Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_63

tripitaka_63

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:43

Description: tripitaka_63

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 143 ชนท้ังปวงคอื กองชา ง กองมา กองรถ กอง เดนิ เทา ตกใจวา พระราชาทรงผนวชเสยี แลว ขอพระ- องคโ ปรดทําใหช ุมชนอุนใจ ต้ังความคมุ ครองไว อภิเษกพระโอรสในราชสมบตั ิแลว จงึ ทรงผนวชตอ ภายหลงั เถดิ . บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา ปพฺยถิโต ไดแก กลวั คือ หวาดสะดงุ .บทวา ปฏิจฉฺ ท ความวา ตัง้ กองอารกั ขาไวคมุ ครองมหาชนท่ีสะดงุ กลวั วาพระราชามิไดท รงเหลียวแลพวกเราท่ีถกู ไฟไหมบาง ถกู ปลน บา ง. บทวาปุตฺต ความวา ขอพระองคไ ดอภเิ ษกพระโอรสคอื ทีฆาวุกมุ ารไวในราชสมบัติแลว จึงทรงผนวชตอ ภายหลงั เถิด. ลําดบั นนั้ พระโพธิสัตวต รสั วา ดูกอนปชาบดี ชาวชนบท มติ รอมาตยแ ละพระ ประยูรญาติท้งั หลาย เราสละแลว ทีฆาวุราชกุมารผูยัง แวน แควน ใหเ จรญิ เปนบุตรของชาววเิ ทหรฐั ชาววเิ ท- หรฐั เหลานั้นจักใหค รองราชสมบตั ิในกรุงมถิ ลิ า. บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา สนฺติ ปุตฺตา ความวา ดูกอนพระ-เทวสี วี ลี ธรรมดาสมณะท้ังหลายยอมไมมีบตุ ร แตท ีฆาวุกุมารเปนบตุ รของชาววิเทหรฐั ชาววเิ ทหรัฐเหลา นน้ั จกั ใหค รองราชสมบตั ิ พระมหาสัตวต รัสเรียกพระเทวีวา ปชาปติ. ลําดบั นัน้ พระนางสวี ลเี ทวกี ราบทลู พระมหาสัตววา ขา แตพระองคพระองคท รงผนวชเสยี กอนแลว กห็ มอ มฉนั จะการทําอยา งไร พระมหาสตั วจึงตรสั กพ็ ระนางวา ดกู อ นพระเทวี อาตมาจะใหเธอสําเหนียกตาม เธอจงทาํ ตามคําของอาตมา แลว ตรสั วา

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 144 มาเถิด อาตมาจะใหเ ธอศึกษาตามคาํ ทีอ่ าตมา ชอบ เม่อื เธอใหพระโอรสครองราชสมบัติ ก็จักกระ- ทําบาปทุจรติ เปน อันมากดว ยกายวาจาใจ ซงึ่ เปน เหตุ ใหเธอไปสูทุคติ การที่เรายงั อัตภาพใหเ ปนไปดว ย กอนขา วทผ่ี ูอนื่ ใหซ ง่ึ สําเร็จแตผอู ื่น น้ีเปนธรรมของ นกั ปราชญ. บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา ตวุ  ความวา เธอใหย กเศวตฉัตรขึ้นแกพระโอรส พร่ําสอนเร่อื งราชสมบัติ ดวยคิดวา ลกู ของเราเปน พระราชาจักกระทาํ บาปเปน อันมาก. บทวา คจฉฺ สิ ความวา เธอจักไปสูท คุ ตดิ วยบาปเปน อนั มากท่ีการทําดว ยกายเปน ตนใด. บทวา สธีรธมฺโม ความวา ความประพฤติที่วา พึงยงั ชวี ิตใหเ ปนไปดว ยคําขา วท่ีไดม าดวยลําแขงนี้ เปนธรรมของนักปราชญท ง้ั หลาย. พระมหาสัตวไ ดป ระทานโอวาทแกพ ระนางนน้ั ดว ยประการฉะนี้ เมือ่กษตั ริยท ัง้ สองตรัสโตตอบกันและกนั และเสด็จดาํ เนินไป พระอาทติ ยก็อัสดงคตพระเทวีมีพระเสาวนยี ใหตั้งคา ยในที่อันสมควร พระมหาสัตวเสด็จประทบั แรมณ โคนไมแหงหน่งึ ประทบั อยู ณ ท่นี น้ั ตลอดราตรี รุง ข้นึ ทรงทาํ สรีรกิจแลวเสด็จไปตามมรรคา ฝายพระเทวตี รัสสงั่ ใหเสนาตามมาภายหลัง แลวเสดจ็ ไปเบือ้ งหลังแหง พระมหาสัตว ทงั้ สองพระองคน ้นั เสดจ็ ถงึ ถนู นครในเวสาภกิ ขาจารขณะนนั้ มีบุรษุ คนหนึ่งภายในเมือง ซือ้ เน้ือกอนใหญม าแตเขียงขายเนื้อ เสยี บหลาวยา งบนถา นเพลิงใหสุกแลว วางไวท ี่กระดานเพอ่ื ใหเ ยน็ ไดยืนอยู เมื่อบรุ ุษนั้นสงใจไปทอี่ ่ืน สุนัขตวั หนง่ึ คาบกอนเนอ้ื นัน้ หนไี ป บุรุษนน้ั รูแลวไลตามสนุ ขั น้นั ไปเพียงนอกประตดู านทกั ษิณ เบอ่ื หนา ยหมดอาลยั กก็ ลบั บาน พระราชา

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 145กบั พระเทวีเสดจ็ มาขางหนา สนุ ขั ตามทางสองแพรง สนุ ัขนัน้ ทงิ้ กอ นเน้ือหนไี ปดว ยความกลวั พระมหาสัตวทอดพระนครเห็นกอ นเนอื้ น้นั ทรงจนิ ตนาการวาสุนัขนี้ท้งิ กอ นเนื้อนไ้ี มเ หลยี วแลเลยหนไี ปแลว แมค นอ่นื ผเู ปนเจา ของกไ็ มปรากฏ อาหารเหน็ ปานนี้หาโทษมไิ ด ชื่อวาบังสกุ ลุ บิณฑบาต เราจักบริโภคกอนเนอื้ นน้ั พระองคจ ึงนาํ บาตรดินออก ถือเอาเนอื้ กอนน้ันปด ฝนุ แลวใสลงในบาตร เสดจ็ ไปยังทมี่ ีน้ําบริบูรณ ทรงพิจารณาแลว เรม่ิ เสวยเนื้อกอนนน้ัลําดบั นั้น พระเทวีทรงดาํ รวิ า ถาพระราชานีม้ พี ระราชประสงคร าชสมบัติ จะไมพงึ เสวยกอ นเนื้อเห็นปานน้ี ซ่งึ นา เกลียด เปอ นฝุน เปนเดนสุนัข บัดนี้พระองคจักมใิ ชพระราชสวามขี องเรา ทรงดาํ ริฉะนแ้ี ลว กราบทลู พระองคว าขา แตพ ระมหาราชพระองคชางเสวยเนือ้ ท่ีนา เกลยี ดเห็นปานน้ไี ด พระมหาสัตวตรัสวา ดูกอ นพระเทวี เธอไมร ูจักความวิเศษของบณิ ฑบาตนีเ้ พราะเขลาตรสั ฉะนแ้ี ลว ทรงพจิ ารณาสถานท่ีกอ นเนื้อนั้นตง้ั อยู เสวยกอนเน้อื น้นั ดจุ เสวยอมตรส บวนพระโอฐลางพระหตั ถแ ละพระบาทแลว ขณะนั้นพระเทวีเม่อื จะทรงตําหนพิ ระราชา จึงตรสั วา คนทฉี่ ลาดแมไมไดบ ริโภคอาหารสี่มื้อ ราวกะ วาจะตายดวยความอด ก็ยอมตายเสยี ดว ยความอด เขา จะไมยอมบริโภคกอ นเน้อื คลกุ ฝนุ ไมสะอาดเลย ขา แต พระมหาชน พระองคสเิ สวยไดซง่ึ กอ นเนอื้ อันเปน เดนสุนขั ไมสะอาดนาเกลยี ดนัก. บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา อชฌฺ ฏุ  มาริว ความวา เหมือนใกลจะตาย. บทวา ลุลิต ไดแ ก คลุกฝุน. บทวา อนริย ไดแ ก ไมดี นุอกั ษรในบทวา นุ เสเว เปน นบิ าตลงในอรรถถามโตต อบ มคี ําอธิบายวา

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 146แมถ าจะไมไดบรโิ ภคอาหารสี่มอ้ื หรือจะตายเสียดวยความอด แมเ มื่อเปนอยางน้นั คนฉลาดกไ็ มย อมบรโิ ภคอาหารเหน็ ปานน้เี ลย คือไมบ ริโภคอยา งพระองค. บทวา ตยทิ  แปลวา นีน้ ัน้ . พระมหาสตั ว ตรสั ตอบวา ดกู อ นพระนางสีวลี กอ นเนือ้ นัน้ ไมช ือ่ วา เปน อาหารของอาตมาหามิได เพราะถึงจะเปนของคน ครองเรือนหรอื ของสนุ ัข ก็สละแลว ของบริโภค เหลา ใดเหลาหนึง่ ในโลกนีท้ ี่บุคคลไดมาแลว โดยชอบ ธรรม ของบริโภคทงั้ หมดนน้ั กลาวกันวา ไมมีโทษ. บรรดาบทเหลา นั้น บทวา อภกโฺ ข ความวา บิณฑบาตนน้ั จะไมชอื่ วาเปนภกั ษาหารของอาตมาหามไิ ด. บทวา ย โหติ ความวา ของส่ิงใดท่คี ฤหัสถหรอื สนุ ัขสละแลว ของสง่ิ น้นั ชอ่ื วาบงั สุกุล เปน ของไมม โี ทษเพราะไมมเี จาของ. บทวา เย เกจิ ความวา เพราะฉะน้ัน โภคะเหลา ใดเหลา หน่งึแมอ่ืน ๆ ที่ไดม าโดยชอบธรรม. บทวา สพโฺ พ โส ภกฺโข อนวโยความวา ไมมีโทษ คือแมจ ะมีคนดูอยบู อย ๆ ก็ไมบกพรอ ง บรบิ รู ณด วยคณุไมมโี ทษ แตลาภทีไ่ ดม าโดยไมช อบธรรม ถงึ จะมคี าต้งั แสน กน็ า เกลียดอยูน้ันเอง. เมื่อกษัตริยส ององคตรสั สนทนากะกนั อยอู ยางน้ี พลางเสดจ็ ดําเนนิ ไปกล็ ุถงึ ประตถู ูนนคร เม่ือทารกทงั้ หลายในนครนั้นกําลังเลน กนั อยู มนี างกุมา-รกิ าคนหน่ึงเอากระดง นอยฝด ทรายเลน อยู กําไลอันหน่งึ สวมอยูใ นขอ มอื ขา ง-หน่งึ ของนาง กาํ ไลสองอนั สวมอยใู นขอมอื ขางหนง่ึ กาํ ไลสองอนั นัน้ กระทบกันมีเสยี ง กาํ ไลอีกอันหนึง่ ไมมเี สียง พระราชาทรงทราบเหตุนั้น มีพระดําริวา

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 147บดั น้ี พระนางสวี ลีตามหลงั เรามา ขึน้ ช่อื วาสตรยี อ มเปน มลทินของบรรพชิตชนทงั้ หลายเหน็ นางตามเรามา จักตเิ ตียนเราวา บรรพชิตน้ีแมบวชแลว กย็ งัไมสามารถจะละภรรยาได ถา นางกมุ ารนี ้ีฉลาด จกั พดู ถงึ เหตุใหน างสีวลีกลับเราจักฟงถอยคาํ ของนางกุมารีนีแ้ ลว สง นางสวี ลีกลับ มพี ระดํารฉิ ะน้ันแลว เสดจ็เขา ไปใกลนางกมุ ารีนน้ั เมื่อจะตรสั ถามจึงตรสั คาถาวา แนะ นางกุมาริกาผูยงั นอนกบั แม ผูป ระดับกาํ ไล มือเปนนิตย กําไลมอื ของเจา ขางหนง่ึ มีเสยี งดงั อีก ขางหน่งึ ไมมเี สียงดงั เพราะเหตไุ ร. บรรดาบทเหลานัน้ บทวา อปุ เสนิเย ความวา เขา ไปนอนใกลมารดา. บทวา นคิ คฺ ลมณฑฺ ิเต ความวา พระมหาสตั วตรัสวา มีปกติประดบั ดวยเคร่อื งประดบั ชนั้ ยอด. บทวา สุณติ ไดแก ทาํ เสยี ง. นางกมุ าริกากลา ววา ขา แตพ ระสมณะ เสยี งเกิดแตก ําไลสองอันที่ สวมอยใู นขอ มือของขาพเจานก้ี ระทบกนั ความที่ กาํ ไลทง้ั สองกระทบกนั น้ันเปน เหตแุ หง เสยี ง กําไล อันหนึ่งที่สวมอยใู นขอมือของขา พเจาน้ีน้นั ไมมีอนั ทสี่ อง จึงไมส งเสียง เปนเหมือนนักปราชญสงบน่งิ อยู บคุ คลสองคนก็ววิ าทกัน คนเดยี วจกั ววิ าทกับ ใครเลา ทานผูใครต อสวรรค จงชอบความเปน ผอู ยู คนเดยี วเถดิ . บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา ทนุ วี ารา แปลวา กําไลสองอนั . บทวาส ฆฏา ความวา เพราะกระทบกนั คอื เสยี ดสีกนั . บทวา คติ ไดแก ความ

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 148สําเร็จ ดว ยวา กําไลอนั ท่สี องยอมมคี วามสาํ เร็จเหน็ ปานน.้ี บทวา โส ไดแ กกําไลน้นั . บทวา มุนิภูโตว ความวา ราวกะวาพระอริยบคุ คลผลู ะกิเลสไดหมดแลว ดาํ รงอย.ู บทวา ววิ าทปฺปตฺโต ความวา ขาแตพระสมณะขน้ึ ชือ่ วา คนที่สองยอ มวิวาทกัน คอื ทะเลาะกัน ถือไปตา ง ๆ กนั . บทวาเกเนโก ความวา กค็ นเดยี วจกั ววิ าทกับใครเลา. บทวา เอกตตฺ มปุ โรจตความวา ทา นจงชอบความเปนผอู ยูคนเดยี วเถิด กแ็ ลครั้นกลา วอยางนแี้ ลวนางกุมารกิ าน้นั ไดก ลา วอยา งนีอ้ ีก คอื กลา วสอนพระมหาสตั ววา ขา แตพ ระผู-เปนเจา ธรรมดาสมณะทัง้ หลาย ยอมจะไมพาแมน อ งสาวเท่ียวไปเลย แตเหตไุ ร ทานจึงพาภริยาซ่ึงทรงรูปอันอุดมเห็นปานนี้เทีย่ วไป ภริยานจ้ี ักทาํอนั ตรายแกท า น ทา นจงนาํ ภรยิ านีอ้ อกไปอยูผเู ดยี วเทา น้ัน บําเพ็ญสมณธรรมใหสมควรเถดิ . พระมหาสตั วไ ดสดับคาํ ของกุมาริกาสาวนนั้ แลว ทรงไดปจ จัย เน้อื จะตรสั กับพระเทวี จึงตรสั วา แนะสวี ลี เธอไดย นิ คาถาทน่ี างกุมารกิ ากลา ว แลวหรอื นางกุมารกิ าเปน เพียงช้ันสาวใชม าติเตยี นเรา ความทีเ่ ราทัง้ สองประพฤติ คืออาตมาเปนบรรพชติ เธอเปน สตรีเดนิ ตามกนั มา ยอ มเปนเหตแุ หง ครหา บรรดาสองแพรงน้ี อันเราท้ังสองผูเดนิ ทางจงแยกกนั ไป เธอจงถือเอาทางหนงึ่ ไป อาตมาก็จะถอื เอาทาง อืน่ อีกทางหนง่ึ ไป เธออยา เรียกอาตมวาเปนพระ- สวามขี องเธอ และอาตมาก็จะไมเ รยี กเธอวา เปนมเหสี ของอาตมาอกี .

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 149 บรรดาบทเหลานน้ั บทวา กมุ าริยา ไดแ ก ทนี่ างกุมารกิ ากลา วแลว .บทวา เปสยิ า ความวา ถาเรายังครองราชสมบตั อิ ยู กมุ ารกิ าคนนก้ี ็เปนคนใชคือทาํ คามรับสงั่ ของเรา แมแ ตจะแลดูเรา เธอก็ไมอาจ แตบ ดั นีเ้ ธอติเตียนคอื กลาวสอนเราเหมือนคนใชและเหมอื นทาสของตนวา ทตุ ยิ สฺเสว สา คติดังน้.ี บทวา อนุจณิ โฺ ณ ไดแ ก เดนิ ตามกนั ไป. บทวา ปถาวหิ ิ แปลวาผูเดนิ ทาง. บทวา เอก ความวา เธอจงถอื เอาทางหนึ่งซงึ่ เปนที่ชอบใจของเธอ สวนอาตมาก็จกั ถือเอาอีกทางหนึ่งทเี่ หลือลงจากทเี่ ธอถือเอา. บทวา มาจ ม ตว ความวา แนะสีวลี ต้งั แตนไี้ ป เธออยาเรยี กอาตมาวา เปนพระสวามีของเราอีก และอาตมาก็จะไมเ รียกเธอวา เปน มเหสขี องเรา. พระนางสีวลเี ทวีไดท รงฟงพระดาํ รัสของพระมหาสัตวแ ลว กราบทูลวาขา แตพระองค พระองคเปน กษตั ริยส ูงสุด จงถอื เอาทางเบื้องขวา สวนขา -พระองคเ ปนสตรชี าตติ ํา่ จักถอื เอาทางเบ้อื งซาย กราบทูลฉะนีแ้ ลว ถวายบังคมพระมหาสัตวแ ลว เสด็จไปไดห นอยหนง่ึ ไมสามารถจะกล้ันโศกาดรู ไวไดก เ็ สด็จมาอีก โดยเสดจ็ ไปกบั พระราชาเขาถูนนครดวยกนั . พระศาสดาเม่ือจะทรงประกาศเน้ือความนั้น จึงตรสั คร่งึ คาถาวา กษัตรยิ ท ้ังสองกําลงั ตรัสขอ ความน้ีอยู ไดเ สด็จ เขาไปยังถูนนคร. บรรดาบทเหลา น้นั บทวา นครมุปาคมุ ความวา เสดจ็ เขา ไปแลวสนู คร. กแ็ ลครั้นเสด็จเขาไปแลว พระมหาสตั วเ สด็จเท่ยี วบิณฑบาต เสดจ็ถงึ ประตูเรอื นของชา งศร แมพ ระนางสีวลเี ทวีก็เสด็จตามไปเบอ้ื งหลงั ประทับอยู ณ ท่ีควรสวนขางหน่ึง สมัยน้นั ชางศรกําลังลนลกู ศรนั้นกระเบ้ืองถา นเพลิงเอานํ้าขา วทาลกู ศร หลับตาขางหน่งึ เลง็ ดูดวยตาขา งหนง่ึ ดดั ลกู ศรใหต รง

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 150พระมหาสตั วทอดพระเนตรเหน็ ดังนัน้ มีพระดําริวา ถา ชางศรผูนี้จักเปนคนฉลาด จกั กลา วเหตอุ ยา งหนึ่งแกเ รา เราจกั ถามเขาดู จงึ เสด็จเขา ไปหาชางศรแลวตรัสถาม. พระศาสดาเม่อื จะทรงประกาศเนอื้ ความนัน้ จงึ ตรสั วา เมื่อใกลเ วลาฉัน พระมหาสตั วป ระทบั ยนื อยูท่ี ซุมประตเู รอื นของชางศร ชางศรนั้นหลับตาขางหนงึ่ ใชต าอกี ขางหน่งึ เล็งลูกศรอนั หนง่ึ ซึง่ คดอยดู ดั ใหต รง ทซ่ี มุ ประตนู นั้ . บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา โกฏ เก ความวา ดูกอ นภกิ ษทุ ง้ั หลายพระราชาพระองคน น้ั เม่ือใกลเ วลาเสวยของพระองค ไดป ระทับยืนอยูทซ่ี ุมประตูของชางศร. บทวา ตตฺร จ ไดแ ก ทีซ่ ุมประตนู นั้ . บทวา นิคฺคยฺหแปลวา หลบั แลว. บทวา ชิมหฺ เมเกน ความวา ใชจักษุขางหน่งึ เล็งดู.ลกู ศรที่คด. ลาํ ดบั น้ัน พระมหาสตั วไดต รสั กะชางศรนน้ั วา ดกู อ นชางศร ทา นจงฟง อาตมา ทา นหลับจกั ษุ ขางหนง่ึ เลง็ ดลู กู ศรอนั คดดว ยจกั ษขุ างหน่ึง ดว ย ประการใด ทานเห็นความสาํ เร็จประโยชน ดวย ประการนั้นหรอื หนอ. คาํ ทเ่ี ปน คาถานนั้ มเี นื้อความวา แนะ เพ่อื นชางศร ทา นหลบั ตาขา งหนงึ่เล็งดลู ูกศรที่คดดวยตาขางหน่งึ ดว ยประการใด ทา นเหน็ ความสําเร็จประโยชนดวยประการนนั้ หรือหนอ.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook