บทท่ี 1 แนวคิดเกี่ยวกับเครือข่ายวิสาหกิจ 37 5.1 ผคู้ า้ วตั ถุดิบสามารถสร้างแรงกดดนั ต่อผปู้ ระกอบการธุรกิจในอุตสาหกรรมน้นั ๆในการ ปรับระดบั ราคาใหส้ ูงข้ึนหรือปรับลดคุณภาพสินคา้ หรือบริการให้ต่าลง ซ่ึงจะทาใหผ้ ปู้ ระกอบธุรกิจตอ้ งเสีย กาไรไปกบั การที่ตอ้ งจา่ ยเงินค่าซ้ือวตั ถุดิบที่มีราคาที่สูงข้ึน 5.2 ในกรณีท่ีผคู้ า้ วตั ถุดิบนอ้ ยรายและผซู้ ้ือมีจานวนมากยอ่ มส่งผลใหผ้ คู้ า้ วตั ถุดิบมีอิทธิพล เหนือลูกคา้ ท้งั ในดา้ นการกาหนดราคา คุณภาพ และเงื่อนไขการซ้ือขายอื่นๆ ตามผคู้ า้ วตั ถุดิบเป็นหลกั 5.3 วตั ถุดิบของผคู้ า้ วตั ถุดิบเป็นสิ่งจาเป็นต่อกระบวนการผลิตของลูกคา้ 5.4 วตั ถุดิบของผคู้ า้ วตั ถุดิบมีลกั ษณะเด่นท่ีลูกคา้ อาจจะตอ้ งเผชิญกบั ตน้ ทุนการเปลี่ยนแปลง ในการหาวตั ถุดิบจากแหล่งอื่น 5.5 ผคู้ า้ วตั ถุดิบสามารถใชก้ ลยทุ ธ์การเติบโตแบบไปขา้ งหนา้ (Forward Integration) เพอื่ กลายเป็นคูแ่ ข่ง (วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และคณะ, 2555) อย่างไรกต็ าม บรรยากาศในการแข่งขันของธุรกจิ จะส่งผลต่อการกาหนดเป้ าหมายและกลยทุ ธ์ การแข่งขนั ทธี่ ุรกจิ ในเครือข่ายวสิ าหกจิ ใช้ในการดาเนินธุรกจิ ของตน หากกลไกของภาครัฐไร้ประสิทธิภาพ จนไม่สามารถสร้างบรรยากาศการแข่งขันทีเ่ ป็ นธรรม มีการบดิ เบือนกลไกการตลาดกจ็ ะทาให้กจิ การมี ต้นทนุ ในการดาเนินการมากเกนิ ความจาเป็ นจนไม่สามารถดาเนินธุรกจิ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ธุรกจิ จึง ต้องใช้กลยทุ ธ์การแข่งขันทไ่ี ร้จรรยาบรรณโดยละเลยต่อการพฒั นาปัจจัยเพอ่ื เสริมสร้างความสามารถใน การแข่งขนั ระยะยาวเช่น การพฒั นาทรัพยากรบุคคล การสร้างนวัตกรรม การปรับปรุงประสิทธิภาพด้าน เทคโนโลยีและการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการพฒั นานวัตกรรมและการพฒั นาศักยภาพ ในการแข่งขันของเครือข่ายวิสาหกจิ ในระยะยาว นอกจากน้ี ยงั พบวา่ มีปัจจยั แวดลอ้ มเสริมอีก 3 ปัจจยั สาคญั ที่มีบทบาทต่อการกาหนด ความสามารถในการแข่งขนั ไดแ้ ก่ (กฤตติยา สตั ยพ์ านิช, 2552) 6. ปัจจยั ภายนอกท่ีควบคุมไมไ่ ด้ (Uncontrolable External Factor) เป็นอีกปัจจยั หน่ึงท่ีมีบทบาท สาคญั ต่อการกาหนดความไดเ้ ปรียบเชิงแขง่ ขนั ของประเทศ เหตุท่ีควบคุมไม่ไดห้ มายถึง การเปล่ียนแปลง คร้ังสาคญั ที่อยนู่ อกเหนือการควบคุมของบริษทั ต่างๆในอุตสาหกรรม (บอ่ ยคร้ังที่อยนู่ อกเหนือการควบคุม ของรัฐบาลในประเทศน้นั ดว้ ย) เหตุที่ควบคุมไมไ่ ดม้ ีความสาคญั ตอ่ การกาหนดความไดเ้ ปรียบเชิงแข่งขนั ของประเทศเพราะ ก่อใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของอุตสาหกรรมท้งั เป็นความไดเ้ ปรียบในเชิง แข่งขนั ของอุตสาหกรรม และเสียเปรียบเชิงแขง่ ขนั ของผแู้ ข่งขนั รายเดิม จึงเกิดช่องวา่ งท่ีผแู้ ข่งขนั จาก ประเทศอื่นสามารถเขา้ มาเอาชนะผแู้ ข่งขนั รายเดิมไดง้ ่ายเช่น ภาวะสงครามกลางเมือง การก่อการร้าย อตั รา การเกิดและตาย เป็ นตน้ 7. หน่วยงานภาครัฐ มีอิทธิพลท้งั ในดา้ นบวกและดา้ นลบต่อความสามารถในการแขง่ ขนั ยกตวั อยา่ ง กรณีการบงั คบั ใชก้ ฎหมายแข่งขนั ทางการคา้ และกฎหมายทรัพยส์ ินทางปัญญาที่ยงั ไม่มี ประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมท้งั ความล่าชา้ ในการดาเนินงานของหน่วยงานราชการก่อใหเ้ กิดภาระตน้ ทุนตอ่
38 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ภาคธุรกิจ ตวั อยา่ งเช่น ผผู้ ลิตซอฟตแ์ วร์ของเมืองไทยตอ้ งใชก้ ลยทุ ธก์ ารคา้ แบบไร้จรรยาบรรณเพ่ือลด ตน้ ทุนเพอื่ ใหไ้ ดก้ าไรสูงดว้ ยการลอกเลียนผลิตภณั ฑจ์ ากการละเมิดทรัพยส์ ินทางปัญญา ทาใหผ้ ผู้ ลิต ซอฟตแ์ วร์ท่ีมีคุณภาพและมีจรรยาบรรณไม่มีแรงจงู ใจท่ีจะพฒั นาผลิตภณั ฑข์ องตนเพราะ ตอ้ งเผชิญการ แข่งขนั ท้งั จากผผู้ ลิตซอฟตแ์ วร์รายใหญ่จากต่างประเทศและจากผผู้ ลิตสินคา้ ละเมิดลิขสิทธ์ิจึงทาให้ อุตสาหกรรมซอฟตแ์ วร์ไมส่ ามารถแขง่ ขนั ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื เนื่องจากไม่มีการคิดคน้ และพฒั นานวตั กรรมอยา่ ง ตอ่ เน่ืองอนั เป็นผลจากการขาดประสิทธิภาพของการบงั คบั ใชก้ ฏหมายของภาครัฐ (สานกั งานคณะกรรมการ พฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม, 2548, 5-8) 8. การเปิ ดเสรีทางการคา้ และขอ้ ตกลงทางการคา้ ต่างๆ (Free Trade Areas and Agreements)ไดแ้ ก่ สหภาพยโุ รป (European Union: EU) การคา้ เสรีอาเซียนภายใตป้ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) ตลอดจนขอ้ ตกลงทางการคา้ ของเขตการคา้ ตา่ งๆ ของภูมิภาคต่างๆ ของโลกเป็น ปัจจยั ที่มีบทบาทสาคญั ต่อความสามารถในการแข่งขนั ของผปู้ ระกอบการเพราะ การเปิ ดประชาคมเศรษฐกิจ เพอื่ การคา้ จะมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั คือ มีการเคลื่อนยา้ ยสินคา้ บริการ การ ลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมืออยา่ งเสรี และใหค้ วามสาคญั กบั ประเดน็ นโยบายต่างๆที่จะช่วยเสริมการ รวมกลุ่มทางเศรษฐกิจและการพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งเสมอภาค และเอ้ือประโยชนใ์ หธ้ ุรกิจน้นั เกิด ความสามารถในการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจของกลุ่มสมาชิกที่มีการรวมตวั กนั นอกจากน้ีขอ้ ตกลงทางการคา้ ต่างๆ ไดแ้ ก่ WTO (World Trade Organization), APAC (Asia-Pacific Agreement Community) ยงั เป็นท้งั ปัจจยั บวกในการส่งเสริมการคา้ และเศรษฐกิจกบั บางอุตสาหกรรม และอาจเป็ นปัจจยั ลบตอ่ บาง อุตสาหกรรมก็ได้ จากแนวคิดขา้ งตน้ สรุปวา่ ปัจจยั หลกั ท้งั 5 ดา้ นและปัจจยั เสริมท้งั 3 ดา้ น สามารถใชว้ เิ คราะห์ ความสามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรมเพอื่ พฒั นาการรวมกลุ่มในลกั ษณะเครือขา่ ยวสิ าหกิจทาใหม้ ี ลกั ษณะเด่นที่เป็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกส่วนเขา้ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ สถาบนั การศึกษา สถาบนั การเงินและหน่วยงานอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง ซ่ึงอาจหมายรวมถึงผมู้ ีส่วนไดเ้ สียตา่ งๆ ในขณะเดียวกนั ผปู้ ระกอบการในเครือข่ายวสิ าหกิจยงั คงยึดหลกั การสาคญั คือ ร่วมมือกนั เพ่อื ลดจุดอ่อนของ กลุ่มอุตสาหกรรมของตนและสร้างความเขม้ แขง็ พร้อมกบั พฒั นาส่วนท่ีเป็ นจุดแขง็ ให้แขง็ แกร่งยง่ิ ข้ึนต่อไป ขณะเดียวกนั ความจาเป็นในการแข่งขนั ทางธุรกิจก็ยงั คงมีอยเู่ ช่นเดิม 1.5 บทบาทการบูรณาการความร่วมมือในการแข่งขนั ของเครือข่ายวสิ าหกจิ ท้งั น้ีเหตุผลท่ีกิจการจาเป็นตอ้ งรวมกลุ่มเป็ นเครือขา่ ยวสิ าหกิจน้นั ประกอบดว้ ยบทบาท 3 ประการคือ (ชมยั พร วเิ ศษมงคล, 2551) 1.5.1 การรวมกลุ่มเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมธุรกิจขนาดใหญท่ ดแทนสิ่งที่ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดยอ่ มท่ีขาดไปคือ ไม่สามารถปรับตวั จากผลกระทบภายนอกโดยอาศยั ความประหยดั ทางขนาด
บทท่ี 1 แนวคิดเกี่ยวกับเครือข่ายวิสาหกิจ 39 1.5.2 ความสะดวกต่อการเขา้ ถึงทรัพยากรการผลิตและกาลงั การผลิตที่มีประสิทธิภาพ อาทิ แรงงานที่มีทกั ษะและสามารถเขา้ ถึงนวตั กรรมง่ายข้ึน และมีความเป็นไปไดใ้ นการลดตน้ ทุนเพ่อื สามารถ แข่งขนั กบั ธุรกิจท่ีมีขนาดใหญก่ วา่ ได้ 1.5.3 การมีเครือขา่ ยและการแบ่งปันความรู้ตลอดจนความเป็นไปไดใ้ นการเขา้ ถึงท่ีปรึกษาทาง ธุรกิจ ธุรกิจสามารถแข่งขนั เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงทรัพยากรขอ้ มูลข่าวสาร ตลอดจนความเขม้ แขง็ ของการบริหาร จดั การภายในองคก์ รที่มีลกั ษณะพเิ ศษเฉพาะเจาะจง หลงั จากท่ีมีการประเมินบทบาทความร่วมมือของเครือข่ายวสิ าหกิจในการสร้างความสามารถใน การแขง่ ขนั ของธุรกิจดว้ ยตวั แบบไดมอนด์ จึงสามารถจดั ระดบั ความเขม้ แขง็ และศกั ยภาพของธุรกิจในการ รวมกลุ่มเป็นเครือขา่ ยวสิ าหกิจ (Degree of Strength and Potential) ตามระดบั ของบทบาทและหนา้ ที่ในการ พฒั นาเครือขา่ ยภายใตส้ ภาวะการแบง่ ปันกนั ดงั ภาพที่ 1-8 โดยแบ่งระดบั การพฒั นาความเขม้ แขง็ ของ เครือข่ายและศกั ยภาพของอุตสาหกรรมในการรวมกลุ่มเป็ นเครือขา่ ยวสิ าหกิจเป็ น 6 กลุ่มดงั น้ี การพฒั นาความเข้มแข็งของเครือข่าย มาก กลุ่มท่ี 3 เครือข่ายวสิ าหกิจท่ีมีการรวมตวั กนั อยา่ งเขม้ แขง็ แต่ กลุม่ ที่ 6 เครือข่ายวสิ าหกิจท่ีมีการ ปานกลาง อยใู่ นอุตสาหกรรมท่ียงั มีโอกาสการตลาดและความตอ้ งการ รวมตวั กนั อยา่ งเขม้ แขง็ และอยใู่ น ของตลาดท้งั ในประเทศและโลกไมส่ ูงนกั (Reorganization) สถานะที่ดีท่ีสุด (Stars) กลุ่มท่ี 2 เครือขา่ ยวสิ าหกิจที่มีการรวมตวั กนั กลุ่มท่ี 5 เครือข่ายวสิ าหกิจที่มกี ารรวมตวั ในระดบั หน่ึงแลว้ (Seeking Direction) กนั ในระดบั หน่ึงแลว้ แต่อยใู่ นสถานะที่ดี สาหรับอนาคต (Potential Stars) ริเร่ิม กลุ่มท่ี 1 เครือข่ายวสิ าหกิจท่ีมีการรวมตวั กลุ่มที่ 4 เครือขา่ ยวิสาหกิจมีการรวมตวั กนั อยา่ งไม่เขม้ แขง็ นกั แต่อยใู่ นสถานะท่ีดี กนั อยา่ งหลวมๆ (Fragmented Cluster) สาหรับโอกาสทางการตลาดในอนาคต (New Wave) นอ้ ย สูง ศักยภาพของอุตสาหกรรม ภาพที่ 1-8 ระดบั การพฒั นาความเขม้ แขง็ และศกั ยภาพของอุตสาหกรรมในการรวมกลุ่มเป็นเครือข่าย วสิ าหกิจ (ที่มา : ปรับปรุงจาก สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2548, หนา้ 23)
40 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ กล่มุ ที่ 1 เครือข่ายวิสาหกิจท่ีมีการรวมตัวกันอย่างหลวมๆ (Fragmented Cluster ) สถานการณ์ท่ี เครือขา่ ยวสิ าหกิจเริ่มมีความพฒั นาความเขม้ แขง็ ในขณะเดียวกนั กอ็ ยใู่ นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสทาง การตลาดและความตอ้ งการของตลาดท้งั ในประเทศและต่างประเทศนอ้ ย คุณลกั ษณะของเครือข่ายเช่นน้ีคือ มีห่วงโซ่คุณคา่ ท่ีไมส่ มบรู ณ์ ไมม่ ีสมาคมหรือองคก์ ร หรือถา้ มีก็เป็นองคก์ รที่ไมเ่ ขม้ แขง็ นอกจากน้ียงั มี ขอ้ จากดั ของการเขา้ ถึงวตั ถุดิบในทอ้ งถิ่น ขาดแรงงานท่ีมีทกั ษะ ไม่สามารถเขา้ ถึงแหล่งเงินทุน ผบู้ ริโภคมี ความตอ้ งการสินคา้ พ้ืนฐานท่ีไมซ่ บั ซอ้ นมากทาใหธ้ ุรกิจขาดแรงจูงใจต่อการพฒั นานวตั กรรม ผบู้ ริหารมี ความสามารถในเชิงธุรกิจนอ้ ยและขาดความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประโยชน์ของเครือข่ายวสิ าหกิจ ความ ร่วมมือระหวา่ งอุตสาหกรรมกบั สถาบนั วจิ ยั และพฒั นาหรือสถาบนั การศึกษายงั ไม่มีหรืออยใู่ นระยะเริ่มตน้ ขาดผนู้ าที่ชดั เจนในอุตสาหกรรม รวมท้งั โอกาสในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมยงั ไม่เป็นท่ีน่าสนใจท้งั ตลาดในประเทศและต่างประเทศ นอกจากน้ีเครือขา่ ยวสิ าหกิจประเภทน้ีจะมีคุณสมบตั ิคือ กระบวนการผลิต และผลผลิตส่วนใหญเ่ กิดจากการลอกเลียนแบบ กิจการส่วนนอ้ ยที่มีตราสินคา้ ของตนเองทาใหก้ ารแข่งขนั ท่ี เกิดข้ึนมกั อยบู่ นพ้ืนฐานของราคาและตน้ ทุนต่า ดว้ ยเหตุน้ีเครือขา่ ยวสิ าหกิจกลุ่มน้ีจึงมีแนวโนม้ ท่ีถูกจดั อยู่ ในตาแหน่งท่ีไม่ดีและตอ้ งเผชิญกบั ส่วนแบ่งตลาดโลกท่ีนอ้ ยลงรวมท้งั มูลคา่ การผลิตท่ีลดลงเช่นกนั จึงมี รายไดส้ ุทธิจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่จากดั รวมท้งั การเติบโตของการจา้ งงานที่ต่ากวา่ คา่ เฉล่ีย ของประเทศ กล่มุ ท่ี 2 เครือข่ายวิสาหกิจที่มีการรวมตวั กนั ในระดับหน่ึงแล้ว (Seeking Direction Cluster) เครือข่ายวสิ าหกิจที่มีการพฒั นาความเขม้ แขง็ มาระยะเวลาหน่ึงแลว้ แต่อยใู่ นอุตสาหกรรมท่ีมีโอกาสทาง การตลาดและความตอ้ งการของตลาดท้งั ในและตา่ งประเทศในระดบั ปานกลาง โดยมีคุณลกั ษณะสาคญั คือ มีกิจกรรมของธุรกิจท่ีครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานพอสมควร มีสมาคมหรือองคก์ ารร่วมมือกนั ในอุตสาหกรรม แลว้ แต่ยงั มีบทบาทที่จากดั ในดา้ นความสามารถเขา้ ถึงทรัพยากรธรรมชาติ วตั ถุดิบ โครงสร้างพ้ืนฐานและ แหล่งเงินทุน ผบู้ ริหารของธุรกิจมีความสามารถและวสิ ยั ทศั นพ์ อสมควร มีระดบั ความร่วมมือท้งั ในแนวด่ิง และแนวนอนที่เขม้ แขง็ พอสมควร การติดต่อส่ือสารระหวา่ งอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวขอ้ งและระหวา่ ง อุตสาหกรรมกบั สถาบนั วจิ ยั และพฒั นาหรือสถาบนั การศึกษามีพอสมควร โดยไดร้ ับการสนบั สนุนจาก ภาครัฐในการพฒั นาเทคโนโลยี รวมท้งั อาจมีการกาหนดผนู้ าของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ชดั เจนและสามารถ สนบั สนุนการสร้างเครือขา่ ยความร่วมมือไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เครือขา่ ยวสิ าหกิจกลุ่มน้ีมีคุณสมบตั ิที่สาคญั คือ มี การสร้างสรรคก์ ระบวนการผลิตและนวตั กรรมใหมๆ่ อยเู่ สมอ ธุรกิจภายในเครือขา่ ยมีแนวโนม้ ที่มีการ มองเห็นโอกาสดา้ นการแข่งขนั ในระดบั กวา้ งกวา่ ระดบั ทอ้ งถิ่นเช่น การออกไปลงทุนและทาธุรกรรมใน ต่างประเทศ นอกจากน้ียงั สามารถสร้างตราสินคา้ ของตนเองและกระจายผลิตภณั ฑอ์ อกไปในตลาดท่ีกวา้ ง มากข้ึน อยา่ งไรกต็ าม เครือข่ายวสิ าหกิจกลุ่มน้ียงั เป็นกลุ่มท่ีมีโอกาสในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมท่ี ไมน่ ่าสนใจนกั ทาใหย้ งั มีส่วนแบง่ ในตลาดโลกและการขยายตวั ของมูลคา่ การผลิตท่ีไม่สูงนกั ทาใหม้ ีรายได้
บทที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับเครือข่ายวิสาหกิจ 41 สุทธิจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศท่ีจากดั และมีการเติบโตของการจา้ งงานท่ีต่ากวา่ ค่าเฉลี่ยของ ประเทศ กล่มุ ท่ี 3 เครือข่ายวิสาหกิจที่มีการรวมตวั กันอย่างเข้มแขง็ แต่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ยงั มีโอกาส การตลาดและความต้องการของตลาดท้ังในประเทศและโลกไม่สูงนัก (Reorganization Cluster) เครือข่าย วสิ าหกิจที่มีการรวมกลุ่มกนั จนเขม้ แขง็ มาก แต่อยใู่ นอุตสาหกรรมมีการเติบโตต่า เครือข่ายวสิ าหกิจเช่นน้ีมี คุณลกั ษณะที่สาคญั คือ มีความสามารถในการสร้างผลกาไรจากห่วงโซ่มลู คา่ ที่สมบรู ณ์ต้งั แต่อุตสาหกรรม ตน้ น้าจนถึงปลายน้า มีสมาคมหรือองคก์ รท่ีมีการรวมกลุ่มของอุตสาหกรรมที่เขม้ แขง็ มีการประสานงานกบั หน่วยงานภาครัฐเพอื่ เขา้ ไปมีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบาย ทาใหส้ ามารถเขา้ ถึงทรัพยากรธรรมชาติและ วตั ถุดิบไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง มีกาลงั แรงงานที่มีความเชี่ยวชาญภายในเครือขา่ ยเพยี งพอต่อความตอ้ งการ มีการ วจิ ยั และพฒั นาที่สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในเชิงพาณิชยไ์ ดม้ าก และมีความพร้อมในดา้ นแหล่งเงินลงทุน พอสมควร ผบู้ ริโภคมีความตอ้ งการที่พิถีพถิ นั และชดั เจนข้ึนในสินคา้ ที่มีคุณภาพและสินคา้ เฉพาะท่ีมี แนวโนม้ จะพฒั นาเป็นสินคา้ ที่เป็นผนู้ าในตลาดโลก ผบู้ ริหารใหค้ วามสาคญั ต่อการร่วมมือในการพฒั นา เครือขา่ ยวสิ าหกิจมากข้ึนท้งั ในการแบ่งปันทรัพยากรการวจิ ยั และพฒั นาตลอดสายของห่วงโซ่อุปทานท้งั มิติ ดา้ นกลยทุ ธ์และกระบวนการ โดยมีองคก์ รหลกั ท่ีเขม้ แขง็ และสามารถทาหนา้ ท่ีเป็นแกนหลกั ในการพฒั นา เครือขา่ ยวสิ าหกิจไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง คุณสมบตั ิที่สาคญั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจกลุ่มน้ีคือ มีความเขม้ แขง็ รวมท้งั กระบวนการผลิตและนวตั กรรมผลผลิตระดบั สูง การมีตราสินคา้ ที่แพร่หลายเป็นที่รู้จกั และกลยทุ ธ์ของ กิจการเนน้ ที่การสร้างขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ใหส้ ูงข้ึน กล่มุ ที่ 4 เครือข่ายวิสาหกิจมีการรวมตัวกนั อย่างไม่เข้มแขง็ นักแต่อย่ใู นสถานะที่ดีสาหรับโอกาส ทางการตลาดในอนาคต (New Wave Cluster) เน่ืองจากอุตสาหกรรมท่ีเครือข่ายวสิ าหกิจอยมู่ ีศกั ยภาพของ อุตสาหกรรมในการเติบโตสูง ในขณะท่ีเครือข่ายเพงิ่ เริ่มมีการรวมตวั กนั คุณลกั ษณะท่ีสาคญั ของกลุ่มน้ีจะ เหมือนกบั กลุ่มท่ี 1 ยกเวน้ ในเร่ืองของศกั ยภาพในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมท่ีดีกวา่ กลุ่มที่ 1 เครือข่ายวสิ าหกิจกลุ่มน้ีมีคุณสมบตั ิที่สาคญั คือ อาจมีการไหลเขา้ ของการลงทุนโดยตรงจากตา่ งประเทศอยู่ ในระดบั สูงทาใหม้ ีแนวโนม้ ส่วนแบ่งการตลาดของโลกและมูลคา่ ผลผลิตที่เติบโตข้ึน ตลอดจนมีอตั ราการ เติบโตของการจา้ งงานในระดบั สูง กล่มุ ท่ี 5 เครือข่ายวิสาหกิจท่ีมีการรวมตวั กนั ในระดบั หน่ึงแล้วแต่อย่ใู นสถานะที่ดีสาหรับอนาคต (Potential Stars Cluster) เนื่องจากอุตสาหกรรมมีศกั ยภาพในการเติบโตโดยเปรียบเทียบสูง และมีการ รวมกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจมาระยะหน่ึงจนมีความเขม้ แขง็ ระดบั ปานกลาง คุณลกั ษณะของกลุ่มน้ีจะ คลา้ ยคลึงกบั กลุ่มที่ 2 ยกเวน้ ในเรื่องของศกั ยภาพในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม ซ่ึงส่งผลใหเ้ ครือขา่ ย วสิ าหกิจท้งั สองกลุ่มน้ีมีความแขง็ แกร่งในเชิงคุณสมบตั ิดา้ นความร่วมมือในระดบั ปานกลางแต่
42 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ อุตสาหกรรมมีการเจริญเติบโตรวมท้งั มีศกั ยภาพสูงในดา้ นการลงทุนโดยตรงจากตา่ งประเทศและมีส่วน แบง่ ตลาดโลกท่ีเพิม่ ข้ึน กล่มุ สุดท้ายคือกล่มุ ที่ 6 เครือข่ายวิสาหกิจท่ีมีการรวมตวั กันอย่างเข้มแขง็ และอย่ใู นสถานะท่ีดี ที่สุด (Stars Cluster) เป็นเครือข่ายวสิ าหกิจที่มีศกั ยภาพของอุตสาหกรรมในการเจริญเติบโตและการแขง่ ขนั สูงและสามารถแสวงหาโอกาสจากแนวโนม้ การเติบโตของอุตสาหกรรม คุณลกั ษณะของกลุ่มน้ีคือ เป็ น กลุ่มท่ีมีการเจริญเติบโตเตม็ ท่ีเป็นลกั ษณะของเครือขา่ ยวิสาหกิจท่ีมีความเขม้ แขง็ เช่น มีห่วงโซ่มูลคา่ ท่ี สมบรู ณ์ มีสมาคมหรืองคก์ รทางธุรกิจที่เอ้ือต่อการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจอยา่ งเตม็ ที่ มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์และกาลงั แรงงานท่ีมีทกั ษะและความเชี่ยวชาญสูง มีการวจิ ยั และพฒั นาที่นาไปใชป้ ระโยชน์ ในเชิงพาณิชยไ์ ดม้ ากควบคู่ไปกบั มีการร่วมมือกนั อยา่ งจริงจงั ระหวา่ งภาคอุตสาหกรรมและสถาบนั วจิ ยั มี แหล่งเงินทุนเพ่อื การลงทุนของธุรกิจเพียงพอและสามารถเขา้ ถึงไดง้ ่าย ความตอ้ งการผบู้ ริโภคมีความ พิถีพถิ นั และเฉพาะเจาะจงมากข้ึนรวมท้งั ธุรกิจท่ีเก่ียวขอ้ งมีความสัมพนั ธ์กนั ท้งั ในแนวด่ิงและแนวนอน อยา่ งใกลช้ ิดและตอ่ เน่ือง (สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, 2548, 23-28) 1.ก5รกณรณีศึกีศษึกาษทา่ีท1-ี่ 11-ก1ากราพรฒัพฒันานเคาเรคือรขือ่าขย่าวยสิ วาสิ หากหจิ กใจินใปนรปะรเะทเศทไศทไยทแยลแะลตะ่าตง่าปงรปะรเทะเศทศ การพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกจิ ในประเทศไทย ผเู้ ขียนขอยกตวั อยา่ งงานวิจยั การพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจดา้ นการบริการในประเทศไทยโดย สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติและการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย (2549) ท่ีศึกษาเรื่องเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวภูเกต็ พบวา่ ผปู้ ระกอบการหลกั ที่มีความสาคญั ใน เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวภเู ก็ตซ่ึงจุดเร่ิมตน้ เกิดจากภาคเอกชน มีความตระหนกั รู้ถึงความจาเป็ นใน การรวมกลุ่มกนั ภายหลงั จากเกิดวกิ ฤตการแผน่ ดินไหวและสึนามิเม่ือพ.ศ. 2547 กอปรกบั ภาครัฐเลง็ เห็น ถึงความร่วมมือกนั อยา่ งเหนียวแน่นของภาคธุรกิจดา้ นการทอ่ งเท่ียวของจงั หวดั ภูเก็ตวา่ มีศกั ยภาพในการ เจริญเติบโตอยา่ งสูง โดยมีการรวมกลุ่มของผปู้ ระกอบการโรงแรมและที่พกั ผปู้ ระกอบการ บริษทั นา เที่ยว สายการบินผปู้ ระกอบการร้านอาหารและภตั ตาคาร ผปู้ ระกอบการร้านคา้ ต่างๆ และผใู้ หบ้ ริการดา้ น กิจกรรมการทอ่ งเที่ยวตา่ งๆโดยผปู้ ระกอบการเหล่าน้ีตอ้ งปรับปรุงตนเองในดา้ นคุณภาพการใหบ้ ริการ อยา่ งสม่าเสมอและร่วมมือกนั เพ่ือสนองความตอ้ งการและรักษาความพึงพอใจของนกั ท่องเที่ยว จากการ วเิ คราะห์ปัจจยั แวดลอ้ มท้งั 4 ดา้ นตามตวั แบบไดมอนด์ แสดงใหเ้ ห็นภาพรวมความสามารถในการ แขง่ ขนั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวภเู ก็ตดงั น้ี 1. เงื่อนไขด้านปัจจัยการผลิต จงั หวดั ภูเกต็ มีทรัพยากรทางธรรมชาติท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ชายหาดที่ สวยงามและทรัพยากรทางวฒั นธรรมคืออธั ยาศยั ไมตรีท่ีดีของคนในพ้ืนที่ ซ่ึงถือเป็นปัจจยั อนั ดบั ตน้ ๆ ที่ ทาใหน้ กั ท่องเท่ียวตดั สินใจเลือกเดินทางมาภูเก็ต จากการสัมภาษณ์ผปู้ ระกอบการธุรกิจท่องเที่ยวพบวา่
บทท่ี 1 แนวคิดเกี่ยวกับเครือข่ายวิสาหกิจ 43 ปัญหาสาคญั ท่ีภูเกต็ กาลงั เผชิญคือ การรักษาสิ่งแวดลอ้ มและชายหาดใหค้ งความสวยงามท้งั ในดา้ น กายภาพและทศั นียภาพ นอกจากน้ียงั พบปัญหาในดา้ นทกั ษะของบุคคลากรที่ใหบ้ ริการแก่นกั ทอ่ งเที่ยว แมว้ า่ จงั หวดั ภเู กต็ จะมีสถาบนั การศึกษาหลกั ท่ีผลิตบุคลากรป้ อนอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวถึง 2 แห่ง แลว้ คือ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตภูเก็ตและมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ภูเกต็ 2. เง่ือนไขด้านอุปสงค์ ส่วนใหญ่นกั ท่องเที่ยวที่เดินทางมาทอ่ งเท่ียวในจงั หวดั ภูเกต็ จะเป็นกลุ่ม ท่ีมีกาลงั ซ้ือสูงโดยเปรียบเทียบกบั นกั ท่องเท่ียวของแหล่งท่องเท่ียวอ่ืนในประเทศไทย ในพ.ศ. 2543 พบวา่ นกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยมีความคาดหวงั บริการท่ีสุภาพดว้ ยอธั ยาศยั ที่ดี ส่วนดา้ นรสชาติและรูปลกั ษณ์ ของอาหารถือเป็นปัจจยั สาคญั ท่ีจะเสริมจุดเด่นดา้ นอาหารและการใหบ้ ริการของร้านอาหาร อยา่ งไรก็ ตาม การขาดความใส่ใจในเร่ืองความสะอาดของอาหารของผปู้ ระกอบการกลบั เป็นปัจจยั ท่ีเป็นจุดอ่อน สาคญั ของเง่ือนไขอุปสงคข์ องภูเกต็ 3. อุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องและสนบั สนุนกัน เครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวของภูเกต็ ประกอบดว้ ยธุรกิจท่ีหลากหลายท้งั กลุ่มธุรกิจหลกั และสนบั สนุนซ่ึงมีการเช่ือมโยงในของธุรกิจเกี่ยวขอ้ ง กนั เช่น ธุรกิจนาเที่ยวติดต่อกบั โรงแรมที่พกั ร้านอาหารและกิจการบนั เทิงและพกั ผอ่ นหยอ่ นใจตา่ งๆใน การจดั โปรแกรมการท่องเท่ียว เป็นตน้ นอกจากน้ีเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวภเู ก็ตยงั มีแนวโนม้ ท่ี สามารถสร้างการเชื่อมโยงกบั เครือขา่ ยวสิ าหกิจอาหารในภาคใตอ้ ีกดว้ ย เน่ืองจากอาหารเป็นปัจจยั หน่ึงท่ี นกั ท่องเที่ยวใหค้ วามสาคญั เป็นอนั ดบั ตน้ ๆ อยา่ งไรก็ตาม เครือข่ายวสิ าหกิจจงั หวดั ภูเก็ตยงั ขาดการ เชื่อมโยงในดา้ นความร่วมมือเพ่ือพฒั นาการท่องเที่ยวร่วมกนั บทบาทของสมาคมดา้ นการทอ่ งเท่ียวยงั มี ค่อนขา้ งจากดั ส่วนใหญม่ ีบทบาทในการจดั โปรโมชน่ั ดา้ นการตลาดซ่ึงมีเป็ นคร้ังคราวเทา่ น้นั ยงั ไม่มี ความร่วมมือในการกาหนดกล-ยทุ ธ์ที่สาคญั ร่วมกนั เช่น การกาหนดตาแหน่งทางการตลาดของภูเกต็ (Positioning) การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และการพฒั นาบุคลากรดา้ นการ ทอ่ งเที่ยว เป็นตน้ นอกจากน้ีความร่วมมือกบั สายการบินซ่ึงเป็นผปู้ ระกอบการหลกั ท่ีสาคญั ในเครือขา่ ย วสิ าหกิจยงั มีอยคู่ ่อนขา้ งจากดั ซ่ึงเป็นปัญหาสาคญั ของความไมเ่ ขม้ แขง็ ของเครือข่ายวสิ าหกิจโดยรวม 4. บริบทของการแข่งขนั และกลยทุ ธ์ของธุรกิจ ผปู้ ระกอบการในภเู กต็ หลายรายยงั สนใจเพียง การแขง่ ขนั กบั คู่แขง่ เฉพาะในภูเกต็ ดว้ ยกนั มากกวา่ การใหค้ วามสาคญั กบั กลยทุ ธ์เพอ่ื แขง่ ขนั กบั แหล่ง ท่องเท่ียวอ่ืนในภูมิภาคอื่นหรือกบั ต่างประเทศ ประกอบกบั ธุรกิจส่วนใหญ่ไมไ่ ดใ้ หค้ วามสาคญั กบั การ พฒั นาคุณภาพการใหบ้ ริการท่ีมีมาตรฐานมากนกั ซ่ึงเห็นไดจ้ ากผปู้ ระกอบการส่วนใหญโ่ ดยเฉพาะธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มมีการลงทุนในการพฒั นาบุคคลากรค่อนขา้ งจากดั ลกั ษณะดงั กล่าวจึงเป็นปัจจยั ท่ีบนั่ ทอนขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ในระยะยาวของภูเก็ต การพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจดา้ นการท่องเที่ยวของภูเก็ตจึงมีลกั ษณะที่มีเอกชนเป็นผรู้ ิเริ่มและ ภาครัฐเป็นกาลงั เสริมท่ีช่วยสนบั สนุนดา้ นโครงสร้างพ้นื ฐาน กฏระเบียบตา่ งๆ ที่เอ้ือประโยชน์ตอ่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภเู กต็ รวมตลอดจนต่อเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยวภูเกต็ ดงั น้นั ความ ร่วมมือดงั กล่าว จึงเกิดข้ึนโดยสมคั รใจและเปิ ดโอกาสใหก้ ิจการจากภาคส่วนตา่ งๆ เขา้ มาร่วมมือกนั
44 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ แมว้ า่ เครือข่ายวสิ าหกิจน้ีริเริ่มใน พ.ศ. 2547 แต่ก็จดั ไดว้ า่ เป็นเครือข่ายวสิ าหกิจแบบคล่ืนลูกใหม่ (New Wave) อยา่ งไรก็ตาม ปัจจุบนั และอนาคตของเครือข่ายน้ียงั เป็นท่ีน่าจบั ตามองอยา่ งใกลช้ ิด เพราะการ เผชิญกบั ภาวะการแข่งขนั ที่สูงจากแหล่งท่องเท่ียวในระดบั โลกเช่นกนั ไดแ้ ก่ หม่เู กาะมลั ดีฟ หรือแมแ้ ต่ ประเทศสิงคโ์ ปรท่ีมีการทาการตลาดเชิงรุกอยา่ งต่อเน่ือง แต่มีขอ้ ไดเ้ ปรียบเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองท่ี มน่ั คงกวา่ ภูเกต็ ตลอดจนภยั คุกคามที่ทา้ ทายของเครือขา่ ยวสิ าหกิจน้ีคือ การรุกรานของทุนจากต่างชาติ อาทิ จีน รัสเซีย และชาติยโุ รปอ่ืนๆ ที่ใชค้ นไทยเป็นตวั แทนในการซ้ือสถานประกอบการในอุตสาหกรรม การทอ่ งเที่ยว ตลอดจนการใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรการท่องเท่ียวอยา่ งไม่ตระหนกั ถึงผลกระทบทาง ลบคือ ระบบนิเวศในระยะยาวอนั ก่อให้เกิดมลพษิ ดา้ นต่างๆ ท้งั มลพิษทางน้าและทางอากาศ ซ่ึงจะส่งผล กระทบโดยตรงต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตและประเทศในระยะยาว ในประเทศ ไทยส่วนใหญอ่ าศยั แนวความคิดและหลกั การของพอร์เตอร์เป็นหลกั (สานกั งานคณะกรรมการพฒั นา - การเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, 2549) ซ่ึงไดก้ ล่าวแลว้ กค็ ือ แนวคิดไดมอนดโ์ มเดลเป็นกรอบแนวคิด หรือตวั แบบสาหรับการวเิ คราะห์ความสามารถในการแข่งขนั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจเพื่อประเมิน สภาวการณ์ปัจจุบนั ของปัจจยั แวดลอ้ มทางธุรกิจที่สาคญั 4 ดา้ นที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการ เพิ่มผลิตภาพของกิจการสมาชิกท่ีอยใู่ นเครือข่ายวสิ าหกิจ อนั จะนาไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขนั ของเครือข่ายวสิ าหกิจโดยรวมในทา้ ยที่สุดวา่ สภาวการณ์เหล่าน้นั มีลกั ษณะท่ีเป็นการเอ้ือหรือเป็น อุปสรรคต่อการปรับปรุงหรือพฒั นาผลิตภาพของธุรกิจในเครือข่ายวสิ าหกิจน้นั ๆ หรือไม่ อยา่ งไร และ มากนอ้ ยเพยี งใด เป็นสิ่งที่ทา้ ทายในอนาคต ในปี 2563-2565 พบวา่ วสิ าหกิจเครือขา่ ยมีความตื่นตวั อีก คร้ังในภาวะโรคระบาดโควดิ -19 จึงไดร้ ่วมกบั ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งในการกระตุน้ การ ท่องเท่ียวท่ีเผชิญภาวะวกิ ฤตดา้ นการเดินทางท่องเท่ียวของนกั ทอ่ งเที่ยวอยา่ งรุนแรง โดยจดั ต้งั โครงการ ภูเกต็ ในกล่องทราย (Phuket Sandbox) โดยมีการกาหนดมาตรการดา้ นการเดินทางแบบภาวะวถิ ีปกติใหม่ และทาใหน้ กั ทอ่ งเที่ยวตา่ งชาติเดินทางมาไมน่ อ้ ยกวา่ 1 หมื่นรายนารายไดเ้ ขา้ ภูเก็ตไม่ต่ากวา่ 2,000 ลา้ น บาท ซ่ึงผลการติดตามความสาเร็จอาจตอ้ งรอการประเมินต่อไป การพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกจิ ในต่างประเทศ การพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจในต่างประเทศไดแ้ ก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขอยกตวั อยา่ ง เครือขา่ ยวสิ าหกิจเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ท่ีซิลิคอนวลั เลย์ (Silicon Valley) มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา ท่ีมีความสามารถในการผลิตซอฟแวร์ตา่ งๆ ชิป (Chip) คอมพิวเตอร์ และสินคา้ เทคโนโลยี ข้นั สูง (Hi–technology) ที่อยรู่ วมกนั เป็ นกลุ่ม นบั เป็นเครือขา่ ยวสิ าหกิจตวั อยา่ งที่หลายๆ แห่งทวั่ โลก พยายามที่จะใชเ้ ป็นตน้ แบบเน่ืองจาก เป็ นเครือข่ายวสิ าหกิจที่มีพลวตั และความซบั ซอ้ นสูง และเป็น สถานที่ที่บริษทั ช้นั นาทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศของโลกมกั เปิ ดและดาเนินการท่ีแห่งน้ีเป็ นส่วน ใหญ่ นอกจากน้ี ยงั ประกอบไปดว้ ยมหาวทิ ยาลยั ช้นั นาของโลก สถาบนั การวจิ ยั ผจู้ ดั จาหน่ายสินคา้ หรือ วตั ถุดิบพิเศษ และผใู้ หบ้ ริการงานเฉพาะดา้ นตา่ งๆ อยา่ งครบถว้ น ตลอดจนธนาคารพาณิชย์ นกั กฎหมาย
บทที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกบั เครือข่ายวิสาหกิจ 45 ที่มีความชานาญเฉพาะทางดา้ นการลงทุนและการจดทะเบียนสิทธิบตั ร บริษทั จดั หางาน ฯลฯ นอกจากน้นั ซิลิคอนวลั เลยย์ งั มีขอ้ ไดเ้ ปรียบในดา้ นสภาพแวดลอ้ มที่ส่งเสริมนวตั กรรม ประกอบกบั ความสมั พนั ธ์ของผคู้ นในซิลิคอนวลั เลยเ์ ป็นความสัมพนั ธ์ที่สร้างสมมาจากกิจกรรมต่างๆ ท้งั ในดา้ น วชิ าชีพ และสังคมท่ีนาไปสู่ความร่วมมือ การแขง่ ขนั และการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ซ่ึงกนั และกนั โดย เอ้ืออานวยตอ่ การแพร่กระจายของความรู้ แนวคิด และเงินทุน หรือกล่าวไดว้ า่ ซิลิคอนวลั เลยเ์ ป็นระบบ อุตสาหกรรมท่ีมีพ้ืนฐานอยบู่ นเครือขา่ ยภมู ิภาคที่ส่งเสริมการเรียนรู้โดยรวม และมีการปรับตวั ที่ยดื หยนุ่ โดยมีผผู้ ลิตที่เช่ียวชาญในระบบท่ีซบั ซอ้ นของเทคโนโลยที ี่เก่ียวขอ้ ง ขณะเดียวกนั ซิลิคอนวลั เลยย์ งั มี ลกั ษณะเฉพาะของเครือขา่ ยวสิ าหกิจท่ีส่งเสริมการรวมตวั กนั อยา่ งหนาแน่นของผปู้ ระกอบการดา้ น เทคโนโลยแี ละผเู้ กี่ยวขอ้ งตา่ งๆ ท้งั น้ี เน่ืองจากขนาดของตลาดที่ทาใหต้ น้ ทุนของสินคา้ ถูกลง มีตลาดแรงงานที่พร้อมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ แรงงานท่ีมีความชานาญพิเศษ พร้อมกบั มีการเชื่อมโยงและความสัมพนั ธ์ที่นาไปสู่การ แพร่กระจายของความรู้และขอ้ มลู (ธนาคารกรุงศรีอยธุ ยา, 2546) อาจกล่าวไดว้ า่ ซิลิคอนวลั เลยเ์ ป็น “ระบบอุตสาหกรรมที่มีพ้ืนฐานอยบู่ นเครือขา่ ยภูมิภาคท่ีส่งเสริมการเรียนรู้โดยรวมและการปรับตวั ท่ี ยดื หยนุ่ โดยมีผผู้ ลิตท่ีเชี่ยวชาญในระบบท่ีซบั ซอ้ นของเทคโนโลยที ี่เกี่ยวขอ้ ง” ท้งั น้ี ปัจจยั สู่ความสาเร็จ ของซิลิคอนวลั เลยใ์ นสหรัฐอเมริกา มีท้งั สิ้น 8 ประการ (สานกั งานส่งเสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาด ยอ่ ม, 2551) คือ 1. การมีสถาบนั การศึกษาช้นั แนวหนา้ และการมีสถาบนั การวจิ ยั ที่มีศกั ยภาพในการสนบั สนุน ต้งั อยใู่ นพ้นื ท่ี 2. ระบบเครือขา่ ยท่ีมีประสิทธิภาพของสถาบนั วจิ ยั ซ่ึงมีการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสารซ่ึงกนั และ กนั 3. การมีแรงงานท่ีมีฝีมือและไดร้ ับการฝึกอบรมอยา่ งต่อเนื่อง 4. มีส่วนเสริมดา้ นเทคโนโลยจี ากแหล่งอุตสาหกรรมใกลเ้ คียง (Supporting Industries) 5. มีการร่วมลงทุนและการใหก้ ารสนบั สนุนดา้ นเงินทุนแก่วสิ าหกิจ (Venture Capital) 6. สถานที่มีความเหมาะสมในการวจิ ยั และพฒั นา และการลาเลียงขนส่ง 7. คา่ ครองชีพอยใู่ นระดบั ท่ีพอเหมาะ 8. ปัจจยั ดา้ นความเส่ียงของกิจการท่ีมีการรวมกลุ่มกนั ทาใหเ้ กิดตน้ ทุนต่า สาหรับเครือขา่ ยวสิ าหกิจเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ที่ซิลิคอน วลั เลย์ จดั เป็นวสิ าหกิจที่ ประกอบดว้ ยความหลากหลายของอุตสาหกรรมยอ่ ยๆ ท่ีประกอบกนั เป็ นคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ โดยริเร่ิมจากภาคเอกชน และมีหน่วยงานของรัฐสนบั สนุนอยหู่ ่างๆ เพราะความ เขม้ แขง็ ของภาคเอกชนน้ีเองทาใหเ้ ครือขา่ ยวสิ าหกิจแห่งน้ีเป็นศูนยก์ ลางในการผลิตและบริการดา้ น เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ของโลก ซ่ึงมีท้งั กิจการขนาดใหญ่ กลางและเล็กต้งั อยรู่ วมกนั โดยอาศยั การพ่ึงพา กนั ภายใตร้ ะบบการแข่งขนั อยา่ งเสรี และดว้ ยภาวะอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลกท่ีปรับตวั เขา้ สู่ยคุ ดิ
46 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ จิตลั ทาใหอ้ ุตสาหกรรมน้ีมีศกั ยภาพในการเติบโตสูงอยา่ งต่อเน่ือง และการรวมตวั กนั ก็ยงั มีการแข่งขนั กนั อยา่ งชดั เจน มีการแลกเปลี่ยนความรู้และส่ือสารต่อกนั ของผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการต่อ อุตสาหกรรมตา่ งๆ ทวั่ โลก จึงกล่าวไดว้ า่ เครือข่ายน้ีเป็ นดาวดวงเด่น (Stars Cluster) ท่ีส่งเสริมการพฒั นา ตวั แบบทางธุรกิจใหม่ๆ ทาใหก้ ารก่อตวั ของธุรกิจใหมๆ่ ดว้ ย มีความพร้อมในทุกๆ ดา้ น และมี ความสามารถในการแข่งขนั อยา่ งสูงเพื่อการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดา้ นเทคโนโลยี ไม่เพยี งแต่ใน ปัจจุบนั แต่ยงั กา้ วไปถึงอนาคตดว้ ย บทสรุป เครือขา่ ยวสิ าหกิจ มีความสาคญั ต่ออุตสาหกรรมและกิจการ รวมถึงสถาบนั ท่ีเกี่ยวขอ้ งโดย ช่วย ส่งเสริมให้สมาชิกในกล่มุ พดู คุยและแลกเปล่ียนข้อมลู กันอย่เู สมอ เพอื่ ใหส้ มาชิกของเครือขา่ ยทุกคนไดร้ ับรู้ เขา้ ใจปัญหาของกลุ่ม และหาทางแกไ้ ขร่วมกนั ซ่ึงจะทาใหส้ มาชิกมีความไวว้ างใจกนั มากข้ึน และเปิ ดกวา้ ง ในการรับรู้ขอ้ มูล ข่าวสาร และองคค์ วามรู้ใหม่ๆ ท้งั ในดา้ นเทคโนโลยกี ารผลิต การตลาด นโยบายการ สนบั สนุนต่างๆ จากภาครัฐอยา่ งตอ่ เนื่อง นอกจากน้ีการร่วมกนั เป็นเครือขา่ ยวสิ าหกิจจะช่วยลดต้นทุน ท้งั ดา้ นวตั ถุดิบ การทาการตลาด การวจิ ยั พฒั นา การสร้างนวตั กรรม การพฒั นาบุคลากร และการพฒั นา โครงสร้างพ้นื ฐานสาหรับกิจการท่ีเกี่ยวขอ้ งในเครือข่ายวิสาหกิจและช่วยให้เกิดการสร้างนวตั กรรมใหม่ๆ เนื่องจากสมาชิกในเครือขา่ ยวสิ าหกิจมีการแลกเปล่ียนขอ้ มลู และองคค์ วามรู้ระหวา่ งกนั อยเู่ สมอ ซ่ึงทาให้ สมาชิกมีโลกทศั นท์ ี่กวา้ งขวางข้ึน อนั จะนาไปสู่การต่อยอดองคค์ วามรู้เพื่อพฒั นาส่ิงใหม่ๆ อยา่ งตอ่ เน่ือง การรวมกลุ่มเป็นเครือขา่ ยวสิ าหกิจไมใ่ ช่เป็นเพยี งการส่งเสริมความร่วมมือของสมาชิกต่างๆ ใน เครือข่ายวสิ าหกิจเทา่ น้นั แต่ยงั ช่วยส่งเสริมการเปิ ดกว้างทางการค้าให้มีการแข่งขนั ของสมาชิก ดว้ ย ซ่ึงการ แข่งขนั จะช่วยกระตุน้ ใหก้ ิจการตอ้ งปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของตนอยา่ งต่อเน่ือง เพ่ือใหส้ ามารถ อยรู่ อดและแข่งขนั ไดแ้ ละยงั ช่วยส่งเสริมการขยายตัวของกิจการและการเกิดกิจการใหม่ๆ เน่ืองจากเครือขา่ ย วสิ าหกิจช่วยกระตุน้ เกิดการไหลเวยี นของขอ้ มลู และองคค์ วามรู้ และร่วมกนั ลงทุนในกิจกรรมท่ีก่อใหเ้ กิด การสร้างมลู ค่าเพ่มิ ของกระบวนการผลิตและผลผลิต เช่นการพฒั นาบุคลากร เทคโนโลยี และนวตั กรรม ใหมๆ่ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดการพฒั นาคุณภาพและประสิทธิภาพอยา่ งตอ่ เนื่อง อีกท้งั เป็นการเปิ ดกวา้ งตอ่ การแขง่ ขนั ทางการคา้ ดงั น้นั เครือข่ายวสิ าหกิจจึงช่วยเสริมสร้างโอกาสการเติบโตของกิจการตา่ งๆ และการเกิดข้ึนใหม่ ของกิจการต่อเนื่องต่างๆ คาถามท้ายบทที่ 1 1. อธิบายความหมายและความสาคญั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจ 2. องคป์ ระกอบของเครือข่ายวสิ าหกิจ มีอะไรบา้ ง อธิบาย
บทท่ี 1 แนวคิดเก่ียวกบั เครือข่ายวิสาหกิจ 47 3. เครือข่ายวสิ าหกิจมีก่ีประเภท อะไรบา้ ง 4. ปัจจยั สู่ความสาเร็จของเครือขา่ ยวสิ าหกิจมีอะไรบา้ ง
48 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ แนวคาตอบคาถามท้ายบทท่ี 1 1. เครือข่ายวสิ าหกิจ หมายถึง กลุ่มของธุรกิจ สถาบนั องคก์ รหรือบุคคลที่เกี่ยวขอ้ งหรือมี ความสัมพนั ธ์กนั โดยต้งั อยใู่ นพ้ืนที่เดียวกนั หรือใกลเ้ คียงกนั หรือเชื่องโยงทางธุรกิจกนั และตอ้ งมีมิติ ความสัมพนั ธ์บนพ้นื ฐานของความสามารถในการแข่งขนั โดยเครือขา่ ยวสิ าหกิจมีความสาคญั คือ ก่อให้เกิด การประหยดั ขนาดการผลิต เกิดการแบง่ หนา้ ท่ีการผลิตตามความชานาญ ทาให้เขา้ ถึงแรงงานท่ีมีทกั ษะและ ความชานาญเฉพาะดา้ นได้ มีหน่วยงานเฉพาะทางในการทาวจิ ยั ทาใหส้ ินคา้ และบริการมีมาตรฐานสูงข้ึน เสริมสร้างประโยชนแ์ ละพ่ึงพากนั ได้ เกิดการพฒั นานวตั กรรมอยา่ งตอ่ เนื่อง เกิดการริเริ่มธุรกิจใหมๆ่ และ สามารถวางแผนสนบั สนุนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. เครือข่ายวสิ าหกิจประกอบดว้ ยภาคเอกชน สถาบนั การเงิน สถาบนั การคา้ และสถาบนั วชิ าชีพ สถาบนั การศึกษาและสถาบนั วจิ ยั และพฒั นา หน่วยงานภาครัฐและอ่ืนๆ 3. เครือข่ายวสิ าหกิจแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทไดแ้ ก่ เครือขา่ ยวสิ าหกิจท่ีริเริ่มโดยเอกชน และ เครือขา่ ยวสิ าหกิจที่ริเร่ิมโดยภาครัฐ 4. ปัจจยั สู่ความสาเร็จของเครือขา่ ยวสิ าหกิจมี 2 ประการคือ การสร้างความร่วมมือ และ ความสามารถในการแขง่ ขนั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจ
บทท่ี 1 แนวคิดเก่ียวกบั เครือข่ายวิสาหกิจ 49 เอกสารอ้างองิ กฤตติยา สตั ยพ์ านิช. (2552). แนวทางการพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียวของผ้ปู ระกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ประเภทร้านอาหาร ในเขตเมืองพัทยา จังหวดั ชลบุรี. วทิ ยานิพนธ์หลกั สูตรการจดั การมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการจดั การวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาด ยอ่ ม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา, ชลบุรี. ชลธร ชื่นอุปการนนั ท.์ (2552). แนวทางการพฒั นาเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียวของผ้ปู ระกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ประเภทโรงแรมท่ีพกั ในเขตเมืองพทั ยา จังหวดั ชลบุรี. วทิ ยานิพนธ์หลกั สูตรการจดั การมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการจดั การวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาด ยอ่ ม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา, ชลบุรี. ชมยั พร วเิ ศษมงคล. (2551). คลัสเตอร์ (Cluster) สิ่งที่ SMEs ไม่ควรละเลย. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/cms/c/journal_articles/view_article _content?article_id=01- ARTICL030408&article_version=1.0 ธนาคารกรุงศรีอยธุ ยา จากดั (มหาชน). (2546). คลสั เตอร์ : การรวมกลุ่มธุรกิจเพ่ือการแขง่ ขนั .วารสาร ปราสาทสังข์. ฉบบั เศรษฐกิจวเิ คราะห์ (เดือนมิถุนายน). ธนาคารพฒั นาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม.(2550).โครงการสามประสานพฒั นาเศรษฐกิจ รากหญ้าแนวคิดใหม่เพื่อความมนั่ คงและยง่ั ยืนของประเทศ. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.smebank.co.th/3prasan.php พเิ ชษฐ์ จริกิตตยากร. (2548). ปัจจยั แห่งความสาเร็จกบั การพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจ. ส่งเสริมเทคโนโลยี, 31(179), 117 – 118. วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั , ชวนา องั คนุรักษพ์ นั ธุ์, เกศริน อ่ิมเลก็ , บุปผา ติละกลู , วรี ะสิทธ์ิ ปิ ติเจริญพร, และ ธนภณ นิธิเชาวกุล. (2555). รายงานการวิจัยเรื่อง การพฒั นาศักยภาพและความสามารถในการ แข่งขนั อย่างยง่ั ยืนด้วยการรวมกล่มุ เครือข่าย (Cluster) ของธุรกิจขนาดย่อมด้านการท่องเท่ียว เขต เมืองพัทยาจังหวัดชลบรุ ี. ชลบุรี: คณะการจดั การและการทอ่ งเที่ยว มหาวทิ ยาลยั บูรพาและ สานกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.). . (2555). รายงานการวิจัยเรื่อง การพฒั นาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขนั อย่างยงั่ ยืนด้วย การรวมกล่มุ เครือข่าย (Cluster) ของธุรกิจขนาดย่อมด้านการท่องเที่ยวประเภทธุรกิจสปาและนวด แผนไทย เขตเมืองพัทยาจังหวดั ชลบุรี. ชลบุรี: คณะการจดั การและการท่องเท่ียว มหาวทิ ยาลยั บรู พา และสานกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.). ไว จามรมาน. (2551). แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในคลสั เตอร์ในกล่มุ ประเทศเอเชีย. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://kc.hri.tu.ac.th/index.php?title
50 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2550). แนวทางการพัฒนาขีดความสามารถ ในการแข่งขนั ของการท่องเที่ยวจังหวดั ภูเกต็ อย่างยงั่ ยืน พ.ศ. 2550 – 2554. กรุงเทพฯ : สหมิตรพ ริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิสซิ่ง. . (2549). โครงการจัดทาแผนที่เครือข่ายวิสาหกิจเพ่ือยกระดบั ความสามารถในการแข่งขนั ของภาค การผลิตและบริการ, รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (พิมพค์ ร้ังท่ี 1). กรุงเทพ ฯ : อุดมรัตน์การพิมพแ์ ละ ดีไซน์. . (2549). คู่มือการพฒั นาคลัสเตอร์เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขนั ของภาคการผลิตและ บริการ (พมิ พค์ ร้ังท่ี 1). กรุงเทพ ฯ : อุดมรัตน์การพิมพแ์ ละดีไซน.์ . (2548). เครือข่ายวิสาหกิจ (คลัสเตอร์ ) เพ่ือยกระดับความสามารถในการแข่งขนั แนวทางในการ ดาเนินงานและกรณีตัวอย่าง : บทเรียนการพฒั นาคลัสเตอร์ในประเทศไทย. กรุงเทพ ฯ : ม.ป.ท. . (2547). การพฒั นาเครือข่ายวิสาหกิจ : แนวคิดและแนวทางการพฒั นา (พมิ พค์ ร้ังท่ี 3). กรุงเทพ ฯ: เพชรรุ่งการพมิ พ.์ . (ม.ป.ป.) โครงการศึกษาการพฒั นาขีดความสามารถในการแข่งขนั ของไทย เล่มท่ี 1:การศึกษาใน ระดับมหภาค.กรุงเทพ ฯ : ม.ป.พ. . (ม.ป.ป.). โครงการศึกษาการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขนั ของไทย เล่มที่ 2 : กรณีศึกษากล่มุ อุตสาหกรรม.กรุงเทพ ฯ : ม.ป.พ. สานกั งานส่งเสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม. (2551). รายงานการศึกษา เครือข่ายวิสาหกิจการ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวดั ระนอง. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/th/index.php/knowledge- center/articles2/articles2-2 . (2551). รายงานการศึกษา เครือข่ายวิสาหกิจอุตสาหกรรมธุรกิจบริการนาเท่ียว จังหวดั กรุงเทพมหานคร. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/th/index.php/knowledge- center/articles2/articles2-2 . (2551). รายงานการศึกษาเครือข่ายวิสาหกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชายฝ่ังทะเลตะวนั ออก กล่มุ จังหวดั ภาคตะวนั ออก ( CEO 9 ) จังหวดั ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/th/index.php/knowledge-center/articles2/articles2-2 . (2551). การศึกษาเครือข่ายวิสาหกิจอุตสาหกรรมท่องเท่ียวเชิงนิเวศ ตะวนั ออก กล่มุ จังหวดั ภาค ตะวนั ออก ( CEO 8 ) จังหวัด จังหวดั ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว สมทุ รปราการ. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/th/index.php/knowledge-center/articles2/articles2-2 . (2551). รายงานการศึกษาเครือข่ายวิสาหกิจท่องเท่ียว กล่มุ จังหวดั นครสวรรค์ กาแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานีและ เครือข่ายวิสาหกิจท่องเท่ียว กล่มุ จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.sme.go.th/th/index.php/knowledge-center/articles2/articles2-2
บทที่ 1 แนวคิดเก่ียวกบั เครือข่ายวิสาหกิจ 51 อดิทตั วะสีนนท.์ (2552). คลัสเตอร์ (Cluster) เคร่ืองมือการแข่งขนั . เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.ssmwiki.org/index.php Agranoff, R., & McGuire, M. (2003). Collaborative public management: new strategies for local governments. Washington, D.C. : Georgetown University Press. Barratt, M. (2004). Understanding the meaning of collaboration in the supply chain. International Journal Supply Chain Management, 9(1), 30-42. Mattessich, P. W., Murray-Close, M., & Monsey, B. R. (2001). Collaboration: What makes it work, a review of research literature on factors influencing successful collaboration (2nd ed.). Saint Paul, MN: Amherst H. Wilder Foundation. McGuire, M. (2006). Collaborative Public Management: Assessing What We Know and How We Know It. Public Administration Review. 66(1), 33–43. Peter, M., & Lorenzen, M. (2003).The Cluster as Market Organization. DRUID. Porter, M. E. (2003). The Economic performance of regions. Regional Studies, 37(6/7), 549-578. . (2001). Strategy and the internet. Harvard Business Review, 79(3), 62-78. . (2000). Location, competition and economic development: local clusters in a global economy. Economic Development Quarterly, 14(1), 7-20. . (1998). Cluster and the New Economics of Competition. Harvard Business Review, 76(6), 77-90. . (1990). The Comparative Advantage of Nations. New York : Macmillan. Rosenfeld, S. A. (2001). Backing into Cluster: Retrofitting Public Policies, Integration Pressures: Lessons from Around the World. Cambridge: Cambridge University Press. Simatupang, T. M., & Sridharan, R. (2002a). The collaborative supply chain. International Journal of Logistics Manangement, 13(1), 15-30. Vangen, S., & Huxham, C. (2010). Introducing the Theoory of Collaborative Advance. In: Osborne, Stephen P. ed.The New Public Govenance? Emerging Perspectives on the Theory and Practice of Public Governance. London: Routledge.
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 51 บทที่ 2 แนวคดิ และการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกจิ การท่องเท่ยี ว วตั ถุประสงคข์ องบท เพ่ือ 1. อธิบายความหมายของเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยวได้ 2. อธิบายแนวคิดและการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยวได้ 3. อธิบายกระบวนการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวได้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหน่ึงท่ีมีบทบาทสาคญั ในการ พฒั นาเศรษฐกิจใหก้ บั ประเทศตา่ งๆ เนื่องจากการเดินทางทอ่ งเที่ยวของนกั ท่องเท่ียวไปยงั แหล่งท่องเที่ยวท่ี ใดน้นั ยอ่ มทาให้เกิดการผลิตสินคา้ และบริการเพื่อตอบสนองความตอ้ งการของนกั ท่องเท่ียวอนั ก่อใหเ้ กิด รายไดจ้ ากการซ้ือขายสินคา้ และบริการที่เกี่ยวขอ้ งกบั การท่องเท่ียวในสถานท่ีทอ่ งเที่ยวน้นั ๆ ท้งั ทางตรง และทางออ้ ม ทาใหเ้ กิดการหมุนเวยี นของกระแสการเงินไปทุกระดบั ช้นั ของสงั คมอยา่ งทว่ั ถึงและสร้าง รายไดใ้ หแ้ ก่ประชาชนในประเทศ อีกท้งั การเติบโตอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวยงั ส่งผลดีในดา้ นตา่ งๆ อาทิ เช่น ดา้ นการลงทุนจะเปิ ดโอกาสใหน้ กั ลงทุนชาวต่างชาติเขา้ มาลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มกระแส เงินเขา้ สู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยส่งเสริมภาพลกั ษณ์อนั ดีงามของประเทศเพราะนกั ท่องเที่ยว ที่มาท่องเท่ียวจะไดซ้ ึมซบั ขนบธรรมเนียมประเพณีและช่วยเผยแพร่วฒั นธรรมอนั ดีของไทย ทาใหป้ ระเทศ ไทยเป็นท่ีรู้จกั แก่ประชาคมโลก (บุญเลิศ จิตต้งั วฒั นา, 2548) จากแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติท้งั 2 ฉบบั ไดแ้ ก่ ฉบบั ที่ 9 (พ.ศ. 2544-2549) และฉบบั ที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) มุ่งเนน้ การเพม่ิ สมรรถนะและขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ โดยมุ่ง ใหม้ ีการพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวเพื่อแสดงบทบาทหลกั ในการประสานความร่วมมือระหวา่ ง ภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชนควบคูก่ บั การพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานทางดา้ นตา่ ง ๆ รวมท้งั การ พฒั นาเศรษฐกิจของวสิ าหกิจใหเ้ ป็นรากฐานท่ีเขม้ แขง็ ในการสร้างรายไดข้ องประเทศ ตลอดจนเนน้ การ เชื่อมโยงเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยว ภาคการผลิตและบริการอยา่ งครบวงจร (สานกั งานคณะกรรมการ-
52 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ พฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, 2547) โดยการพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวดว้ ยการรวมกลุ่ม เครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว ถือเป็นบทบาทท่ีมีการบูรณาการท่ีดึงความร่วมมือทุกส่วนผนวกไวร้ วมกนั อยา่ งครบวงจร โดยมีบทบาทท่ีสาคญั คือ การสร้างความร่วมมือเพือ่ เสริมสร้างจุดเด่นและแกไ้ ขจุดอ่อนของ กลุ่มอุตสาหกรรมให้เขม้ แขง็ มากข้ึน โดยบทบาทท่ีเนน้ มากที่สุดคือ การกระตุน้ ผปู้ ระกอบการใหเ้ กิด วสิ ัยทศั น์และกาหนดกลยทุ ธ์ใหส้ อดคลอ้ งกบั ประโยชนข์ องการรวมกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวก็ คือ การลดตน้ ทุน การเพ่ิมประสิทธิภาพกิจการ และการแกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้ึนทนั ที ยกตวั อยา่ งเช่น การ รวมกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวของจงั หวดั ภูเกต็ ท่ีริเริ่มมาเป็นศตวรรษแลว้ มีการรวมกลุ่มเครือข่าย วสิ าหกิจการท่องเที่ยวของผปู้ ระกอบการในการเพ่ิมขีดความสามารถการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรมการ ทอ่ งเท่ียว โดยมีบทบาทของเครือขา่ ยวสิ าหกิจท่ีเริ่มจากการกาหนดวสิ ยั ทศั นข์ องกลุ่มร่วมกนั เพ่ือสร้างกล- ยทุ ธ์ในการพฒั นาความสามารถในการแขง่ ขนั ที่ยง่ั ยนื ซ่ึงการรวมกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียว สามารถลดตน้ ทุนของกิจการในดา้ นตา่ งๆ เช่น วตั ถุดิบ การตลาด และบุคลากร เป็ นตน้ ทาใหเ้ กิดการแบง่ หนา้ ที่การผลิตตามความชานาญและมีการพฒั นานวตั กรรมอยา่ งต่อเนื่อง (สานกั งานคณะกรรมการพฒั นา- เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, 2547, 19) ดงั น้นั การพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียว หรือคลสั เตอร์การท่องเท่ียว (Tourism Cluster) จึง มีความเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั การพฒั นาความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ดว้ ยเหตุน้ีรัฐบาลของ หลายๆ ประเทศท่ีมุง่ เนน้ การเติบโตทางเศรษฐกิจ สงั คม และความยงั่ ยนื ของทรัพยากรดว้ ยอุตสาหกรรมการ ท่องเท่ียว จึงใหค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวพร้อมไปการพฒั นาบทบาท เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวไปดว้ ย ในฐานะที่เป็นเครื่องมือหน่ึงที่มีประสิทธิภาพในกระบวนการ เสริมสร้างและยกระดบั ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของภาคการผลิตและบริการในทุกระดบั เนื่องจาก เป็นกระบวนการท่ีช่วยใหเ้ กิดพลงั ความร่วมมือระหวา่ งผปู้ ระกอบการวสิ าหกิจ หน่วยงานท้งั ภาครัฐและ เอกชน สถาบนั การศึกษา สถาบนั การเงิน สมาคมและองคก์ รธุรกิจตา่ งๆ ที่เก่ียวขอ้ งในการร่วมกนั พฒั นา ความสามารถในการแข่งขนั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวอยา่ งเขม้ แขง็ และเป็นระบบ จนกระทง่ั สามารถแขง่ ขนั ในเวทีการคา้ โลกไดใ้ นที่สุด (สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ม.ป.ป.) สาหรับแนวคิดและการพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยว ตา่ งๆ น้นั มีแนวคิดที่เกี่ยวขอ้ งใน ประเด็นต่างๆ 4 ประการ ดงั น้ี 2.1 แนวคิดเกี่ยวกบั ธุรกิจดา้ นการท่องเที่ยวกบั การพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยว 2.2 ความร่วมมือของธุรกิจดา้ นการท่องเที่ยว 2.3 ความสามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรมท่องเท่ียว 2.4 กระบวนการพฒั นา เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยว
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 53 2.1 แนวคดิ เกยี่ วกบั ธุรกจิ ด้านการท่องเทีย่ วกบั การพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกจิ การท่องเท่ียว จากการริเร่ิมแนวคิดดา้ นเครือขา่ ยวสิ าหกิจโดยพอร์เตอร์ (Porter, 1990) และมีการศึกษาดา้ นน้ี อยา่ งต่อเน่ืองพบวา่ เครือขา่ ยวสิ าหกิจที่มีการศึกษาและประยกุ ตใ์ ชส้ ่วนใหญอ่ ยใู่ นภาคอุตสาหกรรมการ ผลิตมากกวา่ ภาคบริการ แมว้ า่ ภาคบริการจะมีแนวโนม้ การเติบโต และมีศกั ยภาพที่ดีของหลายประเทศใน ภูมิภาคตา่ งๆของโลกในอนาคต การทอ่ งเที่ยวและการเดินทางมีความสาคญั ต่อเศรษฐกิจภาคบริการ องคก์ ารการท่องเท่ียวโลก (United Nations World Tourism Organization: UNWTO, 2015) พยากรณ์ไวว้ า่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญท่ ี่สุดในโลก และเป็นอุตสาหกรรมระดบั แรกๆ ท่ีสร้างคุณค่าภายในสู่ภายนอก (Value Creation from inside to outside) และเปิ ดโอกาสในการทางานหรือ สร้างงานในอนาคตได้ ดงั น้นั อุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวจึงเปรียบเสมือนพาหนะและจกั รกลที่สาคญั ในการ ขบั เคล่ือนเพ่ือการพฒั นาระดบั ทอ้ งถ่ิน ภูมิภาคและประเทศ เช่นเดียวกบั ท่ีหลายประเทศและหลายภมู ิภาคให้ ความสาคญั อยา่ งมากต่อแหล่งรายไดแ้ ละการจา้ งงาน คุณภาพของทรัพยากรมนุษยอ์ นั นามาซ่ึงการพฒั นา ทางกายภาพของแหล่งทอ่ งเท่ียว ตลอดจนดา้ นการบริหารจดั การเพ่ือใหเ้ กิดการบริหารจดั การอนั เป็นผลที่ ยง่ั ยนื ซ่ึงการรวมกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวเป็นรูปแบบการจดั การ เพ่อื ความยงั่ ยนื ท่ีมีลกั ษณะเฉพาะที่แตกต่างจากอุตสาหกรรมการผลิตทว่ั ไป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็ นภาคบริการที่ประกอบดว้ ยหน่วยธุรกิจมีลกั ษณะกระจดั กระจายจึง วดั ผลไดย้ าก หมายถึง การท่องเที่ยวประกอบดว้ ยกลุ่มธุรกิจจากหลายภาคส่วน เช่น ร้านอาหาร ภตั ตาคาร โรงแรม ที่พกั สายการบิน ตวั แทนนาเท่ียว ร้านขายของ ร้านขายของท่ีระลึก รวมถึงหน่วยงานท่ีเป็นเจา้ ของ หรือครอบครองทรัพยากรทางการทอ่ งเท่ียวอยา่ งถูกตอ้ งดว้ ย เป็นตน้ นอกจากน้นั ยงั มีผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ หลากหลายเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของนกั ท่องเที่ยว ดงั น้นั ในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวจึงสามารถ จดั ประเภท หรือรวมกลุ่มไดใ้ นตวั เอง ตามความหลากหลายของผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ โดยมีการใช้ เทคโนโลยที ี่แตกตา่ งกนั ในการผลิตและส่งมอบบริการ (Ioannides, et al., 1998 อา้ งถึงในวฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และคณะ, 2553) เรียกวา่ ระบบการท่องเท่ียว (Tourism System) ซ่ึงจะกล่าวถึงตอ่ ไป 2.1.1 แนวคดิ และทฤษฎเี กี่ยวกบั องค์ประกอบทางการท่องเทย่ี ว บุญเลิศ จิตต้งั วฒั นา (2548) ระบุวา่ องคป์ ระกอบทางการท่องเที่ยวที่สาคญั มีอยู่ 3 องคป์ ระกอบ หรือ 3 A’s ไดแ้ ก่ 1) ส่ิงดึงดูดใจของแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) เป็นสิ่งที่นกั ทอ่ งเที่ยวตอ้ งการและอยากเดินทาง เขา้ ไปท่องเท่ียวในแหล่งทอ่ งเท่ียวน้นั ๆ แลว้ เกิดความประทบั ใจ อาจเป็ นสิ่งท่ีทาใหเ้ กิดความรู้และความ
54 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ เพลิดเพลินแก่นกั ทอ่ งเท่ียว ส่ิงดึงดูดใจของแหล่งทอ่ งเที่ยวยอ่ มมีความแตกต่างกนั ไปตามความตอ้ งการและ ความสนใจของนกั ท่องเท่ียวแต่ละคน แต่ละกลุ่ม สิ่งดึงดดู ใจของแหล่งท่องเท่ียวท่ีสาคญั มี 6 ประการคือ ก) ทิวทศั น์หรือทศั นียภาพที่สวยงามตามธรรมชาติ เช่น ป่ าไม้ ภเู ขา แม่น้า ลาคลอง ทะเล น้าตก หนา้ ผา บ่อน้าพุร้อน เกาะแก่ง อุทยาน ทะเลสาบ เป็นตน้ ข) ความประทบั ใจจากลมฟ้ าอากาศ เช่น อากาศบริสุทธ์สดชื่น อากาศเยน็ สบายปลอด โปร่งหรือไม่หนาวจดั หรือร้อนจดั จนเกินไป เป็นตน้ ค) คุณค่าทางวฒั นธรรม เช่น มีส่ิงท่ีน่าสนใจดา้ นประวตั ิศาสตร์หรือมรดกทาง ประวตั ิศาสตร์ โบราณคดี อนุสาวรีย์ พพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติ สถาบนั ทางการเมือง วดั หรือ ศาสนสถาน คูเมือง กาแพงเมือง อนุสรณ์สถาน ชุมชนโบราณ เป็นตน้ ง) วถิ ีชีวติ และความเป็นอยขู่ องชุมชน เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปกรรม งาน- เทศกาลหรืองานประเพณี การละเล่นพ้ืนเมืองหรือพ้ืนบา้ น พิพิธภณั ฑพ์ ้ืนบา้ น การประกอบอาชีพ ศูนย-์ วฒั นธรรม การทานา ทาไร่ เป็นตน้ จ) สถานท่ีพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ เช่น สวนสนุก สวนสตั ว์ โรงละคร ชีวติ ยามราตรี โรง- มหรสพ สนามกีฬา สถานเริงรมย์ การแสดงตา่ งๆ ศูนยก์ ารคา้ สนามกอลฟ์ สนามเทนนิส ลานโบล่ิง สวน- พฤกษศาสตร์ สวนหยอ่ ม ศูนยส์ ุขภาพ สวนสาธารณะ เป็นตน้ ฉ) กิจกรรมทางการทอ่ งเท่ียว เช่น การเดินป่ า การข่ีชา้ ง ขี่มา้ ขี่อฐู การดูนก การปี นเขา การดาน้า การจบั หรือตกปลา การล่องแพ การพายเรือ การข่ีจกั รยาน การปลูกพืชไร่ เป็ นตน้ 2) การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว (Accessibility) เป็นปัจจยั สาคญั ที่ทาใหน้ กั ท่องเท่ียวสามารถเดิน ทางเขา้ ไปทอ่ งเท่ียวยงั แหล่งทอ่ งเที่ยวน้นั ๆได้ โดยมีเส้นทางหรือเครือข่ายการคมนาคมที่สามารถเดินทาง เขา้ ไปยงั แหล่งท่องเที่ยวไดอ้ ยา่ งสะดวกและปลอดภยั ซ่ึงการเขา้ ถึงแหล่งท่องเที่ยวจะตอ้ งพิจารณาใน 6 ดา้ น ก) ประเภทของการคมนาคมขนส่งท่ีจะใหบ้ ริการเขา้ ถึงแหล่งทอ่ งเท่ียว โดยพจิ ารณาวา่ การใชก้ ารขนส่งประเภทใดเขา้ ถึงแหล่งท่องเท่ียวน้นั ๆ จึงจะเหมาะสม หรือจะใชก้ ารคมนาคมขนส่งหลาย ประเภทร่วมกนั ไป เช่น การขนส่งทางรถยนต์ การขนส่งทางรถไฟ การขนส่งทางเรือ การขนส่งทาง- เคร่ืองบิน เป็นตน้ ข) เส้นทางการคมนาคมขนส่งสู่แหล่งท่องเที่ยว โดยพิจารณาถึงสภาพการเดินทาง ความ สะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความปลอดภยั และความมีมาตรฐานที่ดีในระดบั สากลของเส้นทางที่จะเขา้ ถึง แหล่งท่องเที่ยว
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 55 ค) การคมนาคมขนส่งภายในแหล่งทอ่ งเที่ยว โดยพิจารณาถึงคุณภาพ และสภาพของ ยานพาหนะ เส้นทางการเดินทาง ในแง่จานวนท่ีเพียงพอ คุณภาพและมาตรฐาน ตลอดจนความ สะดวกสบาย รวดเร็วและความปลอดภยั ของระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะและพาหนะนาเท่ียวที่จะ ใหบ้ ริการภายในแหล่งทอ่ งเที่ยว ง) แบบแผนการเดินทางเขา้ สู่แหล่งทอ่ งเท่ียวของนกั ท่องเท่ียว โดยพจิ ารณาถึง ยานพาหนะที่ใชใ้ นการเดินทางทอ่ งเที่ยวของนกั ทอ่ งเท่ียวท่ีเขา้ มาพกั แรมเป็ นหมคู่ ณะท้งั กลุ่มเล็กและกลุ่ม ใหญ่ ท้งั ท่ีเป็นการเดินทางของนกั ท่องเท่ียวแบบส่วนตวั และครอบครัว จ) สถานที่อานวยความสะดวกใหแ้ ก่ยวดยานหรือยานพาหนะ เช่น สถานีขนส่ง ที่จอดรถ ที่ลา้ งรถ สถานที่ซ่อมแซมบารุงรถ ป้ัมน้ามนั สถานีบริการดา้ นเช้ือเพลิง เป็นตน้ ฉ) สภาพปัญหาการจราจรหรือความหนาแน่นหรือความคบั คงั่ ที่อาจข้ึนในแหล่ง ท่องเที่ยว โดยพจิ ารณาถึงปัญหาการจราจร จานวนยวดยานหรือยานพาหนะ ท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนในแหล่ง ทอ่ งเที่ยว เช่นปัญหารถติดจนเป็นบ่อเกิดของอากาศเป็ นพิษ เป็นตน้ 3) ส่ิงอานวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยว (Amenity) เป็นส่ิงท่ีสร้างความราบร่ืนในการ ใหบ้ ริการแก่นกั ท่องเที่ยวท่ีเดินทางเขา้ มาท่องเท่ียวในแหล่งท่องเท่ียวน้นั เพอ่ื ใหน้ กั ท่องเท่ียวตอ้ งการจะ ท่องเท่ียวนานวนั ข้ึน หรือกลบั มาเท่ียวซ้าในโอกาสหนา้ ซ่ึงส่ิงอานวยความสะดวกที่สาคญั ในแหล่ง ท่องเที่ยวมี 4 ดา้ น คือ ก) ดา้ นอาคารและสิ่งก่อสร้างในแหล่งทอ่ งเท่ียวประกอบดว้ ย บธู หรือสถานที่จาหน่าย บตั รเขา้ ชมแหล่งทอ่ งเที่ยว สานกั งานท่ีทาการของแหล่งท่องเท่ียว ศูนยบ์ ริการนกั ท่องเที่ยว ท่ีพกั นกั ทอ่ งเท่ียว ห้องน้าสาธารณะ ศาลาหรือซุม้ นงั่ รอคอย ร้านคา้ ร้านอาหาร บา้ นพกั พนกั งาน เป็นตน้ ข) ดา้ นบริการในแหล่งท่องเที่ยว ประกอบดว้ ย ซุม้ เขา้ -ออก ป้ ายเคร่ืองหมาย ลาน- กิจกรรม สวนหยอ่ ม กระถางและท่ีปลูกตน้ ไม้ มา้ นงั่ โตะ๊ ทางเดิน เป็ นตน้ ค) ดา้ นความปลอดภยั ในแหล่งทอ่ งเท่ียว ประกอบดว้ ย สถานีตารวจ สถานบริการดา้ น ความปลอดภยั เพื่อความปลอดภยั จากอาชญากรรมและป้ องกนั โจรผรู้ ้ายในแหล่งท่องเที่ยว ความปลอดภยั จากอุบตั ิเหตุในแหล่งท่องเท่ียว ความปลอดภยั จากตน้ ไมแ้ ละสัตวใ์ นแหล่งท่องเท่ียว ความปลอดภยั จากการ หลงทางภายในแหล่งทอ่ งเท่ียวและความปลอดภยั จากภยั ธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยว ง) ดา้ นป้ ายในแหล่งทอ่ งเท่ียว ประกอบดว้ ย ป้ ายตอ้ นรับนกั ท่องเที่ยวเขา้ สู่พ้นื ท่ีแหล่ง ทอ่ งเท่ียว ป้ ายแผนท่ีแสดงท่ีต้งั ของแหล่งทอ่ งเที่ยว ป้ ายแผนที่แสดงจุดที่น่าชมของแหล่งทอ่ งเที่ยว ป้ ายช้ี-
56 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ทางภายในแหล่งทอ่ งเที่ยว ป้ ายสื่อความหมาย ป้ ายเตือน คาเตือนอนั ตรายแก่นกั ทอ่ งเที่ยว ป้ ายประกาศอื่นๆ ท่ีตอ้ งการใหน้ กั ท่องเท่ียวทราบ โดยอาจจดั ทาข้ึนเป็นภาษาที่นกั ทอ่ งเท่ียวใชแ้ ละสามารถส่ือสารเขา้ ใจได้ อยา่ งถูกตอ้ ง เป็นตน้ นอกจากน้ี สมบตั ิ กาญจนกิจ (2544) ไดอ้ ธิบายวา่ องคป์ ระกอบของการท่องเที่ยวเป็ นกระบวน การทางสังคมและเศรษฐกิจท่ีมีองคป์ ระกอบหลกั สามดา้ น คือ ทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว (Tourism Resources) บริการการท่องเที่ยว (Tourism Services) และตลาดการทอ่ งเที่ยว (Tourism Market of Tourists) แต่ละองคป์ ระกอบยอ่ ยๆท่ีมีความสมั พนั ธ์กนั เป็นเหตุเป็ นผลซ่ึงกนั และกนั ความแตกต่างของแตล่ ะรูปแบบ การท่องเท่ียว จึงอยทู่ ี่องคป์ ระกอบยอ่ ยและความสัมพนั ธ์ที่เกิดข้ึนนนั่ เอง ที่เรียกวา่ ระบบการตลาดการ ทอ่ งเท่ียว (Tourism Marketing System) 2.1.1.1 ระบบการตลาดการท่องเที่ยว จากขา้ งตน้ ในการทาความเขา้ ใจในระบบการตลาด การทอ่ งเที่ยวจะเป็นประโยชนต์ ่อการวเิ คราะห์ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อนกั ทอ่ งเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวโดยรวม โดยพ้ืนฐานระบบการตลาดการท่องเที่ยวมีอุปสงคแ์ ละอุปทานใน ตลาด อุปสงคป์ ระกอบดว้ ยการจงู ใจนกั ท่องเที่ยว การรับรู้ ความคาดหวงั และภาพลกั ษณ์ท่ีเกิดข้ึน ขณะที่ อุปทานประกอบไปดว้ ยอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียว รัฐบาล ทรัพยากรในแหล่งทอ่ งเท่ียว อยา่ งไรกต็ าม ระบบการตลาดการทอ่ งเท่ียว (Tourism Marketing System) เป็นวงจรแสดงความ ตอ้ งการทางการตลาดหรือพฤติกรรมของนกั ทอ่ งเที่ยว การเดินทางทอ่ งเท่ียว แหล่งทอ่ งเที่ยว ผจู้ ดั จาหน่าย และนกั การตลาด รวมท้งั ปัจจยั ท่ีสนบั สนุนต่างๆ จะเห็นไดว้ า่ เม่ือนกั ท่องเท่ียวไปท่องเที่ยวตามแหล่ง ท่องเที่ยวและสมั ผสั กบั วฒั นธรรม สงั คม และสภาพแวดลอ้ มจะมีผลท่ีสะทอ้ นต่อประสบการณ์ของ นกั ทอ่ งเที่ยวเหล่าน้นั ระบบการตลาดการท่องเที่ยวสามารถอธิบายโดยโมเดลของฮอล (Hall, 2003) ดงั ภาพ ที่ 2-1
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 57 ผลกระทบ พฤติกรรมนกั ท่องเท่ียว อุปสงคก์ ารทอ่ งเท่ียว ความตอ้ งการและประสบการณ์ของนกั ท่องเที่ยว ปัจจัยส่ วนบุคคล อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุปทานการ เศรษฐกิจ รัฐบาลในทุกระดบั ท่องเที่ยว สงั คม วฒั นธรรม สงั คมวฒั นธรรม-ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม การเมือง ภาพท่ี 2-1 ระบบการตลาดการทอ่ งเท่ียว (ที่มา: ปรับปรุงจาก Hall, 2003, 18) ภาพที่ 2-1 ระบบการตลาดการทอ่ งเที่ยว แสดงถึงการใชป้ ระสบการณ์ดา้ นต่างๆ ของนกั ทอ่ งเท่ียวท่ี มีตอ่ แหล่งท่องเท่ียวทาให้เกิดความตอ้ งการของนกั ท่องเที่ยวหรืออุปสงค์ (Tourist or Demand) ตอ่ สินคา้ หรือบริการหรือพฤติกรรมนกั ทอ่ งเที่ยว หรืออุปทานของแหล่งท่องเที่ยว (Product or Supply) โดยสะทอ้ น ใหเ้ ห็นถึงคุณค่าและความคิดที่ไดร้ ับจากขอ้ มูลข่าวสารและหรือประสบการณ์ของนกั ท่องเที่ยว (Tourist Experience) ทาใหเ้ กิดการเดินทางท่องเที่ยว ซ่ึงรูปแบบและพฤติกรรมการเดินทางเกิดผลกระทบ (Impact) แตกต่างกนั ไปตามปัจจยั ส่วนบุคคล (Personal) และ สภาพเศรษฐสังคมและระบอบการเมืองของ นกั ทอ่ งเที่ยว (Economic, Socioculture, Environmental, and Political factor) สาหรับสินคา้ หรือบริการหรือ อุปทานของแหล่งทอ่ งเท่ียวท่ีนาเสนอในตลาดการท่องเท่ียวน้นั ตอ้ งถูกวางแผนกลยทุ ธ์และออกแบบ ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ โดยตอ้ งดูวา่ นกั ทอ่ งเที่ยวตดั สินใจอยา่ งไร โดยท่ีผปู้ ระกอบการของอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวร่วมมือและไดร้ ับการสนบั สนุนจากหน่วยงานภาครัฐ (Tourism Industry and Government) กอปร กบั ความพร้อมหรือศกั ยภาพของแหล่งทอ่ งเท่ียวและอุตสาหกรรมในดา้ นทรัพยกรทางการท่องเที่ยว ท้งั ทาง ธรรมชาติ และวฒั นธรรม สงั คม อีกนยั หน่ึงคือ ก่อนท่ีนกั การตลาดจะวางแผนกลยทุ ธ์ทางการพฒั นาการ ท่องเที่ยว นกั การตลาดตอ้ งเขา้ ใจวา่ ปัจจยั ใดมีอิทธิพลต่อนกั ท่องเที่ยวในการตดั สินใจเดินทางท่องเท่ียว
58 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ดงั น้นั ผบู้ ริหารตอ้ งใชก้ ลยทุ ธ์การตลาดใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของนกั ท่องเที่ยว ในการเขา้ ถึง พฤติกรรมของนกั ทอ่ งเท่ียวเพอื่ ทาใหม้ ีการตดั สินใจท่ีถูกตอ้ ง หนา้ ท่ีของผบู้ ริหารคือ การพฒั นาบริการ- การท่องเท่ียวใหน้ ่าสนใจและวางแผนการตลาดใหด้ ึงดูดนกั ทอ่ งเท่ียว ปัจจยั ที่เกี่ยวขอ้ งทาใหเ้ กิดอุปสงคแ์ ละ อุปทานของการท่องเที่ยวจาเป็นตอ้ งมีการพจิ ารณามุมมองดา้ นบวกและดา้ นลบ เนื่องจากอาจมีขอ้ แตกตา่ ง เกิดข้ึนและมีอิทธิพลต่อการตดั สินใจของนกั ท่องเที่ยว และมีการดาเนินการอยา่ งเป็นวงจรและเป็นระบบ สาหรับองคก์ ารการทอ่ งเท่ียวโลก กล่าวโดยสรุปวา่ การท่องเท่ียวไมไ่ ดม้ ีความหมายเฉพาะ จึง ยากท่ีจะจากดั ความใหก้ บั อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทาง เช่นเดียวกบั ในภาคการทอ่ งเที่ยว อยา่ งไรก็ตาม องคก์ ารการท่องเที่ยวโลก ไดก้ าหนดประเภทของนกั ทอ่ งเท่ียวไวส้ องลกั ษณะคือ นกั ท่อง- เที่ยวภายในประเทศ และนกั ท่องเที่ยวระหวา่ งประเทศ โดยในทางปฏิบตั ิ บุคคลที่เดินทางออกจากบา้ นดว้ ย ระยะทางหน่ึงๆ สามารถจดั เป็นนกั ท่องเที่ยวไดเ้ ช่นกนั ดงั รายละเอียดคือ นกั ท่องเท่ียวภายในประเทศ (Domestic Tourists) หมายถึง บุคคลท่ีพานกั อาศยั อยใู่ นประเทศ น้นั ๆ และมีการเดินทางจากที่หน่ึงไปยงั อีกท่ีหน่ึงในประเทศของตน ในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน โดยมี วตั ถุประสงคห์ ลกั เพอื่ ไปเยยี่ มเยอื นมากกวา่ กิจกรรมอ่ืน นกั ทอ่ งเท่ียวระหวา่ งประเทศ (International Tourist) หมายถึง บุคคลท่ีเดินทางไปยงั ประเทศอ่ืนท่ี ตนเองไมไ่ ดพ้ านกั อาศยั ในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน โดยมีวตั ถุประสงคห์ ลกั เพ่ือไปเยย่ี มเยือนมากกวา่ กิจกรรมอ่ืน การทาความเขา้ ใจผเู้ กี่ยวขอ้ งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแหล่งทอ่ งเท่ียวทวั่ ๆ ไป สามารถ พจิ ารณาไดจ้ ากการพิจารณาความเกี่ยวขอ้ งและบทบาทความสัมพนั ธ์ของผเู้ ก่ียวขอ้ งและก่อใหเ้ กิดรายได้ จากการเดินทางท่องเท่ียวในแหล่งทอ่ งเท่ียวของประเทศหน่ึงๆ ไดจ้ ากระบบการท่องเที่ยว (Tourism System) ดงั ภาพท่ี 2-2
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 59 2.1.1.2 ระบบการทอ่ งเท่ียว ผผู้ ลิต ผจู้ ดั จาหน่าย ผอู้ านวย ผบู้ ริโภค คมนาคมขนส่ง ความสะดวก (นกั ท่องเท่ียว) ตวั กลางและองคก์ รดา้ นการท่องเท่ียว ความสัมพัน ์ธทางแนว ้ตัง ส่ิงดึงดูดใจ ตวั แทนจดั การ มคั คุเทศก์ ท่ีพกั แรม ท่องเท่ียว ภตั ตาคาร ฝ่ ายปฏิบตั ิงานดา้ น ตวั แทนนาเที่ยว ร้านอาหารและ ทวั ร์หรือจดั การ เคร่ืองดื่ม ท่องเที่ยว อ่ืนๆ ความสัมพนั ธ์ทางแนวนอนหรือรวมตวั กนั ภาพท่ี 2-2 ระบบการท่องเท่ียว (ท่ีมา: Price waterhoures Coopers (2001) ดดั แปลงจาก Poon (1993) และ Coopers, et al. (1998) ใน “Structure, Performance & Competitiveness of European Tourism and its Enterprises” (อา้ งถึงใน วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และคณะ, 2557) จากภาพท่ี 2-2 จะเห็นวา่ ระบบการท่องเท่ียวประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบหลกั 4 ดา้ นคือ ผผู้ ลิต ผจู้ ดั จาหน่าย ผอู้ านวยความสะดวก และผบู้ ริโภคหรือนกั ท่องเที่ยว นกั ท่องเท่ียวมีส่วนในกระบวนการผลิต และบริการและเป็นองคป์ ระกอบหน่ึงของผลิตภณั ฑป์ ลายทาง ทาใหอ้ ุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวมีลกั ษณะ เฉพาะ อีกท้งั การบริการจากผผู้ ลิตเช่น กิจการคมนาคมขนส่ง แหล่งท่องเท่ียว สถานท่ีพกั และร้านอาหาร เป็นตน้ โดยส่งผา่ นบริการไปใหต้ วั แทนนาเท่ียวหรือผปู้ ระกอบการนาเที่ยว หรือตวั แทนท่ีทาหนา้ ที่ให้ ขอ้ มูลแก่นกั ทอ่ งเท่ียวและประสานงานกบั ผผู้ ลิตไปพร้อมกนั เป็นความสัมพนั ธ์หรือรวมตวั กนั ทาง แนวนอน (Horizontal Integration and Consolidation) ในขณะท่ีกลุ่มผผู้ ลิตเอง และกลุ่มตวั แทนหรือ ตวั กลางก็ทางานร่วมกนั ในลกั ษณะความสัมพนั ธ์ทางแนวต้งั (Vertical Integration) ในขณะที่ภาคอุตสาห- กรรมการผลิตทว่ั ไป กิจการส่วนใหญ่ควบคุมคุณภาพของผลิตภณั ฑป์ ลายทางก่อนท่ีจะส่งมอบ และทาให้ มนั่ ใจวา่ ผเู้ ก่ียวขอ้ งในห่วงโซ่คุณคา่ จะมีความพึงพอใจ ซ่ึงแตกต่างจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจดั เป็น
60 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ อุตสาหกรรมบริการเป็ นหลกั ที่สร้างความพงึ พอใจในผลิตภณั ฑแ์ ละบริการข้ึนอยกู่ บั ประสบการณ์ของ นกั ท่องเที่ยวในการเยยี่ มเยอื นจุดหมายปลายทางน้นั ๆ เช่น หากโรงแรมมีส่ิงอานวยความสะดวกครบครัน แต่บริการไม่ดี หรือภตั ตาคารมีอาหารไมม่ ีคุณภาพ แขกจะไมก่ ลบั มาใชบ้ ริการโรงแรมหรือรับประทาน อาหารที่ร้านน้นั อีก สิ่งเหล่าน้ีแสดงวา่ การเติบโตของธุรกิจไม่ไดอ้ ยทู่ ่ีศกั ยภาพและความเชี่ยวชาญของธุรกิจ หรือกิจการเพยี งอยา่ งเดียว ซ่ึงสามารถตอบสนองกบั บทบาทที่สาคญั ของเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวท่ี มุ่งหลอมรวมความรู้ ความสามารถ และความเก่งของแตล่ ะธุรกิจเพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการของ นกั ท่องเท่ียวที่หลากหลายได้ โดยสรุป ระบบการทอ่ งเที่ยวควรพจิ ารณาจุดเริ่มตน้ ตามแนวคิดของกอลลบั โฮซิเอร์ และวู (Gollub, Hosiey & Woo, 2002) จากผบู้ ริโภคหรือนกั ทอ่ งเที่ยวเดินทางมายงั แหล่งทอ่ งเที่ยวท่ีน่าดึงดูดใจ โดยการคมนาคมขนส่งที่เขา้ ถึงแหล่งทอ่ งเท่ียว ดว้ ยบริการจากตวั แทนนาเที่ยวในดา้ นขอ้ มลู ขา่ วสารก่อน ระหวา่ งการเดินทางร่วมกบั การบริการดา้ นการจองท่ีพกั การจดั หาบริการจากร้านอาหาร ตลอดจนการเขา้ ร่วมกิจกรรมของแหล่งทอ่ งเท่ียวท่ีจดั ไว้ โดยเกิดกระบวนการตดั สินใจซ้ือสินคา้ หรือบริการในระบบการ ทอ่ งเท่ียวน้นั ดว้ ยแรงกระตุน้ จากองคป์ ระกอบตา่ งๆ ของระบบการตลาดการท่องเท่ียวนน่ั เอง 2.2. ความร่วมมือของธุรกจิ ด้านการท่องเทยี่ ว จากความหมายของกลุ่ม คือ กลุ่มประกอบดว้ ยบุคคลอยา่ งนอ้ ย 2 คนข้ึนไป กลุ่มตอ้ งมีความ สมั พนั ธ์ตอ่ กนั คือ ท้งั บุคคลและกลุ่มตอ้ งมีการพบปะสงั สรรคก์ นั กลุ่มมีความสนใจร่วมกนั และกลุ่มมีแบบ แผนต่อกนั คือ กลุ่มกาหนดหนา้ ท่ีเป็นแบบแผนที่แน่นอนเช่น ความรับผิดชอบ หนา้ ท่ี บทบาท เป็นตน้ จาก คานิยามของกลุ่ม ทาใหท้ ราบวา่ กระบวนการที่จะเกิดเป็ นกลุ่มข้ึนไดน้ ้นั ตอ้ งมาจากหลายองคป์ ระกอบ รวมเขา้ ดว้ ยกนั ส่ิงสาคญั คือ การปฏิสัมพนั ธ์กนั ภายในกลุ่มทาใหก้ ลุ่มสามารถดาเนินงานตามเป้ าหมายไป ไดอ้ ยา่ งประสบความสาเร็จ และกลุ่มตอ้ งมีองคป์ ระกอบเพ่อื เป็นการดาเนินงานร่วมกนั ของกลุ่ม (ภษู นิศา กนั ทิยะ, 2554) นอกจากน้ี กลุ่มในทางจิตวทิ ยา หมายถึง การท่ีบุคคลต้งั แต่สองคนข้ึนไปมารวมกนั โดยมีการ ติดต่อสัมพนั ธ์กนั หรือปฏิสมั พนั ธ์กนั และมีจุดมุ่งหมายที่จะกระทากิจกรรมอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงร่วมกนั และ ความสมั พนั ธ์น้ีช่วยใหส้ มาชิกกลุ่มอยรู่ ่วมกนั ไดใ้ นระดบั ที่พอดี ดงั น้นั การรวมกลุ่มจากการขยายความหมายขา้ งตน้ คือ กระบวนการประกอบดว้ ยบุคคลหรือ สถาบนั หรือองคก์ รอยา่ งนอ้ ย 2 คนข้ึนไป โดยท่ีบุคคลจะตอ้ งมีปฏิสมั พนั ธ์กนั เพ่ือทาใหเ้ กิดการส่ือสาร การ แลกเปลี่ยนขอ้ คิดเห็น หรือปัจจยั อื่นๆ เพื่อก่อให้เกิดความสาเร็จตามวตั ถุประสงคข์ องการรวมกลุ่ม โดยการ
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 61 รวมกลุ่มแบบเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวหรือคลสั เตอร์การท่องเท่ียว เป็ นการรวมกลุ่มที่เก่ียวขอ้ งกบั สถานประกอบการและหน่วยงานที่เก่ียวเน่ืองกบั อุตสาหกรรมในระบบการท่องเท่ียวและระบบการตลาด การทอ่ งเท่ียวเพอ่ื พฒั นาขีดความสามารถทางการแข่งขนั และศกั ยภาพในการรวมกลุ่มแบบเครือขา่ ยวสิ าหกิจ จึงไดท้ าการศึกษาความหมายและความสาคญั ดงั ต่อไปน้ี เครือข่ายวสิ าหกจิ การท่องเทย่ี ว มาจากคาภาษาองั กฤษวา่ Tourism Cluster ซ่ึงเป็นแนวคิดในการ พฒั นาขีดความสามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรม ท่ีริเร่ิมในค.ศ. 2000 โดย ไมเคิล อี. พอร์เตอร์ (Michael E. Porter) แห่งมหาวทิ ยาลยั ฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ปรมาจารยด์ า้ นกลยทุ ธ์การแขง่ ขนั ที่มีชื่อเสียง ระดบั สากลร่วมกบั นกั วชิ าการอื่นๆ (Barkley & Henry, 2001) แนวคิดเร่ืองเครือขา่ ยวสิ าหกิจสามารถนามา ประยกุ ตก์ บั อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไดโ้ ดยมีคาจากดั ความวา่ เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวคือ กลุ่ม ของธุรกิจและสถาบนั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั อุตสาหกรรมในระบบการทอ่ งเที่ยวและระบบการตลาดการท่องเท่ียว มารวมตวั ดาเนินกิจการอยใู่ นพ้ืนท่ีใกลเ้ คียงกนั (Geographical Proximity) มีความร่วมมือเก้ือหนุน เช่ือมโยง และเสริมกิจการซ่ึงกนั และกนั อยา่ งครบวงจร (Commonality & Complimentarily) ท้งั ในแนวต้งั และ แนวนอน โดยความเช่ือมโยงในแนวต้งั (Vertical Linkages) เป็นความเช่ือมโยงของผปู้ ระกอบการธุรกิจ ต้งั แต่ตน้ น้าจนถึงปลายน้า และความเชื่อมโยงในแนวนอน (Horizontal Linkages) เป็นความเชื่อมโยง อุตสาหกรรมสนบั สนุนตา่ ง ๆ รวมท้งั ธุรกิจใหบ้ ริการ สมาคมการคา้ สถาบนั การศึกษาและฝึกอบรม สถาบนั วจิ ยั และพฒั นา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐตา่ งๆที่เกี่ยวขอ้ งเพื่อบรรลุเป้ าหมายร่วมกนั คือ การเพ่ิม ผลิตภาพ (Productivity) ซ่ึงถือเป็นปัจจยั หลกั ในการเพ่ิมขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ท่ียงั่ ยนื วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และคณะ (2557) ไดศ้ ึกษาวจิ ยั โดยการประยกุ ตแ์ นวคิดและหลกั การของ เครือขา่ ยวสิ าหกิจตามแนวคิดของพอร์เตอร์กบั อุตสาหกรรมการท่องเท่ียว ระบุนิยามของเครือข่ายวสิ าหกิจ การทอ่ งเที่ยววา่ กลุ่มของธุรกิจและสถาบนั ที่เก่ียวขอ้ งกบั อุตสาหกรรมในระบบการท่องเที่ยวและระบบ- การตลาดการท่องเที่ยว ซ่ึงมารวมตวั ดาเนินกิจการอยใู่ นพ้ืนท่ีใกลเ้ คียงกนั มีความร่วมมือเก้ือหนุน เช่ือมโยง และเสริมกิจการซ่ึงกนั และกนั อยา่ งเหมาะสม โดยหวั ใจของการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวคือ การสร้างความร่วมมือบนพ้ืนฐานของการแข่งขนั โดยผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งในเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวน้นั ๆ จะตอ้ งมีการวางแผนกาหนดทิศทาง เป้ าหมาย และกลยทุ ธ์ในการพฒั นาร่วมกนั มีการแลกเปลี่ยนขอ้ มูล ขา่ วสาร ความรู้ ตลอดจนทรัพยากรต่างๆ ระหวา่ งกนั เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพโดยรวมของ เครือขา่ ยวสิ าหกิจน้นั ๆ ปัจจุบนั แมว้ า่ การพฒั นาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดว้ ยเครือข่ายวสิ าหกิจในประเทศที่พฒั นาแลว้ เช่น สหรัฐอเมริกาหรือประเทศท่ีเป็นสมาชิกของสหภาพยโุ รปจะมีความเขม้ แขง็ และขยายตวั อยา่ งยง่ั ยนื
62 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ สาหรับในประเทศไทย การรวมกลุ่มของผปู้ ระกอบการและผเู้ กี่ยวขอ้ งของอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวใน รูปแบบเครือขา่ ยวสิ าหกิจพบวา่ มีแนวโนม้ เป็ นไปในทิศทางท่ีดีซ่ึงนบั วา่ เป็นอีกหน่ึงแนวทางหลกั ในการ ขบั เคล่ือน และพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเห็นไดจ้ ากภาครัฐส่งเสริมการพฒั นาอุตสาหกรรมการ ท่องเท่ียวดว้ ยเครือขา่ ยวสิ าหกิจออกมามากมาย อยา่ งไรก็ดี ยงั คงมีประเด็นปัญหาในการพฒั นาเครือข่าย วสิ าหกิจอยู่ ไม่วา่ จะเป็นในเร่ืองความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องการรวมกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจที่ถูกตอ้ งและ เหมาะสม ทุนมนุษยใ์ นดา้ นทกั ษะและความชานาญของคนในพ้ืนท่ียงั ไม่เพียงพอ ประกอบกบั การวาง แผนการพฒั นาเชิงยทุ ธศาสตร์ท่ีควรเริ่มตน้ ต้งั แตก่ ารยกเคร่ืองระบบการศึกษาใหส้ อดรับกบั แผนการพฒั นา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยพี ร้อมท้งั การปฏิรูประบบคา่ จา้ งใหเ้ หมาะสมเพ่ือรองรับการทางานร่วมกนั ใน ระบบเท่าเทียมกนั ของเครือข่ายวสิ าหกิจ ปัจจยั เหล่าน้ีกลายเป็นกลไกสาคญั และกลไกหลกั ในการพฒั นาขีด ความสามารถในการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ และทาใหร้ ะบบ เศรษฐกิจพฒั นาบนพ้ืนฐานของนวตั กรรมไดใ้ นอนาคต ความสาคญั ของเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียว (วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และคณะ, 2557) สรุปวา่ มี ดงั น้ี 1) ส่งเสริมใหส้ มาชิกในกลุ่มพดู คุยและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลกนั อยเู่ สมอ เพื่อใหส้ มาชิกทุกคนไดร้ ับรู้ เขา้ ใจปัญหาของกลุ่มและหาทางแกไ้ ขร่วมกนั ซ่ึงจะทาใหส้ มาชิกมีความไวว้ างใจกนั มากข้ึน และเปิ ดกวา้ ง ในการรับรู้ขอ้ มลู ขา่ วสารและองคค์ วามรู้ใหม่ๆ ท้งั ในดา้ นเทคโนโลยกี ารผลิต การบริการ การตลาด และ นโยบายการสนบั สนุนต่างๆ จากรัฐบาลอยา่ งตอ่ เน่ือง 2) การร่วมกนั เป็นเครือขา่ ยวิสาหกิจการท่องเที่ยวสามารถช่วยลดตน้ ทุนท้งั ดา้ นวตั ถุดิบ การทา การตลาด การวจิ ยั พฒั นา การสร้างนวตั กรรม การพฒั นาบุคลากร และการพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานสาหรับ ธุรกิจที่เก่ียวขอ้ งในเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยว 3) ช่วยใหเ้ กิดการสร้างนวตั กรรมใหม่ๆ เน่ืองจากสมาชิกในเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวมีการ แลกเปลี่ยนขอ้ มลู และองคค์ วามรู้ระหวา่ งกนั อยเู่ สมอจึงทาใหส้ มาชิกมีโลกทศั นท์ ี่กวา้ งขวางข้ึน และ นาไปสู่การตอ่ ยอดองคค์ วามรู้เพื่อพฒั นาส่ิงใหมๆ่ อยา่ งต่อเนื่อง 4) การรวมกลุ่มเป็นเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยวไม่ใช่เป็นเพยี งการส่งเสริมความร่วมมือของ สมาชิกตา่ งๆ ในเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยวเท่าน้นั แตย่ งั ส่งเสริมการเปิ ดกวา้ งทางการคา้ ใหม้ ีการ แข่งขนั ของสมาชิกดว้ ย ซ่ึงการแขง่ ขนั จะช่วยกระตุน้ ใหธ้ ุรกิจตอ้ งปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของ ตนอยา่ งตอ่ เนื่อง เพ่ือใหส้ ามารถอยรู่ อดและแข่งขนั ไดใ้ นระยะยาว
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 63 5) ส่งเสริมการขยายตวั ของธุรกิจและการเกิดธุรกิจใหมๆ่ เน่ืองจากเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยว ช่วยกระตุน้ ทาใหเ้ กิดการไหลเวยี นของขอ้ มลู และองคค์ วามรู้ และร่วมกนั ลงทุนในกิจกรรมท่ีก่อให้เกิดการ สร้างมลู คา่ เพ่มิ เช่น การพฒั นาบุคลากร เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมใหมๆ่ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดการพฒั นาคุณภาพ และประสิทธิภาพของการผลิตและบริการอยา่ งต่อเนื่อง อีกท้งั เป็นการเปิ ดกวา้ งต่อการแขง่ ขนั ทางการคา้ ดงั น้นั เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวจึงช่วยเสริมสร้างโอกาสต่อการเติบโตของธุรกิจตา่ ง ๆ และการ เกิดข้ึนใหม่ของธุรกิจต่อเน่ืองตา่ งๆ การรวมกลุ่มแบบเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียว เป็นปัจจยั ที่สาคญั ตอ่ การพฒั นาศกั ยภาพของ สถานประกอบการหรือกิจการและเพมิ่ ความสามารถทางการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียว เพอ่ื ให้ การดาเนินการของธุรกิจอยรู่ อดไดใ้ นการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในช่วงต่างๆ ตามวฏั จกั รและ โลกาภิวฒั น์ บทบาทของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยว มีผเู้ ก่ียวขอ้ งท่ีอยใู่ นระบบมีความเขม้ แขง็ และ สามารถสร้างมูลคา่ เพ่ิมไดร้ ูปแบบ 1+1 = 3 ได้ พอร์เตอร์ (Porter, 1998 อา้ งถึงใน วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั และ คณะ, 2555) กล่าววา่ การเชื่อมโยงการพฒั นาของสมาชิกในกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว (Cluster- Based Tourism Development) จะส่งผลมากกวา่ องคป์ ระกอบในแต่ละส่วน โดยทวั่ ไปแลว้ ประสบการณ์ ของนกั ท่องเที่ยวไม่ไดเ้ กิดกบั แหล่งท่องเที่ยวเป็ นหลกั เท่าน้นั แต่ข้ึนอยกู่ บั คุณภาพและประสิทธิภาพของ ธุรกิจหรือองคป์ ระกอบท่ีเกี่ยวเน่ือง เช่น บุคลากรที่ใหบ้ ริการของโรงแรมที่พกั ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ของท่ีระลึก แหล่งท่อง-เท่ียว ระบบสาธารณูปโภค และการคมนาคมขนส่ง เป็นตน้ ท้งั น้ีเนื่องจากสมาชิกใน เครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวตอ้ งร่วมกนั และอาศยั กนั สร้างผลงานท่ีดี โดยทางานในลกั ษณะสนบั สนุน และมุง่ ไปสู่ความสาเร็จตามเป้ าหมายท่ีกาหนดร่วมกนั ดงั น้นั ผดู้ าเนินงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะ สามารถขยายฐานลูกคา้ และความสามารถในการผลิตและบริการไดจ้ ากการรวมกลุ่มทางานร่วมกนั เพ่ือเพ่ิม โอกาสและรายได้ นอกจากน้นั ผลิตภณั ฑห์ รือบริการใหม่ๆ จะสามารถเกิดข้ึนจากสภาพแวดลอ้ มในการ แขง่ ขนั ที่เอ้ือตอ่ การทางานในระบบบูรณาการท่ีส่งเสริมการพฒั นาระบบเศรษฐกิจเพื่อความไดเ้ ปรียบเชิง การแขง่ ขนั อยา่ งแทจ้ ริง ตวั อยา่ งท่ีเห็นประจกั ษช์ ดั เจนในดา้ นความร่วมมือกนั แบบเครือขา่ ยวสิ าหกิจการ ท่องเท่ียว ไดแ้ ก่ ธุรกิจโรงแรมท่ีพกั ดงั ต่อไปน้ี
64 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ตวั อยา่ งท่ีเห็นประจกั ษช์ ดั เจน ในดา้ นความร่วมมือกนั เป็ นเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียว ไดแ้ ก่ ธุรกิจ โรงแรมท่ีพกั ม่ิงสรรพ์ ขาวสอาด (2548) เสนอวา่ กิจการโรงแรมท่ีพกั ของประเทศไทยมีความเชื่อมโยงกนั ภายในตวั เองและเช่ือมโยงกบั อุตสาหกรรมอ่ืนๆ อยา่ งชดั เจนดงั ภาพท่ี 2-3 ภาพที่ 2-3 ความเชื่อมโยงภายในและระหวา่ งอุตสาหกรรมโรงแรมและรีสอร์ทกบั อุตสาหกรรมและ หน่วยงานอื่นๆ (ที่มา : สานกั งานสถิติแห่งชาติ (2546) อา้ งถึงใน ม่ิงสรรพ์ ขาวสะอาดและคณะ, 2548)
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 65 ความเชื่อมโยงภายในและระหวา่ งอุตสาหกรรมโรงแรมและรีสอร์ทกบั อุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆ ไดแ้ ก่ 1. กล่มุ ผู้ป้ อนวตั ถุดบิ กลุ่มผปู้ ้ อนวตั ถุดิบท่ีสาคญั ของอุตสาหกรรมโรงแรม ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมอาหารและเคร่ืองดื่ม ผู้ ใหบ้ ริการสาธารณูปโภคและพลงั งาน ผผู้ ลิตและจาหน่ายเครื่องเขียน หนงั สือพมิ พ์ และวสั ดุสิ้นเปลือง ผผู้ ลิตและจาหน่ายผลิตภณั ฑ์ทาความสะอาด และผผู้ ลิตและจาหน่ายเครื่องใชท้ ่ีทาดว้ ยผา้ โดยมี รายละเอียดดงั น้ี 1.1 อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องด่ืม การใหบ้ ริการอาหารเป็ นองคป์ ระกอบสาคญั ของการบริการในธุรกิจโรงแรม ใน อุตสาหกรรมโรงแรมของไทยพบวา่ โดยทวั่ ไปแลว้ โรงแรมมียอดขายจากการใหบ้ ริการอาหารประมาณ ร้อยละ 31 ของยอดขายท้งั หมด และหากเป็นโรงแรมเพื่อการประชุม (Convention Hotel) บางแห่งอาจมี รายไดจ้ ากการใหบ้ ริการอาหารสูงถึงร้อยละ 50 – 70 ของยอดขายท้งั หมด ดงั น้นั อุตสาหกรรมโรงแรมจึง เป็นอุตสาหกรรมท่ีพ่ึงพาการป้ อนวตั ถุดิบจากอาหารและเคร่ืองดื่ม ซ่ึงจากการสารวจของสานกั งานสถิติ- แห่งชาติ โรงแรมในประเทศไทยจะมีการซ้ืออาหารและเคร่ืองด่ืมประมาณร้อยละ 15.7 ของคา่ ใชจ้ ่ายใน การดาเนินกิจการท้งั หมด อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ป้ อนวตั ถุดิบใหอ้ ุตสาหกรรมโรงแรมเกือบท้งั หมดอยู่ ในประเทศไทย แตว่ ตั ถุดิบบางอยา่ งยงั คงตอ้ งมีการนาเขา้ เนื่องจากคุณภาพของวตั ถุดิบในประเทศยงั ไม่ สามารถเทียบเทา่ ของต่างประเทศ เช่น ไวน์ เน้ือววั หมู ปลา และเน้ือแกะ เป็นตน้ 1.2 ผใู้ หบ้ ริการสาธารณูปโภคและพลงั งาน 1.2.1 ผใู้ หบ้ ริการไฟฟ้ า ผใู้ หบ้ ริการไฟฟ้ า ซ่ึงกค็ ือ การไฟฟ้ านครหลวง และการไฟฟ้ าส่วนภมู ิภาค ถือวา่ มีระดบั ของความเช่ือมโยงกบั อุตสาหกรรมในโรงแรมมากกวา่ ผใู้ หบ้ ริการสาธารณูปโภคและพลงั งาน ประเภทอ่ืน เพราะอุตสาหกรรมโรงแรมนบั เป็ นอุตสาหกรรมหน่ึงที่มีการใชไ้ ฟฟ้ าค่อนขา้ งมาก ทาใหค้ ่า ไฟฟ้ าของโรงแรมในประเทศไทยโดยเฉล่ียสูงถึงร้อยละ 9.5 ของค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินกิจการท้งั หมด 1.2.2 ผใู้ หบ้ ริการน้ามนั เช้ือเพลิง ผใู้ หบ้ ริการน้ามนั เช้ือเพลิงหรือปั๊มน้ามนั เขา้ มาเกี่ยวขอ้ งกบั อุตสาหกรรมโรงแรม ในฐานะผใู้ หบ้ ริการน้ามนั เช้ือเพลิงสาหรับยานพาหนะตา่ งๆ ของโรงแรม ซ่ึงจากการสารวจของ สานกั งานสถิติแห่งชาติพบวา่ โรงแรมในประเทศไทยมีค่าน้ามนั เช้ือเพลิงประมาณร้อยละ 1.1 ของ คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนินกิจการท้งั หมด
66 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ 1.2.3 ผใู้ หบ้ ริการดา้ นส่ือสารและโทรคมนาคม ระบบสื่อสารเป็ นสิ่งจาเป็นสาหรับอุตสาหกรรมโรงแรม เช่น ระบบโทรศพั ท์ และอินเตอร์เน็ต ในการรับจองหอ้ งพกั จากลูกคา้ และการติดต่อประสานงานกบั ภายนอก ดงั น้นั อุตสาหกรรมโรงแรมจึงมีความเชื่อมโยงกบั ผใู้ หบ้ ริการส่ือสารและโทรคมนาคม เช่น บริษทั ทศท. คอร์ปอเรชนั่ จากดั (มหาชน) บริษทั ทีทีแอนดท์ ี จากดั (มหาชน) บริษทั ไปรษณียไ์ ทย จากดั และบริษทั ที่ ใหบ้ ริการเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียว อินเตอร์เน็ตต่างๆ เป็นตน้ ซ่ึงจากการสารวจของสานกั งานสถิติ แห่งชาติพบวา่ โรงแรมในประเทศไทยมีคา่ ไปรษณีย์ โทรศพั ท์ และคา่ บริการอินเตอร์เน็ต ประมาณร้อย- ละ 1.2 ของคา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนินกิจการท้งั หมด 1.2.4 ผใู้ หบ้ ริการกา๊ ซ ในการบริการของฝ่ ายอาหารและเคร่ืองด่ืมของโรงแรม ก๊าซหุงตม้ เป็นพลงั งานท่ี สาคญั ในการประกอบอาหาร ซ่ึงจากการสารวจของสานกั งานสถิติแห่งชาติพบวา่ โรงแรมในประเทศ- ไทยจ่ายคา่ กา๊ ซประมาณร้อยละ 0.5 ของคา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนินกิจการท้งั หมด 1.2.5 ผใู้ หบ้ ริการน้าประปา โรงแรมจดั เป็นอุตสาหกรรมหน่ึงท่ีมีการใชน้ ้าค่อนขา้ งมาก โรงแรมในจงั หวดั เชียงใหม่ส่วนมากมกั ใชน้ ้าจากการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ซ่ึงจากการสารวจของ สานกั งานสถิติแห่งชาติ พบวา่ โรงแรมในประเทศไทยมีค่าน้าประปาประมาณร้อยละ 1.3 ของคา่ ใชจ้ ่าย ในการดาเนินกิจการท้งั หมด ท้งั น้ีโรงแรมบางแห่งอาจมีการใชน้ ้าจากแหล่งธรรมชาติ เช่น น้าบาดาล ทดแทน 1.3 ผผู้ ลิตและจาหน่ายเคร่ืองเขียน หนงั สือพิมพ์ และวสั ดุสิ้นเปลือง โดยทว่ั ไปจะมีการซ้ือเครื่องเขียน หมึกสี และหมึกดาท่ีใชใ้ นงานช่างศิลป์ และงานบริหาร และหนงั สือพมิ พเ์ พ่ือบริการลูกคา้ ซ่ึงเม่ือรวมคา่ ใชจ้ ่ายในการซ้ือเครื่องเขียน หนงั สือพมิ พแ์ ละวสั ดุ สิ้นเปลืองพบวา่ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 1.5 ของคา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนินกิจการท้งั หมด (สานกั งาน- สถิติแห่งชาติ, 2546) 1.4 ผผู้ ลิตและจาหน่ายผลิตภณั ฑท์ าความสะอาด ความสะอาดเป็นส่ิงที่สาคญั ของธุรกิจโรงแรม ผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดและสเปรยด์ บั กล่ินต่างๆ จึงเป็นสิ่งท่ีโรงแรมทุกแห่งจาเป็นตอ้ งใช้ สาหรับโรงแรมในประเทศไทยพบวา่ มีค่าใชจ้ า่ ยใน การซ้ือผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดและสเปรยด์ บั กล่ินตา่ งๆ ประมาณร้อยละ 0.9 ของคา่ ใชจ้ ่ายในการ ดาเนินกิจการท้งั หมด 1.5 ผผู้ ลิตและจาหน่ายเคร่ืองใชท้ ่ีทาดว้ ยผา้ เครื่องใชท้ ่ีทาดว้ ยผา้ เช่น ปลอกหมอน ผา้ ปูเตียง และผา้ ขนหนู เป็ นตน้ เป็นสิ่งที่จาเป็นท่ี ใชบ้ ริการลูกคา้ ซ่ึงโรงแรมในประเทศไทยจะมีค่าใชจ้ ่ายในการซ้ือเครื่องใชท้ ่ีทาดว้ ยผา้ ประมาณร้อยละ 0.6 ของค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินกิจการท้งั หมด
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 67 2. กลุ่มผ้ใู ห้บริการเฉพาะทาง 2.1 บริษทั รับจา้ งบริหารจดั การโรงแรม โรงแรมหลายแห่งในประเทศไทยไดว้ า่ จา้ งใหบ้ ริษทั รับจา้ งบริหารจดั การโรงแรมของ เครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว และโรงแรมตา่ งๆ เขา้ มาบริหาร ซ่ึงมีท้งั เครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว สากล เช่น โฟร์ซีซนั่ ส์ สตาร์วดู ส์ และแอคคอร์ และเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวไทยอยา่ งโรงแรมดุสิต ธานี อมารี และอิมพีเรียล โดยทวั่ ไปแลว้ ในการวา่ จา้ งใหบ้ ริษทั ที่รับจา้ งบริหารจดั การเขา้ มาบริหารแทนเจา้ ของ สัญญาในการบริหารจดั การโรงแรมจะประกอบดว้ ย 2.1.1 การบริหารงานประจาวนั แทนเจา้ ของรวมไปถึงการขาย การตลาด การรับจอง การทาบญั ชี และการจดั ซ้ือและจดั จา้ ง 2.1.2 การบริหารเชิงกลยทุ ธ์ เช่น การพฒั นาและบริหารกลยทุ ธ์การขาย การให้ คาแนะนาเก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ การเสนอทางเลือกทางการเงิน การใหค้ าปรึกษาเก่ียวกบั การ ออกแบบและก่อสร้าง การจดั ทาระบบจดั จา้ ง จดั ซ้ือ และการตรวจสอบภายใน 2.2 บริษทั ผใู้ หบ้ ริการซ่อมแซมอาคารและสินทรัพยต์ า่ งๆ โรงแรมในประเทศไทยส่วนใหญด่ าเนินการมานานกวา่ 10 ปี และเป็นโรงแรมที่ ดาเนินการมานานกวา่ 20 ปี ถึงร้อยละ 40 ของจานวนโรงแรมท้งั หมด จึงทาใหต้ อ้ งมีการปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารและสินทรัพยต์ า่ งๆ ซ่ึงจะตอ้ งอาศยั ผใู้ หบ้ ริการท่ีมีความชานาญเฉพาะ โดยในพ.ศ. 2545 โรงแรมในประเทศไทยมีสัดส่วนค่าใชจ้ ่ายในการซ่อมแซมอาคารและสินทรัพยต์ ่างๆ ประมาณร้อยละ 3.2 ของค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินกิจการท้งั หมด 2.3 ผใู้ หบ้ ริการสื่อโฆษณา การโฆษณาเป็นกลยทุ ธ์การตลาดที่สาคญั อยา่ งหน่ึงเพอ่ื สร้างภาพลกั ษณ์และยอดขายของ โรงแรม โดยทว่ั ไปแลว้ ผปู้ ระกอบการโรงแรมในประเทศไทยจะโฆษณาผา่ นสื่อส่ิงพิมพอ์ ิเล็กทรอนิกส์ โทรทศั น์ และวทิ ยุ การโฆษณาผา่ นส่ือสิ่งพิมพ์ ไม่วา่ จะในลกั ษณะของโบรชวั ร์ โปสเตอร์ จะตอ้ งอาศยั ผู้ ใหบ้ ริการพิมพส์ ่ือดงั กล่าว ซ่ึงส่วนใหญ่เป็ นผใู้ หบ้ ริการในทอ้ งถ่ินท่ีโรงแรมต้งั อยหู่ รือในงานนิทรรศการ นอกจากน้ียงั มีโฆษณาผา่ นหนงั สือพมิ พแ์ ละแมก็ กาซีนต่างๆ ซ่ึงมีผใู้ หบ้ ริการหลายระดบั ดงั น้ี เช่น หนงั สือพมิ พก์ รุงเทพธุรกิจ หนงั สือพมิ พบ์ างกอกโพส์ “TICA Year Book” “The Venue Thailand” “ATTA Directory” “Hotel Directory” และ Thailand Official Directory” สาหรับสื่อส่ิงพิมพร์ ะดบั นานาชาติกม็ ีการโฆษณา โดยใหส้ ่วนลดหรือบาร์เตอร์เช่นกนั ตวั อยา่ งเช่น “Qantas Holiday Brochure” “CBS - Middle East Brochure” และ “World Trade Directory”
68 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ส่วนการโฆษณาผา่ นสื่ออิเลคทรอนิกส์ อาจอยใู่ นลกั ษณะของ CD-ROM หรือ เวบ็ ไซต์ ของโรงแรมหรือเครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยว และผใู้ หบ้ ริการเวบ็ ไซตต์ ่างๆ เช่น www.asiatravel.com เป็ นตน้ สาหรับการโฆษณาผา่ นส่ือโทรทศั น์น้นั มีค่อนขา้ งนอ้ ย ส่วนใหญ่จะโฆษณาในรายการที่ เกี่ยวกบั การท่องเท่ียวเป็นคร้ังคราว เน่ืองจากมีตน้ ทุนค่อนขา้ งสูง และส่วนการโฆษณาผา่ นวทิ ยนุ ้นั ส่วน ใหญเ่ ป็นการโฆษณาในรายการวทิ ยขุ องสถานีในทอ้ งถิ่นเป็นหลกั ท้งั น้ีค่าใชจ้ า่ ยในการโฆษณาของโรงแรมในประเทศไทย โดยเฉล่ียจะมีสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 1.2 ของคา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนินกิจการท้งั หมด 2.4 บริษทั ประกนั ภยั โรงแรมส่วนใหญจ่ ะมีการทาประกนั วนิ าศภยั สินทรัพยข์ องตนไวก้ บั บริษทั รับประกนั ภยั ต่างๆ 2.5 ผใู้ หบ้ ริการดา้ นตรวจสอบบญั ชีและกฎหมาย โรงแรมที่จดทะเบียนเป็ นนิติบุคคลซ่ึงตอ้ งจดั ทางบการเงินส่งใหก้ ระทรวงพาณิชย์ จาเป็ นตอ้ งอาศยั ผใู้ หบ้ ริการดา้ นการตรวจสอบบญั ชี นอกจากน้ีโรงแรมอาจตอ้ งมีการใชบ้ ริการทางกฎหมาย กบั สานกั งานกฎหมายต่างๆ ในกรณีที่เกิดขอ้ พิพาทกบั บุคคลภายนอก ผใู้ หบ้ ริการอื่นๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นระบบคอมพวิ เตอร์และไอที ผใู้ หบ้ ริการซกั รีด และผู้ ใหบ้ ริการรักษาความปลอดภยั ปัจจุบนั ระบบคอมพิวเตอร์และไอทีเป็นสิ่งท่ีเขา้ มามีบทบาทสาคญั ตอ่ การบริหารจดั การ โรงแรมไม่วา่ จะเป็นในส่วนของการรับจองหอ้ งพกั และการเช่ือมต่อภายในและนอกองคก์ ร ผใู้ หบ้ ริการที่ มีความชานาญเฉพาะทางดา้ นไอทีจึงเขา้ มามีบทบาทในการวางระบบคอมพวิ เตอร์ใหก้ บั โรงแรมในการ ทาความสะอาดเคร่ืองใชท้ ี่เก่ียวกบั ผา้ ตา่ งๆ โรงแรมอาจมีการใชบ้ ริการจากผใู้ หบ้ ริการซกั รีดโดยเฉพาะ เนื่องจากมีความชานาญและมีอุปกรณ์ท่ีเพียบพร้อม นอกจากน้ี โรงแรมหลายแห่งโดยเฉพาะโรงแรม ขนาดใหญ่จะมีการวา่ จา้ งบริษทั รักษาความปลอดภยั เขา้ มาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยภายในโรงแรม 3. กล่มุ ผู้จัดจาหน่าย โดยทวั่ ไปแลว้ ในการจดั จาหน่ายหอ้ งพกั ของผปู้ ระกอบการโรงแรมในประเทศไทยสามารถ ทาไดห้ ลายทางไม่วา่ จะเป็นฝ่ ายขายของบริษทั เวบ็ ไวตข์ องโรงแรม การขายในงานแสดงสินคา้ การ ท่องเท่ียว และลูกคา้ บางส่วนที่เป็นลูกคา้ ที่เขา้ มาหาที่พกั โดยมิไดจ้ องก่อน (Walk in) ซ่ึงเป็นกลุ่มที่จะมี สัดส่วนคอ่ นขา้ งสูงสาหรับโรงแรมต่ากวา่ 4 ดาว แต่โรงแรมระดบั 4 ดาวข้ึนไปจะมีช่องทางการขายท่ี สาคญั อื่นๆ อีก ที่ตอ้ งอาศยั ผจู้ ดั จาหน่ายเขา้ มาเป็นตวั กลางในการขาย ไดแ้ ก่ บริษทั นาเท่ียวและตวั แทน
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 69 จดั การท่องเที่ยว เครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียว โรงแรม และศนู ยก์ ลางระบบการตลาดร่วมทว่ั โลก (Global Distribution System: GDS) โรงแรมที่เป็ นเครือของกลุ่มโรงแรมตา่ งๆ อาศยั เครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวของกลุ่ม โรงแรมเป็ นช่องทางการตลาดที่สาคญั โดยเฉพาะเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเที่ยว ของกลุ่มโรงแรมสากล ท่ีมีช่องทางการตลาดท่ีกวา้ งขวาง นอกจากเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวของกลุ่มโรงแรมของตนแลว้ ยงั มีเครือข่ายวสิ าหกิจ การท่องเที่ยวของพนั ธมิตรนานาชาติ เช่น เอเช่ียนโฮเตล็ ส์ อลั ไลแอนซ์ (Asian Hotels Alliance: AHA) จากการสมั ภาษณ์ผปู้ ระกอบการโรงแรม (ม่ิงสรรพ์ ขาวสะอาดและคณะ, 2548) พบวา่ โรงแรมท่ีเป็ นเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวของกลุ่มโรงแรมตา่ งๆ จะมีสัดส่วนการขายผา่ นเครือขา่ ย- วสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยว ของกลุ่มร้อยละ 20–30 ของการขายหอ้ งพกั ท้งั หมด โดยมีการจดั ต้งั ศูนยก์ ลาง ระบบการตลาดร่วมทว่ั โลก (Global Distribution System: GDS) ศูนย์กลางระบบการตลาดร่วมทวั่ โลก (Global Distribution System: GDS) เป็นระบบ ฐานขอ้ มลู ขนาดใหญท่ ่ีกลุ่มบริษทั หรือองคก์ รไดเ้ ขา้ ร่วมกนั แสดงขอ้ มลู ของตนเองเพื่อจุดประสงค์ เพอื่ ใหผ้ ใู้ ชท้ ่ีอยู่ ณ ท่ีต่างๆ สามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลและทาการปรับเปล่ียนขอ้ มูลไดท้ นั ที ระบบ GDS น้นั เร่ิมแรกถูกใชโ้ ดยบริษทั นาเที่ยว (Travel Agency) เพอื่ ให้บริการทางดา้ นการจองตวั๋ เคร่ืองบิน แต่ใน ภายหลงั บริษทั สายการบินตา่ งๆ ไดล้ ดการจา่ ยคา่ นายหนา้ (Commission Fee) แก่บริษทั นาเท่ียวลง ทาให้ บริษทั นาเที่ยวไดห้ นั ความสนใจรายไดท้ ี่มาจากการบริการจองหอ้ งพกั ระบบ GDS จึงเพิม่ ระบบที่ ใหบ้ ริการจองห้องพกั ที่โรงแรม โดยจะแสดงรายละเอียดประเภทของหอ้ งพกั อตั ราของหอ้ งพกั ณ ช่วงเวลาต่างๆ ในรอบปี พร้อมท้งั รายละเอียดเสริมเก่ียวกบั โรงแรมน้นั ๆ ตวั อยา่ งระบบ GDS ท่ีเป็นท่ีรู้จกั อยา่ งกวา้ งขวาง ไดแ้ ก่ Sabre Galileo, Amadeus และ Worldspan ซ่ึงระบบ GDS น้ีมีโรงแรมหลายแห่งใช้ บริการอยู่ โดยเฉพาะโรงแรมในเครือต่างๆ 4. สถาบันทเี่ กยี่ วข้อง สถาบนั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สถาบนั โรงแรมในประเทศไทย ไดแ้ ก่ สถาบนั การเงิน สถาบนั การศึกษา และสมาคมวชิ าชีพของผปู้ ระกอบการดา้ นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ สถาบนั การเงิน เน่ืองจากเงินทุนเป็นปัจจยั สาคญั อนั ดบั ตน้ ๆ ในการลงทุนในกิจการลงทุนใน กิจการโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมในระดบั 4 ข้ึนไป ซ่ึงตอ้ งใชเ้ งินลงทุนมหาศาล ท้งั ในการก่อสร้าง ตกแตง่ ตวั อาคาร และการดาเนินงาน สถาบนั การศึกษาไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในอุตสาหกรรมโรงแรม ในลกั ษณะของการผลิตบุคลากร ป้ อนเขา้ สู่อุตสาหกรรม และการศึกษาวจิ ยั เพ่ือพฒั นาอุตสาหกรรมในดา้ นการผลิตบุคลากรน้นั
70 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ สถาบนั การศึกษาในประเทศไทยจะมุ่งผลิตบุคลากรระดบั ปฏิบตั ิการเป็นส่วนใหญ่ โดยผลิตไดม้ ากกวา่ 4,000 คนต่อปี ส่วนในดา้ นการศึกษาวจิ ยั เพือ่ พฒั นาอุตสาหกรรม สถาบนั การศึกษายงั เขา้ มามีบทบาท ค่อนขา้ งนอ้ ย ส่วนใหญ่จะเนน้ การศึกษาดา้ นอุปสงคข์ องการท่องเที่ยว และไมเ่ จาะลึกในระดบั อุตสาหกรรมโรงแรม แต่ก็มีงานศึกษาวจิ ยั ดา้ นการปฏิบตั ิการในโรงแรมใหเ้ ห็นบา้ ง สมาคม ผปู้ ระกอบการภายในอุตสาหกรรมโรงแรมในจงั หวดั เชียงใหม่ ผปู้ ระกอบการโรงแรมไดม้ ีการรวมตวั กนั เป็นสมาคมโรงแรมไทย จดั ต้งั ข้ึนโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ส่งเสริมความร่วมมือระหวา่ งสมาชิกในการ แกไ้ ขขอ้ ขดั ขอ้ งต่างๆ การเจรจาขอ้ ตกลงกบั บุคคลภายนอก ตลอดจนการร่วมมือและประสานงานกบั ภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการทาธุรกิจโรงแรมใหม้ ีมาตรฐานที่ดี ปัจจุบนั มีโรงแรมท่ีเป็นสมาชิกทวั่ ประเทศท้งั สิ้น 428 ราย สมาคมโรงแรมไทยน้นั ถือวา่ เป็นสถาบนั มีบทบาทสาคญั ต่อการพฒั นาอุตสาหกรรมโรงแรม ไทยโดยเฉพาะการจดั ทามาตรฐานโรงแรมในประเทศไทย จดั แบ่งมาตรฐานเป็น 5 ระดบั มาตรฐาน จาก ระดบั มาตรฐานที่นอ้ ยท่ีสุดคือ 1 ดาว ไปหามาตรฐานสูงสุดคือ 5 ดาว 5. หน่วยงานภาครัฐ การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทยไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในทางออ้ มกบั อุตสาหกรรมโรงแรมดว้ ยการ ส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวในประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. 2478 ในการประกอบกิจการโรงแรม ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งจดทะเบียนกบั กระทรวงมหาดไทย และใหอ้ านาจกระทรวงมหาดไทยใหใ้ นการ ออกกฎกระทรวง วางระเบียบการและกาหนดคา่ ธรรมเนียมต่างๆ อยา่ งไรกต็ าม จากการศึกษาพบวา่ โรงแรมและท่ีพกั หลายแห่งไม่ไดจ้ ดทะเบียนตามพระราชบญั ญตั ิดงั กล่าว เน่ืองจากไม่สามารถปฏิบตั ิตาม ขอ้ กาหนดของการเป็นโรงแรมท่ีไดร้ ับอนุญาตตามกฎหมาย องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นเขา้ มามีบทบาทในอุตสาหกรรมโรงแรมในฐานะผจู้ ดั เก็บรายได้ ในรูปของภาษีโรงเรือนและท่ีดิน ภาษีป้ ายและภาษีโรงแรม 6. กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา ในเดือนตุลาคม 2545 รัฐบาลไดจ้ ดั ต้งั กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬาข้ึนเพอ่ื รับผดิ ชอบ โดยตรงในการพฒั นายทุ ธศาสตร์การท่องเท่ียว การออกกฎหมาย และดาเนินการเก่ียวกบั กฎหมายการ- ท่องเท่ียว การกาหนดและควบคุมมาตรฐานสินคา้ และการท่องเที่ยว รวมท้งั ส่งเสริมการพฒั นาแหล่ง- ทอ่ งเที่ยว (สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, ม.ป.ป.)
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 71 2.3. ความสามารถในการแข่งขันของอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี ว การแขง่ ขนั ในทางธุรกิจเป็นประดุจพลงั ขบั เคล่ือนเพ่ือการขยายตวั ทางเศรษฐกิจให้เพม่ิ สูงข้ึนและ เป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง ก่อใหเ้ กิดเสถียรภาพทางดา้ นราคาและท่ีสาคญั คือช่วยเสริมสร้างศกั ยภาพทางเศรษฐกิจ ของประเทศใหส้ ามารถแขง่ ขนั กบั คู่แขง่ ขนั รายอ่ืนๆในตลาดโลกได้ รวมไปถึงการใชท้ รัพยากรของ อุตสาหกรรมท่องเท่ียวอยา่ งมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการแขง่ ขนั จึงถือเป็นพลงั ผลกั ดนั ที่เสริมสร้าง และจูงใจใหห้ น่วยผลิตท้งั หลายตอ้ งหนั มาใหค้ วามสนใจดาเนินกิจการใหม้ ีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าท่ีจะ ทาได้ (Hill & Brennan, 2000) จากสภาพของการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปัจจุบนั และอนาคต ทาใหผ้ ปู้ ระกอบการ ตอ้ งเผชิญท้งั การแข่งขนั ที่เกิดจากคู่แข่งขนั ของตลาดภายในประเทศและกบั คูแ่ ข่งขนั จากต่างประเทศ รวมท้งั การแขง่ ขนั จากสินคา้ และบริการใหมๆ่ ท่ีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นเทคโนโลยเี ขา้ มาทดแทน และความตอ้ งการของนกั ท่องเท่ียวที่แปลกใหม่และแตกต่างจากเดิมอีกดว้ ย ความแตกต่างทางดา้ น ประสิทธิภาพระหวา่ งหน่วยผลิตและบริการดว้ ยกนั เป็นปัจจยั ช้ีขาดท่ีสาคญั ในการกาหนดความสามารถใน การแขง่ ขนั และในการทากาไรท่ีแตกต่างกนั ดงั น้นั การแข่งขนั จึงเป็นพลงั ผลกั ดนั ใหม้ ีการใชท้ รัพยากรอยา่ งมีประสิทธิภาพ ปัจจยั พ้ืนฐานที่ ระบบทางเศรษฐศาสตร์ใหค้ วามสนใจคือ สภาวะแวดลอ้ มทางธุรกิจที่ก่อใหเ้ กิดการแข่งขนั อยา่ งเสรี ซ่ึง ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ผลกั ดนั ตา่ งๆในอุตสาหกรรมหรือตลาดน้นั ๆ เช่น จานวนผซู้ ้ือผขู้ ายในตลาด ความยากง่าย ในการเขา้ สู่ตลาดหรือเขา้ สู่การแข่งขนั ของผปู้ ระกอบการรายใหม่ ความคลา้ ยคลึงกนั ของสินคา้ หรือบริการ ท่ีใชท้ ดแทนกนั ไดเ้ หล่าน้ี เป็ นตน้ ปัจจยั ผลกั ดนั เหล่าน้ีเป็ นตวั ช้ีวดั ท่ีใชว้ เิ คราะห์ถึงความเขม้ ขน้ ของอตั รา การแข่งขนั ในตลาด ถา้ การแขง่ ขนั ในตลาดยงิ่ สูง ผแู้ ข่งขนั ในตลาดกย็ งิ่ ตอ้ งพฒั นาความสามารถในการ แข่งขนั ของตนเองเพื่อความอยรู่ อด ในการวเิ คราะห์ความสามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน้ีแบง่ การวิเคราะห์ออกเป็ น การแข่งขนั ของตลาดภายในประเทศ และความสามารถของการแขง่ ขนั ของผแู้ ข่งขนั ในตลาดต่างประเทศ หรือตลาดโลก ซ่ึงก็มีแนวคิดทฤษฎีตา่ งๆ ที่กล่าวถึงความสามารถในการแขง่ ขนั ในตลาดท้งั ในประเทศและ ตา่ งประเทศ แตใ่ นที่น้ีจะวเิ คราะห์ความสามารถในการแข่งขนั โดยใชแ้ นวคิดทฤษฎีที่มีการกล่าวถึงอยา่ ง แพร่หลาย คือ แนวคิดทฤษฎีความไดเ้ ปรียบเชิงแขง่ ขนั (The Theory of Competitive Advantage) ของไมเคิล พอร์เตอร์ (Michael Porter) ที่กล่าววา่ ประเทศจาเป็ นที่จะตอ้ งประเมินจุดแขง็ และจุดอ่อน โอกาส รวมถึงการคุกคามจากประเทศคู่แข่ง และภาวะการแข่งขนั (Strength, Weakness, Opportunity, and Threat : SWOT) ของอุตสาหกรรมในประเทศ
72 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ของตนและคู่แขง่ ขนั เพ่ือใหส้ ามารถหาแนวทางปรับตวั ใหแ้ ขง่ ขนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพในตลาดโลกที่มี การแขง่ ขนั รุนแรงข้ึนทุกขณะ พอร์เตอร์ (Porter, 1998 อา้ งถึงใน วลยั พร บวรกลุ วฒั น์, 2554, 17) พบวา่ ขอ้ ไดเ้ ปรียบทางดา้ นการ แข่งขนั (Competitive Advantage) ไม่ใช่ส่ิงที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ แต่เป็ นสิ่งท่ีสามารถสร้างข้ึนมาได้ และเปล่ียนแปลงไดท้ ้งั ทางบวกและลบ โดยสามารถทาความเขา้ ใจแนวคิดดงั กล่าวผา่ นมุมมอง ของ เศรษฐศาสตร์จุลภาค ส่วนปัจจยั มหภาคเช่น อตั ราดอกเบ้ีย คา่ จา้ งแรงงาน และอตั ราแลกเปล่ียนเงินตรา ต่างประเทศ แมจ้ ะมีความสาคญั ในการสร้างความไดเ้ ปรียบใหก้ บั ประเทศ แต่ส่ิงสาคญั กวา่ คือ เง่ือนไขและ สภาพแวดลอ้ มภายในประเทศท่ีเอ้ือตอ่ อุตสาหกรรมของประเทศน้นั สามารถใชแ้ บบจาลองเพชร (Diamond Model) ในการวเิ คราะห์ความสามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวดงั ไดก้ ล่าวไว้ ในบทที่ 1 โดยมีปัจจยั หรือตวั บ่งช้ี (determinants) ขอ้ ไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรมท่องเท่ียวที่ สาคญั รวม 5 ปัจจยั ดงั น้ี 2.3.1 เงื่อนไขดา้ นปัจจยั การผลิต (Input Factor Conditions) ปัจจยั การผลิตในประเทศจะเป็นตวั กาหนดความไดเ้ ปรียบเชิงแข่งขนั ของอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวของประเทศ โดยปัจจยั การผลิตในที่น้ีจะมีความหมายอยา่ งกวา้ ง ประกอบดว้ ย แรงงาน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ ทุน และสาธารณูปโภค รวมถึงภาพลกั ษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวและประเทศดว้ ย ในที่น้ี เทคโนโลยใี นการผลิตหรือบริการถือวา่ เป็นปัจจยั การผลิตเช่นเดียวกนั ดงั น้นั สภาพปัจจยั การผลิตหมายถึง ทุกส่ิงทุกอยา่ งท่ีประเทศมี และเกี่ยวขอ้ งกบั การผลิตของผผู้ ลิตภายในประเทศ และมีผลกระทบต่อความ ไดเ้ ปรียบและเสียเปรียบในการแข่งขนั กล่าวโดยสรุปสภาพปัจจยั การผลิตในที่น้ีจะครอบคลุมทรัพยากร (Resources) ต่างๆ ในประเทศที่มีอยู่ ซ่ึงจะประกอบไปดว้ ย 2.3.1.1 ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources) หมายถึง ปริมาณแรงงาน คุณภาพและ ทกั ษะของแรงงาน ตน้ ทุนทางดา้ นแรงงาน (คา่ จา้ ง) และการจดั การทางดา้ นทรัพยากรมนุษยข์ อง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.3.1.2 ทรัพยากรทางกายภาพ (Physical Resources) หมายถึง ความอุดมสมบรู ณ์ และ คุณภาพของทรัพยากร รวมถึงตน้ ทุนหรือมูลค่าของทรัพยากรของอุตสาหกรรมท่องเท่ียว ทรัพยากรกายภาพ ในที่น้ีจะหมายถึง ที่ดิน น้า แร่ธรรมชาติ และพลงั งานธรรมชาติอ่ืนๆ นอกจากลกั ษณะคุณภาพของ ทรัพยากรกายภาพขา้ งตน้ แลว้ ที่ต้งั และขนาด ก็มีความสัมพนั ธ์กบั ผผู้ ลิตในประเทศและในตลาด เพราะวา่
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 73 ท่ีต้งั ของแหล่งทรัพยากรจะเก่ียวขอ้ งกบั ตน้ ทุนทางดา้ นการขนส่ง และจะส่งผลกระทบต่อตน้ ทุนของ ผปู้ ระกอบการของอุตสาหกรรมท่องเท่ียวได้ 2.3.1.3 ทรัพยากรทางดา้ นความรู้ (Knowledge Resources) หมายถึง ทรัพยากรท่ีเกิดจาก ความคิดสร้างสรร การพฒั นาและฝึกอบรม พบมากในปัจจยั ดา้ นแรงงานที่มีทกั ษะเฉพาะ เช่น เชฟ วศิ วกร นกั การตลาด และเจา้ หนา้ ที่เทคนิค เป็นตน้ การพฒั นาทางดา้ นความรู้จะเกิดจากการสนบั สนุนของ ท้งั ภาครัฐและภาคเอกชน โดยอุตสาหกรรมท่องเท่ียวของประเทศใดกต็ ามท่ีใหค้ วามสาคญั กบั ทรัพยากร ทางดา้ นน้ีมาก และมีนโยบายต่างๆ ที่เก่ียวขอ้ งและสนบั สนุน อุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยวของประเทศน้นั จะมี ศกั ยภาพในการพฒั นาสูงและสามารถแขง่ ขนั กบั ประเทศต่างๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี 2.3.1.4 ทรัพยากรทางดา้ นเงินทุน (Capital Resources) หมายถึง จานวนและตน้ ทุนในการ จดั หาและไดม้ าซ่ึงเงินทุน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศใดก็ตามที่มีแหล่งเงินทุนในประเทศที่มีตน้ ทุน ต่า อตั ราดอกเบ้ียต่าและมีความมนั่ คงของแหล่งเงินในประเทศ รวมถึงปริมาณเงินทุนท่ีเพยี งพอในประเทศ จะทาใหผ้ ผู้ ลิตหรือผปู้ ระกอบการของอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยวในประเทศน้นั มีความไดเ้ ปรียบเหนือกวา่ อุตสาหกรรมท่องเท่ียวในประเทศท่ีมีขอ้ จากดั ทางดา้ นเงินทุน เนื่องมาจากการไดม้ าซ่ึงเงินทุนจะรวมเป็น ตน้ ทุนในการผลิตและบริการดว้ ย หากตน้ ทุนน้ีมีราคาแพงจะส่งผลกระทบต่อตน้ ทุนการผลิตและการ บริการท่ีสูงตามไปดว้ ย 2.3.1.5 สาธารณูปโภค (Infrastructure) หมายถึง ปริมาณสาธารณูปโภคที่เพยี งพอและ ราคาไมแ่ พง ในท่ีน้ีหมายถึง เคร่ืองสาธารณูปโภคต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การผลิตและบริการในอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เช่น ไฟฟ้ า น้าประปา โทรศพั ท์ การขนส่ง เป็นตน้ เพราะอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวใน ประเทศใดกต็ ามที่มีความพร้อมทางดา้ นสาธารณูปโภคน้ี จะสามารถรองรับการขยายตวั ของอุตสาหกรรม ในประเทศ การพฒั นาการผลิตและบริการของอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียวในประเทศจะส่งผลต่อความสามารถ ในการแขง่ ขนั ของผผู้ ลิตและบริการของอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยวในประเทศน้นั 2.3.1.6 ภาพลกั ษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวและประเทศ (Destination and Country Image) วฒุ ิชาติ สุนทรสมยั (2551) ระบุความหมายวา่ ภาพลกั ษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวเป็นสิ่งท่ีนกั ท่องเท่ียวทุกคน จะรับรู้และรู้สึกไดเ้ ม่ือไดเ้ ดินทางไปยงั สถานที่เหล่าน้นั หรืออาจไดร้ ับการบอกเล่าจากแหล่งอ่ืนๆ ภาพลกั ษณ์เป็นองคร์ วมของความเชื่อ ความคิด และความประทบั ใจท่ีบุคคลมีตอ่ สิ่งใดส่ิงหน่ึงที่เกิดจากการ หลอมรวมความรู้และประสบการณ์เขา้ ดว้ ยกนั ทาใหเ้ กิดการรับรู้และมีส่ิงท่ีปรากฏข้ึนในใจ ส่ิงน้นั ยงั คงอยู่ ในความรู้สึกนึกคิดของบุคคล ยากท่ีจะเปล่ียนแปลง จึงอาจกล่าวไดว้ า่ ภาพลกั ษณ์เป็นเรื่องของการรับรู้
74 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ (Perception) ท่ีมนุษยเ์ อาความรู้สึกส่วนตวั เขา้ ไปปะปนกบั ขอ้ เทจ็ จริง ภาพลกั ษณ์ มาจากคาภาษาองั กฤษวา่ “Image” ใหค้ วามหมายวา่ การใชภ้ าษาหรือสญั ลกั ษณ์ท่ีสามารถสร้างหรือสื่อสารแลว้ ทาใหเ้ กิดภาพในใจได้ ภาพลกั ษณ์ อาจหมายถึง ภาพท่ีเกิดข้ึนในจิตใจ ซ่ึงบุคคลมีความรู้สึกนึกคิดต่อองคก์ าร สถาบนั ภาพในใจ ดงั กล่าวของบุคคลน้นั ๆ อาจจะไดม้ าจากประสบการณ์ทางตรง (Direct Experience) และประสบการณ์ ทางออ้ ม (Indirect Experience) ของตนเอง เช่นไดพ้ บประสบมาดว้ ยตนเอง หรือไดย้ นิ ไดฟ้ ังมาจากคาบอก เล่าของผอู้ ่ืน ญาติมิตร หรือจากกิตติศพั ทเ์ ล่าลือตา่ งๆ เป็ นตน้ ดงั น้นั ภาพลกั ษณ์จึงอาจแตกตา่ งจากสภาพความจริงก็ได้ ทาให้ ภาพลกั ษณ์ของแหล่งทอ่ งเท่ียว เป็นเรื่องของความเช่ือและความประทบั ใจของบุคคลตอ่ สถานท่ีในเชิงภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ศิลปะและ วฒั นธรรม ความมีชื่อเสียงของบุคคลและปูชนียสถาน ตลอดจนแหล่งท่ีมาแห่งความบนั เทิงเริงรมย์ ความ ผอ่ นคลาย สมรรถนะในการบาบดั ใหเ้ กิดความผอ่ นคลายและรักษาทางกายและจิตใจ ความสาคญั ของ ภาพลกั ษณ์ของแหล่งท่องเท่ียวน้นั กล่าวไดว้ า่ ภาพลกั ษณ์ท่ีนกั ท่องเที่ยวหรือประชาชนในทอ้ งถ่ินมีต่อ แหล่งทอ่ งเท่ียวน้นั เป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของการสร้างความคาดหวงั ของนกั ทอ่ งเที่ยว ดงั น้นั นกั ท่องเท่ียวจะพึงพอใจหรือไมต่ อ่ การเดินทางมาพกั ผอ่ นหยอ่ นใจข้ึนอยกู่ บั ความและภาพลกั ษณ์ที่ นกั ท่องเที่ยวมีต่อสถานท่ีน้นั ๆ เพราะนกั ทอ่ งเท่ียวจะเปรียบเทียบความคาดหวงั และภาพลกั ษณ์ของสถานที่ น้นั กบั ประสบการณ์จริง เพราะฉะน้นั หากนกั ทอ่ งเที่ยวพบวา่ ประสบการณ์จริงเหมือนหรือเกินความ คาดหวงั ภาพลกั ษณ์ของสถานท่ีน้นั จะเปล่ียนแปลงไปในทิศทางท่ีดีข้ึน แต่ในทางตรงกนั ขา้ มหาก นกั ทอ่ งเท่ียวพบวา่ ประสบการณ์จริงไม่ตรงกบั ความคาดหวงั ภาพลกั ษณ์ของสถานที่น้นั ๆกจ็ ะเปล่ียนแปลง ไปในทางที่แยล่ ง และนกั ทอ่ งเท่ียวกจ็ ะใหข้ อ้ มูลดงั กล่าวแก่ผอู้ ่ืน เป็ นผลทาใหเ้ กิดภาพลกั ษณ์ในเชิงลบกบั สถานท่ีทอ่ งเที่ยวน้นั การจดั การแหล่งทอ่ งเที่ยวท่ีเหมาะสมไดน้ ้นั จาเป็ นตอ้ งพิจารณาท้งั การรับรู้ภาพลกั ษณ์แหล่ง ทอ่ งเที่ยวโดยรวม(Overall Destination Image) และองคป์ ระกอบดว้ ยมิติตา่ งๆ ของภาพลกั ษณ์แหล่ง ทอ่ งเท่ียว (Dimensions of Destination Image) แมว้ า่ ยงั ไม่ไดผ้ ลการวจิ ยั ท่ีสรุปองคป์ ระกอบดา้ นมิติตา่ งๆ ของการรับรู้ภาพลกั ษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวที่แน่นอน ดว้ ยความแตกตา่ งดา้ นความเท่ียง (Validity) และ ความเช่ือมน่ั (Reliability) ของเคร่ืองมือที่ใชว้ ดั มิติตา่ งๆ ของภาพลกั ษณ์ องคป์ ระกอบหรือมิติตา่ งๆ ของ ภาพลกั ษณ์แหล่งทอ่ งเท่ียวท่ีเกิดจากกระบวนการตดั สินใจเลือกแหล่งท่องเที่ยว (Decision Process for Destination Choice) ของนกั ทอ่ งเท่ียวแตล่ ะคนที่นาเสนอโดย บาลอกลูและแมคคลอรีย์ (Baloglu & McCleary, 1999) ไดแ้ ก่ ประสบการณ์ (Quality of Experience) ส่ิงดึงดูดใจ (Attraction) ราคาและ สภาพแวดลอ้ ม (Value/Environment) การพกั ผอ่ น/ การผอ่ นคลาย (Relaxation/Escape) ความน่าต่ืนเตน้ / ผจญภยั (Excitement/Adventure) การเรียนรู้ (Knowledge) สังคม (Social) และชื่อเสียง (Prestige) ของแหล่ง ท่องเท่ียวของประเทศไทยไดแ้ ก่ เมืองพทั ยา จงั หวดั ชลบุรี ภูเกต็ เชียงใหม่ หาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เป็นตน้
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 75 สาหรับความสัมพนั ธ์ของภาพลกั ษณ์และการรวมกลุ่มน้นั ยงั ไม่มีการกล่าวถึงโดยตรง โดย องคป์ ระกอบของภาพลกั ษณ์มีอยู่ 4 ประการดว้ ยกนั ที่มีความเกี่ยวขอ้ งและมีปฏิสัมพนั ธ์ต่อกนั และเก่ียวเน่ือง กบั ผลลพั ธ์ของการทางานร่วมกนั ไดแ้ ก่ ก) องคป์ ระกอบเชิงการรับรู้ เกิดจากการสงั เกตส่ิงแวดลอ้ ม สถานที่ อากปั กิริยา ทา่ ทาง เหตุการณ์ สินคา้ /บริการ วตั ถุ อุปกรณ์ตา่ งๆ จนนามาสู่การรับรู้ และการสร้างภาพของแต่ละคนข้ึนมา คือ ภาพลกั ษณ์ท่ีแตล่ ะคนสร้างจินตภาพในใจผา่ นการรับรู้ของผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งต่อกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการ ทอ่ งเที่ยว ข) องคป์ ระกอบเชิงตระหนกั รู้ เป็นความรู้ท่ีเกิดข้ึนหลงั จากการสังเกตจนมีการรับรู้ สามารถ ตระหนกั และไดร้ ับความรู้อนั เกิดข้ึนจากการสังเกตในสิ่งตา่ งๆ ท่ีไดพ้ บเห็น ไดส้ มั ผสั ไดข้ อ้ มลู สามารถ แบ่งแยกประเภท ความแตกต่าง ความเหมือนออกมาได้ ค) องคป์ ระกอบเชิงความรู้สึก เม่ือไดร้ ับรู้ เรียนรู้ ภายใตค้ วามคิด ความรู้สึก ความเขา้ ใจของ แตล่ ะบุคคล สามารถท่ีจะยอมรับหรือไมย่ อมรับ ชอบหรือไมช่ อบได้ เป็นการข้ึนอยกู่ บั การใชด้ ุลยพนิ ิจส่วน บุคคลเมื่อไดผ้ า่ นการคิด การกลน่ั กรอง วเิ คราะห์ของตนเองในการทางานร่วมกนั กบั เครือข่ายวสิ าหกิจ ง) องคป์ ระกอบเชิงการกระทา การนาไปสู่แนวทางปฏิบตั ิ โดยมีเจตนาหรือมีเป้ าหมายท่ีเกิด จากผลการเรียนรู้ การรับรู้ผา่ นความรู้สึก ใหเ้ กิดเป็นผลในการสร้างภาพลกั ษณ์ของกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจ การท่องเท่ียวต่อไป อาจกล่าวไดว้ า่ ภาพลกั ษณ์ (Image) มีความสาคญั ต่อการประชาสมั พนั ธ์ เพราะการ ประชาสัมพนั ธ์เป็นงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั ภาพลกั ษณ์และมีส่วนเสริมสร้างภาพลกั ษณ์ต่อหน่วยงาน สถาบนั หรือองคก์ ร หรือกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจใหม้ ีภาพลกั ษณ์ที่ดี (Good Image) ตอ่ ความรู้สึกของประชาชนทว่ั ไป หรือนกั ทอ่ งเที่ยว เพอื่ สร้างหรือ ตอกย้าเร่ืองชื่อเสียง ทศั นคติ และความภกั ดีจากประชาชนหรือนกั ทอ่ งเที่ยว ที่มีต่อองคก์ ร สถาบนั หรือแหล่งทอ่ งเท่ียว การสร้างภาพลกั ษณ์ เป็นแนวคิดที่องคก์ รธุรกิจหรือกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจตา่ งตระหนกั ถึง ความสาคญั อยา่ งสูง โดยพยายามพฒั นากลยทุ ธ์การสร้างภาพลกั ษณ์อยา่ งเป็นระบบ จากเดิมท่ีอาศยั การ ประชาสมั พนั ธ์เป็นเคร่ืองมือหลกั มาเป็นการประยกุ ตแ์ ละผสมผสานกลยทุ ธ์การส่ือสารในการรวมกลุ่มหรือ กลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจของหลากหลายรูปแบบ โดยใชเ้ ทคนิควธิ ีต่างๆ อยา่ งเป็นเอกภาพเพื่อสนบั สนุนการ ดาเนินงานสู่เป้ าหมายภาพลกั ษณ์ท่ีพึงประสงคข์ ององคก์ ร หรือกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจ การสร้างภาพลกั ษณ์ของกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว คือ การจดั การโดยความพยายาม สร้างตลาดของแหล่งทอ่ งเท่ียว และหรือกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวโดยการนาเสนอขอ้ มูลผา่ นสื่อ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ แผน่ พบั ตวั แทนการทอ่ งเท่ียว นิตยสารการท่องเท่ียว โฆษณาทางโทรทศั น์ ส่ืออิเลคทรอนิคส์ ตา่ ๆ รวมท้งั ส่ือสงั คมออนไลน์ และกิจกรรมอื่นๆ ท่ีเก่ียวกบั องคก์ รทางทอ่ งเที่ยว รวมท้งั ส่ือสาธารณะที่ทาง
76 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ภาครัฐจดั หาไวใ้ หท้ ่ีอาจจะมีการเลือกการประชาสมั พนั ธ์แหล่งทอ่ งเท่ียว ความสัมพนั ธ์ของภาพลกั ษณ์ของ กลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียว คือ ผลท่ีไดจ้ ากการท่องเที่ยวและการรวมกลุ่มที่ไดจ้ ากประสบการณ์ จากแหล่งท่องเท่ียว เนื่องจากประสบการณ์ท่ีไดจ้ ากแหล่งทอ่ งเท่ียวน้ีส่งผลใหภ้ าพลกั ษณ์จะมีแนวโนม้ ท่ีจะ กระตุน้ ใหเ้ กิดความสมั พนั ธ์และร่วมมือกนั มากข้ึน (Fakeye & Crompton, 1991) พอร์เตอร์ (Porter, 2001) ใหค้ วามสาคญั กบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศในการ เปล่ียนทรัพยากรพ้ืนฐาน ทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรอื่นๆ ใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบ จึงเป็นการให้ ความสาคญั กบั ปัจจยั ที่ถูกสร้างท้งั หลายในการส่งเสริมขอ้ ไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั ของอุตสาหกรรม ทอ่ งเที่ยวของประเทศ นอกจากน้ี ขอ้ ไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั อาจจะเกิดจากการท่ีประเทศมี “ขอ้ เสียเปรียบ ของปัจจยั บางดา้ น” เนื่องจากเป็นแรงผลกั ดนั ใหอ้ ุตสาหกรรมของประเทศตอ้ งปรับตวั และพฒั นาเพื่อ เอาชนะขอ้ เสียเปรียบเหล่าน้นั 2.4.3 เง่ือนไขทางดา้ นความตอ้ งการหรืออุปสงค์ (Demand Condition) อุปสงคห์ รือความตอ้ งการของอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียวในที่น้ีหมายถึง ความตอ้ งการท้งั ภายใน และภายนอกประเทศ ซ่ึงจะทาใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบดา้ นการแขง่ ขนั ในตลาดโลกได้ เน่ืองจากอุปสงคห์ รือ ความตอ้ งการภายในและภายนอกประเทศจะเป็นปัจจยั ท่ีทาใหเ้ กิดการพฒั นาการผลิตสินคา้ และใหบ้ ริการที่ มีประสิทธิภาพมากข้ึนท้งั ในดา้ นคุณภาพและปริมาณ ความตอ้ งการภายในและภายนอกประเทศที่เพียงพอ จะสามารถรองรับการใหบ้ ริการและการผลิตปริมาณที่เหมาะสมจากท้งั ในและนอกประเทศ ซ่ึงนอกจากจะ ก่อใหเ้ กิดการประหยดั ต่อขนาด เน่ืองจากสามารถทาการผลิตหรือใหบ้ ริการในปริมาณมากๆ แลว้ ความ ชานาญและเป็นเลิศในการใหบ้ ริการของการท่องเที่ยวของไทยยงั นาไปสู่การเพม่ิ คุณคา่ (Value Added) อนั นามาซ่ึงการเพิ่มมลู คา่ ทางการเงิน (Monetary Added) หรือความมงั่ คง่ั (Wealthy)ในท่ีสุด นอกจากน้นั ปริมาณและความตอ้ งการท้งั ในและนอกประเทศที่เพียงพอจะก่อให้เกิดการ พฒั นาและขยายตวั ในการผลิตและบริการของผผู้ ลิตหรือผปู้ ระกอบการในประเทศอีกดว้ ย โดยเนน้ สภาพ ความตอ้ งการหรืออุปสงคท์ ้งั ในและนอกประเทศ ท้งั ในรูปของปริมาณและคุณภาพของความตอ้ งการ โดย ใหค้ วามสาคญั ทางดา้ นคุณภาพเป็นหลกั คุณภาพของความตอ้ งการในท่ีน้ีหมายถึง การบริโภคที่ก่อใหเ้ กิด ประโยชน์สูงสุด มีเหตุมีผล คานึงถึงประโยชน์ของการใช้ ซ่ึงจะช่วยประหยดั ทรัพยากรท่ีถูกนามาใชใ้ น การผลิตและบริการที่ไม่จาเป็ นหรือไม่เป็นที่ตอ้ งการ ประเทศใดก็ตามท่ีใหค้ วามสาคญั กบั คุณภาพของความ ตอ้ งการท้งั ในและนอกประเทศ จะก่อใหเ้ กิดการใชท้ รัพยากรของการท่องเที่ยวอยา่ งมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 77 กล่าวโดยสรุป ปัจจยั เกี่ยวกบั เง่ือนไขความตอ้ งการหรืออุปสงคท์ ี่มีผลต่อประสิทธิภาพและความสามารถใน การแขง่ ขนั โดยปัจจยั 3 ประการ ไดแ้ ก่ 2.3.2.1 โครงสร้างการแบ่งตลาดของอุปสงคท์ ้งั ในและนอก (Segment Structure of Demand) กิจการหรืออุตสาหกรรมมกั จะมีขอ้ ไดเ้ ปรียบดา้ นการแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศ ถา้ กิจการหรือ อุตสาหกรรมน้นั มีอุปสงคใ์ นประเทศท่ีคลา้ ยคลึงกบั อุปสงคโ์ ลกและตลาดส่วนที่คลา้ ยคลึงกบั อุปสงคโ์ ลก เป็นตลาดส่วนที่สาคญั ของอุตสาหกรรมของการท่องเที่ยวของไทยน้นั มากกวา่ ตลาดส่วนเดียวกนั ของ ประเทศอ่ืนๆ ในทางกลบั กนั ตลาดส่วนท่ีมีความสาคญั นอ้ ยในอุตสาหกรรมมกั จะเสียเปรียบคูแ่ ขง่ ขนั จาก ตา่ งประเทศ ถา้ ตลาดส่วนน้นั มีความคลา้ ยคลึงกบั อุปสงคต์ ลาดโลก 2.3.2.2 ผซู้ ้ือท่ีรู้จริง (Sophisticated and Demanding Buyers) หมายถึง ผซู้ ้ือสินคา้ หรือ บริการใดคือ นกั ทอ่ งเที่ยวที่มกั ต้งั มาตรฐานไวส้ ูงเวลาเลือกซ้ือสินคา้ หรือบริการน้นั ซ่ึงเทา่ กบั เป็นแรง กดดนั ใหก้ ิจการดา้ นการท่องเที่ยวของไทยตอ้ งพฒั นาขอ้ ไดเ้ ปรียบดา้ นการแขง่ ขนั ดงั น้นั ประเทศจะมีขอ้ ไดเ้ ปรียบดา้ นการแข่งขนั ในอุตสาหกรรมที่มีผซู้ ้ือท่ีรู้จริงท้งั ในและตา่ งประเทศ 2.3.2.3 อุปสงคใ์ นประเทศเกิดข้ึนก่อนประเทศอื่น (Anticipatory Buyer Needs) อุตสาหกรรมการท่องเท่ียวของไทยท่ีเกิดข้ึนเพ่ือตอบสนองอุปสงคท์ ้งั ในและนอกประเทศจะไดเ้ ปรียบดา้ น การแข่งขนั ระหวา่ งประเทศ ถา้ อุปสงคต์ ่อสินคา้ หรือบริการของการท่องเที่ยวของไทยน้นั เกิดข้ึนก่อน แลว้ จึงเกิดข้ึนในประเทศอื่นๆภายหลงั สาหรับอุปสงคอ์ ุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยน้นั ก็จะเสียเปรียบ ดา้ นการแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศ ถา้ ตอบสนองอยา่ งล่าชา้ ต่อความตอ้ งการใหม่ท่ีเป็นสากล ประเทศไทยจะ เสียเปรียบดา้ นการแข่งขนั ระหวา่ งประเทศในอุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว 2.3.3. อุตสาหกรรมที่สนบั สนุนและเก่ียวเนื่อง (Supporting and Related Industries) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจะมีความไดเ้ ปรียบดา้ นการแขง่ ขนั อุตสาหกรรมไดต้ อ้ งมี อุตสาหกรรมที่สนบั สนุนและเก่ียวเนื่องท่ีสามารถส่งเสริมความสามารถหรือศกั ยภาพของอุตสาหกรรมน้นั เน่ืองจากอุตสาหกรรมสนบั สนุนฯ น้ีจะทาใหม้ ีการพฒั นาผลิตสินคา้ หรือบริการทางการท่องเที่ยวใหต้ รงกบั ความตอ้ งการภายในประเทศและต่างประเทศมากข้ึน โดยท่ีอุตสาหกรรมที่สนบั สนุนและเก่ียวเน่ืองจะมี ความเชื่อมโยงกนั ในการที่จะทาใหเ้ กิดการพฒั นาและปรับปรุงการผลิตใหม้ ีคุณภาพและปริมาณตรงกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภคหรือนกั ท่องเที่ยวมากข้ึน ทาใหก้ ารผลิตและบริการมีประสิทธิภาพ มีตน้ ทุนการ ผลิตท่ีเหมาะสม กล่าวโดยสรุปคือ การที่ประเทศใดท่ีมีอุตสาหกรรมสนบั สนุนและเก่ียวเน่ืองกบั
78 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ อุตสาหกรรมการท่องเท่ียวท่ีมีความไดเ้ ปรียบเชิงแข่งขนั จะก่อใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบเชิงแขง่ ขนั ระหวา่ ง ประเทศของอุตสาหกรรม ท้งั น้ีมาจากสาเหตุ 2 ประการที่สาคญั ไดแ้ ก่ 2.3.3.1. ช่องทางการจดั หาที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ ซ่ึงจะก่อใหเ้ กิดความสะดวก รวดเร็ว สามารถลดตน้ ทุนการผลิตและบริการ และขยายตลาดใหเ้ พิ่มข้ึนอยา่ งรวดเร็ว หรืออาจไดร้ ับสิทธิพเิ ศษ มากกวา่ ผผู้ ลิตและบริการรายอ่ืนในต่างประเทศในการมีวตั ถุดิบและคุณภาพการบริการท่ีดีท่ีสุด ซ่ึงจะทาให้ เกิดการพฒั นาอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวในประเทศ และวตั ถุดิบในประเทศยงั ถูกใชเ้ พื่อก่อใหเ้ กิด ประโยชน์สูงสุด 2.3.3.2. ความร่วมมือกนั อยตู่ ลอดเวลาระหวา่ งผผู้ ลิตและบริการที่ใชว้ ตั ถุดิบกบั ผใู้ หบ้ ริการ รวมท้งั แหล่งท่องเที่ยว เช่น มีการพฒั นาและร่วมมือกนั ดา้ นการพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลิตและบริการใหม้ ี ประสิทธิภาพ จะก่อใหเ้ กิดการพฒั นาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วมกนั ท้งั สองฝ่ าย ซ่ึงประเทศไทยมีโอกาส สูงที่จะประสบความสาเร็จในตลาดนกั ทอ่ งเท่ียวตา่ งประเทศ โดยมีอุตสาหกรรมสนบั สนุนและเก่ียวเนื่อง กระจายทว่ั ประเทศ หรือมีการกระจุกตวั กนั จนเกิดความร่วมมือกนั ก่อใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบเชิงแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศเหนืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศอ่ืนๆ 2.3.4. กลยทุ ธ์โครงสร้างและสภาพการแขง่ ขนั ของผผู้ ลิต (Firm Strategy, Structure, and Rivalry) การจดั การโครงสร้างและระบบการบริหารอยา่ งเหมาะสมของผผู้ ลิตในอุตสาหกรรมการ ทอ่ งเที่ยวน้นั และการแข่งขนั ของผใู้ หบ้ ริการในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวภายในประเทศ จะทาใหเ้ กิดการ ปฏิบตั ิตามการบริการท่ีมีประสิทธิภาพของผใู้ หบ้ ริการในอุตสาหกรรมมากข้ึน และเป็ นแรงกดดนั ในการที่ จะทาใหเ้ กิดการพฒั นาสินคา้ ใหม้ ีคุณภาพและรูปแบบการบริการที่ตรงกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภคหรือ นกั ทอ่ งเที่ยวมากข้ึน ซ่ึงจะทาใหม้ ีความไดเ้ ปรียบดา้ นการแข่งขนั มากข้ึน 2.3.5 หน่วยงานภาครัฐ ปัจจยั ภายนอก และการเปิ ดเสรีทางการคา้ และขอ้ ตกลงทางการคา้ ต่างๆ (Goverment Agents, external factors, and Free Trade Zone and Agreement) มีบทบาทสาคญั ในการกาหนดกติกา กฏระเบียบขอ้ ปฏิบตั ิต่างๆ รวมท้งั เป็นผรู้ ิเร่ิมและ กาหนดทา่ ทีและบทบาทในกระบวนการพฒั นาเครือขา่ ยวสิ าหกิจ เพอ่ื ใหก้ ารสนบั สนุนและร่วมมือผา่ น หน่วยงานที่กาหนดนโยบายมาตรการและกฎระเบียบที่เก่ียวขอ้ งกบั อุตสาหกรรมท่ีจะก่อใหเ้ กิดบรรยากาศท่ี เหมาะสมและเอ้ือต่อการพฒั นา สนบั สนุนส่งเสริมการดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างหรือ ปรับปรุงระบบและดูแลโครงสร้างพ้ืนฐาน เพ่ือเสริมสร้างศกั ยภาพในดา้ นทรัพยากรสิ่งแวดลอ้ ม ทรัพยากร มนุษย์ ส่งเสริมการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนใหบ้ ริการข้นั พ้นื ฐานอยา่ งเสมอภาค
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 79 โปร่งใส เป็นธรรม ฯลฯ โดยอาจมีหนา้ ท่ีหลกั ในการเป็นผรู้ ิเริ่ม ผสู้ นบั สนุน ท่ีปรึกษาและพ่ีเล้ียงในเรื่อง ของการพฒั นาและการบริหารจดั การเครือขา่ ยวสิ าหกิจเพ่ือเพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ขอ้ ตกลง ทางการคา้ ของเขตการคา้ ตา่ งๆ ของภมู ิภาคต่างๆ ของโลกเป็นปัจจยั หน่ึงที่มีบทบาทสาคญั ต่อการกาหนด ความสามารถในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบการเพราะ การเปิ ดประชาคมเศรษฐกิจเพื่อการคา้ จะมี วตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั คือ มีการเคล่ือนยา้ ยสินคา้ บริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมืออยา่ งเสรี และใหค้ วามสาคญั กบั ประเด็นนโยบายต่างๆ ที่จะช่วยเสริมการรวมกลุ่มทาง เศรษฐกิจและการพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งเสมอภาค สภาพการแข่งขนั ในประเทศเป็นปัจจยั กาหนดหน่ึงท่ีมีความสาคญั มากต่อการกาหนดความ ไดเ้ ปรียบเชิงแข่งขนั ของประเทศ การแข่งขนั ที่รุนแรงในประเทศสาหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทาให้ อุตสาหกรรมประสบความสาเร็จในตลาดนกั ท่องเที่ยวต่างชาติในระดบั ท่ีสูงมาก เน่ืองจากจะเกิดแรงกดดนั ต่อกนั และกนั ใหม้ ีการพฒั นามากข้ึน ซ่ึงการแข่งขนั ในประเทศไมไ่ ดห้ มายถึงแต่เฉพาะการแข่งขนั ทางดา้ น ราคาเทา่ น้นั การแข่งขนั ในดา้ นอื่นๆ ไดแ้ ก่ เทคโนโลยแี ละระบบการส่ือสารจะนาไปสู่ความไดเ้ ปรียบเชิง แข่งขนั ท่ียง่ั ยนื กวา่ และการหดตวั ของอุปสงคข์ องตลาดในประเทศมกั จะกดดนั ใหเ้ กิดการแสวงหาตลาด เพ่ิมเติมเพ่อื ก่อให้เกิดความไดเ้ ปรียบดา้ นตน้ ทุนและการพฒั นาระบบตลาด กระบวนการแขง่ ขนั จะมี ประโยชนเ์ พมิ่ มากข้ึนถา้ คู่แข่งขนั ในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวไมอ่ ยกู่ ระจดั กระจายไปทว่ั ประเทศ แต่ กระจุกตวั อยใู่ นอาณาเขตเดียวกนั หรือสามารถติดตอ่ ส่ือสารกนั และทาธุรกรรมอยา่ งต่อเน่ืองและสม่าเสมอ ตลอดเวลาปราศจากพรมแดน และมีการเปิ ดตลาดโดยไมก่ ีดกนั เพอื่ ท่ีจะทดแทนการขาดแคลนสภาพการ แขง่ ขนั ในประเทศ นอกจากน้ีจานวนผแู้ ข่งขนั เพยี งอยา่ งเดียวไม่ก่อใหเ้ กิดประโยชนห์ ากขาดซ่ึงคุณภาพ ดงั น้นั จุดท่ีสาคญั คือ คุณภาพของการแขง่ ขนั ของการทอ่ งเที่ยวตอ้ งเหมาะสมและเขม้ ขน้ ดว้ ย เพราะสภาพ การแข่งขนั ในประเทศท่ีเขม้ ขน้ จะทาใหท้ รัพยากรท่ีสาคญั ของประเทศถูกนาไปใชเ้ พ่ือก่อใหเ้ กิดประโยชน์ สูงสุด สามารถแสดงตวั แบบการวเิ คราะห์ไดมอนดข์ องอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวของไทยในพ.ศ. 2560 ดงั ภาพที่ 2-4
80 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว: แนวคิดและการประยกุ ต์ + ราคาที่พกั และโรงแรมมหี ลายระดบั รองรับ + หน่วยงานภาครัฐระดบั ชาติและทอ้ งถิ่น เช่น กระทรวงการกีฬาและการ นกั ท่องเท่ียว ไดท้ ุกกลุ่ม ท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อพท. อบจ. อบต. เทศบาล ใหก้ าร + ภาคเอกชนมีความกระตือรือลน้ แข่งขนั กนั สนบั สนุนธุรกิจท่องเที่ยวอยา่ งเป็นรูปธรรมและต่อเน่ือง ในการทาตลาดใหม่ ๆ และสร้างรูปแบบการ - การบงั คบั ใชก้ ฎหมายควบคุมคุณภาพไม่ทว่ั ถึง เช่น มาตรฐานอาชีวะ ท่องเท่ียวใหมๆ่ เพ่อื รองรบั นกั ทอ่ งเท่ียว อนามยั ความปลอดภยั ยงั ไม่เขม้ งวดและขาดประสิทธิภาพ - การควบคุมตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน - ขาดการประสานงานระหวา่ งหน่วยงานรัฐ ขาดเจา้ ภาพในการดแู ละปัญหา การใหบ้ ริการที่ยงั ไมไ่ ดม้ าตรฐาน ดา้ นการท่องเท่ียว -ความครอบคลุมดแู ลความปลอดภยั ของนกั ท่องเท่ียวยงั ไมท่ วั่ ถึง โดยกาลงั พลของตารวจท่องเที่ยวมีอยอู่ ยา่ งจากดั บริบทการแข่งขนั หน่วยงาน และกลยทุ ธ์ธุรกิจ ภาครัฐ เงื่อนไขดา้ นปัจจยั การผลิต + แหล่งท่องเท่ียวส่วนใหญม่ ีความเป็น อตุ สาหกรรมท่ีเกี่ยว เงื่อนไขดา้ น เอกลกั ษณ์ และพร้อมใหบ้ ริการที่ โยงและสนบั สนุน อุปสงค์ หลากหลาย รวมท้งั มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จกั + มีความร่วมมือระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐ + มีแนวโนม้ การเติบโตของ และผปู้ ระกอบการท่ีจดั กิจกรรมส่งเสริม นกั ท่องเท่ียวกลุ่มตลาดบน เช่น + บุคลากรการท่องเท่ียวมคี วามเป็นมือ ภาพลกั ษณ์การท่องเท่ียว นกั เล่นกอลฟ์ และการเล่นเรือยอร์ช + มธี ุรกิจเกี่ยวเน่ืองกบั การท่องเท่ียวครบวงจร และนกั ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพ่มิ ข้ึน อาชีพ มีทกั ษะท่ีดี เช่น บริการดา้ นสุขภาพความงาม มีสถานที่ +- ยอดนกั ท่องเท่ียวชาวไทยเติบโต พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และกิจกรรมสันทนาการ อยา่ งต่อเน่ืองทุกปี แต่นกั ท่องเท่ียว + การคมนาคมขนส่งสะดวกและทนั สมยั ร้านอาหารหลากหลายประเภท ต่างชาติไมส่ ม่าเสมอและเติบโตใน + การเช่ือมโยงแหล่งท่องเที่ยวใกลเ้ คียงยงั มี ตลาดระดบั กลางถีงระดบั ล่าง +/- ภาพลกั ษณ์การทอ่ งเท่ียวเป็นบวกมาก อยอู่ ยา่ งจากดั มากกวา่ ระดบั บน - หลกั สูตรการศึกษาดา้ นการท่องเท่ียวยงั ไม่ - ยงั มกี ลุ่มนกั ท่องเที่ยวที่สนใจ ข้ึน สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผปู้ ระกอบการ เฉพาะการท่องเท่ียวตามแหล่ง และไมเ่ พียงพอ ท้งั ในแง่ปริมาณและคุณภาพ สถานบนั เทิง - ขาดสถานที่ฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการ ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ - - สาธารณูประโภคไม่เพยี งพอกบั ความ เติบโตของเมืองหรือแหล่งท่องเท่ียวบาง แห่ง เช่น ไฟฟ้ า ประปา การกาจดั ขยะ และปัญหาการจราจรติดขดั - อตั ราการเพิ่มข้ึนของอาชญากรรม และ อาชญากรรมขา้ มชาติและอุบตั ิเหตุมี สูงข้ึน ภาพที่ 2-4 ตวั แบบการวเิ คราะห์ไดมอนดข์ องภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวของไทยในพ.ศ. 2560
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 81 2.4. กระบวนการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกจิ การท่องเท่ียว แมว้ า่ จากความคิดเห็นของผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นกลยทุ ธ์ทางการจดั การจากมหาวทิ ยาลยั ฮาร์วาร์ด คือ ไมเคิล อี พอร์เตอร์ (Proter, 2001) ไดบ้ ง่ ช้ีวา่ ความไดเ้ ปรียบในการแข่งขนั เป็ นส่ิงท่ีสาคญั และจาเป็นตอ่ การ แขง่ ขนั ของประเทศชาติในปัจจุบนั และอนาคต ที่ศึกษาเนน้ กบั อุตสาหกรรมการผลิตเป็ นหลกั แต่ไดม้ ีการ นาแนวคิดน้ีมาขยายและปรับใชก้ บั อุตสาหกรรมการบริการโดยเฉพาะกบั อุตสาหกรรมการท่องเท่ียว เพราะ จาเป็นตอ้ งอาศยั ยทุ ธวธิ ีร่วมกนั มาใชเ้ พ่อื ใหค้ วามไดเ้ ปรียบของกิจการและเครือขา่ ยวสิ าหกิจ โดยเริ่มต้งั แต่ การเลือกอุตสาหกรรมหรือกิจการท่ีมีศกั ยภาพและสามารถสร้างผลกาไรสูง โดยอุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว มกั ถูกระบุวา่ เป็นอุตสาหกรรมการบริการที่เปรียบเสมือนเป็นดาวรุ่งที่มีการขยายตวั และอตั ราการเติบโตสูง โดยใชว้ ธิ ีการประเมินสภาวะแวดลอ้ มของอุตสาหกรรมตามองคป์ ระกอบเพ่อื ศึกษาถึงขอ้ ไดเ้ ปรียบในเชิง การแข่งขนั ของอุตสาหกรรมหรือที่เรียกวา่ แบบจาลองเพชร (Diamond Model) ตลอดจนการสร้างกลุ่มที่ เป็นลาดบั ข้นั ตอน จนถึงการผสมผสานนากลยทุ ธ์ทางการแขง่ ขนั มาใชเ้ พอ่ื เพิม่ ขีดความสามารถการแข่งขนั ท่ีเหมาะสมกบั ปัจจยั ภายในและภายนอกของอุตสาหกรรมในประเทศท่ีถูกคดั สรรมาแลว้ เป็นสาคญั พอร์เตอร์ (Porter, 2001) กล่าวไวว้ า่ การนาไปสู่การพฒั นาศกั ยภาพในการแขง่ ขนั ในส่วนตา่ งๆ ของตลาดโลก (Global Niches) จึงมีกระบวนการสร้างกลุ่มท่ีมีประสิทธิภาพท่ีจะช่วยเสริมสร้างความ เขม้ แขง็ ของภาคการผลิต การคา้ และบริการดา้ นการท่องเท่ียวและเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการ แข่งขนั ของประเทศโดยรวม โดยประกอบดว้ ยข้นั ตอน 7 ข้นั ดงั น้ี 2.4.1 การสร้างกลุ่ม เป็นข้นั ตอนเพอื่ การกระตุน้ และส่งเสริมใหเ้ กิดการรวมกลุ่มในเครือขา่ ย วสิ าหกิจการท่องเที่ยว โดยช้ีใหเ้ ห็นถึงความสาคญั และประโยชน์ของการพฒั นาเครือข่ายวสิ าหกิจการ- ท่องเท่ียวที่ชกั ชวนและจูงใจใหเ้ ขา้ รวมกลุ่ม การทากิจกรรมร่วมกนั เพ่ือสร้างความสัมพนั ธ์ในกลุ่มสมาชิก โดยเร่ิมจากการเลือกกิจการที่มีความต้งั ใจและมีความพร้อมในการรวมกลุ่ม โดยกิจการและการดาเนินงาน ของกิจการท่ีจะมารวมกลุ่มเหล่าน้ีอาจมีความเกี่ยวพนั ในลกั ษณะใดลกั ษณะหน่ึงดงั ตอ่ ไปน้ี อยใู่ นแหล่ง หรือพ้ืนที่ประกอบการเดียวกนั หรือสามารถเช่ือมโยงโดยอาศยั ระบบเทคโนโลยกี ารส่ือสารระหวา่ งกนั ได้ เป็นกิจการท่ีตอ่ เนื่องในลกั ษณะของห่วงโซ่อุปทาน มีอุปสงคแ์ ละมีตลาดตอ้ งการคลา้ ยคลึงกนั และมี บุคคลท่ีมีภาวะผนู้ า และมีความเช่ียวชาญเฉพาะดา้ น และสามารถทางานเป็นทีมได้ เมื่อรวมกลุ่มกิจการดา้ นการท่องเท่ียวไดแ้ ลว้ ข้นั แรกเริ่มนดั พบประชุมหารือเพ่อื ปรับ กระบวนความคิดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกนั ตอ่ มาจึงคดั เลือกผนู้ าท่ีมีวสิ ัยทศั นแ์ ละเป็นที่ยอมรับในกลุ่ม เพ่ือเป็ นแกนนาในการปฏิรูปข้นั ตอนต่อไปร่วมกนั กาหนดวตั ถุประสงคแ์ ละสร้างเป้ าหมายร่วมของกลุ่มให้ ชดั เจน เพื่อป้ องกนั การหาประโยชน์เฉพาะราย เช่น กาหนดคู่แขง่ ตลาดการแข่งขนั รวมถึงวางกรอบการ
82 การพัฒนาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ ดาเนินงานวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เม่ือใด อยา่ งไร เพือ่ ใหเ้ กิดความชดั เจน มีความต่อเนื่องของการดาเนินงาน และสามารถประเมินผลได้ 2.4.2 การวเิ คราะห์สถานภาพของกลุ่มหรือผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย โดยศึกษาขีดความสามารถในการ แขง่ ขนั ของกลุ่มเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวที่ไดร้ ับการคดั สรรแลว้ โดยพิจารณาจากปัจจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ท้งั หมด ต้งั แต่กิจการตน้ น้าจนถึงปลายน้าเม่ือเปรียบเทียบกบั คูแ่ ข่งในดา้ นการผลิตและบริการ เทคโนโลยี นวตั กรรมการท่องเท่ียวโดยอาศยั วธิ ีการวเิ คราะห์จุดแขง็ จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค (SWOT Analysis) โดยจดั ทาเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์สถานภาพของกลุ่มหรือผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย เรียกวา่ แผนภาพเครือขา่ ย วสิ าหกิจ (Tourism Cluster Map) (Porter, 2001) ดงั ไดก้ ล่าวไวแ้ ลว้ วา่ แผนภาพเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวอาจมีรูปแบบท่ีหลากหลาย แต่ ขอ้ สาคญั ในการจดั ทาแผนภาพของเครือข่ายวสิ าหกิจคือ แผนภาพท่ีจดั ทาข้ึนตอ้ งสะทอ้ นถึงสถานะที่เป็นอยู่ และสถานะที่ตอ้ งการใหเ้ ป็นโดยใชข้ อ้ มลู จากผปู้ ระกอบการที่เป็นแกนหลกั ตามสภาวะแวดลอ้ ม ความ แตกตา่ งและโดดเด่นของภาคบริการและการผลิตในอุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยวของแต่ละเขตพ้นื ที่ พร้อมท้งั ตอ้ งแสดงถึงส่วนประกอบที่สาคญั รวมท้งั แสดงความร่วมมือ ระดบั ความสัมพนั ธ์ของผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งอยา่ ง ครบถว้ น ตวั อยา่ งแผนภาพของเครือข่ายวสิ าหกิจดา้ นการท่องเที่ยว (Tourism Cluster Map) แสดงได้ ดงั ภาพท่ี 2-5 และรายละเอียดดงั น้ี 1) หน่วยงานที่ทากิจกรรมหลกั หรือธุรกิจหลกั (Primary Core Activities Agents) เป็นธุรกิจท่ี ใหบ้ ริการนกั ท่องเท่ียวเป็ นหลกั คือ ธุรกิจนาเที่ยว และธุรกิจโรงแรมและที่พกั อาศยั 2) หน่วยงานที่ทากิจกรรมรอง (Secondary Core Activities Agents) เป็นธุรกิจที่ใหบ้ ริการท้งั นกั ท่องเท่ียวและประชาชนทอ้ งถ่ินทว่ั ไป เช่น ธุรกิจคา้ ปลีกและขายของที่ระลึก ธุรกิจภตั ตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจสวนสนุก แหล่งบนั เทิงและพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ธุรกิจการส่ือสาร ธุรกิจที่เก่ียวกบั การจดั ประชุมและ นิทรรศการ(Meeting, Incentive, Convention, and Exhibition) เป็นตน้ 3) หน่วยงานท่ีใหบ้ ริการกิจกรรมสนบั สนุน (Service Providers) ไดแ้ ก่ ธุรกิจการโฆษณาและ การประชาสัมพนั ธ์ ธุรกิจขนส่งสาธารณะและมวลชน ธุรกิจบริการทางการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา และธุรกิจประกนั ภยั อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารสด อาหารแปรรูป อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรม ส่ิงทอ เป็นตน้ 4) หน่วยงานภาครัฐที่รับผดิ ชอบโดยตรง (Goverment Agents, Societies and Non-Profit Organization) คือ กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่
บทท่ี 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเท่ียว 83 เก่ียวเน่ืองทางออ้ ม เช่น กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวง คมนาคม กระทรวงวฒั นธรรม หน่วยงานท่ีสนบั สนุนดา้ นการวจิ ยั และพฒั นา กระทรวงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การ สื่อสารและคมนาคม สานกั งานตรวจคนเขา้ เมือง องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นตา่ งๆ เป็ นตน้ 5) สถาบนั การศึกษาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การทอ่ งเที่ยว (Tourism-related educational Institutions) ซ่ึงมีท้งั ท่ีเป็นสถาบนั ทวั่ ไปและสถาบนั ท่ีเปิ ดอบรมดา้ นการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เช่น สถาบนั การจดั การ โรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ วทิ ยาลยั หรือมหาวทิ ยาลยั สถาบนั การศึกษาเฉพาะทาง เป็นตน้ และยงั มีสมาคมและชมรมดา้ นการท่องเท่ียวตา่ ง ๆ ซ่ึงในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะมีสมาคมดา้ นการท่องเที่ยว อยู่ ท้งั ในภูมิภาคน้นั และภมู ิภาคลอ้ มรอบ ซ่ึงเป็ นการรวมตวั กนั ในระดบั ตา่ งๆ ต้งั แต่ระดบั จงั หวดั สู่ระดบั ภูมิภาค และระดบั ประเทศ เช่น ในประเทศไทยไดแ้ ก่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรม สมาคมมคั คุเทศกอ์ าชีพ เป็นตน้ รวมถึงหน่วยงานหรือองคก์ รอิสระท้งั ที่ดาเนินการร่วมกบั ภาครัฐและ/หรือ เอกชน ท้งั ระดบั ทอ้ งถิ่น เขต ภมู ิภาค ประเทศ และระหวา่ งประเทศ เช่น หอการคา้ สานกั งานพฒั นา เศรษฐกิจทอ้ งถิ่น สหกรณ์ สมาคมหรือสภาวชิ าชีพที่เก่ียวขอ้ ง ส่ือมวลชน หน่วยงานตรวจสอบและรับรอง มาตรฐานสินคา้ และบริการต่างๆ หน่วยงานคุม้ ครองผบู้ ริโภค รวามท้งั สหภาพแรงงานและสถาบนั ฝึกอบรมตา่ งๆ เป็นตน้
84 การพฒั นาการรวมกล่มุ แบบเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว: แนวคิดและการประยกุ ต์ หน่วยงานภาครัฐ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม กระทรวงคมนาคม คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กิจการปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั กจิ กรรมสนับสนุน ธุรกจิ หลกั อตุ สาหกรรมบริการทเี่ กี่ยวข้อง อาคารสถานท่ี อปุ กรณ์สิ่งอานวยความ การคมนาคม/ขนส่ง สะดวก สาธารณูปโภค ธุรกิจโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ อปุ กรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ฯลฯ ธุรกิจที่พกั /โรงแรม ร้านอาหาร ศูนยจ์ าหน่ายสินคา้ พ้ืนเมือง บริษทั นาเที่ยว ธุรกิจก่อสร้าง อตุ สาหกรรมก่อสร้าง/สิ่งทอ สถาบนั การเงินและธนาคาร ร้านจาหน่ายอปุ กรณ์การท่องเท่ียว ส่ือโฆษณา/ประชาสมั พนั ธ์ สถาบนั เฉพาะทางและสถาบันการศึกษา ธุรกิจ MICE สถาบันการศึกษา กลุ่ม สมาคม ชมรม องค์กร -สถาบนั พฒั นาฝีมอื แรงงาน - หอการคา้ - วทิ ยาลยั / - สมาคมมคั คุเทศกอ์ าชีพ มหาวทิ ยาลยั - สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว - สถาบนั อบรมทาง - สมาคมธุรกิจท่องเท่ียว อาชีพ - สมาคมโรงแรม - สถาบนั การ - ชมรมแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมและการ - สภาการท่องเที่ยว ท่องเท่ียว - สานกั งานพฒั นาเศรษฐกิจ ทอ้ งถ่ิน - สหกรณ์ - สานกั งานคณะกรรมการ คุม้ ครองผบู้ ริโภค ฯลฯ ภาพท่ี 2-5 แผนภาพเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียว (Tourism Cluster Map)
บทที่ 2 แนวคิดและบทบาทของเครือข่ายวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว 85 2.4.3 การกาหนดเป้ าประสงคห์ รือพนั ธกิจร่วม การพิจารณาวา่ เครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยว จะ พฒั นาทิศทางไปในแนวทางใดหรือใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคใ์ นเรื่องอะไรบา้ ง อาจเป็นเร่ืองยากในการ ตดั สินใจหรืออาจมีความเห็นท่ีหลากหลายในการต้งั เป้ าประสงคร์ ่วมกนั เป็ นโจทยท์ ่ีสาคญั ดงั น้นั แนวทาง หน่ึงท่ีจะตอบโจทยเ์ ร่ืองน้ีไดค้ ือ ผมู้ ีส่วนไดเ้ สียในเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวตอ้ งแสดงความคิดเห็น ร่วมกนั ถึงเป้ าหมายท่ีกลุ่มตอ้ งการดาเนินงานในลาดบั แรกหรืออาจร่วมกนั สร้างดชั นีหรือตวั ช้ีวดั ระดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจน้นั ๆ ก่อนเพ่ือใหส้ มาชิกมีเป้ าหมายในการดาเนินงาน ร่วมกนั ท้งั น้ีการกาหนดเป้ าประสงคแ์ ละพนั ธกิจร่วมข้ึนอยกู่ บั สภาพแวดลอ้ มของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการ ทอ่ งเที่ยววา่ มีปัจจยั ใดบา้ งท่ีสมาชิกในเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวเห็นร่วมกนั วา่ เป็นปัจจยั สาคญั ที่จะ ยกระดบั ความสามารถในการแข่งขนั จากน้นั จึงจดั ลาดบั ใหค้ ะแนนความเขม็ แขง็ ของเครือข่ายวสิ าหกิจใน แตล่ ะปัจจยั วา่ อยใู่ นระดบั ใด อยา่ งไรก็ตาม หนา้ ที่กาหนดเป้ าประสงคห์ รือพนั ธกิจร่วมกนั ตอ้ งอาศยั การมี ส่วนร่วมจากมวลสมาชิก โดยอาศยั สถาบนั หรือสมาคมวชิ าชีพหรือสถาบนั การศึกษาเป็นตวั กลางในการ ประสานงานอยา่ งสร้างสรรค์ 2.4.4 การกาหนดยทุ ธศาสตร์และแผนปฏิบตั ิงานในกลุ่มเครือข่ายวสิ าหกิจ เป็นการกาหนด ยทุ ธศาสตร์แลว้ นามาจดั ทาเป็นแผนปฏิบตั ิงานท่ีสามารถตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ นกั ท่องเท่ียว และตลาดไดม้ ากท่ีสุด เครือข่ายวสิ าหกิจการทอ่ งเท่ียวมีระดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ระดบั ใด พร้อม ท้งั สามารถเขา้ ใจในเรื่องการยกระดบั ความสามารถในการแข่งขนั ไดอ้ ยา่ งถ่องแท้ 2.4.5 การถ่ายโอนจากแผนงานไปสู่การปฏิบตั ิการ เครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเท่ียวสามารถเริ่มตน้ ดาเนินโครงการนาร่องเพ่ือใหเ้ ห็นประโยชน์ของการรวมกลุ่มในเชิงรูปธรรมอยา่ งแทจ้ ริง โดยดาเนินการ ตามยทุ ธศาสตร์และแผนการท่ีวางไว้ และนาผลท่ีไดม้ าวเิ คราะห์เพือ่ ปรับปรุงการดาเนินงานก่อนนาไปสู่ การปฏิบตั ิจริงที่บงั เกิดผลอนั มีประสิทธิภาพสูงสุดตอ่ อุตสาหกรรมท่ีเลือกดาเนินการตามรูปแบบเครือข่าย วสิ าหกิจการท่องเท่ียวน้นั ตอ่ ไป 2.4.6 การจดั การโครงสร้างการทางานและระบบปฏิบตั ิงานของเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียว หลงั จากที่มียทุ ธศาสตร์และแผนปฏิบตั ิที่ชดั เจนและพร้อมท่ีจะดาเนินการแลว้ ข้นั ตอนตอ่ ไป คือการจดั โครงสร้างคณะทางานของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการท่องเที่ยว รวมท้งั การกาหนดระยะเวลาในแตล่ ะข้นั ตอน และระบุผรู้ ับผดิ ชอบในแตล่ ะข้นั ตอน โดยในโครงสร้างคณะทางานของเครือขา่ ยวสิ าหกิจการทอ่ งเที่ยวควร ประกอบดว้ ยตวั แทนจากแต่ละกลุ่มของผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย สมาชิกในเครือข่ายวสิ าหกิจควรมีการเลือกต้งั ประธานหรือผนู้ าของเครือข่ายวสิ าหกิจการท่องเท่ียวข้ึนมาและทาหนงั สือถึงหน่วยงานภาครัฐในทอ้ งถ่ินที่ เก่ียวขอ้ งใหท้ ราบถึงการจดั ต้งั ของเครือขา่ ยวสิ าหกิจ รวมท้งั เป้ าประสงคแ์ ละแผนปฏิบตั ิงานตา่ งๆ เพ่ือให้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 532
Pages: