พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 463 [๘๖๒] ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ก็ทา วสักกะจอมเทวดาพระองคนัน้อาศัยผลบญุ ของพระองคเปนอยู เสวยรัชสมบตั ิมีความเปน ใหญย งิ่ ดวยความเปนอิสระแหงเทวดาชั้นดาวดงึ ส จงึ พรรณนาคุณแหง ความเพยี ร คือความหม่ัน ภิกษุท้ังหลาย พวกเธอบวชแลวในธรรมวินัยอนั เรากลาวชอบแลวอยางนี้ พงึ หมน่ั เพียร พยายาม เพ่ือบรรลมุ รรคผลทีย่ ังไมบรรลุ เพอื่ ไดมรรคผลทย่ี งั ไมได เพือ่ กระทําใหแจงซงึ่ มรรคผลอันตนยงั มไิ ดทําใหแ จงขอนจี้ ะพึงงดงามในธรรมวินยั นโี้ ดยแท. อรรถกถาสุสิมสตู ร พึงทราบวนิ ิจฉยั ในสสุ ิมสตู ร ท่ี ๒ ตอไปน้ี :- บทวา สสุ ิม คอื บุตรองคหน่งึ มชี ่ืออยางนี้ ในระหวา งบตุ รพนั องคของทา วสกั กะ. จบอรรถกถาสุสิมสูตรที่ ๒ ๓. ธชัคคสตู ร อานภุ าพแหงการระลึกถึงพระรตั นตรัย [๘๖๓] สมยั หนงึ่ พระผมู ีพระภาคเจา ประทบั อยู ณ พระวหิ ารเชตวนั อารามของทา นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี กรงุ สาวตั ถี. ณ ท่ีนั้นแล พระผมู พี ระภาคเจาตรัสเรียกภิกษุท้ังหลายมาวา ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย.
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 464 ภกิ ษุเหลานั้นทูลรับพระดาํ รสั ของพระผูมีพระภาคเจา แลว. [๘๖๔] พระผูมพี ระภาคเจาตรัสพระพทุ ธพจนนีว้ า ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย เรอื่ งเคยมมี าแลว สงความระหวางเทวดากบั อสรู ประชิดกนั แลวดกู อนภิกษุท้งั หลาย ครง้ั นน้ั แล ทาวสกั กะผเู ปน จอมแหง เทวดาตรสั เรยี กเทวดาช้นั ดาวดงึ สมาสงั่ วา แนะทา นผนู ริ ทุกขทั้งหลาย หากความกลวั ก็ดีความหวาดเสยี วก็ดี ความขนพองสยองเกลา กด็ ี จะพึงเกิดข้ึนแกพวกเทวดาผูไปในสงคราม สมัยนั้น พวกทานพึงแลดยู อดธงของเราทีเดยี ว เพราะวาเมอื่ พวกทานแลดูยอดธงของเราอยู ความกลัวกด็ ี ความหวาดสะดุง ก็ดีความขนพองสยองเกลาก็ดี ท่จี ักมขี นึ้ กจ็ ักหายไป ถา พวกทานไมแลดูยอดธงของเรา ทนี ้นั พวกทานพงึ แลดยู อดธงของทา วปชาบดีเทวราชเถดิ เพราะวาเมื่อพวกทา นแลดูยอดธงของทาวปชาบดีเทวราชอยู ความกลวั กด็ ี ความหวาดสะดงุ ก็ดี ความขนพองสยองเกลาก็ดี ทจี่ กั มขี ึน้ กจ็ ักหายไป หากพวกทา นไมแ ลดยู อดธงของทา วปชาบดีเทวราช ทีนั้นพวกทา นพึงแลดูยอดธงของทา ววรณุ เทวราชเถดิ เพราะวา เมอ่ื พวกทา นแลดยู อดธงของทา ววรุณเทวราชอยูความกลวั ก็ดี ความหวาดสะดุงก็ดี ความขนพองสยองเกลากด็ ี ทีจ่ ักมขี ้นึกจ็ กั หายไป หากพวกทา นไมแ ลดยู อดธงของทาววรุณเทวราช ทีนั้นพวกทานพงึ แลดยู อดธงของทาวอสี านเทวราชเถิด เพราะวา เม่ือพวกทานแลดูยอดธงของทาวอีสานเทวราชอยู ความกลวั ก็ดี ความหวาดสะดุง ก็ดี ความขนพองสยองเกลาก็ดี ทีจ่ ักมีขึ้น ก็จักหายไป. ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย เม่อื พวกเทวดาแลดยู อดธงของทาวสักกะผเู ปนจอมแหงเทวดากด็ ี แลดูยอดธงของทาวปชาบดีเทวราชอยูกด็ ี แลดูยอดธงของทา ววรณุ เทวราชอยกู ด็ ี แลดูยอดธงของทา วอสี านเทวราชอยกู ็ดี ความกลวั กด็ ีความหวาดสะดุงก็ดี ความขนพองสยองเกลา กด็ ี ที่จกั มีขึ้น พึงหายไปไดบา ง
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 465ไมไ ดบา ง ขอ นนั้ เปนเหตแุ หง อะไร ดูกอนภิกษุท้งั หลาย เหตวุ า ทาวสกั กะผเู ปนจอมแหง เทวดา ยงั เปน ผไู มป ราศจากราคะ ไมป ราศจากโทสะไมป ราศจากโมหะ ยงั เปน ผูก ลัว หวาดสะดุง หนไี ปอยู. [๘๖๕] ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย สวนเราแลกลาวอยา งนี้วา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย หากความกลัวกด็ ี ความหวาดสะดุงก็ดี ความขนพองสยองเกลาก็ดีพึงบังเกิดแกพวกเธอผูอยใู นปากด็ ี อยทู โี่ คนไมก ็ดี อยูในเรอื นทวี่ า งเปลากด็ ีทีนั้นพวกเธอพึงตามระลกึ ถึงเราน้แี หละวา แมเพราะเหตุน้ี ๆ พระผมู ีพระ-ภาคเจาพระองคน น้ั เปน พระอรหนั ตเปน ผตู รสั รเู องโดยชอบ เปน ผูถึงพรอ มดวยวิชชาและจรณะ เสดจ็ ไปดีแลว เปน ผรู แู จงโลก เปน สารถีฝก บรุ ุษท่ีควรฝก ไมมีผอู นื่ จะยิง่ ไปกวา เปนศาสดาของเทวดาและมนุษยท ัง้ หลาย เปน ผูต่ืนแลว เปนผูจําแนกธรรม ดังนี้ ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย เพราะวา เม่อื พวกเธอตามระลกึ ถงึ เราอยู ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดุงกด็ ี ความขึน้ พองสยองเกลากด็ ี ทีจ่ ักมขี ึ้นก็จักหายไป หากพวกเธอไมต ามระลึกถึงเรา ทีนัน้ พวกเธอพงึตามระลกึ ถึงพระธรรมวา พระธรรมอันพระผูมีพระภาคเจาตรัสดีแลว บุคคลพึงเหน็ ไดเ อง ไมป ระกอบดวยกาล ควรเรียกใหม าดู ควรนอ มเขา ไปในตนอนั วิญชู นพงึ รูแจง ไดเ ฉพาะคน ดงั นี้ ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เพราะวาเมอื่ พวกเธอตามระลึกถึงพระธรรมอยู ความกลัวกด็ ี ความหวาดสะดุงกด็ ีความขนพองสยองเกลา กด็ ี ทจ่ี กั มขี ้นึ ก็จกั หายไป หากพวกเธอไมตามระลึกถึงพระธรรม ทีนน้ั พวกเธอพงึ ตามระลึกถงึ พระสงฆว า พระสงฆส าวกของพระผูมีพระภาคเจาเปน ผูปฏบิ ัตดิ ีแลว เปนผูปฏิบัติตรง เปนผปู ฏบิ ัตเิ ปน ธรรมเปนผปู ฏบิ ตั ิชอบย่ิง พระสงฆนนั้ คือใคร ไดแกค ูแหง บุรษุ สรี่ วมเปนบุรุษบคุ คลแปด นีค้ ือพระสงฆสาวกของพระผูม ีพระภาคเจา เปน ผคู วรแกส กั การะทเี่ ขานาํ มาบชู า เปนผคู วรแกของตอนรบั เปนผคู วรแกทักขิณา เปน ผูควร
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 466แกก ารทําอญั ชลี เปน บุญเขตของโลก ไมม บี ญุ เขตอ่นื ยิ่งไปกวา เพราะวาเมอื่ พวกเธอตามระลกึ ถงึ พระสงฆอ ยู ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดงุ ก็ดีความขนพองสยองเกลาก็ดี ท่ีจกั มีขน้ึ ก็จกั หายไป ขอ นนั้ เปน เพราะเหตแุ หงอะไร เพราะวา พระตถาคตอรหนั ตสัมมาสัมพุทธเจา เปนผปู ราศจากราคะปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ไมเปนผกู ลวั ไมห วาด ไมส ะดุง ไมหนีไป. [๘๖๖] พระผมู ีพระภาคเจา ผูสุคตศาสดา ครัน้ ไดตรัสไวยากรณภาษติน้จี บลงแลว จึงไดตรัสคาถาประพันธต อ ไปอกี วา ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย เธอท้ังหลายอยู ในปากด็ ี อยทู ่ีโคนไมก ด็ ี อยใู นเรอื นวา ง เปลากด็ ี พึงระลึกถงึ พระสัมพุทธเจา เถิด ความกลวั ไมพ ึงมีแกเธอท้ังหลาย ถาวา เธอ ทั้งหลายไมพ ึงระลึกถงึ พระพุทธเจา ผเู จริญ ท่สี ุดในโลก ผอู งอาจกวา นรชน ทนี ้ันเธอ ทั้งหลายพงึ ระลึกถึงพระธรรมอนั นําออก จากทกุ ข อนั พระพุทธเจา ทรงแสดงดีแลว ถาเธอทงั้ หลายไมพ ึงระลกึ ถึงพระธรรมอัน นําออกจากทุกข อันพระพุทธเจา ทรงแสดง ดแี ลว ทีนน้ั เธอทงั้ หลายพึงระลึกถึงพระ- สงฆผเู ปน บญุ เขต ไมมีบุญเขตอ่ืนยิง่ ไปกวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เม่อื เธอท้งั หลายระลกึ ถึงพระพุทธเจาพระธรรมและพระสงฆ อยางน้ี ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดุงก็ดี ความขนพองสยองเกลา กด็ ี จักไมมเี ลย.
