เอกสารประกอบการประชุมสัมนากรมทางหลวงชนบท (สารบัญ+เลขหน้า)

ทช-ทล ขอ แล ขอ แตกตา งของกาํ ลังคอนกรีต

98 (2) อแตกตา งของกําลงั คอนกรตี ละสัดสวนซเี มนต

นา้ํ หนักปูนซเี มนต ตอ คอนกรีต 1 ลูกบาศกเ ม กรมทางหลวงชนบท กําลงั อดั ชื่อชนิดคอนกรตี ท่รี ะบุ ที่ 28 ว ไว ในแบบมาตรฐานงาน ชนดิ คอนกรีตตาม ปูนซีเมนตท ีใ่ ช ตอ คอนกรีต ทาง และงานสะพาน ป มทช.101-2563 1 ลูกบาศกเ มตร (เปน ลูกบ กิโลกรัม) ตองไมนอ ยกวา 2561 15x15 ค1 ค18 250 18 ค1-2 ค21 270 21 ค2 ค24 290 24 ค28 315 28 - ค30 325 30 ค3 ค35 330 35 - ค42 380 42 ค4 ค45 430 45 - ค50 485 50 - Add a footer ผวิ จราจรคอนกรตี ....... 35

มตร ทแ่ี ตกตา งกนั ระหวา ง 2 หนว ยงาน 99 กรมทางหลวง ดคอนกรตี กําลังอัดคอนกรตี วัน (ksc) ชอื่ ชนิดคอนกรีตทีร่ ะบไุ ว ปูนซีเมนตท ใี่ ชตอ ท่ี 28 วนั Mpa(ksc) ในแบบมาตรฐาน งานทาง คอนกรีต 1 ลูกบาศก บาศก และสะพาน เมตร (เปนกโิ ลกรมั ) ลูกบาศก 5x15 ซม. ป 2015 ตองไมน อ ยกวา 15x15x15 ซม. 80 <30 (306) 10 30-40 (306-408) 40 E 300 41-45 (418-459) 46-50 (469-510) 80 00 50 D 350 20 C 400 50 00 B 450 A 500 51-60 (520-612) 50 ผวิ จราจรคอนกรตี 350 325 10

สรุปผล ขอ การหารือ แล

100 (2) อแตกตางของกาํ ลงั คอนกรตี ละสัดสวนซีเมนต

227700* Add a footer

24 Mpa* 101 30 Mpa FR * 12

การพจิ า ทช-ทล การตรวจรบั งานคอนกรีต

ารณาตรวจรับงานคอนกรตี 102 เห็นควรใหพิจารณา ตรวจรบั คอนกรตี ที่ อายุ 28 วนั

ทช-ทล ขอ ตอ การทาํ ราคาตอหนวย

103 (3) อแตกตางของการทําราคา อหนวย

ปรบั ตามแน ทช-ทล � �ðbðêaðċff��č � ęč � ðb�

104 นวทางของ ทล.

ทช-ทล ขอ งานอปุ กรณอาํ นวยความปลอดภัย คว และไฟฟา สอ งสวา ง สว

105 (4) อแตกตางของอปุ กรณอาํ นวย วามปลอดภยั และไฟฟา สอง วา ง

อปุ กรณอํานวยความปลอดภัยทแี่ ตก ทช. ทล. Add a footer

กตางกนั ระหวาง 2 หนว ยงาน 106 FR ผลการ ทช. จะมแี บบเพิ่มเพือ่ เลือกใน หารือ เหมาะสมในแตละกรณีไดแก 1. รูปแบบไมม ี BLOCK OUT ใชใ นกรณี พนื้ ท่ี จํากัด 2. รูปแบบ มี BLOCK OUT ใชใ นกรณมี ีพน้ื ที่ ท่ีสามารถดําเนนิ การได 17

อปุ กรณไฟฟา สองสวา งทีแ่ ตกตา ทช. ทล. ผ Add a footer

างกันระหวาง 2 หนวยงาน แบบไฟฟาสอ งสวาง ทชF. จRะ1ม0ี7 ผลการ การแสดงอปุ กรณภายในตู หารอื จายไฟละเอยี ดกวา ทล. ดังน้ัน ทล.จะจัดทาํ แบบไฟฟา สองสวางท่รี ะบอุ ุปกรณใ ห ละเอียดมากข้นึ ไดแ ก 1. รายละเอียดเมนเซอรก ิต เบรกเกอร 2. Magnatic contactor 3. ชุด FUSE 4. ชุด Hand of Auto selector switch 5. รวมถงึ อปุ กรณสวนเพ่ิมเตมิ ตา งๆ ใหค รบถว นตามมาตรฐาน18

ปายจราจรแบบ ต.พเิ ศษ ทช. Add a footer

108 FR 19

ทิศทางการพัฒนาองคกร ตัวชี้ว โด นายชยทัต วฒั นก

109 วดั เพื่อขบั เคลื่อนไปสเู ปาหมาย ดย กลู รกท.ผอ.สพร.



110 การพฒั นาองค์กร ตัวชี้วัด การขบั เคล่อื นสูเ่ ป้าหมาย โดย สำนักงำนพฒั นำระบบบริหำร

เน้อื หาการนาเสนอ 1 การวิเคร - SWOT - PESTE 2 การขับเค - Strate 3 เคร่อื งม - การพัฒ - การประ - ขอ้ เสนอ - การบริห

111 ราะห์ปัจจัยท่เี ก่ียวข้อง T EL คลอื่ นกรมทางหลวงชนบท ภายใตบ้ ริบทของความเปลี่ยนแปลง egic Route > คมนาคม United > Feeder มอื ในการกากับตดิ ตาม และขบั เคลื่อนกรมทางหลวงชนบทสู่ความยง่ั ยืน ฒนาคณุ ภาพการบรหิ ารจัดการภาครัฐ (PMQA) 2 ะเมินส่วนราชการตามมาตรการปรบั ปรงุ ประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ัติราชการ อการปฏบิ ัติราชการ หารจัดการความเส่ยี ง และการควบคุมภายใน

การวิเคราะห

112 หป์ จั จัยท่เี ก่ยี วข้อง 3

กรมทางหลวงชนบทกับภารกจิ แผนระดับ ่ีท 1 แผนระดับที่ 2 แผนยทุ ธศ “ทั่วถึงและเปน็ มติ ร “ปลอดภยั ตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม” มนั่ คง แผนระดับท่ี 3 พฒั นาโครงขา่ ยชนบทเข้าสู่พน้ื ทตี่ า่ งๆอยา่ งทวั่ ถงึ แผนยทุ ธศาสตร์กร มมี าตรฐานและใชง้ านอย่างปลอดภยั พรอ้ มทง้ั ส่งเสรมิ และสนับสนุน เชอื่ มโยงโครงขา่ ยทางหลวงชนบ ทางหลวงทอ้ งถนิ่ เพื่อความมั่นคงของประเทศ (Stability) ส่งเสรมิ การพฒั นาเศรษฐกจิ แล มั่งคั่งของประเทศ (Prospe การขับเคลื่อน ภารกิจหลกั (Core Function) ของกรม ุยทธศาสต ์รชา ิต วางแผน สารวจ ก่อสร้าง ออกแบบ

จในการขับเคลอ่ื นยุทธศาสตร์ชาติ 113 ศาสตร์กระทรวงคมนาคม ยและ “ประสิทธิภาพและ “ปัจจยั ขับเคลื่อน ง” ขีดความสามารถ” ยุทธศาสตร์” รมทางหลวงชนบท บท เพ่อื บารงุ รกั ษาและเพิ่มคุณคา่ โครงขา่ ยทางหลวง พฒั นาองค์กร เพื่อใหเ้ ป็นองคก์ รทมี่ สี มรรถนะสูงท่ี ละความ ชนบท เพอื่ การพฒั นาประเทศอยา่ งย่ังยนื ยดึ มัน่ ในหลักการบรหิ ารจดั การบา้ นเมอื งท่ีดี erity) (High Performance Organization (Sustainability) มทางหลวงชนบทเพ่ือขบั เคล่ือนยุทธศาสตร์ชาติ บารุงรกั ษา ความ บังคับใช้ ส่งเสรมิ ทาง 4 ปลอดภยั กฎหมาย หลวงท้องถิ่น

กรมทางหลวงชนบทกบั เปา้ หม แผนระ ัดบ ่ีท 1 แผนระ ัดบ ่ีท 2 เป้าหมายและตวั ชี้วดั ด้าน กล่มุ ลดต้นทนุ และ เพม่ิ ประสิทธิภาพ ระบบโลจสิ ตกิ ส์ของประเทศ กลุ่มลดอตั ราผ้เู สียชีวติ จากอบุ ตั เิ หตุทางถนน

มายในการขบั เคลือ่ นยทุ ธศาสตร์ชาติ 114 นการพฒั นาโครงสร้างพืน้ ฐาน และระบบโลจสิ ตกิ ส์ 5

แนวทางการขับเคลอ่ื นกรมทางหล ตัวชี้วดั และเป้าหมาย = ตน้ ทนุ โลจิสติกสต์ ่อ GDP = ดัชนีวดั ประสิทธภิ าพด้านโลจสิ ติกสร์ ะหว่างประเทศ = สดั ส่วนปรมิ าณการขนสง่ สนิ ค้าทางราง = สดั ส่วนการเดนิ ทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมือง = อตั ราผเู้ สยี ชวี ติ จากอุบัติเหตุทางถนน (คนตอ่ ประชากรแสนคน) ปี 2570 ระยะที่ 1 “ผูน้ าด้านการพฒั นา บารงุ รักษาแ อานวยความปลอดภยั โครงข่ายสาย ทีส่ าคญั ในเชงิ ยทุ ธศาสตร์ + สนับส ให้โครงขา่ ยทางหลวงท้องถนิ่ ให้ไ มาตรฐานและมคี วามปลอดภยั ” ปี 2565 1.ลดต้นทุนและ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพ ระบบโลจิสติกสข์ องประเทศ 2.ลดอตั ราผูเ้ สยี ชวี ติ จากอบุ ัตเิ หตุทางถนน

ลวงชนบทในอนาคต (อนาคต (To-Be)) 115 ปี 2580 ระยะที่ “ผู้นาด้านการพฒั นา บารุงรักษา New Operator + 2 และอานวยความปลอดภยั Regulator โครงข่ายสายรองทสี่ าคัญในเชงิ และ ยุทธศาสตร์ + วางมาตรฐานให้ โครงข่ายทางหลวงท้องถน่ิ ใหไ้ ด้ ยรอง New Operator + มาตรฐานและมคี วามปลอดภยั ” สนุน Facilitator ได้ ” 1.ลดตน้ ทนุ และ 6 เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ระบบโลจสิ ตกิ สข์ องประเทศ 2.ลดอตั ราผู้เสียชวี ติ จากอบุ ัติเหตทุ างถนน

การขบั เคลื่อนก ภายใต้บรบิ ทขอ

116 กรมทางหลวงชนบท องความเปลี่ยนแปลง 7

การวเิ คราะหป์ จั จัยท่เี ก ปจั จัยภายใน 7’s Mckinsey SW  Economy of Scale ในการ  ประสบการณ์ของผ้ปู ฏิบัตงิ าน ปฏบิ ัติงานดา้ นช่าง อาทิ การมี Lab (การขาดทกั ษะ และสั่งสม ทดสอบวสั ดุทวั่ ประเทศ ประสบการณ์ในวชิ าชพี ซ่งึ เกดิ จาก การท่ีบุคลากรจานวนมาก  ความพรอ้ มของเครอ่ื งจกั รกล เกษียณอายรุ าชการไป) จดุ แขง็ จุดออ่ น

ก่ยี วขอ้ ง (SWOT Analysis) 117 ปจั จยั ภายนอก PESTEL O T  ยุทธศาสตร/์ นโยบายกระทรวง  ยุทธศาสตรส์ านักงาน ก.พ.ร. คมนาคม “คมนาคม United”  พรบ.กระจายอานาจฯ  แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคม  ภาพลกั ษณใ์ นการรบั รู้ของ แห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (การลดตน้ ทนุ ประชาชนทีม่ ีต่อกรมทางหลวงและ การขนสง่ ) กรมทางหลวงชนบท  สือ่ Social Media ที่สามารถ เข้าถึงไดง้ า่ ย โอกาส อปุ สรรค 8

จ Economy of Scale จัดเป็นจุดแข็งเชิงโครงสร้างของกรมฯ คาน้ีเป็นคาท วิชาเศรษฐศาสตร์ หมายถึง ข้อได้เปรียบในเชิงต้นทุนท่ีองค์กรได้รับเน่ืองจากขนาด การดาเนินงาน เม่ือพิจารณาจากบริบทท่ีเปล่ียนแปลง ในปัจจุบัน การท่ีกฎหมายกระ อานาจพยายามผลกั ดนั ให้ “สว่ นท้องถนิ่ ”ดาเนนิ การไดเ้ องในทกุ มิติ ซึ่งรวมถึง มิติด้าน การก่อสร้าง และบารุงรักษาโครงข่ายทางและสะพาน ย่อมหนีความจริงท่ีว่า อปท. 8 กวา่ แห่ง ยงั ไม่สามารถมีทีมช่าง และเครื่องมือได้เองอย่างครบถ้วน กรมฯ สามาถใช้จุด ในกรณีน้ีรวมกับการปรับเปลี่ยนบทบาทการเป็น Operator ส่วนหน่ึงให้กลายมา Facilitator แก่ อปท. ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการทดสอบวัสดุ การให้ความรู้ทางวิชาการ คาแนะนาตา่ งๆ แมก้ ระทัง่ การกาหนดมาตรฐานทางหลวงทอ้ งถ่ิน ซงึ่ จะทาใหก้ รมฯ มีฐานะเป็น Regulator และสามารถเข้าไปมบี ทบาทในถนนท้องถิ่นอีกวา่ 597,000 กิโลเมตรได้

จดุ แข็ง 118 ที่ใช้ใน 9 ดของ ะจาย นช่าง 8,000 ดแข็ง าเป็น ร หรือ

โอ ยุทธศาสตร์/นโยบายกระทรวงคมนาคม “คมนาคม United” คาเดียวสื่อถึงทุก Mode การเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางบก น้า ราง อาก ซ่ึงยุทธศาสตร์นี้ เมื่อนามาประกอบกับเรื่องการขนส่ง ตามหลักทฤษฎีของถนน ดัง ถนนสายรอง (Collector) จึงทาหนา้ ท่ีเปน็ Feeder หรือตัวป้อน ปริมาณการจราจรจ ถนนสายหลักสู่พื้นที่สาคัญต่างๆ เช่น Inland Container Yard ท่าเรือ ท่ารถ สนามบิน เพ่ือให้เกิดการกระจายสินค้าได้อย่างคล่องตัว โดยใน Frame ต่อๆไปจะขอ คาว่า Strategic Route

อกาส 119 กาศ 10 งน้ัน จาก ถไฟ อใช้

ระยะทางถนนในความรับผดิ ชอบของหนว่ ยงานตา่ งๆ หนว่ ยงาน ปี 2563 ทล. จานวน ทช. 51,849 km อปท. 48,031 km 597,667 km การทางพเิ ศษแห่งประเทศไทย 224 km กทม. 4,074 km รวม 701,847 km

ทฤษฎเี กี่ยวกบั ถนน 120 American Association of State Highway and Transportation Officials (AASHTO) ไดก้ าหนดถนนออกเป็น 3 ประเภทหลัก ไดแ้ ก่ 1. ถนนสายหลกั Arterial ซ่งึ เน้นการเดนิ ทางระหวา่ งจังหวัด เน้นความเร็วทใ่ี ช้ในการเดินทาง (Mobility) 2. ถนนสายรอง Collectors ทาหนา้ ทร่ี องรบั ปริมาณจราจรจาก ถนนสายหลักเพอ่ื สง่ ผ่านสู่ถนนสายย่อย หรอื ชมุ ชนตอ่ ไป เน้นท่ี การเช่อื มตอ่ มากกวา่ ความเร็วที่ใชใ้ นการเดินทาง (Accessibility) 3. ถนนสายยอ่ ย Local Roads ทาหนา้ ท่รี องรบั ปรมิ าณ จราจรจากทางสายรองเข้าสชู่ มุ ชนเน้นทก่ี ารเข้าถงึ ชุมชน ไม่ เนน้ ความเร็วหรอื ความคลอ่ งตัว 11

ภยั ยุทธศาสตรส์ านกั งาน ก.พ.ร. ที่เป็นภยั คกุ คามสถานการณม์ ีตวั ตนของ ทช. - การกาหนดความสัมพันธร์ ะหว่างการบรหิ ารราชการสว่ นราชการส่วนกลาง สว่ นภูม - ตอ้ งมีความชัดเจนตาม Core Function ไม่ซา้ ซอ้ นกนั และกระจายอานาจในระด สว่ นทอ้ งถนิ่ ได้บรหิ ารจดั การตนเอง - การทบทวนภารกิจของภาครัฐ - บทบาทภารกจิ ของสว่ นราชการ Core Function - Policy Maker (ผู้กาหนดนโยบาย) - Regulator (ผ้กู ากับดูแล) - Facilitator (ผู้สง่ เสรมิ สนับสนุน) - Provider (ผูใ้ หบ้ ริการ) - Operator (ผู้ปฏิบัตกิ าร) > สานกั งาน ก.พ.ร. มุ่งเน้นที่จะลดบทบาทราชการส ประสงค์ใหภ้ าครัฐไมท่ าหนา้ ทแ่ี ข่งขนั กับภาคเอกชน แตจ่ ะใหเ้ กดิ การถา่ ยโอนภารกจิ ใ ในสังคมเขา้ มาดาเนินการ (New Operator) (ในสว่ นของกรมทางหลวงชนบท คือ ก

ยคกุ คาม 121 มิภาค และส่วนท้องถ่นิ 12 ดับท่ีเหมาะสมไปให้ สว่ นกลางในด้านนี้ และ ให้ภาคสว่ นราชการอ่ืน การจ้างเหมาบริการ)

สรุปดา้ นต่างๆที่ตอ้ งดาเนนิ การไปส ดา้ นกระบวนงาน/การบรู ณาการทางานรว่ มกนั ภายในกระทรวง : - มีการจัดการและปรับปรุงกระบวนงานทางานอยา่ งต่อเน่ือง - มกี ารเปิดโอกาสให้ประชาชนมสี ่วนรว่ มในกระบวนการทางาน - มีระบบการวดั ผล และการติดตามผลการดาเนนิ งานท่เี ป็นระบบ ด้านกฎหมาย : - มกี ารปฏิบตั ติ าม พ.ร.บ.อานวยฯ ทเ่ี พมิ่ ประสิทธภิ าพ การบงั คับใช้กฎหมายทางหลวง ดา้ นเทคโนโลยี : - กรมฯมีการพัฒนานวัตกรรมและมีการนา ITมาเพ่ิมประสิทธิภาพ การปฏิบตั ิงานอยา่ งตอ่ เนื่อง

สกู่ ารเปลย่ี นแปลงในอนาคต (How To) 122 ดา้ นบคุ ลากร : - บุคลากรมีสมรรถนะหลกั ในดา้ นวศิ วกรรมงานทาง - บคุ ลากรมคี วามท่มุ เท และมุง่ ผลสัมฤทธใิ์ นการปฏบิ ัติงาน ด้านโครงสร้าง : - การปรบั ตัวใหส้ นองงานพัฒนาบริการภาครฐั เพื่อประชาชน - การปรับบทบาทภารกิจให้ทันสมัย ยืดหยุ่น รองรบั การเปลีย่ นแปลง - การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงานภาครัฐ 13