รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เทคโนโลยีพลิกผันในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และบทบาทของธนาคารกลางในทศวรรษหน้า Disruptive technology in the financial services industry: The impact on the economic system and the role of central bank in the next decades. เสนอต่อ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม คนไทย 4.0 โดย ผศ.ดร. รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พฤษภาคม 2563
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เทคโนโลยีพลิกผันในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และบทบาทของธนาคารกลางในทศวรรษหน้า Disruptive technology in the financial services industry: The impact on the economic system and the role of central bank in the next decades. เสนอต่อ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม คนไทย 4.0 โดย ผศ.ดร. รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พฤษภาคม 2563 ii
กิตติกรรมประกาศ การศึกษาเร่ือง “เทคโนโลยพี ลิกผนั ในอตุ สาหกรรมการเงินการธนาคาร ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและ บทบาทของธนาคารกลางในทศวรรษหน้า” ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการศึกษาจากแผนงานบูรณาการ ยุทธศาสตรเ์ ปา้ หมายด้านสงั คม คนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแหง่ ชาติ (วช.) เพือ่ ถอดบทเรยี นให้เข้าใจพลวัตของ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีในทศวรรษหน้าท่ีมผี ลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงนิ การธนาคารและบทบาทของ ธนาคารกลาง เพื่อนำไปสกู่ ารสร้างกลไกและการกำกบั ดูแลระบบเศรษฐกจิ อย่างมีประสิทธภิ าพในอนาคต ผู้เขียนใคร่ขอขอบพระคุณ ศาสตราจารย์ ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ประธานบริหารแผนงานคนไทย 4.0 ที่ ได้กรุณาให้โอกาสในการดำเนินการวิจัยในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้ให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่าง ตอ่ เนอ่ื งระหว่างการวจิ ยั จนนำมาส่ผู ลงานวิจัยทีม่ ีความน่าเชือ่ ถอื และสามารถนำไปประยกุ ต์ต่อยอดในภาคปฏิบัติ เป็นวงกวา้ งได้ ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่หน่วยงานจัดการและส่งมอบผลลัพธ์ (ODU: Outcome Delivery Unit) สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะทุกท่านที่ได้กรุณา อำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและการส่งมอบผลงานวิจัยของผู้วิจัยเป็น อย่างดี ขอขอบคุณพระคุณแผนงานฯ คนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยงานผู้สนับสนุน งบประมาณดำเนินการศึกษา ตลอดจนผู้มีส่วนร่วมที่ไม่สามารถกล่าวนามได้ทั้งหมด จึงขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. รงุ่ เกียรติ รตั นบานช่นื พฤษภาคม 2563 iii
บทสรุปผู้บรหิ าร ชื่อเรอ่ื ง เทคโนโลยีพลิกผันในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกจิ และบทบาทของ ธนาคารกลางในทศวรรษหน้า ชอ่ื คณะผู้รับผดิ ชอบการทำกิจกรรมสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การวิจยั ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. รุง่ เกยี รติ รตั นบานชน่ื คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบญั ชี จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย หมายเลขโทรศัพท์ 091-021-5558 Email: [email protected] งบประมาณและระยะเวลาการทำกิจกรรมสง่ เสริมและสนับสนุนการวจิ ัย ได้รบั งบประมาณ ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 งบประมาณท่ีไดร้ ับ 890,000.00 บาท ระยะเวลา ต้ังแต่ พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ถงึ พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สรุปภาพรวมของโครงการวิจัย สังคมไทยในปจั จุบนั ไดม้ ีการเปล่ียนแปลงเชงิ โครงสร้างในหลายด้าน ทงั้ ทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม และ ประชากรศาสตร์ ซง่ึ ในแตล่ ะมติ ิมีการเปลย่ี นแปลงไปพร้อมกัน และเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว จงึ ทำให้เป็นการ ยากที่จะประเมินวา่ การเปลี่ยนแปลงเหลา่ นจี้ ะส่งผลตอ่ โครงสร้างระบบเศรษฐกจิ และความเชอ่ื มโยงของแตล่ ะ ภาคสว่ นในระบบเศรษฐกจิ อยา่ งไร นอกจากนโ้ี ครงสรา้ งของระบบเศรษฐกิจในโลกยุคดจิ ิตอล ทเี่ กดิ จากการเปลี่ยนแปลงวิธีการ รปู แบบการ ดำเนินธรุ กิจ และช่องทางในการเข้าถงึ บริการทางการเงินน้ัน ยอ่ มสง่ ผลต่อสถานะ ความสำคญั และกลไกในการ กำกบั ดูแลของธนาคารกลาง เคร่ืองมือต่างๆท่ีใช้อย่ใู นปจั จุบันอาจมปี ระสทิ ธิภาพทีน่ ้อยลงในการดแู ลสภาพคลอ่ ง และการเติบโตของเศรษฐกจิ ในภาพรวม โครงการวิจัยนีจ้ ึงมุ่งหวงั ที่จะศึกษาความเชือ่ มโยง ความสัมพันธ์ และผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงท่ี เกดิ จากการนำเทคโนโลยพี ลิกผัน (Disruptive technology) มาประยุกต์ใชใ้ นอุตสาหกรรมที่เก่ยี วเนอ่ื งกับการ ใหบ้ รกิ ารทางการเงนิ ต่อระบบเศรษฐกจิ สถาบันการเงินแบบดั้งเดมิ และธนาคารกลาง ผลของความเข้าใจพลวัต ความเชือ่ มโยงของระบบเศรษฐกิจในยคุ ใหม่ จะทำใหส้ ามารถพยากรณ์ฉายภาพโครงสรา้ งความสัมพันธใ์ นอนาคต iv
และสามารถนำมาเป็นขอ้ มูลเพือ่ ใชใ้ นการออกแบบนโยบาย โครงสรา้ งการกำกับดแู ล และเครือ่ งมือในการกำกับ ดแู ล ใหม้ คี วามเหมาะสมต่อไปในอนาคต โครงการวิจัยน้จี งึ มีวัตถปุ ระสงคท์ เี่ กี่ยวข้องกับ 3 ประเดน็ ใหญด่ งั นี้ 1. ศึกษาผลกระทบของการนำเทคโนโลยีพลิกผนั มาใช้ในอุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงินตอ่ ความสัมพนั ธข์ องแต่ละ Economic agent ในโลกยุคดิจติ อล เพือ่ ใหเ้ ข้าใจโครงสร้างเศรษฐกจิ และ ใช้ประเมนิ ศักยภาพของนโยบายด้านการคลงั และดา้ นการเงินในอนาคต 2. ศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจ (Business Model) แบบใหม่ทส่ี ่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงการ ให้บรกิ ารของสถาบันการเงนิ ประเภทตา่ งๆ และความพร้อมของประชากรไทยในการรับมอื กบั ระบบ เศรษฐกิจดจิ ติ อลผ่านการวัดระดบั Digital literacy เพือ่ ใหส้ ามารถฉายภาพการใชบ้ ริการทางการเงนิ ของผ้บู รโิ ภคในอนาคต 3. ศึกษาผลกระทบของการใหบ้ รกิ ารทางการเงินในอนาคต ต่อบทบาทหนา้ ท่ี กลไก และเครอื่ งมือต่างๆ ท่ีธนาคารกลางจะต้องใชใ้ นโลกยุคดิจติ อล เพ่ือเปน็ ข้อมลู ที่ช่วยในการออกแบบนโยนายด้านการเงนิ ด้านการกำกับดูแลสถาบันการเงนิ และด้านการชำระเงนิ ในอนาคต ผลลพั ธจ์ ากการวจิ ัยของโครงการนี้ พบว่าการเปล่ยี นแปลงทางนวัตกรรมในดา้ นต่างๆนำไปสู่ระบบ เศรษฐกิจใหม่ทม่ี ักจะถูกเรยี กวา่ ระบบเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital economy) ซึง่ สง่ ผลใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงของ ความสมั พนั ธ์ และโครงสร้างของระบบเศรษฐกจิ อย่างส้นิ เชงิ จนนำไปสู่เหตกุ ารณส์ ำคญั ดังนี้ 1. การคา้ ขายผ่าน Cross-border e-commerce จะมีบทบาทสำคญั มากข้ึนแต่ไมไ่ ด้มาแทนท่กี ารค้า แบบดั้งเดิม 2. ระบบการชำระเงนิ ในรปู แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จะเป็นโครงสรา้ งพืน้ ฐานทส่ี ำคัญสำหรบั การเติบโตใน ระบบเศรษฐกจิ ดิจติ อล 3. การดำเนนิ ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นสถาบนั การเงนิ หรือภาคธรุ กิจจะมงุ่ เนน้ ใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบ Light หรอื Agile Business model เพื่อให้ธรุ กจิ มีความพรอ้ มต่อการเปลีย่ นแปลงแบบพลิกผันอยู่ ตลอดเวลา 4. Digital technologies ที่มสี ่วนสำคญั ในการสง่ เสริมการดำเนินธุรกจิ แบบ Light business model คือ Cloud computing software โดยทำใหเ้ กิดธุรกจิ ใหม่ทเี่ รยี กวา่ Everything as a service 5. การเติบโตทางธรุ กจิ ในยคุ ดจิ ิตอลไมส่ ามารถเกิดจากการถือครองทรัพยส์ ินขนาดใหญห่ รือผูกขาดทาง การคา้ เหมือนในอดตี แต่จะต้องตระหนักถงึ การสร้างความรว่ มมือทางการค้ากับธรุ กจิ ต่างๆ ซงึ่ ใน v
อนาคตสถาบันการเงนิ อาจปรับเปลีย่ นกลายเปน็ Solutions platform ทเี่ ชอื่ มโยงลกู คา้ กบั ผู้ ให้บรกิ าร Third parties ในแตล่ ะดา้ น และธนาคารจะเปน็ ผู้ประมวลผลขอ้ มูลพฤติกรรมต่างๆของ ลูกคา้ เพ่ือนำมาสู่การนำเสนอผลติ ภณั ฑ์และบริการทต่ี อบโจทยค์ วามต้องการของลูกคา้ รายบุคคล อย่างไรกต็ ามการเปลีย่ นผา่ นส่รู ะบบเศรษฐกิจดจิ ติ อลดงั ท่ีกลา่ วข้างตน้ ไมไ่ ดส้ รา้ งโอกาสในการเติบโตและ ไมไ่ ดเ้ พิ่มประสทิ ธภิ าพในกระบวนการผลิตที่ดขี ้ึนเพยี งอย่างเดยี ว แต่อาจทำให้สังคมอยใู่ นสภาวะ Digital Divide หรอื สถานการณท์ ี่ประชากรบางกลุ่มไมส่ ามารถไดร้ ับประโยชนอ์ ย่างเต็มที่ ปจั จยั สำคัญทเ่ี ป็นตวั กำหนด สถานการณ์ Digital divide ไดเ้ ปน็ อย่างดีคอื การชีว้ ดั ระดบั Digital literacy ของประชากร การชวี้ ดั ระดับ Digital literacy ท่ีงานวิจัยช้นิ นีเ้ สนอประกอบด้วย 4 ปจั จยั ย่อยไดแ้ ก่ 1) การเข้าถึง digital technologies 2) ทักษะการใช้งาน digital technologies 3) ความรดู้ ้าน digital technologies และ 4) การตระหนักถึงข้อมูลและสิทธิต่างๆในโลกดจิ ติ อล ซงึ่ จากผลการวิจยั พบประเด็นสำคญั ดังน้ี 1. เพศชายมีการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจติ อล มีความรู้ และมีการตระหนักถึงความเส่ยี งด้าน Digital ท่ีสงู กว่าเพศหญิงอย่างมีนยั สำคัญ 2. เจเนเรช่ัน Millennial คือกลุ่มเจเนเรชัน่ ท่มี คี วามโดดเด่นสูงสดุ ในทกุ มิตยิ ่อยของ Digital literacy รองลงมาคอื เจเนเรชัน่ Z และ เจเนเรช่นั X ตามลำดบั 3. กลมุ่ อาชีพ Professional จะมีความโดดเดน่ ดา้ น Digital literacy สงู ทส่ี ดุ โดยกล่มุ ตัวอย่างทตี่ กงาน จะเปน็ กลุ่มท่ีมปี ญั หาด้าน Digital literacy อยา่ งมาก ซึ่งอาจเปน็ การสะท้อนวา่ กลุ่มประชากร ดงั กลา่ วได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ Digital divide แล้ว เมอื่ ใช้หลักการทางสถิติที่เรยี กวา่ Cluster analysis ในการแบ่งกล่มุ ประชากรจะพบวา่ สามารถแบง่ กลมุ่ ประชากรได้เปน็ 3 กลมุ่ ย่อย ไดแ้ ก่ Digital fluency (รอ้ ยละ 26), Digital neutral (ร้อยละ 55) และ Digital illerate (ร้อยละ 21) โดยพฤติกรรมการใช้ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ ารทางการเงนิ นั้น Digital fluency จะมีการใชบ้ ัตร เครดติ และการลงทนุ ในกองทุนรวมที่สูงโดดเด่นกวา่ กลุ่มอื่น เป็นลกู คา้ ของธนาคารมากท่สี ุดจำนวนอยา่ งน้อย 3 แหง่ ขนึ้ ไป เป็นกลุม่ ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สำหรบั การตดั สินใจเลอื กเปน็ ลูกคา้ หลาย ธนาคาร ถึงแมป้ ระชากรในกลมุ่ Digital fluency จะใหค้ วามสำคัญกับสาขาทเ่ี ขา้ ถึงงา่ ย แต่หากธรุ กรรมทางการ เงนิ ต่างๆไม่มีความจำเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งทำผ่านสาขาอีกตอ่ ไปในอนาคต ผลิตภัณฑ์ Mobile banking จะเป็นปจั จยั สำคัญทีบ่ ่งช้วี ่าจะเลือกเปน็ ลูกคา้ ธนาคารใด vi
งานวิจัยฉบับน้ยี งั ได้ทำการสมั ภาษณผ์ ู้บรหิ ารระดบั สูงเก่ียวกับกลยุทธข์ องสถาบนั การเงินในการแข่งขนั ใน ยุคดจิ ิตอล โดยพบวา่ สถาบันการเงนิ ในไทยให้ความสำคัญกับการ Simplification ผลติ ภัณฑห์ รือบริการที่มีอยูใ่ น ปจั จุบันเพอื่ ใหม้ คี วามเขา้ ใจง่ายและสามารถขยายฐานลกู ค้าใหก้ ว้างมากขึน้ นอกจากน้สี ถาบันการเงินในไทย พยายามมุ่งหวังสรา้ งบรกิ ารท่ีตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าสงู ทส่ี ดุ หรือท่ีเรยี กวา่ Customer-centric model ซึ่งแตกต่างจากในอดีตทสี่ ถาบันการเงนิ มักจะเป็นองคก์ รที่มักจะเสนอบริการและผลติ ภัณฑ์ที่ลูกค้าตอ้ งปรบั ตัวเข้า หาก่อนเปน็ หลกั เทคโนโลยที ีส่ ถาบนั การเงนิ ในไทยให้ความสนใจอย่างมากในอนาคตประกอบด้วยเทคโนโลยที ีเ่ กยี่ วกับ Cyber Security และ Big data analytics ซ่งึ สถาบันการเงินคาดหวงั ที่จะมีความเข้าใจพฤติกรรมและความ ตอ้ งการของผ้บู ริโภคไดม้ ากข้ึน ในขณะท่ยี งั สามารถสร้างความน่าเช่อื ถือของบริการของตน และลดความเสีย่ งที่จะ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝนั ต่อระบบดจิ ติ อลของตน ในประเด็นสุดท้ายทีว่ ิเคราะห์ผลกระทบของระบบเศรษฐกิจดิจิตอลตอ่ บทบาทหนา้ ท่ีของธนาคารกลางใน การกำกบั ดแู ล พบว่า Digital currency ท่เี กิดข้นึ ในปจั จบุ นั มกั จะอยู่ในรปู แบบของ Pre-paid basis เป็นหลัก คือ จะต้องมกี ารนำเงนิ ในปัจจุบันไปแลกซ้ือเงิน Digital currency ดงั กล่าว และหากผู้ใชเ้ งนิ ต้องการใชเ้ งนิ ในวงกวา้ งก็ จะต้องแลกเงนิ กลบั มาเป็นสกุลเงินด้งั เดมิ ดังนน้ั ผลกระทบต่อปริมาณของเงนิ ในระบบจงึ คอ่ นข้างจำกัด อยา่ งไรกต็ ามสิ่งท่นี า่ กังวลหาก Digital currency ได้รบั การยอมรบั เปน็ วงกว้าง และประชาชนใชเ้ งนิ ดังกลา่ วแทนทเี่ งนิ จากธนาคารกลาง จะทำใหเ้ กดิ การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงนิ Digital currency อยา่ งมากใน ขณะท่ีปริมาณการใช้เงนิ ในสกลุ ดั้งเดมิ ลดน้อยลง เหตกุ ารณน์ จี้ ะทำให้ความสามารถของธนาคารกลางในการ ดำเนินนโยบายด้านการเงินเพื่อควบคุมระบบเศรษฐกิจท่ีผลทีล่ ดลง จนธนาคารกลางอาจไม่สามารถกำหนดอัตรา ดอกเบยี้ ระยะสัน้ เพื่อควบคุมสภาพคลอ่ งในระบบเศรษฐกจิ ได้เชน่ เดิม ดงั น้ันธนาคารกลางหลายประเทศจงึ มีแนวคดิ ทจ่ี ะออกเงนิ สกุลดิจติ อลใหม่ซึ่งมักจะถกู เรยี กว่า Central Bank Digital Currency (CBDC) โดยในปจั จุบนั รูปแบบของ CBDC นัน้ ยังไม่ได้มีการกำหนดท่ีชดั เจน วา่ จะอยูใ่ น ลกั ษณะใด แตเ่ มือ่ ทำการวเิ คราะหร์ ูปแบบตา่ งๆของ CBDC แล้วจะพบผลทนี่ ่าสนใจได้แก่ 1. ธนาคารกลางสามารถดำเนินนโยบายดอกเบ้ยี ตดิ ลบไดห้ ากมีการยกเลกิ การใช้เงินในรปู ของธนบัตร (ทม่ี ีอตั ราดอกเบีย้ ตำ่ สุดทีศ่ นู ย์) 2. ธนาคารกลางสามารถดำเนนิ นโยบายการเงนิ ผ่านการเปล่ยี นแปลงอตั ราดอกเบ้ยี ได้โดยตรงทเี่ ข้าถึง ประชาชนโดยไม่ต้องผ่านการดำเนนิ ธรุ กจิ ของธนาคารพาณิชย์ vii
3. บัญชีเงนิ ฝากของธนาคารพาณิชย์จะมีคู่แข่งเปน็ บัญชีของธนาคารกลางทำให้เกิดความหลากหลาย ดา้ นผลิตภัณฑเ์ งนิ ฝากต่อประชาชน 4. การแก้ไขปญั หาดา้ น Credit risk และ liquidity risk ในสภาวะวิกฤติ อาจมปี ระสิทธภิ าพมากยง่ิ ข้นึ เพราะธนาคารกลางเป็นผ้รู ับความเสี่ยงเหลา่ น้นั โดยตรง ลดบทบาทของตัวกลางทางการเงนิ CBDC จึงเป็นแนวทางหนึง่ ทธี่ นาคารกลางในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยกำลงั ใหค้ วามสำคัญ และ ศกึ ษาวิเคราะห์อยา่ งเชิงลกึ ถึงแนวทางในการออกแบบเงนิ CBDC เพอ่ื ใชใ้ นการควบคุมระบบเศรษฐกจิ ในยคุ ดิจิตอลต่อไปในอนาคต viii
บทคัดย่อ การเปลย่ี นผา่ นไปส่รู ะบบเศรษฐกิจดจิ ิตอลเป็นแรงผลักดนั ใหส้ ถาบันการเงนิ และธนาคารกลางต้อง ปรบั ตวั ในหลายมติ ิ โดยสถาบันการเงนิ ในไทยให้ความสนใจกบั การลงทนุ ดา้ นการวิเคราะหข์ ้อมูล Cyber security และ Distributed ledger technology อยา่ งมากเพอ่ื คาดหวงั ท่จี ะปรบั ปรงุ บริการให้สามารถตอบโจทยค์ วาม ตอ้ งการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ระบบเศรษฐกจิ ดจิ ติ อลยังได้เปดิ โอกาสทางธรุ กจิ ใหมโ่ ดยเฉพาะกบั ผ้ปู ระกอบการราย เลก็ ผา่ นรปู แบบการดำเนนิ ธุรกิจทีม่ ุ่งเนน้ ด้าน e-commerce และความสามารถในการเพ่ิมศักยภาพของธรุ กจิ ผา่ นการใช้บรกิ ารทีเ่ รยี กว่า Everything-as-a-service อยา่ งไรก็ตามปจั จยั สำคัญท่ีต้องประเมินในยุคดจิ ิตอลคือความพร้อมของประชาชน ดชั นีชี้วัดทักษะด้าน ดจิ ิตอล (Digital literacy) จึงไดถ้ ูกนำเสนอในงานวิจัยฉบับน้เี พือ่ เป็นดัชนีกลางในการประเมนิ ศักยภาพของ ประชากรไทยในการใชช้ วี ติ ในยุคดิจติ อล จากการวิจัยพบว่ากลมุ่ ตัวอย่างประมาณร้อยละ 21 ยงั มีทักษะด้าน ดิจิตอลท่ีต่ำ (Digital illterate) ซึง่ กล่มุ ประชากรดงั กลา่ วมักจะตกงานหรือทำงานทใี่ ช้แรงงาน โดยเมอ่ื ใชบ้ ริการ ทางการเงนิ กลุม่ ประชากรเหล่านีย้ ังคงยดึ ตดิ กับสาขาและความสะดวกในการเข้าถึงตู้ ATM ดังนน้ั เหตุการณ์ Digital divide ท่เี กดิ จากความแตกต่างของ Digital literacy ระหวา่ งประชากรแต่ละกล่มุ คอื ส่งิ ท่ีผูว้ างนโยบาย จะต้องใหค้ วามสำคัญอย่างมากในอนาคต ระบบเศรษฐกิจดจิ ติ อลยงั มีผลกระทบต่อบทบาทของธนาคารกลาง ซง่ึ เกิดจากการเกดิ ข้ึนของเงนิ สกุลใหม่ ในรปู แบบดิจติ อลท่สี ร้างโดยภาคเอกชน และถกู ใช้อย่างแพรห่ ลายแทนเงนิ ในสกลุ ดง้ั เดิม การช้ีวัดตัวเลขทาง เศรษฐกจิ ทีจ่ ำเป็นต่อการดำเนินนโยบายการเงนิ ผา่ นธรุ กรรมบนสกลุ เงินดั้งเดิมจึงอาจผิดเพ้ยี นไปจากความเปน็ จริง จนทำให้ประสทิ ธิภาพของธนาคารกลางในการดำเนินนโยบายดา้ นการเงนิ ด้อยลง ธนาคารกลางหลายประเทศจึง พิจารณาท่ีจะออก Central Bank Digital Currency (CBDC) เพ่ือแก้ปัญหาดังกลา่ ว อย่างไรก็ตามรูปแบบของ การออก CBDC ยงั ไม่ไดข้ ้อสรุป ซง่ึ CBDC อาจทำให้บทบาทของธนาคารกลางเปลีย่ นแปลงไปอย่างสิน้ เชงิ เชน่ CBDC ในรูปแบบบัญชเี งินฝากระหวา่ งประชาชนและธนาคารกลางจะทำใหธ้ นาคารกลางมบี ทบาททีค่ าบเกย่ี วกับ การดำเนนิ นโยบายดา้ นการคลงั มากยง่ิ ข้นึ จนอาจกลายเป็นธนาคารรัฐได้ เปน็ ต้น ix
Abstract Digital transformation has created a lot of pressure on financial institutions and central banks. This research finds that financial institutions in Thailand have increasingly focused on big data analytics, cyber security and distributed ledger technology. These investments are geared to support their new customer-centric business model. Digital economy has also created new business opportunities especially for small and medium enterprises. Their growth potential is strengthened by the use of e-commerce platform and the access of legacy digital technology through the everything-as-a-service business model. However, one crucial factor that could create challenges is the readiness of households in adapting to the digital economy. Framework in measuring digital literacy is therefore proposed in this research. This research finds that around 21 percent of the sample group is digitally illiterate. They tend to be unemployed or work in the labor-intensive sector. When looking at how they use financial services, it is found that they still prefer branch banking and the convenience of accessing ATM. Digital divide resulted form the discrepancy of digital literacy across different population groups is therefore one important issue that policy makers need to tackle in the next era. Digital economy also affects the role of central banks which results from the emergence and widespread use of new digital currency created by private sectors. Key economic indicators from the transaction of current traditional currency may no longer be a good proxy of economic activities. Therefore, central banks in many countries are now considering to introduce central bank digital currency (CBDC) to mitigate those problems. However, the designs of CBDC are still inconclusive. Some features of CBDC could drastically transform the role of central banks into state banks. For example, account-based CBDC that households can directly access from central banks provides the ability for central banks to implement some fiscal policies. x
สารบญั หนา้ Iii กติ ตกิ รรมประกาศ Iv บทสรุปผบู้ ริหาร ix บทคัดย่อ xi สารบัญ xvi สารบัญตาราง xix สารบัญรูป 1 บทที่ 1 บทนำ 6 บทท่ี 2 การเปลย่ี นแปลงในอตุ สาหกรรมการเงินการธนาคาร 6 6 บทนำ เทคโนโลยีกบั การเปล่ยี นแปลงในอุตสาหกรรมการเงนิ การธนาคาร 14 การเกิดขึน้ ของ Fintech และการแขง่ ขนั ที่เปล่ียนแปลงไปในอุตสาหกรรมการเงนิ และการ 27 ธนาคาร 30 บริการทางการเงินท่ีไดร้ บั ผลกระทบจากการแขง่ ขนั ในยคุ ดิจิตอล 31 บทสรปุ 33 เอกสารอ้างองิ 33 บทที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีในกล่มุ บรกิ ารดา้ นการชำระเงนิ 33 บทนำ 37 ระบบชำระเงนิ 101 38 ระบบชำระเงินด้วยบตั รพลาสตกิ 40 ระบบชำระเงินระหวา่ งประเทศ 43 ผใู้ ห้บริการรายใหม่ระยะแรกในระบบการชำระเงิน 54 ผู้ใหบ้ รกิ ารรายใหมป่ ระเภท Fintech ในระบบการชำระเงนิ 55 สรปุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารแบบใหม่ในระบบชำระเงิน 56 บทสรุป เอกสารอา้ งองิ xi
บทที่ 4 การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยใี นกล่มุ บรกิ ารดา้ นการใหส้ ินเชื่อ หน้า บทนำ 59 ระบบการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินในปจั จุบนั 59 ผู้ใหบ้ รกิ ารทางการเงินรายใหม่ในผลิตภณั ฑ์ด้านสนิ เชื่อ 59 บทสรุป 63 เอกสารอ้างอิง 74 75 บทที่ 5 เทคโนโลยี Blockchain ในอตุ สาหกรรมการเงนิ การธนาคาร 78 บทนำ 78 พ้ืนฐานแนวคิดของเทคโนโลยี Blockchain 78 Consensus mechanism ของระบบ Blockchain 81 Blockchain กบั อุตสาหกรรมการเงนิ การธนาคาร 91 บทสรปุ 95 เอกสารอ้างองิ 96 98 บทท่ี 6 Cryptocurrency 98 บทนำ 98 ความแตกตา่ งระหว่าง Cryptocurrency และ Digital Money ทว่ั ไป 105 Cryptocurrency กบั โลกในปัจจุบัน 110 บทสรปุ 111 เอกสารอา้ งองิ 114 บทท่ี 7 Asian Digital Economy และความสมั พนั ธ์ของผู้เลน่ ตา่ งๆในระบบเศรษฐกจิ ใน 114 ทศวรรษหนา้ 114 117 บทนำ 124 Digital economy และศักยภาพการเติบโตในอนาคต 128 สถานการณ์ของธุรกจิ MSMEs ใน ASEAN และระบบเศรษฐกจิ ดจิ ติ อลในปจั จบุ นั 133 การพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานทางดจิ ิตอลใน ASEAN 138 E-commerce platform โอกาสในการเตบิ โตของ MSMEs ในอนาคต 142 การเกิดข้ึนของกลยทุ ธ์การตลาดใหม่ – Omnichannel และ O2O Everything as a service – แนวทางการดำเนินธรุ กจิ ใหมใ่ นยคุ ดจิ ิตอล xii ระบบเศรษฐกิจดจิ ิตอลและการร่วมมอื กันของภาคธนาคารเพือ่ การเตบิ โตในอนาคต
บทสรุป หน้า เอกสารอา้ งองิ 148 บทที่ 8 Digital literacy และความพร้อมของประชากรในการใชช้ วี ิตในโลก Digital 149 บทนำ 153 ทม่ี าและความสำคัญของการศกึ ษา 153 นิยามของ Digital literacy 153 ปัญหาด้าน Digital literacy นำไปสู่ Digital divide 156 เข้าใจความแตกต่างของเจเนเรชนั่ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และแนวโนม้ การใช้ 162 บริการทางการเงิน บทสรปุ 168 เอกสารอ้างอิง 176 บทท่ี 9 กลุ่มตัวอยา่ งและระเบยี บวธิ วี ิจัยการศกึ ษา Digital literacy and Banking 176 preferences ของประชากรไทย บทนำ 185 การกำหนดกล่มุ ตวั อยา่ ง 185 รายละเอยี ดของแบบสอบถามทใ่ี ช้ในการวจิ ัย 186 ระเบียบวิธวี ิจัย 190 บทสรปุ 200 เอกสารอ้างองิ 205 บทที่ 10 วิเคราะห์สถติ ิเชงิ พรรณนาของ Digital literacy และ Banking preference ใน 206 ประเทศไทย บทนำ 207 ลักษณะพื้นฐานของกลมุ่ ตัวอย่าง 207 วิเคราะห์สถิตเิ ชงิ พรรณนาของกล่มุ คำถามดา้ น Digital literacy 207 วเิ คราะหส์ ถติ เิ ชงิ พรรณนาของกลมุ่ คำถามด้านการใช้บรกิ ารทางการเงนิ 210 บทสรปุ 229 บทที่ 11 วเิ คราะห์ Digital literacy และ Banking preference ในประเทศไทยด้วยตัวแบบ 239 ทางสถติ ิ บทนำ 242 242 xiii
วิเคราะหร์ ะดับ Digital literacy ของประชากรไทย หน้า วิเคราะหร์ ะดับ Digital literacy กบั ปจั จยั Socioeconomic status 242 วิเคราะห์ Cluster Analysis ตามระดบั Digital literacy 246 วิเคราะห์กลมุ่ clusters ตามระดับ Digital literacy และพฤติกรรมการเขา้ ถึงบรกิ ารทาง 255 การเงิน บทสรุป 259 บทท่ี 12 สำรวจความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารระดับสูงของสถาบนั การเงนิ ในประเทศไทยตอ่ การ 265 แขง่ ขนั ในยคุ ดิจติ อล บทนำ 267 กลมุ่ เปา้ หมายของการสำรวจ 267 รายละเอียดของแบบสอบถาม 267 ผลการวิเคราะห์ความคิดเหน็ ของสถาบนั การเงนิ 269 บทสรุป 277 บทที่ 13 จำลองสถานการณใ์ นอนาคตของระบบเศรษฐกิจดจิ ิตอลในประเทศไทย 286 บทนำ 288 วิเคราะหแ์ นวโนม้ ของผ้บู รโิ ภคในอนาคต 288 วเิ คราะหภ์ าพรวมของอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารในยุคดิจติ อล 288 บทสรปุ 299 เอกสารอา้ งอิง 309 บทที่ 14 วเิ คราะห์ผลกระทบของระบบเศรษฐกิจดิจติ อล ต่อการดำเนินนโยบายการเงนิ /การ 311 คลงั บทนำ 312 บทบาทของธนาคารกลางจากอดตี – ปัจจุบัน - และในอนาคต 312 วิเคราะห์ภาพรวมของผลกระทบของเงนิ ดิจติ อลทีอ่ อกโดยองค์กรอน่ื ทไี่ ม่ใช่ธนาคารกลาง 312 ผลกระทบของ Digital currencies แตล่ ะประเภทต่อระบบเศรษฐกิจและบทบาทของ 319 ธนาคารกลาง สรปุ ผลกระทบของ Digital currencies ในปจั จุบนั ต่อระบบเศรษฐกจิ 327 บทสรุป 337 เอกสารอา้ งอิง 345 348 xiv
บทที่ 15 เคร่อื งมือและกลไกในการกำกับดแู ลระบบการเงินรูปแบบใหมใ่ นระบบเศรษฐกจิ หน้า ดิจิตอล 351 บทนำ 351 วิเคราะหค์ วามจำเป็นของการออก Central Bank Digital Currency (CBDC) 351 วิเคราะหพ์ ื้นฐานของเงนิ และประเภทของเงินท่ีใชอ้ ยู่ในปจั จุบัน 357 วิเคราะหผ์ ลกระทบของ CBDC ในแต่ละรูปแบบตอ่ ระบบเศรษฐกิจและบทบาทของธนาคาร กลาง 359 วิเคราะห์แนวโนม้ เทคโนโลยีระบบชำระเงนิ ของ CBDC 371 บทสรุป 376 เอกสารอา้ งอิง 377 บทท่ี 17 บทสรุป 382 xv
สารบญั ตาราง ตารางท่ี 7.1 การเติบโตทีแ่ ท้จริงของ GDP ของประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หน้า ตารางที่ 7.2 ระดบั คะแนนของ ASEAN SME ในมติ ิต่างๆ (1 คอื คะแนนต่ำสุดและ 6 คอื คะแนน 116 สูงสดุ ) 119 ตารางท่ี 7.3 E-commerce ในภมู ภิ าค ASEAN 133 ตารางที่ 7.4 รายละเอยี ดของขอ้ ตกลงทเี่ กิดขึ้นจากงานสัมมนา ASEAN Payment 143 Connectivity ในเดือน เมษายน ค.ศ. 2019 146 ตารางที่ 7.5 มลู คา่ กองทนุ ร่วมลงทุนของสถาบันการเงินในกลมุ่ ประเทศ ASEAN 169 ตารางที่ 8.1 การแบง่ เจเนเรช่ัน 186 ตารางท่ี 9.1 การแบ่งสัดสว่ นกลุม่ ตวั อยา่ งตามเจเนเรชัน่ 188 ตารางที่ 9.2 การแบง่ พนื้ ทีใ่ นการเกบ็ กลมุ่ ตัวอย่างจำแนกตามจงั หวัด ตารางท่ี 9.3 การแบ่งพนื้ ทใี่ นการเกบ็ กลุ่มตัวอยา่ งจำแนกตามเขตในกรงุ เทพมหานครและ 189 201 ปริมณฑล 208 ตารางท่ี 9.4 ตัวอย่างของผลลพั ธจ์ าก Principal component analysis 209 ตารางที่ 10.1 อายุของกลมุ่ ตัวอย่างในแต่ละกลุม่ เจเนเรช่ัน 209 ตารางที่ 10.2 สดั ส่วนของกลุ่มตวั อย่างจำแนกตามอาชีพ 210 ตารางที่ 10.3 สดั สว่ นการศึกษาของกลุ่มตัวอย่างท่ีกำลังศึกษาเล่าเรียน 212 ตารางท่ี 10.4 สดั ส่วนของกลุ่มตัวอยา่ งจำแนกตามระดับรายได้ 214 ตารางที่ 10.5 จำนวนเทคโนโลยดี ิจิตอลของแตล่ ะกลมุ่ เจเนเรชน่ั 220 ตารางที่ 10.6 จำนวนเทคโนโลยดี ิจิตอลของกลมุ่ ตัวอยา่ งจำแนกตามระดบั รายได้ 222 ตารางท่ี 10.7 ทักษะในการใช้เทคโนโลยดี ิจิตอลจำแนกตามกลุ่มอาชีพ 222 ตารางท่ี 10.8 จำนวนชว่ั โมงเฉล่นี ต่อวันจำแนกในมติ ิของเจเนเรชั่นและระดับรายได้ ตารางท่ี 10.9 จำนวนชัว่ โมงเฉลีน่ ตอ่ วันจำแนกในมิตขิ องอาชพี 225 ตารางที่ 10.10 คะแนนประเมนิ ตนเองเร่ืองความรคู้ วามเข้าใจของ Computer hardware และ 227 229 อินเตอร์เน็ตจำแนกตามมติ ิของอาชีพ ตารางท่ี 10.11 คะแนนท่ีไดร้ ับจากการตอบแบบทดสอบจำนวน 6 ขอ้ จำแนกตามมิติของอาชพี xvi ตารางท่ี 10.12 ระดบั การตระหนักถึงความเสย่ี งด้านข้อมลู ในโลกดิจติ อลจำแนกตามมติ ิของอาชพี
ตารางท่ี 10.13 สาเหตุการเป็นลกู คา้ หลายธนาคารจำแนกตามเจเนเรชั่น หนา้ ตารางท่ี 10.14 สาเหตุการเป็นลูกคา้ หลายธนาคารจำแนกตามระดับรายได้ 234 ตารางที่ 10.15 สาเหตุการเป็นลูกค้าหลายธนาคารจำแนกตามเจเนเรชั่นและระดับรายได้ 234 ตารางท่ี 10.16 ความเหน็ ตอ่ ธนาคารพาณชิ ย์จำแนกตามเจเนเรชัน่ และระดบั รายได้ 235 ตารางท่ี 10.17 ความเห็นต่อบรกิ ารของธนาคารพาณิชยท์ ่ีตอ้ งการในอีก 5 ปีขา้ งหน้าจำแนกตาม 236 เจเนเรช่ันและระดับรายได้ 237 ตารางที่ 10.18 ความเหน็ ต่อบริการของธนาคารพาณชิ ย์ที่ต้องการในอีก 5 ปขี ้างหนา้ จำแนกตาม 238 เจเนเรชนั่ และระดบั รายได้ 243 ตารางที่ 11.1 ผลการวเิ คราะห์ Principal Component Analysis ของปัจจยั Digital access 244 ตารางที่ 11.2 ผลการวิเคราะห์ Principal Component Analysis ของปัจจยั Digital skills ตารางที่ 11.3 ผลการวิเคราะห์ Principal Component Analysis ของปจั จยั Digital 244 knowledge 245 ตารางที่ 11.4 ผลการวเิ คราะห์ Principal Component Analysis ของปัจจยั Digital 246 information awareness 247 ตารางท่ี 11.5 ผลการวิเคราะหส์ หสัมพันธ์ของ Digital literacy ในแตล่ ะมิติ 248 ตารางท่ี 11.6 ผลการวิเคราะหค์ วามสัมพันธ์ของ Digital access กับ Socioeocnomic 250 variables ตารางที่ 11.7 ผลการวเิ คราะหค์ วามสัมพันธข์ อง Digital skills กับ Socioeconomic variables 251 ตารางที่ 11.8 ผลการวเิ คราะห์ความสมั พันธ์ของ Digital knowledge กับ Socioeconomic 252 variables ตารางท่ี 11.9 ผลการวิเคราะห์ความสมั พันธ์ของ Digital information awareness กับ 254 255 Socioeconomic variables 256 ตารางที่ 11.10 ผลการวิเคราะห์ Mean comparison (One-way ANOVA) ของ xvii Socioeconomic variables ในแตล่ ะมิติของ Digital literacy ตารางที่ 11.11 ผลการวเิ คราะห์ Regression Analysis ระหวา่ ง Socioeconomic variables กับ Digital literacy ตารางที่ 11.12 ผลการแบง่ กลุ่มตัวอย่างดว้ ย K-mean cluster analysis ตารางท่ี 11.13 วิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่าง Cluster และ Socioeconomic status
ตารางที่ 11.14 ผลการวิเคราะห์ Multinomial logistic หาปัจจยั บ่งชี้การเปน็ Cluster แตล่ ะ หน้า ประเภท 258 ตารางที่ 11.15 สดั สว่ นของกลุ่มตวั อยา่ งท่เี ข้าถงึ ผลติ ภัณฑ์ทางการเงนิ ในแต่ละประเภท 260 ตารางท่ี 11.16 จำนวนประเภทผลิตภณั ฑ์ทางการเงนิ และจำนวนธนาคารท่ีแต่ละกลุ่ม Cluster 260 เขา้ ถึง 260 ตารางที่ 11.17 ความถใ่ี นการใช้ ATM ต่อเดือนจำแนกตามกลุ่ม Cluster 261 ตารางท่ี 11.18 สาเหตุของการเปน็ ลกู คา้ หลายธนาคาร 262 ตารางที่ 11.19 สาเหตุของการตัดสนิ ใจเป็นลูกคา้ ธนาคาร จำแนกตามกลุม่ Cluster 263 ตารางที่ 11.20 ตัวตนของธนาคารท่ีอยากใหเ้ ป็นในอนาคตจำแนกตามกลุม่ Cluster ตารางท่ี 11.21 บริการทางการเงินทีต่ ้องการใหธ้ นาคารให้ความสำคัญในอกี 5 ขา้ งหน้าจำแนก 264 268 ตามกลมุ่ Clusters 278 ตารางที่ 12.1 ตำแหน่งของผู้ตอบแบบสอบถาม 279 ตารางที่ 12.2 ความคาดหวังตอ่ กระบวน Simplification ผลิตภณั ฑ์และบรกิ ารตา่ งๆ ตารางที่ 12.3 กลยุทธ์การแข่งขนั ทีส่ ถาบนั การเงินให้ความสำคญั ในอีก 5 ปขี ้างหนา้ 280 ตารางท่ี 12.4 ลักษณะการนำเสนอผลติ ภณั ฑ์และบรกิ ารสูผ่ ู้บริโภค (1 คอื สำคัญน้อยสดุ 5 คอื 281 283 สำคญั มากสุด) 284 ตารางท่ี 12.5 การลงทนุ นวตั กรรมในปัจจบุ นั ของสถาบนั การเงนิ ในไทย 284 ตารางท่ี 12.6 ปัญหาด้านความรว่ มมอื กับ Fintech และสถาบนั การเงนิ อืน่ ตารางท่ี 12.7 การลงทนุ ในเทคโนโลยีของสถาบันการเงิน 285 ตารางท่ี 12.8 สรุปภาพลักษณ์ขององคก์ รท่สี ำคัญ 3 อันดับแรกในอกี 5 ปีข้างหนา้ ตารางที่ 12.9 สรปุ อันดับของบรกิ ารทางการเงินที่ผบู้ รโิ ภคตอ้ งการมากทส่ี ดุ 3 อนั ดบั แรก ในอีก 286 293 5 ปขี ้างหน้า 303 ตารางที่ 12.10 สรปุ อนั ดับของบรกิ ารทางการเงินทผี่ บู้ รโิ ภคตอ้ งการนอ้ ยท่ีสุด 3 อนั ดบั แรก ใน 304 320 อีก 5 ปขี ้างหน้า 328 ตารางท่ี 13.1 จำนวนเฉลี่ยของธนาคารที่เป็นลกู ค้าในแต่ละกลมุ่ เจเนเรชน่ั ตารางท่ี 13.2 มูลค่าธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกเฉล่ยี ต่อเดือน (หน่วย ล้านบาท) xviii ตารางที่ 13.3 มูลค่าธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของรายย่อยเฉล่ยี ตอ่ เดอื น (หนว่ ย ลา้ นบาท) ตารางท่ี 14.1 ลกั ษณะของเงินแต่ละประเภทจำแนกตามรูปแบบของเงินและสถานะของเงนิ ตารางท่ี 14.2 เปรียบเทยี บลกั ษณะของ E-money และ Digital currencies อื่นๆ
สารบญั รูป หน้า รปู ท่ี 2.1 จำนวนการจดสิทธบิ ตั รทว่ั โลกของผูจ้ ดสทิ ธบิ ตั รในประเทศของตน (Worldwide 7 patent applications, residents) 8 รปู ที่ 2.2 อัตราการครอบคลุมดา้ นการใชง้ านของครวั เรือน (Adoption rate) ในประเทศ 11 สหรัฐอเมริกา 13 14 รปู ท่ี 2.3 พัฒนาการด้านนวตั กรรมท่ีสำคัญในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร 16 รปู ที่ 2.4 ความคดิ เหน็ ของสถาบนั การเงนิ ต่อการถูกแทนที่โดยผใู้ ห้บรกิ ารทางการเงินรายใหม่ 18 รูปท่ี 2.5 Fintech ทใ่ี หบ้ ริการทางการเงินในด้านตา่ งๆ 19 รูปที่ 2.6 การใช้ธุรกรรมทางการเงนิ ระหว่างข่องทาง Mobile และ Online 20 รปู ที่ 2.7 แนวโนม้ การเปลย่ี นแปลงของค่าธรรมเนยี มในด้านต่างๆ 21 รูปที่ 2.8 โครงสรา้ ง Banking value chain และการเปลีย่ นแปลงของรปู แบบธุรกิจธนาคาร 22 รูปท่ี 2.9 มิติการวางแผนพฒั นาผลติ ภณั ฑท์ างการเงนิ 23 รปู ท่ี 2.10 วธิ กี ารเข้าถงึ Fintech ของสถาบนั การเงนิ 23 รูปที่ 2.11 มูลค่าการลงทนุ ใน Fintech ของทง้ั โลก 24 รูปท่ี 2.12 มลู ค่าการลงทุนใน Fintech ดว้ ยวธิ ี Private equity fund ของทั้งโลก 26 รูปที่ 2.13 มูลค่าการลงทุนใน Fintech ดว้ ยวธิ ี M&A ของทง้ั โลก 27 รปู ท่ี 2.14 มลู ค่าการลงทนุ ใน Fintech ดว้ ยวธิ ี Venture capital fund ของทัง้ โลก 27 รูปท่ี 2.15 มูลคา่ การลงทนุ ใน Fintech ด้วยวธิ ี Corporate Venture capital ของทงั้ โลก 28 รูปท่ี 2.16 การจดั ตัง้ Corporate venture capital ของสถาบันการเงนิ ต่างๆ 29 รปู ที่ 2.17 แนวโนม้ การถูกแทนทด่ี ว้ ย Fintech ในแตล่ ะบริการ 34 รปู ที่ 2.18 มลู คา่ การลงทนุ ใน Fintech ประเภท Online lending 36 รปู ที่ 2.19 แนวโนม้ การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆของสถาบันการเงนิ แบบด้ังเดิม 37 รปู ที่ 3.1 โครงสรา้ งระบบการชำระเงินในปจั จบุ ัน รูปท่ี 3.2 พัฒนาการของบรกิ าร Promptpay 39 รูปที่ 3.3 โครงสร้างระบบการชำระเงนิ ด้วยบัตรพลาสติก รูปที่ 3.4 โครงสรา้ งระบบการโอนเงนิ ระหวา่ งประเทศแบบ Correspondent banking xix relationship
รปู ที่ 3.5 โครงสร้างระบบการโอนเงินระหวา่ งประเทศแบบ Correspondent banking หน้า relationship และ Liquidity cost 40 รปู ที่ 3.6 จำนวนบัญชใี นระบบธนาคารและบัญชใี นระบบสื่อสารของประเทศเคนยา 41 รปู ที่ 3.7 จำนวนผู้ใช้งาน Mobile money account ในทวปี แอฟริกา 42 รูปที่ 3.8 โครงสรา้ งระบบชำระเงินแบบ P2P transfer 44 รูปท่ี 3.9 รปู แบบการให้บริการแบบ e-Wallet 45 รปู ที่ 3.10 รูปแบบการสร้างระบบชำระเงินใหม่เพือ่ เช่ือมโยงกับระบบชำระเงนิ เดิม 47 รปู ที่ 3.11 ผู้ใหบ้ รกิ ารทส่ี ร้างอปุ กรณ์อ่านข้อมูลบตั รเครดติ เพอื่ การชำระเงิน 48 รูปที่ 3.12 ผู้ให้บริการ Fintech ท่ีใหบ้ ริการในลักษณะ Wholeseller remittance 49 รปู ท่ี 3.13 ผใู้ ห้บริการ Fintech ทใี่ ห้บรกิ ารในลักษณะ P2P Exchange platform 50 รูปท่ี 3.14 ผู้ใหบ้ รกิ าร Fintech ทีใ่ หบ้ รกิ ารในลักษณะ P2P Social platform 51 รูปที่ 3.15 ผใู้ ห้บรกิ าร Fintech ที่ให้บริการ Money exchange ทีเ่ พมิ่ บริการบัตรพลาสติกเพ่ือ 52 การใช้จา่ ยเงนิ รูปท่ี 3.16 ผใู้ ห้บรกิ าร Fintech ที่นำเสนอ Cryptocurrency สำหรับการแลกเปลี่ยนเงนิ ระหวา่ ง 53 55 ประเทศ 61 รูปที่ 3.17 มลู คา่ กองทุน Yu’e Bao 65 รูปท่ี 4.1 โครงสร้าง Credit scoring model ท่วั ไป 67 รูปท่ี 4.2 โครงสร้าง P2P lending platform 67 รูปที่ 4.3 ลกั ษณะของผลติ ภัณฑด์ า้ นสินเชื่อท่ใี หบ้ รกิ ารผ่าน e-commerce platform 68 รูปท่ี 4.4 Social credit scoring model 69 รปู ที่ 4.5 ตัวอยา่ งผลติ ภณั ฑ์ของ Kabbage เปรยี บเทยี บกบั สนิ เชือ่ จากสถาบนั การเงินท่ัวไป รปู ที่ 4.6 ตวั อยา่ งข้อมลู Alternative data สำหรบั การประเมนิ สนิ เช่อื 73 รปู ที่ 4.7 ตัวอยา่ งโครงสรา้ งการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงนิ ที่เก่ยี วกบั การให้สินเชอ่ื ในยคุ 74 82 ดิจติ อล 83 รปู ที่ 4.8 ตัวอย่างบรกิ ารของ Fintech ทีใ่ ห้บรกิ าร invoice financing 84 รูปที่ 5.1 ตัวอยา่ งของสมุดบัญชี (Blocks) ของธุรกรรม Bitcoin 86 รูปที่ 5.2 ตวั อย่างของ Proof-of-work ในระบบ Bitcoin รปู ท่ี 5.3 ตัวอยา่ งของข้อมลู ในสมุดบญั ชี (Block) ของ Bitcoin xx รปู ท่ี 5.4 ตวั อย่างของการบนั ทึกข้อมูลในระบบ Blockchain ของ Bitcoin
รปู ท่ี 5.5 ประเมนิ ปรมิ าณการใชไ้ ฟฟ้าในกิจกรรม Proof-of-work ของ Bitcoin หน้า รปู ท่ี 5.6 ตัวอย่างของ Hash number ทเ่ี ชื่อมโยงกบั ข้อมูลหน่ึงๆ 87 รูปที่ 5.7 ตวั อยา่ งกระบวนการตรวจสอบขอ้ มูลในระบบ Blockchain 89 รปู ท่ี 5.8 ตวั อย่าง Smart contracts 90 รปู ท่ี 5.9 ตัวอยา่ งกระบวนการขอหนงั สือค้ำประกัน 91 รปู ที่ 5.10 หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วข้องต่างๆในกระบวนการขอ Letter of credit และเข้ามาเกย่ี วข้อง 92 กับ Blockchain 94 รปู ที่ 5.11 กระบวนการตดั สินใจความเหมาะสมของ Blockchain 95 รปู ที่ 6.1 ตวั อย่างของบัตรกำนัลบรษิ ัทหน่ึง 100 รปู ที่ 6.2 ตัวอยา่ งจดุ ตรวจสอบความจริงแท้ของธนบัตร 101 รูปท่ี 6.3 Market cap ของสกุลเงนิ cryptocurrency ตา่ งๆ 103 รปู ท่ี 6.4 การเคล่ือนไหวราคาของ Bitcoin 104 รูปที่ 6.5 ประเมินการเกดิ ข้ึนของจำนวนเหรียญ Bitcoin ในอนาคต 105 รปู ที่ 6.6 สถาบันการเงินที่ร่วมกนั ภายใต้ R3 Consortium 106 รูปที่ 6.7 โครงสร้างระบบ Blockchain ทพี่ ัฒนาภายใต้โครงการอนิ ทนนท์ 107 รูปท่ี 6.8 ประเมินตน้ ทุนที่ลดลงของการใช้ XRP ในธรุ กรรมโอนเงนิ ระหว่างประเทศ 108 รปู ที่ 6.9 รูปแบบการอนุมตั ิธุรกรรมในระบบ Ripple 109 รปู ท่ี 6.10 พันธมติ รทีร่ ่วมกันสนบั สนนุ Libra 110 รูปท่ี 7.1 มลู คา่ การเติบโตของประเทศในกลุม่ ASEAN จากการเปลี่ยนผา่ นไปสู่ระบบเศรษฐกจิ 117 ดิจิตอล 118 รูปที่ 7.2 สัดสว่ นของ GDP ที่เกิดจากการประกอบธุรกิจของ SME 121 รูปท่ี 7.3 สดั ส่วนของบริษัทท่ีใช้ Email ในการติดตอ่ กบั ลูกค้าและ Suppliers (ค.ศ. 2015-2016) 122 รปู ท่ี 7.4 สัดส่วนของบริษัทที่มี Website เปน็ ของตนเอง (ค.ศ. 2015-2016) รปู ที่ 7.5 สดั ส่วนของประชากรทใี่ ช้ Social media ในกลุ่มประเทศเอเซียตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ค.ศ. 122 123 2018) 125 รปู ที่ 7.6 อตุ สาหกรรมท่ีจะพลิกผนั สูงในอนาคต Digital vortex 2019 รปู ท่ี 7.7 สดั สว่ นประชากรทีเ่ ขา้ ใช้อินเตอร์เนตของประเทศในกล่มุ ASEAN 126 รูปที่ 7.8 ระดบั ราคาคา่ บรกิ ารรายเดือนของ Fixed broadband ของประเทศในกลุ่ม ASEAN xxi (ค.ศ. 2017)
รปู ที่ 7.9 ความเร็วในการดาวโหลดขอ้ มูลจากเครือข่ายอินเตอรเ์ นตแบบ Fixed broadband หนา้ (ค.ศ. 2019) 127 รปู ที่ 7.10 ระดับรายได้ทเี่ กิดจากการสง่ ไปยังภมู ิภาคต่างๆเปรียบเทยี บระหว่างปี ค.ศ. 2017 และ ตวั เลขคาดการณ์ปี ค.ศ. 2020 129 129 รูปที่ 7.11 หว่ งโซก่ ารดำเนนิ ธุรกิจ และผูป้ ระกอบการทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับ e-commerce 130 รปู ท่ี 7.12 Shopmatic solutions สำหรบั MSMEs รปู ท่ี 7.13 สดั ส่วน E-commerce เมือ่ เทียบกับยอดขายในอุตสาหกรรมคา้ ปลีกท้งั หมด (ค.ศ. 131 132 2017) 132 รปู ที่ 7.14 อัตราการใช้ Online retail sales ของ SMEs ในกลุ่มประเทศ ASEAN 136 รปู ที่ 7.15 ขนาดของตลาด E-commerce ในกลมุ่ ประเทศ ASEAN 137 รูปที่ 7.16 โครงสร้างต้นทนุ ของ Procure-to-pay process รูปที่ 7.17 อัตราการใช้บตั รพลาสตกิ ในกลมุ่ ประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (ค.ศ. 2016) 139 รูปที่ 7.18 สดั สว่ นมูลคา่ Property Plant and Equipment เทยี บกบั จำนวนทรัพย์สนิ รวมของ 145 บรษิ ทั ในดชั นี S&P Asia 50 (ค.ศ. 2017) 146 รูปที่ 7.19 จำนวนโครงการศูนยบ์ ่มเพาะ โครงการเร่งการเติบโตแ และศนู ยว์ จิ ัยของสถาบัน 148 158 การเงนิ ในภูมิภาค ASEAN 191 รูปที่ 7.20 Banking ecosystem ในระบบเศรษฐกจิ ดจิ ติ อล 193 รูปท่ี 7.21 ลกั ษณะของ Open Banking ทอี่ าจเกดิ ข้ึนในยุคเศรษฐกจิ ดจิ ิตอล 194 รูปท่ี 8.1 การประมวลแนวคดิ ของ Eshet-Alkalai (2004) และ New London Group (1996) 195 รูปท่ี 9.1 แบบสอบถามในส่วนของ Socioeconomic status รูปที่ 9.2 แบบสอบถามการวัดระดบั Digital literacy 196 รูปที่ 9.3 แบบสอบถามถึงทักษะการใชง้ านเทคโนโลยีดิจิตอล 197 รปู ท่ี 9.4 แบบสอบถามความรดู้ ้านเทคโนโลยีดิจิตอล รปู ที่ 9.5 แบบสอบถามการตระหนกั ถึงข้อมลู และสิทธิต่างๆในโลกดิจิตอล (Online information 198 203 awareness) รปู ท่ี 9.6 แบบสอบถามการประเมินระดบั ของ Digital literacy ด้วยตนเอง xxii รปู ท่ี 9.7 แบบสอบถามการประเมนิ ความพึงพอใจ ความต้องการใช้ผลติ ภัณฑแ์ ละบริการทาง การเงนิ ในมิติตา่ งๆ รูปที่ 9.8 The K-means Clustering Method
รปู ท่ี 10.1 การกระจายตวั ในมิตขิ องเพศของกลุ่มตวั อยา่ ง หน้า รปู ท่ี 10.2 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งจำนวน Desktop/Laptop และจำนวน Smartphone/Tablet 208 จำแนกตามมติ ขิ องเจเนเรช่ัน 211 รูปท่ี 10.3 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างจำนวน Desktop/Laptop และจำนวน Smartphone/Tablet 213 จำแนกตามมติ ิของรายได้ 215 รูปท่ี 10.4 ระดับการเข้าถงึ เทคโนโลยีดจิ ิตอลจำแนกตามเจเนเรช่นั 216 รูปท่ี 10.5 ระดบั การเขา้ ถึงเทคโนโลยดี จิ ิตอลจำแนกตามรายได้ รูปที่ 10.6 สดั ส่วนของคนทสี่ ามารถเข้าถึงอนิ เตอร์เนต็ ผ่านเทคโนโลยดี จิ ติ อลได้ทุกช่องทาง 217 (Smartphone, Tablet, Laptop และ Desktop) จำแนกตามมิตขิ องรายไดแ้ ละเจเน 217 เรช่นั 219 รปู ที่ 10.7 สัดสว่ นของคนที่สามารถเข้าถงึ อนิ เตอรเ์ น็ตผ่านเทคโนโลยีดิจิตอลในชอ่ งทางใด 219 ชอ่ งทางหน่ึง จำแนกตามมิติของรายไดแ้ ละเจเนเรช่ัน 221 รูปท่ี 10.8 ทกั ษะในการใช้เทคโนโลยดี จิ ิตอลจำแนกตามกลุม่ เจเนเรชัน่ 221 รปู ท่ี 10.9 ทกั ษะในการใช้เทคโนโลยดี ิจิตอลจำแนกตามระดับรายได้ 224 รูปที่ 10.10 จำนวนชงั่ โมงเฉลี่ยในการใช้ Smartphone/Tablet 224 รูปท่ี 10.11 จำนวนชั่งโมงเฉลี่ยในการใช้ Desktop/Laptop รปู ท่ี 10.12 ความรู้ความเขา้ ใจในการทำงานของ Computer hardware 226 รูปท่ี 10.13 ความรู้ความเข้าใจในการทำงานของเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต รปู ที่ 10.14 คะแนนที่ได้รบั จากการตอบแบบทดสอบจำนวน 6 ขอ้ จำแนกตามมติ ิของเจเนเรช่ัน 227 และระดับรายได้ 228 รูปที่ 10.15 คะแนนการประเมนิ การตระหนกั ถึงข้อมูลและรเู้ ท่าทนั ในโลกดจิ ติ อลจำแนกตามเจเน 230 230 เรชัน่ 231 รปู ที่ 10.16 คะแนนการประเมนิ การตระหนกั ถึงข้อมลู และรู้เทา่ ทันในโลกดจิ ิตอล จำแนกตามมิติ 232 233 ของรายได้ รปู ที่ 10.17 จำนวนธนาคารพาณชิ ยจ์ ำแนกตามมติ ิของอายุและรายได้ xxiii รปู ที่ 10.18 ระยะเวลาทีเ่ ปน็ ลูกค้าธนาคาร จำแนกตามอายุและรายได้ รปู ที่ 10.19 ผลิตภัณฑท์ างการเงินทมี่ จี ำแนกตามเจเนเรชน่ั รปู ที่ 10.20 ผลิตภณั ฑ์ทางการเงินทมี่ ีจำแนกตามรายได้ รูปที่ 10.21 จำนวนคร้งั ในการใช้ ATM ตอ่ เดือนจำแนกตามรายได้
รูปที่ 10.22 จำนวนครั้งในการใช้ ATM ต่อเดือนจำแนกตามเจเนเรช่ัน หน้า รปู ที่ 12.1 การกระจายตัวของสถาบันการเงนิ ท่ีตอบแบบสอบถาม 233 รูปที่ 12.2 ความเสยี่ งของ Non-traditional players เชน่ Fintechs, Startups ต่อการดำเนนิ 268 ธรุ กิจ 277 รูปท่ี 12.3 ระดบั ความสำคญั ของประเดน็ ตา่ งๆ ในอนาคต (1 หมายถงึ ตำ่ มาก และ 5 หมายถงึ สงู 278 มาก) รูปที่ 12.4 โอกาสทผ่ี ลติ ภณั ฑ์และบรกิ ารทางการเงินในแต่ละดา้ นจะถกู Disrupt (1 ตำ่ และ 5 280 282 สูง) 290 รปู ท่ี 12.5 อปุ สรรคของการลงทุนดา้ นนวัตกรรมของสถาบันการเงนิ 290 รูปท่ี 13.1 ร้อยละของนักเรยี นในระบบต่อประชากรในวยั เรยี น 291 รปู ท่ี 13.2 จำนวนปีการศึกษาเฉล่ียของประชากรไทย 297 รูปที่ 13.3 อัตราการคงอยู่ของนกั เรยี นจากระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 301 รูปท่ี 13.4 รูปแบบของสาขาธนาคารในอนาคต 305 รปู ท่ี 13.5 ระดบั Financial literacy ของประเทศไทย 305 รูปที่ 13.6 มลู ค่าสทุ ธขิ องการเติมเงนิ หกั ด้วยการใช้จา่ ย (หนว่ ย ลา้ นบาท) 306 รูปที่ 13.7 มลู คา่ การโอนเงินชำระเงินต่อธรุ กรรมผ่านอินเตอรเ์ นตและโทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี 306 รปู ที่ 13.8 มูลคา่ การใชบ้ ัตรพลาสตกิ ตอ่ คร้ัง 321 รปู ท่ี 13.9 มลู ค่าการใชเ้ งนิ อิเล็กทรอนิกส์ 355 รูปที่ 14.1 หน้าทีข่ องเงนิ 375 รูปที่ 15.1 ความหมายของเงินในรปู แบบตา่ งๆ รปู ที่ 15.2 ความสามารถของ Blockchain ในการอนุมตั ิธรุ กรรมต่อวนิ าที xxiv
บทที่ 1 บทนำ สงั คมไทยในปจั จบุ นั ไดม้ กี ารเปล่ียนแปลงเชิงโครงสรา้ งในหลายดา้ น ทัง้ ทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม และ ประชากรศาสตร์ ซง่ึ การเปล่ียนแปลงเหล่าน้ีเกิดขึ้นอย่างรวดเรว็ จึงทำให้เป็นการยากที่จะสามารถประเมินวา่ จะ เกิดผลกระทบอยา่ งไรต่อโครงสรา้ งระบบเศรษฐกิจ และความเชอ่ื มโยงของแต่ละภาคสว่ นในระบบเศรษฐกิจในยุค ที่เรยี กวา่ Digital Economy จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอยา่ งไร นอกจากนก้ี ารกำกบั ดูแลของธนาคารกลาง ท่ปี ัจจุบันมุ่งเน้นทก่ี ำกบั ผา่ นสถาบนั การเงนิ เพือ่ เปน็ ตวั กลาง ในการสง่ ผา่ นนโยบายการเงนิ ไปยังระบบเศรษฐกจิ อาจมีประสิทธภิ าพทด่ี ้อยลงในอนาคต ธนาคารกลางบาง ประเทศตระหนกั ถงึ ความเสีย่ งนีจ้ ึงไดม้ ีการขยายหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของตนเองให้มากขนึ้ จากเดมิ เช่น ธนาคารกลางของอังกฤษได้เพมิ่ หน่วยงานภายใต้การกำกับดแู ลของตนจากเดิมทมี่ ีเพยี งสถาบนั การเงนิ เปน็ ครอบคลุมถงึ Broker-dealers และ Clearing houses เปน็ ตน้ เครือ่ งมือตา่ งๆทีธ่ นาคารกลางใช้ในปจั จุบันเพื่อดแู ลสภาพคล่องของระบบเศรษฐกิจ เช่น การกำหนด อตั ราดอกเบีย้ นโยบาย (Policy rate) การเข้าแทรกแซงตลาดเงินตลาดทนุ (Open market operation) หรอื การ กำหนดเงินขั้นต่ำในการดำรงไวเ้ พอ่ื สภาพคล่อง (Liquidity required reserve ratio) อาจเปน็ เครือ่ งมือท่ไี ม่ สามารถใชไ้ ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพในโลกยคุ ดจิ ิตอล โครงการวิจยั ฉบับน้ีซง่ึ เป็นสว่ นหนึง่ ของโครงการวิจยั ภายใตแ้ ผนงานบูรณาการยุทธศาสตรเ์ ป้าหมาย (Spearhead) ดา้ นสงั คม คนไทย 4.0 สำนักงานการวจิ ัยแห่งชาติ (วช.) จึงมงุ่ หวงั ทจ่ี ะวิเคราะหค์ วามเชือ่ มโยงของ ระบบเศรษฐกจิ ใหม่ และพยากรณ์ฉายภาพกลไกความสัมพันธข์ อง Economic agents ตา่ งๆในระบบเศรษฐกิจ เพือ่ เป็นข้อมลู ในการออกแบบนโยบายหรือโครงสรา้ งการกำกับดูแลระบบเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต โครงสร้างของหนังสอื เล่มน้ีจึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 สว่ นได้แก่ ส่วนที่ 1 วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงทางเทคโนโลยที ่ีเกี่ยวข้องกบั อุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงิน (Financial services industry) โดยงานวิจัยฉบบั น้ไี ดป้ ระมวลองค์ความรู้ วิวัฒนาการ และแนวโน้มท่จี ะเกดิ ขึน้ กบั ผลิตภัณฑ์และบรกิ ารทางการเงินในแต่ละด้าน โดยรายละเอยี ดต่างๆชแี้ จงอยู่ในบทที่ 2 – 7 ซง่ึ ประกอบด้วย - บทที่ 2 การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร จะกล่าวถึงภาพรวมของ อตุ สาหกรรมการเงนิ การธนาคารว่ามกี ารเปลย่ี นแปลงไปอย่างไร การเกดิ ขึน้ ของผู้ใหบ้ รกิ าร 1
ทางการเงินรายใหม่ หรือท่เี รียกว่า Fintechs เข้ามาเปลยี่ นโครงสรา้ งการแข่งขนั ในอุตสาหกรรม อยา่ งไร และตัวเลขการลงทนุ และวิธีการสนับสนุนเงนิ ลงทุนให้กับ Fintechs ต่างๆเหล่านีจ้ ะ นำไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งไรในอนาคต - บทที่ 3 การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีในกล่มุ บริการด้านการชำระเงิน จะวเิ คราะห์ ววิ ฒั นาการของระบบการชำระเงนิ จากอดตี จนถึงปัจจบุ ัน และมมุ มองตอ่ การเปลี่ยนแปลงใน อนาคต โดยวิเคราะห์ตั้งแต่การโอนเงนิ ชำระเงินภายในประเทศ ไปจนถึงการโอนเงนิ ชำระเงิน ระหวา่ งประเทศ และรูปแบบของผลติ ภัณฑ์และนวตั กรรมตา่ งๆท่ี Fintechs เข้ามานำเสนอให้ เกดิ การผลกิ ผัน (Disruption) ของวิธีการชำระเงินด้วย Digital technologies - บทที่ 4 การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยใี นกลุ่มบรกิ ารด้านการให้สนิ เชอื่ จะเปน็ การวิเคราะห์ ตัวแบบในการอนมุ ตั สิ นิ เช่อื ท่ีเกดิ ขึน้ ในปจั จุบนั และตัวแบบในการวิเคราะห์สนิ เชอ่ื ทจ่ี ะเกิดขึ้นใน อนาคตภายหลังจากโอกาสในการเขา้ ถึงข้อมลู Digital ท่ีหลากหลายจนนำมาสู่รูปแบบการ ให้บรกิ ารสนิ เช่อื ที่ไม่ไดเ้ ปน็ แบบดั้งเดิม รวมถึงมีการวิเคราะห์การเกิดขน้ึ ของ Platform Business สำหรบั การใหส้ นิ เชอื่ ในรูปแบบใหม่ทเี่ ช่ือมโยงผู้กู้และผู้ปลอ่ ยกูเ้ ข้าด้วยกนั - บทท่ี 5 เทคโนโลยี Blockchain ในอตุ สาหกรรมการเงินการธนาคาร จะมุ่งเนน้ อธบิ ายการ ทำงานของเทคโนโลยี Blockchain ทเ่ี ปล่ยี นรปู แบบการเก็บขอ้ มูล การประมวลผลขอ้ มูล และ การอนุมัติยืนยันข้อมลู จากระบบทม่ี อี ยู่ในปัจจบุ นั โดยวเิ คราะหถ์ ึงแนวโน้มท่ีจะเกิดขนึ้ ความท้า ทาย จุดเดน่ และจดุ ด้อยของเทคโนโลยี Blockchain ในอุตสาหกรรมการเงนิ การธนาคาร - บทท่ี 6 Cryptocurrency จะวเิ คราะห์การเกิดขน้ึ ของเงนิ สกุลใหม่ที่มีการนำ Blockchain มา ใช้เป็นพืน้ ฐานของระบบชำระเงิน โดยจะเริ่มต้นวเิ คราะห์ความเหมือนและความต่างระหว่าง Cryptocurrency, Fiat currency และ Digital money ทัว่ ไป เพื่อให้มีความเขา้ ใจอย่าง ละเอียดถงึ ความเปน็ ไปได้ของ Cryptocurrency ในโลกการเงนิ ในอนาคต - บทท่ี 7 Asian Digital Economy และความสัมพันธ์ของผู้เลน่ ตา่ งๆในระบบเศรษฐกิจใน ทศวรรษหน้า จะมกี ารกำหนดนยิ ามของระบบเศรษฐกจิ ดิจิตอล (Digital economy) และ ประเมินดัชนีชี้วดั ท่สี ำคญั สำหรับระบบเศรษฐกจิ ดิจติ อล นอกจากน้จี ะวิเคราะห์รปู แบบการ ดำเนินธรุ กจิ ท่ีมกี ารประยุกต์ Digital technologies มาพลกิ ผนั กระบวนการผลิตและการค้าขาย จนนำมาสู่ความสัมพันธ์ในรปู แบบใหม่ ซงึ่ ระบบเศรษฐกจิ ดิจิตอลนั้นเป็นระบบทีต่ อ้ งอาศัยความ ร่วมมอื กันทางธุรกิจระหว่างองคก์ รตา่ งๆอย่างมาก จงึ มีการวเิ คราะห์ข้อตกลงทางธุรกจิ ระหว่าง 2
สถาบนั การเงนิ ด้วยกันเอง และระหวา่ งสถาบันการเงินกับกลมุ่ ธรุ กจิ อืน่ เพื่อสรา้ งระบบนิเวศน์ ทางเศรษฐกิจทที่ ุกภาคส่วนได้ประโยชนส์ งู สุด ส่วนท่ี 2 วิเคราะห์ความทา้ ทายท่จี ะเกดิ ขึน้ กับ Digital economy ท่เี กดิ จากการเปลี่ยนผา่ นในหลายมติ ิสู่ โลก Digital ในอนาคต ซึ่งไม่ได้การันตีว่าประชาชนทุกกลุม่ จะมีความพร้อมในการอยรู่ ่วมกันในโลก digital ได้ อยา่ งเทา่ เทยี มและท่ัวถึง โดยอาจมีประชากรบางกลมุ่ ที่ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่อง Digital literacy จนนำมาสู่ สภาวะทเ่ี รยี กว่า Digital divide หรอื ความเหลื่อมลำ้ ด้าน Digital ท่ีทำใหเ้ กิดปญั หาอ่ืนๆตามมาในอนาคต โดย รายละเอยี ดต่างๆช้ีแจงอยู่ในบทที่ 8 – 13 ประกอบด้วย - บทที่ 8 Digital literacy และความพร้อมของประชากรในการใชช้ วี ิตในโลก Digital จะ วเิ คราะหง์ านวิจยั ท่ีศึกษาเก่ยี วขอ้ งกับวิธกี ารวัด Digital literacy ของครวั เรือน ความเข้าใจใน ปัญหาของ Digital divide ว่าเกิดขึ้นจากมติ ใิ ด แล้วจึงสงั เคราะหว์ รรณกรรมต่างๆเหลา่ น้ี ไปสู่ การออกแบบการศึกษา Digital literacy ในประเทศไทย - บทท่ี 9 กลุ่มตวั อยา่ งและระเบยี บวธิ วี จิ ัยการศกึ ษา Digital literacy and Banking preferences ของประชากรไทย จะชีแ้ จงรายละเอียดของกลุม่ ตวั อยา่ งท่ใี ชใ้ นการศึกษา Digital literacy ในประเทศไทย รายละเอยี ดของแบบสอบถามที่พัฒนาข้ึนเพื่อวดั Digital literacy และระเบียบวิธวี จิ ัยทางสถิตทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะหผ์ ลลพั ธ์ทีไ่ ดจ้ ากการตอบแบบสอบถาม - บทที่ 10 วเิ คราะห์สถติ เิ ชงิ พรรณนาของ Digital literacy และ Banking preference ใน ประเทศไทย จะช้ีแจงผลลพั ธ์ทไี่ ดจ้ ากการเก็บข้อมูล เพ่ือให้เข้าใจวา่ Digital literacy ของ ประชากรในประเทศไทยนน้ั มีความแตกตา่ งกนั ในมติ ิของเพศ รายได้ เจเนเรช่นั การศึกษา หรือ ประเภทการประกอบอาชพี หรอื ไม่ นอกจากนม้ี ีการศึกษาจะเช่ือมโยงถึงพฤติกรรมการใช้บริการ ทางการเงนิ ของประชากรในประเทศไทยดว้ ย - บทที่ 11 วเิ คราะห์ Digital literacy และ Banking preference ในประเทศไทยด้วยตวั แบบทางสถติ ิ จะทำการวเิ คราะหผ์ ลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ ข้อมูล ดว้ ยตัวแบบทางสถิติเพื่อให้ สามารถเขา้ ใจประเด็นต่างๆที่เกดิ ขึน้ ในประเทศ ได้แก่ 1) การใช้ Principal Component Analysis (PCA) เพ่ือสร้างดชั นชี ้ีวดั ระดับ Digital literacy ในประเทศไทย ซงึ่ สามารถนำไป ขยายผลจนเป็นดัชนีกลางที่ผู้วางนโยบายนำไปใชเ้ ฝ้าระวัง ความรู้ความสามารถของประชากร ไทยดา้ นดิจติ อลได้ในอนาคต 2) การใช้ One-way ANOVA และ Regression analysis เพอื่ วิเคราะหว์ า่ ปจั จยั ทาง Socioeconomic status ในมิตใิ ดมผี ลอย่างมนี ัยสำคญั ตอ่ ระดบั Digital 3
literacy และ 3) การใช้ Cluster analysis เพื่อแบ่งกล่มุ ประชากรตามระดบั Digital literacy เพ่ือประเมนิ วา่ ทางสถติ สิ ามารถแบง่ กลุ่มประชากรได้ก่ีกลุ่มและมีลกั ษณะพนื้ ฐานอยา่ งไร และ ประชากรในแตล่ ะ Cluster มีพฤติกรรมการใช้บริการทางการเงนิ อย่างไร มีความพร้อมในการใช้ Digital banking มากน้อยเพียงใด และมีมมุ มองต่อธนาคารในอนาคตอย่างไร - บทที่ 12 สำรวจความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารระดับสูงของสถาบนั การเงินในประเทศไทยตอ่ การ แขง่ ขันในยคุ ดิจติ อล โดยจะเปน็ การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงของสถาบัน การเงนิ ในประเทศไทยวา่ สถาบันการเงนิ มีการปรบั กลยุทธเ์ พ่ือการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจ ดิจิตอลอยา่ งไร ให้ความสำคัญกบั กลยุทธใ์ ด และองค์กรมีการปรบั ตัวลงทนุ ในเทคโนโลยีดจิ ติ อล ใหม่ๆ หรอื ไม่ นอกจากนี้จะมีการวิเคราะห์เปรียบเทยี บวา่ ส่ิงทผี่ บู้ รหิ ารของสถาบนั การเงิน วางแผนในอนาคต กับส่งิ ทผี่ ูบ้ รโิ ภคทม่ี ีระดับ Digital literacy ที่แตกตา่ งกันในประเทศไทยนั้น มี ความเหมือนและแตกตา่ งกนั อย่างไร - บทท่ี 13 จำลองสถานการณใ์ นอนาคตของระบบเศรษฐกิจดิจิตอลในประเทศไทย จะเป็นการ ประมวลผลการวิจยั ของพฤติกรรมผู้บริโภคท่ีมีระดับ Digital literacy ทีแ่ ตกต่างกัน กบั แนวโน้ม เทคโนโลยีดจิ ติ อลที่เกยี่ วข้องกับการให้บริการด้านการเงนิ ในอนาคต เพอ่ื นำข้อมูลทั้งสองส่วนมา บูรณาการเพ่อื สรุปเหตุการณ์ที่คาดวา่ จะมีแนวโน้มท่ีจะเกิดขนึ้ ในระบบเศรษฐกจิ ดจิ ิตอลของไทย ในอกี 10 ปีขา้ งหนา้ สว่ นท่ี 3 วเิ คราะหค์ วามท้าท้ายของธนาคารกลางทเ่ี ป็นบทบาทสำคัญในการกำกบั ดแู ลระบบเศรษฐกจิ และระบบการเงินของประเทศว่าจะได้รบั ผลกระทบอยา่ งไรในระบบเศรษฐกิจดิจติ อล ซง่ึ ผู้มอี ำนาจในการวาง นโยบายจะต้องประเมินเพ่ือให้การเปล่ยี นผา่ นไปสู่ระบบเศรษฐกจิ ดิจิตอลมีความราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสดุ ต่อ ทุกภาคสว่ น โดยมีรายละเอียดช้ีแจงในบทที่ 14 – 15 ซี่งประกอบดว้ ย - บทท่ี 14 วเิ คราะห์ผลกระทบของระบบเศรษฐกิจดิจติ อล ตอ่ การดำเนินนโยบายการเงิน/การ คลัง โดยเริม่ ต้นจากการวเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าท่ีของธนาคารกลางในระบบเศรษฐกิจต้งั แต่อดีต จนถงึ ปัจจุบนั เพ่ือเป็นรากฐานสำหรับการวิเคราะห์แนวทางท่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต โดยการ เปล่ยี นแปลงสำคัญในยุคดิจิตอลคอื การเกิดขึ้นของเงนิ ในรูปแบบ Digital currency และความ แพรห่ ลายของธรุ กรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซง่ึ ในบทนี้จะมกี ารวเิ คราะห์รายละเอยี ดของเงิน Digital currency ใน 3 รปู แบบได้แก่ 1) E-money 2) Virtual currency และ 3) Cryptocurrency ว่าจะมีผลกระทบอยา่ งไรต่อบทบาทหน้าท่ีของธนาคารกลางและภาครัฐในอนาคต 4
- บทท่ี 15 เคร่อื งมือและกลไกในการกำกับดแู ลระบบการเงินรูปแบบใหม่ในระบบเศรษฐกิจ ดิจิตอล ซงึ่ จะวิเคราะหเ์ ชิงลึกถงึ ความจำเปน็ ของธนาคารกลางทจี่ ะต้องพจิ ารณานำเสนอ Central Bank Digital Currency (CBDC) ตอ่ ประชาชน ท่ามกลางความเสี่ยงทปี่ ระชาชนอาจ เลือกใชเ้ งนิ Digital currency ใหม่ๆ ท่อี อกโดยภาคเอกชน โดยในปจั จบุ ันธนาคารกลางตา่ งๆยงั ไมไ่ ด้มกี ารกำหนดรูปแบบของ CBDC ที่ชดั เจนวา่ จะมลี กั ษณะอยา่ งไร บทนจี้ ึงพยายามนำเสนอ CBDC ในหลายรูปแบบและวิเคราะห์ต่อไปวา่ CBDC แต่ละรปู แบบนน้ั จะทำให้เกิดเครอื่ งมือ กลไก หรือนโยบายทางการเงิน/คลัง ทเ่ี ปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพ่ือเป็นข้อมลู สำหรบั ธนาคาร กลางในการประเมินออกแบบ CBDC ตอ่ ไปในอนาคต องค์ความรูท้ ่ีไดร้ บั จากงานวจิ ยั ฉบบั นี้ จะเปน็ เคร่ืองมือสำคัญของรฐั บาลและผูว้ างนโยบาย ในการกำหนด ทศิ ทางการเปลีย่ นผา่ นไปสโู่ ลกดิจิตอลในประเทศไทยอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และเข้าใจถึงความทา้ ทายใหมท่ ่ีจะ เกดิ ขึ้นในโลกดิจติ อล เพ่ือให้สามารถวางแนวทางปอ้ งกันและเผชญิ หนา้ กับความทา้ ทายเหลา่ นน้ั ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 5
บทท่ี 2 การเปลี่ยนแปลงในอตุ สาหกรรมการเงนิ การธนาคาร บทนำ การเปล่ียนแปลงในอตุ สาหกรรมการเงนิ การธนาคารน้นั มีการเปล่ียนแปลงอย่างกา้ วกระโดดในชว่ ง 10 ปี ท่ีผา่ นมา จุดเรมิ่ ตน้ ของการเปล่ยี นแปลงท่สี ำคญั คอื การเกิดขึ้นของ Smartphone แบบใช้จอ Touchscreen ในช่วงปคี .ศ. 2007 และในชว่ งเวลาดงั กลา่ วก็ได้เกิดโครงสร้างพื้นฐานของระบบส่ือสารสง่ ผา่ นข้อมูลแบบไรส้ ายยคุ ใหมท่ เ่ี รียกวา่ ระบบ 3G เหตกุ ารณ์ดงั กล่าวทำให้ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างฉบั พลัน และทำให้ ผู้ประกอบการรายใหม่เขา้ มานำเสนอบริการทางการเงนิ ผ่าน Mobile Application จนเป็นตัวเร่งให้สถาบัน การเงนิ แบบด้ังเดมิ ต้องปรบั ตัวเพอ่ื ใหส้ ามารถแข่งขันต่อไปได้ การเปลยี่ นแปลงเหลา่ นี้เกดิ ขึ้นในหลายมิติของผลิตภณั ฑ์และบรกิ ารทางการเงิน ดังนัน้ เพ่อื ใหเ้ กิดความ เขา้ ใจอย่างถ่องแท้ถงึ การเปล่ียนแปลงในอตุ สาหกรรมการเงินการธนาคาร ในบทนีจ้ งึ ทำการวิเคราะหป์ ัจจัย ภายนอกทางดจิ ิตอลที่ส่งผลให้เกิดการพลกิ ผันในอตุ สาหกรรม และปัจจัยภายในของอุตสาหกรรมการเงินการ ธนาคารท่ีทำให้การคิดคน้ นวตั กรรมของสถาบันการเงินต่างๆเปน็ ไปอยา่ งลา่ ชา้ จนทำให้เกดิ ความเสย่ี งจากการ แขง่ ขันจากผู้ให้บรกิ ารทางการเงนิ รายใหมซ่ ง่ึ มกั จะถูกเรียกว่า Fintechs Fintechs ไดเ้ ขา้ มาแข่งขันจนทำใหร้ ูปแบบการแข่งขนั (Competition landscape) ของอุตสาหกรรม การเงนิ การธนาคารเปลีย่ นแปลงไปอย่างมาก ดงั นน้ั ในบทนี้จึงทำการวเิ คราะหต์ ่อไปวา่ การแขง่ ขันทเ่ี ปล่ียนแปลง ไปนน้ั มีลักษณะใด สง่ ผลกระทบต่อสถาบันการเงนิ อยา่ งไร และสถาบนั การเงนิ จะตอ้ งปรับเปล่ยี นกลยุทธ์เพ่ือให้ เกดิ การคิดคน้ นวัตกรรมใหม้ ีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร จนสามารถแข่งขนั และเตบิ โตต่อไปได้ในระบบเศรษฐกจิ ดจิ ิตอล เทคโนโลยีกบั การเปล่ียนแปลงในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร เทคโนโลยไี ด้มีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็วตลอดช่วง 30 ปีทผี่ า่ นมา โดยการเปลยี่ นแปลงในชว่ ง 10 ปี ล่าสดุ น้นั มีอตั ราเร่งเพ่ิมขนึ้ อย่างมากเมอ่ื เทียบกบั ในอดตี ตัวแปรหนึง่ ท่สี ามารถบ่งช้ีไดถ้ งึ การเปล่ยี นแปลงของ เทคโนโลยอี ยา่ งก้าวกระโดดคือ จำนวนในการจดสิทธิบตั รในแต่ละช่วงเวลา ซึง่ องค์กร World Intellectual Property Organization (WIPO) ซ่งึ อยูภ่ ายใตธ้ นาคารโลก (World bank) ไดเ้ ก็บรวบรวมขอ้ มูลสถิติด้านการจด 6
สทิ ธบิ ตั ร พบว่าจำนวนการจดสทิ ธบิ ัตรมีอตั ราการเตบิ โตในลักษณะก้าวกระโดดแบบ Exponential ดังแสดงในรูป ท่ี 2.1 รปู ที่ 2.1 จำนวนการจดสิทธิบัตรทว่ั โลกของผูจ้ ดสทิ ธิบตั รในประเทศของตน (Worldwide patent applications, residents) 2,500,000.00 2,000,000.00 1,500,000.00 1,000,000.00 500,000.00 - Source: WIPO (2020) นอกจากการกา้ วกระโดดของการพัฒนาเทคโนโลยี อกี มติ ิหน่งึ ที่สะท้อนวา่ เทคโนโลยไี ด้ถูกใช้อย่าง แพรห่ ลายคือ อตั ราความครอบคลมุ ของการใชง้ านในครัวเรือนหรือทีเ่ รียกวา่ Adoption rate ของแต่ละ เทคโนโลยี จากรปู ที่ 2.2 จะพบว่าเทคโนโลยีใหม่ๆทเี่ กดิ ขึน้ ในช่วง 20 ปที ผ่ี ่านมา ใช้เวลาน้อยลงในการเพมิ่ อตั รา ความครอบคลุมจากรอ้ ยละศูนย์มาสู่ร้อยละ 100 ของครัวเรอื นทง้ั หมด ผลลพั ธเ์ ชิงประจักษน์ ้ีสะท้อนให้เหน็ ว่าไม่ เพียงแต่เทคโนโลยีจะมกี ารพัฒนาตอ่ ยอดที่รวดเร็วเท่านั้นแต่เทคโนโลยใี หมเ่ หลา่ นน้ั ก็สามารถเข้าถงึ ผบู้ ริโภคได้ อย่างเป็นวงกวา้ งในเวลาอนั รวดเรว็ 7
รูปที่ 2.2 อัตราการครอบคลมุ ดา้ นการใช้งานของครวั เรือน (Adoption rate) ในประเทศสหรัฐอเมรกิ า Source: Desjardins (2018) ปัจจัยสำคัญทีส่ ง่ ผลให้เทคโนโลยีเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วในช่วงไม่ก่ีปที ผ่ี า่ นมา สามารถสรปุ ได้ 3 ประเดน็ หลักดังน้ี 1) พฒั นาการดา้ นเทคโนโลยแี ละซอฟท์แวร์ในการสรา้ งข้อมูลผ่าน World Wide Web (WWW) เทคโนโลยกี ารส่งผ่านข้อมลู ท่ีเรียกว่า World Wide Web นี้ไดม้ กี ารพัฒนามาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จากการคิดคน้ ครั้งแรกโดย Sir Tim Berners ในปี ค.ศ. 1989 และในปี ค.ศ. 1991 CERN ซึง่ เป็น หนว่ ยงานวจิ ัยด้านนิวเคลียร์ของสหภาพยโุ รป กไ็ ด้นำ World Wide Web software เผยแพร่สู่ สาธารณชนในวงกวา้ ง (World Wide Web Foundation, 2019) และ HTML ซง่ึ เป็นภาษาในการ สรา้ ง Contents ตา่ งๆบน Web Browser ก็มีการพฒั นามาอย่างต่อเนื่องจนมาสู่ HTML5 ในปี ค.ศ. 2014 ท่ีการแสดงหน้าจอ website สามารถปรบั เปล่ียนอตั โนมัติอย่างเหมาะสมในแตล่ ะอุปกรณ์หรือ ซอฟทแ์ วร์ทใี่ ชใ้ นการเปดิ website เหลา่ นัน้ (Raggett, 2013) 8
2) พัฒนาการดา้ นการเช่อื มต่อข้อมูลหรือท่เี รียกว่าอินเตอรเ์ น็ต (Internet) โดยเทคโนโลยีอนิ เตอรเ์ นต็ มีการคดิ คน้ คร้ังแรกในปี ค.ศ. 1958 โดย Dwight D.Eisenhower ที่คิดค้นวิธีการส่งข้อมลู ในลักษณะ Bit data (0,1) และไดม้ ีทดลองสง่ ข้อมลู ดว้ ย สายโทรศพั ท์คร้ังแรกในปี ค.ศ. 1965 ก่อนที่จะมีการสร้างระบบ Ethernet ขึ้นในปีค.ศ. 1976 และ มภี าษาสำหรบั การส่ือสารทเี่ รียกวา่ TCP/IP ในปี ค.ศ. 1982 (Bryant, 2008) ซ่ึงในปัจจบุ ัน อินเตอร์เน็ตได้ถกู ใช้กันอยา่ งแพร่หลายในครัวเรือนตา่ งๆ และได้มีการพฒั นา ต่อยาดจากการส่งผา่ นข้อมลู ดว้ ยสายโทรศัพท์ มาสู่การส่งผา่ นขอ้ มลู ด้วยเทคโนโลยสี อ่ื สารแบบไร้ สาย ต้งั แต่ 1G ในปคี .ศ. 1982 มาสยู่ คุ 5G ในปี ค.ศ. 2020 ท่คี วามเรว็ ในการสง่ ผา่ นขอ้ มลู สามารถ มไี ด้มากถึง 10,000 Mbps และสามารถรองรับการส่งผ่านขอ้ มลู จากอปุ กรณจ์ ำนวนมากได้ 3) พฒั นาการดา้ นอปุ กรณ์การเชอื่ มต่อข้อมลู ซง่ึ แตเ่ ดิมอปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการเข้าถึงข้อมูลในโครงขา่ ย World Wide Web ผา่ นเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต นนั้ มเี พียงอปุ กรณ์ที่เรยี กวา่ คอมพิวเตอร์ตั้งโตะ๊ (Personal Computer) และ Laptop เท่านนั้ ซ่ึงเป็นอุปกรณ์ที่มีการผลติ และวางจำหน่ายอยา่ งแพรห่ ลายตง้ั แตช่ ว่ งปคี .ศ. 1980 (Microsoft, 2014) ตอ่ มาได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ในการเชอื่ มต่อข้อมูลในลักษณะอปุ กรณ์เคล่อื นที่ (Mobile devices) มายงิ่ ข้นึ โดยก้าวกระโดดของอปุ กรณ์เคลอ่ื นท่ชี าญฉลาด (Smart mobile device) น้นั เร่มิ ตง้ั แต่ปี ค.ศ. 2007 จากการเกิดขนึ้ ของ iPhone โดยบรษิ ัท Apple ซงึ่ นำมาสู่การพัฒนาอปุ กรณ์ อื่นๆตามมาเช่น Tablets และ Smart watches เปน็ ต้น ซึ่งการเกิดข้นึ ของอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้เกดิ การปฏวิ ตั แิ นวทางการทำธรุ กิจใหม่ๆ เพ่ือนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ตา่ งๆแก่ผู้บริโภค การเปล่ียนแปลงใน 3 ปจั จัยข้างตน้ ไม่ได้สง่ ผลกระทบเฉพาะบรษิ ทั ท่ปี ระกอบธรุ กิจท่ีในกล่มุ อตุ สาหกรรม Information Technology (IT) เพียงอยา่ งเดยี ว แตย่ ังกระทบไปสู่ธุรกิจอน่ื ๆ ด้วย โดยเฉพาะกบั บริษัทท่ีอยใู่ น กลมุ่ อตุ สาหกรรมการเงินและการธนาคาร (Banking and Finance industry) 9
ธุรกจิ ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคารน้ัน มักเป็นกลุ่มธรุ กิจท่ผี ู้ประกอบการ หรือแมแ้ ต่ผู้ กำกับดูแลมคี วามเช่ือว่าเปน็ ธุรกจิ ทจ่ี ะถูกพลิกผนั (Disrupt) จากการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีได้ค่อนขา้ งจำกัด เพราะเป็นธุรกจิ ทอ่ี ยู่ภายใต้การกำกับดูแลอยา่ งเข้มงวด มีกฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั เงื่อนไขในการจัดตั้งบรษิ ัท เงือ่ นไขของการนำเสนอผลติ ภัณฑแ์ ละบริการ และเงือ่ นไขในการดำเนนิ ธรุ กิจคอ่ นข้างมาก เช่น ในประเทศไทย การจัดตั้งธนาคาร จะต้องไดร้ ับการพจิ ารณาจากรฐั มนตรีโดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีเง่ือนไข และกฎหมายกำกบั เฉพาะผา่ นพระราชบัญญัติธุรกจิ สถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ซ่งึ ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศ ไทยในการเขา้ ไปกำกบั วิธีการดำเนนิ ธุรกิจให้มผี ลดำเนินการเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดผ่านอัตราส่วนทางการเงิน ในดา้ นต่างๆเช่น อัตราสว่ นเงนิ กองทุนข้นั ตำ่ (Capital ratio) หรืออัตราส่วนการดำรงสภาพคล่อง (Liquidity ratio) เป็นตน้ ด้วยกฎเกณฑ์การกำกบั ดูแลท่ีเข้มงวดเหลา่ น้ี จงึ ทำใหร้ ะดบั ความรนุ แรงของการแข่งขันในอตุ สาหกรรม การเงินและการธนาคารไม่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกบั ธรุ กจิ อน่ื โดยหากพิจารณาท่ีโครงสรา้ งส่วนแบ่งทาง การตลาดผา่ นระดับสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย พบวา่ ธนาคารพาณชิ ย์ขนาดใหญจ่ ำนวน 3 ราย แรกมขี นาดสินทรัพย์สงู ถงึ ร้อยละ 45 เม่ือเทียบกับมลู คา่ สินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ภายใตก้ ารกำกบั ดูแล ของธนาคารแหง่ ประเทศไทยทง้ั หมด (Bank of Thailand, 2019) โครงสรา้ งการแข่งขันในลกั ษณะนี้ในทาง วิชาการมักนยิ ามเรียกว่า ตลาดของผู้ขายนอ้ ยราย (Oligopolistic market) กล่าวคอื การแข่งขันไม่มีความ สมบูรณ์และมีความเส่ยี งท่จี ะเกิดการควบคมุ กำหนดราคาของสถาบันการเงินทั้งแบบทตี่ ั้งใจ และไม่ต้งั ใจได้ การกำกับดแู ลอย่างเข้มงวดของธนาคารกลางต่อสภาบันการเงิน ยังส่งผลให้การนำเสนอผลิตภัณฑ์และ บริการทางการเงนิ ท่ีมกี ารใช้นวตั กรรมสมัยใหม่ไมส่ ามารถดำเนินการได้ทนั ที สถาบนั การเงนิ จะตอ้ งนำผลิตภัณฑ์ และบริการตา่ งๆไปผ่านข้ันตอนการขออนญุ าตกับธนาคารกลางซง่ึ มักจะใช้ระยะเวลานาน ด้วยเหตนุ ้ีสถาบัน การเงินในอดีตจึงมักจะไม่มกี ารนำเสนอเทคโนโลยีอยา่ งก้าวกระโดดต่อผ้บู ริโภคมากนัก จากรูปที่ 2.3 จะพบวา่ สถาบันการเงนิ ได้มกี ารนำเสนอเทคโนโลยบี ัตรพลาสติคทีเ่ รยี กวา่ Credit cards ในช่วงปี ค.ศ. 1950 เทคโนโลยีเคร่อื ง ATM ในปี ค.ศ. 1960 เทคโนโลยี Electronic stock trading ในปี ค.ศ. 1970 และเทคโนโลยี Bank computer system ในชว่ งปคี .ศ. 1980 เทา่ น้นั โดยจะสังเกตเหน็ ว่าเทคโนโลยีตา่ งๆ เหล่านย้ี ังคงถูกใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลายในปจั จบุ ัน ถึงแม้ในปจั จุบันจะมีนวัตกรรมใหมๆ่ ท่สี ามารถประยกุ ตใ์ ช้กับการ ให้บริการทางการเงินในด้านดังกล่าวแลว้ กต็ าม 10
รปู ท่ี 2.3 พฒั นาการด้านนวัตกรรมทส่ี ำคญั ในอุตสาหกรรมการเงนิ การธนาคาร Source: Judd (2017) เทคโนโลยีสำคญั ท่ที ำใหร้ ปู แบบและแนวคดิ ในการดำเนนิ ธุรกจิ ของผ้ปู ระกอบการในกลุ่มอตุ สาหกรรม การเงนิ และการธนาคารต้องเปลยี่ นแปลงไปอย่างมาก คือเทคโนโลยีทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการเช่อื มโยงขอ้ มูลและการ ส่งผ่านข้อมูล จากเดิมทสี่ ถาบันการเงินจะมีตน้ ทุนที่สงู ในการสรา้ งโครงสรา้ งพน้ื ฐานต่างๆ หรอื ท่ีเรยี กวา่ Banking Computer Infrastructure ซึ่งตน้ ทุนท่ีสงู เหลา่ นี้ได้เคยส่งผลดตี ่อธนาคารในมิตทิ ี่ทำให้ Barrier to Entry ของการ ตัง้ ธนาคารแหง่ ใหมเ่ ปน็ ไปดว้ ยความยากลำบาก แตป่ ระโยชน์ดังกลา่ วไดก้ ลับกลายเป็นเงื่อนไขท่ีทำใหส้ ถาบัน การเงินแบบด้ังเดมิ ไม่สามารถแข่งขันกับผู้ให้บรกิ ารทางการเงนิ รายใหม่ทีส่ ามารถประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพ่ือ ลดตน้ ทุนการดำเนินการได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ยกตัวอยา่ งเช่น ผใู้ ห้บรกิ ารทางการเงนิ รายใหม่ ไมจ่ ำเปน็ ต้องลงทุนมหาศาลในการสรา้ งโครงสร้างพน้ื ฐาน ของระบบไอที ภายในองค์กรเพื่อเกบ็ รักษาข้อมลู ของลกู คา้ การประมวลผลข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน หรือการ สรา้ งและเชอ่ื มตอ่ ระบบการชำระเงนิ เหมือนอย่างในปัจจุบัน แตผ่ ใู้ ห้บริการทางการเงนิ รายใหม่สามารถให้บริการ ผา่ นการเช่าใช้โครงสรา้ งพนื้ ฐานในรปู แบบทเี่ รียกว่า Software-as-a-service (SAAS) จากผปู้ ระกอบการอีกบริษัท หน่ึงทีล่ งทุนสร้างโครงสร้างพ้ืนฐานระบบไอที และนำโครงสร้างพืน้ ฐานเหลา่ นี้ไปให้บริการผา่ นเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) เป็นต้น นอกจากนี้ ผใู้ ห้บริการทางการเงนิ รายใหม่สามารถนำเสนอสินค้าและบรกิ ารผา่ นช่องทาง Online ท่ี เรยี กว่า Digital banking โดยอาจไม่ตอ้ งมกี ารให้บริการผ่านสาขาแบบ Offline เลย ส่งผลให้โครงสรา้ งค่าใช้จา่ ย ของธุรกิจมคี วามแตกต่างจากสถาบันการเงินแบบด้งั เดิมอย่างส้นิ เชงิ ผูใ้ ห้บรกิ ารทางการเงนิ รายใหม่ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ ง 11
เร่ิมตน้ ธรุ กิจจากการมีสาขาจำนวนมากและมีพนักงานจำนวนมากในการให้บรกิ ารลกู ค้าเหมอื นอย่างในปจั จุบัน แต่ ผใู้ ห้บริการทางการเงนิ รายใหมส่ ามารถนำเทคโนโลยีดา้ น Automation หรือ Articial Intelligence (AI) เขา้ มา ชว่ ยเพิ่มประสทิ ธิภาพในการใหบ้ รกิ าร ทำให้ผใู้ หบ้ ริการทางการเงินรายใหม่สามารถแข่งขนั ด้านราคากับสถาบนั การเงนิ แบบด้ังเดิมได้ เมอื่ ผู้ให้บริการทางการเงนิ รายใหม่ ไม่ไดเ้ ป็นองค์กรที่รับฝากเงิน (Depository institution) ย่งิ ทำให้เกดิ ความเหลอ่ื มล้ำด้านการแข่งขันกับสถาบนั การเงินแบบดั้งเดิมมากย่งิ ข้ึน ถงึ แมส้ ถาบันการเงินแบบด้งั เดิมจะ ได้เปรียบด้านต้นทนุ (Cost of fund) จากความสามารถในการระดบทุนผา่ นเงนิ ฝาก แต่สถาบันการเงนิ แบบ ดัง้ เดิมจะตอ้ งอยภู่ ายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจากธนาคารกลาง จนอาจทำให้ประสบกับความยากลำบากเมื่อ ตนเองพยายามคดิ ค้นนวตั กรรมหรอื บรกิ ารใหม่ๆ มาตอบโจทย์ความต้องการของผบู้ รโิ ภคเพื่อแข่งขนั กับผู้ให้ บรกิ ารทางการเงินรายใหม่ หากผูใ้ ห้บริการทางการเงินรายใหม่ มีการจดทะเบยี นจดั ตง้ั บรษิ ัทท่ีอยใู่ นตา่ งประเทศ ทมี่ ีกฎเกณฑก์ าร กำกบั ดูแลในเรอ่ื งของการให้บรกิ ารทางการเงินท่ีแตกต่างจากประเทศเป้าหมายท่ผี ใู้ หบ้ รกิ ารทางการเงินรายนน้ั จะ เข้าไปแข่งขันกับสถาบนั การเงินแบบดัง้ เดิม ยงิ่ ทำให้ปญั หาดา้ นความเหลอื่ มล้ำจากเงื่อนไขการกำกับดูแลท่ี แตกตา่ งกนั มีความซบั ซ้อนมากย่ิงขึ้น นอกจากนก้ี ารทสี่ ถาบันการเงินแบบดั้งเดมิ มีการประกอบธุรกิจมาอย่างยาวนาน ไม่ไดม้ ีการพัฒนาดา้ น เทคโนโลยีแบบเชิงรกุ ก็ทำให้สถาบันการเงนิ แบบดงั้ เดิมสว่ นใหญ่มจี ำนวนบุคคลากรภายในองค์กรท่ีคอ่ นขา้ งมาก สง่ ผลให้เกิดอปุ สรรคเมือ่ มคี วามพยายามในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพอ่ื ลดคา่ ใชจ้ ่าย หรือลดจำนวน บคุ คลากรลง จากปัจจัยต่างๆขา้ งตน้ ทำให้ ผู้ใหบ้ ริการทางการเงนิ รายใหม่สามารถแขง่ ขันท้ังทางด้านต้นทนุ ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินธุรกิจ และเทคโนโลยี กบั สถาบันการเงินแบบด้ังเดิมได้อย่างมีประสิทธภิ าพ จนนำมาสผู่ ลิตภัณฑแ์ ละ บริการทางการเงินที่มมี ลู คา่ เพ่ิม (Value added) และตอบโจทย์ความต้องการของผบู้ ริโภค ขอ้ มูลจากการสำรวจของ Dapp (2014) ทส่ี อบถามผู้บริหารของสถาบนั การเงนิ แบบดั้งเดิมในประเทศ ต่างๆ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรตอ่ การแข่งขันและการถูกแทนที่ด้วยผ้ใู หบ้ ริการทางการเงนิ รายใหม่ พบว่าบริการ ด้านการชำระเงนิ บริการผลติ ภัณฑเ์ งนิ ฝาก และบริการด้านสนิ เชอ่ื เปน็ บริการที่ผู้บรหิ ารของสถาบนั การเงนิ แบบ ดง้ั เดมิ มีความกงั วลอย่างมากวา่ จะถูกแทนท่โี ดยผ้ใู หบ้ ริการทางการเงนิ รายใหม่ ดังแสดงในรูปที่ 2.4 12
รูปท่ี 2.4 ความคิดเห็นของสถาบนั การเงินตอ่ การถูกแทนทโี่ ดยผใู้ หบ้ รกิ ารทางการเงินรายใหม่ Source: Dapp (2014) จากปจั จัยตา่ งๆทวี่ ิเคราะห์ขา้ งตน้ จงึ ทำให้หนา้ ทีห่ ลักของการมีสถาบนั การเงินแบบดง้ั เดิมในระบบ เศรษฐกิจ ใน 4 ดา้ นได้แก่ 1) การเป็นตวั กลางเพ่ือเปล่ียนเงินฝากระยะสั้นไปสูเ่ งนิ ลงทนุ ระยะยาว 2) การเป็นตวั กลางในระบบชำระเงนิ 3) การเป็นตัวกลางในการใหบ้ ริการแกบ่ ริษัทเพ่ือเขา้ สู่ตลาดทุน (Capital markets) 4) การเปน็ ตัวกลางเพอื่ ส่งผา่ นนโยบายดา้ นการเงนิ และการคลังสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงถกู ลดบทบาทลงอย่างมาก และเปน็ ประเดน็ สำคัญที่จะต้องมีการศึกษาวจิ ัยวา่ โครงสรา้ งระบบ เศรษฐกจิ ทเ่ี กิดผู้ให้บรกิ ารทางการเงินและธนาคารในรูปแบบใหมน่ น้ั จะเปลี่ยนแปลงความสัมพนั ธข์ องแต่ละหนว่ ย ธรุ กจิ ในระบบเศรษฐกิจอยา่ งไร 13
การเกดิ ขน้ึ ของ Fintech และการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปในอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคาร ผู้ให้บรกิ ารทางการเงนิ รายใหม่ที่นำเทคโนโลยีและนวตั กรรมใหม่ๆ มาประยกุ ตใ์ ช้เพ่ือให้บริการแก่ ผู้บรโิ ภคนั้น ได้ถูกนยิ ามเรียกวา่ Fintech ซึง่ ยอ่ มาจากคำว่า Financial Technology ซง่ึ คำศัพท์ Fintech นี้ เกดิ ขึ้นครั้งแรกในชว่ งปีค.ศ. 1990 โดยเปน็ คำย่อของ The Financial Services Technology Consortium ซง่ึ เป็นโครงการวิจยั ด้านเทคโนโลยีโดย Citigroup (Ali, 2017) ต่อมาจงึ ไดม้ ีการใชค้ ำว่า Fintech เพอื่ หมายถงึ บรษิ ัท Startup ท่ใี ช้ Technology มาให้บริการทางการเงิน โดยคำศัพท์ Fintech ใชก้ ันอย่างแพรห่ ลายในช่วงปี ค.ศ. 2014 เป็นตน้ มา ด้วยเหตุท่ี Fintech เป็นผ้ใู หบ้ รกิ ารรายใหม่หรือที่เรยี กวา่ Startup company จึงทำให้ Fintech ที่ เกดิ ขึ้นไมม่ เี งินทนุ ท่ีมากเพียงพอทจ่ี ะให้บริการทางการเงนิ อยา่ งรอบด้านเหมือนสถาบันการเงินแบบด้ังเดิม แต่ Fintech ที่เกิดข้ึนจะมงุ่ เน้นในการคดิ ค้นผลติ ภัณฑ์หรอื บริการท่ีตนเองมีความเชี่ยวชาญ และมีความสามารถใน การให้บรกิ ารอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพที่สดุ ดังน้นั จงึ เป็นที่มาของการมี Fintech ที่ใหบ้ รกิ ารจำเพาะเจาะจงในแต่ละ ดา้ นอยา่ งมากมาย ดงั แสดงในรูปที่ 2.5 รปู ท่ี 2.5 Fintech ที่ใหบ้ รกิ ารทางการเงินในดา้ นต่างๆ Source: Business Insider (2018) 14
จากรปู ที่ 2.5 สะท้อนใหเ้ หน็ ว่าอตุ สาหกรรมการเงินและการธนาคารนนั้ สามารถดำรงอยู่ไดโ้ ดยไม่มีความ จำเปน็ ที่จะต้องมีสถาบันการเงนิ แบบดัง้ เดิมอีกตอ่ ไป การเกดิ ข้นึ ของ Fintech ทำให้เกิดระบบนเิ วศนท์ างธุรกจิ (Ecosystem) ในรูปแบบใหม่ทผ่ี ู้บรโิ ภคสามารถเขา้ ใช้บริการทางการเงนิ จาก Fintech แต่ละรายโดยไมต่ อ้ งพง่ึ สถาบันการเงินแบบด้งั เดิม เนอื่ งจากบริการทางการเงินต่างๆเหล่าน้เี ปน็ บรกิ ารผา่ นช่องทาง Online หรือที่เรียกว่า Digital banking ทำให้ผูบ้ ริโภคสามารถเลอื กผู้ใหบ้ รกิ ารทางการเงนิ ในแตล่ ะดา้ นทต่ี นเองถูกใจได้งา่ ยผา่ น Smart devices และ ผ้บู รโิ ภคสามารถสมัครเปดิ บัญชีเพอื่ เข้าใช้บรกิ ารเหลา่ นน้ั ไดท้ ันที ไมว่ ่าจะผา่ น Online banking หรอื Mobile banking ก็ตาม การเกดิ ข้นึ ของ Fintech ทใ่ี ห้บริการแต่ละด้านนั้น ทำใหร้ ปู แบบการดำเนนิ ธุรกจิ ของสถาบันการเงนิ เปล่ียนแปลงไปอยา่ งมาก เพราะในอดีตธนาคารพาณชิ ยจ์ ะมแี นวคดิ การดำเนินธรุ กจิ ในลักษณะ Branch banking หรือการเปดิ สาขาธนาคารตามพนื้ ทต่ี ่างๆ เพื่อให้บริการแก่ลกู ค้า เพราะสาขาธนาคารเปรยี บเสมือนเป็นช่อง ทางการขายหลกั (Distribution and sales channel) ของธนาคาร แตเ่ มือ่ ในชว่ งปี ค.ศ. 1990 มีพฒั นาการดา้ น Internet connection ทำให้ธนาคารพาณิชย์แบบดงั้ เดมิ เริ่มมแี นวคดิ การให้บรกิ ารผา่ น Online มากย่งิ ข้ึน จนนำมาสู่ Online banking ในชว่ งปี ค.ศ. 2000 ต่อมาในช่วง ปี ค.ศ. 2010 ได้มีการใชเ้ ทคโนโลยีด้านการสื่อสารแบบไรส้ ายอยา่ งแพรห่ ลาย จนนำมาสู่การเกิดขึ้นของ Smartphones และการประยุกตใ์ ช้ Smartphone ของ Startup ต่างๆในการนำมาให้บรกิ ารทางการเงิน จึงทำ ให้ธนาคารพาณิชยท์ ่ัวโลกมแี รงกดดนั ที่จะตอ้ งเรม่ิ คิดคน้ Mobile application เพ่ือให้บริการแก่ผ้บู รโิ ภคมาก ย่ิงขนึ้ การสำรวจจาก Bain & Co. ในระหวา่ งปี ค.ศ. 2013 และ 2015 ท่แี สดงในรูปท่ี 2.6 พบว่า ปริมาณการ ใช้ Online banking ในหลายประเทศอย่ใู นระดับร้อยละ 30 – 50 เมอื่ เทยี บกับปรมิ าณธุรกรรมทงั้ หมด ในปี ค.ศ. 2013 แต่ในปี ค.ศ. 2015 พบว่าปริมาณธรุ กรรมผา่ น Online banking ลดลงมาสู่ในช่วงร้อยละ 20 – 30 และถูก แทนทดี่ ้วยธุรกรรมจาก Mobile banking ในปีค.ศ. 2015 ทีป่ ระมาณรอ้ ยละ 30 – 50 ซ่ึงหากพจิ ารณาทยี่ อดรวม ของธุรกรรมผ่านทั้ง 2 ชอ่ งทาง จะพบว่าผบู้ รโิ ภคมกี ารใช้ธุรกรรมผ่านดิจิตอลเพ่มิ มากข้นึ 15
รปู ท่ี 2.6 การใชธ้ รุ กรรมทางการเงนิ ระหวา่ งขอ่ งทาง Mobile และ Online Souce: Bain & Company (2015) จากการที่ในอดีตการเปดิ บัญชแี ละการทำธรุ กรรมทางการเงินตา่ งๆ จะเกดิ ขึ้นไดเ้ ฉพาะที่สาขาของ ธนาคาร จึงทำให้ธนาคารพาณชิ ย์ในอดีตมงุ่ เนน้ แข่งขันกันในด้านของความเปน็ Universal banking หรือการเปน็ ธนาคารพาณชิ ยท์ ่ีใหบ้ ริการทางการเงนิ อย่างรอบด้าน (All in one service) เพราะอย่ภู ายใต้ข้อสมมตุ ฐิ านท่ี ผบู้ รโิ ภคนน้ั จะมีความยากลำบากหรอื มีตน้ ทนุ ที่สงู ในการเปล่ยี นธนาคาร หรือในการทำธรุ กรรมแต่ละดา้ นจาก ธนาคารคนละแห่ง แตภ่ ายหลังการเกดิ ขึ้นของ Fintech และรูปแบบของ Ecosystem ใหมต่ ามรปู ที่ 1.5 ทำใหเ้ กิดคำถาม ตามมาว่า การแขง่ ขนั ในลักษณะ Universal banking น้ันยงั เปน็ ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการดำเนนิ ธรุ กจิ ของสถาบันการเงินต่อไปอีกหรือไม่ เนื่องจาก Fintech มีความเชีย่ วชาญและให้บริการในแตล่ ะดา้ นแบบ เฉพาะเจาะจง จงึ ทำให้เกดิ แนวคิดการดำเนินธุรกจิ แบบใหม่ท่เี รยี กวา่ Disaggregation of financial services หรอื บริการทางการเงินทถ่ี ูกแบง่ แยกออกจากกันอย่างชดั เจน และถกู นำเสนอจากผใู้ หบ้ ริการคนละแหง่ ตามความ ถนดั ของผใู้ ห้บริการรายนนั้ ๆ เม่อื มีการแบ่งแยกบริการทางการเงินอย่างชดั เจนตามความถนดั ของผูใ้ ห้บริการ จึงทำให้การแขง่ ขันใน อุตสาหกรรมการเงินและการธนาคารทวีความรุนแรงข้นึ บริการต่างๆ จากเดิมท่ีเคยมีคา่ บริการทส่ี ูง อาจถูกแข่งขนั จนคา่ บริการลดตำ่ ลงหรือแทบไมส่ ามารถกำหนดคา่ บรกิ ารได้เลย หรอื ค่าบริการที่เคยคดิ กับลกู คา้ แบบเหมาจ่าย 16
จากธุรกรรมบางประเภทเพือ่ นำมารองรบั กบั คา่ ใชจ้ ่ายด้านอน่ื ๆ ทไี่ มเ่ ก่ียวข้องกบั การให้บรกิ ารดา้ นน้ันๆ อาจไม่ สามารถเกดิ ขนึ้ ได้ในอนาคต ยกตวั อย่างเช่น การคดิ คา่ ธรรมเนียมสำหรบั การโอนเงนิ ในประเทศไทย ที่ในอดีตธนาคารพาณิชย์มีการคดิ คา่ ธรรมเนยี มสำหรบั การโอนเงินระหว่างบญั ชี ท้งั การโอนเงินไปยังบัญชีภายในธนาคารเดียวกันแตต่ า่ งสาขา และ การโอนไปยังบัญชีของต่างธนาคาร ซึ่งต้นทุนคา่ ใชจ้ ่ายการโอนเงินของท้ังสองธรุ กรรมนต้ี ่ำมากเพราะเป็นการโอน เงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์ แต่ธนาคารกลบั คิดคา่ ธรรมเนยี มในระดบั ทีส่ งู เม่ือเทียบกับตน้ ทุนท่เี กดิ ขึน้ จริง สาเหตสุ ำคญั ของเหตกุ ารณ์ในลกั ษณะน้เี กดิ จาก 2 ปจั จัยหลกั ไดแ้ ก่ 1) คา่ ธรรมเนยี มท่เี รียกเก็บถือเป็น คา่ บรกิ ารที่อำนวยความสะดวกใหก้ ับลูกคา้ หากลูกคา้ ไม่เสียคา่ ธรรมเนยี มการโอน ลูกค้าจะตอ้ งถอนเงินสดและ เดินทางไปฝากเงนิ กับธนาคารอีกแหง่ หรือต้องเสียค่าเดินทางไปฝากเงินกบั สาขาของธนาคารที่ตา่ งพน้ื ท่ี จงึ ทำให้ ธนาคารเหน็ ช่องวา่ งในการเรียกเกบ็ ค่าธรรมเนยี มจากลูกค้า และ 2) ค่าธรรมเนียมการโอนน้ี ธนาคารนำไปรองรับ คา่ ใช้จ่ายของธนาคารในส่วนท่ีมตี น้ ทนุ สูงแต่ธนาคารไมเ่ คยคดิ ธรรมเนียมการให้บริการนั้นมาก่อน เชน่ ธรุ กรรมที่ เก่ียวกบั การฝากถอนเงนิ สด และการแลกเหรยี ญ ซึ่งมักจะมีการให้บริการแกล่ ูกค้าแบบไมค่ ิดค่าธรรมเนยี ม แต่เมอื่ มีการแขง่ ขันจากผใู้ หบ้ รกิ ารระบบชำระเงนิ รายใหม่ ที่มงุ่ เน้นแขง่ ขันด้านราคากับสถาบันการเงนิ จงึ ทำใหส้ ถาบนั การเงนิ แบบด้ังเดิมตอ้ งตดั สนิ ใจลดคา่ ธรรมเนียมการโอนเงนิ ผา่ นช่องทาง Mobile banking และ Online banking จนเหลอื ศูนยบ์ าท เพ่ือรักษาฐานลกู ค้า และสร้างความมน่ั ใจได้ว่าปรมิ าณเงินท่ีหมุนเวยี นอยใู่ น ระบบเศรษฐกจิ นัน้ ยังคงเปน็ ปรมิ าณเงินที่ผ่านช่องทางของสถาบันการเงนิ แบบดั้งเดิมอยูเ่ ชน่ เดมิ ตัวอย่างข้างตน้ เป็นตัวอยา่ งหน่ึงของผลลพั ธ์จาก Disaggregation of financial services ท่ี Fintech เขา้ มาแขง่ ขันเฉพาะดา้ นในอุตสาหกรรมการเงนิ และการธนาคาร ซ่งึ ในอนาคตมแี นวโนม้ ทีเ่ หตกุ ารณ์ลักษณะคล้ายกนั น้ีจะเกดิ ขึน้ กบั บริการในด้านอื่นๆ ทัง้ การรับฝาก การให้สินเชือ่ หรอื การลงทุน ดังน้ันนอกจากธนาคารท่ีจะไดร้ ับผลกระทบ บริษัทนายหน้าซ้ือขายหลักทรัพย์ (Brokerage firm) ก็มี โอกาสท่จี ะได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน เพราะในปัจจุบนั มกี ารคิดคา่ ธรรมเนยี มการซ้อื ขายหลักทรัพย์ (Commission fees) ทัง้ ๆ ที่ต้นทนุ การดำเนนิ งานนน้ั ตำ่ มากจากการทธ่ี ุรกรรมต่างๆเกิดข้ึนในรปู แบบดจิ ติ อล การ คดิ คา่ ธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรพั ยน์ ี้เปน็ การพยายามหารายไดข้ องบรษิ ัทนายหน้าซ้ือขายหลกั ทรพั ย์ เพ่อื มา รองรบั คา่ ใชจ้ า่ ยในดา้ นอ่ืนๆท่ีบรษิ ัทไม่เคยคิดจากลกู คา้ เช่น คา่ บริการการจัดทำบทวิเคราะห์หลกั ทรัพย์ การ ติดตามข่าวหลักทรพั ย์ และการอำนวยความสะดวกแกล่ ูกคา้ ในด้านอืน่ ๆ เปน็ ตน้ 17
Disaggregation of financial services จงึ เปรียบเสมือนการเปล่ยี นแปลงวิธีการคิดค่าบรกิ ารในการ ใหบ้ ริการดา้ นตา่ งๆ ของธนาคาร โดยธรุ กรรมด้านใดที่ไม่ได้มีมลู ค่าเพม่ิ (value added) ให้กับลกู ค้า และสามารถ ลดต้นทนุ การให้บริการได้ง่ายผ่านการใช้เทคโนโลยี จะมีแนวโน้มทค่ี ่าบรกิ ารจะลดต่ำลงเร่อื ยๆจนเหลือศูนย์ ในขณะทีบ่ ริการด้านใดทมี่ ีมูลค่าเพ่ิมท่ีให้กับลกู ค้าเชน่ การแนะนำการลงทนุ การเขยี นบทวิเคราะห์การลงทุน และ การให้คำปรึกษาด้านการประกอบธุรกจิ เป็นต้น อาจเปน็ บรกิ ารทีส่ ถาบนั การเงนิ นำมาคิดคา่ บริการที่สงู ขนึ้ กวา่ ใน ปจั จุบัน ผลสำรวจจาก Deliotte Consulting ทสี่ ำรวจความคดิ เห็นของผบู้ ริหารของสถาบันการเงนิ ทีเ่ กี่ยวข้องกบั การลงทนุ การจัดการกองทนุ และการแนะนำการลงทนุ ท่ัวโลก พบวา่ แนวโน้มโครงสร้างค่าธรรมเนยี มด้านการ บรหิ ารกองทนุ และการแนะนำการลงทนุ จะมสี ัดสว่ นที่สงู ข้ึน ในขณะทีค่ ่าธรรมเนยี มจากธรุ กรรมทว่ั ไปที่ไม่มี มูลค่าเพิ่มมากนักจะลดลง ดังแสดงในรูปท่ี 2.7 รูปที่ 2.7 แนวโน้มการเปล่ยี นแปลงของค่าธรรมเนยี มในดา้ นตา่ งๆ Source: Deliotte (2015) นอกจากนกี้ ารที่บริการทางการเงนิ ถูกแบ่งแยกกนั อย่างชัดเจน จะทำใหส้ ถาบันการเงินแบบด้ังเดมิ ถูก กดดนั ให้พจิ ารณาหาจดุ เด่นด้านการบริการและผลติ ภณั ฑ์ของตนวา่ มีความเช่ยี วชาญและมปี ระสทิ ธิภาพในการ ให้บริการด้านใด ซ่ึงแตกตา่ งจากในปัจจุบนั ที่ ธนาคารพาณิชยส์ ว่ นใหญ่ในอุตสาหกรรมไมไ่ ดม้ ีการแข่งขันดา้ น ประสิทธิภาพในการดำเนนิ งานเทา่ ท่ีควร แต่มุ่งเนน้ ไปท่คี วามหลากหลายในการใหบ้ รกิ ารแตล่ ะดา้ น 18
รปู ที่ 2.8 เป็นตวั อยา่ งของการวิเคราะห์ห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ (Value chain) ของสถาบันการเงนิ โดย ช้ใี หเ้ หน็ ว่าเมื่อมกี ารแข่งขันอยา่ งรนุ แรงจนเกดิ Disaggregation of financial services สถาบนั การเงนิ จะ ตระหนกั วา่ การเป็น Universal banking ของตนไมส่ ามารถแขง่ ขนั ได้อย่างประสบความสำเร็จในอนาคตได้อกี ต่อไป จงึ ต้องพจิ ารณาวา่ ตนเองเป็นเลศิ หรือมีจุดเดน่ ในกจิ กรรมใดของหว่ งโซ่การดำเนนิ ธุรกิจในแตล่ ะขั้นตอนเพ่ือ มุ่งเปา้ ใหบ้ รกิ ารเฉพาะด้านในสว่ นยอ่ ยน้นั ๆ รูปที่ 2.8 โครงสรา้ ง Banking value chain และการเปลยี่ นแปลงของรูปแบบธรุ กจิ ธนาคาร Source: Deliotte (2015) โดย แนวทางในการพัฒนานวัตกรรมของสถาบนั การเงนิ สามารถสรุปเป็น 2 มิติไดด้ งั รปู ท่ี 2.9 ไดแ้ ก่ 1) มิตขิ องการพลกิ ผันทางเทคโนโลยี และ 2) มติ ขิ องการอำนวยความสะดวก ซ่งึ หากพจิ ารณาตามแผนภาพดงั กล่าว จะพบวา่ สถาบันการเงนิ แบบด้งั เดมิ สว่ นใหญย่ ังมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อยู่ในระดบั เพยี ง Facilitator เท่าน้นั กล่าวคือมีความพยายามปรบั ปรุงช่องทางในการให้บรกิ ารเพ่ืออำนวยความสะดวกแก่ลูกคา้ หรือทำ ให้บริการตา่ งๆของตนมีการบริหารจดั การท่มี ีประสิทธิภาพมากข้ึน 19
รปู ท่ี 2.9 มติ ิการวางแผนพัฒนาผลิตภณั ฑท์ างการเงิน Source: Deloitte (2016) จากรปู ที่ 2.9 พบว่า แนวทางหนง่ึ ท่ีสถาบนั การเงินแบบด้ังเดมิ สามารถดำเนินการต่อยอดบรกิ ารและ ผลิตภัณฑข์ องตนเองได้ คือความพยายามในมติ ิของการอำนวยความสะดวกไปสูก่ ารเปน็ Expediter ด้วยการทำให้ ช่องทางบริการทางการเงินของตนไมว่ ่าจะผา่ นสาขา ผา่ น online ผา่ น mobile หรือผา่ น Call center สามารถ บริหารจัดการความต้องการของลูกค้าได้อยา่ งต่อเนื่อง ไมม่ ีการแยกช่องทางบริการ หรือทำใหล้ กู คา้ ตอ้ งประสบ ปญั หาในการส่ือสารแต่ละช่องทาง แต่ในมติ ิของการพลิกผนั ทางเทคโนโลยีนั้น ตอ้ งยอมรับวา่ สถาบนั การเงินแบบดั้งเดิมมขี ้อจำกดั หลาย ปจั จัยที่ไมส่ ามารถนำเสนอผลติ ภัณฑแ์ ละบริการตา่ งๆของตนเพอ่ื เป็น Differentiator หรอื Game changer ซง่ึ เกิดจากขอ้ จำกดั สำคัญ 2 ประการไดแ้ ก่ 1) ข้อจำกัดดา้ นบุคคลากรทท่ี รัพยากรบุคคลขององคก์ รในด้านไอที ของสถาบนั การเงินสว่ นใหญ่นนั้ ม่งุ เน้นไป ทก่ี ารจดั การรายวันของระบบไอที และการรกั ษาเสถียรภาพของระบบมากกวา่ การมุ่งเป้าไปที่การวจิ ัย และคิดค้นนวัตกรรม 2) ข้อจำกัดทเ่ี กิดจากกฎเกณฑก์ ารกำกบั ดูแลโดยธนาคารกลาง ทห่ี ากมีการเปล่ยี นแปลงวธิ กี ารบริการหรือ การนำเทคโนโลยีใหมๆ่ มาใชจ้ ะตอ้ งไดร้ ับการอนุมตั ิและประเมนิ แล้วจากธนาคารกลาง 20
ดว้ ยข้อจำกดั ด้านการคิดคน้ นวัตกรรม จงึ ทำให้สถาบนั การเงนิ แบบดง้ั เดิมมีความพยายามท่ีจะแข่งขนั กับ Fintech ดว้ ยการเขา้ ไปลงทนุ หรือสรา้ งความสมั พันธ์ด้านธรุ กิจกับ Fintech โดยตรง เพื่อให้ตนเองได้รับการถ่าย โอนทางเทคโนโลยี และสามารถทดลองบริการหรอื ผลิตภัณฑใ์ หม่ๆ ได้อย่างรวดเรว็ กบั ลูกค้าของตน แนวทางทสี่ ถาบันการเงินแบบดั้งเดิมนำมาใช้เพื่อเขา้ ถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถสรุปได้ตามรูปที่ 2.10 ที่ แสดงวิธกี าร และแนวโน้มตน้ ทุนของแตล่ ะวิธี โดย สถาบันการเงนิ หลายแห่งในปจั จุบันไดม้ ีการจัดตัง้ หน่วยงาน พเิ ศษในองค์กรของตน เพ่ือวิเคราะหแ์ นวโน้มธุรกิจ และเสาะหา Fintechs ทม่ี ศี ักยภาพ โดยเมอ่ื ตนเองพบ Fintechs เป้าหมายก็จะมรี ูปแบบในการสร้างความสมั พนั ธ์ไมว่ ่าจะเป็นการจดั ตั้งศูนย์บ่มเพาะ (Incubator program) หรือการเปน็ ทีป่ รึกษาให้แก่ Fintechs เหลา่ นนั้ การเปน็ ทปี่ รกึ ษาหรือการมีศูนยบ์ ่มเพาะ ถือเป็นกลยทุ ธส์ ำคญั ทีส่ ถาบนั การเงินสามารถเข้าไปปรบั ปรุง ผลิตภณั ฑ์หรอื บรกิ ารที่คดิ คน้ โดย Fintechs เพอื่ มาประยุกต์ปรบั ใช้กับการดำเนินธุรกจิ จรงิ ของตน ต้องยอมรบั ว่า ถงึ แม้ Fintechs จะมนี วัตกรรมท่ดี ี แต่ Fintechs เหล่านีค้ อื ผู้ประกอบการรายใหม่ ทส่ี ่วนใหญไ่ ม่มีประสบการณ์ ดา้ นการเงนิ และการธนาคารมาก่อน ทำใหห้ าก Fintechs นำเสนอบรกิ ารทตี่ นเองคิดคน้ ขนึ้ โดยตรงโอกาสท่ีจะ ประสบความสำเรจ็ อาจจะไม่มากนัก การที่ Fintechs เขา้ ร่วมงานกับสถาบันการเงนิ ยงั เปน็ อีกชอ่ งทางหนง่ึ ที่ทำให้ ผลิตภัณฑห์ รือบริการที่ Fintechs คดิ ค้นขึ้นสามารถเขา้ ถงึ ลกู คา้ ฐานกวา้ งที่เป็นลกู คา้ เดิมของสถาบันการเงนิ ได้ รปู ที่ 2.10 วิธีการเขา้ ถงึ Fintech ของสถาบนั การเงนิ Source: Damania (2016) 21
ตัวอย่างของกลยุทธท์ ธ่ี นาคารพาณิชย์ในประเทศไทยใช้เพ่ือเขา้ ถึงเทคโนโลยีของ Fintech ในดา้ นต่างๆ เช่นธนาคารกรงุ ศรีอยธุ ยามโี ครงการ Krungsri Rise เพ่ือเป็นการประกวดให้รางวัลกบั Fintech ทม่ี เี ทคโนโลยที ่ี น่าสนใจ และธนาคารจะสนบั สนุนเงนิ ทุน (Krungsri, 2019) หรือธนาคารกรงุ เทพทีม่ ีการจัดต้ังโครงการ Bangkok Bank Innohub สำหรับการประกวดแขง่ ขัน Fintech เชน่ เดียวกนั (Bangkok Bank, 2019) นอกจากน้ีธนาคารบางแหง่ มีการจัดต้งั หน่วยงานพิเศษขนึ้ มาเพื่อดำเนินการวจิ ัยด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เชน่ ธนาคารกสกิ รไทยท่มี ีการจดั ตงั้ หน่วยงาน Kasikorn Business Technology Group (KBTG) ซึง่ เป็น หนว่ ยงานเฉพาะทาง มี Career path และโครงสร้างการทำงานทแ่ี ยกออกจากธนาคารอย่างชัดเจนเพื่อให้ โครงสร้างการบรกิ ารงานของหนว่ ยงานแหง่ ใหมม่ ีความเหมาะสม และดึงดดู คนรุ่นใหมท่ ่ีเชี่ยวชาญในด้านการ พฒั นาเทคโนโลยีได้ นอกจากวธิ ีการต่างๆ ในการเข้าถึง Fintechs ของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมข้างตน้ อีกวิธีการหนง่ึ ท่ี สถาบันการเงินใช้คือการเขา้ ไปลงทนุ ใน Fintechs เหลา่ นนั้ ทงั้ ในรูปแบบของการควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition) และการร่วมลงทนุ (Venture capital) จากข้อมลู ของ KPMG (2019) ทสี่ ำรวจมลู คา่ การลงทนุ ใน Fintech พบวา่ มีการลงทนุ เพ่มิ ขน้ึ อย่างมาก ในช่วงปี ค.ศ. 2018 ซง่ึ สงู ถงึ 141 พันล้านเหรยี ญดอลลา่ ร์สหรัฐ โดยหากจำแนกประเภทของการลงทุนจะพบว่า สว่ นใหญเ่ ปน็ การลงทนุ ผา่ นช่องทางของการควบรวมกิจการ (M&A) และกองทนุ ลงทุนประเภท Private Equity fund ตามรูปท่ี 2.11 ถึง 2.13 รปู ท่ี 2.11 มลู คา่ การลงทนุ ใน Fintech ของทง้ั โลก Source: KPMG (2019) 22
รปู ที่ 2.12 มลู ค่าการลงทนุ ใน Fintech ด้วยวธิ ี Private equity fund ของทง้ั โลก Source: KPMG (2019) รูปที่ 2.13 มูลคา่ การลงทุนใน Fintech ดว้ ยวิธี M&A ของทง้ั โลก Source: KPMG (2019) 23
นอกจากนก้ี ารลงทนุ อีกประเภทหน่ึงทไี่ ด้รับความนิยมคือการลงทุนใน Fintech ผ่านกองทนุ ทีเ่ รยี กวา่ Venture capital fund หรอื กองทุนกจิ การร่วมลงทุน ซึ่งถือเป็นประเภทย่อยของกองทุนประเภท Private equity fund โดยการลงทนุ ของกองทุน Venture capital fund นเี้ ปน็ วธิ ีการลงทนุ ทีผ่ ู้ริเร่ิมกจิ การ (Entrepreneur) ยังเป็นเจา้ ของกิจการ มีการถอื หุ้นในสดั ส่วนที่สงู และยงั มีอิสระในการบริหารงานของบรษิ ัท ตนเองพอสมควร ซึ่งแตกต่างจากวิธีการลงทนุ แบบควบรวมกจิ การ (M&A) ทคี่ วามมอี สิ ระทางความคิดของผูร้ ิเริ่ม กิจการจะถกู ลดทอนลงและอาจถกู เปลี่ยนสถานะจากการเปน็ เจา้ ของกลายมาเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งของ สถาบันการเงนิ ทเ่ี ข้าควบรวมกจิ การ ซง่ึ เป้าหมายการดำเนินธรุ กจิ ของกิจการอาจถูกเปล่ียนแปลงไปเพ่ือมงุ่ เนน้ ท่ี จะตอบโจทย์วสิ ยั ทศั น์ของสถาบันการเงินท่ีมาครอบงำกจิ การมากกวา่ การพยายามเติบโตขายสนิ คา้ และบริการของ กจิ การทต่ี นริเร่ิมในวงกว้าง (Cumming, 2010) มูลคา่ การลงทุนใน Fintech ผ่านชอ่ งทาง Venture capital เปน็ ช่องทางการลงทุนทมี่ ีการเติบโตขน้ึ เร่ือยๆ ดังแสดงอยู่ในรปู ที่ 2.14 ซึ่งลกั ษณะจำเพาะของการลงทุนในรปู แบบ Venture capital คอื จะไม่ใหเ้ งนิ ทนุ ในรปู แบบดง้ั เดิมผ่านหนุ้ สามัญหรือสญั ญากู้เงิน แต่จะเปน็ การใหเ้ งินทนุ เพ่ือแลกกับหลกั ทรพั ยท์ ่ีมเี ง่อื นไขพเิ ศษ เชน่ หนุ้ บุริมสิทธ์ทิ ีม่ กี ารเพ่มิ เตมิ เงอ่ื นไขต่างๆ หรือสญั ญาเงนิ กทู้ สี่ ามารถแปลงมาเป็นหุ้นสามัญได้ เป็นตน้ รปู ท่ี 2.14 มลู คา่ การลงทุนใน Fintech ดว้ ยวธิ ี Venture capital fund ของท้งั โลก Source: KPMG (2019) 24
การกำหนดเง่ือนไขพิเศษในหลกั ทรพั ย์ท่ี Venture capital ถอื ครองน้ี ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ venture capital ใช้ในการบริหารความเสี่ยงของการลงทุน เพราะกิจการท่ลี งทนุ มีการดำเนนิ ธรุ กิจที่ไม่สามารถคาดการณ์ ความสำเรจ็ ในอนาคตไดง้ ่าย เป็นผลิตภณั ฑ์หรอื บริการที่ไมเ่ คยมีตลาดมากอ่ น หรอื ผลติ ภัณฑม์ ีความกา้ วลำ้ จนต้อง เปลีย่ นพฤติกรรมของผบู้ ริโภคอยา่ งมาก เป็นต้น การกำหนดเงื่อนไขเพม่ิ เติมในหลกั ทรพั ย์น้ีขนึ้ อยู่กบั การต่อรองระหว่าง Venture capital และเจ้าของ กิจการ ตัวอยา่ งของเง่ือนไขที่ได้รับความนิยมสามารถสรปุ ไดด้ งั นี้ (Cumming, 2010) 1) เงอ่ื นไขการแปลงหุ้นเปน็ หน้ีเมื่อธรุ กิจไมป่ ระสบความสำเร็จ (Convertible shares) 2) เงอ่ื นไขการได้เปน็ หนึง่ ในคณะกรรมการของบรษิ ัท (Board seat representation) 3) เงอ่ื นไขไม่ให้เจา้ ของกิจการเดิมเปล่ียนแปลงการถือครองหุ้น (Non-transferable clause) 4) เงอื่ นไขการเปล่ียนแปลงจากหนเ้ี ป็นทุนไดเ้ ม่ือธรุ กิจประสบความสำเรจ็ (Convertible bonds 5) เง่ือนไขทีห่ ากมกี ารระดมทนุ เพ่ิมเติม สัดส่วนของถือครองหุ้นในกจิ การจะตอ้ งไม่เปลย่ี นแปลง (Anti- dilution clause) 6) เง่อื นไขทีห่ ากมีการขายหนุ้ ผซู้ ้ือจะต้องซ้ือหุ้นของ Venture capital ด้วย (Drag-along clause) 7) เงอ่ื นไขท่ี Venture capital ไมต่ อ้ งรบั ผดิ ชอบภาระใดๆ ภายหลงั การขายหุ้นของตนในกิจการ จากโครงสรา้ งการระดมเงนิ ทุนแบบ Venture capital ทที่ ำให้นกั ลงทนุ สามารถบรหิ ารความเสย่ี งของ ตนเองได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ จึงทำให้สถาบนั การเงนิ แบบดงั้ เดมิ หลายราย มแี นวคิดในการก่อตง้ั กองทนุ ประเภท Venture capital นีข้ ึ้น โดยกองทุนที่ก่อต้ังโดยบริษัทที่ประกอบธุรกจิ เหล่านเ้ี รียกว่า Corporate Venture Capital (CVC) CVC ที่จดั ตง้ั ข้ึนจะมเี ปา้ หมายการลงทุนในกิจการเปา้ หมายใน 2 ประการ ได้แก่ 1) เป้าหมายด้าน Financial returns ท่ีคาดหวังผลตอบแทนทางการเงินจากการลงทุนเช่น เงนิ ปนั ผลหรือสว่ นต่างราคาห้นุ และ 2) เป้าหมายดา้ น Strategic returns ท่คี าดหวงั ใหเ้ กดิ ผลตอบแทนในธุรกิจของกจิ การตนเอง (Cumming, 2010) โดยมลู ค่าการลงทุนใน Fintech ผ่าน CVC ก็มสี ดั ส่วนทีส่ ูงขึ้นเร่อื ยๆ ดังรปู ท่ี 2.15 25
รปู ท่ี 2.15 มลู ค่าการลงทุนใน Fintech ดว้ ยวิธี Corporate Venture capital ของท้งั โลก Source: KPMG (2019) การจัดตั้งกองทนุ CVC ของสถาบนั การเงินในระดับโลกมกี ารสำรวจและสรุปตวั เลขดงั แสดงในรูปที่ 2.16 ซ่งึ จะพบว่าธนาคารรายใหญ่หลายแห่งได้ลงทนุ ในดา้ นนีค้ ่อนขา้ งมาก รวมถงึ ในประเทศไทยที่มีธนาคารพาณชิ ย์ บางแหง่ ได้มกี ารจดั ต้ังกองทนุ Venture capital เชน่ ธนาคารไทยพาณิชย์มกี ารจัดตง้ั กองทนุ Digital ventures ธนาคารกรงุ ศรีอยุธยามีกองทุนช่อื Krungsri Finnovate หรอื ธนาคารกรุงเทพมกี องทุนชื่อ Bualuang Ventures เป็นตน้ 26
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413