Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_25

tripitaka_25

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:37

Description: tripitaka_25

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 151 ลําดบั น้นั แล ทา นพระอนุรทุ ธะ อาศัยทศิ อดุ รนง่ั ขดั สมาธิในเวหาเบือ้ งบนของพรหมนน้ั ต่าํ กวา พระผูมีพระภาคเจา เขา เตโชธาตกุ สิณแลว [๕๗๙] ครง้ั น้นั แล ทา นพระมหาโมคลลานะไดกลา วกะพรหมดว ยคาถาวา ผูมอี ายุ ทฐิ ิในกอนของทาน แมใน วนั นีก้ ย็ งั มแี กท านหรอื ทานเหน็ พระผมู ี พระภาคเจา ผูเปนไปลวงวเิ ศษ ผูเปนเบ้อื ง หนาของสตั วใ นพรหมโลกหรือ. [๕๘๐] พรหมนน้ั ตอบวา ขา แตท า นผนู ริ ทกุ ข ทฐิ ใิ นเกา กอนของขา พเจามิไดมีแกข า พเจา ขา พเจา ยอมเหน็ พระผูมีพระภาคเจาผูเปน ไปลว ง วเิ ศษ ผูเ ปน เบ้อื งหนา ของสตั วในพรหม โลก ไฉนในวนั นี้ ขาพเจา จะพงึ กลาววา เราเปนผเู ท่ยี งเปนผูติดตอ กัน ดงั นี้เลา . [๕๘๑] ลาํ ดบั นนั้ แล พระผูมีพระภาคเจายังพรหมนน้ั ใหส ลดใจแลวไดห ายไปในพรหมโลกน้ัน ปรากฏแลว ในพระวหิ ารเชตวันปานดงั บุรุษมีกาํ ลงัพงึ เหยียดออกซ่งึ แขนทีค่ ูเขา หรอื พงึ คเู ขา ซึง่ แขนทไี่ ดเ หยยี ดออกแลว ฉะนั้น ลาํ ดบั นัน้ แล พรหมไดเรยี กพรหมปารสิ ัชชะ๑ องคหน่ึงมาวา แนะทานผูนิรทกุ ข ทานจงมา ทา นจงเขาไปหาทานพระมหาโมคคลั ลานะจนถงึ ทีอ่ ยูครนั้ แลว จงกลาวกะทา นพระมหาโมคคลั ลานะอยางนวี้ า ขา แตทา นผนู ริ ทกุ ข๑. คอื พรหมสาํ หรับรบั ใชข องมหาพรหม เพราะแมมหาพรหมกม็ พี รหมไวรบั ใชเหมือนพระเถระมีภิกษุหนมุ ๆ ไวช วยถอื บริขาร ฉะนั้น

พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 152สาวกทัง้ หลายของพระผูมีพระภาคเจาพระองคน ้นั แมเ หลา อ่ืนซง่ึ มีฤทธม์ิ ากมีอานภุ าพมาก เหมอื นกบั ทานพระมหาโมคคลั ลานะ ทานพระกสั สป ทา นพระ-กัปปนะและทา นพระอนุรุทธะผเู จรญิ กย็ ังมีอยูหรอื หนอแล. พรหมปารสิ ชั ชะนั้นรับคําของพรหมนนั้ วา อยา งน้นั ทา น ผนู ิรทกุ ขแ ลวหายไปในพรหมโลกนนั้ ปรากฏแลว ขา งหนา ทา นพระมหาโมคคัลลานะ ปานดังบุรุษมีกําลัง ฯลฯ ฉะนน้ั . [๕๘๒] ครั้งนนั้ แล พรหมปาริสัชชะน้ัน อภวิ าที่ทานพระมหาโมค-คลั ลานะแลว ไดย ืนอยใู นทค่ี วรสว นขา งหนึ่ง พรหมปาริสัชชะนนั้ ยนื ณ ทคี่ วรสว นขางหนงึ่ แลวไดกลาวคาํ นก้ี ะทานพระมหาโมคคลั ลานะวา ขา แตท านผนู ริ ทกุ ข สาวกทัง้ หลายของพระผมู ีพระ-ภาคเจาพระองคน ัน้ แมเ หลาอ่นื ซ่งึ มีฤทธ์ิมาก มอี านุภาพมากเหมอื นกบั ทา นพระมหาโมคคลั ลานะ ทา นพระกสั สป ทา นพระกัปปนะ และทานพระอนรุ ทุ ธะกย็ ังมีอยูหรือหนอ. [๕๘๓] ลาํ ดับน้ันแล ทา นพระมหาโมคคลั ลานะไดกลาวกะพรหมปาริสชั ชะดวยคาถาวา สาวกท้ังหลายะองพระพุทธเจา ซ่งึ ไดวิชชา ๓ บรรลุอทิ ธวิ ิธญิ าณ และฉลาด ในเจโตปรยิ ญาณ หมดอาสวะ ไกลจาก กิเลส มีอยูม าก ดงั นี.้ [๕๘๔] ลําดับนน้ั แล พรหมปารสิ ชัชะนัน้ ชน่ื ชมอนุโมทนาภาษิตของทา นมหาโมคคัลลานะแลว เขา ไปหาพรหมน้นั ถงึ ทอี่ ยู คร้นั แลว ไดกลา วคําน้ีกะพรหมนนั้ วา ขาแตท านผนู ิรทุกข พระมหาโมคคัลลานะกลา วเชน น้วี า

พระสุตตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 153 สาวกท้ังหลายของพระพทุ ธเจา ซึง่ ไดวชิ ชา ๓ บรรลอุ ิทธวิ ิธญิ าณ และฉลาด ในเจโตปรยิ ญาณ หมออาสวะ ไกล กเิ ลส มอี ยมู าก ดังน.ี้ [๕๘๕] พรหมปารสิ ัชชะไดกลาวคาํ นี้แลว พรหมมใี จยนิ ดีช่ืนชมภาษติ ของพรหมปารสิ ัชชะนั้นแล. อรรถกถาอปราทิฏฐสิ ตู ร ในสตู รที่ ๕ มีวินิจฉัยดงั ตอไปน้ี :- บทวา เตโชธาตุ สมาปชฺชิตา ความวา พระเถระทาํ บรกิ รรมในเตโชกสิณแลวออกจากฌานท่เี ปนบาท อธษิ ฐานวา ขอเปลวไฟจงพุง ออกจากสรรี ะ ดวยอานภุ าพจิตอธิษฐาน เปลวไฟพงุ ออกท่ัวสรีระ. พระเถระชือ่ วาเขาเตโชธาตสุ มาบตั อิ ยางน.ี้ คร้ันเขาสมาบตั อิ ยางน้นั แลว ก็ไปในพรหมโลกน้ัน.ถามวา เพราะเหตุไร พระเถระจึงไดไ ปในทน่ี นั้ . ตอบวา ไดยนิ วา พระเถระเขาสมาบตั ิมเี ตโชธาตุเปนอารมณเห็นพระตถาคตประทบั นง่ั เหนือพรหมนัน้ จงึ ไดม ีความคดิ ดังน้ีวาบคุ คลนเ้ี ปนผูแทงทะลุปรโุ ปรง ถึงอฐั ิ กเ็ ราพงึ ไปในทนี่ น้ั ฉะนนั้จงไดไ ปในท่นี นั้ . แมใ นการไปของพระเถระท่ีเหลอื ก็มีนัยอยา งนี้เหมือนกัน.แมพ รหมนน้ั ไมไดเ หน็ อานภุ าพของพระตถาคตและสาวกของพระตถาคต จึงไมควรเขา ถึงการแนะนาํ . ดวยเหตนุ ั้น จงึ ไดม ีประชมุ กนั อยางน้นั ในที่ประชุมน้นัเปลวไฟท่พี งุ ออกจากสรรี ะของพระตถาคตลวงเลยพรหมโลกท้ังส้นิ แลนไปในอวกาศ กแ็ ลวรรณะเหลานน้ั ไดม ี ๖ สี รศั มขี องสาวกพระตถาคตก็มวี รรณะธรรมดานัน่ เอง.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 154 ดวยคาํ วา ปสสฺ สิ วีตวิ ตตฺ นตฺ  น้ี พระเถระถามวา ทา นเห็นรศั มีที่เปลง ออกจากพระสรรี ะของพระผูม ีพระภาคพทุ ธเจาอันลวงเสียซึง่ รศั มแี หงสรรี ะของพรหมวมิ านและเครอ่ื งประดบั เปนตนอยางอ่นื ในพรหมโลกนีห้ รือ.บทวา น เม มาริส สา ทฏิ  ิ ความวา ทิฏฐินั้นใดของเราวา คนอื่นไมว าสมณะหรอื พราหมณก ต็ ามไมสามารถจะมาในทน่ี ้ีได ทฏิ ฐิของเรานั้นแตก อนไมม.ี บทวา กถ วชชฺ  ความวา เพราะเหตุไร เราจงกลา ว. บทวา นจิ ฺโจมฺหิสสสฺ โต ความวา ไดย ินวา พรหมนี้มีทฏิ ฐิ ๒ อยาง คือ ลัทธิทฏิ ฐิและสัสสตทิฏฐิ. ในทฏิ ฐิ ๒ อยางนัน้ พรหมน้นั เม่อื เห็นพระตถาคตและสาวกของพระตถาคต ยอมเปนอนั ละลทั ธิทฏิ ฐไิ ด กพ็ ระผูม พี ระภาคเจา ทรงแสดงพระ-ธรรมเทศนาเปนอันมากในเร่อื งทิฏฐิ ๒ อยางนั้น. ในท่สี ุดเทศนา พรหมตงั้อยใู นโสดาปตติผล. อนั พรหมนนั้ ละสัสสตทิฏฐดิ วยมรรค เพราะฉะน้ัน พระ-เถระจึงกลาวอยางนี้ ดวยประการฉะนี้. บทวา พฺรหมฺ ปาริสชชฺ  ไดแก พรหมปรจิ าริกาผูปรนนิบตั พิ รหมจรงิ อยู ชื่อวา พรหมปารสิ ชั ชะแมของพรหมทัง้ หลายกเ็ หมือนภิกษหุ นุม และสามเณรผถู ือหอ ของพระเถระ. บทวา เตนปุ สงกฺ มิ ความวา เพราะเหตไุ รพรหมจงึ สง พรหมปารสิ ัชชะ ไปสสู ํานักของพระเถระนั่นแล ไดยนิ วา พรหมน้ันไดเกิดความคนุ เคยดวยการเจรจาปราศรยั ในพระเถระ เพราะฉะนั้น พรหมนนั้จงึ สงไปยงั สํานกั ของพระเถระนัน้ แล. บทวา อฺเป ความวา ชนทัง้ ๔ ก็เหมอื นพวกทาน เหลา สาวกแมอ่นื ๆ เห็นปานนั้นยังมอี ยูห รอื หรอื มแี ตพวกทา นทง้ั ๔ เทานน้ั ท่มี ฤี ทธิ์มาก. บทวา เตวิชชฺ า ไดแ ก ผูประกอบดว ยวิชชา๓ คือ บุพเพนิวาสญาณ ทิพยจกั ขญุ าณและอาสวักขยญาณ. บทวา อิทธฺ ปิ ฺ-ปตตฺ า ไดแ ก บรรลอุ ทิ ธิวธิ ิญาณ. บทวา เจโตปริยายโกวทิ า ไดแก เปน

พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 155ฉลาดในวารจิตของชนเหลา อื่น. ในทน่ี ท้ี า นกลาวอภญิ ญา ๕ ไวโดยสรุปดว ยประการฉะนี.้ แตท พิ ยโสตญาณไดม าดวยอํานาจอภิญญา ๕ เหลา นั้นเหมือนกนั . บทวา พหู ความวา เหลาพุทธสาวกผไู ดอภญิ ญา ๖ อยางนม้ี มี ากเหลอืคณนานบั เท่ียวทาํ ชมพทู วีปทัง้ สน้ิ ใหร ุง เรื่องดว ยผากาสาวพัสตร. อรรถกถาอปราทิฏฐสิ ูตรที่ ๕

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 156 ๖. ปมาทสูตร วา ดวยพรหมผูประมาท [๕๘๖] สาวัตถีนทิ าน. กส็ มัยนัน้ แล พระผมู ีพระภาคเจา ประทับพกั กลางวนั . หลีกเรนอยู. ครัง้ นนั้ แล สพุ รหมปจ เจกพรหม และสทุ ธาวาสปจ เจกพรหมเขา ไปใกลทปี่ ระทบั ของพระผูมีพระภาคเจา ครน้ั ไดย ืนพงิ บานประตอู งคละขาง. ลําดบั นน้ั แล สุพรหมปจเจกพรหมไดกลาวกะสทุ ธาวาสปจเจกพรหมวา แนะ ทา นผนู ิรทุกข ไมใ ชกาลอนั ควรท่จี ะเขา เฝาพระผูม ีพระภาคเจากอนพระผูมีพระภาคเจาประทับพักกลางวันหลกี เรนอยู กพ็ รหมโลกโนนบรบิ ูรณและเบิกบานแลว แตพ รหมในพรหมโลกนน้ั ยอมอยูดวยความประมาท แนะทา นผนู ริ ทกุ ขมาไปดวยกนั เราทง้ั หลายจกั เขาไปยงั พรหมโลกน้นั ครน้ั แลวพงึ ยังพรหมนัน้ ใหส ลดใจ. สทุ ธาวาสปจ เจกพรหมไดรบั คําของสพุ รหมปจ เจกพรหมแลว. ครงั้ นน้ั แล สุพรหมปจ เจกพรหมและสทุ ธาวาสปจ เจกพรหม ไดหายไปจากเบื้องพระพักตรของพระผมู ีพระภาคเจา ปรากฏแลวในพรหมโลกน้นัปานดงั บรุ ุษมกี าํ ลัง ฯลฯ ฉะน้นั . พรหมน้ันไดเ หน็ แลวแลซึง่ พรหมทงั้ หลายเหลานั้น ผูมาอยแู ตท ่ไี กลเทียว ครั้นแลว ไดกลา วคํานีก้ ะพรหมเหลา น้นั วา แนะ ทานผูนิรทุกขท งั้ หลายเชญิ เถิด พวกทานมาแตทไ่ี หนหนอ. พรหมเหลา น้นั กลา ววา แนะทานผนู ิรทุกข พวกเรามาแตสํานกั ของพระผมู พี ระภาคเจาพระอรหันตสัมมาสมั พทุ ธเจา พระองคน ั้น แนะ ทานผูน ริ ทุกข

พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 157ก็ทา นจะไปสทู ่ีบํารุงของพระผูมีพระภาคเจาพระองคน ัน้ ผเู ปน พระอรหันตสมั มาสมั พทุ ธเจา บา งหรอื . [๕๘๗] เม่อื พรหมเหลาน้นั กลา วแลวเชน น้แี ล พรหมนั้นอดกล้ันคํานั้นไมได จึงนริ มิตตนเปนพนั ตน แลว ไดก ลาวคําน้ีกะสพุ รหมปจเจกพรหมวา แนะทา นผูนิรทุกข ทานเห็นอทิ ธานภุ าพเห็นปานดงั นี้ ของเราหรือไม. สพุ รหมปจเจกพรหมกลา ววา แนะทานผนู ริ ทุกข เราเห็นอยูแลซ่ึงอิทธานภุ าพเหน็ ปานดงั นขี้ องทาน. พรหมน้นั กลาววา แนะทานผนู ริ ทกุ ข เราน้ันแลเปน ผมู ีฤทธม์ิ ากอยา งนี้ มอี านุภาพมากอยา งน้ี จกั ไปสูท่บี าํ รุงของสมณะหรือพราหมณอ น่ื ทําไม. [๕๘๘] ลาํ ดับนน้ั แล สพุ รหมปจ เจกพรหมนริ มิตตนเปนสองพันตนแลว ไดก ลาวคํานก้ี ะพรหมวา. แนะ ทานผนู ิรทุกข ทานเหน็ อิทธานุภาพ เห็นปานดงั นี้ ของเราหรือไม. พรหมนน้ั กลา ววา แนะ ทานผูน ริ ทกุ ข เราเห็นอยแู ลซงึ่ อิทธานภุ าพเห็นปานดงั นข้ี องทาน. สพุ รหมปจเจกพรหมกลา ววา แนะทา นผนู ริ ทกุ ข พระผูมีพระภาคเจาพระองคนัน้ เทา นนั้ เปน ผมู ีฤทธิ์มากกวา และมอี านภุ าพใหญก วา ทา นและเราดวย. แนะทา นผูนริ ทกุ ข ทานพงึ ไปสูที่บํารุงของพระผูมพี ระภาคเจา พระ-องคนั้น ผเู ปน พระอรหันตสัมมาสมั พทุ ธเจา. [๕๘๙] ครง้ั น้นั แล พรหมนนั้ ไดกลา วกะสุพรหมปจเจกพรหมดวยคาถาวา

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 158 แนะพรหม ครฑุ ๓๐๐ หงส ๔๐๐ เหย่ียวปากตะไกร ๕๐๐ และวมิ านของเรา ผมู ฌี านนีน้ น้ั ยอมรุงโรจนสอ งสวางอยใู น ทิศอดุ ร. [๕๙๐] สุพรหมปจ เจกพรหมกลา ววา วมิ านของทา นนั้นถงึ จะรุงโรจน สอ งสวา งอยใู นทิศอดุ รก็จริง ถึงเชนน้ัน เพราะเหน็ โทษในรปู [และ] เพราะเหน็ รปู อันหวน่ั ไหวดว ยความหนาวเปนตน อยู เปนนิจ ฉะนนั้ พระศาสดาผมู เี มธาดจี ึงไม ยินดใี นรปู . [๕๙๑] คร้ังนนั้ แล สพุ รหมปจ เจกพรหมและสุทธาวาสปจ เจกพรหมยงั พรหมนั้นใหสลดใจแลวหายไปในท่นี ้นั เอง. ก็พรหมน้นั โดยสมยั ตอ มาไดไปสทู บี่ ํารงุ ของพระผูมพี ระภาคเจา ผูเปนพระอรหันตสัมมาสมั พุทธเจา แลว แล.

พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 159 อรรถกถาปมาทสูตร ในปมาทสตู รที่ ๖ มีวนิ ิจฉยั ดงั ตอไปน้ี :- บทวา ปจฺเจก ทฺวารพาห ความวา ไดย ืนพิงบานประตูองคละบานเหมือนคนเฝาประตู. บทวา อิทโฺ ธ ความวา พร่ังพรอ มดว ยความสุขใจฌาน.บทวา ผโี ต ไดแ ก บานสะพรัง่ ดวยดอกไมค อื อภิญญา. บทวา อนธวิ าเสนฺโตไดแ ก อดกลนั้ ไมไ ด. บทวา เอตทโวจ ความวา นง่ั ในทามกลางพรหมเนรมติ เหลานั้น ไดกลาวคํานวี้ า ปสสฺ สิ เม เปน ตน ในคาถาวา ตโย สปุ ณฺณา เปน ตน มีวนิ ิจฉัยดังตอไปน้.ี บทวาสตะ ในบทวา ปฺจสตา พงึ ประกอบโดยรูปหรือโดยแถว. จะวา โดยรูปกอ น บทวา ตโย สปุ ณณฺ า ไดแ ก รูปครฑุ ๓๐๐. บทวา จตุโร จห สา ไดแกร ูปหงส ๔๐๐. บทวา พยคฺฆนิ สิ า ปจฺ สตา ไดแก มฤค-บางเหลาเชน กับเสอื โครง ชอ่ื วา พยคั ฆินสิ า. รปู มฤคทเี่ หมอื นเสือโครงเหลาน้ันมจี าํ นวน ๕๐๐. วา โดยแถว บทวา ตโย สปุ ณฺณา ไดแกค รุฑ๓๐๐ แถว. บทวา จตโุ ร ห สา ไดแกห งส ๔๐๐ แถว. บทวา พยคฆฺ ินสิ าปฺจสตา ไดแกมฤคเหมือนเสือโครง ๕๐๐ แถว. ดว ยบทวา ฌายิโนพรหมแสดงวา ในวิมานของเราผูไดฌานมคี วามรุง โรจนขนาดนี.้ บทวาโอภาสย ไดแก สวางไสว. บทวา อตุ ฺตรสสฺ  ทสิ าย ความวา ไดยินวาวิมานทองใหญน้นั ปรากฏในทศิ อุดร แตท ี่ ๆ มหาพรหมเหลานน้ั สถติ อยูเพราะฉะน้นั จึงกลาวอยางน.้ี ก็พรหมนั้นมีความประสงคด งั น้ีวา เราอยใู นวมิ านทองเหน็ ปานน้ี จกั ไปสูท ่บี ํารงุ ใครอนื่ เลา . บทวา รเู ป รณ ทสวฺ า

พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 160ไดแ ก เหน็ โทษกลาวคอื เกิด แก และแตกดบั ในรูปะ บทวา สทา ปเวธิตความวา เห็นรูปทห่ี วน่ั ไหวและถกู วโิ รธิปจ จัยมีความหนาวเปน ตน กระทบอยูเปน นิตย. บทวา ตสมฺ า น รูเป รมตี สเุ มโธ ความวา เหน็ โทษในรปูและเห็นรปู ทห่ี วัน่ ไหวอยูทกุ เมื่อ เพราะฉะนัน้ พระศาสดาผมู เี มธาดี คอืผมู ีปญ ญาดี จึงไมยินดีในรปู . จบอรรถกถาปมาทสูตรท่ี ๖

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 161 ๗. ปฐมโกกาลิกสตู ร วาดวยพรหมปรารภพระโกกาลกิ ภกิ ษุ [๕๙๒] สาวตั ถีนทิ าน. ก็สมัยนั้นแล พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั พักกลางวันหลีกเรนอยูแลว. ครัง้ น้นั แล สพุ รหมปจ เจกพรหมและสุทธาวาสปจ เจกพรหมเขาไปใกลท่ีประทับของพระผมู ีพระภาคเจา คร้ันแลวไดยืนพิงบานประตูองคล ะขาง. [๕๒๙๓] ลําดับนน้ั แล สุพรหมปจเจกพรหมปรารภพระโกกาลกิ ภิกาไดก ลา วคาถานใี้ นสาํ นักพระผูม พี ระภาคเจาวา ใครผูมีปญญาในโลกน้ี จะพึง กําหนดวดั ซึง่ พระขีณาสพผมู คี ุณอันใคร ๆ ประมาณไมไ ด เราเห็นวาผนู น้ั ไมมีธุต- ธรรม เปน ปุถชุ น วัดอยูซ ึ่งพระขณี าสพผู มคี ณุ อนั ใคร ๆ ประมาณมไิ ด. อรรถกถาปฐมโกกาลิกสตู ร ในปฐมโกกาลิกสตู รท่ี ๗ มีวินิจฉยั ดงั ตอ ไปนี้ :- บทวา อปปฺ เมยยฺ  ปมนิ นโฺ ต ความวา กําหนดนบั บุคคลผูเปนขีณาสพ ผมู ีคุณอันใคร ๆ ประมาณไมไ ด อยา งนี้วา ศีลมีประมาณเทา นี้สมาธิมีประมาณเทานี้ ปญ ญามีประมาณเทาน.้ี ดว ยคําวา โกธ วทิ ฺวา วกิ ปปฺ เยความวา ใครผมู ปี ญญา ผูมีเมธาในโลกนพี้ งึ กาํ หนด ทานแสดงวา พระ-ชณี าสพเทา น้นั พึงกําหนดนับพระขีณาสพ. บทวา นิธุตนฺต มฺเ ความวาก็ผูใดเปน ปุถุชน ปรารภจะวดั พระขีณาสพนน้ั เรากลาวผูนนั้ วา ไมมธี ุตธรรมคอื มีปญ ญาตา่ํ ทราม. จบอรรถกถาปฐมโกกาลิกสูตรท่ี ๗

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 162 ๘. ตสิ สกสตู ร วา ดวยพรหมปรารภตสิ กภกิ ษุ [๕๙๔] สาวตั ถีนิทาน. ก็โดยสมัยน้ันแล พระผมู พี ระภาคเจาประทับพักกลางวันหลกี เรน อยูแลว . ครงั้ นน้ั แล สุพรหมปจเจกพรหมและสุทธาวาสปจ เจกพรหมเขา ไปใกลท่ีประทบั ของพระผูมีพระภาคเจา ครัน้ แลวไดย ืนพิงบานประตอู งคละขา ง. [๕๙๕] ลําดบั นน้ั แล สทุ ธาวาสปจ เจกพรหมปรารภกตโมรกตสิ สกภกิ ษุไดกลาวคาถานใ้ี นสาํ นกั ของพระผมู ีพระภาคเจาวา ใครผมู ปี ญญาในโลกน้จี ะพงึ กําหนด วดั ซง่ึ พระขณี าสพผมู คี ณุ อันใคร ๆ ประมาณไมไ ด เราเห็นวาผูนน้ั ไมม ธี ตุ - ธรรม เปนคนไมมีปญ ญา วดั อยูซ ่งึ พระ- ขณี าสพผูมคี ณุ อนั ใคร ๆ ประมาณมิได. อรรถกถาตสิ สกสูตร ในตสิ สกสูตรที่ ๘ มวี นิ จิ ฉัยดงั ตอ ไปน้ี :- ปญญาทา นเรียกวา กิสฺสวา ในบทวา อกสิ สฺ ว ดังนี้. อธิบายวาปราศจากปญ ญา. จบอรรถกถาตสิ สกสูตรท่ี ๘

พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 163 ๙. ตทุ พุ รหมสูตร วา ดว ยตทุ พุ รหมเขาไปหาโกกาลิก [๕๙๖] สาวัตถนี ทิ าน. กโ็ ดยสมัยนั้นแล พระโกกาลกิ ภิกษุ เปน ผูอาพาธ ถึงความลาํ บากเปน ไขห นกั . ครง้ั นั้นแล ตทุ ุปจเจกพรหม เม่ือราตรีปฐมยามลว งไปแลวมีรัศมีอนังามยิง่ นกั ยังพระวิหารเชตวันท้ังส้ินใหสวา ง เขาไปหาพระโกกาลิกภกิ ษจุ นถึงทอี่ ยู คร้ันแลว ไดย ืนในเวหาส กลา วคาํ นก้ี ะพระโกกาลกิ ภกิ ษุวา ขาแตท า นโกกาลกิ ทานจงทําจติ ใหเล่ือมใสในพระสารบี ตุ รและพระโมคคัลลานะ พระสารบี ตุ รและพระโมคคัลลานะ เปนผูมศี ลี เปน ท่รี ัก. พระโกกาลิกภิกษุถามวา ผมู ีอายุ ทา นเปน ใคร ตุทุปจ เจกพรหมตอบวา เราคือตทุ ุปจเจกพรหม. พระโกกาลิกภกิ ษกุ ลา ววา ผูมอี ายุ พระผูมีพระภาคเจา ไดทรงพยากรณทานแลววา เปนพระอนาคามี มใิ ชห รือ ไฉนเลา ทานจึงยงั มาเท่ียวอยูใ นที่นี้จงเห็นเถดิ วา กน็ ่เี ปน ความผิดของทานเพียงไร. [๕๙๗] ตทุ ปุ จเจกพรหมไดกลาววา ชนพาลเมื่อกลาวคําเปน ทพุ ภาษติ ชอื่ วายอมตดั ตนดว ยศสั ตราใด ก็ศสั ตรา นนั้ ยอมเกดิ ในปากของบรุ ษุ ผเู กดิ แลว. ผูใดสรรเสรญิ ผทู ี่ควรถูกติ หรอื ติผู ทค่ี วรไดรับความสรรเสรญิ ผนู ั้นชือ่ วา สงั่ สมโทษดว ยปาก เพราะโทษนน้ั เขา ยอมไมป ระสบความสขุ .

พระสุตตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 164 ความปราชยั ดวยทรัพย ในเพราะ การพนันทง้ั หลาย พรอ มดวยส่งิ ของของ ตนท้งั หมดกด็ ี พรอ มดว ยตนกด็ ี ก็เปน โทษเพยี งเล็กนอ ย. บคุ คลใดทําใจใหประทษุ รา ยในทา น ผูปฏบิ ตั ิดีท้ังหลาย ความประทุษรา ยแหง ใจของบคุ คลน้ันเปนโทษใหญก วา บคุ คล ตั้งวาจาและใจอนั ลามกไว เปนผมู กั ตเิ ตยี น พระอริยเจา ยอมเขาถงึ นรก ซง่ึ มปี รมิ าณ แหง อายุถงึ แสนสามสิบหกนริ ัพพุท กับหา อพั พุท.* อรรถกถาตุทุพรหมสตู ร ในตทุ ุพรหมสูตรท่ี ๙ มีวนิ ิจฉัยดงั ตอ ไปนี้ :- บทวา อาพาธิโก ความวา ผูมีอาพาธดวยอาพาธอันมาในอนนั ตรสตู รโดยนัยวา สาสปมตฺตหี ิ ปฬ กาหิ เปน ตน . บทวา พาฬฺหคิลาโนไดแ กม คี วามปวยไขมปี ระมาณยิ่ง. บทวา ตุทุ ความวา พระอุปชฌาย ของภกิ ษุโกกาลกิ ชื่อวา ตทุ ุ เถระบรรลุอนาคามผิ ลแลวบังเกิดในพรหมโลก.ตทุ พุ รหมนน้ั ไดทราบขา วบาปกรรม ของภิกษโุ กกาลิกต้ังตนแตภ ุมมฏั ฐกเทวดาโดยเลา สบื ๆ กันจนถงึ พรหมโลกวา ภิกษุโกกาลิกกลา วตพู ระอคั รสาวกดว ยอันติมวตั ถุ ทาํ กรรมอนั ไมส มควรแลว จึงมาปรากฏตอ หนาภิกษโุ กกาลกิ นนั้ ดว ย* อพั พุทะ เปนสงขยา ซ่ึงมีจํานวนเลขสูญ ๖๑ สญู

พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 165หมายใจวา เมื่อเราเห็นอยู เธออยาเปนคนกําพรา [ปราศจากพวก] ตอ งเสียหายไป. เราจักเตือนเธอเพือ่ ใหจิตเลื่อมใสในพระเถระ ทานหมายเอาตุทุพรหมน้นัจึงกลาววา ตุทปุ จ เจกพรหม. บทวา เปสลา แปลวา ผมู ศี ลี เปนทรี่ ัก . บทวาโกสิ ตวฺ  อาวุโส ความวา นอนลมื ตาฝา ฟาง จึงกลา วอยา งนี.้ บทวาปสสฺ ยาวฺจเต ความวา โกกาลิกะกลา ววา ทา นจงเห็นขอท่ที านผิดเพียงไร ทานไมเ หน็ ฝใหญท่หี นาผากของตน เหน็ กระผมท่ีควรตักเตือนดวยเพราะฝเ ทา เมล็ดพนั ธุผกั กาด ครง้ั นน้ั ตทุ พุ รหมรูวา โกกาลกิ นี้ไดประสบสง่ิ ท่ีตนไมเคยเหน็ [ไมมีประสบการณ เปนคนกาํ พราจักไมเ ชอ่ื คําของใคร ๆ เหมอื นกลืนยาพิษอยูในลาํ คอ จงึ กลา วกะโกกาลิกวา ปุรสิ สสฺ หิ เปนตน . บรรดาบทเหลา นัน้บทวา กธุ ารี ไดแกวาจาหยาบเชน ผงึ่ [ขวาน]. บทวา ฉินทฺ ติ ไดแ กต ดัรากกลาวคือกศุ ลทเี ดยี ว. บทวา นนิ ทฺ ยิ  ไดแ กบ ุคคลทศุ ลี ที่ควรตาํ หนิ. ดวยบทวา ปสุ  สติ ทา นกลา วสรรเสริญในอรรถอันสูงสุดวา พระขีณาสพ. บทวาต วา นนิ ทฺ ตฺ โย ปส สิโย ความวา อีกอยา งหนึง่ กลาวโจทยพ ระขณี าสพผูที่ควรสรรเสริญ. ดว ยอนั ตมิ วัตถุ วาผูน เ้ี ปน ผทู ศุ ลี . บทวา วจิ ินาติ มุเขนโส กลึ ความวา ผนู น้ั ช่อื วา กอ ความผดิ ดวยปาก. บทวา กลนิ า เตน ความวา ยอมไมป ระสบความสขุ เพราะความผิดนน้ั . กก็ ารสรรเสรญิ ผทู คี่ วรตแิ ละการตผิ ทู ่ีควรสรรเสริญ มผี ลเทา กันแล. บทวา สพพฺ สฺสาป สหาป อตฺตนา ความวา ความปราชยั เสยีทรพั ยเพราะการพนนั ทงั้ หลาย พรอมท้ังสงิ่ ของของตนท้ังหมดก็ดี พรอ มทง้ัตนเองกด็ ี เปน ความผดิ เพียงเลก็ นอ ย. บทวา โย สคุ เตสุ ความวา กผ็ ูใดพึงมจี ติ คิดประทษุ รายในเหลาบุคคลผูปฏิบตั ดิ ี ความประทุษรายแหง จิตของผูน้นั เปน โทษมากกวา โทษในการพนันนั้น.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 166 บัดน้ี เม่ือจะแสดงความประทุษรา ยแหงจติ นั้นวามีโทษมากกวาจึงกลา วคาํ เปนตนวา สต สหสฺสาน ดังน.ี้ บรรดาเหลานน้ั บทวา สตสหสสฺ าน ไดแ กจาํ นวนแสนนิรัพพทุ ะ. [นิรัพพุทะ ๑ เทากับจาํ นวน ๑ มสี ญูตามหลงั ๖๓ ตัว ถาแสนนิรพั พุทะเปนเทาไร]. บทวา ฉตฺตสึ ติ ไดแ ก อีก๓๖ นิรัพพุทะ. บทวา ปจฺ จ ไดแ กจ าํ นวน ๕ อัพพุทะ. บทวา ยมรเิ ยครหี ความวา ในขอ ทีผตู เิ ตยี นพระอรยิ ะยอมตกนรก มอี ายุประมาณเทาน้.ี จบอรรถกถาตุทพุ รหมสตู รท่ี ๙

พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 167 ๑๐. ทตุ ิยโกกาลิกสูตร วา ดวยโกกาลกิ ภกิ ษตุ กปทุมนรก [๕๙๘] สาวัตถีนทิ าน. คร้งั นนั้ แล พระโกกาลกิ ภิกษเุ ขา ไปเฝา พระผูมีพระภาคเจาถึงทป่ี ระทบัครนั้ แลวถวายอภิวาทพระผมู พี ระภาคเจา แลวนงั่ ณ ทคี่ วรสว นขา งหน่งึ . พระโกกาลิกภกิ ษุนงั่ ณ ทีค่ วรสว นขา งหนึง่ แลว แล ไดก ราบทูลคาํ น้ีกะพระผมู พี ระภาคเจาวา พระเจา ขา พระสารบี ตุ รและพระโมคคัลลานะมีความปรารถนาลามกตกอยใู นอํานาจแหง ความปรารถนาอันลามก. [๕๙๙] เมอื่ พระโกกาลกิ ภกิ ษกุ ลาวเชน น้ีแลว พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสคาํ น้กี ะพระโกกาลกิ ภิกษวุ า โกกาลกิ กเ็ ธออยาไดกลา วเชนน้ี โกกาลิก กเ็ ธออยา ไดก ลาวเชนนี้โกกาลิก เธอจงทําจติ ใหเ ลื่อมใสในภิกษชุ ื่อวา สารีบตุ รและโมคคัลลานะ ภิกษุช่ือวา สารบี ุตรและโมคคลั ลานะเปนผมู ศี ีลเปนท่ีรัก. แมค รัง้ ท่ีสองแล พระโกกาลิกภกิ ษุกไ็ ดก ราบทูลคํานก้ี ะพระผมู พี ระภาคเจาวา พระเจา ขา บุคคลผมู วี าจาควรเช่อื ไดค วรไวใ จไดของขาพระองคจะมีอยูก็จรงิ ถงึ เชน นนั้ แล พระสารบี ุตรและพระโมคคัลลานะกย็ งั เปนผปู รารถนาลามก ตกอยูใ นอํานาจแหง ความปรารถนาลามก. แมครั้งท่สี องแล พระผมู พี ระภาคเจาไดต รสั คํานกี้ ะพระโกกาลกิ ภกิ ษุวา

พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 168 โกกาลิก กเ็ ธออยาไดก ลาวเชนนี้ โกกาลกิ กเ็ ธออยาไดกลาวเชนนี้โกกาลิก เธอจงทําจติ ใหเลื่อมใสในภิกษชุ อื่ วาสารีบตุ รและโมคคัลลานะ ภกิ ษุช่ือวา สารีบตุ รและโมคคัลลานะเปน ผูมศี ลี เปน ท่รี กั . แมค รง้ั ที่สามแล พระโกกาลกิ ภิกษกุ ็ทูลคาํ นีก้ ะพระผูมพี ระภาคเจาวาฯลฯ ตกอยใู นอํานาจแหงความปรารถนาอันลามก แมคร้งั ทส่ี ามแล พระผูม ีพระภาคเจากต็ รัสตาํ น้ีกะพระโกกาลิกภิกษวุ าฯลฯ ภกิ ษชุ ่ือวาสารีบุจรและโมคคัลลานะเปน ผมู ีศีลเปนทร่ี ัก. [๖๐๐] ลาํ ดับน้นั แล พระโกกาลกิ ภิกษลุ กุ จากอาสนะถวายอภิวาทพระผูมพี ระภาคเจา กระทาํ ประทกั ษิณหลีกไปแลว . กเ็ มื่อพระโกกาลิกภกิ ษุหลกี ไปแลว ไมน าน ยอมท้ังหลายขนาดเมลด็พนั ธผุ กั กาดไดผ ดุ ข้นึ ท่ัวกายของเธอ ยอมเหลา นนั้ ไดโ ตข้ึนเปนขนาดถว่ั เขียวแลวก็โตข้นึ เปน ขนาดถ่ัวดํา แลวก็โตข้ึนเปน ขนาดเมลด็ พดุ ทรา แลว กโ็ ตขน้ึเปนขนาดลกู พดุ ทรา แลวก็โตข้ึนเปน ขนาดผลมะชามปอม แลวก็โตขึ้นเปนขนาดผลมะตมู ออ น แลวก็โตขน้ึ เปน ขนาดผลมะตูม ตอ จากนนั้ กแ็ ตกท่ัว แลวหนองและเลอื ดหลั่งไหลออกแลว . ครั้งนั้นแล พระโกกาลกิ ภิกษไุ ดการทํากาละแลว เพราะอาพาธอนัน้ันเอง คร้นั กระทํากาลแลวก็เขาถงึ ปทมุ นรก๑ เพราะจติ อาฆาตในพระสารีบตุ รและพระโมคคัลลานะ. [๖๐๑] ครั้งนั้นแล ทา วสหมั บดีพรหม เมอื่ ราตรีปฐมยามลวงแลวมรี ศั มีงามยิ่งนกั ยังพระวิหารเชตวันทั้งสน้ิ ใหส วาง เขาไปเฝา พระผมู ีพระภาคเจาถงึ ทป่ี ระทบั ครั้นแลวถวายอภวิ าทพระผูม พี ระภาคเจา แลวไดย ืนอยู ณ ท่ีควรสวนขา งหนึ่ง.๑.ปทนุ นรก เปน สว นหน่งึ แหง มหานรกอเวจี ผทู เี่ กิดในมหานรกอเวจีสว นนี้จะตองหมกไหมอยูสน้ิ กาลปทมุ หนึง่ ปทุมนั้นเปนสงั ขยาซึ่งมีจาํ นวนสูญ ๑๒๔ สญู

พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 169 ทา วสหัมบดพี รหมยนื อยู ณ ทีค่ วรสว นขางหนงึ่ แลว แล ไดท ลู คําน้ีกะพระผมู พี ระภาคเจา วา พระเจาขา พระโกกาลิกภกิ ษุไดกระทํากาละแลว และเขา ถงึ แลว ซ่งึปทุมนรก เพราะจติ อาฆาตในพระสารบี ตุ รและพระโมคคลั ลานะ. ทา วสหมั บดีพรหมไดกลาวคาํ น้ี แลวคร้ันแลว ถวายอภิวาทพระผูมีพระภาคเจา กระทาํ ประทักษณิ แลวหายไปในที่น้นั แล. [๖๐๒] ครนั้ ลว งราตรีนน้ั แลว พระผมู ีพระภาคเจาตรัสเรยี กภิกษทุ งั้หลายวา ภิกษทุ ้ังหลาย เมือ่ คืนนท้ี าวสหัมบดีพรหมเมื่อราตรลี ว งปฐมยามไปแลว มีรัศมีงามยิง่ นกั ยังวหิ ารเชตวนั ทงั้ สิ้นใหส วา ง เขา ไปหาเราถึงท่อี ยูครั้นแลว ไหวเ ราแลวไดยนื อยู ทค่ี วรสว นขา งหนึ่ง. ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลาย ทา วสหัมบดพี รหมยืนอยู ณ ท่คี วรสวนขางหนึง่แลว แล ไดก ลาวคาํ นก้ี ะเราวา พระเจา ขา พระโกกาลิกภกิ ษไุ ดก ารทํากาละแลวเขา ถงึ แลวซึง่ ปทุมนรก เพราะจิตอาฆาตในพระสารีบุตรและพระโมค-คัลลานะ. ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย ทา วสหัมบดีพรหมไดกลาวคาํ นแ้ี ลว ครน้ั แลวไหวเ รากระทาํ ประทักษณิ แลว หายไปในทีน่ ั้นเอง. [๖๐๓] เมื่อพระผูมีพระภาคเจา ตรสั เชนนี้แลว ภิกษุรปู หนึง่ ไดท ูลคาํ นกี้ ะพระผมู ีภาคเจาวา พระเจาขา ประมาณแหง อายุในปทมุ นรกนานเทา ไรหนอ. พระผมู ีพระภาคเจาตรสั วา ดูกอ นภิกษุ ประมาณแหง อายใุ นปทมุ นรกนานแล การท่จี ะนบั วา เทา น้ปี  หรอื วา เทา น้ีรอ ยป หรือวา เทานพี้ นั ป หรอืวา เทา นแ้ี สนป ไมใชการทาํ ไดง าย.



























































พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 199 ถาเจา ยังอยูในเรือนของเรา ไมทํา ตามสง่ิ ที่เราปรารถนา ยังจะพดู อยวู า พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ ดงั น้ี เราจะเอา พระขรรคเ ลมน้ีบนั่ เจา ต้ังแตเทา จนถงึ ศรี ษะ เหมือนบน่ั หนอไม. สว นพราหมณี ผเู ปน อรยิ สาวิกา ไมมีความหวน่ั ไหวเหมือนแผนดนิไมมคี วามสะทกสะทา นเหมอื นภูเขาสเิ นร.ุ เพราะฉะนั้น นางจึงกลาวกะพราหมณน้ัน อยา งนี้วา ทา นพราหมณ ถา ทานจะตดั อวยั วะ นอ ยใหญข องเรากต็ าม เราจะไมเวน จาก ศาสนาของพระพุทธเจา ผูป ระเสริฐเลย ทานไมอาจหามเราจากพระชินเจาผทู รงคุณ อันประเสรฐิ เปน ทพ่ี ่งึ อาศยั ของเราได ดอก ทา นจะตัดหรอื จะตมเรากต็ ามทีเถดิ เรากช็ อ่ื วา เปนธิดาของพระพทุ ธเจาผู ประเสรฐิ แลว. ธนญั ชานพี ราหมณี ขูพราหมณผคู ุกคาม จงึ ไดก ลา วคาถา ๕๐๐ คาถาดวยประการฉะนี้. พราหมณไ มอาจจับตอ งหรอื ตพี ราหมณี กลาววา แมม หาจําเริญ เจาจงทําตามที่เจา ชอบใจเถดิ แลวกโ็ ยนพระขรรคไ ปบนทีน่ อน. ในวันรุงข้ึน จึงใหสรางเรอื นฉาบดวยของเขียวสด ใหป ระดับดว ยขา วตอกหมอเต็มดวยนํ้าดอกไมและของหอมเปนตนในที่น้นั ๆ แลวใหจดั ขา วปายาสมนี ้าํ นอ ยปรงุ ดว ยเนยขน เนยใสน้ําตาลกรวดและนํ้าผง้ึ แลวใหบ อกเวลาแกพราหมณ๕๐๐ คน.

พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 200 ฝายพราหมณีเองอาบน้าํ หอมแตเ ชาตรู นงุ ผา ใหมมีราคา ๑,๐๐๐ เอาผา มรี าคา ๕๐๐ เฉวียงบา ประดับดว ยเครอ่ื งประดับทกุ อยา ง ถอื ทพั พีทองอังคาสเลีย้ งดพู วกพราหมณในโรงอาหาร นอ มนาํ อาหารไปใหพราหมณน้นัผนู ง่ั ในแถวเดยี วกบั พราหมณเหลาน้ัน ลน่ื ลงท่ีกองไมที่เขาเก็บไวไ มเรยี บรอย.ทุกขเวทนาเกดิ ขน้ึ แกน าง เพราะกระแทกในการล่นื ลมลง. ขณะนน้ั นางระลกึถึงพระทศพล. แตเพราะนางสมบูรณดวยสติ นางก็ไมท ิง้ ถาดขา วปายาส คอยๆวางลงท่พี ้ืน ประคองอญั ชลเี หนือเศยี ร ในทา มกลางพราหมณ ๕๐๐ คนแลวนอมอัญชลไี ปทางพระวิหารเชตวนั จงึ ไดเปลงอุทานนี.้ กเ็ วลานน้ั บรรดาพราหมณเหลา นัน้ บางพวกบรโิ ภคเสร็จแลวบางพวกกําลงั บรโิ ภค บางพวกพอลงมือ บางพวกเพยี งวางโภชนะไวขางหนาพราหมณเ หลานนั้ พอไดย ินเสียงนัน้ เปน เสมอื นถกู ฆอนเทา ภูเขาสเิ นรฟุ าดลงบนศรี ษะ และเหมือนถูกหลาวแทงที่หู เสวยทกุ ขโทมนสั โกรธวา พวกเราถูกคนนอกลัทธิน้ี ลวงเราใหเ ขา ไปสเู รอื น จึงทงิ้ กอนขาว คายส่งิ ที่อมไวเปน เหมือนกาเหน็ ธนู พลางดา พราหมณพากนั หลกี ไปคนละทศิ คนละทาง.พราหมณเหน็ พวกพราหมณต างพากนั แยกไปอยา งนั้น มองดนู างพราหมณีตั้งแตศ รี ษะ คิดวา พวกเราเห็นภัยนี้แล จงึ ขอรองนางมหาจําเริญตง้ั แตว นั วานกไ็ มไ ด จึงดานางพราหมณีโดยประการตา ง ๆ แลวไดกลา วกะนางมีอาทวิ าเอวเมว ปน ดังน.ี้ บทวา อปุ สงกฺ มิ ความวา พราหมณไ ปดว ยคิดวา พระสมณโคดมผูอันชาวบานชาวนคิ มและชาวแวนแควนบูชาแลว ใคร ๆ ไมอ าจจะไปวา กลาวคุกคามอยา งใด ๆ ได จาํ เราจกั ถามปญ หาสกั ขอ หนงึ่ จงึ ไดแตง คาถาวา กึสุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook