สารบัญ บทนา หน้า ความเปน็ มาและความสาคญั 1-4 บทท่ี 1 การดาเนนิ งาน 5 ความหมายของการถอดบทเรียน 5 รปู แบบการถอดบทเรียน 11 15 บทที่ 2 ขน้ั ตอนการถอดบทเรยี น 21 บทที่ 3 ผลการถอดบทเรียน 21 บทที่ 4 สรปุ การถอดบทเรยี น การพฒั นามาตรฐานสถานที่กักกนั ทกุ ประเภท 22 - สรุปประเด็นสถานท่ีกกั กนั ซง่ึ ทางราชการกาหนดรูปแบบเฉพาะองคก์ ร Organizational Quarantine (OQ) 24 - สรปุ ประเดน็ การดาเนนิ การกกั กัน ประเภท 27 Exemption Quarantine (EQ)/Sandbox - สรปุ ประเดน็ การดาเนนิ สถานทกี่ ักกันซ่ึงทางราชการกาหนด รปู แบบทางเลอื ก Alternative Quarantine (AQ) รปู แบบปกติ State Quarantine (SQ ภาคผนวก
1 บทนา นับตั้งแต่โรค COVID-19 หรือไวรัสโคโรนา 2019 มีการระบาดในวงกว้างในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแตเ่ ดอื น ธันวาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา โดยเร่ิมต้นจากเมืองอู่ฮ่ัน มณฑลหูเป่ย ท่ีเกิดจากเช้ือไวรัส COVID-19 ซ่ึงเปน็ โรคตดิ ต่อทางเดินหายใจท่ีสามารถแพร่กระจายได้ง่าย รวดเร็ว และขยายไปเมืองอ่ืน ๆ ของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ข้อมูล ณ เวลา ๑๐.๐๐ น. วันท่ี ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ ๒๕๖๓ มีรายงานผู้เสียชีวิต ๑,๓๖๖ คน จาก ๕๙,๘๓๔ คน ที่ได้รับการยืนยันติดเช้ือไวรัสโคโรนา และอีก ๑๖,๐๖๗ คน ท่ีสงสัยว่าติดเช้ือไวรัสโคโรนา ต่อมาองค์การอนามัยโลกไดป้ ระกาศการแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรัส COVID-19 ท่ีเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาชน จีน ให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) และในเวลาต่อมาวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๓ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศโรคติดเชื้อ COVID-19 ระบาดใหญ่ (Coronavirus Pandemic) เนือ่ งจากมีจานวนผปู้ ่วยเพ่ิมข้ึนนอกเหนือจากประเทศจีนซ่ึงเริ่มมีการ แพร่กระจายไปยังต่างประเทศเป็นจานวนมากอย่างรวดเร็ว ได้แก่ เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน สเปน ฝรั่งเศส อีกท้ังยังพบผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกเพ่ิมขึ้นโดยเฉลี่ยวันละประมาณ ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ ราย และยังมีผู้เสียชีวิต จากการติดเช้ือไวรัส COVID-19 เพ่ิมข้ึนวันละประมาณ ๒๐๐ – ๓๐๐ ราย อัตราการเสียชีวิตจากโรคติดเช้ือ ไวรัสโคโรนา 19 ประมาณ ร้อยละ ๓.๕ ซ่ึงจากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทาให้มีการเร่ิมใช้มาตรการบางอย่างที่ไม่ เคยทามาก่อนเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เช่น การยกเลิกการชุมนุม และจากัดจานวนคน ในพื้นที่สาธารณะ (เช่น สถานีรถไฟ และสนามบิน) มาตรการควบคุมเหล่าน้ีอาจก่อให้เกิดความกลัว และ ต่ืนตระหนกต่อประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตีตรา (Stigmatization) และ การถูกแยกกัก (Social Isolation) ในผู้ป่วยท่ียืนยันติดเช้ือ และ ผู้สัมผัสเส่ียงสูง อีกท้ังการระบาดคร้ังนี้ยังก่อให้เกิดผลกระทบทาง สังคม และเศรษฐกิจเป็นวงกว้างในระยะเวลาต่อมาการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้มีการแพร่กระจาย ไปทวั่ โลกอยา่ งรวดเร็วโดยการแพร่กระจายเช้ือจากคนสู่คนผ่านละอองฝอยขนาดเล็ก ประเทศไทยพบผู้ติดเช้ือ COVID-19 รายแรกเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าในประเทศไทยเมื่อ วันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓ หลังจากน้ัน วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยชาวไทยราย แรกอาชีพขับรถแท็กซ่ีซ่ึงไม่เคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศแต่มีประวัติขับรถแท็กซ่ีให้บริการกับผู้ป่วย ชาวจีน ในระยะตอ่ มาได้พบการแพรร่ ะบาดใหญ่โดยเป็นการติดเช้ือเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) คือการแพร่ระบาด ในสนามมวย และสถานบันเทิงในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครฯ ซ่ึงเป็นพื้นท่ีท่ีมีการรวมกลุ่มคนค่อยข้างจานวนมาก และมีความแออัดประกอบกับในระยะเวลาดังกล่าวมีการประกาศจากรัฐบาลปิดเมือง (Lock Down) ในพื้นท่ี กรุงเทพมหานครฯ จึงเกิดการเคลื่อนย้ายของประชากรออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทาให้ผู้สัมผัสเช้ือกระจาย ออกไปยังตา่ งจังหวดั จนทาให้ยอดผู้ตดิ เชอื้ ของประเทศไทยเพม่ิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ ตัง้ แตก่ ลางเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ จึงเปน็ เหตุใหร้ ัฐบาลต้องยกระดับการบริการจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศ ให้อยู่ในวงจากัดโดยสั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันภายใน ขอบเขตอานาจหน้าที่ตามกฎหมาย และจัดต้ังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
2 COVID-19 เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เพ่ือยกระดับมาตรการในการเฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้กาหนดมาตรการเร่งด่วนในการ ปอ้ งกนั วกิ ฤตการณจ์ ากโรคตดิ เชอื้ COVID-19 โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะรฐั มนตรี และขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและเอกชนทุกแห่งดาเนินการตามมาตรการดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยมาตรการ ดงั กล่าวแบ่งออกเปน็ ๒ มาตรการสาคัญประกอบด้วย ๑. การป้องกันและสกัดก้ันการนาเช้ือเข้าสู่ประเทศไทย ๒.การยับย้ังการระบาดภายในประเทศ ซ่ึงการยับย้ังการระบาดภายในประเทศ ตามข้อกาหนดออกตามความ ในมาตรา ๙ แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๒) และ มาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ การเดินทางจากต่างประเทศเข้า มาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะเป็นการใช้เส้นทางคมนาคมทางบก ทางน้า และทางอากาศ หรือโดยการใช้ ยานพาหนะไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะอื่นใดเพ่ือเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ย่อมกระทาได้โดยเป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และหลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรีหรือผู้มีอานาจตามกฎหมาย ว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ และกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกาหนดเพื่อการป้องกัน การระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด และจัดระเบียบจานวนบุคคลท่ีเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้อง กับความสามารถของเจ้าหน้าท่ีในการคัดกรองและการจัดสถานท่ีไว้แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต กรมควบคุมโรคจงึ แบง่ รายละเอียดสถานทก่ี ักกันซง่ึ ทางราชการกาหนด เป็น ๔ ประเภท ดังต่อไปน้ี ๑. สถานท่ีกักกันซ่ึงทางราชการกาหนด รูปแบบปกต (State Quarantine) (SQ) หมายถึง สถานท่ีกักกัน ซ่ึงทางราชการกาหนด สาหรับการกักกันผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๗ วัน ตามหลักเกณฑ์และแนวทางท่ีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เป็นผู้กาหนดโดยใช้สถานประกอบการธุรกิจ โรงแรม หรือสถานท่ีที่รัฐกาหนดให้เป็นสถานท่ีกักกัน เพ่ือการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด 19 ในราชอาณาจักรไทย ภายใต้การปฏิบัติการ และควบคุมดูแลโดยหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยหรือ หน่วยงานของรัฐท่ีได้รับมอบหมาย และมีหน่วยงานสังกัด กระทรวงสาธารณสุขกากับดูแลด้านมาตรการและ แนวทางในการปฏิบัติ วัตถุประสงค์ เพ่ือดาเนินการกักกัน หรือคุมไว้สังเกตบุคคลท่ีเป็นผู้สัมผัสเส่ียงสูง (Higt Risk Contact) ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระบุกลุ่มภารกิจมาตรฐานการกักกัน (Quarantine) ศูนย์ปฏิบัตกิ ารภาวะฉกุ เฉนิ กรมควบคมุ โรค ๒. สถานที่กักกันซ่ึงทางราชการกาหนด รูปแบบทางเลือก (Alternative Quarantine) (AQ) หมายถึง สถานทก่ี ักกันซ่งึ ทางราชการกาหนด สาหรับการกักกันผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นระยะเวลาไม่น้อย กว่า ๗ วัน ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเป็นผู้กาหนดโดยใช้สถาน ประกอบการธุรกิจโรงแรม หรือสถานที่ท่ีเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกาหนดให้เป็นสถานท่ีกักกันเพื่อการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด 19 ในราชอาณาจักรไทยโดยผู้กักกันตนยินยอมชาระค่าใช้จ่ายเอง ทั้งหมดระหว่างการกักกันโดยสมัครใจซึ่งมีหน่วยงานภาคเอกชน เป็นผู้ให้บริการและดาเนินการภายใต้ การควบคุมดูแลของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข หรือคณะกรรมการโรคติดต่อระดับ จังหวัด
3 ๓. สถานที่กักกันซ่ึงทางราชการกาหนดรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) (OQ) หมายถึง สถานที่กักกันซึ่งทางราชการกาหนด สาหรับผู้เดินทางทางเข้ามาในราชอาณาจักรท่ีดาเนินการโดย องค์กร หรือหน่วยงานทงั้ ภาครฐั และเอกชน โดยใช้สถานประกอบการธุรกิจโรงแรม หรือสถานท่ีท่ีรัฐกาหนดให้ เป็นสถานที่กักกันเพ่ือการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด 19 ตามหลักเกณฑ์แนวทางท่ีคณะกรรมการ โรคติดต่อแห่งชาติเป็นผู้กาหนดโดยองค์กรหรือหน่วยงานน้ันเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการและค่าใช้จ่าย ท้ังหมดในการดาเนินการกกั กัน แบง่ เป็น ๓ ประเภท ดังน้ี ๓.๑ “Organizational Quarantine ประเภท ก” หมายถึง สถานท่ีกักกันซ่ึงทางราชการกาหนด ในรูปแบบเฉพาะองค์กรที่จัดขึ้นในลักษณะสถานท่ีพักแบบเดี่ยวมีส่ิงจาเป็นในการดารงชีวิตสนับสนุนให้เป็น รายบุคคล และไม่มีการรวมกลมุ่ เพือ่ ทากิจกรรมใด ๆ ๓.๒ “Organizational Quarantine ประเภท ข” หมายถึง สถานที่กักกันซ่ึงทางราชการกาหนด ในรูปแบบเฉพาะองค์กรท่ีจัดขึ้นในสถานท่ีพักหรืออาคารถาวร ลักษณะการนอนรวมกันเป็นกลุ่ม และใช้พ้ืนท่ี ส่วนกลางร่วมกัน เช่น ห้องน้า ห้องอาบน้า ห้องทางาน เป็นต้น หรือลักษณะสถานท่ีพักแบบเด่ียวแต่มีการ รวมกลุ่มเพือ่ ทากิจกรรมใด ๆ ร่วมกัน ๓.๓ “Organizational Quarantine ประเภท ค” หมายถึง สถานท่ีกักกันซ่ึงทางราชกาหนดใน รูปแบบเฉพาะองค์กรท่ีจัดตั้งขึ้นในพื้นท่ีโครงสร้างช่ัวคราว มีลักษณะการนอนรวมกันเป็นกลุ่ม และใช้พื้นท่ี สว่ นกลางร่วมกนั เชน่ ห้องนา้ หอ้ งอาบน้า สถานทีป่ ระกอบอาหารสถานท่ที างาน เปน็ ตน้ ๔. สถานท่ีกกั กันซึ่งทางราชการกาหนด รูปแบบสถานพยาบาล (Hospital Quarantine) (HQ) แบง่ เปน็ ๒ ประเภท ดงั นี้ ๔.๑ Hospital Quarantine (HQ) รับผิดชอบโดยโรงพยาบาลภาครัฐ หมายถึง สถานที่กักกันซึ่งทาง ราชการกาหนด สาหรบั ผเู้ ดินทางทีไ่ ม่สามารถเขา้ กักกันในสถานท่ีกักกันฯ อ่ืน ๆ ได้ด้วยเหตุผล ด้านการแพทย์ ภายใต้การประเมิน ๖ แนวทางการบริหารจัดการการควบคุมโรคในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกาหนด GUIDELINE FOR DISEASE CONTROL IN QUARANTINE FACILITIES และสั่งการโดยแพทย์ที่มีอานาจ รับผิดชอบ กาหนดโดยรัฐ หรือการกักกันผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเข้ารับการ รักษาพยาบาล ซึ่งได้มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้ากับโรงพยาบาลของรัฐโดยใช้สถานพยาบาลที่รัฐกาหนดให้เป็น สถานท่ีกักกันโรค เฝา้ ระวัง ป้องกนั และควบคมุ โรคติดเชอ้ื ไวรัสโควิด 19 พร้อมกับการรักษาพยาบาลตามกลุ่ม โรค/อาการ/หัตถการตามท่ีนัดหมายเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน ตามหลักเกณฑ์ และแนวทางท่ีรัฐ กาหนดโดยยนิ ยอมชาระค่าใช้จา่ ยเองทั้งหมดระหวา่ งกักกันตนโดยสมัครใจ ท้ังนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และการกักกันตัวในสถานพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็นไปตามสิทธ์ิรวมทั้งให้ชาระส่วนเกินสิทธ์ิด้วย ตนเองโดยสมคั รใจ ๔.๒ Alternative Hospital Quarantine (AHQ) รับผิดชอบโดยโรงพยาบาลภาครัฐ หมายถึง การ กักกันผู้เดินทางท่ีไม่สามารถเข้ากักกันในสถานท่ีกักกันฯ อื่น ๆ ได้ด้วยเหตุผลด้านการแพทย์ (ภายใต้การ ประเมินและสั่งการโดยแพทย์ท่ีมีอานาจรับผิดชอบ กาหนดโดยรัฐ) หรือการกักกันผู้เดินทางต่างชาติเข้ามา
4 ในราชอาณาจักรโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ซ่ึงได้มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าโดยใช้ สถานพยาบาลท่ีรัฐกาหนดให้เป็นสถานท่ีกักกัน เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเช้ือไวรัสโควิด19 พร้อมกับการรักษาพยาบาลตามกลุ่มโรค อาการ หัตถการตามที่นัดหมาย เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่รัฐกาหนด โดยยินยอมชาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดระหว่างกักกันตนโดยสมัครใจ ท้ังน้ีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการกักกันตัวในสถานพยาบาลให้เป็นไปตามสิทธ์ิรวมทั้งให้ชาระ ส่วนเกินสทิ ธิ์ด้วยตนเองโดยสมัครใจ จากเหตกุ ารณแ์ พร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมาทาให้ส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อประชนในเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การจ้างงาน และการดารงชีวิต ซึ่งการระบาดครั้งนี้จะสามารถสกัดกั้นได้ ต้องมีระบบด้านสาธารณสุขท่ีเข้มแข็งแสดงให้เห็นถึงความสาคัญทางด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมากจึง จาเป็นต้องมีการดาเนนิ การดา้ นสาธารณสุข พรอ้ มท้งั มีมาตรการทางสังคมที่สอดคล้อง และเหมาะสมอย่างเช่น มาตรการ D-M-H-T-T-A สาหรับมาตรการ D-M-H-T-T-A ได้แก่ D = Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเล่ียงการสัมผัสกับผู้อื่น M=Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H = Hand washing ล้างมือบอ่ ยๆ จดั ใหม้ ีจุดบรกิ ารเจลลา้ งมอื อย่างทว่ั ถึงเพยี งพอ T = Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ ร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการท่ีอาจไม่สบาย T = Testing ตรวจหาเช้ือโควิด 19 และ A = Application ติดต้ังและใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกคร้ัง การ ป้องกัน รวมถึงการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยผลงานการสกัดก้ันการติดเช้ือของโรคCovid 2019 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ได้รับรางวัล Winner ระดับประเทศในหัวข้อเร่ือง \"Intelligent Sustainable In Publice Health Emergency System In Thailand” วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ณ เมอื งดูไบ สหรฐั อาหรับเอมิเรตส์ โดยผลการประเมินจะใช้เคร่ืองมือดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพโลก (Global Health Security Index) โดยมีตัวช้ีวัดได้แก่ การป้องกัน การตรวจจับการตอบสนอง ระบบสุขภาพ มาตรฐาน และความเสี่ยงซ่ึงตัวชี้วัดท่ีเก่ียวข้องโดยตรงกับระบบนั้นประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็น ประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความม่ันคงด้านสุขภาพ เป็นอันดับที่ ๕ จากท้ังหมด ๑๙๕ ประเทศ อีกทั้งเป็น ประเทศกาลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับ Top 10 ของโลก และที่ ๑ ของเอเชียท่ีมีความพร้อม ในการรับมอื การระบาดของโรคมากท่ีสุดซ่ึงมีเพียง ๑๓ ประเทศทั่วโลกเท่านั้น อีกทั้งยังมีการพัฒนามาตรฐาน สถานที่กักกันอย่างต่อเน่ืองจึงเป็นที่มาในการถอดบทเรียนนามาจัดทาคู่มือแนวทางบริหารจัดการควบคุมโรค ในสถานทกี่ ักกันซง่ึ ทางราชการกาหนด เพื่อจัดการภาวะระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 เพ่ือควบคุมป้องกัน โรค มิให้แพร่กระจายไปสู่ชุมชนเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจึงมี ความจาเป็นที่จะต้องมีการทบทวนและปรับปรุงมาตรการ คาแนะนา แนวทางการดาเนินงานให้สอดคล้อง ทันเวลาเหมาะสมกับบริบทของสังคม และสถานการณ์เพ่ือป้องกันการระบาดของโรคจากผู้เดินทางเข้าสู่ ราชอาณาจักรอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพเพ่ือให้หน่วยงาน บุคลากร และประชาชนทั่วไปได้ใช้ ประโยชน์เพื่อการคุ้มครอง ป้องกันสุขภาพ โดยสามารถนาคู่มือมาใช้ประกอบการดาเนินงานบริหารจัดการ สถานทกี่ ักกนั โรคท่ที างราชการกาหนด (Quarantine) ทงั้ ในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพ และ ประสิทธผิ ลในลาดับถดั ไป
5 บทท่ี ๑ ในปัจจุบันหน่วยงานต่างๆท้ังภาครัฐและเอกชนได้ให้ความสาคัญกับการเรียนรู้มากขึ้นโดยเห็นว่า องค์กรที่จะพัฒนาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ได้ต้องนากระบวนการจัดการความรู้ไปใช้พัฒนา การทางานใน องค์กร และวิธีการจัดการความรู้ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง คือ การถอดบทเรียน (Lesson distilled) แนวทางการถอดบทเรียนในเอกสารชุดน้ีได้แนวคิดจากคู่มือการถอดบทเรียนโครงการพัฒนาชุมชน และ เอกสารอื่นๆ ซงึ่ มปี ระเดน็ ทน่ี า่ สนใจพอสรปุ ไดด้ งั น้ี ความหมายของการถอดบทเรยี น การถอดบทเรียน คือ การทบทวนหรือสรุปประสบการณ์การทางานท่ีผ่านมาในแง่มุมต่างๆเพื่อให้เห็นถึง รายละเอียดของเหตุปัจจัยท้ังภายในและภายนอกซึ่งทาให้เกิดผลอย่างท่ีเป็นอยู่ในปัจจุบันทั้งท่ีสาเร็จหรือ ล้มเหลว หรืออาจกล่าวได้ว่าเราถอดบทเรียนก็เพ่ือสืบค้นความรู้จากการปฏิบัติงานโดยใช้วิธีการสกัดความรู้ และประสบการณ์ท่ีฝังลึกจากกลุ่มเป้าหมายที่ได้ร่วมการปฏิบัติงาน พร้อมท้ังบันทึกรายละเอียดข้ันตอนการ ปฏบิ ัติงาน ผลการปฏิบตั ิงาน และความรูใ้ หม่ๆท่ีเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานทั้งท่ีสาเร็จหรือล้มเหลวเพ่ือเป็น แนวทางในการปรบั ปรุงการปฏบิ ัติงานให้บรรลเุ ป้าหมาย และสามารถเผยแพรศ่ กึ ษาเรียนรู้ได้ รูปแบบการถอดบทเรยี น การถอดบทเรียนโดยทั่วไปมี ๒ รูปแบบ คือ ๑. การถอดบทเรยี นเฉพาะประเดน็ เป็นการถอดบทเรียนท่เี น้นเฉพาะกิจกรรมสาคัญของโครงการ และ สามารถนาผลการถอดบทเรียนจากกิจกรรมน้นั ๆไปใช้ประโยชนใ์ นพัฒนาโครงการให้ประสบความสาเรจ็ ใน อนาคต (Best Practice) ๒. การถอดบทเรียนทง้ั โครงการ เปน็ การถอดบทเรียนท้ังระบบ โดยเริ่มต้งั แต่ความเปน็ มาของโครงการ กระบวนการดาเนินงาน และผลลพั ธเ์ มอ่ื สน้ิ สดุ โครงการ การถอดบทเรยี นทั้ง ๒ ลกั ษณะ ต้องใช้การวิเคราะห์เชิงลึก เช่น วเิ คราะห์ดว้ ย SWOT เพ่อื ศึกษาปจั จัยและ เงื่อนไขทน่ี าไปสู่ผลของการดาเนินโครงการ ข้ันตอนการถอดบทเรยี น ขน้ั ตอนการถอดบทเรยี นมี ๔ ข้นั ตอนหลกั ดังนี้ ๑. ขัน้ เตรียมการถอดบทเรียน ๒. ขน้ั ดาเนินการถอดบทเรยี น ๓. ข้ันเขยี นรายงานการถอดบทเรยี น ๔. ข้ันตดิ ตามการนาบทเรียนไปใชป้ ระโยชน์ ๑. ข้นั เตรียมการถอดบทเรยี น ๑.๑ สร้างทีมงานถอดบทเรยี นทมี่ คี วามรู้ความสามารถในการปฏบิ ัติงานไดจ้ รงิ ประมาณ ๓-๖ คน พร้อมทัง้ ทา คาสัง่ แตง่ ต้ังเป็นลายลักษณอ์ ักษรและประชาสัมพันธ์ให้ผทู้ ี่เกย่ี วขอ้ งทราบ
6 ๑.๒ เรยี นร้ทู มี งานถอดบทเรยี นโดยสรา้ งความสัมพันธท์ ่ดี ีให้เกิดข้ึนภายในทีมงาน เนน้ การเคารพซ่ึงกนั และกัน ไว้วางใจซง่ึ กนั และกนั และความเท่าเทยี มกัน ๑.๓ วิเคราะหโ์ ครงการ เพือ่ ให้ทมี งานมีความเขา้ ใจตรงกันในแตล่ ะหวั ข้อในโครงการ ได้แก่ หลกั การและ เหตุผลของโครงการ วตั ถุประสงคข์ องโครงการ กลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนการดาเนินงานและกิจกรรมในโครงการ ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน และงบประมาณ ๑.๔ กาหนดบทบาทหน้าทีข่ องทมี งานถอดบทเรยี น ซึ่งประกอบดว้ ยดงั นี้ หวั หนา้ ทีมหรือผู้เอ้ือ เปน็ ผูท้ ่ีทาใหก้ ารถอดบทเรยี นดาเนินงานได้อย่างราบรื่นและบรรลเุ ปา้ หมายทก่ี าหนด - ผูอ้ านวยกระบวนการ เปน็ ผูท้ ่กี ระตุ้นให้ผู้ร่วมถอดบทเรียนไดแ้ ลกเปลย่ี นประสบการณแ์ ละความคิดเห็น จากกจิ กรรมท่ีไดป้ ฏบิ ตั ิ ดังนั้น จึงต้องมีทกั ษะในการตงั้ คาถามที่ กระตนุ้ ใหผ้ ู้ร่วมถอดบทเรียนได้วิเคราะห์ สาเหตุของความสาเรจ็ และอุปสรรคที่เกดิ ขน้ึ ในการปฏิบตั ิงาน - ผู้จดบนั ทกึ เป็นผจู้ ดบันทึกการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ประสบการณ์ การอภปิ รายของผ้รู ่วมถอดบทเรยี น พร้อมทงั้ เขยี นเรียบเรยี งเป็นเร่ืองราวใหน้ า่ สนใจตง้ั แต่เร่ิมต้นจนสน้ิ สดุ โครงการ - ผู้ประสานงาน เปน็ ผชู้ ว่ ยเหลอื ให้ทีมงานถอดบทเรยี นมคี วามสะดวกในการติดตอ่ ระหว่างสมาชิกทีมงาน ถอดบทเรยี นเพ่ือใหส้ ามารถทางานรว่ มกันได้อย่างดี รวมทงั้ ประสานความร่วมมือจากบคุ คลภายนอกที่ เก่ียวขอ้ งกบั การถอดบทเรียน ๑.๕ จัดทา แผนภมู โิ ครงรา่ งกระบวนการถอดบทเรียนซ่ึงประกอบด้วยประเดน็ ต่างๆ ดังนี้ ๑.๕.๑ หวั ข้อกิจกรรมที่ต้องการถอดบทเรยี น ๑.๕.๒ กาหนดกลุม่ เป้าหมายที่เข้ารว่ มการถอดบทเรียน ๑.๕.๓ เลือกวิธกี ารถอดบทเรียนทใี่ หเ้ หมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย ๑.๕.๔ กาหนดขนั้ ตอนในการถอดบทเรียนตามลาดับกอ่ นหลงั ๑.๕.๕ กาหนดประเด็นคาถามทช่ี ดั เจน โดยเรยี งลาดับตัง้ แต่เริ่มต้นจนกระทัง่ ส้ินสดุ ๑.๕.๖ กาหนดผลลพั ธท์ ่ีเกิดขน้ึ หลงั จากการถอดบทเรียน พร้อมทัง้ จดั ทาเอกสารการ ถอดบทเรียน ๑.๖ เลือกเทคนคิ การถอดบทเรยี น ควรเปน็ เทคนิคทช่ี ว่ ยให้ทีมงานถอดบทเรียนและผรู้ ว่ มถอดบทเรยี นเกิดการ เรยี นรู้ในระหวา่ งการทางานและไดบ้ ทเรยี นพัฒนาวธิ ีการทางานให้ดีข้นึ เช่น เทคนิคการวิเคราะหห์ ลงั การ ปฏิบตั ิ (After Action Review, AAR) ๑.๗ จัดทาปฏิทนิ การถอดบทเรยี น เพ่ือวางแผนการดาเนินการถอดบทเรียนของแต่ละกิจกรรมตงั้ แตเ่ ร่ิมต้นจน ส้ินสดุ การดาเนนิ ดาโดยหวั ข้อทค่ี วรปรากฏในปฏิทินการถอดบทเรยี นไดแ้ ก่ ลาดับท่ีของกิจกรรม ประเด็น กิจกรรม ระยะเวลาในการดาเนินงานแตล่ ะกิจกรรม ผ้รู ับผิดชอบกิจกรรม และวสั ดุอุปกรณท์ ตี่ อ้ งใชใ้ นกจิ กรรม ๒.ขัน้ ดาเนนิ การถอดบทเรียน ทมี งานควรแจง้ กาหนดการ ระยะเวลาและสถานที่ที่จะดาเนินการถอดบทเรียนให้กลุ่มเป้าหมายที่ร่วมถอด บทเรยี นทราบล่วงหนา้ ในขนั้ นปี้ ระกอบดว้ ย ๒ ข้นั ตอนย่อย คือ การถอดบทเรียน และการบนั ทกึ บทเรียน ๒.๑ การถอดบทเรียนมีขนั้ ตอนทสี่ าคัญ ๕ ขัน้ ตอน คอื
7 ๒.๑.๑ การสร้างบรรยากาศ เพื่อใหผ้ เู้ ข้ารว่ มการถอดบทเรียนมีความผ่อนคลายเป็นกันเอง ซึ่งอาจใช้ เพลงหรือเกมในการละลายพฤตกิ รรมรวมท้ังผอู้ านวยกระบวนการควรชี้แจงถึงความเสมอภาคและสิทธใิ นการ ร่วมแสดงความคดิ เห็นของผรู้ ว่ มการถอดบทเรยี น ๒.๑.๒ การกาหนดกติกาในการถอดบทเรียนอย่างมีสว่ นรว่ ม โดยกติกาควรครอบคลมุ ประเดน็ ท่ีสาคัญ ดังนี้ ๑) เป้าหมายการถอดบทเรยี นคืออะไร มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ืออะไร ๒) วธิ กี ารถอดบทเรยี นใช้วิธีอะไร เชน่ ใช้การระดมความคดิ เหน็ เน้นการแลกเปลย่ี นความ คิดเห็น และไมโ่ ต้เถียงหรือทะเลาะวิวาท ๓) หนา้ ทข่ี องผ้รู ่วมถอดบทเรียนเป็นอยา่ งไร เชน่ ทุกคนให้ข้อเสนอแนะ ยอมรับความจริง และ เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงงานให้ดขี ้ึน ๔) ข้อพงึ ระวงั ในการถอดบทเรียนควรเป็นอยา่ งไร เช่น ไม่ตาหนิ และไม่ประเมินผลการ ปฏิบัตงิ านของผ้รู ่วมถอดบทเรยี น ๒.๑.๓ การจดั กจิ กรรมอนุ่ เครื่อง ผอู้ านวยกระบวนการช้ีแจงใหผ้ รู้ ว่ มถอดบทเรยี นเข้าใจวตั ถุประสงค์ และวิธดี าเนนิ กจิ กรรมเพ่ือให้สามารถทบทวนความทรงจาจากการเข้าร่วมกจิ กรรมทผ่ี ่านมา ๒.๑.๔ การเขา้ สูป่ ระเด็นสาคัญของการถอดบทเรยี นเปน็ ขน้ั ตอนสาคญั ในการสกดั ความร้จู ากผรู้ ว่ มถอด บทเรียนโดยมขี ้นั ตอนดังนี้ ๑) การเล่าประสบการณจ์ ากวธิ กี ารปฏิบตั ิงานของผ้รู ว่ มถอดบทเรยี น ๒) การเปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งวิธกี ารปฏบิ ตั ิงานท่ีกาหนดในแผนปฏบิ ตั ิงานกบั วธิ ีการปฏบิ ตั ิงานจริง ๓) การวเิ คราะห์ผลการปฏบิ ตั งิ านท่ีทาได้เป็นอยา่ งดี ๔) การให้ข้อเสนอแนะวธิ ีการปฏิบตั ิงานต่อไปให้ดขี นึ้ ๕) การวิเคราะหอ์ ุปสรรคที่เกิดขึ้นระหวา่ งการปฏบิ ตั ิงาน ๖) การให้ข้อเสนอแนะวิธกี ารป้องกนั ไม่ให้เกิดอปุ สรรคในการปฏบิ ัติงาน ๗) ข้อเสนอแนะในส่ิงท่ีควรทาเพิ่มเติมในการปฏบิ ัตงิ านทผี่ า่ นมา ๘) การประเมินความพึงพอใจผลการปฏบิ ัติงานทผ่ี ่านมา ผู้จดบันทึกตอ้ งจดรายละเอียดของข้อมูลทุกข้ันตอน บันทึกเสียง พร้อมทง้ั สังเกตบรรยากาศในระหว่าง การถอดบทเรียนและจดบนั ทึกไว้ประกอบการจัดทารายงานการถอดบทเรียน ๒.๒ การบันทกึ บทเรียน ประกอบดว้ ย ๓ขั้นตอน คือ ๒.๒.๑ การเตรยี มตวั ก่อนบันทึกบทเรียน เปน็ ขั้นตอนทที่ ่ผี ้จู ดบนั ทกึ ควรเตรยี ม ความพร้อมก่อนบนั ทึก บทเรยี นใน ๔ ประเด็นคือ ๑) ศึกษารายละเอยี ดของโครงการ/กจิ กรรมท่จี ะถอดบทเรยี น ๒) ศึกษารายละเอยี ดการถอดบทเรียนเกยี่ วกบั กรอบแนวคดิ ข้ันตอนการถอดบทเรียน และ ประเด็นคาถามท่ใี ชใ้ นการถอดบทเรียน ๓) จัดเตรียมอุปกรณ์ในการบนั ทึกการถอดบทเรียน และ
8 ๔) เตรยี มความพรอ้ มดา้ นทางด้านรา่ งกายจติ ใจ ๒.๒.๒ การบนั ทกึ ข้อมลู การถอดบทเรียน ที่ต้องจดบันทึกระหวา่ งการถอดบทเรยี น คือ ๑) ขอ้ มลู ข้ันตอนและวธิ ีการจดั กิจกรรมถอดบทเรยี น ๒) ข้อมูลการเลา่ เรื่อง การวิเคราะห์ และการอภปิ รายของผ้รู ่วมถอดบทเรยี น ๓) ขอ้ มลู บรรยากาศของระหวา่ งการถอดบทเรยี น ๒.๒.๓ การสรุปและรายงานการถอดบทเรียน ผจู้ ดบนั ทกึ ต้องอ่านรายงานการถอดบทเรียนใหท้ ่ีประชุม ของผู้รว่ มถอดบทเรียนและทีมงานการถอดบทเรียนไดร้ บั ทราบข้อมูลท่จี ดบนั ทึกไว้เพ่ือให้มีการปรบั แก้และ เพม่ิ เติมให้ข้อมูลมีความสมบรู ณ์ยิง่ ขึน้ โดยบทเรียนท่ีถอดได้ตอ้ งได้รบั การสรุปใหเ้ ห็นอยา่ งนอ้ ย ๒ ประเด็นคอื ๑) อะไรคือสง่ิ ท่ดี อี ยู่แล้วและควรทาต่อไปเพื่อกลับไปวางแผนพัฒนา ลงมือทา แลว้ ตามดว้ ยการ วจิ ยั ให้กา้ วหนา้ ตอ่ เนื่องเปน็ D&R (Development and Research) ๒) อะไรคอื สิง่ ทย่ี งั บกพรอ่ งเปน็ จุดอ่อน และควรจะปรับปรุงอยา่ งไร มีความรู้พอทจ่ี ะปรบั ปรุง หรือไม่ ถา้ ไม่ ควรทาวจิ ยั เพื่อหาแนวทางปรับปรุงเป็นการวจิ ัยแล้วพฒั นา แบบR&D (Research & Development) ทั้งนี้ D&Rและ R&D ควรเป็นการวิจยั แบบ PAR (Participatory Action Research) ทเ่ี น้นกระบวนการเรยี นรู้ ของคนทง้ั หมด ๓.ขั้นเขียนรายงานการถอดบทเรยี น ในข้ันตอนนคี้ วรแบง่ เปน็ ๓ หวั ข้อ หลัก ดังนี้ ๓.๑ ความเปน็ มาของโครงการ/กิจกรรมท่จี ะถอดบทเรยี น วัตถปุ ระสงคข์ องการถอดบทเรยี น ๓.๒ การเตรยี มการถอดบทเรยี น เปน็ การเล่ารายละเอยี ดของขน้ั ตอนต่างๆ ในขอ้ ๑.๑-๑.๗ ซึง่ ได้แก่ วิธกี าร ทมี งาน บทบาทหนา้ ท่ี กรอบแนวคิด เทคนคิ การถอดบทเรียน กลมุ่ เป้าหมายท่ีรว่ มถอดบทเรยี น และปฏทิ นิ การการถอดบทเรียน ๓.๓ เนอ้ื เร่ืองการดาเนินการถอดบทเรยี น เป็นการเล่ารายละเอยี ดในขอ้ ๒.๑.๔ ซง่ึ ครอบคลมุ - ประสบการณ์จากวิธีการปฏบิ ัตงิ านจริงของผู้ร่วมถอดบทเรยี น - วธิ กี ารปฏิบตั งิ านทีก่ าหนดในแผนปฏบิ ัตงิ าน - เปรยี บเทียบความแตกต่าง - สิง่ ทท่ี าได้เป็นอยา่ งดีจากการปฏบิ ัติ - ข้อเสนอแนะวธิ ีการปฏิบัติงานตอ่ ไปใหด้ ขี ้นึ - ปญั หาอปุ สรรคทเ่ี กิดขน้ึ ระหว่างการปฏิบัตงิ าน - ขอ้ เสนอแนะวธิ ีการปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กิดอุปสรรคในการปฏบิ ัติงาน - ข้อเสนอแนะในส่งิ ท่ีควรทาเพมิ่ เตมิ ในการปฏิบัติงานทผี่ ่านมา - ประเมนิ ความพงึ พอใจผลการปฏบิ ตั ิงานที่ผา่ นมา
9 ๔.ขั้นตดิ ตามการนาบทเรยี นไปใชป้ ระโยชน์ ในขน้ั ตอนนี้ใหค้ วามสาคญั กบั การนาบทเรียนท่ีเรียนรู้จากการปฏบิ ัตงิ านไปใช้เพ่อื ให้การปฏิบัตงิ านต่อไปมี ประสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธผิ ลมากยิง่ ขน้ึ ดังน้นั หัวหน้าทีมหรอื ผู้เอื้อควรได้มีการนิเทศกากับติดตามการ ดาเนนิ งานอย่างต่อเน่ืองเป็นระยะๆเพื่อตรวจสอบวา่ ได้มกี ารนาบทเรียนไปใช้ประโยชน์หรือไมเ่ พยี งไร เพราะอะไร ทม่ี า : ดร.รัตนา ดวงแกว้ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพท.กทม.๑ แหล่งขอ้ มูล : คมู่ อื การถอดบทเรยี นโครงการพัฒนาชมุ ชน (Online). Retrieved September 1st, 2008, from
10 บทท่ี ๒ วธีการถอดบทเรียน ในปัจจุบันหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนได้ให้ความสาคัญกับการเรียนรู้มากข้ึนโดยเห็นว่า องค์กรท่ีจะพัฒนาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ได้ ต้องนากระบวนการจัดการความรู้ไปใช้พัฒนาการทางานใน องค์กร การถอดบทเรียน (Lesson distilled) เป็นวิธีการจัดการความรู้แบบหนึ่งท่ีได้รับความนิยมอย่าง กวา้ งขวาง กลุ่มเป้าหมายในการถอดบทเรียนคร้ังนี้คือ บุคลากรท่ีได้รับมอบหมายหน้าท่ีเก่ียวกับการขอจัดต้ัง ประเมินพ้ืนท่ี และติดตามการดาเนินงานสถานที่กักกันท่ีทางราชการกาหนดท้ังในส่วนของกรมควบคุมโรค สานกั งานสาธารณสุขจังหวดั ชลบรุ แี ละสระแกว้ ระยะเวลาในการดาเนนการ ระหว่างวันท่ี ๒๔ - ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรม ทเี ค พาเลซ แอนด์ คอน เวนชั่น กรงุ เทพมหานคร เคร่ืองมือท่ีใช้ในการถอดบทเรียน เป็นการถอดบทเรียนหลังการปฏิบัติงาน โดยแนวทางการถอด บทเรียนในเอกสารชุดนี้ได้แนวคิดจากคู่มือการถอดบทเรียนโครงการพัฒนาชุมชน และเอกสารการถอด บทเรียนสถานท่ีกักกันที่ทางราชการกาหนดประเภท ข ท่ีกรมควบคุมโรคมีการดาเนินงาน ซึ่งมีประเด็นท่ี น่าสนใจพอสรุปได้ดังน้ี การถอดบทเรยี น คือ การทบทวนหรอื สรปุ ประสบการณ์การทางานท่ีผ่านมาในแง่มุมต่างๆเพ่ือให้เห็น ถึงรายละเอียดของเหตุปัจจัยท้ังภายในและภายนอกทั้งที่สาเร็จหรือล้มเหลว ทาให้เกิดผลอย่างที่เป็นอยู่ใน ปัจจุบนั อาจกลา่ วไดว้ า่ การถอดบทเรียนเป็นการสืบค้นความรู้จากการปฏิบัติงานโดยใช้วิธีการสกัดความรู้และ ประสบการณ์ที่ฝังลึกจากผู้ปฏิบัติงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งบันทึกรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ผลการปฏิบัติงาน และความรใู้ หม่ๆที่เกดิ ขน้ึ ระหวา่ งการปฏบิ ตั ิงานทงั้ ท่ีสาเร็จหรือล้มเหลว เพื่อเป็นแนวทางใน การปรับปรุงการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย และสามารถเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลให้แก่ผู้ที่สนใจ ทาการศึกษา เรยี นรู้ รปู แบบการถอดบทเรยี นการถอดบทเรียนโดยทว่ั ไปมี ๒ รูปแบบ คือ ๑. การถอดบทเรียนเฉพาะประเด็น เป็นการถอดบทเรียนที่เน้นเฉพาะกิจกรรมสาคัญของการ ดาเนินงาน และสามารถนาผลการถอดบทเรียนจากกิจกรรมน้ันๆไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ข้ันตอน วธิ กี ารดาเนนิ งานให้ประสบความสาเร็จในอนาคต (Best Practice) ๒. การถอดบทเรียนท้ังโครงการ เป็นการถอดบทเรียนท้ังระบบ โดยเริ่มต้ังแต่ความเป็นมาของ โครงการ กระบวนการดาเนนิ งาน และผลลพั ธ์เมอื่ สน้ิ สดุ โครงการ การถอดบทเรียนทั้ง ๒ ลักษณะ ต้องใช้การวิเคราะห์เชิงลึก เช่น วิเคราะห์ด้วย SWOT เพ่ือศึกษา ปัจจัยและเงอ่ื นไขท่นี าไปสผู่ ลของการดาเนินโครงการ โดยการดาเนินงานในคร้ังนี้จะเลือกใช้การถอดบทเรียนเฉพาะกิจกรรมการดาเนินงานสาคัญตาม ตามมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน (Standard Operation Procedures: SOP)
11 ข้ันตอนการถอดบทเรยี น ขน้ั ตอนการถอดบทเรียนมี ๔ ข้ันตอนหลัก ดังน้ี ๑. ขัน้ เตรยี มการถอดบทเรยี น เปน็ การเตรียมความพร้อมกอ่ นการถอดบทเรียน ประกอบไปด้วย ๑.๑ สรา้ งทีมงานถอดบทเรยี นท่มี ีความรู้ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านได้จริง ประมาณ ๓-๖ คน พร้อมทั้งทาคาสงั่ แต่งตง้ั เป็นลายลักษณ์อกั ษรและประชาสัมพันธ์ให้ผทู้ ่เี กยี่ วข้องทราบ ๑.๒ เรียนรู้ทีมงานถอดบทเรียนโดยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นภายในทีมงาน เน้นการ เคารพซ่งึ กันและกัน ไว้วางใจซง่ึ กันและกัน และความเท่าเทียมกนั ๑.๓ วิเคราะห์โครงการ เพ่ือให้ทีมงานมีความเข้าใจตรงกันในแต่ละหัวข้อในโครงการ ได้แก่ หลักการและเหตุผลของโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการ กลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนการดาเนินงานและ กิจกรรมในโครงการ ระยะเวลาในการดาเนินงาน และงบประมาณ ๑.๔ กาหนดบทบาทหน้าที่ของทมี งานถอดบทเรยี น ซ่ึงประกอบดว้ ยดงั น้ี - หวั หน้าทีมหรอื ผ้เู อื้อ เปน็ ผู้ทีท่ าใหก้ ารถอดบทเรียนดาเนินงานได้อย่างราบรน่ื และ บรรลเุ ป้าหมายทกี่ าหนด - ผอู้ านวยกระบวนการ เป็นผู้ที่กระต้นุ ใหผ้ ู้ร่วมถอดบทเรยี นไดแ้ ลกเปลยี่ น ประสบการณ์และความคดิ เห็นจากกจิ กรรมทไี่ ดป้ ฏิบัติ ดังนั้น จึงตอ้ งมีทักษะในการตัง้ คาถามท่ี กระต้นุ ให้ ผรู้ ่วมถอดบทเรยี นได้วเิ คราะห์สาเหตขุ องความสาเร็จและอปุ สรรคท่ีเกดิ ข้นึ ในการปฏิบัติงาน - ผจู้ ดบนั ทกึ เป็นผจู้ ดบนั ทกึ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ ประสบการณ์ การอภปิ รายของ ผรู้ ว่ มถอดบทเรยี น พรอ้ มท้ังเขยี นเรยี บเรยี งเป็นเรื่องราวให้น่าสนใจต้งั แต่เร่ิมต้นจนสน้ิ สุดโครงการ - ผู้ประสานงาน เป็นผชู้ ว่ ยเหลอื ใหท้ มี งานถอดบทเรียนมคี วามสะดวกในการตดิ ต่อ ระหวา่ งสมาชิกทีมงานถอดบทเรยี นเพื่อให้สามารถทางานร่วมกนั ได้อย่างดี รวมท้ังประสานความรว่ มมือจาก บคุ คลภายนอกที่เกี่ยวข้องกบั การถอดบทเรียน ๑.๕ จัดทา แผนภูมิโครงรา่ งกระบวนการถอดบทเรยี นซึ่งประกอบด้วยประเด็นตา่ งๆ ดังน้ี ๑.๕.๑ หัวขอ้ กิจกรรมท่ีต้องการถอดบทเรยี น ๑.๕.๒ กาหนดกลมุ่ เปา้ หมายท่ีเขา้ รว่ มการถอดบทเรียน ๑.๕.๓ เลือกวธิ ีการถอดบทเรียนทใี่ ห้เหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย ๑.๕.๔ กาหนดขัน้ ตอนในการถอดบทเรยี นตามลาดับก่อนหลงั ๑.๕.๕ กาหนดประเดน็ คาถามที่ชัดเจน โดยเรยี งลาดับต้ังแต่เรม่ิ ตน้ จนกระท่ังสิน้ สุด ๑.๕.๖ กาหนดผลลพั ธท์ เี่ กิดขึน้ หลังจากการถอดบทเรยี น พร้อมท้ังจัดทาเอกสาร การถอดบทเรียน ๑.๖ เลือกเทคนิคการถอดบทเรียน ควรเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ทีมงานถอดบทเรียนและผู้ร่วม ถอดบทเรียนเกิดการเรียนรู้ในระหว่างการทางานและได้บทเรียนพัฒนาวิธีการทางานให้ดีข้ึน เช่น เทคนิคการ วเิ คราะหห์ ลงั การปฏบิ ัติ (After Action Review, AAR) ๑.๗ จดั ทาปฏทิ นิ การถอดบทเรยี น เพ่ือวางแผนการดาเนินการถอดบทเรียนของแต่ละกิจกรรม ต้ังแต่เริ่มต้นจนส้ินสุดการดาเนินงาน โดยหัวข้อท่ีควรปรากฏในปฏิทินการถอดบทเรียนได้แก่ ลาดับท่ี
12 ของกิจกรรม ประเด็นกิจกรรม ระยะเวลาในการดาเนินงานแต่ละกิจกรรม ผู้รับผิดชอบกิจกรรม และวัสดุ อปุ กรณ์ทตี่ อ้ งใช้ในกจิ กรรม ๒. ข้ันดาเนินการถอดบทเรียน ทีมงานควรแจ้งกาหนดการ ระยะเวลาและสถานที่ที่จะดาเนินการถอด บทเรียนให้กลุ่มเป้าหมายที่ร่วมถอดบทเรียนทราบล่วงหน้า ในข้ันนี้ประกอบด้วย ๒ ขั้นตอนย่อย คือ การถอด บทเรียน และการบนั ทึกบทเรียน ๒.๑ การถอดบทเรียนมีข้นั ตอนท่ีสาคัญ ๕ ขั้นตอน คือ ๒.๑.๑ การสร้างบรรยากาศ เพ่อื ให้ผู้เขา้ รว่ มการถอดบทเรียนมคี วามผ่อนคลายเป็น กนั เอง ซึ่งอาจใชเ้ พลงหรอื เกมในการละลายพฤติกรรม รวมทัง้ ผู้อานวย กระบวนการควรชี้แจงถึงความเสมอภาคและสทิ ธิในการรว่ มแสดงความ คิดเหน็ ของผรู้ ่วมการถอดบทเรียน ๒.๑.๒ การกาหนดกติกาในการถอดบทเรียนอยา่ งมีส่วนรว่ ม โดยกตกิ าควรครอบคลุม ประเด็นที่สาคัญ ดงั นี้ - เปา้ หมายการถอดบทเรียนคืออะไร มีวตั ถุประสงค์เพื่ออะไร - วธิ กี ารถอดบทเรยี นใชว้ ธิ อี ะไร เช่น ใชก้ ารระดมความคิดเหน็ เน้นการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และไมโ่ ต้เถยี งหรือทะเลาะวิวาท - หนา้ ท่ขี องผ้รู ว่ มถอดบทเรยี นเป็นอย่างไร เชน่ ทกุ คนให้ข้อเสนอแนะ ยอมรบั ความจริง และเสนอแนะแนวทางการปรบั ปรงุ งานใหด้ ี ขนึ้ - ขอ้ พึงระวงั ในการถอดบทเรียนควรเป็นอยา่ งไร เช่น ไม่ตาหนิ และ ไมป่ ระเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานของผรู้ ว่ มถอดบทเรยี น ๒.๑.๓ การจดั กจิ กรรมอุ่นเคร่ือง ผู้อานวยกระบวนการชแ้ี จงใหผ้ ูร้ ว่ มถอดบทเรยี น เขา้ ใจวัตถุประสงคแ์ ละวธิ ดี าเนินกิจกรรมเพื่อให้สามารถทบทวนความทรงจา จากการเข้ารว่ มกิจกรรมทผ่ี ่านมา ๒.๑.๔ การเข้าสู่ประเด็นสาคัญของการถอดบทเรียนเปน็ ข้ันตอนสาคัญในการสกัด ความร้จู ากผรู้ ่วมถอดบทเรียนโดยมขี น้ั ตอนดังนี้ - การเลา่ ประสบการณจ์ ากวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านของผู้รว่ มถอดบทเรยี น - การเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างวิธีการปฏบิ ัตงิ านที่กาหนด ในแผน ปฏิบตั ิงานกบั วิธีการปฏิบตั ิงานจรงิ - การวิเคราะห์ผลการปฏิบัตงิ านทท่ี าได้เป็นอย่างดี - การใหข้ อ้ เสนอแนะวิธกี ารปฏบิ ัติงานต่อไปใหด้ ขี ึน้ - การวิเคราะห์อุปสรรคท่ีเกดิ ขึ้นระหวา่ งการปฏบิ ตั ิงาน - การให้ขอ้ เสนอแนะวธิ กี ารป้องกันไมใ่ ห้เกิดอปุ สรรคในการปฏิบัติงาน - ขอ้ เสนอแนะในสิ่งทคี่ วรทาเพมิ่ เติมในการปฏิบัตงิ านท่ีผา่ นมา - การประเมินความพึงพอใจผลการปฏบิ ัตงิ านทีผ่ ่านมา
13 ผู้จดบันทึกต้องจดรายละเอียดของข้อมูลทุกขั้นตอน บันทึกเสียง พร้อมทั้งสังเกตบรรยากาศในระหว่าง การถอดบทเรียนและจดบนั ทกึ ไวป้ ระกอบการจดั ทารายงานการถอดบทเรยี น ๒.๒ การบันทกึ บทเรยี น ประกอบด้วย ๓ ขนั้ ตอน คอื ๒.๒.๑ การเตรยี มตัวกอ่ นบันทกึ บทเรียน เปน็ ขนั้ ตอนที่ท่ีผู้จดบันทึกควร เตรยี ม ความพร้อมกอ่ นบนั ทึกบทเรียนใน ๔ ประเด็นคือ - ศึกษารายละเอียดของโครงการ/กจิ กรรมท่ีจะถอดบทเรียน - ศึกษารายละเอยี ดการถอดบทเรยี นเก่ียวกบั กรอบแนวคิด ขั้นตอนการ ถอดบทเรียน และประเด็นคาถามทใี่ ชใ้ นการถอดบทเรยี น - จดั เตรียมอุปกรณใ์ นการบนั ทกึ การถอดบทเรียน และ - เตรียมความพร้อมด้านทางด้านร่างกายจติ ใจ ๒.๒.๒ การบนั ทึกข้อมลู การถอดบทเรียน ท่ีต้องจดบันทึกระหวา่ งการถอดบทเรียน คอื - ข้อมลู ข้ันตอนและวิธกี ารจดั กจิ กรรมถอดบทเรยี น - ขอ้ มลู การเล่าเรื่อง การวิเคราะห์ และการอภปิ รายของผู้ร่วมถอดบทเรยี น - ข้อมูลบรรยากาศของระหว่างการถอดบทเรียน ๒.๒.๓ การสรปุ และรายงานการถอดบทเรยี น ผจู้ ดบนั ทกึ ต้องอ่านรายงานการถอด บทเรยี นให้ที่ประชมุ ของผรู้ ่วมถอดบทเรยี นและทมี งานการถอดบทเรียน ได้รบั ทราบข้อมลู ที่จดบันทึกไว้เพื่อให้มีการปรบั แก้และเพ่ิมเติมให้ข้อมูล มีความสมบูรณ์ โดยบทเรียนที่ถอดไดต้ ้องได้รบั การสรปุ ให้เห็นอยา่ งน้อย ๒ ประเด็นคอื - อะไรคอื สิ่งที่ดอี ยู่แล้วและควรทาตอ่ ไปเพื่อกลบั ไปวางแผนพัฒนา ลงมือทา แลว้ ตามด้วยการวิจยั ใหก้ ้าวหนา้ ต่อเน่ืองเปน็ D&R (Development and Research) - อะไรคอื สิง่ ท่ียังบกพร่องเป็นจุดออ่ น และควรจะปรบั ปรุงอยา่ งไร มีความรู้ พอท่จี ะปรบั ปรงุ หรือไม่ ถ้าไม่ ควรทาวิจัยเพอื่ หาแนวทางปรับปรงุ เป็น การวจิ ัยแลว้ พัฒนา แบบR&D (Research & Development) ทง้ั นี้ D&Rและ R&D ควรเปน็ การวิจยั แบบ PAR (Participatory Action Research) ทเ่ี นน้ กระบวนการเรียนรขู้ องคนท้งั หมด ๓. ข้ันเขียนรายงานการถอดบทเรยี น บทเรยี น ในขัน้ ตอนน้ีควรแบง่ เปน็ ๓ หวั ข้อ หลกั ดังนี้ ๓.๑ ความเปน็ มาของโครงการ/กิจกรรมทีจ่ ะถอดบทเรยี น วตั ถุประสงคข์ องการถอด บทเรียน ๓.๒ การเตรียมการถอดบทเรยี น เป็นการเล่ารายละเอยี ดของขนั้ ตอนต่างๆ ในข้อ ๑.๑ -๑.๗ ซึ่งได้แก่ วิธกี าร ทมี งาน บทบาทหน้าที่ กรอบแนวคิด เทคนิคการถอดบทเรยี น กลมุ่ เปา้ หมายทรี่ ว่ มถอด บทเรยี น และปฏิทนิ การการถอดบทเรยี น
14 ๓.๓ เนอ้ื เรอื่ งการดาเนินการถอดบทเรียน เปน็ การเล่ารายละเอยี ดในขอ้ ๒.๑.๔ ซง่ึ ครอบคลุม - ประสบการณจ์ ากวธิ ีการปฏบิ ตั งิ านจริงของผรู้ ว่ มถอดบทเรียน - วธิ ีการปฏบิ ตั งิ านท่ีกาหนดในแผนปฏิบตั งิ าน - เปรียบเทียบความแตกต่าง - สง่ิ ท่ีทาได้เป็นอย่างดจี ากการปฏิบัติ - ข้อเสนอแนะวิธกี ารปฏิบตั งิ านต่อไปใหด้ ีขึน้ - ปัญหาอุปสรรคทีเ่ กิดขน้ึ ระหวา่ งการปฏบิ ัตงิ าน - ขอ้ เสนอแนะวธิ ีการป้องกันไมใ่ ห้เกิดอุปสรรคในการปฏิบัตงิ าน - ขอ้ เสนอแนะในส่งิ ท่ีควรทาเพ่ิมเติมในการปฏบิ ตั ิงานทีผ่ ่านมา - ประเมินความพึงพอใจผลการปฏิบตั งิ านท่ผี ่านมา ๔. ข้ันติดตามการนาบทเรียนไปใช้ประโยชน์ ในข้ันตอนนี้ให้ความสาคัญกับการนาบทเรียนท่ีเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานไปใช้เพอ่ื ให้การปฏบิ ัติงานตอ่ ไปมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากยิ่งข้ึน ดังนั้นหัวหน้า ทีมหรือผู้เอ้ือควรได้มีการนิเทศกากับติดตามการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆเพ่ือตรวจสอบว่าได้มีการ นาบทเรียนไปใช้ประโยชน์หรือไม่เพียงไร เพราะอะไร (ที่มา : ดร.รัตนา ดวงแก้ว ศึกษานิเทศก์ สพท.กทม.๑ แหล่งข้อมูล : คู่มือการถอดบทเรียนโครงการพัฒนาชุมชน (Online). Retrieved September 1st, 2008, from)
15 บทท่ี ๓ ผลการถอดบทเรียน ผลการถอดบทเรียนจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเร่ือง “การพัฒนามาตรฐานของสถานท่ีกักกันทุก ประเภท” เกดิ จากความรู้และประสบการณ์การทางานในสถานท่ีกักกันทุกประเภท ท่ีมีแนวคิดและมุมมองต่างๆ รวมถึงการมองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งท่ีเป็นข้อดีและอุปสรรคต่อการทางานของผู้เข้าร่วมประชุมจากสถานท่ี ต่างๆ ร่วมกับระดมความคิดดึงเอาประสบการณ์การทางาน ออกมาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง ชี้แนะ และ พฒั นาใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน โดยจัดสรุปเปน็ ตารางตอ่ ไปนี้ ตารางที่ ๑ การวิเคราะห์ EQ และ Sand box องค์ประกอบ จดุ แข็ง จดุ อ่อน หมายเหตุ ๑. ดา้ นนโยบาย - กาหนดรายละเอียดข้อปฏิบัติท่ี - นโยบายมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ชัดเจนและมีการเปิดกว้างในการ ตามสถานการณ์โรค ทาให้เกิดการ รองรับผู้เดินทางตามความเส่ียง เช่น สับสนและลดความเช่ือม่ันของผู้ การเปิดระบบ AQ ในผู้เดินทางที่ เดินทางในการเดินทางเข้าประเทศ ได้รับวัคซีนไม่เป็นตามมาตรฐานที่ รวมถึงระยะเวลาในการวางแผน วางไว้ เตรียมความพร้อมในและแต่ละ - มีการกาหนดบทบาทหน้าท่ี หน่ว ยงานในการปรับเปล่ียน หน่วยงานแต่ละภาคสว่ นท่ชี ัดเจน นโยบายน้อย ทาใหแ้ ตล่ ะหนว่ ยงาน - มชี ่องทางการสอื่ สารและติดตาม ไม่สามารถจัดหาทรัพยากรด้าน นโยบายท่ีเป็นปจั จบุ ันใหผ้ ูเ้ กย่ี วข้อง ต่างๆ ในการดาเนินงานท่ีเหมาะสม เข้าถงึ เช่น การระบุนโยบายรับรอง (https://www.thaigov.go.th เอกสารภายในระยะเวลา๓-๗ วัน /news/contents/details/29299) แตม่ ีผูเ้ ดนิ ทางลงทะเบียนมามากว่า ท่ีวางแผนไว้ ทาให้เกิดความล่าช้า ในการกดรับรองตามระยะเวลาที่ ประกาศ - ขาดการแต่งต้ังหน่วยงานที่ รบั ผิดชอบตรวจสอบมาตรฐานตาม นโยบายในแต่ละข้ันตอนและขาด การบังคับใช้บทลงโทษ เช่น ระบบ การติดตามผลการตรวจหาเช้ือคร้ัง ท่ี ๒ ซ่ึงพบว่ามีจานวนผลการราย งายของผเู้ ดินทางท่ีลงทะเบียนน้อย
ตารางที่ ๑ (ต่อ) จุดแข็ง จดุ ออ่ น 16 องค์ประกอบ กว่าครง้ั ที่ ๑ หมายเหตุ ๒. ด้าน ขาดการประสานความเชื่อมโยง เทคโนโลยแี ละ น โ ย บ า ย ล ง สู่ พ้ื น ที่ ป ล า ย ท า ง ที่ ข้อมูล ชัดเจน ทาให้ทางพ้ืนที่ปลายทาง ไม่ได้วางแผนรองรับการปัญหาใน การเปลี่ยนแปลงนโยบายในการ เดินทางของผู้เดินทาง เช่น การเกิด ติดตามผลการตรวจครั้งที่ ๒ ในผู้ เดินทางแต่ละพื้นที่ล่าช้าและการ ระบาดในพ้ืนท่ี เนื่องจากไม่มีการ ส่งต่อข้อมูลผู้เดินทางมายังพื้นที่ ปลายทางนั้นๆ จึงไม่ได้มีการ ติดตามตามนโยบายท่ีวางไว้หรือ เตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวังที่ เหมาะสม - มีการพฒั นาระบบการลงทะเบียนท่ี - ขาดการประสานการทางาน รวดเร็วมากขึ้น สะดวกต่อการเขา้ ใช้ ระหว่างหน่วยงานท่ีรับผิดชอบใน งาน แต่ละภาคส่วนอย่างชัดเจน ทาให้ การแก้ไขปัญหามีความล่าช้าและ ไม่เป็นระบบในการประสานงาน กรณที ี่เกิดปญั หา - ระบบการลงทะเบียนยังมีความ ซ้าซ้อน ทาให้ข้อมูลท่ีแสดงไม่ตรง กับข้อมูลจริง และยังไม่สามารถใน ก า ร คั ก ร อ ง ก า ร ล ง ท ะ เ บี ย น ที่ ไ ม่ เป็นไปตามข้อกาหนด เช่น การลง เอกสารที่ไม่สอดคล้องในแต่ละ หัวขอ้ ขาดหน่วยงานที่รับผิดขอบการ ติดตามตรวจสอบความพึงพอใจ ระบบการปฏิบัติงานภาพรวม เพ่ือ การปรับปรงุ ระบบ
ตารางที่ ๑ (ต่อ) 17 องคป์ ระกอบ จดุ แข็ง จุดออ่ น หมายเหตุ ๓. ด้าน - เกดิ การหมนุ เวียนสภาพคล่องทาง - เกดิ ปัญหาด้านสง่ิ แวดลอ้ มและ เศรษฐกจ การเงินจากการเดินทางนกั ท่องเทีย่ ว ระบบสุขาภิบาลในพืน้ ท่ี ที่เปิดใหม้ ี 4. ด้านระบบ สาธารณสขุ และ เกิดการกระต้นุ เศรษฐกจิ ในพื้นทีม่ าก การเดนิ ทางเขา้ ซ่ึงทางพน้ื ทตี่ ้อง สุขภาพ ขึน้ เชน่ การท่องเทีย่ ว งานโรงแรมท่ี ดาเนนิ การแก้ปัญหาโดยใช้งบของ 5. ด้าน บคุ คลากร พกั หนว่ ยงานเอง โดยไม่มกี าร เจ้าหน้าท่ี - โรงแรมในประเทศมกี ารพัฒนา สนบั สนุนงบประมาณจาก ระบบการทางานตาม สว่ นกลาง สถานการณ์การเกิดโรคระบาดท่ี - การกระจายรายได้มีการกระจุก เปล่ียนแปลงไป ทาให้มีการ ตัวอยใู่ นธรุ กิจบางสว่ นในพ้ืนที่ยังไม่ ปรบั เปลีย่ นการดาเนินการ เพ่ือเกดิ ครอบคลุมประชาชนในพ้ืนที่ส่วน ยกระดับมาตรฐานในการป้องกนั การ ใหญ่ ติดเชอื้ ทดี่ ี - มีระบบการคัดกรองผู้เดินทางที่ ขาดการเตรียมทรัพยากรด้าน ขอเข้าประเทศท่ีมีมาตรฐานทางด้าน สาธารณสุขในพื้นที่เพ่ือรองรับผู้ สาธารณสุขและทันต่อเหตุการณ์การ เดินทางท่ีลงทะเบียน ทาให้เกิด เปลี่ยนแปลงของการดาเนินโรค เช่น ความขาดแคลนทรัพยากรในพ้ืนท่ี การรับวัคซีน ระบบประกันสุขภาพ เช่น จานวนเตียงในการรักษาผู้ติด ทาให้ลดการตดิ เชื้อในประเทศ เช้อื บคุ คลากรทางด้านสาธารณสุข มภี าระงานทมี่ ากขึน้ ในการทางาน - มีการเปดิ รับตาแหน่งงานเจ้าหนา้ ท่ี - จานวนบุคลากร/เจ้าหน้าท่ีในการ ในการดาเนินงานทม่ี ากข้นึ ป ฏิ บั ติ ง า น แ ต่ ล ะ ภ า ค ส่ ว น ไ ม่ เหมาะสมต่อภาระงาน เช่น งาน ดา้ นระบาดในพ้นื ที่ ทาเจ้าหน้าที่ให้ ต้องแบกรบั ภาระงานที่มากเกนิ ไป - บุคลากร/เจ้าหน้า ท่ีขาดความรู้ และประสบการณ์ในการทางาน เน่ืองจากมีการบรรจุพนักงานใหม่ และมีระยะเวลาในอบรมเตรียม ความพรอ้ มในการทางานท่ีน้อย ทา ให้เกิดความล่าช้าและผิดพลาดใน การดาเนินงาน
18 การวเคราะหก์ ลมุ่ Alternative Quarantine และ State Quarantine Alternative Quarantine (AQ) หมายถึง สถานท่ีกักกันที่ทางราชการกาหนดสาหรับผู้เดินทาง เขา้ มาในราชอาณาจักรทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยใช้สถานประกอบการธุรกจิ โรงแรม หรือสถานท่ีท่ีรัฐกาหนดให้ เป็นสถานที่กักกันเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 เป็นระยะเวลาหนึ่งตามหลักเกณฑ์แนวทาง ที่รัฐกาหนดโดยยินยอมชาระค่าใช้จ่ายการกักตัวและค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวเน่ืองเองท้ังหมดโดย สามารถดูรายชื่อ โรงแรมได้จาก ศนู ยป์ ฏบิ ัติการฉุกเฉนิ โควดิ -19 กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ (hsscovid.com) ท้งั นร้ี ะยะเวลากักตัวและตรวจโควิด 19 ตามประกาศในราชกิจจาและประกาศจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) เช่น มนี าคม .๖๕ สาหรับผู้เดินทางอากาศ กักตัว ๗ วันสาหรับผู้ ทไี่ ดร้ บั วัคซีนครบตามเกณฑ์ และกักตัว ๑๐ วันสาหรับผทู้ ่ไี ม่ได้รบั วคั ซนี ครบตามเกณฑ์ สามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้จากhttps://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27963 hyperlink: รฐั บาลไทย-ข่าวทาเนียบรฐั บาล-ประกาศและคาสง่ั (thaigov.go.th) หรือhttps://thth.facebook.com/informationcovid19/hyperlink ศูนย์ข้อมูล COVID-19 - หน้าหลัก Facebook State Quarantine (SQ) หมายถึง สถานทกี่ กั กนั ที่ทางราชการกาหนด สาหรบั ผเู้ ดนิ ทางเขา้ มาใน ราชอาณาจักรหรือผู้เดินทางเข้ามาในพ้ืนทป่ี กครองระดับจังหวัดโดยใชส้ ถานทที่ ีร่ ัฐกาหนดใหเ้ ป็นสถานที่กกั กัน เพ่ือการเฝ้าระวังป้องกนั และควบคมุ โรคโควิด 19 เป็นระยะเวลาตามหลักเกณฑ์แนวทางที่รัฐกาหนด ทั้งนี้ ระยะเวลากักตัวและตรวจโควิดตามประกาศในราชกจิ จาและประกาศจากศูนย์บรหิ ารสถานการณแ์ พร่ระบาด ของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (ศบค.) เชน่ มีนาคม.๖๕ สาหรับผ้เู ดนิ ทางบก กักตวั ๑๔ วนั สาหรับผเู้ ดนิ ทาง ทเ่ี ขา้ มาแบบผิดกฎหมาย สามารถตดิ ตามข้อมลู ลา่ สดุ ไดจ้ าก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27963 hyperlink: รฐั บาลไทย-ขา่ วทาเนียบรฐั บาล- ประกาศและคาสง่ั (thaigov.go.th) หรอื https://th-th.facebook.com/informationcovid19/ hyperlink ศูนย์ข้อมลู COVID-19 - หนา้ หลกั | Facebook ตารางที่ ๒ การวเิ คราะห์กล่มุ AQ และ SQ องค์ประกอบ จุดแข็ง จุดออ่ น หมายเหตุ ๑. ดา้ น - กาหนดรายละเอียดข้อปฏิบัติชัดเจน - ช่วงแรกการสื่อสารทาความเข้าใจไป นโยบาย พร้อมท้ังมีคู่มือมาตรฐานจากส่วนกลาง ถึงชุมชนไม่เพียงพอมีการตีตราเกิดใน สาหรับรองรับผเู้ ดินทางหรือผู้ท่ีเป็นกลุ่ม บางพื้นที่และบางพื้นท่ีชาวบ้านใน เส่ยี งตา่ งๆ ชุมชนออกมารวมกนั คัดคา้ น - กาหนดบทบาทหน้าท่ีหน่วยงานแต่ละ - เกิดปัญหาในการบริหารจัดการช่วง ภาคสว่ นทีช่ ดั เจน เริม่ ต้นก่อต้ัง แนวทางแก้ไข จัดต้ังคู่มือ - ห ล า ย ภ า ค ส่ ว น เ ก่ี ย ว ข้ อ ง เ ห็ น แนวทาง SOP โดยกาหนดมาตรฐาน ความสาคัญและให้ความร่วมมือเป็น กลางที่ทกุ สถานกกั กนั ตอ้ งมี อยา่ งดี ทาการดาเนนิ การเกิดข้นึ ได้ (หากไม่มีจะไม่ได้รับการอนุมัติให้
ตารางที่ ๒ (ต่อ) 19 องคป์ ระกอบ จดุ แขง็ จุดออ่ น หมายเหตุ - มีชอ่ งทางการสอ่ื สารและติดตาม จัดต้ัง) ควรมีคู่มือเป็นเกณฑ์และ นโยบายทเ่ี ปน็ ปัจจุบนั ใหผ้ ้เู ก่ียวข้อง แนวทางสาหรับแต่ละพ้ืนท่ีโดยที่มีคู่มือ เข้าถงึ สาหรับหลายบริบทของสถานท่ีจัดตั้ง - มคี ูม่ ือและแนวทางการมาตรฐาน เช่น บ้าน วดั โรงเรยี น เปน็ ต้น สถานกกั กนั จากส่วนกลาง - การกากับดูแลมาตรฐานสถานกักกัน ภายหลังจากท่ีได้รับจัดตั้งแล้วยังไม่ ทัว่ ถึง - มีข้อจากัดการบริหารงบประมาณท่ี ใช้ในการดาเนินการ - ในระดับผู้ปฏิบัติเกิดความสับสนใน การปฏิบัติงาน เน่ืองจากการตรวจ ประเมิน การเขียนแนวทาง รวมถึงตัว ผู้ประเมินมีหลากหลายและใช้คู่มือคน ละเล่ม (กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ) ๒.ดา้ น - มีเว็บไซต์และวิดีโอที่รวบรวมข้อมูล - ข้อมูลข่าวสารท่ีทางรัฐเผยแพร่ยังสื่อ เทคโนโลยี และข้อมูล ข่าวสารถ่ายทอดสู่ประชาชน ไปไมถ่ ึงคนบางกล่มุ ๓. ดา้ น - มีการพัฒนาระบบการลงทะเบียนที่ - การประสานงานระหว่างหน่วยงานท่ี เศรษฐกิจ รวดเร็วมากขน้ึ สะดวกตอ่ การเขา้ ใชง้ าน รับผิดชอบในแต่ละภาคส่วนไม่ชัดเจน - มีการส่งต่อข้อมูลจากหน่วยงานที่ การแก้ไขปัญหามีความล่าช้าและไม่ เก่ียวข้องไปยังหน่วยงานส่วนกลางตาม เป็นระบบในการประสานงาน สายงาน - ระบบการลงทะเบียนยังมีความ ซ้าซ้อน ทาให้ข้อมูลท่ีแสดงไม่ตรงกับ ข้อมูลจริง และยังมีบางส่วนที่น่าจะ สามารถปรบั จากท่ีเป็นระบบท่ีเป็นการ ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดเก็บข้อมูลเป็นการ ใช้การใช้เทคโนโลยี เพ่ือช่วยเพ่ิมเติม ประสิทธภิ าพในการทางาน - ขาดหน่วยงานท่ีรับผิดขอบการ ติ ด ต า ม ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ภาพรวม เพ่ือการปรบั ปรงุ ระบบ - เพ่ิมการหมุนเวียนสภาพคล่องทาง - การกระจายรายได้มีการกระจุกตัว การเงินสืบเน่ืองจากการเดินทางของ อยู่ในธุรกิจบางส่วนในพ้ืนที่ยังไม่
ตารางที่ ๒ (ต่อ) 20 องค์ประกอบ จุดแข็ง จุดออ่ น หมายเหตุ นักท่องเที่ยว และยังได้ประโยชน์ทาง ๔. ด้านระบบ สาธารณสุขในการควบคุมโรค ครอบคลุมประชาชนในพน้ื ที่ส่วนใหญ่ สาธารณสขุ - โรงแรมและสถานประกอบการใน - เกิดปญั หาด้านส่ิงแวดล้อมและระบบ และสขุ ภาพ ป ร ะ เ ท ศ มี ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ย ก ร ะ ดั บ สุขาภิบาลในพ้ืนท่ี เนื่องจากวัสดุ มาตรฐานในการป้องกันการติดเช้ือการ อุปกรณจ์ านวนไม่น้อย เป็นส่ิงที่ใช้แล้ว ๕. ดา้ น ควบคมุ โรค ท้งิ บุคคลากร - มกี ารวางระบบการลงทะเบียนและคัด เจา้ หน้าท่ี กรองผู้เดินทางท่ีขอเข้าประเทศที่มี - ในสถานการณ์การระบาดของโรคใน ม า ต ร ฐ า น ท า ง ด้ า น ส า ธ า ร ณ สุ ข แ ล ะ บางพื้นที่จาเป็นต้องเร่งเปิดสถาน ยดื หยนุ่ สามารถปรับเปล่ยี นได้ กักกันโรคท่ีทางราชการกาหนด โดยมี สถานท่ีเป็นองค์ประกอบหลัก และ - มีผู้เชี่ยวชาญในพื้นท่ี ที่สามารถช่วยดู ยั ง ค ง ต้ อ ง ก า ร อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ อ่ื น ๆ ในรายละเอียดต่างๆได้ เช่น พยาบาล สนับสนุนในการดาเนินงาน Infection Control Nurse (ICN) ใน - ในสถานการณ์การระบาดของโรค พื้นท่ีนั้น ๆ พร้อมกับมีการเปิดรับ บางพนื้ ท่ใี นสถานการณ์การระบาดของ ตาแหน่งงานเจา้ หน้าที่ในการดาเนินงาน โรคบางพื้นท่ีมีบุคลากรทางการแพทย์ ทม่ี ากขนึ้ มี ภ า ร ะ ง า น ที่ เ พ่ิ ม ข้ึ น แ ล ะ ยั ง มี เจ้าหน้าที่บางส่วนที่ติดเช้ือ ขาดแคลน บคุ ลากรทป่ี ฏบิ ตั งิ าน - ขาดการเตรียมทรัพยากรด้าน ส า ธ า ร ณ สุ ข ใ น พื้ น ท่ี เ พื่ อ ร อ ง รั บ ผู้ เดินทางที่ลงทะเบียน ทาให้เกิดความ ขาดแคลนทรัพยากรในพ้ืนที่ - ขาดแคลนบุคลากรทปี่ ฏิบัติงาน - มีการบรรจุเจ้าหน้าท่ีใหม่ และมี ระยะเวลาในอบรมเพิ่มความรู้ เตรียม ความพร้อมในการทางานท่ีไม่เพียงพอ เจ้าหน้าท่ีขาดประสบการณ์ในการทา ใ ห้ ง า น เ กิ ด ค ว า ม ล่ า ช้ า แ ล ะ เ กิ ด ข้อผิดพลาดขึน้
21 บทที่ ๔ สรุปการถอดบทเรยี น การพัฒนามาตรฐานสถานทกี่ ักกันทกุ ประเภท สรุปการถอดบทเรียนคร้ังนี้สืบเน่ืองจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเร่ือง “การพัฒนามาตรฐานสถานที่ กักกันทุกประเภท” ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรม ทีเค พาเลช แฮนด์ คอนเวนช่ัน กรุงเทพมหานครฯ จากการระดมสมองของผู้เข้าร่วมประชุมซ่ึงมีประสบการณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี แต่เขตพื้นที่ได้ให้ข้อสรุป ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อการดาเนินการสถานที่กักกันท่ีทางราชการกาหนดทุก ประเภทโดยแบ่งออกเป็นดงั น้ี ๑. สรุปประเด็นสถานที่กักกันซ่ึงทางราชการกาหนดรูปแบบเฉพาะองค์กร Organizational Quarantine (OQ) พบวา่ ประเดน็ สาคัญที่พบในพ้ืนท่ี คือการถ่ายทอดนโยบายไม่ชัดเจนและไม่ถึงผู้ปฏิบัติหรือ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เนื่องด้วยการดาเนินงานในพ้ืนที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน นโยบายในการ ดาเนินงานได้มีการถ่ายทอดผ่านสานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่ยังไม่มีจุดถ่ายทอดในระดับพื้นท่ี ทาให้ หน่วยงานในพ้นื ท่ไี ม่รบู้ ทบาทของตนเอง การดาเนนิ งานส่วนใหญจ่ ึงเปน็ ความรบั ผิดชอบของกรมควบคุมโรค ดา้ นประเดน็ การดาเนนิ งานอนื่ ๆ ไดแ้ ก่ การควบคุมมาตรฐานทุกๆ SOP ระหว่างดาเนินการ ควบคุมได้ ยาก เช่น การดาเนินการตาม SOP ทั้ง ๕ ด้าน การควบคุมกากับ โรงพยาบาลคู่สัญญาท่ีเป็นเอกชน เจ้าหน้าท่ี ท่ีมาปฏิบัติงานเน่ืองจากพบปัญหาจ้างพยาบาลท่ีไม่ได้ผ่านการอบรมมาอยู่ที่สถานกักกัน รวมถึงกรณี OQ ประเภท ค มักไม่ได้ถูกตั้งอย่างเป็นทางการ ไม่ได้มีบทบาทในการควบคุมกากับ การติดตามการดาเนินงาน เปน็ ไปไดย้ าก ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีการช้ีแจ้งทาความเข้าใจในระดับเขตผ่านผู้ตรวจราชการหรือไม่ ด้วยเหตุน้ีจึงมีผลต่อการ ดาเนินงานต่างๆ ในพ้ืนท่ี เช่น หน่วยงานท่ีรักผิดชอบไม่รู้บทบาทของตนเอง ร่วมประเมินจัดต้ังแต่ไม่มี การติดตามกากับ ไม่มีการควบคุมหรือตรวจเย่ียม (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมอนามัย เป็นต้น) รวมถงึ การประสานงาน/ความเขา้ ใจระหว่างฝา่ ยปกครองและสาธารณสขุ เชน่ กนั - วิธี certified กบั บรษิ ทั ใหเ้ ขม้ ขน้ เพยี งพอ และการควบคุมกากับระหว่างดาเนินงานมีความสาคัญมาเพ่ือ คงมาตรฐานไว้ได้ เช่น บริษัทรถต้องมี Certification ของพนักงานขับรถทุกคน ต้องผ่านการอบรม รายบุคคล (Driver certification) และกาหนดผู้ควบคุมกากบั - นโยบายการกาหนดระยะทาง กาหนดจดุ แวะพัก การกากบั การออกนอกเสน้ ทาง กาหนดใหม้ รี ถนาทาง เพิม่ การควบคมุ กากบั ในการดาเนนิ งาน การทาความสะอาดและสวมใส่ถอดชุด PPE - Gas station : SHA - หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้องตา่ งๆ ควรมกี ารถอดบทเรยี นการดาเนินงานร่วมกัน
22 ๒. สรปุ ประเด็นการดาเนนการกักกนั ประเภท Exemption Quarantine (EQ)/Sandbox โดยแบง่ ออกเป็นด้านต่างๆดงั ตารางดังตอ่ ไปนี้ ๒.๑ ดา้ นการเดินทาง (sealed route) ข้อเสนอแนะ EQ/Sandbox หัวข้อแนวปฏบัต วิชาการและแผน - ขาดความชัดเจนในการกาหนดและวางแผนเชิงนโยบายการทา ผู้ปฏิบัตแิ ละการปฏบิ ัติ Bubble and seal ท่ีพัก ร่วมกับพ้ืนท่ีในการดาเนินการ รวมถึง หน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งในพ้ืนที่ ทาให้มีการดาเนินการไม่เป็นมาตรฐาน สว่ นสนับสนนุ และการเตรียมความพร้อม ทว่ี างไว้ ๒.๒ ดา้ นที่พักอาศัยและการดารงชวี ิต - มาตรการ Bubble and seal ยังไม่ครอบคลุมด่านทางบกและทาง นา้ ในพนื้ ที่ หวั ข้อแนวปฏบัต - ภาระการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านสาธารณสุขในพื้นท่ีไม่ เหมาะสมกับจานวนบคุ ลากร - SHA+ Manager ขาดการกากับติดตามมาตรฐานการขนส่ง ผ้โู ดยสารในระบบ Bubble and seal - SHA+ Manager ขาดระบบการประสานส่งต่อข้อมูลระหว่าง โรงแรมท่ีพักและการตรวจสอบการเข้าพักท่ีเป็นตามมาตรฐาน SHA+ - SHA+ Manager ขาดระบบการติดตามกากับการเข้าออกนอก พนื้ ที่ Bubble ภายนอก - หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งในระบบ เชน่ ททท. ขาดกระบวนการ Audit & M&E ในพื้นท่ีท่ีมีการประกาศการใช้มาตรการ ทาให้ไม่มีการ ปรบั เปล่ยี นแนวทางการปฏิบตั งิ านท่สี อดคล้องกบั สภาพปัญหาท่พี บ ข้อเสนอแนะ EQ/Sandbox วชิ าการและแผน - ขาดการวางแผนในการกากับติดตามมาตรฐาน (Audit & M&E) ใน ผู้ปฏบิ ัตแิ ละการปฏิบตั ิ พืน้ ที่ รวมถึงไม่มแี ผนรองรับการแก้ไขหรือกาหนดบทลงโทษรองรับกรณี เกิดปญั หาในพืน้ ทใี่ นการปฏบิ ตั งิ านจรงิ - ขาดการวางแผนการบริหารจดั การสิง่ แวดล้อมของพ้ืนท่ีที่นักท่องเที่ยว ไป เช่น ขยะและสง่ิ ปฏิกูลของเมือง อยา่ งเป็นระบบ - SHA+Manager ควรมีการกากับติดตามมาตรการ D-M-H-T-T-A ระหว่างการพักอาศยั และการดารงชีวิต
23 หวั ข้อแนวปฏบัต ขอ้ เสนอแนะ EQ/Sandbox ส่วนสนับสนุนและการเตรยี มความพร้อม - การพัฒนาระบบ COSTE ในการใช้งาน และควรมีการกาหนด หนว่ ยงานทมี่ ีหนา้ ท่ีในการรบั แจง้ และแกไ้ ขปญั หาระบบตลอดเวลา ๒.๓ แนวทางฯ ในการควบคุมโรค หวั ข้อแนวปฏบัต ข้อเสนอแนะ EQ/Sandbox วชิ าการและแผน - ควรมีการวางแผนพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมเร่ืองการฉีดวัคซีนให้ ผู้ปฏบิ ัติและการปฏบิ ตั ิ ประชาชนมากกว่ารอ้ ยละ ๗๐ และให้ครอบคลุมประชากรแฝงด้วยก่อน เปดิ รบั นโยบายในพน้ื ที่ สว่ นสนบั สนนุ และการเตรยี มความพร้อม - SHA+ Manager มีปัญหาในการลงข้อมูลระบบ COSTE เช่น การ เช็คอนิ การรายงานผลการเก็บเชื้อ ทาให้เกิดปัญหาในการรับระยะเวลา เพื่อเก็บเชื้อคร้ังถัดไป ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเก็บเชื้อคร้ังที่ ๒ และการสอบสวนโรคในผ้เู ดินทางทีต่ ดิ เชอ้ื - SHA+ Manager ลงรายละเอียดไม่ครบ เช่น การระบุสถานท่ี Swab คร้งั ท่ี ๒ ทาให้รอ้ ยละการเก็บเชอื้ ครง้ั ที่ ๒ ไม่ครบ ๑๐๐ - ควรมีการอบรมการใช้งาน ระบบ COSTE ให้แก่ SHA+ Manager อย่างทั่วถึง รวมถึงควรมีการประเมินติดตามการลงผลข้อมูลในระบบ อยา่ งสมา่ เสมอ - การเชื่อมโยงระบบข้อมูล ควรมีการเช่ือมผล Co-lab เข้าระบบ COSTE เพอ่ื ลดภาระ SHA+ Manager ในการลงข้อมลู ๒.๔ การรักษาพยาบาล ข้อเสนอแนะ EQ/ Sandbox หวั ข้อแนวปฏบตั วชิ าการและแผน - แนวทางการปฏิบัติมีการใช้คากากวม ทาให้เกิดความสับสนในการ ผู้ปฏบิ ัติและการปฏิบัติ ปฏิบัตงิ านจรงิ ส่วนสนบั สนุนและการเตรียมความพร้อม - ขาดผู้รับผิดชอบโดยตรงในการการกากับติดตามการส่งต่อเพื่อรักษา กับโรงพยาบาลคสู่ ญั ญาทเ่ี ป็นมาตรฐาน - ควรมีระบบการซื้อขายประกันในประเทศที่ครอบคลุมการรักษาแก่ นกั ทอ่ งเทีย่ วพื้นที่ รวมถงึ แผนรองรับกรณีการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ที่ไม่ได้ในสิทธป์ิ ระกัน
24 ๒๒.๕.๕กกาารรคคววบบคคุมุมกกาากกบั บั (ต่อ) ข้อเสนอแนะ EQ/ Sandbox หัวข้อแนวปฏบตั วชิ าการและแผน - ควรมีนโยบาย/แผนกาหนดระยะเวลาในการ Audit และ M&E อย่าง ผู้ปฏิบัติและการปฏิบัติ ชดั เจน - ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรสาธารณสุขในพื้นท่ีด้านการ สว่ นสนบั สนนุ และการเตรยี มความพร้อม สอบสวนโรค รวมถึงหน่วยงานอ่ืนๆ ในระบบ เพื่อการประสานงานและ ตดิ ตามผตู้ ดิ เชือ้ กอ่ นเปิดพ้นื ที่ - การพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน เพ่ือใช้ในการสอบสวนโรคในพ้ืนที่ เช่น Q-Alert ของสานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑๒ ๓. สรุปประเด็นการดาเนน สถานท่ีกักกันซ่ึงทางราชการกาหนด รูปแบบทางเลือก Alternative Quarantine (AQ) และ สถานทกี่ ักกันซึง่ ทางราชการกาหนด รูปแบบปกต State Quarantine (SQ) สงิ่ ท่ีมีดอี ยู่แลว้ - การสนับสนนุ วัสดุอปุ กรณ์จากหน่วยงานในพ้ืนท่/ี ผปู้ ระกอบการ รับผิดชอบเอง - มผี ู้เชีย่ วชาญดูรายละเอียดในพืน้ ท่ี เช่น พยาบาล IC ในพ้ืนทน่ี ้นั ๆ - ความร่วมมือในพน้ื ท่ีสานักงานปอ้ งกันควบคมุ โรค ชว่ ยสนบั สนนุ ทาความเขา้ ใจใหจ้ งั หวดั และผูจ้ ัดตงั้ ตามองค์ประกอบของแบบประเมิน อุปสรรค ข้อบกพรอ่ ง - อัตรากาลังไมเ่ พยี งพอ - การบรหิ ารงบประมาณ - เม่ือมีคาสง่ั ใหเ้ ปิด สถานท่ีกักกนั แค่มอี งคป์ ระกอบเร่อื ง สถานที่ มโี รงพยาบาลเปน็ ผู้ดาเนินการ กเ็ ปดิ ไดโ้ ดยยงั ไม่มรี ายละเอียดตาม SOP ของสถานที่กักกนั ข้อเสนอแนะ เมื่อมีคาส่ังให้จัดต้ังสถานท่ีกักกัน ขอให้มีแนวทาง กระบวนการ คู่มือที่เป็นมาตรฐานกลาง แนบมา พร้อมคาส่ัง เพ่ือท่ีจะได้ทราบมาตรฐานว่าควรทาอย่างไร ควรมีอะไรบ้างเพ่ือให้เป็นสถานท่ีกักกันท่ีได้ มาตรฐานตามที่ต้องการ และในการตรวจประเมิน การเขียนแนวทาง ควรมีมาตรฐานเดียวกัน และ แนวทางเดียวไม่ใช่เร่ืองเดียวกันออกมาหลายหน่วยงานทาให้ผู้ปฏิบัติสับสน (กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนนุ บรกิ ารสุขภาพ) - ปญั หาเรื่องการตีตรา
25 จุดอ่อน - โรงแรมท่เี คยเป็น SQ ถอนตวั ออกไปสมคั รเป็น SHA + มากขึน้ เพอ่ื รองรับนักทอ่ งเทยี่ ว - เมื่อเร่ิมการจัดตั้ง SQ ทหาร และกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดาเนินการ ทาให้มีการจัดการบริหารที่ดี แต่ ต่อมาได้มอบหมายให้ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บริหารจัดการ ทาให้ขาดการติดตาม ขาดการ ประเมนิ หลงั จัดตง้ั แบบฟอร์มการประเมนิ เพื่อจัดตั้ง - รายละเอียดผลการประเมนิ ขอใหร้ ะบขุ ้อของการดาเนินงานทีค่ รบ/ไม่ครบตามเกณฑ์ ให้ชัดเจน - ในอนาคต หากต้องมกี ารจัดตั้ง SQ ในพื้นท่ี เชน่ บา้ น วัด โรงเรียน ขอให้เพิ่มเตมิ /ปรับเปล่ยี น แนวทางใหไ้ ด้ตามมาตรฐานและบรบิ ทของสถานท่นี ้ัน ๆ - ควรมกี ารกาหนดมาตรฐานหลกั มาตรฐานรอง (ไม่มี ไมผ่ ่าน) - ขอใหแ้ บบประเมินแนวทางมาจากทเ่ี ดียวกนั แบบเดียวกัน - การปรับระยะเวลากักกนั และการตรวจหาเชือ้ จะมีการเปลย่ี นแปลงตามสถานการณ์ ไม่ควรเขียนไป ในหนังสือคู่มอื แต่ควรเพิม่ เป็น Link หรอื สามารถติดตามไดท้ ่ี Website จะทาให้คมู่ ือเป็นปัจจุบันมากขึ้น ไมต่ ้อง ปรบั แก้บ่อย
26 ภาคผนวก
27 แนวทางการใชพ้ ้ืนที่ และการทาความสะอาดในสถานท่ีกักกัน แนวทางการทาความสะอาดส่งแวดล้อม ๑. พ้ืนผิวทั่วไป ใช้น้ายาฟอกขาว ๑ ส่วนในน้า ๙๙ ส่วน (สารละลาย Sodium hypochlorite ความ เข้มขน้ ๐.๐๕%-๐.๑% หรือ เทา่ กับ ๕๐๐-๑,๐๐๐ ppm) เชด็ ทง้ิ ไว้ ๓๐ นาที ๒.พืน้ ผวิ ท่ีคาดวา่ นา่ จะมกี ารปนเป้ือนนา้ มกู นา้ ลาย เสมหะ สารคัดหล่ังของผู้ป่วย เช่น ห้องสุขา โถส้วม ใช้สารละลาย Sodium hypochlorite ความเข้มข้น ๐.๕% หรือ เท่ากับ ๕,๐๐๐ ppm ราดทิ้งไว้อย่างน้อย ๑๕ นาที ๓.ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ายาทาลายเช้ือเช็ดตามบริเวณท่ีมีการสัมผัสหรือใช้งานร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ลูกบิด ประตู โต๊ะ เกา้ อี้ ราวจบั เปน็ ตน้ หากเป็นส่งิ ของหรือของใช้ขนาดเล็ก แนะนาใหเ้ ชด็ ด้วยแอลกอฮอล์ ๗๐% แนวทางการทาความสะอาดในบรเวณพน้ื ทสี่ ว่ นกลาง ๑. พนักงานโรงแรมทาความสะอาดพื้นท่ี อย่างน้อยวันละ ๒ ครั้ง โดยเน้นการเช็ดถูพื้นผิวที่มีผู้สัมผัส มาก เช่น ราวบนั ได ปมุ่ กดลฟิ ต์ ลกู บดิ ประตโู ดยใช้ Alcohol ๗๐ % เช็ดโดยรอบ ๒. พ้ืนท่ีทางเดินต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ควรทาความสะอาดด้วยน้ายาฆ่าเชื้อ ตามส่วนผสมท่ี กรมอนามัยกาหนด รายละเอียดนา้ ยาฆา่ เชือ้ ท่ีใชค้ วามสะอาด แนวทางการใช้พ้ืนทท่ี ่ีกาหนดให้ออกกาลังกาย ๑. สามารถให้มีการปฏิบัติได้หลังจากการตรวจเพ่ือยืนยันหาเช้ือ Day 0 ผลเป็นลบ โดยต้องจัดทา มาตรการรองรบั และควบคมุ การปฏบิ ตั ิอย่างเขม้ งวดสงู สุด ๒. ต้องมีการจากัดพื้นที่ในระหว่างการออกมาพักผ่อน โดยกาหนดให้ผู้กักกัน ๑ คน/๔ ตารางเมตร ๓. ต้องมีการทาความสะอาดโดยละเอียด ทั้งบริเวณ relax area เก้าอี้น่ัง พื้น เครื่องปรับอากาศ เคร่ืองฟอกอากาศ พัดลม รวมถึงอุปกรณ์ใด ๆ ท่ีมีความเป็นไปได้ว่าอาจถูกสัมผัสโดยผู้กักกันท่ีอยู่ในบริเวณนั้น ท้ังหมด โดยตอ้ งอยู่ภายใต้การควบคมุ กากับ และดูแลโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์และสาธารณสขุ ๔. ทาความสะอาดโต๊ะ เกา้ อี้ อุปกรณ์ท่ตี อ้ งสมั ผัสร่วมกัน หรือบรเิ วณพ้นื ผิวทม่ี ีการสัมผัสบ่อย ๆ ทุกคร้ัง ดว้ ยแอลกอฮอล์ ๗๐% หรือนา้ ยาทาความสะอาดฆา่ เชอ้ื โรคก่อนและหลงั ใช้ ๕. จดั การระบายอากาศทเ่ี พยี งพอในห้องออกกาลังกายท่ีใช้เครื่องปรับอากาศ ควรใช้เครื่องปรับอากาศ ชนิดแยกส่วน และควรมีการไหลเวียนอากาศไม่น้อยกว่า ๑๒ (Air Change per Hour >๑๒) มีการทาความ สะอาดเครื่องปรับอากาศและแผ่นกรองอากาศอย่างน้อย วันละ ๑ ครั้ง และทุกครั้งที่มีการพบผู้ป่วยยืนยันการ ตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ๖. การทาสะอาดเครอ่ื งเล่นอุปกรณ์ เช่น เครื่องออกออกกาลังกาย บริเวณที่นั่ง มือจับ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ร่วมกัน หรือบริเวณพื้นผิวท่ีมีการสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ ๗๐% หรือน้ายาทาความสะอาดฆ่าเช้ือโรค ท้ัง ก่อนและหลัง ให้บรกิ าร
28 ๗. เม่ือครบแต่ละรอบต้องมีการทาความสะอาดพื้นท่ี รวมถึงอุปกรณ์ออกกาลังกายทุกชนิดด้วยน้ายา ทาลายเชอ้ื ทกุ คร้งั ท้ิงเวลาพกั ห้องตามคณุ สมบัติของน้ายาทาลายเช้ือ ก่อนท่ีจะใช้งานในรอบต่อไป (การท้ิงเวลา ในการทาลายเชื้อ ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ายาทาลายเช้ือท่ีเลือกใช้ เช่น Sodium hypochlorite ๑,๐๐๐ ppm หลังทาความสะอาดเสรจ็ แล้วทิ้งไว้ไม่นอ้ ยกวา่ ๑ นาท)ี แนวทางการใชบ้ รการสระวา่ ยนา้ ๑. สามารถให้มีการปฏบิ ัติได้หลงั จากทีไ่ ด้รบั การตรวจเพื่อยืนยันหาเชื้อ Day 0 ผลเป็นลบ โดยต้อง จัดทามาตรการรองรับ และควบคุมการปฏบิ ัติอยา่ งเข้มงวดสงู สุด ๒. ประเภทของสระวา่ ยน้า จาแนกเปน็ ๒ ประเภท ดังน้ี ๒.๑ สระว่ายนา้ เฉพาะห้องพัก สามารถลงเลน่ ได้ ไม่จากัดจานวนครง้ั และอปุ กรณ์ ต่างๆ เตยี ง พกั ผอ่ น โต๊ะ เก้าอี้ สามารถใชง้ านไดเ้ ฉพาะตัว ไม่โยกย้ายไปท่อี น่ื ๒.๒ สระวา่ ยน้าสว่ นกลาง - กาหนดใชส้ ระวา่ ยน้าเปน็ รอบ ๆ ไม่กาหนดจานวนคน ถ้ามาจากกล่มุ เดยี วกนั - มีระบบบริหารจัดการ เพื่อควบคุมจากัดระยะเวลาของผู้เข้าใช้บริการตลอดช่วงเวลาการ ใหบ้ ริการ - งดใหบ้ รกิ ารผา้ เชด็ ตวั หากผู้มารบั บรกิ ารต้องการใช้ใหน้ าของตนเองมาจากห้องพัก - งดการจาหนา่ ยอาหารบรเิ วณสระวา่ ยนา้ ๓. มกี ารใชร้ ะบบมาตรฐานในการฆ่าเชอ้ื โรคในสระวา่ ยน้า ซงึ่ จาแนกเป็น ๓ ระบบ ดังน้ี ๓.๑ ระบบคลอรีน เป็นระบบฆ่าเช้ือโรคที่มีราคาถูก และนิยมใช้กันมากที่สุด มีการทดสอบ ปริมาณคลอรีนอิสระที่เหมาะสมเป็นประจาทุกวัน โดยการใช้แถบทดสอบหรือชุดทดสอบ สาหรับการทดสอบน้าในสระว่ายน้าโดยให้มีระดับของคลอรีนอิสระในสระว่ายน้า ต้องมีความ เข้มข้นอย่างน้อย ๑ ส่วนต่อล้าน (ppm) และไม่เกิน ๓ ppm โดยเฉพาะในหน้าร้อนควรปรับ ปรมิ าณคลอรีนอสิ ระอยู่ท่ี ๓ ppm เพราะอากาศร้อนคลอรีนจะสลายตัวเร็ว และปรับปริมาณ คลอรีนอิสระที่ ๒ ppm ในฤดูฝน และฤดูหนาว มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) อยู่ระหว่าง ๖.๘ – ๗.๒ และใหท้ าซปุ เปอร์คลอรีน (ปรับค่าคลอรีนให้อยทู่ ่ี ๔ ppm โดยทาหลังจากปิดการ ใชง้ านสระวา่ ยน้าในตอนกลางคืน) สปั ดาหล์ ะ ๑ – ๒ คร้งั ๓.๒ ระบบน้าเกลือ เป็นระบบควบคุมความสะอาดของน้าด้วยระบบเกลือ โดยใช้เครื่องผลิต คลอรีนอัตโนมัติจากเกลือ (Salt Water Chlorinator) ระบบนี้จะใช้เกลือธรรมชาติ (NaCl: Sodium Chloride) ในการฆ่าเช้ือโรคแทนคลอรีน น้าเกลือเม่ือใช้ฆ่าเช้ือโรคแล้วจะ ไม่สูญหายไปไหน จะเติมก็ต่อเมื่อมีการทา Back Wash คือ ล้างเครื่องกรอง หรือฝนตกจนน้า ล้นออกจากสระว่ายน้า ดังน้ันการเติมเกลือจะเติมประมาณปีละ ๒-๓ คร้ัง และน้าเกลือ จะมคี วามเข้มขน้ เพียง ๐.๓% ระบบเกลือน้เี ป็นระบบทใ่ี ช้ควบคกู่ ับคลอรนี
29 ๓.๓ ระบบโอโซน เป็นระบบทไี่ มแ่ นะนาใหเ้ ปิดใชบ้ ริการในระยะผ่อนคลายนี้ เน่ืองจากระบบน้ี จะนาน้าไปผ่านก๊าซโอโซน ซึ่งผลิตจากเคร่ืองอัดอากาศ มาบาบัดน้าในสระน้า น้าท่ีผ่านการ ฆ่าเช้ือโรคด้วยโอโซนจะเป็นน้าสะอาดลงสู่สระว่ายน้า แต่ในขณะที่น้าอยู่ในสระจะไม่มีการ ฆา่ เช้ือโรค จนกว่าน้านั้นจะกลับมาผ่านโอโซนอีกคร้ัง ดังนั้น เมื่อมีเชื้อโรคจากมนุษย์ หรือจาก แหล่งต่าง ๆ ลงสู่สระว่ายน้าในห้วงเวลาที่ยังไม่ได้ผ่านโอโซนเพ่ือฆ่าเชื้อโรคครั้งใหม่ (ประมาณ ๓-๖ ชั่วโมง) เชื้อน้ันจะยังคงปะปนอยู่ในสระว่ายน้า ทาให้เกิดโรคติดต่อแก่ผู้เล่นน้าในสระ เดียวกันได้ หากจาเป็นต้องใช้ระบบโอโซน ต้องใช้ควบคู่กับระบบอ่ืนเพื่อทาการฆ่าเช้ือ เช่น ใช้คลอรีน หรือน้าเกลอื ๔. ต้องมีการลงทะเบียนบนั ทึกชือ่ เวลา หอ้ งของผู้ทมี่ าใช้บรกิ าร เพอื่ ประโยชนใ์ นการสอบสวนโรค ๕. ทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ที่ต้องร่วมกัน หรือบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ทุกคร้ังด้วย แอลกอฮอล์ ๗๐% หรือนา้ ยาทาความสะอาดฆา่ เชอ้ื โรคก่อนและหลังใช้ ๖. ทาความสะอาดหอ้ งนา้ ห้องอาบน้า ทกุ รอบบรกิ ารใช้สระวา่ ยนา้ ๗. จัดให้มีกล้องวงจรปิดเพ่ือบันทึกภาพการให้บริการและใช้บริการ ให้ครอบคลุมพื้นท่ีใช้งาน เพื่อการ ควบคุมกากบั ติดตามการปฏบิ ัติตามมาตรการป้องกันโรคและการสอบสวนโรค โดยบันทึกภาพและข้อมูลเก็บไว้ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑ เดือน ๘. มีการจัดเตรียมพ้ืนที่พักผ่อนท่ีเหมาะสม เช่น เตียงสนาม และโปสเตอร์เตือน จุดวางผ้าเช็ดตัว จดุ วางนา้ ยาล้างมอื กอ่ นและหลงั ออกจากพน้ื ท่สี ระวา่ ยน้า ๙. มีการลงทะเบียนบันทึกช่ือ เวลา ห้องพักของผู้ท่ีมาใช้บริการ เพ่ือประโยชน์ในการจัดลาดับการใช้ บริการและการสอบสวนโรค ๑๐. มีระบบจัดการควบคุม เพื่อจากัดจานวนและระยะเวลาของผู้เข้าใช้บริการตลอดช่วงเวลาการ ใหบ้ รกิ าร ๑๑. จัดให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งของทีน่ ั่ง พื้นที่และอปุ กรณ์ อย่างนอ้ ย ๒ เมตร แนวทางใชพ้ ื้นท่ีบรการนวดและสปา ๑. สามารถให้มีการปฏิบัติได้หลังจากท่ีได้รับการตรวจเพ่ือยืนยันหาเชื้อ Day 0 ผลเป็นลบ โดยต้อง จดั ทามาตรการรองรับ และควบคุมการปฏิบัตอิ ยา่ งเข้มงวดสงู สุด ๒. มกี ารลงทะเบยี นบนั ทกึ ผใู้ ช้บรกิ าร ผใู้ หบ้ ริการในแต่ละรอบ ๓. มีการจัดรอบเข้าใช้บริการ หรือจากัดระยะเวลาการให้บริการไม่เกิน ๒ ช่ัวโมงต่อผู้ใช้บริการ ๑ คน ๔. จัดห้องให้บริการนวด ๑ คนต่อห้อง กรณีท่ีเป็นห้องรวม เตียงนวด หรือเก้าอี้เบาะนวด ให้เว้น ระยะหา่ ง อย่างน้อย ๒ เมตร และต้องมมี ่านกั้น เป็นสดั ส่วน ๕. หลังใช้บริการมีการทาความสะอาดอุปกรณ์ เตียง ทุกคร้ังก่อนให้บริการคนต่อไป ด้วย Alcohol ๗๐% หรือนา้ ยาฆ่าเชอ้ื ๖. ผ้ใู หบ้ รกิ ารสวมหน้ากากอนามยั เสื้อกาวน์กันน้า Face Shield หรอื แวน่ ตา ถุงมือ เปลี่ยนคนตอ่ คน
30 ๗. จัดการระบายอากาศท่ีเพียงพอ ท้ังภายในอาคารและห้องสุขาและมีการทาความสะอาด เครือ่ งปรับอากาศ หรอื แผน่ กรองอากาศอยา่ งน้อยวันละ ๑ ครั้ง ๘. ทาความสะอาดบรเิ วณท่สี ัมผสั ร่วมกัน เชน่ ลูกบิดประตู เคานเ์ ตอร์รบั บริการ ราวบันได อ่างลา้ งมือ โต๊ะ หอ้ งเปลี่ยนเสอื้ ผ้า ห้องพักผอ่ น รวมถึงอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทีใ่ ชใ้ นการทางานทุก ๒ ชวั่ โมง แนวทางการบรการในพ้นื ทร่ี ับประทานอาหาร ๑. สามารถให้มีการปฏบิ ัตไิ ด้หลังจากทีไ่ ด้รับการตรวจเพ่ือยนื ยนั หาเชื้อ Day 0 ผลเปน็ ลบ โดยตอ้ ง จัดทามาตรการรองรับ และควบคุมการปฏบิ ัติอย่างเข้มงวดสูงสุด ๒. เว้นระยะนั่งหรือยนื ห่างกัน อยา่ งน้อย ๑ เมตร และระยะห่างระหว่างโต๊ะ อย่างน้อย ๒ เมตร หรือ มีฉากกน้ั ระหวา่ ง โตะ๊ สงู ไม่น้อยกวา่ ๑.๕ เมตร ๓. จดั ให้มีอปุ กรณป์ ้องกันโรคสว่ นบุคคล เช่น หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผา้ หรือ Face Shield ให้ พนกั งานทุกคน ๔. จดั ใหม้ ีภาชนะสาหรบั รับประทานอาหารและเครอ่ื งดื่มเฉพาะบุคคล ๕. ให้มกี ารชาระเงนิ ค่าบริการผ่านระบบออนไลน์ (e-Payment) หรอื QR Code ผา่ นแอปพลเิ คชัน หากชาระด้วยเงนิ สด ตอ้ งไมส่ มั ผัสมอื โดยตรง เชน่ การมีถาดรับเงินหรอื บัตรเครดติ โดยที่พนักงานรับเงินต้อง ล้างมอื และเช็ดทาความสะอาดด้วย Alcohol ๗๐ % ทุกครง้ั ๖. ทาความสะอาดโตะ๊ เกา้ อี้ อปุ กรณ์ที่ต้องรว่ มกัน หรอื บริเวณพืน้ ผวิ ท่มี กี ารสัมผัสบ่อยๆ ทกุ ครง้ั ดว้ ย แอลกอฮอล์ ๗๐% หรอื นา้ ยาทาความสะอาดฆ่าเช้อื โรคก่อนและหลงั ใช้ ๗. ตอ้ งมกี ารลงทะเบียนบนั ทึกช่ือ เวลา ห้องของผทู้ ี่มาใชบ้ รกิ าร เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค ๘. มกี ล้องวงจรปิดเพื่อใช้ในการบนั ทกึ ภาพการดาเนนิ กิจกรรม ใหค้ รอบคลุมพนื้ ท่ีเพื่อกากบั ตดิ ตาม การปฏบิ ตั ติ ามมาตรการป้องกนั โรคของพนักงานบริการและผ้ใู ชบ้ ริการโดยบนั ทึกภาพและข้อมลู เก็บไว้ไม่น้อย กวา่ ๑ เดอื น หรอื มรี ะบบแจ้งเตอื น (Alert) กรณพี บผู้ที่ไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรการ แนวทางการทาความสะอาดส่งของทีส่ ่งมาจากภายนอก ๑) การฝากของเยี่ยม ควรเป็นประเภทของใช้ท่ีจาเป็นส่วนตัวเท่าน้ัน งดเว้นสิ่งเสพติด ของมีคม อุปกรณ์ เล่นการพนันทุกชนิด และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยขอความร่วมมือไม่รับการฝากของเยี่ยม ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยเหตุผลท่ีผู้ท่ีอยู่ในระหว่างการควบคุมโรคควรรับประทานอาหารท่ี ปรงุ สุกใหม่ และสะอาด ต้องมีการตรวจสอบวนั หมดอายุ ๒) ของฝากท่มี าจากภายนอกใหเ้ ช็ดดว้ ย ๗o % Alcohol ใหค้ รอบคลุมพัสดุ/ภาชนะท่ีบรรจุก่อนทุกครงั้ ๓) การนาส่งอุปกรณ์ หรือของฝากต่าง ๆ จะกาหนดเป็นวันละ ๑ รอบเท่านั้น โดยทางเจ้าของพื้นท่ี จะเป็นผูก้ าหนดเวลาที่เหมาะสม ๔) ทุกคร้ังท่ีมีการรับฝากของ ต้องมีการลงทะเบียนและถ่ายรูปส่งให้ผู้เดินทางท่ีกักกันทราบก่อนการรับฝาก ของ
31 การเปดิ ใหบ้ รการอื่น ๆ ของทางโรงแรมท่เี ปน็ สถานท่กี ักกนั ฯ การเปิดให้บริการอ่ืน ๆ ที่โดยปกติไม่อนุญาตให้มีการให้บริการที่ปะปนกัน ภายใต้มาตรการ Separate staff – Isolate environment โดยคานึงถึงความปลอดภัยของท้ังผู้กักกัน/ของเจ้าหน้าท่ี และของผู้มารับ บริการในกิจการอ่นื เป็นสาคัญ ต้องมีมาตรการและกระบวนการเพมิ่ เติม ดังน้ี ๑. กิจกรรมอ่นื ท่กี ล่าวถึง เชน่ การใหบ้ ริการร้านอาหาร การให้บริการสถานทอี่ อกกาลงั กายหรือ กจิ กรรมเพื่อสขุ ภาพใด ๆ การใหบ้ ริการจัดประชุมหรือกจิ กรรมรวมกลุ่มต่างๆ และการให้บริการห้องพักกับลูกค้า กลมุ่ ปกติที่มใิ ชผ่ ูก้ ักกนั ตนตามคาส่งั เจา้ พนักงานควบคุมโรคติดต่อ ๒. การเปิดให้บรกิ ารอืน่ ๆ “ต้องแยกอย่างชัดเจน” ไม่ใหส้ ่งิ แวดลอ้ มทใี่ ช้ในภารกจิ การกกั กนั ปะปน หรอื มีโอกาสใช้รว่ มกนั กับสิง่ แวดล้อมทจี่ ะใช้ในภารกจิ อื่นของโรงแรม เชน่ การให้บริการ ๒ ภารกิจนี้แยกอาคาร ท่จี อดรถ ล็อบบ้ี บันได โถงทางเดิน ลิฟท์ ทางหนีไฟเปน็ ต้น ทีแ่ ยกส่วนออกจากกนั และไมใ่ ช้รว่ มกันอยา่ งชัดเจน ๓. เจ้าหน้าท่ีด้านการให้บริการของโรงแรมท่ีปฏิบัติเก่ียวข้องกับภารกิจการกักกัน ไม่สามารถให้บริการ ในกจิ กรรมอื่น ๆ ของทางโรงแรมได้ ๔. มกี ารกาหนดรายช่ือ การบันทึกชื่อ การระบุภาระงานและการลงเวลาทางาน ให้สามารตรวจสอบได้ ว่าการให้บริการทั้งสองส่วนน้ีดาเนินการโดยเจ้าหน้าท่ีท่ีแยกส่วนกัน เพ่ือสาหรับการสอบสวนโรคและการให้ ความมั่นใจกับประชาชนผมู้ ารบั บรกิ ารในกิจการอื่นของโรงแรม แนวทางการบรการซักผา้ เปื้อนท่ใี ช้ในหอ้ งพัก ๑. การซักผา้ เป้ือน ใหป้ ฏบิ ตั ิตามข้อกาหนดของประเภทผ้าเป้ือน โดย - ใสอ่ ุปกรณ์ป้องกนั ร่างกายส่วนบุคคล ดงั นี้ ๑. หนา้ กากอนามัย (ใส่อยู่กอ่ นแล้ว) ๒. ล้างมือก่อนใส่เส้ือคลุมกันน้าแขนยาว ๓. แวน่ ปอ้ งกันตาหรอื Face shield ๔. หากผมยาวปกหนา้ ใสห่ มวกคลุมผม ๕. ใส่รองเทา้ บูท หรอื Shoe cover (กรณีท่ีพ้ืนเรยี บไมเ่ ปยี กแฉะ) - ใช้ ๗๐% alcohol หรือ Sodium hypochlorite ๕,๐๐๐ ppm. สเปรยท์ ผี่ ้าและนาผ้ามาเชด็ รอบถังใส่ผา้ ให้ท่ัวอีกคร้ัง - ทาการเปิดฝาถงั ผ้า โดยใหเ้ ปดิ ฝาถังผ้าเอยี งไปดา้ นท่ไี มม่ ีผู้ใดยนื อยู่ - ยกถงุ ผ้าใสเ่ คร่ืองซกั ผา้ ตดั ปากถุงพลาสตกิ ออกมา ค่อย ๆ ดันถุงผา้ ท่อี ยดู่ า้ นในให้ไหลลงในถงั ซักผ้า เข้าสู่ระบบซักผ้าติดเช้ือคือ ใส่ผงซักฟอก ปรับอุณหภูมิของน้าให้ได้ระดับ ๗๑๐C นาน ๒๕ นาที ในขณะ ซักผ้า จะสามารถทาลายเช้ือโรค รวมท้ังเช้ือไวรัสเอดส์ และไวรัสตับอักเสบได้ ในกรณีที่ไม่มีเคร่ืองซักผ้าท่ีปรับ อณุ หภูมไิ ด้ ใหแ้ ช่ผา้ ใน Sodium hypochlorite ๕,๐๐๐ ppm. (ความเข้มข้น ๐.๕%) นาน ๓๐ นาที แล้วจึงนา ผ้าที่แชน่ า้ ยาทาลายเชื้อแลว้ ไปซกั ตามปกติ - กรณีผา้ เป้อื นสงิ่ คดั หล่งั ใหท้ าการ Prewash ๒ คร้งั นาน ๒๐ นาที ก่อนใสผ่ งซกั ฟอก ซักผ้า ปรบั อุณหภมู ิของน้าใหไ้ ด้ระดบั ๗๑๐C นาน ๒๕ นาที
32 - เมื่อนาผา้ เขา้ สกู่ ระบวนการซักผา้ แลว้ ให้ถอดอปุ กรณ์ป้องกนั ร่างกายส่วนบุคคล ดงั น้ี ๑. ถอดถุงมือ ลา้ งมอื ๒. ถอดหมวก ลา้ งมือ ๓. ถอดแว่นป้องกนั /Face shield ลา้ งมือ ๔. ถอดเสื้อคลมุ กนั น้าแขนยาว ล้างมอื ๕. ถอดบทู /Shoe cover ลา้ งมือ ๖. ถอดหน้ากากอนามัย ลา้ งมอื ใส่หนา้ กากอนามยั อันใหม่ ๒. หลกี เล่ียงการเทผา้ เป้อื นลงบนพื้น เพื่อป้องกนั การฟุ้งกระจายของเช้อื โรค ๓. ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านทีส่ มั ผัสผ้าท่ีผ่านกระบวนการซักแลว้ แล้วไม่จาเป็นต้องสวมเครื่องป้องกนั ร่างกายอ่นื นอกจากหน้ากากผา้ /หนา้ กากอนามัยเพ่ือป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุน่ ผ้า ๔. สง่ิ ทไ่ี ม่ควรปฏบิ ตั ิ - ตรวจนบั ผา้ เปื้อนบนห้องพัก - แชผ่ า้ เปื้อนด้วยน้ายาฆา่ เชื้อบนหอ้ งพัก - ทาการเพาะเชื้อก่อโรคทีผ่ า้ เพื่อสมุ่ ดูว่ามีเช้ือโรคหรือไม่ - การฉีดล้างผ้าเป้ือนทโี่ รงซักฟอก จะตอ้ งมีมาตรการและกระบวนการเพ่ิมเติม ดังน้ี ๑. การให้บรกิ ารซกั ผ้า จะเรม่ิ ขนึ้ ภายหลังจากได้รับการตรวจหาเช้ือ Day 0 เป็นลบโดยไม่อนุญาตให้มี การบริการซักผ้ากอ่ นน้นั ๒. กาหนดนัดหมายการเก็บผา้ สง่ ซักจากหอ้ งพักผกู้ ักกนั ใหเ้ หมาะสม ๓. กาหนดพืน้ ที่แยกเฉพาะ สาหรบั การจัดการผา้ ทถ่ี กู สง่ ออกมาจากห้องพักผู้กักกนั ตน ๔. เจ้าหน้าท่ีแผนกซักรีด สวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันในระดับท่ีสูงกว่าหรือเท่ากับ แม่บ้าน/เจ้าหน้าท่ี ทเ่ี ข้าไปทาความสะอาดในห้องพัก ๕. บริเวณดังกล่าว ต้องมีระบบการระบายอาการและการดูดออกท่ีเพียงพอ และกากับทิศทางการดูด ออกที่ปลอดภยั ๖. เจ้าหน้าที่ ต้องมีข้ันตอนการถอดชุดอุปกรณ์ป้องกัน และมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (Safety officer) ช่วยเหลือพร้อมตรวจสอบทุกขั้นตอนการถอดชุดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยของ เจา้ หน้าที่แผนกซกั รดี ๗. Q. Facilities ต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพิ่มเติมในทุกพื้นที่ท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ให้บริการซักรีด เพ่ือการเฝ้าระวังโดยอยู่ภายใต้การกากับของ COVID manager ประจา Q. Facilities นั้น ๆ
33 แนวทางการจดั การยานพาหนะในการรบั ส่งผกู้ ักกนั หรอื ผู้เดนทางทีเ่ ขา้ ข่ายเฝ้าระวัง โรคตดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 การป้องกนั และควบคมุ การแพร่กระจายเชอ้ื ในระหวา่ งการเดนทาง ๑. การเตรียมพาหนะในการขนส่ง หรือเคล่ือนย้ายผู้เดินทาง โดยกาหนดให้พาหนะสาหรับการขนส่งหรือ เคล่ือนย้ายพาหนะ หรอื รถโดยสาร ต้องมีการเตรยี มความพร้อมดังน้ี ๑.๑ การจัดการรถโดยสาร โดยกาหนดให้มีส่วนกั้นแยกระหว่างห้องคนขับและห้องผู้โดยสารอย่าง ชัดเจน มีการกาหนดอุปกรณ์ที่ใช้ภายในรถต้องทาด้วยวัสดุใส พ้ืนผิวเรียบทาความสะอาดได้ง่าย ไม่สะสม ฝุ่นละอองต่าง ๆ เช่น แผ่นอะคริลิค พลาสติกชนิดแข็ง พ้ืนภายในรถไม่เป็นพรม เบาะที่นั่งต้องไม่เป็นผ้าหรือ กามะหยี่ ควรเป็นเบาะหนงั ท่ีทาความสะอาดไดง้ ่าย อาจหมุ้ ดว้ ยหนังเทียมหรือพลาสติก กรณีมีเคร่ืองปรับอากาศ แยกส่วนหอ้ งคนขับและห้องโดยสาร ให้เปิดอุณหภมู หิ ้องคนขบั ต่ากว่าห้องโดยสารอยา่ งน้อย ๒-๓ องศาเซลเซยี ส ๑.๒ การเตรียมท่ีนั่ง กรณีมีผู้โดยสารมากับพาหนะมากกว่า ๑ คนภายในห้องโดยสาร หลีกเล่ียงการให้ ผูโ้ ดยสารนั่งตรงบริเวณช่องปล่อยลมเยน็ ของเครื่องปรบั อากาศ (โดยปดิ ช่องปล่อยอากาศบริเวณท่ีนั่ง) กาหนดให้ นั่งในลักษณะทแยงมุม เพื่อเพ่ิมระยะห่างในการโดยสาร พาหนะหน่ึงคันมีการกาหนดระยะห่างขณะโดยสาร ไมข่ นสง่ ผโู้ ดยสารมากเกนิ ไป พ้ืนท่ี ๆ ไมใ่ ห้น่งั ใหท้ าสัญลกั ษณ์ หรืออาจปิดที่นงั่ ดว้ ยการคลมุ พลาสตกิ กไ็ ด้ ๑.๓ พนักงานขับรถโดยสาร ต้องมีความรู้เรื่องการป้องกันการติดเช้ือ การทาความสะอาดพาหนะ และ การใชอ้ ุปกรณป์ อ้ งกันร่างกายสว่ นบุคคล โดย - เม่ือไปรับผู้โดยสารท่ีสนามบิน/ท่าเรือ/ด่านควบคุมโรค ฯ ให้พนักงานขับรถสวมเสื้อกาวน์ พลาสติกกันน้าแขนยาว (หากไม่มีอาจประยุกต์ใช้ CPE หรือเสื้อกันฝน) หน้ากากอนามัย Face shield และ ถงุ มือ ทาความสะอาดสมั ภาระของผู้เดินทางก่อนนาข้ึนรถโดยสาร โดยการเช็ดด้วยน้ายาทาลายเช้ือ ห้ามสเปรย์ น้ายาทาลายเชื้อบนสัมภาระเพราะทาให้เกิดการฟุ้งกระจาย และอาจทาให้สัมภาระเสียหาย เกิดรอยด่าง คราบเปื้อน เป็นต้น เม่ือทาความสะอาดเสร็จ จึงยกเก็บท้ายรถ หรือพ้ืนที่ ๆ เตรียมไว้ภายในรถโดยสาร จากน้ัน จงึ ทาการถอดอุปกรณป์ อ้ งกนั รา่ งกาย เรม่ิ จาก - ถอดถงุ มือพร้อมเสือ้ กาวน์ ล้างมือดวั ยน้ายาล้างมือชนิดแห้ง (Alcohol Hand rub) - ถอด Face shield ล้างมอื - ถอดหนา้ กากอนามยั ล้างมือ สวมใสห่ น้ากากอนามยั ชนิ้ ใหม่ หมายเหตุ ถอดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายท้ิงใส่ในถุงขยะติดเช้ือ และใส่ในภาชนะมีปิดฝาที่เตรียมไว้เพ่ือนาไปทิ้ง ทสี่ ถานท่ีกักกันท่ีรฐั กาหนด ใสห่ น้ากากอนามยั ช้ินใหม่ - ขณะขับรถให้สวมใส่หน้ากากอนามัย และขับรถไปส่งผู้โดยสารยังสถานที่กักกันที่รัฐกาหนด โดยไมแ่ วะไปท่ีใด กรณีการเดินทางระยะทางไกล ต้องมีการเตรียมจุดแวะพักที่ชัดเจน โดยเลือกจากเป็นสถานท่ี สามารถทาข้อตกลงกันได้ มผี ู้ใชบ้ รกิ ารหอ้ งน้าสาธารณนอ้ ยมาก เช่นสนามกีฬา จุดแวะพักการท่องเที่ยว เป็นต้น เพือ่ เตรยี มสถานท่แี ละเจ้าหนา้ ที่ในการกาหนดเส้นทาง หอ้ งน้า และวิธกี ารทาความสะอาด - มีระบบการส่ือสาร/ให้ข้อมลู กับปลายทางรับทราบเวลาที่จะถึงปลายทาง เช่น GPS/ระบบนา ทางอนื่ ๆ
34 - เมอ่ื ถงึ ท่หี มาย มอบให้เปน็ หน้าทข่ี องพนกั งานปลายทางในการบรกิ ารผเู้ ดินทาง ๑.๔ มีการเตรยี มนา้ ยาลา้ งมือชนดิ แห้ง (Alcohol Hand rub) ให้บริการผู้เดินทาง โดยการกดน้ายาล้าง มือใหผ้ ู้เดินทาง ล้างมือก่อนขนึ้ รถโดยสาร และกาหนดพ้ืนท่นี ัง่ ตามประเภทของรถโดยสารท่ีไปรบั ให้ผู้โดยสารน่ัง จากดา้ นในสุด ในลกั ษณะทแยง เพ่ือเพม่ิ ระยะหา่ ง ดังน้ี - รถยนตน์ ัง่ ไมเ่ กนิ ๕ ท่ีนง่ั ๒ แถว ให้น่งั เบาะแถวที่ ๒ เยือ้ งคนขบั (นง่ั ไดไ้ มเ่ กิน ๑ คน) - รถยนต์น่งั ไมเ่ กิน ๗ ท่นี ั่ง ๓ แถว กาหนดให้นง่ั ๒ คน หากจาเป็นก็ไมค่ วรเกนิ ๓ คน * ให้น่งั เบาะแถวที่ ๓ หลังสดุ ให้น่ังฝ่งั เดยี วกับด้านคนขบั (หากจาเป็นเบาะแถวหลังสุด สามารถนง่ั ได้ ๒ คน ซา้ ย-ขวา) * เบาะแถวที่ ๒ ท่ีติดกับห้องคนขับ นั่งได้ ๑ คนเย้ืองทางซ้ายมือคนขับ (หากแถวที่ ๓ นงั่ สองคนแถวน้ีตอ้ งน่งั เบาะตรงกลาง) และใหล้ งจากรถเป็นคนแรก - รถยนตน์ งั่ ไมเ่ กิน ๑๑ ทน่ี ่งั ๔ แถว (กาหนดใหน้ ่ัง ๓ คน หากจาเป็นกไ็ มค่ วรเกิน ๕ คน) * ให้น่ังเบาะแถวที่ ๔ หลังสุดด้านคนขับ (หากจาเป็นเบาะแถวหลังสุดสามารถนั่งได้ ๒ คน ซ้าย-ขวา) * เบาะแถวที่ ๓ แถวกลางน่ังได้ ๑ คน (หากแถวท่ี ๓ นั่งสองคนแถวน้ีต้องน่ังเบาะตรง กลาง) * แถวท่ี ๑ ท่ีติดกับห้องคนขับให้น่ังเย้ืองคนขับฝั่งเดียวกับประตูเปิด (หากจาเป็นต้อง ๒ คน ให้น่ังติดรมิ หน้าต่างได้ แตต่ ้องมที ่กี ั้นระหว่างคนขบั กบั ผูโ้ ดยสารท่ีชัดเจน) เช่นรถตู้ที่น่ังได้ ๙ คนอาจเหลือ ใหน้ ่งั แค่ ๕ คน รถบัสทีน่ ง่ั ได้ ๓๗ คนเหลอื ใหน้ ่ังได้ ๑๘ คน หมายเหตุ ปิดจุดปล่อยระบบเคร่ืองปรับอากาศในจุดท่ีกาหนดให้มีผู้น่ัง (เปิดจุดท่ีไม่มีคนนั่ง หากภายในรถมี ระบบระบายอากาศกไ็ ม่ตอ้ งปิดจดุ ปลอ่ ยระบบปรบั อากาศ) เพอ่ื ปอ้ งกันการฟงุ้ กระจาย ๒. การป้องกันการตดเชอื้ และการแพรก่ ระจายเช้ือระหวา่ งการเดนทาง ๒.๑ ผู้โดยสารพาหนะต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดการเดินทาง นั่งเว้นระยะห่างตามจุดท่ี กาหนด และหลีกเลี่ยงการสนทนา การรบั ประทานอาหาร ในระหว่างการเดินทาง ๒.๒ ระหว่างการเดินทางสามารถเปิดเคร่ืองปรับอากาศในพาหนะได้ โดยให้ทิศทางการไหลของอากาศ ให้ไหลจากพ้ืนที่ห้องคนขับ ไปหาห้องโดยสาร โดยปรับอุณหภูมิให้ห้องคนขับมีอุณหภูมิต่ากว่าห้องโดยสาร ๒-๓ องศาเซลเซียส ๒.๓ ระหว่างการเดนิ ทางไปยงั สถานท่กี กั กันท่รี ัฐกาหนด ห้ามขบั รถออกนอกเสน้ ทาง หรอื แวะพักระหว่างการ เดินทาง ๒.๔ หากเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ หรือเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทาง พนักงานขับรถต้องรายงานและ ขออนุญาตผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Command System: ICS) และเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานทราบทุก คร้งั หากเหตดุ ังกล่าวมคี วามจาเปน็ ตอ้ งให้การดูแลทางการแพทย์ ให้ประสานงานโรงพยาบาลปลายทางและแจ้ง ให้โรงพยาบาลทราบถึงสถานะของผู้เดินทางเพ่ือเตรียมการรับผู้เดินทาง โดยใช้มาตรการการป้องกันการติดเช้ือ อยา่ งเครง่ ครดั
35 ๒.๕ เม่ือเดินทางถึงสถานท่ีกักกันท่ีรัฐกาหนด พนักงานซ่ึงใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย (หน้ากากอนามัย เสื้อกาวน์กันน้าแขนยาว Face shield และถุงมือ) เปิดประตูรถให้ โดยไม่ยืนนขวางทิศทางการไหลของอากาศ ขนย้ายสัมภาระลงก่อน แล้วจึงให้ผู้เดินทางลงตามลาดับการนั่งจากด้านหน้า/ด้านนอกสุดลงก่อน แล้วจึงให้ ผู้โดยสารที่อยู่ด้านในลงตามลาดับ โดยให้ลงคร้ังละ ๑ ท่าน ยกเว้นกรณีเดินทางเป็นครอบครัวให้ ทารก เด็ก หรือ ผตู้ ้องการดูแลเปน็ พเิ ศษ เพือ่ ทาการคัดกรองผเู้ ดนิ ทางเบื้องตน้ ก่อนการสง่ ผเู้ ดินทางเข้าสถานท่ีกกั กนั ที่รัฐกาหนด ๓. การทาความสะอาดพาหนะขนส่งและเคลื่อนย้ายผู้เดนทาง ภายหลังการรับ-ส่ง ผู้เดินทาง ต้องทาความ สะอาดรถโดยสารทนั ทตี ามขั้นตอนดงั น้ี ๓.๑ พนกั งานขบั รถใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกายเพ่ือทาความสะอาดรถ ดังน้ี - ล้างมือ ใส่หนา้ กากอนามยั (Surgical mask) - ใส่เสื้อคลุมกันนา้ แขนยาว - สวมบทู หรอื รองเท้าพลาสตกิ กันน้า ลา้ งมอื (หากไม่มบี ทู สามารถสวมรองเทา้ ที่สวมไปและใส่ Leg cover/Shoes cover ทับ) กรณมี ีสิ่งคัดหลั่งปนเป้อื นในรถโดยสารจานวนมาก เช่น เลอื ด อุจจาระ อาเจยี น ฯ ให้ใส่ N 95 Mask (ทา Fit check/Seal check ทกุ ครั้ง) แทนการใส่หน้ากากอนามัย - ใส่แวน่ ตาป้องกันตาหรือ Face shield - ใสถ่ งุ มือ ๒ ช้นั ใหถ้ ุงมอื ปดิ ทับปลายแขนเสือ้ คลมุ โดยถุงมอื ชั้นนอกเป็นถุงมือยางหนา ๓.๒ ข้ันตอนการทาความสะอาดรถบัสและรถตโู้ ดยสาร - ปดิ เครอ่ื งปรบั อากาศ เปิดประตรู ถด้านข้าง และด้านท้ายรถ ขณะเปดิ ต้องไม่ยนื ขวางทิศ ทางการไหลของอากาศภายในรถโดยสาร - มูลฝอยจากผู้โดยสาร ให้ถือเป็นมูลฝอยติดเชื้อทั้งหมด ให้ท้ิงในถุงมูลฝอยติดเชื้อสีแดงผูกปาก ถุงให้แน่นด้วยเชือก/Cable tieใส่ถุงซ้อน ๒ ช้ัน ใช้ผ้าชุบน้ายา ๗๐% แอลกอฮอล์ เช็ดถุงด้านนอกโดยรอบ และ นาไปสง่ ทาลายตามข้ันตอนการทงิ้ มลู ฝอยตดิ เช้อื ๔. จัดเตรียมชุดอุปกรณท์ าความสะอาด (Cleaning kit) สาหรับทาความสะอาด โดยชุดอปุ กรณท์ าความ สะอาดประกอบดว้ ย - ๑๐% Sodium hypochlorite จานวน ๒๕ cc จานวน ๒ ขวด ขวดใสน่ า้ สะอาด ๔๗๕ ซซี ี จานวน ๒ ขวด (ความเข้มข้น ๐.๕ % หรือ ๕,๐๐๐ ppm ใช้กรณีมสี ่ิงคัดหล่งั ปนเปอื้ นมาก) - ๑๐% Sodium hypochlorite จานวน ๕ cc จานวน ๑ ขวด ขวดใส่นา้ สะอาด ๙๙๕ ซซี ี จานวน ๑ ขวด (ความเข้มขน้ ๐.๐๕ % หรือ ๕๐๐ ppm ใชเ้ ช็ดกรณีทวั่ ไป ไมม่ สี ่งิ คัดหล่ังปนเปอื้ น) หากมี ผลติ ภณั ฑอ์ น่ื สามารถศึกษาวิธกี ารผสมน้ายาไดใ้ นภาคผนวก - กระป๋องสาหรบั ผสมนา้ ยา ๑ ใบ - เศษผ้าสาหรบั เช็ดรถ หรือกระดาษทส่ี ามารถดูดซับน้าได้ ๑๓-๑๕ ผืน - เศษผ้าสาหรับเชด็ ถุงมลู ฝอย หรือกระดาษท่สี ามารถดูดซับนา้ ได้ ๔ ผืน - ถุงแดงใบเลก็ สาหรบั ท้ิงผา้ จานวน ๒ ถุง
36 - ถุงแดงใบใหญ่สาหรบั ใส่ PPE จานวน ๒ ใบ - เชอื ก/สายรัด cable tie ๕. การเตรยี มอุปกรณ์และการผสมน้ายาทาความสะอาด - กรณีที่พื้นผิวภายในรถมีการปนเป้ือนสิ่งคัดหลั่งจานวนมาก เทน้าสะอาด จานวน ๑ ขวด (๔๗๕ ซีซี) ใส่ในกระป๋อง และน้ายา ๑๐% Sodium hypochlorite จานวน ๒๕ cc จานวน ๑ ขวด (กรณี พ้ืนทมี่ ีการปนเปือ้ นมากอาจใช้ ๒ ชดุ ก็ได)้ ค่อย ๆ เทผสมน้ายาลงไปในน้าสะอาด - กรณีท่ีพนื้ ผิวภายในรถไม่มีการปนเป้ือนสงิ่ คดั หล่งั นา้ สะอาดจานวน ๑ ขวด (๙๙๕ ซซี ี) ใส่ใน กระป๋อง และน้ายา ๑๐% Sodium hypochlorite จานวน ๕ cc จานวน ๑ ขวด ค่อย ๆ เทผสมนา้ ยาลงไปใน นา้ สะอาด - เตรยี มถุงพลาสติกสาหรบั ใสผ่ ้าท่ีเช็ดแลว้ และอุปกรณส์ าหรับแขวนถุงท่พี นักพงิ - เตรียมผ้าสาหรับเช็ดทาความสะอาดรถโดยสาร ๑๓-๑๕ ผืน (ขนาดของผ้ากว้าง ๘-๑๐ น้ิว ยาว ประมาณ ๘-๑๐ น้วิ ) จานวนผา้ ที่ใชเ้ ชด็ ทาความสะอาดขึ้นอยกู่ บั ลักษณะของรถโดยสารทใ่ี ช้งาน - กระปอ๋ งสาหรบั ผสมน้ายาทาลายเชื้อ - เชือก/cable tie - ถงุ พลาสตกิ สแี ดงจานวน ๔ ถุง สาหรบั * ใส่ผ้าหลังการเช็ดทาความสะอาด/มูลฝอยติดเช้ือ ผ้าที่ใช้แล้วให้ทิ้งเป็นมูลฝอยติดเชื้อ/นากลับไป ซักตามมาตรฐานผ้าติดเชื้อ โดยมัดปากถุงให้แน่นด้วยเชือก/Cable tie ใส่ถุงซ้อน ๒ ชั้น ใช้ผ้าชุบน้ายา ๗๐% แอลกอฮอล์ เช็ดถุงด้านนอกโดยรอบทั้งสองชั้น และนาไปส่งทาลายตามข้ันตอนการท้ิงมูลฝอยติดเช้ือ หรือส่ง ซกั ตามมาตรฐานการซกั ผ้าตดิ เชอ้ื * ใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกายท่ีถอดออก (ถุงมือพร้อมเสื้อคลุมแขนยาว Face shield หน้ากาก อนามัย) โดยต้องล้างมือตามข้ันตอนทุกคร้ังที่ถอดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายแต่ละชนิด อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย ชนิดใช้ครั้งเดียวให้ท้ิงเป็นมูลฝอยติดเชื้อ โดยมัดปากถุงให้แน่นด้วยเชือก/Cable tie ใส่ถุงซ้อน ๒ ช้ัน ใช้ผ้าชุบ นา้ ยา ๗๐% แอลกอฮอล์ เชด็ ถงุ ดา้ นนอกโดยรอบท้ังสองช้ัน และนาไปส่งทาลายตามข้ันตอนการท้ิงมูลฝอยติด เช้ือ สาหรับอุปกรณ์ป้องกันร่างกายชนิดใช้ซ้าได้ ให้ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ สาหรับล้างทาความสะอาดตาม มาตรฐานต่อไป ∆ วธกี ารเช็ดทาความสะอาดรถบสั และรถตู้ ผืนที่ ๑ เช็ดบริเวณที่จับเปิดประตูด้านหน้า/ด้านข้าง และใช้ผ้าน้ันจับเพื่อเปิดประตู ระวังอย่ายืน ขวางทิศทางการไหลของอากาศ และเช็ดบรเิ วณทเ่ี ปิดประตูด้านในรถโดยสาร ใสผ่ า้ ในถุงทเ่ี ตรียมไว้ ผนื ท่ี ๒ เชด็ พลาสติก หรือวสั ดุท่กี น้ั ระหว่างที่ห้องคนขับและห้องโดยสาร ใสผ่ ้าในถุงที่เตรียมไว้ ผืนที่ ๓ เช็ดแถวที่ ๒ บริเวณทน่ี ่ังว่าง ดา้ นขา้ งของผเู้ ดินทาง ใส่ผา้ ในถุงท่ีเตรียมไว้ ผืนที่ ๔ เชด็ แถวท่ี ๒ บริเวณทน่ี ่งั ของผเู้ ดินทาง ใสผ่ า้ ในถุงท่ีเตรียมไว้ ผนื ท่ี ๕ เชด็ ผนงั รถแถวท่ี ๒ ใส่ผ้าในถุงทีเ่ ตรียมไว้ ผนื ที่ ๖ เช็ดแถวที่ ๓ บรเิ วณทีน่ ่งั ว่าง ด้านขา้ งของผูเ้ ดินทาง ใส่ผา้ ในถุงที่เตรียมไว้
37 ผนื ที่ ๗ เชด็ แถวที่ ๓ บรเิ วณทีน่ ั่งของผู้เดนิ ทาง ใส่ผา้ ในถงุ ท่เี ตรียมไว้ ผนื ท่ี ๘ เช็ดผนงั รถแถวที่ ๓ ใส่ผา้ ในถงุ ทเ่ี ตรียมไว้ ผืนที่ ๙ เชด็ แถวท่ี ๔ บรเิ วณทีน่ ่ังว่าง ด้านขา้ งของผูเ้ ดนิ ทาง ใสผ่ า้ ในถุงทเ่ี ตรียมไว้ ผืนที่ ๑๐ เช็ดแถวที่ ๔ บริเวณที่นง่ั ของผเู้ ดินทาง ใสผ่ ้าในถงุ ท่ีเตรยี มไว้ ผืนท่ี ๑๑ เชด็ ผนงั รถแถวท่ี ๔ ใส่ผ้าในถุงทเี่ ตรียมไว้ .......เช็ดแถวตอ่ ไปจนครบ ผนื ท่ี ๑๒ เช็ดบริเวณที่วางสมั ภาระ ใสผ่ ้าในถงุ ทีเ่ ตรยี มไว้ ผืนท่ี ๑๓ เชด็ บรเิ วณทจี่ ับประตูดา้ นหลงั ดา้ นนอกและดา้ นในใสผ่ า้ ในถงุ ท่ีเตรยี มไว้ ผืนที่ ๑๔-๑๕ เผอื่ ไว้สาหรบั เช็ดบรเิ วณท่ีเหน็ การปนเปอื้ นชดั เจน ∆ วธกี ารเช็ดทาความสะอาดรถยนตส์ ว่ นบคุ คล ผืนที่ ๑ เชด็ บริเวณที่จบั เปดิ ประตูด้านขา้ งด้านทีน่ ัง่ วา่ ง และใช้ผ้านั้นจบั เพอื่ เปิดประตู ระวังอย่ายืน ขวางทศิ ทางการไหลของอากาศ และเช็ดบริเวณทเี่ ปดิ ประตูด้านในรถโดยสาร ใสผ่ า้ ในถงุ ทเี่ ตรยี มไว้ ผืนท่ี ๒ เชด็ พลาสตกิ หรือวัสดุท่กี ั้นระหวา่ งท่หี ้องคนขับและห้องโดยสาร ใส่ผา้ ในถงุ ท่ีเตรียมไว้ ผืนท่ี ๓ เชด็ แถวบรเิ วณท่นี ั่งวา่ ง ดา้ นข้างของผู้เดนิ ทาง ใส่ผา้ ในถงุ ที่เตรียมไว้ ผืนที่ ๔ เช็ดผนงั รถด้านท่ีน่ังว่าง ใส่ผา้ ในถงุ ทีเ่ ตรยี มไว้ เสร็จแลว้ เปิดประตูค้างไว้ ผืนท่ี ๕ เช็ดบริเวณท่ีจับเปิดประตูด้านข้างด้านท่ีน่ังผู้โดยสาร และใช้ผ้านั้นจับเพื่อเปิดประตู และ เช็ดบรเิ วณที่เปิดประตูด้านในรถโดยสาร ใส่ผา้ ในถุงทเ่ี ตรียมไว้ ผืนท่ี ๖ เชด็ แถวบรเิ วณทน่ี ัง่ ของผู้โดยสาร ใส่ผ้าในถุงที่เตรยี มไว้ ผืนท่ี ๗ เชด็ ผนงั รถบรเิ วณทนี่ ง่ั ผู้โดยสาร ใสผ่ า้ ในถุงทเี่ ตรียมไว้ หมายเหตุ ไม่ใช้ผ้าผืนเดิมเช็ดวนกลับไปท่ีเดิม ไม่ให้ใช้เคร่ืองฉีด/พ่น/สเปรย์ เน่ืองจากจะทาให้เกิดการฟุ้ง กระจายของเชื้อโรคได้ ∆ แนวทางการทาความสะอาดรถพยาบาล พนักงานขับรถใส่ชุดป้องกันร่างกายเพื่อทาความสะอาดรถ ดังนี้ ล้างมือใส่หน้ากากอนามัย (Surgical mask) เสื้อคลุมกันน้าแขนยาว สวมบูท (หากไม่มีบูทสามารถสวมรองเท้าที่สวมไปและใส่ Leg cover/Shoes cover ทับ) กรณีมีเลือด อุจจาระ อาเจียน สารคัดหล่ัง ปนเปื้อน ใส่ N 95 Mask (ทา Fit check/Seal check ทุกคร้ัง) ใส่แว่นตาป้องกันตา ใส่ถุงมือ ๑–๒ ช้ัน ให้ถุงมือปิดทับปลายแขนเส้ือ ถุงมือ ชั้นนอกเป็นถุงมือยางหนา (หากมีส่ิงคัดหลั่งปนเปื้อน จานวนมากให้ใส่ Face shield อาจสวม Leg cover ภายในรองเทา้ บูท) ขัน้ ตอนการทาความสะอาดรถพยาบาล - ปิดเครือ่ งปรับอากาศ เปดิ ประตรู ถดา้ นขา้ ง และดา้ นท้ายรถ ขณะทาความสะอาดสะอาด - อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้แล้วทุกชนิด ให้ถือเป็นมูลฝอยติดเชื้อท้ังหมด ให้ทิ้งในถุงมูลฝอยติดเชื้อ และมัดปากถุงให้แน่นด้วยเชือก/Cable tie ใส่ถุงซ้อน ๒ ชั้น ใช้น้ายา ๗๐% แอลกอฮอล์ เช็ดถุงด้านนอก โดยรอบ และนาไปสง่ ทาลายตามขนั้ ตอนการท้ิงมูลฝอยติดเช้อื
38 - ผ้าทุกชนิดท่ีใช้กับผู้ป่วย ให้ใส่ในถุงมูลฝอยติดเชื้อ มัดปากถุงด้วยเชือก/Cable tie แล้วซ้อนทับด้วย ถุงมูลฝอยติดเชื้ออีก ๑ ช้ัน และมัดปากถุงให้แน่นอีกครั้ง ใช้น้ายา ๗๐% แอลกอฮอล์ เช็ดถุงด้านนอก โดยรอบ นาส่งโรงซกั ฟอกเพือ่ ซักผ้าดว้ ยความร้อนตามมาตรฐานการซักผ้าติดเชื้อ - เปิด cleaning kit สาหรบั ทาความสะอาด และผสมน้ายาทาลายเชือ้ ตามท่รี ะบุในกลอ่ ง ดังน้ี หากมสี ารคัดหล่ังปนเปอื้ นสิ่งแวดล้อมภายในรถ เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ อาเจียน ให้ใส่ ถุงมือ ๑–๒ ช้ัน นากระดาษท่ีซับน้าได้ซ้อนทับหลาย ๆ ชิ้น วางให้ส่ิงคัดหล่ังซึม และเช็ดกระดาษออก ทิง้ กระดาษในถุงมูลฝอยติดเช้ือ เช็ดบริเวณน้ันด้วยน้าผสมน้า Disinfectant ที่ จัดเตรียมไว้อัตราส่วน (ผสม ๑๐% Sodium hypochlorite ๐.๕% หรือ ๕,๐๐๐ ppm สาหรับราดพื้นผิวท่ีเปรอะเปื้อนเลือด/สารคัด หลั่งของผู้ป่วย โดยตวงน้ายา ๑๐ % Sodium hypochlorite มา ๒๕ ซีซี ผสมกับน้าสะอาด ๔๗๕ ซีซี จนไดป้ รมิ าตรรวม ๕๐๐ ซซี ี) เช็ดโดยใช้ผา้ ชุบน้ายาวางทับซ้อนบรเิ วณทป่ี นเปือ้ น ผ้าท่ีใช้เช็ดทาความสะอาด แล้ว ให้ทิ้งเป็นมูลฝอยติดเชื้อ เมื่อกาจัดสิ่งคัดหลั่งหมดแล้ว ให้ถอดถุงมือและล้างมือด้วยน้ายาฆ่าเช้ือ หลาย ๆ คร้งั กอ่ นใส่ถงุ มือคู่ใหม่ เพื่อเขา้ สกู่ ระบวนการทาความสะอาดตามขนั้ ตอนด้านบน หากไม่มกี ารปนเป้อื นสิง่ คดั หล่งั ให้เชด็ ทาความสะอาดภายในรถด้วยน้าผสม ๑๐ % Sodium hypochlorite เข้มข้น ๐.๐๕% หรือ ๕๐๐ ppm สาหรับการเช็ดเพื่อทาลายเช้ือในส่ิงแวดล้อม รอบตัวผู้ป่วย โดยตวง ๑๐ % Sodium hypochlorite ๕ ซีซี ผสมน้าสะอาด ๙๙๕ ซีซี จนได้ปริมาตรรวม ๑,๐๐๐ ซีซี) เช็ดโดยใช้ผ้าอย่างน้อย ๑๐ – ๑๒ ผืน (ไม่ใช้ผ้าผืนเดิมเช็ดหรือซักผ้าในถังน้ายาทาลายเช้ือ) ผ้าที่ใช้เช็ดแล้วให้ทิ้งเป็นมูลฝอยติดเชื้อ หลังเช็ดทาความสะอาดแล้ว ให้เปิดรถท้ิงไว้ประมาณ ๓๐ นาที เพือ่ ใหบ้ ริเวณทท่ี าความสะอาด แห้ง มกี ารระบายอากาศท่ดี ี ป้องกันกล่ินอับชนื้ ชดุ อปุ กรณท์ าความสะอาด (Cleaning kit) ประกอบด้วย ๑. ๑๐ % Sodium hypochlorite ใสข่ วด ๒๕ ซซี ี จานวน ๒ ขวด ๒. ขวดใสน่ า้ สะอาด ๔๗๕ ซซี ี จานวน ๒ ขวด ๓. ๑๐ % Sodium hypochlorite ใส่ขวด ๕ ซซี ี จานวน ๒ ขวด ๔. ขวดใสน่ ้าสะอาด 995 ซซี ี จานวน 2 ขวด ๕. กระป๋องสาหรับผสมนา้ ยา และกระดาษซับน้าได้ ๖. การผสมน้ายาทาความสะอาด ๖.๑ กรณีที่พื้นผิวภายในรถมีการปนเปื้อนสิ่งคัดหล่ังจานวนมาก นาน้ายาจากข้อ ๑ จานวน ๑ ขวด ผสมน้าสะอาดข้อ ๒ จานวน ๑ ขวด ใส่ในกระป๋อง ข้อ ๕ ใช้ ในกรณี เช่น ผู้ป่วยอาเจียน ถ่ายเหลว มีเลือดออกจานวนมาก ๖.๒ กรณีท่ีพื้นผิวภายในรถไม่มีการปนเปื้อนส่ิงคัดหล่ัง นาน้าจากข้อ ๓ จานวน ๑ ขวด ผสมน้าสะอาดข้อ ๔ จานวน ๑ ขวด ใส่ในกระปอ๋ ง ขอ้ ๕ ใช้ในกรณีท่ีผู้สงสัย/ผู้ป่วยไม่มีอาการไอ จาม อาเจียน ถ่ายเหลว เลือดออก จานวนมาก (น้ายาและน้าสะอาดเตรียมไว้ ๒ ชุดเผื่อไม่พอทาความสะอาดหรือหก ขณะเดินทาง)
39 ๗. ผ้าสาหรับเช็ดทาความสะอาดรถพยาบาล ๑๐-๑๒ ผืน (ขนาดของผ้ากว้าง ๑๐ นิ้ว ยาวประมาณ ๑๐ นวิ้ ) นาผ้าทัง้ หมดจุ่มไปในถงั นา้ ท่ผี สมน้ายา บิดใหห้ มาด นาใสไ่ ว้ในมือท้งั หมด - ผนื ท่ี ๑ เช็ดบรเิ วณทีจ่ ับเปิดประตดู า้ นหนา้ และดา้ นใน ท้ิงผ้าในถงุ มูลฝอยตดิ เช้ือ - ผืนท่ี ๒ เชด็ ทน่ี ง่ั ของเจ้าหน้าทด่ี ้านศรี ษะผู้ปว่ ยท้ิงผา้ ในถุงมูลฝอยติดเชอ้ื - ผนื ที่ ๓ เช็ดบริเวณท่ีนั่งของเจา้ หน้าท่ีดา้ นทตี่ ดิ กบั ผปู้ ่วย ทงิ้ ผ้าในถงุ มลู ฝอยตดิ เชื้อ - ผืนท่ี ๔ เชด็ ทีบ่ ริเวณท่ีวางเตยี งผู้ปว่ ย ทิ้งผ้าในถุงมลู ฝอยตดิ เชอื้ - ผนื ท่ี ๕ เช็ดซ้าทีบ่ ริเวณวางเตยี งผปู้ ่วย ทิ้งผา้ ในถุงมลู ฝอยตดิ เชือ้ - ผนื ท่ี ๖ เช็ดอุปกรณ์ที่อยู่ใกลบ้ ริเวณเตียงผปู้ ว่ ย ท้งิ ผ้าในถุงมลู ฝอยติดเชอ้ื - ผนื ที่ ๗ เชด็ บรเิ วณผนังประตู ที่จับประตหู ลงั ดา้ นใน เปิดประตอู อกไป ทง้ิ ผา้ ในถุงมลู ฝอยติดเช้ือ - ผนื ที่ ๘ - ๑๐ เช็ดรอบ ๆ รถด้านใน ๓ ด้านผนื ละด้าน ท้ิงผา้ ในถุงมลู ฝอยติดเชอื้ - ผืนท่ี ๑๑ เชด็ บรเิ วณท่เี ปดิ ประตูหลังด้านนอกรถ ทิ้งผา้ ในถุงมลู ฝอยตดิ เชื้อ - ผืนท่ี ๑๒ เผื่อไวส้ าหรับเช็ดบรเิ วณทเ่ี หน็ การปนเปื้อนชัดเจน ๘. ถงุ พลาสติกสแี ดงจานวน ๔ ถงุ สาหรับใสผ่ ้าหลงั การเช็ดทาความสะอาด/มลู ฝอยตดิ เชอื้ ๙. ๗๐ % Alcohol สเปรย์ ๑ ขวดสาหรับพ่นใส่ผา้ เช็ดรอบบรเิ วณหน้ากากแอร์รถ ด้านในภายหลงั การ เช็ดทาความสะอาดแล้ว และสาหรับถุงมูลฝอยตดิ เชื้อช้นั ที่ ๒ ทีใ่ สท่ บั ดา้ นนอก ๑๐. หลังเช็ดทาความสะอาดรถพยาบาลเสร็จแล้ว ให้เปิดประตู หน้าต่างรถท้ิงไว้ประมาณ ๓๐ นาที เพือ่ ใหบ้ ริเวณทาความสะอาดแหง้ มกี ารระบายอากาศทด่ี ี ป้องกันกลน่ิ อับชนื้ หมายเหตุ ไม่ใช้ผา้ ผนื เดมิ เช็ดวนกลบั ไปทีเ่ ดิม ไม่ใหใ้ ช้เครื่องพน่ เน่ืองจาก อาจเกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อ โรคได้ แนวทางการทาความสะอาดหอ้ งพกั และอุปกรณภ์ ายในหอ้ งพกั การทาความสะอาดหอ้ งพัก จาแนกออกเปน็ ๒ กรณี คือ ๑. กรณคี รบกาหนดการกักกัน ผลการตรวจไมพ่ บเช้ือโควดิ -19 มกี ารประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า เมื่อได้รับเอกสารและอนุมัติให้ออกจากพื้นท่ีกักกันในสถานท่ีที่รัฐ จดั หาไว้ ให้ปิดเครื่องปรบั อากาศ และเปดิ หน้าต่างก่อนออกจากห้องพัก และเม่ือลงมาคืนกุญแจก็มีการถามซ้าว่า ปดิ เครอ่ื งปรับอากาศและเปดิ หนา้ ต่างแลว้ หรอื ไม่ - กรณที ี่ปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว หากไม่มีความจาเป็นเร่งด่วนในการใช้ห้องพัก สามารถปิดท้ิงไว้มากกว่า ๑ วัน และรอทาความสะอาดพร้อม ๆ กนั ได้ กรณีมีความจาเปน็ ต้องใชห้ อ้ งพกั ใหพ้ ักหอ้ งท้งิ ไว้ ๓o-๖o นาที - กรณีทผี่ ู้กกั กันลมื ปดิ เครอื่ งปรับอากาศ ใหแ้ มบ่ ้านสวมหนา้ กากอนามัย ใสถ่ ุงมือ และเตรียมผ้าชุบน้ายาทาลายเช้ือท่ีมีใช้ในสถานท่ี เช่น ไฮเตอร์ คลอรอกซ์ ๗o %Alcohol โดยใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเช้ือเช็ดที่ลูกบิดประตู ทั้งด้านนอกและดา้ นใน เขา้ ไปปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง เพ่ือเจือจางอากาศภายในห้องพัก และ
40 ปิดประตูห้องน้าเปิดระบบดูดอากาศในห้องน้า (โดยใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเชื้อเช็ดและจับ ลกู บิด/ท่เี ปดิ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ) ออกมาและพักห้องท้ิงไว้ ๓o-๖o นาที - เตรียมอุปกรณ์ทาความสะอาด ดังนี้ * ถงุ ขยะสแี ดงขนาดใหญ่ จานวน ๒ ถงุ * ถงุ ขยะขนาดเลก็ จานวน ๕ ถุง * Cable tie สาหรับผูกปากถุง จานวน ๔ อนั * ผา้ สาหรับทาความสะอาด จานวน ๘-๑o ผืน * ผสมน้ายา Sodium hypochlorite o.o๕% สาหรบั ทาความสะอาดพ้นื ผวิ โดยรอบ * ผสมน้ายา Sodium hypochlorite o.๕% สาหรับทาความสะอาดบริเวณท่ีสกปรก เชน่ ชกั โครก อา่ งล้างหน้า อา่ งอาบนา้ - การทาความสะอาดหอ้ งพัก เม่ือครบกาหนดเวลาพักห้อง แม่บ้านปฏิบัติหน้าที่ ๒ คน สวมชุดปฏิบัติงาน และรองเท้า ที่สามารถลา้ งน้าทาความสะอาดได้ และสวมอุปกรณป์ ้องกันร่างกาย ดงั น้ี ลา้ งมอื สวมหน้ากากอนามยั Face shield หรือแว่นปอ้ งกนั ตา หมวกคลุมผมกรณที ่ผี มยาว ปรกหน้ารงุ รัง ถงุ มอื แม่บ้านคนท่ี ๒ ใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเชื้อท่ีเตรียมมา เช็ดที่ลูกบิดประตูท้ังด้านนอกและด้านในหลีก ทางใหแ้ ม่บ้านคนที่ ๑ เขา้ ไปภายใน และเปดิ ประตหู อ้ งพัก แม่บ้านคนที่ ๑ ปิดพัดลมระบายอากาศในห้องน้า เข้าไปในห้องน้า ปิดฝาชักโครกและกดน้าชักโครก ๑-๒ คร้งั เทน้ายาล้างห้องน้า เช่น Sodium hypochlorite o.๕% บริเวณอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้า หลังจากนั้นเปิดฝาชักโครกเทน้ายา Sodium hypochlorite o.๕% ราดให้ ทว่ั ชักโครก ปิดฝาชกั โครก ออกมาจากหอ้ งน้า ปดิ ประตู และ เปิดพัดลมระบายอากาศ ในหอ้ งนา้ แม่บ้านคนที่ ๒ ทาความสะอาดอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ท่ีมีภายในห้อง เช่น เตยี ง โตะ๊ ตเู้ ย็นฯโดยใชน้ า้ ยา Sodium hypochlorite o.o๕% ทผี่ สมไว้ โดยผา้ ท่ใี ชเ้ ช็ดใหใ้ ช้ ๑ ผนื ตอ่ พื้นท่ี ไมใ่ ช้ เช็ดผืนเดยี วทว่ั ทงั้ หอ้ ง ผ้าท่ใี ช้แล้วใหใ้ ส่ในถงุ ขยะตดิ เชื้อใบเล็ก เพือ่ นาส่งไปยงั งาน บรกิ ารซักรดี ทรี่ บั ทาความสะอาด โดยการทาความสะอาดผา้ ตามมาตรฐานผ้าติดเช้ือ คือการใชน้ า้ ยาซกั ผา้ และต้องซกั ที่อณุ หภูมิ ๗๑ องศาเซลเซยี ส นาน ๒๕ นาที แมบ่ ้านคนที่ ๑ เก็บปลอกหมอนและผ้าปูท่ีนอนโดยม้วนออกห่างจากตัว (เป็นการทาให้ส่วนท่ีสกปรก ถูกม้วนเข้าไปด้านใน ป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค) ไม่ควรสะบัดผ้าปูท่ีนอน เพราะจะทาให้เกิดการฟงุ้ กระจายของเชือ้ โรคและฝนุ่ แม่บ้านคนที่ ๒ เตรยี มถุงพลาสตกิ ใบใหญ่ มว้ นปากถงุ และนาไปครอบท่ีกองผ้าทแ่ี ม่บ้านคนท่ี ๑ ม้วน ไว้บนเตียง พลกิ ถุงให้หงายและมัดปากถุงให้เรียบรอ้ ยดว้ ย Cable tie และนา
41 ถงุ พลาสติกท่ใี สผ่ ้าเปื้อน ไปวางยังบริเวณใกลป้ ระตทู างออก เดนิ ไปปดิ สวทิ ซ์พดั ลม ระบายอากาศในหอ้ งนา้ แมบ่ า้ นคนท่ี ๑ เขา้ ไปทาความสะอาดหอ้ งนา้ โดยเข้าไปกดชกั โครก ๒ ครงั้ ทาการลา้ งอา่ งลา้ งหน้า อา่ งอาบนา้ ก่อน แลว้ มาทาความสะอาดชกั โครกและพน้ื ห้องเกบ็ ขยะภายในหอ้ งนา้ โดยมว้ นปากถุงขยะออกนอกตัว เช็ดปากถุง ผกู ดว้ ย Cable tie นาถงุ ใสข่ ยะออกมา ทงิ้ ใส่ถงุ ใหญด่ ้านหน้าท่ีแม่บา้ นคนที่ ๒ นามาวางไว้ แมบ่ า้ นคนท่ี ๒ ปูผ้าปูที่นอนชุดใหม่ เสร็จแล้วทาการเก็บขยะภายในห้องพัก โดยการม้วนปากถุงขยะ ออกนอกตัว ใช้ผ้าชุบน้ายาทาลายเช้ือเช็ดปากถุง ผูกด้วย Cable tie และใส่ถุงแดงใบ ใหญ่อีกใบ นาถุงขยะใบใหม่ใส่ถังขยะแทนถุงที่เก็บไป จากนั้นจึงนาถุงขยะใบใหญ่มา วางไว้บริเวณด้านข้างประตูห้องน้า เพ่ือรอแม่บ้านคนท่ี ๑ นาถุงใส่ขยะในห้องน้า ออกมาท้ิงใส่ถุงรวมกัน ก่อนผูกปากถุงด้วย Cable tie และเช็ดรอบปากถุงด้วยผ้าชุบ น้ายาทาลายเช้อื แมบ่ า้ นคนท่ี ๒ ถอดถงุ มือขา้ งทถี่ นัดออก ๑ ข้างกาไว้ในมอื ขา้ งท่ีไม่ถนดั ใช้มอื ขา้ งท่ีถอดถงุ มือเปดิ ประตูหลีกทางให้แม่บ้านคนท่ี ๑ แมบ่ ้านคนที่ ๑ ถอื ถุงใส่ผา้ และถุงขยะมือละถุง เดินออกมาข้างนอกบริเวณโถงทางเดนิ หน้าหอ้ งพัก แม่บ้านคนที่ ๒ สเปรย์ Alcohol ๗o % บรเิ วณถุงใสผ่ า้ และถุงขยะ แมบ่ ้านคนที่ ๑ นาถงุ ใสผ่ า้ ใสใ่ นรถผ้าตดิ เช้อื เพอื่ เตรียมสง่ โรงซกั ฟอก และนาถุงขยะตดิ เช้อื ใส่ในถังขยะ ตดิ เชือ้ เพ่ือสง่ โรงพักขยะ แม่บา้ นคนที่ ๒ ถอดถงุ มือ ล้างมือ และหยบิ ขวดน้ายาล้างมอื เพ่ือเตรยี มกดนา้ ยาให้แมบ่ า้ นคนที่ ๑ แมบ่ า้ นคนที่ ๑ ถอดอปุ กรณ์ปอ้ งกนั รา่ งกายส่วนบคุ คลก่อน โดยแม่บา้ นคนที่ ๒ ทาหน้าทเ่ี ป็น Safety Officer ทาการถอดอุปกรณป์ ้องกันรา่ งกาย ตามลาดบั ดงั น้ี - ถอดถงุ มอื ลา้ งมอื - ถอดหมวก ล้างมือ - ถอด Face shield/แวน่ ปอ้ งกนั ตา ลา้ งมือ - กรณีทาความสะอาดห้องเป็นห้องสุดท้ายของช่วงเวลาเดียวกัน หรือหน้ากาก อนามัยเปียกชื้น สกปรก ให้ถอดหน้ากากอนามัยทิ้ง ล้างมือ และใส่หน้ากาก อนามัยชนิ้ ใหม่ - อาบน้าและเปลยี่ นชดุ ปฏิบัติหน้าท่ชี ดุ ใหม่ หมายเหตุ เมือ่ เสรจ็ ภารกจิ ก่อนกลับบ้าน ตอ้ งอาบนา้ สระผม และเปลี่ยนชุดทุกครั้ง 2. กรณที ีม่ ผี ลตรวจยนื ยนั พบเชื้อโควิด-19 เมอ่ื ผู้พักออกจากห้องพักแลว้ แม่บ้านสวมหนา้ กากอนามยั ใส่ถุงมือ และเตรียมผ้าชุบน้ายา ทาลายเชือ้ ที่มใี ช้ในสถานท่ี เช่น ไฮเตอร์ คลอรอกซ์ ๗o %Alcohol โดยใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเชื้อเช็ดที่ลูกบิด ประตูทง้ั ดา้ นนอกและดา้ นใน เข้าไปปิดแอร์ เปิดหน้าตา่ ง เพือ่ เจือจางอากาศภายในห้องพัก และปิดประตูห้องน้า
42 เปิดระบบดูดอากาศในห้องน้า (โดยใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเชื้อเช็ดและจับลูกบิด/ท่ีเปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ) ออกมา และพักห้องท้ิงไว้ ๓o-๖o นาที เม่ือครบเวลาพักห้องแล้ว ให้ช่างเข้าไปทาความสะอาดเคร่ืองปรับอากาศ ล้างหรอื เปล่ียนตวั กรองกอ่ นทแ่ี ม่บา้ นจะเข้าไปทาความสะอาดห้องพกั โดยมีขน้ั ตอนดังน้ี - การทาความสะอาดเครื่องปรับอากาศ โดยเตรียมอุปกรณ์ดงั นี้ * ถงั บรรจนุ ้าผสมน้ายาทาลายเชอื้ ทใ่ี ช้สาหรบั การล้างเคร่อื งปรับอากาศ * ผา้ สาหรับซบั นา้ ได้ ๑-๒ ผืน * ผา้ สาหรบั ใช้เช็ดเครอ่ื งปรับอากาศ และบรเิ วณทแี่ ผน่ กรอง ๔ ผนื * ถุงพลาสตกิ ขนาดเล็กสาหรับใสผ่ า้ ท่เี ช็ดแล้ว ๒ ใบ ใสถ่ งุ มือ ๑ ใบ * ถุงพลาสติกขนาดใหญ่สาหรับใส่อปุ กรณ์ป้องกนั ร่างกาย ๒ ใบ วางไวบ้ รเิ วณโถง ทางเดนิ ให้ช่างเข้าไปทาความสะอาด ๒ คน สวมชุดปฏบิ ตั งิ านของหน่วยงาน มีการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ ดังนี้ ช่างคนท่ี ๑ สวมอปุ กรณป์ ้องกันร่างกายดังน้ี * ล้างมือ สวมหนา้ กาก N 95 และทา Fit Check * Shoes cover * Isolation gown/CPE แขนยาว * แว่นตา/Face shield * หมวกคลุมผม * ถงุ มอื ๒ ชัน้ ช่างคนที่ ๒ สวมอปุ กรณ์ป้องกนั รา่ งกายดังน้ี * ล้างมือ สวมหนา้ กากอนามัย * Shoes cover * Isolation gown/CPE แขนยาว * แวน่ ตา/Face shield * หมวกคลมุ ผม * ถุงมอื ช่างคนที่ ๒ เตรียมถงั บรรจนุ ้าผสมน้ายาทาลายเช้ือสาหรับการล้างเคร่ืองปรับอากาศ ใช้ผ้าสามผืน จมุ่ ลงไปในถังน้าบรรจุน้ายา บิดใหห้ มาด สง่ ใหช้ ่างคนท่ี ๑ จานวน ๑ ผนื ชา่ งคนที่ ๑ ใช้ผ้าชุบน้ายาทาลายเช้ือเช็ดลูกบิดประตูด้านนอกและด้านใน ใช้ผ้าจับลูกบิดเพ่ือเปิด ประตู ใชผ้ า้ กดสวิทซป์ ิดพัดลมดูดอากาศในห้องน้า นาผ้าใส่ถงุ พลาสติกติดเช้ือท่ีช่างคน ที่ ๒ สง่ ให้ ชา่ งคนท่ี ๑ เตรยี มเก้าอเ้ี พอื่ ปีนขนึ้ ไป ชา่ งคนที่ ๒ ส่งผ้าชุบนา้ ยาทาลายเชื้อส่งให้ช่างคนท่ี ๑ ช่างคนที่ ๑ นาผ้าที่ชุบน้ายาทาลายเช้ือเช็ดท่ีบริเวณด้านหน้าและด้านนอกเคร่ืองปรับอากาศโดย เช็ดไปในทิศทางเดียวกัน นาผ้าท่ีเช็ดทาความสะอาดแล้วใส่ถุงพลาสติกติดเชื้อที่ช่างคน ท่ี ๒ สง่ ให้
43 ชา่ งคนท่ี ๑ นาแผน่ กรองออกจากเครื่องปรบั อากาศ ด้วยความระมัดระวังไม่ให้ฟุ้งกระจาย นาแผ่น ช่างคนท่ี ๒ กรองออกมาให้อยู่ในลักษณะแนวตั้งส่งให้ช่างคนที่ ๒ เสร็จแล้วถอดถุงมือคู่นอกใส่ถุง ชา่ งคนท่ี ๑ ช่างคนที่ ๒ ขยะตดิ เชื้อ ชา่ งคนท่ี ๑ ช่างคนท่ี ๒ รับแผ่นกรองในแนวต้ังและจุ่มลงในน้าผสมน้ายาล้างแอร์ท่ีเตรียมไว้ทาความสะอาด ชา่ งคนที่ ๑ แผน่ กรองใต้น้า ชา่ งคนที่ ๒ - นาแผ่นกรองที่ทาความสะอาดเสร็จแล้ว วางราบกับผ้า ซบั แผ่นกรองกบั ผา้ ใหแ้ ห้ง ชา่ งคนท่ี ๑ - ใช้ ๗o % Alcohol Spray บนไส้กรองโดยใช้ผา้ อกี ผนื บงั ไว้ ป้องกันการฟุ้งกระจาย เสรจ็ แลว้ หยิบสง่ ใหช้ า่ งคนท่ี ๑ รับแผ่นกรองแนวตัง้ และนาไปใส่ในเครื่องปรบั อากาศเหมอื นเดมิ ส่งผ้าชุบนา้ ยาทาลายเชอื้ ผนื ใหมส่ ง่ ให้เชด็ ท่ีเคร่ืองปรับอากาศ นาผ้าที่ชุบน้ายาทาลายเชื้อเช็ดท่ีบริเวณด้านหน้าและด้านนอกเคร่ืองปรับอากาศโดย เชด็ ไปในทิศทางเดียวกนั เสร็จแลว้ นาผ้าที่เช็ดทาความสะอาดแล้วใส่ถุงพลาสติกติดเช้ือ ที่ชา่ งคนท่ี ๒ สง่ ให้ ใช้ผ้าแห้งอีกผืนเช็ดพื้นบริเวณที่ล้างแผ่นกรองให้แห้งและใส่ผ้ารวมไปในถุงพลาสติก ตดิ เชือ้ เพ่อื นาสง่ โรงซกั ฟอกตามมาตรฐานหรือกาจัดเป็นขยะติดเชือ้ ต่อไป นาถังน้าเข้าไปในห้องน้า ปิดฝาชักโครก กดชักโครก ๒ ครั้ง ค่อย ๆ เปิดฝาชักโครก เทน้าในถังท้ิงไปในชักโครก ปิดฝาชักโครก และกดน้าทิ้ง ๒ ครั้ง ออกมาปิดประตู ห้องน้า ถอดถุงมือข้างท่ีถนัดออก ๑ ข้าง นาถุงมือท่ีถอดไว้ในกามืออีกข้าง ใช้มือข้างที่ ถอดถงุ มอื ออกแล้วเปิดสวิตช์พัดลมระบายอากาศในห้องน้า ถอดถุงมือข้างท่ีถนัดออก ๑ ข้าง นาถุงมือที่ถอดไว้ในกามืออีกข้าง ใช้มือข้างท่ีถอดถุง มือออกแลว้ เปิดประตูหอ้ งพกั และถอด PPE ออกตามขนั้ ตอน ดงั นี้ ถอดถงุ มือทเ่ี หลืออีกขา้ ง ลา้ งมือ ถอดหมวก ลา้ งมอื ถอด Face shield/แวน่ ป้องกันตา ลา้ งมอื ถอด Isolation gown/CPE แขนยาว ล้างมือ ถอด Shoes cover ลา้ งมอื ถอดหน้ากากอนามยั ล้างมือ และใส่หนา้ กากอนามยั ชิน้ ใหม่ หลังเปิดสวิทซ์พัดลมระบายอากาซในห้องน้าแล้ว เดินออกมานอกห้อง ปิดประตู ห้องพัก และถอด PPE ออกตามข้นั ตอน ดงั น้ี ถอดถุงมอื ทีเ่ หลอื อีกขา้ ง ล้างมอื ถอดหมวก ล้างมือ ถอด Face shield/แวน่ ปอ้ งกันตา ลา้ งมือ ถอด Isolation gown/CPE แขนยาว ลา้ งมอื
44 ถอด Shoes cover ล้างมอื ถอดหน้ากาก N 95 ล้างมือ และใสห่ นา้ กากอนามยั ช้ินใหม่ หมายเหตุ - กรณมี ีแผ่นกรองเปล่ียนใหม่ ให้เตรียมถงุ แดงใบใหญ่ขนาดเหมาะสมทจ่ี ะใสแ่ ผ่นกรอง ลงไปล้างทาความสะอาด และนาไปผ่ึงแดดให้แห้งข้างล่าง - เมือ่ ลา้ งเครื่องปรับอากาศเสรจ็ แล้วให้อาบนา้ สระผม เปล่ียนชุดปฏิบตั งิ านใหม่ทันที หลงั จากนน้ั ๓๐ นาที แมบ่ า้ นเข้าไปทาความสะอาดภายในห้องพัก ประกอบดว้ ยขั้นตอน ดงั น้ี เตรียมอุปกรณท์ าความสะอาด ดงั นี้ * ถงุ ขยะสแี ดงขนาดใหญ่ จานวน ๒ ถุง * ถงุ ขยะขนาดเล็ก จานวน ๕ ถงุ * Cable tie สาหรับผกู ปากถุง จานวน ๔ อนั * ผ้าสาหรบั ทาความสะอาด จานวน ๘-๑o ผนื * ผสมน้ายา Sodium hypochlorite o.o๕% สาหรบั ทาความสะอาดพ้นื ผิวโดยรอบ * ผสมน้ายา Sodium hypochlorite o.๕% สาหรับทาความสะอาดบริเวณท่ีสกปรก เชน่ ชักโครก อา่ งลา้ งหนา้ อ่างอาบนา้ - การทาความสะอาดห้องพกั เมื่อครบกาหนดเวลาพักห้อง ๓o นาทีหลังจากล้างเครื่องปรับอากาศแล้ว แม่บ้านเข้าไป ปฏิบัติหน้าที่ ๒ คน สวมชุดปฏิบัติงาน และรองเท้าที่สามารถล้างน้าทาความสะอาดได้ และสวมอุปกรณ์ ปอ้ งกนั ร่างกาย ดงั น้ี ลา้ งมือ สวมหนา้ กากอนามัย ชุดคลุมรา่ งกายแขนยาว/CPE Face shield หรอื แวน่ ป้องกันตา หมวกคลมุ ผมกรณีท่ผี มยาว ปรกหนา้ รงุ รงั ถงุ มือ แม่บา้ นคนท่ี ๒ ใช้ผ้าท่ีชุบน้ายาทาลายเชื้อที่เตรียมมา เช็ดที่ลูกบิดประตูทั้งด้านนอกและด้านใน หลกี ทางให้แม่บา้ นคนท่ี ๑ เขา้ ไปภายใน และเปดิ ประตหู อ้ งพกั แม่บ้านคนที่ ๑ ปิดพดั ลมระบายอากาศในห้องน้า เขา้ ไปในหอ้ งน้า และกดน้าชักโครก ๑-๒ ครั้ง (ฝาชักโครกปิด อยู่เพราะช่างปิดไว้ก่อน) เทน้ายา Sodium hypochlorite o.๕% บริเวณอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้า หลังจากนั้นเปิดฝาชักโครกเทน้ายา Sodium hypochlorite o.๕% ราดให้ทั่ว ชักโครก ปิดฝาชักโครก ออกมาจากห้องน้า ปิดประตู และ เปิดพัดลมระบายอากาศ ในหอ้ งนา้ แม่บา้ นคนท่ี ๒ ทาความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีมีภายในห้อง เช่น เตียง โต๊ะ ตู้เย็นฯ โดยใช้น้ายา Sodium hypochlorite o.o๕% ที่ผสมไว้ โดยผ้าที่ใช้เช็ดให้ใช้ ๑ ผืนต่อพ้ืนท่ี ไม่ใช้
45 เช็ดผืนเดียวทั่วทั้งห้อง ผ้าที่ใช้แล้วให้ใส่ในถุงขยะติดเชื้อใบเล็ก เพ่ือนาส่งไปยัง งานซกั ฟอกทท่ี าความสะอาดผ้าตามมาตรฐานผ้าติดเชื้อ คือการใช้น้ายาซักผ้า และซัก ผ้าทอ่ี ุณหภมู ิ ๗๑ องศาเซลเซียส นาน ๒๕ นาที แม่บา้ นคนที่ ๑ เก็บปลอกหมอนและผ้าปูท่ีนอนโดยม้วนออกห่างจากตัว (เป็นการทาให้ส่วนท่ีสกปรก ถูกม้วนเข้าไปด้านใน ป้องกันการฟุ้งกระจายของเช้ือโรค) ไม่ควรสะบัดผ้า ปูท่ีนอน เพราะจะทาใหเ้ กิดการฟุง้ กระจายของเชอ้ื โรคและฝุน่ แม่บา้ นคนที่ ๒ เตรยี มถุงพลาสตกิ ใบใหญ่ มว้ นปากถุงและนาไปครอบท่ีกองผ้าทีแ่ มบ่ า้ นคนที่ ๑ มว้ น ไวบ้ นเตียง พลิกถุงให้หงายและมัดปากถงุ ใหเ้ รียบรอ้ ยด้วย Cable tie และนา ถุงพลาสติกทีใ่ สผ่ ้าเป้ือน ไปวางยงั บริเวณใกล้ประตทู างออก เดินไปปิดสวทิ ซ์พดั ลม ระบายอากาศในหอ้ งน้า แม่บา้ นคนที่ ๑ - เข้าไปทาความสะอาดห้องน้า โดยเข้าไปกดชักโครก ๒ ครั้ง ทาการล้างอ่างล้างหน้า อ่างอาบนา้ กอ่ น แล้วมาทาความสะอาดชักโครกและพื้นห้อง - เกบ็ ขยะภายในห้องน้าโดยมว้ นปากถุงขยะออกนอกตวั เชด็ ปากถุง ผูกด้วย Cable tie นาถงุ ใส่ขยะออกมาท้ิงในถุงใหญด่ ้านหน้าท่แี ม่บา้ นคนท่ี ๒ นามาวางไว้ แม่บ้านคนที่ ๒ ปูผ้าปูท่ีนอนชุดใหม่ เสร็จแล้วทาการเก็บขยะภายในห้องพัก โดยการม้วนปากถุงขยะ ออกนอกตัว ใช้ผ้าชุบน้ายาทาลายเชื้อเช็ดปากถุง ผูกด้วย Cable tieและใส่ถุงแดงใบ ใหญ่อีกใบ นาถุงขยะใบใหม่ใส่ถังขยะแทนถุงท่ีเก็บไป จากน้ันจึงนาถุงขยะใบใหญ่ มาวางไว้บริเวณด้านข้างประตูห้องน้า เพ่ือรอแม่บ้านคนท่ี ๑ นาถุงใส่ขยะในห้องน้า ออกมาท้ิงใส่ถุงรวมกัน ก่อนผูกปากถุงด้วย Cable tieและเช็ดรอบปากถุงด้วยผ้าชุบ นา้ ยาทาลายเชอื้ แม่บ้านคนที่ ๒ ถอดถงุ มือข้างท่ถี นดั ออก ๑ ข้างกาไวใ้ นมอื ข้างที่ไม่ถนัด ใช้มอื ขา้ งท่ถี อดถงุ มือเปดิ ประตูหลีกทางใหแ้ ม่บ้านคนที่ ๑ แม่บา้ นคนท่ี ๑ ถอื ถุงใสผ่ ้า และถงุ ขยะมือละถุง เดินออกมาขา้ งนอกบริเวณโถงทางเดินหน้าหอ้ งพัก แมบ่ า้ นคนท่ี ๒ สเปรย์ Alcohol ๗o % บริเวณถุงใส่ผา้ และถุงขยะ แม่บา้ นคนที่ ๑ นาถงุ ใส่ผ้าใส่ในรถผา้ ตดิ เชื้อเพอื่ เตรยี มส่งโรงซกั ฟอก และ นาถงุ ขยะติดเช้ือใสใ่ นถังขยะตดิ เช้ือ เพ่ือสง่ โรงพักขยะ แม่บา้ นคนท่ี ๒ ถอดถงุ มือ ล้างมือ และหยิบขวดน้ายาล้างมือเพ่ือเตรยี มกดนา้ ยาใหแ้ มบ่ า้ นคนท่ี ๑ แมบ่ า้ นคนท่ี ๑ ถอดอปุ กรณ์ป้องกนั ร่างกายส่วนบคุ คลกอ่ น โดยแมบ่ ้านคนท่ี ๒ ทาหน้าท่ีเปน็ Safety Officer และกดน้ายาล้างมือให้ ทาการถอดอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย ตามลาดับดงั น้ี - ถอดถงุ มอื พรอ้ มเส้ือคลุมแขนยาว ลา้ งมอื - ถอดหมวก ล้างมอื - ถอด Face shield/แว่นปอ้ งกนั ตา ลา้ งมือ - ถอดหน้ากากอนามัย ล้างมือ และใสห่ น้ากากอนามยั ช้นิ ใหม่ - อาบนา้ และเปล่ียนชุดปฏบิ ตั ิหน้าทช่ี ดุ ใหมท่ ันที
46 แม่บา้ นคนที่ ๒ ถอด PPE โดนมีแม่บ้านคนท่ี ๑ ท่ีถอด PPE เสร็จแล้วทาหนา้ ที่เปน็ Safety Officer และกดนา้ ยาล้างมือให้ ทาการถอดอุปกรณ์ป้องกนั รา่ งกาย ตามลาดับดังนี้ - ถอดถุงมอื พร้อมเส้ือคลมุ แขนยาว ล้างมือ - ถอดหมวก ลา้ งมือ - ถอด Face shield/แวน่ ปอ้ งกันตา ลา้ งมือ - ถอดหน้ากากอนามยั ล้างมือ และใสห่ น้ากากอนามยั ชิ้นใหม่ - อาบนา้ และเปลยี่ นชุดปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีชดุ ใหม่ทันที หมายเหตุ - หากมีหอ้ งที่ต้องทาความสะอาดหลายห้องให้ทาความสะอาดห้องที่พบเชอื้ โควดิ -19 เป็น ห้องสุดทา้ ย - เม่ือเสรจ็ ภารกจิ ก่อนกลับบ้าน ตอ้ งอาบนา้ สระผม และเปล่ียนชดุ ทกุ คร้งั แนวทางการจัดการขยะ กรณเี ป็นสถานท่ีกักเด่ียว โรงแรม ห้องแยก แยกการจัดเก็บมลู ฝอยเป็น ๒ ประเภท ในแต่ละหอ้ ง คือ ถุงแดง และถุงดา (อาจใช้ถุงขาวใสกไ็ ด้ เพอ่ื การมองเหน็ แสงแดดสอ่ งถึงด้านใน) - มลู ฝอยแหง้ ถุงดา เชน่ * ขวดน้าพลาสติกที่เปิดฝาและไม่มีน้าอยู่ภายใน (ภายหลังจัดเก็บหรือตากแดดไว้อย่างน้อย ๕ วัน สามารถดาเนินการจัดการมลู ฝอยท่ัวไป หรือมลู ฝอยรไี ซเคลิ ได้) * ซองกาแฟ ถุงขนมอบกรอบ ถุงพลาสติก กระดาษท่ีไม่ปนเป้ือนส่ิงคัดหล่ัง แยกจัดท้ิงในถุง ขณะทาการจดั เกบ็ ใหใ้ ช้มาตรการการจดั เกบ็ แบบมลู ฝอยตดิ เช้ืออันตราย ภายหลังการ จัดเก็บให้นาถุงมลู ฝอยไปพักในพ้ืนที่ ๆ มีการระบายอากาศ หรอื ตากแดดแล้วอย่างน้อย ๕ วัน สามารถดาเนนิ การจัดการมูลฝอยทวั่ ไป หรอื มลู ฝอยรีไซเคลิ ได้ - มูลฝอยเปยี กถงุ แดง ใหจ้ ดั เกบ็ ตามมาตรฐานมลู ฝอยติดเชอื้ อนั ตราย กรณเี ปน็ สถานทก่ี ักรวม แยกมูลฝอยเป็น ๔ ถงุ ถุงแดง ๒ ถุงและถุงดา ๒ ถงุ จาแนกเป็น - ถุงแดง ๑ ถุง สาหรบั ใสเ่ ฉพาะเศษอาหารเทา่ น้นั - ถุงแดง ๑ ถุง (ภาชนะขนาดไมใ่ หญน่ กั ) สาหรับใส่เฉพาะหนา้ กากอนามัย - ถุงดา (ถงุ พลาสติกขาวใส) ๑ ถุง สาหรบั ใสม่ ลู ฝอยอ่ืน ๆ เช่น ซองกาแฟ เศษกระดาษ ถงุ พลาสติก - ถงุ ดา (ถุงพลาสตกิ ขาวใส) ๑ ถุง สาหรับใสข่ วดนา้ เปล่าทีเ่ ทนา้ ทิง้ หมดแลว้ เปิดฝาขวดออกจากตวั ขวดน้า แลว้ จัดเก็บอยู่ภายในท่ีพักส่วนกลาง เปน็ ภาชนะทม่ี ีฝาปิดมิดชดิ ไมใ่ ช้มือเปิด มีป้ายบอก ชนดิ / วธิ ีการท้งิ ขวดนา้ ทีช่ ัดเจน แนวทางการเกบ็ ขยะ - ให้เก็บรวบรวมมูลฝอยท่ีปนเป้ือน/สงสัยว่าปนเป้ือนสารคัดหลั่ง น้ามูก น้าลาย เช่นหน้ากากอนามัย กระดาษชาระให้ใสภ่ าชนะบรรจุมลู ฝอยตดิ เชอ้ื (ถงุ แดง) ๒ ช้นั โดยถุงใบแรกที่บรรจุมูลฝอยติดเช้ือแล้วให้เช็ดรอบ ถุงด้วยน้ายาฟอกขาว หรือแอลกอฮอล์ ๗๐% และมัดปากถุงด้วย Cable tie หรือเชือกให้แน่น แล้วใส่ถุงชั้นท่ี ๒ เช็ด
47 ด้วยน้ายาฟอกขาว หรือแอลกอฮอล์ ๗๐% บริเวณปากถุงอีกคร้ัง แล้วมัดปากถุงช้ันนอกด้วย Cable tie หรือเชือก จากน้ันเคล่ือนย้ายไปพักยังที่จัดไว้เฉพาะ เพื่อรอประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมาเก็บขนไปกาจัดอย่าง ถกู ตอ้ งต่อไป ท้ังนี้ เมือ่ จดั เกบ็ มูลฝอยเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ใหล้ า้ งมอื ใหส้ ะอาดทุกคร้ัง ส่วนพนักงานจัดเก็บมูลฝอย ต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกายที่เหมาะสม เช่น ชุดปฏิบัติงาน (Scrub suit) หน้ากากอนามัย ถุงมือยาว อย่างหนา รองเท้าบูท เสื้อพลาสติกกันน้า หลังปฏิบัติหน้าที่เสร็จแล้วถอดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายและอาบน้า สระผมให้สะอาด และเปลยี่ นเสื้อผ้าชดุ ใหม่ - ส่วนขยะแหง้ ใหแ้ ยกใสถ่ ุงตา่ งหาก หากมีทพี่ ักขยะใหพ้ กั ไว้ก่อน ๕ วัน ก่อนส่งทิ้งเป็นขยะทั่วไป สาหรับ ขวดน้าพลาสติกให้เทน้าในขวดท้ิงให้หมด เปิดฝาขวดออกจากตัวขวดน้าแล้วเก็บใส่ถุง พักในท่ีพักขยะนานอย่างน้อย ๕ วัน จงึ นาออกมาทิง้ เป็นขยะทวั่ ไปหรอื รวบรวมส่งขายเพ่ือเพ่ิมมูลคา่ ได้ แนวทางการกาจดั นา้ เสียในสถานท่กี ักกนั พ้ืนท่ีที่มีระบบบาบัดน้าเสีย ให้รวบรวมน้าเสียท่เี กดิ ขึน้ เขา้ ส่รู ะบบบาบดั น้าเสียโดย กรณีท่ีปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้ฆ่าเช้ือด้วยการเติมคลอรีน (ระยะเวลาสัมผัสคลอรีนไม่น้อยกว่า ๓๐ นาที และต้องมี การตรวจวัดปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือ ไมน่ ้อยกวา่ ๐.๕ มิลลกิ รมั /ลติ ร) กรณไี มป่ ลอ่ ยสสู่ ่ิงแวดลอ้ ม ควรมีที่เก็บกักนา้ ทิ้งเพียงพอ พน้ื ทท่ี ี่ไม่มีระบบบาบดั นา้ เสยี - รวบรวมน้าเสียทเ่ี กดิ ขนึ้ และเก็บกกั ไวอ้ ย่างน้อย ๒ วัน เชน่ ปลอ่ ยลงบ่อพกั น้าเสีย - หากน้าท่ีปล่อยมีโอกาสปนเป้ือนกับน้าใช้ ให้ฆ่าด้วยการเติมคลอรีน (ระยะเวลาสัมผัสคลอรีนไม่น้อย กว่า ๓๐ นาท)ี - มีการตรวจวัดปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือ ไม่น้อยกว่า ๐.๕ มิลลิลิตร/ลิตรก่อนปล่อยสู่บ่อซึม หรือ รางระบายน้า - บอ่ ซมึ ตอ้ งอย่หู ่างจากแหล่งนา้ ไม่นอ้ ยกว่า ๓๐ เมตร ข้อควรระวัง - ไมค่ วรให้มนี ้าเสียขังนอง - หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้าเสียหรือละอองน้าเสีย งดนาน้าเสียไปใช้ประโยชน์ หากไม่ผ่านการบาบัด ก่อน การสูบอุจจาระจากส้วมและถงั เก็บ และการขนส่งขับถา่ ยไปท้งทอ่ี น่ื ไม่ควรสูบอุจจาระจากส้วมและถังเก็บส่ิงขับถ่ายของผู้กักกันท่ีสงสัยติดเชื้อไวรัวโคโรนา 2019 ยกเว้น กรณสี ว้ มและถงั เกบ็ เตม็ โดยท่ัวไป ควรปฏิบัติตามแนวทางการจัดการกับส่ิงขับถ่ายอย่างปลอดภัย ควรออกแบบ ส้วมหรือถังเก็บให้เพยี งพอกบั ความต้องการของผูก้ ักกนั ควรมีกาหนดเวลาสูบอุจจาระเป็นประจาที่สอดคล้องกับ ปริมาณน้าเสียท่ีเกิดข้ึน ผู้ปฏิบัติต้องสวม PPE (เส้ือกาวน์แขนยาว หน้ากากอนามัย แว่นตาหรือ Face shield
48 รองเท้าบูท ถงุ มือ ตลอดเวลาขณะทาการเคล่ือนย้ายหรือขนสิ่งขับถ่ายลงรถดูดส้วมน้ัน หลังจากขนย้ายส่ิงปฏิกูล เสรจ็ และไม่มคี วามเส่ียงจากการสัมผัสแล้ว ควรถอด PPE และล้างมือก่อนขึ้นรถ กรณีไม่มีการบาบัดในสถานท่ี อ่ืน สามารถทาได้โดยใชป้ นู ขาวเหลว ๑๐ % โดยเตมิ ปูนขาวเหลว ๑ ส่วนตอ่ สง่ิ ปฏิกลู ๑๐ ส่วน แนวทางการใชอ้ ปุ กรณ์ปอ้ งกันรา่ งกายส่วนบุคคล กรณี COVID-19 ผูป้ ฏบิ ตั งิ านในสถานทีก่ กั กันฯ ใช้อปุ กรณ์ป้องกนั ร่างกายส่วนบุคคลตามกจิ กรรมความเสีย่ ง ดังน้ี ๑. กจิ กรรมทีม่ ีความเสยี่ งสงู -ปานกลาง เชน่ แม่บ้านทาความสะอาด ช่างทาความสะอาดแอร์ พนักงานเก็บขยะ พนักงานทาความสะอาดรถ พนกั งานซกั ผ้า ๑) เส้ือคลมุ กันน้าแขนยาวรัดข้อมือ (gown) กรณใี ชเ้ สื้อคลุมท่ีทาดว้ ยผ้า สามารถใส่เส้อื พลาสตกิ คลมุ ทับเสือ้ กาวน์ผา้ ได้ ๒) หนา้ กากอนามัย (หนา้ กากกรองอนภุ าค เช่น N 95 mask ถา้ ต้องใชเ้ วลานาน หรือคาดว่าจะมีการ ฟุ้งกระจาย) สาหรบั ชา่ งทาความสะอาดแอร์ให้ใส่ N 95 ๓) Goggle/Face Shield ๔) หมวกคลมุ ผม ๕) Shoes cover/Leg cover/รองเท้าบูท ๖) ถุงมอื ๒. ในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่า ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่กักกันฯ เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงาน ต้อนรับ พนักงานขับรถ พนักงานส่งอาหาร ท่ีไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดผู้กักกัน ใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล ดงั นี้ ๑) เส้ือคลุมกนั น้าแขนยาว (gown)/CPE ๒) Surgical mask ๓) Face Shield 4) ถงุ มือ หมายเหตุ ผ้ปู ฏบิ ัตงิ านในสถานทีก่ กั กนั ฯ (แม่บา้ น/เจ้าหน้าที)่ หลังจากเสร็จสนิ้ ภารกจิ ประจาวัน ต้องอาบน้า ทาความสะอาด ร่างกายเปล่ยี นเปน็ เสอ้ื ผ้าสะอาดกอ่ นทจี่ ะกลับบา้ นหรือเข้าสูพ่ น้ื ที่ชมุ ชน
49 คาแนะนาในการทาความสะอาด ทาลายและฆ่าเช้ือโรค กรมอนามัย องค์การอนามัยโลกแนะนาสารท่ีมีประสิทธิภาพในการกาจัดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ภายใน ระยะเวลา ๑ นาที ได้แก่ แอลกอฮอล์ ๖๒-๗๐% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ๐.๑% และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ๐.๕% โดยมีคาแนะนาความเขม้ ขน้ สาหรบั พน้ื ผิวตา่ งๆ ดงั น้ี ชนดสารฆา่ เชอ้ื การใชง้ าน ข้อควรระวัง แอลกอฮอล์ สาหรับพนื้ ผวิ ที่เปน็ โลหะ ติดไฟงา่ ย โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ - ใช้กับพื้นผิววัสดุแข็ง ไม่มีรูพรุน เช่น หา้ มผสมกับผลติ ภณั ฑแ์ อมโมเนยี (น้ายาฟอกขาว) เซรามิก สแตนเลส แต่ไม่เหมาะกับพื้นผิว โลหะ - สาหรับพ้ืนผิวท่ัวไปควรใช้ความเข้มข้น ๕๐๐-๑,๐๐๐ ppm - สาหรับพ้ืนผิวท่ีมีการปนเป้ือนน้ามูก น้าลาย เสมหะ อาเจียน ควรใช้ความ เขม้ ข้น ๕,๐๐๐ ppm ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ ไม่เหมาะกับโลหะและผลิตภัณฑ์ท่ีมีการ - ห้ามผสมกับคลอรีน เคลอื บสี - มีความเปน็ กรดสูง มีฤทธก์ิ ดั กรอ่ น กรมอนามัยจัดทารายการตัวอยา่ งผลติ ภณั ฑท์ ี่มจี าหนา่ ยในประเทศไทย โดยใชข้ อ้ มูลที่ปรากฏอยู่ใน ฉลากผลติ ภัณฑ์มาอา้ งองิ ดงั ตารางด้านลา่ ง ท้ังน้ี กรมอนามยั ไม่ไดร้ บั รองผลติ ภัณฑด์ ังกล่าวและไม่มสี ่วนได้ ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นสารเคมีท่ีมีอันตรายต่อสุขภาพและส่ิงแวดล้อม จึงควรใช้ใน ปรมิ าณที่เหมาะสม ๑. เอทลแอลกอฮอล์ ๑,๒,๓ ความเขม้ ขน้ ทแ่ี นะนา ๗๐%
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 644
Pages: