Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_63

tripitaka_63

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:43

Description: tripitaka_63

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 356 กก็ าลน้นั แกว มณไี ดม อี ยใู นรงั กาบนตนตาลตน หนง่ึ ทีร่ มิ ฝงสระโบก-ขรณี ไมไ กลประตูเบอ้ื งทกั ษิณแหง พระนคร เงาของแกวมณนี ั้นปรากฏในสระโบกขรณี ชนทงั้ หลายทูลแดพ ระราชาวา แกว มณีมอี ยใู นสระโบกขรณีพระราชาตรสั เรียกเสนกะมาตรสั ถามวา แนะอาจารยเสนกะ ไดย ินวา มณรี ตั นะปรากฏในสระโบกขรณี ทาํ อยางไร จงึ จะถอื เอาแกว มณีนนั้ ได ครน้ั เสนกทลูวา ควรวิดน้ําถอื เอา จึงควรมอบการทํานน้ั ใหเปน ภาระของเสนกน้นั อาจารยเสนกใหคนเปนอนั มากประชุมกันวดิ นํา้ โกยตมออกจากสระโบกขรณี แมข ดุ ถึงพืน้ ก็ไมเห็นแกว มณี เมอื่ นํ้าเต็มสระโบกขรณี เงาแกวมณกี ็ปรากฏอกี เสนกแมท าํ ดงั น้นั อกี กไ็ มเห็นแกว มณีนัน้ เลย ตอนั้นพระราชาตรัสเรียกมโหสถ-บัณฑติ มาตรัสวา แกว มณีดวงหนง่ึ ปรากฏในสระโบกขรณี อาจารยเ สนกใหนําน้ําและโคลนออกจากสระโบกขรณี กระทง่ั ขดุ พืน้ ก็ไมเห็นแกวมณนี ้นั เมอ่ืน้ําเตม็ สระโบกขรณี เงาแกว มณกี ป็ รากฏอีก เจา สามารถจะใหเ อาแกว มณนี ้ันมาไดห รอื มโหสถกราบทลู สนองวา ขอ นน้ั หาเปนการหนักไม พระเจาขาเชิญเสดจ็ เถิด ขาพระองคจักแสดงแกวมณีนั้นถวาย พระเจาวเิ ทหราชไดสดับดงั นนั้ กท็ รงดีพระหฤทยั ทรงคดิ วา วันนเี้ ราจกั เหน็ กําลงั ปญญาของมโหสถบัณฑติ กเ็ สดจ็ พรอ มดวยขาราชบรพิ ารไปสฝู งโบกขรณี พระมหาสัตวยืนท่ีฝงแลดมู ณีรตั นะกร็ ูวา แกว มณนี ไี้ มม ใี นสระโบกขรณี มีอยบู นตน ตาล จึงจงึ กราบทูลวา แกวมณไี มม ีในสระโบกขรณี พระเจาขา ครัน้ รบั สัง่ วา แกว-มณปี รากฏในน้าํ ไมใ ชหรอื จึงใหนําภาชนะสําหรับขังน้าํ มาใสน ํา้ เตม็ แลวกราบทลู วา ขา แตสมมติเทพ ขอพระองคทอดพระเนตร แกวมณนี ีห้ าไดปรากฏในสระโบกขรณแี ตแ หงเดียวไม แมใ นภาชนะนํ้ากป็ รากฏ ครัน้ ตรสัถามวา เจา บณั ฑิต ก็แกวมณีมอี ยูท ่ไี หน จงึ กราบทลู สนองวา ขาแตส มมตเิ ทพเงาปรากฏในสระโบกขรณบี า ง ในภาชนะน้าํ บาง แกว มณีไมไดอ ยใู นสระ

พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาท่ี 357โบกขรณี แตแ กวมณมี ีอยูในรังกาบนตน ตาล โปรดใหร าชบรุ ษุ ข้ึนไปนําลงมาถวายเถดิ พระราชากต็ รัสใหร าชบุรุษขึ้นไปนาํ แกวมณลี งมา มโหสถบัณฑิตรับแกวมณจี ากราชบุรุษแลววางในพระหตั ถข องพระราชา มหาชนใหส าธกุ ารแกม โหสถบัณฑติ บรภิ าษอาจารยเสนก ชมเชยมโหสถวา แกวมณีอยูบนตน ตาล เสนกโงใ หคนมากมายขดุ สระทําลายสระโบกขรณี แตม โหสถบณั ฑิตไมทาํ เชนนั้น แมพระเจา วเิ ทหราชก็ทรงโสมนัส พระราชทานสรอยมุกดาหารเครอ่ื งประดบั พระศอของพระองคแ กมโหสถ พระราชทานสรอ ยมกุ ดาวลแี กเด็กผเู ปน บริวารพนั หนึง่ ทรงอนญุ าตพระโพธิสัตวพรอมบริวารใหปฏบิ ตั ิราชการโดยทํานองน.้ี จบปญ หา ๑๙ ขอ อกี วันหนึ่ง พระเจาวเิ ทหราชเสดจ็ ไปพระราชอุทยานกับมโหสถบัณฑิต กาลนั้น มีกิง้ กา ตัวหนึ่งอยูท ีป่ ลายเสาคาย มันเห็นพระราชาเสดจ็ มากล็ งจากเสาคา ยหมอบอยทู พ่ี นื้ ดิน พระราชาทอดพระเนตรเหน็ กริ ยิ าของก้ิงกาน้ันจึงตรัสถามวา แนะ บัณฑติ ก้ิงกา ตวั น้ีทาํ อะไร มโหสถทลู ตอบวา กิ้งกา ตวั นี้ถวายตวั พระเจาขา พระราชาตรสั วา การถวายตวั ของก้ิงกาอยา งนี้ ไมมีผลกห็ ามิได ทา นจงใหโภคสมบตั ิแกมนั มโหสถกราบทูลวากง้ิ กา น้หี าตอ งการทรัพยไม ควรพระราชทานเพยี งแคของกนิ ก็พอ ครนั้ ตรสัถามวา มันกินอะไร ทูลตอบวา มนั กินเน้ือ แลวตรสั ซกั ถามวา มันควรไดราคาเทาไร ทลู วา ราคาราวกากณึกหนึ่ง จึงตรัสสั่งราชบรุ ุษหน่งึ วา รางวัลของหลวงเพียงกากณึกหนึง่ ไมควร เจา จงนาํ เน้อื ราคากึ่งมาสกมาใหม นั กนิ เปนนติ ย ราชบรุ ษุ รบั พระราชโองการ ทาํ ดังนนั้ จําเดมิ แตนัน้ มา วันหนึง่ เปนวันอุโบสถ คนไมฆาสัตว ราชบรุ ษุ น้ันไมไดเน้อื จึงเจาะเหรยี ญก่งึ มาสกนนั้

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 358เอาดายรอ ยผกู เปนเคร่ืองประดบั ทีค่ อมนั ลําดบั นัน้ ความถอื ตวั กเ็ กดิ ขึน้ แกก้ิงกา นน้ั อาศัยมันมกี ง่ิ มาสกน้นั วนั นนั้ พระราชาเสดจ็ ไปพระราชอุทยานกง้ิ กา นัน้ เห็นพระราชาเสดจ็ มา ก็ทาํ ตนเสมอพระราชาดว ย เหมือนจะเขาใจวาพระองคมพี ระราชทรพั ยม ากหรอื ตัวเรากม็ มี ากเหมอื นกัน ดวยอํานาจความถือตวั อนั อาศยั ทรพั ยกึ่งมาสกนัน้ เกดิ ขนึ้ ไมลงจากปลายเสาคาย หมอบยกหัวรอนอยไู ปมาบนปลายเสาคา ยนน่ั เอง พระเจาวิเทหราชไดท อดพระเนตรเหน็กิรยิ าของมัน เม่อื จะตรัสถามวา แนะ เจา บัณฑิต วนั นี้ มันไมล งมาเหมือนในกอ น เหตุเปน อยางไรหรอื จึงตรัสคาถานวี้ า กิ้งกา นไ้ี มลงจากปลายเสาคายหมอบเหมอื นใน กอ น เจาจงรูก งิ้ กากระดางดว ยเหตุไร. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา น อนุ นฺ มติ ความวา วันนก้ี งิ้ กา ไมลงหมอบยกหัวรอ นอยไู ปมาบนปลายเสาคา ยน่นั เอง ฉันใด กง้ิ กา ไมลงมาหมอบอยางในกอ นฉันนน้ั . บทวา เกน ถทโฺ ธ ความวา ถงึ ความกระดางดวยเหตไุ ร. ลําดบั นัน้ มโหสถบณั ฑิตรวู า ในวนั อโุ บสถ คนไมฆาสตั ว มนัอาศยั ก่งึ มาสกทรี่ าชบรุ ุษผูกไวท คี่ อ เพราะหาเนอ้ื ใหกินไมได ความถือตัวของมันจึงเกิดขึ้น ดงั นีจ้ ึงกลาวคาถานว้ี า ก้งิ กาไดก ง่ึ มาสกซงึ่ ไมเคยได จงึ ดหู มน่ิ พระเจา วเิ ทหราช ผูท รงสงเคราะหชาวกรุงมิถิลา. พระราชาตรสั ใหเ รียกราชบรุ ษุ น้ันมาตรสั ถาม ก็ไดค วามสมจรงิดงั นน้ั ก็ทรงเลอื่ มใสในพระโพธสิ ตั วเกินเปรยี บ ดว ยเหน็ วา อธั ยาศยั ของก้งิ กา มโหสถไมไ ดถ าม อะไร ๆ ก็รูได ดังพระสัพพัญพู ทุ ธเจารูอธั ยาศัย

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 359เวไนยสตั ว น้ัน จึงพระราชทานสว ยท่ปี ระตูทงั้ ๔ แกม โหสถบัณฑติ แตกรวิ้ กง้ิ กาทรงปรารภจะใหฆา เสยี มโหสถทูลทัดทานพระราชาวา ธรรมดาสัตวด ริ ัจฉานหาปญญามไิ ด ขอพระองคโ ปรดยกโทษใหมันเถดิ ขอเดชะ. จบ ปญ หากิ้งกา ครัง้ น้ัน มีมาณพคนหน่ึง ชื่อปงคตุ ตระเปนชาวมิถลิ า ไปกรงุ ตกั กศิลาเรยี นศลิ ปะในสํานกั อาจารยท ศิ าปาโมกข เรียนไดรวดเร็ว มาณพนัน้ ใหท รัพยเคร่อื งตอบคุณแลว ลาอาจารยก ลบั บา น ก็ธรรมเนยี มมีอยูวา ถาธิดาในสกลุน้ันเปน ผูเจริญวัย อาจารยตองยกใหแกศิษยผใู หญ อาจารยนั้นมธี ิดาอยูค นหน่ึง มรี ูปงามเปรยี บดวยเทพอปั สร ลําดับนน้ั อาจารยก ลา วกะปง คตุ ตรมาณพน้นั วา เราใหธดิ าแกเ จา เจาจงพาไปดว ย แตม าณพนนั้ ไมใชผ มู บี ุญ เปนคนกาลกรรณี สวนนางกุมาริกาเปนผมู บี ุญมาก จติ ของปง คุตตรมาณพมไิ ดปฏพิ ัทธเพราะเห็นนางกมุ าริกานนั้ มาณพนนั้ แมไมป รารถนานางกุมารกิ าก็ตอ งรบั ดวยคดิ วา เราจักไมท ําลายคําของอาจารย พราหมณท ิศาปาโมกขไดใหธ ดิ าแกมาณพนัน้ มาณพนั้นนอน ณ ทน่ี อนอันมีสริ ทิ ต่ี กแตงแลว ในเวลาราตรี ใหละอายใจในเพราะนางกมุ ารีนั้นมาขน้ึ นอนดว ย กล็ งจากทน่ี อนนอนที่ภาคพนื้ ฝา ยนางกมุ ารกิ ากึง่ มานอนใกล ๆ มาณพน้ัน มาณพก็ลุกข้นึไปบนท่ีนอน นางกุมารกิ านั้นก็ข้ึนไปยงั ที่นอนอกี พอนางกมุ ารกิ าขน้ึ ไปมาณพก็ลงจากทน่ี อน นอนทภ่ี าคพื้นอีก ชื่อวา กาลกรรณียอมไมรว มกบั สิรินางกมุ ารกิ านอนท่ีท่นี อน มาณพน้ันนอนท่ีภาคพื้น มาณพน้นั ยงั กาลใหล วงไปอยา งน้สี ้นิ สปั ดาหหน่ึง กพ็ านางกุมาริกาน้นั ไหวอ าจารยออกจากพระนครตกั กศิลา ในระหวา งทางมไิ ดพ ดู จาปราศรัยกันเลย ชนทัง้ สองมไิ ดม ีความปรารถนากัน ไดมาถึงกรุงมถิ ิลา ฝา ยปงคุตตรมาณพเห็นตน ไมมะเดื่อตนหนง่ึเตม็ ไปดวยผลในทใ่ี กลพ ระนคร ถกู ความหวิ เบยี ดเบียนก็ข้ึนตน ไมน ้นั เคี้ยว

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 360กินผลมะเดอ่ื ฝายนางกมุ ารกิ านน้ั ก็หิวโหย จึงไปที่โคนตนไมก ลาววา ขา แตนาย จงทงิ้ ผลลงมาใหขา พเจา บาง มาณพนัน้ ตอบวา มอื ตนี ของเจา ไมม ีหรอืเจา จงขึ้นมาเกบ็ กนิ เอง นางก็ข้ึนไปเกบ็ เค้ียวกนิ มาณพรวู า นางขนึ้ มา กร็ ีบลงลอมสะตนมะเดื่อดว ยหนามแลวกลา ววา เราพนจากหญงิ กาลกรรณี แลวหนีไป นางกุมารกิ านัน้ เมอ่ื ไมอ าจลง ก็นั่งอยูบ นน้นั น่ันเอง วันนน้ั พระเจา -วิเทหราชเสดจ็ ประพาสพระราชอทุ ยาน ทรงเลน อยใู นพระราชอทุ ยานน้ัน แลวเน้อื ประทับ นัง่ บนคอชางเสดจ็ เขา พระนครในเวลาเยน็ ไดทอดพระเนตรเห็นนางกุมารกิ านัน้ มีพระหฤทยั ปฏิพัทธใ นนาง จึงตรสั สง่ั ใหถ ามวา นางมผี ูหวงแหนหรือหาไม นางแจงวา สามขี องนางท่สี กุลตบแตงมีอยู แตเ ขาใหขาพเจา นั่งบนนที้ ิ้งเสียแลวหนไี ป อมาตยกราบทลู ความนั้นแดพ ระราชา พระ-ราชาทรงดํารวิ า ภัณฑะไมมเี จาของ ตกเปนของหลวง จงึ ใหรับนางลงแลวใหขึ้นคอชา งนําไปราชนิเวศน อภเิ ษกสถาปนาไวในตําแหนง อคั รมเหสีพระนางเปนที่รัก เปนทชี่ อบพระหฤทัยแหงพระราชา ชนทงั้ หลายกาํ หนดรูพระนามของพระนางวา อุทุมพรเทวี เพราะพระราชาไดพระนางมาแตอทุ มุ -พรพฤกษ อยูม าวันหน่ึง เจา หนาที่ยังชาวบา นใกลป ระตเู มอื งใหแผวถางทางเพือ่ ประโยชนในการเสดจ็ พระราชดาํ เนินสสู วนหลวง ปง คุตตรมาณพเมือ่ ทําการจา ง โจงกระเบนมั่นถางทางดว ยจอบ เมือ่ ทางยังไมแ ลว พระราชาประทบับนรถทน่ี ั่งกบั ดวยพระนางอุทมุ พรเทวีเสด็จออกจากพระนคร พระนางอุทุมพรเทวไี ดทอดพระเนตรเห็นปง คตุ ตรมาณพผกู าลกรรณนี ั้น แผวถางอยู เมอ่ื ทอดพระเนตรมาณพนนั้ ดวยนึกในพระหฤทยั วา บรุ ษุ กาลกรรณีนไี้ มส ามารถจะทรงสิริเห็นปานดงั นไ้ี ว กท็ รงพระสรวล พระราชาทอดพระเนตรเหน็ พระนางทรงพระสรวลกก็ ริว้ ตรัสถามวา หวั เราะอะไร พระนางกราบทลู วา ขา แต

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 361สมมติเทพ บุรษุ ผูถางทางน้ีเปนสามีตนเกา ของขา พระบาท ยงั ขาพระบาทใหขึน้ ตนมะเดือ่ แลว เอาหนามสะวงไวแ ลวไป ขา พระบาทแลดเู ขาแลวคิดวา บรุ ษุกาลกรรณีน้ไี มสามารถจะทรงสิรเิ หน็ ปานดังนีไ้ ว จึงหัวเราะ พระราชาตรัสวาเธอกลา วมสุ า เธอเห็นอะไรอ่นื เราจักฆาเธอ ตรัสฉะนแ้ี ลวทรงจับพระแสงดาบ พระนางมคี วามเกรงกลัวพระราชอาญา จงึ กราบทลู วา ขอพระองคตรัสถามบัณฑติ ทง้ั หลายกอ น พระราชาจึงตรสั ถามเสนกวา ทา นเธอหรอืเสนกทูลวา ขาพระองคไ มเ ธอ ชายอะไรจะละสตรีเห็นปานดังนไ้ี ปพระเจาขาพระนางอุทมุ พรไดทรงสดับคาํ ของเสนกยง่ิ กลัวพระราชอาญาเหลอื เกนิ ลาํ ดับนัน้ พระราชาทรงดํารวิ า เสนกจะรอู ะไร เราจักถามมโหสถ เมื่อจะตรสั ถามมโหสถ จงึ ตรสั คาถาน้วี า ดกู อ นมโหสถบณั ฑติ สตรีรูปงาม และนาง สมบูรณด วยอาจารมารยาท บุรุษไมป รารถนาสตรนี ้นั เจาเชอ่ื หรอื . บทวา สีลวตี ในคาถานัน้ ความวา ถงึ พรอมดว ยอาจารมรรยาท. มโหสถบณั ฑิตไดฟ ง กระแสพระราชดาํ รสั นัน้ จึงกลา วคาถาน้วี า ขา แตมหาราชเจา ขาพระองคเชื่อบุรุษผูหาบญุ มิไดพ งึ มี สริ แิ ละกาลกรรณียอมรว มกนั ไมได ไมว า ในกาลไหน ๆ. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา น สเมนฺติ ความวา ยอ มเขาหากันไมไดเหมือนฟากขา งนกี้ บั ฟากขางโนน ของทะเล เหมอื นทอ งฟากบั พ้ืนดนิ . พระราชาทรงทราบเหตกุ ารณน ้นั ตามคําของมโหสถ หายกร้ิว ทรงยินดตี อ มโหสถ ตรัสวา แนะเจา บัณฑติ ถาไมไ ดเจา วนั นีข้ าจกั เสอ่ื มจาก

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 362สตรีรัตนะเห็นปานดงั น้ี ดวยถอยคาํ ของเสนกผูโ ฉดเขลา ขา ไดนางน้ไี วเ พราะอาศยั เจา ตรสั ชมฉะน้ีแลว พระราชทานกหาปณะแสนหน่ึงบูชามโหสถ ฝายพระเทวีถวายบงั คมพระราชาแลวกราบทูลวา ขา แตเทพเจา ขาพระองคไ ดชวี ติ เพราะอาศยั มโหสถบัณฑติ ขาพระองคป รารถนาพระพรเพ่อื ใหมโหสถบัณฑิตนี้ต้ังอยูในท่เี ปนนองชาย ขอพระองคโปรดประทานเถดิ พระเจาวเิ ทหราชกพ็ ระราชทานพรแกพระนางวา ดีแลว พระเทวี เธอจงรับพระองคใหพรแตเธอ พระนางจงึ กราบทูลวา ขา แตเทพเจา จําเดิมแตวันน้ี ขา พระองคจะไมบ ริโภคอะไร ๆ มีรสอรอย เวน นอ งชาย ต้งั แตนไี้ ป ขา พระองคจงไดเพอ่ื ใหเ ปด ประตใู นเวลาหรือมิใชเวลา สง ของมรี สอรอ ยไปใหน องชายนัน้ขา พระองคข อรับพระพรน้ี พระเจา วเิ ทหราชตรสั วา ดแี ลว นางผเู จรญิเธอจงรบั พรน้.ี จบปญ หาสิรกิ ับกาลกรรณี วันอนื่ พระเจาวิเทหราชเสวยกระอาหารเชาแลว เสด็จดาํ เนินไปมาระหวา งพ้นื ยาวแหงปราสาท เมอ่ื ทอดพระเนตรออกไปทางชองพระแกล ไดท อดพระเนตรเหน็ แพะหนึ่งสนุ ัขหนึ่งทาํ ความเชยชิดเปนมิตรกนั ไดย นิ วา แพะน้ันกนิ หญา ในโรงชา งท่ีเขาทอดไวห นา ชาง ชางยังมไิ ดจับ ลาํ ดบั น้นั คนเลี้ยงชางท้งั หลายตีแพะนน้ั ใหออกไป คนเลี้ยงชา งคนหนึ่งไลติดตามแพะนนั้ ซงึ่ รองหนีไปโดยเรว็ เอาทอนในตีขวางลงทห่ี ลังแพะ แพะนน้ั แอน หลงั ไดท กุ ขเวทนาไปนอนใกลต่ังอาศัยฝาใหญใ นพระราชคฤหาสน วันน้นั สุนัขเคย้ี วกนิ กระดกูและหนงั เปน ตน ทห่ี อ งเครื่องหลวงจนอวนพี เม่อื พอครัวจดั ภัตตาหารแลวออกไปขา งนอกผึ่งเหงื่อในสรีระ มนั ไดกล่ินปลาเนอื้ ไมอาจอดกล้ันความอยากกเ็ ขาไปในหองเคร่ือง ยงั เครื่องปดภาชนะใหตกลงแลวเคยี้ วกินเนอ้ื ฝาย

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 363พอครวั ไดย ินเสยี งภาชนะ กเ็ ขา ไปทางเสียงภาชนะ เห็นสนุ ขั กาํ ลังกินเน้อื อยูจงึ ปดประตูตีสนุ ัขน้ันดว ยกอนดินและทอนไมเปนตน สนุ ขั นน้ั ก็ท้ิงเนื้อท่ีเคี้ยวกินจากปากรอ งวิ่งหนอี อกไป พอ ครวั รวู าสนุ ัขหนีออกไป จงึ ตดิ ตามไปตีขวางที่หลังดว ยทอ นไม สุนขั กแ็ อน หลังยกเทา ขา งหนึง่ เขา ไปในทีแ่ พะนอน แพะถามสุนขั นั้นวา เพ่อื นแอน หลงั ยกเทา ขางหนง่ึ มาดว ยเหตุไร ลมเสยี ดแทงเพ่ือนหรอื ฝา ยสุนัขก็ถามวา เพ่ือนแอนหลังนอนอยู ลมเสยี ดแทงเพ่ือนหรือแพะบอกเร่อื งของคนแกส ุนขั แมส ุนัขกบ็ อกอยางนน้ั เหมอื นกนั ลําดับน้ันแพะถามสุนขั วา เพ่อื นสามารถจะไปสโู รงครัวอกี หรอื สนุ ขั ตอบวา ขาไมสามารถแลว เม่ือขาไปชีวิตจะไมมี ก็เพ่ือนสามารถจะไปสูโรงชางอีกหรอืแพะตอบวา ถึงขาก็ไมก ลาไปท่โี รงชา งนัน้ ถา ขา ขนื ไป ชีวติ ก็จะไมมี สัตวท้ังสองคดิ หาอุบายวา บัดนี้เราจะเปนอยูไดอ ยา งไรหนอ แพะจงึ กลา วกะสุนัขวา ถาเราทั้งสองอาจอยรู ว มกนั อุบายกม็ ี คอื ต้งั แตนไ้ี ป เจา จงไปโรงชางพวกคนเลี้ยงชางจกั ไมสงสัยในตัวเจา ดวยเหน็ วา สตั วนไ้ี มก ินหญา เจาพงึนาํ หญามาเพ่อื ขา สว นขาจกั เขาไปในโรงครวั พอครวั ก็ไมส งสัยในตวั ขาดว ยเหน็ วา สัตวนีไ้ มก นิ เน้ือ ขา ก็จักนําเนื้อ เพ่อื เจา สัตวท ัง้ สองตกลงกัน วาอุบายน้ีเขา ที สุนขั จึงไปโรงชาง คาบฟอ นหญานํามาวางไวใกลห ลงั ฝาใหญฝายแพะไปสหู องเครื่องคาบกอ นเนอ้ื เตม็ ปากนํามาวางไวใกลท ่ีน้นั เอง สุนัขก็เคยี้ วกนิ เน้อื แพะเค้ยี วกนิ หญา สัตวทง้ั สองนั้นพรอ มเพรียงชอบพอกนั อยูใกลห ลังฝาใหญ พระเจา วิเทหราชทอดพระเนตรเหน็ ความที่แพะและสุนัขทงั้ สองนน้ั ชอบกันโดยเปนเพ่ือน จงึ ทรงจินตนาการวา เหตุการณทเ่ี รายังไมเคยเห็น เราไดเ ห็นแลว ในวันนี้ แตกอนมาสตั วท ้ังสองนี้เปน ศตั รกู ัน บดั น้ีอยูรว มกนั ได เราจักจับเหตุการณนีท้ ําเปน ปญหาถามบัณฑติ ทง้ั หลาย บัณฑิตใดไมร ปู ญ หาน้ี เราจักขับบัณฑิตน้นั จากแควน แตเ ราจกั สักการะแกบ ณั ฑติ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 364ผูร ู เพราะบณั ฑติ อื่นรูอ ยางน้ไี มม ี วันนีห้ มดเวลาแลว พรงุ นี้เราจกั ถามบัณฑติ เหลาน้ัน ในเวลามาทาํ การในหนา ที่ รุง ขนึ้ ในเมอ่ื บณั ฑิตทั้งหลายมานง่ัทําการในหนาทข่ี องตนแลว เมื่อจะถามปญหาจึงตรัสคาถาน้ีวา ความท่สี ตั วเ หลา ใดเปนเพอ่ื นกันในโลกน้ี แม ไปดวยกนั สัก ๗ กาว ไมเ คยมีในกาลไหน ๆ สัตว ทง้ั สองน้ันเปน ศัตรูกนั มาเปน เพ่อื นประพฤติเพื่อคนุ กนั ได เพราะเหตุอะไร. บรรดาบทเหลา นั้น บทวา ปฏสิ นถฺ าย ไดแ ก เช่อื กันและกันแลวพยายาม. ก็แลครั้นตรัสอยา งน้ีแลว ไดตรสั อยา งนีอ้ ีกวา ถาเวลากนิ อาหารเชาแลว วันนี้ ทา นทง้ั หลายไม สามารถกลา วแกปญ หานีข้ องเรา เราจักขบั ทา นทงั้ ปวง จากแวนแควน เพราะเราไมตอ งการพวกคนเขลา. เสนกะน่ังอยตู น อาสนะ มโหสถบณั ฑิตนงั่ อยทู ีส่ ุดอาสนะ พระมหาสตั วพิจารณาปญ หาน้นั ยังไมเ ห็นเนอ้ื ความจงึ คดิ วา พระราชาองคน มี้ พี ระชวนะเฉือ่ ยชา ไมสามารถจะทรงจบั คดิ ปญ หาน้ี พระองคคงจักทอดพระเนตรเห็นอะไรแน วนั หนึ่งเมอื่ เราไดโอกาสจักนาํ ปญหานอ้ี อกแสดง อาจารยเสนกะจักยงั พระราชาใหงดสักวนั หนึง่ ในวันนี้ ดว ยอุบายอยา งหน่งึ จะไดห รือ ชนท้งั สามนอกนแี้ ลไมเหน็ อะไร ๆ เหมอื นเขาหองมดื ฉะนน้ั เสนกะแลดพู ระโพธสิ ัตวดว ยมนสกิ ารวา ความเปน ไปของมโหสถจะเปนอยางไรหนอ ฝายมโหสถก็แลดูเสนก เสนกรูความประสงคของพระโพธิสตั ว ดวยอาการทีพ่ ระโพธิสตั วแลดู จึงคิดวา ปญหานั้นยงั ไมป รากฏแกมโหสถ เพราะเหตุน้นั มโหสถจงึ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 365ปรารถนาโอกาสวันหน่งึ เราจกั ยงั มโนรถของมโหสถใหเต็ม จงึ สรวลขึน้ ดวยวิสาสะกับพระราชา ทลู วา พระองคจกั ขับขาพระบาทเหลา น้ี ผูไ มส ามารถกลา วแกป ญหาจากแควนจริง ๆ หรอื พระเจาขา พระราชาตรัสตอบวาจรงิ ๆ ซิบัณฑิต เสนกะจงึ ทูลวา พระองคทรงกําหนดปญหานว้ี า ปญหามีเง่ือนเดียวหรอื ขา พระองคทัง้ หลายไมส ามารถจะกลาวแกปญ หานีใ้ นวันนี้ขอไดทรงงดหนอยหน่ึง ปญ หานม้ี เี งอื่ น ขาพระองคทัง้ หลายจักกลา วแกใ นทา มกลางประชมุ ชน จะตองน่งั คิดในท่หี น่ึง ภายหลงั จักทูลแกแ ดพ ระองคขอไดโปรดพระราชทานโอกาสแกพ วกขาพระองค เสนกะกลาวดังนีแ้ ลดูมโหสถแลว กลา ว ๒ คาถาน้ีวา ขา แตพระจอมประชากร ในเมอ่ื สมาคมแหง หมูชนอกึ ทึก ในเมือ่ ชมุ นมุ แหง ชนโกลาหล ขา - พระองคท งั้ หลายมใี จฟงุ ซา น มจี ิตไมแ นวอยูทเ่ี ดยี ว จึงไมส ามารถจะพยากรณป ญหานนั้ นักปราชญท้ังหลาย มจี ติ มีอารมณเ ดียว คน ๆ หน่งึ อยใู นที่ลบั คิดเน้อื ความ ทัง้ หลาย พจิ ารณาอยใู นสถานทีเ่ งียบ ภายหลังจัก กราบทูลแกเ นอื้ ความนัน้ . บรรดาบทเหลา น้นั บทวา สมฺมสติ วฺ าน ความวา นกั ปราชญเหลา นมี้ ีจติ มีอารมณเดียว ต้ังอยูใ นกายวเิ วกและจติ วเิ วกพิจารณาปญ หานแ้ี ลวจกั กลาวเน้อื ความนน้ั แดพระองค. พระราชาทรงสดบั คําของเสนกะก็ดพี ระหฤทยั ตรสั คกุ คามดังนีว้ าดีแลว ทานท้ังหลายจงคดิ เม่ือแกไมไดจ กั ใหขบั เสีย บัณฑิตทัง่ ๔ ลงจากพระราชนเิ วศน เสนกะจงึ กลาวกะบณั ฑิตนอกน้วี า พระราชาตรัสถามปญหา

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ท่ี 366สขุ ุม เม่ือพวกเราแกไมไ ด ภัยใหญจักเกดิ ขน้ึ เหตนุ นั้ ทา นทง้ั หลายบริโภคสบายแลวจงพิจารณาปญหานั้นโดยชอบ ตา งคนไปเรือนของตน ๆ ฝายมโหสถลกุ ไปสสู าํ นักพระราชเทวอี ุทุมพรทูลถามวา ขาแตพ ระเทวีเจา วนั นหี้ รือวานน้ีพระราชาประทับอยูใ นทไ่ี หนนาน พระนางอทุ มุ พรรบั สงั่ วา เม่ือวานน้ีพระ-ราชาเสด็จไปมา ทอดพระเนตรที่พระแกล ณ ภายในพ้ืนยาว แตน ัน้พระโพธสิ ัตวจึงคิดวา พระราชาจกั ไดทอดพระเนตรเห็นเหตอุ ะไร ๆ โดยขางนี้ จงึ ไปในทน่ี ัน้ แลดูภายนอก ไดเ หน็ กิริยาแหง แพะและสุนขั ก็ทาํ ความเขา ใจวา พระราชาทอดพระเนตรเห็นสัตวทัง้ สองนี้ จึงทรงประพันธป ญหาจบั เคาไดฉะนี้แลวกก็ ลบั ไปเคหสถาน ฝายบัณฑิตทง้ั สามคดิ แลว ไมเห็นอะไรจงึ ไปหาเสนกะ เสนกะเห็นบณั ฑติ ท้ังสามนนั้ จึงถามวา ทานเห็นปญ หาแลวหรือ ครั้นไดรบั ตอบวา ยงั ไมเหน็ จงึ กลาววา ถาเปนเชนน้นั พระราชาจักขบัทา นทั้งหลายจากแวน แควน ทา นทง้ั หลายจักทําอยางไร คร้นั บัณฑติ ทง้ั สามยอนถามวา ก็ทานเหน็ หรอื กต็ อบวา แมเราก็ยังไมเ ห็น คร้ันบัณฑติ ทง้ั สามกลา ววา เมอ่ื อาจารยไ มเ หน็ ขาพเจา ท้ังหลายจะเหน็ อะไร กเ็ มอื่ วานนเี้ ราท้ังหลายบนั ลอื สีหนาทในราชสํานกั วา จกั คดิ แกแลวมาบา น บัดนี้พระราชาจักกรว้ิ พวกเราผูแ กไ มไ ด พวกเราจกั ทําอยา งไร จงึ กลา ววา ปญ หานอ้ี ันเราทงั้ หลายไมอ าจเหน็ มโหสถจกั คดิ ไดท ัง้ หลายรอ ยนัย เพราะฉะนัน้ ทา นทั้งหลายจงมาไปสาํ นักมโหสถดวยกนั กบั เรา บณั ฑติ ทั้งส่ไี ปสปู ระตเู คหสถานแหงมโหสถ ใหแจง ความทคี่ นมาแลว เขา ไปสูเรือน ปราศรัยกนั แลว น่งั ณทค่ี วรสว นหนึ่ง แลวถามมโหสถวา บัณฑติ ทานคดิ ปญหาไดแ ลว หรือพระโพธสิ ัตวตอบวา ในเมื่อขาพเจาคิดไมไ ด คนอน่ื ใครจักคดิ ได เออ ปญหานั้น ขาพเจาคิดไดแ ลว ครัน้ เม่อื บณั ฑติ ทง้ั สก่ี ลา ววา ถากระนน้ั ทา นจงบอกแกขาพเจาบาง มโหสถจึงดาํ รวิ า ถาเราจกั ไมบอกแกบัณฑติ ทัง้ ส่นี ี้ พระราชา

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 367จักกริว้ บัณฑติ ท้งั สี่ ขบั เสียจากแควน พระราชทานรตั นะ ๗ แกเรา คนเขลาเหลาน้ีอยา ไดฉ บิ หายเสียเลย เราจกั บอกแกพ วกนี้ ดํารฉิ ะน้ีแลวใหบ ณั ฑิตท้ังสน่ี ง่ั ณ อาสนะต่าํ แลวกลาววา ทา นท้งั หลายจงพยากรณอ ยางน้ี ในกาลเมอ่ื พระราชาตรสั ถามแลว ใหบ ัณฑติ ท้งั สเ่ี รียนบาลปี ระพนั ธเิ์ ปน คาถา ๔ คาถาแลว สงใหกลับไปในวัน ท่ี ๒ บณั ฑิตเหลาน้นั ไปสูราชอุปฏ ฐาน นง่ั ณ อาสนปลู าดไว พระราชาตรสั ถามเสนกะวา ทานรูปญหาแลวหรอื เสนกะจงึ กราบทลู วา ขา แตมหาราชเจา เน้อื ขาพระองคไ มร ู คนอื่นใครเลา จักรู ครั้นรบั สัง่ใหก ลา ว จึงกลาวคาถาโดยทาํ นองที่เรยี นมาทีเดยี ววา เนอื้ แพะเปนทีร่ ักท่ีเจรญิ ใจแหงบตุ รอมาตย และ พระราชโอรส ชนเหลาน้ัน ไมบ ริโภคเนือ้ สนุ ขั คร้งั นี้ มิตรธรรมแหงแพะนน้ั กับดว ยสนุ ัข มีตอ กนั . บรรดาบทเหลาน้นั บทวา อุคคฺ ปุตฺตราชปุตตฺ ยิ าน ความวาแหง บตุ รอมาตยท งั้ หลายดวย แหงพระราชโอรสทง้ั หลายดว ย. แมกลาวคาถาแลว เสนกะก็หารเู นื้อความไม ฝา ยพระเจา วิเทหราชทรงทราบความ เพราะปรากฏแกพระองค เพราะฉะนน้ั จึงตรสั ถามปกุ กุสะตอไป ดว ยเขา พระหฤทยั วา เสนกะรูแลว ฝายปกุ กุสะจึงกราบทูลวา ขาพระองคไมใ ชบ ัณฑติ หรือ แลวกลา วคาถาโดยทํานองที่เรียนมาทีเดยี ววา ชนทงั้ หลายใชหนังแพะเปน เครอ่ื งลาดหลังมา เปนเหตุแหงความสุข ไมใชห นงั สนุ ัขเปน เคร่ืองลาด หลงั มา คร้งั น้มี ติ รธรรมแหงแพะน้ันกบั ดวยสนุ ัข มี ตอกัน.

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 368 เนอื้ ความไมป รากฏแมแ กป กุ กสุ ะ. ฝายพระราชาเจา พระหฤทยั วา ปกุ กุสะนี้รูเนื้อความเพราะปรากฏแกพระองค จึงตรสั ถามกามินทะตอไป กามนิ ทะจงึ กลา วคาถาโดยทํานองที่เรยี นมาทีเดียววา แพะมเี ขาอันโคง แทจริง แตเ ขาทง้ั หลายแหง สนุ ขั ไมมเี ลย แพะกนิ หญา สุนขั กนิ เนอื้ ครั้งน้ีมิตร ธรรมแหง แพะน้ันกับดว ยสุนขั มตี อกนั . เนอื้ ความไมป รากฏแมแ กกามนิ ทะ พระราชาเขาพระหฤทัยวา แมกามนิ ทะนี้กร็ ูเ นอ้ื ความแลว จงึ ตรสัถามเทวินทะตอไป เทวินทะกก็ ลาวคาถาโดยทาํ นองท่ีเรยี นมาทเี ดยี ววา แพะกนิ หญา กนิ ใบไม สนุ ัขไมกินหญา ไมกนิ ใบไม สุนขั จบั กระตายหรือแมวกนิ ครัง้ นม้ี ติ รธรรม แหง แพะน้ันกบั ดวยสุนัข มตี อกัน. บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา ติณมาสิ ปลาสมาสิ ความวากนิ หญา ดวย กินใบไมด ว ย. บทวา น ปลาส ความวา ไมเคีย้ วกนิ แมใบไม. เนอื้ ความไมปรากฏแมแกเ ทวนิ ทะ ลําดบั นน้ั พระราชาเขาพระหฤทยั วา แมเทวนิ ทะนี้ก็รู เพราะปรากฏแกพระองค จึงตรสั ถามมโหสถวา ดกู อนพอมโหสถ แมต วั เจา รปู ญหานี้หรือ มโหสถโพธสิ ัตวทูลสนองวา ขาแตม หาราชเจา ต้ังแตอ เวจจี นถึงภวคั คพรหม ยกขา พระองคเสีย คนอ่ืนใครจะรูป ญ หาน้ี ครั้นตรัสใหกลาวจึงกราบทูลวา ขอพระองคท รงฟง เม่ือจะประกาศความท่ีกจิ นน้ั ปรากฏแกต นจงึ กลาว ๒ คาถานว้ี า

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนาที่ 369 แพะมีเทา กงึ่ ๘ แหงเทา ๔ (มี ๔ เทา) มีกีบ ๘ มกี ายไมปรากฏ สนุ ขั น้นี าํ หญา มาเพื่อแพะน้ี แพะน้ี นาํ เนื้อมาเพอ่ื สุนขั นน้ั พระชนินทรสมมตเิ ทพผูประ เสริฐกวา ชาววเิ ทหรฐั ประทบั อยู ณ ปราสาทอันประ- เสรฐิ ไดทอดพระเนตรเหน็ การนําอาหารมาแลกกัน กนิ โดยประจกั ษ และไดทอดพระเนตรเห็นมติ รธรรม แหง สุนัขและแพะเอง. มติ รธรรมแหง สุนัขและแพะเอง. บรรดาบทเหลานน้ั บทวา อฏฑฒฺ ปาโท ทานถลาวหมายเอาเทา ๘ แหง แพะ ดว ยความเปนผูฉ ลาดในพยญั ชนะ. บทวา เมณฺโฑ ไดแกแพะ. บทวา อฏ นโข นท้ี า นกลาวตามที่เทาแพะมีกบี เทาละ ๒ กบี . บทวาอทสิ ฺสมานกาโย ความวา ไมปรากฏกายในเวลานาํ เนอื้ มา. บทวา ฉาทยิ ความวา เครื่องมุงเรอื น คือ หญา . บทวา อย อมิ สสฺ ความวา สนุ ัขนําหญามาเพอ่ื แพะ. บทวา วีติหาร ไดแก นํามาแลกกนั . บทวา อโฺ -ฺโภชนาน ความวา แลกกนั กิน ดวยวา แพะนําของกนิ มาเพ่อื สุนัขแมส นุ ัขน้นั กแ็ ลกกบั แพะนัน้ สนุ ขั นาํ มาเพ่ือแพะ แมแ พะกแ็ ลกกัน. บทวาอททฺ กขฺ ิ ความวา ไดท อดพระเนตรเห็นสัตวท้ังสองนน้ั แลกเปลี่ยนกันกนิดว ยพระเนตร คอื ประจักษแ กพระองค. บทวา โภภกุ กฺ สสฺ ไดแ กสุนัขหอน. บทวา ปุณณฺ มขุ สสฺ ไดแก แพะ อธิบายวา พระราชาทอดพระเนตรเห็นมติ รธรรมของสัตวท ง้ั สองนี้ดวยพระองคเอง. พระราชาเมื่อไมทรงทราบความท่ีอาจารยเหลา น้ันรปู ญ หาเพราะอาศัยพระโพธิสัตว ทรงสําคญั วา บัณฑติ ท้งั ๕ รูด วยปญญาของตน ก็ทรงโสมนสั ตรัสคาถาน้วี า

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๔ ภาค ๒ - หนา ที่ 370 ลาภของเราไมน อยเลยทม่ี บี ัณฑิตเชนนีอ้ ยใู น ราชสกุล เพราะวาบัณฑิตทงั้ หลายแทงตลอดเนอื้ ความ ของปญ หาอนั ลึกละเอยี ดดวยเปนสภุ าษติ . บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา ปฏวิ ชิ ฺฌนฺติ ความวา กลาวแกปญหาดว ยสภุ าษติ . ลําดบั นน้ั พระราชาทรงดํารวิ า เราควรทําอาการยนิ ดีแกบัณฑิตเหลา น้ันดวยความยินดี เมอ่ื จะทรงทําความยนิ ดนี ั้นใหเปน แจง จึงตรสั คาถาวา เรามคี วามพอใจยง่ิ ดวยปญหาทีก่ ลาวไพเราะ ใหร ถเทยี มมาอสั ดรรถหนง่ึ ๆ และบา นสว ยอันเจริญ บา นหนง่ึ ๆ แกท านทั้งปวงผูเ ปนบัณฑติ . ครน้ั ตรสั ฉะน้ันแลว ไดพระราชทานสงิ่ ท้งั ปวงน้ัน. จบปญ หาแพะในทวาทสนิบาต ฝา ยพระราชเทวีอุทุมพรทรงทราบความท่บี ัณฑิตท้งั ๔ รูปญ หาอาศัยมโหสถ จึงทรงดาํ ริวา พระราชาพระราชทานรางวลั แกบ ัณฑติ ทั้ง ๕ เปนเหมือนคนทําถ่ัวเขียวกบั ถัว่ ราชมาษใหไมแปลกกนั จึงเสดจ็ ไปเฝาพระราชาทูลถามวา ใครทลู แกปญหาถวาย พระราชาตรัสตอบวา บณั ฑติ ทง้ั ๕พระราชเทวที ูลวา บัณฑติ ทัง้ ๕ รปู ญ หาของพระองคอาศยั ใคร พระราชาตรัสตอบวา เราไมรู พระนางอทุ ุมพรจงึ กราบทูลวา บัณฑิตท้งั ๔ คนเหลานี้จะรูอะไร มโหสถใหเ รียนปญ หาดว ยเหน็ วา คนเขลาเหลาน้ีอยาไดฉิบหายเสยี เลย กพ็ ระองคพระราชทานรางวัลแกบ ัณฑติ ทงั้ ปวงเสมอกนั นั่นไมสมควรเลย ควรจะพระราชทานแกมโหสถใหเ ปนพิเศษ พระราชาทรงเหน็ วามโหสถนไ้ี มบ อกความทีบ่ ณั ฑิตทงั้ ๔ รูปญหาอาศยั ตน กท็ รงโสมนัส มีพระ




























































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook