจน คอื คน แคน เศราหมองฝด เคือง กาํ ลังนอ ย ซูบผอม เม่อื ชีวิตของ. เราเปน ถึงเชนน.้ี บทวาเทวฺ มาเส สงฺคร กตฺวา ม ส ชรคคฺ ว กิส ความวา เม่ือพวกเราจะรบั เนอ้ื ทา นก็ใหโ คแก คอื โคชรา ซบู ผอม ทุพพลภาพ แลวผลดั เพ้ียน คอื กําหนดสองเดือนอยา งนี้วา สองเดือนลว งแลว ทา นควรชําระคา เนือ้ . บทวา อปฺปตตฺ กาเล โจเทสิ ความวา เมอื่ยงั ไมถ ึงเวลาน้ันทานกม็ าทวงเสยี แลว . บทวา ตมปฺ มยฺห นรจุ ฺจติ ความวา และหญิงช่ัวชา ทุศลี ผูนรี้ ูอ ยวู า ภายในฉางขาวไมม ขี า วเปลอื กทําเปน ไมร ูข น้ึ ไปบนฉางขา ว ยืนทปี่ ระตฉู างพดู วา เรายังใชห นีใ้ หไมไ ด อน่ึง ทา นกม็ าทวงเมอื่ ยงั ไมถงึเวลา ท้งั สองอยางน้ีเราไมชอบใจเลย. เมอ่ื พระโพธิสัตวกลา วซาํ้ ซากอยอู ยา งนี้ จึงจิกผมผูใหญบา นกระชากใหล ม ลงทา มกลางเรือน แลวดาวาดวยคําเปนตนวาเจาทาํ รา ยของท่คี นอืน่ เรารักษาหวงแหนโดยถือวา ฉนั เปนผูใหญบา น แลวทุบตจี นบอบชํ้า จับคอไสออกจากเรอื น แลว ควาผมหญิงชวั่ รายน้นั ใหล งมาจากฉางตบตีขวู า หากเจาทําเชน นีอ้ กีจกั ไดร กู นั . ตัง้ แตน นั้ มาผใู หญบ านกไ็ มกลา มองดูเรอื นนนั้ .แมห ญงิ ชว่ั น้ันก็ไมอาจประพฤตินอกใจอีก.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 270 พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้ีมาแลว ทรงประกาศสจั ธรรม ทรงประชุมชาดก. เมื่อจบสจั ธรรม ภิกษุกระสนัต้งั อยใู นโสดาปต ติผล. คหบดผี ลู งโทษผูใหญบ า น คือเราตถาคตนี้แล. จบ อรรถกถาคหปติชาดกท่ี ๙
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 271 ๑๐. สาธุศลี ชาดก วา ดว ยเลอื กเอาผมู ศี ลี [๒๔๙] เราขอถามทา นพราหมณว า ๑. คนมีรปู งาม ๒. คนอายุมาก ๓. คนมีชาตสิ งู ๔. คนมี ศีลดี ๔ คนนั่น ทา นจะเลือกเอาคนไหน. [๒๕๐] ประโยชนใ นรา งกายกม็ ีอยู ขาพเจา ขอทาํ ความนอบนอมตอ ทา นผูเจรญิ วัย ประโยชนใ น บรุ ุษผมู ชี าตดิ ีก็มอี ยู แตเราชอบใจศีล. จบ สาธศุ ีลชาดกที่ ๑๐ อรรถกถาสาธศุ ีลชาดกที่ ๑๐ พระศาสดาเม่อื ประทับอยู ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภพราหมณคนหนงึ่ ตรัสพระธรรมเทศนาน้ี มีคําเรมิ่ ตน วาสรีรทพยฺ วุฑฺฒพยฺ ดังนี.้ ไดยนิ วา พราหมณน ั้นมลี กู สาวส่คี น. มีชายส่ีคนตองการลกู สาวเหลานน้ั . ในชายส่คี นนั้น คนหนึง่ รปู งามรา งกายสมบรู ณ คนหนึง่ อายมุ ากเปนผใู หญ คนหน่ึงสมบรู ณดว ยชาติ คนหนึ่งมีศีล. พราหมณค ิดวา เมื่อจะปลกู ฝง ลกู สาวควรจะใหแกใ ครหนอ ควรใหแกค นรปู งามหรือ คนมีอายุ คนสมบูรณดวยชาติ และคนมศี ีล คนใดคนหน่งึ ด.ี แมเ ขาจะพยายาม
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 272คดิ กไ็ มรูแน จงึ คิดวา พระสมั มาสมั พทุ ธเจาจักทรงทราบเหตุน้ี เราจักทูลถามพระองคแลว ยกลกู สาวใหแกผ ทู ส่ี มควรในระหวา งคนเหลา น้นั จึงไดถอื ของหอมดอกไมเ ปน ตน ไปวหิ ารถวายบังคมพระศาสดา นงั่ ณ สวนหนงึ่ กราบทูลความน้นั แดพระผูมพี ระภาคเจา ตั้งแตตน แลว ทลู ถามวา ขาแตพ ระองคควรจะใหแ กใครในชายทั้งสเ่ี หลาน.้ี พระศาสดาตรัสวา แตปางกอนบณั ฑิตทัง้ หลายกย็ ังถามปญ หานแ้ี กพระองค แตเพราะยงั อยูในหวั เล้ียวหวั ตอ ของภพ จึงไมอ าจจดจําได เมือ่ พราหมณทลู อาราธนา จึงทรงนําเรอ่ื งอดตี มาตรสั เลา . ในอดตี กาลคร้ังพระเจาพรหมทตั เสวยราชสมบัตอิ ยใู นกรงุ พาราณสี พระโพธิสัตวอุบัติในตระกูลพราหมณเรยี นศิลปะในเมืองตักกสลิ า แลว ไดม าเปนอาจารยท ศิ าปาโมกขในกรงุตักกสิลา. ครง้ั น้นั พราหมณมีลกู สาวสีค่ น. มชี ายสีค่ นตองการลกู สาวเหลานน้ั . พราหมณร ําพงึ วา จะควรใหแกใคร เมอ่ื ไมแนใจจงึ คดิ วา เราจะตองถามอาจารย แลว ใหแกผ ูท คี่ วรใหจงึ ไปหาอาจารย เมื่อจะถามเรือ่ งนั้น จึงกลา วคาถาแรกวา :- เราขอถามทานพราหมณวา ๑. คนมรี ูป งาม ๒. คนอายมุ าก ๓. คนมีชาตสิ งู ๔. คนมี ศีล ส่ีคนนั้น ทา นจะเลอื กเอาคนไหน. ในบทเหลา นัน้ พราหมณป ระกาศคุณท่มี ีอยแู กช ายส่คี นเหลา นั้น. ในคาถานี้มอี ธบิ ายดังน้ี ชายสคี่ นตองการลูกสาว
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 273ส่คี นของขาพเจา ในชายส่คี นนนั้ คนหน่ึงมรี ปู งาม คือมีรา งกายสมบรู ณ มคี วามสงา คนหน่ึงอายมุ าก คือเปน ผูใ หญ เจรญิ วยัคนหน่งึ มชี าติสูง คือสมบรู ณดวยชาติ เพราะเกิดมาดี คนหน่ึงมศี ลี คืองดงามดว ยศลี สมบรู ณด วยศีล. บทวา พรฺ าหฺมณนฺเต วปจุ ฺฉาม ความวา ขา พเจาไมรูวา จะใหล กู สาวเหลา นี้แกช ายคนหนึง่ ในสี่คนเหลานัน้ จึงขอถามทานพราหมณ. บทวา กินนฺ ุเตส วณิมหฺ เส ความวา ชายสีค่ นเหลาน้ัน ขา พเจาจะเลอื ก คือตอ งการคนไหนดี. คือพราหมณถ ามอาจารยวา ขา พเจาจะใหลูกสาวเหลา นน้ั แกใ คร. อาจารยฟง พราหมณน นั้ แลว จงึ ตอบวา คนมศี ลี วบิ ตั แิ ลวแมเมอื่ มีรปู สมบตั กิ ็นาตาํ หนิ เพราะฉะนั้น รูปสมบัตหิ าเปนประมาณไม เราชอบความเปนผมู ีศีล เมื่อจะประกาศความนี้จงึ กลาวคาถาท่ี ๒ วา :- ประโยชนใ นรางกายก็มีอยู ขาพเจา ขอ ทาํ ความนอบนอ มตอทานผเู จริญวยั ประโยชน ในชาตดิ ีก็มีอยู แตเ ราชอบใจศีล. ในบทเหลา น้ัน บทวา อตโฺ ถ อตฺถิ สรรี สมฺ ึ ความวา ความตอ งการ คือความวิเศษ ความเจรญิ ในรางกายท่ีสมบูรณด ว ยรูป มีเหมือนกัน มใิ ชเราวา ไมม .ี บทวา วฑุ ฺฒพฺยสฺส นโม กเรความวา แตเ ราทําความนอบนอ มแกผ ูเจรญิ วัย เพราะผเู จรญิ วัยยอมไดก ารกราบไหวน ับถอื . บทวา อตฺโถ อตถฺ ิ สุชาตสมฺ ึ
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 274ความวา ความเจริญในคนที่เกดิ มาดีกม็ ี เพราะชาตสิ มบตั กิ ็ควรปรารถนาเหมือนกัน. บทวา สลี อสฺมาก รจุ จฺ ติ ไดแกแตเ ราชอบใจคนมศี ลี เทา นั้น. เพราะคนมีศีล สมบรู ณด ว ยมารยาท แมจ ะขาด สรีรสมบัติ กย็ ังนาบูชา นาสรรเสริญ. พราหมณฟ ง คาํ ของอาจารยแลวกย็ กลูกสาวใหแ กคนมีศีลอยา งเดยี ว. พระศาสดานําพระธรรมเทศนานม้ี าแลว ทรงประกาศสจั ธรรม ทรงประชุมชาดก. เม่ือจบสจั ธรรม พราหมณต ้ังอยใู นโสดาปตติผล. พราหมณใ นครงั้ นนั้ ไดเ ปน พราหมณผูนี้แหละ สว นอาจารยท ศิ าปาโมกข คือเราตถาคตนแ้ี ล. จบ อรรถกถาสาธสุ ีลชาดกที่ ๑๐ รวมชาดกท่มี ีในวรรคนี้ คือ ๑. รหุ กชาดก ๒. สิริกาฬกัณณิชาดก ๓. จุลลปทมุ ชาดก๔. มณโิ จรชาดก ๕. ปพพตปู ตถรชาดก ๖. วลาหกัสสชาดก๗. มิตตามิตตชาดก ๘. ราธชาดก ๙. คหปตชิ าดก ๑๐. สาธ-ุศลี ชาดก. จบ รหุ กวรรคที่ ๕
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 275 ๖. นตังทัฬหวรรค ๑. พันธนาคารชาดก วา ดว ยเครอ่ื งผูก [๒๕๑] เคร่อื งผูกอันใด ที่ทาํ ดว ยเหลก็ ก็ดี ทาํ ดวย ไมก ็ดี ทาํ ดวยหญา ปลองก็ดี นักปราชญไ มกลาว เครอ่ื งผกู นนั้ วา เปน เคร่ืองผกู อนั ม่นั คง ความ กาํ หนดั ยินดใี นแกว มณแี ละกณุ ฑลก็ดี ความ หวงใยในบตุ รและภรรยากด็ .ี [๒๕๒] นกั ปราชญกลาวเคร่อื งผูกนัน้ วา เปน เครื่องผูกอันม่นั คง ทาํ ใหสตั วตกตํ่า หยอ น แก ไดย าก แมเ ครื่องผูกนน้ั นักปราชญก็ตดั ไดไ มม ี ความหวงใย ละกามสขุ หลีกออกไปได. จบ พันธนาคารชาดกที่ ๑ อรรถกถานตังทัฬหวรรคท่ี ๖ อรรถกถาพนั ธนาคารชาดกที่ ๑ พระศาสดาเมือ่ ประทับอยู ณ พระเชตวนั มหาวหิ าร ทรงปรารภเรอื นจํา ตรสั พระธรรมเทศนาน้ี มคี าํ เรมิ่ ตนวา น ตทฬฺห พนธฺ นมาหุ ธีรา.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 276 ไดย นิ วา ในคร้ังนนั้ . พวกราชบุรษุ ไดจ บั พวกโจรผตู ัดชอ งยอ งเบา ฆาผคู นในหนทาง ฆา ชาวบานเปน อนั มาก นาํเขา ถวายพระเจาโกศล. พระราชารบั สัง่ ใหจองจาํ พวกโจรเหลานน้ั ดวยเครอ่ื งจํา คือ ข่ือคา เชือก และโซ. ภกิ ษชุ าวชนบทประมาณ ๓๐ รปู ประสงคจ ะเฝาพระศาสดา จึงพากนั มาเฝาถวายบงั คม รงุ เชา ออกบิณฑบาตผา นเรือนจําเห็นพวกโจรเหลา นั้น กลับจากบณิ ฑบาต เวลาเยน็ เขา เฝา พระตถาคต ทูลถามวา ขาแตพ ระองคผูเจริญ วันนี้พวกขาพระพุทธเจาออกบิณฑบาตไดเห็นพวกโจรมากมายทีเ่ รอื นจํา ถกู จองจําดวยขอื่ คา และเชอื กเปนตน ตางกเ็ สวยทุกขใ หญห ลวง พวกโจรเหลานั้น ไมสามารถจะตดั เครอ่ื งจองจําเหลา นน้ั หนีไปได ยงั มีเครื่องจองจําอยา งอ่ืนท่มี ั่นคงกวา เคร่อื งจองจําเหลา นนั้ อีกหรอื ไม พระเจา ขา.พระศาสดาตรสั วา ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย เคร่อื งจองจาํ เหลานั้นจะชือ่ วา เคร่ืองจองจาํ อะไรกนั สวนเครอื่ งจองจํา คือกเิ ลสไดแกตณั หาในทรัพย ในขาวเปลือก ในบตุ รภรรยาเปน ตน นแ่ี หละมัน่ คงย่ิงกวา เครื่องจองจําเหลานนั้ ตั้งรอ ยเทาพันเทา แตเ ครอ่ื งจองจํานี้แมใ หญหลวง ตัดไดย ากอยางนี้ บัณฑิตแตกอนยังตดั ไดแลว เขาไปหิมวนั ตประเทศ ออกบวชแลวทรงนําเรอื่ งอดตี มาตรัสเลา . ในอดตี กาลครัง้ พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบัตอิ ยูใ นกรงุ พาราณสี พระโพธสิ ัตวอุบัตใิ นตระกูลคหบดยี ากจนตระกลู
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 277หนงึ่ . ครน้ั เจริญวัยแลว บดิ าไดถ งึ แกก รรม. พระโพธสิ ตั วไดทําการรับจา งเล้ยี งมารดา. ครั้งนน้ั มารดาจึงไดไปสูข อธดิ าตระกลูหนงึ่ มาไวใ นเรือนใหพระโพธิสตั วท ั้ง ๆ ที่ไมตองการ แลวนางกถ็ งึ แกก รรม. ฝายภรรยาของพระโพธิสตั วก ็ตัง้ ครรภ. พระโพธสิ ัตวไมร วู า นางตง้ั ครรภจ งึ บอกวา ดกู อนนาง เจา จงรบั จางเขาเล้ียงชีวิตเถดิ ฉันจักบวชละ. นางจงึ กลาววา ฉนั ตัง้ ครรภ เมอื่ฉันคลอดแลว พเี่ ห็นเดก็ แลวก็บวชเถิด. พระโพธสิ ัตวก ร็ ับคาํพอนางคลอด จึงบอกกลาววา นอ งคลอดเรยี บรอยแลว พ่จี ักบวชละ. นางจึงกลา ววา จงรอใหลูกหยา นมเสียกอนเถดิ แลว กต็ งั้ครรภอีก. พระโพธสิ ตั วดาํ ริวา เราไมอ าจใหน างยนิ ยอมแลวไปได เราจะไมบ อกกลา วนาง จะหนไี ปบวชละ. พระโพธิสตั วมิไดบ อกกลาวนาง พอตกกลางคืนกล็ กุ หนีไป. คร้งั นนั้ เจาหนา ท่ีผูด แู ลพระนครไดจ ับพระโพธิสตั วน น้ั ไว. พระโพธสิ ตั วจึงบอกวาเจา นาย ขาพเจา เปนผูเ ลย้ี งมารดา โปรดปลอ ยขาพเจา เถดิครน้ั ใหเขาปลอ ยแลวก็ไปอาศยั ในทแี่ หงหน่งึ ออกทางประตูใหญน้นั เอง เขา ปาหิมพานต บวชเปนฤาษยี ังอภิญญาและสมาบตั ิใหเ กดิ เพลดิ เพลินอยดู ว ยฌาน. พระโพธสิ ัตวเ ม่อื อยู ณ ทีน่ ้ันเมอ่ื จะเปลง อุทานวา เราไดต ดั เครือ่ งจองจํา คือบตุ รภรรยาเครอื่ งจองจาํ คอื กเิ ลสท่ตี ัดไดย ากเห็นปานนแ้ี ลว ไดก ลาวคาถาเหลานวี้ า :-
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 278 เครอ่ื งผูกอนั ใด ที่ทําดว ยเหลก็ กด็ ี ทําดว ย ไมกด็ ี ทําดว ยหญาปลองกด็ ี นักปราชญไ มก ลา ว เคร่อื งผูกนัน้ วา เปนเคร่ืองผูกอนั มน่ั คง ความ กาํ หนดั ยนิ ดีในแกว มณี และกุณฑลกด็ ี ความ หว งใยในบุตรและภรรยากด็ .ี นกั ปราชญก ลา วเครอื่ งผูกนน้ั วา เปน เครอ่ื งผูกอนั ม่นั คง ทาํ ใหส ัตวตกต่ํา ยอหยอน แกไดยาก แมเ ครอ่ื งผกู น้ันนักปราชญก็ตัดได ไมม คี วามหวงใย ละกามสุข หลกี ออกไปได. ในบทเหลานน้ั บทวา ธรี า ความวา ช่อื วา ธรี า เพราะมีปญ ญา เพราะปราศจากบาป. อกี อยางหน่ึง ชอื่ วา ธีรา เพราะเปน ผปู ระกอบดวยปญ ญาน้ัน ไดแก พระพุทธเจา พระปจ เจก-พุทธเจา พระสาวกของพระพทุ ธเจา และพระโพธสิ ตั ว. พึงทราบวนิ ิจฉัยในบทวา ยทายส เปนตน นกั ปราชญท ัง้ หลายยอ มไมกลาวเครอื่ งจองจาํ ทท่ี าํ ดว ยเหล็กอันไดแ ก โซ เครอ่ื งจองจําทําดว ยไมอนั ไดแ ก ขอ่ื คา เครอื่ งจองจําทําดว ยเชือกทีข่ วนั้ เปนเชือกดว ยหญามุงกระตา ยหรอื ดว ยอยางอ่ืนมี ปอ เปนตน วาเปนเครือ่ งจองจําอันม่นั คง แนนหนา. บทวา สารตตฺ รตฺตา ไดแ กความกําหนดั ยินดี คอื ยินดีดว ยความกําหนดั จดั . บทวา มณ-ิกุณฺฑเลสุ ไดแก ในแกวมณีและแกว กุณฑล หรอื ในแกวกณุ ฑลประกอบดวยแกว มณี. บทวา เอต ทฬหฺ ความวา นักปราชญ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 279ทง้ั หลายกลา ววา เคร่ืองจองจําอันเปนกิเลสของผทู ีก่ ําหนดัยนิ ดใี นแกว มณแี ละแกว กณุ ฑล และของผทู ี่หวงใยในบุตรและภรรยาวา เปน เคร่อื งจองจาํ อันม่ันคงแนน หนา. บทวา โอหารนิความวา ชื่อวา เครือ่ งจองจําทาํ ใหตกตํ่า เพราะชักนําลงในเบอื้ งตาํ่ โดยฉดุ ใหต กลงในอบาย ๔. บทวา สถิ ิล ความวาชื่อวาเครือ่ งจองจาํ ยอ หยอ น เพราะไมต ดั ผิวหนงั และเนือ้ ไมทําใหเ ลอื ดออกตรงที่ผูก ไมใหรูสกึ วาเปน เครื่องจองดว ย ยอมใหท ําการงานทั้งทางบกและทางน้ําเปน ตน. บทวา ทปุ ฺปมุ ฺจความวา ชื่อวาเครือ่ งจองจําแกไ ดย าก เพราะเครอื่ งจองจาํ คือกิเลสเกิดขน้ึ แมคราวเดยี ว ดว ยอาํ นาจตณั หาและโลภะ ยอ มแกหลุดไดยาก เหมือนเตา หลดุ จากท่ผี กู ไดยาก. บทวา เอตมฺปเฉตฺวาน ความวา นกั ปราชญทั้งหลาย ตัดเคร่ืองจองจาํ คือกิเลสนนั้แมม น่ั คงอยา งน้ี ดวยพระขรรค คอื ญาณ ตัดหวงเหล็กดจุ ชางตกมนั ดุจราชสีหห นุมทาํ ลายซ่ีกรง รงั เกียจวตั ถุกามและกเิ ลสกาม ดจุ พน้ื ที่เทหยากเย่อื ไมมีความหวงใย ละกามสุขหลกี ออกไป ก็และครน้ั หลีกออกไปแลว เขาปาหมิ พานตบวชเปน ฤๅษียังกาลเวลาใหล วงไปดว ยสขุ เกดิ แตฌ าน. พระโพธิสตั วค ร้ันทรงเปลง อุทานน้อี ยางน้ีแลว มีฌานไมเ ส่อื ม มีพรหมโลกเปนทีไ่ ปในเบอ้ื งหนา . พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้มี าแลว ทรงประกาศสจั ธรรม. เมอื่ จบสัจธรรม ภิกษุบางพวกไดเ ปน พระโสดาบนั
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 280บางพวกไดเปนพระสกทาคามี บางพวกไดเปน พระอนาคามีบางพวกไดเ ปนพระอรหนั ต. มารดาในครั้งนนั้ ไดเ ปนพระนางมหามายาในครั้งน้ี บดิ าไดเปน พระเจา สุทโธทนมหาราช ภรรยาไดเ ปน มารดาพระราหลุ สว นบุรุษผูละบตุ รและภรรยาออกบวชคือ เราตถาคตนแี้ ล. จบ อรรถกถาพนั ธนาคารชาดกท่ี ๑
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 281 ๒. เกฬิสีลชาดก วา ดวยปญญาสาํ คัญกวา รา งกาย [๒๕๓] หงสกด็ ี นกกะเรียนกด็ ี นกยูงกด็ ี ชางก็ดี ฟานกด็ ี ยอ มกลัวราชสหี ท ัง้ นนั้ จะถือเอารางกาย เปนประมาณไมไดฉนั ใด. [๒๕๔] ในหมมู นุษยก ฉ็ นั นัน้ ถา แมเ ด็กมปี ญ ญา กเ็ ปนผใู หญได คนโงถ งึ รางกายจะใหญโ ต ก็เปน ผใู หญไมไ ด. จบ เกฬสิ ีลชาดกท่ี ๒ อรรถกถาเกฬิสีชาดกที่ ๒ พระศาสดาเมื่อประทับอยู ณ พระเชตวันมหาวหิ าร ทรงปรารภทา นพระลกุณฏกภทั ทิยะ ตรสั พระธรรมเทศนานีม้ คี าํเร่มิ ตนวา ห สา โกจฺ า มยุรา จ ดงั นี้. ไดย นิ วา ทา นลกณุ ฏกภทั ทยิ ะเปน ผปู รากฏช่ือเสียงในพระพทุ ธศาสนา มีเสยี งเพราะเปน ผแู สดงธรรมไพเราะ เปนพระมหาขีณาสพบรรลปุ ฏิสมั ภทิ า แตท านตัวเล็กเตยี้ ในหมพู ระ-มหาเถระ ๘๐ องค คลายสามเณรถกู ลอ เลียน. วนั หนง่ึ เมือ่ ทานถวายบงั คมพระตถาคตแลวไปซมุ ประตูพระเชตวัน. ภกิ ษุชาว
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 282ชนบทประมาณ ๓๐ รูปไปยังพระเชตวันดวยคิดวา จักถวายบังคมพระตถาคต เหน็ พระเถระทซ่ี มุ วิหาร จึงพากันจับพระเถระท่ีชายจีวร ท่มี ือ ที่ศีรษะ ทจ่ี มกู ท่ีหู เขยา ดว ยสาํ คัญวา ทานเปนสามเณร ทาํ ดวยคะนองมือ ครั้นเกบ็ บาตรจีวรแลว กพ็ ากันเขาเฝา พระศาสดา ถวายบงั คมแลว นงั่ เมอื่ พระศาสดาทรงกระทาํปฏิสนั ถารดวยพระดาํ รสั อนั ไพเราะแลวจึงทูลถามวา ขาแตพระองค ไดยนิ วามีพระเถระองคห นงึ่ ชอ่ื ลกุณฏกภัททิยเถระเปน สาวกของพระองค แสดงธรรมไพเราะ เดย๋ี วนพี้ ระเถระรูปนั้นอยูที่ไหนพระเจาขา พระศาสดาตรัสถามวา ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย พวกเธอประสงคจะเห็นหรอื . กราบทลู วา พระเจา ขาขา พระพุทธเจา ทง้ั หลายใครจ ะเห็น. ตรสั วาดูกอ นภิกษทุ งั้ หลายภิกษุที่พวกเธอเห็นทีซ่ ุม ประตแู ลว พวกเธอคะนองมอื จบั ทช่ี ายจีวรเปนตนแลวมา ภิกษุรูปนัน้ แหละคือ ลกุณฏกภทั ทิยะละ.ภกิ ษทุ ง้ั หลายกราบทูลวา ขาแตพระองค พระสาวกผูถ ึงพรอ มดวยอภินิหาร ไดตัง้ ความปรารถนาไวเห็นปานนี้ เพราะเหตุใดจงึ มศี ักดิน์ อ ยเลา พระเจา ขา . พระศาสดาตรัสวา เพราะอาศัยกรรมทต่ี นไดท ําไว ภิกษเุ หลา น้นั ทูลอาราธนา ทรงนาํ เร่อื งอดตีมาตรัสเลา. ในอดีตกาลครัง้ พระเจา พรหมทตั เสวยราชสมบัตอิ ยใู นกรงุ พาราณสพี ระโพธสิ ัตวไ ดเปน ทา วสักกเทวราช. ในกาลนน้ัใคร ๆ ก็ไมอาจจะใหพระเจา พรหมทตั ไดท รงเหน็ ชาง มา หรือ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 283โคท่ีแกช รา พระองคชอบเลน สนุก ทอดพระเนตรเหน็ สตั วเ ชนนน้ัจงึ รบั สงั่ ใหพวกมนุษยตอ นไลแขงกัน เหน็ เกวยี นเกา ๆ กใ็ หแขง กนั จนพัง เห็นสตรีแกรบั สัง่ ใหเรียกมากระแทกทที่ องใหลม ลง แลว จบั ใหลกุ ข้นึ ใหข ับรอ งเพลง เหน็ ชายแก ๆ กใ็ หหกคะเมนตีลังกาเปนตน บนพน้ื ดนิ ดุจนกั เลนกระโดด เม่ือไมทรงพบเหน็ เอง เปนแตไดส ดับขา ววา คนแกม ที ่บี านโนน กร็ ับสั่งใหเ รยี กตวั มาบังคับใหเ ลน . พวกมนษุ ยต างก็ละอาย สง มารดาบิดาของตนไปอยนู อกแควน. ขาดการบํารุงมารดาบิดา. พวกราชเสวกก็พอใจในการเลน สนุก. พวกตายไป ๆ กไ็ ปบงั เกิดเตม็ ในอบาย ๔. เทพบริษัททง้ั หลายกล็ ดลง. ทาวสกั กะไมทรงเหน็ เทพบุตรเกดิ ใหม ทรงรําพงึ วา เหตอุ ะไรหนอ คร้นั ทรงทราบเหตนุ ้นั แลวดํารวิ า เราจะตองทรมานพระเจาพรหมทัต จงึ ทรงแปลงเพศเปนคนแก บรรทุกตมุ เปรยี ง ๒ ใบ ใสไ ปบนยานเกา ๆเทยี มโคแก ๒ ตวั ในวนั มหรสพวนั หนง่ึ เมื่อพระเจาพรหมทตัทรงชา งพระที่นั่งตกแตงดว ยเครื่องอลังการ เสด็จเลยี บพระนครอนั ตกแตงแลว ทรงนงุ ผา เกา ขับยานน้นั ตรงไปเฉพาะพระพักตรพระราชา. พระราชาทอดพระเนตรเห็นยานเกาเทยี มดวยโคแกจึงตรสั ใหนาํ ยานน้นั มา. พวกมนุษยพากนั กราบทูลวา ขา แตเทวะยานอยูทไ่ี หน พวกขา พระองคมองไมเหน็ . ทาวสักกะทรงแสดงใหพ ระราชาเทา นน้ั เหน็ ดว ยอานุภาพของตน.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 284 ลาํ ดับนัน้ เมอื่ เกวียนไปถงึ หมูคนแลว ทา วสกั กะจึงทรงขับเกวียนนั้นไปขา งบน ทุบตมุ ใบหนึ่งรดบนพระเศยี รของพระราชา แลวกลับมาทุบใบทสี่ อง. ครั้นแลวเปรียงก็ไหลลงเปรอะเปอ นพระราชาต้ังแตพระเศียร. พระราชาทรงอดึ อดัละอาย ขยะแขยง. ครนั้ ทาวสักกะทรงทราบวา พระราชาทรงวุนวายพระทัย ก็ทรงขบั เกวียนหายไป เนรมติ พระองคเ ปนทา วสักกะอยางเดมิ พระหัตถทรงวชริ าวุธ ประทับยืนบนอากาศ ตรสัคกุ คามวา ดกู อนอธรรมกิ ราชผูชัว่ ชา ชะรอยทา นจะไมแกละหรอื ความชราจักไมกล้ํากรายสรรี ะของทา นหรอื ไร ทา นมวั แตเห็นแกเลนเบยี ดเบียนคนแกมามากมาย เพราะอาศัยทา นผเู ดียวคนทต่ี ายไป ๆ เพราะทาํ กรรมน้นั จงึ เตม็ อยใู นอบาย พวกมนษุ ยไมไ ดบาํ รงุ มารดาบดิ า หากทานไมงดทาํ กรรมนี้ เราจะทาํ ลายศรี ษะของทา นดวยจักรเพชรน้ี ต้ังแตน ไ้ี ปทานอยา ไดทาํ กรรมน้ีอีกเลย แลว ตรัสถงึ คุณของมารดาบิดา ทรงชแ้ี จงอานสิ งสของการออนนอ มถอมตนตอผูส งู อายุ ครน้ั ทรงสอนแลวก็เสด็จกลบั ไปยงั วิมานของพระองค. ต้งั แตนนั้ มาพระราชากม็ ิไดแมแตค ิดที่จะทาํ กรรมนน้ั อกี ตอไป. พระศาสดา ตรสั รแู ลวไดตรัสคาถาเหลา น้วี า :- หงสกด็ ี นกกะเรียนก็ดี ชางกด็ ี ฟานกด็ ี ยอมกลวั ราชสหี ทงั้ น้ัน จะถอื เอารางกายเปน ประมาณมไิ ด ฉนั ใด.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 285 ในหมมู นษุ ยก ็ฉันนน้ั ถา แมเ ด็กมปี ญญา ก็เปน ผใู หญได คนโงถึงรา งกายจะใหญโต ก็ เปนผใู หญไ มไ ด. ในบทเหลา น้ัน บทวา ปสทา มคิ า ไดแกเนือ้ ฟาน. อธบิ ายวา ทงั้ เน้อื ฟาน ท้ังเน้อื ที่เหลือบาง. บาลีวา ปสทมิคา ก็มี ไดแ กเนือ้ ฟานนน่ั เอง. บทวา นตฺถิ กายสมฺ ิ ตุลฺยตา ความวา ขนาดของรา งกายไมส ําคัญ ถาสําคญั ไซร พวกชา งและเนื้อฟานซึ่งมีรา งกายใหญโต กจ็ ะพึงฆาราชสหี ไ ด ราชสีหกจ็ ะพงึ ฆาไดแ ตสตั วเ ลก็ ๆ เทานนั้ เชน หงสแ ละนกยูงเปน ตน . เมอ่ื เปนเชนนัน้สัตวทตี่ วั เลก็ เทานัน้ พงึ กลัวราชสีห แตสตั วใหญไมก ลวั . แตเพราะขอ น้เี ปน ไปไมไ ด ฉะนั้นสตั วเ หลา นนั้ ท้งั หมด จงึ กลวัราชสีห. บทวา สรรี วา ไดแก คนโง แมรางกายใหญโต ก็ไมช่อื วาเปนใหญ. เพราะฉะนนั้ ลกณุ ฏกภัททยิ ะ แมจ ะมรี างกายเล็ก กอ็ ยาเขา ใจวา เล็กโดยญาณ. พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้มี าแลว ทรงประกาศสจั ธรรม ทรงประชุมชาดก. เม่ือจบสัจธรรมบรรดาภกิ ษุเหลานน้ั บางพวกไดเปนพระโสดาบัน บางพวกไดเ ปนพระ-สกทาคามี บางพวกไดเ ปนพระอนาคามี บางพวกไดเปน พระ-อรหันต. พระราชาในครัง้ นน้ั ไดเปนลกุณฏกภทั ทยิ ะ เธอไดเปนท่ีเลน ลอ เลยี นของผอู ืน่ เพราะคา ที่ตนชอบเลนสนุกครงั้ น.ี้สวนทา วสักกะ คอื เราตถาคตนแี้ ล. จบ อรรถกถาเกฬิสลี ชาดกที่ ๒
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทุกนบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 286 ๓. ขนั ธปรติ ตชาดกวาดวยพระปริตปองกนั สตั วรายตา ง ๆ[๒๕๕] ขอไมตรจี ติ ของเราจงมีกับตระกลู พญางูช่อื วา วิรปู ก ขะ ขอไมตรจี ิตของเราจงมีกบัตระกลู พญางูชอ่ื วา เอราปถะ ขอไมตรีจิตของเราจงมกี บั ตระกูลพญางูช่อื วา ฉัพยาปตุ ตะและขอไมตรจี ิตของเราจงมีกับตระกลู พญางูชื่อวากณั หาโคตมกะ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกบั สตั วทไี่ มม เี ทา ขอไมตรีจติ ของเราจงมกี ับสตั วทีม่ ี๒ เทา ขอไมตรีจติ ของเราจงมกี บั สตั วทมี่ ี ๔ เทาขอไมตรีจติ ของเราจงมีกบั สัตวท มี่ เี ทามาก ขอสัตวท่ีไมมเี ทา สัตวท ีม่ ี ๒ เทา สตั วท ่ีมี ๔ เทาสัตวที่มีเทามาก อยาไดเบยี ดเบียนเราเลย ขอสัตวผ ขู อ งอยู สตั วผมู ีลมปราณ สัตวผ เู กดิ แลวหมดท้งั สิน้ ดว ยกัน จงประสบพบแตค วามเจรญิทัว่ กัน ความทุกขอ ันชั่วชา อยาไดม าถึงสตั วผ ูใ ดผูห นึง่ เลย.[๒๕๖] พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ มีพระคณุหาประมาณมิได บรรดาสตั วเล้อื ยคลาน คือ งู
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 287 แมลงปอ ง ตะขาบ แมลงมุม ตุกแก และหนู เปน สตั วประมาณได เราไดทําการรกั ษาตัวแลว ปอ งกันตัวแลว ขอสตั วท ั้งหลายจงพากนั หลีก ไป ขาพเจาน่ันขอนอบนอ มแดพ ระผูมพี ระภาค- เจา ขอนอบนอมพระสัมมาสมั พทุ ธเจา ๗ พระองค. จบ ขันธปรติ ตชาดกที่ ๓ อรรถกถาขนั ธปริตตชาดกท่ี ๓ พระศาสดาเมือ่ ประทบั อยู ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภกิ ษรุ ูปหนงึ่ ตรัสพระธรรมเทศนาน้ี มีคําเร่มิ ตน วา วริ ูปกเฺ ขหิเม เมตตฺ ดงั น้.ี ไดย นิ วา เม่อื ภิกษนุ ั้นกําลังผา ฟน อยทู ป่ี ระตูเรอื นไฟ งูตัวหนง่ึ เลือ้ ยออกจากระหวางไมผ ุไดก ัดเขา ท่นี ิว้ เทา. ภกิ ษนุ ั้นมรณภาพในท่นี ้ันทนั ท.ี เรือ่ งทภ่ี กิ ษนุ น้ั มรณภาพไดป รากฏไปทั่ววดั . ภกิ ษุทงั้ หลายประชมุ สนทนากันในโรงธรรมวา ไดยินวาภิกษุรปู โนนกําลงั ผา ฟนอยทู ่ปี ระตูเรือนไฟ ถูกงูกัดถงึ แกมรณภาพ ณ ท่นี น้ั เอง. พระศาสดาเสดจ็ มาตรสั ถามวา ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย พวกเธอนงั่ สนทนากันดว ยเร่อื งอะไร เมือ่ ภกิ ษุทงั้ หลายกราบทูลใหท รงทราบแลว จึงตรัสวา ดกู อนภกิ ษทุ ้ังหลายหากภกิ ษรุ ูปน้ันจักไดเจริญเมตตาแผถึงตระกลู พญางูทั้งสแี่ ลว
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 288งูกจ็ ะไมกดั ภกิ ษุนัน้ . แมด าบสทัง้ หลายซ่งึ เปน บัณฑติ แตปางกอ นเมอ่ื พระพุทธเจา ยังมไิ ดอุบตั ิ ก็ไดเจริญเมตตาในตระกูลพญางูทั้ง ๔ ปลอดภัยอันจะเกิดเพราะอาศัยตระกูลพญางูเหลานน้ัแลว ทรงนําเรื่องอดีตมาตรสั เลา . ในอดตี กาลครัง้ พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบตั ิอยูในกรุงพาราณี พระโพธสิ ตั วอ ุบัตใิ นตระกูลพราหมณ แควนกาสีครั้นเจริญวัย สละกามสขุ ออกบวชเปน ฤๅษี ยังอภญิ ญาและสมาบตั ิใหเ กดิ สรา งอาศรมบทอยทู คี่ งุ แมน า้ํ แหงหนง่ึ ในหมิ วันต-ประเทศ เพลดิ เพลนิ ในฌาน เปนครูประจาํ คณะ มหี มูฤ ๅษีแวดลอมอยอู ยางสงบ. ครั้งนน้ั ทฝี่ ง คงคา มงี ูนานาชนดิ ทําอนั ตรายแกพ วกฤาษี.พวกฤๅษโี ดยมากไดถ งึ แกกรรม. ดาบสทั้งหลายจงึ บอกเร่อื งน้ันแกพระโพธิสัตว. พระโพธิสตั วเ รียกประชุมดาบสทงั้ หมด แลวกลาววา หากพวกทานเจรญิ เมตตาในตระกูลพญางูท้งั ๔ งูท้งั หลายก็จะไมก ดั พวกเธอ เพราะฉะน้นั ตัง้ แตนไ้ี ป พวกเธอจงเจริญเมตตาในตระกูลพญางูทั้ง ๔ แลว จึงตรัสคาถานีว้ า :- ขอไมตรจี ติ ของเราจงมีกับตระกลู พญางู ชื่อวา วิรูปกขะ ขอไมตรจี ติ ของเราจงมีกบั ตระกลู พญางชู ือ่ วา เอราปถะ ขอไมตรีจติ ของเรา จงมีกบั ตระกูลพญางชู อ่ื วา ฉัพยาปตุ ตะ ขอไมตรี จิตของเราจงมกี บั ตระกูลพญางูชือ่ กณั หาโคตมกะ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาท่ี 289 พระโพธสิ ัตวค ร้ันแสดงตระกลู พญางูทั้ง ๔ อยางน้ีแลวจึงกลาววา หากพวกทา นจกั สามารถเจริญเมตตาในตระกูลพญางูท้ัง ๔ นั้น งูทง้ั หลายกจ็ ักไมก ดั ไมเบียดเบียนพวกทาน. แลวกลาวคาถาที่ ๒ วา :- ขอไมตรีจติ ของเรา จงมีกับสตั วท ี่ไมมี เทา ขอไมตรีจติ ของเราจงมกี ับสตั วส องเทา ขอ ไมตรจี ิตของเราจงมีกบั สัตวส่เี ทา ขอไมตรีจิต ของเราจงมกี ับสัตวม เี ทามาก. พระโพธสิ ัตวครัน้ แสดงเมตตาภาวนาโดยสรปุ อยางนีแ้ ลวบดั น้ีเม่ือจะแสดงดวยการขอรอ งจงึ กลา วคาถาน้วี า :- ขอสตั วท ี่ไมม เี ทา สัตวท ี่มี ๒ เทา สตั วท ี่มี ๔ เทา สัตวที่มเี ทา มาก อยาไดเ บยี ดเบยี นเราเลย. บัดน้ีเมอื่ จะแสดงการเจรญิ เมตตาโดยไมเ จาะจง จึงกลาวคาถานีว้ า :- ขอสตั วผูข อ งอยู สตั วผมู ลี มปราณ สตั ว ผเู กดิ แลวหมดท้งั ส้นิ ดวยกัน จงประสบพบแต ความเจริญทั่วกนั ความทุกขอ ันช่ัวชา อยาได มาถึงสัตวผ ูใดผูห นงึ่ เลย. พระโพธสิ ัตวกลา ววา พวกทา นจงเจรญิ เมตตาไมเฉพาะเจาะจงในสรรพสัตวอยางน้ี เพอื่ ใหร ะลึกถึงคณุ ของพระรตั นตรยัอกี จึงกลาววา :-
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 290 พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ มีพระคณุ หาประมาณมไิ ด บรรดาสตั วเ ล้อื ยคลาน คอื แมลงปอง ตะขาบ แมลงมมุ ตุกแก และหนู เปน สัตวป ระมาณได. พระโพธิสตั วแ สดงวา เพราะธรรมท้ังหลายอันทําประมาณมรี าคะภายในของสตั วเหลา นัน้ ยังมอี ยู ฉะน้นั สตั วเล้ือยคลานเหลานน้ั จงึ ชอื่ วามปี ระมาณ แลว กลาววา ทา นทงั้ หลายจงระลึกถึงคณุ ของพระรัตนตรัยอยางน้วี า ดวยอานุภาพของพระรัตนตรยัอันหาประมาณมิได ขอสัตวท้งั หลายอนั มีประมาณเหลา น้ี จงทาํการปกปอ งรกั ษาพวกเราทงั้ กลางคืนกลางวันเถิด เพอื่ แสดงกรรมท่คี วรทาํ ใหย่ิงขน้ึ ไปกวา นั้น จึงกลาวคาถานว้ี า :- เราไดท ําการรักษาตัวแลว ปองกนั ตัวแลว ขอสตั วท ัง้ หลาย จงพากนั หลีกไป ขาพเจาขอ นอบนอ มแดพระผมู พี ระภาคเจา ขอนอบนอม พระสัมมาสมั พทุ ธเจา ๗ พระองค. พระโพธสิ ัตวผ ูกพระปรติ รนีใ้ หแ กคณะฤๅษ.ี กพ็ ระปริตรน้ี พงึ ทราบวาทา นกลาวไวในชาดกน้ดี วยคาถาทัง้ หลายตอนตนเพราะแสดงเมตตาในตระกลู พญานาคท้ังส่ี หรือเพราะแสดงเมตตาภาวนาทัง้ สอง คอื โดยเจาะจงและไมเ จาะจง ควรคน ควาหาเหตอุ น่ื ตอ ไป.
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 291 ตง้ั แตนนั้ คณะฤๅษีตงั้ อยใู นโอวาทของพระโพธิสตั วเจริญเมตตาราํ ลกึ ถงึ พระพุทธคณุ . เมอื่ ฤาษรี ําลกึ ถึงพระพุทธคุณอยูอยา งน้ี บรรดางูท้งั หลายทัง้ หมดตางกห็ ลีกไป แมพระโพธิสตั วกเ็ จริญพรหมวหิ าร มพี รหมโลกเปน ทีไ่ ปในเบอื้ งหนา. พระศาสดาทรงนําพระธรรมเทศนานี้มาแลว ทรงประชุมชาดก. คณะฤๅษใี นคร้ังน้นั ไดเ ปนพทุ ธบริษทั ในครง้ั น้ี. สว นครูประจาํ คณะ คอื เราตถาคตนี้แล. จบ อรรถกถาขนั ธปริตตชาดกที่ ๓
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ท่ี 292 ๔. วรี กชาดก วา ดว ยโทษเอาอยางผอู ่นื [๒๕๗] ทานวีรกะ ทานเห็นนกทีร่ องเสยี งเพราะ มีสเี สมอดว ยสรอ ยคอแหง นกยงู ผเู ปน ผัวของ ฉันชื่อวา สวิษฐกะบางไหม. [๒๕๘] นกสวษิ ฐกะ เมอื่ ท าตามภรรยาของปก ษี ผูเ ทีย่ วไปไดท ั้งทางนํา้ และทางบก บรโิ ภคปลาสด เปนนิจนัน้ ถูกสาหรายพนั คอตายเสยี แลว. จบ วรี กชาดกท่ี ๔ อรรถกถาวรี กชาดกที่ ๔ พระศาสดาเมอ่ื ประทบั อยู ณ พระเชตวนั มหาวหิ าร ทรงปรารภการเอาอยางพระสคุ ต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มคี ําเริ่มตนวา อป วีรก ปสฺเสสิ ดงั น้ี. ความยอ มวี า เมือ่ พระเถระทัง้ หลายพาบริษทั ของพระ-เทวทัตมาเฝา พระศาสดาตรัสถามวา ดูกอ นสารบี ุตร เทวทตัเหน็ พวกเธอแลว ไดทําอยางไร กราบทูลวา พระเทวทัตเลยี นแบบพระสคุ ตพระเจาขา ตรัสวา ดกู อ นสารบี ตุ ร เทวทัตทําตามอยางเรา ถงึ ความพินาศมใิ ชใ นบดั น้ีเทา นนั้ แมแตกอนก็ถงึ ความ
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 293พินาศมาแลว พระเถระกราบทลู อาราธนา ทรงนาํ เรอื่ งอดตีมาตรสั เลา . ในอดีตกาลคร้งั พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบตั ิอยใู นกรุงพาราณสี พระโพธิสตั วอ ุบตั ิในกําเนิดกาน้าํ ในหิมวันต-ประเทศ อาศัยสระแหง หนึ่งอย.ู มีชอื่ วา วีรกะ. ในคร้ังนน้ัไดเ กิดขาวยากหมากแพงข้นึ ในแควน กาส.ี พวกมนุษยไมส ามารถใหอาหารกา หรอื กระทาํ การบวงสรวงยักษและนาคได. กาทง้ั หลายจงึ ออกจากแควน ท่อี ดอยาก เขาปาไปโดยมาก. ในกาเหลา น้ัน มีกาตัวหนึ่งชื่อ สวษิ ฐกะอยูเมืองพาราณสี พานางกาไปยังท่อี ยูข องกาวรี กะ อาศัยสระนนั้ อยสู วนหนึ่ง. อยมู าวันหนึ่งกาสวษิ ฐกะหาเหย่อื อยูในสระนั้น เหน็ กาวีรกะลงสระกินปลาแลวขึน้ มาตากตวั ใหแ หง จึงคิดวา เราอาศัยกาตวั นี้แลว สามารถหาปลาไดม าก เราจกั ปรนนิบัติกาตวั นี้ แลวเขาไปหากาวีรกะนนั้ เมอื่ กาวีรกะถามวา อะไรละสหาย ตอบวา นาย ขา พเจาอยากจะปรนนิบัติทาน กาสวิษฐกะรบั วา ดแี ลว ตั้งแตนนั้ มากาสวิษฐกะก็ปรนนบิ ตั ิกาวรี กะ. ฝายกาวีรกะกินปลาพออมิ่ สําหรับตนแลว ก็คาบปลามาใหแ กสวษิ ฐกะ. ฝา ยกาสวิษฐกะกินพออม่ิ สาํ หรับตนแลว กใ็ หปลาทเี่ หลอื แกน างกา. ตอมากาสวิษฐกะเกดิ ความทะนงตนขนึ้มาวา แมกานํา้ ตวั นี้ก็เปนกาดํา แมเ รากเ็ ปน กาดาํ แมต าจะงอยปาก และเทา ของกาวีรกะนัน้ และของเราก็ไมต างกัน
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 294ต้ังแตนี้ไปเราไมต องการปลาทีก่ าตัวน้ีจบั มาใหเรา. เราจกั จบัเสยี เอง. กาสวิษฐกะจึงเขาไปหากาวีรกะน้นั กลา ววา สหายตั้งแตนีไ้ ป เราจะลงสระจับปลากินเอง แมเ มือ่ กาวรี กะหา มอยูวาสหาย เจา มิไดเกดิ ในตระกูลกาทล่ี งนาํ้ จับปลากนิ เจา อยาพนิ าศเสยี เลย. กม็ ไิ ดเชื่อฟง คาํ ลงสระดําน้ําแลว กไ็ มโผลข ้นึ ไมสามารถจะแหวกสาหรายออกมาได. ติดอยูภ ายในสาหราย โผลแตปลายจงอยปากเทา นน้ั . กาสวษิ ฐกะหายใจไมออกถึงแกค วามตายในนํา้ นนั่ เอง ครงั้ นั้นนางกา ภรรยาของกาสวษิ ฐกะไมเหน็ กาสวษิ ฐกะกลับมา จึงไปหากาวีรกะเพอื่ จะรูค วามเปน ไป เมือ่จะถามวา นาย กาสวษิ ฐกะไมปรากฏ เขาหายไปเสยี ที่ไหนเลาจงึ กลาวคาถาแรกวา :- ทา นวรี กะ ทา นเห็นนกทรี่ อ งเสียงไพเราะ มีสีเสมอดวยสรอยคอแหงนกยูงผูเปนผัวของ ฉนั ชื่อสวษิ ฐกะบางไหม. กาวรี กะฟง ดงั นั้นแลวจงึ กลาววา จะ ขา รูท ่ีทผี่ ัวของเจาไปแลวกลาวคาถาท่ี ๒ วา :- นกสวษิ ฐกะ เม่อื ทําตามภรรยาของปก ษี ผเู ทย่ี วไปไดท ้ังทางนํา้ และทางบก บรโิ ภคปลาสด เปนนิจน้ัน ถกู สาหรายพันคอตายเสยี แลว . นางกาไดฟงดังนน้ั กโ็ ศกเศรา เสียใจกลับไปกรงุ พาราณสีตามเดิม.
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นบิ าตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนา ที่ 295 พระศาสดาทรงนาํ พระธรรมเทศนาน้ีมา แลว ทรงประชุมชาดก. กาสวิษฐกะในครั้งน้นั ไดเ ปนเทวทตั ในครั้งน้ี. สว นกาวีรกะ คือเราตถาคตนแ้ี ล. จบ อรรถกถาวีรกชาดกที่ ๔
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย ทกุ นิบาตชาดก เลม ๓ ภาค ๓ - หนาที่ 296 ๕. คังเคยยชาดก วาดวยผชู อบโออวด [๒๕๙] ปลาชื่อคงั เคยยะกง็ าม และปลาช่ือยมุนา ก็งาม แตบ ุรุษ ๔ เทา มีปรมิ ณฑลเพยี งดงั ตนไทร มีคอยาวหนอ ยหนึง่ ผนู ้ี ยอ มรุง เรืองย่งิ กวา ใคร ทัง้ หมด. [๒๖๐] ทานไมบ อกเหตทุ เ่ี ราถาม เราถามอยาง หนง่ึ ทานบอกเสียอยางหนง่ึ คนสรรเสรญิ ตนเอง นไ้ี มช อบใจเราเลย. จบ คงั เคยยชาดกที่ ๕ อรรถกถาคังเคยยชาดกท่ี ๕ พระศาสดาเมอ่ื ประทับอยู ณ พระเชตวนั มหาวหิ าร ทรงปรารภภกิ ษุผูเ ปน สหายสองรปู ตรัสพระธรรมเทศนาน้ี มคี ําเริม่ ตนวา โสภนตฺ ิ มจฉฺ า คงฺเคยฺยา ดังน้.ี ไดย ินวา ภกิ ษทุ ง้ั สองน้ันเปน กุลบตุ รชาวเมอื งสาวตั ถีบวชในศาสนาแลว มไิ ดบ ําเพญ็ อสุภภาวนา ชอบสรรเสรญิ รปูเทีย่ วพรา่ํ เพอ แตเ รอื่ งรูป. วันหน่ึง ภิกษุทั้งสองน้นั เกดิ ทมุ เถยี งกนั เร่ืองรูปวา ทานงาม เรากง็ าม เห็นพระเถระแกรปู หน่ึงนงั่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 526
Pages: