Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_07

tripitaka_07

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:39

Description: tripitaka_07

Search

Read the Text Version

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 257 ทนั ใดนั้น ชีวกโกมารภัจจ ไดแ ซกยาทางเล็บ พลางเคย้ี วมะขามปอมและดม่ื นํ้ารับประทาน แลวไดร อ งเธอเชิญกากะมหาดเล็กวา เชิญนายกากะมาเคีย้ วมะขามปอมและดื่มนาํ้ รบั ประทานดว ยกนั กากะมหาดเลก็ จึงคดิ วาหมอคนน้แี ลกําลงั เค้ียวมะขามปอ มและดม่ื นา้ํ รบั ประทาน คงไมมีอะไรจะใหโทษ แลวเคีย้ วมะขามปอ มครง่ึ ผล และดม่ื นํ้ารับประทาน มะขามปอ มครงึ่ผลท่เี ขาเค้ียวน้นั ไดร ะบายอุจจาระออกมาในทนี่ งั่ เอง. ครง้ั น้นั กากะมหาดเล็กไดเ รยี นถามชีวกโกมารภัจจว า ทานอาจารยชวี ิตของขาพเจา จะรอดไปไดห รือ ? ชวี กโกมารภจั จต อบวา อยา กลัวเลย พอนายกากะ ทานจกั ไมม ีอันตราย แตพระเจา อยหู ัวทรงเกร้ยี วกราด จะพึงรบั สั่งใหพ ฆิ าตเราเสียก็ไดเพราะเหตุนนั้ เราไมก ลบั ละ แลวมอบชางพังภัททวดีแกนายกากะ เดินทางไปพระนครราชคฤหรอนแรมไปโดยลาํ ดับ ถงึ พระนครราชคฤหแลวเขาเฝา พร ะเจาพิมพิสารจอมเสนามาคธราช กราบทลู เรอ่ื งราวน้ันใหทรงทราบทุกประการ. พระเจา พมิ พสิ ารรับสงั่ วา พอชวี ก เจาไมก ลับไปน้นั ช่อื วาไดท าํถกู แลว เพราะพระราชาองคนน้ั เหยี้ มโหด จะพงึ สงั่ ใหสาํ เรจ็ โทษเจา เสยี ก็ได. ครนั้ พระเจาจัณฑปชโชตทรงหายประชวร ทรงสงราชทูตไปทส่ี ํานักชวี กโกมารภัจจว า เชิญหมอชวี กมา เราจกั ใหพ ร. ชวี กกราบทูลตอบไปวา ไมตอ งไปก็ได พระพทุ ธเจาขา ขอใตฝ าละอองธุลีพระบาทจงทรงโปรดอนุสรณถ งึ ความดขี องขาพระพุทธเจา.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 258 พระราชทานผา สไิ วยกะ กโ็ ดยสมยั นั่นแล ผา สไิ วยกะคหู น่ึงบงั เกิดแกพระเจา จณั ฑปช โชต เปนผาเนอื้ ดเี ลิศ ประเสริฐ มีช่ือเดน อดุ ม และเปนเยยี่ มกวาผาทงั้ หลายเปน อันมากตง้ั หลายคู ทง้ั หลายรอ ยคู หลายพันคู หลายแสนคู ครง้ั นน้ั พระเจาจณั ฑปช โชต ทรงสงผา สิไวยกะคนู นั้ ไปพระราชทานแกช ีวกโกมารภจั จ ชีวกโกมารภจั จจ ึงไดม ีความดาํ รวิ า ผา สิไวยกะนี้ พระเจาจณั ฑปชโชตสงมาพระราชทาน เปนผา เนอ้ื ดีเลิศ ประเสรฐิ มชี ่ือเดน อดุ มและเปน เย่ียมกวา ผาท้ังหลายเปน อนั มาก ดังหลายคู ตง้ั หลายรอ ยคู หลายพันคูหลายแสนคู นอกจากพระผูมีพระภาคเจาอรหันตสัมมาสมั พุทธเจา พระองคน้นัหรือพระเจาพิมพิสารจอมเสนามาคธราชแลว ใครอน่ื ไมควรอยา งย่ิงเพอ่ื ใชผ าสิไวยกะคนู .ี้ พระผูม ีพระภาคเจาเสวยพระโสถถาย [ ๓๕] ก็โดยสมยั น้ันแล พระกายของพระผมู พี ระภาคเจาหมกั หมมดว ยสิ่งอนั เปนโทษ พระผูม ีพระภาคเจา จงึ รับสัง่ กะทานพระอานนทว า ดกู อนอานนท กายของตถาคตหมักหมมดว ยส่ิงอันเปนโทษ ตถาคตตอ งการจะฉนัยาถาย. คร้งั นัน้ ทานพระอานนทเ ดินไปหาชวี กโกมารภัจจ ครั้น ถงึ แลวไดกลา วคาํ น้ีกะชีวกโกมารภัจจวา ทา นชีวก พระกายของพระตถาคตหมกั หมมดว ยสิง่ อันเปน โทษ พระตถาคตตอ งการจะเสวยพระโอสถถาย ชวี กโกมารภจั จกลาววา พระคุณเจา ถา อยา งนนั้ ขอทานจงโปรดทําพระกายของพระผูมพี ระภาคเจาใหช ุมชืน่ สกั ๒ - ๓ วัน.

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 259 ครั้งนั้น ทา นพระอานนทไดทําพระกายของพระผูม พี ระภาคเจาใหชุม ช่นื ๒ - ๓ วันแลว เดินไปหาชีวกโกมารภัจจ ครน้ั ถงึ แลวไดก ลาวคาํ นก้ี ะชีวกโกมารภจั จวา. ทา นชวี ก พระกายของพระตถาคตชุมชน่ื แลว บดั น้ี ทา นรกู าลอนัควรเถิด. คร้งั นัน้ ชวี กโกมารภัจจไดม คี วามปริวติ กดังนี้วา การที่เราจะพงึ ทูลถวายพระโอสถถายทห่ี ยาบแดพระผูม ีพระภาคเจาน้ัน ไมส มควรเลย ถา กระไรเราพึงอบกานอุบล ๓ กานดว ยยาตาง ๆ แลวทูลถวายพระตถาคต ครน้ั แลว ไดอบกา นอุบล ๓ กานดวยยาตา ง ๆ แลว เขา เฝาพระผูมีพระภาคเจา ครน้ั แลว ไดทูลถวายกานอบุ ลกา นท่ีหนึง่ แดพระผมู ีพระภาคเจา กราบทลู วา พระพุทธเจา ขาขอพระผมู พี ระภาคเจา จงทรงสดู กานอบุ ลกานที่ ๑ น้ี การทรงสดู กานอุบลนจ้ี กัยังพระผมู ีพระภาคเจาใหถา ยถึง ๑๐ ครั้ง แลวไดท ลู ถวายกา นอบุ ลกา นท่ี ๒ แดพระผูมีพระภาคเจา กราบทูลวา พระพุทธเจา ขา ขอพระผูมีพระภาคเจาจงทรงสูดกานอบุ ลกา นที่ ๒ น้ี การทรงสดู กา นอุบลน้ีจกั ยงั พระผมู พี ระภาคเจาใหถา ยถงึ ๑๐ ครงั้ แลวไดทูลถวายกานอุบลกา นท่ี ๓ แดพ ระผมู ีพระภาคเจากราบทลู วา พระพุทธเจา ขา ขอพระผูมพี ระภาคเจาจนทรงสูดกานอุบลกา นท่ี ๓น้ี การทรงสูดกานอุบลนจ้ี กั ยงั พระผมู ีพระภาคเจา ใหถ า ยถงึ ๑๐ คร้งั ดว ยวธิ ีน้ี พระผูม พี ระภาคเจาจักทรงถายถงึ ๓๐ ครงั้ . ครัน้ ชวี กโกมารภัจจ ทูลถวายพระโอสถถา ยแดพระผูมพี ระภาคเจาเพอื่ ถา ยครบ ๓๐ คร้งั แลว ถวายบังคมพระผูมพี ระภาคเจา ทําประทกั ษิณกลบั ไป ขณะเม่อื ชวี กโกมารภจั จเ ดนิ ออกไปนอกซมุ ประตู แลว ไดมคี วามปรวิ ติ กดังนี้วา เราทลู ถวายพระโอสถถายแดพ ระผมู ีพระภาคเจาเพ่ือถายครบ ๓๐ ครง้ั

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 260พระกายของพระตถาคตหมักหมมดวยสิ่งอันเปนโทษ จักไมยังพระผมู ีพระภาคเจาใหถา ยครบ ๓๐ ครงั้ จกั ใหถ า ยเพียง ๒๙ ครัง้ แตพ ระผูมพี ระภาคเจา ทรงถายแลว จักสรงพระกาย คร้นั สรงพระกายแลว จกั ถายอีกดรัง้ หนึง่ อยางนี้พระผมู พี ระภาคเจาจกั ทรงถา ยครบ ๓๐ ครั้ง. คร้ังนัน้ พระผูมีพระภาคเจาทรงทราบความปรวิ ิตกแหง จิตของชวี กโกมารภจั จดวยพระทัยแลว รับสั่งกะทานพระอานนทวา อานนท ชวี กโกมาร-ภจั จ กําลงั เดินออกไปนอกซุมประตวู ิหารนี้ ไดมคี วามปรวิ ติ กดังนวี้ า เราถวายพระโอสถถา ยแดพ ระผูมพี ระภาคเจา เพ่อื ถายครบ ๓๐ คร้ังแลว พระกายของพระตถาคตหมักหมมดว ยส่งิ อันเปนโทษ จกั ไมยงั พระผูม พี ระภาคเจาใหถายครบ ๓๐ ครง้ั จกั ใหถ ายเพียง ๒๙ ครั้ง แตพระผมู ีพระภาคเจาทรงถา ยแลวจกั ทรงสรงพระกาย ครัน้ สรงพระกายแลวจกั ถายอีกดร้ังหนึ่ง อยางน้ี พระ-ผูม พี ระภาคเจาจกั ทรงถายครบ ๓๐ คร้งั อานนท ถา อยา งน้ัน เธอจงจดั เตรยี มนาํ้ รอ นไว. พระอานนทท ูลรบั สนองพระพทุ ธพจนแ ลว จัดเตรยี มน้าํ รอ นไวถวายตอ มา ชีวกโกมารภัจจไปในพุทธสาํ นัก คร้นั ถงึ แลวถวายบงั คมพระผมู พี ระภาคเจานั่งอยู ณ ทค่ี วรสว นขางหนึ่ง ครน้ั แลวไดก ราบทลู ถามพระผมู พี ระภาคเจาวา พระผมู ีพระภาคเจาทรงถา ยแลวหรอื พระพุทธเจา ขา. ภ. เราถา ยแลว ชวี ก. ช.ี พระพทุ ธเจา ขา ขาพระพุทธเจากําลงั เดินออกไปนอกซมุ ประตูพระวหิ ารน้ี ไดม คี วามปริวติ กดังนี้วา เราถวายพระโอสถถา ยแดพ ระผมู พี ระ-ภาคเจาเพอื่ ถายครบ ๓๐ ครัง้ แลว พระกายของพระผูม ีพระภาคเจา หมักหมมดวยสิ่งอนั เปน โทษ จักไมย ังพระผูม พี ระภาคเจา ใหถ า ยครบ ๓๐ ครั้ง จกั ใหถ าย