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 467 อรรถกถาธชัคคสูตร พงึ ทราบวินิจฉัยในธชัคคสูตรที่ ๓ ตอไปนี้ :- บทวา สมุปพฺยุฬฺโห คือ ประชุมกัน รวมกันเปนกอง. บทวาธชคฺค อลุ ฺโลเกยยฺ าถ ความวา ไดยนิ วา รถของทา วสกั กะยาว ๑๕๐ โยชนตอนทา ยรถนน้ั ๕๐ โยชน ตอนกลางเปน ตวั รถ ๕๐ โยชน ตงั้ แตฝ ากถึงหัวรถ๕๐ โยชน. อาจารยบางคนขยายประมาณนั้นเปน ๒ เทา กลาววา ยาว ๓๐๐โยชนบา ง. ในรถนัน้ ปูลาดแทนนั่งไดโ ยชนหนึง่ ต้งั ฉัตรขาวขนาด ๓ โยชนไวข า งบน. ที่แอกอนั เดยี วกนั เทยี มมา อาชาไนย ๑,๐๐๐ ตวั เครอื่ งตกแตง ทเ่ี หลือไมมีประมาณ. กธ็ งของรถน้นั ยกขึน้ ๒๕๐ โยชน. ธงทถ่ี กู ลมพดั กม็ ีเสียงเจอื้ ยแจวคลายดรุ ยิ างคท ง้ั ๕ ทาวสักกะตรสั วา พวกเธอจงดธู งน้ัน. ถามวา เพราะเหตไุ ร. ตอบวา เพราะเมือ่ เทวะเห็นธงน้ัน คิดวา พระราชาของเรามายนือยูในท่ที ายบรษิ ัท เหมือนเสาทเ่ี ขาปกไว เราไมกลัวใคร ดังนี้ จึงไมกลวั .บทวา ปชาปติสฺส ความวา ไดยนิ วา ทา วปชาปตนิ ั้น มีผวิ พรรณเหมอื นกบั ทาวสักกะ มอี ายุเทา กนั ไดท ี่นง่ั ท่ี ๒. ถดั มาก็ทา ววรุณและทาวอีสาน ก็แลทาววรุณไดท น่ี ัง่ ที่ ๓ ทาวอสี านไดท นี่ ่ังท่ี ๔. บทวา ปลายิ ความวา แพพวกอสูรแลวยืนทร่ี ถนัน้ หรือเหน็ ธงแมมีประมาณนอ ยก็มคี วามหนีไปเปนธรรมดา. บทวา อิติป โส ภควา เปน ตน มีเน้อื ความพสิ ดารแลวในคมั ภรี วสิ ุทธิมรรค บทวา อิทมโวจ ความวา พระผมู ีพระภาคเจาไดตรสั ธชคั ค-ปรติ นี.้ อานุภาพของปรติ รใดยอมเปน ไปในอาณาเขต คือ ในแสนโกฏิจกั รวาล.จริงอยู บคุ คลทงั้ หลายนึกถึงปริตรนยี้ อมพน จากทุกข มียกั ขภยั และโจรภยั เปน ตน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 468ไมม ีจาํ นวนส้ินสดุ . ความสงบจากทุกขอ่นื จงยกไว. จรงิ อยู ผมู จี ติ เลอื่ มใสแลวนกึ ถงึ ปรติ รน้ยี อมไดท่ีพง่ึ แมใ นอากาศ. ในขอ นั้น มเี รือ่ งดงั น.ี้ ไดยินวา เม่อื เขากําลังฉาบปนู ขาวทท่ี ีฆวาปเจดีย ชายหนุมคนหนึง่ตกจากเชงิ เวทีชนั้ บนลงมาในโพรงพระเจดยี . ภกิ ษสุ งฆยืนอยขู างลาง จึงกลา ววา นึกถงึ ธชคั คปริตซคิ ณุ . เขาตกใจ กลวั ตาย จงึ กลาววา ธชัคคปริตรชวยผมดว ย ดังนี้. อฐิ ๒ กอนหลดุ จากโพรงเจดียตั้งเปนบันไดใหเ ขาทนั ที.คนท้งั หลายกห็ ยอ นบันไดเถาวัลยท อ่ี ยขู างบน. อฐิ ที่บนั ไดนน้ั กต็ ้ังอยูต ามเดิม. จบอรรถกถาธชัคคสูตรที่ ๓ ๔. เวปจติ ตสิ ตู ร พระพทุ ธเจา ทรงสรรเสริญขนั ตธิ รรม [๘๖๗] สมัยหนึง่ พระผมู ีพระภาคเจาประทับ อยู ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ฯลฯ [๘๖๘] พระผมู ีพระภาคเจาไดต รัสพระพุทธพจนน้ีวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย เรอื่ งเคยมีมาแลว สงความระหวา งเทวดากับอสูรประชิดกนั แลดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย คร้ังนั้นแล ทาวเวปจติ ติจอมอสูรตรัสกะพวกอสรู วาดกู อนทานผูนิรทกุ ขทงั้ หลาย ถาเม่อื สงความระหวา งเทวดากบั อสรู ประชิดกนัพวกอสูรพงึ ชนะ พวกเทวดาพึงปราชัยไซร ทานทั้งหลายพงึ มดั ทาวสกั กะจอมเทวดา ดว ยการมดั หาแหงอนั มีคอเปน ท่ี ๕ แลวพงึ นํามายงั อสูรบุรี ในสํานักของเรา ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย แมทา วสกั กะจอมเทวดากบ็ ญั ชากะเทวดา
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 469ชนั้ ดาวดงึ สทั้งหลายวา ดกู อนทา นผูน ิรทกุ ขท ้ังหลาย ถาเม่ือสงความระหวางเทวดากับอสูรประชิดกัน พวกเทวดาพงึ ชนะ พวกอสรู ถึงปราชยั ไซร ทานท้งั หลายพึงมดั ทาวเวปจติ ติจอมอสรู ดว ยการมดั หาแหงอันมคี อเปนที่ ๕ แลวพงึ นํามายังสุธรรมาสภา ในสาํ นกั ของเรา ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ลในสงความครัง้ นน้ั พวกเทวดาชนะ พวกอสูรปราชยั ครั้งนนั้ เทวดาช้นั ดาวดงึ สไ ดจ บัทา วเวปจติ ตจิ อมอสูรมัดดวยการมัดหา แหง อันมีคอเปน ท่ี ๕ แลวนาํ มายงัสุธรรมาสภา ในสํานักของทา วสักกะจอมเทวดา. [๘๖๙] ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย ไดทราบวา ในคร้งั น้ัน ทาวเวปจิตติจอมอสูรถูกมดั ดว ยการมดั หาแหงอันมคี อเปน ท่ี ๕ ไดดา บรภิ าษทาวสักกะจอมเทวดา ซงึ่ กําลังเสดจ็ เขา และออกยังสธุ รรมาสภา ดว ยวาจาอนั หยาบคายมิใชของสัตบรุ ุษ. [๘๗๐] ดกู อนภิกษุทั้งหลาย คร้ังน้นั แล มาตลีเทพบุตร ผสู งเคราะหไดทลู ถามทา วสักกะจอมเทวดาดวยคาถาวา ขาแตท าวสกั กะมฆวาฬ พระองค ไดท รงสดบั ถอ ยคาํ อันหยาบคาย เฉพาะ หนา ของทา วเวปจิตติจอมอสรู ยังทรง อดทนได เพราะความกลวั หรอื เพราะ ไมมีกําลัง พระเจาขา . [๘๗๑] ทาวสักกะตรสั ตอบวา เราอดทนถอยคําอันหยาบคายของ ทา วเวปจิตตไิ ด เพราะความกลัวหรอื เพราะไมมีกาํ ลัง กห็ าไม วญิ ชู นผเู ชน เรา ไฉนจะพึงโตต อบกับคบพาลเลา .
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 470[๘๗๒] มาตลีเทพบุตรทลู วา คนพาลไมมผี กู าํ ราบ มันยิ่งกาํ เริบ เพราะฉะน้นั ธีรชนพงึ กําราบคนพาลดว ย อาชญาอยางรนุ แรง.[๘๗๓] ทาวสักกะตรัสตอบวา ผูใดรวู า คนอื่นโกรธแลว เปนผมู สี ติ สงบระงบั ได เราเห็นวา การสงบระงบั ได ของผนู ้ันแล เปนการกาํ ราบคนพาลละ.[๘๗๔] มาตลีเทพบตุ รทูลวา ขาแตท าววาสวะ ขาพระองคเ หน็ โทษในความอดทนนแ้ี ล เมอื่ ใด คนพาล ยอ มสาํ คญั บคุ คลนั้นวา ผูน้ียอ มอดกลน้ั ตอ เราเพราะความกลวั เมอื่ นั้น คนมี ปญ ญาทรามยงิ่ ขม ขผ่ี ูน้นั เหมือนโคยิ่ง ขมขโ่ี คตวั แพทห่ี นีไป ฉะนั้น.[๘๗๕] ทา วสกั กะตรสั ตอบวา บุคคลจงสําคญั เหน็ วา ผูน ี้อดกลัน้ ตอเราเพราะความกลวั หรอื หาไมกต็ ามที ประโยชนท ัง้ หลายมีประโยชนข องตนเปน อยางยิ่ง ประโยชนย ่งิ กวา ขนั ตไิ มมี ผูใ ด แลเปน คนมกี ําลังอดกลัน้ ตอ คนผทู รุ พล ไวไ ด ความอดกลน้ั ของผูน ัน้ บณั ฑิต
พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 471 ท้ังหลายกลา ววา เปนขันตอิ ยางยิ่ง คน ทรุ พลจําตองอดทนอยเู ปนนิตย บัณฑติ ทั้งหลายกลา วกําลังของผซู ่ึงมกี ําลงั อยาง คนพาลวา มิใชก ําลัง ไมม ผี ใู ดท่จี ะกลา ว โตตอผูม ีกาํ ลังผซู งึ ธรรมคมุ ครองแลว ได เลย เพราะความโกรธนั้น โทษที่ลามก จึงมีแกผ ูทโ่ี กรธตอบตอ ผูท ่ีโกรธ บุคคลผู ไมโกรธตอบตอ ผูทโี่ กรธ ยอ มชื่อวาชนะ สงความซงึ่ เอาชนะไดยาก ผูใ ดรูวาผูอนื่ โกรธแลว เปนผูมสี ติระงบั ไวไ ด ผูนั้น ชอ่ื วา ประพฤตปิ ระโยชนแกท ง้ั สองฝา ย คือ ท้งั ฝายตนและคนอน่ื คนทไี่ มฉลาด ในธรรม ยอมสําคญั เห็นผูร ักษาประโยชน ของทง้ั สองฝาย คือ ของตนและของคน อน่ื วา เปน คนโง ดงั นี.้ [๘๗๖] ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย กท็ าวสกั กะจอมเทวดาพระองคน น้ัเขาไปอาศยั ผลบุญของพระองคเปนอยู เสวยรชั สมบตั ิมีความเปนใหญยิ่งดวยความเปนอสิ ระแหงเทวดาชัน้ ดาวดึงส ยังพรรณนาคุณของขันติ และโสรจั จะได. ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย ขอ ที่พวกเธอบวชแลว ในธรรมวนิ ยั ที่เรากลาวชอบแลวเชน น้ี เปน ผอู ดทนและสงบเสง่ยี มนี้ จะพึงงามในธรรมวินัยนโ้ี ดยแท.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 472 อรรถกถาเวปจิตตสิ ตู ร พงึ ทราบวินิจฉัยในเวปจิตติสูตรท่ี ๔ ตอ ไปน้ี :- บทวา เวปจิตตฺ ความวา ไดย นิ วา เขาเปน หวั หนา ของพวกอสรู . บทวาเยน สกั วา เปนนิบาต. บทวา น แปลวา นัน้ . บทวา กณฺ ปฺเจเมหิความวา ทมี่ ดั ๕ แหง คอื ท่มี อื ๒ ทเ่ี ทา ๒ และทค่ี อ ๑ กเ็ ครื่องมัดนัน้ ยอ มมาสคู ลองจักษุ คือ ปดกนั้ อิริยาบถเหมือนใยบวั และเหมือนใยแมลงมมุ . กถ็ กูเขามดั ดว ยเครื่องมดั เหลา นน้ั ไวดวยจิต ก็ยอมหลดุ ดวยจิต. บทวา อกโฺ กสติความวา เขายอมดาดวยอกั โกสวตั ถุ ๑๐ เหลา น้นั วา เจาเปน โจร เจาเปน พาลเจาเปนคนหลง เจา เปน อฐู เจาเปน ววั เจา เปน ลา เจาเปนสตั วนรก เจาเปนสัตวดิรจั ฉาน เจา ไมม สี ุคติ เจา หวงั แตทุคติเทา นน้ั . บทวา ปรภิ าสติ ความวากลา วคําเปน ตนเหลานี้ ขูวา ดูกอนเฒาสกั กะ ทานจกั ชนะทกุ เวลาไมไ ดเมอ่ื ใดพวกอสรู จักชนะ. เมื่อนัน้ เราจะมัดทานอยา งนีบ้ า ง จักใหนอนท่ปี ระตขู องแดนอสรู แลว ต.ี ทาวสกั กะมชี ยั ชนะแลว กใ็ มใ สใจคําของจอมอสูรนั้น. ก็แลมีการรบั ของอยา งใหญท า วสกั กะฉดุ ทห่ี วั ของจอมอสูรนนั้ เขา ไปสเู ทวสภาชอ่ืสุธัมมาและกลบั ออกมา. บทวา อชฺฌภาสิ ความวา มาตลีเทพบตุ รพิจารณาวาทาวสกั กะนี้อดทนตอ คาํ หยาบเหลา นี้ เพราะความกลวั หรอื หรือวา เพราะเปนผปู ระกอบดว ยอธิวาสนขันติ จึงทูลแลว. บทวา ทพุ พฺ เลฺยน แปลวา ดวยความออ นแอ. บทวา ปฏิส ยเุ ชแปลวา จะพึงสมคบ คือจะพึงคลุกคล.ี บทวา ปภิชฺเชยยฺ ุ แปลวา จะพึงราวราน. บาลวี า ปภุชเฺ ชยฺย บาง. บทวา ปร แปลวา ขา ศกึ . บทวาโย สโต อุปสมมฺ ติ ความวา ผใู ดมีสติเขา ไประงับ อธบิ ายวา เราเขาไป
พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 473ระงับ คือหา มคนพาลนน้ั . บทวา ยทา น มฺติ ความวา สาํ คญั โทษนัน้ เพราะเหตใุ ด. บทวา อชฺฌารูหติ แปลวา กดข่ี. บทวา โคว ภิยฺโยปลายิน ความวา พวกววั ยน ดวู ัว ๒ ตัวกําลงั ชนกันในฝูงเพยี งทต่ี ัวหนงึ่ ยังไมห นี แตเมื่อใดตวั หนึ่งหนี เมื่อนั้นพวกวัวทัง้ ปวง ก็ชว ยกนั ไลกวดวัวตัวท่ีหนนี ัน้ ยงิ่ ข้นึ ฉันใด คนโงกข็ ม ทับผูอดทน ฉันนัน้ . บทวา สทตถฺ ปรมาแปลวา มปี ระโยชนตนเปนอยา งย่ิง. บทวา ขนฺตยฺ า ภยิ โฺ ย น วิชฺชติความวา ในประโยชนท่ีมปี ระโยชนข องตนเปนอยา งย่ิงนัน้ ประโยชนทีย่ งิ่ กวาขนั ตไิ มมี. บทวา ตมาหุ ปรม ขนตฺ ึ ความวา ผใู ดมกี ําลงั ยอมอดทนไดทานกลาวขัติน้นั ของผูน้นั วา เปน อยางย่ิง. กาํ ลังทเี่ กิดจากความไมร ู ช่อืกําลงั ของคนโง. กําลงั ของคนโงน ั้น เปนกําลงั ของผใู ด กาํ ลงั นนั้ ไมเปน กําลังทานไมกลาว คือ บอกแสดงกําลงั นั้นวา เปน กําลัง. บทวา ธมมฺ คุตตฺ สสฺความวา ผอู ันธรรมรกั ษาแลว หรอื ผูรกั ษาธรรม. บทวา ปฏวิ ตฺตา แปลวาผกู ลา วโตแ ยง . หรือวา พึงกลา วโตแยงวา อยางใดอยางหนง่ึ ก็ตาม. แตวาช่อื วา ผูสามารถจะยงั ผตู ้งั อยูในธรรมไมห วัน่ ไหวไมม.ี บทวา ตสฺเสว เตนปาปโย ความวา ความช่ัวของบคุ คลน้ันยอมมี เพราะความโกรธนน้ั . ถามวาเปนความชั่วของใคร. ตอบวา ของคนผูโกรธตอบบคุ คลผูโ กรธ. บทวาตกิ จิ ฉฺ นตฺ าน เปนพหวุ จนะใชใ นเอกวจนะ. อธบิ ายวา รักษาประโยชนไวไ ด.บทวา ชนา มฺนฺติ ความวา ปุถชุ นผูโงเ ขลายอมสําคญั วา คนโงเขลานี้ยอ มสําคัญบุคคลผูแกไ ขยังประโยชน ทงั้ ๒ ฝาย คอื ของตนและของผอู ่ืนเห็นปานนี้ ใหสําเรจ็ . บทวา ธมฺมสอฺ โกวิทา ความวา ไมฉ ลาดในอริยสจั ๔.บทวา อิธ แปลวา ในศาสนานี้. บทวา โข ต เปน เพยี งนิบาต. จบอรรถกถาเวปจิตตสิ ตู รท่ี ๔
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 474 ๕. สุภาสติ ชยสูตร วา ดว ยการแขงขนั คําสุภาษิต [๘๗๗] สมัยหนง่ึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทับ อยู ณ พระวิหาร-เชตวัน อารามของทานอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรงุ สาวตั ถี ณ ทน่ี ั้นแล ฯลฯ [๘๗๘] พระผูมีพระภาคเจา ตรัสพระพุทธพจนนีว้ า ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เรอื่ งเคยมมี าแลว สงความระหวางพวกเทวดากบั อสรู ไดป ระชิดกนั แลวดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย ครั้งน้นั แล ทา วเวปจติ ตจิ อมอสูรไดต รัสกะทา วสกั กะจอมเทวดาวา แนจ อมเทวดา เราจงเอาชนะกนั ดว ยการกลาวคาํ สุภาษิตเถิด. ทา วสักกะจอมเทวดาตรสั วา แนะทา วเวปจิตติ ตกลงเราจงเอาชนะกันดว ยการกลา วคาํ สุภาษติ . ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย ครง้ั นั้นแล พวกเทวดาและพวกอสรู ไดรวมกันตง้ั ผตู ดั สนิ วา ผูตดั สนิ เหลานจี้ กั รูท่วั ถงึ คาํ สภุ าษติ คําทุพภาษิตของพวกเรา. ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ลําดับนัน้ แล ทาวเวปจติ ตจิ อมอสูรไดต รัสกะทา วสักกะจอมเทวดาวา แนะ จอมเทวดา ทานจงตรสั คาถา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลายเม่อื ทา วเวปจติ ตติ รัสเชน น้ี ทาวสักกะจอมเทวดาไดตรสั กะทาวเวปจติ ตจิ อมอสรูวา แนะ ทาวเวปจติ ติ ในเทวโลกนีท้ า นเปนเทพมากอ น ทานจงกลาวคาถาเถดิ . [๘๗๙] ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย เม่ือทาวสกั กะตรัสเชน น้ีแลว ทา วเวป-จิตตจิ อมอสรู ไดต รสั คาถานี้วา พวกคนพาลไมม ผี กู าํ ราบ มนั ยง่ิ กาํ เริบ ฉะน้นั นักปราชญผูมีปญญา พงึ กําราบคนพาลเสยี ดว ยอาญาอนั รุนแรง.
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 475 ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย เมอื่ ทา วเวปจิตติจอมอสรู ไดต รสั คาถาแลว เหลาอสรู พากนั อนุโมทนา พวกเทวดาตา งก็พากนั น่งิ ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย ลาํ ดบัน้นั แลทา วเวปจิตตจิ อมอสูรไดกลา วกะทา วสกั กะจอมเทวดาวา แนะ จอมเทวดาทานจงกลาวคาถาเถดิ . [๘๘๐] ดูกอนภิกษุทั้งหลาย เมือ่ ทาวเวปจิตติตรสั เชน น้แี ลว ทา ว-สกั กะจอมเทวดาไดตรัสคาถามนว้ี า ผูใดรวู า ผอู ืน่ โกรธแลว เปน ผมู สี ติ ระงบั ไวไ ด เราเหน็ วาการระงบั ไวไดของ ผูน ัน้ เปน การกําราบคนพาล. ดกู อนภิกษุท้งั หลาย ก็เม่อื ทาวสักกะจอมเทวดาไดภ าษิตคาถาแลว พวกเทวดาพากนั อนโุ มทนา เหลาอสรู ตางกน็ ิ่ง ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ลาํ ดับนัน้ แลทา วสกั กะจอมเทวดาตรัสกะทา วเวปจิตติจอมอสูรวา ดกู อนทาวเวปจิตติ ทานจงตรัสคาถาเถดิ . [๘๘๑] ดกู อ นภิกษุทงั้ หลาย เมื่อทาวสกั กะตรัสเชน นี้ ทาวเวปจติ ติจอมอสรู ไดต รสั คาถานีว้ า ดกู อ นทาววาสวะ เราเห็นโทษของ การอดกลั้นนี้แหละ เพราะวาเม่ือใดคน พาลสาํ คญั เหน็ ผนู น้ั วา ผูนอ้ี ดกลั้นตอเรา เพราะความกลัว เมื่อน้ัน คนพาลผูทราม ปญญายิ่งขมขีผ่ นู ั้นเหมอื นโคยิ่งขมขโี่ คตวั แพท ่หี นีไป ฉะนน้ั . ดกู อนภิกษุทั้งหลาย เม่อื ทาวเวปจิตตจิ อมอสรู ภาษติ คาถาแลว เหลาอสรู พากันอนุโมทนา พวกเทวดาตางก็นิ่ง ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย ลําดับนัน้ แลทาวเวปจิตติจอมอสูรไดต รสั กะทา วสักกะจอมเทวดาวา แนะจอมเทวดา ทานจงตรัสคาถาเถดิ .
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 476 [๘๘๒] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย เมื่อทา วเวปจิตตจิ อมอสูรตรัสเชนน้ีทาวสกั กะจอมเทวดาไดต รัสคาถาเหลา นนั้ วา บคุ คลจงสําคญั เหน็ วา ผนู ี้อดกลัน้ ตอเราเพราะความกลวั หรอื หาไมก ็ตามที ประโยชนท ัง้ หลายมปี ระโยชนของตนเปน อยา งยงิ่ ประโยชนย ่ิงกวา ขนั ติไมม ี ผูใด แลเปน คนมกี าํ ลังอดกล้นั ตอคนทุรพลไว ได ความอดกลนั้ ไวไ ดข องผนู ้ันบัณฑิตท้งั หลายกลา ววา เปนขนั ตอิ ยางยง่ิ คนทรุ พล ยอ มอดทนอยูเปน นติ ย บณั ฑิตท้งั หลาย เรียกกําลงั ของผทู ี่มกี าํ ลังอยางคนพาลวา มิ ใชกําลงั ไมมีผใู ดท่ีจะกลาวโตตอ ผทู ่มี ี กาํ ลังอันธรรมคมุ ครองแลว ไดเ ลย เพราะ ความโกรธนน้ั โทษอนั ลามกจึงมแี กผูท่ี โกรธตอบผูท่ีโกรธแลว บคุ คลผไู มโ กรธ ตอบผทู ่โี กรธแลว ยอมช่ือวาชนะสงคราม ซง่ึ เอาชนะไดย าก ผใู ดรูวา ผูอ่ืนโกรธ แลว เปน ผูมีสตริ ะงับไวไ ด ผูนนั้ ชอื่ วา ประพฤตปิ ระโยชนแ กท ้ังสองฝาย คอื ทง้ั ฝายตนและคนอื่น คนผทู ่ีไมฉ ลาดในธรรม ยอมสําคญั เห็นผูท ่ีรกั ษาประโยชนของทง้ั สองฝา ย คือ ของตนและคนอนื่ วาเปน คนโง ดังน.ี้
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 477 ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย เม่ือทา วสกั กะจอมเทวดาไดภาษิตคาถาเหลา น้ี แลวพวกเทวดาพากันอนุโมทนา เหลาอสรู ตางกน็ ่งิ . [๘๘๓] ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ครั้งน้ันแล ผูตัดสินทั้งของพวกเทวดาและพวกอสูรไดกลาวคํานว้ี า ทา วเวปจติ ตจิ อมอสรู ไดตรัสคาถาทง้ั หลายแลวแลแตคาถาเหลานั้นมีความเกีย่ วเกาะดวยอาชญา มีความเก่ยี วเกาะดวยศาสตราเพราะเหตุเชน นี้ จึงมคี วามหมายมั่น ความแกงแยง ความทะเลาะวิวาท ทา วสกั กะจอมเทวดาไดต รัสคาถาทั้งหลายแลวแล ก็คาถาเหลา นนั้ ไมเกีย่ วเกาะดวยอาชญา ไมเกี่ยวเกาะดวยศาสตรา เพราะเหตเุ ชน นี้ จึงมีความไมห มายมนั่ความไมแ กงแยง ความไมท ะเลาะววิ าท ทาวสกั กะจอมเทวดาชนะเพราะไดตรสัคาํ สุภาษติ . ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ชัยชนะดวยการกลาวคาํ สุภาษิตไดเ ปน ของทา วสักกะจอมเทวดาดว ยประการฉะนแ้ี ล. อรรถกถาสุภาสิตชยสูตร พึงทราบวินจิ ฉัยในสภุ าสติ ชยสตู รท่ี ๕ ตอไปน้ี :- บทวา อสุรนิ ทฺ เอตทโวจ ความวา ไดก ลา วคาํ นี้ ดว ยความเปนผฉู ลาด. ไดย นิ วา จอมอสรู นั้นไดม คี วามคดิ อยางนว้ี า การกลาวแกก ารถือของผูอน่ื กอ น เปน การหนัก แตก ารกลาวคลอยตามคําของผูอื่นในภายหลัง สบาย.บทวา ปุพฺพเทวา ความวา ผอู ยูม านานในเทวโลก ยอ มเปนเจาของกอ น.อธิบายวา ทานทงั้ หลายจงกลาวคําทมี่ าตามประเพณีของทา นกอน. บทวาอทณฺฑาวจรา ความวา เวนจากการถือตะบอง. อธบิ ายวา ไมมี เชนในคาํ นวี้ า พึงถอื ตะบองหรอื มดี . จบอรรถกถาสภุ าสิตชยสูตรท่ี ๕.
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 478 ๖. กุลาวกสตู ร ทา วสักกะชนะอสูรโดยชอบธรรม [๘๘๔] สาวัตถนี ิทาน. ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย เรอ่ื งเคยมมี าแลว สงความระหวา งพวกเทวดาและอสรู ไดประชดิ กนั แลว ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย ก็ในสงความคราวนน้ั พวกอสรู เปนฝา ยมีชัย พวกเทวดาเปนฝา ยปราชัย ดูกอนภิกษุท้งั หลาย พวกเทวดาผูพ า ยแพตางพากนั หนีไปทางทศิ อดุ ร พวกอสรู ไดชวนกนั ไลพ วกเทวดาเหลานั้นไปแลว. [๘๘๕] ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย คร้ังนัน้ แล ทาวสกั กะจอมเทวดาไดตรสั กะมาตลีสงั คาหกเทพบุตรดวยคาถาวา ดกู อ นมา เธอจงหลกี เลย่ี งรงั นก ในปาไมง ้ิว โดยบายหนา งอนรถกลบั ถงึ เราจะตอ งเสยี สละชวี ิตในพวกอสูรกต็ ามที นกเหลา นีอ้ ยาไดปราศจากรงั เสยี เลย. ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบตุ รรับพระดํารัสของทา วสกั กะจอมเทวดาวา ขอความเจริญจงมีแดพ ระองค ดงั นแ้ี ลว ใหรถซ่งึ เทยี มดวยมาอาชาไนยพนั ตัวหันหลังกลบั . [๘๘๖] ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ครง้ั น้ันแล พวกอสูรคดิ วา บดั นรี้ ถซึง่ เทียมดวยมาอาชาไนยพนั ตวั ของทาวสกั กะจอมเทวดาหนั กลับมาแลว พวกเทวดาจักทําสงความกบั พวกอสูรแมเ ปนครง้ั ทีส่ องแล พวกอสรู ตา งตกใจกลบัเขา ไปสูอสูรบรุ ี ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ชยั ชนะโดยธรรมแท ๆ ไดเปน ของทา ว-สักกะจอมเทวดาแลว ดวยประการฉะน้แี ล.
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 479 อรรถกถากลุ าวกสูตร พึงทราบวนิ ิจฉัยในกลุ าวกสูตร ที่ ๖ ตอไปนี้ :- บทวา อชฌฺ ภาสิ ความวา ไดยนิ วา เสยี งรถ เสียงมาอาชาไนยเสียงธง เหมอื นเสียงฟาผา รอบดานมแี กทาวสักกะผูบายหนา เขาปา ไมง ว้ิ นั้นพวกครฑุ ผูมกี ําลังในปา งิว้ นน้ั ไดยนิ เสียงนนั้ แลว กพ็ ากันหนี พวกครุฑท่ีแกเฒา ทหี่ มดแรงเพราะโรค และลูกนกท่ยี ังไมเ กิดขนปก ไมอาจจะหนไี ดกลวั ตายตกใจรองกนั ระเบ็งเซง็ แซ. ทาวสกั กะไดย นิ เสียงน้ันแลว จงึ ตรสั ถามสารถมี าตลีวา เสียงอะไรพอ . สารถีมาตลีกราบทลู วา ขา แตเทวะ พวกครฑุไดยินเสียงรถของพระองค ไมอ าจจะหนีไดจ ึงรอง. ทา วสกั กะไดฟงคํานั้นแลวมพี ระทัยประกอบดวยพระกรณุ า จงึ ตรัส. บทวา อสี ามเุ ขน คอื ทางงอนของรถ. รถจะไมบ ดขยีร้ งั นกทางงอน ฉนั ใด ทานจงหลกี รังนกน้นั ดวยทางงอนรถ ฉันนัน้ . เพราะวา รถท่ีเกิดดว ยบญุ เปน ปจ จยั มุง หนาไปทีภ่ เู ขาจกั รวาลกด็ ี ท่ีภเู ขาสเิ นรกุ ด็ ี ยอมไมขดัขอ ง ยอ มไปดวยอาํ นาจการไปในอากาศ. ถา จะพึงไปทางปางวิ้ นน้ั เม่อื เกวยี นใหญไปกลางปางาก็ดี กลางปาลุหุงก็ดี ปา ทัง้ หมดก็ถูกเหยยี บยาํ่ แหลกฉนั ใดแมป างิว้ นัน้ กพ็ ึงเปน ฉันน้ัน. จบอรรถกถกุลาวกสตู รที่ ๖
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 480 ๗. นทพุ ภิยสตู ร วา ดว ยการไมค วรประทษุ รา ย [๘๘๗] สาวัตถนี ิทาน. ดูกอนภิกษุท้งั หลาย เรอื่ งเคยมมี าแลว ทาวสักกะจอมเทวดาผหู ลีกเรนออกอยูใ นที่ลบั ไดเกดิ ความตรึกนึกคิดขน้ึ วา เราไมค วรประทษุ รา ยเเมแ กผทู เี่ ปนขาศกึ ตอเรา ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย ครงั้ นั้นแล ทาวเวปจิตติจอมอสรู ไดทราบความดาํ ริของทา วสักกะจอมเทวดาดวยใจของตนแลว เขาไปหาทา วสกั กะจอมเทวดาจนถึงท่ปี ระทับ . [๘๘๘] ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ทา วสักกะจอมเทวดาไดทอดพระเนตรเหน็ ทาวเวปจิตตจิ อมอสรู ผมู าแตไกลทเี ดียว ครน้ั แลว จึงตรสั กะทา วเวปจิตติจอมอสรู วา หยดุ เถอะ ทา นทาวเวปจติ ติ ทานถูกจับเสยี แลว . ทา วเวปจิตติตรสั ถามวา แนะทานผนู ริ ทกุ ข ทา นละทิง้ ความคดิเมือ่ กอ นของทา นเสยี แลวหรอื . ทาวสักกะตรัสวา ทาวเวปจิตติ ก็ทานจงสาบานเพ่อื ทจ่ี ะไมประทษุ รา ยตอ เรา. [๘๘๙] ทา วเวปจติ ติตรสั คาถาวา แนะ ทา วสชุ ัมบดี บาปของคนพดู เท็จ บาปของคนผตู เิ ตียนพระอริยะเจา บาป ของคนผูประทุษรา ยตอมิตร และบาปของ คนอกตญั ู จงถกู ตอ งผูท ่ีประทุษราย ตอทา น.
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 481 อรรถกถานทพุ ภยิ สตู ร พึงทราบวินิจฉยั ในนทพุ ภิยสูตรที่ ๗ ตอ ไปน้ี :- บทวา อุปสงกฺ มิ ความวา ทาวสกั กะนดี้ ําริวา เราไมค วรประทุษรา ยแมแกผเู ปน ขาศกึ ตอ เรา. คิดตอ ไปวา ชือ่ วา ผูทเ่ี ปนขาศึกตอ ทา วเวปจิตตนิ ั้นนอกจากเราไมมี เราจักทดลองดทู า วเวปจิตตินั้นกอน เขาเหน็ เราแลวจะประทุษรา ย หรอื ไมประทุษราย จงึ เขาไปหา. บทวา ติฏ เวปจิตฺติคหิโตสิ ความวา ทา วสกั กะตรัสรา ดกู อ นทา วเวปจติ ติ ทา นจงหยุด ณท่นี ้ีเถิด ทา นถกู เราจบั แลว . พรอมกับดาํ รสั ของทา วสกั กะนั้น ทา วเวปจิตติกถ็ ูกผูกมัด โดยผูกมัดมคี อเปน ท่ี ๕. บทวา สปสฺสุ จ เม ความวาทาวสกั กะตรัสวา ทา วเวปจติ ติ ทา นจงสาบานเพอ่ื ท่ีจะไมป ระทษุ รา ยในเรา.บทวา ย มุสา ภณโต ปาป ความวา ทา นกลา วหมายถึงบาปของพระเจาเจตยิ ราชในปฐมกปั ในกัปน.้ี บทวา อริยปู วาทิโน ไดแ ก บาปดจุ บาปของภกิ ษโุ กกาลิกะ. บทวา มิตตฺ ทฺทโุ น จ ย ปาป ไดแกบ าปของผูมีจิตประทุษรา ยในพระมหาสัตว ในมหากปช าดก. บทวา อกตฺุโน ไดแกบาปของคนอกตัญู เชนเทวทัต. นยั วา ในกัปนี้ มี ๔ มหากัป. จบอรรถกถานทพุ ภิยสูตรที่ ๗.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 482 ๘. วิโรจนอสุรินทสูตร จอมอสรู กับทา วสกั กะแสดงคําสุภาษติ [๘๙๐] สมัยหนึ่ง พระผมู ีพระภาคเจา ประทับ อยู ณ พระวิหารเชตวนัอารามของทา นอนาถบณิ ฑิกเศรษฐี กรงุ สาวตั ถี สมัยนั้นแล พระผูมพี ระภาคเจากาํ ลังเสด็จเขาทพี่ ักกลางวนั ครั้งน้นั แล ทาวสกั กะจอมเทวดากบั ทาววโิ รจนะ-จอมอสูร เขา ไปเฝา พระผูม พี ระภาคเจา ไดยนื พงิ บานพระทวารองคล ะขาง. [๘๙๑] ลําดับน้ันเเล ทา ววโิ รจนะจอมอสูรไดตรสั คาถาน้ี ในสาํ นกัของพระผมู พี ระภาคเจาวา เปน ชายควรพยายามไปจนกวา ประ- โยชนส ําเรจ็ ประโยชนงดงามอยูท่คี วาม สําเร็จ น้ีเปน ถอ ยคําของวโิ รจนะ. [๘๙๒] ทา วสักกะจอมเทวดาตรัสวา เปนชายควรพยายามไปจนกวา ประ- โยชนส ําเร็จ ประโยชนท ง้ั หลายงดงามอยู ที่ความสําเร็จ ประโยชนย ิง่ กวา ขันติไมมี. [๘๙๓] ทา ววโิ รจนะจอมอสูรตรสั วา สรรพสตั วย อ มเกดิ ความตองการใน สง่ิ น้นั ๆ ตามควร สวนการบริโภคของ สรรพสัตวมกี ารปรงุ ประกอบเปนอยางยง่ิ ประโยชนท ้งั หลายงดงามอยูทค่ี วามสาํ เรจ็ นเ้ี ปนถอ ยคาํ ของวิโรจนะ.
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 483 [๘๙๔] ทาวสักกะจอมเทวดาตรัสวา สรรพสตั วย อมเกิดความตอ งการใน ส่งิ นั้น ๆ ตามควร สว นการบริโภคของ สรรพสตั ว มีการปรุงประกอบเปนอยางยงิ่ ประโยชนทงั้ หลายงดงามอยูท่คี วามสาํ เร็จ ประโยชนย ิ่งกวาขนั ติไมม .ี อรรถกถาวิโรจนอสุรนิ ทสูตร พงึ ทราบวนิ ิจฉัยในวโิ รจนอสรุ นิ ทสตู รที่ ๘ ตอ ไปนี้ :- บทวา อฏ สุ ไดแ ก ยนื ดจุ รูปคนเฝา ประต.ู บทวา นิปปฺ ทาเเปลวา ความสําเร็จ. ทา นอธบิ ายวา เปน ชายควรพยายามไปจนกวาประโยชนจะสาํ เรจ็ ทเี ดยี ว. คาถาท่ี ๒ เปน ของทาวสักกะ. ในบทเหลานัน้ บทวาขนตฺ ยฺ า ภยิ ฺโย ความวา บรรดาประโยชนท ัง้ หลายงามอยูท่ีความสาํ เร็จไมมีประโยชนย่งิ กวาขนั ติ. บทวา อตถฺ ชาตา ไดแ ก มกี จิ เกดิ แลว.จรงิ อยู ข้นึ ชอื่ วา สตั ว ท่ีไมมกี จิ เกดิ แลว แมกระทงั่ สุนัขบา นและสุนัขจงิ้ จอกเปนตน ยอ มไมม.ี แมเ พียงเดนิ ไปขางน้ี ขางโนน กเ็ ปนกิจเหมอื นกัน .บทวา ส โยคปรมาเตวฺ ว สมโฺ ภคา สพพฺ ปาณิน แปลวา การบริโภคของสัตวท ง้ั ปวงมกี ารปรงุ เปน อยา งย่ิง อธบิ ายวา เพราะขา วคา งคืนเปน ตนไมค วรบริโภค. แตข า วเหลา น้นั อุนใหรอน กระจายออกปรุงดว ยเนยใส
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 484นา้ํ ผึ้งน้าํ ออยเปน ตน เปน ของควรบริโภค. ดวยเหตนุ น้ั ทานจึงกลาววาส โยคปรมาเตวฺ ว สมโฺ ภคา สพพฺ ปาณิน ดงั นี้ . บทวา นปิ ฺผนฺนโสภิโนอตฺถา ความวา ชอื่ วาประโยชนเ หลา นสี้ าํ เร็จเเลว จึงงาม. คาถาที่ ๔ก็เปน ของทา วสักกะอีก แมใ นคาถาที่ ๔ น้ัน พึงทราบความโดยนัยท่กี ลาวแลว . จบอรรถกถาวดิ รจนอสุรินทสูตรที่ ๘ ๙. อารญั ญกสตู ร วา ดวยกลน่ิ ของผูมีศีล [๘๙๕] สาวตั ถีนิทาน. ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย เร่อื งเคยมมี าแลว ฤาษีผูมีศลี มีกลั ยาณธรรมมากรูปดว ยกนั อาศัยอยูใ นกฎุ ที ่ีมุงบงั ดวยใบไม ในราวปา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลายครัง้ นั้นแล ทาวสักกะจอมเทวดากับทาวเวปจิตตจิ อมอสรู เขาไปหาฤาษีผูมีศลีมกี ัลยาณธรรมเหลานั้นถึงทอ่ี ยู. [๘๙๖] ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย คร้ังนน้ั แล ทา วเวปจติ ตจิ อมอสูรสวมรองเทาหนาหลายช้นั สะพายดาบ มีผูก น้ั รม ให เขา ไปสูอาศรมทางทวารอันเลิศ เขาไปใกลฤาษผี มู ศี ีลมีกลั ยาณธรรมเหลาน้นั หางไมถงึ วา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย คร้งั นน้ั แลทาวสกั กะจอมเทวดาทรงถอดฉลองพระบาท ประทานพระขรรค ใหแกผ อู ่นื รับสัง่ ใหล ดฉัตร เสด็จเขา ไปทางอาศรมโดยทางทวารเขาประทับยืน ประคองอัญชลนี มัสการฤาษผี ูมีศลี มีกัลยาณธรรมเหลา นัน้ อยใู ตลม. [๘๙๗] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย ลาํ ดับนั้น แลฤาษผี ูม ีศลี มกี ัลยาณธรรมเหลานน้ั ไดกลาวกะทาวสักกะจอมเทวดาดวยคาถาวา
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 485 กลิน่ ของพวกฤาษผี ูประพฤติพรตมา นาน ยอมจะฟงุ จากกายไปตามลม ดูกอ น ทา วสหสั นัยน พระองคจ งถอยไปเสียจาก ทีน่ ี้ ดกู อ นทา วเทวราช กลิ่นของพวก ฤาษไี มส ะอาด. [๘๙๘] ทาวสกั กะตรัสตอบวา กลิ่นของพวกฤาษีผูป ระพฤตพิ รต มานาน ยอมจะฟงุ จากกายไปตามลม ทา นเจาขา พวกขา พเจาตางก็มงุ หวังกลิ่น นเ้ี หมอื นกบั บคุ คลนุง หวังระเบยี บดอกไม อนั วิจิตร งดงาม บนศีรษะ ฉะนนั้ ก็พวกเทวดาหามคี วามสําคญั ในกล่ินของ ผมู ศี ีลนว้ี า เปน กล่ินปฏิกูลไม. อรรถกถาอารญั ญกสูตร พงึ ทราบวินจิ ฉยั ในอารญั ญกสตู รที่ ๙ ตอไปนี้ :- บทวา ปณฺณกฏุ ีสุ สมมฺ นฺติ ความวา ฤาษีทงั้ หลายอาศัยอยู ในบรรณศาลา สมบรู ณด วยทพี่ กั กลางคนื ทพี่ กั กลางวนั และท่จี งกรมเปน ตนในราวปา อนั นารนื่ รมยใ นหมิ วนั ตประเทศ. เทพทงั้ สองเหลาน้นั คอื ทา วสักกะจอมเทพและทา วเวปจิตตเิ ปนลกู เขยพอตากัน บางคร้ังก็ทะเลาะกนั บางคร้งั ก็เที่ยวไปดว ยกัน แตใ นครั้งนีเ้ ทยี่ วไปดวยกนั . บทวา อฏลโิ ย ไดแก รองเทา
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 486หนาหลายชน้ั . บทวา ขคฺค โอลคฺเคตวฺ า ไดแก สะพายดาบ. บทวาฉตเฺ ตน ไดแ ก กั้นเศวตฉตั รทพิ ยไวเบื้องสูง. บทวา อปพยฺ ามโต กริตวฺ าแปลวา หางไมถงึ วา. บทวา จิรทกฺขิตาน แปลวา ประพฤติพรตมานาน.ฤาษีทงั้ หลายกลา ววา ทา นจงถอยไปเสียจากนี้ จงเวน เสยี จากทน่ี ้ี อยายนื เหนือลม. บทวา น เหตฺถ เทวา ความวา พวกเทวดาหามคี วามสําคัญในกลิ่นของผูม ีศลี น้ีวา ปฏิกูลไม. ทานแสดงไววา กพ็ วกเทวดามคี วามสําคัญในกลน่ิของผมู ีศีลวา นาปรารถนา นาใคร นา ชอบใจท้งั นั้น. จบอรรถกถาอารญั ยกสูตรที่ ๙ ๑๐. สมุททกสูตร วา ดว ยทาวสมพรจอมอสรู ถูกสาป [๘๙๙] สมยั หน่งึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทับอยู พระวิหารเชตวันอารามของทา นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี กรุงสาวตั ถี ณ ทีน่ ัน้ แล ฯลฯ [๙๐๐] พระผูม ีพระภาคเจา ไดตรสั พระพุทธพจนน ี้วา ดกู อนภิกษทุ งั้หลาย เร่ืองเคยมมี าแลว ฤาษีผมู ศี ีลมกี ัลยาณธรรมมากรปู ดวยกนั อาศัยอยใู นกุฏีท่ีมงุ บงั ดวยใบไมแ ทบฝงสมุทร ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย สมยั น้ันแล สงครามระหวางพวกเทวดากับ อสูรไดประชดิ กันแลว ดกู อนภิกษุท้งั หลาย ครัง้ น้ันแลพวกฤาษีผูมีศีลมีกลั ยาณธรรมเหลา นัน้ พากนั คดิ เห็นวา พวกเทวดาตัง้ อยูในธรรม พวกอสรู ไมต้ังอยูใ นธรรม ภยั นนั้ พึงเกิดแกพวกเราเพราะอสูรโดยแทอยา กระน้ันเลย พวกเราควรเขาไปหาทา วสมพรจอมอสรู แลวขออภยั ทานเถิด.
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 487 [๙๐๑] ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย ครัง้ นน้ั แล ฤาษีผูม ศี ีลมีกลั ยาณธรรมเหลา นน้ั ไดอ นั ตรธานไปในบรรณกุฎีแทบฝงสมุทร ไปปรากฏอยตู รงหนาทาวสมพรจอมอสูรเหมอื นบรุ ษุ มีกําลังเหยยี ดแขนทค่ี ู หรอื คแู ขนที่เหยียด ฉะน้นัดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย ลาํ ดับนั้น พวกฤาษีผูม ีศลี มกี ลั ยาณธรรมเหลา น้ัน ไดกลาวกะทา วสมพรจอมอสูรดวยคาถาวา พวกฤาษีมาขออภัยทานกะทา วสมพร การใหภ ยั หรอื ใหอภยั ทานกระทาํ ได โดยแต. [๙๐๒] ทาวสมพรจอมอสรู ไดกลา วตอบวา การอภัยไมมแี กพ วกฤาษี ผูชว่ั ชา คบ หาทา วสักกะ เราใหเ ฉพาะแตภ ัยเทานน้ั แกพ วกทา นผูข ออภัย. [๙๐๓] พวกฤาษีกลา ววา ทา นใหเฉพาะแตภยั เทา นนั้ แกพ วก เราผูข ออภัย พวกเราขอรับเอาแตอภัย อยา งเดียว สวนภัยจงเปนของทานเถิด บคุ คลหวา นพชื เชนใดยอมไดผ ลเชนนั้น คนทําดยี อมไดดี ทําชั่วกย็ อ มไดช ัว่ แนะ พอ ทานหวา นพชื ลงไปไวแลว ทานจกั ตองเสวยผลของมัน.
พระสุตตันตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 488 ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย ครัง้ นั้นแล ฤาษผี มู ศี ีลมีกัลยาณธรรมเหลา นน้ั ไดสาปแชงทาวสมพรจอมอสูร แลวอันตรธานหายไปในทต่ี รงหนา ทา วสมพรจอมอสูรแลว ไปปรากฏอยใู นบรรณกฎุ ีแทบฝงสมุทร เปรียบเหมอื นบุรุษมกี าํ ลังเหยียดแขนท่ีคู หรอื คูแ ขนที่เหยยี ด ฉะนัน้ . [๙๐๔] ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ครั้งน้ันแล ทา วสมพรจอมอสูรถกู ฤาษีผมู ีศลี มีกัลยาณธรรมเหลานนั้ สาปแชง แลว ไดยนิ วา ในคนื วนั นนั้ ตกใจหวาดหวั่นถึงสามครงั้ . จบสมุททกสตู ร จบวรรคที่ ๑ อรรถกถาสมทุ ทกสตู ร พงึ ทราบวินิจฉยั ในสมตุ ตกสูตรท่ี ๑๐ ตอไปน้ี :- บทวา สมุททฺ ตีเร ปณฺณกฏุ สี ุ ความวา พวกฤาษีอาศัยอยใู นบรรณศาลา มปี ระการดงั กลาวแลว บนหาดทราย มสี ีเหมอื นแผนเงนิ หลังมหา-สมทุ รในจกั รวาล. บทวา สยิ าป น แกเปน สสิ ยาป อมหฺ าก แปลวาแมพึงมแี กพวกเรา บทวา อภยทกขฺ ิณ ยาเจยยฺ าม ไดแ ก พึงขออภัยทาน.นยั วา สงความระหวา งเทวดาและอสูร โดยมากมีขน้ึ ทหี่ ลังมหาสมุทร. ชยั ชนะมิไดมแี กพวกอสรู ในทุกเวลา. พวกอสูรเปนฝายแพเสยี หลายคร้ัง. พวกอสรู เหลานัน้ แพเ ทวดาแลวพากันหนไี ปทางอาศรมบทของพวกฤาษี โกรธวา ทา วสักกะ ปรึกษากบั พวกฤาษเี หลาน้ี ทาํ เราใหพ นิ าศ โดยพวกทานจบั ทัง้ แมท ้ังลูก. พวกอสรู จงึ พากนั ทาํ ลายหมอน้ําดม่ื และศาลาทีจ่ งกรมเปน ตนในอาศรมบทนัน้ . พวกฤาษถี ืออาผลาจากปากลับมาเห็นชวยกนั ทํา
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 489ใหเ หมือนเดิมดวยความลําบากอีก. แมพวกอสรู เหลา นัน้ ก็ทาํ ใหพนิ าศอยางน้นับอย ๆ. เพราะฉะนัน้ พวกฤาษสี ดบั วา บัดน้ี สงความระหวางเทวดาและอสรู ปรากฏข้นึ ดังน้ี จงึ คิดอยา งนนั้ . บทวา กาม กโร ไดแก กระทาํ ตามความปรารถนา. บทวา ภยสสฺ อภยสสฺ วา แกเปน ภย วา อภย วาแปลวา ภัย หรือ อภยั . ทานอธบิ ายขอ นีไ้ ววา หากทานประสงคจ ะใหอ ภยั ก็พอใหอภัยได หากทา นประสงคจะใหภ ัยก็พอจะใหภ ัยได แตสาํ หรับพวกอาตมาทานจงใหอภยั ทานเถดิ ดงั น.้ี บทวา ทุฏาน แปลวา ผูป ระทษุ รา ยแลว คอืผูโกรธแลว . บทวา ปวตุ ตฺ คอื อนั เขาหวานไวในนา. บทวา ติกขฺ ตฺตุอุพฺพิชฺชติ ความวา จอมอสูรบรโิ ภคภัตรในตอนเย็นแลว ขึ้นทนี่ อน นอนพอจะงีบหลบั ก็ลกุ ขนึ้ ยนื รองไปรอบ ๆ. เหมือนถูกหอกรอยเลม ทม่ิ แทง. ภพอสรูหน่งึ หมื่นโยชนถึงความปนปว นวา นีอ่ ะไรกัน. ลําดบั นน้ั พวกอสูรพากนั มาถามจอมอสูร นีอ่ ะไรกนั . จอมอสูรไมพดู อะไรเลย. แมใ นยามที่สองเปนตนก็มีนัยนแี้ ล. ดวยประการฉะน้ี เมอ่ื พวกอสรู พากันปลอบจอมอสรู วา อยากลัวเลยมหาราชดงั น้ี จนอรณุ ขน้ึ . ต้งั แตน้ันมา จอมอสรู ก็มใี จหว่นั ไหวเกิดอาการไขดว ยประการฉะน.ี้ ดว ยเหตุนั้นนน่ั แล จอมอสูรนัน้ จึงเกิดชื่ออีกอยางหนงึ่ วาเวปจติ ต.ิ จบ อรรถกถาสมุททกสตู รท่ี ๑๐ จบ วรรคที่ ๑ รวมพระสตู รแหงสกั กสงั ยุตมี ๑๐ สูตร คอื ๑. สุวีรสูตร ๒. สุสิมสตู ร ๓. ธชัคคสูตร ๔. เวปจติ ตสิ ตู ร๕. สภุ าสิตชยสตู ร ๖. กลุ าวกสตู ร ๗. นทุพภยิ สตู ร ๘. วโิ รจนอสรุ ินท-สูตร ๙. อารญั ญกสตู ร ๑๐. สมทุ ทกสูตร พรอมท้งั อรรถกถา
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 490 ทุติยวรรคท่ี ๒ ๑. ปฐมเทวสตู ร วา ดว ยวัตรบท ๗ [๙๐๕] สมยั หน่งึ พระผมู พี ระภาคเจาประทบั อยู ณ พระวิหารเชตวนัอารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรงุ สาวัตถี ในกาลครง้ั นนั้ แล ฯลฯ [๙๐๖] พระผมู พี ระภาคเจาไดต รัสพระพุทธพจนนีว้ า ดูกอ นภกิ ษทุ งั้หลาย ทา วสักกะจอมเทพเมื่อยงั เปนมนษุ ยอยูในกาลกอน ไดส มาทานวัตรบท๗ ประการบรบิ รู ณ เพราะเปน ผสู มาทานวตั รบท ๗ ประการ จงึ ไดถึงความเปน ทา วสกั กะ วตั รบท ๗ ประการ เปนไฉน คอื เราพงึ เล้ยี งมารดาบดิ าจนตลอดชวี ติ ๑ เราพงึ ประพฤติออ นนอ มตอ ผใู หญในตระกูลจนตลอดชวี ติ ๑ เราพงึ พูดวาจาออนหวานตลอดชีวิต ๑ เราไมพึงพดู วาจาสอ เสียดตลอดชีวติ ๑ เราพึงมใี จปราศจากความตระหนอ่ี นั เปนมลทินอยูครองเรอื น มกี ารบริจาคอันปลอ ยแลวมฝี า มืออันชุมยนิ ดใี นการสละ ควรแกการขอ ยนิ ดใี นการแจกจา ยทานตลอดชีวติ ๑ เราพงึ พดู คาํ สัตยต ลอดชีวิต ๑ เราไมพึงโกรธตลอดชวี ติ ถาแมความโกรธพึงเกิดข้ึนแกเรา เราพึงกาํ จัดมนั เสียโดยฉบั พลันทีเดยี ว ๑ ดูกอนภกิ ษทุ งั้หลาย ทา วสักกะจอมเทพ เมือ่ ยังเปน มนุษยอ ยใู นกาลกอ น ไดส มาทานวตั รบท ๗ ประการนบี้ รบิ ูรณ เพราะเปนผสู มาทานวัตรบท ๗ ประการ ดงั นี้ จึงไดถ งึ ความเปน ทา วสกั กะ. [๙๐๗] พระผูม ีภาคเจา ผูสคุ ตศาสดา คร้นั ตรสั ไวยากรณภาษติ นจ้ี บลงแลว จึงไดตรสั คาถาประพนั ธตอ ไปอกี วา
พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 491 เทวดาช้นั ดาวดึงส กลา วถงึ นรชน ผเู ปน บคุ คล เล้ียงมารดาบิดามีปกติประ- พฤติออ นนอมตอผใู หญใ นตระกลู เจรจา ออนหวาน กลา วคาํ สมานมิตรสหาย ละ- คําสอ เสียด ประกอบในอบุ ายเปนเครอ่ื ง กาํ จดั ความตระหนี่ มีวาจาสัตย ครอบงํา ความโกรธได นน้ั แลวา เปน สปั บุรุษดังนี้. อรรถกถาปฐมเทวสตู ร พึงทราบวนิ ิจฉยั ในปรมเทวสตู รที่ ๑ แหง ทุตยิ วรรค ตอไปดงั นี้ :- บทวา วตฺตปทานิ ไดแ ก สว นแหง วตั ร. บทวา สมตฺตานิ คอืบรบิ ูรณแลว . บทวา สมาทนิ นฺ านิ คือถอื เอาแลว . บทวา กเุ ล เชฏา-ปจายี ความวา กระทําความยาํ เกรงผูเปนใหญในตระกูลเปนตนวา ปู ยา อานา ลุง ปา. บทวา สณหฺ วาโจ ไดแ ก มีวาจานารักออนหวาน. บทวามุตฺตาจาโค ไดแ ก เสยี สละ. บทวา ปยตปาณี ไดแ ก ลา งมือเพื่อใหไ ทยธรรม. บทวา โวสฺสคฺครโต ไดแ ก ยนิ ดใี นการสละ. บทวา ยาจโยโคไดแก เปนผคู วรทคี่ นอน่ื จะพึงขอ หรือวา ผูประกอบดว ยการบชู านัน่ แล ชอื่ วายาจโยโค. บทวา ทานส วภิ าครโต ไดแก ยนิ ดีแลวในการใหแ ละการแจก. จบ อรรถกถาปฐมเทวสูตรที่ ๑
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 492 ๒. ทุตยิ เทวสตู ร วา ดวยวตั รบท ๗ [๙๐๘] สมยั หนึง่ พระผูมีพระภาคเจาประทับอยู ณ พระวิหารเชตวนัอารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรงุ สาวตั ถี ในกาลครงั้ นน้ั แล ฯลฯ [๙๐๙] พระผูม พี ระภาคเจา ไดตรสั พระพทุ ธพจนนว้ี า ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย ทา วสกั กะจอมเทพเมอ่ื ยังเปนมนษุ ยอ ยใู นกาลกอน เปน มาณพชอ่ื วา มฆะเพราะเหตนุ น้ั จึงเรียกวา ทา วมฆวา ดูกอนภิกษุท้งั หลาย ทาวสกั กะจอมเทพเม่ือยังเปน มนุษยอ ยใู นกาลกอ นไดใ หทานมากอน เพราะเหตุนั้น จงึ เรียกวาทา วปรุ ินททะ ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ทาวสกั กะจอมเทพเมื่อยังเปนมนษุ ยอยใู นกาลกอนไดใหทานโดยเคารพ เพราะเหตนุ ั้น จึงเรยี กวา ทาวสกั กะ ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ทาวสกั กะจอมเทพเมื่อยังเปน อยใู นกาลกอ น ไดใหทีพ่ กั อาศยัเพราะเหตุนั้น จึงเรียกวา ทา ววาสวะ ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย ทา วสักกะจอมเทพยอ มทรงคิดเนื้อความไดต ้งั พนั โดยครเู ดยี ว เพราะเหตุน้นั จึงเรยี กวา ทา ว-สหัสนัยน ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย ทาวสกั กะจอมเทพทรงมนี างอสุรกญั ญานามวาสชุ าเปนปชาบดี เพราะเหตุนัน้ จงึ เรียกวา ทา วสชุ ัมบดี ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลายทาวสกั กะจอมเทพเสยี ราชสมบตั ิเปนอสิ ราธบิ ดีของทวยเทพชั้นดาวดึงส เพราะเหตนุ ้นั จงึ เรยี กวา เทวานมนิ ทะ. [๙๑๐] ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ทาวสกั กะจอมเทพเมื่อยังเปนมนษุ ยอ ยูในกาลกอ น ไดสมาทานวัตรบท ๗ ประการบริบูรณ เพราะเปน ผูส มาทานวตั รบท ๗ ประการบริบูรณ จึงไดถ งึ ความเปน ทาวสกั กะ วัตรบท ๗ ประการเปนไฉน คือเราพึงเลีย้ งมารดาบดิ าจนตลอดชีวิต ๑ ฯลฯ ถา แมความโกรธพงึ
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 493เกิดข้นึ แกเ รา เราพึงกําจดั มันเสยี โดยฉบั พลนั ทีเดียว ๑ ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลายทา วสกั กะจอมเทพเม่ือยงั เปนมนุษยอ ยูใ นกาลกอน ไดสมาทานวัตรบท ๗ประการนี้บริบรู ณ เพราะเปน ผสู มาทานวตั รบท ๗ ประการ ดังน้ี จงึ ไดถ ึงความเปนทา วสกั กะ. [๙๑๑] พระผูม ีพระภาคเจา ฯลฯ จงึ ไดตรัสดาถาประพนั ธตอ ไปอีกวา เทวดาชั้นดาวดึงสกลาวนรชนผูเปน บคุ คลเลีย้ งมารดาบดิ า...วาเปน สปั บุรษุ ดงั น้ี. อรรถกถาทุติยเทวสตู ร พงึ ทราบวนิ ิจฉัยในทุทยิ เทวสูตรที่ ๒ ตอ ไปนี้ :- บทวา สนสุ ฺสภูโต ไดแก มฆมาณพเปน มนษุ ยในหมูบ า นอจลคามแควนมคธ. บทวา อาวสถ อาทาสิ ความวา มฆมาณพไดสรา งท่ีพักใหแกมหาชนในทางสแ่ี พรง. บทวา สหสสฺ มปฺ อตฺถาน ไดแ กเ หตแุ มพันหนง่ึ .หรือวาเม่ือคาํ พดู พันคํารวมลงดว ยคนพันคน ทา วสักกะจอมเทพทั้งอยใู นบทเดียววนิ จิ ฉยั วา นี้ ประโยชนของชนนี้ นี้ประโยชนข องชนน.้ี จบ อรรถกถาทตุ ิยเทวสูตรที่ ๒
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 494 ๓. ตติยเทวสตู ร วา ดว ยวัตรบท ๗ [๙๑๒] ขา พเจา ไดส ดบั มาแลว อยางนี้ :- สมัยหนงึ่ พระผม ีพระภาคเจา ประทบั อยู ณ กฏู าคารศาลา ในปามหาวัน กรุงเวสาลี. ครงั้ น้นั แล เจาลิจฉวีพระนามวา มหาลี เสด็จเขา ไปเฝา พระผูม ีพระ-ภาคเจา ครนั้ แลว ทรงถวายบังคมพระผูมพี ระภาคเจา แลวประทับนั่ง ณ ทคี่ วรสวนขางหนง่ึ เม่ือประทบั นง่ั ทีค่ วรสว นขา งหนง่ึ เรียบรอ ยแลว ไดตรสั ถามพระผูมพี ระภาคเจาวา ขา แตพ ระองคผูเ จริญ พระองคทรงเห็นทา วสักกะจอมเทพหรือ พระพุทธเจาขา. พระผูทพี่ ระภาคเจา ตรัสตอบวา ดกู อ นมหาลี อาตมาเหน็ ทาวสกั กะจอมเทพ ถวายพร. ม. ขาแตพ ระองคผ เู จริญ ก็ผูท ีพ่ ระองคทรงเห็นนนั้ จักเปนรปูเปรียบของทา วสักกะเปน แน เพราะวา ทา วสกั กะจอมเทพยากทีใ่ คร ๆ จะเห็นได พระพุทธเจา ขา . [๙๑๓] พ. ดกู อ นมหาลี อาตมารจู ักทา วสกั กะดว ย รูธรรมเครอื่ งกระทาํ ใหเปนทา วสกั กะดวย และรูถงึ ธรรมทที่ า วสกั กะไดถ งึ ความเปนทา ว-สักกะเพราะเปนผูสมาทานธรรมนั้นดว ย ดกู อนมหาลี ทา วสกั กะจอมเทพเม่ือยังเปน มนุษยในกาลกอ น เปน มาณพชอื่ วามฆะ เพราะเหตุน้ัน จงึ เรยี กวาทา วมฆวา ดูกอนมหาลี ทาวสักกะจอมเทพเมือ่ ยังเปน มนุษยอยใู นกาลกอ นไดใหท านมากอน เพราะเหตนุ นั้ จึงเรยี กวา ทา วปรุ ินททะ ดูกอนมหาลีทาวสักกะจอมเทพเมอื่ ยงั เปนมนษุ ยอยใู นกาลกอน ไดใ หทานโดยเคารพ
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 495เพราะเหตุน้นั จึงเรียกวา ทา วสกั กะ. ดูกอนมหาลี ทาวสกั กะจอมเทพเม่อื ยงัเปน มนษุ ยอยูในกาลกอ น ไดใ หท่ีพักอาศัย เพราะเหตุนั้น จงึ เรียกวา ทาววาสวะ ดูกอ นมหาลี ทาวสกั กะจอมเทพยอ มทรงคิดเนื้อความไดต้ังพนั โดยครเู ดียว เพราะเหตุนนั้ จงึ เรยี กวา ทา วสหสั นยั น ดกู อ นมหาลี ทาวสกั กะจอมเทพทรงมีนางอสุรกญั ญานามวา สุชาเปน ปชาบดี เพราะเหตุนนั้ จงึ เรยี กวาทา วสุชัมบดี ดกู อ นมหาลี ทา วสักกะจอมเทพเสวยรชั สมบตั ิเปนอิสราธบิ ดขี องทวยเทพชน้ั ดาวดงึ ส เพราะเหตุนน้ั จงึ เรยี กวา เทวานมินทะ. [๙๑๔] ดกู อ นมหาลี ทา วสักกะจอมเทพเมอ่ื ยงั เปนมนุษยอ ยใู นกาลกอ น ไดสมาทานวัตรบท ๗ ประการบริบูรณ เพราะเปน ผสู มาทานวัตรบท ๗ ประการ จึงไดถึงความเปนทาวสกั กะ วตั รบท ๗ ประการ เปน ไฉนคอื เราพึงเล้ียงมารดาบิดาจนตลอดชวี ิต ๑ เราพึงประพฤตอิ อ นนอมตอ ผูใหญในตระกูลตลอดชวี ติ ๑ เราพึงพดู วาจาออนหวานตลอดชวี ิต ๑ เราไมพึงพดูวาจาสอ เสยี ดตลอดชวี ิต ๑ เราพึงมใี จปราศจากความตระหนอ่ี ันเปน มลทนิ อยูครองเรือน มกี ารบรจิ าคอันปลอ ยแลว มฝี า มอื อันชุม ยินดีในการสละ ควรแกการขอ ยินดีในการแจกจายทานตลอดชีวิต ๑ เราพึงพดู คําสัตยต ลอดชวี ิต๑ เราไมพึงโกรธตลอดชวี ติ ถาแมความโกรธพึงเกดิ ขน้ึ แกเรา เราพงึ กําจัดมนั เสียโดยฉบั พลนั ทีเดียว ๑ ดกู อนมหาลี ทา วสักกะจอมเทพเมื่อยงั เปนมนษุ ยอยูในกาลกอ น ไดสมาทานวัตรบท ๗ ประการนี้บรบิ รู ณ เพราะเปนผสู มาทานวัตรบท ๗ ประการดังน้ี จงึ ไดถ งึ ความเปน ทา วสักกะ. [๙๐๕] พระผมู ีพระภาคเจาผสู ุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษติน้ีจบลงแลว จงึ ไดต รสั คาถาประพนั ธตอ ไปอีกวา
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 496 เทวดาชนั้ ดาวดงึ ส กลาวนรชนผู เปน บุคคลเล้ียงมารดาบดิ า มีปกติประพฤติ ออนนอมตอผูใหญในตระกูล เจรจา ออนหวาน กลา วแตค ําสมานมิตรสหาย ละคาํ สอ เสียด ประกอบในอบุ ายเปน เคร่อื ง กําจดั ความตระหนิ มีวาจาสตั ย ครอบงาํ ความโกรธได นั้นแลวา เปน สัปบุรษุ ดงั นี้. อรรถกถาตติยเทวสตู ร พงึ ทราบวนิ ิจฉัยในตตยิ เทวสตู รที่ ๓ ตอ ไปน้ี :- บทวา อุปสงกฺ มิ ความวา เจามหาลีลจิ ฉวคี ดิ วา ชนท้ังหลายพดูกนั วา ทา วสักกเทวราช เราจกั ทูลถามความน้กี ะพระทศพลวา ทา วสักกะมอี ยูหรือหนอ ผูใดเคยเห็นทาวสกั กะนน้ั ดงั นี้ จงึ เขาไปเฝา พระผมู ีพระภาคเจา.บทวา ตจฺ ปชานามิ เปน เอกพจนลงในพหพุ จน. อธบิ ายวา เรารูธรรมทั้งหลายเหลา นนั้ ดวย. ไดยนิ วา ทาวสกั กะไดเปน มาณพชื่อวามฆะ ในบานอจลคามแควน มคธในอตั ภาพกอน เปนบัณฑิต เปน คนฉลาด. มฆมาณพนน้ัไดม จี ริยาเหมือนจริยาของพระโพธิสัตว เขาพาคน ๓๓ คนไปทํากรรมด.ีวันหน่งึ เขาใครค รวญดวยปญ ญาของตน ขนหยากเยือ่ ออกท้ังสองขาง ในที่ท่มี หาชนประชมุ กนั ทามกลางบา น แลวไดทําทนี่ น้ั ใหเปน ท่ีนาร่ืนรมย. เขาสรางมณฑป ณ ท่ีน้ันอีก. เมื่อกาลลวงไป เขาไดสรา งศาลาอกี . อนงึ่ เขาออก
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 497จากบา นเทยี่ วไป คาวุตหนึ่ง ก่งึ โยชน สามคาวุตบา ง โยชนหนึ่งบาง ไดท าํทีไ่ มเรยี บใหเ รียบกับสหายเหลานัน้ . สหายทง้ั หมดเหลาน้ัน รวมใจกนั สรา งสะพานในทท่ี ่คี วรมสี ะพานในทน่ี ้ัน ๆ สรางมณฑปเปนตน ในทที่ ี่ควรแกมณฑป ศาลา สระโบกขรณีสวนดอกไมเ ปนตน ไดกระทําบญุ มาก. มฆะบําเพญ็ วัตรบทเจด็ ครนั้ ถงึแกกรรมไดไปเกดิ บนภพดาวดึงสกบั พวกสหาย. พระผูมพี ระภาคเจา ทรงทราบเหตทุ ั้งปวงน้นั . ดว ยเหตุน้นั พระองคจ ึงตรสั วา ทา วสกั กะไดถงึ ความเปนทา วสกั กะ เพราะถอื ธรรมเหลาใด เรารธู รรมเหลาน้ันดวย. นเ้ี ปนสังเขปกถาในการถึงความเปนทาวสักกะของทา วสักกะ. สว นความพสิ ดาร ทา นกลา วไวแลว ในสักกปญ หาวรรณนา อรรถกถาทฆี นิกาย ชือ่ สุมังคลวิลาสินี. จบอรรถกถาตติยเทวสูตรท่ี ๓ ๔. ทฬทิ ทสูตร วาดว ยผูไมข ดั สน [๙๑๖] สมยั หนง่ึ พระผูมีพระภาคเจา ประทบั อยู ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห ในกาลนั้นแล พระผมู พี ระภาคเจา ตรสัเรียกภกิ ษุทง้ั หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษุเหลา นนั้ ทูลรบั พระผูม ีพระ-ภาคเจาวา พระพทุ ธเจา ขา . [๙๑๗] พระผูมพี ระภาคเจาไดตรสั พระพทุ ธพจนน ีว้ า ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย เรื่องเคยมีมาเเลว กรุงราชคฤหนี้แล ไดมีบุรษุ คนหน่ึงเปนมนษุ ยขัดสน เปนมนุษยกาํ พรา เปน มนษุ ยย ากไร เขายดึ มั่นศรทั ธา ศีล สุตะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 526
Pages: