Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Published by Thitirat Pointana, 2021-05-06 07:01:23

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.3 ภาคเรียนที่1

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรยี น 7 ชั่วโมง เรือ่ ง การเก็บรวบรวมขอ้ มูลและจาแนกขอ้ มูล เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐิตริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการแกป้ ญั หา ตวั ชวี้ ดั ค 3.1 ป.3/1 : เขยี นแผนภมู ริ ูปภาพ และใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของ โจทย์ปญั หา สาระสาคัญ การเก็บรวบรวมข้อมูล สามารถเก็บรวมรวมข้อมูลซ่ึงอยู่ในรูปข้อความหรือตัวเลขด้วยวิธี ต่างๆ เช่น การสมั ภาษณ์ การสอบถาม การสารวจ การสงั เกต และการทดลอง ส่วนการจาแนกข้อมูล เป็นการนาข้อมูลมาจัดให้เป็นหมวดหมู่หรือเรียงลาดับในลักษณะต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ที่จะนา ข้อมูลไปใช้ จากนนั้ จงึ นาเสนอข้อมูลในรปู แบบต่างๆ จุดประสงค์การเรียนรู้ 14. บอกวิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกขอ้ มลู ได้ (K) 15. เก็บรวบรวมข้อมลู และจาแนกขอ้ มูลได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 16. นาความรเู้ ก่ยี วกับการเก็บรวบรวมข้อมลู และจาแนกข้อมูลไปใช้ในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจาแนกขอ้ มลู ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตุผล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น 6. ครูสนทนาเร่อื งตา่ งๆ เกี่ยวกบั ตวั นักเรยี นพร้อมบนั ทกึ ผลบนกระดาน เช่น - จานวนนักเรยี นในหอ้ งมีทงั้ หมดกค่ี น เป็นชายกี่คน เปน็ หญงิ ก่คี น - จานวนนักเรยี นทม่ี าเรียนในวนั นม้ี ีกีค่ น เปน็ ชายกค่ี น เปน็ หญิงกี่คน - กีฬาที่นกั เรียนชอบ มีอะไรบา้ ง - ผลไมท้ ่ีนกั เรียนชอบ มอี ะไรบา้ ง ครแู นะนาส่ิงท่ีกลา่ วมานี้เรียกว่า ข้อมลู ขัน้ สอน 23. ครูจัดกิจกรรมเสริมความฉลาดไปกับเยลล่ี โดยนาเยลล่ีคละสี 1 ถุง มาให้นักเรียนดู แล้วใหน้ กั เรียนบอกข้อมลู เกี่ยวกบั เยลล่ใี นถงุ โดยครอู าจใชค้ าถามนา แล้วเขียนคาตอบลงบนกระดาน เช่น - เยลลีใ่ นถงุ มที ัง้ หมดกีส่ ี สีอะไรบา้ ง - เยลล่ีแต่ละสีมจี านวนเท่าใด ทาอยา่ งไรจึงจะหาคาตอบได้ - เยลลแี่ ตล่ ะสีมีจานวนเท่ากันหรือไม่ - เยลลี่สใี ดมจี านวนมากท่ีสดุ และสใี ดมีจานวนน้อยท่สี ดุ โดยการใหข้ ้อมูลคร้ังน้ี ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกยี่ วกับข้อมูล จนได้ข้อสรุปว่า ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงของส่ิงท่ีสนใจ ซ่ึงได้จากการเก็บรวบรวม อาจเป็นไปได้ทั้งข้อความ และ ตวั เลข และวธิ เี กบ็ รวบรวมขอ้ มูล อาจใชว้ ธิ ีการสังเกต หรือการสอบถามกไ็ ด้ 24. ครูแนะนาเพ่ิมเติมว่า ในการเก็บรวบรวมข้อมูลน้ัน ก่อนเก็บข้อมูล เราควรรู้ว่า ต้องการเก็บข้อมูลเก่ียวกับอะไร ประเด็นอะไรบ้าง หรือสนใจจะทราบเก่ียวกับอะไรบ้างเพ่ือท่ีจะได้ เกบ็ ขอ้ มลู ไดค้ รบถว้ น และไม่เสยี เวลาไปกับข้อมูลทเ่ี ราไม่ต้องการ 25. ครูจัดกิจกรรมโดยกาหนดประเด็นว่า เราต้องการสารวจว่านักเรียนในห้องเรียนน้ี ชอบด่ืมนมรสใดมากที่สุด นมแต่ละรสที่นักเรียนชอบมีกี่คน เป็นต้น ครูให้ตัวแทนนักเรียนกลุ่มละ 1 คน ช่วยกันเก็บข้อมูลดังกล่าวด้วยการสอบถาม แล้วให้นักเรียนแต่ละคนเลือกระดาษสีคนละ 1 แผ่น ตามรสนมทนี่ ักเรยี นชอบมากทส่ี ุด โดยครูกาหนดให้ กระดาษสีขาวแทนนมรสจดื กระดาษสีชมพูแทนรสสตรอเบอร่ี กระดาษสฟี ้าแทนนมรสหวาน กระดาษสนี ้าตาลแทนนมรสชอ็ คโกแลต ฯลฯ 26. จากน้ันให้นากระดาษท่เี ลือกไวม้ าตดิ บนกระดานตามใจชอบ แลว้ ใหน้ ักเรียนท้ังหมด ชว่ ยกนั ตอบคาถาม จากขอ้ มูลทนี่ ามาติดบนกระดาน เช่น - นมทีน่ กั เรียนชอบมรี สอะไรบ้าง - มนี กั เรียนชอบนมแต่ละรสกค่ี น - นมรสอะไรทีน่ ักเรยี นชอบมากท่สี ดุ - นมรสอะไรท่นี กั เรยี นชอบนอ้ ยท่ีสุด

27. ครูนาสนทนาถึงความไม่สะดวกของการใช้ข้อมูลที่กระจัดกระจายสาหรับการตอบ คาถามดังกล่าว แล้วนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนเห็นว่า ถ้ามีการจัดข้อมูลที่เก็บได้มาแยกให้เป็น หมวดหมู่จะช่วยให้การอ่านข้อมูลหรือตอบคาถามสะดวกมากยิ่งขึ้น ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดวิธี จดั เรยี งข้อมลู จาแนกหรือจัดประเภทข้อมูลแล้วนาเสนอ ซ่ึงนักเรียนอาจนากระดาษสีเดยี วกันมารวม ไว้ด้วยกัน หรอื นับจานวนแผ่นกระดาษา เพ่ือแสดงจานวนนกั เรยี นทช่ี อบนมรสตา่ งๆ เชน่ นมจดื 8 คน นมรสหวาน 6 คน นมรสสตรอเบอร่ี 9 คน นมรสชอ็ กโกแลต 11 คน จากน้ันให้นักเรียนตอบคาถามชุดเดิมอีกครั้ง แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบความ สะดวก รวดเร็วในการตอบคาถามจากข้อมูลท่ีกระจัดกระจาย ยังไม่มีการจาแนกกับข้อมูลท่ีมีการ จาแนกแล้ว 28. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 1 การเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกข้อมูล เมื่อเสร็จแล้ว ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1 ข้นั สรปุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูล สามารถทาได้หลากหลายวธิ ี เชน่ การสัมภาษณ์ การสอบถาม การสารวจ การทดลอง สว่ นการจาแนก ข้อมลู เป็นการนาข้อมูลมาจัดให้เปน็ หมวดหมู่หรือเรยี งลาดับในลักษณะต่างๆ ตามวัตปุ ระสงค์ที่เรานา ขอ้ มูลนนั้ ไปใช้ สอ่ื การเรยี นรู้ 13. เยลล่คี ละสี 1 ถงุ 14. นมรสต่างๆ 15. กระดาษสตี า่ งๆ ขนาดเดียวกันหลายๆ แผ่น เชน่ สีขาว สีฟ้า สีชมพู สนี า้ ตาล 16. ใบงานที่ 1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจาแนกข้อมูล

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 1 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 1 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว เวลาเรยี น 7 ช่ัวโมง เรื่อง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจาแนกข้อมูล เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถติ ใิ นการแก้ปญั หา ตวั ช้วี ัด ค 3.1 ป.3/1 : เขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ และใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมริ ปู ภาพในการหาคาตอบของ โจทยป์ ญั หา สาระสาคญั การเก็บรวบรวมข้อมูล สามารถเก็บรวมรวมข้อมูลซ่ึงอยู่ในรูปข้อความหรือตัวเลขด้วยวิธี ต่างๆ เช่น การสมั ภาษณ์ การสอบถาม การสารวจ การสังเกต และการทดลอง สว่ นการจาแนกข้อมูล เป็นการนาข้อมูลมาจัดให้เป็นหมวดหมู่หรือเรียงลาดับในลักษณะต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ท่ีจะนา ขอ้ มูลไปใช้ จากนั้นจึงนาเสนอข้อมูลในรปู แบบต่างๆ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกวธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจาแนกขอ้ มูลได้ (K) 2. เก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (P) 3. นาความรูเ้ ก่ยี วกบั การเก็บรวบรวมข้อมลู และจาแนกข้อมลู ไปใช้ในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และจาแนกขอ้ มลู ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนการจาแนกข้อมูล โดยแจกกระดาษแผ่นเล็กๆ (1 ใน 4 ของกระดาษ A4) ให้นักเรียนเขียนช่ือกีฬาที่นักเรียนชอบจากชนิดกีฬาต่อไปนี้ คือ ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทเบิลเทนนิส ว่ายน้า และให้นกั เรยี นนามาติดบนกระดาน (ขอ้ มูลทีน่ กั เรียนติดจะกระจดั กระจาย) 2. ครตู ัง้ คาถามถามนักเรยี นว่า นกั เรียนในหอ้ งชอบกีฬาชนิดใดมากทส่ี ุด ชอบกีฬาชนิด ใดน้อยที่สุด มีนักเรียนชอบกีฬาฟุตบอลก่ีคน ซึ่งนักเรียนจะตอบคาถามได้ชา้ หรือเกิดความยุ่งยากใน การตอบค ครูถามนักเรียนว่า เราควรทาอย่างไรจึงจะตอบคาถามได้เร็ว (จัดข้อมูลเป็นกลุ่มๆ โดยนา ข้อมลู ทเ่ี ป็นกีฬาชนิดเดยี วกันตดิ ไว้ในกลมุ่ เดียวกนั ) 3. ครูให้นักเรียนจาแนกข้อมูลบนกระดานใหม่ ครูต้ังคาถามให้นักเรียนช่วยกันตอบอีก ครั้ง เช่น นักเรียนในห้องชอบกีฬาชนิดใดมากที่สุด ชอบกีฬาชนิดใดน้อยท่ีสุด มีนักเรียนชอบกีฬา ฟุตบอลกค่ี น มีนักเรยี นชอบกฬี าวอลเลย์บอลมากกวา่ หรอื น้อยกวา่ ว่ายนา้ ก่ีคน ขน้ั สอน 1. ครูให้นักเรียนช่วยกันเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกข้อมูลเก่ียวกับรสไอศกรีมท่ี นักเรียนชอบมากท่ีสุด โดยมอบใบรายชื่อสาหรับเก็บรวบรวมข้อมูลให้ตัวแทนนักเรียน 2 – 3 คน ช่วยกันสอบถามนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนเก่ียวกับรสไอศกรีมท่ีนักเรียนชอบมากท่ีสุดเพียงรสเดียว แลว้ ใหเ้ ขียน  ตรงกับรสไอศกรมี ทีช่ อบมากท่ีสุด พร้อมเขยี นสรุปข้อมูลทีร่ วบรวมได้ เช่น รสไอศกรมี ทชี่ อบ สรุปข้อมลู ชอ่ื -นามสกลุ วนิลา รสวนิลา คน ช็อกโกแลต รสช็อกโกแลต คน มะนาว สตรอเบอ ่ีร 1. ด.ช.ณรงค์ ใจกลา้  รสมะนาว คน 2. ด.ช.สมชาย คงทน  รสสตรอเบอร่ี คน 3. ............................................. 4. ครูให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของผลสรุปข้อมูลที่ได้ จากนั้นให้ น.กั ..เ.ร..ยี..น...ช..ว่...ย..ก..ัน...ต..อ...บ..ค...า..ถ..า..ม..ต...่อ. ไปนี้ เช่น - ไอศกรีมรสใดท่ีนักเรยี นชอบมากท่ีสุด 5. - ไอศกรีมรสใดท่ีนกั เรยี นชอบน้อยท่สี ดุ ..........................-.......ไ.อ...ศ..ก..ร..ีม..รสใดท่ไี ม่มนี กั เรยี นคนใดชอบเลย รวม

- นักเรียนที่ชอบไอศกรีมรสมะนาวกับรสสตรอเบอรี่รวมกัน มีจานวนมากกว่าห น้อยน้อยกว่านักเรียนท่ีชอบไอศกรีมรสวนิลาและรสชอ็ กโกแลตรวมกัน และมากกว่ากันหรือน้อยกวา่ กันอยู่ก่ีคน 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาเลือกสลาก 1 ใบ เพื่อ ปฏิบัติกิจกรรมเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกข้อมูล แล้วให้แต่ละกลุ่มนาผลการเก็บรวบรวมข้อมูล และจาแนกข้อมูลติดบนกระดานเพื่อนาเสนอ พร้อมกับตั้งคาถามให้อีกกลุ่มหน่ึงตอบ กลุ่มละ 2 – 3 คาถาม ตัวอยา่ งสลาก เช่น - เกบ็ ข้อมูลและจาแนกข้อมลู เกีย่ วกบั สที นี่ ักเรียนชอบมากทสี่ ดุ - เกบ็ ขอ้ มลู และจาแนกข้อมลู เก่ยี วกบั วชิ าทีน่ กั เรียนชอบเรยี นมากทีส่ ดุ 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกข้อมูล เมื่อเสร็จแล้ว ใหน้ กั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2 ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูล สามารถทาได้หลากหลายวิธี เช่น การสมั ภาษณ์ การสอบถาม การสารวจ การทดลอง ส่วนการจาแนก ขอ้ มลู เปน็ การนาข้อมูลมาจัดให้เปน็ หมวดหมู่หรือเรียงลาดับในลักษณะต่างๆ ตามวตั ปุ ระสงค์ทีเ่ รานา ขอ้ มลู นนั้ ไปใช้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. กระดาษแผน่ เลก็ 2. สลากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเก็บรวบรวมข้อมูลและการจาแนกข้อมูล 3. ใบรายช่ือนักเรียนในห้อง 4. ใบงานที่ 2 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจาแนกข้อมูล

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 2 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 2 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 7 ช่วั โมง เรื่อง การอ่านแผนภูมริ ูปภาพ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ครูผู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรู้ทางสถติ ิในการแกป้ ัญหา ตัวชวี้ ัด ค 3.1 ป.3/1 : เขยี นแผนภมู ิรูปภาพ และใชข้ ้อมลู จากแผนภูมิรปู ภาพในการหาคาตอบของ โจทย์ปัญหา สาระสาคญั การอา่ นแผนภมู ิรปู ภาพ เปน็ การอา่ นข้อมลู จากแผนภูมิที่ใช้รูปภาพแทนจานวนสง่ิ ต่างๆ โดย จะระบขุ อ้ กาหนดของรูปภาพ ซึง่ งา่ ยตอ่ การอา่ นรายละเอยี ดของข้อมูล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกวธิ กี ารอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพได้ (K) 2. อา่ นแผนภูมิรูปภาพตามท่ีกาหนดให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการอา่ นแผนภมู ิรูปภาพไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอา่ นแผนภูมิรปู ภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครตู ้ังคาถามกระตุน้ ความสนใจของนกั เรียนว่า “จากประสบการณ์ทผี่ ่านมานักเรียน พบเห็นการนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยวิธีการใดบ้าง” 2. ครูนาตัวอย่างแผนภูมิรูปภาพมาให้นักเรียนดู 3–5 ตัวอย่าง โดยติดไว้บนกระดาน ครูให้นักเรียนช่วยกันพิจารณาส่วนประกอบของแผนภูมิรูปภาพว่าประกอบไปด้วยส่วนประกอบ อะไรบ้าง 3. ครูต้ังคาถามว่า “จากการพิจารณาแผนภูมิรูปภาพบนกระดาน แผนภูมิรูปภาพ ประกอบไปด้วยส่วนประกอบอะไรบ้าง” โดยคาตอบต้องไม่ซ้ากัน ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ขั้นสอน 1. ครูติดแผนภมู ิรปู ภาพ ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั อภปิ รายเกีย่ วกบั ลักษณะของแผนภูมริ ูปภาพ ส่วนประกอบของแผนภูมิรูปภาพ และการอ่านแผนภูมิรปู ภาพ ลกู บอลทข่ี ายได้ในเวลา 5 วัน วนั จนั ทร์ วนั องั คาร วนั พุธ วันพฤหสั บดี วันศุกร์ กาหนดให้ แทนจานวนลูกบอล 2 ลูก ครูให้นกั เรยี นสังเกต และตอบคาถาม ในประเด็นตอ่ ไปน้ี - แผนภมู ินี้ เป็นแผนภมู ิ ชนิดใด (แผนภมู ริ ูปภาพ) - รูปภาพในแผนภูมนิ ้ี เป็นรูปอะไร (รปู ลกู บอล) - แผนภูมิรูปภาพ รปู ภาพท่ีใชแ้ ทนสง่ิ เดียวกนั ต้องเปน็ รูปท่เี หมอื นกนั และมีขนาด เทา่ กัน หรือไม่ (เท่ากัน) - รปู ภาพ 1 รูป ใชแ้ ทนจานวนเทา่ ไร (2 ลูก) - แผนภูมินี้แสดงขอ้ มูลเก่ียวกบั อะไร (ลกู บอลทขี่ ายได้ในเวลา 5 วัน) - วันจันทรข์ ายลูกบอลไดก้ ่ลี กู (4 ลกู )

- วันพธุ ขายลกู บอลไดม้ ากกวา่ วนั องั คารกีล่ ูก (6 ลูก) - ในเวลา 5 วนั ขายลูกบอลไดก้ ล่ี ูก (34 ลูก) - วนั องั คารขายลกู บอลได้มากกวา่ วันใดบา้ ง (วันจนั ทร์ วันศกุ ร์) 2. นักเรียนอ่านแผนภูมิรูปภาพแสดงลูกบอลที่ขายได้ในเวลา 5 วัน โดยครูแนะนาว่า ภาพแตล่ ะภาพแทนลกู บอล 2 ลูก อ่านแผนภูมไิ ดว้ า่ “วันจนั ทรข์ ายลกู บอลได้ 4 ลูก วนั อังคารขายลูก บอลได้ 6 ลูก วันพุธขายลูกบอลได้ 10 ลูก วันพฤหัสบดีขายลูกบอลได้ 12 ลูก วันศุกร์ขายลูกบอลได้ 2 ลกู ” 3. ครตู ดิ แผนภูมริ ูปภาพบนกระดาน จานวนสัตวเ์ ล้ียงแตล่ ะชนดิ สุนขั แมว ปลา กระตา่ ย กาหนดใหร้ ปู 1 รูป แทนจานวนสัตว์เลี้ยง 3 ตวั ครใู หน้ กั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - มีสุนขั ก่ีตวั (12 ตัว) มีรปู สุนัขก่รี ปู (4 รปู ) - มแี มวกีต่ ัว (15 ตวั ) มีรปู แมวกรี่ ูป (5 รปู ) - มีปลาก่ตี วั (9 ตัว) มีรูปปลากรี่ ปู (3 รปู ) - มีกระต่ายกตี่ วั (3 ตัว) มรี ูปกระตา่ ยกี่รูป (1 รปู ) 4. นักเรียนอ่านแผนภูมริ ูปภาพแสดงจานวนสัตว์เลย้ี ง โดยครูแนะนาวา่ ภาพแต่ละภาพ แทนจานวนสัตว์ 3 ตัว อ่านแผนภมู ิไดว้ ่า มสี นุ ัข 12 ตัว มีแมว 15 ตัว มีปลา 9 ตวั มีกระต่าย 3 ตวั 5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 3 การอ่านแผนภูมิรูปภาพ เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 3

ข้นั สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั ดงั น้ี - แผนภูมิรูปภาพเป็นการใช้รูปภาพแสดงจานวนหรือปริมาณของสิ่งต่างๆ โดย รูปภาพทีแ่ ทนส่งิ เดยี วกัน ตอ้ งเปน็ รูปภาพทีเ่ หมือนกัน และมีขนาดเทา่ กัน - จานวนรปู ภาพในแผนภูมริ ปู ภาพ อาจไม่ใชจ่ านวนท่ีแท้จรงิ ของสิ่งตา่ งๆ จานวน ที่แท้จริงของส่ิงต่างๆ ขึ้นอยู่กับข้อกาหนดในแผนภูมิและหาได้จากการนับเพิ่มหรือนาจานวนรูปใน แผนภูมคิ ณู กับจานวนรปู ภาพ 1 รปู ที่ใชแ้ ทนตามขอ้ กาหนด สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ภาพสุนัข ภาพแมว ภาพปลา ภาพกระต่าย 2. แผนภูมิแสดงจานวนสัตวเ์ ล้ยี งแต่ละชนดิ 3. ใบงานที่ 3 การอา่ นแผนภมู ิรปู ภาพ การวดั ผลและประเมินผล สิ่งท่ีต้องการวดั วิธวี ัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 3 70% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ 3 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้นึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์ ความคิดเห็นผู้บริหาร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 7 ช่วั โมง เรื่อง การอ่านแผนภูมริ ูปภาพ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ครูผู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ิในการแกป้ ัญหา ตัวชวี้ ัด ค 3.1 ป.3/1 : เขยี นแผนภมู ิรปู ภาพ และใช้ข้อมลู จากแผนภูมิรปู ภาพในการหาคาตอบของ โจทย์ปัญหา สาระสาคญั การอา่ นแผนภมู ิรปู ภาพ เปน็ การอ่านข้อมลู จากแผนภูมิท่ีใช้รูปภาพแทนจานวนสง่ิ ต่างๆ โดย จะระบขุ อ้ กาหนดของรูปภาพ ซึง่ งา่ ยตอ่ การอ่านรายละเอยี ดของข้อมูล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกวธิ กี ารอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพได้ (K) 2. อา่ นแผนภูมิรูปภาพตามท่ีกาหนดให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการอา่ นแผนภูมิรปู ภาพไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอา่ นแผนภูมิรปู ภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครยู กตวั อยา่ งการอ่านข้อมลู จากแผนภมู ิรูปภาพใหน้ กั เรียนดู 2. ให้นักเรียนบอกรายละเอียดของแผนภมู ิรูปภาพ เช่น แผนภมู ริ ปู ภาพท่แี สดงเก่ยี วกับ อะไร อ่านข้อมูลได้อย่างไร ฝึกทักษะการตั้งคาถามโดยให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนต้ังคาถามและหา คาตอบจากแผนภมู ิรปู ภาพที่ครูกาหนดให้ ข้นั สอน 1. ครตู ดิ แผนภูมริ ูปภาพแสดงจานวนภาชนะของครูบนกระดาน พร้อมข้อกาหนดรูปภาพ 1 รูปภาพ แทนจานวนภาชนะ 5 ใบ ดังนี้ จานวนภาชนะของครู แกว้ น้า จาน ถ้วย ชาม กาหนดใหร้ ปู 1 รูป แทนจานวนภาชนะ 5 ใบ ครูให้นักเรียนพิจารณาแผนภูมิรูปภาพแล้วร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับส่วนประกอบ ของแผนภมู ิ จากนนั้ ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบคาถาม เช่น - แผนภูมินี้แสดงอะไร ดูจากส่วนใด (จานวนภาชนะของครู ดูจากส่วนบนของ แผนภมู ิ) - รปู ภาพ 1 รูป แทนภาชนะกีใ่ บ (5 ใบ) - ครมู ีแก้วน้ากีใ่ บ (15 ใบ) - ครมู ภี าชนะทง้ั หมดกีใ่ บ (65 ใบ) - ภาชนะชนดิ ใดมจี านวนเท่ากัน ชนิดละกี่ใบ (แกว้ น้าและถว้ ย ชนิดละ 15 ใบ) - ครูมีจากมากกวา่ ชามกีใ่ บ (15 ใบ) 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 4 การอ่านแผนภูมิรูปภาพ เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4

ขนั้ สรปุ 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นร้รู ว่ มกัน ดังนี้ - แผนภูมิรูปภาพเป็นการใช้รูปภาพแสดงจานวนหรือปริมาณของส่ิงต่างๆ โดย รปู ภาพที่แทนสง่ิ เดยี วกัน ตอ้ งเป็นรูปภาพท่ีเหมอื นกนั และมขี นาดเท่ากัน - จานวนรปู ภาพในแผนภูมิรปู ภาพ อาจไม่ใชจ่ านวนที่แท้จรงิ ของส่ิงต่างๆ จานวน ที่แท้จริงของส่ิงต่างๆ ข้ึนอยู่กับข้อกาหนดในแผนภูมิและหาได้จากการนับเพ่ิมหรือนาจานวนรูปใน แผนภูมคิ ณู กับจานวนรูปภาพ 1 รูป ที่ใชแ้ ทนตามข้อกาหนด สอ่ื การเรียนรู้ 1. แผนภมู ิภาชนะของครู 2. ใบงานที่ 4 การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวดั วธิ วี ดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 4 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 4 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้นึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ทพี่ งึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขนึ้ ไป คุณลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์ ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 7 ช่วั โมง เรื่อง การเขียนแผนภมู ริ ูปภาพ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐิติรตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถิติในการแกป้ ญั หา ตวั ช้วี ัด ค 3.1 ป.3/1 : เขียนแผนภูมริ ูปภาพ และใช้ขอ้ มลู จากแผนภูมริ ูปภาพในการหาคาตอบของ โจทย์ปญั หา สาระสาคญั การเขียนแผนภูมิรูปภาพ เปน็ การเขยี นข้อมลู โดยใชร้ ปู ภาพแทนจานวนส่ิงต่าง ๆ โดยจะระบุ ขอ้ กาหนดของรปู ภาพ ซงึ่ ง่ายต่อการอา่ นรายละเอยี ดของขอ้ มลู จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. เขยี นแผนภมู ิรปู ภาพได้ (K) 2. เขยี นแผนภูมิรูปภาพได้ถกู ตอ้ ง (P) 3. นาความร้เู ก่ยี วกบั การเขยี นแผนภมู ริ ูปภาพไปใช้ในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเขียนแผนภูมริ ูปภาพ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน 1. สนทนากับนักเรียนถึงสีที่นักเรียนชอบ มีสีอะไรบ้าง สีใดที่คนนิยมมากที่สุด เราจะ ทราบขอ้ มูลนโี้ ดยวิธีใด 2. นักเรียนช่วยกันเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับสีท่ีเพื่อนช้ันชอบ โดยร่วมกันระดมความ คิดเห็นวา่ ควรจะใชว้ ธิ ีใดจึงจะเหมาะสม เชน่ ถามเพือ่ นทลี ะคนหรือถามพรอ้ มกนั ขั้นสอน 1. ครูนาข้อมูลผลไม้ท่ีแม่ค้าขายได้ใน 1 วัน ดังนี้ มะม่วง 20 ผล ส้ม 40 ผล แอปเปิล 10 ผล มังคุด 35 ผล และชมพู่ 25 ผล 2. ครูให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์ข้อมูลและคิดหาแนวทางท่ีจะเขียนเป็นแผนภูมิรูปภาพ จากนัน้ ให้ช่วยกันเขยี นแผนภมู ิรปู ภาพบนกระดาน โดยอภปิ รายด้วยคาถาม - กาหนดชอ่ื ของแผนภมู วิ า่ อย่างไร - กาหนดสญั ลักษณ์ว่ารูป 1 รปู แทนผลไมก้ ีผ่ ล - ผลไมม้ ีกช่ี นดิ อะไรบา้ ง - ผลไม้แตล่ ะชนดิ แทนดว้ ยสัญลักษณร์ ูปผลไมก้ ร่ี ปู - จะเขยี นแผนภูมิในแนวตง้ั หรอื แนวนอน 3. ครูแนะนาการเขียนแผนภูมิรูปภาพ โดยกาหนดให้ 1 รูป แทนจานวนผลไม้ 5 ผล ครูนาภาพผลไม้ทัง้ 5 ชนิดมาให้นักเรยี น พร้อมทั้งอธบิ าย ดังน้ี แทนมะม่วง 5 ผล แทนสม้ 5 ผล แทนแอปเปลิ 5 ผล แทนมังคดุ 5 ผล แทนชมพู่ 5 ผล 4. ครูถามนักเรียนว่า ถา้ ใช้รปู ภาพแสดงจานวนผลไม้ ผลไมแ้ ตล่ ะชนิดแทนดว้ ยรูปภาพ ก่รี ปู จานวนมะมว่ ง 20 ผล แทนด้วยรปู ภาพมะมว่ ง 4 ภาพ จานวนส้ม 40 ผล แทนด้วยรูปภาพส้ม 8 ภาพ จานวนแอปเปิล 10 ผล แทนดว้ ยรูปภาพแอปเปลิ 2 ผล จานวนมังคดุ 35 ผล แทนดว้ ยรปู ภาพมังคุด 7 ผล จานวนชมพู่ 25 ผล แทนดว้ ยรปู ภาพชมพู่ 5 ผล

5. ครูนาขอ้ มลู ผลไมท้ แ่ี ม่คา้ ขายได้ใน 1 วนั เขียนแสดงเปน็ แผนภมู ริ ูปภาพบนกระดาน จานวนผลไมท้ ีแ่ มค่ า้ ขายได้ใน 1 วนั มะม่วง สม้ แอปเปลิ มังคุด ชมพู่ กาหนดให้รูป 1 รูป แทนจานวนผลไม้ 5 ผล 6. นักเรียนอ่านแผนภูมิรูปภาพแสดงจานวนผลไม้ท่ีแม่ค้าขายได้ใน 1 วัน โดยครู แนะนาว่าภาพแต่ละภาพแทนจานวนผลไม้ 5 ผล อ่านแผนภูมิได้ ดังน้ี “แม่ค้าขายมะม่วงได้ 20 ผล ขายส้มได้ 40 ผล ขายแอปเปลิ ได้ 10 ผล ขายมังคดุ ได้ 35 ผล และขายชมพไู่ ด้ 25 ผล” 7. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 5 การเขียนแผนภูมิรูปภาพ เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียน ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 5 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเขียนแผนภูมิรูปภาพ ถ้า เป็นข้อมูลสิ่งเดียวกัน รูปภาพท่ีใช้ต้องเป็นรูปที่เหมือนกันและมีขนาดเท่ากัน การวางรูปในแผนภูมิ รูปภาพจะวางตามแนวต้ังหรือแนวนอนก็ได้ และการเขียนแผนภูมิรูปภาพ เป็นเขียนข้อมูลโดยใช้ รูปภาพแทนจานวนสิ่งต่างๆ โดยจะระบุข้อกาหนดของรูปภาพ ซ่ึงง่ายต่อการอ่านรายละเอียดของ ขอ้ มูล สอ่ื การเรียนรู้ 1. แผนภมู ิแสดงจานวนผลไม้ทแ่ี ม่คา้ ขายไดใ้ น 1 วนั 2. ใบงานที่ 5 การเขียนแผนภูมิรปู ภาพ

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 5 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 5 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรยี น 7 ชั่วโมง เร่ือง การอา่ นตารางทางเดยี ว เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรูท้ างสถติ ิในการแก้ปัญหา ตัวชี้วดั ค 3.1 ป.3/2 : เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่ีเป็นจานวนนับ และใช้ข้อมูลจากตาราง ทางเดียวในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา สาระสาคัญ การอ่านตารางทางเดียว เป็นการอ่านข้อมูลจากตารางซ่ึงเป็นการนาเสนอข้อมูลรูปแบบหนง่ึ ทม่ี กี ารจาแนกข้อมลู เพียง 1 ลักษณะ โดยการอ่านขอ้ มูลจะอา่ นตรงจุดตดั แนวตง้ั กบั แนวนอน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกวิธีการอ่านตารางทางเดียวได้ได้ (K) 2. อา่ นตารางทางเดียวได้ถกู ต้อง (P) 3. นาความรเู้ กย่ี วกบั การอ่านตารางทางเดียวไปใช้ในชวี ิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอา่ นตารางทางเดียว ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอื่ มโยง คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูต้ังคาถามกระตุ้นความสนใจนักเรียนว่า “จากประสบการณ์ที่ผ่านมานักเรียนพบ เหน็ การนาเสนอข้อมลู ด้วยวิธกี ารใดบ้าง” 2. ครูนาตัวอย่างตารางทางเดียวมาให้นักเรียนดู 3 - 5 ตวั อย่าง โดยตดิ ไว้บนกระดาน ครู ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พิจารณาสว่ นประกอบของตารางทางเดียววา่ ประกอบไปด้วยสว่ นประกอบอะไรบ้าง 3. ครูตั้งคาถามแล้วให้ตัวแทนนักเรียนออกมาตอบว่า “จากการพิจารณาตารางทางเดียว บนกระดาน ตารางทางเดียวประกอบไปด้วยส่วนประกอบอะไรบ้าง” โดยคาตอบต้องไม่ซ้ากัน ครูและ นักเรยี นท่ีเหลอื ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ข้ันสอน 1. ครตู ดิ ตารางทางเดียวบนกระดาน แล้วแบ่งนกั เรยี นออกเป็น 2 กลมุ่ ใหน้ ักเรียนแข่งขัน กันตอบคาถาม โดยมกี ตกิ าดังน้ี - นักเรยี นทีย่ กมอื ก่อนจะมีสิทธ์ิตอบก่อน - กลุม่ ท่ตี อบคาถามได้ถกู ต้องจะได้คะแนนสะสม 1 คะแนน - นักเรียนกลุ่มใดตอบผดิ อกี กลุม่ จะมีโอกาสตอบโดยไม่ต้องยกมือ จานวนนักเรียนที่ชอบกีฬาชนิดต่างๆ ชนิดของกีฬา จานวนนกั เรียน (คน) วอลเลย์บอล 17 32 ฟตุ บอล 45 แบดมนิ ตนั 27 20 ว่ายนา้ ปงิ ปอง - ตารางทางเดยี วนแ้ี สดงอะไร (จานวนนกั เรียนทชี่ อบกีฬาชนิดตา่ งๆ) - ชนิดของกีฬามีทั้งหมดก่ีชนิดอะไรบ้าง (วอลเลย์บอล ฟุตบอล แบดมินตัน ว่ายนา้ ปิงปอง) - จานวนนกั เรียนทช่ี อบกีฬาวอลเลย์บอลมีจานวนเท่าไร (17 คน) - จานวนนกั เรยี นทช่ี อบกฬี าฟตุ บอลมีจานวนเทา่ ไร (32 คน) - จานวนนักเรียนที่ชอบกีฬาว่ายนา้ มีจานวนเท่าไร (27 คน) - นกั เรียนชอบกฬี าชนดิ ใดนอ้ ยทสี่ ุด จานวนก่ีคน (วอลเลย์บอล จานวน 17 คน) - นกั เรียนชอบกฬี าชนดิ ใดมากทสี่ ุด จานวนกีค่ น (แบดมินตัน จานวน 45 คน) - นักเรยี นชอบกฬี าวอลเลย์บอลน้อยกว่าว่ายนา้ กค่ี น (10 คน) 2. ครูถามคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า “ส่ิงสาคัญในการอ่านตารางทางเดียวคือ อะไร” (จะต้องอ่านข้อมลู ตรงจดุ ตัดแนวต้งั กบั แนวนอน)

3. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 6 การอ่านตารางทางเดียว เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 6 ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การอ่านตารางทางเดียวเป็น การอ่านข้อมูลจากตารางซ่ึงเป็นการนาเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่งท่ีมีการจาแนกข้อมูลเพียง 1 ลักษณะ โดยการอา่ นข้อมลู จะอา่ นตรงจดุ ตัดแนวต้งั กบั แนวนอน สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ตารางทางเดยี ว 2. ใบงานที่ 6 การอา่ นตารางทางเดยี ว การวัดผลและประเมนิ ผล ส่ิงท่ตี ้องการวดั วิธีวดั เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 6 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 6 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคดิ เหน็ ผู้บริหาร ลงชือ่ .....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรยี น 7 ชว่ั โมง เร่อื ง การเขยี นตารางทางเดียว เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวฐติ ริ ตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ................................................................................................................................................................ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถติ ิในการแกป้ ญั หา ตวั ช้ีวัด ค 3.1 ป.3/2 : เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่ีเป็นจานวนนับ และใช้ข้อมูลจากตาราง ทางเดยี วในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา สาระสาคญั การเขียนตารางทางเดียว เป็นการนาเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่งที่มีการจาแนกข้อมูลเพียง 1 ลักษณะ โดยการอา่ นข้อมูลจะอ่านตรงจดุ ตดั แนวต้งั กับแนวนอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกวธิ กี ารเขยี นตารางทางเดียวได้ (K) 2. เขียนตารางทางเดียวได้ถูกตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ ก่ยี วกบั การเขียนตารางทางเดียวไปใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเขียนตารางทางเดียว ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนเร่ืองส่วนประกอบของตารางทางเดียว โดยครูติดตารางทางเดียวบน กระดาน จากน้ันสุ่มตัวแทนนักเรียนตอบคำถาม ว่าสิ่งท่ีครูชี้ คือ ส่วนประกอบใดของตารางทางเดียว โดยครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ ขน้ั สอน 1. ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 – 5 คน จากน้นั ครูนาภาพผลไมต้ ่างๆ มาวางรวมกัน บนโต๊ะหน้าชั้นเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเดินสารวจแล้วพิจารณาผลไม้ทีละชนิดว่ามีผลไม้ชนิด ใดบ้าง และมจี านวนเท่าไร 2. ครูให้นักเรียนเขียนช่ือผลไม้พร้อมท้ังวาดภาพประกอบเพื่อแสดงจานวนผลไม้ที่ได้ สารวจลงในแบบบนั ทึกขอ้ มลู ตารางที่ 1 เช่น แอปเปิล กล้วย สม้ มงั คดุ มะม่วง 3. ครูต้ังคาถามจากตารางแสดงจานวนผลไม้โดยให้นักเรียนร่วมกันตอบเพ่ือให้ได้ ประเด็นต่างๆ ดังน้ี - แอปเปิล มีจานวนกีผ่ ล - กลว้ ย มจี านวนกี่ผล - สม้ มีจานวนกผ่ี ล - มงั คุด มีจานวนกผี่ ล - มะมว่ ง มจี านวนกีผ่ ล - ผลไม้ชนดิ ใดมีจานวนมากทส่ี ดุ และมจี านวนเท่าไร - ผลไม้ชนิดใดมจี านวนมากรองลงมาและมีจานวนเทา่ ไร - ผลไม้ชนิดใดมีจานวนนอ้ ยทสี่ ดุ และมจี านวนเท่าไร 4. ครูถามนักเรียนกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า ข้อมูลที่ได้มีลักษณะอย่างไร (เป็น ขอ้ ความหรอื ตัวเลข) 5. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันพิจารณาส่วนประกอบของตารางทางเดียวที่ครูติดบน กระดานว่าประกอบไปด้วยส่วนประกอบอะไรบ้าง จากนั้นร่วมกันสรุปส่วนประกอบลงในกระดาษท่ี ครแู จกให้ 6. ครตู ง้ั คาถาม โดยใหต้ วั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมาตอบกลุ่มละ 1 คาตอบ วา่ จาก การพิจารณาตารางทางเดียวบนกระดานมีส่วนประกอบอะไรบ้าง โดยคาตอบต้องไม่ซ้ากัน ครูและ นกั เรยี นกลุ่มท่เี หลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ในส่วนท่ยี ังมีข้อบกพร่องอยู่ 7. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 7 การเขียนตารางทางเดียว เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 7

ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเขียนตารางทางเดียวว่า ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ช่ือตาราง หัวตาราง และข้อมูลในตาราง ซ่ึงข้อมูลในตารางจะประกอบดว้ ย ข้อความและตัวเลขแสดงข้อมูลต่างๆ การเขียนตารางทางเดียวต้องกาหนดหัวข้อและแปลงข้อมูล ต่างๆ เป็นตัวเลข และการเขียนตารางทางเดียว เป็นการนาเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่งท่ีมีการจาแนก ข้อมลู เพียง 1 ลักษณะ โดยการอ่านข้อมูลจะอ่านตรงจดุ ตัดแนวตั้งกับแนวนอน สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ภาพผลไมต้ ่างๆ เช่น แอปเปลิ กลว้ ย ส้ม มงั คุด มะม่วง 2. ใบงานท่ี 7 การเขียนตารางทางเดียว การวัดผลและประเมินผล สิง่ ทต่ี ้องการวัด วธิ วี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 7 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 7 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้นึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลกั ษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคิดเห็นผูบ้ ริหาร ลงช่อื .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอย่ใู นระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เศษสว่ น เวลาเรียน 16 ช่ัวโมง เร่ือง การอ่านและเขียนเศษส่วนท่ีตวั เศษน้อยกว่าตวั ส่วน เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ครูผูส้ อน นางสาวฐิติรตั น์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.3/3 : บอก อา่ น และเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณส่ิงต่างๆ และแสดงสงิ่ ตา่ งๆ ตาม เศษสว่ นท่ีกาหนด สาระสาคญั เศษส่วน เปน็ การเขยี นแสดงจานวน โดยใช้  เป็นเส้นคนั่ ระหว่างจานวนสองจานวน จานวน ท่ีอยู่บนเส้นคั่นเรียกว่า ตัวเศษ จานวนที่อยู่ใต้เส้นค่ัน เรียกว่า ตัวส่วน การอ่านเศษส่วนให้เร่ิมอ่านจาก ตัวเลขเศษก่อน โดยมีคาว่า เศษ นาหน้าแล้วตามด้วยตัวเลขที่เป็นตัวเศษ จากน้ันอ่านตัวส่วนต่อ โดย มคี าว่า สว่ น นาหน้า แล้วตามดว้ ยตวั เลขทเี่ ปน็ ตวั สว่ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 17. บอกเศษสว่ นท่ีตัวเศษน้อยกวา่ หรือเทา่ กับตัวส่วนได้ (K) 18. เขียนเศษสว่ นท่ีตวั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับตวั สว่ นได้ (P) 19. นาความรู้เก่ียวกับการบอก อ่าน และเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวสว่ น ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การอ่านและเขยี นเศษสว่ นที่ตวั เศษน้อยกวา่ ตัวสว่ น ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่ือมโยง

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรยี น 7. ครูสนทนากับนักเรียนถึงส่ิงของที่เต็มหน่วยและส่ิงของที่ไม่เต็มหน่วย จากนั้น ยกตัวอย่างรูปภาพส่ิงของท่ีเต็มหน่วยและไม่เต็มหน่วย โดยนาบัตรภาพ เช่น ผลไม้ ขนมเค้ก วงกลม ทง้ั ทีเ่ ปน็ ภาพเต็มหน่วยและไม่เต็มหนว่ ยติดบนกระดานดาเพื่อให้นักเรียนตอบคาถามวา่ ภาพใดบ้างที่ เตม็ หน่วยและภาพใดบา้ งทีไ่ ม่เตม็ หนว่ ย ขั้นสอน 29. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงสิ่งของที่เต็มหน่วยว่า สิ่งของที่เต็มหน่วย เรียกว่า จานวนเต็ม เป็นการแสดงส่ิงของท่ีมีจานวนเต็มหน่วยซ่ึงเราสามารถนับได้ และใช้สัญลักษณ์ 1, 2, 3, ... แทนจานวนดังกล่าว พร้อมกับถามนักเรียนว่า สิ่งของท่ีไม่เต็มหน่วย เรียกว่าอะไร สามารถนับเปน็ จานวนเตม็ ไดห้ รอื ไม่ และใช้สัญลกั ษณอ์ ะไรแทน 30. ครูนาภาพขนมท่ถี ูกแบง่ ออกเป็น 2 สว่ นเท่าๆ กนั มาตดิ บนกระดานดา ดงั รูป แทนการแบ่งขนมเค้กดว้ ยรปู ส่ีเหล่ยี มด้านล่าง และแทน สว่ นที่นักเรยี นหนง่ึ คนได้รับด้วยสสี ้ม ให้นกั เรยี นตอบคาถามดงั นี้ - แบง่ ขนมเคก้ ใหเ้ ท่าๆ กันได้ก่สี ่วน (2 สว่ น) - นกั เรยี น 2 คน จะไดร้ บั ขนมเคก้ คนละเทา่ ไร (คนละ 1 สว่ น) ครูแนะนาว่าส่วนท่ีนักเรียนหนึ่งคนได้รับ เป็น 1 ใน 2 ส่วนของขนมเค้กทั้งหมด เขียนแทนด้วย 1 อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนสอง ตัวเลขตัวบน คือ 1 เรียกว่า ตัวเศษ ซึ่งแสดงจานวนส่วน 2 แบ่งทกี่ ลา่ วถงึ ตัวเลขตวั เล่างคือ 2 เรยี กว่า ตัวส่วน ซง่ึ แสดงจานวนส่วนแบ่งทง้ั หมดทเี่ ทา่ ๆ กนั 31. ครูนาแถบกระดาษท่ีมีส่วนแบ่ง 5 ส่วนเท่าๆ กัน โดยที่แถบกระดาษดังกล่าวระบาย สี 1 ส่วน ตดิ บนกระดานดาใหน้ กั เรยี นพิจารณา ดังรปู

ให้นักเรียนตอบคาถามดังนี้ - แถบกระดาษแบง่ ออกเปน็ ส่วนที่เท่ากันก่สี ว่ น - สว่ นที่ระบายสีมกี ่สี ่วน - เขยี นเศษส่วนแทนส่วนทีร่ ะบายสีไดอ้ ย่างไร 32. จากนน้ั ครนู ารูปมาติดบนกระดาน แลว้ อภปิ รายซกั ถามนกั เรยี น ดงั นี้ รปู ท่ี 1 รูปท่ี 2 รปู ที่ 3 รูป0ที่ 4 รูปท่ี จานวนสว่ นแบ่งทเี่ ทา่ ๆ กัน จานวนสว่ นท่ีแรเงา เศษส่วนแสดงสว่ นทแ่ี รเงา 14 1 24 1 1 36 2 4 43 1 1 4 2 6 1 3 33. ครูนารูปสิ่งของหน่ึงกลุ่มซ่ึงมีจานวนไม่เกิน 20 และแบ่งสิ่งของออกเป็นหลายส่วน เท่าๆ กนั แรเงาบางสว่ นของรปู ติดไวบ้ นกระดาน เชน่ ใหน้ กั เรียนตอบคาถามดงั นี้ - รปู นถี้ กู แบ่งออกเปน็ กี่กลุม่ (3 กลมุ่ ) - แตล่ ะกลมุ่ มจี านวนเท่ากันหรอื ไม่ (เทา่ กนั ) - กลมุ่ ทแี่ รเงามกี สี่ ่วน (1 ส่วน) - กลมุ่ ท่แี รเงาเปน็ เศษสว่ นเทา่ ไรของรูป (เศษหนึง่ สว่ นสาม)

34. ครูให้นักเรียนหาเศษส่วนจากสิง่ ของซ่งึ มีหลายชนิดอยใู่ นกลุ่มเดียวกัน ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี - จานวนรูป เปน็ จานวนเศษส่วนเทา่ ไรของจานวนรปู เรขาคณิตทั้งหมด (3) 7 - จานวนรูป เป็นจานวนเศษสว่ นเท่าไรของจานวนรปู เรขาคณิตทั้งหมด (2) 7 - จานวนรูป เป็นจานวนเศษสว่ นเท่าไรของจานวนรปู เรขาคณติ ท้ังหมด (2) 7 35. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 1 การอ่านและเขียนเศษส่วนท่ีตวั เศษน้อยกวา่ ตัวสว่ น เมื่อ เสร็จแล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 1 ขนั้ สรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดังนี้ - เศษส่วน คือ จานวนท่ีใช้บอกปริมาณของสิ่งของหรือรูปภาพที่ถูกแบ่งออกมา เมื่อเทียบกบั สิ่งของทั้งหมดหรอื ภาพทั้งหมด - สัญลักษณ์ท่ีเขียนแสดงเศษส่วนประกอบด้วย ตัวเศษ แสดงจานวนส่วนแบ่งท่ี กล่าวถึง ซ่ึงจะเขียนไว้ด้านบน ตัวส่วน แสดงจานวนส่วนแบ่งทั้งหมดที่แบ่งออกเท่าๆ กัน ซ่ึงจะเขียน ไว้ดา้ นลา่ ง และมเี สน้ ค่นั ระหว่างตวั เศษและตัวส่วน สอ่ื การเรยี นรู้ 17. บตั รภาพสงิ่ ของทเี่ ต็มหนว่ ยและไม่เต็มหน่วย 18. ภาพขนมเค้กที่ถกู แบง่ ออกเป็น 2 สว่ นเทา่ ๆ กัน 19. แถบกระดาษเศษสว่ น 20. ใบงานท่ี 1 การอ่านและเขยี นเศษสว่ นทต่ี วั เศษน้อยกว่าตัวส่วน

การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 1 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 1 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เศษสว่ น เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง เรือ่ ง การอา่ นและเขียนเศษสว่ นทต่ี ัวเศษเทา่ กับตัวส่วน เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐิติรัตน์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/3 : บอก อา่ น และเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณส่ิงต่างๆ และแสดงส่งิ ต่างๆ ตาม เศษส่วนท่กี าหนด สาระสาคัญ เศษสว่ น เป็นการเขียนแสดงจานวน โดยใช้  เปน็ เสน้ ค่นั ระหว่างจานวนสองจานวน จานวน ท่ีอยู่บนเส้นค่ันเรียกว่า ตัวเศษ จานวนท่ีอยู่ใต้เส้นคั่น เรียกว่า ตัวส่วน การอ่านเศษส่วนให้เร่ิมอ่านจาก ตัวเลขเศษก่อน โดยมีคาว่า เศษ นาหน้าแล้วตามด้วยตัวเลขท่ีเป็นตวั เศษ จากนั้นอ่านตัวส่วนต่อ โดย มีคาว่า สว่ น นาหนา้ แลว้ ตามด้วยตวั เลขที่เป็นตวั ส่วน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเศษส่วนทีต่ วั เศษนอ้ ยกว่าหรือเท่ากบั ตวั สว่ นได้ (K) 2. เขยี นเศษสว่ นที่ตวั เศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากบั ตวั ส่วนได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการบอก อ่าน และเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การอา่ นและเขียนเศษส่วนที่ตวั เศษเท่ากับตัวสว่ น ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนการอา่ นเศษสว่ น โดยตดิ แถบแสดงเศษสว่ นบนกระดาน เชน่ ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสว่ นทแี่ รเงาแสดงเศษสว่ นใด และตรวจสอบความถูกต้อง โดยครูอธบิ ายแนะนาและตรวจสอบความถูกต้องอีกครัง้ ขัน้ สอน 1. ครูติดแถบกระดาษที่แรเงาเต็ม 1 แถบ บนกระดานใช้การถามตอบ จนนักเรยี นบอกไดว้ า่ ส่วนทแ่ี รเงาแสดง 1 2. ครูตดิ แถบกระดาษรูปสีเ่ หลี่ยมทม่ี ีขนาดเท่าเดิมอีก 4 แบบ (ดงั รูปขา้ งลา่ ง) และแบ่ง แถบกระดาษแถบท่ีหน่ึงเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน แถบที่สองเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน แถบที่สามเป็น 4 ส่วน เทา่ ๆ กนั และแถบทีส่ ีเ่ ปน็ 5 สว่ นเทา่ ๆ กัน ดงั นี้ แถบที่ 1 แถบท่ี 2 แถบที่ 3 แถบท่ี 4

ครูแรเงาแถบกระดาษแถบท่ี 1 ทลี ะสว่ น พรอ้ มทั้งใหน้ กั เรียนบอกเศษสว่ นทแี่ ทน ส่วนทแ่ี รเงา (1 , 2) ทานองเดยี วกัน สาหรับแถบท่ี 2 (1 , 2 , 3) แถบท่ี 3 (1 , 2 , 3 , 4) และแถบ 22 333 4444 ท่ี 4 (1 , 2 , 3 , 4 , 5) เมือ่ แรเงาครบทกุ แถบจะได้ดงั น้ี 55555 1 2 2 3 3 4 4 5 5 จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นพิจารณาแถบกระดาษทั้งหมดใช้การถามตอบ ดงั น้ี - กระดาษแตล่ ะแถบมขี นาดเท่ากันหรือไม่ (เท่ากนั ) - สว่ นทีแ่ รเงาทงั้ หมดในกระดาษแตล่ ะแถบเทา่ กันหรอื ไม่ (เท่ากนั ) - เนื่องจากสว่ นที่ที่แรเงาในกระดาษแตล่ ะแถบเทา่ กัน ดงั นั้น จะไดจ้ านวนอะไรที่ เท่ากนั บ้าง (1 , 2 , 3 , 4 , 5) 2345 ครเู ขียนผลสรุปทไ่ี ด้บนกระดาน ดังนี้ 2 = 3 = 4 = 5 = 1 2345 3. ครถู ามนักเรียนเพิ่มเตมิ ดังนี้ - นักเรียนคิดวา่ ถา้ แบ่งกระดาษออกเป็น 6 สว่ นเทา่ ๆ กนั จะได้เศษสว่ นใด เทา่ กับ 1 (6) 6 - ถ้าแบง่ กระดาษออกเปน็ 7 8 และ 9 ส่วนเทา่ ๆ กัน จะไดเ้ ศษส่วนใดเทา่ กับ 1 บา้ ง (7 , 8 , 9) 789 - นกั เรยี นคิดวา่ ยังมเี ศษส่วนท่เี ท่ากบั 1 อีกหรอื ไม่ (มอี ีก) - ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งเศษสว่ นทเี่ ท่ากบั 1 อีกหลายๆ ตัวอยา่ งโดยครตู รวจสอบ ความถกู ต้อง 4. ครูให้นกั เรยี นสงั เกตแถบกระดาษที่ติดบนกระดานและตัวอยา่ งเศษส่วนท่ีเท่ากับ 1 ท่นี ักเรยี นยกตวั อยา่ งมา ครูใชก้ ารถามตอบจนนกั เรียนร่วมกันสรปุ ไดว้ า่ เศษสว่ นที่ตวั เศษและตวั ส่วน เป็นจานวนนับทีเ่ ทา่ กัน เปน็ เศษสว่ นท่เี ท่ากับ 1

5. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 2 การอ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากับตัวส่วน เมื่อ เสร็จแล้วให้นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานท่ี 2 ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี เศษส่วนท่ีตัวเศษและตัวส่วน เปน็ จานวนนับทเ่ี ท่ากันเปน็ เศษส่วนที่เทา่ กับ 1 สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบแสดงเศษส่วน 2. แถบกระดาษ 3. ใบงานท่ี 2 การอา่ นและเขียนเศษส่วนท่ตี วั เศษเท่ากับตวั ส่วน การวัดผลและประเมินผล สง่ิ ท่ตี ้องการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 2 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 2 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ท่ีพึงประสงค์ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป คณุ ลักษณะ ที่พงึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ลงชอ่ื .....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรียน ........./.........../..........

บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เศษสว่ น เวลาเรยี น 16 ชว่ั โมง เรอ่ื ง การเปรยี บเทียบเศษส่วนท่ีมตี วั ส่วนเทา่ กัน เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นางสาวฐิติรัตน์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.3/4 : เปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตัวเศษเท่ากันโดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัว สว่ น สาระสาคัญ การเปรียบเทียบเศษสว่ นทมี่ ตี ัวสว่ นเท่ากัน ใช้วธิ ีนาตัวเศษมาเปรยี บเทยี บกนั เศษสว่ นท่มี ตี ัว เศษมากกว่าจะมคี ่ามากกว่าเศษสว่ นท่มี ีตวั เศษน้อยกว่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การเปรยี บเทียบเศษสว่ นที่ตัวส่วนเท่ากัน (K) 2. เขียนข้นั ตอนแสดงการเปรียบเทยี บเศษสว่ นท่ตี วั สว่ นเทา่ กนั ได้ (P) 3. นาความรู้เกีย่ วกับการเปรียบเทยี บเศษส่วนไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเปรยี บเทียบเศษสว่ นทม่ี ตี ัวส่วนเท่ากัน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 3. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. นักเรียนทบทวนความรู้โดยสังเกตและตอบคาถามบัตรภาพแสดงเศษส่วนท่ีติดบน กระดานแลว้ ตอบคาถาม ดังนี้ ก. ข. ค. ง. ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2 - ภาพที่ 1 แบง่ เปน็ กส่ี ่วน (4 ส่วน) - แตล่ ะสว่ นเทา่ กันหรือไม่ (เทา่ กนั ) - สว่ นที่ระบายสใี นรปู ก และรปู ข มกี ่สี ่วน (รูป ก 1 ส่วน รูป ข 2 สว่ น) - ส่วนที่ระบายสีในรูป ก และรูป ข เขียนเป็นเศษส่วนได้อย่างไร (รูป ก 1 รูป 4 ข 2) 4 ผู้แทนนักเรียนออกมาเขียนเศษส่วนแสดงส่วนท่ีระบายสีใต้รูป ก และรูป ข พร้อม ทั้งเขียนเป็นคาอ่าน นักเรียนที่เหลือช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันพิจารณาภาพที่ 2 และ ตอบคาถามดังนี้ - ภาพท่ี 2 แบง่ เป็นกี่สว่ น แต่ละสว่ นเทา่ กนั หรอื ไม่ (6 ส่วนเท่าๆ กัน) - ส่วนทร่ี ะบายสใี นรปู ค และรปู ง มีก่สี ่วน (รปู ค 3 ส่วน รูป ง 1 สว่ น) - สว่ นที่ระบายสใี นรปู ค และรปู ง เขยี นเป็นเศษสว่ นไดอ้ ย่างไร (รูป ค 3 รูป ง 6 1) 6 ผูแ้ ทนนกั เรียนออกมาเขยี นเศษสว่ นแสดงสว่ นทรี่ ะบายสใี ตร้ ูป ค และรูป ง พรอ้ มท้ัง เขยี นเป็นคาอา่ น นักเรียนท่ีเหลอื ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ขั้นสอน 1. นกั เรยี นพจิ ารณาบัตรแสดงเศษสว่ นบนกระดาน ดังน้ี ก. ข. ค. ง. ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2

นกั เรียนพจิ ารณาและเปรยี บเทียบสว่ นที่ไม่ได้ระบายสีในภาพที่ 1 และภาพท่ี 2 ท่ใี ช้ ในกิจกรรมข้อ 1. แล้วตอบคาถามดังน้ี - ภาพท่ี 1 ส่วนที่ไม่ได้ระบายสีในรูป ก และรูป ข มีกี่ส่วนใน 4 ส่วน (รูป ก 3 ส่วน รปู ข 2 ส่วน) รูป ข 2) - ส่วนที่ไม่ได้ระบายสีในรูป ก และรูป ข เขียนเป็นเศษส่วนได้อย่างไร (รูป ก 3 4 4 - เศษส่วนจานวนใดมคี ่าน้อยกว่ากนั (2) 4 - เพราะเหตใุ ดจงึ มีคา่ น้อยกวา่ (เพราะมีเนอ้ื ทไี่ ม่ได้ระบายสีเหลอื น้อยกวา่ ) - การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากันต้องพิจารณาอะไร (พิจารณาท่ีตัว เศษ ถา้ ตัวเศษมีคา่ น้อยเศษสว่ นนั้นจะมีคา่ น้อย) จากนั้นผู้แทนนักเรียน (ไม่ให้ซ้าคนเดิม) ออกมาเขียนเศษส่วนแสดงส่วนที่ไม่ได้ ระบายสี พรอ้ มท้ังเขยี นเคร่ืองหมาย >, < แสดงการเปรียบเทียบระหวา่ งเศษสว่ นทั้ง 2 จานวนดงั นี้ 2 4 < 3 หรือ 3 > 2 4 44 - ภาพที่ 2 ส่วนท่ีไม่ได้ระบายสีในรูป ค และรูป ง มีกี่ส่วนใน 6 ส่วน (รูป ค 3 ส่วน รปู ง 5 ส่วน) รปู ง 5) - ส่วนที่ไม่ได้ระบายสีในรูป ค และรูป ง เขียนเป็นเศษส่วนได้อย่างไร (รูป ค 3 6 6 - เศษส่วนใดมคี ่ามากกวา่ กัน (5) 6 - เพราะเหตุใดจงึ มคี ่ามากกว่า (เพราะมเี น้อื ท่ไี ม่ไดร้ ะบายสเี หลอื มากกว่า) - การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเท่ากันต้องพิจารณาอย่างไร (พิจารณาท่ีตัว เศษ เศษส่วนท่มี ตี ัวเศษมากจะมีค่ามาก) จากน้ันผู้แทนนักเรยี นออกมาเขียนเศษสว่ นแสดงส่วนที่ไม่ได้ระบายสี พร้อมทง้ั เขียน เครอื่ งหมาย >, < แสดงการเปรียบเทยี บสว่ นท่ีไมไ่ ดร้ ะบายสี ระหวา่ งเศษส่วนทง้ั 2 จานวน ดงั น้ี 5 > 6 3 หรอื 3 < 5 6 66 2. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงการเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีมีส่วนเท่ากันว่า สามารถทาไดโ้ ดยนาตวั เศษมาเปรยี บเทียบกนั ถ้าตวั เศษของจานวนใดมคี า่ มากกว่า จานวนนัน้ จะมคี ่า มากกวา่

3. ครูยกตัวอยา่ งเศษสว่ นที่มีตัวส่วนเทา่ กันเพิ่มเติมอีก จนนกั เรียนตอบได้คล่อง เช่น 36 99 53 77 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 3 การเปรียบเทียบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน เมื่อเสร็จ แล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 3 ขัน้ สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีมี ตัวส่วนเท่ากัน ใช้วิธีนาตัวเศษมาเปรียบเทียบกัน เศษส่วนที่มีตัวเศษมากกว่าจะมีค่ามากกว่า เศษสว่ นท่ีมีตวั เศษน้อยกว่า สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บัตรภาพแสดงเศษสว่ น 2. ใบงานที่ 3 การเปรยี บเทยี บเศษสว่ นท่มี ตี วั สว่ นเทา่ กัน การวดั ผลและประเมนิ ผล สงิ่ ทต่ี ้องการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 3 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 3 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ที่พึงประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึน้ ไป คณุ ลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์

ความคิดเหน็ ผบู้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทกึ หลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอย่ใู นระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดบั ปรบั ปรงุ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปัญหา ลงช่อื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เศษส่วน เวลาเรียน 16 ชว่ั โมง เร่อื ง การเรยี งลาดบั เศษส่วนทมี่ ีตัวสว่ นเทา่ กนั เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ิรตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.3/4 : เปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตัวเศษเท่ากันโดยที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัว สว่ น สาระสาคัญ การเรียงลาดับเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากัน ใช้วิธีนาตัวเศษมาเปรียบเทียบกัน เศษส่วนที่มีตัว เศษมากกวา่ จะมคี า่ มากกว่าเศษสว่ นที่มีตัวเศษน้อยกว่า จากนนั้ นามาเรยี งลาดับจากมากไปหาน้อย หรอื จากนอ้ ยไปหามาก จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การเรียงลาดับเศษส่วนทตี่ วั สว่ นเท่ากัน (K) 2. เขยี นข้ันตอนแสดงการเรยี งลาดับเศษส่วนทีต่ ัวส่วนเท่ากนั ได้ (P) 3. นาความรเู้ กี่ยวกับการเรียงลาดับเศษสว่ นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเรยี งลาดบั เศษส่วนท่ีมตี วั ส่วนเท่ากนั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล