Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การบัญชีต้นทุน 2

การบัญชีต้นทุน 2

Published by kitthanachon01, 2022-06-14 01:46:30

Description: การบัญชีต้นทุน 2

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 ความรทู้ วั่ ไปเกยี่ วกบั การใชข้ ้อมลู ทางการบัญชเี พ่อื การตัดสินใจ 1 - 37 ข้อ 14. ตอ่ ไปนเ้ี ปน็ ยอดคงเหลอื ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 2558 โดยยอดคงเหลอื มาจากบญั ชี ตา่ งๆ ของบริษัท ABC จากัด ซงึ่ เป็นกิจการทท่ี าการซอื้ ขายสนิ คา้ เงนิ สด 500,000 เงินฝากธนาคาร 250,000 ลกู หนีก้ ารคา้ 175,000 สินค้าคงเหลอื (ปลายงวด) 92,000 ตว๋ั เงินรบั 80,000 เงนิ ลงทนุ ระยะส้ัน 153,000 ทด่ี นิ 2,000,000 อาคาร (สุทธิ) 1,000,000 อุปกรณส์ านกั งาน (สุทธิ) 550,000 เจ้าหนกี้ ารคา้ 500,000 เงนิ ก้รู ะยะยาว 1,850,000 ทุนหุ้นสามัญ 2,000,000 กาไรสะสม (ปลายงวด) 450,000 ให้ทา งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2558 ข้อ 15. บรษิ ทั XYZ จากัด มขี ้อมูลเก่ียวกับรายได้ และคา่ ใชจ้ ่ายระหวา่ งปี 25x1 ดงั นี้ ขายสนิ คา้ 3,500,000 ตน้ ทนุ ขาย 1,000,000 คา่ นา้ ค่าไฟ 120,000 คา่ เช่าสานกั งาน 200,000 ค่าเสอื่ มราคา-อุปกรณ์สานกั งาน 180,000 คา่ รบั รอง 100,000 ค่านายหนา้ 350,000 คา่ โฆษณา 500,000 กาไรสะสม (ต้นงวด) 1,200,000 เงนิ ปนั ผลจ่าย 500,000 ให้ทา 1. งบกาไรขาดทนุ สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x1 (ภาษีเงินได้ 20 %) 2. งบกาไรสะสม สาหรับปี สิน้ สดุ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x1

1 - 38 การบัญชีตน้ ทุน 2 ข้อ 16. บริษทั อุดรการค้า จากดั มขี อ้ มลู ต้นทนุ และค่าใชจ้ ่ายการผลติ ประจาปี 25x1 ดงั น้ี วัตถุดบิ คงเหลือตน้ งวด 120,000 ซอ้ื วตั ถดุ ิบ (สทุ ธ)ิ 250,000 วัตถุดิบคงเหลอื ปลายงวด 100,000 วัตถุดบิ ทางอ้อม 80,000 ค่าแรงงานทางตรง 300,000 ค่าแรงงานทางออ้ ม 75,000 ค่าเชา่ โรงงาน 100,000 คา่ เสื่อมราคา-เคร่อื งจักร 70,000 คา่ สาธารณปู โภคโรงงาน 60,000 งานระหวา่ งทาตน้ งวด 250,000 งานระหว่างทาปลายงวด 320,000 ให้ทา งบต้นทนุ การผลิต สาหรับปี สิ้นสดุ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ข้อ 17. บริษทั เจริญการค้า จากัด เป็นบรษิ ทั ทท่ี าการผลิตสนิ ค้า โดยมขี อ้ มูลเกยี่ วกับการผลติ การขายและ คา่ ใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ดงั น้ี หนว่ ย: บาท ยอดขาย 2,750,000 วตั ถดุ ิบคงเหลอื ตน้ งวด 150,000 ซื้อวัตถดุ บิ (สุทธ)ิ 275,000 วัตถดุ บิ คงเหลือปลายงวด 100,000 วตั ถุดิบทางออ้ ม 60,000 ค่าแรงงานทางตรง 375,000 ค่าแรงงานทางออ้ ม 50,000 เงนิ เดือนผ้จู ัดการโรงงาน 125,000 เงินเดือนผู้บริหาร 250,000 เงินเดือนพนกั งานขาย 125,000 ค่าเช่าโรงงาน 100,000 ค่าเชา่ สานกั งานใหญ่ 40,000 คา่ เสือ่ มราคา-เคร่อื งจักร 140,000 ค่าเส่อื มราคา-อุปกรณส์ านกั งาน 50,000

บทท่ี 1 ความรูท้ ่วั ไปเกยี่ วกับการใชข้ ้อมูลทางการบัญชเี พ่ือการตัดสินใจ 1 - 39 คา่ สาธารณูปโภคโรงงาน 75,000 คา่ สาธารณูปโภคสานกั งาน 37,500 คา่ โฆษณา 150,000 สนิ ค้าคงเหลอื ตน้ งวด 375,000 สินคา้ คงเหลอื ปลายงวด 400,000 งานระหว่างทาต้นงวด 175,000 งานระหว่างทาปลายงวด 150,000 ให้ทา 1. งบต้นทนุ การผลติ สาหรบั งวด 1 ปี ส้ินสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x1 2. งบกาไรขาดทนุ สาหรบั งวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ข้อ 18. จงขดี เครอื่ งหมาย  ลงในช่องวา่ งในขอ้ ทถี่ ูกต้อง ข้อ ช่ือบญั ชี ประเภทของต้นทุน ต้นทุนคงที่ ต้นทนุ ต้นทนุ ผนั แปร ผสม 1 เหลก็ ที่ใช้ในการผลติ รถยนต์ 2 ค่าจ้างที่จ่ายใหก้ ับพนักงานพน่ สรี ถยนต์ 3 ค่าเสือ่ มราคาเครอ่ื งจักร 4 ค่าโทรศพั ท์ 5 คา่ นายหนา้ 6 ค่านา้ คา่ ไฟสานักงาน 7 ค่าเชา่ สานกั งาน 8 เงนิ เดอื นพนกั งานขาย 9 ค่าโฆษณา 10 ค่าซ่อมแซมเครอื่ งจกั ร

1 - 40 การบญั ชตี น้ ทนุ 2 ขอ้ 19. จงขดี เครอ่ื งหมาย  ลงในช่องวา่ งในขอ้ ท่ถี กู ตอ้ ง เกย่ี วกับประเภทของตน้ ทุนท่ี เกี่ยวข้อง ต้นทุน ข้อ ช่ือบญั ชี ต้นทนุ ขนั้ ต้น แปรสภาพ 1 แป้งท่ใี ช้ทาเสน้ บะหมี่ 2 ค่าแรงท่ีจา่ ยใหก้ ับคนงานแผนกผลติ 3 ค่านา้ คา่ ไฟโรงงาน 4 ค่าซ่อมแซมเครือ่ งจักร 5 ค่าเสอ่ื มราคาโรงงาน 6 คา่ เช่าโรงงาน 7 เงนิ เดือนหัวหนา้ แผนกผลติ 8 ค่าจ้างท่จี ่ายรายวนั ใหก้ บั คนงานแผนกประกอบ ช้ินส่วน 9 ค่าเบย้ี ประกนั ภัยโรงงาน 10 ค่าภาษีนาเขา้ วตั ถุดบิ หลกั ท่ีใช้ในการผลติ

บทที่ 2 พฤติกรรมต้นทนุ และการประมาณต้นทุน การจาแนกตน้ ทนุ สามารถจาแนกได้หลายลักษณะ ข้นึ อยู่กบั เกณฑท์ ่ีใชใ้ นการแบ่งหรือ เปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ของการใช้ข้อมูล ดังที่ได้อธิบายไว้ในบทที่ 2 เรอื่ งความร้ทู ัว่ ไปเกีย่ วกับ ต้นทนุ สาหรับเน้อื หาในบทท่ี 3 เปน็ การนาเสนอข้อมลู ต้นทุนซงึ่ เน้นทก่ี ารจาแนกตน้ ทนุ ไปตาม พฤติกรรมต้นทุน ซ่ึงประกอบด้วย ต้นทุนคงท่ี ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งคงท่ี และต้นทุนผสม เพราะการแบ่งประเภทตน้ ทุนในลักษณะน้สี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ในเรอ่ื งต่างๆ ดงั นี้ 1. นาไปประยุกตใ์ ช้ในการวิเคราะหต์ ้นทุน ปริมาณและกาไร (Cost – Volume - Profit Analysis) เช่น การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน การวางแผนกาไร การคานวณหาส่วนเกินท่ีปลอดภัย เปน็ ตน้ 2. นาไปใช้ประกอบการตัดสินใจระยะส้ัน (Short - term Decision) เช่น การตัดสินใจ ยอมรบั หรอื ไม่ยอมรับคาสง่ั ซื้อพิเศษ การกาหนดราคาผลิตภณั ฑห์ รือการบริการ เปน็ ตน้ 3. นาเสนอข้อมูลในรูปของงบกาไรขาดทุนแบบแสดงกาไรส่วนเกิน (Contribution Approach) เพ่อื ใชใ้ นการประเมนิ ผลการดาเนินงานของส่วนงานย่อยหรือผู้จัดการประจาแต่ละ แผนก เรียกว่า รายงานแยกตามสว่ นงาน (Segment Report) 4. ช่วยในการจดั ทางบประมาณ (Budgeting) เพ่อื ใชใ้ นการวางแผนและควบคมุ จากข้อมูลข้างต้น การจาแนกประเภทต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานต่างๆ ที่ แสดงในงบกาไรขาดทุนไปตามพฤติกรรมต้นทุนจึงมีความสาคัญ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการแบ่ง ประเภทต้นทุนในลักษณะนี้ผู้บริหารสามารถนาข้อมูลไปใช้ในการวางแผน การควบคุม ประเมนิ ผลการดาเนินงาน และการตดั สินใจไดอ้ ย่างถูกตอ้ งมากขึน้ ดังน้ัน การวิเคราะห์ต้นทุน ตามพฤติกรรมต้นทุน รวมไปถึงการประมาณต้นทุน โดยใช้วิธีการที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งท่ีมี ความจาเปน็ สาหรับการบริหารจดั การในปัจจุบนั

2 - 2 การบญั ชตี ้นทุน 2 รปู แบบของพฤติกรรมต้นทุน พฤตกิ รรมตน้ ทุน (Cost Behavior) หมายถึง ลักษณะการเปล่ียนแปลงของต้นทุนว่ามี ความสัมพันธ์กันอย่างไรกับการเปล่ียนแปลงของกิจกรรม (เบญจมาศ อภิสิทธ์ภิญโญ, 2554: 165) ต้นทนุ จะเปล่ียนแปลงอย่างไร เม่อื มีการเปลีย่ นแปลงของระดับปริมาณกิจกรรม ถ้าระดับ ของกิจกรรมเพิม่ ขน้ึ หรือลดลงก็แล้วแต่ ต้นทนุ จะเพิ่มข้ึนหรือลดลงในสัดส่วนอย่างไร หรืออาจ เทา่ เดิม ไม่เปล่ียนแปลง (ศศิวมิ ล มอี าพล, 2556: 2 - 17) นัน่ หมายถงึ วา่ ตน้ ทุนจะมีพฤติกรรม หลักอยู่สองลักษณะ คือลักษณะของต้นทุนรวมบางประเภทจะผันแปรไปตามสัดส่วนของ ปริมาณการผลิตหรอื กจิ กรรมทเ่ี ปลีย่ นแปลงไป หรอื อาจเกดิ ขึ้นเนอ่ื งจากสาเหตทุ ีท่ าให้ต้นทุนมี การเปล่ยี นแปลง ซึ่งเรียกว่า ตวั ผลักดนั ต้นทนุ (Cost Drivers) สว่ นต้นทุนบางชนิด ต้นทุนรวม อาจจะไม่เปล่ียนแปลงไปตามปริมาณการผลิต หรือกิจกรรมท่ีเปล่ียนแปลงไปซึ่งต้นทุนใน ลักษณะน้ีถึงแม้ว่ากจิ การจะผลิตในปรมิ าณมากหรือน้อย ไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนในลักษณะนี้ (สมนกึ เอื้อจริ ะพงษพ์ นั ธ์, 2552: 107) จากความหมายขา้ งต้น สรปุ ได้วา่ พฤตกิ รรมต้นทุน คือ ลักษณะการเปล่ียนแปลงของ ต้นทุน จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับระดับของกิจกรรม หรือที่เรียกว่า สาเหตุของการเกิด ต้นทนุ หรือ ตัวผลักดนั ตน้ ทนุ (Cost Driver) ดังน้ัน ต้นทุนบางลักษณะถ้ามีระดับของกิจกรรม มาก ต้นทุนรวมท่ีเกิดข้ึนก็มาก แต่ถ้าระดับของกิจกรรมน้อย ต้นทุนรวมที่เกิดข้ึนก็น้อย แต่ ต้นทุนบางลกั ษณะถึงแมว้ า่ จะมรี ะดับของกิจกรรมมากหรือน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนรวม หรือ ต้นทุนรวมไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่ออยู่ในช่วงของระดับกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง (Relevant Range) ข้อมูลต้นทุนท่ีมีการจาแนกประเภทต้นทุนไปตามพฤติกรรมต้นทุน มักจะนามาใช้ใน การวางแผนและการควบคุมสาหรับผู้บริหาร ดังน้ันอาจเรียก การจาแนกต้นทุนประเภทน้ีว่า การจาแนกต้นทนุ สาหรับการวางแผนและการควบคมุ (ศศวิ ิมล มีอาพล, 2556: 2-16) ดงั นั้น จะ เห็นได้ว่าการจาแนกต้นทุนในลักษณะน้ี ส่วนใหญ่จะใช้เป็นข้อมูลทางการบัญชีเพ่ือนาไปใช้ ประกอบการตดั สินใจ หรอื ใช้เพ่อื การบริหารจัดการตน้ ทุนของกจิ การน่ันเอง

บทท่ี 2 พฤตกิ รรมตน้ ทนุ และการประมาณต้นทนุ 2 - 3 การจาแนกประเภทต้นทุนตามพฤติกรรมของต้นทนุ การจาแนกประเภทต้นทนุ ตามพฤตกิ รรมตน้ ทุนมคี วามสัมพนั ธ์กบั การเปล่ียนแปลงของ ระดับปรมิ าณกิจกรรม หรือสาเหตุของการเกิดต้นทุน ซ่ึงสาเหตุท่ีทาให้ต้นทุนเกิดขึ้น มีหลาย สาเหตุ เช่น ปรมิ าณการขาย (หนว่ ย) ปรมิ าณการผลติ (หน่วย) จานวนชั่วโมงแรงงานทางตรง (ชวั่ โมง) จานวนช่วั โมงการทางานของเครอ่ื งจักร (ชัว่ โมง) เปน็ ต้น ซึง่ การเปลย่ี นแปลงปริมาณ ของกิจกรรมจะส่งผลต่อต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย เช่น ถ้าปริมาณสินค้าท่ีขายได้มีจานวนมาก จะ สง่ ผลต่อตน้ ทนุ สนิ คา้ ที่ขายได้ ตน้ ทุนสินค้าท่ขี ายไดก้ จ็ ะมาก แตถ่ ้าปรมิ าณการขายน้อย ตน้ ทุน ขายกจ็ ะน้อย หรือถ้าปรมิ าณสินค้าท่ผี ลิตมีจานวนมาก จะมผี ลทาให้ต้นทุนการผลิตมาก แต่ถ้า ปรมิ าณสนิ ค้าที่ผลิตน้อย ต้นทนุ การผลติ ก็จะน้อยตาม เป็นตน้ การจาแนกตน้ ทุนตามพฤตกิ รรมต้นทนุ มวี ัตถุประสงคห์ ลักเพื่อนาข้อมูลตน้ ทนุ ไปใชใ้ น การวางแผนและการควบคุม โดยแบ่งประเภทต้นทุนเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) 2) ตน้ ทนุ คงท่ี (Fixed Costs) 3) ต้นทุนกง่ึ คงที่ (Semi - fixed Costs) และ 4) ต้นทนุ ผสมหรอื ต้นทนุ กึง่ ผันแปร (Mixed Cost หรือ Semi -variable Costs) ซึ่งต้นทุนแต่ละ ประเภทสามารอธิบายได้ดงั น้ี 1. ต้นทนุ ผนั แปร ตน้ ทนุ ผันแปร (Variable Costs) หมายถึง ต้นทุนหรอื คา่ ใช้จา่ ยใดๆ ทลี่ ักษณะของ ต้นทุนรวม (Total Costs) จะเปลี่ยนแปลงเป็นสดั สว่ นโดยตรงกับการเปล่ยี นแปลงตามปรมิ าณ ของกจิ กรรม หรอื สาเหตขุ องการเกิดต้นทนุ ซ่ึงเรียกวา่ ตัวผลักดนั ต้นทนุ (Cost Driver) น่ันคอื ตน้ ทนุ ผนั แปรรวมจะมีจานวนมากหรอื นอ้ ยขน้ึ อยู่กบั ปริมาณของกิจกรรม เชน่ ตน้ ทุนวัตถุดบิ ทางตรง (Direct Material) จะมตี น้ ทุนรวมมากหรอื นอ้ ยขนึ้ อยกู่ บั ปรมิ าณ สินค้าท่ผี ลิตได้ ปริมาณผลิตยิง่ มาก วตั ถดุ บิ ทางตรงท่ใี ช้ในการผลติ ก็ยิง่ มาก ทาใหต้ น้ ทุน วัตถุดบิ ทางตรงท่ีใช้ในการผลติ กม็ ากตามไปด้วย ต้นทุนคา่ แรงงานทางตรง (Direct Labor) ต้นทนุ รวมจะขน้ึ อยกู่ บั จานวนช่วั โมงแรงงาน ทีพ่ นกั งานทาการผลติ สินคา้ หรอื เรียกวา่ ช่ัวโมงแรงงานทางตรง หรือค่าแรงงานทางตรงอาจจะ ขนึ้ อยกู่ ับปรมิ าณสินค้าท่ีผลิตกไ็ ดเ้ ช่นกนั ถา้ การจ่ายคา่ แรงงานของบรษิ ทั จา่ ยตามจานวน ชนิ้ งาน ค่านายหน้า (Commission expense) เป็นต้นทุนทางการตลาด (Marketing Cost) ซ่ึง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนจะข้ึนอยู่กับยอดขายหรือปริมาณสินค้าที่ขายได้ โดยท่ัวไป ค่า นายหน้าจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย เช่น 10 % จากยอดขาย หรือ อาจจ่ายไปตาม จานวนสินค้าที่ขายได้ เช่น ถ้าขายได้ 1 หน่วย จะจ่ายค่านายหน้า 10 บาท เป็นต้น ตัวอย่าง

2 - 4 การบญั ชตี น้ ทนุ 2 ของต้นทุนผันแปร โดยแยกตามประเภทของธุรกิจ รวมถึงสาเหตุของการเกิดต้นทุนแต่ละ ประเภท ดงั แสดงไว้ในตารางที่ 2.1 ตารางท่ี 2.1 ต้นทุนผันแปรแยกตามประเภทของธุรกจิ และสาเหตขุ องการเกิดตน้ ทุน ประเภทของธรุ กิจ ต้นทุนผนั แปร สาเหตุของการเกิดต้นทุน ธรุ กิจบรกิ าร หรอื ตวั ผลกั ดนั ต้นทุน ธุรกจิ ซอื้ ขายสินคา้ คา่ สาธารณูปโภครา้ น (คา่ นา้ คา่ ไฟ) ปรมิ าณการใชน้ า้ และไฟฟ้า ธรุ กิจผลติ สินคา้ (หน่วย) คา่ วัสดสุ นิ้ เปลอื งใช้ไป ปรมิ าณการใช้วสั ดุส้นิ เปลอื ง (หน่วย) ต้นทนุ สนิ ค้าทข่ี ายได้หรอื ต้นทนุ ขาย ปริมาณการขาย (หนว่ ย) คา่ นายหนา้ ยอดขาย (บาท) หรอื ปริมาณการขาย (หนว่ ย) คา่ ขนสง่ เมอ่ื ขาย หรือ คา่ ขนสง่ ออก ระยะทางการขนสง่ (กโิ ลเมตร) (ค่านา้ มนั ) คา่ สาธารณูปโภคสานกั งานขาย ปริมาณการใช้น้าและไฟฟา้ (หนว่ ย) วัตถุดิบทางตรง ปริมาณการผลติ (หนว่ ย) ค่าแรงงานทางตรง ช่วั โมงแรงงานทางตรง (ชวั่ โมง) คา่ แรงงานทางออ้ ม ชว่ั โมงการทางาน (ช่วั โมง) วสั ดโุ รงงาน ปริมาณการใช้วัสดโุ รงงาน (หน่วย) ค่าสาธารณปู โภคโรงงาน (เฉพาะ ปริมาณการใชน้ า้ และไฟฟ้า สว่ นท่ีแปรไปตามปริมาณการใช)้ (หน่วย) คา่ กาลงั ไฟที่ใช้ในการผลติ ปริมาณการใช้ไฟในการผลิต (หน่วย) คา่ เชื้อเพลงิ ปรมิ าณการใชเ้ ชือ้ เพลงิ (หน่วย)

บทท่ี 2 พฤตกิ รรมตน้ ทุนและการประมาณต้นทุน 2 - 5 ลกั ษณะของตน้ ทนุ ผันแปร นอกจากจะพจิ ารณาสว่ นทีเ่ ป็นต้นทนุ รวมแลว้ เมอื่ พิจารณา ตน้ ทุนผนั แปรในสว่ นของตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหนว่ ย (Variable Cost Per Unit) ในอีกประเดน็ หนง่ึ ซึง่ ลกั ษณะของตน้ ทุนผันแปรตอ่ หนว่ ยจะไมม่ กี ารเปล่ียนแปลง ดังแสดงขอ้ มูลไว้ในตวั อยา่ งท่ี 2.1 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 2.1 บรษิ ทั อุดรอุตสาหกรรม จากัด มกี ารผลติ สินคา้ A ซ่ึงในการผลิตสินคา้ 1 หน่วย ต้อง ใช้วตั ถุดิบทางตรงจานวน 5 ช้ิน โดยมตี น้ ทุนชน้ิ ละ 6 บาท ถ้าบรษิ ทั ผลติ สินคา้ A จานวน 10 หนว่ ย จะมีต้นทนุ วตั ถุดบิ ทางตรงเทา่ กับ 300 บาท (ผลติ ภัณฑ์ 10 หน่วย x วัตถดุ บิ 5 ชิน้ x 6 บาท) แต่ถา้ บริษัทผลิตสินค้าเพ่มิ ขนึ้ เปน็ 40 หน่วย ต้นทนุ วัตถดุ ิบทางตรงจะเทา่ กับ 100 บาท (40 หน่วย x 5 ชิ้น x 6 บาท) ดังน้ันจะเหน็ ไดว้ า่ ตน้ ทนุ รวมจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางทเ่ี พ่มิ ขนึ้ ซงึ่ เป็นสดั ส่วนโดยตรงกบั จานวนสนิ คา้ ท่ีผลติ แต่ต้นทนุ ต่อหนว่ ยจะยงั คงเทา่ กบั 5 บาท ไมม่ ี การเปลีย่ นแปลง เพอ่ื ใหเ้ ห็นภาพชัดเจนมากขึ้น สามารถแสดงการคานวณต้นทุนวตั ถดุ ิบ ทางตรง ได้ตามตารางท่ี 2.2 ตารางท่ี 2.2 แสดงการคานวณตน้ ทุนวัตถดุ บิ ทางตรงทใ่ี ช้ในการผลิต ปริมาณการ จานวนวตั ถดุ ิบที่ ต้นทนุ ผนั แปร ต้นทุนผนั แปรรวม ผลิตสินค้า ใช้ในการผลิต ต่อหน่วย (บาท) (หน่วย) (ชิ้น) (บาทต่อหน่วย) 50 1 5 6 300 10 50 6 600 20 100 6 1,200 40 200 6 จากตารางขา้ งตน้ สามารถแสดงลักษณะของตน้ ทนุ ผนั แปร ทง้ั ต้นทนุ ผันแปรรวมและ ต้นทุนผันแปรตอ่ หนว่ ย ดงั แสดงในภาพท่ี 2.1 และ 2.2 ตามลาดบั

2 - 6 การบญั ชีต้นทนุ 2 ต้นทนุ วัตถุดิบทางตรง (บาท) ต้นทุนผันแปรรวม 1,200 1,000 800 600 400 200 0 10 20 30 40 ปริมาณการผลติ (ชิน้ ) ภาพท่ี 2.1 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทนุ ผนั แปรรวม ตน้ ทนุ วตั ถุดิบทางตรง (บาท) 25 20 15 10 5 ต้นทนุ ผันแปรตอ่ หนว่ ย = 6 บาทต่อหนว่ ย 0 10 20 30 40 ปรมิ าณการผลติ (ช้นิ ) ภาพที่ 2.2 แสดงพฤตกิ รรมของตน้ ทุนผันแปรตอ่ หน่วย

บทที่ 2 พฤติกรรมต้นทนุ และการประมาณต้นทุน 2 - 7 2. ต้นทนุ คงที่ ต้นทนุ คงที่ (Fixed Costs) คอื ตน้ ทนุ ชนิดทีต่ น้ ทนุ รวม (Total Costs) จะไมม่ ีการ เปล่ยี นแปลง หรอื เท่ากนั ตลอดชว่ งของกจิ กรรมที่เก่ียวข้อง (Relevant Range) หรอื หมายถึง ต้นทนุ ทีไ่ มเ่ ปลี่ยนแปลงถึงแมว้ ่าระดบั ของกจิ กรรมมีการเปลี่ยนแปลงกต็ าม แตท่ ้ังน้ีตน้ ทุนคงที่ จะไมเ่ ปลี่ยนแปลงภายในช่วงของกิจกรรมหนึ่งเทา่ นนั้ ตัวอย่างของตน้ ทนุ คงท่ี โดยแยกตาม ประเภทของธรุ กิจ ดังแสดงไว้ในตารางที่ 2.3 ตารางที่ 2.3 ต้นทุนคงท่ีแยกตามประเภทของธรุ กจิ ประเภทของธรุ กิจ ต้นทนุ คงที่ ธุรกจิ บริการ คา่ เชา่ ร้าน ธรุ กจิ ซ้ือขายสินคา้ เงนิ เดอื นพนกั งานในร้าน ค่าเชา่ สานกั งานขาย ธุรกิจผลติ สนิ คา้ เงนิ เดือนผู้บรหิ าร เงนิ เดอื นพนกั งานขาย คา่ เบ้ียประกนั ภยั สานักงาน ค่าเสอ่ื มราคา – อปุ กรณส์ านกั งาน คา่ เชา่ โรงงาน ค่าเชา่ คลงั สนิ คา้ เงินเดือนผู้จัดการโรงงาน คา่ เบีย้ ประกนั ภยั โรงงาน คา่ เสือ่ มราคา – เคร่อื งจกั ร ค่าเสื่อมราคา – โรงงาน ค่าภาษีทรพั ยส์ นิ คา่ สิทธบิ ตั รตัดจาหนา่ ยตามอายุสิทธิบัตร ลักษณะของต้นทุนคงท่ี นอกจากจะพิจารณาจากต้นทุนคงที่รวมแล้ว ยังสามารถ พจิ ารณาในสว่ นของตน้ ทนุ คงที่ต่อหน่วย (Fixed Cost Per Unit) ได้เช่นกัน ลกั ษณะของต้นทุน คงที่ต่อหน่วยจะมีการเปล่ียนแปลงไปในทิศทางตรงข้ามกับระดับของกิจกรรม นั่นคือ ย่ิงมี ปริมาณของกจิ กรรมมาก จะย่งิ ทาใหต้ น้ ทนุ คงท่ตี อ่ หนว่ ยจะยง่ิ ลดลง ในทางตรงกันขา้ ม ถา้ ยิง่ มี ปรมิ าณของกจิ กรรมนอ้ ย ต้นทุนคงที่ต่อหนว่ ยจะยิ่งสงู ขน้ึ

2 - 8 การบญั ชีตน้ ทนุ 2 จากข้อมูลในตัวอย่างท่ี 2.1 ถ้าบริษัท อุดรอุตสาหกรรม จากัด มีค่าเช่าโรงงาน ซ่ึงมี ลักษณะเป็นต้นทุนคงท่ี จานวน 20,000 บาท โดยบริษัทจ่ายเท่าเดิมทุกเดือน การคานวณค่า เชา่ โรงงานตอ่ หนว่ ย คานวณโดยนาเอาตน้ ทนุ รวมหารด้วยปริมาณการการผลิต เช่น ณ ระดับ การผลิตที่ 10 หน่วย จ่ายค่าเช่าโรงงานต่อหน่วยเท่ากับ 2,000 บาท (20,000 บาท  10 หน่วย) เพอ่ื ให้เหน็ ภาพชัดเจนมากขึ้น สามารถแสดงการคานวณค่าเชา่ โรงงานตอ่ หน่วย ไดด้ ัง ตารางที่ 2.4 แสดงการคานวณคา่ เชา่ โรงงานของบรษิ ทั อดุ รอุตสาหกรรม จากัด ปริมาณการผลิต ค่าเช่าโรงงานรวม (บาท) ค่าเช่าโรงงานต่อหน่วย (หน่วย) (บาทต่อหน่วย) 1 20,000 20,000 10 20,000 2,000 20 20,000 1,000 40 20,000 500 จากตารางข้างตน้ สามารถแสดงลักษณะของตน้ ทุนคงท่ี ทงั้ ต้นทุนคงท่รี วมและต้นทนุ คงทตี่ อ่ หนว่ ย ดงั แสดงในภาพที่ 2.3 และ 2.4 ตามลาดับ คา่ เชา่ โรงงาน (บาท) 50,000 ตน้ ทนุ คงทีร่ วม 40,000 30,000 10 20 30 40 ปริมาณการผลติ (ชิ้น) 20,000 ภาพท่ี 2.3 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทนุ คงทีร่ วม 10,000 0

บทที่ 2 พฤติกรรมตน้ ทนุ และการประมาณต้นทนุ 2 - 9 ค่าเช่าโรงงาน (บาท) 2,500 ต้นทุนคงท่ตี อ่ หนว่ ย 2,000 1,500 10 20 30 40 ปริมาณการผลิต (ชิ้น) 1,000 ภาพท่ี 2.4 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทนุ คงที่ตอ่ หนว่ ย 500 0 3. ต้นทุนกึง่ คงที่ ต้นทุนก่ึงคงที่ (Step Fixed Costs) เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะคงที่ ณ ช่วง ของระดับกิจกรรมหนึ่งๆ หรืออยู่ในช่วงของการตัดสินใจ (Relevant Range) แต่เม่ือมีการ เปลี่ยนระดับของกิจกรรม ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายนั้นจะเปล่ียนแปลง และจะคงท่ีอยู่เช่นเดิม จนกระทั่งมีการเปล่ียนระดับของกิจกรรมเพิ่มข้ึนอีกระดับหน่ึง เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมงานที่ บรษิ ทั จ่ายให้กับหวั หน้างาน ซง่ึ หัวหนา้ งาน 1 คน สามารถควบคมุ ระดบั ของปริมาณการผลติ ได้ ไม่เกิน 10,000 หน่วย จ่ายเงินเดือน 15,000 บาท ดังน้ัน ถ้าบริษัทมีการผลิตสินค้า จานวน 8,000 หน่วย บริษัทต้องจ่ายเงินเดือนให้กับหัวหน้างาน จานวน 15,000 บาท แต่ถ้าระดับ ปริมาณการผลิตเพิ่มข้ึนเป็น 20,000 หน่วย ต้องจ้างหัวหน้างาน 2 คน ทาให้บริษัทต้องจ่าย เงนิ เดือนหัวหน้างาน จานวน 30,000 บาท ถ้ากิจการเพิ่มระดับการผลิต เป็น 25,000 หน่วย ตอ้ งจ้างหวั หนา้ งาน 3 คน เงินเดือนทีจ่ ่ายให้กบั หวั หนา้ งาน จะเทา่ กบั 45,000 บาท ดงั น้นั จะเหน็ ได้วา่ ต้นทนุ กึง่ คงท่ี จะมลี กั ษณะคงท่ีในช่วงของการผลิตหน่ึง ๆ แต่เมื่อ เปลี่ยนระดับกจิ กรรม ต้นทุนคงที่อาจจะเปล่ียนแปลง แต่จะคงท่ีอยู่ ณ ระดับการผลิตน้ัน เป็น ข้ันๆ คล้ายกับข้ันบันได ดังน้ัน ต้นทุนกึ่งคงที่ สามารถเรียกอีกช่ือหนึ่งว่า ต้นทุนคงที่เป็น ขั้นบันได (Step Fixed Costs) ดงั แสดงในภาพท่ี 2.5

2 - 10 การบัญชตี น้ ทนุ 2 เงินเดอื น (บาท) ต้นทนุ กึง่ คงท่ี 45,000 30,000 15,000 ปริมาณการผลติ (หนว่ ย) 0 30,000 10,000 20,000 ภาพที่ 2.5 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทุนกึง่ คงที่ 4. ต้นทุนผสม หรอื ต้นทนุ ก่งึ ผนั แปร ต้นทนุ ผสม หรอื ต้นทนุ ก่งึ ผันแปร (Mixed Costs or Semi-variable Costs ) เปน็ ต้นทนุ ที่รวมกันระหว่างต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่เข้าด้วยกัน ดังนั้น ลักษณะของต้นทุนผสมจึงมี ลักษณะพฤตกิ รรมตน้ ทุนท่เี ป็นของตน้ ทนุ ผันแปรและตน้ ทุนคงที่รวมกัน น่นั คอื ต้นทนุ ส่วนหน่งึ จะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับของกิจกรรมหรือข้ึนอยู่กับตัวผลักดันต้นทุน (Cost Drivers) แต่ การเปลี่ยนแปลงน้ันไม่เป็นสัดส่วนเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของระดับของกิจกรรม เช่นเดียวกบั ลักษณะของต้นทุนผนั แปร ตัวอย่างของต้นทนุ ผสมหรือต้นทุนกึ่งผันแปร โดยแยก ตามประเภทของธุรกิจ ดังแสดงไวใ้ นตารางที่ 2.5 ตารางที่ 2.4 ตน้ ทนุ ผสมแยกตามประเภทของธรุ กิจ ประเภทของธรุ กิจ ต้นทนุ ผสม สาเหตุของการเกิดต้นทุน ธรุ กจิ บริการ ของต้นทุนผนั แปร คา่ สาธารณปู โภคของรา้ น (คา่ ปริมาณการใช้น้าและไฟฟ้า เช่ามิเตอรแ์ ละคา่ น้าค่าไฟ) (หน่วย) ค่าโทรศัพท์ร้าน (ค่าบริการ จานวนครั้งของการโทร (ครง้ั ) คู่สาย และค่าโทรศัพท์ นาที ละ 3 บาท)

บทที่ 2 พฤติกรรมต้นทุนและการประมาณต้นทนุ 2 - 11 ตารางที่ 2.4 (ต่อ) ต้นทนุ ผสม สาเหตขุ องการเกิดต้นทุนของ ประเภทของธรุ กิจ ต้นทนุ ผนั แปร ธุรกจิ ซอื้ ขายสนิ คา้ เงินเดือนและคา่ นายหนา้ ยอดขาย (บาท) หรอื ปรมิ าณการขาย (หน่วย) ค่าขนสง่ ออก (เงินเดอื นพนกั งานขับ ระยะทางการขนสง่ (กโิ ลเมตร) รถ และคา่ น้ามัน) ค่าสาธารณปู โภคสานักงาน ปริมาณการใช้น้าและไฟฟ้า (หนว่ ย) ค่าโทรศพั ท์สานกั งาน จานวนครงั้ ของการโทร (ครง้ั ) ธรุ กจิ ผลติ สนิ คา้ ค่าสาธารณปู โภคโรงงาน ปริมาณการใช้น้าและไฟฟ้า (หน่วย) คา่ โทรศัพท์โรงงาน จานวนครั้งของการโทร (ครงั้ ) ค่าเช่ารถบรรทกุ (คา่ เชา่ และคา่ ระยะทางการขนสง่ (กิโลเมตร) นา้ มนั รถบรรทุก) คา่ ซ่อมแซมเคร่ืองจักร (เช่น จานวนวสั ดทุ ใี่ ชใ้ นการซอ่ ม เงนิ เดือนพนกั งานซ่อม และวัสดุใน การซอ่ ม) จากข้อมูลขา้ งตน้ จะเหน็ ได้วา่ ต้นทนุ ผสม ประกอบดว้ ย ต้นทนุ คงท่ี และตน้ ทนุ ผนั แปร ซ่ึงส่วนท่ีมีลักษณะเป็นต้นทุนผันแปร จะมีสาเหตุของการเกิดต้นทุน ดังแสดงในตารางที่ 2.5 ดังน้นั การวิเคราะห์ต้นทนุ ผสม เป็นการแบง่ ตน้ ทนุ รวมออกเปน็ ส่วนของต้นทนุ คงทเี่ ป็นจานวน เงินเท่าใดและส่วนท่ีเป็นต้นทุนผันแปรเป็นสัดส่วนเท่าใด เพ่ือนาข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการ วางแผนและควบคุมต่อไป ตวั อยา่ งท่ี 2.2 บริษัท อุดรการคา้ จากัด เป็นบรษิ ัททที่ าการผลติ สนิ ค้า และส่งสินคา้ ใหก้ บั ลกู คา้ โดย การเชา่ รถบรรทกุ (ถา้ รถบรรทุก 1 คัน สามารถบรรทกุ สนิ คา้ ได้จานวน 10,000 หน่วย) ดังนน้ั คา่ ขนสง่ สินคา้ ใหก้ บั ลูกค้า ถือวา่ เปน็ เป็นตน้ ทนุ ผสม ประกอบดว้ ย ตน้ ทุนคงท่แี ละต้นทนุ ผนั แปร โดยตน้ ทนุ คงท่ไี ด้แก่ ค่าเชา่ จานวน 10,000 บาท และส่วนทเ่ี ป็นผนั แปรไดแ้ ก่ คา่ นา้ มนั ต้นทุนหน่วยละ 10 บาท ซึ่งสามารถนามาแสดงรายละเอยี ด ได้ตามตารางดังน้ี

2 - 12 การบัญชตี น้ ทนุ 2 (1) (2) (3) (4) (5) = (3 )+ (4) (6) = (5) / (1) ค่าขนส่งรวม ปริมาณ ต้นทุนผนั แปร ต้นทุนผนั แปร ค่าเช่า ค่าขนส่งต่อ การผลิต ต่อหน่ วย รวม รถบรรทุก (บาท) หน่ วย (หน่ วย) (บาท/หน่ วย) (บาท) (บาท) 20,000 (บาท/หน่ วย) 1,000 10 10,000 30,000 2,000 10 20,000 10,000 60,000 20.00 5,000 10 50,000 10,000 90,000 15.00 8,000 10 80,000 10,000 110,000 12.00 10,000 10 100,000 10,000 11.25 10,000 11.00 จากข้อมูลต้นทุนผสม ซึ่งในท่ีนี้ได้แก่ ค่าขนส่งรวม จะเห็นได้ว่า ค่าขนส่งรวม ประกอบด้วย ตน้ ทุนคงทแ่ี ละตน้ ทุนผันแปรรวมกัน ซ่ึงต้นทุนรวมจะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับ ของกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต แตไ่ มเ่ ปน็ ไปตามสดั สว่ นเดยี วกนั กบั ปรมิ าณการผลิต แตส่ ว่ น ทเี่ ปลย่ี นแปลงไปตามสัดส่วนเดยี วกันกับปรมิ าณการผลติ คือต้นทุนผันแปรเท่านั้น ซึ่งลักษณะ ของข้อมลู ต้นทุนผสมสามารถแสดงไดด้ งั ภาพท่ี 2.6 ตน้ ทุน (บาท) ต้นทุนรวม เชน่ คา่ ขนสง่ รวม 100,000 50,000 ต้นทนุ ผนั แปร เชน่ ค่านา้ มัน 10,000 ต้นทุนคงท่ี 0 เช่น คา่ เช่ารถบรรทกุ 5,000 10,000 ปริมาณการผลติ (หน่วย) ภาพท่ี 2.6 แสดงพฤตกิ รรมของตน้ ทนุ ผสม

บทที่ 2 พฤตกิ รรมต้นทุนและการประมาณตน้ ทนุ 2 - 13 การวิเคราะหต์ ้นทุนผสม การจาแนกตน้ ทุนตามพฤตกิ รรมต้นทุน สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ต้นทุน ผันแปร ตน้ ทนุ คงที่ ตน้ ทุนกึ่งคงที่ และตน้ ทนุ กง่ึ ผันแปรหรอื ต้นทุนผสม ซึ่งอธิบายความหมาย และลักษณะของตน้ ทุนในแตล่ ะประเภทแลว้ ในหวั ขอ้ ทผ่ี า่ นมา แตจ่ ะเห็นได้ว่า ตน้ ทุนประเภทท่ี 1 – 3 สามารถระบุได้ชดั เจนว่ามีต้นทุนจานวนเท่าใด หรือมีสัดส่วนเป็นอย่างไรเม่ือระดับของ กิจกรรมมีการเปลี่ยนแปลง แต่ในกรณีท่ีกิจการมีค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนท่ีมีลักษณะเป็นต้นทุน ผสมจะคานวณหรือแบ่งส่วนของต้นทุนได้ค่อนข้างยาก เน่ืองจากต้นทุนรวมประกอบด้วย ต้นทุนคงท่ีและต้นทุนผันแปรรวมกัน ดังนั้น เพื่อให้ข้อมูลต้นทุนในลักษณะดังกล่าว สามารถ นาไปใช้ประโยชน์ประกอบการวางแผนและควบคุมได้ ต้องจาแนกต้นทุนผสมออกเป็นต้นทุน คงท่ี และต้นทุนผันแปรวา่ มจี านวนเทา่ ใดหรอื เป็นสดั ส่วนอยา่ งไร ซง่ึ สามารถใช้วิธกี ารวิเคราะห์ ตน้ ทนุ ผสม ได้ 3 วิธี ไดแ้ ก่ 1. วธิ ีจดุ สงู สดุ – ต่าสดุ (High – Low Method) 2. วธิ ีแผนภมู ิกระจาย (Scatter Graph Method) 3. วิธกี าลงั สองนอ้ ยท่สี ุด (Least Squares Method) หรือ วธิ สี มการถดถอยเชิง เส้นตรงอยา่ งงา่ ย (Simple Linear Regression Analysis) ซ่ึงจะอธบิ ายการวิเคราะหข์ ้อมูลตน้ ทนุ ผสมและแสดงการคานวณแตล่ ะวธิ ีโดยละเอยี ด ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. วิธีจดุ สงู สดุ -ตา่ สดุ วธิ ีจดุ สงู สุด – ตา่ สดุ (High-Low Method) เป็นวธิ กี ารวเิ คราะห์ข้อมูลต้นทุนผสมโดยใช้ วธิ ีการคานวณทางคณิตศาสตร์ เพอื่ แบง่ ต้นทนุ ผสมออกเปน็ ตน้ ทุนคงท่ีและต้นทุนผันแปร โดย ใชร้ ะดับของกจิ กรรม หรอื สาเหตขุ องการเกิดตน้ ทุน หรืออ ตวั ผลักดันต้นทุน (Cost Driver) ณ ระดับสูงสุดและตา่ สุดเท่าน้นั ในการพิจารณา โดยมขี ั้นตอนการวิเคราะห์ต้นทุนผสม ดงั น้ี ขน้ั ที่ 1 เลอื กจดุ สงู สดุ และต่าสดุ ข้นั ที่ 2 คานวณหาตน้ ทุนผนั แปรตอ่ หนว่ ย ขน้ั ท่ี 3 คานวณหาตน้ ทุนผนั แปรรวม ขน้ั ที่ 4 คานวณหาตน้ ทนุ คงท่ีรวม

2 - 14 การบญั ชตี ้นทุน 2 ขนั้ ท่ี 1 เลือกจดุ สงู สดุ และจดุ ตา่ สดุ ในการเลอื กจุดสงู สุดและจดุ ตา่ สุดนนั้ จะเลือกระดบั ของกิจกรรมหรอื สาเหตุของการเกิด ต้นทุน หรือทีเ่ รยี กวา่ ตวั ผลกั ดันต้นทุนทส่ี งู ทส่ี ดุ และตา่ ทีส่ ุดเสมอ เช่น เลือกระดับของปริมาณ การผลิตท่ีสูงที่สุดและต่าที่สุด แล้วพิจารณาว่า ณ ระดับน้ันมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ เท่าใด เม่ือได้ข้อมูลแล้วจะนาตัวเลข ทั้งปริมาณของกิจกรรมพร้อมทั้งต้นทุน มาใช้ในการ คานวณหาต้นทนุ ผันแปรต่อหนว่ ยในขัน้ ตอนถดั ไป ขนั้ ที่ 2 คานวณหาต้นทุนผนั แปรต่อหน่วย การคานวณต้นทุนผันแปรต่อหน่วย สามารถคานวณโดยใช้สูตร ดงั นี้ ตน้ ทนุ ผันแปรต่อหนว่ ย = ต้นทนุ รวม ณ ระดบั กิจกรรมสูงสุด – ตน้ ทุนรวม ณ ระดับกจิ กรรมตา่ สุด (บาทตอ่ หน่วย) ระดับกิจกรรมสูงสดุ – ระดบั กจิ กรรมตา่ สดุ ขนั้ ท่ี 3 คานวณหาต้นทนุ ผนั แปรรวม เมอ่ื คานวณต้นทุนผันแปรต่อหน่วย (ทไี่ ดจ้ ากข้ันตอนที่ 2 ไดแ้ ล้ว จะนามาหาต้นทุนผัน แปรรวมในข้นั ตอนตอ่ ไป โดยจุดทนี่ ามาแทนคา่ อาจเป็นจุดสูงสุดหรือต่าสุด (จากข้ันตอนที่ 1) กไ็ ด้ โดยใช้สูตรในการคานวณตน้ ทนุ ผนั แปรรวม ดงั น้ี ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม (บาท) = ตน้ ทนุ ผันแปรตอ่ หนว่ ย X ระดับกจิ กรรม ณ จดุ สงู สุด หรือจุดตา่ สดุ ขนั้ ที่ 4 คานวณหาต้นทุนคงที่รวม เมอื่ คานวณต้นทุนผันแปรรวม (ไดจ้ ากขั้นตอนท่ี 3) ไดแ้ ล้ว ขั้นตอนต่อไปให้แก้สมการ เพอ่ื คานวณหาตน้ ทุนคงที่รวม โดยจากสมการตน้ ทนุ ผสม คือ ตน้ ทุนรวม (บาท) = ต้นทุนคงทร่ี วม + ต้นทนุ ผันแปรรวม ดังนั้น ถ้าตอ้ งการจะคานวณหาตน้ ทนุ คงท่ีรวม จึงไดส้ มการดังนี้ ตน้ ทุนคงทีร่ วม (บาท) = ต้นทุนรวม - ต้นทุนผนั แปรรวม

บทท่ี 2 พฤติกรรมตน้ ทนุ และการประมาณต้นทนุ 2 - 15 ตวั อยา่ งท่ี 2.3 บรษิ ัท สยามอุตสาหกรรม จากัด กาลงั พิจารณาวเิ คราะห์ขอ้ มูลและจาแนกค่าใช้จ่ายใน การขายรวม ซงึ่ ถือวา่ เปน็ ต้นทุนผสม ผู้จัดการฝ่ายบัญชีต้องการทราบว่าค่าใช้จ่ายในการขาย สว่ นท่เี ปน็ ต้นทุนคงที่ (เชน่ เงนิ เดือนพนักงานขาย ค่าเช่าสานักงานขาย ค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์ สานักงานในแผนกขาย เป็นต้น) และส่วนท่ีเป็นผันแปร (เช่น ค่านายหน้า ค่าน้ามัน ค่า สาธารณปู โภคแผนกขาย เป็นต้น) มจี านวนเท่าใด โดยเงอ่ื นไขของค่าใชจ้ ่ายในการขายรวมนี้มี ความสัมพันธก์ ับปริมาณการขายสนิ ค้า ซงึ่ ขอ้ มูลที่เก็บรวบรวมได้ในระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่าน มามีดังน้ี เดือน ปริมาณการขาย (หน่วย) ค่าใช้จา่ ยในการขาย (บาท) มกราคม 18,000 81,000 กุมภาพันธ์ 20,000 87,000 มนี าคม 25,000 99,000 เมษายน 15,000 75,000 พฤษภาคม 12,000 69,000 มิถนุ ายน 24,000 96,000 กรกฎาคม 17,000 80,000 สงิ หาคม 10,000 64,000 กนั ยายน 19,000 85,000 ตลุ าคม 22,000 92,000 จากขอ้ มูลข้างตน้ ค่าใช้จ่ายในการขายเปน็ ตน้ ทนุ ผสมท่ตี ้องการจะนามาวิเคราะห์ ส่วน ปริมาณการขายเป็นสาเหตุของการเกิดต้นทุน หรือท่ีเรียกว่าตัวผลักดันต้นทุน ซ่ึงสามารถนา ขอ้ มลู มาวเิ คราะหต์ น้ ทุนผสม โดยใช้วิธีจุดสูงสุด – ต่าสุด (High - Low Method) และประมาณ ค่าตน้ ทนุ ตามข้นั ตอนแตล่ ะขนั้ ได้ดงั นี้

2 - 16 การบัญชตี ้นทนุ 2 ขนั้ ที่ 1 เลือกจุดสูงสุด และตา่ สุด ค่าใช้จ่ายในการขาย ปริมาณการขาย (บาท) (หน่วย) 99,000 จดุ สูงสดุ (เดอื นมนี าคม) 25,000 64,000 จุดต่าสดุ (เดือนสงิ หาคม) 10,000 ขนั้ ที่ 2 คานวณหาตน้ ทนุ ผนั แปรตอ่ หนว่ ย การคานวณตน้ ทนุ ผันแปรต่อหน่วย สามารถคานวณโดยใช้สูตร ดังนี้ ต้นทุนผนั แปรตอ่ หนว่ ย = ตน้ ทุนรวม ณ ระดบั กิจกรรมสงู สุด – ต้นทุนรวม ณ ระดบั กจิ กรรมตา่ สุด (บาทตอ่ หน่วย) ระดับกจิ กรรมสงู สดุ – ระดับกจิ กรรมตา่ สดุ คา่ ใช้จา่ ยในการขายผันแปรต่อหนว่ ย = 99,000 – 64,000 25,000 – 10,000 = 35,000 15,000 = 2.33* บาทต่อหนว่ ย ดงั น้นั คา่ ใชจ้ ่ายในการขายผนั แปร เทา่ กบั 2.33 บาทตอ่ หน่วย *ค่าใช้จ่ายในการขายผนั แปรต่อหนว่ ยเท่ากับ 2.3333 บาทตอ่ หนว่ ย แตป่ ัดเศษให้เหลอื 2 ตาแหน่ง ขนั้ ท่ี 3 คานวณหาตน้ ทนุ ผนั แปรรวม การคานวณต้นทุนผันแปรรวม สามารถคานวณโดยใชส้ ูตร ดงั น้ี ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม (บาท) = ต้นทนุ ผนั แปรตอ่ หน่วย x ระดับกิจกรรม ณ จดุ สูงสดุ หรอื จุดตา่ สดุ ถ้าเลือกจุดสูงสุดแทนระดับของกิจกรรม ซ่ึงในท่ีนี้ คือข้อมูลปริมาณการขาย เท่ากบั 25,000 หนว่ ย สว่ นตน้ ทนุ ผันแปรต่อหน่วย เท่ากับ 2.33 บาทตอ่ หนว่ ย ดังนนั้ ค่าใชจ้ า่ ยในการขายผันแปรรวม = 2.33 x 25,000 = 58,250 บาท ดังนน้ั ค่าใช้จ่ายในการขายผนั แปรรวม มีจานวน 58,250 บาท

บทท่ี 2 พฤติกรรมต้นทนุ และการประมาณตน้ ทุน 2 - 17 แตถ่ ้าหากเลือกจดุ ตา่ สดุ แทนระดับของกิจกรรม ซง่ึ ในทน่ี ้ี คอื ขอ้ มลู ปรมิ าณการ ขายเทา่ กบั 10,000 หนว่ ย ส่วนต้นทนุ ผนั แปรต่อหน่วย เทา่ กบั 2.33 บาทต่อหน่วย ดังนน้ั คา่ ใช้จา่ ยในการขายผันแปร (บาท) = 2.33 x 10,000 = 23,300 บาท ดงั น้ัน ค่าใชจ้ า่ ยในการขายผันแปร มีจานวน 23,300 บาท ขนั้ ที่ 4 คานวณหาตน้ ทนุ คงท่ีรวม คานวณหาค่าใช้จ่ายในการขายคงที่ โดยจากสมการตน้ ทนุ ผสม คือ ตน้ ทุนรวม (บาท) = ตน้ ทุนคงท่รี วม + ต้นทนุ ผันแปรรวม ดงั น้ัน ถ้าตอ้ งการจะคานวณหาตน้ ทนุ คงทร่ี วม จะไดส้ มการดังน้ี ต้นทนุ คงท่ีรวม (บาท) = ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปรรวม ดังนนั้ ณ ระดบั ปรมิ าณการขายจดุ สงู สดุ ท่ี 25,000 หนว่ ย จะมคี า่ ใชจ้ ่ายในการขาย รวม เทา่ กบั 99,000 บาท และ ค่าใชจ้ ่ายในการขายผันแปร เท่ากับ 58,250 บาท นาไปแทนคา่ ในสมการขา้ งตน้ คา่ ใช้จ่ายในการขายคงที่ = ค่าใชจ้ ่ายในการขายรวม – คา่ ใช้จ่ายในการขายผนั แปร = 99,000 – 58,250 = 40,750 บาท ดังน้นั ค่าใช้จ่ายในการขายคงที่ มจี านวน 40,750 บาท แตถ่ า้ หากเลอื กระดับปริมาณการขายจดุ ตา่ สดุ ท่ี 10,000 หน่วย จะมคี ่าใชจ้ า่ ยในการ ขายรวม เทา่ กับ 64,000 บาท และ ค่าใชจ้ า่ ยในการขายผันแปร เท่ากบั 23,300 บาท นาไป แทนคา่ ในสมการขา้ งตน้ คา่ ใช้จ่ายในการขายคงท่ี = คา่ ใช้จา่ ยในการขายรวม – ค่าใช้จ่ายในการขายผนั แปร = 64,000 – 23,300 = 40,700 บาท ดังนนั้ ค่าใชจ้ า่ ยในการขายคงที่ มจี านวน 40,700 บาท ซง่ึ จะเห็นได้ว่า ไม่วา่ จะใช้ระดับปรมิ าณการขายทจ่ี ุดสูงสุด หรือจดุ ต่าสุด คา่ ใชจ้ า่ ยใน การขายคงท่ี จะมคี า่ ที่ไมเ่ ท่ากนั มีผลต่าง 50 บาท (40,750 – 40,700) เน่ืองจากตน้ ทุนผนั แปร ต่อหนว่ ยมีการปดั เศษลงเลก็ น้อยจากตน้ ทุนผันแปรตอ่ หน่วย 2.3333 บาทตอ่ หนว่ ย ให้เปน็

2 - 18 การบัญชีตน้ ทนุ 2 2.33 บาทต่อหน่วย จงึ มผี ลตอ่ คา่ ใช้จา่ ยในการขายคงท่แี ตล่ ะจุดมคี วามแตกตา่ งกนั แต่มคี า่ ท่ี ใกลเ้ คียงกนั การประมาณต้นทุน จากข้อมูลข้างต้น สามารถนาข้อมูลต้นทุนมาใช้ในการประมาณการต้นทุน (Cost Estimation) หรือวางแผนต้นทุนที่คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคตได้ โดยการกาหนดเป็นสมการ ตน้ ทนุ ผสม ได้ดังน้ี ตน้ ทนุ ผสม (บาท) = ตน้ ทุนคงทรี่ วม + ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม หรอื ต้นทนุ ผสม (บาท) = ต้นทนุ คงที่รวม + (ต้นทนุ ผันแปรต่อหนว่ ย x ระดบั ของกจิ กรรม) ดังนั้น จากข้อมูลตามตัวอย่างท่ี 2.3 สมการต้นทุนผสมของค่าใช้จ่ายในการขาย คือ ค่าใช้จ่ายในการขายรวม = ตน้ ทุนคงที่รวม+(ต้นทุนผันแปรตอ่ หน่วย x ระดบั ของกิจกรรม) คา่ ใชจ้ ่ายในการขายรวม = 40,750 + (2.33 x ปรมิ าณการขาย (หนว่ ย)) จากสมการต้นทุนผสม ซึ่งในที่นี่ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการขาย สามารถอธิบาย ความหมายได้ดังนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายรวม ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขายคงที่ จานวน 40,750 บาท และ ค่าใช้จ่ายในการขายผันแปรต่อหน่วยเท่ากับ 2.33 บาทต่อหน่วย ซ่ึงต้นทุน ผันแปรจะขึ้นอยู่กับจานวนของปริมาณสินค้าที่ขายได้ ถ้าขายได้มากค่าใช้จ่ายในการขายผัน แปรก็จะมาก และส่งผลต่อคา่ ใช้จา่ ยในการขายรวมมากไปด้วย แต่ถ้าหากกิจการขายสินค้าได้ จานวนนอ้ ย คา่ ใชจ้ ่ายในการขายผันแปรก็จะน้อย และสง่ ผลให้คา่ ใชจ้ ่ายในการขายรวมจะน้อย ตามไปด้วย นอกจากน้ี กิจการสามารถนาเอาสมการตน้ ทุนไปใชใ้ นการวางแผนค่าใช้จ่ายในอนาคต ได้อีกด้วย เช่น ถ้ากจิ การประมาณการวา่ ในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะมีปริมาณสินค้าที่ขาย ได้จานวน 23,000 หน่วย ค่าใช้จ่ายในการขายรวมโดยประมาณ จะเท่ากับ 94,340 บาท โดย แสดงการคานวณได้ดังนี้

บทที่ 2 พฤติกรรมตน้ ทนุ และการประมาณตน้ ทนุ 2 - 19 จากสมการตน้ ทุนผสม ค่าใช้จ่ายในการขายรวม (บาท) = 40,750 + (2.33 x ปรมิ าณการขาย (หน่วย)) แทนคา่ ปรมิ าณการขาย เทา่ กับ 23,000 หน่วยในสมการขา้ งตน้ ได้ดงั น้ี คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายรวม = 40,750 + (2.33 x 23,000) = 94,340 บาท 2. วิธีแผนภมู ิกระจาย วิธีแผนภูมิกระจาย (Scatter graph Method) น้ีเป็นการนาเอาข้อมูลต้นทุนที่รวบรวม ได้มากาหนดจุดลงไปในแผนภาพ โดยให้แกนต้ัง (Y) เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายท่ีต้องการ วิเคราะห์ ส่วนแกนนอน (X) เป็นระดับของกิจกรรม หรือ ตัวผลักดันต้นทุน เช่น ปริมาณการ ผลิต จานวนชว่ั โมงการทางาน หรือจานวนชั่วโมงเครื่องจกั ร เปน็ ตน้ เมื่อกาหนดจดุ แต่จดุ ลงไป ในแผนภาพแล้ว ใหล้ ากเส้นตรง โดยให้ผ่านจุดตา่ งๆ เกอื บทุกจุด ไม่จาเป็นต้องลากเส้นต่อจุด แตใ่ หล้ ากผ่านจดุ แตล่ ะจดุ ให้ใกล้เคยี งมากทสี่ ดุ ตวั อยา่ งท่ี 2.4 จากขอ้ มลู ต้นทนุ และปริมาณการขายตามตัวอย่างที่ 2.3 สามารถนามาสร้างแผนภาพ โดยใชว้ ธิ ีแผนภูมกิ ระจาย ไดต้ ามข้ันตอนดงั นี้ ขนั้ ที่ 1 กาหนดจุด โดยการสังเกตว่าแต่ละเดือนมีปริมาณการขาย (X) เท่าใด และ ค่าใชจ้ ่ายในการขาย (Y) เทา่ ใด โดยกาหนดจุดแตล่ ะลงในกราฟ ขนั้ ที่ 2 ลากเสน้ ตรงให้พยายามผา่ นจดุ แตล่ ะจดุ ใหม้ ากทส่ี ุด ขนั้ ท่ี 3 หาจุดตัดแกนต้ัง (Y) ซ่งึ จดุ ตดั นี้ หมายถึง ตน้ ทนุ คงท่ีหรอื ค่าใช้จ่ายในการขาย คงทีน่ น่ั เอง ซ่ึงจากกราฟทไี่ ด้ จดุ ตัดแกนตง้ั อย่ทู ี่ 40,000 บาท

2 - 20 การบญั ชตี ้นทนุ 2 คา่ ใช้จา่ ยในการขายรวม (บาท) 140,000 x 120,000 x 100,000 x 80,000 60,000 40,000 202,0,0000 0 ปรมิ าณการขาย 5,000 10,000 15,000 20,000 25,000 (หนว่ ย) ภาพที่ 2.7 แสดงพฤตกิ รรมของต้นทนุ ผสม โดยใชว้ ิธีแผนภูมกิ ระจาย ขนั้ ท่ี 4 คานวณต้นทุนผันแปรต่อหนว่ ย โดยการใช้ปริมาณการขาย (X) ที่ 20,000 หนว่ ย เนอ่ื งจากจุดนท้ี าให้เกดิ ตน้ ทุนรวมอยบู่ นเส้นท่ลี ากไว้พอดี ณ ปริมาณการขาย 20,000 หน่วย มคี า่ ใช้จา่ ยในการขายรวม เท่ากบั 87,000 บาท หกั ตน้ ทนุ คงท่ี (ท่ีไดจ้ ากขน้ั ที่ 3) 40,000 บาท ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม 47,000 บาท ดงั นน้ั ตน้ ทุนผันแปรตอ่ หน่วย = ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม (บาท) ปริมาณการขาย (หนว่ ย) = 47,000 20,000 = 2.35 บาทตอ่ หนว่ ย จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ทาให้ทราบต้นทุนคงท่ี และต้นทุนผันแปรต่อหน่วย จงึ สามารถสร้าง เปน็ สมการตน้ ทนุ ผสม (ค่าใชจ้ า่ ยในการขาย) ไดด้ งั น้ี คา่ ใช้จ่ายในการขายรวม (บาท) = 40,000 + ( 2.35 x ปรมิ าณการขาย (หน่วย))

บทที่ 2 พฤติกรรมตน้ ทุนและการประมาณต้นทนุ 2 - 21 3. วิธีกาลงั สองน้อยที่สดุ การวิเคราะหต์ ้นทุนผสม เพอ่ื นาไปใชใ้ นการวางแผนและการตัดสินใจ นอกเหนอื จากวธิ ี จุดสงู สดุ – จุดตา่ สุดและวธิ แี ผนภูมิกระจายแล้ว ยังมีวิธีการจาแนกต้นทุนผสมโดยใช้หลักการ ทางสถิติศาสตร์มาใช้ เพอ่ื กาหนดสมการตน้ ทนุ นั่นคือ วิธีกาลังสองน้อยท่ีสุด (Least Squares Method) หรือวิธีสมการถดถอยเชิงเส้นตรงอย่างง่าย (Simple Linear Regression Analysis) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีความนิยมอย่างมาก เพราะวิธีน้ีเป็นการนาเอาข้อมูลต้นทุนท่ีรวบรวมได้ ทง้ั หมดมาใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งถอื ไดว้ ่าวิธีการทางสถิติน้ี ทาให้ผลที่ได้มีความน่าเชื่อถือมาก ที่สดุ เมอื่ เทยี บกับวธิ ีการวเิ คราะห์ตน้ ทนุ ผสมวิธีการอืน่ วิธีกาลังสองน้อยที่สุด จะนาเอาสมการเชิงเส้นตรงมาประยุกต์กับการวิเคราะห์ข้อมูล ต้นทุนผสม โดยกาหนดให้ต้นทุนผสมเป็นตัวแปรตาม (Dependent Variables หรือ Y) ส่วน ระดับของกิจกรรม หรือสาเหตุของการเกิดต้นทุน หรือตัวผลักดันต้นทุน เป็นตัวแปรอิสระ (Independent Variables หรือ X) จากนั้นหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทั้งสองตัวนี้ เพื่อ คานวณหาต้นทุนคงที่ (a) และต้นทุนผันแปรต่อหน่วย (b) ซ่ึงแสดงเป็นในรูปของสมการ ดงั ต่อไปน้ี Y = a + bX โดยท่ี Y = ต้นทุนผสมรวม (บาท) X = ระดบั ของกิจกรรมหรอื ตวั ผลกั ดนั ต้นทนุ (หนว่ ย) a = ต้นทนุ คงที่ (บาท) b = ตน้ ทุนผนั แปรตอ่ หน่วย (บาทต่อหนว่ ย) วธิ กี าลงั สองนอ้ ยท่ีสดุ หรือ วธิ สี มการถดถอยเชิงเส้นตรงอย่างงา่ ย ในการวเิ คราะห์เพ่ือ คานวณหาตน้ ทนุ คงที่ (a) และตน้ ทุนผันแปรตอ่ หน่วย (b) สามารถวิเคราะห์ได้ 2 วธิ ี ได้แก่ วธิ ที ี่ 1 คานวณจากสมการปกติ 2 สมการ วิธที ่ี 2 คานวณค่า a และ b จากสตู รสาเร็จ

2 - 22 การบัญชตี น้ ทนุ 2 วิธีท่ี 1 คานวณจากสมการปกติ 2 สมการ ดงั นี้ ∑Y = n a + b ∑X ………………….. (1) ∑XY = a ∑X + b ∑X2 ………………….. (2) โดยที่ n = จานวนข้อมลู Y = ตน้ ทนุ ผสมรวม (บาท) X = ระดบั ของกจิ กรรมหรอื ตัวผลักดันต้นทุน (หนว่ ย) a = ตน้ ทนุ คงท่ี (บาท) b = ต้นทุนผนั แปรตอ่ หน่วย (บาทต่อหนว่ ย) วิธีท่ี 2 คานวณค่า a และ b จากสตู รสาเรจ็ ได้ดังน้ี b = n ∑XY – (∑X) (∑Y) n ∑X2 – (∑X)2 a =Y–bX โดยท่ี = ∑Y / n Y = ∑X / n X การวิเคราะห์ตน้ ทนุ ผสมโดยใชว้ ิธกี าลงั สองนอ้ ยทส่ี ดุ เพ่อื คานวณหาคา่ a และ b สามารถเลือกใชว้ ิธีใดวธิ ีหนึง่ ไดด้ งั แสดงไว้ขา้ งตน้ แต่อยา่ งไรกต็ าม ในปจั จบุ ันมีการใชค้ อมพวิ เตอร์เป็นเคร่ืองมอื ช่วยในการคานวณ โดย การใช้โปรแกรมสาเร็จรูปท่ีมีฟังก์ชันช่วยในการคานวณค่าทางสถิติ ตัวอย่างโปรแกรมที่มี ฟังก์ชันเพ่ือใช้คานวณค่าทางสถิติ เช่น โปรแกรม Microsoft Excel โปรแกรม SPSS เป็นต้น เพียงแต่กรอกข้อมลู ต้นทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (ค่า Y) พร้อมทง้ั ข้อมูลระดบั ของกจิ กรรมหรือสาเหตุของ การเกิดต้นทนุ (ค่า X) และใสใ่ นโปรแกรมดงั กลา่ ว ก็สามารถคานวณจุดตัดแกนตั้ง (Intercept) ซึง่ กค็ ือคา่ a หรือ ตน้ ทนุ คงท่ี นัน่ เอง และนอกจากน้ีกส็ ามารถคานวณค่าความชัน (slope) ซึ่งก็ คือค่า b หรือ ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย นั่นเอง แต่เพ่ือให้มีความเข้าใจในข้ันตอนของการ

บทที่ 2 พฤติกรรมตน้ ทุนและการประมาณตน้ ทนุ 2 - 23 วิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนผสม ซ่ึงมีความสัมพันธ์กับสาเหตุของการเกิดต้นทุน หรือตัวผลักดัน ต้นทุน ในเอกสารประกอบการสอนฉบับน้ี จึงเน้นให้สามารถคานวณด้วยมือได้ แทนการใช้ โปรแกรมสาเร็จรปู ดังกล่าว ตวั อยา่ งที่ 2.5 จากขอ้ มลู ตัวอย่าง 2.3 ถา้ หากนาขอ้ มูลต้นทนุ มาวเิ คราะหต์ ้นทนุ ผสม โดยใช้วิธกี าลัง สองนอ้ ยท่สี ดุ สามารถนามาแสดงการคานวณเพอ่ื นาไปแทนคา่ ในสมการตา่ งๆ ได้ดังน้ี เดือน X Y XY X2 (พันหน่วย) (พันบาท) มกราคม 1,458 324 กุมภาพันธ์ 18 81 1,740 400 มนี าคม 20 87 2,475 625 เมษายน 25 99 1,125 225 พฤษภาคม 15 75 828 144 มถิ นุ ายน 12 69 2,304 576 กรกฎาคม 24 96 1,360 289 สิงหาคม 17 80 640 100 กนั ยายน 10 64 1,615 361 ตลุ าคม 19 85 2,024 484 ผลรวม (∑) 22 92 15,569 3,528 182 828 วิธีที่ 1 คานวณค่า a และ b จากสมการปกติ 2 สมการ แทนค่าในสมการ (1) และ (2) ∑Y = na + b∑X ………………….. (1) ∑XY = a ∑X + b ∑X2 ………………….. (2)

2 - 24 การบญั ชีต้นทุน 2 828 = 10a + 182 b ………………….. (1) 15,569 (1)X 182 150,696 = 182a + 3,528 b …….……………. (2) (2) X 10 155,690 เอาสมการ (4) – (3) = 1,820a + 3,3124b ………………….. (3) 4,994 = 1,820a + 35,280 b ………………….. (4) = 2,156 b b = 4,994 2,156 = 2.316 บาทตอ่ หน่วย แทนค่า b = 2.316 ในสมการ (1) 828 = 10 a + 182(2.316) 10 a = 828 – 421.512 = 406.488 10 = 40.6488 พนั บาท ดังน้ัน ค่าใช้จ่ายในการขายคงท่ี เท่ากับ 40,648.8 บาท และค่าใช้จ่ายในการขายผัน แปรต่อหน่วย เท่ากับ 2.316 บาทต่อหน่วย จากขอ้ มูลขา้ งต้น คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายรวม สามารถกาหนดเป็นสมการตน้ ทุนผสม ไดด้ ังนี้ ค่าใช้จา่ ยในการขายรวม = ต้นทนุ คงทรี่ วม + ต้นทุนผันแปรรวม = ตน้ ทนุ คงที่รวม + (ต้นทนุ ผันแปรตอ่ หน่วย x ระดบั ของกจิ กรรม) คา่ ใช้จ่ายในการขายรวม = 40,648.80+ (2.316 x ปรมิ าณการขาย (หนว่ ย))

บทท่ี 2 พฤติกรรมต้นทนุ และการประมาณต้นทนุ 2 - 25 ตวั อยา่ งที่ 2.6 บริษัท ศรฟี า้ จากดั มขี อ้ มลู ค่าบารุงรกั ษา และช่ัวโมงการทางานเคร่ืองจกั ร ดงั แสดงใน ตาราง โดยชั่วโมงเคร่ืองจักร (ชั่วโมง) ถือว่าเป็น X ส่วนค่าบารุงรักษา (บาท) ถือว่าเป็น Y ดังนั้นนาข้อมูลค่าบารุงรักษา และชั่วโมงเคร่ืองจักร มาวิเคราะห์ต้นทุนผสม โดยคานวณหา ตน้ ทนุ คงท่ีและต้นทนุ ผันแปรตอ่ หน่วย โดยใช้วิธกี าลังสองน้อยที่สดุ เดือน ชวั่ โมงเครอื่ งจกั ร (ชม.) ค่าบารงุ รกั ษา (บาท) มกราคม 2,800 158,000 กมุ ภาพนั ธ์ 3,550 170,000 มนี าคม 2,500 148,000 เมษายน 3,250 164,000 พฤษภาคม 3,650 182,000 มิถุนายน 4,000 196,000 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตน้ ทนุ ผสมซ่งึ ในท่นี ่ี คือ คา่ บารงุ รกั ษา โดยใช้วิธีกาลังสองน้อยท่ีสุด สามารถนามาแสดงการคานวณเพ่อื นาไปแทนคา่ ในสมการต่างๆ ได้ดงั น้ี เดือน X Y XY X2 (บาท) มกราคม (ชม.เคร่ืองจกั ร) 158,000 442,400,000 7,840,000 กุมภาพันธ์ 2,800 170,000 603,500,000 12,602,500 มนี าคม 3,550 148,000 370,000,000 6,250,000 เมษายน 2,500 164,000 533,000,000 10,562,500 พฤษภาคม 3,250 182,000 664,300,000 13,322,500 มถิ ุนายน 3,650 196,000 784,000,000 16,000,000 ผลรวม (∑) 4,000 1,018,000 3,397,200,000 66,577,500 19,750

2 - 26 การบัญชีตน้ ทนุ 2 แทนค่าในสมการ (1) และ (2) ∑Y = na + b∑X ………………….. (1) ∑XY = a ∑X + b ∑X2 ………………….. (2) 1,018,000 = 6a + 19,750 b ………………….. (1) 3,397,200,000 = 19,750a + 66,577,500 b …………….. (2) (1)X 19,750 20,105,500,000 = 118,500a + 390,062,500 b …………….. (3) (2) X 6 20,383,200,000 = 118,500a + 399,465,000 b …………….. (4) เอาสมการ (4) – (3) 277,700,000 = 9,402,500 b b = 277,700,000 9,402,500 = 29.53 บาทตอ่ ช่วั โมงเครอ่ื งจักร แทนคา่ b = 29.53 ในสมการ (1) 1,018,000 = 6 a + 19,750 (29.53) 6 a =1,018,000 – 58,3217.5 = 434,782.5 6 = 72,463.75 บาท จากขอ้ มลู ขา้ งต้น คา่ บารุงรกั ษารวม สามารถกาหนดเป็นสมการตน้ ทุนผสม ไดด้ งั นี้ ค่าบารุงรกั ษารวม = ต้นทุนคงทร่ี วม + ตน้ ทุนผนั แปรรวม = ต้นทุนคงทรี่ วม + (ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหนว่ ย x ระดับของกจิ กรรม) คา่ บารุงรกั ษารวม = 72,463.75 + (29.53 x จานวนชวั่ โมงเครอื่ งจกั ร (ชวั่ โมง))

บทท่ี 2 พฤติกรรมตน้ ทุนและการประมาณตน้ ทนุ 2 - 27 จากการวิเคราะหข์ อ้ มลู ต้นทนุ ผสม โดยใช้วธิ กี าลังสองน้อยทีส่ ุด เป็นวธิ ีท่ีน่าเชอื่ ถอื มาก ทส่ี ดุ เม่อื เทยี บกับวิธีอื่นๆ เนอ่ื งจากมีหลักการทางคณิตศาสตร์เป็นพ้ืนฐานการคานวณ และมี การใช้ข้อมูลทงั้ หมดท่ีมอี ยมู่ าประกอบการพจิ ารณา แตม่ ขี อ้ เสียคอื ย่งุ ยากตอ่ การคานวณ ดงั น้ัน จะใช้วิธีการใดในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ควรท่ีจะพิจารณาความเหมาะสม ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ของการใช้งาน สรปุ ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดจากการดาเนินธุรกิจ ถือเป็นข้อมูลทางการบัญชีที่มี ความสาคัญต่อบุคคลท้ังภายใน และบุคคลภายนอก จึงมีผลทาให้ต้องมีการจาแนกประเภท ต้นทนุ เพื่อสนองต่อความต้องการของผู้ใชข้ อ้ มูล ซึ่งการจาแนกตน้ ทนุ ตามพฤตกิ รรมต้นทนุ ทีไ่ ด้ อธิบายในบทที่ 3 มีการแบ่งประเภทต้นทุนออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุน คงท่ี ตน้ ทุนก่ึงคงท่ี และต้นทนุ ผสม ซ่งึ การแบ่งต้นทุนในลกั ษณะน้ี เปน็ ข้อมลู เพือ่ นาใช้ไปใช้ใน การวางแผนและการควบคุม รวมไปถึงการนาเสนอข้อมูลในรูปของงบกาไรขาดทุนเพ่ือใช้ ประกอบการตดั สินใจ ดังนั้น การวิเคราะหต์ น้ ทุนตามพฤตกิ รรมต้นทุนจึงมีความสาคัญ เพ่ือให้ ขอ้ มูลมีความถูกต้องหรือใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากท่ีสุด จึงต้องใช้เทคนิควิธีการท่ีได้การ ยอมรับและน่าเช่ือถือ ซ่ึงการวิเคราะห์พฤติกรรมต้นทุน รวมไปถึงการประมาณค่าต้นทุน สามารถทาได้ 3 วิธี ได้แก่ วิธีการวิเคราะห์จุดสูงสุด – ต่าสุด (High-Low Method) วิธีแผนภูมิ กระจาย (Scatter Graph Method) และวิธีกาลังสองน้อยที่สุด (Least Square Regression Analysis) หรือ วิธสี มการถดถอยเชิงเส้นตรงอยา่ งงา่ ย (Simple Linear Regression Analysis)

2 - 28 การบัญชตี ้นทุน 2 แบบฝึ กหดั ขอ้ 1. ใหแ้ บง่ ประเภทต้นทุนตามพฤตกิ รรมต้นทุน โดยระบวุ า่ ตน้ ทนุ ใดเปน็ ตน้ ทนุ ผันแปร ตน้ ทนุ คงที่ หรือต้นทุนผสม โดยขีดเครอื่ งหมาย  ลงในช่องวา่ งในขอ้ ที่ถกู ต้อง ประเภทของต้นทนุ ขอ้ ช่ือบญั ชี ต้นทุนผนั แปร ต้นทนุ คงท่ี ต้นทุนผสม 1 เหล็กทใ่ี ช้ในการผลิตรถยนต์ 2 ค่าจ้างทจี่ ่ายใหก้ บั พนักงานพน่ สรี ถยนต์ 3 ค่าเสอ่ื มราคาเครอื่ งจักร (วธิ ีจานวนผลผลิต) 4 ค่าโทรศัพท์ 5 คา่ นายหนา้ 6 คา่ น้าคา่ ไฟสานกั งาน 7 ค่าเช่าสานักงาน 8 เงินเดอื นพนกั งานขาย 9 คา่ โฆษณา 10 ค่าซอ่ มแซมเครือ่ งจกั ร 11 คา่ ขนสง่ ออก 12 ค่าเสือ่ มราคาอปุ กรณส์ านกั งาน (วธิ เี สน้ ตรง) 13 ค่าน้ามนั เช้ือเพลิง 14 คา่ ใชจ้ า่ ยในการสง่ เสรมิ การขาย 15 ค่าเบี้ยประกนั ภยั สานกั งาน 16 ค่าจ้างที่จา่ ยให้กับยาม 17 ค่าสอบบญั ชี 18 ค่าภาษีทรพั ยส์ ิน 19 ค่าเช่ารถบรรทุกพรอ้ มค่าน้ามนั 20 คา่ แรงทีจ่ ่ายใหก้ บั พนกั งานทาความสะอาด

บทที่ 2 พฤติกรรมตน้ ทนุ และการประมาณตน้ ทุน 2 - 29 ขอ้ 2. จงขีดเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องวา่ งในข้อทถี่ กู ต้องเกยี่ วกับตน้ ทนุ การผลิตแตล่ ะประเภท ขอ้ ช่ือบญั ชี ประเภทของต้นทนุ 1 เงินเดือนผู้จดั การโรงงาน ต้นทนุ ผนั แปร ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผสม 2 แปง้ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ เค้ก 3 ค่าแรงท่ีจ่ายใหก้ บั พนกั งานนวดแป้ง 4 ค่านา้ ค่าไฟ ในโรงงาน 5 ผงฟทู ่ีใชผ้ สมเพอ่ื ทาเค้ก 6 คา่ เบ้ยี ประกนั ภัยโรงงาน 7 ค่าเส่ือมราคาเครอ่ื งอบขนม 8 สีผสมครมี เพ่อื ทาเคก้ 9 ค่าซ่อมแซมเคร่อื งอบขนมเคก้ 10 คา่ จ้างท่จี ่ายใหก้ บั พนกั งานแตง่ หนา้ เคก้ 11 ค่าโทรศพั ทโ์ รงงาน 12 ค่าเสอื่ มราคาเครอื่ งจักร 13 ไมส้ กั ทใี่ ชท้ าเกา้ อ้ี 14 คา่ จา้ งทจ่ี ่ายใหก้ บั ยามประจาโรงงาน 15 ค่าแรงทีจ่ ่ายใหก้ ับช่างทาเฟอรน์ ิเจอร์ 16 แลคเกอรท์ ่ใี ชท้ าสีเกา้ อ้ี 17 คา่ ภาษขี าเขา้ วัตถดุ บิ ท่สี ง่ั มาจาก ตา่ งประเทศ 18 ค่าขนสง่ เมอ่ื ซอ้ื วตั ถุดบิ 19 ค่าซ่อมแซมเครื่องจกั ร 20 ตะปูทีใ่ ชท้ าโต๊ะ

2 - 30 การบัญชีตน้ ทุน 2 ข้อ 3. ขอ้ มลู ตอ่ ไปนเี้ ปน็ ขอ้ มูลตน้ ทนุ หรือคา่ ใชจ้ ่ายทเ่ี กิดขนึ้ ในบริษัท อุดรการค้า จากดั หนว่ ย : บาท วัตถุดบิ ทางตรง 250,000 วัตถดุ บิ ทางอ้อม 57,000 คา่ แรงงานทางตรง 300,000 ค่าแรงงานทางออ้ ม 27,000 คา่ สาธารณปู โภค-โรงงาน 89,000 ค่าสาธารณูปโภค-สานกั งาน 78,000 คา่ เบีย้ ประกันภัย-โรงงาน 55,000 ค่าเบีย้ ประกันภัย-สานกั งาน 36,000 ค่าเส่ือมราคา-โรงงาน 48,000 คา่ เสื่อมราคา-เคร่ืองจักร 50,000 ค่าเชา่ สานกั งาน 20,000 ค่าเสือ่ มราคา-อุปกรณส์ านกั งาน 24,000 เงนิ เดอื นผจู้ ดั การโรงงาน 150,000 เงินเดือนพนกั งานฝา่ ยขาย 30,000 เงินเดอื นพนกั งานฝา่ ยบัญชี 24,000 ค่าขนสง่ ออก 33,000 คา่ โฆษณา 87,000 ค่ารบั รองลูกค้า 30,000 ให้ทา คานวณตน้ ทนุ หรอื คา่ ใช้จา่ ยตา่ งๆ แยกตามการจาแนกประเภทของตน้ ทนุ ดังน้ี 1. คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ 2. ต้นทุนขน้ั ตน้ 3. ต้นทนุ แปรสภาพ 4. ตน้ ทุนผลิตภณั ฑ์ 5. ตน้ ทุนการผลติ 6. ค่าใชจ้ า่ ยในการขาย 7. คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารงาน 8. ต้นทุนประจางวด

บทที่ 2 พฤตกิ รรมตน้ ทุนและการประมาณตน้ ทุน 2 - 31 ขอ้ 4. จากขอ้ มูลต้นทนุ หรอื คา่ ใช้จ่ายตอ่ ไปนี้ ใหร้ ะบุว่า อะไรคือสาเหตขุ องการเกิดตน้ ทนุ ต้นทุนหรอื ค่าใช้จ่าย สาเหตุของการเกิดต้นทุน (Cost Driver) วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง ค่าน้าคา่ ไฟ ค่าบารุงรักษาเครอ่ื งจักร คา่ เสอื่ มราคา – เครือ่ งจกั ร (วิธีปรมิ าณการผลติ ) ข้อ 5. บริษัท สายตาดี จากัด เป็นบริษัทที่ทาการผลิตและจาหน่ายแว่นตาย่ีห้อหน่ึง โดยจาก ประสบการณ์ที่ผ่านมา บริษัทมีการกาหนดสมการต้นทุนเก่ียวกับการตรวจสอบคุณภาพราย เดือนไว้เท่ากับ 20,000 + 150X โดยที่ X คือ ปริมาณการผลิตแว่นตา ถ้าในระหว่างเดือน มกราคม 25X2 บรษิ ทั คาดว่าจะผลิตแวน่ ตาจานวนทง้ั ส้ิน 1,500 อนั ให้ทา 1. คานวณตน้ ทุนในการตรวจสอบคณุ ภาพต่อหนว่ ยโดยประมาณของเดอื นมกราคม 25X2 จะเทา่ กับเทา่ ใด 2. คานวณตน้ ทนุ ในการตรวจสอบคุณภาพรวมโดยประมาณของเดือนมกราคม 25X2 จะ เท่ากบั เท่าใด ข้อ 6. บริษัท ตรงเวลา จากัด เป็นบริษัทท่ีทาการผลิตและจาหน่ายนาฬิกาย่ีห้อหน่ึง โดย บรษิ ัทมีการกาหนดสมการต้นทุนผสมเกย่ี วกับคา่ ใช้จ่ายในการออกแบบผลิตภัณฑ์รายเดือนไว้ เท่ากบั 50,000 + 50X โดยที่ X คอื จานวนชวั่ โมงในการออกแบบ ถ้าในระหว่างเดือนมกราคม 25X2 บริษัทคาดว่าจะมีจานวนชั่วโมงการออกแบบจานวนทั้งส้ิน 500 ช่ัวโมง ให้ทา 1. คานวณต้นทุนในการออกแบบต่อหน่วยโดยประมาณของเดือนมกราคม 25X2 จะ เท่ากับเทา่ ใด 2. คานวณต้นทุนในการออกแบบรวมโดยประมาณของเดือนมกราคม 25X2 จะเท่ากับ เทา่ ใด

2 - 32 การบญั ชีต้นทนุ 2 ข้อ 7. บริษัท ยง่ิ อุดมทรพั ย์ จากัด กาลังพจิ ารณาท่จี ะประมาณการต้นทนุ เพอื่ ทาการวางแผน เกยี่ วกบั ตน้ ทนุ ซ่อมบารุงทีจ่ ะเกิดขึน้ ในอนาคต ซึง่ ผู้บรหิ ารไดพ้ จิ ารณาว่าต้นทุนทจี่ ะเกดิ ขึน้ มักจะมคี วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งช่ัวโมงเคร่อื งจักร ขอ้ มูลการซอ่ มบารุงท่เี กบ็ รวบรวมไดใ้ นช่วง 4 เดือนทีผ่ า่ นมา มีดงั น้ี เดือน จานวนชวั่ โมงเคร่ืองจกั ร ต้นทุนค่าซ่อมบารงุ (บาท) (ชวั่ โมง) มกราคม 2,500 7,000 กมุ ภาพันธ์ 1,500 5,000 มนี าคม 2,000 6,000 เมษายน 3,000 8,000 ให้ทา 1. จากขอ้ มูลขา้ งตน้ รายการใดคอื สาเหตขุ องการเกดิ ตน้ ทนุ (Cost driver) และรายการใด คอื คา่ ใชจ้ ่ายหรอื ตน้ ทนุ ทนี่ ามาวิเคราะห์ 2. วิเคราะหต์ ้นทนุ ผสม (คา่ บารงุ รกั ษา) โดยใช้วธิ คี ่าสงู สดุ – ต่าสุด (High – Low Method) เพอ่ื แบง่ สว่ นของตน้ ทุนคงที่ และต้นทุนผนั แปร 3. จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ใหว้ เิ คราะหต์ ้นทนุ ผสม โดยใช้วธิ ี กาลังสองนอ้ ยทส่ี ดุ (Least Squares Regression Analysis) ข้อ 8. บริษัท อุดมโชค จากัด กาลังพิจารณาท่ีจะประมาณการต้นทุนเพื่อทาการวางแผน เกย่ี วกับค่าแรงงานทางออ้ มทจี่ ะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งผ้บู รหิ ารได้พิจารณาว่าต้นทุนท่ีจะเกิดข้ึน มักจะมีความสัมพันธ์ระหว่างช่ัวโมงการทางานของพนักงาน ข้อมูลค่าแรงงานทางอ้อมท่ีเก็บ รวบรวมได้ในช่วง 5 เดือนทีผ่ ่านมา มดี งั นี้

บทที่ 2 พฤติกรรมต้นทนุ และการประมาณต้นทุน 2 - 33 เดือน ค่าแรงงานทางอ้อม (บาท) จานวนชวั่ โมงการทางาน (ชวั่ โมง) เมษายน 120,000 5,000 พฤษภาคม 115,000 มิถนุ ายน 128,000 4,500 กรกฎาคม 130,000 สงิ หาคม 150,000 6,000 8,000 9,500 ให้ทา 1. จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ รายการใดคอื สาเหตขุ องการเกิดต้นทนุ (Cost driver) และรายการใด คือคา่ ใชจ้ ่ายหรือต้นทนุ ท่นี ามาวเิ คราะห์ 2. วเิ คราะห์ต้นทนุ ผสม (คา่ บารุงรักษา) โดยใช้วิธคี า่ สงู สดุ – ตา่ สดุ (High – Low Method) เพ่อื แบ่งส่วนของตน้ ทนุ คงที่ และต้นทนุ ผนั แปร 3. จากขอ้ มลู ขา้ งต้น ใหว้ ิเคราะหต์ ้นทนุ ผสม โดยใช้วธิ ี กาลังสองนอ้ ยทสี่ ดุ (Least Squares Regression Analysis)

2 - 34 การบญั ชตี ้นทุน 2 ขอ้ 9. บรษิ ทั ฟ้าไทย จากดั ทาการผลิตพลาสติก ไดจ้ ัดทางบกาไรขาดทนุ สาหรับงวด 3 เดอื น สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25X1 โดยมขี ้อมูลดงั นี้ บริษทั ฟา้ ไทย จากัด งบกาไรขาดทนุ สาหรบั งวด 3 เดอื น สนิ้ สดุ วันที่ 31 ธันวาคม 25 X1 หนว่ ย: บาท ตลุ าคม พฤศจิกายน ธนั วาคม จานวนหนว่ ยทขี่ าย (หนว่ ย) 10,000 15,000 17,000 ยอดขาย 2,000,000 3,000,000 3,400,000 หกั ตน้ ทุนขาย 800,000 1,200,000 1,360,000 กาไรขัน้ ตน้ 1,200,000 1,800,000 2,040,000 หัก ค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน เงนิ เดอื น 300,000 300,000 300,000 ค่าขนสง่ 200,000 250,000 270,000 ค่าไฟฟ้า 175,000 200,000 210,000 คา่ โฆษณา 120,000 120,000 120,000 คา่ เสอ่ื มราคา 50,000 50,000 50,000 รวมคา่ ใช้จา่ ยในการดาเนินงาน 845,000 920,000 950,000 กาไรสทุ ธิ 355,000 880,000 1,090,000 ให้ทา 1. จากงบกาไรขาดทุนข้างต้น ให้ระบุว่าต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายแต่ละชนิด ต้นทุนใดเป็น ต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงท่ี และต้นทุนผสม และให้ระบุว่าอะไรคือสาเหตุของการเกิด ตน้ ทุนผันแปรและต้นทุนผสม 2. ให้วิเคราะห์แยกต้นทุนผสมเป็นต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ โดยใช้วิธีสูงสุด-ต่าสุด (High-Low Method)

บทท่ี 2 พฤติกรรมตน้ ทนุ และการประมาณต้นทนุ 2 - 35 ข้อ 10. บริษทั พลาสตกิ ไทย จากดั ทาการผลติ พลาสตกิ ไดจ้ ัดทางบกาไรขาดทนุ สาหรบั งวด 3 เดือน สน้ิ สดุ วันที่ 31 มีนาคม 25 X1 โดยมีขอ้ มูลดงั นี้ บรษิ ัท พลาสตกิ ไทย จากัด งบกาไรขาดทุน สาหรบั งวด 3 เดือน สน้ิ สุดวันท่ี 31 มีนาคม 25X1 หน่วย: บาท จานวนหนว่ ยทข่ี าย (หนว่ ย) มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ มีนาคม 20,000 25,000 28,000 ยอดขาย 7,000,000 8,750,000 9,800,000 หัก ตน้ ทนุ ขาย 8,000,000 3,750,000 4,200,000 กาไรขน้ั ตน้ 4,000,000 5,000,000 5,600,000 หัก คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนนิ งาน เงินเดือน 800,000 800,000 800,000 คา่ ขนส่ง 500,000 575,000 620,000 คา่ ไฟฟา้ 520,000 605,000 656,000 คา่ โฆษณา 450,000 450,000 450,000 ค่าเสอื่ มราคา 200,000 200,000 200,000 รวมค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน 2,470,000 2,630,000 7,260,000 กาไรจากการดาเนินงาน 1,530,000 2,370,000 2,874,000 ให้ทา 1. จากงบกาไรขาดทุน ให้ระบุว่าต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายแต่ละชนิด ต้นทุนใดเป็นต้นทุนผัน แปร ต้นทนุ คงท่ี และตน้ ทุนผสม 2. หากต้นทุนรายการใดเป็นต้นทุนผสม ให้วิเคราะห์แยกต้นทุนผสมเป็นต้นทุนผันแปร และตน้ ทุนคงที่ โดยใช้วธิ ีสูงสุด-ต่าสุด (High-Low Method) 3. จัดทางบกาไรขาดทุนโดยประมาณสาหรับเดือนเมษายน 25X2 ถ้าหากในเดือน เมษายนมจี านวนหนว่ ยทข่ี ายโดยประมาณเท่ากบั 30,000 หน่วย

2 - 36 การบัญชตี ้นทนุ 2 ข้อ11. บรษิ ัท อดุ รอตุ สาหกรรมไทย จากัด ทาการผลิตพลาสติก ไดจ้ ดั ทางบกาไรขาดทุน สาหรับงวด 3 เดือน สิน้ สดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25X1 โดยมขี ้อมูลดังนี้ บริษทั อดุ รอุตสาหกรรมไทย จากดั งบกาไรขาดทนุ สาหรับงวด 3 เดือน สิ้นสดุ วันที่ 31 ธนั วาคม 25X1 หน่วย: บาท ตุลาคม พฤศจกิ ายน ธนั วาคม จานวนหน่วยท่ีขาย (หนว่ ย) 1,500 2,000 3,000 ยอดขาย 4,500,000 6,000,000 9,000,000 หกั ต้นทนุ ขาย 1, 800,000 2,400,000 3,600,000 กาไรขน้ั ต้น 2,700,000 3,600,000 5,400,000 หัก คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน เงินเดอื น 500,000 500,000 500,000 คา่ นายหนา้ 450,000 600,000 900,000 คา่ สาธารณูปโภค 375,000 400,000 450,000 คา่ โฆษณา 500,000 500,000 500,000 คา่ เสื่อมราคา 150,000 150,000 150,000 รวมคา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน 1,975,000 2,150,000 2,500,000 กาไรจากการดาเนินงาน 725,000 1,450,000 2,900,000 ให้ทา 1. จากงบกาไรขาดทนุ ให้ระบุวา่ ต้นทุนหรอื ค่าใช้จ่ายแต่ละชนิด ต้นทุนใดเป็นต้นทุน ผนั แปร ตน้ ทนุ คงท่ี และตน้ ทนุ ผสม 2. หากต้นทุนรายการใดเป็นต้นทุนผสม ให้วิเคราะห์แยกต้นทุนผสมเป็นต้นทุนผัน แปรและตน้ ทุนคงที่ โดยใชว้ ธิ สี ูงสุด-ต่าสดุ (High-Low Method) 3. จัดทางบกาไรขาดทุนโดยประมาณสาหรับเดือนมกราคม 25X2 ถ้าหากในเดือน มกราคม มจี านวนหนว่ ยท่ขี ายโดยประมาณเท่ากับ 4,200 หน่วย

บทท่ี 3 การวิเคราะหต์ ้นทนุ ปริมาณและกาไร ธรุ กจิ สว่ นใหญม่ วี ตั ถปุ ระสงค์หลกั เพ่อื หวงั ผลกาไรสูงสุด ดังน้ันผ้บู ริหารของแตล่ ะธุรกจิ จึงมีการวางนโยบาย และแนวปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นการท่ีผู้บริหารจะ ดาเนนิ งานให้บรรลวุ ตั ถุประสงคด์ งั กลา่ ว ผูบ้ ริหารตอ้ งใหค้ วามสาคัญกบั ปัจจยั ต่างๆทม่ี ากระทบ กับผลกาไรของบริษัท ซึง่ ปจั จยั ดงั กลา่ วไดแ้ ก่ กลยทุ ธ์ทางการตลาด ความสามารถในการขาย สินคา้ คณุ ภาพของสนิ คา้ การกาหนดราคาสินค้า และรวมไปถึงการควบคุมต้นทุนที่เก่ียวข้อง กบั การดาเนินธุรกิจ แต่ถ้าหากพิจารณาในส่วนของข้อมูลทางการบัญชีท่ีมีผลกระทบต่อกาไร ของบริษัท ข้อมลู การบญั ชีที่สาคัญไดแ้ ก่ ตน้ ทนุ ซึ่งประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ และต้นทุนผันแปร และปริมาณการขาย ซ่ึงทั้งสองปัจจัยนี้มีผลต่อการวางแผนกาไรของกิจการ หรือเครื่องมือ ดังกล่าวก็คอื การวเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหว่างต้นทนุ ปรมิ าณและกาไรน่นั เอง ความหมายของการวิเคราะหต์ ้นทนุ ปริมาณและกาไร การวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณและกาไร (Cost – Volume - Profit Analysis: CVP Analysis) เป็นเครอ่ื งมอื วเิ คราะห์ขอ้ มูลทนี่ าเอาขอ้ มูลทางการบัญชีมาใช้ประกอบการวางแผน การควบคุม และการตัดสินใจให้กับผู้บริหาร เพราะการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณและกาไร เป็นการพิจารณาถึงผลกระทบต่อกาไรของธุรกิจ ข้อมูลที่นามาใช้ในการ วิเคราะห์ ได้แก่ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตน้ ทุน ปรมิ าณการขาย และกาไรของกจิ การ ความสัมพันธ์ของ ปจั จัยแตล่ ะปัจจัย สามารถอธบิ ายได้ดังนี้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของตน้ ทนุ (ไม่วา่ จะเปน็ ต้นทุน ผันแปรหรอื ตน้ ทุนคงท่ี) หรอื ปรมิ าณการขาย จะมีผลทาให้ผลการดาเนินงานของกิจการมีการ เปลี่ยนแปลง เช่น หากพิจารณาในส่วนของปริมาณการขาย ถ้ากิจการขายผลิตภัณฑ์ได้ใน ปรมิ าณมาก จะทาให้กาไรของกิจการมีการเปล่ยี นแปลงในทางที่เพ่ิมขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้า กจิ การขายผลิตภัณฑไ์ ด้ในปริมาณทล่ี ดลง ผลกาไรของธรุ กจิ จะเปล่ียนแปลงในทางท่ีลดลง แต่ ถ้าหากพิจารณาในประเด็นของต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงท่ี การ เปลี่ยนแปลงของต้นทุนท่ีลดลง จะมีผลทาให้กาไรของกิจการเปล่ียนแปลงในทางท่ีเพ่ิมข้ึน ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากต้นทุนเปลี่ยนแปลงในทางที่เพ่ิมข้ึน จะมีผลทาให้กาไรของกิจการ เปล่ียนแปลงในทิศทางตรงกันขา้ มคอื ตน้ ทนุ จะลดลง เปน็ ต้น ดังนั้นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างต้นทนุ ปริมาณ และกาไรจึงมคี วามสาคัญตอ่ การวางแผนกาไรของธุรกจิ

3 - 2 การบญั ชีตน้ ทุน 2 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณและกาไรในบทนี้ ตัวแปรที่สาคัญที่ เป็นองค์ประกอบที่สาคัญ ได้แก่ ปริมาณการขาย (Volume or Quantity) ราคาขายต่อหน่วย (Selling Price per unit) ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย (Variable Cost per unit) ต้นทุนคงที่รวม (Total Fixed Costs) และ สดั สว่ นการขาย (Sales Mix) การวเิ คราะห์ต้นทุน ปรมิ าณและกาไร จะอยูภ่ ายใตข้ ้อสมมตดิ ังตอ่ ไปน้ี 1. พฤติกรรมของรายได้และต้นทุนมีความสัมพันธ์เป็นแบบเส้นตรง อยู่ภายใต้ช่วง ระดบั ของกจิ กรรมหนง่ึ ๆ (Relevant Range) 2. ต้นทนุ ท่นี ามาพิจารณาจะจาแนกได้เปน็ 2 ลกั ษณะคอื ต้นทุนผันแปรและตน้ ทุนคงที่ 3. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนหรือรายได้คือการเปล่ียนแปลงในระดับของกิจกรรม หรอื สาเหตุของการต้นทุน คือ ปรมิ าณสินค้าท่ขี าย 4. ไมม่ ีสินคา้ คงเหลอื ต้นงวดและสินคา้ คงเหลือปลายงวด น่นั คือปริมาณสนิ คา้ ทขี่ ายจะ เท่ากับปรมิ าณสินคา้ ทผ่ี ลติ 5. สัดสว่ นการขายของสนิ คา้ แตล่ ะชนิดไมม่ ีการเปลยี่ นแปลง การจาแนกตน้ ทนุ สาหรับการวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร สามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ ซ่ึงต้นทุนท้ังสองประเภทได้อธิบายไว้โดย ละเอยี ดแล้วในบทท่ี 2 ดงั นั้นกาไรสว่ นเกินซึ่งเกิดจากผลต่างของรายไดห้ รือยอดขายกับต้นทุน ผนั แปรรวมจงึ หมายถึงกาไรอีกลักษณะหน่งึ ทแ่ี ตกตา่ งจากกาไรข้ันต้น ที่เคยกล่าวถึงก่อนหน้า นี้ และกาไรส่วนน้ีเรียกว่า กาไรส่วนเกิน ดังน้ันก่อนจะอธิบายถึงการนาข้อมูลไปใช้ในการ วางแผนและตดั สินใจ จะกลา่ วถงึ ความหมายและการใช้ข้อมูลจากกาไรส่วนเกิน ในหวั ข้อถัดไป กาไรส่วนเกิน กาไรส่วนเกิน (Contribution Margin: CM) คือรายได้ส่วนที่เหลือหลังจากมีการหัก ตน้ ทุนผันแปรรวมแลว้ (ศศิวิมล มีอาพล, 2556 : 5 - 3) หลังจากนั้นค่อยนาไปชดเชยส่วนของ ตน้ ทุนคงทีร่ วม ซึง่ หมายความว่าถ้ากาไรส่วนเกินมีมากกว่าต้นทุนคงที่รวม จะทาให้กิจการมี กาไรจากการดาเนนิ งาน ทางตรงกนั ขา้ ม ถ้ากาไรส่วนเกินมีน้อยกว่าต้นทุนคงท่ี แสดงว่ากาไร สว่ นเกนิ ไมส่ ามารถชดเชยสว่ นทเ่ี ปน็ ตน้ ทุนคงท่ีได้ นั่นคือจะทาให้กิจการมีผลขาดทุนจากการ ดาเนนิ งานแทน ซ่งึ ในการพิจารณากาไรส่วนเกนิ สามารถพจิ ารณาได้ 3 ลักษณะ ไดแ้ ก่ 1. กาไรสว่ นเกนิ รวม (Total Contribution Margin) 2. กาไรสว่ นเกนิ ตอ่ หน่วย (Unit Contribution Margin) 3. อตั ราสว่ นกาไรส่วนเกิน (Contribution Margin Ratio)

บทที่ 3 การวเิ คราะห์ตน้ ทุน ปริมาณ และกาไร 3 - 3 เพื่อให้เข้าใจในเร่ืองเกี่ยวกับกาไรส่วนเกินมากข้ึน จะอธิบายรายละเอียดการ คานวณ ในแตล่ ะหวั ข้อตามลาดับ ดงั น้ี 1. กาไรส่วนเกินรวม กาไรส่วนเกินรวม (Total Contribution Margin : TCM) เปน็ รายไดส้ ่วนที่เหลอื หลังจาก หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร หรอื กาไรส่วนเกินเกดิ จากผลตา่ งระหวา่ งยอดขายหรือรายไดร้ วมกบั ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม ซึ่งต้นทนุ หรือคา่ ใช้จา่ ยทม่ี ีลกั ษณะเปน็ ต้นทุนผนั แปรไดอ้ ธบิ ายโดยละเอียดไว้แลว้ ในบทที่ 2 โดยทร่ี ายไดห้ รอื ยอดขายเกิดจากราคาขายตอ่ หนว่ ยคูณกบั จานวนหรอื ปรมิ าณการขาย ส่วนตน้ ทุนผันแปรรวมเกดิ จากตน้ ทุนผันแปรตอ่ หนว่ ยคูณกับปริมาณการผลติ แต่เนอื่ งในบทน้ี ใหข้ ้อสมมตฐิ านวา่ ปริมาณการผลติ และปรมิ าณการขายเทา่ กัน ดงั น้นั ปรมิ าณสนิ ค้าที่นามาคณู จะใช้ตวั แปรตัวเดยี วกัน นอกจากนี้ ต้นทนุ ทมี่ ีลกั ษณะเปน็ ต้นทนุ ผันแปร ยกตวั อยา่ งเช่น วตั ถดุ บิ ทางตรง คา่ แรงงานทางตรง คา่ นา้ ค่าไฟ คา่ นายหน้า คา่ นา้ มนั เปน็ ต้น ดังนัน้ กาไร ส่วนเกินรวม สามารถแสดงการคานวณได้ดังน้ี กาไรสว่ นเกินรวม (บาท) = ยอดขาย – ต้นทนุ ผนั แปรรวม = (ราคาขาย/หนว่ ย x ปริมาณการขาย) – (ตน้ ทนุ ผนั แปร/หน่วย x ปริมาณการขาย) TCM = SQ - VQ โดยท่ี TCM = กาไรสว่ นเกินรวม หรอื Total Contribution Margin (บาท) Q = ปริมาณการขาย หรอื Quantity (หน่วย) S = ราคาขายต่อหนว่ ย หรอื Selling price per unit (บาทต่อหนว่ ย) V = ต้นทนุ ผันแปรต่อหน่วย หรือ Variable cost per unit (บาทตอ่ หนว่ ย)

3 - 4 การบัญชีต้นทนุ 2 2. กาไรส่วนเกินต่อหน่วย กาไรส่วนเกินต่อหน่วย (Unit Contribution Margin: UCM) เป็นการพิจารณาผลต่าง ระหว่างยอดขายและต้นทุนผันแปรต่อจานวนสินค้าที่ผลิตหรือขายหนึ่งหน่วย ดังน้ัน กาไร ส่วนเกินต่อหน่วย สามารถแสดงการคานวณได้ดังน้ี กาไรส่วนเกนิ ตอ่ หน่วย (บาท/หน่วย) = ราคาขายตอ่ หนว่ ย – ต้นทุนผันแปรตอ่ หนว่ ย UCM = S - V โดยท่ี UCM = กาไรสว่ นเกนิ ตอ่ หน่วย หรือ Unit Contribution Margin (บาทตอ่ หน่วย) S = ราคาขายตอ่ หน่วย (บาทตอ่ หน่วย) V = ต้นทนุ ผนั แปรต่อหน่วย (บาทตอ่ หนว่ ย) 3. อตั ราส่วนกาไรส่วนเกิน อัตรากาไรส่วนเกิน (Contribution Margin Ratio: CMR) เป็นการพิจารณากาไร ส่วนเกินเทยี บกับยอดขาย ซง่ึ สามารถพิจารณาได้ 2 ลกั ษณะ ดังน้ี 3.1. พจิ ารณาจากกาไรสว่ นเกนิ รวมเทยี บกับยอดขาย อตั ราส่วนกาไรสว่ นเกนิ = กาไรส่วนเกนิ รวม CMR ยอดขาย = ยอดขาย – ต้นทุนผันแปรรวม ยอดขาย = SQ – VQ SQ

บทที่ 3 การวิเคราะหต์ น้ ทุน ปริมาณ และกาไร 3 - 5 3.2. พจิ ารณาจากกาไรสว่ นเกนิ ตอ่ หนว่ ยเทียบกบั ราคาขายต่อหนว่ ย อตั ราส่วนกาไรสว่ นเกนิ = กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย CMR ราคาขายตอ่ หน่วย = ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนผนั แปรตอ่ หนว่ ย ราคาขายต่อหน่วย = S–V S ตวั อยา่ งที่ 3.1 บริษทั ประกอบการค้า จากัด ทาการผลติ และขายกระเปา๋ หนัง ในเดอื นทผ่ี า่ นมาบรษิ ัท ขายกระเปา๋ ได้ 1,500 ใบ ราคาขายตอ่ ใบ 500 บาท โดยมขี อ้ มูลตน้ ทุนและค่าใช้จา่ ยต่างๆ ดงั นี้ ตน้ ทุนการผลติ วตั ถุดบิ ทางตรง 55 บาทตอ่ หนว่ ย ค่าแรงงานทางตรง 50 บาทตอ่ หนว่ ย ค่าใช้จา่ ยการผลติ ผนั แปร 25 บาทตอ่ หน่วย ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท(ี่ รวม) 120,000 บาท คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนนิ งาน คา่ ใช้จ่ายในการขายผันแปร 20 บาทตอ่ หน่วย คา่ ใช้จ่ายในการขายคงที่ (รวม) 100,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารงานคงที่ (รวม) 130,000 บาท จากขอ้ มูลข้างต้น ใหค้ านวณหากาไรสว่ นเกนิ รวม กาไรส่วนเกินตอ่ หน่วย และอัตรา กาไรส่วนเกิน วิธีการคานวณ เน่ืองจากข้อมูลตน้ ทุนข้างต้นยงั ไมไ่ ด้รวมส่วนของตน้ ทุนผนั แปร และตน้ ทนุ คงท่ี ดงั น้นั กอ่ นทาการคานวณกาไรสว่ นเกนิ แต่ละลักษณะ กจิ การตอ้ งคานวณหาต้นทุนผันแปรต่อหน่วย และต้นทนุ คงที่รวม เพ่ือใชป้ ระกอบการคานวณ ซ่ึงสามารถคานวณได้ดงั น้ี

3 - 6 การบญั ชตี น้ ทนุ 2 1. ต้นทุนผนั แปรตอ่ หน่วย ประกอบดว้ ย วัตถดุ ิบทางตรง คา่ แรงงานทางตรง คา่ ใชจ้ า่ ย การผลิตผันแปร และค่านายหน้า ตามลาดับ ซ่ึงเท่ากับ 150 บาทต่อหน่วย (55 + 50 + 25 + 20 ) 2. ต้นทุนคงที่รวม ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ (รวม) และค่าใช้จ่ายในการ ขายและบริหารงานคงท่ี (รวม) ซ่ึงเทา่ กบั 350,000 บาท (120,000 + 100,000 +130,000) จากขอ้ มูลต้นทุนผนั แปรตอ่ หน่วย และตน้ ทนุ คงที่ จะนามาคานวณหากาไรส่วนเกนิ รวม กาไรส่วนเกนิ ตอ่ หน่วย และอตั ราสว่ นกาไรส่วนเกิน ได้ดงั น้ี 1. กาไรส่วนเกินรวม คานวณจากผลต่างของยอดขาย และ ต้นทนุ ผนั แปรรวม กาไรสว่ นเกินรวม (บาท) = ยอดขาย – ตน้ ทุนผันแปรรวม = (ราคาขาย/หนว่ ย x ปรมิ าณการขาย) – (ตน้ ทุนผันแปร/หนว่ ย x ปรมิ าณการ ขาย) = SQ – VQ TCM = (500 x 1,500) – (150 x 1,500) = 750,000 – 225,000 = 525,000 บาท ดงั นน้ั กาไรส่วนเกนิ รวม เท่ากบั 525,000 บาท 2. กาไรสว่ นเกนิ ต่อหนว่ ย กาไรส่วนเกนิ ต่อหนว่ ย (บาท/หนว่ ย) = ราคาขายต่อหน่วย – ตน้ ทุนผนั แปรตอ่ หน่วย UCM = S - V = 500 – 150 = 350 บาทต่อหน่วย ดงั นั้น กาไรสว่ นเกนิ ตอ่ หน่วย เทา่ กับ 350 บาท

บทท่ี 3 การวเิ คราะห์ตน้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 3 - 7 3. อตั ราสว่ นกาไรสว่ นเกิน อตั ราสว่ นกาไรสว่ นเกิน = กาไรส่วนเกินตอ่ หน่วย = ราคาขายต่อหนว่ ย ราคาขายตอ่ หน่วย – ตน้ ทุนผนั แปรต่อหนว่ ย CMR ราคาขายตอ่ หนว่ ย = S–V S = 500 – 150 500 = 350 500 = 0.70 หรอื 70 % จากการคานวณกาไรสว่ นเกินรวม 525,000 บาท และกาไรส่วนเกินตอ่ หน่วย 350 บาท ต่อหนว่ ย แสดงใหเ้ หน็ วา่ บรษิ ัท ประกอบการค้า จากดั มยี อดขายท่สี ามารถนาไปชดเชยสว่ น ของต้นทนุ คงท่รี วม 350,000 บาทไดแ้ ละเม่ือบรษิ ัทนาไปหกั ออกจากต้นทนุ คงทแี่ ลว้ บริษทั จะ มกี าไรจากการดาเนินงาน หรอื จากการขายกระเปา๋ หนงั 1 ใบ บรษิ ทั จะมกี าไรเทา่ กับ 350 บาททสี่ ามารถนาไปชดเชยส่วนของต้นทนุ คงทรี่ วมได้ ส่วนจากการคานวณอัตราส่วนกาไรส่วนเกิน เท่ากับ 0.70 หรือ 70 % หมายความว่า บริษัทจะมีกาไรเหลือเท่ากับ 70 บาทเม่ือขายสินค้าได้ 100 บาท ท่ีจะนาไปชดเชยส่วนของ ต้นทุนคงท่ี หลังจากน้ันนากาไรท่ีได้ไปหักออกจากต้นทุนคงท่ี ส่วนที่เหลือก็จะเป็นกาไรจาก การดาเนนิ งานของบรษิ ัท ประโยชน์จากการใชข้ ้อมูลกาไรสว่ นเกนิ ถา้ กจิ การมีการผลิตและขายสินค้าหลายชนิด กิจการสามารถนาข้อมูลกาไรส่วนเกินต่อหน่วยมาประกอบการตัดสินใจได้ เช่น ถ้ากิจการมี ข้อจากดั ของเคร่ืองจักร ซ่งึ มีเพียงเครือ่ งเดียว สามารถผลิตสินค้าได้เพียงชนิดเดียว ดังนั้นการ จะเลือกผลิตสนิ คา้ ชนดิ ใด ผูบ้ รหิ ารสามารถพิจารณาจากข้อมูลกาไรส่วนเกินต่อหน่วยได้ โดย เลือกทจ่ี ะผลิตสนิ คา้ ท่ีมกี าไรสว่ นเกินต่อหนว่ ยสูงที่สุดหรืออัตราสว่ นกาไรสว่ นเกนิ ที่สงู ที่สุด

3 - 8 การบัญชีต้นทุน 2 การนาเสนองบการเงินแบบแสดงกาไรส่วนเกิน การใช้ข้อมูลการบัญชีบริหารเป็นการนาเสนอข้อมูลบัญชีท่ี สามารถนาไปใช้ ประกอบการตัดสนิ ใจของผ้บู ริหารได้ ซ่ึงกาไรส่วนเกินจากทีค่ านวณได้ก็ถือว่าเป็นการนาเสนอ ข้อมูลท่นี าไปประยุกตใ์ ชเ้ พ่ือเปน็ ประโยชน์ต่อการบริหารจัดการดังท่ีกล่าวแล้วข้างต้น รูปแบบ ของการนาเสนอข้อมูลสามารถทาในรูปแบบของงบกาไรขาดทุน แต่การจาแนกประเภทของ ต้นทุนจะแบ่งไปตามพฤติกรรมของต้นทุน ซึ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือต้นทุนผันแปรและต้นทุน คงทโี่ ดยมกี ารแสดงกาไรส่วนเกนิ ในงบการเงิน หรือเรยี กวา่ งบกาไรขาดทุนแบบกาไรส่วนเกิน (Contribution Approach) ดังนั้นรูปแบบของงบกาไรขาดทุนดังกล่าว จึงแตกต่างจากงบกาไร ขาดทนุ ทนี่ าเสนอใหก้ ับบุคคลภายนอก ซงึ่ การนาเสนอข้อมลู ตน้ ทนุ ต้องเสนอต้นทนุ ทกุ ประเภท ท่ีรวมอยใู่ นผลติ ภณั ฑไ์ มว่ า่ จะเปน็ ต้นทุนคงท่ีหรือตน้ ทุนผนั แปร โดยไม่มกี ารแยกสว่ นต้นทนุ ไป ตามพฤติกรรมของต้นทนุ แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม ไมว่ ่าจะนาเสนองบการเงนิ แบบแสดงกาไรส่วนเกิน หรอื งบการเงินทเี่ สนอตอ่ บุคคลภายนอก ผลลพั ธ์หรอื กาไรสทุ ธิทัง้ สองวธิ จี ะเท่ากนั (ถ้าปริมาณ การผลติ เท่ากับปริมาณการขาย ไม่มสี นิ ค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวดมาเกย่ี วข้อง) จากขอ้ มลู ตัวอยา่ งท่ี 3.1 สามารถนาเสนองบกาไรขาดทนุ แบบแสดงกาไรส่วนเกิน ไดด้ งั น้ี ขายสนิ ค้า (500 x 1,500) 750,000 หัก ต้นทนุ ผันแปร ตน้ ทนุ การผลติ ผันแปร (130 x 1,500) 195,000 คา่ ใช้จ่ายในการขายผนั แปร (20 x 1,500) 30,000 225,000 กาไรส่วนเกิน (Contribution Margin) 525,000 หัก ต้นทนุ คงท่ี คา่ ใช้จ่ายการผลิตคงท่ี 120,000 คา่ ใช้จ่ายในการขายคงที่ 100,000 ค่าใช้จา่ ยในการบริหารคงที่ 130,000 350,000 กาไรจากการดาเนนิ งาน 175,000 หกั ภาษเี งินได้ (20%ของกาไรจากการดาเนนิ งาน) 35,000 กาไรสุทธิ 140,000

บทท่ี 3 การวิเคราะหต์ ้นทุน ปริมาณ และกาไร 3 - 9 การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทนุ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณและกาไร นอกเหนือจากกาไร สว่ นเกนิ แล้ว การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทนุ (Break Even Point Analysis) ก็ถือเป็นเครื่องมือทางการ บัญชีอีกเร่ืองหนึ่งท่ีผู้บริหารหรือผู้ใช้ข้อมูลนาไปใช้ประกอบการวางแผนและการตัดสินใจได้ เช่นกัน ซึ่งจดุ คมุ้ ทนุ (Break Even Point: BEP) คือจดุ ทท่ี าใหก้ จิ การไมม่ ีกาไรหรอื ไมม่ ีขาดทุน หรือเป็นจุดที่รายได้รวมกับต้นทุนรวมหรือค่าใช้จ่ายรวมเท่ากัน โดยปกติการคานวณหา จดุ คุม้ ทนุ จะเปน็ การคานวณหาปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทุน การคานวณจุดคมุ้ ทุน สามารถคานวณได้ 3 วธิ ี คือ 1. โดยการใช้สมการ 2. โดยใช้สูตร กาไรสว่ นเกิน และ 3. โดยการวาดกราฟ แต่ละวธิ จี ะอธิบายในหวั ขอ้ ถัดไป 1. โดยการใช้สมการ จากหลักการของจดุ คุม้ ทนุ ที่กล่าวว่า จุดคุ้มทุนคือจุดไม่มีผลกาไรและไม่ขาดทุน หรือ กาไรเท่ากบั ศนู ยพ์ อดี หรือเป็นจุดท่ีทาให้รายได้หรือยอดขายเท่ากับต้นทุนรวมหรือค่าใช้จ่าย รวม ดังน้ัน การคานวณหาจุดคุ้มทุนโดยการใช้สมการ คือ การคานวณหาปริมาณการขาย ณ จดุ คมุ้ ทนุ น่นั เอง จะสามารถแสดงการคานวณได้ดังน้ี รายได้รวม – ต้นทนุ รวม = กาไร รายไดร้ วม – ตน้ ทนุ รวม = 0 รายไดร้ วม = ต้นทุนรวม (ราคาขายต่อหนว่ ย x ปรมิ าณการขาย) = ต้นทนุ คงทร่ี วม + ตน้ ทนุ ผันแปรรวม = ตน้ ทุนคงท่รี วม + (ต้นทุนผันแปรต่อหนว่ ย x ปริมาณการขาย) SQBEP = FC + VQBEP โดยท่ี = ราคาขายตอ่ หนว่ ย หรอื Selling price per unit (บาท/หนว่ ย) S = ปริมาณการขาย ณ จดุ คมุ้ ทุน หรือ Quantity at Break Even Point (หนว่ ย) = ต้นทนุ ผันแปรต่อหน่วย หรือ Variable cost per unit (บาท/หนว่ ย) QBEP = ตน้ ทุนคงทรี่ วม หรือ Fixed Cost (บาท) V FC

3 - 10 การบญั ชีต้นทนุ 2 ตวั อย่างที่ 3.2 จากตัวอยา่ งท่ี 3.1 บรษิ ัท ประกอบการค้า จากดั สามารถสรปุ ขอ้ มูลไดด้ งั น้ี ราคาขายตอ่ หน่วย (S) 500 บาท ตน้ ทนุ ผนั แปรตอ่ หน่วย (V) 150 บาท ต้นทนุ คงที่รวม (FC) 350,000 บาท วิธีการคานวณ จากหลกั การของจดุ คมุ้ ทุน สามารถสร้างเปน็ สมการไดด้ งั น้ี รายได้รวม – ต้นทนุ รวม =0 รายไดร้ วม = ตน้ ทนุ รวม (ราคาขาย/หนว่ ย x ปริมาณการขาย) = ตน้ ทุนคงท่ีรวม + ตน้ ทุนผนั แปรรวม = ตน้ ทุนคงที่รวม + (ต้นทนุ ผนั แปร/หนว่ ย x ปรมิ าณขาย) SQBEP = FC + VQBEP 500 QBEP = 350,000 + 150 QBEP 500 QBEP - 150 QBEP = 350,000 350 QBEP = 350,000 QBEP = 350,000 350 = 1,000 ใบ ดงั นัน้ ปริมาณการขาย ณ จดุ คมุ้ ทุน เทา่ กบั 1,000 หน่วย ซ่งึ หมายความว่า บรษิ ัท ประกอบการคา้ จากัด จะตอ้ งขายกระเป๋าหนงั อยา่ งน้อย เดอื นละ 1,000 ใบ จึงจะคมุ้ ทุน ถ้า บรษิ ทั ขายไดต้ ่ากว่า 1,000 ใบ แสดงว่าบรษิ ทั จะขาดทนุ แตใ่ นทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ บรษิ ัทขายได้ มากกวา่ 1,000 ใบ แสดงว่าบรษิ ทั ได้กาไรจากการขายกระเป๋าหนัง แสดงการพสิ จู น์วา่ ณ ระดับปรมิ าณการขาย 1,000 ใบ จะคมุ้ ทนุ หรอื ไม่ สามารถแสดง ไดด้ งั นี้ ขายสนิ คา้ (500 x 1,000) 500,000 หกั ต้นทนุ ผนั แปร (150 x 1,000) 150,000 กาไรสว่ นเกนิ 350,000 หัก ต้นทนุ คงท่ี 350,000 กาไรจากการดาเนินงาน -0-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook