Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_07

tripitaka_07

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:39

Description: tripitaka_07

Search

Read the Text Version

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 401 [๑๙๗] ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย อน่ึง ภิกษใุ นธรรมวินยั น้ี เปน ผูเ ห็นอาบัติ สงฆ หรอื ภิกษหุ ลายรปู หรือรูปเดียว โจทเธอวา อาวโุ ส ทา นตองอาบัตแิ ลว ทา นเห็นอาบตั นิ น้ั ไหม เธอกลา วอยางนว้ี า อาวุโสทั้งหลาย ผมเหน็ ขอรับ สงฆย กเธอเสยี ฐานไมเห็นอาบัติ ชอ่ื วา กรรมไมเปน ธรรม. อนึ่ง ภกิ ษุในธรรมวินัยน้ี เปน ผูทาํ คนื อาบัติ สงฆ หรอื ภิกษหุ ลายรปู หรอื รูปเดียว โจทเธอวา อาวโุ ส ทานตองอาบตั แิ ลว จงทาํ คืนอาบัตินั้นเสีย เธอพดู อยา งนีว้ า อาวโุ สทงั้ หลาย ผมจกั ทําคนื ขอรบั สงฆยกเธอเสยี ฐานไมทําคืนอาบัติ ช่อื วา กรรมไมเ ปนธรรม. อน่ึง ภกิ ษุในธรรมวินยั นี้ เปน ผสู ละทฏิ ฐลิ ามก สงฆ หรอื ภกิ ษุหลายรูป หรอื รปู เดยี ว โจทเธอวา อาวุโส ทานมที ิฏฐลิ ามก จงสละทฏิ ฐิลามกนั้นเสยี เธอพดู อยา งนี้วา อาวุโสทงั้ หลาย ผมจกั สละ ขอรบั สงฆย กเธอเสยี ฐานไมส ละทฏิ ฐิลามก ชอื่ วา กรรมไมเ ปน ธรรม. อน่งึ ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ เปนผูเหน็ อาบัติ และทาํ คืนอาบัติ . . . เปน ผูเหน็ อาบัติ และสละทิฏฐิลามก . . . เปนผูทําคนื อาบัติ และสละทิฏฐลิ ามก . . . เปน ผูเ หน็ อาบัติ ทําคืนอาบตั ิ และสละทิฏฐิลามก สงฆ หรือภกิ ษุหลายรูป หรือรปู เดียว โจทเธอวา อาวุโส ทานตองอาบตั แิ ลว ทา นเหน็อาบตั นิ ั้นไหม จงทําคนื อาบตั ินนั้ ทา นมีทฏิ ฐลิ ามก จงสละทิฏฐิลามกนั้นเสียเธอพดู อยา งน้ีวา อาวุโสทง้ั หลาย ผมเห็นขอรบั ผมจักทาํ คนื ขอรับ ผมจกัสละขอรับ สงฆยกเธอเสียฐานไมเ ห็นอาบัติ ฐานไมท าํ คนื อาบตั ิ และฐานไมสละทิฏฐลิ ามก ช่อื วา กรรมไมเ ปน ธรรม.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 402 อุกเขปนยี กรรมที่เปน ธรรม [๑๙๘] ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย กภ็ ิกษุในธรรมวินยั นี้ เปนผเู ห็นอาบัติสงฆ หรอื ภิกษหุ ลายรูป หรือรปู เดยี ว โจทเธอวา อาวโุ ส ทานตอ งอาบตั ิแลว ทา นเห็นอาบัตนิ นั้ ไหม เธอพดู อยา งนีว้ า อาวุโสทงั้ หลาย ผมไมม อี าบตั ิท่ีจะเหน็ สงฆยกเธอเสียฐานไมเห็นอาบตั ิ ช่อื วา กรรมเปนธรรม. อน่ึง ภิกษใุ นธรรมวินยั น้ี เปน ผทู าํ คืนอาบตั ิ สงฆ หรือภิกษุหลายรูป หรอื รปู เดยี ว โจทเธอวา อาวุโส ทา นตองอาบัตแิ ลว จงทาํ คนื อาบัตินั้น เธอพูดอยางนี้วา อาวโุ สทง้ั หลาย ผมไมม ีอาบัติทจี่ ะทําคืน สงฆยกเธอเสียฐานไมท าํ คนื อาบัติ ชื่อวา กรรมเปนธรรม. อนง่ึ ภิกษใุ นธรรมวินัยนี้ เปนผสู ละทฏิ ฐิลามก สงฆ หรอื ภกิ ษุหลายรูป หรือรูปเดยี ว โจทเธอวา อาวุโส ทานมที ิฏฐลิ ามก จงสละทฏิ ฐิลามกน้นั เธอพูดอยางนว้ี า อาวโุ สท้ังหลาย ผมไมมีทฏิ ฐิลามกทจี่ ะสละ สงฆยกเธอเสียฐานไมส ละทิฏฐลิ ามก ชือ่ วา กรรมเปน ธรรม. อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินยั นี้ เปนผูเห็นอาบัติ ทําคืนอาบัติ . . . เปนผเู หน็ อาบัติ และสละทิฏฐลิ ามก . . . เปนผทู ําคืนอาบตั ิ และสละทฏิ ฐลิ ามก. . . เปน ผูเหน็ อาบตั ิ ทําคืนอาบตั ิ และสละทิฏฐลิ ามก สงฆ หรอื ภิกษุหลายรูป หรือรปู เดยี ว โจทเธอวา อาวุโส ทา นตอ งอาบัตแิ ลว ทานเห็นอาบตั ิน้นั ไหม จงทาํ คืนอาบตั ิน้ัน ทา นมีทฏิ ฐิลามก จงสละทิฏฐิลามกน้ัน เธอพดู อยางนว้ี า อาวุโสทัง้ หลาย ผมไมม อี าบัติทจ่ี ะเหน็ ไมมีอาบตั ทิ ่ีจะทาํ คนืไมม ที ิฏฐิลามกทจ่ี ะสละ สงฆยกเธอเสียฐานไมเห็นอาบัติ ฐานไมค นื อาบตั ิและฐานไมส ละคืนทฏิ ฐลิ ามก ชือ่ วากรรมเปน ธรรม.

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 403 พระอุบาลที ูลถามปพพาชนียกรรมเปนตน [๑๙๙] ครั้งนั้น ทานพระอบุ าลีเขาไปในพทุ ธสาํ นกั ถวายบงั คมพระผมู ีพระภาคเจา แลว นง่ั ณ ที่ควรสว นขางหนึ่ง ครน้ั แลวไดก ราบทูลคํานีแ้ ดพ ระผมู พี ระภาคเจา วา กรรมทค่ี วรทาํ ในท่พี รอมหนา แตส งฆผ พู รอ มเพรยี งกนั กลับทําในทล่ี ับหลัง การกระทาํ น้ัน ช่อื วากรรมเปน ธรรม เปนวนิ ัยหรอื หนอ พระพุทธเจาขา ? พระผูมีพระภาคเจา ตรัสวา อบุ าลี การกระทํานัน้ ชือ่ วา กรรมไมเปนธรรมไมเ ปน วินยั . อุ. สงฆพรอมเพรยี งกนั ทาํ กรรมทคี่ วรสอบถาม แตทาํ โดยไมส อบถาม. . . ทํากรรมทีค่ วรทาํ ตามปฏิญาณ โดยมไิ ดป ฏญิ าณ. . . ใหอมฬู หวินัยแกภ ิกษุผคู วรสติวนิ ัย. . . ทาํ ตัสสปาปย สิกากรรมแกภกิ ษุผคู วรอมฬู หวินัย. . .ทาํ ตชั ชนียกรรมแกภ ิกษุผูควรตัสสปาปย กากรรม . . . ทํานยิ สกรรมแกภกิ ษุผูควรตชั ชนียกรรม. . . ทําปพพาชนยี กรรมแกภิกษผุ ูควรนยิ สกรรม. . . ทําปฏิสารณียกรรมแกภิกษผุ คู วรปพ พาชนยี กรรม . . . ทําอุกเขปนียกรรมแกภ กิ ษุผูควรปฏสิ ารณียกรรม. . . ใหปรวิ าสแกภ กิ ษุผูควรอุกเขปนยี กรรม. . . ชักภิกษุผคู วรปริวาสเขาหาอาบตั ิเดิม. . . ใหม านตั แกภ กิ ษุผูควรชักเขา หาอาบตั ิเดมิ . . .อพั ภานภิกษุผคู วรมานัต . . . ใหภ ิกษุผคู วรอพั ภาน ใหอ ุปสมบทกลุ บตุ ร การกระทาํ นัน้ ช่อื วา กรรมเปนธรรม เปน วนิ ยั หรอื หนอ พระพุทธเจาขา ภ. อบุ าลี การกระทํานัน้ ช่อื วา กรรมไมเ ปนธรรม ไมเ ปนวินัยกรรมที่ควรทาํ ในที่พรอ มหนา แตสงฆผูพรอ มเพรยี งกันกลับทาํ เสียในท่ีลับหลงัอยา งนีแ้ ลอบุ าลี ชอื่ วา กรรมไมเ ปนธรรม ไมเ ปนวินยั และการกระทําอยางน้ีสงฆย อมมโี ทษ.

พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 404 อุบาลี สงฆผ พู รอมเพรยี งกนั ทํากรรมทีค่ วรสอบถาม แตท าํ โดยไมสอบถาม. . .ทํากรรมทีค่ วรทาํ ตามปฏิญาณ โดยมไิ ดป ฏิญาณ . . . ใหอมูฬห-วินัยแกภ กิ ษุผูควรสตวิ ินยั . . . ทาํ ตัสสปาปย สกิ ากรรมแกภ กิ ษผุ คู วรอมฬู หวนิ ยัทําตชั ชนียกรรมแกภกิ ษผุ คู วรตสั สปาปยสิกากรรม . . . ทํานยิ สกรรมแกภ ิกษุผคู วรตชั ชนยี กรรม. . . ทําปพ พาชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรนยิ สกรรม. . . ทาํปฏสิ ารณียกรรมแกภ กิ ษุผคู วรปพ พาชนยี กรรม. . . ทําอุกเขปนียกรรมแกภ ิกษุผคู วรปฏสิ ารณยี กรรม. . . ใหป รวิ าสแกภ กิ ษผุ ูควรอกุ เขปนียกรรม. . . ชักภิกษผุ ูควรปริวาสเขาหาอาบตั ิเดมิ . . . ใหมานตั แกภ กิ ษผุ คู วรชักเขาหาอาบตั ิเดมิ . . . อัพภานภกิ ษผุ ูค วรมานัต . . . ใหภิกษุผูค วรอัพภานใหอุปสมบทกุลบุตรอยางนี้แลอุบาลี ชอื่ วากรรมไมเปนธรรม ไมเ ปน วินัย และการกระทําอยางนี้สงฆยอ มมโี ทษ. [๒๐๐] อ.ุ กรรมท่คี วรทําในท่พี รอ มหนา สงฆผูพรอมเพรยี งกนัทําในท่ีพรอมหนา การกระทาํ นัน้ ชอ่ื วา กรรมเปน ธรรมเปน วนิ ัยหรือหนอพระพทุ ธเจา ขา ? ภ. อบุ าลี การกระทาํ น้ันช่อื วา กรรมเปนธรรม เปน วินยั . อุ. สงฆผพู รอมเพรยี งกนั ทาํ กรรมที่ควรสอบถามแลว ทําโดยการสอบถาม . . . ทํากรรมทคี่ วรทาํ ตามปฏญิ าณ โดยการปฏญิ าณ . . . ใหส ตวิ นิ ัยแกภ กิ ษผุ คู วรสตวิ ินยั . . . ใหอ มูฬหวนิ ัย แกภิกษุผูค วรอมฬู หวนิ ยั . . . ทําตัสสปาปย สิกากรรมแกภกิ ษุผูควรตัสสปาปยสกิ ากรรม . . . ทาํ ตชั ชนยี กรรมแกภกิ ษุผคู วรตัชชนียกรรม . . . ทํานิยสกรรมแกภกิ ษุผูควรนิยสกรรม . . . ทําปพ พาชนียกรรมแกภิกษผุ ูควรปพ พาชนียกรรม. . . ทําปฏสิ ารณยี กรรมแกภิกษุผคู วรปฏสิ ารณียกรรม . . . ทําอุกเขปนยี กรรมแกภ ิกษุผูค วรอกุ เขปนียกรรม . . .

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 405ใหป ริวาสแกภิกษผุ คู วรปริวาส. . . ชักเขา หาอาบัตเิ ดิมซึง่ ภกิ ษผุ ูควรชักเขาหาอาบตั เิ ดิม. . . ใหมานัตแกภ ิกษผุ ูควรมานตั . . . อัพภานภกิ ษผุ ูค วรอัพภาน. . .อุปสมบทกลุ บตุ รผคู วรอปุ สมบท การกระทาํ นั้นชือ่ วา กรรมเปน ธรรม เปน วนิ ัยหรอื หนอ พระพทุ ธเจา ขา ? ภ. อุบาลี การกระทาํ นัน้ ช่ือวา กรรมเปน ธรรม เปน วนิ ยั กรรมที่ควรทําในทีพ่ รอมหนา สงฆผ พู รอ มเพรยี งกันทาํ ในท่พี รอมหนา อยา งน้ีแลอบุ าลี ชือ่ วากรรมเปนธรรม เปนวินัย และการกระทาํ อยา งน้ี สงฆย อ มไมมโี ทษ. อบุ าลี สงฆผ พู รอมเพรียงกนั ทาํ กรรมทค่ี วรสอบถามแลว ทาํ โดยสอบถาม. . . ทํากรรมทีค่ วรทาํ ตามปฏิญาณ โดยการปฏญิ าณ. . . ใหสตวิ นิ ยั แกภกิ ษผุ ูค วรสตวิ นิ ัย. . . ใหอ มูฬหวนิ ยั แกภิกษุผูควรอมฬู หวินยั . . .ทาํ ตัสสปาปย-สิกากรรมแกภ กิ ษุผคู วรตสั สปาปย สิกากรรม. . . ทําตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรตัชชนียกรรม . . . ทาํ นิยสกรรมแกภิกษุผูค วรนิยสกรรม. . . ทาํ ปพพาชนียกรรมแกภิกษผุ คู วรปพ พาชนียกรรม . . . ทําปฏสิ ารณียกรรมแกภิกษุผคู วรปฏิสารณยีกรรม . . . ทาํ อกุ เขปนียกรรมแกภ กิ ษุผูควรอุกเขปนียกรรม . . . ใหปรวิ าสแกภกิ ษุผูค วรปรวิ าส . . . ชักเขา หาอาบตั ิเดิมซึ่งภิกษุผูควรชักเขา หาอาบตั เิ ดมิ . . .ใหมานัตแกภ ิกษผุ คู วรมานัต. . . อัพภานภกิ ษผุ ูควรอัพภาน. . . อปุ สมบทกลุ บตุ รผคู วรอุปสมบท อยางน้แี ล อบุ าลี ช่ือวา กรรมเปนธรรม เปน วนิ ัยและการกระทําอยางน้ี สงฆยอ มไมม โี ทษ. [๒๐๑] อุ. สงฆผูพรอมเพรียงกนั ใหอมฬู ิหวินยั แกภ ิกษุผูควรสติวินยั . . . ใหสติวนิ ัยแกภกิ ษผุ คู รองอมูฬหวนิ ัย การกระทําน้นั ชือ่ วา กรรมเปนธรรม เปนวนิ ยั หรอื หนอ พระพุทธเจา ขา ?

พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 406 ภ. อบุ ายลี ถารกระทาํ น้ันชอ่ื วา กรรมไมเปนธรรม ไมเ ปน วินยั . อ.ุ สงฆผ ูพ รอ มเพรียงกันทาํ ตสั สปาปย สิกากรรมแกภิกษผุ ูควรอมูฬห-วนิ ัย . . . ใหอมฬู หวินยั แกภ ิกษผุ คู วรตสั สปาปย สกิ าธรรม . . . ทําตชั ชนียกรรมแกภ ิกษุผคู วรตสั สปาปย สกิ ากรรม. . . ทาํ ตสั สปาปยสิกากรรมแกภ ิกษุควรตชั ชนียกรรม. . . ทาํ นยิ สกรรมแกภ ิกษุผูค วรตชั ชนียกรรม. . . ทาํ ตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรนยิ สกรรม. . . ทําปพ พาชนยี กรรมแกภิกษุผคู วรนยิ สกรรม . . .ทํานยิ สกรรมแกภ ิกษุผคู วรปพพาชนยี กรรม . . .ทําปฏสิ ารณยี กรรมแกภิกษผุ ูควรปพ พาชนยี กรรม. . . ทาํ ปพ พาชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรปฏิสารณียกรรม . . .ทาํ อกุ เขปนียกรรมแกภกิ ษผุ ูปฎิสารณียกรรม. . . ทําปฎสิ ารณียกรรมแกภิกษุผูควรอุกเขปนียกรรม . . . ใหปรวิ าสแกภกิ ษุผคู วรอกุ เขปนยี กรรม . . . ทาํ อกุ เขป-นยี กรรมแกภ ิกษุผคู วรปรวิ าส. . . ชักภิกษผุ คู วรปริวาสเขา หาอาบตั ิ . . . ใหปรวิ าสแกภกิ ษุผคู วรชกั เขาหาอาบัติเดมิ . . . ใหมานตั แกภกิ ษผุ ูค วรชกั เขาหาอาบัตเิ ดมิ . . . ชกั ภิกษุผูค วรมานัตเขา หาอาบัติเดมิ . . . อัพภานภิกษผุ ูควรมานัต . . . ใหม านัตแกภ ิกษผุ คู วรอัพภาน. . . ใหภ ิกษผุ ูควรอพั ภานใหอปุ สม-บทกุลบุตร. . . อพั ภานกลุ บุตรผูควรอุปสมบท การกระทําน้ันช่อื วากรรมเปนธรรม เปน วินัยหรือหนอ พระพทุ ธเจา ขา ? ภ. อุบาลี การกระทาํ นนั้ ชื่อวากรรมไมเปนธรรม ไมเ ปนวนิ ยั อุบาลีสงฆผ ูพรอ มเพรียงกันใหอมูฬหวินยั แกภ ิกษุผคู วรสติวินัย . . . ใหส ติวินยั แกภ ิกษุผคู วรอมฬู หวินยั อยางนแ้ี ล อุบาลี ชอ่ื วากรรมไมเ ปน ธรรม ไมเ ปน วนิ ัยและการกระทําอยา งน้ี สงฆย อ มมีโทษ. สงฆผ ูพ รอ มเพรยี งกัน ทําตัสสปาปย สิกากรรมแกภ กิ ษุ ผคู วรอมูฬหวินัย. . .ใหอ มฬู หวินยั แกภ ิกษผุ คู วรตัสสปาปยสิกากรรม . . . ทาํ ตัชชนียกรรมแก

พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 407ภกิ ษผุ คู วรตัสสปาปยสกิ ากรรม. . . ทาํ ตสั สปาปยสกิ ากรรมแกภกิ ษผุ คู วรตชั ชนียกรรม. . . ทาํ นยิ สกรรมแกภ ิกษุผคู วรตัชชนยี กรรม . . . ทําตชั ชนยี กรรมแกภ กิ ษุผคู วรนยิ สกรรม. . . ทาํ ปพพาชนียกรรมแกภ กิ ษผุ ูควรนยิ สกรรม. . . ทํานยิ ส-กรรมแกภิกษผุ คู วรปพ พาชนยี กรรม. . . ทําปฏิสารณยี กรรมแกภกิ ษผุ คู วรปพ พาชนยี กรรม. . . ทําปพ พาชนยี กรรมแกภิกษผุ คู วรปฏสิ ารณียกรรม. . . ทาํ อุก-เขปนยี กรรมแกภกิ ษผุ ูค วรปฏิสารณยี กรรม . . . ทาํ ปฏสิ ารณียกรรมแกภ กิ ษุผูควรอุกเขปนยี กรรม . . . ใหปริวาสแกภ กิ ษุผคู วรอกุ เขปนียกรรม. . . ทาํ อุก-เขปนยี กรรมแกภ ิกษผุ ูค วรปรวิ าส . . . ชกั ภกิ ษผุ คู วรปรวิ าสเขาหาอาบตั ิ . . .ใหปริวาสแกภกิ ษผุ คู วรชักเขาหาอาบัติเดมิ . . . ใหมานตั แกภ กิ ษุผคู วรชักเขาหาอาบตั ิเดิม . . . ชกั ภกิ ษุผคู วรมานัตเขา หาอาบัตเิ ดมิ . . . อพั ภานภิกษผุ ูควรมานัต . . . ใหม านตั แกภ กิ ษผุ ูค วรอพั ภาน. . . ใหภ กิ ษผุ ูควรอพั ภานอุป-สมบทกลุ บตุ ร. . . อพั ภานกุลบตุ รผคู วรอุปสมบท อยางน้ีแลอบุ าลีชอื่ วากรรมไมเ ปน ธรรม ไมเปนวินยั และการกระทาํ อยา งนี้ สงฆยอมมโี ทษ. [๒๐๒] อุ. สงฆผพู รอ มเพรยี งกนั ใหส ติวินัยแกภ ิกษผุ คู วรสติวนิ ัย . . . ใหอมูฬหวินัยแกภิกษผุ คู วรอมฬู หวนิ ัย การกระทํานน้ั ช่อื วากรรมเปนธรรม เปน วินัย หรอื หนอ พระพุทธเจาขา ? ภ. อุบาลี การกระทาํ นั้น ช่ือวากรรมเปน ธรรม เปน วนิ ัย. อุ สงฆผ ูพรอมเพรยี งกัน ใหอมูฬหวนิ ัยแกภ กิ ษุผคู วรอมฬู หวนิ ัย . . .ทาํ ตัสสปาปย สกิ ากรรมแกภ ิกษผุ คู วรตสั สปาปยสิกากรรม . . . ทําตัชชนยี กรรมแกภกิ ษุผูควรตชั ชนยี กรรม . . . ทาํ นยิ สกรรมแกภ กิ ษุผคู วรนิยสกรรม . . .ทําปพ พาชนียกรรมแกภ ิกษผุ ูค วรปพพาชนียกรรม. . . ทําปฏสิ ารณียกรรมแกภิกษผุ คู วรปฎสิ ารณยี กรรม. . . ทําอุกเขปนียกรรมแกภกิ ษผุ คู วรอุกเขปนยี กรรม . . . ใหป ริวาสแกภ กิ ษุผคู วรปริวาส . . . ชกั เขา หาอาบัตเิ ดมิ ซ่ึงภิกษุผคู วรชัก

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 408เขาหาอาบตั เิ ดิม. . . ใหม านัตแกภิกษุผคู วรมานัต. . . อพั ภานภกิ ษผุ คู วรอพั ภาน. . . อุปสมบทกุลบุตรผคู วรอปุ สมบท การกระทาํ น้นั ช่อื วากรรมเปน ธรรม เปนวนิ ัย หรอื หนอ พระพทุ ธเจาขา ? ภ. อบุ าลี การกระทาํ นน้ั ชือ่ วากรรมเปนธรรม เปนวนิ ัย อบุ าลีสงฆผ พู รอมเพรยี งกนั ใหสตวิ นิ ยั แกภ กิ ษผุ ูควรสตวิ นิ ยั . . . ใหอมูฬหวินยั แกภกิ ษผุ ูควรอมฬู หวนิ ยั อยา งนีแ้ ล อุบาลี ชอื่ วากรรมเปน ธรรม เปนวินยัและการกระทาํ อยางน้ี สงฆย อ มไมม โี ทษ. สงฆผพู รอมเพรยี งกัน ใหอมฬู หวนิ ยั แกภ ิกษผุ ูควรอมฬู หวนิ ยั . . .ทาํ ตสั สปาปย สิกากรรมแกภ ิกษุผูควรตสั สปาปย สิกากรรม . . . ทําตัชชนยี กรรมแกภ ิกษผุ ูค วรตชั ชนยี กรรม . . . ทํานยิ สกรรมแกภกิ ษุผคู วรนิยสกรรม . . . ทาํปพ พาชนยี กรรมแกภกิ ษผุ คู วรปพ พาชนยี กรรม . . . ทําปฏสิ ารณยี กรรมแกภิกษผุ คู วรปฏสิ ารณียกรรม . . . ทําอกุ เขปนยี กรรมแกภกิ ษผุ คู วรอุกเขปนียกรรม . . . ใหปรวิ าสแกภ ิกษผุ คู วรปรวิ าส . . . ชกั เขาหาอาบัตเิ ดิมซึ่งภิกษุผูควรชกั เขาหาอาบตั เิ ดิม. . . ใหม านัตแกภ กิ ษุผคู วรมานัต . . . อพั ภานภกิ ษผุ ูควรอพั ภาน. . . อปุ สมบทกุลบตุ รผูควรอุปสมบท อยางนีแ้ ลอุบาลี ช่ือวากรรมเปนธรรม เปนวินัย และการกระทาํ อยา งนี้ สงฆย อ มไมม โี ทษ. [๒๐๓] ครงั้ น่นั แล พระผมู พี ระภาคเจารบั ส่งั กะภิกษทุ ้ังหลายวา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย สงฆผูพ รอมเพรยี งกนั ใหอมฬู หวินยั แกภิกษผุ ูค วรสตวิ ินยัอยา งนี้แลภกิ ษุทงั้ หลาย ชื่อวา กรรมไมเปน ธรรม ไมเ ปนวินัย และการกระทาํ อยางน้ี สงฆย อ มมโ ทษ.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 409 สงฆผ ูพรอ มเพรยี งกัน ทําตสั สปาปยสิกากรรมแกภกิ ษุผูควรสตวิ นิ ัย . . .ทําตัชชนียกรรมแกภ ิกษุผคู วรสติวนิ ัย . . ทา นยิ สกรรมแกภิกษุผูค วรสติวินยั . . .ทาํ ปพพาชนียกรรมแกภ ิกษผุ ูควรสตวิ นิ ยั . . . ทําปฏิสารณียกรรมแกภิกษผุ ูควรสตวิ นิ ัย. . . ทาํ อกุ เขปนียกรรมแกภกิ ษุผูควรสติวนิ ยั . . . ใหปรวิ าสแกภ กิ ษุผูควรสติวินยั . . . ชักภิกษผุ ูควรสติวินยั เขาหาอาบัติเดมิ . . . ใหมานตั แกภ กิ ษผุ ูควรสติวินยั . . . อพั ภานภิกษผุ คู วรสตวิ นิ ยั . . . ใหภกิ ษผุ ูควรสติวินัยใหอ ุปสมบทกุลบุตร อยางนีแ้ ล ภกิ ษทุ ั้งหลาย ชอ่ื วา กรรมไมเ ปนธรรม ไมเ ปนวินยัและการกระทาํ อยางนี้ สงฆยอ มมีโทษ. สงฆผ ูพรอมเพรยี งกัน ทําตสั สปาปยสกิ ากรรมแกภ ิกษผุ ูค วรอมูฬห-วนิ ัยอยางนีแ้ ล ภิกษทุ ้งั หลาย ชอ่ื วา กรรมไมเ ปนธรรม ไมเ ปนวนิ ัย และการกระทาํ อยา งนี้ สงฆยอ มมโี ทษ. สงฆผูพรอมเพรียงกัน ทําตชั ชนยี กรรมแกภ กิ ษผุ คู วรอมฬู หวินยั . . .ทํานิยสกรรมแกภกิ ษผุ ูควรอมฬู หวนิ ัย. . . ทาํ ปพ พาชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรอมูฬหวนิ ยั . . . ทาํ ปฏิสารณียกรรมแกภ ิกษผุ ูควรอมฬู หวินัย. . . ทาํ อุกเขปนยี -กรรมแกภกิ ษผุ ูควรอมูฬหวนิ ัย. . . ใหปริวาสแกภ ิกษผุ คู วรอมฬู หวนิ ยั . . .ชกั ภกิ ษผุ คู วรอมูฬหวนิ ยั เขา หาอาบัตเิ ดมิ . . . ใหมานัตแกภิกษผุ คู วรอมฬู หวินัย. . . อัพภานภิกษุผคู วรอมูฬหวนิ ัย . . . ใหภ กิ ษุผูค วรอมฬู หวนิ ยั ใหอปุ สมบท-กุลบตุ ร. . . ใหัสตวิ ินยั แกภิกษผุ ูควรอมูฬหวนิ ยั อยางน้ีแล ภิกษทุ ั้งหลายชื่อวา กรรมไมเ ปนธรรม ไมเปนวินัย และการกระทําอยา งนี้ สงฆยอมมโี ทษ. สงฆผ พู รอ มเพรียงกัน ทําตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุผคู วรตัสสปาปย-สิกากรรม . . . ทํานิยสกรรมแกภกิ ษุผคู วรตัสสปาปย สกิ ากรรม . . . ทาํ ปพ พา-ชนียกรรมแกภ ิกษุผคู วรตัสสปาปยสิกากรรม . . . ทาํ ปฏิสารณียกรรมแกภ กิ ษุผู