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 261เพียง ๒๙ คร้งั แตพระผมู พี ระภาคเจา ทรงถา ยแลว จกั สรงพระกาย ครัน้ สรงพระกายแลว จกั ถายอีกดรัง้ หนึ่งอยางนี้ พระผมู ีพระภาคเจา จักทรงถา ยครบ ๓๐ครงั้ พระพุทธเจาขา ขอพระผมู พี ระภาคเจาจงโปรดสรงพระกาย ขอพระ-สุดจงโปรดสรงพระกาย. คร้งั นั้น พระผูมีพระภาคเจา ทรงสรงนํา้ อุน ครน้ั สรงแลว ทรงถา ยอกี ดรั้งหนึ่งอยางน้ี เปนอนั พระผมู ีพระภาคเจา ทรงถายครบ ๓๐ ครง้ั ลาํ ดบัน้นั ชีวกโกมารภจั จไดก ราบทลู คํานแี้ ดพระผูมีพระภาคเจา วา พระพทุ ธเจา ขาพระผมู พี ระภาคเจาไมค วรเสวยพระกระยาหารท่ีปรงุ ดว ยนา้ํ ตมผกั ตาง ๆ จนกวาจะมีพระกายเปนปกต.ิ ตอ มาไมน านนัก พระกายของพระผูมีพระภาคเจาไดเปนปกติแลว. กราบทลู ขอพร คร้งั นน้ั ชวี กโกมารภจั จ ถือผา สไิ วยกะคนู ้นั ไปในพทุ ธสํานัก ครนั้ถงึ แลว ถวายบงั คมพระผมู ีพระภาคเจา น่งั อยู ณ ที่ควรสว นขางหนง่ึ ชีวก-โกมารภัจจน ่งั เรยี บรอ ยแลว ไดกราบทูลคาํ น้แี ดพระผมู พี ระภาคเจา วา ขา พระ-พุทธเจา จะขอประทานพรตอพระผูมีพระภาคเจาสกั อยา งหนึง่ พระพทุ ธเจาขา ภ. พระตถาคตท้ังหลายเลกิ ใหพ รเสยี แลว ชวี ก. ช.ี ขาพระพทุ ธเจา ขอประทานพรท่สี มควรและไมม ีโทษ พระพุทธเจา ขา . ภ. จงวามาเถดิ ชวี ก. ช.ี พระพุทธเจาขา พระผมู พี ระภาคเจา และพระสงฆทรงถอื ผา บังสุกุลเปนปกตอิ ยู ผาสไิ วยกะของขา พระเจา คนู ี้ พระเจา จณั ฑปชโชตทรงสงมาพระราชทาน เปนผา เนอ้ื ดีเลิศ ประเสรฐิ มีช่อื เสียงเดนอดุ ม และเปน เยี่ยมกวา ผาท้งั

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 262หลายเปน อนั มาก ตั้งหลายคู ตัง้ หลายรอ ยคู หลายพนั คู หลายแสนคู ขอพระผมู ีพระภาคเจาจงทรงพระกรณุ าโปรดรับผา คสู ิไวยกะของขาพระพุทธเจาและขอจงทรงพระพทุ ธานุญาตคหบดจี ีวรแกพระสงฆดว ยเถดิ พระพทุ ธเจาขา . พระผูม พี ระภาคเจาทรงรับผาคูสิไวยกะแลว ครั้นแลว ทรงชแี้ จงใหชีวกโกมารภจั จ เห็นแจง สมาทาน อาจหาญ รา เริงดวยธรรมีกถา ครนั้ชีวกโกมารภัจจอนั พระผูมพี ระภาคเจาทรงชแี้ จงใหเ ห็นแจง สมาทาน อาจหาญรา เริงดว ยธรรมกี ถา แลว ลุกจากที่น่งั ถวายบงั คมพระผูม ีพระภาคเจา ทาํ ประ-ทักษณิ กลบั ไป. พระพทุ ธานุญาติคหบดจี วี ร ลําดับนน้ั พระผูม พี ระภาคเจาทรงทําธรรมกี ถา ในเพราะเหตเุ ปนเคา มลู นัน้ ในเพราะเหตุแรกเกดิ นัน้ แลว รับส่งั กะภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย เราอนญุ าตคหบดจี วี ร รูปใดปรารถนา จงถอื ผาบงั สุกุล รูปใดปรารถนา จงยนิ ดคี หบดจี ีวร แตเราสรรเสรญิ การยนิ ดี ดว ยปจ จยั ตามมีดามได. [๑๓๖] ประชาชนในพระนครราชคฤหไดทราบขาววา พระผมู ีพระภาคเจาทรงอนุญาตคหบดีจวี รแกภกิ ษทุ ้ังหลาย ตางพากนั ยินดรี า เรงิ วาบดั น้แี ล พวกเราจกั ถวายทาน จักบําเพ็ญบุญ เพราะพระผมู ีพระภาคเจา ทรงอนุญาตคหบดีจวี รแกภกิ ษทุ ้งั หลาย เพยี งวันเดียวเทานั้น จีวรหลายพันผืนไดเกดิ ขนึ้ ในพระนครราชคฤห ประชาชนชาวชนบทไดทราบขา ววา พระผมู พี ระ-ภาคเจา ทรงอนุญาตคหบดีจวี รแกภิกษุทง้ั หลาย ตางพากนั ยนิ ดรี า เรงิ วา บัดนี้แล พวกเราจักถวายทาน จักบาํ เพ็ญบุญเพราะพระผพู ระภาคเจา ทรงอนญุ าต

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 263คหบดีจวี รแกภ ิกษุท้ังหลาย เพียงวนั เดยี วเทา นั้น จีวรหลายพนั ผืนไดเกิดขึ้นแมในชนบท. พระพทุ ธานญุ าตปาวารและผาโกเชาว [๑๓๗] กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ผา ปาวารเกิดขึ้นแกส งฆ ภกิ ษุท้ังหลายกราบทลู เรื่องน้ันแคพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลายเราอนุญาตผาปาวาร. ผาปาวารแกมไหม เกดิ ขนึ้ แกพ ระสงฆ ภกิ ษทุ ้ังหลายไดกราบทลูเรื่องนั้นแดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลายเราอนญุ าตผาปาวารแกมไหม. ผาโกเชาวเกดิ ขึน้ แกพ ระสงฆ ภกิ ษุทัง้ หลายกราบทูลเร่อื งนนั้ แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตผา โกเชาว ปฐมภาณวาร จบ พระพุทธนญุ าตผากัมพล [๑๓๘] ก็โดยสมยั นั้นแล พระเจา กาสที รงพระกรณุ าสงผากัมพลมรี าคาครง่ึ กาสี คือ ควรราคากงึ่ กาสี มาพระราชทานแกชีวกโกมารภจั จ ครั้งนน้ั ชีวกโกมารภจั จรับพระราชทานผากมั พลราคากึ่งกาสนี น้ั แลว เขา ไปในพทุ ธสํานกั ครั้นถงึ แลวถวายบังคมพระผูม ีพระภาคเจาน่งั อยู ณ ท่คี วรสว นขางหน่ึง ชีวกโกมารภจั จน่งั เฝา เรียบรอ ยแลว ไดกราบทลู คาํ น้แี ดพ ระผมู ีพระ-ภาคเจา วา พระพทุ ธเจา ขา ผากัมพลของขา พระพุทธเจา ผืนนีร้ าคาคร่งึ กาสี คอืควรราคาก่งึ กาสี พระเจากาสีทรงพระกรณุ าสงมาพระราชทาน ขอพระผูมีพระ-

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 264ภาคเจาจงทรงพระกรณุ าโปรดรับผากมั พลของขา พระพุทธเจา เพื่อประโยชนและความสขุ แกข า พระพทุ ธเจา ตลอดกาลนานดวยเถดิ พระพุทธเจา ขา. พระผูมพี ระภาคเจาทรงรับผา กมั พล คร้ันแลว ทรงชแ้ี จงใหชวี กโกมารภัจจเ ห็นแจง สมาทาน อาจหาญ ราเริง ดว ยธรรมีกถา ครัน้ ชีวกโกมารภัจจ อันพระผมู ีพระภาคเจา ทรงชแ้ี จง ใหเห็นแจง สมาทาน อาจหาญ ราเริงดวยธรรมีกถาแลว ลกุ จากท่ีนั่งถวายบังคมพระผูม พี ระภาคเจา ทําประทักษณิกลับไป. คร้ังนนั้ พระผมู พี ระภาคเจาทรงทาํ ธรรมมกี ถา ในเพราะเหตุเปนเคามูลนนั้ ในเพราะเหตุแรกเกดิ น้ัน แลว รบั ส่ังกะภิกษทุ ้ังหลาย เราอนุญาตผากมพล. พระพทุ ธานุณาตคหบดจี ีวร ๖ ชนดิ [๑๓๙] ก็โดยสมัยน้นั แล จวี รท้งั เนื้อดีและเลวเกิดข้ึนแกส งฆ ครง้ันั้นภิกษุทง้ั หลายไวม คี วามปริวิตกดงั นีว้ า จีวรชนิดไรหนอแล พระผมู ีพระภาคเจาทรงอนญุ าต ชนดิ ไรไมท รงอนุญาต แลว กราบทูลเร่อื งนั้นแดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนุญาตจวี ร ๖ชนิด คอื จวี รทําดวยเปลอื กไม ๑ ทาํ ดว ยฝา ย ๑ ทําดว ยไหม ๑ ทําดว ยขนสัตว๑ ทาํ ดว ยปา น ๑ ทําดว ยของเจือกนั ๑. สมยั ตอมา ภกิ ษุทงั้ หลายท่ยี นิ ดคี หบดีจวี รนน้ั พากนั รงั เกยี จ ไมยนิ ดีผาบงั สกุ ุลดว ยคิดวา พระผูม พี ระภาคเจาทรงอนุญาตจวี รอยางเดียวเทานั้นไมใช ๒ อยาง จึงกราบทูลเร่ืองน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวาดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตใหภิกษุผยู นิ ดคี หบดจี ีวร ยินดผี า บังสุกลุ ไดแตเราสรรเสริญความสนั โดษดว ยจีวรทั้งสองนัน้ .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 265 เร่ืองขอสว นแบง [๑๔๐] กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภิกษุหลายรูปดว ยกัน เดินทางไกลไปในโกศลชนบท บางพวกแวะเขาสุสาน เพอ่ื แสวงหาผาบงั สุกุล บางพวกไมรอคอย บรรดาภิกษุท่ีแวะเขาสุสานเพ่อื แสวงหาผาบังสุกุลนั้น ตางกไ็ ดผาบังสุกลุพวกทีไ่ มรอคอยน้ันพดู อยางนวี้ า อาวโุ สท้ังหลาย ขอทา นจงใหส ว นแบง แกพวกขาพเจาบาง ภกิ ษุพวกนน้ั พูดอยางนวี้ า อาวุโสท้ังหลาย เราไมใหส ว นแบงแกทา น เพราะเหตไุ รพวกทานจงึ ไมรอคอยเลา แลว กราบทูลเรอื่ งนัน้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย เราอนญุ าตใหภิกษุทั้งหลายผไู มป รารถนา ไมตอ งใหสวนแบงแกภ กิ ษพุ วกทไี่ มรอคอย. สมยั ตอ มา ภิกษหุ ลายรปู ดว ยกัน เดินทางไกลไปในโกศลชนบทบางพวกแวะเขาสสุ านเพือ่ แสวงหาผา บังสุกลุ บางพวกรอคอยอยู บรรดาพวกท่ีแวะเขาสุสานเพ่อื แสวงหาผา บังสุกลุ นนั้ ตางก็ไดผ า บังสกุ ุล พวกภิกษทุ ี่รอคอยอยูนนั้ พดู อยา งนี้วา อาวโุ สทงั้ หลายขอพวกทา นจงใหสว นแบงแกพ วกขาพเจาบา ง ภกิ ษุพวกน้ัน พดู อยา งนีว้ า อาวุโสทั้งหลาย พวกขาพเจา จกั ไมใหส วนแบงแกพ วกทา น เพราะเหตุไรพวกทา นจึงไมแวะเขาไปเลา แลวกราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลายเราอนญุ าตใหภกิ ษุท้ังหลายผูไมปรารถนา ก็ตอ งใหสว นแบง แกภกิ ษพุ วกทรี่ อคอย. สมัยตอ มา ภกิ ษหุ ลายรูปดวยกัน เดนิ ทางไกลไปในโกศลชนบทบางพวกแวะเขา สุสานกอน เพื่อแสวงหาผา บงั สกุ ลุ บางพวกแวะเขา ทีหลงัภกิ ษุที่แวะเขา สุสานกอนเพื่อแสวงหาผาบังสกุ ุลนัน้ ตา งก็ไดผ าบงั สุกุล พวกภิกษุทแี่ วะเขาทหี ลงั ไมไดจ ึงพูดอยางนีว้ า อาวุโสทัง้ หลาย ขอพวกทา นจงใหสวนแบง แกพ วกขาพเจาบาง ภกิ ษุเหลานั้นตอบอยา งนีว้ า พวกขาพเจาจักไมใ ห

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 266สว นแบง แกพวกทา น เพราะเหตไุ รพวกทานจึงแวะเขา ไปทีหลงั เลา แลวกราบทลู เร่ืองนน้ั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย เราอนญุ าตใหภิกษุท้ังหลายผไู มป รารถนาไมต องใหส วนแบงแกภ ิกษพุ วกทแี่ วะเขาไปทหี ลงั . สมยั ตอ มา ภกิ ษุหลายรูปดว ยกัน เดินทางไกลไปในโกศลชนบท ภกิ ษุเหลา นน้ั แวะเขา สุสาน เพอ่ื แสวงหาผาบังสกุ ุลพรอ มกนั บางพวกไดผา บังสุกุลบางพวกไมไ ด พวกที่ไมไ ดพดู อยางน้ีวา อาวุโสท้ังหลาย ขอพวกทานจงใหสวนแบงแกพวกขา พเจา บาง ภิกษเุ หลา น้ัน ตอบอยา งนว้ี า อาวโุ สท้ังหลายพวกขาพเจาจักไมใ หส ว นแบงแกพวกทาน ทาํ ไมพวกทานจงึ หาไมไดเลา แลวกราบทูลเร่ืองนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตใหภกิ ษุท้ังหลายไมป รารถนาก็ตอ งใหสว นแบง แกภกิ ษุทง้ั หลายท่ีแวะเขาไปพรอ มกัน. สมัยตอมา ภิกษหุ ลายรปู ดวยกนั เดนิ ทางไกลไปในโกศลชนบท ภิกษุเหลานัน้ นัดแนะกนั แลวแวะเขาสุสาน เพื่อแสวงหาผาบังสุกุล บางพวกไดผาบงั สกุ ุล บางพวกไมได พวกทไ่ี มไดพ ดู อยางน้ีวา อาวุโสทัง้ หลาย ขอพวก.ทานจงใหส วนแบง แกพวกขา พเจา บาง ภิกษุเหลา นน้ั พดู อยา งนวี้ า อาวุโสทง้ัหลายพวกขาพเจา จกั ไมใ หส วนแบงแกพ วกทา น ทําไมพวกทานจงึ หาไมไ ดเ ลาแลว กราบทลู เรื่องนัน้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ัหลาย เราอนญุ าตใหภ ิกษุท้งั หลายไมป รารถนาก็ตอ งใหสวนแบง แกภ กิ ษพุ วกที่นดั แนะกนั ไวแลว แวะเขาไป. องคของเจา หนาท่ผี ูร บั จวี ร [๑๔๑] ก็โดยสมัยน้ันแล ประชาชนถอื จีวรมาสูอ าราม พวกเขาหาภิกษุ เจาหนา ทร่ี ับไมไ ดจ งึ นาํ กลับไป จีวรเกิดข้ึนนอ ย ภิกษทุ ั้งหลายกราบทลู

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 267เร่ืองนัน้ แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตไหส มมตภิ กิ ษผุ ปู ระกอบดว ยองค ๕ เปน เจา หนา ทีร่ บั จวี ร คอื :- ๑. ไมถ งึ ความลา เอยี งเพราะความชอบพอ. ๒. ไมถงึ ความลําเอียงเพราะความเกลียดชงั . ๓. ไมถ งึ ความลําเอียงเพราะความงมงาย. ๔. ไมถงึ ความลําเอียงเพราะความกลวั และ ๕. รูจ กั จวี รจาํ นวนท่ีรับไว และยังมไิ ดรบั . วธิ สี มมติ ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ก็แลสงฆพงึ สมมตอิ ยางน้ี. สงฆพ ึงขอรองภกิ ษกุ อ น คร้นั แลว ภิกษุผูฉลาด ผสู ามารถ พึงประกาศใหส งฆท ราบดวยญตั ติทตุ ยิ กรรมวาจา วาดังน:ี้ - กรรมวาจาสมมติ ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟงขา พเจา ถาความพรอมพร่งั ของสงฆถ ึงทีแ่ ลว สงฆพ งึ สมมติภกิ ษุมีชอ่ื นใ้ี หเ ปน เจาหนาทร่ี ับจีวร นี้เปน ญตั ติ. ทา นเจา ขอสงฆจ งฟงขา พเจา สงฆสมมตภิ กิ ษุมชี ื่อน้ใี หเปน เจา หนาทีร่ บั จีวร การสมมตภิ ิกษุมีชอ่ื นี้ ใหเ ปนเจาหนา ท่ีรบั จวี รชอบแกท า นผูใ ด ทานผูนัน้ ฟง เปน ผนู ง่ั ไมช อบแกท านผใู ด ทา นผนู ้ันพึงพูด. สงฆสมมตภิ กิ ษมุ ีชอ่ื นีใ้ หเ ปนเจาหนาที่รบั จวี รแลว ชอบแกสงฆ เหตนุ ัน้ จึงน่ิง ขาพเจาทรงความนไ้ี วดวยอยา งนี้.

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 268 องคข องเจาหนา ท่ีผูเก็บจีวร [๑๘๒] กโ็ ดยสมัยน้นั แล ภิกษทุ ้งั หลายผเู ปน เจาหนา ท่รี บั จวี ร รบัจวี รแลว ท้ิงไวใ นทนี่ ้นั แหละ แลว หลกี ไป จวี รเสยี หาย ภิกษุทั้งหลายกราบทลูเร่ืองนั้นแดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราอนุญาตใหส มมติภกิ ษุผูประกอบดวยองค ๕ เปนเจา หนา ท่ีเก็บจวี ร คือ:- ๑. ไมถ ึงความลาํ เอยี งเพราะความชอบพอ. ๒. ไมถ งึ ความลาํ เอียงเพราะความเกลียดชัง. ๓. ไมถึงความลาํ เอยี งเพราะความงมงาย. ๔. ไมถ งึ ความลาํ เอียงเพราะความกลวั และ. ๕. รูจักจีวรจํานวนทเ่ี ก็บไว และยังมิไดเ กบ็ . วธิ ีสมมติ ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย กแ็ ลสงฆพ ึงสมมติอยา งน.้ี สงฆพ ึงขอรองภิกษกุ อน ครนั้ แลวภกิ ษุผูฉลาด ผสู ามารถ พึงประกาศใหสงฆทราบดวยญตั ติทุติยกรรมวาจา วา ดังน้ี:- กรรวาจาสมมติ ทา นเจา ขา ขอสงฆจงพึงขา พเจา ถา ความพรอ มพรัง่ ของสงฆถึงทีแ่ ลว สงฆพ งึ สมมติภิกษมุ ชี อ่ื นใ้ี หเปน เจา น้าํ ทเี่ กบ็ จีวร นี้เปนญตั ติ. ทานเจาขา ขอสงฆจงฟงขาพเจา สงฆส มมติภิกษุมีช่อื นี้ใหเปน เจาหนา ที่เกบ็ จีวร การสมมติภิกษุมชี ือ่ น้ใี หเ ปน เจา หนาท่เี กบ็จีวรชอบแกท านผใู ด ทานผูน ้ันพงึ เปน ผูน ิ่ง ไมช อบแกท านผใู ดทา นผูน้ันพงึ พดู .

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 269 สงฆสมมติภิกษุมีช่ือนี้ ใหเปนเจาหนาทเี่ ก็บจีวร ชอบแกสงฆ เหตุน้นั จงึ นิ่ง ขา พเจา ทรงความนีไ้ วด วยอยางน.้ี พระพทุ ธอนุญาตเรอื นคลัง [๑๔๓] กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภิกษุท้งั หลายผูเปนเจา หนาทีเ่ ก็บจีวร ไดเก็บจวี รไวในมณฑปบาง ท่โี คนไมบ า ง ทช่ี ายคาบาง ทกี่ ลางแจงบาง จีวรถกู หนูกัดบา ง ถกู ปลวกกินบา ง ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรอ่ื งน้ันแดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย เราอนญุ าตใหสมมติวิหาร เพิง เรอื นช้นั เรือนโลน หรอื ถา ทส่ี งฆจําหมายใหเ ปน เรือนคลงั . วธิ สี มมติ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ก็แล สงฆพงึ สมมติอยางนี้ คือ ภกิ ษุผฉู ลาด ผูสามารถ พึงประกาศใหสงฆทราบดว ยญตั ติทตุ ยิ กรรมวาจา วาดงั น:้ี - กรรมวาจาสมมติ ทานเจา ขา ขอสงฆจ งพึงขา พเจา ถา ความพรอ มพร่งั ของสงฆถ งึ ท่ีแลว สงฆพ ึงสมมติวหิ ารมชี อื่ นใ้ี หเปน เรอื นคลงั นเ้ี ปนญตั ติ. ทา นเจาขา ขอสงฆจ งพึงขาพเจา สงฆส มมตวิ ิหารมชี ่อื นี้ใหเ ปนเรือนคลงั การสมมติวิหารมชี อ่ื นใี้ หเปนเรือนคลงั ชอบแกทานผูใ ด ทานผนู ้นั พงึ เปน ผนู ิ่ง ไมช อบแกท านผใู ด ทา นผนู น้ั พงึพดู . สงฆส มมตวิ หิ ารมีชอื่ นี้ ใหเ ปน เรอื นคลงั แลว ชอบแกส งฆเหตุน้นั จงึ นงิ่ ขาพเจา ทรงความนี้ไวด ว ยอยางน้ี.

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 270 องคของเจาหนาทผ่ี ูรกั ษาเรอื นคลัง [๑๔๔] ก็โดยสมยั นั้นแล จีวรในเรอื นคลงั ของสงฆ ไมม ตี นเฝาภกิ ษทุ ัง้ หลายกราบทลู เรื่องนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหส มมตภิ ิกษุผูประกอบดวยองค ๕ เปนเจา หนา ที่รักษาเรอื นคลัง คือ:- ๑. ไมถงึ ความลําเอียงเพราะความชอบพอ. ๒. ไมถงึ ความลาํ เอยี งเพราะความเกลียดชัง. ๓. ไมถ งึ ความลาํ เอยี งเพราะความงมงาย. ๔. ไมถึงความลาํ เอยี งเพราะความกลัว และ ๕. รูจักจวี รจํานวนที่รักษา และยังมิไดรักษา. วธิ ีสมมติ ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย ก็แลสงฆพงึ สมมติอยางนี้. สงฆพงึ ขอรอ งภกิ ษุกอ น ครัน้ แลวภิกษุผฉู ลาด ผูสามารถ พึงประกาศใหสงฆทราบดว ยญัตติทุติยกรรมวาจา วาดงั น้ี:- กรรมวาจาสมมติ ทานเจา ขา ขอสงฆจ งฟง ขาพเจา ถาความพรอมพรงั่ ของสงฆถ งึ ท่แี ลว สงฆพึงสมมติภกิ ษุมีชอ่ื น้ี ใหเปนเจาหนาท่รี ักษาเรอื นคลงั นี้เปน ญัตติ. ทานเจาขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา สงฆส มมตภิ ิกษมุ ชี อื่ นีใ้ หเปนเจาหนาท่ีรกั ษาเรอื นคลงั การสมมตภิ กิ ษุมชี ่ือน้ี ใหเปนเจา หนาทร่ี ักษาเรอื นคลงั ชอบแกทานผูใด ทานผนู ัน้ พึงเปนผูน ง่ิ ไมชอบแกทานผูใด ทา นผนู ้ันพึงพูด.

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 271 สงฆส มมติ ภกิ ษุมีชอื่ นี้ ใหเ ปนเจาหนาท่รี ักษาเรือนคลังแลวชอบแกสงฆ เหตนุ น้ั จงึ นงิ่ ขา พเจา ทรงความนีไ้ วดวยอยางน้.ี พระพุทธบญั ญตั หิ า มยา ยเจา หนาทร่ี กั ษาเรือนคลงั [๑๔๕] กโ็ ดยสมัยนน้ั แล พระฉพั พคั คียย า ยเจา หนา ทร่ี กั ษาเรือนคลัง ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลเร่อื งนั้นแดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั หา มวาดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษไุ มพงึ ยา ยเจา หนา ท่ีผูรักษาเรือนคลงั รูปใดยายตอ งอาบัติทกุ กฏ. องคของเจา หนาท่ีผูแจกจีวร [๑๔๖] ก็โดยสมยั นน้ั แล จีวรในเรือนคลังของสงฆม ีมาก ภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทลู เรอื่ งนัน้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตใหส งฆผอู ยพู รอมหนาแจก. สมัยตอ มา สงฆทง้ั ปวงกําลังแจกจวี รไดส ง เสียงออื้ องึ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนนั้ แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าต วา ดกู อนภิกษุท้งั หลายเราอนุญาตใหสมมติภิกษผุ ปู รกอบดวยองค ๕ เปนเจาหนาทแี่ จกจวี ร คือ:- ๑. ไมถ งึ ความลาํ เอยี งเพราะความชอบพอ. ๒. ไมถึงความลําเอยี งเพราะความเกลียดชัง. ๓. ไมถ ึงความลาํ เอยี งเพราะความงมงาย ๔. ไมถึงความลําเอยี งเพราะความกลวั และ. ๕. รจู กั จีวรจาํ นวนทแี่ จกแลว และยงั มไิ ดแจก.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 272 วธิ สี มมติ ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กแ็ ล สงฆพ งึ สมมตอิ ยางนี้. สงฆพงึ ขอรอ งภิกษกุ อน ครนั้ แลวภกิ ษผุ ฉู ลาด ผูส ามารถ พึงประ-กาศใหสงฆทราบดวยญัตติทตุ ิยกรรมวาจา วาดังน:้ี - กรรมวาจาสมมติ ทา นเจาขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา ถาความพรอมพรง่ั ของสงฆถงึ ท่แี ลว สงฆพ ึงสมมติภกิ ษมุ ชี ื่อนีใ้ หเปน เจาหนา ท่แี จกจวี รน้ีเปนญตั ติ. ทา นเจาขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา สงฆสมมตภิ กิ ษมุ ีชอื่ นใ้ี หเปนเจา หนาท่แี จกาจวี ร การสมมตภิ ิกษมุ ีชื่อนี้ใหเ ปน เจา หนา ที่แจกจีวร ชอบแกท า นผใู ด ทานผูน้ันพงึ เปน ผนู ่ิง ไมช อบแกทานผูใดทา นผนู น้ั พงึ พูด. สงฆส มมติภกิ ษมุ ีชอ่ื นี้ใหเ ปน เจาหนา ท่ีแจกจีวรแลว ชอบแกสงฆ เหตุน้นั จงึ นิง่ ขา พเจา ทรงความนไิ วดว ยอยางน.้ี ครง้ั น้นั ภิกษุทัง้ หลายผเู ปน เจา หนาที่แจกจีวร ไดมีความปริวิตกดงั นี้วา ควรแจกจวี รอยา งไรหนอ จงึ กราบทลู เร่อื งน้ันแคพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสแนะวิธแี จกวา ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนุญาตใหค ัดเลือกผากอน แลว ดีราคาคิดถัวกัน นบั ภกิ ษุ ผูกผาเปน มัด ๆ แลว ตั้งสวนจวี รไว. ครง้ั นนั้ ภกิ ษทุ ้ังหลายผเู ปน เจา หนาที่แจกจวี ร ไดมคี วามปรวิ ิตกวาพงึ ใหส ว นจวี รแกส ามเณรอยางไรหนอ จึงกราบทลู เรอื่ งน้ัน แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหม อบสวนกงึ่หนง่ึ ใหแกพวกสามเณร.

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 273 สมัยตอ มา ภิกษุรูปหน่งึ ปรารถนาจะรีบเดินทางไปกับสวนของตนภิกษทุ ง้ั หลายจงึ กราบทลู เร่ืองน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวาดกู อ นภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหมอบสวนของคนแกภ กิ ษุผูร ีบเดนิ ทางไป. สมยั ตอ มา ภิกษุรปู หนึง่ ปรารถนาจะรบี เดินทางไปกบั สว นพิเศษภิกษุทงั้ หลายกราบทลู เรื่องนั้น แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตใหม อบสวนพิเศษในเมือ่ ใหส่ิงของทดแทนสมกัน. คร้งั นั้น ภกิ ษเุ จาหนา ทแี่ จกจวี รคิดวา พึงใหสว นจวี รอยา งไรหนอคอื พึงใหตามลําดบั ภิกษุผูม า หรือพึงใหต ามลําดบั ภิกษุผแู กพ รรษา จึงกราบทลูเรือ่ งน้ันแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย เราอนุญาตใหส มยอมสว นที่บกพรอ ง แลวทําการจบั สลาก. พระพทุ ธนุญาตนํา้ ยอ มเปนตน [๑๔๗] ก็โดยสมัยน้นั แล ภกิ ษทุ ั้งหลายยอมจีวรดว ยโคมัยบา ง ดว ยดนิ แดงบา ง จวี รมีสคี ลา้ํ ภกิ ษุท้งั หลายกราบทลู เร่ืองน้ันแดพ ระผูม ีพระภาคเจา ๆตรัสอนุญาตวา ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย เราอนุญาตน้าํ ยอ ม ๖ อยา ง คือ นา้ํ ยอ มเกดิ แตร ากหรือเงา ๑ นํา้ ยอ มเกิดแตต นไม ๑ น้าํ ยอมเกิดแตเปลอื กไม ๑ นา้ํยอ มเกิดแตใ บไม ๑ นาํ้ ยอ มเกิดแตด อกไม ๑ นํา้ ยอ มเกิดแตผ ลไม ๑. สมยั ตอ มา ภิกษุท้ังหลายยอ มจีวรดวยนาํ้ ยอมทเ่ี ยน็ จวี รมกี ลิ่นสาบภกิ ษทุ ้งั หลายกราบทูลเรือ่ งนั้น แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตหมอ ยอ มขนาดเลก็ เพอื่ ตมนํา้ ยอ ม. นาํ้ ยอ มลนหมอ ภิกษุทัง้ หลายกราบทลู เรอื่ งน้ัน แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆตรัสอนญุ าตวา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหผกู ตะกรอกนั ลน .

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 274 สมยั ตอมา ภิกษุทงั้ หลายไมร ูวา นาํ้ ยอมตมสุกแลว หรอื ยังไมส ุก จึงกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ ระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภิกษทุ ั้งหลายเราอนุญาตใหห ยดหยาดนํา้ ลงในนา้ํ หรือหลงั เลบ็ . สมัยตอมา ภิกษุท้งั หลายยกหมอน้ํายอ มลง ทําหมอ กลิง้ ไป หมอ แตกภิกษุทั้งหลายจงึ กราบทูลเรื่องน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวาดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตกระบวยตกั นา้ํ ยอมอันเปน ภาชนะมดี า ม. สมัยตอมา ภิกษทุ ้ังหลายไมม ภี าชนะสําหรบั ยอ ม จึงกราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวา ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย เราอนญุ าตอา งสาํ หรบั ยอ ม หมอ สําหรับยอ ม. สมยั ตอ มา ภกิ ษุทงั้ หลายขยําจีวรในถาดบา ง ในบาตรบา ง จีวรฉกี ขาดภิกษทุ ้ังหลายจึงกราบทูลเรอื่ งน้ันแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนญุ าตวาดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย เราอนุญาตรางสําหรับยอ ม. สมัยตอมา ภกิ ษุท้ังหลายตากจวี รบนพ้ืนดนิ จวี รเปอนฝุน ภิกษุท้ังหลายจงึ กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนุญาตเครอื่ งรองทําดวยหญา . เครอ่ื งรองทาํ ดว ยหญา ถูกปลวกกัด ภกิ ษุทัง้ หลายจึงกราบทูลเร่ืองนนั้แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย เราอนญุ าตราวจวี ร สายระเดยี ง. ภกิ ษทุ ง้ั หลายตากจวี รตอนกลาง นํ้ายอมหยดออกทงั้ สองชาย ภกิ ษุทงั้ หลายกราบทลู เรอ่ื งน้ัน แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนุญาตวา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย เราอนุญาตใหผ ูกมมุ จวี รไว.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 275 มมุ จวี รชํารุด ภกิ ษุทง้ั หลายกราบทูลเรอ่ื งน้ัน แคพระผมู พี ระภาคเจา ๆตรสั อนุญาตวา ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนุญาตดายผูกมุมจวี ร. นา้ํ ยอ มหยดออกชายเดียว ภกิ ษุทั้งหลายกราบทูลเรือ่ งนั้นแดพระผูมี-พระภาคเจา ๆ ตรัสอนุญาตวา ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนญุ าตใหย อ มจีวรพลกิ กลบั ไปกลบั มา แตเ มื่อหยาดนํา้ ยังหยดไมขาดสาย อยา หลกี ไป. สมยั ตอมา จวี รเปน ผา เนอื้ แข็ง ภิกษทุ ั้งหลายกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนุญาตใหจุมลงในน้ํา สมัยตอ มา จวี รเปน ผา กระคาง ภิกษทุ ้งั หลายกราบทูลเร่ืองน้นั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย เราอนุญาตใหท บุดว ยฝา มอื . พระพุทธบญั ญัติหา มใชจวี รท่ีไมต ดั [๑๔๘] กโ็ ดยสมัยนั้นแล พระฉพั พัคคียใ ชจ ีวรทไ่ี มไดตดั ใชจ ีวรที่ยอมน้ําฝาด มสี ีเหมอื นงาชาง ประชาชนจงึ พากันเพง โทษตเิ ตียน โพนทะนาภิกษุท้ังหลายกราบทลู เรือ่ งนน้ั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสหามวา ดูกอนภิกษทุ ้งั หลายภิกษุไมพงึ ใชจวี รทมี่ ไิ ดต ัด รปู ใดใช ตองอาบตั ทิ กุ กฏ. พระพทุ ธบญั ชาใหแ ตง จีวร [๑๔๙] คร้งั นนั้ พระผูมีพระภาคเจา ประทบั อยูในพระนครราชคฤหตามพระพุทธาภิรมย แลว เสด็จพระพุทธดําเนินไปทางทกั ขิณาติรชี นบท พระ-องคท อดพระเนตรเหน็ นาของชาวมคธ ซ่ึงเขาพนู ดนิ ข้นึ เปนตนนาสีเหล่ยี มพูนคันนายาวท้งั ดา นยาวและดานกวา ง พูนคนั นาค่ันในระหวาง ๆ ดว ยคันนา

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 276ส้นั ๆ พูนคันนาเชอ่ื มกันดังทาง ๔ แพรง ตามท่ีซ่ึงคันนากับคันนาผานตดั กนัไป คร้ันแลว รบั สัง่ กะทา นพระอานนทวา อานนทเธอเหน็ นาของชาวมคธซึง่ เขาพูนดินขึ้นเปนคันนาสีเ่ หลย่ี ม พนู คนั นายาวทง้ั ดา นยาวและดา นกวาง พนูคันนาคั่นในระหวา ง ๆ ดว ยคันนาสนั้ ๆ พูนคันนาเชือ่ มกันดังทาง ๔ แพรงตามท่ซี ึ่งคนั นากับคนั นาผา นตดั กันไปหรือไม ? อา. เหน็ ตามพระพทุ ธดํารัส พระพุทธเจาขา. ภ. เธอสามารถแตง จีวรของภิกษทุ ัง้ หลายใหม ีรูปอยางน้ันไดหรอื ไม ? อา. สามารถ พระพุทธเจา ขา. ครง้ั น้ัน พระผูม ีพระภาคเจา ประทับอยู ณ ทกั ขณิ าคริ ีชนบทตามพระ-พุทธาภริ มย แลว เสดจ็ กลับมาพระนครราชคฤหอีก ครั้งนัน้ ทานพระอานนทแตงจีวรสําหรับภิกษหุ ลายรูป ครนั้ แลวเขา ไปเฝา พระผูมพี ระภาคเจาไดกราบทูลวา ขอพระผูมพี ระภาคเจา จงทรงทอดพระเนตรจีวรท่ีขาพระพุทธเจา แตง แลวพระพุทธเจาขา. ตรัสสรรเสรญิ ทา นพระอานนท ลําดับนนั้ พระผมู ีพระภาคเจาทรงทาํ ธรรมีกถา ในเพราะเหตุเปนเคา มูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนนั้ แลวรบั ส่ังกะภิกษทุ ้งั หลายวา ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย อานนทเปน คนฉลาด อานนทเ ปน คนเจา ปญ ญา อานนทไดซ าบซึง้ถงึ เนือ้ ความแหง ถอ ยคําทเี่ รากลาวยอไดโดยกวางขวาง อานนทท ําผา ช่อื กสุ กิ ไ็ ดทําผา ชอ่ื อฑั ฒกสุ กิ ็ได ทาํ ผา ชือ่ มณฑลก็ได ทําผา ชื่ออัทฒมณฑลก็ได ทาํ ผาช่อืววิ ฏั ฏะกไ็ ด ทําผา ชื่ออนุวิวฏั ฏะก็ได ทาํ ผาช่อื ดีเวยยกะกไ็ ด ทาํ ผาชอ่ื ชังเฆย-ยกะก็ได และทําผาชือ่ พาหนั ตะก็ไดจวี รจกั เปน ผา ท่ตี ดั แลว เศรา หมองดวยศสั ตรา สมควรแกสมณะและพวกศตั รไู มต อ งการ.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 277 ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนญุ าตผา สังฆาฏติ ัด ผาอตุ ราสงคต ัด ผาอนั ตรวาสกตัด. เสด็จพระพุทธดาํ เนนิ ทางไกล [๑๕0] ครัง้ น้นั พระผมู พี ระภาคเจาประทับอยู ณ พระนครราชคฤหตามพระพทุ ธาภริ มย แลว เสดจ็ พระพุทธดาํ เนนิ ไปทางพระนครเวสาลี พระองคเสดจ็ พระพุทธดําเนนิ ทางไกลระหวางพระนครราชคฤห และระหวา งพระนครเวสาลีตอกัน ไดท อดพระเนตรเห็นภกิ ษหุ ลายรูป หอบผา พะรุงพะรงั บา งก็ทูนหอผา ที่พับดงั ฟูกข้นึ บนศรี ษะ บางก็แบกขน้ึ บา บางก็กะเดยี ดไวท ่สี ะเอวเดินมาอยู คร้นั แลว ไดท รงดําริวา โมฆบรุ ษุ เหลา น้ี เวยี นเมาเพอ่ื ความมักมากในจวี รเรว็ นัก เราจะพึงก้นั เขต ต้งั กฎในเร่อื งผา แกภ กิ ษุทัง้ หลาย ครั้น พระผมู ีพระภาคเจาเสด็จพระพุทธดําเนินผา นระยะทางโดยลําดบั ถงึ พระนครเวสาลีทราบวา พระผมู พี ระภาคเจาประทับอยู ณ โคตมกเจดยี  เขตพระนครเวสาลนี น้ั ก็โดยสมัยนนั้ แล พระผูม ีพระภาคเจาทรงผาจวี รผนื เดียว ประทบั นง่ัอยกู ลางแจง ตอนกลางคืน ขณะนํา้ คางตก ในราตรีเหมนั ตฤดู กําลังหนาวต้ังอยรู ะหวา งเดอื น ๓ กบั เดอื น ๔ ตอกัน ความหนาวไมไ ดมแี กพระผมู ีพระภาคเจา เม่อื ปฐมยามผา นไปแลว ความหนาวจงึ ไดมีแกพระผมู ีพระภาคเจา ๆ จึงหม จวี รผนื ท่ีสอง ความหนาวไมไ ดม ีแกพระผูมีพระภาคเจาเมอ่ื มชั ฌมิ ยามผานไปแลว ความหนาวจึงไดมแี กพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ จึงทรงหม จวี รผืนท่ีสาม ความหนาวไมไ ดมแี กพ ระผมู พี ระภาคเจา เมอ่ื ปจฉมิ ยามผา นไปแลว ขณะรงุ อรุณแหงราตรอี นั เปนเบอ้ื งตนแหง ความสดช่นื ความหนาวไดม ีแกพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ จงึ ทรงหมจีวรผืนทสี่ ี่ ความหนาวไมไดม แี ก

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 278พระผมู พี ระภาคเจา ๆ ไดทรงพระดําริวา กลุ บุตรในธรรมวินยั นี้ ทเี่ ปนคนข้ีหนาว กลัวตอความหนาว อาจดาํ รงชีวติ อยูไดด ว ยผาสามผืน ไฉนหนอเราเราจะพึงกน้ั เขต ต้ังกฎ ในเร่ืองผา แกภิกษทุ งั้ หลาย เราพงึ อนญุ าตผา สามผนื . พระพทุ ธนญุ าตไตรจีวร คร้ังนั้น พระผูมพี ระภาคเจา ทรงทาํ ธรรมีกถาในเพราะเหตเุ ปนเคามลูน้นั ในเพราะเหตุแรกเกดิ น้ัน แลวรบั สง่ั กะภิกษทุ ัง้ หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ งั้หลายวา เราเดินทางไกลในระหวางพระนครราชคฤห และระหวา งพระนครเว-สาลีตอกัน ไดเห็นภกิ ษหุ ลายรูปในธรรมวินยั น้ี หอบผาพะรุงพรงั บา งก็ทูนหอ ผาทพี่ ับดงั ฟกู ขึ้นบนศีรษะบา งกแ็ บกขึน้ บา บางก็กระเดยี ดไวที่สะเอวเดนิ มาอยู คร้ันแลวเราไดดําริวา โมฆบุรุษเหลาน้ี เวยี นมาเพื่อความมกั มากในจวี รเรว็ นัก ไฉนหนอเราจะพึงก้ันเขต ตั้งกฎ ในเรอ่ื งผาแกภิกษทุ ้ังหลาย. ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย เราครองผาผืนเดียว น่งั อยกู ลางแจง ณ ตาํ บลน้ีตอนกลางคนื ขณะน้าํ คา งตก ในราตรีเหมันตฤดู กําลงั หนาว ตั้งอยูระหวางเดือน ๓ กบั ระหวางเดอื น ๔ ตอกนั ความหนาวมไิ ดม แี กเรา เม่ือปฐมยามผา นไปแลว ความหนาวจงึ ไดม แี กเ รา เราจงึ หมจีวรผนื ท่สี อง ความหนาวมไิ ดมแี กเรา เมื่อมชั ฌมิ ยามผา นไปแลว ความหนาวไดมแี กเรา เราจึงหมจีวรผืนทส่ี าม ความหนาวมไิ ดมีแกเรา เม่ือปจ ฉิมยามผา นไปแลว ขณะรงุ อรณุ แหงราตรีอันเปน เบ้ืองตน แหความสดช่นื ความหนาวจงึ ไดม แี กเ ราเราจึงหมจีวรผืนท่ีส่ี ความหนาวมิไดม ีแกเรา.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 279 ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย เราน้ันไดดาํ รวิ า กุลบตุ รในธรรมวินยั นี้ ทเี่ ปนคนข้หี นาว กลัวตอ ความหนาว ก็อาจดํารงชวี ิตอยูไดดว ยผาสามผืน ไฉนหนอเราจะพึงกัน้ เขต ตงั้ กฎ ในเรอ่ื งผา แกภิกษทุ ัง้ หลาย เราจะพงึ อนุญาตไตรจีวร. ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย เราอนญุ าตไตรจวี ร คือ ผา สงั ฆาฏิ ๒ ชัน้ผา อตุ ราสงคช นั้ เดยี ว ผา อนั ตรวาสกช้นั เดียว. พระพุทธบัญญัตอิ ดเิ รกจีวร [๑๕๑] กโ็ ดยสมัยนน้ั แล พระฉัพพัคคียท ราบวา พระผมู ีพระภาคเจาทรงอนุญาตไตรจีวร จงึ ใชจีวรสาํ รับหน่ึงสาํ หรับเขาบาน สาํ รับหนึ่งสาํ หรับอยูในอาราม สํารบั หนง่ึ สาํ หรับลงสรงนาํ้ บรรดาภกิ ษุที่เปนผูมักนอ ย. . .ตา งก็เพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนพระฉัพพัคคียจ ึงไดท รงอดิเรกจวี รเลาแลวกราบทูลเรือ่ งนนั้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา. คร้งั นนั้ พระผมู พี ระภาคเจาทรงทําธรรมีกถาในเพราะเหตุเปนเคา มลูนนั้ ในเพราะเหตแุ รกเกิดนน้ั แลว รับส่ังกะภกิ ษทุ ัง้ หลายวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษไุ มพ ง่ึ ทรงอดิเรกจวี ร รูปใดทรง พึงปรับอาบตั ิตามธรรม. สมัยตอมา อดเิ รกจีวรบงั เกิดขึน้ แกทานเพระอานนท และทานประสงคจะถวายจีวรน้นั แคท า นพระสารบี ตุ ร แตท านพระสารีบุตรอยถู ึงเมอื งสาเกตทานพระอานนทจึงไดมคี วามปริวิตกวา พระผมู พี ระภาคเจาทรงบัญญตั ิไววาภิกษุไมพ งึ ทรงอดิเรกจวี ร ก็อดเิ รกจีวรน้ีบังเกดิ แกเ รา และเราก็ใครจ ะถวายจวี รผนื นแี้ กทานพระสารีบตุ ร แตท า นอยูถึงเมืองสาเกต เราพึงปฏิบตั อิ ยา งไรหนอ แลว กราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผูมพี ระภาคเจา . พระผูม ีพระภาคตรัสถามวา อานนทย งั อีกนานเทา ไร สารบี ุตรจงึจะกลบั มา.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 280 ทานพระอานนทก ราบทลู วา ยงั อกี ๙ วัน หรอื ๑๐ วนั พระพทุ ธเจา ขา. ครั้งน้ัน พระผูมพี ระภาคเจา ทรงทาํ ธรรมีกถา ในเพราะเหตเุ ปน เคามลูนน้ั ในเพราะเหตุแรกเกดิ น้นั แลว รบั สั่งกะภกิ ษทุ ง้ั หละหลายวา ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลายเราอนญุ าตใหท รงอดเิ รกจีวรไวได ๑๐ วันเปน อยางย่ิง. พระพทุ ธานญุ าตใหวกิ ปั อดิเรกจีวร สมยั ตอ มา อดิเรกจีวรบังเกิดแกภ ิกษทุ ง้ั หลาย ขณะนนั้ ภกิ ษทุ ัง้ หลายไดม ีความปรวิ ิตกวา พวกเราจะพงึ ปฏบิ ตั ใิ นอดเิ รกจวี รอยา งไรหนอ แลว กราบทลู เรือ่ งนั้นแคพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราอนุญาตใหวกิ ัปอดิเรกจีวร. พระพทุ ธานญุ าตผาปะเปน ตน [๑๕๒] ครั้นพระผมู ีพระภาคเจาประทับอยใู นพระนครเวสาลีตามพระพุทธาภมิ ย แลวเสด็จพระพทุ ธดาํ เนินไปทางพระนครพาราณสี เสด็จพระพุทธดาํ เนินผานระยะทางโดยลําดับ ถงึ พระนครพาราณสี ทราบวา พระ-ผมู ีพระภาคเจาประทบั อยู ณ อสิ ิปตนะมฤคทายวันเขตพระนครพาราณสนี นั้สมัยน้นั ผาอนั ตรวาสกของภกิ ษุรปู หนงึ่ ขาดทะลุ และทา นไดมคี วามปรวิ ติ กวาพระผูม ีพระภาคเจาทรงอนญุ าตผา ๓ ผนื คือ ผาสังฆาฏิสองช้นั ผา อตุ ราสงคชน้ั เดยี ว ผาอันตรวาสกชัน้ เดียว ก็ผาอันตรวาสกของเราน้ขี าดทะลุ ไฉนหนอเราพึงดามผาปะ โดยรอบจกั เปน สองชั้นตรงกลางจกั เปนชน้ั เดียว ดงั น้ีแลวคามผาปะทนั ที พระผมู ีพระภาคเจา เสด็จพระพทุ ธดาํ เนนิ ไปตามเสนาสนะ ไดทอดพระเนตรเหน็ ภิกษุนั้นกําลังดามผา ปะ ครัน้ แลวเสด็จเขาไปใกลภ ิกษุนน้ัไดตรัสถามวา เธอกําลงั ทําอะไร ภกิ ษ.ุ

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 281 ภิ. กาํ ลังปะผา พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดีละ ดลี ะ ภิกษุ เปน การชอบแท ภิกษุ ท่ีเธอดามผาปะ. คร้งั นั้น พระผูม ีพระภาคเจาทรงทําธรรมีกถาในเพราะเหตเุ ปนเคา มลูนัน้ ในเพราะเหตุแรกเกดิ นนั้ แลว รับส่ังกะภกิ ษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลายเราอนุญาตผาสงั ฆาฏิ ๒ ชน้ั ผาอุตราสงคช ั้นเดียว ผาอนั ตรวาสกช้นั เดยี วสาํ หรับผา ใหมม ีกปั ปะใหม ผา สังฆาฏิ ๔ ช้นั ผาอตุ ราสงค ๒ ช้ัน อันตรวาสก๒ ชนั้ สําหรบั ผาที่เก็บไวล ว งฤดู พึงทําอตุ สาหะในผา บงั สกุ ลุ จนพอตองการหรือทําอตุ สาหะในผา ทีต่ กจากรา นตลาด. ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย เราอนุญาตผาปะ การชุน รังดมุ ลูกดุม การทําใหมนั่ . เรอ่ื งนางวสิ าขา มคิ ารมาตา [๑๕๓] ครง้ั นน้ั พระผมู พี ระภาคเจาประทบั อยใู นพระนครพาราณสีตามพระพทุ ธาภิรมย แลว เสด็จพระพุทธดาํ เนนิ ไปทางพระนครสาวัตถี เสด็จพระพทุ ธดําเนนิ ผานระยะทางโดยลําดบั ถึงพระนครสาวัตถี ทราบวา พระผมู ี-พระภาคเจาประทบั อยใู นพระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑกิ ะคหบดี เขตพระนครสาวัตถนี น้ั คร้ังนัน้ นางวสิ าขา มิคารมาตา เขาเฝาพระผมู ีพระภาคเจาถวายบงั คมแลวนงั่ ณ ทคี่ วรสวนขางหนง่ึ พระผูม ีพระภาคเจา ทรงช้ีแจงใหนางผูน ัง่ เรียบรอยแลว เห็นแจง สมาทาน อาจหาญ ราเรงิ ดว ยธรรมกี ถานางผูอันพระผมู ีพระภาคเจาทรงชแี้ จงใหเ หน็ แจง สมาทาน อาจหาญ รา เริงดวยธรรมกี ถาแลว จงึ ไดก ราบทลู อาราธนาพระผูมีพระภาคเจาวา ขอพระผมู ี-พระภาคเจา พรอ มดวยพระสงฆจ งทรงพระกรุณาโปรดรับภัตตาหารของหมอ ม-

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 282ฉนั เพ่อื เจริญบุญกุศลและปต ิปราโมทยใ นวนั พรงุ น้ีดว ยเถิด พระพุทธเจา ขาพระผมู พี ระภาคเจาทรงรับอาราธนาดวยดุษณีภาพ ครนั้ นางทราบการรบัอาราธนาของพระผูมีพระภาคเจาแลว ลกุ จากที่นั่ง ถวายบังคมพระผมู พี ระภาคเจา ทําประทกั ษณิ กลบั ไป ครั้นผา นราตรนี นั้ ไป ฝนตง้ั เคาขึน้ ในทวปี ทง้ั ๔ ตกลงมาหาใหญ. คร้งั น้นั พระผมู พี ระภาคเจารับสัง่ กะภิกษทุ ั้งหลายวา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย ฝนตกในเขตวนั ฉนั ใด ตกในทวปี ท้งั ๔ ก็ฉนั น้ัน พวกเธอจงสรงสนานกายกันเถิด เพราะเปนครัง้ สุดทายที่ฝนหา ใหญตัง้ เคา ข้นึ ในทวีปทงั้ ๔. ภิกษุเหลา น้ันรบั สนองพระพทุ ธบญั ชาวา เปน ดงั พระพทุ ธดาํ รัสพระพุทธเจา ขา แลวพากันเปลอื้ งผาสรงสนานกายอย.ู ครั้งนน้ั นางวิสาขา มิคารมาตา สัง่ ใหต กแตงของเค้ียวของบริโภคอนั ประณีต แลวสง่ั ทาสีวา ไปเถดิ แม เจา จงไปอารามแลวแจงภัตกาลวา ถงึเวลาแลว ภัตตาหารเสรจ็ แลว เจาขา. ทาสีน้ันรบั คําวา เปนเชน นั้น เจา ขา แลว ไปวดั ไดเ ห็นภิกษุเปล้อื งผาสรงสนานกาย คร้ันแลว เขา ใจผดิ คดิ วา ในอารามไมมีภิกษุ มีแตพ วกอาชีวกสรงสนานอยู จงึ กลับไปบา นไดแจงความแกนางวิสาขา มคิ ารมาตาวา นายภิกษุไมม ใี นอาราม มีแตพ วกอาชวี กสรงสนานอยู เจา คะ . นางวสิ าขา มคิ ารมาตา เปน สตรฉี ลาด เฉยี บแหลม มปี ญญารไู ดท ันทีวา พระคณุ เจาท้งั หลายคงเปลอื้ งผาพากันสรงสนานกายเปน แน นางคนน้ีเขลา จึงสําคญั วา ไมมีภิกษุในอาราม มีแตพ วกอาชีวกสรงสนานกายอยู จึงสงั่ สาวใชว า ไปเถดิ แมทาสี เจาจงไปอาราม แลวแจง ภัตกาลวา ถึงเวลาแลวภัตตาหารเสรจ็ แลวเจา ขา .

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 283 คร้ันเวลาตอ มา ภกิ ษุเหลานั้น ทาํ ตวั ใหเย็น มกี ายงาม ตางถอื จวี รเขาไปสูทอ่ี ยตู ามเดิม ทาสีน้นั จึงไปวัดไมเห็นภกิ ษทุ ง้ั หลาย จงึ เขาใจผิดคิดวาไมม ีภกิ ษุในอาราม อารามวา งเปลา จึงกลับไปบา นแลว แจงความนน้ั แกน างวิสาขา มคิ ารมาตาวา ไมมภี กิ ษใุ นอาราม อารามวางเปลา เจา คะ. นางวสิ าขา มคิ ารมาตา เปน สตรีฉลาด เฉยี บแหลม มปี ญ ญารูไดทันทวี าพระคุณเจา ท้ังหลาย คงทาํ ตวั ใหเ ยน็ มีกายงาม ตางถอื จีวรเขาไปสทู ี่อยูตามเดมิ เปนแน นางคนนเ้ี ขลาจงึ สาํ คญั วา ไมม ีภิกษใุ นอาราม อารามวางเปลา แลวส่ังสาวใชอกี วา ไปเถิดแมท าสี เจา จงไปอาราม แลว แจงภตั กาลวา ถึงเวลาแลว ภัตตาหารเสร็จแลว เจา ขา . ครงั้ นัน้ พระผมู ีพระภาคเจารับสง่ั กะภกิ ษุท้ังหลายวา ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย พวกเธอจงเตรยี มบาตรจวี ร ถึงเวลาภตั ตาหารแลว . ภิกษเุ หลานน้ั ทลู รบั สนองพระพุทธบัญชาวา เปนอยา งนั้น พระพุทธเจา ขา . ครนั้ เวลาเชา พระผูมพี ระภาคเจาทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรจวี รเสด็จหายไปในพระเชตวัน มาปรากฏท่ซี มุ ประตบู า นนางวสิ าขา มคิ ารมาตาดุจบุรุษมกี าํ ลงั เหยียดแขนท่คี ู หรือคแู ขนทเ่ี หยียดฉะน้นั พระองคประทับนง่ัเหนือพุทธอาสนทีเ่ ขาปูลาดถวาย พรอมดว ยพระสงฆ. ขณะนนั้ นางวสิ าขา มคิ ารมาตา กลาววา ชาวเราผเู จรญิ นาอัศจรรยจริงหนอ ชาวเราผเู จริญประหลาดจริงหนอ พระตถาคต ชื่อวามฤี ทธม์ิ ากมีอานุภาพมากเพราะเม่อื หว งน้ําไหลนองไปเพยี งเขาบาง เพียงสะเอวบา เทาหรือจีวรของภกิ ษุแมรปู หน่ึง กไ็ มไ ดเ บยี กน้ํา ดังน้แี ลว ราเริง เบกิ บานใจองั คาสภกิ ษุสงฆแ มพ ระพุทธเจาเปน ประมุข ดวยขาทนยี โภชนียาหารอันประณตี

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 284ดวยมือของตน ยังพระผมู พี ระภาคเจาผูเสวยเสร็จแลว จนทรงนําพระหตั ถออกจากบาตรใหห ามภตั รแลว น่ังอยู ณ ที่ควรสว นขางหนึง่ ไดก ราบทลู แดพ ระผมู ีพระภาคเจาวา หมอ มฉันทลู ขอประทานพร ๘ ประการตอพระผมู พี ระภาคเจาพระพุทธเจาขา. ภ. ตถาคตเลกิ ไหพรเสียแลว วสิ าขา. วิ. หมอ มฉันทลู ขอประทานพรที่สมควรและไมม ีโทษ พระพุทธ-เจา ขา . ภ. จงบอกมาเถดิ วสิ าขา. ว.ิ พระพุทธเจา ขา สาํ หรับพระสงฆ หมอมฉันปรารถนาจะถวายผาวัสสิกสาฎก จะถวายภัตเพ่ือพระอาคันตุกะ จะถวายภตั เพอื่ พระทเี่ ตรียมจะไปจะถวายภัตเพอื่ พระอาพาธ จะถวายภตั เพื่อพระที่พยาบาลพระอาพาธ จะถวายเภสชั สําหรับพระอาพาธ จะถวายยาคูประจํา และสาํ หรบั ภิกษณุ สี งฆหมอ มฉัน ปรารถนาจะถวายอุทกสากฎ จนตลอดชีพ. ภ. วสิ าขา ก็เธอเห็นอาํ นาจประโยชนอ ะไร จึงขอพร ๘ ประการตอ ตถาคต. ว.ิ พระพุทธเจาขา วันนี้หมอ มฉนั สง่ั ทาสีวา ไปเถดิ แมท าสี เจาจงไปอาราม แลวบอกภตั กาลวา ภตั ตาหารเสร็จแลว เจา ขา และนางกไ็ ปวัดไดเ ห็นภกิ ษทุ ง้ั หลายเปลือ้ งผาสรงสนานกายอยู เขา ใจผิดคิดวา ไมมภี กิ ษใุ นอาราม มีแตพ วกอาชีวกสรงสนานกายอยู จึงกลบั มาบาน แลวรายงานแกหมอ มฉันวา นายไมม ีภิกษุในอาราม มีแตพ วกอาชวี กสรงสนานกายอยู. ๑. พระพทุ ธเจา ขา ความเปลอื ยกายไมง าม นา เกลยี ด นา ชงัหมอ มฉนั เหน็ อาํ นาจประโยชนนี้ จงึ ปรารถนาจะถวายผา วสั สิกสาฎกแกพระสงฆจนตลอดชพี .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 285 ๒. อน่งึ ขอ อน่ื ยงั มอี ีก พระพุทธเจา ขา พระอาคันตกุ ะไมช ํานาญหนทาง ไมร จู ักทโี่ คจร ยอ มเที่ยวบิณฑบาตลาํ บาก ทานฉนั อาคนั ตกุ ภตั ของหมอมฉันพอชาํ นาญหนทาง รูจกั ท่ีโคจร จักเที่ยวบณิ ฑบาตไดไ มลาํ บากหมอ มฉันเห็นอาํ นาจประโยชนน ้ี จึงปรารถนาจะถวายอาคนั ตุกภตั แกพ ระสงฆจนตลอดชพี . ๓. อนงึ่ ขอ อ่นื ยงั มอี กี พระพุทธเจา ขา พระผเู ตรยี มตวั จะไปมวัแสวงหาภัตตาหารเพ่อื ตนอยู จกั พลาดจากหมเู กวยี น หรอื จักถงึ สถานท่ที ่ีคนตองการจะไปอยูเมือพลบค่ํา จกั เดนิ ทางลําบาก ทานฉนั คมิกภตั ของหมอมฉนัแลว จักไมพลาดจากหมเู กวยี น หรอื จกั ถงึ สถานท่ที ี่ตนตองการจะไปอยูไมพลบคาํ่ จักเดินทางไมล ําบาก หมอมฉนั เหน็ อาํ นาจประโยชนน ้ี จึงปรารถนาจะถวายคมิกภัตแกพ ระสงฆ จนตลอดชพี . ๔. อน่ึง ขอ อน่ื ยงั มอี ีก พระพทุ ธเจาขา เมอ่ื พระอาพาธไมไ ดโภชนาหารทเ่ี ปนสปั ปายะ อาพาธกําเริบ หรือทานจกั ถงึ มรณภาพ เม่ือทา นฉันคิลานภัตของหมอ มฉัน อาพาธจกั ทุเลา ทานจักไมถึงมรณภาพ หมอ มฉนัเหน็ อํานาจประโยชนน้ี จงึ ปรารถนาจะถวายคิลานภัตแกส งฆ จนตลอดชีพ. ๕. อนึง่ ขออนื่ ยงั มีอกี พระพทุ ธเจาขา พระผูพ ยาบาลพระอาพาธมัวแสวงหาภตั ตาหารเพ่อื ตน จกั นาํ ภัตตาหารไปถวายพระอาพาธจนสาย ตนเองจกั อดอาหาร ทานไดฉ ันคิลานปุ ฏ ฐากภัตของหมอ มฉันแลว จกั นาํ ภตั ตาหารไปถวายพระอาพาธตามเวลา ตนเองก็จักไมอ ดอาหาร หมอมฉันเหน็ อาํ นาจประโยชนน ้ีจงึ ปรารถนาจะถวายคลิ านุปฏ ฐากภัตแกพ ระสงฆ จนตลอดชีพ. ๖. อนง่ึ ขอ อ่นื ยังมอี กี พระพทุ ธเจา ขา เมือ่ พระอาพาธไมไ ดเภสชัทเ่ี ปน สัปปายะ อาพาธจักกาํ เริบ หรือจักถงึ มรณภาพ เมือ่ ทา นฉนั คลิ านเภสชั

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 286ของหมอมฉนั แลว อาพาธจักทเุ ลา ทานจักไมมรณภาพ หมอมฉนั เหน็ อํานาจประโยชนนี้ จงึ ปรารถนาจะถวายคิลานเภสชั แกพระสงฆ จนตลอดชพี . ๗. อน่ึง ขออ่ืนยังมอี กี พระพทุ ธเจาขา พระองคท รงเห็นอานิสงส๑๐ ประการ ไดทรงอนุญาตยาคไู วแลว ที่เมืองอนั ธกวนิ ทะ หมอ มฉันเห็นอานสิ งสตามที่พระองคต รัสน้ัน จึงปรารถนาจะถวายยาคปู ระจําแกส งฆ จนตลอดชีพ. ๘. พระพุทธเจา ขา ภกิ ษุณีทงั้ หลายเปลอื ยกายอาบน้าํ รว มทา กบั หญงิแพศยา ณ แมน ํ้าอจิรวดนี ี้ หญงิ แพศยาเหลาน้ันพากันเยย หยนั ภกิ ษุณีวา แมเจาพวกทา นกําลงั สาวประพฤติพรหมจรรยจ ะไดประโยชนอะไร ควรบริโภคกามมิใชหรอื พระพฤตพิ รหมจรรยต อ เมอื่ แกเ ฒา อยางน้ี จกั เปนอันพวกทา นยึดสวนทั้งสองไวไ ด ภิกษณุ ีเหลานนั้ ถกู พวกหญงิ แพศยาเยย หยันอยู ไดเปน ผเู กอ ความเปลือยกายของมตุคามไมงาม นาเกลียค นาชงั หมอมฉนัเห็นอํานาจประโยชนนีจ้ ึงปรารถนาจะถวายผาอุทกสาฎก แกภ กิ ษุณีสงฆ จนตลอดชีพ. ภ. วสิ าขา กเ็ ธอเห็นอานิสงฆอะไร จงึ ขอพร ๘ ประการตอตถาคต ว.ิ พระพุทธเจา ขา ภกิ ษุทง้ั หลายในพระธรรมวนิ ยั นี้ จาํ พรรษาในทิศทั้งหลายแลว จักมาพระนครสาวตั ถี เพ่อื เฝาพระองค แลว จักทลู ถามวาภกิ ษุมีช่ือนีถ้ ึงมรณภาพแลว ทา นมีดตอิ ยา งไร มีภพหนา อยา งไร พระพทุ ธเจาขา พระองคจักทรงพยากรณภกิ ษุนั้นในโสดาปตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผลหรอื อรหตั ผล หมอ มฉันจักเขา ไปหาภิกษุพวกนน้ั แลวเรยี นถามวา พระคณุเจา รปู น้ันเคยมาพระนครสาวตั ถไี หมเจา ขา ถาทานเหลานน้ั จกั ตอบแกหมอ-

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 287ฉันวา ภิกษุนนั้ เคยมาพระนครสาวัตถี หมอ มฉันจักถงึ ความตกลงใจในการมาของพระคุณเจา รูปนน้ั วา พระคณุ เจารปู น้นั คงใชสอยผา วัสสิกสาฎก คงฉนัอาคนั ตกุ ภัต คมิกภตั คลิ านภตั คลิ านปุ ฏฐากภตั คลิ านเภสชั หรอื ยาคูประจาํ เปนแน เมอ่ื หมอ มฉันระลกึ ถึงกศุ ลนน้ั อยู ความปลม้ื ใจจักบังเกิด เมอื่หมอมฉนั ปลมื้ ใจแลว ความอ่มิ ใจจักบังเกดิ เมื่อมีใจอิม่ เอบิ แลว กายจกั สงบเมือ่ มกี ายสงบแลว จกั เสวยสขุ เมื่อมีความสุข จติ จกั ตง้ั ม่ัน จักเปนอันหมอ มฉันไดอบรมอินทรีย อบรมพละ อบรมโพชฌงคน น้ั หมอ มฉนั เห็นอานสิ งสนี้จึงขอประทานพร ประการตอพระองค พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดีละ ดลี ะ วิสาขา ดแี ท วิสาขา เธอเห็นอานสิ งสน ี้ จงึ ขอพร ๘ ประการตอตถาคต เราอนุญาตพร ๘ ประการแกเธอ. ครง้ั นัน้ พระผูมีพระภาคเจา ทรงอนุโมทนานางวิสาชา มิคารมาตาดวยพระคาถาเหลานี้ วา ดังนี้:- คาถาอนุโมทนา [๑๕๔] สตรใี ด ไหข า วและนํา้ มีใจ เบกิ บานแลว สมบูรณด ว ยศีล เปน สาวิกา ของพระสุคต ครอบงําความตระหนีแ่ ลว บริจาคทานอนั เปน เหตุแหงสวรรค เปน เคร่ืองบรรเทาความโศก นาํ มาซ่ึงความสะ สตรนี ั้น อาศัยมรรคปฏบิ ตั ิ ปราศจากธลุ ี ไมมีกิเลศเครอ่ื งยว่ั ใจ ยอมไดกําลังและอาย เปนทพิ ย สตรีผปู ระสงคบุญนั้น เปน คนมี สขุ สมบูรณดว ยอนามยั ยอ มปลืม้ ใจใน สวรรคส ิ้นกาลนาน.

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 288 พระพทุ ธนุญาตผาวสั สิกสาฏกเปนตน [๑๕๕] คร้ันพระผูม พี ระภาคเจาทรงอนุโมทนา นางวสิ าขามคิ ารมาตา ดวยพระคาถาเหลา นแี้ ลว เสด็จลุกจากที่ประทบั กลับไป ครน้ั แลวทรงทําธรรมีกถา ในเพราะเหตุเปน เคามูลนัน้ ในเพราะเหตุแรกเกิดน้นั แลวรับสง่ั กะภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตผา วัสสกิ สาฏก อาคนั -ตกุ ภัต คมิกภัต คลิ านภัต คลิ านุปฏฐากภตั คิลานเภสชั ยาคปู ระจําอนุญาตผาอุทกสาฎก สาํ หรับภิกษุณีสงฆ. วสิ าขาภาณวาร จบ พระนอนหลับลืมสติ [๑๕๖] กโ็ ดยสมัยนนั้ แล ภกิ ษทุ ัง้ หลายฉนั โภชนาหารอันประณตี แลวนอนหลับ ลืมสติ ไมร สู กึ ตัว เม่ือภิกษุเหลา นัน้ นอนหลับ ลมื สติ ไมรูสึกตัวน้ําอสจุ ิเคลือ่ นเพราะความฝน เสนาสนะเปรอะเปอ นน้าํ อสุจิ คร้งั นน้ั พระผมู ีพระภาคเจา มที านพระอานนทเปน ปจ ฉาสมณะ เสด็จพระพทุ ธดําเนินไปตามเสนาสนะ ไดท อดพระเนตรเหน็ เสนาสนะเปรอะเปอ นนาํ้ อสจุ ิ ครั้น แลว รบั สง่ัถามพระอานนทวา อานนท เสนาสนะนัน่ เปรอะเปอนอะไร ? อา. พระพุทธเจา ขา เด่ยี วนภ้ี ิกษทุ ง้ั หลายฉันโภชนาหารอนั ประณีตแลวนอนหลับ ลมื สติ ไมร ูสกึ ตัว เม่ือภกิ ษเุ หลาน้นั นอนหลับ ลมื สติ ไมรูสึกตวั นํ้าอสจุ เิ คล่อื นเพราะความฝน เสนาสนะนี้น้นั จึงเปรอะเปอ นน้ําอสุจิพระ-พุทธเจา ขา .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 289 ภ. ขอ ทก่ี ลา วมานนั่ ยอ มเปน อยา งนนั้ อานนท ขอท่ีกลา วมานน่ั ยอมเปนอยางน้ัน อานนท ความจรงิ เมื่อภกิ ษเุ หลา นนั้ นอนหลับ ลืมสติ ไมรสู ึกตวั นาํ้ อสจุ จิ งึ เคลอ่ื นเพราะความฝน ภกิ ษเุ หลาใดนอนหลับ มีสติต้งั มน่ัรูสึกตัว นํา้ อสจุ ิของภิกษุเหลา นั้นไมเคล่ือน อน่ึง นา้ํ อสุจิของภกิ ษปุ ถุ ชุ น ผูปราศจากความกําหนดั ในกาม กไ็ มเ คล่อื น ขอ ท่นี ้าํ อสจุ ิของพระอรหนั ตจ ะพงึเคลื่อนนั้นไมใ ชฐานะ ไมใชโอกาส. ครง้ั น้ัน พระผมู พี ระภาคเจาทรงทาํ ธรรมีกถาในเพราะเหตุเปนเคามลูน้นั ในเพราะเหตุแรกเกดิ นั้น แลวรับสั่งกะภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดกู อนภิกษทุ ัง้หลาย วนั นี้เรามอี านนทเ ปนปจ ฉาสมณะเทย่ี วเดินไปตามเสนาสนะ ไดเหน็เสนาสนะเปรอะเปอ นน้าํ อสุจิ จงึ ไดถ ามอานนทวา เสนาสนะนั่นเปรอะเปอ นอะไร อานนทชแี้ จงวา พระพุทธเจา ขา เดย๋ี วน้ภี ิกษุท้งั หลายฉนั โภชนาหารอันประณีตแลว นอนหลับลมื สติ ไมรูสกึ ตัว เมอ่ื ภกิ ษเุ หลานนั้ นอนหลบั ลมื สติไมรสู กึ ตัว นํ้าอสจุ ิเคลือ่ นเพราะความฝน เสนาสนะนํา้ น้ันจงึ ไดเ ปรอะเปอ นนํ้าอสจุ ิ เราไดก ลาวรับรองวาขอ ทก่ี ลาวมาน่ันยอมเปนอยางนนั้ อานนทขอ ทก่ี ลาวมาน่นั ยอ มเปนอยา งน้นั อานนท ความจริง เม่อื ภกิ ษุเหลาน้ันนอนหลับลืมสติ ไมรสู ึกตัว นา้ํ อสุจิเคล่ือนเพราะความฝน ภิกษเุ หลาใดนอนหลับ มสี ตทิ ้งั มัน่ รูสึกตัว น้ําอสุจขิ องภกิ ษเุ หลา นั้นไมเ คลอ่ื น อนึ่งนํ้าอสจุ ิของภกิ ษุปุถุชนผปู ราศจากความกาํ หนัดในกาม ก็ไมเคลอ่ื น ขอท่ีนาอสุจิของพระอรหันตจ ะพงึ เคลอื่ นนั้น ไมใชฐ านะ ไมใ ชโ อกาส.

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 290 นอนหลบั ลมื สติมโี ทษ ๕ ประการ ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุท่นี อนหลับ ลืมสติ ไมร สู กึ ตัว มโี ทษ๕ ประการน้ี คือ หลบั เปน ทุกข ๑ ต่ืนเปนทกุ ข ๑ เหน็ ความฝนอันลามก ๑เทพดาไมรักษา ๑ อสจุ ิเคลอื่ น ๑ ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย ภกิ ษุท่ีนอนหลบั ลมืสติ ไมร สู กึ ตัว มีโทษ ๕ ประการนีแ้ ล. นอนหลบั คมุ สติมีคุณ ๕ ประการ ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย ภิกษุทีน่ อนหลับ มีสตดิ งั มนั่ รสู ึกตัวอยู มีคณุ๕ ประการนี้ คอื หลับเปน สุข ๑ ตื่นเปน สุข ๑ ไมเหน็ ความฝนอันลามก๑ เทพดารักษา ๑ อสจุ ไิ มเ คลอ่ื น ๑ ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย ภกิ ษทุ น่ี อนหลับมีสตติ งั มนั่ รูส กึ ตัว มีคุณ ๕ ประการนแี้ ล พระพทุ ธานุญาตผา นสิ ที นะ ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตผานิสที นะ เพ่อื รกั ษากาย รักษาจีวรรกั ษาเสนาสนะ. พระพทุ ธานุญาตผา ปจจัตถรณะ สมัยตอมา ผานิสีทนะเลก็ เกนิ ไป ปองกนั เสนาสนะไดไมห มด ภกิ ษุท้งั หลายจึงกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย ภกิ ษตุ อ งการผาปูนอนใหญเพยี งใด เราอนญุ าตใหทาํ ผา ปนู อนใหญเพียงนน้ั . พระพุทธานญุ าตผาปดฝ [๑๕๗] กโ็ ดยสมัยน้ันแล ทา นพระเวลฏั ฐสีสะพระอุปช ฌายของทานพระอานนท อาพาธเปน โรคฝด าดหรอื อสี ุกสีใส ผานงุ ผาหมกรังอยูที่ตัวเพราะนาํ้ หนองของโรคนน้ั ภกิ ษทุ ั้งหลายเอาน้าํ ชบุ ๆ ผาเหลานัน้ แลวคอ ย ๆ ดงึ

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 291ออกมา ขณะนัน้ พระผูม ีพระภาคเจา เสด็จพระพุทธดาํ เนินไปตามเสนาสนะทอดพระเนตรเหน็ ภิกษุเหลาน้นั กําลังเอานา้ํ ชุบ ๆ ผานน้ั แลวตอย ๆ ดงึ ออกมาครน้ั แลว จงึ เสดจ็ พระพทุ ธดําเนินเขาไปทางภกิ ษุเหลา น้ัน ไดต รัสวา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย ภิกษุรปู นอี้ าพาธเปนโรคอะไร ? ภกิ ษทุ งั้ หลายกราบทลู วา พระพุทธเจา ขา ทา นรูปนอี้ าพาธเปนโรคฝด าดหรอื อีสุกอใี ส ผา กรงั อยูท่ีตัว เพราะนาํ้ หนอง พวกขา พระพทุ ธเจาเอานํ้าชุบ ๆ ผาเหลานัน้ แลว คอ ย ๆ ดงึ ออกไป. ครงั้ นั้น พระผมู พี ระภาคเจา ทรงทําธรรมกี ถา ในเพราะเหตเุ ปนเคา มลู น้ัน ในเพราะเหตุแรกเกิดนัน้ แลวรับส่งั กะภกิ ษทุ ง้ั หลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย เราอนญุ าตผา ปด ฝแ กภ กิ ษุทอ่ี าพาธ เปน ฝก ็ดี เปนพุพองกด็ ีเปน สวิ ก็ดี เปน โรคฝด าด หรอื อีสุกอีใสกด็ ี. พระพุทธานญุ าต ผา เชด็ หนา ผา เช็ดปาก [๑๕๘] ครง้ั น้ัน นางวสิ าขา มคิ ารมาตา ถือผา เชด็ หนา ผาเช็คปากเขาไปในพทุ ธสาํ นัก ถวายบังคมพระผมู ีพระภาคเจาแลวนัง่ ณ ทคี่ วรสว นขางหนึ่ง ไดก ราบทลู คาํ นแ้ี ดพ ระผมู พี ระภาคเจา วา พระพทุ ธเจาเขา ขอพระผมู ีพระภาคเจาจงทรงพระกรุณาโปรดรับผา เชด็ หนา ผา เชด็ ปากของหมอมฉัน ซงึ่จะเปนไปเพ่ือประโยชนส ขุ แกห มอนฉัน ตลอดกาลนานดว ยเถิด. พระผูม ีพระภาคเจา ทรงรับผาเช็คหนา ผาเชด็ ปาก ครน้ั แลวไดท รงชีแ้ จง ใหน างวสิ าขา มคิ ารมาตา เหน็ แจง สมาทาน อาจหาญ รา เริงดว ยธรรมกี ถา ครนั้ นางวิสาขา มิคารมาตา อนั พระผมู พี ระภาคเจาทรงชแ้ี จงใหสมาทาน อาจหาญ ราเริงดว ยธรรมีกถาแลว ลุกจากท่ีนง่ั ถวายบังคมพระผูมีพระภาคเจา ทาํ ประทกั ษิณกลับไป.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 292 ลาํ ดับน้ัน พระผมู พี ระภาคเจาทรงทําธรรมีกถาในเพราะเหตเุ ปน เคา มลูน้นั ในเพราะเหตแุ รกเกดิ น้ัน แลวรบั ส่ังกะภิกษุทัง้ หลายวา ดกู อ นภิกษทุ งั้หลาย เราอนุญาตผา เช็คหนา ผาเช็คปาก. องคข องการถือวิสาสะ ๕ ประการ [๑๕๙] กโ็ ดยสมัยนัน้ แล เจาโรชะมัลลกษตั รยิ  เปน พระสหายของทา นพระอานนท ไดฝากผา โขมพสั ตรผ นื เกา ๆ ไวก ับทา นพระอานนท และทานพระอานนทกม็ คี วามตอ งการดวยผา โขมพสั ตรผนื เกา ๆ ภกิ ษทุ ั้งหลายจงึกราบทลู เรอ่ื งนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนุญาตใหถ ือวสิ าสะแกบ คุ คลผูประกอบดว ยองค ๕ คอื เคยเหน็ กันมา ๑ เคยคบกนั มา ๑ เคยบอกอนญุ าตกนั ไว ๑ เขายงั มีชีวิตอยู ๑ รูวา เมือ่ เราถือเอาแลว เขาจกั พอใจ ๑ ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตใหถือวสิ าสะแกบ คุ คลท่ปี ระกอบดวยองค ๕ เหลา น.้ี พระพุทธานญุ าตผาบรขิ าร [๑๖๐] ก็โดยสมยั นนั้ แล ภกิ ษุทง้ั หลายมีไตรจีวรบริบูรณแตยังตอ งการผากรองน้ําบาง ถงุ บาง จึงกราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เราอนญุ าตผาบริขาร. พระพทุ ธานญุ าตผา ทีต่ องอธฐิ านและวิกัป ครงั้ น้ัน ภิกษุทั้งหลายไดม คี วามปริวิตกวา พระผูมพี ระภาคเจา ทรงอนญุ าตไตรจวี รบาง ผา อาบน้าํ ฝนบาง ผาปูนงบาง ผา ปูนอนบาง ผา ปดฝบาง ผาเชด็ หนาบา ง ผาเชด็ ปากบาง ผาบริขารบาง ผาท้ังหมดน้นั ตองอธษิ -ฐานหรือวกิ ัปหนอ จงึ กราบทูลเรื่องนน้ั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนุญาตวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ผา ไตรจีวร เราอนญุ าตใหอธษิ ฐาน ไมใชใ หวิกัปผาวัสสกิ สาฎกใหอ ธษิ ฐานตลอด ๔ เดอื นแหง ฤดฝู น พนจากน้นั ใหว กิ ัป
















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook