Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Published by Teacher JA ครูจา, 2021-06-28 07:08:30

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Search

Read the Text Version

ใบงานที่ 1 ครงั้ ที่ ......... เรอื่ ง ความนา่ จะเป็น เร่อื ง ความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์ คำชีแ้ จง ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาใบความรจู้ นเข้าใจ แล้วปฏบิ ตั ิตามกจิ กรรมท่กี ำหนดให้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งกลุ่มผูเ้ รียนกลุ่มละ 2 – 3 คน 2. ผเู้ รียนแตล่ ะคนศึกษาใบความรู้ แลว้ ร่วมกันวเิ คราะหข์ ้อมลู โดยนำการสอบถามขอ้ มูลจากเพือ่ น ภายในกลุม่ พร้อมท้ังบันทึกผลลงใน ใบงาน ดงั นี้ 2.1 ความถนัดมอื ซ้าย 2.2 เพศของสมาชิกในกลุ่ม 2.3 เลอื กประธานกลุม่ 1 คน 3. นำผลจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมมารว่ มกนั อภิปรายภายในกลุ่ม 4. สรปุ ใบความรู้ พร้อมทั้งเตรียมนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน แนวทางการปฏิบตั กิ จิ กรรม แซมเปลิ สเปซ เหตกุ ารณ์ ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ เรอ่ื ง ความถนัดมือซ้าย เพศของสมาชกิ ในกลุ่ม เลือกประธานกล่มุ 1 คน

ใบงานท่ี 2 ครง้ั ท่ี ............ เรื่อง ความน่าจะเปน็ คำชีแ้ จง ให้ผเู้ รียนแสดงวธิ ที ำ พร้อมเขียนแผนภาพตน้ ไม้ประกอบดว้ ย เลือกทำเพยี ง 3 ขอ้ (ข้อละ 5 คะแนน) 1. ทอดลูกเต๋า 1 ลูก กำหนดให้ E เป็นเหตกุ ารณท์ ่ีจะได้แต้มน้อยกว่า 4 จงหาความน่าจะเป็นของ E หรือ P(E) ............................................................................................................................................................ 2. โยนเหรียญหน่ึงอนั สองครงั้ จงหาคา่ ความน่าจะเป็นท่ีจะเกิดหัวอยา่ งนอ้ ย 1 ครงั้ ……………………………………………………………………………………………………… 3. จงคำนวณหาความน่าจะเป็นของการหยิบไพ่ 1 ใบ ท่จี ะได้โพแดง ……………………………………………………………………………………………………… 4. มีลูกบาศก์ขนาดเท่า ๆ กนั 9 อัน เป็นสแี ดง 5 อัน สขี าว 4 อัน ถา้ นำลูกบาศก์เหล่าน้มี าเรยี ง เปน็ แถวยาว จงหาความน่าจะเป็นที่ทลี่ ูกบาศกส์ ีแดงอยหู่ ัวและทา้ ยแถว ………………………………………………………………………………………………… แนวทางคำตอบ ขอ้ 1. ตอบ ข้อ 2. ตอบ ขอ้ 3. ตอบ = ข้อ 4. ตอบ

ข้อสอบกลางภาคเรยี น คำชแี้ จง ขอ้ สอบจำนวน 30 ข้อ จงเลอื กขอ้ ทถี่ กู ทส่ี ุด 1. 2a X 2a X 2a X 2a เขยี นในรูปเลขยกกำลงั ไดด้ ังข้อใด 1. 2a4 2. 2a4 3. (2a)4 4. 42a 2. (-7) X (-7) X (-7) X (-7) X (-7) หมายถึงข้อใด 1. -75 2. (-7)5 3. (-5)7 4. -57 3. 22 X 25 มคี า่ ตรงกบั ข้อใด 1. 28 2. 128 3. 48 4. 144 4. ถ้า (ab)n = a5b5 แลว้ n มีคา่ ตรงกบั ข้อใด 1. 1 2. 10 3. 5 4. 25 5. 53 + 64 มคี า่ เทา่ กับข้อใด 1. 1,421 2. 1,241 3. 2,411 4. 4,211 จงใชข้ ้อมลู ตอบคำถามขอ้ 6-7 กำหนดให้ A = {1, 3, 5, 6, 8} B = {2, 3, 5, 8, 10} C = {1, 5, 9, 10} และ U = {1, 2, 3, …, 10}

6. A U B U C เทา่ กบั ข้อใด 1. A 2. C 3. B 4. U 7. (A‘ U C‘)‘ มคี า่ เท่ากับข้อใด 1. {1, 2} 2. {1, 5} 3. {3, 8, 10} 4. {5, 6, 9, 10} วชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จงใช้สถานการณน์ ้ีตอบคำถามขอ้ 7-9 จากการสำรวจผชู้ มโทรทัศน์ 80 คน พบวา่ มผี ู้ชอบข่าว 20 คน ชอบดูละคร 30 คน ชอบสารคดี 35 คน ชอบ สารคดีและข่าว 10 คน ชอบสารคดแี ละละคร 20 คน ชอบละครและข่าว 10 คน ชอบท้ังสามอยา่ ง 5 คน 7. มผี ูช้ มท่ชี อบชมละครอย่างเดยี วกคี่ น 1. 3 คน 2. 7 คน 3. 5 คน 4. 10 คน 8. มีผ้ทู ไ่ี มช่ อบดทู ั้งสามรายการกคี่ น 1. 10 คน 2. 30 คน 3. 20 คน 4. 40 คน 9. ขอ้ ใดกล่าวได้ถูกต้อง 1. มผี ู้ดูข่าวอยา่ งเดยี ว 6 คน 2. มผี ดู้ สู ารคดอี ย่างเดยี ว 9 คน 3. มผี ู้ดสู ารคดีนอ้ ยกว่าผ้ทู ่ีดูข่าว 4. มผี ดู้ ูโทรทศั นท์ ง้ั หมด 50 คน

10. จงหาคำตอบของสมการ 4x2 + 194x – 5 = 0 1. x = 1, -5 2. x = 1 , 5 4 3. x = 1 , -5 4. x = -1, -5 4 11. จงหาคำตอบของสมการ x2 – 6x + 5 = 0 1. x =1, 5 2. x =-1, 5 3. x = 1, -5 4. x = -1, -5 12. การแกอ้ สมการ 2x −1 + 2  x + 2 ข้อใดถกู ต้อง 1. x < -1 2. x > 1 3. x > -1 4. x < 1 13. จงหาเซตคำตอบทีส่ อดคลอ้ งกับอสมการ 2x + 425 1.  − 9 ,1 2.  − 9, 1   2  2 3.  9 ,− 1  4.  − 9 , 1  3 2  2 2 14. A = {1, 2, 7} และ B = {1, 2, 4, 5} AB ขอ้ ใดถกู 1. A B 17 AB 2. 24 AB 4. 25

4. A B 12 15. สมการ x2 = 5x + 50 ข้อใดถูกต้อง 1. x = -10, -5 2. x = -10, 5 3. x = 10, -5 4. x = 10, 5 16. จงแก้สมการ x2 – 2x – 3 = 0 ขอ้ ใดถูก 1. x = -3, 1 2. x = 3, -1 3. x = -3, -1 4. x = 2, -1 17. สมการ 3 – 5x = 2x -11 ข้อใดถกู ต้อง 1. x = 1 2. x = 2 3. x = 3 4. x = 4 18. เราสามารถเขียนเซตจำนวนเต็มที่มากกวา่ 5 และน้อยกวา่ 10 ตามขอ้ ใด 1. {6, 8, 10} 2. {6, 7, 9, 10} 3. {5, 6, 7, 8, 9, 10} 4. {6, 7, 8, 9} 19. 3, 5, 7, 9…. พจนท์ ว่ั ไปของลำดบั นี้คอื ขอ้ ใด 1. 2n 2. n2 + 1 3. 2n - 1 4. 3n2 + n – 1

20. 3, 6, 7, 5, 4, 8, 5 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตเทา่ กบั ข้อใด 1. 4.28 2. 5.43 3. 5.61 4. 6.72 21. สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของ 2, 4, 6,8, 10, 12 เท่ากับข้อใด 1. 2.76 2. 3.42 3. 3.57 4. 4.13 22. โยนลกู เต๋า 2 ลกู พร้อม ความน่าจะเปน็ ทจี่ ะได้แต้มเหมอื นกนั เปน็ เทา่ ใด 1. 1 2. 1 6 12 3. 2 4. 3 13 14 23. หยบิ ไพ่ 1 ใบจากสำรับ ความนา่ จะเป็นทจี่ ะไดไ้ พ่ K หรือ A เปน็ เทา่ ไร 1. 1 2. 2 4 13 3. 4 4. 8 13 12 24. มีลกู แกว้ สเี ขยี ว 3 ลูก สแี ดง 5 ลกู และสขี าว 8 ลูก ส่มุ หยิบ 1 ครัง้ ความน่าจะเป็นทจี่ ะหยบิ ไดล้ ูกแกว้ สีแดงเป็นเท่าไร 1. 3 2. 5 58 3. 3 4. 5 16 16 25. ทอดลกู เตา๋ 2 ลกู พร้อมกัน ความน่าจะเปน็ ที่จะได้แต้มของลกู เต๋าเปน็ จำนวนเฉพาะทั้งสองลูกเท่ากับขอ้ ใด 1. 1 2. 2 23 3. 1 4. 1 34

26. สำนกั งานกล่มุ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา กล่มุ ที่ 11 ดแู ลโรงเรียนในสังกัดทั้งหมดก่ี จงั หวดั และมที ั้งหมดกี่โรงเรียน 1. 4 จงั หวัด 42 โรงเรยี น 2. 4 จงั หวัด 43 โรงเรยี น 3. 4 จังหวดั 44 โรงเรยี น 4. 5 จังหวดั 43 โรงเรียน 27. สีกาหนงิ ขจี่ ักรยาน 20 กโิ ลเมตร ใช้เวลา 25 นาที อยากทราบวา่ ในเวลา 2 ชัว่ โมง สกี าหนิงจะขี่ จกั รยานได้กกี่ โิ ลเมตร 1. 80 กโิ ลเมตร 2. 86 กโิ ลเมตร 3. 90 กิโลเมตร 4. 96 กโิ ลเมตร 28. ต้ังแต่เลข 1 ถึง 1000 มเี ลข 0 อยทู่ ั้งหมดกตี่ ัว 1. 101 ตวั 2. 151 ตวั 3. 181 ตวั 4. 271 ตวั 29. เลข 2 จำนวนเรียงกนั คณู กนั ได้ 4,422 เลข 2 จำนวนนีบ้ วกกันจะได้เท่าไร 1. 123 2. 133 3. 143 4. 153 30.ในงานเลีย้ งศษิ ย์เก่าโรงเรยี นปรยิ ัติโกศลวิทยา มขี ้อตกลง ว่าทุกคนที่มาในงานจะต้องจับมือกนั และกันทกุ ๆ คน อยากทราบวา่ จะมีการจบั มือกันทั้งหมดก่คี ร้ัง ถ้ามีคน ท่มี าในงาน 40 คน 1. 400 คร้ัง 2. 600 ครั้ง 3. 680 ครงั้ 4. 780 คร้งั

แผนการจัดกจิ กรรม

มการเรยี นรู้คร้งั ท่ี 5

ตารางวิเคราะห์เนื้อหาสาระรายวชิ า หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 สาระการพัฒนาสังคม รายวชิ าสังคมศึกษา รหัส สค 31001 จำนวน 3 หนว่ ยกิต กศน.อำเภอบา้ นโปง่ สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ราชบุรี ระดบั ความยากง่าย วธิ กี ารจัดการเรียนรู้ หวั เร่ือง ตวั ชวี้ ดั เนอื้ หา งา่ ย ปาน ยาก กรต. พบ สอน ภมู ิศาสตร์ กลาง กลมุ่ เสรมิ กายภาพ 1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจ 1. สภาพภมู ศิ าสตร์   เกีย่ วกับสภาพทางภูมศิ าสตร์ กายภาพของประเทศ  กายภาพของประเทศไทยกบั ไทยกับทวีปเอเชีย ทวปี ต่างๆ ทวปี ยโุ รป ทวีป ออสเตรเลีย ทวีป 2. เปรยี บเทียบสภาพ แอฟริกา ทวปี อเมริกา  ภูมศิ าสตรก์ ายภาพของ 2. การเปรยี บเทยี บ ประเทศไทยกับทวปี ต่างๆ สภาพ 3. วิเคราะหเ์ หตุการณโ์ ลก ภมู ิศาสตรก์ ายภาพของ ปัจจุบัน และคาดคะเน ประเทศ เหตกุ ารณ์ท่ีอาจจะเกดิ ขึ้นกับ ไทยกับประเทศต่างใน ประเทศต่างๆในอนาคตได้ ในทวีปตา่ งๆ 3. สาเหตแุ ละลกั ษณะ การเกิดปรากฎการณ์  ธรรมชาติที่สำคญั ๆ รวมทง้ั การป้องกัน อันตรายเม่ือเกดิ - พายุชนิดต่างๆ - นำ้ ทว่ ม - แผ่นดินไหว - ภเู ขาไฟระเบดิ - ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์เรือน กระจก - อืน่ ๆ

หวั เร่อื ง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ระดบั ความยากง่าย วธิ ีการจัดการเรยี นรู้ ง่าย ปาน ยาก 4. วิธใี ชเ้ ครือ่ งมือทาง กรต. พบ สอน กลาง กลมุ่ เสริม ภูมิศาสตร์  - แผนท่ี  - ลกู โลก - เวบ็ ไซด์ - อื่นๆ 5. ปญั หาการทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม 6. การวเิ คราะห์สาเหตุ การเกิดปัญหา และ สภาพการทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมที่เกิด จากการกระทำของ มนษุ ย์ ในสภาพ 7.ปจั จบุ ัน และ แนวโน้มในอนาคต - ป่าไม้ - ภเู ขา - แมน่ ำ้ ลำคลอง หนอง บงึ ทะเล - ดนิ - สตั วป์ า่ สตั วน์ ำ้ - แรธ่ าตุ - มลพิษทางอากาศ - ปรากฏการณเ์ รือน กระจก - อ่นื ๆ - การป้องกันการ พังทลายของดนิ - การพฒั นาดนิ ให้อดุ ม สมบรู ณ์ เชน่ การปลูก ปา่ การปลกู หญา้ แฝก

หวั เรอ่ื ง ตวั ชีว้ ัด เนื้อหา ระดบั ความยากงา่ ย วธิ กี ารจัดการเรียนรู้ งา่ ย ปาน ยาก กรต. พบ สอน ฯลฯ กลาง กลมุ่ เสริม 8. ความเขม้ แขง็ ของ   ภาคประชาชนในการ   แกป้ ัญหาการทำลาย   ทรพั ยากรธรรมชาติ   และสงิ่ แวดล้อม (กรณี ตัวอย่าง) ประวัตศิ าสตร์ 1.อธบิ ายเหตุการณส์ ำคัญทาง 1.การแบง่ ชว่ งเวลา ประวัติศาสตร์ของประเทศ และยคุ สมยั ทาง ต่างๆ ในโลกได้ ประวัตศิ าสตร์ 2. วเิ คราะห์ และเปรียบเทยี บ 2. แหลง่ อารยธรรม เหตกุ ารณ์สำคัญทาง โลก ประวัตศิ าสตร์ของแตล่ ะ - จนี - อนิ เดยี ประเทศในโลก ทม่ี ีผลกระทบ - อียปิ ต์ - เมโสโปเตเมยี ตอ่ ความเปล่ียนแปลงของ - กรกี - โรมัน ประเทศตา่ งๆ ในโลก 3. ประวัตชิ าตไิ ทย - ธนบรุ ี 3. วเิ คราะหเ์ หตุการณโ์ ลก -รัตนโกสินทร์ ปจั จุบนั และคาดคะเน เหตุการณท์ ่ีอาจจะเกิดขน้ึ กบั ประเทศต่างๆในอนาคตได้ - ลักษณะการ เปล่ียนแปลงการ ปกครอง - เหตุการณ์ปัจจุบัน ที่มีผลต่อเน่ืองมาจาก ประวัติศาสตร์ไทย และประเทศต่างๆ ใน โลกที่ส่งผลถึงอนาคต เศรษฐศาสตร์ 1. วิเคราะหป์ ญั หาและ 1. ระบบเศรษฐกิจของ แนวโนม้ ทางเศรษฐกิจของ ประเทศไทย ประเทศไทยได้ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ 2. เสนอแนวทางการ และสงั คมแห่งชาติ แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ 2. ปญั หาเศรษฐกิจของ ของประเทศไทยใน ไทยในปัจจุบนั

หวั เร่อื ง ตัวชี้วัด เน้ือหา ระดบั ความยากง่าย วธิ กี ารจดั การเรยี นรู้ งา่ ย ปาน ยาก กรต. พบ สอน ปัจจุบันได้ 3. ความสำคัญและ กลาง กลมุ่ เสรมิ 3. รู้และเข้าใจ ตระหนักใน ความจำเปน็ ในการ     ความสำคญั ของการรว่ มกลมุ่ ร่วมมือทางเศรษฐกจิ   เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ กับประเทศต่างๆ   และประเทศต่างๆ ในโลก 4. ระบบเศรษฐกจิ ใน   4. รแู้ ละเข้าใจ ในระบบ โลก     เศรษฐกจิ แบบต่างๆ ในโลก 5. ความสัมพนั ธ์และ   5. รู้และเข้าใจความสัมพนั ธ์ ผลกระทบทาง และผลกระทบทางเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ ระหว่าง ระหว่างประเทศของประเทศ ประเทศ กับภมู ภิ าค ไทยกับกล่มุ เศรษฐกิจของ ต่างๆ ทัว่ โลก ประเทศตา่ งๆ ในภูมิภาค ใน 6. รปู แบบของระบบ โลก เศรษฐกิจ และวธิ ีการ 6. วเิ คราะหค์ วามสำคัญของ เลือกจดั กิจกรรมทาง ระบบเศรษฐกจิ และการเลอื ก เศรษฐกิจ จัดกจิ กรรมทางเศรษฐกิจของ 7 กลไกราคากบั ระบบ ประเทศต่างๆ ในโลก และ เศรษฐกจิ ในปจั จบุ นั ผลกระทบ - การแทรกแซงกลไก 7. เข้าใจใจในเรือ่ งกลไกราคา ราคาของรฐั บาลในการ กบั ระบบเศรษฐกิจ สง่ เสริม และแก้ไข 8. ร้แู ละเข้าใจในเร่ืองการเงนิ ระบบเศรษฐกิจ การคลัง และการธนาคาร 8. ความหมาย 9. เข้าใจในระบบของการ ความสำคญั ของเงิน ธนาคาร ประเภท สถาบัน 10. ตระหนักในความสำคัญ การเงิน และสถาบนั ของเงิน สถาบนั การเงนิ ทางการเงนิ 11.วเิ คราะหผ์ ลกระทบจาก 9. การธนาคาร ปญั หาทางเศรษฐกจิ ในเร่ือง - ระบบของธนาคาร การเงนิ การคลงั ของประเทศ - ประเภทของ ธนาคาร ไทย และสงั คมโลกได้ - บทบาทหนา้ ที่ของ 12. รแู้ ละเข้าใจเรอื่ ง ธนาคาร แผนพฒั นา เศรษฐกจิ และ แหง่ ประเทศไทย สงั คมแห่งชาติ (ธนาคารกลาง) 10. การคลัง รายได้

หัวเรื่อง ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา ระดบั ความยากง่าย วธิ ีการจดั การเรยี นรู้ ง่าย ปาน ยาก กรต. พบ สอน การเมืองการ 1. รแู้ ละเข้าใจ ระบอบ ประชาชาติ ปกครอง การเมืองการปกครองตา่ งๆ ที่ - รายไดข้ องรัฐบาล กลาง กลมุ่ เสริม ใช้อยู่ปจั จุบัน 2. ตระหนกั และเหน็ คุณคา่ และการจัดทำ   การปกครองระบอบ งบประมาณแผน่ ดิน   ประชาธปิ ไตย   3. รแู้ ละเขา้ ใจ ผลทเ่ี กิดจาก - ภาษีกับการพัฒนา   การเปลีย่ นแปลงทางการเมือง ประเทศ   การปกครอง ของประเทศไทย จากอดตี - ดลุ การค้า   4. รแู้ ละเขา้ ใจผลทเี่ กดิ จาก - ดลุ การชำระเงิน การเปล่ยี นแปลงการเมืองการ 11. ปัญหาเศรษฐกิจ ปกครองของโลก ในประเทศไทยประเทศ 5. ตระหนักและเหน็ คุณค่า ต่างๆในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของหลกั ของโลก 12.แผนพฒั นา เศรษฐกิจ และ สังคมแห่งชาติ ฉบบั ปจั จบุ ัน -ผลของการใช้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติ 1.การปกครองระบอบ ประชาธิปไตย 2. การปกครองระบอบ เผดจ็ การ พฒั นาการ ของระบอบ ประชาธปิ ไตยของ ประเทศตา่ งๆ ในโลก 3. เหตกุ ารณส์ ำคญั ทางการเมืองการ ปกครอง ของประเทศ ไทย 4. เหตุการณ์สำคญั ทางการเมอื งการ ปกครอง ของโลกที่ ส่งผลกระทบต่อ ประเทศไทย

หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ดั เนอ้ื หา ระดบั ความยากงา่ ย วธิ กี ารจดั การเรียนรู้ ง่าย ปาน ยาก กรต. พบ สอน กลาง กลมุ่ เสรมิ ธรรมาภบิ าล และนำไปปฏิบัติ 5. หลักธรรมาภบิ าล ในชีวิตจรงิ ได้ - นิตธิ รรม - คุณธรรม - ความโปรง่ ใส - ความคมุ้ คา่ - รบั ผดิ ชอบ – ความ ร่วมมอื แนวทางปฏิบัติตาม หลักธรรมาภบิ าล

แผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอ สาระพฒั นาสงั คม รายวิชาสังคมศกึ ษา คร้งั ที่ วนั /เดอื น/ปี หัวเรือ่ ง/ตัวช้ีวดั เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพ 1. สภาพภูมศิ าสตรก์ ายภาพ 1. มีความรูค้ วามเข้าใจ ของประเทศไทยกับทวปี เอเชีย เกย่ี วกบั สภาพทาง ทวีปยุโรป ทวปี ออสเตรเลีย ภูมศิ าสตรก์ ายภาพของ ทวปี แอฟริกา ทวปี อเมริกา ประเทศไทยกับทวปี 2. การเปรียบเทียบสภาพ ต่างๆ ภมู ศิ าสตร์กายภาพของประเทศ 2. เปรียบเทยี บสภาพ ไทยกบั ประเทศตา่ งในในทวีป ภมู ิศาสตร์กายภาพของ ตา่ งๆ ประเทศไทยกับทวีป 3.สาเหตแุ ละลกั ษณะการ ตา่ งๆ เกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ 3. มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทส่ี ำคัญๆรวมทั้งการป้องกนั เมือ่ ในปรากฏการณ์ทาง เกิด ธรรมชาตทิ ่ีเกิดขนึ้ ในโลก -พายชุ นดิ ตา่ งๆ 4. มีทักษะการใช้ -น้ำทว่ ม เคร่อื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ -แผน่ ดินไหว ที่สำคญั ๆ -ภูเขาไฟระเบดิ 5. รู้วิธีปอ้ งกันตนเองให้ -ภาวะโลกรอ้ น ปรากฏการณ์

อนปลาย ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 า รหัส สค31001 จำนวน 3 หนว่ ยกติ การจัดกระบวนการเรียนรู สื่อ/แหล่ง การวดั และ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ 1. หนังสอื แบบทดสอบ 1. พูดคุยซักถามเกี่ยวกับปญั หา แบบเรียน ใบงาน สภาพแวดล้อมในปจั จุบัน 2. สือ่ มัลตมิ เี ดีย เล่มรายงาน 2. ทบทวน/ตดิ ตาม ผลการเรียนรูด้ ้วย 3. อินเทอร์เน็ต สังเกต ตนเอง 4. ใบความรู้ พฤติกรรม 3. ทบทวนและติดตามผลการศึกษา ค้นควา้ ในสปั ดาห์ท่ีผา่ นมา ขั้นท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1.ครใู ห้ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรู้พร้อม อธบิ ายเร่อื งภูมิศาสตร์กายภาพและให้ ผู้เรยี นร่วมกนั สรุปความรอู้ ภิปรายให้ เพือ่ นฟงั 2.ครอู ธิบายถึงสาเหตุและลกั ษณะการ เกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติท่ีสำคญั ๆ และยกตวั อยา่ งภัยธรรมชาติ 3.ให้ผเู้ รยี นศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ใน 97

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี หัวเรอื่ ง/ตัวชี้วดั เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ ปลอดภัยเม่อื เกดิ ภัยจาก เรอื นกระจก ปรากฏการณธ์ รรมชาติ -อน่ื ๆ 6. สามารถวิเคราะห์ 5. ปัญหาการทำลาย แนวโนม้ และวิกฤต ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก สง่ิ แวดลอ้ ม การกระทำของมนษุ ย์ 6. การวิเคราะหส์ าเหตุการเกิด 7. มีความรู้ความเขา้ ใจ ปัญหา และสภาพการทำลาย ในการใชน้ วตั กรรม และ ทรพั ยากรธรรมชาติ และ เทคโนโลยีด้าน ส่งิ แวดลอ้ มทเ่ี กดิ จากการ สงิ่ แวดลอ้ มเพ่ือพฒั นา กระทำของมนษุ ย์ ในสภาพ ทรพั ยากรธรรมชาติและ ปัจจุบนั และแนวโนม้ ในอนาคต สง่ิ แวดลอ้ มที่ยัง่ ยนื - ป่าไม้ - ภูเขา - แม่นำ้ ลำคลอง หนอง บงึ ทะเล - ดนิ - สตั ว์ปา่ สัตว์น้ำ - แร่ธาตุ - มลพิษทางอากาศ - ปรากฏการณ์เรือนกระจก - อืน่ ๆ

การจัดกระบวนการเรียนรู สอื่ /แหล่ง การวัดและ เรยี นรู้ ประเมนิ ผล เร่อื งการใชส้ ารเคมี ในชีวติ ประจำวัน จากครอบครัว ชุมชน รพ.สต จดั ทำ เป็นแผน่ พับ มาอธิบายให้เพื่อนฟงั ใน การพบกลุม่ ที่ กศน.ตำบล และนำไป ประชาสมั พนั ธ์ใหค้ รอบครวั ชุมชน ทราบถึงวิธกี ารใช้สารเคมที ี่ถูกตอ้ งและ ปลอดภยั 4.ให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาคน้ ควา้ ถงึ สาเหตุทีท่ ำ ให้เกดิ ภาวะโลกรอ้ น และวิธลี ด/ปอ้ งกนั โลกร้อน จากอินเตอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ วารสาร จัดทำเปน็ เลม่ รายงาน และ นำมาแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กบั เพื่อนในการ พบกลุ่มที่ กศน.ตำบล 5.ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาค้นคว้าถึงสาเหตุที่ กอ่ ให้เกิดมลภาวะทางสงิ่ แวดล้อมจาก อินเตอรเ์ น็ต หนงั สอื พมิ พ์ วารสาร ห้องสมุด ปา้ ยประกาศตา่ งๆ แล้วผเู้ รียน สรุปความที่ไดจ้ ากการศกึ ษาค้นควา้ นำมาแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กบั เพื่อน ใน การพบกลุ่มที่ กศน.ตำบล

- การปอ้ งกันการพงั ทลายของ ดนิ - การพัฒนาดินให้อดุ มสมบูรณ์ เชน่ การปลกู ปา่ การปลกู หญ้า แฝก ฯลฯ

ขั้นที่ 3. ขน้ั การปฏิบัติและการนำไป ประยกุ ตใ์ ช้ - ครูและนักศึกษาร่วมกันสรุปผลการ เรียนรู้ จดบันทกึ ผลการเรียนรู้ ขั้นที่ 4. ข้ันการประเมินผล - ประเมินผลการเรียนรู้จากการมีส่วน รว่ มโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มนกั ศึกษา

ใบความรู้ ภมู ศิ าสตร์ กายภาพ เร่ือง ภมู ศิ าสตร์ กายภาพ ภูมศิ าสตร์กายภาพประเทศไทย ทำเลทต่ี ้ัง ประเทศไทยต้ังอยู่ในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ซึ่งประกอบดว้ ยส่วนทีเ่ ป็นแผน่ ดินใหญห่ รอื เรียกว่า คาบสมทุ รอินโดจนี หรือแหลมทอง และสว่ นทเ่ี ปน็ หมู่เกาะใหญน่ ้อยหลายพันเกาะ ตัง้ อยู่ในแหลมทองระหวา่ งละตจิ ดู 5 องศา 37 ลปิ ดาเหนือกบั 20 องศา22 ลิปดาเหนือ และลองจจิ ูด 97 องศา 22 ลิปดาตะวันออก กบั 105 องศา 37 ลิปดา ตะวันออก ขนาด ประเทศไทยมีเนอื้ ท่ี 513,115 ตารางกโิ ลเมตร ถ้าเปรยี บเทียบขนาดของประเทศไทยกับประเทศใน ภูมภิ าค เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตด้ วั ยกนั แลว้ จะมีพ้ืนทีข่ นาดใหญ่เปน็ อนั ดับที่สาม รองจากอนิ โดนเี ซียและพม่า ความยาว ของประเทศวดั จาก เหนือสุด ที่อำเภอแมส่ ายจังหวัดเชยี งรายไปจดใตส้ ดุ ท่ีอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประมาณ 1,260 กโิ ลเมตร สว่ นความกว้างมากท่ีสดุ วดั จากดา่ นพระเจดีย์สามองค์อำเภอสงั ขละบุรี จังหวดั กาญจนบุรีไปจดตะวนั ออกสดุ ที่ อำเภอสิรนิ ธร จงั หวัดอบุ ลราชธานี ยาวประมาณ 780 กิโลเมตร สำหรับสว่ นทแี่ คบทสี่ ุดของประเทศไทยอยูใ่ นเขตจังหวัด ประจวบครี ขี นั ธว์ ัดจากพรมแดนพม่า ถึงฝงั่ ทะเลอา่ วไทยเป็นระยะทางประมาณ 10.5 กิโลเมตร อาณาเขตตดิ ต่อ ประเทศไทยมอี าณาเขตตดิ ต่อกบั ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ 4 ประเทศคือ พมา่ ลาว กัมพชู า และมาเลเซียรวมความยาวของพรมแดนทางบก ประมาณ 5,300 กิโลเมตร และมีอาณาเขตตดิ ต่อกับชายฝ่ังทะเลยาว 2,705 กิโลเมตร คอื แนวฝงั่ ทะเลด้านอา่ วไทย ยาว 1,840 กิโลเมตร และแนวชายฝ่งั ด้านทะเลอันดามนั ยาว 865 กิโลเมตร 1. เขตแดนท่ตี ดิ ต่อกบั พมา่ เริม่ ต้นท่อี ำเภอแม่สายจังหวัดเชยี งรายไปทางตะวนั ตกผ่านท่ีจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไป ส้นิ สดุ ท่ีจังหวัดระนอง จงั หวดั ชายแดนดา้ นนีม้ ี 10 จังหวัดคอื เชียงราย เชยี งใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบครี ขี นั ธ์ ชุมพร และ ระนอง มที วิ เขา 3 แนว เปน็ เส้นกั้นพรมแดน ได้แก่ ทวิ เขาแดนลาว ทวิ เขาถนนธงชัย และทวิ เขาตะนาวศรี นอกจากน้นั ยงั มแี ม่น้ำสายส้ันๆ เปน็ แนวกนั้ พรมแดนอยู่อกี คอื แม่น้ำเมย จังหวัดตากและแมน่ ำ้ กระบุรี จังหวัดระนอง 2. เขตแดนทตี่ ิดต่อกบั ลาว เขตแดนด้านนี้ เร่มิ ตน้ ท่ีในอำเภอเชียงแสน ไปทางตะวนั ออกผ่านทอี่ ำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายเข้าสูจ่ งั หวัดพะเยา ไปส้นิ สุดทีจ่ งั หวัดอบุ ลราชธานีดนิ แดนทตี่ ดิ ต่อกับลาวมี 11 จงั หวดั คอื เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณโุ ลก เลยหนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอบุ ลราชธานี มแี ม่นำ้ โขงเปน็ เสน้ กน้ั พรมแดนทางนำ้ ที่สำคญั สว่ นพรมแดนทางบกมีทิวเขาหลวงพระบางก้ันทางตอนบนและทิว เขาพนมดงรักบางสว่ นกนั้ เขต แดนตอนล่าง เขตแดนท่ีติดต่อกบั กมั พูชา เรมิ่ ตน้ ที่พนื้ ที่บางสว่ นของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนล่าง

3. จากอำเภอน้ำยนื จงั หวัดอุบลราชธานี มาทางทศิ ตะวนั ตก แล้ววกลงใตท้ ีจ่ ังหวดั บรุ รี มั ย์ ไปส้ินสุดที่จังหวัดตราด จังหวัดชายแดนท่ตี ิดต่อกับกัมพชู า มี 7 จงั หวดั คืออุบลราชธานี ศรีสะเกษ สรุ ินทร์ บุรีรัมย์ สระแกว้ จนั ทบรุ ี และ ตราด มี ทวิ เขาพนมดงรักและทวิ เขาบรรทัดเปน็ เส้นกัน้ พรมแดน 4. เขตแดนทต่ี ดิ ต่อกับมาเลเซยี ไดแ้ ก่ เขตแดนทางใต้สุดของประเทศ ในพน้ื ท่ี 4 จงั หวัด คือ สตลู สงขลา ยะลา และนราธิวาส มแี นวเทือกเขาสันกาลาคีรี และแม่น้ำโก-ลกจงั หวัดนราธิวาสเปน็ เสน้ ก้ันพรมแดน ภาคเหนอื ภาคเหนอื ประกอบด้วยพ้ืนท่ีของ 9 จังหวัด ไดแ้ ก่ 1. เชยี งราย 2. แม่ฮ่องสอน 3.พะเยา 4. เชียงใหม่ 5. น่าน 6. ลำพนู 7. ลำปาง 8. แพร่ 9. อุตรดิตถ์ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทัว่ ไป เป็นเทือกเขาสงู ทอดยาวขนานกันในแนวเหนอื -ใต้ และระหว่างเทือกเขาเหล่าน้ีมที ี่ราบ และมีหุบเขาสลับอยู่ท่ัวไปเทือกเขาทส่ี ำคัญ คือ เทือกเขาหลวงพระบาง เทือกเขาแดนลาว เทอื กเขาถนนธงชยั เทือก เขาผีปนั นำ้ เทอื กเขาขุนตาลและเทอื กเขาเพชรบรู ณ์ ยอดเขาทีส่ ูงทส่ี ุดในภาคนี้ ไดแ้ ก่ ยอดอนิ ทนนท์ อยู่ใน จงั หวัดเชียงใหม่ มีความสูงประมาณ2,595 เมตร เทือกเขาในภาคเหนอื เปน็ แหลง่ กำเนิดของแม่นำ้ สายยาว 4 สาย ไดแ้ ก่ แม่นำ้ ปิง วัง ยม และน่าน แม่นำ้ ดงั กล่าว นี้ไหลผ่านเขตทีร่ าบหุบเขา พ้นื ที่ท้งั สองฝงั่ ลำน้ำจงึ มดี ินอดุ มสมบูรณเ์ หมาะแก่การ เพาะปลูก ทำให้มีผคู้ นอพยพไปตงั้ หลกั แหล่งในบรเิ วณดังกล่าวหนาแน่นนอกจากนภ้ี าคเหนือยงั มีแมน่ ำ้ สายส้ันๆ อกี หลายสาย ได้แก่แมน่ ้ำกก และแม่นำ้ องิ ไหลลงสู่ แมน่ ้ำโขง ส่วนแม่นำ้ ปายแม่น้ำเมย และแม่นำ้ ยม ไหลลงสู่ แม่น้ำสาละวนิ ภาคกลาง ภาคกลางประกอบดว้ ยพื้นที่ของ 22 จังหวัด ไดแ้ ก่ 1.สุโขทยั 2.พษิ ณุโลก3.กำแพงเพชร 4.พจิ ติ ร 5.เพชรบูรณ์(ภาคกลางตอนบน) 6.นครสวรรค์ 7.อทุ ยั ธานี 8.ชัยนาท 9.ลพบุรี 10.สิงหบ์ ุรี 11.อ่างทอง 12.สระบุรี 13.สุพรรณบรุ ี 14.พระนครศรอี ยุธยา 15.นครนายก 16.ปทุมธานี 17.นนทบรุ ี 18.นครปฐม19. กรุงเทพมหานคร 20. สมุทรปราการ 21. สมุทรสาคร 22. สมทุ รสงคราม ลกั ษณะภมู ิประเทศทวั่ ไป เป็นทร่ี าบดนิ ตะกอนทล่ี ำน้ำพัดมาทบั ถม ในบรเิ วณทรี่ าบน้ีมีภเู ขาโดดๆ ซ่งึ สว่ นใหญ่เป็น ภเู ขาหินปูนกระจาย อยู่ทว่ั ไป ภูมิประเทศตอนบนของภาคกลางเปน็ ท่รี าบลูกฟูก คือเปน็ ทสี่ งู ๆต่ำๆ และมภี เู ขาที่มแี นว ต่อเน่ืองจากภาคเหนือ เขา้ มาถงึ พนื้ ที่บางส่วนของจังหวดั พิษณโุ ลก และเพชรบูรณ์ สว่ นพ้ืนทต่ี อนล่างของภาคกลาง นนั้ เป็นดนิ ดอนสามเหลี่ยมปากแมน่ ้ำ เจ้าพระยา ซ่ึงเกิดจากการรวมตัวของแมน่ ำ้ ปงิ วัง ยมน่าน นอกจากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วตอนล่างของภาคกลางยงั มีแมน่ ้ำไหลผ่านอีกหลายสายไดแ้ ก่ แม่นำ้ แม่กลอง แมน่ ้ำทา่ จนี แมน่ ำ้ ปา่ สัก และแม่น้ำ นครนายก เขตนี้เป็นทรี่ าบกว้างขวางซงึ่ เกดิ จากดนิ ตะกอน หรอื ดนิ เหนยี วทแี่ มน่ ำ้ พดั พามาทบั ถมเปน็ เวลานาน จึงเป็นพื้นท่ี ทอ่ี ุดมสมบูรณ์เหมาะแกก่ ารเพาะปลูกมาก และเปน็ เขตที่มีประชากรมากทีส่ ดุ ในประเทศไทยฉะนน้ั ภาคกลางจงึ ได้ช่ือว่าเปน็ อู่ ข้าว อนู่ ำ้ ของไทยแม่น้ำเจา้ พระยา

ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ประกอบด้วยพ้นื ที่ของ 19 จงั หวดั ไดแ้ ก่ 1.เลย2.หนองคาย 3.อดุ รธานี 4.สกลนคร 5.นครพนม 6.ขอนแก่น 7.กาฬสินธ์ุ 8.มุกดาหาร9.ชยั ภูมิ 10.มหาสารคาม 11.รอ้ ยเอ็ด 12.ยโสธร 13.นครราชสีมา 14.บรุ ีรมั ย์ 15. สรุ นิ ทร์16.ศรีสะเกษ 17.อบุ ลราชธานี 18.อำนาจเจริญ 19.หนองบัวลำภู ลักษณะภมู ปิ ระเทศทว่ั ไป มลี ักษณะเป็นแอ่งคลา้ ยจาน ลาดเอยี งไปทางตะวนั ออก เฉยี งใต้มีขอบเป็นภเู ขาสูงทางตะวันตกและทางใต้ขอบทางตะวันตก ได้แก่ เทือกเขา เพชรบรู ณ์ และเทือกเขาดงพญาเย็น สว่ นทางใต้ ได้แก่ เทือกเขาสนั กำแพง และเทือกเขาพนม ดงรกั พื้นท่ีด้านตะวนั ตกเป็นท่ีราบสงู เรียกว่า ทรี่ าบสูงโคราช ภเู ขาบริเวณนเี้ ป็นภูเขา หินทราย ที่รจู้ ักกนั ดีเพราะเป็นแหล่งทอ่ งเท่ียว คือ ภูกระดึง ภูหลวง ในจังหวัดเลย แมน่ ้ำท่ี สำคัญของภาคน้ีได้แก่ แมน่ ้ำชี และแม่นำ้ มูล ซ่ึงมีแหล่งกำเนิดจากเทือกเขาทางทศิ ตะวันตก และทางใต้แลว้ ไหลลงสู่ แม่น้ำโขง ทำให้สองฝัง่ แมน่ ำ้ เกิดเป็นท่รี าบนำ้ ทว่ มถงึ เป็นตอนๆพนื้ ทีร่ าบในภาคะวนั ออกเฉยี งเหนอื มักมีทะเลสาบรูปแอ่ง เป็นจำนวนมาก แต่ทะเลสาบเหลา่ นี้จะมนี ้ำเฉพาะฤดฝู นเท่านนั้ เมื่อถึงฤดรู ้อนนำ้ กจ็ ะเหือดแห้งไปหมด เพราะดินส่วนใหญ่ เปน็ ดินทรายไม่อมุ้ นำ้ นำ้ จึงซมึ ผ่านไดเ้ ร็ว ภาคน้ีจงึ มปี ัญหาเรอ่ื งการขาดแคลนนำ้ และดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ พ้ืนที่บางแหง่ ไม่สามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการเกษตรได้อย่างเตม็ ที่ เชน่ ท่งุ กุลาร้องไห้ซง่ึ มีเน้ือทถ่ี ึงประมาณ 2 ล้านไร่ ครอบคลุมพืน้ ท่ี 5 จงั หวดั ได้แกร่ อ้ ยเอ็ด สรุ นิ ทร์ มหาสารคามยโสธร และศรสี ะเกษ ซงึ่ ปัจจุบันรัฐบาลไดพ้ ยายามปรับปรงุ พ้ืนทีใ่ ห้ดีขึ้น โดยใชร้ ะบบชลประทานสมยั ใหม่ ทำใหส้ ามารถเพาะปลูกไดจ้ นกลายเปน็ แหลง่ เพาะปลูกข้าวหอมมะลทิ ่ี ดที ่ีสดุ แหง่ หน่ึงของประเทศไทย แต่ก็ปลูกได้เฉพาะหน้าฝนเท่าน้นั หน้าแลง้ สามารถทำการเพาะปลกู ได้เฉพาะบางส่วนเท่านั้น ยังไมค่ รอบคลุมบริเวณทั้งหมด ภาคตะวนั ตก ภาคตะวันตก ประกอบด้วยพื้นท่ีของ 5 จงั หวัด ไดแ้ ก่ 1.ตาก 2.กาญจนบรุ ี 3.ราชบุรี 4.เพชรบรุ ี 5.ประจวบครี ีขนั ธ์ ลกั ษณะภูมิประเทศทัว่ ไป สว่ นใหญเ่ ปน็ เทือกเขาสงู ไดแ้ ก่ เทือกเขาถนนธงชยั และเทือกเขาตะนาวศรีเปน็ แนวภูเขาท่ีซับซ้อนมที ่ีราบแคบๆ ในเขตหบุ เขาเปน็ แห่งๆ และ มีทร่ี าบเชิงเขาตอ่ เน่ืองกบั ทีร่ าบภาคกลางเทือกเขาเหลา่ น้ีเปน็ แหลง่ กำเนิดของ แมน่ ํ้าแควนอ้ ย (แมน่ ำ้ ไทรโยค) และแมน่ ้ำแควใหญ่ (ศรสี วัสด์ิ) ซ่ึงไหลมาบรรจบกนั เปน็ แมน่ ้ำแม่กลอง ระหวา่ งแนวเขามีชอ่ งทาง ตดิ ต่อกับพม่าได้ ทส่ี ำคัญคือ ดา่ นแม่ละเมาในจังหวดั ตาก และดา่ นพระเจดยี ์สามองค์ ในจังหวัดกาญจนบุรี ภาคตะวันออก

ภาคตะวันออก ประกอบดว้ ยพ้ืนทข่ี อง 7 จงั หวัดไดแ้ ก่ 1.ปราจีนบรุ ี 2.ฉะเชงิ เทรา 3.ชลบรุ ี 4.ระยอง 5.จันทบรุ ี 6. ตราด 7.สระแก้ว ลกั ษณะภูมิประเทศท่ัวไป คือ เปน็ ทร่ี าบใหญอ่ ยทู ่ างตอนเหนอื ของภาค มีเทือกเขาจนั ทบุรีอยทู่ างตอนกลางของ ภาคมเี ทือกเขาบรรทดั อยทู่ างตะวนั ออกเปน็ พรมแดนธรรมชาตริ ะหว่างประเทศไทยกบั ประเทศกมั พชู า และมีทรี่ าบชายฝั่ง ทะเลซง่ึ อยรู่ ะหว่างเทือกเขาจันทบุรกี บั อ่าวไทย ถึงแมจ้ ะเป็นทร่ี าบแคบๆ แตก่ ็เป็นพืน้ ดนิ ที่อุดมสมบรู ณเ์ หมาะสำหรับ การปลูกไม้ผล ในภาคนมี้ ีจงั หวดั ปราจนี บรุ แี ละจงั หวดั สระแก้วเปน็ จงั หวดั ทีไ่ ม่มีอาณาเขตจดทะเล นอกนน้ั ทุกจังหวดั ลว้ นมี ทางออกทะเลทั้งสน้ิ ชายฝั่งทะเลของภาคเรมิ่ จากแมน่ ้ำบางปะกง จงั หวัดฉะเชิงเทราไปถงึ แหลมสารพัดพิษ จงั หวัดตราด ยาวประมาณ 505 กิโลเมตรเขตพน้ื ทช่ี ายฝ่ังของภาคมแี หลมและอ่าวอยู่เปน็ จำนวนมากและมีเกาะใหญ่น้อยเรยี งรายอยู่ ไมห่ า่ งจากฝัง่ นกั เชน่ เกาะชา้ ง เกาะกดู เกาะสชี งั เกาะลา้ น เปน็ ตน้ อ่าวมะนาว จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เกาะสีชงั ภาคใต้ ภาคใตป้ ระกอบดว้ ยพืน้ ท่ีของ 14 จงั หวัดไดแ้ ก่ 1.ชมุ พร 2.สุราษฎร์ธานี 3.นครศรธี รรมราช 4.พัทลุง 5.สงขลา 6.ปตั ตานี 7.ยะลา 8.นราธวิ าส 9.ระนอง 10.พงั งา 11.กระบี่ 12.ภเู ก็ต 13.ตรงั 14.สตลู ลักษณะภมู ิประเทศทวั่ ไป เป็นคาบสมทุ รยืน่ ไปในทะเล ทางตะวันตกของคาบสมุทรมีเทือกเขาภเู กต็ ทอดตัวเลยี บ ชายฝ่ังไปจนถึงเกาะภูเก็ต ตอนกลางของภาคมีเทอื กเขานครศรธี รรมราช สว่ นทางตอนใต้สดุ ของภาคใตม้ ีเทอื กเขาสันกาลา คีรี วางตวั ในแนว ตะวันออก-ตะวันตก และเปน็ พรมแดนธรรมชาตกิ น้ั ระหว่างไทยกับมาเลเซียดว้ ยพน้ื ทที่ างชายฝัง่ ตะวนั ออก มีทร่ี าบมากกว่าชายฝงั่ ตะวนั ตก ไดแ้ ก่ ทร่ี าบในเขตจงั หวัดนครศรีธรรมราชพัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธวิ าส ชายฝัง่ ทะเล ดา้ นตะวันออกของภาคใต้มชี ายหาดเหมาะสำหรบั เป็นท่ตี ากอากาศหลายแห่ง เชน่ หาดสมิหลา จงั หวัดสงขลาและหาดนรา ทศั น์ จงั หวดั นราธวิ าส เปน็ ต้น เกาะทส่ี ำคัญทางดา้ นน้ี ได้แก่ เกาะสมุยและเกาะพงัน ส่วนชายฝง่ั ทะเลดา้ นมหาสมทุ รอนิ เดยี มเี กาะท่ีสำคญั คือ เกาะภูเกต็ เกาะตรเุ ตา เกาะยาวและเกาะลันตานอกจากนี้ ในเขตจงั หวดั สงขลาและพัทลุงยังมีทะเลสาบ เปิด (lagoon) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหน่ึงในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ คอื ทะเลสาบสงขลา มีความยาวจากเหนือจดใตป้ ระมาณ 80 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างทีส่ ดุ ประมาณ 20 กโิ ลเมตร คิดเป็นเนื้อทป่ี ระมาณ 974 ตารางกโิ ลเมตร สว่ นเหนือสุดของทะเลสาบ เปน็ แหลง่ น้ำจดื เรียกวา่ ทะเลน้อย แตท่ างสว่ นล่างนำ้ ของทะเลสาบจะเค็ม เพราะมีน่านน้ำตดิ กับอา่ วไทย นำ้ ทะเลจึงไหลเข้า มาได้ ในทะเลสาบ สงขลามเี กาะอยู่หลายเกาะ บางเกาะเปน็ ทที่ ำรังของนกนางแอ่น บางเกาะเปน็ ท่ีอยู่ของเต่า ทะเล นอกจากนใี้ นทะเลสาบยงั มี ปลา และกุ้งชกุ ชมุ อีกดว้ ย สว่ นชายฝง่ั ทะเลดา้ นตะวนั ตกของภาคใต้มีลกั ษณะเวา้ แหว่งมากกวา่ ด้านตะวนั ออก ทำใหม้ ีทวิ ทัศน์ท่ีสวยงามหลาย แหง่ เช่น หาดนพรัตนธ์ ารา จงั หวัดกระบ่ี หมู่เกาะซิมิลัน จังหวัดพังงา ชายฝ่งั ตะวนั ตกของ ภาคใต้จึงเปน็ สถานท่ีท่องเทยี่ วทีส่ ำคัญแห่งหนึง่ ของประเทศ แม่น้ำในภาคใต้ ส่วนใหญ่เปน็ แมน่ ำ้ สายสั้นๆ ไหลจากเทือกเขาลงสูท่ ะเล ที่สำคญั ได้แก่ แมน่ ้ำโก-ลกซง่ึ กั้นพรมแดนไทยกบั มาเลเซยี ในจังหวดั นราธิวาส แมน่ ้ำกระบุรีซ่งึ กั้น พรมแดนไทยกับพมา่ ในเขตจังหวดั ระนองแม่นำ้ ตาปีในจงั หวัดสรุ าษฏรธ์ านี และแมน่ ำ้ ปัตตานใี นจังหวดั ยะลาและปตั ตานี ทวปี เอเชีย 1. ขนาดที่ต้งั และอาณาเขตติดต่อ ทวีปเอเชยี เป็นทวปี ที่มีขนาดใหญ่ท่สี ดุ มีพนื้ ที่ประมาณ 44 ลา้ นตารางกิโลเมตร เปน็ ทวปี ท่มี ีพน้ื ท่ีกวา้ งท่ีสุดในโลกตง้ั อย่ทู างทศิ ตะวันออกของโลก ทวีปเอเชยี ต้งั อยูร่ ะหว่างละติจดู 1 องศา 15 ลปิ ดาเหนอื ถึง 77 องศา 41 ลปิ ดาเหนอื และลองติจูด 24 องศา 4ลปิ ดา ตะวนั ออกถึง 169 องศา 40 ลปิ ดาตะวนั ตก

อาณาเขตตดิ ต่อ ทิศเหนอื ติดกบั มหาสมทุ รอารก์ ติก ทศิ ใต้ ตดิ กบั มหาสมุทรอินเดีย ทศิ ตะวันออก ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทศิ ตะวันตก ติดกบั เทอื กเขาอูราล ทวปี ยโุ รป 2. ลักษณะภูมิประเทศของทวีปเอเชียทวีปเอเชียมีลักษณะเด่นคือ มีภูมิประเทศท่ีเป็นภูเขาสูงอยู่เกือบใจกลางทวีป ภูเขาดังกล่าวทำหน้าทเ่ี หมือนหลังคาโลกเพราะเปน็ จุดรวมของเทือกเขาสำคญั ๆ ในทวีปเอเชียจุดรวมสำคัญ ได้แก่ ปามีร์นอต ยูนนานนอต และอามเี นียนนอต เทือกเขาสงู ๆ ของทวีปเอเชียวางแนวแยกย้ายไปทกุ ทิศทุกทางจากหลังคาโลกเช่น เทือกเขา หมิ าลยั เทอื กเขาคนุ ลุน้ เทือกเขาเทยี นชาน เทอื กเขาอัลตินตกั เทือกเขาฮนิ ดูกูซ เทือกเขาสไุ ลมาน ยอดเขาเอเวอรเ์ รสต์ มีระดับสูง 8,850 เมตร (29,028 ฟุต) เป็นยอดเขาสูงท่ีสุดในโลกตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยระหว่างเทือกเขาเหล่านี้มีพื้นท่ี ค่อนข้างราบแทรกสลับอยู่ ทำให้เกิดเป็นแอ่งแผ่นดินที่อยู่ในที่สูง เช่น ที่ราบสูงทิเบต ที่ราบสูงตากลามากัน ที่ราบสูง มองโกเลีย ท่ีราบสูงยนู าน ลักษณะภูมปิ ระเทศดังกลา่ วขา้ งตน้ ทำใหบ้ ริเวณใจกลางทวีปเอเชยี กลายเปน็ แหล่งต้นกำเนดิ ของ แม่น้ำสายสำคัญ ท่ีมีรูปแบบการไหลออกไปทุกทิศโดยรอบหลังคาโลก เช่น ไหลไปทางเหนือมีแม่น้ำ อ็อบ เยนิเซ ลีน่า ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือมีแม่น้ำอามูร์ ทางตะวันออกมีแม่น้ำฮวงโห (หวงเหอ แยงซีเกียง (ฉางเจียง) ซีเกียง (ซีเจียง) ทาง ตะวันออกเฉียงใต้มีแมน่ ้ำแดง โขง เจา้ พระยา สาละวิน อิระวดี ทางใต้มีแมน่ ้ำพรหมบตุ ร คงคา สนิ ธุ ทางตะวันตกมแี ม่นำ้ อามู ดารย์ จากท่ีสูงอามีเนียนนอต มีแม่น้ำไทกรีส ยูเฟรตสี บทบาทของลุม่ น้ําเหลา่ น้ี คือ พัดพาเอาตะกอนมาทับถมที่ราบ อนั กว้างใหญไ่ พศาล กลายเปน็ แหล่งเกษตรกรรมและท่ีอยู่ อาศัยสำคัญๆ ของชาวเอเชยี โดยเฉพาะทร่ี าบดินดอนสามเหลี่ยม ปากแม่นำ้ จึงกลายเป็นแหลง่ ท่ีมีประชากรอาศัยอยูห่ นาแน่นทส่ี ดุ 3. ลกั ษณะภูมิอากาศของทวีปเอเชยี ทวีปเอเชียโดยส่วนรวมประมาณครึ่งทวีปอยู่ภายใตอ้ ิทธิพลของลมมรสมุ ต้ังแต่ ปากีสถานถึงคาบสมุทรเกาหลี เป็นผลทำให้มีฝนตกชุกในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมีอากาศหนาวในฤดูมรสุม ตะวนั ออกเฉียงเหนือในเขตละตจิ ดู กลางหรือเขตอบอ่นุ แถบจีนและญป่ี นุ่ จะไดร้ บั อิทธิพลจากแนวปะทะอากาศ บ่อยคร้ัง ทางชายฝั่งตะวันออกของทวีปตั้งแต่ญ่ีปุ่น อินโดนีเซีย จะได้รัฐอิทธิพลของลมไต้ฝุ่น และดีเปรสช่ันทำให้ดินแดน ชายฝั่งตะวันออกของหมู่เกาะได้รับความเสียหายจากลมและฝนเสมอ ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ซ่ึงอยู่ใกล้ ศูนย์สูตร จะมีปรากฏการณ์ของหย่อมความกดอากาศต่ำทำให้มีอากาศลอยตัว ก่อเป็นพายุฟ้าคะนองเกิดขึ้นเป็นประจำใน เวลาบา่ ยๆ หรอื ใกล้คำ่ แถบที่อยู่ลึกเขา้ ไปในทวีปหา่ งไกลจากทะเลจะมีภูมิอากาศแห้งแล้งเป็นทะเลทราย 4. สภาพทางสงั คม วัฒนธรรม ภาษา ศาสนาเชื้อชาติเผ่าพันธ์ุ ประชากร 2 ใน 3 ของประชากรท้งั หมด เปน็ พวก มองโกลอยดม์ ีพวกคอเคซอยดอ์ ย่บู า้ ง เช่น ชาวรัสเซยี อพยพมาจากยโุ รปตะวันออก ประชากรของเอเชียมีความหลากหลาย ดา้ นประกอบอาชพี เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียขนึ้ อยู่กับภาคเกษตรกรรม ประชากรสว่ นใหญ่ ประกอบอาชีพด้าน การเกษตร คือ การเพาะปลกู ข้าวขา้ วโพด และมีการเลยี้ งสตั ว์ ท้งั เลย้ี งไว้เปน็ อาหาร และทำงาน นอกจากนยี้ งั มีการค้าขาย การประมง การทำเหมอื งแร่

ลักษณะทางเศรษฐกิจ 1. การเพาะปลูกทำในทร่ี าบลุ่มของแมน่ ำ้ ต่างๆ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาลม์ ปอฝา้ ย ชา กาแฟ ขา้ วโพด 2. การเลีย้ งสัตว์ ในเขตอากาศแห้งแลง้ จะเลีย้ งแบบเร่ร่อนซึ่งเลี้ยงไวใ้ ชเ้ น้อื และนมเป็นอาหารได้แก่ อฐู แพะ แกะ โค มา้ และจามรี 3. การทำป่าไม้ ป่าไม้ในเขตเมืองร้อนจะเป็นไมเ้ นื้อแขง็ ผลผลติ ที่ไดส้ ว่ นใหญ่นำไปกอ่ สร้าง 4. การประมง ทำในบริเวณแม่น้ำลำคลอง หนอง บึงและชายฝั่งทะเล 5. การทำเหมืองแร่ ทวีปเอเชียอดุ มไปดว้ ยแร่ธาตุนานาชนิด 6. อุตสาหกรรม การทำอตุ สาหกรรมหลายประเทศในเอเชีย เร่ิมจากอุตสาหกรรมในครัวเรอื นแลว้ พฒั นาขึน้ เปน็ โรงงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ประชากร ทวีปเอเชียมีประชากรมากทส่ี ุดในโลกประมาณ 3,155 ลา้ นคน ประชากรส่วนใหญ่มาจากพนั ธ์ุมองโกลอยด์ ประชากรอาศัยอยูห่ นาแนน่ บรเิ วณชายฝงั่ ทะเลและท่ีราบลุ่มแม่นำ้ ตา่ งๆ เชน่ ลุม่ แมน่ ้ำเจ้าพระยา ลุม่ แมน่ ำ้ แยงซีเกยี ง ลุ่ม แมน่ ้ำแดงและลมุ่ แมน่ ำ้ คงคาส่วนบรเิ วณที่มีประชากรเบาบาง จะเป็นบริเวณที่แหง้ แล้งกนั ดารหนาวเย็นและในบริเวณทเ่ี ป็น ภูเขาซบั ซอ้ น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณกลางทวีป ภาษา 1. ภาษาจีน ภาษาทใี่ ช้กนั มากในทวีปเอเชยี โดยใชก้ ันในประเทศจีน ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ เชน่ สงิ คโปร์ ประมาณวา่ ประชากรเอเชีย 1,000 ล้านคน พูดภาษาจนี แตเ่ ป็นภาษาทีแ่ ตกตา่ งกันไป เชน่ ภาษาแตจ้ ิ๋ว ไหหลำ จีนกลาง หรอื ทเ่ี รียกวา่ ภาษาแมนดาริน 2. ภาษาอนิ เดียเปน็ ภาษาที่ใช้กันแพร่หลายรองลงมาอันดับ 2 โดยสว่ นใหญใ่ ชก้ ันในประเทศอนิ เดีย และปากสี ถาน 3. ภาษาอาหรบั เปน็ ภาษาที่ใชกน้ั แพรห่ ลายมากอันดับ 3 โดยใชกน้ั ในแถบเอเซียตะวนั ตกเฉยี งใต้ 4. ภาษารัสเซยี เปน็ ภาษาทใี่ ชก้ ันมากอันดับ 4 โดยใชก้ นั ในรสั เซียและเครือจกั รภพ ศาสนา ทวีปเอเชยี เป็นแหล่งกำเนิดศาสนาท่สี ำคญั ของโลก เชน่ ศาสนาครสิ ต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาฮนิ ดู และยูดาห์ ในเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใต้ประชากรสว่ นใหญน่ ับถอื ศาสนาฮนิ ดูกวา่ 500 ลา้ นคนในอินเดยี รองลงมาคือ ศาสนาอสิ ลามมผี นู้ บั ถอื ประมาณ 450ล้านคน นอกจากนีย้ งั มีลทั ธเิ ตา๋ ลัทธิขงจือ๋ ท่ีแพรห่ ลายในจนี ลทั ธชิ นิ โตในญปี่ นุ่

ทวีปยุโรป 1. ขนาดทตี่ ัง้ และอาณาเขตติดตอ่ ทวีปยโุ รปเป็นทวีปท่ีมลี ักษณะทางกายภาพท่ีเหมาะสมในการต้งั ถน่ิ ฐานทง้ั ในด้าน ลกั ษณะภมู ิประเทศท่ีมีท่รี าบลุ่ม เทอื กเขาท่ีไม่ต้ังกั้นทางลม มแี มน่ ้ำหลายสาย ลกั ษณะภมู อิ ากาศท่ีอบอุ่น ช่มุ ชนื่ มี ทรัพยากรธรรมชาติ คือ เหล็กและถา่ นหนิ ซึง่ เป็นสว่ นสำคัญอย่างยิง่ ต่อการพฒั นาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงสง่ ผลให้ทวีป ยุโรปมปี ระชากรตั้งถิ่นฐานหนาแนน่ ท่ีสดุ ในโลก อีกทั้งเป็นทวีปท่ีมอี ารยธรรมที่เก่าแก่ คือ อารยธรรมกรีกและโรมัน ทวปี ยุโรป เป็นทวีปที่ตงั้ อยูร่ ะหวา่ งละตจิ ูด 36 องศา 1 ลปิ ดาเหนอื ถงึ 71 องศา10 ลปิ ดาเหนือและระหว่างลองตจิ ูด 9 องศาตะวนั ตก ถงึ 66 องศาตะวนั ออก จากพกิ ัดภมู ศิ าสตร์จะสังเกตไดว้ า่ ทวีปยุโรปมีพ้ืนทีท่ ั้งหมดอย่ใู นซีกโลกเหนือและอยู่ เหนอื เสน้ ทรอปิคออฟแคนเซอร์ มีเสน้ สำคัญที่ลากผ่านคือ เสน้ อาร์กติกเซอร์เคิลและเส้นลองติจดู ท่ี 0องศา มเี น้ือทีป่ ระมาณ 9.9 ล้านตารางกิโลเมตร จึงเป็นทวปี ที่มีขนาดเล็ก โดยมขี นาดเล็กรองจากทวีปออสเตรเลีย อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนอื ติดกบั มหาสมทุ รอารก์ ติกและขั้วโลกเหนือ จุดเหนือสุดอยูท่ ่ีแหลมนอรท์ (North Cape) ในประเทศนอรเ์ วย์ ทิศใต้ ติดกบั ทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี น จุดใต้สดุ อยทู่ เ่ี กาะครีต ประเทศกรชี ทิศตะวันออก ตดิ ต่อกบั ทวปี เอเชยี โดยมีเทอื กเขาอรู าล เทือกเขาคอเคซสั และ ทะเลแคสเปยี นเปน็ เสน้ ก้นั พรมแดน ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ต่อกับมหาสมุทรแอตแลนตกิ จดุ ตะวนั ตกสุดของทวปี อยูท่ ี่แหลม โรคาประเทศโปรตเุ กส 2. ลักษณะภูมปิ ระเทศ ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็น 4 เขต ได้แก่ 1. เขตเทอื กเขาตอนเหนอื ได้แก่ บรเิ วณคาบสมุทรสแกนดิเนเวยี ภูมปิ ระเทศส่วนมากประกอบดว้ ยเทือกเขาสูงและ ทร่ี าบชายฝัง่ ทะเล เทือกเขาที่สำคญั ในบริเวณน้ีได้แก่ เทอื กเขาเซอรอนและเทือกเขาแกรมเปยี น เนือ่ งจากทวีปยโุ รปเคยถูก ปกคลมุ ด้วยน้ำแข็งมากอ่ นบริเวณชายฝง่ั ทะเลถูกธารนำ้ แข็งกดั เซาะและทบั ถม ทำใหเ้ กิดชายฝง่ั เว้าแหวง่ และอา่ วนำ้ ลึกทเ่ี รยี กว่า ฟยอร์ด พบมากในประเทศนอรเ์ วย์และแควน้ สกอตแลนด์ 2. เขตท่รี าบสงู ตอนกลาง ประกอบดว้ ยทีร่ าบสงู สำคัญ ไดแ้ ก่ ท่รี าบสูงแบลก็ ฟอเรสต์ตอนใต้ของเยอรมันนี ท่ีราบสูง โบฮีเมยี เขตติดต่อระหวา่ งเยอรมนั นีและสาธารณรฐั เชค็ ทรี่ าบเมเซตา ภาคกลางของคาบสมุทรไซบเี รยี ในเขตประเทศสเปน และโปรตุเกส ทีร่ าบสูงมสั ชพี ซองตรลั ตอนกลางของประเทศฝรงั่ เศส 3. เขตที่ราบตอนกลาง ครอบคลุมพืน้ ที่ตง้ั แต่ชายฝงั่ มหาสมุทรแอตแลนตกิ ไปจนถึงเทอื กเขาอูราลในรสั เซีย ตะวันตกของฝร่งั เศส ตอนใต้ของสหราชอาณาจกั รเบลเย่ียมเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ภาคเหนือของเยอรมันนโี ปแลนด์และ บางสว่ นของรสั เซยี เป็นบริเวณทม่ี ปี ระชากรอาศยั อย่หู นาแนน่ ท่สี ดุ และมีความสำคญั ทางเศรษฐกิจอยา่ งมาก เน่ืองจากเป็น พนื้ ทเ่ี กษตรกรรมท่สี ำคัญของทวปี ในบรเิ วณน้มี แี ม่น้ำทีส่ ำคัญไดแ้ ก่ แมน่ ้ำไรน์ แม่น้ำเชน แมน่ ำ้ ลัวร์ และแมน่ ้ำเอลเบ 4. เขตเทือกเขาตอนใต้ ประกอบดว้ ยเทือกเขาสูง เทือกเขาท่สี ำคญั ในบรเิ วณน้ีไดแ้ ก่ เทือกเขาแอลป์ ซึ่งเปน็ เทอื กเขาที่มขี นาดใหญท่ ีส่ ดุ ในทวีปยโุ รป ทอดตัวยาวต้ังแต่ตะวันออกเฉยี งใตข้ องฝรง่ั เศส ผา่ นสวติ เซอร์แลนด์ เยอรมันนี ออสเตรยี เซอร์เบยี ไปจนถึงทางเหนือของอติ าลี บริเวณยอดเขามีธารนำ้ แข็งปกคลุมเกือบตลอดท้ังปี บางชว่ งเปน็ หุบเขา ลึก ยอดเขาทสี่ งู ท่สี ดุ ในเทือกเขาแอลป์ คือ มองตบ์ ลงั ก์ สูง 4,807 เมตร นอกจากนย้ี ังประกอบด้วยยอดเขาคอเคซสั ทาง ตอนใต้ของรัสเซียมียอดเขาเอลบรสู สงู 5,642 เมตร ซ่ึงเป็นยอดเขาท่ีสงู ที่สุดในยโุ รป แมน่ ำ้ แม่นำ้ ทีส่ ำคัญในทวปี ยุโรป มดี ังน้ี

แม่นำ้ โวลกา เป็นแม่นำ้ สายยาวทีส่ ดุ ในทวีป มตี ้นน้ำอยู่บรเิ วณตอนกลางของสหพันธร์ สั เซียไหลลงสู่ทะเลแคสเปียน แมน่ ำ้ ดานบู มีตน้ กำเนิดจากเทือกเขาทางภาคใต้ของเยอรมัน ไหลผ่านประเทศออสเตรีย ฮงั การี ยูโกสลาเวยี พรมแดนระหว่างประเทศบลั แกเรียกับประเทศโรมาเนีย แล้วไหลลงสูท่ ะเลดำ แม่น้ำดานูบเปน็ แมน่ ้ำที่ไหลผา่ นหลายประเทศ ดังนน้ั จงึ ถือว่าเป็นแมน่ ำ้ นานาชาติแต่ในดา้ นความสำคัญของการขนสง่ สินค้าอุตสาหกรรมนัน้ มีไม่มากเทา่ กบั แม่นำ้ ไรน์ เน่ืองจากแม่นำ้ ดานูบไหลออกสทู่ ะเลดำซง่ึ เป็นทะเลภายในแมน่ ้ำไรน์ มีตน้ กำเนดิ จากเทือกเขาแอลปท์ างตอนใต้ของ สวสิ เซอร์แลนด์ ไหลขนึ้ ไปทางเหนอื ระหวา่ งพรมแดนฝรั่งเศสและเยอรมนั ไปยังเนเธอรแ์ ลนด์ แลว้ ไหลลงทะเลเหนอื แมน่ ้ำไรน์เป็นแม่นำ้ ที่มคี วามสำคญั มาก มีปรมิ าณน้ำไหลสมำ่ เสมอ ไหลผ่านท่รี าบและไหลผ่านหลายประเทศจึงถือวา่ เป็น แม่นำ้ นานาชาติ และยังเป็นเสน้ ทางขนสง่ วตั ถดุ บิ และสินค้าท่ีสำคัญ คือ ถ่านหนิ แร่เหล็ก และแปง้ สาลี โดยเฉพาะการขนสง่ ถ่านหนิ ซ่ึงมปี ริมาณมากในย่านอตุ สาหกรรมถา่ นหินของเยอรมนั แม่น้ำสายน้จี ึงไดร้ ับสมญานามว่า “แม่น้ำถ่านหนิ ” การขนส่งสินค้าผา่ นทางแม่น้ำไรนน์ ้ี จะออกสบู่ ริเวณปากแม่นำ้ ซึ่งเปน็ ที่ต้ังของเมืองท่ารอตเตอร์ดมั (เนเธอร์แลนด์) ซึ่งเปน็ เมืองทา่ ท่ีสำคัญทีส่ ุดของทวปี 3. ลกั ษณะภูมิอากาศ เขตอากาศ ปัจจัยที่มอี ิทธพิ ลตอ่ ภมู ภิ าคอากาศของทวปี ยโุ รป 1. ละตจิ ูด ทวีปยโุ รปมีทต่ี ้งั อยรู่ ะหว่างละตจิ ดู 36 องศา 1 ลิปดาเหนอื ถึง 71องศา 10 ลิปดาเหนือ พ้นื ท่ีส่วน ใหญอ่ ยู่ในเขตอบอุ่น มเี พียงตอนบนของทวีปท่ีอยู่ในเขตอากาศหนาวเย็นและ ไม่มีส่วนใดของทวปี ทอ่ี ยู่ในเขตอากาศร้อน 2. ลมประจำ ลมประจำที่พดั ผา่ นทวปี ยโุ รป คอื ลมตะวนั ตก ซึง่ พัดมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าสู่ทวปี ทางดา้ น ตะวันตก มีผลทำใหบ้ ริเวณฝง่ั ตะวันตกของทวปี มีปรมิ าณฝนค่อนข้างมาก อุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนกับฤดหู นาวไม่คอ่ ย แตกต่างกนั มากนกั แตถ่ า้ ลึกเข้ามาภายในทางดา้ นตะวันออกของทวีปซงึ่ ตดิ กบั ทวีปเอเชยี นนั้ ปรมิ าณฝนจะลดลงและจะมี ความแตกต่างของอณุ หภูมริ ะหว่างฤดรู อ้ นกับฤดูฝนมากข้นึ ด้วย 3. ความใกลไ้ กลทะเล ทวีปยุโรปมชี ายฝั่งทะเลยาวและเวา้ แหว่ง ประกอบกบั มีพ้ืนที่ติดทะเลถึง 3 ดา้ น ทำใหไ้ ด้รับ อิทธพิ ลจากทะเลและมหาสมุทรอยา่ งทวั่ ถงึ โดยเฉพาะบริเวณที่อย่ใู กล้ชายฝง่ั ดงั นน้ั จึงไมม่ ีพ้ืนที่ใดในทวีปยุโรปที่มภี มู ิอากาศ แหง้ แล้ง 4. ทิศทางของเทือกเขา เทือกเขาส่วนใหญ่ในทวีป วางตัวในแนวทิศตะวนั ออกตะวนั ตก ทำให้ไม่กนั้ ขวางทางลม ตะวนั ตกที่พัดเข้าสทู่ วีป 5. กระแสน้ำในมหาสมุทร บรเิ วณชายฝงั่ มกี ระแสนำ้ อุ่นแอตแลนตกิ เหนือไหลผ่านทางตะวนั ตกและตะวนั ตกเฉยี ง เหนอื ของทวปี ทำให้น่านนำ้ บรเิ วณเกาะบริเวนใหญ่และประเทศนอร์เวย์ไม่เปน็ นำ้ แข็งในฤดูหนาว จึงแตกต่างจาก บรเิ วณทะเลบอลตกิ ที่น้ำ กลายเป็นน้ำแขง็ ทำใหป้ ระเทศสวีเดน ตอ้ งเปล่ยี นเสน้ ทางการขนส่งสนิ ค้าจากทางเรือไป เป็นการขนสง่ โดยใชเ้ สน้ ทางรถไฟจากสวีเดนไปยังนอร์เวย์แลว้ จึงนำสนิ คา้ ลงเรอื ทีเ่ มืองท่าประเทศนอร์เวย์ เขตภมู ิอากาศแบ่งออกไดเ้ ปน็ 7 เขต ดังน้ี

1. ภูมอิ ากาศแบบทะเลเมดิเตอรเ์ รเน่ียน ไดแ้ ก่ บรเิ วณชายฝงั่ ทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียนในเขตประเทศอิตาลี ฝร่งั เศส ภาคใตข้ องสเปน แอลเบเนยี กรซี บลั แกเรีย และเซอรเ์ บยี ฤดรู อ้ นมีอากาศร้อน อุณหภมู เิ ฉลี่ย 23 องศาเซสเซยี ส ในฤดู หนาวมีอากาศอบอนุ่ และมฝี นตกอุณหภูมเิ ฉลย่ี 8 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนตกเฉลี่ย 500-1,000 มลิ ลิเมตรตอ่ ปี 2. ภมู ิอากาศแบบทุ่งหญา้ ก่ึงทะเลทราย ไดแ้ ก่ บรเิ วณภาคกลางของคาบสมทุ รไซบเี รยี ตอนเหนอื ของทะเลดำและทะเลแค สเปียน ในเขตประเทศฮังการี ยูเครน โรมาเนยี และตอนใต้ของรสั เซยี มฝี นตกน้อยมากเฉล่ยี ปีละ 250-500 มิลลิเมตรตอ่ ปี 3. ภมู อิ ากาศแบบพืน้ สมุทรได้แก่ สหราชอาณาจักร เนเธอรแ์ ลนดฝ์ ร่ังเศส เดนมารก์ เบลเยี่ยม และตอนเหนอื ของ เยอรมนี มีฝนตกชกุ ตลอดทั้งปีเฉลย่ี 750-1,500 มลิ ลิเมตรตอ่ ปี ฤดหู นาวอากาศไม่หนาวจัด อุณหภูมเิ ฉล่ีย1-7 องศา เซลเซียส เนือ่ งจากไดร้ ับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นแอตแลนติกเหนือ 4. ภมู ิอากาศแบบอบอนุ่ ชืน้ ได้แก่ บริเวณทร่ี าบล่มุ แมน่ ้ำดานูบในฮังการตี อนเหนือของเซอรเ์ บียและโรมาเนยี มี อากาศอบอนุ ่ ฝนตกตลอดท้งั ปเี ฉลยี่ 500-1,000 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปเี นื่องจากไดร้ ับอทิ ธิพลความชน้ื จากทะเล 5. ภูมอิ ากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวปี ได้แก่ ยุโรปตะวนั ออก และยโุ รปกลางรัสเซีย สาธารณรัฐเซ็ก สาธารณรัฐ สโลวกั และโปแลนด์ ฤดหู นาวมีอากาศหนาวและแห้งแล้งฤดรู ้อนมีอากาศอบอนุ่ และมฝี นตก อณุ หภมู เิ ฉลี่ย 19-20 องศา เซลเซยี ส ปรมิ าณฝน 500-750 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี 6. ภมู อิ ากาศแบบไทกา ได้แก่ ตอนเหนือของฟนิ แลนด์ สวีเดน และนอรเ์ วย์ ฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็นและ ยาวนาน อณุ หภูมเิ ฉลี่ย 6 องศาเซลเซียส ฤดรู ้อนอากาศอบอนุ่ อุณหภมู ิเฉลย่ี 17 องศาเซลเซยี ส มปี ริมาณฝนตกนอ้ ยและ ส่วนมากเป็นหมิ ะเฉลย่ี 600มิลลเิ มตรต่อปี 7. ภมู ิอากาศแบบขว้ั โลกหรือภูมอิ ากาศแบบทนุ ดรา ได้แก่ ทางเหนือของทวปี ทีม่ ชี ายฝ่ังตดิ กบั มหาสมุทรอาร์กติก ฤดูหนาวมีอากาศหนาวจดั และยาวนานปีละ 10-11 เดือน ฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่นและสั้นเพียง 1-2 เดอื น อณุ หภูมิเฉลี่ย ตลอดทัง้ ปปี ระมาณ 10องศาเซลเซยี ส ปริมาณฝนตกน้อยมากและสว่ นมากเป็นหมิ ะ 4. ลักษณะเศรษฐกิจและ สภาพแวดลอ้ มทางสังคมวฒั นธรรม ลกั ษณะเศรษฐกจิ ทวปี ยุโรปมีความเจรญิ ทั้งในดา้ น เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม โดยมีเขต เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ดงั น้ี การทำเกษตรกรรม 1. เขตปลูกข้าวสาลี ไดแ้ ก่ บรเิ วณที่ราบภาคกลาง โดยเฉพาะบริเวณประเทศฮงั การีโรมาเนยี ยเู ครน ซ่งึ เปน็ แหล่ง ผลติ ข้าวสาลแี หล่งใหญ่ 2. เขตทำไรป่ ศสุ ตั ว์ สว่ นใหญ่จะพบในบรเิ วณเขตอากาศแห้งแล้ง ไม่คอ่ ยเหมาะกับการเพาะปลูกแต่มีหญ้าท่สี ามารถ เลี้ยงสัตวไ์ ด้ เชน่ บรเิ วณชายฝง่ั ทะเลแคสเปียน และท่ีราบสงู ของทวปี สตั วท์ ี่เล้ียงไดแ้ ก่ โคเนื้อ แกะ แพะ สว่ นการเลี้ยงโคนม จะพบบรเิ วณเขตอากาศชื้นภาคพนื้ สมุทร เนื่องจากมที ุ่งหญา้ อุดมสมบรู ณม์ ากกวา่ 3. เขตเกษตรกรรมแบบผสม ไดแ้ ก่ เขตทม่ี ีการเลย้ี งสัตวค์ วบคูก่ บั การปลกู พืชเชน่ การปลกู ขา้ วสาลี ขา้ วบาเลย์ การ เลีย้ งสัตว์ เช่น โคเน้ือ โคนม ซ่ึงพบมากบริเวณภาคตะวันตก และภาคกลางของทวปี 4. เขตเกษตรแบบเมดเิ ตอรเ์ รเนียน พบบรเิ วณเขตชายฝง่ั ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี นเชน่ อติ าลี กรีซ พืชสำคัญ ได้แก่ ส้ม องนุ่ มะกอก 5. เขตเลีย้ งสัตวแ์ บบเรร่ ่อน มีการเลยี้ งสตั วแ์ บบทมี่ ีการยา้ ยถ่นิ ทอี่ ยู่เพ่ือหาแหล่งอาหารแหลง่ ใหมท่ ่อี ดุ มสมบรู ณก์ บริเวณท่ีมกี ารเล้ยี งสัตว์แบบเร่ร่อน คือ บริเวณท่มี ีอากาศหนาวเยน็ เชน่ ชายฝั่งมหาสมทุ รอาร์กติก หรือเขตอากาศแบบ ทนุ ดรา

การปา่ ไม้ แหล่งปา่ ไม้ที่สำคญั ของทวีป คอื เขตภูมิอากาศแบบไทกา บริเวณคาบสมทุ ร สแกนดเิ นเวีย ซึ่งจะมีปา่ สนเปน็ บริเวณ กว้าง การประมง จากลกั ษณะภูมิประเทศของทวีปยโุ รปที่มีชายฝงั่ ทะเลยาวและเวา้ แหวง่ ตดิ ทะเลทั้ง 3 ดา้ น ประกอบกบั การมี กระแสนำ้ อุ่นแอตแลนติกเหนือไหลผา่ นทำใหใ้ นฤดหู นาวน้ำไม่เป็นน้ำแขง็ จึงกลายเปน็ แหล่งประมงทีส่ ำคัญของทวีป มีช่อื ว่า “ดอกเกอร์แบงก์ (Dogger Bank) การเหมอื งแร่ ทวปี ยุโรปมีทรัพยากรท่มี ีความสำคัญมากต่อการทำอตุ สาหกรรม ได้แก่ เหลก็ และถ่านหินแรถ่ ่านหนิ ใช้เปน็ เชื้อเพลงิ ในการถลุงเหลก็ โดยมีแหลง่ ถ่านหินที่สำคัญ เช่นภาคเหนือของฝรง่ั เศสและภาคกลางของเบลเยยี่ ม เยอรมัน เป็นตน้ แร่เหล็ก เมอื่ ผา่ นการถลุงแลว้ จะนำไปใชใ้ นอตุ สาหกรรมเหล็กและเหลก็ กลา้ โดยมีแหล่งแร่เหล็กที่สำคัญ เชน่ ประเทศสวเี ดน ฝรั่งเศสน้ำมนั ปโิ ตรเลียมมี 2 แหลง่ ทส่ี ำคัญ คือ ทะเลเหนือ และทะเลดำ การอุตสาหกรรม ทวีปยโุ รปเปน็ ศูนยก์ ลางอุตสาหกรรมทส่ี ำคัญแหง่ หน่งึ ของโลก ประเทศทม่ี ีชื่อเสียงมาก คือ สหราชอาณาจกั ร ฝรงั่ เศส เบลเยย่ี ม สวเี ดน โดยบริเวณนจ้ี ะมแี รเ่ หล็กและถา่ นหินซ่ึงเปน็ ส่วนสำคัญในการทำอุตสาหกรรม สภาพแวดล้อมทางสงั คมและวัฒนธรรม ลกั ษณะประชากร 1. มีประชากรมากเปน็ อันดับ 4 ของโลก และหนาแนน่ มากเปน็ อันดบั 2 ของโลก 2. มีการกระจายประชากรทัว่ ทง้ั ทวีป เน่ืองจากความเหมาะสมในด้านสภาพภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศและทรพั ยากร 3. บรเิ วณทม่ี ีประชากรหนาแน่น คือ บริเวณที่ราบภาคตะวันตกและภาคกลางของทวปี สว่ นบรเิ วณที่มีประชากร เบาบาง คอื บรเิ วณคาบสมุทรสแกนดเิ นเวยี และเขตยุโรปตะวันออก ประวัตศิ าสตร์ แบง่ ได้ 3 สมยั คอื 1. สมยั โบราณ หรอื อารยธรรมสมัยคลาสสิค มกี รีกและโรมันเป็นศูนยก์ ลางความเจรญิ โดยต้งั มน่ั อยู่ทางตอนใต้ ของทวีปยุโรปในแถบทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน กรีก ชนชาตกิ รกี ไดถ้ ่ายทอดมรดกทางศลิ ปวัฒนธรรมไวห้ ลายประการ ไดแ้ ก่ 1. การปกครอง ชาวกรีกได้ให้สิทธริ าษฎรในการลงคะแนนเสยี งเลือกเจ้าหนา้ ที่ฝ่ายปกครอง 2. ศลิ ปวัฒนธรรม ชาวกรีกมีความสามารถในดา้ นวรรณคดี การละคร และสถาปตั ยกรรม สถาปัตยกรรมท่ีมีชอื่ เสยี ง คอื วหิ ารพาเธนอน นอกจากนย้ี งั มีการแขง่ ขันกฬี าท่ีเปน็ ที่ร้จู ักกันดี คือ กีฬาโอลมิ ปิก

3. ปรัชญาความคดิ นกั ปรัชญากรีกที่มีชอื่ เสยี ง คือ อรสิ โตเตลิ และเพลโตโรมัน ชนชาตโิ รมนั ไดร้ บั ความเจริญต่างๆ จากกรกี สงิ่ ทีช่ าวโรมันไดถ้ ่ายทอดให้กบั ชนรุ่นหลงั คือ ประมวลกฎหมาย และภาษาละติน 1. สมัยกลาง ในชว่ งนี้ยุโรปมีศึกสงครามเกือบตลอดเวลา จนทำใหก้ ารพัฒนาดา้ นตา่ งๆ ต้องหยุดชะงัก ยุคนีจ้ ึงได้ ช่ือวา่ เป็น “ยคุ มดื ” หลงั จากผา่ นพน้ ช่วงสงครามจงึ เปน็ ชว่ งของการฟนื้ ฟูศิลปะวิทยาการเริม่ ใหค้ วามสำคัญกบั มนุษยม์ า กขน้ึ เรยี กยุคนี้วา่ ยุคเรอ เนสซองซ์(Renaissance) 2. สมยั ใหม่ ยคุ นีเ้ ปน็ ยุคแหง่ การแสวงหาอาณานิคม ทำให้ศลิ ปวฒั นธรรมของชาติตะวนั ตกแผข่ ยายไปยังดนิ แดน ตา่ งๆ นอกจากน้ยี ังมเี หตุการณ์สำคัญ คือ การปฏวิ ัติวิทยาศาสตรแ์ ละการปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรมทวปี อเมรกิ าใต้ 1. ขนาดท่ตี งั้ และอาณาเขตติดต่อทวปี อเมริกาใตเ้ ป็นทวปี ที่ใหญเ่ ป็นอนั ดบั 4 ของโลก รองจากทวปี เอเชีย ทวีปแอฟรกิ า และทวปี อเมรกิ าเหนือ มีพ้นื ท่ีประมาณ 17.8 ลา้ นตารางกิโลเมตร มปี ระชากรประมาณ 299 ลา้ นคน รปู ร่าง ของทวปี อเมริกาใต้คลา้ ยคลึงกบั ทวีปอเมรกิ าเหนือ คือมลี กั ษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยมหวั กลับ มีฐานกวา้ งอยู่ทางทศิ เหนือ สว่ น ยอดสามเหลี่ยมอยู่ ทางทศิ ใต้ ตั้งอยใู่ นแถบซีกโลกใต้ ระหว่างละติจดู 12 องศา 25 ลิปดาเหนอื ถึง 56 องศาใต้ และลองติจดู 34 องศา 47 ลิปดาตะวันตก ถึง 81 องศา 20 ลปิ ดาตะวนั ตก อาณาเขตของทวีปอเมริกาใต้มดี งั นี้ อาณาเขตตดิ ต่อ ทิศเหนอื ติดกบั ทวปี อเมรกิ าเหนอื โดยมคี ลองปานามาเปน็ เส้นกั้นเขตแดนและตดิ ต่อกับทะเลแครบิ เบียน ใน มหาสมุทรแอตแลนติก จุดเหนือสดุ อย่ทู ี่แหลมกายนี าสในประเทศโคลอมเบยี ทศิ ใต้ ติดกบั ทวีปแอนตารก์ ติกา มชี ่องแคบเดรกเป็นเสน้ กั้นเขตแดน จุดใต้สุดอยูท่ ีแ่ หลมโฟรว์ าร์ด ในคาบสมุทรบ รนั สวิก ประเทศชิลี ทิศตะวันออก ตดิ กับมหาสมทุ รแอตแลนติก จดุ ตะวันออกสุดอยู่ทแ่ี หลมโคเคอรสู ในประเทศบราซลิ ทศิ ตะวนั ตก ตดิ กบั มหาสมทุ รแปซิฟิก จุดตะวนั ตกสุดอยูท่ ี่แหลมปารีนเยสในประเทศเปรู 2. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีปอเมริกาใตส้ ามารถแบ่งออกได้ 3 ลกั ษณะไดแ้ ก่ 1. เขตเทือกเขาตะวันตก ได้แก่ บริเวณเทือกเขาแอนดีส ซึ่งทอดตัวยาวขนานไปกับชายฝั่ง มหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่ทางเหนือบริเวณทะเลแคริบเบียนไปจนถึงแหลมฮอรน์ทางตอนใต้ มีความยาวประมาณ 7,200 กิโลเมตร เป็นแนว เทือกเขาท่ียาวทีส่ ดุ ในโลกยอดเขาสูงท่สี ุดในบริเวณน้ี คือ ยอดเขาอะคองคากวั สงู ประมาณ 6,924 เมตร บรเิ วณตอน กลางของเทือกเขามีที่ราบสูงท่ีสำคัญคือ ที่ราบสูงโบลิเวีย มีความสูงถึง 4,500 เมตร และมีขนาดกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากที่ราบสูงทิเบต บนท่ีราบสูงแห่งน้ีมีทะเลสาบซึ่งเป็นทะเลสาบที่สูงท่ีสุดในโลก ได้แก่ ทะเลสาบติติกากา ใน ประเทศเอกวาดอร์ 2. เขตที่ราบสูงตะวันออก ประกอบด้วยที่ราบสูงสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ที่ราบสูงกิอานา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีป ในเขตประเทศเวเนซเู อลากายอานาซรู ินาเม เฟรนซ์เกยี นา และภาคเหนือของบราซลิ มลี ักษณะทีเ่ ปน็ ท่รี าบสงู สลบั

กับเทอื กเขาสลับซับซ้อนที่ราบสูงบราซลิ ตง้ั อย่ตู อนกลางของทวีป บรเิ วณตะวันออกของประเทศบราซลิ ต้งั อยรู่ ะหว่างที่ราบ ลุ่มแม่น้ำแอมะซอน ที่ราบลุ่มแม่น้ำปารานา และท่ีราบลุ่มแม่น้ำปารากวัยทางตะวันออกมีความสูงชัน จากน้ันค่อยๆ ลาด ต่ำลงไปทางตะวันตก ที่ราบสูงปาตาโกเนีย ต้ังอยู่ทางตอนใต้ของทวีป ในเขตประเทศอาร์เจนตินาทางตะวันออกค่อนข้าง ราบเรียบและคอ่ ยๆ สงู ข้นึ ไปเรือ่ ยๆ ทางตะวนั ตก 3. เขตท่ีราบลุ่มแม่น้ำ อยู่บริเวณตอนกลางของทวีป เป็นที่ราบดินตะกอนที่มีความอุดมสมบูรณ์และกว้าง ตั้งอยู่ ระหว่างเทือกเขาแอนดสี และทรี่ าบสงู ทางตะวนั ออก เขตที่ราบลมุ่ แมน่ ำ้ ทีส่ ำคัญของทวีปอเมรกิ าใต้มี 2 บรเิ วณได้แก่ ที่ราบลุ่มแม่น้ำแอมะซอนหรืออเมซอน เป็นท่ีราบลุ่มแมน่ ำ้ ที่ใหญ่ทีส่ ุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 7 ล้านตารางกิโลเมตร มแี มน่ ้ำ หลายสายไหลผ่าน ส่วนมากมตี ้นกำเนิดจากเทอื กเขาแอนดีสและไหลสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม่นำ้ ทีส่ ำคัญท่ีสุดในบริเวณนี้ คอื แม่นำ้ แอมะซอน ทีร่ าบลุ่มแม่น้ำโอริโนโค อยู่ทางตอนเหนือของทวีป ในเขตประเทศโคลอมเบียและเวเนซุเอลา บริเวณ นี้เป็นเขตเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญของทวีปอเมริกาใต้ แม่น้ำท่ีสำคัญในทวีปอเมรกิ าใต้ ได้แก่แม่น้ำแอมะซอน มีความยาว 6,440 กิโลเมตร เปน็ แมน่ ำ้ ที่มคี วามยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากแม่น้ำไนล์ มตี ้นกำเนดิ จากเทือกเขาแอนดีส ไหลผา่ นประเทศ บราซิล ไหลลงสมู่ หาสมทุ รแอตแลนติก แม่น้ำปารานา มีความยาว 2,800 กิโลเมตรมีต้นกำเนิดจากที่สูงทางตะวันออกของทวีป ไหลผ่านประเทศบราซิล ปารากวยั อารเ์ จนตนิ า ลงสู่มหาสมทุ รแอตแลนตกิ บรเิ วณอ่าวรโิ อเดอลาพลาตา แม่น้ำปารากวยั มีความยาว 2,550 กิโลเมตร มีตน้ กำเนดิ จากที่สงู ในประเทศบราซลิ ไหลผ่านประเทศบราซลิ ปารากวัยไปรวมกับแม่น้ำปารานาในเขตประเทศอาร์เจนตนิ า 3. ลักษณะภูมิอากาศ ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของทวปี อเมริกาใต้ 1. ละตจิ ูด พ้ืนทสี่ ว่ นใหญ่ของทวีปครอบคลุมเขตอากาศร้อน และประมาณ 1 ใน 3 ของพนื้ ทท่ี วีปเปน็ อากาศแบบอบอุน่ ภมู ิภาคทางเหนือของทวปี จะมฤี ดูกาลที่ตรงข้ามกับภมู ิภาคทางใต้ 2. ลมประจำ ได้แก่ 2.1 ลมสินค้าตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พดั ผ่านมหาสมุทรแอตแลนตกิ จึงนำความชมุ่ ชนื้ เข้าสู่ทวปี บริเวณชายฝ่งั ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 2.2 ลมสินคา้ ตะวนั ออกเฉียงใต ้ พดั ผา่ นมหาสมุทรแอตแลนติกจงึ นำความชมุ ่ ช้ืนเขา้ สทู่ วีปบริเวณชายฝัง่ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ 2.3 ลมตะวันตกเฉยี งเหนอื พัดผา่ นมหาสมุทรแปซิฟกิ จงึ นำความชมุ่ ช้นื เข้าสทู่ วีปบรเิ วณชายฝงั่ ตะวนั ตกของทวีป ตัง้ แตป่ ระมาณละติจูด 40 องศาใตล้ งไป 3. ทิศทางของเทือกเขา ทวปี อเมริกาใต้มเี ทือกเขาสูงอย่ทู างตะวันตกของทวีปดงั นั้นจงึ เป็นส่ิงทกี่ ้ันขวางอิทธิพลจากทะเลและ มหาสมทุ ร ทำให้บรเิ วณท่ใี กล้เทือกเขาค่อนข้างแหง้ แล้ง แต่ในทางตรงกันขา้ ม ชายฝ่งั ด้านตะวันออกจะไดร้ ับอทิ ธิพลจาก ทะเลอย่างเต็มท่ี

4. กระแสน้ำ มี 3 สายทสี่ ำคัญ คือ 4.1 กระแสน้ำอุ่นบราซลิ ไหลเลยี บชายฝ่ังของประเทศบราซลิ 4.2 กระแสนำ้ เย็นฟอล์กแลนด์ ไหลเลยี บชายฝัง่ ประเทศอาร์เจนตินา 4.3 กระแสน้ำเย็นเปรู (ฮัมโบลด์) ไหลเลยี บชายฝงั่ ประเทศเปรูและชลิ ี เขตภูมิอากาศแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 8 เขต ดังนี้ 1. ภูมิอากาศแบบป่าดบิ ชน้ื ได้แก่ บรเิ วณท่รี าบลมุ่ แม่น้ำแอมะซอน เป็นบรเิ วณทมี่ ีอากาศเย็น ปา่ ดบิ ชนื้ ท่ีกว้างใหญ่ ที่สดุ ในโลกสว่ นใหญม่ พี ้ืนท่ีอยู่ประเทศบราซิล มีอุณหภูมิสงู เฉล่ีย 27 องศาเซลเซยี ส มฝี นตกชกุ เกือบตลอดท้งั ปปี ระมาณ 2,000 มิลลิเมตรต่อปี 2. ภูมอิ ากาศแบบทุ่งหญา้ เขตร้อน ได้แก่ บรเิ วณตอนเหนือและใตข้ องลมุ่ แม่นำ้ แอมะซอน มอี ากาศร้อนและแห้ง แล้ง ฤดรู ้อนมฝี นตกแต่ไม่ชกุ เหมอื นในเขตป่าดิบชื้นอุณหภูมสิ ูงเฉล่ีย 27 องศาเซลเซียส มลี กั ษณะอากาศคล้ายกบั ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย 3. ภูมิอากาศแบบทะเลทราย ได้แก่ ภาคใต้ของเปรูและภาคเหนือของชลิ ี เปน็ บริเวณที่ร้อนและแหง้ แลง้ มาก มี ปรมิ าณฝนตกเฉลย่ี ตาํ่ กวา่ 250 มลิ ลิเมตร ตอ่ ปี และบางครงั้ ฝนไมต่ กยาวนานตดิ ต่อกันหลายเดือน ทะเลทรายท่สี ำคญั ใน บรเิ วณนี้ได้แก่ ทะเลทรายอะตากามาในประเทศชลิ ี ในบรเิ วณน้มี ฝี นตกนอ้ ยกว่า 50 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี บางครั้งฝนไม่ตก ตดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลานานหลายปี จัดเป็นทะเลทรายที่แหง้ แล้งมากท่สี ุดแห่งหนง่ึ ของโลก 4. ภูมอิ ากาศแบบทุง่ หญ้ากง่ึ ทะเลทราย ได้แก่ ทางตะวนั ออกของประเทศอารเ์ จนตินาจนถึงท่ีราบสงู ปาตาโกเนยี อณุ หภมู ไิ ม่สงู นกั เฉลยี่ 18 องศาเซลเซยี ส ฤดหู นาวมีอากาศหนาวเยน็ ฤดูร้อนมีอากาศร้อน ปรมิ าณฝนน้อยประมาณ 500 มิลลเิ มตรต่อปี 5. ภมู อิ ากาศแบบเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น ได้แก่ บรเิ วณชายฝ่ังมหาสมุทรแปซิฟิก ตอนกลางของประเทศชลิ ี ในฤดูรอ้ นมี อากาศร้อนและแหง้ แล้ง ฤดูหนาวมฝี นตก 6. ภูมิอากาศแบบอบอนุ่ ชนื้ ไดแ้ ก่ บรเิ วณตะวนั ตกเฉียงใต้ของทวปี ตงั้ แต่ตอนใต้ของบราซิล ปารากวยั อรุ ุกกวัย และตะวนั ออกเฉยี งเหนือของอาร์เจนตินา อากาศในบรเิ วณน้ไี มแ่ ตกตา่ งกันมากนกั ฤดูหนาวมอี ากาศอบอนุ่ ฤดูร้อนมีฝนตก เฉลยี่ 750 – 1,500 มิลลิเมตรตอ่ ปี 7. ภูมิอากาศแบบภาคฟ้นื สมุทร ไดแ้ ก่ บริเวณชายฝั่งทะเลอากาศหนาวจัด มฝี นตกเกอื บตลอดท้ังปโี ดยเฉพาะในฤดู หนาวและฤดใู บไม้ร่วงเฉล่ยี 5,000 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี 8. ภมู ิอากาศแบบทีส่ งู ได้แก่ บริเวณเทอื กเขาแอนดสี เป็นบรเิ วณท่มี คี วามแตกต่างกันมาก ข้ึนอยู่กับระดบั ความสงู ของพ้ืนท่ี คือ บรเิ วณทร่ี าบมีอณุ หภูมสิ งู และฝนตกชกุ เมื่อสงู ข้นึ อณุ หภูมิและปรมิ าณน้ำฝนจะลดลงไปเร่ือยๆ ยิ่งสงู กว่า ระดบั น้ำทะเลประมาณ3,000 เมตร มีอณุ หภมู ิเฉลี่ยตลอดท้ังปปี ระมาณ 15 องศาเซลเซยี ส ปรมิ าณฝนตกเฉล่ีย 1,000 มิลลิเมตรตอ่ ปี ในขณะทปี่ ระเทศอ่นื ที่อยู่บรเิ วณเส้นศนู ย์สตู ร แตต่ ้งั อยู่บนท่ีราบเช่น มาเลเซยี มีอณุ หภูมเิ ฉลยี่ 27 องศาเซียส และมฝี นตกชุกตลอดทัง้ ปีสูงกว่า 2,500มิลลิเมตรตอ่ ปี

4. ลักษณะเศรษฐกิจและ สภาพแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม ลกั ษณะเศรษฐกิจ การทำเกษตรกรรม 1. จากลักษณะอากาศของทวปี เหมาะกับการปลูกพืชเมืองร้อน เช่น กาแฟ กลว้ ยโกโก้ อ้อย ยาสบู โดยเฉพาะ กาแฟมีผ้ผู ลิตรายใหญ่ คือ บราซิลและโคลัมเบยี 2. บริเวณท่รี าบล่มุ แม่น้ำปารานา – ปารากวยั – อรุ ุกวัย มีความเหมาะสมในการปลูกขา้ วสาลี เนื่องจากอยู่ในเขต อบอ่นุ และเป็นทรี่ าบลมุ่ แม่นำ้ ท่มี ีความอดุ มสมบรู ณโ์ ดยเฉพาะในเขตประเทศอาร์เจนตนิ า 3. การเพาะปลูกในทวปี มีทงั้ การเพาะปลกู เปน็ ไร่การค้าขนาดใหญ่ ท่ีเรียกวา่ เอสตนั เซียและมกี ารเพาะปลกู แบบยงั ชพี การเลย้ี งสัตว์ การเล้ยี งสตั ว์ในทวปี อเมริกาใต้กระทำอยา่ งกวา้ งขวาง ดังน้ี 1. ท่งุ หญา้ ปามปัส เป็นเขตปศสุ ัตวข์ นาดใหญ่ มีการเลี้ยงโคเนือ้ โคนม แกะ 2. ท่งุ หญ้ายาโนส และทุ่งหญ้าแกมโปส เป็นเขตเลย้ี งโคเน้ือ 3. ทุ่งหญา้ กึง่ ทะเลทราย บรเิ วณท่รี าบสูงปาตาโกเนยี มีการเลีย้ งแกะพันธ์ุขนประเทศทสี่ ่งเน้ือสตั วเ์ ปน็ สนิ ค้าออก จำนวนมาก คือ ประเทศอาร์เจนตินา อุรกุ วัย บราซลิ การประมง แหล่งประมงทส่ี ำคญั ของทวปี คอื บรเิ วณชายฝัง่ ประเทศเปรแู ละชลิ ี ซง่ึ มกี ระแสนำ้ เยน็ เปรู (ฮัมโบลด์) ไหลผา่ น มี ปลาแอนโชวีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยงั มีการจับปลาตาม ลุ่มแม่น้ำต่าง ๆ โดยชาวพ้ืนเมอื งอีกดว้ ย แต่เป็นการจบั ปลา เพื่อยงั ชีพ การป่าไม้ การทำปา่ ไมใ้ นทวีปมีไม่มากนักเน่อื งจากความไม่สะดวกในการคมนาคมและ การขนส่ง เขตที่มีความสำคญั ในการทำปา่ ไม้ คอื ภาคตะวนั ออกเฉียงใต้ของบราซิล การทำเหมืองแร่ ทวปี อเมรกิ าใตเ้ ปน็ แหลง่ ผลิตพชื เมืองร้อนและสนิ แร่ การทำเหมืองแร่มีความสำคญั รองจากการทำเกษตรกรรม โดยมีแหลง่ แรท่ สี่ ำคัญดงั น้ี อุตสาหกรรม การอุตสาหกรรมในทวปี ยังไม่คอ่ ยมีความเจริญมากนกั เน่ืองจากขาดเงินทุน และยังตอ้ งอาศัยความรว่ มมือและการ ร่วมลงทุนจากต่างชาติ ประเทศที่มีความเจริญทางด้านอุตสาหกรรม คอื อารเ์ จนตินา บราซิล ชลิ ี เวเนซุเอลา ทวปี อเมรกิ า เหนือ

1. ขนาดที่ต้ังและอาณาเขตติดตอ่ ทวีปอเมรกิ าเหนอื เปน็ ทวปี ทม่ี ขี นาดกวา้ งใหญโ่ ดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของ โลกรองจากทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกามีพ้นื ทป่ี ระมาณ 24 ลา้ นตารางกิโลเมตร รปู รา่ งของ ทวปี อเมริกาเหนือมีลักษณะ คลา้ ยสามเหล่ียมหวั กลบั มีฐานกว้างอยทู่ างทิศเหนอื ส่วนยอดสามเหล่ยี มอยูท่ างทิศใต้ ด้วยความกวา้ งใหญ่ของทวปี จึงมคี วาม หลากหลายทั้งในดา้ นลักษณะทางกายภาพทรัพยากรธรรมชาติและเปน็ ทร่ี วมของชนชาติหลายเช้ือชาติจนกลายเปน็ เบ้า หลอมทางวัฒนธรรม อีกทั้งมีความเจรญิ กา้ วหน้าในด้านเทคโนโลยีและเปน็ ศนู ย์รวมของวฒั นธรรมต่างๆ ต้งั อยู่ในแถบซกี โลก เหนือระหวา่ งละติจูด 7 องศา 15 ลปิ ดาเหนือถึง 83 องศา 38 ลิปดาเหนือและลองจจิ ูด 55 องศา 42 ลปิ ดาตะวนั ตก 172 องศา 30ลปิ ดาตะวันออก อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดกบั ทะเลโบฟอร์ตในมหาสมทุ รอาร์กติกและขั้วโลกเหนือ จุดเหนอื สุดอยูท่ ี่แหลมมอริสเจซปุ เกาะ กรีนแลนดแ์ ละประเทศแคนาดา ทศิ ใต้ ติดกบั ทวีปอเมรกิ าใต้ (มคี ลองปานามาเป็นเส้นแบง่ ทวีป) ทะเลแคริบเบียนในมหาสมทุ รแปซิฟกิ และอา่ ว เมก็ ซิโกในมหาสมุทรแอตแลนติก ทศิ ตะวันออก ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก จุดตะวนั ออกสุดของทวปี อยู่ที่คาบสมทุ รลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา ทิศตะวันตก ตดิ กับมหาสมุทรแปซฟิ ิก จดุ ตะวนั ตกสดุ ของทวปี อยู่ที่แหลมปรินซ์ออฟเวลรัฐอะลาสกา ประเทศ 2. ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภมู ิประเทศของทวีปอเมรกิ าเหนือ สามารถแบง่ ออกได้ 3 ลกั ษณะไดแ้ ก่ 1. เขตเทอื กเขาภาคตะวนั ออก เร่มิ ต้ังแตเ่ กาะนิวฟนดั แลนด์ทางตะวนั ออกเฉียงเหนือของแคนาดา จนถึงตะวนั ออก เฉยี งใตข้ องสหรฐั อเมรกิ า ประกอบดว้ ยเทือกเขาและท่ีราบสูงแต่ไม่สูงนัก ยอดเขาท่ีสงู ที่สุดคอื ยอดเขามิตเชล มคี วามสูง 2,037 เมตร เทอื กเขาท่สี ำคัญคือ เทือกเขาแอปปาเลเซยี น นอกจากน้ียังมีที่ราบแคบๆ ขนานไปกับชายฝง่ั ทะเล บางส่วน ลาดลงทะเลกลายเป็นไหลท่ วีป 2.เขตเทือกเขาสงู ภาคตะวันตก ไดแ้ ก่ พื้นทชี่ ายฝั่งตะวันตกดา้ นมหาสมทุ รแปซิฟิก ตัง้ แต่เทือกเขาตอนเหนอื สดุ บรเิ วณช่องแคบแบริง ทอดตวั ยาวทางใตข้ องทวปี ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลบั ซับซ้อนจำนวนมาก ยอดเขาทส่ี ูงทีส่ ุด คือ ยอดเขาแมกคินเลย์สงู 6,096 เมตร ในเทือกเขาอะลาสกา นอกจากนีย้ ังมเี ทือกเขาร็อกกแี ละเทือกเขาแมกเคนซี ระหว่างเทอื กเขาสงู มีที่ราบสงู จำนวนมาก ทีส่ ำคญั ได้แก่ ทีร่ าบสูงอะลาสกา ทรี่ าบโคโรราโดทร่ี าบสูงเม็กซโิ ก และที่ราบสูงบริ ตชิ โคลัมเบยี เขตเทือกเขาสูงบรเิ วณน้มี ภี มู ปิ ระเทศท่ีสวยงามทมี่ ีท้ังเทือกเขาสงู สลับกบั ทรี่ าบสูง หบุ เขาลกึ ชัน เกดิ เป็นโตรก เขาทีเ่ กิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำ โตรกเขาท่มี ชี ื่อเสยี งทส่ี ดุ คือ แกรนดแ์ คนยอน (grand canyon) ทีเ่ กิดจากการ กัดเซาะของแมน่ ้ำโคโรราโด รฐั แอรโิ ซนาประเทศสหรัฐอเมรกิ า 3. เขตทร่ี าบภาคกลาง เปน็ ท่ีราบขนาดกว้างใหญ่ อยรู่ ะหว่างเทือกเขาตะวันออกและตะวนั ตก เร่ิมตง้ั แต่ชายฝัง่ มหาสมุทรอาร์ติกจนถึงชายฝ่งั อ่าวเมก็ ซโิ ก มลี กั ษณะเปน็ ท่ีราบลกู คลื่นอนั เกดิ จากการกระทำของธารนำ้ แขง็ และการทับถม ของตะกอนจากแม่นำ้ ที่ราบที่สำคญั ไดแ้ ก่ ทร่ี าบลุ่มทะเลสาบทงั้ ห้า ทรี่ าบลุ่มแมน่ ้ำแมกแคนซี ทร่ี าบลมุ่ แมน่ า้ํ มิสซสิ ซิปปี-มสิ ซรู ่ี ทรี่ าบแพรแี ละทรี่ าบชายฝั่งอา่ วเมก็ ซิโก แม่นำ้ แมน่ ้ำที่สำคัญในทวีปอเมรกิ าเหนอื มีดังนี้ แม่น้ำมสิ ซิสซิปปี เกดิ จากเทอื กเขาสูงทางตะวันตกของทวปี เป็นแม่น้ำสายทีย่ าวท่สี ดุ ในทวปี ไหลผ่านทีร่ าบกว้างลงสู่ อา่ วเมก็ ซโิ ก เป็นเขตทร่ี าบที่มีตะกอนทับถมเปน็ บริเวณ กว้าง จงึ เหมาะแก่การเพาะปลูก และเป็นเขตประชากรหนาแนน่

แมน่ ำ้ เซนต์ลอวเ์ รนซ์ ไหลจากทะเลสาบเกรตเลคออกสมู่ หาสมทุ รแอตแลนตกิ แม่นำ้ สายนีใ้ ช้ในการขนส่งสินค้าหรือ วตั ถดุ บิ ทางอตุ สาหกรรม (เนื่องจากบรเิ วณรอบๆเกรตเลคเปน็ เขตอตุ สาหกรรม) แต่ปัญหาสำคญั ของแม่น้ำสายน้ี คอื จะมี ระยะที่เดนิ เรอื ไม่ได้ในฤดหู นาว ลกั ษณะพิเศษของแมน่ ้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ คือ มีการขุดร่องนำ้ และสร้างประตูกัน้ นำ้ เปน็ ระยะๆ เน่อื งมาจากบรเิ วณแมน่ ้ำมีแก่งนำ้ ตกขวางหลายแห่ง เสน้ ทางการขนสง่ สินค้า และเดนิ เรอื นี้ เรยี กวา่ “เซนตล์ อวเ์ รนซ์ ซีเวย์” (St. Lawrence Seaway) แม่นำ้ ริโอแกรนด์ กัน้ พรมแดนระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศเม็กซิโก 3. ลกั ษณะภูมิอากาศ ปัจจัยที่มอี ิทธพิ ลตอ่ ภมู ิอากาศของทวปี อเมรกิ าเหนือ 1. ละตจิ ูด ทวปี อเมริกาเหนือตงั้ อยูร่ ะหว่างละตจิ ดู 7 องศา 15 ลิปดาเหนือ ถึง83 องศา 38 ลปิ ดาเหนอื ใกล้ขว้ั โลกเหนือ จึงทำให้มีเขตภูมิอากาศทุกประเภทตั้งแต่อากาศร้อนไปจนถึงอากาศหนาวเยน็ แบบขว้ั โลก 2. ลมประจำ ลมประจำที่พดั ผ่านทวปี อเมริกาเหนือ มีความแตกต่างกนั ตามชว่ งละตจิ ดู มีลมประจำท่สี ำคัญดังนี้ 1) ลมดา้ นตะวันออกเฉยี งเหนอื พดั ตัง้ แต่ละติจูด 40 องศาเหนือลงไปทางใต้พัดผา่ นมหาสมุทรแอตแลนตกิ เขาสู่ ทวปี จงึ นำความชมุ ่ ช้นื มาให้ชายฝง่ั ตะวนั ออกของทวปี ตลอดทงั้ ปี ตง้ั แตต่ อนใต้ของสหรัฐอเมริกา อเมรกิ ากลางและหมู่เกาะ อนิ ดสิ ตะวันตก 2) ลมตะวนั ตกเฉียงใต้ พดั ตั้งแต่ละติจดู 40 องศาเหนือถึง 60 องศาเหนือ พัดจากมหาสมทุ รแปซิฟกิ เข้าสู่ ตอนกลางถงึ ตอนเหนอื ของสหรัฐอเมริกาและตอนใตข้ องแคนาดา 3) ลมขว้ั โลก พดั อยบู่ ริเวณขั้วโลกนำความหนาวเย็นมาให้พ้นื ที่ทางตอนบนของทวปี 3. ความใกลไ้ กลทะเล จากลักษณะรูปรา่ งของทวปี อเมริกาเหนือ ซ่งึ ตอนบนจะกว้างใหญ่ และค่อยๆ เรยี วแคบลงมา ทางตอนใต้ ทำให้ตอนบนของทวปี ได้รบั อิทธพิ ลจากมหาสมุทรน้อย จงึ ทำให้พน้ื ท่ีตอนบนมีภมู อิ ากาศค่อนขา้ งแหง้ แลง้ 4. ทศิ ทางของเทือกเขา ทิศทางการวางตวั ของเทือกเขาในทวีปอเมริกาเหนอื เปน็ ส่วนสำคญั ในการทำให้พน้ื ทที่ าง ตอนในของทวปี มีอากาศค่อนข้างแหง้ แลง้ โดยเฉพาะเทือกเขาทางตะวนั ตกของทวีป ซง่ึ เปน็ เทือกเขายุคใหม่ทีส่ ูงมาก จงึ ขวางกัน้ ความชืน้ ท่ีมากับลมประจำ 5. กระแสนำ้ ทวปี อเมริกาเหนอื มกี ระแสนำ้ 4 สาย ซงึ่ มีอิทธพิ ลตอ่ อากาศบริเวณชายฝั่งโดยกระแสน้ำอนุ่ ทำให้ อากาศบริเวณชายฝ่ังอบอนุ่ ชุมชืน้ ส่วนกระแสนำ้ เยน็ ทำให้อากาศบรเิ วณชายฝัง่ เย็นและแห้งแล้ง 1) กระแสน้ำอนุ่ กัลฟ์สตรมี ไหลเลยี บชายฝัง่ ตะวนั ออกของเมก็ ซโิ ก และสหรฐั อเมรกิ าทางใต้ข้ึนไปทาง ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของเกาะนิวฟนั ดแ์ ลนด์ของแคนาดา2) กระแสนำ้ เยน็ แลบราดอร์ ไหลเลียบชายฝั่งตะวนั ตกของเกาะ กรนี แลนด์ลงมาจนถึงชายฝ่งั ตะวนั ออกของแคนาดา พบกับกระแสน้ำอุน่ กลั ฟ์สตรมี บริเวณเกาะนิวฟนั ดแ์ ลนดจ์ งึ ทำให้ บรเิ วณนเี้ ป็นแหลง่ ปลาชมุ เนอ่ื งจากมอี าหารปลาจำนวนมาก กลายเป็นเขตทำประมงทีส่ ำคญั เรียกบริเวณน้ีว่า “แกรนด์ แบงค์” (Grand Bank) 3) กระแสน้ำอุน่ อลาสกา ไหลเลยี บชายฝั่งตะวันตกของรฐั อลาสกาข้ึนไปทางเหนือจนถึงช่องแคบเบรงิ ทำให้ชายฝัง่ อบอนุ่ น้ำไม่เปน็ น้ำแข็งสามารถจอดเรือไดต้ ลอดปี 4) กระแสนำ้ เย็นแคลิฟอรเ์ นีย ไหลเลียบชายฝั่งตะวนั ตกของสหรัฐอเมริกาลงมาทางใตจ้ นถึงชายฝ่งั คาบสมุทร แคลฟิ อรเ์ นยี ทำให้ชายฝง่ั มีอากาศเย็นและแห้งพายุ พายทุ ี่มอี ทิ ธิพลตอ่ ลมฟ้าอากาศของทวปี อเมริกาเหนือเปน็ อยา่ งมากคือ

1. พายเุ ฮอริเคน เป็นพายุหมุนเขตรอ้ น เช่นเดียวกบั ใตฝ้ นุ่ พายนุ เ้ี กดิ ในทะเลแคริเบยี น และอา่ วเม็กซิโก เปน็ พายุ ที่ทำใหฝ้ นตกหนัก คลน่ื ลมแรงเคล่อื นตัวจากทะเลเขา้ สู่ชายฝงั่ ของสหรัฐอเมริกา เมก็ ซิโก และหมเู่ กาะในทะเลแครเิ บยี น 2. พายุทอรน์ าโด เนอ่ื งจากบริเวณภาคกลางของสหรฐั อเมริกาเปน็ พ้นื ท่โี ล่งกวา้ งทำให้มวลอากาศปะทะกนั ไดง้ า่ ย เกิดเปน็ พายุหมุนทอรน์ าโด มีกำลงั แรงมาก ก่อให้เกิดความเสียหายกบั บ้านเรือนในรอบ 1 ปีเกดิ พายุน้ีไดบ้ ่อยคร้ัง จนได้รับ สมญานามวา่ “พายุประจำถ่นิ ” ของสหรฐั อเมริกา เขตภมู อิ ากาศแบ่งออกได้เปน็ 12 เขต ได้แก่ 1. ภูมิอากาศแบบร้อนชน้ื ได้แก่ บริเวณชายฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง และบางส่วนของหมู่เกาะอินดสี ตะวันตก มีอากาศร้อนเกือบตลอดท้งั ปี อณุ หภูมเิ ฉล่ีย 18 องศาเซลเซียสและมีฝนตกชุกเฉลย่ี 1,700 มิลลเิ มตรตอ่ ปี ในเขต นไี้ มม่ ีฤดูหนาว 2. ภูมิอากาศแบบทะเลทราย ได้แก่ บรเิ วณภาคตะวนั ตกเฉียงใตข้ องสหรัฐอเมริกาและภาคเหนอื ของเม็กซโิ ก มี อากาศรอ้ นจดั และมฝี นตกนอ้ ยมาก เฉล่ีย 250 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี 3. ภูมอิ ากาศแบบทงุ่ หญา้ เขตรอ้ น ไดแ้ ก่ ชายฝ่ังตะวนั ตกของอเมริกากลาง พน้ื ท่ีสว่ นใหญข่ องเม็กซโิ ก บางส่วนของ หมเู่ กาะอนิ ดสี ตะวนั ตก และทางตอนใต้สุดของคาบสมทุ รฟลอริดา มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว คอื ฤดหู นาวอากาศหนาวจัดฤดูรอ้ นมีอากาศร้อนจัดและมีฝนตก 4. ภมู อิ ากาศแบบทุง่ หญา้ ก่ึงทะเลทราย ไดแ้ ก่ บรเิ วณชายขอบของเขตทะเลทรายเร่มิ ตั้งแต่บางสว่ นของประเทศ แคนาดาและเม็กซโิ ก ทางตะวันตกและตะวนั ตกเฉยี งใต้ของสหรัฐอเมริกา มีลักษณะภูมอิ ากาศกึ่งแห้งแล้ง ฤดหู นาวมีอากาศ หนาวจัด ฤดูร้อนมีอากาศรอ้ นและแห้งแลง้ ปริมาณฝนไม่มากนกั แตม่ ากกว่าในเขตทะเลทราย 5. ภูมิอากาศแบบเมดเิ ตอรเ์ รเนียน ไดแ้ ก่ บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟกิ ในเขตรัฐแคลิฟอรเ์ นยี ของสหรฐั อเมรกิ า ในฤดูรอ้ นมีอากาศไมร่ ้อนจดั ในฤดหู นาวมอี ากาศอบอนุ่ แห้งแล้งและมีฝนตก 6. ภมู อิ ากาศแบบอบอุน่ ชนื้ ไดแ้ ก่ บริเวณทรี่ าบชายฝ่ังมหาสมุทรแอตแลนตกิ และที่ราบตอนกลางของทวีป อุณหภูมิ เฉลย่ี ตลอดทัง้ ปีมีความใกลเ้ คียงกัน มฝี นตกเกือบตลอดทั้งปีเฉลยี่ 750 มลิ ลเิ มตรต่อปี 7. ภมู อิ ากาศแบบภาคพื้นสมุทรชายฝ่งั ตะวนั ตก ได้แก่ ชายฝั่งมหาสมทุ รแปซิฟิกในเขตสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มี ฝนตกชุกเกือบตลอดทัง้ ปีเฉล่ีย 2,000 มิลลเิ มตรตอ่ ปฤี ดรู ้อนมีอากาศรอ้ นช้นื และ ฤดหู นาวมอี ากาศเย็นสบาย 8. ภูมอิ ากาศแบบช้นื ภาคพนื้ ทวีป ไดแ้ ก่ ตอนใต้ของประเทศแคนาดารอบๆ ทะเลสาบทงั้ 5 และภาคเหนือของสหรัฐอเมริกา ในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเยน็ ในฤดรู ้อนมีอากาศอบอ่นุ และมีฝนตก 9. ภูมิอากาศแบบไทกา ได้แก่ ภาคเหนือของประเทศแคนาดา และตอนใตข้ องรฐั อะลาสกา สหรัฐอเมรกิ า เป็น บรเิ วณทมี่ ีอากาศหนาวจดั มีหิมะตกติดตอ่ กนั หลายเดือนฤดรู อ้ นมีอากาศเยน็ มปี ริมาณฝนตกน้อยและระยะสน้ั ๆ 10. ภมู ิอากาศแบบทนุ ดรา ไดแ้ ก่ ชายฝงั่ มหาสมทุ รอาร์กติก ภาคเหนือของแคนาดา รัฐอะลาสกาของสหรัฐอเมริกา และชายฝงั่ เกาะกรนี แลนด์ มีอากาศหนาวจดั เกือบตลอดทั้งปี ฤดรู อ้ นมชี ว่ งสัน้ และอุณหภูมิตำ่ เฉล่ียตลอดท้ังปี 10 องศา เซลเซียส 11. ภูมิอากาศแบบข้วั โลก ไดแ้ ก่ ตอนกลางของเกาะกรนี แลนด์ มอี ากาศหนาวจดั มีน้ำแข็งปกคลมุ เกือบตลอดท้งั ปี บรเิ วณตอนกลางของเกาะมีน้ำแข็งปกคลุมหนาถงึ 3,000 เมตร

12. ภูมิอากาศแบบบริเวณภเู ขาสงู ได้แก่ เทือกเขาสงู ในภาคตะวันตก เป็นบรเิ วณที่มีอณุ หภมู ิแตกตา่ งกนั มาก ขึ้นอยู่กับความสูงของพนื้ ท่ี เช่น ในฤดูรอ้ นด้านท่ีรบั แสงแดดอากาศร้อนจัด ในด้านตรงกันข้ามจะมอี ากาศหนาวเย็น ในแถบ หบุ เขาจะมีอากาศหนาวเยน็ โดยเฉพาะในเวลากลางคนื อุณหภมู ิจะต่ำลงเมื่อความสูงเพ่ิมขนึ้ บริเวณยอดเขามีน้ำแข็งปกคลุม อยู่ ในบรเิ วณนม้ี ีฝนตกน้อย 4. สภาพเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมทางสังคมวฒั นธรรมลกั ษณะเศรษฐกจิ ลกั ษณะเศรษฐกิจของทวีปอเมริกา เหนอื จะมีความแตกตา่ งกนั คือ ในสหรฐั อเมริกา แคนาดา จะเป็นเขตเศรษฐกจิ ท่มี คี วามเจริญสงู สว่ นในเขตของเมก็ ซิโก อเมรกิ ากลางและหมูเ่ กาะอินดสี ตะวนั ตกจะมที ้ังเขตเศรษฐกิจทเี่ จรญิ แลว้ และเขตทีย่ งั ต้องไดร้ ับการพัฒนา การทำเกษตรกรรม 1. เขตปลูกข้าวสาลี บริเวณทมี่ ีการปลูกข้าวสาลี ซึ่งถอื เปน็ แหลง่ สำคัญของโลกคือ บริเวณภาคกลางของแคนาดา และสหรัฐอเมรกิ า 2. เขตทำไรป่ ศุสตั ว์ พบในบริเวณท่ภี มู ิอากาศค่อนขา้ งแหง้ แล้ง เชน่ ภาคตะวนั ตกของแคนาดา สหรฐั อเมริกา และ เม็กซิโก สัตว์ทเ่ี ล้ยี ง คือ โคเน้ือ 3. เขตเกษตรกรรมแบบผสม ไดแ้ ก่ เขตทีม่ ีการเลีย้ งสตั วค์ วบคู่กับการปลูกพชื เชน่ ข้าวสาลี ขา้ วโพด ส่วนสตั ว์เล้ยี ง คือ โคเนอื้ โคนม การเกษตรลักษณะนพ้ี บบรเิ วณทางตะวนั ออกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา 4. เขตปลกู ฝ้าย ไดแ้ ก่ บรเิ วณทางตะวันตกของสหรัฐอเมรกิ า ซึง่ เปน็ เขตทม่ี ีอากาศค่อนขา้ งรอ้ นและแหง้ แลง้ 5. เขตปลกู ผกั ผลไม้และไรย่ าสูบ ไดแ้ ก่ บริเวณท่ีราบชายฝั่งมหาสมทุ รแอตแลนติก 6. เขตปลกู พืชเมืองรอ้ น พืชเมืองร้อนทนี่ ยิ มปลูกคือ กลว้ ย โกโก้ อ้อย กาแฟ ซงึ่ มีมากบรเิ วณอเมริกากลางและหมู่ เกาะอินดสี ตะวนั ตก การประมง บรเิ วณท่มี กี ารทำประมงกนั อยา่ งหนาแนน่ คือ แกรนด์แบงค์ และบรเิ วณชายฝ่ังมหาสมุทรแปซฟิ ิกโดยเฉพาะ บรเิ วณท่มี ีกระแสนำ้ เยน็ แคลิฟอรเ์ นียไหลผ่าน การทำเหมืองแร่ ถา่ นหนิ สหรฐั อเมริกาและแคนาดา สามารถผลติ ถ่านหนิ ได้ เปน็ จำนวนมาก โดย มีแหล่งผลติ ทีส่ ำคญั คอื บรเิ วณเทือกเขาแอปปาเลเซียน ในสหรัฐอเมริกา และมณฑลควิเบก ของแคนาดา เหล็ก แหล่งสำคัญ คือ ทะเลสาบเกรตแลค น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ พบบริเวณเทอื กเขาแอปปาเลเซยี นลมุ่ แมน่ ้ำมสิ ซิสซิปปี อ่าวเม็กซิโก แคลิฟอร์เนีย อลาสกา การทำอุตสาหกรรม สหรฐั อเมริกาเปน็ ประเทศผนู้ ำในการทำอตุ สาหกรรมระดับโลก ส่วนใหญเ่ ป็นอตุ สาหกรรม ขนาดใหญ่ใช้เงินทนุ เปน็ จำนวนมาก สว่ นประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลาง รวมถึงประเทศในหมเู่ กาะอนิ ดสี ตะวนั ตก อุตสาหกรรมสว่ นใหญเ่ ปน็ อตุ สาหกรรมเกษตรการแปรรปู ผลผลิตต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการพฒั นาตอ่ ไปสภาพแวดล้อมทาง สังคมและวฒั นธรรม ประชากร 1. บริเวณท่มี ปี ระชากรหนาแนน่ ได้แก่ ชายฝง่ั ตะวันตกของสหรฐั อเมรกิ า ลุ่มแม่นำ้ มสิ ซิสซิปปี ลุ่มแมน่ ้ำเซนต์ ลอรวเ์ รนซ์ ที่ราบสงู ในเม็กซโิ ก หมู่เกาะอนิ ดีสตะวันตก

2. มีผคู้ นหลากหลายเช้อื ชาติ เช่น อินเดยี นแดง เอสกโิ ม ยุโรป แอฟริกัน เอเชยี และกลมุ่ เลอื ดผสม เขตวัฒนธรรม 1. แองโกอเมริกา หมายถงึ สหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา 2. ลาตินอเมรกิ า หมายถึง กลุ่มคนในเมกซโิ ก อเมริกากลาง และหมเู่ กาะอินดสี ตะวนั ตก (ซ่ึงไดร้ บั อิทธพิ ลจาก สเปนและโปรตเุ กส) ทวปี แอฟริกา 1. ขนาดทต่ี ้ังและอาณาเขตติดต่อทวีปแอฟริกามีขนาดใหญเ่ ป็นอนั ดับ 2 รองจากทวีปเอเชีย มีพ้นื ที่ประมาณ 30.3 ลา้ นตารางกโิ ลเมตร มปี ระชากร 600 ล้านคน อยรู่ ะหวา่ งละตจิ ดู ที่ 37 องศา 21 ลิปดาเหนือ ถึง 34 องศา 50 ลิปดาใต้ ลองตจิ ดู ที่ 51 องศา 24 ลิปดาตะวันออกถงึ 17 องศา32 ลิปดา อาณาเขตตดิ ต่อ ทศิ เหนือ ติดกบั ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียน ในมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ช่องแคบยิบรอลตาร์ จดุ เหนือสุดของทวีปอย่ทู ่ี แหลมบอน ประเทศตูนิเซีย ทศิ ใต้ ตดิ กบั มหาสมุทรแอตแลนตกิ และมหาสมุทรอนิ เดยี จุดใต้สดุ ของทวีปอยู่ทแ่ี หลมอะกอลฮสั (Agulhas) ใน ประเทศแอฟริกาใต้ ทิศตะวันออก ติดกบั ทะเลแดง ในมหาสมทุ รอนิ เดยี จุดตะวนั ออกสดุ ของทวีปอยู่ทแ่ี หลมฮาฟนู ประเทศโซมาเลยี ทิศตะวันตก ตดิ กบั มหาสมุทรแอตแลนติก จุดตะวนั ตกสุดของทวปี อยู่ท่แี หลมเวริ ์ดประเทศเซเนกลั 2. ลักษณะภมู ปิ ระเทศ ลกั ษณะภมู ิประเทศทวปี แอฟรกิ าสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ลกั ษณะดังน้ี 1. เขตทร่ี าบสูงพืน้ ที่เกอื บทงั้ หมดของทวีปเป็นทีร่ าบสูง จนไดร้ ับสมญาวา่ เปน็ ทวปี แห่งทีร่ าบสงู โดยทางซีก ตะวนั ออกจะสูงกว่าซีกตะวันตก ลกั ษณะเด่นของบรเิ วณที่ราบสงู ทางภาคตะวันออกของทวีป คอื เปน็ พื้นท่ีที่มีภเู ขาสงู และ ภูเขาไฟ ภเู ขาไฟทมี่ ชี ื่อเสยี ง คือ ภเู ขาคิลิมนั จาโร(แทนซาเนยี ) และมีทะเลสาบหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบวคิ ตอเรยี (ทะเลสาบ น้ำจดื ใหญเ่ ป็น อันดบั 2 ของโลก) ทะเลสาบแทนแกนยิกาและทะเลสาบไนอะซา แผนท่ีทวปี แอฟรกิ า 2. เขตท่รี าบ ทวีปแอฟริกามีทร่ี าบแคบๆ บริเวณชายฝ่ังทะเล 3. เขตเทอื กเขา เขตเทือกเขาทางทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือ คือ เทือกเขาแอตลาส วางตวั ขนานกบั ชายฝั่งทะเลเมดิเตอรเ์ รเนยี น เป็น เทอื กเขายคุ ใหม่ เทือกเขาทางทศิ ใต้ คือ เทือกเขาดราเคนสเบริ ์ก วางตัวขนานกับชายฝ่ังมหาสมทุ รอนิ เดยี เปน็ เทือกเขายุคเก่า แม่น้ำ แมน่ ํา้ ในทวปี แอฟรกิ าสวน่ ใหญเ่ กิดจากทรี่ าบสูงตอนกลาง และทางตะวันออก ของทวีป ซ่ึงมีฝนตกชุก เน่ืองจากพืน้ ท่ีต่างระดบั แมน่ ้ำจงึ กัดเซาะพืน้ ท่ีให้เกดิ เปน็

แก่งน้ำตกขวางลำน้ำ จงึ เปน็ อุปสรรคต่อการคมนาคม แต่สามารถใช้ประโยชนใ์ นการผลติ กระแสไฟฟา้ ได้แม่นำ้ ที่ สำคัญ ไดแ้ ก่ แมน่ ้ำไนล์ เป็นแมน่ ้ำสายทยี่ าวที่สุดในโลก ไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนยี น ประกอบด้วยแควสำคญั คือ ไวทไ์ นว์ บลู ไนล์และอตั บารา ปากแมน่ ำ้ เป็นเดลตา้ แม่น้ำซาอีร์ (คองโก้) เปน็ แม่น้ำสายยาวอันดบั 2 ของทวปี และเปน็ ที่ราบลุม่ แม่นำ้ ท่กี วา้ งขวาง น้ำในแมน่ ำ้ ไหลลงสมู่ หาสมทุ รแอตแลนติก แม่นำ้ ไนเจอร์ ไหลลงสูอ่ า่ วกินี แมน่ ้ำแซมเบซี ไหลลงสูม่ หาสมุทร อนิ เดีย ไหลผา่ นที่ราบสูงและไหลเช่ียวมาก 3. ลกั ษณะภูมิอากาศ เขตอากาศ ปัจจัยทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ ภมู ิอากาศของทวีปแอฟริกา 1. ละตจิ ดู ทวปี แอฟริกามเี ส้นศูนยส์ ตู รผ่านเกอื บกึง่ กลางทวปี และตงั้ อยรู่ ะหว่างเส้นทรอปิคออฟแคนเซอร์ กับเสน้ ทรอปคิ ออฟแคปริคอร์น ทำให้มเี ขตอากาศร้อนเป็นบริเวณกวา้ ง มีเฉพาะสว่ นเหนอื สุดและใต้สุดท่ีอยู่ในเขตอบอ่นุ 2. ลมประจำ มี 2 ชนิดคอื ลมสินค้าตะวนั ออกเฉยี งใต้ พัดจากมหาสมุทรอินเดยี และมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ทำให้ฝนชุกบริเวณชายฝงั่ แอฟริกาตะวันออกและตะวนั ออกเฉยี งใต้กับชายฝ่ังอ่าวกนิ ลี มสินคา้ ตะวันออกเฉยี งเหนือ พัดจาก ตอนในของทวปี มาสชู่ ายฝ่ัง จงึ นำความแหง้ แลง้ มาสูช่ ายฝ่ังตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของทวีป 3. กระแสน้ำ ได้แก่ กระแสนา้ํ อ่นุ กนิ ี ไหลผา่ นชายฝ่ัง ตะวนั ตกจากมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ไปยังอา่ วกินี กระแสน้ำเย็นคานารี ไหลเลยี บชายฝง่ั ตะวนั ตกเฉียงเหนอื ของทวปี กระแสนำ้ เย็นเบงเก-ลา ไหลเลียบชายฝ่ังตะวนั ตกเฉียงใตข้ องทวปี กระแสน้ำอนุ่ โมซัมบิก ไหลผ่านบรเิ วณชอ่ งแคบโมซัมบกิ 5. ระยะหา่ งจากทะเล ด้วยความกวา้ งใหญข่ องทวีป การมที ่ีสูงอยู่โดยรอบทวีปทำให้อิทธิพลของมหาสมุทรเข้าไป ไมถ่ ึง ประกอบกับไดร้ ับอิทธิพลจากทะเลทรายของทวเี อเชียทางดา้ นตะวันออกเฉียงเหนือของทวปี ทำให้ทวีป แอฟริกามีเขตภมู ิอากาศแหง้ แล้งเปน็ บรเิ วณกว้าง ทวปี แอฟรกิ าสามรถแบ่งเขตอากาศไดเ้ ป็น 8 เขตดังนี้ 1. ภมู ิอากาศแบบทะเลทราย ไดแ้ ก่ บรเิ วณทะเลทรายสะฮาราและทะเลทรายลิเบียทางตอนเหนอื ของทวปี ในเขต ประเทศไนเจอร์ ชาด ลิเบีย มาลี บรุ ์กนิ าฟาโซ มอริเตเนียคิดเปน็ พ้ืนทีร่ ้อยละ 30 ของพ้ืนท่ใี นทวปี แอฟริกา และถอื เป็นเขต ทะเลทรายที่มขี นาดใหญท่ ่ีสดุ ในโลก ทะเลทรายทีส่ ำคัญอีกแห่งหนงึ่ คอื ทะเลทรายกาลาฮารี ทางตอนใต้ของทวปี ในเขตประเทศบอตสวานาและนามิเบีย มลี ักษณะอากาศร้อนและแห้งแลง้ เฉล่ยี สูงกว่า 35 องศาเซลเซียส อุณหภมู ริ ะหว่าง กลางวันและกลางคนื แตกตา่ งกันมาก มีฝนตกน้อย เฉลีย่ ตำ่ กวา่ 250 มิลลิเมตรต่อปี 2. ภมู อิ ากาศแบบท่งุ หญา้ กงึ่ ทะเลทราย ไดแ้ ก่ บรเิ วณทรี่ าบสงู ตอนในของทวปี ชายฝ่งั ตะวนั ตกและตอนใตข้ องเส้น ศูนยส์ ตู ร ในฤดรู ้อนมีอากาศร้อนจดั และมีฝนตกแตไ่ ม่มากนักประมาณ 600 มิลลเิ มตรต่อปี ฤดหู นาวมีอากาศหนาวจัด บางคร้ังอาจถงึ จดุ เยือกแขง็

3. ภูมอิ ากาศแบบป่าดบิ ชืน้ ได้แก่ บรเิ วณลุม่ แม่นำ้ คองโก ท่รี าบสูงในแอฟริกาตะวันออก ฝ่ังตะวันออกของเกาะ มาดากสั การ์ และชายฝัง่ รอบอ่าวกินี มีอากาศร้อนอุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส และฝนตกชุกตลอดท้ังปีมากถึง 2,000 มลิ ลิเมตรต่อปี 4. ภมู อิ ากาศแบบทุง่ หญ้าสะวนั นา ได้แก่ บรเิ วณเหนือและใตแ้ นวเส้นศนู ยส์ ตู รในเขตประเทศเอธโิ อเปีย ซดู าน เคนยา คองโก สาธารณรฐั คองโก แทนซาเนยี และด้านปลายลมของเกาะมาดากสั การ์ มีอุณหภูมริ ้อนเกือบตลอดทง้ั ปี ในฤดู ร้อนมอี ากาศร้อนและมฝี นตกปรมิ าณ 1,500 – 2,000 มิลลิเมตรตอ่ ปี ฤดหู นาวมีอากาศหนาวและแห้งแลง้ 5. ภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเ์ รเนยี น ไดแ้ ก่ บรเิ วณชายฝั่งของประเทศตนู เิ ซียแอลจีเรยี โมร็อกโก และตอนใต้ของ ประเทศแอฟริกาใต้ มีอณุ หภูมิไมแ่ ตกต่างกันมากนกั ในฤดรู ้อนมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ในฤดูหนาวมอี ากาศอบอนุ่ และมีฝน ตก 6. ภูมิอากาศแบบมรสุม ได้แก่ ประเทศไลบีเรยี และโกตดิววั ร์ เนือ่ งจากไดร้ บั อทิ ธิพลจากลมประจำตะวันตกและ กระแสนำ้ อนุ่ กนิ ี สง่ ผลใหม้ ีฝนตกชุกประมาณ 2,500มลิ ลิเมตรต่อปีและมีอากาศร้อนช้ืน อณุ หภมู ิเฉล่ยี 20 องศาเซลเซียส 7. ภูมิอากาศแบบอบอนุ่ ชนื้ ไดแ้ ก่ บรเิ วณตะวันออกเฉียงใตข้ องทวปี ในเขตประเทศแทนซาเนยี แซมเบยี โมซัมบิก ซิมบบั เว มาลาวี สวาซแิ ลนด์ เลโซโท และแอฟริกาใตไ้ ด้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นโมซัมบกิ และลมค้าตะวนั ออกเฉียงเหนือ ทำให้ฤดหู นาวมีอากาศอบอุน่ ในฤดูร้อนมฝี นตก 8. ภมู อิ ากาศแบบภูเขา ได้แก่ ทร่ี าบสูงเอธโิ อเปีย และที่ราบสงู เคนยา ทางตะวนั ออกของทวีป ลักษณะอากาศช้ืนอยู่ กบั ความสงู ของพน้ื ที่ ยิง่ สงู ข้นึ อากาศจะเยน็ ลง และมปี ริมาณฝนตกนอ้ ยลง 4. ลกั ษณะเศรษฐกจิ และสภาพแวดลอ้ มทางสังคมวัฒนธรรม ลักษณะเศรษฐกิจ การเกษตรกรรม 1. การเพาะปลูกแบบยังชีพ เปน็ การปลูกพืชเพื่อบริโภคภายในครอบครวั 2. การทำไร่ขนาดใหญ่ เปน็ การเพาะปลกู เพ่ือการค้า พืชท่ีปลกู เชน่ ยางพารา ปาลม์ น้ำมนั 3. การเกษตรแบบผสม คือ การเพาะปลกู แบบเล้ียงสัตว์ควบคูก่ นั ไป พชื ทป่ี ลูกคอื ข้าวโพดข้าวสาลี สตั ว์ที่เลยี้ ง คอื โคเนือ้ โคนม แกะ 4. การเกษตรแบบเมดิเตอร์เรเนยี น คอื ปลูกองุ่น มะกอก บรเิ วณชายฝั่งทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี นและตอนใต้ของทวปี 5. การทำไร่ปศุสตั ว์ สว่ นใหญ่จะเปน็ การเลย้ี งแบบปล่อยคือ การปลอ่ ยใหส้ ตั ว์หากนิ ในทุง่ หญ้าตามธรรมชาติ 6. การเล้ียงสัตว์แบบเรร่ ่อน เปน็ การเลีย้ งสตั วใ์ นพนื้ ทีท่ เ่ี ป็นทะเลทรายการป่าไมพ้ น้ื ทีท่ ่มี ีความสำคัญในการทำป่าไม้ คอื แอฟริกาตะวนั ตก แอฟริกากลาง ปา่ ไม้ สวนใหญ่สญู เสยี ไปเน่ืองจากการทำไรเ่ ลอ่ื นลอยและการขาดการบำรุง การลา่ สตั วแ์ ละการประมงชนพื้นเมืองจะดำรงชีพดว้ ยการล่าสัตว์ สว่ นการประมงมีความสำคัญไม่มาก การประมงนำ้ จืดจะ ทำตามลุ่มแมน่ ้ำสายใหญ่ และทะเลสาบวิคตอเรยี สว่ นประมงนำ้ เค็มมักจะทำบริเวณท่ีมีกระแสนำ้ เย็นเบงเก-ลา ไหลผา่ น การทำเหมืองแร่ เปน็ ทวปี ท่มี ีสนิ แรอ่ ย่เู ป็นจำนวนมาก ท่ีสำคญั คือ เพชร ทองคำ นำ้ มัน ก๊าซธรรมชาติ การอตุ สาหกรรม

การทำอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา เป็นอตุ สาหกรรมทเี่ กย่ี วข้องกับการ แปรรูปผลิตผลการเกษตร การ อตุ สาหกรรมสว่ นใหญ่ยงั ไม่ค่อยเจริญมากนักเน่ืองจากยงั ขาดเงนิ ทนุ และผเู้ ช่ียวชาญด้านการพฒั นาอตุ สาหกรรม ประชากร มปี ระชากรมากเป็นอนั ดับ 2 รองจากทวีปเอเชยี ประชากรหนาแนน่ บริเวณลุ่มแม่น้ำ และบริเวณชายฝัง่ ทะเล ประกอบด้วยเชอ้ื ชาตนิ กิ รอยดแ์ ละคอเคซอยด์1 ทวีปออสเตรเลยี และโอเซยี เนีย 1. ขนาดท่ีต้ังและอาณาเขตติดตอ่ ทวีปออสเตรเลียและโอเซียเนีย เป็นท่ีต้ังของประเทศออสเตรเลีย ประเทศนวิ ซีแลนด์ ทวปี ออสเตรเลียได้รับสมญา นามว่า ทวีปเกาะ สว่ นหม่เู กาะแปซิฟกิ ซ่ึงเป็นที่ตงั้ ของประเทศอ่นื ๆ ตอ่ เนื่องไปถงึ ทวปี แอนตารก์ ติก เรยี กว่า โอเชียเนีย หมายถงึ เกาะ และหมู่เกาะในภาคกลางและภาคใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทัง้ หมเู่ กาะไมโครนเี ซีย เมลานเี ซยี โปลีนเี ซีย ออสเตรเลยี นวิ ซแี ลนด์ และหมู่เกาะมลายูทวปี ออสเตรเลยี เป็นทวปี ทม่ี ีขนาดเลก็ ท่ีสดุ ในโลก มีพืน้ ที่ 7.6 ล้าน ตร. กม.มปี ระชากร 17.5 ลา้ นคน ที่ต้ังของทวปี ออสเตรเลียอยใู่ นซีกโลกใต้ทั้งหมด ตงั้ แตล่ ะตจิ ูดที่ 10 องศา 41 ลิปดาใต้ ถงึ 43 องศา 39 ลปิ ดาใต้ และลองจิจดู 113 องศา 9 ลิปดาตะวนั ออก ถึง 153 องศา 39 ลปิ ดาตะวนั ออก อาณาเขตติดต่อ ทศิ เหนอื ติดตอ่ กับทะเลเมดิเตอร์เรเนยี นในมหาสมุทรแปซิฟิก จดุ เหนือสดุ ของ ทวีปอยทู่ แี่ หลมยอร์กมีชอ่ งแคบทอรเ์ รสกนั้ จากเกาะนวิ กินี ทิศตะวนั ออก ติดกบั ทะเลคอรลั และทะเลแทสมันในมหาสมุทรแปซิฟกิ จุดด้าน ตะวนั ออกสุดอยูท่ ี่แหลมไบรอน ทศิ ใต้ ตดิ กับมหาสมุทรอินเดีย จดุ ใตส้ ดุ อยู่ทแี่ หลมวลิ สันมีชอ่ งแคบบาสสก์ ั้นจาก เกาะแทสมาเนยี ทศิ ตะวนั ตก ตดิ กับมหาสมุทรอนิ เดยี จุดตะวนั ตกสดุ อยู่ทแ่ี หลมสตฟี ภมู ิภาคและประเทศต่างๆ ของทวปี ออสเตรเลยี 1. ออสเตรเลยี ได้แก่ ออสเตรเลยี และนิวซแี ลนด์ 2. หมเู่ กาะในมหาสมทุ รแปซิฟิก ได้แก่ ปาปวนั นิวกินี หมูเ่ กาะเซโลมอน ฟจู ิ วานอู าตูคิริบาส ซามัวตะวันตก ตองกา ตูวาลู นาอูรู ไมโครนีเซีย 2. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีปออสเตรเลยี และโอเซียเนยี มีเขตท่ีสูงทางดา้ นตะวนั ออก มีฝนตกชุกท่ีสดุ ของทวีป มี เทือกเขาเกรตดไิ วดงิ อยู่ ทางดา้ นตะวันออก มลี ักษณะเป็นสนั ปันน้ำทีแ่ บง่ ฝนที่ตกลงใหไ้ หลสลู่ ำธาร เขตทร่ี าบต่ำ ตอนกลาง พ้ืนท่ีราบเรยี บ มีลำนำ้ หลายสายไหลมาอยู่บริเวณนี้ และเขตท่รี าบสงู ทางด้าน

ตะวันตกตอนกลางของเขตนเี้ ปน็ ทะเลบริเวณทางใต้และทางตะวันออกเฉียงเหนอื ใช้เป็นเขต ปศสุ ตั วแ์ ละเพาะปลูก 3. ลกั ษณะภมู ิอากาศของทวีปออสเตรเลยี และโอเซียเนยี ปัจจยั สำคัญทที่ ำให้ทวปี ออสเตรเลียมภี ูมอิ ากาศตา่ งๆ กนั คือ ตง้ั อยู่ ในโซนรอ้ นใต้และอบอุ่นใต้ มีลมประจำพัดผา่ น ลกั ษณะภมู ิประเทศและมีกระแสนำ้ อุน่ และกระแสน้ำเยน็ ไหลผา่ น ลกั ษณะภมู อิ ากาศของทวีปออสเตรเลียและโอเซียเนียแบ่งเขตภมู อิ ากาศเป็น 6 ประเภทคอื 1. ภมู ิอากาศทุ่งหญ้าเขตร้อน 2. ภูมอิ ากาศทุ่งหญา้ กึ่งทะเลทราย 3. ภมู ิอากาศทะเลทราย 4. ภูมอิ ากาศเมดเิ ตอร์เรเนยี น 5. ภูมิอากาศอบอนุ่ ชน้ื 6. ภูมิอากาศภาคพน้ื สมุทรชายฝ่ังตะวันตก 4. สภาพทางสงั คม เชอื้ ชาติ เศรษฐกิจ ศาสนาและวฒั นธรรม ประชากร เชือ้ ชาตเิ ผา่ พนั ธุข์ องออสเตรเลีย ชาวพน้ื เมืองดั้งเดมิ เป็นพวกผวิ ดำเรียกวา่ อะบอริจินส์เป็นพวกทอ่ี พยพ มาจากหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟกิ ส่วนใหญ่อยทู่ างภาคเหนอื และภาคตะวนั ตกปจั จบุ นั มี ชาวผวิ ขาว ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นชาว อังกฤษอาศัยอยูจ่ ำนวนมากรฐั บาลได้จัดทอ่ี ยู่ในเขตนอรท์ เทิร์นเทริทอร่ี รัฐควีนสแลนด์ และรฐั ออสเตรเลยี ตะวันตก พวก ผิวเหลอื งเป็นพวกท่ีอพยพมาภายหลงั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ได้แก่ ชาวจนี ญปี่ ุ่น พวกผิวขาว สว่ นใหญเ่ ปน็ พวกท่อี พยพมาจาก ประเทศอังกฤษ มกี ารประกอบอาชพี ทางดา้ นการเกษตรคือปลกู พืชและเล้ียงสตั ว์ การประมง และอุตสาหกรรม การกระจายประชากรรฐั บาลออสเตรเลียมนี โยบายสงวนพื้นที่ไวส้ ำหรบั ชาวผวิ ขาว คอื นโยบายออสเตรเลีย ขาวกีดกนั ผวิ โดยจำกดั จำนวนคนสีผิวอื่นที่ไม่ใชผ่ วิ ขาวเข้าไปตงั้ ถิน่ ฐานในออสเตรเลยี บรเิ วณทีป่ ระชากรอาศัยอยูห่ นาแนน่ ได้แก่ ภาคตะวนั ออกเฉียงใต้ บรเิ วณทม่ี ปี ระชากรเบาบาง ได้แก่ ตอนกลางของทวีป ภาคเหนอื และภาคตะวนั ตก ศาสนา ชาวออสเตรเลยี นับถือศาสนาคริสตห์ ลายนิกาย ได้แก่ แองกลกิ ัน โรมันคาทอลกิ โปรแตสแตนส์ ภาษาที่ใช้ มากคือภาษาอังกฤษ การปกครอง การแบง่ แยกทางการเมือง ออสเตรเลยี มีระบบการปกครองแบบสหพนั ธรัฐประกอบด้วยรัฐต่างๆ รวม 6 รฐั และดนิ แดนอิสระทไ่ี ม่ขึ้นกับรัฐใดๆ อีก 2 แหง่ คือ 1. รฐั นิวเซาทเ์ วล เมืองหลวง ซดิ นยี ์ 2. รฐั วิกตอเรยี เมอื งหลวง เมลเบริ ์น 3. รฐั ควนี สแลนด์ เมอื งหลวง บริสเบรน 4. รฐั ออสเตรเลยี ใต้ เมืองหลวง แอเดเลด 5. รัฐออสเตรเลียตะวันตก เมืองหลวงเพริ ์ธ

6. รัฐแทนสเมเนยี เมอื งหลวง โอบารต์ ดินแดนอิสระ 2 บริเวณ ได้แก่นอรท์ เทิรน์ แทริทอรี เมืองหลวง ดารว์ ิน ออสเตรเลีย แคปิตอลเทรทิ อรี เมืองหลวง แคนเบอร์รา ออสเตรเลียเป็นประเทศ เอกราชในเครอื จักรภพอังกฤษ มีพระนางเจ้าอลิซาเบธท่ี 2 เปน็ พระราชนิ แี ละเปน็ ประมุขของประเทศ มีข้าหลวงใหญเ่ ปน็ ผสู้ ำเร็จราชการแทนพระองค์จดั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในรูปแบบ สหพันธรฐั การปกครองของออสเตรเลยี เปน็ แบบรฐั บาลรวม คอื มีรฐั บาล 2 ระดบั ได้แก่ รฐั บาลกลางรฐั บาลของรฐั

ใบงาน ภมู ิศาสตร์ กายภาพ เร่ือง ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพประเทศไทย คำชีแ้ จง ใหน้ ักศึกษาวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพด้านตา่ งๆ ที่มีอิทธิพลต่อสภาพภมู ิศาสตร์และสงั คม ของประเทศไทยลงในชอ่ งวา่ งท่ีกำหนด ทต่ี ้งั รูปร่าง ขนาด แนว พรมแดน

แนวเฉลย ภูมศิ าสตรก์ ายภาพ เร่อื ง ภมู ิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย คำช้แี จง ให้นักศึกษาวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพดา้ นต่างๆ ท่ีมีอิทธพิ ลต่อสภาพภมู ิศาสตร์และสังคม ของประเทศไทยลงในชอ่ งวา่ งที่กำหนด ทตี่ ้ัง รูปร่าง ที่ตั้งของประเทศไทยส่งผลดีต่อการ รูปร่างของประเทศไทยทมี่ ีส่วนยาวและ พัฒนาประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะด้าน แคบทางตอนใต้ ส่งผลใหก้ ารปกครองประเทศ เศรษฐกิจ จากที่ตั้งที่เป็ นทางผ่านในการค้า ทาไดค้ ่อนขา้ งยาก เนอื่ งจากมีพนื้ ทที่ อี่ ยู่ห่างไกล ระหว่างประเทศทางเรือมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากศูนย์กลางของประเทศค่อนขา้ งมาก รวมถึง และเปรียบเสมือนศูนย์กลางทางการคมนาคม เป็ นอุปสรรคในการกระจายความเจริญ ระบบ ขนส่งทางอากาศของภูมิภาคในปัจจุบัน และ สาธารณูปโภคใหท้ ่วั ถึงอกี ดว้ ย จากการที่มีที่ตงั้ อยู่ในเขตละติจูดต่า - ละติจูด เข ต อ บ อุ่ น ท า ให้ มี ท รัพ ย า ก รธ ร รม ช า ติ แนว หลากหลาย ปลูกพืชพรรณธรรมชาติได้หลาย พรมแดน ชนดิ แนวพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับ ขนาด ประเทศเพอื่ นบา้ น มกั ใชแ้ นวพรมแดนธรรมชาติ เป็ นเขตแดน ซ่ึงก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดย ประเทศไทยจดั ว่าเป็นประเทศทมี่ ขี นาด ขอ้ เสียที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน คือ ทาให้มีการ ปานกลาง ส่งผลดีใหม้ ีพนื้ ทีใ่ นการใชป้ ระโยชน์ ลกั ลอบเขา้ ประเทศ ลกั ลอบขนยาเสพติด สินคา้ ดา้ นตา่ งๆ เช่น เกษตรกรรม อุตสาหกรรม อกี ทงั้ หนีภาษีเข้าประเทศ โดยใช้เส้นทางตามภูมิ มีทรพั ยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทัง้ ในดา้ น ประเทศเทอื กเขาเป็นชอ่ งทาง รวมถึงการสรู้ บกนั ปรมิ าณและความหลากหลาย ในประเทศเพอื่ นบา้ นและส่งผลกระทบมาสู่ชาว ไทยที่อาศัยบริเวณ ชายแดนบ่อยครั้ง ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ยังเป็ น ประเทศกาลงั พฒั นาทมี่ ปี ัญหาภายในมากมาย

เร่อื ง ภมู ปิ ระเทศภาคเหนือ คำชี้แจง ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคำถามในประเดน็ ต่อไปนี้ 1. ภาคเหนือมที ั้งหมดกีจ่ ังหวัด อะไรบ้าง 2. ภเู ขาและแมน่ ้ำท่ีสำคัญในภาคเหนอื ไดแ้ ก่อะไรบ้าง 3. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศในภาคเหนือมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวติ ของประชากรอย่างไร 4. ใหน้ กั เรยี นยกตวั อย่างการประยุกตใ์ ช้องค์ความรู้ เรื่อง ลักษณะภมู ิประเทศภาคเหนือ ในการดำเนินชวี ติ

เรอ่ื ง ภูมิประเทศภาคเหนอื คำชแ้ี จง ให้นักศกึ ษาตอบคำถามในประเดน็ ต่อไปน้ี 1. ภาคเหนือมที ั้งหมดกจ่ี ังหวัด อะไรบา้ ง ภาคเหนอื ประกอบดว้ ย 9 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั แมฮ่ ่องสอน เชียงใหม่ เชยี งราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดติ ถ์ 2. ภูเขาและแม่นำ้ ทีส่ ำคัญในภาคเหนอื ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ภาคเหนอื มภี ูเขาที่สำคัญมากมาย เชน่ ทวิ เขาแดนลาว ถนนธงชัย ผปี ันนำ้ หลวงพระบาง ซึ่งเป็น ตน้ กำเนิดของแม่นำ้ ที่สำคัญ เช่น แมน่ ำ้ ปิง วัง ยม นา่ น 3. ลกั ษณะภมู ิประเทศในภาคเหนือมีอทิ ธพิ ลต่อการดำรงชีวิตของประชากรอย่างไร ภาคเหนือที่มีลักษณะภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญ่เปน็ ทิวเขาและท่ีราบระหว่างทิวเขา ที่มีแม่น้ำตา่ งๆ ไหลผา่ น ประชากรจึงตั้ง ถ่ินฐานกนั มากในบริเวณทร่ี าบระหวา่ งทิวเขา เน่ืองจากสามารถเพาะปลุกได้กวา้ งขวาง การคมนาคมขนสง่ ตามลำนำ้ สะดวกสบาย สว่ นบรเิ วณทิวเขาทม่ี ีอากาศหนาว จะมปี ระชากรอาศยั อยู่น้อย โดยมากจะเปน็ ชนกลมุ่ น้อยตา่ งๆ เพาะปลูก พืชผัก ผลไม้ ไมด้ อกไม้ประดับเมืองหนาวเปน็ อาชีพสำคัญ 4. ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างการประยกุ ตใ์ ช้องค์ความรู้ เร่อื ง ลักษณะภูมปิ ระเทศภาคเหนือ ในการดำเนินชวี ิต ช่วยใหท้ ราบถึงสาเหตขุ องปรากฏการณธ์ รรมชาติต่างๆ ทเ่ี กดิ ข้ึนในภาคเหนอื เช่น แผน่ ดนิ ไหว นำ้ ปา่ ไหลหลาก ดนิ ถล่ม และทราบว่าภาคเหนือมภี มู ิประเทศทส่ี วยงามจากทวิ เขา ป่าไม้ท่ีอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทน่ี ่าสนใจ (พจิ ารณาผลงานของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผูส้ อน)