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 410ควรตัสสปาปยสกิ ากรรม . . . ทําอกุ เขปนียกรรมแกภ กิ ษุผคู วรตัสสปาปยสกิ ากรรม. . . ใหป ริวาสแกภกิ ษุผคู วรตสั สปาปย สกิ ากรรม. . . ใหสติวนิ ยั แกภ ิกษุผคู วรตัสสปาปยสิกากรรม. . . ใหอ มูฬหวินยั แกภ ิกษผุ ูควรจตัสสปาปยสิกากรรมอยา งน้ีแล ภกิ ษุท้งั หลาย ชอื่ วา กรรมไมเปน ธรรม ไมเปนวนิ ยั และการกระทาํ อยางน้ี สงฆย อมมโี ทษ. สงฆผูพรอ มเพรยี งกัน ทํานิยสกรรมแกภกิ ษุผูควรตัชชนียกรรม . . .ทําปพ พาชนยี กรรมแกภกิ ษผุ คู วรนยิ สกรรม . . . ทาํ ปฏสิ ารณยี กรรมแกภ กิ ษุผคู วรปพ พาชนยี กรรม. . . ทําอกุ เขปนยี กรรมแกภ ิกษคุ วรปฏสิ ารณียกรรม. . . ใหปริวาสแกภ กิ ษุผคู วรอกุ เขปนยี กรรม . . . ชักภกิ ษผุ คู วรปริวาสเขาหาอาบตั ิเดมิ. . . ใหม านัตแกภ กิ ษผุ ูควรชกั เขา หาอาบตั ิเดิม. . . อพั ภานภกิ ษุผูควรมานตั . . .ใหภกิ ษุผคู วรอัพภานใหอ ุปสมบทกลุ บตุ ร. . . ใหส ติวนิ ยั แกกุลบตุ รผูควรอปุ -สมบท. . . ใหอมฬู หวินัยแกกุลบตุ รผคู วรอุปสมบท. . . ทาํ ตสั สปาปย สิกากรรมแกกุลบตุ รผคู วรอุปสมบท. . . ทาํ ตชั ชนยี กรรมแกกลุ บุตรผูควรอปุ สมบท. . .ทํานิยสกรรมแกกลุ บุตรผูค วรอุปสมบท. . . ทําปพพาชนียกรรมแกกลุ บตุ รผูควรอปุ สมบท. . . ทําปฏิสารณียกรรมแกก ุลบตุ รผูควรอปุ สมบท . . . ทําอุกเขปนยี -กรรมแกก ลุ บุตรผคู วรอปุ สมบท. . . ใหปริวาสแกก ุลบุตรผคู วรอปุ สมบท. . .ชกั กุลบุตรผูควรอปุ สมบทเขา หาอาบัติเติม. . . ใหม านตั แกก ลุ บุตรผูควรอปุ -สมบท. . . อัพภานกุลบตุ รผคู วรอุปสมบท อยางน้ีแล ภิกษุทง้ั หลาย ชอ่ื วากรรมไมเ ปน ธรรม ไมเปน วนิ ัย และการกระทําอยา งน้ี สงฆยอ มมีโทษ อุบาลปี ุจฉาภาณวาร ท่ี ๒ จบ

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 411 ตัชชนียกรรม [๒๐๔] ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ก็ภิกษใุ นธรรมวนิ ยั น้ี ยอ มกอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอ การววิ าท ทําความอื้อฉาว กอ อธิกรณใ นสงฆในเร่อื งนั้นถาภกิ ษุท้ังหลายไดป รกึ ษาตกลงกันอยา งนีว้ า อาวโุ สทั้งหลาย ภิกษุรปู นแ้ี ล กอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอ การวิวาท ทาํ ความอื้อฉาวกออธิกรณในสงฆ เอาละ พวกเราจะลงตัชชนียกรรมแกเ ธอ ดงั นี้ แลว ไดเปนวรรคโดยไมเ ปน ธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภ ิกษนุ ้นั ภกิ ษุรูปนั้น ไปจากอาวาสนัน้สอู าวาสแมอ่นื แมในอาวาสนัน้ ภิกษทุ ง้ั หลายก็ไปปรึกษาตกลงกนั อยา งน้ี วาอาวุโสทัง้ หลาย ภิกษุรูปนี้แล ถูกสงฆเปนวรรคโดยไมเ ปน ธรรมลงตชั ชนยี -กรรม เอาละ พวกเราจะลงตัชชนียกรรมแกเ ธอดังน้ี แลว ไดพ รอมเพรียงกันโดยไมเปนธรรมลงตชั ชนยี กรรมแกภ ิกษุรปู นั้น ภิกษุรูปน้นั ไปจากอาวาสน้นัสอู าวาสแมอืน่ แมใ นอาวาสน้นั ภกิ ษทุ ัง้ หลายกไ็ ดปรกึ ษาตกลงกันอยางนว้ี าอาวุโสท้งั หลาย ภิกษุรปู นี้แล ถกู สงฆพรอ มเพรยี งกันโดยไมเปน ธรรมลงตชั ชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเ ธอ ดังน้ี แลวไดเปนวรรคโดยธรรมลงตัชชนียกรรมแกภ ิกษุรูปน้ัน ภกิ ษุรูปนั้นไปจากอาวาสน้ันสูอาวาสแมอ่ืน แมน อาวาสนั้น ภิกษุทั้งหลายกไ็ ดป รึกษาตกลงกันอยา งนว้ี า อาวโุ สทั้งหลาย ภกิ ษุรปู น้แี ล ถกู สงฆเ ปน วรรค โดยธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละพวกเราจะลงตชั ชนีกรรมแกเ ธอ ดงั นี้ แลวไดเ ปน วรรคโดยเทียมธรรมลงตชั ชนยี กรรมแกภิกษรุ ปู นน้ั ภกิ ษุรปู นน้ั ไปจากอาวาสน้นั สอู าวาสแมอ น่ื แมในอาวาสนั้น ภกิ ษุทัง้ หลายกไ็ ดปรึกษาตกลงกันอยางนวี้ า อาวโุ สท้ังหลายภิกษรุ ปู น้แี ล ถกู สงฆเ ปนวรรคโดยเทยี มธรรมลงตัชชนียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเธอ ดังน้ี แลว ไดพรอ มเพรยี งกนั โดยเทยี มธรรมลงตชั ชนยี กรรมแกภ กิ ษุรูปนั้น.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 412 [๒๐๕] ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย อน่งึ ภกิ ษุในธรรมวินยั นี้ ยอ มกอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอการวิวาท ทาํ ความอือ้ ฉาว กออธิกรณในสงฆ ในเรื่องนัน้ ถา ภกิ ษุทั้งหลายไดป รึกษาตกลงกนั อยา งน้วี า อาวุโสทง้ัหลาย ภกิ ษุรปู น้ีแล กอความบาดหมาง กอการทะเลาะ กอการวิวาท ทาํความอื้อฉาว กอ อธกิ รณใ นสงฆ เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเธอดงั น้ี แลว ไดพรอ มเพรียงกันโดยไมเปน ธรรม ลงตชั ชนยี กรรมแกภิกษุรปู น้ันภกิ ษุรปู นน้ั ไปจากอาวาสน้นั สูอ าวาสแมอ นื่ แมในอาวาสนน้ั ภิกษทุ ั้งหลายก็ไดปรกึ ษาตกลงกัน อยางนีว้ า อาวุโสท้งั หลาย ภกิ ษรุ ูปน้ีแล ถูกสงฆพ รอ มเพรียงกนั โดยไมเ ปนธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเธอ ดงั นี้ แลว ไดเปนวรรคโดยธรรมลงตัชชนียกรรมแกภกิ ษุรูปนั้น ภิกษุรปู นน้ั ไปจากอาวาสนัน้ สูอาวาสแมอ ื่น แมใ นอาวาสนัน้ ภกิ ษุทัง้ หลายก็ไดปรึกษาตกลงกนั อยา งน้วี า อาวโุ สท้ังหลาย ภิกษุรปู น้แี ล ถูกสงฆเปน วรรคโดยธรรมลงตชั ชนียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเธอ ดังน้ี แลวไดเ ปนวรรคโดยเทียมธรรม ลงตัชชนียกรรมแกภกิ ษุรูปนั้น ภิกษุรูปนัน้ ไปจากอาวาสนั้นสอู าวาสแมอ นื่ แมใ นอาวาสนัน้ ภิกษุทงั้ หลาย กไ็ ดป รกึ ษาตกลงกนั อยางน้วี า อาวโุ สทง้ั หลาย ภิกษุรปู นแี้ ล ถกู สงฆเปนวรรคโดยเทียมธรรมลงตชั ชนียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตัชชนียกรรมแกเธอ ดังนี้ แลวไดพรอมเพรียงกนั โดยเทียมธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภ กิ ษรุ ปู นน้ั ภิกษุรูปนนั้ไปจากอาวาสนัน้ สอู าวาสแมอ ื่น แมในอาวาสนัน้ ภิกษุท้ังหลายก็ไดป รึกษาตกลงกนั อยา งนี้วา อาวโุ สทัง้ หลายภิกษรุ ปู น้แี ลถูกสงฆพ รอ มเพรยี งกันโดยเทียมธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตัชชนียกรรมแกเธอ ดังนี้ แลวไดเ ปน วรรคโดยไมเปนธรรม ลงตชั ชนยี กรรมแกภกิ ษุรปู นนั้ .

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 413 [๒๐๖] ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย อนึ่ง ภิกษใุ นธรรมวินยั นี้ ยอมกอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอการวิวาท ทําความอื้อฉาว กออธกิ รณในสงฆ ในเรื่องน้นั ถา ภกิ ษุทง้ั หลายไดป รกึ ษาตกลงกันอยา งนีว้ า อาวโุ สท้ังหลาย ภิกษรุ ูปนี้แล เปน ผูกอ ความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอ การววิ าททําความอ้ือฉาว กอ อธิกรณในสงฆ เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเ ธอดังน้ี แลว ไดเ ปน วรรคโดยธรรมลงตัชชนยี กรรมแกภกิ ษุรูปนัน้ ภกิ ษรุ ปู น้ันไปจากอาวาสน้ันสูอาวาสแมอน่ื แมใ นอาวาสน้ัน ภิกษุทงั้ หลายกไ็ ดปรกึ ษาตกลงกนั อยางนวี้ า อาวุโสท้งั หลาย ภกิ ษรุ ูปน้แี ลถูกสงฆเ ปนวรรคโดยธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเ ธอ ดังนี้ แลว ไดเปนวรรคโดยเทียมธรรมลงตชั ชนยี กรรมแกภกิ ษุรปู นน้ั ภกิ ษรุ ูปนั้นไปจากอาวาสนนั้ สอู าวาสแมอ น่ื แมในอาวาสนนั้ ภกิ ษทุ ้งั หลายกไ็ ดป รึกษาตกลงกันอยา งน้ีวา อาวุโสท้งั หลาย ภิกษรุ ปู นี้แล ถกู สงฆเปน วรรคโดยเทียมธรรมลงตชั ชนยี -กรรม เอาละ พวกเราจะลงตัชชนียกรรมแกเธอ ดงั น้ี แลว ไดพ รอมเพรียงกันโดยเทยี มธรรมลงตัชชนียกรรมแกภิกษรุ ูปนน้ั ภิกษุรปู นัน้ ไปจากอาวาสนัน้ สูอาวาสแมอน่ื แมใ นอาวาสนน้ั ภกิ ษทุ ง้ั หลายกไ็ ดปรึกษาตกลงกนั อยางนี้วา อาวโุ สทั้งหลาย ภกิ ษรุ ูปนี้แล ถกู สงฆพ รอมเพรียงกนั โดยเทียมธรรมลงตชั ชนียกรรมเอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกภ กิ ษรุ ปู นนั้ ดงั น้ี แลว ไดเ ปน วรรคโดยไมเ ปน ธรรม ลงตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุรูปน้ัน ภกิ ษรุ ปู น้ันไปจากอาวาสนนั้ สูอาวาสแมอ ่ืน แมใ นอาวาสน้ัน ภิกษทุ ั้งหลายกไ็ ดป รึกษาตกลงกนั อยางน้ี วาอาวโุ สทั้งหลาย ภกิ ษุรปู นแี้ ล ถูกสงฆเ ปน วรรคโดยไมเปน ธรรมลงตชั ชนีย-กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเธอ ดังนี้ แลว ไดพรอ มเพรยี งกันโดยไมเ ปนธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภ กิ ษุรปู นนั้ .

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 414 [๒๐๗] ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย อนง่ึ ภิกษุในธรรมวนิ ยั นี้ ยอมกอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอ การววิ าท ทําความออื้ ฉาว กอ อธิกรณในสงฆ ในเร่ืองน้นั ถา ภกิ ษทุ ั้งหลายไดปรึกษาตกลงกนั อยา งนว้ี า อาวโุ สท้ังหลายภกิ ษุรูปน้แี ล เปนผกู อความบาดหมาง กอการทะเลาะ กอการวิวาท ทาํ ความออ้ื ฉาว กออธิกรณใ นสงฆ เอาละ พวกเราจะลงตัชชนยี กรรมแกเ ธอ ดังน้ีแลวไดเ ปนวรรคโดยเทยี มธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภิกษุรปู นนั้ ภกิ ษนุ นั้ ไปจากอาวาสน้ัน สูอาวาสแมอ น้ื แมใ นอาวาสนน้ั ภิกษทุ ้งั หลายก็ไดป รกึ ษาตกลงกนัอยา งนวี้ า อาวโุ สทัง้ หลาย ภิกษรุ ูปน้แี ล ถกู สงฆเ ปนวรรคโดยเทียมธรรมลงตชั นียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเธอ ดงั นี้ แลว ไดพรอมเพรียงกนั โดยเทียมธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภ ิกษรุ ูปนั้น ภิกษุรปู น้ันไปจากอาวาสนัน้ สูอ าวาสแมอน่ื แมในอาวาสนั้นภกิ ษุท้ังหลายก็ไดปรึกษาตกลงกันอยา งนว้ี า อาวุโสทงั้ หลาย ภกิ ษรุ ปู นี้แล ถูกสงฆพรอ มเพรียงกนั โดยเทียมธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตัชชนยี กรรมแกเธอ ดงั น้ี แลวไดเปนธรรมลงตัชชนยี กรรมแกภ ิกษุรูปนัน้ ภิกษุรปู นั้น ไปจากอาวาสนัน้ สูอาวาสแมอ่ืน แมใ นอาวาสนน้ั ภิกษุท้ังหลายก็ไดปรึกษาตกลงกันอยางนี้วาอาวุโสทงั้ หลาย ภิกษรุ ปู น้แี ล ถูกสงฆเ ปน วรรคโดยไมเ ปนธรรมลงตชั ชนยี -กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเธอ ดงั น้ี แลวไดพ รอมเพรยี งกันโดยไมเ ปน ธรรม ลงตัชชนียกรรมแกภกิ ษรุ ูปน้นั ภกิ ษรุ ูปนั้นไปจากอาวาสน้นั สูอาวาสแมอน่ื แมในอาวาสนั้นภิกษทุ ง้ั หลายกไ็ ดป รึกษาตกลงกนั อยา งน้ีวาอาวุโสทัง้ หลาย ภกิ ษรุ ูปนแี้ ล ถกู สงฆพรอมเพรียงกนั โดยไมเปน ธรรมลงตชั ชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเธอดงั น้ี แลว ไดเ ปนวรรคโดยธรรม ลงตชั ชนยี กรรมแกภกิ ษรุ ปู น้ัน.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 415 [๒๐๘] ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย อนงึ่ ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ ยอมกอความบาดหมาง กอ การทะเลาะ กอ การวิวาท ทาํ ความอื้อฉาว กอ อธกิ รณในสงฆ ในเรือ่ งนั้น ถาภิกษุทงั้ หลายไดป รึกษาตกลงกันอยา งน้ีวา อาวุโสท้งัหลาย ภกิ ษุรปู นีแ้ ล เปน ผกู อ ความบาดหมาง กอการทะเลาะ กอ การวิวาททําความอ้อื ฉาว กอ อธกิ รณในสงฆ เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเ ธอดังน้ี แลว ไดพ รอ มเพรยี งกนั โดยเทยี มธรรมลงตชั ชนยี กรรมแกภ กิ ษรุ ูปนั้นภิกษรุ ปู นัน้ ไปจากอาวาสน้ันสอู าวาสแมอ ื่น แมในอาวาสน้นั ภิกษทุ ั้งหลายก็ไดปรกึ ษาตกลงกนั อยา งนว้ี า อาวุโสทง้ั หลาย ภิกษุรูปน้แี ล ถูกสงฆพ รอมเพรียงกนั โดยเทียมธรรมลงตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนยี กรรมแกเ ธอดังนี้ แลว ไดเ ปน วรรคโดยไมเปนธรรมลงตัชชนียกรรมแกภิกษุรปู นัน้ ภิกษรุ ูปนนั้ ไปจากอาวาสน้ันสูอาวาสแมอืน่ แมใ นอาวาสนั้นภิกษทุ งั้ หลายกไ็ ดป รกึ ษาตกลงกนั อยางนว้ี า อาวโุ สท้งั หลาย ภิกษรุ ูปนแ้ี ล ถูกสงฆเ ปนวรรคโดยไมเปนธรรมลงตชั ชนียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเธอ ดงั น้ีแลวไดพรอมเพรียงกันโดยไมเ ปนธรรมลงตัชชนยี กรรมแกภกิ ษรุ ปู นนั้ ภกิ ษุรูปน้ัน ไปจากอาวาสนนั้ สอู าวาสแมอ ืน่ แมในอาวาสนั้น ภกิ ษุทัง้ หลายก็ไดปรึกษาตกลงกนั อยา งนว้ี า อาวโุ สทง้ั หลาย ภิกษรุ ูปนี้แล ถกู สงฆพ รอ มเพรียงกนั โดยไมเปนธรรมลงตชั ชนียกรรม เอาละ พวกเราจงลงตัชชนยี กรรมแกเ ธอดงั นี้ แลว ไดเ ปน วรรคโดยธรรมลงตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุรปู น้นั ภิกษุรูปนน้ัไปจากอาวาสนัน้ สอู าวาสแมอื่น แมใ นอาวาสน้นั ภกิ ษุทั้งหลายก็ไดปรกึ ษาตกลงกนั อยา งน้ีวา อาวุโสทง้ั หลาย ภิกษุรูปนีแ้ ล ถกู สงฆเปนวรรคโดยธรรมลงตัชชนียกรรม เอาละ พวกเราจะลงตชั ชนียกรรมแกเ ธอดงั นี้ แลว ไดเปน วรรคโดยเทยี มธรรมลงตัชชนยี กรรมแกภิกษรุ ูปนนั้ .

พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 416 นิยสกรรมเปน วรรคโดยไมเปนธรรมเปน ตน [๒๐๙] ดูกอนภิกษุท้งั หลาย ก็ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ เปนผเู ขลา ไมฉลาด มีอาบัติมาก มมี ารยาทไมสมควร อยคู ลกุ คลีกบั คฤหสั ถ ดว ยการคลุกคลีอันไมสมควร ในเรอื่ งน้นั ถา ภิกษุทั้งหลายไดป รึกษาตกลงกันอยา งนีว้ าอาวุโสทัง้ หลาย ภิกษรุ ูปนีแ้ ล เปนผูเ ขลา ไมฉลาด มีอาบัติมาก มีมารยาทไมส มควร อยูคลกุ คลีกับคฤหสั ถ ดว ยการคลกุ คลอี นั ไมสมควร เอาละ พวกเราจะลงนยิ สกรรมแกเธอดังน้ี แลวไดเปน วรรคโดยไมเปนธรรมลงนิยสกรรมแกภ กิ ษุรูปน้ัน ภิกษรุ ปู นน้ั ไปจากอาวาสน้ันสูอ าวาสแมอนื่ แมใ นอาวาสนน้ัภิกษุท้ังหลาย กไ็ ดป รกึ ษาตกลงกนั อยา งนีว้ า อาวโุ สทงั้ หลาย ภิกษุรูปนีแ้ ล ถกูสงฆเ ปน วรรคโดยไมเ ปน ธรรมลงนยิ สกรรม เอาละ พวกเราจะลงนยิ สกรรมแกเธอ ดงั นี้ แลวไดพ รอ มเพรยี งกนั โดยไมเปนธรรมลงนยิ สกรรมแกภกิ ษุรูปน้ัน. . . เปนวรรคโดยธรรม. . . เปน วรรคโดยเทียมธรรม. . . พรอ มเพรยี งกนั โดยเทยี มธรรม . . . พึงแตงจักรเหมือนหนหลงั . ปพ พาชนียกรรม [๒๑๐] ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย กภ็ ิกษุในธรรมวนิ ัยน้ี เปนผูป ระทุษรายตระกลู มีมารยาทเลวทรามในเรอ่ื งนัน้ ถา ภกิ ษุทง้ั หลายไดปรึกษาตกลงกนัอยางนวี้ า อาวโุ สทงั้ หลาย ภกิ ษุรูปนแ้ี ล เปนผปู ระทุษรายตระกลู มีมารยาทเลวทราม เอาละพวกเราจะลงปพ พาชนยี กรรมแกเธอ ดังนี้ แลวไดเ ปนวรรคโดยไมเปน ธรรมลงปพ พาชนียกรรมแกภิกษรุ ูปนน้ั ภิกษรุ ูปนน้ั ไปจากอาวาสน้ันสอู าวาสแมอืน่ แมใ นอาวาสนนั้ ภกิ ษทุ ง้ั หลายก็ไดป รึกษาตกลงกัน อยางน้ีวาอาวโุ สท้ังหลาย ภิกษรุ ปู นแ้ี ล ถกู สงฆเปน วรรคโดยไมเปนธรรมลงปพ พาชนีย-

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 417กรรม เอาละ พวกเราจะลงปพ พาชนยี กรรมแกเ ธอ ดงั น้ี แลวไดพรอ มเพรยี งกันโดยไมเปน ธรรมลงปพ พาชนียกรรมแกภกิ ษรุ ูปนน้ั . . . เปนวรรคโดยธรรม เปน วรรคโดยเทียมธรรม . . . พรอ มเพรยี งกัน โดยเทียมธรรม. . . พึงแตงจักรเหมือนหนหลัง. ปฏสิ ารณียกรรม [๒๑๑] ดูกอ นภิกษุทัง้ หลาย กภ็ กิ ษใุ นธรรมวนิ ัยนี้ ยอ มดา ยอมบรภิ าษพวกคฤหสั ถ ในเรอ่ื งน้ัน ถา ภิกษทุ ั้งหลายไดปรึกษาตกลงกนั อยา งนว้ี าอาวโุ สทัง้ หลาย ภกิ ษรุ ูปนแ้ี ล ยอ มดา ยอ มบรภิ าษพวกคฤหัสถ เอาละ พวกเราจะลงปฏิสารณยี กรรมแกเ ธอ ดังนี้ แลว ไดเปนวรรคโดยไมเปนธรรม ลงปฏสิ ารณียกรรมแกภ ิกษุรปู น้นั . . . พรอมเพรียงกนั โดยไมเปนธรรม. . . เปนวรรคโดยธรรม . . . เปนวรรคโดยเทียมธรรม . . . พรอมเพรียงกัน โดยเทียมธรรม. . พงึ แตง จักรเหมือนหนหลงั . อุกเขปนยี กรรม [๒๑๒] ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็ภกิ ษใุ นธรรมวินัยน้ี ตอ งอาบัติและไมป รารถนาจะเห็นอาบตั ิ ในเรื่องนัน้ ถาภิกษทุ งั้ หลายไดปรึกษาตกลงกนั อยา งนี้วาอาวุโสทัง้ หลาย ภิกษุรปู นแี้ ล ตองอาบตั แิ ลว ไมป รารถนาจะเห็นอาบตั ิเอาละ พวกเราจะลงอกุ เขปนยี กรรม ฐานไมเห็นอาบตั ิแกเ ธอ ดงั นี้ แลว ไดเปน วรรคโดยไมเ ปนธรรม ลงอกุ เขปนยี ถรรม ฐานไมเ ห็นอาบัติแกภ ิกษรุ ปู นนั้. . . พรอ มเพรียงกนั โดยไมเปนธรรม . . . เปนวรรคโดยธรรม. . . เปนวรรคโดยเทียมธรรม . . . พรอมเพรียงกันโดยเทยี มธรรม. . . พึงแตงจกั รเหมอื นหนหลัง.

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 418 ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย อน่ึง ภกิ ษุในธรรมวินยั นี้ ตองอาบตั ิแลว ไมปรารถนาจะทาํ คืนอาบตั ิ ในเรื่องนั้น ถา ภกิ ษทุ ัง้ หลายไดป รกึ ษาตกลงกนั อยางน้ีวา อาวโุ สท้งั หลาย ภิกษุรปู นี้แล ตอ งอาบตั ิแลว ไมปรารถนาจะทาํ คนือาบตั ิ เอาละ พวกเราจะลงอุกเขปนียกรรม ฐานไมท าํ คนื อาบตั แิ กเ ธอ ดงั น้ีแลว ไดเปน วรรคโดยไมเ ปน ธรรม ลงอุกเขปนียกรรมฐานไมทําคืนอาบัติแกภิกษรุ ูปนนั้ . . . พรอ มเพรียงกันโดยไมเปน ธรรม. . . เปน วรรคโดยธรรม. . .เปนวรรคโดยเทียมธรรม. . . พรอมเพรียงกันโดยเทียมธรรม. . . พงึ แตง จกั รเหมือนหนหลัง. ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย อน่งึ ภกิ ษุในธรรมวนิ ยั น้ี ไมปรารถนาจะสละทฏิ ฐบิ าปในเรือ่ งน้ัน ถา ภิกษุท้ังหลายไดป รกึ ษาตกลงกนั อยา งนีว้ า อาวุโสทงั้หลาย ภกิ ษุรปู นีแ้ ล ไมป รารถนาจะสละทิฏฐิบาป เอาละ พวกเราจะลงอุก-เขปนยี กรรมฐานไมสละทิฏฐิบาปแกเ ธอดังนี้ แลว ไดเ ปนวรรคโดยไมเปนธรรมลงอุกเขปนยี กรรมฐานไมสละทฏิ ฐิบาปแกภิกษรุ ูปน้นั . . . พรอมเพรยี งกนั โดยไมเปนธรรม. . .เปน วรรคโดยธรรม. . .เปนวรรคโดยเทยี มธรรม . . . พรอมเพรยี งกนั โดยเทียมธรรม. . . พึงแตงจักรเหมอื นหนหลัง. ขอระงับตชั ชนยี กรรม [๒๐๓] ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็ภิกษุในธรรมวนิ ัยน้ี ถูกสงฆลงตัชชนียกรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอหยง่ิ ประพฤติแกต ัวได บดั น้ีขอระงบั ตัชชนียกรรม ในเรือ่ งนัน้ ถา ภิกษุท้ังหลายไดปรกึ ษาตกลงกันอยางน้ีวา อาวุโสทั้งหลาย ภิกษุรูปน้แี ล ถูกสงฆล งตชั ชนยี กรรมแลว ประพฤตโิ ดยชอบ หายเยอหยงิ่ ประพฤตแิ กตัวได บัดนี้ ขอระงับตชั ชนยี กรรม เอาละ

พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 419พวกเราจะระงับตชั ชนยี กรรมแกเ ธอ ดงั นี้ แลว ไดเ ปนวรรคโดยเปนธรรมระงับตัชชนยี กรรมแกภ กิ ษรุ ูปนั้น ภิกษรุ ูปนัน้ ไปจากอาวาสนั้นสอู าวาสแมอ น่ื แมในอาวาสนั้น ภกิ ษุทัง้ หลายกไ็ ดปรึกษาตกลงกันอยา งนว้ี า อาวุโสทงั้ หลายสงฆเ ปน วรรคโดยไมเ ปน ธรรมระงบั ตชั ชนยี กรรมแกภิกษรุ ูปน้แี ลว เอาละพวกเราจะระงบั ตัชชนยี กรรมแกเธอดงั น้ี แลวไดพรอมเพรียงกันโดยเปนธรรมระงบั ตชั ชนยี กรรมแกภกิ ษรุ ูปนั้น. . . เปนวรรคโดยธรรม . . . เปนวรรคโดยเทยี มธรรมะ. . . พรอมเพรยี งกันโดยเทียมธรรม. . . ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย อนงึ่ ภกิ ษใุ นธรรมวินัยน้ี ถูกสงฆลงตัชชนยี -กรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอ หยง่ิ ประพฤตแิ กตัวได จึงขอระงบัตัชชนยี กรรมในเรอ่ื งน้นั ถา ภิกษุท้งั หลายไดปรึกษาตกลงกันอยา งนีว้ า อาวโุ สท้ังหลาย ภกิ ษรุ ปู น้ีแล ถูกสงฆล งตัชชนยี กรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอหยง่ิ ประพฤตแิ กตวั ได บดั น้ี ขอระงบั ตชั ชนียกรรม เอาละ พวกเราจะระงบั ตชั ชนยี กรรมแกเธอดังนี้ แลว ไดพ รอมเพรยี งกนั โดยไมเ ปนธรรม ระงบัตัชชนียกรรมแกภิกษุรปู นัน้ . . . เปนวรรคโดยธรรมะ. . . เปนวรรคโดยเทยี มธรรม. . . พรอมเพรียงกันโดยเทยี มธรรม . . . เปน วรรคโดยไมเ ปนธรรม. . . ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย อนงึ่ ภิกษใุ นธรรมวนิ ัยน้ี ถกู สงฆล งตัชชนยี -กรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอหยิ่ง ประพฤตแิ กต วั ได จึงขอระงับตัชชนียกรรมในเร่อื งน้นั ถา ภิกษทุ ้งั หลายไดปรึกษาตกลงกนั อยางน้วี า อาวโุ สทง้ั หลาย ภิกษุรปู นแ้ี ล ถกู สงฆลงตชั ชนยี กรรมแลว ประพฤตโิ ดยชอบ หายเยอ หยิ่ง พระพฤติแกตวั ได บัดนี้ ขอระงบั ตชั ชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะระงบั ตชั ชนียกรรมแกเธอดังน้ี แลวไดเ ปน วรรคโดยธรรมระงบั ตชั ชนยี กรรมแกภิกษุรูปนัน้ . . . เปนวรรคโดยเทียมธรรม . . . พรอ มเพรยี งถนั โดยเทยี มธรรม. . . เปนวรรคโดยไมเปน ธรรม. . . พรอ มเพรียงกนั โดยไมเปนธรรม . . .

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 420 ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย อนง่ึ ภกิ ษุในธรรมวินัยน้ี ถกู สงฆลงตัชชนียกรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอ หยงิ่ ประพฤตแิ กต ัวได จงึ ขอระงบั ตชั ชนยี -กรรมในเร่อื งนั้น ถาภกิ ษทุ ัง้ หลายไดปรึกษาตกลงกัน อยางนวี้ า อาวุโสท้ังหลายภิกษุรูปน้ีแล ถกู สงฆล งตัชชนียกรรมแลว ประพฤตโิ ดยชอบ หายเยอ หยิง่ประพฤติแกตัวได บดั น้ี ขอระงบั ตัชชนยี กรรม เอาละ พวกเราจะระงบัตัชชนยี กรรมแกเ ธอดังน้ี แลว ไดเ ปน วรรคโดยเทยี มธรรม ระงับตชั ชนียกรรมแกภกิ ษุรปู นน้ั . . . จงึ พรอมเพรียงกัน โดยเทยี มธรรม. . . เปนวรรคโดยไมเ ปนธรรม. . . พรอ มเพรยี งกนั โดยไมเ ปนธรรม. . . เปนวรรคโดยธรรม . . . ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย อนึ่ง ภิกษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ ถูกสงฆล งตชั ชนีย-กรรมแลวประพฤติโดยชอบ หายเยอ หยงิ่ ประพฤติแกตัวได ขอระงับตัชชนยี -กรรม ในเรื่องน้นั ถา ภกิ ษุทงั้ หลายไดป รึกษาตกลงกนั อยา งน้ีวา อาวุโสทัง้ หลายภิกษรุ ูปนีแ้ ล ถูกสงฆล งตชั ชนียกรรมแลว พระพฤตโิ ดยชอบ หายเยอหยิ่ง ประ-พฤติแกต ัวได บดั นี้ ขอระงับนียกรรม เอาละ พวกเราจะงบั ตชั ชนยี -กรรมแกเ ธอ ดงั นี้ แลวไดพรอมเพรยี งกนโดยเทยี มธรรม ระงบั ตชั ชนียกรรมแกภิกษุรูปนนั้ . . . เปนวรรคโดยไมเปนธรรม. . . พรอ มเพรยี งกนั โดยไมเปนธรรม. . . เปนวรรคโดยธรรม . . . เปนวรรคโดยเทยี มธรรม. . . ขอระงบั นิยสกรรม [๒๑๔] ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ก็ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ัยน้ี ถูกสงฆลงนิยส-กรรมแลว ประพฤตโิ ดยชอบ หายเยอ หยง่ิ ประพฤติแกตวั ได จงึ ขอระงับนยิ สกรรม ในเรื่องน้ัน ถาภิกษุทัง้ หลายไดป รกึ ษาตกลงกันอยา งน้ีวา อาวโุ สทัง้ หลายภิกษุรปู นีแ้ ล ถูกสงฆล งนยิ สกรรมแลว ประพฤตโิ ดยชอบ หายเยอหยง่ิ ประ-พฤตแิ กตวั ได บดั นี้ ขอระงับนยิ สกรรม เอาละ พวกเราจะระงบั นิยสกรรมแกเธอ

พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 421ดังน้ี แลว ไดเปนวรรคโดยไมเ ปน ธรรม ระงับนสิ ยกรรมแกภิกษรุ ูปนน้ั . . .พรอ มเพรียงกัน โดยไมเ ปนธรรม . . . เปนวรรคโดยธรรม. . . เปนวรรคโดยเทียมธรรม. . . พรอมเพรยี งกนั โดยเทียมธรรม. . . พึงแตงจักรเหมอื นหนหลัง. ขอระงับปพพาชนียกรรม [๒๑๕] ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย กภ็ ิกษใุ นธรรมวนิ ัยน้ี ถูกสงฆลงปพ พาชนียกรรม แลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอ หยิ่ง ประพฤติแกตัวได จึงขอระงับปพ พาชนียกรรม ในเรื่องน้ัน ถา ภกิ ษทุ ัง้ หลายไดป รึกษาตกลงกันอยา งนีว้ า อาวุโสท้ังหลาย ภกิ ษรุ ปู นีแ้ ล ถูกสงฆล งปพพาชนียกรรมแลว พระพฤติโดยชอบ หายเยอ หยงิ่ ประพฤตแิ กตวั ได บัดน้ี ขอระงบั ปพพาชนยี กรรมเอาละ พวกเราจะระงบั ปพ พาชนียกรรมแกเ ธอ ดังน้ี แลว ไดเ ปน วรรคโดยไมเปนธรรม ระงบั ปพพาชนียกรรมแกภ กิ ษุรูปนน้ั . . . พรอ มเพรียงกนั โดยไมเปน ธรรม. . . เปน วรรคโดยธรรม. . . เปน วรรคโดยเทียมธรรม . . . พรอ มเพรยี งกนั โดยเทียมธรรม . . . พึงแตงจกั รเหมอื นหนหลัง ขอระงบั ปฏสิ ารณยี กรรม [๒๑๖] ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินยั น้ี ถกู สงฆล งปฏสิ าร-ณียกรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอ หยิง่ ประพฤติแกต วั ได จึงขอระงบั ปฏิสารณยี กรรม ในเรอ่ื งน้นั ถาภกิ ษุทั้งหลายไดป รกึ ษาตกลงกนั อยา งนี้วา อาวุโสท้ังหลาย ภกิ ษุรปู นแี้ ล ถูกสงฆลงปฏสิ ารณยี กรรมแลว ประพฤติโดยชอบ หายเยอหย่ิง ประพฤตแิ กตัวได บัดน้ี ขอระงับปฏสิ ารณยี กรรมเอาละ พวกเราจะระงับปฏสิ ารณยี กรรมแกเ ธอ ดงั น้ี แลว ไดเ ปนวรรคโดยไมเปน ธรรม ระงับปฏิสารณยี กรรมแกภ กิ ษุรปู นั้น . . . พรอ มเพรยี งกนั โดยไม























































พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 449 โกสมั พิขนั ธกะ เรื่องภกิ ษรุ ปู หน่ึง [๒๓๘] โดยสมัยนัน้ พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจา ประทบั อยู ณโฆสติ าราม เขตพระนครโกสมั พี คร้ังน้ัน ยังมภี ิกษรุ ปู หนึง่ ตอ งอาบตั ิแลว มีความเห็นในอาบัตนิ ้นั วา เปนอาบตั ิ แตภกิ ษุเหลา อ่นื มีความเห็นในอาบตั นิ ัน้ วาไมเปน อาบัติ สมยั ตอ มา ภิกษรุ ปู นนั้ กลบั มคี วามเห็นในอาบตั ิน้ันวา ไมเ ปนอาบัติ แตภิกษุเหลาอืน่ มีความเหน็ ในอาบตั ินั้นวาเปน อาบัติ ภกิ ษเุ หลานนั้ จึงไดถ ามภิกษนุ ัน้ วา อาวุโส ทา นตองอาบัติ ทา นเห็นอาบตั ินน้ั หรือไม ภกิ ษุรูปนัน้ ตอบวา อาวโุ สท้ังหลาย ผมไมม ีอาบัติทจี่ ะพึงเหน็ ภายหลังภิกษุเหลานน้ั หาสมัครพรรคพวกได จงึ ยกภิกษรุ ปู น้นั เสียเพราะไมเ ห็นอาบัต.ิ แทจ รงิ ภกิ ษรุ ปู นนั้ เปน ผคู งแกเรียน ชํ่าชองคมั ภีรท รงธรรม ทรงวินยัทรงมาตกิ า เปน บัณฑิต ฉลาด มปี ญญา มีความละอาย รงั เกียจ ผใู ครตอสกิ ขา ภิกษุรูปนน้ั จงึ เขาไปหาบรรดาภิกษุทเ่ี ปนเพ่อื นเคยเหน็ เคยคบกนั มาแลว ไดก ลาวคําน้ี วา อาวโุ สท้งั หลาย นัน่ ไมเ ปนอาบัติ น่นั เปน อาบัติหามไิ ดผมไมต อ งถกู ยก ผมตอ งถกู ยกหามิได ผมถูกยกดวยกรรมไมเปน ธรรม กาํ เรบิไมควรแกฐานะ ขอทานท้ังหลายจงกรณุ าเปนฝกฝายของผมโดยธรรม โดยวินยัดวยเถดิ ภกิ ษุรปู นัน้ ไดภกิ ษทุ ีเ่ ปนเพ่ือนเคยเห็นเคยคบกันมา เปนฝก ฝายแลวไดสงทตู ไปในสํานักภิกษุชาวชนบทท่ีเปน เพื่อนเคยเหน็ เคยคบกนั มาวา อาวโุ สท้ังหลาย นัน่ ไมเปน อาบัติ นนั่ เปน อาบตั ิหามิได ผมไมตองอาบัติ ผมตอองอาบตั ิหามิได ผมไมต องถกู ยก ผมเปนผถู ูกยกหามิได ผมถกู ยกดว ยกรรมไมเ ปนธรรม กําเริบ ไมค วรแกฐ านะ ขอทานทงั้ หลายจงกรุณาเปนฝกฝายของผม

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 450โดยธรรม โดยวินยั ดวยเถดิ ดังน้ี ไดพ วกภิกษุชาวชนบททเ่ี ปน เพอ่ื นเคยเหน็เคยคบกันมา เปนฝก ฝา ย. คร้ังนน้ั พวกภิกษุทสี่ นบั สนุนผูถ กู ยกเหลา นัน้ ไดเ ขาไปหาภกิ ษุพวกท่ยี กแลว ไดกลา วคํานแ้ี กภกิ ษพุ วกท่ยี กวา อาวโุ สทงั้ หลาย นัน้ ไมเ ปนอาบัตินัน่ เปนอาบตั ิหามไิ ด ภิกษนุ ั้นไมต องอาบตั ิ ภกิ ษุนน้ั ตองอาบัติหามิได ภกิ ษุนัน้ ไมตองถกู ยก ภกิ ษุนน้ั เปนผถู กู ยกหามไิ ด ภกิ ษนุ ั้นถูกยกดว ยกรรมไมเ ปนธรรม กาํ เริบ ไมค วรแกฐานะ. เมือ่ ภิกษุพวกสนับสนุนผถู กู ยกกลา วอยางนีแ้ ลว ภิกษพุ วกยก ไดกลา วคํานแี้ กภ กิ ษพุ วกสนบั สนุนผูถูกยกวา อาวโุ สท้ังหลาย นนั่ เปน อาบตั ิ นัน่ไมเปนอาบตั หิ ามิได ภิกษุนั้นตองอาบัติ ไมต อ งอาบัติหามไิ ด ภิกษุนน้ั ตอ งถกู ยกแลว ไมตอ งถูกยกหามไิ ด ภิกษนุ ้ัน ถกู ยกแลว ดวยกรรมเปนธรรมไมกําเรบิ ควรแกฐานะ ขอทา นท้งั หลายอยา สนบั สนนุ อยาตามหอมลอมภิกษุผถู ูกยกนนั้ เลย. ภกิ ษพุ วกสนับสนุนผูถกู ยกเหลา นัน้ อนั ภิกษพุ วกยกวา กลา วอยูแมอยา งนแ้ี ล กย็ ังสนบั สนนุ ยังตามหอมลอมภกิ ษผุ ถู กู ยกนน้ั อยา งเดิมนั่น แหละ. ภกิ ษรุ ูปหนึง่ เขา เฝากราบทูลใหทรงทราบ [๒๓๙] คร้นั ตอมา ภิกษุรูปหนึ่งเขาไปในพทุ ธสาํ นกั ถวายบังคมพระผูมพี ระภาคเจา แลวนง่ั ณ ทค่ี วรสว นขางหน่ึง ภกิ ษรุ ูปน้ันน่ังเฝา เรยี บรอยแลว ไดกราบทูลคาํ นี้ แดพระผมู ีพระภาคเจาวา พระพทุ ธเจา ขา ภกิ ษุรูปหนึง่ในวดั โฆสติ ารามนต้ี อ งอาบตั ิ ทา นมคี วามเห็นในอาบตั ินัน้ วาเปน อาบตั ิ แตภิกษเุ หลา อ่นื มีความเหน็ ในอาบตั ิน้นั วา ไมเ ปนอาบตั ิ ครนั้ ตอมา ทานกลบั มี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook