ขีดความสามารถเปา้ หมาย ชนิ้ งานทสี่ ำคญั บนั ทกึ การสังเกตการณ์ การให้คะแนน และเหตผุ ลการใหค้ ะแนน 1.การเตรยี มความพร้อมด้าน 1.ระดมบคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละ บคุ ลากรทางการแพทย์และ สาธารณสุข และบคุ ลากรสนบั สนุน สาธารณสขุ และบคุ ลากร (เชน่ ดา้ นการรักษาพยาบาล การ สนับสนนุ เคลอื่ นย้าย การสง่ ตอ่ และการเก็บ ตัวอยา่ งตรวจทางห้องปฏบิ ตั ิการ) 2.ประสานงานทรัพยากรด้าน 2.ประสานงาน ความรว่ มมือด้าน การดแู ลสุขภาพ อุปกรณ์และ การดแู ลสุขภาพในภาวะฉกุ เฉินกบั วสั ดุสิ้นเปลือง จากเครือข่าย หนว่ ยงานด้านสุขภาพและ หากจำเปน็ ในปริมาณทต่ี ้องการ หนว่ ยงานด้านอน่ื ๆ เพ่ือสนับสนนุ การดำเนนิ การ 3.บุคลากรท่ีไดร้ บั การฝึกอบรมและ ตอบสนองทางการแพทย์ ได้รับมอบหมายให้มีบทบาทหน้าที่ ในการจัดการเหตกุ ารณด์ า้ น สาธารณสุขตามความเหมาะสม ใน การรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ทางการแพทย์ เช่น การช่วยฟน้ื คืน ชีพ การปอ้ งกนั ควบคุมการ แพร่กระจายเชอื้ 1.การบรหิ ารจัดการเวชภณั ฑ์ ยาที่ จำเปน็ 22
2.กระบวนการในการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ 3. การบรหิ ารจดั การดา้ นการตรวจ วินิจฉัยทางห้องปฏิบตั ิการ เชน่ อปุ กรณ์และวัสดุ สน้ิ เปลือง 4. ความพรอ้ มใชข้ องอุปกรณ์ทาง การแพทย์ อุปกรณ์ป้องกนั ร่างกาย การให้คะแนนสุดทา้ ย ช่อื ผปู้ ระเมนิ :_____________________________ การใหค้ ะแนน Email:__________________________________ โทร:___________________________________ P – สามารถแสดงได้ ไมม่ ีข้อบกพร่อง S – สามารถแสดงได้ มีข้อบกพร่องเล็กน้อย M – สามารถแสดงได้ มีข้อบกพร่องมาก U – ไม่ได้แสดงหรอื ไม่สามารถแสดงได้ 23
แนวทางการตรวจเยยี่ มนเิ ทศ (CAP 11) การตรวจเย่ยี มนิเทศ หนว่ ยงาน: กลุ่มกกั กนั โรค สถานท:ี่ วนั ท:ี่ กองด่านควบคมุ โรคตดิ ตอิ ระหวา่ งประเทศ และกักกันโรค กรมควบคุมโรค ภารกจิ ดา้ น: (ปอ้ งกัน/ปกป้อง/ลดผลกระทบ/ตอบโต้/ฟ้นื ฟู) วตั ถปุ ระสงค์การตรวจเยยี่ มนเิ ทศ: 1.เตรยี มความพร้อมเพ่ือพัฒนาด้านมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานตามภารกิจการกักกนั โรค 2.เพอ่ื ประเมินขีดความสามารถในการคดั กรองผู้เดนิ ทางเขา้ -ออก ณ ดา่ นช่องทางฯ ระหว่างประเทศ 3.เพอ่ื นำผลการตรวจเยย่ี มนิเทศไปพัฒนาปรบั ปรงุ แผนรองรบั หากเกิดภาวะฉกุ เฉินทางสาธารณสุขได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ขีดความสามารถหลกั : มาตรการทีไ่ มใ่ ช่ยา ขดี ความสามารถเปา้ หมาย 1: กำหนดมาตรการที่ไมใ่ ชย่ า ชนิ้ งานทส่ี ำคญั 1: การรวบรวมและมสี ่วนร่วมกบั ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะด้านเพอ่ื ประเมนิ การสัมผัสหรอื การแพร่กระจายเชอื้ ตาม หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบตามพ้ืนท่แี ละความจำเป็นสำหรบั มาตรการท่ีไมใ่ ชย่ า ชนิ้ งานทส่ี ำคญั 2: การแยกผสู้ มั ผสั โรคหรือพาหะไวห้ ่างจากผู้อ่นื ในท่ีเอกเทศ (แยกกกั ) การควบคุมผู้สมั ผัสโรค ข้อจำกัดและ คำแนะนำในการเดนิ ทาง แหลง่ ที่มา: แนวทางการแยกกกั , มาตรการการแยกกัก ขดี ความสามารถเปา้ หมาย 2: การนำมาตรการที่ไม่ใชย่ าไปใช้ ชนิ้ งานทส่ี ำคญั 1: จัดการและกักกนั ผโู้ ดยสารทีผ่ า่ นช่องทางเขา้ - ออกระหวา่ งประเทศ ประสานงานกับกองดา่ นควบคุม โรคติดตอ่ ระหว่างประเทศและกักกนั โรคของกรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศ เจ้าหนา้ ท่ี หน่วยงานทรี่ บั ผิดชอบตามพื้นท่ี เพอื่ จดั การและกักกันผโู้ ดยสารที่ชอ่ งทางเขา้ - ออกระหว่างประเทศ ตามทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั เหตุการณท์ ่ีเกดิ ข้ึนรวมถึงการสนับสนุนด้านความปลอดภัยและการบงั คบั ใช้กฎหมายการแจ้งเตอื นครอบครวั และข้อกำหนด ของ อาหาร ศูนย์พกั พงิ และชอ่ งทางการสอ่ื สาร ชน้ิ งานทสี่ ำคญั 2: ตรวจสอบว่ามกี ารกำจดั การปนเป้ือนของบุคคล โดยการคัดกรอง การลงทะเบยี น และการดำเนนิ การกำจัด สิง่ ปนเป้ือนของบุคคลท่ีอาจมีการสัมผสั หรอื ปนเป้ือน ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 3: แจ้งให้ประชาชน ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน และภาคีเครือขา่ ยอ่นื ๆ ทราบ เกี่ยวกับคำแนะนำสำหรับมาตรการทไ่ี ม่ใชย่ า ให้ความรู้และข้อมลู ที่เหมาะสมกับประชาชน ผูป้ ฏบิ ัตงิ าน และภาคีเครือข่ายอ่นื ๆ เกย่ี วกับมาตรการที่ไม่ใชย่ า ท่แี นะนำ ชนิ้ งานทสี่ ำคญั 4: แนวทางในการแยกกกั และกักกนั ผปู้ ่วย และเง่ือนไขในการปล่อยตัวผูส้ มั ผสั และการแยกตัวผู้ป่วย 24
ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 5: ระบุเจา้ หนา้ ทบ่ี ุคลากรและทรัพยากรอ่ืนๆ ซงึ่ รวมถงึ อปุ กรณส์ ิ่งอำนวยความสะดวกและสถานทไี่ ว้ทช่ี อ่ ง ทางเข้า - ออกระหว่างประเทศ ท่จี ะถูกใช้สำหรับการแยกกักกลุ่มคน ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 6: สถานท่ที ไี่ ดก้ ำหนดไวก้ ่อนหน้านี้ สำหรับกลมุ่ ประชากร ที่จะถูกแยกกัก หรือกกั กัน ชนิ้ งานทสี่ ำคญั 7: การปรับสภาพแวดล้อมของสถานที่ ท่ีจำเป็นสำหรบั มาตรการ เชน่ พื้นทแ่ี ยกสำหรับการสวมใสแ่ ละถอด อุปกรณ์ปอ้ งกนั ส่วนบุคคล (PPE) ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 8: การคืนสถานทีใ่ หก้ ลับสู่การทำงานตามปกติ รวมถงึ การกำจดั สง่ิ ปนเป้ือน การจัดการขยะทางการแพทย์ หรือการฆ่าเชอื้ หากจำเป็น ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 9: การอำนวยความสะดวกในการสง่ ต่อหรือยา้ ยบุคคลไปยงั ศนู ย์พักพิงฉุกเฉนิ (ศูนย์พกั พงิ ท่ีสามารถเข้าถึงได้ ตามความจำเป็น) และการดแู ลรักษา หรอื ติดตามผลการรกั ษา ชน้ิ งานทส่ี ำคญั 10: วิธีป้องกนั การติดเช้ือหรือการสมั ผัส รวมถึงการลา้ งมอื และพฤติกรรมการปอ้ งกันอน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง แหล่งท่มี า: มาตรการการเขา้ -ออกประเทศ มาตรการการปอ้ งกนั ควบคมุ การตดิ เชอ้ื และการแพรก่ ระจายเชอ้ื ขดี ความสามารถเปา้ หมาย ชนิ้ งานทสี่ ำคญั บนั ทกึ การสงั เกตการณ์ การให้ 1.กำหนดมาตรการที่ไมใ่ ช่ยา และเหตผุ ลการใหค้ ะแนน คะแนน 1.การรวบรวมและมสี ว่ นรว่ มกบั ผเู้ ช่ยี วชาญเฉพาะด้านเพอื่ ประเมนิ การ สมั ผสั หรือการแพร่กระจายเชือ้ ตาม หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบตามพ้ืนทแี่ ละ ความจำเป็นสำหรบั มาตรการทไ่ี ม่ใชย่ า 2.การแยกผู้สัมผัสโรคหรือพาหะไวห้ ่าง จากผอู้ ืน่ ในทเี่ อกเทศ (แยกกัก) 3. การควบคมุ ผูส้ ัมผสั โรคหรือพาหะให้ อยใู่ นทีเอกเทศ เพือ่ ป้องกนั ไม่ให้เช้อื โรคแพรไ่ ป ยงั ผู้อาจได้รบั เชอื้ โรคน้นั ๆ (กักกนั ) 25
2.การนำมาตรการที่ไม่ใช่ยาไป 4. ข้อจำกดั และคำแนะนำในการ ใช้ เดินทาง เชน่ การตรวจคดั กรองที่ ชอ่ งทางเข้า-ออก ระหว่างประเทศ ข้อกำหนดในระบบขนส่งสาธารณะและ การออกขอ้ ควรระวงั ในการเดินทาง 1.จดั การและกักกนั ผโู้ ดยสารทผี่ า่ นช่อง ทางเข้า-ออกระหวา่ งประเทศ ประสานงานกบั กองด่านควบคมุ โรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกัน โรคของกรมควบคุมโรค เจา้ หน้าที่ ชอ่ งทางเข้า-ออกระหวา่ งประเทศ เจ้าหน้าทหี่ น่วยงานทีร่ ับผิดชอบตาม พืน้ ท่ี เพื่อจดั การและกักกันผ้โู ดยสารที่ ช่องทางเขา้ -ออกระหว่างประเทศ ตามท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั เหตุการณ์ท่เี กิดข้ึน รวมถงึ การสนับสนุนดา้ นความ ปลอดภยั และการบังคับใช้กฎหมายการ แจง้ เตือนครอบครัวและข้อกำหนดของ อาหาร ศูนย์พกั พิง และช่องทางการ ส่อื สาร 2.ตรวจสอบวา่ มีการกำจัดการปนเปือ้ น ของบุคคล โดยการคัดกรอง การ ลงทะเบยี น และการดำเนนิ การกำจัด สง่ิ ปนเปื้อนของบุคคลที่อาจมีการสัมผสั หรือปนเปือ้ น 26
3.แจ้งให้ประชาชน ผ้ปู ฏบิ ัติงาน และ ภาคเี ครอื ขา่ ยอน่ื ๆ ทราบ ให้ความรู้ และข้อมูลที่เหมาะสมกับประชาชน ผปู้ ฏิบตั ิงาน และภาคเี ครือข่ายอ่ืน ๆ เก่ยี วกับมาตรการท่ีไม่ใชย่ า ที่แนะนำ 4 แนวทางในการแยกกกั และกักกนั ผปู้ ว่ ย และเง่ือนไขในการปล่อยตัวผู้ สมั ผัส และการแยกตวั ผู้ป่วย 5.ระบเุ จ้าหน้าท่บี ุคลากรและทรัพยากร อ่ืนๆ ซึ่งรวมถึงอปุ กรณ์สิง่ อำนวยความ สะดวกและสถานท่ีไว้ท่ชี อ่ งทางเข้า - ออกระหวา่ งประเทศ ที่จะถกู ใช้สำหรบั การแยกกกั กลุ่มคน 6.สถานท่ที ไ่ี ดก้ ำหนดไวก้ ่อนหนา้ นี้ สำหรับกล่มุ ประชากร ท่ีจะถูกแยกกัก หรอื กกั กัน 7.การปรับสภาพแวดล้อมของสถานท่ี ท่ีจำเป็นสำหรับมาตรการ เชน่ พ้ืนที่ แยกสำหรับการสวมใส่และถอดอุปกรณ์ ปอ้ งกนั สว่ นบุคคล (PPE) การกำจัด ขยะ 8.การคนื สถานทใ่ี ห้กลบั สู่การทำงาน ตามปกติ รวมถึงการกำจัดสิง่ ปนเปอ้ื น การจัดการขยะทางการแพทย์ หรอื การ ฆา่ เช้อื หากจำเป็น 27
9.การอำนวยความสะดวกในการสง่ ตอ่ หรือยา้ ยบคุ คลไปยงั ศูนย์พักพิงฉกุ เฉนิ (ศนู ย์พักพิงทีส่ ามารถเขา้ ถึงไดต้ าม ความจำเป็น) และการดูแลรกั ษา หรือ ติดตามผลการรักษา 10.วธิ ปี ้องกันการติดเชื้อหรือการสัมผัส รวมถึงการลา้ งมือ และพฤตกิ รรมการ ป้องกนั อื่น ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง การให้คะแนนสุดทา้ ย ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ :_____________________________ การใหค้ ะแนน Email:__________________________________ โทร:___________________________________ P – สามารถแสดงได้ ไมม่ ขี อ้ บกพรอ่ ง S – สามารถแสดงได้ มีข้อบกพร่องเลก็ น้อย M – สามารถแสดงได้ มีข้อบกพรอ่ งมาก U – ไมไ่ ด้แสดงหรือไมส่ ามารถแสดงได้ 28
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านคลองลกึ อ. อรญั ประเทศ จ. สระแกว้ 29
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านคลองลกึ อ. อรญั ประเทศ จ. สระแกว้ 30
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านคลองลกึ อ. อรญั ประเทศ จ. สระแกว้ 31
จดุ ผ่านแดนถาวรบา้ นเขาดนิ อ.คลองหาด จ. สระแกว้ 32
จดุ ผา่ นแดนถาวรบา้ นเขาดนิ อ.คลองหาด จ. สระแกว้ 33
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านแหลม อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 34
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านแหลม อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 35
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านแหลม อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 36
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านผกั กาด อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 37
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านผกั กาด อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 38
จดุ ผา่ นแดนถาวรบ้านผกั กาด อ. โปง่ นำ้ รอ้ น จ. จนั ทบรุ ี 39
กองด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศและกกั กนั โรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุ รายงานผลการดําเนินงาน MONKEYPOX โรงพยาบาลบางพลี จังหวดั สมุทรปราการ วนั ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565 กองด่านควบคุมโรคตดิ ต่อระหว่างประเทศและกกั กนั โรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
สารบญั 1 3 บทที่ 1 บทนำ 6 บทที 2 ขอ้ มูลผู้ปว่ ยและข้ันตอนการดำเนนิ งาน 10 บทที่ 3 ความรู้เรอ่ื งนำ้ ยาฆ่าเช้อื 12 บทที่ 4 การปอ้ งกนั และควบคุมการแพรก่ ระจายเชอื้ 17 บทท่ี 5 สรุป/ขอ้ เสนอแนะ ภาคผนวก
บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มา จากสถานการณ์โรคฝีดาษลิง ขณะนี้มีแนวโน้มพบผูป้ ่วยสูงขึน้ ในแถบอเมริกาและแคนาดา ส่วนแถบทวีป ยุโรปผู้ป่วยยังคงตัวเฉลี่ย 900 ราย ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงยืนยันทั่วโลก จำนวน 35,910 ราย เสียชีวิต 13 ราย ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 11,177 ราย สเปน 5,856 ราย เยอรมัน 3,102 ราย องั กฤษ 2,914 ราย และบราซลิ 2,849 ราย สถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทยล่าสุด จากรายงานการคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาดของ โรคฝีดาษวานร ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกันกันโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ วันท่ี 14 สิงหาคม 2565 พบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 25 ปี สัญชาติไทย เดินทางจาก เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อถึงประเทศไทยได้ผ่านจุดคัดกรอง เจ้าหน้าท่ีกองด่านควบคุม โรคตดิ ตอ่ ระหว่างประเทศและกักกันโรค พบผู้ปว่ ยมีอาการเหน่ือยเพลยี มีตมุ่ ท่ีใบหน้าและแขน 2 ขา้ ง จึงให้ผู้ป่วย เข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งจากการสอบถามผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยง คือ ระหว่างที่อยู่ต่างประเทศมีประวัติเปลี่ยนคู่ นอน โดยเริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2565 พบมีตุ่มขึ้นที่อวัยวะทั่วร่างกาย จากนั้นเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ได้รับการรักษาโดยการฉีดยาฆ่าเชื้อไม่ทราบชนิด แต่อาการไม่ดีข้ึน จึงเดินทางกลับประเทศไทย หลังเจ้าหน้าทีด่ ่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกนั โรค ตรวจพบ แพทย์ด่านฯ ตรวจร่างกายสงสัยโรคฝีดาษวานร (Monkeypox) ทางกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ สถาบันบำราศนราดูรและห้องปฏิบัติการที่ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก TRC-EIDCC โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยยืนยนั พบเชอ้ื ฝีดาษวานร นับเปน็ ผู้ป่วยรายท่ี 5 ของไทย และเป็นเพศหญงิ รายท่ี 2 สำหรบั มาตรการคดั กรองผเู้ ดินทาง กองดา่ นควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกนั โรค กรมควบคุม โรค ได้วางระบบเฝ้าระวังคดั กรองไว้อย่างรัดกุม โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากผู้เดินทางมีอาการสงสัยสามารถเข้า ตรวจโรคไดท้ ันทีทำใหส้ ามารถการตรวจคัดกรองและค้นพบผปู้ ่วยยืนยันรายที่ 5 ได้อย่างรวดเรว็ เพ่ือเป็นการสกัด ก้ันการแพรก่ ระจายเชื้อในประเทศต่อไป 1
วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื เก็บตวั อย่างสิง่ แวดล้อมในห้องผูป้ ่วยเพาะหาเช้ือ Monkeypox 2. เพ่ือลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค วนั ทลี่ งพน้ื ที่ วนั ท่ี 15 สิงหาคม 2565 สถานท่ี โรงพยาบาลบางพลี จงั หวัดสมทุ รปราการ รายชอ่ื คณะทำงาน 1.1 แพทยห์ ญิงณฐั ฐาวฎี อริยวงษ์เจริญ นายแพทย์ชำนาญการพเิ ศษ 1.2 นางสาวเอ้ือใจ แจ่มศักด์ิ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ 1.3 นางพรรณี ฤทธส์ิ ำเรจ็ พยาบาลวิชาชพี (พนักงานราชการเฉพาะกจิ ) 1.4 นางนิภา อดุลยวฒั น์ พยาบาลวชิ าชีพ (พนักงานราชการเฉพาะกิจ) 1.5 นางณฎั ฐิณี ตณั นติ ิศุภวงษ์ พยาบาลวชิ าชพี (พนักงานราชการเฉพาะกิจ) 1.6 นายสนั ติสุข มะเรงิ สิทธ์ิ นักวิชาการสาธารณสุข (พนักงานราชการเฉพาะกจิ ) 1.7 นางสาวเบญจมาศ อนิ ทร์เพช็ ร นกั วชิ าการสาธารณสุข (พนกั งานราชการเฉพาะกิจ) 2
บทท่ี 2 ขอ้ มลู ผปู้ ว่ ยและขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน ขอ้ มลู ผปู้ ว่ ย หญิงไทย อายุ 25 ปี อาศัยอยู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยมี ประวตั เิ ส่ยี ง คือ ระหวา่ งทีอ่ ย่ตู า่ งประเทศ มีประวัติเปลีย่ นคนู่ อนบอ่ ยคร้ัง กับคนแปลกหน้าจากการประกอบอาชีพ โดยเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่ วันท่ี 3 สิงหาคม 2565 พบมีตุ่มขึ้นที่อวัยวะทั่วร่างกาย จากนั้นเริ่มมีไข้ หนาวส่ัน ปวดหลัง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ได้รับการรักษาโดยการฉีดยาฆ่าเชื้อไม่ทราบชนิด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 14 สิงหาคม 2565 จากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ เข้ามาถึงประเทศไทยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจคัดกรองและสังเกตุอาการ พบเข้าข่ายสงสัย เนื่องจากมีอาการไม่สบาย ตัวร้อนหนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ อ่อนเพลียเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามสังเกตุเห็นตุ่มหนองมีรอยบุ๋มตรงกลางตามลำตัว จากการซักประวัติ ผู้ป่วยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เจ้าหน้าท่ีจึงได้นำผู้ป่วยมารับการตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาลผลตรวจทาง ห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง ผล LAB : MPXV generic real-Time PCR Detected Admit โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 3
ขั้นตอนการดำเนินงาน เมื่อได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วย Monkeypox ที่โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นหญิงไทย อายุ 25 ปี เดินทางกลับมาจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ประวัติมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เริ่มมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อย และมีตุ่มหนองตามตัว ผลตรวจ PCR พบ Monkeypox Detected เตรียมส่งตัวมารักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร หลังจากผู้ป่วยส่งต่อมาที่ สถาบันบำราศนราดูร กลุ่มกักกนั โรค กองดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศและกักกนั โรค ได้รบั มอบหมายให้ ทำการ Swab สง่ิ แวดลอ้ ม และทำความสะอาดในหอ้ งผปู้ ว่ ยพรอ้ มให้คำแนะนำ วธิ กี ารเก็บ Swab ใส่อปุ กรณ์ปอ้ งกันร่างกายสว่ นบคุ คล ดงั นี้ o N95 o Leg cover รองเท้า Boot o Coverall/Isolate gown o แว่นป้องกันตาหรือ face shield o ถุงมือ 2 ช้นั อปุ กรณเ์ กบ็ Swab o ไม้ Swab o UTM o Sterile tube o Parafilm o ถงุ ซปิ o กลอ่ งโฟมทมี่ ี Ice pack วิธีการเก็บ ใช้ไม้ Swab 2 อัน จุ่มในน้ำยา UTM ก่อน Swab ตำแหน่งที่กำหนด แล้วใส่ใน Sterile Tube (ติด Sticker) พันด้วย Parafilm ใส่ถุงซิป 2 ชั้น แล้วใส่ถุงซิป ชั้นที่ 3 (แทนกระป๋องพลาสติก) ทุกชั้น Spray ด้วย 70 % Alcohol แลว้ นำใส่กล่องโฟมทีม่ ี Ice pack รักษาอณุ หภมู ิท่ี 2-8 องศาเซลเซยี ส ตำแหน่งทเี่ ก็บสง่ิ สง่ ตรวจในห้องผปู้ ่วยมที ้ังหมด 10 จุดดงั น้ี o ลกู บิดในหอ้ ง o เตยี ง o โต๊ะขา้ งเตียง o เมโย o รโี มททวี ี o ลูกบิดในห้องน้ำ o ก๊อกน้ำ o ชกั โครก o ตเู้ ย็น o สวติ ชไ์ ฟ 4
การทำความสะอาดหอ้ งผปู้ ว่ ย และสงิ่ แวดลอ้ ม ใส่อุปกรณ์ป้องกนั ร่างกายสว่ นบคุ คล ดงั น้ี o N95/Mask o Leg cover/รองเทา้ Boot o Isolate gown/Coverall o แวน่ ปอ้ งกนั ตาหรือ Face shield o Cap o ถงุ มอื 2 ชน้ั วธิ กี ารทำความสะอาด 1. ปดิ แอร์ เปดิ หนา้ ต่างเพือ่ ใหม้ ีการถ่ายเทของอากาศ และเจือจางเชอ้ื ภายในห้องทง้ิ ไว้ 30 นาที 2. ผสมน้ำยาใส่กระป๋อง น้ำยาที่ใช้ เป็น Virkon (Sodium hypochlorite) 1 % โดยผสม น้ำ 1000 CC ต่อ Virkon 2 ซอง (1 ซอง มี 5 กรัม) 3. เก็บผ้าปทู ีน่ อน ปลอกหมอน ใสใ่ นถุงแดง ผูกถงุ ดว้ ย Cable tie 4. เก็บขยะ ใส่ถงุ แดง ผูกถงุ ดว้ ย Cable tie 5. ทำความสะอาดห้องน้ำ ปิดฝาชักโครก กดน้ำทิ้ง 2 รอบ ใช้ Virkon 1 % ราดโถส้วม ปิดฝา ราดพ้ืน ห้องน้ำ อ่างลา้ งมอื ทง้ิ ไว้ 15 นาที ค่อยมาเช็ดทำความสะอาดตามปกติ 4. ทำความสะอาดพน้ื ทแี่ นวระนาบ โต๊ะขา้ งเตียง เมโย ตู้เกบ็ ของ โทรทศั น์ ต้เู ย็น อปุ กรณ์ วดั สญั ญาณชีพ สวติ ชไ์ ฟ เตยี ง ลกู บิดประตู พ้นื ห้อง บานเล่ือนประตู รโี มททีวี เช็ดทำความสะอาด 3 รอบด้วย Virkon 1 % หลกั การ เช็ดทำความสะอาดไปในทางเดียวกนั ไมย่ ้อนกลับ ไม่ใชผ้ า้ ซ้ำ ในแต่ละตำแหน่ง ส่วนเรื่องการทำความสะอาด filter แอร์ ทางรพ.แจ้งว่าจะเป็นช่างจากภายนอก ได้ให้คำแนะนำในการทำความ สะอาดในเบือ้ งต้น การสวมใส่อปุ กรณป์ ้องกันรา่ งกาย โดยให้ ICN ในพ้นื ที่เป็นผคู้ วบคมุ 5
บทท่ี 3 ความรเู้ รอ่ื งนำ้ ยาทำลายเชอ้ื วิธีฆา่ เชอ้ื จุลินทรยี น์ ้นั มมี ากมายหลายวธิ ี ซึ่งแตล่ ะวธิ ีมีความเหมาะสมกบั การใชง้ านท่ีแตกตา่ งกนั ไป โดย อาจจะแบง่ ออกได้เป็นสองประเภทหลกั คือ การฆ่าเชอ้ื ด้วย วธิ ที างกายภาพ เชน่ การกรอง การใช้ความรอ้ น การ ใช้รังสี และการฆา่ เช้อื ด้วยวธิ ที างเคมี เชน่ การใช้ สารต้านเชอื้ จุลนิ ทรยี ์ซ่งึ ในบางครงั้ อาจจะใช้ทัง้ วธิ ีทางกายภาพ และวธิ ที างเคมีร่วมกัน น้ำยาฆา่ เชื้อเป็นช่ือเรยี กสารเคมีทม่ี ีฤทธ์ิ ฆา่ เช้ือ ปลอดเชื้อ หรอื ระงับเช้ือ ซึ่งจะระบทุ ี่ฉลากของผลิตภัณฑ์ ว่ามฤี ทธ์ริ ะดบั ใด ไดแ้ ก่ • Disinfectant หมายถึง สารที่ใช้กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้หลากหลาย ไม่เจาะจง แต่มีความรุนแรงทำให้ไม่ สามารถใช้กับพื้นผวิ สงิ่ มีชวี ติ ได้เชน่ ผวิ หนัง จงึ เหมาะสำหรับใชก้ ับพน้ื ผวิ ของส่ิงของต่างๆ ทไ่ี มม่ ีชีวิตเพ่ือยับยั้ง การแพรก่ ระจายของเช้อื • Antiseptic หมายถึง สารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อ และใช้กำจัดเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหรือเนื้อเยื่อของ สิ่งมีชีวิต ซึ่งสารบางชนิดอาจเป็นได้ทั้ง Disinfectant และ Antiseptic เมื่อความเข้มข้นเปลี่ยน เช่น Chlorhexidine ที่ความเข้มข้น 0.02% ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก จัดเป็น Antiseptic แต่เมื่อเพิ่มความเข้มข้น เปน็ 0.5% จะเป็น Disinfectant ใชท้ ำความสะอาดพน้ื ผวิ ได้ Disinfectant เป็นสารประกอบสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ใช้ในครัวเรือน นอกจากนั้นยังนิยมใช้ใน สถานพยาบาลด้วยการเลือกใช้นำ้ ยาฆ่าเช้ือชนิดใดนั้นควรพิจารณาถึงปจั จยั ต่าง ๆ เหลา่ น้ี 1. คุณสมบตั ิทางเคมี 2. ประสิทธิภาพและระยะเวลาท่ีใช้ 3. ความปลอดภยั ไมร่ ะคายเคืองและไมเ่ ป็นพิษต่อผู้ใช้ 4. ไมม่ ีผลกับอปุ กรณ์ เครื่องมือ รวมทั้งไมเ่ ป็นพษิ ตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม 5. อนื่ ๆ เช่น ราคา ความคงตวั การเกบ็ รักษา สารฆ่าเชอ้ื สามารถแบ่งตามประสทิ ธภิ าพในการฆา่ เชื้อได้เปน็ 3 ระดบั คือ 1. สารฆา่ เชื้อท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพสงู (High level disinfectants) เปน็ กลุม่ ทมี่ ฤี ทธใ์ิ นการทำลายเช้ือสงู สามารถฆ่าเชื้อได้ทุกชนิด ส่วนมากใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่สามารถนึ่งฆ่าเชื้อได้ เช่น Formaldehyde, 30% Hydrogen peroxide, Chlorinated compounds 2. สารฆ่าเชอ้ื ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพปานกลาง (Intermediate level disinfectants) สารในกลมุ่ น้สี ามารถ ทำลายแบคทีเรียและไวรัสได้เกือบทุกชนิด นิยมใช้ในห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาล เช่น Sodium Hypochlorite, Ethyl Alcohol, Isopropyl Alcohol 6
3. สารฆา่ เช้ือประสทิ ธภิ าพตำ่ (Low level disinfectants) สามารถทำลายเช้ือแบคทเี รีย ไวรัสและเชือ้ ราได้ บางชนดิ เชน่ 3% hydrogen peroxide สำหรบั น้ำยาฆ่าเชื้อกล่มุ ท่ใี ชก้ นั อย่างแพรห่ ลาย เช่น สารประกอบคลอรนี (Chlorine) สารประกอบคลอรีนที่นิยมใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ คือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) หรือ น้ำยาฟอกขาวหรือคลอรีนน้ำ ซึ่งใช้เป็นสารฆ่าเชื้อในผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมีชื่อการค้าหลายยี่ห้อเช่น ไฮเตอร์ (Haiter®) คลอร็อกซ์ (Clorox®) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยที่วางจำหน่ายส่วนมากเป็นชนิดเข้มข้นต้องเจือจางให้มี ความเขม้ ข้นของโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ เทา่ กับ 0.5% โดยปรมิ าตร ขอ้ ดขี องคลอรนี คือมฤี ทธ์ฆิ ่าเชื้อสูงและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียคือมีฤทธิก์ ัดกร่อน และประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลดลงเมื่อมีสารอินทรีย์อื่นอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมี ผลติ ภณั ฑท์ ส่ี ามารถปลดปล่อยคลอรีนออกมาอย่างช้า ๆ (Slow release) คืออยู่ในรูปคลอราไมน์ (Chloramines) ซ่งึ จะแตกตวั อย่างชา้ ๆ ใหค้ ลอรีนอิสระส่สู ารละลาย ใช้ในการทำความสะอาดและซกั ลา้ ง รวมท้ังฆา่ เชอ้ื บนผวิ หนัง และเยอื่ บเุ นอ้ื เยื่ออ่อน เน่ืองจากไม่ก่อความระคายเคอื ง สามารถฆา่ เชื้อได้ ดขี นึ้ กบั ความเขม้ ข้นของตัวยาจึงเป็นทั้ง Antiseptic และ Disinfectant ความเข้มขน้ จะต้องเป็นเปอร์เซน็ ต์ของโซเดียมไฮโปคลอไรด์ หรอื ppm ของ available chlorine (ความเข้มขน้ 1% Na OCl=10,000 ppm available chlorine) ความเข้มข้น 0.10-0.25 ppm จะสามารถฆา่ เช้ือแบคทเี รียสว่ นใหญไ่ ด้ใน 15-30 วนิ าที สามารถฆ่าเชื้อ วัณโรคไดแ้ ต่ไม่สามารถฆา่ สปอร์ได้ ความเข้มขน้ 0.5-1% สามารถทาํ ลายไวรัสได้ถงึ 100% เช่น HBV และ HTLV-3 (AIDS) ความเขม้ ขน้ 0.5% Sodium hypochlorite (Dakin’s Solution) สามารถใช้เป็น Antiseptic ใชล้ า้ ง แผล สกปรกเพ่ือละลาย และดบั กลน่ิ เน้ือเยื่อที่ตายแลว้ ทมี่ า: WHO Laboratory safety guideline 3 rd ed. 7
แอลกอฮอล์ (Alcohol) สารกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อที่ดีต่อทั้งแบคทีเรีย รา ไวรัส และมีผลต่อเชื้อวัณโรค ( Mycobacterium) แต่ไม่สามารถทำลายสปอร์ของราหรือแบคทีเรียได้และความสามารถในการแทรกซึมผ่านสารอินทรีย์ต่ำมากออก ฤทธิ์โดยการทำให้โปรตีนเสียสภาพและทำลายผนังเซลล์ของเชื้อ แอลกอฮอล์ที่นิยมใช้เป็นยาฆ่าเชื้อคือ Ethanol และ Isopropanol ซึ่งระเหยได้ จึงเหมาะกับการฆ่าเชื้อบนผิวหนังก่อนฉีดยา โดยทั่วไปแล้ว Ethanol ที่ความ เข้มขน้ 60-80% โดยปริมาตร สามารถฆา่ เชื้อไวรสั ที่มีเปลือกหุ้ม (Envelope) และไวรสั ท่ีไม่มีเปลือกหุ้มบางชนิด ได้ แตท่ ี่ความเข้มขน้ 70% โดยปริมาตร จะมปี ระสทิ ธิภาพดที ี่สดุ และเปน็ ความเข้มข้นที่แนะนำให้ใช้ ประสทิ ธภิ าพของนำ้ ยาทำลายเชอ้ื ในโรงพยาบาล 8
นอกเหนือจากคุณสมบัตเิ ฉพาะตัวของสารฆา่ เชอื้ ยงั มปี ัจจัยที่อืน่ มผี ลตอ่ ประสทิ ธภิ าพของการกำจดั เช้อื ไดแ้ ก่ 1. ปรมิ าณจลุ นิ ทรียเ์ ริม่ ต้น ถ้ามีปริมาณจุลินทรยี ์เรม่ิ ต้นมาก ก็จะสง่ ผลให้ใชเ้ วลานานในการกำจัดเช้ือ 2. ประเภทของจุลินทรีย์ เชื้อแต่ละชนิดมีความไวต่อกระบวนการฆ่าเชื้อแตกต่างกัน แบคทีเรียที่มีชีวิต (Vegetative form) จะไวต่อวิธีการตา่ ง ๆ มากกว่าสปอร์ 3. สภาพแวดล้อม สารอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น เลือด หนอง มีผลต่อการออกฤทธิ์ของสารฆ่าเชื้อเนื่องจากสาร เหล่าน้นั จะดดู ซับสารเอาไวท้ ำใหค้ วามเขม้ ขน้ ของสารฆ่าเช้อื ที่ไปถึงตวั เชอื้ ลดลง 4. ระยะเวลา สารฆ่าเชื้อทุกชนิดต้องอาศัยเวลาในการฆ่าเชื้อ (Contact time) ดังนั้นหลังจากเช็ดหรือถู พ้นื ผิวดว้ ยนำ้ ยาฆา่ เชอื้ แล้วควรปล่อยทง้ิ ไว้สักระยะหน่งึ ไม่ควรล้างออกทนั ที โดยท่ัวไป เวลาที่ใช้ในการฆ่า เชื้อนานกวา่ จะฆา่ เชื้อไดม้ ากกว่า 5. ความเขม้ ขน้ ของสารฆา่ เช้อื สารฆา่ เชอื้ บางชนิดทคี่ วามเข้มข้นตำ่ มฤี ทธิเ์ พียงยบั ยั้งการเจรญิ เติบโตของเชือ้ หรอื จัดเป็น Microbistatic แต่ทคี่ วามเขม้ ขน้ สงู มีฤทธ์ิเป็น Microbicidal คือ ทำลายเชอื้ ได้ Monkeypox มีความเสถียรมากในสิ่งแวดล้อม มีชีวิตอยู่ได้นานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในอาหาร แช่เย็น ในน้ำ ในดิน อยู่ได้เป็นเดือน และเป็นปีในสะเก็ดแผล แต่ไม่ได้ระบุว่าอยู่ได้นานแค่ไหน CDC กล่าวว่าจาก การศึกษาพบว่าเชื้อสามารถอยู่ได้นาน 15 วันในบ้านผู้ป่วยที่ถูกทิ้งไว้ และเชื้อยังสามารถอยู่รอดได้ในผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า และพื้นผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มืด เย็น และแห้ง วัสดุที่มีรูพรุนเช่นเครื่องนอน เสื้อผ้า และยังพบว่า Orthopoxviruses อื่น ๆ สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนบ้านได้นานหลายเดือน ส่วนเรื่อง การ decontamination นนั้ Department of Homeland Security's (DHS) ระบวุ ่าไมม่ ีข้อมูลใดทแ่ี สดงให้เห็น ถงึ ประสิทธิภาพของนำ้ ยาฆา่ เชื้อในการตอ่ ต้านไวรสั Monkeypox แต่แนะนำให้ใชส้ ารฟอกขาวกับไวรัสใหม่ ๆ เคย มกี ารทดสอบนำ้ ยาฆา่ เช้อื กบั vaccinia virus พบวา่ นำ้ ยาที่มปี ระสทิ ธภิ าพใช้ได้คอื Virkon, Dettol and Sanytex สำหรับในกรณที โี่ รงพยาบาลบางพลี น้ำยาที่เลือกใช้ทำความสะอาดคือ Virkon (Sodium hypochlorite) ซึ่งทางโรงพยาบาลบางพลีมีใช้อยู่ แล้ว ผสมให้เป็น 1 % เพื่อให้มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อสูง (High level disinfectants) ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อตระกูล virus ได้ Reference 1. file:///C:/Users/DIPQ/Downloads/WHO-MPX-Clinical_and_IPC-2022.1-eng.pdf 2. https://www.cdc.gov/infectioncontrol/pdf/guidelines/disinfection-guidelines-H.pdf 3. http://www.as2.mju.ac.th/E-Book/t_panupong/Antiseptic_and_disinfectants.pdf 4. https://www.newsweek.com/how-long-can-monkeypox-survive-food-scabs-1729618 9
บทท่ี 4 การปอ้ งกนั และควบคมุ การแพรก่ ระจายเชอื้ การปอ้ งกนั และควบคมุ การแพรก่ ระจายของเชอ้ื Monkeypox ใช้หลักการป้องกันมาตรฐาน (Standard precautions) และมาตรการป้องกันตามวิธีการที่แพร่กระจาย เชื้อ (Transmission-based precautions) วิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโดยการสัมผัส (Contact Precautions) และการป้องกันการแพร่กระจายเช้อื จากละอองฝอย (Droplet Precautions) เป็นหลกั โดย 1. หอ้ งผปู้ ว่ ย 1.1 ใหผ้ ู้ปว่ ยอยูใ่ นหอ้ งแยกเดี่ยว (Single isolation room) ประตูปดิ สนทิ มหี ้องน้ำในตัว ไมจ่ ำเป็นต้อง เปน็ ห้องท่ีมีความดนั ลบ 1.2 แยกอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นห้อง ใหใ้ ชเ้ ฉพาะราย เช่น ปรอทวัดไข้ หูฟัง โทรศัพท์ 1.3 หลกี เล่ยี งกิจกรรมทท่ี ำให้มกี ารฟุ้งกระจายจากสะเกด็ ของรอยโรค เช่น การใช้พดั ลมสา่ ย การกวาด ปัดฝุ่นหรือดดู ฝนุ่ เปน็ ตน้ 2. อปุ กรณป์ อ้ งกนั รา่ งกาย 2.1 ผปู้ ว่ ย: สวมหนา้ กากอนามัยถ้าใกล้ชดิ กบั บคุ คลอื่น และใส่เสอื้ ผ้าทป่ี กคลุมรอยโรค เชน่ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว 2.2 บคุ ลากร: พจิ ารณาตามกจิ กรรม และความเส่ยี งของหัตถการ 3. การเคลอื่ นยา้ ยผปู้ ว่ ย 3.1 ทำเม่ือจำเป็น และให้แจง้ หนว่ ยงานปลายทางทราบ 3.2 ผปู้ ว่ ย: สวมหนา้ กากอนามยั และมีการปกคลมุ รอยโรคใหม้ ดิ ชิด เช่น ใชผ้ า้ ห่มคลมุ หรอื สวมเสอ้ื แขน ยาว กางเกงขายาว 3.3 บุคลากร: พจิ ารณาตามกจิ กรรม และความเส่ียงของหัตถการ 4. การจำหนา่ ยผปู้ ว่ ย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักนานประมาณ 21 วัน หรือ จนพ้นระยะแพร่เชื้อ คือ จนทุกรอยโรคตกสะเก็ด และ สะเกด็ หลุด มีผิวหนังปกตขิ า้ งใต้ 10
5. การใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกนั ร่างกายสว่ นบุคคล การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment, PPE) สำหรับ บุคลากรทางการแพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาล ตามกิจกรรมความเสี่ยง ตามแนวทางของ Contact Precautions และ Droplet Precautions มีแนวปฏิบัติดังน้ี Reference: 1. CDC Interim Clinical Guidance for the Treatment of Monkeypox https://www.cdc.gov/poxvirus/monkeypox/clinicians/treatment.html access 1 July 2022 2. WHO-MPX-Clinical_and_IPC-2022.1-eng.pdf 11
บทที่ 5 สรปุ /ขอ้ เสนอแนะ สรปุ ผลการเพาะเชอื้ ในหอ้ งผปู้ ว่ ย พบเชอ้ื Monkeypox positive 8 ตวั อยา่ ง ดงั ตาราง ลำดบั ท่ี ชนดิ สงิ่ ส่งตรวจ ชนดิ ตวั อยา่ ง ผลการตรวจ 1 ลกู บดิ ประตหู ้องน้ำ SWAB Positive 2 เตยี ง SWAB Positive 3 โต๊ะข้างเตยี ง SWAB Positive 4 เมโย SWAB Positive 5 รีโมททวี ี SWAB Positive 6 ชักโครก SWAB Positive 7 ลูกบิดในหอ้ งน้ำ SWAB Positive 8 กอ๊ กน้ำ SWAB Negative 9 ตูเ้ ยน็ SWAB Positive 10 สวติ ช์ไฟ SWAB Negative 12
ประเดน็ เสนอแนะเพอื่ ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชอื้ ประเด็นทพี่ บ ขอ้ เสนอแนะ/การแกไ้ ข 1. ห้องแยกท่ีใช้สำหรับรับผู้ป่วย EID มีอปุ กรณ์ที่ไม่มี อปุ กรณ์ในหอ้ งรับผปู้ ว่ ย EID ควรมีน้อยที่สุด ให้มี ความจำเป็นเยอะมาก เชน่ เท่าท่จี ำเป็นเท่านั้น ย่ิงมีของมาก การทำความสะอาด * นำ้ ดม่ื ให้เป็น pack 6-12 ขวด กจ็ ะเพม่ิ ระยะเวลามากข้ึน และควรใชอ้ ปุ กรณ์ท่ีทำ * ตูข้ ้างเตียงที่ใช้มีล้ินชกั มากเกนิ ความจำเปน็ (ทาง ความสะอาดได้ง่าย นำ้ ดืม่ ไม่ควรให้เป็น pack ให้ 1-3 เจา้ หน้าท่ีแจง้ ว่าเป็น Build in อยู่เดมิ แล้วอาจแก้ไขได้ ขวด/วนั ถา้ ไม่พอให้ผู้ปว่ ยขอเปน็ คราว ๆ ไป เพราะ ยาก) จะทำใหเ้ กดิ การปนเปื้อนได้ง่าย * ขวดตวงปสั สาวะ 4 ขวดในหอ้ งนำ้ * ทว่ี างรองเทา้ * แจกันดอกไม้พลาสติก 13
ประเดน็ ทพ่ี บ ขอ้ เสนอแนะ/การแกไ้ ข 2. ไม่มีแยกพ้ืนทส่ี ะอาด พ้นื ที่สกปรก ใส่ชดุ ในห้องเดนิ ควรก้ันพน้ื ที่สะอาด และปนเปอื้ น อาจทำจดุ ที่ถอดชุด ออกมาจากห้องพยาบาล และเข้าห้องผูป้ ่วย ออกมา เปน็ ห้องท้ายสุดมีขยะติดเช้ือ อ่างล้างมือ ก้ันทางเดนิ จากหอ้ งถอดชุดหนา้ ห้องแต่ละห้อง ทำให้พ้นื ท่หี น้า ให้ชัดเจนบรเิ วณไหนคือ Clean zone ห้องเปน็ พื้นท่ปี นเป้ือนหมด dirty zone มอี ปุ กรณ์ กลอ่ งกระดาษ หน้าห้องเยอะไปหมดไม่เป็น ควรจดั พื้นท่ใี หโ้ ล่ง ยา้ ยของท่ีไม่จำเป็นไปเกบ็ ในหอ้ ง ระเบยี บโอกาสปนเป้อื นสงู ถ้าไม่มีพน้ื ทอี่ าจตอ้ งก้นั ใหเ้ ป็นพ้นื ทส่ี ะอาดใชส้ ำหรบั เก็บของ กำหนดจดุ ถอด PPE Clean zone Dirty zone 14
ประเดน็ ทพ่ี บ ขอ้ เสนอแนะ/การแกไ้ ข 3. พบวา่ บุคลากรท้ังพยาบาล และแม่บา้ นยังใส่-ถอด ควรมี safety officer คอยควบคุมในการใส่-ถอดทุก ชุดอปุ กรณป์ ้องกันรา่ งกายไม่ถกู ต้อง ซ่ึงอาจทำใหเ้ กิด คร้งั และมีการฝกึ ปฏบิ ตั ิการใส่-ถอดชดุ อุปกรณ์ ความเสย่ี งขณะทำงาน ปอ้ งกนั ร่างกายแกบ่ คุ ลากรที่มสี ่วนเกยี่ วขอ้ งในการ ปฏิบตั งิ านทุกระดบั โดยมีพยาบาล ICN เปน็ ผู้ฝกึ สอน 4. ไมม่ กี ารบันทกึ ช่ือ-นามสกุล บคุ ลากรเวลาเข้า-ออก และการประเมนิ ทุกปี เพ่ือให้เกิดความม่นั ใจในการ ห้องผ้ปู ว่ ย EID ในแตล่ ะครั้ง ปฏิบัติงาน เวลาเข้าหอ้ งผู้ป่วย EID/PUI ทุกครงั้ ต้องมีการบันทกึ ชอื่ -นามสกุล เวลา เพอ่ื เป็นข้อมูลในการสอบสวนโรค ตวั อยา่ งใบลงนาม 15
ประเดน็ ท่พี บ ขอ้ เสนอแนะ/การแกไ้ ข 5. การล้างแอร์ใชช้ ่างจากบริษทั ภายนอก ไม่มกี าร ควรมกี ารกำหนดใหช้ ดั เจนในการทำความสะอาดแอร์ กำหนดวา่ จะลา้ งเม่ือไร 3 เดอื น 6 เดอื น 1 ปี ไดใ้ หค้ ำแนะนำในการทำความสะอาดแอรเ์ บื้องตน้ การใส่ชุดป้องกนั รา่ งกาย 16
ภาคผนวก 17
18
19
จดุ เกบ็ ตวั อยา่ งเช้อื Monnkeypox โรงพยาบาลบางพลี จงั หวดั สมทุ รปราการ 12 3 4 5 6 78 9 10 00 00 หมายเหตุ จุดที่ 6 ชกั โครก จดุ ท่ี 1 ลูกบดิ ในห้องนำ้ จุดท่ี 7 ลูกบดิ ในห้อง จุดที่ 2 เตียง จดุ ท่ี 8 ก๊อกนำ้ จุดท่ี 3 โตะ๊ ข้างเตยี ง จดุ ที่ 9 ตูเ้ ยน็ จดุ ที่ 4 เมโย จดุ ที่ 10 สวิตช์ไฟ จดุ ที่ 5 รโี มททีวี 20
รปู ลงพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั งานโรงพยาบาลบางพลี จงั หวดั สมทุ รปราการ 21
รปู ลงพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั งานโรงพยาบาลบางพลี จงั หวดั สมทุ รปราการ 22
รปู ลงพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั งานโรงพยาบาลบางพลี จงั หวดั สมทุ รปราการ 23
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 644
Pages: