Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Published by Thitirat Pointana, 2021-05-06 07:01:23

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 23 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 28 ช่วั โมง เรอื่ ง การวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการลบและหาคาตอบ เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ครูผ้สู อน นางสาวฐิติรัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 .................................................................................................... ............................................................ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ช้วี ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคัญ โจทย์ปัญหาการลบเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาตามข้ันตอน นาผลวิเคราะห์เขียนเป็น ประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคาตอบ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถวิเคราะห์เขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบโจทย์ปัญหาการลบที่มีตัวต้ังไม่ เกนิ 100,000 ได้ (K) 2. เขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบได้จากโจทย์ปัญหาการลบท่ีมีตัวต้ังไม่เกิน 100,000 ได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกับโจทย์ปญั หาไปใช้แก้ปญั หาในชีวิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาการลบและหาคาตอบ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูนาโจทย์ปัญหาการบวกที่มีคาว่า “น้อยกว่า” มาให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์และ หาคาตอบ เชน่ นอ้ งมเี งนิ ฝาก 49,758 บาท พมี่ ีเงนิ ฝากน้อยกวา่ น้อง 15,908 บาท พม่ี เี งนิ ฝากท้ังหมดเทา่ ไร 2. ครูฝึกใหน้ ักเรยี นฝกึ วิเคราะหโ์ จทยโ์ ดยตอบคาถามต่อไปน้ี - โจทย์ข้อน้ีเกยี่ วกบั อะไร (เงนิ ฝากของพ่ีและน้อง) - โจทยถ์ ามอะไร (พ่ีมเี งนิ ฝากท้ังหมดเทา่ ไร) - โจทย์กาหนดอะไรมาให้บ้าง (น้องมีเงินฝาก 49,758 บาท พ่ีมีเงินฝากน้อยกว่า นอ้ ง 15,908 บาท) - พม่ี ีเงินทงั้ หมดเทา่ ไร (33,850 บาท) - พม่ี เี งินฝากมากกวา่ หรือน้อยกวา่ น้อง (น้อยกว่า) - เป็นไปไดไ้ หมที่พ่ีจะมีเงินฝากมากกว่า 49,758 บาท (เป็นไปไม่ได้) ขัน้ สอน 1. ครูติดแถบโจทย์ปัญหาการบวกให้นกั เรยี นคดิ หาคาตอบ ดังน้ี พ่อไดร้ ับเงนิ เดือน 68,519 บาท จ่ายคา่ เทอมลูกไป 15,594 บาท พ่อจะเหลอื เงินเทา่ ใด ครูให้นักเรยี นทุกคนอ่านโจทยป์ ัญหาพร้อมกนั แลว้ ฝึกวเิ คราะห์โจทย์และหาคาตอบ โดยให้นกั เรยี นตอบคาถาม ดังนี้ - โจทย์ถามอะไร (พอ่ จะเหลอื เงินเท่าใด) - โจทย์กาหนดอะไรให้บ้าง (พ่อได้รับเงินเดือน 68,519 บาท จ่ายค่าเทอมลูกไป 15,594 บาท)

ครูเขียนภาพประกอบ พ่อเหลือเงนิ จา่ ยค่าเทอมลกู 15,594 บาท พ่อไดร้ บั เงินเดือน 68,519 บาท - หลงั จากจา่ ยคา่ เทอมลูก พ่อจะมจี านวนเงินเพ่ิมขน้ึ หรอื ลดลง (ลดลง) - หาจานวนเงินที่พ่อเหลอื ทงั้ หมดได้อย่างไร (68,519 – 15,594 = ) - 68,519 – 15,594 ได้คาตอบเท่าใด (52,925 บาท) - สรุปคาตอบไดอ้ ย่างไร (พอ่ เหลอื เงนิ 52,925 บาท) - คาตอบที่ได้สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด (สมเหตุสมผล เพราะ 68,519 ประมาณ 69,000 และ 15,594 ประมาณ 16,000 ซง่ึ 69,000 – 16,000 = 53,000 ดงั น้นั พ่อเหลือ เงินประมาณ 53,000 บาท) 2. ครฝู ึกวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการบวกตามลกั ษณะกจิ กรรมที่ทามาข้างตน้ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 23 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการลบและหาคาตอบ เมื่อ เสร็จแล้วให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานท่ี 23 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการ ลบและหาคาตอบและหาคาตอบไดว้ ่าการแกโ้ จทยป์ ญั หามีข้ันตอนดังน้ี 5) ทาความเขา้ ใจโจทย์ 6) วางแผนแกป้ ัญหา 7) ดาเนินการตามแผน 8) ตรวจสอบ สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบโจทย์ปญั หาการลบ 2. ใบงานท่ี 23 การวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการลบและหาคาตอบ

การวัดผลและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี ้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 23 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 23 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลกั ษณะ ท่ีพึงประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ รหิ าร ลงชือ่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 24 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับไม่เกิน 100,000 เวลาเรียน 28 ชัว่ โมง เร่ือง การแสดงวธิ ีทาโจทย์ปัญหาการลบ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................. ................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคัญ การแสดงวิธีทาจากโจทย์ปัญหาการลบเป็นการนาโจทย์ปัญหามาเขียนเรียงลาดับในแนวตั้ง จานวนตัวเลขในแต่ละหลกั ให้ตรงกันแล้วหาผลลบจานวนตัวเลขในแต่ละหลัก จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถแสดงวิธที าและหาคาตอบโจทยป์ ญั หาการลบที่มตี ัวตัง้ ไมเ่ กนิ 100,000 ได้ (K) 2. เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบไดจ้ ากโจทย์ปญั หาการลบท่ีตวั ต้ังไมเ่ กิน 100,000 ได้ (P) 3. นาความรู้เกยี่ วกบั โจทย์ปญั หาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การแสดงวิธที าโจทย์ปัญหาการลบ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตุผล 5. ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เร่ือง การแก้โจทย์ปัญหาการลบ จากน้ันครูติดบัตรโจทย์ปัญหา แลว้ ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาแสดงขน้ั ตอนการแก้โจทย์ปัญหาหน้าช้ันเรียน โดยครแู ละนกั เรียน ที่เหลือร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั สอน 1. ครูกาหนดแถบโจทย์ปัญหาการลบ จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นวิเคราะหโ์ จทย์ตามข้ันตอน ตอ่ ไปน้ี ต้นมเี งนิ ในธนาคาร 98,146 บาท ถอนไปใช้จ่าย 32,490 บาท ต้นจะเหลือเงินในธนาคารเทา่ ใด - สิ่งท่ีโจทย์กาหนดให้ (ต้นมีเงินในธนาคาร 98,146 บาท ถอนไปใช้จ่าย 32,490 บาท) - ส่งิ ท่โี จทยต์ ้องการทราบ (ต้นจะเหลอื เงินในธนาคารเท่าใด) - เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (98,146 – 32,490 = ) 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันแสดงวธิ ีทาเพ่อื หาคาตอบจากประโยคสัญลักษณ์ ประโยคสญั ลักษณ์ 98,146 – 32,490 =  วธิ ีทา ตน้ มีเงนิ ในธนาคาร 98146 - บาท ถอนไปใชจ้ ่าย 32490 บาท ต้นจะเหลือเงินในธนาคาร 65656 บาท ตอบ ตน้ จะเหลือเงินในธนาคาร ๖๕,๖๕๖ บาท 3. ครฝู กึ วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวกตามลักษณะกิจกรรมท่ีทามาขา้ งตน้ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 24 การแสดงวิธีทาโจทย์ปัญหาการลบ เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 24

ข้ันสรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปส่ิงทีไ่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ การแก้โจทย์ปญั หาการลบ ทา ได้โดยการวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาเพ่ือทาความเขา้ ใจโจทย์วางแผนวา่ จะใช้วิธใี ดหาคาตอบ แลว้ ลงมอื ทา โดยการแสดงวิธีทาหาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ ส่วนการเขียนข้อความเพ่ือสร้างโจทย์ปัญหา จะต้องใหส้ อดคล้องกบั ทีโ่ จทย์กาหนด และมคี วามสมเหตสุ มผล เราสามารถนาความรู้เร่ือง การแก้โจทย์ ปญั หาการบวก ไปใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับจานวนต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวันได้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. แถบโจทย์ปัญหาการลบ 2. ใบงานที่ 24 การแสดงวธิ ีทาโจทย์ปัญหาการลบ การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงท่ตี ้องการวดั วธิ ีวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 24 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 24 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึน้ ไป คณุ ลกั ษณะ ทพี่ งึ ประสงค์ ความคิดเห็นผบู้ ริหาร ลงช่อื .....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวนนบั ไม่เกิน 100,000 เวลาเรียน 28 ชว่ั โมง เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากภาพ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางสาวฐิตริ ัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคัญ การสร้างโจทย์ปัญหา ตอ้ งมีทงั้ ส่วนทโ่ี จทย์บอกและส่วนทโ่ี จทย์ถาม นอกจากนโ้ี จทย์ปัญหาท่ี สร้างตอ้ งมีความเป็นไปได้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. สร้างโจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพที่กาหนดให้ได้ (K) 2. เขียนแสดงการสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกได้ถูกตอ้ ง (P) 3. เขยี นแสดงวิธีหาคาตอบจากโจทยป์ ัญหาการบวกท่สี รา้ งขนึ้ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง (P) 4. นาความรเู้ ก่ียวกับโจทย์ปญั หาการบวกไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 5. ความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โดย ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คนออกมาจับสลากโจทย์ปัญหา แล้วให้นักเรียนแสดงข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหา หนา้ ชัน้ เรียน จากน้ันครูและนักเรียนทีเ่ หลอื ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขั้นสอน 1. ครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน ดงั นี้ 45,571 บาท 8,919 บาท 25,248 บาท 31,591 บาท ครูสาธิตวิธีการสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพทีก่ าหนด พรอ้ มทั้งแสดงวิธีการแก้ โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ เช่น “พ่อซื้อคอมพิวเตอร์ราคา 45,571 บาท แมซ่ ้ือกระเปา๋ ราคา 8,919 บาท ต้องจา่ ยเงินท้งั หมดกีบ่ าท” ประโยคสัญลักษณ์ 45,571 + 8,919 =  วธิ ีทา พ่อซ้ือคอมพิวเตอร์ราคา 45571 + บาท แม่ซือ้ กระเป๋าราคา 8919 บาท ตอ้ งจา่ ยเงินทง้ั หมด 54490 บาท ตอบ ตอ้ งจ่ายเงนิ ท้ังหมด ๕๔,๔๙๐ บาท 2. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันสร้าง โจทย์ปัญหาการบวกจากรปู ภาพทก่ี าหนดให้ 3. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนท่ีเหลือ รว่ มกนั ตรวจผลงานและชมเชยกลมุ่ ท่ที าไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทย์ปญั หาในข้อที่ยังไม่ ถกู ตอ้ ง โดยให้นักเรยี นรว่ มกนั แกไ้ ขปรับปรุงใหถ้ ูกต้อง 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้เก่ียวกับการสร้างโจทย์ปัญหาว่ามี ขนั้ ตอนอย่างไร และสิ่งสาคญั ในการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกคอื อะไร

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 25 การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากภาพ เมื่อเสร็จแล้ว ให้นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 25 ขัน้ สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งที่ไดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวก ตอ้ งประกอบไปดว้ ย 2 ส่วนคือ ส่วนท่ีโจทย์กาหนดให้ กบั ส่วนท่โี จทย์ถาม ซึง่ ประโยคในการสร้างควร เป็นเรื่องที่มีความเช่ือมโยงและสัมพันธ์กันทั้งหมด และควรสร้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิต จริง และสร้างให้ครบท้ังสองสว่ น สอ่ื การเรียนรู้ 1. บัตรภาพ 2. ใบงานท่ี 25 การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกจากภาพ การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทีต่ ้องการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 25 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 25 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลกั ษณะ ทพี่ ึงประสงค์ ความคิดเห็นผ้บู รหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 26 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกและการลบจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 28 ช่วั โมง เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ริ ตั น์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั การสรา้ งโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมีทั้งส่วนที่โจทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม นอกจากน้โี จทย์ปัญหาท่ี สร้างตอ้ งมคี วามเป็นไปได้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สรา้ งโจทย์ปัญหาการลบจากภาพท่กี าหนดให้ได้ (K) 2. เขยี นแสดงการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการลบได้ถูกต้อง (P) 3. เขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบจากโจทยป์ ัญหาการลบทส่ี รา้ งข้ึนได้อย่างถูกต้อง (P) 4. นาความร้เู กีย่ วกับโจทย์ปัญหาการลบไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การสร้างโจทยป์ ัญหาการลบจากภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล 5. ความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรยี นและทบทวนความรู้เร่ือง การแก้โจทย์ปัญหาการลบ โดยครู สมุ่ นกั เรยี น 2-3 คนออกมาจบั สลากโจทยป์ ัญหา แลว้ ใหน้ กั เรยี นแสดงขน้ั ตอนการแก้โจทยป์ ญั หาหน้า ชนั้ เรยี น จากน้ันครูและนักเรียนทเ่ี หลอื ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ขนั้ สอน 1. ครูติดบัตรภาพบนกระดาน ดงั น้ี 45,571 บาท 8,919 บาท 25,248 บาท 31,591 บาท ครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพท่ีกาหนด พร้อมท้ังแสดงวิธีการแก้ โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ เช่น คอมพิวเตอร์ราคา 45,571 บาท กลอ้ งถา่ ยรูปราคา 31,591 บาท คอมพิวเตอร์ราคาแพงกวา่ กลอ้ งเทา่ ไร ประโยคสัญลักษณ์ 45,571 - 31,591 =  วธิ ีทา คอมพวิ เตอร์ราคา 45571 - บาท กลอ้ งถ่ายรปู ราคา 31591 บาท คอมพวิ เตอร์ราคาแพงกวา่ กล้อง 13980 บาท ตอบ คอมพิวเตอรร์ าคาแพงกว่ากลอ้ ง ๑๓,๙๘๐ บาท 2. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสร้าง โจทยป์ ญั หาการบวกจากรูปภาพท่ีกาหนดให้ 3. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น ครูและนักเรียนท่ีเหลือ ร่วมกนั ตรวจผลงานและชมเชยกลุ่มทท่ี าไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทยป์ ญั หาในข้อท่ียังไม่ ถูกต้อง โดยให้นกั เรยี นร่วมกันแก้ไขปรับปรุงให้ถกู ตอ้ ง 4. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 26 การสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 26

ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การสร้างโจทย์ปัญหาการลบ ตอ้ งประกอบไปดว้ ย 2 ส่วนคอื ส่วนทโ่ี จทยก์ าหนดให้ กับส่วนท่โี จทยถ์ าม ซง่ึ ประโยคในการสร้างควร เป็นเร่ืองท่ีมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันท้ังหมด และควรสร้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิต จริง และสรา้ งใหค้ รบท้งั สองสว่ น สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บัตรภาพ 2. ใบงานที่ 26 การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ การวัดผลและประเมนิ ผล ส่ิงทีต่ ้องการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 26 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 26 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เหน็ ผู้บริหาร ลงช่ือ.....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 27 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกและการลบจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 28 ชว่ั โมง เรื่อง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกจากประโยคสัญลักษณ์ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวฐิตริ ตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั การสร้างโจทย์ปญั หา ต้องมีท้งั สว่ นที่โจทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม นอกจากนโี้ จทย์ปัญหาท่ี สร้างต้องมีความเป็นไปได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สร้างโจทยป์ ัญหาการบวกจากประโยคสญั ลักษณ์ทก่ี าหนดให้ได้ (K) 2. เขยี นแสดงการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกได้ถูกต้อง (P) 3. เขียนแสดงวิธีหาคาตอบจากโจทยป์ ัญหาการบวกที่สรา้ งข้ึนไดอ้ ย่างถูกต้อง (P) 4. นาความรเู้ กย่ี วกับโจทย์ปญั หาการบวกไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากประโยคสญั ลกั ษณ์ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล 5. ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนความรู้เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากภาพ โดยครูติดภาพบน กระดาน แล้วครสู มุ่ นกั เรยี นออกมา 2-3 คน ออกมาสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวก 2. จากน้ันครูใช้การถาม - ตอบ เพื่อให้นักเรียนบอกส่วนท่ีโจทย์ถาม ส่วนท่ีโจทย์บอก ซ่งึ ครูควรเน้นย้าว่าโจทย์ปัญหาทส่ี รา้ งมคี วามเป็นไปไดห้ รือไม่ และคาตอบเป็นเทา่ ไร ขนั้ สอน 1. ครตู ิดบัตรตวั เลขแสดงจานวนบนกระดาน แล้วครูสาธติ วิธกี ารสร้างโจทย์ปญั หาการ บวกจากประโยคสัญลักษณ์ท่ีกาหนด พร้อมท้ังแสดงวิธีหาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล ของคาตอบ เชน่ 10,500 + 14,530 =  ครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากประโยคสัญลกั ษณ์ท่ีกาหนด พร้อมท้ัง แสดงวิธีการแก้โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ “เกษตรเลี้ยงปลานิล 10,500 ตัว เลี้ยงปลาดกุ 14,530 ตัว เกษตรเล้ยี งปลาท้ังหมดกต่ี ัว” ประโยคสัญลกั ษณ์ 10,500 + 14,530 =  วธิ ีทา เกษตรเล้ียงปลานลิ 10500 + ตวั เล้ียงปลาดกุ 14530 ตวั เกษตรเลีย้ งปลาทั้งหมด 25030 ตวั ตอบ เกษตรเลยี้ งปลาทั้งหมด ๒๕,๐๓๐ ตัว 2. ครูใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 – 5 คน จากน้ันให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันสร้าง โจทยป์ ัญหาการบวกจากรูปภาพทกี่ าหนดให้ ดงั นี้ 60,450 + 26,920 =  67,740 + 8803 =  28,514 + 37,109 = 

3. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนท่ีเหลือ รว่ มกันตรวจผลงานและชมเชยกลมุ่ ทที่ าไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทย์ปญั หาในข้อที่ยังไม่ ถูกต้อง โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแกไ้ ขปรบั ปรุงใหถ้ กู ต้อง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 27 การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากประโยคสัญลักษณ์ เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรม ในใบงานท่ี 27 ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดงั น้ี การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ตอ้ งประกอบไปด้วย 2 สว่ นคอื สว่ นที่โจทยก์ าหนดให้ กับส่วนทโ่ี จทย์ถาม ซึ่งประโยคในการสร้างควร เป็นเร่ืองที่มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันทั้งหมด และควรสร้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิต จริง และสรา้ งใหค้ รบทั้งสองสว่ น สอ่ื การเรียนรู้ 1. บตั รภาพ 2. บตั รตวั เลข 3. ใบงานที่ 27 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกจากประโยคสญั ลักษณ์ การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ทตี่ ้องการวดั วธิ วี ดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 27 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 27 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ที่พึงประสงค์ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้นึ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 28 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 28 ช่วั โมง เรื่อง การสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ................................................................................................ ................................................................ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคัญ การสรา้ งโจทย์ปัญหา ตอ้ งมที งั้ ส่วนทีโ่ จทย์บอกและส่วนที่โจทย์ถาม นอกจากนี้โจทยป์ ัญหาท่ี สร้างตอ้ งมีความเปน็ ไปได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างโจทยป์ ญั หาการลบจากประโยคสญั ลักษณ์ที่กาหนดให้ได้ (K) 2. เขยี นแสดงการสร้างโจทย์ปัญหาการลบไดถ้ กู ต้อง (P) 3. เขยี นแสดงวิธหี าคาตอบจากโจทย์ปัญหาการลบทส่ี ร้างข้นึ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (P) 4. นาความรูเ้ กี่ยวกบั โจทย์ปัญหาการลบไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบจากประโยคสัญลกั ษณ์ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล 5. ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครทู บทวนความรเู้ ร่อื ง การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ โดยครูติดบัตรภาพบน กระดาน แลว้ ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมา 2-3 คน ออกมาสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ 2. จากนั้นครูใช้การถาม - ตอบ เพ่ือให้นักเรียนบอกส่วนท่ีโจทย์ถาม ส่วนที่โจทย์บอก ซึง่ ครคู วรเน้นย้าว่าโจทยป์ ัญหาทีส่ ร้างมีความเป็นไปได้หรอื ไม่ และคาตอบเป็นเท่าไร ขั้นสอน 1. ครตู ดิ บตั รตัวเลขแสดงจานวนบนกระดาน แลว้ ครสู าธติ วิธกี ารสร้างโจทย์ปัญหาการ ลบจากประโยคสัญลกั ษณ์ท่ีกาหนด พร้อมทงั้ แสดงวธิ ีหาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ เชน่ 39,115 – 7,217 =  ครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ท่ีกาหนด พร้อมทั้ง แสดงวิธีการแก้โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ “แม่มีเงิน 39,115 บาท จ่ายคา่ งวดรถ 7,217 บาท แม่จะเหลอื เงนิ เทา่ ไร” ประโยคสญั ลกั ษณ์ 39,115 – 7,217 =  วธิ ีทา แมม่ ีเงิน 39115 - บาท จ่ายคา่ งวดรถ 7217 บาท แม่จะเหลือเงนิ 31898 บาท ตอบ แมจ่ ะเหลอื เงิน ๓๑,๘๙๘ บาท 2. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสร้าง โจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสญั ลกั ษณ์ทก่ี าหนดให้ ดงั นี้ 84,115 – 34,219 =  53,267 – 26,999 =  47,019 – 14,300 = 

3. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น ครแู ละนกั เรียนที่เหลือ รว่ มกนั ตรวจผลงานและชมเชยกลุม่ ที่ทาได้ถูกต้องและเหมาะสม ครพู จิ ารณาโจทย์ปญั หาในข้อท่ียังไม่ ถกู ตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แกไ้ ขปรับปรุงใหถ้ กู ตอ้ ง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 28 การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรม ในใบงานท่ี 28 ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การสร้างโจทย์ปัญหาการลบ ต้องประกอบไปดว้ ย 2 สว่ นคือ ส่วนทโี่ จทยก์ าหนดให้ กบั สว่ นท่โี จทยถ์ าม ซึง่ ประโยคในการสร้างควร เป็นเร่ืองที่มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันท้ังหมด และควรสร้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิต จรงิ และสร้างให้ครบทง้ั สองสว่ น สอ่ื การเรียนรู้ 1. บัตรภาพ 2. บตั รตัวเลข 3. ใบงานที่ 28 การสร้างโจทยป์ ัญหาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ท่ตี ้องการวดั วิธีวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 28 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 28 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ทีพ่ งึ ประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง เร่อื ง การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ครูผูส้ อน นางสาวฐติ ิรัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคญั นาฬกิ าเปน็ เครื่องมอื ท่ีใช้บอกเวลาเราบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที จุดประสงค์การเรยี นรู้ 8. บอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทีได้ (K) 9. เขียนแสดงเข็มของนาฬกิ าตามเวลาท่ีกาหนดได้ (P) 10. นาความรเู้ กีย่ วกับการบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทีไปใชใ้ นชีวิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 4. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยวิธีการซักถามสนทนาเกี่ยวกับการบอกเวลาเป็นนาฬิกาที่ เรียนผ่านมาแลว้ 5. ครูนานาฬิกาจาลองมาให้นักเรียนดูการเคล่ือนที่ของเวลา โดยให้นักเรียนหัดอ่าน เวลาเป็นนาฬิกา ขั้นสอน 11. ครูนานาฬกิ าจาลองชนิดท่ีมี 2 เข็ม (เขม็ สน้ั และเข็มยาว) และแบบมี 3 เข็ม (เข็มส้ัน เข็มยาว 2 เข็ม ซึ่งใช้บอกเวลาเป็นนาที และวินาที) ให้นักเรียนสังเกตว่ามีอะไรที่แตกต่างกัน และใช้ ประโยชนอ์ ย่างไร 12. ครูนานาฬิกาของจริงแบบมีเข็มและแบบตัวเลขมาให้นักเรียนดูแล้วอภิปรายความ แตกตา่ งของนาฬกิ าแตล่ ะชนดิ 13. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายรายละเอียดบนหน้าปัดนาฬิกา ดังนี้ “นาฬิกามีขีด แบง่ ออกเป็นชอ่ งใหญ่ 12 ช่องเทา่ ๆ กัน มตี ัวเลข ต้ังแต่ 1 – 12 กากับอยู่แตล่ ะขดี ใน 1 ช่องใหญ่ แต่ ละช่องใหญ่แบ่งออกเป็น 5 ช่องเล็ก ๆ เท่า ๆ กัน บนหน้าปัดมีเข็มส้ันและเข็มยาว เข็มส้ันบอกเวลา เป็นช่ัวโมง บอกเวลาตามตัวเลขท่ีเข็มส้ันไปถึงและช้ีผ่าน เข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที บอกเวลาตาม จานวนช่องเลก็ ๆ ท่เี ขม็ ยาวเดินผ่าน โดยเรมิ่ นับหนงึ่ หลังจากเขม็ ยาวเดนิ ผ่านเลข 12” 14. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การเดินของเข็มนาฬิกาแต่ละชนิดเริ่มนับเวลา เข็มยาวเดิน ผ่านเลข 12 และผ่านช่องแรก ชี้ที่ขีดแรกหลังเลข 12 จะนับหนึ่งนาที และเม่ือเดิน 12 ช่องใหญ่ ซ่ึงมี ชอ่ งเล็ก 60 ช่องหรอื 1 รอบนาฬิกา เป็นเวลา 60 นาที เข็มสัน้ จะเดิน 1 ชอ่ งใหญ่ เป็นเวลา 1 ชว่ั โมง ฉะนั้น เข็มยาวเดิน 12 ช่องใหญ่หรือ 1 รอบนาฬิกา เข็มส้ันจะเดินได้ 1 ช่องใหญ่ เพราะฉะน้ัน 1 ชว่ั โมงเท่ากบั 60 นาที 15. ครูนาเสนอการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทเี วลาชว่ งกลางวนั โดยใช้นาฬกิ าจาลอง ประกอบ เช่น 6 นาฬิกา 5 นาที 11 นาฬกิ า 35 นาที 16. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 1 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที เม่ือเสร็จแล้วให้ นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 1

ขนั้ สรปุ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ที่ได้เรยี นรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ นาฬิกาเป็นเครื่องมือที่ใช้บอก เวลา เข็มส้นั บอกเวลาเปน็ ช่วั โมง เข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที สอ่ื การเรยี นรู้ 5. นาฬกิ าจาลอง 6. นาฬกิ าของจรงิ แบบมีเขม็ และแบบตวั เลข 7. ใบงานท่ี 1 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวดั วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 1 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 1 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้นึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป คุณลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์ ความคิดเหน็ ผู้บริหาร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชวั่ โมง เรอื่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ นาฬกิ าเปน็ เครื่องมือทใี่ ชบ้ อกเวลาเราบอกเวลาเปน็ นาฬิกา และนาที จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีได้ (K) 2. เขียนแสดงเขม็ ของนาฬกิ าตามเวลาที่กาหนดได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาทีไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูนานาฬิกาหน้าปัด 2 ช้ัน มาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่าเวลา 24 นาฬิกา เปน็ เวลากลางวันหรือกลางคนื เข็มสนั้ และเขม็ ยาว ชีท้ ่เี ลขอะไร 2. ครูหมุนเข็มนาฬิกาตามท่ีนักเรียนบอก แล้วถามนักเรียนว่า 1 วัน แบ่งเป็น 24 ชวั่ โมง มีกลางวนั ก่ีชว่ั โมง กลางคืนกีช่ ั่วโมง เวลาท่ีถอื ว่าเป็นวนั ใหม่คอื หลังจากเวลากน่ี าฬิ ข้นั สอน 1. ครทู ดลองหมุนเข็มสั้นชท้ี ่ีเลข 9 เข็มยาวช้เี ลข 5 และให้นกั เรยี นอ่านเปน็ เวลาในช่วง กลางคนื (21 นาฬกิ า 25 นาท)ี 21 นาฬิกา 25 นาที 2. ครูถามนกั เรยี นวา่ ถา้ เขม็ ยาวเดินมาครง่ึ วงกลม จะเป็นเวลากีน่ าที (30 นาท)ี 3. ครูหมุนเข็มนาฬิกาของนาฬิกาจาลองไปที่เลข 5, 10, 15, 20 และถามในทานอง เดียวกนั วา่ เวลากน่ี าที ให้นกั เรียนตอบแลว้ ย้าว่าเข็มยาวเรียกวา่ นาที 4. ครูหมุนเข็มนาฬิกาเข็มส้ันไปท่ีเลข 2 เข็มยาวหมุนไปท่ีเลข 10 และให้นักเรียนอ่าน เป็นเวลาในช่วงกลางคนื (2 นาฬิกา 50 นาท)ี 2 นาฬกิ า 50 นาที 5. ครูหมุนเข็มช่ัวโมงและเข็มนาทีไปท่ีตาแหน่งต่าง ๆ เพ่ือบอกเวลาเป็นนาฬิกาและ นาที โดยกาหนดเวลาช่วงกลางคนื แล้วใหน้ กั เรียนท้ังชั้นช่วยกันตอบหลาย ๆ ขอ้ จนนกั เรียนเข้าใจ 6. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2

ขัน้ สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ีได้เรียนร้รู ่วมกัน ดงั น้ี นาฬิกาเป็นเครื่องมือที่ใช้บอก เวลา เขม็ สั้นบอกเวลาเปน็ ชวั่ โมง เข็มยาวบอกเวลาเปน็ นาที สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬิกาจาลอง 2. นาฬกิ าหน้าปัด 2 ชน้ั 3. ใบงานที่ 2 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ท่ีต้องการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 2 70% ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 2 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้นึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ที่พึงประสงค์ ความคดิ เหน็ ผูบ้ ริหาร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ช่วั โมง เรอื่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ นาฬกิ าเปน็ เครื่องมือทใี่ ช้บอกเวลาเราบอกเวลาเปน็ นาฬิกา และนาที จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีได้ (K) 2. เขียนแสดงเขม็ ของนาฬกิ าตามเวลาทีก่ าหนดได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีไปใช้ในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับเวลาว่าในช่วงกลางวันแบ่งเป็น 12 ช่ัวโมง กลางคืน 12 ชัว่ โมง รวม 24 ชว่ั โมง 2. ครูถามนักเรียนว่าใน 1 ช่ัวโมงนั้น เราแบ่งเป็นก่ีนาที (60 นาที) ใน 1 วัน มีก่ีชั่วโมง (24 ช่วั โมง) ข้นั สอน 1. ครูทดลองหมุนเข็มสั้นช้ีท่ีเลข 1 เข็มยาวช้ีเลข 4 และให้นักเรียนอ่านเวลาในช่วง กลางวนั คอื 13 นาฬกิ า 20 นาที เวลาในชว่ งกลางคนื คอื 1 นาฬกิ า 20 นาที 2. ครูแจกภาพหน้าปัดนาฬิกา และเวลากากับไว้ใต้ภาพ แล้วให้นักเรียนแข่งขันกันเตมิ เขม็ นาฬกิ าลงบนหน้าปดั นาฬิกา ช่วงเวลากลางวนั 12 นาฬิกา 20 นาที 16 นาฬิกา 40 นาที 10 นาฬกิ า 30 นาที

ชว่ งเวลากลางคืน 19 นาฬกิ า 10 นาที 3 นาฬิกา 30 นาที 23 นาฬกิ า 55 นาที 3. ครูบอกให้นักเรียนทุกคนแสดงหน้าปัดนาฬิกาตามเวลาที่ครูชูบัตรเวลานั้น ๆ เช่น ครชู ูบตั ร 15 นาฬกิ า 25 นาที กใ็ ห้นักเรียนหมนุ เข็มส้นั ชี้เลข 3 เข็มยาวชี้เลข 5 เป็นตน้ 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 3 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 3 ขัน้ สรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสงิ่ ท่ีได้เรยี นรูร้ ่วมกัน ดังนี้ นาฬกิ าเป็นเคร่ืองมือท่ีใช้บอก เวลา เขม็ ส้ันบอกเวลาเปน็ ช่วั โมง เข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬิกาจาลอง 2. ภาพหนา้ ปัดนาฬกิ า 3. ใบงานที่ 3 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การวัดผลและประเมนิ ผล สิ่งที่ต้องการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 3 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 3 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ทพี่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชัว่ โมง เรอ่ื ง การอ่านและเขียนบอกเวลาทมี ีมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การเขียนบอกเวลานิยมเขียนมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ค่ันระหว่างตัวเลขที่บอกเวลาเป็น ช่ัวโมงกับนาที โดยตัวเลขหน้ามหัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บอกเวลาเป็นนาฬิกา ตัวเลขหลังมหพั ภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเปน็ นาที จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเวลาทเ่ี ขยี นโดยใชม้ หพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) ได้ (K) 2. เขยี นบอกเวลาโดยใชม้ หัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ได้ (P) 3. อา่ นเวลาจากนาฬิกาหรือภาคทีก่ าหนดใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง (P) 4. นาความรู้เกี่ยวกับการอ่านและเขียนบอกเวลาทีมีมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:)ไปใช้ใน ชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอ่านและเขยี นบอกเวลาทีมมี หัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่ือมโยง คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที โดยครูให้ตัวแทนนักเรียน 1 คน ออกมาหมุนเข็มนาฬิกาจาลองแสดงกิจวัตรประจาวัน เช่น เข็มยาวช้ี เลข 6 เข็มส้ันช้ีเลข 6 จากน้ันให้เพ่ือนที่เหลือทายว่าเวลาดังกล่าวที่ตัวแทนนักเรียนหมุนเข็มนาฬิกา นน้ั ทากจิ วัตรอะไร เม่อื ทายถูกต้องแล้ว ใหน้ ักเรียนร่วมกันอา่ นเวลาจากหน้าปดั นาฬิกาพร้อมกนั เชน่ 6 นาฬิกา 30 นาที ครูทาซ้าเดิม 2 – 3 ตัวอย่าง เพ่ือให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้เดิมและกระตุ้น ความสนใจของนักเรียน 2. ครใู ห้นกั เรยี นมองไปทีน่ าฬิกาในหอ้ งเรียน จากนน้ั ส่มุ เลอื กตวั แทนนกั เรียนชาย และ นกั เรียนหญิง อย่างละ 1 คน ออกมาอา่ นเวลา ณ ตอนนี้ ขนั้ สอน 1. ครอู ธิบายเกยี่ วกับการเขยี นบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) ว่า ตวั เลขหน้ามหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) บอกเวลาเปน็ “นาฬิกา” ตวั เลขหลังมหพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บอกเวลาเป็น “นาท”ี 2. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เริ่มตัง้ แต่ 0 นาฬิกา ถงึ 24 นาฬิกา การบอกเวลาเปน็ นาที เริ่ม 0 นาที ถึง 59 นาที 3. ครูแนะนานักเรียนเรื่องการเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) และ การอา่ น โดยครูจัดเข็มนาฬิกาจาลองให้นักเรียนบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที พรอ้ มทง้ั ครูเขยี นบอก เวลาแบบใชม้ หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บนกระดานและแนะนาการอา่ น เชน่ ครู : ในเวลากลางวนั นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด นกั เรยี น : 9 นาฬิกา 10 นาที ครู : 9 นาฬิกา 10 นาที สามารถเขียนบอกเวลา โดยใชม้ หพั ภาค (.) ได้เปน็ 09.10 น. อา่ นวา่ เก้านาฬิกาสิบนาที ครู : ในเวลากลางคืน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด นักเรียน : 21 นาฬกิ า 10 นาที ครู : 21 นาฬิกา 10 นาที สามารถเขียนบอกเวลา โดยใชม้ หัพภาค (.) ไดเ้ ปน็ 21.10 น. อา่ นวา่ ยี่สบิ เอด็ นาฬิกาสิบนาที

ครู : ในเวลากลางวัน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด นักเรยี น : 11 นาฬกิ า 30 นาที ครู : 11 นาฬิกา 30 นาที สามารถเขียนบอกเวลา โดยใชท้ วิภาค (:) ไดเ้ ป็น 11:30 น. อ่านวา่ สบิ เอด็ นาฬิกาสามสบิ นาที ครู : ในเวลากลางคืน นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด นกั เรียน : 23 นาฬกิ า 30 นาที ครู : 23 นาฬิกา 30 นาที สามารถเขียนบอกเวลา โดยใช้ทวิภาค (:) ไดเ้ ปน็ 23:30 น. อ่านว่า ยสี่ ิบสามนาฬิกาสามสบิ นาที ครู : ในเวลากลางวนั นาฬกิ าเรือนน้ีแสดงเวลาใด นักเรยี น : 7 นาฬกิ า ครู : 7 นาฬิกา สามารถเขียนบอกเวลาโดยใช้ มหพั ภาค (.) ไดเ้ ป็น 09.00 น. อ่านวา่ เก้า นาฬกิ า ครู : ในเวลากลางคนื นาฬิกาเรือนนแ้ี สดงเวลาใด นักเรยี น : 19 นาฬกิ า ครู : 19 นาฬิกา สามารถเขยี นบอกเวลาโดยใช้ ทวิภาค (:) ได้เปน็ 19:00 น. อา่ นวา่ สบิ เก้า นาฬกิ า 4. ครูให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 4 การอา่ นและเขียนบอกเวลาทมี ีมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กจิ กรรมในใบงานท่ี 4 ข้ันสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การเขียนบอกเวลาโดยใช้ มหพั ภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) แบง่ ออกเปน็ 2 ส่วน คือ - ตวั เลขหนา้ มหัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) บอกเวลาเป็น “นาฬิกา” การบอกเวลา เปน็ นาฬิกา เรม่ิ ตั้งแต่ 0 นาฬกิ า ถงึ 24 นาฬิกา - ตัวเลขหลังมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) บอกเวลาเป็น “นาที” การบอกเวลา เปน็ นาที เร่ิมตั้งแต่ 0 นาที ถึง 59 นาที สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬิกาจาลอง 2. ใบงานท่ี 4 การอา่ นและเขียนบอกเวลาทมี มี หัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:)

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 4 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 4 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชว่ั โมง เรอื่ ง การอ่านและเขียนบอกเวลาทมี่ ีมหัพภาค (.) หรือทวภิ าค (:) เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ครผู ้สู อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ...................................................................................................................................................... .......... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวช้วี ดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ การเขียนบอกเวลานิยมเขียนมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) คั่นระหว่างตัวเลขที่บอกเวลาเป็น ช่ัวโมงกับนาที โดยตวั เลขหน้ามหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) บอกเวลาเป็นนาฬกิ า ตวั เลขหลังมหพั ภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเปน็ นาที จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกเวลาทเ่ี ขียนโดยใช้มหพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) ได้ (K) 2. เขยี นบอกเวลาโดยใช้มหพั ภาค (.) หรือทวิภาค (:) ได้ (P) 3. อ่านเวลาจากนาฬิกาหรอื ภาคท่ีกาหนดให้ได้ถูกต้อง (P) 4. นาความรู้เกี่ยวกับการอ่านและเขียนบอกเวลาท่ีมีมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:)ไปใช้ใน ชีวติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอา่ นและเขียนบอกเวลาทม่ี มี หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูทบทวนการบอกเวลาโดยใชม้ หัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) โดยให้เขียนเวลาตอ่ ไปน้ี บนกระดาน โดยสุ่มนักเรียนออกมา 4 คน ดงั นี้ 9 นาฬิกา 35 นาที 09.30 น. หรอื 09:30 น. 22 นาฬิกา 5 นาที 22.05 น. หรือ 22:05 น. 12.00 น. หรอื 12:00 น. 12 นาฬกิ า 00.15 น. หรอื 00:15 น. 0 นาฬกิ า 15 นาที ขน้ั สอน 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกมาเขียนเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ให้ นกั เรยี นท้ังหอ้ งช่วยกันอา่ นเวลาท่ีตัวแทน นักเรียนเขียนบนกระดาน เชน่ นกั เรียนออกมาเขยี น 10.20 น. นักเรียนท้ังห้องอ่านว่า 10 นาฬิกา 20 นาที หลังจากน้ันครูนานาฬิกาจาลองมาหมุนเข็มสั้น เข็ม ยาว แสดงเวลา 10.20 น. แล้วถามวา่ เขม็ ยาวอยู่ท่ีตัวเลขใด (4) เข็มส้ันอย่รู ะหว่างตัวเลขใด (ระหว่าง ตัวเลข 10 กับ 11) ครูให้นักเรียนสังเกตว่า 10.20 น. ใกล้ 10.30 น. ดังนั้น เข็มสั้นจะอยู่ประมาณ ก่ึงกลางของตวั เลข 10 กบั 11 2. ครูทากิจกรรมทานองเดียวกับข้อ 2 อีกหลายๆ ตัวอยา่ ง ใหน้ ักเรยี นออกมาหมุนเข็ม สั้นเข็มยาวให้ตรงกับเวลาท่ีเพ่ือนกาหนด โดยย้าให้นักเรียนสังเกตตาแหน่งของเข็มสั้นว่า ควรอยู่ ประมาณกึ่งกลาง น้อยกว่ากึ่งกลาง หรือมากกว่ากึ่งกลางระหว่างตัวเลข 2 ตัวท่ีแสดงเวลาตามท่ี กาหนด 3. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานที่ 5 การอา่ นและเขียนบอกเวลาทม่ี ีมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กจิ กรรมในใบงานที่ 5

ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การเขียนบอกเวลาโดยใช้ มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) แบง่ ออกเปน็ 2 ส่วน คอื - ตวั เลขหน้ามหัพภาค (.) หรือทวภิ าค (:) บอกเวลาเปน็ “นาฬิกา” การบอกเวลา เปน็ นาฬิกา เรม่ิ ตั้งแต่ 0 นาฬกิ า ถงึ 24 นาฬกิ า - ตัวเลขหลังมหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) บอกเวลาเป็น “นาที” การบอกเวลา เปน็ นาที เร่ิมตั้งแต่ 0 นาที ถึง 59 นาที สอ่ื การเรียนรู้ 1. นาฬกิ าจาลอง 2. ใบงานท่ี 5 การอ่านและเขยี นบอกเวลาทมี่ มี หัพภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) การวัดผลและประเมินผล สิง่ ทต่ี ้องการวดั วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 5 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 5 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ าร ลงช่อื .....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง เรือ่ ง การบอกระยะเวลาเป็นชัว่ โมงและนาที เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครผู สู้ อน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีเป็นการบอกเวลาท่ีกระทาต้ังแต่เร่ิมต้นจนเสร็จว่าใช้ เวลาไปเท่าใด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงและนาทีได้ (K) 2. เขยี นแสดงระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงและนาทีตามทีก่ าหนดไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาทีไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนการอ่านเวลาช่วงกลางวันและกลางคนื โดยครูหมนุ เข็มชว่ั โมงและเข็มนาที ไปทต่ี าแหน่งต่าง ๆ เพอ่ื บอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที โดยกาหนดเวลาท้งั กลางวนั และกลางคืน แล้ว ใหน้ ักเรียนทงั้ ชน้ั ช่วยกนั ตอบหลาย ๆ ขอ้ จนนกั เรียนเขา้ ใจ ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนเล่ากิจวัตรประจาวันของตนว่า วันหนึ่ง ๆ นักเรียนปฏิบัติกิจวัตร อะไรบา้ ง 2. ครูเขียนกิจวัตรทนี่ ักเรยี นบอกบนกระดาน โดยเรียงลาดบั ตามลาดบั เหตกุ ารณ์พร้อม กับเขยี นเวลาที่นักเรยี นกระทากจิ วตั รประจาวนั จะได้ ดังน้ี ต่นื นอน เวลา 6 นาฬิกา พกั กลางวนั เวลา 12 นาฬิกา อ่านหนังสอื เวลา 18 นาฬกิ า เขา้ นอน เวลา 20 นาฬิกา 3. ครูติดภาพแสดงเวลาในการทากิจวัตร ให้นักเรียนร่วมกันสังเกตและตอบคาถาม ดังนี้ ตืน่ นอน เวลา 6 นาฬิกา พักกลางวัน เวลา 12 นาฬิกา อา่ นหนังสือ เวลา 18 นาฬิกา เขา้ นอน เวลา 20 นาฬิกา - จากเวลาที่นักเรยี นตน่ื นอนตอนเช้าถึงเวลาพักกลางวนั เป็นระยะเวลา 6 ช่วั โมง - จากเวลาทน่ี ักเรียนพกั กลางวนั ถงึ เวลาอ่านหนังสือ เป็นระยะเวลา 6 ชัว่ โมง - จากเวลาทน่ี กั เรยี นอา่ นหนังสอื ถงึ เวลาเขา้ นอน เป็นระยะเวลา 2 ช่วั โมง

- จากเวลาที่นักเรียนต่ืนนอนตอนเช้าถึงเวลาอ่านหนังสือ เป็นระยะเวลา 12 ชว่ั โมง - จากเวลาทีน่ กั เรียนพักกลางวนั ถึงเวลาเข้านอน เป็นระยะเวลา 8 ชว่ั โมง 4. ครูสนทนากับนักเรียนว่า การบันทึกกิจกรรมที่ปฏิบัติประจา โดยดูเวลาจากนาฬิกา จะทาใหป้ ฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ ได้ตรงเวลา และช่วยเตือนความจาได้ 5. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 6 การบอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมงและนาที เมอ่ื เสรจ็ แล้วให้ นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 6 ข้นั สรุป 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังนี้ การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง นาที และวิธีบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมง นาทโี ดยใช้แผนภูมิขอ้ มลู ของเสน้ เวลา สอ่ื การเรียนรู้ 1. นาฬกิ าจาลอง 2. ใบงานที่ 6 การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที การวัดผลและประเมินผล สิง่ ทต่ี ้องการวัด วิธีวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 6 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 6 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป คุณลกั ษณะ ท่พี ึงประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........