Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_46

tripitaka_46

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:41

Description: tripitaka_46

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 351 ในกาลครงั้ นนั้ มาตังคะนัน้ ลุกข้นึ ตามกาลนน่ั เทียวนงุ ผาเกา ผกู กานตาลทม่ี ือ ถือภาชนะเขา สนู คร เห็นมนุษยท ง้ั หลายแลว ก็เคาะกานตาลแตไกลแล ลําดบั น้ัน นางทฏิ ฐมังคลิกา อนั บุรษุ ทง้ั หลายกําลงั ไลช นทีเ่ ลวขา งหนา ๆ วา พวกทา นจงลุกออกไป จงลุกออกไป นําทางอยู ไดเหน็ มาตงั คะในทามกลางประตูนคร จงึ กลา ว นน่ั ใคร. ขาพเจาเปน ลูกคนจณั ฑาล ชอ่ืมาตังคะ. นางคิดวา คนทัง้ หลายทไ่ี ปเหน็ คนเชนนี้ จะมคี วามเจรญิ แตท ี่ไหนจึงสัง่ ใหน าํ ยานกลบั . มนุษยทงั้ หลายโกรธวา พวกเราไปสูอุทยานแลว พึงไดวตั ถุมีของเค้ียวและของกินเปนตนใด อันตรายแหง วัตถุมีของเคยี้ วและของกินเปนตน น้ันของพวกเรา ถูกมาตังคะกระทําแลว จงึ พูดวา พวกทา นจงจับคนจัณ-ฑาล ประหารดว ยกอ นดนิ ทง้ั หลาย รูวา ตายแลว จึงจบั เทา ไปทิ้งท่สี วนขา งหนึง่กลบดวยหยากเยือ่ แลว ไป เขากลบั ไดสตแิ ลว ลุกขนึ้ ถามมนษุ ยท งั้ หลายวานาย ! ช่อื วา ประตูเปน ของท่วั ไปแกค นทงั้ ปวง หรอื ทําไวสําหรบั พวกพราหมณเทา น้ัน. มนุษยทงั้ หลายกลาววา ไมไดทาํ ประตเู ปน ของทั่วไปแกค นทั้งปวง.มาตงั คะคดิ วา มนษุ ยท งั้ หลายใหเ ราผูเขาไปทางประตทู ่ที ั่วไปแกช นทง้ั ปวงแลวยังชวี ติ ใหเ ปน ไปดว ยภิกขาจาร ใหถงึ ความพนิ าศยอยยบั น้ี เพราะนางทิฏฐ-มงั คลกิ าเปนเหตุ จงึ เทีย่ วไปตามถนนสูถนน บอกแกม นษุ ยท้ังหลายแลว นอนทีป่ ระตูเรอื นของพราหมณ ดว ยคดิ วา เราไมไดนางทิฏฐมงั คลกิ าแลว จกั ไมลุกขน้ึ . พราหมณฟงวา มาตังคะนอนทป่ี ระตูเรือน จึงกลา ววา ทานจงใหกากณิกหนง่ึ แกเขา เอานาํ้ มนั งาทาตัวแลว จงไป มาตังคะน้นั ยอมไมป รารถนา

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย สุตตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนาที่ 352กากณิกน้นั จึงกลาววา เราไมไ ดน างทิฏฐมงั คลิกาแลว จกั ไมล ุกขนึ้ แตนนั้พราหมณกลาววา จงให ๒ กากณกิ จงกนิ มูล ๑ กากณิก เอาน้ํามนั งาทาตวั๑ กากณิก แลว ไป เขาไมต อ งกากณิกแมนน้ั ยงั พูดยืนยนั ตามเดิมน่ันแลพราหมณฟ งแลว กส็ ่งั วา จงใหมาสก บาท ก่งึ กหาปณะ ๒ กหาปณะ๓ กหาปณะ จนถงึ ๑๐๐ กหาปณะ เขาก็ไมตองการ ยังพูดยืนยนั ตามเดิมน่นั แล เม่ือพวกเขาออ นวอนอยอู ยางน้ีน่ันเทยี ว พระอาทติ ยกอ็ ัสดง. ลาํ ดบั นนั้ นางพราหมณลี งจากปราสาท ใหล อมผา มา น เขาไปหามาตังคะนนั้ แลวออ นวอน กลา ววา แนะพอ มาตงั คะ เจาจงอดโทษแกน างทิฏฐมังคลกิ าเถดิ จงรับ ๑,๐๐๐ กหาปณะ ๒-๓ พันกหาปณะ จนถงึ แสนกหาปณะ เขาก็คงนอนนิ่งอยางนั่นเทยี ว เมอื่ ๔-๕ วนั ลว งไปอยา งนแ้ี ลวชนทั้งหลายมขี ัตติยกมุ ารเปน ตน ใหบ รรณาการแมมากแลว เมื่อไมไ ดน างทฏิ ฐมังคลกิ า จงึ กระซบิ บอกทห่ี ูมาตังคะวา ธรรมดาบรุ ษุ ทงั้ หลายทําความเพยี รหลายป จงึ ถึงความปรารถนา ทานอยา เบ่ือเลย จักไดนางทิฏฐมงั คลกิ าโดยลว งไป ๒-๓ วันแนแ ท. เขากค็ งนอนน่ิงอยางนัน้ นั่นแหละ. ลาํ ดับนัน้ ในวันท่ี ๗ พวกคุนเคยโดยรอบ ลุกข้นึ กลา ววา ทานจงใหม าตังคะลุกข้ึน หรอื จงใหท ารกิ า อยา ใหพ วกเราทง้ั หมดเสยี หายเลย.ไดยนิ วา พวกชนเหลา นั้นมที ิฏฐอิ ยางนีว้ า คนจณั ฑาลนอนตายอยางน้ี ในประตเู รอื นของคนใด พวกคนท่ีอยูในเรอื นโดยรอบละ ๗ หลังคาเรอื น พรอ มดวยเรอื นของคนนน้ั ก็จะกลายเปนคนจัณฑาลดว ย. แตน นั้ พราหมณแ ละนางพรหมณี ใหนางทิฏฐมงั คลิกานุงผา เกา สีเขียว ใหวัตถุท้งั หลายมกี ระบวย

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 353และหมอ เปน ตน นาํ นางผูคร่าํ ครวญอยูไปสสู าํ นักของมาตงั คะน้ันแลว กลา ววาเจาจงรบั ทารกิ า ลุกข้นึ ไปเสีย นางทารกิ าน้ันยืนท่ีขางกลา ววา จงลุกขนึ้ . มา-ตงั คะน้ันกลา ววา จงจับมอื ฉนั ใหล ุกข้นึ แลว กลา ววา พวกเราไมไดเ พ่อื อยภู ายในนคร มาเถดิ จงนาํ ฉนั ไปสูกระทอมหนัง ในภายนอกนคร. นางจูงมอื เขานาํ ไปที่กระทอมหนงั . อาจารยผกู ลาวชาดกวา ใหข ีห่ ลัง. กค็ ร้นั นําไปแลวจงึ เอานํ้ามนั ทารา งกายของมาตังคะนัน้ ใหอ าบน้าํ ดวยนา้ํ อนุ ตม ยาคใู ห. มาตงั คะน้นั คิดวา ขอพราหมณก ญั ญานี้อยาฉิบหายเลย แลว ไมกระทําการสมสดู วยชาตเิ ทียว พอไดกาํ ลังสกั กึง่ เดือนจงึ พูดวา ฉันจะไปปา เจาอยารอนใจวา ชักชา มาก และส่ังผคู นในบานวา พวกทา นอยาละเลยนางน้ี ออกจากเรือน บวชเปน ดาบส กระทํากสิณบรกิ รรมโดยไมน านนัก กย็ ังสมาบัติ ๘และอภญิ ญา ๕ ใหเ กดิ ขน้ึ คิดวา กบ็ ดั นี้ เราจักเปนท่พี งึ่ ของนางทฏิ ฐมังคลกิ าจึงเหาะมาทางอากาศลงที่ประตนู คร สงขา วไปยังสาํ นกั ของนางทฏิ ฐมังคลิกา.นางฟง แลว คดิ อยูว า เห็นจะเปนญาตขิ องเราคนหนงึ่ บวชแลว รูว าเราเปน ทกุ ขจักมาเยยี่ ม ดังน้ี จงึ ไป รวู า เปนมาตังคะน้ันแลว หมอบทเี่ ทาท้งั สองกลา ววาทานทําดฉิ นั ใหหมดทีพ่ งึ่ มาเพอื่ ประโยชนอ ะไร. มหาบรุ ษุ กลา ววา แนะ นางทฏิ ฐมงั คลกิ า เจาอยา เปนทกุ ขเลย ฉนัจกั ใหชาวชมพทู วปี ทง้ั สิน้ ทาํ สกั การะแกเ จา แลว กลา วคาํ นีว้ า จงไป เจา จงใหท าํ การปาวประกาศวา ทาวมหาพรหมเปน สามขี องดฉิ ัน ไมใชมาตงั คะทา วมหาพรหมนั้นจกั แหวกวิมานจันทรแลว มาสูส าํ นกั ของดิฉันในวันที่ ๗. นางกลาววา ทา นเจาขา ดิฉนั เปนธิดาของพราหมณมหาศาล ถงึความเปนคนจณั ฑาลนี้ เพราะบาปกรรมของตน ไมอ าจเพ่ือจะพูดอยางนัน้ .

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย สุตตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนาท่ี 354 มหาบุรุษกลาววา เจา ไมร ูจ ักอานภุ าพของมาตังคะ จงึ แสดงปาฏิหารยิ หลายอยา ง โดยประการท่ีนางยอมเชื่อถือ สั่งนางอยางนัน้ แลว กไ็ ปสูทอี่ ยูของตน. นางไดทาํ อยา งนัน้ . พวกมนษุ ยตางก็เพง โทษ หวั เราะวา กน็ างทิฏฐมงั คลกิ านี้ ถงึ ความเปน คนจณั ฑาลแลว เพราะบาปกรรมของตน จกั ทํามาตงั คะนน้ั ใหเ ปนมหา-พรหมอีกอยางไรกนั . นางมีมานะยง่ิ นัน่ แล จึงเทยี่ วประกาศทัว่ นครทุก ๆ วันวา แตน้ีไปทา วมหาพรหมจกั มาในวันท่ี ๖ ที่ ๕ ที่ ๔ ท่ี ๓ ในวันพรงุ นี้ในวันนี.้ มนษุ ยท ้ังหลายฟงขา วทีน่ างประกาศแลว คดิ วา บางครงั้ พงึ มีแมอยา งน้ี ใหทํามณฑปทป่ี ระตเู รอื นของตน ๆ จดั แจงสถานผูกมา น ประดบัประดาทารกิ าผเู จริญวยั นง่ั มองดูอากาศวา เมอ่ื ทาวมหาพรหมมาจกั ถวายกัญญาทาน. ลาํ ดับน้นั มหาบุรุษเม่ือพระจันทรโผลอ อกสูพ ื้นทองฟา ในวันเพญ็ก็แหวกวิมานจนั ทร มาปรากฏเปนรูปทาวมหาพรหมแกม หาชนผูม องดู มหาชนเขาใจวา พระจันทร ๒ ดวงเกิดแลว แตนัน้ เหน็ ทา วมหาพรหมมาโดยลําดับไดถ งึ ความตกลงวา นางทฏิ ฐมงั กลกิ าพดู จริง นเี้ ปนทา วมหาพรหมเทยี ว มาดวยเพศของมาตงั คะในกาลกอน เพื่อจะทรมานนางทฏิ ฐมงั คลกิ า. มหาบุรุษนัน้ เม่อื มหาชนมองดอู ยางนั้น จงึ ลงในท่เี ปน ท่อี ยขู องนางทฏิ ฐมงั คลิกาน่ันแล. กใ็ นกาลนั้น นางมรี ะดู มหาบรุ ษุ นนั้ ลบู คลําสะดือของนางดว ยนิ้วมือครรภก็ตงั้ ขนึ้ ดวยการลูบคลาํ นนั้ . แตน ้ัน จงึ กลา วกะนางวา ครรภข องเจาตัง้ พรอมแลว เมื่อบตุ รเกิด เจา จงอาศัยบุตรนน้ั เลี้ยงชีพ เมอื่ มหาชนกําลัง

พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย สตุ ตนิบาต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 355มองดู ก็เขาสูว ิมานจันทรอ กี พวกพราหมณพากันกลา ววา นางทฏิ ฐมงั คลกิ าเปน ประชาบดขี องมหาพรหม เปน มารดาของพวกเรา จึงมาจากที่นนั้ ๆ ประตูนครกค็ บั ค่ัง ดว ยอาํ นาจแหง พวกมนุษย ผูใ ครเพอ่ื จะทาํ สกั การะน้ัน พวกพราหมณเ หลานน้ั ตง้ั นางทฏิ ฐมงั คลกิ าในกองเงิน ใหอ าบนํ้า ตกแตง ยกขน้ึ สูรถ ใหการทําประทกั ษิณพระนคร ดวยสักการะใหญ ใหสรา งมณฑปในทามกลางนคร ตัง้ นางไวใ นตาํ แหนง ทีเ่ ห็นวา ประชาบดขี องพรหม ใหอยูในมณฑปนัน้ วา ขอใหน างอยูใ นมณฑปนีก้ อน จนกวา พวกเราจะทําโอกาสเปน ที่อยูอนั เหมาะสมแกนาง. นางคลอดบุตรทม่ี ณฑปนนั่ เทียว ในวันบริสุทธิ์ พวกพราหมณใหนางพรอมกับบุตรอาบน้าํ สระเกลาแลว ต้ังชอื่ ทารกวา มณั ฑพั ยกุมาร เพราะเหตเุ กิดในมณฑป และจาํ เดมิ แตน ัน้ พวกพราหมณเ ที่ยวแวดลอ มกุมารนน้ั วาบตุ รของมหาพรหม บรรณาการหลายแสนประการกม็ าจากที่น้ัน พราหมณเหลาน้ันต้งั อารักขากุมาร พวกที่มาแลว ก็ไมไดเ พือ่ เยย่ี มกมุ ารไดโดยเรว็ กุมารอาศัยความเจรญิ โดยลาํ ดบั ปรารภแลว เพื่อจะใหทาน เขาไมใ หทานแกคนกาํ พรา และคนเดนิ ทาง ผูถ ึงพรอ มแลวดว ยความหวงั แตใ หแกพ วกพราหมณเทานั้น. มหาบุรุษระลึกวา บตุ รของเราใหทานหรอื ไมให เหน็ กมุ ารกาํ ลงั ใหทานแกพ ราหมณท ้งั หลายน่นั เทียว จึงคดิ วา เราจักทาํ โดยประการท่ีกุมารนี้ใหทานแกชนทั้งหมด จงึ หมจีวร ถือบาตร เหาะมาทางอากาศ ยนื อยูท ่ีประตูเรือนของบุตร กุมารเห็นมหาบุรษุ น่นั แลว โกรธวา สมณะน้ีเปน คนถอยมีเพศนา เกลยี ดอยา งนี้ มาจากไหนดงั นี้แลว กลา วคาถานว้ี า

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย สตุ ตนิบาต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ที่ 356 กุโต นุ อาคจฉฺ สิ จมฺมวาสิ โอตตฺ ลลโก ป สปุ ส าจโกว สงฺการโจฬ ปฏิมุฺจ กณเฺ  โก เร ตุว โหสิ อทกขฺ ิเณยโฺ ย ทานนุงหนังสัตว มรี ูปรา งนา เกลยี ด เหมอื นปศาจคลุกฝุน มาจากไหนกัน ทา นสวมทอ นผา ซึง่ ไดจ ากกองหยากเยื่อไว ท่ีคอ เปน ผูไมค วรทักษณิ า เปน ใครกันนะ ดงั นี.้ พวกพราหมณกลา ววา จงจับ จงจบั แลวจับมหาบุรษุ นน้ั ทุบตีใหถ งึ ความพนิ าศยอ ยยบั มหาบรุ ุษน้ัน เหาะทางอากาศไปยืนอยูที่ภายนอกนคร. เทวดาท้ังหลายโกรธแลว จับคอกุมาร เอาเทา ช้ฟี า เอาศรี ษะลงดินต้ังไว. กุมารนัน้ มีนัยนต าถลน มีนา้ํ ลายไหลออกจากปาก หายใจฆุรุ ฆรุ ุเสวยเวทนา นางทฏิ ฐมังคลกิ าฟง แลว ถามวา มใี ครมาหรอื ? เออ บรรพชิตมา. ไปไหน ?. ไปอยา งนี้. นางไปทีน่ นั้ แลว ออ นวอนวา ทา นเจา ขา ขอทา นจงอดโทษแกท าสของทาน ดังนีแ้ ลว หมอบลงท่ีพืน้ ใกลเทาของมหาบรุ ษุน้นั . กโ็ ดยสมยั นั้น มหาบุรษุ เท่ยี วบณิ ฑบาต ไดขา วยาคู กาํ ลงั ด่มื ขา วยาคูนงั่ อยใู นท่นี ้ัน เขาใหขา วยาคทู ่เี หลือนิดหนอยแกน างทฏิ ฐมังคลิกา กลา ววาจงไป จงกวนขาวยาคูนีใ้ นหมอนํา้ แลว หยอดทน่ี ัยนตา หู รจู มูก และประพรม

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนาที่ 357รา งกายทั้งส้ิน ของคนผพู ิการทง้ั หลาย คนพกิ ารทั้งหลายจักหายพิการ นางไดกระทําอยา งนั้น แตน ้ัน เมอื่ กุมารมีรา งกายปกตแิ ลว จึงกลาววา มาเถดิพอมณั ฑพั ยะ พวกเราจกั ใหมหาบุรุษนนั้ อดโทษ แลวพาบุตรและพราหมณท้ังปวงใหน อนหมอบที่บาทมลู ของมหาบุรษุ นัน้ แลว ขอขมาใหอดโทษ. มหาบุรุษนนั้ โอวาทวา พงึ ใหทานแกชนทง้ั ปวง กลาวธรรมกถาแลวไปสูท ่อี ยขู องตน คิดวา นางทิฏฐมังคลิกา เราไดทรมานปรากฏแลวในสตรีท้ังหลาย มณั ฑัพยกมุ าร ปรากฏแลวในบรุ ุษทั้งหลาย บัดน้ี เราพึงทรมานใครแตน้นั ไดเ หน็ ชาตมิ ันตดาบส ผอู าศยั พันธมุ ดนี คร อยูท ฝี่ งแหง กมุ ภวดีนทีดาบสน้ันคดิ วา เราเปน ผปู ระเสรฐิ โดยชาติ จะไมบ รโิ ภคนํา้ ท่คี นอื่นทัง้ หลายบริโภคแลว จงึ พักอยูท่ีเหนือแมน าํ้ มหาบุรษุ สําเร็จการอยเู หนอื ภูมิภาคของดาบสนั้น ในเวลาที่ดาบสนนั้ บรโิ ภคน้าํ ก็เคย้ี วไมสฟี น โยนลงในแมน ํ้า ดาบสเหน็ ไมสีฟน นนั้ ถูกน้ําพัดไป ก็คิดวา ใครทงิ้ ไมสีฟน น้ี จึงไปทวนกระแสเห็นมหาบุรษุ แลว ถามวา ใครในที่น้ี ? ม. คนจณั ฑาล ชอ่ื มาตังคะ อาจารย. ด. จงหลกี ไปคนจณั ฑาล อยา มาอยเู หนือแมน ํ้า. มหาบรุ ุษตอบรับวา ดลี ะ อาจารย จงึ พักอยูท ี่ใตแมน้ํา ไมส ฟี นก็ทวนกระแสนํา้ มาสสู ํานักดาบส ดาบสไปอีกกลาววา ออกไปคนจัณฑาล จงอยา อยูในทใ่ี ตแ มน ํา้ จงอยใู นที่เหนือนํา้ เทา นน้ั มหาบรุ ษุ รับวา ดลี ะ อาจารยจงึ กระทําตามสงั่ ทงั้ ทําอยา งเดิมอกี ดาบสโกรธวา ยังทาํ อยางนัน้ อกี จงึ สาปแชงมหาบรุ ุษวา ในเวลาพระอาทิตยข ึน้ ขอศรี ษะของทานจงแตกออกเปน เจ็ดเส่ยี งฝา ยมหาบุรุษกลาววา ดลี ะ อาจารย แตเ ราจะไมใหพระอาทิตยขึ้นจงึ หามมใิ หพระอาทติ ยขึน้ .

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนาท่ี 358 แตนั้น ราตรไี มส วา ง ความมดื เกดิ ข้นึ ชาวพระนครพันธมุ ดีกลัวพากันไปสสู าํ นกั ของดาบสแลว ถามวา ทานอาจารย พวกกระผมจะมีความปลอดภยั หรือหนอ. และชาวพระนครแมเ หลา นน้ั กส็ าํ คญั ดาบสน้ันวา เปนพระอรหนั ต ดาบสน้นั ก็บอกเร่ืองท้ังหมดแกช าวพระนครเหลานนั้ พวกเขาจงึเขา ไปหามหาบรุ ษุ ออ นวอนวา ทานเจา ขา ขอทานจงปลอยพระอาทิตย มหา-บรุ ษุ กลา ววา ผิวา พระอรหันตข องพวกทานมาขอขมาฉัน ฉนั จกั ปลอ ย. พวกมนุษยไปแลว กลาวกะดาบสวา มาเถิด ทา นผูเจริญ ทานจงขอขมามาตงั คบณั ฑติ พวกกระผมอยา ฉิบหาย เพราะเหตแุ หง การทะเลาะของพวกทานดาบสน้นั กลาววา เราจะไมข อขมาคนจัณฑาล มนุษยท้งั หลายกลาววา ทานใหพวกกระผมฉิบหาย แลว พากันจับมอื และเทานาํ ไปสูสํานักของมหาบุรษุ มหา-บุรษุ กลาววา เมื่อดาบสนอนหมอบใกลเ ทา ของเราขอขมาอยู เราจะอดโทษให.มนุษยท งั้ หลายกลาววา ทา นจงทําอยา งนี้ ดาบสก็กลาววา เราจะไมไ หวค นจัณ-ฑาล มนุษยท ้งั หลายกลาววา ทานจักไมไ หวต ามความพอใจของทาน ดงั นแี้ ลวจึงจับมอื เทา หนวด และคอเปน ตน ใหนอนใกลเ ทาของมหาบุรษุ . มหาบุรุษนนั้ กลาววา เราอดโทษแกดาบสนี้ แตว า เราจะไมปลอ ยพระอาทิตย เพราะความอนุเคราะหแ กดาบสนน่ั แล เพราะเมอ่ื พระอาทิตยมาตรวาข้นึ เทานนั้ ศีรษะของดาบสน้นั จกั แตกออกเปน เจด็ เสย่ี ง มนษุ ยท้งั หลายจงึกลา ววา ขาแตพ ระคณุ เจา บดั นี้ จะพึงทาํ อยา งไร มหาบุรุษกลาววา ถาเชนนั้น พวกทานจงวางกอนดินเหนยี วบนศรี ษะของดาบส และใหอ ยูในนาํ้ลกึ ประมาณคอ เราจกั ปลอ ยพระอาทิตย พอปลอ ยพระอาทิตยแลว กอ นดนิเหนยี วกแ็ ตกออกเปน เจด็ เสยี่ งตกลงมา ดาบสกลวั แลวหนีไป พวกมนุษยเห็น

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สุตตนิบาต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ที่ 359แลว จงึ กลา ววา ทา นผูเจริญ จงดูอานุภาพของสมณะ ดงั น้ีแลว กลาวเร่อื งท้ังหมดใหพ สิ ดารเรม่ิ ตน แตก ารทิ้งไมสฟี นเปน ตน เลือ่ มใสในมหาบรุ ษุ นั้นวาสมณะที่เปน เชน น้ไี มม .ี จาํ เดมิ แตน ัน้ คฤหัสถและบรรพชติ ท้ังหลายมีกษตั ริยและพราหมณเปน ตน ในชมพูทวปี ท้งั สน้ิ ก็ไดไ ปสทู ่บี ํารงุ ของมาตังคบัณฑิต เขาดาํ รงอยูตามสมควรแกอ ายแุ ลว เพราะกายแตกจงึ บงั เกดิ ในพรหมโลก ดว ยเหตุนน้ัพระผมู พี ระภาคเจา จงึ ตรัสวา ตทมินาป ชานาถ ฯลฯ พรฺ หฺมโลกูปปตตฺ ยิ าดังน.ี้ พระผูมพี ระภาคเจาทรงใหส าํ เร็จวา บคุ คลไมเ ปนคนถอ ยเพราะชาติแตเปนคนถอยเพราะกรรม ดังนี้ อยา งน้ีแลว บดั นี้ เพือ่ ใหสาํ เร็จอยา งนวี้ าไมเปนพราหมณเพราะชาติ แตเปนพราหมณเ พราะกรรม ดงั น้ี จงึ ตรสั วาอชฌฺ ายกกเุ ล ชาตา ฯ เป ฯ ทคุ ฺคจจฺ า ครหาย วา ดงั น้ี. ในบทเหลานน้ั บทวา อชฌฺ ายกกเุ ล ไดแ กเ กดิ ในตระกลู พราหมณผูสาธยายมนต. บาลวี า อชฌฺ ายกิ กุเล ชาตา ดงั นี้บาง. อธบิ ายวา เกดิในตระกลู พราหมณผูสาธยายมนตแ ละไมถ กู รงั เกียจ. มนตทัง้ หลายเปนเผา -พันธุของพราหมณเ หลา น้นั เพราะเหตุนน้ั พราหมณเหลา นั้น จึงช่ือวามนตฺ พนธฺ วา เปน พวกรา ยมนต คอื รายพระเวท มอี ธบิ ายวา มพี ระเวทเปนท่ีพ่ึงอาศยั . บทวา เต จ ปาเปสุ กมฺเมสุ อภณิ หฺ มุปทิสฺสเร ความวาพราหมณเ หลา น้นั เกิดในตระกลู อยางนี้แลว แมจ ะเปนพวกรายมนตแ ตก็ปรากฏอยูเ นือง ๆ ในบาปกรรมทั้งหลายมีปาณาตบิ าตเปนตน เมื่อเปนอยา งน้นั

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สุตตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนาที่ 360กจ็ ะพงึ ถกู ตเิ ตียนในปจจุบนั ทเี ดียว และภพหนา ก็เปน ทคุ ติ อธบิ ายวา พวกเขาเมอ่ื ปรากฏอยอู ยา งน้ี ในอตั ภาพนที้ เี ดียวก็จะพงึ ถูกมารดาและบดิ าตเิ ตยี นอยางนวี้ า พวกนี้ไมใชบ ตุ รของพวกเรา พวกมนั เกดิ ชั่ว เปน ขเ้ี ถาของตระกูลจงขบั พวกของมันไป ดงั นบ้ี าง ถูกพราหมณท ้งั หลายตเิ ตยี นอยา งนวี้ า พวกเหลา นีเ้ ปน คหบดี พวกเหลาน้ันไมใชพราหมณ พวกทานอยาใหพ วกมันเขาไปในพิธีท้ังหลายมีที่บูชายญั และทีถ่ วายถาดขา วสกุ ดวยศรัทธาเปนตน อยาพงึสนทนากับพวกมนั ดังนี้บา ง ถกู มนุษยเ หลา อืน่ ติเตยี นอยา งนีว้ า พวกเหลานี้ทํากรรมช่ัว พวกเหลานไี้ มใ ชพราหมณ ดังนี้บาง และภพหนา ของพวกเขากเ็ ปนทุคติ คอื ปรโลกของพวกมนั กเ็ ปน ทุคตอิ นั ตางดว ยนรกเปนตน บาลวี าสมฺปราเย ดังนี้ก็มี อธิบายวา ในปรโลกของพวกเขาก็เปน ทุคติ คือ เปนคติแหงความทกุ ข ไดแ ก เปน การถงึ ความทกุ ขนน่ั เอง. บทวา น เน ชาติ นิวาเรติ ทคุ ฺคจฺจา ครหาย วา ความวาชาตนิ ้ันแมจ ะสงู อยางน้ัน ทานหวังชาติใดโดยความเปนสาระ ชาติน้ันยอ มไมหา มกนั พวกพราหมณ ทีป่ รากฏอยใู นบาปกรรมท้ังหลายนัน้ จากทุคติมีประการไดก ลา วแลว ในบทนว้ี า และภพหนา ก็จะเปนทคุ ติ หรือจากครหามีประการดังกลา วแลว ในบทวา พงึ ถกู ตเิ ตยี นในปจ จบุ นั ทีเดยี ว. พระผูมพี ระภาคเจา เมื่อจะทรงแสดงความท่พี ราหมณท ้ังหลาย แมเกดิในตระกูลสาธยายมนตก ย็ งั ตกตํ่าในปจ จุบันทเี ดยี ว ดว ยอาํ นาจแหง กรรมมกี ารถกู ติเตยี นเปนตน และเม่อื จะทรงแสดงความไมมแี หงชาติพราหมณในภพหนาดว ยการถงึ ทุคติ ทรงยงั อรรถแมน ้ีวา ไมเปนพราหมณเ พราะชาติ แตเปนพราหมณเพราะกรรม ดงั น้ี ใหสําเร็จอยางนีแ้ ลว บัดน้ี เมื่อจะประมวลอรรถแมทง้ั สอง จึงตรัสวา ดูกอนพราหมณ เพราะอยางนี้

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย สุตตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 361 น ชจฺจา วสโล โหติ น ชจฺจา โหติ พรฺ าหมฺ โณ กมฺมนุ า วสโล โหติ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ บุคคลไมเ ปนคนถอยเพราะชาติ ไม เปน พราหมณเ พราะชาติ แตเ ปน คนถอย เพราะกรรม เปน พราหมณเพราะกรรม ดังนี้. บทท่เี หลอื มีนัยทกี่ ลาวแลวในกสิภารทวาชสูตรน่ันแล หรือโดยพิเศษพึงทราบการประกอบอยางนีแ้ หง บทท้ังหลาย มีอาทิวา นิกฺกุชชฺ ิต วา ในคาถานี้ :- พระธรรมอนั พระโคดมผูเจรญิ ทรงยกขาพระองคผหู นั หลังใหกรรมผูตกอยใู นชาติวาทะขึน้ จากความเห็นวา ชาติเปนเหตใุ หบคุ คลเปนพราหมณและเปนคนถอ ย เหมอื นคนบางคนหงายของท่ีควํา่ ฉะนั้น ทรงเปด กรรมวาทะทช่ี าตวิ าทะปด ไว เหมือนคนเปดส่ิงท่ีปดฉะน้ัน ทรงบอกทางตรง อนั ไมเจอื คละดว ยความทชี่ าตเิ ปนเหตุใหเ ปน พราหมณแ ละใหเปนคนถอ ย เหมอื นคนบอกทางแกค นหลงทางฉะนนั้ ทรงประกาศแลว โดยอเนกปริยาย เพราะเปนธรรมท่ที รงประกาศแลว โดยปรยิ ายเหลานนั้ แกขา พระองค โดยทรงสองแสงสวางในการยกเรือ่ งมาตงั คะ เปน ตนเปน ตวั อยาง เหมือนบุคคลตามประทปี น้าํ มนั ไวใ นท่มี ดื ฉะนัน้ แล. จบอัคคกิ ภารทวาชสตุ ตวัณณนา แหง อรรถกถาขุททกนกิ าย ชือ่ ปรมตั ถโชติกา

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ที่ 362 เมตตสูตรที่ ๘ วาดวยตรัสรูส นั ตบท [๓๐๘] กลุ บุตรผฉู ลาดในประโยชนปรารถนาเพื่อจะตรัสรสู นั ตบท พงึ บาํ เพ็ญไตรสิกขา กลุ บตุ รนน้ั พึงเปนผอู าจหาญเปน ผตู รง ซอื่ ตรง วา งา ย ออ นโยน ไมเยอหยิง่ สนั โดษ เล้ียงงา ย มีกจิ นอ ย มีความประพฤติเบา มีอนิ ทรียอนั สงบแลวมปี ญ ญาเครือ่ งรักษาตน ไมค ะนอง ไมพวั -พันในสกลุ ท้ังหลาย และไมพึงประพฤติทจุ ริตเลก็ นอยอะไร ๆ ซง่ึ เปน เหตุ ใหทานผูรูเหลา อ่ืนตเิ ตยี นได พึงเจริญเมตตาในสัตวทั้งหลายวา ขอสัตวท้ังปวงจงเปนผมู ีสขุมีความเกษม มีตนถึงความสุขเถดิ สัตวมีชีวติ เหลา ใดเหลา หนึ่งมีอยู เปนผูสะดงุ หรือเปนผมู น่ั คง ไมม สี ว นเหลอื สตั วเหลาใดมีกายยาวหรือใหญ ปานกลางหรอื ส้ัน ผอมหรอื พี ทเ่ี ราเหน็ แลวหรือไมไ ดเ ห็น อยใู นท่ไี กลหรือในทใี่ กล ทีเ่ กดิ แลว หรอื แสวงหาทเ่ี กดิ ขอสตั วท งั้ หมดนั้นจงเปนผูม ีตนถงึ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย สุตตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 363ความสุขเถดิ สตั วอ่ืนไมพ งึ ขมขูสตั วอน่ืไมพ งึ ดูหมนิ่ อะไรเขาในทีไ่ หน ๆ ไมพ งึปรารถนาทุกขใ หแกก นั และกนั เพราะความโกรธ เพราะความเคียดแคน. มารดาถนอมบตุ รคนเดียวผูเกดิ ในตน แมด วยการยอมสละชีวิตได ฉนั ใดกุลบุตรผฉู ลาดในประโยชน พึงเจริญเมตตามีในใจไมมีประมาณในสตั วทง้ั ปวง แมฉ ัน-น้นั กุลบตุ รนั้นพึงเจรญิ เมตตามใี นใจไมมีประมาณ ไปในโลกทั้งสนิ้ ทงั้ เบอ้ื งบนเบ้ืองตา่ํ เบอ้ื งขวาง ไมคบั แคบ ไมมีเวรไมม ศี ัตรู กลุ บตุ รผูเจรญิ เมตตาน้ันยินอยูก็ดีเดนิ อยูก ด็ ี นัง่ อยูก ็ดี นอนอยกู ด็ ี พึงเปนผูปราศจากความงวงเหงาเพยี งใด กพ็ ึงต้ังสตินี้ไวเพยี งนั้น บณั ฑิตทงั้ หลายกลา ววิหาร-ธรรมน้ี วาเปน พรหมวิหารในธรรมวินัยของพระอริยเจาน้ี และกลุ บตุ รผูเจริญเมตตาไมเขาไปอาศยั ทิฏฐิ เปน ผมู ศี ลี ถึงพรอ มแลวดวยทศั นะ นําความยินดีในกามท้ังหลายออกไดแ ลว ยอมไมถงึ ความนอนในครรภอกี โดยแทแล. จบเมตตสตู รท่ี ๘

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย สตุ ตนบิ าต เลม ๑ ภาค ๕ - หนา ท่ี 364 อรรถกถาเมตตสูตร เมตตสูตรเร่มิ ตน ดวยคาถาวา กรณียมตถฺ กสุ เลน ดงั น้ี :- มอี ุบัติอยา งไร ? ไดยนิ วา ภกิ ษทุ ัง้ หลายถูกเทวดาท้งั หลายขา งภเู ขาหิมวนั ตหลอกใหกลวั แลว มาสกู รงุ สาวัตถี อนั เปน สํานักของพระผมู พี ระภาคเจาพระผมู ีพระภาคเจา ไดตรัสพระสูตรน้ี เพอื่ ประโยชนแ กการปอ งกัน และเพ่ือประโยชนแ กกรรมฐานแกภิกษุเหลานน้ั ความสงั เขปเพยี งเทา นี้กอ น สวนความพสิ ดารมีดังนี้ :- ในสมยั หนึง่ พระผูมพี ระภาคเจา เมือ่ วนั เขาพรรษาใกลเ ขา แลวประทับอยู ณ กรงุ สาวตั ถี ก็โดยสมัยนนั้ ภกิ ษชุ าวเมืองตาง ๆ จํานวนมาก เรียนกรรมฐานในสํานักของพระผมู พี ระภาคเจา แลว มีความประสงคเ พือ่ เขาจาํ พรรษา ณ ทน่ี ้นั ๆ จงึ เขาไปเฝา พระผมู ีพระภาคเจา ไดย ินวา ในท่นี ้ันพระผูมีพระภาคเจา ตรัสกรรมฐาน อนั อนกุ ูลแกจรติ จาํ นวน ๘๔,๐๐๐ ประเภทโดยนัยนค้ี ืออสุภกรรมฐาน ๑๑ อยา ง ดว ยอาํ นาจแหงสวิญญาณกะและอวญิ -ญาณกะ สําหรับผรู าคจริตทงั้ หลาย กรรมฐานมเี มตตาเปนตน ๔ อยา งสําหรบั ผูโทสจริตทัง้ หลาย กรรมฐานทงั้ หลายมมี รณานสุ ติกรรมฐานเปน ตนสําหรบั ผโู มหจรติ ท้งั หลาย กรรมฐานท้งั หลายมอี านาปานสั สตแิ ละปฐวีกสณิเปนตน สาํ หรบั ผูวติ กจริตท้งั หลาย กรรมฐานท้งั หลายมีพุทธานสุ ตกิ รรมฐานเปนตน สําหรบั ผูศ รทั ธาจริตท้ังหลาย กรรมฐานท้งั หลายมีจตวุ วัฏฐานเปน ตนสําหรบั ผพู ทุ ธิจริตทง้ั หลาย.








































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook