Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Published by Thitirat Pointana, 2021-05-06 07:01:23

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 7 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง เรือ่ ง การบอกระยะเวลาเป็นชัว่ โมงและนาที เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีเป็นการบอกเวลาท่ีกระทาต้ังแต่เร่ิมต้นจนเสร็จว่าใช้ เวลาไปเท่าใด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงและนาทีได้ (K) 2. เขยี นแสดงระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงและนาทีตามทีก่ าหนดไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาทีไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครนู าบตั รภาพนาฬกิ าท่ีบอกเวลาต่าง ๆ ติดบนกระดาน (ทีละภาพ) แลว้ ถามวา่ เป็น เวลากน่ี าฬิกา กี่นาที (ใหน้ ักเรยี นอา่ นเวลาในชว่ งกลางวนั และชว่ งกลางคืน) ขน้ั สอน 1. ครูนานาฬิกาจาลองแสดงเวลา 9 นาฬกิ ามาให้นักเรียนดู และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ เข็ม ยาวเดินต่อจาก 9 นาฬิกาไปอีก 10 นาที น่ันคือ 9 นาฬิกา 10 นาที ครูให้นักเรียนสังเกตวา่ การอ่าน เวลาเรม่ิ อ่านเขม็ ท่ีบอกชวั่ โมงก่อน แลว้ จงึ อ่านเข็มที่บอกนาที 2. ครตู ิดภาพแสดงเวลาในการทากิจวตั รประจาวันต่าง ๆ ให้นกั เรยี นร่วมกันสงั เกตและ ตอบคาถาม ดงั น้ี พอี่ าบน้าเวลา 7 นาฬกิ า ถงึ เวลา 7 นาฬกิ า 10 นาที แม่ทาอาหารเวลา 18 นาฬิกา 30 นาที ถงึ เวลา 19 นาฬกิ า - พใ่ี ช้เวลาอาบน้า เปน็ ระยะเวลา 10 นาที - แมใ่ ชเ้ วลาทาอาหาร เปน็ ระยะเวลา 30 นาที 3. ครูสนทนากับนักเรียนว่า การบันทึกกิจกรรมท่ีปฏิบัติประจา โดยดูเวลาจากนาฬิกา จะทาใหป้ ฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ได้ตรงเวลา และช่วยเตือนความจาได้ 4. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 7 การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที เม่อื เสร็จแล้วให้ นักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 7 ขัน้ สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสิ่งที่ไดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมง นาที และวิธีบอกระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมง นาทโี ดยใช้แผนภูมขิ ้อมลู ของเส้นเวลา

สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬกิ าจาลอง 2. ใบงานที่ 7 การบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที การวดั ผลและประเมินผล สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 7 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 7 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ทพ่ี งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้ึนไป คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ความคิดเห็นผบู้ ริหาร ลงช่อื .....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง เรือ่ ง การบอกระยะเวลาเป็นชัว่ โมงและนาที เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีเป็นการบอกเวลาท่ีกระทาตั้งแต่เร่ิมต้นจนเสร็จว่าใช้ เวลาไปเท่าใด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมงและนาทีได้ (K) 2. เขยี นแสดงระยะเวลาเป็นชวั่ โมงและนาทีตามท่ีกาหนดได้ถกู ตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาทไี ปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมงและนาที ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูแจกนาฬิกาจาลองให้นักเรียนคนละ 1 เรือน แล้วให้นักเรียนหมุนเวลาตามที่ครู บอกเปน็ นาฬิกาและนาที ข้ันสอน 1. ครูแจกภาพหน้าปัดนาฬิกา และเวลากากับไว้ใต้ภาพ แล้วให้นักเรียนแข่งขันกันเตมิ เขม็ นาฬกิ าลงบนหนา้ ปดั นาฬกิ า เช่น 2. 7 นาฬกิ า 5 นาที 9 นาฬิกา 10 นาที 3. 4. 5. 6. 7. 14 นาฬิกา 40 นาที 22 นาฬกิ า 25 นาที 19 นาฬิกา 45 นาที 5 นาฬกิ า 35 นาที 2. ครูติดภาพนาฬิกาจาลองเพ่ือให้นักเรียนออกมาเติมเข็มนาฬิกาตามระยะเวลาท่ีครู กาหนด ดังน้ี แมท่ าขนม 45 นาที

พีเ่ ลม่ คอมพิวเตอร์ 1 ชวั่ โมง ฉนั อ่านหนงั สือ 20 นาที 3. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 8 การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที เมอ่ื เสร็จแล้วให้ นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 8 ขน้ั สรุป 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สิ่งท่ีได้เรียนร้รู ่วมกัน ดงั น้ี การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมง นาที และวิธีบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมง นาทีโดยใช้แผนภมู ิข้อมลู ของเส้นเวลา สอ่ื การเรียนรู้ 1. นาฬกิ าจาลอง 2. ใบงานท่ี 8 การบอกระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงและนาที

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 8 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 8 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชัว่ โมง เรื่อง การเปรียบเทียบระยะเวลา เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ ชั่วโมงกับนาที มีความสัมพันธ์กัน คือ 1 ช่ัวโมง เท่ากับ 60 นาที การเปรียบเทียบระยะเวลา ต้องเปล่ียนเวลาเป็นหน่วยเดียวกันก่อน โดยใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยเวลาแลว้ จึงนามาเปรยี บเทยี บ กนั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เปรยี บเทยี บระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงการเปรียบเทียบระยะเวลาได้ (P) 3. นาความรูเ้ ก่ยี วกับเวลาและระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเปรยี บเทียบระยะเวลา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวน เร่ือง การบอกเวลา โดยนาบัตรภาพนาฬิกาที่แสดงเวลามาให้นักเรียนดู จากน้นั เปดิ เพลงให้นกั เรยี นส่งบตั รภาพนี้ไปเรื่อย ๆ เมอ่ื เพลงหยดุ แล้วบัตรภาพอยูท่ ี่ใครให้คนน้ันตอบ คาถามว่า เปน็ เวลาเท่าใด ประมาณ 2 – 3 ข้อ 2. ครเู ขียนตวั เลข 5 นาที บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันตอบคาถาม ดังนี้ - เวลาใดบา้ งนอ้ ยกว่า 5 นาที (0, 1, 2, 3, 4) - เวลาใดบ้างมากกว่า 5 นาที (6, 7, 8, 9, 10) - นกั เรียนคดิ ว่าเวลาทมี่ ากกว่า 4 แต่น้อยกว่า 9 นาทีมีเวลาใดบ้าง (5, 6, 7, 8) ขั้นสอน 1. ครูทบทวนการเปล่ียนหน่วยเวลาจากหน่วยใหญ่เป็นหน่วยย่อย และหน่วยย่อยเป็น หนว่ ยใหญ่ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันหาคาตอบ เชน่ - 150 นาที เป็นกี่ชว่ั โมง ก่ีนาที เนือ่ งจาก 60 นาที เป็น 1 ชั่วโมง ดงั นัน้ 150 ÷ 60 ได้ 2 เศษ 30 จะได้ 150 นาที เปน็ 2 ชัว่ โมง 30 นาที - 3 ช่ัวโมง 35 นาที คิดเป็นก่ีนาที เนอ่ื งจาก 60 นาที เปน็ 1 ชั่วโมง ดังนน้ั 3 × 60 ได้ 180 + 35 = 215 จะได้ 3 ช่ัวโมง 35 นาที เปน็ 215 นาที 2. ครูแสดงบัตรข้อความท่ีบอกค่าเวลาต่างกัน 2 บัตร ให้นักเรียนเปรียบเทียบว่าเวลา แตกต่างกันหรือไม่ บัตรใดเวลามากกว่า บัตรใดเวลาน้อยกว่า หรือทั้งสองบัตรเวลาเท่ากัน พร้อมทั้ง บอกเหตผุ ลท่ีนักเรียนใช้ตัดสิน ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ ดังนี้ 240 นาที มากกวา่ น้อยกว่า หรือเทา่ กับ 3 ช่วั โมง 1 ชว่ั โมง 30 นาที มากกว่า น้อยกว่า หรือเทา่ กับ 80 นาที 90 นาที มากกวา่ น้อยกว่า หรอื เท่ากับ 2 ชว่ั โมง 20 นาที 122 นาที มากกวา่ น้อยกวา่ หรือเทา่ กับ 1 ชัว่ โมง 22 นาที 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 9 การเปรียบเทียบระยะเวลา เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 9

ขนั้ สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี วธิ ีการเปรียบเทียบระยะเวลา อาจเปรียบเทียบได้โดยทาหน่วยเวลาท่ีต้องการเปรียบเทียบให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อน แล้วจึง เปรียบเทียบ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บตั รภาพนาฬิกา 2. บตั รข้อความ 3. ใบงานท่ี 9 การเปรยี บเทียบระยะเวลา การวัดผลและประเมินผล สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วิธีวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 9 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 9 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป คณุ ลกั ษณะ ทพ่ี ึงประสงค์ ความคิดเหน็ ผบู้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 10 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชว่ั โมง เร่อื ง การเปรยี บเทียบระยะเวลา เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ ชั่วโมงกับนาที มีความสัมพันธ์กัน คือ 1 ช่ัวโมง เท่ากับ 60 นาที การเปรียบเทียบระยะเวลา ต้องเปลี่ยนเวลาเป็นหน่วยเดียวกันก่อน โดยใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยเวลาแล้วจึงนามาเปรียบเทียบ กัน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เปรยี บเทียบระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงการเปรยี บเทยี บระยะเวลาได้ (P) 3. นาความร้เู กยี่ วกบั เวลาและระยะเวลาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเปรยี บเทียบระยะเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชือ่ มโยง 3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวนส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในชวั่ โมงท่ีผ่านมา เรื่อง การเปรียบเทียบระยะเวลา โดยครู แสดงบตั รข้อความแสดงเวลา 1 ชวั่ โมง 20 นาที แล้วครูถามนกั เรยี นคดิ เปน็ กนี่ าที และมวี ิธคี ดิ อยา่ งไร (80 นาที เทา่ กบั 60 + 20 นาท)ี 2. ครนู กั เรยี นอา่ นโจทยแ์ ล้วตอบคาถาม ดงั นี้ - 4 ชว่ั โมง 5 นาที คดิ เปน็ ก่ีนาที (245 นาที) - 1 ชว่ั โมง 28 นาที คดิ เป็นกีน่ าที (88 นาท)ี - 75 นาที คดิ เป็นกี่ช่ัวโมง กนี่ าที (1 ช่ัวโมง 15 นาที) - 158 นาที คดิ เป็นก่ชี ว่ั โมง ก่ีนาที (2 ชัว่ โมง 38 นาที) ข้นั สอน 1. ครอู ธิบายความรวู้ า่ ชั่วโมงกบั นาที มีความสัมพันธ์กนั ดังนี้ 1 ชวั่ โมง เท่ากับ 60 นาที ดังน้ัน การเปรียบเทียบเวลาต้องเปล่ียนเวลาเป็นหน่วยเดียวกันก่อน โดยใช้ ความสัมพันธ์ของหนว่ ยเวลา แลว้ จงึ นามาเปรียบเทยี บกัน 2. ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบระยะเวลาระหว่าง 150 นาที กับ 1 ช่ัวโมง โดยใช้คาว่า “มากกว่า” หรือ “น้อยกวา่ ” จะใชอ้ ย่างไร (150 นาที มากกว่า 1 ช่วั โมง หรือ 1 ชัว่ โมง มากกว่า 150 นาที) 3. ครยู กตัวอย่างการเปรยี บเทียบระยะเวลาเพ่มิ เตมิ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง เพ่อื ให้นกั เรียน เกดิ ความเขา้ ใจยง่ิ ข้นึ เช่น 1 ชัว่ โมง 20 นาที กบั 90 นาที 256 นาที กบั 4 ช่วั โมง 26 นาที 5 ชวั่ โมง 8 นาที กบั 318 นาที 156 นาที กับ 2 ชัว่ โมง 26 นาที

4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 10 การเปรียบเทียบระยะเวลา เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 10 ขน้ั สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ วธิ ีการเปรยี บเทียบระยะเวลา อาจเปรียบเทียบได้โดยทาหน่วยเวลาท่ีต้องการเปรียบเทียบให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อน แล้วจึง เปรยี บเทียบ สอ่ื การเรียนรู้ ใบงานที่ 10 การเปรียบเทยี บระยะเวลา การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 10 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 10 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ทพ่ี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลักษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคิดเหน็ ผ้บู ริหาร ลงช่อื .....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชวั่ โมง เร่ือง โจทยป์ ัญหาการบวกเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง ครูผู้สอน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลา ต้องทราบสงิ่ ทโ่ี จทย์กาหนดให้ กับสิง่ ทโี่ จทย์ ถาม ซึ่งสามารถหาคาตอบได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และ การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. แก้โจทย์ปญั หาการบวกเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกเกย่ี วกบั เวลา และระยะเวลาตามทกี่ าหนดได้ (P) 3. นาความรู้เกยี่ วกบั เวลาและระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ญั หาการบวกเกย่ี วกับเวลาและระยะเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เกย่ี วกับเวลา โดยแสดงบตั รคา 20 นาฬกิ า 19 นาที จากนน้ั ครูให้ ตัวแทนนักเรียนหญิงออกมา หมุนเข็มนาฬิกาจาลองให้ตรงกับเวลาที่กาหนด และครูแสดงบัตรคา 6 นาฬิกา 56 นาที ให้ตัวแทนนักเรียนชายออกมาหมุนเข็มนาฬิกาจาลองให้ตรงกับเวลาที่กาหนด ครู ยกตัวอย่างอีก 2-3 ตัวอย่าง เพ่ือใหน้ ักเรยี นไดท้ บทวนเรอ่ื ง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ข้นั สอน 1. ครูนาเสนอสถานการณ์โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา พร้อมทั้ง อ่านโจทยใ์ หน้ กั เรียนอ่านตาม ดังน้ี ปอทาการบ้านคณติ ศาสตรใ์ ชเ้ วลา 2 ช่ัวโมง 18 นาที และทาการบ้านภาษาไทย ใช้เวลา 1 ชว่ั โมง 24 นาที ปอทาการบ้านนานเท่าใด 2. ครใู หน้ กั เรยี นฝึกวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยตอบคาถามดงั ตอ่ ไปนี้ - สง่ิ ทโ่ี จทย์ถามคอื อะไร (ปอทาการบ้านนานเท่าใด) - ส่ิงที่โจทย์บอกคืออะไร (ปอทาการบ้านคณิตศาสตร์ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง 18 นาที และทาการบ้านภาษาไทยใชเ้ วลา 1 ชว่ั โมง 24 นาท)ี - ใช้วิธใี ดหาคาตอบ (วิธีบวก) 3. ครูอธิบายวิธีการวางแผนแก้โจทย์ปัญหา และถามนักเรียนว่าคาตอบท่ีได้คือเท่าใด (ปอทาการบ้านนาน 3 ชัว่ โมง 42 นาท)ี ดังนี้ ทาการบ้านคณิตศาสตร์ 2 ช่ัวโมง 18 นาที ทาการบ้านภาษาไทย 1 ช่ัวโมง 24 นาที ปอใชเ้ วลาในการทาการบ้าน 4. ครตู ดิ โจทย์ปญั หาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา ใหน้ กั เรยี นฝกึ วเิ คราะห์โจทย์ ปัญหา ดงั น้ี แตงเดินออกจากบ้านเวลา 15 นาฬิกา 20 นาที ถงึ ตลาดใชเ้ วลา 45 นาที แตงจะถงึ ตลาดเวลาเท่าใด

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 11 โจทย์ปัญหาการบวกเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เมื่อ เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 11 ข้นั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้รว่ มกัน ดงั น้ี โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลาและ ระยะเวลาจะประกอบไปดว้ ย 2 ส่วน คอื สิง่ ทโ่ี จทยก์ าหนดให้ กับส่งิ ทโี่ จทยถ์ าม ซ่ึงสามารถหาคาตอบ ได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และการตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬกิ าจาลอง 2. ใบงานที่ 11 โจทย์ปญั หาการบวกเก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลา การวดั ผลและประเมินผล สง่ิ ท่ีต้องการวดั วิธีวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 11 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 11 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลกั ษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 12 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรยี น 16 ชวั่ โมง เร่ือง โจทยป์ ัญหาการบวกเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับเวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา และระยะเวลา ต้องทราบส่ิงทโ่ี จทย์กาหนดให้ กบั สงิ่ ทโ่ี จทย์ ถาม ซึ่งสามารถหาคาตอบได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และ การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. แก้โจทยป์ ัญหาการบวกเก่ยี วกับเวลา และระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเก่ยี วกับเวลา และระยะเวลาตามท่ีกาหนดได้ (P) 3. นาความรเู้ กยี่ วกบั เวลาและระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ญั หาการบวกเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการบอกเวลา และระยะเวลาที่มีหน่วยเดียวกัน โดยให้ ตวั แทนนกั เรียน 2 คนออกหมุนเข็มยาวท่ีนาฬิกาจาลองให้ชี้ท่ีเลข 9 และเลข 5 จากนั้นครูใหน้ ักเรียน ร่วมกันตอบคาถามวา่ เวลาท้ังสองรวมกนั เปน็ เท่าไร (1 ชั่วโมง 10 นาที หรอื 70 นาท)ี 2. ครตู งั้ คาถามนักเรยี นว่า จากกจิ กรรมดงั กล่าว นักเรยี นสามารถหาคาตอบได้อย่างไร (นาเวลามารยมกนั ) ขั้นสอน 1. ครูติดโจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาบนกระดาน พร้อมท้ังอ่านโจทย์ให้นักเรียน อ่านตาม ดงั น้ี แม่ไปซ้ือของที่ตลาดใช้เวลา 1 ช่ัวโมง 35 นาที และกลับมาทาขนมใช้เวลา 1 ชั่วโมง 43 นาที แมใ่ ชเ้ วลาไปตลาดและทาขนมนานเทา่ ใด 2. ครูใหน้ ักเรียนฝึกวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา โดยตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี - ส่งิ ทโี่ จทยถ์ ามคืออะไร (แมใ่ ช้เวลาไปตลาดและทาขนมนานเทา่ ใด) - สิ่งที่โจทย์บอกคืออะไร (แม่ไปซื้อของท่ีตลาดใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที และ กลบั มาทาขนมใช้เวลา 1 ชัว่ โมง 43 นาที) - ใช้วิธใี ดหาคาตอบ (วิธีบวก) 3. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั แสดงแนวคิดในการหาคาตอบ ดงั นี้ ชว่ั โมง นาที แม่ไปซ้ือของทีต่ ลาดใช้เวลา 1 35 + และกลบั มาทาขนมใชเ้ วลา 1 43 2 78 (เนื่องจาก 60 นาที แมใ่ ช้เวลาไปตลาดและทาขนม 3 18 เทา่ กับ 1 ช่ัวโมง) ตอบ แม่ใชเ้ วลาไปตลาดและทาขนม ๓ ชั่วโมง ๑๘ นาที ครูอธิบายขั้นตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา เช่น เขียนหน่วยชั่วโมง นาที ไว้ด้านบน กอ่ นจากน้ันเขยี นขอ้ ความและตวั เลขทเี่ ปน็ ตวั ตัง้ และตวั บวก ตามลาดบั

4. ครูยกตวั อยา่ งโจทย์ปัญหาการบวกเกยี่ วกบั เวลา และระยะเวลา ในการหาคาตอบให้ นักเรยี นช่วยกนั วเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละแสดงวิธีทาอีก 2-3 ตัวอยา่ ง 5. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 12 โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา เมื่อ เสรจ็ แล้วให้นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 12 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก เกี่ยวกับเวลาได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดส่ิงใดมาให้ พร้อมทั้ง ตรวจสอบหน่วยเวลาท่ใี ห้ว่าเปน็ หนว่ ยเดยี วกันหรือไม่ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. นาฬิกาจาลอง 2. โจทยป์ ญั หาการบวก 3. ใบงานที่ 12 โจทยป์ ญั หาการบวกเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ท่ีต้องการวัด วิธวี ัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 12 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 12 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลักษณะ ที่พงึ ประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 13 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชวั่ โมง เรอ่ื ง โจทยป์ ัญหาการลบเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวฐิติรัตน์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลา และระยะเวลา ตอ้ งทราบสิ่งท่ีโจทย์กาหนดให้ กบั สิ่งที่โจทย์ ถาม ซึ่งสามารถหาคาตอบได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และ การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แก้โจทยป์ ญั หาการลบเกี่ยวกับเวลา และระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับเวลา และระยะเวลาตามที่กาหนดได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ิตประจาวนั ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ัญหาการลบเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. นักเรียน 2 คน ออกมาหมนุ เข็มนาฬิกาแสดงเวลาที่นักเรียนตืน่ นอนของตนเอง แล้ว ใหน้ ักเรียนตอบคาถาม เช่น นกั เรียนคนท่ี 1 ตืน่ นอนเวลาใด (5 นาฬิกา 30 นาที) นักเรยี นคนท่ี 2 ต่นื นอนเวลาใด (6 นาฬกิ า 40 นาที) นกั เรยี นท้งั สองคนตื่นนอนตา่ งกันเป็นเวลาเทา่ ใด (1 ชว่ั โมง 10 นาที) ขั้นสอน 1. ครูนาเสนอสถานการณ์โจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา พร้อมทั้ง อา่ นโจทยใ์ หน้ ักเรียนอ่านตาม ดังน้ี สดุ ใจทาการบ้าน 1 ชั่วโมง 30 นาที สายฝนใช้เวลาทาการบา้ น 1 ชว่ั โมง 45 นาที สายฝนใชเ้ วลาทาการบ้านนานกว่าสดุ ใจเทา่ ใด 2. ครใู หน้ ักเรยี นฝึกวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หา โดยตอบคาถามดังตอ่ ไปน้ี - ส่งิ ทีโ่ จทย์ถามคอื อะไร (สายฝนใชเ้ วลาทาการบา้ นนานกว่าสุดใจเทา่ ใด) - สิ่งที่โจทย์บอกคืออะไร (สุดใจทาการบ้าน 1 ชั่วโมง 30 นาที สายฝนใช้เวลาทา การบ้าน 1 ช่วั โมง 45 นาที) - ใช้วิธใี ดหาคาตอบ (วิธีลบ) 3. ครูอธิบายวิธีการวางแผนแก้โจทย์ปัญหา และถามนักเรียนว่าคาตอบท่ีได้คือเท่าใด (สายฝนใช้เวลาทาการบา้ นนานกวา่ สดุ ใจ 15 นาที) ดงั น้ี สายฝนใช้เวลาทา สุดทาทาการบ้าน 1 ชัว่ โมง 30 นาที การบา้ นนานกว่าสุดใจ สายฝนใชเ้ วลาทาการบา้ น 1 ชัว่ โมง 45 นาที 4. ครูติดโจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา ให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ ปัญหา ดังน้ี มาลาอา่ นหนงั สือวนั ละ 3 ชัว่ โมง 30 นาที นอนวันละ 10 ช่ัวโมง มาลานอนมากกว่าอ่านหนังสือก่ีชัว่ โมง

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 13 โจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เม่ือ เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 13 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปสง่ิ ท่ีได้เรียนรู้รว่ มกัน ดังนี้ โจทย์ปญั หาเก่ียวกับเวลาและ ระยะเวลาจะประกอบไปดว้ ย 2 ส่วน คือ ส่งิ ทีโ่ จทย์กาหนดให้ กบั ส่ิงทโ่ี จทยถ์ าม ซ่ึงสามารถหาคาตอบ ได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และการตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคาตอบ สอ่ื การเรียนรู้ 1. นาฬิกาจาลอง 2. ใบงานที่ 13 โจทย์ปญั หาการลบเกีย่ วกับเวลาและระยะเวลา การวดั ผลและประเมินผล สิง่ ทีต่ ้องการวดั วิธีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 13 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 13 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลกั ษณะ ที่พึงประสงค์ ความคดิ เหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โปอ่ ินทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 14 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชวั่ โมง เร่อื ง โจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับเวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การแก้โจทย์ปญั หาเกีย่ วกับเวลา และระยะเวลา ต้องทราบสิง่ ที่โจทย์กาหนดให้ กบั สงิ่ ท่โี จทย์ ถาม ซึ่งสามารถหาคาตอบได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหา และ การตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แก้โจทยป์ ญั หาการบวกเกยี่ วกบั เวลา และระยะเวลาได้ (K) 2. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกเก่ียวกบั เวลา และระยะเวลาตามที่กาหนดได้ (P) 3. นาความร้เู ก่ียวกบั เวลาและระยะเวลาไปใชแ้ กป้ ญั หาในชีวิตประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทยป์ ัญหาการลบเกย่ี วกับเวลาและระยะเวลา ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. นาโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับเวลาใหน้ ักเรียนฝึกวิเคราะห์และหาคาตอบ เชน่ ขณะน้ีเวลา 8 นาฬกิ า 15 นาที อกี กี่นาทีจะเป็นเวลา 8 นาฬกิ า 45 นาที (30 นาท)ี ขั้นสอน 1. ครูติดโจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับเวลาบนกระดาน พร้อมท้ังอ่านโจทย์ให้นักเรียน อา่ นตาม ดงั นี้ ทวีทางานเสร็จในเวลา 3 ช่ัวโมง 15 นาที ประชาทางานเสร็จในเวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที ทวีทางานชา้ กว่าประชาเป็นเวลาเทา่ ใด 2. ครูให้นกั เรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หา โดยตอบคาถามดังต่อไปน้ี - สิง่ ท่ีโจทย์ถามคืออะไร (ทวที างานช้ากว่าประชาเป็นเวลาเทา่ ใด) - ส่ิงท่ีโจทย์บอกคืออะไร (ทวีทางานเสร็จในเวลา 3 ชั่วโมง 15 นาที ประชา ทางานเสร็จในเวลา 1 ชว่ั โมง 10 นาที) - ใชว้ ิธใี ดหาคาตอบ (วธิ ีลบ) 3. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั แสดงแนวคดิ ในการหาคาตอบ ดังนี้ ช่ัวโมง นาที ทวที าเสร็จในเวลา 3 15 - ประชาทางานเสร็จในเวลา 1 10 ทวีทางานเสร็จชา้ กวา่ ประชา 25 ตอบ ทวีทางานเสรจ็ ชา้ กวา่ ประชา ๒ ช่ัวโมง ๕ นาที ครูอธิบายขั้นตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา เช่น เขียนหน่วยชั่วโมง นาที ไว้ด้านบน กอ่ นจากนัน้ เขียนขอ้ ความและตัวเลขท่ีเปน็ ตัวตงั้ และตัวบวก ตามลาดบั 4. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับเวลา และระยะเวลา ในการหาคาตอบให้ นักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์โจทยแ์ ละแสดงวิธที าอกี 2-3 ตัวอยา่ ง

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 14 โจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา เมื่อ เสรจ็ แล้วให้นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานท่ี 14 ขนั้ สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก เกี่ยวกับเวลาได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดสิ่งใดมาให้ พร้อมทั้ง ตรวจสอบหนว่ ยเวลาท่ใี ห้ว่าเปน็ หนว่ ยเดียวกันหรอื ไม่ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทย์ปญั หาการลบ 2. ใบงานที่ 14 โจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกบั เวลาและระยะเวลา การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 14 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 14 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ทีพ่ ึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึน้ ไป คุณลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์ ความคิดเห็นผูบ้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 15 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชั่วโมง เรือ่ ง การอ่านบนั ทึกกิจกรรมทร่ี ะบเุ วลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับเวลา และระยะเวลา สาระสาคญั การบนั ทกึ กจิ กรรมลงในตารางที่ละเอียด จะช่วยให้ทราบการกระทาในแต่ละวันไดช้ ัดเจนข้ึน กิจกรรมทบี่ นั ทึกตอ้ งระบเุ วลา สถานท่แี ละกจิ กรรมทท่ี า จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อา่ นบนั ทกึ กิจกรรมที่ระบเุ วลาได้ (K) 2. อา่ นบนั ทึกกจิ กรรมตามท่กี าหนดใหไ้ ด้ถกู ต้อง (P) 3. นาความร้เู กย่ี วกับการอ่านบนั ทึกกิจกรรมทีร่ ะบเุ วลาไปใชใ้ นชีวิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอา่ นบันทึกกิจกรรมท่รี ะบเุ วลา ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูทบทวนความรู้เดิม เร่ือง การเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) ทวิภาค (:) และ การอ่าน โดยครูจะวาดนาฬิกาบนกระดานให้นักเรียนดู จากน้ันครูจะสุ่มให้นักเรียนออกมาเขียนบอก เวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือทวิภาค (:) ตามท่ีครูกาหนด เช่น ครูวาดนาฬิกาที่เข็มส้ันชี้เลข 9 และ เข็มยาวชี้เลข 12 เวลากลางวัน ให้นักเรียนเขียนคาตอบว่า 09.00 น. หรือ 09:00 น. จากน้ันให้ นักเรียนร่วมกันอ่านเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ในเวลากลางวันหรือกลางคืน ครูและนักเรียนร่วมกัน เฉลยคาตอบ 2. ครถู ามคาถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจว่า จากประสบการณ์ท่ผี า่ นมานักเรียน พบเหน็ การนาเสนอข้อมลู เกีย่ วกบั กจิ กรรมที่กระทาในแต่ละวันดว้ ยวิธกี ารใดบา้ ง ข้นั สอน 1. ครนู าบันทึกกิจกรรมประจาวันของ ด.ญ.ปอ มาติดบนกระดาน บนั ทกึ กจิ กรรมของ ด.ญ. ปอ วนั เสารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา กิจกรรม 06.15 น. ต่นื นอน ล้างหนา้ แปรงฟัน 06.45 น. รบั ประทานอาหารเชา้ 07.15 น. ออกเดินทางจากบ้านไปสวน 08.30 น. เร่ิมชว่ ยคณุ พ่อคุณแมท่ างาน 12.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 13.35 น. เลน่ นา้ ในสวน 15.45 น. ออกเดนิ ทางจากสวนกลบั บ้าน 17.15 น. ทาการบ้าน 17.45 น. รับประทานอาหารเย็น 19.30 น. อา่ นหนงั สอื กอ่ นนอน 20.00 น. เข้านอน 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การจดบันทึกทาได้หลายแบบ แบบที่แสดงให้ดูน้ีเป็น บันทกึ แบบง่ายๆ เป็นการจดบันทกึ ประจาวนั คือ จดส่ิงทเี่ กดิ ข้นึ ภายใน 1 วัน เรมิ่ ต้นด้วยการเขยี นวัน เดือน ปี พ.ศ. ไว้ส่วนบนของบันทึก ด้านซ้ายมือบันทึกเวลา ด้านขวามือของเวลาบันทึกกิจกรรมท่ี ปฏิบัติเวลาน้ันๆ ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับว่าผู้บันทึกต้องการบันทึกกิจกรรมใดบ้าง จากนั้นฝึกให้นักเรียนอ่าน บนั ทึกโดยตอบคาถามต่อไปนี้ - บนั ทึกนี้เปน็ ของใคร (บนั ทกึ ของด.ญ.ปอ) - เหตุการณ์นใ้ี นบันทกึ นีเ้ กิดขน้ึ เมือ่ ใด (วนั เสารท์ ี่ 18 มกราคม 2563)

- ด.ญ.ปอเร่ิมออกจากเดินทางจากบ้านไปสวนเวลาใด (7 นาฬกิ า 15 นาท)ี - ด.ญ.ปอเดนิ ทางจากสวนกลบั มาบา้ นเวลาใด (15 นาฬิกา 45 นาท)ี - ด.ญ.ปอเริ่มเล่นน้าเวลาใด (13 นาฬกิ า 35 นาท)ี - เวลา 17.15 น. ด.ญ.ปอทากิจกรรมใด (ทาการบา้ น) - เวลา 19.30 น. ด.ญ.ปอทากจิ กรรมใด (อา่ นหนงั สือกอ่ นนอน) 3. ครูติดบันทึกกิจกรรมอีก 1-2 ตาราง บนกระดานให้นักเรียนอ่านและตอบคาถามที ละคน คนละหนึ่งบรรทัดจนนกั เรยี นเข้าใจ 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 15 การอ่านบันทึกกิจกรรมท่ีระบุเวลา เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 15 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ที่ได้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังน้ี บันทึกกิจกรรมประจาวันเปน็ เหตุการณ์หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยได้จดบันทึกไว้ ซ่ึงอาจเร่ิมต้นด้วยการเขียน วัน เดือน พ.ศ. ไว้ส่วนบนของบันทึก ด้านซ้ายมือบันทึกเวลา ด้านขวามือของเวลาจะบันทึกกิจกรรมท่ีได้ปฏิบัติ ในเวลาน้นั สอ่ื การเรียนรู้ 1. บันทึกกจิ กรรมประจาวนั ของ ด.ญ.ปอ 2. ใบงานท่ี 15 การอา่ นบันทกึ กจิ กรรมท่รี ะบเุ วลา การวัดผลและประเมินผล สง่ิ ที่ต้องการวัด วิธีวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 15 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ 15 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป คณุ ลักษณะ ที่พึงประสงค์

ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บนั ทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดับดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชอื่ .....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โปอ่ นิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 16 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 16 ชั่วโมง เรือ่ ง การเขยี นบนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบุเวลา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชวี้ ดั ค 2.1 ป.3/2 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลา และระยะเวลา สาระสาคัญ การเขียนบันทึกกิจกรรม เป็นการนาเสนอข้อมูลรูปแบบตาราง ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ชื่อ เจ้าของบนั ทึก วนั /เดือน/ปี เวลา และกจิ กรรมที่กระทาในแต่ละวนั ซึ่งข้อมลู ในตารางจะประกอบด้วย ข้อความและตัวเลขแสดงเวลาต่าง ๆ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เขียนบันทกึ กจิ กรรมที่ระบุเวลาได้ (K) 2. เขียนบนั ทกึ กิจกรรมตามที่กาหนดใหไ้ ด้ถูกตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ กีย่ วกบั การเขียนบันทกึ กิจกรรมท่รี ะบุเวลาไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเขยี นบันทึกกิจกรรมทีร่ ะบุเวลา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนการอ่านบันทึกกิจกรรมหรือเหตุการณ์ โดยนาบันทึกประจาวันของ ด.ช.สมชาย พากเพยี ร มาติดบนกระดาน และใช้คาถามให้นกั เรยี นช่วยกันตอบ ดงั นี้ บันทึกกจิ กรรมของ ด.ช.สมชาย พากเพียร วันอาทติ ย์ท่ี 19 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา กิจกรรม 08.00 น. ออกจากบ้าน 10.15 น. ถึงบา้ นคุณยาย 12.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวัน 14.30 น. เลน่ กับญาติ 15.00 น. ออกจากบ้านคณุ ยาย 17.20 น. กลบั ถงึ บา้ น 2. ครูอธิบายว่า การจดบันทึกทาได้หลายแบบ แบบที่แสดงให้ดูน้ีเป็นบันทึกแบบง่ายๆ เปน็ การจดบนั ทกึ ประจาวนั คอื จดส่งิ ที่เกิดขึน้ ภายใน 1 วัน เริม่ ต้นดว้ ยการเขียนวัน เดือน ปี พ.ศ. ไว้ ส่วนบนของบันทึก ด้านซ้ายมือบันทึกเวลา ด้านขวามือของเวลาบันทึกกิจกรรมที่ปฏิบัติเวลานั้นๆ ทั้งน้ขี น้ึ อยูก่ บั วา่ ผู้บนั ทกึ ตอ้ งการบันทกึ กจิ กรรมใดบ้าง จากน้ันใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี - บันทกึ นีเ้ ป็นของใคร (ด.ช.สมชาย พากเพียร) - เหตุการณน์ ้ีเกดิ ขนึ้ เม่ือใด (วนั อาทติ ย์ท่ี 19 เมษายน พ.ศ. 2563) - ด.ช.สมชาย ถึงบ้านคณุ ยายเวลาใด (10.15 น.) - เวลา 14.30 น. ด.ช.สมชายทาอะไร (เล่นกบั ญาต)ิ - เวลา 17.20 น. ด.ช.สมชายอยู่ทไ่ี หน (กลบั ถงึ บา้ น) ข้ันสอน 1. ครูนาบัตรภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจาวันมาติดบนกระดาน 6 ใบ (ภาพการ เล่นของเด็กในสนามเด็กเล่น ภาพเด็กกาลังรับประทานอาหารพร้อมครอบครัว ภาพเด็กเรียนหนังสือ ภายในห้องเรียน ภาพเด็กเคารพธงชาติ ภาพเด็กอ่านหนังสือในห้องสมุด ภาพเด็กนอนหลับ) จากนั้น ให้นักเรียนลองลาดบั เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ข้ึนแลว้ บนั ทึกประจาวันจากบัตรภาพที่กาหนดให้ โดยให้นกั เรยี น คาดคะเนเวลาทแ่ี ต่ละกจิ กรรมจะเกดิ ขึน้ ดว้ ยตนเอง โดยใชต้ ารางทก่ี าหนดให้ต่อไปน้ี

ตวั อย่างบตั รภาพกจิ กรรมประจาวัน บนั ทึกประจาวัน บันทกึ กิจกรรมประจาวันของ....................................... วนั ......................ท่ี ....... เดอื น............................. พ.ศ. ............. เวลา กจิ กรรม

2. ครูสุ่มให้นักเรียนออกมานาเสนอผลงานบันทึกกิจกรรมประจาวันหน้าช้ัน และให้ เพ่อื นๆ ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ ถงึ ความสมเหตสุ มผลของบนั ทึกกจิ กรรมท่นี าเสนอ 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 16 การเขียนบันทึกกิจกรรมที่ระบุเวลา เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 16 ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเขียนบันทึกกิจกรรมว่า ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ช่ือเจ้าของบันทึก วัน/เดือน/ปี เวลา และกิจกรรมท่ีกระทา ซึ่งข้อมูลใน ตารางจะประกอบด้วยขอ้ ความและตวั เลขแสดงเวลาต่าง ๆ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บันทกึ ประจาวนั ของ ด.ช.สมชาย พากเพียร 2. บัตรภาพเหตุการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั 3. ใบงานท่ี 16 การเขียนบันทกึ กิจกรรมที่ระบุเวลา การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงทีต่ ้องการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 16 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 16 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป คุณลักษณะ ที่พงึ ประสงค์

ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รูปเรขาคณติ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง เรอื่ ง รูปท่ีมีแกนสมมาตร เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ครผู ้สู อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.2 : เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และ นาไปใช้ ตวั ช้วี ดั ค 2.2 ป.3/1 : ระบรุ ูปเรขาคณติ สองมิตทิ ่ีมแี กนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร สาระสาคญั รูปทเี่ มือ่ พับแล้ว แต่ละขา้ งของรอยพบั ทับกันสนิทเปน็ รูปที่มีแกนสมมาตร รอยดับนีเ้ ป็นแกน สมมาตร รูปท่ีมแี กนสมมาตรบางรปู ทีม่ แี กนสมมาตรมากกว่า 1 แกน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 11. อธิบายลักษณะของรูปเรขาคณติ ท่ีมีแกนสมมาตรได้ (K) 12. สร้างรูปสมมาตรและระบจุ านวนแกนสมมาตรของรูปสมมาตรได้ (P) 13. นาความรู้เก่ียวกับรูปท่ีมีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตรไปใช้แก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ (A) สาระการเรยี นรู้ รูปทีม่ แี กนสมมาตร ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. มุ่งมั่นในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครแู จกกระดาษให้นกั เรยี นคนละ 1 แผ่น แลว้ พบั กระดาษ ดังนี้ พบั จากด้านบนมาดา้ นล่าง พับจากมมุ ซา้ ยบนมาทบั มุมขวาล่าง พบั จากดา้ นขวามาด้านซ้าย พับจากมมุ ซ้ายล่างมาทบั มุมขวาบน 2. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายร่วมกันว่าวิธีการพับกระดาษแบบใดเรียกว่าทับกันสนิท พอดี และเกิดรอยพับกรี่ อย มวี ิธีพบั ด้านอ่ืนๆ อีกหรอื ไม่ ข้ันสอน 17. ครูพับกระดาษ แล้วตัดตามรอยท่ีขีดไว้ ให้นักเรียนทายว่า เม่ือคลี่ออกมาแล้วจะได้ เป็นรูปอะไร ครคู ลรี่ ูปท่ีได้จากการตดั กระดาษใหน้ ักเรียนดูแล้วให้ตอบว่าเป็นรปู อะไรและให้สังเกตว่า ทัง้ สองขา้ งของรอยพบั มีลักษณะเหมือนกันหรอื ไม่ มีขนาดเท่ากันหรอื ไม่ และเมอ่ื พบั กลบั ตามรอยเดิม ทง้ั สองขา้ งทับกนั สนิทหรือไม่ จากน้นั แนะนาว่า รปู ท่ีตดั ได้นี้ มลี ักษณะเป็นรูปทมี่ ีแกนสมมาตร โดยมี รอยพับเป็นแกนสมมาตร 18. ครูนากระดาษทต่ี ัดเป็นรปู ท่ไี มม่ ีแกนสมมาตร เช่น บัวรดน้า ให้นกั เรียนสังเกตว่า ทง้ั สองข้างของรูปมีลักษณะเหมือนกันหรือไม่ (ไม่เหมือนกัน) และนักเรียนคิดว่า จะสามารถพับรูปแล้ว ทาให้ท้ังสองข้างของรูปทับกันสนิทได้หรือไม่ จากน้ันให้ตัวแทนนักเรียนออกมาพับรูปบัวรดน้า ดังกล่าวให้เพ่ือนๆ ดู แล้วบอกผลการพับ ครูถามนักเรียนว่า รูปบัวรดน้านี้เป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตร หรอื ไม่ (ไมม่ ี) เพราะเหตุใด (ไม่สามารถพับรปู แล้วทาให้ทงั้ สองข้างของรอยพบั ทบั กันสนิท) 19. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถ ครูจัดกิจกรรม พับกระดาษโดยแจกกระดาษรูปสามเหลี่ยมหน้าจวั่ รูปส่ีเหลย่ี มมุมฉาก รูปห้ามเหลยี่ มด้านเท่า รูปหก เหลี่ยมด้านเท่า รูปแปดเหลี่ยมดา้ นเท่า วงกลม และวงรีที่มีเส้นประแสดงรอยพับให้นักเรียนทุกคนใน กลุ่ม ให้นักเรียนพับตามรอยเส้นประและให้สังเกตแต่ละข้างของรอยพับของรูปเรขาคณิตสองมิติแต่ ละรูป แล้วให้บอกผลการสังเกต ซึ่งควรจะได้ว่า แต่ละข้างของรอยพับทับกันสนิทพอดี ครูถามว่า รูป เรขาคณิตสองมิติที่พับท้ังหมดน้ีเป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตรหรือไม่ (เป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตร) เพราะเหตุ

ใด (เพราะเม่ือพับตามรอยเส้นประ ทาให้ทั้งสองข้างของรูปทับกันสนิท) ให้นักเรียนทุกคนชี้แกน สมมาตรของรูปน้นั 20. ครูแจกกระดาษรูปส่ีเหล่ียมด้านขนาน รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า รูปสี่เหล่ียมคางหมู (ที่ไม่ใช่รูปสี่เหล่ียมคางหมหู น้าจั่ว) รูปห้าเหล่ียม รูปหกเหล่ียม รูปแปดเหล่ียม ที่ไม่ใช่รูปหลายเหล่ียม ดา้ นเท่ามมุ เท่าที่มีเส้นประแสดงรอยพับให้นักเรียนทุกคนในกลุ่ม แล้วให้นกั เรียนพับตามรอยเส้นประ และใหส้ ังเกตว่าแตล่ ะข้างของรอยพับทับสนิทหรือไม่ แล้วใหบ้ อกผลการสังเกต ซึง่ ควรจะไดว้ า่ แต่ละ ข้างของรอยพับไม่ทับกันสนิท ครูถามว่า รูปเรขาคณิตสองมิติท่ีพับทั้งหมดนี้เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร หรือไม่ (เปน็ รปู ทีไ่ มม่ แี กนสมมาตร) เพราะเหตุใด (เพราะเมอ่ื พบั ตามรอยเสน้ ประ แลว้ ทงั้ สองข้างของ รูปไม่ทบั กนั สนทิ ) ใหน้ กั เรยี นทุกคนชแ้ี กนสมมาตรของรปู น้นั 21. จากกิจกรรมในข้อ 3. และข้อ 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรุป ท่วี า่ รปู หลายเหลี่ยมบางรูป เปน็ รูปที่มแี กนสมมาตร บางรปู เป็นรปู ที่ไม่มีแกนสมมาตร ส่งวงกลมและ วงรเี ป็นรูปทีม่ แี กนสมมาตร 22. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 1 รูปท่ีมีแกนสมมาตร เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1 ขน้ั สรุป 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ รูปสมมาตร คือ รูปท่ีพับคร่ึง แล้ว รูปแต่ละข้างของรอยพับน้ีทับกันสนิท รูปบางรูปอาจมีแกนสมมาตรได้มากกว่าหนึ่งแกน ซึ่งเมื่อ พับตามรอยพับแลว้ รูปนัน้ จะตอ้ งทับกนั พอดี สอ่ื การเรยี นรู้ 8. กระดาษ 9. กรรไกร 10. กระดาษรูปเรขาคณิตท่มี ีเสน้ ประ 11. กระดาษรปู เรขาคณติ ทีไ่ มม่ เี สน้ ประ 12. ใบงานท่ี 1 รูปท่ีมแี กนสมมาตร

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 1 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 1 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 รูปเรขาคณิต เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง เร่ือง การประยุกต์ใช้รูปท่ีมีแกนสมมาตร เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.2 : เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และ นาไปใช้ ตวั ช้วี ัด ค 2.2 ป.3/1 : ระบรุ ูปเรขาคณิตสองมิตทิ ี่มีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร สาระสาคญั รูปท่ีเมื่อพับแล้ว แต่ละข้างของรอยพับทับกันสนิทเป็นการประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมาตร รอยดบั นเ้ี ป็นแกนสมมาตร การประยกุ ตใ์ ช้รูปที่มแี กนสมมาตรบางการประยุกตใ์ ช้รปู ทมี่ ีแกนสมมาตรมากกวา่ 1 แกน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะของรปู เรขาคณติ ที่มีแกนสมมาตรได้ (K) 2. สร้างรปู สมมาตรและระบจุ านวนแกนสมมาตรของรปู สมมาตรได้ (P) 3. นาความรู้เก่ียวกับการประยุกต์ใช้รูปท่ีมีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตรไปใช้ แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ (A) สาระการเรยี นรู้ การประยกุ ต์ใชร้ ูปทีม่ ีแกนสมมาตร ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูนาภาพในชีวิตจริงท่ีมีลักษณะเป็นภาพที่มีแกนสมมาตร เช่น ภาพลายกระจัง ภาพลายเหลก็ ดัด ภาพลายกระเบอื้ ง ภาพลายผา้ ฯลฯ ให้นักเรียนดู แล้วช้ใี หน้ กั เรียนสังเกตวา่ ทั้งสอง ข้างของแต่ละภาพมีลักษณะเหมือนกัน ครูสนทนาเพ่ิมเติมว่า เราสามารถสร้างภาพท่ีมีลักษณะของ ลวดลายดงั กล่าวได้ ขนั้ สอน 1. ครูให้ตัวแทนกลุ่ม 2 คน แสดงการพับกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและรูป ส่ีเหล่ียมผืนผ้า เพ่ือหาแกนสมมาตร และให้ขีดเส้นตามรอยพับเพ่ือแสดงแกนสมมาตร ครูแนะนาว่า ควรลองพบั หลายๆ แนวแลว้ นาเสนอโดยระบจุ านวนแกนสมมาตรของแตล่ ะรปู ซึ่งจะได้ดังน้ี มแี กนสมมาตร 2 แกน มแี กนสมมาตร 4 แกน 2. ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมสารวจรปู ท่ีมีแกนสมมาตร โดยแจกกระดาษทต่ี ัดเป็นรูป เรขาคณิตสองมิติและรูปอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตรและรูปที่ไม่มีแกนสมมาตร เช่น รูป ดาว 5 แฉก รูปตัวอักษร H, T, O, S, Y, M, N, A, X, Z เป็นต้น ถ้าพบว่าเป็นรูปที่มีแกนสมมาตรให้ ขดี เสน้ แสดงแกนสมมาตรทุกเส้น พร้อมนาเสนอโดยแสดงวธิ ีพับประกอบการอธิบาย (แต่ละกลุ่มได้รูป ทแ่ี ตกตา่ งกัน กลมุ่ ละ 5 รูป) พร้อมระบุจานวนแกนสมมาตรของแต่ละรปู 3. ครูติดรูปหลายเหล่ียมท่ีมีเส้นประเป็นแกนสมมาตรบนกระดาน 3 – 4 รูป แล้วให้ ตวั แทนนักเรยี นออกมาตอ่ เติมรูปใหส้ มบรู ณ์ เชน่ 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 การประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมาตร เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2 ข้นั สรุป 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ - รูปที่มแี กนสมมาตรกับรูปท่ีไม่มีแกนสมมาตร มีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร (รปู ท่ีมีแกนสมมาตรจะสามารถพับรูปแล้วทาให้ทั้งสองข้างของรอยพับทับกันสนิท แต่รูปท่ีไม่มีแกน สมมาตรจะไมส่ ามารถพบั รูปแล้วทาใหท้ ง้ั สองข้างของรอยพบั ทับกนั สนิท)

- รูปท่ีมีแกนสมมาตรจะมีแกนสมมาตรได้น้อยท่ีสุดก่ีแกน และมากที่สุดกี่แกน พร้อมบอกตัวอย่างประกอบ (รูปท่ีมีแกนสมมาตรจะมีแกนสมมาตรได้น้อยท่ีสุด 1 แกน เช่น รูป สามเหลยี่ มบางชนิด (รูปสามเหล่ียมหน้าจว่ั ) รปู สเ่ี หล่ียมบางชนดิ (รปู สีเ่ หลี่ยมรูปว่าว) รปู คน รปู ผเี ส้อื เป็นต้น และจะมแี กนสมมาตรได้มากท่สี ดุ มากมายนบั ไม่ถ้วน เช่น วงกลม) - คากล่าวท่ีว่า “รูปหลายเหลี่ยมทุกรูปเป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตร” เป็นจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่จริง เพราะมรี ูปหลายเลยี่ มบางรปู ทไี่ มม่ ีแกนสมมาตร เชน่ รปู ห้ามเหล่ียมบางรปู ) สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ภาพในชวี ติ จริงท่ีมแี กนสมมาตร 2. รปู หลายเหล่ียม 3. ใบงานที่ 2 การประยุกตใ์ ชร้ ูปทม่ี แี กนสมมาตร การวดั ผลและประเมนิ ผล ส่ิงทตี่ ้องการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 2 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 2 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลกั ษณะ ทีพ่ งึ ประสงค์ ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผ้ตู รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........