พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 351ขอพระองคไ ดโปรดแลกเปล่ียนมนตกับขา พระองคเถดิ . ตรสั วา วังคีสะ มนตของเราไมมีมลู คา ดอก. ทูลวา ขา แตท านพระโคดมขอพระองคไ ดโปรดประทานเถดิ .ตรัสวา เราไมอาจใหม นตแ กผูท่ีมไิ ดบวชในสํานกั ของเราได. วงั คเี รยี กพวกลูกศิษยม าสัง่ วา ดกู อนพอ ทงั้ หลาย พระสมณโคดมรศู ิลปะมากมาย เราจักบวชในสํานกั ของพระสมณโคดมนเี้ รยี นศิลปะ แตน ัน้ จักไมม ีผูท ีร่ ศู ิลปะมากกวาเราทั่วชมพูทวปี พวกเธออยา เปนหว ง จงอยกู นั จนกวา เราจะกลบั มา ดังนี้ แลวสงลกู ศษิ ยเหลา น้ันไป แลว กราบทลู วา ขอพระองคโปรดใหข าพระองคบ รรพชาเถิด. พระศาสดาทรงมอบหมายใหเถระชอ่ื นโิ ครธกัปปะ. พระเถระนา วงั คีสะไปยังทอี่ ยขู องตนแลว ใหบรรพชา. ทา นบรรพชาแลวมาเฝาพระศาสดา ยืนถวายบงั คมแลว ทลู อาราธนาวา ขอพระองคโปรดประทานศลิ ปะแกขาพระองคเถิด.พระศาสดาตรัสวาวังคีสะ เม่ือพวกเธอจะเรียนศิลปะ (ครง้ั กอน) ตองทําบรกิ รรมโดยไมบ ริโภคของเค็มและนอนบนแผนดินเปน ตน เรียนศลิ ปะน้นั แมศลิ ปะน้ีกม็ ีบรกิ รรม เธอจงทําบรกิ รรมน้ันกอน. พระวงั คีสะกราบทลู วา ดลี ะ พระเจาขา.ลําดับนนั้ พระศาสดาตรัสบอกพระกัมมัฏฐาน คอื อาการ ๓๒ แกเ ธอ. เธอมนสิการพระกมั มฏั ฐานนั้นท้ังอนุโลมปฏิโลม เจรญิ วิปส สนา บรรลุพระอรหัตโดยลาํ ดบั . บทวา วมิ ตุ ตฺ ิสุข ปฏสิ เวที ความวา เมอื่ บรรลพุ ระอรหัตอยา งน้ีแลวเสวยวิมุตติสุข. บทวา กาเวยฺยมตฺตา ไดแก มัวเมาดว ยความเปนกวีคือการแตง กาพยกลอน. บทวา ขนฺเธ อายตนานิ ธาตโุ ย ความวา เมือ่ทรงแสดงธรรมประกาศขนั ธเปน ตน เหลา น้ี . บทวา เข นิยามคตทฺทสาไดแก ผถู ึงนิยามธรรม และผเู ห็นนยิ ามธรรม. บทวา สฺวาคต ไดแกการ
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 352มาด.ี ดว ยคําวา อิทฺธิปฺปตฺโตมฺหิ นี้ หมายเอาอทิ ธวิ ิธิญาณ. ดวยคําวาเจโตปรยิ ายโกวโิ ท น้ี หมายเอาเจโตปริยญาณ. สว นทิพยโสตแมทา นไมไดกลาวไว กส็ งเคราะหเ ขา ไดเ หมือนกนั . พระวงั คสี ะนบี้ รรลอุ ภญิ ญา ๖พงึ ทราบวา เปน มหาสาวก ดว ยประการฉะนี้. จบอรรถกถาวังคสี สูตรที่ ๑๒ และวังคีสสงั ยตุ เพียงเทา น้ี รวมพระสูตรแหง วงั คสี สังยุตมี ๑๒ สูตร คือ ๑. นิกขันตสูตร ๒. อรตสิ ูตร ๓. เป สลาติมญั ญนาสตู ร ๔.อานันทสูตร ๕. สภาสติ สูตร ๖. สารปี ุตตสูตร ๗. ปวารณาสูตร ๘.โรสหสั สสูตร ๙. โกณฑญั ญสูตร ๑๐. โมคคัลลานสูตร ๑๑. คคั คราสูตร๑๒. วังคีสสูตร พรอมทงั้ อรรถกถา
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 353 วนสงั ยุต ๑. วิเวกสูตร เทวดาเตือนภกิ ษุ [๗๖๑] ขา พเจาไดสดับมาแลวอยา งน้ี :- สมยั หน่งึ ภิกษุรูปหน่ึง พาํ นกั อยูในแนวปา แหง หนง่ึ ในแควน โกศลสมัยนน้ั แล ภกิ ษุรูปนน้ั พักผอ นกลางวนั ตรกึ อกุศลวิตกลามกอิงอาศยั เรอื น [๗๖๒] คร้งั น้นั เทวดาทสี่ ิงอยใู นปา นั้น มคี วามเอน็ ดใู ครป ระโยชนก็ภิกษนุ น้ั หวังจะใหเธอสลดใจ จงึ เขาไปหาแลว กลาวกะเธอดว ยคาถาวา ทา นใครว เิ วก จงึ เขา ปา สว นใจ ของทานแสซา นไปภายนอก ทา นเปนคน จงกาํ จดั ความพอใจในคนเสีย แตนน้ั ทา นจกั เปน ผูมคี วามสขุ ปราศจากความ กาํ หนดั ทา นมสี ติ ละความไมยนิ ดีเสยี ได เราเตือนใหท านระลึกถึงธรรมของสัตบรุ ุษ ธลุ คี อื กเิ ลสประดจุ บาดาลท่ขี ามไดย าก ไดแกค วามกําหนัดในกามอยาไดครอบงาํ ทา นเลย นกที่เปอนฝนุ ยอ มสลดั ธลุ ีที่ แปดเปอ นใหต กไป ฉันใด ภิกษผุ ูมีเพยี ร มสี ติ ยอมสลดั ธุลีคอื กิเลสท่แี ปดเปอ นให ตกไป ฉันนนั้ ดังน้.ี
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 354 ลาํ ดับน้ัน ภกิ ษนุ ้ันเปนผอู ันเทวดาน้ันเตอื นใหสงั เวช ถงึ ซ่ึงความสลดใจแลวแล. วนสงั ยตุ ตวรรณนา อรรถกถาวิเวกสตู ร พงึ ทราบวินิจฉัยในวเิ วกสตู รที่ ๑ แหงวนสังยตุ ตอไปนี้ :- บทวา โกสเลสุ วหิ รติ ความวา ภกิ ษรุ ปู ใดรปู หน่งึ เรยี นกมั มัฏฐานในสาํ นกั ของพระศาสดาแลวไปอยูในแควน โกศลนั้น เพราะชนบทนัน้ หาภกิ ษาไดงาย. บทวา ส เวเชตกุ ามา ไดแ ก ใครเพอื่ จะใหภกิ ษุนนั้ถงึ วเิ วก. บทวา วเิ วกกาโม คือ ปรารถนาวิเวก ๓. บทวา นิจฉฺ รติพหิทธฺ า คือ เทีย่ วไปในอารมณเ ปนอันมากทเ่ี ปนภายนอก. บทวา ชโนชนสมฺ ึ ความวา ทา นจงละฉนั ทราคะในคนอ่นื . บทวา ปชหาสิ แปลวาจงละ. บทวา ภวาสิ แปลวา จงเปน . บทวา สต ต สารยามเส ความวาแมเ รายอมยังบณิ ฑติ ผูมีสตใิ หระลึกถึงธรรมนน้ั หรอื วา เรายอ มยงั ผนู ้ันใหระลึกถงึ ธรรมของสตั บรุ ษุ . บทวา ปาตาลรโช ความวา ธุลีคอื กิเลสท่ีเรียกวาบาดาลเพราะอรรถวา ไมมีท่ีต้ัง. บทวา มา ต กามรโช ความวา ธลุ ีคือกามราคะนี้อยาครอบงําทา น อธบิ ายวา อยา นําไปสอู บายเลย. บทวาป สกุ ุณฑฺ ิโต แปลวา เปอ นฝุน. บทวา วิธนุ แปลวา กําจัด. บทวาป สกุ ณุ ฺฑิโต ไดแก ฝุน ทต่ี ดิ ตัว. บทวา ส เวคมาปาทิ ความวา ชือ่ วา แมเทวดายอมยงั เราทานน้ั ใหระลึกถึง ฉะนนั้ จึงช่ือวา ถึงวิเวก หรือวาประคองความเพยี รอันสูงสุดแลวปฏิบตั ิใหเ ปนวเิ วกอยางยิ่ง. จบอรรถกถาวิเวกสูตรท่ี ๑
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 355 ๒. อปุ ฏ ฐานสูตร เทวดาเตือนภกิ ษผุ นู อนหลับกลางวนั [๗๖๓] สมัยหนึ่ง ภิกษรุ ูปหนึ่ง พาํ นักอยใู นแนวปาแหงหนง่ึ ในแควนโกศล สมัยนั้นแล ภกิ ษุรูปน้ัน ไปนอนหลับในท่ีพักกลางวัน. [๗๖๔] ครง้ั น้นั เทวดาที่สิงอยูใ นปานนั้ มีความเอ็นดูใครประโยชนแกภ ิกษุรูปนนั้ หวงั จะใหเธอสลดใจจงึ เขาไปหาแลวไดก ลาวกะเธอดวยคาถาวา ทานจงลกุ ขึ้นเถดิ ภกิ ษุ ทา นจะตอง การอะไรดว ยความหลบั ทา นผเู รา รอน ดวยกิเลส อนั ลูกศรคือตัณหาเสียบแทง ด้นิ รนอยู จะมัวหลบั มีประโยชนอะไร ทา นออกจากเรอื นบวชดว ยความเปนผูไมมี เรือนดวยศรัทธาใด ทา นจงเพ่มิ พนู ศรทั ธา นัน้ เถดิ อยาไปสอู ํานาจของความหลับเลย. [๗๖๕] ภกิ ษุกลาวตอบวา คนเขลาหมกมุนอยูในกามารมณ เหลา ใด กามารมณเ หลานน้ั ไมเ ทีย่ ง ไมย ง่ั ยนื ความหลบั จะแผดเผาบรรพชิต ผูพ น แลว ผูไมเก่ียวของในกามารมณซ ึ่ง ยังสตั วใ หต ิดอยไู ดอยางไร เพราะกําจดั ฉันทราคะเสียได และเพราะกาวลว ง อวชิ ชาเสยี ได ญาณนั้นเปนของบรสิ ุทธ์ิ อยา งยง่ิ ไฉนความหลบั จะแผดเผาบรรพ-
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 356 ชิตได ความหลับจะแผดเผาบรรพชติ ผู ไมม โี ศก ไมม ีความแคนใจ เพราะทําลาย อวิชชาเสียดวยวชิ ชา และเพราะอาสวะ สิ้นไปหมดแลวอยา งไรได ความหลบั จะ แผดเผาบรรพชติ ผูปรารภความเพียร ผูมี ตนอันสงไปแลว ผบู ากบั่นมัน่ เปน นติ ย ผจู าํ นงพระนพิ พานอยูอยา งไรได. อรรถกถาอุปฏ ฐานสูตร พึงทราบวนิ จิ ฉัยในอุปฏ ฐานสตู รท่ี ๒ ตอ ไปน้ี :- บทวา สปุ ติ ความวา ไดย นิ วา ภกิ ษนุ ้เี ปนพระขณี าสพทา นไปสูหมบู านทภี่ กิ ษาจารในทีไ่ กล กลับมาแลว เก็บบาตรและจวี รไวในบรรณศาลาลงสระที่เกดิ เองในท่ไี มไกล พอใหตัวแหง แลว กวาดทพ่ี กั กลางวนั ตงั้ เตยี งตาํ่ ไวในทน่ี นั้ แลวหลบั . จริงอยู แมพ ระขีณาสพกม็ คี วามกระวนกระวายทางกายเหมือนกนั เพราะฉะนัน้ ทานจึงกลาวคําที่ใชอ ยูในปจจบุ ัน เพ่อื บรรเทาความกระวนกระวายทางกายนั้นวา หลบั . บทวา อชฌฺ ภาสิ ความวา เทวดาเขาใจวา ภิกษุน้ีเรียนกมั มัฏฐานในสาํ นกั ของพระศาสดาแลวหลบั กลางวนั กแ็ ลช่ือวา การหลับกลางวนั นนั้ เจรญิ ขึน้ แมจ ะยงั ประโยชนท ี่เปนไปในปจจุบนั .และทีเ่ ปนไปในชาติหนานนั้ ใหฉิบหาย คิดวา เราจกั เตือนทา น จงึ ไดก ลา ว. บทวา อาตรุ สสฺ ความวา ความเดือนรอนมี ๓ อยา ง คือ เดือดรอนดวยความแก เดอื ดรอนดวยความเจ็บปว ย เดือนรอนดวยกิเลส ทา นกลาวหมาย
พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 357ถงึ ความเดอื ดรอนดว ยกเิ ลสในความเดอื นรอ น ๓ นน้ั . บทวา สลลฺ วทิ ฺธสฺสความวา แทงทห่ี ัวใจดว ยลกู ศรคอื ตัณหาทถี่ ูกซัดไปดวยอวชิ ชา เหมอื นถกู แทงดว ยลกู ศรคอื หอกทีอ่ าบดว ยยาพิษ. บทวา รปุ ปฺ โต แปลวา ถูกเสยี ดส.ี บัดนี้เม่อื เทวดาจะกลา วถงึ โทษในกามของภิกษุน้นั จงึ กลาวคาํ เปน ตนวา \"ไมเทยี่ ง\".ในบทเหลานัน้ บทวา อสิต คอื ไมอ าศัยดวยตัณหานสิ ยั และทฏิ ฐินสิ ยั .บทวา กสมฺ า ปพพฺ ชติ ตเป ความวา ทา นยอมกลาววา การหลบั กลางวนัยอ มไมเผาพระขณี าสพเหน็ ปานนี้ กแ็ ลเพราะเหตุไร จกั ไมเ ผาพระขณี ะสพเชนนั้น. กเ็ พราะน่ีเปนคําของพระเถระ. น้เี ปน เนื้อความในขอ น้ีวา. เมื่อถูกผกู แลวการหลบั กลางวัน จะพึงทาํ บรรพชติ ผไู มมีอาสวะเชน เรา ผหู ลดุ แลว หมดกิเลสจะพึงรอน ก็ไมรอ นเพราะเหตไุ ร. แมในคาถาท่เี หลอื กม็ ีนยั อยางนเ้ี หมอื นกนั .จริงอยู ในฝา ยถอยคําของเทวดามีอรรถวา ความหลบั กลางวนั ยอมไมเผาบรรพชิตผูไ มม ีอาสวะเชนน้ี ก็แลเพราะเหตุไร จักไมเ ผาบรรพชิตเชน นัน้ .ในฝายถอ ยคําของพระเถระมอี รรถวา การหลับกลางวัน จะพงึ เผาบรรพชติ ผูไมม ีอาสวะเชน เราเห็นปานน้ี ก็ช่ือวา ไมเ ดือดรอน เพราะเหตไุ ร. แตนี้เปนการพรรณนาบทท่ลี กึ ซง้ึ ในขอ น้.ี บทวา วินยา แปลวา เพราะกําจัด. บทวา สมตกิ กฺ มา แปลวาเพราะกาวลว งอวชิ ชาทีเ่ ปน รากเงา ของวัฏฏะ. บทวา ต าณ ไดแก รูสจั จะ๔ น้ัน. บทวา ปรโมทาต ไดแ ก บริสทุ ธ์ิอยา งย่งิ . บทวา ปพพฺ ชติ คือ บรรพชติ ผูประกอบดวยความรเู ห็นปานน้.ี บทวา วิชชฺ าย คือ วชิ ชาในมรรคที่ ๔. บทวา อารทธฺ วริ ิย คือ ประคองความเพียรไวแลว มคี วามเพียรบรบิ รู ณแลว . จบอรรถกถาอปุ ฏฐานสูตรท่ี ๒
พระสตุ ตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 358 ๓. กสั สปโคตตสตู ร วาดวยพระกสั สปโคตรกลา วสอนพรานเนือ้ [๗๖๖] สมยั หน่งึ ทานพระกสั สปโคตร พาํ นักอยใู นแนวปา แหง หนึง่ในแควน โกศล สมยั น้ันแล ทานอยูใ นทพ่ี กั กลางวัน กลา วสอนนายพรานเนือ้คนหนง่ึ . [๗๖๗] ครัง้ นัน้ เทวดาผูสงิ อยูใ นปานั้น มคี วามเอ็นดูใครป ระโยชนแกทานพระกัสสปโคตร หวงั จะใหท า นสลดใจจึงเขา ไปหา แลวไดกลาวกะทา นดวยคาถาวา ภกิ ษุผูกลาวสอนนายพรานเน้ือซงึ่ เทยี่ วไปตามซอกเขาผทู รามปญญาไมร ูเทา ถงึ การณ ในกาลอันไมค วร ยอ มปรากฏแก เราประดจุ คนเขลา เขาเปน คนพาลถึงฟง ธรรมอยกู ็ไมเขา ใจเนือ้ ความ แสงประทปี โพลงอยกู ไ็ มเหน็ เม่ือทานกลา วธรรม อยู ยอมไมร เู นอื้ ความ ขา แตทา นกัสสป ถึงแมท า นจกั ทรงประทีปอันโพลงตัง้ ๑๐ ดวง เขาก็จกั ไมเ หน็ รปู เพราะจักษุ (คือ ญาณ) ของเขาไมม ี. ลาํ ดบั นนั้ ทานกัสสปโคตร ผอู นั เทวดานัน้ ใหสงั เวช ถึงซึ่งความสลดใจแลว.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 359 อรรถกถากัสสปโคตตสูตร พงึ ทราบวนิ จิ ฉยั ในกสั สปโคตตสูตรที่ ๓ ตอไปนี้ :- บทวา เฉต คือพรานลาเน้อื คนหนึง่ . บทวา โอวทิ ความวา ไดยนิ วา พรานลาเนือ้ นน้ั กนิ ขาวเชา แลว คดิ วา เราจักลาเนื้อ จึงเขา ไปสูปาเหน็ ละมง่ั ตวั หนึง่ คดิ วา เราจักประหารมนั ดวยหอก ติดตามไป หลกี ไปไมไกลทพี่ ระเถระนงั่ ในทพี่ ักกลางวนั โดยนยั ที่กลา วแลว ในสตู รท่ี ๑. ลําดบั นั้นพระเถระจึงกลาวกะเขาวา อบุ าสก ข้นึ ชอ่ื วา ปาณาติบาตนี้ เปน ไปเพอ่ื อบายเปนไปดวยเหตุใหมอี ายสุ ้นั เขาอาจจะทําการเลีย้ งเมียดวยการงานอยางอ่นื มีการกสกิ รรมและพาณิชยกรรมเปน ตน กไ็ ด ทานอยาทาํ กรรมหยาบชา อยางนเ้ี ลย.แมเ ขาก็คิดวา พระเถระผถู ือผา มหาบังสกุ ุลพูด จงึ เร่มิ ยืนฟง ดว ยความเคารพ.ลาํ ดบั น้ัน พระเถระนั้น คิดวา เราจกั ยงั ความใครพึงใหเ กิดแกเขา จึงยงันิ้วหัวแมมอื ใหลุกโพลงขนึ้ . เขาเหน็ แมด ว ยตา ไดย นิ แมด วยหู แตจ ิตใจของเขาแลนไปตามรอยเทาเนื้ออยางน้ีวา เนอื้ จักไปสูทโี่ นน ลงทาโนนเราจักไปฆา มนั ในทน่ี ้นั กินเนอ้ื ตามตอ งการแลว จกั หาบเนอ้ื ที่เหลือไปฝากลูก ๆ. บทวา โอวทติ ดังนี้ ทา นกลาวหมายถงึ พระเถระผูแสดงธรรมนน้ัแกพ รานผฟู ูง ซา นอยา งน.ี้ บทวา อชฌฺ ภาสิ ความวา พระเถระน้ี ยังการงานท้งั ของตน ท้งั ของพรานน้นั ใหพนิ าศ เหมอื นอยางคนถากของคนอื่นท่ไี มใชไ มฟ น เหมือนอยางคนหวา นขาวในทไ่ี มใ ชน า คิดวา เราจักเตือนเขา จึงกลาว.บทวา อปปฺ ปฺ แปลวา ไมม ปี ญ ญา. บทวา อเจตส ไดแก ปราศจากความคดิ ท่ีสามารถรเู หตกุ ารณ. บทวา มนโฺ ทว แปลวา เหมอื นคนโงเ ขลา.บทวา สุณาติ ไดแ ก ฟงธรรมกถาของทา น. บทวา น วชิ านาติ ไดแ ก
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 360ไมรเู นื้อความแหงธรรมนนั้ . บทวา อาโลเกติ ไดแก ยังนิว้ หัวแมม อื ท่ีลุกโพลงอยูด วยฤทธิ์ของปุถชุ นของทา นใหส วา ง. บทวา น ปสสฺ ติ ความวายอ มไมเหน็ เหตุการณนี้วา ในที่นี้ ไมมีน้าํ มัน ไมมีไส ไมมตี ะเกียง แตนวิ้หัวแมมอื นล้ี ุกโพลงดวยอานุภาพของพระเถระ. บทวา ทส ปชฺโชเต คือประทปี ๑๐ ดวง ในนิว้ มอื ๑๐ นิ้ว. บทวา รูปานิ ไดแ ก รปู ทเ่ี ปน เหตุ.บทวา จกขุ คอื ปญ ญาจักษ.ุ บทวา ส เวคมาปาทิ ความวา ทา นพระ-กสั สปโคตรคดิ วา จะมปี ระโยชนอ ะไรแกเ รา กบั พรานน้ี จึงประคองความเพยี รดําเนนิ ตามอรหัตมรรคท่ีเปนธรรมวเิ วก. จบอรรถกถากัสสปโคตตสตู รที่ ๓ ๔. สัมพหุลสูตร วาดว ยเทวดาคราํ่ ครวญถงึ ภกิ ษผุ จู ากไป [๗๖๘] สมัยหนง่ึ ภิกษุมากดว ยกัน พํานักอยูในแนวปา แหง หนง่ึ ในแควน โกศล ครัง้ น้นั แล ภิกษุเหลา นนั้ อยจู าํ พรรษาถวนไตรมาสแลวหลีกไปสูจาริก. [๗๖๙] คร้ังน้นั เทวดาผูส งิ อยูในแนวปา นนั้ เมื่อไมเห็นภิกษุเหลาน้นั ก็คร่าํ ครวญถึง ไดก ลาวคาถาน้ใี นเวลานัน้ วา ความสนทิ สนมยอมปรากฏประดจุ ความไมยินดเี พราะเหน็ ภกิ ษเุ ปน อันมากใน อาสนะอันสงัด ทา นเหลา นนั้ เปนพหูสตู มีถอ ยคาํ ไพเราะ ทานเปน สาวกของพระ- โคดม ไปที่ไหนกนั เสียแลว.
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 361 [๗๗๐] เมอ่ื เทวดานนั้ กลาวอยางนี้แลว เทวดาอีกองคหนึง่ ไดก ลา วกะเทวดาน้ันดว ยคาถาวา ภิกษุทง้ั หลายเปน ผไู มอ าลยั ทีอ่ ยู เทีย่ วไปเปน หมู ประดจุ วานรไปสแู ควน มคธและโกศล บางพวกก็บา ยหนา ไปสู แควน วชั ชี. อรรถกถาสัมพหุลสตู ร พงึ ทราบวินิจฉยั ในสัมพหลุ สตู ร ท่ี ๔ ตอ ไปนี้ :- บทวา สมฺพหุลา คอื ผทู รงพระสตู ร ผูทรงพระอภธิ รรม ผูทรงพระวนิ ยั เปน อนั มาก. บทวา วหิ รนตฺ ิ ไดแ ก เรียนกมั มฏั ฐานในสาํ นักพระศาสดาแลว อยู. บทวา ปกฺกมสึ ุ ความวา ไดยนิ วา คนท้งั หลายเหน็ภกิ ษุเหลานน้ั เขาไปยงั หมูบ า นแหง ใดแหงหนึ่งในชนบทนั้น กม็ จี ิตเลอื่ มใส ปูลาดผาขนแกะเปนตนไวที่หอฉนั ถวายขาวตมและของขบเคยี้ วแลวนง่ั ใกล.พระมหาเถระ กลาวกะพระธรรมกถกึ รูปหนึง่ วา เธอจงกลาวธรรม. พระธรรกถกึน้นั จึงกลาวธรรมกถาอยางไพเราะ. คนทั้งหลายเลือ่ มใสแลวไดถวายโภชนะอันประณีตในเวลาฉนั . พระมหาเถระไดก ระทําอนุโมทนาอาหารอยา งพงึ พอใจ.คนทั้งหลายเลื่อมใสอยางย่งิ แลว กลา ววา ขา แตท านผูเจรญิ นมิ นตจ ําพรรษาอยูในท่ีนต้ี ลอด ๓ เดือนเถดิ ใหทานรบั ปฏิญญาแลว ใหส รา งเสนาสนะในที่ซึ่งสะดวกดว ยการไปมาอุปฐากดวยปจจยั ๔. พระมหาเถระสอนภกิ ษใุ นวนั เขา พรรษาวา ดกู อนผมู ีอายุ พวกทานเรยี นกมั มัฏฐานในสํานักพระศาสดาผเู ปน ครู ชื่อวา ความปรากฏแหงพระ-
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 362พทุ ธเจา หายาก พวกทา นจงฟง ธรรมเดอื นละ ๘ วัน ละความคลกุ คลีดว ยหมูคณะแลว ไมป ระมาทอยูเ ถิด ดังน.ี้ จําเดิมแตน้ันมา ภิกษุเหลานัน้ ยอมขวนขวายพากเพยี ร บางวนั ก็ทาํ การฟงธรรมตลอดคนื บางวัน กแ็ กป ญ หา บางคราวก็ทําความเพยี ร. ในวนั ธรรมสวนะ ภกิ ษุเหลา นนั้ กลาวธรรมจนอรุณขนึ้ในวนั แกปญหากระทาํ การถามและการแก คือ ภิกษุผฉู ลาดถามปญหา ผเู ปนบณั ฑิตแก ในวนั ทาํ ความเพียร ตีระฆังในเวลาพระอาทติ ยต ก ลงสทู ่ีจงกรมทําความเพยี ร. ภิกษเุ หลา นนั้ จาํ พรรษาอยา งนปี้ วารณาแลวหลีกไป. คําน้ที า นกลาวหมางถึงความขอ น้นั . บทวา ปรเิ ทวมานา ความวา เทวดากลาวคาํ เปน ตน วา บดั นี้เราจกั ไดฟ ง ธรรมและกลา วปญ หาอนั ไพเราะเหน็ ปานนัน้ แตไ หนเลา ดงั นแ้ี ลวคราํ่ ครวญอยู. บทวา ขายติ แปลวา ยอ มปรากฏ คอื เขาไปตัง้ ไว. บทวาโกเม แปลวา (พระสาวก) เหลาน้ี (ไป) ไหน. บทวา วชชฺ ิภูมยิ า แปลวาบายหนา ไปแควน วัชชี. บทวา มกฺกุฏาวยิ แปลวา เหมอื นลิง. ภิกษุทอ งเท่ียวไปที่เชงิ เขาหรือท่ีราวปา นัน้ ๆ ไมถ อื วา ท่นี ้ีเปนสมบัติของมารดา. เปนสมบตั ิของบดิ าของเรา ที่มาตามประเพณี ภกิ ษุเหลา น้ันมคี วามผาสุกดวยโคจรคามและความไมมอี ันตรายอยูในที่ใด ก็อยูในท่ีนัน้ แมภ ิกษทุ ้ังหลายผไู มม ีเรอื นอยา งน้ี จึงกลาววา ดกู อ นผูม ีอายุ น้ีเปนสมบตั ิของอปุ ช ฌายอ าจารยข องเรา ทม่ี าตามประเพณี ดงั นี้ จงึ ในถือเอา ภกิ ษเุ หลานั้นมที ี่สบายดว ยอากาศสบายดว ยโภชนะ สบายดว ยเสนาสนะ สบายดวยการฟง ธรรม หางา ย มีอยูในทใ่ี ด ยอมอยใู นทนี่ ้ัน. จบอรรถกถาสมั พหลุ สตู รท่ี ๔.
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 363 ๕. อานันทสูตร วาดว ยเทวดาเตอื นพระอานนท [๗๗๑] สมัยหน่งึ ทา นพระอานนท พํานักอยใู นแนวปาแหง หนงึ่ในแควนโกศล สมยั นัน้ แล ทานพระอานนท เปน ผมู ากไปดว ยการรบั แขกฝา ยคฤหัสถเ กนิ เวลาอย.ู [๗๗๒] ครง้ั นั้นแล เทวดาผสู ิงอยใู นแนวปา น้นั มคี วามเอ็นดูใครป ระโยชนแกทา นพระอานนท ใครจ ะใหทา นสังเวชจงึ เขาไปหาถงึ ทีอ่ ยูครัน้ แลว ไดก ลาวกะทา นดว ยคาถาวา ทา นเขาไปสูท ี่รกคือโคนตน ไมแ ลว จงใสใ จถึงพระนิพพาน โคตมะ ทานจง เพง ฌาน อยา ประมาท ถอ ยคําทส่ี นทนา ของทา นจกั ทําอะไรได. ลําดับน้นั ทานพระอานนท เปน ผูอ ันเทวดานัน้ ใหสงั เวชถึงซึง่ ความสลดใจแลวแล. อรรถกถาอานันทสูตร พงึ ทราบวนิ ิจฉัยในอานันทสตู รที่ ๕ ตอไปน้ี :- บทวา อานนโฺ ท คอื พระเถระผูเปน คลังพระธรรม. บทวา อตเิ วลแปลวา เกินเวลา. บทวา คหิ สิ ฺ ตตฺ ิพหโุ ล ความวา ยงั คฤหัสถใหรจู ักเวลาเปน อนั มาก ทง้ั กลางวนั และกลางคืน. จริงอยู เม่อื พระผมู ีพระ-ภาคเจา ปรนิ ิพพานแลว พระมหากสั สปเถระกลา วกะพระเถระวา ดูกอ น
พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 364ผมู อี ายุ เราจักไปเขา จาํ พรรษาในกรงุ ราชคฤหแ ลวสงั คายนาพระธรรม ทา นจงไปจงเขา ไปสปู า กระทําความเพยี ร เพือ่ ประโยชนแ กมรรคท้งั ๓ เบือ้ งบนเถดิ .พระอานนั ทเถระถือเอาบาตรจวี รของพระผมู ีพระภาคเจา ไปยังแควนโกศล อยูในสาํ นักบาแหง หนึ่ง รงุ ขึน้ จึงเขา ไปยังบา นแหงหนง่ึ . คนทง้ั หลายเห็นพระเถระแลวกลาวคาํ เปนอนั มากวา ขา แตพ ระอานนทผ เู จรญิ ในคราวกอ นทา นมากับพระศาสดา วันนม้ี ารูปเดยี วเทา นั้น ทานทอดท้งิ พระศาสดาไวเสยีไหน บดั น้ี ทา นถือบาตรและจวี รของใครมา ทา นจะถวายน้ําลา งหนาจะปดกวาดบรเิ วณ จะทําวตั รปฏบิ ตั แิ กใคร ดงั นี้ พากนั ครา่ํ ครวญแลวพระเถระกลา วคําเปนตน วา ดูกอนทา นทัง้ หลาย อยูเศราโศกเลย อยาครา่ํ ครวญเลย สงั ขารทั้งหลายไมเ ท่ียง ยังเขาใหร พู รอ มแลว ทําภตั กิจแลวไปสทู ีพ่ ัก. แมในเวลาเยน็ คนทัง้ หลายไปในที่น้นั พากันคร่ําครวญอยา งนน้ัพระเถระกส็ ั่งสอนอยางน้นั เหมือนกัน. คาํ น้ี ทา นกลาวหมายถงึ ขอ นัน้ . บทวา อชฌฺ ภาสิ ความวา เทวดาคิดวา พระเถระน้คี ิดวา เราฟง คําของภกิ ษุสงฆแ ลว จักบําเพ็ญสมณธรรมดงั นี้ แลว เขาไปสปู า บัดนี้ยังคฤหัสถใหร ูพ รอมกนั อยู ยงั ไมก ระทาํ ศาสนาของพระศาสดาท่ีต้งั อยใู หเ ปนประมวลธรรมเหมอื นกองดอกไมท่ีไมไ ดรวบรวม เราจะเตือนทาน ดังน้แี ลวจึงกลา ว. บทวา ปสกฺกยิ แปลวา เขา ไปแลว. บทวา หทยสฺมึ โอปปฺ ยไดแ ก ใสไ วใ นหทัยดว ยกจิ และดว ยอารมณ. พระเถระคดิ วา เราจะบรรลุพระนิพพาน ดังนแ้ี ลว ทําความเพียรอยู ช่ือวา ใสพระนิพพานไวใ นหทัยดว ยกิจ แตเ พ่อื ยังสมาบัตมิ พี ระนิพพานเปน อารมณใ หแนบแนน นงั่ อย.ู (ชอื่ วาใสพระนพิ พานไวในหทยั ) ดว ยอารมณ. เทวดานยี้ อมกลาวหมายถึงกิจและอารมณทง้ั ๒ น้นั . บทวา ฌาย คือ จงเปนผเู พง ดวยฌานท้ังสอง. บทวาปฬ ิปฬ ิกา แปลวา น้ีถอยคําพดู กบั คฤหัสถ. จบอรรถกถาอานันทสตู รที่ ๕.
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 365 ๖. อนรุ ทุ ธสูตร วาดว ยภรรยาเกาของพระอนรุ ทุ ธะ [๗๗๓] สมัยหน่ึง ทานพระอนรุ ทุ ธะพาํ นักอยใู นแนวปาแหงหน่งึ ในแควนโกศล. [๗๗๔] คร้งั น้ันแล เทวดาชน้ั ดาวดงึ สอ งคห นึ่งชือ่ ชาลนิ เี ปน ภรรยาเกาของทานพระอนุรทุ ธะ เขา ไปหาทานถึงทีอ่ ยู ครนั้ แลวไดกลาวกะทา นดวยคาถาวา ทานจงตงั้ จติ ของทานไวในหมูทวย- เทพชน้ั ดาวดงึ ส ซ่งึ พรงั่ พรอมดวย อารมณอ ันนา ใครทั้งปวง ที่ทานเคยอยูใ น กาลกอ น ทานจะเปนผูอันหมูเทวดาแวด- ลอ มเปนบรวิ าร ยอมงดงาม [๗๗๕] ทา นพระอนุรุทธะกลาววา เหลานางเทพกัลยาผมู ีคติอนั ทราม ดํารงมันอยใู นกายของตน สัตวท ง้ั หลาย เหลานัน้ แมเ ปนผูมีคตอิ ันทราม กถ็ กู นางเทพกัลยาปรารถนา. [๗๗๖] เทวดาชอ่ื ชาลินีกลาววา เหลา สตั วผไู มไดเ หน็ ท่ีอยูอ ันเปนที่ นา เพลิดเพลินของนรเทพชั้นไตรทศผมู ยี ศ กช็ ่อื วาไมร จู กั ความสขุ . [๗๗๗] ทา นพระอนุรทุ ธะกลา ววา ดกู อนเทวดาผูเขลา ทานไมรูแจง ตามคาํ ของพระอรหันตว า สังขารท้ังปวง
พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 366 ไมเที่ยง มอี ันเกิดข้ึนและเสอ่ื มไป เปน ธรรมดา บงั เกดิ ขน้ึ แลว ยอ มดับไป การเขาไประงบั สังขารเหลาน้ันเสยี ได เปน สุข บดั น้ี การอยคู รอบครองของเรา ไมมีอีกตอไป ตัณหาประดจุ ดังวาขา ยใน หมเู ทพของเรากไ็ มมี สงสารคือชาตสิ นิ้ ไปแลว บดั นภี้ พใหม ไมมีอกี ตอไป. อรรถกถาอนุรุทธสตู ร พึงทราบวินิจฉยั ในอนรุ ุทธสตู ร ที่ ๖ ตอ ไปน้ี :- บทวา ปุราณทตุ ิยิกา คอื อคั รมเหสใี นอัตภาพกอน. บทวาโสภสิ ไดแก เมื่อกอนก็งาม เดยี๋ วนีก้ ง็ าม. บทวา ทุคฺคตา ความวาไปชั่วดว ยคติอันชว่ั ก็หาไม. จรงิ อยู เทวกัญญาอยใู นสคุ ตยิ อ มเสวยสมบัต.ิแตไ ปชว่ั ดว ยคติชัว่ ทางปฏิบัต.ิ เพราะวา เทวกัญญาเหลานัน้ จตุ จิ ากสคุ ตนิ น้ัแลว จะเกิดในนรกก็ได เพราะฉะนน้ั จงึ ชื่อวา ไปช่วั . บทวา ปติฏิตาความวา จรงิ อยู เมอ่ื บุคคลต้งั อยูในสกั กายทฏิ ฐยิ อ มตัง้ อยูดว ยเหตุ ๘ ประการคอื รกั ดว ยอาํ นาจราคะ โกรธดว ยอํานาจโทสะ หลงดวยอํานาจโมหะ ถอื ตวัดวยอํานาจมานะ ถือผดิ ดว ยอํานาจทฏิ ฐิ เพม่ิ กําลงั ดว ยอาํ นาจอนุสยั ไมส ิน้ สดุดวยอํานาจแหงวจิ กิ ิจฉา ฟงุ ซา นดว ยอาํ นาจอทุ ธัจจะ แมเทวกัญญาเหลาน้นัก็ตงั้ อยอู ยางนี้. บทวา นรเทวาน ความวา ของเทวดาและมนุษยท ง้ั หลาย. บทวานตถฺ ทิ านิ ความวา ไดย นิ วา เทพธิดานั้น ไดมีความเสนหาเปนกาํ ลังใน
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 397 ๕. สานุสตู ร วา ดวยสามเณรถูกยกั ษส งิ [๘๑๔] สมยั หน่ึง พระผูม ีพระภาคเจาประทบั อยูในพระวิหารเชตวันอารามของทา นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี ในกรุงสาวัตถ.ี สมยั น้ันแล บุตรของอบุ าสกิ าคนหน่งึ ชื่อสานุ ถูกยกั ษเ ขา สงิ . [๘๑๕] ครัง้ น้นั แล อุบาสกิ านนั้ ไดปรเิ วทนาการกลา วคาถาเหลาน้ีในเวลานั้นวา ฉันไดสดบั ตอ พระอรหนั ตท ้ังหลาย วา ชนเหลาใดเขา อยอู โุ บสถอันประกอบ ดวยองค ๘ ประการดว ยดี ตลอดดิถที ี่ ๑๔ ที่ ๑๕ และท่ี ๘ แหงปกษ ทงั้ ตลอดปาริหา- รกิ ปก ษ ประพฤตพิ รหมจรรยอยู ยกั ษทัง้ หลายยอ มไมเลน กบั ชนเหลานัน้ บดั น้ี ฉันเห็นในวนั น้ี ยกั ษเ ลน กับสามเณรสานุ. [๘๑๖] ยักษกลา ววา ทา นไดสดบั ตอพระอรหนั ตทงั้ หลาย วา ชนเหลาใดเขาอยูอโุ บสถอันประกอบ ดวยองค ๘ ประการดว ยดี ตลอดดถิ ีที่ ๑๔ ท่ี ๑๕ และที่ ๘ แหงปก ษ ทง้ั ตลอดปาร-ิ หาริกปกษ ประพฤตพิ รหมจรรยอ ยู ยกั ษ ทง้ั หลายยอมไมเลนกบั ชนเหลาน้ัน เปน การชอบ ทา นพงึ บอกสานผุ ฟู น ข้นึ แลว
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยุตตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 398 วา ยักษส ง่ั คําน้ีไววา ทา นอยา ไดก ระทาํ ธรรมอันลามกท้งั ในท่ีแจงและทล่ี ับ ถา ทา นจักกระทํากรรมอันลามกไซร ถึงทาน จะเหาะหนไี ปก็ไมพ น จากทุกข.[๘๑๗] สามเณรสานุฟนขึ้นแลวกลาววา โยม ญาติ และมติ รทั้งหลายยอม รองไหถงึ คนที่ตายแลว หรือยังเปน อยูแ ต หายไป โยมยังเห็นฉนั เปน อยู ไฉนโยม จึงรอ งไหถ ึงฉัน.[๘๑๘] อบุ าสกิ ากลา ววา ลูกเอย ญาตแิ ละมิตรทั้งหลายยอ ม รอ งไหถ ึงคนท่ตี ายแลว หรอื ยงั เปน อยูแ ต หายไป แตค นใดละกามทง้ั หลายแลวจะ กลบั มาในกามนี้อกี ลูกรัก ญาตแิ ละมิตร ทั้งหลายยอ มรอ งไหถ ึงคนนัน้ เพราะเขา เปนอยูต อไปอกี ก็เหมอื นตายแลว แนพอ เรายกทา นขึน้ จากเถา รงึ ท่ยี งั รอนระอแุ ลว ทานอยากจะตลลงไปสเู ถารงึ อกี แนพอ เรายกทา นขึ้นจากเหวแลว ทา นอยากจะ ตกลงไปสเู หวอีก เราจะโพนทะนาแก
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 399 ใครเลาวา ขอทานจงชวยกัน ขอความ เจริญจงมีแกทาน ประดุจส่งิ ของทข่ี นออก แลวจากเรอื นทไ่ี ฟไหม แกท านอยากจะ เผามนั เสียอีก. อรรถกถาสานุสตู ร พงึ ทราบวินิจฉยั ในสานุสูตรท่ี ๕ ตอไปนี้ :- บทวา ยกฺเขน คหิโต โหติ ความวา เลากันวา บุตรน้ันเปนบตุ รคนเดยี วของอบุ าสิกาน้ัน. ครัง้ นนั้ นางใหบุตรน้ันบรรพชาในเวลาเปนหนมุแล. สานสุ ามเณรนน้ั ตงั้ แตเวลาบรรพชาแลว มีศีลถงึ พรอ มดวยวัตร. สามเณรไดทําวตั รแกอาจารย อุปช ฌายะและพระอาคนั ตุกะเปนตน เดือนละแปดวันลกุ แตเชาเขาไปตั้งนํา้ ไว ในโรงน้าํ กวาดโรงฟง ธรรม ตามประทปี ประกาศฟงธรรมดว ยเสียงไพเราะ. พวกภกิ ษทุ ราบกาํ ลังของสามเณรนัน้ จึงเชื้อเชิญวา พอเณร จงกลา วบทสรภญั ญะเถิด. สามเณรน้ัน ไมน ําอะไรมาอา งวา ลมเสียดแทงหัวใจของผม หรือโรคไอรบกวน ขึ้นธรรมาสน กลาวบทสรภัญญะเหมอื นยงั แมน าํ้ คงคาในอากาศใหตกลงอยูฉ ะนั้น ลงมากลาววา ขอสวนบุญในสรภญั ญะน้ี จงมีแกมารดาบิดาของขาพเจาเถิด. สว นมารดาบิดาของสามเณรน้นั ไมรวู าสวนบญุ สามเณรนน้ั ใหแ ลว . กม็ ารดาของสามเณรในอัตภาพกอ นนนั้ เกิดเปนนางยกั ษิณี นางมากบั พวกเทวดาฟง ธรรมแลว จึงกลา ววาลกู ขา พเจาขออนุโมทนาสว นบุญอันสามเณรใหแลว . กธ็ รรมดาพวกภิกษุผูถงึพรอ มดวยศลี ยอ มเปนที่รักของโลกพรอ มทั้งเทวโลกดว ยประการฉะน้ี. เหลา
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย สคาถวรรค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 400เทวดามคี วามละอาย มีความเคารพในสามเณรน้นั ยอ มสําคัญสามเณรนน้ัเหมือนทาวมหาพรหม และเหมอื นกองไฟ ยกนางยักษณิ ีนน้ั ขนึ้ เปนท่ีเคารพดแู ล ดว ยความเคารพในสามเณร ไดใ หอ าสนะ นํา้ กอ นขา วอนั ลาํ้ เลศิ แกนางยกั ษณิ ดี ว ยสาํ คญั วา มารดาของสานุ ดังนี้ ในสถานท่ฟี งธรรมและยักข-สมาคม เปนตน พวกยกั ษ ผูมศี ักด์ิใหญ พบนางยกั ษิณนี ั้นหลีกทางใหลกุจากอาสนะ. คร้ังนั้น สามเณรนัน้ ถงึ ความเจรญิ มอี ินทรยี แกกลา ถกู ความไมยินดบี ีบคนั้ เมอื่ ไมอาจจะบรรเทาความไมย นิ ดีได จึงปลอยใหผมและเลบ็ ยาวรกรงุ รงั ทัง้ สบงและจีวรสกปรกเหลอื เกิน ไมบอกแกใคร ถอื บาตรและจีวรไปยังประตเู รอื นของมารดาแตผูเดียวเทาน้ัน. อุบาสกิ าเห็นสามเณรไหวแลวไดกลา ววา ลกู เมอื่ กอน เจา มาในท่นี ก้ี บั อาจารยอปุ ช ฌายะ หรอื ภกิ ษุหนมุและสามเณร เพราะเหตุไร ในวนั น้ี เจามาแลว แตผ เู ดียวเลา. สามเณรน้นับอกความเปนผกู ระสัน. อบุ าสิกาเปนคนมีศรัทธา แสดงโทษในการอยูค รองเรอื นโดยประการตา ง ๆ กลา วสอนสามเณร เมื่อไมอาจจะใหส ามเณรน้ันยินยอมได คดิ วา กระไรเสยี สามเณรจกั กําหนด แมตามธรรมดาของตนได จึงชักชวนกลา ววา ลูก เจาจงหยุดอยจู นกวา แมจะใหจ ดั ขาวยาคแู ละภัตพรอ มแกเจา แมจกั ถวายผา ท่ีพอใจแกเ จา ผดู ่มื ขาวยาคทู ําภัตกิจเสรจ็ แลว ดงั นี้ แลวจึงจดั อาสนะถวาย. สามเณรนั่งแลว. อบุ าสกิ าใหจ ัดขา วยาคแู ละของขบเค้ยี วถวายเสร็จแลวโดยครเู ดยี วเทา นั้น. ตอ มา นางคิดวา จกั ใหจดั ภัตใหพ รอมนั่งซาวขาวอยใู นท่ีไมไกล. สมัยน้นั นางยักษณิ นี ้ัน ราํ พึงอยวู า สามเณรไดอาหารอะไร ในที่ไหนหนอแล หรือไมไ ด รูวา สามเณรน้ันนงั่ แลว เพราะจะสกึ คดิ วา สามเณรอยาพงึ ใหค วามละอายเกดิ ขนึ้ ระหวางเทวดาของเรา เราจะไปทําอันตราย ในการสกึ ของสามเณรนนั้ มาแลวสง่ิ ที่รางบดิ คอใหลม ลงที่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 526
Pages: